แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 5
นงเยาว์วิ่งลงชั้นล่างไปเสียแล้ว
"นง นง"
ชิตงัวเงียออกมาจากห้อง
"อะไรกันพี่สิงห์"
"นงมันไม่ยอมกลับบ้าน มันบอกมันจะหางานทำที่นี่"
"ทำงานที่นี่ จะบ้าเหรอ" ชิตว่า
"ทำไมวะ มีอะไร"
"เออ....มะ...ไม่มีอะไรพี่"
"แกเฝ้าดูมันหน่อย มีอะไรรีบรายงานฉัน"
"ได้ครับพี่"
สิงห์ส่ายหน้ากลับห้อง ชิตหน้าซีด
"นังนง มันคิดบ้าอะไรของมัน"
ทางด้านวิไลที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล สีหน้าแววตาดูดีขึ้น แต่ร่างกายยังอ่อนเพลียขยับตัวไม่ได้มาก ใบพรเช็ดตัวให้แม่ พลางปลอบแม่ด้วยความห่วงหาอาทร ต้อยคอยเป็นผู้ช่วย
"แม่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลนะจ๊ะ ที่สำคัญตอนนี้พรได้งานทำแล้ว พรจะเป็นคนดูแลแม่เอง ชดเชยที่พรทำให้แม่ต้องมามีสภาพอย่างนี้"
ใบพรพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา วิไลสงสารลูกจับใจจนน้ำตาไหลออกมา
"แม่อย่าร้องไห้สิจ๊ะ พรใจคอไม่ดีเลย ตอนนี้เรามีอยู่กันแค่สองคนแม่ เราต้องเข้มแข็งให้มาก ช่วยกันฝ่าฟันเรื่องนี้ไปให้ได้นะจ๊ะ"
วิไลอยากจะกอดตอบลูกสาว แต่ทำได้เพียงแค่เอื้อมมือมาวางบนหัวใบพรเท่านั้น ใบพรรับรู้ความห่วงหาอาทรของผู้เป็นแม่ จับมือแม่มาจูบด้วยความรักใคร่
"พรสัญญานะจ๊ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พรจะไม่มีวันยอมให้แม่เป็นอะไรเด็ดขาด"
ต้อยที่ยืนมองอยู่ พลอยซาบซึ้งน้ำตาไหลไปด้วย
บริเวณหน้าผับเฮเว่น ตอนกลางวัน นงเยาว์เข้ามาด้อม ๆ มอง ๆ ในร้านที่ยังไม่เปิด ขยะจากเมื่อคืนยังเกลื่อนพื้น ก้านเดินหาวหวอดออกมา
"น้อง มาหาใคร" ก้านถาม
"พี่คะ พี่พริ้งมาที่ร้านรึยัง"
"กว่าจะมาก็มืด มีอะไรรึเปล่า"
"เปล่า....อยากเจอพี่พริ้งน่ะ"
"น้องชื่ออะไรล่ะ เดี๋ยวบอกให้ก็ได้"
นงเยาว์ลังเลยังไม่กล้าบอกชื่อ ชิตตามเข้ามาถาม
"น้อง....มาทำอะไรที่นี่"
"เด็กเอ็งเหรอวะไอ้ชิต"
"น้องเมียน่ะ"
ชิตหัวเราะทำเนียน แล้วดึงนงเยาว์แยกมา ก้านมองอย่างสงสัย แล้วกลับไปทำงานที่เคาน์เตอร์บาร์
"มาที่นี่ทำไม"
นงเยาว์ไม่กล้าบอกว่าจะมาทำงาน
"ฉันมา....หาทางช่วยนังจันทร์น่ะซี"
"บอกแล้วว่าช่วยไม่ได้ มาอย่างนี้อยากถูกลากกลับไปซ่องยายพิศอีกเหรอวะ... แล้วที่บอกพี่สิงห์ว่าจะทำงานที่นี่ งานอะไร"
"เรื่องของฉัน"
เสียงดังมาจากเบื้องหลัง เพลินและจ่าพยับก้าวออกมาจากด้านใน ชิตหันไปมอง สะดุ้งเฮือก
"อ๋อ....นังนงเยาว์น่ะเหรอจ่า เออ คือ..." เพลินว่า
ชิตสั่งทันที
"อย่าหันไปนะ แล้วรีบออกไป"
"อ้าว ชิต มีอะไรรึเปล่า"
"ไม่มีอะไรเจ๊" ชิตกระซิบกับนงเยาว์ "รีบออกไปเดี๋ยวนี้ เร็ว"
นงเยาว์รีบออกไป จ่าพยับมองตามแต่ไม่ติดใจอะไร ชิตรีบเข้าสมทบทำเนียน
"เอ้า เล่าต่อซี นังเด็กนงเยาว์นั่นมันยอมใช้หนี้แล้วหรือยัง"
เพลินมองหน้าชิต อึกอัก ชิตรู้ทันทีว่าเพลินยังไม่บอกความจริงกับจ่าพยับว่า นงเยาว์หนีไปแล้ว
"มีอะไรเจ๊เพลิน"
"มะ....ไม่มีไร เด็กมันติวเข้มอยู่น่ะ เอาไว้พอมันคล่องแล้วจ่าค่อยแวะไปหาดีกว่า"
"โธ่. ทำไมต้องรอ ฉันไม่ต้องการความคล่อง ต้องการบริสุทธิ์ ใส ๆ ซื่อ ๆ"
"นังคนนี้ไม่ใส ไม่ซื่อแล้วนะจ่า ใช่ไหมชิต แกเป็นผัวมันแล้วนี่"
"เออ...ใช่ นังนี่โชกโชนแล้วจ่า จ่าก็รู้ว่ามันเด็กเที่ยว มันยังยอมผมง่าย ๆ เลย"
"ยังไงก็ต้องลองว่ะ สวยถูกใจ เฮ้ย ก้าน วันนี้ฉันอุตส่าห์แวะมา เตรียมค่าขนมให้บ้างรึเปล่าวะ"
จ่าเดินไปหาก้าน ที่ยิ้มเจื่อนเต็มที
"เจ๊เพลิน ไปโกหกจ่าทำไม ทำไมไม่บอกความจริงว่ามันหนีแล้ว"
"ไม่กล้าว่ะ กลัวใจมัน เกิดมันอารมณ์เสีย งัดปืนมาส่องเจ๊ เจ๊ทำไง ให้พี่พิศเขาบอกมันเองดีกว่า"
ชิตและเพลินมองจ่าอย่างหวาดกลัว
คืนนั้น มุมพักผ่อนบ้านสุขสำราญ เฮฟเวนคาราโอเกะ จูนเห็นกฤษณ์เดินเข้ามาหันไปบอกเพื่อน
"คุณกฤษณ์มา"
อย่างไม่ได้นัดหมาย ทั้งสามคน จูน เอพริล เมย์ หยิบแป้งพัฟออกมาตบหน้า จัดหน้านมผมให้เข้าที่ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา
พริ้ง สายพิณ ศรี รีบเข้าต้อนรับกฤษณ์ อ๋องและเพื่อน ๆ
"สวัสดีค่ะคุณกฤษณ์ คุณอ๋อง ทุกคน หายไปไหนมาตั้งหลายวัน" พริ้งบอก
"ถามอย่างนี้แสดงว่าคิดถึงพวกผมใช่มั้ยครับ" กฤษณ์บอก
"อันนี้ก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ ๆ มีคนชะเง้อมองหาคุณทุกวัน"
ศรีหมายถึงสายพิณ ส่วนสายพิณแกล้งงอนแต่คัน
"ใครจะไปคิดถึงคนที่ลืมเราล่ะพี่ศรี"
กฤษณ์ทีเล่นทีจริง
"ถ้าจะลืมก็ลืมหายใจเพราะอยู่ใกล้คุณมากกว่า"
"แหม เล่นหยอดกันซะจนเบาหวานขึ้นตาเจ๊เลยนะคุณกฤษณ์ ลืมเจ๊ไปไงคะเนี่ย"
อ๋องบอก
"อ่อนใสวัยใกล้ฝั่งอย่างเจ๊ใครจะลืมลงครับ"
"แซวผู้หญิงว่าแก่ด่าแม่กันดีกว่านะคะคุณอ๋อง" พริ้งบอก
ทุกคนหัวเราะ ศรีเข้าไปคล้องแขนอ๋อง
"งั้นเราไปเปิดห้องทบทวนความจำกันดีกว่านะคะ ใครความจำไม่ดีเดี๋ยวศรีกับ
น้องพิณจะทำให้ลืมไม่ลง"
สายพิณ ศรีหันมาจะพากฤษณ์และเพื่อนไปเปิดห้องคาราโอเกะ แต่เห็น เพลิน เอพริล เมย์ จูน เดินดาหน้ากันเข้ามาเสียก่อน เพลินแกล้งทำเป็นพูดดี เสียงอ่อนเสียงหวาน
"ได้ข่าวว่าติดแขกโต๊ะอื่นอยู่ไม่ใช่เหรอจ๊ะฉันพิณ แม่ศรี"
เอพริลบอก
"ทิ้งแขกอย่างนี้ไม่ดี เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราไม่มีจรรยาบรรณ"
"อ้าว ติดแขกอยู่เหรอครับ" กฤษณ์ถาม
สายพิณ ศรีหน้าเสีย พริ้งรีบพูดแก้สถานการณ์ให้
"ติดแขกที่ไหน ก็มีคนอื่นบริการอยู่นั่นไง"
"ว้าย แม่พริ้งฉันลืมไป เฮียหมาให้มาตามไปคุยเรื่องเมื่อวันก่อน หวังว่าเธอคงไม่ลืมนะ หรือว่าจะให้ฉันไปคุยให้ "
เพลินหมายถึงหมาให้สาวบ้านสุขสำราญดูแลแขกพิเศษคู่นี้ และประโยคสุดท้ายเพลินจงใจเน้นคำเสียงเข้มให้พริ้งรู้ว่าถ้าไม่ไปจะไปฟ้องเฮียหมา เพลินยิ้มหวานอย่างเป็นต่อ พริ้ง สายพิณ ศรีเจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพลินยิ้มอย่างเป็นต่อก่อนจะหันไปบอกสามสาว
"อ้าว มัวแต่ยืนยิ้มกันอยู่นั่นแหละ พาคุณ ๆ ไปยิ้มต่อกันในห้องสิ"
เมย์ จูนรีบเข้าไปควงแขนกฤษณ์ อ๋องทันที
"วันนี้ถ้าคุณกฤษณ์ไม่ยอมร้องเพลงกับพวกเรา เมย์โกรธจริง ๆ ด้วย"
"จำได้มั้ยคุณเคยบอกว่าจะทำให้เราร้องทั้งคืน" จูนลูบไล้หน้าอกอ๋องมองด้วยสายตายั่วยวน "เอาไมค์มาสิคะ เดี๋ยวจูนจะร้องให้ฟังทั้งคืน"
ทั้งสามคนถือไมค์ร้องคาราโอเกะเสียงดังอย่างสนุกสนาน โดยมีหนุ่มเคล้าคลอเคลียอยู่ข้าง ๆ ยกเว้นกฤษณ์ที่นั่งดู หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
สายพิณแอบมองอยู่หน้าประตูครุ่นคิดว่าจะเอาคืนยังไงดี ศรีทุบผนังด้วยความเจ็บใจ
"เราไม่ได้ทำผิดอะไรซักหน่อย ทำไมต้องไปยอมมันด้วย"
สายพิณแกล้งทำเป็นพูดดี จงใจยั่วให้ศรีไปจัดการพวกเอพริล
"พี่ศรีก็รู้พวกนี้มันตลบตะแลงลิ้นสองแฉกแค่ไหน โดยเฉพาะเจ๊เพลิน ใคร ๆ
ก็รู้ว่าเป็นอะไรกับเฮียหมา พูดอะไรเฮียหมาก็เชื่อหมด เจ๊ของพวกเราตามไม่ทันหรอก"
"แล้วเราจะยอมงั้นเหรอ"
สายพิณเห็นว่าศรียุขึ้นก็แอบยิ้มร้าย สุมไฟเข้าไปอีก
"คนนั่งพูดกับนอนพูดเสียงดังไม่เท่ากันอยู่แล้วพี่ศรีก็รู้"
"แต่พี่ยอมไม่ได้ พี่จะต้องหาทางเอาคืนพวกมันให้ได้"
สายพิณจงใจยุศรี
"ฉันว่าพวกเราจะไปสู้อะไรพวกมันได้ เดี๋ยวก็ถูกพวกนั้นเล่นงานกลับมาอีก"
ศรีหับขวับมาสวนแรง ไม่เชื่อ
"พี่ไม่กลัว ให้มันรู้ไปคนโกงจะได้ทุกอย่าง"
สายพิณแอบยิ้มร้ายที่ยุศรีสำเร็จ
กฤษณ์กับเพื่อนกำลังร้องคาราโอเกะกันอย่างสนุกสนาน เอพริลบุ้ยปากไปทางประตู เมย์จูนหันไปเห็นสายพิณศรียืนคุยกันอยู่ก็หันมาพยักหน้าให้เอพริลอย่างรู้กัน เอพริลบอกกฤษณ์
"ทำไมอาหารมาช้าจัง เดี๋ยวเอพริลไปตามให้นะคะ"
อ่านต่อหน้า 2
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 5 (ต่อ)
เอพริล เมย์ จูนเปิดประตูออกมา สายพิณเห็นหันไปบอกศรี
"ไปเถอะพี่ศรี"
ศรีทำท่าจะเดินตามสายพิณไปอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เอพริลสวนขึ้นมาเสียก่อน
เอพริลยียว
"มีใครได้ยินเสียงอะไรมั้ย"
เมย์เยาะเย้ย
"ได้ยินสิ เสียงเหมือนหมาหวงก้าง กินไม่ได้ได้แต่ยืนเห่า"
สายพิณ ศรีที่เดินไปชะงัก
"แถมไม่ใช่หมาธรรมดาด้วย เป็นหมามีตำแหน่ง ตำแหน่งนางฟ้า แต่เป็นนางฟ้าตกกระป๋อง"
ทั้งสามหัวเราะเยาะอย่างสนุกสนาน สายพิณหันขวับมามองเอพริล เมย์ จูนด้วยความไม่พอใจ เอพริลเดินเข้าไปประจันหน้า พูดจาเยาะเย้ยสายพิณ
"เห็นแล้วใช่มั้ยว่าหล่อนกับฉันมันคนละชั้น ถึงจะเป็นนางฟ้าของร้าน แต่ก็อย่าคิดเผยอมาแย่งคุณกฤษณ์ ไม่อย่างนั้นหล่อนจะไม่ได้เป็นแค่นางฟ้าตกกระป๋อง แต่ฉันจะทำให้หล่อนไม่มีที่ยืนอีกเลย"
ศรีหันกลับมาพูดลอยหน้าลอยตา
"คงไม่ต้องรอนานขนาดนั้นมั้ง เพราะฉันนี่แหละจะทำให้หล่อนไม่มีที่ยืน"
อย่างไม่มีใครคาดคิด ศรีถีบเอพริลอย่างแรงจนหงายหลังล้มก้นจ้ำเบ้า ร้องกรี๊ด ๆ ด้วยความเจ็บใจ เมย์โกรธแทนเพื่อนรีบเข้าไปเอาเรื่อง
"อีศรี"
เมย์จะเข้ามาตบศรี แต่ศรีกันไว้ได้ตบกลับ เมย์เซไปล้มทับเอพริลที่กำลังจะลุกขึ้นพอดี เลยล้มไปอีก ก่อนศรีจะหันขวับมาทางจูน จูนไม่กล้าสู้ จะถอยหนีแต่ไม่ทันถูกศรีกระหน่ำตบ เอพริล เมย์เห็นอย่างนั้นเข้ามาช่วยเพื่อน สายพิณยืนเชียร์ด้วยความสะใจจนลืมแอ๊บ
"เอาเลยพี่ศรี เอามันเลย"
ทันใดนั้นเจ๊พริ้งก็เข้ามาตวาดเสียงดังด้วยความโกรธเกี้ยว
"หยุดเดี๋ยวนี้นังศรี มีเรื่องอะไรกันอีก"
ทั้งสี่ชะงัก ศรีหันมาฟ้องพริ้ง
"พวกมันยั่วประสาทฉันก่อน" ศรีบอก
"แล้วไปยืนโง่ให้มันยั่วทำไม"
ศรีคิดไม่ถึง
"นี่เจ๊เข้าข้างมันเหรอ"
"ถ้าหล่อนไม่รู้จักระงับอารมณ์ ไม่พร้อมที่จะทำงานก็กลับบ้านไปสงบสติอารมณ์เลย อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งวุ่นวายไปมากกว่านี้"
"เจ๊พริ้ง"
"จะไปนั่งสงบสติอารมณ์ดี ๆ หรือจะให้ฉันไล่หล่อนกลับบ้าน"
ศรีสะบัดหน้าเดินไปด้วยความเจ็บใจ พริ้งหันมาด่าสามสาว
"พวกหล่อนก็เหมือนกัน ได้คุณกฤษณ์ไปแล้วนี่จะมาเย้ยกันอีกทำไม นอกจากไม่
มั่นใจว่าเอาคุณกฤษณ์อยู่"
เอพริลสวนแรง
"ฉันเอาอยู่"
พริ้งสวนแรงไม่ยอมเหมือนกันฃ
"เอาอยู่หรือเห่าอยู่กันแน่"
"เจ๊พริ้ง"
พริ้งสวนเข้ม
"เก็บปากไว้เรียกแม่หล่อนเถอะ ถ้ายังไม่หยุดะรานคนอื่นอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
ทั้งสามเห็นพริ้งเอาจริง ก็กลัวไม่กล้าทำอะไร หันมาชี้หน้าด่าสายพิณแทน
"ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้ายังไม่สังวรณ์ ฉันจะทำให้หล่อนกลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ให้
ได้"
สายพิณโกรธหันขวับไปจะเอาเรื่อง แต่พริ้งสวนออกไปก่อน
"หล่อนก็เหมือนกัน กลับไปที่ห้องวีไอพีได้แล้ว แขกให้มาตาม"
สายพิณเดินพูดกับตัวเองมาด้วยความเจ็บใจ
"ใครจะยอมให้สอยง่าย ๆ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างแล้วกัน"
ใบพรหยิบถาดเครื่องดื่มจะเอาไปเสิร์ฟที่ห้องกฤษณ์ หันขวับมาชนสายพิณที่เดินมาพอดี ขวดและแก้วตกแตกกระจายเต็มพื้น สายพิณโมโหตวาดใบพรอย่างลืมตัว
"เดินให้มันดูตาม้าตาเรือหน่อยสิ"
ใบพรตกใจ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เข้าไปขอโทษสายพิณ
"ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ"
"มาทำงานวันแรกก็ก่อเรื่องซะแล้ว ไปหาที่โกยสิ เดี๋ยวก็มีใครมาเหยียบหรอก" หมาบอก
"ค่ะเฮีย"
"เป็นอะไรหรือเปล่า"
สายพิณพยายามระงับอารมณ์
"พิณไม่เป็นไร"
สายพิณเดินไป เฮียหมาส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะเดินไปอีกทาง ทันใดนั้นพนักงานแผนกเครื่องดื่มก็ยกเครื่องดื่มออกมา
"กาแฟเย็นห้อง 23"
สายพิณที่กำลังเดินไปชะงัก
"นั่นมันห้องคุณกฤษณ์นี่" สายพิณครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะหันกลับมา "กาแฟเย็นของ
ใคร เอพริล เมย์ จูนหรือเปล่า"
"คงงั้นมั้ง เห็นกินเป็นอยู่อย่างเดียว" พนักงานหันกลับไปทำงานต่อไม่ได้สนใจ
"คิดว่าฉันจะยอมตกอับตลอดงั้นไปเหรอ"
สายพิณยิ้มร้าย ขยับปลายเท้าออก เห็นเศษแก้วที่ตกเกลื่อนพื้นอยู่ ก่อนจะหยิบขึ้นมาหย่อนลงไปในแก้วกาแฟเย็น หันขวับมาเห็นใบพรเดินเข้ามาพอดี ก็ตกใจหน้าเสีย ใบพรที่ไม่เห็นว่าสายพิณทำอะไร ก็พูดกับสายพิณท่าทางซื่อ ๆ
"ระวังแก้วบาดนะพิณ"
สายพิณขยับตัวออกใบพรกวาดพื้น พอสายพิณเห็นว่าใบพรไม่พูดอะไร ก็แกล้งทำเป็นพูดดีด้วย
"จะกวาดเองทำไม แม่บ้านก็มี"
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันทำเองได้"
"พิณไปตามให้ดีกว่า"
"แต่ว่า"
"เดี๋ยวน้ำแข็งก็ละลายหมดหรอก" สายพิณหมายถึงกาแฟเย็น
ใบพรชั่งใจก่อนตอบ
"งั้นขอบใจมากนะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ ตั้งใจทำงานนะ"
สายพิณยิ้มหวาน ใบพรหยิบถาดกาแฟเย็นไปส่ง รอยยิ้มหวาน ๆ ของสายพิณค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นยิ้มร้าย
หน้าจอคาราโอเกะเปิดเพลงคลอเบา ๆ พวกหนุ่มอันประกอบด้วย บอย ต้น อ๋องปรึกษากันเรื่องงาน
"จะชวนหุ้นเหรอ ? ก็ดีเหมือนกัน แต่ว่าฉันไม่มีไอเดียอะไรเจ๋ง ๆ เลย" ต้นบอก
"แล้วทำไมไม่เริ่มจากสิ่งที่เราชอบหรือถนัดก่อนล่ะ" บอยว่า
อ๋องบอก
"ขืนทำอย่างนั้นมีหวังเจ๊งแน่ เพราะของที่แกชอบก็เห็นมีแต่ สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร"
กฤษณ์ได้ความคิด
"แล้วทำไมเราไม่เปิดผับซะเลยล่ะ"
"เออ น่าสน แต่ผับออกจะเต็มเมืองจะสู้เค้าไหวเหรอ" ต้นว่า
กฤษณ์ว่า
"ก็เริ่มต้นเล็ก ๆ ลงทุนคนละสองสามแสนก่อน ถ้าไหวค่อยขยายทีหลัง"
"ดีเหมือนกัน จะได้ใช้เป็นที่แฮงเอาท์ของพวกเราด้วยเลย"
ทันใดนั้นอ๋องก็เห็นสามสาวเดินหน้าหงิกเข้ามา
"อ้าว มาแล้วเหรอ ทำไมทำหน้าตาอย่างนั้นล่ะ"
"เจอหมามันกวนประสาทนิดหน่อยอย่าไปสนใจเลย มาสนุกกันต่อดีกว่า" เอพริลบอก
"มาค่ะ เดี๋ยวเมย์ป้อนของอร่อย ๆ ให้" เมย์บอก
"ร้องเพลงนี้กับจูนนะคะ"
สามสาวตัดอารมณ์ขุ่นมัว เข้าไปเอนเตอร์เทนหนุ่ม ๆ ทันใดนั้นใบพรก็เปิดประตูยกกาแฟเย็นเข้ามาเสิร์ฟพอดี
"กาแฟเย็นที่สั่งได้แล้วค่ะ"
พอเอพริลเห็นหน้าใบพรก็ชะงักไป คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน กระซิบถามเมย์
"ฉันรู้สึกคุ้นหน้ามัน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน"
เมย์กระซิบตอบ
"ก็คนมาที่ช่วยอีศรีกับนังสายพิณเมื่อวันก่อนไง"
"อ๋อ ที่แท้ก็นังนั่นนี่เอง"
กฤษณ์เห็นเอพริล เมย์ กระซิบกระซาบกัน มองจิกใบพร ส่วนใบพรนั้นจำทั้งสองได้ ทำอะไรไม่ถูกด้วยความกลัว
"มีอะไรกันเหรอครับ"
เอพริลแสร้งทำเป็นพูดดี
"เปล่าค่ะ พอดีเพิ่งคิดได้ว่ามีอะไรบางอย่างยังไม่ได้สะสางให้เรียบร้อย" เอพริลพูดกับใบพร "เดี๋ยวเลิกงานเจอกันนะจ๊ะ"
เอพริลยิ้มร้าย มองจิกใบพรอย่างไม่เป็นมิตร จนใบพรรู้สึกกลัว
"ขอตัวก่อนนะคะ"
ใบพรรีบออกไป กฤษณ์ไม่ติดใจสงสัย
"งั้นก็มาสนุกกันต่อเถอะครับ"
ใบพรรีบเดินออกจากห้องมาด้วยความหวาดกลัว สายพิณแอบมองอยู่ยิ้มร้าย
กฤษณ์ส่งกาแฟเย็นแก้วหนึ่งให้อ๋อง ก่อนจะหยิบอีกแก้วขึ้นมาดื่มเอง
สายพิณแอบดูอยู่ รีบหันหลังพิงผนังพูดกับตัวเองด้วยความตกใจ
"พวกมันไม่ได้สั่งเหรอเนี่ย"
สายพิณหันไปแอบดูเหตุการณ์ให้ห้องต่อ
ทันใดนั้นเอพริลก็คว้ากาแฟเย็นอีกแก้วขึ้นมาดื่ม ก่อนจะสะดุ้งเฮือก กฤษณ์หันไปถามด้วยความเป็นห่วง
"มีอะไรเหรอครับ"
เอพริลหงุดหงิด พลางบ่น
"แหวะ หวานยังกะน้ำเชื่อม ก็บอกแล้วไม่กินหวาน ไม่กินหวาน"
"หวานเหรอ ไหนชิมซิ" จูนบอก
จูนรับแก้วกาแฟจากอ๋องมาคุ้ยน้ำแข็งใส่ปาก เคี้ยวกรวบ ๆ ก่อนจะวางแก้วลง แล้วรับแก้วของเอพริลมาจะลองชิม แต่แล้วจูนก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้สึกว่าเคี้ยวถูกอะไรบางอย่าง จึงคายออกมาดู พอเห็นว่าเป็นเศษแก้วก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ
สายพิณแอบยืนมองอยู่ด้วยความสะใจ
"สมน้ำหน้า สาระแนดีนัก"
สายพิณเยาะก่อนจะหันหลังเดินออกมา แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเพลินยืนมองอยู่
"มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อะไรตรงนี้"
สายพิณแกล้งทำเป็นพูดดี)
"ก็แค่แวะมาทักทายแขกประจำน่ะเจ๊"
เพลินเยาะ
"มาทักทายแขกหรือมาตะกายข้างฝาเป็นหมาเห็นเครื่องบินกันแน่จ๊ะ"
สายพิณพยายามระงับอารมณ์โกรธ
"อันนั้นคงเป็นเด็กเจ๊มากกว่า เพราะนางฟ้าอย่างพิณคงไม่ต้องตะกายข้างฝาก็อยู่บนฟ้าคู่ควรกับเครื่องบินอยู่แล้ว"
เพลินยียวน
"เหรอ งั้นก็ฝันเข้าไปนะ ฝันให้เยอะ ๆ เผื่อวันนึงเครื่องบินจะตกใส่หัวหมาอย่างหล่อน"
สายพิณโกรธสะบัดหน้าเดินหนีไป เพลินยิ้มเยาะด้วยความหมั่นไส้ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงจูนร้องโหยหวนออกมา เพลินหันไปเห็น เอพริล เมย์ช่วยกันประคองจูนออกมา กฤษณ์กับอ๋องตามออกมาด้วย
"ไปที่รถผม เดี๋ยวผมพาไปส่งโรงพยาบาล"
"ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวเมย์ให้คนที่ร้านไปส่งเองดีกว่า คุณกับเพื่อนไปสนุกกันต่อเถอะค่ะ"
สาว ๆ บ้านสุขสำราญจะประคองจูนออกไป กฤษณ์และป๋องกลับเข้าไปในห้อง เพลินเข้ามาพอดี
"มีเรื่องอะไรกัน" เพลินเห็นจูนเลือดกลบปากก็ตกใจ "ว้าย นังจูน ไปกินลาบเลือดที่ไหนมา"
"เลือดลาบที่ไหนล่ะเจ๊ หมามันแอบเอาเศษแก้วใส่กาแฟให้พวกเรากิน"
"ตายจริง ใครมันจะกล้าทำขนาดนั้น"
"จะมีใครซะอีกล่ะ ก็มีมันอยู่คนเดียวนั่นแหละ"
อ่านต่อหน้า 3
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 5 (ต่อ)
ศรีกระฟัดกระเฟียด พยายามสงบสติอารมณ์ แต่ไม่สำเร็จ หันไปบอกเพื่อนที่นั่งเล่นมือถือรอแขกเรียกอยู่
"ฝากบอกอีเจ๊มันด้วย ฉันกลับแล้ว อารมณ์ไม่ดี"
ศรีคว้ากระเป๋าถือลุกขึ้นไป ทันใดนั้นก็เห็นเอพริล เมย์ เพลิน เดินเข้ามาพอดี
"นังสารเลว"
เอพริลพุ่งเข้ามาตบหน้าศรีอย่างแรง ศรีไม่ทันตั้งตัวล้มลง เพลินสั่งสองสาว
"สั่งสอนมัน"
เอพริล เมย์ กรูกันเข้าไปตบศรี ศรีสู้ไม่ได้เพราะไม่ทันตั้งตัว สาว ๆ บ้านเสน่ห์จันทร์ที่นั่งรอแขกอยู่ร้องออกมาด้วยความตกใจจะเข้าไปช่วยศรี
ปอยร้องเรียก
"พี่ศรี"
เพลินกร้าวสั่ง
"ไม่ใช่เรื่องของพวกหล่อน หลีกไป"
บรรดาสาว ๆ กลัวเพลิน ไม่มีใครกล้ายุ่ง ศรีตั้งหลักได้
"ตกลงจะไม่จบใช่มั้ย ได้ !"
ศรีบ้าเลือดผลักเมย์ล้มหงายหลังชนโต๊ะข้าวของตกกระจาย ก่อนจะหันไปตบเอพริลอย่างแรง เอพริลโกรธตบกลับ ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกัน เพลินเห็นอย่างนั้นเข้าไปจิกหัวศรีกระชากมาตบ เมย์ที่ถูกตบเจ็บใจ ตามเข้าไปช่วยซ้ำ ศรีถูกรุมสามสู้ไม่ได้ แขกในร้านแตกฮือเข้ามามุงดูด้วยความสนใจ เฮียหมา พริ้งเดินผ่านมาพอดี ถามด้วยความไม่พอใจ
"มีเรื่องอะไรกันอีก"
ในห้องทำงานของเฮียหมา พริ้งถามศรีด้วยความไม่พอใจ
"นี่หล่อนกล้าทำขนาดนี้เลยเหรอนังศรี"
ศรีเถียงปากคอสั่น น้ำตาคลอเพราะไม่มีใครเชื่อ
"ฉันไม่ได้ทำน่ะเจ๊ ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นตลอด ไม่เชื่อก็ถามอีพวกมันดูสิ"
ศรีหมายถึงสาว ๆ บ้านเสน่ห์จันทร์ที่นั่งรอจับแขกอยู่
"พวกเดียวกัน ก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว" เอพริลบอก
"แล้วเศษแก้วไปอยู่ในกาแฟฉันได้ไง"
"ปากเสียอย่างพวกหล่อน คงมีผีอยากช่วยเจาะปากมั้ง" ศรีบอก
เฮียหมาเข้าประนีประนอม
"จะกล่าวหาใครมันต้องมีหลักฐานนะเอพริล เมย์"
"หลักฐาน? ก็ที่มันโกรธพวกเราเรื่องคุณกฤษณ์ไงเฮีย"
ศรีโกรธสุดขีด เถียงฉอด ๆ น้ำตาคลอเหมือนคนบ้าเลือด
"แล้วไม่สมควรหรือไง มีอย่างที่ไหนจับแขกไม่ได้ แล้วยังมีหน้ามาแต่งเรื่องโกหก... เฮียก็เหมือนกัน แทนที่จะให้ความยุติธรรม แต่กลับปล่อยให้พวกมันเป่าหูอยู่ได้"
เพลินถาม
"หล่อนว่าใครเป่าหู หา ! อีศรี"
"ว่าหล่อนนั่นแหละ ทั้งดำทั้งย่น ยังกะเห็ดหูหนูไม่รู้เฮียไปรักไปหลงมันได้ไง"
"แอร๊ย... อีศรี"
เพลินโมโหปราดเข้าไปจะตบศรี ศรีไม่ยอมจะเข้าไปเอาเรื่อง พริ้งเข้ามาขวาง
"หยุดได้แล้วนังศรี เลิกทำตัวเป็นหมาบ้าซะที" พริ้งบอก
ศรีหันมาด่าพริ้ง
"เจ๊ก็เหมือนกันเป็นผู้ใหญ่ของร้านซะเปล่า แทนที่ช่วยปกป้องพวกฉัน แต่กลับปล่อยให้พวกมันเอาเปรียบ ระวังเถอะวันหนึ่งจะถูกมันแย่งผัว"
"ฉันบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้นังศรี"
"ฉันไม่หยุด"
พริ้งบันดาลโทสะ ตบหน้าศรีอย่างแรง ศรีตกใจไม่คิดว่าจะถูกตบหันขวับกลับมาถามพริ้งอย่างคิดไม่ถึง
"นี่เจ๊ตบหน้าฉันเหรอ"
"ถ้ายังไม่รู้สึก จะเอาอีกทีมั้ย"
พริ้งทำท่าจะตบศรีอีก ศรีน้อยใจร้องไห้ออกมา
"เจ๊ก็ดีแต่เข้าข้างพวกมัน ไม่เคยสนใจความรู้สึกฉันเลย"
ศรีวิ่งร้องไห้ออกไปด้วยความน้อยใจ ส่วนพริ้งเองก็รู้สึกผิดเช่นกัน เพลินไม่ยอมลดละเข้ามาสุมไฟต่อ
"เห็นอิทธิฤทธิ์เด็กหล่อนแล้วใช่มั้ย ถ้าไม่จัดการ เรื่องนี้ถึงหูเจ๊พิศแน่"
"ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่าฝันไปเลย"
พริ้งพูดเสร็จก็เดินกระแทกไหล่เพลินออกไป เพลินฟ้องเฮียหมาทันที
"พี่หมาดูสิ ให้ท้ายกันอย่างนี้นี่เอง เด็กมันถึงได้ใจ"
"ก็ไม่มีหลักฐานจะให้เฮียทำยังไง"
"แต่พวกฉันไม่เคยมีเรื่องกับใครนอกจากมันสองคนนี่แหละ"
"มันสองคนเหรอ หรือว่าจะไม่ใช่นังศรี"
เพลินเอะใจ นึกย้อนไปตอนที่เห็นสายพิณทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าห้อง ก็รู้ได้ในทันทีว่าเสียรู้สายพิณแล้ว
"นังสายพิณอยู่ไหน"
สายพิณรู้เรื่องทั้งหมดจากกฤษณ์ก็แกล้งทำเป็นตกใจ จีบปากจีบคอพูด
"คุณพระช่วย คิดแล้วเชียวต้องเป็นแบบนี้"
"พิณรู้เหรอครับว่าเป็นฝีมือใคร"
"พิณไม่ทราบหรอกค่ะ แต่ที่พิณไม่แปลกใจเพราะ 3 คนนั่นชอบมีเรื่องแย่งแขกกับคนอื่นเป็นประจำ ดูอย่างเมื่อกี๊สิคะ พิณกับศรียังถูกไล่ออกมาเลย"
"อ้าว พิณไม่ติดแขกโต๊ะอื่นอยู่เหรอครับ"
"ถ้าติดแขกจะมานั่งคุยกับคุณได้ยังไง แต่ที่พิณยอมเพราะไม่อยากมีเรื่อง กลัวจะโดนเหมือนวันก่อนอีก"
สายพิณทำตัวน่าสงสาร
"เหมือนวันก่อน"
"อุ๊ย ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มีอะไรจริง ๆ พิณขอตัวก่อนนะคะ"
สายพิณทำเป็ฯกลัวแล้วทำท่าจะลุกขึ้น
"ทำไมครับ มีใครขู่อะไรหรือเปล่า" อ๋องถาม
"ไม่มีค่ะ" แล้วสายพิณก็แกล้งทำเป็นปล่อยโฮออกมา
กฤษณ์ตกใจรีบเข้าไปปลอบ
"มีอะไรก็พูดมาเลยพิณ ไม่ต้องกลัว"
สายพิณแกล้งสำออย
"พิณกลัวค่ะ คุณกฤษณ์จำวันที่เราเจอกันครั้งแรกได้หรือเปล่าคะ"
"ครับจำได้"
"วันนั้นหลังจากที่พิณกับพี่ศรีกลับมาจากคอนโดคุณ ก็ถูกสามคนนั่นดักทำร้าย หาว่าพวกเราไปแย่งคุณ นี่ค่ะ ยังมีรอยช้ำอยู่เลย"
สายพิณเปิดคอเสื้อให้กฤษณ์ดูบริเวณเนินอก ไม่เห็นรอยช้ำใด ๆ แต่พอเห็นนมพวกผู้ชายก็กลืนน้ำลายเฮือก เชื่อสนิทใจ โดยเฉพาะอ๋องตาโตเป็นไข่ห่าน
"แต่วันนั้นเราเป็นฝ่ายเลือกคุณเองนี่ครับ"
"ใช่ค่ะ แต่สามคนนั้นเป็นขาใหญ่ของที่นี่ จะทำอะไรก็ได้ ...พิณกลัวค่ะ พิณไม่อยากพูดถึงมันอีกแล้ว" สายพิณแกล้งบีบน้ำตาร้องไห้ไม่หยุด
"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ น่าจะบอกผมตั้งแต่แรก"
"พิณไม่อยากทำให้คุณไม่สบายใจ"
สายพิณร้องไห้กระซิก ๆ ดูน่าสงสาร
"อย่าร้องไห้สิครับ ในเมื่อสาเหตุมาจากพวกผม ผมก็คงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้"
"อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ ถ้าเฮียรู้ สามคนนั้นก็คงจะถูกคาดโทษ พิณไม่อยากเห็นใครเดือดร้อนเพราะพิณอีกแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ"
สายพิณพูดจบลุกเดินออกไป
สายพิณปิดประตูห้อง ก่อนจะพูดกับตัวเองอย่างลำพอง
"พอเห็นนมเข้าหน่อยก็เชื่อกันเป็นตุเป็นตะ คราวนี้ได้ตกถังข้าวสารแน่ อีสายพิณ"
สายพิณยิ้มเยาะ ก่อนจะเดินออกมาอย่างย่ามใจ ทันใดนั้นก็เห็น เพลิน เอพริล เมย์เดินเข้ามาพอดี
"อีนังสารเลว"
เอพริลเปิดฉากปราดเข้าไปตบหน้าสายพิณอย่างแรง
"ลอบกัดแล้วยังหน้าด้านมาแอบกินของคนอื่นอีก"
เมย์ปราดเข้าไปช่วยเอพริลตบซ้ำ
"ดี ตอแหลดีนัก เอามันให้ตายเลย" เพลินบอก
สายพิณไม่สู้ ได้แต่ปัดป้องตัวเอง ร้องขอความช่วยเหลือ
"อย่าทำพิณเลย พิณกลัวแล้ว ช่วยพิณด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
ทันใดนั้นกฤษณ์ที่อยู่ในห้องก็เปิดประตูออกมา
"พิณ "
เอพริล เมย์เห็นกฤษณ์กับเพื่อนก็ตกใจ รีบผละออกจากสายพิณ
"คุณกฤษณ์"
กฤษณ์ พาสายพิณ เอพริล เมย์ เพลินมาเคลียร์กันต่อหน้าเฮียหมา
"ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย"
เอพริลบอก
"คุณกฤษณ์กำลังเข้าใจผิดนะคะ พวกมันต่างหากเป็นคนเริ่มก่อน"
"เมื่อกี๊ก็บอกว่าศรี คราวนี้ก็บอกว่าสายพิณ เอายังไงแน่" หมาว่า
"ก็มันสองคนรวมหัวกัน"
"แต่พิณไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะคะ"
เอพริลสวนแรง
"ไม่ต้องมาตอแหล"
กฤษณ์ถามฃ
"แล้วที่พวกคุณไปรุมทำร้ายพิณเมื่อวันก่อนล่ะ"
"นี่หล่อนไปฟ้องอะไรคุณกฤษณ์" เอพริลว่า
พิณแกล้งทำเป็นกลัว
"พิณเปล่าฟ้องนะคะ"
กฤษณ์สวน
"ผมเป็นคนขอให้พิณเล่าเอง หรือคุณจะปฏิเสธว่ามันไม่จริง"
เอพริล เมย์มองหน้ากันอึกอักไปมา เพลินเห็นท่าไม่ดีเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ประนีประนอม
"เจ๊ว่าใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ มีอะไรค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากัน น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด
กันมากกว่า"
กฤษณ์บอก
"เข้าใจผิดแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายคนอื่นนะครับ"
"เจ๊เข้าใจ แต่ที่นี่มีกฎห้ามแย่งแขกกัน ใครล้ำเส้นมันก็จะวุ่นวายอย่างนี้แหละ"
"แต่ว่าผมเลือกด้วยความสมัครใจไม่ได้ถูกใครบังคับ หรือว่าที่นี่มีกฎห้ามเลือกเด็กเองครับ"
"มันไม่มีกฎที่ว่าหรอก" หมาบอก
"งั้นก็แสดงว่าเป็นสิทธิ์ของผม ผมจะเลือกไปกับใครก็ได้ใช่มั้ยครับ"
"ครับ"
"งั้นผมเลือกพิณ" กฤษณ์เน้นอย่างหนักแน่น "เลือกพิณคนเดียว เพราะผมไม่ชอบพวกก้าว ร้าวรุนแรง พูดจาใส่ร้ายคนอื่น ไปพิณ เดี๋ยวผมพาไปส่งบ้าน"
กฤษณ์พูดเสร็จฉุดมือสายพิณลุกขึ้น เอพริล เมย์ถึงกับอ้าปากหวอเพราะคิดไม่ถึง
"แล้วนะ จะได้จบซะที"
สายพิณแกล้งทำเป็นสำออยเจ็บขา
"โอ๊ย"
"เป็นอะไรหรือเปล่า" กฤษณ์ถาม
"สงสัยเจ็บขาตอนที่ล้มเมื่อกี๊"
"เดี๋ยวผมช่วย"
กฤษณ์เข้ามาช่วยประคองสายพิณ สายพิณแอบหันไปยิ้มเย้ย เอพริลปรี๊ดแตก
"อีนังตอแหล"
เอพริลปราดจะเข้าไปตบสายพิณอีก สายพิณแกล้งทำเป็นกลัวกอดกฤษณ์แน่น
"ช่วยพิณด้วยค่ะคุณกฤษณ์"
เมย์ เพลินเข้าไปดึงตัวเอพริลออกมา
"อย่าเอพริล/ใจเย็น ๆ"
กฤษณ์ประคองสายพิณออกไป เอพริลเจ็บใจ
"ก็ดูมันทำสิ"
"แล้วจะดิ้นทำไม ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเข้าทางพวกมันสิ"
"ไม่รู้ล่ะ ฉันไม่ยอมให้เรื่องมันจบง่าย ๆ อย่างนี้แน่"
เฮียหมามองเอพริล พลางส่ายหน้าอย่างระอาใจ
อ่านต่อหน้า 4
แม้เลือกเกิดได้ ตอนที่ 5 (ต่อ)
กฤษณ์พาสายพิณมาที่รถจะพาไปส่งบ้าน สายพิณออดอ้อนกฤษณ์
"พิณขอโทษนะคะคุณที่ให้คุณกับเพื่อน ๆ ต้องพลอยหมดสนุกกันไปด้วย"
"ไม่ใช่ความผิดของพิณหรอกครับ"
"แต่คุณต้องมาเดือดร้อนเพราะพิณ"
"บอกแล้วไงครับ สาเหตุมาจากผม ผมก็คงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้"
"คุณกฤษณ์ใจดีจังเลย พิณคงไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณนอกจาก..."
สายพิณมองกฤษณ์อย่างเย้ายวน ก่อนจะเข้าไปจูบ กฤษณ์จูบตอบอย่างเร่าร้อนรุนแรง
เช้าวันต่อมา ใบพรกับต้อยถือของเยี่ยมเดินมาตามทางเดินในโรงพยาบาล และตรงมายังห้องฉุกเฉิน
ต้อยบอก
"ยอมเปิดหน้า ผ่าข้าง ผ่าหลังหน่อยเถอะพร เห็นไหม ติ๊บเยอะกว่าใครเพื่อนเลย"
"มันน่ารังเกียจนะ พรโดนจับก้นตั้งหลายที เกือบเอาเบียร์สาดหน้าเสี่ยนั่นแล้วนะ" ใบพรบอก
"มโนเอาก็ได้นะพร แตะไป จับไป ขยำไปก็เท่านั้น ก็แค่กาย แต่ใจเรายังประเสริฐ ยังบริสุทธิ์อยู่นะ"
ใบพรยิ้มออกมาได้
"เชื่อแล้วละ"
"เชื่อไร"
"ต้อยคือนางฟ้าของฉันไง"
"จ๊า....แม่ใบพร แม่พรก็แม่พระของต้อยเหมือนกัน"
สองสาวหัวเราะ เลี้ยวเข้ามาในห้อง แล้วตะลึงไป เพราะเตียงว่างเปล่า
"แม่....แม่ไปไหน"
สองสาวตรงไปหาพยาบาล ใบพรละล่ำละลัก
" คุณพยาบาลคะ แม่ฉันไปไหน แม่ฉันไปไหน"
วิไลนอนอยู่บนเตียงด้วยอาการโคม่า หมอบอกใบพรและต้อยที่ยืนฟังอยู่อย่างตั้งใจ
"เมื่อเช้า คนไข้มีอาการช็อก สาเหตุจากลิ่มเลือดอุดตัด ทำให้คนไข้หมดสติไป"
"แล้วแม่จะฟื้นเมื่อไหร่คะคุณหมอ"
"หมอตอบไม่ได้ อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยหรือไม่ก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอดชีวิต"
ใบพรใจเสียจะร้องไห้
"แต่เมื่อวานแม่ยังดีอยู่เลยนะคะคุณหมอ"
"มันเป็นเหตุสุดวิสัยครับ หมอพยายามสุดความสามารถแล้ว ขอโทษด้วยครับ"
หมอพูดจบเดินออกไป ใบพรถึงกับเข่าอ่อนจะเป็นลม
"ใบพร"
ต้อยเข้าไปประคองเพื่อนรักไว้ได้ทัน
ณ บ้านสุขสำราญ เอพริลถือจานอาหารและน้ำเข้ามาในห้อง จันทร์ฟองนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ที่ฟูก ครั้นเห็นเอพริลก็รีบกระเถิบร่างไปชิดผนังอย่างหวาดกลัว
"ออกไป อย่ามายุ่งกับฉันนะ"
"ไม่ทำอะไรแกหรอกน่า เอาข้าวมาให้แกกิน กินซะ" เอพริลบอก
"ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้ ให้ฉันไป"
เอพริลดูแขนของ จันทร์ฟอง เห็นรอยเข็ม เอพริลปลง
"มันให้ยาฉีดแกขนาดนี้ ถึงแกไป แกก็ต้องอยากยา แล้วก็ซมซานกลับมาที่นี่อยู่ดีแหละ"
"แล้วฉันจะทำยังไง"
"ยอมขายตัวซะ แกจะไม่โดนทำร้ายอีก"
"ไม่ ไม่ทำ"
เอพริลดึงแขนเสื้อของเธอขึ้น เห็นแผลจากบุหรี่จี้ยังเป็นรอยจาง ๆ อยู่
"เห็นแผลนี่ไหม อีแม่มันเอาบุหรี้จี้ฉัน แค่ฉันทำงานไม่เข้าเป้า ที่นี่เขาเลี้ยงกันแบบนี้ ถ้าแกไม่อยากโดนจัดหนักจัดเต็มกว่านี้ ยอมเถอะว่ะ"
จันทร์ฟองน้ำตาไหลพราก
"กินข้าวซะ แล้วตัดสินใจดี ๆ"
สุวรรณเดินเข้ามา
"เฮ้ย เอพริล พี่เพลินพานังจูนกลับมาแล้ว ไปรับหน้าแม่เร็ว"
"จ๊ะพี่"
เอพริลรีบออกไป สุวรรณมองมาที่ จันทร์ฟองที่เบือนหน้าหนี
"น้องจันทร์ รอพี่สุวรรณนะ ไม่พ้นคืนนี้หรอก น้องเป็นของพี่แน่"
สุวรรณหัวเราะแล้วออกไป จันทร์ฟองหลับตาลงราวกับจะลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
เพลิน เมย์ช่วยกันประคองจูนที่ร้องโอดโอยนอนลงบนเตียง แก้มข้างหนึ่งของจูนบวมตุ่ย เอพริลเข้ามาสมทบ สุวรรณตามมา นางพิศมองสภาพจูนด้วยสายตาอำมหิต
"เย็บเกือบ 10 เข็มพี่พิศ" เพลินบอก
"เด็กอีละม่อมมันกล้าทำขนาดนี้เลยเหรอ"
เมย์บอก
"ทำแบบนี้มันเยี่ยวรดหน้ากันชัด ๆ แม่ต้องจัดการให้พวกฉันนะ"
"พวกมันคงลำพองใจ ชนะแม่มาแล้วครั้งนึง ครั้งนี้เด็กของมันก็คงชนะพวกเราได้อีก" เพลินว่า
เพลินพูดจี้ใจดำ พิศลุกขึ้นแล้วจิกผมเพลินจนหน้าหงาย
"อีเพลิน มึงพูดอะไร มันชนะอะไรกู"
"ปละ เปล่าจ๊ะพี่พิศ"
"ถ้ามึงหมายถึงท่านไกรวิทย์ กูไม่เคยแพ้มัน"
พิศผลักหัวเพลินเซไป ทั้งหมดนิ่งงันไป เพลินน้ำตาซึม
"อย่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ไม่งั้นมึงจะไม่มีลิ้นไว้พูด"
"จ๊ะ"
มุมตัดชุดโชว์ บ้านเสน่ห์จันทร์ ละม่อมกำลังเย็บเสื้อผ้าชุดโชว์ของพวกสาว ๆ รู้เรื่องทั้งหมดจากพริ้ง ถามพริ้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"แน่ใจนะแม่พริ้งว่าเป็นฝีมือคนของเราจริง ๆ"
"สายพิณคงไม่เกี่ยว แต่ที่แน่ ๆ เป็นฝีมือนังศรีชัวร์" พริ้งว่า
"แต่เท่าที่ฉันรู้จัก ศรีไม่ใช่คนแบบนั้น ถึงจะเจ้าอารมณ์ ทำอะไรไม่ค่อยคิด แต่ก็
เป็นคนตรงไปตรงมา รู้สึกยังไงก็แสดงออกอย่างนั้น ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นหรือลอบกัดใคร"
"ก็เพราะเจ้าอารมณ์ ทำอะไรไม่ค่อยคิดนี่แหละปัญหา ฉันเตือนแม่ตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่ารับมันมาก็ไม่เชื่อ แล้วเป็นไงล่ะ ถ้าไม่ปรามมันซะบ้าง ต่อไปก็คงไม่มีใครเอาอยู่"
"ฉันมอบหมายให้แม่พริ้งดูแลแล้ว งั้นก็แล้วแต่แม่พริ้งแล้วกัน"
ทันใดนั้นปอยก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
"แม่ ๆ เกิดเรื่องแล้ว"
ละม่อม พริ้ง กึ่งเดินกึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา พอเห็นพิศยืนหันหลังอยู่ก็ไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"พิศ"
พิศที่ยืนอยู่กับเพลิน สุวรรณ หันมา
บริเวณโถงกลางบ้านเสน่ห์จันทร์ พิศเดินเข้ามาประจันหน้าละม่อม พูดด้วยน้ำเสียงลีลาท่าทางแบบเหยียดหยามกันสุด ๆ
"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่รู้ว่าสันดานลักกินขโมยกินยังเหมือนเดิมหรือเปล่า"
พริ้งพูดลอย ๆ
"ฉี่รดไว้สิจะได้รู้ว่ามีเจ้าของ"
"หุบปากอีพริ้ง"เพลินตะคอก
ละม่อมพูดนิ่ม ๆ แต่ไม่ยอม
"มีคนอยู่ 2 ประเภทที่ชอบพูดถึงแต่เรื่องเก่า ๆ คือพวกขี้แพ้กับคนแก่ ไม่รู้ว่าแม่พิศเป็นคนประเภทไหน หรือว่าทั้งสอง"
พิศโกรธแต่พยายามระงับอารมณ์ ยิ้มเยาะ
"หึ อย่างที่โบราณว่าไว้ สันดอนขุดได้แต่สันดานขุดยาก"
"งั้นก็ช่วยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้าง จะได้รู้ว่าไม่ต่างกัน"ละม่อมว่า
"อีละม่อม" พิศกรี๊ด
ละม่อมสวนแรง
"มีอะไรว่ามา ก่อนฉันจะให้คนเฉดหัวหล่อนออกไป"
"ถ้าเด็กของหล่อนไม่ไปก่อเรื่องไว้ ฉันก็คงไม่มาเหยียบที่นี่ให้เป็นเสนียดหรอก" พิศบอก
"รู้ว่าเสนียดแล้วมาเหยียบทำไมหรือว่าชอบเล่นกับของสกปรก"
"ปากดีเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด"
"ถ้ามีดีแค่ปากก็คงเอาชนะหล่อนไม่ได้หรอก จริงมั้ย"
พิศเจ็บใจ สวนแรง
"ตกลงจะไม่รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นใช่มั้ย"
"เรื่องของเด็กก็ปล่อยให้เด็กมันจัดการกันเอง อย่าให้เด็กมันมาถอนหงอกทีหลัง"
"ก็ได้ถ้าหล่อนไม่จัดการก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนแล้วกัน ... คงรู้นะว่าแกต้องทำอะไรต่อไป"
พิศ เพลินเดินออกมาไป สุวรรณหันมายิ้มเหี้ยมทำท่าเชือดคอ ละม่อมเห็นท่าไม่ดีรีบรั้งไว้
"เดี๋ยว"
พิศหันมายิ้มอย่างเป็นต่อ
ละม่อมเรียกศรีมาเคลียร์กับทุกคน ศรีโวยวายด้วยความไม่พอใจ
"ฉันไม่ได้ทำนะแม่" ศรียืนยัน
"แล้วนังอีกคนอยู่ไหน" พิศถาม
พริ้งบอก
"สายพิณไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้" บอกกับศรี "ขอโทษแม่พิศซะเรื่องจะได้จบ ๆ"
"ฉันไม่ได้ทำ จะให้ฉันขอโทษได้ไง"
"แล้วที่เดือดร้อนกันทั้งบ้าน ไม่ใช่เพราะหล่อนเหรอนังศรี"
"แต่ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ นะ"
"ปากแข็ง ถ้าไม่เคารพกันก็อยู่บ้านนี้ไม่ได้"
ศรีโอดขอให้ละม่อมช่วย
"แม่"
ละม่อมตะคอกศรีด้วยเสียงอันดังมีอำนาจ จนทุกคนตกใจ
"ฉันบอกให้ขอโทษแม่พิศเดี๋ยวนี้"
ศรีน้ำตาคลอเพราะไม่เคยถูกละม่อมตวาดอย่างนี้มาก่อน พูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง น้อยใจ
"ถ้าแม่คิดว่าฉันเป็นคนผิดก็ได้...ฉันจะขอโทษ แต่ไม่ใช่เพราะฉันเป็นคนผิด แต่เพราะแม่มีพระคุณกับฉัน ... ฉันขอโทษ"
"ไม่ใช่ตรงนี้"
พิศบอกแล้วกระดิกเท้ารอ ทุกคนอึ้งเพราะไม่คิดว่าพิศจะทำกันขนาดนี้ ศรีโกรธ
"อย่างนี้มันหาเรื่องกันชัด ๆ"
พริ้งสุดทน สวนอย่างแรง
"หยุดทำตัวเป็นหมาบ้าซะทีนังศรี ขอโทษเค้าเดี๋ยวนี้ ฉันบอกให้ขอโทษ ขอโทษเดี๋ยวนี้"
พริ้งโมโหเข้าไปทุบตีศรีให้คุกเข่าลงกราบขอโทษพิศแทบเท้า
"โอ๊ย ฉันเจ็บนะเจ๊ ฉันเจ็บ"
ศรีได้แต่ปัดป้อง พริ้งน้ำตาไหลออกมาเพราะเจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่จำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
"เจ็บก็ขอโทษซะสิ หรือว่าศักดิ์มันค้ำคอหล่อนมากถึงขอโทษคนอื่นไม่เป็น จะต้องให้ตายกันไปข้างนึงก่อนใช่มั้ย หล่อนถึงจะขอโทษเป็น"
"ฉันยอมแล้วเจ๊ ฉันยอมแล้ว"
พริ้งรามือ ศรีทรุดกองอยู่กับพื้นค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปกราบขอขมา พิศ เพลิน เอพริล เมย์ สุวรรณ มองด้วยความสะใจ ละม่อม พริ้งเบือนหน้าหนีไม่อยากมอง
สาว ๆ บ้านเสน่ห์จันทร์มี แบม ปอย เชอรี่ ส้มแอบมองศรีอยู่ด้วยความสงสาร
อ่านต่อตอนที่ 6