xs
xsm
sm
md
lg

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาลีเริงระบำ ตอนที่ 7

กลางคืน วันเดียวกัน ชงโคร้องเพลงไปเต้นไป คนส่งแก้วเหล้าให้ ชงโคยิ้มรับมาดื่มตลอด ผู้ชายมองเธออย่างหื่นกระหาย ด้วยความเมา ชงโคเต้นแบบยั่วยวนมากขึ้นเริ่มเหมือนสาวโคโยตี้ กระโดดขึ้นไปเต้นบนโต๊ะยั่วยวนลูกค้า

ลูกค้าชายเฮฮาร้อง "ถอดเลย ถอดเลย"
ลูกค้าส่งแก้วเหล้าให้อีก ชงโคดื่มเข้าไป เริ่มชินและสนุกกับการยั่วยวน เธอถอดนิดๆหน่อยๆ โยนไป ผู้ชายร้องดังขึ้นอีก
"ถอดเลย ถอดๆๆ"
ชงโคเริ่มคุ้นชินกับการร้องเพลง ยั่วผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆสนุกขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้องทำทุกวัน

ในหอพัก ชงโคงัวเงียตื่นขึ้น ในชุดเดิม
"ปวดหัว"
"เรื่องเล็ก ต้องถอน สักกรึ้บสองกรึ้บ อยู่ในตู้นั่นน่ะ"
ชงโคเดินไปหยิบแก้วกับขวดเหล้าออกมา
ซูซี่เปิดสมุดบัญชีดู
"มีงานทุกวันเงินเข้าทุกวัน ดูสิ เกิดมาแกเคยเห็นเงินขนาดนี้หรือวะ นังชงโค"
"เราต้องออกงานแบบนี้ไปอีกเท่าไหร่ คุณวานิช เขาเคยบอกว่า จะออกอัลบั้มให้ฉันไง ฉันอยากเป็นนักร้อง"
ชงโควางแก้วที่ดื่มแล้วลง
"จะปั้นนักร้องสักคนต้องใช้เงินลงทุนเยอะ คุณวานิชเขาคงขอคิดดูก่อน"
"เจ๊คุยกับคุณวานิชให้หน่อยสิ"
"เคยคุยกันแล้ว"
"เหรอๆ เขาว่าไง"
"เขาต้องการของแลกเปลี่ยน"
"ของแปลกเปลี่ยนอะไร"
ซูซี่ยิ้มร้าย

วันใหม่ บุษบาบัณร้องเพลงท่อนสุดท้ายจนจบ มีครูสอนร้องเพลงดูแลอยู่
"อืม...ดีมาก เอาล่ะค่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน"
"ไม่ ยังไม่ดีพอ"
"วันนี้คุณซ้อมมาหลายชั่วโมงแล้ว พรุ่งนี้ต้องขึ้นคอนเสิรต์ คุณต้องพักแล้วนะคะ ถ้าซ้อมต่อ เส้นเสียงเป็นอะไรไป หรือไม่สบายไป ทุกอย่างจะพังหมด"
บุษบาบัณเอาเอกสารเขวี้ยงข้างๆครู จนครูต้องหลบเพราะเกือบโดนหน้า เธอโวยใส่ครู
"แหกตาดูสิ คะแนนของฉันสู้นังหนูมาลีไม่ได้ จะเป็นที่โหล่อยู่แล้ว"
นีน่าบอก
"แต่วันพรุ่งนี้ เขาต้องประกาศให้ชงโคออก ยังไงคุณเบลก็รอดอยู่แล้ว"
"แล้วรอบหน้าล่ะ แค่เดือนเดียว ฉันไม่ยอมอยู่อันดับบ๊วยแบบนี้ไปตลอด
หรอกนะ เอาเถอะ ถ้าคุณทำให้ฉันร้องดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันก็จะไปหาครูคนอื่น"

เบลหิ้วกระเป๋าเดินออกไป ครูถอนใจส่ายหน้าให้

วันเดียวกัน มาลีเอาเสื้อทองทามาจากร้านซักรีด หิ้วเข้ามา

"เสื้อมาแล้วจ้ะ"
ทองทาเดินออกจากห้องมาเจอ
"บอกแล้วไงไม่ต้องไปเอา พรุ่งนี้จะขึ้นคอนเสิร์ตแล้ว มีสมาธิหน่อยสิ"
"คนส่งเขาไม่ว่าง ชุดไม่มีใส่แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก เดี๋ยวเอาไปเก็บในห้องให้ก่อน"
มาลีเดินหายไปในห้อง
บุษบาบัณสีหน้าเครียดเดินเข้ามา ทองทาสะดุ้ง
"เบล ! มาได้ยังไง"
"สอนยังไงคะ เมื่อคราวที่แล้วทำยังไง สาวเสิร์ฟพวกนั้นถึงร้องเพลงได้ขนาดนั้น"
ทองทามองไปในห้อง เห็นมาลีง่วนกับการเอาเสื้อเข้าตู้ ทองทาดึงประตูปิดเข้ามา
"เอ่อ ...จะให้พี่สอนน้องหรือ"
ทองทาพยายามคิดหาวิธีเอาตัวรอดไม่ให้สองคนเจอกัน
"พรุ่งนี้เบลต้องชนะ ต้องร้องให้ดีที่สุด"
"ได้ ได้ พี่จะสอนให้ แต่ไม่ใช่ที่นี่ มา ไปกับพี่"
ทองทาดึงน้องสาวออกไป พารีบเดินหายไป
มาลี เปิดประตูออกมา
"เออพี่ เรื่องเพลงที่จะร้องพรุ่งนี้ เอ้า หายไปไหนแล้ว พี่ทองทา... พี่ทองทา"
หนูมาลี มองหาไม่เจอ

บุษบาบัณมองไปรอบๆ ดาดฟ้าแห่งนี้ด้วยความมึนงง
"พี่สอนพวกเขาร้องเพลงที่นี่หรือ ฉันไม่เชื่อหรอก"
"ไม่เชื่อก็ดีแล้ว งั้นกลับกันเถอะ"
ทองทาหันหลังจะกลับ บุษบาบัณพูดขึ้น
"พี่ต้องสอนเบล ให้เก่งกว่าพวกนั้น"
"ครูเป็นได้แค่แม่พิมพ์ ของชิ้นนั้นจะดีหรือไม่ดี ขึ้นกับสิ่งที่หล่อลงไปในพิมพ์ เอาน้ำปูนเท ก็หล่อเป็นคอนกรีต เอาน้ำหวานเท ก็หล่อเป็นได้แค่วุ้นกินเล่น"
เบลครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วพยักหน้า
"เบลพร้อมแล้ว เริ่มเลย ...วันนั้น วันที่เขาร้องเพลง พี่สอนอะไรพวกเขา สอนเบลให้หมดทุกอย่าง"
"หลับตา ... ยื่นมือออกไป"
เธอทำตาม
"อย่าใช้ความรู้ร้องเพลง จงใช้ความรู้สึกร้อง สัมผัสได้ไหม ในโลกนี้มีพลังงานแฝงบางอย่าง พลังที่จะสร้างปาฎิหาริย์ … พลังความรัก"
เธอหลับตาสักพักทำตาม แล้วพูดออกมาทั้งที่หลับตา
"พี่ ... เบลมองไม่เห็นพลังความรัก เบลเห็นอย่างอื่น"
ทองทางง สีหน้าสงสัย เจ้าหล่อนเห็นอะไร

คืนเดียวกัน ทีมงานออกอากาศกำลังเตรียมงาน ถ่ายทอดคอนเสิร์ต
พิธีกร 1บอก
"วันนี้เป็นวันขึ้นคอนเสิร์ตทุกต้นเดือนนะคะ ทุกๆคนจะต้องมาโชว์ร้องเพลงต่อหน้ากรรมการ"
"และเมื่อทุกคนร้องเสร็จเราจะมาดูคะแนนออนไลน์ที่จอนี้ ท่านผู้ชมต้องรีบโหวตเข้ามานะคะ พอคนสุดท้ายร้องจบ เราก็จะตัดสินจากคะแนนโหวต คนที่คะแนนน้อยที่สุดต้องออกไปค่ะ"
โกมินทร์ร้องเพลง

การะเกดร้องเพลงที่เปลี่ยนแนวไป

อธิ ทองทา ดูทีวีที่กลางบ้านอย่างตั้งใจ

อธินั่งดูการะเกดที่ร้องเพลงอยู่
"เฮ้อ น่ารักจัง"
ทองทาดูไป คิดไป
"เบลขึ้นร้องต่อจากนี่ใช่ไหม"
"เอ๊ะ แกถามถึงเบลหรือ ทำไมวะ ทุกทีไม่เห็นสนใจ"
ทองทาตั้งใจดูทีวีต่อไป

ข้างเวที บุษบาบัณกำลังเตรียมตัวขึ้นร้อง เธอตื่นเต้นและตั้งใจมาก ยกมือข้างหนึ่งออกไป พยายามทำสมาธิ และสร้างจินตนาการ ตามแบบที่ทองทาสอน
เธอคิดถึง มาลี เพราะ มาลี คือแรงบันดาลใจของเธอ
เสียงพิธีกรแทรกเข้ามา
"ขอเชิญพบกับผู้เข้ารอบคนต่อไป คุณบุษบาบัณ หรือคุณเบลนั่นเองค่ะ"
เธอร้องเพลงโชว์พลังเสียง ร้องดีมากจนทุกคนตะลึง
แซนดี้ถึงกับตะลึงหันไปมองหน้ากับบรม บรมทำหน้าทำมือตอบว่า เจ๋งมาก!!

ทองทาและอธิ ตะลึง
"เฮ้ย ทำไมวันนี้ร้องเพราะขนาดนี้ แบบนี้คะแนนโหวตพุ่งแน่" อธิว่า

พิธีกรชี้ไปที่คะแนน
"โอ้โห คะแนนของคุณเบลขึ้นเร็วมาก ท่านผู้ชมโหวตให้เพลงนี้ของคุณเบลท่วมท้นจริงๆ"
บุษบาบัณเดินเข้ามาพัก ยิ้มสะใจ ยกมือถือขึ้นโทร.ออก

เสียงมือถือดัง ทองทารับสาย
"ขอบคุณนะคะ ที่สอนเรื่องพลังงานแฝงให้เบล"
"ร้องได้ดีจริงๆ เยี่ยมมาก"
"เบลไม่รู้จักหรอกนะคะพลังแฝงที่ชื่อความรักน่ะ เบลรู้จักแต่พลังแฝงที่ชื่อความเกลียด !"
ทองทาตกใจ
"อะไรนะ"
"จู่ๆมันก็ผุดขึ้นมาเองเวลานึกถึงหน้ายายนั่น"
ในคราวที่บุษบาบัณปะทะกับมาลี
"นับจากนี้ไป ฉันจะไม่ดูถูกตัวเองอีกแล้ว ใช่ ฉันเป็นเด็กบ้านนอก ใช่ ฉันเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่เด็กที่ไม่มีอะไรอย่างฉันจะสู้กับคุณ ต่อไปนี้เวลาคุณพูด คุณต้องมองหน้าฉัน ในฐานะเป็นคนคนหนึ่งคนที่พร้อมชนะคุณ ด้วยมือเปล่า"
เบลยิ้มร้ายเลือดเย็น แบบคนที่รู้จักความโกรธความเกลียดยิ่งกว่าใครในโลก
"คนเป็นล้านๆในโลกใบนี้ ไม่ได้ประสบความสำเร็จเพราะความรักทั้งหมดหรอก ความโกรธเกลียดก็เป็นพลังที่สำคัญเหมือนกัน"
ทองทาอึ้ง บุษบาบัณร้ายกว่าที่คิดมาก

ผู้เข้าประกวดทุกคนพักอีกห้อง ทีวีกำลังโฆษณา ทุกคนกำลังวิตกเรื่องบุษบาบัณ ที่กลายเป็นม้ามืด
"จู่ๆคุณเบลร้องเพลงเพราะขึ้นมาอย่างกับเป็นคนละคน"
ภูมิกดสมาร์ทโฟนดู
"ผลโหวตออนไลน์ ขึ้นมาเท่ากับ น้อยหน่า แซงหน้าเธอสองคนไปแล้ว"
น้อยหน่ารีบกดของตัวเองดูบ้าง
"จริงหรือ ...ฮึ่ย"
ทิมมี่เป็นห่วงสองสาว
"คะแนนเขาขึ้น เธอสองคนก็แย่"
"คืนนี้ ฉันไม่ได้ร้องเพื่อเอาชนะกับใคร ฉันจะร้องให้เพื่อนฉัน"

การะเกดมองหน้าหนูมาลี เข้าใจกัน

ชงโคนั่งหน้าเครียดกับซูซี่รอวานิช

"เขาแค่มีอายุ ไม่ได้แก่ ไม่ได้อ้วน อย่าคิดมากน่า ....พรุ่งนี้เช้ามารับนะ"
ซูซี่แตะไหล่ปลอบแล้วเดินออกไป
สักครู่ ประตูเปิดออกอีกครั้ง วานิชเข้ามา ยิ้มหื่น
"ว่าไงคนสวย เธอดังมากนะ .... คิวงานยาวอีกหกเดือน"
"ต้องดื่มทุกคืน ดมควันบุหรี่อีก เสียงแหบหมดเลยพี่"
"มีงานง่ายกว่านั้น ไม่ทำเองนี่" ชงโคหน้าตึง โกรธเล็กๆ "เขาจ่ายไม่พอมั้ง"
"หึ ... ก็ดีนะ ง่ายไป มันก็เท่ากับของโหล หนูรู้จักคิด รู้จักเลือก แบบนี้ ยกจากตลาดโบ๊เบ๊ ขึ้นพารากอน สบายๆ"
ชงโคมีแววเศร้าในดวงตา
"ใช่ค่ะ หนูมันก็แค่อุปกรณ์ระบายความอยากแล้วจากไป ชีวิตหนู ก็มีวาสนาแค่นี้อยู่แล้ว"
"เอาน่า สัญญาเป็นสัญญา เธอได้ออกอัลบั้มแน่นอน ว่าแต่ ร้องเพลงเก่งอย่างนี้ ร้องดังด้วยป่าว ฉันชอบคนร้องดังๆ"
วานิชกดชงโครงบนเตียงนอน แล้วเอนตามลงไป โคมไฟยังฉายแสงเรืองอยู่

บนเวทีในสตูดิโอออกอากาศ มาลีอยู่บนเวที ร้องเพลง “โลกแห่งความฝัน” ของใหม่ เจริญปุระ
"เมื่อชีวิตยังรักที่จะฝัน และบอกกับใจทุกวันที่ผ่านมา ด้วยปีกแห่งฝัน จะโบยบินไปถึงฟ้า
หวังจะไปถึงในสักวัน
กว่าชีวิตจะพ้นไปอีกวัน อีกกี่ความฝันที่ฉันจะไขว่คว้า อีกกี่คำถามที่รอคอยการค้นหา แล้วถึงรู้ว่ามันไม่มีจริง
โลกแห่งความจริง ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด โลกแห่งความฝัน ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝันทอดทิ้งฉันไปไหน โลกไม่สดใสเหมือนวันก่อน
กว่าจะรู้ชีวิตคืออะไร กว่าจะรู้หัวใจคงอ่อนล้า เฝ้ารอความฝัน ให้ตกตะกอนช้า ๆ
เพื่อให้ฝันชัดเจนและเป็นจริง"

ภายในโรงแรม ชงโคนอนไม่หลับ บนเตียงข้างๆวานิชที่หลับไปแล้ว ชงโคลุกขึ้นมาไปที่ระเบียง สีหน้าเศร้า เธอน้ำตาไหลลงมา รู้ตัวว่า ชีวิตกำลังหลุดลอยออกไปจากเส้นที่ดีงามทุกทีๆ

พิธีกรทั้งสองอยู่ที่หน้าจอแสดงผลคะแนนเพื่อสรุปการแสดงวันนี้
พิธีกร 1บอก
"เป็นการแสดงที่ดีมากทุกคนร้องเพลงได้ยอดเยี่ยม"
พิธีกร 2 บอก
"ตามกฎของเรา ทุกครั้งหลังการแสดงสด จะมีการคัดคนออก 1 คน โดยเลือกจากคนที่คะแนนโหวตน้อยที่สุด"
พิธีกร 1บอก
"สำหรับคืนนี้ มีผู้ตกรอบไปคนหนึ่ง เพราะวันนี้เธอไม่ได้ทำการแสดงในคืนนี้"
พิธีกรชี้ไปที่รูปของชงโค
"ชงโค ใจสมุทร จะเป็นผู้ตกรอบไปในครั้งนี้นะคะ คนอื่นที่เหลือทั้งเจ็ดคน เข้ารอบค่ะ"

ทุกคนจับตามองทีวีดูคะแนนของตน ภูมิ ทิมมี่ น้อยหน่ามองหน้ากันเรารอดแล้ว โล่งใจ
มาลีกับการะเกดเครียด เพราะคะแนนน้อย
พิธีกร 2 บอก
"สรุปคะแนนในรอบนี้ตามลำดับนะคะ ภูมิ ทิมมี่ โกมินทร์ เรียงตามลำดับ ส่วนน้อยหน่า คะแนนสูสีกับเบล ตามมาด้วย หนูมาลีและรั้งท้ายคือการะเกดค่ะ"
พิธีกร1 บอก
"การแสดงคราวหน้า การะเกดต้องสู้หน่อยแล้วนะคะ"

ภายในห้องแต่งตัว การะเกดกลุ้ม จนหนูมาลีต้องจับไหล่ปลอบ

ห้องในโรงแรม เช้าวันใหม่ ชงโคเมาหลับอยู่ วานิชแต่งตัว เอาเงินวาง แล้วเดินออกไป

ชงโคเงยหน้ามองเงินนั้น มองอยู่อย่างนั้น เศร้ามาก เพราะมันคือสัญลักษณ์ของการขายตัว !
ชงโครับสายเมื่อมีสายเข้า

โรงแรมอีกแห่งหนึ่ง ที่ถูกและด้อยรสนิยมกว่า เกรซกับมี่ในชุดเสื้อคลุม นั่งคุยโทร. มีเสี่ยนอนอยู่ในห้องสองคนหลับอยู่ในชุดผ้าขนหนู เพราะเมื่อคืน หิ้วกันมานอนที่นี่สองคู่
"นังชงโค คุณวานิชเขาเป็นไงบ้างวะ แกชอบไหม"
ชงโคตกใจ อาย
"รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่กับใคร"
"เจ๊ซูซี่บอก ดีใจนะโว้ย ที่แกมาอยู่ก๊วนเดียวกับเรา" มี่บอก
"ขอต้อนรับน้องใหม่โว้ย.... รวย รวย รวย"
มี่บอก
"ไว้คราวหน้า คุณวานิชนัดแก ฉันสองคนจะไปร่วมแจม พวกฉันชอบคุณวานิช แกใจป้ำดี จ่ายไม่อั้น แล้วเจอกันนะโว้ย"
เกรซกับมี่ กดสายออก
ชงโคอึ้ง นี่ตนกลายเป็นเกรซกับมี่ไปแล้วหรือ ?
เกรซกับมี่คุยกันเอง หัวเราะสะใจ
"ฮึ ทำเป็นเชิดใส่พวกเรา สุดท้ายก็ลงมารูเดียวกับกู .... ถุย !"

มาลีมานั่งรอซีโร่ พร้อมโถใส่ดาว รถตู้เคลื่อนเข้ามา ซีโร่ลงมา มาลีลุกขึ้นจะเอาโถไปให้
"พี่ซีโร่"
มาลีเดินไปหา แฟนคลับกลุ่มหนึ่งวิ่งกรี๊ดมาจากหลังเบียดมาลี กระแทกเข้าที่ที่ศอก
"พี่ซีโร่ ..... แอร๊ย"
โถใส่ดาวหลุดมือลอยขึ้นไปเบื้องบน ขณะที่มาลีหน้าคะมำลงพื้น
"อ๊าย"
โยทะกาเดินมาจากอีกด้านรับโถแก้วไว้ได้ !
มาลี โล่งใจ ที่โถแก้วไม่แตก ลุกขึ้นเดินไปหา
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ"
โยทะกามองโถใส่ดาว
"ชอบพี่ซีโร่หรือ"
ซีโร่ไม่สามารถปลีกออกจากกลุ่มแฟนคลับ ที่ดึงลากไปถ่ายรูปอีกทางได้
"เฮ้อ คงไม่มีโอกาสให้แล้ววันนี้"
"เดี๋ยวเขาต้องเข้าประชุมกับทีมงาน ไปรอที่ออฟฟิศฉันสิ เดี๋ยวก็ได้เจอ"
มาลีดีใจ คาดไม่ถึง

โยทะกาเดินนำหนูมาลี เข้ามาในห้อง
"เอากาแฟไหม"
"เดี๋ยวหนูไปนั่งรอข้างนอกก็ได้ค่ะ คุณจะได้ทำงาน เกรงใจค่ะ เห็นคุณงานเยอะตลอดเลย"
"ไม่เป็นไร ฉันอยากคุยกับหนู นั่งสิ ที่จริง ฉันเชียร์หนูอยู่นะ"
มาลีงง ไม่อยากเชื่อ
"แต่คุณเป็นแม่เลี้ยงคุณเบลนี่คะ"
โยทะกาหัวเราะ
"แล้วเชียร์หนูไม่ได้หรือ"
"งั้นหนูถามนะคะ ในฐานะที่คุณเป็นผู้อำนวยการโครงการนี้ คุณคิดว่า คนจน คนบ้านนอก อย่างหนูมาลีมีโอกาสชนะแค่ไหนคะ"
"ฉันก็เป็นคนจน คนบ้านนอกนะ"
"หนูเคยอ่านประวัติคุณ คุณเป็นคนกรุงเทพไม่ใช่หรือคะ"

"ตอนที่ฉันอายุเท่าหนู ฉันหนีออกจากบ้านเข้ากรุงเทพ วันนั้น ฉันไม่มีเงิน ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีอะไรเลย"
 
อ่านต่อหน้า 2

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 7 (ต่อ)

เธอยังจำอดีตนั้นได้ดี โยทะกานั่งรถทัวร์ ร้องไห้เข้ากรุงเทพฯ

"ฉันต้องทิ้งคนที่ฉันรักที่สุดในชีวิตเพื่อมาตามหาชีวิตที่ดีกว่า เธอรู้ไหม ฉันคิดถึงเขาทุกวัน แทบจะฝันถึงเขาทุกคืน"
"พ่อแม่คุณหรือคะ"
โยทะกายิ้มให้ ไม่ตอบ
"เธอถามว่าเธอมีโอกาสไหม เธอได้โอกาสตั้งแต่วันที่เธอเข้ารอบแล้ว ต่อไปนี้ เธอต้องสร้างโอกาสด้วยตัวของเธอเอง คนที่เอาแต่ร้องขอโอกาส พอไม่ได้รับ ก็โทษนั่นโทษนี่ คนพวกนี้ ไม่วันชนะ คนที่รู้จักสร้างโอกาสให้ตัวเองต่างหาก คือคนที่จะชนะ"
"คุณพูดเหมือนพี่โรสเลย"
"พี่สาวหรือ"
"เป็นทั้งพี่สาว พี่ชาย เอ้อ ทุกอย่าง"
โยทะกางงมาก"หือ"
มาลี ยิ้มแห้ง อายๆ อธิบายลำบาก
เลขาเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
"คุณซีโร่มารอที่ห้องประชุมแล้วค่ะ"
" ขอบใจจ้ะ ...เธอบอกมาลี "ฉันขอเวลาผู้จัดการซีโร่ให้เธอสิบห้านาที เอาของไปให้เขาสิ"
"ขอบคุณคุณมากนะคะ คุณทั้งสวยทั้งเก่งทั้งใจดี คราวหน้าหนูจะเอาเนื้อจิ้มแจ่วมาฝาก"
โยทะกายิ้มให้เอ็นดู
"ขอบใจจ้ะ"
มาลีไหว้ลา เดินตามเลขาออกไป

มาลียื่นโถใส่ดาวให้ซีโร่
"พับเองหรือคะ"
มาลีไม่กล้ายอมรับได้แต่
"เอิ่ม ก็ แฮ่..."
"ขอบคุณมากนะครับ"
"พี่เป็นไงบ้างคะช่วงนี้"
ซีโร่มองหน้า ส่งสายตาจีบ
"พี่กำลังจะ แต่งเพลงใหม่… มีหนูมาลี เป็นแรงบันดาลใจ"
"หา..." มาลีเซๆไป คล้ายจะเป็นลม
ซีโร่รีบเข้าไปรับ
"โอ๊ะ เป็นอะไรไหม"
มาลีพยายามตั้งตัวให้ยืน สะบัดหัวเล็กน้อย
"งวดนี้ ไม่เป็นลมแล้ว ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ"

ซีโร่ หัวเราะ มองจีบ มาลีเขินชื่นชมซีโร่อย่างมาก

ทองทาปลูกต้นกุหลาบแดงอยู่ มาลีตามมาบอกซ้ำไปซ้ำมา อยากประกาศให้โลกรู้ ทองทายิ้มน้อยๆ มีมาลีตอแยอยู่ข้างๆ

"พี่เขาจะแต่งเพลงให้หนู พี่เขาจะแต่งเพลงให้หนู พี่เขาจะแต่งเพลงให้หนู"
"เออๆ ได้ยินมาร้อยกว่าหนแล้ว"
อธิหน้าเครียดเดินมา หงุดหงิดเรื่องการะเกด
"เรื่องแต่งเพลง ไอ้ทองทาก็แต่งเป็น ให้มันแต่งให้หนูมาลีสิ"
"แต่งให้หนูทำไม พี่ทองทา เขาคงอยากให้แต่งให้" มาลีมองไปที่อธิที่หน้ามุ่ย... "
แฮะๆ กุหลาบแดงตัวแทนของหนู ... ออกดอกสวยเลย เอาไปใส่แจกันดีกว่า"
มาลีตัดกุหลาบแดงสองสามดอกแล้วเดินเข้าบ้านไป อธิเซ็ง
"วันนี้แกต้องบอกรักหนูมาลี"
"เฮ้ย ไอ้บ้าพูดอะไร"
ทองทากลัวหนูมาลี ได้ยิน
"การะเกด ปฏิเสธฉัน หน้าฉันเขายังไม่อยากจะมองเลย อารมณ์เสียโว้ย แกควรบอกรักเขาไปเสียที"
"เฮ้ยมาเกี่ยวอะไร"
"ก็คนมันพาล แกบ้าหรือเปล่า ไปนั่งพับดาวให้เขา ตอนนี้เขาจะงาบแฟนแกแล้ว บอกหนูมาลีไปซะ...ว่าแกรักเขา"
"เด็กมันก็แค่ชื่นชมศิลปิน ฉันก็เลยช่วยๆเขา"
"หนูมาลี ทั้งสวยทั้งน่ารัก ตอนนี้เจอกับไอ้ซีโร่บ่อยๆ แล้วถ้าซีโร่จีบหนูมาลีล่ะ"
ทองทาอึ้งไปนิดๆ
"หนูมาลี เชื่อว่าแกเป็นตุ๊ด เพราะฉะนั้น เขาอาจจะโอเคกับซีโร่ โดยที่แกไม่
รู้ตัวก็ได้ ฉันอกหักคนเดียวพอแล้วโว้ย นี่เตือนดีๆแล้วนะ"
ทองทาชักเครียดมากขึ้น ที่อธิเตือนก็มีมูล

การะเกดกำลังจัดจานอยู่ โทรศัพท์เข้ามา
"ว่าไงโต้ง"
"พี่เกดช่วยด้วย แม่โดน คานหล่นทับ"
เกดทำจานที่มือหลุดหล่นแตก
"อีการะเกด. กูจะเก็บมึงใบละร้อย" โรสโพล่งและเปลี่ยนท่าทีเมื่อเห็นหน้า "เกด มีอะไรหรือเปล่า"
เกดร้องไห้โฮออกมา ระหว่างโทรศัพท์ โรสตกใจ
"ฮือ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมต้องเป็นแบบนี้"

การะเกดร้องไห้เล่าให้ โรส บอยและมาลี ฟัง
"แม่เกดเลิกยาบ้าได้เป็นเดือนแล้วนะ ตั้งแต่เกดเข้ารอบซุปเปอร์สตาร์ เขากลัว ลูกที่กำลังจะเป็นดาราอายเขา... บ้านเรากลับมามีความสุข น้องได้ไปโรงเรียนทุกคน มีข้าวกินทุกวัน"
"ใจเย็นๆนะทุกปัญหามีทางออก" บอยบอก
"เกดคิดนะ ถ้าเป็นแบบนี้ เกดไม่ต้องชนะหรอกรางวัล แค่นี้เกดก็มีความสุขแล้ว แล้วทำไม ต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ เกดทำบาปอะไรมานักหนา ทำไมชีวิตถึงเป็นแบบนี้"
"โฮ้ย มัวแต่ฟูมฟาย โทษบาป โทษกรรม มันจะได้อะไรขึ้นมาวะ แล้วหมอเขาจะเอาเงินเท่าไหร่"
"สามแสน ถ้าไม่ผ่าตอนนี้ แม่จะเดินไม่ได้อีก"
"คานทั้งอันหล่นมาทับ เขาไม่มีประกันเลยหรือ แล้วเจ้านายทำไมไม่รับผิดชอบ ไม่ใช่ความผิดเรานี่ หนูมาลีเคยดูทีวี เขาต้องรับผิดชอบนะ"
"เราเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว รับเหมางานกันมาเป็นทอดๆ มีประกันที่ไหน ...ไอ้คนที่พาเราไป ก็ญาติกันนี่ล่ะ เขาก็ไม่มีเงินเหมือนกัน"
"แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหน" โรสถาม
"อยู่โรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่หมอเขาไม่รับประกันว่า จะกลับมาเดินได้ไหม ถ้าไม่หาเงินมาส่งเข้าจังหวัดไปผ่าตัด เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้"
ทั้งหมดกลุ้ม ซูซี่แอบฟัง ยิ้มร้าย

"นังการะเกด แกเสร็จฉันแน่"

ภายในบ้านบุณฑริก บุษบาบรรณกำลังออกกำลังกาย ด้วยการซ้อมเต้นไปมา ยาหยี นีน่า เอาแท็บเล็ตมาให้ดูคะแนน

"ตอนนี้ คนที่คะแนนรั้งท้ายสุด ยืนปากเหว คือ ยายการะเกด เราสบายแล้ว ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันไหมคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาซ้อมใหม่"
"ไม่ เอาแต่เที่ยว กินๆ นอนๆ ว่างก็แชท สมองจะกลวงหมดแล้ว แทนที่จะช่วยกันคิด"
"คิดเรื่องอะไรคะ"
บุษบาบัณหยุดคิด ตรึกตรอง
"ฉันต้องขึ้นเป็นที่หนึ่งให้ได้ ตั้งแต่นี้ หาข้อมูลของทุกคนมาให้ฉัน ถ้าเรารู้จุดอ่อนของแต่ละคน เราก็จัดการมันที่จุดอ่อนนั่นล่ะ ขึ้นคอนเสิร์ตคราวหน้า มันต้องร้องเพลงพลาด คะแนนโหวตฉันต้องขึ้นที่หนึ่งให้ได้"
ยาหยี นีน่าเข้าใจแผนแล้ว พยักหน้ากัน

ร้านเปิดไปพักหนึ่งแล้ว แต่คนยังน้อย การะเกดทำงานกวาดพื้นอยู่มุมหนึ่ง ซูซี่เดินมาหา
"เวลาอย่างนี้ ความฝันสวยหรู ช่วยอะไรไม่ได้ เงินต่างหากโว้ย ที่จะช่วยแก"
"มาคนเดียวหรือเจ๊ ชงโคล่ะ"
"ชงโคมันเข้าห้องอัดโว้ย เดี๋ยวมันก็จะออกเทป เขาเรียกงี้หรือป่าววะ เอาเถอะๆ ว่าแต่แกเถอะ เรื่องแม่จะทำยังไง"
การะเกดเดินหนี เอาขยะไปทิ้ง ซูซี่เดินตามไปตอแย กล่อมต่อ
ซูซี่มองซ้ายมองขวาก่อนบอกเสียงเบา
"ฉันคุยกับคุณวานิชแล้ว เขายินดีจ่ายแกสองแสนมากกว่านังชงโค"
"จ่ายเงินให้ฉันเนี่ยนะ"
"เซ็นสัญญาอาทิตย์หน้า ลงปกเล่มใหม่ เป็นเลดี้ชาร์ล็อตคนต่อไปทันที"
โรสโผล่มาโยนขวดน้ำมาแถวๆที่ซูซี่ยืนอยู่
"เฮ้ย อะไรวะ"
"เอ๊า นึกว่าถังขยะ โทษที โทษๆ เห็นมันเหม็นๆออกมา" โรสบอก
"แกแกล้งฉันนี่หว่า … หนอย"
ซูซี่บุกเข้ามาด่าโรส กะลุย โรสรีบบอกเสียงเข้ม
"ฉันจะยกห้องแปดให้แก แต่แกต้องเลิกยุ่งกับการะเกดและ หนูมาลี"
ซูซี่อึ้ง คาดไม่ถึง
"พี่ยอมแล้วหรือ"
"ห้ามมาพูดคุยกับเด็กผู้หญิงของร้านฉันอีก ทำเป็นไม่รู้จักกันไปเลยยิ่งดี"
"นี่ เยอะไปไหม ฉันไม่ใช่ไส้เดือนกิ้งกือนะ"
"คนเราน่ะ อยู่ใกล้ถังขยะ เราไม่เหม็น สักวันหนึ่งมันก็ต้องเหม็น แต่ถ้าอยู่ใกล้คนดี เราไม่ดี สักวันมันก็ต้องได้ดี ฉันจะไม่ยอมให้เด็กคนไหน มีชีวิตเหมือนชงโคอีก"
"เอาอีกแล้วนะ ดูถูกฉันอีกแล้ว ได้ …ถ้าแกอยากให้ฉันเลิกยุ่งกับแก ห้องแปดห้องเดียวไม่พอ ฉันต้องการทุกห้อง ! ฉันจะทำที่นี่ให้เป็นคาราโอเกะที่มีระดับ แกกับคนของแก แค่ดูแลแขกของฉันก็พอ"
โรสโมโห โวยลั่น
"อีซูซี่ นี่มึงกล้าขอหรือ"
"นี่ ยอมรับความจริงเถอะ ที่พี่มีแต่หนี้เพราะไอ้ร้านคาราโอเกะ ที่ไม่มีผู้หญิงแบบนี้ ...มันไม่มีกำไร พี่ไม่ปรับเปลี่ยน ช้าเร็ว ร้านนี้ก็ต้องโดนเจ้าหนี้มันยึด"
"มึงไม่ต้องมาสอนกู"
"ก็เพราะดื้ออย่างนี้ไง เพราะไม่ยอมรับความจริงไง ทู่ซี้ทำอยู่ได้ นังกะทกรก เจ้าหนี้พี่น่ะมันจะมายึดเอาวันสองวันนี้อยู่แล้ว ยังไม่รู้ตัวกันอีก ฮู้ย … ไปคิดดูแล้วกันนะ"

ซูซี่เดินออกไป โรสกลุ้ม การะเกดมองอย่างเห็นใจ

ทั้งหมดนั่งคุยกันหน้าเครียด

"ยกห้องทั้งหมดให้ไป ที่นี่ก็กลายเป็น..." มาลีว่า
สมศรีบอก
"ซ่องที่ถูกกฎหมาย"
บุญมาส่ายหน้า
"เราต้องมีหน้าที่ทำงานรับใช้ไอ้พวกหื่นกามกับผู้หญิงสวยนอกเน่าในเนี่ยนะ"
แคที่บอก
"จะคิดมากไปทำไม ฉันบอกแล้วไง เรื่องเงินสามแสนของนังการะเกด ฉันจะให้ยืมก่อน"
"ใครๆก็รู้ว่าเจ๊หนี้ท่วมยิ่งกว่าฉันอีก จะโดนฟ้องล้มละลายอยู่แล้ว กิจการใหญ่โตก็กู้ธนาคารมา จ่ายดอกเดือนชนเดือน ยังทำหน้าใหญ่ใจโต" โรสบอก
"เอ๊ะอีนี่ ไม่ต้องเสียงดังประจานกูได้ไหม หา รมณ์เสีย"
"ฉันบวกลบคูณหารดูแล้ว ถ้ายกห้องทั้งหมดให้นังซูซี่ทำ จะมีกำไรสามเท่า การะเกด แกเอาเงินเจ๊แคที่ไปจัดการผ่าตัดแม่ก่อน แล้วฉันจะเอากำไร ไปจ่ายคืนเจ๊แคที่ให้ได้ภายในหนึ่งปี เจ๊แคที่ และทุกคนก็จะไม่กระทบกระเทือนอะไร"
"พี่จะช่วยหนูหรือจ๊ะ"
"แกก็ค่อยๆทำงานใช้เงินคืนฉัน เราทุกคนจะเปิดทุกห้องทำแบบนี้แค่ปีเดียว"
"นี่พี่โรสเอาจริงหรือ" บอยถาม
"นังซูซี่มันพูดถูก ฉันทู้ซี้ทำที่นี่ทั้งที่ไม่มีกำไร ขืนเป็นแบบนี้ก็ต้องปิดตัวลงในไม่กี่ปีนี้แหล่ะ ฉันขอความร่วมมือจากทุกคนนะ ถ้าโอเค เราก็เริ่มกันเลย"
"เฮ้อ ในที่สุด.... เอาก็เอาวะ"
บุญมา สมศรีพยักหน้า มาลีถอนใจ เศร้า หมดแรงเดินออกไป
"หนูมาลี เกลียดผู้ชายหื่นพวกนั้นอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เฮ้อ เกดสร้างความวุ่นวายให้ทุกคนจริงๆ"
โรสมองตาม
"ถ้ามันไม่ยอม มันคงโวยแล้ว ปล่อยมันทำใจสักพักแล้วกัน "
มาลีนั่งแยกตัวคนเดียวอย่างเศร้าสร้อย เพลง “โลกแห่งความฝัน” ของมาลีดังเข้ามา แทรกเข้ามา

เพลงเดียวกัน ชงโคนั่งเศร้า ฟังเพลงของมาลี โดยเสียบหูฟังที่ต่อจากมือถือ ชงโคในชุดเสื้อคลุมมองไป วานิชนอนบนเตียงกับมี่ และเกรซ เมื่อคืนมานอนที่นี่ กันสี่คน
ชงโคยกขวดจะดื่ม แต่เหล้าไม่มีแล้ว ชงโคโยนขวดทิ้งคิดหนัก ชีวิตกลายเป็นของบำเรอชายไปแล้ว

ช่างทำป้ายหลายคนกำลังติดตั้ง ป้ายร้านใหม่ ให้เป็นป้ายไฟนีออนรูปส่วนเว้าส่วนโค้งหญิงนุ่งน้อยห่มน้อย ตามด้วยขึ้นรูปถ่ายผู้หญิงต่างๆเช่น เกรซ มี่ ชงโค
ที่เก้าอี้ มีสาวเซ็กซี่ออกมานั่งเป็นแถว รอแขก ดูเป็นร้านกิจการอย่างว่าชัดเจนมาก
ซูซี่ออกมาต้อนรับแขกเสี่ยและกลุ่มชายหนุ่มที่ทยอยกันเข้ามาอย่างคึกคัก มีเกรซ มี่คอยช่วยเหลือรับแขก
เกรซบอก
"เชิญค่ะ ร้านเซอร์ไพร์สปรับปรุงใหม่ ขอต้อนรับทุกคนนะคะ"
เสี่ย 1บอก
"เออ มันต้องออกมานั่งกันให้เต็มแบบนี้สิวะ ถึงจะสดใส สวยงาม ไอ้แบบเก่ามันหดหู่พิกล"
บอย โรส เทพ และแคที่ จับกลุ่มอยู่มุมหนึ่ง
"คนแน่นร้านตั้งแต่วันแรกเลย" บอยบอก
"รู้อย่างนี้ เปิดบาร์เกย์ไปนานแระ เจ๊รับแขกเอง จะจัดให้เหล่าปวงประชา
อิ่มกันถึงคอหอยเลยทีเดียว เทพไม่หึงเจ๊ใช่ไหมจ๊ะ"
แคที่โลมเลียเทพ เทพยิ้มให้ โอบเข้ามาแสดงความรักใคร่

"เฮ้อ อดทนไว้ ปีเดียวๆ"

มาลีทำงานวุ่นวาย หลับหูหลับตา หน้าบึ้งทำงานไป แขกเยอะมาก หนูมาลี ไม่กล้ามองรอบข้าง เอาแต่ทำๆๆ

บนเวที จากที่เคยมีคนร้อง มีเครื่องดนตรีก็กลายเป็นการเต้นของสาวเซ็กซี่ สไตล์ โคโยตี้
ในครัววุ่นวายทำงาน ท่ามกลางดนตรีโคโยตี้จากข้างนอก
"ดนตรีดีๆ เพลงดีๆ คงไม่ได้ฟังอีกแล้วสินะ เซ็งโว้ย อย่ามาด่านะ ถ้าฉันทำกับข้าวไม่อร่อย ดนตรีเฮงซวยพวกนี้ มันไม่ฟินโว้ย" สมศรีว่า
บุญมายืนมองออกไปที่เวที
"ดูไอ้พวกที่มาเต้นกันสิ ชวนเสพสังวาสกันท่าเดียวเลย"
สมศรีบอก
"แล้วมึงอยากเสพไหมล่ะ หนอย นั่งมองมาชั่วโมงหนึ่งแล้วนะไอ้แก่ น้ำซุปมึงน่ะเมื่อไหร่จะเสร็จ" สมศรีเข้าไปบิดหูมา "มานี่ มาทำต่อเลย"
"โฮ้ย เจ็บจ้าแม่จ๋า เจ็บๆ"

มาลียกถาดน้ำมาเสิร์ฟแขกผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่โต๊ะ
ชาย 1บอก
"คนสวย คืนนี้เสร็จงานไปกินข้าวต้มกับพี่ไหม"
มาลีกำลังตักน้ำแข็งและรินน้ำให้ พอมือถูกจับ เลยสะบัดมือที่ถูกจับให้น้ำมันหกรดผู้ชายคนนั้น
"แหกตาดูสิ ฉันใส่ชุดเด็กเสิร์ฟ ไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้นนะ"
ชาย 1บอก"นี่มึงกล้าสาดน้ำใส่กูเหรอ"
บอยพุ่งเข้ามาจัดการ อ่อนน้อมต่อแขก
"เอ้อ พี่ครับ ผมขอโทษ เดี๋ยวมื้อนี้ทางร้านเรา เลี้ยงเองนะครับ"
โรสเข้ามาดึงหนูมาลีไป ให้บอยจัดการ
"มานี่เลย มา"
ห่างไป การะเกดมองเศร้ารู้จักนิสัยหนูมาลี ดี

โรสดึงหนูมาลีมานั่ง
"ไม่ต้องออกไปทำงานแล้ว นั่งอยู่นี่ อ่านหนังสือเรียนไป"
"มันมองก้นหนู มองหน้าอกหนู หนูอุตส่าห์ทน นี่มันเอามือสกปรกมาจับหนู ทำไมคนพวกนี้ถึงคิดแต่เรื่องนี้นะ"
"แกเลิกเป็นเด็กเสิร์ฟ ทำข้าวกล่องอย่างเดียวแล้วกัน"
"แล้วพี่จะไปหาที่ไหน เด็กเสิร์ฟเดี๋ยวนี้หายากจะตาย อีกอย่าง หนูอยากช่วยการะเกด หนูจะอดทนให้มากกว่านี้"
"แล้วแกจะไหวหรือ"
หนูมาลี เศร้า หงอย...
"พี่โรส พี่บอกว่าถ้าเราอยู่ใกล้ถังขยะ มากๆเข้า วันหนึ่งเราก็กลายเป็นขยะ....แล้วพวกเรา จะกลายเป็นขยะไหม จุดจบของหนูจะเป็นแบบเจ๊ซูซี่ไหม"
โรสกลุ้ม ไม่มีคำตอบ มาลีถอนหายใจหนึ่งฮึ้บแล้วเดินออกไปทำงานต่อ
ซูซี่ประกาศบนเวที
"และแล้วก็ถึงเวลาพิเศษที่ทุกท่านรอคอย ขอเชิญพบกับ เลดี้ชาร์ล็อต นัม
เบอร์ 22 หนูเชอร์เบ็ตค่ะ"
ชงโคในชุดเซ็กซี่ออกมาร้องเพลงเต้นเซ็กซี่แดนซ์ แขกผู้ชายเป่าปากสนุกสนาน เข้ามาล้อมเวที
มาลี หยุดมอง บอยเดินมาหามองชงโคด้วยกัน
"เมื่อก่อนมันใส่เสื้อผ้าราคาถูก ไม่แต่งหน้า พี่ว่ามันสวยกว่าตอนนี้นะ"
"สวยหรือไม่สวยไม่รู้ แต่มีค่าพอจะเป็นเมียเป็นแม่ใครสักคนมากกว่าตอนนี้แหล่ะ"

มาลีหน้าบึ้งยืนมอง
 
อ่านต่อหน้า 3

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 7 (ต่อ)

เวลาต่อมา ชงโคพยายามปลดตัวเองจากแขกผู้ชายเมา ที่พยายามจับเกาะแขนขา ตามอำเภอใจ ชงโคเดินมาที่เคาน์เตอร์

ชงโคบอกกับแขกผู้ชาย
"ขอพักก่อนค่ะพี่ ขอกินน้ำก่อน"
ชงโคเดินมา มาลีอยู่ตรงนั้นพอดี รินน้ำเปล่าให้
"ขอบใจจ้ะ"
"เพลงที่ร้อง มันไม่ได้เรียกว่าเพลง"
ชงโคชะงัก
"หมายความว่ายังไง"
"ดนตรีและศิลปะ ต้องฟังแล้วเกิดความรู้สึกดี มีความสุขมากขึ้น ได้คิดมากขึ้น แต่เพลงเมื่อกี๊ ท่าทางที่เต้น มันทำให้คนอยากไปทำอะไรอย่างว่า"
ชงโคโมโห วางแก้วเปรี้ยง ทะเลาะกับมาลี
"จะเอาอะไรกับฉันนักหนาล่ะ ฉันก็เป็นได้แค่นี้ ! ฉันไม่ใช่เด็กสอบได้ที่หนึ่ง มีพ่อดีอย่างเธอนี่"
"ฉันแค่เตือนดีๆ หน้าที่ของเพื่อน"
"ถ้าเธอสูงส่งนัก ฉันก็ขอให้เธอชนะ ป่านนี้ยังคะแนนบ๊วยกันอยู่เลย ยังมีหน้ามาพูดเรื่องศิลปะอีก"
"เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เธอคือเชอร์เบ็ต ไม่ใช่ชงโคอีกแล้ว ขอให้โชคดีแล้วกันนะ"
มาลีเดินจากไป ชงโคยืนคิด ยังอารมณ์เสียอยู่อย่างเห็นได้ชัด

ชงโค เดินมาพร้อมกระเป๋าถือ กำลังจะกลับ การะเกดตามมา
"จะกลับแล้วหรือ ฉันเห็นโฆษณาซีดีเธอแล้วนะ ไว้เงินออกจะไปอุดหนุนขายดีไหมล่ะ"
ชงโคพยายามอ่อนลง ควบคุมความโกรธ
"ก็เรื่อยๆ แต่งานเยอะขึ้น ต้องไปโชว์ตัวตลอด"
"ดีใจด้วย เป็นนักร้องเต็มตัวแล้ว"
"เรื่องแม่ไม่สบายเป็นไงบ้าง"
"อาทิตย์หน้าจะเอาเงินเจ๊แคที่ไปจ่ายที่โรงพยาบาล พี่โรสจะช่วย จ่ายหนี้คืนให้เจ๊เขา" การะเกดมองซ้ายมองขวาไม่อยากให้ใครเห็น "ชงโค เธอว่าฉันเซ็นสัญญาดีไหม แค่ถ่ายแบบร้องเพลงเต้นแบบเธอ มันก็พอไหวนะ แต่ว่า คือฉันไม่ชอบเลยเรื่องไปกับผู้ชายน่ะ ฉันคงยอมตายดีกว่าทำแบบนั้น เธอต้องทำไหม"
ชงโคตัดสินใจจะพูดออกมา
"ไม่นี่ ... ถ้าเธอถามฉัน ฉันว่าเธอเซ็นไปเถอะ คนอย่างเราๆ ไม่มีโอกาสเลือกมานักหรอก !"
ชงโคพูดเสร็จสะบัดหน้าเดินออกไป การะเกดคิดหนัก

ชงโคเดินมาถึงที่รถ หันมองกลับไป ในที่สุดก็ต้องเป็นศัตรูกันกับพวกของหนูมาลี !

บุษบาบัณเล่นกับหมาอยู่ ยาหยี นีน่า ชี้ให้ดูมือถือที่จัดการอยู่

"จากการที่เราตามเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของทุกคน เราเจอจุดอ่อนของโกมินทร์ ภูมิ ทิมมี่ น้อยหน่า เจอหมดแล้ว อยากให้จัดการเมื่อไหร่ พร้อม"
"เรื่องสกัดดาวรุ่ง เรื่องเลวๆน่ะ ขอให้บอกเราสองคนเถอะ ฮิฮิ" นีน่าว่า
สองคนพูดพร้อมกัน
"สวยๆ ใสๆ ไร้สมอง แต่โคตรเลว ฮะฮะฮะ"
"แล้วหนูมาลีล่ะ" บุษบาบัณถาม
ยาหยีบอก
"เขาไม่เล่นโซเชียลอะไรเลย ไม่รู้จะสืบยังไง"
เธอครุ่นคิด
"จุดอ่อนของหนูมาลี ที่จริงฉันรู้นะ ถ้าเล่นมุกนี้ รับรองหนูมาลีกับการะเกด ร่วงแน่"
บุษบาบัณยิ้มร้าย

เช้าวันเดียวกันที่สวนสาธารณะ มาลีกับทองทามาวิ่งออกกำลังกายด้วยกันเหมือนเคย มาลีดูซึมๆ หลบไปนั่งพักข้างๆ
"หยุดแล้วหรือ เป็นอะไรไป ดูเหนื่อยๆ งานหนักหรือ"
"เหนื่อยใจมั้ง"
"ปีเดียวเองนะ เราไม่ต้องทำงานแบบนี้ตลอดไปหรอกน่า อุ๊ย น่ารักเนอะ"
มาลีมองตามเห็นเด็กน่ารัก เล่นกับแม่
"ตอนเป็นเด็ก โลกสดใสไปหมด อีกหน่อยโตขึ้นหนูคงไม่ได้หัวเราะแบบนี้แล้ว"
"ไม่ใช่ชงโคที่เปลี่ยนไปคนเดียว เธอก็เริ่มเปลี่ยนไปนะ จำได้ไหมเมื่อก่อนเราสองคนมีอะไรที่ไม่เหมือนกัน"
"เดี๋ยวนี้พี่ทองทาสดใสขึ้น"
ทองทาจิ้มที่หน้าผาก
"เพราะเธอไง"
"แต่หนูกลับแย่ลง"
มาลีเอนหัวลงซบไหล่เหมือนที่เคยทำ ทองทาโอบ เอนพิงกัน
"เย็นนี้พี่จะทำกับข้าว มากินข้าวกับพี่นะ พี่มี เอ้อ เรื่อง อืม จะบอก"
ทองทาเขินขึ้นมา ตะกุกตะกัก หมายจะบอกรัก
"อื้อ… วันหยุดพอดีเดี๋ยวชวนเกด"
"เอ้อไม่ๆ.... หนูคนเดียว ชวนหนูคนเดียว"
มาลี มองหน้าทำไมปฎิเสธซะเสียงดัง สักพักก็อ๋อ
"ไม่แน่ใจว่าทำแล้ว กินได้หรือเปล่าใช่ไหมล่ะ จะเอาเรามาเป็นหนูทดลอง
อ่ะสิ"
ทองทายิ้มให้ จับแก้ม รักใคร่ แทบไม่ต่างจากคนที่เป็นแฟนกัน

ยาหยีกับนีน่ารุมดูมือถือของบุษบาบัณ ในบ้านของเมืองแมน
ยาหยีบอก
"ภาพพวกนี้น่ะหรือ จะทำให้หนูมาลีร้องเพลงแพ้ ก็ภาพถ่ายธรรมดา"
"คุณเบลเขาสั่งให้เธอส่งเข้ามือถือหนูมาลีน่ะ ทำๆไปเถอะ คุณเบลขึ้นไปแต่งตัวอยู่ ไม่รู้จะไปไหน เดี๋ยวฉันไปตามคนรถก่อน"นีน่าบอกแล้วออกไป
"อื้อ ฉันหาเบอร์มือถือยายเด็กเสริฟนั่นก่อน"

ยาหยีพยักหน้าวุ่นวายกับมือถือ

ฝ่ายทองทาวุ่นวายที่เตาอบ ทำหมูอบซอส

"ของพี่จะเสร็จแล้วนะ ของหวานเป็นไงบ้าง"
มาลีมองสตอรเบอรี่ที่หั่นเสร็จแล้วในถาด ทองทาตั้งใจจะทำสตรอเบอรี่วิปปิ้งครีม มาลี หยิบขวดวิบครีมออกมา งงๆว่าจะทำไงต่อดี
"พี่บอกให้ใส่วิปครีมลงในสตรอเบอรี่หรือจ๊ะ"
ทองทาเดินมาเขย่าขวดแล้วบีบออกมาที่มือตัวเอง
"เขย่าแล้วบีบแบบนี้"
ทองทาใช้นิ้วปาดวิปครีมแล้วมาปาดแก้มมาลี หนึ่งหย่อมเล็กๆ
"อี๊ เลอะหมด"
ทองทาหัวเราะเข้ามากอดข้างหลังมาลี รักใคร่ ดนตรีรัก ทองทาคลอเคลียกอดไว้
"เช็ดออกเลย"
ทองทา ประทับริมฝีปากลงที่วิปครีมบนแก้มพอดี จัดการเช็ดวิปครีมออกอย่างอ่อนโยน ด้วยการหอมแก้ม มาลียืนอึ้งตัวชา ด้วยความรู้สึกงงอย่างมาก รีบถอนตัวออกมามองหน้า นี่เพื่อนสาวทำกันแบบนี้หรือ ทั้งสองมองหน้ากันหลายวินาทีทองทาพยายามใช้กริยาบอกทุกอย่าง
"คือ...ถ้าพี่เป็นผู้ชายแท้ๆเนี่ย หนูมาลีหนาวเลยนะ"
"หนาวยังไง ที่จริงพี่อุ่นนะ .... อบอุ่น"
ทองทามีสายตามุ่งมาดที่จะบอกตอนนี้ เดินเข้าไปใกล้ ในทีท่าเวลานี้ มือถือมาลี ดังขึ้น เธอถึงกับสะดุ้ง
"แป๊บหนึ่ง เดี๋ยวค่อยมาคุยต่อ"
มาลีปลีกตัวออกไป ทองทาเซ็ง กำลังโอกาสเหมาะอยู่แล้วเชียว

มาลีกดรับสาย ในมือถือเป็นภาพทองทากับบุษบาบัณถ่ายกันบนดาดฟ้า ทั้งคู่แก้มแนบแก้มภาษาพี่น้องกัน มาลีงง เขาไปสนิทกันตอนไหน
"พี่ทองทากับคุณเบล"
"ฉันกับพี่ทองทาเราเป็นพี่น้องกัน"
บุษบาบัณเดินเข้ามา
"พี่น้อง"
"คนละแม่น่ะ เขาสอนฉันในสิ่งเดียวกับที่สอนเธอ ฉันเลยร้องเพลงชนะเธอเมื่อคราวที่แล้ว พี่ทองทาที่เป็นครูของเธอ เขาเป็นครูของเธอแค่ไม่กี่เดือน แต่เขาเป็นพี่ชายฉัน เป็นลูกของพ่อ เจ้าของสถานีเอ็มเอ็มแชนนัลเป็นมาตั้งแต่เกิด"
ทองทาเดินออกมาพร้อมถาดหมูอบ
"เบล !"
ทองทาทำถาดหมูอบแตกเพล้งลงพื้น ! ตกใจสุดที่เขาเจอกันแล้ว
"ที่เขาพูด เป็นความจริงหรือคะ"
ทองทาอึ้ง
"พี่ทองทา เป็นเรือลำเดียวที่พาคนไม่มีอะไรอย่างเธอไปถึงฝั่ง เรือลำนี้ เวลานี้ มันอาจจะพาเธอไป แต่ในเมื่อเรือมันเป็นของฉัน สักวันหนึ่งเธอคิดว่าเขาจะกลับมารับใคร แล้วจะทิ้งใครอยู่กลางทะเล"
"เบล ... พอเถอะ"
"อืม ....คราวที่แล้ว ฉันอยู่เกาหลี ไม่ได้เข้าประกวด คนที่ออกมาแก้ข่าวพวกนั้น พ่อฉันจ้างมา พี่ทองทาเองก็รู้ แล้วเขาบอกเธอไหมล่ะ ... พนันได้เลย.... เขาไม่มีวันบอก"
ทองทาปรามดุ
"เบล !"
"พอก็ได้ พูดหมดแล้ว นั่นหมูอบซอส ใช่ไหม เสียดายจัง ฉันคอนเฟิร์ม พี่ทองทาทำอร่อยมาก เพราะกินมาตั้งแต่เด็ก"
เบลเดินออกไป
มาลีช็อกมาก เดินถอยไปสองสามก้าวแล้วหันหน้าหนีออกไป ไร้คำพูด

" หนูมาลี หนูมาลี"

มาลีเดินออกมา ทองทาตามมาจับมือ

"ฟังพี่ก่อนนะหนูมาลี"
"ทำไมถึงไม่บอกตั้งแต่แรกว่าพี่เป็นใคร"
"เพราะพี่ไม่เคยอยากยุ่งกับพ่อ ไม่อยากยุ่งกับโครงการนี้ แล้วทำไมต้องบอกล่ะ"
"พี่สอนเขาไปพร้อมๆกับสอนหนู"
"เขาเพิ่งมาขอให้สอน เรายื่นมีดให้คน คนๆนั้นใช้มันเป็นหรือเปล่า จะใช้มันฆ่าใคร ขึ้นกับคนๆนั้น พี่ก็เป็นได้แค่คนสอน คนที่จะทำให้ชนะ ก็คือเจ้าตัวคนร้องเองต่างหาก พี่สอนเบล พี่ก็สอนหนูมาลีได้ ทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม"
"ถึงที่สุด เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ พี่ต้องช่วยเขา ไม่ใช่หนู"
"หนูมาลี อย่าเพิ่งหมดกำลังใจสิ"
มาลีโวยเสียงดัง จนทองทาตกใจ
"แต่พี่ช่วยเขาโกงการแข่งขัน ช่วยเขาโกงหนู แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เข้าข้างเขา"
"ไม่จริงหรอก ฟังพี่นะ"
มาลีชิงพูด
"ผู้หญิงคนนั้นกำลังทำทุกอย่างเพื่อเหยียบหนูให้จมดิน หนูคิดในใจว่าไม่เป็นไรหรอก หนูมีเทวดาของหนู เขาจะแก้ปัญหาให้หนูได้ทุกอย่าง แล้ววันหนึ่งหนูก็พบว่าเทวดาคนนั้นไม่มีอยู่จริง โลกทั้งใบของหนู เหมือนเหลือหนูอยู่แค่ตัวคนเดียว"
มาลีร้องไห้ออกมา
"มองหน้าพี่ พี่คือพี่คนเดิม อย่าเอาเรื่องอื่น คนอื่นมาเกี่ยวกับเรื่องเราได้ไหม"
"พี่เป็นความหวัง เป็นกำลังใจและเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จเพียงอย่างเดียวของหนู ทั้งหมดนี่ หนูคิดไปเองมาตั้งแต่ต้น ที่จริงแล้ว คนอย่างหนู มันไม่เคยมีอะไรมาตั้งแต่แรกและคงไม่มีอะไรต่อไป"
มาลีร้องไห้ออกไป
"หนูมาลีๆ"
ทองทาห่อเหี่ยว หมดสิ้นแล้วทุกอย่าง

โรส แคที่ บอย สมศรี บุญมา กินข้าวกลางวันกันอยู่ที่ร้านเซอร์ไพร์ส มาลีเดินร้องไห้เข้ามา โรสตกใจวางจานข้าวเดินมาหาทันที
"หนูมาลี ร้องไห้ทำไม"
"พี่ทองทา พี่ทองทา"
"ทะเลาะกันหรือ มีอะไรน่ะหนูมาลี"
มาลีโผเข้ากอดพ่อแล้วร้องไห้ โรสตะลึง เพราะเป็นกอดแรกที่หนูมาลีมอบให้ บอยยิ้มออกมาดีใจที่เขาทลายกำแพง การะเกด แคที่ บุญมา สมศรีงงกันไปหมด
แคที่ถาม
"เขาเคยกอดกันหรือ"
บุญมาบอก "ไม่เคย ไม่เคยเลย"
กอดกันครั้งแรกเป็นเรื่องใหญ่มากของคนทั้งสองคน โรสน้ำตาคลอ
"หนูอยากทำแบบนี้มานานแล้ว แต่ทำไมไม่ทำหนูก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ ถ้าหนูไม่ทำ หนูคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ ตอนนี้ หนูมีแต่พี่ มีแต่พี่คนเดียวแล้ว"
โรสกอดตอบน้ำตาไหลลงมา
"โอ๊ยตาย" แคที่เอามือจับปากซาบซึ้ง แทบร้องไห้ไปด้วย เอามือปัดๆตา
ตัวเองไม่ให้ร้อง ราวกับเป็นเรื่องของตัวเอง
"ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี่ ฉันจะอยู่กับแกเสมอ มีอะไร เราจะค่อยๆแก้ปัญหาไปนะ"
สมศรีบุญมายิ้มคุยกันต่อเสียงเบา
"ฮึ คนเรานี่นะ ไม่มีตอนไหนหรอกโว้ย คิดถึงพ่อแม่เท่าตอนอกหัก"
บุญมากับบอยพยักหน้าว่าจริง
มือถือการะเกดดังขึ้น เธองงว่าเบอร์ใคร เดินออกไป

วานิชนั่งบนเตียงในชุดเสื้อคลุม
"สวัสดีหนูการะเกด"
การะเกดตกใจ
"คุณวานิช... มีอะไรคะ"
"ฉันเพิ่งรู้เรื่องหนูจากซูซี่ เอาเป็นว่า ฉันจะเซ็นสัญญากับหนูในราคาที่ไม่เคยให้ใครมาก่อน...สามแสนบาท"
"อะไรนะคะ"
"สามแสน ค่าผ่าตัดแม่ใช่ไหม ฉันให้ มากกว่าชงโค มากกว่าเดิมสามเท่า แต่ต้องมาเซ็นสัญญาภายในอาทิตย์นี้ เพราะหนังสือฉันจะปิดเล่มแล้ว ไม่มีเวลาให้คิดแล้ว"
วานิชกดวางสาย ซูซี่โผล่หน้าเข้ามากอดในชุดเสื้อคลุมเหมือนกัน
"พวกมันยอมยกร้านให้ซูซี่แล้วสะใจจริงๆ แต่ซูซี่ไม่พอแค่นี้หรอก ต้องเอาการะเกดมาเป็นเลดี้ชาร์ล็อตให้ได้ คุณวานิชต้องจัดการนะคะ ต้องสั่งสอนมันซะบ้าง"
"สามแสน เสียดายฉิบ เอาวะ เดี๋ยวค่อยหาทางเอาคืน"

วานิชยิ้มร้าย การะเกดคิดหนัก

ไฟหน้าร้านเซอร์ไพร์สดับ ... ปิดร้านแล้ว เกรซออกมาส่งแขกเสี่ยทั้งหลาย

"กลับบ้านแล้วหรือเสี่ย ไม่เอาหนูกลับไปด้วยจริงหรือ"
"บ๊ายบายจ้า จุ๊บุๆ" มี่บอก
เวทีกลางร้าน บอยมาตรวจสอบเครื่องเสียงที่เวที
บุญมาถาม
"เครื่องเสียหรือ"
"เสียงมันไม่ดี อ๊า นี่ไง สายอันนี้หลุด" บอยบอก
"บอยตรวจสอบเจอสาเหตุเลยซ่อมซะ"
"ไม่เห็นต้องซ่อม ไอ้พวกหื่น มันร้องเพลงทุเรศอยู่แล้ว เครื่องเสียงดีๆก็ไม่มีประโยชน์หรอก" สมศรีบอก
"จริงๆ คิดถึง พวกนักร้องเสียงดีๆขาประจำเราเนอะ พอร้านเราปรับปรุงหายหน้ากันไปหมดเลย" บุญมาว่า
"ก็พวกนั้นเขาเน้นมาร้องเพลง ไม่ได้มาดูโชว์โป๊นี่หว่า" สมศรีว่า
"ต่อเสร็จละ ใครจะมาเทสต์ล่ะ"
ทั้งสามคนมองหน้ากัน...ใครดี

มาลีนอนหลับไป ตรอมใจอยู่ในห้อง โรสเอาถาดอาหารมาให้ เธอ ตื่นขึ้นหันมามอง
"มีไข้ไหม หิวไหม ฝืนกินข้าวต้มหน่อยนะ"
"แขกเยอะไหมคะ ยุ่งมากไหมคะ หนูมาลี ไม่ได้ออกไปเลย"
"ช่างมันเหอะ อกหักครั้งแรก เจ็บให้มันสะใจไปเลยโว้ย กินข้าวหน่อยนะ ...เพื่อพี่"
โรสยกป้อน
มาลีมองอย่างซาบซึ้ง ขอบคุณ รับเข้าปากไป 1 คำ โรสยิ้มให้
เพลง "น้ำตาฟ้า" ดังมาจากข้างนอก
"เสียงใครน่ะ สุดยอดมากเลย"

บุญมาเป่าขลุ่ย สมศรีร้องเพลง “น้ำตาฟ้า”
"เขาบอกว่าฟ้า ร้องไห้ออกมาเป็นน้ำฝน อยากรู้นักฟ้าที่เบื้องบน ต้องมาร้องไห้เพราะใคร หรือฟ้าสงสาร คนอย่างฉันถูกหลอกเรื่อยไป ถูกเขาลวงเขาล้วงหัวใจ เอาไปต้มยำทำแกง
ฝนฟ้ากระหน่ำ เสียงฟ้าคำรามดูน่ากลัว น้ำตาฟ้าหลั่งมารดตัว รดหัวใจฉันจนชา
ฉันคงผิดหวัง มีเคราะห์กรรมไร้วาสนา เขาเลยไม่รักไม่ยอมพูดจา หลอกลวงให้ฉันต้องตรม
ฉันมันคนซื่อ ไม่เคยฝึกปรือ ในเรื่องความรัก เพิ่งเคยได้รู้ เพิ่งเคยได้ลอง เพิ่งเคยรู้จัก
สุดท้ายต้องมาอกหัก ไม่รู้จะดามยังไง
เขาบอกว่าฟ้า ร้องไห้ออกมาให้ฉัน ฟ้าสงสารและคงผิดหวัง ที่ชักนำให้ฉันพบเธอ
น้ำตาที่ไหล จากความตั้งใจไม่ได้พลั้งเผลอ ชาตินี้เข็ดแล้วนะเออ ไม่อยากเจอหน้าเธออีกเลย"

บุญมาเป่าขลุ่ย สมศรีร้องเพลง โรสกับหนูมาลี ออกมาเดินดู
"ลุงบุญมากับป้าสมศรี"
"คงรำคาญเพลงติ๊ดชึ่ง ถึงลุกมาร้องเองแบบนี้ ปรกติเคยร้องที่ไหน" โรสบอก
ทุกคนเดินเข้ามาฟัง เพราะน้ำเสียงของสมศรีสะกดคนฟัง ทุกคนตะลึงกับเสียงของสมศรีและขลุ่ยของบุญมา
"แบบนี้สิวะ ค่อยเรียกว่าเพลง" โรสบอก
มาลีนึกถึงภาพอดีต ระหว่างเธอกับทองทาที่เคยมีกันและกัน
ฟ้าแลบเหนือร้านเซอร์ไพร์ส

เวลาเดียวกัน ทองทามองท้องฟ้า ฝนตกลงมา เขาเดินเศร้าออกไปตากฝน แล้วนั่งลงกับพื้น ร้องไห้ออกมากลางสายฝน นึกถึงภาพที่เคยมีกันและกัน
ทางด้านมาลีร้องไห้ออกมาอีก ขณะฟังเพลง โรสโอบไว้

เช้าวันใหม่ อธิมาที่บ้านทองทา ข้าวของอยู่ตามพื้น รกไปหมด
"ไม่ได้มาแค่อาทิตย์เดียว ทำไมเละอย่างนี้วะ"
อธิเจอทองทาในสภาพทรุดโทรมนอนอยู่บนโซฟา
"ทองทา ไม่สบายหรือเปล่า เฮ้ย"
ทองทางัวเงียตื่นขึ้น
"สภาพดูไม่ได้เลย แกเป็นอะไรของแกวะ"

มาลีทำงานไปแล้วก็หยุดเหม่อ คิดเรื่องทองทา ยังไม่หายเศร้า โรสทำงานที่เคาน์เตอร์เตือนสติ
"อกหักเรื่องเล็ก อกเล็กสิวะเรื่องใหญ่ ทำงานๆ"
มาลี ได้สติ ทำงานต่อ
พิสมัยเดินมาหาบอยที่ทำงานอยู่ห่างออกไป
"ฉันขอห้องวีไอพี"
โรสบอก
"ร้านเรายังไม่เปิดครับ"
"รอร้านเปิดไม่ได้ คนจะเยอะ คุณซีโร่จะมาทานข้าวที่ร้านนี้ หนูมาลี อยู่ไหม"
ซีโร่เดินตามมาถึง มาลีและโรสได้ยินหมดแล้ว ยิ้มออกมาทันที มาลีทิ้งของวิ่งผ่านหน้าโรสไปหา
"พี่ซีโร่"
"โฮ้ย เริงร่าเป็นนกติดปีกออกไปเลยนะ"

โรสมองตาม ประเมินทีท่าผู้ชายคนใหม่ของลูกสาว
 
อ่านต่อหน้า 4

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 7 (ต่อ)

มาลีเดินนำซีโร่กับพิสมัยเข้ามาในห้อง โรสตามติดมาด้วย

"เข้ามานั่งในห้องนี้ก่อนค่ะ ทานอะไรมาหรือยังคะ"
"ครัวยังไม่เปิด" โรสกวนๆ ไม่ชอบให้ลูกสาว วุ่นๆกับผู้ชาย
มาลี ไม่สนใจ นั่งมองซีโร่ชื่นชมมาก
"วันนี้มีแกงส้มที่ทำไว้ไปขายที่ตลาด อร่อยมาก ทานได้ไหมคะ"
"ทานได้ทุกอย่าง ที่จริง แค่เห็นหน้า ได้คุยกันก็ดีใจแล้ว"
มาลี ตะลึง พิสมัยงง เหวอเพิ่งรู้ว่า ซีโร่จะจีบมาลี โรสชักสีหน้า บึ้งทันที
"เอ้อ คือ... ค่ะ"
มาลีเขินก้มลงจับผ้ากระโปรงตัวเองบิดไปมา โรสหมั่นไส้
"เอากรรไกรไหมยะ เกะกะก็ตัดๆมันทิ้งไป จะได้ไม่ต้องบิด"
มาลีค้อนพ่อ กวนจังแฮะ พิสมัยเห็นท่าทางสองคนนี้แล้ว ก็เลยเปิดทาง มาไล่โรสไป
"คุณเจ้าของร้านไปจัดการเรื่องอาหารมาแล้วกันนะคะ ขอปิดประตูก่อน เดี๋ยวคนแห่กันมา ให้เขาสองคน อยู่กันส่วนตัว"
พิสมัยไล่โรสออกไป แล้วจะปิดประตู
"ประตูเสีย ปิดไม่ได้"
พิสมัยขยับประตู
"เอ๊ะก็ปิดได้นี่ นี่ไง เสียตรงไหน"
โรสหยิบของแข็งแถวนั้น ยกขึ้นสูง เตรียมจะฟาดประตู
"ตอนนี้ยังไม่เสียใช่ไหม โอเค"
พิสมัยร้องเสียงหลง รีบหลบ
"เฮ้ย"
มาลี วิ่งมาขวางแทบไม่ทัน
"อย่าๆ เอ้อ ขอเวลาสักครู่นะคะ พี่โรส วางลง วางสิ มานี่"
มาลี รีบมาจัดการให้โรสวางของแข็งลง แล้วลากพ่อออกไป
ซีโร่ถาม
"ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เจ้าของร้าน เจ้านายหนูมาลี ไม่ใช่หรือ"
พิสมัยยักไหล่ไม่รู้เหมือนกัน
"บ้าป่าววะ เหมือนจะเพี้ยนๆ" พิสมัยบอก
ซีโร่และพิสมัยรอที่ห้อง

มาลี ลากโรสมาคุย โรสโมโหอยู่ บอยเดินมาร่วมวง
"พี่เป็นอะไรของพี่ โมโหอะไร"
"มันจะจีบแกหรือ" โรสถามมาลี
"มีอะไรหรือพี่" บอยถาม
มาลีอึ้งงง
"เขาแค่มาคุยด้วย"
"สิ่งที่แกรู้สึกกับเขา แค่ภาพมายา หลงใหลดารานักแสดง ก็แค่จินตนาการ มันก็เหมือนขนมสวยๆในตู้ เห็นจากข้างนอกก็สีสดใส แต่พอเห็นใกล้ๆ อาจจะเห็นเนื้อหยาบ กินเข้าไป ก็ไม่จำเป็นต้องอร่อย"
"ก็ให้มันออกจากตู้มาให้หนูสัมผัสสักครั้งได้ไหมล่ะ ให้หนูสัมผัส ได้เห็นมันด้วยตาตัวเองก่อนได้ไหมล่ะ"
โรสอึ้ง มาลีตั้งท่าไม่ยอม เถียงแหลก
"ระริกระรี้ แบบนั้น มันจะคิดว่าแกง่าย"
มาลีโกรธโวย
"พี่โรส !"
"เอ้อ พี่ครับ ยังไงก็อยู่ในร้านเรา ไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก"
"หนูโตแล้ว ให้ชีวิตหนูแล้ว ต้องให้โอกาสหนูสัมผัสสิ่งต่างๆบ้าง หนูขอโอกาสที่จะใช้ชีวิตบ้างนะคะ"
โรสไม่ค่อยพอใจนัก หนูมาลี สะบัดหน้ากลับไป โรสตามต่อ ไม่ยอมหยุด
บอยบอก
"พี่ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย"
โรสสะบัด
"ปล่อยฉัน"

โรสไปจนได้ บอยเซ็ง

ปลาเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟ

"น้ำมาแล้วค่ะพี่ หล๊อหล่อ ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ"
พิสมัยขวาง ให้ปลาออกไป
"ขอเวลาส่วนตัวหน่อยนะน้อง อย่าบอกใครนะว่าซีโร่มา หนูมาลี มาแล้ว ออกไปค่ะ จะปิดประตู"
มาลีเดินเข้ามา
พิสมัยจะปิดประตูให้ตัวเองอยู่ข้างนอก ให้หนูมาลีอยู่เป็นส่วนตัวกับซีโร่ โรสดึงไว้ไม่ให้ปิด
"เปิดไว้ห้ามปิด ฉันจะนั่งเฝ้าแฟนคลับให้เอง จะดูแลแม้แต่แมลงสาบ แมลงวันจะไม่ให้มาตอมซุปตาร์ของคุณเลยเอ้า"
โรสเปิดประตูออกไป แล้วเอาเก้าอี้มานั่งขวางหน้าประตู
"เอ๊ะคุณนี่"
"ถ้าบริสุทธิ์ใจจะปิดทำไม หรือคิดจะทำอะไรกัน"
"คุณพูดอะไรให้เกียรติผมหน่อย" ซีโร่บอก
"งั้นคุณก็ต้องให้เกียรติผู้หญิงด้วย เปิดไว้ แล้วเชิญตามสบาย จะหมาก
เก็บหมากฮอส ผีถ้วยแก้ว เชิญตามสบาย ผมจะไม่ยุ่งอีกเลย"
"นี่ถามจริง คุณเป็นอะไรของคุณ มีปัญหาอะไรนักหนาเนี่ย" พิสมัยถาม
"พี่ไหม ตามใจเขา ผมให้เกียรติหนูมาลีอยู่แล้ว"
มาลี มองซีโร่ยิ้มแห้งๆ กับสภาพการคุย ที่มีโรสนั่งขวางหน้าประตู คอยเฝ้า พิสมัยเดินไปนั่งห่างออกไป

บุญมาเอาหนังสือพิมพ์บันเทิงมาวาง สมศรีรับมาอ่าน มีรูปซีโร่อยู่ในหน้าข่าวด้วย
"นี่ไงๆ ข่าวซุปตาร์ที่มาอยู่ในร้านเรา" บุญมาบอก
สมศรีอ่าน "ซีโร่กลุ้ม งานหด ออกเอ็มวีใหม่ ก็ยังไม่เปรี้ยง -- เอ้า ซุปตาร์ตกกระป๋องแล้วนี่"
ปลาเดินเข้ามาร่วมวงด้วย
"เพลงที่หนูมาลี มันเปิดทุกวัน ที่เราสองคนฟังจนเบื่อไง" บุญมาบอก
"ตกกระป๋องยังไง ก็ยังหล่อ ที่สำคัญ มาจีบหนูมาลีด้วย" ปลาบอก
พร้อมกันโพล่งพร้อมกัน "หา ..."
บุญมากับสมศรีอึ้งไป ปลาพยักหน้าว่าจริง

มาลีอายคุยกับซีโร่ที่มาจีบอย่างชัดเจนมาก
"อาทิตย์หน้าจะขึ้นคอนเสิร์ตอีกแล้ว เตรียมเพลงหรือยัง"
มาลีส่ายหน้า
"ทำไมล่ะ"
"ไม่ได้ไปเรียนร้องเพลงกับครูคนเดิมแล้ว รอบหน้าคงแพ้"
มาลีเศร้า
"คนสวยอย่าทำหน้าเศร้าสิ แบบนี้ไม่สวยเลย"
ซีโร่เอามือจะมาจับ โรสกระแอมไอ ยาวเหยียด จนซีโร่ชะงักมือมอง คุยต่อไม่ได้
"โอย เสมหะ แค่กๆๆ"
"ถ้าพี่โรสไม่หยุด หนูมาลีคงต้องขอปิดประตู"
โรสชะงัก ยอมหยุด คิดอะไรเล็กน้อย
"หยุดก็ได้"
โรสเดินออกไป พิสมัยที่นั่งห่างไป โผล่เข้ามายิ้ม
"ยอมไปแล้วค่ะ ทางสะดวก"

อธิเดินนำทองทามาที่รถของตัวเอง ทองทาแต่งตัวแล้ว ดูดีขึ้นเล็กน้อยแต่หน้าเศร้าอยู่
"ออกไปกับฉัน อยู่อย่างนี้ มันจะมีอะไรดีขึ้นมาวะ"
"แกจะพาฉันไปไหน"
"ไม่ต้องถาม ขึ้นรถ"

อธิขับรถพาทองทาออกไป

ภายในห้อง มาลีนั่งคุยกับซีโร่ พิสมัยไม่อยู่แล้ว

"ครูสำคัญก็จริง แต่ใจสำคัญกว่า เลิกเศร้าแล้วหันมาเลือกเพลงที่จะร้องดีไหม"
"ก็จริงค่ะ เหลือเวลาแค่อาทิตย์เดียวเอง ทั้งหนูมาลี ทั้งการะเกดกำลังแย่ทั้งคู่ ยังไม่เลือกเพลงทั้งคู่เลย"
"จำเอาไว้นะ พี่เป็นกำลังใจให้เสมอ"
ซีโร่จะวางมือลงบนมือหนูมาลีอีก แต่พอมองไปที่ประตูก็เห็นโรสมองจังก้าหน้าดุ ถืออีโต้ยืนอยู่หน้าประตู ราวกับฆาตกรโรคจิต ซีโร่สะดุ้งโหยง ร้องออกมา
"เฮ้ย คุณจะทำอะไร"
พิสมัยวิ่งเสียงหลงมา
"อ๊าย นี่คุณจะฆ่าใครหา เอามีดออกมาทำมั้ย"
โรสวางมีดลง ควักหินลับมีดออกมาวาง แล้วนั่งลงลับมีดหน้าตาเฉย
"หั่นอะไรก็ไม่คมหมู่นี้ แขกยิ่งเยอะอยู่ ทำงานไม่ทัน"
โรสนั่งลับมีดแกรกๆ สร้างความงุนงงให้ทุกคน
"แล้วทำไมต้องทำตรงนี้ด้วย ไปทำในครัวโน่นไป๊" พิสมัยว่า
"ตรงนี้ลมเย็น ชอบ..... หลีกๆ เดี๋ยวผีผลัก ถ้าไม่หลีกนะ มีดหลุดกระเด็น
ไปทางโน้น" โรสชี้ไปที่ซีโร่ที่หลบวืด "อย่ามาว่าผมนะ"
มาลี และซีโร่อึ้งไป

ห่างออกไป บุญมา บอยและสมศรี ยืนมองอยู่ วิพากษ์กันใหญ่ หน้าระรื่น
"เฮอะๆ ท่าทางโรสจะไม่ชอบมีลูกเขยเป็นซุปตาร์" บุญมาว่า
"เขาไม่ชอบใครทั้งนั้นแหล่ะ ถ้าหนูมาลี ขึ้นคานได้ เขาคงตายตาหลับ" บอยบอก
ทั้งหมดหัวเราะกันใหญ่
มาลีเดินมาหาโรส
"ถ้าพี่ยังอยู่แถวนี้ หนูมาลีจะออกไปกับพี่ซีโร่ ไปคุยที่อื่น"
โรสโวยกลับ
"นี่แกกล้าหรือ … เห็นผู้ชายดีกว่าฉันหรือ"
"พี่ซีโร่ ไปหาอะไรกินกันข้างนอกค่ะ"
มาลีเดินนำซีโร่กับพิสมัยไป โรสอ่อนลง เข้ามาขวางเปลี่ยนท่าทีทันที
"เออๆ ไม่ต้องๆ นั่งๆไปเหอะ ฉันไปเอง"
"แน่ใจนะ"
"เออ ไปก็ไปเด่ะ"
โรสวางมีด งอน พูดเสียงลอดไรฟัน
"เด็กผู้หญิงเดี๋ยวนี้ นอมันงอกออกมาก่อนนมเสียอีก ฮึ่ย"
โรสค้อนเดินจากไป ร่วมวงกับพวกบอยที่ยืนขำคิกๆอยู่
"ขำอะไรกัน ตลกตาย"

อธิพาทองทามาจอดรถหน้าร้านเซอร์ไพร์ส
"แกพาฉันมาที่นี่ทำไม"
"มีอะไรก็คุยกันซะ"
"ฉันโทร.หาเขาทุกวัน ข้อความขอโทษทุกชั่วโมง เขาไม่เคยรับสายฉันเลย เขาไม่คุยกับฉันหรอก"
"เอาน่า ลองอีกสักตั้ง ไปไป๊"
อธิพาทองทาเข้าไป

โรสกับบอยเดินออกมาเจอ อธิกับทองทาเดินมา
"ตัวช่วยมาแล้วโว้ย ทองทา แกไปจัดการลูกศิษย์แกให้ฉันเลย"
"มีอะไรหรือครับ" อธิถาม
"พอผู้ชายมาหา ริกๆๆชวนมันเข้าห้องคุยสองต่อสอง พอฉันไปห้ามมันก็ขู่ฉัน คอยดูนะ ฉันจะจับมันโกนหัวบวชชี ดูซิ จะมีใครสนมันไหม โฮ้ยเด็กสมัยนี้ ปวดหัว"
"ผู้ชายที่ไหน" ทองทาถาม
"ซีโร่ ... คนอะไรวะ เจอกันสองสามครั้ง ปากว่า มือถึง ไม่ต้องคุยเยอะก็รู้ว่ามันเจ้าชู้ ไม่รู้หลอกแฟนคลับไปนอนด้วยกี่คนแล้ว"
ทองทาหน้าเสียทันที
"พี่โรส พี่ก็พูดเกินไป" บอยบอก
"ไปเลยทองทา ไปจัดการให้พี่ที คุยกับหนูมาลี เข้าไปหาเรื่องคุย ไปขวางมันไว้เร็วเข้า เขาไม่เชื่อพี่ แต่เขาเชื่อทองทาแน่"

โรสรุนหลังทองทาเข้าไป

ซีโร่คุยกับมาลี ต่อเนื่อง พิสมัยอยู่ห่างไป

"เพลงของพี่ที่พี่แต่งให้หนูมาลี ได้ฟังบ้างไหม"
"ฟังทุกวันค่ะ พี่แต่งให้หนูมาลี จริงหรือคะ"
"จริงค่ะ พี่ชอบความมุ่งมั่นของหนูมาลี เห็นแล้ว อยากเอาใจช่วย เราน่าจะหาเวลาศึกษาเรียนรู้กันนะคะ"
มาลีตะลึง)
"ศึกษาเรียนรู้นี่แปลว่า"
ซีโร่มองหน้าหนูมาลี ค่อยๆเอามือมาจับ สำเร็จเสียทีคราวนี้ จีบชัดเจนมาก
ที่หน้าประตู โรส ทองทา บอย อธิ เดินเข้ามาเห็นเต็มๆตา ทั้งคู่นั่งมองกันตาเชื่อม มือจับกัน มาลีตกใจลุกขึ้นเมื่อเห็นทองทา
"พี่ทองทา"
ทองทาหันหลังจะกลับ
"เฮ้ย อย่าหนี สู้เขา" อธิจับทองทาหันไป
การะเกดเพิ่งมาถึง อธิมองหน้า แต่ปากพูดกับทองทา สิ่งที่อธิพูด จงใจบอกการะเกดด้วย
"ตราบใดที่เขาไม่ไล่แกเหมือนหมูเหมือนหมา ตราบใดที่เขายังไม่แต่งงาน แกยังมีสิทธิ์ คนเรามันต้องสู้เพื่อความรักโว้ย ฉันจะสู้ แกก็ต้องสู้เหมือนกัน"
การะเกดสบตาอธิครู่หนึ่ง เดินหนีดีกว่า
"พี่มาที่นี่ทำไม"
"แล้วเขาล่ะ.... มาทำไม"
"คุณคือ"
"พี่เขาเป็นครูสอนร้องเพลงของหนูมาลีค่ะ"
โรสรุนหลังทองทาให้จัดการให้หน่อย ส่งซิก ทองทาเลยทำให้
"ขอคุยด้วยหน่อย"
มาลียังโกรธอยู่
"คุยตรงนี้ได้ไหมคะ"
"เอ๊ะนังนี่เรื่องมากจริง เขาดีกับแกขนาดไหน แค่ขอคุยด้วย จะเรื่องมากไปทำไมหา"
"หนูมาลี ไม่มีอะไรจะคุยกับพี่เค้านี่"
ซีโร่บอก
"เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าจะคุยกันเรื่องเพลง ผมจะเป็นครูสอนหนูมาลี แทนคุณเอง"
พิสมัยตกใจ นึกไม่ถึงว่า ซีโร่จะทุ่มเทขนาดนี้
"ซีโร่ !"
"พี่ซีโร่" มาลีดีใจซาบซึ้ง
"ผมไม่ทราบว่าพวกคุณมีปัญหาอะไรกัน ผมเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งที่หวังดีกับหนูมาลี และในเมื่อหนูมาลี กำลังมีความทุกข์ ผมก็ขอเป็นตัวเลือกหนึ่ง ในการขจัดความทุกข์ของหนูมาลี ฝากลองคิดดูนะคะ มีอะไรโทร.หาพี่"
ซีโร่มองตาเชื่อมแล้วเดินออกไป พิสมัยงงๆ รีบตาม โรสยิ่งแค้นหยิบปังตอแถวนั้นขึ้นมาโบก เกือบโดนพุงซีโร่กับพิสมัย
"กลับแล้วหรือ เชิญๆ"
พิสมัยหลบมีดวูบวาบ เกาะซีโร่
"นี่ ถือมีดอะไรระวังหน่อยสิ หน้าแหกกันพอดี"
"ก็ส่งแขกไง กลับบ้านดีๆนะ"
พิสมัย ซีโร่ มองโรส ทำไมกวนตีนอย่างนี้วะ เดินจากไป ทองทามองหน้า ถามเสียงเข้ม งอนๆ
"เขาชวนขนาดนั้นแล้ว จะไปเรียนกับเขาไหม"
"ไปค่ะ"
"ทำไมตอบเต็มปากเต็มคำนัก"
"พี่ล่ะคะ ... คุณเบลมาเรียนต่อหรือยัง เตรียมเพลงอะไรให้ล่ะ"
อธิ บอย โรส เซ็งไป
"ถ้าพูดกันแบบนี้คงไม่มีวันจบ พี่ขออวยพรให้หนูมาลีกับเขามีความสุข...ลาก่อน"
ทองทาเดินหนีไป ทุกคนอึ้งหมด
"เอ๊า ทองทา"
มาลี เศร้าลง ทุกคนก็อึ้ง โรสเดินตามทองทาไป

ทองทาเดินมานั่งระงับอารมณ์ที่มุมหนึ่ง เศร้า เครียด โรสเดินมาหา
"หมดหล่อเลยนะ สำหรับเธอก็หนักใช่ไหม"
"ผมชอบเพาะต้นไม้ ถ้าต้นไม้มันมีชีวิตมันคงอยากขอบคุณผม ที่ผมให้ชีวิตมัน แต่มันไม่รู้หรอก มันต่างหากที่ให้ชีวิตผม ถ้าไม่มีพวกมัน ชีวิตผมต่างหากที่ไม่มีความหมาย"
ทองทาน้ำตาคลอ โรสหันมามองหน้าชัดๆ แปลกใจมาก ไม่เคยนึกว่าทองทาจะอกหักไปด้วยขนาดนี้
"นี่เธอร้องไห้หรือ"
บอยเดินเข้ามาแล้วหลบข้างๆ เพราะได้ยินว่าเขาร้องไห้
"ตอนนี้เสื้อผ้าผมอยู่ร้านซักรีดไหนผมก็ไม่รู้ แก้วกาแฟผมอยู่ลิ้นชักไหน ผมก็หาไม่เจอ ช่วงที่ผ่านมา เขาเข้ามาในชีวิต จนจะกลายเป็นชีวิตเดียวกัน แล้วตอนนี้จู่ๆเขาก็ไป"
โรสช็อก งง เช่นเดียวกับบอย
"นี่เธอกับหนูมาลี"
"ผมให้โอกาสหนูมาลี แต่หนูมาลีให้โลกทั้งโลกกับผม"
บอยสงสาร เดินออกมาบอก เริ่มเข้าใจทุกอย่างแล้วแต่โรสยังช็อกอยู่
"ซีโร่กับหนูมาลี แค่เริ่มต้นเท่านั้นนะผมว่า"
"เป็นเรื่องดีมากเลยนะครับ คนที่เขารักมากอย่างซีโร่ รักเขาเหมือนกัน ผมต้องดีใจกับหนูมาลีถึงจะถูก ผมต้องทำให้ได้"
ทองทาเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกไป โรสรำพึงออกมาถึงสิ่งที่คาใจ
"ทองทาไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่เกย์หรือวะนี่"
"แล้วนี่หนูมาลี รู้ไหมเนี่ย" บอยว่า

โรสยังอึ้งไม่หาย

อธิเดินมาหาการะเกดที่ทำงานอยู่

"แม่เป็นไงบ้าง"
"รอเช็คจากลูกค้าเจ๊แคที่ออกจ้ะ พอเจ๊แคที่ได้เงิน เอามาให้เกด เกดก็จะ
กลับหนองคายทันที"
"ให้พี่ไปส่งไหม"
"อย่าเลยค่ะ เกดไปเอง"
การะเกดทำงานไม่มองหน้า อธิน้อยใจ
"แม้แต่ความเป็นพี่เป็นน้องก็ให้ไม่ได้หรือ"
"แค่นี้เกดก็ทำให้ทุกคนลำบากมากพอแล้ว ดูร้านนี้สิ มันเปลี่ยนไปเยอะเลย ร้านที่เคยมีแต่เสียงดนตรี ตอนนี้มันเหมือนแดนสนธยา คนทำงานแทบไม่มีความสุข เกดไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีกแล้ว"
การะเกดมองขอความเห็นใจ เข้าใจ อธิถอนใจ

ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง พิสมัยกับซีโร่เข้ามานั่งในร้านอาหาร ตรงมุมลับตา
พิสมัยบอกเด็กเสิร์ฟที่มารับออเดอร์
"เอาเหมือนเดิมแล้วกัน คอยดูคนอย่าให้เข้ามาวุ่นวายนะ วันนี้เหนื่อย ขอเวลากินข้าวหน่อย"
พิสมัยหันมาถามซีโร่
"ถามจริง ชอบหนูมาลีจริงหรือ"
"พรุ่งนี้จัดเวลาให้ผมใหม่ ผมจะไปสอนหนูมาลีเตรียมขึ้นคอนเสิร์ต"
"เป็นโสดมาตั้งนาน เด็กนั่นมีอะไรดี"
"ปล่อยข่าวออกไปด้วย ว่าผมแต่งเพลงให้หนูมาลี"
"หา ... เฮ้ย เอางั้นเลยหรือ"
"ผมต้องชิงพื้นที่สื่อมาให้ได้ ข่าวมีแฟนนี่ล่ะ ดีที่สุด สื่อก็สนใจแค่เรื่องนี้อยู่แล้ว พอผมมีพื้นที่สื่อ เดี๋ยวโฆษณา เอ็มวีก็ออกมาเยอะเอง"
พิสมัยเข้าใจ ยิ้มกว้าง
"ที่แท้ก็ทำเพราะธุรกิจ งั้นถามหน่อยทำไมต้องเป็นหนูมาลี"
"เพราะเขาชอบผม เขาไม่มีวันโกรธ ถ้าผมบอกเลิก ถ้าจะใช้แผนนี้ ต้องมั่นใจว่าผู้หญิงจะไม่เอาเรื่องผม จะไม่ตลบหลังไปให้ข่าวกับสื่ออีกอย่างหนึ่ง เด็กบ้านนอกซื่อๆ "
ซีโร่เพิ่งแสดงให้เห็นมิติความร้ายกาจอย่างเต็มที่
"โง่ๆแบบนี้แหล่ะ เหมาะที่สุด"

ภายในสวน ทองทานั่งเศร้าอยู่มองกุหลาบแดงในกระถาง บุษบาบัณ ยาหยี นีน่ามาถึง
"พี่ทองทา เบลมาแล้วค่ะ เดี๋ยวเรามาเรียนร้องเพลงกันนะ"
ทองทาไม่ตอบนั่งมองกุหลาบต่อไป
"เธอไปเก็บกวาดทำความสะอาดในบ้านที รกอย่างกับรังหนู"
นีน่าหน้าเสีย
"หา... ต้องทำด้วยหรือ"
"เมื่อก่อนเด็กนั่นทำ เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องทำเหมือนกัน …ไปสิ"
นีน่ายาหยี เซ็งๆออกไป บุษบาบัณมองพี่ชาย ยิ้มไม่ยอมแพ้ จะทดแทนมาลี ให้ได้

ที่ร้านเซอร์ไพร์ส ซีโร่มีหูฟังคนละข้างกับหนูมาลี กำลังจะสอนร้องเพลง ซีโร่กดเลื่อนเพลงเรื่อยๆ หาเพลงที่เหมาะ
"เพลงนี้พี่ก็ชอบนะเอาเพลงนี้ไหม"
"มันสดใสไปค่ะ"
"ถ้างั้นเพลงนี้ล่ะ"
"ร้องยากไปค่ะ หนูไม่ถนัด"
"เอ...เอาเพลงไหนดีนะ"
มาลีหน้าเศร้า มองเหม่อ การเรียนการสอนก็ไม่ราบรื่น เธอคิดถึงตอนเรียนกับทองทา

เวลาเดียวกัน ทองทาแนะการร้องให้น้องสาวเริ่มฝึก ทองทา คิดถึงอดีต ที่เคยสอนมาลี

การะเกดร้องเพลง "หนาวแสงนีออน ตั๊กแตน ชลลดา" ออกมาหนึ่งท่อน
"เอ๊ะ มันยังไม่ถูกนะ" ซีโร่บอก
"ไม่ถูกยังไงคะ"
ซีโร่ตอบไม่ถูกเพราะไม่เก่งจริง งุนงง ครุ่นคิด
"อืม เอ่อ"
"มันผิดตรงไหนนะหนูมาลี" การะเกดถาม
"ถามฉัน ฉันจะรู้ไหมนี่"
เสียงสมศรี ร้องเพลงหนาวแสงนีออนที่ถูกต้อง ไพเราะสุดๆดังออกมาออกมาท่อนหนึ่ง
ซีโร่ถาม
"เสียงใครน่ะ เพราะมากเลย"
สมศรีเดินร้องออกมา
"เป็นไงอ้าปากหวอกันไปเลยเด่ะ" บุญมาบอก
บอยทำงานไป แสดงความเห็นไป
"ลุงเขาเป็นนักดนตรี ป้าเขาก็ร้องเพลง ดาบคมน่ะ มันมักจะชักเมื่อจำเป็นเท่านั้น"
สมศรีเข้ามาบอก การะเกดตั้งใจฟัง พยักหน้าเข้าใจ
"ป้าสอนหนูด้วยสิ เพลงของหนูล่ะ"
"บุญมา มานี่ มาจัดการนังหนูมาลี นังการะเกดนี่ข้าจัดการเอง ฟังแล้ว รำคาญโว้ย ทำให้มันเสร็จๆไป"
มาลีร้องดีใจ "เย้"
มาลี และการะเกดวิ่งจากซีโร่ เดินหายเข้าไปในครัวกับสมศรีและบุญมา

ซีโร่จ๋อยไป ชักไม่ได้เป็นฮีโร่ของหนูมาลีแล้ว เพราะไม่เก่งจริง
 
อ่านต่อตอนที่ 8
กำลังโหลดความคิดเห็น