หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 4
วัดยามเช้าในบรรยากาศร่มรื่น หลวงพ่อนั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่ ที่ด้านล่าง แมวกำลังเทน้ำชาให้หลวงพ่อ
"ไม่อ่านหนังสือด้วยกันเหรอแมว"
"ไม่ดีกว่าครับ ผมอ่านทีไรง่วงทุกทีเลยครับ"
"หนังสือไม่ใช่ยานอนหลับ"
พูดจบหลวงพ่อจะหยิบน้ำชามาฉัน แมวลืมตัว ยกน้ำชาหลวงพ่อดื่ม
"นั่นน้ำชาหลวงพ่อ"
"อุ้ย! ขอโทษคร้าบ"
หลวงพี่เดินขึ้นมาบนศาลา ในมือถือแท็บเล็ตเข้ามาด้วย
"จะไปไหนท่าน มาอ่านหนังสือด้วยกันสิ"
"ครับ"
หลวงพ่อส่งหนังสือให้หลวงพี่ หลวงพี่ไม่รับ
"ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมอ่านจากในนี้"
หลวงพี่ยกแท็บเล็ตให้ดู
"อ่านจากหนังสือไม่ดีกว่าเหรอท่าน"
"ในนี่ก็สะดวกดีครับ"
หลวงพ่อมองๆ แต่ไม่พูดอะไรต่อ หลวงพี่กดไอแพดหาหนังสือธรรมะอย่างตั้งใจ
"ผมว่าจะเขียนพวกคำธรรมะสั้นๆ ติดไว้รอบๆ วัดเผื่อชาวบ้านมาวัดจะได้อ่านกัน"
"อันนั้นผมว่าไม่ยากเท่า จะทำยังไงให้ชาวบ้านเข้าวัดหรอกครับ" แมวบอก
"นั่นสิ" หลวงพ่อบอก
แมวมองไปที่หลวงพ่ออ่านหนังสือ และหลวงพี่จ้องแท็บเล็ตอยู่
วัดยามเช้า ไทกับหมากเดินคุยกันจากในวัดออกมาถึงหน้าวัด หมากถือเงินอยู่ในมือ
"ถ้าไม่มีหลวงพี่ ที่วัดก็คงไม่มีใครมีเงินซื้อของเข้าวัดแน่ๆ จนจนกันทั้งน้าน" หมากบอก
"รอพี่มีงาน มีเงิน พี่จะช่วยวัดอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ติดที่พี่ ไม่มีงาน"
ไทเศร้าๆ
"เอาน่าชีวิตต้องสู้ ท้อได้แต่อย่าถอย ... ถ้าให้เลือกระหว่างเงินกับสมองพี่จะเลือกอะไร"
"สมอง" ไทบอก
"กะอยู่แล้ว"
"ทำไมอ่ะ"
"เค้าบอกว่าคนไม่มีอะไร ก็มักเลือกอันนั้น"
"นี่หลอกด่าพี่ไม่มีสมองหรอ...เดี๋ยวเหอะ"
หมากยกมือไหว้ไทขำๆ ก่อนหยุดมองไปที่หน้าวัด ทั้งสองคนเห็นสัปเหร่อ มั่น คุยโทรศัพท์หน้าเครียด
"ขอเวลาให้ผมอีกสักวันนะครับ พรุ่งนี้ผมจะรีบเอาไปคืน ผมไม่หนีอยู่แล้วพูดกันดีๆ ก็ได้ครับ" มั่นบอก
ไทกับหมากมองหน้ากันอย่างสงสัย
ไทนึกถึง ตอนที่มั่นฟื้นขึ้นมา ทุกคนยืนล้อมอยู่
"ตกลงใครทำอะไรน้า"
มั่นอึกอักทำท่ามีพิรุธ
"ไม่รู้เหมือนกันฉันจำอะไรไม่ได้"
"นี่กะทำร้ายกันให้ตายเลยนะ ฉันว่าน้ามั่นไปแจ้งความหน่อยดีกว่า"
"ไม่เป็นไรครับคงแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน งั้นผมขอตัวนะครับ"
มั่นวางสายหน้าเครียดๆ ก่อนหันมาเห็นสองคนยืนอยู่ข้างหลัง แล้วสะดุ้ง
"มากันตั้งแต่มะไหร่"
"ก็เพิ่งมาเนี่ยแหละครับ"
"ลุงคุยกับใครเหรอหน้าเครียดเชียว"
"เรื่องของข้าเหอะ"
มั่นเดินเข้าวัดไปอย่างเร็ว
"ฉันว่าน้ามั่นทำตัวมีนิรุต"
"พิรุธ!"
หมากกับไทมองตามมั่น
ไทเดินมากับหมาก อีกฝั่งเห็นเหมยกับเจนนี่เดินมาเหมือนกัน ทั้งสองกลุ่มจ้องหน้าก่อนรีบแย่งกันสั่งกาแฟ
เหมย/ไทโพล่งพร้อมกัน
"ชาเขียว"
"ฉันสั่งก่อน" เหมยบอก
"ฉันสั่งก่อน" ไทว่า
"ฉันก่อน"
"ฉันก่อน"
"โอ้ย!! เดี๋ยวทำให้พร้อมกันนั่นแหละ ไปนั่ง"
สองคนเดินแยกกันไปนั่งเจนนี่ยังจ้องไทอยู่
"น้องไทจะไปไหนจ้ะวันนี้" เจนนี่ถาม
"จะไปไหนได้นอกจากหางานทำ" เหมยบอก
"จำเรื่องผมเก่งเหมือนกันนะคุณ"
"ฉันไม่ลืมคนที่หลอกผีฉันจนเกือบหัวโกร๋นแน่ๆ"
ลุงชายกกาแฟมาวางให้เหมยกับเจนนี่และไทกับหมาก
เหมยยิ้มๆ เหมือนนึกอะไรออก
"พี่เจนกลับ"
"น้องไทพี่กลับก่อนนะ แล้วเจอกันในฝันคืนนี้"
"อย่าเลยพี่ไทเค้าไม่อยากฝันร้าย"
"ปากเสีย"
เหมยเดินไปกระซิบกับลุงชาก่อนเดินออกไปหันมาคุยกับไทย
"ขอบใจนะนายไท"
พูดจบเหมยรีบเดินออกไปกับเจนนี่
"ขอบใจเรื่องอะไร ท่าจะเพี้ยน"
"ค่ากาแฟรวมของนังเหมยกับเจน แปดสิบบาท"
"นี่!!....ยัยแสบเอ้ย"
ไทล้วงเงินจ่ายอย่างเซ็งๆ
บนศาลา แมวกำลังทำความสะอาดบาตรหลายใบ มั่นนั่งอยู่ข้างๆ เหมือนจะตื้อขอยืมเงินแมวมานานแล้ว
"จะให้พูดกี่รอบ เงินเยอะขนาดนั้นฉันไม่มีหรอก แกไม่ไปยืมหลวงพ่อละ"
"หลวงพ่อจะไปเอามาจากไหน ลำพังจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟวัดก็จะไม่พออยู่แล้ว"
หลวงพี่เดินมายืนฟังอยู่มุมหนึ่ง
"ฉันขอร้องอย่าบอกเรื่องนี้กับหลวงพ่อนะ เดี๋ยวท่านจะไม่สบายใจ"
แมวล้วงเงินในกระเป๋าให้มั่น
"เอางี้ฉันมีสองพันให้แกยืม"
มั่นรับเงินมาสองพัน
"งั้นแกติดฉันอีก หมื่นแปดนะ"
"ฮ่ะ! อะไรนะ"
"ฉันยืมแกสองหมื่น แกให้ฉันมาสองพัน เท่ากับแกติดฉันอีกหมื่นแปด"
"อ๋อ...แบบนี้นี่เอง"
"งั้นฉันไปล่ะ"
"เดี๋ยวๆ ฉันว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แกมายืมฉันสองหมื่น ฉันให้แกสองพัน ฉันจะติดหนี้แกหมื่นแปดได้ยังไง แกสิต้องติดฉันสองพันไอ้บ้า"
มั่นยิ้มๆ
"อ้าวเหรอ"
หลวงพี่มองคิดๆ เรื่องที่สัปเหร่อ มั่นเริ่มติดหนี้
อ่านต่อหน้า 2
หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 4 (ต่อ)
บริเวณถนนหน้าบ้านเฮียเม้ง เหมยเดินมากับเจนนี่กำลังจะเข้าบ้าน แต่มั่นเรียกไว้
"เหมย"
เหมยกับเจนนี่หยุดหันไปมอง
"ว่าไงคะน้า"
สัปเหร่อรีบเดินเข้าไปหาเหมย
"น้าจะมาขอยืมเงินหนูสักหมื่นแปด"
"โห...ถ้าเยอะขนาดนั้นน้าต้องไปขอยืมกับพ่อเหมยแล้วแหละ เหมยให้ได้แค่หลักพัน"
"งั้นน้าเอาสิบแปดพัน"
"งั้นพอคุยกันได้ เย้ย น้าสิบแปดพันมันก็หมื่นแปดนั่นแหละ"
"น้าจะเอาไปทำอะไรเยอะแยะ"
มั่นหน้าเครียดทันทีที่ถูกถาม
หมากกับไทเดินมาเห็น ในมือสองคนถือข้าวสาร ขันน้ำใหม่ ผ้าเช็ดตัวและข้าวของเครื่องใช้ในวัดหลายอย่าง
"เดี๋ยวก่อนหมาก ฉันว่าเรื่องที่น้ามั่นโดนทำร้ายน่าจะเกี่ยวกับยัยนี่แน่ๆ"
"งั้นเราต้องตามไปดูให้รู้เรื่อง"
สองคนเห็นเหมยกับเจนนี่และมั่นเดินเข้าบ้าน ไทกับหมากย่องตามไป
เหมยนั่งอยู่กับมั่นที่หน้าตาเศร้า เจนนี่เดินออกมาจากในบ้าน
"เฮียไม่อยู่ สงสัยออกไปแรดข้างนอก" เจนนี่บอก
"พี่เจน ที่ว่าอยู่พ่อเหมยนะ"
เจนนี่สลด
"น้าจะรอมั้ยอ่ะ"
"งั้นเอ็งโทร.หาพ่อเอ็งให้น้าหน่อยได้มั้ย"
เหมยมองหน้าสัปเหร่ออย่างสงสาร
"ได้จ้ะ"
เหมยกดโทรศัพท์โทร.หาพ่อ
สัปเหร่อมองลุ้นๆ
บริเวณหน้าบ้าน ไทกับหมากแอบมอง หมากโผล่ล่าง ไทโผล่บน
"น้ามั่น คงมาเคลียร์เรื่องหนี้แน่ๆ" ไทบอก
"แต่เฮียเม้งก็ไม่เคยทวงเงินโหดถึงขั้นทำร้ายลูกหนี้เลยนะ" หมากบอก
"การทวงหนี้ มันอาจจะหนักขึ้นเรื่อยๆ"
"ใช่หนักจริงๆ"
"วิธีทวงหนี้ใช่มั้ย"
"ฉันเนี่ยหนัก ไม่ขึ้นมาขี่หลังฉันเลยละ"
ไทแทบจะขึ้นไปนอนบนหลังหมาก
"ขอโทษ"
เหมยวางโทรศัพท์หันมาคุยกับมั่น
"น้าพ่อฉันไม่รับสายเลย"
"งั้นไม่เป็นไรไว้น้าค่อยมาใหม่"
"มาเย็นๆ นะน้า อย่างช้าพรุ่งนี้"
สัปเหร่อพยักหน้าเศร้าๆ เดินออกไป
ไทมองอย่างสงสัย ไม่ชอบใจเหมย
ลุงชา ยกกาแฟร้อนมาเสิร์ฟ เฮียเม้งยกดื่มไม่ทันระวังว่าร้อนจึงหันมาด่าลุงชา
"โอ้ย...ลุงชา ชงกาแฟยังไงทำไมร้อนขนาดนี้"
"อ้าวสั่งกาแฟร้อน แกจะให้มันเย็นได้ยังไงละพูดบ้าๆ"
"งั้นเอากาแฟร้อนไปใส่น้ำแข็งมา"
"อ้าวแล้วทำไมไม่สั่งกาแฟเย็นตั้งแต่แรก"
"ก็ฉันจะกินกาแฟร้อนใส่น้ำแข็ง ไม่กินกาแฟเย็น"
ลุงชาจ้องหน้าเม้งงงๆ ก่อนถอนหายไป
"แล้วแต่"
พูดจบลุงชาเดินไปเอาน้ำแข็งมาให้เฮียเม้ง
ชดช้อยกับกุ๊กไก่เดินเข้ามาในร้าน ชดช้อยทำหน้าดุๆ
"ค่าเช่าร้านด้วยลุง"
"มาถึงก็เก็บค่าเช่าเลยนะ ไม่กินกาฟงกาแฟก่อนเหรอ"
กุ๊กไก่หยิบมือถือมาเล่น แล้ววางเป๋าเงินไว้ตรงหน้าร้าน ชดช้อยหันไปเจอหน้าเฮียเม้งก็สะบัดหน้าหนี
"ตอนแรกก็ว่าจะกิน แต่เห็นหน้าคนแถวนี้แล้วกินไม่ลง"
เฮียเม้งได้ยินก็ยิ้มๆ ก่อนจะเอาคืน
"กินไม่ลงอะไร๊...อย่าให้พูด... สมัยก่อนกินกันเช้ายันเย็น"
เฮียเม้ง ทะลึ่งใส่ ยักคิ้วหลิ่วตาให้ชดช้อยอย่างยั่วยวน
ชดช้อยเห็นแล้วก็โมโห
"ไอ้บ้า"
ลุงชายิ้มๆ รู้ทันเม้ง
"ยิ้มไร รีบๆ เอาตังค์มาฉันไม่อยากอยู่นาน"
ลุงชารีบหุบยิ้ม แล้วจ่ายค่าเช่าสามพันบาทให้ชดช้อย ชดช้อยหยิบเงินแล้วรีบเดินออกไป กุ๊กไก่รีบเดินตามแม่ ลืมกระเป๋าเงินไว้ตรงหน้าร้าน
หน้าบ้านเฮียเม้ง มีเสียงเพลงลูกทุ่งดังลอดออกมา
ไทกับหมากยังอยู่ที่หน้าบริเวณบ้านเฮียเม้ง แอบดูเจนนี่ที่เช็ดจาน ส่วนเหมยนั่งดูบัญชีอยู่ข้างๆ
หมากถาม
"เราจะเฝ้าพี่เหมยอีกนานมั้ยเนี่ย"
"ต้องเฝ้าจนกว่าเราจะมีหลักฐานไปแจ้งตำรวจว่ายัยเนี่ยใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้"
"ก็ไม่เห็นเค้าจะทำอะไรนอกจากฟังเพลงกัน"
เหมยมองเจนนี่เต้นยิ้มๆ
"น้องเหมยมาเต้นด้วยกันสิ"
"ไม่เอาอ่ะ พี่เจนเต้นเลย"
"น่าน้องเหมย มามะ"
เจนนี่ดึงเหมยขึ้นมาเต้น ก่อนสอนเหมยเต้นท่าปลาโลมา ดูน่ารัก
หมากหันมามองไทหน้าพริ้ม
"เคลิ้มเลยนะ...พี่เหมยน่ารักละสิ"
"อืม...เปล่าซะหน่อย"
"กลับเถอะพี่ ป่านนี้หลวงพ่อถามหาแล้ว"
"ก็ได้...แต่ยังไงพี่ต้องรู้ให้ได้ว่าใครทำน้ามั่นแบบนั้น"
ไทกำลังจะเดินไปกับหมาก เห็นกาแฟยืนอยู่ข้างหลัง
"ทำอะไรกัน"
กาแฟมองสองคนอย่างสงสัย
อ่านต่อหน้า 3
หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 4 (ต่อ)
ฝ่ายกุ๊กไก่เดินตามแม่อย่างเซ็งๆ ดูสมุดรายชื่อลูกหนี้
"เหลือบ้านบ้านยายอุ๊ ตามี ลุงมั่ง ป้าศะรี"
"ใครชื่อศะรี"
กุ๊กไก่เอาสมุดให้แม่ดู
"นี่อ่านว่าศรี ศะรีบ้านแกสิ"
"อ่านว่า ศะรี สีมันต้องสะกดด้วย ส-เสือ สระอีนี่ ฉันไม่ได้โง่นะแม่"
"เออไม่โง่...แต่พรุ่งนี้แกรีบไปโรงเรียนเลยนะ ฉันอยากจะบ้า"
ชดช้อยเดินมาถึงบ้านหลังหนึ่งเจ้าของบ้านเห็นรีบวิ่งเข้าบ้านไป
"ป้าศรีฉันเห็นนะรีบๆ ออกมาจ่ายเลย ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันโหดละ เวลายืมฉันก็ให้เวลาจ่ายหายหัวกันหมดเลยนะ ออกมาเดี๋ยวนี้อย่าให้ฉันต้องปีนบ้านเข้าไป"
หลวงพี่ กับแมวเดินผ่านมาพอดี
"มีอะไรกันคุณนาย" แมวถาม
"ก็ป้าศรีนะสิ เห็นแม่มาเก็บหนี้ รีบวิ่งเข้าบ้านปิดประตูเงียบเลยเนี่ย"
ชดช้อยจ้องหน้าให้ลูกหยุดพูด
"ชาวบ้านติดหนี้เยอะมั้ยละโยม"
"หลวงพี่ถามทำไมคะ หรือว่าหลวงพี่จะจ่ายแทน"
"หลวงพี่จะทำแบบนั้นได้ยังไงคุณนาย"
ชดช้อยมองหน้าหลวงพี่
"งั้นเท่าไหร่ก็ไม่น่าใช่กิจของสงฆ์"
"นี่คุณนายกับพระกับเจ้าก็เว้นบ้างนะ"
"ไม่เป็นไรหรอก น้าแมว"
ชดช้อยไม่สนใจ
ชดช้อยตะโกน
"หนีได้หนีไป อย่าให้ฉันเจอละกัน"
พูดจบชดช้อยดึงมือลูกสาวออกไปด้วย หลวงพี่มองตาม คิดๆ ถึงชาวบ้านที่ติดหนี้และเรื่องสัปเหร่อ
หมากกับไทนั่งอยู่ที่โต๊ะโดยมี กาแฟ เหมยกับเจนนี่จ้องอยู่
"คุณสองคนจะบอกได้รึยังว่ามาทำอะไรที่หน้าบ้านเหมย"
"อย่าบอกนะว่ามาแอบดูเจนนี่"
"พี่เจน! หรือว่านายจะมาปล้น ฆ่า แล้วก็ข่มขืนฉัน"
เหมยทำท่ากลัวโอเว่อร์
"เปล่านะพี่เหมย...เราสองคนแค่มาดูว่าพี่ใช่คนร้ายมั้ย"
"คนร้ายอะไร" เหมยถาม
ไทหันไปคุยกับกาแฟ
"คือเมื่อคืนน้ามั่นโดนทำร้าย ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับการทวงหนี้"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่มาแอบดูฉันอยู่หน้าบ้าน"
"ผมคิดว่าคนที่ทวงหนี้โหดอาจจะเป็นคุณกับพ่อ"
ไทกับเหมยหน้าเหมือนจะเอาเรื่องกัน กาแฟสงสัยเรื่องที่ชาวบ้านโดนทำร้ายร่างกาย
เฮียเม้งนั่งดูมือถืออยู่เห็นมือถือ มีมีสคอลหยิบมาดูแล้วกดโทร.ไป
"ว่าไงลูก...น้ามั่นเหรอ โอเคๆ ได้เดี๋ยวพ่อจัดการเอง"
เฮียเม้งวางสายแล้วหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน หนังสือพิมพ์บังหน้า มั่นเดินเข้ามา
"ลุงชาเอากาแฟร้อนใส่น้ำแข็งแก้ว"
"ไม่มีโว้ยมีแต่กาแฟเย็นกับร้อน"
"แหม...ขึ้นง่ายจริงๆ กาแฟเย็นนั่นแหละจ้ะ"
"เออ...มันจะสั่งให้ยุ่งยากกันทำไมวะ"
ลุงชาหงุดหงิด ก่อนก้มๆ เงยๆ ชงกาแฟ มั่นเห็นกระเป๋าที่กุ๊กไก่วางไว้หน้าร้านหยิบมาเปิดดูเห็นเงินเป็นปึกๆ อยู่ในนั้น นิดตาโต คิดๆ
เฮียเม้งวางหนังสือพิมพ์ ก่อนมองเห็นมั่นแล้วเรียก
"น้ามั่น เห็นเหมยบอกว่าน้ามาหาฉันที่บ้านมีอะไรรึเปล่า"
มั่นยิ้ม
"มีๆ"
"มีอะไร"
"ตอนนี้ไม่มีแล้ว ฉันไปนะ"
"อ้าวแล้วกาแฟละ" ลุงชาถาม
"กาแฟฉันไม่กินแล้วนะ"
มั่นเดินออกไปอย่างรีบร้อน
"อะไรของมัน"
นวลนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ชดช้อยเดินหงุดหงิดเข้ามาในบ้าน
"นวลไปหาน้ำมาให้ฉันกินสิ"
"เอาน้ำอะไรดีคะคุณนาย"
"แล้วมันมีกี่น้ำละ"
"มีน้ำเปล่าอย่างเดียว"
"แล้วแกจะถามหาพระแสงอะไร ไป๊เอามา"
นวลรีบวิ่งออกไป
"กุ๊กไก่แกไปหยิบเครื่องคิดเลขมาสิฉันจะคิดเงิน"
"ใช้ทำไมเครื่องคิดเลข ใช้ฉันดีกว่า"
"ขืนให้แกนับมีหวังเจ๊ง แล้วก็เอากระเป๋าเงินมาด้วย"
นวลยกน้ำมาวาง
"กระเป๋าไรแม่"
"ก็กระเป๋าตังค์ที่ฉันให้แกถือไง"
กุ๊กไก่ตาโตตกใจ
"สงสัยจะงานเข้า" นวลว่า
"นังกุ๊ก...นี่อย่าบอกนะว่าแก"
"กระเป๋าหาย"
กุ๊กไก่หน้าเสียทันที
ท่าน้ำยามเย็นเงียบสงบ มั่นนั่งเปิดกระเป๋าเงินดูอยู่ คิดๆ ว่าจะเอายังไงดี หลวงพี่เดินมาข้างหลัง
"ทำอะไรอยู่น้ามั่น"
มั่นตกใจรีบซ่อนกระเป๋าเงิน
หลวงพี่เดินมายืนที่ศาลาแล้วมองไปที่แม่น้ำยิ้มบางๆ
"นั่งคิดไปเรื่อยๆ ครับหลวงพี่"
"มีอะไรให้คิดเยอะแยะเหรอน้า"
"ก็ไม่เยอะหรอกครับ...แต่ต้องใช้การตัดสินใจนิดหน่อย"
"แล้วตัดสินใจได้รึยัง"
"ยังเลยครับ"
"หลวงพ่อเคยสอนว่า ถ้าเหตุดี ผลก็จะดีไปด้วย"
มั่นคิดๆ ตามก่อนจับเงินที่ซ่อนไว้
"ขอบคุณครับหลวงพี่"
"หลวงพี่ก็เคยเลือกผิดมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่งั้นก็คงไม่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้"
"หลวงพ่อเคยสอนผมว่าสิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดีเสมอนะครับ"
"นั่นสินะ"
หลวงพี่หันมายิ้มให้กับมั่น ในใจทั้งสองต่างมีเรื่องเครียด
เฮียเม้งเดินเข้าบ้านมาเหมย เจนนี่ และ กาแฟยืนรอทำหน้าบึ้งใส่
"แหม...กลับบ้านดึกนิดหน่อยถึงกับเรียกตำรวจมารอเลยเหรอ"
"ไม่ขำพ่อ"
"มีอะไร"
"พ่อจ้างคนไปทำร้ายน้ามั่น เพื่อทวงหนี้รึเปล่า"
"พ่อไม่ได้ทำ"
เม้งพูดจบ เหมยถอนหายใจอย่างโล่งอก
"เจนก็นึกว่าเฮีย จะโหดเหมือนหน้าทำร้ายคนอื่นแบบนั้นได้"
"ถึงหน้าฉันจะแบบนี้ แต่ใจฉันหล่อมากนะเว้ยนังเจนนี่"
"พ่อจะทำอะไรฉันไม่เคยว่า ขออย่างเดียวอย่าทำร้ายคนอื่นเข้าใจมั้ย"
"เข้าใจแล้ว นี่ทำตัวเป็นแม่ข้าไปทุกวันนะเอ็ง... แล้วนี่พาตำรวจมาเตรียมจับพ่อเหรอ"
"ถ้าพ่อทำผิด ผมก็ต้องจับครับ เพราะทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย"
"แหมหมวดก็...นี่พ่อของนังเหมยนะ จะจับได้ลงคอเหรอ"
"ไม่ว่าใครถ้าทำผิดกฎหมายผมก็ต้องจับครับ"
กาแฟพูดพลางกวาดสายตามองเหมยและเฮียเม้ง ที่ก้มหน้าเพราะตัวเองก็มีความผิดเรื่องเงินกู้อยู่
อ่านต่อหน้า 4
หลวงพี่ดิจิตอล ตอนที่ 4 (ต่อ)
หลวงพ่อกับหลวงพี่กำลังกราบพระประธานในโบสถ์เสร็จ ก่อนลุกมานั่งในท่าสำรวม แมวนั่งสัปหงกอยู่ข้างๆ
"เป็นไงบ้างวันนี้เริ่มจำบทสวดได้บ้างรึยัง"
"เริ่มได้บ้างแล้วครับ"
"มีอะไรสงสัยตรงไหนก็ถามได้นะ"
"ครับ"
หลวงพ่อจะเดินออกไปก่อนหันไปเห็นแมวสัปหงก
"ฝากท่านด้วยนะ"
"ครับ"
หลวงพ่อเดินออกไป
หลวงพี่เรียก
"น้าแมวๆ"
แมวรู้สึกตัวก็โวยวาย
"ไหนๆ แมวอยู่ไหน มันมาขโมยอะไรกิน"
"หลวงพี่เรียกน้านั่นแหละ ปะไปนอนได้แล้ว"
แมวรีบกุลีกุจอปิดหน้าต่างโบสถ์อย่างเร็ว
"น้าแมวเล่าเรื่องน้ามั่นให้หลวงพี่ฟังหน่อยได้มั้ย"
"แต่เรื่องมันยาวนะครับ"
"ขอแบบสั้นๆ ก็ได้ ทำไมน้ามั่นถึงไปติดหนี้ได้เพราะดูแกไม่ได้เป็นคนสุลุ่ยสุหร่ายอะไร"
"หลวงพี่รู้เรื่องพี่มั่นด้วยเหรอครับ"
หลวงพี่พยักหน้า
"พี่มั่นมันเริ่มติดหนี้ตอนเมียป่วย ยอมขายทุกอย่าง กู้หนี้ยืมสินเพื่อรักษาเมีย แต่สุดท้ายเมียตาย เหลือไว้แต่หนี้ท่วมหัว สมบัติก็เหลือแค่บ้านหลังเดียว แต่แกไม่ยอมขายเพราะรับปากเมียเอาไว้ ว่าเป็นตายยังไงก็จะไม่ยอมขายบ้านหลังนี้เด็ดขาด"
หลวงพี่ฟังแมวพูดอย่างใช้ความคิด
สัปเหร่อ มั่นจับของในกระเป๋าหน้าเครียดๆ นักเลงสองคนเดินมา
"ทั้งต้นทั้งดอก ครบนะ"
ทั่นล้วงของในกระเป๋าออกมา เป็นโฉนด
"ฉันไม่มีเงินหรอก เอาโฉนดบ้านฉันไปเถอะ"
นักเลงปัดโฉนดบ้านสัปเหร่อทิ้ง มั่นมองอย่างโกรธๆ
"ถ้าแกไม่เอาโฉนด ก็เหลือแค่ชีวิตฉันแล้วแหละ"
นักเลง 1บอก
"นี่น้ายังไม่เข็ดอีกเหรอ"
มั่นหลับตา
"จะทำอะไรฉันอีก ก็เอาให้ตาย ฉันจะได้ไปอยู่กับเมียซะที"
นักเลงทำท่าเหมือนจะล้วงปืน ไทเดินนำหลวงพี่กับหมากเดินตาม
"หยุดก่อน!"
นักเลงหันไปมองไทที่เดินนำมา ไทหยุดเดินแล้วให้หลวงพี่เดินนำไปก่อน
"หลวงพี่"
ไทบอก
"นิมนต์หลวงพี่ก่อนเลยครับ"
"โธ่...พี่ไท" หมากว่า
หลวงพี่เดินเลยหมากกับไทไป
"อาตมาว่าโยมโทร.ไปหานายจ้างโยมก่อนดีกว่า"
หลวงพี่ ไท และ หมากยืนอยู่หน้าบ้านชดช้อย
ชดช้อยกับนวลเดินลงมา
"หลวงพี่มีอะไรรึเปล่าคะ รึว่ามารับบิณฑบาต... นวลไปหามาม่าปลากระป๋องมาตักบาตรหน่อยสิ"
"คุณนายพูดกับพระกับเจ้าแบบนี้ระวังขี้กากขึ้นหัว"
"มิน่ารู้สึกคันๆ นังนวลเดี๋ยวๆ แกจะโดน"
นวลก้มหน้าสลด
"หลวงพี่ไม่ได้มารับบิณฑบาตหรอก"
"งั้นดิฉันไม่นิมนต์เข้าบ้านนะคะ"
หลวงพี่พยักหน้า
"หลวงพี่จะมาขอบิณฑบาตหนี้น้ามั่น"
"หมายความว่ายังไงคะ จะให้ฉันยกหนี้ให้น้ามั่นน่ะเหรอ"
หลวงพี่หันหน้าไปหาไท ไทหยิบซองเงินในย่าม ส่งให้ชดช้อย
"นี่เงินสองหมื่นที่น้ามั่นติดหนี้โยมอยู่"
ชดช้อยหยิบมานับ
"ดอกเบี้ยอีกสองพันคะ"
"โหคุณนายก็น่าจะได้ไปเยอะแล้ว ยกให้สักงวดไม่ได้เหรอ" ไทบอก
"อย่าหาว่างั้นงี้เลยหลวงพี่ อิฉันก็ต้องทำมาหากิน"
หลวงพี่พยักหน้าให้ไทหยิบเงินให้ชดช้อยอีกสองพัน
"ทีนี้ก็จบหมดหนี้กันแล้วนะ อย่าคิดทำร้ายใครเพราะเงินอีกเลยโยมชดช้อย เงินมันไม่ได้เป็นทุกอย่างของความสุขหรอก"
ชดช้อยไม่สนใจที่หลวงพี่พูด เดินเข้าบ้านอย่างไร้มารยาท นวลยกมือไหว้ขอโทษหลวงพี่
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นักเลงกดวางสายแล้วพยักหน้าให้เพื่อนอีกคน
นักเลง 1บอก "เรียบร้อยแล้ว"
นักเลง 2 บอก "งั้นผมลานะครับหลวงพี่"
นักเลงสองคนเดินออกไป
"ขอบคุณครับหลวงพี่"
หลวงพี่พยักหน้าให้ด้วยความเห็นใจ มั่นก้มเก็บโฉนดขึ้นมากอด น้ำตาไหล
หมากบอก
"หมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย สรรพเคราะห์ เสนียดจัญไรซะทีนะน้ามั่น"
"แหม...ปลอบซะยาวเชียว" ไทบอก
หลวงพี่จ้องไปที่สัปเหร่ออย่างสงสาร
ชดช้อยเดินบ่นๆ มาเปิดประตูมองเห็นหมวดกาแฟยืนอยู่หน้าบ้าน กุ๊กไก่กับนวลเดินตามมาด้วย
"หัวกะไดไม่แห้งเลยนะคะวันนี้แขกเยอะจริงๆ" นวลบอก
"แขกที่ไหน นั่นตำรวจ"
นวลมองเอือมระอาใจความซื่อของกุ๊กไก่
"มีอะไรเหรอหมวด"
"พอดีมีพลเมืองดี เอากระเป๋าเงินมาคืนคุณนายครับ"
กุ๊กไก่ดีใจ รีบหยิบซองจากหมวดไปนับ
"ใครคือพลเมืองดีเหรอคะ เผื่อฉันจะได้ตอบแทนเค้า"
"น้ามั่นครับ"
กุ๊กไก่รับเงินมานับ
"คนจนบางคนก็คิดดีไม่อยากได้ของคนอื่น แต่คนรวยบางคนก็คิดแต่จะเอาจากคนจน"
"นังนวล"
นวลสลด
"คุณนายพอจะรู้เรื่องน้ามั่นโดนทำร้ายรึเปล่าครับ"
ชดช้อยหน้าเสีย แกล้งทำท่าตกใจ
"อุ้ยตาย...คุณพระคุณเจ้าช่วยด้วย ไม่รู้เลยคะ ใครนะใจร้ายทำคนดีๆ แบบนี้ได้ลงคอ นี่ฉันก็ว่าจะไปตบรางวัลให้แกที่เอากระเป๋ามาคืนเนี่ย"
"ยังไงคุณนายก็เป็นคนที่ชาวบ้านนับถือ ถ้าพอจะรู้ว่าเป็นใครก็บอกผมด้วย ช่วยกันแจ้งเบาะแส คนไม่ดีจะได้หมดจากหมู่บ้านเรา"
"ค่ะ"
"งั้นผมกลับนะครับ"
หมวดกาแฟเดินออกไป
ชดช้อยมองตามอย่างไม่สบอารมณ์เหมือนตัวเองโดนด่า ก่อนหันไปมองกุ๊กไก่นับตังค์
"แกไปใช้เครื่องคิดเลขเถอะฉันขอ"
"ฉันนับเสร็จแล้วแม่"
"ได้เท่าไหร่"
"แบงค์พันสามสิบใบ แบงค์ร้อยสิบใบ แบงค์ยี่สิบอีกเจ็ดใบ"
"รวมเป็น"
"ไม่รู้ฉันนับจำนวนแบงค์ ไม่ได้นับจำนวนเงิน เดี๋ยวฉันนับใหม่"
"แกไปแต่งตัวไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้...ไป๊"
ชดช้อยเซ็งๆ ลูกสาว ก่อนเหม่อมองตามหมวดกาแฟออกไปคิดเรื่องหนี้
หลวงพี่ส่งโฉนดคืนให้มั่น
"น้ามั่นเก็บไว้เถอะ หลวงพี่รู้ว่าบ้านหลังนี้สำคัญกับน้าขนาดไหน"
"แต่ว่าผมติดหนี้หลวงพี่"
"เงินเล็กๆ น้อย ถ้าช่วยชีวิตใครสักคนไว้ได้ก็ถือว่าเป็นบุญกับหลวงพี่"
มั่นไหว้หลวงพี่
"ขอบคุณครับหลวงพี่"
"หลวงพี่ใจดีจังนะครับ ผมขอยืมสักสี่ห้าพันได้มั้ย" แมวบอก
"ทะลึ่งละแมว"
"ผมหยอกเล่น"
หลวงพี่ยิ้มๆ หลวงพ่อมองหลวงพี่อย่างชื่นชม
"หลวงพี่เค้าช่วยไม่ได้ทุกครั้งหรอกนะ ทีนี้ก็รู้แล้วว่าติดหนี้คนอื่นทำให้ทุกข์ขนาดไหน วันหลังก็ต้องรู้จักหา รู้จักกิน รู้จักใช้ เข้าใจมั้ย" หลวงพ่อบอก
"ครับ"
"แบบนี้แสดงว่าคนที่ทำร้ายน้ามั่นคือคุณนายใช่มั้ย" ไทว่า
"ช่างมันเถอะไท เรื่องมันจบแล้ว"
"ฉันว่าน้าไปแจ้งความเถอะนะ อย่างน้อยเค้าจะไม่ได้ทำกับคนอื่นอีก" ไทบอก
"ฉันไม่อยากก่อกรรมกับใครแล้ว ถือว่าฉันชดใช้ไปแล้วก็ละกัน"
ไทมีสีหน้าไม่เห็นด้วย แต่เคารพในการตัดสินใจของมั่น
"นี่แหละน้าที่เค้ากว่าการไม่มีหนี้ เป็นน้ำตกอันประเสริฐ" หมากบอก
"เป็นลาภอันประเสริฐ ...ตลกใหญ่แล้วแกเนี่ย" แมวว่า
"ไม่รู้ว่าชาวบ้านคนอื่นที่ติดหนี้แล้วไม่มีจ่าย ต้องเป็นทุกข์กันอีกกี่คนนะครับ"
หลวงพี่บอก สีหน้าคิดๆ
อ่านต่อตอนที่ 5