เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 12 อวสาน
ไลลาเดินลงจากรถแท็กซี่ พลางมองไปยังแฟลตปราณที่ดูน่ากลัว
ประตูห้องถูกเปิดออก ก่อนที่ปราณจะโผล่หน้าออกมา พอเห็นคนที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู ก็ยิ้มให้
“อ้าว เชิญครับ”
ไลลาใส่แว่นดำใส่หมวกปิดหน้า รีบส่งมือถือให้ “นี่ มือถือแก”
ปราณมองที่มือถือ ก่อนจะเงยหน้ามองไลลาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
ปราณกระชากไลลาเข้าไปในห้องแล้วล็อกประตู อีกฝ่ายพยายามต่อสู้ แต่กลับถูกจับล็อกไว้
“แกจะทำอะไร”
ปราณทำหน้าเหี้ยม “ค่าจ้างฉันล่ะ”
“ก็มือถือนั่นไง”
“น้อยไปมั้ย มีที่ไหนจ้างคนไปดักตี ให้แค่มือถือเครื่องเดียว”
ไลลาจ้องหน้ากลับ “แกจะเอาอะไร”
ปราณไม่ตอบ แต่กลับซุกหน้าหอมแก้มไลลา ฝ่ายถูกหอมทำหน้าขยะแขยง
“ยังจะถามอีกเหรอ”
“ไอ้เลว ฉันจะแจ้งความ”
ปราณยิ้มเยาะ “ว้าย ลืมอะไรไปรึเปล่าจ๊ะตัวเอง ฉันเป็นคนที่กุมความชั่วของเธออยู่นะ”
พูดพลางผลักไลลาออก อีกฝ่ายโมโหจนตัวสั่น
“เลือกเอา แค่หลับตานอนลง ปล่อยใจฝันซักสิบยี่สิบนาที ไม่มีอะไรสึกหรอ กับพรุ่งนี้โดนข่าวว่าจ้างคนไปฆ่าปิดปากกระเทย แล้วต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นปี แถมออกจากวงการ จากซุปตาร์นัมเบอร์วันกลับไปเป็นแมลงวันอย่างเก่า จะเอาอันไหนจ๊ะ”
ไลลาหน้าเครียด
ที่รายการข่าวบันเทิงของเออออกับห่อหมก
“และแล้วก็ถึงกาลพินาศ ปิดตำนานแก๊งแองเจิ้ล นางฟ้า ไลลา และจิ๋ว เป็นอุทาหรณ์สอนเราว่า
ไอ้คำว่าเพื่อนสำหรับบางคนน่ะ มันมีความหมายก็เฉพาะตอนไม่มีใคร หรือไม่มีอะไรจะกินก็เท่านั้นแหละ พออิ่มหนำอู้ฟู่ เพื่อนก็เป็นแค่ลูกคนอื่นที่มาคอยแบ่งเค้ก”
ห่อหมกพูดนำขึ้นมา ก่อนที่เออออจะพูดต่อ
“ใช่ๆ ต่อไปจะได้แบ่งหน้าข่าวบันเทิงให้คนอื่นเค้าซักที น่าเสียดายเนอะ แต่ละคนก็ดูเหมือนจะไปได้ไกลกว่านี้”
“ก็เพราะความไม่จริงใจไงคะ บางคนบอกว่าโอ๊ย ฉันคบกันมายี่สิบสามสิบปี แต่อาจจะไม่เคยจริงใจให้กันซักวินาที คิดแต่หาวิธีจะเสียบกันอิจฉากัน ไม่เหมือนเรา 2 คนนะคะน้องเออออ”
เออออพยักหน้าหงึก “ใช่ๆ แม้เราไม่เคยกอดกันออกทีวี ไม่เคยมีชื่อเสียงเงินทองเท่าทั้งสาม แต่เราก็ไม่เคยหักหลังกัน ให้ข่าวเสียๆ กัน”
“รวมทั้งไม่เคยเอากะปิสาดกัน เอาแม่มาตีกัน ตบกันจนตกน้ำพุ กัดกันเป็นหมา ที่สำคัญ...ไม่เคยสวิงกิ้งเจ้าของค่ายกัน”
“หนูบอกตามตรง หนูรักพี่ห่อหมกเหมือนพี่สาวจริงๆ นะ”
ห่อหมกยิ้มรับ “พี่ก็รักเออออจ้ะ”
ทั้งสองเข้าไปกอดกัน ห่อหมกจูบหน้าผากเออออ
“เราจะอยู่คู่กันตลอดไป”
“รักจริงอ่ะ”
ห่อหมกพยักหน้า “เออ รักจริง ไม่ต้องมาเถียง” พูดพลางเอาค้อนทุบปึง “ก็แค่อยากบอกว่าเอา
3 ตัวนี้ออกไปวงการบันเทิงสะอาดใสขึ้นเยอะแน่”
“ค่ะ วันนี้หมดเวลาแล้ว เราพี่น้องสุดเลิฟของจริงขอลาไปก่อน พบกันใหม่อาทิตย์หน้า”
“”สวัสดีคร่า”
โปรดิวเซอร์ตะโกนเสียงดัง “คัท”
ห่อหมกถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“เฮ้อ จบๆ ไปซะทีไอ้แก๊งบ้านี่ เออ เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ วันนี้ง่วงม้าก”
เออออยิ้มรับ “ จ้าพี่ นี่หนูพูดจริงนะ น้ำตาไหลเลย”
“จ้าหนู ไว้เจอกัน”
ห่อหมกยิ้มบ๊ายๆแล้วเดินแยกออกไป ทีมงานคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเออออพร้อมไอแพด
“เฮ้ย เออออ งานเข้าแล้ว”
“อะไรอีกอะ ใครมาขูดรถฉันเหรอ”
ทีมงานรีบยื่นไอแพดให้ดู เห็นคลิปภาพเออออในชุดโป๊ๆ เต้นรูดเสาอย่างเมามาย มีพวกหนุ่มๆ คอยตบมือเชียร์อยู่รอบๆ
เออออตกใจ ปากคอสั่น “มัน มันมีภาพตั้งแต่ตอนไหน”
ทีมงานรีบบอก “โอย เห็นตั้งแต่พี่เริ่มเสพเลยครับ คนดูในยูทูปเป็นแสนแล้วพี่ เจ้านายก็เห็นแล้ว เลยมาบอกให้พี่ทำใจไว้ก่อน”
เออออทำท่าจะเป็นลม “ใคร ใครมันทำฉัน”
ห่อหมกแอบยืนยิ้มอยู่อีกมุมหนึ่ง
ปกรณ์กำลังถ่ายรูปจริยาขณะซ้อมร้องเพลงที่เกี่ยวกับการแอบรัก ถ่ายไปก็นึกถึงอดีตขณะที่เขากับเธอใกล้ชิดกัน
พออีกฝ่ายซ้อมร้องเสร็จ เขาก็หยุดถ่าย
“เพลงนี้ตกลงแต่งถึงใครอ่ะ ผู้ชายคนไหน”
ฝ่ายถูกถามไม่ตอบ ได้แต่ค้อนแล้วเดินเซ็งๆ ออกไป
อาทิตย์นั่งเครียดเรื่องอัปสรสวรรค์อยู่ตามลำพังในสตูดิโอ จริยาเดินอารมณ์ดีเข้ามา พอเห็นอีกฝ่ายนั่งเซ็งอยู่ก็แปลกใจ
“คุณอาทิตย์”
อาทิตย์เงยหน้ายิ้มให้นิดหนึ่ง
“ทำไมเครียดอย่างนั้นล่ะคะ มีอะไรที่จิ๋วช่วยได้รึเปล่า”
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นเรื่องที่ผมก่อขึ้นมาเอง”
นักร้องสาวเดินเข้าไปนั่งข้างๆ “คุณอาทิตย์ช่วยจิ๋วมาเยอะแล้ว ให้จิ๋วช่วยบ้างเถอะค่ะ”
“โธ่ แค่ตอนนี้ที่เพลงจิ๋วดังไปทั่วประเทศ ก็ช่วยผมไม่รู้จะยังไงแล้วครับ”
จริยาหัวเราะเจื่อนๆ พอเห็นอาทิตย์เงียบไปอีก เธอก็ถามตรงๆ
“เรื่องเจ้ฟ้าเหรอคะ”
ฝ่ายถูกถามนิ่งไปนิดก่อนพยักหน้ารับ
“แล้วคุณอาทิตย์รักใครกันแน่คะ”
อาทิตย์ถอนใจ “ผมรักนางฟ้าครับ”
“แล้วเจ้ไลล่ะคะ”
“ความรู้สึกของผมกับไล มันไม่ใช่ความรัก”
จริยามองหน้าอีกฝ่าย “แต่เจ้ไลรักคุณ ? ”
อาทิตย์พยักหน้า “เรื่องนี้ผมมันผิดเอง พูดยังไงผมก็แย่ครับ”
“เจ้ไลรักคุณจริงๆ หรือแค่อยากแข่งกับเจ้ฟ้าคะ”
“ไม่รู้สิครับ แต่ถ้ามันจะทำให้เธอหยุดแข่งขัน หยุดรบราฆ่าฟันกับนางฟ้า และทำให้นางฟ้ามีความสุขในชีวิตจริงๆ ซักที ผมก็ยินดีจะทำให้ ผมคงจะไปคุยกับคุณแม่ไลลาให้เป็นเรื่องเป็นราว”
“ทำไมคุณไม่บอกเจ้ฟ้า เรื่องโดนเจ้ไลมอมยา”
อาทิตย์ได้ยินคำถาม ก็ชะงัก ตกใจ
“คุณรู้ ?”
นักร้องสาวพยักหน้า “เรื่องนี้คุณไม่ผิดนะคะ”
อาทิตย์ส่ายหน้าช้าๆ “ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ยังไงนางฟ้าก็คงไม่ฟัง”
จริยาได้ฟัง ก็พลอยเครียดไปด้วย
ที่ร้านอาหารของภีม เห็นแขกจำนวนหนึ่งมาร่วมงาน หนึ่งในนั้นมีอัปสรสวรรค์รวมอยู่ด้วย
ภีมหันมากล่าวกับทุกคน “ขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนและเพื่อนๆ ที่มาร่วมงานวันนี้ โดยเฉพาะคุณนางฟ้า นางเอกที่น่ารักที่สุดในชีวิตการทำงานของผม”
นักข่าวส่งเสียงฮือ ก่อนจะพากันหันไปมองอัปสรสวรรค์
ภีมหยิบดอกกุหลาบในแจกันบนโต๊ะข้างๆ แล้วเดินเข้าไปยื่นให้ ซุปตาร์สาวยิ้มๆ ขำๆ ยื่นมือไปจะรับดอกไม้มา แต่พระเอกหนุ่มยังไม่ยอมปล่อยมือจากดอกกุหลาบ ยังยื้อไว้ให้นักข่าวกดชัตเตอร์ พร้อมกับรัวแฟลช
อัปสรสวรรค์ยิ้มเจื่อนๆ
ส่วนจริยาก็กำลังแจกลายเซ็นให้แฟนๆ กลุ่มหนึ่งที่หน้าผับเสร็จพอดี พอหันไปเห็นปกรณ์เดินยิ้มเข้ามา ก็ถึงกับแปลกใจ
“ฮะ ไอ้ตี๋ แกมาดูด้วยเหรอ”
ตากล้องหนุ่มยิ้ม ตาเป็นประกาย “ตกลงจะบอกได้ยังครับ ว่าเพลงนั้นแต่งให้ใคร”
จริยาหน้าระเรื่อ ไม่ยอมตอบ หันไปโบกมือลาแฟนๆ แล้ววิ่งหนีขึ้นรถตู้ไป แล้วรีบปิดประตู
ปกรณ์จะเดินตาม แต่เหล่าแฟนคลับก็เบียดวิ่งเข้าไปโบกมือบ๊ายๆ ที่ข้างรถ
ไลลายืนหน้าเคร่งเครียดอยู่หน้าร้านขายยา มีขวดน้ำเปล่าอยู่ในมือ
ครู่หนึ่งยายขอทานแก่ๆ เนื้อตัวมอมแมม ก็เดินออกมาจากร้านขายยา แล้วเข้ามาหา
“ได้แล้วอีหนู”
ไลลาหันไปหา ก่อนที่ยายแก่จะวางแผงยาคุมฉุกเฉินลงในมือ
“ไอ้คนขายมันถามว่า ยายแก่ป่านนี้ยังใช้ยาคุมฉุกเฉินอีกเหรอ เฮอะๆๆ ตลกเป็นบ้า”
ไลลาควักแบงค์พันให้ ยายแก่ยิ้มดีใจสุดๆ
“ขอบคุณจ้ะยาย”
“เจริญๆ นะ เอ๊ะ อีหนู เป็นดาราหรือนักร้องอะไรรึเปล่า เหมือนเคยเห็นในทีวี”
“เปล่าจ้ะยาย หนูเป็น...เอ่อ”
ยายแก่พยักหน้าหงึก “ อ๋อ รู้แล้วๆ ไม่ต้องบอก เออๆ ทีหลังซื้อหมวกเตรียมไว้เยอะๆ ให้ไอ้พวกที่มาเที่ยวมันใส่ จะได้ไม่ต้องมากินยาคุมนะ ขอบใจมาก ไปล่ะ”
ไลลาฝืนๆ ยิ้มพยักหน้าเดินแยกออกมา
จริยานั่งอยู่ในรถตู้ ขณะกำลังเอนกายลงบนเบาะ ก็เหลือบเห็นผู้หญิงท่าทางคล้ายไลลา ใส่แว่นดำยืนอยู่ข้างถนน เธอรีบตะโกนบอกคนขับรถ
“พี่ๆ จอดก่อน”
คนขับรถเบรคเอี๊ยด
“เดี๋ยวพี่กลับไปบริษัทก่อนเลยนะ จิ๋วเจอเพื่อน”
พูดพลางรีบลงจากรถไป
ทางด้านไลลาก็กินยาเข้าไปก่อนดื่มน้ำตาม พร้อมกับที่จริยาเดินเข้ามาทัก ด้วยน้ำเสียงธรรมดา
“เจ้ไล”
ฝ่ายถูกทักสะดุ้งเฮือก รีบเก็บยาใส่กระเป๋า แล้วหันไปมองคนทัก
“แกมานี่ได้ไง”
“ฉันไปร้องเพลงที่ผับมาเพิ่งกลับ เห็นเจ้เดินอยู่เลยลงมา ทำไมไม่รับสายเลย จิ๋วโทร หาทั้งวัน”
“ฉันติดงาน มีอะไรเหรอ”
จริยามองหน้าอีกฝ่าย “เจ้คุยได้รึเปล่า ดูไม่ค่อยสบาย”
“ได้ ว่ามา”
” เจ้ ฉันไม่รู้ว่าเจ้กำลังทำอะไรอยู่”
ไลลาสะดุ้ง ร้อนตัว นึกว่าเรื่องไปนอนกะปราณ “เรื่องอะไรวะ”
“เรื่องคุณอาทิตย์”
พอได้ยินก็เริ่มข้องใจ
“เจ้จะหาว่าจิ๋วเผือกก็ไม่เป็นไรนะคะ จิ๋วแค่อยากรู้ว่า เจ้รักคุณอาทิตย์จริงๆ หรือเจ้แค่อยากเอาชนะเจ้ฟ้า”
“อะไรไอ้จิ๋ว ทำไมแกพูดแบบนี้” ฝ่ายถูกถามเริ่มโมโห
“ก็ฉันเห็นว่าเค้ากำลังจะไปกันได้ดี แล้วอยู่ๆ เจ้ก็โผล่มา”
ไลลายิ้มหยัน “ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ก็เขาเป็นของฉันมาก่อน”
“แล้วทำไมตอนที่ยังไม่มีข่าวหมั้น เจ้ไม่ออกมาแสดงความเป็นเจ้าของล่ะคะ เจ้มาตอนนี้ทำไม”
“ก็ใครมันจะไปรู้ว่าเขาจะหมั้นกัน” ไลลาลอยหน้าลอยตา
“แล้วเจ้รักคุณอาทิตย์จริงๆใช่มั้ยคะ”
อีกฝ่ายนิ่งไปนิดหนึ่ง “ ใช่”
“หรือชอบทุกคนที่เจ้ฟ้าชอบ”
ไลลาได่ฟังก็ยิ่งโกรธ “ที่แท้ก็กลัวฉันแย่งคุณอาทิตย์ไปจากอีนางฟ้า เพราะกลัวมันกลับไปคว้าไอ้เป๋า ใช่มั้ย”
“ไม่ใช่นะเจ้”
“เลวจริงๆ อีจิ๋ว แกมีความสุขกับการได้เห็นฉันโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวงั้นเหรอ ฉันจะมีความสุขเหมือนพวกแกบ้างไม่ได้ใช่มั้ย”
“โดยการมอมยาเค้างั้นเหรอเจ้” จริยาตอกกลับ “ฉันได้ยินที่เจ้คุยกับเค้าที่โรงแรม เจ้ทำไม่ถูก”
“จะถูกไม่ถูก เค้าก็เป็นผัวฉันแล้ว”
“ไม่ยุติธรรมเลย เจ้ทำแบบนี้เพราะต้องการแย่งคุณอาทิตย์จากเจ้ฟ้า เจ้ไม่ได้รักเค้า”
“แกรู้ได้ไง” ไลลาย้อนถาม
“ถ้าเจ้รักเค้าจริง ต้องปล่อยให้เค้าไปมีความสุขกับคนที่เค้ารักสิ ไม่ใช่ทำแบบนี้ เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เจ้ชอบว่าเจ้ฟ้าแย่งของของเจ้ จริงๆ เจ้นั่นแหละที่จ้องจะแย่งเจ้ฟ้า”
ไลลาโมโหจนน้ำตาไหล ฟาดฝ่ามือตบหน้าจริยาอย่างแรง
“อีจิ๋ว แกมันเบ๊อีนางฟ้าตลอดชาติ”
จริยาน้ำตาคลอ
“เลว เลวด้วยกันทุกคน แกกลับไปเลย กลับไปเลยแข้งเลียขาอีนางฟ้า เป็นขี้ข้ามันไปจนตาย แล้วไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก อีเบ๊”
ไลลาด่าเสร็จ ก็รีบวิ่งหนีไป ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น
ไลลาเข้ามากอดหมอนนอนร้องไห้สะอึกสะอื้น
“อีนางฟ้า อีจิ๋ว อีชั่ว ไม่น่ามารู้จักพวกแกเลย”
ทันใดนั้นมือถือก็ดังขึ้น เป็นสายจากปราณ
“แกจะเอาอะไรอีก ไอ้สัตว์นรก”
“ฉันดูในมือถือแล้ว คลิปฉันกับยัยจิ๋วนั่นหายไปไหนล่ะ”
“ฉันจะเก็บไว้ให้แกทำหอกอะไรล่ะ” ไลลาย้อนกลับ
“เหรอ แหม ห่วงเพื่อนจริงๆ ฉันโทร มาจะบอกว่า วันนี้มันไม่สะใจเลย อาทิตย์หน้าจะขอเจอกันอีกสักครั้งจะได้มั้ย”
“ไปตายซะ”
ไลลาวางสายแล้วปามือถือไปที่กำแพงอย่างโมโห
ไลลานั่งเครียดอยู่คนเดียว พลันก็นึกถึงอะไรขึ้นมาได้ รีบลุกแล้วเดินไปที่โต๊ะ เปิดโน้ตบุ๊กออก
ฟากอัปสรสวรรค์ก็กำลังนั่งสมาธิอยู่คนเดียวในห้องนอน ครู่หนึ่งเสียงเคาะก็ประตูดังขึ้น
“ยัยฟ้า ออกมาคุยกันซิ” เดือนเด่นยืนโวยวายอยู่หน้าประตู “ฉันอุตส่าห์วางแผนให้ดีๆ แกไปพูดอย่างนั้นได้ยังไง เห็นมั้ย อีไลลามันชุบมือเปิบไปแล้ว ยัยฟ้า ออกมาซิ”
ซุปตาร์สาวนั่งสมาธินิ่ง ท่ามกลางเสียงเคาะประตูปังๆๆ ของแม่
อาทิตย์กำลังยืนอ่านข่าวอยู่ตรงทางเดิน เห็นข่าวพร้อมภาพภีมยื่นดอกไม้ให้นางฟ้า “อุ๊ต๊ะ นางฟ้าโผล่เปิดร้านพระเอกภีม”
อ่านแล้วก็หน้าเครียด ก่อนจะเก็บมือถือแล้วเดินผ่านมาที่หน้าแคนทีน พลางมองเข้าไปด้านใน เห็นอัปสรสวรรค์นั่งคุยอยู่กับภีมอย่างสนุกสนาน
“เย็นนี้ว่างมั้ยครับ” ภีมทำสายตากรุ้มกริ่ม
“ทำไมคะ จะชวนไปกินข้าวเหรอ” อัปสรสวรรค์ถามกลับล้อๆ
“ทำไมรู้ล่ะคะ ไปได้มั้ยเอ่ย”
“มีนักข่าวมาด้วยรึเปล่า”
เขาทำหน้าแปลกใจที่เธอรู้ทัน
“โลกมันเปลี่ยนไปแล้วนะภีม อย่าทำแบบนี้เลย ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นดีกว่า อย่าดึงฟ้าไปเป็น
ตัวหลอก”
จากมุมของอาทิตย์ เขาเห็นอัปสรสวรรค์เอื้อมมือไปกุมมือของภีม ฝ่ายหลังมองหน้าอย่างซึ้งใจ
ภาพนั้นทำให้เขารู้สึกหึงขึ้นมาทันที
อัปสรสวรรค์พูดต่ออย่างจริงใจ
“ไม่ว่าภีมจะเป็นชายจริงหรือไม่ใช่ ฟ้าเชื่อว่ายังไงแฟนคลับทุกคนต้องรักภีมเหมือนเดิม”
อาทิตย์ตัดใจ ก้มหน้าเครียดแล้วเดินออกไป
อัปสรสวรรค์กับภีมจับมือแล้วมองหน้ากัน ขณะที่อาทิตย์กลับมานั่งกลุ้มตามลำพังที่โต๊ะทำงาน
อัปสรสวรรค์เดินเข้ามาที่หน้าโบสถ์ พลางมองเข้าไปด้านใน ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป จากนั้นก็ก้มกราบพระประธาน ทันใดนั้นก็มีนักศึกษาศิลปะหญิง 2 คนเดินถือกระดานวาดรูปเข้ามาดูในโบสถ์
“พระพุทธรูปวัดนี้ปั้นไม่ค่อยสวยเลยเนอะ”
อีกคนเห็นด้วย “อืม ก็คงเป็นฝีมือช่างชาวบ้านสมัยก่อนมั้ง”
“น่าจะปั้นให้สวยๆ หน่อย จะได้ดูน่าศรัทธา”
“วิจารณ์พระ นรกกินกบาล”
คนแรกสวนกลับ “ไม่ได้วิจารณ์พระโว้ย วิจารณ์ศิลปะ”
ทั้งคู่ยกมือไหว้พระแล้วเดินออกไป อัปสรสวรรค์เหลือบมองตาม ก่อนจะหันมามองพระพุทธรูป ที่ดูเหมือนกำลังยิ้มให้
หลวงตารูปหนึ่งกำลังให้พรแก่กลุ่มญาติโยมที่มาทำบุญ อัปสรสวรรค์พนมมือนั่งฟังอยู่หลังสุด
“เราไม่มีหน้าที่ไปตัดสินว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นถูกหรือไม่ถูกต้อง เพราะหากเราตกอยู่ในสภาพเดียวกับเขา เราอาจจะทำเหมือนเขาหรือทำยิ่งกว่าเขาก็ได้ บางครั้งสิ่งที่เขาทำไปก็เกิดจากกรรมเก่า ที่เขาไม่รู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี เป็นสิ่งที่ทำให้ไปสู่อบายภูมิ ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ดี แล้วยังคิดไปแก้แค้น เรานั่นแหละที่เลวกว่าเขา”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็มีหน้าที่เพียงอดทนต่อคนที่ทำชั่วกับเราเท่านั้นหรือคะ”
ชาวบ้านคนอื่นหันไปทันทีที่อัปสรสวรรค์ถามจบ หลวงตาตอบโดยไม่ต้องคิด
“อย่าไปสนใจจริยาของคนอื่น อย่าสนใจในวาจา ทั้งนินทาและสรรเสริญ ถ้าเราดี ใครจะใส่ร้ายยังไงมันก็ไม่ชั่ว แต่ถ้าเราเลว ใครจะสรรเสริญยังไงมันก็ไม่ได้เป็นคนดีขึ้นมาเช่นกัน เฝ้าดูแต่จิตใจตัวเองไม่ให้หลงใหลไปกับกิเลสตัณหาเป็นพอ”
ซุปตาร์สาวยิ้มด้วยความซาบซึ้งในพระธรรม ก่อนจะก้มกราบพระสงฆ์
เมฆกำลังเต้นบีบอยอยู่หน้าห้องให้ตัวแทนจากบริษัทบันเทิงในเกาหลีและอาทิตย์นั่งดู
พอเต้นจบ ตัวแทนเกาหลีก็ปรบมือ พลางยิ้มพอใจ
เมื่อมองออกไปนอกห้อง เขาก็เห็นจริยาแอบดู แล้วก็ยิ้มดีใจไปด้วย
จริยากับเมฆเดินคุยกันมาตามระเบียง
“วันเกิดอยากกินอะไรจิ๋ว เดี๋ยวเมฆเป็นเจ้ามือเอง”
“โห่ ถือว่าฉลองที่แกได้ไปเกาหลีด้วย เป็นไงล่ะ มาแรงแซงโค้งเลยเมฆ บอกแล้วดวงคนเรามันไม่แน่หรอก”
เมฆถอนหายใจ “อย่าพูดงั้นสิจิ๋ว ใจนึงเมฆก็ไม่อยากไปหรอก ตั้ง 2 ปีแน่ะ”
“ทำไมล่ะ ห่วงอะไรอีก”
“ก็...ห่วงจิ๋วนั่นแหละ”
จริยายิ้มให้ “จะมาห่วงฉันทำไม ตอนนี้อะไรๆ ก็ดีขึ้นตั้งเยอะแล้ว งานก็มี บ้านก็มี”
“แต่คนรอบๆ ข้างจิ๋ว น่ากลัวทั้งนั้น”
นักร้องสาวส่ายหน้า “ โอย หมดไอ้ปราณไปซะคน ก็ไม่มีใครแล้ว”
เมฆหยุดเดิน ล้วงเข้าไปในเป้แล้วยื่นกล่องของขวัญให้
“ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู”
เจ้าของวันเกิดยิ้ม แล้วรีบรับกล่องของขวัญมา
“ว้าว ขอบใจนะเมฆ”
“แกะเลยๆ”
จริยารีบแกะของขวัญออก ก่อนจะเห็นเป็นรองเท้ากีฬาสีชมพู
“โห สวยๆ ทำไมซื้อรองเท้าให้อ่ะเมฆ”
“ก็....”
คนให้ยังไม่ทันตอบ คนรับก็รีบล้วงกระเป๋าเสื้อ แล้วหยิบเหรียญบาทยื่นให้
“เอ้า เอาไป”
เมฆรับมาอย่างงงๆ “อะไรอ่ะ”
“เค้าบอกว่า ซื้อรองเท้าให้กันมันไม่ดี มันเหมือนต้องเดินจากกันไป นี่เอาตังค์ไป ถือว่าฉันซื้อต่อ”
เมฆแกล้งทำหน้าเซ็ง “โห บาทเดียว ขาดทุนยับ”
“แหม แค่แก้เคล็ด”
เมฆยิ้มหวาน “มา ลองใส่ดูเลยว่าพอดีป่าว เดี๋ยวเมฆใส่ให้”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร”
เมฆไม่สนใจ รีบหยิบรองเท้าแล้วก้มลงไปใส่ให้ พลางผูกเชือกให้จนเสร็จ
จริยาลองขยับเท้าดู “พอดีเป๊ะเลย”
“อยากให้จิ๋วใส่เวลาไปร้องเพลง จะได้นึกถึงว่ามีเราอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาไง”
เจ้าของวันเกิดยิ้มแป้น พลางมองหน้าเมฆอย่างซึ้งใจ ปกรณ์เดินเข้ามาเห็นพอดี
พลันเสียงมือถือก็ดังขึ้น นักร้องสาวรีบหยิบมากดปิดเสียง
“อ้าว ไมไม่รับอะจิ๋ว”
“วันนี้วันเกิดฉัน ฉันอยากอยู่กับคนพิเศษๆ เท่านั้น”
เมฆยิ้มปลื้ม “เมฆดีใจนะ ที่จิ๋วให้เกียรติเป็นคนพิเศษ”
ตากล้องหนุ่มแกล้งกระแอมแหย่ “ อะแฮ่มๆ”
เมฆหันไปทัก “อ้าว พี่เป๋า มาพอดีเลย ไปกินวันเกิดจิ๋วด้วยกันเลยมั้ยครับ”
จริยาหันมาแขวะ “ใครอยากชวนมัน”
ตากล้องยิ้มทะเล้น เมฆรีบบอก
“แหม ไปหลายๆ คนแหละสนุกดี เดี๋ยวเมฆไปเอากระเป๋าก่อนนะ”
พูดจบก็รีบวิ่งออกไป ทิ้งจริยาไว้กับปกรณ์
“แหม รู้แล้วล่ะ เพลงนั้นแต่งให้ใคร”
นักร้องสาวสะอึกไปนิดหนึ่ง
“แต่งให้เมฆนี่เอง จับได้วันนี้”
จริยาหันขวับอย่างโมโหสุดๆ “ฉันแต่งให้แกนั่นแหละ ควาย”
พูดเสร็จก็เดินออกไปเลย ทิ้งให้อีกฝ่ายอึ้ง จนพูดไม่ออก
อัปสรสวรรค์ยืนดูอะไรบางอย่างในมือถืออยู่ สีหน้าไม่สู้ดี
พลันก็เห็นจริยาเดินออกมาที่หน้าตึกพอดี ซุปตาร์สาวรีบวิ่งหน้าตื่นเข้าไปหา
“จิ๋ว”
จริยาหันไปเห็น ก็ยืนอึ้ง
“เอ่อ..มีอะไร”
“แกเห็นคลิปนั่นรึยัง”
จริยาตกใจ “คลิปอะไรคะ”
รายการของนัตตี้ กำลังเปิดคลิปขณะที่ปราณนอนกับจิ๋ว
“และนี่ก็คือคลิปที่กำลังเป็นที่ฮือฮาในโลกไซเบอร์ตั้งแต่ชั่วโมงที่ผ่านมา ในคลิปเราจะเห็นหนุ่มสาวหน้าเหมือนนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังกำลังจะร่วมรักกัน ทั้งนี้ทางเราพยายามติดต่อไปยังนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังว่าเป็นคนในคลิปจริงหรือไม่ แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้”
ไลลาแต่งตัวเสร็จกำลังจะออกจากบ้าน พลันก็เหลือบเห็นข่าวในทีวี
“มีความคืบหน้าอย่างไร ทางทีมข่าวบันเทิงของ STAR STATION จะแทรกเข้ามาอีกทีนะคะ”
ไลลามองทีวีด้วยสายตานิ่งเฉย พลางคิดถึงเรื่องในอดีต
ไลลาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบลังกระดาษใบหนึ่งออกมา ก่อนจะคุ้ยๆ หามือถือปราณจนเจอ พลางทำหน้าครุ่นคิด ลำบากใจ
ไลลานั่งหน้าเครียด พลางกดดูคลิปปราณจะข่มขืนจริยาในมือถือ เธอกดๆ ไปที่มือถือ ก่อนจะเห็นข้อความว่า “คุณแน่ใจว่าจะลบ ใช่หรือไม่”
เธอครุ่นคิดนิดหนึ่ง
ผ่านเวลา ไลลากำลังนั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก ที่มีมือถือปราณเสียบเชื่อมอยู่ จากนั้นก็จัดการก๊อปปี้ไฟล์คลิปไปวางลงบนหน้าจอ พลางถอนหายใจ ทั้งเครียด ทั้งหนักใจ
ไลลาเห็นภาพตัวเองกำลังลบคลิปในมือถือ ก่อนจะเห็นภาพต่อมา ขณะตัวเองกำลังคุยมือถือกับปราณ
“วันนี้มันไม่สะใจเลย อาทิตย์หน้าจะขอเจอกันอีกสักครั้งจะได้มั้ย”
“ไปตายซะ”
จากนั้นก็รีบกดวางสายแล้วปามือถือไปที่กำแพงอย่างโมโห
ไลลาเห็นภาพตัวเองนั่งเครียดอยู่คนเดียว พลันก็นึกถึงอะไรขึ้นมาได้ รีบลุกแล้วเดินไปที่โต๊ะ แล้วเปิดโน้ตบุ๊กออก
ไลลามองข่าวนั้นด้วยแววตาไม่ยินดียินร้าย
ปกรณ์กับเมฆเดินตามจริยาออกมาที่หน้าตึก เห็นเธอนั่งร้องไห้กอดอัปสรสวรรค์อยู่
2 หนุ่มรีบวิ่งเข้าไปหา
“อะไรกันน่ะฟ้า จิ๋ว”
อัปสรสวรรค์หันไปหาปกรณ์ แล้วยื่นมือถือให้ เขารับมาดูพร้อมกับเมฆ
2 หนุ่มอึ้ง ช็อก
เมฆโกรธจนสั่น “ปราณ ไอ้ชั่วเอ๊ย กูจะฆ่ามึง”
จากนั้นก็กำหมัดวิ่งออกไป ปกรณ์ตะโกนเรียก
“เฮ้ย เมฆ เดี๋ยว”
จริยาร้องห้าม “เมฆ อย่า”
ปกรณ์วิ่งตามออกไป อัปสรสวรรค์กับจริยาลุกตาม
ปราณกำลังหิ้วกระเป๋าเดินมาอย่างลุกลี้ลุกลน เตรียมหนีไปต่างจังหวัด ทันใดนั้นเมฆวิ่งเข้ามาถึงด้วยอาการโกรธสุดขีด
“ไอ้ปราณ”
ฝ่ายถูกเรียกสะดุ้งเฮือก อัปสรสวรรค์ จริยา ปกรณ์วิ่งตามมาถึง
“แกจะไปไหน”
“พวกแก...”
จังหวะที่เมฆจะเดินเข้าไปเอาเรื่อง ปราณก็รีบชักปืนที่เอวออกมาขู่ทันที
“หยุดนะเว้ย”
ทุกคนยืนตะลึง
“ไอ้คลิปนั่น ฉันไม่ได้เป็นคนปล่อยนะ”
จริยาตะคอกใส่หน้า “แกนั่นแหละไอ้ชั่ว”
“พวกแกคิดดูให้ดีๆ ในคลิปนั้นก็มีฉันด้วย ฉันจะปล่อยไปทำหอกอะไร”
“แกไม่ได้ทำแล้วหมาที่ไหนมันจะทำ” ตากล้องหนุ่มย้อนกลับ
“ฉันยอมรับว่าฉันถ่าย แต่อีไลลาเพื่อนแกเป็นคนเก็บไป”
ทุกคนได้ฟังก็ยืนช็อก
“เจ้ไล”
“ฉันไม่เกี่ยวเลย เรื่องมันก็ตั้งนานมาแล้ว อย่ามาโทษกันดีกว่า”
“ไอ้เลวเอ๊ย”
เมฆวิ่งเข้าไปเตะปืนหลุดจากมือแล้วจะเข้าไปจับตัวล็อก ปราณฉวยจังหวะรีบวิ่งหนีขึ้นไปชั้นบน ฝ่ายแรกรีบวิ่งตาม
“เมฆ เดี๋ยวก่อน”
ทุกคนรีบตามเมฆไป
เมฆวิ่งไล่มาตามระเบียงชั้น 4 ปราณวิ่งมาสุดทาง ขณะฝ่ายแรกกำลังจะเข้าไปล็อกตัว บังเอิญชาวบ้านในห้องหนึ่งเปิดประตูออกมาดู มันอาศัยจังหวะนั้นกระชากชาวบ้านออกมาแล้ววิ่งหนีเข้าไปในห้องนั้น เมฆรีบตามไป
ปราณวิ่งออกมาถึงระเบียงห้อง คิดจะปีนหนี แต่เมฆตามเข้ามาจะถึงตัวก่อน มันเหลือบหันไปเห็นไม้เบสบอลวางอยู่ใกล้ๆ จึงหยิบมาแล้วหวดใส่ ฝ่ายถูกหวดล้มลงไปนอน
เมฆพยุงตัวลุกขึ้นแล้วต่อสู้ยื้อยุดกับปราณอยู่ตรงระเบียง ก่อนจะเสียทีถูกเอาไม้เบสบอลล็อกคอแล้วผลักจนหัวยื่นออกไปนอกราวระเบียง
เขากลั้นใจครั้งสุดท้ายสลัดมันออก
ปราณหันไปเห็นมีดบนโต๊ะจึงหยิบมาหวังจะจ้วงแทง แต่กลับถูกเมฆพุ่งเข้าไปหา หวังจะแย่งมีด
โดยไม่คาดคิด ร่างเมฆเสียจังหวะหลุดออกไปนอกระเบียง ร่วงตกลงไปข้างล่างทันที ปราณชะโงกลงไปดู แล้วก็ถึงกับช็อก
“เวรแล้วกู”
อัปสรสวรรค์ จริยา ปกรณ์ วิ่งตามมาถึงในห้อง ปราณรีบวิ่งสวนออกไป ทุกคนพากันตกใจรีบวิ่งไปดูที่ระเบียง เห็นเมฆนอนคว่ำอยู่กับพื้นถนนเลือดนอง
จริยา ตกใจ ช็อกสุดขีด “เมฆ”
ก่อนจะเป็นลมหมดสติร่วงลง ปกรณ์รีบคว้าตัวไว้
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 12 อวสาน (ต่อ)
อัปสรสวรรค์ จริยา ปกรณ์ และอาทิตย์เดินเข้ามาในห้องไอซียู
ใบหน้าแต่ละคนละสลดวูบ 2 สาวถึงกับปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น
ร่างอันไร้ลมหายใจของเมฆนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง
จริยาถลาเข้าไปกอดศพเมฆ แล้วร่ำไห้ปิ่มว่าใจจะขาด
“เมฆ เมฆ ทำไมเป็นอย่างนี้ ไม่นะเมฆ”
อัปสรสวรรค์ และคนอื่นๆ ยืนมองด้วยความสลดใจ
ซุปตาร์สาวย้อนนึกถึงคำพูดของปราณ
“ฉันยอมรับว่าฉันถ่าย แต่อีไลลาเพื่อนแกเป็นคนเก็บไป”
พลันสีหน้าก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที ก่อนจะหันหลังเดินออกไปเงียบๆ คนเดียว
ทางด้านไลลา ก็ถ่ายทำละครฉากสุดท้ายเสร็จพอดี
“โอเค จ้า ปิดจ๊อบหงส์เริงไฟ”
ทีมงานเฮกันใหญ่ ไลลายิ้มเดินออกมานอกฉาก พลางหยิบมือถือในกระเป๋าขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นสายเรียกเข้าจาก “อีนางฟ้า” กว่า 30 สาย
“อีนางฟ้า โทร มาทำไมนักหนา”
รอยยิ้มเหยียดผุดขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนที่จะกดปิดเครื่อง
ทันใดนั้นชิวาว่าก็เดินเข้ามาบอกข่าว
“น้องไลคะ น้องไล รู้ข่าวแดนเซอร์ค่ายซันมิวสิกตกตึกตายรึยัง”
“แดนเซอร์เหรอ”
“ค่ะ ที่ชื่อเมฆ”
ไลลาตกใจ “เมฆ เมฆแดนเซอร์จิ๋วน่ะเหรอคะ ทำไมล่ะคะ”
“ก็มันมาจากเรื่องคลิปหลุดยัยจิ๋วกับโปรดิวเซอร์นั่นไงคะ พวกเพื่อนๆ เค้าโมโหก็จะไปเอาเรื่องกับไอ้โปรดิวซ์นั่น ไม่รู้ทะเลาะกันอีท่าไหน แดนเซอร์นี่เลยร่วงตึกลงไปตาย”
สีหน้าของไลลาซีดเผือดลงทันที
อัปสรสวรรค์ขับรถมาตามทาง เมื่อเหลือบเห็นเพ็ญศรีเดินอยู่ข้างทาง ก็รีบปราดไปจอดรถดักหน้า
“ใครวะ”
ซุปตาร์สาวลงจากรถมายกมือไหว้ “สวัสดีค่ะคุณป้า”
เพ็ญศรีรับไหว้ พอเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ ก็ตกใจชี้หน้า
“ว้าย แก”
“ไลอยู่บ้านมั้ยคะ”
เพ็ญศรีจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง “แกจะทำไม เดี๋ยวนี้มาหาเรื่องถึงบ้านเลยเหรอ อีชั่ว กลับไปเลยไป”
“หนูอยากคุยกับไลค่ะ เรามีเรื่องสำคัญต้องเคลียร์กัน”
“เรื่องอะไร” เพ็ญศรีย้อนถาม
อัปสรสวรรค์สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจบอก “ไลลาเป็นคนปล่อยคลิปจิ๋ว”
“ไม่จริง ในคลิปมีหน้าไลลาตรงไหนกันวะ”
“ไอ้ปราณเป็นคนสารภาพ”
เพ็ญศรีตาวาวด้วยความโกรธ “พวกแกใส่ร้ายไลลา วันนั้นลูกฉันก็เป็นคนตามไปช่วยนังจิ๋วเอง หนอย
ไม่สำนึกบุญคุณยังมาใส่ร้ายกันอีก แกตัวต้นคิดแน่ๆ เห็นไลลามันกำลังจะดังกว่า เกิดทนไม่ไหวล่ะสิ กลับไปเลย อีคน
ขี้แย่ง”
อัปสรสวรรค์เริ่มโมโห “พอกันที คำก็แย่งสองคำก็แย่ง แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างคุณน้าก็ไม่มีวิจารณญาณ
แค่เรื่องทุนเท่านั้น ทำไมต้องแค้นฝังหุ่นกันแบบนี้”
เพ็ญศรียิ้มหยัน “แค่เรื่องทุนเท่านั้นเหรอ ใช่สิ อย่างพวกเธอ การได้ทุนมันก็เพื่อหน้าตาในสังคม แต่กับคนที่มันไม่มี มันไม่ใช่แค่นั้น เธอไม่มีทางรู้ เพราะเธอมันไม่เคยจน ไม่เคยทุกข์ ไม่เคยอด ไม่เคยอยากไงล่ะ”
“ฟ้ารู้ว่าเรื่องนั้นฟ้าผิด ตลอดเวลาฟ้าก็พยายามขอโทษและชดเชยให้ไล แต่เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ไลก็เรียนจบ มีงานที่ดี กำลังโด่งดัง แต่ทำไมไลถึงยังไม่หยุด ยังไม่พอ ทำไมต้องทำลายคนอื่น ทำลายเพื่อน ทำไมไม่ให้อภัย”
เพ็ญศรีโพล่งออกมาอย่างเหลืออด “ถ้าแม่เธอต้องขายตัว เพื่อหาเงินส่งเธอเรียน เธอจะให้อภัยไหมล่ะ”
ซุปตาร์สาวได้ยิน ก็ถึงกับยืนอึ้ง “อะไรนะคะ”
“ใช่ ฉันต้องขายตัว เพราะพวกแกแย่งทุนลูกฉันไป แกจะให้ฉันทำไง ฉันจะหาเงินเยอะขนาดนั้นได้ยังไง นอกจากกู้นอกระบบ จากหนี้ที่ไม่กี่หมื่นมันเพิ่มเป็นแสนเป็นล้าน จนฉันไม่มีทางเลือก”
“ทำไมไลไม่บอกฟ้า”
เพ็ญศรีน้ำตาริน “แล้วทำไมแกมีแล้วถึงไม่รู้จักพอ ทำไมต้องมาแย่งโอกาสของคนที่เขาไม่มี หัวใจพวกแกสองแม่ลูกมันทำด้วยอะไร ไอ้ทุนแค่นั้นพวกแกก็มีปัญญาจ่ายเอง จะไปเรียนกี่ที่ทั่วโลกก็ได้ ทำไมต้องมาแย่งของลูกฉัน แกว่าไลมันจะรู้สึกยังไงที่มีแม่เป็นโสเภณี”
อัปสรสวรรค์ปากสั่น “ฟ้า ฟ้าขอโทษค่ะ”
พูดพลางทรุดตัวก้มลงกราบ เพ็ญศรีร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
เมื่อกลับเข้ามาในรถ อัปสรสวรรค์ก็เศร้า เสียใจเรื่องที่เพิ่งรู้จากเพ็ญศรี จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ไอ้ไล ฉันขอโทษ”
อาทิตย์เปิดแถลงข่าวที่โรงพยาบาล โดยมีจริยา ที่งคงร้องไห้ไม่หยุด กับปกรณ์นั่งอยู่ข้างๆ
“คลิปนี้นายปราณยืนยันว่าเขาได้แอบซ่อนมือถือไว้บันทึกภาพขณะที่วางยาสลบจิ๋วและกำลังจะกระทำชำเรา แต่โชคดีที่คุณไลลาและคุณเป๋าเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน คุณจิ๋วจึงปลอดภัยจากเหตุการณ์นี้”
ตากล้องหนุ่มรีบพูดเสริม “ผมขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ จิ๋วยังไม่ได้ถูกนายปราณทำอะไรทั้งนั้น”
นักข่าวถามต่อ “แล้วนายปราณเป็นคนปล่อยคลิปนี้รึเปล่าครับ”
อาทิตย์ส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่ทราบนะครับว่าคนปล่อยคลิปคือใคร และต้องการอะไร ยังไงวันนี้ขอจัดการเรื่องพิธีศพคุณเมฆก่อนนะครับ”
ฟากไลลาก็หลบมานั่งเครียดเรื่องเมฆอยู่ที่ริมสระน้ำ
“ฉันขอโทษนะเมฆ มันไม่เกี่ยวอะไรกับแกเลย”
พลันเสียงมือถือก็ดังขึ้น พอหยิบมาดูเห็นเป็นสายจากเพ็ญศรี เธอก็รีบกดรับ
“ว่าไงคะแม่”
“แกรู้รึเปล่า อีสารเลวนั่นมันบุกมาหาแกที่บ้าน”
“ใครคะ นางฟ้าเหรอ”
“ใช่ มันบอกว่ามันรู้ว่าแกเป็นคนปล่อยคลิปอีจิ๋ว ชั่วจริงๆ เลยอีนี่”
ไลลาตกใจ หน้าเครียด
ผ่านเวลา 1 สัปดาห์ ในวันเผาศพเมฆ ไฟที่เมรุเผาศพกำลังลุกโชน จริยาร้องไห้โฮ พลางสวมกอดอัปสรสวรรค์แน่น อาทิตย์กับปกรณ์ที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ ก็สลดใจไม่แพ้กัน
ไลลาในชุดดำ สวมแว่นดำยืนแอบดูอยู่ที่เสาไกลๆ ด้วยแววตาเศร้า เพราะสงสารเมฆ
อัปสรสวรรค์ จริยา อาทิตย์ และปกรณ์เดินลงมาจากเมรุด้วยกันอย่างเศร้าโศก
“นี่ไลมันหายไปไหน หรือจะเป็นอย่างไอ้ปราณมันว่าจริงๆ” ปกรณ์อดคิดขึ้นมาไม่ได้
จริยาสะอื้นไห้ “ฉันกับเจ้ฟ้าโทร หาทุกวันไม่รับสายเลย โทร ไปที่ช่องสตาร์ก็บอกว่าละครปิดกล้องแล้ว โทร ไปที่บ้าน น้าเพ็ญก็ไม่ยอมบอก แถมยังด่าใส่อีก”
พลันมือถือของอาทิตย์ก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ....โอเคครับ เดี๋ยวผมแวะไปดู”
จากนั้นก็กดวางสาย ท่ามกลางสายตาของอีก 3 คนที่มองจ้องมา
“มีพัสดุมาถึงผม ในซองเป็นแผ่น DVD เขียนว่าส่งมาจากนายปราณ”
ที่จอคอมพ์ กำลังฉายคลิปปราณ ขณะพูดกับกล้องด้วยอาการมึนเมา
“ไอ้เมฆมันเข้ามาทำร้ายผม หาว่าผมปล่อยคลิปนั่น ทั้งทุบทั้งตี ผมพูดอะไรก็ไม่ฟัง จนมันพลาดร่วงตึกลงไปเอง ส่วนไอ้คลิปที่ผมนอนกับจิ๋วนั่น ผมบอกเลยว่ามันเป็นคลิปที่ทำกันขึ้นมาเล่นๆ สนุกๆ แค่จัดฉากขึ้นมา เค้าเรียกว่าไวรัลมาร์เกตติ้งไงครับ เราทำเพื่อโปรโมตเพลงใหม่ ไม่ใช่ข่มขืนอะไรทั้งนั้น ไร้สาระปัญญาอ่อน ผมไม่เคยมีอะไรกับเค้าแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์ โอเคมั้ย”
อัปสรสวรรค์ จริยา อาทิตย์ และปกรณ์ นั่งดูคลิปอยู่ด้วยกันในห้อง
ยิ่งเห็นคลิป จริยาก็ยิ่งนึกขยะแขยงปราณ “โปรโมตเพลงบ้านมึงสิ ไอ้เลว ไอ้ชั่ว”
จนอัปสรสวรรค์ต้องจับไหล่เป็นเชิงปลอบให้คลายโมโห
อาทิตย์รีบบอก “ผมโทร แจ้งให้ทางตำรวจหาต้นทางที่ส่งแผ่น DVD นี่มาแล้วครับ”
จริยาพยายามกลั้นสะอื้น “เรื่องคลิปจิ๋วช่างมันเถอะค่ะ ใครจะว่าอะไรจิ๋วไม่สนใจแล้ว แต่เรื่องที่เมฆตายจิ๋วอยากให้ไอ้ปราณมันชดใช้กรรม”
อัปสรสวรรค์พยายามพูดปลอบอย่างปลงๆ “ใครก็หนีกรรมไม่พ้นหรอกจิ๋ว”
“จิ๋วไม่เข้าใจ ทำไมวันนั้นมันถึงอ้างไปถึงเจ้ไล”
ปกรณ์ครุ่นคิด “อาจมีเบื้องหลังอะไรที่เราไม่รู้ก็ได้”
“ต้องถามเรื่องนี้กับเจ้ไลให้ได้”
แววตาของจริยาเต็มไปด้วยความแค้น
ไลลาลงจากแท็กซี่ที่ปากซอยบ้าน เห็นคนกำลังยืนมุงดูอะไรอยู่ที่ริมกำแพง ขณะกำลังจะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจ แต่กลับมีเสียงคุ้นๆ ดังแว่วมา
“ไม่ต้องมายุ่ง กูอยากตาย ฮือ...”
เท้าที่กำลังจะก้าวชะงักกึก มั่นใจว่าเจ้าของเสียงคือแม่ของตัวเอง จึงตัดสินใจวิ่งกลับไปดู
“ขอทางหน่อยค่ะ”
พูดพลางรีบแหวกไทยมุงเข้าไป ชาวบ้านหันมาเห็นเป็นดาราก็พากันตกใจ
ภาพที่เห็น คือเพ็ญศรีนอนร้องไห้คร่ำครวญอยู่กับพื้น ในสภาพเมามาย
“แม่” ไลลาเข้าไปประคองแม่ “แม่เป็นอะไร”
“ฮือ ฉันอยากตาย”
ชาวบ้านพากันซุบซิบ บ้างก็เอามือถือมาถ่ายรูป ถ่ายคลิป
“ดารานี่หว่า”
“แม่ดาราเมาแอ๋นอนข้างถนน”
ไลลาหันไปเห็นไทยมุงที่ยังรุมอยู่ก็โมโห ปัดมือถือกระเด็น
“มาดูอะไรกัน ไปมุงแม่พวกแกสิ”
พอชาวบ้านเดินห่างออกไป เธอก็รีบประคองแม่เดินหนี
“แม่เป็นอะไรบอกฉันสิ”
“ฉันโดนมันหลอก”
“ใคร” ไลลาย้อนถาม
“ก็ไอ้ฝรั่งที่ฉันเจอในเฟซไง ที่มันบอกว่าเป็นนักธุรกิจค้าน้ำมันอยู่ที่แอลเอ”
“มันทำอะไรแม่”
“มันขอยืมเงินฉันไปลงทุน บอกว่าอีก 2 วันจะได้เงินคืนหลายพันล้านดอลล์ แล้วอาทิตย์หน้ามันจะมาหาฉันที่เมืองไทย พอฉันโอนไปให้เท่านั้นแหละ มันปิดเฟซหนีเลย ฮือ”
ไลลาตกใจ รีบถามต่อ “แล้วแม่โอนไปให้มันเท่าไหร่”
“ห้า...”
“ห้าหมื่น”
เพ็ญศรีส่ายหัว “ห้าล้าน”
“ห้าล้าน ! แม่เอาเงินที่ไหน”
“ก็ที่แกเคยให้ๆ ฉันมา”
ไลลาทั้งตกใจ ทั้งโมโห “อะไรนะ โธ่ แม่ ทำไมแม่ทำแบบนี้”
“ฉันหมดตัวแล้ว ฮือ ฉันอยากตาย”
สีหน้าของไลลาเครียดจัด
อัปสรสวรรค์นั่งดูรูปเก่าๆ ของพวกเธอในชุดนักศึกษา ขณะที่เสียงของเพ็ญศรีดังก้องอยู่ในหู
“แกว่าไลมันจะรู้สึกยังไงที่มีแม่เป็นโสเภณี”
พลันสีหน้าของเธอก็สลดวูบ จริยาเดินเข้ามา ก่อนจะออกปากชวน
“เราไปดักที่ช่องสตาร์กันเลยมั้ยเจ้ เผื่อจะเจอเจ้ไล ฉันอยากถามเรื่องคลิปไอ้ปราณให้มันรู้เรื่องกันไปเลย คาใจว่ะ”
ซุปตาร์สาวพยักหน้าเห็นด้วย
ไลลากำลังยืนเหม่ออยู่ที่หน้าต่างอยู่ในห้องพักผ่อนที่ตึก STAR ครู่หนึ่งนิรันดร์ก็เดินเข้ามา
“ว่าไงครับ “ว่าที่นักแสดงดาวรุ่งประจำปี” จากละครยอดฮิตที่สร้างชื่อให้ช่องเรา”
อีกฝ่ายหันมาเห็น ก็ยิ้มให้แบบไร้วิญญาณ
“พร้อมจะเริ่มงานเรื่องใหม่รึยัง”
“ได้ค่ะ จะเปิดกล้องเมื่อไหร่คะ”
ถามจบ ก็ถูกนิรันดร์สวมกอดจากด้านหลัง “เรามีกติกากันไม่ใช่เหรอ”
“กติกาอะไรคะ”
“ก็เรื่องที่แล้วก่อนจะเปิดกล้อง คุณกับผมทำอะไรร่วมกันล่ะ”
พอเธอนึกขึ้นได้ ก็ถึงกับหน้าเครียด
“ทำไม พอได้มีข่าวกับไอ้อาทิตย์ ก็คิดจะเขี่ยผมทิ้งเหรอ”
“ฉัน...”
นิรันดร์ยิ้มร้าย พลางกระชากไลลามาอย่างแรง
“ผมสร้างคุณขึ้นมาได้ ก็ทำลายคุณได้”
ไลลาแม้จะหวาดหวั่น แต่ทำใจดีสู้เสือ ด้วยการเข้าไปซบอก
“ใครบอกล่ะคะ ไลกำลังบอกว่า จะรออะไรอยู่ล่ะคะ”
อีกฝ่ายยิ้มพอใจ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่านัตตี้แอบดูทั้งสองคุยกันอยู่ที่หน้าประตู สายตามีแผนชั่ว
ไลลาเดินมาถึงล็อบบี้ของตึก พร้อมๆ กับที่เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นมา เมื่อกดดูก็เห็นเป็นข้อความจาก
นิรันดร์
“ผมจอดรถรอหน้าปากซอยนะ”
เมื่อหันไปมองตรงที่จอดรถหน้าตึก ก็เห็นนิรันดร์ขึ้นรถแล้วขับออกไป เธอถอนใจแล้วเดินตามออกไป คลาดกับอัปสรสวรรค์กับจริยาที่เดินเข้ามาแบบเฉียดฉิว
ทั้งคู่เดินไปที่เค้าน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทุกคนที่อยู่แถวนั้นจ้องมองอย่างตื่นเต้น
“มาหาไลลาค่ะ”
ประชาสัมพันธ์ย้อนถาม ด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี “มีอะไรถึงเค้าหรือคะ”
อัปสรสวรรค์รีบบอก “มีธุระสำคัญจะคุยกับเค้าค่ะ”
“คุณไลลากลับไปแล้ว ฝากโน้ตไว้แล้วกัน”
ทั้งคู่หันมองหน้ากันอย่างเซ็งๆ
“เอาไงดีเจ้”
ทันใดนั้นเสียงนัตตี้ก็ดังขึ้นมา
“ชัวร์ค่ะซ้อ อีไลลามันเพิ่งออกไปเมื่อกี้เอง”
ทั้งคู่หันไปมอง ก่อนจะเห็นนัตตี้เดินคุยมือถือผ่านหน้าไป
“ได้ยินว่าคอนโดแลนด์พาราไดซ์อะไรนี่แหละค่ะ ไปถูกมั้ยคะ ค่ะๆ เจอกันค่ะ”
นัตตี้รีบเดินออกไปโดยไม่เห็นทั้งคู่ อัปสรสวรรค์กับจริยาหันมองหน้ากัน
อัปสรสวรรค์กับจริยาลงจากรถที่หน้าคอนโดหรู
“ลองเข้าไปดูกันก่อน”
ขณะทั้งคู่กำลังจะเดินเข้าไป อัปสรสวรรค์หันมองไปอีกทาง ก็ถึงกับตกใจ
“ไอ้จิ๋ว”
อีกฝ่ายหันไปมองตาม ก่อนจะเห็นนิรันดร์เดินโอบเอวไลลาเข้าไปในคอนโดพอดี
“เจ้ไลกับคุณนิรันดร์”
อัปสรสวรรค์หยุดคิดนิดหนึ่งแล้วเดินตามไป จริยารีบเดินตามไปด้วย จนเห็นทั้งคู่พากันเดินเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง
“กลับกันดีกว่าเจ้ วันนี้คงไม่ได้คุยหรอก”
อัปสรสวรรค์พยักหน้า สีหน้าเคร่งเครียด
นิรันดร์ซุกไซร้ไปทั่วเรือนรางของไลลา อีกฝ่ายทำหน้าเซ็ง เมื่อนึกถึงวันที่เคยจูบกับอาทิตย์ในรถ ก่อนจะหลับตาลงอย่างจำใจ
“ทำไมเจ้ไลต้องทำแบบนี้ด้วย”
จริยาหันมาเอ่ยกับอัปสรสวรรค์ ขณะกำลังเดินมาที่รถด้วยกัน
“ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองนะจิ๋ว เราไม่เป็นเค้าเราไม่รู้หรอก ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน เราอาจจะทำยิ่งกว่าเค้าก็ได้”
ฝ่ายแรกถอนใจ แล้วทั้งคู่ก็หันไป
ขณะเดียวกัน นัตตี้ก็เดินเข้ามายืนรออยู่ที่หน้าคอนโด สักพักรถหรูคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาเทียบ ก่อนที่เมียของนิรันดร์จะเดินลงมาหน้าตาเอาเรื่อง ตามด้วยบอดี้การ์ดอีก 2 คน คนหนึ่งสะพายกล้องถ่ายรูป อีกคนสะพายกล้องวิดีโอ ฝ่ายที่ยืนรอ รีบเข้าไปสวัสดีอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะซ้อ ที่นี่แหละค่ะ ยังไงเดี๋ยวหนูหาร้านกาแฟนั่งรอนะคะ”
อัปสรสวรรค์กับจริยาเห็นดังนั้นก็ตกใจ
“มาทำอะไรกันเนี่ย”
ทั้งคู่มองตาม พลางคิดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่
ขณะนิรันดร์กำลังจะเริ่มกิจกามกับไลลา เสียงเคาะประตูปังๆๆ รัวไม่หยุด
“ใครวะเนี่ย”
บ่นพลางเดินนุ่งผ้าเดินหงุดหงิดไปที่ประตู ก่อนจะแอบดูที่รูตาแมว แต่มองไม่เห็นใคร
“ใครวะ”
ประตูยังเคาะรัว นิรันดร์โมโหมาก รีบกระชากประตูเปิดออก พอเห็นอัปสรสวรรค์ยืนอยู่หน้าประตู
ก็ถึงกับแทบช็อก
“อะไรครับ”
“ไลล่ะคะ”
ไม่รอฟังคำตอบ อัปสรสวรรค์รีบเดินเข้าไปในห้องทันที
ไลลาเห็นอีกฝ่ายเข้ามาในห้องก็ตกใจ
“อีนางฟ้า”
เมียนิรันดร์กับการ์ดเดินเข้ามาถึงหน้าลิฟท์ ขณะกำลังจะก้าวเข้าไป จริยารีบเข้ามาขวางไว้เพื่อถ่วงเวลา
“สวัสดีค่ะ”
เมียนิรันดร์มองอย่างงงๆ
“ใช่ซ้อภรรยาคุณนิรันดร์รึเปล่าคะ”
“ใช่ มีอะไร”
ฝ่ายแรกรีบแนะนำตัว “หนูจิ๋วค่ะ เป็นนักร้องอยู่ค่ายซันมิวสิก ยังไงฝากโปรโมตผลงานด้วยนะคะ”
เมียนิรันดร์ทำหน้าหยิ่งใส่ “ซันมิวสิก นี่หนูไม่รู้เหรอว่าเรามันบริษัทคู่แข่งกัน”
“เหรอคะ ไม่ทราบเลย แต่ไม่เป็นไรค่ะ เผื่ออนาคตหนูอาจจะย้ายค่าย”
เมียนิรันดร์ทำหน้าเซ็ง “เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ ฉันไม่ว่าง”
พลางทำท่าจะเดินเข้าไปในลิฟท์ จริยาพยายามรั้งไว้อีก
“เอ่อ ซ้อคะ ไม่ทราบว่าทางช่องสตาร์...”
การ์ดคนหนึ่งรีบเข้ามากันเจ้านายแล้วยื่นนามบัตรให้ “นี่นามบัตรซ้อครับ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะครับ”
แล้วเมียนิรันดร์กับการ์ดก็เข้าลิฟท์ไป ทิ่งให้จริยายืนอยู่หน้าลิฟท์ สีหน้าเป็นกังวล
ไลลาลุกขึ้นสวมเสื้อคลุม ก่อนจะชี้หน้าต่อว่าอัปสรสวรรค์
“แกมาได้ยังไง แอบตามฉันมาเหรอ”
“อย่าเพิ่งพูดมาก แกรีบออกไปก่อนเถอะ คุณนิรันดร์ เมียคุณกำลังขึ้นมา”
นิรันดร์ตกใจ “หา”
ไลลายืนช็อก
“เอาไงดีคุณ”
ไลลาหันมาชี้หน้าอัปสรสวรรค์อย่างโกรธจัด “อีนางฟ้า แกตามเค้ามาเหรอ”
“ฉันเปล่า...”
ไลลารีบเดินไปเปิดประตู ก่อนจะเห็นเมียนิรันดร์กำลังออกจากลิฟท์มา เธอรีบกลับเข้าไปในห้องแล้วล็อกประตูทันที
“เมียคุณมาแล้ว”
นิรันดร์หน้าซีด
ไลลาจิกตาแค้น “แก อีนางฟ้า”
อัปสรสวรรค์ยังไม่ทันพูดอะไร พลันเสียงเคาะประตูก็ดังรัว ทุกคนหน้าเสีย
นิรันดร์รีบบอก “คุณ 2 คนไปซ่อนในห้องน้ำก่อนดีกว่า”
2 สาวยืนอึ้ง
พอเมียนิรันดร์ผลักประตูเข้ามา ก็เห็นผัวตัวเองที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ยืนอยู่ในห้องคนเดียว
“ไหน อีนั่นมันอยู่ไหน”
“อะไรกันคุณ”
เมียโวยวายเสียงดัง “ก็อีไลลาไง พามันมานอนไม่ใช่เหรอ”
“จะบ้าเหรอคุณ นี่ผมเข้ามาเอาของ”
“ไม่ต้องมาโกหก”
เมียตะคอกใส่ พลางเดินเข้าไปดูตามใต้เตียงตามตู้เสื้อผ้า ขณะที่นิรันดร์เดินไปขวางที่หน้าห้องน้ำ
“ไม่มีหรอกคุณ โอ๊ย”
พอเมียมองไปที่ประตูห้องน้ำ นิรันดร์ก็ถึงกับหน้าเสีย
ไลลายืนหลบอยู่ที่อ่างอาบน้ำ ส่วนอัปสรสวรรค์ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้ากระจก ทั้งสองต่างหน้าเครียด ขณะเมียนิรันดร์กำลังจะบิดประตู ไลลาหลับตาคิดว่าโดนแน่ อัปสรสวรรค์หันไปมองหน้าอีกฝ่ายอย่างครุ่นคิดและตัดสินใจในวินาทีนั้นเอง
“ฉันจะชดใช้ให้แก”
ไลลายืนงง ขณะที่อัปสรสวรรค์รีบเดินไปที่ประตู
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกก่อนที่เมียนิรันดร์จะดึง เพราะอัปสรสวรรค์เป็นคนผลักออกมาเอง
ทั้งนิรันด์ ทั้งเมีย และการ์ด พากันเหวอ
“ว่าไงคะ” ซุปตาร์สาวลอยหน้าลอยตา
“อี...อีนางฟ้า”
“ใช่ มาทำไมกันเหรอคะ”
เมียนิรันดร์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า “แก แกนอนกับผัวฉันเหรอ”
อัปสรสวรรค์ตอบกลับหน้าตาเฉย “ก็คิดเอาเองสิคะ”
แม้กระทั่งไลลาที่แอบอยู่ในห้องน้ำ ก็ตกใจในคำตอบนั้น
เมียนิรันดร์โมโห ฟาดฝ่ามือตบหน้าอัปสรสวรรค์จนล้มคว่ำ
“ฉันจะประจานแก ให้สังคมรู้ว่านางเอกชื่อดังเป็นเมียน้อยเสี่ย”
“อยากทำไรก็เชิญค่ะ”
เมียนิรันดร์มองจิก “สังคมต้องแอนตี้แก อีนังนรก”
“ตามนั้นค่ะ”
พอเมียเดินออกไป นิรันดร์ก็หันขวับมาทางอัปสรสวรรค์
“คุณจะบ้าเหรอ คุณ...”
การ์ดพากันรุมถ่ายรูป นิรันดร์พยายามยกมือปิดหน้าตา แต่อัปสรสวรรค์ยืนนิ่ง
“ไอ้พวกเวร ออกไปเดี๋ยวนี้”
นิรันดร์รีบวิ่งตามเมียออกไป การ์ดวิ่งตาม เหลือเพียงอัปสรสวรรค์ที่ยืนอยู่ที่เดิม
ไลลายังยืนเหวออยู่ในห้องน้ำ ก่อนที่อัปสรสวรรค์จะพูดขึ้นมา
“คนที่พาเมียคุณนิรันดร์มาคือนัตตี้”
ไลลาอึ้ง อัปสรสวรรค์เสียงเครือ
“ไอ้ไล อะไรที่ฉันเคยทำให้แกเจ็บใจ ฉันขอโทษ”
พูดจบก็เดินร้องไห้ออกจากห้องไป ทิ้งให้ไลลายืนงง
หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเห็นภาพอัปสรสวรรค์กับนิรันดร์ในคอนโด พร้อมพาดหัว
“ฉาวช็อกโลก เสี่ยนิรันดร์ควงนางเอกดังวิกคู่แข่งขึ้นคอนโด เมียเตรียมฟ้องหย่าฮุบธุรกิจ”
ราศีเครียดจัด “มันเกิดอะไรขึ้น”
อาทิตย์ อัปสรสวรรค์ ปูเปรี้ยว ต่างนั่งเงียบ เครียด ขณะที่เดือนเด่นร้องไห้ไม่หยุด
“ภาพตัดต่อชัดๆ ยัยฟ้าไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ใช่มั้ยยัยฟ้า”
ซุปตาร์สาวไม่ตอบคำถาม เดินหน้านิ่งออกจากห้องไป อาทิตย์รีบเดินตามมา
“ผมไม่เชื่อหรอกคุณ บอกผมสิครับ มันเกิดอะไรขึ้น”
อัปสรสวรรค์หันกลับมา ทำหน้ารำคาญ “ ฉันขึ้นคอนโดกับคุณนิรันดร์ไง จะถามอะไรอีก”
“มันเป็นไปไม่ได้ ฆ่าผมให้ตายดีกว่าให้เชื่อ บอกความจริงผมมา”
อีกฝ่ายยืนยัน “ก็นี่แหละความจริง”
“งั้นผมจะแก้ข่าวให้”
อัปสรสวรรค์กระชากเสียงใส่ “ไม่ต้อง”
“ผมจะทำ มีอะไรมั้ย”
“ฉันต้องการให้มันเป็นแบบนี้”
อาทิตย์ตกใจ “ เดี๋ยวนี้อาการเป็นหนักถึงขนาดทำลายตัวเองให้เสียชื่อเสียงแล้วหรือครับ”
“ฉันต้องชดใช้”
“ชดใช้อะไร”
อัปสรสวรรค์ไม่ตอบรีบเดินออกไป
ทางด้านไลลาก็นั่งเครียด ด้วยความสงสัยว่าอัปสรสวรรค์มารับผิดแทนทำไม ก่อนที่ชิวาว่าที่กำลังนั่งอ่านข่าวในมือถืออยู่ใกล้ๆ จะพูดโพล่งออกมา
“ทุเรศจริงๆ นะคะ อีนางฟ้าเนี่ย มันเป็นโรคจิต โรคฮิสทีเรีย ไม่ก็ขายตัวแน่นอนเลย จำได้มั้ยคะ มันมีข่าวกับผู้ชายมาตั้งกี่คน ทั้งคุณอาทิตย์ ภีม น้องเป๋า แม้กระทั่งช่างไฟ นี่สงสัยมันนอนกับเค้าหมดทั้งตึกแล้วมั้งคะ ถึงได้ร่อนมาช่องเราแบบนี้ คันจริงๆ นะคะน้องไล ฮิๆ”
พูดพลางหันไปหาแนวร่วม แต่ไลลานั่งหน้านิ่งไม่สนใจ ทำเอาฝ่ายแรกยิ้มเก้อ แต่ไม่วายเม้าท์ต่อ
“พี่ว่าว่ามันต้องหวังนอนกับบอสนิรันดร์แลกกับย้ายมาอยู่ช่องนี้แหงๆ เลยค่ะ ฝันไปเถอะอีเน่า ช่องนี้เค้ารับแต่คนสวยและเก่งจริงๆ โว้ย จริงมั้ยคะน้องไล”
ไลลายังคงนั่งนิ่ง
“สมน้ำหน้ามันจริงๆ ค่ะ ผู้หญิงแบบนี้ มันต้องโดนสังคมกระทืบ ไม่ต้องผุดต้องเกิด อีพวกดาราเมียน้อย ดาราขายตัว กากวงการ”
คราวนี้ไลลาไม่นิ่ง แต่กลับลุกออกไปอย่างหงุดหงิด ชิวาว่ามองตามอย่างงงๆ
ไลลาเดินออกมาที่หน้าห้อง ยืนหน้าเครียดนึกถึงเรื่องที่อัปสรสวรรค์ช่วยเธอ
“มารับผิดแทนฉัน แกต้องการอะไร อีนางฟ้า”
ที่หน้าตึกช่อง THE SUN มีม็อบเมียหลวงมากันอีกแล้ว ต่างตะโกน “นางฟ้าออกไป” และยกป้ายประท้วงแนวเดียวกับที่เคยประท้วงฮันนี่
อัปสรสวรรค์เดินออกมาที่หน้าตึกพอดี
“เฮ้ย อีดาราเมียน้อยออกมาแล้ว”
พวกเมียหลวงรีบวิ่งกรูเข้าไปหา
“ออกจากวงการไป อีดาราเมียน้อย”
ซุปตาร์สาวยืนนิ่ง จำยอมรับคำด่า ก่อนที่อาทิตย์จะเดินตามออกมา
“อะไรกันครับเนี่ย หยุดก่อนครับ”
เมียหลวงคนหนึ่งล้วงไข่เน่าออกมาจากกระเป๋าสะพาย
“เอาไข่เน่าไปกินซะเถอะแก”
อาทิตย์รีบห้าม “อย่านะครับ”
เมียหลวงไม่ฟังเสียง รีบปาไข่เน่าใส่อัปสรสวรรค์ แต่อาทิตย์วิ่งเอาตัวมาบังแทน จนสูทเลอะไปหมด เมียหลวงอีกกลุ่มเดินเข้ามาจะตบตีซุปตาร์สาว แต่อาทิตย์ก็เอาตัวบังไว้อีก เลยโดนทั้งตบ ตี จิกและเปลือกทุเรียนปาใส่จนหน้าผากเลือดซิบ
รปภ. รีบวิ่งเข้ามาห้าม “หยุดครับ เดี๋ยวแจ้งความนะครับ”
กลุ่มเมียหลวงหันมาท้า “แจ้งไปเล้ย ไม่กลัวหรอก ยอมตายเพื่อศักดิ์ศรีเมียหลวง”
อาทิตย์รีบคว้าแขนอัปสรสวรรค์พากลับเข้าไปในตึก
เมียหลวงตะโกนไล่หลัง “อย่าให้เจออีกนะ อีเมียน้อย”
ฮันนี่แอบยืนมองอยู่อีกมุมหนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างสะใจ
“ฉันรอเวลานี้มาชาติกว่าแล้ว”
อาทิตย์พาอัปสรสวรรค์เข้ามาหลบด้านในตึกตรงมุมเงียบๆ ฝ่ายหลังหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจะซับเลือดที่หน้าผากให้ ก่อนจะถูกฝ่ายแรกจับมือไว้
“ไม่เป็นไรคุณ” ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณครับ บอกผมได้มั้ยว่าคุณไปทำอะไรที่คอนโดนั่น”
“ก็อย่างในข่าวนั่นแหละ”
อาทิตย์คว้ามืออีกฝ่ายมากุมไว้ พร้อมกับยืนยันหนักแน่น “ผม..ไม่...เชื่อ คุณจะให้ผมเชื่ออะไร อะไรๆ
ก็มาลงที่คุณไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งข้อหาปล่อยคลิปโจ หมั้นกับผม คบกับภีม มาจนถึงเป็นเมียน้อยนายนิรันดร์ ถ้าผมไม่รู้จักคุณ ผมอาจจะเชื่อตามเค้า แต่นี่มันไม่ใช่”
ซุปตาร์สาวก้มหน้าหลบตา
อีกมุมหนึ่ง ฟรุ้งฟริ้งเดินผ่านมาเห็นขณะอาทิตย์จับมืออัปสรสวรรค์พอดี
“ว้าย อัปสรสวรรค์เอาอีกแล้ว”
ว่าแล้วก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายทันที
อาทิตย์พูดต่อ ด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเห็นใจ
“คุณรู้รึเปล่า ความรู้สึกของผมตอนนี้มีแต่สงสารคุณ จิตใจคุณโดนข่าวสารพัดเล่นงานจนบอบช้ำไปหมดแล้ว ถ้าผมเป็นคุณผมคงทนไม่ได้ คุณทนไปเพื่ออะไร บอกผมซิ”
อัปสรสวรรค์น้ำตาคลอ “ฉันไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่คุณคิดหรอก ออกไปจากชีวิตฉันเถอะ กลับไปสนใจ
คนที่เป็นของคุณจริงๆ อย่างไลลา แล้วรักเค้าให้มากๆ”
“คุณต้องการให้เป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ” อาทิตย์ย้อนถาม “คุณไม่ได้รู้สึกดีกับผมสักนิดเลย ?”
“ใช่ ฉันไม่ได้รักคุณ”
ขาดคำก็เดินหนีออกไป ด้วยสีหน้าเจ็บปวด อาทิตย์มองตามด้วยแววตาเศร้า
ไลลากำลังจะเดินออกจากตึก เมื่อได้ยินเสียงข้อความไลน์ดังเตือน ก็รีบหยิบมือถือขึ้นมากดดู ก่อนจะเห็นภาพอาทิตย์กำลังกุมมืออัปสรสวรรค์ พร้อมข้อความจากฟรุ้งฟริ้ง
“ข่าวสดค่ะเจ้ไลขา อีนางฟ้ากำลังอ้อนคุณอาทิตย์อยู่”
สีหน้าเธอโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที “อีตอแหล ที่แท้ก็เรียกร้องความสนใจ”
ขณะกำลังจะเดินออกจากตึก จริยาก็เข้ามาดึงแขนไว้
“ไอ้จิ๋ว”
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 12 อวสาน (ต่อ)
ไลลาพาจริยามาหลบมุมยืนคุยกันอยู่บนดาดฟ้า
“ทำไมติดต่อไม่ได้เลยคะเจ้” ฝ่ายหลังถามอย่างมีอารมณ์
“ฉันงานเยอะ ไม่ได้สบายเหมือนเมื่อก่อนนี่ แกมีอะไรรึ”
“เจ้รู้รึยังว่าเมฆเสียแล้ว”
ไลลานิ่งไปนิด “รู้”
“เผาไปแล้วด้วย”
ไลลาพยักหน้าส่งๆ “ฉันติดงานที่ต่างจังหวัด ลาไม่ได้ แต่ก็ไหว้พระ ขอให้เมฆไปดีแล้ว”
จริยานิ่งไป ก่อนจะตัดสินใจถาม
“ฉันอยากถามเจ้เรื่องคลิปฉันกับไอ้ปราณ”
ฝ่ายถูกถามถึงกับอึ้ง ก่อนจะย้อนถามอย่างร้อนตัว “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน”
“ตอนพวกฉันไปเอาเรื่องไอ้ปราณ มันบอกว่ามือถือที่มันใช้ถ่ายอยู่กับเจ้”
“หึ แกเชื่อมันเหรอ”
“เจ้ไม่ได้ทำใช่มั้ยคะ” นักร้องสาวถามย้ำ
“แกจะมาหาเรื่องฉันอีกแล้วเหรอ คราวก่อนโดนตบไปยังไม่พอใช่มั้ย”
จริยาเสียงสั่น “จิ๋วไม่มีสิทธิถามเหรอ”
“เป็นไงล่ะ อีนางฟ้าเจ้านายแสนดีของแก มีข่าวกับผู้ชายทั้งตึกไม่พอ ลามมาถึงบอสฉัน”
คราวนี้จริยากลับเป็นฝ่ายโมโหขึ้นมาบ้าง “เจ้ไม่อายบ้างเหรอคะ”
“เรื่องอะไร”
“เจ้พูดมาได้ยังไง เจ้ก็รู้ว่าเจ้ฟ้าไม่ใช่คนที่ขึ้นไปนอนกับคุณนิรันดร์”
ไลลาอึ้งไป “แกรู้ได้ยังไง”
“ก็ฉันไปกะเจ้ฟ้า เจ้ฟ้าบอกให้ฉันช่วยถ่วงเวลาเมียคุณนิรันดร์ไว้ แล้วขึ้นไปบอกเจ้”
ไลลาหน้าเสีย “นี่พวกแกตามฉันไปเหรอ”
“ใช่สิ ก็พวกฉัน...”
จริยายังพูดไม่ทันจบ ก็โดนอีกฝ่ายผลักอย่างแรง
“แล้วไง แกจะแฉฉันเหรอ เอาซี่ ไอ้จิ๋ว ไปป่าวประกาศให้ทั่วเลย ชีวิตฉันมันจะได้พังพินาศสมใจพวกแก
ซะที”
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะเจ้”
ไลลาร้อนตัว “แกเลือกเอา ว่าคราวนี้แกจะช่วยเพื่อนคนไหน และอยากให้ใครตาย”
ทิ้งประโยคคำถามไว้เท่านี้ แล้วก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้จริยายืนเครียดอยู่ที่เดิม
ไลลาเดินออกจากตึกไปด้วยความโมโห นัตตี้แอบมองตามอย่างแค้นใจ ที่ยังทำลายฝ่ายแรกไม่ได้
“ทำไมมันกลายเป็นนางฟ้าไปได้วะ ฉันจะกำจัดแกให้ได้ อีคนตายยาก”
อาทิตย์กับไลลาอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่งแห่งหนึ่ง ฝ่ายแรกดูท่าทางเครียดขรึม
“นัดไลมา มีเรื่องอะไรคะ”
“เรื่องนั้นไงครับ ที่ผมกับคุณยังเคลียร์กันไม่จบ”
ไลลายิ้มเยาะ “นางฟ้าไปกับคนอื่นแล้ว เลยมาหาที่ลงหรือคะ”
“ไม่ใช่นะครับ”
“แล้วมันเป็นไงบ้างคะ”
อาทิตย์ถอนใจ “ก็...แย่ๆ”
“อืม ถึงจะเป็นเพื่อนเก่าไปแล้ว แต่ไลฟังข่าวแล้วก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้ ไม่น่าเลยนะคะ”
“คุณคิดว่าไง”
ไลลาตีหน้าเศร้า “ก็ตกใจค่ะ แต่อะไรมันก็เป็นไปได้ อีกอย่างบอสนิรันดร์ก็ชอบพาดาราไปนอนอยู่แล้ว”
“ผมไม่เคยเห็นฟ้าคุยกับบอสคุณเลย”
อีกฝ่ายสวนกลับทันที “คุณอยู่กับมันตลอดเวลาที่ไหนล่ะคะ วันก่อนมันก็เพิ่งมีข่าวกับภีม เพื่อนคนนี้ฉันรู้นิสัย คบกันมานานค่ะ”
“อืม ช่างเค้าเถอะครับ ซักวันความจริงเป็นยังไงก็เปิดเผยเอง”
“ใช่ค่ะ คุยเรื่องของเราดีกว่า”
อาทิตย์พยักหน้า “ ครับ ผมคิดว่าเรื่องของเรา น่าจะทำอะไรให้ถูกต้อง คุณคิดว่าไงครับ”
“คุณรักฉันแล้วหรือคะ”
ฝ่ายถูกถามอึ้งไปนิดก่อนตัดสินใจพูด “คุณแม่คุณว่างวันไหนบ้างครับ”
“ทำไมหรือคะ”
“ผมจะคุยกับท่านเรื่องหมั้นกับคุณ”
ไลลาได้ฟังก็ถึงกับอึ้ง แต่แล้วก็แอบยิ้มสมใจ
ฟากจริยาก็แอบไปยืนร้องไห้เครียดอยู่คนเดียว ปกรณ์เดินเข้ามาเห็น ก็รีบวิ่งเข้าไปหา
“จิ๋ว เป็นอะไร”
นักร้องสาวหันมา พลางโผเข้ากอดทันที “ ฉันจะทำยังไงดี”
“เรื่องอะไรจิ๋ว”
“เจ้ฟ้ากับเจ้ไล”
ตากล้องหนุ่มรีบถามต่อ “มีอะไร บอกฉันมา ฉันช่วยเอง”
“ฉันบอกไม่ได้”
“จิ๋ว ฉันไม่ได้เป็นคนอื่นนะ ฉันก็คบพวกแกมาพร้อมๆ กัน พวกเราเป็นเพื่อนกัน”
จริยาร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของปกรณ์ด้วยความอัดอั้นใจ
ส่วนอัปสรสวรรค์ก็นั่งครุ่นคิดอยู่บนเตียง กำลังตัดสินใจบางอย่าง ก่อนที่ดามพ์จะเดินเข้ามา
“แม่เป็นไงบ้างลูก”
“เก็บตัวอยู่ในห้องตั้งแต่เช้า ข้าวก็ไม่ทานค่ะ”
ดามพ์ถอนหายใจ “อืม เค้าเป็นแบบนี้แหละ เอาแต่หน้าตาในสังคม ลูกจะเป็นจะตายยังไงช่างมัน .ตกลงข่าวนั่น....”
ซุปตาร์สาวตัดสินใจเล่าความจริง “ฟ้าไม่ได้เป็นเมียน้อยเค้าหรอกค่ะ ฟ้าไม่ได้นอนกับนายนิรันดร์
นั่นด้วย”
ดามพ์ตกใจ “อ้าว ! แล้วทำไม..”
“แต่นี่เป็นเรื่องที่ฟ้าต้องการรับผิดชอบ ที่ทำให้ชีวิตของแม่ลูกคู่หนึ่งต้องพังทลาย”
สีหน้าของอัปสรสวรรค์ครุ่นคิด
จริยานั่งเครียดที่โซฟา ขณะที่ ในทีวีกำลังฉายละครเรื่อง “ปีกนางฟ้า” สมรรีบกดเปลี่ยนช่อง
“หวาย เปลี่ยนช่องเลย เกลียดขี้หน้า”
ภาพในทีวี เปลี่ยนเป็นละครเรื่อง “หงส์เริงไฟ”
“เออ ต้องอันนี้ ไลลามันเล่นละครแซ่บดีนะ”
จริยานั่งนิ่ง พลางคิดถึงคำพูดของปกรณ์ หลังจากที่เธอตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“ฟ้ากับไลต้องมีอะไรคาใจกันซักอย่าง”
“ฉันเลือกไม่ถูกจริงๆ เป๋า”
ตากล้องหนุ่มถอนใจ ก่อนจะวางมือบนตักอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรจิ๋ว เราเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องดีที่สุด เพราะวันข้างหน้าเราจะได้ไม่ต้องเสียใจกับมันอีก”
วันรุ่งขึ้น ขณะจริยากำลังจะเดินเข้าตึก ปกรณ์ก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา
“อะไรวะเป๋า”
“ไปเร็ว ฟ้ากำลังแถลงข่าว”
จริยาตกใจ “เรื่องนายนิรันดร์น่ะเหรอ”
“เรื่องลาออกจากวงการ”
ยิ่งได้ฟังหัวข้อที่จะแถลง ก็ยิ่งตกใจ “หา แล้วคุณอาทิตย์ไม่ห้ามเหรอ”
“มีนัดคุยธุรกิจกับแขกต่างประเทศ นายอาทิตย์ คุณราศี พี่ปูเปรี้ยวออกไปกันหมดเลย”
“งั้นรีบไปเถอะ”
ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปทันที
ที่มุมหนึ่งของล็อบบี้ มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวแบบง่ายๆ ไม่เป็นทางการนัก
อัปสรสวรรค์กำลังแถลงข่าวลาออกจากวงการ ท่ามกลางนักข่าวที่มาทำข่าวกันเพียบ ที่ด้านหลังห้องเห็นเรด้า บ๊วย ยืนดูอยู่อย่างงงๆ
“ละครเรื่องปีกนางฟ้าคงเป็นผลงานชิ้นสุดท้าย ดิฉันขอขอบพระคุณคุณป้าราศีที่ให้โอกาส แฟนๆ ที่ติดตามผลงาน และพี่ๆ สื่อมวลชนที่สนับสนุนมาโดยตลอด และขอโทษในสิ่งที่ทำให้ผิดหวังทุกๆ เรื่อง ดิฉันขอลาออกจากวงการบันเทิงนับแต่วันนี้ค่ะ”
นักข่าวกดชัตเตอร์รัว
“แล้วน้องนางฟ้ามีแผนต่อไปยังไงคะ”
“ก็คงใช้เวลาไปนั่งเงียบๆ แล้วคิดสักพักค่ะ ว่าแท้จริงแล้วฟ้าต้องการอะไร ที่สำคัญก็คือการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ มีความหมายกับคนรุ่นต่อไป”
นักข่าวอีกคนถามต่อ “แล้วตกลงน้องนางฟ้ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับคุณนิรันดร์ครับ”
ซุปตาร์สาวก้มหน้านิ่ง ยังไม่ตอบคำถามนั้น
พอจริยากับปกรณ์วิ่งเข้ามาถึง ฝ่ายแรกก็พยายามแทรกตัวเข้าไปจนถึงเวที
“ เจ้ฟ้า หยุดก่อน”
อัปสรสวรรค์ตกใจ “จิ๋ว อะไร”
จริยาตัดสินใจ หันมาทางนักข่าว “พี่ๆ นักข่าว จิ๋วมีความจริงจะบอกค่ะ”
“จิ๋ว อย่า”
“จิ๋วต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ”
ขณะทั้งคู่กำลังคุยอยู่นั้น ปกรณ์ก็วิ่งเข้ามาหา
“ไม่ต้องพูดแล้วจิ๋ว”
จริยาทำหน้างง พร้อมกับที่ในหมู่นักข่าวก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา
“เมียน้อยตัวจริงออกแล้วเว้ย”
นักข่าวทุกคนพากันหยิบมือถือขึ้นมากด เริ่มไม่มีใครสนใจบนเวที
จริยากับอัปสรสวรรค์มองหน้ากันอย่างงงๆ
ในทีวีกำลังฉายภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโดหรู เห็นภาพไลลาควงนิรันดร์เข้าห้อง พร้อมกับเสียงบรรยายของนักข่าว
“เป็นเรื่องโอละพ่อซะแล้วครับ เมื่อภรรยาคุณนิรันดร์แห่งช่องสตาร์สเตชั่นได้รับหลักฐานเด็ดเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดของคอนโดแลนด์พาราไดซ์ แฉภรรยาน้อยตัวจริงคือไลลา-อุไรวรรณ ส่วนคุณนางฟ้า-อัปสรสวรรค์นั้น เป็นคนที่เข้าไปรับผิดแทนเพื่อน”
นัตตี้ยืนยิ้มสะใจอยู่หน้าทีวี
“ปิดจ๊อบ ลงนรกไปซะ”
“ และขณะนี้ทางภรรยาคุณนิรันดร์กำลังเตรียมจะแถลงข่าว และเข้าไปขอโทษคุณนางฟ้าที่เข้าใจผิดจนเป็นเรื่องบานปลาย”
ทางด้านไลลา ก็ยืนดูข่าวเดียวกัน ด้วยอาการช็อก ก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง
อัปสรสวรรค์ จริยา และปกรณ์ เดินเข้ามาคุยกันด้านหลังฉากแถลงข่าว
“ไอ้ไลแย่แน่ ใครเป็นคนเอามาแฉ” อัปสรสวรรค์อดเป็นห่วงไม่ได้
“ฝีมืออีถั่วเน่านัตตี้แน่”
“แล้วนี่ฟ้าจะเอาไง” ปกรณ์หันมาถาม
“ไม่เอาไง ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะออกจากวงการ”
อีก 2 คนมองหน้ากันอย่างตกใจ
“ทำไมล่ะเจ้ นี่ที่เจ้ทำไปทั้งหมดเพราะจะหาเรื่องออกจากวงการให้ได้รึไง”
“ไม่ใช่ แต่เรื่องที่ฉันทำไว้กับไลมันหนักมาก ฉันชดใช้ให้ไม่หมด”
“เรื่องอะไรคะ” จริยาถามตรงๆ
อีกฝ่ายไม่ตอบ รีบเดินหนีออกไป
ทางด้านอาทิตย์และราศี ก็กำลังจับมืออำลานักธุรกิจชาวจีน ก่อนที่ราศีจะหันมามองลูกชายอย่างภูมิใจ
“โกอินเตอร์ไปถึงเมืองจีนแล้ว ซันมิวสิกของแก”
อาทิตย์ยิ้มเหงาๆ “คิดถึงเมฆขึ้นมาเลยครับ”
ทันใดนั้นปูเปรี้ยวก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“มาดามคะ คุณอาทิตย์คะ ที่ออฟฟิศมีเรื่องใหญ่ค่ะ ใหญ่ที่สุด”
2 แม่ลูกตกใจ
เดือนเด่นทุบประตูห้องอัปสรสวรรค์ โวยวายเหมือนคนบ้า โดยมีดามพ์ยืนห้ามอยู่ใกล้ๆ
“ยัยฟ้า ออกมาเดี๋ยวนี้”
“พอแล้วคุณ”
ครู่หนึ่งอัปสรสวรรค์ก็เปิดประตูห้อง พร้อมกับลากกระเป๋าออกมาด้วย
“แกจะไปไหน”
“ว่าจะไปพักผ่อนซักเดือนนึงค่ะ ก่อนจะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ”
เดือนเด่นเข้าไปจับกระเป๋าเหวี่ยงทิ้ง “แกบ้าไปแล้วใช่มั้ย แกคิดอะไรอยู่”
อัปสรสวรรค์ถอนหายใจ “ฟ้าตัดสินใจแล้วค่ะ”
“แกจะทิ้งชื่อเสียงเงินทองงั้นเหรอ อีโง่ อีบ้า แกจะไปทำอะไร ไปขายตัวเหรอ”
“แม่คะ ทุกวันนี้เราก็มีพอ จนตายก็กินไม่หมด จะเอาอะไรอีกคะ”
เดือนเด่นยิ้มเยาะ “อ๋อ ติสท์มากนักเหรอ ก็เพราะสบายมาตั้งแต่เกิดไง”
“แม่ห่วงฟ้าหรือห่วงตัวเองกันแน่คะ” ฝ่ายลูกสาวย้อนกลับ
“ฉันหมดไปตั้งเท่าไหร่กว่าแกจะได้เป็นแบบนี้ ถ้าแกออกจากวงการ แกไม่ต้องมาคุยกับฉันอีก”
“ตามใจแม่ค่ะ”
อัปสรสวรรค์จะเข้าไปหยิบกระเป๋า เดือนเด่นปราดมาขวางอีก
“ฉันไม่ให้แกไป”
ดามพ์เดินเข้ามาจับเดือนเด่นไว้
“นี่คุณ ให้ลูกได้เลือกเองบ้าง ลูกโตแล้ว”
เดือนเด่นหันไปตะคอกใส่หน้า “แกไม่ต้องมาสอน ไอ้พ่อเฮงซวย”
ดามพ์หันมองหน้าลูกสาว “ไปเถอะลูก พ่อให้คนที่นั่นเตรียมที่นอนไว้ให้แล้ว”
“พ่อคะ ถ้าไม่ลำบากเกินไป กลับมาดูแลแม่บ้างนะคะ”
ดามพ์พยักหน้า ก่อนที่อัปสรสวรรค์จะเดินลากกระเป๋าออกจากบ้านไป ทิ้งให้เดือนเด่นร้องไห้โฮ
อัปสรสวรรค์นั่งอยู่บนรถตู้ที่กำลังแล่นออกไป พลางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นึกถึงเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาอย่างเศร้าใจ
ทางด้านอาทิตย์ก็เดินคอตกกลับไปที่รถ ก่อนจะซุกหน้าลงกับพวงมาลัยด้วยความเสียใจที่มาไม่ทัน
ภาพและข่าวของไลลากับนิรันดร์ ถูกประโคมลงแทบจะทุกสื่อ
ทั้งหนังสือพิมพ์รายวัน หนังสือพิมพ์บันเทิง นิตยสาร เฟซบุ๊ก รวมถึงอินเตอร์เน็ต
หนังสือพิมพ์บันเทิงหน้าหนึ่งพาดหัวข่าว “อวสานไลลา ภาพวงจรปิดแฉหมดเปลือก นิรันดร์ยอมรับ”
ที่เฟซบุ๊กของไลลาเอง ก็มีผู้คนเข้าไปถล่มด่ายับ
ราศีกำลังอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ ปูเปรี้ยวยืนรายงานใกล้ๆ ส่วนอาทิตย์นั่งเครียดอยู่ที่โซฟา
“ไลลาโดนด่าจมธรณีเลยค่ะ เมื่อเช้าได้ข่าวว่าม็อบเมียหลวงก็ไปประท้วงที่ตึกสตาร์สเตชั่น ตอนนี้สื่อทุกอย่างที่เกี่ยวกับไลลายุติหมดแล้วค่ะ ส่วนตัวเธอเองก็หลบนักข่าว ตามตัวกันไม่เจอ”
ราศีถอนหายใจ “มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ก็ไลลาไม่ใช่รึ ที่เคยทำข่าวฮันนี่เป็นเมียน้อยเค้า”
“ค่ะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เวรกรรม”
“คงไม่ใช่เวรกรรมที่ทำไว้กับฮันนี่หรอก แต่เป็นกรรมที่ยัยไลลามันดันดำเนินรอยตามฮันนี่ต่างหาก
แล้วยัยฟ้าล่ะ ตกลงเค้าไปอยู่ไหน”
ปูเปรี้ยวส่ายหน้า “ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ แต่คุณดามพ์บอกว่าเธออยู่ในที่ที่ไว้ใจได้ แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าที่ไหน”
อาทิตย์นั่งฟัง หน้าเครียด
ไลลาสวมแว่นดำเดินเหมือนไร้วิญญาณออกมาหน้าตึก STAR STATION กำลังจะกลับบ้าน เมื่อเห็นรถคันหนึ่งกำลังแล่นผ่านหน้าไป เธอก็เหลือบมองเข้าไปในรถคันนั้น ก่อนจะเห็นนัตตี้เป็นคนขับ มีชิวาว่านั่งข้างๆ กำลังคุยและหัวเราะกันสนุกสนาน
รถแล่นผ่านไป พร้อมกับสีหน้าของไลลาที่แค้นใจ
ไลลาใส่แว่นดำหลบมุมมานั่งดื่มอยู่ที่บาร์ พลันก็มีสายเรียกเข้าจากจริยา
“ยังมีหน้าโทร มาอีกเหรออีเลว”
จริยาที่อยู่ทางปลายสายทำหน้างง “อะไรคะเจ้ ฉันโทร มาเพราะเป็นห่วงนะ”
“แผนของพวกแกมันเลวยิ่งกว่าสัตว์”
“เดี๋ยวก่อนเจ้ ฟังฉันนะ”
ไลลาด่าลั่น “แกเอาเรื่องฉันไปบอกนักข่าวใช่มั้ยอีจิ๋ว อีชั่ว”
คนในผับต่างก็หันมามอง
“แกกับอีนางฟ้าสร้างเรื่องมาทำลายฉัน ตามเมียไอ้นิรันดร์มาเล่นงานฉัน แล้วทำเป็นมาช่วย สร้างข่าวเป็นคนดี อีคู่โสโครก”
ด่าจบก็รีบกดวางสายแล้วดื่มต่ออย่างแค้นเคือง
สักพักก็ได้ยินเสียงข่าวในทีวีที่ติดที่ผนัง
“พบศพนายปราณ อดีตนักแต่งเพลงชื่อดัง ในบ้านพักต่างจังหวัดครับ”
ไลลาสะดุดหู รีบเงยหน้ามองในทีวีทันที
“พบศพนายปราณ อดีตนักแต่งเพลงชื่อดังที่หลบหนีหลายคดี ผูกคอตายอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่ง ใกล้ศพพบเอกสารผลการตรวจเลือด พบว่านายปราณขณะนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีระยะสุดท้าย ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจเกิดจากความเครียด”
สิ้นเสียงของผู้ประกาศข่าว ไลลาก็หน้าซีด มือไม้อ่อน จนแก้วร่วงจากมือตกพื้นแตก ตัวสั่นงันงก ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะรีบวิ่งออกจากร้านไปทันที
ไลลาเดินออกจากห้องตรวจพร้อมใบตรวจ หน้าและปากเธอขาวซีด มือสั่น ไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะพยุงกายเดิน
เรด้าที่นั่งรอหมออยู่ หันไปเห็น ก็สะดุ้งตกใจ รีบเข้าไปมองใกล้ๆ
“น้องไล โอย คิดถึงมากๆ เลย ไปหาอะไรกินกันมั้ย”
ไลลาหันไปมองอย่างเซ็งๆ เพราะไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากคุยกับใคร พลางพยายามจะเดินหนี แต่อีกฝ่ายก็เดินตาม
“น้องไล เป็นอะไรรึเปล่า กลับไปทำงานที่เดอะซันมั้ย เดี๋ยวพี่ขอป๋าช้างให้เอง”
เรด้าวิ่งเข้าไปจับแขน แต่กลับถูกไลลาผลักจนล้มแล้ววิ่งหนีไป
“โธ่ อีไลลา ทำเป็นไม่รู้จักกัน อีดาวตกดิน จมไม่ลง แกมันหมดวาสนาแล้วโว้ย ถุย”
ไลลาวิ่งหนีเรด้าออกมา ก็มายืนร้องไห้อยู่ที่มุมถนนอย่างโดดเดี่ยว
ปกรณ์กำลังเตรียมกล้องไปถ่ายงาน ครู่หนึ่งป๋าช้างก็เดินเข้ามา
“เฮ้อ เสียดายไลลานะ คนขยันดีมีฝีมือแต่ดำเนินผิดทาง พังเพราะตัวเองแท้ๆ แล้วนี่จะไปเก็บภาพข้างล่างล่ะสิ”
ตากล้องหนุ่มพยักหน้าเนือยๆ “อ๋อ ครับ มีแถลงข่าวเรื่องอะไรก็ไม่รู้ครับ”
ป๋าช้างแปลกใจ “นี่พูดจริงพูดเล่น”
“พูดจริงสิครับ”
ป๋าช้างส่ายหน้า “โห ควายเรียกพี่จริงๆ”
“อะไรนะครับ”
ป๋าช้างเดินเข้าไปสอน “จำไว้นะ บางทีบางสิ่งกว่าเราจะรู้ค่าของมันก็สายเกินไป รู้สึกดีๆ กับใครก็บอกเขาซะ เพราะความรักน่ะ เป็นสิ่งที่สวยงามเกินกว่าจะเก็บไว้ดูคนเดียว”
พูดจบก็เดินผ่านไปเฉยๆ ทิ้งให้ปกรณ์นั่งงง
“อะไรของลุง”
ทางด้านในสตูดิโอ ก็มีการแสดงของจริยา ที่ใส่รองเท้าสีชมพูของเมฆ ท่ามกลางนักข่าวและแฟนคลับเข้ามาดูมากมาย
หลังร้องเพลงเสร็จ จริยากับอาทิตย์ก็มานั่งแถลงข่าวที่โต๊ะ ปกรณ์สะพายกล้องเดินเข้ามามองอย่างงงๆก่อนจะหันไปถามนักข่าวข้างๆ
“นี่แถลงข่าวอะไรหรือครับ”
“เอ๊า ทำงานอยู่นี่ไม่ใช่เหรอ ก็เรื่องที่เค้าจะไปเป็นนักร้องที่จีนไง”
“จีน ? จีนอะไรครับ”
“ประเทศจีนไง โอ๊ย”
ตากล้องหนุ่มหน้าเหวอไปทันที
ทางด้านที่โต๊ะแถลงข่าว อาทิตย์กำลังแถลงรายละเอียดอยู่
“หลังจากการพูดคุยกับตัวแทนจากเกรทไชน่าเรคคอร์ด ตกลงจะให้จิ๋วเซ็นสัญญาออกอัลบั้มเป็นภาษาจีนทั้งหมด 3 อัลบั้มในนามของ jewel และจะมีการทัวร์คอนเสิร์ต รวมทั้งงานบันเทิงต่างๆ ตลอด 2 ปีที่เซ็นสัญญาครับ พี่ๆ นักข่าวมีอะไรถามจิ๋วมั้ยครับ”
นักข่าวคนหนึ่งรรีบยกมือถาม
“แล้วน้องจิ๋วจะต้องไปอยู่ที่นั่นเลยรึเปล่าคะ”
จริยายิ้มรับ ก่อนตอบ “อ๋อ ก่อนอื่นจิ๋วคงต้องไปเรียนภาษาที่นั่นค่ะ แล้วก็ใช้เวลาศึกษาวัฒนธรรม คงเริ่มเดินทางประมาณอีก 2 เดือนข้างหน้านี้”
ปกรณ์ได้ฟังก็ถึงกับหน้าซีด คำพูดของป๋าช้างยังดังก้องอยู่ในหู
“รู้สึกดีๆ กับใครก็บอกเขาซะ เพราะความรักน่ะเป็นสิ่งที่สวยงามเกินกว่าจะเก็บไว้ดูคนเดียว”
นักข่าวอีกคนยกมือถามต่อ “แล้วผลงานในเมืองไทยล่ะคะ ยังมีอยู่หรือเปล่า”
“ก็คงจะมีซิงเกิ้ลใหม่ออกมาค่ะ เห็นว่าจะบันทึกเสียงกันที่นั่นเลย”
จริยาตอบเสร็จ ก็มีอีกคนยกมือขึ้น อาทิตย์หันไปมอง เห็นมือคนยื่นอยู่ในฝูงนักข่าว โดยไม่เห็นว่าเป็นใคร
“เชิญครับ”
ปกรณ์เดินก้าวออกมาช้าๆ จริยาหันไปมอง แล้วก็ตกใจ
“แล้วค่ายเพลงที่นั่น เค้ารับช่างภาพด้วยมั้ยครับ”
นักข่าวฮือฮา ส่วนนักร้องสาวทำหน้าเหวอ
อาทิตย์ยิ้ม “คุณเป๋าสนใจหรือครับ”
จริยารีบบอก “คงไม่ได้หรอกค่ะ ที่นั่นเค้าคงไม่ใช้กล้องฟิล์มกันแล้ว”
ตากล้องหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนบอกความจริง
“ถึงผมจะเคยชอบถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม แต่ผมก็รู้ว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว คนเราต้องเลือกอยู่กับปัจจุบัน แล้วตอนนี้ผมก็ชักจะหลงรักกล้องดิจิตอลขึ้นมาซะแล้ว”
นักร้องสาวหน้าระเรื่อ ประหนึ่งเหมือนอีกฝ่ายกำลังบอกรัก
“จิ๋ว ทำไมแกจะไปไม่บอกฉันเลย”
“ฉัน...”
อาทิตย์ถามแทรกขึ้นมาทันที “ตกลงคุณเป๋าสนใจจะไปกับจิ๋วด้วยเหรอครับ”
“ผมอยู่ไม่ได้หรอกครับ”
ทุกคนในงานนิ่งฟัง
“ถ้าหัวใจผมไปอยู่นั่น ผมก็ต้องไปด้วยครับ”
นักข่าวเฮลั่น อาทิตย์หันไปมองจริยา เห็นหน้าของเธอแดงซ่าน ก่อนจะรีบวิ่งลงไปหน้าเวที ปกรณ์รีบวิ่งออกมาจากกลุ่มนักข่าว
ทั้งสองโผเข้ากอดกันตรงกลางห้อง ทุกคนปรบมือดีใจ
อาทิตย์ดูเหงาๆ แต่ก็ยังปรบมือยิ้มดีใจกับทั้งคู่
ปกรณ์กับจริยาสบตา แล้วยิ้มให้กัน
อาทิตย์กำลังเซิร์ซหาที่อยู่ของอัปสรสวรรค์จาก Google ก่อนที่ปูเปรี้ยวจะเดินแบกลังใส่จดหมาย ช่อดอกไม้ และตุ๊กตาเข้ามา
“แฟนๆ เข้ามาฝากของให้กำลังใจน้องนางฟ้าไม่ขาดเลยค่ะ แค่จดหมายก็เป็นพันฉบับแล้ว ยังไม่รวมโพสต์ให้กำลังใจในเฟซอีก เดี๋ยวรวบรวมให้คุณพ่อเธอแล้วกันนะคะ”
อาทิตย์พยักหน้าอย่างเครียดๆ พลันสายเรียกเข้าจากจริยาก็ดังขึ้นมาพอดี
“ว่าไงจิ๋ว รู้ที่อยู่แล้วเหรอ ที่ไหนจิ๋ว”
เขารีบหยิบกระดาษมาจด ปูเปรี้ยวเหล่มองยิ้มๆ
ณ โรงละครเล็กๆ ในต่างจังหวัด ทีป้ายโฆษณาละครเวทีเรื่อง “โฉมงามกับปีศาจโรงละคร” โดยคุณครูนางฟ้าและนักเรียนการแสดงรุ่นที่ 1
ด้านในโรงละคร มีคนดูและบรรดาผู้ปกครองของเด็กๆ มานั่งดูจนเต็ม
อาทิตย์ จริยา และปกรณ์นั่งรอชมละครรวมอยู่ในกลุ่มคนดู
“เจ้ไลก็หายไปอีกแล้วค่ะคุณอาทิตย์ จิ๋วกับเป๋าไปที่บ้านตั้งหลายรอบก็อยู่แต่น้าเพ็ญ มือถือก็ปิดเครื่อง ไม่รู้เป็นไงบ้าง”
จริยาหันมาบอก อาทิตย์พยักหน้าเครียดๆ
“ผมก็ติดต่อไลไม่ได้”
จังหวะนั้น ไฟในโนโรงละครก็เฟดลง พร้อมกับเสียงดนตรีกระหึ่มขึ้น
ม่านบนเวทีค่อยๆ เปิดออก เด็กๆ ออกมาเต้นรำในเพลงสนุกสนาน ตามด้วยอัปสรสวรรค์ที่ออกมาเต้นรำร่วมกับเด็กๆ ผู้คนปรบมือดังลั่น
ทั้ง 3 คน ยิ้ม ปรบมือดีใจที่ได้เห็นซุปตาร์สาวอีกครั้ง
บนเวที อัปสรสวรรค์เต้นรำกับเด็กๆ สักพักก็มีชายในชุดคลุมสีดำสวมหน้ากากปีศาจเดินออกมา เด็กๆพากันตกใจกลัวมายืนด้านหลัง อัปสรสวรรค์กับปีศาจจ้องหน้ากันสักพัก แล้วปีศาจก็วิ่งหนีเข้าหลังฉากไป
การแสดงดำเนินไป จนจบ เข้าสู่ช่วงฟินาเล่
เด็กๆ จับมือกันเดินออกมาโค้ง ผู้ชมปรบมือดังลั่น ปีศาจโรงละครเดินออกมา ถอดหน้ากากออก แล้วโค้งให้ผู้ชม ตามด้วยอัปสรสวรรค์ ที่เดินออกมาโค้ง ผู้ชมปรบมือกันเกรียว
ขณะที่ซุปตาร์สาวเงยหน้าขึ้นมา สายตาก็เหลือบเห็นไลลาในชุดเดรสสีดำ ยืนมองอยู่ ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
อัปสรสวรรค์มองอย่างอึ้งๆ แล้วจึงเดินถอยหลังไป
นักแสดงทุกคนจับมือกันโค้ง ท่ามกลางเสียงปรบมือจากคนดู จากนั้นผู้ชมก็กรูกันออกไปมอบดอกไม้ให้กับคนที่ตนรู้จัก
ซุปตาร์สาวก้มตัวมารับดอกไม้จากบรรดาผู้ปกครองของเด็กๆ ที่บางคนถึงกับร้องไห้ ด้วยความปลาบปลื้ม
“ครูนางฟ้าเก่งจริงๆ ค่ะ สอนลูกฉันให้เล่นละครได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ”
“น้องมีความสามารถในตัวอยู่แล้วค่ะ”
ทันใดนั้น “เจ้ฟ้า”
อัปสรสวรรค์ได้ยินเสียง ก็รีบหันไปมอง เห็นจริยา อาทิตย์ และปกรณ์ยืนยิ้มอยู่
อาทิตย์เดินเข้าไปยื่นช่อดอกไม้ให้ “มอบให้คุณครูนางฟ้าครับ”
ซุปตาร์สาวอึ้งจนพูดไม่ออก
หลังละครเลิก อาทิตย์กับปกรณ์นั่งรออยู่หน้าโรงละคร ก่อนที่จริยาจะเดินเข้ามาหา
“เจ้ฟ้าบอกว่าอย่าเพิ่งกลับนะคะ เปลี่ยนชุดเสร็จจะออกมาหา”
ทั้งคู่พยักหน้ายิ้มๆ
เหล่านักแสดงกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องแต่งตัว อัปสรสวรรค์ในชุดนักแสดงกำลังถอดต่างหูออก ขณะมองไปในกระจก ก็เห็นผู้หญิงรูปร่างคล้ายไลลาในชุดคลุมดำสวมหน้ากาก ชุดเดียวกับปีศาจที่ใช้แสดงบนเวทีเมื่อครู่ ยืนมองเธออยู่ที่หน้าประตู ครั้นเธอหันไปมอง ร่างนั้นก็หายไปแล้ว
ซุปตาร์สาวตัดสินใจเดินตามออกไปทันที
ทางด้านนักแสดงชายที่สวมบทบาทปีศาจเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดลำลอง พอมองไปที่ราวแขวนเสื้ออันว่างเปล่า ก็ถึงกับสะดุ้ง
“เฮ้ย ชุดผมหายไปไหนล่ะ”
นักแสดงคนอื่นถามกลับ “ก็แกเอาไว้ไหนล่ะ”
“ก็เมื่อกี้แขวนไว้ตรงนี้”
อัปสรสวรรค์เดินออกมาที่ทางเดินมืดๆ ข้างโรงละคร พอเหลือบเห็นสาวในชุดปีศาจเดินแว่บเข้าไปอีกห้องหนึ่ง ก็รีบเดินตามไป
ซุปตาร์สาวเดินตามเข้ามาในห้องเก็บอุปกรณ์และฉาก แต่กลับไม่เห็นมีใครอยู่
“ไล แกรึเปล่า”
ถามพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นสาวในชุดปีศาจยืนมองเธออยู่ตรงที่พักบันไดชั้น 2 แล้วหันเดินขึ้นไป
อัปสรสวรรค์รีบเดินตามไปทันที จนถึงชั้นบนสุด ซึ่งเป็นทางเดินเล็กๆ สำหรับติดตั้งไฟ ซึ่งสูงจากพื้นมาก แต่กระนั้นก็ยังไม่เห็นไลลา
“ไล แกอยู่ไหน แกเป็นยังไงบ้าง”
ขณะที่เธอกวาดตามองไปรอบๆ โดยไม่คาดคิด ไลลาในชุดคลุมปีศาจก็โผล่พรวดมาจากด้านหลัง แล้วบีบคอทันที
“ไล”
ไลลาบีบคออัปสรสวรรค์แล้วผลักไปจนถึงจุดกึ่งกลางของทางเดิน ก่อนจะผลักอีกฝ่ายจนล้มลง จากนั้นก็ถอดหน้ากากปีศาจโยนลงไปข้างล่าง แล้วมองหน้าอย่างอาฆาต
“อีนางฟ้า เพราะแกคนเดียว ชีวิตฉันถึงเป็นแบบนี้”
“ฉันขอโทษนะไล ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ไลลาตาวาวด้วยแรงแค้น “แกเอาไปทุกอย่าง ทั้งโอกาส ความฝัน ความรัก สุดท้ายก็เอาชีวิตฉัน”
อัปสรสวรรค์พยายามอ้อนวอน “ฉันหยุดทุกอย่างแล้ว แกให้อภัยฉันเถอะ”
“อภัย ไม่มีความหมายสำหรับคนที่ไม่เหลือใคร และใกล้ตาย”
“คนที่รักแกยังมีอีกมากนะ อย่างน้อยก็มีพวกเรา ฉัน ไอ้จิ๋ว ไอ้เป๋า”
ไลลายิ้มหยัน “พวกเพื่อนเฮงซวย”
“แล้วก็คุณอาทิตย์”
“คุณอาทิตย์เค้าไม่ได้รักฉัน”
“รู้ได้ยังไง” อัปสรสวรรค์ย้อนถาม “ก็แกบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าแกกับเค้า...”
“เค้านอนกับฉัน ทั้งที่ไม่มีสติ”
ซุปตาร์สาวชะงัก ตกใจ “แกพูดอะไร”
“แกมันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉัน อีนางฟ้า”
พูดพลางขยับจะเดินเข้าไปหา อีกฝ่ายถอยหลังกรูด บังเอิญรองเท้าเกิดสะดุดพื้น จึงเซล้มออกไปนอกทางเดิน ขณะกำลังจะตกลงไปด้านล่าง ก็เอื้อมมือไปจับราวเหล็กไว้ทัน
ทางด้านจริยาก็เดินย้อนกลับเข้ามาในโรงละคร พอเห็นหน้ากากปีศาจตกอยู่ ก็ก้มลงเก็บแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองข้างบน ก่อนจะเห็นไลลากับอัปสรสวรรค์อยู่บนทางเดินสูง
“เจ้ฟ้า เจ้ไล”
จากนั้นก็มองหาทางขึ้นแล้ววิ่งไปทางนั้นทันที
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 12 อวสาน (ต่อ)
อัปสรสวรรค์ยึดราวเหล็กไว้แน่น ไลลายิ้มเยาะ
“ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ฉันจะให้แกตกลงไปเอง”
พูดพลางล้วงกระเป๋า หยิบถุงผ้าสีดำออกมา ก่อนจะล้วงไปในถุง แล้วหยิบแมงมุมตัวเป้งออกมา
อัปสรสวรรค์เห็นแมงมุมก็แทบช็อก
“หมดบุญของแกแล้วอีนางฟ้า ปีกหักไปนรกซะ”
ไลลายื่นแมงมุมไปวางบนแขนอีกฝ่าย ที่หลับตา กลัวจนตัวสั่น หายใจแรง เหมือนจะเป็นลม
จริยาวิ่งตามขึ้นมาเห็นก็ตกใจ “เจ้ไล หยุดเถอะค่ะ”
ไลลาหันไปมอง “มาก็ดี อีเพื่อนเลว ดูให้เต็มตา ว่าฉันไม่ได้เป็นคนฆ่ามัน มันตกลงไปเอง”
พูดพลางเหลือบไปมองอัปสรสวรรค์
ซุปตาร์สาวพยายามตั้งสติ หายใจเข้าเต็มปอด จนในที่สุดก็สะบัดแมงมุมที่แขนออกไปแล้วฮึดสุดแรงดึงตัวเองขึ้นมายืนบนทางเดินได้อีกครั้ง
ไลลาตกใจจะเข้าไปผลักซ้ำ แต่กลับถูกตบหน้าจนเซไป ก่อนจะหันไปหยิบท่อนเหล็กจะฟาด แต่อัปสรสวรรค์หลบทัน
จริยาร้องไห้โฮ “เจ้ไลพอแล้วค่ะ”
ไลลาไม่ฟังเสียง ยังพยายามไล่ฟาดอัปสรสวรรค์ไม่หยุด จนถึงจังหวะหนึ่งที่อีกฝ่ายพลิกตัวหลบ เธอจึงเสียหลักพุ่งออกไปนอกราว
อัปสรสวรรค์กับจริยาตกใจ ตาค้าง
ร่างไลลาหลุดออกไปนอกราว ห้อยต่องแต่ง กำลังจะร่วงลงไปข้างล่าง
อัปสรสวรรค์จับมือของไลลาแน่น
“จับไว้นะไล อย่าปล่อยนะ”
ไลลามองหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาชิงชัง “ปล่อยฉันอีนางฟ้า ไม่ต้องมาช่วย ไม่ต้องมาตอแหลทำดีกับฉันอีก”
“ไม่ แกจะตายไม่ได้ ฉันไม่ยอมให้แกตาย”
อัปสรสวรรค์พยายามดึงไลลาขึ้นมาสุดแรง จริยารีบวิ่งเข้าไปช่วยอย่างทุลักทุเล
“เจ้ไล ไม่ต้องกลัวนะ”
ไลลามองอย่างอึ้งๆ “พวกแก”
อัปสรสวรรค์น้ำตาซึม “แกจะเกลียดฉันก็เกลียดไป แต่แกต้องไม่ตาย”
ในที่สุดทั้งคู่ก็ช่วยกันดึงตัวไลลาขึ้นมาจนได้
ไลลาขึ้นมาได้ก็ผลักอัปสรสวรรค์ล้มลงไป
“พวกแกช่วยฉันทำไม”
“ก็แก เป็นเพื่อนฉัน”
คำตอบนั้นทำเอาไลลานิ่งอึ้ง ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าคุกเข่าลง แล้วร้องไห้ จริยากับอัปสรสวรรค์เข้าไปนั่งข้างๆ ต่างคนต่างร้องไห้
“ไอ้ไล ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแย่งโอกาสแก ตอนนั้นชีวิตฉันมันเลือกเองไม่ได้ ฉันไม่เคยอยากได้ไอ้ทุนการศึกษานั่น ฉันไม่เคยอยากได้ชื่อเสียงตำแหน่งบ้าๆ นั่น ฉันไม่เคยอยากได้อะไรที่แกอยากได้ ถ้าตอนนี้ฉันทำอะไรเพื่อเป็นการชดใช้ให้แกได้ แม้แต่ชีวิต ฉันก็จะให้”
จริยาพูดต่อ “เจ้ไล ฉันไม่ได้เป็นคนแฉเรื่องเจ้นะ คนที่พาเมียคุณนิรันดร์ไปที่โรงแรมคือนัตตี้ ไม่ใช่พวกเรา เจ้เชื่อฉันเถอะ”
ไลลาหยุดร้องไห้ แล้วกลั้นใจลุกขึ้น หันหลังจะเดินออกไป อัปสรสวรรค์รีบบอก
“กลับไปด้วยกันนะไอ้ไล”
“ฉันกลับไม่ไหว ฉันมาไกลเกินไปแล้ว”
“ไม่มีอะไรสายไปหรอกค่ะเจ้”
ซุปตาร์สาวเสียงสั่น “พวกเรารับปาก พวกเราจะช่วยแกทุกอย่าง แกเดือดร้อนเรื่องอะไร ต้องการอะไรบอกฉันสิ”
ไลลาหันไปมองหน้าทั้งคู่
“พวกแกยังอยากจะช่วยฉันอยู่มั้ย ถ้าฉันจะบอกว่า ฉันเป็นคนปล่อยคลิปโจเป็นเกย์ กับคลิปไอ้ปราณ”
สิ้นคำสารภาพ ทั้งอัปสรสวรรค์กับจริยา ก็ถึงกับอึ้งไป
“ฉันเกลียดพวกแก ฉันอยากทำลายพวกแก”
จริยาน้ำตาพราก “ทำไม”
“ปล่อยฉันไปได้รึยัง ฉันอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในที่ที่มีความสุข โดยไม่ต้องเจอพวกแกอีก แค่นี้ที่ฉันขอ”
อัปสรสวรรค์กับจริยาพูดไม่ออกได้แต่ร้องไห้ พอไลลาหันกลับจะเดินไป อาทิตย์กับปกรณ์วิ่งตามขึ้นมาถึงพอดี
“เกิดอะไรขึ้น” ตากล้องหนุ่มถามขึ้นมาทันที
อาทิตย์เหลือบไปเห็น “ไลลา”
ไลลาชะงักเท้า ก่อนจะฉุกคิดอะไรได้ จึงหันไปหาอัปสรสวรรค์
“นางฟ้า เรื่องคุณอาทิตย์ ฉันอยากบอกให้แกรู้ เค้าไม่ได้รักฉัน และคงไม่มีวันรักได้ ที่เค้ายอมนอนกับฉันคืนนั้น เพราะฉันมอมยาเค้าเอง”
อาทิตย์ยืนอึ้ง อัปสรสวรรค์ตกตะลึง
“ฉันบอกแกได้แค่นี้ นอกจากนั้นแกจะคิดอะไร ก็แล้วแต่แก จิ๋ว นางฟ้า เป๋า ฉันลาก่อน เพื่อน”
พูดจบ ไลลาก็หันหลังแล้วรีบวิ่งออกไปในความมืด
อาทิตย์รีบเข้าไปดูอัปสรสวรรค์ พร้อมกับที่ปกรณ์เข้าไปดูจริยา
“คุณ ไปดูไลเถอะค่ะ”
อาทิตย์พยักหน้าแล้วรีบวิ่งออกไป คนอื่นๆ ลุกตาม
อาทิตย์วิ่งตามมาจนถึงถนนใหญ่
“ไลลา”
ไลลาหันมามองอีกฝ่ายอย่างอาลัยรัก
“ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ลาก่อนค่ะ”
“แล้วคุณจะไปไหน”
เสียงปกรณ์ตะโกนขึ้นมา “ ไล เดี๋ยวก่อน”
อาทิตย์หันไปมองพวกเพื่อนๆ ที่วิ่งตามมา พอหันกลับไปอีกที ไลลาก็ขึ้นรถแท็กซี่ออกไปแล้ว
ทุกคนวิ่งตาม แต่ก็ไม่ทัน ได้แต่ยืนมองตามรถไปจนลับสายตา
ปกรณ์พยายามพูดปลอบทุกคน “ปล่อยให้ไลอยู่คนเดียวสักพักเถอะ บางทีการอยู่ห่างกันอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเพื่อนดีขึ้นก็ได้ อย่างน้อยเราก็คิดถึงกัน”
ไลลานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวที่โขดหินริมทะเล ท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์กำลังจะตก
อัปสรสวรรค์กำลังสอนการแสดงให้กับเด็กเล็กๆ 6 คนอยู่ริมทะเล ทั้งหมดนั่งหันหน้าเข้าหากัน
“เอาล่ะค่ะ ต่อไปนี้จะเป็นกิจกรรมกระจกเงา โอเค คนที่ได้หมายเลข 1 เป็นคนนำนะคะ หมายเลข 2 ทำตาม ได้คู่กันครบแล้วนะคะ”
“ยังครับ”
ซุปตาร์สาวหันไปมองตามเสียง ก็เห็นอาทิตย์ยืนยิ้มอยู่
เด็กๆ กำลังจับคู่นั่งหันหน้าเข้าหากัน เล่นกิจกรรมกระจกเงากันอยู่ อัปสรสวรรค์กับอาทิตย์นั่งมองหน้ากัน ฝ่ายแรกยกมือซ้ายขึ้นมาวาดเป็นวงกลม ฝ่ายหลังทำตาม แล้วคุยกันไปด้วย
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่นี่”
“ต้องถามจิ๋วกับเป๋าครับ ว่าอ้อนพ่อคุณยังไงถึงได้ยอมบอก”
อัปสรสวรรค์ยกมือขวาขึ้นมาวาดเป็นวงกลม อาทิตย์ทำตาม
“แล้วคุณจะเอาอะไร”
“ผมมาตามคุณกลับ”
ฝ่ายแรกส่ายหน้า ฝ่ายหลังส่ายตาม “ฉันไม่กลับ อยู่ที่นี่มีความสุขมาก”
“ไหนคุณเคยบอกผมไงครับว่าการแสดงเป็นสิ่งที่คุณรัก”
อัปสรสวรรค์พยักหน้าช้าๆ “ฉันก็ยังรักการแสดง”
“รัก? แต่คุณก็ทิ้งทุกคน แล้วแฟนคลับคุณล่ะ”
“ป่านนี้เค้าคงไปชอบคนอื่นแล้วค่ะ ดาราก็เยอะแยะ”
อาทิตย์ถอนหายใจ “พูดง่ายนะครับ หักอกคนเป็นแสนๆ ที่รักคุณ รอผลงานของคุณ คุณหักอกเด็ก คนนั้นที่เราหลงไปเจอที่ต่างจังหวัด คุณหักอกเด็กนักเรียนที่มาขอคุณถ่ายรูปตอนกำลังท้อ คุณหักอกวัยรุ่นอีกกี่คนที่มองคุณเป็นไอดอล โดยการบอกให้ไปชอบคนอื่นแทน เพราะฉันติสท์ ฉันจะออกจากวงการซะงั้น”
อัปสรสวรรค์ผุดลุกขึ้นยืน ด้วยความโมโห อาทิตย์ลุกตาม
“ฝึกไปก่อนนะคะ เดี๋ยวครูกลับมา”
จากนั้นก็เดินแยกห่างออกไป อีกฝายรีบเดินตาม
“อย่ามาว่าฉันติสท์นะคุณ ฉันเกลียดที่สุดเลย
“งั้นคุณก็บอกผมมาว่าทำไมถึงไม่กลับไป ทำไมถึงทิ้งสิ่งที่คุณรัก”
“ฉันไม่ได้ทิ้ง ฉันกำลังต่อยอดสิ่งที่ฉันรักอยู่”
อาทิตย์ขมวดคิ้วอย่างงงๆ
“ก็นี่ไง เป็นครูสอนการแสดงเด็กๆ ได้เอาความสามารถที่มีมาถ่ายทอด เป็นการต่อยอดและช่วยสร้างความฝันให้คนอื่นต่อ”
อาทิตย์คิดนิดหนึ่งก่อนคว้าแขนอีกฝ่ายไว้
“แล้วคุณอยากให้เป็นประโยชน์กับคนอีกเป็นล้านๆ มั้ยครับ”
อัปสรสวรรค์มองหน้าอย่างแปลกใจ
ส่วนจริยากับปกรณ์ก็กำลังขี่จักรยานด้วยกันอยู่ที่สวนสาธารณะ เมื่อพักเหนื่อย ก็มาเป็นนางแบบให้ฝ่ายหลังถ่ายรูป
“เฮ้อ เวลาสั้นจัง ยังไม่อยากให้จิ๋วไปเมืองจีนเลย”
“โห่ เดี๋ยวอีก 2 เดือนแกก็ตามไปแล้ว”
ตากล้องหนุ่มทำหน้าจ๋อยๆ “ก็ตั้ง 2 เดือน”
“เว่อร์ ก็สอนใช้สไกป์แล้วไง”
ปกรณ์พยักหน้าเหงาๆ “ทำไงได้ อยากมีแฟนเป็นนักร้องโกอินเตอร์”
จังหวะที่จริยากำลังจะเดินหันหลังไปขี่จักรยานต่อ เขาก็ตัดสินใจพูดอะไรบางอย่าง
“จิ๋ว ก่อนจะไป ฉันอยากขอ..อะไรบางอย่างได้ปะ”
“ขออะไร”
ตากล้องหนุ่มทำตากรุ้มกริ่ม “ให้ได้ทุกอย่างปะล่ะ”
“บ้าเหรอ บางอย่างก็ยังไม่ให้ตอนนี้เว้ย”
“แหม..”
นักร้องสาวยิ้มเขินๆ “จะขออะไร ห้ามทะลึ่งนะ”
“ก็แค่ขอเปลี่ยนสรรพนามอ่ะ”
“สรรพนามอะไร”
“ก็เปลี่ยนจากฉันกับแก เป็น.. เป็นไรดีวะ”
อีกฝ่ายมองอย่างหมั่นไส้นิดๆ “เรา กับ ตัวเอง?”
ปกรณ์ส่ายหน้า ไม่ชอบใจ “ม่ายอ่ะ”
“โอ๊ย! เรื่องมาก ไม่เอาเรากับตัวเอง แล้วจะเอาอะไรยะ”
“เก๊า กะ ตะเอง”
จริยาขำก๊าก “บ้า เป๋าบ้า ทุเรศ อีเป๋าแบ๊ว”
“แบ๊วแล้วรักป่ะล่ะ”
2 คนยิ้มขวยเขินกันไปมา
บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยง “HAPPY BIRTHDAY 30 ปี THE SUN Channel” จัดเป็นงานแนวค็อกเทลและเต้นรำ มีผู้บริหาร พนักงาน และดารามากันครบ
อาทิตย์กำลังพูดอยู่หน้าจอขนาดใหญ่บนเวที
“ผมมั่นใจว่าปีที่ 30 นี้ จะเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับเดอะซัน ทั้งละคร รายการ ข่าว และค่ายเพลงซันมิวสิก ก้าวไปด้วยกันนะครับ”
เสียงปรบมือดังลั่น ราศีกับปูเปรี้ยวนั่งยิ้มอยู่ที่โต๊ะหน้าเวที อัปสรสวรรค์ จริยา และปกรณ์ยืนดื่มอยู่ด้วยกัน
ส่วนสมรก็เดินชิมอาหารอยู่รอบงาน
“โอยอร่อยทุกอย่างเลย หนู เดี๋ยวใส่ถุงให้ป้าหน่อยนะ”
ทางด้านฮันนี่ก็กำลังสาธิตทาครีมลงบนหลังมือให้กับพนักงานหญิง
“ครีมนี้นี่สั่งกวนมาจากเกาหลีเลยนะคะ ทาแค่ 3 นาทีผิวจะขาวเป็นสาวญี่ปุ่นเลยค่ะ กระปุกละ 599 เท่านั้น”
ป๋าช้างเดินมาเห็นปกรณ์ยืนอยู่กับจริยา ก็บิ้มล้อๆ
“เป็นไงโลกดิจิตอลสนุกมั้ย”
ตากล้องหนุ่มพยักหน้าเขินๆ “ครับลุง”
“ฉันก็กำลังมีความสุขกับอะไรใหม่ๆ เหมือนกัน”
“อะไรหรือครับ”
ขาดคำ ลูกเป็ดก็เดินเข้ามาควงแขนป๋าช้าง
“เอ้า คุณช้าง ไปเต้นรำกันค่ะ”
ป๋าช้างหันมายิ้มพยักเพยิดกับปกรณ์
อาทิตย์เต้นรำกับอัปสรสวรรค์ ส่วนจริยาก็เต้นคู่กับปกรณ์ เรด้าเต้นท่าแปลกๆ กับบ๊วย ขณะที่กรณ์เมาเต้นอยู่คนเดียว
อาทิตย์หันไปเห็นโจกำลังเต้นรำกับภีม ก็มองอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าอัปสรสวรรค์
“เรื่องคุณกับภีม”
“ก็อย่างที่เห็น”
“ภีม...กับโจ ?”
ซุปตาร์สาวพยักหน้า “ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าล่ะ”
“นี่ทำผมเฮิร์ทไปหลายตลบเลยนะ”
พิธีกรทั้ง 5 คน จากรายการ “สมาคมเมียจ๋า” กำลังนั่งคุยกับอัปสรสวรรค์
พี่หนูแหม่มพูดขึ้นมาก่อน “ต้องขอแสดงความเสียใจกับแฟนๆ ที่จะไม่ได้ดูผลงานการแสดงของน้องนางฟ้าอีกแล้ว”
เอ๋-พรทิพย์ ถามต่อ “จริงเหรอ โห ทำไมอะ”
อัปสรสวรรค์ยิ้มรับ “ค่ะ ฟ้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะเลือกทำในสิ่งที่ฟ้าอยากทำจริงๆ”
วุ้นเส้นถามบ้าง “นอกจากการสอนการแสดงให้น้องๆ ที่โรงเรียนแล้ว มีอะไรอีกนะคะ”
“ก็จะมีรายการใหม่ทางช่องเดอะซัน เป็นรายการที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ทางบ้านที่รักการแสดงได้มาแสดงความสามารถกันค่ะ”
หนิงถามเสริมขึ้นมา “แล้วเห็นว่าตอนนี้มีโครงการมอบทุนการศึกษาให้น้องๆ เรียนดีแต่ด้อยโอกาส ทั่วประเทศด้วย”
“ใช่ค่ะ เป็นโครงการที่ฟ้าและเพื่อนๆ ร่วมกันทำ เป็นการมอบสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมที่มอบความรักให้แก่พวกเรามาโดยตลอด”
พี่หนูแหม่มยิ้มปลื้ม “นางฟ้าสมชื่อ”
มาถึงคำถามเด็ดจากตั๊ก “แหม ว่าแต่น้องนางฟ้านี่เป็นดาวค้างฟ้ามาตั้งนาน เป็นข่าวมาก็มาก เมื่อไหร่จะมีข่าวสละโสดซักทีน้า”
ซุปตาร์สาวยิ้มเขิน “คงยังน่ะค่ะ ขอทำงานก่อนดีกว่า”
เอ๋แกล้งแซว “หูย ทำมาตั้งเยอะแล้วนะตัวเอง”
หนิงพูดล้อๆ “แต่งแล้วก็ทำงานได้ ดูพวกเราสิ งานเยอะกว่าตอนโสดอีก”
“เอาเป็นว่าพร้อมเมื่อไหร่ จะมาบอกที่นี่ที่แรกเลยค่ะ”
วุ้นเส้นยิ้มหวาน “ แหม พูดเป็นสคริปต์เลย”
พี่หนูแหม่มพูดต่อ “ไม่เป็นไร ตอนนี้อาจจะยังไม่อยากแต่ง แต่เดี๋ยวถ้าได้เจอคนคนหนึ่งอาจจะเปลี่ยนใจไปเลยก็ได้”
อัปสรสวรรค์หน้าเหวอ “ใครคะ”
“วันนี้มีคนคนหนึ่ง เค้าอยากมาเจอน้องนางฟ้าในห้องส่งด้วย ขอเชิญบุคคลปริศนาเลยค่า”
5 พิธีกรสาวส่งเสียงวู้ๆๆ ก่อนที่อาทิตย์เดินเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้
ตั๊กหันไปแซว “หวาย หน้าไม่คุ้นเลย”
หนิงถามยิ้มๆ “ใครเอ่ย แล้วมาทำไมคะเนี่ย”
พลันอาทิตย์ก็นั่งคุกเข่า แล้วยื่นช่อดอกไม้ให้อัปสรสวรรค์
“แต่งงานกับผมนะครับ”
พิธีกรพากันกรี๊ด ซุปตาร์สาวอ้าปากค้าง
พี่หนูแหม่มถามย้ำ “น้องนางฟ้าว่าไงคะ”
“เอ่อ...”
อาทิตย์ยิ้ม ลุ้นๆๆๆ
“ง่ายไปค่ะ”
ทั้งพิธีกร ทั้งอาทิตย์ทำหน้าเหวอ
“แค่คุกเข่าแป๊บเดียวแล้วจะให้แต่งงานด้วย ลงทุนน้อยไปมั้ยคะ”
อาทิตย์หน้าเจื่อน พี่หนูแหม่มรีบรักษาบรรยากาศ
“แหม ไม่ปฏิเสธ ถ้างั้นก็แสดงว่ายังพอมีหวัง ใช่มั้ยคะน้องนางฟ้า”
อัปสรสวรรค์แอบยิ้ม
“ถ้างั้น ต่อไปนี้ ผมจะขอคุณแต่งงานทุกวัน จนกว่าคุณจะยอมรับดีมั้ยครับ”
5 พิธีกรพร้อมใจกันเชียร์ “ดี ดี ดี”
“ค่ะ อยากทำก็เชิญ แต่ขอเวลาเดียวกันทุกวันด้วยนะคะ วันไหนไม่ได้บอก หรือผิดเวลา ถือว่าเกมส์
โอเวอร์”
อาทิตย์อึ้งๆ อีกฝ่ายยิ้มเย้ยๆ
อาทิตย์กำลังตั้งไอแพดลงบนโต๊ะ ก่อนจะถ่ายคลิปตัวเองคุกเข่าหันหน้ามาทางกล้อง
“นางฟ้า แต่งงานกับผมนะครับ”
อัปสรสวรรค์กำลังเอนอยู่ที่เก้าอี้ พลางดูคลิปในมือถือ แล้วทำหน้าเบ้
อาทิตย์กำลังประชุมกับทีมงาน พอดูนาฬิกาก็ถึงเวลาพอดี
“ทุกคนครับ ขอเวลาแป๊บนะครับ”
ทีมงานงง อาทิตย์หยิบไอแพดขึ้นมาวางบนเก้าอี้ กดปุ่มถ่ายคลิปแล้วคุกเข่ากับพื้น
“นางฟ้า แต่งงานกับผมนะครับ”
ทีมงานหันมองหน้ากันแบบเหวอๆ
อาทิตย์ถ่ายคลิปของตัวเองแบบนี้ติดต่อกันแตกต่างสถานที่ แต่เวลาเดียวกัน จนถึงวันที่ 79
“เอาล่ะค่ะ มาถึงช่วงสุดฮิตของรายการเรา นางฟ้าอาทิตย์เดอะเรียลลิตี้ ยูแมรีดมี”
พี่หมูแหม่มนำเข้าช่วงของรายการ “สมาคมเมียจ๋า” ก่อนที่หนิงจะพูดต่อ
“และเช่นเคยค่ะ วันนี้เป็นวันที่ 79 แล้วสำหรับการขอแต่งงานของคุณอาทิตย์ ลุ้นกันทั้งบ้านทั้งเมือง อยากรู้ว่านางฟ้าจะตกลงวันไหน”
บรรดาสาวออฟฟิศกำลังมุงดูคลิปอาทิตย์ขออัปสรสวรรค์แต่งงานในคอมพ์
เด็กนักศึกษานั่งยิ้มดูคลิปในมือถือ
-
ภาพจากจอมือถือ อาทิตย์ขอแต่งงานตอนกำลังนั่งมอเตอร์ไซค์วิน “วันที่ 111”
อัปสรสวรรค์ดูคลิปแล้วเริ่มจะยิ้มนิดๆ
อาทิตย์คุกเข่าขอแต่งงานตอนอยู่ในสนามบอล บอลกระเด็นมาโดนหน้า “วันที่ 268”
อัปสรสวรรค์ดูคลิปแล้วยิ้มสมน้ำหน้า
-
อาทิตย์คุกเข่าขอแต่งงานอยู่ข้างถนน มีหมาเดินมาเลียหน้า “วันที่ 343”
อัปสรสวรรค์ดูคลิปแล้วหัวเราะขำ
อาทิตย์ขอแต่งงานขณะนอนป่วยบนเตียง มีคูลฟีเวอร์วางบนหัว “วันที่ 364”
อัปสรสวรรค์นั่งอยู่ที่ริมทะเลเพียงลำพัง พลางหยิบมือถือขึ้นมาดู แล้วยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา ก่อนจะทำหน้ายิ้มเย้ย
“ท้อไปแล้วสิ”
จู่ๆ อาทิตย์ก็เดินเข้ามาข้างหลัง “ยังไม่ท้อหรอกครับ”
ซุปตาร์สาวหันไปมอง
“จดมุกขอแต่งงานไว้อีกเพียบ ใช้ได้เป็นปีๆ เลย”
“ถ้าบอกว่าไม่มีหวังจะเชื่อมั้ยคะ”
อาทิตย์ยิ้มกริ่ม “ก็จะทำต่อไปครับ”
“ก็ดี มีตลกให้ดูทุกวันจนตาย”
“โอ้โห ให้เกียรติผมจนวันตายเลยหรือครับ โอเค ผมจะขอความรักคุณจนวันตาย”
อัปสรสวรรค์ยิ้มเยาะ “คนเดียวนะ”
“คร้าบ”
ทันใดนั้น....
“จะหวานไปหนาย”
ทั้งคู่หันไปมอง ก็เห็นปกรณ์กับจริยายืนยิ้มอยู่
“น้ำทะเลจืดแล้วจ้า”
“จิ๋ว”
อัปสรสวรรค์รีบวิ่งไปกอด 2 คน กอดกันด้วยความคิดถึงจนหนำใจ
“เป๋า”
ปกรณ์ยิ้มให้อัปสรสวรรค์ ด้วยสายตาอ่อนโยน “ไง”
จากนั้นเพื่อนทั้ง 3 คน ก็โผเข้ากอดกันแนบแน่น อาทิตย์ยืนมองยิ้มๆ
อัปสรสวรรค์ จริยา อาทิตย์ และปกรณ์ล้อมวงนั่งดื่มกินด้วยกันอยู่ที่ริมทะเล
“จิ๋ว เป็นไงมั่ง ไปอยู่ตั้งปี พูดภาษาจีนได้กี่คำแล้ว”
จริยารีบอวด “โห ไม่ใช่แค่พูด ด่าก็ได้ด้วย ฮ่าๆ”
อาทิตย์พูดต่อ “เตรียมตัวไว้นะจิ๋ว ปลายปีนี้มีคอนเสิร์ตใหญ่ในไทยแน่”
“เย้” นักร้องสาวเฮลั่น ก่อนจะหันไปสะกิดปกรณ์
“ไปเอามาสิ นั่งบื้ออยู่ได้”
ตากล้องหนุ่มพยักหน้า แล้วเดินออกไป อัปสรสวรรค์ทำหน้างง
“อ้าว เป๋าไปไหนอะ”
จริยายิ้มเจ้าเล่ห์ “มีเซอร์ไพร้ส์”
ครู่หนึ่ง ปกรณ์ก็เดินกลับมาพร้อมกรอบรูปขนาดใหญ่ พอเดินมาถึง ก็พลิกให้อัปสรสวรรค์ดู
ในกรอบรูปนั้น เป็นการรวมรูปซุปตาร์สาวตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
“ โอ้โห เยี่ยมไปเลยเป๋า”
ปกรณ์ยิ้มรับ “เก็บไว้ให้ดีนะ ฟิล์มฉันเผาทิ้งไปหมดแล้ว”
“อ้าว เผาทำไมล่ะ”
“ไม่อยากให้ทำซ้ำ อยากให้มันมีชิ้นเดียว เป็นของพิเศษ เสน่ห์ของกล้องอะนาล็อกไง”
จริยารีบช่วยเสริม “เป็นของขวัญจากคนอะนาล็อกแบบเป๋า”
“คนอะนาล็อก เป็นยังไงวะ” ปกรณ์ทำหน้างง
“ก็คนที่ทำอะไรเองไม่เป็น ต้องคอยบอก คอยเคี่ยว คอยเข็น”
อัปสรสวรรค์ยิ้มขำ “แล้วให้เนื่องในโอกาสอะไร”
“แต่งงานไง”
ปกรณ์เหล่มองอาทิตย์ ก่อนจะเข้าไปกอดแล้วกระซิบ
“อย่าทำให้เพื่อนผมเสียใจนะ”
อาทิตย์ยิ้มรับ อัปสรสวรรค์หันมาถาม
“เอ่อ พรุ่งนี้ว่างกันมั้ยจิ๋ว เป๋า”
“ว่างค่ะ มีอะไรเหรอ”
อาทิตย์รีบบอก “ผมกับนางฟ้าอยากไปทำบุญกัน”
“ไปสิคะ อยากไปอยู่พอดีเลย”
ทุกคนยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
ที่สถานพยาบาลผู้ป่วยโรคเอดส์
พยาบาลกำลังเดินแนะนำสถานที่ให้แก่อัปสรสวรรค์ จริยา อาทิตย์ และปกรณ์ที่มาทำบุญด้วยกัน
“แล้วนี่ไปที่ไหนมาก่อนคะ”
ซูปตาร์สาวรีบบอก “หลายที่ค่ะ โรงพยาบาลสงฆ์ บ้านเด็กกำพร้า ผู้พิการซ้ำซ้อน ที่นี่เป็นทริปสุดท้ายของวันนี้ค่ะ”
“อ๋อค่ะ สถานพยาบาลของเรา ผู้ติดเชื้อเอชไอวีส่วนมากที่มาอยู่ จะเป็นผู้ป่วยในขั้นสุดท้ายค่ะ มีทั้งที่สมัครใจมาอยู่เอง เพราะไม่มีญาติพี่น้อง ไม่อยากเป็นภาระกับใคร หรือผู้ที่ญาติพี่น้องนำมาทิ้งไว้เองค่ะ”
ทั้งหมดเดินมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่ล้วนอาการหนัก ด้านในห้อง มีเตียงผู้ป่วยตั้งเรียงราย
“ห้องนี้ เป็นห้องของผู้ป่วยที่อาการวิกฤติค่ะ”
อัปสรสวรรค์มองเข้าไปอย่างสนใจ “ขอเข้าไปเยี่ยมพวกเค้าได้มั้ยคะ”
จริยาพยักหน้าเห็นด้วย “ดีเหมือนกันเจ้ ได้ให้กำลังใจเค้าด้วย”
พยาบาลนรีบเชื้อเชิญ “เชิญด้านในเลยค่ะ”
จากนั้นก็ผลักประตูให้ทั้งสี่เข้าไปด้านใน
ผู้ป่วยวิกฤตที่นอนอยู่ในห้อง ล้วนมีสภาพน่าหดหู่
ที่เตียงหนึ่ง มีพยาบาล 2 คนกำลังยืนดูผู้ป่วยอยู่อย่างใกล้ชิด
คณะของอัปสรสวรรค์เดินมาจนถึงเตียงนั้น พยาบาลที่อยู่ที่เตียงหันมาพูดกับพยาบาลที่นำคณะเดินมาด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
“เป็นยังไงบ้าง”
“น่าจะไม่ไหวแล้ว”
พยาบาลและทุกคนได้ยินก็หน้าสลด
ที่เตียงนั้น เห็นมือหญิงสาวมีแต่แผลพุพองวางอยู่บนหน้าอกในอาการสั่นเทา
อัปสรสวรรค์ จริยา อาทิตย์ และปกรณ์เข้าไปยืนใกล้เตียงนั้น
ที่แท้ผู้ป่วยวิกฤตที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงนั้น ก็คือไลลา ที่อยู่ในสภาพที่น่ากลัวคล้ายศพ พันผ้าขาวรอบศีรษะ ใส่หน้ากากปิดปาก หน้าตามีแผลพุพอง จนไม่มีใครจำได้
“คุณ ทำใจเข้มแข็งไว้นะคะ” อัปสรสวรรค์เข้าไปพูดให้กำลังใจ
ไลลาเห็นภาพทุกคนเลือนราง
“สวดมนต์บทแผ่เมตตาพอไหวมั้ยคะ”
ไลลาพยักหน้า
อัปสรสวรรค์หันมองหน้าคนอื่น ทุกคนยกมือพนม จริยารีบพูดขึ้นมา
“เดี๋ยวสวดตามพวกหนูนะคะ จิตใจจะได้สบายๆ”
ไลลาพยายามจะยกมือ แต่ไร้เรี่ยวแรง
อัปสรสวรรค์กับจริยาหันมองหน้ากัน ก่อนจะช่วยกันประคองมือไลลาขึ้นมาพนมด้วยกัน
ซุปตาร์สาวกล่าวสวดนำ โดยมีจริยา อาทิตย์ และปกรณ์กล่าวตาม
“สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อัพพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ”
สิ้นคำสวดสุดท้าย ไลลาก็สิ้นใจ มือที่พนมค่อยๆ ร่วงลง
ภาพถ่ายใบเล็กๆ ในมือของเธอที่กำไว้แต่แรก แต่ไม่มีใครเห็นปลิวร่วงลงมา ลอยล่องคล้ายใบไม้ที่ร่วงจากต้นก่อนแน่นิ่งลงบนพื้น
พยาบาลเห็นไลลาหมดแรงไปก็ตกใจ เข้าไปเขย่าตัวเบาๆ
“คุณคะ คุณ แย่แล้ว”
พยาบาลรีบวิ่งออกไป ทุกคนตกใจ
จริยาเห็นภาพถ่ายตกลงที่พื้น ก็ก้มลงไปเก็บขึ้นมา เมื่อเห็นภาพถ่ายนั้น เธอก็อึ้ง จนพูดแทบไม่ออก
“เจ้”
อัปสรสวรรค์ อาทิตย์ ปกรณ์ เห็นจริยาหน้าเสีย ก็รีบเข้าไปดูรูปในมือ
เมื่อทุกคนเห็นรูป ต่างก็ตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน
รูปในมือจริยา เป็นรูปหมู่ของสามเพื่อนที่ปกรณ์อัดแจก
ทุกคนหันขวับพร้อมกัน
“ไลลา” อัปสรสวรรค์เสียงสั่น น้ำตาร่วงพรู
“เจ้ไล”
ทุกคนเข้าไปมุงดูร่างไร้วิญญาณไลลาที่เตียงอย่างสลดใจ
ในทุ่งกว้าง ที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ เพื่อนรักทั้งสามกำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกันอย่างร่าเริง ไร้เดียงสา ด้วยแววตาที่ไม่มีความระแวงระวัง หรือคิดร้ายต่อใครเป็นมิตรภาพของเพื่อนที่คงอยู่ในความทรงจำของอัปสรสวรรค์ ไลลา และจริยา
จบบริบูรณ์