แหวนทองเหลือง ตอนที่ 7
บรรยากาศคุ้มลำดวนที่เชียงใหม่ ตอนใกล้ค่ำ เห็นแสงเทียน และโคมที่จุดไว้สวยงาม เต่า กับสายคำ กำลังจัดสำรับอาหาร พนม ปิ่นแก้ว และ เต่ากำลังจะทานอาหารเย็น
กฤษดา และ แสงธรรม เดินขึ้นบ้านมา ปิ่นแก้ว และ มณี ลุกถลาเข้าไปหากฤษดา ไม่มีใครสนใจแสงธรรม
“พี่กฤษดา - คุณกฤษดา”
แสงธรรมเดินไปนั่งข้างๆ พนม สายคำเอาขันน้ำมาให้แสงธรรมล้างมือ ปิ่นแก้ว กับ มณีเกาะแขนกฤษดาคนละข้างแย่งกันถาม
“พี่กฤษดาหายไปไหนมาทั้งวันคะ” ปิ่นแก้วถาม
“คุณกฤษดาชวนมณีมาแล้วทำไมทิ้งให้มณีอยู่ที่บ้านล่ะคะ”
กฤษดาตอบไม่ทัน พนมมองหน้ากับแสงธรรม อย่างขำๆ
“พี่กฤษดาทำอย่างนี้ไม่ถูกนะคะ...พี่กฤษดาอย่าทิ้งให้ปิ่นอยู่คนเดียวอีกนะคะ”
ปิ่นแก้วพยายามดึงกฤษดาไว้ มณีก็ดึงกฤษดาไว้เหมือนกัน
“นี่แม่คุณที่นั่งหน้าสลอนนี่ไม่ใช่คนหรือไงยะ...ปล่อยไอ้กฤษให้มันมากินข้าวกินปลาก่อนเถอะจ้ะ”
กฤษดาพยายามเดินมาลงนั่งข้างๆ พนม อีกด้านหนึ่ง ปิ่นแก้ว กับ มณี ก็พยายามนั่งติดกฤษดา จนพนมต้องถอยไปอีกทาง แสงธรรมกินข้าวไม่สนใจ
“เอ้า..เบาๆ หน่อยแม่คู้น นี่น้องปิ่น...ไม่เห็นถามไถ่พี่ชายตัวเองซักคำนะ แสงธรรม...หมาหัวเน่านะเอ็งน่ะ”
“เออ...นั่นละบุญของฉันละ”
ปิ่นแก้วค้อนพนมไม่สนใจ
“พรุ่งนี้พี่กฤษดาจะไปเที่ยวในป่าอีกไหมคะ...ปิ่นไปด้วยนะ”
“มณีก็เตรียมชุดว่ายน้ำมาด้วยค่ะ...พรุ่งนี้เราไปว่ายน้ำตกกันนะคะ”
“ถ้าจะไปก็ต้องตื่นเช้าๆ นะ”
“มณีตื่นเช้าอยู่แล้วค่ะ”
ปิ่นแก้วทำท่าคิดหนัก
“เช้าแค่ไหนคะพี่กฤษดา...ทำไมไม่ไปสายหน่อยล่ะคะ ต้องรีบไปแต่เช้าทำไมคะ”
“ทางมันไกลน้องปิ่น ถ้าเราไปสายก็กลับมาไม่ทันมันจะค่ำกลางทาง”
“มาเที่ยวแล้วมัวแต่นอนตื่นสายก็อยู่บ้านไปเถอะค่ะ”
ปิ่นแก้วตาขวาง
“ไม่มีใครถามความเห็นนะคะคุณมณี...เอาข้าวเหนียวใส่ปากซะปากจะได้ไม่ว่าง”
กฤษดา มองหน้ากับพนม นึกไม่ถึงที่ปิ่นแก้วพูดจาแบบนั้น แสงธรรมไม่พอใจ
“ปิ่น”
“ทำไมคะพี่ธรรม...พี่ธรรมไม่ได้ยินที่มณีกันท่าปิ่นเหรอไง”
มณีไม่พอใจ
“พูดให้ดีๆ นะปิ่น...ใครไปกันท่าเธอกัน ฉันพูดความจริงนี่..อยากนอนตื่นสายตะวันโด่งน่ะ มันเป็นตัวถ่วงรู้ไหมล่ะ”
“แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมาเจ้ากี้เจ้าการตัดสินคนอื่นด้วยล่ะ”
ปิ่นแก้วโมโหเสียงดัง กฤษดาหยุดกิน พนม กับ แสงธรรม ก็เหมือนกัน
“พูดมาได้ตัวถ่วง...อย่างเธอมันลื่นไถลมากซินะ ใครกระดิกนิ้วก็แล่นถลาได้เลยละซิ”
ผู้ชายสามคนลุกจากสำรับอาหารออกไปเงียบ ๆ พนมถือจานหมูย่าง กับแก้วเหล้าไปด้วย มณี กับปิ่นแก้วยังคงทะเลาะกัน
“หยาบคายมาก...เป็นลูกผู้ดีซะเปล่า กิริยามารยาทต่ำเหลือเกิน”
ปิ่นแก้วกรี้ด หยิบกับข้าวปาใส่มณี
“อีบ้า...บังอาจมาว่าถึงพ่อแม่ฉันเหรอ อีสำส่อน อีร่าน”
“หยุดนะอีปัญญาอ่อนนอนละเมอ...เอาแต่ใจนักเหรอ...นี่แน่ะ”
มณีเอากับข้าวสาดใส่ปิ่นแก้ว ที่ร้องกรี้ดตลอดเวลา
“หมั่นไส้มานานแล้ว”
“อีบ้า...อีร่านนัมเบอร์วัน”
ผู้ชายสามคนวิ่งหนีไป สายคำ กับ เต่าต้องคอยหลบอาหารที่สองสาวก่อสงครามขว้างปากัน
ค่ำต่อเนื่อง ... กำนันปานนั่งสานตะกร้าอยู่กับ บัวแก้ว สายคำ กับ เต่าเดินกลับมาด้วยสภาพตัวเลอะอาหาร กำนันปานมองอย่างแปลกใจ
"เอ็งสองคนไปโดนอะไรมา ทำไมเลอะเทอะขนาดนี้"
เต่าบอก
"ก็คุณหนูปิ่นแก้ว กับ คุณมณีทะเลาะกันใหญ่ เอากับข้าวขว้างปากันจนเลอะเทอะทั่งบ้านเลย"
"ทะเลาะกันเรื่องอะไร"
เต่ามองหน้ากับสายคำ
"ฉันว่า....เค้าแย่งคุณกฤษดากันนะ"
"กูว่าแล้ว." กำนันปานบอก
"นี่มาได้แค่สองวันเองนะ" บัวแก้วว่า
สายคำเอาผ้าเช็ดหน้าตาลงนั่งปลงๆ เต่าเดินไปตักน้ำล้างหน้า
"แล้วนี่ไอ้ดวงล่ะพี่บัวแก้ว"
"มันไปนอนแล้ว"
เต่าเดินกลับมาเอาผ้าขาวม้ามาเช็ดหน้า
"พรุ่งนี้นางสองคนนั่นจะตามคุณกฤษดาไปด้วยน่ะ" เต่าบอก
"เรื่องแค่นี้เอง...ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ ไปได้"
กำนันปานหัวเราะชอบใจเดินขึ้นบ้านไป
"ลุงปานไม่เห็น...สองคนน่ะทะเลาะกันเอาตายนะ" เต่าบอก
"แล้วคืนนี้มันจะนอนกันได้ยังไง" บัวแก้วว่า
ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างกลุ้มๆ
หน้าห้องนอนกฤษดา ตอนดึก มณีใส่ชุดสวย มือถือเชิงเทียนสวยๆ เดินมองหน้ามองหลังมาที่หน้าห้องกฤษดาแล้วเคาะประตูเบาๆ กระซิบ
"คุณกฤษดา คุณกฤษดาค่ะ เปิดประตูหน่อยค่ะ"
ไม่มีเสียงตอบจากในห้อง มณียังไม่ละความพยายาม อีกด้านหนึ่ง ปิ่นแก้วเดินมาแอบมอง
"คุณกฤษดา คุณกฤษดาคะ มณีไม่สบายค่ะ ปวดท้อง"
มณีทำท่าปวดท้อง ปิ่นแก้วปิดปากขำ
"นี่...ไม่ต้องทำท่าปวดท้องหรอกย่ะหล่อน พี่กฤษดาเค้าไม่เห็นซะหน่อย"
มณีนึกได้ หยุดทำท่าปวดท้องหันมาเอาเรื่องปิ่นแก้วเพราะเสียหน้า
"เรื่องอะไรของเธอ ชอบมายุ่งเรื่องของคนอื่นนักนะ ไปให้พ้นเลย"
"ไม่ไปจะทำไม....หน้าไม่อายผู้หญิงดีที่ไหนมาเรียกผู้ชายถึงหน้าห้อง"
"แล้วเธอล่ะมาทำไม เธอก็อยากมาหาพี่กฤษดาเหมือนกัน ทำมาว่าคนอื่นน่ะ ดูตัวเองซะก่อนสิยะ"
ปิ่นแก้วเดินมาที่ประตูห้องกฤษดา
"ดีละ...พี่กฤษดาจะได้รู้เช่นเห็นชาติผู้หญิงอย่างเธอ...พี่กฤษดาคะ"
ปิ่นแก้วหมุนลูกบิดประตู ก็เปิดออกมาได้โดยง่าย ทั้งสองคนแปลกใจ
"คุณกฤษดา"
ทั้งสองคนแย่งกันเข้าไปในห้องเล็กที่กฤษดานอน แต่พอเข้ามาก็กลายเป็นพนมนอนอยู่ พนมลุกขึ้นงัวเงียหัวยุ่ง
"อะไรกันจ้า มาทำมายกัน"
"พี่กฤษดาหายไปไหน"
"ไม่รู้...มาซิ...มานอนด้วยกันก็ได้....ไหนๆ ก็มาแร้ว"
พนมทำแกล้งเมาไล่คว้าสองสาวร้องกรี้ดๆ ที่แย่งกันวิ่งหนีออกไปจากห้อง พนมปิดประตูแล้วหัวเราะขำ
"นึกว่าจะแน่"
เช้ามืดวันใหม่ ดวงใจกำลังเตรียมของกินใส่ย่าม เห็นดวงใจเตรียมอาหารง่ายๆ แต่ดูตั้งใจมาก เธอห่อผ้าอย่างดีใส่ย่ามไป วันนี้ดวงใจแต่งตัวทะมัดทะแมงใส่กางเกงแม้ว โพกหัวน่ารัก ดวงใจเตรียมของจะเสร็จแล้ว กฤษดารีบเดินมาหา ดวงใจหันไปเห็นดีใจจะอ้าปากพูด แต่เขาเอามือจุ๊ปากไม่ให้พูด กฤษดาเอาย่ามไปคล้องบ่าตัวเอง แล้วดึงมือดวงใจรีบวิ่งเข้าไปในป่า อีกมือหนึ่งก็มีไฟฉายส่องทางที่ยังไม่ค่อยสว่างดี
สายคำเดินลงมาจากบ้าน เห็นดวงใจที่กำลังรีบวิ่งไปกับกฤษดา ก็มองตามอย่างเป็นห่วง
อ่านต่อหน้า 2
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 7 (ต่อ)
ฝ่ายหนานอุยนั่งหน้าเป็นทุกข์อยู่กับแม่ ทิดอ่วมคุยกับยายเหม็น
"ตกลงว่ากำนันปานรับปากให้ดวงใจแต่งงานกับหนานอุยหรือเปล่า"
"ก็ยังคุยกันไม่จบเลย...ตอนนี้บ้านกำนันพวกบางกอกเค้ามาน่ะ"
"พวกบางกอกไหน...ผู้หญิงหรือ ผู้ชาย" หนานอุยถาม
"ก็มีทั้งผู้หญิงผู้ชายละ....เห็นว่าลูกชายท่านเจ้าคุณเทศากับเพื่อนๆ"
"พ่อ ฉันขอไปดูหน้าไอ้พวกบางกอกนี่หน่อย...เดี๋ยวมันจะมาล่อลวงดวงใจฉันก๊อกแตกตายกัน"
แม่บอก
"ใจเย็นๆ หนานอุยเอ้ย คนบางกอกเค้าก็มีแม่หญิงเค้ามา เค้าคงไม่มาสนใจดวงใจหรอก"
"ฉันไม่ไว้ใจหรอก...ดวงใจของฉันออกจะสวยขนาดนี้...ผู้ชายคนไหนไม่สนใจก็โง่เต็มทน ฉันจะต้องไปดูพวกมันหน่อยละ"
เสียงปิ่นแก้วทำลายความเงียบสงบดังลั่น
"อะไรนะ."
บนเฉลียงบ้านชั้น 2 บ้านพระยาดำรง ปิ่นแก้วยืนหน้าบึ้งสีหน้าไม่พอใจ มณีก็เหมือนกัน พนมนั่งอยู่กับแสงธรรม กำนันปาน พยายามชี้แจง
"วันนี้คุณกฤษดาออกไปแต่เช้ามืดเลยครับ...แต่ไม่เป็นไรครับแถวนี้มีที่สวยๆ หลายแห่ง พวกคุณๆ อยากไปอย่างไหนก็บอกได้"
ปิ่นแก้วไม่สนใจกำนันปาน
"พี่ธรรม...ทำไมพี่กฤษดาไม่คอยพวกเราคะ"
"กฤษดาเค้าคงไม่อยากปลุกพวกเราน่ะซิ" แสงธรรมบอก
"วันนี้ก็มีคนตื่นสายอยู่คนเดียวตามเคย ทำไห้คนอื่นอดไปด้วย" มณีบอก
ปิ่นแก้วพร้อมเอาเรื่อง
"แล้วคนที่ตื่นเช้าอย่างเธอก็อดเหมือนกันนี่...น่าสงสาร"
"ปิ่น...พี่เบื่อเธอมากแล้วนะ คุณมณีก็เหมือนกัน ก็เพราะทั้งสองคนเป็นอย่างนี้แหล่ะ กฤษดาเขาถึงไม่พาไปด้วย"
มณี กับ ปิ่นแก้ว เชิดใส่หันหลังให้กัน
กำนันปานพยายามไกล่เกลี่ย
"ผมจะให้ไอ้เต่าพาคุณๆ ไปเที่ยวน้ำตกดีกว่า อาจจะไปเจอคุณกฤษดาก็ได้นะครับ"
ปิ่นแก้วบอก
"แล้วถ้าไม่เจอล่ะ พี่กฤษดาอาจจะไม่ได้ไปน้ำตก"
"ก็ถือว่าไปเที่ยวเล่นสนุก ๆ ดีกว่าอยู่บ้านจะเบื่อซะเปล่าๆ ไหนๆ มาเชียงใหม่แล้วก็น่าจะไปเที่ยวดีกว่าครับ"
"ดีเลยกำนัน...วันนี้เราออกไปเที่ยวกันบ้างก็ดีนะสาว ๆ จะได้หายฟุ้งซ่าน ไปเดินชมนกชมไม้ให้จิตใจผ่องใสนะจ้ะ"
หนานอุยมาตะโกนเรียก
"ดวงใจ...ดวงใจ"
กำนันปานดีใจที่ได้ยินเสียงหนานอุย รีบชะโงกหน้ามาเรียก
"หนานอุย...ขึ้นมาบนนี้ซิ"
หนานอุยรีบขึ้นมา แต่มายืนหอบเพราะอ้วน
"ลุงกำนัน ดวงใจอยู่ไหน"
"ไม่อยู่หรอก...ไอ้ดวงมันพาคุณกฤษดาไปเที่ยวป่าแล้ว..เออ..หนานอุย เอ็งกับไอ้เต่าน่ะพาคุณ ๆ นี่ไปเที่ยวหน่อยนะ พาไปเที่ยวปางช้างเอ็งก็ได้นะ ..คุณ ๆ เป็นเพื่อนคุณกฤษดา ลูกเจ้านายลุงเอง"
หนานอุยพยายามทำหน้าหล่อ มองทุกคนอย่างหยิ่งๆ
"ฉันจะมาหาดวงใจของฉัน...แต่ถ้าลุงกำนันอยากให้ช่วย ฉันก็เต็มใจ...รีบไปเลยนะ...ฉันจะได้รีบไปตามหาดวงใจของฉัน"
"อาจจะไปเจอกันกลางทางก็ได้..ไปซิรีบไปเลยเผื่อจะตามคุณกฤษดาทัน"
แสงธรรมรีบลุกขึ้น
"ดีเหมือนกัน...จะได้สำรวจเส้นทางไปด้วยนะ"
"ไอ้เต่า เอ็งรีบไปบอกบัวแก้วให้เตรียมของกินเร็ว ๆ" กำนันปานบอก
"ไม่ต้องหรอกลุงกำนัน...ฉันจะให้ที่บ้านฉันทำกับข้าวให้กินเอง"
"ขอบใจมากนะหนานอุย....คราวนี้เอ็งช่วยลุงได้มากเลยละ"
"เรื่องเล็กน้อยจ้ะ...เพื่อดวงใจ กับลุงกำนัน ไอ้หนานอุยทำได้ทุกอย่าง"
พนมอดหันมายิ้มขำหนานอุย กับแสงธรรมไม่ได้ ทั้งหมดพากันเดินออกไป กำนันปานโล่งอก
บรรยากาศในป่าอันแสนร่มรื่น ดวงใจพากฤษดาเดินลัดเลาะมาตามป่า บางช่วงเป็นช่องทางที่กฤษดาต้องช่วยดึงดวงใจ บางช่วงเป็นลำธารดวงใจจะลื่น แต่กฤษดาต้องรับดวงใจไว้
ทั้งสองมองตากัน กฤษดาปีนเขาเหนี่ยวตัวขึ้นไป แต่เซไปเพราะมีเป้ด้านหลัง ดวงใจดันตัวเขาไว้ เขาหันมายิ้มให้ เธอเด็ดลูกไม้ที่กินได้มากิน เขาก็ลองกินด้วย แล้วทำหน้าพอใจ ดวงใจเด็ดใบไม้มากิน กฤษดาก็กินด้วยเริ่มทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เดินดูนกมาอีกหน่อย ดวงใจก็เด็ดใบไม้กินอีก กฤษดาก็เด็ดกินตามด้วย คราวนี้เขาถึงกับหลับตาเหมือนเปรี้ยวจัด ดวงใจหัวเราะเยาะชอบใจ กฤษดารู้ว่าโดนแกล้งก็วิ่งไล่จับดวงใจที่วิ่งหนีไป
ทางเดินก่อนถึงตลาดชาวเขา มีชาวเขา และชาวบ้าน เดินผ่านกันมาตามทาง กฤษดาเดินมากับดวงใจ เขามีสีหน้าครุ่นคิด เธอสังเกตเห็น
"คุณกฤษดาไม่สบายหรือเปล่าเจ้า"
กฤษดาหันมายิ้ม
"ฉันสบายดี"
"ทำไมจู่ๆ คุณกฤษดา ก็ดูซึมๆ ไปละเจ้า"
"ฉันมีเรื่องต้องตัดสินใจบางอย่าง"
"คงจะเป็นเรื่องสำคัญมากนะเจ้า"
"ใช่ ดวงใจ...เป็นเรื่องสำคัญมาก"
ดวงใจมองเป็นห่วงจนกฤษดานึกขำ
"เป็นห่วงฉันเหรอดวงใจ"
ดวงใจนึกอาย
"ข้าเจ้าอยากให้คุณกฤษดามีความสุข"
"อยู่กับดวงใจฉันก็มีความสุขนะ แล้วดวงใจล่ะ เบื่อหรือเปล่าที่ต้องพาฉันออกมาเที่ยวทุกวัน"
ดวงใจรีบบอกโดยซื่อ
"ข้าเจ้าไม่เบื่อเลย...ข้าเจ้าเต็มใจที่จะพาคุณกฤษดาไปเที่ยวทุกๆ แห่ง ทุกๆ วันนะเจ้า"
กฤษดามองหน้าด้วยรู้สึกชอบดวงใจมากแล้ว
บริเวณตลาดชาวเขา กฤษดา และ ดวงใจ เดินดูของที่ชาวเขา และ ชาวบ้านทำมาขาย กฤษดาเดินดูมีดที่มีด้ามทำจากเขาสัตว์อย่างสนใจ ดวงใจเดินไปดูร้านขายเครื่องประดับเล็กๆ คนขายเป็นชาวเขาผู้หญิงแก่ๆ
"นางเอ้ย...เอาแหวนนี่ไปซักวงน้อ"
ดวงใจดูแหวนอย่างไม่ค่อยสนใจ
"แหวนอะไรจ้ะ"
"แหวนทองเหลืองลงยันต์นะ...ใส่แล้วดี...คุ้มครองปลอดภัย"
คนขายยื่นแหวนให้ ดวงใจรับมาดู
กฤษดากำลังเลือกดูของด้วยความสนใจ ดวงใจซื้อขนมเดินกินมาชะโงกหน้ามาดูกฤษดาใกล้ๆ กฤษดาเห็นดวงใจเคี้ยวขนม
"กินอะไรอีกแล้ว"
"ขนม"
"แบ่งมั่งดิ"
ดวงใจยื่นขนมให้ มือกฤษดาไม่ว่างและเลอะฝุ่น เลยอ้าปาก ดวงใจตัดสินใจป้อนขนมใส่ปาก
พวกชาวเขา และ ชาวบ้านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คนขายเป็นชายชาวเขาแก่ๆ ก็พูดแซว
"ผัวเมียผลัดกันป้อนดีเน้อ...ให้เมียป้อนแล้วก็ต้องป้อนเมียเน้อ"
ดวงใจอายม้วนเดินหนีไป กฤษดาหัวเราะแจ่มใส
อ่านต่อหน้า 3
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 7 (ต่อ)
ณ ปางช้างของหนานอุย ซึ่งมีลำธารด้วย มณีนั่งเอาเท้าแช่น้ำอย่างสบายใจกับแสงธรรม พนมนั่งจิบเหล้า จากขวดเหล้าเล็ก ๆ ปิ่นแก้วเดินมาหาพี่ชาย แล้วถาม
"พี่ธรรมเมื่อไหร่จะเจอพี่กฤษดาซะทีล่ะ"
แสงธรรมเบื่อหน่าย
"เป็นอะไรของเธอปิ่น น่าจะรู้จักอายซะบ้างนะ"
มณีมองปิ่นแก้วเหยียด ๆ ลุกขึ้นเดินไปอีกทาง
"น่าสมเพช"
ปิ่นแก้วกระทืบเท้าไม่พอใจ
"ได้ยินไหมพี่ธรรม จะปล่อยให้อีนี่มันเอาพี่กฤษดาไปเฉยๆ ได้ไงล่ะ"
แสงธรรมลุกขึ้นยืนจ้องหน้าปิ่นแก้ว
"เค้าพูดถูกแล้วนี่ปิ่น"
ปิ่นแก้วตกใจ
"พี่ธรรม"
"สองสามวันมานี่ปิ่นทำตัวเป็นผู้หญิงชั้นต่ำ ไล่ล่าผู้ชายแบบไร้ยางอาย ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้จะเสียใจซักแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดคือกฤษดาไม่ได้สนใจปิ่นเลย...เค้าเห็นปิ่นเป็นน้องเค้าเท่านั้น"
ปิ่นแก้วน้ำตาไหล เอามือปาดน้ำตาทิ้ง
"แต่น้องชอบพี่กฤษดา...น้องหลงรักเค้าแล้วพี่ธรรม"
ปิ่นแก้วร้องไห้สะอึกสะอื้น แสงธรรมมองน้องอย่างสงสาร ทิดอ่วม กับ หนานอุย เดินเข้ามา ปิ่นแก้วรีบซ่อนเช็ดน้ำตา
"คนงานฉันบอกว่าเห็นดวงใจ พานายน้อยไปเที่ยวทางเขาโน่น...สงสัยจะพากันไปตลาดพวกแม้วน่ะ ถ้าจะตามไปกลัวจะกลับไม่ทันจะมืดซะก่อนนะ" ทิดอ่วมบอก
"เราจะกลับดีกว่าครับ...ขอบคุณทิดอ่วมมากที่ต้อนรับอย่างดี"
ทิดอ่วมหัวเราะใจดี
"โอ้..ไม่เป็นไรหรอก ฉันน่ะยินดีต้อนรับทุกเมื่อละ.."
"ขอบใจมากนะหนานอุย."
"เอ้อ...จะมาอีกก็บอกไอ้เต่าให้มันมาบอกแล้วกัน...พ่อ..ฉันจะกลับไปคุ้มลำดวนกับเค้านะ เผื่อว่าดวงใจจะกลับมาแล้ว" หนานอุยว่า
"ตามใจเอ็ง...ถ้ามันมืดค่ำก็อาศัยกำนันปานนอนโน่นเลย...กลับมามืดๆ เสือมันจะตะปบไปกินเอานะ" ทิดอ่วมบอก
"แถวนี้เสือชุมเหรอครับ" แสงธรรมถาม
"มีเยอะครับ หน้านี้แหล่ะมันจะลงมาหากินจากบนเขา เมื่อวันก่อนมันก็มาลากหมูชาวบ้านไปกิน"
ทุกคนมองหน้ากัน ใจคอไม่ดี
ในป่าร่มรื่น กฤษดาปีนขึ้นไปตัดดอกเอื้องป่าเอาลงมาให้ดวงใจ ดวงใจรับมาด้วยสีหน้ายิ้มหวาน
"ดวงใจชอบดอกเอื้องนี่มากเหรอจ้ะ"
"เจ้า"
กฤษดาหัวเราะ
"วันที่เจอดวงใจครั้งแรก ดวงใจเสียบดอกไม้นี่ที่มวยผม แต่ตอนนี้เสียบไม่ได้เพราะดวงใจเอาผ้าพันผมไว้"
ดวงใจปลดผ้าที่โพกหัวออก ผมยาวสลวยก็คลี่ลงมาดูสวยละมุน กฤษดามองอย่างหลงใหล ค่อยๆ เอาช่อดอกเอื้องเหน็บที่ผมดวงใจ แต่เหน็บไม่ได้ เพราะช่อดอกเอื้องใหญ่ กฤษดาจึงเด็ดดอกเอื้องดอกเล็กๆ ติดที่ผมของดวงใจหลายๆ ดอก เห็นท่าทางกฤษดาอยากจูบดวงใจแล้ว แต่ดวงใจเขินอาย กฤษดาเชยคางดวงใจขึ้นมา
"เวลาดวงใจอายจนหน้าแดงนี่...น่ารักมากรู้ไหม"
ดวงใจอายถอยหนี
"ผู้หญิงบ้านป่าอย่างข้าเจ้า สวยสู้แม่หญิงบางกอกไม่ได้ดอกเจ้า"
"ไม่จริง...แต่ถึงเขาจะสวยกว่าฉันก็ไม่สนใจ ฉันสบายใจเหลือเกินที่อยู่กับผู้หญิงบ้านป่าคนนี้"
กฤษดาเอามือชี้ที่ดวงใจ
"จริงๆ นะดวงใจ"
"เค้าว่าคนบางกอกปากหวาน...เห็นจะเป็นอย่างคุณกฤษดาแน่ๆ"
"ฉันเป็นคนอย่างนั้นหรือดวงใจ...สิ่งใดที่ฉันไม่แน่ใจ...ฉันจะไม่พูด ถ้าดวงใจรู้จักฉันดี จะรู้ว่าฉันพูดคำไหนคือคำนั้น"
กฤษดาเริ่มรุกมากขึ้น ดวงใจเห็นท่าจะจวนตัว
"ข้าเจ้าว่าเรากลับกันได้แล้ว...นี่ก็บ่ายมากแล้วเจ้า"
"พรุ่งนี้ดวงใจจะพาฉันไปเที่ยวที่ไหนจ้ะ"
"ไปที่วัดดีไหมเจ้า...มีวัดร้าง มีพระองค์ใหญ่ ดวงชอบไปไหว้ขอพร ขอให้..."
ดวงใจหยุดไม่พูดต่อ กฤษดาสงสัย
"ขออะไร ขออะไรจ้ะ"
ดวงใจมองหน้ากฤษดาด้วยตาจริงใจ
"ขอให้คุณพระคุ้มครองคุณกฤษดาตอนมีสงคราม ขอให้ข้าเจ้าได้พบกับคุณกฤษดาอีก"
กฤษดามองหน้าดึงดวงใจเข้ามากอด
เย็นต่อเนื่อง หนานอุยชะเง้อคอยดวงใจด้วยสีหน้าเป็นห่วง กำนันปานเดินกลับมาจากไร่กับก่ำ บัวแก้ว กับ สายคำนั่งทำกับข้าวอยู่
"หนานอุย...คืนนี้จะนอนที่นี่ไหม" ปานถาม
"ฉันก็กะจะขอนอนที่นี่ซักคืนน่ะลุงกำนัน"
"ไอ้ก่ำ...เอ็งไปจัดที่นอนให้หนานอุยที่ห้องไอ้เต่าด้วยนะ"
หนานอุยบอก
"อ้าว...ไม่ให้ฉันนอนเรือนนี้ล่ะจ้ะ"
"ห้องหับมันไม่พอ...นอนเรือนไอ้ก่ำน่ะดี" กำนันปานบอก
ดวงใจ กับ กฤษดาเดินเข้ามาทางด้านข้างบ้านกำนันปาน ดวงใจเห็นหนานอุยก็ชะงัก
"ใครน่ะดวงใจ"
"ไอ้หนานอุย...มันเป็นเพื่อนข้าเจ้าแต่เล็ก ตอนนี้ ดันทะลึ่งจะมาขอไปเป็นเมีย"
กฤษดายิ้มๆ พาดวงใจเดินออกไป กำนันปานหันมาเห็น
"อ้าวนี่ไง กลับกันมาแล้ว"
หนานอุยเห็นดวงใจก็ดีใจมาก ถลาเข้าไปหา
"ดวงใจ ทำไมกลับมาช้านัก ฉันมารอนานแล้ว"
"มารอทำไม"
"ก็ฉันคิดถึงดวงใจของฉันน่ะซิ"
หนานอุยพยายามมาแทรกระหว่างดวงใจ กับกฤษดา
"คุณกฤษดาไปเที่ยวไหนมาครับ ไอ้ดวงมันทำฤทธิ์อะไรหรือเปล่า" กำนันปานถาม
กฤษดาพูดไม่สนใจ
"ก็ดีครับกำนัน อยู่บ้านเฉยๆ ก็เบื่อ"
"แล้วพรุ่งนี้จะไปอีกหรือเปล่าครับ"
กำนันปานหันไปถามดวงใจ ดวงใจทำท่าจะตอบ แต่กฤษดารีบพูดก่อน
"พรุ่งนี้ก็ว่าจะไปเที่ยวปางช้างของหนานอุยครับ"
หนานอุยได้ทีข่มเลย ดวงใจมองหน้ากฤษดา
"ก็น่าจะอยู่ไปพร้อมกับคนอื่นๆ เค้าวันนี้น่ะ"
กฤษดายิ้ม
"วันนี้คนอื่นๆ ไปปางช้างกันแล้วเหรอ...ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ไปใหม่ได้ไหมW"ไปกันตอนสายๆ นะ"
"ได้ซิ...จะไปกี่วัน จะไปกี่คนก็ได้"
ตลอดเวลาดวงใจพยายามมองหน้ากฤษดาที่พูดไม่เหมือนกับที่นัดกัน
"แต่พรุ่งนี้ท่าทางจะมีฝนนะกำนัน" ก่ำบอก
"ถ้ามีฝนก็ไปไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีฝนให้ไอ้เต่า กับ หนานอุยพาไปแล้วกัน ดวงใจไม่ต้องไปหรอก"
ดวงใจตกใจ มองหน้ากัน กฤษดาทำสีหน้าเป็นปรกติ
"ดีเหมือนกัน ดวงใจเหนื่อยหลายวันแล้ว"
"ลุงกำนัน...ฉันขอร้องเถอะนะ ขอให้ดวงใจไปด้วย ดวงใจจะได้คุ้นเคยกับที่ทางของดวงใจภายหน้าไงลุง"
"เอ็งก็อย่าตีขลุมพูดเองเลยหนานอุย เรื่องภายหน้าน่ะยังมาไม่ถึง"
หน้าหนานอุยผิดหวัง กฤษดาแอบหลิ่วตากับดวงใจ
พนมนั่งเล่นไพ่กับมณี ห้องโถงชั้นบน หน้าห้องนอนเจ้าคุณเชียงใหม่ มณีเล่นไพ่ได้ไม่ดีก็โยนไพ่ทิ้ง
"อารมณ์เสียไพ่ไม่ขึ้นหรือจ้ะ" พนมว่า
"คุณกฤษดาเค้าหายไปไหนของเค้านะ ชวนเรามาแล้วมาทิ้งกัน..หมดสนุกเลยเรา"
พนมแกล้งแหย่
"สงสัยจะไปติดสาวที่ไหนก็ไม่รู้"
มณีไม่พอใจ
"ไม่ยอมนะ อุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมาถึงที่นี่ จะมาให้อียักษ์ขมูขีที่ไหนมาแย่งไปไม่ได้เด็ดขาด"
พนมมองมณีงงๆ
"นี่เธอพูดจริงๆ เหรอ ฉันนึกว่าเธอแหย่น้องปิ่นเล่นต่างหาก"
"ใครว่าฉันเล่น...คนอย่างคุณกฤษดาหาได้ง่ายๆ ที่ไหน น่ารักออกจะตายไป...ฉันไม่ยอมให้หลุดมือไปง่ายๆ หรอก"
กฤษดาเดินขึ้นเรือนมา มณีเห็นก็ร้องเสียงดังรีบวิ่งไปหา
"คุณกฤษดา...คุณกฤษดามาแล้ว ณีคิดถึงคุณนะคะ ไปไหนมาคะ"
"ไปสำรวจป่า"
ปิ่นแก้วเดินออกมาจากห้อง เห็นกฤษดาก็วิ่งมาหาอีกคน
"พี่กฤษดา หายไปไหนมาคะ"
"พี่ก็ไปแถวๆ นี้ละค่ะ...แสงธรรมอยู่ไหนล่ะ"
"ไม่รู้ค่ะ...เมื่อบ่ายก็กลับมาด้วยกัน ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้"
กฤษดาชะงักนิดหนึ่ง
"พี่ต้องขอตัวไปนอนก่อนนะ...ง่วงมาก"
กฤษดาเดินผ่านพนม เอามือแตะกันอย่างเข้าใจกัน มณี กับ ปิ่นแก้ว ทำหน้าไม่พอใจ
อ่านต่อหน้า 4
แหวนทองเหลือง ตอนที่ 7 (ต่อ)
กำนันปานนั่งคุยกับ หนานอุย และ บัวแก้ว กฤษดาค่อยๆ แอบย่องเข้ามาไม่ให้ใครเห็น ดวงใจเดินถือขันน้ำออกมาจากครัว กฤษดารีบแอบไปใกล้ๆ ดวงใจ แล้วดึงตัวดวงใจเข้าไปในมุมมืด ดวงใจตกใจขันน้ำจะตก กฤษดารับขันน้ำไว้ทัน
"คุณกฤษดา"
กฤษดาจุ๊ปากห้ามไม่ให้เสียงดัง พูดเบา ๆ
"พรุ่งนี้เช้ามืดฉันจะไปรอที่ใต้ต้นไม้ที่มีเอื้องป่าของเรานะ"
กฤษดาพูดแล้วก็แอบหอมแก้มดวงใจทีหนึ่งแล้วรีบหายไปในความมืด กำนันปานได้ยินเสียงหันมา
"ใครน่ะ"
ดวงใจเดินออกมา พยายามซ่อนความดีใจ
"ข้าเจ้าเองจ้ะพ่อ"
หนานอุยเห็นดวงใจก็ดีใจรีบเข้ามาหา ดวงใจรีบเดินขึ้นบ้าน
"ข้าเจ้าจะไปนอนละจ้ะ"
ดวงใจเดินขึ้นไป หนานอุยมองตามตาละห้อย กำนันปานส่ายหัวมองหนานอุยอย่างขำๆ
เช้าตรู่วันใหม่ แสงผ่านต้นไม้ลงมาในป่าสวยๆ มีต้นเอื้องป่าเลื้อยออกดอกที่ต้นไม้ใหญ่หลายต้น ดวงใจแต่งตัวค่อนข้างสวย สะพายย่ามที่มีของกิน กับกระบอกน้ำ ถือตะเกียงเดินเข้ามา ในป่ายัง มีหมอกอวลอยู่ ดวงใจมีผ้าคลุมบ่าด้วย เธอคอยชูตะเกียงมองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นกฤษดา สีหน้าก็เป็นกังวล
"คุณกฤษดา....คุณกฤษดาเจ้า"
ดวงใจมองไปรอบๆ ยังไม่เห็นกฤษดา ดวงใจเริ่มจะร้องไห้
"คุณกฤษดา คุณกฤษดาเจ้า."
กฤษดาถือช่อดอกเอื้องป่ามาติดที่มวยผมดวงใจทางด้านหลัง ดวงใจหันมาสีหน้าดีใจมาก
"คุณกฤษดา.."
กฤษดายืนยิ้มให้ดวงใจ เช้าวันนี้ เธอแต่งตัวทะมัดทะแมงสะพายเป้ประจำของตัวเอง เอามือซับน้ำตาทีไหลมานิดหนึ่งบนแก้ม
"คนขี้แย"
"ข้าเจ้าคิดว่าคุณกฤษดาไม่มา"
"ต้องมาสิ...ฉันนัดกับดวงใจแล้วจะผิดนัดได้ไง"
ดวงใจมองกฤษดาอย่างรักมาก
ปิ่นแก้วแต่งตัวทะมัดทะแมงเดินออกมาจากห้องนอน สีหน้าเบิกบาน พนมยืนอยู่ที่เฉลียงหันมาเห็น
"โอ้โห วันนี้น้องปิ่นตื่นแต่เช้าเลยนะ"
ปิ่นแก้วพูดอย่างมั่นใจ
"วันนี้ปิ่นไม่พลาดแน่ค่ะพี่พนม...แหม..อากาศตอนเช้านี่สดชื่นจริงๆ นะคะ"
มณีนั่งจิบกาแฟอีกด้านหนึ่ง
"โถ..โถ คงไม่เคยตื่นเช้ากับเค้าเลยซินะ"
ปิ่นแก้วยิ้มๆ
"แหม..ก็ชีวิตไม่ต้องลำบากแหกขี้ตาขึ้นมานี่นะ"
พนมบ่นฮุบ
"เสียบรรยากาศแต่เช้าเลยนะ"
กำนันปาน กับ หนานอุย เดินขึ้นมา
"อ้อ..คุณ ๆ ตื่นกันเร็วดีจริง ผมห่อข้าวเช้าให้ไปทานกลางทางดีกว่านะ จะได้ถึงปางช้างก่อนเพล"
"ปางช้าง....ก็ไปมาแล้วนี่ จะไปทำไมอีก" ปิ่นแก้วบอก
"เห็นไหมลุงกำนัน...ฉันบอกแล้วว่าความคิดนายน้อยลุงน่ะไม่เข้าท่า"
"คุณกฤษดาอยากไปอีกครับ...ผมก็เลยให้หนานอุยกับไอ้เต่าพาไปอีก"
ปิ่นแก้วดีใจ
"พี่กฤษดาอยากไป....งั้นก็แสดงว่าพี่กฤษดาไปกับเราด้วย แล้วตอนนี้ พี่กฤษดาอยู่ไหนคะพี่พนม"
"ยังไม่ออกมาจากห้องเลยนี่"
ปิ่นแก้ววิ่งไปที่หน้าห้องนอนกฤษดา มณีวิ่งตามไปด้วย
เมื่อเปิดประตูห้องนอน เตียงนอนว่างเปล่า ไม่มีใครเลย ปิ่นแก้วกับมณีต่างผิดหวัง
"พี่กฤษดา...ไม่เห็นมีใครเลย" ปิ่นแก้วบอก
มณีทำหน้าเซ็งเดินไป ปิ่นแก้วเดินกลับมา
"พี่พนม...พี่กฤษดาหายไปไหนคะ พี่ธรรมก็ไม่อยู่เหมือนกัน"
ทุกคนงงที่หากฤษดา กับแสงธรรมไม่เจอ พนมถอนใจ
"อาจจะไปเดินเล่นแถวนนี้ก็ได้" พนมบอก
ทันใดนั้นฝนก็ตกลงมา ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปหลบฝน
กำนันปานบอก
"ถ้าฝนตกอย่างนี้ก็ไปไหนไม่ได้แล้ว"
"ฝนตกไม่หนักซักหน่อย...ไปเถอะ...พี่กฤษดา กับพี่ธรรมอาจจะไปรอที่ปางช้างก็ได้" ปิ่นแก้วบอก
"แต่ดูฟ้าแล้วท่าฝนจะตกหนักกว่านี้ ถ้าเราไปโดนฝนตกหนักในป่าจะลำบากมากนะครับ เสี่ยงที่จะหลงป่าด้วย"
ปิ่นแก้วเถียงไม่ออกทำท่าขัดใจมาก
ดวงใจ กับกฤษดา ยืนหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ฝนยังตกไม่มาก
"ท่าทางฝนจะตกหนักนะเจ้า"
"ฝนตกก็ช่างมัน สนุกดีเสียอีก"
"ไม่สนุกหรอกเจ้า ฝนบนเขาหากตกลงมาแล้วก็จะตกหนักมาก และตกนานเสียด้วย อาจจะตกทั้งคืน"
"ให้ตกสามวันสามคืนก็ยิ่งสนุกใหญ่"
ดวงใจเถียง
"เปียกหมดจะสนุกยังไงเจ้า..แล้วนี่ก็อีกไกลกว่าจะถึงเมืองร้าง หรือเราจะกลับกันดีเจ้าW
กฤษดามองหน้าดวงใจ นิ่ง
"ฉันไม่อยากกลับ...เธออยากกลับหรือเปล่าดวงใจ"
ฟ้าร้องเสียงดัง ดวงใจโผเข้าซบกฤษดา ฝนเริ่มตกหนัก
"ฝนตกหนักแล้วซิ พอจะหาที่หลบฝนได้ก่อนไหม"
กฤษดาจุดตะเกียง ในกระท่อมคนงานหลังหนึ่งไม่กว้างนัก มีแคร่ไม้ไผ่เก่าๆ
"ดีนะที่ดวงใจเอาตะเกียงมาด้วย"
"เมื่อเช้ามืดหมอกหนา ข้าเจ้าก็เลยเอาตะเกียงมาด้วย"
"กระท่อมนี่ใครมาปลูกไว้"
"เคยมีฝรั่งมาทำป่าไม้กับคนไทย ปลูกกระท่อมให้คนงานอยู่"
กฤษดานั่งมองดวงใจ เปิดเป้หยิบผ้าผืนเล็ก ๆ ออกมาเช็ดหน้าให้ ดวงใจจับมือกฤษดาที่กำลังเช็ดหน้าให้ มือสัมผัสมือ ดวงใจอายหน้าแดง
"ข้าเจ้าเช็ดเองก็ได้เจ้า"
กฤษดาปล่อยมือดวงใจ ให้เช็ดหน้าเอง กฤษดามองไปรอบ ๆ เห็นที่สำหรับก่อกองไฟ
"เราไปหาฟืนมาก่อไฟดีกว่านะ...ตรงนี้มีที่สำหรับก่อกองไฟด้วย"
ดวงใจรีบลุกขึ้น
"ข้าเจ้าจะไปหาฟืนเอง"
กฤษดารีบห้าม
"อย่าออกไปดีกว่าดวงใจ ฝนกำลังตกหนัก เดี๋ยวจะเปียกมากกว่านี้"
"มันก็เปียกอยู่แล้ว เปียกอีกก็ไม่เป็นไร...ข้าเจ้าว่าฝนคงตกตลอดคืน ในป่านี้พอมืดแล้วจะหนาวมากเจ้า"
กฤษดามองดวงใจอย่างซึ้งใจ
"ทำไมดวงใจถึงดีกับฉันอย่างนี้นะ หากจะเปียกก็ต้องเปียกด้วยกัน ฉะนั้นเราจะออกไปด้วยกัน"
กฤษดามองดวงใจด้วยสายตาลึกซึ้งจนดวงใจรู้สึกอายมาก ผลุนผลันลุกขึ้นออกไปนอกกระท่อม กฤษดารีบลุกขึ้นตามออกไป
ดวงใจ กับ กฤษดา วิ่งออกมาจากกระท่อมเพื่อมาหากิ่งไม้ ในขณะที่ฝนตกหนัก ทั้งสองคนแข่งกันเก็บกิ่งไม้กลายเป็นเรื่องสนุกสนาน กฤษดาแกล้งเอากิ่งไม้ที่ดวงใจเก็บมาแล้วมาเป็นของตัว ดวงใจหัวเราะมีความสุขแย่งกิ่งไม้กลับมา
ทั้งสองคนเก็บกิ่งไม้ได้เต็มแขนก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในกระท่อม
อ่านต่อตอนที่ 8