เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 11
อัปสรสวรรค์กับไลลากำลังบรรเลงเพลงตบกันอยู่ในสระน้ำพุ
“เมื่อไหร่แกจะเลิกยุ่งกับฉัน”
ซุปตาร์สาวพูดพลางกดหน้าอีกฝ่ายลงในน้ำ ก่อนจะถูกอาทิตย์ที่วิ่งเข้ามาถึงพอดีกระชากตัวออกมา
“นี่คุณ พอแล้ว จะฆ่าเค้าเหรอครับ”
อัปสรสวรรค์ไม่ยอมหยุด จะเข้าไปซ้ำอีก อาทิตย์รีบยุดไว้ ไลลาลุกขึ้นมองหน้าอีกฝ่ายอย่างแค้นเคือง
“คุณอาทิตย์คะ ช่วยดูแลนักแสดงในค่ายหน่อยนะคะ สงสัยเพราะเรตติ้งร่วง เลยแปลงร่างจากนางฟ้าเป็นหมาบ้าไล่กัดไปทั่ว”
ซุปตาร์สาวสวนกลับทันที “มันต้องรับผิดชอบ ที่มันใส่ร้ายฉัน”
“แกมีหลักฐานเหรอว่าฉันทำ ไปหามาสิ แล้วไปฟ้องร้องเอาในศาล เอามั้ยล่ะ”
อาทิตย์ถามย้ำ “ ไลลา คุณเป็นคนวางแผนปล่อยคลิปนั่นหรือครับ”
“ทำไมต้องไลด้วยล่ะคะ” ไลลาย้อนกลับ
“เมื่อกี้ผมเจอพี่อ๋อย ช่างทำผม เค้าบอกว่าทั้งหมด....”
เขายังพูดไม่ทันจบ ไลลาก็แทรกขึ้นมา “อ๋อ อีกระเทยอ๋อย เมื่อตอนเย็นมันมายืมตังค์ไลตั้งแสนนึง บอกจะไปใช้หนี้พนันบอล ไลบอกไม่ให้ มันโกรธใหญ่ ขู่ว่าจะไปบอกนักข่าวว่าไลเป็นคนปล่อยคลิปโจ แล้วไลจะเอาที่ไหนล่ะคะ บ้านไลก็ยังผ่อนไม่หมด”
อัปสรสวรรค์ปราดจะเข้าไปซ้ำ “ไม่ต้องมาตอแหล”
อาทิตย์รีบกัน “หยุดก่อนครับ คิดแบบแฟร์ๆ บางทีเมื่อกี้อาจจะเป็นพวกทวงหนี้พนันบอลก็ได้”
“ฉันไม่เชื่อแกหรอก แกมันสารพัดพิษ กัดไม่ปล่อย”
ไลลาลอยหน้าลอยตา “แล้วฉันจะทำไปทำไม นี่ฉันก็มีบ้านของฉันแล้ว แถมบารมีอะไรก็สู้แกไม่ได้ แกเอาเวลาไประวังอีจิ๋วดีกว่ามั้ง ฉันว่าบางทีมันอาจจะกำลังหาทางทวงของของมันคืน”
อัปสรสวรรค์จ้องตากลับ “ของอะไร”
“ก็คนที่มันแอบชอบของมันมาตั้งนานแล้วไง อีโง่”
ซุปตาร์สาวโดนด่าว่าอีโง่ ก็ปรี่จะเข้าตบ
“พอกันเถอะครับ ผมขอร้อง”
พูดพลางมองหน้าไลลาอย่างขอความเห็นใจ ฝ่ายถูกมอง หันไปหยิบกระเป๋าสะพาย ก่อนจะมองหน้าคู่กรณีอย่างแค้นใจ แล้วเดินออกไป
อัปสรสวรรค์มองตามอย่างโกรธจัด อาทิตย์ยืนมองทั้งสองอย่างอ่อนใจ
อาทิตย์กำลังขับรถกลับ โดยมีอัปสรสวรรค์นั่งหน้าโกรธเกรี้ยวอยู่ข้างๆ
“ไปโรงพักเลยคุณ”
“ไปทำไมล่ะครับ”
อัปสรสวรรค์สะบัดเสียงตอบ “จะเอาเรื่องมันสิ ฉันจะฟ้องมัน ที่ใส่ร้ายฉันเรื่องคลิป”
“แล้วคุณแน่ใจแล้วหรือครับว่าเค้าทำจริงๆ” อาทิตย์ย้อนถาม
“แน่ใจ”
“เรื่องคลิปมันก็เงียบไปแล้ว จะให้มันกลับมาเป็นกระแสอีกเหรอ”
ซุปตาร์สาวพยักหน้า “ใช่ ฉันไม่อยากให้คนเค้านึกว่าเป็นแผนโปรโมตเพลงบ้าๆ บอๆ ของคุณ ฉันอยากให้คนเค้ารู้ว่าเป็นฝีมืออีนี่ ที่เอาคลิปมายัดใส่มือถือฉัน”
“เพื่ออะไรครับ”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าเหยียด “ก็ให้คนเค้ารู้ว่ามันเป็นคนเลวร้ายยังไง”
“ไปปลุกเรื่องที่กลายเป็นของเล่นๆ ไปแล้ว ให้กลับไปเป็นเรื่องจริง ลองคิดดูจะเสียมากกว่าได้รึเปล่า”
“ฉันไม่สน ฉันต้องการทวงความบริสุทธิ์”
อาทิตย์ถอนหายใจ “แล้วนี่มีใครเค้ามองว่าคุณผิดเหรอครับ”
“ฉันไม่สน จอดเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปแจ้งความ”
“คุณ ฟังผมเถอะ ทางใครทางมัน”
อัปสรสวรรค์ชักรำคาญ “คุณเดือดร้อนอะไรนักหนา หรือเคยได้กับมัน”
อาทิตย์เบรกรถเอี๊ยดด้วยความโมโห ก่อนจะหันมองหน้า
“ทำไมคุณพูดแบบนี้ นี่ผมพูดในฐานะคนกลางระหว่างคุณกับเพื่อนนะ นี่คุณ ฟังผมนะ ใครจะเป็นคนทำเรื่องนี้ก็แล้วแต่ แต่ผมไม่อยากให้คุณแก้แค้น คนไม่ดีเขาถนัดในวิธีกลั่นแกล้ง คุณสู้เค้าไม่ได้หรอก เราหันมาตั้งรับด้วยวิธีฉลาดๆ แล้วดูแลตัวเองให้เตรียมพร้อมสู้กับเรื่องใหม่ๆ เถอะครับ”
อัปสรสวรรค์นั่งฟังหน้านิ่ง
“เรื่องส่วนตัวคุณ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ อย่าเสียเวลากับเรื่องพรรค์นี้ ให้ผมจัดการเถอะ”
อาทิตย์ถอนใจแล้วขับรถต่อไป
ไลลาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ใส่ชุดนอน เดินลงบันไดมา พอได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดัง ก็ถึงกับชะงักมองๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปหน้าบ้าน เห็นอาทิตย์ยืนรออยู่หน้ารถ
“คุณอาทิตย์”
พูดพลางมองไปที่รถ อาทิตย์รีบบอก
“ผมส่งเค้าที่บ้านแล้ว คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
ไลลาส่ายหัว เซ็งๆ “แต่ถ้าคุณไม่เข้ามาห้ามก็ไม่แน่ ป่านนี้ไลคงตายลอยอยู่ในสระนั่นแล้วมั้งคะ”
อาทิตย์ทำหน้าจริงจัง “ความจริงมันจะเป็นยังไงก็เถอะ แต่ผมไม่อยากให้คุณ 2 คนเป็นอย่างนี้เลย”
“คนมันเกลียดกัน จะให้กอดจูบกันมันคงไม่ไหวหรอกค่ะ”
อาทิตย์พยักหน้าปลงๆ “ย้ายไปอยู่ที่นั่น สบายดีนะครับ”
ไลลายิ้มนิดๆ “ก็ลำบากเรื่องการปรับตัว แต่ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ”
“ถ้าไม่ไหวก็ขอให้รีบบอก บางทีละครเรื่องหน้า เราอาจได้กลับไปร่วมงานกัน ผมเป็นห่วงคุณนะ”
ไลลายิ้มอย่างซึ้งใจแล้วโผเข้าไปกอด ทำเอาอาทิตย์ยืนอึ้ง
“ขอบคุณนะคะ” พูดพลางผละตัวออกมา “อย่างน้อย ไลก็ยังมีคุณ”
“ผมยังไม่ลืมคุณนะครับ และก็ยังรอคุณอยู่นะครับ”
ไลลายืนอึ้ง ซึ้งสุดหัวใจ
อาทิตย์ยิ้มให้ ก่อนจะเดินขึ้นรถขับออกไป
ไลลานั่งลงบนเตียง ก่อนจะกดมือถือโทร. ออก
“ลูกน้องแกมันห่วยสุดๆ ทำงานกันยังไง อีนางฟ้ามันรู้แล้วว่าเป็นฝีมือฉัน”
ชายคนหนึ่งกำลังนั่งหันหลังคุยอยู่ในมุมมืด “ก็อีกะเทยนั่นดันดวงดี ช่วยไม่ได้”
พอชายคนนั้นหันหน้ามา จึงเห็นว่า ที่แท้ก็คือปราณ
“แล้วค่าจ้างล่ะ ว่าไง”
“ค่าจ้างบ้าอะไร ไปตายซะเถอะ”
ปราณไม่ยอม ก่อนจะพูดขู่ “อ้าว อย่ามั่วนะครับคุณไลลา ผมกุมความลับคุณอยู่นะครับ อยากให้เรื่องนี้แดงไปถึงนักข่าวเหรอ เอามาดีๆ แล้วเรื่องนี้จะเงียบกริบเหมือนไม่เคยเกิดบนโลก”
ไลลาวางสายอย่างโมโห พลางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ไลลากระชากคอช่างทำผมเหวี่ยงลงกับพื้น
“ไปให้พ้น แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
ช่างทำผมรีบลุกวิ่งหนีไป เธอมองตามด้วยความโกรธ
“ฉันไม่ได้เลี้ยงแกคนเดียวหรอกนะ ปลิงนรก”
ไลลายืนครุ่นคิดหาวิธีปิดปากช่างทำผม พลันก็คิดถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมากดหาเบอร์
ที่หน้าจอมือถือ ขึ้นชื่อ “ไอ้ปราณ”
ไลลาตัดสินใจนิดหนึ่งก่อนกดโทร ออก
ปราณที่อยู่ที่แฟลตยิ้มร้าย ขณะกำลังคุยมือถือกับไลลา
“แค่ให้มันเจ็บหนักจนพูดไม่ได้ สบายมาก แล้วนี่มีเรื่องอะไรกันล่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องของแก แล้วแกจะคิดค่าจ้างยังไง”
ปราณนิ่งคิดไปนิดหนึ่ง “ค่าขนมลูกน้องฉัน เดี๋ยวจัดการเอง ส่วนของฉัน....” พูดพลางนิ่งคิดไปนิดหนึ่ง “ขอมือถือฉันคืน”
“มือถืออะไร”
“มือถือที่เธอเก็บไปจากห้องอัดฉันไง”
ไลลาครุ่นคิดถึงตอนที่เธอกับปกรณ์เข้าไปช่วยจริยาที่ห้องอัด และหยิบมือถือของปราณติดมือมา
“มือถือที่แกแอบถ่ายตอนจะข่มขืนไอ้จิ๋วน่ะเรอะ แกจะเอาไปทำอะไร”
“ฉันไม่ได้อยากได้คลิปนั่น ในมือถือนั้นมันมีรูป มีเดโมเพลง มีคลิปที่ถ่ายกับพ่อกับแม่ฉันสมัยยังไม่ตาย ฉันอยากได้คืน”
“ป่านนี้ไปอยู่ไหนใครจะไปรู้”
“ดูให้ฉันหน่อย ถ้าเธอไม่มั่นใจ ก็ลบคลิปจิ๋วก่อนเอามาคืนฉันก็ได้”
ไลลาครุ่นคิด หน้าเครียด ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบลังกระดาษใบหนึ่งออกมา
ในลังนั้นมีแต่สมบัติเก่าๆ เธอคุ้ยๆ ก่อนจะหยิบมือถือปราณขึ้นมา พลางมองอย่างลำบากใจ
หน้าจอมือถือปราณ เห็นคลิปตอนที่จริยากำลังจะถูกข่มขืน
ไลลานั่งอยู่กับพื้นห้องสีหน้าเครียด ก่อนจะตัดสินใจกดลบคลิปนั้น
ทางด้านจริยาก็กำลังนั่งคุยอยู่กับอาทิตย์ในห้องทำงาน
“จิ๋วไม่ติดใจแล้วค่ะ ใครจะทำก็ช่าง ให้กรรมตามสนองเอง”
อาทิตย์ยิ้มให้ “ยังไงลองปรับความเข้าใจกันดูนะครับ ทั้ง 3 คนนั่นแหละ”
จริยาพยักหน้าอย่างลำบากใจ “ค่ะ”
“เอ้อ จิ๋ว ตอนนี้ผมกำลังเร่งเพลงใหม่ให้จิ๋วร้องเดี่ยวอยู่”
อีกฝ่ายทำหน้านิ่ง ไม่ค่อยดีใจ “อ๋อ ดีค่ะ แล้วไอ้..เอ่อ พี่ปราณเค้าแต่งเสร็จแล้วหรือคะ”
“ไม่หรอกครับ เพลงนี้ผมจะแต่งเอง”
จริยายิ้มออก “ หา จริงเหรอคะ แล้วพี่ปราณล่ะคะ”
“จิ๋วยังไม่รู้เหรอ มีจดหมายร้องเรียนมา ว่าพี่ปราณเค้าอ้างชื่อค่ายเพลงเราไปล่อลวงพวกวัยรุ่น มีทั้งเรียกเงินแล้วก็ขอมีอะไรด้วย ผมตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องจริง ก็เลยเชิญแกออกไปแล้ว”
พอได้ฟัง จริบยาก็แอบยิ้ม ดีใจ “ฟ้ามีตาจริงๆ”
“มาพูดเรื่องเพลงเถอะ ผมอยากได้เพลงที่เขียนมาจากความรู้สึกของจิ๋วจริงๆ เป็นเรื่องของจิ๋วจริงๆ มันถึงจะดี”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
อาทิตย์รีบบอก “ก็น่าจะเป็นมุมมองเกี่ยวกับความรักนะ จิ๋วรู้สึกอะไรยังไงเกี่ยวกับความรัก ช่วยเขียนมาให้ผมซักหนึ่งหน้ากระดาษสิ”
จริยาอ้ำอึ้ง “เรื่องความรัก...เอ่อ...จิ๋วก็..ไม่ค่อยมีอะไรหรอกค่ะ”
“มีสิ ใครบ้างไม่มีความรัก เขียนเท่าที่จิ๋วรู้สึกนั่นแหละ กำลังแอบชอบใคร หรือเคยชอบใคร หรือมองความรักเป็นแบบไหน สีอะไร เขียนมาได้เต็มที่เลย ผมอยากรู้จักจิ๋วให้มากกว่านี้”
อีกฝ่ายพยักหน้าเจื่อนๆ “เอ่อ ได้ค่ะ”
อาทิตย์พยักหน้ายิ้มๆ
พอจริยาเดินหน้าเจื่อนออกไป ปูเปรี้ยวก็เดินสวนเข้ามา
“เรื่องละครเอายังไงดีคะ หรือเปิดกล้องเรื่องอื่นมาแทรกก่อน”
อาทิตย์ถอนใจ หน้าเครียดขึ้นมาอีก “ไม่ได้หรอกครับพี่ ออกข่าวไปแล้ว แฟนๆ นางฟ้าก็รอดูเยอะด้วย”
“ใช่ค่ะ เพราะที่วางไว้เดิม จะออนแอร์ชนกับละครเรื่องแรกของไลลาพอดี”
“เราจะหลีกทางไม่ได้”
ปูเปรี้ยวพลอยเครียดไปด้วย “แต่บทละครใหม่ เรายังไม่ได้เลือกเลย”
อาทิตย์อึ้งไปนิดหนึ่ง “เดี๋ยวผมคงต้องลุยเอง”
ปูเปรี้ยวมองหน้าอาทิตย์
จริยาซ้อมเต้นอยู่ในห้องอย่างเหม่อลอย โจที่ซ้อมอยู่ใกล้กัน หันมาเห็น ก็เดินเข้ามาแตะไหล่
“โดนโกงแชร์หรือคะน้องสาว”
“เอ่อ..เปล่าค่ะพี่”
โจยิ้มอย่างเอ็นดู “แล้วเหม่ออะไรขนาดนั้น”
“เอ่อ พอดีคุณอาทิตย์เค้าอยากจะเขียนเพลงจากมุมมองความรักของจิ๋วน่ะค่ะ แต่จิ๋วยังนึกไม่ออก”
โจมองอย่างรู้ทัน “นึกไม่ออก หรือว่าไม่กล้าเปิดเผยออกมากันแน่คะ”
อีกฝ่ายอึ้งไปนิดหนึ่ง “จิ๋วคงไม่ค่อยมีความรักกับใครเค้าน่ะค่ะ จิ๋วทำแต่งานมาตลอด”
“จริงอ่ะ นี่คิดนานปะถึงพูดมาเนี่ย”
“แหม พี่ก็เห็น”
โจมองล้อๆ “แต่ที่พี่เห็นมันมีนะ ในตาของเธอน่ะอินเนอร์มันแรงสุดๆ”
“พี่เห็นอะไรหรือคะ”
“ไม่ต้องมาถามหรอก เธอรู้ตัวเองอยู่แล้ว แค่บางทีมันอาจสับสนว่าเป็นความรักหรือความผูกพันกันแน่ พี่เห็นแววตาเธอตอนมองเค้านะมันอึดอัดใจสุดๆ เป็นพี่ พี่งาบตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว”
จริยามองหน้าคนพูดอย่างตะลึง
“เอาเหอะ คืนนี้กลับบ้านไปอาบน้ำประแป้ง ทำใจสบายๆ ลองนึกถึงแต่สิ่งที่ตัวเองรู้สึก ความเป็นจริงจะเป็นยังไงช่างหัวมัน เขียนออกมาให้หมด อย่าหลอกตัวเอง นั่นแหละเพลงของเธอ”
อัปสรสวรรค์และเพื่อนดาราวัยรุ่นอีก 2 คน กำลังเรียนการแสดงอยู่ ครูกำลังให้ทุกคนวอร์มร่างกาย
อาทิตย์เดินเข้ามาดูอยู่ที่กระจกหน้าห้อง ครูหันไปเห็นก็กวักมือเรียกให้เข้าไปด้านใน
อาทิตย์หน้าเหวอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอย่างงงๆ
“มีอะไรหรือครับ”
“พอดีจะเวิร์กช็อป แล้วมันไม่ครบคู่น่ะค่ะ เด็กลาป่วยไปคนนึง คุณอาทิตย์ช่วยมาเป็นคู่ให้นางฟ้าแป๊บนึงนะคะ”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าหงิก ตรงข้ามกับอาทิตย์ที่ยิ้มกริ่ม
“ได้เลยครับ ผมจะได้เรียนรู้เรื่องการแสดงไปด้วย”
พูดพลางหันไปยิ้มกวนๆ
ดาราวัยรุ่น 2 คนนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหากัน อาทิตย์กับอัปสรสวรรค์นั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหากันเช่นกัน
อาทิตย์ยิ้มมองหน้าอัปสรสวรรค์ อีกฝ่ายเบือนหน้าไปมองครู
“มาทำกระจกเงากันนะคะ ฝึกการ GIVE AND TAKE การส่งและการรับอารมณ์ เริ่มจากการวาดวงกลมนะคะ”
อัปสรสวรรค์ยกนิ้วชี้ขึ้นเตรียมวาดวงกลมบนอากาศ อาทิตย์นั่งยิ้มมองหน้า
“ยกนิ้วสิ”
เขารีบยกนิ้วชี้ขึ้นมาชนกับเธอที่กลางอากาศ ครูฝึกพยักหน้ารับ
“โอเค ค่ะ เริ่มเลย ผลัดกันนะคะ”
อัปสรสวรรค์ทำนิ้ววาดวงกลมในอากาศ อาทิตย์วาดตามไปพร้อมๆ กัน
“เอ้า ผลัดกันค่ะ”
อาทิตย์นึกท่าที่จะทำพักหนึ่ง ก่อนจะยักคิ้วให้ 3 ที อัปสรสวรรค์ทำหน้างง
“ทำตามสิคุณ”
ซุปตาร์สาวถอนใจ แล้วยักคิ้วตาม
อัปสรสวรรค์ทำท่ากางแขนเหมือนกำลังบิน อาทิตย์ทำตาม
อาทิตย์ทำตาเหล่ ปากเบี้ยว ทำมือไม้เขย่าเป็นคนบ้า อีกฝ่ายทำตาม
อัปสรสวรรค์อยากจะเอาคืน แกล้งทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตา อีกฝ่ายจำต้องทำตาม
ทางด้านปกรณ์ก็กำลังนั่งเครียดอยู่คนเดียวในห้องข่าวบันเทิง ป๋าช้างเดินเข้ามาพร้อมกระดาษแผ่นหนึ่ง ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง
“เอ้า ไปกินข้าวกันหมดเลย”
พอหันไปอีกทาง ก็เห็นตากล้องหนุ่มนั่งอยู่พอดี
“ไอ้เป๋า แกก็ได้”
ปกรณ์หันไปมอง ป๋าช้างเดินไปหา แล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้
“แกช่วยแต่งภาพให้ฉันหน่อยสิ เอาพื้นหลังเป็นสีฟ้าแทนนะ แล้วก็ช่วยลบตัวหนังสือด้วย อันนี้มันไม่สวยเลยว่ะ”
ตากล้องหนุ่มรับกระดาษมาดู ป๋าช้างกำลังจะหันไป
“แต่งรูป ? ถ้าพวกโปรแกรมแต่งรูปในคอมพ์ ผมทำไม่เป็นหรอกครับลุง”
ป๋าช้างแปลกใจ “อะไรวะ พูดเล่นป่าว”
“ผมเล่นแต่อะนาล็อกน่ะครับ พวกดิจิตอลไม่ได้แตะเลย”
“เออ เดี๋ยวนี้เด็ก 5 ขวบมันก็ทำเป็นแล้วนะ แล้วนี่ไม่คิดจะฝึกเลยเหรอ”
ตากล้องหนุ่มส่ายหัว “ไม่ครับ ผมว่าถ่ายแบบอะนาล็อกมันธรรมชาติดี แล้วก็ใช้ฝีมือจริงๆ ด้วย”
“อันนั้นน่ะฉันไม่เถียง แต่ของใหม่ๆ มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นของไม่ดีหรอกนะ ไม่งั้นแกจะถ่ายรูปทำไม ทำไมไม่วาดเอาล่ะ แกไม่คิดจะสนุกกับของใหม่ๆ บ้างเหรอ”
ป๋าช้างพูดพลางนั่งลงข้างๆ ปกรณ์ที่ทำหน้างงๆ แล้วพูดต่อ
“ไอ้ความชำนาญในเรื่องเก่าๆ น่ะ ฉันเห็นด้วย แต่ไอ้การจะจ่อมจมอยู่กับมัน รั้นอยู่กับมัน โดยไม่คิดจะเรียนรู้ แล้วก็แอนตี้สิ่งใหม่ๆ น่ะ ฉันว่ามันเป็นการใช้ชีวิตไม่คุ้ม โลกเรามันหมุนไป อะไรมันก็ต้องเดินต่อไป สิ่งที่ไม่เติบโตน่ะ มันคือสิ่งที่ตายแล้ว แม้แกจะชอบมันแค่ไหน แกก็ควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บ้าง แล้วแกจะรู้ว่าชีวิตมันมีค่าเกินกว่าจะลงเรือแค่ลำเดียวไปจนตาย”
ปกรณ์นั่งคิดตามคำพูดของป๋าช้าง
กระดาษล้างรูปในน้ำยาค่อยๆ ปรากฏภาพของอัปสรสวรรค์ในละครเรื่องใหม่ “ปีกนางฟ้า”
ปกรณ์กำลังล้างฟิล์มเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับย้อนนึกถึงภาพเธอกับอาทิตย์กำลังใกล้ชิดกัน
เขาหลับตานิ่ง ด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบ ก่อนจะหยิบรูปที่ล้างเสร็จไปหนีบบนราว ติดกับรูปสมัยเป็นนักศึกษา ทั้ง 2 รูปดูแตกต่างกันมาก
ตากล้องหนุ่มยืนมองรูปแล้วถอนใจอย่างเหนื่อยใจ
ปกรณ์ขี่จักรยานถนนสายเปลี่ยวเพียงลำพัง ก่อนจะมองไปเห็นจริยาขี่จักรยานอยู่ด้านหน้าไกลๆ
จริยากำลังขี่จักรยานอยู่คนเดียว สีหน้ามุ่งมั่น สักพักก็มีจักรยานอีกคันขี่เข้ามาประชิดด้วย
“เฮ้ย”
เธอหันไปดู พอเห็นปกรณ์ก็ตกใจ
“ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าชอบขี่จักรยานด้วย”
จริยายิ้มรับ “เพิ่งหามาขี่ อยากออกกำลังกาย ให้ลืมความทุกข์ ความเครียด แล้วนี่มาทำไมอ่ะ”
“ก็มาขี่มั่งอะดิ แล้วนี่มากะใคร”
อีกฝ่ายทำหน้ากวน “เห็นมีคนซ้อนเหรอ ก็ขี่อยู่คนเดียว”
“โห่ แล้วทำไมไม่บอกล่ะว่าจะมา จะได้มาเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกแล้ว”
“จะบอกทำไม คนต้องการความสงบ”
พูดพลางรีบขี่นำไป ปกรณ์ขี่ตาม
“เครียดเหรอช่วงนี้”
“อืม อยากอยู่คนเดียวบ้าง เผื่ออะไรมันจะดีขึ้น”
ตากล้องหนุ่มหันมาถามต่อ “แกรู้เรื่องคนปล่อยคลิปนั่นยัง”
“ไม่สนใจล่ะ ก็คงแกล้งกันไปแกล้งกันมา”
“แล้วนี่ได้คุยกับฟ้ารึยัง”
ฝ่ายถูกถามส่ายหน้า “ยังเลย ไม่อยากยุ่งกับพวกเขาแล้ว ฉันกลัว กลัวจะถูกใช้เป็นเครื่องมือมาเล่นอะไรกัน แกก็ด้วยอีกคน อย่ามายุ่งกับฉันมากเลย”
ปกรณ์ทำหน้างง “อะไรวะ”
จริยาไม่ตอบ รีบขี่หนี เขาขี่ตาม
“แล้วเพลงใหม่เสร็จแล้วเหรอ”
“อืม”
“เพลงช้าเพลงเร็ว”
จริยาตอบห้วนๆ “เพลงช้า”
“เกี่ยวกับอะไร เนื้อหาน่ะ”
ฝ่ายถูกถามอยากจะกวนประสาท เลยตอบไปแบบกวนๆ “เกี่ยวกับควาย”
“ควาย ? ยังไงอ่ะ เพลงเกี่ยวกับชีวิตควายเนี่ยนะ”
“เออ ควายกับความรัก”
ตากล้องหนุ่มสนใจขึ้นมาทันที “เฮ้ย อินดี้ ความรักกับควาย แอบชอบควายแต่ควายไม่รู้งี้เหรอ
ไหนขอฟังท่อนนึงดิ”
จริยาหันมองหน้า “ ไอ้ควาย”
อีกฝ่ายฟังไม่ถนัด “อะไรนะ”
“ไอ้คนเพี้ยน”
ขาดคำ ก็รีบขี่หนีไปอีก ปกรณ์ยิ้ม พลางส่ายหัวอย่างงงๆ
“เฮ้ย รีบปั่นไปไหน ขี่ไปด้วยกันสิ”
ทั้งคู่ขี่จักรยานเคียงกันไปตามถนน
จริยานอนอยู่ที่โซฟาในห้องนอน ที่มือมีกระดาษปากกา พลางนึกถึงเรื่องราวในใจ ความรู้สึกที่มีให้กับปกรณ์
แล้วความในใจก็พรั่งพรูลงไปในกระดาษ
อาทิตย์นั่งอยู่หน้าจอคอมพ์ กำลังพิมพ์บทละครเรื่อง “ปีกนางฟ้า” สีหน้าเคร่งเครียด สักพักก็นิ่งแล้วมองไปที่ผนัง ซึ่งเป็นแผนภูมิตัวละคร มีรูปอัปสรสวรรค์ ฮันนี่ ภีม และนักแสดงอื่นๆ
เขากอดอกครุ่นคิด แล้วพิมพ์ต่อไป
อาทิตย์นั่งเกากีต้าร์พลางฮัมเพลง สักพักก็หยุดแล้วหยิบดินสอมาเขียนเนื้อเพลงที่มาจากข้อความของจริยา
อัปสรสวรรค์กำลังทำผมพลางนั่งอ่านบท “ปีกนางฟ้า” ไปด้วย พี่หมีที่นั่งอยู่ข้างๆ ชวนคุย
“บทคุณอาทิตย์นี่แซ้บแซ่บนะฮะน้องนางฟ้า นางเอกในเรื่องเป็นดาราดังที่โดนกลั่นแกล้งจนสติแตก ยังกะเอามาจากชีวิตจริงเลย”
ซุปตาร์สาวหันมองหน้า พี่หมียิ้มเจื่อน
“หมายถึงชีวิตจริงของคนในวงการน่ะฮะ”
สักพักก็ได้ยินเสียงฮันนี่ลอยเข้ามา
“สวัสดีค่า ทุกคน miss u คิดถึงบรรยากาศกองถ่ายสุดๆ เลยค่ะ ไงคะน้องนางฟ้า สบายดีมั้ยเอ่ย”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าเอือม “ก็โอเค ค่ะ แล้วธุรกิจครีมที่ขายในไอจีเป็นไงบ้างคะ”
ฮันนี่ยิ้มเจื่อน อ้ำอึ้ง “เอ่อ อ่า ก็ขายดีม้ากค่ะ แพ็คของส่งกันไม่ไหว เงินเข้ามามากๆ ก็เกิดความเครียด เกิดความทุกข์ ว่าของเหล่านี้มันเป็นสิ่งจอมปลอม เลยเข้าวัดฟังธรรม ทีนี้เลยซึ้งในรสพระธรรมเลยค่ะ เลยขายกิจการให้คนอื่นไปแล้ว”
“โชคดีจังนะคะ ฟ้าก็อยากหาเวลาเข้าวัดไปปฏิบัติธรรมบ้าง แล้วนี่คงสงบขึ้นเยอะแล้วใช่มั้ยคะ”
“ใช่ค่ะ ไปนั่งได้แค่ 3 วันเท่านั้นแหละ คุณราศีก็กริ๊งกร๊างมาเลย บอกว่าคิดถึงนี่ อยากให้นี่มาแคสต์ละครเรื่องใหม่ดู ผลบุญจริงๆ นะคะ”
อัปสรสวรรค์พยักหน้านิดๆ ฮันนี่รีบเปลี่ยนเรื่อง
“เอ๊ะ นี่วันนี้เรามีฉากคู่กันด้วย เหมือนได้รำลึกวันเก่าๆ อีกครั้งเนอะ ฉากตบกันเหมือนเดิม ยังไงเอาให้เต็มที่เลยนะคะ ทุกอย่างในกายนี่เป็นขันธ์ห้า จะเตะจะถีบตะบันหน้าอะไรเอาให้เต็มที่เลย นี่ถือขันติแล้ว แล้วก็
ทุกคนคะ นี่ซื้อขนมมาฝากด้วย เดี๋ยวมากินกันนะคะ”
พูดจบก็เดินเข้าฉากไป ปูเปรี้ยวยิ้มเยาะ
“ผลบุญ เฮอะ ได้ข่าวว่าหิ้วกระเช้ามากราบมาดามของานทำ”
พี่หมีหันมาถาม “กระเช้า กระเช้าอะไรฮะ”
“กระเช้าสตอเบอรี่”
พี่หมีถามต่ออีก “อ่อ เอ๊ะ แล้วชิวาว่าผู้จัดการน้องฮันนี่ล่ะฮะ”
“โอ๊ย ไปกระโดดเกาะหมาตัวใหม่แล้ว”
“หมาตัวใหม่ ตัวไหนเหรอฮะ”
ปูเปรี้ยวเบะปาก “ตัวที่ชื่อคุณไลลาไงล่ะ”
พี่หมีตกใจ “ไลลา เมื่อก่อนเค้ากัดกันจะตายไม่ใช่เหรอฮะ”
“เออ สิ จะเอาอะไรกับมนุษย์ ทีนี้คงได้ผสมโรงทวีความชั่วกันจนโลกแตกล่ะ”
อัปสรสวรรค์นึกถึงไลลาแล้วก็ยิ่งแค้น
นักข่าวรุ่นพี่กำลังต่อว่าไลลา
“หน้าอย่างแกอย่าหวังมาเทียบชั้นพิธีกรข่าวอย่างฉันเลย”
ขาดคำก็เอากาแฟสาดใส่เสื้อแล้วเดินออกไป ไลลายืนอึ้ง ตกใจ
พี่ฉลามตะโกนสั่ง “คัท” พร้อมกับเดินปรี่มาชมไลลา “เยี่ยมเลย”
ชิวาว่ารีบวิ่งเข้าไปเอากระบอกน้ำให้ดูด พี่ฉลามกระซิบถาม
“ซีนต่อไปบอกน้องเค้ายัง”
ชิวาว่าอึกอัก “เอ่อ... เรียบร้อยค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ”
“ชัวร์นะ”
พี่ฉลามเดินออกไป พร้อมตะโกนสั่ง “ย้ายเข้าห้องนอนเลยเร้ว”
ไลลากระชากชิวาว่าเข้ามาถาม “อะไรกันพี่ว่า”
“เอ่อ..เอ่อ..คือ”
“ซีนต่อไป..อะไร”
ชิวาว่าอึกอัก “คือซีนต่อไป น้องไลต้องเลิฟซีน”
ไลลาถลึงตามอง “แล้ว..?”
“พี่ฉลามเค้าอยากให้..”
“ให้อะไร”
ชิวาว่าสะดุ้ง “ให้จูบจริง โป๊จริง ไรจริง”
ไลลาตกใจ “อะไรนะ”
“แหม..ทีนางฟ้า มันยังเคยยอมจูบจริงแล้วนี่น้องไลจะยอมแพ้มันเหรอคะ เดี๋ยวสู้มันไม่ได้นะ”
ไลลาอึ้ง ก่อนจะจิกตาร้าย สีหน้าไม่ยอมแพ้
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 11 (ต่อ)
ฟากจริยาก็กำลังอัดเสียงร้องเพลงใหม่ที่อาทิตย์แต่งให้ อาทิตย์กับซาวด์เอ็นจิเนียร์นั่งฟังอยู่ในห้องคอนโทรล
ปกรณ์เดินผ่านมา ได้ยินเพลง ก็ยุดฟัง
อาทิตย์ยิ้มพอใจกับเสียงร้อง
ปกรณ์และทีมงานกำลังถ่ายภาพจริยาเพื่อโปรโมตซิงเกิ้ลใหม่ในนามศิลปินเดี่ยว
“เอียงอีกนิดสิ แล้วก็ยิ้มแค่มุมปากพอ”
อีกฝ่ายโพสตาม แต่ยังไม่ถูกใจตากล้อง
“ยังไม่ใช่”
“แล้วยังไงอ่ะ”
ตากล้องหนุ่มเข้าไปจัดท่าให้ แล้วแอบคุยกัน “เพลงเพราะดีนะ”
จริยาแอบตกใจนิดหนึ่ง แล้วแกล้งทำฟอร์ม “ได้ฟังแล้วเหรอ”
“อืม แต่ไม่เห็นมีควายในเพลงเลย”
“ใช่ แต่นอกเพลงน่ะ มีแน่”
ปกรณ์มองหน้าอีกฝ่ายยิ้มๆ “เอาจริงๆ ไอ้คุณอาทิตย์นั่นมันก็แต่งเนื้อใช้ได้อยู่นะ สงสัยคงได้แรง
ดลใจมาจากนางฟ้ามั้ง”
อีกฝ่ายเริ่มฉุน “จะบ้าเหรอ” ก่อนจะเผลอหลุดปาก “เขาเอาเรื่องของฉันไปเขียนย่ะ”
ปกรณ์ตกใจ “เฮ่ย มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเราอ่ะ”
2 คนมองจ้องหน้ากัน ปกรณ์ทำหน้าเหวอๆ แบบไม่อยากจะเชื่อ ส่วนจริยาก็หน้าแดง ด้วยความเขินที่หลุดปากออกไป สุดท้ายก็แกล้งทำตะคอกใส่หน้า
“เออ”
จากนั้นก็สะบัดบ็อบใส่จนผมกระจาย ตากล้องหนุ่มเดินเข้าไปจัดไรผมให้ ทั้งสองได้ประสานตากันโดยไม่ตั้งใจ ก่อนที่ต่างคนต่างอึ้งไปนิดหนึ่ง แล้วทั้งคู่ก็รีบหันไปมองทางอื่นด้วยความเขิน
“ไปถ่ายให้เสร็จๆไป อารมณ์เสีย”
ปกรณ์ยิ้มนิดๆ แล้วเดินกลับไปที่กล้อง
อัปสรสวรรค์กำลังถ่ายละครกับฮันนี่ ฝ่ายหลังมองตาเขม็ง
“แก ฉันเกลียดแก”
ฮันนี่ยกมือขึ้นจะตบหน้า แต่กลับถูกอีกฝ่ายจับมือไว้แล้วบิด
อาทิตย์ยืนคุมการถ่ายทำอย่างใกล้ชิด
ไลลากำลังเข้าฉากเลิฟซีน ที่ต้องผลักพระเอกลงบนเตียง แล้วก้มลงจูบอย่างโชกโชน
ที่จอทีวี เห็นไตเติ้ลละคร “หงส์เริงไฟ” ฉายเป็นวันแรก
นิรันดร์ ไลลา ชิวาว่า และทีมงานนั่งดูทีวีพร้อมกันอยู่ที่แคนทีนช่อง STAR
ขณะที่ละคร “ปีกนางฟ้า” ก็ฉายเป็นวันแรกเช่นกัน
ที่แคนทีนของช่อง SUN อาทิตย์ อัปสรสวรรค์ ปกรณ์ ปูเปรี้ยว เรด้า กรณ์ ป๋าช้าง นั่งดูอยู่หน้าทีวี
เพ็ญศรีกับไลลานั่งดูละครอยู่ที่โซฟา ทั้งคู่ยิ้มแย้มหน้าบาน
เพ็ญศรีสะใจกับการแสดงสุดแซบของลูกสาวมาก
ไลลาขึ้นปกนิตยสารหลายฉบับ ทั้งนิตยสารบันเทิง แฟชั่น สุขภาพ สัตว์เลี้ยง
หนังสือพิมพ์บันเทิงพาดหัวข่าว “ไลลา จากนักข่าวสู่นางเอกละคร ชีวิตเหมือนฝัน”
ตารางจัดอันดับนักแสดงหญิงยอดนิยม อันดับ 1 นางฟ้า-อัปสรสวรรค์ อันดับ 2 ไลลา-อุไรวรรณ
ที่ IG ของไลลา มีตัวเลขคนติดตามวิ่งไปถึงกว่าล้านคน
ไลลาเดินโชว์ตัวในงานอีเว้นต์ สีหน้ายิ้มแย้ม
ไลลาเดินเข้ามาในตึกอย่างสง่างาม โดยมีมีชิวาว่าในชุดสูทสะพายกระเป๋าราคาแพงเดินตาม
อัปสรสวรรค์ที่อยู่ในกองถ่ายภาพยนตร์โฆษณา หันมายิ้มกับกล้อง พร้อมกับชูกล่องโฟมล้างหน้า
“หน้าสะอาดขาวใส ฟ้าใช้ “อิสเบลล่าโฟม” ค่ะ”
พูดจบก็ยิ้มค้างให้กล้อง
อีกสตูดิโอหนึ่ง ไลลาก็กำลังถ่ายโฆษณาอยู่เช่นกัน
“ยุคนี้ของเก๊เกลื่อน สวยเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้จักเลือกด้วยค่ะ ไลลาใช้ “บิ๊กคลีนนิ่งเดย์โฟม”
โฟมล้างหน้าของสาว self made”
พูดพลางชูกล่องโฟมให้กล้อง แล้วยิ้มค้าง
อัปสรสวรรค์ที่กำลังถ่ายโฆษณาอยู่ที่ข้างถนน หันมาชูกล่องเครื่องสุขภาพให้กล้อง
“ดื่ม บิวตี้ฟรุตตี้ ทุกวัน สวยเพรียวไปด้วยกันนะคะ”
ไลลาก็กำลังถ่ายโฆษณาเครื่องดื่มอยู่อีกที่หนึ่ง
“สวยแต่ไม่ฉลาด ใครจะเอาล่ะคะ จะเล็กจะใหญ่ไลไม่สน แต่ถ้าเรื่องสุขภาพ ไลดื่มสมาร์ทเกิร์ลเท่านั้นค่ะ”
ภาพป้ายโฆษณาบนตึกสูง เป็นรูปอัปสรสวรรค์กำลังชูแป้งพับ พร้อมข้อความตัวโต “เคล็ดลับความสวยของนางฟ้า”
อีกตึกที่อยู่ติดกัน เห็นป้ายโฆษณาเป็นรูปไลลาชูแป้งพับอีกยี่ห้อหนึ่งเช่นกัน พร้อมข้อความตัวโต
“ต้องเลือกแบบที่ไลลาใช้”
อาทิตย์กำลังนั่งดูภาพป้ายโฆษณาบนตึกที่ปูเปรี้ยวปริ๊นต์มาให้ดู
“เอากันขนาดนี้เลยนะครับ”
ปูเปรี้ยวพยักหน้ารับ “ค่ะ มีป้ายโฆษณาของนางฟ้าที่ไหน แป๊บเดียวก็จะมีป้ายโฆษณาของไลลาไปขึ้นที่นั่น ข้อความก็เกทับบลัฟแหลกแบบนี้แหละค่ะ”
“แล้วเรตติ้งละครล่ะครับ”
“ตอนนี้ละครหงส์เริงไฟของไลลายังห่างจากของเราอยู่ค่ะ แต่ก็ชะล่าใจไม่ได้”
อาทิตย์หน้าเครียดขึ้นมาทันที ปูเปรี้ยวรายงานต่อ
“รู้มาว่าของเค้าใช้วิธีถ่ายไปออนแอร์ไปค่ะ พอดูละครของเราถึงตอนไหน ก็จะรีบแก้บทมาสู้ เรียก
เรตติ้ง อย่างเช่นเมื่อคืนของเราเป็นฉากเที่ยวสวนดอกไม้ ของเขาก็รีบเปลี่ยนบทเป็นฉากบู๊ไล่ล่าทันที”
พี่หมีพยักหน้ารับ “อ๋อ ทำเหมือนที่เกาหลี ถ่ายเสร็จส่งช่องฉายเลย ถ้าเป็นพี่ คงตายคากองตั้งแต่ตอนแรก”
อาทิตย์นิ่งคิดไปนิดหนึ่ง “ถ้าเป็นอย่างงั้น เราก็คงต้องทำบ้างนะครับ”
พี่หมีหน้าเหวอ “หา”
“พี่หมีครับ เดี๋ยวเราเรียกทีมงานมาประชุมกัน ตอนนี้หงส์เริงไฟเล่นเรื่องอะไร ปีกนางฟ้าจะปรับบทมาแข่งกับเค้าทุกตอน ต่อไปนี้เราจะถ่ายไปออนไปเหมือนกัน”
พี่หมีทำหน้าหนักใจ “เอ่อ ขอตายแป๊บนะฮะ”
อาทิตย์ถอนหายใจ หน้าเครียด
ไลลากำลังแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องแต่งตัว ชิวาว่านั่งคุยมือถืออยู่ใกล้ๆ
“น้องนางฟ้าเจ้าภาพส่วนใหญ่เค้าไม่ชอบนะ น้องไลลาคนเดียวแหละดีแล้ว โอเค นะ ขอบใจจ้ะ เจอกัน”
พอวางสาย ก็เดินเข้าไปหาไลลา
“เดือนนี้เต็มทุกวันแล้วนะคะ ทั้งเกมโชว์ อีเว้นต์ ถ่ายแบบ ไม่ต้องนัดอะไรเพิ่มแล้วนะคะ”
“แหม ขอพักซักสองวันไม่ได้เหรอคะพี่ว่า”
ชิวาว่าส่ายหน้ายิก “ไม่ได้ค่ะ น้ำขึ้นให้รีบจ้วงค่ะ”
“แล้วเรตติ้งละครช่องโน้นเป็นไงพี่”
“ก็ยังนำเราอยู่นิดหน่อยค่ะ”
ไลลาทำหน้าเซ็งๆ “มาถึงแค่นี้ ก็ดีเกินฝันแล้วมั้งคะ”
ชิวาว่ายิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนมีแผน “แต่ถ้าเป็นพี่ พี่จะไปให้สุดนะคะ”
ไลลาทำหน้าครุ่นคิด
บนโต๊ะมีถ้วยขนมวางไว้ 3 ถ้วย มีกล้วยบวชชี ข้าวเหนียวถั่วดำ และรวมมิตร
หมอดูงูเขียวนั่งอยู่กับไลลาและชิวาว่า ก่อนจะปิดฝาขนมทั้ง 3 ถ้วย หลับตาบ่นพึมพำแล้วจับถ้วยขนมสลับที่ไปมา แล้วจึงลืมตา
“เอ้า เลือกถ้วยนึง”
ไลลามองถ้วยทั้งสาม ก่อนชี้ไปที่ถ้วยใบขวาสุด
“งั้นเอาอันนี้ค่ะ”
หมอดูงูเขียวเปิดฝาถ้วยนั้นออก เห็นเป็นขนมรวมมิตร
“รู้เรื่อง”
ไลลารีบถามอย่างสนใจ “หมายความว่าอะไรคะ”
“เลือกได้รวมมิตร หมายความว่า วิธีจะเอาชนะได้มีวิธีเดียว คือหามิตรให้ได้มากที่สุด”
“ทำยังไงคะ”
“ฝ่ายตรงข้ามมีจุดด้อยตรงมิตร นับวันมีแต่จะเพาะศัตรูเพิ่มขึ้นทุกวัน ชะตาใกล้ขาดแล้ว ส่วนเธอน่ะเลี้ยงคนเยอะ แต่ยังไม่พอกับบารมีตัวเอง ตอนนี้ไปทำยังไงก็ได้ให้เพิ่มมิตรให้ได้มากที่สุด ใครเป็นศัตรู ทำให้เค้าชอบให้หมด ดวงเธอจะพุ่งพรวด”
ไลลาพยักหน้ารับ “อ๋อ ค่ะๆ”
“แต่ขอเตือนไว้อย่าง เจ้ากรรมนายเวรเขาตามเช็คบิลเราอยู่ อะไรเลวๆ ที่ทำอยู่ หรือเคยทำไปแล้วก็หยุดซะ ทำบุญมากๆ”
ไลลาพยักหน้า แล้วทำท่าจะลุกออกไปพร้อมกับชิวาว่า หมอดูงูเขียวหยิบช้อน เอาขนมรวมมิตรขึ้นมาตักกิน
ชิวาว่านึกสงสัย จึงหันมาถาม
“เอ่อ แม่หมอคะ ถ้าน้องไลเลือกได้กล้วยบวชชีล่ะคะ”
“ก็ต้องให้ไปบวชชีซักเดือนนึงไง”
ชิวาว่าถามอีก “แล้วข้าวเหนียวถั่วดำ”
“ไปได้แล้ว ขี้เกียจพูด คนจะกิน”
ชิวาว่าพยักหน้าเจื่อนๆ ก่อนหันออกไป
ที่รายการข่าวบันเทิงของเออออห่อหมก
“คิดไงบ้างคะ กับว่าที่นางเอกซุปตาร์ดวงใหม่”
เออออถามขึ้นมา ห่อหมกทำหน้างง
“ใคร ?”
“ก็คุณล.ล.ยังไงคะ”
“ล.ล. อ๋อ” ห่อหมกหัวเราะก๊าก “โถ ไม่อยากจะพูด ล.ล.นี่ย่อมาจากอะไรคะ แลกลิ้น เล้าโลม ลูบไล้ หรือหลุดลุ่ย”
“เค้าว่าเป็นดาราที่ไต่เต้าเร็วที่สุดตั้งแต่มีวงการบันเทิงไทยเลยนะ”
ห่อหมกเบ้ปาก “เออสิ จะไม่ให้เร็วได้ไง ก็เล่นมีผัวทั้งวงการ”
เออออทำหน้าตกใจ “อุ๊ยตาย พูดจริงพูดเล่นคะ”
“เออ เรื่องจริง ไม่ต้องมาเถียง” พูดพลางทุบค้อนปึง
“แล้วถ้าให้เลือกข้างระหว่างน้องนฟ.กับน้องลล. พี่เลือกอะไร”
ห่อหมกทำหน้าเซ็ง “บอกตรงๆ เลยว่าโสโครกทั้งสอง เอ๊ย ไม่ใช่สิ ทั้งสามเลย ประวัติโชกโชน โดนมาสารพัด”
“ขนาดนั้นเลย”
“เออสิ”
เออออถามต่ออีก “แล้วอีน้องเล็กสุดล่ะฮะ”
“อีนักร้องใช่มะ เออ นั่นก็แซบเว่อร์ ตัวเล็ก ร่อนดี โอ๊ย ทีมงาน ต่อไปฉันขอประกาศไม่อ่านข่าวอีชะนี 3 ตัวนี้แล้วนะ มันจะเป็นจะตายก็ช่างแมวมัน เบื่อสุดๆ มีข่าวกันได้ทุกวัน เสนียดปากกระดากลิ้น”
“ดูหน้าแล้วสงสัยจะเกลียดจริงๆ”
ห่อหมกพยักหน้างึก “เออ เกลียดมาก พูดจริง ไม่ต้องมา.... “
พูดพลางจะยกค้อนทุบ ทันใดนั้นทีมงานคนหนึ่งเดินเข้ามาหา เหมือนจะบอกอะไร
“มีอะไรฮะ”
ทีมงานเข้าไปกระซิบบอก ห่อหมกหน้าเสีย แล้ววิ่งออกไปทันที
ห่อหมกวิ่งไปที่รถตัวเอง แล้วก็แทบเป็นลม เมื่อเห็นรอยขูดที่รถเป็นทางยาว
พร้อมกับมีจดหมายเขียนแนบไว้บนกระจก
“สำหรับคนที่ชอบด่าพี่นางฟ้าของเรา จาก นางฟ้า FC”
ห่อหมกโมโหเดือด กรี๊ดเสียงดังลั่น
จริยากับเมฆ นั่งอยู่หน้าคอมพ์กำลังดีใจกับยอดวิวของเพลงใหม่ ที่ทะลุ 5 ล้านวิว
“โอ้โห 5 ล้านวิวแล้วจิ๋ว นึกไปถึงตอนนั้นเลยนะจิ๋ว ที่เราอัดคลิปเล่นกัน คนดูแค่ร้อยสองร้อย เราก็
ดีใจจะแย่”
จริยายิ้มปลื้ม “ใช่ ถ้าตอนนี้ได้แค่สองร้อย จะดีใจเหมือนเดิมไหมนะ”
“อืม เหมือนเด็กแหละจิ๋ว จากที่เคยดีใจกับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แค่ของเล่นอันละไม่กี่สิบบาท พอโตขึ้นก็อยากได้อะไรที่ใหญ่กว่าไปเรื่อยๆ”
“แต่จิ๋วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปนี่” พูดพลางหันไปเห็นอาทิตย์เดินเข้ามา “อ้าว คุณอาทิตย์”
“มีข่าวดีนะ”
“อะไรหรือคะ”
เมฆจะหันหลังเดินออกไป “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
อาทิตย์รีบบอก “เอ้า จะไปไหน ข่าวดีของนายนั่นแหละ”
เมฆชะงัก “ผม ผมเนี่ยนะครับ”
“ใช่ พอดีค่ายเพลงโพลี่โคเรียที่เกาหลี เค้าได้ดูคลิปเอ็มวีโจ & จิ๋ว เค้าชอบคุณมากนะ เค้าบอกคุณเต้นได้เต็มที่ที่สุดในบรรดาแดนเซอร์”
“อ๋อ ยังไงฝากขอบคุณเค้าด้วยนะครับ”
อาทิตย์ยิ้มกริ่ม “ไปบอกเค้าเองก็น่าจะดีนะ”
“เค้ามาเหรอครับ”
“เค้าติดต่อมา อยากให้เมฆไปเป็นหนึ่งในบอยแบนด์วงใหม่ของค่ายเค้า”
เมฆตกใจ หันมองหน้าจริยา “หา”
อีกฝ่ายดีใจจนพูดไม่ออก “เมฆ”
“ยังไงเค้าจะส่งคนมาดูตัวคุณอีกที คุณลองตัดสินใจว่าพร้อมมั้ย โอเค ยังไง บอกผมพรุ่งนี้นะ”
จริยาชิงตอบแทนทันที “โอเค แล้วค่ะ”
เมฆหันขวับ “ เฮ้ย จิ๋ว”
“จะคิดหาสวรรค์ที่ไหนอีกล่ะ ไม่คว้าก็บ้าไปแล้ว”
“นี่แหละรางวัลแห่งความตั้งใจของคุณ”
เมฆถึงกับกลั้นความดีใจไว้ไม่อยู่
“จิ๋ว สุดยอดไปเลย”
ทั้งคู่กระโดดกอดกันด้วยความดีใจ
“เห็นมั้ย ดวงมันจะขึ้น ก็ขึ้นด้วยกันเลยเมฆ”
อาทิตย์มองทั้งสองแล้วยิ้ม พร้อมกับที่ปูเปรี้ยวเปิดประตูเข้ามา
“มีอะไรหรือครับ”
“มีข่าวพิสดารอีกแล้วค่ะ”
อาทิตย์ทำหน้างง
อาทิตย์กำลังอ่านข่าวในมือถือ
“แฟนคลับนางฟ้าเดือด บุกกรีดรถห่อหมกพิธีกรดัง อะไรอีกล่ะครับเนี่ย”
ปูเปรี้ยวรีบบอก “ แหม แต่ถ้ามันจะกรีด มันก็น่าจะทำมาตั้งนานแล้วนะคะ อี 2 ตัวนี้มันปากยังกะโถส้วม น่าจะเป็นแผนของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า”
อาทิตย์หน้าเครียด “แบบนี้พวกสื่อเค้าไม่เกลียดนางฟ้าเข้าไปใหญ่หรือครับ”
“ก็กลัวจะเป็นอย่างนั้นน่ะค่ะ แค่นี้สื่อที่เขียนเชียร์เราก็แทบไม่มีอยู่แล้ว”
“แล้วนางฟ้าว่าไงบ้างครับ” อาทิตย์ย้อนถาม
ปูเปรี้ยวถอนใจ “ ก็เหมือนเดิมค่ะ ไม่ให้ข่าว ไม่ให้ความร่วมมืออะไรทั้งสิ้น เจอนักข่าวก็หนีขึ้นรถ กลิ่นชักไม่ดีอย่างแรงแล้วนะคะ”
“ทำไมหรือครับ”
“พี่ปูเปรี้ยวอยู่ในวงการมาสี่สิบปี ดูแลดารามาไม่รู้กี่คน พวกดาวจรัสฟ้าที่ต้องหายหน้าไปจากวงการก็เริ่มมาจากเหตุแบบนี้แหละค่ะ”
ยิ่งฟัง อาทิตย์ก็ยิ่งซีเรียส ปูเปรี้ยวพูดต่อ
“ใครจะเกลียดก็ช่าง ตอนนี้พยายามรักษาน้ำใจคนที่ยังรักเราอยู่ดีกว่าค่ะ”
ที่หน้าจอคอมพ์ เฟซบุ๊กนางฟ้าแฟนคลับ มีประกาศเชิญชวนไปร่วมมีตติ้งครั้งใหญ่ในวันเสาร์นี้
ไลลากำลังดูข่าวนั้นจากมือถือ “มีตติ้งนางฟ้าแฟนคลับเหรอ ฮึ”
ชิวาว่าเดินเข้ามา “ฮิๆ เป็นไงคะ จัดหนักจัดเต็ม ได้ข่าวอีห่อหมกกระจายข่าวไปทั่วแล้วให้แบนข่าวนางฟ้า”
“เยี่ยมค่ะพี่”
ชิวาว่าตาวาว “ขอแอร์เมดใหม่ซักใบนะคะ”
“จัดให้”
ชิวาว่ายิ้มตบมือดีใจ “ได้ข่าวทางนั้น รีบแก้เกม จัดมีตติ้งแฟนคลับนี่คะ”
“ก็อยากไปเหมือนกัน อยากจะดูว่าเหลือคนที่ชอบมันอีกซักกี่คน”
ไลลายิ้มร้าย
ทางด้านอัปสรสวรรค์ก็กำลังเล่นโยคะสกายอยู่เพียงลำพัง ในท่าเท้าชี้ฟ้าหลับตานิ่ง
อาทิตย์เดินเข้ามาทัก “ เป็นไงคุณ พร้อมจะเจอแฟนคลับรึยัง”
“มีอะไรต้องกลัวรึไง”
อาทิตย์ถอนหายใจ “ตอนนี้ไม่มีใครน่ากลัวเท่าตัวคุณแล้วล่ะ อย่าเผลอไปวีนใครเด็ดขาดนะครับวันนี้”
“พูดเหมือนฉันเป็นคนบ้า ไม่มีสติ ออกไปเถอะ”
อาทิตย์พูดต่ออย่างเป็นห่วง “ผมเป็นห่วงคุณนะครับ”
อัปสรสวรรค์เปลี่ยนท่า แต่ทำหลับตาไม่สนใจ
“ผมไม่อยากให้คุณด้อยกว่าใคร”
“เลิกพูดเอาเท่ซะที คุณทำเพื่อช่องของคุณ เพื่อชื่อเสียง เงินทองของคุณทั้งนั้น”
พูดพลางลงมายืนบนพื้นแล้วเดินหน้ามุ่ยออกไป อาทิตย์ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ
ที่ห้องจัดงานของตึก THE SUN
บนเวที ติดป้าย “นางฟ้า FANCLUB Meeting Day”
บรรยากาศงานมีตติ้งกำลังจะเริ่มขึ้น เหล่าบรรดาแฟนๆ ต่างนั่งรออยู่หน้าเวที บ้างถือดอกไม้ บ้างถือป้ายไฟ บ้างถือตุ๊กตา
อัปสรสวรรค์นั่งรอขึ้นแสดงอยู่ที่ห้องแต่งตัวหลังเวที สักพักก็ได้ยินเสียงเตือนข้อความไลน์ดังขึ้น เธอรีบหยิบขึ้นมาดู เห็นข้อความจากไลลา “ได้ข่าวว่ามีมีตติ้งแฟนคลับ ว่าจะฝากของขวัญไปให้ รอรับล่ะ”
ในความคิดของเธอ เห็นภาพตัวเองขณะกำลังจับมือกับแฟนคลับ
“พี่นางฟ้าคะ”
พอเธอหันไปมอง กลุ่มแฟนคลับต่างยื่นกล่องของขวัญมาให้ พอทุกคนเปิดออก ก็เห็นแมงมุมอยู่ในกล่อง
อัปสรสวรรค์หน้าซีด เกิดอาการกลัวขึ้นมา พลางรีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป
ปกรณ์เดินเข้ามาเห็นพอดี ก็รีบตามไป จนทันกันที่หน้าลิฟท์
“ฟ้า”
อัปสรสวรรค์หันหน้ามา
“จะไปไหนอะฟ้า มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่มี ฉันไม่สบายนิดหน่อย เลยอยากกลับ”
ปกรณ์ทำหน้างง “เฮ่ย แล้วงานมีตติ้งล่ะ”
“ไม่รู้ ช่างมันเหอะ เดี๋ยวฉันโทร บอกพี่ปูเปรี้ยวเอง ไปก่อนนะ”
พูดพลางจะหันหลังเดินต่อไป ตากล้องหนุ่มรีบคว้ามือไว้
“ฟ้า มีอะไรบอกสิ ใครทำอะไรฟ้า”
“บอกว่าไม่สบายไง”
“ไม่สบายแล้วทิ้งงานกลับไม่บอกใครแบบนี้...”
ซุปตาร์สาวไม่สนใจจะเดินต่อ ตากล้องหนุ่มรีบพูดขึ้นมา
“ไอ้คุณเสี่ยนั่นมันบังคับอะไรฟ้ารึเปล่า”
“ก็บอกว่าไม่มีไงเป๋า”
พูดพลางสลัดแขนอีกฝ่ายอย่างแรง แล้วเดินออกไป
ปกรณ์มองตามอย่างงงๆ
ที่ด้านหน้าเวที เหล่าแฟนคลับต่างมานั่งรอกันจนเต็ม อาทิตย์เดินเข้ามาเห็น ก็รีบเดินไปหลังเวทีก่อนจะเห็นปูเปรี้ยวกำลังหน้าตื่น
“พี่ปูเปรี้ยวครับ ให้นางฟ้าออกได้แล้วมั้งครับ”
“น้องนางฟ้าหายไปแล้วค่ะ”
“ หายไปแล้ว”
อาทิตย์หน้าเสีย รีบวิ่งออกไปทันที
อัปสรสวรรค์กำลังจะขับรถออกไป อาทิตย์วิ่งตามมาถึง ก็กระโดดเข้าไปขวาง ซุปตาร์สาวเหยียบเบรคไม่ทัน ชนเขากลิ้งข้ามรถไป เธอตกใจรีบลงจากรถ เห็นเขานอนเจ็บขาอยู่ ก็รีบเข้าไปพยุง
“คุณ เป็นอะไรมั้ย”
อาทิตย์รีบถาม “คุณจะไปไหน”
“ฉันจะกลับ”
“คุณจะบ้าเหรอ แฟนคลับมารอกันเต็มแล้ว”
อัปสรสวรรค์หน้าซีด “ฉันเข้าไปไม่ได้”
“ทำไม”
อีกฝ่ายไม่ตอบ แต่กลับย้อนถาม “คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
อาทิตย์ถอนใจแล้วพยุงตัวลุกขึ้น ก่อนจะจับมืออีกฝ่ายจะดึงให้เข้าไปในตึก
“กลับไปเร็ว”
“ไม่....”
อาทิตย์จ้องหน้า สายตาจริงจัง “คุณ งานนี้ผมจัดมาเพื่อคุณเลยนะ ให้คนที่รักคุณจริงๆ ได้มารวมตัวกัน คุณจะใจร้ายเกินไปมั้ยที่จะทิ้งพวกเค้าหนีกลับแบบนี้”
“ฉันก็รักพวกเค้า แต่ก็มีเหตุผลของฉัน”
“เหตุผลอะไร” อาทิตย์ย้อนถาม ก่อนจะยื่นคำขาด “กลับไปเดี๋ยวนี้ ก่อนที่จะไม่เหลือคนที่รักคุณแม้แต่คนเดียว”
“ฉันไม่กลับ ฉันไม่ไป”
อาทิตย์เอาจริง “ถ้าคุณไม่ไป ผมก็จะอุ้มคุณเข้าไปแทน”
ซุปตาร์ตัดสินใจบอกความจริง “ไลลามันไลน์มาบอกว่าจะส่งของมาให้ ฉันกลัว....”
อาทิตย์พยักหน้าอย่างเข้าใจ “โธ่เอ๊ย” พลางกุมมืออีกฝ่ายแล้วมองหน้า “คุณ...”
ปกรณ์วิ่งตามลงมา เห็นภาพนั้นพอดี
“คุณจะหนีไปถึงเมื่อไหร่ครับ ถ้าเค้ารู้ว่าคุณหนี คิดว่าครั้งหน้าเค้าจะทำอีกมั้ยครับ ตรงนี้คือที่ของคุณ อย่าให้ใครมาแย่งไปเลยครับ”
อัปสรสวรรค์ตัดสินใจอย่างเคร่งเครียด
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 11 (ต่อ)
แฟนคลับต่างก็นั่งรอกันอย่างเหวอๆ ปูเปรี้ยวยืนลุ้น
เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอัปสรสวรรค์ ขณะที่ปกรณ์เดินหน้าเครียดเข้ามาอีกมุมหนึ่ง
สักพักบนเวทีเพลงในจังหวะช้าๆ ก็ดังขึ้น อัปสรสวรรค์เดินออกมาพร้อมไมค์ เสียงกรี๊ดรับดังลั่น
ซุปตาร์สาวร้องเพลงร่วมกับแฟนๆ อย่างเป็นกันเอง เหล่าแฟนคลับพากันกรูออกไปมอบดอกไม้
ขอจับมือ
ปูเปรี้ยวยิ้มอย่างโล่งใจ พร้อมกับที่อาทิตย์เดินเข้ามายืนข้างๆ ท่าทางเหนื่อยๆ
ปกรณ์ถอนใจแล้วเดินเข้าไปถ่ายภาพหน้าเวที
พอเพลงจบลง ซุปตาร์สาวก็ก้มลงไปรับดอกไม้จากแฟนๆ
“สู้ๆ นะคะพี่นางฟ้า ไม่ว่าจะเป็นยังไง หนูก็ชอบพี่ตลอดไปค่ะ”
อัปสรสวรรค์พยักหน้ายิ้มๆ ก่อนที่แฟนคลับคนหนึ่งจะนำกล่องของขวัญสีแดงมายื่นให้หน้าเวที
“พี่นางฟ้าค้า หนูให้”
พอเห็นกล่องของขวัญ อัปสรสวรรค์ก็อึ้งไปนิดหนึ่ง แฟนคลับเปิดฝากล่องของขวัญออกแล้วยื่นให้
อาทิตย์เห็นดังนั้นก็รีบเดินเข้าไปใกล้เวที
เมื่อมองเข้าไปในกล่อง ซุปตาร์สาวก็เห็นรูปตัวเองใส่กรอบอย่างดี เธอยิ้มอย่างโล่งใจ ก่อนจะรับมาแล้วชูให้แฟนๆ ดู ทุกคนกรี๊ดกันใหญ่ แล้วทั้งหมดก็ตะโกนร้องเพลงร่วมกัน
ปูเปรี้ยวหันมาทางอาทิตย์ที่ยืนดูอยู่ข้างๆ กัน
“เฮ้อ ก็ถือว่าน้อยลงจริงนะคะ เมื่อก่อนแฟนๆ มากันล้นออกไปนอกบริษัทเลย”
“ไม่เป็นไรครับ มีเท่าไหร่ เราเอาเท่านั้น”
ทั้งคู่มองหน้ากัน ต่างคนต่างกลุ้มใจ
อัปสรสวรรค์ยิ้มปลื้ม ที่ได้ร้องเพลงกับแฟนๆ อย่างมีความสุข
แล้วภาพแห่งความประทับใจ ก็ถูกนำมาแพร่ภาพในรายการข่าวบันเทิงของเออออกับห่อหมก
ห่อหมกร้องเป็นเพลง นำเข้าข่าว
“จะขอกล่าวถึง ชะเอิงเอิงเอย แม่นางฟ้าตกสวรรค์ นั่งยิ้มบนเมฆไม่นานพลัน ชะเอิงเอย ร่วงปลักควาย”
เออออพูดต่อ “น่าจะเป็นจุดตกต่ำสุดๆ แล้วล่ะค่ะตอนนี้ สำหรับอดีตนางเอกดังตัวย่อ น.หนู”
ห่อหมกรีบรับลูก “ เออ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น ทั้งดังแล้วหยิ่ง เลือกงาน วีนเจ้าภาพ ทำลายเพื่อน และอีกไปยาลใหญ่ ไปยาลน้อย จนทั้งสื่อทั้งแฟนๆ ต่างพากันแบนผลงานนางไปเป็นที่เรียบร้อย”
“ก็ดีนะคะ ดาราไม่ดีต้องช่วยกันแอนตี้”
ห่อหมกยิ้มอย่างสะใจ “นี่แหละ มาดามขาใหญ่คงได้เข็ดซะที ไม่ใช่คิดว่ามีคนดูแล้วจะเอาสินค้าเลวๆ มาขายก็ได้ เจอคุณนิรันดร์กับสตาร์สเตชั่นเข้าไป ข่าวว่าตอนนี้ล้มป่วยเพราะเครียดจัด เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตไปแล้ว ลูกชายสุดเลิฟขาฟันก็ดันไม่ไหว”
“ฟันธงว่าพินาศทั้งคนทั้งช่องเลยใช่มั้ยคะ”
“เออ เรื่องจริง ไม่ต้องมาเถียง” ห่อหมกพูดพลางทุบค้อนปึงๆๆ “สะใจ พี่ห่อหมกเคยบอกไว้นานแล้วว่าความดังไม่คงดี แต่ความดีซิคงทน ดูชัดๆ อย่างเพื่อนเก่าของ she เห็นมั้ยคะ”
“น้องไลลา อุไรวรรณ”
“ช่าย นับวันเธอสวยเอ๊าสวยเอา ดังเอ๊าดังเอาเรื่อยๆ นี่แหละนะตัวอย่างของคนที่ใช้ฝีมือจริงๆ ค่อยไต่เต้ามาจากคนเบื้องหลัง อดทนฝ่าฟันจนถึงดวงดาวจนได้ พี่ห่อหมกคิดไว้ตั้งนานแล้วนะว่าเค้าต้องดัง”
เออออพยักหน้ารับ “ใช่ๆ เห็นด้วย เรียกว่าม้ามืดเลยทีเดียว คนดีๆ เราต้องสนับสนุน”
ห่อหมกยิ้มกับกล้อง “ยังไงเรา 2 คน ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นติ่งไลลาด้วยนะคะ”
ชิวาว่านั่งดูรายการของเออออกับห่อหมก แล้วก็ตบมือพอใจ
“ฮ่าๆๆ เปลี่ยนจากส้นเท้าเป็นหน้ามือภายในวันเดียว อีพวกนี้ เขาว่าคนที่วางแผนให้นางฟ้าเดินเกมอยู่ตอนนี้ก็มีแต่คุณอาทิตย์นะคะ ทั้งเขียนบท แก้บท แก้ข่าว เขียนข่าวด้วยตัวเอง แหม ช่วยกันขนาดนี้ สงสัยจะเป็นผัวเมียกันแล้วมั้งคะ”
ไลลาที่นั่งพักอยู่ใกล้ๆ ได้ฟังก็นึกโมโหขึ้นมา ชิวาว่าพูดต่อ
“ที่ช่วยได้ก็เพราะมีเงินมีสื่อของตัวเอง นี่ถ้าเราจับคุณอาทิตย์แยกออกมาได้ นางฟ้าได้กลายเป็นดาราตกกระป๋องแน่ค่ะ”
ไลลาทำหน้าครุ่นคิด
อัปสรสวรรค์เดินกลับเข้ามาหลังเวที พร้อมกับหอบดอกไม้มาด้วย ขณะที่อาทิตย์ยืนยิ้มรออยู่แล้ว
“เป็นไงครับ หน้าบานเลย”
ฝ่ายแรกยิ้มนิดๆ แล้วทำท่าจะเดินต่อไป ฝ่ายหลังรีบพูดต่อ
“เดี๋ยวเย็นนี้ไปกับผมแป๊บนะครับ”
“ไปไหน”
“เถอะครับ ผมขอ ไปเพื่ออนาคตของคุณเอง”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าสงสัย
อีกมุมหนึ่ง ปกรณ์แอบมองอยู่ ด้วยสีหน้าซึมเศร้า
ปกรณ์นั่งมองภาพของอัปสรสวรรค์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจำนวนมาก ที่ถูกหนีบแขวนไว้บนราว
พลางปล่อยใจล่องลอยนึกถึงเรื่องเก่าๆ ก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆ จะผุดขึ้นมา เมื่อเห็นภาพในอดีต
ครู่หนึ่งก็ค่อยๆ เก็บรูปลงจากราว สีหน้าเศร้าๆ พร้อมกับเสียงของป๋าช้าง แว่วมาอีกครั้ง
“สิ่งที่ไม่เติบโตน่ะ มันคือสิ่งที่ตายแล้ว แม้แกจะชอบมันแค่ไหน แกก็ควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บ้าง แล้วแกจะรู้ว่าชีวิตมันมีค่าเกินกว่าจะลงเรือแค่ลำเดียวไปจนตาย”
เขายืนพิงผนัง กอดอกดูฟิล์มที่กำลังถูกเผาทีละนิดๆ จากนั้นก็หยิบรูปบนโต๊ะที่เก็บลงมาจากราวใส่ในกล่องคุ้กกี้ มาจนถึงใบสุดท้ายที่คว่ำอยู่ เมื่อหยิบขึ้นมาพลิกดู ก็เห็นเป็นรูปหมู่ของ 3 สาวเพื่อนรักสมัยเรียน ตากล้องหนุ่มมองรูปนั้นด้วยแววตาเศร้าและสะเทือนใจ ก่อนจะค่อยๆ วางรูปหมู่ของเพื่อนทั้งสามลงไปเป็นใบสุดท้าย แล้วจึงปิดฝากล่อง
ตากล้องหนุ่มยืนมองห้องล้างฟิล์ม ที่บัดนี้ถูกเก็บกวาดอย่างเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนปิดประตู
ฟิล์มรูปจำนวนมากในถาดอลูมิเนียม กำลังถูกไฟเผา
เขาหันหลังเดินจากไป โดยไม่มองกลับมาอีก
จริยาที่อยู่ในห้องซ้อมเต้น เห็นปกรณ์เดินหน้าเซ็งๆ ผ่านหน้าห้อง
ก็รีบวิ่งออกไป แต่ยังช้ากว่าอัปสรสวรรค์ที่เดินเข้ามาถึงตัวเขาก่อน
“เป๋า”
จริยาชะงักเท้า ยืนดูอยู่ตรงนั้น โดยไม่มีใครเห็น
“เมื่อกี้ฉันขอโทษนะเป๋า ฉันอารมณ์ไม่ดี”
ตากล้องหนุ่มพยักหน้ารับ “ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่สบายดียัง”
“อืม ทำไมดูเซ็งๆ จัง เป็นอะไรรึเปล่า”
ปกรณ์นิ่งไปนิดหนึ่ง จนอีกฝ่ายต้องถามย้ำ
“มีอะไรอ่ะแก”
“ฟ้า...มีอะไรที่ไม่บอกเรารึเปล่า”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าแปลกใจ “มีอะไร ไม่มีนี่”
“เรื่องที่นายอาทิตย์นั่นรู้ แต่เราไม่รู้”
ซุปตาร์สาวอึ้งไปนิดหนึ่ง “แกพูดเรื่องอะไร”
“ถ้ามันมีจริง เราคงเสียใจมากนะ”
“แกจะพูดถึงเค้าทำไม”
ตากล้องหนุ่มสูดลมหายใจ “ไม่มีอะไรหรอกฟ้า ช่างมันเถอะ ไว้เจอกันนะ”
พูดจบก็รีบเดินออกไป อีกฝ่ายมองตามอึ้งๆ
จริยาแอบยืนมองอยู่
รถอาทิตย์ที่มีอัปสรสวรรค์นั่งมาข้างๆ แล่นเข้ามาจอดที่หน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
“อะไร คุณพาฉันมาโรงแรมเหรอ”
“ก็ใช่สิคุณ”
ซุปตาร์สาวหันขวับมามองหน้า “คุณจะทำอะไร”
“ทำอะไรซักอย่างที่ทำให้คุณหายบ้าซักที”
พูดพลางจับแขนอีกฝ่ายไว้ “ไปครับ ลง”
“ไม่ไป”
อัปสรสวรรค์พยายามสลัดแขน แต่อาทิตย์ไม่ยอมปล่อย
เธอค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า หยิบสเปรย์พริกไทยออกมา แล้วฉีดใส่หน้า จนเขาแสบตา
“โอ๊ย คุณ”
จากนั้นก็รีบเปิดประตูจะวิ่งหนี อาทิตย์รีบลงจากรถไปจับมือไว้ แต่กลับถูกอีกฝ่ายเข่าใส่จังๆ
“ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันร้องจริงๆ ด้วย จะข่มขืนฉันเหรอ”
“จะบ้าเหรอผมไม่ได้จะทำอะไรคุณ ผมพาคุณมาหาหมอ”
อัปสรสวรรค์หยุดดิ้น “หาหมอ”
อาทิตย์กุมตา ที่โดนฤทธิ์สเปรย์พริกไทยจนแสบ
อัปสรสวรรค์นั่งอยู่บนโซฟาในห้องพักในโรงแรม ส่วนอาทิตย์นั่งกุมตาอยู่บนเตียง
“คุณมันบ้าสุดๆ”
“ก็แล้วทำไมต้องพามาที่นี่ด้วยล่ะ” อีกฝ่ายลอยหน้าลอยตา
“คุณอยากให้คนเค้ารู้กันเยอะๆ เหรอว่าคุณกลัวแมงมุม”
เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น อาทิตย์ก็รีบเดินไปเปิด ก่อนจะยิ้มทักทายเพื่อนหมอท่าทางสุภาพ
“ไอ้หมอ เชิญเลย”
หมอเดินเข้ามาในห้อง อาทิตย์รีบหันไปแนะนำกับอัปสรสวรรค์
“นี่ไง เพื่อนผมเอง เคยเจอกันที่เมกา เป็นจิตแพทย์ชั้นหนึ่งเลย”
ซุปตาร์สาวยิ้มให้
อัปสรสวรรค์เอนหลับตาบนเก้าอี้ให้หมอสะกดจิตให้หายจากอาการกลัวแมงมุม มีอาทิตย์นั่งดูอยู่ที่โซฟา
หมอพูดช้าๆเนิบๆ “ทำใจสบายๆ คิดตามหมอนะครับ สิ่งใดที่ฉันเคยกลัว ที่ฉันขยะแขยง มันเป็นสิ่งที่ฉันสร้างมันขึ้นมาเอง ฉันไม่ได้กลัวแมงมุม ฉันไม่ได้กลัวแมงมุม”
อาทิตย์นั่งมองอย่างเป็นห่วง อัปสรสวรรค์หลับตานิ่ง
หลังจากเสร็จจากการสะกดจิต อาทิตย์ก็เดินมาส่งหมอที่รถ
“แกต้องพาเค้ามาบำบัดอย่างต่อเนื่องนะ ช่วงนี้อดทนมาตามนัดหน่อย”
อาทิตย์พยักหน้ารับ “ได้เลย ขอบใจมากนะไอ้หมอ”
พอหมอจะเดินออกไป เขาก็รีบบอก “ เอ่อ.. ขอเป็นความลับสุดๆ เลยนะ แฟนแกก็อย่าให้รู้เลยนะ”
หมอพยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินออกไป อาทิตย์เดินตรงไปที่รถ อัปสรสวรรค์นั่งรออยู่แล้ว
“ปะ กลับกันคุณ”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับ
รถอาทิตย์แล่นเข้ามาจอดหน้ารถอัปสรสวรรค์ที่ลานจอดรถช่อง THE SUN
เขาหันไปพูดก่อนเธอจะลงไป “ทำตามที่หมอว่านะครับ ผมอยากให้คุณหาย มันเป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตของคุณ”
อัปสรสวรรค์พยักหน้า ขณะกำลังจะลงจากรถ ก็นึกอยากขอบคุณ
“ขอบคุณนะคะ เอ่อ..ฉันลืมถามเลย ว่าที่ฉันขับรถชนคุณ เป็นอะไรอยู่รึเปล่า”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าผมไม่โดนชน คุณคงเสียแฟนคลับไปอีกเพียบเลย”
ซุปตาร์สาวยิ้มนิดหนึ่งแล้วลงจากรถไป อาทิตย์ยิ้มอย่างสบายใจ
เมื่ออัปสรสวรรค์เข้าไปในรถของเธอเรียบร้อยแล้ว รถอาทิตย์จึงแล่นออกไป เธอมองตาม พลางยิ้มน้อยๆ อย่างรู้สึกดีๆ
ขณะกำลังจะสตาร์ตรถ ก็ได้ยินเสียงเคาะกระจก พอหันไป ก็เห็นจริยายืนอยู่
อัปสรสวรรค์ออกมาจากรถ คุยกับจริยาด้วยใบหน้านิ่ง
“ไงจิ๋ว”
“สบายดีนะ”
ซุปตาร์สาวยิ้มเจื่อนๆ “อืม แกล่ะเป็นไง ได้ยินเพลงเปิดบ่อยนะ”
“ก็โอเค”
“แล้วนี่ยืนรออะไร นัดกับเป๋าไว้เหรอ”
อีกฝ่ายทำหน้านิ่ง ก่อนจะย้อนถามกลับ “ทำไมต้องไอ้เป๋าด้วยล่ะ”
“ก็พักหลัง ฉันเห็นแก 2 คนไปไหนด้วยกันบ่อยๆ”
“ก็ใช่เจ้ ที่ต้องไปกันแค่นั้น เพราะเจ้ 2 คนเป็นอะไรกันก็ไม่รู้ไง”
อัปสรสวรรค์มองหน้า “เหรอ นึกว่าอยากไปกันเอง”
“เจ้หวงไอ้เป๋าเหรอ”
ฝ่ายถูกถามยืนอึ้ง อีกฝ่ายจึงพูดต่ออย่างมีโมโห
“เจ้หึงฉันเหรอ”
คราวนี้อัปสรสวรรค์เป็นฝ่ายโมโหขึ้นมาบ้าง
“พวกแกเป็นเพื่อนฉัน ฉันจะหึงอะไร”
“พอเถอะเจ้ เลิกเล่นละครซะที”
“นี่แก”
จริยาเริ่มทนไม่ไหว “ฉันถามจริงๆ เถอะ เจ้คิดยังไงกับไอ้เป๋ากันแน่”
อัปสรสวรรค์ชะงักไปครู่หนึ่ง “แกพูดเรื่องอะไรจิ๋ว ฉันจะคิดอะไรยังไง”
“ก็ไอ้เป๋ามันชอบเจ้มาตั้งนาน เจ้ไม่รู้เลยเหรอ”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนเงียบ จริยาก็พูดต่อ
“ฉันคิดว่าเจ้คงไม่โง่ขนาดนั้นหรอกนะ”
“แล้วไง แกเลยระแวงฉัน แกเป็นอย่างไอ้ไลมันว่าจริงๆ”
“ระแวง ?” อีกฝ่ายจ้องหน้าเอาเรื่อง “ถ้าเป็นงั้น ฉันคงขัดขวางมันมาตั้งนานแล้วล่ะ ถึงฉันจะชอบมันแต่ฉันก็รักเจ้ ถ้าเจ้ชอบมันขึ้นมาจริงๆ ฉันก็ยินดี แต่นี่ฉันเห็นมันรักเจ้ มันทำทุกอย่างเพื่อเจ้ แต่เจ้ก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น ไม่สนใจ แต่ก็เลี้ยงมันไว้อย่างนั้น”
อัปสรสวรรค์โดนจี้ใจดำจนพูดไม่ออก
“ฉันไม่ได้จะมาทวงสิทธิอะไร ฉันแค่อยากให้เจ้ตั้งสติดีๆ ว่าเจ้ชอบใครกันแน่ ไอ้เป๋าหรือคุณอาทิตย์”
“ไอ้จิ๋ว”
“ลองคิดดูให้ดี ถามใจเจ้ดู ถ้าเจ้ยังค้างคาอยู่อย่างนี้ จะมีคนที่หมดความสุขเพราะเจ้อีกหลายคน แล้วขอบอกเจ้อีกครั้ง ฉันกับเจ้ไลไม่ได้คุยกันมานานแล้ว ที่ฉันมาพูดนี่ ไม่เกี่ยวกับเจ้ไลทั้งสิ้น เป็นเรื่องของฉันกับเจ้”
พูดจบ ก็เดินร้องไห้ออกไปทันที ทิ้งให้อัปสรสวรรค์ยืนเครียดอยู่คนเดียว
ทางด้านไลลาก็กำลังยืนให้กลุ่มนักข่าวสัมภาษณ์อยู่ในงานอีเว้นต์งานหนึ่ง
“เรื่องที่คนอยากรู้คือตอนนี้หัวใจคุณไลลาเป็นไงบ้างคะ”
“ก็...อืม ไลก็มีอยู่นะคะ แต่มัน...คงเป็นความรักที่ยังมองไม่เห็นทาง”
นักข่าวถามต่อ “ทำไมล่ะครับ”
“เพราะเราก็ต่างมีกำแพงกั้นไว้ค่ะ”
“เอ จะเป็นตากล้องหน้าตี๋ คนที่เคยมีข่าวไว้รึเปล่าน้า”
“อ๋อ เป๋าเป็นเพื่อนกันค่ะ”
นักข่าวยิงคำถามเด็ด “หมายถึงคุณอาทิตย์ บอสช่องเดอะซันหรือคะ”
ไลลาตั้งใจยิ้มให้มีพิรุธ “บอกไม่ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
พูดจบก็รีบเดินออกไป
ฟากอัปสรสวรรค์ก็กลับมานอนครุ่นคิดถึงเรื่องของเธอกับปกรณ์ ภาพเก่าๆ ของเธอกับเขาย้อนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับคำพูดของจริยา ที่ยังก้องอยู่ในหู
“ฉันไม่ได้จะมาทวงสิทธิอะไร ฉันแค่อยากให้เจ้ตั้งสติดีๆ ว่าเจ้ชอบใครกันแน่ ไอ้เป๋าหรือคุณอาทิตย์”
ปกรณ์กำลังถ่ายภาพนกอยู่ในสวนตามลำพัง พักใหญ่อัปสรสวรรค์ก็เดินเข้ามา
“เป๋า”
เขาหันไปตามเสียง “อ้าว ฟ้า มาถึงนี่เลย”
“อืม ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”
“เรื่องอะไรเหรอ”
ซุปตาร์สาวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะร้องไห้โฮออกมา
“เป๋า ฉันขอโทษ”
เขาได้ยินก็ถึงกับหน้าเสีย รีบเดินเข้าไปหา “ขอโทษเรื่องอะไรฟ้า”
“ฉันผิดเอง ฉันรู้ตัวดีว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่”
เขาคว้ามือเธอมากุม “มีอะไรฟ้า”
อัปสรสวรรค์สะอื้นไม่กล้าพูด
“บอกเราสิฟ้า บอกแล้วไง มีอะไรให้บอก”
เธอตั้งสติก่อนพูดความจริงออกไป
“เป๋า แกจะโกรธฉันมั้ย ถ้าฉันจะบอกว่า....”
ตากล้องหนุ่มรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “ฟ้าไม่ได้รักเป๋า”
อัปสรสวรรค์อึ้งไป ปกรณ์ถอนใจและยิ้มเศร้า
“ฟ้า เรารู้มานานแล้วล่ะ ว่าเราคงเป็นอะไรไปไม่ได้มากกว่าเพื่อน”
“ฉันผิดเอง ฉันกลัวจะเสียแกไป ฉันกลัวแกไม่รักฉัน ฉันกลัวแกจะไปจากฉัน”
เขามองหน้าเธอนิ่ง นาน ก่อนจะค่อยๆ ประคองแก้มเธอขึ้นมา
“ฟังนะฟ้า เราไม่ไปจากฟ้าหรอก เรายังเป็นเพื่อนฟ้า คำว่าเพื่อนมันไม่ได้เลิกเป็นกันง่ายๆ ไม่ต้องห่วงเราหรอกนะ”
อัปสรสวรรค์ได้ฟัง ก็สะอื้นโฮขึ้นมา
“ลุงช้างเพิ่งสอนเรา ให้เปิดรับสิ่งใหม่ๆ อย่ายึดติดความเคยชิน ฟ้าก็เหมือนกัน อย่าปิดกั้นใจตัวเองกับไอ้เสี่ยนั่นเลย”
เธอช้อนตาขึ้นมองสบตาเขา
“เป๋า”
เขาพยักหน้าให้เธอคลายใจ
“ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนะเป๋า ฉันไม่รู้ตัวเอง มันมึนงงไปหมด ทุกอย่าง”
“ความรักมันก็เป็นแบบนั้นแหละฟ้า เหมือนตอนที่เราชอบฟ้าไง เราก็ไม่รู้ตัวหรอกว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหน เราว่าเค้าเหมาะสมแล้วที่จะเป็นคนดูแลฟ้า”
อัปสรสวรรค์โผเข้ากอดปกรณ์ เขาเป็นฝ่ายลูบหลังปลอบใจ
อัปสรสวรรค์กำลังนั่งหลับตาให้หมอบำบัด มีอาทิตย์นั่งดูอยู่ใกล้ๆ
หมอพูดด้วยน้ำเสียงนาบเนิบน่าฟัง “ทำตัวสบายๆ ทุกอย่างผ่อนคลาย ไม่เกร็ง หายใจเข้าให้สุด นับ 1 ถึง 4 ครับ”
ซุปตาร์สาวสูดลมหายใจเข้า นับ 1-4 ในใจ หมอหันมาบอก
“ไอ้อาทิตย์ แกทำไปด้วย แกมันก็พวกฟุ้ง”
อัปสรสวรรค์แอบขำ อาทิตย์หน้าเหรอ ก่อนจะพยักหน้าหลับตาแล้วลองทำตาม
“จากนั้นเก็บลมไว้นับ 1 ถึง 16”
ทั้งคู่ทำตาม
“โอเค ครับ จากนั้นหายใจออกนับ 1 ถึง 8 ครับ ทำแบบนี้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ซัก 20 ครั้ง เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้สมองและเพิ่มสมาธิ”
อัปสรสวรรค์ลองทำตาม เวลาผ่านไป หมอก็บอกให้ทำขั้นตอนต่อไป
“โอเค ตอนนี้อยากให้คุณกำหนดลมหายใจ ไม่ต้องคิดถึงอะไรทั้งสิ้นนอกจากลมหายใจเข้าออกเท่านั้น ทำได้มั้ยครับ”
ซุปตาร์สาวพยักหน้าแล้วทำตาม
พลันภาพเก่าๆ เกี่ยวกับความโกรธ ความแค้น การทะเลาะเบาะแว้ง ทั้งของเธอกับไลลา กับฮันนี่ กับคนอื่นๆ ภาพพ่อแม่ทะเลาะกัน ก็ลอยเข้ามาในหัว จนเธอรู้สึกเจ็บปวดไปกับภาพอดีต
“ตอนแรกอาจจะยากหน่อยนะครับ จิตมันจะฟุ้งซ่านไปหมด การสงบจิตก็เหมือนการจับลิงมานั่งนิ่งๆ ต้องทำไปสักพักเราจะบังคับมันได้ ให้เวลาซักวันละครึ่งชั่วโมง ปิดทุกสิ่งทุกอย่าง หาที่สงบ อยู่กับตัวเอง แล้วจะได้ยินเสียงในใจตัวเอง”
อัปสรสวรรค์พยายามฝึกทำอย่างตั้งใจ
อัปสรสวรรค์กำลังเล่นโยคะสกาย ร่างเธอลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมกับหลับตาทำสมาธิไปด้วย
เย็นวันหนึ่ง หลังการบำบัด อัปสรสวรรค์กับอาทิตย์เดินมาที่รถด้วยกัน
“ตอนนี้จิตใจโอเค ขึ้นบ้างมั้ยครับ”
เธอยิ้มรับ “ก็ดีขึ้น แต่ถ้าเจอจริงๆ ยังไม่รู้จะรับมือได้แค่ไหน ทั้งเรื่องคนที่ทำให้โกรธและสิ่งที่ทำให้กลัว”
“ก็ยังดีกว่าหนีครับ”
ทั้งคู่เดินมาถึงรถ ก่อนจะขึ้นรถไปด้วยกัน
ที่มุมไกลๆ เห็นชาวบ้านคนหนึ่งแอบถ่ายภาพทั้งคู่ไว้ด้วยมือถือ
ที่หน้าจอคอมพ์ เป็นภาพจากในเว็บบันเทิง เห็นภาพอาทิตย์กับอัปสรสวรรค์ที่หน้าโรงแรม พร้อมพาดหัวข่าว “พานางฟ้าเข้าโรงแรมแล้วจ้า”
เรด้า บ๊วย กรณ์ ลูกเป็ด ยืนมุงอ่านข่าวกันอยู่
“เอาแล้วโว้ย”
เรด้าร้องเสียงดัง บ๊วยทำหน้าตกใจ
“ว้าย พาเข้าโรงแรมกันเลยเหรอ”
“ไม่เท่านั้น มีคนเค้าเห็นว่าไปกันตั้งหลายครั้งแล้วด้วยนะ”
บ๊วยยกมือทาบอก “ว้าย แล้วเค้าเข้าไปทำอะไรกันน่ะ”
“ปัดโธ่ อีป้า จะไปทำอะไรล่ะ”
“ผมพาไปกินข้าวน่ะครับ”
อาทิตย์บอกกับราศี ขณะนั่งคุยกันในห้องทำงาน
“กินข้าว...เหรอ? เฮ้อ กลับมาทำงานวันแรกก็มีเรื่องเลย รู้งี้เกษียณไปเลยดีกว่า แล้วนี่จะเอายังไงกัน”
อาทิตย์นิ่งคิด พร้อมกับที่ปูเปรี้ยวเดินรี่เข้ามา
“มาดามคะ”
ราศีถอนหายใจ “คุณหญิงมาใช่มั้ย”
“ทำไมทราบล่ะคะ”
ราศีหน้าเครียด
เรด้ากับบ๊วยแอบฟังอยู่หน้าห้อง ก่อนที่อาทิตย์จะบอกความจริงกับทุกคน
“เราไปที่โรงแรมนั่นกันจริงๆ ครับ”
ทั้งราศี ทั้งเดือนเด่น ต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน
เรด้าตาโต “เอาแล้ว”
ปูเปรี้ยวเดินผ่านเข้ามาเห็นพอดี “ชัดมั้ย”
“ชัดสิ”
เรด้ากับบ๊วยหันไปเห็นปูเปรี้ยวก็สะดุ้งเฮือก ก่อนจะยิ้มแหยๆ แล้วรีบเดินออกไป
ปูเปรี้ยวส่ายหัว “ทุเรศจริงๆ”
“แกว่าไงยัยฟ้า”
เดือนเด่นหันขวับมาถามลูกสาว
“ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงค่ะ แต่...เราไม่ได้...”
เดือนเด่นพูดแทรกขึ้นมาทันที “แล้วแกเข้าไปทำอะไรกัน”
“แม่คะ โรงแรมเค้ามีไว้ทำอะไรแบบนั้นอย่างเดียวหรือคะ แล้วนั่นก็โรงแรมหรูระดับห้าดาว”
ฝ่ายแม่ได้ยินก็ยิ่งโมโห “เออ แล้วแกเปิดห้องในโรงแรมกินข้าวกันเหรอ”
อาทิตย์นึกอะไรได้รีบพูดขึ้นเสียงดัง “คืองี้ครับคุณอา”
ทุกคนเงียบพร้อมกับหันมามองเขาเป็นตาเดียว
“ความจริงคือนางฟ้าเค้าป่วย อยู่ๆ ก็ปวดหัวทุกวันมาเป็นเดือน หาหมอก็แล้ว กินยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ผมเลยลองให้เพื่อนที่เป็นนักพลังจิตมาบำบัดให้น่ะครับ”
อัปสรสวรรค์หันมองหน้า เดือนเด่นกับราศีนั่งงง
“แล้วทำไมต้องเปิดห้องทำกันในโรงแรมด้วยล่ะ มาทำที่นี่ก็ได้”
อาทิตย์รีบอธิบาย “โธ่ คนที่เค้าไม่เชื่อมาเห็นก็หาว่าพวกเรางมงายไร้สาระสิครับแม่”
เดือนเด่นยังไม่ยอมเชื่อ “แค่นั้นจริงๆ เหรอ”
“ครับ”
ราศีถอนหายใจ “ งั้นเดี๋ยวเราจัดแถลงข่าวกันเย็นนี้เลย”
เดือนเด่นมองค้อน “แหม ง่ายนะคะคุณพี่ แล้วชาวบ้านเค้าจะเชื่อกับเรารึเปล่า นี่ลูกสาวดิฉันเสียชื่อแบบสุดๆ แล้วนะคะ”
ราศีหันมองหน้าลูกชาย
ส่วนเรด้ากับบ๊วย ก็รีบเดินเข้ามากระจายข่าวต่อ
“ยอมรับแล้ว เข้าโรงแรมกันจริงๆ”
พนักงานคนอื่นพากันส่งเสียงฮือฮา บ๊วยพูดต่อ
“โธ่ บ้านช่องก็มี จะไปโรงแรมทำไม”
กรณ์รีบบอก “โรงแรมสิดี เตียงเด้งกว่า”
บ๊วยอมยิ้ม “ รู้ดีนะ”
“ทะลึ่งล่ะ”
เรด้าส่ายหัว “เรตติ้งละครก็ยิ่งแย่ๆ อยู่ ยิ่งทำตัวแบบนี้จะไหวมั้ยล่ะ”
ทุกคนในห้องต่างก็ทำสีหน้ากลัดกลุ้ม
“นี่มันข่าวรอบที่เท่าไหร่แล้วคะคุณพี่ จนลูกดิฉันที่อุตส่าห์ทะนุถนอมมาต้องกลายเป็นตัวอะไร ให้ลูกเจ้าของช่องทั้งจูบ ทั้งจับคู่ จนพากันเข้าโรงแรม”
อาทิตย์หน้าเศร้า รีบคุกเข่าลงไหว้เดือนเด่น
“ผมขอโทษครับคุณอา”
อัปสรสวรรค์มองอย่างเห็นใจ เดือนเด่นหันมาย้ำกับราศี
“คุณพี่ต้องรับผิดชอบ”
“พอเถอะค่ะแม่ คุณอาทิตย์เค้าหวังดีกับฟ้านะคะ”
ราศีหน้าสลด “คุณหญิงจะให้ฉันทำยังไงล่ะคะ”
เดือนเด่นนิ่งไปนิดก่อนพูด “ฉันคิดว่าสมควรจะให้หมั้นกันเป็นเรื่องเป็นราวกันไปเลยค่ะ”
อัปสรสวรรค์ทำหน้าเหวอ “แม่”
ราศีกับอาทิตย์ตกใจ เดือนเด่นพูดต่อ
“ไม่งั้นลูกฉันจะขายใครได้อีกล่ะคะ”
“ไม่ได้นะคะแม่” อัปสรสวรรค์หันมาแย้งแม่
“แล้วไง ข่าวออกมาขนาดนี้แล้ว”
“แต่ฟ้ายัง....”
“ไม่ต้องมาปิดบังกันแล้ว พูดมาตรงๆ เถอะ”
ซุปตาร์สาวส่ายหน้า “ฟ้าไม่หมั้นหรอกค่ะ อะไรของแม่คะเนี่ย ไปกันใหญ่แล้ว”
ขาดคำก็เดินออกไปเลย อาทิตย์มองตามอย่างหนักใจ
พอเดือนเด่นเดินลงมาจากลิฟท์ พวกนักข่าวก็กรูเข้ามาล้อมทันที
“เรื่องน้องนางฟ้ากับคุณอาทิตย์ที่โรงแรมนี่ จะยังไงต่อไปครับ”
แม่นางเอกอึ้งไปนิดก่อนยิ้มและตอบอย่างมั่นใจ
“อ๋อ คุยกับคุณราศีเรียบร้อยแล้ว ตกลงว่าจะหมั้นกันค่ะ”
นักข่าวพากันตะลึง “จะแต่งงานกันเลยหรือครับ”
“คงเร็วๆ นี้ ขอตัวก่อนนะคะ”
เดือนเด่นรีบเดินแยกออกมา ก่อนจะพึมพำคนเดียว
“ใครจะปล่อยให้โง่ล่ะ ขนาดนี้แล้ว”
นักข่าวจะเดินตาม แต่ถูกยามเข้ามากันไว้
อัปสรสวรรค์ยืนมองวิว ทำหน้าเซ็งๆ อยู่บนดาดฟ้าตึก ครู่หนึ่งอาทิตย์ก็เดินตามเข้ามา
“คิดมากหรือคุณ”
“จะบ้าไปกันใหญ่”
อาทิตย์พยายามปลอบ “ผมว่าไม่มีอะไรหรอกครับ แม่คุณคงแค่โมโห”
“ปล่อยให้เค้าอยากได้อยากหมั้นไปคนเดียวเถอะ”
เขาเงียบไปนิดหนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นมา “แต่ผมยินดีจะหมั้นกับคุณนะครับ”
“คุณไม่ต้องมารับผิดชอบฉัน”
อาทิตย์ส่ายหน้า ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “เปล่าครับ ที่ผมอยากหมั้น ก็เพราะผมชอบคุณ แต่ผมก็รู้ว่ามันคงยังไม่ถึงเวลา แล้วคุณล่ะครับ คิดยังไงบ้าง”
อัปสรสวรรค์ก้มหน้าเขิน ไม่พูดอะไร รีบเดินหนีออกไป
เพื่อนรักเพื่อนริษยา ตอนที่ 11 (ต่อ)
อัปสรสวรรค์นอนไม่หลับ ในใจยังคงครุ่นคิดเรื่องของอาทิตย์อยู่
ขณะที่อีกฝ่ายกำลังนั่งพิมพ์บทละคร “ปักนางฟ้า” ด้วยใบหน้าเพลียและง่วง
ไลลากำลังนั่งให้ช่างทำผม เตรียมจะไปงานกลางคืน พลางอ่านข่าวในไอแพด “หญิงแม่แย้ม เตรียมหมั้นนางฟ้า-อาทิตย์ ปลายปี” แบบอึ้งๆ
ชิวาว่าเดินเข้ามาตะโกนเสียงหลง
“น้องไล เค้าจะหมั้นกันแล้วค่า ท้องแหงๆ ฮ่าๆ บุญหล่นทับน้องไลแล้วค่า เป็นอะไรคะน้องไล”
ไลลาหันหน้ามาแว้ดใส่ “บุญหล่นทับไลยังไงคะ”
“เอ้า ก็นางฟ้ามีผัวไปซะได้ ทีนี้ตำแหน่งนางเอกอันดับหนึ่งก็ต้องเป็นของน้องไลแล้วสิคะ”
ขาดคำ อีกฝ่ายก็ลุกขึ้น แล้วพูดเสียงดัง
“ไลไม่เชื่อหรอก อีแก่เดือนเด่นให้ข่าวอยู่คนเดียว ไม่เห็นคุณอาทิตย์กับอีนางฟ้ามันพูดอะไรเลย เห็นลูกกำลังจะตกก็กะจะจับน่ะสิ”
“อ้าว เหรอคะ”
ไลลาทั้งโกรธและผิดหวัง
ฟากอัปสรสวรรค์ก็กำลังนั่งคุยกับแม่อยู่ที่ห้องรับแขกที่บ้าน
“แม่ให้ข่าวไปอย่างนั้นได้ไงคะ”
“ก็ทำไมล่ะ แล้วจะปล่อยให้ท้องก่อนรึไง”
ซุปตาร์สาวทำหน้าเอือม “แม่คะ ฟ้าไม่ได้เข้าไปทำอย่างว่า”
“ฉันไม่เชื่อ”
“ก็แม่เป็นซะแบบนี้ ฟ้าถึงไม่อยากบอกอะไร”
เดือนเด่นจ้องหน้าลูกสาว “ข่าวแค่จะหมั้นกัน มันจะตายรึไง ยังไม่ได้แต่งกันวันนี้พรุ่งนี้ซักหน่อย”
“แล้วทำไมฟ้าต้องแต่งกับเค้าด้วยล่ะคะ”
“นี่ถามจริง แกไม่ชอบเค้าบ้างเลยเหรอ”
ผู้เป็นแม่ย้อนถาม ฝ่ายลูกสาวถึงกับอึ้ง
“ฟ้าจะชอบหรือไม่ชอบ ก็ไม่อยากให้แม่ทำแบบนี้”
พูดจบก็เดินเข้าห้องไปอย่างโมโห เดือนเด่นทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา พลางถอนใจอย่างเบื่อหน่าย
ที่ IG ของไลลา ขึ้นข้อความ “คู่หมั้นก็เท่านั้น ไม่สู้คนที่ได้กันมานานแล้ว”
ราศีเห็นข้อความที่ปูเปรี้ยวเอามาให้ดู
“ยัยไลลามันพูดอะไรของมัน แกรู้มั้ยตาทิตย์”
อาทิตย์นั่งหน้าเครียด หงุดหงิดใจ
“นี่อย่าบอกนะ...”
ลูกชายอึกอัก รีบหลบตา ราศีตกใจหันไปมองหน้าปูเปรี้ยว
บรรยากาศหน้างานเลี้ยงที่โรงแรม เป็นงานวันเกิดเจ้าของนิตยสารฉบับหนึ่ง
ไลลาเดินเข้ามาในชุดแหวกอก พร้อมด้วยชิวาว่า พวกนักข่าวหันไปเห็นก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“น้องไลลาครับ ถ่ายรูปหน่อยครับ”
“ได้เลยค่ะพี่”
ไลลาเดินไปยืนยิ้มตรงฉากให้นักข่าวรุมถ่ายรูป
ฮันนี่เดินเข้ามาในชุดแหวกอกมากกว่า แต่ไม่มีใครเข้าไปถ่ายรูปเธอเลย พอหันไปเห็นนักข่าวรุมไลลาอยู่ ก็ตีหน้ายิ้มแย้มดีใจเหมือนเจอเพื่อนรัก รีบวิ่งแทรกเข้าไปในวงนั้น
“ว้าย ไลลา ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
ไลลาหน้าเหวอ “ฮันนี่”
ชิวาว่าตกใจ ฮันนี่เดินเข้าไปกอดไลลา พลางหอมแก้มซ้ายขวา
“เป็นไงบ้าง นี่คิดถุ้ง คิดถุง ถ่ายรูปด้วยกันเนอะๆ”
ไลลาพยักหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะถูกฮันนี่โอบเอวหันให้นักข่าวถ่ายภาพ ครั้นเหลือบไปเห็นเสื้ออีกฝ่ายที่แหวกเยอะกว่าตัวเอง ก็จัดการเอื้อมแขนไปกอดคอแล้วยืดแขนลงไปบังหน้าอกไว้ แล้วยิ้มให้กล้องอย่างเนียนๆ
พอนักข่าวถ่ายภาพเสร็จ ฮันนี่ก็หันมายิ้มให้ไลลา
“สบายดีนะ เจอกันๆ”
จากนั้นก็เดินยิ้มออกไป พอผ่านชิวาว่าก็แอบด่า
“อีชิวาว่าเลี้ยงไม่เชื่อง”
ชิวาว่าสวนกลับ “อีฮันนี่น้ำผึ้งบูด”
2 คน สะบัดหน้าพื่ดออกจากกัน ก่อนที่ชิวาว่าจะพุ่งมาหาไลลา
“นึกว่าฉันโง่เหรอ อีขโมยซีน”
ชิวาว่าทำปากเบะ “ชีออกจากป่ามาแล้วค่ะ คงหวังเนียนเกาะน้องไล”
“ช่างมันเถอะค่ะ ถือว่าให้เกาะ เอาบุญ”
“เอาดอกไม้ไปเบิร์ธเดย์ บก.หนังสือข้างในดีกว่าค่ะ”
ชิวาว่าพูดพลางจูงมือไลลาเข้าไป นักข่าวกลุ่มหนึ่งรีบเข้ามาขอสัมภาษณ์
“ขอโทษค่ะน้องไล รู้สึกยังไงกับที่มีข่าวว่าคุณนางฟ้าจะหมั้นกับคุณอาทิตย์คะ”
ไลลาตอบยิ้มๆ “อ๋อ รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่บางคนคิดไปเองค่ะ เพราะจากที่ไลรู้ คุณอาทิตย์เค้าไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย”
นักข่าวพากันงง “แล้วน้องไลรู้ได้ยังไงคะ”
“เรื่องนี้รู้กันแค่ไลกับคุณอาทิตย์ค่ะ ขอตัวนะคะ”
ไลลากับชิวาว่าเดินหนีเข้าไปข้างใน นักข่าวพากันฮือฮากับคำตอบทิ้งทวน
พออาทิตย์กับอัปสรสวรรค์เดินเข้ามาในงาน พวกนักข่าวเห็นก็วิ่งกรูกันเข้าไปรุมสัมภาษณ์ สาด แฟลชรัวๆ
“คุณอาทิตย์คะ เรื่องหมั้นนี่ สรุปแล้วจริงเท็จยังไงคะ”
อาทิตย์ยิ้มหันไปมองหน้าอัปสรสวรรค์
“เอ่อ..อันนี้ก็ต้องคอยลุ้นกันไปก่อนนะครับ”
อีกคนถามต่อ “แล้วที่คุณไลลาลงในไอจีคล้ายๆ จะพูดถึงคุณอาทิตย์ล่ะคะ”
“อาจจะหมายถึงคนอื่นก็ได้นะครับ”
“แล้วความสัมพันธ์ของคุณอาทิตย์กับไลลาล่ะคะ”
อาทิตย์ตอบอย่างใจเย็น “อ๋อ ตอนนี้เราอยู่คนละช่องแล้ว ก็ยังเจอกันบ้างครับตามงาน ไม่มีอะไรมากกว่านั้นครับ”
อัปสรสวรรค์รีบแทรกขึ้นมา “โอเค นะคะ”
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าไปด้านใน
อัปสรสวรรค์เดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เจอกับไลลาพอดีที่ทางเดิน ต่างฝ่ายต่างก็ชะงักงัน ไม่รู้จะพูดอะไรกัน
ฝ่ายแรกตัดสินใจเดินจะเลี่ยงออกมา แต่ฝ่ายหลังรีบพูดขึ้นมาก่อน
“ยินดีด้วยนะเรื่องจะหมั้นกัน”
อัปสรสวรรค์ชะงักเท้าทันที “ยังไม่มีการหมั้นอะไรทั้งนั้น”
“ขอบใจนะ”
“เรื่องอะไร” อีกฝ่ายย้อนถาม
“ก็...เห็นเธอรับได้ที่เค้าเคยเป็นของฉันมาก่อน”
อัปสรสวรรค์พยายามเก็บอารมณ์ ไลลายั่วต่อ
“ก็ดีใจนะ ที่ไม่รังเกียจ”
ขาดคำก็เดินยิ้มเข้าข้างในไป ทิ้งอีกฝ่ายให้ยืนนิ่ง อาทิตย์เดินเข้ามาเห็นไลลาเดินออกไปพอดี
“อ้าว เจอไลลาเหรอ”
อัปสรสวรรค์ยืนนิ่งไม่ตอบ
“ออกไปข้างนอกกันเถอะ มีเพื่อนๆ ดาราเค้าถามถึงคุณด้วย”
เธอมองหน้าเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณออกไปเถอะ ฉันกลับล่ะ”
พูดพลางจะเดินหนี อาทิตย์รีบดึงแขนไว้
“เป็นอะไรล่ะคุณ ทะเลาะกับไลลาเหรอ ไป ไปคุยกันข้างนอก”
อีกฝ่ายสวนกลับ “ไปคุยกับเมียคุณให้เรียบร้อยก่อนไป”
อาทิตย์ยืนอึ้ง อัปสรสวรรค์สะบัดแขน แล้วรีบเดินหนีออกไป
ไลลากำลังดื่มและพูดคุยอยู่กับเพื่อนดารา ครู่หนึ่งอาทิตย์ก็เดินเข้ามาดึงแขน
“อ้าว คุณอาทิตย์ มีอะไรหรือคะ”
“ออกไปคุยกับผมแป๊บนึงสิครับ”
ไลลายิ้มหวาน “อ๋อ ได้ค่ะ เดี๋ยวมานะคะพี่ว่า”
“อ๋อ ได้จ้า”
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกไปด้วยกัน
อาทิตย์พาไลลาออกมาที่สวนด้านหลังโรงแรม
“คุณพูดอะไรกับนางฟ้าหรือครับ”
ไลลายิ้ม “ก็แสดงความยินดีเรื่องหมั้นไงคะ”
“แค่นั้นหรือครับ”
เขาถามย้ำ อีกฝ่ายนิ่งนิดหนึ่ง ก่อนเอ่ย
“แล้วก็แค่ถามมัน ว่าถ้าคุณกับฉันเคยมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกัน มันจะรับได้มั้ย”
อาทิตย์นึกถึงเรื่องที่ทะเล แล้วก็ยืนนิ่ง ไม่รู้จะพูดยังไง
“หรือมันไม่ใช่เรื่องจริงคะ ไลก็แค่บอกให้มันรู้เท่านั้น ตามประสาคนที่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ไม่งั้นถ้าอีกหน่อยรู้มันจะเสียความรู้สึก”
อีกมุมหนึ่ง จริยาเดินเข้ามาถึงพอดี พอเห็นอาทิตย์กับไลลากำลังยืนคุยกันอยู่ก็หยุดมอง
อาทิตย์พูดเสียงเข้ม
“ผมคิดว่าคุณไม่จริงจังกับเรื่องนี้ ขอโทษครับที่เข้าใจคุณผิด ถ้าคุณต้องการ ผมจะรับผิดชอบ
ทุกอย่าง”
ไลลายิ้มหยัน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้ามันไม่ใช่ความรัก มีความจริงที่ไลอยากบอกกับคุณ เรื่องที่ทะเลคืนนั้น”
“ผมผิดเองครับ”
“ฉันมอมยาคุณเองค่ะ”
อาทิตย์ได้ยินก็ถึงกับอึ้งไป “คุณทำแบบนั้นทำไม”
“ฉันรักคุณ ที่บอกก็เพราะไม่อยากให้คุณรู้สึกผิดจนต้องมารับผิดชอบ ถึงฉันไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่เลวขนาดสร้างเรื่องเพื่อให้คุณมาเป็นของฉันเหมือนนางร้ายในละครน้ำเน่า”
ไลลาแค่นหัวเราะ อาทิตย์ยิ้มๆ
“แต่สิ่งที่ฉันต้องการคือความรักจากคุณมากกว่า รักฉันบ้างมั้ยคะ”
อาทิตย์ลำบากใจ “ ผม... “
“ฉันอยากให้คุณลองคิดก่อนจะตัดสินใจ ว่าคุณจะไล่ตามคนที่ไม่เคยสนใจไยดีคุณเลยอย่างนางฟ้า หรือกางแขนรับความรักจากนางมารอย่างฉันที่รักคุณมาตลอด ฉันรับได้ทุกอย่างค่ะ”
อีกมุมหนึ่ง ชิวาว่าแอบถ่ายรูปทั้งสองตอนยืนมองหน้ากัน
แล้วไลลาก็เดินออกไป ทิ้งให้อาทิตย์ยืนเหวอ จริยายืนแอบมองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ
ปกรณ์ยืนถ่ายรูปคนมาร่วมงานอยู่ด้านหน้า พอแพนกล้องไป ก็เห็นอัปสรสวรรค์กับจริยากำลังจะเดินมาเจอกัน
อัปสรสวรรค์เดินออกมาที่หน้าประตู เห็นจริยากำลังเดินเข้ามา ทั้งคู่เห็นหน้ากันก็ชะงัก ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีใครเอ่ยทักทายกัน แล้วก็เดินผ่านกันไป
ปกรณ์มองดูพลางถอนใจที่เพื่อนยังไม่ยอมคุยกัน
อัปสรสวรรค์เดินละจากจริยามานิดหนึ่งก็เจอกลุ่มเพื่อนดารา
“ว้าย ยัยฟ้า ไม่ได้เจอกันนานเลย”
ซุปตาร์สาวเห็นเพื่อนก็ยิ้มดีใจ “อ้าว เพิ่งมากันเหรอ”
“ใช่ๆ แล้วนี่จะออกไปไหนอ่ะ”
“เอ่อ...”
เพื่อนดารารีบลากแขน “ ไปๆ เข้าไปเลย เม้าท์กันก่อน นานๆ เจอกันที คิดถึง”
จากนั้นก็ดันอัปสรสวรรค์กลับเข้าไปในงาน ทั้งที่อีกฝ่ายอยากกลับ
จริยามองตามกลุ่มนั้น พร้อมกับที่ปกรณ์เดินเข้ามาทัก
“ยังไม่คืนดีกับฟ้าอีกเหรอ”
อีกฝ่ายย้อนกลับ “ก่อนจะยุ่งเรื่องคนอื่น จัดการเรื่องตัวเองก่อนดีมั้ย”
“เรื่องอะไรวะ”
“ก็เรื่องแกกับเจ้ฟ้าไง”
ตากล้องหนุ่มรีบบอก “อ๋อ...เรื่องนั้น ฉันตกลงกันแล้ว”
จริยาชะงัก “ตกลง...” พูดพลางแอบกลืนน้ำตา “งั้นก็ยินดีด้วยนะ”
“อืม... เป็นเพื่อนกันดีที่สุด”
“เพื่อน ?”
ตากล้องหนุ่มพยักหน้า “ใช่ ฟ้ากับฉันเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ”
อีกฝ่ายยืนงง แต่หัวใจแอบเต้นรัว ปกรณ์รีบเปลี่ยนเรื่อง
“ถามจริง แกเชื่อจริงๆ เหรอว่าฟ้าเป็นคนปล่อยคลิปแล้วโยนความผิดให้แก”
“แกก็คงจะเข้าข้างเจ้ฟ้าเหมือนเดิมสินะ”
“เพื่อ ?”
จริยายืนนิ่ง ปกรณ์พูดต่อ
“ฉันเป็นห่วง”
“ห่วงเจ้ฟ้า”
“ก็ห่วงทั้งคู่แหละ จิ๋ว แกไม่เสียดายเวลาดีๆ ที่ผ่านมาบ้างเหรอ เพื่อนดีๆ ไม่ได้หาง่ายๆ นะ มีอะไรก็พูดกันดีกว่า อย่าปล่อยให้มันไปนานกว่านี้ มันจะต่อไม่ติด”
“แล้วค่อยว่ากัน”
จริยารีบเดินเลี่ยงไป ปกรณ์มองตาม พลางถอนใจ
บนเวที จริยากำลังร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพื่อน ท่ามกลางแขกที่มาร่วมงาน ทั้งดารา นักร้องนักข่าวกระจายตัวกันดื่มกินทั่วงาน
อัปสรสวรรค์ยืนคุยอยู่กับเพื่อนดารา พอได้ยินเพลงก็หันไปมองบนเวที ทั้งคู่มองหน้ากัน
ปกรณ์เห็นก็แอบยิ้ม
มุมหนึ่งไลลาเดินเข้ามาในงานกับอาทิตย์ ได้ยินเพลงก็ชะงักไปนิดหนึ่ง
จริยาหันไปเห็นทั้งคู่มาด้วยกัน อัปสรสวรรค์มองตาม
พอเพลงจบ พิธีกรก็เดินออกมา
“โอ้โห ไพเราะจริงๆ ครับ น้องจิ๋ว เพิ่งได้ฟังเสียงสดๆ วันนี้เอง”
“ค่ะ จิ๋วก็ขอเป็นตัวแทนของค่ายเพลงเดอะซัน ขออวยพรให้พี่บก.เท็ดดี้ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง และนิตยสารทุกฉบับในเครือขายดี เป็นเพื่อนท่านผู้อ่านไปตลอดกาลเลยค่ะ”
“เอ วันนี้ได้ข่าวว่าเพื่อนรักน้องจิ๋ว น้องนางฟ้าก็มาด้วยใช่รึเปล่าครับ”
นักร้องสาวพยักหน้าเจื่อนๆ “อ๋อ ค่ะๆ”
พิธีกรชายป้องตามองลงไปล่างเวที “น้องนางฟ้าอยู่ไหนเอ่ย โชว์ตัวหน่อยมั้ย”
ไฟฟอลโลว์สาดไปที่อัปสรสวรรค์ที่ยืนมองอาทิตย์กับไลลาอยู่
“อ้าว น้องนางฟ้าอยู่นั่นเอง เชิญมาอวยพรพี่เท็ดดี้บนเวทีหน่อยครับ”
ซุปตาร์สาวเดินขึ้นไปบนเวที ก่อนจะหันมองหน้าจริยา แต่ไม่พูดอะไรกัน
“ฟ้าขอให้พี่เท็ดดี้มีความสุขมากๆ นะคะ ไม่เจ็บไม่ป่วย กิจการเจริญรุ่งเรือง”
พิธีกรพูดล้อๆ “หน้าอิ่มเลย กำลังจะมีข่าวดีใช่มั้ยครับ”
พวกคนในงาน พากันส่งเสียงฮือฮา
อัปสรสวรรค์มองอาทิตย์และไลลา แล้วตัดสินใจพูด
“ทุกคนคะ ฟ้าขอพูดไว้ตรงนี้ ว่าเรื่องหมั้นนั่นไม่เป็นความจริง ถ้าคุณอาทิตย์จะหมั้นเค้าคงไม่ได้หมั้นกับฟ้าแน่ค่ะ”
อาทิตย์อึ้ง ไลลายิ้มมุมปากอย่างสะใจ จริยายืนงง ขณะที่ปกรณ์งงยิ่งกว่า
บรรยากาศงานเจื่อนลงทันที
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะ”
อัปสรสวรรค์พูดทิ้งท้าย ก่อนจะเดินลงจากเวที นักข่าวเดินกรูจะไปสัมภาษณ์ แต่โดน รปภ.กันไว้ ซุปตาร์สาวเชิดผ่านหน้าไลลาและอาทิตย์ไป อาทิตย์รีบวิ่งตามออกไป ไลลาอารมณ์เสียแต่สุดท้ายก็ยิ้มเยาะอย่างสาแก่ใจ
อาทิตย์เดินตามอัปสรสวรรค์ออกมาจนทันกัน
“คุณ ผมขอเถอะ” พูดพลางพยายามรั้งแขนอีกฝ่ายไว้ “ให้เวลาฟังผมซักนิด แล้วผมจะไม่รบกวนอะไรอีกเลย”
“ถ้าเป็นเรื่องเมียคุณคนนั้น ไม่ต้องมาเล่า มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”
“ผมรู้ว่าผมเลว แต่มีอย่างหนึ่งที่อยากบอกคือ คนเลวคนนี้รักคุณ”
อัปสรสวรรค์อึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มประชด
“รักเหรอ ? รักฉัน แต่ไป... กับอีไลลา”
อาทิตย์ถอนใจ “ผมผิดเอง”
“ดี”
ขาดคำก็ฟาดฝ่ามือใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างแรง แล้วเดินออกไป ฝ่ายถูกตบยืนทำหน้าสลด
หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์บันเทิง เป็นภาพไลลายืนคุยกับอาทิตย์ในสวนที่ชิวาว่าแอบถ่าย พร้อมพาดหัวข่าว “สวิงกิ้งข้ามค่าย นางฟ้าตัวหลอก ไลลาคู่หมั้นอาทิตย์ ??”
ปกรณ์กำลังอ่านข่าวนั้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
จากนั้นก็ลุกเดินออกจากห้องไป พร้อมกับที่เรด้าเดินสวนเข้ามา
“ว้าวๆๆ รู้ยัง ช่องเราจะได้ดองกับช่องสตาร์สเตชั่นแล้ว”
กรณ์ทำหน้างง “ดองอะไรวะ”
“ก็คุณราศีกำลังจะได้ดาราสาวช่องสตาร์มาเป็นลูกสะใภ้”
กรณ์ยิ้มหยัน “อ๋อ เรื่องอีจัญไลลานั่นน่ะเหรอ เห็นนัตตี้โทร มาเล่าให้ฟังตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
บ๊วยถามต่อ “แล้วไหนตอนแรกคุณหญิงเดือนเด่นให้ข่าวว่าจะหมั้นกับนางฟ้า”
“เงิบสิฮะ ป่านนี้คงสติแตกนั่งร้องไห้แทะกระเป๋าหลุยส์เล่นไปแล้ว”
กรณ์ยังงงอยู่ “แอบไปเซิ้งกันตอนไหนวะ”
“เห็นเม้าท์ๆ กันว่าน่าจะเป็นวันที่ไปถ่ายปฏิทินที่ทะเลกันน่ะค่ะ”
เรด้าขมวดคิ้ว แปลกใจ “อ้าว ! แล้วเรามัวไปไหนกันวะ”
“ก็วิ่งหนีผีปอบกันอยู่น่ะสิ”
เรด้าถึงบางอ้อ “เออ ใช่ บอสกับน้องไลเค้าเลยแอบไปเล่นผีผ้าห่มกัน แหม เหมาะสมกันจริงๆ เลย”
“โอย เหมาะสมตรงไหน อีนังนี่ก็นอนกับคนเค้าไปทั่วแหละ ขนาดฉันยังเกือบโดน”
เรด้ากับบ๊วยหันขวับมามองหน้ากรณ์
“หน้าอย่างพี่เนี่ยนะ”
กรณ์พยักหน้า “เออสิวะ”
เรด้าหันมาพูดเหน็บกับบ๊วย “พูดไม่อายเนอะ ถ้าน้องไลลายอมนอนกับตานี่ ฉันก็ยินดียอมนอนกับฮิปโปล่ะวะ”
“หนอย อีนี่ เพื่อนเล่นเหรอ”
เรด้ากับบ๊วยเดินหัวเราะออกไป
ฟากอาทิตย์ก็กำลังตอบคำถามนักข่าวทางโทรศัพท์ 2 เครื่อง
“ตอนนี้ผมยังพูดอะไรไม่ได้นะครับ เดี๋ยวขอดูเนื้อหาข่าวก่อน จะแถลงข่าวอีกทีดีมั้ยครับ แค่นี้นะครับมีอีกสายมารอแล้ว”
พอวางสายก็หันไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องมาคุย
“เมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะครับ อะไรนะฮะ ร้านพรีเวดดิ้ง ยังไม่สนใจครับ แค่นี้นะครับ”
พูดจบก็รีบวางสาย ก่อนจะยกหูโทรศัพท์ออกแล้วนั่งเหนื่อยใจ
จู่ๆ ปกรณ์ก็ผลักประตูเข้ามา อาทิตย์เงยหน้ามองอย่างงงๆ
“ทำไมทำแบบนี้วะ คุณจะเลือกทั้งฟ้า ทั้งไลลาเลยเหรอ”
“เดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณ”
ปกรณ์นิ่งไปนิดหนึ่งด้วยความโกรธ อาทิตย์ถอนใจ พลางมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาจริง
“ตอนนี้คุณว่างมั้ย”
ฝ่ายถูกถามมองหน้ากลับ
ที่เวทีมวยสำหรับฝึกซ้อม
อาทิตย์ยืนหน้าเครียดอยู่ ปกรณ์เดินเข้าไปต่อยหน้าเปรี้ยง ฝ่ายแรกยืนนิ่งไม่ยอมสู้ ปล่อยให้อีกฝ่ายต่อยเอาๆ จนเหนื่อยไปเอง
“ทำไมไม่สู้”
อาทิตย์ยืนนิ่ง ปกรณ์ถามคาดคั้น
“คุณรักใครกันแน่”
“ผมรักนางฟ้า แต่เค้าจะรักผมรึเปล่า ผมไม่รู้”
“แล้วไลลาล่ะ”
ฝ่ายถูกถามส่ายหน้า “ผมไม่ได้รักเค้า เรา 2 คน รู้กันดีว่ามันคืออะไร”
“แล้วจะเอายังไงต่อ”
“ผมก็ไม่รู้”
ขาดคำก็ถูกตากล้องหนุ่มซัดอีกเปรี้ยง
“จำไว้ ถ้าทำให้เพื่อนผมเจ็บ ไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่ง ผมจะซัดคุณให้หมอบเลย”
พูดเสร็จก็ผลักอีกฝ่ายออก แล้วเดินแยกลงเวทีไป
อาทิตย์หลังพิงเชือกเวที มองตามไป
ฮันนี่กำลังดูมือถือ พอเห็นภาพถ่ายไลลาเอาแขนบังนมตัวเองก็กรี๊ดลั่น จนพี่หมีที่นั่งอยู่ข้างๆ สะดุ้ง
“อะไรฮะ น้องฮันนี่ มดกัดเหรอ”
“อีไล อีตัวแสบ ชุดตัดมาตั้งหลายหมื่น ดูสิคะพี่หมี มันเอาแขนมาบังหมดเลย”
พี่หมีชะโงกดูรูป “ก็ไม่เห็นบังอะไรนี่ฮะ”
“บังสิคะ”
“บังหน้าหรือฮะ ไม่บังนะ”
ฮันนี่ฟึดฟัด “บังนมสิคะพี่หมี มิดเลยเห็นมั้ย”
พี่หมีเพ่งดูในรูป “เออ ใช่ๆ แหม แขนไลลาก็เล็กนิดเดียว ไม่น่าบังได้เลยนะฮะ”
ฮันนี่หันมองหน้า พี่หมีหัวเราะเจื่อน
“แหะๆ ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”
ปูเปรี้ยวเดินเข้ามาแซว “แล้วนึกยังไงถึงไปถ่ายกับเค้าล่ะ เคยมีเรื่องกันซะขนาดนั้น”
ฮันนี่อ้ำอึ้ง ก่อนจะแกล้งทำเป็นนึกได้ “เออ อีนี่เอง มิน่าล่ะ หน้าคุ้นๆ อีนักข่าวที่เคยแกล้งนี่นี่เอง ต๊าย จำไม่ได้ นี่เดินเข้าไปในงาน อยู่ๆ มันก็เข้ามาไหว้ขอถ่ายรูปด้วย ทุเรศจริงๆ ไม่งั้นไม่ถ่ายกับมันหรอกค่ะ”พูดจบก็ทำเป็นฉุนเฉียวเดินไปที่อื่น ปูเปรี้ยวยิ้มเยาะ
“เห็บก็จะเกาะหมา หมาก็ดันฉีดยากันเห็บ”
พี่หมีอมยิ้ม “ฉายาใหม่ “ฮันนี่ เห็บเงิบ” โอ..มั้ยฮะ”
ปูเปรี้ยวทำหน้าสยองขวัญ
อัปสรสวรรค์นั่งอ่านบทรออยู่ในกองถ่ายท่าทางเศร้าๆ อีกมุมหนึ่ง ฟรุ้งฟริ้งเดินเข้ามาอย่างร่าเริง
“หวัดดีค่าพี่หมี วันนี้เข้าฉากกะใครหรอ พี่ภีมป่าว”
“อ๋อ พี่นางฟ้าฮะ”
ฟรุ้งฟริ้งสะดุ้ง หน้าซีด “อีนางมาร”
“ท่องบทมายังจ๊ะ เดี๋ยวจะโดนพี่เค้าดุอีก”
พูดจบ พี่หมีก็เดินผ่านไป ฟรุ้งฟริ้งยิ้มร้าย
“ด่ามาเลยอีนางฟ้า จะได้ตกอับยิ่งกว่านี้ ฉันจะได้เหยียบหัวแกขึ้นไปแทนซะที”
อัปสรสวรรค์เข้าฉากกับฟรุ้งฟริ้ง ในละครเรื่อง “ปีกนางฟ้า” จากบทประพันธ์ของอาทิตย์
ซุปตาร์สาวรับบทสีฟ้า อาชีพนักแสดง ส่วนอีกฝ่ายรับบทกำไร นักข่าว ซึ่งเป็นเพื่อนรักเพื่อนแค้นกันเหมือนอัปสรสวรรค์กับไลลาในชีวิตจริง
พี่หมีให้สัญญาณ “โอเค ฮะ ไปเลย”
ทีมงานขานรับ “ ห้า สี่ สาม สอง ไป”
อัปสรสวรรค์ยืนทำหน้าเซ็งอยู่ ฟรุ้งฟริ้งเดินเข้ามา
“สีฟ้า ทำไมแกทำกับฉันอย่างนี้”
ซุปตาร์สาวหันไปมอง “อ้าว กำไร มีอะไรเหรอ”
“แกจะแย่งโอกาสฉันไปถึงไหน สมัยเรียนแกก็แย่ง ทำงานก็ยังแย่งอีก เนี่ย คนดูละครแกมากกว่ารายการฉันอีก”
“อะไรล่ะกำไร เธอเป็นนักข่าว ฉันเป็นดารา มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ”
“เกี่ยวสิ อย่ามาทำตัวเป็นดื้อตาใส” ฟรุ้งฟริ้งทำแกล้งทำลืมบท “เอ่อ.... ยังไงต่อ”
พี่หมีตะโกนสั่ง “คัท”
ทีมงานหยุดทันที พี่หมีเดินเข้ามาบอกบท
“ฉันรู้ว่าอดีตแกเป็นยังไง ไปตายซะ อย่ามาเร้าหรือ”
“อุ๊ย ใช่ๆ ลืมไปเลย ขออีกทีนะคะ”
ฟรุ้งฟริ้งแอบมองหน้าอัปสรสวรรค์ แต่เห็นอีกฝ่ายทำหน้านิ่ง พี่หมีเดินกลับไป พร้อมกับทีมงานตะโกน
“โอเค จ้า ห้า สี่ สาม สอง ไป”
อัปสรสวรรค์เข้าบทต่อ “อะไรล่ะกำไร เธอเป็นนักข่าว ฉันเป็นดารา มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ”
“เกี่ยวสิ อย่ามาทำตัวเป็นดื้อตาใส ฉันรู้ว่าอดีตแกเป็นยังไง ไปตายซะ อย่ามาเหลาหลื่อ”
พี่หมีตะโกน “คัท”
ฟรุ้งฟริ้งแกล้งทำหน้างง “เอ๊า ทำไมอะคะ”
“เร้าหรือฮะคุณน้อง เร้าหรือ”
“พูดผิดเหรอคะ แหม นิดเดียวเอง”
ฟรุ้งฟริ้งเหลือบมองหน้าอัปสรสวรรค์ เห็นอีกฝ่ายเตรียมเล่นใหม่ ไม่ว่าอะไร ก็ชักแปลกใจ
พี่หมีตะโกน “โอเค เอาใหม่นะฮะ”
“โอเค ครับ ห้า สี่ สาม สอง ไป”
อัปสรสวรรค์เล่นต่อ “อะไรล่ะกำไร เธอเป็นนักข่าว ฉันเป็นดารา มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ”
“เกี่ยวสิ อย่ามาทำตัวเป็นดื้อตาใส ฉันรู้ว่าอดีตแกเป็นยังไง ไปตายซะ อย่ามาเหล่ารื่อ อุ๊ย ฮิๆ ผิดอีกและ”
ฟรุ้งฟริ้งแกล้งพูดผิด พี่หมีพยายามเก็บอารมณ์ อัปสรสวรรค์ทำหน้านิ่ง ก่อนเดินเข้าไปหาฟรุ้งฟริ้ง
ทีมงานซุบซิบกัน ปูเปรี้ยวหายใจไม่ทั่วท้อง
“เอาแล้ว อีฟรุ้งฟริ้งโดนบ้องหูแน่”
อัปสรสวรรค์เดินไปถึง ฟรุ้งฟริ้งมองหน้าไม่รู้ว่าจะทำอะไร พอซุปตาร์สาวยกมือขึ้น ก็คิดว่าจะตบ รีบยกมือปิดหน้า
“ว้าย”
ผิดคาด อัปสรสวรรค์วางมือบนไหล่ฟรุ้งฟริ้งอย่างเป็นกันเอง
“ฟรุ้งฟริ้ง ตอนนี้หนูอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นมือใหม่ แต่หนูเป็นมืออาชีพแล้วนะ มีคนอีกหลายล้านคนอยากเป็นแบบหนู แต่เขาไม่มีโอกาส อีกไม่นาน คนอย่างพี่ก็ต้องไปให้พวกหนูมาแทนที่ ยังไงลองทำสมาธิซักพักนึง ให้ใจจดจ่ออยู่กับบทบาทที่เราสวม”
พลางหันไปคุยกับพี่หมี
“พี่หมีคะ ฟ้าเคยบอกแล้ว ว่าให้น้องกลับไปอ่านบทก่อนเล่นจริง ถ้าน้องเค้าไม่มีเวลา ให้คุณแม่หรือผู้จัดการน้องเค้าอ่านก็ยังดีค่ะ ยังไงเราพักซีนนี้ไปก่อนมั้ยคะ ให้น้องเค้าได้ซ้อมก่อน”
พูดจบก็เดินออกไป ทุกคนพากันงง พี่หมียืนอึ้ง
“เฮ้ย อะไรอะ ทำไมวันนี้นางไม่วีนวะ โอ้ย!! กรูจะบ้า”
ฟรุ้งฟริ้งทำหน้าเหวอ ปูเปรี้ยวมองตามงงๆ
อัปสรสวรรค์หลบมานั่งเซ็งๆ ครู่หนึ่งภีมก็เดินเข้ามา
“เป็นไรครับฟ้า”
ซุปตาร์สาวหันไปมอง “ก็เบื่อๆ นิดหน่อยค่ะ”
“พอรู้ข่าวว่าเรื่องหมั้นของฟ้ากับคุณอาทิตย์เป็นเรื่องไม่จริง ผมงี้โล่งอกเลย”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ”
“ไม่รู้สิ ผูกพันมั้งครับ เล่นละครด้วยกันมาหลายเรื่อง”
อัปสรสวรรค์ยิ้มให้
“พอพูดถึงเรื่องแต่งงานแล้วมันใจหายน่ะครับ ตั้งแต่เข้าวงการก็มัวแต่ทำงานงกๆ ผู้หญิงผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เลยไม่รู้จะไปหาคู่หมั้นตอนไหน”
“ก็เลือกซักคนสิคะ”
ภีมทำตากรุ้มกริ่ม “ความจริงผมก็เลือกไว้แล้วแหละครับ แต่ยังไม่ได้บอกเขา”
“รีบบอกซะนะคะ ก่อนจะสายเกินไป”
ภีมยิ้มเจ้าชู้ “คืนนี้ว่างเปล่าเอ่ย”
อัปสรสวรรค์ทำหน้างง “มีอะไรหรือคะ”
“ร้านอาหารผมจะแกรนด์โอเพนนิ่ง เลยอยากจะชวนฟ้าไปร่วมงานด้วย”
“ว้าว เปิดร้านอาหาร ไม่เคยรู้เลย”
“ครับ ตกลงว่างรึเปล่า”
เธอนิ่งคิด “เอ่อ...”
ทีมงานตะโกนเสียงดัง “พี่ภีมเข้าฉากค่า”
“ถ้าไม่ติดอะไรไปให้ได้นะคะ เจอกัน”
ภีมพูดยิ้มๆ แล้วเดินออกไป
ไลลากำลังจะเดินออกจากตึก ชิวาว่ารีบวิ่งตามมาเรียก
“อ้าว น้องไลจะไปไหนคะ”
ไลลาไม่อยากบอก เลยตอบเลี่ยงๆ ไป “เอ่อ ไปธุระกับแม่น่ะค่ะ”
“เอ่อ คุณพู่กันเทพโทร มาอีกแล้วค่ะ”
“ก็บอกเค้าไปเรื่อยๆ งั้นแหละพี่ ว่าไลไม่ว่าง”
ชิวาว่าทำหน้าสงสัย “แล้วเค้าจะเอาอะไรกับน้องไลเหรอคะ โทร.มาจั๊ง”
ไลลายิ้มเยาะ “ก็คงเป็นพวกคนเขียนบทกากๆ น่ะ อยากฟันดารา”
“ต๊าย ปัญญาอ่อน คนเขียนบทบ้าอะไรได้นอนกับดารา หวังสูงไปมั้ยไอ้บ้านี่ เอ่อ แล้วก็ยัยห่อหมกที่อ่านข่าวบันเทิงโทร มาค่ะ คือเค้ากำลังจะทำน้ำพริกขาย อยากให้น้องไลลาช่วยอัดคลิปโปรโมตสินค้าให้ซักสิบวิ”
“น้ำพริก จะบ้าเหรอ บอกมันไปว่าไม่รับงานแนวนี้ บ้ารึเปล่า”
ชิวาว่ารีบบอก “แหม เพื่อมิตรภาพนะคะ ถ่ายๆ ไปเถอะค่ะ”
ไลลาเสียงแข็ง “ไม่รับพี่ บอกมันไปว่าไลไม่ว่าง ไม่ก็ให้มันโทร ไปหาอีนางฟ้าโน่น”
ชิวาว่าหน้าเจื่อน ส่วนไลลาพูดจบก็รีบเดินออกไปเลย
ไลลานั่งอยู่ในรถแท็กซี่กำลังอ่านข่าวในมือถือ เห็นข่าว “ขาดสะบั้นตัวใครตัวมัน ปิดฉากแก๊งนางฟ้า ไลลา จิ๋ว”
เธอกดปิดแล้วนั่งคิดสีหน้ากังวลกับสิ่งที่กำลังเดินทางไปพบ นั่นคือการเอามือถือไปคืน “ไอ้ปราณ”
จบตอนที่ 11
อ่านต่อตอนอวสาน พรุ่งนี้ เวลา09.30น.