ทางเดินแห่งรัก ตอนที่ 6
แพทกับสุธีร์กำลังเก็บของเข้าท้ายรถ
"แล้วนี่เราจะกลับกันเลยเหรอแพท" สุธีร์ถาม
"ใช่น่ะสิ" แพทตอบ
"แหม ทิ้งระเบิดไว้แล้วก็ชิ่งเลยนะ จะไม่อยู่ดูผลงานก่อนเหรอ"
"แล้วแกจะอยู่ให้โดนระเบิดไปด้วยเหรอ ที่สำคัญฉันยังไม่อยากปะทะกับนังซันตอนนี้"
"ฉลาด... รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางนะหล่อน"
"ที่จริงฉันก็ไม่ได้อะไรกับพี่ศิหรอกนะ แต่ช่วยไม่ได้ พี่ศิดันเป็นเพื่อนสนิทกับนังซันเอง ในเมื่อรักกันนัก ฉันก็จัดให้" แพทว่า
รถของศศิแล่นเข้ามาในบริเวณโรงแรมก่อนจะเข้ามาจอดเอี๊ยดที่ประตูหน้า ศศิ ซัน อ้อม และเจนก้าวลงจากรถพร้อมกันด้วยท่าทางเอาเรื่อง
"ใจเย็นๆนะเจ๊"
ศศิส่งกุญแจรถให้พนักงานรับจอดรถแล้วเดินนำเข้าไปในโรงแรม ซันที่อยู่รั้งท้ายเหลือบมองรถของแพทที่ขับผ่านไป โดยที่แพทเป็นคนขับคนนั่งข้างๆ คือสุธีร์ แพทเหลือบมองเห็นซันเช่นกัน ทั้งคู่มองหน้ากัน แพทยิ้มเยาะๆ แล้วขับผ่านไป ซันเอะใจว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับแพทแน่นอน
ศศิกับอีกสามสาวเดินเข้ามาในล๊อบบี้ ศศิพุ่งตรงมาที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ
"สวัสดีค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ" พนักงานทักทาย
"น้องคะ รู้จักโจไหม เขามาทำงานออกแบบภายในให้โรงแรมนี้อยู่" ศศิถาม
"อ๋อ ค่ะ"
"พี่อยากรู้ว่าเขาพักห้องไหน" ศศิถามต่อ
พนักงานอึกอัก "เอ่อ...”
"พี่เป็นเมียเขา บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเขาพักห้องไหน"
"ตอนนี้คุณโจไม่อยู่ที่ห้องหรอกค่ะ เห็นว่ากำลังดูงานอยู่แถวๆนี้น่ะค่ะ"
ศศิหงุดหงิด ซันกับอ้อมดึงตัวศศิออกมา ทุกคนพยายามช่วยพูดให้ศศิใจเย็นลง
"พี่ศิ อ้อมว่าพี่ใจเย็นๆก่อนดีกว่า โรงแรมนี้เป็นลูกค้าของพี่โจ ถ้าทำอะไรบุ่มบ่ามไป พี่โจเขาจะเสียงานนะ"
"เสียก็เสียไปสิ ทำกับพี่ขนาดนี้ พี่จะยอมได้ยังไง" ศศิว่า
"แต่ถ้าเสียงาน เงินล้านก็สูญไปด้วยนะพี่ศิ" ซันบอก
"ช่างมันสิ ต่อให้เสียทองเท่าหัว ฉันก็ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร" ศศิยืนยัน
"แต่ถ้าขืนเจ๊อาละวาดไป ก็อาจจะเสียหายทั้งทองทั้งผัวนะ สัญญานะพี่ศิ วันนี้จะไม่มีการเหวี่ยงวีนในที่สาธารณะ โอเค๊?” ซันพูด
ศศิรู้สึกขัดใจจึงไม่รับปาก ซัน อ้อม และเจนจ้องหน้าศศิเป็นเชิงบังคับ ศศิจึงจำต้องยอม
"ก็ได้"
โจกำลังสั่งงานทีมตกแต่งอยู่ที่มุมหนึ่งในโรงแรม แต่แล้วโจก็มองเห็นกลุ่มของศศิเดินมาแต่ไกล โจตกใจเพราะตั้งตัวไม่ทัน
"ศิ ! ซวยแล้วสิ" โจหันไปบอกลูกน้อง "คุยกันไปก่อน เดี๋ยวพี่มา"
โจรีบหลบไปทางหนึ่ง
โจพยายามโทรศัพท์หาลัดดาด้วยความร้อนใจ ขณะที่เขากำลังรีบเดินไปที่ลิฟท์
"รับเร็วสิลัดดา มัวแต่ทำอะไรอยู่"
โทรศัพท์ของลัดดาวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในห้อง เสียงโทรศัพท์ดังมีสายเรียกเข้าจากโจ แต่ลัดดากำลังอาบน้ำเพลินอยู่ในห้องน้ำจึงไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์
โจมาถึงลิฟท์ เขารีบกดปุ่มด้วยความร้อนใจ พอประตูลิฟท์เปิดออกโจก็รีบเข้าไป กลุ่มของศศิเดินมาถึงหลังจากที่ประตูลิฟท์ปิดไปไม่นานทำให้คลาดกับโจไปอย่างหวุดหวิด ศศิเข้ามากดลิฟท์ เจนยืนกระมิดกระเมี้ยนเพราะปวดฉี่
"พี่ๆขึ้นไปกันก่อนนะ เจนขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง" เจนบอก
"มาปวดอะไรตอนนี้ยัยเจน" อ้อมว่า
"โอย นี่เจนอั้นมาตั้งแต่กรุงเทพแล้วนะ แต่ไม่กล้าให้จอดกลางทางอ่ะ เห็นพี่ศิกำลังรีบ"
"ไปๆ แล้วรีบตามมาก็แล้วกัน" ศศิบอก
เจนรีบเดินแยกออกไป
โจใช้การ์ดเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก ลัดดาเพิ่งออกมาจากห้องน้ำจึงอยู่ในชุดคลุมอาน้ำ
"อ้าว พี่โจ กลับขึ้นมาทำไมคะ"
"เรื่องใหญ่แล้วลัดดา ศิมาที่นี่"
"คุณศศิมา! แล้วคุณศศิรู้ได้ยังไงคะ"
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ลัดดาต้องรีบออกไปจากห้องนี้ เดี๋ยวนี้" โจร้อนใจ
ประตูลิฟท์ชั้นล่างเปิดออก ศศิ ซัน และอ้อมก้าวเข้าไปในลิฟท์
โจดึงแขนลัดดามาถึงหน้าลิฟท์แล้วรีบกดให้ลิฟท์เปิด ทั้งสองพากันเข้าไป พอโจกับลััดดาลงไป ลิฟท์ของศศิก็เปิดออกพอดี ศศิ ซันและอ้อมก้าวตามกันออกมาแล้วตรงไปทางห้องพัก
ศศิเดินนำทุกคนมาที่ห้องพักของโจแล้วทุบประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ
"ลัดดา เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ฉันรู้นะว่าคุณอยู่ในห้อง"
ศศิทุบประตูซ้ำ
โจพาลัดดาเดินมามองซ้ายมองขวาดูว่าปลอดภัยไหม เขาจะพาลัดดาไปทางลานจอดรถหน้าโรงแรม
"จะพาลัดดาไปไหนคะพี่โจ" ลัดดาถามขึ้น
"พี่ว่า ลัดดาไปรอที่รถก่อนแล้วกันนะ" โจบอก
แล้วโจก็เห็นเจนกำลังเดินมาแต่ไกล โจชะงัก
"เจน..." โจคว้าแขนลัดดาแล้วบอก "ไปทางอื่นดีกว่าลัดดา"
โจลากแขนลัดดาหลบไปทางอื่น เจนเงยหน้ามาเห็นหลังโจแวบๆ
"เฮ้ย นั่นพี่โจหรือเปล่าเนี่ย"
เจนรีบวิ่งไปดูก็เห็นโจกับลัดดาลับหายจากสายตาไปทางหนึ่ง เจนมั่นใจว่าเป็นโจแน่
ศศิเพิ่งรับสายโทรศัพท์เจน
"เห็นโจกับลัดดาเหรอเจน ตรงไหน? …. ได้ เดี๋ยวพี่ลงไป"
ศศิกดวางสายแล้วหันมาบอกซันกับอ้อม
"โจพายัยนั่นหนีออกจากห้องไปแล้ว"
"พี่โจนี่ไวจริงๆเลย"
ศศิพาน้องๆออกไปจากบริเวณนั้นทันที
ศศิ ซัน และอ้อมเดินตามมาสมทบกับเจนที่ยืนรออยู่แล้ว
"เขาอยู่ไหนกันยัยเจน" ศศิถาม
"หายไปแล้วพี่ศิ เมื่อกี๊ยังเห็นแวบๆอยู่แถวนี้" เจนว่า
"พี่โจต้องพายัยนั่นหนีออกจากโรงแรมแน่ ไปดักรอตรงที่จอดรถดีกว่า" ซันเสนอ
"หรือไม่ก็ตามร้านอาหาร" อ้อมบอก
"แยกกันตามหาเลย ใครเจอแล้วโทรหากัน" ศศิสรุป
โจพาลัดดาเดินลัดเลาะมาตามแถวสระว่ายน้ำ เขาเห็นอ้อมกับเจนเดินตามหาอยู่จึงรีบพากันหลบไปอีกทางหนึ่ง
โจจะพาลัดดาออกไปที่จอดรถ เขาเห็นซันเดินป้วนเปี้ยนอยู่จึงรีบหลบก่อนที่ซันจะหันมา
โจกับลัดดาหลบหลีกกลุ่มสาวๆมาจนถึงร้านกาแฟ ในที่สุดลัดดาก็เริ่มเบื่อกับการที่ต้องคอยวิ่งหนี
"ทำไมพี่โจต้องกลัวด้วยล่ะคะ เราสองคนไปหาพี่ศิพร้อมกันเลย แล้วบอกความจริงกับพี่ศิไปเลยดีกว่า"
"ไม่ได้ พี่บอกแล้วไง ว่าถ้าศิรู้เรื่องนี้ พี่ก็มาเจอลัดดาไม่ได้อีก"
โจมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าร้านกาแฟน่าจะปลอดภัยที่สุด
"พี่ว่าลัดดารอพี่อยู่ที่นี่ก่อนแล้วกันนะ พี่จะไปเคลียร์กับศิให้เรียบร้อยก่อน จบเรื่อง แล้วพี่จะกลับมา"
แต่แล้วเสียงศศิก็ดังขึ้นใกล้ๆ
"ถ้าอยากจะเคลียร์ก็เคลียร์กันตรงนี้เลยสิ"
โจกับลัดดาสะดุ้งแล้วหันไปมองตามเสียงก็เห็นศศิยืนอยู่ไม่ไกล
"ศิ!”
"คุณศศิ"
"ฉันเอง" ศศิบอก
"นี่มันไม่ใช่อย่างที่ศิคิดนะ คือ...”
"พอเถอะโจ ศิรู้เรื่องหมดแล้ว แล้วก็รู้จักตัวจริงของผู้หญิงคนนี้แล้วด้วย" ศศิหันไปมองลัดดาอย่างเอาเรื่อง "คุณลัดดา คุณนี่มันร้ายกว่าที่ฉันคิด ทำเป็นซื่อๆ หงิมๆ แต่ที่จริงสนิมกินจนเขรอะ"
ซัน อ้อม และเจนตามมาถึงร้านกาแฟพอดี ทั้งสามหยุดดูอยู่ห่างๆ
"นี่ศิรู้จักกับลัดดามาก่อน" โจตกใจ
"ใช่ ผู้หญิงคนนี้นี่แหละที่เอายากล่อมประสาทให้ศิกิน" ศศิบอก
"คุณศิคะ คุณศิเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ" ลัดดาว่า
"เลิกแอ๊บได้แล้ว เพราะฉันกินยาที่เธอให้มา วันนั้นฉันถึงมาพัทยากับโจไม่ได้"
"หมายความว่าไงลัดดา นี่เรื่องจริงใช่ไหม" โจหันไปถาม
ลัดดาอึกอัก "ละ ลัดดา"
"ทำแบบนั้นทำไม" โจคาดคั้น
"ลัดดารักพี่โจนี่คะ" ลัดดาบอก
ศศิกับลัดดาแยกมาคุยกันที่มุมหนึ่งในร้าน โดยที่โจอยู่กับซัน อ้อม และเจน
"คุณศศิคะ ลัดดาเองก็ไม่เคยคิดจะเทียบกับคุณเลย ลัดดาแค่รักพี่โจ ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆพี่โจลัดดาก็พอใจแล้ว" ลัดดานั่งลงกอดเข่าศศิ "ให้ลัดดาอยู่กับพี่โจเถอะนะคะ ลัดดายอมทุกอย่าง ลัดดาขอยอมเป็นเมียน้อยก็ได้"
ศศิเจอมุขนี้ก็ถึงกับงงไปสักพัก แล้วเธอก็ทำท่าเหมือนจะยิ้มใจดี
"ได้... “
ซัน อ้อม และเจนตกใจ "พี่ศิ"
ศศิหยิบซองยาออกมาจากกระเป๋าถือแล้วส่งไปตรงหน้าลัดดา "จำได้ไหมนี่อะไร"
ลัดดามองยาในมือศศิซึ่งเป็นยาตัวเดียวกับที่เธอให้ศศิไป
"นี่มัน...ยา"
ภาพตอนที่ลัดดาให้ยากับศศิแวบขึ้นมา
ภาพตอนที่ศศิเศร้าซึมอยู่ที่บ้านจากฤทธิ์ยากล่อมประสาทที่ลัดดาให้ย้อนกลับมา
"ถ้าอยากเป็นเมียน้อยฉันนัก ก็... กินยานี่ซะ คราวนี้เธอจะได้รู้บ้างว่ารสชาติของความเศร้าน่ะมันเป็นยังไง"
ลัดดาเริ่มหวาดๆ
ศศิพูดต่อ "หรือไม่ ฉันก็จะไปร้องเรียนที่โรงพยาบาลเรื่องพฤติกรรมของเธอ เรื่องยานี่หมอวิน เขาเป็นพยานได้ รับรองว่าเธอหมดอนาคตแน่" ศศิหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะโทร "หรือจะให้ฉันโทรหาหมอวินเดี๋ยวนี้ หมอวินเขาจะได้ไปคุยกับผู้บริหารโรงพยาบาลเลย"
"ได้ค่ะ ลัดดาจะกินยานี่" ลัดดาบอก
ลัดดารับยาจากศศิแล้วเทยาสองสามเม็ดใส่มือ
"คุณศิรู้ไว้ด้วยนคะ ที่ลัดดายอมทำแบบนี้ เพราะลัดดารักพี่โจ" ลัดดาบอก
"รักเหรอ? ดี งั้นกินให้หมด"
ศศิบังคับด้วยสายตา ลัดดาเทยาออกมาจนหมดซองแล้วเอาใส่ปากก่อนจะดื่มน้ำตาม ศศิพูดทิ้งท้าย
"แล้วก็รู้เอาไว้ด้วยว่า ผู้หญิงที่โจรักมีคนเดียวคือฉัน เพราะฉันเป็นเมีย เป็นแม่ของลูก เป็นคู่ชีวิต เป็นทุกๆอย่างในชีวิตของเขา พรุ่งนี้ตอนที่เธอตื่นมา เธอก็จะรู้เองว่า "ภรรยา" กับ"ของเล่น" น่ะมันต่างกันยังไง"
เวลาผ่านไป ศศิที่มีหน้าตาเอาเรื่องเดินหน้าเข้าหาโจที่อยู่ในห้อง โจถอยหลังกรูดพลางแก้ตัว
"โจก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นนะ แต่ตอนนั้นศิสนใจแต่ลูกกับงานที่บริษัทเก่า ศิไม่สนใจโจเลย"
ศศิคว้าแจกันใกล้ตัวมาถือไว้ในมือเตรียมขว้าง
"อ้อ นี่โทษศิใช่ไหม"
"ไม่ใช่ แค่อยากให้ศิเข้าใจโจบ้าง ว่าโจมีเหตุผล"
"เหตุผลเห็นแก่ตัวน่ะสิ"
ศศิเขวี้ยงแจกันไปที่โจ โจหลบได้ แจกันตกลงพื้นดังเพล้ง
"ศิจ๊ะ ของของโรงแรมเขาแตกหมดแล้ว"
ศศิไม่สนใจ เธอเขวี้ยงไปอีกอัน โจหลบทันทำให้เซรามิคโดนผนังแตก
"เมื่อไหร่จะหยุด เฮอะ โจ เมื่อไหร่" ศศิโมโห
"ศิ! ฟังก่อนสิ โจเลิกแล้ว"
"โกหก"
"ที่จริงโจไม่ได้ไปเจอเขามาสักพักแล้วนะศิ แต่คราวนี้ไม่รู้ลัดดาเขานึกยังไงเขาตามโจมาที่นี่เอง คราวนี้โจเลิกจริงๆ เชื่อโจนะ คนอื่นก็แค่ทางผ่าน ศิก็รู้ว่ายังไงโจก็รักศิคนเดียว"
"รักศิคนเดียวแล้วทำไมทำกับศิแบบนี้"
ศศิโกรธจนน้ำตาไหลออกมา
"เก็บของ กลับบ้าน" ศศิสั่ง
"ศิ...”
"ไม่ต้องพูด โจไม่มีสิทธิพูดอะไรอีกแล้ว"
โจจำยอมต้องทำตามอย่างว่าง่าย เขาไปคว้ากระเป๋ามาเพื่อเตรียมเก็บของ
ซันเป็นคนขับรถของศศิมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ ซัน อ้อม และเจนเมาท์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
"พี่โจนะพี่โจ ไม่น่าทำแบบนี้เลย" อ้อมพูด
"ผู้ชายนี่เป็นแบบนี้กันหมดหรือเปล่าเนี่ย" เจนว่า
"ไม่หรอกจ้ะ อย่างน้อยก็มีวินคนนึง ที่ไม่มีทางเป็นเหมือนพี่โจแน่ๆ" อ้อมมองซัน "อ้าว เป็นอะไรน่ะซัน ทำไมเงียบๆ"
"กำลังคิดอะไรบางอย่าง นี่อ้อม ตอนที่พวกเรามาถึงโรงแรมน่ะ ฉันว่าฉันเห็นแพท" ซันบอก
"แพทเนี่ยนะ"
"เขาไปทำอะไรที่นั่น"
"ช่วงนี้เขาทำงานโปรเจคโรงแรมนั่นกับพี่โจ แล้วเขาก็เป็นคนส่งรูปพี่โจกับลัดดาให้พี่ศิ" เจนบอก
"เขาอาจจะแค่หวังดีก็ได้นะ" อ้อมว่า
"ถ้าแค่นั้นก็แล้วไป แต่บอกตรงๆนะ ฉันไม่ไว้ใจเลย ว่ายัยนั่นจะมาไม้ไหนกับพี่ศิ แล้วที่มาสนิทกับพี่ศิเนี่ยต้องการอะไร" ซันสงสัย
"ถ้ายัยแพทมีแผนอะไร พี่ศิต้องรู้ทันอยู่แล้ว" เจนบอก
"พี่ศิน่ะฉลาดก็จริง แต่พอเป็นเรื่องพี่โจก็พร้อมจะขาดสติได้ตลอดเวลา นั่นแหละจุดอ่อนของพี่ศิ" ซันบอก
"ว่าแต่ตอนนี้ รถคันหน้านั่นจะเป็นไงกันบ้างก็ไม่รู้" อ้อมว่า
"เจนว่า พี่โจคงกำลังโดนด่าหูชาอยู่แน่ๆ"
โจเป็นคนขับรถ ศศิที่นั่งมาด้วยเงียบผิดปกติ ไม่พูด ไม่บ่น ไม่ด่า โจหันมองศศิเป็นระยะๆ ด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่กล้าเริ่มส่งเสียง
รถของโจแล่นเข้ามาจอดบริเวณบ้าน ต้นกล้ากับข้าวหอมยืนรออยู่พร้อมป้าสุขซึ่งเตรียมกระเป๋าเดินทางของเด็กๆ ไว้พร้อม ศศิจอดรถ แต่ยังไม่ดับเครื่อง เธอก็ลงมาหาป้าสุขกับลูกๆ
"พร้อมกันไหมป้าสุข" ศศิเอ่ยถาม
ป้าสุขตอบ "พร้อมแล้วค่ะ"
โจลงจากรถทางอีกฝั่งหนึ่ง ต้นกล้ากับข้าวหอมเห็นพ่อก็ดีใจ
"พ่อกลับมาแล้วหรือครับ"
"มาแล้วลูก" โจมองเห็นกระเป๋าเสื้อผ้า "แล้วนี่จะไปไหนกัน"
"นั่นสิคะคุณแม่ เราจะไปไหนกัน" ข้าวหอมสงสัย
"เราจะไปพักผ่อนกัน" ศศิบอก
"แล้วคุณพ่อล่ะครับ" ต้นกล้าถาม
"พ่อเขาไปเที่ยวมาแล้ว ตอนนี้ถึงคิวของพวกเราบ้าง ขึ้นรถไปลูก" ศศิบอกลูกๆ
ต้นกล้ากับข้าวหอมเดินไปขึ้นรถอย่างงงๆ ศศิกลับขึ้นไปนั่งที่นั่งคนขับ
"นี่มันอะไรกันน่ะศิ จะพาลูกไปไหนกัน" โจตอบ
ไม่มีใครตอบโจ ป้าสุขเอากุญแจบ้านมายื่นให้โจก่อนพูดด้วยเสียงงอนๆ
"นี่กุญแจบ้านค่ะคุณโจ"
โจมองในมือป้าสุขที่หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองเช่นกัน
"นี่ป้าสุขก็ไปด้วยเหรอ" โจถาม
"คุณศิให้ป้าลาไปเที่ยวเชียงใหม่อาทิตย์นึงค่ะ เดี๋ยวคุณศิจะไปส่งที่สนามบิน คุณโจดูแลบ้านดีๆด้วยนะคะ"
"ว่าไงนะ"
ป้าสุขเดินมาหาศศิที่รถ ศศิพูดบางอย่างใส่หูป้าสุข ป้าสุขพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินมาหาโจอีกครั้ง
"คุณศิฝากให้บอกว่า ถ้าอยากใช้ชีวิตให้สนุกเหมือนหนุ่มโสด ก็เอาเลยค่ะ ตอนนี้คุณโจโสดแล้ว"
ป้าสุขเดินกลับไปขึ้นรถ ศศิขับรถออกไปทันที ทิ้งโจให้ยืนงงอยู่ตามลำพัง
"เฮ้ย แล้วจะทิ้งโจไว้คนเดียวเนี่ยนะ"
โจเดินช้าๆเข้ามาในบ้านก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่มุมหนึ่ง บ้านทั้งหลังดูเงียบเหงาวังเวงเมื่อโจต้องอยู่คนเดียว
โจถอนหายใจเพราะยังคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงต่อดี
ลัดดาอยู่ในสภาะวมึน ซึม เศร้า นั่งร้องไห้อยู่ในห้องเพราะฤทธิ์ยากล่อมประสาทที่โดนเอาคืน
"พี่โจ..ฮือๆๆ อย่าทิ้งลัดดาไป ฮือๆๆ"
ในห้องพักของซัน ซัน อ้อม และเจนนั่งคุยกันอยู่ในส่วนรับแขก ศศิพาลูกเข้านอนแล้วออกมาจากห้องนอนแขก
"เด็กๆนอนแล้วเหรอพี่ศิ" ซันถาม
ศศิตอบสั้นๆ "อือ"
ศศิเดินเข้ามาสมทบกับสามสาว
"พี่คงต้องอาศัยนอนที่ห้องเธอสักพักนะซัน"
"ไม่มีปัญหา พักนานเท่าไหร่ก็ได้เลยพี่ศิ ยังไงห้องนอนแขกก็ว่างอยู่แล้ว" ซันบอก
"อ้อมว่าพี่ศิไม่น่าพาลูกทิ้งพี่โจมาแบบนี้เลย"
"ก็เขาอยากใช้ชีวิตเป็นหนุ่มโสดนี่ ก็ปล่อยเขาโสดไปแล้วกัน"
"แล้วพี่ไม่กลัวเหรอว่าพี่โจจะเอาผู้หญิงคนอื่น เข้าไปในบ้าน"
"ถึงโจเขาจะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่เขาไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก"
"แล้วพี่จะเอายังไงต่อ"
"ก็ตั้งใจว่าจะสั่งสอนโจให้รู้สํานึก สักพักก็คงพาลูกๆกลับบ้าน โจน่ะ ต้องได้รับบทเรียนบ้าง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่จำ" ศศิว่า
"นี่มันหลายครั้งแล้วนะที่เป็นแบบนี้ พี่ศิจะทนไปอีกนานแค่ไหน" ซันสงสัย
"ก็ทน..จนกว่าจะทนไม่ได้ โจอาจไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุด แต่เขาก็เป็นสามี เป็นพ่อของลูกๆ ที่สำคัญก็คือเขารักพี่แล้วพี่ก็รักเขา"
"รักกันแล้วทำไมทำร้ายจิตใจกันแบบนี้ ถ้ามีผัวแล้วช้ำแบบนี้ อย่ามีซะเลยจะดีกว่านี่พี่ศิจะปล่อยให้มันจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่"
ศศิถอนหายใจเพราะไม่มีใครรู้คำตอบ
อ่านต่อหน้าที่ 2
ทางเดินแห่งรัก ตอนที่ 6 (ต่อ)
อ้อมยืนกดออดอยู่หน้าห้อง วินเปิดประตูออกมารับ อ้อมเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางกังวลและร้อนใจ
"เฮ้อ กว่าจะเสร็จเรื่อง ทันไหมจ๊ะวิน" อ้อมถาม
วินมองนาฬิกา "ทันสิ พอไข่ตกแล้วเรามีเวลา24ชั่วโมง"
"แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นเหรอวิน"
"ถ้าจะให้ชัวร์ก็ต้องนับเผื่อเวลาคลาดเคลื่อนอีกสองวัน สามวันนี้ เราต้องพยายามทำการบ้านทุกวัน"
"ได้ งั้นเริ่มเลย"
พูดจบอ้อมก็จูงมือวินเข้าห้องนอนทันทีเพราะกลัวหมดเวลา
ต้นกล้ากับข้าวหอมหลับอยู่ข้างๆ กันในห้องพักแขกของห้องซัน ศศิยืนมองลูกเศร้าๆ แล้วก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้ข้าวหอมอย่างเบามือ ศศิออกมาจากห้องนอนแล้วนั่งเศร้าอยู่ในห้องรับแขกเงียบๆ ตามลำพัง เธอนึกถึงสิ่งที่โจพูดกับเธอในอดีต
"โจก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นนะ แต่ตอนนั้นศิสนใจแต่ลูกกับงานที่บริษัทเก่า ศิไม่สนใจโจเลย"
ศศิคว้าแจกันใกล้ตัวมาถือไว้ในมือเตรียมขว้าง
"อ้อ นี่โทษศิใช่ไหม"
"ไม่ใช่ แค่อยากให้ศิเข้าใจโจบ้าง ว่าโจมีเหตุผล"
"เหตุผลเห็นแก่ตัวน่ะสิ" ศศิว่า
ภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา
โจยกแขนให้ศศิควงออกหน้าออกตาด้วยความภาคภูมิใจ ขณะเดินไปทักทายคนรู้จัก
"นี่ศิรู้ไหม ศิสวยที่สุดในงานนี้เลยนะ บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อว่าลูกสองแล้ว ยิ่งบอกอายุคนอื่นก็คงไม่เชื่อเหมือนกันว่า...”
"อ๊ะๆๆ ไม่ต้องพูดเรื่องอายุ รู้แล้วเก็บไว้ในใจก็พอ" ศศิบอก
"ที่จริงศิก็ยังสวยไม่เปลี่ยนจากเมื่อก่อนเลยนะ จำได้ไหมตอนโจจีบศิใหม่ๆน่ะ เราสองคนชอบออกมากางเต๊นท์ริมทะเล นอนดูดาวกัน ตอนโจขอศิแต่งงานก็เป็นบรรยากาศริมทะเลแบบนี้แหละ"
"ยังจำได้ด้วยเหรอ"
"จำได้ไม่เคยลืม"
"สมัยนั้นน่ะ เวลาไปเที่ยวไหนกัน เราไม่มีปัญญาพักโรงแรมแพงๆแบบนี้กันหรอก"
"ใช่ กว่าจะมีวันนี้ นี่เราสองคนผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมากเลยนะศิ" โจบอก
ศศิคิดถึงตอนที่รักกันแล้วก็ได้แต่เศร้าจนน้ำตาไหล
โจเข้ามาในห้องนอนที่บ้านอย่างเหงาๆ เขาทิ้งตัวลงนั่งที่เตียงแล้วเอื้อมหยิบภาพถ่ายครอบครัวที่ตั้งอยู่หัวเตียงมานั่งมอง โจนึกถึงตอนที่ศศิดูแลเขาเป็นอย่างดีและมีความสุขกันภายในครอบครัว
ภาพในอดีตย้อนกลับมา
ศศิกำลังทำนมเย็น โจเข้ามากอดหลัง ทั้งคู่หัวเราะกันกุ๊กกิ๊ก
ศศิกับโจช่วยกันทำกับข้าว
ศศิ โจ ต้นกล้า และข้าวหอมนั่งดูทีวีด้วยกัน ทุกคนหัวเราะสนุกสนาน
โจหยิบมือถือออกมาโทรหาศศิ แต่ศศิปิดเครื่องจึงมีแต่เสียงตอบรับจากระบบอัตโนมัติ โจถอนใจ โจเอามือถือเครื่องสำรองออกมา เขาตัดสินใจปิดเครื่อง เอาซิมการ์ดออกก่อนจะทิ้งซิมการ์ดนั้นลงถังขยะ
ลัดดาตื่นขึ้นมาในห้อง เธอมองไปรอบตัวอย่างสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วเธอก็นึกได้ ลัดดารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เธอกำลังจะกดโทรหาโจแต่เห็นข้อความที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้
ลัดดากดดูเห็นว่าเป็นข้อความจากโจ "เราจบกันแค่นี้นะลัดดา" ลัดดาพยายามโทรหาโจ แต่ก็มีแต่เสียงอัตโตมัติตอบกลับว่า "หมายเลขยังไม่เปิดใช้บริการ" เธอเริ่มสะอื้นร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
"พี่โจ...." ลัดดาร้องไห้โฮ
ซันขับรถมาจอดที่หน้าร้านดอกไม้ของจ๋า เธอลงจากรถแล้วเดินมาหยุดที่ประตูร้าน ซันรู้สึกไม่ค่อยอยากมา
จ๋าเห็นซันแล้วก็เปิดประตูต้อนรับ
"ดีใจจังเลย ซันมาจริงๆด้วย"
ซันฝืนยิ้ม ขณะที่วุธนั่งรออยู่ในร้าน
วุธ ซัน และจ๋า นั่งอยู่ด้วยกันในร้านอาหาร จ๋าวางของชำร่วยสองชิ้นลงบนโต๊ะตรงหน้าซันกับวุธ
"อ้ะ คราวนี้ วุธกับซันเลือกของชำร่วยชิ้นที่ตัวเองชอบ" จ๋าบอก
วุธกับซันชี้ไปที่ของชำร่วยชิ้นหนึ่งพร้อมกัน
"ทำไมใจตรงกันอีกแล้ว จ๋ากลับชอบอีกแบบนึงมากกว่า" จ๋าบอก
"จ๋าก็เลือกแบบที่ตัวเองชอบก็ได้ วุธบอกแล้วว่ายังไงก็ได้" วุธพูด
"ไม่ได้หรอก เราคุยกันแล้วไงว่าจะใช้เสียงข้างมากเป็นหลัก ตกลงว่าเอาชิ้นที่ซันกับ วุธชอบแล้วกัน เห็นไหม จ๋าบอกแล้วว่าซันเหมาะที่จะเป็นเพื่อนเจ้าสาวที่สุด แล้วธีมงานล่ะ สีอะไรดี จ๋าว่าสีชมพูดีไหม"
วุธกับซันพูดขึ้นพร้อมกัน "ฟ้า"
จ๋าชะงัก วุธกับซันหันมองหน้ากัน
"นี่นายมาพูดตามฉันทำไมเนี่ย" ซันว่า
"นี่เราพูดก่อนไม่ใช่เหรอ วุธพูดก่อนใช่ไหมจ๋า" วุธหันไปถามจ๋า
"ก็พูดพร้อมกันนั่นแหละจ้า"
วุธกับซันเถียงกันเบาๆ จ๋ามองทั้งสองคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก วุธหันมาเห็นจ๋าสีหน้าไม่ดีก็คิดว่าจ๋ากังวลเรื่องของชำร่วย
"จ๋าเลือกที่ตัวเองชอบที่สุดเถอะ ความเห็นของวุธกับซันเหมือนกันก็จริงแต่ความชอบของเรามันก็ไม่สำคัญเท่ากับจ๋าหรอกนะ จ๋าเป็นเจ้าสาว เป็นคนสำคัญที่สุดของงานนี้ เพราะฉะนั้น จ๋าชอบแบบไหน วุธก็เอาแบบนั้นแหละ"
จ๋าซึ้งใจ "ขอบคุณมากนะวุธ"
จ๋าพิงหัวซบไหล่วุธอย่างรักใคร่ ซันมองด้วยความเจ็บปวด
ศศิ ซัน อ้อม และเจนเดินมาด้วยกันในห้าง ซันเซ็งๆ ส่วนศศิเองก็ไม่แจ่มใสนัก
"ถ้าเขาจะสวีทกัน เลือกของชำร่วยกัน แล้วจะเรียกฉันไปเป็นตัวประกอบอยู่ด้วยทำไม" ซันเซ็งมาก
"ก็แล้วไปทำไมล่ะ" ศศิย้อนถาม
"เจ๊... นี่ถ้าวุธเขาไม่ได้ช่วยงานซันอยู่ล่ะก็ ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่ไปหรอก" ซันบอก
"งั้นก็ถูกแล้ว เขาช่วยแก แกก็ต้องมีน้ำใจกับเขาตอบแทนไง" อ้อมว่า
เจนพูดขึ้น "เขาบอกว่าเวลาผู้หญิงอกหัก...”
ซันรีบบอก "ใครว่าฉันอกหัก"
"โอเคๆ เอาใหม่ เวลาผู้หญิงมีเรื่องไม่สบายใจ ให้บำบัดด้วยการช้อป ซื้อกระเป๋าใหม่สักใบสิพี่ซันรับรองว่าจะรู้สึกดีขึ้นมาทันตาเห็น" เจนบอก
เจนพูดพลางโชว์กระเป๋าหลุยส์ของตัวเอง พวกพี่ๆมองแบบจับผิด
"อ๊ะๆๆ อย่ามองแบบนั้น นี่ของจริง" เจนรีบบอก
"จิงแดงน่ะสิ" ศศิว่า
เจนเสียอารมณ์ที่ศศิรู้ทัน
"รู้ได้ไงอ่ะพี่ศิ นี่มันระดับซุปเปอร์มิเร่อร์ เกรดAA เซเว่นAเลยนะ"
"ยัยเจน คนที่เขาใช้ของจริงกันเขามองปราดเดียวก็รู้แล้ว" อ้อมบอก
"วันหลังอย่าถือไปโชว์ใครเขาล่ะ อายเขา" ศศิบอก
ศศิ ซัน อ้อม และเจนเดินเข้าร้านนวดหน้า ทั้งสี่นอนเรียงกัน ช่างนวดหน้ากันไปทั้งสี่ก็เมาท์กันไป
"ตอนนี้มันคงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะซัน พี่ว่าซันต้องยอมรับความจริง" ศศิบอก
"วุธเขากำลังจะแต่งงาน เขาจะต้องอยู่กับคนของเขา ส่วนแก ถ้าไม่ยอมคบกับใครตอนนี้ ก็ต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่" อ้อมบอก
"ที่จริงฉันก็อยู่ได้นะ" ซันพูด
"แต่มันก็ไม่มีความสุขเท่ากับมีใครสักคนอยู่ข้างๆ นะพี่ซัน ดูเจนสิ ชีวิตนี้ขาดแฟนไม่ได้เลย"
"แล้วจะให้ฉันทำยังไง" ซันถาม
"ก็ต้องเลิกคิดเรื่องของสองคนนั้น ตัดใจซะแล้วเริ่มต้นความรักครั้งใหม่อย่างจริงๆ จังๆกับใครสักคน"
"ไม่อ่ะ ฉันยังไม่พร้อม" ซันบอก
"อย่าพูดว่าไม่พร้อมถ้ายังไม่ได้ลอง" ศศิบอก
"แล้วจะหาแฟนจากไหนล่ะ" ซันถาม
"เรื่องนั้นเดี๋ยวฉันจัดให้เอง" อ้อมบอก
ซันถามตัวเองอย่างไม่มั่นใจ "จะดีเร้อ...”
ศศิ อ้อม และเจนพูดพร้อมกัน "ดี"
เช้าวันใหม่ โจที่อยู่ในชุดทำงานเดินเข้ามาในครัวแล้วเปิดตู้เย็น เขาหยิบขวดนมเย็นที่ศศิเคยทำเตรียมไว้เสมอขึ้นมาจะเทใส่แก้ว แต่พบว่านมเย็นหมดแล้ว
โจกำลังเจียวไข่ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันขนมปังที่ปิ้งไว้ก็เด้งขึ้นจากเครื่องปิ้งพอดี โจเปิดตู้หาจานกับที่คีบขนมปังหลายตู้ หลายลิ้นชัก กว่าจะหาเจอไข่เจียวที่เจียวไว้ก็ไหม้แล้ว โจถึงกับเซ็ง
โจเทกาแฟใส่ถ้วย ขณะที่กำลังโทรศัพท์หาศศิไปด้วย ศศิไม่รับสายสักที โจพลาดเทกาแฟหกออกนอกแก้วจนเลอะเทะไปหมด
"เฮ้อ นี่มันอะไรกันเนี่ย"
โจรีบเอาผ้าออกมาเช็ด
ศศิขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน เจนติดรถมาด้วยโดยนั่งอยู่ข้างๆศศิ เสียงโทรศัพท์ของศศิดังขึ้น ศศิมองชื่อคนโทรมาแต่ไม่รับสาย ข้าวหอมชะโงกหน้ามาถาม
"ทำไมไม่รับสายล่ะคะคุณแม่"
"แม่ขับรถอยู่ ยังไม่ว่างรับจ้ะ" ศศิบอก
ศศิปล่อยให้โทรศัพท์ดังจนดับไป เจนแอบเหลือบมองที่โทรศัพท์ก็เห็นชื่อMiss call จากโจ4-5ครั้ง
"แต่คุณแม่ก็มีบลูธูทนี่ครับ ทำไมไม่ใช้" ต้นกล้าถาม
"แบบนี้ สงสัยคุณพ่อโทรมาล่ะสิ" ข้าวหอมรู้ทัน
"เด็กอาไร๊ รู้มากจริงๆ" เจนว่า
เจนหันไปล้อข้าวหอมด้วยความหมั่นเขี้ยวแล้วหันมาบอกศศิ
"เออพี่ศิ เดี๋ยวจอดข้างหน้าเลยนะ ใกล้ถึงออฟฟิศเจนละ"
ศศิพยายามหักพวงมาลัยเข้าจอด
"รู้จักมาทำงานเช้าเป็นกับเขาเหมือนกันนะยัยเจน" ศศิว่า
"ที่มาเช้าได้ขนาดนี้เพราะเจนมีแผนหรอก"
"แผนอะไรเหรอน้าเจน" ข้าวหอมถาม
"อ๊ะๆๆ เรื่องนี้เด็กห้ามรู้จ้ะ" เจนบอก
ศศิจอดรถ เจนเปิดประตูแล้วก้าวลงไป
"น้าเจนไปแล้วนะ พี่ศิ ขอบคุณที่มาส่งนะ"
เด็กๆสองคนยกมือไหว้
"หวัดดีครับน้าเจน"
"น้าเจน หวัดดีค่ะ"
เจนโบกมือให้แล้วเดินไปทางอาคารสำนักงาน ศศิเคลื่อนรถออกไป
เจนยืนรีๆรอๆผลุบโผล่ๆอยู่มุมหนึ่งในอาคารไม่ไกลจากลิฟท์ เธอคอยชะเง้อมองหาจ๊อด พอลิฟท์เปิดแล้วเจนก็ยังไม่ยอมเข้าไป สักพัก เจนก็เห็นจ๊อดเดินมาจากประตูทางเข้าที่จอดรถ เจนพุ่งออกมาจากที่ซ่อนโดยทำเป็นยืนรอลิฟท์อยู่ก่อนแล้ว จ๊อดเดินมาถึงหน้าลิฟท์พอดี
"อ้าว เจน"
"หวัดดีค่ะพี่จ๊อด"
"เพิ่งมาเหรอ" จ๊อดถาม
"ค่ะ เพิ่งมาเมื่อกี๊เอง"
ประตูลิฟท์เปิด ทั้งคู่ก้าวเข้าไปด้วยกันแค่สองคน เจนลิงโลดจนออกนอกหน้าที่ได้อยู่กันสองต่อสอง แต่แล้วก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิด อาร์ทก็ก้าวเข้ามาอีกคน อาร์ทเข้ามายืนเฉยทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ทักใคร
เจน อาร์ท และจ๊อดอยู่ในลิฟท์ด้วยกัน เจนมองอาร์ทอย่างขัดใจมากที่เป็นก้างขวางคอ
จ๊อดถามขึ้น "เว็บไซต์ไปถึงไหนแล้วอาร์ท"
"ก็เรื่อยๆ" อาร์ทตอบ
"เร่งมือหน่อยก็ดีนะ" จ๊อดหันไปหาเจน "แล้วเจนล่ะ งานเป็นไงบ้าง ยากไหม"
"ไม่ยากเลยค่ะ เจนทำได้ สบายมาก ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นพี่จ๊อดเข้าบริษัทเลยนะคะ เห็นพี่ปุ๊กกี้บอกว่าพี่จ๊อดไปต่างประเทศ"
"ใช่ พี่ไปดูผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มาน่ะ เออนี่ พี่ซืื้อของมาฝากเจนด้วยนะ เดี๋ยววันหลังจะเอาไปให้"
"ขอบคุณค่ะ"
เจนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อาร์ทเหล่มองเจนด้วยความหมั่นไส้
ติ๊ง! เสียงลิฟท์จอดเมื่อถึงชั้นของออฟฟิศ The wisdom ประตูลิฟท์เปิดออก เจน อาร์ท จ๊อด เดินออกมาจากลิฟท์ด้วยกัน ทิชามองเห็นสามคนเดินมาด้วยกันแต่ไกล แต่สายตาของเธอโฟกัสแค่เจนกับจ๊อดเท่านั้น จ๊อดหันมายิ้มหล่อให้เจนก่อนพูด
"แล้วเจอกันนะเจน"
จ๊อดโบกมือลาแล้วเดินแยกเข้าห้องทำงาน เจนมองตามหลังจ๊อดไปอย่างฝันๆ ทิชาปราดเข้ามาทันทีแล้วแหวใส่เจน
"นี่ ทำไมเธอมาพร้อมพี่จ๊อด"
"ก็...ไม่มีอะไร" เจนแกล้ง "แค่นัดกันไว้เมื่อเช้า"
"โกหก"
"ถ้าไม่เชื่อ ก็ไปถามพี่จ๊อดดูเองสิ"
เจนทำเป็นไม่สนใจ เธอเดินผ่านทิชาไปที่โต๊ะ ทิชาโกรธ อาร์ทรู้สึกรำคาญบรรยากาศในออฟฟิศ
ซันนั่งทำงานอยู่ในห้อง เสียงเคาะประตูดังขึ้น ซันลุกไปเปิดประตูก็เห็นอ้อมกับเจนยืนอยู่ ทั้งคู่ก้าวเข้ามาคุยกันในห้อง
"เตรียมตัวหรือยังพี่ซัน" เจนถาม
"เตรียมทำไม ใครจะไปไหน" ซันงง
"เตรียมไปเดทพรุ่งนี้น่ะสิ" อ้อมบอก
"เดท กับใคร"
อ้อมส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้ซัน
"อ้ะนี่ อ้อมทำลิสต์ไว้ให้แล้ว รายชื่อคนที่ซันจะต้องไปเจอทั้งหมด พรุ่งนี้เป็นนัดแรกกับคุณไมค์"
"เฮ้ย พรุ่งนี้เลยเหรอ แต่ฉันยังเข็ดกะนายสมพลนั่นอยู่เลยนะ"
"แต่คนนี้เจนดูโพรไฟล์มาแล้ว เลิศมากก" เจนบอก
"ใช่ เป็นนักวิเคราะห์การลงทุน เขาว่ากันว่าเป็นคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในตลาดหุ้น เรียกง่ายๆว่าเป็น เจ้าพ่อตลาดหุ้นเลยก็ว่าได้ นิสัยดี ไม่เจ้าชู้" อ้อมการันตี
"นี่ไปหามาจากไหน"
"เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของวินอีกที แต่วินกับอ้อมเองก็ไม่รู้จัก"
"หล่อไหมพี่อ้อม" เจนถาม
"ไม่รู้สิ ไม่เคยเจอเหมือนกัน" อ้อมบอก
เจนตื่นเต้นแทน
"คุณไมค์...ว้าว...ฟังชื่อก็เดาได้เลยเนอะว่าต้องเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี"
ซันเดินเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอมองลูกค้าในร้านที่นั่งกันอยู่ประปรายเพื่อหาคนที่นัดบอดด้วย ภาพของอ้อมที่อธิบายกับเธอแทรกเข้ามาในความคิด
อ้อมอธิบายเรื่องนัดบอดให้ซันฟัง
"พอไปถึงร้านแล้วก็มองหาคนที่ใส่สูทสีกรมท่านะ บนโต๊ะมีแจกันใส่ดอกกุหลาบสีแดง"
ซันมองไปรอบๆ ก็เห็นแจกันใส่ดอกกุหลาบแดงประดับอยู่บนโต๊ะทุกโต๊ะ
"กุหลาบแดงทุกโต๊ะ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นคนไหน"
พลันสายตาของซันก็ไปสะดุดเข้ากับชายหนุ่มหน้าตาดี สวมสูทสีกรมท่านั่งอยู่คนเดียวทำท่าเหมือนคอยใครบางคน ซันมั่นใจว่าใช่แน่จึงเดินตรงไปที่โต๊ะนั้น
"สวัสดีค่ะ ขอโทษทีนะคะมาสายไปนิดนึง" ซันบอก
ชายคนนั้นงง "อะ เอ่อ ครับ"
"มานานหรือยังคะ"
"ยัง ยังครับ"
ซันนั่งลงตรงข้าม
"คือ จริงๆฉันก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้นะคะ เลยรู้สึกแปลกๆ คุณ..คุณไมค์ใช่ไหมคะ" ซันถาม
"เอ่อ... คือผม"
ยังไม่ทันที่ชายคนนั้นจะตอบอะไร เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลังของซัน
"พี่เอก"
ซันหันไปมองผู้หญิงคนนั้นงงๆ "เอก? ไม่ใช่คุณไมค์เหรอคะ"
ชายคนนั้นส่ายหน้า แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทางด้านหลังของซัน
"คุณซันหรือเปล่าครับ"
ซันหันขวับไปมองแล้วก็อยากจะเป็นลม เมื่อเห็นชายร่างท้วม เนิร์ดๆ สวมสูทสีกรมท่ายืนยิ้มอยู่
"ผมไมค์ครับ"
อ่านต่อหน้าที่ 3
ทางเดินแห่งรัก ตอนที่ 6 (ต่อ)
ซันนั่งกินข้าวกับไมค์อย่างกล้ำกลืน เธอยิ้มฝืนๆ แต่ไมค์ดูมีความสุขมาก
ซันมองหน้าอ้อมที่นั่งอยู่ด้วยในร้านกาแฟ อ้อมยิ้มแหยๆ
"ขอโทษจริงๆนะ ฉันเองก็ไม่เคยเห็นคุณไมค์อะไรนี่มาก่อนเลยเหมือนกัน"
"ที่จริงฉันก็ไม่ใช่ว่าจะตัดสินคนที่หน้าตานะอ้อม แต่คราวหน้าแกช่วยสกรีนหน้าตาให้นิดนึงก่อนได้ไหม"
ห้าสาวนั่งเมาท์กันอยู่ในร้านกาแฟของจูดี้
"เขาอาจจะหน้าตาไม่ดี แต่นิสัยอาจจะดีก็ได้นะ" อ้อมบอก
"ถึงจะนิสัยดีก็เถอะ แต่น้องซันก็ยังสวยเลือกได้อยู่นะคะน้องอ้อม ถ้าอยากจะได้ผู้ชายที่ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ก็คงไม่ยากเกินความสามารถ แล้วที่บริษัทน้องซันล่ะ ไม่มีผู้ชายน่าสนใจเลยเหรอ" จูดี้ถาม
"ก็มีอยู่คนนึงไง แต่เขาลาออกไปแล้ว แล้วก็กำลังจะแต่งงาน" เจนบอก
"พี่จูดี้หมายถึงคนอื่นนอกจากคุณวุธน่ะค่ะ" จูดี้บอก
"ผู้ชายในบริษัทน่ะมีเยอะ แต่ใครจะไปกล้าจีบมัน ดุซะขนาดนี้" ศศิว่า
"พี่ศิ"
"ก็มันจริงใช่ไหมล่ะ แต่ยังไงก็เถอะ พี่ว่า ยุคนี้มันไม่ใช่ยุคจะมาดูตัวกันเหมือนสมัยโบราณแล้ว"
"เห็นด้วยค่ะ" จูดี้บอก "ผู้หญิงยุคใหม่อย่างเราควรจะมีโอกาสเลือกผู้ชายด้วยตัวเอง เอาล่ะ เพราะฉะนั้นในเมื่อผู้ชายใกล้ตัวไม่มีเหลือแล้ว เราก็ต้องไปในที่ๆมนุษย์ผู้ชายรวมตัวกันอยู่"
ทุกคนมองจูดี้อย่างสงสัยว่ามีแผนอะไร จูดี้ยิ้มๆ
ภายในบาร์แห่งหนึ่งที่มีเสียงเพลงทันสมัยดังครึกโครม ผู้คนมากมายกำลังสรวญเสเฮฮา ซัน เจน และจูดี้ก้าวเข้ามาในร้านแล้วหาที่นั่งที่ว่าง ทั้งหมดพากันไปนั่ง
"เสียดายจัง พี่ศิกับพี่อ้อมไม่มาด้วย" เจนว่า
"นั่นเขาคนมีครอบครัวแล้ว ปล่อยเขาไปเถอะ นี่มันเป็นเวลาของสาวโสดอย่างเรา มาปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงกันดีกว่า" จูดี้บอก
"ที่นี่แต่คนหน้าตาดีๆนะพี่จูดี้" ซันบอก
"มันก็แน่อยู่แล้วล่ะค่ะ จูดี้จัดให้ทั้งที จะธรรมดาได้ไงคะ อย่าลืมว่าเรามีภารกิจ ตามล่าหาคนที่ใช่ให้น้องซันโดยเฉพาะ"
จูดี้โบกมือทักทายคนรู้จักก่อนจะพูดต่อ
"คนในวงการเขาชอบมาแฮงค์เอาท์กันที่นี่แหละ พี่เคยทำงานในวงการบันเทิงมาก่อน ก็เลยรู้จักพวกดารานางแบบอยู่บ้าง" จูดี้หันไปเห็นอะไรบางอย่าง "อุ้ยๆๆ ดูนั่น ตำแหน่งสองนาฬิกา"
เจนกับซันหันไปมองตามที่จูดี้ชี้ชวนก็เห็นแดนนี่นายแบบหนุ่มหล่อกำลังสังสรรค์อยู่กับเพื่อน
"ผู้ชายอะไร น่ากิ๊นน่ากิน" จูดี้บอก
"นั่นมันนายแบบนี่พี่จูดี้" เจนว่า
จูดี้เรียกเด็กเสิร์ฟมากระซิบอะไรบางอย่างแล้วชี้ไปทางแดนนี่
"ได้ครับพี่"
เด็กเสิร์ฟพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป
"ทำอะไรน่ะพี่จูดี้"
"ภารกิจการจับคู่ไงล่ะจ๊ะ" จูดี้บอก
เด็กเสิร์ฟเอาเครื่องดื่มไปวางให้แดนนี่แล้วชี้มือมาทางโต๊ะของพวกซัน แดนนี่มองหาคนที่สั่งเครื่องดื่มให้
จูดี้ที่คอยมองอยู่แล้วโบกมือให้แดนนี่แล้วชี้นิ้วมาที่ซันเป็นเชิงบอกว่าซันจัดให้ แดนนี่เห็นความสวยของซันก็ยิ้ม แล้วยกแก้วให้ซันเป็นเชิงขอบคุณ ซันทำอะไรไม่ถูก จูดี้เลยเอาแก้วเครื่องดื่มใส่มือให้ซันชูแก้วตอบ
"เห็นไหมๆ ท่าทางจะปิ๊งน้องซันเข้าแล้ว จัดเลยไหมคะคนนี้" จูดี้เชียร์
"เดี๋ยวสิพี่" ซันเกร็งๆ
"งั้นเดี๋ยวพี่จูดี้ไปชงให้เอง ในกลุ่มนั้นน่ะมีคนที่พี่จูดี้รู้จักอยู่ด้วยล่ะ รับรองชงเสร็จปุ๊บ ดื่มได้ปั๊บ"
จูดี้ลุกขึ้นตรงไปยังโต๊ะของแดนนี่ทันทีโดยไม่ฟังเสียทัดทานใดๆ
ศศิ อ้อม และเด็กๆ กำลังนั่งเล่นกันอยู่ในห้องของอ้อม
"คุณแม่ขา เมื่อไหร่คุณพ่อจะมาง้อคุณแม่ซะทีล่ะคะ ข้าวหอมอยากกลับบ้านแล้วนะ"
"ช่วงนี้พ่อเขางานยุ่งอยู่น่ะลูก" ศศิบอก
"ยุ่งจนไม่มีเวลามาง้อคุณแม่เลยเหรอคะ มันจะเกินไปแล้วนะ"
"คุณแม่ครับ ต้นว่าคุณแม่พาพวกเรากลับบ้านเถอะครับ ต้นรู้นะว่าคุณแม่ก็เป็นห่วงคุณพ่อ จะมีทิฐิไปทำไมก็ไม่รู้ ถ้าคุณแม่ทิฐิมากเกินไป ครอบครัวจะไม่อบอุ่นนะครับ" ต้นกล้าบอก
"นั่นสิ เดี๋ยวเราสองคนก็กลายเป็นเด็กมีปัญหาหรอก" ข้าวหอมบ่น
"ดูสิอ้อม ทำเป็นสอนแม่ ทั้งคู่เลย" ศศิฟ้องเพื่อน
"ถ้าต้นกล้ากับข้าวหอมมีแม่เก่งๆอย่างแม่ศิเนี่ยนะจ๊ะ ไม่มีทางจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาหรอกจ้ะ เชื่อน้าอ้อมเถอะ"
"เอาล่ะ เตรียมตัวกลับห้องนอนกันได้แล้ว ดึกแล้ว" ศศิบอก
เสียงโทรศัพท์ของศศิที่วางอยู่ที่โต๊ะกลางห้องดังขึ้น ต้นกล้ากับข้าวหอมชะโงกดู
"คุณพ่อโทรมา จะรับไหมคะ" ข้าวหอมถาม
"ใครอยากคุยกับพ่อก็รับสิ" ศศิบอก
ต้นกล้าหยิบโทรศัพท์ศศิมากดรับสาย "ฮัลโหล"
โจที่กำลังขับรถใส่หูฟังคุยกับลูกไปด้วย
"ต้นกล้าเหรอลูก เป็นยังไงกันบ้าง"
ต้นกล้าพูดสายโดยมีข้าวหอมเงี่ยหูฟังอยู่ใกล้ๆ
"ก็ดีครับพ่อ... น้องก็สบายดีครับ.... แม่เหรอครับ สงสัยจะยังโกรธอยู่ แม่เขาคงไม่รับสายหรอกครับ"
โจผิดหวังเล็กๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาคาดเดาไว้แล้ว
"เหรอ งั้นก็ไม่เป็นไร"
"นี่คุณพ่อทำอะไรอยู่ครับ" ต้นกล้าถาม
ศศิทำเป็นไม่สนใจแต่ก็คอยเงี่ยหูฟัง
"กำลังขับรถกลับบ้านน่ะ พ่อเพิ่งเสร็จงาน"
"ทำงานดึกอีกแล้วเหรอครับ"
ข้าวหอมแบมือขอโทรศัพท์จากต้นกล้าเพื่อจะคุยบ้าง ต้นกล้าส่งโทรศัพท์ให้น้อง ข้าวหอมคุยกับโจเสียงเจื้อยแจ้ว
"คุณพ่อขา คุณพ่อหายดื้อหรือยังคะ"
"ตอนนี้พ่อไม่ดื้อแล้วลูก" โจบอกลูกสาว
"ดีแล้วค่ะ ถ้าไม่ดื้อแล้ว พวกเราจะได้กลับไปหาคุณพ่อซะที"
จูดี้กลับมาที่โต๊ะของซันกับเจนแล้วก็ยิ้มแย้มปลื้มปริ่มที่ดึงเอาตัวแดนนี่มาได้สำเร็จ
"น้องซันคะ ที่แดนนี่ แดนนี่เขาเป็นนายแบบชื่อดัง"
ซันกับเจนยิ้มทักทาย
"นั่งด้วยคนนะครับ" แดนนี่บอก
แดนนี่นั่งลงที่เก้าอี้ที่ว่างอยู่ เจนกำลังมองแดนนี่อย่างอึ้งและทึ่งในความหล่อ จูดี้ดึงแขนเจนให้ลุกขึ้นเจนทำหน้าเป็นเชิงถาม
"อะไร"
จูดี้ทำหน้าแบบรู้กันจะปล่อยให้อยู่ด้วยกันสองคน เจนจำยอมลุกขึ้นตามจูดี้ไป
เวลาผ่านไปเล็กน้อย เจนกับจูดี้ดื่มไปเมาท์ไปที่เคาน์เตอร์บาร์ จูดี้คุยกับหนุ่มรุ่นน้องกล้ามใหญ่อย่างมีความสุข ส่วนซันนั่งคุยกับแดนนี่ที่โต๊ะได้สักพักแล้ว
"คุณซันทำงานเอเจนซี่เหรอครับ ที่จริงผมก็รับงานถ่ายโฆษณาบ่อยๆนะ น่าแปลกที่เราไม่เคยเจอกัน"
"นั่นสิคะ คงเพราะสไตล์คุณไม่ตรงกับโพรดักส์ที่ซันดูแลอยู่มั้ง" ซันบอก
"แล้วอย่างผมนี่เหมาะกับสินค้าแบบไหนบ้างครับ"
"ก็..น่าจะเป็น สกินแคร์สำหรับผู้ชาย รถยนต์ เครื่องดื่ม โทรศัพท์มือถือ ที่จริงก็ได้หมดทุกโพรดักส์นะคะ"
กลุ่มสาวๆสองสามคนเดินผ่านมาเห็นแดนนี่เข้ามาทักโดยโอบคอแดนนี่อย่างสนิทสนม
"อ้าว แดนนี่..ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ"
"พรุ่งนี้ไปเดินแบบงานที่สยามหรือเปล่า" หญิงคนหนึ่งถาม
"ไปสิ" แดนนี่ตอบ
"แล้วเดี๋ยวเจอกันนะ"
สาวกลุ่มแรกเดินผ่านไป แดนนี่ก็กลับมาคุยกับซันต่อ
"คุณซันเคยไปเรียนที่อเมริกาใช่ไหม ผมก็โตที่อเมริกาเหมือนกัน เรียนที่รัฐไหนครับ"
ซันกำลังจะตอบ "ที่รัฐ....”
สาวนางแบบอีกนางหนึ่งเดินมาทักแดนนี่ขัดจังหวะที่ซันจะพูดพอดี
"ไฮ แดนนี่"
นางแบบสาวก้มลงจุ๊บที่แก้มแดนนี่
"อ้าวเป็นไงมั่ง ช่วงนี้เลิกเที่ยวหรือไง ไม่เห็นเลย" แดนนี่ถาม
แดนนี่กับนางแบบคุยกันโดยไม่สนใจซัน ซันเริ่มเบื่อการเป็นคนสังคมจัดของแดนนี่เสียแล้ว
ศศิกับอ้อมช่วยกันล้างจานอยู่ที่ครัว อ้อมพยายามเกลี้ยกล่อมไปด้วย
"พี่ศิน่าจะพาเด็กๆกลับบ้านได้แล้วนะ ป่านนี้พี่โจคงคิดถึงลูกๆแย่แล้ว"
"ถ้าเขาคิดถึง เขาก็ต้องแวะมาหาลูกบ้างสิ ไม่ใช่หายหน้าไปแบบนี้" ศศิบอก
"แต่พอเขาโทรมาง้อ พี่ศิก็ไม่รับสายเขาเลยนี่ พี่ศิเย็นชาขนาดนี้ พี่โจเขาอาจจะกลัวจนไม่กล้ามาง้อก็ได้นะ"
"ถ้าเขากลัวจริง เขาไม่ทำผิดซ้ำซากๆแบบนี้หรอกอ้อม โจน่ะต้องเจ็บบ้างถึงจะรู้จักจำ"
"นี่จะไม่ใจอ่อนเลยเหรอ"
"นี่เธออยู่ข้างใครกันแน่เนี่ยอ้อม"
"ก็ต้องอยู่ข้างพี่ศิอยู่แล้ว แต่สงสารเด็กๆ ไม่อยากให้ต้องแยกกับพ่อนานๆ"
ศศิก็เป็นห่วงลูกเหมือนกันแต่ก็ยังทำใจแข็งอยู่
จูดี้กับเจนเดินกลับมาที่โต๊ะ
"อ้าว แดนนี่ไปไหนล่ะคะน้องซัน" จูดี้ถาม
ซันบุ้ยใบ้ไปทางหนึ่ง จูดี้กับเจนเห็นแดนนี่กำลังถูกห้อมล้อมด้วยสาวๆ โดยคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนานอยู่ที่มุมหนึ่ง
"โห เนื้อหอมเว่อร์นะ คุณแดนนี่คนนี้" เจนว่า
"นายแบบก็อย่างงี้แหละค่ะ" จูดี้บอก
"กลับกันดีกว่าเจน พี่จูดี้" ซันชวน
"อ้าว จะกลับเลยเหรอ แล้ว...”
จูดี้มองไปทางแดนนี่แต่ซันไม่สนใจนัก
"ปล่อยเขาไปเถอะ ถ้าเขาไม่เห็นเราสำคัญแล้วเราจะไปแคร์ทำไม"
ซันคว้ากระเป๋าเดินนำเจนกับจูดี้ออกไปจากบาร์ สองสาวเดินตามซันไปทันที
วุธกับซันมานั่งปรึกษางานกัน วุธกำลังหัวเราะขำๆ
"นึกยังไงถึงอยากจะมีแฟนขึ้นมา"
"ทำไม คนอย่างฉันจะมีแฟนแล้วมันแปลกตรงไหนไม่ทราบ อายุฉันก็มากขึ้นทุกวัน เพื่อนรอบข้างเขาก็แต่งกันไปจะหมดแล้ว นายเองก็กำลังจะแต่งเหมือนกัน" ซันบอก
"มันก็จริง แต่ถ้าเธอมีแฟนไปจริงๆ เราคง..." วุธทำเหมือนมีเรื่องอะไรในใจ
"คงทำไม" ซันตื่นเต้นว่าวุธจะพูดอะไร
"คงสงสารคนที่จะมาเป็นแฟนเธอ" วุธบอก
ซันทำหน้าดุใส่ "นี่!”
"ก็ดุขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนเขาจะอยู่กับเธอได้ ว่าแต่นายแดนนี่อะไรน่ะ หน้าตาเป็นไงมั่ง"
"นายจะรู้ไปทำไม"
ถึงซันจะไม่ตอบ แต่วุธก็เปิดคอมพิวเตอร์เสิร์ชหาแล้ว เขาหันหน้าจอมาให้ซันดู ซันเห็นภาพแดนนี่ตอนถ่ายแบบ
"คนนี้หรือเปล่า"
"ใช่"
"ก็งั้นๆ" วุธบอก
"งั้นๆอะไรยะ หล่อเทพขนาดนี้ นี่ฉันยังว่าจะชวนเขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์โทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ"
"ของสยามสมาร์ทโฟนเนี่ยนะ"
"ใช่"
"ไม่ได้!”
"ทำไม"
"เราไม่อนุมัติ"
"แล้วทำไมฉันต้องรอนายอนุมัติด้วย นี่มันงานฉันนะ"
"แต่เธอขอให้เรามาช่วยงานนี้ด้วย เพราะฉะนั้น จะเลือกใครเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ต้องถามความเห็นเราก่อน"
"แล้วแดนนี่ไม่ดีตรงไหน"
"ไม่รู้ แต่ไม่เข้าตากรรมการ"
"นายนี่ทำไมต้องหาเรื่องมาขัดฉันตลอดเลย"
วุธทำไม่รู้ไม่ชี้ โดยที่ซันไม่รู้ว่านั่นคืออาการที่วุธกำลังหึง
วิภากำลังไหว้เจ้าอยู่ในศาล ขณะที่เดินไปปักธูปเธอก็เห็นแม่ลูกคู่หนึ่ง โดยลูกสาวกำลังท้องอ่อนๆ สองแม่ลูกคุยกันในขณะที่กำลังไหว้เทพเจ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวิภา
"ไหว้ซะ อากงจะช่วยดูแลปกป้องลูกในท้อง เนี่ยนะ ถ้าไม่ได้อากงช่วยล่ะก็ ลื้อไม่มีทางได้ลูกคนนี้หรอกนา ไหว้ขอบคุณอากงซะเลย"
วิภาปักธูปเสร็จก็เดินเข้ามาทัก
"อาเจ้ สวัสดีค่า มาไหว้เหรอคะ"
"ค่ะ พาลูกสาวมาไหว้"
วิภามองลูกสาวอาเจ้ที่วัยไล่เลี่ยกับอ้อม
วิภาถาม "กี่เดือนแล้วคะนี่"
"สามเดือนค่ะ"
"ดีจริงๆเลย นี่อิฉันก็รอลูกสะใภ้อยู่เหมือนกัน อยากได้หลานมาสืบตระกูลก่อนจะอายุมากไปกว่านี้ แต่นี่ก็หลายเดือนแล้วไม่ท้องซะที"
"ตอนแรกอาเง็ก ลูกสาวเจ้ก็รอมาเป็นปี ไม่ท้องเหมือนกัน" อาเจ้บอก
"แล้วทำไงถึงท้องล่ะเจ้"
"ของแบบนี้มันต้องมีเทคนิคนิดนึง ตอนมาไหว้แป๊ะกงคราวก่อน แป๊ะกงบอกว่าต้องทำลูกกันในคืนวันเพ็ญแล้วจะเห็นผล คืนที่พระจันทร์เต็มดวงสว่างสดใส ส่งผลต่อธาตุหยินในร่างกายผู้หญิงให้พร้อมที่จะทำลูก ของอาเง็กเนี่ยนะ ครั้งเดียวติดเลย"
"คืนวันเพ็ญเหรอ...” วิภาทวนคำ
อาเจ้พยักหน้าคอนเฟิร์ม วิภามีความหวังเรืองรองขึ้นมา
วินนั่งทำงานเอกสารอยู่ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น วินหยิบมามองหน้าจอก็เห็นเป็นชื่อหม่าม๊า
วินกดรับ "ครับม๊า"
วิภาโทรศัพท์คุยกับวิน โดยที่สุพงษ์นั่งเล่นเกมอยู่แถวนั้น
"อาวิน ยุ่งอยู่ไหมลูก"
"ไม่ยุ่งมากครับหม่าม๊า คุยได้"
"ม๊าจะชวนวินกับอาอ้อมมากินข้าวที่บ้าน
"ได้ครับม๊า วันเสาร์ก็ได้นะ ผมหยุด"
"ไม่ได้ เสาร์ไม่ทัน มันนานไป ต้องเป็นวันพุธนี้"
"วันพุธนี้! ทำไมต้องเป็นวันพุธล่ะครับม๊า ผมไปวันหยุดไม่ดีเหรอ สะดวกกว่านะ"
"ไม่ได้ ต้องเป็นวันพุธนี้เท่านั้น อ้อ แล้วก็เอาเสื้อผ้ามานอนค้างที่บ้านด้วย"
วินงง "ค้าง"
"ไม่ต้องถามได้ไหม บอกให้ทำก็ทำเถอะน่า"
วิภาวางสายจากวินแล้วหันไปมองสุพงษ์
"เฮีย!”
สุพงษ์สะดุ้ง "ปั๊ดโธ่ ตายจนได้"
"ใครตาย นี่กล้าพูดคำอัปมงคลในบ้านเชียวเหรอ แช่งกันเหรอเฮีย" วิภาว่า
"ไม่ได้แช่ง ตัวเล่นในเกมส์ มันโดนยิงตาย" สุพงษ์บอก
"อีกแล้ว บอกว่าห้ามพูดคำอัปมงคลในบ้านไง"
สุพงษ์เอามือปิดปากเพราะกลัวหลุดแล้วจะเป็นเรื่องอีก
"หยุดเล่นเกมส์ได้แล้ว มาขับรถให้หน่อย"
สุพงษ์ถาม "จะไปไหน"
"ไปซื้อของไหว้"
วศินเดินเข้ามาในห้องนั้นพอดีเพราะเขาเตรียมจะออกไปข้างนอก
"อ้อ อาวศิน จะไปทำงานเหรอ" วิภาถาม
"ครับม๊า"
"เดี๋ยวโทรบอกอาหวานกับอานิคนะว่า อาวินกับอ้อมจะมากินข้าวที่บ้านวันพุธ ให้มากันให้พร้อมหน้า"
"แต่วันพุธพี่ๆเขาทำงานนะม๊า"
"บอกให้มาก็มาสิ จะมีปัญหากันทำไม" วิภาว่า
อาร์ทนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะตัวเอง ส่วนเจนเพิ่งมาถึงออฟฟิศ เจนเอาถุงใส่แซนวิชวางลงให้อาร์ทบนโต๊ะ
"อ้ะ"
"อะไร" อาร์ทถาม
"อาหารเช้า ซื้อมาจากร้านพี่ที่คอนโด เอามาเผื่อ" เจนบอก
อาร์ทมองด้วยสายตากึ่งแปลกใจกึ่งไม่ไว้ใจ
"อ้อ! ที่จริงไม่ได้อยากเผื่อหรอกนะ แต่บังเอิญกินเหลือ เลยเอามาสงเคราะห์" เจนบอก
เจนเดินเชิดไปที่โต๊ะทำงาน อาร์ทแอบยิ้มเพราะรู้ว่าเจนทำปากร้ายไปอย่างนั้น
จ๊อดเข้ามาในออฟฟิศแล้วมองหาเจนแต่ไกลพอเห็นเจนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขาก็เดินเข้ามาหาพร้อมถุงของฝากในมือ
"เจน" จ๊อดเรียก
"มีอะไรหรือเปล่าคะพี่จ๊อด"
"พี่เอาของฝากจากปารีสมาให้ ตามที่สัญญาไว้"
เจนรับถุงไปอย่างปลาบปลื้มดีใจ
"ขอบคุณค่ะ"
ทิชามองจ๊อดกับเจนจากที่ไกลๆ ก่อนจะเดินเข้ามาเอาเรื่อง
"ไปสัญญาอะไรกันตั้งแต่เมื่อไหร่" ทิชาถาม
เจนแกล้งยั่วประสาท "ก็แบบว่า สัญญาใจอะไรงี้ เรื่องส่วนตัวรู้กันแค่สองคนพอ ไม่ควรบอกคนอื่น"
ปุ๊กกี้ออกมาจากห้องทำงานเห็นเจนกับทิชาพอดี
"ดัดจริต อย่างพี่จ๊อดเขาไม่มีทางสัญญาใจอะไรกับเธอหรอก แล้วนี่ของฝากอะไร"
ทิชาดึงถุงไปจากมือเจนแล้วเปิดดูของข้างใน พอทิชาเห็นว่าเป็นลิปสติกก็เบะหน้าใส่
"แค่ลิปสติก กระจอก"
ทิชาสะบัดหน้าแล้วเดินไป
อ่านต่อหน้าที่ 4
ทางเดินแห่งรัก ตอนที่ 6 (ต่อ)
รถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบริษัท คนขับรถวิ่งมาเปิดประตูให้ เจตน์ เจ้านายซึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง เจตน์ก้าวลงมาจากรถแล้วเดินเข้ามาในบริษัทโดยมีเลขาติดตามสองสามคน เจตน์เข้ามาในบริษัทด้วยท่าทางเป็นคนสำคัญ พนักงานหลายคนพากันมองอย่างแปลกใจ สาวๆจับกลุ่มซุบซิบขณะเจตน์เดินผ่านไป
"ใครน่ะแก"
"ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นCEO ของBB Property”
“BB Property เลยเหรอ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่อันดับต้นๆของเมืองไทยนั่นน่ะเหรอ"
"นั่นแหละ"
"โอ้โห ยังหนุ่มอยู่เลยนะ"
"ได้ข่าวว่ายังโสดด้วย สงสัยจะมาหาบอส"
เจตน์กับผู้ติดตามเดินตรงไปทางห้องMD.
ซันมาถึงหน้าห้องเจ้านายแล้วเคาะประตูเบาๆ ก่อนจะมีเสียงของ MD. ดังลอดออกมา
"เข้ามาสิ"
ซันเปิดประตูเข้าไปเห็นเจตน์นั่งอยู่แล้ว เลขาสองคนนั่งอยู่มุมหนึ่ง
"บอสเรียกฉันเหรอคะ" ซันถาม
"มาแล้วเหรอคุณซัน นั่งก่อนสิ"
ซันนั่งลงตรงเก้าอี้ที่จัดไว้
"คนนี้ล่ะเจตน์ มาร์เก็ตติ้งไดเร็คเตอร์มือหนึ่งของบริษัท" MD. บอกซัน "คุณเจตน์เขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนของผมเอง"
"บริษัทผมกำลังจะทำโปรเจคท์คอนโดสามแห่ง อยากได้ที่ปรึกษาเรื่องการตลาดกับโฆษณา" เจตน์บอก
"ยินดีค่ะ"
เจตน์ประทับใจความสวยและดูดีของซัน
หลังจากคุยงานเสร็จ ซันก็เดินออกมาจากห้องเจ้านายพร้อมเจตน์และเลขา เลขาแยกตัวออกไป เจตน์หยุดเดินแล้วยื่นนามบัตรให้ซัน
"นี่นามบัตรผม"
ซันส่งนามบัตรของตัวเองแลกกัน "นี่ของดิฉันค่ะ"
"หวังว่าผมคงจะมีโอกาสได้ทานข้าวกับคุณซันเร็วๆนี้" เจตน์บอก
ซันงง "คะ"
"ให้เกียรติไปทานข้าวกับผมสักมื้อได้ไหมครับ เผื่อว่าเราจะได้คุยเรื่องงานกันต่ออีกหน่อย"
"ปกติดิฉันไม่คุยธุรกิจกับลูกค้าตอนกินข้าวค่ะ"
"งั้นถ้าผมชวนในฐานะอื่นล่ะครับ ที่ไม่ใช่ลูกค้า"
"เอ่อ..ดิฉัน"
"อย่าเพิ่งปฏิเสธครับ ลองกลับไปคิดดูก่อน เบอร์โทรผมอยู่ในนามบัตรแล้ว"
เจตน์ส่งยิ้มเท่ๆปิดท้ายแล้วเดินไป ซันเดินกลับห้องโดยยังไม่คิดจะไปตามคำชวนของเจตน์
วินนั่งดูทีวีอยู่กับอ้อม
"เออวิน เรื่องที่อ้อมฝากให้ไปหาเพื่อนที่ยังโสดอยู่น่ะ ยังพอจะมีใครอีกไหม" อ้อมถาม
"วินก็แนะนำให้หลายคนแล้วนะ นี่ยังไม่ลงตัวอีกเหรอ" วินถามกลับ
"ยังจ้ะ ก็เพื่อนอ้อมน่ะ ทั้งสวย ทั้งเก่ง แถมยังเป็นพวกดอกไม้เหล็กอีกต่างหาก ไม่ใช่ว่าจะหาคนที่เหมาะได้ง่ายๆ"
"ถ้าซันเขายังไม่อยากมีแฟนก็ปล่อยเขาไปไม่ดีเหรออ้อม จะฝืนใจเขาทำไม ของแบบนี้ถ้ามันจะมาก็มาเอง"
"ที่อ้อมทำแบบนี้ก็เพื่อเขานั่นแหละ ถ้าไม่เปิดใจศึกษาผู้ชายคนอื่นบ้าง แล้วเขาจะตัดใจจากว่าที่เจ้าบ่าวของคนอื่นได้ยังไง"
"งั้นเดี๋ยววินจะช่วยนึกดูแล้วกันนะ ว่ายังมีเพื่อนคนไหนเหลือเป็นโสดอยู่บ้าง"
"ขอบใจนะวิน น่ารักที่สุดเลย อ้อ แล้ววินก็อย่าลืมเรื่องพี่โจด้วยล่ะ ต้องไปคุยกับพี่โจด่วนเลยนะ กำชับพี่โจด้วยว่าให้มาง้อพี่ศิให้สำเร็จ"
"จ้า นี่ห่วงแต่เพื่อนๆนะเนี่ย"
"ก็เพื่อนกำลังทุกข์นี่จ๊ะ ไม่ห่วงได้ยังไง"
"งั้นก็อย่ามัวแต่ห่วงเพื่อนๆ จนลืมเรื่องที่ต้องไปกินข้าวกับหม่าม๊าล่ะ"
"จ้า ไม่ลืมหรอก เดี๋ยวจะหาของไปฝากอาม๊าด้วย"
ศศิขับรถเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน เธอไขกุญแจเข้าบ้านพร้อมถือถุงที่ซื้อของมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าไปด้วย
ศศิเอาอาหารแช่แข็ง ผัก ผลไม้ ใส่ตู้เย็น จากนั้นก็เอาอาหารสำเร็จรูป ขนม เครื่องดื่มต่างๆออกมาจัดวางในครัว
ศศิชงนมเย็นใส่ขวดไว้ให้โจ
ศศิเก็บเสื้อผ้าโจในตะกร้าออกมาจากห้องนอน
ศศิเอาเสื้อผ้าไปใส่ในเครื่องซักผ้า
สาวๆ นั่งล้อมวงคุยกันอยู่ในร้านกาแฟของจูดี้ตามปกติ
"พี่ศิ แล้วนี่พี่ศิไม่ห่วงพี่โจเขาบ้างเลยเหรอ ผู้ชายอยู่คนเดียว จะกินอยู่ยังไงก็ไม่รู้"
ศศิชะงักเพราะจริงๆ ก็แอบเป็นห่วงอยู่แต่ก็ทำไม่สนใจ
"จะต้องไปห่วงเขาทำไม ไม่ต้องยุ่งเรื่องพี่หรอก เอาเรื่องยัยซันให้จบเถอะ"
ซันทำหน้างงๆ
"จริงด้วย น้องซัน เนี่ยแดนนี่เขาโทรมาบ่นกับพี่ใหญ่เลยนะว่าจู่ๆน้องซันก็หายตัวไป ตอนนี้ตามหาเบอร์น้องซันใหญ่เลย" จูดี้บอก
ซันไม่ใส่ใจ "ปล่อยเขาไปเถอะพี่จูดี้ แล้วก็ไม่ต้องไปให้เขาล่ะ"
"คุณแดนนี่เขาไม่ดีตรงไหนเหรอพี่ซัน เขาทั้งหล่อ ทั้งมีชื่อเสียงนะ" เจนงง
"พี่ว่าเขาดูเป็นเจ้าพ่อปาร์ตี้มากไปหน่อย ผู้ชายที่เที่ยวกลางคืนได้บ่อยแบบนั้นถ้าไม่ใช่พวกขี้เกียจ ก็พวกที่ชีวิตไร้จุดหมาย หรือไม่ก็พวกเจ้าชู้ เธอก็เห็นนี่เจน ผู้หญิงรุมซะขนาดนั้น ขืนคบเป็นแฟนคงเหนื่อยแย่"
"เรื่องเยอะจริงจริ๊งๆ เพื่อนฉัน" อ้อมว่า
"ก็เอาเถอะ ถ้าซันมันยังไม่อยากมีผู้ชาย ก็ไม่ต้องไปบังคับมัน" ศศิบอก
"แต่มนุษย์ผู้ชายเนี่ย ทำให้โลกของผู้หญิงอย่างเราสดใส ซาบซ่านะคะคุณศิ" จูดี้บอก
"ที่อ้อมทำเนี่ยก็เพื่ออนาคตของซันนะเจ๊ ผู้หญิงเราน่ะ เปอร์เซ็นต์ในการมีคู่จะน้อยลงเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น ถ้าไม่มีแฟนซะตั้งแต่ตอนอายุเท่านี้ก็อาจจะหาไม่ได้อีกเลย แล้วก็อาจต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่"
"เออ อยู่คนเดียวไปจนแก่ก็ดีเหมือนกัน แกดูสิพอมีครอบครัวแล้วชีวิตมันวุ่นวายขนาดไหน วันๆนึงหมดเวลาไปกับเรื่องดูแลบ้าน ดูแลลูก" ศศิว่า
เจนช่วยเสริม "แล้วก็ตามจับกิ๊กสามี"
"ใช่ ชีวิตโสดเนี่ยมันมีค่าขนาดไหน รู้หรือเปล่า รักษาเอาไว้นานๆเถอะ เชื่อพี่"
"เออ ซัน แล้วลูกค้าที่ชวนไปกินข้าววันนี้ เขาเป็นไงบ้าง โอเคไหม" อ้อมถาม
"ชื่อคุณเจตน์น่ะ เจ้าของBB Property” ซันเล่า
ทุกคนฮือฮา "ฮ้า!!”
"รวยขนาดนั้นเลย" อ้อมถาม
"อื้อ" ซันตอบ
"ถ้ารวยขนาดนั้น คงไม่โสดแล้วมั้ง หรือไม่ก็แก่" เจนบอก
"คนนี้พี่เคยอ่านประวัติมา ยังโสด ยังไม่แก่ นอกจากไม่แก่แล้วยังหน้าตาดีด้วย รับนัดเขาเลยยัยซัน" ศศิเชียร์
"อ้าว เจ๊ ไหนเมื่อกี๊เพื่อบอกว่าไม่อยากให้น้องมีภาระไง" ซันงง
"ภาระระดับร้อยล้านนะน้องซัน ถ้าน้องซันไม่รับภาระนี้ พี่จูดี้จะรับเอง"
"เอางั้นเหรอ" ซันลังเล
"ลองดูน่า แค่กินข้าวมื้อเดียว ไม่มีอะไรเสียหายหรอก" อ้อมบอก
"นี่แหละคุณค่าที่คุณคู่ควร จัดด่วนค่ะคุณน้อง"
ซันยังลังเล "ดีเหรอ"
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน "ดีมาก"
ซันพยักหน้ารับพร้อมกับคิดในใจว่าเอาไงก็เอา
โจมานั่งดื่มปรับทุกข์กับวินที่บาร์ โจได้แต่ถอนใจ วินจึงถามขึ้น
"นี่พี่จะปล่อยให้พี่ศิเขาอยู่ที่คอนโดไปอีกนานแค่ไหน"
"ก็คงต้องแล้วแต่เขา" โจบอก
"พูดแบบนี้นี่ยังไงพี่ นี่พี่โจไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือไง"
"แล้วจะให้พี่ทำยังไง โทรไปเขาก็ไม่เคยยอมคุยกับพี่เลย ท่าทางเขาจะโกรธพี่มากนะหมอ วันที่กลับจากพัทยาก็ไม่โวยวายสักคำ ถ้าศิไม่โวยวายก็หมายถึงสัญญาณไม่ดี แสดงว่าเขาเอาจริง"
"งั้นพี่ก็ควรจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นได้แล้ว"
"พี่ก็เลิกแล้ว เลิกเด็ดขาด ที่จริงที่ผ่านๆมา พี่ก็ไม่อยากไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นหรอกนะ แต่บางทีผู้หญิงเขาเสนอท่าทีมา มันก็อดไม่ได้ มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างเรา หมอเป็นผู้ชายเหมือนกันก็น่าจะเข้าใจสิ"
"แต่ผมไม่เหมือนพี่ ผมเลือกจะแต่งงานกับอ้อมแล้ว ผมก็ตั้งใจจะอยู่กับเขาคนเดียวไปตลอดชีวิต"
"แต่งแรกๆพี่ก็เป็นพระเอกแบบนี้แหละ"
"แต่พอแก่แล้วตบะแตก" วินว่า
"เฮ่ย แบบนี้ยังไม่เรียกว่าแก่ แล้วนี่ชีวิตหลังแต่งงานเป็นไงบ้าง"
"ก็ดีนะพี่ ตอนนี้กำลังทำปฏิบัติการปั๊มลูกกันอยู่"
"เฮ้อ... อย่าเพิ่งมีเลยหมอ เชื่อพี่เหอะ ใช้ชีวิตให้คุ้มก่อน พอมีลูกแล้วอะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม ที่พูดเนี่ยไม่ใช่ว่าพี่ไม่รักลูกนะ แต่บางทีก็เหมือนกับว่าผู้หญิงเขาจะหันไปสนใจแต่ลูก ไม่ใส่ใจเราเหมือนเมื่อก่อน"
"น้อยใจเหรอพี่ ผมเห็นพี่ศิเขาก็ดูแลพี่ตลอดนะ ผมว่านะพี่โจ แทนที่จะมานั่งตัดพ้ออยู่แบบนี้ พี่เอาเวลาไปง้อพี่ศิดีกว่า"
"เฮ้อ... ไม่ใช่ว่าไม่อยากง้อ แต่ง้อก็โดนด่า"
"แล้วพี่ไม่คิดถึงลูกหรือไง" วินถาม
"คิดสิ"
"ที่จริงพี่ศิเขาก็อยากกลับบ้านนะพี่ แต่เขารอให้พี่ไปง้ออยู่"
"หมอรู้ได้ไง"
"อ้อมบอกผม พี่ก็รู้นี่ สองคนนั้นเขาคุยกันทุกวัน"
"อืม... อ้อมพูดอย่างนั้นจริงหรือ"
วินพยักหน้าอย่างมั่นใจ "จริงสิพี่"
โจได้ฟังแล้วก็มีกำลังใจมากขึ้น
วินเพิ่งกลับมาถึงห้อง อ้อมยื่นแก้วน้ำเย็นให้วินอย่างเอาใจ
"บอกพี่โจให้มาง้อพี่ศิหรือยัง" อ้อมถาม
"บอกแล้วจ้ะ"
"แล้วพี่โจว่าไง"
"คิดว่าคงจะมาง้อเร็วๆนี้"
"วินทำดีมาก งั้นวันนี้วินพักผ่อนนะ เหนื่อยมาเยอะแล้ว"
"แล้วนี่เราไม่ต้องทำภารกิจกันเหรอจ๊ะ"
"ไม่ต้องจ้ะ ช่วงไข่ตกผ่านไปแล้ว ที่เหลือก็รอลุ้นอย่างเดียว แต่อ้อมมั่นใจว่าเดือนนี้ต้องสำเร็จแน่ๆ เพราะเราใช้ทั้งหลักการทางวิทยาศาสตร์ ใช้ทั้งความรัก ลูกเราจะต้องออกมาน่ารักแน่ๆเลยวิน"
อ้อมฝันหวานถึงอนาคต วินมองภรรยาอย่างเอ็นดู
โจกลับมาถึงบ้านก็เดินเข้าไปในครัว พอเปิดตูเย็นจะรินน้ำเขาก็เห็นอาหารอยู่ในตู้พร้อมกับขวดที่ใส่นมเย็น มีนมสีชมพูแช่อยู่เต็มขวด โจหยิบขวดนมเย็นขึ้นมามองก็รู้ทันทีว่าใครทำ
"ศิ"
โจเข้ามาในห้องนอนแต่ก็ไม่มีใครอยู่ มีเพียงเสื้อผ้าโจถูกพับเรียงไว้เรียบร้อยบนเตียง โจรีบโทรหาศศิ แต่มีเพียงเสียงจากสัญญาณเข้าบริการรับฝากข้อความ โจวางสายด้วยความผิดหวัง
นิคพาหวานที่ท้องได้ประมาณ5เดือนมานั่งที่โซฟาห้องรับแขก วศินเดินเข้ามาดูท้องพี่สาว
"นี่ท้องใหญ่ขึ้นแล้วนะพี่หวาน เห็นชัดแล้ว" วศินบอก
"ไปอัลตร้าซาวน์มาแล้วด้วยนะ" นิคเล่า
วิภานั่งอยู่กับสุพงษ์ โดยที่ของไหว้ และขนมต่างเตรียมวางไว้ที่โต๊ะด้านหน้า
วิภาตื่นเต้น "แล้วผู้หญิงหรือผู้ชาย"
"ผู้หญิงค่ะม๊า" หวานตอบ
วิภาผิดหวังไปเล็กน้อย "ลูกคนโตควรจะเป็นผู้ชายจะได้เป็นผู้นำของบ้านได้ในอนาคต แต่เอาเถอะ ผู้หญิงก็ยังดี"
"เป็นผู้หญิงสิดี เด็กผู้หญิงจุ๋มจิ๋ม ขี้อ้อนน่ารักออกนะเธอ แล้วเตรียมตั้งชื่อลูกไว้หรือยัง" สุพงษ์ถาม
"เตรียมแล้ว ใช่ไหมนิค" หวานหันมาถามสามี
"ใช่ครับ เตรียมไว้สองสามชื่อแล้ว ว่าจะให้ชื่อ....”
วิภาสวนขึ้นทันที "หยุดเลย ไม่เอาๆๆ คิดเองได้ยังไง เรื่องชื่อลูกมันเรื่องสำคัญนะ ชื่อดีหรือไม่ดีมันส่งผลต่อดวงชะตาไปตลอดชีวิตเลย เราตั้งเองไม่ได้ ต้องไปหาซินแสมาตั้งให้ ซินแสเขาจะได้ดูตามวันเดือนปีเกิด แล้วหาชื่อที่เป็นมงคล"
นิคกับหวานรับคำพร้อมกัน "ครับ / ค่ะ ม๊า"
"แล้วอานิคก็ต้องดูแลเมียดีๆหน่อยรู้หรือเปล่า คนท้องต้องบำรุงเยอะๆ" วิภาบอก
"ครับ"
วินกับอ้อมมาถึงพอดี วศินหันไปเห็นก็พูดขึ้น
"พี่วินมาแล้ว"
"สวัสดีครับป๊า ม๊า"
"สวัสดีค่ะ"
น้องๆ และวิน กับอ้อมสวัสดีกันตามธรรมเนียม วินมองข้าวของที่วางเตรียมไว้
"โห นี่จะฉลองใหญ่อะไรกันเนี่ย ขนมนมเนยเต็มไปหมด"
"นี่ไม่ใช่ขนมให้คนกินหรอกพี่วิน" วศินบอก "ขนมไหว้น่ะ หม่าม๊าเขาเตรียมไว้ให้พี่วินกับพี่อ้อมโดยเฉพาะ"
รถหรูของเจตน์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าร้านอาหารสุดหรู คนขับลงมาเปิดประตูด้านคนนั่ง ซันก้าวลงมาจากรถ ส่วนเจตน์ลงมาจากอีกด้านหนึ่งของรถ ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนจะเข้าไปในร้าน
พนักงานเสิร์ฟเดินนำซันกับเจตน์มาที่โต๊ะหนึ่งซึ่งวางป้ายจองเอาไว้แล้ว เจตน์ขยับเก้าอี้ให้ซันนั่งด้วยท่าทางเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว
"ขอบคุณค่ะ"
พนักงานเอาเมนูมาวางให้
"ร้านนี้เนื้อสเต็กขึ้นชื่อมากครับ คุณซัน" เจตน์บอก
ซันยิ้มรับ
"ผมว่าจะสั่งไวน์ คุณซันชอบไวน์แดงหรือขาวครับ"
"อะไรก็ได้ค่ะ"
ซันเข้ามาล้างมือในห้องน้ำ จากนั้นเธอก็สำรวจความเรียบร้อยอยู่หน้ากระจก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ซันหยิบเครื่องโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือก็เห็นเป็นชื่อวุธ
"วุธ.. โทรมาทำไมตอนนี้" ซันกดรับสาย "ฮัลโหล"
วุธที่ยังนั่งทำงานอยู่โทรหาซัน
"ซัน ยุ่งอยู่หรือเปล่า"
ซันคุยโทรศัพท์ขณะอยู่ในห้องห้องน้ำ
"ไม่ยุ่ง แต่ยังไม่สะดวกคุย นายมีอะไรหรือเปล่า"
"มีเรื่องงานจะปรึกษา ป่านนี้แล้วยังทำงานอยู่อีกเหรอ"
"ไม่ได้ทำงาน วันนี้ฉันมีเดท"
วุธตกใจ "เดท! กับใคร ที่ไหน"
"แล้วมันเรื่องอะไรของนายไม่ทราบ ถ้าเรื่องไม่สำคัญก็แค่นี้ก่อนนะ มีคนรอกินข้าว"
"เดี๋ยวๆ เรามีธุระด่วน สำคัญมาก ต้องคุยตอนนี้"
"งั้นก็ว่ามาเลย ด่วน"
สมองของวุธไม่อยู่กับเรื่องงานแล้วเพราะมีเรื่องอื่นที่กวนใจเขาอยู่
"ตกลงว่าเธอไปกินข้าวกับใคร" วุธถาม
"ไหนว่าจะคุยเรื่องงาน แค่นี้นะ"
"เฮ้ย เดี๋ยวสิ"
"แล้วพรุ่งนี้จะโทรไปคุยนะวุธ"
ซันกดวางสายแล้วก็บ่นกับตัวเอง
"อะไรของเขา"
ซันนั่งคุยกับเจตน์ที่โต๊ะอาหาร
"ปกติผมเป็นคนที่ชอบคุยแต่เรื่องงาน พอคุณซันไม่ชอบคุยเรื่องงานตอนกินข้าว เลยไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไรดี"
"คุยเรื่องงานอดิเรกก็ได้นี่คะ"
เสียงข้อความโทรศัพท์ซันดังขึ้น ซันเห็นว่าเธอได้รับข้อความจากวุธก็กดอ่านในใจ
"กินข้าวเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านล่ะ"
พนักงานเอาแก้วไวน์มาวาง ก่อนจะรินไวน์ขาวให้แก้วของเจตน์เพื่อให้เขาเทสต์ เจตน์จิบไวน์แล้วทำสีหน้าไม่ชอบใจ
"ไวน์ตัวนี้ต้องเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้อง ความเย็นที่15ถึง18องศา แต่นี่อุณหภูมิยังไม่ได้ที่ แบบนี้เอามาเสริ์ฟได้ยังไง"
"ขอ..ขอโทษครับ"
"ไปเอาขวดใหม่มา แล้ววัดให้ได้ที่15องศาก่อนค่อยเอามาเสิร์ฟ"
พนักงานเสิร์ฟรับคำ "ครับ"
พนักงานรีบเก็บขวดไวน์และกลับไป ซันงงว่าแค่นี้ก็ต้องถึงกับเปลี่ยนขวดเลยเหรอ
วุธเดินไปเดินมาเพราะอยู่ไม่ติดที่ เขากำลังกังวลว่าซันจะมีแฟน วุธหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างละล้าละลังว่าจะโทรหาซันดีไหม แล้วเขาก็ไม่กล้าโทรจึงกดส่งข้อความแทน
ข้อความจากวุธขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์ซัน
"พรุ่งนี้อย่าลืมโทรกลับด้วย"
ซันอ่านแล้วพยายามไม่สนใจ เธอเงยหน้ายิ้มให้เจตน์ มีอาหารวางอยู่ตรงหน้าเจตน์และซันคนละจาน เจตน์หั่นเนื้อสเต็ก พอเห็นเนื้อข้างในแล้วเขาก็วางมีดกับส้อมลงอย่างเซ็งๆ ก่อนจะกระดิกนิ้วเรียกพนักงานมาหา พนักงานเดินมาที่โต๊ะ
"ครับ"
"ฉันสั่งทีโบน มีเดียมแร แล้วนี่เอาอะไรมา นี่มันแรจนใกล้จะดิบอยู่แล้ว" เจตน์ว่า
ซันที่กำลังจะหั่นเนื้อชะงักไปด้วย เธอวางส้อมมีดลง
"ขอโทษครับ เดี๋ยวผมจะจัดจานใหม่มาให้"
"ไม่ต้องแล้ว ถ้าเชฟที่นี่ ไม่เข้าใจว่ามีเดียมแรคืออะไร ก็ไม่ต้องทำมาแล้ว" เจตน์ว่า
ซันอึ้งว่าอะไรจะละเอียดเป๊ะเว่อร์ขนาดนี้
พระจันทร์คืนวันเพ็ญส่องสว่างเต็มดวง ข้าวของเซ่นไหว้ถูกจัดวางอย่างดีบนโต๊ะกลางสนาม ทุกคนในบ้านกำลังจุดธูปไหว้ วิภาปักธูปแล้วบอกวิน
"คืนนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง แป๊งกงท่านบอกไว้ว่าถ้าจะได้ลูกได้หลาน ก็ต้องไหว้ขอพรจากเทพแห่งดวงจันทร์"
"อ๋อ... ที่ให้ผมมานี่ก็จะให้มาไหว้พระจันทร์เต็มดวงนี่เอง งั้นนี่ก็เสร็จพิธีแล้วใช่ไหมครับม๊า" วินถาม
"ยัง ยังไม่เสร็จพิธี" วิภาบอก
ทุกคนในบ้านรวมตัวกันอยู่หน้าห้องนอนห้องหนึ่งในบ้าน
วิภาอธิบาย "ไหว้เทพดวงจันทร์นั่นแค่อุ่นเครื่อง ขั้นต่อไปนี่แหละก็คือภารกิจที่แท้จริง เพื่อความมั่นใจว่าภารกิจคืนนี้จะลุล่วงไปได้ด้วยดี ม๊าก็เลยจัดห้องไว้ให้วินกับอ้อมค้างที่นี่คืนนี้" วิภาเปิดประตูห้องออก "ห้องนี้ก็ห้องเก่าของอาวินเอง"
"จะให้เราทำอะไรคะม๊า" อ้อมถาม
"จะทำอะไร! ก็ปั๊มหลานให้ม๊าน่ะสิ" วิภาบอก
ทุกคนเหวอ
"ต้องคืนนี้เลยเหรอครับ" วินถาม
"ใช่ คืนนี้เป็นฤกษ์ที่สำคัญที่สุด พระจันทร์เต็มดวงสว่างสุกใส พลังจากจันทร์เต็มดวงจะส่งผลให้ธาตุหยินในตัวอาอ้อมแข็งแรง แล้วจะติดลูกเร็วขึ้น เอ้า เข้าไปเลย เตรียมปฏิบัติภารกิจกันได้แล้ว"
"เรื่องแบบนี้มันเรื่องของผัวเมียเขา มารุมกันเหมือนเชียร์บอลพรีเมียร์ลีคยังงี้ มันจะหดหมดนา จะไหวเหรอวิน"
"ต้องไหวสิ ไม่ไหวได้ยังไง ทุกคนรอให้กำลังใจอยู่"
วินกับอ้อมทำหน้าแหยๆ
นิค หันไปหลุดปากพูดกับหวาน "ของเรายังโชคดีนะหวาน ตอนทำลูกกัน ไม่ต้องมีกองเชียร์มาส่งถึงหน้าห้องแบบนี้"
วิภาหันขวับมาจิกตามองลูกเขย นิครีบปิดปากทันที
วินกับอ้อมถูกบังคับให้เข้ามาในห้อง ทั้งคู่ยืนอยู่กลางห้องแล้วทำตาปริบๆ วิภาปิดประตูทันที
"มาเฝ้ากันเต็มบ้านแบบนี้ ใครจะมีอารมณ์กุ๊กกิ๊กกัน" วินว่า
"งั้นเราจะทำยังไงดีล่ะวิน" อ้อมถาม
วินกับอ้อมมองหน้ากัน
เจตน์กับซันออกมาจากร้านอาหาร รถหรูของเจตน์จอดรออยู่แล้ว คนขับรีบลงจากรถแต่เขาเผลอปิดประตูแรงไปหน่อยด้วยความรีบ คนขับรถกำลังจะเปิดประตูให้ซันแต่ก็โดนเจตน์ดุ
"ดำ รถฉันไม่ใช่รถบรรทุกนะ เปิดปิดประตูรถให้มันเบามือหน่อย รถนี่ราคาเท่าไหร่รู้หรือเปล่า"
"ขอโทษครับเจ้านาย"
"แล้วบอกกี่ทีแล้วว่าจะจับรถก็ให้ใส่ถุงมือก่อน เห็นไหมว่ารอยนิ้วมือแกเต็มรอบคันรถแล้ว นี่ถุงมือไปไหน"
"ลืมใส่ครับ"
เจตน์หงุดหงิด "ไม่ต้องขับละ เอากุญแจมา จะไปไหนก็ไปไป"
คนขับรถส่งกุญแจให้ก่อนจะเดินคอตกหายไป เจตน์เปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้ซันแล้วทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เชิญครับ คุณซัน เดี๋ยวผมไปส่ง"
แต่ซันรู้สึกเจตน์ไม่น่ารักจึงไม่อยากไปต่อกับเจตน์แล้ว
"คุณเจตน์คะ ขอโทษนะคะ ฉันจะกลับเอง"
"ทำไมล่ะครับ"
"ฉันอึดอัดน่ะค่ะ ฉันคิดว่า..คงไปกับคุณไม่ได้แล้ว"
ซันพูดเรียบๆ แต่แววตาบอกความหมายว่าการเดทกับเจตน์ได้สิ้นสุดลงแล้ว
วินกับอ้อมนั่งเล่นวิดีโอเกมส์กันฆ่าเวลาให้ผ่านไป
"เกมส์นี้ไม่ได้เล่นตั้งแต่เข้ามหาลัยเลยนะเนี่ย ยังสนุกอยู่เลย" วินบอก
ภาพเกมส์ในจอตัวเล่นของวินกับอ้อมกำลังต่อสู้กันอยู่ ตัวเล่นของวินชกตัวเล่นของอ้อม
"โห วิน ทำเบาๆหน่อยสิ" อ้อมบอก
"เป็นไง อาวุธของวิน เด็ดใช่ไหม"
"เดี๋ยวเหอะๆ เค๊าจะเอาคืนมั่ง นี่ๆๆ คราวนี้อ้อมต้องเป็นฝ่ายรุกมั่งละ"
ตัวเล่นของอ้อมชกตัวเล่นของวินกลับ
วิภาเอาหูแนบกับประตูห้องแอบฟังผลงานอย่างลุ้นๆ โดยมีหวานอยู่ด้วย
"เป็นไงมั่งคะม๊า" หวานถาม
"ได้ยินเสียงหัวเราะกิ๊กๆกั๊กๆกันนะ สงสัยจะสำเร็จแล้วล่ะ"
วิภาอารมณ์ดีเพราะชอบใจ
อ่านต่อตอนที่ 7