xs
xsm
sm
md
lg

รัตนาวดี ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รัตนาวดี ตอนที่ 3

พระราชวังวินเซอร์ตระหง่าน ใหญ่โต สวยงาม อีกทั้งภูมิทัศน์โดยรอบ
 
บริเวณทางเดินหน้าพระราชวังวินเซอร์ หม่อมเจ้าหญิงรัตนาวดี และสร้อย เดินมาหยุดยืนดู สร้อยสีหน้ามีความสุขมากมาย ท่านดนัย ในฐานะนายเล็ก เดินตามมาห่างๆ ตาคอยมองแต่รัตนาวดี
"เพราะท่านดนัยแท้ๆ...ป้าถึงได้มาพระราชวังวินเซอร์... จะต้องไปกราบพระบาทขอบพระทัยท่านพี่ให้ได้นะเพคะ ท่านหญิง"
รัตนาวดียิ้มๆ ท่านชายดนัยวัฒนาหันหน้าไปยิ้มทางอื่นด้วยปลื้มที่ป้าสร้อยชม
"ป้าไปคนเดียวนะคะ"
"โธ่…ท่านหญิงเพคะ ทรงหายงอนท่านพี่ได้แล้วเพคะ"
ตลอดเวลาท่านดนัยคอยลุ้นว่า รัตนาวดีจะพูดอย่างไร
"ไปดูด้านโน้นกันดีกว่าค่ะ."
รัตนาวดีเดินไป ป้าสร้อยเดินตามอย่างกระฉับกระเฉง แต่ท่านชายดนัยสีหน้าเป็นทุกข์

อีกด้านหนึ่งในบริเวณพระราชวังวินเซอร์ สร้อยบอกว่า
"แหม…วังวินเซอร์นี่ช่างใหญ่โตจริงๆ"
"พระราชวังวินเซอร์เป็นระราชวังที่ใหญ่ และ เก่าแก่ที่สุดในโลกครับ" ท่านชายดนัยวัฒนา ซึ่งสวมบท นายเล็กกล่าว
ป้าสร้อยมองท่านดนัยอย่างทึ่ง
"นายเล็กรู้เรื่องวังวินเซอร์กับเค้าด้วยเหรอ"
ท่านชายดนัยรู้ตัวว่าพลาดไป
"เอ้อ…ก็พอจะรู้อยู่บ้างครับ"
"ถ้าอย่างนั้นนายเล็กเล่าประวัติวังวินเซอร์ให้ฟังหน่อยสิจ้ะ"
รัตนาวดียิ้มแย้มอย่างเป็นกันเอง ท่านชายดนัยมองแล้วก็ยิ้มออก
"ปราสาทวินเซอร์สร้างตั้งแต่สมัยพระเจ้าวิลเลี่ยมในศตวรรษที่ 11 ถูกต่อเติมเรื่อยมาเป็นทั้งป้อมปราการ และ พระราชวังของกษัตริย์อังกฤษ หลายยุค หลายสมัย... เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์"
"แล้วควีนส์ท่านเสด็จมาประทับที่นี่บ่อยไหม" รัตนาวดีถาม
"ถ้าเห็นธงของพระองค์ท่านถูกชักขึ้นบนยอดโดมทางด้านโน้น ก็แปลว่าสมเด็จพระราชินีทรงประทับอยู่ที่นี่หม่อม"
ท่านดนัยหันไปมองสร้อยที่เดินดูอย่างสนใจ
"คุณป้าสร้อยท่าทางสนใจที่นี่มากนะกระหม่อม"
ท่านหญิงรัตนาวดีหัวเราะ
"อ๋อ…ป้าอ่านพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน...ก็เลยอยากตามรอยเสด็จพระพุทธเจ้าหลวง"

ท่านชายดนัยยิ้ม เดินไปหาสร้อย
"อยากเดินไปดูสวนอีกด้านหนึ่งที่เคยจัดงานอุทยานสโมสร หรือgarden party สมัยที่พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จไหมครับ"
ป้าสร้อยหันมาทำตาโต
"นายเล็กรู้จักพระราชนิพนธ์ไกลบ้านด้วยเหรอ...ไปสิจ้ะ พาป้าไปเร็วๆ เลยนายเล็ก"
สร้อยคว้ามือท่านชายดนัยวัฒนาออกเดินอย่างเร็ว ท่านชายหันมายิ้มให้รัตนาวดี ที่หัวเราะวิ่งตามไป

บริเวณบันไดทางเดินลงมาที่สวนจากปราสาทวินเซอร์ สร้อยกำลังซาบซึ้งสุดๆ
“พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประทับที่ปราสาทวินเซอร์สามวัน ทรงร่วมงาน garden party ร่วมกับราชวงศ์อังกฤษ.....พระราชภารกิจในครั้งนั้นทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับไปทั่ว หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอังกฤษลงข่าวการเสด็จมาเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการการเสด็จในครั้งนั้น มีส่วนช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการเป็นอาณานิคม”
ท่านหญิงรัตนาวดียิ้มแจ่มใส
“งานอุทยานสโมสร ซึ่งก็น่าจะจัดแถวๆ นี้ใช่ไหมนายเล็ก”
“กระหม่อม”
“ป้าได้ตามรอยเสด็จแล้วนะคะ”
สร้อยซาบซึ้งเช็ดน้ำตาป้อยๆ
“ท่านหญิงเพคะ...ป้าตายนอนตาหลับแล้ว ได้ตามรอยเสด็จองค์เหนือหัวของพวกเราคนไทย”
สร้อยทรุดกราบกับพื้น
“ไม่ว่าดวงพระวิญญาณจะอยู่ที่ไหน ขอทรงสถิตอยู่ในหัวใจคนไทยชั่วกัลปาวสานเพคะ”
ท่านชายดนัยวัฒนาลงทรุดกราบกับสร้อยด้วย รัตนาวดีเห็นดังนั้น ก็ก้มลงทรุดกราบด้วย....เป็นที่สนใจของคนที่เดินผ่านมา....

มุมต่างๆ ของพระราชวังวินเซอร์ อีกด้านหนึ่ง สร้อย กับ รัตนาวดี สีหน้ามีความสุขมาก ท่านดนัยในฐานะนายเล็ก เล่าท่านหญิงรัตนาวดีมองอย่างทึ่ง

ทั้งสามเดินเล่นไปตามทางเดิน Long Walk อันเป็นส่วนหนึ่งของวังวินเซอร์ที่สวยงามนั้น

“นายเล็กนี่เอาถ่านดีจริง รู้จักอ่านหนังสือดีๆ อย่างพระราชนิพนธ์ไกลบ้านนี่...ถือว่าใช้ได้”
ท่านชายดนัยยิ้มกับสร้อย
“จริงๆ เรื่องนี้เคยอ่านนานแล้วครับ ผมชอบที่พระองค์ท่าน ทรงเล่าถึงบุคคลต่างๆ อย่างเช่น มาร์ค ทเวน...ทรงบรรยายคาเรคเตอร์มาร์ค ทเวนด้วยคำพูดประโยคสั้นๆ ก็เข้าใจได้ทันที”
“ใครกันมาร์ค ทเวน” สร้อยถาม
“เป็นนักเขียนอเมริกันค่ะ ชื่อจริงคือ ซามูเอล แลงฮอร์น คลีเมนส์” รัตนาวดีบอก
ท่านชายดนัยแปลกใจ
“ท่านหญิงทรงอ่านเรื่องของมาร์ค ทเวนด้วยหรือ กระหม่อม”
“ฉ้นชอบอ่านทอม ซอร์เยอร์....ชอบการผจญภัยของเขา แต่ไม่ชอบคาแรคเตอร์เขาที่เจ้าเล่ห์ ชอบโกหก”

ท่านชายดนัยสะดุ้ง
“เอ้อ…เขา…อาจจะจำเป็น...กระหม่อม...มันทำให้เรื่องสนุกหม่อม”
“ใครเพคะ ทอมเย่อเย่อ”
“ทอม ซอร์เยอร์ ค่ะป้า”
ท่านดนัยรีบกลบเกลื่อน
“เป็นตัวละครในหนังสือครับ...เค้าแค่แต่งเรื่องให้สนุก ไม่ได้ตั้่งใจจะ เอ้ย...ไม่ใช่เรื่องจริง”
รัตนาวดียิ้มๆ
“เป็นหนังสืออ่านเล่นค่ะ...ไปกันดีกว่า...บ่ายมากแล้ว”
ท่านหญิงรัตนาวดี เดินไปกับสร้อย ท่านชายดนัยวัฒนากระอักกระอ่วนที่ต้องโกหก...

ร้านอาหารแถว Cotswolds ท่านชายดนัยพารัตนาวดี กับ สร้อย มาที่ร้านอาหารเล็ก ๆ น่ารักแห่งหนึ่ง ท่าทางท่านชายดนัยวัฒนาทำตัวไม่ถูก
“ทูลเชิญท่านหญิง กับ คุณป้าสร้อยในร้านตามสบาย หม่อม...เอ้อ...กระหม่อมจะรอที่รถ”
“ไม่ได้หรอกนายเล็ก....เข้ามานั่งทานด้วยกัน”
“ไม่เป็นไรกระหม่อม...ทูลเชิญท่านหญิง กับ คุณสร้อยดีกว่ากระหม่อม”
“เสด็จเถอะเพคะท่านหญิง หม่อมฉันหิวจะเป็นลมแล้ว...นายเล็กก็เข้ามานั่งโต๊ะใกล้ๆ กันสิจ้ะ”
สร้อยดึงรัตนาวดีเข้าไปในร้าน ท่านดนัยรีรอนิดหนึ่งแล้วเดินเข้าไป

สร้อยพารัตนาวดีเข้ามาหาโต๊ะนั่งในร้านอาหาร ท่านดนัยเดินตามมาจะไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง มีชายท่าทางเมาเดินตรงรี่เข้ามามองรัตนาวดี ท่านดนัยรีบเดินมายืนข้างๆ ทันที รัตนาวดีมองท่านดนัยอย่างอุ่นใจ...ชายท่าทางเมาคนนั้นก็เดินไปนั่งโต๊ะอื่น
“นั่งด้วยกันเถอะนายเล็ก”
สร้อยมองรัตนาวดี แต่ท่านชายดนัยยังเฉย
"นั่งสิจ้ะ...ฉันไม่อยากให้คนอื่นถือโอกาสมานั่งกับเรา"
"กระหม่อม"
ท่านชายลงนั่ง รัตนาวดีทำสายตาใส่สร้อย เป็นเชิงอย่าว่านายเล็ก สร้อยทำไม่รู้ไม่ชี้ ท่านดนัยเรียกบริกร
"ท่านหญิงอยากเสวยอะไรหม่อม...ลองปลาคอร์ดไวท์ไวน์ไหมกระหม่อม ทานกับผักโขมอร่อย"
รัตนาวดียิ้ม
"ดีจ้ะ"
"คุณป้าสร้อยล่ะครับ...ได้ทานฟิช แอนด์ ชิปหรือยัง"
"ชิปอะไรนะนายเล็ก"
"อาหารพื้นเมืองอังกฤษไงครับ เป็นปลาทอด กับมันฝรั่งทอดทานกับทาร์ทาร์ซอส"
สร้อยพยายามสงวนท่าที
"ลองดูก็ดี...อ้อ..นายเล็กนี่เป็นมหาดเล็กต้นเครื่องท่านดนัยนี่ถึงได้รู้เรื่องอาหารดี"

ท่านชายดนัยสั่งอาหารกับบริกร รัตนาวดีอดมองท่าทางท่านดนัยไม่ได้
"เรื่องอื่นก็รู้ค่ะป้า....นายเล็กนี่ความรู้ดีนะ"
สร้อยพลอยปลื้มเหมือนกัน
"จริงเพคะ...เก่งกว่าตานพอีก ถามจริงๆ เราน่ะเรียนที่นี่ใช่ไหมภาษง ภาษาถึงเก่งไปหมด"
ท่านดนัยยิ้ม
"ท่านดนัยโปรดให้ผมได้เรียนที่นี่...แล้วผมก็มีโอกาสได้ตามเสด็จบ่อยๆ …ก็เลยจำๆ ไว้ครับ"
"นั่นไง…ท่านดนัยนี่ทัยดีจริงนะ ทรงมีพระเมตตากับบริวารจริงๆ"
รัตนาวดีเฉย ท่านชายดนัยพยายามสนับสนุนตัวเอง
"ใจดีมากครับ...ท่านทัยดีมาก"
รัตนาวดีมองดูโน่นนี่ไม่สนใจคำพูดนายเล็ก ท่านดนัยจึงเก้อไป
"เอ้อ…พรุ่งนี้ท่านหญิงจะโปรดเสด็จที่ไหนกระหม่อม"
รัตนาวดีมองหน้าท่านดนัยด้วยสีหน้าเรียบเฉย...จนท่านดนัยรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยไม่ควรถาม
"เอ้อ…กระหม่อมทูลถามเพราะหากท่านหญิงโปรดจะเสด็จไปนอกเมืองกระหม่อมจะมา"
"วีคเอนด์นี้...ฉันมีนัดแล้ว"

ท่านชายดนัยทำหน้าผิดหวัง สร้อยไม่กล้าพูดอะไร...
 
อ่านต่อหน้า 2

รัตนาวดี ตอนที่ 3 (ต่อ)

ณ โรงแรมแลนด์มาร์กลอนดอน บริเวณห้องนั่งเล่นของโรงแรม รัตนาวดีเดินเข้ามากับสร้อย และท่านดนัยที่ถือถุงใส่ของเดินตามมา

"ส่งถุงมาเถอะนายเล็ก ของนิดหน่อยป้าถือไปเอง"
ท่านดนัยส่งถุงให้ มองรัตนาวดีตาละห้อย
"วันนี้สนุกมาก ขอบใจนายเล็กมากนะที่พาเที่ยว" รัตนาวดีบอก
"ต้องทูลขอบพระทัยท่านดนัยด้วยถึงจะถูกเพคะ"
"กระหม่อมยินดีรับใช้ท่านหญิงเสมอกระหม่อม"
รัตนาวดีมองหน้านายเล็ก ประพัทธ์เดินเข้ามาหา
"อ้าว…คุณประพัทธ์"
สร้อยมองเหล่
"มาทำอะไรป่านนี้พ่อคุณ"
ประพัทธ์พยายามเดินไปใกล้รัตนาวดี สร้อยก็คอยกัน รัตนาวดีจึงเดินเข้าไปในห้อง
รับแขก ทั้งหมดเดินตามเข้าไป
"หม่อมมานั่งรอท่านหญิงตั้งแต่เย็นแล้ว หม่อมจะทูลว่าถ้าท่านหญิงอยากไปเที่ยวแบบ คอนติเนลตัล..หม่อมยินดีขับรถพาเสด็จ."
"แบบคอนติเนลตัล....ฉันก็อยากไปเที่ยวแบบนั้นเหมือนกัน"
"ท่านหญิงจะได้เห็นวิวระหว่างทาง...สวยมากหม่อม... หม่อมเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง ยังอยากไปอีก"
"แล้วจะไปยังไงจ้ะ" สร้อยถาม
"เอ้อ…หม่อมว่าจะซื้อรถ แต่ยังไม่พร้อม เลยจะขอยืมรถเพื่อนไปแต่เขาก็จะไปด้วย ถ้าท่านหญิงไม่รังเกียจ"
"ฉันไม่รังเกียจหรอก...แต่คุณประพัทธ์ไม่ต้องเรียนเหรอ"
"หม่อมลาได้"
ท่านดนัยฟังอย่างอึดอัดอดถามไม่ได้
"คุณมีใบขับขี่สากลแล้วหรือ"
ประพัทธ์มองหน้าท่านดนัยอย่างไม่พอใจ..ยกมือห้ามทำท่ากร่างใส่
"อย่าพูดเลย"
รัตนาวดีไม่ค่อยพอใจ
"ขอคิดดูก่อนค่ะ...ฉันไม่อยากให้คุณประพัทธ์เสียการเรียน"
"ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้หม่อมมารับท่านหญิงไปเที่ยวใกล้ๆ ก่อนแล้วเราค่อยวางแผนกัน...รับรองท่านหญิงต้องสนุกแน่ๆ"
"วีคเอนท์นี้ฉันมีนัดแล้ว วันจันทร์ก็ว่าจะไปนอกเมือง" ท่านหญิงพูดแล้วก็มองหน้านายเล็ก"ใช่ไหมนายเล็ก"
ท่านดนัยงง
"เราจะไปนอกเมืองกัน....เอาไว้กลับมาก่อนค่อยตัดสินใจ"
ท่านดนัยเข้าใจความหมาย ดีใจมาก...
"หม่อมขอตามเสด็จไปด้วย"
สร้อยบอก "ไม่ต้องหรอก...ไปเรียนหนังสือน่ะดีแล้วจ้ะ...ท่านหญิงจะเสด็จส่วนพระองค์จ้ะ"
"ขอตัวก่อนนะคะ" ท่านหญิงบอก
ประพัทธ์แอบทำหน้าไม่พอใจ รัตนาวดีและสร้อยหันไปยิ้มให้ท่านดนัย รัตนาวดี กับสร้อยเดินไป ท่านดนัย กับประพัทธ์ยืนตรงโค้งให้ ประพัทธ์กับท่านดนัยมองกันอย่างไม่สบอารมณ์

หมายเหตุ - การเที่ยวแบบคอนติเนลตัล หมายถึงการเที่ยวไปในทวีปยุโรป โดยเดินทางแผ่นดินต่อแผ่นดิน เป็นการเดินทางโดยทางบก จะใช้ทางรถยนต์ หรือรถไฟก็ได้

ณ British Museum ท่านหญิงรัตนาวดี นั่งคุยกับวิมล
"เที่ยวแบบคอนติเนลตัลนี่หม่อมฉันฝันอยากเที่ยวแบบนี้มาตลอดเพคะท่านหญิง ถ้าจะให้ดีหม่อมฉันว่าขับรถไปอย่างที่คุณประพัทธ์ว่าเหมาะสมที่สุด"
รัตนาวดีใช้ความคิด
"ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน....ฉันอยากเห็นวิวข้างทางจากฝรั่งเศส ไปสวิส ...อยากแวะตรงไหนก็ได้ตามใจ ข้อสำคัญนะวิมลไม่เปลืองสตางค์เจ้าพี่ดีด้วย"
วิมลหน้าเป็นทุกข์
"แต่หม่อมฉันไม่ค่อยจะไว้ใจคุณประพัทธ์เลยเพคะ"
รัตนาวดีถอนใจ
"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน"
นพเดินถือไอศครีมมาส่งให้วิมล กับ ท่านหญิงรัตนาวดี
"ไอศครีมหม่อม"
ทั้งคู่ไอศครีมมา วิมลมองไอศครีมอย่างลังเล
"ของอ้วนนะ...น้ำหนักเค้าลดลงดีแล้วเชียว"
"ไม่ทานก็เอาคืนมา"
นพยื่นมือจะไปเอาคืน วิมลรีบเลียไอศครีม นพยิ้มขำ
"คนตะกละ"
วิมลหัวเราะ
"ท่านหญิงรับสั่งชื่อเล่นหม่อมฉันเลยเพคะ"

รัตนาวดีหัวเราะ นพด้วย สองสาวนั่งทานไอศครีมชี้ชวนดูวิวรอบๆ ตัว…

ท่านหญิงรัตนาวดี เล่าถึงการท่องเที่ยวในจดหมายที่ส่งไปให้ท่านชายพจน์ ปรีชา

"ทูลเจ้าพี่ทรงทราบ เวลานี้หญิงใช้เวลาเที่ยวเตร่อย่างหนัก เวลานี้หญิงมีความคิดจะเที่ยวแบบคอนติเนลตัลทางรถยนต์ มีคนมาเสนอตัวพาเที่ยวอยู่สองคน คนแรกคือคุณประพัทธ์ นัยว่ามีรถของเพื่อนที่จะขอยืมมาพาหญิงไปเที่ยว เพื่อนของคุณประพัทธ์จะไปกับเราด้วย แต่หญิงออกเกรงใจเรื่องเรียนของพวกเขา"

รัตนาวดีกับสร้อยเดินลงจากโถงบันไดเห็นประพันธ์นั่งคอยอยู่ ประพันธ์เห็นรัตนาวดีลุกขึ้นดีใจ
"อีกคนหนึ่งคือ คุณวิศาล ลูกรัฐมนตรี มาอยู่ที่นี่นานแล้ว เขาก็รับอาสาจะพาหญิงไปเที่ยวฝรั่งเศสเหมือนกัน"
วิศาล และ พุทธ กระหืดกระหอบเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นของโรงแรมเพื่อมารอรัตนาวดี ประพันธ์กับวิศาลเข่มนกัน
"หญิงยังไม่ได้ตัดสินใจ ก็พอดี ท่านดนัยส่งจดหมายให้นายเล็กนำมามอบให้หญิงว่า ยินดีจะส่งนายเล็ก และ รถมาให้หญิงใช้ระหว่างอยู่ในอังกฤษ"

รถของท่านดนัย ที่ขับไปบนถนนชนบทอังกฤษในบริเวณ Cotswolds ท่านหญิงรัตนาวดีนั่งด้านหลังกับสร้อย ท่านดนัยในฐานะนายเล็ก เป็นคนขับ รัตนาวดีสดชื่นมีความสุขไปกับสายลม และทิวทัศน์ที่สวยงามข้างทาง ท่านดนัยลอบแอบมองด้วยสีหน้ามีความสุขเช่นกัน...

มุมสวยๆ บริเวณริมแม่เทมส์ เห็นมหาวิทยาลัย Oxford และ ตึกสวยๆ ในเมือง Oxford… ท่านหญิงรัตนาวดี กับสร้อยนั่งพักผ่อนตรงมุมสวยๆ หลังจากที่เดินมานานจนหมดแรง
ท่านชายดนัยบอก
"เมือง Oxford เป็นเมืองเก่าแก่มากเมืองหนึ่ง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา เพราะ มีสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง"
"เราเดินกันจนแถบหมดแรงเลยนะ...กว้างใหญ่จริงๆ" รัตนาวดีว่า
ท่านดนัยยิ้ม
"ถูกต้องกระหม่อม มหาวิทยาลัย Oxford เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุด เริ่มสอนประมาณปี คศ 1710 หลังจากที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 ทรงสั่งห้ามชาวอังกฤษไม่ให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยปารีส"
"พี่ชายก็จบที่นี้แหละคะป้าสร้อย"
สร้อยตื่นเต้น
"โอ…ท่านหญิงเพคะ เราได้มาเห็นที่เรียนของเจ้าพี่แล้วเพคะ"
"ตอนที่เจ้าพี่เรียนที่นี่ หญิงยังเด็กมาก....ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราไปซื้อของฝากเจ้าพี่กันดีไหมคะป้า"
"ดีเพคะ...ท่านพจน์จะต้องดีพระทัยแน่ๆ"
"มีผ้าพันคอรุ่นใหม่ของ Oxford กระหม่อม…สีน้ำเงินที่ท่านพจน์โปรด"
"ทำไมนายเล็กรู้ว่าเจ้าพี่โปรดสีน้ำเงิน"
ท่านดนัยรู้ตัวว่าพลาด
"เอ้อ….ท่านดนัยรับสั่งกระหม่อมให้หาของฝากไปถวายท่านพจน์เป็นสีน้ำเงินหม่อม…."
รัตนาวดีมองไปทางอื่น
"อย่าไปรบกวนท่านชายเลย...ของฝากเจ้าพี่ฉันจะจัดการเอง"
ท่านดนัยที่กำลังมีความสุขกลับสลดลง

เวลาเย็นใกล้ค่ำ ท่านดนัยขับรถเข้ามาจอดหน้าโรงแรม รัตนาวดีรีบเปิดประตูรถออกมายืนดูอย่างตื่นเต้น
"เป็นโรงแรมที่สวยเหลือเกินนายเล็ก"
"คืนนี้เราจะพักและทานอาหารเย็นที่นี่ กระหม่อมเคยมากับท่านดนัย...ทั้งอาหาร กับ ขนมอร่อยทีเดียวหม่อม แล้วพรุ่งนี้กระหม่อมจะรีบมารับแต่เช้า"
"นายเล็กจะไปไหน"
"หม่อมจะไปหาโรงแรมเล็กๆ แถวตลาด แล้วก็จะเอารถไปเติมน้ำมัน"
ท่านหญิงรัตนาวดีนิ่งไป สร้อยเดินมาหา
"ถ้านายเล็กทำอย่างนั้น...ท่านดนัยจะไม่พอพระทัยที่ฉันดูแลคนของท่านไม่ดี" รัตนาวดีว่า
"ท่านดนัยคงจะเห็นด้วยกับกระหม่อม...เพราะเหมาะสมแล้วหม่อม"
"ไม่เหมาะสมสักนิด...ฉันขอสั่งให้นายเล็กพักกับเราที่นี่ และมาทานอาหารเย็นร่วมกับเราด้วย"
"แต่..."
"ไม่มีแต่..."
ท่านหญิงรัตนาวดีมองหน้าท่านดนัย
"เด็จเข้าเสียทีเพคะ" สร้อยหนาวจนสั่นไปทั้งตัว "หม่อม…ฉัน…หนาวจนจะพูดไม่ออกแล้ว"

รัตนาวดีพาสร้อยเดินเข้าโรงแรมไป ท่านดนัยมองตามรัตนาวดีด้วยสีหน้ายิ้มๆ..
 
อ่านต่อหน้า 3

รัตนาวดี ตอนที่ 3 (ต่อ)

ในห้องพัก สร้อยสีหน้าไม่ค่อยพอใจกำลังจัดเสื้อผ้าให้ท่านหญิง รัตนาวดีเดินออกมาจากห้องน้ำ ยังไม่ได้สังเกตสีหน้าสร้อย

"นายเล็กบอกว่าห้องอาหารที่นี่มีขนมอร่อย...ป้าคะ หญิงอยากจะทาน แอปเปิ้ล ทาร์ต แบบอังกฤษแท้ๆ สักหน่อย.ป้าจะแชร์กับหญิงไหมคะ"
สร้อยไม่ตอบ ทำเป็นก้มหน้าก้มตาจัดเสื้อ รัตนาวดีจึงหันมา
"เป็นอะไรหรือเปล่า...เหนื่อยใช่ไหมจ้ะ...ถ้าลงไปทานอาหารไม่ไหว หญิงจะสั่งอาหารให้เค้าเอามาให้บนห้องดีไหม"
"เปล่าเพคะ...หม่อมฉันไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น แต่หม่อมฉันว่า ท่านหญิงไม่น่าทรงอนุญาตให้นายเล็กมาร่วมโต๊ะกับเรา"
รัตนาวดีหยุดยิ้ม มองหน้าสร้อย
"ป้าถือไม่เข้าเรื่องเลย"
"นายเล็กนะเป็นแค่คนขับรถ ถึงจะได้ร่ำได้เรียนเมืองนอก ก็ไม่ได้ต่างกับเจ้าสน เจ้าสมบูรณ์หรอกเพคะ"
รัตนาวดีเริ่มไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยังเฉย
"ถึงนายเล็กเค้าจะเป็นแค่คนขับรถ แต่เค้าก็ช่วยเราได้มาก หญิงว่าท่าทางเค้าก็ใช้ได้...อีกอย่างนึงที่สำคัญ ถ้าเราผู้หญิงนั่งทานอาหารกันสองคน...แล้วเกิดมีผู้ชายไม่ดีที่อยากจะมารวนมานั่งกับเรา แล้วเราจะทำยังไงคะ มีนายเล็กนั่งอยู่ด้วยเท่ากับช่วยปกป้องเราซะด้วยซ้ำ กิริยามารยาทเค้าก็เรียบร้อยไม่ได้ทะลึ่งตึงตัง"
สร้อยนิ่งคิด
"หญิงพูดถูกไหม ระหว่างที่เรามาเที่ยวนี่ หญิงอยากให้ป้าลืมๆ เรื่องพระยศ พระเกียรติ เอาไว้บ้าง เพราะมันจะทำให้เราหมดสนุกแล้วก็ทำให้คนอื่นอึดอัด"
สร้อยถอนใจ มองรัตนาวดีอย่างเถียงไม่ออก
"หม่อมฉันก็ต้องยอมท่านหญิงทุกทีเพคะ"

ทั้งหมดนั่งทานอาหารอยู่ในห้องอาหาร บ๋อยเอาแอปเปิ้ล ทาร์ต มาเสริฟให้ท่านหญิงรัตนาวดี ป้าสร้อยชะโงกหน้ามาดูอย่างสนใจ รัตนาวดีเอามือป้องทำท่าหวง ท่านดนัยต้องพยายามกลั้นยิ้ม รัตนาวดีแบ่งขนมทานกับสร้อย พอทานขนมแล้วก็ทำหน้าพอใจอย่างมาก ท่านดนัยมองรัตนาวดีอย่างหลงใหลโดยที่สร้อยไม่ทันเห็น

รถวิ่งผ่านทางสวยๆไปยังหมู่บ้าน

ถนนในหมู่บ้าน Chipping Camden รัตนาวดีกับสร้อย เดินชมบ้านแบบโบราณ ท่านดนัยเดินออกมาจากซอยข้างๆพร้อมกับกล้องถ่ายรูปขนาดกระทัดรัด รัตนาวดีเดินมาเห็นดอกไม้สวยงามที่ชาวบ้านปลูกไว้ จึงเข้าไปลองดมดู มีเสียงชัตเตอร์จากกล้องของท่านดนัยที่แอบถ่าย รัตนาวดีหันไปมองถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ไปได้กล้องถ่ายรูปนั่นมาจากไหนนายเล็ก"
รัตนาวดีทำหน้าเฉยๆ ท่านดนัยก็กลัวจะไม่พอใจ...
"จากร้านขายของที่ระลึกตรงโน้นหม่อม...เป็นกล้องเก่าแต่ยังใช้งานได้ดี"
รัตนาวดียิ้ม
"ดีจริง...ฉันตั้งใจจะซื้อกล้องถ่ายรูปตั้งแต่ที่ลอนดอนแล้ว แต่ก็เถลไถลไม่ได้ซื้อสักที...มีแต่กล้องคุณนพ"
"กลับไปลอนดอนหม่อมจะขอประทานของท่านดนัยมาให้หม่อม...ของท่านมีหลายอัน"
รัตนาวดีพูดเรียบๆ
"อย่าไปรบกวนท่านเลย เราซื้อเอาใหม่ก็ได้ ฉันจะซื้อเอง"
ท่านดนัยเงียบไป
สร้อยถามเรื่องหลังคาที่มีรูปทรงแปลกประหลาด ท่านดนัยเดินอธิบาย
ทั้งสามเดินดูบ้านที่สร้างแบบโบราณ...หยุดถ่ายรูปกันบ้าง รัตนาวดีขอกล้องจากท่านดนัยมาเรียนรู้และบังคับให้ท่านดนัยเป็นแบบถ่ายรูป

รัตนาวดีเดินดูบ้านเรือนน่ารักสวยงาม มีชาวบ้านโบกมือให้ ท่านดนัยเดินถ่ายรูปรัตนาวดีหลายๆ มุมบางรูปมีและ เด็ก ๆมาถ่ายรูปด้วย
รัตนาวดีหันมายิ้มหวานให้ท่านดนัยถ่ายรูป
"ป้าสร้อยไปไหนซะแล้ว...สงสัยจะเมื่อขา"
"คุณสร้อยนั่งรอให้อาหารเป็ดอยู่ด้านโน่นหม่อม...ให้หม่อมมาตามท่านหญิง"
"หมู่บ้านพวกนี้นี้มันน่ารักเหลือเกิน"
"ว่ากันว่าเวลาที่นี่หยุดเดินมาสามร้อยปีแล้ว บ้านแต่ละหลังส่วนใหญ่จะสร้างจากหินทรายสีน้ำผึ้ง"
รัตนาวดี เดินไปจับผนังบ้าน หรืออาคารอย่างเบาๆ

มุมสวยๆ ใน Lower Slaughter เห็นถึงความสนุกสนานของการได้เที่ยวอย่างมีความสุขของท่านหญิง รัตนาวดีเดินผ่านกังหันน้ำ เข้าร้านขายเครื่องหนัง สินค้าที่ระลึก และ Afternoon tea ในยามบ่าย

ท่านชายพจน์ในชุดสบายๆ นั่งอ่านจดหมายของรัตนาวดีด้วยสีหน้าเป็นห่วง ปริศนาเดินเข้ามาสีหน้ายิ้มแย้ม
"หญิงแพรนี่เดี๋ยวนี้รู้มากนะเพคะ...กว่าจะยอมนอนต้องเล่นจนพอใจผิดกับชายปริญญ์...พอกล่อมให้นอนก็หลับเลย"
ท่านชายพจน์หันมายิ้มๆ ปริศนารู้สึกได้ว่าท่านพจน์ผิดปรกติ
"มีเรื่องอะไรให้ทรงคิดมากหรือเปล่าเพคะ"
ท่านชายเดินมายื่นจดหมายรัตนาวดีให้ปริศนา ปริศนารับมาอ่าน
"จดหมายหญิงรัตน์"
ปริศนาอ่านจดหมายแล้วก็ยิ้มๆ ท่านชายพจน์เดินไปหยิบไปน์มาสูบ
"ท่านหญิงสนุกใหญ่....มีคนไทยที่โน่นท่าจะมาติดใจท่านหญิง ไม่ต้องห่วงหรอกเพคะ มีป้าสร้อยอยู่ทั้งคน"
"ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก หญิงรัตน์อยากจะใช้รถยนต์เดินทางไปในยุโรป ถ้าไปกับเด็กนักเรียนพวกนั้น ฉันกลัวจะไม่ปลอดภัย"
"เพราะทางในยุโรป ถ้าคนไม่คุ้นทางก็จะหลง หรือไม่ก็ accident "
"ใช่…ฉันถึงต้องคิดหาทางให้หญิงรัตน์ได้เดินทางโดยเหมาะสม เพราะถ้าต้องเสี่ยงก็คงให้กลับดีกว่า....รอไปกับเราปีหน้า"
ปริศนาหน้าเสีย
"ถ้าอย่างนั้น....ท่านหญิงอาจจะเสียพระทัยนะเพคะ"
"ฉันถึงคิดไม่ตก....พรุ่งนี้จะโทร.ไปคุยกับท่านทูตที่ลอนดอน...ถ้าไม่เหมาะสมก็ต้องกลับ"

ท่านชายพจน์กังวล

วันใหม่ บริเวณสะพานหินสวยๆข้ามลำคลอง ทั้งสามคนเดินเล่นอย่างมีความสุข

"เมืองนี้ชื่อเมืองอะไรนะนายเล็ก ….ร่มรื่นสวยงามเหลือเกิน" สร้อยถาม
"เมือง Bourton on the water ครับ คุณสร้อย"
"ชื่อยาวจริง...ท่านหญิงเพคะ เราไปเลี้ยงเป็ดน้ำตรงโน้นกันดีกว่า หม่อมฉันมีขนมปังมาหลายถุง"
รัตนาวดียิ้มแจ่มใส
"ดีจริงค่ะป้า หญิงไปก่อนละนะ"
รัตนาวดีรีบเดินไป สร้อยพยายามเดินตาม แต่เพราะเดินบนสะพาน จึงไม่ค่อยกล้าเดินเร็ว
"ท่านหญิง...รอหม่อมฉันก่อนเพคะ...ทำไมถึงซนอย่างนี้"
ท่านดนัยยิ้มๆ ประคองสร้อยให้รีบเดินตามรัตนาวดีไป

รัตนาวดีกำลังโปรยขนมปังให้นกเป็ดน้ำ ป้าสร้อยก็โปรยขนมปังอีกทางหนึ่ง มีนกเป็ดน้ำมากมายพากันมากินขนมปังที่สร้อย ท่านดนัยเอาขนมปังมาให้รัตนาวดีอีกห่อหนึ่ง รัตนาวดีรับห่อขนมปังมา
"ขอบใจจ้ะ...แม่น้ำสายเล็กๆเมืองนี้สวยเหลือเกิน...ใสจนเห็นหินใต้แม่น้ำ"
"แม่น้ำ Windrush กระหม่อม จะไหลวนไปทั่วเมือง จนเมืองนี้ได้ชื่อว่า เวนิสแห่งอังกฤษ"
ท่านหญิงรัตนาวดีหันมายิ้ม
"นายเล็กเคยไปเวนิสไหม"
"เอ้อ…เคยตามเสด็จท่านชายหม่อม"
"ฉันอยากไปเห็นจัง เคยเห็นแต่ในรูป นกเป็ดน้ำพวกนี้ก็เหมือนกัน ฉันเคยวาดรูปมันจากรูปถ่าย"
รัตนาวดีโยนขนมปังให้นกเป็ดน้ำอีก
"ได้มาเห็นมันใกล้ๆ วันนี้...รู้สึกว่ามันน่ารักมาก"
"ท่านหญิงชอบวาดรูปหรือกระหม่อม"
"ก็ชอบวาดเล่นๆ ไม่ค่อยได้เรื่องหรอ ที่เป็นเรื่องเป็นราวนอกจากรูปนกเป็ดน้ำ แล้วก็คงเป็นรูปนโปเลียน"
ท่านดนัยทำหน้าชื่นชม
"ทรงวาดรูปนโปเลียนได้นี่ ฝีพระหัตถ์ไม่ธรรมดาแล้วกระหม่อม"
รัตนาวดียิ้มหวาน แต่สักครู่ก็ทำท่านึกได้
"นโปเลียนนะ คืออัลเซเชี่ยนของฉัน นะ….เจ้าพี่ประทานชื่อมัน"
ท่านดนัยเผลอหัวเราะสนุกกับรัตนาวดี สร้อยเดินเข้ามา ท่านดนัยจึงรีบสำรวม..
"ท่านหญิงเพคะ.หม่อมฉันเลี้ยงนกจนตัวเองชักจะหิวแล้วเพคะ"
"หญิงก็เหมือนกันค่ะ...ทานอาหารแล้วเราไปซื้อของฝากที่ร้านฝั่งโน้น...หลังจากนั้นนายเล็กจะพาเราไปไหนต่อจ๊ะ"
"กระหม่อมจะพาเสด็จไปพบกับ เช็คสเปียร์"

รัตนาวดีสีหน้าพอใจมาก...

ท่านดนัยพารัตนาวดีและสร้อยเข้าไปในร้านขายของ ทั้งท่านหญิงและสร้อยช่วยกันเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก

ภายในรถ ท่านดนัยขับรถ บางครั้งมีการมองกระจกส่องหลัง สร้อยนั่งหลับอยู่เบาะหลัง....รัตนาวดีเหม่อมองดูวิวข้างทางอย่างมีความสุข
หม่อมเจ้าดนัยวัฒนาแอบมองรัตนาวดีทางกระจกหลังบ่อยๆ
รถวิ่งผ่านถนนสวยๆ ภายในรถ ท่านชายดนัยเดินอธิบายประวัติเช็คสเปียร์ให้รัตนาวดี กับ สร้อยฟัง
สร้อยมองอย่างทึ่ง
"นายเล็ก...ถามจริงๆ เถอะนะ เคยเป็นไกด์เหรอไง ไปที่ไหน ที่ไหน…ก็รู้เรื่องไปหมด"
ท่านชายดนัยหัวเราะ
"คุณสร้อยครับ...ก่อนจะมาผมก็อ่านหนังสือเตรียมมาเหมือนกัน จะได้เล่าถวายท่านหญิงได้"
"แหมเก่งจริง ท่านหญิงเพคะ ถ้าเราได้นายเล็กพาเที่ยวไปตลอดก็จะดีจริงนะเพคะ"
"คงไม่ดีหรอกค่ะป้า...เกรงใจท่านดนัย"
ท่านดนัยพยายามอธิบาย
"เอ้อ…กระหม่อมคิดว่า ท่านดนัยคงเต็มใจกระหม่อม"
"ไม่ดีหรอก ป้าคะ หญิงคิดว่าหญิงจะเช่ารถโดยจะแชร์กับคุณประพัทธ์ ไม่ต้องไปขอยืมรถเพื่อนเขา....ถ้าเขาลาเรื่องเรียนได้จริง"
ท่านดนัยสีหน้ายุ่งยาก
"แต่ป้าก็ยังไม่ค่อยไว้ใจคุณประพัทธ์ซักเท่าไหร่...บางทีก็ดูแกห่ามอยู่เหมือนกัน"
"หรือเราจะไปรถไฟกันสองคน....แต่เวลาเข้าเมืองก็จะทุลักทุเลนะคะป้า"

ท่านดนัยไม่สบายใจ..
 
อ่านต่อหน้า 4

รัตนาวดี ตอนที่ 3 (ต่อ)

นายเล็กขับรถมาจอดที่หน้าโรงแรมแลนด์มาร์กลอนดอน เมื่อตอนค่ำ รัตนาวดี กับสร้อยลงมาจากรถ

"แหม…นั่งรถนานๆ ก็เมื่อยนะเพคะ"
รัตนาวดีกับป้าสร้อยเดินเปิดประตูเข้าไปข้างใน ท่านดนัยขนกระเป๋าลงจากรถ ก่อนเดินตามเข้าไปในโรงแรม
รัตนาวดีรับเอกสารที่ถูกฝากไว้ รัตนาวดีเปิดจดหมายอ่าน ทำท่าผิดหวัง ลงนั่งอย่างหมดแรง สร้อยคอยสังเกตท่าทางรู้ว่า รัตนาวดีผิดหวังบางอย่าง..
"จดหมายจากใครเพคะ"
รัตนาวดีตอบอย่างเบาๆ
"จากเจ้าพี่"
สร้อยสนใจรีบเดินมาใกล้ๆ
"ท่านชายมีรับสั่งว่าอย่างไรเพคะ"

ท่านดนัยก็คอยฟังด้วยสีหน้าลุ้น
"เจ้าพี่จะให้เราไปเที่ยวร่วมคณะกับครอบครัวคนไทยที่เค้าจะมาเที่ยวคอนติเนลต์เหมือนที่เราอยากไป"
สร้อยดีใจ
"โอ้…ก็ดีนะเพคะ...ไปอย่างนี้ละปลอดภัยแน่นอน...เพราะสถานทูตต้องจัดหารถ กับ คนขับอย่างดีให้แน่ๆ"
รัตนาวดีทำท่าหมดแรง
"เราก็ต้องไปตามโปรแกรมของเขา....อือ...จะสนุกหรือคะ เราต้องทำตามที่พวกเขาต้องการ....แล้วก็ไม่รู้ว่า...สิ่งที่เค้าอยากทำเราจะสนุกด้วยหรือเปล่า"
รัตนาวดีสีหน้าหมดสนุก สร้อยแอบค้อน ท่านดนัยคิดหนัก

เวลาต่อมา ท่านดนัยเดินลงจากข้างบน รัตนาวดีเดินลงมาตามหน้าและเรียกไว้
"นายเล็ก....นายเล็ก"
ท่านดนัยชะงักหันไป รัตนาวดีเดินเข้ามาหา
"ท่านหญิง"
"เอ้อ…ฉันจะมาขอบคุณนายเล็กที่พาฉัน กับ ป้าสร้อยไปเที่ยว เป็นสามวันที่ฉันสนุก และ มีความสุขมาก"
ท่านดนัยพยายามซ่อนความดีใจ
"กระหม่อมดีใจที่ท่านหญิงโปรด"
รัตนาวดีสีหน้าเศร้าๆ นิดหน่อย
"เราอาจจะไม่ได้พบกันอีกนะ...ถ้าฉันไม่ได้ไปร่วมคณะกับครอบครัวคนไทยที่จะมา...ฉันก็อาจจะกลับบ้าน"
"กระหม่อมว่าถ้าท่านหญิงเสด็จกลับจะน่าเสียดายมาก บางที…อาจจะมีทางอื่นกระหม่อม"
รัตนาวดีพยายามยิ้ม
"ฉันยังมองไม่เห็นทางเลย" ท่านหญิงพยายามยิ้มแจ่มใส "แต่ช่างเถิด ได้ไปเที่ยวสามวันที่ผ่านมาก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ขอบคุณนายเล็กมากนะจ้ะ คงไม่ได้เจอกันอีก...ถ้านายเล็กไปเมืองไทยก็แวะไปทักทายกันบ้างนะ"
ท่านดนัยหยิบแผ่นกระดาษมาเขียนเบอร์โทรศัพท์ แล้วส่งให้ รัตนาวดีรับมาดู
"นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ในห้องกระหม่อม...หากท่านหญิงประสงค์ให้กระหม่อมถวายการรับใช้ใดๆ...กระหม่อมยินดี"
"ขอบใจจ้ะ"
รัตนาวดีหันหลังเดินกลับไป ท่านดนัยมองตาม ยิ้มน้อยๆ

ศาลากลางสวน วังศิลาขาว ประวิชกำลังนั่งอ่านจดหมายของท่านหญิงรัตนาวดี โดยมีปริศนานั่งใช้ความคิดอยู่ด้วย
"คุณปริศนาที่รัก หญิงได้รับโทรเลขจากเจ้าพี่..ห้ามไม่ให้หญิงจัดการไปเที่ยวคอนติเน็ตท์ด้วยตัวเอง...ขอให้ท่านราชทูตช่วยจัดให้ คุณปริศนาคะ...ท่านราชทูตจัดให้หญิงร่วมคณะกับคนไทยสามคนพ่อลูก….นี่เจ้าพี่ท่านนึกอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ หญิงจะสนุกตรงไหน..เขาคงชอบดูอะไรๆ กันที่หญิงไม่ชอบเป็นแน่... ถ้าจะเที่ยวทั้งทีหญิงอยากจะไปเที่ยวของหญิงอย่างอิสระ ไม่ต้องเกรงใจใคร..ให้หญิงกลับกรุงเทพเสียยังดีกว่า"

ประวิชพับจดหมายหัวเราะเบาๆ
"ท่านหญิงจะไปทรงเฮี้ยวกับใครที่โน่นได้นี่ ความจริงก็น่าเห็นใจท่านหญิงนะ ถ้าเป็นผมต้องโดนบังคับให้ไปเที่ยวกับคนที่เราไม่คุ้นเคยไม่รู้จักก็คงอึดอัดพิลึก ไหนว่ามีพระญาติที่อังกฤษดูแล"
"ก็มีเหตุให้คลาดเคลื่อนเข้าใจผิดกัน....ท่านดนัยไม่ได้ไปรับที่สนามบิน ท่านหญิงก็เลยทรงไม่พอพระทัย"
"อ้าว…"
"แค่นั้นยังไม่พอ...พอได้เจอกัน...ท่านหญิงกลับทรงเข้าทัยว่าท่านดนัยเป็นมหาดเล็ก"
"อ้าว"
"แค่นั้นยังไม่พอ ท่านดนัยได้พบกับท่านหญิง ก็ทรงพอพระทัยท่านหญิงอย่างมาก รับสมอ้างเป็นมหาดเล็กตัวเอง"
ประวิชยิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์มาก...
"ไม่ร้องอ้าวอีกล่ะ"
ประวิชทำท่าสนุก
"ไม่อ้าวอีกแล้ว คอยดูนะปริศนา ท่านดนัยคนนี้จะต้องมีแผนเด็ดแน่ๆ แหม..ชักสนุกแล้วซิ"

ปริศนาค้อน ประวิชยิ้มสนุก

วันใหม่ ที่ห้องนั่งเล่นของโรงแรมแลนด์มาร์ก รัตนาวดีนั่งคุยกับประพัทธ์ มีพุทธนั่งฟังห่างๆ ในขณะที่วิศาลเดินไปมาอย่างใช้ความคิด สร้อยนั่งฟังรัตนาวดีคุย

ประพัทธ์ ทำหน้าเสียดายผิดหวังมาก
"ท่านหญิงไม่เสด็จแล้วหรือหม่อม.โธ่หม่อมอุตส่าห์เอารถของเพื่อนไปเข้าอู่เตรียมไว้อย่างดี...หมดไปหลายปอนด์ นึกว่าจะได้ไปเที่ยวกับท่านหญิง"
"ต้องขอโทษคุณประพัทธ์ด้วยค่ะ หญิงต้องทำตามรับสั่งเจ้าพี่ ไม่อย่างนั้นก็ต้องกลับเมืองไทย แต่ก็ดีแล้วคุณประพัทธ์จะได้ไม่ต้องขาดเรียน"
"แล้วทำเรื่องขอลาหยุดเรียนไปหรือยังคะ" สร้อยถาม
"ทำแล้วครับ แต่ โปรเฟสเซอร์ยังไม่อนุมัติ"
สร้อยแอบยิ้มดีใจ วิศาลทำท่ากร่าง พยายามออกความเห็น...
"ท่านหญิงลองส่งข่าวบอกท่านพจน์ว่าจะไปกับหม่อมสิ... ถ้าท่านพจน์รู้ว่าหม่อมเป็นใคร ต้องยอมแน่ๆ หรือจะให้พ่อของหม่อมไปทูลท่านพจน์เองดีไหม...หม่อมจะรีบโทร.ทางไกลไปบอกพ่อเลย"
สร้อยไม่พอใจ
"พ่อคุณ…สงสัยที่บ้านเธอคงชอบทำแบบนี้จนเคยชินละซิ เรื่องบางเรื่องน่ะ ต้องดูเรื่องมารยาทความเหมาะสมด้วยจ้ะ...ไม่ใช่จะทำทุกอย่างตามแต่ใจ"
"ผมก็แค่อยากให้ท่านหญิงได้ไปเที่ยวก็เท่านั้น...ไหนๆ ก็มาแล้ว"
สร้อยมองวิศาลอย่างไม่ค่อยพอใจ วิศาลก็แอบทำหน้าล้อเลียนสร้อยกับพุทธ จนพุทธหลุดหัวเราะ แสวงเจ้าหน้าที่สถานทูตเดินเข้ามาในห้องรับแขก รัตนาวดียิ้มๆ แต่ก็ยังเซ็งอยู่ แสวงเดินเข้ามายืนแล้วโค้งให้รัตนาวดี
"คุณแสวง...ไม่ได้พบกันหลายวัน"

แสวงยื่นจดหมายให้รัตนาวดี
"กระหม่อม…ท่านดนัยทรงส่งจดหมายมา ให้กระหม่อมนำมาถวายท่านหญิง"
รัตนาวดีรับจดหมายมาแล้วแกะอ่าน จากสีหน้าที่มีความทุกข์ของรัตนาวดี กลายเป็นค่อยๆ ยิ้มรื่น รีบหยิบแผ่นกระดาษเบอร์โทร.ที่ท่านดนัยให้ไว้ในกระเป๋า แล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้มุมห้อง หมุนเบอร์ตามในแผ่นโน้ต
"ฮัลโหล..นายเล็กใช่ไหมจ้ะ.ฉันได้รับจดหมายจากท่านดนัย"
ทุกคนในห้องพากันมองด้วยความสงสัย โดยเฉพาะสร้อย รัตนาวดีที่หันมายิ้มหวานกับสร้อย...

ท่านดนัยวางหูโทรศัพท์ลงช้าๆ สีหน้ายิ้มสนุก......

จดหมายเล่าเรื่องราวของท่านหญิงรัตนาวดีอยู่ในมือท่านชายพจน์
"ทูลเจ้าพี่ทรงทราบ The problem has solved เรื่องไปคอนติเนตท์ของหญิงนะเพคะ บัดนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่านดนัยของเจ้าพี่ ให้คนมาส่งจดหมายที่พิมพ์ดีดมาอย่างเป็นทางการว่า ได้ข่าวว่าหญิงอยากไปเที่ยว ท่านมีรถที่ฝรั่งเศส และสวิส และคนขับก็อยู่เปล่าๆ จึงอนุญาตให้หญิงใช้ได้ตามความประสงค์ ก็เป็นอันว่าหญิงจะได้รถไว้ใช้ คนรถก็คือนายเล็กนี่เอง"

หน้าโรงแรมท่านดนัยในฐานะนายเล็ก มารับรัตนาวดี และสร้อย ขนกระเป๋าขึ้นรถด้วยสีหน้าเบิกบานมีความสุขมากทั้งสามคน
"นายเล็กเป็นคนนำเที่ยวที่วิเศษสุด รู้ด้วยว่าหญิงชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ไม่อวดดี ไม่พูดมาก ทำตัวถูกกาละเทศะเสมอ นายเล็กก็เต็มใจที่จะไปกับหญิง เพราะท่านดนัยไม่อยู่ ก็ไม่มีอะไรทำ หญิงจึงรับเหมาทั้งรถทั้งคนขับของท่านดนัย"

คลื่นที่แตกกระจายข้างๆ เรือ
"หญิงชักเกรงพระทัยท่านดนัยเหมือนกัน แต่นายเล็กบอกว่าไม่ต้องเกรงท่านไม่กลับจากฮอลิเดย์อีกนาน... รถที่ฝรั่งเศสกับสวิสก็จอดไว้เฉยๆ ถ้าหญิงไม่เอารถของท่านมาใช้ บางทีคนอื่นก็ขอยืมไป หญิงฟังเหตุผลนายเล็กแล้วก็สบายใจ ออกจะลืมๆ ความไม่พอใจที่เคยโดนทิ้ง...เจ้าพี่เพคะ... หญิงดีใจและพอใจเป็นอย่างมากที่จะได้ไปเที่ยวอย่างที่หวังไว้ …เจ้าพี่คงเห็นด้วยนะเพคะ รักและคิดถึงเจ้าพี่มาก..รัตนาวดี"

ท่านหญิงรัตนาวดี สร้อย ท่านดนัย ยืนอยู่บนกราบเรือที่แล่นไปในทะเลกว้าง รัตนาวดีมีความสุขท่ามกลางสายลม ผมปลิวสวย โดยมีท่านดนัยแอบมองด้วยสีหน้ามีความสุขเหมือนกัน
 
อ่านต่อตอนที่ 4
กำลังโหลดความคิดเห็น