แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 22
ณ บ้านสุขสำราญ นางพิศนั่งบนรถเข็น กำลังอาละวาดใส่ เพลิน เอพริล เมย์ จูน จันทร์ฟองยืนแยกออกมาข้างสุวรรณ กล่องเครื่องเพชรทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะ
"ฉันถามว่าใครขโมยแหวนเพชรของฉันไป"
เพลินบอก
"ถามแล้ว ไม่มีใครเอาไปนะพี่พิศ"
พิศปาขวดน้ำใส่ เพลินกระโดดหลบ
"ไม่มีใครขโมยแล้วมันหายไปได้ยังไง"
"พวกเราไม่รู้เรื่องนะแม่ แม่ก็อยู่ในห้องตลอด ก็รู้นี่ว่าเราไม่เคยเข้าไปในห้องแม่เลย " เอพริลบอก
"คนที่เข้าไปก็มีอยู่คนเดียว" เมย์ว่า
พิศถาม
"ใคร"
"ก็คนที่แม่เรียกใช้บ่อย ๆ ไง"
ทุกคนหันมามอง จันทร์ฟองเป็นตาเดียว
"อ้าว อย่ามาโยนขี้ซีอีจูน ฉันไม่มีนิสัยลักขโมยอยู่แล้ว" จันทร์ฟองบอก
"แต่ก็จริงของนังจูนมัน แกคือคนที่เข้ามาปรนนิบัติฉันคนเดียว"
"พี่สุวรรณก็รับใช้แม่บ่อย ๆ นะ"
"เฮ้ย....ฉันเข้าไปช่วยอุ้มแม่เข้าห้องน้ำ แล้วทุกครั้งแม่ไม่เคยเอาเครื่องเพชรออก
มาจากตู้ ไขกุญแจอย่างดี" สุวรรณบอก
"จริง บางวันที่ฉันเอาเครื่องเพชรออกมาดู แกก็มาช่วยบีบนวด จนฉันหลับไป ต้องเป็นแกแน่ ๆ"
เพลินบอก
"ค้นห้องมันเลยพี่"
"ต้องค้นอยู่แล้ว ค้นตัวมันด้วย"
จันทร์ฟองหน้าเจื่อน สาวสามเดือนเข้ารุมค้นตัวจันทร์ฟอง
"สุวรรณ ไปค้นห้องมัน"
จันทร์ฟองพยายามดิ้น หน้าสลดลงทุกทีเหมือนผู้ร้ายถูกจับได้
สิงห์ ใบพร ตง ต้อย นั่งอยู่พร้อมหน้าวิไล ทุกคนหน้าสลด
"บอกความจริงมาเถอะ อาชีพของพวกเธอทุกคนน่ะ ตรงกับที่ไอ้นพมันพูด ใช่ไหม"
ตงบอก
"ครับแม่ ผมกับสิงห์เคยทำงานนอกกฎหมาย แต่ตอนนี้เราล้างมือแล้ว"
"ขนาดฆ่าคนเป็นร้อยศพเลยเหรอ"
สิงห์บอก
"แม่ครับ ไม่ถึงขนาดนั้น ทุกครั้งที่มีการตาย มันคือการป้องกันตัวครับ เราไม่ได้เลือดเย็นขนาดนั้นหรอกครับแม่"
"จ๊ะ แล้วต้อยกับใบพร"
"ค่ะ หนูกับใบพรก็ทำงานที่ผับเฮเว่น เราขาย....บริการค่ะ"
วิไลน้ำตาไหล ใบพรร้องตาม เข้าไปกราบแม่
"แม่....หนูขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริง อย่าโกรธหนูเลยนะ"
"แม่ขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ"
วิไลพยายามลุก สิงห์เข้าไปช่วยประคอง วิไลลุกขึ้นถือไม้เท้า โบกมือไม่ต้องช่วยตน แล้วเดินกลับเข้าห้องไปลำพัง
"พี่สิงห์ จะพูดยังไงดี"
"รอให้แม่พักผ่อนก่อน วันนี้ท่านเจอเรื่องหนัก ๆ มามากแล้ว ยังทำใจเรื่องพวกเราไม่ได้หรอก"
ใบพรเช็ดน้ำตา ทุกคนสลด
จันทร์ฟองยืนมองทุกคนที่กำลังรื้อข้าวของของตนกระจุยกระจาย เพลิน เอพริล เมย์ จูน สุวรรณ หาของกันทั้งห้อง
"ไง เจอไหมล่ะ" จันทร์ฟองถาม
"นี่ไง เจอแล้ว" เมย์บอก
เมย์หยิบแหวนมาจากลิ้นชัก ทุกคนเข้ามารุมดู
"อีบ้า นี่มันพลาสติก" เพลินบอก
"หาไม่เจอใช่ไหม งั้น เพื่อความยุติธรรม ขอให้ตรวจของนังสามเดือนมันด้วย"
"แกหาว่าพวกฉันขโมยเหรอ" เอพริลบอก
"เปล่า เพื่อความยุติธรรมต่างหาก"
"ได้ งั้นเข้าค้นห้องใคร นังเจ้าของห้องก็รออยู่ข้างนอก" เพลินบอก
"ขอบคุณค่ะเจ๊ที่ยังมีความยุติธรรมอยู่บ้าง"
ทุกคนมองจันทร์อย่างหมั่นไส้
วิไลนั่งร้องไห้อยู่ลำพังข้างเตียง มองเหม่อไปนอกหน้าต่าง เสียงเคาะประตูดัง วิไลซับน้ำตา
"เชิญจ๊ะ"
ใบพรเข้ามา ตาบวมช้ำ
"แม่"
ใบพรลงนั่งที่พื้น กราบที่เท้าแม่
"พรขอโทษแม่ ที่ต้องทำอาชีพที่แม่รังเกียจ แต่พรไม่มีทางเลือก พรจำเป็นต้องทำ แม่อย่ารังเกียจพรเลยนะจ๊ะ"
วิไลประคองลูกลุกขึ้น)
"ลุกขึ้นมาลูก"
ใบพรขึ้นนั่งข้างแม่ วิไลลูบผม เช็ดน้ำตาให้ลูก
"ใครบอกแม่รังเกียจลูก แม่ไม่ได้รังเกียจหนูแม้แต่นิด เพราะแม่รู้ว่าหนูยอมทำงานนี้เพื่อนำเงินมารักษาแม่ แต่ที่แม่เสียใจ คือเสียใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้หนูต้องเลือกอาชีพนี้ต่างหาก"
"ไม่ใช่ความผิดของแม่เลย มันเป็นหน้าที่ของหนูที่ต้องช่วยแม่ให้หาย ให้หนูทำอะไรที่ตกต่ำกว่านี้หนูก็ยอม"
"ขอบใจลูก จำไว้เถอะว่าใจหนูน่ะประเสริฐบริสุทธิ์ที่สุดแล้ว"
วิไลยิ้มกับลูก ใบพรยิ้มทั้งน้ำตา วิไลดึงใบพรมากอดไว้
ประตูค่อย ๆ แง้มเข้ามา ต้อย ตง แอบมองอยู่
นอกห้อง สิงห์ยืนอยู่หลังตงและต้อยที่แอบดู ทั้งสองปิดประตู
"แม่ว่ายังไงพี่" สิงห์ถาม
ตงบอก
"โล่งอกว่ะ แม่ยอมรับ"
"โอย....นึกว่าแม่จะรับไม่ได้ แล้วไม่อยากอยู่กับพวกเราแล้ว"
ต้อยเช็ดน้ำตา
"น้องต้อย เป็นอะไร" ตงถาม
"นึกแล้วสงสารตัวเอง แม่พรเขาไม่อยากให้ลูกขายตัว แต่บ้านต้อยน่ะ กลับบังคับให้ต้อยมาทำอาชีพนี้ ฮือ"
ตงดึงต้อยมากอด
"ไม่เป็นไรนะต้อย อีกไม่นานพี่ก็จะพาต้อยไปอยู่กับพี่ เลิกอาชีพนี้ไปเลย"
"เราจะไปทำอะไรกินล่ะพี่"
"เราจะซื้อที่ทำไร่ ทำสวนกันไง พี่กับสิงห์วางแผนไว้แล้ว"
"จริงนะพี่ ฉันจะได้เลิกอาชีพนี้เสียที ฉันสวยเกินไปที่จะทำอาชีพนี้แล้ว"
"จ๊ะ จ๊ะ ต้อยสวยเกินไป สวยจนแขกไม่ยอมออฟใช่ไหม"
"ช่าย พี่ก็รู้นี่"
สิงห์แอบดูผ่านประตูอีกที เห็นแม่ลูกยังกอดกันไม่คลาย สิงห์ยิ้มออกได้
เพลิน สุวรรณ ค้นของในห้อง เอพริลค้นด้วย
เอพริลบอก
"ไม่น่าไปยอมนัง จันทร์ฟองมันเลย ฉันสามคนน่ะ ไม่มีทางขโมยเพชรของแม่หรอก เท่านี้ก็กลัวขี้แตกขี้แตนแล้ว"
"เพื่อความยุติธรรม ค้นค้นไปเถอะน่า"
เอพริลหยิบกระเป๋าใบเล็กของเมย์ขึ้นมา แล้วเจอแหวนเพชรเข้าทันที
"อุ๊ย"
สุวรรณถาม
"อะไร"
เอพริลจะใส่คืนลงกระเป๋า สุวรรณรีบจับมือไว้
"เอามานี่"
เพลินหันมาเห็นเพชรในมือสุวรรณ
"ตายแล้ว กระเป๋าใคร"
"นังเมย์จ๊ะ"
เพลิน สุวรรณ เอพริลมองหน้ากัน ไม่รู้จะทำยังไงดี สุวรรณหน้าเหี้ยม
เมย์นั่งคุกเข่าไหว้พิศที่พื้น เอพริล จูน เพลิน จันทร์ฟอง สุวรรณมองดุ หน้าเหี้ยม
"หนูไม่รู้จริง ๆ นะแม่ มันมาอยู่ในกระเป๋าหนูได้ยังไง มันต้องมีคนแกล้งแน่ ๆ"
"ใคร ใครจะแกล้งมึง มีงเลวมากที่ขโมยแหวนเพชรกู"
พิศจิกผมเมย์ แล้วตบหน้าคว่ำไป เอพริล จูนเข้าประคอง นางพิศจะเอาไม้เท้าฟาดซ้ำ เพลินเข้ามาห้าม จันทร์ฟองสีหน้าสลด
"พี่จ๋า ขอเถอะจ๊ะ พี่เองก็ไม่สบายนะ อย่าโกรธมากกว่านี้เลย"
"ไม่ต้องมาห้าม"
พิศยื้อไม้เท้าจากเพลิน แล้วหวีดร้องออกมาลั่น
"แอร๊ย โอ๊ย...หลังฉัน หลัง โอ๊ย"
พิศทิ้งไม้เท้าหลุดมือ เกิดอาการปวดหลัง
"ช่วยด้วย มันปวด"
"เจ๊เพลิน พาแม่ไปนอนดีกว่า" สุวรรณบอก
สุวรรณเข็นรถเข็นเข้าห้องนอน
"เดี๋ยว ขอยา นังจันทร์ เอามาชุดเดิมมาให้แม่กินหน่อย"
"ได้จ๊ะแม่"
จันทร์ฟองตามสุวรรณและนางพิศไป เหลือเพลิน เอพริล เมย์ จูน
"ฉันไม่ได้ขโมยจริง ๆ นะเจ๊เพลิน ต้องมีอีตัวดีใส่ร้ายฉัน" เมย์บอก
"ฉันเชื่อแก"
"อ้าว เจ๊ พูดอย่างนี้เจ๊ก็เชื่อว่ามมีคนแกล้งนังเมย์ อย่ามาโทษพวกหนูนะ"
"พวกแกไม่ทำอยู่แล้ว มีคนเดียวเท่านั้น นัง จันทร์ฟองนี่ไง"
"มันทำไปทำไม"
"พวกแกต้องเฝ้าดูหน่อยแล้วละ นังนี่มันต้องมีแผนอะไรแน่ ๆ"
สามเดือนมองหน้ากัน ต้องเอาคืน
อ่านต่อหน้า 2
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 22 (ต่อ)
จันทร์ฟองอยู่ในห้องน้ำลำพัง มองหน้าตัวเองในกระจก หน้าสลด
"นังเมย์ ยกโทษให้ฉันด้วยเถอะ ฉันจำเป็นต้องให้แกเป็นเหยื่อ นังพิศมันจะได้ไว้ใจฉันคนเดียว ขอโทษพวกทั้งสามคนด้วย"
เสียงพิศดังมา
"นังจันทร์ จันทร์ มาหาแม่หน่อย"
"จ๊ะแม่"
จันทร์ฟองหน้าสลด กลายเป็นเหี้ยมขึ้นอีกครั้ง
พิศยังนอนร้องครางเบา ๆ จันทร์ฟองนวดหลังให้ ทาเจลร้อนประคบ
"ต่อไปนี้ ฉันไม่ไว้ใจพวกมันแล้วละ อีพวกเลี้ยงเสียข้าวสุก ฉันไว้ใจแกคนเดียวนะ นังจันทร์"
"ขอบคุณค่ะแม่"
"โอย ให้ยาแม่กินอีกชุดเถอะ เมื่อกี้มันยอกหลังแปล๊บ เจ็บแทบตาย"
จันทร์ฟองยิ้ม
"ได้จ๊ะ"
จันทร์ฟองหยิบยา แล้วปนแค็ปซูลยาที่ผสมมอร์ฟีนเข้าไปด้วย จันทร์ฟองประคองนางพิศให้ลุกนั่ง นางร้องคราง กินยาหลายเม็ด แล้วดื่มน้ำตาม จันทร์ฟองประคองให้ลงนอนหงายกับเตียง
"ยานี่ดีจริง ๆ แป๊บเดียวมันหายปวดเลย เหมือนกับจะเดินได้เลยนะ"
"ยาหมอเขาดีน่ะแม่"
พิศหลับตา ง่วงงุนขึ้นทันที จันทร์ฟองมองพิศยิ้มเหยียดอย่างมาดร้าย สุวรรณแอบมองที่ประตูอย่างสงสัย
สองคืนต่อมา ที่บ้านเสน่ห์จันทร์ สายพิณแต่งตัวพร้อมไปทำงาน เดินออกมาจากห้องแม่ละม่อม กำลังจะลงบันได ได้ยินเสียงใบพรกำลังพูดสาย กระซิบกระซาบ สายพิณเข้ามาแอบฟัง
"ค่ะ ตอนนี้จ้างคนมาเฝ้าแม่ค่ะ อยู่ดูแลตอนกลางวัน ค่ะ นัดเหมือนเดิมได้ค่ะ แล้วเจอกันค่ะ คุณกฤษณ์"
สายพิณตาลุกโพลง อย่างที่สงสัยไม่มีผิด ใบพรเลิกสาย แล้วออกมาจากห้อง
"ว้าย พี่พิณ"
"เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนถูกจับผิดได้ คุยกับใครอยู่เหรอ กระซิบกระซาบ"
"ไม่มีอะไรค่ะ"
"นี่...เมื่อไหร่จะบอกเสียทีล่ะ ว่าเศรษฐีนายนั้นน่ะเป็นใคร จองตัวเธอทุกวัน จนสาวเฮเว่นอิจฉากันไปหมดแล้ว"
"บอกไม่ได้ค่ะ"
จังหวะนั้นศรีออกมาจากห้องพอดี
"รถที่มารับน่ะ ฉันรู้นะว่ารถใคร"
"พี่รู้"
"ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็มันรถของพี่อ๋อง ฉันจำทะเบียนได้ เคยเห็นจอดอยู่ที่บ้านเขาน่ะ อย่าบอกนะว่าเธอกลายเป็นคู่ซ้อมของพี่อ๋องไปแล้ว เอ หรือพี่โอ๋ พี่ตั้ม ใครกันแน่"
ใบพรจะเดินเลี่ยง สายพิณกระชากอย่างแรง
"เวลาฉันพูดอย่ามาทำเดินหนี อีนี่ ขอให้เป็นแค่ พี่อ๋อง พี่โอ๋ พี่ตั้ม เท่านั้นนะ อย่าเลยเถิดถึงขั้นไปคว้าอดีตผัวฉันไปด้วยอีกคน ไม่งั้นเจอดีแน่"
ศรีถาม
"แกจะทำอะไรใบพรเหรอนังพิณ แหม....ผัวเขาถีบหัวส่งแล้วยังหวงอีกเนอะ"
ศรีดึงใบพรออกมา
"ไม่เกี่ยวกับแกนังวิปริต"
"ถ้ามาข่มขู่ใบพรมันต้องเกี่ยวกับฉัน เพราะเดี๋ยวนี้ฉันแยกออกแล้ว ใครเป็นคนดีน่าคบ กับใครเป็นนังชั่วน่าตบ"
ศรีลูบมือตัวเอง สายพิณถอยกรูดด้วยความกลัว
"อ้อ กลัวเป็นเหมือนกันนะ ดี รู้จักกลัวไว้บ้าง เพราะถ้าทำให้คนวิปริตอย่างอีศรีโกรธ แกอาจไม่เหลือหน้าสวย ๆ เอาไว้ขายอีกเลย"
สายพิณไม่กล้าตอบโต้
"ไปน้องพร โดนมันแกล้งให้บอกพี่ทันทีนะ อ้อ ขอบคุณหนังสือสวดมนต์ของน้อง ทำให้พี่สงบลงเยอะเลย ไม่งั้นนะพี่ศรีคงฆ่าอีชั่วบางคนไปแล้วละ"
ศรีโอบ ใบพรลงบันไดไป สายพิณมองตามอย่างเคียดแค้น
ณ ผับเฮเว่น กลางคืนต่อเนื่อง นงเยาว์กำลังดูไอแพ็ดอยู่ จันทร์ฟองเดินผ่านมา
"ไง นังนง พี่ สุวรรณเขาบอกว่าแกได้เห็นกองถ่ายของเจ๊แอร์รี่เขาแล้วใช่ไหม"
"ก็เห็น ไม่เห็นน่าสนใจตรงไหน กองถ่ายกระจอก ๆ"
"แกนี่มันไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ พวกทำหนังสารคดีพวกนี้ เขาทุนไม่เยอะ แต่หนังเขามีของ ไปฉายที่ไหนก็ได้รางวัล"
"แกรู้ดีมากเลยนะ"
"พี่ สุวรรณมาบอกฉัน บางทีสาว ๆ บ้านสุขสำราญอาจจะไปเข้ากล้องหนังเรื่องใหม่ของค่ายนี้ก็ได้ เอ้านี่... ฉันจะเข้าเว็ปไซด์ให้"
จันทร์ฟองเข้ามาพิมพ์ชื่อเว็ปไซด์ในเครื่อง นงเยาว์ให้พิมพ์แต่โดยดี
"แกลองไปดูผลงานเขาก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยฟันธงว่าบริษัทมันกระจอกจริงรึเปล่า"
จันทร์ฟองแยกไป นงเยาว์รีบเข้าดูรายละเอียดทันที
ตรอกหลังผับเฮเว่น สิงห์นั่งอยู่ที่โซฟาเน่า ๆ ตัวเดิม กำลังดริงก์กับใบพรและต้อย กับแกล้มเต็มโต๊ะ สายพิณจะออกมาจากร้าน ได้ยินทั้งสามคุยกัน เลยแอบฟัง
"พี่สิงห์ แล้ววันนี้ไม่ต้องไปเฝ้าเจ้านายเหรอ คุณกฤษณ์น่ะ"
ใบพรสะดุดไปนิดหนึ่ง
"พอช่วงค่ำ คุณกฤษณ์เข้าพักที่คอนโดใหม่ พี่ก็หมดหน้าที่ไม่ต้องไปเฝ้าอีกเลย ทำไมก็ไม่รู้"
สายพิณทึ่ง แสดงว่าสิงห์ไม่รู้ว่าใบพรไปนอนกับกฤษณ์
"สงสัยจะนัดเดทสาวแน่ ๆ แต่ไม่อยากให้ทางบ้านรู้ เก็บเงียบเลย" ต้อยบอก
ใบพรเจื่อนไป
"แล้วคืนนี้กลับกับพี่รึเปล่า ใบพร"
"เออ...มีแขกนะจ๊ะ"
ต้อยบอก
"บอกพี่สิงห์ไปซี แขกคนเดิมขาประจำ"
ใบพรนิ่ง
"เมื่อไหร่จะบอกพี่เสียที แขกคนนี้คือใคร"
"นั่นซี เป็นดาราใช่ไหม ไทยหรือฝรั่ง หรือเป็นเจ้าชายอาหรับ"
"โธ่....ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้พรยังบอกไม่ได้ เพราะลูกค้าเขาขอไว้"
"แม้แต่พี่ก็รู้ไม่ได้เชียวเหรอ เราสัญญาแล้วไงเราจะคุยกันทุกเรื่อง ไม่มีความลับต่อกัน"
ใบพรกอดแขนซบไหล่สิงห์
" พี่สิงห์น่ะ อย่าพูดแบบนี้ซี อีกไม่นานเขาก็ไปแล้วละ แล้ววันนั้นพรจะบอกนะ ไม่เอานะ ไม่ทำหน้าอย่างนั้น"
ใบพรหอมแก้มสิงห์ สิงห์ยิ้มออกมาได้
สายพิณยิ้ม คิดแผนได้
ต้อยบอก
"อุ๊ย ไม่อยากนั่งเป็นก้างขวางคอแล้ว สวีตกันจนมดตอม"
มือถือใบพรดังขึ้น
"รถมารับแล้วค่ะ พรไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้"
"พี่ไปส่ง"
"ไม่ต้องจ๊ะ ไปนะ"
ใบพรแยกไป สิงห์มองตาม
สิงห์ออกมาจากห้องน้ำร้าน สายพิณทำทีเดินผ่านมา
"อ้าว พี่ชาย ยังไม่กลับอีกเหรอ"
"พี่รอพี่ตง รอต้อยด้วย" สิงห์บอก
"แหม....เดี๋ยวนี้ไม่รอรับส่งเมียอย่างแต่ก่อน"
"ใบพรทำงาน ค้างคืน"
"นั่นซี คนที่นี่เขาสงสัยกันจะแย่แล้วว่า ใบพรไปได้แขกขาประจำที่ไหน นัดค้างคืนเกือบทุกคืน แถมจ่ายไม่อั้น คงหลงกันน่าดู"
"จะพูดทำไม ยุให้พี่หึงใบพรงั้นเหรอ"
"อุ๊ย....ไม่ได้เจตนาร้ายขนาดนั้น แค่สงสัยว่าแขกที่ว่าเป็นใคร ใบพรบอกพี่รึเปล่า รู้แล้วบอกกันบ้างซี"
"พี่ไม่รู้"
สิงห์แยกไป สายพิณรีบพูด
"แล้วอยากรู้ไหมล่ะ"
สิงห์ชะงักหันมามองสายพิณ
"ครั้งนึงที่พิณไปกับแขกฝรั่ง พิณเห็นรถคันที่มารับยายพรน่ะจอดอยู่ อยากรู้ไหมล่ะว่าที่ไหน"
"บอกมา"
"คอนโดแกรนด์น่ะ พี่รู้จักรึเปล่า อภิมหาเศรษฐีทั้งนั้นเลยนะ"
สิงห์นิ่งงันไป สงสัยแล้วซี
อ่านต่อหน้า 3
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 22 (ต่อ)
ฝ่ายนงเยาว์กำลังดูไอแพ็ด ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำหนังบริษัทแอร์รี่โปรดักชั่น เห็นหน้าดาราบางคนในกองถ่าย นงเยาว์ดูอย่างสนใจ เฮียก้านเดินผ่านมา
"เฮียก้าน"
"ว่าไง น้องนง"
"เฮียรู้จักบริษัทสร้างหนังชื่อนี้ไหม"
"แอร์รี่โปรดักชั่น ไม่คุ้น เอ แต่ผู้หญิงคนนี้เหมือนคุ้น ๆ"
แอร์รี่ยืนคุยกับสามีฝรั่ง ตัวล่ำบึ๊ก หน้าหล่อเหี้ยม ๆ
"อลิสา ดารากรไง นางเคยเล่นหนังเมื่อหลายปีมาแล้ว"
"อ๋อ จำได้แล้ว เอ๊ะ มาสร้างหนังเองเหรอ"
จังหวะนี้สุวรรณเดินมาฟังอยู่ห่าง ๆ
"ใช่ ผัวเขาเป็นฝรั่ง เป็นผู้กำกับ เขาสร้างหนังส่งเมืองนอก เห็นว่าได้รางวัลด้วยนะ"
"เฮ้ย ระวังนะ เดี๋ยวนี้ไอ้บริษัทแบบนี้มีเยอะ มาแอบถ่ายเมืองไทย หลอกผู้หญิงไทยไปถ่าย ที่แท้หนังโป๊ฮาร์ดคอร์เลย"
สุวรรณสะดุ้ง รีบเข้ามาทันที
"เฮียก้าน นง ดูอะไรกันอยู่"
"กำลังเตือนนงเยาว์ อย่าไปเชื่อไอ้บริษัทสร้างหนังพวกนี้ มันถ่ายหนังโป๊ทั้งนั้น"
สุวรรณดูในจอแล้วบอก
"แอร์รี่โปรดักชั่น บริษัทนี้ผมรู้จักดี เชื่อถือได้พี่ เขาทำหนังแนวสารคดี ไม่ใช่หนังโป๊ วันนั้นนงเยาว์ยังไปเห็นที่กองถ่ายเลย ใช่ไหมนงเยาว์"
"ใช่"
"งั้นไม่รู้แล้วว่ะ"
ก้านแยกไป สุวรรณรีบตะล่อมนงเยาว์ต่อ
"ไง น้องนง สนใจแล้วใช่ไหมล่ะ"
"ก็...น่าสนนะ เขามีผลงานอะไรอีกบ้างล่ะ"
"เข้านี่เลย ลิสท์รายชื่อผลงาน นี่ไง....เรื่องนี้ได้รางวัลเมืองกาญจน์"
"เขาเรียกเมืองคานส์ไม่ใช่เหรอ"
"เออ นั่นแหละ เวลาหนังได้เข้าประกวด เขาเชิญดาราไปเดินพรมแดงด้วยนะ"
"หา....อย่างที่พี่ชิดชม กับพี่หญิงญ่าไปเดินน่ะเหรอ"
"น่านแหละ"
นงเยาว์ตาเป็นประกาย รูปดาราเอเชียที่ไปเดินพรมแดง งานอะไรก็ไม่รู้
"ชุดสวยจังเลย ดูเครื่องเพชรซี"
นงเยาว์ดูอย่างตื่นตะลึง นัยน์ตาฝันเฟื่อง สุวรรณแอบยิ้ม
สุวรรณออกมาตรอกหลังร้าน เจอจันทร์ฟองกำลังรับยาจากเด็กส่งยา จ่ายเงินสดปึกใหญ่ สุวรรณมองอย่างสงสัย เด็กเห็นสุวรรณรีบเผ่นทันที
"ทำอะไรน่ะ นั่นมันเด็กของเฮียวิเชียร แกไปยุ่งอะไรกับมันวะ"
"อุดหนุนสินค้า น้ำแข็ง ขนมนิดหน่อย"
"ฉันนึกว่าแกเลิกแล้วเสียอีก"
"พี่ทำให้ฉันติดเองนะ ไอ้ยาพวกนี้ ฉันคงเลิกไม่ได้แล้วละ ไง....นังนงมันยอมรึยัง"
"มันสนใจมากเชียวละ ไม่นานมันคงยอม เรื่องน้ำแข็ง น้ำหวานเนี่ย ระวังหน่อยนะ เดี๋ยวตำรวจมันตามรอย แกจะซวย"
"รู้น่า"
สุวรรณแยกไป จันทร์ฟองหน้าร้ายทันที
"ยาพวกนี้ กูไม่ได้ไว้ใช้เอง กูเอาไว้ให้อีพิศแม่ของมึงไง ให้มันเสพติดจนลงแดงตาย เหมือนที่พวกมึงเคยทำกับกู"
จันทร์ฟองยิ้มเหี้ยม
กลางคืนต่อเนื่อง สิงห์ขับมอเตอร์ไซค์โดยมีสายพิณนั่งซ้อนท้าย มาจอดหน้าคอนโดแกรนด์ เห็นรถของกฤษณ์จอดหลบมุมอยู่ข้างตึก เป็นที่จอดชั่วคราวของวีไอพี
"นั่นไง รถคันนั้นแหละ แสดงว่ามาที่นี่จริง ๆ"
สิงห์มองตาม ครุ่นคิดแต่เรื่องใบพรมาหากฤษณ์หรือเปล่า
"ไม่ลองไปเช็กดูล่ะพี่ว่า ใบพรมาหาใครที่ตึกนี้"
"เจ้าหน้าที่ที่นี่ไม่บอกความลับของลูกค้าหรอก มันเป็นกฏ"
"เอ๊ะ ทำไมพี่รู้ล่ะ"
"คุณกฤษณ์พักที่นี่ พี่ต้องมาคอยดูแล ก็เลยรู้"
สายพิณแกล้งไม่รู้
"หา...อะไรนะ คุณกฤษณ์ พักที่นี่ เอ....มันชักจะยังไง ๆ แล้วนะ พี่ไม่ลองขึ้นไปถาม คุณกฤษณ์ดูล่ะ"
"เธอคิดว่าเป็นคุณกฤษณ์งั้นเหรอ ไม่มีทาง ถ้าเป็นคุณกฤษณ์ ใบพรต้องบอกพี่แล้ว"
"อย่าเชื่อมั่นนักเลยพี่ พิสูจน์ไหมล่ะ ถาม คุณกฤษณ์ตรง ๆ เลย"
"พี่ไม่รบกวนเวลาส่วนตัวของเขา"
"งั้นพี่ก็เสียโอกาสที่จะรู้ความจริง เอางี้ ให้ฉันขึ้นไปด้วย ฉันช่วยพี่ได้ แค่อ้างว่าฉันอยากพบ เดี๋ยวฉันจัดการทุกอย่างให้เอง"
สิงห์ชักลังเล
ใบพรนอนอิงแอบอยู่กับกฤษณ์ ผ่านเวลาแห่งความสุขมาแล้ว เสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้น
"เดี๋ยวนะ"
กฤษณ์ออกจากห้อง มองผ่านตาแมวของห้อง กฤษณ์เปิดประตู
"นายสิงห์ มีธุระอะไร บอกแล้วไงว่าไม่ให้รบกวนเวลานี้"
"เออคือ"
"แล้วทำไมไม่โทร.มาบอกก่อน เอ นี่ขัดคำสั่งฉันรึไงเนี่ย"
"มีคนอยากพบ คุณกฤษณ์น่ะครับ"
"ใคร"
สายพิณปรากฏตัว
"พิณเองค่ะ"
"นาย สิงห์ นี่นายพายายนี่มาหาฉันเหรอ"
"เป็นเรื่องบังเอิญน่ะครับ"
"ไม่ต้องไปว่าพี่สิงห์หรอก ฉันบังคับให้เขาทำน่ะ ไง มาอยู่คอนโดใหม่ หวังจะให้พ้นหูพ้นตาพ่อแม่กับอีปริมใช่ไหม อ้อ คงมีเมียเก็บคนใหม่ละซีท่า"
"สิงห์ แกพานังนี่ออกไปเลย"
"สายพิณ ไปเถอะ"
สิงห์ยึดร่าง สายพิณ สายพิณสะบัดหลุด ชักมีดออกมา
"เข้ามาฉันแทงจริง ๆ ด้วย ถอยไป"
สิงห์ ถอยไป
"แกก็ด้วย"
กฤษณ์ถอยกรูด สายพิณเข้ามาในห้อง
"อย่าทำเกินกว่าเหตุนะ ไม่งั้นแกเข้าคุกแน่"
"ขอฉันดูห้องใหม่แกหน่อย ก็เท่านั้น"
สายพิณวิ่งเข้าไปในห้องด้านใน
"เฮ้ย อย่าเข้าไปนะ สิงห์ ตามไปลากมันออกมา"
เสียงใบพรร้องกรี๊ดดังมาจากในห้อง สิงห์และกฤษณ์รีบวิ่งตามเข้าไป
สิงห์วิ่งนำเข้ามา แล้วชะงักนิ่งไปเพราะร่างกึ่งเปลือยบนเตียงนั้นคือใบพร สายพิณถืดมีดคุมอยู่ข้างเตียง ใบพรตะลึงนิ่งเมื่อเห็นสิงห์ สายพิณมองทั้งคู่อย่างสะใจ
"อ้อ... ความลับก็เปิดเสียที ไอ้กฤษณ์ ที่แท้แกก็คว้านังใบพรมาเป็นเมียคนต่อไป โถ...รวยแต่รสนิยมต่ำนะ อ้อ หรือว่าชอบพวกหญิงเหลือเดนพวกนี้"
"หญิงเหลือเดนมันคือเธอ ไปได้แล้ว อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไป๊ สิงห์ลากตัวมันไป"
สิงห์ยังมึนงง ทำอะไรไม่ถูก
"อ้าว เป็นอะไรไปล่ะ ลากตัวมันออกไป"
"ครับ"
สิงห์ลากสายพิณจะออกจากห้อง สายพิณหัวเราะร่า ชนะทุกคน สิงห์ยังหันมามองใบพรอีกครั้ง ใบพรเบือนหน้าหนี น้ำตาไหล
"ไอ้สิงห์นี่ยังไง ไม่ได้เรื่องเลย"
กฤษณ์ตามไป
สิงห์ดึงสายพิณออกมาจากห้อง สายพิณหยุดหัวเราะ แล้วทำหน้าแปลกใจ
"ยังไงพี่สิงห์ ทำไมใบพรไม่ยอมบอกพี่เรื่องไอ้กฤษณ์"
"คุณกฤษณ์คงสั่งไว้ไม่ให้เปิดเผย"
"ก็เลยปิดแม้แต่ตัวพี่ที่เป็นผัว ตลกดีนะ เอ....แปลกใจอีกเรื่อง ไอ้กฤษณ์มันไม่รู้รึไงว่า พี่เป็นผัวใบพร มันทำท่าเหมือนไม่รู้ พี่เองก็ไม่ได้แสดงตัวว่าพี่เป็น"
"พอได้แล้ว ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไป กลับไปได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่งเธอ"
สิงห์ลากสายพิณออกไป
กฤษณ์กำลังโทรสายภายใน เล้งพนักงานที่เคาน์เตอร์ข้างล่าง
"พวกคุณทำงานกันยังไง ปล่อยให้คนนอกขึ้นมาถึงห้องผม ถึงนายสิงห์จะเป็นคนของผม แต่ก็ไม่มีสิทธิ์พาคนอื่นตามขึ้นมาด้วย ปัทโธ่เว้ย"
กฤษณ์กระแทกสายโครม ใบพรออกมาจากห้องพอดี แต่งตัวพร้อมกลับ หน้าตาดูซีดเซียว"ใบพร จะไปไหนน่ะ"
"พรจะกลับแล้วค่ะ"
"มีอะไรรึเปล่า"
"ค่ะ ขอโทษด้วย พรมีเรื่องด่วน"
"ให้ฉันไปส่งไหม"
"ไม่ค่ะ พรลา"
ใบพรผลุนผลันออกจากห้องทันที กฤษณ์เป็นงง
หลังส่ง สายพิณในเมืองแล้ว สิงห์ขับรถแล่นผ่านตัวเมืองพัทยา สีหน้าเจ็บปวดเต็มที
บริเวณหน้าเฮเว่น ใบพรถามดอร์แมนหน้าร้าน แต่สิงห์ไม่ได้แวะมา
สิงห์ขับแล่นผ่านผู้คนมากมาย แต่รู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน
หน้าร้านเหล้า ใบพรถามหน้าร้าน พนักงานส่ายหน้า
สิงห์แล่นมาหยุดหน้าสะพานปลา น้ำตาค่อย ๆ ไหลอาบแก้ม
ใบพรเดินท่ามกลางบาร์เบียร์ กดมือถือ แต่ไม่มีใครรับ ใบพรน้ำตาไหลพราก
สิงห์ขับออกเส้นนอกเมือง ด้วยหัวใจบอบช้ำ
ใบพรทรุดนั่งข้างถนน อย่างอ่อนล้าเต็มที ร้องไห้อย่างหมดหวัง
เช้าแล้ว แสงขอบฟ้าเรืองรอง ใบพรหน้าตาอ่อนแรง ปากซีดเซียว เครื่องสำอางลบไปเกือบหมด ตรงมาหาร่างของสิงห์ ที่นั่งอยู่ริมผาสูง หน้าตาหมองคล้ำพอกัน
"พี่สิงห์"
สิงห์เงยหน้าขึ้น ใบพรลงนั่งข้าง ๆ แล้วกอดสิงห์ไว้ สิงห์สีหน้าเย็นชา ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ใบพรมองสิงห์ด้วยความน้อยใจ ช้ำใจ น้ำตาของทั้งสองไหลพรากแทบจะพร้อม ๆ กัน
อ่านต่อหน้า 4
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 22 (ต่อ)
สิงห์เงยหน้าถามใบพร
"รู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่"
"พี่ตงบอก"
"มีอะไรจะพูดไหม"
"มีแต่คำขอโทษ"
"ทำไมต้องปิดพี่ แล้วทำไมไม่บอกเขาว่าพรมีคนรักอยู่แล้ว คือพี่"
"ไม่รู้เหมือนกัน กลัวว่าถ้าเขารู้ หรือพี่รู้ เขาอาจจะไล่พี่ออก หรือไม่ พี่ก็ลาออกเสียเอง แล้วพี่ก็ไม่ได้ทำงานมั่นคง ปลอดภัยแบบนี้อีก"
สิงห์ถอนใจโล่งอก แช่มชื่นขึ้นเล็กน้อย เมื่อรู้ว่า ใบพรทำเพื่องานของตน
"รักเขารึเปล่า"
ใบพร จับคางสิงห์ให้หันมามองตา
"ถามจริงรึเปล่า"
สิงห์บอก
"ไม่ได้พูดเล่น"
"ดูตาพรนะคะ นี่จากใจจริง เขาคือลูกค้า ไม่มีความหมายอะไรไปมากกว่านั้น"
"แล้วเขาล่ะ เขารักใบพรไหม"
"พรไม่รู้หรอก แต่ถ้าเขาถาม พรจะบอกเขาว่าพรมีคนรักอยู่แล้ว"
สิงห์โอบพรเข้ากอดแนบแน่น ทั้งสองมองฟ้า
เส้นขอบฟ้าที่ระขอบน้ำ ระเรื่อสีสัน แสงอาทิตย์ที่โผล่พ้นน้ำ ให้ความรู้สึกถึงความหวังใหม่ของ
วันใหม่
สิงห์ และ ใบพรมองแสงอรุณอย่างสุขสงบ และเปี่ยมไปด้วยความหวัง
"พรจะบอกว่าพี่คือคนรักของพรงั้นเหรอ"
"ไม่บอกจ๊ะ เรื่องของพี่สิงห์ก็ยังเป็นความลับอยู่เหมือนเดิม"
"แล้วถ้าเขารับไม่ได้"
"ก็จบกันเท่านี้แหละ"
สิงห์ถอนใจ แต่หน้าเปื้อนยิ้ม
"รู้ไหมพร เมื่อกี้ก่อนที่พรจะมา พี่รู้สึกอะไร"
"คะ"
สิงห์เสียงเครือ
"พี่เห็นฟ้ามันมืดมิดไปหมด แม้แต่ดาวพี่ก็ไม่เห็นแสงของมัน แต่ตอนนี้..."
"ตอนนี้ทำไมคะ"
"ตอนนี้ฟ้าแจ้งแล้ว มันงดงามอะไรอย่างนี้"
ทั้งสองมองฟ้าที่เริ่มแสงสีเหลืองนวลอร่าม ทาบกับผืนน้ำ สิงห์กระชับร่าง ใบพรกอดแน่นขึ้น
พระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบน้ำ ระยิบระยับ
บ้านหรูขนาดกะทัดรัดอยู่ในร่มไม้ร่มรื่น ที่กรุงเทพฯ ชิตก้าวเท้ามายืนดูอยู่นอกรั้วบ้าน แปลกใจที่เห็นแดงอยู่ในชุดลำลองหันหลังกำลังรดน้ำต้นไม้ ชิตกดกริ่งประตูบ้าน แดงแปลกใจ
ชิตนั่งอยู่โถงรับแขก มองไปรอบ ๆห้องอย่างแปลกใจ ห้องตกแต่งอย่างอบอุ่น ไม่ถึงหรูหรามาก แต่มีรสนิยม แดงเดินกลับมาพร้อมแก้วเครื่องดื่ม ลงนั่งตรงข้าม
"เก่งมากนะที่ตามมาพบบ้านฉันแบบนี้"
"หาไม่ยากหรอกครับ นี่ใช่ไหมครับ ความลับของคุณ ที่แท้คุณก็เป็นไฮโซคนรวย แต่ที่มาทำงานไซด์ไลน์แบบนั้นเพราะคุณต้องการความสนุกตื่นเต้น ให้พ้นจากชีวิตซ้ำซากจำเจของคุณ"
"เธอคิดอย่างนั้นเหรอ"
"ใช่ คิดอย่างอื่นไม่ได้หรอก ผมมันก็แค่เครื่องเล่นอีกชิ้นนึงของคุณ ก็เท่านั้น เอาละ ผมรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว ผมไม่รบกวนเวลาของคุณแล้ว"
ชิตลุกขึ้น เสียงรถแล่นเข้ามา ชิตและแดงมองออกไปนอกหน้าต่าง
"นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอรู้ทั้งหมดหรอกนะ"
รถคันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้าน เด็กชายสองคนในชุดนักเรียน วัยสิบกว่าขวบทั้งคู่วิ่งจากรถมาที่แดง
"แม่ครับ หวัดดีครับ"
"หวัดดีค่ะ หิวไหมลูก"
เด็กชายทั้งสองมองชิตอย่างอาย ๆ ไม่กล้าตอบ
"ไป...แม่ทำของว่างไว้แล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาทานกันนะ อย่าลืมล้างมือล่ะ"
เด็กทั้งสองวิ่งเข้าบ้าน ชิตนิ่งตะลึงไป วันชัย สามีของแดงในชุดลำลอง เสื้อผ้ายับ ๆ ใส่แว่นหน้าตาเครียดๆ ไม่มีความสุขนัก ถือถุงอาหารสำเร็จมาจากรถ
"คุณชัยคะ นี่ชิตค่ะ เพื่อนที่ทำทัวร์อยู่ที่พัทยา ชิตนี่สามีพี่"
ชิตรีบไหว้ มึนงงไปหมดแล้ว วันชัยรับไหว้โดยไม่มีท่าทีสงสัย
"คุยงานกันอยู่รึเปล่า ฤดี"
ชิตสะดุดกับชื่อจริงของแดง
"คุยกันเสร็จแล้วค่ะ ชิตจะกลับแล้ว"
"งั้น...ขอตัวนะ"
วันชัยบอกแล้วเข้าบ้านไป
"สามีคุณ ลูกชายคุณ"
"ใช่"
"นี่ใช่ไหม ความน่าเบื่อจำเจ กับลูกกับสามี คุณถึงไปหาความสุขด้วยการ.ขายบริการ...แบบนั้น"
"ชิต มันไม่ใช่ความสุข ฉันทำเพื่อเงิน"
"อย่ามาโกหก คุณร่ำรวยขนาดนี้"
"อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น ฉันเคยรวยต่างหาก แต่ตอนนี้ทั้งบ้าน ทั้งรถติดจำนอง เราทำธุรกิจแล้วพลาด หมดเนื้อหมดตัวทั้งคู่ สามีฉัน ผู้ดีแท้ ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ จมอยู่กับความล้มเหลวแล้วก็เหล้า .... ฉันเลยต้องหันมาทำธุรกิจทัวร์ ที่พอจะเยียวยาฐานะได้บ้าง แต่ก็ไม่พอ"
"คุณถึงต้อง ขายบริการ"
แดงเช็ดน้ำตา)
" ใช่....ฉันเองก็เพิ่งรู้ว่างานแบบนี้ รายได้อาจจะมากกว่าสามแสนต่อเดือนก็ได้ ถ้าเธอ.....มีเสน่ห์พอ นี่แหละ... ความลับทั้งหมดของฉัน เธอเข้าใจรึยังชิต"
ชิตเหมือนถูกตีหัว ทั้งมึนทั้งซึม แดงจับมือชิต
"แต่ยังไงฉันขอบใจ สำหรับมิตรภาพที่เธอให้ฉัน ฉันจะไม่มีวันลืม"
แดงน้ำตาไหล ชิตยังซึม มึนงงกับสิ่งที่รับรู้
ชิตเดินออกมาลำพังจากบ้านของแดง นึกถึงเรื่องราวเมื่อสักครู่
"เรื่องของเราจบลงเท่านี้ใช่ไหมครับ"
"ใช่ มันต้องจบเท่านี้"
ชิตน้ำตาค่อยไหลอาบ เดินไปตามทางเดินยาวออกไปจากหมู่บ้าน
กฤษณ์เอะอะกับ ไกรวิทย์และนภา ในมือถือหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ที่มีเล่มพิเศษข้างใน เป็นสัมภาษณ์คนในแวดวงสังคมพัทยา
"ออกข่าวไปได้ยังไง ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วนี่ขนาดลองชุดแต่งงานกันเลยเหรอ"
ภาพในข่าว ปริมลองชุดแต่งงาน โพสท่าสวย สิงห์ยืนรออยู่นอกห้อง ได้ยินทุกสิ่งอย่าง
"จะเป็นไรไปล่ะ ก็แค่น้องปริมเขาให้สัมภาษณ์ว่าเขาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเราแล้ว เร็ว ๆ นี้"
"ก็น่าจะปรึกษาผมก่อนนะครับ"
"ทางคุณพ่อน้องปริมเขารู้ข่าวอื้อฉาวของนายกับนังสายพิณนั่นแล้ว เขาโกรธมากที่ลูกสาวเขาต้องมาเจ็บตัว เลยมาถามพ่อว่าจะเอายังไงกับลูกเขา พ่อก็ต้องรีบบอกเรื่องงานหมั้น งานแต่ง ไม่งั้นคุณธาดาเขาสั่งปริมเลิกคบกับแกแน่ ๆ"
"ผมยังไม่พร้อมครับพ่อ"
"ไม่พร้อมยังไงก็ต้องแต่ง เพราะตอนนี้เขายื่นคำขาดมาแล้ว" นภาบอก
กฤษณ์พูดไม่ออก
"ช่วงนี้กลับมานอนบ้านบ้าง แม่จะให้เราเดทหนูปริมออกงาน สยบข่าวลือ"
สิงห์ฟังความอยู่ ครุ่นคิดบางอย่าง
ศรี ต้อย นงเยาว์ กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นอยู่ด้วยกัน
นงเยาว์บอก
"โถ นังอีซิ่มไฮโซ กลัวผัวหลุดมือ รีบออกมาให้สัมภาษณ์แต่งงาน อย่างนี้มัน น่าถีบให้ตกกะไดอีกหน"
ต้อยถาม
"แกว่าไรนะนังนง"
นงเยาว์สะดุ้ง
"อ๋อ เปล่า เห็นมันตกกะไดมาแล้ว มันน่าจะตกอีกสักหน ยังแค้นที่มันตบหน้าฉันวันนั้นอยู่เลย"
ต้อยและศรีมองหน้ากันอย่างสงสัย สายพิณลงบันไดมา ศรีรีบหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านเสียงดัง ทำเสียงดัดจริตแบบไฮโซ
"คงอีกไม่นานนี้ละค่ะที่ปริมกับคุณกฤษณ์จะแต่งงาน"
สายพิณชะงัก นงเยาว์ยิ้มสะใจ ต้อยกลัวจะมีเรื่อง
"ทางผู้ใหญ่เร่งรัดมาด้วยน่ะค่ะ ค่ะ เรารักกันมาก รักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยแล้ว ครอบครัว โคตร กันมากค่ะ"
ต้อยบอก
"เขาอ่านว่า Close แปลว่า สนิท"
"เออ เออ โคลสกันมาก เราเหมือน...อ่านว่าไรวะ"
"แฟมิลี่" ต้อยว่า
"เออ แฟมิลี่เดียวกัน"
สายพิณกระชากหนังสือพิมพ์ไปอ่าน สายตากร้าวขึ้นทุกที
เห็นภาพข่าวที่ปริม ใส่ชุดเจ้าสาว
"ไง....อึ้งเลยซี" ศรีว่า
สายพิณมองภาพปริมอย่างคลั่ง ฉีกกระดาษทิ้ง
"อีบ้า อีทุเรศ อีหน้าด้าน นี่มันชุดแต่งงานของฉัน มันเอาชุดแต่งงานของฉัน ไปใส่....มันมีสิทธิ์อะไร"
สายพิณทั้งกรีด ทั้งบ่นพล่ามเหมือนสติหลุด ศรี ต้อย นงเยาว์มองหน้ากัน
"ยายพิณ เขาจะเอาชุดเจ้าสาวแกไปใส่ทำไม เงินทองเขาออกล้นฟ้า"
นงเยาว์บอก
"นี่ก็ชุดใหม่ ไม่ใช่ชุดเก่าสักหน่อย"
"อีบ้า ไม่มีตากันรึไง นี่มันชุดของฉัน แกไม่เห็นเหรอ ชุดที่ฉันใส่วันนั้น วันที่มันก็มาล้มงาน มันแกล้งเอาชุดฉันไปใส่ มันเย้ยฉัน ฮือ"
ศรีบอก
"อาการหนักแล้วว่ะ"
ต้อยเข้าไปปลอบ พาลงนั่งโซฟา
"ไม่มีอะไรนะ พิณนะ ตัดใจเสียเถอะ ไม่ต้องไปยุ่งกับมันแล้ว"
พริ้งกลับเข้ามาพร้อมใบพร
"อะไรกัน อะไร มีเรื่องอะไรกันอีก"
"ไม่มีอะไรหรอกเจ๊ มันคลั่งเพราะนี่" ศรีบอก
ศรีส่งหนังสือพิมพ์ให้พริ้งและ ใบพรอ่าน ใบพรดูรูป ยิ้มออกทันที
"กะอีแค่คนใส่ชุดเจ้าสาว"
"คุณปริมค่ะเจ๊" ใบพรบอก
"หา....ยายคุณปริมจะแต่งงานกับ คุณกฤษณ์แล้ว"
ใบพรคิดแผนขึ้นได้ ยิ้มนิด ๆ สายพิณเหลือบไปที่ใบพร เห็นรอยยอ้มก็เดินเข้าไปหาทันที
"แกยิ้มอะไรนัง ใบพร"
"เปล่าจ๊ะ "
"ฉันเห็นแกยิ้ม แกยิ้มดีใจใช่ไหมที่นังปริมมันจะแต่งกับไอ้กฤษณ์"
"มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ"
"แกสะใจที่ไอ้กฤษณ์มันไม่แต่งกับฉัน ไปแต่งนังปริม แกสะใจที่แกเองก็แย่งไอ้กฤษณ์จากฉันไปเหมือนกัน"
ทุกคนมองมาอย่างตกใจ ใบพรนิ่งอึ้ง กลัวความลับจะหลุด
"พี่พิณพูดอะไร"
"ไม่ต้องมาปิดเป็นความลับแล้ว บอกทุกคนไปซี ว่า ไอ้กฤษณ์ตอนนี้มันคือผัวแก แกไปนอนกับมันแทบทุกคืน"
นงเยาว์ถาม
"หา....เจ้าบุญทุ่มลึกลับคนนั้นน่ะเหรอ"
"นั่นละ มันคือ ไอ้กฤษณ์ ไม่มีคนอื่นหรอก"
"จริงเหรอนังพร"
" พี่พิณ พี่พิณคงเพี้ยนไปแล้วละ" ใบพรว่า
"นี่แกว่าฉันบ้าเหรอ"
"ใช่....ทั้งบ้า ทั้งคลั่งเลย"
"แกนี่มันชั่วหน้าซื่อดีจริง ๆ"
สายพิณตบหน้า ใบพรเซ ต้อยเข้าขวาง
"เฮ้ย ทำใบพร แกข้ามศพข้าไปก่อน"
"ไม่ต้องข้ามเพราะแกมันศพอยู่แล้ว"
สายพิณจะเข้าทำร้ายใบพรอีก ต้อยขวางสุดฤทธิ์ ผลักกันไปมา
"เอ้า ช่วยห้ามมันหน่อยเร้ว" พริ้งบอก
ศรีกระชากร่างสายพิณมา
"อีพิณ เมื่อก่อนสร้างเรื่องมโนหลอกคนอื่นให้เข้าใจผิด แต่เดี๋ยวนี้สร้างเรื่องมโนมาหลอกตัวเองเลยเหรอวะ ดีเลย งั้นเจอแรงตบสลายมโนของอีศรีหน่อยเถอะ"
ศรีตบเปรี้ยง สายพิณหมุนคว้างล้มไปกับพื้น ศรีจะเข้าซ้ำ พริ้งขวางไว้
"พอ พอ ไม่ต้องซ้ำนังศรี มันสู้แรงแกไม่ได้หรอก"
สายพิณร้องไห้อยู่กับพื้น แล้วเงยหน้ามองไปไกล เริ่มบ่น
"ชุดเจ้าสาวของฉัน มันเอาไปใส่ทำไม ฮือ"
ทุกคนนิ่งงัน เริ่มสลดใจกับอาการคลั่งของพิณ ศรีถอนใจ ต้อยตัดสินใจประคองสายพิณขึ้นมา สายพิณยังบ่นบ้าเรื่องชุดเจ้าสาว
"ใช่ไหม มันใส่ชุดของฉัน ใช่ไหม"
"เออ...ใช่ก็ใช่ ไป....กลับห้อง กินยาเถอะพิณ"
ต้อยพาพิณกลับไป
"เจ๊.....ฉันว่าอาการมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ" ศรีว่า
"นั่นซี ตอนนี้มันเอาแต่เมา ไม่ต้อนรับแขกเลย แถมด่าแขกอีกต่างหาก ต้องรายงานแม่แล้วละ ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องจำหน่าย เฮ้อ....เหนื่อยจริง ๆ พวกแกแต่ละคน"
นงเยาว์อยากรู้
"เดี๋ยว แล้วเรื่องเจ้าบุญทุ่มลึกลับน่ะ คือ คุณกฤษณ์ จริง ๆ รึเปล่า นังพร"
ทุกคนมองใบพร ใบพรตอบอย่างสงบ
"พี่พิณเพี้ยนขนาดนี้ เธอยังเชื่ออีกเหรอ"
ศรีบอก
"อย่าโง่ให้มากนังนง"
พริ้งกลับห้องไป ศรีขึ้นชั้นบน เหลือใบพร นงเยาว์มองหน้า ยังติดใจอยู่
"แต่ฉันว่าจริง"
นงเยาว์แสยะใส่ก่อนขึ้นบันไดไป ใบพรอยู่ลำพังกดมือถือหาสิงห์ทันที
"พี่ สิงห์เหรอ เห็นข่าวคุณปริมจะแต่งงานหรือยัง ดีเลย พรมีเรื่องปรึกษา"
อ่านต่อตอนที่ 23