xs
xsm
sm
md
lg

เลือดมังกร : หงส์ ตอนที่ 5

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เลือดมังกร : หงส์ ตอนที่ 5

กลางคืนบนฟ้าไม่มีแสงจันทร์และแสงดาว มีแต่พยับเมฆดำทะมึนเต็มท้องฟ้า
 
หลิวป้อนยาให้ไช้บนเตียงในสภาพอิดโรย นอนไม่หลับติดต่อกันมาหลายคืน
สายตาไช้เหลือบมองไปยังมุมห้อง เห็นอะไรบางอย่าง สีหน้าหวาดกลัว โบกมือไล่ใครบางคน
"ออกไป ! ออกไปให้พ้น"
หลิวหันไปมองที่มุมห้องไม่เห็นมีใคร
"อาหลิวช่วยอั๊วด้วย ! อาซันกับพวกมันมากวักมือเรียกอั๊วอยู่โน่น"
"เฮีย... อาซันอีตายแล้วใช่มั้ย"
ไช้ถึงกับหน้าถอดสีที่หลุดปากออกไป รีบกลบเกลื่อน แต่ก็มีพิรุธ
"ลื้อพูดอะไร อั๊วไม่รู้เรื่อง"
"จนป่านนี้เฮียยังไม่รู้อีกเหรอว่าอั๊วพูดเรื่องอะไร เฮียโกหกอั๊ว อาซันไม่ได้กลับบ้านนอก อีตายแล้ว เฮียนั่นแหละเป็นคนส่งให้อาซันไปตาย อั๊วได้ยินที่เฮียคุยกับอาหลงหมดแล้ว"
หลงเข้ามาทันได้ยินพอดี รีบเข้ามาห้ามทัพ
"เถ้าแก่เนี้ย ใจเย็นๆ ฟังอั๊วก่อน"
"เฮียคิดแต่จะเอาชนะคะคาน ยอมแลกได้ทุกอย่างเพื่อศักดิ์ศรีบ้าๆ ใครจะเป็นจะตายก็ช่าง ! ต่อให้เฮียเป็นฝ่ายชนะ อั๊วก็อยากจะรู้นัก ชัยชนะบนกองซากศพของเพื่อนพ้องพี่น้องนับไม่ถ้วน มันน่าภาคภูมิใจตรงไหน"
หลิวพูดจบก็ผลุนผลันออกไปจากห้องทันที
ไช้ได้สติ คำพูดของหลิวถูกต้องทุกอย่าง แต่คิดได้เมื่อทุกอย่างสายไปเสียแล้ว
"ถ้ารู้ว่าทุกอย่างต้องลงเอยแบบนี้ อั๊วคงไม่ถลำตัวมาเป็นเจ้าพ่อเด็ดขาด"
หลงมองไช้ที่นั่งหมดอาลัยตายอยากอย่างเห็นใจ

หลิวนั่งสวดมนต์หน้าเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมในห้องพระ แววตาหม่นเศร้า หลงเข้ามานั่งด้านหลัง
"ลื้อเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมหรือเปล่า อาหลง"
"ถ้ากฎแห่งกรรมมีจริง ทำไมไอ้คนชั่วที่มันฆ่าคนรักของอั๊วถึงยังได้ลอยนวลอยู่"
"ปลูกข้าวมันก็มีเวลาออกรวงตามธรรมชาติของมัน ถ้าวันเวลายังมาไม่ถึง ใครก็ไปบีบบังคับให้ข้าวออกรวงก่อนกำหนดก็คงไม่ได้"
"อั๊วเชื่อว่าใครทำเช่นไรก็ต้องได้รับผลตอบแทนเช่นนั้น แต่กว่าที่เวรกรรมจะตามทัน มันช้าไป"
"วิบากกรรมไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า บางทีตอนนี้เฮียไช้อาจกำลังถูกเวรกรรมที่เคยทำไว้ตามสนองอยู่ก็ได้"
หลิวมองไปยังเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมอย่างปลงตก

สุงเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียวในห้อง ยังไม่ยอมนอน เปิดลิ้นชัก เห็นสมุดบันทึกเล่มเก่าคร่ำคร่า ภายในมีรูปถ่ายขาวดำสอดอยู่
สุงนั่งดูรูปถ่ายในอดีตระหว่างสุง เต็ก ไช้ ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ยากไร้ จนกระทั่งเฟื่องฟู และหยุดอยู่ที่รูปถ่ายของทั้งสามนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟจีนโบราณ เป็นรูปถ่ายใบเดียวกับในห้องไช้ แล้วคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต

เมื่อทั้งสามนั่งที่ร้านกาแฟน่ำแซอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนต่างเป็นหัวหน้าแก๊งเรียบร้อยแล้ว อาโกยกจานอิ่วจาก้วยมาเสิร์ฟ ทั้งสามเห็นแล้วได้แต่มองอิ่วจาก้วยในจาน กินไม่ลง
สุงยื่นถุงเงินให้อาโกคนขายกาแฟ อาแปะรีบโบกมือปฏิเสธ
"อั๊วรับไว้ไม่ได้หรอก มันมากเกินไป ค่าอิ่วจาก้วยรวมกับกาแฟทั้งหมดนี่ แค่ไม่กี่สตางค์เท่านั้น"
"รับไว้เถอะอาโก ถ้าวันนั้นไม่ได้เศษอิ่วจาก้วยจากร้านลื้อ พวกอั๊วสามคนคงอดตายไปแล้ว"
อาโกโค้งคำนับสุง ยอมรับถุงเงินจากสุง ยิ้มด้วยความยินดี
สุงกวาดตามองดูบรรยากาศภายในร้าน เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่อาโกคนเดิม ซึ่งแก่มากแล้ว ยังขายอยู่
"10 ปีมานี้ อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ"
"ตอนนั้นเราสามคนพี่น้องเพิ่งออกจากคุกมาใหม่ๆ ไม่มีสตางค์ติดตัวสักแดงเดียว เฮียไช้เห็นอิ่วจาก้วยตัวหนึ่งตกพื้น ก็รีบวิ่งไปคว้ามา ทำอย่างกับเห็นทองคำ"
"แต่พอได้มา เราสามคนกับเถียงกัน เกี่ยงกัน ไม่มีใครยอมกิน อาเต็กบอกว่าทำไม อิ่วจาก้วยถึงมีแค่ 2 ขา ถ้ามี 3 ขาก็ดีน่ะสิ เราจะได้แบ่งกัน" ไช้ว่า
"สุดท้าย เราสามคนต้องแบ่งอิ่วจาก้วยกันกิน ถึงได้หยุดเถียงกันได้" สุงบอก
สุงแบ่งอิ่วจาก้วยครึ่งนึงในมือ แล้วยื่นชิ้นที่ใหญ่กว่าส่งให้ไช้ เก็บชิ้นเล็กกว่าไว้กินเอง เต็กเห็นสุงแบ่ง ก็เลยแบ่งให้ไช้ตามบ้าง ทั้งสามแบ่งกันกินอิ่วจาก้วยเหมือนเมื่อในอดีต เคี้ยวอิ่วจาก้วยในปาก ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก
"เราสามคน แม้นไม่ได้เกิดวันเดือนปีเดียวกัน แต่ก็ขอเป็นพี่น้องกันจนวันตาย" สุงบอก
ไช้น้ำตาไหล ต้องรีบยกมือปาดน้ำตา แกล้งหันไปโวยวายใส่ลูกน้องแก้เขิน
"พวกลื้อ ! ยืนบื้อกันอยู่ทำไม รีบถ่ายรูปเร็วเข้าสิ"
สมุนไช้พยักหน้า กุลีกุจอ ถ่ายรูปให้ทั้งสามทันที แสงแฟลชสว่างวาบ

(หมายเหตุ : ปาท่องโก๋ที่คนไทยเรียกนั้น แท้จริงแล้วมีชื่อเรียกว่า อิ่วจาก้วย ส่วนที่คนไทย เรียกว่า ปาท่องโก๋ นั้น เพราะจำมาผิด เนื่องจาก สมัยก่อนชาวจีนที่ขายปาท่องโก๋ ซึ่งเป็นขนมน้ำตาลทรายขาวซึ่งออกเสียงว่า แปะทึ่งกอ หรือ แปะถึ่งโก้ มักจะขายอิ่วจาก้วยด้วย พอคนขายตะโกนขายปาท่องโก๋ จึงเข้าใจว่า ปาท่องโก๋ คือ แป้งทอดอิ่วจาก้วย นั่นเอง)

รูปถ่ายใบนั้น... เหตุการณ์ผ่านมาแล้ว 25 ปีก็ยังอยู่ในความทรงจำเสมอ
คำพูดของเต็กเมื่อตอนกลางวันดังแทรกขึ้นมาในหัวสุง
"ถ้าแก๊งไก่ฟ้าแยกตัวออกไป ทั้งกิจการ ทรัพย์สิน และกำลังคนของเราจะต้องถูกแบ่งแยกลงไปด้วย แก๊งสามวิหคจะไม่เป็นปึกแผ่นอีกต่อไป พี่ใหญ่ยอมได้เหรอ...พี่ใหญ่คงต้องตัดสินใจทำอะไรบ้างอย่างแล้ว"

สุงพอคิดออกแล้วว่าควรจะทำอะไร

เช้ามืดวันใหม่ สุงเดินออกมาด้านนอก เห็นอาหวังกำลังกวาดใบไม้แห้งภายโรงงิ้วอยู่
 
"เถ้าแก่... วันนี้ตื่นแต่เช้าเลยครับ"
"อาหวัง อั๊วมีบางอย่างอยากให้ลื้อทำ"
หวังแปลกใจ เถ้าแก่สุงจะให้ตนไปทำอะไร ในมุมลับตา เจ็งซุ่มสังเกตการณ์อยู่... รู้ทุกอย่างที่สุงสั่งให้หวังทำ

สุงส่งตะกร้าปิ่นโตไม้ไผ่สานแบบจีนให้หงส์
"ลื้อเอาไปให้อาไช้ที่บ้านที บอกว่าอั๊วฝากมาให้"
"อะไรเหรอคะ อาป๊า"
"ไม่ต้องถาม ทำตามที่อั๊วสั่ง อาไช้เห็น อีก็จะรู้เอง"
สุงมอบปิ่นโตให้หงส์แล้วก็กลับเข้าห้องไป

กุ่ยกำลังฝึกคนซ้อมงิ้วอยู่ หงส์ถือปิ่นโต กำลังจะออกไปข้างนอกก็รีบเข้ามาถาม
"จะไปไหนเจ้"
"อาป๊าให้เจ้ไปบ้านอาเจ็กไช้"
"ให้อั๊วไปเป็นเพื่อนมั้ย จะได้ช่วยถือของ"
"ไม่ต้องหรอก ไม่หนักเท่าไหร่ เจ้ถือเองได้"
"อะไรน่ะ เจ้รู้หรือเปล่า"
"ไม่รู้เหมือนกัน อาป๊าไม่ยอมบอก คงเป็นของสำคัญ"
"ก็คงงั้น ไม่อย่างนั้นเถ้าแก่สุงคงไม่ให้เจ้เอาไปให้ด้วยตัวเองหรอก"
"เจ้ไปก่อนนะ ลื้อคอยดูแลอาป๊าด้วย เจ้จะรีบไปรีบกลับ"
หงส์พูดจบก็รีบเอาปิ่นโตไปให้ไช้ที่บ้านทันที กุ่ยได้แต่มองตามหงส์ รู้สึกประหลาดใจที่สุงฝากอะไรไปให้ไช้

บรรยากาศตลาดเก่าเยาวราช ผู้คนพลุกพล่านออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของ หงส์ถือตะกร้าปิ่นโตกำลังจะไปบ้านไช้
ทันใดนั้น หงส์ก็เห็นอาซิ้มคนหนึ่งร้องโวยวายลั่น ลงไปงอก่องอขิงกับพื้น เป็นแผนเล่นละครตบตา หงส์รีบวิ่งเข้าไปดูอาซิ้มด้วยความเป็นห่วง
"อาซิ้ม เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
อาซิ้มโวยวายลั่น
"ซี้เลี้ยว ! อั๊วซี้เลี้ยว"
หงส์วางตะกร้าปิ่นโตด้านข้าง เอามือไปบีบนวดอาซิ้ม ไม่รู้ว่าเจ็บปวดตรงไหนกันแน่
ชาวบ้านเริ่มมามุงดูกันแน่นขนัด
"อาซิ้ม เจ็บตรงไหนคะ"
"เจ็บทั้งตัวเลย ! ซี้เลี้ยว คราวนี้อั๊วต้องตายแน่ๆ"
ท่ามกลางไทยมุง สมุนเจ็งแฝงตัวเข้ามา อาศัยช่วงชุลมุนสับเปลี่ยนตะกร้าปิ่นโตที่มีลักษณะเหมือนกันไป
"ไปโรงพยาบาลมั้ยคะ อาซิ้ม"
อาซิ้มหรี่ตามอง เห็นสมุนเจ็งสับเปลี่ยนตะกร้าเรียบร้อยแล้ว ก็ลุกพรวดขึ้น
"ไม่ต้อง ! อั๊วไม่เป็นอะไรละ"
อาซิ้มยิ้มแปลกๆแบบมีเลศนัย ก่อนเดินปร๋อ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น !
หงส์มองอาซิ้มอย่างประหลาดใจ หันมาจะหยิบตะกร้าปิ่นโต สังเกตเห็นว่า ปิ่นโตวางผิดที่ไปจากเดิมเล็กน้อย แต่อาซิ้มเดินหายไปแล้ว

อาซิ้มลุกลี้ลุกลนแบบมีพิรุธมายังมุมกำแพงในตรอก เจ็งก้าวออกมาจากมุมตึก ยื่นแบงก์เป็นปึกให้อาซิ้ม อาซิ้มตาโต รีบคว้าเงินหมับตามประสาคนแก่ขี้งก
"เซี่ยเซี่ย (ขอบคุณ)"
อาซิ้มรับเงินแล้ว รีบยัดใส่ในเสื้อ แล้วเดินหายไปในตรอกโกโรโกโสทันที เจ็งบุ้ยหน้าให้สมุนตามไปปิดปากซะ สมุนเจ็งคนนี้ เป็นคนเดียวกับที่สลับตะกร้าปิ่นโต สมุนเจ็งรับคำสั่ง รีบตามอาซิ้มไปทันที เจ็งยิ้มเหี้ยมเกรียม

บริเวณหน้าร้านขายเครื่องเทศและของแห้งของเถ้าแก่ไช้ หงส์ส่งตะกร้าปิ่นโตมอบให้ไช้ซึ่งกำลังดีดลูกคิดอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่
"อาป๊าฝากของมาให้อาเจ็กไช้ค่ะ"
ไช้พยักหน้ารับรู้แบบส่งๆ แกล้งดีดลูกคิด ทำเป็นไม่สนใจ ยังคงน้อยใจสุงอยู่
"อะไร"
"อาป๊าบอกว่าอาเจ็กเห็นก็จะรู้เอง"
"อืม... อั๊วรู้ละ เอาวางไว้นั่นแหละ"
หลิวต้องเป็นฝ่ายรับตะกร้าปิ่นโตเอาไว้แทน
"ฝากขอบคุณเฮียสุงด้วยนะ อาหงส์"
"ค่ะ อาซ้อ"
หลิวผิดสังเกตในท่าทีเฉยชา มึนตึงของไช้ ไม่ดีใจที่สุงเอาของมาให้แม้แต่น้อย
"อาหลิว ลื้อหาน้ำชากับของว่างให้อาหงส์ด้วย เดี๋ยวอั๊วทำบัญชีเสร็จจะตามลงไป... ตามสบายนะ อาหงส์"

หลิวพยักหน้ารับคำ แล้วรีบพาหงส์ลงไปรอข้างล่างก่อน

หลิวพาหงส์มานั่งที่โต๊ะด้านล่าง
 
"ลื้ออย่าเพิ่งรีบกลับนะ อาหงส์ อยู่เจี๊ยะปึ่ง กินข้าวด้วยกันก่อน"
หลงเข้ามาเห็นหงส์ก็ก้มหัวให้ หงส์ยิ้มด้วยความดีใจที่ได้เจอหลง หลิวพอดูออกว่าเด็กสองคนต่างมีใจให้กัน
"อาหลง ลื้อมานั่งคุยเป็นเพื่อนอาหงส์ก่อน อั๊วจะเข้าครัวไปจัดของว่าง"
"ให้หงส์ไปช่วยด้วยดีกว่า"
"ไม่ต้องหรอก ลื้อนั่งอยู่ตรงนี้แหละดีแล้ว เข้าไปเกะกะอั๊วเปล่าๆ"
หลิวยิ้มเข้าครัวไป เปิดโอกาสให้หงส์กับหลงได้คุยกัน
หลงนั่งลงตรงข้ามหงส์ เผลอจ้องตากัน ต่างฝ่ายต่างเขินอายเวลาที่เผลอสบตากัน

ไช้นั่งมองตะกร้าปิ่นโตที่หงส์เอามาให้ จะไม่สนใจแต่ก็ทำไม่ได้ จึงเปิดออกดู เห็นอิ่วจาก้วยร้านเดิมที่เคยกินอยู่เต็มไปหมด ไช้หยิบอิ่วจาก้วยตัวหนึ่งขึ้นมา มองนิ่งไปยังกรอบรูปที่ทั้งสามถ่ายที่ร้านกาแฟจีนโบราณ
ภาพในอดีตแล่นเข้ามาในหัวไช้
สุงแบ่งอิ่วจาก้วยครึ่งนึงในมือ แล้วยื่นชิ้นที่ใหญ่กว่าส่งให้ไช้ เก็บชิ้นเล็กกว่าไว้กินเอง
"เราสามคน ถึงแม้ไม่ได้เกิดวันเดือนปีเดียวกัน แต่ก็ขอเป็นพี่น้องกันจนวันตาย"
ไช้ฉีกอิ่วจาก้วย เข้าปากเคี้ยว น้ำตาไหล

หงส์กับหลงนั่งมองหน้ากันสองต่อสองในระยะประชิด เงียบ อาย ไม่รู้จะคุยอะไรกันดี
หงส์ / หลงโพล่งพร้อมกัน "นาย / คุณหนู"
ทั้งสองมองหน้ากัน ตกใจที่บังเอิญพูดขึ้นมาพร้อมกัน
"เชิญคุณหนูก่อน"
"นายจะพูดอะไรก็พูดเถอะ ฉันลืมไปแล้ว"
"ยินดีด้วย ตอนนี้โรงงิ้วเฟิ่งหวงกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง เป็นเพราะความสามารถของคุณหนูโดยแท้"
"ขอบใจมาก... เป็นเพราะทุกคนเอาใจช่วย ฉันถึงทำได้"
"ใครๆในเยาวราชต่างก็กล่าวขวัญถึงลีลางิ้วของคุณหนูที่ทั้งอ่อนช้อยและดุดัน น่าเสียดายที่วันนั้นผมไม่ได้อยู่ชม..."
"ตอนนี้อาป๊าอนุญาตให้ฉันเล่นงิ้วแล้ว ว่างๆนายค่อยแวะไปดูก็ได้"
หลงพยักหน้ารับคำ จะต้องไปโรงงิ้วอีกแน่ๆ
"เถ้าแก่สุงคงภูมิใจที่มีลูกสาวทั้งสวยทั้งเก่งอย่างคุณหนู"
หงส์เขินถูกหลงชมซึ่งๆหน้า
หลิวถือถาดใส่หมั่นโถวและป้านน้ำชาออกมาวางที่โต๊ะให้หงส์ หลิวสังเกตเห็นหงส์อายม้วนต้วนหน้าแดง ก็ยิ้มอย่างรู้ทัน
"เดี๋ยวอั๊วขึ้นไปดูเฮียไช้ก่อนนะ"
หลิวขึ้นไปตามไช้ข้างบน เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง หงส์เอื้อมมือจะหยิบหมั่นโถว เช่นเดียวกับหลง มือของทั้งสองสัมผัสกันโดยบังเอิญ
หลงหยิบหมั่นโถวลูกนั้นยื่นให้หงส์ หงส์รับไว้ ต่างฝ่ายต่างหลบสายตากัน เขินบอกไม่ถูก
แล้วเสียงของหลิวหวีดร้องลั่นด้วยความตกใจดังเข้ามาขัดจังหวะ
" เฮียไช้ !"
หลงกับหงส์ต่างตกใจรีบวิ่งไปดูไช้ทันที
"เถ้าแก่ !"
หมั่นโถวที่หลงยื่นให้หงส์ตกพื้น ยังไม่ทันได้กิน

หลงเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานก็ถึงกับผงะ ไช้เลือดทะลักออกปากออกจมูก ชักอยู่กับพื้น เนื่องจากถูกวางยาพิษ
หงส์ตามขึ้นมาเห็นไช้กระอักเลือดเหมือนท่อประปาแตกก็ตกใจ ยกมือขึ้นปิดปากด้วยความกลัว
"อาหลง ! ช่วยเฮียไช้ด้วย เฮียไช้เป็นอะไรไม่รู้"
หลงเห็นอิ่วจาก้วยขาเดียวที่ไช้กินค้างไว้ตกอยู่ใกล้ๆกับตะกร้าปิ่นโตที่หงส์เอามาให้
"เถ้าแก่ถูกวางยาพิษ"
หลงหันไปมองหลิวอย่างรู้สึกผิดหวังอย่างแรง
หลิวร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรมองหน้าหงส์อย่างโกรธแค้น เข้าใจผิดว่า หงส์กับสุงร่วมกันวางยาไช้
"อาหงส์ ลื้อวางยาเฮียไช้ทำไม ลื้อฆ่าอาเจ็กลื้อทำไม อาหงส์"
หงส์ตกใจสุดขีดยืนตัวแข็งทื่อ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เข่าอ่อน ยืนแทบไม่ติด
"หงส์...เปล่า"
"เฮียไช้ ลื้ออย่าเป็นอะไรนะ "
"อั๊วจะรีบพาเถ้าแก่ไปส่งโรงพยาบาลก่อน"
หลงจ้องหน้าหงส์อย่างเจ็บแค้น ก่อนอุ้มร่างที่โชกเลือดของไช้ออกไป
โรงพยาบาลที่หลงพาไปนั้นคือ โรงพยาบาลเทียนฟ้า ชาวจีนย่านเยาวราช เรียกว่า เทียนฮั้วอุยอี้
"ผัวอั๊วทำอะไรผิด ถึงต้องฆ่าแกงกันแบบนี้"
อาหลิวหันมาตัดพ้อหงส์ ก่อนวิ่งร้องไห้ตามไป หงส์ตัวสั่นงันงก มองไปยังอิ่วจาก้วยที่ไช้กินเหลือขาเดียว ไม่อยากจะเชื่อว่าสุงจะวางยาฆ่าไช้
คนงานลูกน้องเถ้าแก่ไช้ต่างมองหงส์ด้วยสายตาโกรธแค้น โดยเฉพาะอาเม้ง
 
หงส์ทนต่อสายตาของคนงานที่มองมาราวกับว่าเธอเป็นฆาตกรเลือดเย็นไม่ได้ ก็รีบวิ่งหนีไป

หงส์วิ่งร้องไห้เข้ามายังโรงงิ้ว กุ่ยกับหมวยที่กำลังซ้อมงิ้วกันอยู่เห็นหงส์วิ่งร้องไห้มา ก็เรียกด้วยความเป็นห่วง
 
หมวย / กุ่ย "เจ้หงส์"
หงส์วิ่งมาเจอสุงที่ยืนอยู่ หงส์มองหน้าสุงด้วยความเจ็บปวด
" หงส์ไม่อยากเชื่อเลยว่าอาป๊าจะฆ่าพี่น้องตัวเองได้ลงคอ"
หงส์พูดจบก็วิ่งขึ้นห้องไปด้วยความเข้าใจผิด สุงมองตาม ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

หงส์วิ่งเข้าห้องนอนมา ล็อกประตู ขังตัวเองอยู่ในห้อง หงส์โก่งคออาเจียน รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด กับภาพที่เห็นไช้เลือดทะลักออกปากออกจมูกยังคงติดตา
หงส์นั่งกอดเข่าร้องไห้ เสียใจที่ตัวเองตกเป็นเครื่องมือฆ่าไช้ให้สุง

เช้าวันใหม่ โรงงิ้วเฟิ่งหวง สุงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์จีน มีพาดหัวตัวใหญ่ “โค่นเจ้าพ่อใหญ่แก๊งไก่ฟ้าดับสยอง” มีภาพหลิวกอดผ้าขาวร่ำไห้ปานว่าจะขาดใจ และมีรูปไช้เล็กๆที่มุมขวา
สุงพับหนังสือพิมพ์แล้วเอาโยนทิ้ง จังหวะเดียวกับที่เต็กเดินเข้ามาพอดี
"พี่ใหญ่ตัดสินใจถูกแล้ว หากปล่อยให้แก๊งไก่ฟ้าแยกตัวออกไป อีกหน่อยพี่ใหญ่จะปกครองแก๊งอื่นลำบาก เฮียไช้อีทำตัวเองแท้ๆ"
"แม้แต่ลื้อก็คิดว่าอั๊วฆ่าอาไช้งั้นเหรอ"
"เราสามคนพี่น้องเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตั้งแต่ครั้งยังหนุ่ม อั๊วเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นฝีมือพี่ใหญ่ แต่อิ่วจาก้วยในปิ่นโตนั่น"
"อั๊วไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง อั๊วไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้"
"ตอนนี้ใครๆต่างก็มองว่าพี่ใหญ่เป็นคนลงมือ."
"เสือย่อมไม่มีวันกินเนื้อเสือด้วยกัน มีแต่หมาเท่านั้นที่กินเนื้อพวกเดียวกันเวลาหิว"
เต็กยังไม่อยากปักใจเชื่อว่าจะไม่ใช่ฝีมือสุง
ทันใดนั้น ชานนท์กับตำรวจชั้นผู้น้อยก็เดินเข้ามาในห้อง ตะเบ๊ะทำความเคารพสุง สุงหน้าเครียด ตกเป็นจำเลยโดยที่ไม่ได้ทำผิด

หงส์นอนตัวร้อนเป็นไข้อยู่ในห้อง กำลังฝันร้าย...เห็นภาพไช้กระอักเลือดต่อหน้าต่อตา ไช้จ้องหน้าหงส์ตาเบิกโพลงก่อนจะสิ้นใจ
หงส์ตะโกนออกมา
"อาเจ็ก"
หมวยกับกุ่ยรีบวิ่งเข้ามาดูหงส์ด้วยความเป็นห่วง
"เจ้หงส์ !"
หงส์กอดหมวยแน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้น
"เจ้ไม่รู้เรื่อง... เจ้ไม่ได้ตั้งใจ... เจ้ไม่ได้ฆ่าอาเจ็กไช้"
"หมวยกับเฮียกุ่ยเชื่อว่าเจ้หงส์ไม่ได้ทำ ทำใจให้สบายเถอะนะ ลืมมันไปซะ อย่าไปคิดถึงมันอีก เจ้หงส์ตัวร้อนจี๋เลย ทำยังไงดีล่ะ เฮียกุ่ย"
ทันใดนั้น ชานนท์กับตำรวจอีกนายที่กุมตัวอาหวังไว้ก็ผลักประตูเข้ามาในห้องสุง
"เชิญคุณหนูหงส์ไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยครับ"
"ตาบอดหรือไง ก็เห็นอยู่ว่าคนไม่สบายจะให้ถ่อสังขารไปโรงพักอีก" กุ่ยบอก
"เจ้หงส์ตัวร้อนอย่างกับไฟ เอาไว้วันหลังไม่ได้เหรอหมวด"
หงส์ห้ามหมวย
"เจ้ไปไหว"
หงส์แข็งใจลุกขึ้นจากเตียง แต่ก็โผเผไม่มีแรง ทรุดลงใกล้ๆชานนท์
ชานนท์เข้าไปประคองหงส์ไว้ด้วยความเป็นห่วง กุ่ยได้แต่ตาค้าง หึงควันออกหู
"คุณหนู ! ค่อยๆครับ"
"ไม่ต้อง ! ฉันเดินเองได้"
หงส์เชิดหน้า เก็บความรู้สึกอ่อนแอ แล้วเดินนำหน้าตำรวจออกไป

ชานนท์กำลังจะควบคุมตัวสุงกับหงส์ออกมาจากบ้าน เพื่อไปยังโรงพักในฐานะผู้ต้องสงสัย
กุ่ยกับหมวยจะเข้าไปหาสุงแต่ถูกตำรวจกันตัวเอาไว้
"ปล่อยเถ้าแก่สุงกับเจ้หงส์เดี๋ยวนี้นะหมวด" กุ่ยบอก
"จากหลักฐานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม ผมคงต้องขออนุญาตคุมตัวเถ้าแก่สุง คุณหนูหงส์ และนายหวังไว้ก่อนในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมเถ้าแก่ไช้"
สุงนิ่งอึ้ง ทั้งหลักฐานทั้งพยานโทนโท่ จนไม่รู้จะหาคำมาอธิบายอย่างไร
"ขอโทษด้วยนะครับ ผมต้องทำตามหน้าที่"
ตำรวจคนหนึ่งเข้าห้องสอบสวนมาท่าทางรีบร้อน
"หมวดครับ มีคำสั่งด่วนลงมาครับ"

ชานนท์ขมวดคิ้ว แปลกใจ... คำสั่งด่วนอะไร ใครสั่งมา ?

เลือดมังกร : หงส์ ตอนที่ 5 (ต่อ)

ผ่านเวลาเล็กน้อย ตำรวจกลับไปหมดแล้ว เมฆินทร์เดินคุยกับสุง
 
มีเหล่าบอดี้การ์ดคุ้มกันแน่นหนา มีบารมีมาก
"เถ้าแก่วางใจเถอะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจะจัดการให้เอง"
"ขอบพระคุณท่านมากครับที่กรุณาเป็นธุระให้" สุงบอก
"เรื่องเล็กน้อยน่า อย่าเก็บมาใส่ใจเลย รกสมองเปล่าๆ ฉันเชื่อว่าเถ้าแก่สุงบริสุทธิ์ เรื่องนี้ต้องมีการเข้าใจอะไรกันผิดแน่ๆ พี่น้องจะฆ่าแกงกันได้ยังไง จริงมั้ย"
เมฆินทร์เหลือบมองเห็นหงส์ที่นั่งนิ่ง เหม่อลอยที่ศาลาเก๋งจีน
"นั่นอาหงส์ ลูกสาวเถ้าแก่เหรอ"
"ครับท่าน"
"หน้าตาสะสวยสมคำร่ำลือจริงๆ คนนี้น่ะเหรอที่ลงประลองงิ้ววันนั้น"
"ครับ..." สุงพูดเบาๆกับหวัง "ลื้อไปตามอาหงส์มาพบท่านเดี๋ยวนี้"
"ไม่ต้องยุ่งยากหรอก ฉันไม่ถือ เรายังมีโอกาสได้เจอกันอีกเยอะ"
เมฆินทร์เหล่หงส์ ยิ้มกรุ้มกริ่มตามประสาวัวแก่ชอบกินหญ้าอ่อน

บริเวณเก๋งจีน โรงงิ้วเฟิ่งหวง หงส์นั่งตัวเอนพิงเสา ไม่มีเรี่ยวแรง ยังสับสนไปหมด สุงเดินเข้ามา
"นั่งตัวตรงๆให้สมกับที่เป็นลูกอั๊ว"
หงส์ขยับตัวยืดตรงตามคำสั่งสุง ยังคงเสียใจเรื่องการตายของไช้อยู่
"ถึงอาป๊าจะเป็นพญามังกรเข้มแข็งขนาดไหน แต่หงส์ก็ยังเป็นหงส์อยู่วันยันค่ำ"
"ถึงเป็นหงส์ ลื้อก็ต้องสง่าอย่างพญาหงส์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าทำตัวเป็นห่านให้อั๊วเห็นอีก"
"ทำไมอาป๊าต้องฆ่าอาเจ็กไช้ด้วย"
"อาไช้เป็นน้องอั๊ว อั๊วจะฆ่าอีได้ยังไง"
"อาหวังบอกว่าเช้าวันนั้นอาป๊าใช้ให้ไปซื้ออิ่วจาก้วยนั่นที่ร้านกาแฟน่ำแซ"
"แต่อั๊วไม่รู้เรื่องที่อิ่วจาก้วยนั่นมันมียาพิษ… ต้องมีใครเล่นตลกแน่ๆ"
หงส์คิดถึงเหตุการณ์ที่เจออาซิ้มที่ตลาด
"อาป๊าไม่ได้วางยาอาเจ็กไช้จริงๆน่ะเหรอ"
"ต่อให้อาไช้อีทำผิดร้ายแรงกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่า อั๊วก็ไม่เคยคิดที่จะฆ่าอี อย่าว่าแต่จะฆ่าอาไช้เลย แม้แต่ชีวิตของอั๊วก็ยอมมอบให้อีได้"
หงส์ฟังจากน้ำเสียงที่ยืนกรานหนักแน่นของสุงแล้ว เชื่อว่าสุงไม่ได้ฆ่าไช้
"แต่ตอนนี้ทุกคนต่างก็สงสัยว่าอาป๊าเป็นคนทำ โดยเฉพาะคนในแก๊งไก่ฟ้า"
"มันต้องแผนสกปรกของใครสักคนที่ต้องการเห็นแก๊งสามวิหคพินาศย่อยยับ"
หงส์เริ่มคล้อยตาม คิดจะตามหาความจริงให้ได้

โกดังสินค้าของเถ้าแก่ไช้ คนในแก๊งไก่ฟ้าต่างลุกฮือ หยิบมีดเงาวับ คนละเล่มสองเล่ม เตรียมจะบุกไปฆ่าสุง เม้งที่เป็นแกนนำ ประกาศกร้าวต่อคนในแก๊งไก่ฟ้าทุกคน
"วันนี้พวกเราจะต้องเอาชีวิตไอ้คนถ่อยเซ่นสังเวยดวงวิญญาณเถ้าแก่ไช้ให้ได้"
คนในแก๊งไก่ฟ้าเฮลั่นด้วยความเกรี้ยวกราดเตรียมจะไปฆ่าสุงเต็มที่
หลงเข้ามาขวางไว้
"พวกลื้อจะทำอะไร"
"ถามได้ พวกอั๊วจะไปฆ่าเถ้าแก่สุงน่ะสิ"
"แล้วถ้าเถ้าแก่สุงไม่ได้เป็นคนฆ่านายของพวกเราล่ะ"
"อมพระมาพูด อั๊วก็ไม่เชื่อ เห็นๆอยู่เถ้าแก่สุงเป็นคนวางยา เฮียหลงหลีกไปดีกว่า
อย่าห้ามพวกอั๊วเลย"
"ปล่อยคนชั่วสิบคน ดีกว่าลงโทษคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว… พวกลื้อมีหลักฐานแล้วเหรอว่าเถ้าแก่สุงเป็นคนวางยาฆ่าเถ้าแก่ไช้"
"ใครๆก็เดาออกกันทั้งนั้น"
"อั๊วเข้าใจความเจ็บแค้นของพวกลื้อ แต่เวลานี้ พวกลื้อไม่ควรใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสิน ไม่งั้น เราอาจตกเป็นเครื่องมือของคนที่จ้องจะเล่นงานเราอยู่ก็ได้"
คนในแก๊งไก่ฟ้าเริ่มคล้อยตาม เห็นด้วยกับหลง
"ก็จริงของเฮีย แต่ถ้าไม่ใช่เถ้าแก่สุงแล้วจะเป็นใคร"
"พวกลื้อใจเย็นๆกันก่อน เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอั๊วเอง ถ้ารู้ตัวมันเมื่อไหร่
อั๊วไม่ปล่อยมันไว้แน่"
คนในแก๊งไก่ฟ้าทุกคนต่างยอมรับ เชื่อฟังหลง

หลงมาเตือนหงส์ที่โรงงิ้วให้ระวังตัว
"ตอนนี้คนในแก๊งไก่ฟ้าต่างเชื่อว่าเถ้าแก่สุงเป็นคนฆ่าเถ่าแก่ไช้ คุณหนูเองก็ต้องระวังตัวด้วย"
"ทำไมฉันต้องระวัง ในเมื่อฉันกับอาป๊าไม่ได้ฆ่าอาเจ็กไช้"
"สถานการณ์ตอนนี้สุ่มเสี่ยงมาก แก๊งไก่ฟ้ากับแก๊งหงส์ดำพร้อมที่จะประหัตประหารกันทุกเมื่อ ถ้าจะมีใครสักคนคิดแก้แค้นให้เถ้าแก่ไช้ คุณหนูคงตกเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ"
"ฉันไม่กลัว จะฆ่าจะแกงก็เชิญ"
หลงมองหงส์ที่กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ไม่กลัวความตายเลยสักนิด
"คุณหนูไม่กลัวความตายเหรอครับ"
"คนเราเกิดมามีใครบ้างที่ไม่ตาย วันนึงอาจจะถึงคราวของฉันบ้างก็ได้"
"ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจ จะไม่มีใครทำอันตรายคุณหนูได้แม้ปลายก้อย"
หงส์มองหลงอย่างขอบคุณ
"อาหลง... ฉันเชื่อว่าอาป๊าไม่ได้ฆ่าอาเจ็กไช้ แล้วนายล่ะเชื่อมั้ย"
"จะฆ่าหรือไม่ฆ่า มีแต่เถ้าแก่สุงเท่านั้นที่รู้"

หลงตอบกลางๆ ยังมาสรุปเสียทีเดียว

กุ่ยโพล่งขึ้นมากลางวงในโรงงิ้วเฟิ่งหวง
 
"เถ้าแก่สุงไม่ฆ่า แล้วใครจะฆ่า"
หมวยรีบปิดปากกุ่ย
"เบาๆสิ ! เดี๋ยวเถ้าแก่ได้ยินเข้า ก็เดือดร้อนกันหรอก"
"ก็มันจริงนี่... ก่อนหน้านี้ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่าเถ้าแก่สุงกับเถ้าแก่ไช้ปีนเกลียวกัน"
หงส์ผ่านมาได้ยินพอดี คนอื่นๆยังไม่เห็นว่าหงส์ยืนฟังอยู่
"แก๊งไก่ฟ้าก็มีปัญหากับแก๊งค้างคาวอยู่บ่อยๆ อาจเป็นเสี่ยเกาก็ได้ใครจะไปรู้" หมวยบอก
"อย่าลืมสิ เถ้าแก่สุงเป็นคนใช้ให้เจ้หงส์เอาอิ่วจาก้วยไปให้เถ้าแก่ไช้ ไม่ใช่เสี่ยเกาสักหน่อย"
"แต่อิ่วจาก้วยนั่น อั๊วไปซื้อมากับมือ รับรองว่าไม่มียาพิษแน่นอน" หวังบอก
"เถ้าแก่สุงอาจจะวางยาก่อนแล้วค่อยเอาไปให้เถ้าแก่ไช้ก็ได้"
"หมวยไม่เชื่อหรอกว่าคนใจดีมีเมตตาเถ้าแก่สุงจะฆ่าพี่น้องตัวเองได้ลงคอ"
"ไม่เคยได้ยินหรือไง นิ้วไหนร้ายต้องตัดนิ้วนั้น พี่น้องกันก็ไม่เว้นหรอก"
"แต่หมวยว่าไม่ใช่"
"ใช่"
หมวยกับกุ่ยเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
หงส์มายืนอยู่ด้านหลังหมวยกับกุ่ยที่กำลังเถียงกัน หวังก็พยายามบุ้ยใบ้บอก แบบตลกๆ
หมวย / กุ่ย ถาม "อะไร"
หวังชี้ไปทางด้านหลัง หมวยหันไปเห็นหงส์ยืนอยู่ก็ตกใจ หงส์รีบเดินออกไป

หงส์นั่งกอดเข่าเจ่าจุกอยู่คนดียวหลังโรงงิ้ว ยังคาใจเรื่องการตายของไช้
"อาป๊าน่ะเหรอจะฆ่าอาเจ็กไช้"
หงส์คิดทบทวนวันที่เอาอิ่วจาก้วยไปให้ไช้ ระหว่างทางเจอกับหญิงชรากลางทาง
"หรือว่า..."
หญิงชรานางนั้นยิ้มแปลกๆ หงส์เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นมาตงิดๆ

วันใหม่ หงส์เข้ามาหาหลิวที่ห้องพระบ้านเถ้าแก่ไช้ เอากระเช้าใส่ส้มมาเยี่ยม หลิวดูเหมือนคนปลงตกในชีวิต นั่งหน้ารูปไช้
"อาซ้อ... หงส์มาเยี่ยม"
"อาป๊าลื้อสุขสบายดีเหรอ" หลิวถามน้ำเสียงเย็นชา
"ตั้งแต่อาเจ็กไช้จากไป อาป๊าก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง"
"อีน่าจะดีใจที่ไม่มีเฮียไช้คอยขวางหูขวางตาอีกต่อไป"
"อาซ้อคิดว่าอาป๊าฆ่าอาเจ็ก"
หลิวนิ่งขึง ไม่ตอบ มั่นใจว่าสุงฆ่า
"ถ้าหงส์บอกว่าอาป๊าไม่ได้ฆ่า อาซ้อจะเชื่อมั้ย"
"อั๊วฝากบอกเฮียสุงด้วยว่าขอให้อีเสวยสุขบนบัลลังก์เจ้าพ่อไปนานๆก็แล้วกัน"
หงส์ไม่สบายใจที่หลิวปักใจว่าสุงเป็นคนฆ่าไช้

หงส์เดินออกมา พบหลงที่ด้านนอก
"อาหลง... ฉันมีเรื่องอยากให้นายช่วย"
หลงขมวดคิ้วสงสัย หงส์ยื่นม้วนกระดาษให้หลง
หลงคลี่ดูเห็นเป็นภาพสเก็ตช์อาซิ้มคนที่ชนหงส์วันนั้น
"ฉันอยากให้นายช่วยตามหาคนในภาพนี้หน่อย"
"ใครกันครับ คุณหนู"
หลงมองรูปหญิงชราด้วยความประหลาดใจ หงส์เล่าเหตุการณ์วันนั้นให้หลงฟัง

หลงหน้าเครียดเมื่อรู้เรื่องจากหงส์
"ถ้าจะมีใครสักคนลอบวางยาพิษในอิ่วจาก้วยก็คงต้องฉวยโอกาสนั้น"
"หากมีคนคิดจะวางแผนฆ่าเถ้าแก่ไช้จริง สู้ส่งมือปืนไปยิงไม่ง่ายกว่าเหรอ" หลงว่า
"ไม่ ! มันไม่ได้ต้องการแค่เอาชีวิตอาเจ็กไช้เท่านั้น แต่มันต้องการปั่นหัวยุงแยงให้แก๊งหงส์ดำกับแก๊งไก่ฟ้าแตกกันเอง"
"เพื่ออะไร"
"ฉันยังไม่รู้จนกว่าจะหาตัวอาซิ้มที่อยู่ในรูปเจอ.... อีต้องมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการตายของอาเจ็กไช้แน่ๆ"
หงส์แววตามั่นใจ สิ่งที่คิดไว้ไม่น่าพลาด

ที่บ้านเมฆินทร์เการายงาน
"ตอนนี้คนของแก๊งไก่ฟ้าเข้าใจว่า เถ้าแก่สุงเป็นคนวางยาพิษฆ่าเถ้าแก่ไช้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ท่านวางไว้ครับ"
เมฆินทร์หัวเราะในลำคอ
"ที่เหลือก็แค่นั่งจิบชารอให้พวกมันเข่นฆ่ากันเองเท่านั้น"
"เถ้าแก่ไช้ตายก็เท่ากับหมดเสี้ยนหนามไปอีกหนึ่ง คราวนี้แก๊งค้างคาวของอั๊วจะได้ทำมาหากินสะดวกๆเสียที"
"อย่าลืมเรื่องผลประโยชน์ที่แกเคยตกลงกับฉันล่ะ"
"เรื่องนั้นผมไม่ลืมแน่นอนครับท่าน ทุกอย่างแบ่งกันครึ่ง-ครึ่ง"
เกาไม่ค่อยพอใจเท่าไรนักที่ถูกเมฆินทร์ชุบมือเปิบ แต่เก็บอารมณ์ซ่อนไว้ข้างใน"
"วันนี้ฉันเจอลูกสาวเถ้าแก่สุง... หน้าตาสะสวยไม่เบา ฉันชักอยากรู้จักแล้วสิ"
เกายิ้มรู้ทัน
"ท่านอยากรู้จักคุณหนูหงส์แบบไหนกันละครับ"
"แกก็รู้ ระดับฉัน มันต้องรู้จักแบบ “ตัวต่อตัว” เท่านั้น"

เมฆินทร์ยิ้มอย่างเฒ่าหัวงู

หลงเข้ามาในห้องพระ เห็นหลิวนั่งสวดมนต์หน้าเทวรูปเจ้าแม่กวนอิม
 
"หลังพิธีศพเฮียไช้ อั๊วจะไปจากที่นี่" หลิวบอก
"เถ้าแก่เนี้ยจะไปไหน"
"อั๊วเบื่อความวุ่นวายเต็มที อยากจะหนีไปให้ไกลๆ หาความสงบในบั้นปลายชีวิต"
"แล้วแก๊งไก่ฟ้าล่ะครับ"
"ที่ผ่านมายังมีคนตายไม่พออีกหรือไง ไม่ใช่เพราะแก๊งบ้าๆนี่หรอกเหรอที่ทำให้คนดีๆต้องฆ่าแกงล้มตายกันไม่สิ้นสุด"
"แต่ถึงยังไงแก๊งไก่ฟ้าก็ต้องมีผู้นำ"
"นับตั้งแต่วันนี้ จะไม่มีแก๊งไก่ฟ้าอีกต่อไป"
หลงอึ้งเมื่อรู้ว่าหลิวจะยุบแก๊งไก่ฟ้า
"ขนาดเฮียไช้เป็นเจ้าพ่อมา 20 กว่าปี ยังพลาดท่าถูกมันฆ่าเอาได้ วงการนี้มันไม่มีมิตรแท้หรอก มีแต่ศัตรูทั้งนั้น อั๊วเป็นห่วงลื้อ ไม่อยากให้ลื้อต้องจบชีวิตเหมือนเฮียไช้... ไปตามทางของลื้อซะเถอะ."
หลงอดใจหายไม่ได้เมื่อรู้ว่าจะไม่มีแก๊งไก่ฟ้าอีกต่อไป

โรงงิ้วเฟิ่งหวง เช้าวันใหม่ ทุกคนจับกลุ่มคุยกัน
"คนที่ตลาดเค้าลือกันให้ทั่วว่าตอนนี้แก๊งไก่ฟ้าถูกยุบแล้ว"
"อาเจ็กไช้ไม่มีทายาทที่ไหน ขาดอีไปสักคนก็ไม่รู้จะให้ใครสืบทอด" หงส์บอก
"อาหลงไงล่ะ เถ้าแก่ไช้รักอาหลงอย่างกับลูกแท้ๆ ทำไมถึงไม่ตั้งอาหลงให้เป็นหัวหน้าแก๊งแทนล่ะ" หมวยบอก
"ลื้อพูดน่ะมันง่าย อาหลงมันก็เป็นแค่ลูกจ้าง ไม่ใช่สายเลือดของเถ้าแก่ไช้สักหน่อย ใครที่ไหนจะยอมก้มหัวให้… หัดคิดซะมั่งสิ ไม่ใช่แค่มีหัวเอาไว้กั้นหู" กุ่ยบอก
หมวยค้อนกุ่ยปะหลับปะเหลือก งอน
หงส์บอก
"ตอนนี้คนในแก๊งไก่ฟ้าคงแตกกระสานซ่านเซ็นหนีไปเข้ากับแก๊งอื่นกันหมด" หงส์ว่า
"แล้วบรรดาร้านรวงของเถ้าแก่ไช้ในเยาวราชล่ะ จะทำยังไง" หมวยว่า
"นั่นสิ ! คุณนายหลิวดูแลคนเดียวไม่น่าจะไหว เหนื่อยตายชัก" กุ่ยว่า
"ได้ยินว่าคุณนายหลิวขายกิจการหมดแล้วนะ" หวังว่า
หงส์ขมวดคิ้วด้วยความอยากรู้ว่ากิจการต่างๆของแก๊งไก่ฟ้าตกอยู่ในกำมือใคร

เต็กกับตี๋เล็กหัวเราะลั่น
"ฟ้าเข้าข้างอั๊วแท้ๆ อยู่ๆกิจการทั้งหมดของเฮียไช้ก็ลอยมาอยู่ในกำมืออั๊วโดยที่ไม่ต้องออกแรงเลยสักนิด" เต็กบอก
"ทำไมอาอึ้มถึงได้ยอมขายอู่ข้าวอู่น้ำให้อาป๊าล่ะ"
"อั๊วกับเฮียไช้เคยบุกเบิกด้วยกันมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ไม่ขายให้อั๊ว แล้วอีจะขายให้ใครวะ"
"อย่างนี้ไอ้พวกแก๊งไก่ฟ้าก็กลายเป็นคนของเราด้วยสิ อาป๊า"
"แน่นอน ! ไม้ใหญ่โค่น นกกามันก็โบยบินกระจัดพลัดพรายหาแหล่งพักพิงใหม่กันทั้งนั้น ตอนนี้พวกมันคิดว่าพี่ใหญ่ฆ่านายของมัน ฉะนั้นคนของแก๊งไก่ฟ้าย่อมไม่มีทางเข้าไปสวามิภักดิ์กับแก๊งหงส์ดำเป็นอันขาด"
ตี๋เล็กมีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว
"ไหนๆอาป๊าก็ได้เป็นว่าที่หัวหน้าแก๊งหงส์ดำต่อจากอาแปะสุงแล้ว ยกแก๊งกระเรียนให้อั๊วคุมเลยก็แล้วกัน"
"เฮ้ย ! จะดีเหรอวะ เจ้าพ่อไม่ได้เป็นกันง่ายๆนะโว้ย ต้องทำให้คนอื่นยอมรับด้วย"
"วันๆอาป๊าไม่ยอมให้อั๊วทำอะไรสักอย่าง แล้วเมื่อไหร่คนอื่นจะยอมรับอั๊วสักที"
เต็กครุ่นคิดที่ตี๋เล็กพูดมาก็ถูก
"อั๊วจะลองให้ลื้อดูแลกิจการของเฮียไช้ รวมทั้งไอ้พวกที่เข้ามาอยู่ใหม่ เอามั้ย"
"ตกลง ! คราวนี้อาแปะสุงจะได้เห็นฝีมือ ยอมยกน้องหงส์ให้เป็นเมียอั๊วซะที"
ตี๋เล็กยิ้มพรายฝันหวานถึงอนาคต

เต็กพาตี๋เล็กมาฝากตัวกับสุง
"ระหว่างนี้ กิจการทั้งหมดที่เคยเป็นของเฮียไช้ อั๊วจะให้ตี๋เล็กดูแลไปก่อน จะได้หัดเรียนรู้งานในแก๊งด้วย... พี่ใหญ่เห็นว่ายังไง"
"ตี๋เล็ก ! ทำไมลื้อถึงอยากเป็นนักเลง อำนาจ เงินทอง หรือผู้หญิง"
"อั๊วอยากยืนอยู่เหนือคนอื่นเหมือนอาแปะ"
"ถ้าลื้ออยากที่จะยืนอยู่เหนือคน ลื้อก็ต้องมีชีวิตอยู่เหนือความตายให้นานที่สุด อั๊วโชคดีที่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่ลื้อ...อาจไม่มีโชคเหมือนอย่างอั๊ว"
ตี๋เล็กชักยั๊วะ
"ทำไมอั๊วจะเป็นเจ้าพ่อใหญ่อย่างอาแปะไม่ได้ !"
"เพราะลื้อใช้อารมณ์มากกว่าใช้สมอง คนวู่วามเอาแต่ใจอย่างลื้อมักไม่ค่อยตายดี"
ตี๋เล็กลุกพรวด
"นี่อาแปะแช่งอั๊วเหรอ"
เต็กปราม
"ตี๋เล็ก ! นั่งลง อาแปะสอน ลื้อก็ฟังสิ เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างลื้อยังต้องรู้จักวงการนี้อีกเยอะ"
"สิ่งที่ตัดสินโชคชะตาของคนส่วนใหญ่ก็คือนิสัยใจคอของตนเอง คนขาดความคิดอย่างลื้อพลาดมานักต่อนัก ชีวิตนักเลงต้องไม่มีโอกาสพลาดแม้แต่หนเดียว เพราะถ้าพลาด ก็หมายถึงตาย"
ตี๋เล็กฮึดฮัดไม่พอใจสุง แล้วยังขัดใจที่ถูกเต็กดุซ้ำ

บริเวณลานฝึกงิ้ว ตี๋เล็กหัวเสียออกมาจากห้องรับแขก บ่นพึมพำไม่ค่อยสบอารมณ์
ตี๋เล็กถือว่าเป็นประมุขใหญ่ สักวันไอ้แก่นี่ต้องไม่ตายดี !
สายตาตี๋เล็กเหลือเห็นหงส์กำลังรำทวนอยู่ที่ลานฝึกงิ้ว ก็รีบเข้าไปหาทันที
"สอนเฮียเล่นงิ้วมั่งสิจ๊ะ น้องหงส์"
"งิ้วเป็นศิลปะชั้นสูง ไม่ใช่ของเล่นของพวกนักเลงอันธพาล เอะอะก็ท้าตีท้าต่อย"
"วิถีของนักเลงก็ต้องทำให้คนยำเกรงกันบ้าง ไม่อย่างงั้นจะปกครองคนได้ยังไง"
"ถ้าเฮียเลือกที่จะปกครองคนด้วยวิธีนั้น คงจะมีคนเกลียดมากกว่าคนกลัว"
"น้องหงส์เป็นผู้หญิง ไม่มีวันเข้าใจเส้นทางของพวกนักเลงหรอก หัดรำงิ้วสวยๆเอาไว้มัดใจเฮียก็พอแล้ว"
"เฮียหลีกไปดีกว่า หงส์จะซ้อมต่อ"
"ฝึกคนเดียวจะไปสนุกอะไร ให้เฮียช่วยเป็นคู่ซ้อมให้ดีกว่า"
"อย่างเฮียน่ะเหรอ จะเป็นคู่ซ้อมให้หงส์"
"เล่นงิ้วแค่นี้จะยากอะไรนักหนา พวกหัวไม้เป็นสิบอั๊วยังเคยถล่มมาแล้ว"
ตี๋เล็กถกแขนเสื้อ หยิบทวนขึ้นมา มั่นใจ ต้องแสดงฝีมือให้หงส์เห็น จะได้ชนะใจ
"ก็ได้... ถ้าเฮียไม่เปลี่ยนใจ ก็เข้ามา"
หงส์ท้า ตี๋เล็กเป็นฝ่ายจู่โจมก่อนตามประสานักเลง ฟาดไม่เลี้ยง ดุเดือดมาก

คนงานคนอื่นๆเห็นหงส์กับตี๋เล็กสู้กันดุเดือดก็มามุงดู หมวยกับกุ่ยแหวกวงล้อมเข้ามา
"นั่นลูกชายเถ้าแก่เต็กนี่.... เล่นงิ้วกับเค้าเป็นด้วยเหรอ" หมวยว่า
"เป็นกับผีน่ะสิ ! จับทวนยังไม่ถูกเลย ดูท่าเหมือนกุ๊ยยกพวกตีกันมากกว่า" กุ่ยบอก
"เจ้หงส์เป็นผู้หญิง จะสู้กับนักเลงอย่างเฮียตี๋เล็กได้เหรอ"
"อั๊วจะเข้าไปช่วยเจ้หงส์" กุ่ยบอก
"ไม่ต้องหรอกเฮีย ขนาดปรมาจารย์งิ้วปักกิ่ง เจ้หงส์ยังเอาชนะมาแล้ว นับประสาอะไรกับเฮียตี๋เล็ก... พวกเราเอาใจช่วยเจ้หงส์ตรงนี้ดีกว่า" หวังบอก
"เจ้หงส์สู้ๆ"

หมวยเชียร์หงส์ออกหน้าออกตา คนอื่นๆพลอยเชียร์บ้าง

หงส์หลบหลีก รับมือตี๋เล็กได้ทุกท่า
 
หงส์ฟาดทวนตีเข้าแสกหน้าตี๋เล็กอย่างจัง ตี๋เล็กชักยั๊วะ ฟาดทวนควั่บๆ ใส่หงส์ จะเอาชนะหงส์ให้ได้ หงส์ม้วนตัวหลบ ฟาดทวนใส่ตี๋เล็กจนล้มลง หงส์เอาปลายทวนจ่อที่คอหอยตี๋เล็ก
หมวย กุ่ย หวัง และบรรดาคนงานเฮลั่นที่หงส์เป็นฝ่ายชนะ
"เจ้หงส์ชนะแล้ว"
ตี๋เล็กรู้สึกเสียหน้า ทั้งอาย ทั้งเจ็บใจ
"สนุกกันพอแล้วหรือยัง "
สุงถลึงตาใส่หงส์อย่างโกรธจัด

สุงเอาทวนฟาดหงส์อย่างแรง ลงโทษ
"งิ้วเป็นศิลปะชั้นสูง ไม่ใช่ปาหี่ข้างถนนที่จะเอาไว้โอ้อวดคนอื่น ! ทีหลังอย่าทำแบบนี้ให้อั๊วเห็นอีก"
"เถ้าแก่ไม่ยุติธรรม ! ถ้าเจ้หงส์ถูกลงโทษ ลูกชายเถ้าแก่ไช้ก็ต้องถูกลงโทษด้วยสิ" กุ่ยบอก
"หุบปาก ! ที่อั๊วลงโทษมัน ก็เพราะมันเป็นลูกของอั๊ว ! เป็นคนสืบทอดงิ้วต่อจากอั๊ว ! อยากให้คนอื่นเค้าตราหน้าหรือไงว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน"
"แต่เฮียตี๋เล็กเข้ามาหาเรื่องเจ้หงส์ก่อน ทุกคนก็เห็น"
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย... หมวยพูดถูก
"ถ้าวันนี้ลื้อยังเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ แล้ววันข้างหน้าลื้อจะยืนอยู่เหนือคนอื่นได้ยังไง"
หงส์พูดนิ่งๆอย่างปลงตกไม่ได้จะประชดประชันสุง
"จะมีประโยชน์อะไร ถ้าการยืนอยู่เหนือคนอื่นแล้วทำให้พี่น้องตัวเองต้องตาย"
สุงโกรธจัดหงส์พูดแทงใจดำ ตบหน้าหงส์ด้วยหลังมือจนเลือดกบปาก โกรธจนตัวสั่น
สุงย้ำ
"อั๊วไม่ได้ฆ่าอาไช้"
สุงพูดไม่ทันขาดคำ ก็เจ็บแปลบที่หน้าอก อาการกำเริบ
หมวยกับกุ่ยต้องรีบเข้าไปประคอง
หมวย / กุ่ยโพล่ง "เถ้าแก่"
"อากุ่ย อาหมวย ! ลื้อสองคนรีบพาเถ้าแก่สุงไปที่ห้องก่อน"
"อาป๊า !"
หงส์จะเข้าไปช่วยพยุง แต่ถูกสุงผลักออกจนกระเด็น
"ไม่ต้อง !"
หมวยกับกุ่ยรีบพาสุงออกไป

เต็กกำลังทายาให้ตี๋เล็กที่ถูกหงส์เอาทวนฟาดจนฟกช้ำไปทั้งตัว
ตี๋เล็กร้องลั่น
"โอ๊ย !!! เบาๆหน่อยสิอาป๊า เจ็บ"
"สมน้ำหน้า ! อยู่ๆเกิดนึกพิเรนท์อะไรขึ้นมา ถึงได้ไปท้าดวลงิ้วกับอาหงส์"
"ใครจะไปรู้ล่ะว่าลีลางิ้วของน้องหงส์จะมีพิษสงขนาดนี้ ดูสิเนี่ย ฟาดเอาๆจนอั๊ว
น่วมไปทั้งตัว กระดูกหักหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"แปลว่าลื้อเลิกสนใจอาหงส์แล้วใช่มั้ย"
"เปล่า"
"อั๊ยย่ะ ! นี่ลื้อยังไม่เข็ดอีกเหรอ"
"อาป๊าไม่เคยได้ยินหรือไง ผู้หญิงยิ่งร้าย ผู้ชายยิ่งรัก... ไว้เป็นเมียเมื่อไหร่ อั๊วจะ
ปราบให้สิ้นพยศเลย"
ตี๋เล็กยิ้มกริ่ม ยิ่งอยากได้หงส์มาครอบครองเข้าไปใหญ่

หมวยกับกุ่ยออกมาจากห้องสุง หงส์รอหน้าห้องด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ได้ฆ่าก็ไม่ได้ฆ่าสิ... ไม่รู้เถ้าแก่สุงจะเป็นเดือดเป็นแค้นอะไรนักหนา" กุ่ยบอก
"เจ้ผิดเองที่พูดไม่รู้จักคิด ทำให้อาป๊าไม่พอใจ"
"ตอนนี้ใครๆก็มองว่าเถ้าแก่สุงเป็นคนทรยศ หักหลังแม้กระทั่งพี่น้องตัวเอง ขนาด
คนในแก๊งเราเองยังอดคิดกันไม่ได้" หมวยบอก
"คิดๆดู... ถ้าเถ้าแก่สุงจะฆ่าเถ้าแก่ไช้ ทำไมต้องยืมมือเจ้หงส์ด้วยล่ะ สู้ส่งคนไปฆ่าเงียบๆ ไม่เอิกเกริกไม่ดีกว่าเหรอ ตำรวจก็จะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่งวุ่นวาย"
"เฮียกุ่ยพูดถูก...สั่งให้คนอื่นลงมือ จะได้ไม่ตกเป็นเป้าให้คนอื่นสงสัยด้วย"
"เจ้ว่าเรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง" หงส์บอก
หวังเข้ามารายงานหงส์
"คุณหนูหงส์... อาหลงมาขอพบครับ"
หงส์รีบไปหาหลงทันที กุ่ยเหม็นขี้หน้า ไม่ชอบให้หลงมาวอแวด้วย

หงส์รู้เรื่องที่ให้หลงไปสืบก็แทบช็อค
"ว่าไงนะ"
"อาซิ้มแกแขวนคอตายไปแล้วครับ"
"มีใครรู้หรือเปล่า ทำไมอาซิ้มถึงได้แขวนคอตาย"
หลงส่ายหน้า
"แกไม่มีลูกไม่มีหลาน อาศัยอยู่ตัวคนเดียวที่หลังศาลเจ้า กว่าอั๊วจะตามหาจนพบ ศพแกก็ขึ้นอืดแล้ว"
"จบกัน ! มันชิงฆ่าพยานปากสำคัญก่อนที่เราจะสาวไปถึงตัวมัน เราไม่เหลือหลักฐานอะไรอีกแล้ว"
"ผมเจอไอ้นี่ที่บ้านอาซิ้ม"
หลงยื่นตะกร้าปิ่นโตที่ภายในมีอิ่วจาก้วยแห้งๆอยู่
"นี่มันปิ่นโตใส่อิ่วจาก้วยเหมือนของฉันเลย"
"ปิ่นโตลายเดียวกัน ใส่อิ่วจาก้วยเหมือนกัน เจอในวันเดียวกัน"
"นี่ไง หลักฐานที่ยืนยันว่าอาป๊าบริสุทธิ์ มีใครบางคนจัดฉาก วางแผนสับเปลี่ยนปิ่นโตกับฉัน... คราวนี้นายเชื่อฉันได้แล้วหรือยังว่าอาป๊าไม่ได้ฆ่าอาเจ็กไช้"
"ผมเชื่อแล้ว แต่คนอื่นๆล่ะ เราจะทำให้เขาเชื่อได้ยังไง"
"ต้องหาไอ้คนร้ายตัวจริงมาลงโทษให้ได้ อาป๊าฉันจะได้พ้นมลทิน"
หงส์แววตามาดมั่น จะต้องหาคนร้ายตัวจริงให้ได้

เมฆินทร์หัวเราะลั่น ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
"ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งไก่ฟ้า ทั้งหงส์ดำ"
"ตอนนี้เถ้าแก่ไช้สิ้นชื่อไปแล้ว จะเหลือก็แต่เถ้าแก่สุงเท่านั้น" เกาบอก
"จะยากอะไร แกก็รีบฉวยโอกาสนี้ส่งคนไปเก็บเถ้าแก่สุงซะสิ แล้วโยนขี้ว่าเป็นฝีมือของแก๊งไก่ฟ้าเท่านี้ก็สิ้นเรื่อง"
"แผนการปั่นหัวจิ้งหรีดให้กัดกันของท่านช่างแยบยลไร้ที่ติจริงๆ"
"คราวนี้ แกอย่าให้พลาดล่ะ"
"ท่านอย่ากังวลเลยครับ กระผมจะส่งนักฆ่ามือพระกาฬให้ทำงานนี้โดยเฉพาะ"
"มันเป็นใครวะ ไว้ใจได้หรือเปล่า"
"มันชื่อซ้ง เป็นคนของเสี่ยเล้ง ฉายามือปืนร้อยศพครับ"
"แกรีบไปจัดการซะให้เรียบร้อย ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี"
"ครับท่าน"

เกายิ้มเกรียม อีกไม่นานเถ้าแก่สุงต้องสิ้นชื่อ !

เลือดมังกร : หงส์ ตอนที่ 5 (ต่อ)

หน้าบ้านเถ้าแก่ไช้ มีโคมจีนแขวนหน้าบ้านสื่อว่าบ้านนี้มีคนตาย รถจอดอยู่ด้านหน้า
 
หลิวแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเนื้อหนา โทนสีดำไว้ทุกข์เตรียมขึ้นเครื่องไปเมืองจีน หลง เม้ง และคนแก๊งไก่ฟ้า ตั้งแถวส่งหลิวที่หน้าบ้าน
"เถ้าแก่เนี้ยจะไปจริงๆเหรอครับ" หลงถาม
"อั๊วตัดสินใจแล้ว จะกลับไปอยู่กับพี่สาวที่เมืองจีน ไม่หวนมาเหยียบที่นี่อีก"
หลิวยื่นซองใส่เงินหนาเตอะให้อาหลง
"เงินนี่ อั๊วให้พวกลื้อเอาไปตั้งตัว เก็บไว้เป็นทุนรอนค้าขายก็ได้ แต่อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับวงการนักเลงอีก"
"ทำไมเถ้าแก่เนี้ยถึงไม่อยากให้พวกอั๊วอยู่ในวงการ"
"นักเลงก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ด้วยเลือดคนอื่นฉันใด ก็ต้องก้าวลงจากบัลลังก์ด้วยเลือดของตัวเองฉันนั้น... นี่คือสัจธรรมของวงการนักเลง"
"เถ้าแก่เนี้ยไม่อยากรู้เหรอครับว่าใครฆ่าเถ้าแก่ไช้"
"ถ้ารู้ตัวคนฆ่าเฮียไช้แล้ว ลื้อจะทำยังไง"
"ล้างแค้น ! ความแค้นของเถ้าแก่ไช้จะต้องได้รับการชำระ" หลงบอก
"ต่อให้ลื้อชำระแค้นเก่า ก็เท่ากับสร้างแค้นใหม่ ไม่รู้จักจบจักสิ้น"
"อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ขอเพียงฆ่าศัตรูได้ อั๊วยอมแลกด้วยชีวิต"
"อั๊วไม่อยากเห็นใครต้องมาตายอีกแล้ว อาหลง... เลิกล้มความคิดที่จะแก้แค้น แล้วไปจากที่นี่ซะ ไปให้ไกลๆ.... นี่คือคำเตือนสุดท้ายจากอั๊ว"
หลงนิ่งไม่ตอบคำ หลิวมองอย่างแข็งกร้าว แทนคำปฏิเสธ !
"เราต้องไปแล้วครับ เถ้าแก่เนี้ย" คนขับรถบอก
"อั๊วไปก่อนนะ อาหลง ขอให้พวกลื้อโชคดี"
หลง และคนอื่นๆค้อมศีรษะอำลาหลิวเป็นครั้งสุดท้าย หลิวขึ้นรถ รถเคลื่อนออกไป หลงมองตามจนลับสายตา

หลงเห็นเม้งและคนอื่นๆหิ้วของเตรียมย้ายไปอยู่แก๊งอื่น
"พวกลื้อจะไปไหนกัน"
"อั๊วจะมีปัญญาไปไหนได้ นอกจากไปเข้าแก๊งกระเรียน" เม้งบอก
คนงาน 1 บอก
"เถ้าแก่เนี้ยขายกิจการทั้งหมดให้เถ้าแก่เต็ก พวกอั๊วก็คงต้องไปอยู่นั่น"
"เฮียหลงไปกับพวกเรามั้ย" เม้งถาม
หลงส่ายหน้าไม่ยอมไปเด็ดขาด
"พวกลื้อไปกันเถอะ"
เม้งกับคนอื่นๆลาหลงไปตามทางของตัวเอง

หลงเดินอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมาถึงศาลเจ้า เห็นซินแสง้วงกำลังเขียนคำอวยพรอยู่ ก็เดินเข้าไปหา
"ซินแส..ช่วยทำนายให้อั๊วที ต่อจากนี้ชีวิตอั๊วจะเป็นยังไง"
"ชีวิตจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าลื้อเลือกเส้นทางไหนให้ตัวเองเดิน"
"ชีวิตอั๊วเลือกทางเดินได้ด้วยเหรอ"
"ชีวิตเป็นของลื้อ ลื้อเท่านั้นที่รู้จักดี และมีสิทธิ์กำหนดทางเดินชีวิตของตัวเอง แต่ถ้าลื้อยังกักขังตัวเองอยู่กับอดีต ลื้ออาจจะพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไป"
"ซินแสจะให้อั๊วลืมเรื่องในอดีตที่เคยเกิดขึ้นกับอั๊ว... กับคนรักของอั๊ว"
ซินแสง้วงส่ายหน้า ค่อยๆอธิบายช้าชัด
"บางจังหวะชีวิตก็ต้องเดินไปพร้อมกับอดีต บางจังหวะชีวิตก็ต้องเดินตามหลังอดีต บางจังหวะชีวิตก็ต้องเดินนำหน้าอดีต"
"อั๊วไม่เข้าใจ"
"เดินไปพร้อมกับอดีต หมายถึงให้สิ่งดีๆที่ผ่านมาเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ในวันนี้.... เดินตามหลังอดีต หมายถึงให้สิ่งที่ผ่านมาเป็นบทเรียนคอยสั่งสอน... เดินนำหน้าอดีต หมายถึงให้ลืมเรื่องไม่ดีที่เคยประสบพบเจอ ปล่อยให้มันผ่านไป อย่าเอามาใส่ใจ...คราวนี้ลื้อรู้แล้วหรือยังล่ะว่าควรวางอดีตของตัวเองไว้ตรงไหน"
ซินแสง้วงยิ้ม ชี้แนะหลงด้วยความเมตตา

หลงออกมาหน้าศาลเจ้า ถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจว่าจะไปทางไหนดี
หลงลังเล สองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากลืมความแค้นในอดีตไปใช้ชีวิตที่สงบ อีกใจหนึ่งก็ยึดมั่นคำสัญญาจะล้างแค้นให้อาเหมย
หลงเป็นห่วงหงส์ขึ้นมา กลัวว่าหงส์จะตกอยู่ในอันตราย คิดถึงที่ตนเคยรับปากกับหงส์ไว้
"คนเราเกิดมามีใครบ้างที่ไม่ตาย วันนึงอาจจะถึงคราวของฉันบ้างก็ได้"
"ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจ จะไม่มีใครทำอันตรายคุณหนูได้แม้ปลายก้อย"
หลงตัดสินใจไปทางโรงงิ้วทันที

ณ โรงงิ้วเฟิ่งหวง หลงก้มหน้านิ่งต่อหน้าหงส์
"แก๊งไก่ฟ้าถูกยุบ ผมไม่มีที่ไป"
"ทำไมนายไม่ย้ายไปอยู่แก๊งกระเรียนเหมือนคนอื่นๆ"
หลงก้มหน้า อึดอัดใจ ไม่อยากไปอยู่แก๊งกระเรียน เพราะเคยมีเรื่องกับตี๋เล็ก
"นายกำลังปิดบังฉันอยู่ เงยหน้าแล้วมองตาฉัน"

หลงเงยหน้าขึ้นมา จ้องหงส์อย่างเต็มๆตา รู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์

หงส์จับพิรุธผ่านดวงตาหลง
 
"นายมาที่นี่ต้องการอะไรกันแน่"
"ผม.. ผมมาขอเข้าแก๊งหงส์ดำครับ"
"แก๊งหงส์ดำมีกฎที่เคร่งครัด นายแน่ใจแล้วเหรอ"
"ครับ ผมต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง... และผมเชื่อว่าคุณหนูเองก็อยากจะพิสูจน์ความจริงเหมือนกันว่าใครกันแน่ที่วางยาพิษฆ่าเถ้าแก่ไช้"
หลงพูดเหมือนรู้ทันความคิดหงส์... หงส์เองก็อยากพิสูจน์ความจริงเพื่อล้างมลทินให้พ่อ

หลงนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าสุงในห้องโถง
"ทำไมลื้อถึงอยากเข้าแก๊งหงส์ดำ"
"สิ้นเถ้าแก่ไช้ อั๊วก็หมดที่พึ่ง ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครอีกแล้ว นอกจากเถ้าแก่สุง"
"คนมีฝีมืออย่างลื้อ แก๊งไหนๆก็ยินดีต้อนรับทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นแก๊งหงส์ดำของอั๊วหรอก"
"หงส์ดำกับไก่ฟ้าเป็นพี่น้องกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา วิญญาณเถ้าแก่ไช้คงดีใจที่อั๊วได้มารับใช้เถ้าแก่สุง"
"ใครๆต่างก็คิดว่าอั๊วใจดำอำมหิตฆ่าพี่น้องตัวเองได้ลงคอ แม้แต่คนในแก๊งหงส์ดำเองก็ตาม... ลื้อเชื่อเหรอ ว่าอั๊วไม่ได้ฆ่าอาไช้"
ทุกคนต่างเงียบกริบรอฟังคำตอบจากปากหลง
"หากเถ้าแก่สุงคิดจะวางยาเถ้าแก่ไช้จริง คงไม่วานให้คุณหนูหงส์ลงมือแน่ เพราะมันเสี่ยงเกินไป ถ้าพลาดย่อมหมายถึงชีวิตของคุณหนูหงส์"
สมาชิกแก๊งหงส์ดำต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอึง เห็นด้วยกับเหตุผลของหลง สุงพอใจในคำตอบของหลง ที่ทำให้ทุกคนคลายใจในตัวสุงลงบ้าง
"มีใครในที่นี้จะคัดค้านการรับสมาชิกใหม่แก๊งหงส์ดำหรือไม่" สุงถาม
ไม่มีใครคัดค้าน
"นับตั้งแต่วันนี้ไป ลื้อเป็นสมาชิกแก๊งหงส์ดำแล้ว อาหลง"
หลงยื่นถ้วยน้ำชา คารวะสุง เป็นอันเสร็จพิธี หลงเข้าเป็นสมาชิกแก๊งหงส์ดำเต็มตัว หงส์ยินดีที่หลงได้เข้ามาเป็นสมาชิกแก๊งหงส์ดำ จะได้ช่วยกันคิดอ่านหาตัวคนร้ายที่แท้จริง

ตอนกลางวัน เต็กกับตี๋เล็กเดินตรวจตราดูโกดังสินค้าของไช้เดิม คนงานของแก๊งไก่ฟ้ายืนตั้งแถวต้อนรับนายใหม่ ตี๋เล็กวางก้ามข่ม
"จำใส่กะโหลกไว้ให้ดี ! อั๊วเป็นนายใหม่ของพวกลื้อ พวกลื้อทุกคนจะต้องฟังคำสั่งอั๊วคนเดียวเท่านั้น ได้ยินมั้ย"
เม้งจ้องหน้าตี๋เล็กตาเขม็ง ไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก ตี๋เล็กเห็นเข้า ก็ปรี่เข้าไปกระชากเสื้อทันที
"มึงมีปัญหาอะไรเหรอ"
"เปล่าครับ"
"แล้วมึงจ้องหน้ากูทำไม ! ห๊ะ"
ตี๋เล็กต่อยเม้งจนคว่ำ แล้วกระทืบซ้ำไม่ยั้ง
"มึงอยากลองดีกับกูใช่มั้ย ! ใช่มั้ย"
เม้งถูกตี๋เล็กกระทืบจนสะบักสะบอม คนงานคนอื่นได้แต่มอง ไม่กล้าเข้าไปช่วย
ทันใดนั้น เต็กก็เข้ามาห้าม
"พอได้แล้ว"
ตี๋เล็กชะงัก เห็นแก่หน้าเต็ก
"จะกระทืบมันให้ตายเลยหรือไง"
"นี่แค่เบาะๆ โทษฐานที่มันกล้าแข็งข้อกับอั๊ว"
เต็กไล่
"พวกลื้อออกไปก่อน หาหยูกยาแก้ช้ำในให้มันกินด้วย"
คนงานที่เหลือช่วยกันประคองร่างเม้งออกไป เม้งเจ็บใจแต่จำต้องทน ตี๋เล็กไม่ค่อยพอใจที่เต็กเข้ามาขวาง

เต็กโวยวายลั่น
"ลื้อทำอะไรลงไป รู้ตัวหรือเปล่า"
"อั๊วก็แค่เชือดไก่ให้ลิงดู ทีหลังจะได้ไม่กล้าเหิมเกริมอีก"
"ลื้อต้องทำให้พวกมันยอมรับในตัวลื้อ ไม่ใช่ทำให้พวกมันยิ่งเกลียดขี้หน้าลื้อ"
"เป็นนักเลง ถ้าขืนทำตัวเป็นพ่อพระ คนอื่นจะกลัวเกรงได้ยังไง"
"ถ้าลื้อปกครองคนด้วยความกลัว พวกมันอาจเชื่อฟังลื้อได้ชั่วครู่ชั่วยาม แต่ไม่มีวันที่มันจะจงรักภักดีกับลื้อตลอดไป วันใดที่หมดสิ้นความเกรงกลัว พวกมันก็จะไปจากลื้อ จำไว้ !"
เต็กส่ายหน้าเบื่อหน่ายความหุนหันพลันแล่นของลูกชาย ตี๋เล็กทำหูทวนลม ไม่นำพา

หมวยพาหลงเข้ามาในห้องกุ่ย
"เถ้าแก่สุงให้เฮียหลงนอนห้องเดียวกับเฮียกุ่ย...แคบไปหน่อย พอนอนได้มั้ย"
"อั๊วนอนตรงไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ อย่าห่วงเลย"
กุ่ยรีบสอดขึ้นมากลางปล้อง
"เคยถามสักมั้ยว่าอั๊วเต็มใจนอนกับอาหลงหรือเปล่า ห้องก็ห้องอั๊ว อยู่ดีๆก็จับให้คนอื่นมานอนด้วย อึดอัดตายชัก"
"ห้องนี้เป็นห้องเฮียกุ่ยก็จริง แต่ที่นี่เป็นของเถ้าแก่สุง เถ้าแก่สุงจะให้ใครนอนตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น ถ้าเฮียกุ่ยไม่พอใจก็ออกไปนอนตากยุงข้างนอกโน่นก็ได้นะ ไม่มีใครห้าม"

"บอกไว้ก่อน อั๊วนอนดิ้น กรนดัง ชอบละเมอด้วย ลื้ออย่าบ่นก็แล้วกัน"

กุ่ยพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ชักสีหน้าไม่พอใจนักที่หลงมานอนด้วย
 
"เฮียกุ่ยก็เป็นของเค้าอย่างนี้แหละ เฮียหลงอย่าถือสาเลยนะ"
หลงยิ้มพยักหน้า เข้าใจ หงส์หอบผ้าห่มกับหมอนเอามาให้
"ฉันเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้"
หลงยิ้มแทนคำขอบคุณ เอื้อมมือไปรับผ้าห่มกับหมอนจากหงส์
"ขอบคุณครับ คุณหนู แต่ไม่รู้คืนนี้ผมจะนอนหลับหรือเปล่า"
"คงยังแปลกที่ อีกหน่อยก็ชินไปเอง ขาดเหลืออะไรบอกฉันก็แล้วกัน"
หงส์เดินออกไป หลงมองตามหงส์ จนหมวยอดแซวไม่ได้
หมวยแกล้งกระแอมดังๆ
"ชักอยากรู้แล้วสิ ที่เฮียหลงเข้าแก๊งหงส์ดำเพราะอยากรับใช้เถ้าแก่สุงหรือใครกันแน่น๊า"
หลงเขินหน้าแดงที่หมวยแซว

สุงมองภาพวาดเล่าปี่ กวนอู และเตียวหุยกำลังสาบานในสวนท้อ หงส์ถือถ้วยยาเข้ามาวางบนโต๊ะ
"ตำรวจได้เบาะแสคนร้ายที่ฆ่าอาไช้แล้วหรือยัง"
หงส์ส่ายหน้า
"ยังเลยค่ะ แต่อาหลงได้หลักฐานที่แสดงว่าปิ่นโตนั่นถูกสลับไป"
"ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน"
"อีถูกฆ่าตายแล้ว"
สุงทรุดลงนั่งอย่างคนหมดเรี่ยวแรงถอนใจหนักๆ
"อั๊วไม่อยากให้อาไช้ต้องตายเปล่าเหมือนอาฉาง"
"อาป๊าคิดว่าคนร้ายที่ลอบวางยาอาเจ็กไช้เป็นพวกเดียวกับที่ถล่มโรงงิ้ววันสารทจีนหรือเปล่าคะ"
"ตลอดชีวิตเจ้าพ่อของอั๊วมีศัตรูทั้งในที่ลับและที่แจ้งเต็มไปหมด ถ้าไม่เพราะความแค้นก็ผลประโยชน์...อั๊วยังไม่อยากปักใจว่า มันเป็นใครจนกว่าจะมีหลักฐานหรือพยานแน่ชัด... แต่ที่แน่ๆอั๊วคิดว่ามันไม่ใช่พวกเดียวกัน... สัญชาตญาณอั๊วมันบอกว่าอย่างนั้น"
หงส์เริ่มหวั่นใจที่มีศัตรูหลายด้าน
"หงส์เป็นห่วงอาป๊า ไม่อยากให้อาป๊าเป็นเจ้าพ่ออีกแล้ว"
"อั๊วออกปากฝากฝังสมาคมเลือดมังกรกับอาตงไว้แล้ว อีกไม่นานอั๊วจะประกาศล้างมือจากวงการนี้เสียที"
หงส์ดีใจที่สุงจะไม่ต้องเสี่ยงชีวิตอีกต่อไป แต่ก็รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก

บริเวณลานฝึกงิ้ว ตอนกลางคืน หลงนั่งเป่าเพลงใบไม้คนเดียว คิดถึงอาเหมย สุงเดินออกมารับลม ได้ยินเสียงเพลง จึงเดินตามมาที่ลานฝึกงิ้ว
"ลื้อกำลังเป่าเพลงถึงคนรัก"
"ทำไมเถ้าแก่ถึงทราบ"
"อั๊วเป็นเจ้าของโรงงิ้วมาค่อนคน จะฟังไม่ออกเลยเชียวเหรอว่าเพลงของลื้อมีท่วงทำนองและความหมายยังไง"
"คนรักของอั๊วถูกฆ่าตายเมื่อ 7 ปีก่อน อาเหมยตายโดยที่ไม่มีความผิดเลยสักนิด"
"คนที่ฆ่าได้แม้กระทั่งผู้หญิงไม่มีทางสู้ จิตใจมันเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน"
หลงมองหน้าสุง สัมผัสได้ถึงความจริงใจ และละเอียดอ่อนเกินกว่าจะสั่งฆ่าอาเหมยได้
"ตอนเถ้าแก่ฆ่าคนตาย เถ้าแก่คิดอะไร"
"อั๊วแค่ต้องการเอาชีวิตรอด ถ้าอั๊วไม่ฆ่ามัน มันก็ต้องฆ่าอั๊ว"
"เถ้าแก่เคยฆ่าคนแค่คนเดียวเท่านั้นน่ะเหรอ"
"แค่คนเดียวก็เกินพอแล้ว... ตั้งแต่อั๊วฆ่าไอ้ ตี๋เพ้งตาย อั๊วก็ตั้งสัจจะกับตัวเองเอาไว้ว่า ชาตินี้อั๊วจะไม่ฆ่าใครให้เป็นบาปเป็นกรรมอีก"
หลงมองหน้าสุง ยิ่งอยู่ด้วยก็ยิ่งรู้สึกว่าสุงไม่น่าจะเป็นฆาตกรเลือดเย็น

กุ่ยหลับไปแล้ว กรนดังมาก นอนดิ้นอีกต่างหาก บางจังหวะเผลอละเมอร้องไห้เป็นเด็กๆ เรียกหาแม่ แล้วก็กรนต่อ หลงถูกกุ่ยเบียดจนเกือบจะตกเตียงอยู่แล้ว นอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมา หลงข่มตาหลับไม่ลง ลุกออกไปจากห้อง

หลงออกมาเดินเล่นรับลมด้านนอก แหงนมองดวงจันทร์ คิดถึงอาเหมย
ซ้งในชุดดำโรยตัวปีนข้ามกำแพงโรงงิ้ว กระโดดลงมาด้านล่าง เข้ามาในโรงงิ้วได้
ซ้งเหลียวซ้ายแลขวา เห็นปลอดคน ก็ตรงรี่ไปยังห้องสุงทันที หลงเห็นเงาของชายชุดดำพุ่งวูบหายไปทางห้องสุง จึงรีบตามไปทันที

ซ้งแอบเข้ามาในห้องสุงได้สำเร็จ ในเงามืด ซ้งเห็นผ้าห่มคลุมหมอนข้างอยู่บนเตียง คิดว่าเป็นสุง
จึงค่อยๆชักมีดยาวปลาบออกมาก่อนกระซวกลงไปบนเตียง ขนไก่ยัดหมอนฟุ้งกระจาย
ซ้งแปลกใจ ที่ไม่มีเสียงร้องและเลือด ถีบสิ่งที่อยู่บนเตียงกลิ้งตกลงมาเป็นหมอน
แสงไฟสว่างขึ้น สุงนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าป้ายวิญญาณอาฉาง เพราะยังไม่นอน เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
"เถ้าแก่สุง"
"ใครส่งลื้อมา"
ซ้งจะหนีออกทางหน้าประตู หลงมาดักเอาไว้ทันที

"จะรีบไปไหนเล่า เรามีเรื่องต้องสะสางกันอีกเยอะ"

ซ้งเหงื่อผุดเต็มหน้า ถูกหลงต้อนจนมุม ซ้งเอามีดจะแทงหลง หลงหลบทัน เตะมีดกระเด็น
 
ซ้งกับหลงสู้กันด้วยมือเปล่า ดุเดือด แลกหมัด ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ หลงได้ที จิกหัวซ้งกระแทกข้างฝาจนหัวแตกเลือดอาบ ระบายแค้น
"ไอ้ระยำ ! มึงฆ่าอาเหมยทำไม"
หลงเหวี่ยงร่างซ้งกระแทกพื้นอย่างแรง ข้าวของกระจายเกลื่อน
"กูถาม มึงฆ่าเค้าทำไม ! ใครสั่งมึงมา ! ไอ้เดนนรก"
"ต่อให้มึงฆ่ากูให้ตาย กูก็ไม่บอก"
"แล้วกูจะคอยดูว่ามึงจะปากแข็งได้อีกนานสักแค่ไหน"
หงส์ หมวย กุ่ย หวัง ได้ยินเสียงเอะอะก็แห่มาที่ห้องสุง
หมวยตกใจเห็นหลงสู้กับซ้งอยู่ ข้าวของกระจายเกลื่อน หวีดร้องลั่น
"ว๊าย !!! แก แกเป็นใคร ! เข้ามาในนี้ได้ยังไง"
ซ้งอาศัยจังหวะนั้นเอง คว้ามีดแล้วจับหงส์เป็นตัวประกัน
"อย่าเข้ามา ! ไม่งั้นนังนี่ตาย"
"อาหงส์"
ซ้งจับหงส์เป็นตัวประกันออกมาด้านนอก

ทุกคนรีบตามซ้งออกมาด้านนอก
"ถอยไป"
"อาหลง ! ฆ่ามัน ไม่ต้องห่วงฉัน"
"ปล่อยคุณหนูหงส์ซะ แล้วอั๊วจะยอมไว้ชีวิตลื้อ"
"ฉันบอกให้ฆ่ามันไง อาหลง"
ซ้งพอเห็นทางหนีทีไล่ ก็รีบผลักหงส์ หลงเข้าไปรับ ซ้งหนีไปที่หน้าโรงงิ้วซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่จอดสตาร์ทรอท่าอยู่ รีบบึ่งไปทันที
"มันหนีไปแล้ว" กุ่ยบอก
หลงวิ่งตามไป แต่ไม่ทัน มอเตอร์ไซค์ซ้งบึ่งหายไปกับความมืด
หงส์เจ็บใจ ซ้งหนีรอดไปได้
ซ้งหนีกลับไปหาเล้ง (ในเรื่องกระทิง) เขาเป็นคนเก็บโบตั๋นมาเลี้ยง มีศักดิ์เป็นอากู๋ของโบตั๋น

หงส์ระดมทุบอกหลงไม่ยั้งด้วยความแค้นใจที่ปล่อยซ้งหนีไป
"ทำไมนายถึงไม่ฆ่ามัน ห๊ะ ทำไม"
"คุณหนูฟังผมก่อน"
"ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น นายปล่อยไอ้ฆาตกรที่ฆ่าเฮียฉางไป ถ้ามันย้อนกลับมาเล่น
งานอาป๊าอีกจะว่ายังไง"
"ผมฆ่ามันไม่ได้ มันเสี่ยงกับคุณหนูเกินไป"
"ฉันยอมตาย ดีกว่าปล่อยให้ไอ้คนชั่วที่มันจะฆ่าอาป๊าหนีรอดไปได้"
"ผมเคยทำให้คนที่รักตายต่อหน้าต่อตาไปแล้วครั้งนึง คุณหนูรู้มั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ผมจะไม่ยอมให้คนที่ผมรักต้องเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาผมอีก"
หงส์ชะงัก เช่นเดียวกับหลงที่เผลอหลุดปากพูดความในใจออกไป
หมวยมาขัดจังหวะทันเวลาพอดี หงส์กับหลงรีบแยกออกจากกัน
"มีอะไร อาหมวย"
"เถ้าแก่สุงเรียกเจ้หงส์กับเฮียหลงให้ไปพบ"
หงส์กับหลงรีบไปพบเถ้าแก่สุงทันที

หลงเล่าเรื่องซ้งให้ทุกคนฟัง
"มันฆ่าคนรักของอั๊วเมื่อ 7 ปีก่อน อั๊วตามล่ามันสุดหล้าฟ้าเขียว ในที่สุดก็เจอมันอีกจนได้"
"อั๊วไม่เคยเห็นหน้ามันมาก่อน หรือจะเป็นพวกนักฆ่าไร้สังกัด"
"เถ้าแก่ไม่รู้จริงๆเหรอว่ามันเป็นใคร"
"แม้แต่หน้ามัน อั๊วยังไม่เคยเห็นสักครั้ง"
หลงรู้สึกผิดที่เข้าใจผิดมาตลอดว่าสุงฆ่าเหมย
"ท่าทางเหมือนนักฆ่ามืออาชีพ มันต้องเป็นคนของแก๊งใดแก๊งหนึ่งในสมาคมเลือดมังกรแน่นอน"
กุ่ยระแวงว่า ซ้งอาจเป็นคนของแก๊งไก่ฟ้า
"เถ้าแก่สุงเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสมาคม ไม่เคยสร้างศัตรูไว้ที่ไหน นอกจากคนของแก๊งไก่ฟ้าที่คิดแค้นหาว่าเถ้าแก่สุงฆ่าเถ้าแก่ไช้เท่านั้น"
"มันไม่ใช่คนแก๊งไก่ฟ้า ! อั๊วเห็นมันในงานสารทจีน มันตั้งใจจะยิงเถ้าแก่สุงบนเวทีงิ้ว แต่เผอิญอาฉางมารับเคราะห์แทน"
ทุกคนต่างตกใจเมื่อรู้ว่าซ้งคนฆ่าอาฉาง
"ลื้อว่ายังไงนะ ! มันยิงอาฉางงั้นเหรอ"
"นายแน่ใจนะว่าจำไม่ผิด" หงส์ว่า
"ต่อให้ตายอีกกี่ร้อยชาติ อั๊วก็จำหน้ามันได้ไม่ลืม...ตอนนี้อั๊วแน่ใจแล้วว่าศัตรูของเถ้าแก่กับศัตรูของอั๊วมันเป็นคนๆเดียวกัน"
"แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าใครส่งมันมา" แปะจางว่า
"อั๊วจะให้สายของเราลองสืบดู ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหา ก็ต้องจับตัวมันมาให้ได้ ได้ตัวมันมาเมื่อไหร่ จะได้รู้กันว่าใครที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง"

หลงเริ่มระแคะระคายแล้วว่า เล้งน่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่ยังไม่กล้าพูดออกไป

เลือดมังกร : หงส์ ตอนที่ 5 (ต่อ)

หงส์เดินมาส่งหลงที่หน้าโรงงิ้ว
 
"นายบอกว่ามันเป็นคนยิงอาเหมยตาย....นายไปทำอะไรให้มันโกรธแค้นนักหนา มันถึงได้ตามล่านายกับอาเหมยขนาดนี้ฎ
"ผมเคยเป็นคนขับรถให้เสี่ยเล้ง หัวหน้าแก๊งมังกรดำมาก่อน"
หงส์ตกใจเมื่อรู้ว่าหลงเคยรับใช้เจ้าพ่ออย่างเล้ง
"ว่าไงนะ นายเคยเป็นคนของเสี่ยเล้งเหรอ"
หลงพยักหน้า ยอมรับว่าเคยเข้าร่วมแก๊งมังกรดำมาก่อน รู้สึกละอายเพราะแก๊งนี้มีประวัติด้านลบ ชื่อเสียงฉาวโฉ่
หลงเล่าเหตุการณ์ตอนที่เล้งสั่งให้ฝังจันทร์ชมพู โดยบอกว่าสุงสั่ง แต่หลงหนีไป (อยู่ในเรื่องกระทิง) จนกระทั่งถึงหลงถูกซ้งตามล่า ฆ่าอาเหมยตาย
"ทำไมเสี่ยเล้งถึงได้ใส่ร้ายว่าเป็นคำสั่งของอาป๊า"
หลงสงสัยว่าอาจเป็นนักการเมืองอย่างเมฆินทร์ที่สั่งเล้งมาอีกที
"ผมยังไม่แน่ใจ อาจเป็นผู้มีอิทธิพลสั่งการเสี่ยเล้งลงมาอีกทีแล้วป้ายสีว่าเป็น คำสั่งเถ้าแก่สุง"
"หรือไม่... เสี่ยเล้งก็เป็นคนสั่งการซะเองแล้วโยนความผิดให้อาป๊า"
หงส์ไม่ไว้วางใจเล้งเป็นทุน รู้สึกว่าคนอย่างเล้งน่ากลัว

ในเวลากลางคืน กุ่ยเถียงกับหมวยคอเป็นเอ็น
"มันต้องเป็นคนของแก๊งไก่ฟ้าแน่นอน"
"แต่หมวยว่าไม่น่าจะใช่"
"ลืมแล้วหรือไง ! ไอ้เม้ง คนของแก๊งไก่ฟ้าก็เคยคิดฆ่าเถ้าแก่สุงมาแล้ว"
"เอ๊ะ ! เฮียหลงบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ เฮียกุ่ยไม่ได้อยู่แก๊งโน้นจะรู้ดีกว่าได้ยังไง"
"อาหลงนั่นแหละตัวดี อาจเป็นพวกเดียวกับมัน รวมหัวเล่นละครตบตาเราอยู่ก็ได้"
"เฮียหลงช่วยชีวิตเถ้าแก่สุงไว้ถึงสองครั้งสองคราว หมวยไม่เชื่อหรอกว่าเฮียหลงจะคิดร้ายกับแก๊งเรา"
"เข้าข้างมันดีนัก ! ทำไมไม่เป็นเมียมันซะเลยล่ะ"
"ก็หมวยไม่ได้รักเค้านี่ !" หมวยแกล้งยั่วโมโห) "แต่ผู้ชายดีๆอย่างเฮียหลง หาเมียเมื่อไหร่ก็
หาได้ ว่าแต่เฮียเถอะ อายุก็ปูนนี้แล้ว เมื่อไหร่จะมีเมียกับเค้าเสียทีล่ะ"
หมวยแกล้งยั่วโมโหกุ่ยแล้วก็รีบเดินหนีไป ปล่อยให้กุ่ยโวยวายไล่หลัง
"เอ้อ ! อั๊วมันคนไม่เอาไหน ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ผู้หญิงที่ไหนจะมามอง รอให้อั๊วเป็นพระเอกงิ้วดังเมื่อไหร่ ลื้ออย่ามาง้อก็แล้วกัน"
กุ่ยหัวฟัดหัวเหวี่ยง ถูกหมวยพูดจี้ถูกจุดพอดี

ภายในโรงงิ้วเฟิ่งหวง กลางวัน เต็กตกใจเมื่อรู้ว่าสุงถูกคนร้ายบุกเข้ามาลอบสังหารเมื่อคืน
"มันกล้าบุกมาเหยียบจมูกพี่ใหญ่ถึงถิ่นเลยเหรอ"
"ถ้าอั๊วอยู่ด้วยเมื่อคืน ไอ้เวรนั่นตายไปแล้ว" ตี๋เล็กบอก
"งานยังไม่สำเร็จ สักวันมันต้องหวนกลับมาเล่นงานพี่ใหญ่อีกเป็นแน่"
"อั๊วคิดว่ามันน่าจะเป็นคนในสมาคม แต่ตอนนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ ลื้อก็อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น"
ตี๋เล็กได้ทีรีบโยงเข้าเรื่องทาบทามสู่ขอหงส์
"หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ อั๊วล่ะเป็นห่วงน้องหงส์ กลัวจะพลอยถูกลูกหลงไปด้วย"
"นั่นสิ พี่ใหญ่ ! อาหงส์อีเป็นผู้หญิง อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย พี่ใหญ่น่าจะหาคนคอยดูแลอีได้แล้ว"
"ลูกสาวแค่คนเดียว อั๊วดูแลเองได้ คนแก๊งหงส์ดำก็มีตั้งเยอะแยะ"
"ถึงยังไงอีก็ต้องเป็นฝั่งเป็นฝา พี่ใหญ่จะได้หมดห่วง อาหงส์เองก็ไม่ได้มีใครที่ไหนนี่นา อาตี๋เล็กก็ชอบพอกับอาหงส์อยู่ อั๊วว่าถึงเวลาแล้วที่แก๊งหงส์ดำกับแก๊งกระเรียนจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน"
"อาหงส์หัวดื้อ ฟังใครซะที่ไหน อั๊วเป็นพ่อ ยังสั่งอีไม่ค่อยจะได้ ยิ่งบังคับก็ยิ่งเตลิด"
"อั๊วนี่แหละจะพิชิตใจน้องหงส์ให้ยอมใจอ่อนเอง อาแปะอย่ากันสี่กันห้านักเลย แค่เอ่ยปากยกน้องหงส์ให้อั๊วก็พอ"
"ตอนนี้อั๊วมีแต่เรื่องปวดหัวมากพออยู่แล้ว ยังไม่รีบร้อนอยากได้ลูกเขย แต่ถ้าลื้ออดรนทนไม่ไหว อยากจะหาสะใภ้ให้อาป๊าลื้อจนตัวสั่น ก็ลองไปหาลูกสาวบ้านอื่นมาเป็นเมียซะจะได้จบๆ"
ตี๋เล็กฮึดฮัด ไม่พอใจที่ถูกสุงปฏิเสธอย่างไม่ใยดี หมวยแอบฟังอยู่ที่หน้าห้องรับแขก พอรู้เรื่องก็รีบแจ้นไปเล่าให้หงส์ฟังทันที

ภายในครัว หมวยตื่นตูมรีบเล่าให้หงส์ที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว
"หมวยได้ยินมาเต็มสองรูหู เถ้าแก่เต็กมาทาบทามสู่ขอเจ้หงส์ให้ลูกชาย"
"แล้วอาป๊าว่ายังไง ยกเจ้ให้เฮียตี๋เล็กหรือเปล่า"
"เปล่า...เถ้าแก่สุงยังไม่อยากให้เจ้รีบแต่งงานตอนนี้"
"โล่งอกไปที... นี่ถ้าอาป๊าตอบตกลงยกเจ้ให้เฮียตี๋เล็ก เจ้คงจะต้องหนีไปบวชเป็นแม่ชีที่โรงเจให้รู้แล้วรู้รอด"
"เฮียตี๋เล็กดีแต่กินเหล้า เข้าบ่อน นอนกับผู้หญิง อย่างอื่นไม่เห็นจะมีอะไรดีสักอย่าง... สู้เฮียหลงก็ไม่ได้ จริงมั้ยเจ้"
"อาหลงไปเกี่ยวอะไรด้วย"
" เอ้า ! ดูก็รู้ว่าเฮียหลงชอบเจ้... หมวยเคยเห็นเฮียหลงแอบมองเจ้บ่อยๆ เมื่อไหร่น๊า เจ้หงส์ของหมวยจะเห็นเฮียหลงอยู่ในสายตาสักที"
หงส์เขินหน้าแดง
"แก่แดดแก่ลมใหญ่แล้วนะเรา ถ้าว่างนักก็มาช่วยเจ้ทำกับข้าว จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน"

หมวยอมยิ้ม จับไต๋ได้ว่าหงส์แอบมีใจให้หลงเช่นกัน

บ้านเถ้าแก่เต็กกลางคืน ตี๋เล็กในชุดนอนโมโหที่ถูกสุงขัดขวาง
 
"อั๊วไม่ดีตรงไหน ! อาแปะสุงถึงได้ไม่ยอมยกน้องหงส์ให้อั๊วสักที"
"หรือว่าที่พี่ใหญ่ทำยึกยักท่านั้นท่านี้ เพราะอยากจะยกอาหงส์ให้แต่งงานกับไอ้ทรงกลด ลูกชายหัวหน้าแก๊งเขี้ยวสิงห์ ถึงได้ร่ำๆจะแต่งตั้งเถ้าแก่ตงขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกสมาคมเลือดมังกรคนต่อไป"
"ไม่ได้นะอาป๊า อั๊วรักน้องหงส์ อยู่ๆจะให้คนอื่นมาชุบมือเปิบได้ยังไง"
"ใครได้แต่งงานกับอาหงส์ก็เท่ากับได้ครอบครองโรงงิ้วเฟิ่งหวงด้วย อั๊วไม่มีวันยอมปล่อยให้ที่ดินหัวมังกรหลุดมือไปได้"
"อาป๊าเอ่ยปากขนาดนี้ อาแปะสุงยังปฎิเสธไม่ไว้หน้า แล้วเราจะไปทำอะไรได้"
เต็กครุ่นคิด ก่อนยิ้มพรายออกมา มีวิธีแล้ว
"คนอย่างอั๊วไม่จนแต้มง่ายๆหรอก"
ตี๋เล็กสงสัยเต็กมีแผนการอะไรในใจ

วันใหม่ รถของเต็กจอดที่หน้าคฤหาสน์เมฆินทร์ เต็กเอา“โสมคน” มากำนัลเมฆินทร์
"โสมคนถือเป็นของหายาก กว่าจะโตได้ต้องใช้เวลา 40 ปีเป็นอย่างต่ำ สรรพคุณช่วยรักษาโรคภัยได้สารพัด แล้วยังเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วยนะครับท่าน"
"เห็นทีฉันคงต้องลองพิสูจน์ดูสักหน่อยว่าจะดีจริงอย่างที่เถ้าแก่เต็กว่ามาหรือเปล่า ขอบใจๆ" เมฆินทร์หัวเราะชอบใจ
เมฆินทร์มองไปทางตี๋เล็กที่นั่งพินอบพิเทาอยู่ข้างๆ
"นี่ตี๋เล็ก ลูกชายของกระผมครับ"
"อ้อ...ฉันจำได้แล้ว ตอนเด็กๆเถ้าแก่เคยเอาลูกชายขี่คอเดินตระเวนทั่วเยาวราชอยู่บ่อยๆ"
"กระผมตั้งใจจะพาตี๋เล็กมาฝากตัวกับท่าน อยากให้ท่านเมตตาถือเสียว่าเป็นลูกเป็นหลาน"
"ถ้ามีเรื่องอะไรก็มาปรึกษาฉันได้ ฉันยินดีให้ความช่วยเหลือ"
"ตอนนี้ลูกชายของกระผมมันไปแอบหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งเข้าครับท่าน"
เมฆินทร์หัวเราะ
"งั้นเหรอ ! ดีๆ ลูกสาวบ้านไหนล่ะ ฉันจะได้เป็นเถ้าแก่ทาบทามสู่ขอให้"
เต็กเตือนตี๋เล็ก
"รีบเรียนท่านไปสิ"
"ผมหลงรัก...อาหงส์ ลูกสาวเถ้าแก่สุง หัวหน้าแก๊งหงส์ดำครับท่าน"
เมฆินทร์หุบยิ้มทันที ตัวเองก็หวังจะกินหญ้าอ่อนอย่างหงส์อยู่เหมือนกัน ก่อนรีบกลบเกลื่อน
เมฆินทร์ทำตกใจก่อนรีบหัวเราะกลบเกลื่อน
"หนูหงส์เหรอ... ดีสิ ดี ! มิตรภาพระหว่างแก๊งหงส์ดำกับแก๊งกระเรียนจะได้แน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น"
เต็กกับตี๋เล็กใจชื้น เมื่อเห็นท่าทีอันเสแสร้งของเมฆินทร์
"แล้วนี่เถ้าแก่สุงเค้าว่ายังไงมั่งล่ะ"
"หากท่านกรุณาให้เกียรติเป็นผู้ใหญ่สู่ขอ พี่ใหญ่ก็คงไม่ขัดข้อง"
"เรื่องนี้มันต้องยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย จะบังคับฝืนใจกันไม่ได้ เอาอย่างนี้ ! ถ้ามีโอกาส ฉันจะลองเลียบๆเคียงๆคุยกับเถ้าแก่สุงให้ก็แล้วกัน"
"ขอบพระคุณท่านมากครับ"
เมฆินทร์หัวเราะ แต่ในใจกลับกลัวตี๋เล็กจะแย่งหงส์ไป

เมฆินทร์นอนคว่ำอยู่ในห้องวีไอพี ฉั่วเทียนเหลา มีสาวสวยขาวอึ๋มกำลังนวดน้ำมันให้อยู่ เกานั่งข้างๆ มีความสนิทสนมกับเมฆินทร์มาก ถึงขนาดสามารถเข้านอกออกในคฤหาสน์เมฆินทร์ได้
"ท่านวางใจเถอะครับ... ไอ้ตี๋เล็กไม่มีวันได้ครอบครองคุณหนูหงส์อย่างแน่นอน"
"ทำไมแกถึงได้มั่นใจนัก"
"ลูกชายเถ้าแก่เต็กคนนี้เลือดร้อน มุทะลุ วู่วาม ไม่เอาถ่าน คนมองการณ์ไกลอย่างเถ้าแก่สุงย่อมไม่ฝากชีวิตลูกสาวไว้กับไอ้ตี๋เล็กแน่...กระผมเอาหัวเป็นประกัน"
"ฟังแกแล้วฉันค่อยสบายใจหน่อย ตั้งแต่เมียฉันตาย ตกพุ่มม่ายมาหลายปีแล้ว ฉันยังไม่เคยคิดจะแต่งงานใหม่กับใครอีก จนกระทั่งได้เจอกับหนูหงส์"
"คนระดับท่าน แม้แต่ดาวบนฟ้าก็ยังเด็ดลงมาได้ แต่ทำไมท่านถึงได้ดูจริงจังกับลูกสาวเถ้าแก่สุงคนนี้นักล่ะครับ"
"รวมอำนาจยังไงล่ะ ! หนูหงส์เป็นถึงลูกสาวประมุขสมาคมเลือดมังกร ถ้าได้อีมาครอบครอง อำนาจทุกอย่างก็ตกอยู่ในกำมือฉัน รวมทั้งที่ดินหัวมังกรนั่นด้วย"
"แต่ที่ดินโรงงิ้วเฟิ่งหวง เราตกลงจะทำธุรกิจร่วมกันไม่ใช่เหรอครับท่าน" เกาบอก
"ที่ดินในเยาวราชแกก็มีตั้งเยอะแยะแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก... ที่ตรงนี้ ฉันขอ"
เกาพูดไม่ออก รู้สึกว่าเมฆินทร์ชักจะโลภมากเกินไปแล้ว เกาเริ่มคิดไม่ซื่อกับเมฆินทร์ !

บัดนี้... หลงกลายเป็นคนสนิทสุง หลังจากที่ช่วยชีวิตสุงเอาไว้ถึง 2 ครั้ง วันหนึ่งในมุมร่มรื่นของโรงงิ้วเฟิ่งหวง สุงเปรยกับหงส์ต่อหน้าหลง
"ลื้อคิดยังไงกับทรงกลด ลูกชายอาตง"
หลงมองหน้าหงส์ อยากรู้ว่าหงส์จะตอบอย่างไร
"หงส์กับเฮียทรงกลดเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยคิดเกินเลยไปกว่าพี่น้อง"
"แล้วตี๋เล็กล่ะ"
สุงสังเกตหลง ดูสีหน้าก็รู้ทันทีว่าหลงมีใจให้หงส์
"หงส์ไม่อยากยุ่งกับพวกนักเลงอันธพาล"
"ไม่อยากยุ่งกับนักเลง แต่ลื้อก็ดันเกิดเป็นลูกสาวอั๊ว... ฮึ ! โบราณเขาถึงได้ว่า เกลียดอย่างไหน มักได้อย่างนั้น"
"ถึงอาป๊าจะเป็นเจ้าพ่อแต่ก็ไม่เคยเกะกะระรานใคร... คนใจนักเลงไม่จำเป็นต้องเป็นอันธพาลคอยข่มเหงรังแกผู้อื่น"
สุงยิ้มนิดๆ พอใจในคำพูดโต้ตอบของหงส์
"อั๊วอยากให้ลื้อมีทายาทไว้สืบสกุล อั๊วจะได้ตายตาหลับ"
"เวลานี้ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์เฮียฉางและอาเจ็กไช้ ยังไม่ควรมีพิธีมงคล หงส์เองก็ยังทำใจให้รักใครไม่ได้ในตอนนี้"
"ลื้อไปได้แล้ว อั๊วมีเรื่องต้องคุยกับอาหลง"

หงส์ค้อมศีรษะเดินออกไป

สุงคุยกับหลงตามลำพัง ณ ศาลาในสวน เปิดใจกันประสานักเลง
 
"ถึงอั๊วจะไม่ได้รักอาหงส์เหมือนอาฉาง แต่ถึงยังไงอีก็เป็นลูกสาวอั๊ว"
"คุณหนูหงส์สง่างามและเฉลียวฉลาดสมกับเป็นลูกสาวประมุขแก๊งหงส์ดำ"
"เสียอย่างเดียวตรงที่อีเป็นผู้หญิง... ไม่อย่างนั้นตำแหน่งหัวหน้าแก๊งหงส์ดำรุ่นต่อไปคงจะเป็นใครไปไม่ได้"
"ทำไมคุณหนูหงส์ถึงขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งต่อจากเถ้าแก่ไม่ได้"
"ไม่เคยมีหัวหน้าแก๊งคนไหนเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน"
"ไม่เคยมี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี... อั๊วเชื่อว่าคุณหนูหงส์สามารถปกครองแก๊งหงส์ดำ รวมทั้งทำให้แก๊งต่างๆในสมาคมเลือดมังกรยอมรับได้"
สุงหัวเราะเบาๆ
"หงส์น่ะเหรอจะกล้าทะยานอยู่เหนือมังกร...ขนาดอั๊วอยู่วงการนี้มาทั้งชีวิต ยังแทบเอาตัวไม่รอด แล้วผู้หญิงบอบบางอย่างอาหงส์จะไปสู้รบตบมือกับใครได้"
"เถ้าแก่อย่าได้กังวล คุณหนูหงส์ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา"
คำพูดของหลงตอกย้ำความคิดสุง ยิ่งนับวัน ความเป็น “หงส์” ในตัวลูกสาวก็ยิ่งฉายชัดขึ้นเรื่อยๆ
"อาหลง ! ถ้าวันนึง ไม่มีอั๊ว... อั๊วฝากอาหงส์ด้วยนะ"
"อั๊วสัญญาว่าจะปกป้องคุณหนูด้วยชีวิต"
"อั๊วจะไว้ใจลื้อได้ยังไง"
หลงรับคำหนักแน่น... คำพูดของสุงดูคล้ายจะเป็นลางสั่งเสียก่อนตาย !
"มองตาอั๊ว.... แล้วเถ้าแก่ก็จะรู้เอง"
สุงพยักหน้า เห็นแววตาหลงแล้วไว้วางใจ
"เถ้าแก่"
"หืม"
"ยกโทษให้อั๊วด้วย"
สุงขำๆ
"ลื้อจะให้อั๊วยกโทษให้ลื้อเรื่องอะไร"
หลงนิ่งไม่ตอบ คิดในใจว่า... ยกโทษที่อั๊วเคยมองเถ้าแก่ผิดไป !

หงส์ฝึกงิ้วอยู่ หลงแอบมองอยู่ห่างๆ ด้วยแววตายกย่องเทิดทูน กุ่ยเห็นหลงแอบมองอยู่ ก็รีบเข้ามาแกล้งซ้อมใกล้ๆหงส์บังหลงเอาไว้ กันซีนสุดๆ อารมณ์หมาหวงก้าง
หมวยเห็นเข้าก็เข้ามาลากแขนกุ่ยออกไป เปิดโอกาสให้หลงกับหงส์ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
"เฮียกุ่ย มาช่วยต่อบทให้หมวยที.... นะๆๆ"
กุ่ยบ่นอุบ
"อะไร ! วุ่นวายจริงๆ ! ซ้อมคนเดียวไม่ได้หรือไง"
หลงเห็นหงส์อยู่ตามลำพังก็เดินเข้าไปหา
"นอกจากอาเจ็กเต็กแล้ว ฉันยังไม่เคยเห็นอาป๊าคุยกับใครนานเท่านายมาก่อน มีอะไรหรือเปล่า"
"เรื่องทั่วๆไปน่ะครับ... คุณหนูอย่าใส่ใจเลย"
หงส์ไม่ค่อยเชื่อหลงเท่าไรนัก หลงรีบชวนหงส์คุยเรื่องอื่น
"ตอนนี้คุณหนูฝึกงิ้วออกท่าบู๊จนชำนาญ ทั้งยังเชี่ยวชาญการร่ายรำอาวุธต่างๆ ทั้ง ง้าว ทวน หอก ดาบ และกระบี่ แต่มีอาวุธอีกอย่างหนึ่งที่คุณหนูจำเป็นต้องฝึก"
"อะไร"
"ปืน"
"นักแสดงงิ้วอย่างฉันไม่จำเป็นต้องใช้ปืน"
"คุณหนูไม่ได้เป็นแค่นักแสดงงิ้ว แต่คุณหนูเป็นถึงลูกสาวเจ้าพ่อใหญ่แห่งเยาวราช"
"นายจะให้ฉันเอาปืนไปฆ่าใคร "
"ปืนไม่เคยฆ่าคน มีแต่คนที่ใช้ปืนฆ่ากันเอง คุณหนูควรฝึกยิงปืนเพื่อเอาไว้ป้องกันตัวในยามคับขัน"
"หัวเด็ดตีนขาดฉันก็ไม่มีวันเหนี่ยวไกฆ่าคนแน่ๆ… นายสอนวิธีป้องกันตัวอย่างอื่นที่ไม่ต้องฆ่าใครได้มั้ยล่ะ"
"ได้ครับ"
หงส์แปลกใจว่าหลงจะสอนวิธีป้องกันตัวอะไรให้

ในโกดังร้าง หลงยืนประจันหน้ากับหงส์ หลงโค้งให้เกียรติหงส์
"เชิญ"
หงส์ก้มลงหยิบไม้พลองขนาดเหมาะมือ แล้วเปิดฉากต่อสู้กับหลง หงส์ต่อสู้ด้วยลีลางิ้วอันอ่อนช้อย ส่วนหลงต่อสู้ด้วยลีลากังฟูอันดุดัน ลีลาการซ้อมต่อสู้ของทั้งสองดูหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง สวยงามมากกว่าน่ากลัว ทั้งสองฝ่ายซ้อมต่อสู้กันจนเหงื่อออกทั้งคู่

หลงยืนคอยสอนอยู่ใกล้ อดชมในความหัวไวของหงส์ไม่ได้ ที่เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
"ไม่น่าเชื่อว่าคุณหนูสามารถเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวได้อย่างรวดเร็ว"
"คงเพราะฉันหัดงิ้วมาก่อน เลยไปได้ไว"
"คุณหนูเหนื่อยไหมครับ"
หลงเห็นหลงเหงื่อโชก จึงยืนผ้าเช็ดหน้าให้ หงส์รับไปซับเหงื่อ
"นิดหน่อย.... ทำไม จะให้ฉันขี่หลังนายกลับบ้านหรือไง"
หลงตอบไม่ถูก ไปไม่เป็น
หงส์จ้องหน้าหลง ตาไม่กะพริบ จนหลงแปลกใจ
"ถามจริงๆเถอะ นายยิ้มกับเค้าเป็นบ้างมั้ย ฉันเห็นนายชอบทำหน้ายักษ์ทุกที"
"ทำไมผมต้องยิ้มด้วย"
"เพราะฉันสั่ง ! หรือนายกล้าขัดคำสั่งฉัน"
"ทำไมผมต้องทำตามคุณหนูด้วย"
"ตอนนี้นายเป็นคนของแก๊งหงส์ดำ นายต้องทำตามที่ฉันสั่ง"
หลงฝืนใจยิ้มแบบแห้งๆ จนหงส์ถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
"เวลายิ้มก็น่ารักดีนี่... ทีหลังอย่าทำหน้าปวดอึให้ฉันเห็นอีกนะ"

หลงรู้สึกดีที่เห็นหงส์หัวเราะได้

หงส์กับหลงกลับมาถึงโรงงิ้วตอนเย็น ใบหน้าแช่มชื่น
 
กุ่ยหน้าหงิก ดักรอหงส์อยู่ที่หน้าประตูโรงงิ้ว หึงออกนอกหน้า หลงรีบปลีกตัวออกไป
"เจ้หายไปไหนมา"
"ออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกหน่อย...ลื้อมีอะไรเหรอ"
กุ่ยคาดคั้น
"แล้วทำไมต้องออกไปกับอาหลงสองต่อสองด้วย"
"เจ้จะไปไหนกับใคร ทำไมต้องคอยรายงานลื้อด้วย"
"อั๊วเป็นห่วงเจ้ สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งไม่น่าไว้วางใจ ไม่รู้ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู"
"อาหลงไม่ใช่ศัตรูของเรา"
"เจ้รู้ได้ยังไงว่ามันไม่ใช่ศัตรูที่แฝงตัวมาในคราบของมิตร"
"พอได้ละ ! อยู่ด้วย กินข้าวหม้อเดียวกัน ต้องเชื่อใจกัน ไม่ใช่หันมาระแวงกันเอง อย่าพูดแบบนี้ให้เจ้ได้ยินอีก"
หงส์พูดจบก็เดินออกไป ยั๊วะกุ่ยที่ระแวงหลง กุ่ยขยี้หัวตัวเองแรงๆ อุตส่าห์เตือนดีๆ แต่กลายเป็นว่าหงส์กลับไม่พอใจ... ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ

ในเวลากลางคืน ตี๋เล็กหงุดหงิด โวยวายลั่น
"รอๆๆๆ... จะต้องให้รอไปถึงเมื่อไหร่ อั๊วถึงจะได้น้องหงส์มาเป็นเมีย"
"ลื้อหัดใจเย็นๆบ้างได้มั้ย ท่านเมฆินทร์รับปากแล้วว่าจะช่วย" เต็กบอก
"อั๊วไม่ค่อยอยากเชื่อว่าท่านจะยื่นมือลงมาช่วย แค่เห็นหน้าก็บอกยี่ห้อแล้วว่าคบไม่ได้"
"อยู่วงการนี้ ยังไงเราก็ต้องพึ่งบารมีท่าน ลื้อต้องรู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ให้มากกว่านี้"
"เมื่อไหร่ไอ้แก่หัวหงอกพวกนี้จะตายๆไปซะให้หมด น่ารำคาญ จะได้ถึงคราวอั๊วขึ้นมาบ้าง"
"มันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิวะ ปุบปับลื้อก็จะเอาให้ได้ดั่งใจ มันไม่ง่ายยังงั้นหรอก"
"แต่คนอย่างอั๊ว อยากได้แล้วต้องได้ โดยเฉพาะน้องหงส์"
"อั๊วก็ทำได้แค่นี้แหละ ลื้อมีปัญญาหาวิธีที่ดีกว่านี้ได้ก็เอา… อั๊วไปนอนแล้ว"
เต็กไม่สบอารมณ์ในความใจร้อนของตี๋เล็ก ปึงปังออกไป
"ยากอะไร รวบหัวรวบหางซะก็สิ้นเรื่อง"
ตี๋เล็กยิ้มเจ้าเล่ห์... เรื่องชั่วๆนี่ทางถนัด
กุ่ยเอาโซ่คล้องกุญแจห้องด้านใน แล้วล็อคกุญแจแน่นหนาอีกที หลงสงสัย
"ทำอะไรของลื้อ"
"เพื่อความปลอดภัย ลื้อจะได้ออกไปก่อเรื่องข้างนอกไม่ได้"
"นี่ลื้อยังไม่ไว้ใจอั๊วอีกเหรอ"
"ถ้าลื้อบริสุทธิ์ใจ จะกลัวอะไร นอนได้ละ"
กุ่ยล้มตัวลงนอน หลงมองกุ่ยแล้วส่ายหน้า โคตรเซ็ง

หงส์ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน นั่งสเกตช์ใบหน้าซ้งหลายๆแผ่น เพื่อจะได้เอาไปประกาศจับ
หงส์มองไปยังกรอบรูปที่ถ่ายคู่กับอาฉาง
"ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม สักวันหงส์จะลากคอมันมารับโทษให้ได้W
หงส์แววตาดุดัน มุ่งมั่น เอาจริง

แสงสว่างในห้องหงส์ดับลง แสดงว่าหงส์เข้านอนแล้ว ตี๋เล็กยิ้มกริ่ม พอเห็นปลอดคนก็ลอบเข้าไปในโรงงิ้วทันที

ตี๋เล็กกำลังจะปีนหน้าต่างเข้าไปในห้องหงส์ แต่เข้าห้องผิดไปเข้าห้องพระแทน เสียงสุงดังขึ้นมาขัดจังหวะ
"นั่น"
ตี๋เล็กหันมาเห็นสุงเข้าก็ตกใจ สะดุ้งโหยง
"อาแปะ !"
สุงเห็นตี๋เล็กเหงื่อแตกพลั่ก ก็รู้ทันทีว่าตี๋เล็กคิดจะปีนเข้าห้องหงส์
สุงโกรธจนตัวสั่น แต่ไม่กล้าโวยวายเสียงดัง เพราะเป็นเรื่องเสื่อมเสีย หากคนอื่นรู้เข้าจะเสียทั้งสองแก๊ง
"ลื้อน่ะเอง ! อั๊วไม่คิดเลยว่าลื้อจะกล้าทำเรื่องงามหน้าขนาดนี้"
"อาแปะอยากไม่ยอมยกน้องหงส์ให้อั๊วเอง อั๊วไม่มีทางเลือก"
"กล้ามากที่จะปีนเข้าหาอาหงส์ลูกสาวอั๊ว ! อาป๊าลื้อไม่เคยสั่งสอนหรือไงว่าสิ่งที่ลื้อคิดจะทำมันน่าอัปยศแค่ไหน ลื้อยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ไอ้หน้าตัว"
ตี๋เล็กเลือดขึ้นหน้า ไม่เคยถูกใครด่าต่อหน้าขนาดนี้มาก่อน
"มันชักจะมากไปแล้วนะ ไอ้แก่ ! พ่อกูยังไม่เคยด่ากูขนาดนี้เลย"
"คนอย่างลื้อมันสันดานเลวยิ่งกว่าหมา ! เห็นแก่อาเต็กพ่อลื้อ อั๊วจะไม่เอาเรื่อง แต่รีบไสหัวไปซะ แล้วอย่ามาเหยียบที่นี่ให้เป็นเสนียด"
จังหวะที่สุงหันหลังจะกลับห้องนั้นเอง ตี๋เล็กเหลียวซ้ายเหลียวขวา เห็นกระบี่งิ้วที่วางไว้บนหิ้ง
"ด่ากูพอหรือยัง ไอ้แก่ ! ลงไปด่าต่อในนรกเถอะ"
ตี๋เล็กหยิบกระบี่ขึ้นมา แล้วแทงหัวสุงจนมิดด้าม ระบายแค้น
สุงทรุดลงในลักษณะนั่ง มีกระบี่ค้ำอยู่ที่ท้อง ตี๋เล็กยิ้มสะใจ ปาดเลือดที่กระเซ็นติดหน้า ดูโหดมาก
ตี๋เล็กยังไม่หายแค้น เห็นตะเกียงที่จุดอยู่ บนศาลฉั่งหง่วงส่วย ก็คิดแผนชั่วออก
"มึงรักมากนักใช่มั้ย ไอ้แก่ ! โรงงิ้วเนี่ย กูจะเผามันให้วอดเลย"
ตี๋เล็กพูดจบก็เหวี่ยงตะเกียงใส่กองผ้าที่เป็นฉากบนโรงงิ้ว ไฟลุกพรึ่บ ผ้าเป็นเชื้ออย่างดี ติดไฟลามไวมาก ตี๋เล็กสะใจ ถุยน้ำลายใส่ แล้วรีบหนีไป

หงส์ได้กลิ่นควันไฟ วิ่งออกมาดู เปิดห้องสุงไม่พบ หงส์เปิดประตูเข้ามาในห้องพระ เห็นร่างสุงถูกกระบี่แทงหายใจรวยระรินอยู่ที่พื้น !
"อาป๊า !"
หงส์ตกใจแทบช็อค

หลงได้กลิ่นควันไฟผิดปกติ
"กลิ่นควันไฟ"
หลงลุกไปที่ประตู แต่ติดโซ่ที่กุ่ยล่ามไว้อยู่
หลงปลุกกุ่ยที่นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็นอยู่
"อากุ่ย ตื่น !"
"อะไร ! คนจะหลับจะนอน"
"ไฟไหม้ !"
กุ่ยรีบลุกพรวด ตาลีตาเหลือก
"ห๊ะ ! ไฟไหม้"
"กุญแจล่ะ"
กุ่ยมือไม้สั่นไปหมด ไขกุญแจที่ล่ามโซ่ออกไม่ได้สักที
หลงเห็นกุ่ยชักช้าไม่ทันใจ คว้าขวานที่อยู่ในห้องกุ่ย แล้วจามจนโซ่ขาด กุ่ยทั้งอึ้งทั้งเสียว หลงเปิดประตูผลั๊วะออกไป เห็นไฟไหม้โรงงิ้วโชติช่วง

หลงกับกุ่ยรีบวิ่งมาที่เวทีงิ้ว หมวยกับคนงานในโรงงิ้ววิ่งจ้าละหวั่น ช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟ
"เฮียหลง ! เฮียกุ่ย ! ช่วยดับไฟที ไฟไหม้ใหญ่แล้ว"
หลงกับกุ่ยรีบวิ่งไปหยิบถัง ช่วยกันดับเพลิงที่ลุกโชติช่วงไปทั้งโรงงิ้ว
"มีใครเห็นเถ้าแก่สุงกับคุณหนูหงส์บ้าง"
หวังส่ายหน้า เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายไปหมด

หงส์จะพาสุงไปส่งโรงพยาบาล
"อาป๊า ! ทำใจดีๆไว้นะคะ ! หงส์จะพาอาป๊าไปส่งโรงพยาบาล"
"ไม่ต้อง ! อั๊วจะอยู่กับอาฉาง.... อาฉางมารอรับอั๊วแล้ว"
หงส์ร้องไห้ น้ำตาเป็นสาย เห็นสุงเลือดไหลไม่หยุด หงส์ใจไม่ค่อยดี
"อาป๊าอย่าเป็นอะไรนะคะ"
หลงเปิดประตูเข้ามาพอดี ช็อคกับภาพที่เห็นตรงหน้า
"เถ้าแก่"
"อั๊วไม่ได้เป็นคนฆ่าอาไช้"
"หงส์เชื่อค่ะ อาป๊า ! อาป๊าไม่มีวันฆ่าพี่น้องตัวเองเด็ดขาด"
"เถ้าแก่อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า"
"ไม่มีประโยชน์ อั๊วรู้ตัวดี ลื้ออย่าลืมที่เคยสัญญาไว้กับอั๊ว"
"อั๊วขอสัญญาด้วยชีวิต"
สุงพยักหน้าเนิบช้า ยิ้มจางๆที่มุมปาก
"อาป๊าอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย... อาป๊าต้องอยู่กับหงส์นะคะ"
"อาหงส์... อั๊วอยากฟังงิ้ว ลื้อร้องให้อั๊วฟังที... ร้องสิ"
หงส์แข็งใจร้องเพลงงิ้ว เป็นบทร้องที่คร่ำครวญ โศกเศร้ามาก
เถ้าแก่สุงยิ้ม หายใจอ่อนลงทุกที
"อาหงส์.... ที่ผ่านมา อั๊ว...ขอ...โทษ"
สุงเกาะบ่าหงส์ ร่วงผล็อยลงมา สุงสิ้นใจแล้ว
"อาป๊า"

หงส์ค่อยๆกระถดตัวเข้าไปนอนหนุนตักสุงที่ไร้ลมหายใจแล้ว หงส์ปล่อยโฮออกมา ปิ่มว่าจะขาดใจตาม !

จบตอนที่ 5
กำลังโหลดความคิดเห็น