xs
xsm
sm
md
lg

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 7

ขณะที่ครูเทียมฉีดสายยาง รดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน

“อากาศร้อนจนต้นไม้สลด”
ฟ้าประทานขับรถกลับบ้าน น้ำจากสายยางรดน้ำต้นไม้กระเด็นไปโดนรถฟ้าประทานเข้า ฟ้าประทานลงมาเห็นรถโดนน้ำเลอะเป็นคราบ ก็ฉุนตวัดน้ำเสียงต่อว่าอย่างไม่พอใจ
“ผมเพิ่งล้างรถมา เลอะหมด” พระเอกลิเกชื่อดังหงุดหงิดเรื่องครูไม่ให้ติดแอร์อยู่แล้ว เลยพาลโมโหมากขึ้น หลุดปากพูดไม่ดีกับครูเทียมอย่างฉุนเฉียวมีอารมณ์อีกว่า “ผมจะติดแอร์ห้องนอน มันร้อนมาก ผมนอนไม่ได้”
“บ้านเราก็ร้อนอย่างนี้มาตั้งแต่เอ็งยังใส่ผ้าอ้อม แต่ก่อนเอ็งก็นอนได้นี่หว่า” ครูย้อนเสียงเรียบ
“ตอนเด็กผมเลือกไม่ได้ครับ ตอนนี้ผมมีสิทธิ์หาความสบายใส่ตัว” ฟ้าประทานเถียง
“ข้าเองก็ร้อน และข้าจะร้อน... เหมือนอยู่ในเตาเผา เวลาบิลค่าไฟมา”
ฟ้าประทานโมโห โพล่ง ระบายออกมา “ครูอย่าเขี้ยวกับผมนักเลย ค่าไฟจะเพิ่มซักกี่
บาทเชียว ที่คณะเทียมฟ้ามีกินมีใช้ก็เพราะผม ไม่มีผม คณะก็ไม่มีคนดู ไม่มีคนจ้าง ขาดผมซักคน อย่าว่าแต่ค่าไฟเลย ข้าวสารยังไม่มีจะกรอกหม้อ”
ครูเทียมหน้าขรึม ขุ่นเคืองใจไม่น้อย ฟ้าประทานได้สติหน้าเสีย ดันหลุดปากร่ายซะยาว
“ขอโทษครับครู ผมพลั้งปากไป” ฟ้าประทานไหว้ขอโทษครูเทียม
ครูเทียมหายเคืองอย่างรวดเร็ว พูดติดตลก “ไม่มีข้าวกิน ก็กินปลายข้าวแทนซีวะก๋วยเตี๋ยวเรือไง”
ครูเทียมยิ้มร่าเหมือนไม่มีอะไร ฟ้าประทานยิ้มแห้งๆ ด้วยทั้งที่ไม่ชอบใจ เดินเลี่ยงเข้าบ้านไป ครูเทียมก้มมองมือขวาตัวเองที่ถือสายยาง มือสั่นนิด ๆ
“ได้เวลากินยาแล้ว”
ครูเทียมปิดก๊อกน้ำ เข้าบ้านไปกินยา

ครูเทียมหยิบยาที่เก็บซ่อนไว้อย่างดี ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าครูป่วย
คิดถึงเรื่องที่เคยถามหมอ “ผมไม่มีโอกาสหายเลยเหรอครับคุณหมอ”
“โรคพาร์กินสัน รักษาไม่หายครับ คุณต้องกินยาต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาอาการ”
ครูเทียมกินยาแล้ว มองมือขวา เห็นยังสั่นนิดๆ เลยตีมือขวาตัวเอง
“หยุด” ครูตีอีกที “หยุดสั่น” แต่มือข้างขวาดันไม่หยุดสั่น “แหม..มันสั่นสู้เว้ยเฮ้ย”
ครูเทียมยิ้มอารมณ์ดี ชายชราน้ำใจงาม มองโลกแง่ดีอยู่เสมอ

คืนนี้อากาศร้อนมาก ฟ้าประทานนอนไม่ได้ เหงื่อซึม ขนาดล็อคพัดลมจ่อก็ไม่เอาอยู่
“โว้ย อยากติดแอร์โว้ย”
มีเสียงเคาะประตูเป็นรหัสสามครั้ง ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก ฟ้าประทานรู้ว่าใครรีบไปเปิดประตูให้ตุ้มเข้ามา กลัวใครมาเห็น
“มีอะไรไว้คุยพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้ไปดูชุดแต่งกันนะจ๊ะ”
ฟ้าประทานหงุดหงิดอยู่ เพราะอากาศร้อนบอกเสียงขุ่น “ไม่ไป”
ตุ้มขู่ “ฟ้าประทานไม่ไป ชั้นจะชวนเจ๊ทรงงามไปช่วยเลือกชุดเจ้าสาว”
ได้ผล ฟ้าประทานอ่อนลงทันที “ที่บอกว่าไม่ไป หมายถึงพรุ่งนี้ไม่ว่างไปจ้ะ ผมโทร.ไปยกเลิกนัดเจ๊ทรงงามก็ได้ อยากไปกับตุ้มมากกว่า”
“ฟ้าประทาน ชั้นอยากใส่ชุดเจ้าสาวใจจะขาดอยู่แล้ว” ตุ้มอ้อนยิ้มหวานฉ่ำ ช่วงนี้คือฝันหวานเตรียมงานแต่ง ขณะที่ฟ้าประทานอยากจะบ้าตาย โดนตุ้มขู่แฉความลับ

สายวันถัดมา กระแตออกมามาซื้อของใช้จำเป็นที่ตลาด เดินกางร่มแดดร้อนเปรี้ยง มองไปทางหนึ่งเห็นรถฟ้าประทานจอดริมถนนก็ยิ้มดีใจ กะจะขอติดรถเก๋งแอร์เย็นๆ กลับบ้าน
กระแตมองหาฟ้าประทาน มองเลยไปในร้านเช่าชุดวิวาห์
“นั่นมัน”
ตุ้มกำลังเลือกชุดเจ้าสาวอยู่ในร้านเช่าชุดวิวาห์แต่ไม่เห็นฟ้าประทาน
กระแตหันกลับมามองรถฟ้าประทาน แล้วหันไปมองตุ้มในร้านเช่าวิวาห์ อดคิดไม่ได้ว่า หรือว่าฟ้าประทานมากับตุ้ม และฟ้าประทานเป็นแฟนตุ้มงั้นหรือ?

ตุ้มเอาชุดเจ้าบ่าวมาให้ฟ้าประทานลอง ฟ้าประทานหน้าบึ้ง ไม่ได้อยากแต่งงาน
“ชั้นเลือกชุดเจ้าสาวได้แล้ว เลยเลือกชุดเจ้าบ่าวให้จ้ะ ไปลองซีจ๊ะ”
“ขี้เกียจเปลี่ยนเสื้อผ้า”
กระแตกำลังจะเปิดประตูเข้าร้าน ฟ้าประทานเห็นกระแตพอดี
“เฮ้ย! ห้ามพูดถึงผมนะตุ้ม”
ฟ้าประทานรีบหนีเข้าห้องลอง กระแตเลยไม่ทันเห็น กระแตตรงมาหาตุ้มมองจับผิด
“ไงยะว่าที่เจ้าสาว ว่าที่เจ้าบ่าวอยู่ไหนเอ่ย” กระแตมองหา อยากรู้แฟนตุ้มเป็นใคร
“ผัว..เอ้ยแฟนชั้นไม่ได้มาด้วย”
กระแตมองปราด เห็นตุ้มถือชุดเจ้าบ่าวอยู่ในมือ “คนใส่ ก็ต้องมาลองเองสิ เอ ฟ้าประทานอยู่ไหนน้า”
กระแตเดินหาฟ้าประทาน
ฟ้าประทานอยู่ในห้องลองชุด แง้มประตูแอบดูกระแต สีหน้าลุ้นระทึก กลัวกระแตจับได้
“ฟ้าประทานมาเกี่ยวอะไรด้วยยะ” ตุ้มเอ่ยขึ้น
“เอ้า รถฟ้าประทานจอดอยู่หน้าร้าน ตัวก็ต้องอยู่ในร้าน”
“ชั้นขอติดรถฟ้าประทานมา ฟ้าประทานไปหาเจ๊ทรงงามที่ตลาด”
“ตลาดเจ๊ทรงงามอยู่ตั้งไกล ทำไมมาจอดตรงนี้”
“เจอฟ้าประทาน ก็ถามเอาเองสิยะ ไม่มีอารมณ์เลือกชุดแล้ว โดนนังพวกสอดรู้สอดเห็นมาป่วน”
ตุ้มโมโหกลบ เอาชุดไปเก็บที่เดิมแล้วเดินหุนหันออกไปเลย
กระแตมองหาฟ้าประทานทั่วร้าน แต่ไม่เห็น
“ฟ้าประทานไม่อยู่ เราคงเข้าใจผิด...รอด้วยนังตุ้ม”
กระแตรีบตามตุ้มออกไป
ฟ้าประทานออกจากห้องลอง หน้าตาเบื่อหน่ายเซ็งโลกไปหมด กับการต้องหลบๆ ซ่อนๆ กลัวความลับแตก

เวลาเดียวกัน เหลียนฮัวกับอาจงทำการค้นห้องเหมยฮัว เพื่อหาหลักฐานว่าใครเป็นพ่อลูกในท้องอาหมวย มันต้องมีรูปหรืออะไรซักอย่างที่โยงถึงไอ้ผู้ชายคนนั้น อาจงเจอการ์ดรูปนักร้องในลิ้นชักตู้
“คุณนายคะ คุณหนูมีรูปนักร้องคนนี้เยอะมาก ต้องเป็นแฟนคุณหนู”
“การ์ดพวกนี้ แฟนคลับก็มีทุกคน มันต้องเป็นอะไรที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้” เหลียนฮัวครุ่นคิด “ของส่วนตัว...อืม...”
เหลียนฮัวกวาดตามองรอบๆ ห้อง เห็นโทรศัพท์มือถือเหมยฮัวบนโต๊ะหัวเตียง
“มือถือนี่ไง ของส่วนตัว”
เหลียนฮัวเปิดดูรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือเหมยฮัว อาจงยื่นหน้ามาดูด้วย
หน้าจอมือถือเหมยฮัว เต็มไปด้วยรูปเดี่ยวนักร้องหนุ่มชื่อดังขวัญใจแฟนคลับ เมื่อเปิดดูไปเรื่อย ๆ เริ่มมีรูปถ่ายคู่เหมยฮัวกับนักร้องหนุ่ม เหมยฮัวกับนักร้องหนุ่มโพสท่าน่ารักคู่กัน ดีกรีความหวานเพิ่มขึ้น ยังรูปเหมยฮัวคลอเคลียนักร้องหนุ่มถ่ายรูปไหล่ชนไหล่ จนมาถึงรูปสุดท้าย นักร้องหนุ่มหอมแก้มเหมยฮัว
อาจงร้องลั่น “ไอ๊หยา! หอมแก้มกันด้วย”
“ก็ไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ไง ผู้ชายถึงไม่ให้เกียรติ ไม่รับผิดชอบ”

เหลียนฮัวโมโหสุดขีด จะออกไปเอาเรื่องลูกสาว ไม่ลืมหยิบมือถืออาหมวยมาด้วย อาจงตามคุณนายไปติดๆ

เหมยฮัวกะลังซัดมะม่วงแก้แพ้ท้องอยู่ในห้องทานอาหาร ปากร้องซี้ดซ้าด เหลียนฮัวหน้าตาถมึงทึงมาเอาเรื่องลูกสาว อาจงมาด้วย

“นักร้องคนนี้สินะ พ่อลูกในท้องเหมย”
เหลียนฮัวเอารูปเหมยฮัวกับนักร้องหนุ่มในโทรศัพท์มือถือ ให้เหมยฮัวดู เป็นรูปที่นักร้องหนุ่มหอมแก้มเหมยฮัวนั่นเอง เหมยฮัวโดนแม่จับได้ ร้องไห้โฮ
“ใช่จริงๆ” เหลียนฮัวแค้นแทบกระอัก
“คุณหนูเป็นแฟนเค้าได้ยังไงคะ”
“เหมยไม่ได้เป็นแฟน เหมยเป็น...เป็นแค่..กิ๊ก”
“โธ่ลูก ไม่เห็นคุณค่าตัวเองเลย หม่าม้าจะไปคุยกับเค้า ให้เค้ารับผิดชอบเหมย”
“เค้าไม่รู้ว่าเหมยท้อง เหมยติดต่อเค้าไม่ได้ เค้าไปเก็บตัวที่เกาหลี หม่าม้า อาจง อย่าบอกเตี่ยนะ เตี่ยต้องฆ่าเค้า เหมยรักเค้ามาก ปล่อยให้เค้าเป็นอะไรไปไม่ได้”
เหลียนฮัวเครียด “แล้วจะปล่อยให้ท้องโตไปเรื่อย ๆ อย่างนี้รึไง”
เสี่ยเต๊กโผล่มา แปลกใจเห็นเมียกับลูกทะเลาะกัน ลูกสาวร้องไห้
“พวกลื๊อทะเลาะอะไรกัน”
เหลียนฮัวรีบเอาโทรศัพท์มือถือซ่อนข้างหลัง ไม่ต้องการให้เสี่ยเต๊กเห็นรูปในมือถือ
เสี่ยเต๊กสังเกตเห็น จ้องจับผิดเมีย “ลื๊อเอามือถือซ่อนทำไม”
“อั๊วไม่ได้ซ่อน”
“ส่งมือถือมา” เสียงดังขึ้นอีก “เอามือถือมาให้อั๊ว”
เหลียนฮัวกลัวผัว ยอมส่งโทรศัพท์มือถือลูกสาวให้ เหมยฮัวกลัวจัดหันหน้าหนีเตี่ยกำลังจะรู้ว่าแฟนเป็นใคร เหมยฮัวต้องตายแน่ ๆ !
หน้าจอมือถือเหมยฮัวในมือเสี่ยเต๊ก หมดเวลาที่ตั้งไว้แล้ว รูปเหมยฮัวกับนักร้องหนุ่มปิดไป
เสี่ยเต๊กกดเปิดหน้าจอมือถือ กลายเป็นภาพพักหน้าจอไม่เห็นอะไร
เหมยฮัวกับหลียนฮัวโล่งอก
“ก็อั๊วบอกแล้วไม่มีอะไร”
เสี่ยเต๊กไม่ติดใจ ส่งมือถือคืนเหลียนฮัว “อั๊วจะไปออกงาน ไปช่วยอั๊วแต่งตัว”
เหลียนฮัวรีบส่งมือถือคืนเหมยฮัว แล้วตามเสี่ยไป

พอพ่อกับแม่และอาจงลับตัวไป เหมยฮัวรีบลบรูปนักร้องหนุ่มออกจากโทรศัพท์มือถือ ทำลายหลักฐานสำคัญจนหมด

ฟากพร้อมพงศ์ออกมาตามหาลูกชายที่ตลาดเจ๊ทรงงาม
พร้อมพงศ์เดินไปถามแม่ค้าคนหนึ่ง “ผมมาตามหาคน เคยเห็นมั้ยครับ”
พร้อมพงศ์เอารูปพงศ์เทพในมือถือให้แม่ค้าดู
“นี่พ่อหลง” แม่ค้าจำได้แม่น
พร้อมพงศ์งง “หลง? แน่ใจเหรอครับ ผู้ชายในรูปชื่อหลง”
“หล่อๆ อย่างนี้ ชั้นจำได้ขึ้นใจ พ่อหลงเป็นลิเกใหม่คณะเทียมฟ้า”
“มันอยู่บ้านลิเก” พร้อมพงศ์ตะลึง คาดไม่ถึง
นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ไปบ้านครูเทียม แต่ไม่เข้าไปเพราะกลัวหมากัด หน้าบ้านมีป้าย ลิเกคณะเทียมฟ้า
“วันนั้นไม่กลัวหมากัด ก็เจอตัวแล้ว”
พร้อมพงศ์ตาวาว รู้ซะทีว่า ไอ้ลูกเวรมันกบดานบ้านไหน

พร้อมพงศ์รีบบึ่งมาที่รถจะไปหาลูกชายที่บ้านลิเก เจ๋งรู้เรื่องแล้วตามขอร้องลุง
“อย่าไปบ้านลิเกเลยลุง พี่เทพเค้าขอไว้แล้ว”
“มันขอ แต่ข้าไม่ให้”
เจ๋งแย่งกุญแจรถจากลุง รีบขึ้นรถ ล็อคประตูทันที ไม่ให้พร้อมพงศ์ขึ้น พร้อมพงศ์งง มันทำบ้าอะไรของมัน เจ๋งกดกระจกรถบอกพร้อมพงศ์ “ผมจะบอกพี่เทพให้หนีลุง”
เจ๋งบึ่งรถไป
“ไอ้หลานตัวแสบ” พร้อมพงศ์มองหารถรับจ้าง “แถวนี้มีรถรับจ้างมั้ยวะ”
พร้อมพงศ์วิ่งวุ่นหารถไปบ้านลิเก

พร้อมพงศ์วิ่งมาเจอวินมอเตอร์ไซค์ในตลาด
“ไอ้น้อง ไปบ้านครูเทียม ที่เป็นลิเกน่ะ”
“50 บาท” เด็กวินบอก
“เฮ้ย แม่ค้าที่ตลาดบอกว่าบ้านลิเกอยู่ใกล้แค่นี้เอง 10 บาทแล้วกัน”
“ถนนมันไม่ดี ต้องวิ่งอ้อม ไกล”
“เห็นเป็นคนแปลกหน้าเลยโก่งราคา...ไปก็ได้วะ”
พร้อมพงศัรีบขึ้นซ้อนหลัง มอเตอร์ไซค์วิ่งออกไป

ด้านกำจายเมาปลิ้น จัดหนัก กลับมาบ้าน เดินแอ่นไปแอ่นมา เจ๋งขับรถกระบะมาถึงพอดี แต่เข้าไปหาพงศ์เทพในบ้านไม่ได้ เพราะกำจายขวางอยู่
“ผมมาหาพี่เท...” เจ๋งเกือบหลุดชื่อพงศ์เทพ ”มาหาพี่หลงครับ น้าช่วยไปตามพี่หลงมาให้ทีครับ”
กำจายปรือตามองหน้าเจ๋ง “คราย...วะ”
“บอกพี่หลงว่าคนชื่อเจ๋งมาหา”
“เจง...โอเครรรรร...รอเดี๋ยวนะ”
กำจายเดินเมาแอ่นจะเข้าบ้านไปตามหลงให้ แต่เดินช้ามาก ทำเอาไอ้เจ๋งกดดันหนัก ชะเง้อคอมองลุงพงศ์ทางหน้าบ้าน
“เดี๋ยวลุงพงศ์ก็มา”
พร้อมพงศ์ซ้อนมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาในซอยบ้านครูเทียมแล้ว หมายมั่นจะเอาตัวลูกชายไปแต่งเมียที่กรุงเทพฯ ให้จงได้

เจ๋งใจร้อนเป็นไฟ รอให้กำจายไปตามพี่เทพออกมาหา กำจายเมามาก เพิ่งเดินถึงตัวบ้าน แล้วดันหยุดพักอีก
“น้า เร็วๆ หน่อยครับ”
กำจายหันมามองเจ๋ง “อ้าย...หนุ่ม มาหาคราย...”
“โธ่เว้ย ยิ่งรีบ ๆ อยู่”
หลงเดินออกมา จะไปศาลาริมน้ำ เห็นเจ๋งรีบพุ่งมาหา เจ๋งโบกมือเรียกหยอยๆ
“พ่อพี่กำลังบุกมา”
หลงตกใจ “ไปดักหน้าไว้ก่อน”
หลงไม่ทันเห็นกำจาย ขึ้นรถกระบะโดยมีเจ๋งขับไป
พอหลงไปครู่เดียว จอมนางก็ออกจากบ้านมาหาน้ากำจาย ทันเห็นรถกระบะคล้อยหลังไปไวๆ
“เมามาอีกแล้ว เมื่อกี้รถกระบะใครน่ะน้า”
“อ๋อ... เค้ามาหาครูเทียม...”

เจ๋งขับรถพาพงศ์เทพมาดักรอหน้าปากซอย พร้อมพงศ์นั่งมอเตอร์ไซค์วินมาพอดีต่างฝ่ายต่างเห็นกัน จึงหยุดรถ พร้อมพงศ์ให้ค่ารถ วินขี่รถกลับไป
“พ่อครับ ผมหนีร้อนมาพึ่งเย็น คนบ้านลิเกดีกับผมมาก พ่ออย่าบีบให้ผมต้องหนีไปตายเอาดาบหน้าเลย”
“เอ็งไม่ยอมกลับไป พ่อก็ต้องแฉเอ็ง เอ็งเป็นลูกพ่อ พ่อมาเอาตัวเอ็งกลับบ้าน”
พงศ์เทพท้า “แฉเลยพ่อ ผมก็จะย้อนถาม ไหนหลักฐานที่ยืนยันว่าพ่อเป็นพ่อผม”
“พี่เทพ ลุงพงศ์มีรูปพี่ในมือถือ”
พร้อมพงศ์หัวเราะหึๆ เยาะลูกชาย พงศ์เทพจับตัวพ่อล็อก หาโทรศัพท์มือถือจนเจอในกระเป๋ากางเกง พร้อมพงศ์รู้ทันว่าลูกจะทำอะไร
“ห้ามลบรูปนะเว้ย”
พร้อมพงศ์พยายามแย่งโทรศัพท์มือถือคืน พงศ์เทพกดลบรูปไม่ได้ เลยโยนโทรศัพท์ให้เจ๋ง
“ลบรูปพี่ให้หมด”
เจ๋งกดลบรูปพงศ์เทพไล่ลบทีละรูป ฝ่ายพ่อลูกก็ยื้อยุดจับตัวกันชุลมุน
พร้อมพงศ์เตะพงศ์เทพล้ม ถลาไปแย่งมือถือที่เจ๋ง แต่เจ๋งโยนมือถือให้พี่เทพ แถมจับตัวลุงพงศ์ไว้

พงศ์เทพรีบกดลบรูปตัวเองในมือถือพ่อจนเหี้ยน

อ่านต่อหน้า 2

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 7 (ต่อ)

พร้อมพงศ์มองลูกชายลบมือถือ ฮึดฮัดแค้นใจไอ้เจ๋ง

“ไอ้หลานทรพี ปล่อยลุงนะเว้ย”
“เจ๋ง ปล่อยพ่อได้พี่ พี่ลบรูปหมดแล้ว” พงศ์เทพส่งมือถือคืนพ่อ
พร้อมพงศ์รีบเปิดรูปในมือถือดู ไม่เหลือซักรูป
“ไม่มีรูปก็ไม่สนเว้ย จะยืนยันว่าเป็นพ่อ”
“ผมจะบอกบ้านลิเกว่าพ่อเป็นแก๊งค้ามนุษย์ รู้ว่าผมความจำเสื่อม เลยสวมรอยเป็นพ่อ จะจับผมไปขายแรงงาน”
“ใครเค้าจะเชื่อเอ็ง”
“ผมจะสารภาพว่าผมก็เป็นแก๊งค้ามนุษย์ มาหาเหยื่อกับลุงพงศ์ แต่ผมสำนึกได้อยากเลิก” เจ๋งบอก
พร้อมพงศ์หมั่นไส้ “หึย เอ็งสองคนนี่รับส่งลูกกันดีเหลือเกินนะ”
“พ่อแพ้แล้ว ยอมรามือเถอะครับ”
“สงครามยังไม่จบเว้ย พ่อจะยกทัพมาบุกเอ็งใหม่รอบหน้า
พร้อมพงศ์ยัวะลูกชาย ไม่อยากเห็นหน้า ขึ้นรถขับไปเลย
เจ๋งร้องลั่น “รอผมด้วยลุง”
“เป็นสายรายงานให้พี่ด้วยนะเจ๋ง”
“อยู่แล้วพี่”
เจ๋งวิ่งตามรถไป พร้อมพงศ์จอดให้ขึ้น พงศ์เทพมองตามพ่อที่ขับรถกลับไป สถานการณ์ยังไม่น่าไว้ใจ กังวลว่าพ่อจะมาแผนไหนอีก

กลางดึก ตุ้มย่องมาห้องฟ้าประทาน เคาะประตู ก๊อกๆๆ 3 ที อันเป็นรหัสลับของทั้งคู่ ฟ้าประทานไม่ยอมเปิดประตู ตุ้มเคาะรหัสอีกรอบ ก็ไม่มาเปิด ตุ้มเลยเปิดประตูเข้าไปเอง พบว่าฟ้าประทานไม่อยู่
“เที่ยงคืนแล้ว ยังไม่กลับ”
ตุ้มหน้ามุ่ย หวงผัว โมโหว่าฟ้าประทานแว้บไปนอนที่ไหน

เช้าวันถัดมา ครูเทียมหน้าตาแจ่มใส จุดธูป 9 ดอก ถวายหมากพลู พวงมาลัย บูชาพ่อแก่
ครูตั้งจิตให้สงบ ท่อง นะโม 3 จบ “ขอบารมีพ่อแก่ ดลบันดาลให้ได้ดั่งใจนึก มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ให้เทียมฟ้ากลับมายิ่งใหญ่ เป็นยอดของยอดลิเกเอย”
ครูเทียมก้มกราบพ่อแก่
ครูเทียมเดินมามองบอร์ดคิวงานเดือนนี้ ว่างทั้งกระดาน ไม่มีงานเข้ามา ครูถอนหายใจเบาๆ กระแตหิ้วตะกร้าจะออกไปซื้อกับข้าว เห็นพอดี เลยพูดปลอบ
“หน้าร้อนงานปลีกเยอะ เดี๋ยวก็มีงานเข้ามาจ้ะปู่”
“ปู่ก็ว่างั้นแหละ ขี้คร้าน ไอ้บอร์ดเนี่ย จะเขียนคิวงานไม่พอ” ครูเทียมยิ้มอารมณ์ดีได้อีก
กระแตนึกได้ “ลืมหยิบกระเป๋าตังค์มา”
ครูเทียมบอก “เบิกค่ากับข้าวมั้ยกระแตเอ๊ย”
“ยังพอมีจ้ะปู่”
กระแตขึ้นข้างบน ครูเทียมแยกไปทางหน้าบ้าน

ฝ่ายตุ้มมาดักรอฟ้าประทานหน้าประตูรั้ว เพราะเมื่อคืนฟ้าประทานไม่กลับมานอนบ้าน ตุ้มเห็นครูเทียมเดินมาทางตน รีบหลบ ครูเทียมไม่เห็นตุ้ม หันไปหยิบสายตาเปิดน้ำรดต้นไม้
“อากาศร้อนแต่เช้าเลย”
ฟ้าประทานขับรถ เข้ามาจอดในบ้าน ก้าวลงรถ ครูเทียมถาม
“นี่เอ็งออกไปข้างนอกแต่เช้า หรือเพิ่งกลับ”
“เพิ่งกลับครับ” ฟ้าประทานถือโอกาสบ่นครู “ก็ที่บ้านมันร้อน ต้องไปหาห้องแอร์เย็นๆ นอน”
ครูเทียมพูดติดตลก “ข้าก็ว่าจะไปแอบนอนแอร์เย็นๆ มั่งเหมือนกัน ห้องดับจิตที่โรงพยาบาล แอร์เย็นเจี๊ยบ”
ฟ้าประทานไม่ขำ เดินหน้ามุ่ยเข้าบ้าน ครูเทียมไม่สนใจ ยิ้มอารมณ์ดี หันไปรดน้ำต้นไม้ต่อ
ตุ้มหลบครูเทียม ตามฟ้าประทานเข้าบ้านไป

ตุ้มตามมาเอาเรื่องฟ้าประทาน ยืนขวางไม่ให้ขึ้นข้างบน
“ไอ้ห้องแอร์เย็นๆ ที่ว่า บ้านอีเจ๊ทรงงามสินะ”
“ผมกับเจ๊นอนคนละห้อง”
“ชั้นเชื่อ ก็ไปไถนาแทนควายแล้ว ฟ้าประทานทำงี้กับชั้นได้ไง จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ยังนอกใจ ไปมีคนอื่น”
ตุ้มบันดาลโทสะ ตีฟ้าประทานพัลวัน
“งี่เง่าขึ้นทุกวัน”
ฟ้าประทานหงุดหงิด หนีตุ้มขึ้นข้างบนไป

ฟ้าประทานเดินหนีตุ้มขึ้นบ้าน ตุ้มตามขึ้นมาเอาเรื่อง
“แอบได้เสียกับอีเจ๊นั่นมานานเหรอยัง”
ฟ้าประทานฉุน “เบาๆ ตุ้ม เดี๋ยวคนในบ้านตื่นกันหมด”
กระแตถือกระเป๋าสตางค์ กำลังจะออกจากห้องจอมนาง ได้ยินเสียงทะเลาะกัน แง้มประตูดู
เห็นคาตาว่าฟ้าประทานกับตุ้มทะเลาะกัน
“ผมไม่โง่ยอมเจ๊ทรงงามหรอก ขืนยอม ผมก็ขอเงินเจ๊ไม่ได้”
“อ๋อ ถ้าอีเจ๊นั่นทุ่มหมดตัก ฟ้าประทานก็ยอมทุ่มให้ทั้งตัว” ตุ้มหึงจนพาล
“อธิบายไปตุ้มก็ไม่ฟัง ผมไปนอนแล้ว”
ฟ้าประทานหนีตุ้มเข้าห้อง
ตุ้มเคาะประตูเรียก “เมื่อคืนทำเอาหมดแรงเลยสิท่า ออกมาคุยกันให้จบ จะเอายังไง จะเลิกยุ่งกับอีเจ๊นั่นมั้ย”
ตุ้มเคาะประตูอยู่ครู่หนึ่ง ฟ้าประทานไม่เปิด ตุ้มจึงยอมไป
กระแตรู้เรื่องสองคน รีบปิดประตูห้อง เดี๋ยวตุ้มเดินผ่านมาเห็น
“เหมือนผัวเมียตีกัน” กระแตปลุกจอมนาง “จอม...พี่รู้แล้ว ผัวนังตุ้มเป็นใคร”
จอมนางตอบเสียงงัวเงีย “พี่โก่งอีกรึไง”
กระแตบอก “ฟ้าประทาน”
จอมนางลุกพรวด “ห๊ะ! พี่กระแตเพี้ยน”
“พี่ไม่ได้เพี้ยน วันก่อนพี่ก็เห็นรถฟ้าประทานจอดหน้าร้านเช่าชุดแต่งงาน นังตุ้มอยู่ในร้าน” กระแตยอดนักสืบว่า
“ว่าชั้นจับผิดพี่หลง พี่กระแตก็จับผิดตุ้มเหมือนกัน”
จอมนางไม่เชื่อพี่กระแต หลับต่อ
“จะหาหลักฐานจับสองคนนั่นให้ได้”
กระแตหันมาค้อนจอมนาง ไม่เชื่อ แถมมาว่าเพี้ยนอีก

หลงกำลังสอนโก๊ะซ่อมหม้อหุงข้าวใบเก่าอยู่ตรงศาลาริมคลอง รื้อให้ดูอุปกรณ์ไฟฟ้าข้างในตัวหม้อ
“เห็นมั้ย ข้างใต้มีแผ่นให้ความร้อน แผ่นพวกนี้ถ้าเสีย หาซื้อของมือสองมาใส่ได้”
เจ๋งรีบร้อนมาหาพี่เทพของมันแต่เช้า เดินจากหน้าบ้านมาถึงศาลาริมน้ำ
“เฮ้ยใครอ่ะ เข้ามาได้ไง”
“น้องคนนี้พี่รู้จัก เจอแถวนี้บ่อย มีอะไรให้พี่ช่วยไอ้น้อง ไปคุยกันหน้าบ้าน”
หลงเดินหายไปกับเจ๋ง
“ท่าทางพี่หลงสนิทกับหมอนั่น”

โก๊ะหน้ายู่ ไม่ชอบใจนัก หวงหลงพี่ชายที่แสนดีของมัน

พงศ์เทพเดินออกมาจากบ้านครูพร้อมกับเจ๋ง หยุดคุยกัน ถามขึ้นพอฟังจบ

“พ่อหายไปอีกแล้ว”
“คราวนี้เอารถไปด้วยพี่ ลุงจะบ้าดีเดือดไปหาเสี่ยเต๊กมั้ยพี่เทพ” เจ๋งเครียด
“ไม่กล้าหรอก พ่อจะไปหาเสี่ยเต๊กก็ต่อเมื่อพาพี่ไปเป็นเครื่องบรรณาการ”
“ลุงพงศ์เล่นเกมอะไรอีกเนี่ย”
“พี่จะกลับไปเอามอเตอร์ไซค์ที่บ้านครูเทียม ขี่รถตามหาพ่อ”
พงศ์เทพกลุ้มใจ พ่อหาเรื่องมาให้ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน

พงศ์เทพกับเจ๋งกำลังเดินกลับมาหน้าบ้านครูเทียม
“เอ็งรอตรงนี้ พี่ไปเอารถที่บ้านคนเดียว คนในบ้านได้ไม่สงสัย”
เสียงพร้อมพงศ์ดังขึ้น “เทพ...”
สองคนมองหาพร้อมพงศ์ทั่วถนน แต่ไม่เห็น
เสียงพร้อมพงศ์ด่า “ไอ้ตาถั่ว”
พงศ์เทพมองไปบนถนน แต่ไม่เห็นรถพ่อ
“เจ๋ง เอ็งช่วยดูสิ พ่อจอดรถซุ่มอยู่ในซอกซอยไหน”
“แถวนี้ไม่มีซอยพี่”
มีสิ่งของถูกเขวี้ยงออกมาเกือบโดนพงศ์เทพ เขาหันไปมองไปตามทิศที่เขวี้ยงมา เห็นพร้อมพงศ์ยิ้มแต้อยู่ตรงหน้าต่างบ้าน หลังข้างๆ บ้านครูเทียม
“พ่อ เข้าไปทำอะไรในบ้านใครเค้า”
“นี่บ้านพ่อ”
“ไม่ขำน่าพ่อ ออกมาเร็ว เดี๋ยวโดนข้อหาบุกรุก”
“พ่อทำสัญญาเช่าบ้านหลังนี้เรียบร้อยแล้ว มาอยู่ใกล้ ๆ บ้านครูเทียมได้ไปหาเอ็งทุกวันไง”
พร้อมพงศ์ยักคิ้ว กวนประสาทลูกชาย

สามคนอยู่ในบ้าน พงศ์เทพบอกพ่อ
“เล่นสงครามประสาทกับผม ไม่ได้ผลหรอกพ่อ เสียเงินค่าเช่าบ้านเปล่าๆ”
“ที่พ่อตัดสินใจเช่าบ้าน เพราะไม่มีบ้านให้กลับแล้วเว้ย ป่านนี้เสี่ยยึดบ้านไปแล้ว”
“ยึดบ้าน” พงศ์เทพใจหายวับ
พร้อมพงศ์หน้าเสีย เผลอหลุดปากไปได้
“อ่า...พ่อหมายถึง เสี่ยส่งลูกน้องมาอยู่บ้านเรา ทำให้เรากลับบ้านไม่ได้” พร้อมพงศ์หน้าตา
ลอกแลก มีพิรุธ
“พ่อเอาบ้านไปจำนองเสี่ย กู้เงินเสี่ยใช่มั้ย” พงศ์เทพรู้ทัน
พร้อมพงศ์สะดุ้ง โดนลูกจับได้ เลยมามุกเดิมแกล้งร้องห่มร้องไห้ฟูมฟาย
“เอ็งไม่เคยเป็นพ่อคน ไม่รู้หรอก ทำงานปากกัดตีนถีบ หาเงินเลี้ยงลูกมันลำบากแค่ไหน ตอนนั้นทั้งบ้านไม่มีเงินซักบาท พ่อต้องเอาบ้านไปจำนองเสี่ยเต๊ก เอาเงินมาซื้อนมให้เอ็ง”
“ผมเพิ่งผ่อนบ้านหมดเมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนั้นผมหย่านมแล้วพ่อ” พงศ์เทพโมโห
พร้อมพงศ์ตีหน้ามึนใส่ ส่วนสองหนุ่มอึ้งรับประทาน ข่าวร้ายมากะทันหัน บ้านโดนยึด ไม่มีที่ซุกหัวนอน
“สมบัตินอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ลูก”
พงศ์เทพโวยแหลก “ผมกัดฟันผ่อนบ้านเลือดตาแทบกระเด็น พ่อทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง เอาบ้านไปจำนองไอ้เสี่ยหน้าเลือด ผมไม่มีอะไรเหลือแล้ว ชีวิตผม...เป็นศูนย์”
“พ่อรับผิดชอบก็ได้วะ พ่อจะไปผูกคอตาย”
เจ๋งบอก “แนะนำต้นไม้ใหญ่ตรงหัวโค้งลุง ลมงี้พัดฉิว ได้ไปแบบเย็นสบาย”
“เปลี่ยนใจแล้ว ข้าตายเย็นดีกว่า ข้าจะไปกระโดดน้ำตาย”
“ถ่วงหินซักก้อนนะลุง ลุงน่ะว่ายน้ำแข็ง”
พร้อมพงศ์ยัวะ “ไอ้เจ๋ง เอ็งอยากให้ข้าตายนักใช่มั้ย ได้...ข้าจะนอนให้รถทับตายเดี๋ยวเนี้ย”
“อยากเล่นสนุกอะไรก็ตามสบายเลยครับพ่อ ผมชาชินแล้ว ชีวิตผมถูกพ่อเล่นตลกจนทุกวันนี้ตลกไม่ออก ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ตอนนี้ก็ไม่มีบ้านซุกหัวนอน ทั้งตัวผมเหลืออยู่อย่างเดียวที่ยังเป็นของผม...คือลมหายใจ”
พงศ์เทพมองพ่อด้วยสายตาตัดพ้อต่อว่า ระคนน้อยใจพ่อมาก พ่อทำลายชีวิตตนจนป่นปี้ พร้อมพงศ์หน้าเสีย ละอายใจต่อลูกชายไม่น้อย พงศ์เทพเดินคอตกออกไป

หลงเดินซึมกลับมาบ้านลิเก เพิ่งรู้จากพ่อว่าบ้านโดนยึดแล้ว เจอจอมนางกำลังตอกตะปูซ่อมรั้วไม้
“พี่ทำให้ครับจอม”
“ชั้นก็ซ่อมรั้วเองประจำแหละจ้ะ”
จอมนางตอกตะปูรั้ว โป๊กๆๆๆ
“โอ๊ย” รีบอมนิ้วโป้งตัวเอง อย่างเจ็บ
“เตือนไม่ขาดคำ ส่งค้อนมาครับ”
จอมนางยิ้มแต้ “อำเล่นจ้า เชื่อคนง่ายนะเนี่ยพี่หลง”
จอมนางหัวเราะน่ารัก หลงหัวเราะตาม อารมณ์ขุ่นมัวเพราะพ่อ มลายไปหมดเมื่อเจอความสดใสของสาวเจ้า

พร้อมพงศ์ตามมาง้อลูกชายถึงบ้านครูเทียม เจ๋งมาด้วย
“อย่าลืมนะเว้ย ห้ามบอกว่าลุงเป็นคนชวน เดี๋ยวเทพไม่ยอมไปกินข้าวด้วย ลุงอยากขอโทษมันเรื่องบ้าน”
“แหม...เหยียบพี่เทพซะแบนแต๊ดแต๋ แล้วแซะศพขึ้นมานะลุง”
พร้อมพงศ์กับเจ๋งเดินมาเห็นหลงกับจอมนางอยู่ด้วยกันตรงรั้วบ้านครูเทียม เลยแอบดูอยู่ห่างๆ

หลงตอกตะปูซ่อมรั้วบ้าน หยิบตะปูอมหัวตะปูไว้ จะได้หยิบใช้ง่าย
“เอ้ย พี่กลืนตะปูเข้าไป”
“ตายแล้วพี่”
“โอ๊ย...ตะปูติดคอ”
หลงเอามือกุมคอ ท่าทางเจ็บปวด จอมนางหน้าตาตื่น ทุบหลังหลงแรง ๆ
“อาเจียนออกมาพี่”
“พี่ไม่ตายเพราะตะปูหรอก จะกระอักเลือดตายเพราะจอมนี่แหละ” หลงยิ้มขำ “พี่อำเล่น เชื่อคนง่ายนะเนี่ยเรา”
หลงหัวเราะ อำคืนจอมนางวันก่อน จอมนางค้อนขวับ หลงตอกตะปูไปยิ้มไป
พร้อมพงศ์กับเจ๋งแอบดูหลงกับจอมนาง เห็นทั้งคู่หยอกล้อกันอย่างหนิดหนม
“พี่เทพกับผู้หญิงคนนั้นท่าทางกิ๊กกั้กกันนะลุง”
“เฮ้ย ไม่หรอก เทพมันรักคนยากจะตาย”
“น่ารักใสกิ๊กแบบนั้น สเป็คพี่เทพเลย ทำใจไว้เลยลุง พี่เทพไม่กลับไปแต่งงานกับลูกสาวเสี่ยสองล้านล้านเปอร์เซ็นต์”

คำพูดของเจ๋งพาให้พร้อมพงศ์ใจแป้ว กลัวลูกชายรักผู้หญิงบางไทร ไม่ยอมกลับไปแต่งงานกับเหมยฮัว

อ่านต่อหน้า 3

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 7 (ต่อ)

บ้านครูเทียมตกอยู่ในความมืดยามค่ำคืน ยินเสียงตีระนาดดังแว่วมาจากในบ้าน เป็นครูเทียมตีระนาดด้วยมือซ้ายข้างเดียวอยู่ในห้องนอน ใบหน้าครูอิ่มเอิบ สุขใจเมื่อยามได้ฟังเสียงระนาดไพเราะเสนาะหู จอมนางเอากลอนที่หัดแต่งมาให้ปู่ดู

จอมนางยิ้มแซวปู่ “ฮั่นแน่ โชว์เหนือนะจ๊ะปู่ เดี่ยวระนาดมือเดียว”
“เอ้า ปู่ก็ต้องเหลือไว้อีกมือ ไว้ทำยังงี้ไง” ครูเทียมยกมะเหงกขวา เขกหัวจอมนางโป๊ก
จอมนางหัวเราะชอบใจ เจ็บๆ คันๆ นิดๆ
“ปู่จ๋า ชั้นแต่งกลอนลิเกได้ 2 บท ตามที่ปู่ให้การบ้านไว้แล้วจ้ะ”
จอมนางภูมิใจนำเสนอ ส่งสมุดกลอนลิเกให้ปู่อ่าน” เป็นกลอนลิเกที่แต่งให้หลงร้อง แต่ยังหาคำลงท้ายไม่ได้
ครูเทียมเขกหัวจอมนางอีกโป๊ก “ลงท้ายประโยคไม่สัมผัส ผิดหลักไวยากรณ์
จอมนางหน้าม่อย “ชั้นหาคำลงไม่ได้จ้ะ คิดหัวแทบแตก ได้เท่าเนี้ย”
ครูเทียมสอนหลานสาว “กว่าทั่งจะกลายเป็นเข็มต้องฝนกันเป็นปีๆ อยากแต่งกลอนลิเกเก่งๆ ก็ต้องหมั่นฝึกฝน เอ็งต้องพยายามต่อไป”
จอมนางปู่บอกชั้นหน่อยสิจ๊ะ ทำไมปู่ถึงเร่งรัดให้ชั้นหัดแต่งกลอนลิเก ปู่เคยบอกว่า
รอให้ชั้นโตกว่านี้ ถึงจะให้หัด
“หัดเร็ว เอ็งก็เก่งเร็วกว่าคนอื่นไง ไปแต่งกลอนมาใหม่ไป”
“จ้าปู่”
จอมนองยิ้มให้ปู่ แล้วลุกถือสมุดกลอนลิเกไป พอจอมนางพ้นสายตาแล้ว ชายชราก็ใช้มือขวาหยิบ
ไม้ตีระนาด ความที่มือขวาครูสั่น ไม้ระนาดจึงสั่นตามเบาๆ
“จับไม้ระนาดยังไม่ถนัด ปู่เขียนหนังสือแต่งกลอนไม่ไหวแล้วล่ะจอมเอ๊ย”
ถึงป่วย ครูเทียมยังยิ้มได้กำลังใจดีเยี่ยม ครูใช้มือซ้ายตีระนาด ถึงตีมือเดียว เสียงระนาดก็ออกมาไพเราะ

เสียงระนาดที่ครูเทียมตีอยู่ในบ้าน ดังลอยลมมาถึงท่าน้ำ หลงหลบมานั่งกลุ้มใจกับปัญหาที่พ่อก่อขึ้นอีก หลังจากวันนี้เขาเพิ่งรู้ พ่อเอาบ้านไปจำนองเสี่ยเต๊ก จนบ้านโดนยึดไปเรียบร้อยโรงเรียนเสี่ยเต๊ก
“ที่พ่อตัดสินใจเช่าบ้าน เพราะไม่มีบ้านให้กลับแล้วเว้ย ป่านนี้เสี่ยยึดบ้านไปแล้ว”
“ยึดบ้าน”
คิดแล้วหลงถอนหายใจเฮือก อยู่ๆ ก็ไม่มีบ้านซุกหัวนอนซะงั้น
จอมนางเดินร้องลิเกขึ้นศาลามา เป็นกลอนลิเกสั้นๆ เนื้อหาให้กำลังใจคนกำลังท้อแท้ชีวิต
หลงหันมายิ้มให้ “เจอคารมนางเอกลิเกเข้าไป หนุ่มกรุงเทพฯอย่างพี่ ยังต้องหลบเลยครับ”
จอมนางเลยได้ทีโม้ซะ “อ๊ะ นี่ด้นสดนะเนี่ย จอมนาง...ว่าที่บรมครูกลอนลิเก...แล้วนี่พี่หลงมานั่งหน้าเศร้าเป็นแมวเซาทำไมจ๊ะ”
“พี่คงคิดถึงบ้านมั้ง พี่จำไม่ได้”
จอมนางมองจับผิด ด้วยยังไม่ปักใจเชื่อว่าหลงความจำเสื่อม “พี่โดนรถชนหัวฟาดพื้นมาตั้งนานแล้ว อาการน่าจะดีขึ้นแล้วนะจ๊ะความจำพี่น่าจะกลับมาบ้างแล้ว”

หลงพูดเซ็งๆ อันเป็นชีวิตจริงของเขา “มันเป็นความทรงจำที่เลือนหายไปแล้วล่ะครับจอม พี่ไม่มีอะไรเหลือแล้ว หมดทุกสิ่งทุกอย่าง”
“เอาน่า ชั้นเชื่อนะว่าซักวันพี่หลงจะจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร แล้วพี่หลงก็จะได้กลับบ้านไง”
หลงมองซึ้งใจจอมนาง

เช้าวันถัดมา พร้อมพงศ์เดินลิ่ว ๆ มาตามทางเดิน ตั้งใจจะมาบ้านครูเทียม สืบเรื่องลูกชายกับนางเอกลิเก กิ๊กกั๊กกันจริงเหรอเปล่า ไอ้เจ๋งเดินแกมวิ่งตามมา
หลงกับจอมนางรดน้ำช่วยกันอยู่ที่แปลงผักข้างเรือน พร้อมพงศ์กับเจ๋งแอบดูหลงกับจอมนาง เห็นทั้งคู่หยอกล้อกัน
“พี่เทพกับผู้หญิงคนนั้นท่าทางกิ๊กกั้กกันนะลุง”
พร้อมพงศ์ปลอบใจตัวเอง “เฮ้ย ไม่หรอก เทพมันรักคนยากจะตาย”
“น่ารักใสกิ๊กแบบนั้น สเปคพี่เทพเลย ทำใจไว้เลยลุง พี่เทพไม่กลับไปแต่งงานกับลูกสาวเสี่ยสองล้านล้านเปอร์เซ็นต์”
คำพูดเจ๋งทำให้พร้อมพงศ์ใจเสียอีกรอบ ชักกังวลว่าลูกชายรักผู้หญิงบางไทร และไม่กลับไปแต่งงาน
“อย่าพูดให้ลุงใจเสียดิวะ”
“มันคือความจริงลุง ความจริงอันโหดร้าย ลุงอดดองกับเสี่ยเต๊ก มหาเศรษฐีพันล้าน สูงสุดคืนสู่สามัญลุง อย่าคิดมาก” เจ๋งประชดมากกว่าจะปลอบ
พร้อมพงศ์เครียดหนัก คิดมาก หน้ายู่ยี่ อยากดองกับเสี่ยเต๊ก
“กลุ้มโว้ย”
ครูเทียมเดินรดน้ำต้นไม้ มาเจอสองลุงหลาน
“อ้าว เจอกันอีกแล้ว มาทำอะไรแถวนี้ล่ะ”
สองคนไหว้ทัก “ผมมาทักทายครูครับ ผมกับหลานชาย เพิ่งมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ บ้านครู”
“ไปไงมาไง ถึงย้ายมาอยู่บางไทรล่ะ”
“เรื่องมันยาวครับ”
พร้อมพงศ์มองลุ้นว่าครูเทียมจะให้เข้าบ้านไปคุยหรือเปล่า จะได้ไปสืบเรื่องลูกชาย ครูเทียมยังฉีดสายยางรดน้ำต้นไม้ไปเรื่อย

ขณะที่หลงซ่อมหัวสปริงเกอร์ จอมนางเป็นลูกมือ ส่งอุปกรณ์ช่างให้พี่หลง
เสียงครูเทียมเรียกหา “จอมเอ๊ย อยู่ไหนลูก”
จอมนางร้องบอกไป “ที่แปลงผักจ้ะปู่”
หลงก้มหน้าซ่อมหัวสปริงเกอร์ ไม่ได้เงยหน้ามองใคร ครูเทียมเดินมาหา
“มีแขกมาแน่ะ”
พร้อมพงศ์ยิ้มทักจอมนาง “จำลุงได้มั้ย”
หลงคุ้นเสียงมาก เงยหน้าดู เฮ้ย...พ่อ!

พร้อมพงศ์นั่งดื่มน้ำฝนจากขัน อยู่ในโถงกลางบ้าน
“ไง น้ำฝนบ้านนอก ดื่มแล้วสดชื่นเหมือนน้ำกลั่นในเมืองมั้ย”
“ไม่มีอะไรดีกว่าของที่ได้จากธรรมชาติแล้วล่ะครับครู”
“คราวที่แล้วที่เจอลุง ลุงบอกว่ามาตามหาลูกชาย ตามเจอเหรอยังจ๊ะ”
“เจอแล้ว แต่มันไม่ยอมกลับบ้าน สงสัยว่าจะติดผู้หญิง”
พร้อมพงศ์มองจ้องจอมนาง หมายถึงเธอนั่นแหละ ที่ลูกข้ามาติด
จอมนางไม่เก็ต ไม่รู้ลุงหมายถึงตัวเอง
เจ๋งกลัวความแตก “รบกวนครูเทียมนานแล้วกลับเหอะลุง”
พร้อมพงศ์ไม่ยอม “เพิ่งมานั่ง ก้นยังไม่ทันร้อนเลย”
ครูเทียมดันชวน “นั่นสิ อยู่คุยกันก่อน”
“ลุงพงศ์คุยกับปู่ไปนะจ๊ะ ชั้นไปช่วยพี่หลงต่อ”

จอมนางลุกเดินออกมาที่แปลงผัก กลับมาช่วยหลง ส่งอุปกรณ์ช่างให้พี่หลงซ่อมหัวปริงเกอร์ หลงเหลือบมองพ่อในบ้าน

พร้อมพงศ์ ครูเทียม และเจ๋ง ยื่นหน้ามองไปที่แปลงผัก ดูหลงกับจอมนางช่วยกันละไม้คนละมือ

“พงศ์จะต่อไฟ ซ่อมก๊อกน้ำ มาตามไอ้เจ้าหลงไปช่วยได้นะ มันเก่งงานช่าง ให้เงินมันนิดๆ หน่อยๆ เป็นสินน้ำใจก็พอ”
พร้อมพงศ์มองจ้องไอ้เจ้าลูกชายตัวดีกับจอมนาง ท่าทางสนิทสนมกันน่าดู๊
หลงรู้สึกได้ว่า พ่อกำลังมองจับผิดตนกับจอมนาง

หลังไปสืบที่บ้านลิเก พร้อมพงศ์กลับมาบ้านเช่า กลุ้มหนักกว่าเดิม
“เจ๋ง เอ็งว่าเทพมันชอบผู้หญิงบ้านลิเกจริงเหรอวะ”
“สาวคนนั้นน่ะ สเป็คพี่เทพเลย ตัวเล็กๆ น่ารัก พี่เทพไม่กลับไปหาลูกสาวเสี่ยเต๊กแล้ว”
พงศ์เทพทิ้งมาดไอ้หลง แอบมาหาพ่อพอเข้ามาในบ้าน ก็รีบปิดประตูหน้าต่าง ป้องกันพวกบ้านลิเกมาเห็น
“คนบ้านลิเกตามมาเหรอพี่”
“เปล่า พี่ป้องกันไว้ก่อนน่ะ พ่อ...พ่อไปจับผิดอะไรผมกับจอมนาง”
“ลุงพงศ์แกสงสัยว่าพี่ชอบนางเอกลิเกคนนั้นเหรอเปล่า”
คำพูดเจ๋งทำให้พงศ์เทพอึ้งไปเหมือนกัน หันมาโวยพ่อกลบเกลื่อนซะเลย
“ผมจะกล้าชอบผู้หญิงที่ไหนล่ะพ่อ บ้านยังไม่มีซุกหัวนอน โดนพ่อแอบเอาไปจำนอง จนโดนยึด มีแฟนตอนนี้ ผมจะให้หลักประกันอะไรผู้หญิงเค้าได้ พ่อทำลายชีวิตผมตอนนี้ยังไม่พอ ยังทำลายอนาคตผมด้วย”
พร้อมพงศ์โดนลูกใส่เป็นชุด เลยใช้มุกประจำตัว บีบน้ำตา เรียกร้องความเห็นใจ
“ฮือๆๆ พ่อลำบากเลือดตาแทบกระเด็นเลี้ยงลูกมา แต่ลูกไม่ยอมลำบากเพราะพ่อ โฮๆๆๆ”
พงศ์เทพกับเจ๋งรู้ว่าพร้อมพงศ์แกล้งร้องไห้ เลยไม่สนใจ ปล่อยให้ร้องไปไม่เห็นมีน้ำตา
“เจ๋ง เราต้องสร้างเนื้อสร้างตัวกันใหม่ หาอะไรทำ เอ็งมีเงินติดตัวเท่าไหร่”
“ทั้งเนื้อทั้งตัวมีสองพันกว่าบาทเองพี่”
พงศ์เทพหันมาทางพ่อ “พ่อมีเงินให้ผมซักหมื่นมั้ยครับ ผมจะลงทุนซื้อของมาขาย”
พร้อมพงศ์เลิกแกล้งร้องไห้ทันที “ไม่มีเว้ย”
“แหม พอพูดเรื่องเงิน เลิกเล่นบทโศก มาเล่นบทฉุนเฉียวเลยนะพ่อ”
พร้อมพงศ์เหล่ลูกชาย แหมพมันรู้ทันกรูทุกเม็ด
“สองพัน พอลงทุนทำอะไรได้หว่า”
พงศ์เทพครุ่นคิด “ขายอะไรที่ใช้ทุนน้อย” แล้วปิ๊ง คิดได้ นึกออกแล้ว

ไม่นานต่อมา พงศ์เทพส่งกระดาษให้เจ๋ง พร้อมพงศ์ไม่อยู่แล้ว
“เอ็งไปซื้อของตามนี้”
“พรุ่งนี้ผมจะไปแต่เช้าเลยพี่ แล้วพรุ่งนี้พี่จะแว้บมาช่วยผมเหรอเปล่า”
“มาสิ” พงศ์เทพนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบกลับ “พี่ต้องไปแล้วเจ๋ง ช่วงนี้พี่ต้องหัดลิเก”
เจ๋งตาเหลือกอัศจรรย์ใจ “หัดลิเก! พี่จะเล่นลิเกเป็นอาชีพเหรอพี่ ถามจริง”
“เป็นไว้ก็ไม่เสียหลายอะไรนี่หว่า ลิเกเป็นวิชาชีพที่ใช้ทำมาหากินได้ พี่ไปนะ”
พงศ์เทพกลับไปสวมบทไอ้หลงต่อ

ด้านกระแตปักกรองคอให้จอมนางอยู่ในบ้าน เนื้องานใกล้เสร็จแล้ว
ฟ้าประทานกับตุ้มแต่งตัวสวยหล่อ จะออกไปข้างนอก ทั้งคู่เดินผ่านกระแตชนิดไม่แคร์ว่าจะ ถูกกระแตจับผิด แต่ตอนเดินผ่านกระแต ฟ้าประทานกับตุ้มอมยิ้ม ตั้งใจให้กระแตเห็นอยู่แล้ว
“กล้าเดินควงให้เห็นจะๆ หยามหน้านังกระแตขนาดนี้ ก็ต้องหาหลักฐานมัดตัวให้ได้”
กระแตวางงานในมือ ตามฟ้าประทานกับตุ้มไป
พอกระแตตามมาถึงประตูรั้วเห็นฟ้าประทานขับรถพาตุ้มออกไป กระแตรีบวิ่งเข้าบ้านไปหยิบกุญแจรถ
มอเตอร์ไซค์ขี่ตามไม่ให้คลาดสายตา

ฟ้าประทานจอดรถส่งตุ้มลงในตัวเมือง
ห่างไปไม่ไกลนัก กระแตซุ่มดูอยู่บนมอเตอร์ไซค์ เห็นตุ้มลงจากรถฟ้าประทาน ส่วนฟ้าประทานขับรถไปต่อ
“อ้าว ไม่ได้แอบมาสวีทกัน”
กระแตซุ่มดูต่ออีกแป๊บ เห็นตุ้มเดินแต๊ดแต๋ ดูของตามร้านค้าเลยเซ็ง
“มาเสียเที่ยว”
กระแตเซ็ง ขี่มอเตอร์ไซค์กลับ
ตุ้มอยู่หน้าร้านค้า หันไปมอง จนเห็นกระแตกลับไปแล้ว รีบโทร.หาฟ้าประทาน

“นังนักสืบจำเป็นล่าถอยไปแล้วจ้ะ วนกลับมารับชั้นได้แล้ว”
ฟ้าประทานขับรถมาหน้าตลาดเจ๊ทรงงาม คุยโทรศัพท์กับตุ้ม
“ผมขับเลยมาไกลแล้ว ย้อนไปรับตุ้ม เสียเวลา ผมไปธุระคนเดียวแล้วกันนะจ๊ะ”
ตุ้มโวย “ฟ้าประทานบอกชั้น จะให้ชั้นไปด้วย”
“ผมไปธุระแป๊บเดียว ตุ้มหารถกลับบ้านเองนะจ๊ะ”
ฟ้าประทานวางสายไปเลย ตุ้มโมโหมาก “เอาเรามาปล่อยเกาะ”
ตุ้มยืนหน้าหงิกหน้างออยู่ริมถนน

ไม่นานต่อมาฟ้าประทาน อยู่ที่บ้านเจ๊ทรงงาม ส่งยิ้มหวานเชื่อมให้เจ๊
“วันนี้เจ๊สวยจังครับ”
“ปากหวานอย่างนี้ต้องให้รางวัล”
เจ๊ทรงงามจะหอมแก้มฟ้าประทานสักฟอด ฟ้าประทานแกล้งจาม
“ฮัดเช้ย...เป็นหวัดน่ะครับ เจ๊ระวัง อย่าอยู่ใกล้ผมมาก เดี๋ยวติดหวัด ผมห่วงเจ๊ครับ”
อีเจ๊ซึ้งใหญ่ “โถพ่อคู้นนน ตัวเองไม่สบาย ยังห่วงคนอื่น”
“เจ๊ไม่ใช่คนอื่นสำหรับผม เจ๊ครับ เจ๊บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับผม เรื่องอะไรเหรอครับ”
“คือเพื่อนเจ๊เค้าจะเปิดตลาดใหม่ อยากได้ลิเกไปเล่นฉลองเปิดตลาด 7 คืนเลยนะ”
ฟ้าประทานดีใจ
“จริงเหรอเจ๊ เล่น 7 คืน เลยเหรอ แล้วตลาดอยู่ที่ไหน เพื่อนเจ๊เป็นใคร แล้วจะให้ผมไปเซ็นสัญญาจ้างได้เมื่อไหร่ครับเจ๊”
เจ๊ทรงงามขำ “โอ้ยใจเย็นๆ อีก 2 วัน ฟ้าประทานไปเซ็นสัญญาได้เลย เจ๊จะโทร.ไปบอกให้เพื่อนของเจ๊ ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ งานเนี้ย เจ๊ช่วยดันเต็มที่”
“ขอบคุณมากครับเจ๊ เจ๊นอกจากจะสวยแล้ว ยังใจดีกับผมเหมือนเดิม น่ารักที่สุด”

ฟ้าประทานจอมกะล่อนหยิกแก้มเจ๊เบาๆ เอาใจ แล้วกลับออกไปหน้าบานแฉ่ง

อ่านต่อหน้า 4

ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 7 (ต่อ)

ที่บ้านครูเทียมตอนนี้ โก่งสาวตะโพน โดยดึงเชือกที่ขึงอยู่ด้านข้างตะโพนตั้งเสียง หลงผ่านมาเห็น สนใจโก่งทำอะไร

“ทำอะไรน่ะครับพี่โก่ง”
“สาวตะโพน ตีบ่อยๆ หน้าตะโพนหย่อน เสียงไม่กังวาน เอ็งลองหัดสาวมั้ย”
“ลองดูก็ได้ครับ”
โก่งสอนหลงสาวตะโพน
“ดึงเชือกเส้นด้านในให้ตึงๆ ห้ามดึงเส้นด้านนอกล่ะ เดี๋ยวตะโพนพัง”
หลงดึงเชือกเส้นด้านในตามที่โก่งสอน
“ผมเป็นคนไทยแท้ๆ เพิ่งรู้ว่าตะโพนตั้งเสียงยังไง เป็นแต่ตั้งเสียงกีต้าร์ เครื่องดนตรีของพวกฝรั่ง”
“ข้าละเป็นห่วง วันหน้าเครื่องดนตรีไทยจะสูญหายไป เหลือเพียงตำนานเล่าขานให้ลูกหลานฟัง”
โก่งมีสีหน้าหนักใจ ดนตรีไทยอาจสูญหายไปจากประเทศไทยในวันหนึ่ง

ต่อมาครูเทียมสอนหลงรำลิเกอยู่ลานหลังบ้าน
“มืออย่าตก มือไหนไม่รำ แตะชายพกไว้”
หลงเอามือแตะชายพกตามที่ครูสอน
“จำไว้ ลิเกทรงเครื่อง ห้ามทิ้งมือ”
หลงเผลอทิ้งมืออีก โดนครูเทียมเอาไม้ตีมือเผียะ หลงหน้าแหย เจ็บจริงไรจริง กำจาย โก่ง และโก๊ะ ขำ

รถฟ้าประทานวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน ฟ้าประทานยิ้มหน้าบาน พอลงจากรถเจอตุ้มดักรออยู่
“ฟ้าประทานทำไมถึงทำกับชั้นแบบนี้”
ตุ้มเดินเข้ามาหาเตรียมเอาเรื่องเต็มที่ แต่ฟ้าประทานพูดขึ้นมาก่อน
“ตุ้ม ผมมีข่าวดีมาบอก” ฟ้าประทานหันไปทางตัวเรือนตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน “ครูเทียมครับ จอม กระแต น้ากำจาย ออกมาหน่อยครับ”
ตุ้มงง “จะไปเรียกเค้าทำไม”
ฟ้าประทานตะโกนดังขึ้นอีก ท่าทางตื่นเต้นมาก “ครูเทียม จอม น้ากำจาย พี่โก่ง โก๊ะ”
ฟ้าประทานเดินไปไม่สนตุ้ม
ครูเทียม หลง กำจาย โก่ง โก๊ะกำลังซ้อมลิเกอยู่ ได้ยินเสียงฟ้าประทานเรียก
จอมนางกับกระแต เดินมาจากครัว กำจายบ่น
“จะเสียงดังโวยวายอะไรว่ะ คนเค้ากำลังมีสมาธิซ้อมลิเกกันอยู่”
ฟ้าประทานไปยืนหน้าทุกคน วางมาดเท่ ก่อนประกาศข่าวสำคัญ
“วันนี้ผมไปคุยกับเจ้าของตลาด เพื่อนเจ๊ทรงงาม เค้าจะเปิดตลาดใหม่ในตัวเมืองอาทิตย์หน้า ทางเค้าตกลงจะจ้างคณะเทียมฟ้าไปเล่น งานเปิดตลาด 7 คืน”
ทั้งคณะร้องลั่น “7 คืน”
“ตลาดเค้าใหญ่อลังการมาก มีเกือบพันแผง งานเปิดเลยต้องยิ่งใหญ่อลังการ”
ตุ้มเดินงอนออกไป
ชาวคณะตื่นเต้นดีใจได้งานใหญ่ ฟ้าประทานกระหยิ่มยิ้มย่อง ยืดอกผึ่งผาย เป็นคนหางานมาให้ชาวคณะ
ครูเทียมกับจอมนางมองหน้ากัน จอมนางหันไปมองหลง

โก่งตีตะโพน ตุ้งๆๆๆ ชาวคณะทยอยมา เตรียมซ้อมลิเก หลงมาดูซ้อมด้วย
“ฟ้าประทาน ตุ้ม กระแตล่ะ”
จอมนางตอบแทน “เดี๋ยวมาจ้ะปู่”
ครูเทียมแจกบทกลอนลิเกเรื่องใหม่ “งานนี้เราจะเล่นเรื่องใหม่ ข้าแต่งไว้นานแล้ว รองานสำคัญให้พวกเอ็งเล่น”
ชาวคณะอ่านบทกลอนที่ครูแจก
กำจายอ่าน “ศึกรักหักศึกรบ แค่ชื่อเรื่องก็น่าดูแล้วจ้ะครู”
ครูเทียมส่งบทกลอนลิเกเรื่องใหม่ให้หลงด้วย
“เรื่องนี้เอ็งเล่นด้วย เป็นทหารคนสนิทของนางเอก”
หลงเกรงใจมาก “ผมเพิ่งหัดเล่นลิเก กลัวพาคณะล่มครับ”
“ข้าดูเอ็งมาซักพักแล้ว เอ็งน่ะมีแวว โทนเสียงดี ถึงรำแข็ง แต่ท่วงท่ารำสง่าผ่าเผย ที่เหลือก็หาประสบการณ์จากเวทีจริง ประสบการณ์จะช่วยให้เอ็งเก่งขึ้นทันตา”
หลงยิ้มให้ “ครูเทียมไว้ใจผม ผมก็จะทำให้ที่สุดครับ”
“เอ้าเฮ้ย รับน้องไอ้หลง”
โก่งเทน้ำล้างหน้าตะโพน โก๊ะถือขัน รองน้ำล้างหน้าตะโพน
โก๊ะส่งขันน้ำล้างตะโพนให้หลง “อ่ะพี่ ซดซะ”
หลงไม่รู้ธรรมเนียม “เอ๊ย สกปรก”
กำจายฉุนนิดๆ “เดี๋ยวข้ายันติดผนัง ว่าหน้าตะโพนสกปรก ตะโพนมีครู”
หลงรีบไหว้ขอขมาตะโพน
ครูเทียมอธิบาย “หน้าตะโพนน่ะ พอถูกตีบ่อยๆ หนังก็ด้าน คนลิเกรุ่นก่อนเลยถือเคล็ด ให้ลิเกหน้าใหม่ กินน้ำล้างหน้าตะโพน เวลาออกโรง ได้ไม่ตื่นเต้น หน้าจะด้านเหมือนหน้าตะโพน”
“เอ ครูครับ คนที่หน้าด้านอยู่แล้ว ต้องดื่มมั้ยครับ”
จอมนางเย้า “พี่หลงจะบอกว่า พี่หน้าด้านพอแล้ว”
“หือ เปล่า พี่ถามเพราะอยากรู้”
“มันเป็นเคล็ด เอ็งจะดื่ม หรือไม่ดื่มก็สุดแท้แต่เอ็ง” ครูบอก
หลงดื่มน้ำล้างหน้าตะโพนหมดขัน

พวกผู้ชายซ้อมฉากรบ ฟ้าประทานโดนหลงกับกำจายรุมฟันดาบ
ครูเทียมสอนหลงไปด้วย “จังหวะลงดาบ ให้มัน เฉาะๆ เข้าจังหวะ”
“ขออีกทีครับ” หลงบอก
ฟ้าประทานบ่น “ลิเกใหม่ครูทำผมเสียเวลา”
กำจายเหน็บ “ตอนเอ็งหัดฟันดาบ ทำข้าเสียเวลากว่านี้อีก”
ฟ้าประทานมองไม่พอใจกำจาย ที่ไปเข้าข้างไอ้หลง
เริ่มซ้อมฉากรบกันใหม่ หลงตั้งอกตั้งใจมาก ฟันดาบเข้าจังหวะรับดาบของฟ้าประทาน เฉาะๆๆๆ ตามที่ครูเทียมสอน

ค่ำนั้น โก๊ะนวดแขนให้กำจายแก้เมื่อย
“วันนี้ซ้อมฉากรบทั้งวัน ฟันดาบซะปวดแขน”
“นอนพักสิครับน้า นอนแล้วหายปวด” หลงบอก
“ต้องนวดเว้ยถึงจะหาย แรง ๆ หน่อยไอ้โก๊ะ มือเบาเป็นมือสาวไปได้”
หลงมองคนในห้อง ไม่มีใครมีทีท่าจะนอน โก่งอ่านกลอนลิเก โก๊ะนวดแขนให้กำจาย แล้วจะแอบออกไปหาเจ๋งที่บ้านเช่าได้ยังไง
สุดท้ายหลงต้องรอจนพวกน้ากำจายหลับสนิท ถึงย่องออกจากห้อง

พงศ์เทพทิ้งบทหลง เช็คของว่าเจ๋งซื้อมาครบมั้ย หยิบมาดูทีละชิ้น
“บล็อกสกรีนตามที่โทร.สั่งเมื่อวาน สีสกรีน แปรงปาดสี แผ่นไม้ เสื้อยืด...ของที่สั่งครบ เริ่มสกรีนกันเลยเจ๋ง จะได้เสร็จเร็ว ๆ
หลงกับเจ๋งช่วยกันสกรีนเสื้อ พร้อมพงศ์ยืนมองเหล่
ชีวิตพงศ์เทพกลับมามีความหวังอีกครั้ง มุ่งมั่นกับงานตรงหน้า
สกรีนเสื้อยืดอย่างคล่องแคล่ว เริ่มขั้นตอนแรกด้วย วางเสื้อยืดเป็นแผ่นไม้ จัดเสื้อให้เรียบ จากนั้นเอาบล็อกสกรีนวางบนเสื้อยืดตามตำแหน่งที่ต้องการ เจ๋งช่วยจับบล็อกสกรีนไม่ให้ขยับ ต่อด้วยพงศ์เทพเทสีลงในบล็อก แล้วปาดสีด้วยแปรง ยกบล็อกออก เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการสกรีนเสื้อ
เช้าตรู่ หลงเดินหน้าตาง่วงเปิดประตูรั้วบ้านลิเกเข้ามา เพิ่งกลับจากบ้านพ่อ ไปสกรีนเสื้อยืดทั้งคืนยันเช้าหลงตักน้ำจากตุ่ม ล้างหน้าให้สดชื่น
เสียงจอมนางดังขึ้น “พี่หลง”
หลงสะดุ้งโหยง จอมนางมองจับผิด “แค่นี้ต้องตกใจด้วย”
“เพิ่งฟ้าสาง นางไม้บางองค์ทำโอที ยังไม่กลับเข้าเสาเรือน พี่ก็หวาด ๆ ซีครับ อยู่ๆ ได้ยินเสียงผู้หญิงข้างหลัง”
หลงเล่นลิ้น แล้วรีบเดินหนีจะเข้าบ้านขึ้นห้อง ไม่อยากโกหก
จอมนางยอดนักสืบ สังเกตเห็นมือหลงเปื้อนสีหลายจุดก็แปลกใจ
“มือพี่เปื้อนสีอะไรมาจ๊ะ”
หลงคิดปราดเดียวไหลไปได้อย่างรวดเร็ว “พี่ไปวิ่งจ๊อกกิ้ง มือไปโดนกำแพงบ้านที่สียังไม่แห้งน่ะครับ”
“เหรอจ๊ะ”
“พี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ วิ่งซะเหงื่อชุ่มเลย”
หลงเข้าบ้านไป หน้าตาหวั่นปนกังวลนิดๆ ที่โกหกไปทั้งหมดเมื่อกี้ จอมนางมองตามหลง สายตาระแวง ไม่เชื่อคำพูดนั้น
“พี่หลงต้องแอบไปทำอะไรมา”

จอมนางสงสัยคาใจ ชริ พี่หลงเหรอจะออกไปวิ่งตอนเช้า

ฟากเสี่ยเต๊กหงุดหงิดโวยลั่นใส่หน้าลูกน้อง

“เฮียพงศ์ไม่อยู่บ้านญาติ แล้วไปมุดหัวอยู่ไหนวะ”
“ผมเค้นญาติๆ เฮียพงศ์ ไม่มีใครรู้ที่กบดานเฮียพงศ์ครับ ไปถามพวกลูกค้าที่เฮียพงศ์กับลูกชายขายของให้ เฮียพงศ์ไม่ได้เอาของไปส่งเลย” เบิ้มรายงาน
พลเสริม “ผมว่าเฮียพงศ์ต้องหนีไปนอนตามโรงแรมครับเสี่ย”
เสี่ยเต๊กไม่คิดอย่างนั้น “เฮียพงศ์งก ไม่ยอมเสียเงินค่าโรงแรมหรอก ต้องไปอาศัยบ้านเพื่อน อั๊วจะจดรายชื่อเพื่อนเฮียพงศ์ให้ แล้วพวกลื๊อไปตามหา”
เสี่ยเต๊กมองหากระดาษกับปากกา เบิ้มรีบไปฉีกกระดาษจากสมุดโน้ตตรงโทรศัพท์บ้านมาให้ พลส่งปากกาให้เสี่ย เสี่ยเต๊กกดเปิดปากกา กดไม่ลง
“ปากกาพังแล้ว”
“ขออนุญาตครับเสี่ย”
พลหมุนให้ไส้ปากกาออกมา
เสี่ยเต๊กยัวะ “แล้วทำไมไม่บอก”
“นึกว่าเสี่ยรู้ครับ”
เสี่ยเต๊กพาลพาโล “ว่ากูโง่เหรอ”
ขาดคำเสี่ยเตี่กเขวี้ยงปากกาใส่หัวพลดังป๊อก

ขณะนั้น เหลียนฮัวแต่งหน้าให้ลูกสาว บังคับให้ไปข้างนอก เหมยฮัวหน้าตาไม่เต็มใจ
“ไปให้เค้าเห็นว่าเหมยก็สวยไม่แพ้พวกดารานักร้อง หาสามีดีกว่านักร้องนั่นได้สบาย แต่ที่จำเป็นต้องไปคุย เพราะต้องการให้ทางเค้ารับผิดชอบเด็กในท้อง”
“ทางค่ายเค้าไม่รู้ว่าเหมยคบกับนักร้องของเค้า เค้าไม่เชื่อเราหรอกหม่าม้า”
“งั้นก็ตามแฟนเหมยมาคุยเอง หม่าม้าจะได้รู้ แฟนเหมยเป็นลูกผู้ชายเหรอเปล่า”
เหลียนฮัวแต่งหน้าให้ลูกสาวเสร็จ จับแขนลูกสาว พาออกห้องไป

เสี่ยเต๊กส่งรายชื่อเพื่อนพร้อมพงศ์ให้เบิ้ม
“รายชื่อเพื่อนเฮียพงศ์ ไปหาบ้านพวกมันเอาเองว่าอยู่ไหน อาจมีซักคนให้ที่กบดานเฮียพงศ์กับลูกชาย”
เหลียนฮัวกับเหมยฮัวจะไปข้างนอก ผ่านโถงที่เสี่ยเต๊กอยู่
“พวกลื๊อจะไปไหนกัน”
“อั๊วจะไปช้อปปิ้ง”
เสี่ยเต๊กดุเมีย “ยังมีแก่ใจช้อปปิ้ง ยังหาพ่อให้หลานในท้องลูกไม่ได้”
“อั๊วเชื่อมือเสี่ย เดี๋ยวเสี่ยก็หาอาเทพเจอ ไปกันเถอะลูก”
เหลียนฮัวรีบพาเหมยฮัวออกไป ก่อนโดนเสี่ยเต๊กด่าอีก
“ไร้สาระพอกันทั้งแม่ทั้งลูก โยนภาระมาให้อั๊วคนเดียว” เสี่ยอารมณ์บูด

จากหน้าตึกค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ย่านอโศก เหลียนฮัวพาเหมยฮัวเดินลุยเข้ามา กะเคลียร์กับค่ายเพลงต้นสังกัดนักร้องหนุ่ม เหลียนฮัวไม่แลกบัตรจะขึ้นลิฟต์เลย
“แลกบัตรก่อนครับคุณ”
เหลียนฮัวไม่แยแส รปภ. เดินนำเหมยฮัวเข้าลิฟต์ หน้าตาดุดัน จนรปภ. ไม่กล้าลากเหลียนฮัวออกจากลิฟต์
เหลียนฮัวบอกลูกสาว “ไปชั้นผู้บริหารเลยลูก”
เหมยฮัวกดลิฟต์ขึ้นไป
รปภ.รีบวิทยุบอกเพื่อนรปภ.ชั้นบน
“ผู้หญิงสองคนแอบขึ้นไปฝ่ายผู้บริหาร”

เหลียนฮัวฝ่าเลขา ฝ่ารปภ.ชั้นผู้บริหาร เข้ามาในห้องเฮียเจ้าของค่ายเพลง
“คุณเป็นใครน่ะ” เฮียงง
เหลียนฮัวสั่งลูกสาว “เหมย ล็อคประตู”
เหมยฮัวปิดประตูล็อคไม่ให้เลขากับรปภ.ตามเข้ามา
“นักร้องในสังกัดคุณ คบหากับลูกสาวดิชั้น ทำลูกสาวดิชั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง”
เหมยฮัวเอ่ยเสริม “หนูกับพีทแอบคบกันมา 3 เดือนแล้วค่ะ จนพีทไปฝึกร้องเพลงเกาหลี หนูติดต่อพีทไม่ได้ หนูต้องการคุยกับพีทด่วน ขอเบอร์พีทที่เกาหลีหน่อยนะคะ”
“เมื่อเช้าพีทเพิ่งโทร.คุยกับผม พีทไม่บอกเบอร์หนู ไม่ติดต่อมา หนูก็น่าจะเข้าใจความหมายนะ”
เหลียนฮัวยัวะ โวยลั่น “พูดอย่างนี้ทางค่ายจะไม่รับผิดชอบ ชั้นไม่ยอมนะ คุณต้องตามศิลปินคุณกลับมาเคลียร์ปัญหา”
“พวกคุณนั่นแหละมาสร้างปัญหาให้ผม เชิญออกไปได้แล้ว” เฮียบอก
“หม่าม้า กลับเหอะ”
“วันนี้ต้องคุยให้รู้เรื่อง” เหลียนฮัววางอำนาจกับเจ้าของค่ายเพลง “รู้มั้ยชั้นเป็นใคร ชั้น...คุณนายเหลียนฮัว ภรรยาเสี่ยเต๊ก”
เฮียไม่รู้จัก “ไม่ออกไปดีๆ ผมจะให้รปภ. พาตัวออกไป”
“กล้าก็เอาซี่”
เหลียนฮัวจ้องตาข่มเจ้าของค่ายเพลงหวังให้เกรงบารมี

สุดท้ายเหลียนฮัวกับเหมยฮัวถูกรปภ. 2 คนเชิญออกมาหน้าตึก แต่ไม่ได้เชิญดีๆ มีดันตัวออกมาด้วย
เหลียนฮัวโวยลั่น “พวกมารยาททราม”
“เหมยบอกหม่าม้าแล้ว ทางค่ายไม่รับผิดชอบหรอก”
“งั้นต้องหาทางอื่น ติดต่อแฟนเหมยที่เกาหลีให้ได้ เรากลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อน”
เหลียนฮัวกับเหมยฮัวไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ตรงริมฟุตบาทกลับบ้าน

อีกฟาก กระแตกับตุ้มซ้อมรำ กระแตเล่นเป็นนางสนม ส่วนตุ้มเล่นเป็นมเหสี
“พอรำจบ เอ็งคลานไปกราบมเหสี” ครูซ้อมบท
“ไว้ชั้นกราบตอนเล่นจริงนะจ๊ะครู ตอนนี้กราบไม่ลง” กระแตเบ้ปากใส่ตุ้ม
“มีสปิริตหน่อยนังกะแต วันซ้อมกับวันจริง ต้องเล่นเหมือนกัน เรื่องนี้ชั้นเล่นเป็นมเหสี แกเป็นนางสนม ต้องพินอบพิเทาชั้น”
ฟ้าประทานพาลูกศิษย์ครูเทียมเข้ามาในจังหวะนี้
“ครูครับ มีคนมาหา”
ครูเทียมทักอย่างมักคุ้น “มิ่ง ลมอะไรพัดมา” ยิ้มกว้างให้ลูกศิษย์ มิ่งไหว้ครูเทียมอย่างนอบน้อม
“ชั้นมาธุระที่อยุธยา เลยถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนครูจ้ะ”
ครูเทียมหันมาทางกระแตและตุ้ม “เชิญอีมเหสีกับอีนางสนมตบตีกันให้หนำใจ ข้าไปละ”
ครูเทียม ฟ้าประทาน มิ่ง เดินไป กระแตกับตุ้มค้อนกันขวับๆ แล้วแยกไปคนละทาง ไม่ซ้อมมันแล้ว
ครูเทียมนั่งคุยกับมิ่ง ลูกศิษย์ที่ศาลาริมน้ำ ฟ้าประทานเอาแต่จ้องมองทองหยองที่น้ามิ่งใส่เต็มตัว สร้อยทองเอย แหวนทองเอย สร้อยข้อมือทองเอย ทั้งตัวหนักรวมกันหลายสิบบาท ฟ้าประทานอยากมีทองใส่เต็มตัวอย่างมิ่งบ้าง
“คณะเอ็งมีงานเยอะมั้ย”
“คิวแน่นเอี๊ยดไปถึงหน้าฝนเลยจ้ะครู”
ครูเทียมหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ตรูไม่มีงานเลย
“ที่ชั้นได้ดีมาถึงทุกวันนี้ ก็เพราะครูเทียม 10 กว่าปีที่กินนอนอยู่บ้านครู เรียนรู้วิชาจากครู ทำให้ชั้นมีความรู้ติดตัว ไปทำคณะลิเกของตัวเองจ้ะ”
“เห็นลูกศิษย์ไปได้ดี ข้าก็ดีใจ”
จอมนางยิ้มแป้นมาหาน้ามิ่ง
“น้ามิ่ง ไม่ได้เจอตั้งนาน คิดถึงจังเลยจ้ะ” จอมนางเห็นมิ่งใส่ทองเต็มตัวก็ตาโต “โอ้โห ล่ำซำน่าดูนะจ๊ะน้า”
“ไม่เท่าไหร่หรอก เจ้าของคณะอื่นเค้ารวยกว่าน้าเยอะ”
“ให้ค่าขนมหลานซักบาทสองบาทซีจ๊ะ บาทนั้นน่ะ” จอมนางเหล่ทองน้ามิ่ง
“แน่ะไอ้เจ้านี่ แสบทรวงเหมือนเดิมนะเรา”
จอมนางหัวเราะคิก
“ชั้นต้องไปแล้วจ้ะครู ต้องตีรถกลับอ่างทอง”
“ครูขอให้เอ็งเจริญก้าวหน้า มีชื่อเสียงโด่งดัง”
มิ่งยกมือไหว้ รับพรจากครูเทียม
“ไปเล่นที่ไหน ใครเค้าก็ชอบ ใครเค้าก็ชม เป็นที่นิยมทั่วบ้านทั่วเมือง”
มิ่งก้มกราบตัก ครูเทียมลูบหัว ก้มมองลูกศิษย์ด้วยสายตาภาคภูมิใจ

ฟ้าประทานออกมาส่งมิ่งที่รถ พอเห็นรถน้ามิ่ง ก็ตาลุก รถหรูคันเป็นล้าน อยากได้ๆ
“รถน้ามิ่งสวยจังเลยนะจ๊ะ ท่าทางจะหลายล้าน” ฟ้าประทานทึ่งลูบรถมิ่ง อยากมีมั่ง
“ข้าจำได้ ตอนเด็กๆ เอ็งชอบเล่นรถของเล่น”
“ตอนนี้อยากขับของจริงแล้วครับน้า” ฟ้าประทานยิ้มเผล่
“ลองมั้ย” มิ่งโยนกุญแจรถให้
ฟ้าประทานตื่นเต้น จะได้ขับรถคันเป็นล้าน “ได้แน่นะน้า”
มิ่งยิ้ม “อย่าซิ่งแล้วกัน”
ฟ้าประทานรีบขึ้นรถทันที อยากลองขับมาก ฟ้าประทานขับรถไป หน้าตาตื่นเต้นดีใจสุดๆ ได้ขับรถคันเป็นล้าน ฝันเป็นจริง

ขณะที่พวกผู้ชายรอซ้อมฉากรบ ถือดาบติดมือ ฟ้าประทานดันหายไป กำจายโทร.ตาม ฟ้าประทานไม่รับสาย
“ฟ้าประทานไม่รับโทรศัพท์”
ครูเทียมบอก "ไม่มีพระเอกก็ซ้อมฉากรบไม่ได้ พักก่อนแล้วกัน"
"ครูครับ ผมขอไปซื้อของที่ตลาดนะครับ" หลงสบโอกาสจะไปหาเจ๋ง
“ไปเถอะ” ครูบอก
“ชั้นไปด้วยจ้ะพี่ จะไปหาอะไรเย็นๆ กิน” โก๊ะขอไปป็นติ่งพี่หลง
“พี่รีบไปรีบกลับ ไปคนเดียวคล่องตัวกว่า”
หลงเดินออกไปเลย จอมนางเดินสวนเข้ามาพอดี
“พี่หลงไปไหน แล้วไม่ซ้อมกันเหรอจ๊ะ”
“คุณซุปเปอร์พระเอกโดดซ้อม พี่หลงแกเลยไปซื้อของที่ตลาด ชั้นขอไปด้วยก็ไม่ให้ไป” โก๊ะทำหน้าเซ็งสุดขีด

จอมนางยิ้มย่อง สีหน้าเจ้าเล่ห์รู้ทัน หลงต้องแอบไปทำอะไรบางอย่างที่ตลาด

อ่านต่อตอนที่ 8
ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 6
ลิเก๊ลิเก ตอนที่ 6
กลายเป็นว่า ภายในห้องโถงบ้านหลังนั้นกำลังตั้งวงเล่นไพ่รัมมี่กันอย่างเมามัน พอเห็นหน้าต่างเปิดผัวะ ขาไพ่ก็ตกใจ แหกปากร้องลั่นบ้าน โดยเฉพาะกำจายเสียงดังกว่าใคร “ตำรวจ” จอมนางกับกระแตเหวอ นึกว่า 3 คน มาทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง ที่แท้ชวนกันมาเล่นไพ่นี่เอง วงไพ่กระเจิง ขาไพ่ด่าว่าสามคน ตุ้มพูดขึ้นด้วยความโมโห พอรู้ว่าสองคนคิดว่าตนเป็นแฟนกะโก่ง “จอมกับกระแตคิดว่าชั้นเป็นแฟนน้ากำจายกับพี่โก่ง เห็นชั้นสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนั้นเลยเหรอ” กำจายกับโก่งเหล่ตุ้ม ทำไมวะ พวกน้าๆ เป็นไง ตุ้มเหลียวไปเห็นรีบแก้ “ชั้นพูดผิดน่ะจ้ะ ปากไวไปหน่อยชั้นตั้งใจพูดว่าน้ากำจายกับพี่โก่งไม่ลดตัวมาเอาชั้นหรอก”
กำลังโหลดความคิดเห็น