ASTVผูจัดการรายวัน - มั่นคงฯ เผยคอนโดเปิดใหม่60,000หน่วยต่อปี แต่อัตราระบายออกแค่40,000 หน่วย ส่งผลสต๊อกเหลือขายสะสมในตลาด20,00หน่วยต่อปี ยอมรับที่ยังขึ้นคอนโดใหม่เพื่อรักษาตลาดล่าง1-2ล้านบาท หลังแนวราบราคา1-2ล้านบาททำไม่ได้แล้ว แจงปี 58ผุด6โครงการ มูลค่ารวม5,900ล้านบาท ตั้งเป้าขาย4,000ล้านบาท รับรู้รายได้3,000ล้านบาท
นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายบัญชีและการเงิน MK กล่าวว่า จากตัวเลขข้อมูลการสำรวจและจัดเก็บโครงการที่เปิดใหม่ปีใน57ของ AREAพบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงเปิดตัว 114,094หน่วย แบ่งเป็นแนวราบ48,796หน่วย คิดเป็น 43% และแนวสูง65,298หน่วยคิดเป็น 57% และจากตัวเลขข้อมูลเปรียบจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ (เฉพาะนิติบุคคล) ในเขตกทม.และปริมณฑล ซึ่งสำรวจโดย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า ในส่วนของตลาดคอนโดปี56 มีห้องชุดที่สร้างเสร็จ 64,157หน่วย และมียอดจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ 44,272 หน่วย ขณะที่ในปี57มียอดห้องชุดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 64,317 หน่วย และมียอดการจดทะเบียนโอน 40,790หน่วย
ทั้งนี้ จากตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าในแต่ละปีจะมีหน่วยห้องชุดตกค้าง หรือเรียกได้ว่ามีหน่วยห้องชุดล้นตลาดในตลาดถึง20,000 หน่วยต่อปี และมีการสะสมเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ดังนั้นแนวโน้มการขยายตัวของคอนโดที่ยังต่อเนื่องจึงทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในบางทำเลที่ยังมีสต๊อกค้างอยู่ในตลาด
“ในปีนี้ มั่นคงฯจะเปิดตัวคอนใหม่2โครงการจำนวนยูนิตรวม1,200หน่วย คิดเป็น3% ของจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 40,000หน่วยต่อปี ถือว่าจำนวนน้อยความเสี่ยงต่ำ ต่างจากรายใหญ่ที่มีการเปิดห้องชุดใหม่จำนวนมาก อย่างไรก็ตามที่บริษัทยังคงเปิดตัวห้องชุดใหม่ทั้งที่เห็นสัญญาณการล้นตลาดของห้องชุดนั้น เพราะต้องรักษารายได้ในตลาดระดับ1-2ล้านบาทไว้ เพราะโครงการแนวราบ1-2ล้านบาทในเมือง ณ ปัจจุบันไม่สามารถทำได้แล้ว”
โดยในปี58 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมที่4,000 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้รวม 3,000 ล้านบาท ที่จะมาจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโด 500 ล้านบาทซึ่งเป็นสต็อกในมือที่มีอยู่แล้ว และอีก2,500ล้านบาทจากมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบทั้งในส่วนของโครงการเดิมที่เปิดขายอยู่ 9โครงการมูลค่า 5,500ล้านบาท และโครงการใหม่ที่จะเปิดขายในปีนี้อีก 6โครงการมูลค่ารวม 5,900 ล้านบาท และเมื่อนับรวมโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโครงการเปิดใหม่ในปีนี้จะทำให้บริษัทมี
มูลค่าโครงการที่พร้อมขายในปีนี้11,400 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่เปิดใหม่ในปีนี้ประกอบด้วย โครงการชวนชื่น เอกชัย - บางบอน4 บ้านเดี่ยว 91 ยูนิต บนพื้นที่โครงการรวม 31 ไร่ มูลค่า710 ล้านบาท โครงการชวนชื่น กรีน บาวด์ กรุงเทพ - ปทุมธานี บ้านเดี่ยว 189 ยูนิต บนพื้นที่ 43 ไร่ มูลค่า712 ล้านบาท โครงการชวนชื่น พระราม 5 - นครอินทร์ บ้านเดี่ยว 110 ยูนิต บนพื้นที่ 26 ไร่ มูลค่า 988 ล้านบาท และโครงการไพร์มพาร์ค ชวนชื่นซิตี้ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 160 ยูนิต บนพื้นที่30ไร่ มูลค่า750 ล้านบาท สำหรับคอนโดจะเปิดตัว 2 โครงการ ประกอบด้วย คอนโดสูง8ชั้น ติดถนนอรุณอมรินทร์ จำนวน 308 ยูนิต บนพื้นที่ 4 ไร่ มูลค่า730 ล้านบาท และโครงการคอนโดติด ถนนสุขสวัสดิ์ 900 ยูนิต บนพื้นที่ 6 ไร่ มูลค่า 2,000 ล้านบาท
นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายบัญชีและการเงิน MK กล่าวว่า จากตัวเลขข้อมูลการสำรวจและจัดเก็บโครงการที่เปิดใหม่ปีใน57ของ AREAพบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงเปิดตัว 114,094หน่วย แบ่งเป็นแนวราบ48,796หน่วย คิดเป็น 43% และแนวสูง65,298หน่วยคิดเป็น 57% และจากตัวเลขข้อมูลเปรียบจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ (เฉพาะนิติบุคคล) ในเขตกทม.และปริมณฑล ซึ่งสำรวจโดย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า ในส่วนของตลาดคอนโดปี56 มีห้องชุดที่สร้างเสร็จ 64,157หน่วย และมียอดจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ 44,272 หน่วย ขณะที่ในปี57มียอดห้องชุดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 64,317 หน่วย และมียอดการจดทะเบียนโอน 40,790หน่วย
ทั้งนี้ จากตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าในแต่ละปีจะมีหน่วยห้องชุดตกค้าง หรือเรียกได้ว่ามีหน่วยห้องชุดล้นตลาดในตลาดถึง20,000 หน่วยต่อปี และมีการสะสมเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ดังนั้นแนวโน้มการขยายตัวของคอนโดที่ยังต่อเนื่องจึงทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในบางทำเลที่ยังมีสต๊อกค้างอยู่ในตลาด
“ในปีนี้ มั่นคงฯจะเปิดตัวคอนใหม่2โครงการจำนวนยูนิตรวม1,200หน่วย คิดเป็น3% ของจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 40,000หน่วยต่อปี ถือว่าจำนวนน้อยความเสี่ยงต่ำ ต่างจากรายใหญ่ที่มีการเปิดห้องชุดใหม่จำนวนมาก อย่างไรก็ตามที่บริษัทยังคงเปิดตัวห้องชุดใหม่ทั้งที่เห็นสัญญาณการล้นตลาดของห้องชุดนั้น เพราะต้องรักษารายได้ในตลาดระดับ1-2ล้านบาทไว้ เพราะโครงการแนวราบ1-2ล้านบาทในเมือง ณ ปัจจุบันไม่สามารถทำได้แล้ว”
โดยในปี58 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมที่4,000 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้รวม 3,000 ล้านบาท ที่จะมาจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโด 500 ล้านบาทซึ่งเป็นสต็อกในมือที่มีอยู่แล้ว และอีก2,500ล้านบาทจากมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบทั้งในส่วนของโครงการเดิมที่เปิดขายอยู่ 9โครงการมูลค่า 5,500ล้านบาท และโครงการใหม่ที่จะเปิดขายในปีนี้อีก 6โครงการมูลค่ารวม 5,900 ล้านบาท และเมื่อนับรวมโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโครงการเปิดใหม่ในปีนี้จะทำให้บริษัทมี
มูลค่าโครงการที่พร้อมขายในปีนี้11,400 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่เปิดใหม่ในปีนี้ประกอบด้วย โครงการชวนชื่น เอกชัย - บางบอน4 บ้านเดี่ยว 91 ยูนิต บนพื้นที่โครงการรวม 31 ไร่ มูลค่า710 ล้านบาท โครงการชวนชื่น กรีน บาวด์ กรุงเทพ - ปทุมธานี บ้านเดี่ยว 189 ยูนิต บนพื้นที่ 43 ไร่ มูลค่า712 ล้านบาท โครงการชวนชื่น พระราม 5 - นครอินทร์ บ้านเดี่ยว 110 ยูนิต บนพื้นที่ 26 ไร่ มูลค่า 988 ล้านบาท และโครงการไพร์มพาร์ค ชวนชื่นซิตี้ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 160 ยูนิต บนพื้นที่30ไร่ มูลค่า750 ล้านบาท สำหรับคอนโดจะเปิดตัว 2 โครงการ ประกอบด้วย คอนโดสูง8ชั้น ติดถนนอรุณอมรินทร์ จำนวน 308 ยูนิต บนพื้นที่ 4 ไร่ มูลค่า730 ล้านบาท และโครงการคอนโดติด ถนนสุขสวัสดิ์ 900 ยูนิต บนพื้นที่ 6 ไร่ มูลค่า 2,000 ล้านบาท