ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 23
จอมนางชะเง้อรอปู่อยู่ตรงระเบียงบ้าน แต่เห็นโก๊ะขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาคนเดียวก็แปลกใจ
“ปู่ล่ะโก๊ะ”
โก๊ะพูดยิ้มๆ “มอเตอร์ไซค์ซ้อนสี่ไม่ได้ เลยนั่งสองแถวกลับมากันจ้ะ”
จอมนางฉงน “ซ้อนสี่? ใครมาด้วยน่ะ”
สักครู่ฟ้าประทานกับตุ้มช่วยกันประคองครูเทียมเดินเข้ามา
จอมนางดีใจมาก ตะโกนบอกคนในบ้าน “พี่กระแต ฟ้าประทานกับตุ้มกลับมาแล้ว”
ตุ้มยิ้มชื่น ดีใจได้กลับบ้านเทียมฟ้า ขณะที่ฟ้าประทานมีสีหน้าเป็นกังวล กลัวถูกคนในบ้านต่อว่า
กำจาย โก่ง และกระแตวิ่งออกมาดู พอเห็นฟ้าประทานกับตุ้มก็ยิ้มแฉ่ง ดีใจมาก
กระแตเข้ามาจับไม้จับมือตุ้ม “คิดถึงแกจังเลยตุ้ม”
“ไม่มีใครเป็นคู่กัดแกล่ะสิ” ตุ้มเย้า
กระแตค้อนควัก “ย่ะ ชั้นเหงาปาก”
“หลบไปนอนไหนมากันวะ”
ฟ้าประทานตอบคำถามกำจายว่า “อาศัยวัดครับ”
“น้ำท่าแทบไม่ได้อาบ เสื้อผ้าก็มีอยู่ชุดเดียว ใส่มาหลายวันแล้ว” ตุ้มบอก
กำจายแซว “มิน่าล่ะ กลิ่นตุ่ยๆ”
“ตัวชั้นเหม็นมากใช่มั้ยน้า”
ตุ้มแกล้งกอดกำจายแน่น ให้กำจายดมกลิ่นเหม็นจากตัว
“นังตุ้ม ข้ายังเหม็นไม่สะใจว้อย อยากเหม็นเป็นสองเท่า มานี่ไอ้ฟ้าประทาน”
กำจายดึงฟ้าประทานมากอดอีกคน กอดให้หายคิดถึงพวกมันสองคน
“ข้าคิดถึงพวกเอ็งวะ”
ฟ้าประทานมองทุกคน เห็นสายตาแต่ละคนที่มองมาเต็มไปด้วยความรักความห่วงใยเปี่ยมล้น ฟ้าประทานตื้นตัน คนบ้านเทียมฟ้ายังรัก แม้เขาทำตัวไม่ดีด้วยสารพัด
“ผมจะปรับปรุงตัว เป็นลูกศิษย์ที่ดีของครูเทียม เป็นหลานที่ดีของน้ากำจาย เป็นพี่เป็นน้องที่ดีของจอม กระแต พี่โก่ง แล้วก็โก๊ะ”
“เข้าบ้านไปอาบน้ำอาบท่าลูก ห้องหับเสื้อผ้าพวกเอ็งยังอยู่ที่เดิม ข้าเก็บไว้รอพวกเอ็งกลับมา” ครูบอก
ชาวคณะพาฟ้าประทานกับตุ้มเข้าบ้าน ทุกคนยิ้มแย้มเบิกบานมีความสุข ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้า
ฟ้าประทานเข้าห้องมา เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ยังมีเสื้อผ้าของเค้าแขวนอยู่สองสามชุด
“เสื้อผ้าแกก็ยังอยู่นะตุ้ม ชั้นพับเก็บไว้ให้ในตู้”
“ขอบใจ ชั้นไปขนมาไว้ห้องฟ้าประทาน”
ครูเทียมขัดขึ้นต้องลงโทษพวกมันซะมั่ง “ใครให้เอ็งมานอนห้องฟ้าประทาน”
“ชั้นเป็น...อืม...เป็นเมียฟ้าประทาน ก็ต้องนอนห้องฟ้าประทานซีจ๊ะครู”
“พวกเอ็งลักลอบได้เสียกัน ไม่เห็นหัวข้า ข้าต้องลงโทษพวกเอ็ง จับพวกเอ็งแยกกัน ห้ามเอ็งดอดไปหากันตอนดึกๆ ด้วย” ครูแกล้งขู่
“ผมจะทำให้ถูกต้องตามประเพณี ครูผูกข้อไม้ข้อมือให้เราเป็นผัวเมียกันนะครับ” ฟ้าประทานบอก
“ข้าเป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวของพวกเอ็ง ขอข้าดูไปอีกซักหน่อย ว่าเอ็งรักตุ้มจริงไม่ทอดทิ้งตุ้มอีก แล้วข้าจะยกตุ้มให้” ชายชราเล่นแง่
“ยกให้เลยเถอะจ้ะครู” ตุ้มอ้อน
“บ๊ะนังตุ้ม เป็นผู้หญิงยิงเรือ เที่ยวเสนอตัวให้ผู้ชาย”
“มันเสนอกับสนองกันมาแรมปีแล้วจ้ะปู่” กระแตเย้าหยอก
“เอ็งสองคนจะตบแต่งกันได้ ก็ต่อเมื่อข้าอนุญาต” ครูบอกขึงขัง
“ไงล่ะ ไม่ยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เลยต้องกินยาขมแทน ฮะๆๆ” จอมนางหัวเราะขำ
ฟ้าประทานกับตุ้มหน้าเสีย ที่อดนอนห้องเดียวกัน จอมนางกับกระแตหัวเราะขำสมน้ำหน้า ส่วนครูเทียมตีหน้าดุให้ฟ้าประทานกับตุ้มเกรง
ฟ้าประทานกับตุ้มอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว สองคนหน้าตาสดใสแช่มชื่น ครูเทียมพาทั้งสองคนมาไหว้พ่อแก่ จอมนางกับกระแตจุดธูปรอไว้ให้แล้ว
“บอกกล่าวพ่อแก่ เอ็งกลับมาอยู่คณะเทียมฟ้า”
ฟ้าประทานกับตุ้มถือธูปไหว้พ่อแก่
“ผมขอขมาพ่อแก่ที่ตอนไปไม่ได้ลา ผมกลับมาครั้งนี้ จะเป็นฟ้าประทานคนใหม่ ผมได้บทเรียนแล้ว ความโลภ ทำลายชีวิตผมจนย่อยยับ ต่อแต่นี้ผมจะทุ่มเทช่วยครูเทียมอนุรักษ์ลิเกทรงเครื่อง ให้คงอยู่สืบไป”
ตุ้มไหว้ขอขมาพ่อแก่ “ขอพ่อแก่ยกโทษที่ชั้นทิ้งคณะไป เทียมฟ้ายังอยู่ในใจชั้นเสมอ ชั้นรักบ้านเทียมฟ้า รักคณะลิเกเทียมฟ้า และชั้นขอร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวเทียมฟ้าจวบจนชีวิตหาไม่”
ฟ้าประทานกับตุ้มปักธูป ก้มกราบพ่อแก่
“ตอนนี้คณะเรามีงานประจำ รำโชว์ในโรงแรมที่ตัวเมือง รายได้งามเชียวล่ะ” กระแตบอก
ตุ้มดีใจ “รำโชว์ใครจ๊ะ”
“นักท่องเที่ยว เรามีคิวไปรำโชว์อีกวันไหนจอม”
จอมนางบอกว่า “เดือนนี้เราคงต้องงดรำโชว์จ้ะ เราต้องซ้อมหนัก เดือนหน้าถึงงานประกวดลิเก
ชิงแชมป์ประเทศไทย”
ครูเทียมเห็นด้วย “จริงสิ ใกล้ถึงวันประกวดแล้ว เราพักงานก็ดี ซ้อมก่อน”
“ดีใจจังเลยนะจ๊ะฟ้าประทาน เรากลับมาทันงานประกวด”
ฟ้าประทานเกรงใจ “แต่ ครูเทียมปั้นพี่หลงเป็นพระเอกแทนผมแล้ว”
ทุกคนอึ้งไป เวลานี้คณะเทียมฟ้ามีพระเอกสองคน ใครจะได้เป็นพระเอก ฟ้าประทานหรือหลง?
เช้าวันเดียวกัน เหลียนฮัวเข้ามาหาลูกสาวในห้อง เหมยฮัวนอนซึมอยู่บนเตียง หมดอาลัยตายยาก โดนแฟนทิ้งแล้ว อาจงอยู่เฝ้าคุณหนูไม่ห่าง
“เหมยลูก ไปหาอาเทพกัน หม่าม้านัดอาเทพที่ร้านกาแฟปากซอยบ้าน 9 โมง”
เหมยฮัวไม่สนใจฟังหม่าม้า ในหัวเหมยฮัวนึกถึงแต่คำพูดผู้จัดการส่วนตัวแฟนหนุ่ม
“พีทบอกว่า ลูกในท้องเหมย... อืม... ไม่ใช่ลูกพีท” / “พีท...มีแฟนใหม่แล้ว” / “ทางค่ายสั่งให้ปิดข่าว แต่พี่คิดว่า ปิดได้ไม่นานหรอก เพราะคนนี้พีทจริงจัง อยากแต่งงานด้วย”
เหลียนฮัวเห็นลูกสาวนอนเฉยหน้าเศร้า เหมือนไม่อยากรับรู้เรื่องราวใดๆ ก็ใจหาย ครั้นพอมองถาดอาหาร ข้าวและกับข้าวไม่พร่องเลย
“ไม่กินอะไรแล้วจะมีแรงหรอลูก”
เหมยฮัวเอาแต่นอนนิ่ง
“หม่าม้าไปคุยกับอาเทพคนเดียวก็ได้ หม่าม้าจะบอกอาเทพ เหมยเสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ อาเทพต้องสงสาร ยอมแต่งงาน กู้หน้าให้เหมย ดูคุณหนูด้วยนะอาจง”
“ค่ะคุณนาย”
เหลียนฮัวมองลูกสาวอย่างสงสาร แล้วออกไป
“คุณหนูขา ลุกขึ้นมากินอะไรบ้างเถอะค่ะ ไม่ห่วงตัวเอง ก็ควรห่วงลูกในท้องนะคะ”
เหมยฮัวได้คิด เธอยังมีลูกในท้องต้องดูแล ลูบท้องตัวเอง
“ลูกจ๋า แม่ขอโทษ ลูกต้องหิวมาก”
เหมยฮัวลุกขึ้นกินข้าว ไม่ค่อยมีแรง อาจงช่วยป้อน
“อาจงรักเหมยมั้ย”
“รักซีคะ รักมาก อาจงช่วยเลี้ยงคุณหนูมา”
เหมยฮัวคิดได้ พูดให้สติตัวเอง “หม่าม้ากับเตี่ยก็รักเหมย อาจงก็รักเหมย มีคนรักเหมยอีกตั้งหลายคน ทำไมเหมยต้องโหยหาความรักจากคนที่ไม่เห็นค่าเหมย”
“ยังมีอีกคนที่รักคุณหนูมาก ลูกของคุณหนู”
เหมยฮัวก้มมองท้องตัวเอง รักลูกมาก พูดกับลูกในท้องว่า
“แม่ก็รักลูกมาก อีกไม่กี่เดือน ลูกจะลืมตาดูโลก พ่อเค้าทิ้งเราไปแล้ว ลูกเหลือแต่แม่ แม่ต้องเข้มแข็ง เป็นหลักให้ลูก”
แววตาเหมยฮัวจากอ่อนแอ โศกเศร้า เริ่มฉายแววแข็งแกร่งขึ้น อาจงดีใจ เห็นคุณหนูฮึดสู้
พงศ์เทพสลัดคราบหลงไว้ที่บางไทร เดินทางมาตามนัดคุณนายเหลียนฮัวที่ร้านกาแฟปากซอยบ้านเสี่ยเต๊ก
เวลานี้เขาซุ่มดูลาดเลาอยู่ในรถ ไม่ไว้ใจเหลียนฮัว อาจหลอกเขามาให้เสี่ยเต๊กจับตัว
เหลียนฮัวขับรถมาจอดหน้าร้านกาแฟ ก่อนจะเข้าร้านไป
พงศ์เทพเห็นเหลียนฮัวมาคนเดียว แต่ก็ยังไม่ไว้ใจร้อยเปอร์เซ็นต์
“เสี่ยกับลูกน้องอาจซุ่มอยู่แถวนี้ ต้องโทร.ไปหลอกถามคนใช้บ้านเสี่ย เสี่ยอยู่บ้านหรือเปล่า”
พงศ์เทพล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง
“ดันลืมเอาโทรศัพท์มา”
พงศ์เทพลงจากรถ เดินห่างรถไปไม่กี่ก้าว ก็หยุดยืนเหลียวมองรอบตัวอย่างระแวดระวัง เผื่อพวกเสี่ยเต๊กโผล่มาจับตัว แต่ไม่มีใครมาเลยซักคน
“คุณนายรักษาคำพูด ไม่ได้บอกเสี่ย”
พงศ์เทพเดินเข้าร้านกาแฟไป
เหลียนฮัวนั่งรออยู่ตรงมุมส่วนตัว พงศ์เทพเข้ามานั่งด้วย เหลียนฮัวหน้าตายิ้มแย้มเอาใจ ส่วนพงศ์เทพหน้าตาออกบึ้งตึงไม่พอใจต่อว่าเหลียนฮัวทันที
“คุณนายรู้ว่าผมไม่ใช่พ่อลูกในท้องลูกสาวคุณนาย แล้วคุณนายยังปล่อยให้เสี่ยไล่ล่าผม”
“อั๊วก็นัดลื๊อออกมา จะช่วยลื๊อนี่ไง อาเทพ ตอนนี้เหมยกินไม่ได้นอนไม่หลับ สุขภาพกายสุขภาพใจย่ำแย่ อั๊วล่ะห่วงลูกในท้องเหมย”
พงศ์เทพอดห่วงเหมยฮัวไม่ได้ “เสียใจแค่ไหน เหมยก็น่าจะนึกถึงลูก”
“ลื๊อห่วงเหมยมาก รักเหมยเหมือนน้องสาวแท้ๆ ใช่มั้ยอาเทพ”
“ครับ”
“พี่ชายที่ดีต้องช่วยน้อง อาเทพ ลื๊อช่วยกู้หน้า แต่งงานกับเหมยนะ”
หลงโมโห โวยใส่ “นี่เหรอครับที่คุณนายบอกจะช่วยผม”
เหลียนฮัวต้องการให้พงศ์เทพช่วย จึงเก็บอารมณ์ ไม่โมโหกลับ
“ลื๊อทำใจเย็นๆ ฟังอั๊วอธิบายก่อน” คุณนายพยายามหว่านล้อมอีก “ลื๊อแต่งกับเหมยแค่ปีเดียวก็หย่า กลัวทางเราไม่หย่าให้ ทำสัญญาก่อนแต่งงานก็ได้”
พงศ์เทพย้อน “คุณนายออกร่ำรวย จ้างผู้ชายซักคนมาแต่งงานกับเหมยซีครับ”
“ใครล่ะที่อั๊วไว้ใจได้ว่า จะไม่แบล็คเมล์ลูกสาวอั๊วหลังจากหย่า อีกอย่างผู้ชายที่เหมยแต่งงานด้วย ต้องรับบทพ่อให้ลูกเหมยไปตลอดชีวิต อั๊วเห็นลื๊อมานาน ลื๊อเป็นคนดี มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ ลื๊อเป็นผู้ชายคนเดียวที่อั๊ววางใจให้กุมความลับลูกสาวกับหลานอั๊ว”
“ขอผมช่วยเหมยวิธีอื่นนะครับ แฟนเหมยเป็นใคร ผมจะไปคุยกับหมอนั่นแบบลูกผู้ชาย ให้รับผิดชอบเหมย”
เหลียนฮัวพูดแล้วยิ่งโมโห “มันไม่ยอมรับด้วยซ้ำเป็นเหมยเป็นแฟน อาเทพ เหมยไม่มีใครแล้ว นอกจากลื๊อ ช่วยน้องนะอาเทพ อย่าให้น้องถูกตราหน้าว่าถูกทำให้ท้องแล้วทิ้ง”
พงศ์เทพเห็นใจสงสารเหมยฮัวและเหลียนฮัว แต่เขาช่วยไม่ได้
“ผมจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรักเท่านั้นครับ”
เหลียนฮัวมองแววตาจริงจังมั่นคงของพงศ์เทพก็รู้ ว่าคงไม่ช่วยแต่งงานกู้หน้าให้เหมยฮัวแน่นอน เหลียนฮัวเริ่มไม่พอใจ หน้าบึ้งใส่
“ที่ผมมาหาคุณนาย เพราะผมต้องการให้คุณนายบอกความจริงเสี่ย ผมไม่ได้ทำเหมยท้อง เสี่ยได้เลิกตามล่าผม คนใกล้ตัวได้ไม่เสี่ยงอันตราย”
“คนใกล้ตัว ลื๊อมีผู้หญิง”
“ไม่เกี่ยวกับคุณนายครับ”
เหลียนฮัวไม่ดีด้วยแล้ว ใส่อารมณ์ใหญ่ “ลื๊อไม่แต่งงานกับเหมย อั๊วก็จะปล่อยให้เสี่ยเข้าใจผิดไปเรื่อยๆ ว่าลื๊อทำเหมยท้อง ชีวิตลื๊อกับคนที่รัก ไม่มีวันเป็นสุข”
หลงโกรธ “ผมเคยคิดว่าคุณนายเหลียนฮัวเป็นคนดี แต่ที่แท้ คุณนายก็เหมือนเสี่ยใจดำ เห็นแก่ตัว”
“ลื๊อจะด่าอั๊วยังไงอั๊วไม่สน อั๊วต้องช่วยลูกก่อน”
“วิธีของคุณนาย ผมทำไม่ได้ครับ”
พงศ์เทพลุกพรวด เดินหนีออกไปจากร้านทันที เหลียนฮัวตามไปขู่
เหลียนฮัวตามพงศ์เทพมายังรถที่หน้าร้าน
“ลื๊อไม่ห่วงตัวเอง ก็ควรห่วงแฟนลื๊อ ผัวอั๊วน่ะ ลองบ้าดีเดือดขึ้นมา ทำอะไรใครก็ได้”
พงศ์เทพโกรธสุดๆ จ้องหน้าเหลียนฮัวเขม็ง
“คุณนายไปเตือนเสี่ย ลูกน้องเสี่ยไปรังแกผู้หญิงของผมอีก เราได้เห็นดีกัน คนอย่างผม บ้าเลือดขึ้นมา เสี่ยเต๊กก็เสี่ยเต๊กเหอะ”
พงศ์เทพหุนหันขึ้นรถ ขับกลับไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“เสี่ยให้คนไปรังแกแฟนอาเทพ มิน่าเล่า อาเทพมาถึงก็โมโห แทนที่จะได้คุยกับอาเทพดีๆ เสี่ยทำพังหมด”
เหลียนฮัวรีบกลับไปขึ้นรถ กลับไปเอาเรื่องผัว
พร้อมพงศ์กับเจ๋งจ้างรถเก๋งชาวบ้านจากบางไทร มาส่งที่หน้าบ้านเสี่ยเต๊ก พร้อมพงศ์ให้ค่ารถไปพันบาท
“ให้รอรับกลับบางไทรมั้ยลุง” ชายบ้านถาม
“ไม่ต้อง ลุงหารถกลับเอง”
ชาวบ้านขับรถกลับไป
เจ๋งมองหารถกะบะพี่เทพ “ไม่เห็นรถ พี่เทพไม่ได้มาหาเสี่ยเต๊ก”
“รถอาจติด เรามาถึงก่อน”
“ถนนมาบ้านเสี่ย มีอยู่สายเดียวลุง รถไม่ติด”
ระหว่างนี้เหลียนฮัวหน้าตาบูดบึ้งขับรถกลับบ้าน เพิ่งไปคุยกับพงศ์เทพมา
พร้อมพงศ์เห็น “คุณนายเหลียนฮัว หาที่หลบเร็วไอ้เจ๋ง”
สองคนรีบไปหลบหลังเสาไฟฟ้า เหลียนฮัวไม่เห็น ขับรถเข้าบ้านไป
เหลียนฮัวหน้าตาโกรธขึ้ง เดินเข้าบ้านมา ขณะเสี่ยเต๊กกำลังอ่านหนังสือพิมพ์จีน
เหลียนฮัวเปิดฉากด่าผัวทันที “อั๊วสั่งแล้ว ห้ามคนของเสี่ยจับตัวอาเทพ หรือใครทั้งนั้น เสี่ยขัดคำสั่งอั๊ว”
“ลื๊อรู้ได้ยังไง อั๊วให้ไอ้เบิ้มไอ้พลไปจับเมียใหม่พงศ์เทพ”
“เมื่อกี้อั๊วออกไปเจออาเทพ”
เสี่ยเต๊กยัวะ “มันมาถึงถิ่นอั๊ว ตอนนี้มันอยู่ไหน”
“กลับไปแล้ว อั๊วนัดอาเทพมาคุย จะขอร้องให้อาเทพช่วยแต่งงานกู้หน้าให้เหมย เสี่ยทำเสียเรื่อง อาเทพโกรธ เลยไม่ยอมช่วยเหมย”
“อั๊วไม่เกี่ยว ลื๊อทำพลาดเอง”
เสี่ยเต๊กกับเหลียนฮัวจ้องหน้ากันเขม็ง ไม่มีใครลงให้กัน
ฝ่ายพร้อมพงศ์กับเจ๋งซุ่มรอพงศ์เทพอยู่หน้าบ้านเสี่ยเต๊ก จนเจ๋งนึกได้
“เออใช่ วันนี้คุณนายเหลียนฮัวนัดพี่เทพมาคุย พี่เทพต้องมาหาคุณนาย ไม่ได้มาหาเสี่ย”
พร้อมพงศ์รีบโทร.หาลูกชาย “ไอ้เทพไม่รับ”
“คงคุยกันเรียบร้อย เพราะคุณนายกลับมาแล้ว พี่เทพก็กลับบ้านแล้วล่ะลุง”
“คุณนายอาจออกไปซื้อของ ไม่ได้ออกไปหาเทพ เราอยู่รอเทพหน้าบ้านนี่แหละ เทพมาถึง ได้ลากกลับบางไทร”
พร้อมพงศ์ชะเง้อคอรอลูกชายด้วยความเป็นห่วง
ส่วนที่โถงกลางบ้าน เสี่ยเต๊กกับเหลียนฮัวยังเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด
“มาด่าอั๊ว แล้วลื๊อล่ะ ช่วยลูกได้มั้ย ทำเป็นเก่ง ให้อั๊วอยู่เฉยๆ จะแสดงฝีมือเอง”
เหลียนฮัวโต้ “ก็ถ้าเสี่ยไม่ทำแผนอั๊วพัง อาเทพต้องใจอ่อนยอมแต่งงานกับเหมย”
เหมยฮัวเดินเข้ามาหาหม่าม้ากับเตี่ย
“เตี่ย หม่าม้า อย่าทะเลาะกันเพราะเหมยเลยค่ะ เหมยผิดเองที่รักคนผิด เอาความอับอายมาให้ครอบครัว เหมยยอมรับสิ่งที่เหมยก่อขึ้น ไม่ต้องให้ผู้ชายคนไหนมาร่วมรับผิดชอบ”
เหลียนฮัวประหลาดใจ “เหมยจะทำอะไรลูก”
เหมยฮัวมองเตี่ยกะแม่ แววตาเข้มแข็งขึ้น “เหมยจะเลี้ยงลูกคนเดียว จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ชีวิตเหมยที่เหลือต่อจากนี้ เหมยจะอุทิศให้ลูก”
“เลี้ยงลูกคนเดียว มันยากนะเหมย”
เหมยฮัวคุกเข่าลงหน้าเตี่ยกับหม่าม้า
“เหมยขอโอกาสแก้ตัวนะคะ เหมยจะเป็นแม่ที่ดีของลูก เป็นลูกที่ดีของเตี่ยกับหม่าม้า เหมยไม่สร้างความเสื่อมเสียให้วงศ์ตระกูลอีก”
เหมยฮัวร้องไห้สะอื้น เสี่ยเต๊กกับเหลียนฮัวสงสารมาก พลอยร้องไห้ไปกับลูก ช่วยกันฉุดลูกขึ้นยืน
“หม่าม้าอยากเห็นเหมยมีครอบครัวสมบูรณ์พร้อม”
“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบทุกอย่างหรอกค่ะหม่าม้า เหมยโชคดีเกิดมาร่ำรวย แต่ก็โชคร้ายที่ท้องไม่มีพ่อ เหมยทำใจ ยอมรับได้แล้วค่ะ”
เสี่ยเต๊กเสียใจมาก “แต่เตี่ยรับไม่ได้ ลูกสาวคนเดียวของเตี่ยต้องถูกสังคมดูถูกดูแคลน”
“ใครจะมองเหมยไม่ดี หรือเลวแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่าเตี่ยเข้าใจเหมย เหมยอยากเลี้ยงลูกคนเดียว อย่าจับพี่เทพมาแต่งงานกับเหมยอีกเลยนะเตี่ย”
เสี่ยเต๊กลังเล “แต่เตี่ย...”
“เหมยขอร้อง เหมยทำให้หม่าม้ากับเตี่ยเป็นทุกข์ ก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว อย่าให้เหมยรู้สึกผิดกับพี่เทพอีกคน ปล่อยพี่เทพไปนะคะเตี่ย”
เหมยฮัวมองวิงวอนเตี่ยทั้งน้ำตา
เสี่ยเต๊กใจอ่อนยวบ “ก็ได้ เตี่ยจะลืมว่ามันทำให้ลูกสาวเตี่ยเจ็บปวด กรรมใดที่ทำไว้กับเหมย เตี่ยขอให้กรรมตามสนองมันร้อยเท่า”
“หมดเรื่องพี่เทพแล้ว ครอบครัวเราก็กลับมาเหมือนเดิม เตี่ยไม่วิ่งวุ่นตามล่าใครได้อยู่บ้านกับเหมยกับหม่าม้า”
“เตี่ยจะพาเหมยไปโรงพยาบาล ไปอัลตร้าซาวน์ลูกในท้อง เตี่ยอยากรู้ จะได้อาตี๋เล็ก หรืออาหมวยน้อย”
เหมยฮัวยิ้มบอก “เหมยอยากเก็บไว้ลุ้นตอนคลอดลูกค่ะเตี่ย”
“ตามใจเหมยลูก”
เหมยฮัวยิ้มมีความสุข เตี่ยเปลี่ยนไปมาก เข้าใจและใจดีกับลูก เสี่ยเต๊กกับเหลียนฮัวเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว ทั้งที่ตัวเองก็ร้องไห้
สามคนพ่อแม่ลูกโอบกอด รักใคร่กลมเกลียวกันกว่าที่ผ่านมา
อ่านต่อหน้า 2
ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 23 (ต่อ)
ด้านหลงขับรถกลับจากกรุงเทพฯ จอดรถหน้าบ้าน ได้ยินเสียงระนาด ฉิ่ง ตะโพน ดังออกมาจากในบ้าน
“วันนี้ไม่มีรำโชว์ ทำไมถึงซ้อมลิเก”
หลงเดินเข้าบ้านไปด้วยความแปลกใจ
หลงเดินมาที่ลานหลังบ้าน เห็นฟ้าประทานกำลังซ้อมรำบทเข้าพระเข้านางกับจอมนาง หลงยิ้มอย่างยินดี ที่ฟ้าประทานกลับมาแล้ว
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะฟ้าประทาน ตุ้ม”
“ครับพี่หลง”
ฟ้าประทานหน้าเจื่อน รู้สึกแย่ที่มาแย่งบทพระเอกคืน ชาวคณะไม่มีใครกล้าบอกหลง แม้แต่ครูเทียมก็เงียบ ไม่รู้จะพูดยังไง
“ชั้นคืนบทพระเอกให้ฟ้าประทานแล้ว” จอมนางบอกเอง
“ฮึ” หลงอึ้งไป
“ปู่ให้ชั้นตัดสินใจ ฟ้าประทานกลับมาอยู่คณะ คณะจะมีพระเอกสองคนไม่ได้ชั้นให้ฟ้าประทานเป็นพระเอก พี่หลงต้องเล่นเป็นตัวอื่น ถ้าพี่ไม่พอใจ พี่จะออกจากคณะก็ได้นะจ๊ะ”
คำพูดตรงๆของจอมนางทำให้หลงอดน้อยใจไม่ได้
“จอมอยากให้พี่ไป พี่ก็จะไปครับ”
“ชั้นไม่ได้ไล่ ชั้นให้พี่เลือก”
“พี่รู้ จอมยังโกรธพี่ พี่ต้องทำยังไง จอมถึงจะเชื่อใจพี่ครับ”
“ความรู้สึกมันเสียไปแล้ว เอากลับคืนมายากจ้ะ คนอยู่บ้านเดียวกัน ต้องไว้ใจกัน ชั้นไม่รู้ พี่จะโกหกอะไรชั้นอีก ชั้นจะเชื่อถือพี่ได้มั้ย พี่จะเอาความเดือดร้อนมาให้ชั้นกับคนในบ้านอีกหรือเปล่า”
“เมื่อพี่เอาปัญหามาให้ พี่ก็จะไปจากบ้านเทียมฟ้า”
จอมนางใจหายวับ แต่ทำหน้านิ่ง ขณะที่แววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ
“อยู่ต่อก็ได้หลงเอ๊ย” ครูบอก
“เพื่อความสบายใจของจอม ของทุกคน ผมไปดีกว่าครับครู อ้อจอม พี่มาบอกจอม วันนี้พี่ไปเคลียร์กับเจ้าหนี้พี่มา ทางเค้าขู่จะทำร้ายจอม จอมต้องระวังตัวนะครับ พี่ขอโทษที่...ความรักของพี่...ทำร้ายจอม
หลงหันหลังเดินซึมไป ทุกคนมองตามด้วยความเห็นใจและเข้าใจหลง
จอมนางน้ำตารื้นขอบตา กลั้นไว้ไม่ให้ไหล
หลงหิ้วถุงใส่เสื้อผ้า เดินมาที่รถกระบะ คนบ้านลิเกมายืนส่งหลง
“ผมไปนะครับครู ขอบพระคุณที่ให้ผมอาศัยใบบุญ พึ่งพิงอยู่หลายเดือน”
“ขอให้ชีวิตเอ็งต่อจากนี้ ปราศจากพาลภัยกล้ำกราย ไม่ต้องหนีหัวซุกหันซุนอีก”
โก๊ะนั้นหน้าเศร้ามาก ไม่ให้อยากพี่หลงย้ายออก
“โก๊ะ บ้านพี่อยู่ใกล้ ๆ คิดถึงพี่ ก็ไปหาพี่เมื่อไหร่ก็ได้”
“ยังไงไม่เหมือนอยู่บ้านเดียวกันจ้ะพี่ คนเคยกิน เคยนอนร่วมบ้าน อยู่ๆ พี่ก็หายไป ชั้นใจหาย”
โก่งเอ่ยขึ้น “หลง ไหนๆ เอ็งก็จะย้ายออกไปแล้ว ข้าหายโกรธเอ็ง”
กำจายเสริม “ข้าก็ยกโทษให้เอ็ง อย่างน้อยเอ็งก็มีความดีความชอบ ช่วยเหลือคณะมาเยอะ”
“เทียบกับที่ชาวคณะช่วยเหลือผมไม่ได้หรอกครับ” หลงว่ายิ้มๆ
ฟ้าประทานเอ่ยขึ้น “ผมขอโทษที่แย่งบทพระเอกพี่คืนมา”
หลงยิ้ม “ฟ้าประทานไม่ได้แย่ง ฟ้าประทานเป็นพระเอกตัวจริง พี่เป็นพระเอกตัวสำรองขอให้โชคดีกับการประกวดนะครับ”
“ขอบคุณมากครับพี่หลง” ฟ้าประทานว่า
“ชั้นกลับมาปุ๊บพี่ก็ไปปั๊บ ดวงเราคงไม่สมพงศ์กันนะจ๊ะ” ตุ้มใจหายเช่นกัน
“พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละครับตุ้ม” หลงมองหาจอมนาง
กระแตรู้ทัน “จอมอยู่บนห้องจ้ะ”
หลงซึมลงอีก จอมนางไม่ลงมาส่ง
“ผมไปนะครับทุกคน”
หลงเดินออกมาที่รถ หันตัวเงยหน้ามองห้องนอนจอมนาง หน้าต่างเปิดอยู่ แต่ไม่เห็นจอมนาง เขาละสายตาจากห้อง ตัดใจขึ้นรถขับไป
จอมนางได้ยินเสียงรถแล่นไป หลงจากบ้านเทียมฟ้าไปแล้ว จอมนางใจหาย น้ำตาซึม
“เราไม่ควรเสียน้ำตาให้คนโกหก”
จอมนางเช็ดน้ำตาให้แห้ง ใบหน้าเศร้าสร้อยอาลัยอาวรณ์หลง
พระอาทิตย์ตกเหนือท้องนาบางไทร
พร้อมพงศ์กับเจ๋งนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างกลับบ้านเช่าตอนเย็น มองไปเห็นรถกระบะจอดอยู่ พร้อมพงศ์ดีใจมาก
“เทพกลับบ้านแล้ว”
พงศ์เทพออกมาหาพ่อกับเจ๋ง
“พ่อไปไหนมาครับ”
“ตามเอ็งไปกรุงเทพฯ พ่อกับเจ๋งซุ่มรออยู่หน้าบ้านเสี่ยเต๊กจนเย็น เห็นว่าเอ็งไม่มาแน่ ถึงกลับบางไทร”
“ผมไปคุยกับคุณนายเหลียนฮัวมาครับ”
“นั่นไง ผมบอกแล้ว ลุงไม่เชื่อ ไปรอเง็กอยูหน้าบ้านเสี่ยทั้งวัน”
พร้อมพงศ์สงสัย “คุณนายว่ายังไง จะช่วยคุยกับเสี่ยให้มั้ย”
“ช่วยสร้างปัญหาน่ะสิพ่อ จะให้ผมแต่งงานกู้หน้าให้เหมย พ่อ ผมกลับมาอยู่บ้านแล้วนะครับ”
“โดนอเปหิแล้วเหรอพี่” เจ๋งว่า
“ไอ้เจ๋ง เอ็งนี่มันวอนปากแตกได้ตลอด เข้าบ้านไป” พร้อมพงศ์ด่า
“ขอโทษพี่ ผมปากไวไปหน่อย” เจ๋งหน้าแหย เข้าบ้านไปก่อน
พร้อมพงศ์ถามลูก “ใครไล่เอ็ง”
“ไม่มีใครไล่หรอกครับ ผมออกมาเอง จอมยังโกรธผม ที่ผมโกหก”
“เอ็งทำให้เค้าเห็นความจริงใจ อีกหน่อยเค้าก็หายโกรธ” พร้อมพงศ์ปลอบ
“จอมนาง สุวรรณศิลป์ เป็นผู้หญิงที่เป็นธรรมชาติ จริงใจที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จัก ผู้หญิงแบบจอม รับผู้ชายโกหกไม่ได้หรอกครับ ผมเสียจอมไปแล้วล่ะครับพ่อ”
พงศ์เทพหรือหลงหน้าเศร้าหดหู่เหลือแสน พร้อมพงศ์มองเห็นใจลูกชายมาก ชีวิตหมดสิ้นทุกอย่าง รวมถึงผู้หญิงที่ตัวเองรัก
เช้าวันนี้ ครูเทียมเรียกประชุมชาวคณะเพื่อแจกกลอนลิเกเรื่องใหม่ โดยก่อนหน้านี้ครูให้กระแตไปซีร็อกกลอนลิเกมาแจกครบทุกคน
“เดิมที ข้าจะให้เล่นเรื่อง เกียรติศักดิ์นักสู้ ในวันประกวดชิงแชมป์แต่ข้าเห็นว่ามีเรื่องใหม่ที่สนุกไม่แพ้กัน”
จอมนางได้ตัวซีร็อกกลอนลิเกเรื่องใหม่จากกระแต พอเห็นก็ทักท้วงขึ้น
“เลือดรักสองแผ่นดิน กลอนลิเกที่ชั้นแต่งนี่จ๊ะปู่” จอมนางนึกหวั่นใจ กลัวกลอนลิเกตัวเองไม่ดีพอที่จะประกวด “ชั้นไม่อยากเป็นต้นเหตุให้คณะเราแพ้นะจ๊ะปู่”
“จอม เอ็งน่ะมีพรสวรรค์ บวกกับพรแสวง โดนปู่สั่งให้แก้แล้วแก้อีก เอ็งก็ไม่ย่อท้อ มุมานะแต่งจนจบเรื่อง อีกอย่าง เอ็งเป็นผู้หญิง ลีลากลอนของเอ็งเลยหวานกว่าปู่ ยึดแนวทางนี้เอาไว้นะลูก”
ชาวคณะอ่านกลอนลิเกของจอมนาง
ฟ้าประทานยิ้ม ชื่นชมอย่างจริงใจ “บทเข้าพระเข้านางหวานจับใจเชียวจอม”
“กลอนท้ารบของเอ็งจัดจ้านดีเหลือเกิน” กำจายบอก
โก่งเสริม “บทรบก็เร้าใจ แค่อ่านยังลุ้นตามถ้าเล่นจริงจะสนุกขนาดไหน”
ตุ้มก็ทึ่ง “คำของจอมส๊วยสวย อ่านแล้วอยากร้อง”
กระแตเป็นปลื้ม “น้องสาวพี่เดินรอยตามปู่ วันหน้าต้องเป็นครูลิเกที่เก่งที่สุดคนนึง”
จอมนางยิ้มปลาบปลื้ม คำชมจากกระแตและชาวคณะสร้างความมั่นใจให้เธอ
“เมื่อทุกคนคิดว่ากลอนลิเกของชั้นมีดีพอเล่นประกวด คณะเทียมฟ้าของเราก็จะเล่นเรื่อง เลือดรักสองแผ่นดิน”
ทุกคนเห็นด้วยไปกับจอมนาง
ด้านหลงแอบเข้ามาบ้านลิเก เห็นโก๊ะเดินออกมาจากห้อง เลยกวักมือเรียก
“โก๊ะ พี่ซื้อของมาให้จอม ฝากเอาไปให้ที” เป็นเมล็ดพันธุ์ผักในขวดโหล
“เอาไปให้เองซีพี่ พี่จะได้มีเรื่องคุยกับจอมไง” โก๊ะหน้าตาลุ้น อยากให้หลงกับจอมนางลงเอยกัน “โก๊ะขอไปห้องน้ำก่อน นะ ปวดท้องมากเลย”
หลงอมยิ้ม ได้ไปเห็นหน้าจอมนางซักนิดให้ชื่นใจก็ดี
หลงเดินเข้ามาบริเวณข้างบ้านเจอครูเทียม
“สวัสดีครับครู ซ้อมหนักเลยนะครับ”
“ตอนนี้คณะซ้อมทุกวัน เดือนหน้าก็ต้องไปประกวดชิงแชมป์”
“ถึงตัวผมไม่อยู่ แต่ใจของผมยังอยู่กับคณะเทียมฟ้าเสมอครับ”
ครูเทียมมองหลงด้วยแววตาชื่นชม
จอมนางนั่งเล่นอยู่ในศาลาริมน้ำ หลงเดินยิ้มกรุ้มกริ่มมาหา พอจอมนางหันมามองด้วยสายตาเฉยชาหลงก็หุบยิ้ม หน้าเจื่อนไป
“พี่ซื้อมาให้จอมครับ” เขายื่นซองเมล็ดพันธุ์ผักให้จอมนาง
จอมนางนิ่งไม่ยินดียินร้าย
“จอม พี่รู้ ระหว่างเรา ยากจะเหมือนเดิม พี่ขอแค่...เป็นพี่ชายของจอมได้มั้ยครับ”
“เป็นพี่ชาย ก็เป็นเหมือนเดิมซีจ๊ะ เพราะสำหรับชั้น พี่หลงไม่เคยเป็นมากกว่า...พี่ชาย”
คำพูดตัดรอนของจอมนาง ทำเอาหลงซึม จ๋อยสนิท ไม่กล้าขวนคุยต่อ เขาวางซองเมล็ดพันธุ์ผักไว้ให้ แล้วเดินคอตกออกไป
พอหลงหันหลังเดินจากไป จอมนางก็เลิกทำเป็นเย็นชา มองตามด้วยแววตารักพี่หลงเช่นกัน จอมนางหยิบซองเมล็ดพันธุ์ผักขึ้นมาเก็บไว้
ตกกลางคืนหลงนอนไม่หลับ เอาแต่คิดถึงจอมนาง หวนนึกถึงวันแรกที่เจอจอมนางขณะลงรถกะบะ เขาปิ๊งจอมนางตั้งแต่แรกพบ
จอมนางเองก็นอนไม่หลับ คิดถึงหลงเช่นกัน คืนนี้ไม่มีหลงอยู่ร่วมบ้านอีกแล้ว จอมนางซึม หวนนึกถึงครั้งแรกที่เจอกัน เธอปิ๊งหลงตั้งแต่แรกพบ
จอมนางกับหลงนอนไม่หลับกันทั้งคู่ ต่างคนต่างคิดถึงกัน
รุ่งเช้าฟ้าประทานหน้าตาสดใส ปัดเช็ดถูทำความสะอาดโต๊ะบูชาพ่อแก่ ครูเทียมเพิ่งตื่นนอน ใช้ไม้เท้าช่วยเดินมา
ครูเทียมเห็นเย้าฟ้าประทานเล่น “เอ ใช่ฟ้าประทานคนที่ข้าเลี้ยงมา ที่ชอบนอนตื่นสายโด่งหรือเปล่าหว่า”
“ผมเป็นฟ้าประทานคนใหม่แล้วครับครูต่อไปผมจะตื่นแต่เช้ามาช่วยทำงานในบ้าน”
ชายชรายิ้มอย่างพอใจ ฟ้าประทานคิดได้และปรับปรุงตัวใหม่ ครูเทียมจะจุดธูปไหว้พ่อแก่ ฟ้าประทานก็เอาธูปไปจุดให้ครู
“ขอบใจ”
ครูเทียมหลับตาไหว้พ่อแก่ ฟ้าประทานนั่งพับเพียบเงียบๆ อยู่ข้างๆ จนครูไหว้เสร็จ ฟ้าประทานก็ปักธูปให้ครู
“ฟ้าประทาน คนที่เอ็งควรดีด้วยที่สุดก็คือตุ้ม วันที่เอ็งลำบากระเหเร่ร่อนไร้รังนอนตุ้มไม่ทอดทิ้งเอ็ง”
“ที่ผ่านมา ผมเหมือนไก่ได้พลอย ไม่เห็นค่าตุ้ม ตอนนี้ผมรู้แล้วครับ ผมได้ครอบครองหัวใจผู้หญิงที่มีค่ายิ่งกว่าพลอยหายาก”
“รักตุ้มจริง เอ็งก็ต้องอดทนรอ”
ฟ้าประทานไหว้พ่อแก่ สาบานกับพ่อแก่
“ขอพ่อแก่เป็นพยาน ลูก ฟ้าประทานรักตุ้มจริง จะรอวันที่ครูเทียมอนุญาตให้ลูกแต่งงานกับตุ้มอย่างถูกต้องตามประเพณี ไม่ทำสิ่งที่ลบหลู่เกียรติยศของตุ้มอีก”
ฟ้าประทานก้มกราบพ่อแก่
ครูเทียมยิ้มชื่นมองภาพตรงหน้าอย่างปลาบปลื้ม ที่ศิษย์รักเปลี่ยนไปในทางที่ดี
อ่านต่อหน้า 3
ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 23 (ต่อ)
จอมนางตื่นแต่เช้า กำลังแกะซองเมล็ดพันธุ์ผักที่หลงซื้อมาให้เมื่อวาน เอาเมล็ดพันธุ์ผักลงปลูกในแปลงผักอันใหม่ที่พี่หลงทำให้ก่อนย้ายออกจากบ้าน
ฟ้าประทานพาครูเทียมมาเดินเล่นรับอากาศสดชื่นยามเช้ามาใกล้ๆ
“ปลูกผักแต่เช้าเลยนะจอม”
ครูเทียมเห็นซองเมล็ดพันธุ์ผัก “นั่นเอ็งแอบออกไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักมา ปู่สั่งเอ็งแล้ว ช่วงนี้ห้ามออกไปไหน”
จอมนางอึกอัก “มีคนซื้อเมล็ดพันธุ์ผักมาให้ชั้นจ้ะ”
“ใคร”
จอมนางไม่อยากพูดถึงหลง “คนรู้จักน่ะปู่ ชั้นไปล้างมือนะจ๊ะ เลอะดิน”
จอมนางเลี่ยงเข้าบ้านไป
“เมื่อวานมีคนมาบ้านคนเดียว เจ้าหลง หลงซื้อมาให้จอมเฮ้อ...จอมเอ๊ย เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง” ครูเทียมว่า
“ครูพูดแบบนี้แสดงว่าจอม...” ฟ้าประทานมองหน้าครูเทียมเชิงถาม
“ความรักของหนุ่มสาวมันช่างวุ่นวาย คนแก่อย่างข้าเห็นแล้วเวียนหัว”
ครูเทียมเดินไป ฟ้าประทานยังยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมองตามจอมนางที่เดินเลี่ยงไปทางหลังบ้าน
“จอมก็รักพี่หลง แล้วทำไมถึงไม่รั้งพี่หลงไว้”
ฟ้าประทานนึกเสียดาย อยากให้หลงกับจอมนางลงเอยกัน
ทุกคนรวมตัวซ้อมอยู่ลานบ้านตั้งแต่หลังเที่ยง จนบ่ายคล้อย ครูเทียมดูจอมนางคุมซ้อมลิเกฉากสู้รบอยู่ โดยฟ้าประทานฟันดาบกับกำจาย โก่งอยู่ฝ่ายเดียวกับฟ้าประทานฟันดาบสู้กับโก๊ะ
“ถึงตรงนี้ น้ากำจายพลาดพลั้ง โดนคมดาบของฟ้าประทาน” จอมนางบอกบท
กำจายกับฟ้าประทานเล่นตามบทที่จอมนางบอก ฟ้าประทานลงดาบตรงต้นแขนกำจาย บาดเจ็บ
“พักก่อนพวกเอ็ง ซ้อมมาครึ่งค่อนวันแล้ว โก๊ะไปตามตุ้มกับกระแตมา ข้าจะให้เงินค่าซ้อม”
โก๊ะวางดาบทันที ไปตามกระแตกับตุ้ม
“ฟ้าประทานกับกำจายเอาไปคนละ 600”
ฟ้าประทานเกรงใจ “เยอะจังครับครู”
“เอ็งสองคนรับบทหนัก ข้าให้ค่าซ้อมวันละ 300 ซ้อมมา 2 วัน ก็เป็น 600” ครูบอก “โก่ง เอ็งเอาไปวันละ 200 ของเอ็ง 400”
“ขอบพระคุณครับครู” โก่งรับเงินมาหน้าบาน
ครูเทียมให้เงินฟ้าประทานกับกำจายคนละ 600 ฟ้าประทานมองเงิน 600 บาทในมือ หมายจะเอาไปซื้อของที่อยากได้
ฝ่ายหลงยังคงเอาแต่นั่งคิดถึงจอมนาง พร้อมพงศ์เดินผ่านมาเห็นลูกนั่งท่าเดิมทั้งวัน
“ไอ้เทพ นี่เอ็งเป็นอะไรไปวะ”
“ผมคิดถึงเทียมฟ้าครับพ่อ ผมอยากกลับไปอยู่กับเทียมฟ้าครับ”
พร้อมพงศ์มองอย่างรู้ทัน
“ที่เอ็งอยากกลับไปอยู่กับเทียมฟ้าเนี่ย เพราะเอ็งติดใจที่ได้เป็นพระเอกลิเกหรือเพราะเอ็งติดใจนางเอกลิเกกันแน่วะไอ้เทพ”
หลงนิ่ง
“พ่อไปตามไอ้เจ๋ง มันไปซื้อข้าวถึงไหน ไปซะนาน พ่อหิวจนตาลาย”
พร้อมพงศ์ออกไป ทิ้งหลงให้จมอยู่ในความคิดถึงคะนึงหาจอมนางต่อไป
ฟ้าประทานเดินหน้าตายิ้มแย้ม มาที่มอเตอร์ไซค์ จะออกไปซื้อของเซอร์ไพร้ส์ตุ้ม จากเงินค่าซ้อมจากครูเทียม 600 บาท ตุ้มเดินตามออกมา
“ไปไหนจ๊ะ ชั้นไปด้วย”
“ผมจะไปซื้อของ ตุ้มอย่าไปเลย”
“ชั้นได้ค่าซ้อมจากครูเทียมมา 500 จะไปซื้อแป้งผัดหน้าที่ตลาด”
ตุ้มขึ้นนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์เสร็จสรรพ
“ผมอยากไปคนเดียว” ฟ้าประทานบอก
ตุ้มเจอประโยคนี้เข้าไป ก็หน้าง้ำน้อยใจ ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ เดินเข้าบ้านไปโดยไม่พูดอะไรอีก
ฟ้าประทานมองตามตุ้มอมยิ้มมีเลศนัย
ระหว่างนี้เจ๊ทรงงามเดินเข้าสวนมา พอเห็นก็ด่าฟ้าประทานเสียงดังลั่น “ฟ้าประทาน ยังมีหน้าอยู่บางไทรอีก”
ฟ้าประทานอึ้ง
“เราไปหาที่เงียบๆ คุยกันนะครับเจ๊”
เจ๊ทรงงามยังแค้นฟ้าประทานไม่หาย “เจ๊เตือนแล้ว ถ้ากลับมาให้เจ๊เห็นหน้า เจ๊จะแจ้งตำรวจ
ไปโรงพักกับเจ๊”
เจ๊ทรงงามจะลากฟ้าประทานไปโรงพัก
หลงเดินเข้ามามองเห็นเจ๊ทรงงามยื้อยุด ลากตัวฟ้าประทาน ก็รีบมาช่วยห้าม
“มีเรื่องอะไรกันครับเจ๊”
ทรงงามเสียงเขียว “คนอื่นอย่ายุ่ง”
“ผมเป็นพี่ชายฟ้าประทาน น้องผมไปทำอะไรให้เจ๊ไม่พอใจครับ”
หลงจ้องหน้าเจ๊ทรงงาม พูดด้วยท่าทีขึงขัง คำพูดจริงจัง
ที่ห้องโถงบ้านครูเทียมตอนนี้ เจ๊ทรงงามกำลังแฉจำนวนเงินที่ฟ้าประทานอมไปให้ครูเทียมกับจอมนางฟัง หลงตามเข้ามาฟังด้วยเพราะเป็นห่วงฟ้าประทาน
“ตอนปิดวิกเล่นลิเก ฟ้าประทานอมค่าตัวลูกคณะไปทั้งหมด 4 หมื่น แอบแก้สัญญาว่าจ้าง โกงเงินมัดจำไปอีก 6 หมื่น”
“เงินมัดจำ 6 หมื่น ผมฝากไว้ในธนาคาร บัญชีอยู่ที่เจ๊ ผมไม่ได้เอามา” ฟ้าประทานว่า
“เจ๊ไปเบิกแล้ว ธนาคารไม่ให้ ไม่ใช่เจ้าของบัญชี” อีเจ๊สวนอย่างมีอารมณ์
หลงช่วยพูดไกล่เกลี่ย “ฟ้าประทานไปเบิกเงินมาคืนเจ๊ทรงงาม”
“ครับพี่หลง”
หลงถามอีก “เงิน 4 หมื่นล่ะ เก็บไว้ที่ไหน”
ฟ้าประทาน “อ่า...ผมหมดไปกับค่าซ่อมรถครับ”
เจ๊ทรงงามขู่ “หามาใช้เจ๊ ไม่งั้นเรื่องถึงตำรวจ”
จอมนางแทรกขึ้น “อันที่จริงตอนปิดวิก ฟ้าประทานก็ทำเงินให้เจ๊ไม่ใช่น้อย หักกลบลบหนี้ไปแล้วกัน”
เจ๊ทรงงามไม่ยอม “หักเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอกจอมเจ๊ลงทุนซื้อเครื่องเสียงเครื่องไฟให้ตั้งหลายล้านพอยุบคณะเอาไปปล่อยขาย ขาดทุนเป็นแสนๆ”
ครูเทียมเอ่ยขึ้น “เงิน 4 หมื่น ครูจะรับชดใช้ให้”
ฟ้าประทานไม่ยอม “ไม่นะครับครู ผมจะหาเงินใช้เจ๊ทรงงามเอง”
“เอ็งเป็นลูกหลานข้า ลูกหลานไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ข้าก็ต้องรับผิดชอบทรงงาม ตอนนี้ครูมีเงินสดไม่ถึง 4 หมื่น เพราะช่วงนี้งดรับงาน ครูจะให้เงินได้ก็เดือนหน้า ทรงงามไม่เชื่อใจ ทำสัญญาเงินกู้ไว้เป็นประกันก็ได้”
เจ๊ทรงงามออกอาการเกรงใจและไว้ใจ “สัญญาเงินกู้ไม่ต้องจ้ะ ชั้นเชื่อคำพูดครูเทียม”
ฟ้าประทานมองครูเทียมอย่างรู้สึกผิด ที่ครูต้องมารับชดใช้เงินแทนตน
ทั้งหมดมาส่งเจ๊ทรงงามหน้าบ้าน ฟ้าประทานคอตก พูดไม่ออก นำความเดือดร้อนมาให้ครู ส่วนเจ๊ทรงงามหน้าตายังโกรธขึ้ง ไม่ยอมให้อภัยฟ้าประทาน
“เดือนหน้าครูจะโทร.ตามมาเอาเงินนะทรงงาม”
“จ้ะครู ครูเทียม ชั้นขอถามหน่อยเถอะ ครูไม่เคืองฟ้าประทานซักนิดเลยหรอ ฟ้าประทานทิ้งครู แกล้งปิดวิกชนคณะครู”
“ครูอยากให้ทรงงามเห็นหน้าตัวเองตอนนี้” ครูว่า
“หน้าชั้นเป็นอะไรจ๊ะ” อดีตแม่ยกเบอร์ 1 ของฟ้าประทานฉงน
“บูดบึ้ง ไร้ซึ่งความสุข” ครูเทียมบอก
“ก็ชั้นแค้นคนของครู” เจ๊ทรงงามมองฟ้าประทานอย่างโกรธแค้น “เจ๊รัก ทุ่มเทให้ทุกอย่าง กลับแทงข้างหลังเจ๊”
ฟ้าประทานละอายใจ ก้มหน้ามองพื้น
ครูเทียมถือโอกาสสอนเจ๊ทรงงาม “ทรงงามถามครูไม่โกรธเคืองฟ้าประทานซักนิดเลยหรอ” ครูยิ้มสุขใจให้เจ๊ทรงงามดู “คิดว่าครูโกรธมั้ยล่ะ”
เจ๊ทรงงามแปลกใจ “ครูเทียมดูมีความสุข สบายอกสบายใจ”
“เมื่อใจให้อภัย ความสุขในใจก็ออกมาทางใบหน้า เมื่อใจยิ้ม หน้าก็ยิ้ม ทรงงามอยากยิ้ม ก็ต้องทำใจให้ยิ้มด้วย”
คำสอนครูเทียมจับใจเจ๊ทรงงามนัก เจ๊มองฟ้าประทานใจก็ยังรักอยู่ เพียงแต่ความแค้นมันล้นอก เลยทำให้ไม่อยากให้อภัยฟ้าประทาน
นอกจากคำสอนครูจะทะลุทะลวงเข้าไปถึงจิตใจเจ๊ทรงงามแล้ว ยังซึมซาบเข้าไปในใจจอมนางอีกด้วย จอมนางมองหลงที่มองเธอด้วยสายตาละห้อยโหยหา
หากจอมนางให้อภัยหลง เธอเองก็จะมีความสุข ไม่ต้องซึมเศร้าทุกข์ตรมขมใจอย่างทุกวันนี้
หลังจากหลงกับเจ๊ทรงงามกลับไป จอมนางเดินมาที่แปลงผัก นึกถึงหลงขึ้นมาอีก
“เราจะให้อภัยพี่หลงได้มั้ย พี่หลงก็มีความดีอยู่มากมาย”
ความดีที่หลงเคยทำให้เธอและคนบ้านลิเก โดยเฉพาะตอนหลงต่ออุปกรณ์กล่องไฟแสงจันทร์ ให้ไฟหน้าบ้านเปิดปิดเอง จอมนางเป็นลูกมือช่วยส่งไขควงน็อตให้
“กล่องอะไรจ๊ะพี่หลง”
“เค้าเรียกไฟแสงจันทร์ พอมืด ไฟจะเปิดเอง พอแสงสว่างพอ ไฟก็ปิดเอง ช่วยประหยัดไฟ”
รวมทั้งตอนที่หลงต่อสายทำสปริงเกอร์ให้จอมนาง จะได้ไม่ต้องรดน้ำผักเองมีโก๊ะเป็นลูกมือช่วยหลง
“ไอ้สปริงเกอร์เนี่ย กินไฟมั้ยจ๊ะพี่หลง”
“นิดเดียวครับ”
จอมนางนึกถึงสิ่งดีๆ มากมายที่หลงเคยทำให้เธอ แล้วถอนหายใจ อยากให้อภัย แต่ก็ยังขุ่นเคือง
“ทำไมพี่ต้องโกหกชั้น ชั้นไม่ชอบผู้ชายโกหก”
จู่ๆ น้ำจากสปริงเกอร์ไหลออกอัตโนมัติ ไหลได้แป๊บก็หยุดไหล
“อ้าว สปริงเกอร์พี่หลงเสีย”
คืนเดียวกัน จอมนางเอาไม้กระทุ้งกล่องไฟแสงจันทร์ให้กล่องหลุดจากขั้วสายไฟ เพื่อทำให้กล่องไฟแสงจันทร์เสีย พลางตะโกนเรียก
“โก๊ะ...โก๊ะ”
โก๊ะวิ่งมาหา “มีอะไรจอม”
“กล่องไฟแสงจันทร์เสีย ขั้วหลุดต่อที”
“หึย ชั้นซ่อมไฟไม่เป็นกลัวไฟดูดตาย”
“ว้า ต้องเสียเงินจ้างช่างค่าซ่อม”
จอมนางทำเป็นเดินส่ายหัวไป เซ็ง โก๊ะอมยิ้มงานนี้ต้องไปบอกพี่หลง
จอมนางหลบมุมแอบยืนมองโก๊ พร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ รู้ว่าโก๊ะต้องเอาความไปบอกหลงแน่ๆ
โก๊ะแอบมาหาหลงที่บ้านเช่า
“ไฟแสงจันทร์ที่บ้านเสียพี่”
“พี่จะแอบไปซ่อมให้”
“แอบทำดีไม่บอกสาว แล้วเค้าจะยกโทษให้เมื่อไหร่ล่ะพี่”
“พี่หวังว่าซักวัน จอมจะหายโกรธพี่”
หลงยิ้มนิดๆ ใจยังมีความหวังอยู่เต็มเปี่ยม ว่าสักวันหนึ่งจอมนางจะยอมให้อภัยตน
หลงแอบมาซ่อมไฟแสงจันทร์ให้จอมนางกลางดึก โดยไม่รู้ว่าจอมนางแอบดูอยู่
“ใช่พี่หลงจริงๆ”
จอมนางยิ้ม รู้สึกดี ที่เห็นหลงแอบมาซ่อมนู้นซ่อมนี่ให้เธอ
หลงซ่อมเสร็จ ไฟแสงจันทร์ติด เขายิ้ม
“จอมจะรู้มั้ยว่าพี่แอบมาซ่อมให้”
หลงหันไปทางบ้าน เจอจอมนางแอบมองอยู่ ทั้งสองคนมองหน้าจ้องตากันซึ้ง ด้วยความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน
อ่านต่อหน้า 4
ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 23 (ต่อ)
ระหว่างนี้ทุกชีวิตดำเนินไปตามครรลองของใครมัน คนลิเกเทียมฟ้าคร่ำเคร่งฝึกซ้อมการแสดงที่ลานหลังบ้าน ติดต่อกันหลายอาทิตย์แล้ว เป้าหมายคือคว้าชัยการประกวดลิเกทรงเครื่องประจำปีนี้
จอมนางซ้อมบทเข้าพระเข้านางกับฟ้าประทาน ซ้อมไปจอมนางก็อดคิดถึงพี่หลงไม่ได้ ถึงขนาดเห็นหน้าฟ้าประทานเป็นหน้าหลง
แทบทุกคืน หลงเอาแต่คิดถึงจอมนาง เขามายืนตรงระเบียงบ้านเช่ามองหลังคาบ้านลิเกก็ยังดี พอคลายความคิดถึงลงได้บ้าง
ส่วนพร้อมพงศ์กับเจ๋งแฮปปี้ฝุดๆ เสื้อยืดขายดี นับเงินเป็นฟ่อน ตอนนี้พร้อมพงศ์เอาเสื้อผ้ามาวางเยอะขึ้น ส่วนแบบก็ยังเป็นไอเดียหลงหรือพงศ์เทพนั่นเอง
ฟากกระแตกับตุ้ม นั่งกินผลไม้ดองเปรี้ยวปากซี้ดซ้าด กินไปเม้าท์มอยหัวเราะคิกคักตามประสาสาวๆ คุยถูกคอ เลิกทะเลาะจิกกัดกันแล้ว
เช่นเดียวกับฟ้าประทานว่างจากการซ้อมบท ก็ออกแรงถูบ้านถูช่อง ปล่อยให้สาวๆ นั่งคุยกันไป
ถูบ้านเสร็จ พระเอกคนเคยดังก็นั่งซักผ้าในกะละมัง เห็นตุ้มเอาเสื้อผ้าตัวเองมาให้ซัก ฟ้าประทานยิ้มรับ ไม่มีอิดออดเกี่ยงงอน เต็มใจซักผ้าให้เมียรักนางร้ายหน้าระดับนางงาม โดยมีชาวคณะสามกอ กำจาย โก๊ะ โก่ง คอยมาแซว แต่มักถูกฟ้าประทานแกล้งวักน้ำในกะละมังใส่จนกระเจิงไป
เช้ามืดวันหนึ่ง จอมนางเพิ่งตื่นนอน ออกมารับอากาศสดชื่น หน้าบ้านสว่างแล้ว ไฟแสงจันทร์ปิดเอง จอมนางมองไฟแสงจันทร์แล้วประหวัดไปถึงหลงจับหัวใจ
อีกหนึ่งเดือนต่อมา จอมนางตื่นแต่เช้าระบายยิ้มเต็มใบหน้า ขณะรดน้ำแปลงผักอย่างมีความสุข ผักที่หลงเอาเมล็ดพันธุ์มาให้โตแล้ว
“ผักของพี่หลงโตแล้ว อีกเดี๋ยวก็กินได้”
ฟ้าประทานกับตุ้มเดินจับมือกันมาหา เห็นจอมนางอมยิ้มมองแปลงผัก ก็อดแซวไม่ได้
“คิดถึงเจ้าของผักซีจ๊ะจอม ยิ้มตาหวานเชียว” ตุ้มว่า
“ใครกันแน่หวาน สวีทกันได้ทั้งวี่ทั้งวันนะตุ้ม” จอมนางย้อนเอา
“เมื่อไหร่จะหายโกรธพี่หลงน่ะจอม” ฟ้าประทานถามขึ้น
“ไปนั่งเล่นที่ท่าน้ำดีกว่า” จอมนางเลี่ยงไปซะงั้น
ฟ้าประทานตั้งข้อสังเกต “จอมไม่ใช่คนใจแข็ง ทำไมถึงโกรธพี่หลงนาน นี่ก็เดือนนึงแล้ว”
“ดูจอมอ่อนลงเยอะ หายโกรธแล้วล่ะ” ตุ้มบอก
“ตุ้มรู้ได้ยังไง”
“ผู้หญิงด้วยกันดูออก จอมชอบเหม่อ คิดถึงพี่หลง เมื่อกี้ก็มองแปลงผักที่พี่หลงทำให้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”
“หายโกรธแล้วก็น่าจะไปชวนพี่หลงให้กลับมาอยู่คณะ”
ตุ้มบ่นกระเง้ากระงอด “เป็นผู้ชายก็ต้องเป็นฝ่ายมาหาสิ ไม่ใช่ให้ผู้หญิงไปหาก่อน ผู้ชายนี่เหมือนกันทุกคน ต้องให้ผู้หญิงบอก ถึงรู้ว่าต้องทำอะไร ฮึ”
ตุ้มค้อนฟ้าประทานเดินงอนพองามออกไป
“โดนหางเลขเลยเรา จอมหายโกรธพี่หลงแล้ว”
ฟ้าประทานยิ้มดีใจแทนหลง เห็นทีจะต้องไปบอกข่าวดี
ขณะที่จอมนางนั่งท่องกลอนลิเกเรื่องที่จะใช้ประกวด หลงเดินยิ้มกริ่มมาหา ท่าทีจอมนางไม่เย็นชากับหลงเหมือนเคย ยิ้มทักทายดีใจที่หลงมาหา
“ใกล้วันประกวดแล้ว ตื่นเต้นมั้ยครับจอม”
“นิดหน่อยจ้ะ”
“พี่เป็นกำลังใจให้จอมนะครับ”
“ขอบใจจ้ะ”
หลงขยับมาจนใกล้ ค่อยๆ เอาผักผูกโบว์สวยสีสวยที่ถือซ่อนไว้ข้างหลัง ยื่นให้จอมนาง
“ให้ดอกไม้ กินไม่ได้ ให้ผักกินได้ มีประโยชน์กว่า” เขาว่า
จอมนางรับผักผูกโบว์มา ยิ้มหวาน หลงเห็นรอยยิ้มนางในดวงใจ ก็ใจชื้นขึ้นเป็นกอง
“ความรักของพี่ก็เหมือนผัก อาจมีรสขมบ้าง แต่มีประโยชน์” หลงเล่นลิ้นเปรียบเปรย
จอมนางขำพี่หลง “พี่เปรียบเทียบความรักกับผัก”
“ก็เราผูกพันกันด้วยผัก ตอนอยู่บ้านจอม จอมให้พี่กินผักทุกวัน พี่เลยช่วยจอมปลูกผัก จอม ยกโทษให้พี่นะ พี่สัญญา พี่จะไม่โกหกจอมอีก”
“พี่มีเรื่องปิดบังชั้นอีกมั้ย”
“ไม่มีครับ”
“แน่นะจ๊ะ”
“พี่จะซื่อสัตย์ จริงจัง จริงใจกับจอมไปตลอดชีวิตของพี่ ให้โอกาสพี่อีกครั้งนะครับจอม”
“จ้ะ ชั้นยกโทษให้พี่หลง” จอมนางยิ้มหวาน
หลงดีใจมาก “จอม”
ชาวคณะแอบดู ลุ้นอยู่ ร้องเฮลั่น
จอมนางหันไปมองเขินๆ “นี่แอบดูกันอยู่นานหรอยัง”
กำจายลอยหน้าบอก “ตั้งแต่ต้นยันจบ”
โก่งแซวพี่หลงว่า “ความรักก็เหมือนผัก ข้าฟังแล้วเลี่ยน ไม่ขอกินผักอีกเลย”
“กลับมาอยู่คณะเทียมฟ้านะหลง” ครูเทียมเดินเข้ามา
“พี่หลงมาช่วยชั้นดูแลคณะนะจ๊ะ” จอมนางชวน
หลงยิ้มแป้น รับคำทันควัน “ครับ”
หลงดีใจมากจับมือจอมนางมากุม
“ต่อหน้าข้าเลยหรอเจ้าหลง”
ครูเทียมไปดึงมือหลานออกจากมือหลง ยังหวงหลานสาวอยู่
ทางด้านเหมยฮัวยืนหันหลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนที่โทร.มาหา อยู่ในห้องเด็กอ่อนที่บ้าน
“เหมยไม่สบาย ไปไม่ได้”
คุณนายเหลียนฮัวกับอาจงเอาซุปบำรุงมาให้ ฟังที่หมยฮัวคุยโทรศัพท์
“เหมยเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อวาน แทบลุกจากเตียงไม่ไหว ฝากความความคิดถึงถึงเพื่อนๆ ด้วยนะ” เหมยวางสายไป
เหลียนฮัวฟังแล้วนึกห่วงลูกสาว “เป็นไข้ตัวร้อนเหรอลูก”
“เปล่าค่ะ เพื่อนมัธยมโทร.มาชวนไปงานเลี้ยงรุ่น เหมยไม่อยากไป เลยโกหกว่าไม่สบาย”
“ทำไมไม่ไปเจอเพื่อนเก่าๆ ล่ะลูก เหมยรักเพื่อนกลุ่มนี้มากนี่” เหลียนฮัวอยากให้ลูกไปเปิดหูเปิดตา
เหมยฮัวหน้าเศร้า ก้มมองท้องตัวเอง บัดนี้ท้องโต อายุครรภ์ 7 เดือน แล้ว
“เพื่อนๆ ต้องถามที่เหมยท้อง เหมยไม่รู้จะตอบยังไงค่ะ”
เหมยฮัวอับอายเพื่อนฝูงที่ท้องไม่มีพ่อ ไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าแม่ แต่ไม่วายน้ำตาคลอๆ ขณะเดินออกไป
เหลียนฮัวกับอาจงสงสารเหมยฮัวมาก
“คุณหนูแสดงออกว่าเข้มแข็ง แต่ใจจริง รับไม่ไหว ถึงขนาดไม่กล้าออกไปสู้หน้าเพื่อนๆ วันหน้าคุณหนูกับลูกจะอยู่ยังไงคะคุณนาย” อาจงปรารภหน้าหมอง
เหลียนฮัวครุ่นคิดหาทางช่วยลูก แม่ย่อมไม่มีวันให้ลูกสาวสู้เพียงลำพัง
“ทางเดียวที่จะช่วยเหมยได้ เหมยต้องแต่งงาน อาจง รีบเตรียมงานแต่งงานให้เหมย อั๊วจะโทร.เชิญญาติๆ กับเพื่อนๆ เหมยมางาน ประกาศให้รับรู้ เหมยมีสามีเป็นตัวเป็นตน”
อาจงงุนงงสงสัย “คุณนายจะไปหาเจ้าบ่าวที่ไหนมาให้คุณหนูคะ”
หลงกับจอมนางเพิ่งคบหาเป็นแฟนกันวันแรก สองหนุ่มสาวมานั่งจู๋จี๋กันที่ศาลา หลงกุมมือจอมนางตลอดเวลา
“จะถึงวันประกวดลิเกชิงแชมป์ ชั้นตื่นเต้นจังเลยจ้ะ กลัวพลาด”
“จอมของพี่เก่งที่สุด ต้องชนะอยู่แล้ว พี่จะไปถือป้ายไฟเชียร์จอมหน้าเวที”
“เอาป้ายใหญ่ๆ เลยนะจ๊ะ”
“จะให้จอมเห็นชัดแจ๋วเลย พี่จะสั่งทำพวงมาลัยแบงก์พันไปให้จอมคล้องคอด้ว”
“โอ้โห คุณป๋าหลง พ่อยกของจอมนาง”
หลงมองจอมนางด้วยสายตากรุ้มกริ่มหวานเยิ้ม
จอมนางเขินหลบตาวูบ หลงมองอย่างแสนรัก โอบกอดเธอไว้ จอมนางเอนกายซบบ่า สองหนุ่มสาวนั่งโอบกอดกันเงียบๆ
เชื่อนักว่าเพลงรักหวานซึ้งจะดังกังวานในหัวใจสองดวงนี้
เช้าวันถัดมา เบิ้มสตาร์ตเครื่องรอ พลยืนกุมไข่รออยู่ที่ข้างประตูรถ ขณะคุณนายเหลียนฮัวกับอาจงช่วยประคองเหมยฮัวที่ท้องโตอุ้ยอ้าย ออกมาที่รถ
เหมยฮัวนั้นดีใจนักที่แม่ชวนไปเยี่ยมพงศ์เทพ โดยไม่ฉุกคิดว่าคุณนายซ่อนแผนบางอย่างไว้ในทริปเที่ยวบางไทรนี้
“แวะร้านดอกไม้ปากซอยก่อนนะคะหม่าม้า เหมยอยากซื้อดอกไม้ไปขอโทษพี่เทพ”
“ไม่ต้องหรอกลูก แค่เหมยไปพูดขอโทษ อาเทพก็พอใจแล้ว”
“แต่เหมยอยากซื้อ”
“แวะก็ได้ลูก”
เหมยฮัวยิ้มแย้มขึ้นนั่งเบาะหลัง เหลียนฮัวยังไม่ขึ้นรถหันมาสั่งอาจง
“เสี่ยตื่นมา ไม่ต้องบอกว่าอั๊วไปไหน อั๊วอยากจัดการเรื่องนี้เอง”
“คุณนายคะ ถ้าคุณหนูรู้ว่าคุณนายหลอกว่าจะพาไปขอโทษคุณพงศ์เทพ แต่ที่จริง จะไปเอาตัวคุณพงศ์เทพมาแต่งงาน คุณหนูต้องโวยวาย” อาจงกังวลไม่หาย
“ถึงเวลา อั๊วมั่นใจว่าคุมเหมยอยู่ อย่าลืมล่ะอาจง ห้ามบอกเสี่ย”
“ค่ะคุณนายเหลียนฮัว”
เหลียนฮัวขึ้นนั่งเบาะหลังคู่กับลูกสาว เบิ้มกับพลขับรถพาคุณหนูกับคุณนายออกไป มุ่งหน้าสู่บางไทร
ฟากฟ้าประทานแวะไปถอนเงินที่แบงก์แต่เช้า รีบนำเงินสด 6 หมื่นบาทมาคืนให้เจ๊ทรงงามที่ตลาด
“ผมเบิกเงินมาคืนเจ๊ครับ ไม่มีสมุดบัญชีไป ธนาคารเลยไม่ให้ปิดบัญชี เหลือติดบัญชีร้อยกว่าบาท”
“ยกให้ธนาคารไปแล้วกัน”
“เจ๊ครับ เงินอีก 4 หมื่น ที่ครูเทียมจะชดใช้แทนผม” เขายกมือไหว้เจ๊ “ผมขอร้องเจ๊ ไปคุยกับครูเทียมใหม่ ให้ครูหักค่าตัวผม ใช้หนี้”
เจ๊ทรงงามมองฉงนด้วยความแปลกใจ ที่ฟ้าประทานไม่เห็นแก่เงินดังเก่า
“ค่าตัวหลายตังค์อยู่นะ ฟ้าประทานจะเล่นให้ครูเทียมฟรีหรอ”
“บุญคุณครูเทียมมากล้น ผมเล่นให้ครูฟรีตลอดชีวิต ยังทดแทนบุญคุณไม่หมด”
“ฟ้าประทานเปลี่ยนไป” สายตาที่เจ๊มองฟ้าประทานอ่อนลง ความแค้นในใจเบาบางลงด้วย
“การที่ผมต้องเร่ร่อน อาศัยวัดนอน ทำให้ผมได้บทเรียนยิ่งใหญ่ ยิ่งอยากได้มากเท่าไหร่ ยิ่งสูญเสียมากเท่านั้น ชีวิตผมต่อจากนี้ จะอยู่บนความพอดี พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีครับ”
เจ๊ทรงงามรู้สึกตื้นตันท่วมท้น ฟ้าประทานที่เจ๊เคยหลงใหลรักเหลือล้น กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี
“เจ๊ดีใจที่เห็นฟ้าประทานคิดได้ จะว่าไป ตัวเจ๊เองก็อยากได้อยากมีไม่ต่างกับฟ้าประทานหรอกจ้ะ เจ๊จะจำคำฟ้าประทานไว้ อยากได้มาก ยิ่งเสียมาก”
“วันที่ผมประกวดลิเกชิงแชมป์ประเทศไทย เจ๊ไปให้กำลังใจผมนะครับ”
“เจ๊นัดเพื่อนไว้ ไปไม่ได้”
ฟ้าประทานหน้าจ๋อยไปเล็กน้อย “เจ๊ไปหาเพื่อนเถอะครับ แล้วผมจะเอารางวัลมาฝาก”
ฟ้าประทานยิ้มไหว้ลาเจ๊ทรงงาม แล้วเดินกลับออกไป
“ครูเทียมเป็นยิ่งกว่าครู สอนคนให้เป็นคนดี”
เจ๊ทรงงามพึมพำ นึกถึงคำพูดครูเทียมที่สอนตัวเองเรื่องการให้อภัย
“เมื่อใจให้อภัย ความสุขในใจก็ออกมาทางใบหน้า เมื่อใจยิ้ม หน้าก็ยิ้ม ทรงงามอยากยิ้ม ก็ต้องทำใจให้ยิ้มด้วย”
“ให้อภัยฟ้าประทานซะ ใจเรายิ้ม หน้าเราก็จะยิ้ม”
เจ๊ทรงงามบอกตัวเอง แต่ยังยิ้มไม่ออก แม้ใจจะให้อภัยฟ้าประทานแล้วก็ตาม
ส่วนจอมนางกับกระแตปักซ่อมชุดลิเกกันอยู่ตรงชานบ้าน ครูเทียมแต่งตัวดี สวมชุดเก่ง ครูถือไม้เท้าลงมาจากข้างบน
จอมนางหันไปเห็นก็ยิ้มแซวปู่ “หล่อเฟี้ยวเชียวปู่ มีนัดกับสาว....แก่ คนไหนเหรอจ๊ะ”
ครูเทียมเอาหัวไม้เท้าเขกหัวจอมนางเบาๆ
“ถ้าปู่มีนัด ก็นัดกับสาว ไม่ใช่สาวแก่ เมื่อคืนครูใหญ่โทรมา ให้ปู่ไปสอนลิเกนักเรียนที่โรงเรียน”
“ชั้นไปบอกพี่โก่งให้เอารถไปส่งปู่นะจ๊ะ” กระแตบอก
“ปู่บอกตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว”
โก่ง กำจาย โก๊ะ แต่งตัวหล่อเฟี้ยวมาจากทางห้องนอนชั้นล่าง
“พร้อมแล้วจ้ะครู พี่กำจายกับโก๊ะขอติดรถไปเที่ยวในเมืองด้วย”
“เสื้อตัวเนี้ย ชั้นเพิ่งซื้อมาจากร้านพี่หลง ใส่แล้วรู้สึกหล่อ เหมือนหนุ่มกรุงเทพฯ” โก๊ะว่า
“เสื้อน่ะ แบบทันสมัยดี แต่หน้าตาเอ็ง.... มันดูบ้านนอกเหมือนเดิมเว้ย” กำจายบอก
“หน้าตาอย่างชั้นบ้านนอก น้ากำจายก็อยู่ตะเข็บชายแดนแล้ว” โก๊ะหายอมไม่
จอมนางตัดความ “เอ้าๆๆ ไม่ต้องเถียงกันว่าใครหล่อไม่หล่อ ชั้นว่า หล่อทู้ก...คน”
ครูเทียมไปยืนข้างพวกกำจาย “พวกเรา สี่หนุ่มจตุรเทพแห่งบางไทร”
ครูเทียมเดินเก๊กหล่อออกนำไปก่อน 3 หนุ่ม กำจาย โก่ง โก๊ะ เดินเก๊กตามครูออกไป จอมนางกับกระแตขำ ทำไปได้
พร้อมพงศ์ขายเสื้อให้ลูกค้าอยู่คนเดียว ขณะที่หลงซื้อข้าวมาให้พ่อ เห็นพร้อมพงศ์บอกกับลูกค้าอย่างซื่อตรงก็ยืนมอง
“เสื้อตัวนี้ตะเข็บเย็บไม่ดี ลุงเลือกตัวใหม่ให้”
พร้อมพงศ์เลือกเสื้อแบบเดิม แต่ตัวใหม่ที่เย็บตะเข็บแน่นเนี้ยบ เอาใส่ถุงให้ลูกค้า หลงอมยิ้ม มองพ่อที่ไม่โกงและเอาเปรียบลูกค้าแล้ว
พร้อมพงศ์รับเงินค่าเสื้อจากลูกค้า “ขอบใจนะ” ลูกค้ายิ้มเดินออกไป
“พ่อเปลี่ยนไปนะครับ แต่ก่อน พ่อชอบแอบเอาของไม่ดีให้ลูกค้า”
“ชีวิตพ่อที่ผ่านมา ไม่เคยมีความสุขจริงๆ ซะที คิดแต่อยากรวย อยากรวย จนมาเจอครูเทียม ครูจนเงิน แต่มีความสุข ส่วนคนรวยอย่างเสี่ยเต๊ก วันๆ มีแต่เรื่องปวดหัว เงินทำให้คนแค่สบายกาย อยากสบายใจ ต้องทำความดี”
“ผมดีใจที่พ่อรู้ จะทำยังไงชีวิตถึงมีความสุข พ่อครับ ผมซื้อข้าวมาให้ ไม่ได้ซื้อมาเผื่อเจ๋ง เมื่อกี้เจ๋งโทร.มา จะกลับพรุ่งนี้ อยู่กินเลี้ยงงานบวชเพื่อนต่อ”
“ไอ้เจ๋งหาเรื่องอู้งาน ไม่อยากเฝ้าร้าน”
“ปล่อยมันไปเที่ยวบ้างเถอะครับ ผมไปทำงานบ้านครูเทียมนะครับ รถจอดอยู่หน้าร้านขายยา”
“เอารถไปสิเทพ”
“พ่อเอารถไว้ใช้เถอะครับ ผมไปสองแถวได้”
หลงยิ้มให้พ่อแล้วออกไป พร้อมพงศ์พับเสื้อที่กางให้ลูกค้าดู ให้เรียบร้อย พร้อมพงศ์หน้าระบายยิ้ม พอใจในงานและชีวิตตัวเองตอนนี้มาก
จอมนางกับกระแตยังปักซ่อมชุดลิเกอยู่ หลงเดินเข้ามาหา พอมาถึงก็นั่งกระแซะข้างจอมนาง จอมนางยิ้มหวานให้
“กินข้าวมายังจ๊ะ”
“ยังครับ หิ้วท้องมากินกับ...แฟน”
“เพลาๆ ความหวานหน่อยคู่นี้ อิจฉา”
“พรุ่งนี้พี่จะเช่ากล้องไปถ่ายตอนคณะเราขึ้นเวทีประกวด ทำเป็นซีดีพรีเซ็นต์ลูกค้าแล้วพี่จะโหลดลงยูทูปด้วย เผื่อฝรั่งมาดู หรือคนไทยที่อยู่เมืองนอกได้ดูอาจติดต่อเราไปเล่นโชว์”
“เรื่องการตลาดต้องพี่หลงเท่านั้น หัวการค้าน่าดู”
จอมนางมองพี่หลงอย่างเทิดทูน ชื่นชม
พลขับรถพาเหลียนฮัวกับเหมยฮัวมาบ้านลิเกเทียมฟ้าสุวรรณศิลป์ที่บางไทรแล้ว จอดรถเทียบหน้าประตูรั้ว พลเปิดประตูรถให้คุณนายกับคุณหนูลงจากรถ เหลียนฮัวต้องช่วยพยุงลูกสาว เหมยฮัวท้องโต 7 เดือน เดินเหินลุกนั่งลำบากเต็มที
“นี่เหรอบ้านที่พี่เทพหนีมาอยู่”
“ครับคุณหนู”
“หม่าม้าช่วยหยิบดอกไม้บนเบาะทีค่ะ เหมยก้มไม่ถนัด”
เหลียนฮัวก้มหยิบช่อดอกไม้สีขาวที่เหมยฮัวซื้อมาให้ เพื่อขอโทษพี่เทพ
“พลตะโกนเรียกพี่เทพสิ”
เหลียนฮัวห้ามกลัวแผนแตก “เราเข้าไปเลยเถอะลูก อาเทพได้เซอร์ไพร้ส์ที่เหมยมาหา”
“ก็ดีค่ะหม่าม้า พลไม่ต้องเข้าไปด้วยนะ เดี๋ยวทำให้พี่เทพกลัว”
พลเปิดประตูรั้ว เหลียนฮัวพาเหมยฮัวเข้าบ้าน สีหน้าสองแม่ลูกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เหมยฮัวยิ้มดีใจ จะได้เจอ ได้ขอโทษพงศ์เทพ
ส่วนเหลียนฮัวหน้าเข้ม มาเพื่อจับพงศ์เทพไปแต่งงาน
หลง จอมนาง กระแต กำลังคุยเรื่องการไปเล่นโชว์ที่เมืองนอก
“เวลาพวกนาฏศิลป์ไปรำโชว์เมืองนอก ใครออกค่าเครื่องบินจ๊ะพี่” กระแตสงสัย
“คนจัดงานครับ”
ระหว่างนี้เหลียนฮัวกับเหมยฮัวเดินเข้ามา หลงตกใจที่เห็นสองแม่ลูก
“เหมย มาได้ยังไง”
จอมนางกับกระแตมองเหมยฮัวกับเหลียนฮัวอย่างสงสัย ผู้หญิงสองคนนี้เป็นใคร ?
เหมยฮัวยิ้มให้พงศ์เทพ “พี่เทพหน้าตาสดใส ดูสบายดีนะคะ”
เหลียนฮัวสวมบทหม่าม้าจอมโหด ไล่บี้หลง “อาเทพ ลี๊อต้องกลับไปกับอั๊ว ลื๊อทำลูกสาวอั๊วท้องแล้วทิ้ง”
จอมนางช็อก! “พี่หลงทำผู้หญิงท้อง”
เหมยฮัวตกใจไม่รู้แผนแม่ “หม่าม้าพูดอะไรน่ะ”
“ลูกน้องอั๊วไม่ตามมาเจอ ลื๊อต้องกบดานอยู่บ้านนี้อีกนาน ไอ้คนไม่ความรับผิดชอบ”
“ไม่จริงนะจอม ผู้หญิงคนนี้ใส่ร้ายพี่”
เหลียนฮัวมองเหยียดยิ้มใส่จอมนาง “แฟนใหม่อาเทพสิ หนีมาระเริงอยู่บางไทร ทิ้งให้ลูกสาวอั๊วอุ้มท้องลูกลื๊อมาตั้ง 7 เดือน”
จอมนางเสียใจมาก วิ่งหนีหลงขึ้นข้างบน
“จอม”
หลงวิ่งตามจอมนางไป
จอมนางวิ่งหนีหลงเข้าห้องนอน ล็อกประตู ไม่อยากเห็นหน้าคนโกหกซ้ำซาก
“จอม พี่ไม่ได้ทำผู้หญิงคนนั้นท้องนะครับ”
กระแต เหลียนฮัว เหมยฮัวตามขึ้นมา
“อาเทพ กลับกรุงเทพฯกับอั๊วเดี๋ยวนี้”
เหมยฮัวขอร้องแม่ “หยุดทำร้ายคนอื่นเพื่อเหมยซะทีหม่าม้า”
เหลียนฮัวไม่สนกระชากเสื้อหลง ลากไป
“ปล่อยพี่เทพนะหม่าม้า”
เหลียนฮัวออกแรงลากหลงลงบ้านไป
กระแตไม่ช่วย โกรธหลงมาก
“เอาตัวไปเลย ผู้ชายโกหก มาหลอกลวงน้องสาวชั้น”
หลงถูกเหลียนฮัวฉุดกระชากลากถูลงมาข้างล่าง
“ปล่อยผม ผมไม่อยากใช้กำลังกับคุณนายนะครับ”
“ไม่ต้องขู่ อั๊วรู้ คนอย่างลื๊อไม่รังแกผู้หญิง”
หลงใช้กำลังกับเหลียนฮัวไม่ได้ หลงไม่ทำร้ายผู้หญิง
“เหมยบอกแม่ไปสิ เหมยท้องกับใคร แม่เหมยได้ไปจับถูกคน”
“หม่าม้ารู้แล้ว่าเหมยท้องกับพีท”
หลงงง “พีทไหน”
เหลียนฮัวบอก “พีทที่เป็นนักร้องวัยรุ่น”
หลงตกใจ “เหมยท้องกับนักร้อง”
“ใช่ แต่มันไม่รับผิดชอบลูกอั๊ว ลื๊อต้องเลยรับแทนไง” คุณนายบอกหน้าด้านๆ
เหลียนฮัวกระชากเสื้อหลง ลากไปทางหน้าบ้าน
หลงถูกเหลียนฮัวฉุดกระชากลากถูมาหน้าบ้าน
“พล มาช่วยกันจับอาเทพไปขึ้นรถ”
เหมยฮัวร้องขึ้น “อย่าเอาตัวพี่เทพไป”
พลเชื่อคำสั่งเหลียนฮัวมากกว่าเหมยฮัว มาช่วยคุณนายจับหลง ยัดใส่รถ หลงสู้ยิบตา
ระหว่างนี้ฟ้าประทานขี่มอเตอร์ไซค์พาตุ้มกลับมา เห็นหลงกำลังโดนจับขึ้นรถ ทั้งสองคนตกใจ เกิดอะไรขึ้น
“ฟ้าประทานช่วยพี่ด้วย” หลงร้องตะโกน
พลเอาปืนขู่ ฟ้าประทานเลยไม่กล้าเข้าช่วยหลง
“พล คุมอาเทพไว้เบาะหลัง อั๊วขับรถเอง เหมย ขึ้นรถ”
“ไม่ เหมยไม่กลับ หม่าม้าต้องปล่อยพี่เทพลงมา”
“ดื้อจริงลูกคนนี้”
เหลียนฮัวจับเหมยฮัวขึ้นรถให้นั่งเบาะหน้า เหมยฮัวท้องโย้ ออกแรงสู้หม่าม้าไม่ถนัด พอลูกสาวถูกจับขึ้นนั่งรถเรียบร้อย เหลียนฮัวก็ขับรถกลับ
กระแตตามออกมาหน้าบ้าน ทันเห็นรถเหลียนฮัวแล่นไป ตะโกนไล่หลังรถ
“อย่าปล่อยให้พี่หลงหนีมาบางไทรอีกล่ะ ชั้นเกลียด”
“คนพวกนั้นเป็นใครน่ะกระแต จับพี่หลงไปทำไม” ตุ้มงงใหญ่
“พี่หลงทำลูกสาวเค้าท้องแล้วทิ้ง”
“พี่หลงทำผู้หญิงท้องแล้วทิ้ง ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ ท่าทางก็เป็นคนดี”
“คนเรา รู้หน้าไม่รู้ใจหรอกตุ้ม”
ฟ้าประทานไม่คิดอย่างนั้น “พี่หลงเป็นคนดีมาก เป็นไปไม่ได้ที่ทำผู้หญิงท้องแล้วทิ้ง”
ตุ้มค้อน ต่อว่าผัว “เข้าข้างผู้ชายด้วยกัน จอมเป็นไงบ้างกระแต”
“กำลังจะขึ้นไปดู”
กระแตกับตุ้มรีบเข้าบ้านไปหาจอมนาง
“เราต้องช่วยพี่หลง พวกนั้นจับพี่หลงไปไหน”
ฟ้าประทานนึกออก ต้องไปบอกใคร เขาหันหัวมอเตอร์ไซค์ รีบขี่ไป
จอมนางร้องไห้สะอึกสะอื้นปิ่มว่าจะขาดใจ กระแตกับตุ้มเข้ามาหาเห็นสภาพก็สงสารมาก
“หักอกหักใจนะจอม รู้แต่เนิ่นๆ ว่าเค้าไม่ใช่คนดี ถือว่าโชคดีแล้ว”
“ทำไมชั้นต้องเจอผู้ชายโกหกหลอกลวงด้วย”
“พี่หลงกลับไปกับเมียแล้ว มาหลอกจอมไม่ได้อีกแล้วล่ะ”
“พี่หลงหลอกชั้น แต่ชั้น...ชั้นก็ยังรักพี่หลง”
จอมนางปล่อยโฮ
“โถจอม...”
กระแตกอดน้องสาว ตุ้มก็จับมือจอมนาง ช่วยกันปลอบประโลมเท่าที่จะทำได้
อ่านต่อตอนที่ 24 (อวสาน)