xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดไฟแรง “ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเศวต” แห่งค่าย “เฟิร์สคลาส”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเศวต
 
ผู้จัดไฟแรง “ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเศวต” แห่งค่าย “เฟิร์สคลาส”

 
เป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นอีกรายสำหรับ “ขวัญ พิมพ์อัปสร เทียมเศวต” ลูกสาวคนเดียวของ “ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา” แม้ว่าตอนแรกจะมุ่งเป้าไปทำงานด้านอื่น สุดท้าย สายเลือดศิลปินก็ดึงดูดให้มาทำละครที่ตัวเองเคยปฏิเสธจนได้

 
ถึงวันนี้ผู้จัด “ขวัญ”แห่งค่าย “เฟิร์สคลาส”ทำละครมาแล้ว 5 เรื่อง จากที่เริ่มต้นเรื่องแรก 2-3 ปีก่อน ด้วยเรื่อง “สาวน้อยร้อยเล่มเกวียน” ต่อด้วย,“รักร้อยล้าน, วีรบุรุษกองขยะ, คีตโลกา, ปลาหลงฟ้า”ล่าสุดเพิ่งบวงสรวงคือ “เขยใหญ่ สะใภ้เล็ก”

 
 
 
จุดเริ่มต้นของการมาเป็นผู้จัดละคร  
 
“เราได้รับโอกาส ถ้าไม่ได้รับ ก็คงไม่ได้มาทำอะไรที่เรารู้สึกว่าแฮปปี้ขนาดนี้ พอได้รับโอกาสดีๆ ก็อยากทำให้เต็มที่” 

 
 
เรียนมาทางนี้เลยหรือเปล่า
 
“เรียนมาทางรัฐศาสตร์ จุฬา แล้วต่อโท จุฬา ด้านเมเนจเมนท์ศิลปะ ภาคภาษาอังกฤษ ได้เอามาใช้บ้าง ด้วยความที่เราคลุกคลีอยู่ในกองตั้งแต่เด็ก ไม่ได้คิดว่า วันหนึ่งจะมาทำงานกองถ่าย เพราะว่าไม่ชอบอยู่กองถ่ายเลย ไปกองถ่ายกับคุณแม่ก็จะเบื่อ ทั้งๆ ที่โตมาในกอง โอ้ย รอนาน บางทีแม่บอกว่าเดี๋ยวพาไปกินไอติม ถ่ายเสร็จ โอ้โหย ตีสอง 
 
เราก็หนีไปทำงานออฟฟิศ ไปเป็นแอร์ฯ เป็นโน่นนี่นั่น เก็บเกี่ยวประสบการณ์ คอนเน็คชั่นไปเรื่อยๆ สุดท้ายวันหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าตัวเองจะต้องวนกลับมาตรงนี้ สุดท้ายก็หลงรักมัน ได้ใช้ศักยภาพของเรา ประสบการณ์ที่เราสั่งสมมาทุกด้านเต็มที่ พอผลงานออกมาเราก็สนุก ได้ทำ ได้แข่งกับตัวเอง แต่ละโปรเจคท์ไป”

 
สั่งสมประสบการณ์จากงานอะไรบ้าง
 
“เรียนจบก็เป็นแอร์ฯเลย ตอนเรียนก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยตลอดนะคะ แปลหนังสือ แปลนิตยสาร ชอบหลายอย่าง อยากทำโน่นทำนี่ ความฝันวัยเด็กอยากเป็นหมอ แต่ไม่ชอบวิทยาศาสตร์ก็เลยไม่ได้เรียน เรื่องแสดง ตอนเด็กๆ ก็แสดงนะ เพราะว่าเพื่อนคุณแม่อยู่ในวงการทำละคร
 
โตมาก็มุ่งมั่นจะเอ็นทรานซ์ ไม่เอาแล้ว ฉันเป็นลูกคนเดียวฉันต้องเอ็นให้ติด ตอนแสดงตอนเด็กๆ ก็เล่นไปอย่างนั้น อารมณ์เด็กๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก อย่าเรียกว่าเป็นนักแสดงเลย เป็นนักแสดงต้องมีใจมุ่งมั่น ประกอบไปด้วยหลายอย่าง วินัยสูง เราแค่เด็กๆ ได้โอกาสเท่านั้นเอง”

 
กับการเป็นผู้จัด ? 
 
“ไม่เคยใฝ่ฝันว่าอยากจะมาเป็น เพราะว่าเคยอยู่กองถ่ายแล้วเบื่อ แต่พอได้มาสัมผัส ได้มาทำ ได้มาเรียนรู้ จับทางไปเรื่อยๆ มาแรกๆ นี่งง ไม่รู้เรื่อง คุณแม่มาช่วยดูเรื่องนักแสดง แต่งานบริหารคุณแม่ไม่เคยทำนะ ทุกอย่างลองผิดลองถูก 1 2 3 4 คนอื่นทำยังไงไม่รู้ เราทำในแบบที่เราเป็น ได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ เพื่อนคุณแม่บ้าง แต่จะไปนั่งปรึกษาตั้งแต่ 1 ถึง 10 ก็เกรงใจ บางทีมีปัญหาก็ปรึกษาบ้าง แรกๆ เราก็คลำทางเอง ตอนแรกกดดันมาก ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำเป็นทำเก่งอะไร”
 
 
 
บางคนอยู่วงการมานาน ยังไม่อยากเป็น"ผู้จัด"เลยเพราะว่างานหนักมาก 
 
“เราทำงานออฟฟิศมา เจองานละเอียด เบื้องหลังยิบย่อยมาแล้ว ทำงานมาร์เก็ตติ้งมา ทำงานกับนักแสดงก็จะเป็นอีกฟิลหนึ่ง มีงานเบื้องหน้าทำพิธีกรของเอ็กแซกท์ ของมีเดียด้วย ชอบทำนู่นทำนี่ เพื่อนบอกไฮเปอร์ คุณแม่ก็เหมือนกัน ชอบทำงาน เราจะชินอยู่กับการที่แม่ทำงานตลอด บางทีนอนๆ อยู่ ตีสาม แม่ไปถ่ายละครอีกแล้ว เป็นเรื่องปกติของบ้านเรา”

 
ทำมาหลายเรื่องแล้ว เป็นอย่างไร ?
 
“เรียนรู้มากขึ้น แต่ปัญหาก็ไม่เหมือนกันเลย เราเริ่มรู้สโคปแล้วว่า จะต้องยังไง เริ่มเป็นขึ้นมาเรื่อยๆ จากที่กดดันมาก ก็ค่อยๆ จับหลักได้ แต่ยังเป็นเด็กเตาะแตะอยู่ แต่ละเรื่องก็แต่ละแนว บอกเลยว่าให้ทำพีเรียดไม่มีปัญญา มันยาก เรายังไม่เก่ง เป็นคนที่ชอบท้าทายตัวเอง วิชาไหนเวลาเรียนคนบอกว่ายาก มาเลย คิดว่าเราทำได้หรือเปล่า จะทำจนได้ A เลย”
 
 
 
แนวเรื่องที่ชอบ และอยากทำคือ
 
“เป็นคนไม่อ่านนิยายเลยค่ะ พอมาทำงานนี้ก็ต้องมาอ่านนิยาย ทำการบ้าน นั่งดูละคร เขาทำยังไงกันเหรอ นิยายตอนนี้มีเรื่องอะไรบ้าง ซื้อมาเป็นตั้งๆ มาอ่าน ผิดมาเยอะ ลองผิดลองถูก ทำการบ้านๆ ไม่มีคนมาไกด์หรือแนะนำเรื่องเลย อยากได้เหมือนกัน ยังไม่ได้คิดว่าชอบอะไร ส่วนใหญ่เป็นคนเลือกเอง ก็มีบ้างที่ช่องบอกว่าทำไหม บางเรื่องช่องมอบหมายมา บางเรื่องเราก็เสนอไปค่ะ”

 
มีคนมาชวนไปทำช่องอื่นๆ บ้างไหม 

“ตัวเองก็ต้องดูศักยภาพของตัวเอง เรามีทีมของเรา แต่ค่อยๆ ก้าว ขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา ค่อยๆ ก้าว เอาให้ดี ไปแบบดีๆ จริงๆ ก็อยากทำ แต่ถ้าทำได้ไม่ดี ก็อย่าทำดีกว่า ที่มาทำช่อง 7 เพราะได้รับโอกาส ผู้ใหญ่ช่อง 7 เห็นศักยภาพในตัวเรา คำวิพากษ์วิจารณ์ที่ได้รับ ก็เอามาปรับปรุง ด้วยเรื่อง ด้วยนักแสดง ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ที่จะทำให้คนดูพูดถึงละคร ที่ทำมาเรทติ้งก็ดี ทีมงานก็ชื่นใจ ที่คนดูตอบรับดี”



เรื่อง "ปลาหลงฟ้า" คุณแม่มาเล่นด้วย ?
 
“บทนี้เป็นบทเด่น เป็นคนที่ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมด ตัวละครตัวนี้จะต้องแข็งแรง ที่สำคัญที่สุดคือความเหมาะสม คือตัวละครตัวนี้ต้องเป็นผู้หญิงมีพลัง เป็นเจ้าแม่ พูดทีเสียงดัง ทุกคนต้องฟัง เป็นคนมีอำนาจ คุมลูกน้องอยู่ พระเอกก็กวนประสาทสุดๆ สุดท้ายมีตัวเลือกอยู่ไม่กี่คนที่เรารู้สึกว่า เหมาะ
 

ไม่คิดว่าคุณแม่จะให้คิวเหมือนกัน ก็เป็นสีสันที่แปลกดี แล้วคุณแม่ต้องมาโค้ชด้วย นักแสดงหลายคนก็บอกว่าเขาอยากเล่นกับคุณแม่ เพราะว่าไม่เคยเจอกันเลย แล้วคุณแม่ก็ไม่ค่อยได้รับบทอะไรแบบนี้ด้วย เป็นการลองกันทุกฝ่าย
 

เพิ่งรู้ว่าคนอ่านนิยายเรื่องนี้เยอะ เราก็คุยกับคุณเชอรี่ผู้ประพันธ์บ่อยมาก ตอนแคสตัวละครก็บอกคุณเชอรี่ เราคุยกันตลอด คนที่อ่านนิยายก็ต้องมีคนเห็นด้วยไม่เห็นด้วยอยู่แล้วล่ะ แต่คิดว่าค่อนข้างตรงกับที่ผู้ประพันธ์คิดไว้ คนอ่านก็น่าจะโอเค.
 

เมนหลัก เส้นเรื่อง ต้องเคารพบทประพันธ์ แต่ด้วยศาสตร์ของละคร นิยายเล่มแค่นี้ทำเป็นบท 15 ตอน ก็ต้องเพิ่มสีสัน เพิ่มความสนุก เพิ่มความตลก ในทางละครเยอะอยู่แล้ว ยังไงก็ตามไม่ฉีกไปกว่าเรื่องปลาหลงฟ้าอยู่แล้ว”

 
กับเรื่องนี้ “เขยใหญ่สะใภ้เล็ก”
 
“เป็นละครแนวโรแมนติกคอมาดี้ เรื่องราวน่ารักๆ ของสองบ้านที่ไม่ถูกกันมานาน แต่พอมีลูก ลูกกลับมาเป็นเพื่อนกันซะนี่ รุ่นพ่อก็พยายามกีดกันไม่ให้คบกัน แต่สุดท้ายก็มารักกันจนได้ เรื่องราวจะชุลมุนแล้วมารักกันได้อย่างไร ต้องติดตามค่ะ”

ความท้าทายเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเปลี่ยนมันเป็นเป้าหมาย ทำให้สำเร็จ ความสุขก็จะปรากฏ ด้วยความภาคภูมิใจ
กับคุณแม่ ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา



ละครเรื่อง เขยใหญ่ สะใภ้เล็ก
พระเอก-นางเอกเรื่อง ปลาหลงฟ้า
ทีมนักแสดง ปลาหลงฟ้า



กำลังโหลดความคิดเห็น