ลุ้นรักข้ามรั้ว ตอนที่ 13
ตี๋เล็กกับจางช่วยกันยกข้าวต้มเครื่องมาวางที่โต๊ะกินข้าว ขณะที่เฮง ตี๋ใหญ่ และหมวยเล็กนั่งรอท่าอยู่ หมวยเล็กหันไปมองหน้าพี่ชายคนรองแล้วพูดทัก
“กี่วันแล้วเนี่ยที่ไม่ได้กินอาหารฝีมือเฮีย”
เฮงพูดเหน็บด้วยอารมณ์น้อยใจ “คนนี้งานเค้ารัดตัว ไม่ค่อยมีเวลาให้เราหรอก”
“อั๊วอยากอยู่ช่วยจะตาย แต่ช่วงนี้อั๊วเรียนหนักจริงๆ เตี่ย”
ตี๋ใหญ่พยายามช่วยพูด “ปล่อยตี๋เล็กเต็มที่เรื่องเรียนไปก่อนเถอะเตี่ย ยังไงเตี่ย ก็ยังมีจางอยู่ทั้งคน”
จางได้ยินก็ยืดอกแอ็คท่าเต็มที่ ก่อนจะค่อยๆ ห่อเหี่ยวลงเรื่อยๆ เมื่อตี๋ใหญ่พูดถึงข้อเสียของตัวเอง
“ถึงจางจะอ้วน ทำอะไรชักช้า คิดเงินผิดๆ ถูกๆ ทำอาหารไม่เป็น เห็นแอบงีบอยู่เรื่อยๆ เฉื่อยชาก็บางที มีอะไรอีกมั้ยนะ”
จางห่อเหี่ยวจนลงไปนั่งคุดคู้อยู่ที่พื้น หมวยเล็กยิ้มขำ
“เป็นไรอะเฮียจาง ปวดท้องเหรอ”
“ปวดใจมากกว่าครับ คุณตี๋ใหญ่ก็ไม่น่าชมกันจนเกินไป นี่ถ้าชมอีกหน่อยผมดำดินแล้วนะครับ”
เฮงรีบไล่ “ออกไปจัดโต๊ะข้างนอกเลยไป ทำงานให้มันกระฉับกระเฉงด้วย ไม่งั้นตัดเงินเดือน”
“ครับ” จางรับคำ แล้วค่อยๆ เดินจ๋อยๆออกไป พร้อมกับที่เฮงหันมาทางลูกสาวคนเล็ก
“หมวยเล็ก เตี่ยว่าเราเรียนพวกวิชาป้องกันตัวไว้บ้างก็ดีนะ เกิดมีผู้ชายมาก่อกวนเหมือนที่เจอไอ้เด็กแว้นซ์ จะได้ดูแลตัวเองได้”
“หมวยกำลังคิดจะเรียนเทควันโดอยู่เลยเตี่ย ตอนนี้กระแสเทควันโดที่โรงเรียนกำลังแรงสุดๆ”
“ดีๆ เด็กสมัยนี้ก็สนใจกีฬาเยอะอยู่เหมือนกันนะ”
“ตอนนี้มีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจากเกาหลีด้วย เทควันโดเลยยิ่งฮ็อตสุดๆ”
ตี๋เล็กย้อนถาม “ฮ็อตเพราะเก่ง?”
“ฮ็อตเพราะหล่อ”
เฮงส่ายหน้าเอือมๆ “แหม จะดีอยู่แล้วเชียว”
ตี๋ใหญ่หันมาพูดกับน้องชาย “วันนี้เรียนเช้าเหรอตี๋เล็ก”
“ครับเฮีย”
“งั้นเดี๋ยวติดรถเฮียไปแล้วกัน”
ตี๋เล็กยิ้มร่า “เยี่ยมเลยเฮีย”
“เอ้อ..กินเยอะๆ วันนี้ทำกับข้าวคนเดียวอีกแล้วเว้ย”
เฮงพูดลอยๆ แบบงอนๆ ปนน้อยใจตี๋เล็ก
หมวยเล็กเดินไปโรงเรียนคนเดียว ผ่านมาถึงม้าหิน ที่มีวัยรุ่น 2 คนนั่งอยู่ พอทั้งคู่หันมาเห็น ก็ลุกปรี่เข้ามาทันที
“หวัดดีจ้ะ ไปโรงเรียนเหรอจ๊ะ”
หมวยเล็กพูดกวนกลับไป “ใส่ชุดนักเรียน ไปเดินห้างมั้ง”
อีกคนทำตาเจ้าชู้ใส่ “จะไปเดินห้างกับเรามั้ยล่ะ เดี๋ยวเราเลี้ยงติม”
“เราจะไปเรียน ถอยไป”
หมวยเล็กพยายามเดินหนี แต่ทั้งคู่ก็ขวางไม่ให้ไป
“เฮ้ย อย่ายุ่งกับผู้หญิงของฉัน” สิ้นเสียง ชายเล็กก็ปรากฎตัวขึ้นมาอย่างสุดเท่ “หลบไปห่างๆ หมวยเล็ก เดี๋ยวเลือดกระเด็นใส่”
หมวยเล็กถอยออกไป พร้อมกับที่ 2 วัยรุ่นย่างสามขุมเข้ามาหาชายเล็ก
“วอนเจ็บตัวนะมึง”
“เข้ามาเลยดีกว่า อยากเจ็บตัวจะแย่ละ”
ชายเล็กพูดท้าทาย พอขาดคำ ก็โดนหนึ่งในสองพุ่งปรี่เข้าชก แต่ทันใดนั้น คิมก็เข้ามากระโดดถีบ มันจนกระเด็นไป อีกคนรี่เข้ามาชก ก็โดนคิมจับทุ่มลงพื้น
คนแรกลุกขึ้นมาจะฮึดสู้ แต่กลับถูกคิมพุ่งเข้าไปตุ๊ยท้องรัว ก่อนจะเตะเข้าหน้าจนสลบไป อีกคนเห็นฝีมือคิมก็รีบวิ่งหนีไปทันที
หมวยเล็กหันมากรี๊ดกร๊าดใส่คิม “พี่คิม”
คิมเดินมาดเท่เข้าหาหมวยเล็ก “บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”
“ไม่เลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาช่วยหมวยเล็ก”
คิมยิ้มหวาน “งั้นไปโรงเรียนกันเถอะ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”
หมวยเล็กยืนบิดตัวไปมา “ ไม่อยากให้ไปเป็นเพื่อนเลยอ่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ไปเป็นแฟนได้มั้ยอ่ะ”
ชายเล็กได้ยินหมวยเล็กพูดอย่างนั้น ก็สะดุ้งตกใจ “เฮ้ย”
คิมพยักหน้ารับ “ได้สิครับ”
หมวยเล็กรีบเดินเข้าไปควงแขนออกไปกับคิม ทำเหมือนชายเล็กเป็นอากาศธาตุที่มองไม่เห็น
“ ไม่นะหมวยเล็ก ไม่”
ชายเล็กตะโกนลั่น คลุ้มคลั่งเป็นผีบ้าอยู่คนเดียว
ชายเล็กที่นั่งหลับโวยวายคลุ้มคลั่งอยู่ที่โซฟา สะดุ้งตื่นขึ้นมา แก้วกัลยา หญิงใหญ่และฮันนี่ ได้ยินเสียงโวยวาย ก็วิ่งเข้ามาในบ้าน
“เป็นอะไรชายเล็ก”
ชายเล็กหน้าซีด “ไม่เป็นอะไรครับคุณแม่ ผมแค่ฝันร้ายน่ะ”
ฮันนี่รีบสวมรอยเข้าไปกอดปลอบขวัญ “โอ๋ๆ ขวัญเอ้ยขวัญมานะคะ”
แก้วกัลยามองค้อน “เยอะ เยอะ”
ฮันนี่ได้ยินก็ยิ่งกอดชายเล็กหนักขึ้น จนแก้วกัลยาเข้าไปแกะออกมา
“เยอะไปแล้ว นังฮันนี่”
“อ้าว ฮันนี่คิดว่าให้กอดเยอะๆ”
“ถามลูกฉันด้วยว่าโอเคมั้ย”
หญิงใหญ่หันมาถามน้องชายด้วยความเป็นห่วง “นอนดึกเหรอเรา ถึงได้มางีบเอาตอนนี้เนี่ย”
“อ่านหนังสือดึกไปนิดครับ”
แก้วกัลยามองอย่างคาดคั้น “อ่านหนังสือหรือคุยกับสาว”
“อ่านหนังสือจริงๆ ครับแม่”
ชายเล็กหน้าเจื่อนๆ ยังขวัญเสียเรื่องความฝันไม่หาย
อ้อยแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งที่มหาวิทยาลัย กำลังจัดร้านอยู่ ครู่หนึ่งตี๋เล็กก็เดินเข้ามา
“กระเพราหมูสับราดข้าวจานนึง”
อ้อยหันมายิ้มรับ “ไข่ดาววันพฤหัสเที่ยงคืนห้าสิบนาที”
“เกือบสุก”
อ้อยทำท่าสะดุ้งแบบตลก “ตึ่กโป๊ะ”
ตี๋เล็กหัวเราะร่วน “เข้าขากันสุดๆ”
“ก็กินกันอยู่ทุกวัน ไม่ให้เข้าขาได้ไงล่ะจ๊ะ” อ้อยพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปเห็นเจ๋งเดินตุปัตุเป๋เข้ามา
“เฮ้ย มึงกินเด็กเหรอวะนังอ้อย”
อ้อยมองจ้องหน้าอย่างไม่พอใจ “ไอ้เจ๋ง แกมาทำไมอีก เงินฉันก็ให้ไปแล้วนะ”
“โห่ ให้ตั้งแต่เมื่อวาน กูมาเอาของวันนี้โว้ย”
ตี๋เล็กหันมาพูดกับเจ๋ง “นี่พี่เก็บดอกเบี้ยรายวันเหรอครับ”
“เออ มีไรปะ”
อ้อยรีบบอก “ไม่ใช่หรอก ไอ้นี่มันมาไถเงินพี่น่ะ”
“เฮ้ย ไม่ต้องพูดมาก เอาเงินมาใช้หน่อยดิ๊”
ตี๋เล็กพูดสวนกลับไป “พี่เค้าทำงานหนัก พี่มาของ่ายๆ แบบนี้มันไม่แมนนะพี่”
“มึงอย่ายุ่ง”
เจ๋งเริ่มทำลายข้าวของในร้านอย่างมีอารมณ์ “ จะให้ ไม่ให้”
“ไม่ให้”
“ไม่ให้เหรอ”
ขาดคำก็ตบอ้อยลงไปกองที่พื้น ก่อนจะโดนตี๋เล็กชกสวนเข้าไป หมัดเดียวจอดสนิท
จังหวะนั้นหญิงเล็กก็เดินเข้ามา ภาพที่เห็นคืออ้อยเอามือกุมปากค่อยๆ ลุกจากพื้น กับเจ๋งที่นอนสลบอยู่กับพื้น
“นี่นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย เมาดินโป่งจนตกมันขึ้นมารึไง”
“มันไม่ใช่...”
ตี๋เล็กพยายามจะอธิบาย แต่หญิงเล็กไม่ฟังเสียง
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น นายนี่มันเลวจริงๆ ป่า เถื่อน ไร้การศึกษา นี่เตี่ยนายไม่สั่งสอนบ้างเลยใช่มั้ย”
อ้อยพยายามจะช่วยอธิบายด้วย แต่หญิงเล็กก็ไม่ฟังอีก
“พี่ไม่ต้องพูดค่ะ นายนี่มันไม่ใช่คนแล้วล่ะ นายมันเลวแบบไม่มีซับไตเติ้ล”
ตี๋เล็กทำหน้างง “อะไร เลวแบบไม่มีซับไตเติ้ล”
“เลวแบบไม่มีคำบรรยายไง”
อ้อยรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที
“หนูคะ ดึงสติแล้วฟังพี่นะคะ น้องคนนี้เค้าเข้ามาช่วยพี่ค่ะ ที่เห็นนอนอยู่น่ะ มันผัวเก่าพี่ มันเข้ามาไถเงินแล้วก็ ทำร้ายพี่ค่ะ น้องเค้าคนดีค่ะ”
หญิงเล็กได้ยินก็ตกใจ ตี๋เล็กทำหน้ากวนใส่
“เจอด่าขนาดนั้นผมลองชั่วดูซักนิดก็น่าจะดี”
ว่าแล้วก็ทำแกล้งเดินเข้าหาหญิงเล็ก มองทรวดทรงพร้อมกับทำหน้าตาหื่นใส่
“ไอ้บ้า”
หญิงเล็กมองค้อน ตี๋เล็กยิ้มอย่างสะใจ
หมวยเล็กนั่งกินขนมอยู่ที่ม้าหินในโรงเรียนคนเดียว ชายเล็กถือแก้วน้ำอัดลมมา 2 แก้ว ก่อนจะยื่นแก้วน้ำส้มให้
“อ่ะ น้ำส้วม”
“นี่ตักจากคอห่านเลยป่ะเนี่ย”
“สดๆ ร้อนๆ บรึยย ฮาร์ดคอร์ไปปะ?”
“อ้าว ก็ชงมาขนาดนี้ ก็ต้องปิดให้สุดสิ แต๊งกิ้วนะ”
ชายเล็กพยักหน้ายิ้ม ก่อนจะได้ยินเสียงนักเรียนสาวๆ กรี๊ดกร๊าดดังมาแต่ไกล
“มีอะไรกันน่ะ”
พอทั้งคู่หันไปมอง ก็เห็นคิมเดินมาท่ามกลางสาวๆ รายล้อมเดินผ่านไป
“อ๋อ พี่คิม”
หมวยเล็กพูดอย่างปลาบปลื้ม จังหวะนั้นแก้วก็วิ่งรี่เข้ามาหา
“เฮ้ย แก ไปเร็ว”
หมวยเล็กทำหน้างง “ไปไหน”
“ไปดูพี่คิมเล่นเทควันโด วันนี้แกรนด์โอเพนนิ่งพี่เค้านะแก”
“เฮ้ยจริงดิ” หมวยเล็กหันขวับไปทางชายเล็กทันที “ไปดูกันมั้ยๆ”
ชายเล็กส่ายหน้าเซ็งๆ “ไม่อ่ะ”
“เค งั้นเราไปก่อนนะ”
หมวยเล็กพูดจบ ก็โดนแก้วลากตามขบวนกรี๊ดของสาวๆไป ชายเล็กนั่งมองตาปริบๆ ก่อนที่จ๊อบจะเดินเข้ามา
“หงอยเลยๆ เจอกิมจิเอฟเฟคเข้าไป หงอยเลย”
ชายเล็กทำปากแข็ง “หงอยอะไร ทำไมต้องหงอย”
“แหม ทำอย่างกับไม่มีใครรู้ ว่ามึงคิดอะไรกับหมวยเล็ก”
“เฮ้ย ไม่ได้คิดอะไร เป็นเพื่อนกันเว้ย”
ชายเล็กพูดจบ ก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาดูดอย่างแรง ด้วยอารมณ์หงุดหงิดโมโห
“นี่ไง ดูดน้ำยังมีอารมณ์ มึงนี่น่าไปเป็นพระเอกละครนะ รีแอ็คหน้าดีชิปเป๋ง”
ชายเล็กมองเพื่อนด้วยสายตาเคืองๆ
คิมโชว์ฝีมือเทควันโดให้ทุกคนดู ท่ามกลางนักเรียนหญิง ที่ต่างก็กรี๊ดกร๊าดอย่างหลงใหลได้ปลื้ม
หมวยเล็กพลอยกรี๊ดตามเพื่อนไปด้วย ชายเล็กที่แอบดูอยู่ พอเห็นอาการของหมวยเล็กก็ทำหน้าเซ็ง
พอเกมจบ ครูพละเดินปรบมือเข้าไปในสังเวียน ก่อนจะประกาศกับนักเรียนทุกคน
“ครูขอแนะนำให้รู้จักเพื่อนใหม่อย่างเป็นทางการนะ นี่คือคิม นักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนไทย-เกาหลี คิมจะมาเป็นประธานชมรมเทควันโดของโรงเรียนเรา”
ครูพละปรบมือนำ นักเรียนทุกคนปรบมือตาม พร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดดังลั่น หมวยเล็กปรบมือด้วย สีหน้าปลาบปลื้ม ชายเล็กแอบเบะปาก เริ่มหมั่นไส้คิมมากขึ้น
“โรงเรียนเรามีเป้าหมายที่จะสร้างนักกีฬาเทควันโดฝีมือดี ฉะนั้นถ้าใครสนใจก็มาสมัครเข้าชมรมเทควันโดกับคิมเค้าได้เลย”
สิ้นเสียงประกาศของครูพละ นักเรียนต่างก็กรูกันเข้าไปหาคิม แก้วรีบลากหมวยเล็กลากวิ่งเข้าไปด้วย ขณะที่จ๊อบหันมาถามชายเล็ก
“เฮ้ย ตามไปสมัครมั้ยมึง”
ชายเล็กส่ายหน้ายิก “ไม่อ่ะ”
“ทำไม เห็นฝีมือไอ้กิมจินั่นเข้าหน่อย ถึงกับถอดใจเลยเหรอ”
“ไม่ได้ถอดใจ แต่ไม่ชอบเดินทับทางใครเว้ย”
“แล้วเอาไงต่อ”
ชายเล็กนิ่งนึกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมาอย่างมาดมั่น ฮึกเหิม
“มันต้องฉีก”
และแล้วชายเล็กก็พาจ๊อบมายืนอยู่หน้าห้องชมรมมวยไทย
“ฉีกสุดๆ”
ชายเล็กพูดอย่างมั่นใจ “มวยไทยนี่แหละ เท่กว่าเยอะ”
“ตรงไหนวะ กูเห็นเค้ามีแต่ติ่งเกาหลี ติ่งมวยไทยไม่เคยเห็นมาก่อน”
“ติ่งมวยไทยกำลังมาเว้ย เคยดูไทยไฟ้ท์ป่าว อองตวนนี่ สาวกรี๊ดกันคอแทบแตก บัวขาวนี่ฮอตขนาดสาวๆ มาหาถึงโรงแรม”
จ๊อบทำหน้าง่อย “โห กว่าจะดังขนาดนั้น ร่างแหลกไปกับแข้งศอกซะก่อนมั้ง”
“โด่ว มันจะสักแค่ไหนเชียววะ”
ชายเล็กยังพูดไม่ทันขาดคำดี ร่างของหัวหน้าชมรมในสภาพสะบักสะบอมมาก ก็เดินกระเผลก ออกมา ทั้งคู่หันไปเห็นก็ตกใจ
“เฮ้ย”
จ๊อบเอียงหน้ามากระซิบ “สักแค่นี้หนักพอมั้ย”
หัวหน้าชมรมถามด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ “มาทำอะไร”
ชายเล็กกลืนน้ำลายเอื๊อกก่อนตอบ “ผมมาสมัครเข้าชมรมมวยไทยครับพี่”
“รอแพ๊พ เดี๋ยวเอาใบสมัครให้”
หัวหน้าชมรมพูดพลางเดินกระปลกกระเปลี้ยเข้าไป จ๊อบถึงกับส่ายหน้ารับไม่ได้
“ห่า เห็นสภาพขนาดนั้น ยังไม่ถอดใจอีกเหรอมึง”
“ไม่ งานนี้เดี๋ยวก็รู้ ว่ากิมจิหรือกะปิ อะไรจะแซ่บกว่ากัน”
ชายเล็กสีหน้ามุ่งมั่นจริงจัง
เสี่ยชาญที่กำลังออกฟุตเวิร์คชกลมออกกำลังกายอยู่ พอเห็นชายเล็กเดินผ่านมา ก็หยุดทักทาย
“หวัดดีรูปหล่อ วันนี้เดินกลับบ้านคนเดียวเหรอ”
ชายเล็กทำหน้าเหรอ “เฮ้ย ทักแบบนี้ คิดอะไรป๊ะเนี่ยเสี่ย”
“คิดสิ” เสี่ยชาญตอบหน้าตาเฉย “คิดว่าอาหมวยเล็กไปไหน ปกติเห็นเดินกลับบ้านด้วยกันน่ะ”
ชายเล็กทำหน้าเมื่อยทันที
“อ๋อ หมวยเล็กเค้าเรียนเทควันโดน่ะเสี่ย”
“ก็ดีนี่ เป็นผู้หญิงเรียนพวกนี้ไว้ จะได้ป้องกันตัวเองได้ แล้วทำไมลื้อไม่เรียนด้วยล่ะ”
ชายเล็กส่ายหน้ายิก “ไม่อะ ผมอยากเรียนมวยไทยมากกว่า”
“ลื้อจะเรียนมวยไทย ? ”
“ใช่ เสี่ยรู้จักใครที่พอสอนผมได้มั้ย แนะนำให้หน่อยสิครับ”
เสี่ยชาญได้ยิน ก็รีบออกท่าทางมวยไทยโชว์
“เสี่ย?”
เสี่ยชาญกอดอกแอ็คท่า พร้อมพยักหน้ารับ “ใช่”
“เสี่ยก็จะเรียนมวยไทยเหมือนกันเหรอครับ”
เสี่ยชาญถึงกับทรุดตัวเอียงไป
“ดีเลยเสี่ย ผมจะได้มีเพื่อนเรียน”
“จะบ้าเหรอ ที่อั้วออกสเต็ปเมื่อกี๊น่ะ จะบอกว่าอั้วเนี่ย เป็นนักมวยมาก่อน”
ชายเล็กตาโต “เสี่ยเนี่ยนะ”
“ถั่วต้ม สมัยวัยรุ่น เสี่ยนี่ฉายาซ้ายหมัดวืด ขวาหมัดบอด ศอกใครไม่เคยแตก”
“โห่..ที่พูดมาเก่งตรงไหนเนี่ย”
“แต่เตะเข้าเป้า หลับกลางอากาศทุกราย”
ชายเล็กชักสนใจ “เริ่มน่าสน”
“ถ้าลื้อยังไม่มีใครสอน เดี๋ยวอั๊วสอนให้ก็ได้”
“จริงนะเสี่ย”
“จริงสิ”
“ถ้าอย่างนั้นศิษย์ขอฝากตัวกับอาจารย์เลยนะครับ”
ชายเล็กพูดจบก็รีบคุกเข่าคารวะเสี่ยชาญ จังหวะนั้นหมวยเล็กเดินผ่านมาพอดี
“คุกเข่าทำไรกันน่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอก ผมกลับบ้านก่อนนะครับ”
ชายเล็กรีบไหว้เสี่ยชาญก่อนจะเดินออกไป หมวยเล็กยืนงง
หมวยเล็กยืนนวดไหล่ให้เฮงอยู่ ปากก็พูดคุยโวไปด้วย
“หมวยเรียนเทควันโดแล้วนะเตี่ย เดี๋ยวหมวยจะเอาสายดำให้ได้เลยคอยดู”
“ถ้าสายดำแล้วเดี๋ยวเตี่ยซักให้ จะได้สะอาดๆ”
“โห่ สายดำมันคือระดับของฝีมือเตี่ย ไม่ใช่สายดำ สกปรกแล้วต้องซัก”
หมวยเล็กพูดจบ ตี๋ใหญ่ที่เพิ่งกลับจากที่ทำงาน ก็เดินเข้ามานั่งพัก ด้วยท่าทางเหนื่อยๆ เฮงหันไปถามอย่างเป็นห่วง
“งานหนักเหรอ”
“เหนื่อยขับรถครับเตี่ย เพลียมาก เผลอหลับไปตั้ง 3 ตื่น”
หมวยเล็กตกใจ “เฮ้ย อันตรายนะเฮีย”
“อันตรายอะไรล่ะ ติดนิ่งอยู่กับที่เลย ตื่นที่สามฟื้นขึ้นมา ยังไม่ขยับไปไหน”
จังหวะนั้นตี๋เล็กก็ยกหม้อ กระทะ ตะหลิว ทัพพีออกมาวาง หมวยเล็กหันมาถามอย่างสงสัย
“จะเอาไปไหนน่ะเฮีย”
“จะเอาไปให้แม่ค้าข้าวแถวมหาลัยยืมหน่อยน่ะ พอดีร้านเค้าถูกป่วน”
“แล้วของนี่เราไม่ใช้เหรอ” ตี๋ใหญ่ย้อนถาม
“ไม่นะเฮีย อั้วเลือกเฉพาะที่เราไม่ใช้แล้วน่ะ”
“แหม ช่วยเต็มที่เชียวนะ แม่ค้าสวยอ่ะเด๊” เฮงถามล้อๆ
“สวยอะไรล่ะเตี่ย คนละรุ่นกันเลย”
หมวยเล็กรีบบอก “เตี่ยก็มองเฮียแง่ร้าย เฮียเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจ”
ตี๋ใหญ่เอียงหน้าไปกระซิบกับเตี่ย “สงสัยลูกสาวสวย”
“มันทุ่มเทเกินไป ทุ่มแบบนี้หวังผลอยู่เรื่องเดียว เรื่องผู้หญิง”
หมวยเล็กมองค้อน “โห่ เตี่ยพูดอย่างนี้ เตี่ยว่าเฮียหน้าหม้อเลยดีกว่า”
“เออ ไอ้หน้าหม้อ”
ตี๋เล็กเริ่มงอนจริงๆ “ถ้าเตี่ยไม่เชื่อก็ไปดูที่มหาลัยได้นะ พี่เค้าเดือดร้อนจริงๆ”
เฮงเห็นท่าทีของลูกชายคนรอง ก็ทำงอนกลับ
“แหมๆๆ ทีคนอื่นละช่วยเต็มที่ ทีที่บ้าน เดี๋ยวนี้ไม่คิดจะมาช่วยดูแล”
“ก็อั๊วเรียนจริงๆ นี่ แล้วที่ไปช่วยพี่เค้าได้ก็เพราะว่าร้านพี่เค้าอยู่ใกล้ๆ มหาลัย”
ตี๋ใหญ่พยายามสะกิดเตือนเตี่ย แต่เฮงหยุดไม่อยู่แล้ว
“งั้นก็ไปกินนอนอยู่ที่มหาลัยเลยมั้ยล่ะ”
ตี๋เล็กขี้เกียจเถียง เลยรีบเดินออกไป
“เอะอะ เดินหนี..เอะอะ เดินหนี มีขาอยู่คนเดียวรึไง”
เฮงพูดสะบัดๆ ก่อนจะเดินออกไปอีกคน
ตี๋ใหญ่ส่ายหน้าเซ็ง “เขี่ยเล่นๆ กลายเป็นชินจังได้ไง”
หมวยเล็กรีบพูดแก้ “จริงจัง ยังมีอารมณ์เล่นมุกอีกนะเฮีย”
2 พี่น้องหันมายิ้มเจื่อนๆ กัน 2 คน
อีกฟากหนึ่ง แก้วกัลยากำลังง่วนทำบัญชีร้านอยู่ โดยมีหญิงใหญ่กับหญิงเล็กคอยคัดแยกบิลต่างๆ อยู่ใกล้ๆ
พักหนึ่งชายเล็กก็เดินเหงื่อท่วมตัวเข้ามาในบ้าน หญิงเล็กหันไปเห็น ก้ร้องทัก
“โห ไปตกน้ำที่ไหนมาชายเล็ก”
“ตกน้ำอะไรล่ะ ผมไปวิ่งมา”
แก้วกัลยามองอย่างเป็นห่วง “วิ่งหนักไปมั้ยลูก จะฟิตไปไหนเนี่ย”
“ผมจะเป็นสุดยอดนักมวยไทยให้ได้ครับ”
ฮันนี่ที่เดินถือไม้กวาดผ่านมาได้ยิน ก็หันมาถาม
“จะเป็นนักมวยไทยน่ะ ตั้งชื่อรึยังคะ”
หญิงใหญ่รีบพยักหน้ารับ “เออใช่ มันต้องมีชื่อนะ ถึงจะครบ”
“เหรอ ช่วยผมตั้งชื่อหน่อยสิ ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้น่ะ”
ฮันนี่ทำท่านึก “ชื่อนักมวยต้องลงท้ายด้วยชื่อสินค้าค่ะ อย่างคุณชายเล็กต้อง...คุณชายเล็ก ข.ไก่ย่างห้าดาว”
“เอาข้าวเหนียวด้วย ยี่สิบ”
“เดี๋ยวฮันนี่ไปซื้อมาให้ค่ะ” ฮันนี่ทำท่าจะเดินออกแล้วช็อต “No! ฮัน นี่ตั้งชื่อให้ค่ะ ไม่ได้จะไปซื้อไก่ย่าง”
หญิงใหญ่ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“ของกินพี่ว่าไม่เวิร์ค ต้องอะไรที่เกี่ยวกับโรงยิม ถึงจะดูเข้มแข็ง”
หญิงเล็กคิดตาม “ชายเล็กศิษย์ลำยอง ยาดองยิม”
แก้วกัลยาทำท่าเปรี้ยวปาก
“แหม เอาซะอยากยาดองเลย เฮ้ย ไปเอา ยาดองมากั๊กนึงซินังฮันนี่”
“ได๋ค่า เย้ย เอาจริงเหรอคะคุณนาย”
“คิดว่าจริงมั้ยล่ะ”
“ โวะ ลักษณะจะไม่ได้เรื่อง ไปอาบน้ำดีกว่า”
ชายเล็กส่ายหน้าเซ็ง แล้วรีบเดินขึ้นบ้านไป แก้วกัลยานับเงินค่าเช่ายื่นให้หญิงใหญ่
“อ่ะ หญิงใหญ่ เอาค่าเช่าไปจ่ายเสี่ยชาญให้แม่หน่อย”
“ค่ะแม่”
หญิงใหญ่รับคำ แล้วรีบเดินออกไป
เวลาเดียวกันนั้นเอง ตี๋ใหญ่ก็กำลังยื่นเงินให้เสี่ยชาญ
“คบนะ”
“เสี่ยเป็นเกย์เฒ่าเหรอ จะมาชวนผมคบด้วยเนี่ย”
เสี่ยชาญแกล้งลูบไล้ทั่วตัวตี๋ใหญ “จะลองดูมั้ยล่ะ”
ตี๋ใหญ่สบตาเคลิ้มและเหนียมอายเล่นด้วยขำๆ หญิงใหญ่ที่เดินมาพอดี เห็นเข้าก็ทำท่าขนลุก “อั๊ยย๊ะ”
ตี๋ใหญ่กับเสี่ยชาญหันมาเห้น ก็สะดุ้งพร้อมกัน “เย้ย”
เสี่ยชาญ รีบอธิบาย “อั้วไม่ได้เป็น ที่ว่าคบเนี่ยหมายถึงเงินน่ะคบมั้ย”
“ก็ควบกล้ำให้มันชัดสิเฮีย ครบน่ะครบ”
“พูดปกติอั๊วยังไม่ชัดเลย ควบกงควบกล้ำไม่ต้องมาหวังหรอก”
หญิงใหญ่หันมองตี๋ใหญ่อย่างจับผิด
“แล้วนายล่ะ เมื่อกี๊ฉันเห็นส่งสายตากับเสี่ยเค้าอยู่นะ”
“ผมก็เคลิ้มเล่นกับเสี่ยเค้าฮาๆน่ะ”
หญิงใหญ่ถอนใจโล่งอก “เฮ้อ..ตวดอวดตวดใจหมด”
“มาจ่ายค่าเช่าชิมิ”
หญิงใหญ่รีบยื่นเงินให้ “ค่ะ”
เสี่ยชาญหน้าบานเป็นกระด้ง “วันนี้รวยเว้ย ไปปล่อยโคซักตัวสองตัวดีกว่า”
หญิงใหญ่มองอย่างชื่นชม
“โห..ใจบุญสุดๆเลยเสี่ย จิตใจเสี่ยช่างประเสิรฐยิ่งนัก”
ตี๋ใหญ่รีบบอก “ โคโยตี้สิไม่ว่า”
“โห..เฒ่าหัวงู แก่ตัณหากลับ ศีลธรรมบกพร่อง บาปหนา ไม่เจียมสังขาร ไอ้...”
เสี่ยชาญรีบโบกมือห้าม “พอเลี้ยว”
หญิงใหญ่หน้าจ๋อย “โทษทีค่ะเสี่ย ลืมตัวไปนิดนึง”
“มาเป็นชุดไม่นิดแล้วล่ะ” ว่าแล้วก็หันมาพูดกับตี๋ใหญ่ “ลื้อก็ไม่น่ากระโตกกระตากไป เดี๋ยวอั๊วก็ไม่มีใครเคารพนับถือกันพอดี”
“ขอทวด อั๊วไม่ได้ตั้งใจ”
“เอ้อ แล้วเตี่ยลื้อกับแม่ลื้อเป็นยังไงกันบ้าง ผลัดกันช่วยเหลือแก้ปัญหากันมาคนละครั้งเนี่ย คุยดีกันได้บ้างรึยัง”
ตี๋ใหญ่ส่ายหน้าช้าๆ “ก็ยังนะเสี่ย แต่ผมว่าเตี่ยผมก็อ่อนลงมาเยอะแล้วล่ะ”
“แม่ก็เหมือนกันค่ะ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้ก็ดูอ่อนลงมาเยอะแล้วล่ะ”
“ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่วันนี้ พลังของคนหนุ่มสาว ได้ผลักดันกำแพงของความเกลียดชังให้ทลายลงได้ อั๊วยินดียิ่งนัก ที่ลื้อทั้งสองฝ่าฟันกันจนมาถึงจุดนี้ได้”
ตี๋ใหญ่กับหญิงใหญ่ฟังแล้วก็ทำท่าเคลิ้มพนมมือเหมือนจะรับน้ำสังข์
“ขอให้ลื้อทั้งสอง ครองคู่กันจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรนะ”
ตี๋ใหญ่กับหญิงใหญ่ รับคำพร้อมกัน “ครับเสี่ย-ค่ะเสี่ย...เย้ย”
เสี่ยชาญยิ้มขำ “แหม ช็อตอย่างกับตลกมืออาชีพ ถ้าลื้อเอาดีด้านนี้ขึ้นมา ตลกได้แทะฝาบ้านกินกันหลายคนเลยล่ะ”
ตี๋ใหญ่กับหญิงใหญ่มองหน้ากันเขินๆ
อ่านต่อหน้าที่ 3