xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 10

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 10

“ตอนนี้คุณไม่ต้องมาทำงานข่าวแล้วนะ ผมจะให้เด็กใหม่ๆขึ้นมาทำแทน ส่วนคุณก็ไปเข้าคอร์สเตรียมตัวเป็นนักแสดง”
 

นิรันดร์บอกับไลลา เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องทำงาน
“จะให้เป็นเลยจริงๆ หรือคะ”
“ก็จริงน่ะสิ ผมจะดันคุณให้สุดทางไปเลย ไม่ต้องเป็นแล้วนักข่าวน่ะ ต่อไปนี้คุณคือดารา ท่องไว้ คุณคือดารา”
แม้จะยังไม่มั่นใจในเส้นทางใหม่ แต่แววตาไลลาก็ฉายความมุ่งมั่นเต็มที่

ขณะที่โจกำลังวอร์มเสียงอยู่ในห้องซ้อม จริยาก็เดินเข้ามาทัก
“พี่โจคะ”
เขาหันมายิ้มให้ แต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเอ่ยอะไร ปราณก็เดินเข้ามา
“ไงจิ๋ว สบายใจแล้วสิ คอนเสิร์ตพี่โจยกเลิกไปถึงสิ้นเดือน”
จริยาตกใจ “อะไรนะคะ”
“ยิงนกทีเดียวได้ 2 ตัว สอยดาวทีเดียวร่วง 2 ดวง ทั้งโจทั้งนางฟ้า”
“แกพูดบ้าอะไร”
ปราณยิ้มหยัน “ต่อไปนี้คงดังได้สมใจ โจดูไว้แล้วกันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา”
โจทำหน้ารำคาญ “เอ่อ พี่ปราณครับ ขอผมคุยกับจิ๋ว 2 คนได้มั้ยครับ”
ปราณพยักหน้าจ๋อยๆ แล้วเดินออกไป
โจเข้าไปพูดกับจริยาด้วยน้ำเสียงเมตตาแบบพี่สาว “ไงจ๊ะ จิ๋ว”
อีกฝ่ายเดินเข้าไปจับมือ แล้วมองด้วยแววตาปริ่มน้ำตา
“พี่โจ จิ๋ว จิ๋วขอโทษ” พูดพลางน้ำตาก็รินออกมา “จิ๋วไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ ภาพมันหลุดไปได้ยังไงก็ไม่รู้ จะให้จิ๋วสาบานให้ตายยังไง จิ๋วก็ยอม”
โจจับไหล่เธอไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม
“พี่ไม่โกรธจิ๋วหรอก ไม่คิดด้วยว่าจิ๋วทำ ถึงจิ๋วจะทำพี่ก็ไม่ว่าอะไร ถือว่าเป็นกรรมที่พี่ทำไว้กับคุณแม่เอง”
“ขอบคุณค่ะพี่”
“วันนี้น่าจะเป็นวันที่พี่โจมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย ที่ได้เปิดเผยความจริงที่กลุ้มในอกมาหลายสิบปี แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คุณแม่นี่แหละ”
“พี่ลูกเป็ดว่าไงมั่งคะ”
โจถอนหายใจ “มีคนเห็นแกร้องไห้เดินออกไปตอนแถลงข่าว ยังติดต่อไม่ได้เลย แต่เดี๋ยวทำใจได้คงกลับมาแหละ อย่าคิดมากเลยจิ๋วน้องรัก”
จริยายิ้มพร้อมกับใช้หลังมือเช็ดน้ำตา จู่ๆ ปูเปรี้ยวก็ผลักประตูเข้ามาอย่างเร่งร้อน
“เฮ้ย โจ จิ๋ว ทำไมยังอยู่นี่กัน”
“มีอะไรหรือครับพี่ปูเปรี้ยว”
“ก็เค้าบอกยัยลูกเป็ดอยู่บนดาดฟ้า กำลังจะโดดตึกฆ่าตัวตาย”
ทั้งคู่หันมองหน้ากันอย่างตกใจ

ลูกเป็ดกำลังยืนอยู่ริมขอบตึกบนชั้นดาดฟ้า พร้อมกับร้องเพลงทำไมถึงทำกับฉันได้ของดาวใจ ไพจิตร “ฉันทำผิดอะไรไป เธอจึงได้แกล้งกระทำ ให้ฉันชอกช้ำ ฉันรักเธอ รักเธอทุกยาม ทำไมถึงทำกับฉันได้”
พนักงานหลายคน รวมทั้งป๋าช้าง และกรณ์ช่วยกันเกลี้ยกล่อม
“โว้ย ใครไปทำอะไรแก ลงมาก่อน”
ลูกเป็ดน้ำตาคลอ “ฉันหมดสิ้นแล้วค่ะป๋าช้าง”
“หมดอะไร พี่โจน่ะเค้ายังไม่ตาย”
กรณ์พยักหน้ารับ “ใช่ แค่เป็นตุ๊ด”
“ว้าย ฮือ ไม่อยู่แล้ว”
ลูกเป็ดทำเหมือนจะกระโดดลงไป ผู้คนร้องกันวี้ดว้าย ป๋าช้างหันไปกระทุ้งกรณ์
“ไอ้บ้านี่ พูดอะไร”
เรด้าพยายามปลอบ “เออ โจเค้าไม่ได้ตายซักหน่อย พี่จะตายทำไมวะ”
ลูกเป็ดฟูมฟายน้ำตา “ไม่ได้ตายก็เหมือนตายนั่นแหละ ฉันอุตส่าห์รัก อุตส่าห์หลง พามันออกมาจากวงอีเล็คโทน มาฝากเข้าค่ายเพลง มันหลอกฉันมาตลอด มันเจ็บปวดจริงๆ”
ป๋าช้างพูดต่อ “ก็เลี้ยงเค้าเป็นลูกไม่ใช่เรอะ ลูกเรามันจะเป็นอะไรก็ช่างมันเถอะ เป็นคนดีก็พอ”
กรณ์แทรกขึ้นมา “เออ ไม่ได้เลี้ยงเป็นผัวซะหน่อย
“ว้าย ฮือๆ ตายดีกว่า”
ลูกเป็ดแหย่เท้าทำจะกระโดดอีก พนักงานพากันวี้ดว้ายใหญ่
ป๋าช้างหันไปดุ “โถ เดี๋ยวปั๊ดตบ ไปยืนไกลๆ เลยไอ้กรณ์ คนเค้ากำลังกล่อม”
กรณ์หน้าจ๋อย “โธ่ ความจริงทั้งนั้น”
พอจริยา โจ และปูเปรี้ยววิ่งเข้ามาถึง ก็ตกใจกับภาพที่เห็น

“นั่นพี่ลูกเป็ดนี่”

โจตะโกนเสียงดัง “คุณแม่”
 
ทั้งสามรีบวิ่งเข้าไปสมทบกับคนอื่นๆ
ปูเปรี้ยวหันมาถามป๋าช้าง “อะไรเนี่ย”
“เค้าบอกเสียใจเรื่องลูกโจกลายเป็นลูกสาว เลยขู่จะลาโลกซะแล้ว”
“นี่ ลูกเป็ด หยุดทำบ้าๆ แบบนี้นะ ลงมาคุยกันก่อน”
ลูกเป็ดส่ายหน้ารัว “ไม่คุยแล้วค่ะ ชีวิตหนูหมดสิ้นแล้ว”
โจรีบบอก “คุณแม่ครับ ผมยังเป็นเหมือนเดิมนะครับ” พลางเดินเข้าไปใกล้
“อย่าเข้ามานะ”
โจเดินเกือบจะถึงตัว ก่อนจะคุกเข่าพนมมือ
“ที่ผ่านมา โจผิดเองที่ไม่บอกคุณแม่ เพราะกลัวคุณแม่จะผิดหวัง โจขอโทษนะครับ คุณแม่ช่วยให้อภัย และถือซะว่าได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกคนได้ไหมครับ”
ปูเปรี้ยวแกล้งยุส่ง “เออ กระโดดลงไป ถ้าไม่ตายแล้วใครจะเลี้ยง”
ลูกเป็ดร้องไห้ โฮ “ก็ใช่สิคะ ชีวิตหนูมันโดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยวเอกา”
โจมองหน้าลูกเป็ด “ไม่มีใครเลี้ยง ผมนี่แหละครับจะเลี้ยงคุณแม่เอง คุณแม่ไม่ต้องมีสามีก็ได้ ผมสัญญาจะดูแลคุณแม่เฉกเช่นลูกคนหนึ่งครับ”
ป๋าช้างพูดกล่อมต่อ “เนี่ย เค้าพูดขนาดนี้แกยังไม่ยอมอีก ดูฉันสิ แก่ป่านนี้ยังไม่รู้ใครจะเลี้ยงเลย”
ปูเปรี้ยวพยายามพูดห้าม “พอเถอะลูกเป็ด ให้อภัยโจเถอะ แค่นี้เค้าก็โดนเยอะแล้ว”
“เราเหลือกันอยู่ 2 คนแล้วนะครับคุณแม่”
ลูกเป็ดคิดๆ แล้วก็เริ่มใจอ่อน ก่อนจะค่อยๆ เดินลงมาจากขอบตึก โจรีบพุ่งเข้าสวมกอด
ป๋าช้างถอนใจโล่งอก “เดอะซัน มีข่าวได้ทุกวันสิน่า”
กรณ์ทำหน้าเซ็ง “ก็เพราะมีแต่คนบ้าๆ บอๆ”
“เออ แกก็เป็นหนึ่งในนั้น” ป๋าช้างหันมาเหน็บ

อาทิตย์กำลังประชุมกับป๋าช้าง กรณ์ และทีมงานรายการ
“ถึงเวลาต้องยอมรับความจริงว่าตอนนี้ช่องเรากำลังมีปัญหาทั้งรายการข่าว เพลง และล่าสุดกับละคร ถึงแม้ข่าวจะทำให้กระแสดีขึ้น แต่สปอนเซอร์หลายตัวก็ไม่กล้ามาลงทุน เพราะกลัวเรื่องภาพลักษณ์”
ป๋าช้างส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “ สกปรกกันจริงๆ ทุกวิถีทางเลย”
กรณ์หันมาถาม “แล้วตกลงน้องนางฟ้าเป็นคนปล่อยคลิปจริงๆ หรือครับ”
“ผมคงพูดอะไรมากไม่ได้ ต้องให้คนตัดสินกันเอง”
“ถ้าให้คนตัดสินเอง ใครๆ ก็คิดว่าน้องนางฟ้าปล่อยแน่ครับ” กรณ์พูดต่อ
อาทิตย์ส่ายหน้า “ ผมว่าแล้วแต่สติปัญญาคนนะ”
กรณ์จ๋อย ป๋าช้างถอนหายใจ “ยิ่งพูดมาก ยิ่งโง่มาก”
“ผมคิดดูแล้ว เรื่องคลิปโจมีข้อดีตรงที่คู่กรณีทั้งหมดล้วนอยู่ในช่องเรา เพราะฉะนั้น...”
อาทิตย์ยังพูดไม่ทันจบ ป๋าช้างก็พูดแทรกขึ้นมา “สร้างข่าวโปรโมต”
“ถูกต้องครับ อยากให้ป๋าช้างกับพี่กรณ์วางแผนปล่อยข่าวออกไปว่าเหตุการณ์ทั้งหมด น่าจะเป็นการ โปรโมตเพลง และละครเรื่องใหม่ของนางฟ้า”
ป๋าช้างกับกรณ์พยักหน้ารับทราบ อาทิตย์ทำสีหน้าจริงจัง

อัปสรสวรรค์กับเดือนเด่นเข้าไปซื้อชาเขียวที่ร้านประจำ และทักทายแม่ค้าตามปกติ
“หวัดดีค่ะน้องเก๋ วันนี้แต่งหน้าสวยเชียว”
แม่ค้าทำหน้านิ่ง “เอาอะไรคะ”
“เหมือนเดิมจ้ะ”
“เหมือนเดิมคืออะไรคะ จะไปรู้เหรอ”
2 แม่ลูกต่างตกใจกับพฤติกรรมของแม่ค้า เพื่อนแม่ค้าอีกร้านเดินมา
“อะไรเก๋ เค้าเป็นลูกค้าร้านเธอเหรอ อย่าให้ใครรู้นะ อับอายไปทั่วสามภพ”
“ไม่รู้ อยู่ๆเค้าก็มาซื้อร้านฉัน เออ พอดีวันนี้ของหมดแล้วค่ะ ไปกินร้านอื่นก่อนแล้วกันค่ะ”
พูดจบก็เอาผ้าคลุมร้าน 2 แม่ลูกยืนงง

ที่แผนกตลาดสดในห้างสรรพสินค้า แม่ค้าผลไม้กำลังอ่านหนังสือพิมพ์บันเทิง ที่พาดหัว
“นางฟ้าตกสวรรค์ ” พร้อมรูปอัปสรสวรรค์ตอนตกใจที่เจอคลิป
2 แม่ลูก เดินมาถึงร้านผลไม้ อัปสรสวรรค์หยิบแก้วมังกรขึ้นมาดู
“ขายยังไงคะ”
“อ๋อ โลละ...” พอแม่ค้าเห็นหน้า ก็เปลี่ยนอารมณ์เป็นโกรธทันที “นี่ใช่นางฟ้ารึเปล่า”
ซุปตาร์สาวเห็นหน้าแม่ค้าบึ้งตึง ก็คลายยิ้มลง “ค่ะ”
แม่ค้ารีบหันไปตะโกนเรียกเพื่อน “เฮ้ยพวกเรา นี่ไง อีนางฟ้า คนตอแหล ทำลายเพื่อน”
พวกแม่ค้าเฮโลเข้ามาดู “ไหนๆ ขอดูหน้ามันหน่อย”

อัปสรสวรรค์ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หันมองหน้าแม่ เดือนเด่นชักจะของขึ้น

แม่ค้าอีกคนโวยวายเสียงดัง “ โห หน้าตาก็ดี ทำไมจิตใจเลวอย่างนี้ล่ะ”
 
“ตัวเองดังกว่าเพื่อนยังไปรังแกเค้าอีก”
“แล้วนี่มาทำไม ที่นี่เค้ามีแต่คนดีๆ ไม่ต้อนรับแกหรอกนะ ไม่ขายของให้แกด้วย”
เดือนเด่นอารมณ์ขึ้นจนทนไม่ไหว “อะไรกัน นี่ลูกฉันไปทำอะไรให้พวกแก”
แม่ค้ามองเหยียด “ไม่ได้ทำอะไรหรอก แต่ลูกแกเป็นคนไม่ดี สมควรที่สังคมจะลงโทษ”
“แล้วพวกแกรู้ได้ยังไงว่าลูกฉันผิด”
“รายการเมื่อวานคนเค้าดูกันทั้งประเทศ ด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง หนังสือพิมพ์เขาก็ด่า”
เดือนเด่นสวนกลับทันที “แล้วมันเรื่องจริงเหรอ”
อีกคนยิ้มเยาะ “ไม่ผิดจริงเค้าจะเอาข่าวที่ไหนมาลง ไปๆ ไปเลย”
“คนเดี๋ยวนี้ทำไมมันเป็นอย่างนี้ เสพข่าวอย่างเดียวไม่ตรวจสอบอะไรเลย ในเว็บ ในตลาดสดเหมือนกันไม่มีผิด”
แม่ค้าทำหน้าโกรธขึ้นมาอีกระลอก หันไปตะโกนบอกพรรคพวก
“เฮ้ย นี่ พวกเรา อีนางฟ้ากับแม่มัน ว่าพวกเราโง่เว้ยเฮ้ย”
พวกแม่ค้าส่งเสียงไล่
“อะไร ฉันไปว่าพวกแกตอนไหน”
อัปสรสวรรค์เห็นท่าจะบานปลาย “ไปเถอะค่ะแม่”
จากนั้นก็รีบดึงเดือนเด่นเดินออกจากตลาดทันที

ขณะปูเปรี้ยวยืนดื่มกาแฟอยู่กับเรด้า กรณ์ก็เดินเข้ามาหาพูดแขวะ
“เป็นไงครับพี่ปูเปรี้ยว ผู้ดูแลสะตอพันธุ์แบ๊ว”
ปูเปรี้ยวตอกหน้ากลับ “ก็ยังภูมิใจอยู่ ดีกว่าเป็นนักข่าวพันธุ์หลังอานอย่างแก กัดได้ทุกเรื่อง”
“คิดจะเปลี่ยนไปดูแลดาราคนอื่นแทนมั้ยครับ”
“ไม่เคยคิด”
กรณ์ยิ้มเยาะ “ไม่เคยคิด หรือคิดแล้วแต่ไม่รู้จะไปไหน”
ปูเปรี้ยวจ้องหน้า “นี่ ไลลาซื้อตัวแกไปแล้วใช่มั้ย ถึงมาพูดกัดแบบนี้”
กรณ์หมดสนุกทันที “อย่าพูดอย่างนี้นะ ผมโกรธจริงๆ”
“ไม่รู้ล่ะ ตอนนี้นักข่าวคนไหนด่านางฟ้า ฉันจะถือว่าขายตัวให้ไลลาไปหมดแล้ว”
“อย่าเอาผมไปเทียบกับคนเลวพรรค์นั้น น้ำซักแก้วผมก็ไม่เคยกินของมัน”
ปูเปรี้ยวเบะปาก “ ไม่เชื่อหรอก ฉันจะโพนทะนาให้ทั่วว่าไอ้กรณ์เป็นเด็กเครือไลลา”
“พูดงี้ต่อยหน้าผมดีกว่า”
ขาดคำ ป๋าช้างก็เดินออกมา “อะไรกันๆ”
ทั้งสองเงียบปากลงทันที
“เหลือกันอยู่แค่นี้แล้ว รักกันหน่อย แตกสามัคคีเดี๋ยวช่องอื่นมันรู้ จะเล่นงานเราได้ เคยได้ยินมั้ย
ไทยฆ่าไทยให้ชาติอื่นครอง วิญญาณปู่จะร้องว่าโอ๊ะๆๆ เจ็บ เออ แล้วลูกเป็ดล่ะ มาทำงานรึยัง”
ปูเปรี้ยวนึกขึ้นได้ “ เออใช่ เฮีย ไม่รู้ป่านนี้เป็นไงมั่ง”
ทันใดนั้น เสียงลูกเป็ดก็ลอยเข้ามาเป็นเพลงกราบเท้าย่าโม ของ สุนารี ราชสีมา
“สองมือกราบลงที่ตรงเหนืออาสน์ แทบบาทย่าโม”
ป๋าช้างยิ้มขัน “ตายยากจริงๆ”
ลูกเป็ดเดินเข้ามาร่วมวง “ฮัลโล่ เป็นยังไงบ้างทุกคน”
ปูเปรี้ยวยิ้มรับ “แหม สดชื่นมาเลยนะวันนี้”
“อ้อ ไม่ได้ค่ะ อรุณเบิกฟ้านกกายังโบยบิน คนเราถ้าสิ้นความหวังก็อายนกมัน วันนี้จะพาลูกสาวมาแนะนำด้วยค่ะ”
ป๋าช้างทำหน้างง “อะไรกัน แกมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ใช่ๆ ซุกไว้เหรอ”
ลูกเป็ดยิ้มเจ้าเล่ห์ “นี่ไงคะ” พลางผายมือไปทางประตู และแล้วโจก็เดินบิดก้นเข้ามาในลุคสุดเปรี้ยว ทุกคนมองอย่างตกตะลึง
“นี่โจโจ้ ลูกสาวหนูเองค่ะ เป็นนักร้องใหม่ค่ายซันมิวสิก”
โจรีบยกมือไหว้อย่างชดช้อย “ หวัดดีค่ะ”
ทุกคนอ้าปากตะลึง

อาทิตย์นั่งคุยอยู่กับจริยา และโจอยู่ในห้องทำงาน
“ผมคิดดูแล้ว สิ่งที่จะสยบข่าวเสียนี้ลงได้ คือการที่ศิลปินของบริษัทเรา ทั้งคุณ 2 คนและนางฟ้า ได้มาร่วมงานกันอีกครั้ง ในมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่”
โจกอดอกหันไปมองหน้าจริยาอย่างหนักใจ
“น้องจิ๋วว่าไงจ๊ะ”
“ถ้าทำเพื่อค่าย เพื่อบริษัท จิ๋วไม่มีปัญหาค่ะ”

โจพยักหน้ารับ “ ผมก็ได้ ถ้าไม่ได้คลุกคลีอะไรกันมาก มีแต่น้องนางฟ้าของคุณนั่นแหละค่ะ ที่จะกล้ามาสู้หน้าเรารึเปล่า”

อาทิตย์หันมองหน้าทั้งคู่อย่างหนักใจ

“ไม่ไปค่ะ”
อัปสรสวรรค์ปฏิเสธทันที ที่อาทิตย์โทร. มาบอกข้อเสนอ
“แต่เอ็มวีนี้ จะทำให้ภาพความสัมพันธ์ของพวกคุณดูดีขึ้นนะ”
“แล้วไงคะ ฉันก็จะกลายเป็นตัวตลก”
อาทิตย์รีบอธิบาย “ไม่ใช่นะคุณ พอคนเห็นภาพพวกคุณร่วมงานกัน เขาก็จะคิดว่าที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นแค่เรื่องโปรโมตเพลง และเปิดตัวพี่โจ”
“แล้วมันจะไม่แย่กันไปทั้งค่ายเหรอคะ”อีกฝ่ายย้อนถาม
“มันก็ต้องเสี่ยงนี่คุณ เรื่องมันมาขนาดนี้แล้ว”
“ฉันยังไม่พร้อม แค่นี้นะคะ”
พูดจบก็กดวางสายอย่างอารมณ์เสีย
โจกับจริยานั่งมองอยู่ ก็รู้ว่าเจรจาไม่ได้ผล อาทิตย์คิดหนักจนคิ้วขมวด

ทางด้านเดือนเด่นก็คุยมือถือกับปูเปรี้ยวอย่างหัวเสีย
“อะไรคะ จะมายกเลิกกันแบบนี้ได้ยังไง บอกมันไปด้วยนะคะว่าถ้าทำแบบนี้ เวลาเดือดร้อนก็อย่ามาขอให้ไปช่วย”
เดือนเด่นวางสายอย่างโมโห อัปสรสวรรค์รีบหันมาถามแม่
“อะไรอีกคะแม่”
“ปูเปรี้ยวบอกว่าเค้าแคนเซิลงานอีกแล้ว เออ อีพวกนี้นะ เห็นแก่ตัวชัดๆ เห็นแค่ข่าวก็ตื่นตูมไปได้”
“ทำไมล่ะคะ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ฟ้าก็อยู่ของฟ้าดีๆ”
เดือนเด่นพยายามปลอบลูก “ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งวู่วาม เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
ซุปตาร์สาวพูดเสียงเข้ม “ใจเย็นมามากพอแล้วค่ะ เย็นจนเป็นเบี้ยล่างของทุกคน พอกันที ต่อไปนี้
ฟ้าจะไม่ทน”
พูดจบเดินออกไปนอกบ้านทันที
“เอ้า จะไปไหนล่ะ บ่ายโมงวันนี้มีงานอีเว้นต์นะ ฟ้า จะไปไหน”
เดือนเด่นหนักใจกับการกระทำของลูก

อาทิตย์คุยมือถือกับเดือนเด่น สีหน้าเคร่งเครียด
“ครับๆ เดี๋ยวผมจะช่วยตามหาครับ คุณอาไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ นางฟ้าคงไปไม่ไกล”

ฟากอัปสรสวรรค์ ก็ขับรถออกไปโดยไม่รู้จุดหมาย จนถึงเส้นทางเปลี่ยว รอบข้างเต็มไปด้วยทุ่งนา
สีเขียว
พลันก็มีรถคันหนึ่งแซงเข้ามาแล้วขวางไว้ ซุปตาร์สาวผงะ ตกใจ
ครั้นเห็นอาทิตย์ลงจากรถคันนั้น เธอก็คลายใจลง พอเขาเดินมาข้างๆ รถ เธอก็เปิดกระจกให้
“ทำอะไรเนี่ยคุณ”
“แล้วมันเรื่องอะไรของคุณ” อัปสรสวรรค์ย้อนกลับ
“เรื่องของผมแน่ อย่าลืมสิ ผมมีหน้าที่ดูแลหัวใจของคุณนะ”
“ถอยรถออกไป”
“คุณจะไปไหน”
ซุปตาร์สาวส่ายหน้าช้าๆ “ยังไม่รู้ จะไปไหนก็เรื่องของฉัน”
“จะไปนรกหรือสวรรค์ก็ไม่รู้งั้นเหรอ นี่คุณ คนเราถ้าไม่มีจุดหมายน่ะ มันล้มเหลวง่ายนะ”
“ถอย..รถ..ออก..ไป ถ้าไม่ถอยฉันชนจริงๆ” อัปสรสวรรค์พูดเสียงแข็ง
“ตามสบาย ผมประกันชั้นหนึ่ง”
อีกฝ่ายโมโห รีบเปิดประตูรถเดินออกมา อาทิตย์รีบบอก
“คุณกลับไป แล้วลองทำตามแผนของผมเถอะ”
อัปสรสวรรค์ไม่ฟัง เดินลุยลงไปในทุ่งนาสีเขียว อาทิตย์เดินตามไปติดๆ

อัปสรสวรรค์เดินมาถึงบนคันนาแล้วก็ยืนนิ่ง อาทิตย์ตามมาหยุดอยู่ด้านหลัง
“คุณเป็นอะไรของคุณ”
จู่ๆ น้ำเสียงของเธอก็เริ่มสั่นเครือ “ฉันทนไม่ไหวแล้ว”
อาทิตย์เริ่มอ่อนลง ตกใจที่อีกฝ่ายร้องไห้
“ทำไมทุกคนถึงทำกับฉันแบบนี้”
“ใคร ใครทำอะไรคุณ”
อัปสรสวรรค์สะอื้นเบาๆ “ทั้งคนดู นักข่าว เพื่อนร่วมงาน ทุกคนทำกับฉันเหมือนฉันเป็นคนเลวมาก”
“โธ่ นี่มันก็ธรรมดาของวงการบันเทิงนี่คุณ ทั่วโลกเขาก็เป็นกันอย่างนี้”
“ฉันท้อแล้ว ฉันอยากเป็นนักแสดงที่ดี ไม่ได้อยากเป็นนักแก้ปัญหาที่ดี”
อาทิตย์พยายามปลอบ “คุณก็ทำไปสิครับ ไม่เห็นต้องสนใจใครเลย”
“ไม่ต้องสนใจหรือคะ” อีกฝ่ายย้อนถาม “ยอมให้คนบ่น คนด่า คนตั้งฉายา โดนแคนเซิลงาน”

“คุณรู้รึยังว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดในอาชีพนักแสดงของคุณคืออะไร”

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 10 (ต่อ)

อัปสรสวรรค์ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
 
“ฉันอยากให้ทุกคนยอมรับความสามารถที่แท้จริง ที่ฝีมือการแสดง เลิกอคติความเป็นเส้นสาย เลิกสนใจเรื่องส่วนตัว”
“มีอีกหลายคนนะครับ ที่แสดงฝีมืออย่างสุดความสามารถ อยู่ในวงการมาค่อนชีวิต แต่กลับไม่มีใครรู้จักเขา หรือพูดถึงเขาเลย เขาไม่เจ็บปวดกว่าคุณหรือครับ”
ซุปตาร์สาวคิดตาม
“ถ้าคุณอยากมีชีวิตส่วนตัว คุณต้องไปทำงานอื่นที่ไม่ใช่นักแสดง เพราะความใฝ่ฝันของนักแสดงคือการให้คนดูชื่นชอบประทับใจ และศิลปะการแสดงก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผู้ชม”
“เข้าใจค่ะ แต่คนดูมีสิทธิตัดสินให้ฉันเป็นไปตามใจเขาหรือคะ”
อาทิตย์มองหน้าอีกฝ่าย “ถึงคุณเป็นคนธรรมดาก็ไม่พ้นการโดนนินทาหรอกนะ เขาจะให้คุณเป็นยังไงก็ได้ ตามที่ใจเขาอยาก เพียงแต่อาชีพนี้จะโดนหนักกว่าก็เท่านั้น”
อัปสรสวรรค์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “แล้วฉันจะอยู่ต่อไปได้ยังไง มีแต่คนเกลียดฉัน”
“คุณมองโลกแคบเกินไป”
สักพักก็ได้ยินเสียงวัยรุ่นหญิงคนหนึ่งดังขึ้น “เฮ้ย แกๆ นี่ใช่พี่นางฟ้ารึเปล่า”
อัปสรสวรรค์หันไปมอง เห็นวัยรุ่นหญิงหน้าตาใสซื่อ 2 คนในชุดนักเรียนเนื้อตัวมอมแมม
อีกคนทำตาโต “โห ใช่จริงๆ ด้วย พี่นางฟ้า มาทำอะไรที่นี่คะ ถ่ายละครเหรอ”
ซุปตาร์สาวรีบเช็ดน้ำตา แล้วฝืนยิ้มให้
“หนูชอบพี่มากๆ เลยค่ะ ดูละครทุกเรื่องเลย พี่เป็นไอดอลของหนูเลย ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ”
“ได้ค่ะ ได้”
“คุณคะ ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหมคะ”
อาทิตย์ยิ้มรับ “ครับๆ”
วัยรุ่นหญิงล้วงมือถือเก่าๆ ยื่นให้ แล้วทั้งคู่ก็ไปยืนยิ้มกับอัปสรสวรรค์
อาทิตย์รู้สึกดีที่เห็นอัปสรสวรรค์ยิ้มออกมาได้

หลังถ่ายรูป อัปสรสวรรค์ก็เซ็นชื่อในกระดาษให้วัยรุ่นทั้งสองด้วย
“ขอบคุณค่ะ”
ทั้งคู่วิ่งกระโดดโลดเต้นออกไป ท่าทางดีใจมาก ซุปตาร์สาวมองตามยิ้มๆ
“โลกกว้างขึ้นรึยังครับ”
อัปสรสวรรค์พยักหน้าน้อยๆ “แต่ไม่ว่าโลกจะกว้างแค่ไหน ฉันก็จะตามคนทำร้ายฉันให้เจอ”
อาทิตย์ส่ายหัว

บ๊วยอ่านข่าวในมือถือ แล้วทำหน้าตกใจ
“ช็อกวงการ หลุดออกมาแล้ว ผังละครทั้งสองช่อง เสือพบสิงห์ นางฟ้า-อัปสรสวรรค์ ปะทะไลลา-อุไรวรรณ ว้าย อะไรกันเนี่ย”
ลูกเป็ดถามย้ำ “ใครกะใครนะ ขอฟังอีกที”
“นางฟ้า-อัปสรสวรรค์ ปะทะไลลา-อุไรวรรณ”
“ไลลานี่หรือคะจะมาเล่นละคร แค่คิดก็แพ้แล้ว”
กรณ์ทำหน้าเยาะ “ มันคิดว่ามันเป็นใครวะ นักข่าวก็จะเป็น เหยี่ยวข่าว คนอ่านข่าวก็จะเป็น นี่สะเออะจะมาเป็นดาราอีก ไม่ดูหนังหน้าตัวเอง สงสัยไอ้เสี่ยนิรันดร์มันคงจะฟันแล้ว เลยดันเต็มที่”
ลูกเป็ดพูดแขวะ “โอ้โห ผู้ชายอะไรวะ ปากเจ็บกว่าแม่ค้าร้องเพลงแร็พอีก”
“น้องไลของพี่ สุดๆ ไปเลย”
เรด้าเดินยิ้มปลื้มออกไป
“ไลลาที่เป็นนักข่าวน่ะหรือฮะ”
พี่หมีหันมาถามย้ำกับราศี ขณะที่กำลังนั่งประชุมกัน
“ใช่ เค้าวางให้เป็นนางเอกละครเรื่องนี้ เพื่อมาแข่งกับเรื่องใหม่ของนางฟ้าโดยเฉพาะ”
พี่หมีหัวเราะขำ “ฮ่าๆ เจ๊งแน่ฮะ เอานักข่าวมาชนกับดารา”
“หัวเราะไปเถอะยัยหมี ถ้าเรตติ้งเค้าดีกว่าจริงๆ ฉันเปลี่ยนผู้กำกับทันที”
พี่หมีสะดุ้งเงียบปากทันที อาทิตย์อธิบายต่อ
“คือตอนนี้ข่าวนางฟ้าแรงมาก และไลลาก็เริ่มมีแฟนคลับเหนียวแน่นมากขึ้น นี่ยังไม่รวมฐานนักข่าวที่เชียร์ไลลาเกือบทั้งวงการ”
ราศีพูดเสริม “ตอนนี้เราประมาทไม่ได้เลย ถ้านักแสดงทีมงานเขาดี บทละครดี และโปรโมตดี แค่นี้เราก็แพ้แล้ว เพราะฉะนั้น ฉันฝากความหวังไว้กับละครเรื่องนี้ด้วยนะหมี ถ้าหากว่าเราสู้ช่องใหม่อย่างเค้าไม่ได้ ก็เกษียนตัวเองกันซะดีกว่า โอเค นะ”
พี่หมีรับคำ หน้าเจื่อนๆ “ฮะๆ”
พออาทิตย์กับพี่หมีเดินออกไป ราศีก็ถอนหายใจ หน้าตาเคร่งเครียด
อาทิตย์เปิดประตูห้องส่งพี่หมี พลันเห็นอะไรบางอย่างที่ด้านนอกจึงเดินย้อนกลับมาหาแม่
“คุณแม่ครับ มีแขกที่ไม่คาดฝันมาขอพบ”
ราศีแปลกใจ “ใครล่ะ”
ฮันนี่ถือกระเช้าผลไม้เข้ามา ยกมือไหว้อย่างงดงาม
“สวัสดีค่ะมาดาม พอดีนี่คิดทิ้ง คิดถึง เลยแวะมาเยี่ยมน่ะค่ะ”
ราศีทำหน้าอึ้ง ฮันนี่ยิ้มทำตาปริบๆ

ทางด้านไลลาก็เริ่มเข้าคอร์สดูแลความงาม รวมทั้งเริ่มฝึกหัดการเป็นนักแสดง
 
ตั้งแต่การเรียนแอ็กติ้ง เวิร์คช้อป ด้วยท่าทางตั้งใจและมุ่งมั่น

เวลาผ่านไป ไลลาเข้ามานั่งคุยกับนิรันดร์ในห้องทำงาน
 
“ตั้งแต่นี้คุณต้องเดินสายไปโปรโมตตามสื่อต่างๆ รวมทั้งานอีเว้นต์ทั่วประเทศด้วย ผมหาผู้จัดการมือดีมาให้คุณแล้วนะ”
“ใครหรือคะ”
นิรันดร์ตะโกนเรียก “คุณผู้จัดการครับ”
ไลลาหันไปมอง แล้วก็ถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามา คือชิวาว่า ที่ยิ้มกว้าง และไหว้อย่างงาม
“สวัสดีค่ะ น้องไลลา”
“ชิวาว่า”
นิรันดร์รีบแนะนำ “นี่คุณชิวาว่า ผู้จัดการมือทอง”
ไลลารีบถามต่อ “ แล้วฮันนี่”
ชิวาว่าทำหน้าเหยียด “โอ๊ย ! อย่าไปพูดถึงดาราเกรดซี ไม่มีงาน ป่านนี้ลงอ่างไปแล้วมั้งคะ”
นิรันดร์บอกต่อ “ต่อไปนี้เขาจะมาดูแลตารางงานให้คุณ”
ไลลามองหน้าชิวาว่าอย่างไม่มั่นใจ

จริยานั่งหน้าเครียดอยู่คนเดียวที่แคนทีน สักพักปกรณ์ก็เดินเข้ามาทัก
“อ้าวเป็นไรอะจิ๋ว เครียดเรื่องฟ้าเหรอ”
“ก็ส่วนนึง แต่เครียดมากกว่าคือเรื่องเพลง”
ตากล้องหนุ่มรีบถามต่อ “มีอะไรเหรอ”
“ก็คุณอาทิตย์น่ะ เขามีแผนจะให้จิ๋วร้องเดี่ยว”
“ว้าว ก็ดีน่ะสิ”
จริยาทำหน้าเซ็งๆ “ดีอะไรล่ะ ต่อไปนี้ไม่ได้ร้องกับพี่โจแล้ว ก็ต้องอยู่กับไอ้ปราณสองต่อสองสิ”
ปกรณ์ได้ยิน ก็หน้าเสีย “เออ ลืมไปเลย”
“เคราะห์เก่ายังไม่ทันลา เคราะห์เก่ากว่าก็ตามมาถึงอีก”
ปกรณ์รีบเสนอ “เอางี้มั้ย เดี๋ยวฉันเข้าไปบอกเค้าให้ ว่าไอ้ปราณมันเคยจะหลอกจิ๋ว”
“จะบ้าเหรอ เดี๋ยวใครได้ยิน เอาไปตีข่าวว่าจะทำไง”
“แล้วนี่ทั้งวงการ มันไม่มีโปรดิวเซอร์ดีๆ แล้วรึไง ทำไมคุณอาทิตย์ถึงต้องทู่ซี้กับมันด้วย”
จริยาถอนหายใจ “อย่าไปว่าเค้าเลยเป๋า คุณอาทิตย์น่ะหวังดีอยากให้จิ๋วดัง”
“จะทำยังไงนะ ถึงจะทำให้ทุกคนได้เห็นว่ามันเลวขนาดไหน”
ตากล้องหนุ่มนิ่งเครียด

ในทีวี กำลังแพร่ภาพโฆษณา “ประกวดคลิป Dance with JOJO”
โจเดินออกมาในชุดสไตล์เปรี้ยว แล้ววาดลวดลายคล้ายๆ กับในคลิปหลุด มีแดนเซอร์หนุ่มๆ เต้น
รุมล้อม
“ขอท้า ใครคิดว่าตัวเองเท้าไฟ เต้นเก่ง ส่งคลิปเต้นคัฟเวอร์ตามคลิปหลุดที่เป็นข่าว เข้ามากันได้เลยนะคะ เงินรางวัลหนึ่งล้านบาทอาจเป็นของคุณ”
อาทิตย์กับปูเปรี้ยวกำลังนั่งดูทีวีอยู่ด้วยกัน
“เข้าท่าดีเหมือนกันนะคะ วิธีนี้ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ดูโจก็แฮ้ปปี้ด้วย”
“ครับ ผมว่าเรื่องของโจจิ๋วกับจิ๋วคงซาไปได้ คงเหลือแต่นางฟ้านั่นแหละครับ ถ้ายอมมาเล่นตามแผนของผม จะดีกว่านี้นะครับ”
“ค่ะ พี่ปูเปรี้ยวก็เห็นด้วย ตอนนี้ต่างคนก็ใช้อารมณ์เหนือเหตุผลกันไปหมดแล้ว ทั้งที่ความจริงอาจจะเป็นฝีมือจากคนนอกก็ได้”
อาทิตย์พยักหน้ารับ ก่อนจะถามต่อ “แล้วฟีดแบ็คทางนางฟ้าเป็นไงบ้างครับ”
“งานอีเว้นต์แคนเซิลไป 2 งานค่ะ งานเกี่ยวกับสังคม ก็ขอยกเลิกไปหมด”
อาทิตย์ทำหน้าหนักใจ

อาทิตย์กำลังนั่งดูภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump ฉากที่พระเอกจับมือกับประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ จู่ๆ ก็เหมือนนึกอะไรออกรีบกดโทรศัพท์ทันที
“ฮัลโหล ฝ่ายตัดต่อใช่มั้ยครับ ผมอาทิตย์นะ .คุณเคยดูหนังเรื่องฟอร์เรสกั๊มป์มั้ยครับ ฉากที่ทอมแฮงก์จับมือกับจอห์นเอฟเคนเนดี้ เออ..ไม่เป็นไร ผมถามหน่อยว่าถ้าเราถ่ายคน 2 คน คนละเวลากัน แล้วเอาภาพทั้งคู่มา ตัดต่อให้อยู่ในฉากเดียวกัน มันยากมั้ย”

อาทิตย์นิ่งฟังอย่างตั้งใจ

อาทิตย์พาอัปสรสวรรค์เข้ามาในสตูฯ ซึ่งเป็นฉากบลูสกรีน มีเบาะขนาดใหญ่วางอยู่กลางฉาก
 
“คุณให้ฉันมาถ่ายอะไรคะ”
“เราจะทำสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับงานสงกรานต์น่ะคุณ”
ซุปตาร์สาวทำหน้างง “มันเพิ่งผ่านไปเองนี่”
อาทิตย์หน้าเจื่อน “อ๋อ คือ เราจะทำสต็อกไว้ไงครับ ถ่ายทีเดียว แต่ใช้หลายๆ งาน เดี๋ยวเราจะมีเพลงสนุกๆ แล้วคุณก็โยกๆไปตามเพลงนะ พอเพลงจบคุณก็อวยพรคนทางบ้าน” พูดพลางหันไปสั่งทีมงาน “ช่างภาพถ่ายไว้หลายๆ เทคหน่อยนะ เราใช้หลายเทศกาล”

อัปสรสวรรค์เริ่มถ่ายทำ ด้วยการนั่งที่เบาะ แล้วโยกตัวไปมาตามเสียงเพลงสนุกๆ
อาทิตย์ที่อยู่หลังกล้อง ชูมือให้เฟดเสียงเพลงลง และส่งสัญญาณให้อัปสรสวรรค์พูดกับกล้อง
“สวัสดีค่ะ แฟนๆ แชนแนลวัน ในโอกาสวันสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ฟ้าขอให้ทุกคนเล่นน้ำกันอย่างสนุก เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย”
จากนั้นก็ถ่ายทำต่อ ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยการพูดอวยพรเทศกาลตรุษจีน และปีใหม่ตามลำดับ

เมื่อถ่ายทำเสร็จ อัปสรสวรรค์ก็มานั่งกินข้าวกับอาทิตย์
“วันนี้ผมเรียกทีมงานสตูฯ มาถามหมดแล้วนะ ไม่มีใครอยู่ในห้องนั้นเลย นอกจากช่างทำผม”
พลันก็ได้ยินเสียงเฮดังลั่นมาจากมุมลึกๆ ในร้าน
“สงสัยจะมีงานเลี้ยง ปกติร้านนี้เงียบจะตาย”
อัปสรสวรรค์ก้มหน้ากินต่อไป ไม่ได้สนใจ

อีกมุมหนึ่งในร้าน ไลลาพานักข่าวลูกสมุน รวมทั้งช่างทำผมช่อง THE SUN มาฉลองที่จะได้เป็นนางเอกละคร
เรด้าชูแก้ว “เอ้า พวกเรา ชนให้น้องไลลาอีกครั้ง ในฐานะนางเอกละครคนใหม่”
ทั้งหมดตะโกนเสียงดัง “เชียส” แล้วก็ชนแก้วกัน
“ยินดีด้วยนะคะพี่ ดังแล้วอย่าลืมพวกเราน้า” นักข่าวคนหนึ่งบอกกับไลลา
“แหม ทุกคนก็เหมือนกันแหละ อย่าลืมเขียนเชียร์ไลเยอะๆ นะคะ”
เรด้าหัวเราะร่วน “ เอ้า ชนอีกที สำหรับนักข่าวคนแรก ที่จะเป็นนางเอกอันดับหนึ่งของประเทศ”
ทั้งหมดเฮพร้อมกัน แล้วก็ดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน

อัปสรสวรรค์เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างๆ แอบซุบซิบเธอ ก็หันไปถามทันที
“มีอะไรเหรอคะ”
โต๊ะข้างๆ เงียบทันที
“อยากรู้อะไรเดินมาถามได้ค่ะ”
อาทิตย์พยายามปราม “นี่คุณ เค้าอาจจะไม่ได้คุยเรื่องของคุณก็ได้”
“ไม่ได้คุยเรื่องของฉันแต่มองมาที่ฉันนี่นะคะ”
อาทิตย์ส่ายหน้า “คุณเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ นะ”
“คุณลองมาเป็นฉันสิคะ คุณดูบ้างรึเปล่าว่าในเน็ตด่าอะไรฉันบ้าง”
“ก็คุณเป็นคนดังนี่ครับ”
“ดังแบบนี้อย่าดังดีกว่า”
อาทิตย์วางช้อน สูดลมหายใจเต็มปอด แล้วมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง
“คุณครับ ผมพูดจริงๆ นะ ผมไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้”
“เป็นยังไง”
“เป็นนางฟ้าที่เกรี้ยวกราด โกรธแค้น หวาดระแวงทุกคนที่เข้าใกล้”
อัปสรสวรรค์หน้าเจื่อนๆ “ฉันเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คุณเป็นมากกว่าที่คุณคิดนะ คุณไม่รู้ตัวหรอกว่าคนอื่นเค้ากลัวคุณขนาดไหน จนไม่มีใครกล้าพูดกับคุณแล้วนะ” พูดพลางยื่นมือไปกุมมืออีกฝ่าย “พอเถอะคุณ ตั้งสติ ให้ใจเข้มแข็ง แล้วเราจะช่วยกันฝ่ามันไป”
อัปสรสวรรค์พยักหน้าช้าๆ เพราะอยากให้จบๆ ไป
“วันนี้ฉันมาคลายเครียดนะ ไม่ได้มาให้คุณบำบัดจิต”
อาทิตย์มองยิ้มๆ

ทั้งคู่เดินมาด้วยกันที่หน้าร้าน
“เดี๋ยวผมไปเอารถก่อนนะ คุณรออยู่นี่แหละ”
อัปสรสวรรค์พยักหน้ารับ พออาทิตย์เดินออกไป เธอก็ได้ยินเสียงคุ้นๆ ดังมา
“โอ๊ย ยังไม่อยากกลับเล้ย”
ช่างทำผมกำลังเดินเมามายอยู่ในกลุ่มคน อัปสรสวรรค์ยิ้ม กำลังจะเดินเข้าไปทัก แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นไลลากับเรด้าเดินตามมากอดคอ
ซุปตาร์สาวรีบหันไปถามพนักงาน “น้อง พวกนั้นเขามาทำไมกัน”
“อ๋อ พี่ไลลากับพวกนักข่าว เขามากินเลี้ยงกันทุกอาทิตย์แหละครับ”

อัปสรสวรรค์มองอย่างเจ็บใจ

ในห้องฝ่ายข่าวของ STAR ไลลากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ มีชิวาว่านั่งนินทาอยู่ข้างๆ
 
“น้องไลเปิดเน็ตมั่งยังคะ คนด่านางฟ้ากันขรม ถึงขั้นใช้คำว่าอัปสรสวรรค์แทนคำว่าตอแหลตาใสน่ะ”
ไลลาหัวเราะขำ “ฮึ ขำดีนะ นี่เธออย่ามาอัปสรสวรรค์แถวนี้นะ”
ขณะเดียวกัน ในทีวีกำลังแพร่ภาพรายการนัตตี้
“ตอนนี้กระแสข่าวในเน็ตโจมตีนางเอกอันดับหนึ่งอย่างรุนแรง บางคนถึงขั้นหันไปเชียร์คู่แข่งที่เป็นนักข่าวชื่อดังต่างช่อง ซึ่งคงลืมกันไปแล้วว่า รายนั้นน่ะแสบตัวแม่อีกตัว”
นิรันดร์ที่นั่งดูทีวีอยู่ในห้อง ตกใจมากที่เห็นนัตตี้อ่านข่าวนี้
“นัตตี้ บ้าไปแล้ว” จากนั้นก็รีบยกหูโทรศัพท์ทันที “นี่สตูฯ หนึ่งใช่มั้ย บอกให้นัตตี้อย่าเล่นประเด็นนี้
มันเสียคนของเรา”

ทีมงานยกป้าย “คุณนิรันดร์ห้ามด่าไลลา”
นัตตี้เห็นแล้ว แต่ก็ยิ้มเยาะ แล้วอ่านต่อไป
“เราต้องไม่ลืมว่านักข่าวคนนั้น เคยมีข่าวเลวร้ายแค่ไหน ตั้งแต่เรื่องเนรคุณเพื่อน แย่งผู้ชายของเพื่อน ไม่มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ ทำตัวเป็นเจ้าแม่ในวงการ จนถึงเรื่องที่แม่บังเกิดเกล้าของนางไปทำให้ครอบครัวคนอื่นเค้าร้าวฉาน”
โปรดิวเซอร์ส่งสัญญาณตัดเข้าโฆษณาทันที
“อะไรคะ ตัดโฆษณาทำไม”
นัตตี้เดินลงมาจากฉาก ก็เจอไลลากับชิวาว่ายืนรออยู่แล้ว
ชิวาว่ารีบวิ่งเข้าไปล็อกตัวไว้
“แกจะทำอะไรฉัน”
ไลลามองหน้าเอาเรื่อง “ลองดีใช่มั้ย”
ขาดคำก็คว้าวอ. ของทีมงานที่วางอยู่มาฟาดเข้าที่จมูก นัตตี้กรี๊ดลั่นด้วยความเจ็บปวด
นิรันดร์วิ่งเข้ามา “ อะไรกันๆ”
นัตตี้จ้องหน้าไลลาตาถลึง “จมูกฉัน อีบ้า”
นิรันดร์เห็นนัตตี้กุมจมูกที่เลือดโชก ก็ตกใจ “คุณไลลาคุณทำอะไร”
ไลลาโวยวายเสียงดัง “คุณไม่ได้ยินที่มันอ่านออกอากาศหรือคะ นี่มันยังน้อยไปค่ะ คราวหน้าถ้ายังไม่เลิกจะเอามีดกรีดปากมันด้วย”
พูดจบก็เดินนำชิวาว่าออกไป นิรันดร์หันทองทางนัตตี้
“เอ้าๆ พาไปหาหมอก่อน”
ทีมงานรีบพยุงนัตตี้ออกไป

อัปสรสวรรค์นั่งเล่นมือถือฆ่าเวลา ครู่ใหญ่ช่างทำผมตัวแสบก็เดินเข้ามา
“เป็นไงบ้างคะ น้องนางฟ้าวันนี้เอาทรงอะไรดี”
ซุปตาร์สาวรอจะเล่นงานตามที่เธอสงสัย
“ไม่ต้องเป็นทรงก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวอาจจะเสียทรงแล้ว”
“แหม หลังรายการจะไปจ๊อกกิ้งเหรอคะ”
อัปสรสวรรค์ทำหน้านิ่ง “เปล่าหรอกค่ะ เออ พี่ เมื่อวันที่แถลงข่าวคลิปพี่โจ พี่อยู่ที่ไหนเหรอคะ”
ช่างทำผมหน้าซีด “ก็ออกไปดูในสตูฯ ไงคะ”
“แล้วใครอยู่ที่นี่บ้างคะ”
ช่างทำผมอึกอัก “เอ่อ..พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ซุปตาร์สาวถามรุกต่อ “กระเป๋าพวกหนูที่ทิ้งไว้ ใครเป็นคนเฝ้าเหรอคะ”
“น่าจะเป็นพวกทีมงานน่ะค่ะ เดี๋ยวพี่ลองถามให้มั้ยคะ”
อัปสรสวรรค์เชือดนิ่มๆ “ถามหมดแล้วค่ะ เค้าบอกว่ามีแต่พี่คนเดียวอยู่ในห้องนี้”
ช่างทำผมทำโกรธกลบเกลื่อน “ ว้าย ใครมันพูดอย่างนั้นคะ เลวจริงๆ พี่อยู่ในสตูฯ ใครๆ ก็เห็น”
อีกฝ่ายลุกพรวดขึ้นทันที “พี่เป็นคนเอาคลิปบ้านั่น มาใส่ในมือถือฟ้าใช่มั้ย”
ช่างทำผมปากคอสั่น “บ้าสิ พี่จะทำงั้นได้ไง รหัสล็อกน้องนางฟ้าเลขอะไรพี่ก็ไม่รู้”
“มือถือฟ้าไม่ได้ใส่รหัส”
“ก็นั่นไงคะ พี่ยังไม่รู้เลยว่ามีหรือไม่มี”
อัปสรสวรรค์หันไปหยิบที่หนีบผมไฟฟ้าขึ้นมา “พี่จะบอกหรือไม่บอก”
“น้องฟ้า พี่ไม่ได้ทำค่ะ”
“งั้นเอามือถือพี่มาดู”
ช่างทำผมรีบบอกปัด “เรื่องอะไรคะ”
“ถ้ามือถือพี่มีคลิปนั่น พี่โดนแน่”
“ไม่มีหรอกค่ะ พี่จะมีได้ยังไง”
อัปสรสวรรค์เข้าไปพยายามล้วงมือถือ ช่างทำผมสะดีดสะดิ้ง
สุดท้ายก็ล้วงมือถือมาได้ กำลังจะเปิดดู “รหัสอะไร”
“อย่าดูเลยค่ะน้องฟ้า”
“จะบอกไม่บอก”
ซุปตาร์สาวกระชากแขน พลางจะเอาที่หนีบไฟฟ้านาบแขน ช่างทำผมร้องเสียงหลง
“โอ๊ย ว้าย ช่วยด้วยค่า”
ปูเปรี้ยวเดินเข้ามาเห็นก็ตกใจ รีบเข้าไปห้ามไว้ “น้องนางฟ้า อย่าค่ะ อะไรกันคะนี่”
“พี่ปูเปรี้ยวคะ ฟ้าว่าเค้านี่แหละเอาคลิปมาใส่มือถือฟ้า”
ช่างทำผมรีบปฏิเสธ “มันจะเป็นไปได้ที่ไหนคะ น้องฟ้า”
“เมื่อวานฟ้าเห็นเค้าไปกินข้าวกับไลลามาด้วยค่ะ”
ช่างทำผมทำหน้าตาย “ก็คนเคยรู้จักกัน ไปกินข้าวกัน มันผิดตรงไหนคะ”
“ถ้าบริสุทธิ์ใจก็บอกรหัสมือถือมา ฟ้าจะขอดูหน่อย”
“เออ ถ้าแกไม่ผิดแกก็ให้น้องฟ้าเขาดูเถอะ”

ช่างทำผมทำหน้ากระอักกะอ่วน

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 10 (ต่อ)

อัปสรสวรรค์กับปูเปรี้ยวยืนดูคลิปคลิปผู้ชายร่างบึ้กเต้นในมือถือช่างทำผม
 
“ก็บอกแล้วไงคะว่าไม่มี ไม่มี”
ปูเปรี้ยวหันมาถาม “นี่แกเก็บสะสมแต่คลิปพวกนี้เหรอ”
ช่างทำผมพยักหน้า “หนูทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลาไปทำร้ายใครเค้าหรอกค่ะ สงสารหนูเถอะ”
ปูเปรี้ยวหันมองหน้าอัปสรสวรรค์ “เอาไงคะน้องฟ้า ไม่มีคลิปโจจริงๆ”
“ให้สาบานก็ได้นะคะ เก้าวัดเก้าวาหรือพระศักดิ์สิทธิ์องค์ไหนก็ได้”
ซุปตาร์สาวทำหน้าเจ็บใจ ช่างทำผมแอบโล่งอกที่รอดตัวไปได้

พอไลลาซ้อมแอ็กติ้งเสร็จ โปรดิวเซอร์ก็เดินเข้ามาพร้อมหอบเอกสารมาด้วย
“เอ้าๆ บทละครร่างแรกมาแล้วจ้า”
ไลลาและนักแสดงทั้งหมดพากันเดินไปหาด้วยความตื่นเต้น
“นี่ของน้องไล บทนางเอกนะจ๊ะ”
เธอรับมาด้วยความดีใจ “ขอบคุณค่ะ”
“กลับไปอ่านกันก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามาเฟิร์สรีดดิ้งกัน”
ไลลามองบทละคร “หงส์เริงไฟ” ด้วยแววตาเปี่ยมความหวัง

บทละครเรื่องเดียวกันอยู่ในมือของราศี
“หงส์เริงไฟ รึ”
พี่หมีพยักหน้ารับ “นี่เพื่อนที่อยู่ช่องโน้น แอบจิ๊กมาสดๆ ร้อนๆ เลยนะฮะ”
“อ่านแล้วเป็นไง”
“บทมันเอนไปทางนางรองสุดๆ ใครได้เล่นบทนั้นแจ้งเกิดแน่ฮะ ส่วนบทนางเอกของไลลาแบนแต๊ดแต๋ ไม่มีมิติ ยิ่งเป็นเรื่องแรกในการแสดง ดับแน่ฮะมาดาม”
ราศีรีบบอก “อืม ดูบทของเค้าแล้วเอามาพัฒนาของเรา มีช่องโหว่ตรงไหนอุดให้หมด”
พี่หมีพยักหน้ารับทราบ พร้อมกับที่อาทิตย์เดินเข้ามา
“อ้าว ตาอาทิตย์ ไหนล่ะ แผนกระชากเรตติ้งของแก”
“พร้อมแล้วครับ”
อาทิตย์ยิ้มให้แม่

ไลลากับชิวาว่าเดินเข้ามานั่งตรงหน้าโปรดิวเซอร์
“เปลี่ยนไม่ได้แล้วน้องไล บทนางเอกยังไม่พอใจอีกเหรอครับ”
ชิวาว่าโวยวาย “นางเอกอะไร ทำไมมันไม่เด่นเลยล่ะคะ ดูบทนางรองซิเด่นเวอร์ ได้ออกเกือบทุกฉาก ขอเปลี่ยนได้ไหมคะ”
“ไม่ได้หรอกครับ บทนางรอง น้องซาซ่าเค้าเล่นแล้ว”
ไลลาทำหน้าสงสัย “ซาซ่า? ซาซ่าไหน ไม่เห็นรู้จัก”
“ดาราใหม่ครับ คุณนิรันดร์เค้ากะจะปั้น”
ไลลาได้ฟังก็คำตอบ ก็นั่งอึ้ง ชิวาว่าโวยต่อ
“แล้วเรื่องนี้ช่องเราจะส่งไปตีกับละครของนางฟ้าไม่ใช่หรือคะ”
“ใช่สิครับ”
ไลลาสวนกลับทันที “ถ้าพี่จะให้ไลเล่นแค่ตามบทนี้ ไม่ต้องรอดูหรอกค่ะ แพ้แน่ บทอะไร เอะอะก็ร้องไห้ ร้องมันเกือบทั้งเรื่อง ไม่ได้แสดงอะไรเลย”
“ก็ต้องยอมรับนะครับ บทเค้าเขียนมาอย่างนั้น”
ไลลายื่นคำขาด “ถ้าเปลี่ยนตัวไม่ได้ งั้นก็เปลี่ยนในบทสิคะ”
โปรดิวเซอร์ส่ายหน้า “โห นั่นมันเรื่องของนักเขียนเค้าครับ ผมไม่มีสิทธิ”
ชิวาว่าถามต่อทันที “ใครเขียนบทคะ”
“พี่พู่กันเทพ”
“ขอเบอร์หน่อย”
โปรดิวเซอร์ส่ายหัวอีก “ไม่ได้หรอกครับ พี่แกติสท์มาก ไปแก้ไปอะไรแกไม่ได้”
ไลลาจิกตาไม่พอใจ “ทำไม เค้าใหญ่มากนักเหรอ”
“ใหญ่สิครับ น้องไลไม่รู้จักเหรอ พี่พู่กันเทพแกเป็นนักเขียนนิยายมือรางวัล เขียนละครดังมาเป็นร้อยเรื่อง อยู่ในวงการมาสามสิบปี คุณนิรันดร์แกติดต่อซื้อตัวมาตั้งเจ็ดหลัก”
“เจ็ดหลัก แล้วเขียนได้แค่นี้น่ะเหรอ”
โปรดิวเซอร์พยายามใจเย็น “ที่พี่ดูมันก็โอนะ แค่อาจไม่ถูกใจน้องไลแค่นั้นเอง”
สีหน้าไลลาเครียดมาก ก่อนที่ทีมงานคนหนึ่งในห้อง จะเรียกให้โปรดิวเซอร์ให้ดูทีวี
“พี่ๆ ดูนี่ดิ”
โปรดิวเซอร์หันไปดู แล้วทำหน้าอึ้ง “ งั้นข่าวคลิปหลุดนั่นก็แผนโปรโมตสิวะ”
ไลลาได้ยิน ก็เอะใจ หันไปดูด้วย
ในทีวีกำลังฉายมิวสิกวิดีโอเพลงพิเศษระหว่าง โจ & จิ๋ว ที่สำคัญนี้มีอัปสรสวรรค์เป็นนางเอก ซึ่งเป็นการเอาภาพที่อาทิตย์หลอกให้อัปสรสวรรค์มาถ่ายคนเดียว มาตัดต่อกับภาพโจ & จิ๋วร้องเต้น
 
จนเหมือนอยู่ในเวลาเดียวกันไลลาทำหน้าตกใจ

อาทิตย์กับราศียืนดูมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ของโจ & จิ๋ว
 
ที่มีอัปสรสวรรค์แสดงเป็นนางเอก พลางยิ้มอย่างพอใจ
ส่วนปูเปรี้ยว เรด้า ลูกเป็ด ป๋าช้าง กรณ์ บ๊วย และทีมงาน ต่างมายืนมุงดูหน้าทีวีในหห้องข่าวบันเทิง แล้วก็โยกตัวไปตามจังหวะเพลง
ฟากอัปสรสวรรค์ที่กำลังทานข้าวอยู่ในครัวที่บ้าน พอได้เห็นมิวสิกวิดีโอในโทรทัศน์ก็ถึงกับอึ้ง
ขณะที่ไลลายืนดูในสตูฯ ช่อง STAR พร้อมกับพวกทีมงาน
“โถ เล่นข่าวอยู่เป็นอาทิตย์ ที่แท้ก็จะขายเพลงใหม่กับเปิดตัวว่าไอ้โจมันเป็นเก้งกวาง”
แววตาไลลาผิดหวังที่เจอแก้เกม พลางกำบทละครในมือแน่น

ราศีดูเอ็มวีจนจบก็ยิ้มปลื้ม ก่อนจะหันมาคุยกับอาทิตย์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“เข้าท่า เป็นผลงานที่ดีที่สุดของแก ตั้งแต่ชนะประกวดดนตรีตอน ม.6”
“โอ้โห จากนั้นไม่มีดีเลยหรือครับมาดาม”
ราศีพูดต่อ “อาจจะโดนด่าซักหน่อยเรื่องสร้างกระแสคลิปหลุด แต่ก็ดีกว่าพังไปทั้งหมด เออ แล้วทำไมหนูนางฟ้าถึงยอมมาถ่ายกับ 2 คนนี้ล่ะ”
อาทิตย์รีบบอก “ฟ้าไม่ได้มาถ่ายหรอกครับ”
ราศีทำหน้างง “แล้วยังไง”
“ผมหลอกเค้ามาถ่ายคนละที แล้วเอามาตัดต่อให้อยู่ด้วยกัน”
“ตาย ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ เค้าฟ้องเราได้นะตาอาทิตย์”
อาทิตย์ยิ้มรับ พร้อมๆ กับที่เสียงมือถือดังขึ้น เขารีบหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นเป็นเบอร์ของอัปสรสวรรค์
“เวรกรรมตามทันแล้วครับ”
ราศีถอนหายใจ “ โดนแน่”
อาทิตย์หน้าเจื่อนๆ ก่อนจะรีบเดินออกไปคุยมือถือด้านนอก
“เป็นไงครับ นางเอกเอ็มวีของผม”
อัปสรสวรรค์ที่อยู่ทางปลายสายสีหน้าโกรธจัด
“สนุกมากนักเหรอ คุณหลอกฉันไปถ่ายเอ็มวีบ้านั่นได้ยังไง”
“หลอกยังไงครับ แค่ไปยืมภาพมายำรวมกันเฉยๆ ช่วงอวยพรเราก็เก็บไว้ใช้ได้ ทำเสียงซะยังกับผมเอารูปคุณไปตัดต่อเป็นภาพนู้ด”
“แต่ฉันไม่ได้ยินยอมให้คุณเอาไปทำแบบนี้ อย่างนี้คนเค้าได้มองว่าฉันเป็นตัวตลก เป็นตัวบ้าอะไรก็ไม่รู้ คุณต้องเลิกออนแอร์เดี๋ยวนี้”
อาทิตย์หัวเราะ “ โห ป่านนี้กระจายไปทั่วยูทูปแล้วล่ะ คุณน่ะคิดมากไป ใครจะไปด่าคุณ มีแต่จะด่าผมด่าแม่ผม ว่าทั้งหมดเป็นแผนโปรโมต”
“มันไม่ใช่แค่นั้น แต่มันไม่ใช่ความจริง เรื่องของฉันกับจิ๋วมันก็ยัง...”
อัปสรสวรรค์ยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนแทรกขึ้นมาอีก
“ไม่จบ... นี่คุณแค่กลัวคนทางบ้านเค้าคิดว่าดีกันแล้วแค่นั้นเหรอครับ ตอนนี้เราทำให้เค้าเห็นว่าเรา ไม่ได้ทะเลาะกันก่อน แล้วค่อยมาจัดการเรื่องภายในกันเองไม่ดีกว่าหรือครับ ลดตัวตนลดบ้างเถอะครับ ผมเชื่อว่าคุณไม่ผิด จิ๋วเองก็โดนเยอะ โจเองก็ยังไม่รู้ว่าใครทำ แต่ทั้ง 2 คนก็ยอมลดลงให้คุณแล้ว แต่คุณก็ไม่ยอมมาถ่ายกับเขาเองนี่นา”
อัปสรสวรรค์อึ้งไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ยอมแพ้
“แล้วมันเรื่องอะไรของฉัน ที่ต้องมาลด-มาเพิ่ม-มายอมให้ ฉันอยู่ของฉันดีๆ ก็มีข่าวนี่เข้ามาทำลาย ถ้าไม่มีคลิปนั่นในมือถือ ฉันจะเดือดร้อนไหม”
“เลิกพูดว่า “ถ้าหาก” ซะทีเถอะครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว มันแก้ไขอะไรไม่ได้ ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร สิ่งที่เราทำได้คือแก้เกมวันต่อวัน มันไม่ต่างอะไรจากสนามรบหรอก เข้าใจนะครับ”
เธอเริ่มคล้อยตาม แต่ยังดื้อรั้น
“พักรบก่อนเถอะ ป่านนี้เพื่อนรักคุณที่ช่องโน้นฟิตร่างกายพร้อมแล้ว คุณยังนั่งหน้าหงิกอยู่ได้ เดี๋ยวแพ้เค้านะครับ เออ บ่ายนี้ถ้าว่าง แวะมาหาผมหน่อยนะ”
“บ้า”
ซุปตาร์สาวกดวางสาย สีหน้ายังเซ็งๆ

ทางด้านไลลาก็เข้ามาต่อรองเรื่องบทกับนิรันดร์
“ไม่ได้หรอกคุณ บทนั้นมีคนเล่นอยู่แล้ว”
“เด็กใหม่คุณน่ะสิ”
นิรันดร์อ้ำอึ้ง “แหม มันไม่เกี่ยวกันหรอก คาแรกเตอร์เค้าก็คัดมาตามบท อีกอย่างน้องมันเด็กใหม่ในวงการ ส่วนคุณก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แถมขึ้นชื่อว่านางเอกอีก จะเอาอะไรอีก”
ไลลาแว้ดขึ้นมาทันที “งั้นไลก็ไม่เล่นค่ะ”
“จะบ้าเหรอ อีก 2 วันเปิดกล้องแล้ว ผมจะหาใครมาแทน”
“ก็เรื่องของคุณสิ เด็กคุณมีอยู่ทุกคอนโด เลือกมาซักคนก็ได้”
นิรันดร์ทำหน้าจริงจัง “นี่ ไม่ใช่ใครก็เล่นละครได้หรอกนะ”
“ฉันจะกลับไปอ่านข่าวอย่างเดิม”
นิรันดร์ย้อนกลับทันที “อ่านไหนล่ะ รายการเก่าคุณ จะให้ผมไล่พิธีกรใหม่ออกเหรอ”
ไลลาพยายามต่อรอง “ถ้างั้น ฉันขอไปลงรายการอื่น รายการอะไรก็ได้ที่เป็นข่าวบันเทิง”
“ตอนนี้ไม่มีหรอก อย่างน้อยต้องรอปลายปีถึงจะปรับผัง คุณรอได้มั้ยล่ะ”

ไลลาหน้าเครียด พยายามคิดหาทางออก

ไลลานั่งหน้าเครียดอยู่กับชิวาว่า
 
“ก็บทมันไม่เด่น ทำงี้เอาเรามาฆ่านี่คะน้องไล”
ไลลาถอนหายใจ “ก็นั่นไง ไลถึงจะสละสิทธิ์แล้วอ่ะพี่ว่า”
ชิวาว่าไม่เห็นด้วย “แต่ทำงั้น มันก็เหมือนทิ้งโอกาสนะ”
“โอกาสแบบนี้ไม่เสียดายหรอกพี่”
“โธ่...” ชิวาถอนหายใจ แล้วแต่ก็เหมือนคิดอะไรได้ “แล้วผู้กำกับเรื่องนี้คือใคร”
“เค้าว่าชื่อพี่ฉลาม”
“งั้นรอเจอตาฉลามนี่ก่อนดีมั้ย เผื่อเค้าจะมีทางแก้”
ไลลายิ้มรับ นึกถึงช่องทางใหม่ขึ้นมา ชิวาว่ารีบเปลี่ยนเรื่อง
“เออ น้องไล พวกนางฟ้าจิ๋วโจเค้าดีกันแล้วเหรอคะ ในเน็ตถกเถียงกันใหญ่เลย”
“ภาพตัดต่อทั้งนั้นแหละพี่ น่าจะเป็นแผนการสร้างภาพของคุณอาทิตย์ แต่ก็คงแค่ผักชีโรยหน้าเท่านั้นแหละ ปิดบังความฟอนเฟะของศิลปินในค่าย”
ไลลาหน้าบึ้งคิ้วขมวด ชิวาว่ารีบปราม
“อย่าอารมณ์เสียสิคะน้องไล หน้าย่นหมด เดี๋ยวอีก 2 วันก็จะบวงสรวงละครแล้ว กลับบ้าน ทาครีม มาสค์หน้า กินลูกพรุนผสมคอลลาเจนแล้วนอนเยอะๆ จะได้ผ่องๆ ดีมั้ย”
ไลลาพยักหน้ารับ แต่สีหน้ายังเครียดแต่กับเรื่องบทละคร

ลูกเป็ดกำลังอ่านข่าวในไอแพด จังหวะนั้นจริยากับจิ๋วเดินเข้ามา
“ที่แท้แหลยกรัง ข่าวคลิปหลุดแค่หวังเปิดตัวโจและโปรโมตเพลงใหม่”
โจส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ “ก็เตรียมตัวไว้แล้วนี่คะว่าจะโดน”
ลูกเป็ดส่ายหน้า “คุณอาทิตย์หวังแต่จะฟอกตัวให้นางฟ้า จนลืมว่าพวกเรายังไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย”
“อืม ทั้งที่โจกับจิ๋วเป็นฝ่ายถูกกระทำแท้ๆ”
“สรุปแล้วลงทุนไปเปล่า”
จริยาพูดแทรกขึ้นมาบ้าง “อย่างน้อยมันก็ดีกว่าจบแบบเดิมนะคะ”
ลูกเป็ดชักสีหน้าไม่พอใจ “อ๋อ เหรอ นี่จิ๋ว เธอเองก็ยังไม่ได้หลุดคดีนี้นะ มือถือเธอหายไปไหนแล้วคลิปมันหลุดไปได้ยังไงก็ยังไม่รู้ เธอกับนางฟ้านั่นแหละตัวปัญหา”
“พี่ลูกเป็ดจะคิดยังไงก็ช่างเถอะค่ะ แต่ในฐานะคนที่อยู่ในบริษัทเดียวกัน เราก็ต้องปกป้ององค์กรให้ดีที่สุด เพราะภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ เรื่องเจ้ฟ้า เราก็ต้องจัดการกันเอง”
พูดจบก็รีบเดินไปที่อื่น ลูกเป็ดหันมาทางโจ
“คุณแม่ว่าหมดสัญญารอบนี้ ก็คงให้ลูกโจย้ายค่ายแล้วล่ะ ไม่ไหว”
“แล้วจะยังมีค่ายไหนรับโจอีกหรือคะ”
ลูกเป็ดหน้าจ๋อย

อาทิตย์ยื่นซองเอกสารให้อัปสรสวรรค์ ที่มานั่งคุยกันในห้องทำงาน
“นี่ครับ บทละครเรื่องใหม่ ร้อนๆ จากนักเขียนเลย รีบเอากลับไปอ่านดีกว่า”
อีกฝ่ายรับมา แล้วทำหน้านิ่งๆ
“เป็นไงล่ะคุณ เอ็มวีบ้าๆ โดนด่ายกคณะ”
อาทิตย์พยักหน้ายิ้มๆ “ก็ยังดีกว่าให้คุณโดนด่าคนเดียวใช่มั้ยล่ะ เข้าเรื่องเถอะ พอดีผมได้ข้อมูลน่าสนใจมาจากจิ๋ว มือถือจิ๋วที่มีคลิปโจนั่นหายไปในคืนที่จิ๋วไปเจอกับไลลา”
ซุปตาร์สาวหน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อนี้
“คุณว่าทุกอย่างมันบังเอิญมั้ย”
อัปสรสวรรค์หัวเราะประชด “หึ แถมพี่ช่างทำผมและพวกพี่ๆ นักข่าวที่มาวันนั้น ก็ยังเป็นพวกไลลาอีก คงไม่บังเอิญแล้วล่ะมั้ง”
“ไลตั้งใจจะใช้แผนคลิปนี้ทำลายทั้งคุณ ทั้งจิ๋ว ทั้งโจ เพราะฉะนั้นผมอยากให้คุณทั้ง 3 คนได้เข้าใจกันเหมือนเดิมนะ”
“คุณมั่นใจเหรอว่าจิ๋วทำมือถือหายจริง หรือมันร่วมมือกับไลลากันแน่” อีกฝ่ายย้อนถาม
อาทิตย์หลับตา รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา
“โอย คุณ ถ้าผมเป็นผู้หญิง ผมคงจะกรี๊ดซะตรงนี้ ทำไมคุณมันเรื่องเยอะแบบนี้นะ”
“คุณสิเยอะ ใครใช้ให้คุณมาจุ้นไม่ทราบ”
อาทิตย์ถอนหายใจ “ตอนนี้คุณคนเดียวกำลังรบกับข้าศึกจำนวนมหาศาลของไลลานะ มาช่วยกันจัดการเรื่องนี้ก่อนดีมั้ย”
อัปสรสวรรค์ได้ฟัง ก็ทำหน้าเครียด

ชิวาว่ากำลังจูงไลลาให้รีบเดินมา แต่กลับถูกอีกฝ่ายสะบัดแขนออก
“จะให้รีบไปไหนพี่ ยังกินข้าวไม่เสร็จเลย”
“ก็ยามเค้าบอกว่าพี่ฉลาม ผู้กำกับละครน้องไลมาถึงแล้ว เดี๋ยวเราจะได้ดักเจอก่อนไง เผื่อน้องไลจะได้เจรจา”
ไลลารีบบอก “โหพี่ ไลยังไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย บทก็ไม่ได้หยิบมา จะคุยรู้เรื่องมั้ย”
“จะพร้อมเพริ้มอะไรล่ะ ใช้มารยาหญิงนั่นแหละค่ะ มีอะไรในตัวก็ส่ายเข้าไป ร่อนเข้าไป เดี๋ยวมันต้องติดซะอย่าง พวกผู้กำกับเจ้าชู้ทั้งนั้น”
ชิวาว่าพูดจบก็จัดแจงพาไลลารีบๆ มาจนถึงลานจอดรถ ก่อนจะชนเข้ากับหญิงวัย 45ปี ท่าทางเซอร์ๆคนหนึ่ง จนกระเป๋าและเอกสารร่วงกระจาย
“อุ๊ย โทษทีน้อง เดี๋ยวมาช่วยเก็บนะ พี่รีบ”
ทั้งคู่รีบเดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็เหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นใคร มีแต่ยาม
“อ้าวน้องยาม ผู้กำกับจอดรถไหน”
ยามหันไปก็เห็นผู้กำกับนั่งเก็บของอยู่ “นั่นไงพี่ นั่งเก็บของอยู่นั่น”
ชิวาว่ารู้สึกหนาววาบขนลุกซู่ ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองหน้าไลลา แล้วขยิบตาว่าใช่อีคนที่ชนไปเมื่อกี้ไหม
“น้องไล น้องไลว่าใช่มะ”
ไลลาค่อยๆ หันไปดู แล้วหันกลับมาพูดด้วยเสียงกลัวๆ
“สงสัยจะใช่ว่ะพี่ บทร่วงเต็มพื้นเลย”
“งั้นไป”
ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปช่วยหญิงคนนั้น ซึ่งก็คือผู้กำกับชื่อฉลาม เก็บเอกสารทันที
“พี่คะ พวกหนูช่วยเก็บค่ะ”
โชคร้าย ฉลามเก็บเสร็จพอดี ก่อนจะหันมาพุดเหน็บ
“ไม่เป็นไร เสร็จแล้วค่ะ “พี่ๆ” ไปเถอะ”
ฉลามนิ่งเดินไป ไลลากับชิวาว่าหน้าเจื่อน
“ผู้หญิงฮาอะไรวะชื่อฉลาม”

ชิวาว่าทำหน้างงๆ ส่วนไลลาก็มีเรื่องหนักใจขึ้นมาอีก

อัปสรสวรรค์กำลังจะขับรถกลับบ้าน
 
ขณะขับผ่านหน้าตึกก็เห็นปกรณ์ยืนอยู่ไกลๆ คนเดียวท่าทางเศร้าๆ เธอรีบกดกระจกให้เลื่อนลง ตั้งท่าจะตะโกนทัก แต่ขณะที่กำลังจะอ้าปาก ก็เห็นจริยาวิ่งออกมาจากตึก เข้าไปหยอกล้อกับตากล้องหนุ่ม ทำเอาเธอสะดุดกึก ก่อนจะตัดสินใจปิดกระจก แล้วขับรถออกไป โดยที่ 2 คนนั้น ไม่รู้ตัวเลยว่าเมื่อครู่มีใครมองอยู่

“ไม่ได้หรอกน้อง พี่ต้องทำตามบทคุณพู่กันเทพ”
ฉลามปฏิเสธเสียงแข็ง เมื่อได้รับฟังเงื่อนไขของไลลา
“ทำไมล่ะคะ เราปรับเค้าแค่นิดนึงก็ไม่ได้หรือคะ”
“พี่เคยทำงานร่วมกับแกแล้ว แกอีโก้ ไม่ฟังใคร พี่ไม่อยากมีปัญหา แล้วอีกอย่าง พี่ว่าทุกคนควรรู้หน้าที่ตัวเอง เธอเอาเวลาไปศึกษาบท และพัฒนาฝีมือให้มันดีดีกว่า ถึงบทจะเล็กเป็นแค่คนรับใช้ แต่ถ้าพลังเราใหญ่ เล่นเต็มที่ เธอก็จะโดดเด่นขึ้นมาได้ โอเค นะ ขอตัวก่อน”
พูดจบ ฉลามก็เดินไปที่อื่น ทิ้งให้ไลลาหน้าเจื่อน

ไลลากลับมาถึงบ้าน ก็เห็นเพ็ญศรีกำลังพิมพ์โน้ตบุ๊กอย่างใส่อารมณ์ ท่าทางแค้นจัด
“อะไรคะแม่”
เพ็ญศรีเงยหน้ามาตอบลูกสาว “ ด่าอีพวกโรคจิต”
“ใครมันด่าแม่เหรอ”
“ไม่ใช่ มันด่าแก”
ไลลาทำหน้าแบบไม่แคร์ “โอ๊ย ช่างมันเหอะแม่ ยังไม่ชินอีกเหรอ”
“คนเดี๋ยวนี้มันบ้า อะไรวะ ละครยังไม่ทันออก แค่มีข่าวว่าแกจะเล่น มันก็เอามาวิเคราะห์อย่างงั้น วิจารณ์อย่างนี้”
“ธรรมดาแม่ คนมันอยากเป็นซัมวัน มีตัวตนบนโลกนี้ไม่ได้ เลยอยากไปเกิดในโลกไซเบอร์”
เพ็ญศรีส่ายหน้าอย่างระอา “โคตรสบาย แค่นั่งกระดิกเท้าเล่นเน็ทอยู่บ้าน แล้วก็ด่าเค้าไปทั่ว”
ไลลาเริ่มเซ็ง “แม่ใจเย็นๆ แม่อย่าอิน”
“เป็นใครไม่ดีใจบ้างวะ ลูกได้เป็นนางเอกละคร ลองเป็นลูกพวกมันมั่งสิ คงทุ่มเงินเป็นแสนเป็นล้านดันกัน”
“จะหยุดมั้ยแม่”
ไลลาเห็นแม่ไม่หยุด ก็เดินหนีเข้าไปในครัว เพ็ญศรียังพูดต่ออีก
“อคติทั้งนั้น เค้าไม่ได้เรียกวิจารณ์ เค้าเรียกว่าสำรอกอารมณ์ ต๊าย นี่ๆ มันบอกแกคงได้ดีเพราะนอนกับไอ้เสี่ยนิรันดร์ บ้ามั้ย นอนกับเสี่ยนั่นนอนกับหมูดีกว่า”
ไลลาเดินหิ้วกระป๋องน้ำมาถึง ก็สาดโครมลงไปที่โน้ตบุ๊ก จนหน้าจอดับ เพ็ญศรีหุบปากเงียบทันที
“พอ ไม่ต้องเล่นมันแล้ว เพราะรับรองว่าต่อไปนี้จะไม่มีวันไหนที่ไลไม่โดนด่า”
ขาดคำ ก็วางกระป๋องโครมแล้วเดินจากไป เพ็ญศรีมองโน้ตบุ๊กตาปริบๆ

ไลลานั่งอยู่หน้าคอมพ์ สีหน้าดูเคียดแค้น เมื่อเห็นสกู๊ปข่าว “นางฟ้า จิ๋ว โจ ละครตบตา ?”
“นางฟ้า แกมันทำบุญอะไรมา หรือโลกนี้มันมีแต่คนเลวๆ ที่ได้ดี”
บ่นพลางหันไปเห็นบท “หงส์เริงไฟ” ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วก็แค้นใจ หยิบบทปาออกไปนอกหน้าต่างแล้วทรุดตัวลงบนเตียง ปิดหน้าร้องไห้
“ทำไม ต้องเป็นอย่างนี้ ทำไมฉันจะได้ดีกว่าแกบ้างไม่ได้ ทำไมโลกต้องให้ฉันพ่ายแพ้แกตลอดมา แกไม่ได้มีโชคช่วย แต่มีคนดีๆ อย่างคุณอาทิตย์คอยช่วย ถ้าแกไม่มีเค้า แกก็จะไม่เหลือใครอีกต่อไป ฉันจะทำให้ได้ คอยดูเถอะ”
เธอปาดน้ำตา แล้วนั่งคิดด้วยความแค้น

ที่หน้าตึก THE SUN กำลังจัดบวงสรวงละคร “เพลิงนารี” ที่มีอัปสรสวรรค์แสดงนำ เหล่าผู้บริหาร นักแสดงและทีมงานกำลังยืนให้นักข่าวถ่ายรูปหมู่หน้าป้ายคัทเอ๊าท์ขนาดใหญ่
งานนี้มีนักข่าวมากันบางตามาก จนราศีต้องหันไปกระซิบถามปูเปรี้ยวที่ยืนข้างๆ
“นี่ปูเปรี้ยว เธอเชิญนักข่าวมาครบทุกที่รึเปล่า”
“ครบแล้วค่ะมาดาม เค้าก็รับปากกันหมดนะคะ หรือว่าที่อื่นจะฝนตก รถติด”
“ลองโทร ไปเช็คอีกทีซิ”
ปูเปรี้ยวรับคำ “ค่ะๆ”
จังหวะนั้น กรณ์ก็เดินเข้ามาด้านหลัง “มาดามครับ มีเรื่องแล้วครับ”
“ว่าไง”
“นัตตี้ เอ๊ย เพื่อนผมที่อยู่สตาร์สเตชั่นบอกว่า ละครช่องเค้าที่จะเปิดกล้องพรุ่งนี้เลื่อนมาเป็นวันนี้กระทันหัน นักข่าวเลยไปที่โน่นหมดครับ”
ราศีตกใจ “อะไรกัน ทำไมทำแบบนี้ ก็เรานัดไว้ก่อนนี่”
ปูเปรี้ยวส่ายหน้า “สงสัยจะอิทธิฤทธิ์เจ้าแม่ไลลากับเจ้าพ่อนิรันดร์จริงๆ”
ราศีเครียดมาก จู่ๆ ก็หน้ามืดจะล้มลงไป
“ว้าย ช่วยด้วยค่ะๆ มาดามเป็นลม”
ปูเปรี้ยวรีบประคองไว้ อาทิตย์รีบวิ่งเข้ามาช่วยกันกับกรณ์พาราศีเข้าไปในที่ร่ม
อัปสรสวรรค์และทุกคนมองตาม สีหน้าตกใจ

ทางด้านที่หน้าตึกช่อง STAR กลับเต็มไปด้วยผู้คนซึ่งส่วนมากเป็นนักข่าวออกันอยู่หน้าเวทีแถลงข่าวด้านข้างมีป้ายคัทเอ๊าท์โปรโมตละครเรื่อง “หงส์เริงไฟ” ซึ่งไลลาแสดงนำ ที่มีขนาดใหญ่กว่า THE SUN มาก
ไลลาเป็นตัวแทนของนักแสดงพูดอยู่บนเวที
“พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ นักข่าวคะ ไลคงไม่ต้องอธิบายความรู้สึกใด ทุกคนคงเข้าใจดีว่าการที่นักข่าวตัวเล็กๆ จะก้าวขึ้นมาสู่จุดนี้ได้ต้องใช้ความยากลำบากแค่ไหน จากจุดที่ติดตามคนที่เป็นข่าว พลิกกลับเป็นคนที่กลายเป็นข่าว ไลไม่เคยกล้าแม้แต่จะฝันว่ามันจะเป็นเช่นนี้ แต่สายลมแห่งชะตากรรมนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่อาจคาดเดาได้”
นักข่าวกดชัตตเตอ์รัวไม่หยุด
ชิวาว่ายืนดูอยู่ที่หน้าเวที ก่อนจะได้ยินดังมาด้านหลัง
“เท่ตาย”
พอหันไปดู ก็เห็นหน้านัตตี้ใส่เฝือกจมูกดูคล้ายอุลตร้าแมนไม่ผิด
“ว้าย ใครเชิญอุลตร้าแมนมาร่วมงาน”
“อุลตร้าแม่...”
ชิวาว่าเงื้อมือจะตบ นัตตี้พูดต่อ
“แม่ลูกอ่อนแถวบ้านแกรึไงล่ะ”
“จะพูดอะไรก็ระวังอวัยวะที่เหลือหน่อยนะ”
นัตตี้ยิ้มหยัน “นี่เจ้านายแกจะลงสมัครผู้แทนรึไง”
ชิวาว่าทำหน้าเหยียด “หายใจทางปากยังมีปัญญาแขวะคน น่าสมเพช”
ด้านบนเวที ไลลายังคงพูดต่อ
“เลือดคนข่าวที่ยังเข้มข้น ไลขอสัญญาว่าจะไม่ลืมที่มา ไลจะทำให้ดูว่าดาราที่เป็นมิตรกับนักข่าวบันเทิงนั้นมันเป็นยังไง ขอฝากสนับสนุนละครหงส์เริงไฟ ละครเรื่องแรกของไลด้วยนะคะ ไลจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เสียชื่อคนข่าวเด็ดขาด”
พูดจบก็ยกมือไหว้ ผู้คนปรบมือเกรียวกราว

ไลลายิ้มภูมิใจ แววตาเป็นประกาย

เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 10 (ต่อ)

หลังจบงาน ไลลาและนักแสดงคนอื่นๆ กำลังกระจายกันให้สัมภาษณ์นักข่าว
 
“ขอฝากผลงานหงส์เริงไฟไว้ด้วยนะคะ”
พอช่างกล้องพยักหน้าว่าถ่ายเสร็จ ไลลาก็รีบเดินไปกอดนักข่าวสำนักนั้นด้วยความสนิทสนม
“สู้ๆ นะจ๊ะน้องไล”
“ฝากเชียร์ด้วยนะพี่ เดี๋ยวกริ๊งกร๊างหากัน”
นักข่าวกับตากล้องเดินออกไป ขณะไลลากำลังจะหันหลังไปหานักข่าวอีกสำนักที่รออยู่ จู่ๆ พู่กันเทพ นักเขียนบทละคร วัย 45 ปี ก็ถือแก้วน้ำเดินเข้ามาทัก
“ขอโทษครับ”
ไลลาหันไปเห็นก็งงๆ ว่าเป็นใคร “อ๋อ ค่ะๆ”
“คุณรับบทเป็นหงส์รึเปล่า”
ไลลาพยักหน้ารับ “ ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“อืม เป๊ะมาก คุณหน้าเหมือนหงส์มากนะ”
เธอทำหน้าเหวอ พลางมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ
“เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะ ขอตัวสัมภาษณ์ก่อน”
นักเขียนบทพยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินจากไป
ไลลาเดินเข้าไปกอดทักทายกับเพื่อนนักข่าวอีกกลุ่ม ครู่หนึ่งชิวาว่าก็วิ่งเข้ามา
“น้องไล เจอคุณพู่กันเทพยัง”
“ไหนล่ะ”
ชิวาว่ารีบบอก “เอ๊า เมื่อกี้เขามานะ คนที่อ้วนๆ ใส่เสื้อม่อฮ่อมน่ะ”
เธอนึกไปถึงคนที่เข้ามาทัก แล้วก็ทำหน้าตกใจ “หา”
“โห่ เสียดาย อาจจะคุยกับเขารู้เรื่องก็ได้”

ทีมงานนั่งรอในห้องประชุมอย่างร้อนรน พักใหญ่อาทิตย์ก็เดินเข้ามา ป๋าช้างรีบถามอย่างเป็นห่วง
“มาดามเป็นไงบ้างครับ”
“คุณหมอว่าแกความดันขึ้นสูงน่ะครับ ตอนนี้กลับบ้านได้แล้ว”
“แหม มันก็น่าขึ้นอยู่หรอกครับ นักข่าวมาน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ช่องเราเลย”
กรณ์พูดแขวะ “เพราะอีเวรตะไลลาคนเดียว”
“อย่าไปโทษเค้าเลยครับ ถ้าจะผิดก็ผิดกันทั้งหมด ผิดที่ระบบการดูแลสื่อและประชาสัมพันธ์ไม่ดีพอ ที่ไหนต้อนรับดี ใครๆ ก็อยากไปที่นั่นครับ”
ทุกคนหน้าเจื่อน อาทิตย์พูดต่อ
“คุณแม่คงต้องพักไปซักระยะ ช่วงนี้ท่านจึงให้ผมเข้ามาดูแลละครกับงานข่าวควบไปด้วย ยังไงผมคงต้องพึ่งพาประสบการณ์ของทุกคน เพราะผมเองก็ยังใหม่กับงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่งานเพลงครับ”
ปูเปรี้ยวถามขึ้นมาบ้าง “ แล้วเรื่องละคร คุณอาทิตย์จะเอายังไงต่อคะ”
“ผมดูแล้ว เรายังสูสี เพราะไลลาเองมีแต่ฐานแฟนคลับรายการข่าว ยังไม่มีกลุ่มแฟนละคร แล้วเรื่องเก่าๆ ก็ยังมีคนขุดคุ้ยมาโจมตีอยู่เรื่อย โดยเฉพาะนับตั้งแต่มีข่าวว่าจะมาเล่นละคร”
กรณ์รีบเสนอ “เราตั้งทีมวอร์รูมโพสต์ด่ามันให้ครบทุกเว็บเลยดีมั้ยครับ”
“วิธีแบบนั้นกำลังเป็นที่นิยม”
คนเสนอพยักหน้ายิ้มๆ
“แต่สำหรับผมว่ามันสกปรกและน่าละอาย”
กรณ์หน้าจ๋อย ป๋าช้างยิ้มเยาะ อาทิตย์ทำหน้าจริงจัง
“ตอนนี้เราได้เปรียบตรงประสบการณ์การทำงานที่มีมาตรฐาน และแฟนละครที่เหนียวแน่นกลุ่มใหญ่ ส่วนช่องนั้นเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ชัดเจน ซึ่งกลุ่มนี้เน้นกระแสและไม่แน่นอน เพราะฉะนั้น เราต้องแข่งกันที่คุณภาพ การผลิต และพยายามยึดฐานของเราไว้ให้ดี ยังไงผมจะลองใช้การตลาดแบบใหม่ๆ มาผสมผสานอีกแรง”
ป๋าช้างยิ้มรับ “ผมเชื่อว่ายังไงคนที่ทำงานด้วยเงินมันก็แพ้คนทำงานด้วยใจ”
อาทิตย์พยักหน้า แววตามุ่งมั่นและมั่นใจ

อาทิตย์นั่งปรึกษางานกับปูเปรี้ยวในห้องทำงาน
“ตอนนี้งานต่างๆ ที่แคนเซิลน้องนางฟ้า เริ่มกลับมาแล้วค่ะ ส่วนบางรายยังไม่เข้าใจ เราก็จะเน้นโทร ไปอธิบายโดยตรง ว่าเป็นแผนโปรโมต”
“ดีมากเลยครับพี่ปูเปรี้ยว ใครยังติดขัด เดี๋ยวผมช่วยพูดให้อีกครั้ง แล้วก็ต่อไปนี้ผมอยากดึงคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม เพราะบางเรื่องถ้ายังใช้การโปรโมตแบบเก่าๆ ล่ะแย่แน่”
จังหวะนั้น ปกรณ์ก็เดินเข้ามา ปูเปรี้ยวหันไปทัก
“อ้าว เป๋ามาพอดีเลย”
อาทิตย์รีบบอก “คุณเป๋าครับ ผมมีเรื่องต้องรบกวนคุณ”
“ว่ามาเลยครับ”
“ตอนนี้เราต้องการไอเดียของคนรุ่นใหม่ไฟแรง ผมทราบว่าคุณยังติดต่อกับรุ่นน้องในมหาลัยอยู่ อยากให้คุณช่วยหาเด็กที่มีความสามารถและความคิดสร้างสรรค์เข้ามาร่วมทีมกัน”
ตากล้องหนุ่มมองหน้ากลับครู่หนึ่ง ก่อนตอบ “ไม่มีปัญหาครับ”
อาทิตย์พยักหน้ารับแทนคำขอบคุณ

พู่กันเทพกำลังจะขึ้นรถกลับบ้าน พร้อมกับที่ไลลาวิ่งตามมาถึงพอดี
“พี่พู่กันเทพคะ”
นักเขียนบทชะงัก ก่อนจะหันไปเห็นไลลา
“มีเวลาแล้วเหรอหงส์”
ไลลาไม่รีรอที่จะเข้าเรื่องทันที “ไลขอปรึกษาเรื่องบทหน่อยได้มั้ยคะ”
“โอ้ นี่ห้าโมงเย็น สมุนหมาแมวผมร้องหาแย่แล้ว”
“แล้วที่บ้าน มีใครอยู่มั้ยคะ”

พู่กันเทพยิ้มนิดๆ

ทางด้านอัปสรสวรรค์เมื่ออ่านบทตัวเองในเรื่องเพลิงนารี ก็หัวเสีย เพราะคิดว่าควรจะโดดเด่นมากกว่านี้
 
“ทำไมบทมันเป็นอย่างนี้ล่ะคะ”
“มีอะไรเหรอคุณ” อาทิตย์ย้อนถาม
“แนวซ้ำๆ เดิมๆ โดนรังแก อย่างนี้จะไปสู้ของฝั่งนั้นเค้าได้ยังไง ได้ข่าวว่ามีทั้งตบตีเรียกน้ำตาทั้งเรื่อง”
“มันไม่มีอะไรมาบอกได้หรอกนะครับว่าละครเรื่องไหนจะดังแน่ มันมีปัจจัยอีกตั้งเยอะ”
“แต่มันต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ ทางนั้นเค้าเน้นฉูดฉาดเชือดเฉือน เราจะมาอิดเอื้อนรำฟ้อนอะไรอยู่ มีบทเรื่องอื่นอีกมั้ย”
อาทิตย์รีบบอก “โห คุณ นี่มันบทของอาจารย์ศรีสอางค์ นักเขียนบทชั้นครูเลยนะครับ”
“ไม่เห็นเกี่ยวเลย เก็บไว้ใช้วันหลังก็ได้นี่”
“เขาไม่ใช่เพื่อนเล่นเรานะครับ อาจารย์แกเขียนให้ช่องเรามายี่สิบปี เซ้นส์ละครแกก็ดี ดังเกือบทุกเรื่อง”
“งั้นเอามือถือมา ฉันโทร หาแกเอง”
อาทิตย์ส่ายหน้า “ผมไม่มีหรอก ไปขอที่แม่ผมโน่น”
“คิดว่าฉันหาไม่ได้เหรอ”
พูดจบก็เดินทำหน้าฉุนเฉียวออกไป อาทิตย์ส่ายหัวช้าๆ

ไลลาคุยกับพู่กันเทพสองต่อสองในห้องทำงานภายในบ้านของนักเขียนใหญ่ ซึ่งอยู่ในชุดคลุมนั่งจิบกาแฟอยู่ มีหมาแมวนอนอยู่เต็มบ้าน
“ผมขอคิดดูก่อนนะ”
ไลลารีบพูดอ้อน “ทำไมล่ะคะ มันติดตรงไหน ไลจะช่วยคิด”
พู่กันเทพถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง พลางเล่าตำนานให้ฟัง
“คุณรู้มั้ย เรื่องหงส์เริงไฟน่ะ ผมเขียนขึ้นมาจากประสบการณ์จริง ของ “หงส์” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมหลงรักเมื่อสมัยเรียน”
พูดพลางหันไปมองหน้าไลลา
“เค้าหน้าตาประมาณคุณนี่แหละ ผมเคยใช้ชีวิตกับเขาพักนึง แต่ไปกันไม่ได้ แม้มันจะผ่านไปนานยี่สิบปี ทุกวันนี้ผมก็ยังรักเค้าอยู่”
“แล้วทำไมคุณถึงเขียนให้บทนางรองเด่นกว่าเธอล่ะคะ”
พู่กันเทพแค่นยิ้ม “เพราะผมโกรธเธอ เกลียดเธอ หงส์ทำกับผมไว้มาก”
“แต่ลึกๆ คุณก็ยังรักเธอ คุณถึงยังให้เธอเป็นนางเอก”
“ใช่ แม้นางรองในเรื่อง ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นภรรยาของผม แต่ผมก็ไม่เคยลืมหงส์เลย” พูดแล้วก็รีบ เปลี่ยนเรื่องฉับ “ทีมงานเค้าเก่งมากนะ เลือกคนได้เหมือนตัวจริงมาก ไม่ใช่แค่หน้าตาหรอกนะ ทั้งการพูดจา ลักษณะท่าทาง ยังกับคนเดียวกัน”
ไลลายิ้ม ดวงตาเป็นประกาย “ คงเป็นฟ้าลิขิตมาน่ะค่ะ”
“แต่ประวัติศาสตร์ก็คงย้อนไปแก้อะไรไม่ได้ แล้วอีกอย่างชีวิตผมไม่เคยแก้บทตัวเองตามใจคนอื่นหรอกนะ ขอโทษด้วย”
ไลลาหน้าเสีย “โธ่ ทำไมล่ะคะ ทำไมคุณต้องยึดติดกับอดีตด้วย”
พู่กันเทพพูดโดยไม่มองหน้า “กลับเถอะครับ”
อีกฝ่ายนั่งลงคุกเข่ากับพื้น “คุณพู่กันเทพ ฉันขอร้องเถอะค่ะ สงสารฉันบ้างเถอะ ถ้าฉันเล่นตามบทคุณน่ะ ฉันไม่ได้เกิดแน่ คุณเป็นคนเดียวที่พวกนั้นเชื่อฟัง ช่วยเพิ่มบทให้ฉันนะคะ”
พู่กันเทพหันหลังไม่มอง “คุณไม่ใช่คนแรกหรอกนะ ที่มาทำแบบนี้กับผม ผมไม่ใจอ่อนหรอก”
ไลลาไม่เลิกความพยายาม “นี่เป็นเรื่องแรกของฉัน ฉันตั้งความหวังไว้กับมัน ถ้ามันล้ม ฉันก็ไม่รู้จะไปทางไหนแล้ว”
นักเขียนบทเสียงสั่น “เชิญกลับไปเถอะ”
ไลลาลุกขึ้น เดินมายืนด้านหน้า
“มันยากมากนักใช่มั้ยคุณพู่กันเทพ คุณรักเธอไม่ใช่เหรอ ฉันรู้นะ ถึงแม้คุณจะลดบทบาทเค้าในบทประพันธ์ แต่ความจริง หงส์คนนั้นยังเริงร่อนอยู่ในใจคุณตลอดมา”
พูดพลางเริ่มวาดลีลา เอื้อมมือไปจับหน้านักเขียนบท จนสะท้านไปทั้งกาย
“คุณ...”
ไลลาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกปานสะกดจิต “เพิ่มบทบาทให้ฉันเถอะ คุณพู่กันเทพ”
“นี่คุณไลลา”
อีกฝ่ายจ้องหน้า “ไม่.. ฉัน... หงส์”
พู่กันเทพทนไม่ไหว ซุกหน้าลงที่ซอกคอไลลา พร้อมกับสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ตามด้วยเสียงฟ้าผ่า
ดังเปรี้ยง

ปกบทละคร “หงส์เริงไฟ ฉบับแก้ไข” ถูกวางลงบนโต๊ะทำงาน ขณะนิรันดร์กำลังคุยอยู่กับไลลา
“อยู่ๆ เมื่อเช้าคุณพู่กันเทพก็ส่งอีเมลบทละครฉบับใหม่มาให้ผม อ่านแล้วมีแก้เกือบทั้งเรื่อง ผมว่าคงถูกใจคุณแน่”
ไลลาดูแปลกใจอยู่เหมือนกัน “ มีอะไรหรือคะ”
“ก็บทนางเอกมันเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก มีฉากโชว์อารมณ์ โชว์ดรามา แถมยังมีฉากเร่าร้อนบนเตียง
งานนี้คุณได้โชว์ฝีมือเต็มที่สมใจแน่”
เธอยิ้มดีใจ “จริงหรือคะ”
” อื้ม สงสัยจริงๆ ว่านักเขียนนี่คงมีพลังจิตอ่านใจคุณได้ เคยได้เจอกันบ้างรึยัง”
ฝ่ายถูกถามอ้ำอึ้ง “ไม่..ค่ะ”
“คนที่ปวดหัวสุดน่าจะเป็นผู้กำกับกับทีมงาน ต้องเปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด”

ไลลายิ้มสมใจ

ขณะอาทิตย์นั่งตรวจงานอยู่ในห้อง อัปสรสวรรค์ก็เดินเข้ามา พลางยื่นมือถือให้
 
“อาจารย์ศรีสอางค์ขอคุยด้วยค่ะ”
เขารับมาท่าทางงงๆ
“ครับอาจารย์”
พอถือสายฟังสักพักก็หน้าเสีย
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับอาจารย์ ผมขอโทษแทนนางฟ้าด้วยนะครับ อาจารย์ครับ เดี๋ยวก่อนครับ”
อาทิตย์วางมือถือหน้าเครียด
“คุณไปพูดอะไรกับอาจารย์ครับ”
“ก็ฉันพูดเท่าไหร่แกก็ไม่ยอม ฉันเลยถามว่าคุณอาทิตย์ให้ตอนละเท่าไหร่ ฉันจะเพิ่มให้ แค่นี้แหละแกขอพูดกับคุณ แกยอมแล้วใช่มั้ยคะ”
“ยอมอะไรกันคุณ เค้าขอยกเลิก ไม่ขายบทให้เราแล้ว”
ซุปตาร์สาวหุบยิ้ม “อะไรกัน”
“คุณไปคุยเรื่องเงินกับแกได้ยังไง แกโกรธมากเลยครับ แกบอกจะไม่เขียนให้ช่องเราอีกแล้ว”
“งั้นก็ไม่ต้องแคร์สิคะ”
อาทิตย์ถอนใจ “ยุคนี้หาคนเขียนดีๆ ยากนะคุณเอ๊ย” พูดพลางลุกขึ้นจับมืออีกฝ่าย
“ไป ไปหาอาจารย์ศรีสอางค์กับผม ก่อนที่จะเสียคนเขียนบทไปอีก”
ขาดคำก็รีบดึงอัปสรสวรรค์ออกไป

ไลลาในชุดเสื้อกล้ามกำลังฝึกการแสดงอยู่ในห้องซ้อมอย่างขะมักเขม้น หน้าตาสดชื่นกว่าวันก่อนๆ
“โอเค จ้ะ วันนี้แค่นี้ก่อน”
ไลลายกมือไหว้ลาครู พร้อมกับที่โปรดิวเซอร์เดินเข้ามา
“น้องไล มีคนมารอพบแน่ะ”
ไลลาทำหน้างง

“จะบ้าเหรอพี่ ยืมอะไรทีเป็นแสนๆ”
ไลลากำลังคุยกับช่างทำผมช่อง THE SUN อยู่ที่บันไดหนีไฟ
“โธ่ ขอเถอะน้องไล พี่ขอเค้ามาจนหมดแล้ว พี่ลำบากจริงๆ ไอ้เจ้าหนี้มันโทร ขู่ว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่ใช้ มันจะเอาไปนั่งยาง”
“โห รอบที่แล้วพี่ก็พูดอย่างนี้ แสนนึงยังไม่ได้คืนเลย ไลก็มีภาระนะ ไม่ได้เตรียมเงินไว้ใช้หนี้พนันบอลพี่”
ช่างทำผมพยายามอ้อน “ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก น้องไลรวยจะตาย”
“ยอมรับว่ารวย แต่คนนี้ก็ยืม คนนี้ก็ขอ คนโน้นก็หิวข้าว จนไลแทบจะไม่มีเงินเก็บอยู่แล้ว แม่ก็ต้องเลี้ยง”
“เราก็ช่วยกันมาเยอะนะ”
ไลลาจ้องหน้าขวับ “อ๋อ พี่ทวงบุญคุณกันเหรอ”
“ไม่ได้ทวงหรอก แต่จะบอกว่าเวลาน้องไลลำบากน่ะ ก็อยากให้คนอื่นช่วยไม่ใช่เหรอ”
“มันก็ผลัดกันนั่นแหละพี่ แต่นี่มันหนักไป”
“แล้วของน้องไลไม่หนักเหรอ” ช่างทำผมย้อนกลับ “ที่นางฟ้ากลายเป็นสะตอพันธุ์แบ๊วไปแล้ว นั่นไม่ใช่ฝีมือพี่เหรอคะ”
ไลลาตัดสินใจ “ฉันให้พี่ได้หมื่นนึง”
“ขอเถอะค่ะ แสนนึง”
“งั้นพี่ก็ไปยืมที่อื่นแล้วกัน”
พูดจบก็หันหลังเตรียมเดินหนี ช่างทำผมยื่นไม้ตาย
“ดี พี่จะได้ไปยืมนางฟ้า แล้วมีอะไรขึ้นมา อย่าหาว่าพี่ไม่เตือน”
ได้ผล อีกฝ่ายหันหลังกลับมาทันที “นี่แกขู่ฉันเหรอ”
“ไม่...”
ฝ่ายนั้นยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกไลลาพุ่งเข้าไปบีบคอ แล้วดันไปจนแทบจะหงายหลังตกตึก
“อย่า อย่านะน้องไล”
“เมื่อกี้แกว่าไงนะ”
ช่างทำผมเสียงสั่น “ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย ปล่อย ปล่อยพี่ก่อนน้องไล”
“แกจะเอาเรื่องฉันไปบอกนางฟ้าไม่ใช่เหรอ”
พูดพลางผลักคออีกฝ่ายออกไปอีก จนแว่นตาและปากกาที่เหน็บไว้ร่วงลงตึก
“พอแล้วค่า พี่กลัวแล้ว พี่ไม่บอกแล้ว ปล่อยพี่เถอะน้องไล พี่ไหว้ล่ะ”
ไลลายิ้มร้าย “คนเล็กๆ อย่างแก ตายไปใครจะสน แกอย่าลืมว่าในวงการน่ะพวกฉันทั้งนั้น แล้วถ้าอยากจะแบล็คเมล์กันน่ะ จำไว้ด้วย ว่าจะเล็กจะใหญ่อีไลไม่สน อย่าคิดว่าตัวเองเหนือชั้น ไม่กลัวฉัน ก็จงกลัวความตาย”
พูดพลางกระชากคอช่างทำผมเหวี่ยงลงกับพื้น
“ไปให้พ้น แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
ช่างทำผมรีบลุกวิ่งหนีไป ไลลามองตามด้วยความโกรธ
“ฉันไม่ได้เลี้ยงแกคนเดียวหรอกนะ ปลิงนรก”

ที่หน้าบ้านอาจารย์ศรีสอางค์ อาทิตย์หน้าเสีย ก้าวขึ้นมานั่งบนรถแล้วปิดประตู อัปสรสวรรค์รีบถาม
“อาจารย์ว่าไงบ้าง ยอมแก้บทให้มั้ย”
“เห็นหน้าผมมั้ยครับเนี่ย มันชาไปหมดแล้ว อาจารย์แกไล่ผมออกมาจากบ้านเนี่ย”
“งั้นฉันลงไปคุยเอง”
พูดพลางขยับจะลงจากรถ อาทิตย์รีบคว้าแขนไว้
“พอเลย พอเลยคุณ อยู่เฉยๆ จะเป็นการปรานีกับผมมาก”
“งั้นก็ไปหานักเขียนคนอื่น เยอะแยะไป”
อาทิตย์หน้าเครียด “ไปหาป่านนี้ คงได้เรื่องหรอกครับ จะถ่ายอยู่แล้ว” พูดพลางรีบสตาร์ตรถ “สงสัยจะให้ถูกใจคุณ ผมคงต้องเขียนเอง”

อัปสรสวรรค์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

เมื่อถึงทางแยก อัปสรสวรรค์เห็นอาทิตย์เลี้ยวรถไปคนละทางกับบ้านเธอ ก็โวยวายขึ้นมาทันที
 
“นี่คุณจะเลี้ยวไปไหน”
“ว่าจะไปดูพี่อ๋อยช่างทำผมหน่อย แกไม่มาทำงานตั้งแต่วันที่โดนคุณจัดการนั่นแหละ”
“อะไรกัน ยังไม่ได้จัดอะไรซะหน่อย”
อาทิตย์รีบบอก “เดี๋ยวแกดันเป็นอะไรไป ผมได้ปวดหัวอีกข่าว คุณดูเอาก็แล้วกันครับ ว่าที่ผมตามล้างตามเช็ดอยู่นี่ ก็เพราะความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจของคุณทั้งนั้น”

ทางด้านช่างทำผม พอเดินลงมาจากรถสองแถว ก็เดินไปตามทางเปลี่ยวเพียงลำพัง จู่ๆ ก็ถูกไม้ตีเข้าที่หัวจนล้มไปกับพื้น ก่อนจะถูกชายชุดดำสวมหมวกไหมพรมทุบและกระทืบซ้ำอย่างหนักจนไม่อาจลุกขึ้นสู้ สักพักมันก็หยิบเชือกขึ้นมาชูขึ้น เตรียมรัดคอ

อีกด้านหนึ่ง รถของอาทิตย์ขับมาใกล้ถึงจุดเกิดเหตุ
“ปล่อยฉันลงแถวนี้แหละ บ่นน่ารำคาญ” อัปสรสวรรค์ทำหน้าเซ็ง
“อ๋อ เป็นข่าวมาหลายอย่าง ยังขาดข่าวโดนฉุดไปข้างทาง”
“ก็ดีกว่าอยู่บนรถกับคุณ”
จังหวะที่รถแล่นกำลังจะผ่านจุดเกิดเหตุ ซุปตาร์สาวมองไปนอกรถ เห็นชายชุดดำกำลังจัดการช่างทำผมอยู่ เธอรีบตะโกนด้วยความตกใจ
“เฮ้ย คุณ จอด”
อาทิตย์สะดุ้ง “อะไรกันล่ะคุณ ผีเข้าเหรอ”
“จอดๆ ตรงนี้ก่อน เร็วๆ”
อาทิตย์เสียงดังกลับ “เดี๋ยวผมไปส่งบ้านเอง ใจเย็นๆ”
พูดพลางขับรถต่อ จนโดนอีกฝ่ายทุบอั่กๆ
“จอด บอกให้จอด”
อาทิตย์เบรครถเอี๊ยด “อะไรของคุณเนี่ย ผมทนไม่ไหวแล้วนะ”
อัปสรสวรรค์รีบหันไปดูกระจกหลัง แล้วตะโกนลั่น
“พี่ช่างทำผม พี่ช่างทำผม”
“อะไรนะ”
อาทิตย์ตกใจ หน้าตาตื่น

ชายชุดดำรัดคอช่างทำผมจนกำลังจะขาดใจตาย ก่อนจะถูกอาทิตย์วิ่งเข้ามากระโดดถีบจนกระเด็น
มันเห็นท่าไม่ดีรีบหนีเข้าดงไป
อาทิตย์รีบวิ่งเข้าไปพยุงช่างทำผมที่ตอนนี้อยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว
“พี่อ๋อย พี่อ๋อย”
อัปสรสวรรค์วิ่งตามมาดู แล้วก็ตกใจแทบช็อก อาทิตย์หันไปดุ
“คุณจะลงรถมาทำไม เดี๋ยวคนเห็น กลับไป”

อาทิตย์ช่วยพยุงช่างทำผมที่ใส่เฝือกทั้งแขนขาและค้ำไม้เท้าเดินออกมาจากห้องตรวจ พาไปนั่งที่เก้าอี้ยาว
“เดี๋ยวพี่รอตรงนี้นะครับ ผมไปเอายาให้”
ช่างทำผมยกมือไหว้ “ขอบพระคุณจริงๆ นะคะคุณอาทิตย์”
อาทิตย์พยักหน้าแล้วเดินไป ช่างทำผมนั่งรออยู่อย่างหวาดระแวง พอมีแขนมาแตะไหล่ ก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก ก่อนจะหันไปเห็นว่าคนที่แตะไหล่คืออัปสรสวรรค์ที่ใส่หมวก ใส่แว่นดำ
“ฟ้าเองพี่”
ช่างทำผมทำหน้าจะร้องไห้
“น้องนางฟ้า พอแล้วค่า อย่าทำอะไรพี่เลย วันนี้พี่โดนเยอะแล้ว กรรมตามทันแล้ว”
“ฟ้าไม่ทำอะไรพี่หรอก แค่อยากรู้ ว่าพี่ไปทำอะไรมา”
ช่างทำผมหน้าซีด ตัวสั่น
สักพัก อาทิตย์ก็เดินถือถุงยากลับมาที่เก้าอี้
“ไปครับกลับกัน”
พอเห็นช่างทำผมนั่งตัวสั่น ก็ถามอย่างเป็นห่วง “ไข้ขึ้นเหรอพี่”
ช่างทำผมไม่ตอบ แต่กลับค่อยๆ ยื่นกระดาษการ์ดใบเล็กๆ ให้ด้วยมือสั่นเทา อาทิตย์รีบรับมาดู ก่อนจะเห็นข้อความ “ฉันกลับเอง ไม่ต้องเป็นห่วง ...นางฟ้า”
อาทิตย์ทำหน้าสงสัย หันไปหาช่างทำผมที่ยังสั่นไม่หาย



ไลลาเดินลงมาถึงล็อบบี้ตึก STAR ที่เงียบสงัด เพราะคนกลับกันเกือบหมดแล้ว
อาทิตย์ขับรถเร็วด้วยความร้อนใจสุดขีด

ไลลาเดินออกจากประตูบริษัท พร้อมกับที่อัปสรสวรรค์ที่ยืนหันหลังอยู่หันหลังกลับมา
“นางฟ้า”
อัปสรสวรรค์กัดฟันกรอด ก่อนจะเดินเข้าไปตบเข้าที่กกหูอีกฝ่ายจนเซ
“แกตบฉันทำไม”
“อย่าแอ๊บ พี่อ๋อยบอกฉันหมดแล้ว ฝีมือแกทั้งนั้น จะตามล้างฉันไปถึงไหน อีไลลา อีสารเลว”
พูดพลางจะเข้าไปตบอีก แต่กลับถูกอีกฝ่ายตบสวนแล้วเข้าไปบีบคอ
“ฉันต่างหากที่ต้องพูดคำนี้ ไม่ใช่แก”
ทั้งสองยื้อยุดกันจนตกลงไปในสระน้ำพุหน้าบริษัท ต่างคนต่างตบตีกันระบายความแค้นที่สะสม
มานาน
“ฉันจะแฉแกให้หมด ทั้งเรื่องที่ทำกับฉัน กับคนอื่น และพัฒนาความเลวไปถึงขั้นส่งคนไปฆ่าปิดปากพี่อ๋อย จิตใจแกมันทำด้วยอะไร”
ไลลาพยายามบ่ายเบี่ยง “แกเอาอะไรมาพูด อีอัปสรสวรรค์ชั้นฟ้า เห็นเพื่อนได้ดีกว่าไม่ได้”
อัปสรสวรรค์จิกหัวไลลาขึ้นมา แต่อีกฝ่ายสะบัดออก
 
แล้วเป็นฝ่ายจับเธอเเหวี่ยงลงไปนอน ก่อนจะบีบคอแล้วจับกดลงไปในน้ำ

จบตอนที่ 10
กำลังโหลดความคิดเห็น