ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 8
เสียงคนดูโห่ร้องกันอย่างสะใจ อยากดูจีบันชกใจจะขาด จีบันก้าวขึ้นเวที แสยะยิ้มน่ากลัวชวนสยอง ที่สำคัญแลดูตัวใหญ่กว่าเพชรมาก พวกอรชรตกใจมาก
“เฮ้ย” อรชรปีนขึ้นเวทีไปโวย “ไม่ได้ ไม่ได้ ให้ต่อยกับจีบันไม่ได้ ก็เห็นอยู่ว่าเด็กชั้นเป็นมวยใหม่ มวยมันไม่สมกันนี่ ต้องจับฉลากใหม่”
เมฆดำกระโดดขึ้นมาบนเวทีตาม
“อ้าว แม่อร คนเราจะเป็นนักสู้ มันเลือกคู่ต่อสู้ไม่ได้หรอกนะ เจอใครมันก็ต้องสู้ทั้งนั้นแหละ ถ้าใจเสาะก็ยอมแพ้ซะ ก็เท่านั้นเอง”
“น้าอร! ชั้นจะสู้” เพชรบอก
“เออ ไอ้นี่ใช้ได้ รู้ว่าแพ้แน่ๆ แต่ก็ยังจะสู้ ฮ่ะๆๆ ได้ยินแล้วนะแม่อร” เมฆดำเยาะเย้ย
พริมดึงอรชรลงจากเวที ทุกคนมองเป็นห่วงเพชร ส่วนเพชรหน้าตามุ่งมั่นไม่กลัว พวกเมฆดำยิ้มมีเลศนัย
เสียงปี่กลองดังขึ้น เพชรเริ่มรำไหว้ครูด้วยความตั้งใจ จีบันอยู่อยู่ที่มุม ขยับแข้งขา เหยียดยิ้มเย้ยหยัน
อรชร พริม บุญหลง เอื้อย ชาติ แชมป์ เป็นห่วง เพราะมวยคนละชั้น เมฆดำและพวกสมุนยิ้มชั่ว ไข่เค็ม นึกเป็นห่วงเพชร
เวลาผ่านไปจนเพชรไหว้ครูเสร็จแล้วมาเข้ามุม พริมกระโดดขึ้นไปหาบอกเบาๆ ว่า
“ไอ้จีบันมันหมัดหนักมาก อย่าได้เข้าไปแลกกับมันเด็ดขาด หลบได้ให้หลบ เลี่ยงได้ให้เลี่ยง แล้วค่อยหาโอกาสแย๊บใส่”
เพชรพยักหน้า พริมเอาฟังยางใส่ให้เพชร
ที่มุมจีบัน เมฆดำอยู่ข้างๆ กำลังแนะทริก
“เอาให้ร่วงให้เร็วที่สุด ถ้ายื้อนานไปจะเสียชื่อ”
กรรมการมาเช็มนวมของเพชรและจีบัน จนเสียงระฆังเคาะ “เป๊ง”
“ยกที่ 1 เริ่มได้” โฆษกประกาศ
พริมกับเมฆดำลงจากเวที เสียงปี่กลองบรรเลงประโคมเร้าใจ
จีบันเดินเข้าหาเพชรอย่างเร็ว ปล่อยหมัดตรงใส่ เพชรไม่ทันตั้งตัว ตกใจ โดนเปรี้ยงเข้าเต็มๆ หงายหลังล้ม
อรชร พริม บุญหลง เอื้อย ชาติ แชมป์ ตกใจ
เพชรยันตัวลุกขึ้น กรรมการนับ เพชรพยักหน้ารับว่ายังไหว จีบันบุกเข้ามาอีก เพชรตั้งการ์ดมิดหัว จีบันระดมหมัดใส่เพชรไม่เลี้ยง เพชรเปิดการ์ดออกจะปล่อยหมัดบ้าง ก็โดนสวนเข้าให้ ลงไปนับอีก จีบันยังบุกระดมยิงหมัด
เพชรนึกถึงตอนซ้อมกับพริม พริมเงื้อหมัดจะชกเพชร เพชรรีบยกมือขึ้นบัง
เพชรเลยยกมือขึ้นบัง จีบันเตะสูงใส่ เพชรนึกถึงตอนลุงตกใจตื่น เตะใส่เพชร แต่เพชรหลบ พริมจับขาลุงค้างไว้นิ่ง เพชรยกมือปัดขาจีบันแล้วชกสวนกลับ โดนจีบันจังๆ จนจีบันโมโห เตะตัดลำตัวเพชรแบบรัวๆ เพชรต้านทานได้อย่างยากลำบาก
ภาพพริมกระหน่ำเตะรัวๆ จนเพชรต้านไม่ไหวแล้ว ผุดซ้อนเข้ามาในหัว เพชรฉากหลบ แล้วแก้คืนด้วยการเตะตัดลำตัวจีบันรัวๆ
จีบันโมโหเป็นฝ่ายรุกเพชร เพชรได้แต่ตั้งรับ ออกอาวุธได้น้อย
หมดยกที่ 1 เพชรเข้ามุม ชาติ แชมป์ เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้น้ำ แล้วก็พูดสอนมวยต่างๆ พริมก็มาพูดด้วย
เริ่มยกที่ 2 จีบันเดินหน้า ใส่ไม่เลี้ยงทั้งบนทั้งล่าง
เพชรนึกถึงตอน พริมปล่อยหมัดจะชกแขน แต่เพชรฉากหลบทัน
“ฮั่นแน่ ไม่ได้กินชั้นหรอก” และด้วยความรวดเร็วพริมเตะไปที่น่อง เพชรเจ็บกระโดดเหยงๆ
เพชรคิดได้กันบน แต่ก็ไม่ลืมกันล่าง
พริมเงื้อซ้ายจะตบเพชรยกแขนขวากันไว้ พริมเงื้อขวา เพชรยกแขนซ้ายกัน
เพชรยักคิ้วอย่างมีชัย พริมสะบัดมือไปที่ท้อง จนเพชรแสบพุง
จีบันต่อยแบบเดียวกับที่พริมทำ เพชรเลยกันได้หมด
เพชรนึกถึงตอนซ้อมอีก พริมชกแขนเพชร เพชรหลบแล้วเอามือรับหมัดไว้ พริมชกเพชร เพชรหลบทัน, ชกอีก 2-3 ที เพชรหลบได้หมด พริมกระทืบเท้า
จีบันดันทำเหมือนพริม เพชรเลยกันได้หมด หมดยกที่ 2 จีบันเข้ามุม
เมฆดำหน้าตาอย่างเหี้ยม ขึ้นมากระซิบจีบัน สั่งให้เชือดได้แล้ว
เริ่มยกที่ 3 จีบันพุ่งตรงเข้ามาไม่ให้เพชรได้ทันตั้งตัว ระดมทั้งหมัดทั้งเท้าใส่ไม่ยั้ง เพชรหลบซ้าย หลบขวาว่องไว โดยนึกถึงตอนถูกพริมเข้าชก เตะ ต่อย เพชรหลบได้คล่องแคล่วว่องไว
เพชรเป็นออกหมัดแย๊บ โดนจีบันบ้าง จีบันโกรธ ยิ่งลุยหนักขึ้น ทั้งหมัดทั้งเท้าเพชรต้องการ์ดป้องกัน แต่หมัดจีบันแรงมากจนร่างสะเทือน
เครื่องสำอางบนหน้าเพชรเริ่มเปรอะเปื้อนเละเทะ มีเลือดซิบๆ ตรงหางคิ้ว พวกคนดูเชียร์สะใจ
อรชร พริม บุญหลง เอื้อย ชาติ แชมป์ เริ่มเป็นห่วง ส่วนพวกเมฆดำหัวเราะสะใจ
เพชรปล่อยหมัด โดนหน้าและโดนคางจีบัน
ไข่เค็มเผลอร้องดีใจ โดนเก้งเบิ้ดกะโหลก ที่เชียร์ผิดฝั่ง
จีบันยิ่งบ้าต่อย เพชรหลบได้หมด แล้วปล่อยหมัดสวน พวกเมฆดำเริ่มเครียด พวกศ.อรชรตะโกนเชียร์
เพชรหลบพลาด โดนจีบันต่อยไปอีกหมัดล้มลงไปกอง กรรมการนับ เพชรตะกายเชือกลุกขึ้น กรรมการนับ เพชรพยักหน้ารับ
จีบันรีบเข้าใส่อีกเป็นชุด เพชรหลบหลีก แล้วหาช่องปล่อยหมัด โดนจีบันไปบ้าง เพชรหาช่องได้เหมาะ ชกสุดแรงโดนจีบันเต็มๆ จีบันเซเสียหลักล้ม เมฆดำตกใจ พวกศ.อรชรส่งเสียงเชียร์ดังลั่น ระฆังช่วยหมดยกที่ 3
พี่เลี้ยงฝ่ายเมฆดำ เข้ามาดุจีบัน บอกให้จบเกมได้แล้ว พี่เลี้ยงฝ่ายเพชร มาให้กำลังใจว่าคะแนนเริ่มมาแล้ว
เริ่มยกที่ 4 จีบันเริ่มบ้า ระดมหมัดเตะเข่าศอกใส่เพชรไม่ยั้ง เพชรร่างกายอ่อนเปลี้ย ต้านทานอยู่พักหนึ่งชักไม่ไหว การ์ดตก โดนอัพเปอร์คัตเข้าไปเต็มคาง
เพชรนอนแผ่ กรรมการนับ "1...2…3….4…5…6..."
พวกพริม ร้องเชียร์ให้ลุกขึ้น เพชรเบลอ ลุกขึ้นมาได้ กรรมการเช็คดู แล้วให้ชกต่อ ทั้งที่สภาพแย่มากไม่ควรให้ชก แต่ถูกเมฆดำวางยาโดนแกล้งให้ชกต่อ
จีบันพุ่งเข้าใส่อีกหมัดเดียว เพชรล้มกลางอากาศ แน่นิ่งไปเลย กรรมการยุติการชก ชูมือให้จีบันชนะ
พริม บุญหลง รีบปีนขึ้นเวทีมาดูเพชร พบว่าเพชรตาลอย หน้าบวม มีแผลแตก เละ เลือดซิบๆ ยับเยินหมดสภาพพระเอกลิเกหน้าหวาน
อีกฟาก ลูกดอก แฉะ จริยา นั่งชะเง้อคอยเพชรกับรักษ์อยู่หน้าบ้านลิเก เงียบๆ เหงาๆ
“น้าแฉะ ร้องเพลงให้ฟังสักเพลงสิ”
“ไม่มีอารมณ์”
“พี่จริยาก็ได้”
“ค่ำคืน ฉันยืนอยู่เดียวดาย เหลียวมองรอบกาย มิวายจะหวาดกลัว...”
ลูกดอกไม่ชอบ “เอาที่มันสนุกกว่านี้ไม่ได้เหรอพี่”
“ก็บรรยากาศตอนนี้มันเป็นแบบนี้นี่ เพชรก็ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง รักษ์ก็ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่”
ขาดคำ แฉะ ลูกดอก จริยาถอนใจพร้อมกัน “เฮ้อ”
สำเริงออกมาเห็นลูกวงก็งง
“อ้าวเฮ้ย ทำไมมานั่งห่อเหี่ยวกันอยู่เล่า พรุ่งนี้ชั้นจะเอาเงินไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ บ้านเราจะน้ำไหลไฟสว่างกันแล้วนะ แล้วถ้าเล่นลิเกให้คุณนายแม้นมาศเค้าอีก 2 คืน เราก็จะมีเงินพอจ่ายดอกแม่อรชร เดือนนี้เราก็ไม่ต้องไปเป็นทาสเค้าอีก ไม่ดีใจกันหน่อยเหรอวะ”
“น้าเริงไม่ห่วงพี่เพชรมั่งเหรอ นี่พี่เพชรเค้าขึ้นชกไฟท์แรกนะ” ลูกดอกถาม
“ห่วงมันทำไม มันอยากไปชกเองก็เรื่องของมัน ของดีของหลวงพ่อก็มีแล้ว แล้วนี่ถ้ามันชนะก็ยิ่งดี จะได้เอามาใช้หนี้ให้สิ้นเรื่องสิ้นราวกันไป”
ลิลลี่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา “พี่เพชร พี่เพชร”
จริยางง “เพชรมันไปต่อยมวย ยังไม่กลับ”
“กลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ค่าย หน้าแหกอย่างกับโดนหมารุมฟัดมาเลย”
สำเริง ลูกดอก แฉะ และจริยาตกใจทั้งแถบ
อ่านต่อหน้า 2
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 8 (ต่อ)
เพชรนอนแบ่บอยู่ที่โซฟาโถงบ้านพักอรชร มีผ้าก็อชแปะแผลบนใบหน้า ปากตุ่ย ตาบวม ขนุน บุญหลง อรชร ชาติ แชมป์ คอยดูอยู่ พริมถือชามข้าวต้ม ตักน้ำข้าวต้มหยอดปากเพชรอยู่
“ถ้าน้ำหนักเพชรไม่พุ่งไป 80 ก็คงไม่ได้เจอกับจีบันหรอก”
“ไม่อยากจะเชื่อ พี่เพชรตัวแค่นี้ไม่น่าจะหนักถึง 80 หลง ตอนพี่เพชรชั่งน้ำหนัก ได้เข้าไปดูรึเปล่า” ขนุนถาม
“เปล่า เพชรมันบอกว่ามันอาย มันให้ชั้นไปยืนห่างๆ”
“จะหนักเท่าไหร่ก็ช่างมันเถอะ แต่ที่แน่ๆ เราเสียหน้ามากที่พ่ายแพ้ยับเยิน” อรชรคุมแค้น
“ไม่ใช่แค่แพ้ยับ หน้าก็ยับด้วย ดูสิ พ่อมันมาเห็นจะจำหน้าลูกได้รึเปล่าก็ไม่รู้”
สิ้นคำของแชมป์ เสียงโวยวายของสำเริงดังเข้ามา “ไหนวะ ไอ้เพชรอยู่ไหน”
สำเริง ลูกดอก แฉะ จริยา ลิลลี่ ตามเข้ามาเป็นพรวน สำเริงเห็นสภาพเพชรก็ตาค้าง
“เฮ้ย”
สำเริงถลันเข้าไปดูจับตัวลูกชายขึ้นมา
“แม่อร ทำไมปล่อยให้ไอ้เพชรมันเป็นแบบนี้ ดูแลมันยังไง”
“บนเวทีมวย มันไม่มีใครดูแลใครได้หรอก เป็นนักมวยมันก็ต้องยอมรับข้อนี้ให้ได้อยู่แล้ว เจ็บตัวเป็นเรื่องธรรมดา”
สำเริงโกรธมาก ที่อรชรพูดเหมือนไม่รับผิดชอบ
“แฉะ ลูกดอก เอาเพชรกลับบ้าน ชั้นในฐานะพ่อมัน ขอให้เพชรลาออกจากการเป็นนักมวยตั้งแต่วินาทีนี้”
ลูกดอกกับแฉะเข้าแบกเพชร จริยากับขนุนช่วยพยุง แต่เพชรพยายามดิ้น ร้องอู้อี้ ไม่อยากลาออก
“ไอ้เอา ไอ้เอา อะอ๊กอวยอ่อ” เพชรพยายามบอกว่า “ไม่เอา ไม่เอา จะชกมวยต่อ”
สำเริงตวาดลูก “เงียบ พวกเรา กลับ”
อรชรไม่ยอม “ไม่ได้ เพชรมันเป็นนักมวยค่ายชั้นแล้ว ใช้ชื่อ ศ.อรชรต่อท้ายออกไปชกเวทีข้างนอกแล้ว จะเลิกง่ายๆไม่ได้ ค่ายชั้นน่ะมีชื่อนะ ไม่ใช่คิดอยากจะเข้าก็เข้า พอต่อยแพ้ครั้งเดียวก็ลาออก ใครรู้เข้าจะหาว่า ศ.อรชรเหยาะแหยะ”
เพชรพยักหน้าหงึกๆ
“บุญหลง พี่ชาติ พี่แชมป์ เอาตัวเพชรกลับมา”
ขาดคำของอรชร บุญหลง ชาติ แชมป์ เข้าแย่งตัวเพชรจากลูกดอกกับแฉะ ลิลลี่เข้าดึงทึ้งบุญหลง
ทั้ง 2 ฝ่ายดึงกันไปดึงกันมา ร่างเพชรตกพื้น ร้องโอดโอย
“เฮ้ย หยุด” สำเริงประกาศด้วยเสียงจริงจัง “ชั้นเป็นพ่อ ชั้นทนไม่ได้ที่เห็นลูกเจ็บ ชั้นจะเอาลูกชั้นกลับบ้าน”
พวกฝั่งอรชรเห็นท่าสำเริงเอาจริงก็นิ่ง
ลูกดอก แฉะเข้าไปแบกเพชรแล้วออกไป สำเริง จริยา ลิลลี่ ตามกันไป
พวกฝั่งอรชรได้แต่มองตากันปริบๆ
เพชรถูกหามกลับบ้านลิเก เวลานี้นอนบนเสื่อ มีลูกดอก แฉะ สำเริง และจริยา มุงดูอยู่รอบๆ สำเริงท่าทางกลุ้มมาก ลิลลี่ใจหายใจสั่นเข้าไปลูบหัวลูบหู
“โธ่...พี่เพชร ชั้นเห็นพี่เพชรเจ็บ ชั้นก็เจ็บมากกว่าพี่เพชร 10 เท่า พี่เพชรอย่าจากชั้นไปนะ ถ้าพี่เพชรไปแล้ว ชั้นจะอยู่ยังไง”
“นังลิลลี่ เพชรมันยังไม่ตาย มันก็แค่เดี้ยง สองสามวันมันก็เดินได้แล้ว”
ลูกดอกเอ่ยขึ้น “อ้าว แล้วลิเกที่ต้องเล่นอีก 2 วันจะทำยังไงล่ะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าถึงกลุ้มอยู่นี่ไง คุณนายแม้นมาศก็ดันอยากจะดูเพชรคนเดียวซะด้วย” สำเริงว่า
ทุกคนนั่งเงียบคิดไม่ตก
แฉะโพล่งขึ้น “คิดออกแล้ว เราก็เปลี่ยนเรื่องที่เล่นสิ”
ทุกคนงง
“เอี่ยนเอ็นอังไอ” เพชรอยากรู้ด้วย
ลิลลี่ไม่เข้าใจ “พี่เพชรพูดอะไร”
“เค้าถามว่า เปลี่ยนเป็นยังไง” ลูกดอกถาม
แฉะยิ้ม
คืนนั้นเมฆดำหน้าเครียดจัด จีบันยืนหน้าสลด มีรอยช้ำบนหน้านิดหน่อย เม่น เก้ง ยืนเจี๋ยมเจี้ยมแถวนั้น ไข่เค็มแอบฟังอยู่ด้วย
“ยกที่ 4”
“แต่ผมก็น็อกมันได้นะครับ”
เมฆดำถีบจีบันกระเด็นด้วยความโมโห
“แกควรจะน็อกไอ้กะเทยนั่นตั้งแต่ยกที่ 1 ไม่ใช่ยกที่ 4 ชั้นอุตส่าห์โกงทั้งน้ำหนัก โกงทั้งฉลากเพื่อให้แกได้กินหมู แต่แกดันขึ้นไปเล่นลิงหลอกเจ้ากับมัน”
“ขอโทษครับ ผมขอแก้ตัวอีกสักครั้งนะครับ”
“ไม่ต้องห่วง แกต้องได้ชกกับไอ้เพชรอีกแน่ คราวนี้ถ้าน๊อคไม่ได้ภายใน 1 ยก แกโดนชั้นน็อกแทน”
“ผมพอจะจับทางมันได้แล้ว ไฟท์หน้าไม่พลาดแน่ครับ”
“แกจับทางมันได้ มันก็จับทางแกได้เหมือนกัน ไอ้เม่น โทร.หาอรชรให้ชั้นที”
เม่นรีบโทร.หาอรชร แล้วส่งโทรศัพท์ให้
“ฮัลโหล ทำไมไม่มีเสียง”
“ผิดด้านครับ”
“แล้วทำไมไม่ส่งให้ถูกด้านเล่า ประเดี๋ยวยันโครม” เมฆดำกลับด้านไปโทรศัพท์ “ฮัลโหล แม่อรชรเหรอ ชั้นเมฆดำนะ วันนี้ชั้นรู้นะว่าเด็กของแม่อรไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ อยากจะมีนัดล้างตาอีกสักไฟท์มั้ยล่ะ”
ไข่เค็มพึมพำ “จะโกงวิธีไหนอีกเนี่ย”
ขนุนแวะมาที่บ้านลิเกยามเช้า จริยายื่นเศษกระดาษจดที่อยู่ของรักษ์ให้ขนุน
“พวกชั้นก็ไม่เคยไปบ้านรักษ์เหมือนกัน ที่อยู่นี่ก็จดมาจากหน้าซองจดหมายที่บ้านรักษ์เค้าส่งมา”
“ขอบใจจ้ะ ได้เรื่องยังไงชั้นจะรีบกลับมาบอกนะ”
“รีบไปรีบมาล่ะ พวกเราก็เป็นห่วงพ่อรักษ์เหมือนกัน จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ เบอร์บ้านก็ไม่มี จริงๆก็อยากจะไปตามกันเองหรอกนะ แต่เพชรก็ดันมาเดี้ยงต้องคอยดู”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ชั้นไปได้ ชั้นขอพ่อไว้แล้ว”
“อ้าว พ่อไม่ว่าเหรอ”
“ชั้นหลอกพ่อว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนในเมือง ชั้นไปนะจ๊ะ”
จริยากำชับ “กลับมาให้ทันก่อนค่ำล่ะ วันนี้มีเล่นลิเกนะ เดี๋ยวจะแต่งหน้าแต่งตัวไม่ทัน”
ขนุนรับคำแล้วรีบออกไป
อ่านต่อหน้า 3
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 8 (ต่อ)
เวลาเดียวกันที่ค่ายมวย ศ.อรชร นักมวยอื่นๆ กำลังซ้อม อรชร คุยกับชาติ แชมป์ พริม บุญหลง เอื้องดาว เด่น แคน
“เมื่อคืนไอ้เมฆดำมันโทร.มาท้า ขอให้มีนัดล้างตาระหว่างเพชรกับจีบัน”
“กลัวที่ไหน จริงๆ แล้วฝีมือไอ้เพชรก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เอามาฟิตอีกหน่อยยังไงก็ชนะ” แชมป์บอก
“แล้วน้าเริงจะยอมเหรอ เพชรโดนอัดมาซะน่วม คงไม่ปล่อยให้ไปโดนอีก” พริมกังวล
ลิลลี่แถเข้ามามาดก๋ากั่น “ก็ไม่ยอมน่ะสิ ชั้นเพิ่งไปเยี่ยมเพชรมา น้าเริงบอกว่าจะไม่ให้เพชรกลับมา ชกมวยอีกแล้ว เลิกคิดไปได้เลยนะ แล้วถ้าใครจะให้เพชรมาชกมวยอีกล่ะก็ ต้องข้ามศพชั้นไปก่อน”
“เธอมีสิทธิ์อะไรหาลิลลี่ เป็นแม่ไอ้เพชรมันเหรอ” บุญหลงยัวะ
“ชั้นเป็นแฟนพี่เพชร”
พริมสะอึก
“ชั้นรักพี่เพชร ชั้นจะไม่ยอมให้พี่เพชรต้องไปเจ็บตัวอีกเป็นอันขาด”
ลิลลี่พูดด้วยหน้าตาจริงจังมาก
“ทุกคน ตามชั้นมา” อรชรเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม
พริมงง “ไปไหนน้าอร”
“ไปเอาตัวเพชรกลับ”
อรชรเดินออกไป ทุกคนตามไปเป็นพรวน
ลิลลี่กรี๊ดเต้นเร่าๆ “แอร๊ย...นี่ไม่ได้ฟังชั้นเลยเหรอเนี่ย”
เพชรนอนแบ่บอยู่ที่เสื่อกลางโถงบ้านลิเก ลูกดอกกับจริยาดูแลอยู่ข้างๆ สำเริงกำลังบดกล้วยจะป้อนลูก มีแฉะช่วยปลอกกล้วย
“กลายเป็นเด็กทารกเลยไอ้เพชร ไม่คิดเลยว่า 20 กว่าปีผ่านไป ก็ยังต้องกลับมาบดกล้วยให้มันกินอีก”
“ถือว่ารำลึกความหลังละกัน นี่ยังดีนะไม่ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม” แฉะแซวขำๆ
จู่ๆ ลูกดอกร้องลั่น “เฮ้ย พี่เพชรฉี่แตก”
สำเริงรีบถลาไปดู “ไอ้เพชร ปวดฉี่ทำไมไม่บอกล่ะ อ้าวไหนล่ะ”
ลูกดอกยิ้ม “ชั้นล้อเล่นน่ะจ้ะ”
“แหม จริงๆ แล้วพี่เริงก็เป็นห่วงไอ้เพชรอยู่เหมือนกันนะเนี่ย ไหนว่าไม่สนๆ” จริยายิ้มแซว
อรชร พริม บุญหลง เอื้อย ชาติ แชมป์ เด่น แคน บุกเข้ามาในบ้านลิเก มีลิลลี่วิ่งตามรั้งท้าย พวกสำเริงตั้งรับ
“ชั้นว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะแม่อร”
“เพชรมันยังมีภารกิจที่ต้องสะสาง เมื่อคืนมันทำค่าย ศ.อรชรเสียชื่อ มันต้องกลับไปชกล้างอายให้ชั้นก่อน แล้วชั้นก็จะเลิกยุ่งถาวร”
“ดูสภาพมันตอนนี้ซิ จะต้องให้มันตายก่อนรึไง เธอถึงจะพอใจ”
“นักมวย ถ้าได้ตายบนเวทีถือว่าเป็นเกียรติ”
“เพชรไม่ได้เป็นนักมวย แต่มันเป็นลิเก”
“เพชรเป็นนักมวยเต็มตัวตั้งแต่เริ่มชกไฟท์แรกเมื่อคืนนี้แล้ว พวกเรา เอาเพชรกลับ”
บุญหลง เด่น และ แคน เข้าไปช้อนปีกเพชร
“พวกเรา อย่าให้มันเอาไป” สำเริงสั่ง
ลูกดอก แฉะ จริยา ลิลลี่ ไปจับทางขาเพชร
2 ฝั่งยื้อกันไปยื้อกันมา ชนนู่ชนนี่, เพชรปากเจ็บพูดไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงอ้อแอ้
พวกนักมวยลากเพชรไปได้ เพราะแรงเยอะกว่า
สำเริงหยิบโทรศัพท์กดโทร.ออก “คุณตำรวจครับ มีคนพาพวกมาลักพาตัวเด็กในบ้านผมไปครับ พวกมันมากันหลายสิบคนเลยครับ”
“พวกเรา หยุด”
บุญหลง เด่น แคน ปล่อยเพชร จนร่างเพชรร่วงตกพื้นดังแอ๊ก พวกลิเกลากเพชรมาตามพื้นกลับเข้ามา
“อะอายอ้อออนอี๊แอะ” เพชรพูดไม่เป็นภาษา
จริยางง “เพชรมันว่าอะไร”
ลูกดอกแปลให้ “จะตายก็ตอนนี้แหละ”
“เอื้อย โทร.หาบริษัทรถเครน ชั้นจะรื้อบ้านนี้ทิ้ง เปลี่ยนเป็นแปลงปลูกสาระแหน่”
สำเริงยัวะจัด “ทำงั้นได้ไง นี่บ้านชั้นนะ”
“เคยเป็นต่างหาก ลืมไปแล้วเหรอว่า ที่ดินตรงนี้เปลี่ยนเป็นชื่อชั้นตั้งนานแล้ว ชั้นจะทำอะไรก็ได้”
สำเริงกับพวกลิเกเจ็บใจ
“ฮัลโหล บริษัทรับทุบตึกใช่มั้ยคะ ขอรถเครน 2 คัน จะเอามารื้อบ้านเก่าๆ หลังนึงน่ะค่ะ ด่วนๆ เลยนะคะ” เอื้อยหัวเราะนางร้ายช่อง8 ทิ้งทวน “วะฮ่าๆๆๆ”
“เอาไงดีพี่เริง เราจะไม่มีที่ซุกหัวนอนเอานะ”
“เอาล่ะๆๆ ชั้นยอมก็ได้ แต่เธอจะต้องรับประกันว่า ไฟท์ต่อไป เพชรจะต้องไม่เจ็บหนักแบบนี้อีก”
ชาติบอก “ชั้นเอาตำแหน่งแชมป์โลกเป็นประกันเลยพ่อเริง”
พริมมองเพชรแล้วนึกกังวล เพชรมองตอบพลางยิ้มให้ แต่แล้วก็เจ็บปากร้องโอดโอยเจ็บเวอร์ น่าหมั่นไส้
ฟากขนุนขี่รถมอเตอร์ไซค์มาตามถนน ต้องคอยมองป้าย และจอดรถถามทางไปบ้านรักษ์จากชาวบ้านที่ใจดีชี้ทางบอก
ผ่านไปสักระยะ ขนุนก็ขี่รถเครื่องมาจอดหน้าบ้านหลังตามที่อยู่ มีบอดี้การ์ดใส่แว่นดำ ชุดดำ ยืนประจำอยู่ ขนุนดูที่อยู่อีกที แล้วมองบ้าน พบว่าเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่โตแล้วยิ่งแปลกใจ คิดว่าชาวบ้านบอกผิด
“ใช่เหรอ”
ขนุนลงจากรถไปถามการ์ด
“พี่คะ นี่บ้านพี่รักษ์รึเปล่าคะ”
“หมายถึงคุณหนูรักษ์น่ะเหรอ”
“เอ่อ...พี่รักษ์น่ะค่ะ ที่เป็นพระเอกลิเก”
การ์ดมองขนุนหัวจรดเท้า “อ้อ คงจะเป็นแฟนคลับคุณหนูละสิ กลับไปซะ เฮียไม่ชอบให้พวกแฟนคลับลิเกมายุ่งกับคุณหนู”
“หนูไม่ได้เป็นแฟนคลับค่ะ หนูเป็น...เป็นลูกศิษย์เรียนร้องเพลงกับพี่รักษ์” ขนุนอธิบาย
“จะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ เฮียสั่งไว้ว่าถ้ามาแนวนี้ให้ไล่กลับให้หมด ไปๆๆ”
ขนุนผิดหวังกลับมาที่รถเครื่อง เหลียวไปมองดูบ้านอีกที แล้วคิดแผน
ผ่านเวลาไปอีกหน่อย การ์ดยืนเฝ้าที่เดิม ขนุนย่องเข้ามาแกล้งทำอุบายให้การ์ดสนใจทางอื่น แล้วเข้าประชิดข้างหลัง สับที่ท้ายทอยจนการ์ดร่วงไป
ขนุนจะเปิดประตูเข้า แต่ล็อกอยู่ เลยปีนรั้วเข้าด้วยความทะมัดทะแมง
ขนุนย่องเข้ามาในสวนหาที่กำบัง ด้อมๆ มองๆ หารักษ์ไปทั่ว พอเห็นการ์ด 2 คนเดินมาก็รีบหาที่หลบได้อย่างเฉียดฉิว
ขนุนย่องต่อไป เห็นรักษ์จากระยะไกล รักษ์แต่งกายในชุดคุณหนูผู้ดี มาดคุณชาย กำลังจิบน้ำชาหน้าเครียดคิดถึงคณะลิเก ขนุนเห็นไม่ถนัด ไม่แน่ใจว่าใช่มั้ยจึงพยายามเพ่งมอง จนจังหวะหนึ่งรักษ์หันหน้ามาชัดๆ
“พี่รักษ์จริงๆ ด้วย”
ขนุนออกจากที่หลบจะไปหารักษ์ การ์ด 2 คนเข้ามาก่อน
“แกเป็นใคร” การ์ด 1ถาม มาดเข้ม
“เอ่อ... ชั้นเป็น...”
“แอบเข้ามาแบบนี้ก็เป็นขโมยน่ะสิ จะถามอีกทำไม” การ์ด 2 ว่า
ขนุนไม่ทันอธิบาย การ์ด 1 และ การ์ด 2 ก็เข้าจับ ขนุนบิดข้อมือหลุดแล้ววิ่งหนี การ์ดตามไปได้ทัน เกิดการบู๊กันขึ้นอีก ขนุนเก่งกว่าต่อกรกับการ์ดได้ การ์ดโดนชกไปคนละทีสองที รักษ์เข้ามา
“ขนุน” / “พี่รักษ์”
การ์ด 1 งง “คุณหนูรู้จักด้วยเหรอครับ”
“ใช่ เค้าเป็น” รักษ์คิดปราดเดียว “เป็นแฟนชั้นเอง”
ขนุนประหลาดใจ
ชาวคณะสุมหัวอยู่ใต้ถุนบ้านลิเก สำเริง ลูกดอก แฉะ และจริยา กำลังเตรียมอุปกรณ์การเล่นลิเกกันอยู่ พริมถือกระติกน้ำซุปเข้ามาสำเริงเหล่
“มาอีกแล้ว มาทำไม จะมาตามให้มันไปซ้อมมวยตอนนี้เลยเหรอ แค่เกาหลังมันยังต้องเรียกให้คนไปช่วยตั้ง 2 คนเลย กลับไป มันหายดีเมื่อไหร่มันก็กลับไปซ้อมเอง”
“น้าอรให้ชั้นเอาซุปไก่มาให้เพชร”
สำเริงหน้าแตกที่มองพริมแง่ร้าย “มียาพิษรึเปล่า”
“น้าเริง ชั้นก็อยากให้เพชรมันหายเร็วๆ เหมือนกัน จะได้กลับไปชกกู้หน้าค่าย แล้วชั้นจะใส่ยาพิษไปทำไม”
ลูกดอกบอก “เอามาชิมก่อนซิ”
“นี่เป็นซุปไก่ดำสูตรพิเศษ สำหรับนักมวยที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายเท่านั้น ถ้าคนธรรมดากินเข้าไปจะถูกธาตุไฟเข้าแทรก แล้วก็ตาย” พริมบอก
“โห อย่างกับหนังจีน กินแล้วเหาะได้ป่าวเนี่ย ชั้นอยากเป็นแม่นางเซียวเหล่งนึ่ง”
จริยาเอาผ้ามาโบกไปโบกมา ไปโดนหน้าแฉะ
“โว้ย ย้ายไปอยู่โรงงิ้วเลยไป” แฉะกระซิบกับสำเริง “ชั้นว่าพริมคงไม่หลอกเราหรอกพี่เริง แล้วถ้าเพชรมันหายเร็ว ก็จะได้กลับมาเล่นลิเกได้ด้วยนะ”
สำเริงออกปากอนุญาต “ขึ้นไปสิ เพชรมันอยู่บนห้อง”
พริมเดินขึ้นบันไดไป
อ่านต่อหน้า 4
ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 8 (ต่อ)
พอพริมถือกระติกซุปเปิดประตูเข้ามา เพรชนอนเหม่ออยู่หันมาเห็นก็ตกใจ
“น้าอรให้ชั้นเอาซุปมาให้ กินบำรุงจะได้หายไวๆ จะได้กลับไปชกกับไอ้จีบัน”
พริมวางกระติกไว้โต๊ะข้างเตียง แล้วจะเดินออกไป
เพชรร้องบอก “อย่าเพิ่งไป” แต่ออกมาเป็น “อ่าเอิ้งไอ”
“อะไรอีก”
เพชรทำท่าว่าแขนเจ็บ ขยับไม่ได้ ขยับได้ข้างเดียว พริมเซ็งๆ หาชามในห้อง เทซุปใส่ เอาช้อนวาง ใส่ เอาชามไปไว้โต๊ะข้างเตียง
“พอใจยัง กินเองได้แล้วนะ”
พริมจะออกไป เพชรส่งเสียงเรียก อ้อๆ แอ้ๆ
“อ้อนอ่อย” เขาพยายามบอกว่า “ป้อนหน่อย”
“อะไรนะ”
“อ้อนอ่อย”
“อะไรของเธอเนี่ย”
เพชรคว้ามือพริมมา พริมสะบัดออกแต่เพชรจับไว้แน่น
“เฮ้ย จะทำอะไร”
เพชรเอานิ้วเขียนตัวหนังสือลงมือพริม เป็นคำว่า “ป้อน”
“จะให้ป้อน! ฝันไปเหอะ”
พริมจะออกไป เพชรร้องเรียกอ้อนๆ พริมหันไปดู เพชรทำสายตาเว้าวอนสุดฤทธิ์ พริมจำใจ ไปนั่งลงที่ข้างเตียง
“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะน้าอรใช้ชั้นมาละก็ ชั้นไม่ป้อนให้หรอกนะ”
พริมตักซุปแล้วป้อน เพชรพ่นพรวดออกมา ร้อง แอ้ๆๆ
“เป็นอะไรอีกล่ะ”
เพชรบอก “อ๊อน” หมายถึง “ร้อน”
พริมเง็ง “ขมเหรอ”
เพชรส่ายหน้า “ไอ้ไอ้...อ๊อน” เขาตั้งใจบขอกว่า “ไม่ใช่ ...ร้อน”
พริมงง “ช้อน?”
“อ๊อน”
พริมงงหนัก “อะไรวะ”
เพชรเอามือพริมมา เขียนคำว่า “ร้อน”
“อ๋อ...ร้อน”
พริมตักน้ำซุปขึ้นมาแล้วเป่า พริมเป่าแรงน้ำซุปกระเด็นใส่หน้าเพชร
“แอ๊”
“อุ๊ย ขอโทษที”
พริมหาผ้าแถวนั้นมาเช็ดหน้าเพชรแรงๆ
“โอ๊ยๆ”
บนผนังห้องรับแขกอันหรูหรา มีกรอบรูปใส่รูปโอ่งรุ่นต่างๆ ตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบัน แถมยังมีถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตรสินค้าโอทอป 5 ดาว ใส่กรอบเรียงราย ขนุนหยิบอันหนึ่งขึ้นมาอ่านอย่างสุดทึ่ง
“ประกาศนัยบัตรฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า โอ่งมังกรเฮียธำรง เป็นโอ่งมังกรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในราชบุรี 10 ปีซ้อน นี่พี่รักษ์ เป็นทายาทโอ่งมังกรเฮียธำรงเหรอเนี่ย”
“อือ...”
“แล้วทำไมไม่มีใครรู้เลยล่ะ แล้วพี่ไปอยู่กับคณะลิเกจนๆทำไม แล้วทำไม ๆ โอ้ย งงไปหมดแล้ว”
“ไม่ต้องงงหรอก คุณพ่อท่านหวังให้พี่สืบทอดกิจการประจำตระกูล ท่านสอนให้พี่ปั้นโอ่งตั้งแต่เล็กๆ แต่มันไม่ใช่ตัวพี่ พี่รักลิเกมากกว่าโอ่งมังกร พอเรียนจบคุณพ่อจะให้สืบทอดกิจการ พี่เลยหนีไปอยู่กับคณะลิเกน้าเริง”
“หนีเลยเหรอ แปลว่าพี่ไม่ได้กลับบ้านเลยน่ะสิ”
“ใช่ พี่ตัดขาดเลย ที่บ้านจดหมายกับส่งคนไปตามตั้งหลายครั้ง แต่พี่ก็ไม่กลับ มีครั้งนี้แหละที่พ่อป่วยหนัก”
“แล้วอาการพ่อพี่เป็นยังไงบ้าง”
“แม่บอกว่าครั้งนี้ท่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน เลยอยากเห็นพี่สืบทอดกิจการของท่านก่อนตาย แล้วก็...”
“แล้วก็อะไร”
“แต่งงานกับลูกสาวผู้ว่า ท่านอยากเห็นพี่เป็นฝั่งเป็นฝาซะที แต่พี่ยังไม่อยากแต่งงาน ขนุนเข้าใจพี่มั้ย นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมพี่ถึงบอกไปว่าขนุนเป็นแฟนพี่ เดี๋ยวตอนไปเจอคุณพ่อคุณแม่ ขนุนต้องเล่นเป็นแฟนพี่ให้เนียนเลยนะ”
ขนุนพยักหน้าเข้าใจ ทั้งที่ยังงงๆ อยู่
ถัดมา รักษ์กับขนุนเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนธำรง ขนุนมีท่าทีเกรงๆ มองธำรงที่นอนหน้าซีดป่วยอยู่บนเตียง ธัญญาวางมาดคุณนายนั่งข้างเตียง
ธำรงกับธัญญามองขนุนอย่างพิจารณา รักษ์แนะนำ
“ขนุน นี่คุณพ่อกับคุณแม่พี่เอง”
“สวัสดีค่ะ”
“คุณพ่อคุณแม่ครับ นี่ขนุน แฟนผมครับ”
“เชิญนั่งค่ะหนูขนุน แหมชื่อน่ารัก หน้าตาก็จิ้มลิ้ม ตารักษ์นี่ช่างเลือกแฟนจริงๆ” ธัญญาเยื้อนยิ้ม
ขนุนฝืนยิ้ม
“ได้ข่าวว่าเมื่อกี้ไปมีเรื่องกับยามมาเหรอ เห็นมันตาเขียวปากเจ่อกัน แต่ทำไมหนูขนุนไม่เห็นมีแผลอะไรเลย”
ขนุนเลิ่กลั่ก
รักษ์แก้ให้ “อ๋อ พวกนั้นเค้าสะดุดขากันเองล้มน่ะครับ พ่อก็รู้ว่าพวกนั้นมั่นเซ่อซ่าจะตาย”
ธำรงขำ “ฮ่าๆๆ ถ้าเป็นฝีมือหนูจริงๆ พ่อคงไม่กล้าคุยด้วย กลัวโดนชก ฮ่าๆๆ”
ขนุนฝืนหัวเราะตาม
“เปลี่ยนเรื่องเถอะค่ะ คุยเรื่องชกต่อยกับผู้หญิง ไม่เห็นจะเข้ากันเลย หนูจ๊ะ หนูคบหากับรักษ์มานานรึยัง”
รักษ์กับขนุนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก รักษ์รีบชูมือ 5 นิ้ว ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน แต่ไปคนละทาง
ขนุนบอก “5 วัน” ส่วนรักษ์ว่า “5 เดือน”
รักษ์ขนุนมองหน้ากันอีก ตอบใหม่
ขนุนบอก “5 เดือน” คราวนี้รักษ์ว่า “5 วัน”
รักษ์ขนุนมองหน้ากันอีก ตอบใหม่ก็ไม่ตรงกันอยู่ดี
คราวนี้ขนุนบอก “5 วัน” ส่วนรักษ์ว่า “5 เดือน”
ธำรงกับธัญญางงมาก
“ขนุนเงียบ พี่ตอบเอง เราคบกันมา 5 เดือนกับอีก 5 วันแล้วครับ แล้วลูกก็ตัดสินใจแล้วว่า นี่คือคนที่ลูกจะแต่งงานด้วย”
ขนุนตกใจ
ธำรงดูกังวล “แต่งงานเลยเหรอ... แล้วพ่อแม่หนูเค้าว่าไงบ้าง”
“เอ่อ...” ขนุนอึกอัก
“คุณพ่อคุณแม่ของขนุนน่ารักมากครับ ไม่มีปัญญหาอะไรเลย ผมเคยลองเกริ่นๆไว้บ้างแล้ว”
“แล้วที่บ้านหนูทำธุรกิจอะไรล่ะ” ธำรงถาม
“เอ่อ...”
รักษ์ตอบแทนว่า “เกี่ยวกับกีฬาครับ”
ธำรงซัก “ขายอุปกรณ์กีฬาเหรอ”
“ทำนองนั้นแหละครับ”
ธัญญาพยักหน้า “ดีนะ สมัยนี้คนนิยมเล่นกีฬากันเยอะ กิจการท่าทางจะใหญ่โต”
“ไหนๆ มาแล้ว อยู่ทานข้าวเย็นกันก่อนนะ เราคงต้องมีเรื่องคุยกันอีกยาว”
“ค่ะ” ขนุนยิ้มรับเจื่อนๆ
ระหว่างนี้จริยาโทรศัพท์เข้ามาหาขนุนที่เปิดแบบสั่นไว้ ขนุนต้องกดตัดสาย
ที่บ้านลิเก จริยากำลังโทรศัพท์หาขนุน พอติดก็ถูกขนุนตัดสายทุกครั้ง
“อ้าว ดูสิ ตัดสายอีกแล้ว ขนุนนี่ยังไงนะ ลิเกจะเล่นมั้ยเนี่ยเย็นเนี้ย”
“อย่าหาว่าปากไม่ดีเลยนะ ถ้าวันนี้ขนุนมาหายไปอีกคน เราจะทำยังไง” ลูกดอกเอ่ยขึ้น
“ชั้นก็ได้แต่งชุดนางเอกแทนน่ะสิ ไม่เห็นจะยาก ชั้นขอไปขยายไซส์หน้าอกรอเลยละกัน”
สำเริง ลูกดอก แฉะพากันโห่
“ทำไม คิดว่าการหานางเอกลิเกนี่มันง่ายเหมือนช้อนลูกน้ำตามตุ่มรึไง ตอบชั้นซิ ถ้าไม่ใช่ชั้นแล้วจะเป็นใคร จะไปหามาจากไหน”
พริมถือกระติกซุปลงบันไดมาจากห้องเพชรพอดี สำเริง ลูกดอก และแฉะ มองพริมตาเป็นประกาย ฝ่ายพริมชักงงๆ ว่ามองอะไรกัน
“มีอะไรเหรอ”
อ่านต่อตอนที่ 9