มั่นคงฯ เปิดแผนปี 58 ลุยทั้งแนวราบ-แนวสูงผุด 6 โครงการ มูลค่า 5,700 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโต 25% แจงผลงาน 9 เดือนรับรู้รายได้ 1,604 ล้านบาท ยอดรอรับรู้รายได้อีก 573 ล้านบาท
น.ส.ชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายบัญชี-การเงิน บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2558 ว่า บริษัทมีแผนในการบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์เต็มพิกัดเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยได้เตรียมโครงการใหม่ในทำเลศักยภาพอีก 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,700 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการชวนชื่น เอกชัย-บางบอน 4 บ้านเดี่ยว จำนวน 91 ยูนิต บนเนื้อที่ 31 ไร่ มูลค่าโครงการ 710 ล้านบาท 2.โครงการชวนชื่น กรีนบาวด์ กรุงเทพฯ-ปทุมธานี บ้านเดี่ยวใกล้สนามกอล์ฟ จำนวน 189 ยูนิต เนื้อที่ 40 ไร่ มูลค่าโครงการ 712 ล้านบาท
3.โครงการชวนชื่นพระราม 5-นครอินทร์ บ้านเดี่ยว จำนวน 88 ยูนิต บนเนื้อที่ 21 ไร่ มูลค่าโครงการ 803 ล้านบาท 4.โครงการบ้านเดี่ยวย่านวัชรพล รามอินทรา จำนวน 160 ยูนิต บนเนื้อที่ 30 ไร่ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการ คือ คอนโดมิเนียมบนถนนอรุณอมรินทร์ จำนวน 308 ยูนิต มูลค่าโครงการ 730 ล้านบาท และบนถนนสุขสวัสดิ์ จำนวน 900 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยในปี 2015 ได้ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 25% โดยรายได้หลัก 80% ยังมาจากบ้านจัดสรรแนวราบ เสริมด้วยรายได้จากคอนโดมิเนียมอีก 20%
น.ส.ชุติมา กล่าวว่า 9 เดือนแรกของปี 57 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขาย และบริการแล้ว จำนวน 1,604.37 ล้านบาท และยังคงมียอดขายรอรับรู้รายได้ (backlog) อีก 573 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/2557 แม้รายได้ในปีนี้จะลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากไม่มีการรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียม แต่คาดว่ารายได้จากบ้านจัดสรรแนวราบจะเติบโตจากปีที่แล้วกว่า 25% โดยผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรเบื้องต้น 643.36 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 40.10% สูงกว่าปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 34.18% ในขณะที่อัตราส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.01% เพิ่มขึ้นจากอัตรา 15.23% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนของปีนี้จะมีรายได้ลดจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้ไม่มีรายได้จากคอนโดมิเนียมดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ความสามารถในการทำกำไรก็ยังอยู่ในระดับดีกว่าค่าเฉลี่ย และ Median ของกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย 34 รายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วน Gross Profit Margin, Net Profit Margin, ROA สำหรับความแข็งแกร่งทางการเงินซึ่งเป็นจุดเด่นของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นจาก D/E Ratio ซึ่งต่ำเพียง 0.34 เท่า และ Current Ratio ที่สูงถึง 7.19 เท่า ด้วยภาระหนี้ที่ต่ำ และสภาพคล่องทางการเงินที่มีอยู่สูง บริษัทฯ จึงพร้อมที่จะขยายตัวรองรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 4 บริษัทมีแผนในการเปิดโครงการชวนชื่นโมดัส วิภาวดี เฟส 2 บนเนื้อที่ 40 ไร่ ประกอบด้วย ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว จำนวน 298 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,200 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังมีอีก 15 โครงการบนทำเลศักยภาพครอบคลุมทุกโซนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวนอีกกว่า 1,100 ยูนิต ที่อยู่ระหว่างการขายมูลค่ารวมอีกกว่า 3,800 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะสามารถขาย และรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 4 นี้
