ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 12
ทางฝ่ายพริมเมื่อถึงเวลาก็มาไขกุญแจที่ล่ามโซ่ประตูห้องพักเพชรไว้ เปิดออกตะโกนเรียกเพชร
“ได้เวลาซ้อมแล้ว”
เพชรหน้าเป็นตูด งัวเงียเดินออกมาน้ำเสียงประชดประชันตามประสา
“คราบคุณแม่”
อรชรกับเอื้อยเข้ามา อรชรถามหาขนุนหลังเดินหากับเอื้อยทั่วค่ายมวย
“พริม เห็นขนุนรึเปล่า”
“ขนุนเหรอ น่าจะนอนอยู่นะ”
ขนุนในชุดนอนทำเป็นงัวเงียง่วงงุนเดินมาจากอีกทาง
“มีอะไรเหรอจ๊ะ ชั้นไปห้องน้ำมา”
“ขนุน เมื่อกี้เธอไปที่บ้านลิเกมารึเปล่า” อรชรจ้องจับผิด
ขนุนทำไขสือเนียนๆ “ไปทำไมบ้านลิเก ชั้นไม่ได้มีธุระอะไรที่นั่นซะหน่อย นี่ชั้นเพิ่งตื่นนอนจ้ะ”
เอื้อยไม่เชื่อ “ก็เมื่อกี้ เราไปเก็บดอกที่บ้านลิเก เห็นใครไม่รู้แว้บๆ เหมือนขนุนมากเลย”
เพชรรีบแก้ตัวให้ “อ๋อ นางเอกใหม่คณะเราเอง หน้าตาเค้าเหมือนขนุน แต่ไม่ใช่ขนุนหรอก”
“ใช่ วันก่อนก็มีคนบอกว่า มีนางเอกลิเกหน้าตาคล้ายขนุน เล่นอยู่กับคณะน้าเริง” พริมผสมโรง
“งั้นก็แล้วไป”
เพชรสบโอกาสแกล้งด่าพริม “แล้วยังมีนางเอกอีกคน หน้าเหมือนพริมมากเลย แต่รำแข็งอย่างกับหุ่นไล่กา ร้องหนวกหูอย่างกับห่านป่า พ่อไล่ออกจากคณะไปแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ”
พริมโมโห ชกแขนเพชร
“อ้าว เดือดร้อนทำไมเนี่ย”
พวก รักษ์ สำเริง ลูกดอก แฉะ กำลังคุยกันเรื่องอรชรมาเจอขนุนวันนี้ ส่วนจริยาเล่นฮูล่าฮูปอยู่แถวนั้น
“ระวังดีๆ นะรักษ์ ถ้าแม่อรจับได้ขึ้นมาว่าขนุนมาร้องรำทำเพลงอยู่ที่นี่ ชั้นจะเดือดร้อน”
“ครั้งต่อไปชั้นว่าจะกลับไปซ้อมที่วัดแล้วล่ะ อย่างน้อยน้าอรคงไม่กล้าโวยหลวงพ่อ”
อยู่ๆจริยาเป็นลมล้มลงกับพื้น
“เฮ้ยๆๆ ช้างล้ม”
แฉะกับลูกดอกกำลังจะเข้าไปช่วยแต่จริยาลุกขึ้นมายืนเล่นใหม่
“อ้าว ไม่ได้เป็นลมเหรอ”
“เปล่า ชั้นแค่ซ้อมเฉยๆ ว่าถ้าเป็นลมจะล้มท่าไหนดี”
“กินก็น้อยแล้วยังหักโหมเล่นอีก เดี๋ยวก็ได้เป็นลมจริงๆ หรอก” แฉะว่า
“เป็นลมก็ดี เบาดี ชั้นจะต้องเพรียว ผอมบาง เบาเหมือนสายลม และเมื่อนั้นชั้นก็จะสวยกว่านังยอดสร้อย”
สำเริงนึกได้ “พูดถึงยอดสร้อย นี่มันหายไปไหนของมัน ตั้งแต่มันกลับมานี่ชอบทำลับๆ ล่อๆ เดี๋ยวหาย เดี๋ยวหายตลอดเลย”
“ติดผู้ชายคนใหม่รึเปล่า ชั้นเห็นพี่ยอดสร้อยชอบแอบคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้”
ระหว่งนี้ จริยาเป็นลมล้มตึงลงไป
แฉะหงุดหงิดรำคาญ “จะซ้อมทำไมบ่อยๆ ลุกขึ้นมา”
จริยาแน่นิ่งไม่ไหวติง
“หรือว่าเป็นลมจริงๆ”
รักษ์เข้าไปเขย่าดู ก็เห็นว่าจริยาเป็นลมจริงๆ และแน่นิ่งไปแล้ว
“อ้าว นิ่งไปแล้ว มาช่วยกันหน่อยเร็ว”
ทุกคนส่ายหัว
เย็นจวนค่ำ พริมยื่นดัมเบลขนาดเล็กให้เพชร 2 อัน
“ชกลมให้ได้ 300 ครั้ง ภายใน 1 นาที”
“เว่อร์แล้ว คนนะไม่ใช่ลิง ใครจะไปมือไวขนาดนั้น”
“เธอต้องมือไวกว่าลิงด้วยซ้ำ เพราะการจะแย๊บใส่หน้าไอ้จีบัน มีเวลาแค่เสี้ยววินาที เพราะฉะนั้นหมัดที่ปล่อยออกไปต้องแรงและเร็ว”
“จะลองดูก็แล้วกัน”
เพชรกำดัมเบลไว้ ตั้งท่าจะชก บุญหลงถือนาฬิกาจับเวลา
“พร้อมแล้ว... เริ่ม!”
เพชรชกลมอย่างตั้งใจ เวลาผ่านไปอีก บุญหลงกดหยุดเวลา เพชรหยุด เหนื่อยโฮก หอบแฮก
“หมดเวลา”
พริมบอกว่า “148 ที”
“ยังไม่ถึงครึ่งเลยเหรอ? นับผิดป่าว”
“ไม่ผิด เธอทำได้เท่านี้จริงๆ ยอมรับเถอะว่ายังอ่อน”
“ลองอีกที” เพชรตั้งท่าชกลม
“พร้อมนะ ...เริ่ม”
เพชรชกลมอย่างมุ่งมั่น เวลาล่วงไป บุญหลงกดหยุดเวลา
พริมบอก “132 ที”
“เฮ้ย แกล้งนับผิดป่าวเนี่ย ทำไมมันลดลงล่ะ”
“เพราะแขนเธอมันไม่มีแรง แป๊บเดียวมันก็ล้าแล้วน่ะสิ ถ้ายังเป็นอย่างนี้นะ ขึ้นยก 2 แรงต่อยของเธอก็จะเหมือนเอาสำลีไปลูบหน้าคู่ต่อสู้”
เพชรฮึดขึ้นมา เพราะถูกหยาม
“เอาใหม่” แล้วตั้งท่าจะชกลม
“ไม่ต้องแล้ว เอาใหม่ก็ได้น้อยกว่าเดิมอีก”
เพชรยิ่งโกรธสั่ง “บุญหลง! จับเวลา”
พริมสั่ง “บุญหลง ไม่ต้อง” สองคนทะเลาะกันอีกจนได้
“จับเวลา”
“ไม่ต้อง”
เพชรไปแย่งนาฬิกาจับเวลามาจากบุญหลง เอามากดแล้วคืนให้บุญหลง, แล้วเริ่มชก
พริมไปเอานาฬิกามากดหยุด เพชรเข้าไปแย่งอีก สองคนยื้อกันไปมา จนอรชรเข้ามาเห็น
“ทำอะไรกัน”
เพชร กะ พริมตกใจ รีบทำเป็นดีกัน
“อ๋อ เรากำลัง...”
พริมเสริม “ฝึกกำลังแขนกันอยู่จ้ะ ...นี่ไง” พร้อมกับทำท่าให้ดู
พริมกับเพชรทำท่ายื้อไปยื้อมาเป็นการฝึกกำลัง
“ท่าใหม่เหรอ”
“ใช่จ้ะ ได้กำลังแขนดีมากเลยนะน้าอร”
“จริงเหรอ ไม่เคยเห็นใครเค้าทำกันเลย”
บุญหลงรีบช่วยแก้ให้ “เราเพิ่งคิดกันน่ะจ้ะ ฝึกแบบ 3 คนก็ได้”
พลางบุญหลงเอามือไปจับด้วย แล้วเพชร พริม บุญหลง ยื้อกันเป็น 3 ทาง
“นี่ไง”
“ดีๆ เดี๋ยวให้คนอื่นลองฝึกบ้าง”
พออรชรออกไปลับตัว เพชรกะพริมปล่อยมือจากกัน แล้วแยกเขี้ยวใส่กันอีก บุญหลงเซ็ง
อ่านต่อหน้า 2
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 12 (ต่อ)
ปิ่นโตของยอดสร้อยวางอยู่บนโต๊ะกินข้าวในบ้านลิเกถูกเปิดออก กับข้าวพร่องไปใกล้หมดแล้ว จริยากำลังตักคำสุดท้ายกินอย่างหิวโหย หมดพอดี คนอื่นๆ นั่งดูจริยากิน
“เป็นไง ผอมเพรียวบางเบาเหมือนสายลม ทีนี้ล่ะยัดใหญ่เลย วันหลังก็ให้มันมีความพอดีบ้าง เข้าใจมั้ยเดินทางสายกลาง” สำเริงแดกดัน
“ดีนะที่มีกับข้าวของยอดสร้อยเหลือไว้ในตู้กับข้าว ไม่งั้นคงต้องให้กินดินรองท้องไปก่อน” แฉะว่า
“เอ๊ะ กับข้าวนี่เห็นว่าจะเอาไปให้เพชรไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเหลือกลับมาล่ะ” รักษ์แปลกใจ
“พี่พริมไม่ยอมให้พี่เพชรกินน่ะสิ พี่ยอดส้รอยก็เลยต้องเอากลับ เป็นลาภปากพี่จริยาไป”
จู่ๆ จริยารู้สึกปวดท้อง “อุ๊ย”
“เป็นอะไรอีกล่ะ” แฉะรำคาญ
“ปวดท้อง ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” จริยาวิ่งปรู๊ดไป
“ของใหม่เข้าปุ๊บ ของเก่าก็ออกปั๊บเลยนะ”
ที่ค่ายมวย เพชรกำลังยกบาร์เบล บุญหลงเซฟให้ พริมยืนคุมซ้อม
“ถ้าต่อยโดนแต่ต่อยไม่แรงก็ไม่มีประโยชน์ เพราะฉะนั้นต้องฝึกกำลังแขนก่อน เหลืออีก 5 เซต แล้วไปท่าต่อไป”
ยอดสร้อยถือกระติกน้ำขนาดย่อมเข้ามา
“เพชร ชั้นเอาน้ำมะตูมเย็นชื่นใจมาให้จ้ะ พักกินน้ำมะตูมก่อนนะ” บอกกับพริมว่า “คงไม่ข้อห้ามนักมวยดื่มน้ำจากที่อื่นหรอกนะ ใช่มะ”
พริมทำหน้าตึงใส่ เพชรหยุดยก กำลังจะวางบาร์เบล
“ขอบคุณพี่ยอดสร้อยจ้ะ กำลังหิวอยู่พอดี”
“ไม่ห้ามกินน้ำจากที่อื่น แต่ห้ามกินระหว่างซ้อม” พริมว่า
เพชรโอด “ก็ชั้นหิวน้ำ”
“เดี๋ยวจะจุก รอพักก่อน”
“ก็ได้จ้ะ ชั้นรอได้”
ยอดสร้อยหนีบกระติกไปนั่งรอ แอบค้อนควักทำหน้าทำตาหมั่นไส้พริม
เพชรยกบาร์เบลต่อ
รักษ์ สำเริง ลูกดอก ยืนรอหน้าห้องน้ำ ทุกคนเป็นห่วงจริยา
“เข้าห้องน้ำรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย”
ลูกดอกบอก “3 แล้ว”
จริยาเปิดประตูห้องน้ำออกมา ท่าทางอิดโรย
“ต้องเป็นผัดเผ็ดกับไก่ทอดของนังยอดสร้อยแน่ๆ เลย”
“แต่พี่ยอดสร้อยเพิ่งจะทำเมื่อกลางวันนี้เองนะ ไม่น่าจะเสีย”
แฉะถือซองยาถ่ายเข้ามา
“นี่ๆ ชั้นเจอซองยาถ่ายอยู่ในถังขยะในครัว”
สำเริงแปลกใจ “มาได้ไง บ้านเราไม่มีใครท้องผูกนี่”
“นังยอดสร้อยวางยาชั้นแน่เลย ว้าย มาอีกแล้ว”
จริยาวิ่งเข้าห้องน้ำไป
ลูกดอกตั้งข้อสังเกต “พี่ยอดสร้อยจะวางยาพี่จริยาได้ยังไง เพราะพี่ยอดสร้อยไม่รู้ว่าพี่จริยาจะมากินซะหน่อย”
ทุกคนสุมหัวคิด ในที่สุดรักษ์คิดได้
“ยอดสร้อยตั้งใจวางยาเพชร”
ฝ่ายเพชรยกบาร์เบลเฮือกสุดท้ายสุดกำลังจนครบ
“47… 48...49…50”
บุญหลงยกบาร์เบลไปเก็บ
“พักแล้วใช่มั้ย”
พริมพยักหน้า ยอดสร้อยเอากระติกน้ำไปให้เพชร
“นี่จ้ะเพชร น้ำมะตูมชั้นต้มเองเลยนะ”
“ขอบคุณจ้ะ”
เพชรกำลังจะดูดน้ำ พริมทักไว้ “เดี๋ยว”
“อะไรอีกล่ะ พักแล้วไม่ใช่เหรอ” เพชรหงุดหงิด
“น้ำมะตูมนี่ใส่อะไรบ้าง”
“ก็ใส่มะตูมแห้งกับน้ำตาลน่ะสิ ไม่เคยทำกินรึไง” ยอดสร้อยหงุดหงิดมาก
“น้ำตาลใส่แค่ไหน หวานเกินไปรึเปล่า หวานไปก็อ้วนนะ”
ยอดสร้อยฉุนกึก “เอ๊ะ นี่หาเรื่องกันเหรอ น้ำมะตูมก็ต้องหวานสิ น้ำมะตูมบ้านไหนเค็ม”
บุญหลงตัดบท “ไม่เป็นไรหรอกพริม ถ้ากินหวานมาก เราก็ให้วิ่งเพิ่มเป็น 20 กิโล เดี๋ยวก็เผาผลาญหมด”
เพชรถามเสียงประชด “กินได้รึยังครับคุณแม่”
พริมเซ็งๆ พยักหน้า เพชรกำลังจะดูดจากหลอด
ยอดสร้อยลอบมองสายตาร้ายกาจแต่ไม่มีใครเห็น
“อ้าว ทำไมดูดไม่ขึ้นล่ะ”
“ต้องขึ้นสิ ดูดแรงๆ”
เพชรดูดอีก “ไม่ขึ้นอ่ะพี่ยอดสร้อย” เพชรตรวจดูหลอด “อ๋อ หลอดมันแตก”
ยอดสร้อยเอาหลอดทิ้ง “งั้นก็ยกซดเลย”
เพชรกำลังจะยดซด รักษ์ปราดเข้ามาอย่างว่องไว ปัดกระติกตกน้ำมะตูมหกกระจาย แฉะ ลูกดอก และสำเริงตามมาด้วย
“ทำอะไรพี่รักษ์ เสียของหมด”
“กินไม่ได้นะ ในน้ำมียาถ่าย” รักษ์โพล่งขึ้น
ยอดสร้อยตกใจ
อ่านต่อหน้า 3
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 12 (ต่อ)
ถัดมา เพชร พริม สำเริง ยืนล้อมกรอบยอดสร้อย ที่นั่งหน้าเสียอยู่ ข้างหน้าเป็นหลักฐานกระติกน้ำ ซึ่งเหลือน้ำนิดหน่อย
“แกวางยาไอ้เพชรมันทำไม” สำเริงถาม
ยอดสร้อยพูดเสียงรัว “วางยงวางยาอะไร ฉันหวังดีเอาน้ำมาเสิร์ฟ มากล่าวหากันอีก”
พริมจ้องหน้า “งั้นกล้าดื่มน้ำในกระติกนี้ไหม”
ยอดสร้อยหยุดกึก
“พี่ยอดสร้อยเค้าไม่ได้วางยาชั้นหรอก เข้าใจผิดกันหมดแล้ว”
คำพูดเพชร ทำให้ยอดสร้อยยิ้มมีหวัง
เพชรบอกต่อว่า “ดื่มเลยพี่”
ยอดสร้อยอึกอัก “ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าฉันบริสุทธิ์ใจจริงๆ ฉันจะ...ดื่ม...”
นางเอกลิเกจอมมารยาค่อยๆ หยิบกระติกขึ้นมายกจะดื่ม จ่อเข้ามาใกล้ๆ ปาก แต่แล้วยอดสร้อยก็แกล้งจาม
“ฮัดเช้ย” ยอดสร้อยปล่อยกระติกตกพื้นน้ำหก “ว้าย หกหมดเลย อย่างนี้ก็อดพิสูจน์สิ อยากพิสูจน์มากเลยนะเนี่ย”
รักษ์เดินเข้ามา
“งั้นกินข้าวในปิ่นโตนี้แทนละกัน”
ลูกดอก กะ แฉะ หิ้วปีกจริยามาอย่างทุลักทุเล
“จริยากินเข้าไป เลยเป็นแบบเนี้ย”
จริยาหมดแรง ผายลมออกมา ทุกคนเบี่ยงหน้าหนีเซ็งโครตๆ
“อื้อหือ...”
ลูกดอก กะ แฉะ ปล่อยจริยากระแทกพื้น
“โอ๊ย! เบาๆ ซี่ อุ๊ยๆ มาอีกแล้ว”
จริยารีบคลานออกไป ผายลมไปด้วยตลอดทาง
สำเริงซักฟอกใหม่ “จะแก้ตัวยังไง”
“แล้วคืนนั้นพี่ก็จับพี่เพชรกรอกเหล้าเข้าปาก กะมอมพี่เพชรใช่ไหมล่ะ” ลูกดอกคาดคั้น
ยอดสร้อย “ก็ได้ ฉันยอมรับแล้ว แต่ฉันมีเหตุผลนะ”
“ฉันฟังอยู่” เพชรจ้องรอฟัง
“งั้นแป๊บนึง ฉันมีอะไรจะให้ดู”
ยอดสร้อยเดินออกไป ทุกคนมองตามและเฝ้ารอ
เวลาผ่านไป ทุกคนยังนั่งรอยอดสร้อยมาสารภาพอยู่ แต่รอนานจนชักเริ่มเซ็ง
“ไปเอาอะไรของมันวะ นานไปไหม?” สำเริงบ่น
ทุกคนประสานเสียงบอก “มาก”
จริยาเดินอ่อนล้าโรยแรงเข้ามา
“ไอ้รักษ์ ช่วยพี่ด้วย พี่ทำส้วมตัน”
“เดี๋ยวก่อนได้ไหม เรารอยอดสร้อยกันอยู่”
“อ้าวไม่ได้ไล่มันไปเหรอ ฉันเห็นนังยอดสร้อยหอบของขึ้นสองแถวไปตั้งนานละนะ”
ทุกคนร้อง “ห๊ะ”
“มันไปเอาของไกลเนอะ” สำเริงงงอยู่
“มันหนีไปแล้ว”
ทุกคนพากันตกอกตกใจ
ขณะที่ เพชร และ พริม กำลังเดินกลับค่ายมวย จู่ๆ เพชรก็ร้องขึ้นมาโดยไม่ปี่ไม่มีขลุ่ยว่า
“ห๊ะ อะไรนะ”
“ไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย”
“อ้าวเหรอ นึกว่าจะขอโทษ”
“ขอโทษ?” พริมพูดเป็นเชิงถาม
เพชรบอกว่า “ฉันยกโทษให้”
พริมเม้ง “ฉันถาม! ขอโทษเรื่องอะไร”
“เอ้า ก็ที่เธอด่าฉันเรื่องกินเหล้าไง”
“แล้ว?”
“พี่ยอดสร้อยเขากรอกเหล้าฉันต่างหาก”
พริมหมั่นไส้ขึ้นมา “แล้วกรอกปากใคร”
“ปากฉัน”
“แล้วใครเมา”
“ฉันเมา”
“งั้นฉันต้องด่าใคร”
“ด่าฉัน...” เพชรพูดแล้วถึงคิดได้ “เฮ้ย ไม่ใช่ดิ นี่ๆ ขอโทษมาเลย”
“เพราะไงนายก็มีส่วนเหมือนกัน”
“อย่าให้เธอเป็นฝ่ายผิด แล้วฉันถูกบ้างนะ คอยดู ถึงเธอใส่ชุดลิเก ออกมารำขอโทษ ฉันก็ไม่ดีด้วยหรอก”
พริมลอยหน้าใส่ “โอ๊ย จ้า คงมีวันนั้นหรอก... แต่ถ้าเธอทำผิดอีกครั้งละก็ ไม่ต้องขอโทษฉันหรอกนะ”
“ไมอะ”
พริมพูดด้วยน้ำเสียงอย่างเหี้ยม “เพราะฉันจะซัดให้หมอบ จนไม่มีแรงจะพูดได้เลยไง”
พริมเดินออกไป เพชรบ่น
“คนอะไรพูดเล่นยังดูน่ากลัว”
พริมตะโกนกลับมาขึงขัง
“พูดจริง”
อ่านต่อหน้า 4
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 12 (ต่อ)
ขณะที่รักษ์ ปิดไฟตรวจตราในบ้าน กำลังจะขึ้นนอน จู่ๆ ประตูบ้านก็เปิดแง้มออกมา รักษ์เริ่มหวั่น ค่อยๆ เดินเข้าไปดู
มีมือยื่นมาตะปบกรอบประตู รักษ์ตกใจร้องลั่น
“อ๊าย”
มือนั้นคือมือจริยา ที่จับประตู แล้วค่อยๆ พยุงตัวเข้ามาในบ้าน
รักษ์รีบไปเปิดไฟ เจอจริยาหน้าซีดหมดแรง
“โอ้ย! ตกใจหมด แล้วนี่ไปเที่ยวไหนมา กลับมาดึกๆ ดื่นๆ”
“เที่ยวไหนได้ล่ะ สภาพงี้เนี่ย ฉันแอบไปเข้าส้วมที่ค่ายมวยมา”
รักษ์เง็ง “เอ้า ที่บ้านก็มี ทำไมไม่เข้า”
ลูกดอกวิ่งเข้ามา ทำท่าขยักขย้อนจะอ้วก
“แหวะ! พี่รักษ์อย่าเข้าส้วมนะ จริยาทำส้วมเต็ม เอ่อมานอกโถละเนี่ย”
ลูกดอกวิ่งออกไปเลย รักษ์นึกตามแล้วทำหน้าเหยเก จริยายิ้มอายๆ รักษ์เห็นใจ
“มันเป็นเรื่องสุดวิสัยนี่เนอะ ใครจะอยากท้องเสียจนซูบแบบนี้ละ”
รักษ์พูดขำๆ ส่ายหน้า แต่จริยาลืมตาเบิกโพลง
“รักษ์ว่าอะไรนะ พี่ผอมเหรอ”
รักษ์พยักหน้า “หื้ม”
“ฉันผอมแล้วใช่ไหม เย่ๆๆๆ”
จริยากระโดดโลดเต้นดีใจ ไขมันกระเพื่อม
“เปล่า” รักษ์ว่า
จริยาหยุดกึก
“ถ้าพี่จริยาจะผอมจริง คงต้องไปกินปิ่นโตยอดสร้อยอีกสัก 10 มื้อน่ะ ผอมแน่”
จริยาคิดตาม แล้วยิ้มกริ่มออกมา
ทางฝ่ายยอดสร้อยถือกระเป๋ามาหน้าค่ายมวยเมฆดำยิม เจอเด็กชายไข่เค็มจึงบอกว่า
“ไปบอกป๋าที ว่าฉันกลับมาแล้ว”
“บอกเองไหมครับ” ไข่เค็มบอก
ยอดสร้อยฉุน “เอ้า กวนเหรอ”
ไข่เค็มส่ายหน้า “ก็ป๋ามาโน่นแล้ว”
เมฆดำเดินเข้ามาหน้าตาอย่างเบิกบาน พร้อม เม่น และ เก้ง
“น้องสร้อย งานสำเร็จไหมจ้ะ”
ยอดสร้อยยิ้มแห้งๆ เมฆดำยิ้มกว้าง
ที่แท้นางเอกลิเกจอมมารยา วางยาเพชรตามใบสั่ง ป๋า หรือ เมฆดำ จีบันยิม
เมฆดำนั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ในออฟฟิศของค่ายมวย ผิดกับก่อนหน้าราวฟ้ากับเหว
“บอกแล้วว่าวิธีนี้มันไม่เวิร์ค ป๋าก็จะให้สร้อยไปอยู่ได้ ไม่รู้แหละ ยังไงสร้อยก็ไปให้ตามที่ป๋าขอแล้ว อย่าลืมทำตามที่สัญญานะ”
เมฆดำยังนั่งนิ่งอยู่ท่าเดิม ไม่กระพริบตา
“ป๋า สร้อยทำดีที่สุดแล้วนะ สร้อยยอมทรยศคนที่คณะ ที่เป็นเหมือนครอบครัวสร้อย ก็เพื่อป๋า...”
เมฆดำยืนพรวดขึ้นทันที ไม่ฟังยอดสร้อยพูดให้จบ
“ไอ้เม่นไปเอายาฉีดยุงมาดิ๊ ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรมาบินวิ๊งๆ อยู่ในห้องเนี่ย”
เม่นงงๆแต่ก็ไปหยิบกระป๋องฉีดไล่ยุงมา
ยอดสร้อยออดอ้อน “ป๋า”
เม่นเอายาฉีดยุงยื่นให้เมฆดำทันที เมฆดำหยิบกระป๋องมาฉีดใส่ยอดสร้อย
ยอดสร้อยกรี๊ด ปิดปัดพัลวัน “อร๊าย ป๋าทำไรเนี่ย”
“ไม่หมดซะทีโว้ยย”
เมฆดำกระหน่ำฉีดยาฉีดยุงใส่ ยอดสร้อยปัดละอองสเปรย์ ไอค่อกแค่ก ปากก็บ่นโวยวาย
“ป๋าจะมาพาลแบบนี้ไม่ได้นะ ยังไงป๋าก็ต้องทำตามที่สัญญาไว้อ่ะ”
เมฆดำไม่สนเดินชนยอดสร้อยจนกระเด็น เหมือนเห็นยอดสร้อยเป็นอากาศธาตุ
“โอ้ย รำคาญ! ยุงเยอะจริง! เม่น เก้ง พวกเอ็งรู้ใช่ไหม ว่าข้าไม่ชอบให้ยุง” เมฆดำหันมาพูดใส่หน้ายอดสร้อย “ไร้ประโยชน์ อยู่รกหูรกตา จัดการ!”
เม่น กะ เก้ง พยักหน้า ชูไม้ตียุงขึ้นมา กดแล้วมีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปทั้งไม้
เมื่อมองจากด้านนอกออฟฟิศ ได้ยินเสียงช็อตไฟฟ้าดังขึ้นจากในออฟฟิศ ก่อนจะเห็นยอดสร้อยร้องลั่น วิ่งพล่านออกมา
“อ๊าย...”
เม่น กะ เก้งวิ่งตามออกไปอย่างสนุกสนาน
“เฮ”
เมฆดำเดินตามออกมายืนดู สีหน้าหงุดหงิดสุดขีดที่แผนชั่วผิดพลาด
อ่านต่อตอนที่ 13