xs
xsm
sm
md
lg

ห้องหุ่น ตอนที่ 3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ห้องหุ่น ตอนที่ 3

ในห้องนอนอัมรา อารีย์หวีผมให้ลูกสาวเสร็จ
 
พรรณรายออกมาจากห้องน้ำมองรำคาญ เดินไปที่ประตู อารีย์รีบถาม
"จะไปไหนล่ะพรรณ"
พรรณทานน้ำหน่อยค่ะ
มีเสียงที่ประตูด้านนอกห้อง สามแม่ลูกชะงัก มองหน้ากัน แปลกใจ
"ใครนะคุณพ่อก็ยังไม่กลับนี่" อัมราบอก
สามคนหน้าไม่ดี พรรณรายหันไปคว้าไม้แบดที่แขวนไว้ เงื้อขึ้น ประตูเปิดเข้ามา สามคนตกใจ พรรณรายเงื้อไม้
"แก"
ชิ้นตกใจ
"ว้ายคุณพรรณอย่าค่ะ น้าเอง"
อารีย์ อัมราถอนใจโล่งอก พรรณลดไม้ลงโมโห
"บ้าจริงๆน้าชิ้น ดึกแล้วทำไมไม่นอน"
ชิ้นรีบปิดประตูล็อกกลอนเข้ามากระซิบกระซาบ
"น้าได้ยินเสียงกุกกักแปลกๆ ข้างล่าง เลยรีบมาบอกค่ะ"
อารีย์ตกใจ
"อะไรนะ"
"หรือว่าขโมยค่ะ" อัมราบอก
พรรณรายไม่กลัว
"เป็นไปไม่ได้หรอก อยู่มาตั้งนานบ้านเราเคยมีขโมยที่ไหน พรรณไปดูเอง"
พรรณรายทำท่าจะออกไปดู อารีย์รีบมาดึงตัวไว้
"อย่าลูก อาจจะเป็นขโมยจริงๆก็ได้ แม่ว่าเรารีบโทร.ไปแจ้งตำรวจดีกว่า ชิ้นโทรศัพท์เร็ว"
"โทรศัพท์อยู่ข้างล่างค่ะคุณผู้หญิง"
อารีย์อึ้ง
" งั้นไม่ต้องลง อยู่ในห้องนี้ก่อน ถ้าขโมยเข้ามาจริง อยากได้อะไรให้เขาเอาไป ขอให้พวกเราปลอดภัยก็พอแล้ว"
อารีย์รีบคว้ามือลูกสาวทั้งสองคนมาอยู่ด้วยกันใกล้ๆ สีหน้าตื่นตระหนก

หัวขโมยทั้งสมศรีกับพรรณีเข้ามาในห้องหุ่น สามคนตะลึงมองหุ่นในห้องหุ่น เห็นแต่หุ่นตัวอื่น ยังไม่เห็นหน้าหุ่นนางรำกับหุ่นนางพยาบาล
"แม่เจ้าโว้ยนี่มันอะไรกันเนี่ย"
ยะลูบคลำหุ่นพีทอย่างตื่นเต้น
"เหมือนคนจริงๆเลย"
นัยมองหุ่นชาวนา
"ปั้นหุ่นเก่งอย่างนี้ถึงได้รวยโคตรๆเลย"
โชคมองหุ่นนักยิงธนู แล้วหันมาถามสมศรี
"หุ่นตัวนี้หน้าคุ้นๆ อ๋อเป็นนักกีฬาทีมชาตินี่ แต่ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ใช่..หุ่นทั้งหมดที่เห็น คนที่เป็นแบบตายไปแล้วทุกคน"
ยะมองไปที่หุ่นนางรำ ทำหน้าแปลกใจ "เอ๊ะ"
โชคบอก
"เลิกสนใจหุ่นได้แล้วไอ้ยะ รีบเก็บข้าวของมีค่าเถอะ"
ยะมองหุ่นนางรำบนแท่น นัยหันไปมองหุ่นนางพยาบาลบนแท่น สองคนตกใจพร้อมกัน ต่างหันมามองสมศรีกับพรรณีที่ถูกโชคจี้อยู่ สองคนร้องพร้อมกัน "เฮ้ย"
"อะไรกันวะ" โชคว่า
ทั้งสองพูดไม่ออก ต่างชี้ไปที่หุ่น โชคมองไปที่หน้าหุ่นทั้งสองตัว ตกใจ ก่อนหันกลับมาหาสมศรีกับพรรณีที่โดนจี้อยู่
"เฮ้ยทำไมเธอสองคนหน้าเหมือนหุ่นสองตัวนั่นล่ะ"
"ก็ฉันทั้งคู่เป็นแบบของหุ่นไง" สมศรีบอก
"ไหนว่าคนที่เป็นแบบตายหมดแล้ว"
สมศรีกับพรรณีตอบพร้อมกั "ก็ใช่นะสิ"
สมศรีกับพรรณีหัวเราะเยือกเย็นก่อนหายตัวไปต่อหน้าต่อตา หัวขโมยทั้งสามตะลึงทำอะไรไม่ถูก เสียงครืดคราดดังขึ้น ... สามคนหันไปมอง ครูสมศรีก้าวลงจากแท่น รำแข็งๆเข้ามาหา สามคนถอยกรูด "เฮ้ย.."
เสียงครืดคราดด้านหลัง สามคนหันขวับ พรรณีก้าวลงจากแท่น ยกเข็มฉีดยาขึ้นสูง เดินทื่อๆเข้ามาหา สามคนแหกปาก พากันวิ่งหนีจะออกจากห้องหุ่น ลูกธนูพุ่งปักที่พื้นขวางหน้าไว้
"จะรีบไปไหน" ทวีชาติ นักกีฬาทีมชาติถาม
ทั้งสามเบรกตัวโก่ง วิ่งไปอีกทาง เจอเคียวเกี่ยวข้าวของลุงทวนขว้างมาปักที่ผนัง สามคนหน้าซีดเผือดกลัวสุดชีวิต รีบวิ่งหนีไป ล้มอยู่แทบเท้าทับที่ขยับดาบฟันลงมา ทั้งสามทิ้งตัวหลบได้ฉิวเฉียด ล้มกลิ้ง หุ่นทับก้าวลงมา พีทตบมือชอบใจบอก
"จัดการพวกมันเลย"
"ผี..พวกมันเป็นหุ่นผี หนีเร็ว" โชคบอก
สามคนรีบวิ่งไปขึ้นบันได เจอท่านเจ้าคุณนรบดินทร์ยืนดักอยู่
"ไอ้พวกรกแผ่นดินไม่รู้จักทำมาหากิน พวกแกตาย"
ท่านเจ้าคุณฟาดไม้ตะพดใส่ทั้งสามคนอย่างน่ากลัว ทั้งสามแย่งกันวิ่งล้มลุกคลุกคลานไม่คิดชีวิต
 
ออกจากห้องหุ่นไปจนได้ หุ่นทั้งหมดสะใจ หัวเราะน่ากลัวสะท้อนก้องไปมา

อารีย์ อัมรา ชิ้นร้อนรนอยู่ในห้อง พรรณรายรำคาญ ลุกขึ้นอีก
 
"มานั่งกลัวกันอยู่แบบนี้ทำไมกันคะ มันอาจไม่ใช่เสียงขโมยก็ได้ พรรณจะไปดูให้เห็นกับตาเอง"
"อย่าลูก"
พรรณรายไม่ฟัง ลุกไปเปิดประตู ชะงัก มองผ่านบันไดลงไป เห็นขโมยทั้งสามวิ่งหนีมาจากทางห้องหุ่น ส่งเสียงดังด้วยความหวาดกลัว
พรรณรายตกใจ รีบวิ่งกลับมาในห้อง ปิดประตูล็อค วิ่งพรวดพราดเข้ามากอดอารีย์
"ขโมย..ขโมยเข้าบ้านเราจริงๆด้วยค่ะคุณแม่"
ทั้งสี่คนตกใจมาก

เป็นเวลากับที่ดำเกิงนั่งอยู่ที่โต๊ะสนามรับลม บุญเรือนกับอาทรอยู่ด้วย ดำเกิงปิดปากหาว
"ไป..ไปนอนกันเถอะ"
เสียงหัวขโมยโวยวายดังมาไกลๆ อาทร บุญเรือน ดำเกิงชะงักมองหน้ากัน
อาทรบอก
"เอ๊ะ เสียงอะไร ดังมาจากบ้านน้องอัมนี่ครับ"
"พ่อว่าท่าจะไม่ดีซะแล้ว วันนี้คุณเดชก็ไม่อยู่ซะด้วย" ดำเกิงว่า
"รีบไปดูกันเถอะครับพ่อ"
สองพ่อลูกรีบวิ่งออกไป บุญเรือนตกใจ ร้อนรน
"ทำไงดีละ ทำไงดี อ๋อ..ตำรวจต้องรีบโทรแจ้งตำรวจ"
บุญเรือนวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรีบร้อน

ทั้งสามวิ่งหน้าตาตื่น ท่าทางตกใจสุดขีด ถลาออกมาที่ถนนหน้าบ้านเดช เจ้าคุณนรบดินทร์ปรากฏร่างขึ้นขวางหน้าไว้ ทั้งสามตาเหลือก
"พวกแกจะหนีไปไหน"
สามคนรีบวิ่งหนีไปอีกทาง แต่ก็ปรากฏ ทับมาขวางไว้อีก
"พวกแกต้องตาย"
สามคนทรุดนั่งพนมมือแย่งกันพูดลนลาน
"อย่าฆ่าพวกเราเลยครับ/พวกเรากลัวแล้ว/ปล่อยพวกเราไปเถอะ"
เจ้าคุณนรบดินทร์กับทับจ้องมองอย่างดุดัน ท่าทางหน้ากลัวมาก
ดำเกิงกับอาทร วิ่งมา สองคนชะงัก เห็นขโมยทั้งสามกลิ้งล้มกลางถนนก็แปลกใจ ดำเกิงดึงลูกชายให้หลบดูอยู่ดำเกิง
"เดี๋ยวออย พวกขโมยมันทำอะไรกัน"
ทั้งสามทำท่าเหมือนโดนฟาดเข้ากลางหลังบ้าง ลำตัวบ้าง ต่างร้องเสียงดังอย่างเจ็บปวด ดำเกิงกับอาทรมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างงงๆ
"พวกมันทำท่าเหมือนโดนใครตี" อาทรบอก
"นั่นสิ แต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน"
ทั้งสามล้มฟุบหมดสภาพอยู่กลางถนน ดำเกิงกับอาทรแปลกใจมาก

ทุกคนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น อัมรากับอารีย์สีหน้าตกใจ ตำรวจลุกขึ้นพูดกับเดช
"ผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้าพวกหัวขโมยฟื้นแล้ว ผมคงต้องขอเชิญคุณเดชไปชี้ตัวที่โรงพักด้วย"
"ยินดีครับ"
ตำรวจออกไป เดชหันกลับมา ดำเกิงยังงง
"ผมยังแปลกใจไม่หาย พวกขโมยมันทำท่าเหมือนโดนใครตี แต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน"
อาทรรีบยืนยัน
"นั่นสิครับ มันโดนใครเล่นงานเอา แปลกมากจริงๆครับคุณอาเดช"
เดชอึ้ง พรรณรายรีบเข้ามาเกาะแขนอาทร
"น่ากลัวจังเลยค่ะพี่ออย พรรณกลั๊วกลัว พี่ออยต้องอยู่เป็นเพื่อนพรรณนะคะ"
เดชมองพรรณรายอย่างตำหนิ รีบปราม
"นี่ก็ดึกมากแล้วพรรณราย อย่าไปรบกวนพี่เค้าอีกเลย"
พรรณอึ้งรู้ว่าเดชไม่พอใจ เดชหันมาทางดำเกิง บุญเรือน
"ผมต้องขอบคุณคุณพี่ทั้งสองอีกครั้ง"
ดำเกิงเข้ามาตบบ่าเดช
"ไม่เป็นไรหรอกคุณเดช ไม่ต้องเกรงใจ เราคนกันเองมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน เป็นหูเป็นตาให้กัน งั้นผมกลับล่ะนะ"
"ขอบคุณค่ะ" อารีย์บอก

อัมรารีบไหว้ พรรณรายไหว้ตาม เดชกับอารีย์กุลีกลุจอเดินออกไปส่ง

อารีย์นั่งครุ่นคิดอยู่ที่เตียง เดชออกมาจากห้องน้ำมองแปลกใจ
 
"คิดถึงเรื่องขโมยอยู่เหรอ"
"พี่เดชรู้สึกแปลกๆมั้ยคะ"
เดชเดินมานั่งข้างๆ
"พวกขโมยมันโดนใครตี ตามร่างกายก็มีรอยฟกช้ำ คนหนึ่งถึงกับหัวแตก ใครกันคะที่ตีพวกมันน่ะ"
เดชคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ
"พี่คิดว่าน่าจะเป็นอย่างที่ตำรวจสันนิษฐานมากกว่า พวกมันคงเสพยาก่อนเข้ามาขโมยของที่บ้านเรา แล้วก็อาจจะหลอน เลยซัดกันเอง"
อารีย์นิ่ง เดชปลอบ
"อย่าคิดมากเลย นอนเถอะ ไว้รอผลตรวจพรุ่งนี้ก็รู้"
เดชล้มตัวนอน อารีย์นอนตาม ความจริง... เดชเองก็แปลกใจ

วันใหม่ หน้าห้องขังบนสถานีตำรวจ หัวขโมยทั้งสามนั่งตัวสั่นซุกอยู่ที่มุมห้องขัง โวยวาย ท่าทางหวาดกลัว
"ไม่..ไม่..อย่าอย่าเข้ามา ไอ้หุ่นผี" โชคว่า
"กลัวแล้ว..ไป..ไปให้พ้นไอ้ผีบ้า โอ๊ยอย่าตี..อย่า" นัยบอก
ยะมุดติดผนัง ก้มหน้าตัวสั่น เดชมองแปลกใจ
"ตั้งแต่รู้สึกตัวขึ้นมา สามคนนี่ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับคุณเดช" ตำรวจบอก
"มันเกิดอะไรขึ้น"
"ผมก็ไม่เข้าใจ ทั้งสามคนเอาแต่โวยวาย ว่าโดนผีหลอก ผีหุ่นนะครับ ท่าทางหวาดกลัวมาก เอ้อที่บ้านคุณเดชมีหุ่นหรือเปล่าครับ"
"มีครับ..แต่ก็เป็นแค่หุ่นปกติ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอกครับคุณตำรวจ"
"ผมก็คิดแบบนั้น ยังไงคงต้องรอผลตรวจปัสสาวะก่อน ถ้าผลออกมาแล้ว ผมจะแจ้งคุณเดชไปอีกที"
"ครับ ขอบคุณมาก"
เดชมอง ท่าทางหวาดกลัวอย่างมากของท้งสามอย่างประหลาดใจ

โต๊ะใต้ต้นไม้ในมหาวิทยาลัย อัมรากับนุชนารถนั่งคุย อัมราสีหน้าไม่ดี สันติ อาทร จุฑาเข้ามาสมทบ สันติร้อนใจ
"น้องอัมเป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
อัมรางงๆ อาทรแซว
"พี่เล่าเรื่องขโมยเมื่อคืนให้อาร์ตฟัง เขาเลยเป็นห่วงน้องอัมมาก ขนาดพี่บอกว่าน้องอัมไม่เป็นอะไรก็ไม่เชื่อ พออาจารย์ออกจากห้องก็รีบลากพี่มาหาน้องอัมนี่ล่ะ"
อัมรายิ้มให้สันติอย่างขอบคุณ
"อัมไม่เป็นอะไรหรอกค่ะพี่อาร์ต"
จุฑามองหมั่นไส้ รีบขัด
"แหม ออยฉันก็ห่วงน้องอัมไม่เห็นพูดบ้างเลย อยู่มหา’ลัยเดียวกัน รุ่นน้องมีเรื่องก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา"
"แต่สีหน้าน้องอัมไม่ค่อยดีเลยนะครับ" สันติบอก
นุชนารถรีบเล่าแทน
"ยัยอัมเค้าแปลกใจที่ขโมยให้การกับตำรวจนะคะ พี่อาร์ต"
สันติมองเป็นเชิงถาม อัมราอธิบาย
"คุณพ่อไปชี้ตัวที่โรงพักเมื่อเช้านะคะ แต่พวกขโมยให้การไม่รู้เรื่อง เอาแต่โวยวาย ว่าโดนผีหลอก"
จึฑาหูผึ่งทันที
"ผีเหรอ"
"ค่ะ..พวกมันว่าโดนผีหุ่นในห้องหุ่นหลอกค่ะ"
จุฑาตกใจมากขึ้น มองหน้าสันติ สันติอึ้งไปเหมือนกัน

เวลาต่อมา สันติกับจุฑาเดินมาถึงหน้าห้องเลคเซอร์ เธอดึงสันติไว้
"เดี๋ยวอาร์ต ที่นี้อาร์ตจะเชื่อจุ๊บหรือยัง"
"เชื่อเรื่องอะไร"
"ก็เรื่องหุ่นผีไง จุ๊บบอกแล้วว่าหุ่นในห้องหุ่นมีชีวิตจริงๆ จุ๊บก็โดนมาแล้ว นี่พวกขโมยก็โดนอีก"
สันตินิ่ง จุฑารีบใส่
"อัมราต้องติดต่อสื่อสารกับพวกหุ่นผีพวกนั้นได้ เวลาตัวเองมีเรื่อง พวกหุ่นก็จะออกมาช่วยไง"
"ไปกันใหญ่แล้วจุ๊บ อาร์ตว่ามันน่าจะเป็นอย่างที่ตำรวจเขาสันนิษฐาน พวกขโมยคงเสพสารเสพติดแล้วก็หลอนขึ้นมาเองมากกว่า"
"ไม่ใช่หรอก พวกมันพูดความจริง หุ่นในห้องหุ่นมีชีวิตจริงๆ อาร์ตเชื่อจุ๊บสิ อัมราต้องไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ต้องเป็นแม่มดหรือพวกเล่นของถึงติดต่อกับวิญญาณได้"
"จุ๊บพูดอะไรนะ"
"เชื่อจุ๊บนะ อาร์ตต้องออกห่างอัมราเข้าไว้ อย่าไปใกล้ชิดสนิทสนมด้วย คนแบบนี้น่ากลัวนะอาร์ต"
สันติถอนใจ
"อาร์ตว่าเราเข้าเรียนกันก่อนดีกว่านะ"
สันติรีบเดินเข้าห้องเล็กเชอร์เพื่อตัดบท จุฑาขัดใจ
"อาร์ต..โธ่ทำไมไม่เชื่อกันบ้างเลย คอยดูนะฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็นกับตาให้ได้"

ท่าทางจุฑาไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

บริเวณโต๊ะสนามบ้านเดช เย็นวันเดียวกัน สันติ อัมรา อาทร จุฑา เดช อารีย์ นั่งคุยกันอยู่
 
"ขอบใจมากนะที่พวกเธออุตส่าห์เป็นห่วง" เดชบอก
"เห็นว่าพวกขโมยโดนผีหุ่นหลอกเหรอคะ" จุฑาว่า
สันติมองปรามแต่จุฑาไม่สนใจ เดชหัวเราะ
"เป็นไปไม่ได้หรอก พวกเธอก็เคยเข้าไปเห็นหุ่นของอาแล้วนี่ คิดว่ายังไงล่ะ"
จุฑาจะพูดต่อ แต่สันติรีบแทรก
"ก็เป็นแค่หุ่นธรรมดานี่ครับอาเดช ผมว่าที่ตำรวจเขาสันนิษฐานน่าจะน่าเชื่อกว่า"
"อาก็ว่าอย่างนั้น ตอนนี้ก็แค่รอผลพิสูจน์ว่าพวกมันเสพยากันจริงหรือเปล่า"
อ๊อดวิ่งเข้ามา
"มีโทรศัพท์ถึงคุณพ่อครับ"
เดชพยักหน้ารีบลุกขึ้น
"อาขอตัวก่อนนะ"
เดชโอบอ๊อดเดินเข้าบ้านไป อารีย์ลุกขึ้นบ้าง
"คุยกันไปก่อนนะจ้ะ เดี๋ยวอาจะเอาน้ำกับขนมมาให้"
สันติ อาทร จุฑาพร้อมใจกันยกมือไหว้"ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ"

อารีย์เดินเข้ามาในห้องรับแขก เป็นจังหวะที่เดชวางโทรศัพท์ลงที่แป้นพอดี เดชยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่
"ใครโทร. มาเหรอคะพี่เดช"
เดชสะดุ้ง รีบหันมา
"อ๋อ..ตำรวจ"
"เขาว่ายังไงคะ ทำไมพี่เดชทำท่าแปลกๆ"
"ผลตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด พวกยากล่อมประสาทก็ไม่มี"
อารีย์อึ้ง สีหน้าตกใจ
"หมายความว่าพวกขโมยโดนผีหุ่นหลอกจริงๆเหรอคะ"
เดชมองไปทางห้องหุ่น

ในห้องหุ่น หุ่นแต่ละตัวยืนอยู่บนแท่นตามปกติ เดชยืนมองหุ่นอย่างพิจารณา อารีย์อยู่ข้างๆ สีหน้าไม่สบายใจ
"เป็นไปไม่ได้" เดชบอก
"แล้วทำไมพวกขโมยถึงให้การแบบนั้น"
เดชเดินมองหุ่นทีละตัว จนไปถึงหุ่นเจ้าคุณ เดชถอนใจ หันกลับแล้วชะงัก เดชหันไปมองที่หุ่นเจ้าคุณอีกครั้ง บริเวณหัวไม้ตะพดมีรอยเลือดติดอยู่ เดชตะลึง
"มีอะไรคะพี่เดช"
เดชรีบหันกลับโอบอารีย์
"ไม่มี..ไม่มีอะไร เธอทิ้งเด็กๆมานานแล้ว ขึ้นไปดูพวกเขาเถอะ พี่ขออยู่ในห้องหุ่นนี้อีกสักพัก"
"ก็ได้ค่ะ"
อารีย์ออกไป เดชแตะเลือดที่หัวไม้ตะพด ยกขึ้นมาดูใกล้ๆ
"เลือด..นี่มันเลือดจริงๆนี่"
เดชมองหุ่นเจ้าคุณอย่างตกใจ ทำอะไรไม่ถูก หุ่นเจ้าคุณนิ่งสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สันติ อาทรคุยกับอัมรา จุฑาเฝ้าแอบมองไม่พอใจ ชิ้นเดินมาถือเหยือกน้ำหวานมา จุฑาคิดอะไรได้แล้วรีบลุกขึ้นเดินไปหาชิ้น
"มาค่ะจุ๊บช่วยเอง"
"ขอบคุณค่ะ งั้นอิฉันจะไปเอาแก้วมาให้ค่ะ"
ชิ้นส่งเหยือกน้ำหวานให้ จุฑารับมามองที่อัมราซึ่งนั่งหันหลังอยู่ เธอถือเหยือกตรงมาด้านหลังอัมรา สันติมอง จุฑาสบตาสันติ ประมาณคอยดูนะ
สันติกำลังจะอ้าปากห้าม แต่จุ๊บเทเหยือกรดใส่ อัมราตกใจ
"โอ๊ย"
น้ำหวานราดใส่อัมราทั้งตัว สันติ อาทรตะลึง จุฑาเหวอ มองรอบๆ ทั่วๆ แปลกใจที่หุ่นไม่มาช่วย
"ทำบ้าอะไรนะ"
ทุกคนตกใจ พรรณรายกลับจากมหาวิทยาลัยเข้ามาผลักไหล่จุฑาอย่างโมโห
"เธอเอาน้ำหวานราดน้องสาวฉันทำไม"
จุฑาอึ้ง อึกอัก
"คือ..ฉัน ฉัน"
พรรณรายตรงเข้าตบหน้าจุฑาเต็มๆ ทุกคนตกใจ
"นี่แน่ะ"
อัมราตกใจรีบเข้ามาดึงพรรณราย
"อย่าค่ะพี่พรรณ พี่จุ๊บคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ"
"ตั้งใจสิ..มันตั้งใจจะแกล้งเธอ ก็พี่เห็นกับตามันเดินเข้ามาหาเธอแล้วก็จงใจราดน้ำหวานใส่"
พรรณรายตรงเข้ากระชาก เอาเรื่องจุฑา
"เห็นยัยอัมหงิมๆคิดจะรังแกเหรอ เธอคิดผิดแล้ว"
พรรณรายผลักจุฑากระเด็น ชี้หน้า

"น้องสาวฉันใครก็ห้ามแตะ"

ห้องหุ่น ตอนที่ 3 (ต่อ)

จุฑามองแค้น ลุกขึ้น ทำท่าจะโต้ตอบ อัมรารีบบอก
 
"พี่อาร์ตค่ะพาพี่จุ๊บกลับไปก่อนเถอะค่ะ"
"ครับ"
สันติรีบดึงจุฑาที่ฮึดฮัดกลับไป พรรณรายจะพุ่งเข้าหาอีก อาทรรีบเรียกไว้
"น้องพรรณพอเถอะครับ"
พรรณรายชะงัก
"แต่มัน"
"พี่อุตส่าห์มารอเจอน้องพรรณ"
"พี่ออยมาหาพรรณเหรอคะ"
"ครับ..แล้วตอนนี้พี่ก็หิวมากแล้วด้วย"
พรรณรายรีบหันกลับมาสนใจอาทร
"อุ๊ย ถ้างั้นพรรณจะพาพี่ออยไปทานของว่างนะคะ"
พรรณรายหันไปจ้องจุฑา ดุ สำทับ
"จำไว้นะ ถ้าเธอคิดแกล้งน้องสาวฉันอีก เธอเจอดีแน่"
พรรณรายสะบัดหันไปเกาะแขนอาทร สันติรีบลากออกไป อัมราถอนใจโล่งอก

สันติลากจุฑามาถึงปากซอย
"ทำอะไรนะจุ๊บ อาร์ตเห็นนะว่าจุ๊บจงใจแกล้งน้องอัมจริงๆ"
"จุ๊บไม่ได้แกล้ง แต่จุ๊บกำลังจะพิสูจน์ให้อาร์ตเห็นว่าอัมราไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา อัมราติดต่อกับผีได้ อัมราสามารถเรียกให้หุ่นมาช่วยเวลาตัวเองเกิดเรื่อง"
สันติอ่อนใจ
"แล้วไหนล่ะ..อาร์ตไม่เห็นมีหุ่นที่ไหนมาช่วยน้องอัมเลย"
เธออึ้งแต่ไม่ยอมแพ้
"อัมราคงรู้ตัวว่าจุ๊บจะพิสูจน์นะสิเลยไม่เรียกหุ่นมา"
"ไปกันใหญ่แล้วจุ๊บ"
"โธ่อาร์ต อาร์ตเชื่อจุ๊บสิ อัมราเรียกหุ่นมาช่วยได้จริงๆ ดูอย่างเรื่อง"
เธอจะพูดเรื่องขังอัมราไว้ในห้องน้ำ แต่นึกได้รีบหยุด อาร์ตสงสัย
"เรื่องอะไร"
"ไม่มีอะไร อาร์ต..อาร์ตต้องอยู่ห่างอัมราไว้นะเชื่อจุ๊บเถอะ"
"ถ้าจุ๊บยังไม่เลิกพูด เลิกทำเรื่องไร้สาระเนี่ย อาร์ตว่าคนที่อาร์ตต้องอยู่ห่างน่าจะเป็นจุ๊บมากกว่านะ"
สันติเดินไปอย่างเบื่อๆ จุฑาตกใจ รีบวิ่งตามเรียกไปด้วย
"อาร์ต..อาร์ตเดี๋ยวรอจุ๊บด้วยสิ..อาร์ต"

ตัวบ้านเดชยามค่ำคืนดูหลอนหน้าในห้องนอน เดชและอารีย์หลับสนิท เจ้าคุณนรบดินทร์ ลุงทวน ทับ เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ตัวเดช พลางเรียก
"พ่อเดช / คุณเดช / คุณเดช"
เดชกระสับกระส่าย พึมพำทั้งที่ยังหลับตา
"ใคร..ใครเรียกผม..ใคร"
เดชลืมตา รีบลุกขึ้นนั่งตกใจ ทวีศักดิ์ พรรณี สมศรี เข้ามาใกล้
"คุณเดช / คุณเดช / คุณเดช"
เดชตกใจพึมพำ
"เสียงหุ่น"
เดชมองไปทางห้องหุ่นอย่างตกใจ

เดชยืนลังเลอยู่หน้าห้องหุ่น ก่อนตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป หุ่นทั้งหมดต่างหันมามองเดชเป็นตาเดียว
เดชตะลึง
"พวกคุณ..พวกคุณมีชีวิตจริงๆเหรอเนี่ย"
หุ่นไม่ตอบแต่หัวเราะน่ากลัว
"ไม่..เป็นไปไม่ได้..ไม่"

เดชทะลึ่งพรวดขึ้นนั่ง เหงื่อซึม
"ไม่"
เดชชะงักมองรอบๆห้องก่อนหันมามองอารีย์ที่หลับสนิทอยู่ข้างๆ เดชลูบหน้าถอนใจโล่งอก"ฝันไปนั่นเอง"
"พ่อเดช / คุณเดช / คุณเดช" เจ้าคุณ ลุงทวน และทับยังร้องเรียก
เดชอึ้ง ค่อยๆลุกขึ้น สีหน้าเอาจริง

"เป็นไงเป็นกัน"

เดชยืนลังเลอยู่หน้าห้องหุ่น ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป หุ่นทั้งหมดต่างหันมามองเดชเป็นตาเดียว เดชตะลึง
 
"พวกคุณ..พวกคุณมีชีวิตจริงๆเหรอเนี่ย"
เจ้าคุณนรบดินทร์ลุกขึ้น
"ใช่..พวกเรามีชีวิตจริงๆ"
ทับถือดาบลงจากแท่น เดชหันไปมองอย่างตกใจ
"คุณเดชไม่ต้องกลัวพวกเรา"
ครูสมศรี นางรำเอามือลง ยิ้มให้
"เราไม่ทำอันตรายคนในบ้านนี้"
พรรณีเข้ามาจับบ่าเดชทางข้างหลัง เดชหันขวับ
"พวกเราจะคอยช่วยคุ้มครองคุณเดชและครอบครัว"
เดชค่อยๆถอย ตกใจ
"นี่มันอะไรกัน..พวกคุณมีชีวิต"
หุ่นทุกตัวพร้อมใจตอบ"ใช่พวกเรามีชีวิต"
หุ่นทุกตัวเดินเข้าหา เดชตกใจ ตะโกนก้อง
"ไม่จริง..ไม่.. ไม่"

ในห้องนอน เดชนอนกระสับกระส่ายร้องเสียงดัง
"ไม่จริง..ไม่"
อารีย์เขย่าเดช ปลุกอย่างตกใจ
"พี่เดช..พี่เดชเป็นอะไร"
เดชรู้สึกตัว รีบลุกขึ้นจับตัวอารีย์
"หุ่น..หุ่นในห้องหุ่นมีชีวิต"
"พี่เดชคะ..พี่เดชฝันไปแล้วล่ะ"
"พี่ไม่ได้ฝัน หุ่นพวกนั้นพูดได้ เดินได้ หัวเราะได้ พี่เข้าไปในห้องหุ่น พี่เห็นกับตา"
"พี่เดชดูดีๆสิ นี่พี่อยู่ในห้องนอนของเรานะคะ พี่ร้องว่าไม่จริง ไม่ ดังลั่น ลั่นจนฉันตื่นแล้วก็ปลุกพี่นี่ล่ะคะ"
เดชชะงัก มองรอบๆห้อง งง อารีย์ย้ำ
"เห็นมั้ยคะ พี่หลับแล้วก็ฝันไป"
"แต่มันเหมือนความจริงมากเลย"
"พี่คงเครียดที่คุยกับตำรวจเลยเก็บมาฝัน ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"
เดชลุกพรวดพราดออกไป อารีย์ตกใจ
"พี่เดช พี่เดชจะไปไหนคะ"

เดชยืนมองอยู่กลางห้อง มองหุ่นทุกตัวจนครบ อารีย์อยู่ข้างๆ
"เห็นมั้ยคะ..หุ่นทุกตัวก็ปกติ"
เดชถอนใจ
"พี่คงเครียดมากไป"
"ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนกัน แต่ให้คิดยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้"
เดชพยักหน้า
"ขอโทษนะที่พี่ทำให้เธอต้องตื่นมากลางดึก"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราไปนอนกันเถอะ"
เดชพยักหน้า เดชกับอารีย์ออกไปจากห้องหุ่น หุ่นทุกตัวต่างหันหน้ามองตามอารีย์กับเดชไป

วันใหม่ พิไลปิ้งหมูอยู่ริมถนน ปาดเหงื่ออย่างร้อนจัด
"โอ๊ย..คนมันหายไปไหนหมดว่ะ ทำไมชีวิตฉันมันรันทนขนาดนี้เนี่ย มีผัวก็ไม่ได้เรื่องกะเขาเลย"
เทิดเดินหน้าตาตื่นถือหนังสือพิมพ์เข้ามาหา
"พิไล"
พิไลชะงัก มองเทิดอย่างไม่เชื่อสายตา
"พี่เทิด..ตายจริงวันนี้ไม่เมาแถมยังจะมาช่วยฉันขายของเหรอ มาสิพี่มาปิ้งหมูแทนฉันที ฉันร้อนจะบ้าอยู่แล้ว"
พิไลดึงแขนเทิด เทิดสะบัด
"ใครว่าฉันมาช่วยแกขายหมูปิ้ง"
"อ้าวแล้วมาทำไม...ฮะอย่าบอกนะว่าจะมาไถ่เงินฉัน ฉันไม่มีหรอก ตั้งแต่เช้ายังขายได้ไม่ถึงสิบไม้"
"ก็เพราะแกมันโง่..มัวแต่มายืนปิ้งหมูกำไรไม่กี่บาทอยู่ได้ ฉันบอกให้แกไปขอเงินผัวแกก็ไม่ไป ตอนนี้มันมีคนมาช่วยเอาไปใช้หมดแล้ว"
"ใคร..พี่พูดอะไร"
เทิดโยนหนังสือพิมพ์ให้พิไล
"เอ้าแหกตาดูซะให้เต็มตา มันน่าโมโหจริงๆ"
เทิดคว้าหมูปิ้งใส่ปาก เดินกินไป พิไลรีบคลี่หนังสือพิมพ์อ่านอย่างสงสัย อ่านแล้วตกใจ
"ขโมยขึ้นบ้านพี่เดช ตายแล้ว พรรณราย..พรรณรายเป็นยังไงบ้างเนี่ย"

พิไลร้อนใจมาก

พิไลเข็นรถเข็นมาด้อมๆมองๆหน้าบ้านเดช เห็นในตัวบ้านเดชเงียบ ไม่มีรถเดช
 
จู่ๆเสียงบีบแตรดังขึ้นด้านหลัง พิไลสะดุ้งรีบหันไปมอง
พรรณรายขับรถกลับจากมหาวิทยาลัยเปิดกระจกชะโงกออกมาโวยวาย
"มาขายอะไรหน้าบ้านฉัน ไปหลีกไป ฉันจะเข้าบ้าน"
พิไลดีใจ
"พรรณราย"
พิไลยืนมองลืมตัว พรรณรายโมโหเปิดประตูลงมา
"หูแตกเหรอ บอกให้หลีกไปไง"
พิไลเข้ามาใกล้ๆมองทั่วๆ
"หนูไม่เป็นอะไรใช่มั้ยจ้ะ"
"เป็นอะไร ยี้สกปรก ยังไม่ไปอีก อ๋อหรือจะเป็นพวกหัวขโมย นี่คงแอบมาดูลาดเลาสิท่า"
พิไลตกใจ
"เปล่านะหนู ฉันไม่ใช่ขโมย"
"งั้นก็รีบเอารถเข็นสัปปะรังเคของแกถอยไป ให้พ้นๆ เร็วๆสิ"
พิไลยังเก้ๆกังๆ พรรณรายรำคาญขึ้นรถ กดบีบแตรลั่นๆ ชิ้นรีบวิ่งมาเปิดประตูพอดีกับที่พิไล
เข็นรถหมูปิ้งหลบไปพ้นประตู พรรณรายขับรถเข้าบ้านอย่างเร็ว เปิดประตูลงมาตะโกนบอกชิ้น
"ไล่มันไปไกลๆเลยน้าชิ้น"
อารีย์ออกมาดู
"อะไรกันลูก เสียงลั่นๆแล้วสั่งให้ชิ้นไล่ใครกันจ้ะ"
พรรณรายเข้าไปกอดอแม่ ชี้ไปทางหน้าบ้าน
"ไล่นังแม่ค้าสกปรกค่ะ มาขวางหน้าบ้านอยู่ได้"
อารีย์มองตามสะดุ้ง เห็นพิไลเข็นรถผ่านหน้าประตู พิไลมองมา ก็สะดุ้งเช่นกัน
"พิไล" อารีย์พึมพำ
อารีย์จะเดินหา แต่พรรณรายดึงแขนไว้
"ไม่ต้องไปดูหรอกค่ะคุณแม่ เข้าบ้านเถอะกันค่ะ"
อารีย์อึ้ง พรรณรายรั้งอารีย์เข้าบ้านไปจนได้ พิไลมองตามจนชิ้นปิดประตูรั้ว
พิไลเจ็บใจ
"นังอารีย์ แกแย่งชิงทุกอย่างไปจากฉัน คอยดูนะฉันจะเอาลูกเอาผัวฉันกลับคืนมาให้ได้"

วันเดียวกัน สันติเดินเร็วๆลงจากบันไดตึกจะออกไป จุฑาวิ่งตามลงมาทันรีบคว้าแขนไว้
"ไปกินข้าวด้วยกันนะอาร์ต"
"แต่อาร์ตนัดน้องอัมกับน้องนุชไว้แล้ว"
จุฑาไม่พอใจ
"จะไปไหนกัน"
"อาร์ตจะพาน้องๆเค้าไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ จุ๊บไม่ชอบก๋วยเตี๋ยวเรือร้านนี้นี่ เคยบอกว่าติดคลองจุ๊บเหม็นน้ำในคลองไม่ใช่เหรอ"
จุฑานิ่ง สีหน้าคิดอะไรได้ พึมพำ
"ติดคลอง"
"เราไปกันเถอะอาร์ต" อาทรบอก
"เดี๋ยว..จุ๊บจะไปด้วย"
อาทรมองรู้ทัน
"จะไปแกล้งอะไรน้องอัมเค้าอีกล่ะ"
"เปล่า..ฉันจะไปขอโทษน้องอัมต่างหาก"
สันติกับอาทรมองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อ
"จริงๆนะ ถึงวันนั้นจุ๊บจะไม่ได้แกล้ง แต่จุ๊บก็ประมาท จุ๊บผิดเองล่ะนะ นะให้จุ๊บไปด้วย จุ๊บกับน้องอัมจะได้เข้าใจกันไง เอางี้จุ๊บจะเป็นเจ้ามือเองด้วย โอเคนะ"
สันติมองจุฑาอย่างไม่ค่อยแน่ใจ แต่เธอยิ้มจริงใจมาก

ที่โต๊ะใต้ต้นไม้ อัมรามองยิ้มให้จุ๊บยิ้มให้
"อัมไม่โกรธพี่จุ๊บหรอกค่ะ"
"ขอบใจนะจ้ะ แหมพี่คิดอยู่แล้วว่าน้องอัมน่ะใจกว้าง ไม่ถือสาเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้หรอก"
นุชนารถแทรกอย่างหมั่นไส้
"ราดทั้งเหยือกนี่ไม่เล็กน้อยนะคะพี่จุ๊บ"
จุฑาหันขวับ อัมรารีบปราม
"นุชก็..เรื่องมันแล้วไปแล้ว พี่จุ๊บก็ขอโทษแถมจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวอีก พอเถอะ"
"ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยมั้ยครับ เดี๋ยวคนจะแน่น" สันติบอก
"ไปสิไป"
จุฑาดึงแขนสันติพานำไป อัมรามองนิ่งๆ นุชนารถค้อนขวับ อาทรพูดสุภาพ
"ไปกันเถอะครับน้องอัม"

อัมรายิ้มให้ อาทร อัมรา นุชนารถพากันตามสันติกับจุฑาไป

เวลาต่อมา ทั้งห้าคนยืนอยู่ปลายสะพานไม้ต่อกันแบบหยาบๆพอให้คนข้ามคลองเล็กๆไปร้านก๋วยเตี๋ยวได้
 
"โอโหร้านนี่ได้บรรยากาศก๋วยเตี๋ยวเรือจริงๆนะคะ พี่ออย" นุชนารถบอก
นุชนารถรีบเดินข้ามไปอย่างตื่นเต้น อาทรยิ้มๆเดินตามไป สันติรออัมรา จุฑารีบบอก
"คนแน่นจัง อาร์ตรีบไปจองโต๊ะเร็วๆเข้าสิ เดี๋ยวไม่มีที่นั่งนะ"
จุฑาคล้องแขนอัมรา
"ไม่ต้องห่วงน้องอัมหรอก เดี๋ยวไปกับจุ๊บเอง"
สันติพยักหน้ารีบเดินข้ามไป จุ๊บหันมายิ้มกับอัมรา
"ไปกันค่ะ"
อัมรายิ้มตอบ สองคนเดินข้ามสะพานไม้มาช้าๆ จุฑามองน้ำในคลอง
"น้องอัมว่ายน้ำเป็นมั้ยคะ"
"ไม่เป็นค่ะ ถ้าตกไปคงแย่เหมือนกัน"
จุฑาตาวาว
"แต่พี่ว่าน้องอัมไม่เห็นต้องกลัวเลย"
"ทำไมคะ"
"ก็ถ้าน้องอัมตกลงไป ก็เรียกหุ่นมาช่วยสิคะ"
อัมรางง
"พี่จุ๊บพูดอะไรคะ อัมไม่เข้าใจ"
เด็กวิ่งนำพ่อแม่ออกมาจากร้านตรงมาจุฑาถือโอกาสรีบปล่อยมือ อัมราไม่ทันตั้งตัวเซไป
เด็กวิ่งชนอัมรา ทั้งอัมราและเด็กเสียหลักคว้างร้องลั่น
"ว้าย"
จุฑารีบคว้าตัวเด็กไว้ อัมราหล่นลงน้ำเสียงดังตูม ทุกคนตกใจร้องลั่นๆ เธอทำตกใจร้องด้วย
"ช่วยด้วย คนตกน้ำ..ช่วยด้วย"
สันติ อาทร นุชนารถวิ่งมากลางสะพาน จุฑาละล่ำละลัก
"น้องอัมตกน้ำ"
สันติมองหาอัมรา แต่ไม่เห็น อาทรโมโห
"ทำไมไม่ช่วยน้องอัม"
"ก็ฉันตกใจเลยคว้าเด็กไว้ก่อน น้องอัมคงว่ายน้ำเป็นมั้ง"
สันติร้อนใจ
"ทำไมไม่โผล่ขึ้นมา"
สันติจะกระโดดลงไป จุฑาดึงแขนไว้
"เดี๋ยวก็โผล่ขึ้นมาน่าอาร์ตใจเย็นๆ"
สันติมองทั่วๆกระวนกระวายมาก อาทรก็ไม่ต่างกัน จุฑาพึมพำ
"ออกมาสิพวกหุ่นผี ออกมาช่วยอัมรา ขืนช้าอัมราตายแน่"

ใต้ลำคลองอัมราจมดิ่งลึกลง กำลังจะขาดอากาศหายใจ พยายามตะเกียกตะกายจะขึ้นสู่ผิวน้ำ
พรรณีว่ายเข้าหาอัมราอย่างรวดเร็ว จับขาสองข้างของอัมราดันขึ้นสู่เหนือน้ำ
เหนือผิวน้ำ ร่างอัมราทะลึ่งพรวดขึ้นมา สันติจ้องรออยู่แล้ว รีบกระโดดลงไปช่วยอัมราอย่างรวดเร็ว จุฑามองสันติพาอัมราเข้าฝั่งมาอย่างผิดหวัง อาทร นุชนารถรีบไปช่วยรับอัมรา
จุฑาเจ็บใจ กำลังจะเดินตามมา ครูสมศรี หน้าตาน่ากลัวปรากฏขึ้นด้านหลังผลักจุฑาเต็มแรง"ว้าย"
จุฑาหล่นน้ำตูม สมศรียิ้มน่ากลัว เสียงเยือกเย็น
"ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว"
หุ่นนางรำหายไป จุฑารีบว่ายน้ำเข้าฝั่งมาอย่างหอบๆ โมโหที่สันติ อาทร ไม่มีใครสนใจ
ทุกคนมัวแต่ดูแลอัมราอย่างเป็นห่วงมาก

เย็นต่อเนื่องมา อัมรากับสันติเดินเข้ามาถึงตัวบ้าน
"ขอบคุณพี่อาร์ตมากนะคะ ถ้าไม่ได้พี่อาร์ตอัมคงแย่"
สันติลังเล แล้วตัดสินใจพูด
"พี่ต้องขอโทษแทนจุ๊บด้วย"
"พี่อาร์ตพูดเหมือนรู้ว่าพี่จุ๊บจงใจแกล้งให้อัมตกน้ำ"
สันติพยักหน้า
"พี่รู้"
"ทำไมคะ..ทำไมพี่จุ๊บต้องแกล้งอัม เรื่องที่ทำน้ำหวานหกใส่อัม ที่จริงอัมก็รู้ว่ามันไม่ใช่อุบิตเหตุแต่อัมก็ไม่อยากให้มีเรื่องแล้วมันก็เล็กน้อย แต่วันนี้ทำไมต้องแกล้งอัมทั้งๆที่รู้ว่าอัมว่ายน้ำไม่เป็น พี่จุ๊บเค้าเกลียดอัมมากเหรอคะ"
"ไม่ใช่หรอกครับ จุ๊บเค้าแค่ต้องการพิสูจน์"
"พิสูจน์..พิสูจน์อะไรคะ"
สันติลังเล อัมรามองคาดคั้น

ต่อมา อัมรายืนมองหุ่นทุกตัวกับสันติ
"หุ่นพวกนี้เหรอคะจะมีชีวิต ไม่จริงหรอกค่ะเป็นไปไม่ได้"
สันติมองหุ่นแล้วมองอัมรา
"พี่ก็คิดแบบนั้น แล้วพี่ก็บอกจุ๊บเค้าแล้ว แต่เค้าไม่เชื่อ ที่เขาทำเรื่องต่างๆกับน้องอัมเพราะเขาจะพิสูจน์ให้พี่เห็นว่าหุ่นต้องมาช่วยน้องอัม"
อัมรามองหุ่นท่าทางเครียด หุ่นมองตอบ
"พี่อาร์ตคิดว่ายังไงคะ"
"พี่คิดว่ามันไม่จริงนะสิครับ แต่ถ้าเป็นจริง คนที่จะแย่ก็คือ"
สองคนต่างหันมามองหน้ากัน พูดพร้อมกัน
"จุ๊บ/พี่จุ๊บ"
สันติกับอัมราต่างมีสีหน้าตกใจ

ฝ่ายจุฑาเข้ามานั่งในบ้านอย่างเซ็งๆ หุ่นเคลื่อนผ่านวูบไปทางครัว เธอหันไปมอง
"น้ามน..น้ามนอยู่ในครัวเหรอคะ"
เงียบ เธอแปลกใจลุกขึ้นเดินไปในครัว ในครัวว่างเปล่า เธอชักใจไม่ดี เมื่อเธอจะเดินออก ประตูห้องครัวปิดปัง จุฑาตกใจถอยกรูด
มีดอีโต้ที่เสียบอยู่ลอยขึ้นมาเอง จุฑามองตาค้าง มีดเหมือนถูกขว้างไป
ปักผนังห้องครัว เธอร้องสุดเสียง"ว้าย"
ข้าวของในห้องครัวลอยแล้วตกเหมือนใครขว้าง เสียงหัวเราะของผู้ชาย ผู้หญิง เด็กสลับกันไปมา จุฑารีบยกมือไหว้
"อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันกลัวแล้ว"
บานหน้าต่างเปิดปิดเปิดปิดลั่นๆ จนเธอต้องปิดหู
"โอ๊ยหูจะแตกอยู่แล้ว"
แต่อยู่ๆทุกอย่างเงียบสงบ จุฑามองรอบๆหวาดกลัวมาก วิ่งไปที่ประตู แต่อยู่ๆประตูเปิดผาง
ออกเต็มแรง เธอหลับตาปี๋ ทรุดลงนั่งร้องสุดเสียง
"ช่วยด้วย"
"จุ๊บ..น้าเองจุ๊บ"
น้ามนตรงเข้าประคองเธออย่างตกใจ
"เป็นอะไรจุ๊บ จุ๊บเป็นอะไร"
เธอเงยหน้ามองพอเห็นเป็นน้ามน โผเข้ากอด
"น้ามนช่วยจุ๊บด้วย ผีมันจะฆ่าจุ๊บ"
"ผี..ผีที่ไหน"
เธอชี้ไปในครัว
"นั่นไง มันขว้างปาข้าวของกระจายเต็มไปหมด"
น้ามนมองตาม เห็นข้าวของในครัวอยู่ตามที่อย่างปกติ
"จุ๊บนี่เราฝันกลางวันหรือเปล่าหึ ไหนอะไรไม่เห็นมีอะไรเลย"
จุฑาหันไปมอง แล้วงงมาก
"ก็..เมื่อกี้"
"น้าว่าไปกินยาคลายเครียดแล้วรีบนอนดีกว่ามั้ย สงสัยจะอ่านหนังสือมากไป"
น้ามนประคองจุฑาให้ลุกขึ้น พาออกจากห้องครัว เธอเดินตามน้ามนแจ แต่อดหันมามองในครัวอย่างหวาดๆไม่ได้ แล้วรีบหันกลับอย่างรวดเร็ว
 
เสียงหุ่นหัวเราะก้องอยู่ในห้องครัวอย่างน่ากลัว

ห้องหุ่น ตอนที่ 3 (ต่อ)

กลางคืนต่อเนื่องมา ในห้องรับแขก จุฑาท่าทางหวาดกลัว มองซ้ายขวาอย่างระวัง สันติโพล่งเมื่อได้ฟังความ
 
"โดนผีหลอก"
"ใช่..คราวนี้จุ๊บไม่ได้หลอนนะอาร์ต แต่จุ๊บโดนหลอกจริงๆ จุ๊บสาบานได้ หุ่นพวกนั้นเป็นหุ่นผี"
"หุ่นตัวไหนที่มาหลอกจุ๊บ"
"จุ๊บไม่เห็นตัว ได้ยินแต่เสียง พวกมันน่ากลัวมาก"
สันติถอนใจ ส่ายหน้า จุ๊บกระโดดเข้ามานั่งใกล้ๆ เขย่าสันติแรงๆ
"เชื่อจุ๊บสิ มันต้องผีหุ่นในห้องหุ่นแน่ๆ จุ๊บไม่ได้โกหก จริงๆนะอาร์ต จุ๊บโดนหลอกจริงๆ อาร์ตไม่เชื่อจุ๊บเหรอ"
"ใจเย็นๆจุ๊บ"
"มันมีวิญญาณสิงอยู่ในหุ่น พวกมันคอยช่วยเหลืออัมรา เชื่อจุ๊บสิอาร์ต"
จุ๊บท่าทางหวาดมากคอยมองรอบๆอย่างระแวง สันติมองท่าทางจุ๊บอย่างหนักใจ

อัมราในชุดนอนยืนมองหุ่นในห้องหุ่นด้วยสีหน้าครุ่นคิด พยายามทบทวนเหตุการณ์ ตอนจมน้ำ... ใต้ลำคลอง อัมราจมดิ่งลึกลง กำลังจะขาดอากาศหายใจ พยายามตะเกียกตะกายจะขึ้นสู่ผิวน้ำ เธอรู้สึกเหมือนมีใครจับขาสองข้างของอัมราดันขึ้นสู่เหนือน้ำ
"เรารู้สึกเหมือนมีใครมาช่วยดันขึ้นจริงๆ หรือว่า..."
"อัม"
อัมราหันไปมอง เดชยืนมองอย่างแปลกใจ
"มาทำอะไรในห้องหุ่น พ่อคิดว่าลูกนอนแล้วซะอีก"
"คุณพ่อคะ ถ้าคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นจมน้ำ จะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำได้มั้ยคะ ถ้าไม่มีใครมาช่วย"
"ทำไมอยู่ๆถึงถามแบบนี้"
อัมรามองหุ่นก่อนตอบอั
"คือตอนที่อัมตกน้ำ อัมรู้สึกเหมือนมีใครมาช่วยดันอัมให้โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำได้ ก่อนที่พี่อาร์ตจะลงไปช่วยค่ะ"
เดชนิ่ง แล้วเปลี่ยนเป็นหัวเราะ
"ได้สิเพราะว่าแรงดันใต้น้ำมันจะดันขึ้นมาโดยธรรมชาติ แต่ถ้าไม่มีใครช่วยจมลงไปอีกครั้งก็จะจมหายไปเลย"
อัมรามองหุ่น ถอนหายใจโล่งอก
"อ๋ออย่างนี้นี่เอง"
"ลูกสงสัยอะไรเหรอ"
"ไม่มีอะไรค่ะ"
"งั้นก็ไปนอนเถอะลูกดึกแล้ว"
"ค่ะฝันดีนะคะคุณพ่อ"
อัมราเข้ามาหอมแก้มเพ่อ เดชลูบผมเบาๆ อัมราออกไปจากห้องหุ่น เดชมองหุ่นอย่างครุ่นคิด
เช้าวันใหม่ เดชกับอารีย์ยืนรออยู่หน้าตัวบ้าน เห็นรถแล่นผ่านประตูรั้วตรงมาหน้าบ้าน
"พี่เดชนึกยังไงคะถึงนิมนต์หลวงตามารับสังฆทานที่บ้าน ทุกทีเราก็ไปทำบุญที่วัดนี่คะ"
"ไม่มีอะไรหรอก หลังจากขโมยขึ้นบ้าน พี่ก็แค่อยากให้ท่านมาประพรมน้ำมนต์ให้เป็นสิริมงคลกับบ้านเรา สิ่งชั่วร้ายต่างๆจะได้หมดไปจากบ้านเราไง"
รถมาจอดพอดี เดชรีบวิ่งไปเปิดประตูรถ หลวงตาลงจากรถ เดชไหว้แล้วชะงัก เห็นสันติ
ตามลงมาด้วย ถือย่ามให้หลวงตา
อารีย์เดินตามารับหลวงตา ทั้งเดช อารีย์มองสันติอย่างแปลกใจ
"อ้าว..อาร์ต"
สันติไหว้เดชกับอารีย์
"สวัสดีครับคุณอา"
"ทำไมมากับหลวงตาล่ะ" เดชถาม
"ผมอยู่กับหลวงตาครับ ผมเป็นเด็กวัด"
เดช อารีย์อึ้ง แล้วยิ้มกว้าง
"มิน่าเธอถึงเป็นคนดีเพราะอยู่กับหลวงตานี่เอง"
สันติมองเดชอย่างขอบคุณ เดชนำหลวงตาจะเดินไป หลวงตามองอารีย์ ชะงักนิดหนึ่งก่อนถามเรียบๆ
"สบายดีมั้ย โยม"
"ค่ะหลวงตา ดิฉันสบายดี"
"ยังไงก็ระวังรักษาสุขภาพบ้างนะ"
อารีย์มองตามหลวงตา แล้วเดินตามเดชเข้าตัวบ้านไปแล้ว
อารีย์พึมพำงงๆอ
"หลวงตาพูดเหมือนรู้ว่าเราไม่สบาย"
สันติถามแปลกใจ
"มีอะไรหรือเปล่าครับคุณอา"
"อ๋อไม่มีอะไรจ้ะ ไปเราเข้าไปข้างในกันเถอะ"

อารีย์พยักหน้ากับสันติ สองคนเดินตามไป

ในห้องหุ่น หุ่นทุกตัวสงบนิ่งอยู่ในอิริยาบถของตัวเอง
 
หลวงตากำลังสวด จู่ๆบังเกิดประกายแสงสีทองค่อยๆสว่างเป็นลำแสงบางเบาแผ่ลงมาในห้องหุ่น
เดช อารีย์ อัมราหลับตา พนมมือสงบนิ่ง หุ่นทุกตัวสีหน้าอิ่มเอิบ หลวงตาสวดจบ
หุ่นทุกตัวกล่าว "สาธุ"
หลวงตาชะงัก ลืมตามอง หุ่นอยู่ในสภาพปกติ หลวงตามองหุ่นทุกตัวอย่างพิจารณา เป็นจังหวะที่เดชเห็นพอดี เดชอึ้งๆ แปลกใจ มองตามสายตาหลวงตาไปที่หุ่น

เดชเดินนำมาส่งหลวงตาที่รถตู้ สันติ อัมราตามมาข้างหลัง สันติกระซิบ
"เมื่อเช้ามีคนใส่บาตรผักกาดดองผัดไข่อีกแล้วครับ"
อัมราตาโต
"เหรอคะ แล้ววันนี้พี่อาร์ตจะเอาข้าวไปทานที่มหา’ลัยอีกมั้ยคะ"
สันติทำคิดหนัก
"ไม่เอาไปดีกว่า"
"อ้าวทำไมละคะ"
สันติจริงจัง
"กลัวมีคนแย่งผักกาดดองผัดไข่หมดนะสิครับ"
อัมราทำท่างอน สันติขำ
"ล้อเล่นน่า พี่จะเอาไปเผื่อน้องอัมเยอะๆเลย"
อัมรายิ้มออก
"งั้นเดี๋ยวไปเจอกันที่มหา’ลัยนะคะ"
"ครับ"
อัมราโบกมือให้แล้วรีบวิ่งเข้าบ้าน สันติตามไปที่รถ หลวงตากำลังจะขึ้นรถ เดชรีบถาม
"หลวงตาครับ"
หลวงตาชะงัก
"มีอะไรรึโยม"
"เอ้อคือ..เมื่อสักครู่นี้ในห้องหุ่น ผมเห็นท่านมองอย่างพิจารณามีอะไรหรือเปล่าครับ"
หลวงตายิ้มเมตตา
"โยมคิดว่ามีอะไรล่ะ"
เดชมองสันติ ไม่กล้าพูด
"คือ..ผม..ผมไม่แน่ใจ"
"โยมกลัวรึ"
"เปล่าครับ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาอยู่ในที่ทางของเขา เขาไม่ทำอันตรายโยมและครอบครัวหรอก เขาอยู่เพื่อคุ้มครอง นับถือบูชาเขาให้ดีเขาก็จะมีแต่ให้คุณ ไม่ต้องกังวลไปหรอกโยม"
หลวงตาขึ้นรถไป สันติแปลกใจ รีบหันมายกมือไหว้เดช รถออกไปแล้ว เดชหันไปมองตัวบ้านอึ้งๆ

ในกุฏิหลวงตา หลวงตานั่งลง สันติเอาย่ามไปวางไว้มุมห้อง คลานไปรินน้ำชามาให้หลวงตา"เออขอบใจ รีบไปเรียนเถอะ"
สันติยังนั่งนิ่ง หลวงตามอง
"มีอะไรรึ"
"ผมไม่เข้าใจที่หลวงตาพูดกับคุณอาเดช ในห้องหุ่นมีอะไรหรือครับ"
"แล้วเจ้าคิดว่ามีอะไรล่ะ"
"ผมคิดว่าไม่มีอะไร แต่จุ๊บชอบพูดเหมือนว่าหุ่นมีวิญญาณสิงอยู่ แล้ววันนี้ผมได้ยินคุณอาเดชถามแปลกๆ ผมก็เลยสงสัยนะครับ"
หลวงตาถอนใจ
"ไม่มีอะไรหรอก เจ้าไปเรียนเถอะ"
สันติรับคำ "ครับ"
สันติออกไป หลวงตามองตามพึมพำ
"ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง"

หลวงตานั่งสมาธิหลับตาท่าทางเคร่ง น่านับถือ

เดชนั่งดื่มกาแฟเงียบๆไม่แตะอาหารเช้า อารีย์กับอัมราทานอยู่ด้วย อารีย์แปลกใจ
 
"คิดอะไรอยู่คะพี่เดช"
เดชสะดุ้ง
"ไม่มีอะไร"
พรรณรายในชุดอยู่บ้านเดินเข้ามา เดชมองไม่พอใจ
"ไม่ไปเรียนอีกแล้วเหรอ ยัยพรรณ"
"พรรณปวดหัวค่ะ"
"ปวดอะไรบ่อยๆ เมื่อเช้าก็ไม่ตื่นมาทำบุญด้วยกัน"
"ก็พรรณไม่สบายนี่คะ"
"พ่อดูพรรณก็สบายดี ไม่มีทีท่าของคนป่วยสักนิด"
"ก็พรรณทานยาไปแล้ว ก็เลยดีขึ้น"
เดชลุกขึ้นประชด
"สงสัยจะเป็นยาเทวดา ถึงหายเร็วขนาดนี้"
อัมราลุกตาม พรรณรายดึงตัวอัมราออกไป
"มานี่หน่อยยัยอัม"
เดชมองตามไม่พอใจ ทำท่าจะตาม อารีย์เรียกไว้
"พี่เดชคะ"
เดชชะงัก อารีย์พูดต่ออย่างร้อนรน
"ฉันเจอพิไล"
เดชตกใจ หันกลับมามองอารีย์
"อะไรนะ"
อารีย์ไม่สบายใจ

พรรณรายกำลังกำชับอัมรา
"เธอต้องบอกพี่ออยให้ได้นะยัยอัม ว่าพี่ไม่สบายมาก"
"แต่อัมก็เห็นพี่พรรณปกติดีนี่คะ"
"เถอะน่าพี่สั่งให้ทำยังไงก็ทำ"
"พี่พรรณเกเรใช่มั้ยคะ..หยุดเรียนบ่อยๆไม่ดีนะ"
พรรณรายโกรธ
"เอ๊ะนี่เธอเป็นพี่หรือเป็นน้องไม่ต้องมาสอนฉัน"
"ก็ได้ค่ะ ก็ได้ แต่พี่ออยเค้าก็เรียนจะมาหาพี่พรรณได้เหรอคะ"
"ถ้าพี่ออยเค้ารู้ว่าพี่ไม่สบายเค้าก็ต้องรีบมา ทำตามที่พี่สั่งเข้าใจมั้ย"
อัมราพยักหน้าอย่างขัดไม่ได้

เดชเดินมาจะขึ้นรถ อารีย์ตามมาด้วยสีหน้ายังไม่สบายใจ เดชรีบหันมายิ้มให้โอบปลอบ
"พี่บอกแล้วไงว่า ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องเก็บมาคิด"
"แต่ถ้าพิไลมาอีกละคะ"
"เขาไม่กล้าหรอก อีกอย่างเธอก็เห็นไกลๆอาจจะไม่ใช่ก็ได้"
"แต่ฉันว่าน่าจะใช่นะคะ ฉันจะไปดูให้ชัดๆแต่ยัยพรรณนะสิดึงตัวไว้ ถึงพิไลจะเปลี่ยนไปมากแต่ฉันคงจำไม่ผิดแน่ๆ"
พรรณรายกับอัมราเดินมาถึงรถ อารีย์หยุดพูด เดชหันไปสนใจพรรณราย
"ดึงน้องไปซุบซิบอะไร"
"ไม่มีอะไรคะ พรรณแค่ฝากยัยอัมซื้อของใช้ส่วนตัวนิดหน่อย"
เดชไม่ค่อยเชื่อ มองหน้าอัมรา
"รีบไปกันเถอะค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวรถติด"
อัมราหันมาไหว้อารีย์ ก่อนวิ่งขึ้นรถข้างคนขับ เดชยิ้มให้อารีย์ ขึ้นรถไป
พรรณรายหน้างอ
"คุณพ่อเนี่ยชอบจับผิดพรรณอยู่เรื่อยเลย"
"ไม่ใช่หรอกจ้ะ คุณพ่อรักแล้วก็เป็นห่วงพรรณต่างหาก"
"ไม่จริงหรอกค่ะคุณพ่อไม่รักพรรณ ไม่เหมือนคุณแม่"
อารีย์ดึงตัวพรรณรายมากอด
"เพราะคุณพ่อรักถึงคอยดุคอยเตือนไงจ้ะ สัญญากับแม่นะว่าจะไม่พูดจาแบบนี้อีก"
พรรณรายไม่เต็มใจ แต่ก็พยักหน้า อารีย์สีหน้ายังกังวล

ในห้องนอน พรรณรายนั่งดูหนังสือแฟชั่นอยู่บนเตียง กินขนมไปด้วยอย่างมีความสุข
เสียงเคาะประตู พรรณรายตกใจ รีบซ่อนหนังสือ ขนม ล้มตัวนอน ถามเสียงอ่อย
"ใคร"
"ชิ้นเองค่ะคุณพรรณ"
พรรณรายลุกพรวด กลับเป็นปกติ ลุกไปเปิดประตูถามห้วนๆ
"มีอะไร"
ชิ้นมองท่าทางพรรณราย
"คุณพรรณหายปวดหัวแล้วเหรอคะ"
"ไม่ต้องยุ่ง ฉันถามว่ามีอะไร"
"มีคนมาหาค่ะ"
พรรณรายดีใจ
"รู้แล้วเดี๋ยวฉันจะรีบลงไป"

พรรณรายวิ่งไปที่หน้ากระจกเติมแป้ง หวีผมอย่างมีความสุข

ที่โต๊ะสนามหน้าบ้าน พงษ์นั่งหันหลังอยู่ พรรณรายค่อยๆเดินถึงตัวพงษ์ ปิดตาทั้งสองข้าง
 
ถามเสียงร่าเริง
"ทายสิคะใครเอ่ย"
พงษ์ยิ้ม รีบหยอด
"ก็น้องพรรณคนสวยไงครับ"
พรรณรายตกใจ รีบสะบัดมือจากมือพงษ์ พงษ์ยังยื้อไว้
"ปล่อย...ฉันบอกให้ปล่อย"
"อ้าวก็น้องพรรณเป็นคนเริ่มก่อนนะ"
พรรณรายสะบัดแรงจนหลุด ตวาด
"บ้า..ฉันจะไปรู้เหรอว่าเป็นนาย"
"แหมอย่ามาทำไก๋น่า..ก็พี่พงษ์มาหา น้องพรรณก็รู้ ถ้าไม่รู้จะลงมาเจอพี่ทำไม"
พงษ์คว้ามือพรรณรายมาอีก
"ใจเราตรงกันก็ไม่เห็นต้องมามัวฟอร์มอยู่เลย"
พรรณรายสะบัดจนหลุด ตบหน้าพงษ์เต็มแรง
"ไอ้บ้าอย่ามาฉวยโอกาสกับฉันนะ ไปออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไป" พรรณรายเสียงดัง
อารีย์กับชิ้นเข้ามา อารีย์ตะลึง
"ตายแล้วยัยพรรณ"
"ทำไมไปตบหน้าพี่พงษ์แบบนั้น"
"ก็มันมาจับมือพรรณ"
พงษ์รีบแก้ตัว
"คือน้องพรรณมาเล่นปิดตากับผม ผมก็เลยเล่นด้วย"
"ใครเล่นกับแก ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรถึงมาที่นี่ แต่อย่าฝันไปเลย อย่างแกมันก็เป็นได้แค่หมาเห่าเครื่องบินเท่านั้นแหละ"
พงษ์ตะลึง ฉุน พรรณรายหันไปสั่งชิ้น
"จำไว้นะน้าชิ้น ถ้าไอ้บ้านี่มาอีก ไม่ต้องเปิดประตูให้เข้ามานะ"
พรรณรายสะบัดไปอย่างไม่สน พงษ์มองตามแค้นมาก
อารีย์ตกใจ
"น้าขอโทษแทนยัยพรรณด้วยนะ อย่าถือน้องเลยนะจ้ะ พอดีแกไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย คงหงุดหงิดนะ พงษ์กลับไปก่อนดีกว่านะจ้ะ"
พงษ์ฝืนยิ้ม
"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน"
พงษ์ไหว้อารีย์ รีบออกไป อารีย์มองตาม ไม่สบายใจ

พรรณรายเข้ามาในห้อง โมโหสุดๆ
"ทุเรศคิดว่าหล่อตาย ชาติหน้ายังไม่ได้เห็นขาอ่อนฉันเลย"
พรรณรายปัดมืออย่างขยะแขยง
"ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ยี้ แหวะ...ขยะแขยง"
พรรณรายคว้าผ้ามาเช็ดมืออย่างรังเกียจสุดๆ อารีย์เปิดประตูเข้ามา
"พรรณ ลูกทำกิริยาไม่ดีเลยนะ"
"น้อยไปนะสิคะคุณแม่ พรรณละเกลี๊ยดเกลียดไอ้บ้านี่ ไม่ชอบหน้าตั้งแต่วันแรกแล้ว"
"ถึงไม่ชอบยังไงลูกก็ไม่ควรไปว่าเขาอย่างนั้น ถ้าเขาโกรธแล้วคิดร้ายกับลูก จะว่ายังไง"
"พรรณไม่เห็นกลัว"
"แต่เราเป็นผู้หญิงนะลูก อย่าสร้างศัตรูเป็นดีที่สุด"
พรรณรายทำท่ารำคาญ
"คนอย่างมันนะไม่มีปัญญามาทำอะไรพรรณหรอกค่ะ คุณแม่อย่างห่วงไปเลย"
พรรณรายคว้านิตยสารมาอ่านต่อไม่สนคำเตือน อารีย์มองอย่างอ่อนใจ

เวลาโพล้เพล้ วันเดียวกัน พงษ์มองเข้าไปในบ้านเช่าโชค บ้านปิดเงียบ พงษ์ตะโกน
"ไอ้โชค..ไอ้โชค..ไอ้นัย..ไอ้ยะโว้ย มีใครอยู่บ้าง"
เงียบ พงษ์เซ็ง
"สงสัยพวกมันไม่อยู่"
พงษ์ทำท่าจะกลับ ลมพัดแรงมาเหมือนจะมีฝน ประตูรั้วเปิดออกช้าๆ พงษ์มอง
"อ้าวไม่ได้ล็อคเหรอ"
พงษ์เดินเข้าไป ขวดเหล้าเปล่า จานกับแกล้มที่ถูกทิ้งไว้จนมดไต่ ใบไม้สุมเต็มไปหมด
"อะไรวะอย่างกับไม่มีคนอยู่มาหลายวัน หรือพวกมันย้ายไปแล้ว"
"เข้ามา"
พงษ์รีบหันไปตามเสียงแทน เห็นโชคยืนอยู่หน้าประตูบ้าน พงษ์ดีใจ
"ไอ้โชค"

พงษ์ตามโชคเข้ามาในบ้าน โชคเดินไปนั่งทำความสะอาดลูกธนู มีคันธนูวางอยู่ข้างตัว
พงษ์มองแปลกใจ
"แกหัดยิงธนูตั้งแต่เมื่อไรวะ"
โชคเงียบ พงษ์ไม่ได้สนใจ มองทั่วบ้าน
"ไอ้นัย ไอ้ยะไม่อยู่เหรอ"
"ไม่อยู่"
พงษ์กระแทกตัวนั่งเซ็ง
"วะ...จะมาชวนไปฉุดผู้หญิงซะหน่อย"
พงษ์ขยับเข้ามาใกล้โชค
"แกกับฉันสองคนก็ได้ ดีเสียอีกตัวหารน้อยลง ตกลงมั้ยเพื่อน"
โชคไม่ตอบ แต่หยุดทำความสะอาดลูกธนู จ้องหน้า พงษ์ชะงัก ถามแปลกใจ
"แกเป็นอะไรหรือเปล่าวะโชค ท่าทางแปลกๆ"
"ไม่ทำเรื่องชั่วๆ"
พงษ์งงไปครู่หนึ่งก่อนหัวเราะออกมาอย่างขำมากๆ
"อย่าพูดให้ขำหน่อยเลยเพื่อน"
โชคนิ่ง หยิบคันธนูขึ้นมาใส่ลูกธนู พงษ์พูดต่อ
"นี่แกยังไม่เห็นนังพรรณราย มันทั้งขาวทั้งสวยอวบกำลังดี รับรองว่าแกจะเห็นสวรรค์มาลอยอยู่ตรงหน้าเลยละโว้ย"
โชคยิงธนูออกไปอย่างรวดเร็ว ลูกธนูผ่านหน้าพงษ์ไปอย่างฉิวเฉียด ปักฉึกเข้าที่ผนัง พงษ์ตะลึง เสียงสั่น
"กะแกทำอะไร"
โชคลุกขึ้นเดินหายออกไปหน้าบ้าน พงษ์งง

"มันเป็นอะไรของมันวะ"

ห้องหุ่น ตอนที่ 3 (ต่อ)

พงษ์ออกมาหน้าบ้าน พูดกับโชคไปด้วย
 
"ว่าไงวะไอ้โชค ตกลงแกจะทำหรือไม่ทำ"
พงษ์ชะงักมองทั่วๆ ไม่มีเงาของโชค พงษ์แปลกใจ
"มันหายไปไหนของมัน"
หมาหอนโหยหวนขึ้น พงษ์สะดุ้ง ตะคอก
"เสือกมาเห่ามาหอนอะไรตอนนี้วะ"
หมาหอนไม่เลิก พงษ์โมโห หันรีหันขวาง ตะโกนเรียก
"ไอ้โชค..ไอ้โชค"
ลมพัดแรงขึ้นอย่างกะทันหัน พัดฝุ่นใบไม้ปลิวใส่ พงษ์ยกมือป้องหน้า
"มันหายไปไหนวะ..ไปเร็วยังกับ..."
พงษ์ใจไม่ดี หมาหอนขึ้นมาอีก พงษ์รีบวิ่งออกจากตรงนั้นไป... "ทวีศักดิ์" หุ่นนักยิงธนูปรากฏร่างขึ้น มองตามพงษ์สายตาน่ากลัวมาก

กลางคืนต่อเนื่องมา พิไลกุลีกุจอปัดฝุ่นเก็บเสื้อผ้าที่โยนๆไว้ รีบเคลียร์พื้นที่อย่างรีบร้อน
กอดกองผ้าไว้กับอกหันมาบอกเดช
"นั่งก่อนสิจ้ะพี่เดช บ้านมันรกไปหน่อย พี่รู้จักบ้านฉันได้ยังไงจ้ะ"
"จากโรงพยาบาล"
เดชยังยืนนิ่ง พิไลเข้ามากอดแขนเดช
"ฉันดีใจจริงๆนะจ้ะที่พี่มาหาฉัน"
พิไลยิ้มหวานอ่อย เดชรีบดึงแขนพิไลออก เดินไปนั่ง โดยไม่มองพิไล
พิไลยิ้มเจ้าเล่ห์ เข้าไปนั่งที่พื้นเกาะขาเดช เดชตกใจรีบถอยหนี
"พิไล"
"ทำไมละจ้ะพี่เดช พิไลคิดถึงพี่เดชทุกวันทุกคืนเลยนะ พี่เดชละจ้ะ พี่เดชก็คิดถึงพิไลเหมือนกันใช่มั้ย"
พิไลลูบขาเดชเบาๆ เดชรีบลุกพรวด
"ฉันมานี่ก็เพราะอยากจะมาขอร้องไม่ให้เธอไปวุ่นวายที่บ้าน"
พิไลอึ้ง น้ำตาซึม
"ฉันแค่คิดถึงพรรณราย ฉันอยากเห็นหน้าลูกบ้าง"
"พรรณรายไม่รู้จักเธอ ลูกรู้แต่ว่าอารีย์เป็นแม่ อย่ามาทำให้ลูกสับสนเลย เราจบกันไปนานแล้ว"
"แต่"
เดชรีบหยิบซองเงินออกมา
"ถ้าเธอรับปากฉัน ฉันจะให้เงินเธอ มันมากพอที่เธอจะไปตั้งเนื้อตั้งตัวได้"
พิไลชะงัก เดชดึงเงินปึกใหญ่ออกมาจากซอง พิไลตาโต
"เธอจะรับปากฉันได้มั้ย"
พิไลรีบพูด
"ได้จ้ะได้ ฉันรับปากพี่เดช"
เดชเก็บเงินใส่ซองยื่นให้ พิไลรีบรับ เดชจะกลับ พิไลวิ่งเข้าไปกอดด้านหลัง
เดชตกใจ หันกลับมา
"เธอจะทำอะไร พิไล"
พิไลยิ้มหวาน
"พิไลอยากจะกราบขอบคุณพี่เดชนะจ้ะ"
พิไลกราบที่อก เดชอึ้ง พิไลเงยหน้ายิ้มหวาน อ้อยอิ่ง เดชตะลึง ดันตัวพิไลออก แล้วรีบร้อนออกไป พิไลมองตามยิ้มหมายมาด
"แค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่าพี่ยังไม่ลืมฉัน หึ นังอารีย์แกรีบเสวยสุขไปเถอะ เพราะอีกไม่นาน ฉันจะทวงผัวฉันคืน"

กลางคืนต่อเนื่องมา เดชเข้าบ้านมาเห็นอารีย์รออยู่แล้ว
"กลับค่ำเลยนะคะ "
"พี่ไปทำธุระมานิดหน่อย มีอะไรหรือเปล่าถึงมานั่งรอพี่"
อารีย์ถอนใจ
"ฉันอดคิดเรื่องพิไลไม่ได้นะค่ะ"
เดชจับตัวอารีย์ให้หันมาเผชิญหน้า
"พี่บอกแล้วไงว่าพิไลจะไม่มีวันเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเราอีก"
อารีย์สีหน้าไม่แน่ใจ เดชย้ำ
"พี่รับรอง"
"ทำไมพี่เดชถึงมั่นใจนักค่ะ"
เดชเผลอพูด
"ก็พิไลเค้ารับปากพี่แล้ว"
อารีย์ชะงัก
"อะไรนะ...นี่หมายความว่าพี่เดชไปเจอพิไลมาเหรอ"
เดชอึ้ง อารีย์เสียใจ
"พี่รู้ตลอดเวลาว่าพิไลอยู่ที่ไหนใช่มั้ยคะ"
อารีย์ผิดหวังจะเดินหนี เดชรีบอธิบาย
"มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ คือพี่ขับรถชนพิไลโดยบังเอิญ พี่ก็เลยรู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหน"
"แต่พี่ไม่เคยบอกฉันสักคำ"
"พี่ไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ"
อารีย์ดึงมือเดชออก เดชเรียกอย่างร้อนใจ
"อารีย์..อารีย์"

เวลาต่อเนื่องมา อารีย์นั่งร้องไห้อยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา เดชเคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้อง
"อารีย์..ออกมาคุยกันก่อน เธออย่าเข้าใจอะไรผิดๆนะ"
อารีย์ในห้องพระ เช็ดน้ำตา ข่มเสียงให้ปกติ
"ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไหว้พระ อย่าเพิ่งรบกวนได้มั้ยคะ"

เดชอึ้ง ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ตัดสินใจผละไป อารีย์น้ำตาไหล สะเทือนใจ

เช้าวันใหม่ ที่โต๊ะอาหาร อารีย์กำลังช่วยชิ้นจัดอาหารเช้า
 
จู่ๆ อารีย์ก็ชะงัก หน้าซีด เอามือกดหน้าอกซ้าย เซจนต้องเกาะโต๊ะไว้
ชิ้นหันมาเห็นตกใจ
"ว้าย..คุณผู้หญิง"
เดชกับอัมราเดินเข้ามาด้วยกัน สองคนตกใจ
"อารีย์"
"คุณแม่"
เดชกับอัมรารีบเข้าไปประคอง เดชตกใจมาก
"อารีย์..อารีย์"

เดชอุ้มอารีย์มาวางให้นอนที่โซฟา เดชร้อนรน
"ชิ้นไปชงยาหอม อัมตามพรรณมาเร็ว พ่อจะรีบโทรตามรถพยาบาล"
ชิ้นกับอัมรารีบวิ่งไป เดชวิ่งไปอีกห้อง อารีย์เหมือนจะหายใจไม่ออก พยายามส่งเสียง
"ช่วย..ด้วย"
อารีย์เห็นพรรณีมายืนตรงหน้า แต่พร่าเลือนเห็นหน้าไม่ชัด
"ฉัน..ฉันหายใจไม่ออก"
พรรณีก้มลงมาหา
"สูดลมหายใจลึกๆ หายใจเข้าลึกๆค่ะ"
อารีย์พยายามทำตาม
"ดีค่ะ ที่นี้ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกช้าๆ"
พรรณีบีบตามแขนให้ พูดไปด้วย
"ไม่ต้องกลัวนะคะ หายใจค่ะ หายใจลึกๆ ดีมากค่ะ หายใจออกค่อยๆผ่อนลมหายใจ แบบนั้นละค่ะ"
อัมรากับพรรณรายวิ่งเข้ามา
"คุณแม่..คุณแม่เป็นอะไรคะ"
เดชวิ่งเข้ามา
"แม่เป็นไงบ้าง"
อัมรามองท่าทางอารีย์
"เหมือนคุณแม่จะหายใจไม่ออก แต่คุณแม่พยายามหายใจค่ะ"
เดชจับมืออารีย์
"ใจดีๆไว้นะอารีย์"
อารีย์ท่าทางอ่อนโรย แต่พยายามหายใจตามเสียงของพรรณีที่คอยบอกอยู่ข้างๆ

ภายในห้องพักผู้ป่วย ของโรงพยาบาล อารีย์ยิ้มให้ทุกคน ท่าทางดีขึ้นมาก แล้วมองสันติกับอาทรที่อยู่ด้วย
"ขอบใจนะจ้ะที่อุตส่าห์มาเยี่ยมอา รู้ได้ยังไงเร็วจริง"
พรรณรายมองสันติอย่างรังเกียจ
"พรรณบอกพี่ออยเองค่ะ แต่ไม่คิดว่าจะพาเพื่อนมาด้วย"
สันติอึ้ง พรรณรายถามอย่างดูถูก
"ไม่รีบกลับไปช่วยงานที่วัดเหรอไง"
เดชกับอารีย์ตกใจ
"พรรณราย ยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่เขา ไม่มีมารยาทนะลูก"
พรรณรายฉุน สันติตอบยิ้มๆไม่มีท่าทางโกรธ
"ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเป็นเด็กวัดก็ต้องช่วยงานของวัดจริงๆ คุณพรรณรายพูดถูกแล้วละครับ"
อัมรามองให้กำลังใจ อารีย์รีบถาม
"เหรอจ้ะ แล้วต้องทำอะไรบ้างล่ะ"
"ทำความสะอาดวัด ตักน้ำให้หลวงตาแล้วก็พระรูปอื่นๆอาบ งานทั่วๆไปทุกอย่างเท่าที่จะทำได้นะครับ"
"โอโหหนักเหมือนกันนะ แสดงว่าเธอเป็นคนที่แบ่งเวลาเก่ง เพราะอาเห็นผลการเรียนของเธอดีมาก ... พรรณราย ลูกคงต้องดูพี่อาร์ตเค้าเป็นตัวอย่างแล้วล่ะ" เดชบอก
พรรณรายมองสันติอย่างหมั่นไส้ เปลี่ยนเรื่อง เข้ามากอดอารีย์ เป็นห่วงมาก
"คุณแม่ทำพรรณตกใจหมดเลย"
อารีย์ลูบหัวพรรณราย
"แม่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ตกใจทำไม"
"คุณแม่ทำเหมือนจะหยุดหายใจเลยนะคะ จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง" อัมราบอก
"ยังโชคดีนะที่คุณพยาบาลเค้าสอนวิธีให้แม่หายใจ"
ทุกคนแปลกใจเดชถาม
"พยาบาลที่ไหน"
"อ้าวก็ที่พี่เดชตามมาที่บ้านไงคะ ถ้าไม่ได้เธอฉันคงแย่เหมือนกัน"
"คุณพ่อไม่ได้ตามพยาบาลมานี่คะคุณแม่"
"เอ๊ะแล้วนางพยาบาลคนนั้นมาจากไหนล่ะ"
"คุณแม่ฝันไปหรือเปล่าคะ" พรรณรายถาม
"แม่ไม่ได้หมดสตินี่จะได้ฝัน แม่ยังเห็นคุณพ่อ พรรณกับยัยอัมอยู่รอบๆตัวแม่"
ทุกคนงงๆ หมอเข้ามา ทุกคนเลยหันไปมองหมอ
"ไงครับคุณอารีย์ดีขึ้นมากแล้วใช่มั้ย"
"ค่ะฉันจะกลับบ้านได้แล้วใช่มั้ยคะคุณหมอ"
"นอนพักสักคืนนะครับ ถ้าไม่มีอะไรพรุ่งนี้หมอจะให้กลับ"
"ค่ะ"
หมอมองเดช
"เชิญคุณเดชไปคุยกับหมอหน่อยครับ"
"ได้ครับ"
เดชตามหมอออกไป อัมรามองอารีย์อย่างแปลกใจ

หน้าห้องผู้ป่วย เดชมองหน้าหมอ ถามอย่างตกใจ
"โรคหัวใจ"
"ครับ"
เดชอึ้ง หน้าเครียด หมอปลอบ
"ตอนนี้ต้องดูแลคนป่วยให้ดีอย่าให้มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจเธอ อาการของโรคก็จะไม่กำเริบ เดี๋ยวผมจะจัดยาไปให้ "
เดชพยักหน้า
"ครับ ผมเข้าใจ"
"ดีครับ..ถ้าอย่างนั้นก็มีแค่นี้ที่ผมจะแนะนำ ผมขอตัวก่อนครับ"

หมอไปแล้ว เดชมองเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย สีหน้าไม่สบายใจ

สันติกับอัมราเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะใต้ต้นไม้ด้วยกัน อัมรามองสันติ
 
"อัมต้องขอโทษแทนพี่พรรณด้วยนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ"
"พี่อาร์ตไม่โกรธเลยเหรอคะ"
"พี่ไม่เคยโกรธคนที่พูดเรื่องจริง ถ้าเค้าโกหกสิครับถึงจะน่าโกรธ"
อัมรามองสันติอย่างชื่นชม สันติถามกลับ
"ที่น้องอัมทำหน้าครุ่นคิดมาตลอดทางเนี่ย น้องอัมคิดเรื่องนี้นะเหรอครับ"
"มีอีกเรื่องค่ะที่อัมรู้สึกเอ้อ...แปลกใจ"
"มีอะไรเหรอครับ"
"ที่คุณแม่บอกว่าเห็นนางพยาบาลมาช่วยท่านทั้งๆที่คุณพ่อไม่ได้ตามพยาบาลที่ไหนมาเลยนะคะ"
"แล้วน้องอัมแปลกใจอะไรครับ"
อัมราลังเล
"คืออัม..."
อาทรกับนุชนารถ ถือแก้วน้ำ เสียงดังเข้ามาขัดจังหวะ
"มาแล้วครับ..มาแล้วนี่น้ำส้มของน้องอัม"
อัมรารับมา
"ขอบคุณค่ะพี่ออย"
"อ้าวอาร์ต แย่จริง เสียใจด้วยนะ ฉันลืมซื้อเผื่อนาย"
นุชนารถรีบยื่นแก้วที่ตัวเองถืออยู่สองแก้วให้สันติ
"อย่าไปเชื่อค่ะพี่อาร์ต พี่ออยเค้าซื้อมาครบแหละ เมื่อกี้เขายังสั่งให้นุชช่วยอำพี่อาร์ตด้วยล่ะ"
"ว้ายัยนุชเนี่ย ไม่เคยอยู่ข้างพี่เลยอยู่ข้างอาร์ตตลอด ต้องเขกหัวสักที"
อาทรแกล้งเคาะหัวนุชเบาๆ นุชทำท่าเหมือนเจ็บมาก แล้วก็หัวเราะ ทั้งหมดเลยพากันหัวเราะ อัมราหยุดพูดเรื่องที่สงสัยไปโดยปริยาย

ในห้องปั้น เดชกำลังให้คำปรึกษากับนักศึกษากลุ่มหนึ่ง นักศึกษายกมือไหว้
"ขอบคุณอาจารย์มากครับ"
"ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นกลุ่มเธอก็เริ่มกันได้เลยนะ"
นักศึกษาพากันไหว้เดชก่อนพากันแยกย้ายกันออกจากห้อง เดชหันมาเจอสันติ อาทร จุฑาเข้ามาหาพอดี
"อ้าวว่าไงได้แบบที่จะปั้นหรือยัง" เดชถาม
"ผมอยากให้ปั้นสัตว์ครับประมาณนกอินทรีย์หรือเหยี่ยวนะครับ" อาทรบอก
"ก็ไม่เลวนะ"
"แต่เราสองคนไม่เห็นด้วยค่ะ"
"เธอสองคนอยากปั้นอะไรล่ะ"
"เราอยากปั้นหุ่นคนครับคุณอา" สันติบอก
เดชชะงัก จุ๊บรีบสนับสนุน
"ค่ะ จุ๊บก็เห็นด้วย พวกเราเลยอยากขอความเห็นคุณอา"
"อาว่าต้องประชาธิปไตยดีมั้ย ตามเสียงข้างมากว่าไงละ ออย" เดชถาม
"คงต้องงั้นแหละครับ ก็ผมหัวเดียวกระเทียมลีบนี่"
สันติกับจุ๊จุฑาหัวเราะขำท่าทางของอาทร เ
"แล้วจะปั้นใครล่ะ"
สันติหันไปมอง จุฑารีบกางนิตยสารเล่มหนึ่งให้เดชดู
"จุ๊บว่าคนนี้น่าสนใจมากค่ะน้าเดช"
เดชมองภาพในหนังสือ เป็นรูปดาราสาวรูปร่างดีในชุดว่ายน้ำ เดชพิจารณา
"สรีระเธอสมบูรณ์มาก น่าปั้นจริงๆด้วย"
อาทรแซว
"ยัยจุ๊บเขาหวังสูงครับน้าเดช เขาว่าถ้าเราปั้นคุณเพทายได้ต้องดังระเบิดแน่"
"ก็จริงนะ ขนาดน้าไม่ค่อยสนใจเรื่องดารายังรู้เลยว่าเธอดังมาก แต่เราจะติดต่อขอปั้นเธอได้ยังไง"
ทั้งสามมองหน้ากัน สีหน้ากังวลประมาณนี่แหละคือปัญหา

พิไลแต่งตัวอยู่หน้ากระจกอย่างพิถีพิถัน เสร็จแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าพลาสติกเก่าๆ เอื้อมมือไปหยิบกล่องใส่เงินลงมาเปิด ชะงัก มือล้วงเข้าไปสุดซอง เทซองเขย่าๆ ฉีกซอง ว่างเปล่าไม่มีอะไร พิไลตะลึง
"เงินฉันหายไปไหน"
พิไลควานหาบนตู้จนข้าวของหล่นกระจายก้มคุ้ยๆหาตามพื้น จนถึงในตู้ รื้อเสื้อผ้า
"เงินฉัน..ใครมาเอาเงินฉันไป"
พิไลหยุดรื้อ คิดได้
"ไอ้เทิด"
พิไลแค้น วิ่งออกไปนอกบ้านอย่างโกรธสุดๆ
ที่หน้าบ้าน เทิดกำลังนั่งใส่รองเท้า ฮัมเพลงอารมณ์ดี พิไลพุ่งเข้ามาทุบตี โวยวายลั่น
"ไอ้เทิด แกขโมยเงินฉันไปใช่มั้ย"
เทิดมองรำคาญ ตอบไม่สะท้าน
"ใช่"
"ไอ้เลวเอาเงินฉันคืนมา เอามา"
เทิดผลักพิไลกระเด็น
"ไม่คืนโว้ย หน่อยเดี๋ยวนี่ริอ่านซ่อนเงิน"
เทิดจะไป พิไลดึงไว้
"อย่าเอาเงินฉันไป ขอร้องล่ะ เอาเงินฉันคืนมาเถอะนะพี่"
"ทำไมเงินเมียก็เหมือนเงินผัว หลีกไป ถ้าไม่อยากเจ็บตัว"
เทิดเงื้อมือ พิไลรีบยกมือไหว้
"ฉันขอร้องล่ะ คืนเงินให้ฉันเถอะ นั่นมันเงินที่พี่เดชเขาให้ฉันไว้ทำทุน"
เทิดตาลุก
"อ๊ะนี่แกทำตามที่ฉันแนะแล้วเหรอ ดีดีมาก งั้นแกก็ไปขอมันมากอีกสิ ขอมาเยอะๆเลยะฮ่ะๆๆต่อไปเราจะได้ไม่ต้องลำบากแล้ว แหมให้มันฉลาดแบบนี้สิ เมียรัก"
เทิดดึงพิไลมาจุ๊บ แล้วผละไปอย่างอารมณ์ดี พิไลทำท่าขยะแขยง
"ไอ้ชั่ว ไอ้สารเลว หมดกันเงินที่พี่เดชให้ฉัน"

พิไลนั่งลงร้องไห้อย่างแค้นใจ

วันใหม่ เดชโอบอารีย์ อ๊อด เดินมาดูชิ้นยกกระเป๋าขึ้นรถตู้ พรรณรายกับอัมราเดินเข้าเมา เดชหันไปทัก
 
"พร้อมกันหรือยังสาวๆ"
พรรณรายเข้ามาเกาะแขนเดชอย่างประจบ
"ยิ่งกว่าพร้อมอีกค่ะ ดีใจจังเลยค่ะที่จะได้ไปเที่ยวทะเลกัน"
เดชมองอารีย์
"อากาศดีๆแม่เค้าจะได้หายไวๆ"
"คุณพ่อเอาใจคุณแม่แบบนี้คุณแม่ต้องหายแน่ๆค่ะ" อัมราบอก
อารีย์ยิ้มสีหน้าสบายใจ บุญเรือน ดำเกิง อาทรเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าเดินทาง
"ทางนี้ก็พร้อมแล้วเหมือนกันค่ะ"
เดชกับครอบครัวหันมามอง
"เชิญครับเชิญ เอ้าชิ้นมาช่วยยกกระเป๋าของคุณพี่ด้วย"
"ผมขออนุญาตพาเพื่อนไปด้วยคนนะครับ"
สันติอยู่ข้างหลังอาทร สันติรีบไหว้เดช อารีย์ เดชดีใจ แต่พรรณรายทำหน้าเซ็ง
"อ้าวอาร์ต ดีเลยจะได้คุยเรื่องที่จะปั้นหุ่นกันต่อด้วย เอ้าๆๆเอากระเป๋ามาไว้บนรถ จะได้ออกเดินทางกันเสียทีเดี๋ยวแดดจะร้อน"
สันติมาช่วยอาทรกับชิ้นยกกระเป๋าขึ้นรถ อ๊อดมองไปเห็นหุ่นเด็กยืนมองอยู่หน้าประตู
อ๊อดดีใจ รีบวิ่งเข้าไปหา
"อ้าวพีทมาได้ไง บ้านอยู่แถวนี้เหรอ"
"ใช่ จะไปเที่ยวทะเลเหรอ"
อ๊อดพยักหน้า
"พีทล่ะชอบทะเลมั้ย"
"ชอบสิ เราชอบว่ายน้ำ แต่เราว่ายไม่เก่ง เราเลยจมน้ำ"
"เหรอแล้วใครช่วยไว้ล่ะ"
พีทยังไม่ทันตอบ เสียงอัมราเรียกดังมา
"อ๊อด..มาขึ้นรถเร็วจ้ะ"
อ๊อดรีบบอกพีท
"เราไปก่อนนะ"
พีทพยักหน้ามองตามอย่างเศร้าๆ อ๊อดวิ่งมาหาอัมราที่ยืนอยู่กับสันติ อัมราขึ้นรถ
อ๊อดกำลังจะขึ้น สันติถาม
"ไปทำอะไรที่หน้าบ้านครับอ๊อด"
"พอดีอ๊อดเห็นเพื่อนนะครับ"
"อ๋อเพื่อนที่โรงเรียนเหรอครับ"
"ไม่ใช่ครับ เพื่อนคนนี้อ๊อดเจอที่มหา’ลัยที่พี่อาร์ตเรียนไงครับ ไม่ยักรู้ว่าบ้านเค้าอยู่แถวนี้"
อ๊อดขึ้นรถ สันติหันไปมองที่ประตูรั้วแต่ไม่เห็นใคร สันติแปลกใจ อัมชะโงกมาเรียก
"พี่อาร์ตขึ้นรถสิคะ"
สันติรีบขึ้นมา นั่งข้างๆอัมราที่กระซิบ
"ดีใจจังเลยค่ะที่พี่อาร์ตมาด้วย"
สันติยิ้มขอบคุณ ทุกคนขึ้นรถครบ เดชกำชับชิ้น
"ดูแลปิดบ้านช่องให้ดีนะชิ้น"
"ไม่ต้องห่วงค่ะคุณเดช"
ชิ้นหันมาโบกมือให้ทุกคนบนรถ
"เที่ยวให้สนุกนะคะ"
เดชขึ้นรถขับออกจากบ้าน

เดชขับรถออกมาจากบ้าน ทุกคนในรถยิ้มแย้มมีความสุขแต่แล้วหน้าคะมำกันเป็นแถว
เพราะเดชเบรกรถอย่างแรง ทุกคนมองไปข้างหน้า ทุกคนเห็นรถผอบขวางหน้ารถเดชไว้ พงษ์เป็นคนขับ รีบลงมาพร้อมกับผอบ
"ต๊ายนึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว"
ผอบมาที่ประตูข้างรถตู้ พงษ์ตามมาด้วย พงษ์รีบไหว้กราด
"สวัสดีครับ"
บุญเรือนรำคาญผอบ
"ฉันบอกคุณผอบไปแล้วนี่คะว่าจะไม่อยู่ พวกเราจะไปทะเลกัน"
"ค้าคุณพี่ฉันจำได้ ก็ที่รีบมาเนี่ยก็เพราะฉันกับตาพงษ์จะขอไปด้วยคนค่ะ"
"อะไรนะคะ"
"แหมไปด้วยกันเยอะๆสนุกดีออก นะคะคุณอารีย์ คุณเดชคงไม่รังเกียจใช่มั้ยคะ"
เดชอึ้งๆ อารีย์จำใจต้องตอบ
"ไม่ค่ะ"
พรรณรายขัด ไม่เกรงใจ
"จะไปยังไงคะรถก็เต็มหมดแล้ว ขืนเบียดขึ้นมาอีกสองคนคงกลายเป็นปลากระป๋องแน่ๆ"
"ไม่เป็นไรค้า ป้ากับพี่พงษ์จะขับรถตามไปเอง"
"แต่ห้องพักเรามีพอดีคนแล้วนะคะคุณผอบ ถ้าคุณไปจะพักที่ไหนละคะ ฉันว่าเอาไว้คราวหลังดีกว่า" บุญเรือนว่า
"อุ๊ยไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันกับลูกนะกินง่ายนอนง่าย ตรงไหนก็นอนได้ ไปเถอะค่ะคุณเดชนำไปเลยนะคะ แต่อย่าขับเร็วนักล่ะ ไปเร็วพงษ์ไปขึ้นรถลูก"

เวลาเดียวกัน หุ่นทั้งหมดในห้องหุ่น อยู่ในอิริยาบถของตัวเองอย่างสงบ แล้วทันใดนั้น
 
หุ่นทุกตัวต่างหันหน้าขวับจ้องไปทางหน้าบ้านพร้อมๆกัน แต่ละตัวสีหน้าท่าทางน่ากลัว
 
จบตอนที่ 3 
กำลังโหลดความคิดเห็น