ลมซ่อนรัก ตอนที่ 11
ธนาฒน์กดเรียกลิฟท์ซ้ำๆ อย่างกระวนกระวาย ชมนาดเข้ามาต่อว่าเดียที่ยืนเงอะงะอยู่
“ชั้นบอกให้เธอกดลิฟท์เอาไว้ ทำไมเธอไม่กด”
“เอ่อ ก็..ก็เดียตกใจ” เดียแก้ตัว
ลิฟท์เปิด ธนาฒน์รีบวิ่งเข้าไปในลิฟท์ทันที ชมนาดรีบเดินตาม ลิฟท์กำลังจะปิดประตู อยู่ๆ เดียก็กดเรียกลิฟท์ให้เปิดค้างเอาไว้ ธนาฒน์เสียงดังขึ้นมาทันที
“จะกดทำไม”
“อุ้ย นึกว่าคุณชมให้กด ขอโทษค่ะ” เดียไหว้แล้วรีบชิ่งไป
ลิฟท์ปิด เสียงชมนาดทะลุออกมานอกลิฟท์
“อยากมีเรื่องกับชั้นเหรอ”
ภัทรินรีบผวาเข้าไปหาปราณ
“ปัญหาของจีแอลเอสไม่ใช่ธุระของคุณเลยนะหมอ พักรักษาตัวเองให้ดีก็พอ ที่เหลือพี่ชายคุณเขาจะจัดการเอง”
ปราณเหลือบมองไปที่เลขลิฟท์อีกตัวที่กำลังลงมา อัณณาเห็นสายตาปราณมองตามไปที่ลิฟท์แล้วก็ปะติดปะต่อเรื่องราวแล้วก็พอจะเข้าใจได้
“มีคนตามมาเหรอคะ” อัณณาถาม
ปราณไม่ตอบอะไร เขาเข้าไปคว้าตัวปราณนต์เหมือนมีเรื่องต้องพูดด้วย
“ไปกับชั้น” ปราณบอก
ปราณเป็นฝ่ายพาปราณนต์แยกออกไปอีกด้านซึ่งเป็นทางออกอีกด้านไม่ใช่ด้านหน้าที่เข้ามา
“หมอ” ภัทรินเรียก
ภัทรินรีบตามไป อัณณากำลังจะตามไปด้วยแต่เสียงลิฟท์มาถึงดังขึ้น อัณณาเลยหันมารอหน้าลิฟท์ ชมนาดกับธนาฒน์เดินออกมาพอดี ชมนาดจะฝ่าไป แต่อัณณาขยับมายืนขวางไม่ให้ทั้งคู่ตามไป ชมนาดฮึดฮัด
ปราณลากปราณนต์แยกออกมาแล้วก็รีบเดินเลี้ยวมุมนั้นมุมนี้ด้วยความแม่นยำ ภัทรินรีบเดินตาม
ปราณลากปราณนต์มาอีกทางแล้วเลี้ยวไปจนเจอประตูออกด้านข้างตึก ภัทรินเดินตามไม่ลดละมาในเส้นทางเดียวกันจนถึงประตูออกด้านข้างตึก เธอรีบพุ่งออกตามไปด้านนอก แต่ภัทรินไม่พบปราณหรือปราณนต์แล้ว เธอมองหาไปรอบๆก็ไม่เจอจึงได้แต่แปลกใจ
“ไปไหนแล้ว”
ภัทรินเดินและพยายามมองหา
ชมนาดจะขยับตามภัทรินไปแต่อัณณาขยับขวาง
“คุณปราณฝากแจ้งว่า วันพรุ่งนี้ เขากับคุณภัทรินจะเข้ามาพบกับกรรมการสอบสวนคดีทุจริตที่นี่ พร้อมกับเปิดโปงความจริงที่คุณปราณเพิ่งได้มา”
“ความจริงอะไร” ชมนาดถาม
อัณณายิ้ม “อ้าว นึกว่าทราบอยู่แก่ใจแล้ว งั้นรอให้คุณปราณเฉลยเองแล้วกันค่ะ ดิฉันไม่อยากสปอยล์”
อัณณาเดินแยกออกไปทางประตูเข้าหลัก
ธนาฒน์กับชมนาดกังวลและเครียด
ธนาฒน์ร้อนรน “พี่ชม เอาไงดีครับ”
ชมนาดแค้น
ปราณลากปราณนต์มาหลบด้านที่ปลอดคน
“พวกมันจับพ่อไปเป็นตัวประกัน เราต้องช่วยพ่อ” ปราณบอก
“จะช่วยพ่อแล้วบุกเดี่ยวมาที่นี่ทำไม คิดเหรอว่าถ้าพี่ยอมเสียสละตัวเองแล้วพวกมันจะยอมจบ พ่อไม่ยอมเข้าผ่าตัดเพื่อปกป้องจีแอลเอสเอาไว้ แต่พี่กำลังจะทำให้ความตั้งใจของพ่อสูญเปล่า” ปราณนต์ว่า
“ชั้นรู้ ชั้นถึงกลับออกมา ไม่ได้เข้าไปหาชมนาดนี่ไง” ปราณบอก
“วันหลังคิดได้ให้เร็วกว่านี้หน่อยก็ดี” ปราณนต์ว่า
ใครบางคนเดินเข้ามาตรงหลืบข้างๆ ใกล้กับจุดที่ปราณนต์กับปราณอยู่ซึ่งใกล้พอจะได้ยินทุกอย่าง
“คิดบ้างมั้ยว่าถ้ามีคนจับได้ว่าพี่กับผมเล่นละครตบตาคนทั้งโลกอยู่ จะเป็นไง!! มันจะกลายเป็นประเด็นที่มาดิสเครดิตเราจนหมดความน่าเชื่อถือ แล้วเราจะเป็นฝ่ายเดือดร้อน” ปราณนต์ว่า
“แล้วจะให้ชั้นอยู่เฉยๆดูน้องชายตัวเองแก้ไขปัญหาที่มันเป็นความรับผิดชอบของชั้นงั้นเหรอ” ปราณถาม
“เวลานี้ไม่มีปัญหาของพี่แล้ว เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว และพี่ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ พี่ต้องทำให้คนเชื่อว่าผมป่วยอยู่ โดยเฉพาะภัทริน อย่าให้ภัทรินจับได้ จะยุ่งยากที่สุด”
“แต่สุดท้ายภัทรินก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี แล้วชีวิตนายนั่นแหละจะพัง”
ปราณนต์อึ้งไปเพราะมันจะต้องเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่เขาไม่มีทางเลือก
“อย่างน้อยก็รักษาจีแอลเอสไว้ได้ ยังดีกว่าเสียไปหมดทุกอย่าง” ปราณนต์ว่า
ปราณนต์กับปราณพากันเดินแยกไป
คนที่หลบอยู่ที่หลืบด้านข้างคือภัทรินที่กำลังช็อกกับความจริงที่ได้รู้ทั้งหมด
“ไม่จริง คุณปราณคือ หมอณนต์”
ภาพอดีตต่างๆที่ผ่านมาถูกประมวลในหัวของภัทรินทันที ทั้งภาพตอนที่เจอกันครั้งแรกที่สนามบิน ภาพตอนที่ปราณนต์สัญญาว่าจะไม่โกหก ภาพช่วงต่างๆที่ภัทรินสงสัยในความเหมือนกันของปราณกับปราณนต์ ภาพตอนที่ปราณนต์ดำน้ำงมหาแหวนอย่างจริงจัง และภาพปราณนต์ที่เกือบจูบภัทรินที่เขื่อน
ความเจ็บปวดและเสียใจล้นท่วมจนแทบจะพุ่งออกมาเป็นก้อนสะอื้นครั้งใหญ่ ภัทรินต้องรีบปิดปากเม้มเพื่อสะกดความรู้สึกที่จะล้นทะลักออกมา ใบหน้าและเนื้อตัวของเธอเกร็ง กำมือแน่น ความเจ็บปวดเสียใจปรากฏอยู่ในทุกอณูของร่างกาย แต่เธอก็พยายามสะกดมันเอาไว้ กดข่มมันเอาไว้
ภัทรินเอามือทุบกำแพงด้านหลัง “ทำไม ทำไม ทำไม”
ภัทรินรู้สึกเจ็บปวดเสียใจเป็นที่สุด
อัณณารออยู่ที่รถ ปราณกับปราณนต์รีบเดินเข้ามา
“อัณ ภัทล่ะ” ปราณนต์ถาม
“ไม่ทราบเหมือนกัน อัณกันคุณชมนาดเอาไว้ ไม่ทันมองว่าคุณภัทไปไหน” อัณณาบอก
ปราณนต์กังวลและเป็นห่วง “อัณพาพี่ปราณกลับไปก่อน เดี๋ยวผมไปดูภัทเอง..ไปสิ ก่อนที่จะมีใครมาเห็น”
“ค่ะ ไปค่ะปราณ”
อัณณาพาปราณแยกไปที่รถของอัณณา
ปราณนต์ห่วงภัทรินจึงจะเดินกลับเข้าไป แต่ภัทรินเดินมาแต่ไกล พอเห็นปราณนต์ภัทรินก็ก้าวขาไม่ออก เธอได้แต่มองเขาด้วยสีหน้าราบเรียบชินชาเหมือนไร้ความรู้สึก
“ภัท” ปราณนต์รีบวิ่งเข้าไปหา “คุณไปไหนมา”
ภัทรินมองหน้าปราณนต์อย่างสำรวจตรวจสอบว่าใช่หมอปราณนต์จริงๆ
ภัทรินมีสายตาร้าวลึกเพราะเจ็บปวดจนด้านชา ไม่สามารถรู้สึกเจ็บไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
ปราณนต์แปลกใจ “คุณภัท เป็นอะไรหรือเปล่า”
ภัทรินพยายามสะกดเสียงให้เรียบที่สุด “เปล่า”
อยู่ๆ น้ำตาภัทรินก็ไหลหยดออกมาเอง
“แล้วทำไมร้องไห้” ปราณนต์งง
ภัทรินยกมือปาดน้ำตามาดูแล้วก็ยิ้มเยาะให้กับชะตากรรมของตัวเอง ปราณนต์งงหนัก
ภัทรินนั่งนิ่งแววตาซึมลึกอย่างไร้อารมณ์ ปราณนต์ขับรถพลางหันมามองภัทรินเป็นระยะๆ
“คุณหิวมั้ย แวะหาอะไรทานก่อนกลับมั้ย” ปราณนต์ถาม ภัทรินนิ่ง “คุณภัท ได้ยินมั้ยครับ คุณภัทริน”
ภัทรินหันมาช้าๆ แล้วมองหน้าปราณนต์
“คุณคิดอะไรอยู่” ปราณนต์ถาม
ภัทรินมองนิ่ง ปราณนต์เหล่มองอย่างคาดคั้น
ภัทรินหันกลับไปมองนอกหน้าต่างเพราะไม่อยากมองหน้าหรือสนทนากับปราณนต์อีก สีหน้าและแววตาลึกลับและเจ็บลึก ปราณนต์แปลกใจและงุนงง
รถกระบะแล่นมาจอด ภัทรินลงจากรถทันทีโดยไม่รอปราณนต์ เธอรีบเดินเข้าบ้าน
ปราณนต์เรียก “คุณภัท เดี๋ยวๆๆ” ปราณนต์วิ่งมาขวางแล้วมองหน้าว่าภัทรินเป็นอะไร “คุณไม่สบายหรือเปล่า ขอผมดูหน่อย” ปราณนต์จะจับหน้าผากภัทรินเพื่อดูว่าเธอเป็นไข้หรือเปล่า
ภัทรินผละหลบเพื่อไม่ให้ปราณนต์แตะตัว “ชั้นเหนื่อย”
ภัทรินเดินเข้าบ้าน ปราณนต์ยืนงง
อัณณาพูดสวนออกมา “คุณภัทเป็นอะไร”
“ไม่รู้ บอกแต่ว่าเหนื่อยๆ”
“ก็คงจะเหนื่อยจริงๆ ณนต์กับคุณภัทตีรถขึ้นกรุงเทพตั้งแต่เมื่อคืน จนตอนนี้ เพิ่งจะได้พัก ไม่เหนื่อยก็แปลกแล้ว”
“มันก็ใช่ แต่ มันแปลกๆ”
ปราณนต์ยังคงกังวลขึ้นมาตะหงิดๆ
ภัทรินกลับเข้ามาในห้อง เธอปิดประตูแล้วความอดทนที่ทนมาตลอดก็พังทลาย น้ำตาของเธอไหลพรากด้วยความช็อกและตกตะลึงกับความจริง แต่เธอก็ไม่อยากให้เสียงเล็ดลอดออกไปจึงยกมือปิดปากแน่นด้วยสองมือเพราะไม่อยากให้มีเสียงใดๆออกมา
สักพักก็มีเสียงโมบายล์ดังกรุ๊งกริ๊งมา ภัทรินชะงักเพราะได้ยินเสียงนั้น แววตาของเธอกลายเป็นพาล พร้อมกับมองไปที่โมบายล์นั้นยิ่งเห็นโมบายล์เคลื่อนไหวเพราะสายลมก็ยิ่งรู้สึกโกรธ ทันใดนั้นเสียงปราณนต์ที่เคยบอกเธอก็ดังในหัว
“ปราณและปราณนต์ ชื่อของเรา แปลว่าลม”
ภัทรินลุกเดินเข้าไปที่โมบายล์แล้วดึงมันออกมาเขวี้ยงทิ้งไปกับพื้น
ภัทรินปิดประตูเพื่อไม่ให้ลมเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องได้ เธอปิดทุกบานแต่ก็ต้องชะงักเพราะพอมองออกไปด้านนอก เธอก็ยังคงเห็นต้นไม้ใบไม้ไหวเพราะแรงลมอยู่ดี ภัทรินน้ำตาไหลอีกรอบเพราะรู้ว่าเธอไม่มีทางปฏิเสธการมีอยู่ของลมได้จริงๆ ภัทรินทรุดลงไปกับพื้นแล้วร้องไห้ เธอมองซากโมบายล์ที่แตกตรงหน้าเธอด้วยความเจ็บปวด
อ่านต่อหน้าที่ 2
ลมซ่อนรัก ตอนที่ 11 (ต่อ)
อัณณาเพิ่งวางสายโทรศัพท์
“หมอประเสริฐยืนยันว่าลุงพสุยังปลอดภัยดีอยู่ในโรงพยาบาลของจีแอลเอสนี่แหละ มีทีมแพทย์ดูแล แต่ก็มีคนของชมนาดเฝ้าอย่างใกล้ชิดด้วย” อัณณาบอก
“พวกมันคงรอคำสั่งจากอาสินธรไม่ก็ชมนาด” ปราณว่า
“ตอนนี้มีใครติดต่ออาสินธรได้หรือเปล่า” ปราณนต์ถาม
“ไม่มีเลยค่ะ รู้สึกจะไม่ได้มาทำงานสองวันแล้ว ไม่ได้แจ้งว่าไปไหน” อัณณาบอก
“แปลก” ปราณนต์ว่า
“เราจะเอายังไงต่อ จะให้ส่งไฟล์หลักฐานที่เรามีให้กรรมการสอบสวนของจีแอลเอสเลยมั้ย” ปราณถาม
“อย่าเพิ่ง จนกว่าจะแน่ใจว่าพ่อปลอดภัย และต้องให้แน่ใจว่าอาสินธร ชมนาด และธนาฒน์จะไม่มีช่องให้ดิ้นหลุดได้อีก เพราะไม่อย่างนั้นพ่อมีอันตรายแน่”
“หมายถึง ต้องการหลักฐานมัดตัวพวกเขาที่มากกว่านี้เหรอคะ แล้วเราจะทำยังไง”
“ผมกำลังคิดอยู่”
อยู่ๆภัทรินก็เข้ามาเสนอแผนการของตัวเอง
“ภัทจะเข้าไปทำให้ธนาฒน์ไว้ใจเอง”
ทุกคนแปลกใจ
“พรุ่งนี้ ชั้นกับคุณจะเข้าไปที่จีแอลเอส ให้กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามกระบวนการ แล้วชั้นจะหาทางทำให้ธนาฒน์ไว้ใจ และล้วงความลับจากธนาฒน์เอง”
“ไม่ ถ้าคุณไม่มีแผนที่มั่นใจได้ ผมไม่อนุญาต”
“ชั้นมีแผนแล้ว แต่คุณไม่ต้องรู้หรอก แค่เชื่อใจชั้นก็พอ”
ภัทรินพูดอย่างแน่วแน่ท้าทาย ปราณนต์แปลกใจ
ภัทรินเดินแยกกลับมาที่บริเวณโถงเรือนเล็ก ปราณนต์รีบตามมา
“ผมเชื่อใจคุณ แต่ผมก็ยังอยากรู้ว่าแผนของคุณคืออะไร”
ภัทรินหันมาพูดอย่างนิ่งเรียบและยิ้ม “คุณเป็นคนๆเดียวที่ชั้นบอกไม่ได้”
ปราณนต์สงสัย “เพราะ”
“เพราะคุณจะทำให้เสียแผน คุณเชื่อชั้นเถอะ ทุกอย่างจะต้องสำเร็จ คนเลวจะต้องได้รับบทลงโทษที่สาสม”
ปราณนต์รู้สึกได้ว่าภัทรินมีบางอย่างแปลกประหลาดไป
“คุณภัท ไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ” ปราณนต์ถามย้ำ
“ชั้นเจ็บจนด้านชาแล้ว ไม่สามารถรู้สึกเจ็บไปกว่านี้ได้อีก และพอไม่มีความรู้สึก ชั้นว่ามันก็สนุกดี ที่จะได้เอาคืนบ้าง”
ปราณนต์รู้สึกว่าภัทรินแปลกจึงพูดติดตลก “ผมชักกลัวแทนนายธนาฒน์แล้วสิ”
ภัทรินยิ้ม “ค่ะ ชั้นหมายถึงธนาฒน์”
ภัทรินเดินแยกไป ปราณนต์ยังกังวล
คณะกรรมการสอบสวนเข้ามาภายในห้องสอบสวน แต่แล้วชมนาดก็เดินตามเข้ามาด้วย พวกกรรมการบางคนหันมามองว่าชมนาดมาได้ยังไง
“คุณสินธรติดธุระด่วนมาไม่ได้ค่ะ ท่านเลยมอบหมายให้ดิฉันเป็นตัวแทนเข้าร่วมการสอบสวนคุณปราณวันนี้ค่ะ” ชมนาดบอก
“คุณสินธรมาไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่มีสิทธิส่งใครที่ไหนมาแทน” กรรมการคนหนึ่งว่า
“ดิฉันไม่ใช่ใครที่ไหน ดิฉันเป็นผู้ช่วยคุณสินธร” ชมนาดบอก
กรรมการถามงง “แล้ว”
“คุณสินธรต้องการทราบเรื่องนี้มาก เพราะมันเกี่ยวพันกับญาติโดยตรงของคุณสินธร”
“เขาก็ควรจะมาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้คนที่ไม่ใช่ญาติมาแทน”
ชมนาดหน้าแหกเพราะเถียงไม่ออก กรรมการมีท่าทางไม่ประนีประนอมใดๆ
รถของปราณนต์จอดที่จีแอลเอส ปราณนต์หันมามองภัทรินที่นั่งนิ่งอยู่ในรถ
“คุณโอเคมั้ยคุณภัท”
ภัทรินหันมามอง “โอเคมากค่ะ”
“แน่ใจนะครับว่าแผนของคุณจะสำเร็จ ถ้ารู้สึกไม่โอเค ไม่ต้องฝืนนะ ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยง”
ภัทรินเห็นสีหน้าอ่อนโยนและห่วงใยของปราณนต์ก็ต้องรีบเสไปเปิดประตูรถเพื่อลงไปเพราะไม่อยากให้ตัวเองใจอ่อน ปราณนต์เดินตามลงไป
“เดี๋ยว” ปราณนต์ยื่นมือถือเครื่องใหม่ให้ “อัณณาเม็มเบอร์ที่จำเป็นไว้ให้แล้ว จะได้ติดต่อกันได้”
ภัทรินรับมา
“อย่าลืมนะ ห้ามพูดถึงหลักฐานที่เรามีเด็ดขาด เพราะถ้าพวกอาสินธรรู้ พ่อผมอาจจะไม่ปลอดภัย”
“ค่ะ ชั้นรู้ว่าควรพูดอะไรแค่ไหน”
ปราณนต์จะเดินเข้าไปแต่ภัทรินกลับนิ่ง ภัทรินมองปราณนต์อย่างชั่งใจ ปราณนต์หันมามองตอบว่าเธอมีอะไรหรือเปล่า
“ชั้นขอถามอะไรอย่าง ช่วยตอบชั้นตามตรงได้มั้ย”
“ได้ จะถามอะไร”
“ชั้นไว้ใจคุณได้จริงๆใช่มั้ย”
“ทำไมถึงถามอย่างนี้”
“ตอบ”
“คุณกำลังช่วยผมและครอบครัวอยู่ ผมไม่มีทางทิ้งคุณหรือหักหลังคุณหรอก คุณไว้ใจผมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์”
“คุณไม่ได้มีอะไรปิดบังหลอกลวงชั้นใช่มั้ย”
ปราณนต์ยิ้ม “คุณเครียดใช่มั้ยเนี่ย”
“ชั้นแค่ต้องการคำตอบที่ชัดเจนเป็นครั้งสุดท้าย”
“ผมไม่มีอะไรปิดบังคุณ ชัดพอมั้ย”
ภัทรินอึ้งเพราะผิดหวังกับคำตอบ แต่ก็ทำให้ความอ่อนโยนที่เธอมีให้กับปราณนต์หมดสิ้นไปทันที
“ชัดมาก”
ภัทรินเดินนำเข้าไปอย่างเด็ดเดี่ยวและไม่ลังเลอีกต่อไป
ชมนาดเดินหงุดหงิดออกมาบริเวณทางเดินหน้าห้องสอบสวน ธนาฒน์เดินตามมา
“พี่ชม พวกกรรมการไม่ให้พี่เขาแทนเหรอ แล้วถ้าเกิดไอ้ปราณมันเอาหลักฐานให้กรรมการ เราจะทำยังไง”
ชมนาดเหวี่ยง “ชั้นก็ไม่รู้”
ทันใดนั้นปราณนต์กับภัทรินก็ถูกคนของจีแอลเอสพาตัวเข้ามา ต่างมองกันกับชมนาดและธนาฒน์ ปราณนต์มีสีหน้าแน่วแน่เด็ดเดี่ยวจนทำให้ชมนาดกับธนาฒน์ร้อนรนอยู่ไม่สุข ชมนาดตัดสินใจเดินเข้าไปประกบปราณนต์ก่อนที่ปราณนต์จะถูกพาเข้าไปแล้วกระซิบให้ได้ยินกันสองคน
“ถ้าคุณกล้าเอาพ่อมาแลก ชั้นก็กล้า”
ปราณนต์อึ้ง ชมนาดปล่อยให้ปราณนต์เข้าไปแต่เธอก็ทั้งเครียดทั้งวิตก
อัณณาถือถาดถ้วยชาเข้ามาแล้วก็พบว่าปราณกำลงกังวลจนนั่งไม่ติด
“ทำใจสบายๆเถอะปราณ เครียดมาก เดี๋ยวสมองจะมีปัญหาอีกนะ”
“ให้ผมรอเฉยๆอย่างนี้ อึดอัดจะบ้า เราน่าจะไปกับณนต์ด้วย” ปราณบอก
อัณณาเทชา “ไปก็เท่านั้น มีแต่จะทำให้คนสงสัยในความเหมือนที่แตกต่างของคุณสองคนมากขึ้น เอาใจช่วยอยู่ที่นี่ดีที่สุดแล้ว” อัณณายกชาเสิร์ฟให้ “จะได้ผ่อนคลายขึ้น”
“อัณ อัณไม่ห่วงณนต์บ้างเลยเหรอ”
“ห่วงค่ะ ไม่ต่างจากปราณนั่นแหละ โดยเฉพาะคุณภัท”
“ทำไม”
“ณนต์เป็นหมอ รับมือกับความกดดันได้อยู่แล้ว แต่คุณภัทสิ ถูกสอบสวนหนักๆเข้าไป ไม่รู้จะเผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดหรือเปล่า คุณภัทไม่ใช่ที่มีความอดทนสูงด้วย”
ปราณกับอัณณากังวลและเป็นห่วงภัทริน แล้วทั้งคู่ก็ยกชาขึ้นดื่มพร้อมๆกัน
“อัณ อัณไปหาณนต์เถอะ เผื่อณนต์ต้องการความช่วยเหลือหรือช่วยตัดสินใจ อัณจะได้ช่วยได้..ไม่ต้องมาเฝ้าผมหรอก ผมจะไม่หนีไปไหนอีก” ปราณพูดหนักแน่น
บรรยากาศการสอบสวนเป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยปราณและภัทรินถูกแยกกันสอบเดี่ยวๆ
ปราณนั่งอยู่ท่ามกลางคณะกรรมการโดยมีผู้เชี่ยวชาญนั่งอยู่ตรงข้าม
“คุณไม่เคยเห็นเอกสารโอนเงินพวกนี้”
ปราณนต์มีท่าทางมั่นใจและมั่นคง “ใช่ครับ”
นักอ่านภาษากายจ้องเขม็งแต่ยังไม่มีอะไรผิดปกติ เขายังจับไม่ได้ว่าปราณนต์โกหก
กรรมการพูดต่อ “แต่ในเอกสารระบุชัดเจนว่าเงินถูกโอนเข้าบัญชีของคุณที่ไปเปิดเอาไว้ต่างประเทศ”
“ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนเปิดบัญชีนั้น แต่ไม่ใช่ผมแน่”
ภัทรินตอบเสียงแข็งแบบยืนกรานหนักแน่น
“ชั้นไม่รู้เรื่องสินบนใดๆทั้งนั้น ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้อง เงินสักบาทก็ไม่เคยแตะ”
“คุณเคยมีประวัติโกงเงินจีแอลเอส 17ล้าน แล้วก็ไปแต่งงานกับคุณปราณนต์ แล้วก็กลับมาทำงานกับคุณปราณ..อะไรคือเหตุผลที่เราควรเชื่อว่าคุณไม่มีส่วนรู้เห็นในการคอรัปชั่นนี้” กรรมการถามแบบยิงตรง
“เมื่อกี้คุณไม่ได้ฟังที่ชั้นตอบเหรอคะ” ภัทรินสวน
---
“ผมไม่ได้โกหก ทุกคำพูดผมคือความจริง ผมกำลังหาหลักฐานเพื่อมายืนยันความบริสุทธิ์ แต่ก็ถูกเชิญตัวมาก่อน” ปราณนต์บอกกรรมการ
“คุณควรจะให้ความร่วมมือกับเรา มันจะได้ง่ายขึ้น” กรรมการว่า
อ่านต่อหน้าที่ 3
ลมซ่อนรัก ตอนที่ 11 (ต่อ)
ภัทรินของขึ้น
“แล้วชั้นไม่ให้ความร่วมมือตรงไหน ก็บอกอยู่ว่าไม่รู้ๆ เข้าใจกันบ้างหรือเปล่า ชั้นตอบคำถามพวกคุณทุกคำถาม แล้วอะไรคือไม่ให้ความร่วมมือ ตอบมาสิ”
“งั้นคุณควรจะบอกมาว่าทำไมเราต้องเชื่อว่าคุณไม่เกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นนี้” กรรมการว่า
ปราณนต์ทำท่าเซ็งที่ยืนยันอย่างไรพวกกรรมการก็ไม่มีทีท่าจะรับฟัง
“ผมตอบไปหมดแล้ว ถ้าพวกคุณยืนยันว่าจะไม่เชื่อ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก”
“โอเค ถ้าสมมติว่าคุณไม่ได้ทำ มีคนสร้างหลักฐานใส่ร้ายคุณ คุณสงสัยใคร” กรรมการถาม
“ชั้นไม่ทราบ” ภัทรินตอบ
“ผมไม่ทราบ” ปราณนต์บอก
นักอ่านภาษากายสวนทันที “คุณโกหก”
“ชั้นไม่ได้โกหก” ภัทรินว่า
นักอ่านกายพูดสวน “กอดอก เชิดหน้า กัดริมฝีปาก มันบ่งบอกว่าคุณกำลังมีอะไรปิดบังอยู่ และไม่แน่ใจว่าควรพูดดีหรือไม่ และคุณเหลือบมองประตูทางออก เพราะคุณกำลังโกหกและอยากจะออกไปจากสถานการณ์นี้เต็มทีแล้ว”
ปราณนต์ทิ้งหลังพิงพนักอย่างเซ็งๆ
กรรมการถามย้ำ “คุณสงสัยใคร”
“ผมบอกไม่ได้” ปราณนต์บอก
“ทำไม” กรรมการถาม
ภัทรินเครียดและอึดอัดจึงโวยแบบปรี๊ดแตก “ที่ชั้นมองประตูเพราะชั้นเบื่อ ชั้นไม่อยากเสียเวลากับพวกคุณที่นี่อีกแล้ว ชั้นเบื่อหน้าคุณ เบื่อพวกคุณทุกคน เบื่อบริษัทนี้ เบื่อคนที่นี่ เบื่อที่ต้องมาพูดซ้ำๆซากๆให้คนที่ไม่คิดจะรับฟังอะไรฟัง ชั้นอยากกลับบ้านไปหาแม่ คุณเข้าใจมั้ย ชั้นอยากกลับบ้าน”
“กรุณาอยู่ในความสงบด้วย” กรรมการเตือน
ภัทรินหันมาเหวี่ยงนักอ่านภาษากาย “อ่านชั้นสิ แล้วบอกเขาไปสิว่าชั้นกำลังคลั่งเล่นๆ คลั่งเพื่อกลบเกลื่อนความจริงที่ชั้นก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร บอกสิ”
ภัทรินเครียด เธอทิ้งตัวลงนั่งแล้วกุมหน้าด้วยความอึดอัด
ปราณนต์ตัดสินใจจะบอกอะไรบางอย่าง
“ผมบอกได้แค่ว่า ผมเป็นหมอ เพราะผมอยากช่วยคน ผมไม่ได้มาเป็นหมอเพราะอยากรวย หรืออยากให้มีคนนับหน้าถือตา สิ่งเดียวที่ผมอยากได้ก็คือความสุขของคนไข้ ให้เขาหายเจ็บป่วยและกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัว และที่ผมมาบริหารจีแอลเอสก็เหมือนกัน ผมพยายามจะทำให้จีแอลเอสเป็นที่พึ่งของคนยากจน เป็นคำตอบของคนหาเช้ากินค่ำที่ไม่มีปัญญาจ่ายค่ารักษาที่แพงเกินจริง ทำให้ระบบสาธารณสุขเป็นประโยชน์ต่อคนไข้จริงๆ ไม่ใช่สร้างประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่ม พวกที่กินดีอยู่ดี มีชีวิตสุขสมบูรณ์บนความเจ็บป่วยล้มตายของคนยากคนจน พวกคุณเข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย” ปราณนต์ย้อนถามพวกกรรมการ
พวกกรรมการพยักหน้าว่าเข้าใจแต่ก็หน้าเสียเพราะรู้สึกว่าโดนด่า
ปราณนต์พูดกับนักอ่านภาษากาย “อาการหลบตา ไม่สู้หน้า เป็นอาการของคนที่กำลังโกหกอยู่ใช่มั้ยครับ”
ปราณนต์เดินออกมาจากห้องสอบสวน ธนาฒน์เดินเข้ามาดักด้านหน้า
“คุณปราณ ขอคุยด้วยหน่อยสิ เชิญ”
ปราณนต์หันมายิ้ม “กังวลเหรอครับว่าผมพูดอะไรกับคณะกรรมการบ้าง..ถูกต้องแล้วครับที่พวกคุณกังวล เพราะเรื่องที่ผมพูดกับกรรมการมันน่ากังวลจริงๆ”
ปราณนต์กวนประสาทแล้วก็ยิ้มเยาะก่อนจะเดินผ่านไป ธนาฒน์ฮึดฮัดด้วยความโกรธ
ปราณนต์เดินออกมาด้านนอก อัณณาที่รออยู่รีบเข้ามาหา
“เป็นยังไงบ้าง” อัณณาถาม
“เขาให้เวลา7วัน ถ้าหาหลักฐานมาแสดงไม่ได้ บริษัทจะส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ในระหว่างนี้ เขาก็ปลดผมพ้นจากตำแหน่งไว้ก่อน เหมือนที่ปลดอัณ”
“ทำไมณนต์ไม่บอกกรรมการไปเลยว่าเรามีหลักฐานอะไรอยู่”
“ผมก็อยากพูด แต่ผมกลัวว่าพวกเขาจะทำอันตรายพ่อจริงๆ..แค่นี้ผมก็เอาชีวิตพ่อมาเสี่ยงมากแล้ว แต่ผมต้องทำ เพราะจะปล่อยให้พวกมันรู้สึกมีแต้มต่อและเป็นฝ่ายคุมเกมการต่อรองอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้”
“ณนต์ทำถูกแล้ว ตอนนี้เราก็รอคุณภัทริน หวังว่าคุณภัทจะไปเผลอบอกอะไรที่ไม่ควรบอกกับพวกกรรมการนะ”
ปราณนต์เป็นห่วงภัทริน
ภัทรินยังคงนั่งเครียด เธอพยายามสะบัดไม้สะบัดมือไล่ความเครียดออกไปจากร่างกาย
“พร้อมจะให้สอบสวนต่อ”
ภัทรินหันขวับหน้ามาจ้องตาขวางเหมือนหมาบ้า
“โอเค เราจะให้เวลาคุณอีก5นาที”
“จะถามอะไรอีก” ภัทรินถาม
“คุณคิดยังไงกับบริษัทจีแอลเอส” กรรมการถาม
“เบื่อ ชั้นไม่อยากอยู่ที่นี่ อยากจะไปให้พ้นๆบริษัทที่ทำลายชีวิตชั้น”
“คุณคิดยังไงกับสามีคุณ”
“ทำไมถึงถาม”
“ถ้าให้เลือกระหว่างสามีกับจีแอลเอสคุณจะเลือกอะไร”
ภัทรินกอดอกแล้วย้อนถาม “นี่มันเกี่ยวอะไรกับคดีที่ชั้นถูกสอบสวนอยู่เหรอคะ”
“ตอบมาสิ”
“ชั้นไม่ตอบ”
นักอ่านกายฟันธง “คุณกำลังมีปัญหากับสามีคุณ”
ภัทรินหันขวับมามองแววตาดุว่ารู้ได้ยังไง
นักอ่านกายอธิบาย “คุณกอดอก เพราะคุณกำลังระมัดระวังตัว คุณมีปัญหาบางอย่างกับเขา ปัญหาที่รุนแรง คุณรักเขาหรือเปล่า”
“ชั้นรัก”
“ไม่ คุณไม่ได้รัก” นักอ่านภาษากายจ้องตา “คุณโกรธ ไม่ คุณแค้น ใช่ คุณแค้นเขา เรื่องอะไร”
“ตกลงว่าพวกคุณเรียกชั้นมาสอบสวนปัญหาครอบครัวใช่มั้ย”
“คุณพยายามเปลี่ยนประเด็น”
“ชั้นเปลี่ยนประเด็นแล้วไง ชั้นไม่จำเป็นต้องตอบเรื่องส่วนตัวกับคนแปลกหน้า”
“คุณภัทริน ถ้าคุณมีปัญหากับเขา คุณก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องปกป้องเขา บอกความจริงกับเราเถอะ เราสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ”
ภัทรินนิ่งไปเพราะลังเล ก่อนจะค่อยๆพูดความรู้สึกออกมาอย่างเข้าใจ เธอเรียบเรียงชัดเจนไม่ฟูมฟาย แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดฝังลึกดูลึกลับว่าภัทรินจะทำอะไรต่อไป
“เขา หลอกชั้น เขาเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนอื่นตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขาทำได้ยังไง ทำกับเหมือนชั้นไม่มีความรู้สึก เขาทำร้ายชั้นอย่างตั้งใจ ชั้นเกลียดเขา”
“เขานอกใจคุณงั้นเหรอ” กรรมการถาม
ภัทรินยิ้มเยาะ “ถูกนอกใจ ยังไม่ถึงครึ่งที่ชั้นรู้สึกตอนนี้”
ภัทรินเดินออกมาจากห้องสอบสวน เธอเดินเลื่อนลอยสีหน้าว่างโหวง เสียงตัวเองที่ตอบคำถามพวกกรรมการยังดังก้องในความรู้สึกของเธอไปมา ภัทรินมาหยุดยืนเกาะรั้วริมระเบียงของชั้นระหว่างทางเดินเพื่อไม่ให้ล้มทั้งยืน ภัทรินพยายามตั้งหลัก แล้วภัทรินก็ฮึด แววตาเด็ดเดี่ยวขึ้นมา เพราะคิดจะทำอะไรบางอย่าง เธอรีบเดินไป
ชมนาดนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด ในขณะที่ธนาฒน์เดินพล่าน
“พี่ชม จะเอายังไงก็บอกมาเถอะ ถ้าเกิดไอ้ปราณมันแฉเราให้พวกกรรมการฟังแล้ว จะนั่งเฉยๆรอให้มันแห่มาจับเหรอครับ”
“เธออย่าเพิ่งบ้าให้มาก ถึงมันแฉ ก็ต้องมีการสอบสวนอยู่ดี” ชมนาดบอก
“ผมรู้ แต่เราก็ควรเตรียมทางหนีทีไล่ไว้บ้าง”
“จะหนีเหรอ เธอไม่เชื่อว่าชั้นจะทำสำเร็จตามแผนงั้นเหรอธนาฒน์”
อยู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นปังๆๆ ชมนาดและธนาฒน์ชะงัก ธนาฒน์กำลังจะเดินไปเปิดแต่อยู่ๆภัทรินก็เป็นฝ่ายเปิดเข้ามาในห้องเสียเอง ธนาฒน์กับชมนาดแปลกใจ
ภัทรินพูด “คุณปราณที่พวกคุณเห็นไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็นหมอปราณนต์ที่สวมรอยเป็นคุณปราณ เขาสองคนสลับบทบาทกัน”
ธนาฒน์กับชมนาดตกใจ “หา”
ปราณนต์ที่นั่งรออยู่เริ่มมองเวลาด้วยความกระวนกระวาย
“ทำไมภัทรินไม่ออกมาอีก ทำไมนานยังงี้”
“ภัทรินบอกว่าจะหาทางเข้าหาธนาฒน์ไม่ใช่เหรอ ใจเย็นๆก่อนเถอะ” อัณณาเตือนสติ
“ก็นี่แหละที่ผมห่วง”
อัณณาเห็นปราณนต์ฮึดฮัดเพราะเป็นห่วงภัทรินก็สลดลงไป
อ่านต่อหน้าที่ 4
ลมซ่อนรัก ตอนที่ 11 (ต่อ)
ธนาฒน์กับชมนาดอึ้งและมองหน้ากันโดยยังลังเลเพราะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ธนาฒน์พูดทวน “ฝาแฝดสลับบทบาทกันน่ะเหรอ”
“พวกคุณทำงานอยู่กับเขาตลอด ไม่เคยสงสัยหรือรู้สึกแปลกๆบ้างเลยเหรอคะว่าเขาไม่ใช่คุณปราณตัวจริง” ภัทรินถาม
ชมนาดกับธนาฒน์อึ้งไปแล้วก็คิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมา
“จริงด้วย พี่ชม ตอนที่เรา เอ่อ คุณปราณถูกลอบทำร้าย แต่มันกลับโผล่มาประชุมได้อย่างกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย แล้วตั้งแต่นั้นมันก็ผลุบๆโผล่ๆ ตามตัวยาก..แล้วทั้งมันและอัณณายังแอบขึ้นลงกรุงเทพเชียงใหม่ตลอด ต้องเป็นเพราะมันคือหมอปราณนต์” ธนาฒน์เริ่มเห็นด้วย
“ชั้นก็ไม่รู้เหตุผลที่พวกเขาทำอย่างนี้ อาจจะเพราะจีแอลเอสกำลังมีปัญหาการทุจริต แล้วคุณปราณยังประสบอุบัติเหตุ บาดเจ็บหนัก สถานะบริษัทอาจสั่นคลอนถ้าขาดผู้บริหาร หมอณนต์ถึงต้องมาดูแลแทน” ภัทรินว่า
“ใช่..นี่แหละ ตอบทุกอย่างที่เราสงสัยมาตลอด มันสองคนสลับตัวกันหลอกลวงพวกเราและจีแอลเอสทุกคน เราต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกพวกกรรมการ ไอ้ปราณไอ้ปราณนต์เสร็จเราแน่”
ชมนาดรีบเบรค “เดี๋ยว แล้วเธอมาบอกเราทำไม เธอต้องการอะไรภัทริน”
“เออใช่ เธอต้องการอะไร”
ภัทรินเจ็บปวดจนน้ำตาไหล “ชั้นอยากให้เขารับรู้ความรู้สึกของคนที่ถูกหลอกบ้าง”
ภัทรินเจ็บปวดและเด็ดเดี่ยว
ปราณนต์ตัดสินใจจะกลับเข้าไปดูแล้วก็เดินพุ่งเข้าไป
“จะไปไหน” อัณณาถาม
“ผมจะเข้าไปตามภัทริน” ปราณนต์บอก
อัณณาเข้ามาขวางแล้วถามให้คิดอย่างชัดเจน “แน่ใจใช่มั้ย อดทนไม่ได้อีกแล้วใช่มั้ย ถ้าใช่ งั้นเข้าไป แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น ณนต์โทษใครไม่ได้นะ”
ปราณนต์ตัดพ้อ “อัณ”
“ไม่ใช่ว่าอัณไม่ห่วง อัณห่วง และเข้าใจความรู้สึกของณนต์ดี แต่ณนต์ต้องรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ถ้ายังทนได้ ก็อย่าให้อารมณ์ชั่ววูบมาทำเสียเรื่อง”
ปราณนต์อึดอัด “โธ่เว้ย”
ปราณนต์หัวเสียและฮึดฮัด อัณณามองอาการของปราณนต์ก็ได้แต่น้อยใจจนสลดลงไป
ชมนาดยังไม่ไว้ใจภัทริน
“ชั้นจะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่หลอกชั้น”
ภัทรินมองธนาฒน์ “ชั้นเคยถูกผู้ชายชั่วๆหลอก มันทำชีวิตชั้นพังพินาศย่อยยับ เขาก็รู้ เขารู้ดีว่าชั้นเจออะไรมา และเจ็บปวดกับมันแค่ไหน” ภัทรินยิ่งพูดยิ่งเสียใจ “เขาเคยสัญญาว่าจะไม่หลอกชั้นเหมือนไอ้ผู้ชายชั่วคนนั้น แต่เขา เขาก็ซ้ำชั้นตรงที่เดิม เขาทำให้ชั้นรัก ทั้งๆที่มันไม่ใช่ เขาไม่เคยรัก ไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับชั้นเลย เขาก็แค่หลอกใช้ชั้นกอบกู้สถานะบริษัท ทั้งๆที่ชั้นรักเขา เป็นห่วงเขาด้วยความบริสุทธิ์ เขาทำกับชั้นอย่างนี้ได้ยังไง”
ภัทรินน้ำตาไหลอย่างสุดกลั้น เธอทั้งรัก ทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บปวด และแค้น
“อย่างโหดเลยอะ หลอกให้รัก ชวนแต่งงาน แล้วก็” ธนาฒน์ชะงักเพราะนึกขึ้นได้ “เฮ้ยๆๆ เดี๋ยวๆๆ แล้วภัทกับเขาได้มีแบบว่ากันหรือเปล่า”
ภัทรินยิ่งร้องไห้เพราะเจ็บช้ำที่ถูกตอกย้ำเรื่องนี้
“โอย ได้ยังไง ทีกับผม ภัทไม่เคยยอมให้ขึ้นห้องไปส่งด้วยซ้ำ อะไรวะ”
ธนาฒน์หันมาเห็นว่าชมนาดจ้องอยู่ก็หุบปากและหงอไป
“แผนของเขาก็คือให้ชั้นหาโอกาสกลับมาตีสนิทกับธนาฒน์ ทำยังไงก็ได้ให้ ธนาฒน์เชื่อใจ” ภัทรินบอก
“เดี๋ยวนะ ทำไมต้องเข้าทางผม”
ภัทรินพูดกับชมนาด “คุณก็น่าจะรู้..”
ภัทรินกับชมนาดรู้กัน ธนาฒน์งงว่าอะไร
“รู้อะไร ผมเป็นคนยังไงเหรอ พี่ชม”
ชมนาดสั่ง “เงียบน่ะ”
ธนาฒน์บ่นอุบว่าอะไรวะ
“พอทำให้ธนาฒน์เชื่อใจได้ เขาก็จะให้ชั้นล้วงเอาข้อมูลความลับที่จะเอาผิดพวกคุณได้” ภัทรินบอก
“ชั้นเข้าใจความแค้นของผู้หญิง แต่ชั้นก็ไม่อยากถูกผู้หญิงด้วยกันหลอก”
“พวกคุณไม่ต้องเชื่อชั้น อย่าบอกความลับอะไรกับชั้น สิ่งที่พวกคุณต้องทำอย่างเดียวก็คือรอ ชั้นจะหลอกเขากลับอีกที ว่าชั้นทำตามแผนของเขา แล้วชั้นจะหาโอกาสทำลายอีเมล์และเอกสารที่พวกเขาให้หมด แล้วจากนั้นคุณก็อยากจะทำอะไรกับเขาและจีแอลเอสก็เชิญ”
“ได้ ชั้นจะรอดูว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า” ชมนาดบอก
ภัทรินยิ้มอย่างพอใจที่ชมนาดไม่ปฏิเสธข้อเสนอของเธอ ภัทรินยิ้มร้ายเพราะคิดทำลายจีแอลเอส
“เขาทำลายชีวิตชั้นได้ ชั้นก็ทำลายชีวิตเขาได้เหมือนกัน” ภัทรินยิ้มร้าย
ปราณนต์ยังรอภัทรินอยู่ที่เดิม
อัณณายื่นขวดน้ำให้เขา “ดื่มน้ำหน่อยสิ”
“ผมดื่มไม่ลง” ปราณนต์บอก
ปราณนต์เผลอโพล่งไล่แบบไม่มีกะจิตกะใจจะดื่ม อัณณาอึ้งและเซ็ง
“น่าอิจฉาคุณภัทนะ ที่ทำให้ณนต์เป็นห่วงเขาได้มากขนาดนี้” อัณณาตัดพ้อ
ปราณนต์หันมามองเพราะรู้ว่าอัณณาหมายถึงอะไร แต่เขาก็ห่วงภัทรินมากเกินกว่าจะใส่ใจ
“อัณ”
“อัณขอโทษ อัณไม่ได้อยากทำตัวน่ารำคาญนะ แต่ได้มาเห็นณนต์เป็นห่วงคุณภัทมากขนาดนี้ มันเจ็บนะ มันทำใจไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวอัณก็จัดการตัวเองได้”
ปราณนต์เป็นห่วงและอยากปลอบ “ผม เอ่อ ผมขอน้ำหน่อยก็ดี”
อัณณายิ้มแล้วยื่นน้ำให้ ปราณนต์รับมาแต่ยังไม่ทันดื่ม ภัทรินก็เดินออกมาจากตัวตึกจีแอลเอส
ปราณนต์เรียก “ภัท”
ปราณนต์ผละจากอัณณาไปหาภัทรินทันที อัณณาพยายามยิ้มปลอบตัวเองแบบพยายามทำใจให้ได้
“ทำไมหายไปนาน เป็นอะไรหรือเปล่า พวกมันเชื่อคุณมั้ย”
ภัทรินนิ่ง ก่อนจะค่อยๆยิ้มออกมาอย่างลึกลับและแปลกประหลาด
ชมนาดกับธนาฒน์เดินมาตามทาง ธนาฒน์มีท่าทางลิงโลดเพราะได้ใจ
“เธอเชื่อที่ภัทรินพูดงั้นเหรอธนาฒน์” ชมนาดถาม
“พี่ชม ที่ภัทมาทำงานกรุงเทพก็เพราะอยากจะถีบตัวเองให้มีหน้ามีตาในสังคม แต่นี่ เจอผมเตะตัดขาไม่พอ ไอ้ฝาแฝดยังมากระทืบซ้ำจมดิน คนเยอะๆอย่างภัทที่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ไม่ทนหรอกครับพี่”
“เธอดูรู้จักภัทรินมากดีนะ”
“ก็คนเคยคบกันนี่ครับ”
“ธนาฒน์ อย่าให้ชั้นรู้นะว่าเธอคิดจะกลับไปคบกับภัทรินอีก”
“โธ่พี่ชม ผมก็แกล้งพูดไปอย่างนั้นเอง ที่ผมไปทนคบกับภัทรินก็เพราะผมทำตามคำสั่งพี่ ไม่งั้นผมไม่คบใครอยู่แล้วนอกจากพี่”
“ขอให้จริง ชั้นอยากให้เธอตามดูภัทรินไว้ ชั้นยังไม่ค่อยไว้ใจ”
“ถ้าพี่ชมไม่ไว้ใจ เดี๋ยวผมจะพิสูจน์ให้” ธนาฒน์บอก
ปราณนต์กำลังขับกลับกับภัทริน
“ธนาฒน์เชื่อคุณจริงๆเหรอ ทำไมมันง่ายนัก” ปราณนต์สงสัย
“ชั้นก็แค่บอกความจริงกับเขาว่าชั้นแต่งงานกับหมอณนต์เพื่อเงิน ไม่ใช่ความรัก เรื่องอะไรชั้นจะต้องยอมติดคุกเพื่อคนที่ไม่ได้รักด้วย ชั้นขอให้เขารับปากว่าจะช่วย แล้วชั้นจะหักหลังคุณเป็นการตอบแทน”
“แค่นี้ เขาก็เชื่อคุณ”
“ใช่ แค่นี้”
ปราณนต์พูดติดตลก “แต่คุณไม่ได้คิดจะหักหลังผมจริงๆใช่มั้ย ฮะๆ”
ภัทรินพูดติดตลกเช่นกัน “คิดจริงสิ หึๆๆ”
ทั้งสองคนหัวเราะกันไป แต่สายตาของภัทรินกลับดูจริงจังเหมือนไม่ได้ล้อเล่น ปราณนต์เห็นสายตานั้น ก็ถึงกับชะงักและหยุดหัวเราะลงไปทันที ทันใดนั้นมือถือภัทรินก็ดังขึ้น ภัทรินมองที่เบอร์
“ใครโทรมา” ปราณนต์ถาม
“ธนาฒน์”
ภัทรินกดรับสายแล้วฟัง ปราณนต์เงียบไปแต่คอยฟังตลอด
ภัทรินพูดโทรศัพท์ “มีอะไรคะธนาฒน์ ตอนนี้ทำไมต้องตอนนี้ แน่ใจนะว่าเรื่องงานจริงๆ ได้ ชั้นจะไปหาคุณ จะให้ไปหาที่ไหนค่ะ” ภัทรินวางสาย
ภัทรินวางสาย ปราณนต์อยากรู้ขึ้นมาทันที
“ธนาฒน์จะให้คุณไปหาทำไม”
“จอดรถ เดี๋ยวชั้นเรียกแท็กซี่ไปเอง คุณกลับไปดูแลพี่” ภัทรินเกือบหลุดปาก “น้องชายคุณเถอะ”
“อัณณาน่าจะกลับไปถึงแล้ว ให้เขาดูแลได้ คุณจะไปที่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง” ปราณนต์บอก
“ไม่ต้อง ธนาฒน์บอกให้ชั้นไปคนเดียว”
“งั้นผมยิ่งต้องไป”
“คุณปราณ”
ปราณนต์ดื้อ ภัทรินเซ็งแต่ปราณนต์แน่วแน่ที่จะไปแน่นอน
“ผมไม่ทำให้แผนเสียหรอกน่า แค่จะไปส่ง แล้วกลับ โอเคมั้ย” ปราณนต์พูดหนักแน่น
อ่านต่อตอนที่ 12