แหวนทองเหลือง ตอนที่ 24
ภายในบ้านโตชิโร่ เช้าวันใหม่ ดวงใจค่อยๆลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องนอนเล็กๆที่ตบแต่งไว้เรียบง่ายแต่ดูดี เตียงที่นอนอยู่เป็นเตียงอย่างดี มีหมอนและผ้าห่ม
ดวงใจตกใจที่ตัวเองใส่ชุดกิโมโนของผู้ชาย ดวงใจค่อยๆลุกขึ้นด้วยยังรู้สึกอ่อนเพลียปวดร้าวตามตัว โตชิโร่เปิดประตูห้องนอนเข้ามา พร้อมถือถาดที่มีแก้วนมและน้ำผลไม้ ดวงใจเห็นก็ตกใจรีบลุกพรวด โตชิโร่รีบยกมือห้ามไว้
"ใจเย็นๆไม่ต้องตกใจ"
ดวงใจหนีไปสุดมุมห้อง
"คุณเป็นใคร...พาฉันมาที่นี่ทำไม"
โตชิโร่เอาถาดแก้วนมวางไว้บนโต๊ะเล็กๆที่มีเก้าอี้นั่งเล่นริมหน้าต่างหันมาพูดยิ้มกับดวงใจ
"คุณหมดสติไปสองวัน...จำได้ไหม"
ดวงใจคิดถึงคืนวันที่เธอวิ่งหนีระเบิดจนโตชิโร่มาช่วยไว้...
"คุณ…ช่วยฉันไว้"
โตชิโร่ยิ้มเดินไปนั่งที่เก้าอี้
"คุณไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว...มานั่งดื่มนมก่อนดีกว่า...คุณไม่ได้ทานอาหารมาสองวันแล้ว...ถ้าวันนี้คุณไม่ฟื้น...หมอต้องให้ยาทางเส้นเลือดคุณ"
ดวงใจค่อยๆเดินมานั่งอย่างระวังตัว
"ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน"
โตชิโร่ยิ้ม
"ไม่ใช่ผม....เราจ้างแม่บ้านคนไทย ผู้หญิงไทยเค้าเป็นคนเปลี่ยนเสื้อและล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ แต่เสื้อนั่นเป็นของผม"
ดวงใจพูดอายๆ
"ขอบคุณมากค่ะ"
โตชิโร่ก้มหัวให้นิดหนึ่ง
"ดื่มนมให้หมด น้ำผลไม้ด้วย จะได้รู้สึกดีขึ้น"
ดวงใจดื่มนมอย่างรู้สึกหิว เสียงเคาะประตูดังขึ้น โตชิโร่เดินไปเปิด ทหารส่งถุงกระดาษใบใหญ่มาให้ เขารับมาแล้วปิดประตูห้องตามเดิม เดินเอาถุงกระดาษใบใหญ่นั้นมาส่งให้ดวงใจ
"ผมให้ที่ร้านเค้าจัดเสื้อผ้าของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิงมาให้คุณ…ถ้าไม่ถูกใจ คอยไปซื้อใหม่ใช้ไปก่อน"
ดวงใจรับถุงกระดาษมาด้วยสีหน้างงๆ
"ตอนเที่ยง...ผมจะกลับมาทานอาหารกับคุณ พักผ่อนให้สบาย คิดเสียว่า เป็นบ้านของคุณเอง"
โตชิโร่เดินออกจากห้องไป ดวงใจเปิดถุงกระดาษดู หยิบเสื้อยกทรงขึ้นมาดูสีหน้าวิตกกังวล
ดวงใจเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ในชุดที่โตชิโร่หามา เป็นชุดเดรสเข้ารูปสวยงาม จากร้านราคาแพง เธอมองบ้านของโตชิโร่ตบแต่งด้วยเครื่องเรือนอย่างดี มีของตบแต่งที่มาจากญี่ปุ่น มีตู้เก็บเครื่องแก้วและเครื่องกระเบื้องของญี่ปุ่นอย่างดี ดวงใจมองรอบๆอย่างไม่เคยเห็นบ้านที่สวยอย่างนี้มาก่อน แจกันดอกไม้ที่จัดอย่างสวยตรงโต๊ะรับแขก อีกห้องหนึ่งเป็นห้องทำงานโตชิโร่มีธงชาติญี่ปุ่นและรูปจักรพรรดิญี่ปุ่น เดโกะกำลังกวาดบ้านอยู่พอเห็นดวงใจก็ก้มหัวให้
"เอ้อ…ฉันอยากจะออกไปข้างนอก"
เดโกะยิ้มๆพูดญี่ปุ่นที่หมายถึงให้รอโตชิโร่ก่อน ดวงใจไม่รู้เรื่อง
"พูด….ทาย…ม่ายด้าย"
ดวงใจจะเดินไปหน้าบ้านเดโกะวิ่งมาขวางไว้
"ม่ายด้าย....ม่ายด้าย.."
พอดี พลทหารขับรถโตชิโร่กลับเข้ามา ทหารเปิดประตูรถ เดโกะรีบวิ่งไปรับกระเป๋าทำงานและซามูไรของโตชิโร่
โตชิโร่พูดญี่ปุ่นถาม
"มีอะไรหรือเปล่า...คุณผู้หญิงต้องการอะไร"
เดโกะตอบเป็นภาษาญี่ปุ่น
"คุณผู้หญิงอยากออกไปข้างนอก...ผมบอกให้รอท่านก่อนครับ"
โตชิโร่พยักหน้า เดโกะโค้งคำนับแล้ววิ่งเอาดาบไปเก็บ โตชิโร่เดินมาและมองดวงใจที่แต่งตัวใหม่อย่างพอใจ
มุมในสวนบ้านโตชิโร่จัดอย่างสวยงามมีโต๊ะสนามอยู่มุมหนึ่งโตชิโร่พาดวงใจเดินมา
"หวังว่าคุณจะสะดวกสบายที่นี่"
"ฉันอยากออกไปข้างนอก"
โตชิโร่มองดวงใจนิ่ง
"ผมยังให้คุณไปไหนไม่ได้"
"ทำไมล่ะคะ...นี่ฉันเป็นนักโทษของคุณหรือยังไง"
โตชิโร่ยิ้มใจเย็น
"บ้านนี้เป็นสถานที่ที่เป็นความลับทางราชการของเรา...เราต้องแน่ใจว่าจะไว้ใจคุณได้""ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใครถึงบ้านหลังนี้เด็ดขาดค่ะ"
เดโกะเอาถาดน้ำชาและกาน้ำชาเล็กๆมาวางแล้วออกไป โตชิโร่เดินมารินน้ำชาใส่ถ้วยส่งให้ดวงใจ
"ไหนคุณบอกว่าจะกลับมาตอนเที่ยง"
โตชิโร่ยิ้มสบายใจ
"ก็ผมคิดแล้วว่าควรจะอยู่คุยกับคุณ..ลองดื่มน้ำชาซิ..ชาเขียวญี่ปุ่น ค่อยๆ จิบ"
ดวงใจจิบน้ำชาในถ้วย
ฮารุจะเดินมาหาโตชิโร่ที่ห้องทำงาน แต่พอจะเคาะเปิดประตูเข้าไป ทหารที่นั่งอยู่หน้าห้องโตชิโร่ ก็รีบลุกขึ้นบอกเป็นภาษาญี่ปุ่น
"ผู้การไม่อยู่ครับ"
"ไปประชุมที่บก.เหรอ"
"ไม่ใช่ครับ"
ฮารุสงสัย
"ถ้าอย่างนั้นผู้การไปไหน...ถ้ามีราชการด่วนผมก็น่าจะรู้"
"ผมไม่ทราบครับ"
"แล้วผู้การจะกลับมาไหม"
"ผมไม่ทราบครับ"
ฮารุมองหน้าทหารแล้วเดินกลับไป...
โตชิโร่พยายามเอาใจดวงใจคีบอาหารให้ บนโต๊ะมีอาหารญี่ปุ่นหลายอย่าง
"ลองทานอาหารญี่ปุ่นดูนะ"
ดวงใจยังนั่งซึม
"คุณต้องทานอาหารบ้างนะ...ไม่อย่างนั้นจะไม่สบาย"
ดวงใจมองอาหารตรงหน้า ไม่กล้าทาน
"ฉันไม่เคยทานอาหารญี่ปุ่นค่ะ แต่จะลองดูก็ได้"
ดวงใจพยายามใช้ตะเกียบอย่างโตชิโร่ แต่คีบเท่าไหร่ก็คีบไม่ได้ เขาจึงคีบซูชิป้อนให้ดวงใจ ดวงใจลำบากใจแต่ก็ยอมทาน แล้วก็ทำหน้าเหย
"ไม่อร่อยเหรอ"
ดวงใจสั่นหน้าอยากจะคายแต่ก็พยายามกลืนลงไป โตชิโร่เห็นท่าทางดวงใจก็หัวเราะเสียงดัง เดโกะมองโตชิโร่อย่างดีใจสุดซึ้งที่เห็นเจ้านายหัวเราะ
"ทำยังไงดีล่ะ...ที่นี่ไม่ได้ทำอาหารไทยซะด้วยซิ"
"ที่นี่มีไข่ไก่ไหมคะ"
"มีสิ...ที่นี่มีไข่ไก่มากมาย"
"ฉันขอไปทอดไข่มาทานได้ไหมคะ"
"ทอดไข่"
อ่านต่อหน้า 2
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 24 (ต่อ)
ภายในครัว ดวงใจเทไข่ใส่กระทะน้ำมันร้อนดังฉ่า เดโกะกับทหารที่มาแอบดูทำหน้าทึ่ง ดวงใจตักใข่ดาวใส่จาน
ดวงใจเอาไข่ดาววางบนข้าวใช้ช้อนตักทาน โตชิโร่มองอย่างสนใจ
"คุณทานน่าอร่อย"
"ตอนสงครามอย่างนี้ถ้าได้ทานข้าวกับไข่ดาวอย่างนี้ก็ดีที่สุดแล้วค่ะ... เพราะไข่ไก่หาซื้อยากราคาก็แพง"
โตชิโร่หยุดกิน สะเทือนใจกับคำพูด ดวงใจพูดโดยซื่อยังกินข้าวไป โตชิโร่ลุกขึ้นยืนโค้งคำนับ นิ่งนานให้ดวงใจดวงใจตกใจ
"คุณ…"
"ผมต้องขอโทษด้วยครับ"
"ขอโทษเรื่องอะไรคะ"
"ขอโทษคนไทยที่ต้องเดือดร้อนเพราะสงคราม"
"แต่มันไม่ใช่ความผิดของคุณนี่คะ"
"เราปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของสงคราม"
"เราร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ จะอ้างเหตุผลอะไร แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าเราทำอะไร ทำให้มีคนเดือดร้อนมากมาย"
ดวงใจมองโตชิโร่อย่างรู้สึกนับถือ
หมอเมตตากำลังฟังเสียงหัวใจแม่สีหน้าครุ่นคิด
"อาการคุณแม่นอกจากใจสั่นแล้วเป็นยังไงอีกครับ"
"มันมีเจ็บหน้าอก....บางทีก็รู้สึกเหมือนแน่นๆจ้ะ"
หมอสีหน้าไม่ดี อ้อยนั่งเล่นกับลูกหนูช่วยพูดเสริม
"เมื่อตอนที่ระเบิดลงแถวๆสะพานฝั่งโน้นนายแม่ก็เจ็บหน้าอกซะจะเป็นลมเลยจ้ะ"
แม่หมอค้อนอ้อย
"คนตกใจเค้าก็เป็นอย่างนั้นแหล่ะ...ของธรรมดา"
"ไม่ธรรมดาหรอกครับ"
แม่หมอเมตตาพยายามทำหน้าสดชื่นกลบเกลื่อน
"แม่ไม่เป็นไรหรอกหมอ ยิ่งตอนนี้มีลูกหนูมาอยู่ด้วยนะ หายเจ็บหายไข้ไปเลย ลูกหนู มาหาย่าซิลูก"
ลูกหนูวิ่งมาหาแม่หมอชี้ชวนให้ดูพระจันทร์ดวงใหญ่ที่หน้าต่าง
"คุณย่า…ดู"
"พระจันทร์จ้ะลูกหนู จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง"
"จะหาแม่ แม่อยู่ไหน"
"แม่อยู่บนโน้น อยู่บนพระจันทร์โน้น"
แม่หมอสะเทือนใจ หมอเมตตากับอ้อยก็พยายามชวนลูกหนูเล่นให้ลืมดวงใจ
เฉลียงบ้านกฤษดาที่เชียงใหม่ มีแสงไฟจากตะเกียงและเทียนที่จุดไว้ กฤษดายืนมองพระจันทร์สีหน้าเศร้าหมอง ในมือมีดอกเอื้องป่าที่ดวงใจชอบกฤษดา ดมดอกเอื้องน้ำตาไหล เต่านั่งหลับไกลๆ
"ดวงใจ"
ดวงใจยืนมองพระจันทร์ดวงเดียวกันด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ดวงใจยืนร้องไห้เงียบๆสีหน้าทุกข์ปวดร้าว"คุณกฤษดา.....ลูกหนูของแม่"
โตชิโร่ยืนมองอยู่ห่างๆ ก่อนเดินมาหาดวงใจดวงใจได้ยินเสียงคนเดินก็หันไปมองเช็ดน้ำตาโตชิโร่มองดวงใจด้วยสีหน้าห่วงใย
"ถ้ามีสิ่งใดที่ผมช่วยได้...บอกผม"
ดวงใจหันหน้าหนี
"ไม่มีอะไรค่ะ"
โตชิโร่สีหน้าผิดหวังจะหันหลังเดินกลับไป
"เอ้อ…คุณคะ"
โตชิโร่รีบหันมาสีหน้ามีความหวัง
"ถ้าคุณจะกรุณาฉันอยากกลับบ้านค่ะ"
โตชิโร่นิ่งไปตัดสินใจ
"ก็ได้…ผมขอเวลาอีกสองวัน ผมจะพาคุณกลับบ้านเอง"
โตชิโร่พาดวงใจนั่งรถจะกลับมาที่บ้านประคอง รถขับช้าๆมาตามถนน
"คุณแน่ใจเหรอว่ามาทางนี้"
ดวงใจพยายามมองข้างทางเท่าที่จะจำได้
"ฉันก็ไม่แน่ใจค่ะ"
โตชิโร่สั่งคนขับรถเป็นภาษาญี่ปุ่น
"ขับช้าๆ"
รถโตชิโร่มาถึงทางเปลี่ยวที่ดวงใจเคยโดนฉุด ดวงใจเริ่มจำทางได้มองไปในพงหญ้ายังเห็นกระต๊อบ ที่เคยโดนเดชปล้ำขืนใจ สีหน้าดวงใจเริ่มแย่พูดเสียงสั่น
"ใช่ทางนี้แน่ค่ะ"
โตชิโร่เห็นท่าทางผิดปรกติของดวงใจแต่ก็ไม่ถาม ดวงใจพยายามซ่อนหน้าไม่ให้ใครเห็นว่ากำลังร้องไห้รถขับมาถึงหน้ารั้วบ้านประคองดวงใจจำได้
"หยุด..หยุดที่นี่"
"หยุดรถเดี๋ยวนี้" โตชิโร่บอก
รถหยุดหน้าประตูบ้านประคอง ดวงใจรีบเปิดประตูแต่เปิดไม่เป็น โตชิโร่ต้องรีบเปิดให้ ดวงใจรีบร้อนลงไป ตกใจสุดขีด ร้องไห้โฮทรุดลงไปกับพื้น บ้านประคองกลายเป็นกองซากเพราะโดนระเบิดจนเหลือแต่ประตูรั้ว โตชิโร่ประคองดวงใจที่ยังร้องไห้อย่างหยุดไม่ได้
"ไม่จริง...ไม่จริง"
โตชิโร่พาดวงใจกลับขึ้นรถ ดวงใจยังร้องไห้ โตชิโร่บอกคนขับรถเป็นภาษาญี่ปุ่น
"กลับบ้านได้"
"เราจะไปไหนคะ"
"ผมจะพาคุณกลับไปที่บ้านผมก่อน...กลับไปคิดว่าจะทำยังไง"
"ไม่ค่ะ...คุณคะ พาฉันไปอีกบ้านนึงนะคะ"
"บ้านใครอีก"
"เอ้อ…บ้านญาติของฉันเองค่ะ นะคะคุณ...พาฉันไปนะคะ"
"บ้านญาติคุณอยู่ที่ไหน"
"อยู่ที่สามเสนค่ะ...ไม่ไกลจากที่คุณเคยพบฉันไงคะ"
ดวงใจจับมือโตชิโร่แน่น โตชิโร่บีบมือดวงใจอย่างให้กำลังใจ
"ก็ได้…ผมจะพาคุณไป"
ดวงใจดีใจสีหน้ามีความหวัง
"ลูกหนู"
รถโตชิโร่มาจอดหน้าบ้านเมตตา ดวงใจรีบลงไปกดกริ่งหน้าบ้าน มองไปในบ้าน... ประตูหน้าต่างปิดเงียบ มีชาวบ้านเห็นทหารญี่ปุ่นก็เริ่มออกมาดู ดวงใจสีหน้าดีใจที่จะได้พบลูกหนูอีกครั้ง แต่บ้านเมตตาปิดเงียบดวงใจกดกริ่งหน้าบ้าน โตชิโร่เดินมาดู
"เหมือนจะไม่มีคนอยู่นะ"
"สงสัยจะพากันไปซื้อของค่ะ"
สามล้อถีบที่ดวงใจเคยนั่งบ่อยๆถีบมาเห็นทหารญี่ปุ่นก็ชะลอดู ดวงใจหันไปเห็นจำได้รีบเรียกไว้
"พี่…พี่…นายแม่กับคุณหมอไม่อยู่เหรอจ้ะ"
"อ้าว…ไม่ได้ไปกับเขาหรอกเหรอเรา"
ดวงใจงง "ไปไหนจ้ะ"
"ก็เค้าย้ายไปเมื่อเช้านี้ไง...ขนของไปหมดน่ะ"
ดวงใจจะเป็นลม
"ย้ายไปที่ไหนพี่"
"ไม่รู้…เห็นว่าหมอตัดสินใจย้ายปุบปับน่ะ...แล้วนี่เราไปมีผัวญี่ปุ่นแล้วละซิ...เวร"คนถีบสามล้อทำหน้าดูถูกถีบรถออกไป ดวงใจอายหน้าชาพอๆกับช็อกที่รู้ว่าหมอเมตตาย้ายบ้านไปแล้วชาวบ้านก็พากันซุบซิบทำหน้าดูถูกบางคนก็ชี้หน้าโตชิโร่มองไปรอบๆรู้สถานการณ์ดวงใจเหมือนใจจะขาด
"ลูกหนู"
"กลับกันก่อนดีกว่า....แล้วค่อยมาใหม่"
โตชิโร่เปิดประตูรถ ดันดวงใจให้ขึ้นรถไป ดวงใจขึ้นรถไปอย่างเลื่อนลอย รถขับออกไป
อ่านต่อหน้า 3
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 24 (ต่อ)
ในห้องนอน เวลาค่ำ ดวงใจนอนร้องไห้บนเตียง สภาพทรุดโทรมเพราะทุกข์หนัก ไฟในห้องไม่ได้เปิด เสียงเคาะประตูไม่ดังนักแต่เคาะไม่เลิก ดวงใจไม่สนใจเสียงเคาะประตู ไม่ลุกไปเปิดรับ โตชิโร่ยืนอยู่หน้าห้องสีหน้าห่วงใย
ดวงใจเดินลงมาจากชั้นบน สภาพยังดูทรุดโทรม โตชิโร่นั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นมุมหนึ่งมองดวงใจที่เดินลงมาด้วยสีหน้ารู้สึกดีใจ
"ดีใจที่เห็นคุณ"
ดวงใจหันมาเห็นโตชิโร่ก็พยายามจะยิ้ม
"หิวไหม เดโกะ เดโกะ"
โตชิโร่ร้องเรียกเดโกะ ดวงใจรีบห้ามไว้
"ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันจัดการเองได้"
โตชิโร่มองดวงใจนิ่งลุกขึ้นเดินไปจูงมือดวงใจให้เดินไปทางห้องทำงานของเขา
"ถ้าอย่างนั้นผมอยากให้คุณตัดสินใจบางอย่าง"
ดวงใจจำใจเดินตามแรงดึงของโตชิโร่ไป
โตชิโร่พาดวงใจเดินเข้ามาในห้องทำงาน ซึ่งมีชุดราตรีสวยงามหลายชุดแขวนไว้ ดวงใจมองอย่างไม่เข้าใจ
"อะไรคะ"
"คุณต้องเลือกชุดนึง...คุณต้องไปงานกับผมคืนนี้"
"ฉันไม่อยากไปค่ะ"
"ผมก็ไม่อยากไป แต่ต้องไป คุณไปเป็นเพื่อนผมหน่อยจะมีช่างเสริมสวยมาช่วยคุณแต่งตัว"
ดวงใจพยายามอ้อนวอน
"คุณคะ... ฉันไม่มีจิตใจที่จะไปไหน แล้วฉันก็ไม่เคยไปงานที่ต้องแต่งตัวแบบนี้ ฉันทำไม่เป็น"
โตชิโร่มองดวงใจนิ่ง
"เราต้องหัดแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับเรื่องที่จำเป็นต้องทำ..คุณไม่ต้องกลัว ผมจะคอยอยู่ข้างๆคุณ"
ดวงใจไม่สบายใจ
งานเลี้ยงระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ในบรรยากาศสวยงาม มีธงชาติไทยกับธงชาติญี่ปุ่นผืนใหญ่แขวนกลางเวทีมีแขกเดินเข้ามาในงานพนมและปิ่นแก้วเดินควงกันมามีมณีเดินตามมาห่างๆ
"งานคืนนี้เค้าจัดเนื่องในโอกาศอะไรคะ"
พนมมองไปรอบๆ
"เค้าต้องการเลี้ยงขอบคุณรัฐบาลกับพวกพ่อค้าคนไทยที่ให้การสนับสนุนกองทัพญี่ปุ่นน่ะซิ"
ปิ่นแก้วทำหน้าดูถูก
"ทำเหมือนพวกคางคกขึ้นวอ อวดมั่งอวดมี"
มณีเดินเข้ามา
"เค้าจะไม่เลี้ยงก็ได้...ใครจะทำไมเขา นี่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจนะ ปิ่นแก้ว""นึกว่าใคร...งานเลี้ยงที่ไหนไม่มีพวกเห่อเศรษฐีอย่างเธอคงกร่อยแย่"
มณีบอก
"นั่นซิ...ถ้าจะพูดให้ถูกฉันก็ชอบมาดูพวกเศรษฐีมีแต่โครงอย่างเธอมากกว่า"
ปิ่นแก้วหันขวับไปจ้องหน้ามณีกับพนมอย่างเบื่อหน่าย
"ถ้าไม่หยุดพล่าม ฉันจะโยนออกไปนอกงานทั้งสองคน" พนมบอก
"เธอหน้ามืดไปแต่งงานด้วยได้ไงนะ พนม" ปิ่นแก้วบอก
"ต้องแต่งกับไก่แก่อย่างเธอหรือไงล่ะ"
พนมหันมาถลึงตา บริเวณหน้าประตูทางเข้างาน โตชิโร่ในชุดทักสิโด้เดินควงดวงใจที่แต่งตัวชุดราตรีเกล้าผมใส่เครื่องประดับสวยมากๆเข้ามาในงาน ทุกคนหันไปมองอย่างสนใจและตะลึงในความสวย มีทหารญี่ปุ่นกับพ่อค้าคนไทยมาทักทายโตชิโร่กับดวงใจ
ดวงใจทักทายยิ้มนิดๆได้อย่างงดงาม
"นั่นใครน่ะ" ปิ่นแก้วว่า
"พันเอกโตชิโรวาตานาเบ้ ผู้บังคับการหน่วยรบพิเศษของกองทัพญี่ปุ่น"
"มีเมียเป็นคนไทยเหรอ"มณีว่า
พนมบอก
"ตามประวัติว่าหย่าร้าง สงสัยได้เมียใหม่"
ปิ่นแก้วจ้องมองดวงใจ
"ได้เมียใหม่เป็นคนไทยที่สวยมากๆเลย"
"ฉันว่าหน้าคุ้นๆนะ"
ปิ่นแก้วรีบเดินไปดูหน้าดวงใจ มณีรีบตามไป พนมจำเป็นต้องเดินตามแบบเบื่อๆ
มุมหนึ่งในงานเลี้ยง โตชิโร่กำลังแนะนำดวงใจกับนายทหารญี่ปุ่นคนอื่นๆ ปิ่นแก้วพยายามเดินเข้ามาใกล้ๆดวงใจให้มากที่สุดถึงจะต้องพยายามเบียดกับแขกคนอื่นๆ
ในที่สุด ปิ่นแก้วก็มายืนติดกับดวงใจจนได้ดวงใจหันมาเห็นปิ่นแก้วกับมณีก็ตกใจ แต่ยังพยายามใจเย็นเหมือนไม่ได้สนใจ มือดวงใจที่จับแขนโตชิโร่ไว้บีบแน่นจนเขารู้สึก โตชิโร่จึงหันมายิ้มให้ทั้งสาม
"สวัสดีครับผู้การ...หวังว่าคงจำผมได้" พนมบอก
โตชิโร่ยิ้มๆ
"คุณพนม...สวัสดีครับ"
โตชิโร่ก้มหัวให้พนมและปิ่นแก้วกับมณีนิดหนึ่ง ตอนนี้พนมก็เริ่มสนใจดวงใจแล้วเหมือนกัน
"นี่ภรรยาผมครับปิ่นแก้วแล้วก็ มณีเพื่อนของเรา"
มณีรีบส่งมือให้โตชิโร่
"แหมยินดีที่ได้รู้จักผู้การกับ...ภรรยาค่ะ" มณีบอก
โตชิโร่ยิ้มๆจับมือกับมณีเพื่อไม่ให้เสียมารยาท ดวงใจยืนตัวแข็งอย่างผิดปรกติ
"ขอบคุณครับ"
ตลอดเวลาปิ่นแก้วได้แต่จ้องดวงใจอย่างไม่กลัวเสียมารยาท
"เอ้อ…เหมือนเราเคยพบกันมาก่อนนะคะ"
ปิ่นแก้วพูดกับดวงใจอย่างจงใจ โตชิโร่เอาอีกมือจับมือดวงใจไว้ ดวงใจยิ้มอย่างสงบมองปิ่นแก้วอย่างไม่สะทกสะท้าน
"เหรอคะ แต่ดิฉันจำไม่ได้ว่าเคยพบกับคุณ"
ทั้งพนมปิ่นแก้วและมณีเมื่อได้เห็นดวงใจที่หันหน้ามาถนัดก็ชักจะไม่แน่ใจ
"ขอตัวก่อนนะครับ"
โตชิโร่ก้มหัวนิดหนึ่งแล้วพาดวงใจเดินไปอีกทางหนึ่ง
"เหมือนมาก" ปิ่นแก้วบอก
"ผู้หญิงที่เชียงใหม่.." มณีว่า
"นั่นซิ...ฉันว่าใช่นะ"
"ผู้หญิงบ้านป่าอย่างนั้นจะมาเดินอยู่ที่อย่างนี้ได้ไงเห็นๆอยู่ว่า เค้าดูดีมีการศึกษาขนาดไหน" พนมบอก
"แหม..พี่พนม..ไอ้ของอย่างนี้น่ะ มันหัดกันได้ค่ะ" ปิ่นแก้วบอก
"นั่นซิ...เมียญี่ปุ่นคนนี้เหมือนนังดวงใจยังกับแกะ.."
"ดวงใจ…ใช่..มันชื่อดวงใจพี่พนมว่ามันเหมือนไหมล่ะคะ"
พนมยิ้มขำ"ได้เห็นเธอสองคนสงบศึกกันได้ก็เรื่องนี้ละนะ"
พนมพูดอย่างเบื่อๆแล้วเดินหนีไป ปิ่นแก้วมองหน้ากับมณีแล้วเชิดใส่กันเดินหนีกันไปคนละทาง
โตชิโร่เดินกลับเข้ามาในบ้านกับดวงใจดวงใจทำท่าจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง
"นั่งคุยกันก่อนได้ไหม ตอนนี้ก็ยังไม่ดึกเกินไป"
ดวงใจหันกลับมาตัดสินใจนิดหนึ่งเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ชุดนั่งเล่น โตชิโร่เดินไปหยิบขวดเหล้ากับ แก้วอีกสองใบ
"เราออกไปนั่งคุยกันข้างนอกจะสบายกว่านะ"
โตชิโร่เดินนำออกไปทางที่จะออกไปในสวนดวงใจเดินตามไป
อ่านต่อหน้า 4
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 24 (ต่อ)
สวนบ้านโตชิโร่มีโต๊ะสนามสบายๆ มีโคมญี่ปุ่นจุดไฟแขวนไว้ทำให้ดูสว่างไสว มีดอกไม้ที่ปลูกไว้มากมาย โตชิโร่รินเหล้าใส่แก้วส่งให้ดวงใจ
"ฉันไม่ชอบดื่มเหล้าค่ะ ในงานก็ต้องดื่มไปบ้างแล้ว"
"ดื่มเหล้านิดหน่อยจะทำให้หลับสบาย"
ดวงใจรับแก้วเหล้ามา
"ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย"
"ฉันชื่อดวงใจค่ะ"
โตชิโร่ลุกขึ้นยืนตรงรายงานตัวเป็นงานเป็นการ
"ผม…พันเอกโตชิโร่วาตานาเบ้ ครับ"
ดวงใจอดยิ้มนิดๆไม่ได้ โตชิโร่มองดวงใจอย่างหลงใหล ยิ้มดีใจ
"ถึงตรงนี้จะไม่สว่างซักเท่าไหร่ แต่ยิ้มของคุณทำให้ที่นี่สว่างไสว ตั้งแต่รู้จักกันผมเพิ่งเคยเห็นคุณยิ้มก็วันนี้"
ดวงใจยิ้มเศร้า
"ขอบคุณมากนะ...สำหรับคืนนี้"
"ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ"
"โอ…คุณทำหลายอย่างโดยที่คุณไม่รู้ตัว คุณทำให้ผมเป็นที่อิจฉาของผู้ชายหลายๆคน ผมอยากรู้ว่าคุณสนุกบ้างไหม"
ดวงใจจิบเหล้าไปนิดนึง
"มันก็ทำให้ฉันลืมบางอย่างไปได้ชั่วครู่ค่ะ มีแต่สิ่งสวยงามที่ฉันไม่คิดว่าในชีวิตจะได้พบเห็น"
"แล้วผู้หญิงสองคนนั่นล่ะ...คุณรู้จักเขาใช่ไหม"
ดวงใจนิ่งดื่มเหล้าในแก้วทีเดียวหมด โตชิโร่มองดวงใจอย่างพิจารณา
"ไม่เป็นไร...ถ้าคุณยังไม่อยากเล่า"
ดวงใจเห็นแววตาใสบริสุทธิ์ใจของเขา
"ฉันจะเล่าให้คุณฟังค่ะ...คุณฟังแล้วอาจจะอยากไล่ฉันไปจากบ้านคุณเร็วๆก็ได้"
โตชิโร่ยิ้มๆ
"เอาไว้ผมได้ฟังจากคุณแล้วผมจะตัดสินใจเอง"
โตชิโร่เติมเหล้าในแก้วดวงใจทำท่าพร้อมรับฟัง ดวงใจเอาแก้วเหล้ามาถือไว้เริ่มเล่าเรื่องของตัวเอง ดวงใจร้องไห้ไปเล่าไป หยุดจิบเหล้าไปด้วย โตชิโร่คอยรินเหล้าเติมให้ แล้วฟังเรื่องราวของดวงใจด้วยสีหน้าทุกข์ร้อนตามไปด้วย
วันรุ่งขึ้น โตชิโร่นั่งดูแฟ้มประวัติของกฤษดาอยู่ ฮารุเคาะประตู
"เข้ามาได้"
ฮารุเปิดประตูเข้ามา โตชิโร่ปิดแฟ้มประวัติกฤษดาส่งให้ฮารุ
"จำผู้ชายคนนี้ได้ไหม"
"คุณกฤษดา"
"เลิกค้นหาตัวเค้าได้แล้ว"
"ทำไมครับ"
"คาดว่าเค้าน่าจะตายแล้ว"
"เราจะแน่ใจได้หรือครับ"
"ถ้าเค้าไม่ตาย...เป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะไม่กลับมาหาภรรยาเค้า"
ฮารุสงสัย
"ผมไม่ยักทราบว่าเค้ามีภรรยา."
"เค้ามีภรรยา มีลูกสาวน่ารัก ผู้ชายที่ทอดทิ้งครอบครัวตัวเองโดยไม่กลับไปหา ไม่แม้แต่ส่งข่าว ผมถือว่าเค้าตายไปแล้ว"
"แล้วท่านทราบเรื่องนี้ได้อย่างไรครับ"
โตชิโร่ยิ้มมองหน้าฮารุ
"ผมก็มีสายข่าวของผมซิ"
ฮารุเห็นท่าทางโตชิโร่อารมณ์ดีก็อดยิ้มด้วยไม้ได้
ดวงใจแต่งตัวสวยเดินปวดหัวลงมา เดโกะกำลังจัดโต๊ะ อาหารบนโต๊ะมีอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่นดวงใจเมินไม่อยากกิน เดโกะเดินเอาขวดยามาให้ดวงใจ
"อะไรเดโกะ"
"ยา….ปวด…หัว"
ดวงใจมองเดโกะอย่างทึ่งรับยามา
"รู้ได้ยังไงว่าฉันน่ะปวดหัว"
ดวงใจทำท่าว่าปวดหัว เดโกะพยายามเข้าใจ หัวเราะตาหยีโค้งคำนับ
"นาย…นายให้."
เดโกะชี้ยาชี้
"นายของเธอฝากยาแก้ปวดหัวไว้ให้ฉัน...เค้าคงจะรู้ว่าฉันจะปวดหัวเพราะเค้าเป็นคนให้ฉันกินเหล้าเอง"
เดโกะฟังไม่ทัน ไม่รู้เรื่อง ได้แต่ยิ้มตาหยีโค้งให้ดวงใจอย่างเดียว มีเสียงเอะอะจากทหารที่เฝ้าหน้าบ้านดวงใจหันไปมอง
"มีอะไรน่ะ...เดโกะ...ไปดูซิ"
เดโกะรีบวิ่งออกไปดวงใจเดินตามไปด้วย
ผู้หญิงท่าทางเหมือนขอทานใส่เสื้อผ้าเก่าขาดอยู่ที่หน้าบ้านกำลังยกมือไหว้ทหารที่เฝ้าบ้านประหลกๆดวงใจเดินมาแอบดูหญิงคนนั้นที่มาขอน้ำกิน แต่ทหารญี่ปุ่นฟังไม่รู้เรื่อง หญิงขอทานนั่งก้มหน้าร้องไห้
"ขอน้ำกินหน่อย...ขอน้ำกินหน่อย"
ทหารญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องได้แต่ไล่พูดเป็นภาษาญี่ปุ่น
"ไปให้พ้น...ไปให้พ้น"
เดโกะออกไปช่วยไล่ด้วย
"ไป…ไป" เดโกะว่า
หญิงขอทานเงยหน้าขึ้นเพราะได้ยินเดโกะพูดไทย...ร้องไห้ยกมือไหว้
"ขอน้ำหน่อยพ่อคุณ....หิวน้ำเหลือเกิน"
ดวงใจตกใจพอเห็นหน้าหญิงขอทานคนนั้นเพราะคือเสาวรส ดวงใจรีบวิ่งออกไปกอดเสาวรสไว้
"พี่เสาว์...พี่เสาว์"
เสาวรสมองดวงใจอย่างไม่เชื่อสายตา จำดวงใจแทบไม่ได้
"ดวง…ดวงหรือนี่ ดวงจริงๆด้วย"
ทั้งสองร้องไห้กอดกัน เดโกะกับทหารยืนมองงงๆ รถของโตชิโร่มาถึงพอดี หยุดรถแล้ววิ่งลงมาหา ดวงใจสีหน้าดีใจรีบวิ่งไปหาโตชิโร่
"คุณคะ...พี่เสาว์ค่ะ พี่เสาวรสที่ฉันเคยเล่าให้คุณฟังไงค่ะ"
โตชิโร่มองเสาวรส
"เข้าไปในบ้านก่อน"
โตชิโร่เดินไปพยุงเสาวรสให้ยืนขึ้นแล้วพาเดิน ดวงใจรีบเดินไปจับมือเสาวรสไว้อีกข้างหนึ่ง ทั้งหมดพากันเดินเข้าบ้านไป
อ่านต่อตอนที่ 25