xs
xsm
sm
md
lg

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 4

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 4

ข่าวชกมวย ศึกกำปั้นบ้านเหนือ ดังไปทั่วหมู่บ้าน ไม่เว้นแม้แต่ค่ายมวยศ.อรชร ซึ่ง เด่น แคน กำลังออกกำลังกับนักมวยอื่นๆ และคุยกันไปด้วย

“อะไรนะ ค่ายเมฆดำจะจัดแข่งมวย ไม่เอาล่ะ ชั้นยังไม่พร้อม” เด่นทำหน้าสยอง
“ชั้นก็ไม่พร้อม ถ้าพลาดไปทีนะ คงตายหยังเขียด” แคนว่า สีหน้าไม่ต่างกัน

บุญหลงมาขอชาติ กะแชมป์ไปแข่งชก
“ไอ้หลง ชั้นว่าแกอย่าเพิ่งไปต่อยกับไอ้พวกเมฆดำเลย แกยังไม่พร้อมหรอก” ชาติห้าม ไม่เห็นด้วย
แชมป์บอก “ไอ้เมฆดำมันจัดชกครั้งนี้ ไม่รู้จะมีตายอีกกี่ศพ”

ทางด้านเอื้อยมาเล่าให้อรชรฟังว่า พริมพาเพชรไปแข่งกับค่ายเมฆดำยิม อรชรตกใจมาก
“อะไรนะ! พริมพาเพชรไปสมัครชกกับเมฆดำ ตาย ตาย จองเมรุได้เลย พริมมันคิดอะไรของมันเนี่ย”

ส่วนที่บ้านลิเก ยังใช้ชีวิตกันแบบกระเบียดกระเสียร โดยรักษ์ ลูกดอก แฉะ จริยา และ สำเริง เพิ่งจะหยอดเมล็ดผักลงแปลงเสร็จใหม่ ลูกดอกรดน้ำ
“ต่อไปเราก็ไม่ต้องเสียงเงินไปซื้อผักเค้ากันแล้วเนอะ” รักษ์ยิ้มแต้
“แล้วถ้าเรากินเหลือ เราก็เก็บไปขายได้เงิน เอาไปซื้อแม่พันธุ์หมูมาเลี้ยง” ลูกดอกว่า
จริยาฉุน “เพ้อแล้วลูกดอก แกต้องปลูกผักกี่ไร่กว่าจะมีเงินไปซื้อแม่หมู”
“แกจะซื้อทำไมแม่หมู บ้านเราก็มีอยู่แล้วตัวนึง” แฉะเหน็บ
จริยาแย่งสายยางจากลูกดอกมาฉีดใส่แฉะ

ไม่นานต่อมาเพชรเดินเข้ามาในบ้านหน้างี้บานเชียว กะมาแจ้งข่าวดีชาวคณะ
“พ่อ พ่อจ๋า”
“มาทำไม น้ำยาขัดส้วมบ้านนั้นหมดรึไง” สำเริงโมโหไม่หาย
“เปล่า พ่อฟังชั้นก่อน ชั้นจะได้ขึ้นชกมวยแล้วนะ พริมเค้าอยากให้ชั้นเป็นมวยเร็วก็ เลยพาชั้นไปสมัคร”
“หน้าอย่างแกเนี่ยนะ”
“หน้าอย่างชั้นเนี่ยแหละจ้ะ แล้วถ้าโชคดีชั้นชนะ ชั้นก็จะได้เงินหลายพันเลยนะ”
“ชกงานไหนล่ะเพชร” รักษ์ถาม
“ศึกกำปั้นบ้านเหนือ” เพชรบอก
ลูกดอกอึ้ง “ที่เค้ามาขับรถประกาศรับสมัครเมื่อเช้าใช่มั้ย”
“ใช่ๆ งานนั้นแหละ” เพชรร่าเริงบันเทิงศิลป์มาก แต่สำเริงตกใจ
“ศึกกำปั้นบ้านเหนือ ...ของค่ายเมฆดำน่ะนะ”
“ใช่เลยจ้ะพ่อ พ่อรู้จักด้วยเหรอ”
สำเริงโกรธมาก

พริมจอดรถเครื่อง อรชรเดินเข้ามาหาอย่างเอาเรื่อง
“พริม แกทำอะไรลงไป จะฆ่าเพชรมันรึไง”
“ชั้นก็แค่อยากให้เพชรได้ค้นพบตัวเองเร็วขึ้น ว่าเค้าเหมาะกับการเป็นนักมวยรึเปล่า”
“แต่เพชรมันไม่เป็นมวยเลย ขึ้นเวทีไปให้ไอ้พวกเมฆดำเชือดเล่นเปล่าๆ”
“ดีสิ จะได้เข็ด จะได้ไม่อยากเป็นนักมวยอีก”
“แล้วชื่อเสียงของ ศ.อรชรล่ะ”

พริมนี้อึ้งไปเลย ลืมนึกเรื่องนี้ไป

ส่วนที่ค่ายมวยเมฆดำยิม เม่น และ เก้งกำลังแทะกระดูกไก่ มีลุงยืนข้างๆ

“ไอ้ค่าย ศ.อรชรมันดูถูกค่ายเราถึงขนาดนี้เลยเหรอ” เม่นถามปากยังเคี้ยวไก่หยับๆ
“ใช่ ไอ้เด็กนั่นดูท่าไม่เอาไหนเลยยังกล้าส่งมาชกที่เวทีเรา มันหยามกันชัดๆ”
“คงอยากจะลองดีกับพี่เมฆดำซะละมั้ง งั้นเราก็จัดของดีๆ ให้ลองไปเลยละกัน” เก้งบอก
เม่นชะงัก “แกอย่าบอกนะว่าจะให้มันชกกับ...”
“ช่าย ให้ชกกับพี่ใหญ่เรานั่นแหละ”
“แต่ดูจากรูปร่างแล้วมันคนละรุ่นกันเลยนะ” ลุงท้วง
“พวกเราเคยทำอะไรตามกติกาซะที่ไหนล่ะ เราก็ต้องมีวิธีให้มันได้ชกกันจนได้” เก้งว่า
“งานนี้พี่เมฆดำคงจะสะใจมาก แล้วก็ตบรางวัลให้กับแผนอันชั่วร้ายของเรา ฮ่าๆๆๆ”
“งั้นชั้นต้องไปซื้อผ้าห่อศพมาเพิ่มแล้วสิ” ลุงว่าเสริมจากเม่น
สามคนหัวเราะสะใจ

สำเริงมาถึงก็โวยวายใส่อรชร เพชรคอยดึงพ่อไว้
“นี่แม่อรถึงขั้นจะฆ่าจะแกงไอ้เพชรมันเลยเหรอ ส่งไปต่อยกับไอ้พวกเมฆดำมันไม่มีชีวิตกลับมาหรอก”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพ่อ”
“แกมันไม่รู้จักเสือเอาเรือเข้ามาจอด ไม่รู้จักมอดเอาไม้เข้ามาแหย่ รู้มั้ยว่าไอ้นักมวยค่ายนี้มันชกคนตายคาเวทีมากี่คนแล้ว”
“จริงเหรอพ่อ” เพชรตาเหลือก “พริม น้าอร ทำไมทำกับชั้นแบบนี้”
“หยุดโวยวายกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย ที่ชั้นกล้าให้เพชรไปชกก็แปลว่าชั้นมั่นใจแล้วว่าจะฝึกเพชรจนมันชกได้ และจะชกชนะด้วย ไม่มีใครเค้าเอาชื่อเสียงของค่ายตัวเองไปให้คนอื่นเค้าเหยียบเล่นหรอก” อรชรตกกะไดพลอยโจรแล้ว
“แปลว่าน้าอรจะฝึกให้ชั้นเป็นนักมวยที่เก่งกล้าจริงๆ ใช่มั้ย” เพชรตื่นเต้น
อรชรหงุดหงิด “แค่นี้ยังฟังไม่ชัดอีกเหรอ นี่ พ่อเริง แล้วก็เลิกมาโวยวายเรื่องเพชรมันได้แล้ว เกิดเป็นลูกผู้ชายจะกลัวเจ็บไปทำไม อย่างมากก็แค่ตาย”
“เฮ้ย นี่มันชีวิตลูกชั้นนะ” สำเริงเสียงแข็ง
“ไม่ตายไม่ได้เหรอจ้ะ” เพชรบอก
“ตายไม่ตายมันขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง ว่าจะตั้งใจฝึกซ้อมจนสามารถเอาชีวิตรอดได้รึเปล่า”

อรชรบอกเสียงเข้ม สำเริงเครียดจัด เพชรดี๊ด๊าจนพริมหมั่นไส้

อ่านต่อหน้า 2

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 4 (ต่อ)

รักษ์ ลูกดอก แฉะ จริยา นั่งรอสำเริงอย่างเป็นห่วง

“มีใครเคยเห็นนักมวยค่ายเมฆดำมันชกมั่ง” ลูกดอกถามขึ้น
“ชั้นเคยดูในทีวี ตอนไอ้เมฆดำมันชกชิงแชมป์โลก มันต่อยกันฝรั่งตัวหนาๆ เนี่ยนะ ยกเดียวฝรั่งหงายเลย” แฉะบอก
“อย่าเพิ่งคิดไปไกลสิพี่แฉะ เพชรมันอาจไม่ได้เจอแบบนั้นก็ได้” รักษ์ว่า
“แต่ไอ้ค่ายนี้มันเลี้ยงนักมวยให้ดุเหมือนกับหมาลอดไวเลอร์ทุกตัวเลยนะ” จริยาบอก
เห็นสำเริงหน้ามุ่ยเข้ามา ลูกดอกถามทันที
“เค้าว่าไงบ้างน้าเริง ตกลงต้องไปชกมั้ย”
“เกิดเป็นลูกผู้ชายจะกลัวเจ็บไปทำไม อย่างมากก็แค่ตาย แม่อรเค้าว่าอย่างนั้น”
รักษ์อึ้ง “ถึงตายเลยเหรอน้า
“แต่เค้าก็รับประกันนะว่า จะฝึกซ้อมให้เพชรมันชกชนะไอ้พวกนั้นให้ได้” สำเริงบอก
จริยาไม่เชื่อ “มั่นใจได้ยังไง อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ โธ่ ไอ้เพชร สละชีพเพื่อพวกเราแท้ๆ”
แฉะหมั่นไส้ “ยังไม่ตาย”

อรชรเรียกประชุม ทุกคนหน้าเครียด
“มีเวลากี่วัน” ชาติถาม
“2 อาทิตย์” พริมบอก
แชมป์ประชด “หน้าอย่างไอ้เพชร มีเวลาแค่นี้ใส่นวมให้ถูกข้างชั้นก็ดีใจแล้ว”
“ชั้นไม่ได้โง่ขนาดนั้นซะหน่อย”
เพชรหันไปหยิบนวมที่วางแถวนั้นมาใส่ให้ดูกะโชว์
“นี่ ดู”
ทุกคนร้องลั่น “ผิด”
เพชรรีบใส่นวมใหม่ “ชั้นเล่นมุกน่ะ อยากให้ตลก”
อรชรหน้าตาจริงจัง “ไหวมั้ย พี่ชาติ พี่แชมป์”
“ไหวมั้ง แต่ก็คงต้องเหนื่อยกันหน่อย” ชาติบอก
“ได้เลยน้า เรื่องเหนื่อยชั้นไม่เคยกลัวอยู่แล้ว” เพชรยิ้มแฉ่ง
แชมป์ยัวะ “หมายถึงพวกชั้นเหนื่อยโว้ย”

ถัดมาชาติ และ แชมป์ กำลังสอนมวยให้เพชร นักมวยอื่นซ้อมอยู่
“ไหน ทำซิ”
เพชรลองยืนตาม มือการ์ดต่ำแค่อกและกางออกมากเหมือนตั้งวงจะรำ
“แล้วลองขยับ”
ชาติขยับเท้าให้ดู เพชรขยับตาม แต่ดูเหมือนซอยเท้าจะรำลิเก
“แล้วก็สืบเท้ามาข้างหน้า...ข้างหลัง...”
ชาติสืบเท้าให้ดู เพชรทำตาม แต่เพชรทำออกมาเหมือนท่าการเคลื่อนที่ของรำลิเก เขารู้สึกดี เพราะคิดว่าท่ามวยเหมือนลิเกเลย เลยรำไปรอบๆ
“อย่างงี้ใช่มั้ยจ๊ะ”
“พี่ชาติ สอนมวยหรือลิเก” แชมป์ถาม

ชาติเองก็ชักงงๆ

แชมป์ใส่ที่ล่อเป้ากำลังสอนเพชรอยู่บนเวที มีชาติดูอยู่ ส่วนพริมซ้อมเตะอยู่แถวนั้น

“เตะซิ” แชมป์สั่ง
เพชรเงอะๆงะๆ เตะออกไปแบบเบาๆ
“อย่างนั้นเรียกเตะเหรอ นั่นมันเขี่ย แรงๆ สิ”
“แรงแค่ไหน”
“มีแค่ไหนก็ใส่มา”
เพชรเตะแรงขึ้นแต่ก็ยังเบาอยู่ ชาติรำคาญเข้าไปจะเตะเพชร
“เดี๋ยวเตะให้ดู”
“อย่าจ้ะ อย่าๆๆๆ ชั้นไม่เคยเตะนี่ ไม่รู้ต้องแรงแค่ไหน”
ชาติหันไปเห็นพริมกำลังซ้อมเตะกระสอบอยู่
“พริม มานี่ซิ”
พริมเดินมาหา “มีอะไรน้าชาติ”
“เตะให้เพชรมันดูซิ”
แชมป์ถอดที่ล่อเป้าส่งให้ เพชรรับมาใส่แบบงงๆ โดยยังไม่ทันจะตั้งตัว พริมก็กระหน่ำเตะ ป๊าบๆๆๆใส่เพชร
“เออ มันต้องอย่างนี้” แชมป์ชอบใจ
พริมกระหน่ำเตะรัวๆ จนเพชรต้านไม่ไหวแล้ว
“พอแล้ว พอแล้ว”
พริมยังเตะอยู่ มือเพชขรอ่อนแรง ทำให้แรงเตะกระแทกเข้าหน้า เพชรล้มลง
ชาติชะโงกหน้าไปดูเพชร
“รู้ยัง ว่าแรงแค่ไหน”

ตกเย็นเพชรเดินกะโผลกกะเผลกไปนั่งพัก พริมเห็นดังนั้น ก็ไปเทน้ำดื่ม จะเอาไปให้เพชร แต่ลิลลี่ถือถุงน้ำแดงวิ่งเข้ามาหาเพชร
“พี่เพชร! ทำไมสภาพเป็นแบบนี้ นี่แค่วันแรกเค้าก็ทำกับพี่ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ดื่มน้ำก่อนนะจ๊ะ”
พริมเห็นเพชรดื่มน้ำแดง ก็สาดน้ำที่ตัวเองกำลังจะเอาไปให้ทิ้ง ทำเป็นไม่สนใจ
บุญหลงเห็นสิ่งที่พริมทำทุกอย่าง โดยพริมทำเป็นแกล้งเดินเข้าไปหาเพชร
เพชรอ้อน “ขอบใจลิลลี่ ชั้นเล่นฉากรบ 10 ฉาก ยังไม่เท่าซ้อมมวย 10 นาทีเลย”
“แล้วใครใช้ให้อยากเป็นนักมวยล่ะ” พริมหมั่นไส้
“ชั้นก็อยากเป็นของชั้นเอง แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอคนใจร้ายอย่างเธอ” เพชรย้อน
ลิลลี่มองตาขวางใส่พริม “ฝึกเบากว่านี้ไม่ได้รึไง ฝึกแบบเนี้ย พี่เพชรตายก่อนพอดี
“ตายที่นี่ ดีกว่าไปตายบนเวที ชั้นเป็นคนบอกให้น้าชาติน้าแชมป์ฝึกให้หนักเองแหละ”
ลิลลี่เห็นรอยช้ำที่แข้งของเพชรก็ร้องกรี๊ด “อ๊าย... ดูสิช้ำหมดเลย” หันมาต่อว่าพริม “โหดร้ายทารุณ ต่อไปนี้ชั้นจะมาเฝ้าพี่เพชรที่นี่ทุกวัน”
“แล้วอาแปะกล้วยพ่อเธอไม่ว่าเอาเหรอ” พริมถาม
“จะว่าไม่ว่ามันก็เรื่องของชั้น ทำไม ที่เธอไม่อยากให้ชั้นมาเฝ้าพี่เพชร เพราะเธอหวงเหรอ”
พริมแก้ตัวพัลวัน “อย่าพูดบ้าๆ นะ เพชร หมดเวลาพักแล้ว ไปซ้อมต่อ”
จากนั้นพริมรีบเดินหนี บุญหลงแอบมองปฏิกริยาพริม

ชาติ ให้แชมป์ไปเรียกเพชรมาคุย พริมอยู่ด้วย
“เมื่อกี้ชั้นคุยกับพี่ชาติ ดูจากท่าทางสำออยของแกแล้วเห็นว่าน่าจะไปไม่รอด ฝึกไปอีกสักสองสามวันแกก็คงจะลาออก ทางที่ดีเลิกซะตอนนี้เลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาพวกชั้น”
เพชรเหมือนโดนปรามาส “ทำไมพูดงี้ล่ะน้าแชมป์ นี่ชั้นก็ทนอยู่มาได้ตั้งหลายวันโดนแกล้งโดนโขกสับสารพัด ชั้นก็ไมเห็นหนีไปไหนเลย”
“โดนแกล้งกับโดนต่อยจริงมันต่างกัน เมื่อกี้โดนชั้นเตะไม่กี่ทีก็ร้องโอดโอยแล้ว ฝึกต่อไปมันจะหนักกว่านี้อีก เธอทนไม่ไหวหรอก”
“ใครโดนเตะก็ต้องร้องทั้งนั้น เธอไม่ร้องเหรอ” เพชรย้อน
“ไม่ร้อง นักมวยเวลาเจ็บเค้าไม่ร้องกันหรอก”
“ได้ งั้นต่อไปนี้ชั้นจะไม่ร้อง โอเคมั้ย”
ชาติตัดบท “เอางี้...เอางี้ ไม่ต้องเถียงกัน มันต้องมีบททดสอบ”

ถัดมา บุญหลง เด่น แคน ยืนอยู่รอบเพชร ทุกคนใส่นวมพร้อมชก พริม ชาติ แชมป์ อยู่นอกเชือก
“ถ้าแแกผ่านมือผ่านตีนไอ้ 3 คนนี้แล้ว ค่อยมาให้คำตอบว่ายังอยากเป็นนักมวยอยู่รึเปล่า” ชาติบอกกติกา
เพชรมุ่งมั่นพยักหน้ารับ
บุญหลง เด่น และแคน รุกเข้าหาเพชร เริ่มปล่อยหมัดและเท้าใส่ไม่ยั้ง เพชรได้แต่กัน จังหวะหนึ่งเพชรโดนเข้าไปดอกหนึ่งจุกจนล้มลง แต่เพชรรีบลุกขึ้นโดยไว
บุญหลง เด่น และแคน ดาหน้าเข้าใส่เพชรอีก จนเพชรล้มลงอีก
เพชรยันตัวค่อยๆ ลุกขึ้น ตั้งการ์ด บุญหลง เด่น แคน เข้าใส่อีก
เพชรโดนไปเต็มๆ ล้มลงไปกองอย่างหมดสภาพ
พริมสงสารแต่ก็เก็บอาการไว้
“ยอมแพ้แล้วล่ะสิ พวกเรา พอแค่นี้”
เพชรเกาะเชือก พยุงตัวลุกขึ้นยืนโงนเงนบอกอย่างอ่อนแรงว่า “ยัง เข้ามาอีก”
บุญหลง เด่น แคน หันไปมองชาติ กะ แชมป์เป็นเชิงถาม สองคนพยักหน้าให้ใส่ต่อ
บุญหลง เด่น และแคนดาหน้าใส่ต่อ เพชรโดนไปอีกทีเดียวก็ล้มลง คราวนี้ลุกไม่ขึ้น
“เป็นนักมวยมันต้องเจ็บตัวอย่างนี้แหละ กลับไปนอนคิดดูดีๆ นะ ถ้ายังอยากเป็นอยู่ พรุ่งนี้ก็ให้ตื่นมาวิ่งตอนเช้า ถ้าไม่มา ก็เป็นอันว่าเลิกกัน”
ชาติ บอกแล้วเดินออกไปกะแชมป์
พริมหันไปสั่งสามคน “ช่วยกันแบกไปห้องพักซิ”

บุญหลง เด่น และแคนช่วยกันหิ้วปีกพยุงเพชรที่หมดสภาพขาลากพื้นออกไป

อ่านต่อหน้า 3

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 4 (ต่อ)

ชาติ ให้แชมป์ไปเรียกเพชรมาคุย พริมอยู่ด้วย

“เมื่อกี้ชั้นคุยกับพี่ชาติ ดูจากท่าทางสำออยของแกแล้วเห็นว่าน่าจะไปไม่รอด ฝึกไปอีกสักสองสามวันแกก็คงจะลาออก ทางที่ดีเลิกซะตอนนี้เลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาพวกชั้น”
เพชรเหมือนโดนปรามาส “ทำไมพูดงี้ล่ะน้าแชมป์ นี่ชั้นก็ทนอยู่มาได้ตั้งหลายวันโดนแกล้งโดนโขกสับสารพัด ชั้นก็ไมเห็นหนีไปไหนเลย”
“โดนแกล้งกับโดนต่อยจริงมันต่างกัน เมื่อกี้โดนชั้นเตะไม่กี่ทีก็ร้องโอดโอยแล้ว ฝึกต่อไปมันจะหนักกว่านี้อีก เธอทนไม่ไหวหรอก”
“ใครโดนเตะก็ต้องร้องทั้งนั้น เธอไม่ร้องเหรอ” เพชรย้อน
“ไม่ร้อง นักมวยเวลาเจ็บเค้าไม่ร้องกันหรอก”
“ได้ งั้นต่อไปนี้ชั้นจะไม่ร้อง โอเคมั้ย”
ชาติตัดบท “เอางี้...เอางี้ ไม่ต้องเถียงกัน มันต้องมีบททดสอบ”

ถัดมา บุญหลง เด่น แคน ยืนอยู่รอบเพชร ทุกคนใส่นวมพร้อมชก พริม ชาติ แชมป์ อยู่นอกเชือก
“ถ้าแแกผ่านมือผ่านตีนไอ้ 3 คนนี้แล้ว ค่อยมาให้คำตอบว่ายังอยากเป็นนักมวยอยู่รึเปล่า” ชาติบอกกติกา
เพชรมุ่งมั่นพยักหน้ารับ
บุญหลง เด่น และแคน รุกเข้าหาเพชร เริ่มปล่อยหมัดและเท้าใส่ไม่ยั้ง เพชรได้แต่กัน จังหวะหนึ่งเพชรโดนเข้าไปดอกหนึ่งจุกจนล้มลง แต่เพชรรีบลุกขึ้นโดยไว
บุญหลง เด่น และแคน ดาหน้าเข้าใส่เพชรอีก จนเพชรล้มลงอีก
เพชรยันตัวค่อยๆ ลุกขึ้น ตั้งการ์ด บุญหลง เด่น แคน เข้าใส่อีก
เพชรโดนไปเต็มๆ ล้มลงไปกองอย่างหมดสภาพ
พริมสงสารแต่ก็เก็บอาการไว้
“ยอมแพ้แล้วล่ะสิ พวกเรา พอแค่นี้”
เพชรเกาะเชือก พยุงตัวลุกขึ้นยืนโงนเงนบอกอย่างอ่อนแรงว่า “ยัง เข้ามาอีก”
บุญหลง เด่น แคน หันไปมองชาติ กะ แชมป์เป็นเชิงถาม สองคนพยักหน้าให้ใส่ต่อ
บุญหลง เด่น และแคนดาหน้าใส่ต่อ เพชรโดนไปอีกทีเดียวก็ล้มลง คราวนี้ลุกไม่ขึ้น
“เป็นนักมวยมันต้องเจ็บตัวอย่างนี้แหละ กลับไปนอนคิดดูดีๆ นะ ถ้ายังอยากเป็นอยู่ พรุ่งนี้ก็ให้ตื่นมาวิ่งตอนเช้า ถ้าไม่มา ก็เป็นอันว่าเลิกกัน”
ชาติ บอกแล้วเดินออกไปกะแชมป์
พริมบอกสามคน “ช่วยกันแบกไปห้องพักซิ”

บุญหลง เด่น และแคนช่วยกันหิ้วปีกพยุงเพชรที่หมดสภาพขาลากพื้นออกไป

ที่บ้านลิเกคืนนั้น รูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือของรักษ์ เป็นรูปเพชรที่ถูกต่อยจนน่วมนอนกองอยู่ที่ห้อง ทุกคนรุมดู
จริยาตกใจ “ตายแล้ว! ใครส่งมาเนี่ย”
รักษ์บอก “ขนุน ตอนนี้ช่วยดูแลเพชรอยู่”
“สภาพอย่างนี้นี่ยังไม่ตายใช่มั้ย” แฉะสยอง
“ชั้นว่าถ้าพี่เพชรอยู่ต่อคงได้ตายจริงๆ แน่ น้าเริง เราไปตามพี่เพชรกลับมาเถอะ”
สำเริงกัดฟันกรอด โกรธอรชร
“ถ้าชั้นไปก็โดนพวกมันไล่กลับมาอีกสิ ปล่อยไอ้เพชรมัน มันอยากไปเจ็บตัวก็เรื่องของมัน”
ทุกคนเป็นห่วงเพชร แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
“พี่รักษ์ แล้วขนุนเค้ามีไลน์พี่ได้ไง”

รักษ์อ้ำอึ้ง “ก็ คงขอมาจากเพชรล่ะมั้ง”

เพชรนอนตาลอยคว้างอยู่ในห้องพัก มีขนุนดูแลอยู่ข้างๆ

“พรุ่งนี้เช้าพี่เพชรไม่ต้องไปวิ่งกับพวกชั้นหรอก แล้วตอนพวกชั้นออกไป พี่ก็ค่อยเก็บของกลับบ้านก็ได้ ถ้าพี่ยังอยู่ พี่พริม น้าแชมป์ แล้วก็พ่อ คงจะหาเรื่องทารุณพี่อีกไม่รู้จบแน่ๆ”
เพชรตาลอยอยู่อย่างเก่า
ลิลลี่วิ่งพรวดพราดเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนก พอเห็นสภาพเพชรแล้วก็กรี๊ด
“อ๊าย...นี่มันอาชญากรรมชัดๆ ใคร! ใครทำพี่เพชรแบบนี้ บอกมานะ”
“อย่าเสียงดังได้มั้ย น้าแชมป์กับพ่อเค้ามีวิธีฝึกที่โหดไปหน่อยก็แค่นั้นเอง”
“แค่นั้นเอง? หายใจรวยรินอย่างนี้เนี่ยนะ แค่นั้นเอง...พี่เพชร ชั้นยอมเห็นพี่เป็นแบบนี้ไม่ได้ ชั้นยอมไม่ได้”
ลิลลี่คิดแผนช่วยเพชร

เช้าวันต่อมา พริมวิ่งเหยาะๆ วอร์มร่างกายอยู่หน้าค่ายมวย ขนุน บุญหลง เด่น แคน และนักมวยอื่นๆ ใส่รองเท้า วอร์มร่างกาย พริมชะเง้อหาเพชร
นักมวยคนอื่นๆ เมื่อพร้อมแล้วก็ออกวิ่ง เหลือพริม ขนุน และบุญหลง
“ไปกันเถอะพริม” บุญหลงบอก
พริมพยักหน้าหยึกๆ แต่ก็ยังรีๆ รอๆ เพชรอยู่
“ชั้นว่าพี่เพชรคงออกมาวิ่งไม่ไหวหรอก โดนหนักซะขนาดนั้น” ขนุนว่า
“คงหนีกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วมั้ง ใจเสาะจริงๆ ผู้ชายอะไร ดีเหมือนกันจะได้จบๆ กันซะที”
พริมออกอาการโมโหวิ่งออกไป ขนุนกับบุญหลงมองหน้ากันงงๆ แล้ววิ่งตามไป

ด้านลิลลี่กำลังขอร้องแปะกล้วยที่กำลังชงกาแฟอยู่
“จะไปเฝ้าผู้ชายที่ค่ายมวย แล้วใครจะช่วยงานอั๊วที่ร้าน”
“ป๊าอ่ะ แต่พี่เพชรเค้าถูกน้าชาติกับน้าแชมป์ทารุณนะ ถ้าไม่ตายก็ต้องพิการแน่ๆ เลยเตี่ย”
“ก็ช่างหัวพ่อไอ้เพชรปะไร ไอ้เพชรมันเป็นพ่อลื้อเหรอ พ่อลื้อน่ะอยู่นี่ หัวพ่อลื้อก็อยู่นี่”
ผักกาดตะโกนเข้ามา “นังลิลลี่ มาเม้าท์ซิ เพชรมันเป็นอะไร”
ลิลลี่สะบัดสะบิ้งไม่พอใจเตี่ย เดินไปหาผักกาดที่ตำส้มตำอยู่
“เจ๊ผักกาด ก็ที่ชั้นเล่าว่าพี่เพชรเค้าไปเป็นนักมวยอะ น้าชาติกับน้าแชมป์ฝึกหนักมากเลย พี่เพชรจะเสียโฉมโดนต่อยหน้าแหกก็คราวนี้แหละ ทำไงดีอ่ะ”
“ตายแล้ว หมู่บ้านเรายิ่งหาผู้ชายหล่อๆ ไม่ค่อยจะได้อยู่ ถ้าเพชรมาเสียโฉมไปอีกคน ชั้นจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงเนี่ย”
แปะกล้วยหมั่นไส้ “นังผักกาด แล้วที่เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันนี่หล่อไม่พอเหรอ”
“ถ้าอย่างแปะเรียกว่าหล่อ โลกนี้ก็ไม่มีคนขี้เหร่แล้ว ลิลลี่ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวชั้นจัดการเอง ผู้ชายหล่อคือสมบัติอันมีค่าของหมู่บ้าน ชั้นจะต้องรักษาไว้”

กะเทยถึกแม่ค้าส้มตำกำสากในมือมั่น

อ่านต่อหน้า 4

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 4 (ต่อ)

เด่น แคน และพวกนักมวยคนอื่นๆ วิ่งนำหน้า พริม ขนุน และบุญหลง วิ่งเกาะกลุ่มอยู่

“เกลียดจริงๆ เลยพวกเหลาะแหละเนี่ย น้าอรไม่น่ารับเข้ามาตั้งแต่แรกเลย” พริมบ่นบ้า
“จากนี้ไปเพชรมันคงไม่กล้ามายุ่งกับค่ายมวยเราแล้วล่ะ” บุญหลงว่า
“อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลยคนแบบนี้”
เสียงเพชรดังมาจากทางข้างหลังไกลๆ “รอด้วย”
ขนุนหยุดหันไปดู
“พี่พริม”
พริมกับบุญหลงหันไปข้างหลัง
สามคนเห็นเพชร วิ่งกะโผลกกะเผลกตามมาแต่ไกล
“เพชร”
พริม ขนุน บุญหลงยืนรอจนเพชรวิ่งมาถึง เพชรมีร่องรอยแผลบนหน้าอยู่
“มาทำไม ถอดใจแล้วไม่ใช่เหรอ” พริมค่อน
“ชั้นหารองเท้าไม่เจอ หมามันคาบไปเล่น ชั้นเลยมาช้า...”
“นี่แปลว่า พี่เพชรยังจะเป็นนักมวยต่อ” ขนุนอย่างทึ่ง
“ที่ชั้นโดนไปเมื่อวานน่ะจิ๊บจ๊อย เหมือนโดนมดกัด ชั้นไม่เลิกง่ายๆ หรอก”
เพชรมองพริมตีหน้ายียวนใส่ พริมทำเป็นไม่สน แล้วออกวิ่งต่อ บุญหลงตาม เพชร กะ ขนุนวิ่งคู่กันตามไป
“พ่อ คณะลิเกเพชรสำเริงของเรา ต้องอยู่รอดต่อไป พ่อรอชั้นหน่อยนะ ชั้นมีเงินเมื่อไหร่ ชั้นกลับไปเล่นลิเกแน่ๆ แต่ตอนนี้ชั้นขอเอาดีทางมวยก่อนนะ”
เพชรบอกตัวเองในใจอย่างหมายมั่น

ชาติกับแชมป์นั่งกินไก่ย่างอยู่ ผักกาดยกส้มตำมาเสิร์ฟ มีลิลลี่นั่งคอยป้วนเปี้ยนสังเกตอยู่แถวนั้นแปะนั่งอยู่ที่ร้าน
“ได้แล้วตำปูปลาร้าแซบๆ อุ๊ตะ น้าชาติ น้าแชมป์ ทำไมหน้าหมองๆ ล่ะ”
“หมองตรงไหน ชั้นอาบน้ำล้างหน้าทุกวัน วันละ 2 หน”
“หมองจริงจริ๊ง... หมองแบบ...คนมีเคราะห์น่ะ” ผักกาดว่า
แปะกล้วยงง “อั๊วก็เห็นปกติดีนี่หว่า”
“เงียบไปเลยเตี่ย เตี่ยน่ะแก่แล้วตาก็ไม่ดี” ลิลลี่แถเข้ามาดู “หมองจริงด้วย”
ผักกาดหยิบมือถือขึ้นมา
“น้าเกิดราศีอะไร ชั้นจะเชคดวงให้ เดี๋ยวนี้เค้าไฮเทคเช็คทางมือถือ”
แชมป์บอก “ราศีเมษ”
ชาติว่า “ราศีสถุล”
“เมถุน” ผักกาดแก้ให้แล้วกดดูมือถือ “ตายแล้ว คนราศีเมษกับเมถุน จะมีเคราะห์จากสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต น้า 2 คนมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตรึเปล่า”
แชมป์บอกขำๆ “ชั้นเพิ่งซื้อแปรงสีฟันใหม่มา ชั้นจะถูกแปรงสีฟันแทงคอหอยตายเหรอวะ ฮ่าๆ”
แม่หมอผักกาดบิวท์ใหญ่ “อย่าทำเป็นเล่นไป นี่ๆๆ เค้าบอกว่าเป็นสัตว์ 2 เท้า”
“อ๋อ...พี่เพชรไง พี่เพชรเพิ่งจะไปสมัครเป็นนักมวยใหม่ในค่าย พี่เพชรจะพาเคราะห์มาให้น้า 2 คนแน่ๆ เลย” ลิลลี่เสริมส่ง
แชมป์ไม่เชื่อ “ไอ้เพชรเนี่ยนะ จะมาทำอะไรชั้นกับพี่ชาติ”
“ไม่ได้หมายความแบบนั้น เพชรมันอาจจะพาเคราะห์ร้ายมาให้ ทางที่ดี พี่ 2 คนเลิกสอนมวยมันดีที่สุดแล้วก็ไล่มันกลับไปเล่นลิเกซะ” ผักกาดอธิบาย
“ไม่ได้ ชั้นมีหน้าที่ต้องฝึกให้ไอ้เพชรมันเป็นนักมวยที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เพื่อไปล้มนักมวยของไอ้เมฆดำ ชั้นเลิกไม่ได้หรอก” ชาติบอกย้ำ
“ชั้นก็เลิกไม่ได้” แชมป์ก็ด้วย

ผักกาดกับลิลลี่ขัดใจ มองหน้ากัน เอาไงดี

ชาติจอดรถเครื่องไว้มุมหนึ่ง ลิลลี่กับผักกาดแอบทำการชั่วอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น

“ในเมื่อเตือนกันดีๆ ไม่ชอบ ก็ต้องมีการสั่งสอนกันบ้าง”
ผักกาดกำลังจะปล่อยลมยางรถ
“จะดีเหรอพี่ผักกาด ปล่อยลมแบบนี้เกิดขี่ๆ ไปรถล้มทำไง”
“แค่นี้เอง อย่างมากก็แค่รถเซๆ ถ้ารถล้มก็แค่ถลอกนิดๆ หน่อยๆ”
ผักกาดปล่อยลมยางรถของชาติ ลิลลี่คอยมองลาดเลา
“น้าชาติน้าแชมป์มาแล้ว”
ผักกาดรีบปิดจุกแล้วทำตัวปกติ
แชมป์งงที่เห็นสองคนอยู่แถวนั้น “มายืนทำอะไรกันตรงนี้”
ผักกาดฉีกยิ้ม “มาเฝ้ารถให้จ้ะ กลัวใครมาขโมย”
“แถวนี้มีขโมยด้วยเหรอ” ชาติงง
“ไว้ใจไม่ได้หรอก ขี่รถดีๆ ล่ะ” ผักกาดตัดบทบอกลา
แชมป์ขี่รถชาติซ้อนท้าย แล่นออกไป ผักกาดกับลิลลี่มองตาม ลุ้นสุดขีด
สักครู่หนึ่งมีเสียงชาติ และ แชมป์ร้อง “เฮ้ย” ตามด้วยเสียงดังโครมคราม
ผักกาด กะ ลิลลี่ร้อง “ว้าย”
ทั้งตกใจปนหวาดเสียวกับผลงานตัวเอง

ชาติกับแชมป์พาสังขารในสภาพใส่เฝือกที่แขนและขา แลดูน่าขันปนทุเรศกลับมาที่ค่าย อรชรมองหน้าเครียด คนอื่นๆ เครียดตาม ยกเว้นลิลลี่ที่ยิ้มแย้ม
“ไอ้โจรมันคงปลดล็อคไม่ได้ มันเลยแกล้งปล่อยลมยาง อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร จะต่อยให้ตาแตกเลย” แชมป์บ่น
“นี่ขนาดชั้นเฝ้าอยู่ทั้งคนนะ ยังไม่รู้เลยว่ามันมากันตอนไหน” ลิลลี่ว่า
“แล้วเรื่องฝึกเพชรล่ะจะทำยังไง เหลืออีกแค่ 10 วันเพชรก็ต้องขึ้นชกแล้ว พี่ชาติพี่แชมป์หายไม่ทันแน่ๆ” อรชรเครียด
ลิลลี่ร้อง “เย้ งั้นพี่เพชรก็ไม่ต้องขึ้นชกแล้วใช่มั้ยจ๊ะ ดีแล้ว พี่เพชรเป็นนักมวยใหม่ ให้ฝึกเบาๆอยู่ที่ค่ายนี่แหละ”
“ไม่ได้ ถ้าเราถอนตัว ไอ้พวกเมฆดำต้องหาว่าเราไม่กล้าสู้” อรชรบอกเสียงเข้ม
“งั้นก็ต้องให้คนอื่นสอนแทน” แชมป์บอก
ชาติถาม “ใครล่ะ”
ทุกคนมองหน้ากันไปมา
อรชรบอกทันที “พริม ในฐานะที่เธอเป็นคนแกล้งให้เพชรไปสมัคร เธอต้องรับผิดชอบ”
“ไม่นะ”
พริมกับลิลลี่ร้องลั่น หันมามองหน้ากัน
“พริมสอนไอ้คนแบบนี้ได้หรอก”
เพชรยัวะ “อ้าว คนอย่างชั้นมันเป็นยังไง”
“ก็เป็นคนที่ชั้นไม่อยากจะยุ่งด้วยไง”
“น้าอร นักมวยมีเต็มค่าย ให้ใครสอนก็ได้ที่ไม่ใช่พริม”
“ขนุนสอนให้เองก็ได้จ้ะ” ขนุนอาสา
“นังขนุน แล้วแกไม่ซ้อมของแกเหรอ ไม่ต้องยุ่งเลย” ชาติว่า
“ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ชั้นพูดคำไหนคำนั้น ต่อไปนี้พริมจะเป็นคนสอนมวยให้เพชร จนถึงวันขึ้นชก”
แผนผิดพลาด ลิลลี่กรี๊ดเสียงหลง “แอร๊ย...รับไม่ด้าย”
พริมหน้ากังวล ไม่อยากจะสอน เพชรยิ้มกวนใส่พริมอย่างสะใจ

บุญหลงแอบมองจับสังเกตเพชรกับพริมอยู่ ด้วยสีหน้าสงสัย และไม่พอใจ

อ่านต่อตอนที่ 5
กำลังโหลดความคิดเห็น