xs
xsm
sm
md
lg

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 21

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 21

บรรยากาศยามเช้าบ่าวไพร่เริ่มงานปัดกวาดเช็ดถูตามปกติ ดาวที่แต่งตัวราวกับเป็นนายก้าวออกจากห้อง ตาจิกบ่าววาดที่ถูเรือนอยู่

"หลีกไป"
ดาวเดินผ่าน ถีบถังน้ำกระจาย
"มันจะมากไปแล้วนะแม่ดาว"
ดาวหันขวับ
"แกกล้าขึ้นเสียงกับฉันรึนังวาด"
"ไม่เห็นรึว่าข้ากำลังถูเรือนอยู่น่ะ"
ดาวจิกหัววาด
"เห็นแล้วจะทำไม อย่าลืมว่าแกกับฉันมันคนละชั้นกัน ฉันเป็นเมียคุณหาญ ต่อไปนี้ ต้องเรียกฉันว่าคุณเข้าใจไหม"
ดาวผลักวาดอกไป
ดาวเหิมเกริม วางมาด บ่าวไพร่พากันซุบซิบนินทา ดาวชี้หน้ากราด
"อย่าให้กูได้ยินนะว่าพูดถึงกู ไม่งั้นกูจะสั่งโบยให้หลังขาดเสียทุกคน"
บ่าวไพร่หันหน้าหนี ไม่มีใครอยากพูดด้วย
หาญเดินออกมาจากห้อง ดาวรีบวิ่งเข้าไปคล้องแขน
"คุณหาญจะไปทำงานแล้วรึเจ้าคะ"
หาญนิ่งไม่ตอบ
บุษบาบรรณตามหลังหาญออกมา เห็นดาวที่คล้องแขนหาญแน่น ก็ชะงักมอง
ดาวทำทีลูบท้องไปมา
"เมื่อคืนอิฉันนอนไม่หลับเลยเจ้าค่ะ แพ้ท้องเหลือเกินเจ้าค่ะ" ดาวแกล้งเหลือบไปเห็นบุษบาบรรณ "อุ๊ย คุณบุษ"
หาญเลี่ยงออกจากมือที่เกาะกุมของดาวเดินเข้าไปหาบุษบาบรรณ
"ไม่สบายทำไมไม่พักผ่อนล่ะขอรับ"
เดือนถือกระเป๋าเอกสารของหาญมาส่งให้บุษบาบรรณ
"กระเป๋าคุณหาญเจ้าค่ะ"
เดือนก้มหน้าส่งกระเป๋าให้ บุษบาบรรณรับกระเป๋ามาส่งให้หาญ
"กระเป๋าเจ้าค่ะ"
หาญรับประกระเป๋ามา
"ผมไปทำงานก่อนนะ"
ดาวยืนมองด้วยความแค้น บุษบาบรรณแอบสังเกตว่า หาญ ชายตาถึงเดือนก็เศร้าในใจ

บุษบาบรรณนั่งเศร้าอยู่ศาลาท่าน้ำคิดเรื่องหาญกับเดือน
"คุณหาญคงจะรักแม่เดือนสินะ...ทำไมเราถึงไม่เอะใจ"
เดือนเดินถือขนมหวานเข้ามา
"ขนมกล้วยบวดชีเจ้าค่ะคุณบุษ"
เดือนมองบุษบาบรรณที่นั่งซึมอย่างเป็นห่วง
"คุณบุษอย่าคิดมากเลยนะเจ้าคะ บ่าวจะคอยกันแม่ดาวไม่ให้มากวนใจคุณบุษเองเจ้าค่ะ"
บุษบาบรรณหันมองเดือนด้วยความรู้สึกตะขิดตะขวงใจ
"เราอยากอยู่คนเดียว แม่เดือนเอาขนมกลับไปเสียเถิด เราไม่อยากกิน"
บุษบาบรรณหันหน้ามองแม่น้ำเพื่อสงบจิตใจ เดือนเป็นห่วง

ชื่นกับเอื้อยกำลังจัดสำรับอาหารเพื่อกินกัน เดือนเดินถือกล้วยบวดชีกลับมา วางถาดขนมลงตรงหน้า เอื้อยกับชื่นเอื้อยมองถ้วยขนม
"อ้าวไหนว่าจะเอาไปให้คุณบุษเธอไง ทำไมไม่ไปซะล่ะ" เอื้อยว่า
"ฉันไปมาแล้วจ้ะ แต่คุณบุษเธอไม่ทานเธอคงจะไม่สบายใจนะจ้ะ"
"ไม่สบายใจเรื่องอะไรรึ" ชื่นถาม
เดือนถอนใจ
"ก็คงเป็นเรื่องนังดาวน่ะจ้ะแม่"
เอื้อยกับชื่นได้แต่มองหน้ากัน
"ฉันไม่อยากเห็นคุณบุษเศร้าเสียใจแบบนี้เลย คอยดูนะฉันจะจับตาดูนังดาวไม่ให้ คลาดสายตาเลย"
กล้าเดินเข้ามาพอดีได้ยิน
"จับตาดูใครรึแม่เดือน"
เดือนหันไปเห็นเป็นคุณกล้ามา ทั้งหมดนอบน้อม
"คุณกล้า"
"ฉันหูไม่ฝาดใช่ไหมที่ได้ยินว่าเจ้าจับตาดูนังดาวน่ะ"
"เอ่อ...เจ้าค่ะ"
กล้ายิ้มเข้าทาง
"งั้นเราก็คงจับตาดูคน คนเดียวกันสินะแม่เดือน"
ทุกคนมองหน้ากันอย่างงงๆ
"คุณกล้าสงสัยอะไรในตัวนังดาวรึเจ้าคะ"
"อย่าเรียกว่าสงสัยเลย เป็นอันว่าเราไม่ไว้ใจมากกว่า"
"ทำไมรึเจ้าคะ" เอื้อยถาม
"ฉันรู้สึกแม่ดาวมีลับลมคมใน ดูผิดสังเกต ฉันเคยเห็นแม่ดาวไปที่กระท่อมร้างชายป่าที่มียายแก่คนหนึ่งอาศัยอยู่"
ทุกคนแปลกใจ
"และฉันก็ได้ยินมาว่ายายแก่นั่นแกทำยาเสน่ห์และยาสั่งเป็นสั่งตายขาย"
ทุกคนตกใจ
"นั่งดาวมันไปที่นั่นทำไมกัน ไปทำยาเสน่ห์งั้นรึ" เอื้อยถาม
เดือนฉุกคิดขึ้นมาได้
"จริงสิก่อนหน้านี้มีอยู่ครั้งหนึ่งที่คุณหาญหมกมุ่นอยู่กับแม่ดาวจนผิดสังเกต เป็นไปได้ไหมเจ้าคะว่าคุณหาญจะโดนฤทธิ์ยาเสน่ห์น่ะเจ้าค่ะ"
เดือนถามกล้า
" อืม อาจจะเป็นได้ เพราะที่ผ่านมาพ่อหาญไม่เคยแม้แต่จะ ชายตาแลแม่ดาวเลย"
"แต่ไอ้ยาพรรณนี้มันต้องกินมิใช่รึ" ชื่นว่า
เดือนเป็นกังวล
"ถ้างั้นแม่กับน้าเอื้อยคงต้องคอยระวังอย่าให้แม่ดาวเข้ามาใกล้เรื่องอาหารก็น่าจะช่วยกัน ได้ส่วนหนึ่งนะจ๊ะ"
"จริงของเดือน"
เอื้อยพูดเปรยๆ
"ชักอยากจะเห็นกับตาเหลือเกินว่า กระท่อมยายแก่นั่นมันทำอะไรกันแน่"
"ฉันจะพาไปเอง อย่างน้อยถ้าพวกเรารู้จะได้คอยเป็นหูเป็นตาป้องกันเรื่องไม่ดีไม่ให้เกิดกับใต้หล้าได้อีกทาง"

เอื้อยหันมาพยักหน้าชวนเดือนไปด้วยกัน เดือนคิดเป็นห่วงหาญ

กล้าเดินนำ เดือนกับเอื้อยเข้ามาที่ที่ดินร้างมองเห็นกระท่อมอยู่ไกลๆ

"นั่นไงกระท่อมที่ว่าอยู่นั่น"
เอื้อยมองรอบๆที่เป็นป่ารกร้าง
"เข้ามาอยู่ซะลึกลับแบบนี้น่ากลัวจะตายชัก บรื๊อ..!" เอื้อยว่า
"เราเข้าไปดูกันเถอะเจ้าค่ะ"
กล้าเดินนำเข้าไปใกล้ ประตูกระท่อมเปิดออกมา กล้าพาทุกคนหลบ
ดาวก้าวออกม ทุกคนตะลึงไม่คิดว่าจะเจอดาวที่กระท่อมนี้
"แม่ดาวมาที่นี่จริงๆด้วยเจ้าค่ะ"
เอื้อยขยี้ตามองดาวาสลับกับมองยายตาด เอื้อยคลับคล้ายคับคาคุ้นหน้ายายตาดเหลือเกิน
ยายตาดบอกดาว
"รีบไปซะสิ ก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้า"
ดาวพยักหน้ารับ
"ฉันไปล่ะ"
ดาวเอาห่อผ้าเหน็บใส่พกก่อนจะออกไป
ดาวเดินลับตาไป ทุกคนออกมาจากที่ซ่อนตรงเข้าหายายตาด
"พวกเอ็งเป็นใครกัน"
เอื้อยเห็นหน้าชัดๆ ตกใจ จำได้ว่าเป็นยายตาด อุทาน
"ยายตาด ยายตาดใช่ไหม"
"เออกูเอง"
เดือนเข้าถามยายตาด
"แม่ดาวมาที่นี่ทำไมยาย"
ยายตาดมองเดือนยิ้มเยาะๆ
"ข้าทำอะไรคนก็มาหาข้าเพื่อการนั้นนั่นแหล่ะ ฮ่าๆ"
"หมายความว่านังดาวมาซื้อยาเสน่ห์ยาสั่งเป็นสั่งตายจากเจ้างั้นรึ" กล้าบอก
ยายตาดหัวเราะเหมือนคนบ้า
"มันจะต้องชิบหาย มันต้องตาย ฮ่าๆๆ"
กล้าหยิบเชือกมามัดยายตาดให้นั่งนิ่งอยู่ที่พื้น
"ยายรู้ไหมว่ายายกำลังทำร้ายเราทั้งใต้หล้าอยู่"
ตาดหันขวับไปที่เดือนมองอาฆาต
"แล้วเอ็งรู้รึไม่ ว่าใต้หล้าทำอะไรกับข้าไว้บ้าง"
เอื้อยมองตาดอย่างสงสัย แต่ไม่อยากให้กล้ากับเดือนรู้
"เอาล่ะอย่าเพิ่งซักไซ้อะไรกันตอนนี้เลย คุณกล้า นังเดือนรีบกลับไปที่ใต้หล้าดีกว่า เจ้าค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่า นังดาวมันจะทำอะไรรีบไปกันไว้ก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ ส่วนยายตาดประเดี๋ยวบ่าวจัดการเองเจ้าค่ะ"
เดือนกับกล้ามองหน้ากันพยักหน้าออกไป
เอื้อยถามสีหน้าจริงจัง
"ว่ามายายตาด แกมีความแค้นใดกับใต้หล้าอย่างนั้นรึ"
"มันทำข้าเจ็บมันต้องเจ็บกว่าข้าหลายเท่านักถึงจะสาแก่ใจข้า"
"ตั้งแต่วันที่เอ็งมาทำคลอดให้คุณบุหงา ข้าก็ไม่เคยเห็นเอ็งอีกเลย เกิดอะไรขึ้นกับแกยายตาด"
ตาดแค้นเคืองเล่าเรื่องวันเกิดเหตุ

คืนนั้น ฟ้าครื้นครั่น คำรามลั่น ตาดเงยหน้าขึ้นมองฟ้า รู้ว่าฝนจะตก
"เดินเร็วๆเข้าเถอะนังเจียม เดี๋ยวฝนตก นังหนูลูกของนายเอ็งจะเปียกฝน"
"คุณบุหงาไม่มีลูกสาว"
ตาดฉุน หันไปมองเจียม ตาดอึ้งนิ่งไม่พอใจ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นตกใจ เจ็บปวด
"อีเจียม !"
เจียมเสียบมีดปักคาท้องตาดอยู่ ตะกร้าเด็กหล่นจากมือตาดลงพื้น เสียงเด็กร้องไห้ลั่น ฟ้าคำรามครืนๆ แสงฟ้าแล่บปลาบสะท้อนแววตาเหี้ยมโหดของเจียม

"ข้าเฝ้ารอวันนี้มาแสนนาน วันที่ข้าจะได้ชำระแค้นมันเสียที อีบุหงาอีคนใจยักษ์ ใจมาร กรรมจะตามสนองมันเพราะลูกที่มันไม่ต้องการกำลังจะกลับมาทำให้มันเจ็บเจียนตาย"
"ลูกนังบุหงายังอยู่รึนี่ ข้าจะต้องสืบให้ได้ว่าเด็กนั่นอยู่ที่ไหน"
ตาดยิ้มร้าย
"ถึงเวลาเด็กคนนั้นจะปรากฏตัวออกมาเองเอ็งไม่ต้องตามหาหรอก เอ็งควรจะตามนังเด็กที่เจ้าตามมันมาต่างหาก นั่นล่ะที่จะทำให้ใต้หล้าของเอ็งต้องพินาศล่มจม"
เอื้อยคิดตาม
"นังดาว"
เอื้อยตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

เอื้อยกระหืดกระหอบวิ่งขึ้นเรือนมาในห้องของพวงแก้วแล้วรีบลั่นดานประตู
"อะไรกันนังเอื้อยทำเหมือนเห็นผีมางั้นแหล่ะ"
"ไม่เห็นก็เหมือนเห็นนั่นแหล่ะเจ้าค่ะ เพราะสิ่งที่บ่าวไปเจอมามันยิ่งกว่าผีซะอีกเจ้าค่ะ"
พวงแก้วมองเอื้อยสงสัย
"ไหนว่ามาสิ ว่าเอ็งไปเจออะไรมาถึงได้หน้าตาตื่นมาเยี่ยงนี้"
เอื้อยมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะคลานมากระซิบข้างหูพวงแก้ว
"เอาไงดีเจ้าคะคุณแก้ว"
"นิ่งไว้ก่อน ตอนนี้จับตาดูนังดาวไว้ พอถึงเวลาข้าจะบอกแกเองนังเอื้อย"

พวงแก้วครุ่นคิด
 
อ่านต่อหน้า 2

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 21 (ต่อ)

ดาวแอบเข้ามาตรงสวนหลังบ้าน เมฆดักอยู่ รวบเอวดาว ดาวตกใจขัดขืน

"อ๊าย..."
"เมียรักของข้าขอข้าชื่นใจหน่อยปะไร"
เมฆซุกไซร้ดาว ดาวดิ้นขัดขืนผลักเมฆออกไป
"ไปให้พ้นนะไอ้เมฆ ข้ายังโกรธเอ็งเรื่องวันนั้นอยู่เลยนะที่เอ็งเข้ามาช่วยนังเดือน ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับข้า"
ดาวมองรอบๆระแวงกลัวคนมาเห็น
"อย่าทำเล่นตัวหน่อยเลย ที่ข้ามาเนี่ย ข้าจะมาช่วยเอ็งนะ เอ็งจะทำอะไรทำไมไม่หัดระวังไว้บ้าง"
"ช่วยอะไร แล้วข้าทำอะไรที่ไหน"
เมฆหัวเราะหึๆ
"เอ็งไม่รู้เหรอว่าพวกนังเดือนกับคุณกล้ามันตามเอ็งไปที่กระท่อมท้าย สวนนั่นน่ะ"
ดาวตกใจ
"จริงรึ"
"เอ็งจะทำอะไรก็หัดระแวดระวังไว้บ้าง ข้ารักข้าเป็นห่วงเอ็งถึงได้ตามมารอเอ็งอย่างไรเล่า"
เมฆเห็นท่าทีดาวดูอ่อนลงเลยเข้าไปสวมกอด ดาวเจ็บใจที่พวกเดือนตามไป
"ตอนนี้จะขอบใจพี่เมฆได้รึยังจ๊ะ แม่เมียรักของข้า"
เมฆหอมฟอดที่แก้มดาว ดาวกระอั่กกระอ่วน แต่มองเห็นประโยชน์จากเมฆ ดาวยิ้มร้ายมีแผน

เดือนเดินครุ่นคิดเรื่องดาวอยู่ศาลาท่าน้ำ พลางยกมือขึ้นไหว้เจ้าที่เจ้าทาง
"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแห่งใต้หล้าช่วยดลบันดาลให้ใต้ หล้ารอดพ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดทั้งปวงด้วยเถิด ขอให้คุณบุษรอดพ้นจากความร้ายกาจของแม่ดาวด้วยนะเจ้าคะ อย่าให้เป็นดั่งเช่นลูกเลย สาธุ"
เดือนถอนใจก่อนจะหันกลับไปเจอเข้ากับดาว
"ดาว"
"ไปแล้วทำไมไม่ไปลับจะกลับเข้ามาอีกทำไม อีเดือน"
"กลับมาดูความชั่วของเอ็งน่ะสิ นังดาว"
ดาวเดินเข้าหาเดือนช้าๆหน้าร้ายกาจ
"แกก็ได้เห็นแล้วนี่"
"ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะวางยาคุณหาญได้ลงคอใจคอแกทำด้วยอะไร"
"อะไรที่เป็นของกูมันก็ต้องเป็นของกู ใครคิดจะขวางกูจะกำจัดให้หมดสิ้น"
"สักวันบาปกรรมจะย้อนกลับเข้าตัวเอ็ง ข้าจะไปเรียนเจ้าสัวคุณแก้วให้รู้เรื่องที่เอ็ง มอมยาคุณหาญ"
เดือนจะเดินไป ดาวจิกหัวเดือนลากกลับมาพูดใส่
"มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกอีเดือน"
เมฆวิ่งหน้าเริ่ดมาไกลๆตามมาด้วยหาญ ดาวเหลือบเห็น พูดขู่
"ทุกคนที่เอ็งรักและเคารพล้วนแต่โดนยาสั่งเป็นสั่งตายจากข้าแทบทั้งสิ้น ถ้าเอ็ง อยากให้ทุกคนตายล่ะก็ลองดู"
เดือนอึ้ง คิดไม่ถึงว่าดาวจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ ดาวได้ทีคว้ามือของเดือนขึ้นมาบีบคอตัวเองแล้วโวยวายเสียงดัง
ไเดือนอย่า อย่าทำฉัน เดือน ช่วยด้วยเจ้าค่ะ...ช่วยด้วย"
หาญได้ยินเสียงหันไป
"นั่นขอรับ แม่เดือนกำลังตบตีคุณดาวอยู่นั่นขอรับ"
"อย่านะฉันกลัวแล้ว ฉันยอมแล้ว ฉันกำลังท้องลูกคุณหาญอยู่นะ อย่า...ทำฉัน"
เดือนตกตะลึงงงกับสิ่งที่ดาวพูดดาวทำ ดาวเหลือบเห็นหาญเข้ามาใกล้จึงดีดตัวเองออกจากเดือนทำทีว่าเดือนผลักตกน้ำ โครม!
"อ๊าย"
เดือนยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ดาวผลุบๆโผล่อยู่ในน้ำ หาญตะลึงไม่อยากเชื่อ
"แม่เดือน"
ดาวตะเกียกตะกายพุ้ยน้ำอยู่ร้องเรียกหาญ
"คุณหาญช่วยด้วยเจ้าค่ะ"

เมฆรีบโผลงไปช่วยพาดาวขึ้นตลิ่ง เดือนยืนนิ่ง หาญมองเดือนด้วยความไม่เข้าใจ

เดือนลงนั่งกับพื้น ดาวมีผ้าคลุมตัวเพิ่งขึ้นจากน้ำ ดาวเดินเข้ามาหาหาญ ออเซาะทันที

"คุณหาญต้องจัดการลงโทษนังเดือนให้อิฉันนะเจ้าคะ"
"แต่บ่าวไม่ได้ทำนะเจ้าคะ บ่าว..."
" ไม่ทำแล้วฉันจะตกน้ำไปได้อย่างไรกันนังเดือน"
ดาวลงไปนั่งกระซิบขู่ "อย่าลืมสิ ฉันจะสั่งเป็นสั่งตายใครก็ได้ ถ้าแกทำให้ฉันไม่พอใจ"
หาญเบือนหน้าหนี บ่าวไพร่วิ่งนำเอื้อย ชื่นมาที่ลานโบยได้ยินสิ่งที่ดาวกล่าวก็ตกใจ
"นังเดือนมันกะจะฆ่าลูกของคุณหาญทั้งคน คุณหาญยังนิ่งเฉยอยู่ได้รึเจ้าคะ ถ้าคุณ หาญไม่ลงโทษมันอิฉันก็จะจัดการเอง ... นายเมฆโบยมัน"
"ขอรับ"
"เดี๋ยว อย่าถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือกันเลยเราขอล่ะ แม่ดาว"
"เห็นทีอิฉันคงยอมไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหาญก็เห็นว่า อิฉันโดนมันทำร้าย ลำพังตัวอิฉันเองไม่เท่าไหร่แต่นี่มันทำได้ทั้งที่รู้ว่าอิฉันอุ้มท้องลูกคุณหาญอยู่ หากปล่อยไปบ่าวไพร่ในเรือนมิเอาเป็นเยี่ยงอย่างดอกรึเจ้าคะ นังเดือนบอกคุณหาญไปสิว่าแกทำร้ายฉันจริงๆ พูดสิ"
เดือนกล้ำกลืน
"เจ้าค่ะ"
"เห็นไหมเจ้าคะ นายเมฆลากมันไปลงหวาย"
"ขอรับ"
เมฆลากเดือนมากลางลาน เดือนน้ำตาไหลไม่สามารถพูดในสิ่งที่อยากพูดได้ เพราะเกรงว่า ดาวจะฆ่าทุกคน เดือนจำใจปล่อยให้เมฆลากมากลางลานเพื่อลงหวาย
ชื่นกับเอื้อยสงสารเดือนแต่ไม่กล้าพูดอะไร เพราะคุณหาญที่ยืนอยู่ยังไม่ห้ามแสดงว่าต้องผิดจริง
เมฆลงหวายที่หลังเดือน ฟั่บ..! เดือนเจ็บ
"แรงกว่านี้มันจะได้หลาบจำ"
เมฆลงหวายอีกครั้ง ฟั่บ !! หาญเบือนหน้าหนีไม่อาจทนมองได้
เมฆเฆี่ยนตามคำสั่งดาวอีกทีสองที
บ่าวในเรือนวิ่งนำมั่นกับฟ้าหยาด และบุษบาบรรณมาจากเรือนใหญ่เข้ามาที่ลาน มั่นเห็นดาวถูกเมฆเฆี่ยนก็โกรธตรงเข้าไปชกเมฆจนเซออกไป
"ไอ้เมฆ"
บุษบาบรรณเห็นเดือนถูกลงโทษจะเป็นลม เอื้อยรีบเข้ามาประคองไว้ ฟ้าหยาดมองสภาพเดือนก็โกรธ
"นี่มันเรื่องอะไรกันทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย"
ฟ้าหยาดเข้ามาประคองเดือน ดาวเดินมาอวดเบ่ง
"นังเดือนมันทำผิดมันก็ต้องรับผิด"
"หากผิดก็ควรต้องให้เจ้าบ้านเป็นผู้ลงโทษสิ มิใช่ใครก็ได้จะมาสั่งให้ลงหวายได้ ตามอำเภอใจ"
"เจ้าคงลืมไปกระมังว่าเจ้าสัวประกาศลั่นเรือนว่าฉันมีศักดิ์และศรีเทียบเท่าคุณบุษบาบรรณ เพราะฉะนั้น ฉันจะสั่งให้เฆี่ยนให้โบยใครต่อใครก็ย่อมได้"
ฟ้าหยาดอึ้ง
"นายเมฆเอานังเดือนไปขังไว้ก่อน โทษของมันยังไม่หมด รอให้ข้าหายเจ็บก่อน ข้าจะมาชำระความใหม่ หากลูกในท้องข้าเป็นอะไรไปเจ้าสัวไม่เอาเจ้าไว้แน่นังเดือน"
เมฆพาตัวเดือนออกไป บุษบาบรรณมองเดือนสงสารจับใจ สังเกตเห็นหาญมองเดือนด้วยสายตาเศร้ายิ่งนัก เธอก็ยิ่งช้ำใจ
ดาวเดินเชิดออกไป ฟ้าหยาดคิดไม่ถึงว่า ดาวจะร้ายได้ขนาดนี้

ในเวลาต่อมา ประตูห้องเจ้าสัวถูกเปิดออก เจ้าสัวกึ่งนั่งกึ่งนอนที่เตียงเหลือบมองฟ้าหยาดก้าวพรวดเข้ามา เว่ยชิงตามมาห้าม
"อาฟ้าหยาดใจเย็นๆอย่าไปกวนใจท่านเลย อาฟ้าหยาด"
"ปล่อยอั๊วนะอาเว่ย อั๊วไม่ได้มากวนใจเจ้าสัวหรอกน่า อั๊วมีเรื่องต้องคุยกับเจ้าสัว"
เจ้าสัวได้ยินที่น้าหลานพูดกันก็เลยพูดออกไป
"อาเว่ยปล่อยฟ้าหยาดเข้ามาเถอะ"
"เจ้าค่ะ"
ฟ้าหยาดเดินตรงไปที่เตียงเจ้าสัว
"เจ้าสัวจะปล่อยให้คนในบ้านตัดสินความผิดกันเองมิได้นะเจ้าคะ"
"เดี๋ยวก่อน มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึ"
"แม่ดาวสั่งโบยแม่เดือนอ้างว่าถูกแม่เดือนทำร้าย แล้วยังอ้างอีกว่าเจ้าสัวให้อำนาจ กับแม่ดาว แบบนี้มันไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ ใครจะมามีอำนาจเหนือเจ้าบ้านไม่ได้มิใช่รึเจ้าคะ"
เจ้าสัวชื่นชมในความกล้า ที่พูดในสิ่งที่ไม่มีใครเคยพูดมาก่อน
"แล้วเจ้าจะให้เราทำเยี่ยงไรล่ะ"
"เจ้าสัวต้องเรียกมาสอบความทั้งสองฝั่งถึงจะถูกต้องเจ้าค่ะ"
เว่ยชิงเห็นท่าทีว่า ฟ้าหยาดสอนงานเจ้าสัวซะแล้ว เกรงเจ้าสัวไม่พอใจ รีบเข้าไปหยิกฟ้าหยาด
" นี่แน่ะ อาฟ้าหยาดลื้อจะไปแส่เรื่องในใต้หล้าของอีทำไมกัน"
ฟ้าหยาดขยับตัวหนี พูดเสียงดัง
"อั๊วทนไม่ได้หรอกนะ หากจะมีใครมาทำร้ายกันในเรือนนี้โดยไม่ถูกไม่ควร อำนาจ มันควรจะอยู่กับคนที่ใช้มันเป็นถึงจะถูกจริงไหมเจ้าคะ เจ้าสัว"

เจ้าสัวยิ้มกรุ่มกริ่ม ในความคิดแม่นางฟ้าหยาดช่างเหมาะกับการเป็นนายใต้หล้าเหลือเกิน
 
อ่านต่อหน้า 3

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 21 (ต่อ)

ดาวเดินเข้ามาที่เรือนครัว แอบใส่ยาหยดลงไปในหม้อที่ 1 หม้อที่2 แล้วยิ้มร้าย จากนั้นเดินมาที่สำหรับอาหารที่จัดไว้แล้ว สำรับของบุหงา และสำรับของบุษบาบรรณ ดาวเทยาลงไปในอาหารทั้งสองสำรับ เหลือสำรับที่ 3

เสียงคนเดินมาดาวรีบเก็บยาเข้าพก ทำทีเป็นยกถ้วยอาหารที่อยู่สำรับที่ 3 ขึ้นมาชิม
เอื้อย ชื่น หน้าเศร้าเดินเข้ามา พอเห็นดาวอยู่ในครัวแปลกใจ เอื้อยตรงเข้ามาหาดาวทันที
"นังดาวแกเข้ามาที่นี่ทำไม"
"อะไรกันน้าเอื้อย พูดจากับฉันให้มันดีๆหน่อย ไม่เห็นตัวอย่างนังเดือนหรอกรึ"
เอื้อยโมโห ชื่นพยายามสะกดอารมณ์ไว้
เอื้อยแสร้งประชด
"แล้วคุณดาวเสด็จลงมาที่นี่ทำไมเจ้าคะ"
" ฉันก็ลงมาตรวจตราอาหารดูน่ะสิ ฉันไม่ไว้ใจกลัวว่าบ่าวไพร่แถวนี้ มันจะใส่ยาให้ฉัน"
ชื่นพูดโพล่งออกไป
"ใครมันจะคิดร้ายเหมือนเอ็งล่ะนังดาว"
"ยิ่งยืนอยู่ใกล้สำรับของคุณๆฉันยิ่งไม่ไว้ใจ"
"ก็เททิ้งไปเสียสิ"
เอื้อยมองดาวแล้วยกสำรับเททิ้งดังที่ดาวบอก
"อี๊...มันจะมากไปแล้วนะ"
"ไม่มากหรอกโว้ยเพราะข้าไม่ไว้ใจคนอย่างเอ็ง"
"ก็ตามใจ" ดาวยกสำรับที่ 3 ขึ้นมา "สำรับนี้ของฉันกับคุณหาญเดี๋ยวฉันเอาไปเอง"
ดาววางท่าทางเชิดๆเดินผ่านเอื้อยไป
"อีคางคก ร้ายนัก"
เอื้อยจัดแจงตักอาหารหารใหม่ ดาวสะใจที่เห็นเอื้อยตักแกงในหม้อที่ใส่ยาลงไป ดาวทำทีเป็นโกรธเดินออกไปแล้วแอบมองอยู่มุมหนึ่ง
เจียมเดินเข้ามาถามหาอาหารเจ้านาย
"สำรับคุณบุหงาล่ะนังเอื้อย"
"ถ้ายังมีมือมีตีนอยู่ก็มาตักเอาเอง ข้าจะยกไปให้คุณบุษเธอ"
เอื้อยถือสำรับผ่านไป ดาวแอบมอง
เจียมตักเสร็จเดินถือออกมาพ้นเรือนครัว หยุดมองซ้ายขวาแอบชิมอาหารในสำรับบุหงา
"อาหารคุณบุหงาเดี๋ยวนี้คันคอพิลึก"
ดาวแอบมองเจียมนึกสะใจ
"มีหน้าล่ะอีนังบุหงาถึงไม่ล้มหมอนนอนเสื่อสักที อีเจียมนะอีเจียม"
ดาวมองเจียมอย่างเจ็บใจ

เดือนที่โดนเฆี่ยนดูบอบช้ำมากเกาะหน้าต่างที่เป็นซี่ไม้มองดูดวงจันทร์ด้วยสายตาที่เศร้าหมอง
หาญแอบมาเยี่ยมเดือนที่ถูกขังอยู่ในห้องเก็บของ
"โถ...แม่เดือน"
หาญยื่นมือลอดลูกกรงลูบแก้มเดือนเช็ดน้ำตา เดือนจะขยับตัวหนี หาญจับไว้
"อย่าหนีเราเลยนะแม่เดือน"
บุษบาถือยาสมุนไพรมาจะเข้ามาหาเดือนเห็นภาพตรงหน้าชะงักงัน น้ำตาริน
เอื้อยเดินย่องเข้ามาที่หน้าห้องพวงแก้ว เอื้อยมองซ้ายขวาก่อนเคาะประตู
"คุณแก้วเจ้าคะ"
"ใครน่ะ"
"อิฉันเองเจ้าค่ะ"
เสียงเปิดประตู พวงแก้วโผล่มองที่หน้าประตูเห็นเอื้อย แก้วมองซ้ายขวาก่อนจะเอ่ยปากถาม
"เป็นไงได้เรื่องไหม"
เอื้อยพยักหน้า
"ได้เจ้าค่ะ นังตาดมันยอมบอกแล้วเจ้าค่ะว่าลูกของนังบุหงาเป็นใคร"
"ใครกัน"
เอื้อยเข้าไปป้องปากกระซิบข้างหูพวงแก้วเกรงว่าใครจะมาได้ยิน เธอตกใจพร้อมกับใช้ความคิด
เจ้าสัวแสนเดินเข้ามา พวงแก้วแปลกใจ
"คุณพี่มาถึงนี่มีอะไรให้อิฉันรับใช้รึเจ้าคะ"
"ฉันจะแวะมาบอกหล่อนว่าให้เตรียมตัวไห้ดี พรุ่งนี้ฉันจะแจ้งข่าวให้รู้กันทั่วทั้งใต้หล้า"
"เรื่องอะไรรึเจ้าคะ"
"เดี๋ยววันพรุ่งหล่อนก็รู้เอง"
เจ้าสัวเดินกลับไป แก้วมองตามคิดๆแล้วเริ่มยิ้มมีแผน
"จริงสินะวันพรุ่งจะได้รู้ทั่วกัน"
แก้วยิ้มเหนือ

วันใหม่ บ่าวไพร่อื้ออึงว่าวันนี้ท่านเจ้าสัวจะแจ้งข่าว บ่าวไพร่วิ่งโร่ไปหานายแต่ละบ้าน เอื้อยประคองพวงแก้วออกมาจากเรือน เจียมไปบอกนายสาว บุหงาตาโต ชื่นไปแจ้งฟ้าหยาดกับเว่ยชิง หาญกับบุษบาบรรณออกมาจากห้อง กล้าออกมาจากห้องไปยังโถงกลาง ดาวออกมาจากห้อง
 
เดือนแอบดูผ่านรูช่องจากห้องขัง เห็นบ่าวไพร่พูดคุยกันก็มองด้วยความสงสัย

สายฝนนั่งจับเจ่าอยู่มุมหนึ่ง ขยำขยี้ดอกไม้ เพ้อเจ้อบ่นด่ากล้า

"ฉันเกลียดแกไอ้กล้า แกแย่งพี่หยกไปจากฉัน ฉันเกลียดแกได้ยินไหมฉันเกลียด แก"
สายฝนอารมณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆกรี๊ดออกมา สลับกับร้องไห้ ขยี้ดอกไม้
ฟ้าหยาดได้ยินเสียงเดินเข้ามาหา
"มองอะไร"
"สภาพเยี่ยงนี้ใครกันจะอยากมอง"
"อ๊าย อีบ้า ออกไปนะ ไป"
สายฝนกรี๊ดไล่ฟ้าหยาด
"ฉันไม่ได้อยากจะอยู่ใกล้หล่อนนักหรอก เจ้าสัวให้ฉันมาตามหล่อนไปพบ"
สายฝนปรี๊ด
"คุณพ่อยังเห็นฉันเป็นลูกอยู่อีกรึ ตั้งแต่แกก้าวเข้ามาในใต้หล้าคุณพ่อไม่เคยเอ่ยปากเรียกหาฉันสักครั้ง แกก็อีกคนแย่งคุณพ่อไปจากฉัน อ๊าย...ออกไป"
ฟ้าหยาดตวาดเสียงดัง
"หยุดได้แล้ว หล่อนจะมานั่งพล่ามให้ได้อะไรขึ้นมา ทำไมไม่เอาเวลาที่ด่าคนอื่นไปทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้างจะได้หยุดฟุ้งซ่านเสีย"
"อย่าเสอะมาสอนฉันนะ หล่อนมันก็แค่นังช๊อกการีไม่มีอะไรมาเทียบฉันได้หรอก"
"แล้วหล่อนจะได้เห็นว่าฉันกับหล่อน มันไม่ต่างกันหรอก"
ฟ้าหยาดจ้องดุดันก่อนเดินจากไป สายฝนมองอย่างกลัวๆ

เจ้าสัวแสนลงนั่งที่หัวโต๊ะ ทุกคนนั่งพร้อมหน้าพร้อมตาไล่ตั้งแต่นายยันบ่าว
"วันนี้เป็นวันดีที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ข้ามีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนได้ รับรู้ทั่วกัน"
ทุกคนงุนงง บุหงาอยากรู้
"เรื่องอะไรรึเจ้าคะ"
เจ้าสัวยิ้มดูสดชื่น
"ข้าจะจัดงานมงคลให้กับแม่ฟ้าหยาด"
บุหงาตกใจสุดขีดเข้าใจว่าจะเอาทำเมีย ฟ้าหยาดนิ่งไม่แสดงอาการใดๆออกมา เพราะอยากรู้ว่าบุหงาจะทำเช่นไร
"ไม่ได้นะเจ้าคะ นังฟ้าหยาดจะแต่งกับเจ้าสัวไม่ได้เด็ดขาด อิฉันไม่ยอม"
ทุกคนนิ่งงัน พวงแก้วแอบยิ้มขำ เว่ยชิงอยู่ไม่สุข
"ข้ายังไม่ได้พูดสักคำว่า แม่ฟ้าหยาดจะแต่งกับข้า"
ทุกคนมองกันงงๆ บุหงาที่ร้อนใจอยู่ พลอยแปลกใจไปด้วย
"ข้าจะจัดงานมงคลระหว่างแม่ฟ้าหยาดกับพ่อกล้าต่างหากเล่า"
ฟ้าหยาดนิ่งไป กล้าตกใจแต่ไม่ทันจะพูดอะไร ก็มีเสียงคัดค้านของบุหงาดังขึ้นมาทันที
"ไม่ได้ นังฟ้าหยาดจะแต่งกับใครในใต้หล้านี้ไม่ได้"
"อั๊วขอร้องล่ะเจ้าสัว อย่าจับอาฟ้าหยาดแต่งงานกับใครในใต้หล้านี้อีกเลย" เว่ยชิงบอก
เจ้าสัวแปลกใจ ทำไมทั้งสองคนคัดค้าน
"ที่ข้าเห็นดีเห็นงามจะจัดงานมงคลนี้ขึ้น ก็เพื่อพ่อกล้าจะได้เป็นชายสมชาย และหายจากอาการวิปริตชอบพอเพศเดียวกันเสียที"
"ไม่นะเจ้าคะ" เว่ยชิงว่า
"อิฉันไม่ยอม เจ้าสัวจะทำเยี่ยงนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ"
"แต่งกับข้าก็ไม่ยอม แต่งกับพ่อกล้าก็ไม่ยอม เหตุผลของหล่อนคืออะไรรึแม่บุหงา"
บุหงากับเว่ยชิงอ้ำอึ้ง ฟ้าหยาดโพล่งออกไป
"เพราะข้าเป็นลูกเจ้าสัวกับคุณบุหงาใช่ไหม"
เจ้าสัวและบุหงาต่างอึ้งไป เว่ยชิงคิดไม่ถึงว่า ฟ้าหยาดจะรู้แล้ว
"นี่มันอะไรกัน" เจ้าสัวถาม
บุหงาโกรธเลือดขึ้นหน้า
"แกอย่ามาพูดปด แกจะมาเป็นลูกฉันได้ยังไง นังหน้าด้าน อย่าไปฟังมันนะเจ้าคะ มันไม่ใช่ลูกอิฉันเจ้าค่ะ"
เว่ยชิงเห็นสันดานบุหงาอีกครั้งก็ทนไม่ได้
"อั๊วทนไม่ไหวแล้ว ท่านเจ้าสัว อั๊วขอยืนยันว่า อาฟ้าหยาดเป็นลูกแท้ๆของแม่บุหงากับเจ้าสัวเจ้าค่ะ"
"แกโกหก แกรวมหัวกันโกหก พวกแกคิดทำลายฉันทำไม"
"ใครกันแน่ที่โกหก เลือดในอกลื้อแท้ๆ ลื้อยังผลักไสออกไปตั้งแต่อ้อนแต่ออก ตอนนี้ยังจะมีหน้ามาหาว่าอั๊วโกหกอีก"
บุหงาเข้าหาเจ้าสัวลนลาน
"ไม่จริงนะเจ้าคะ เจ้าสัวอย่าไปเชื่อมันนะเจ้าคะ อีเว่ยชิงกับนังฟ้าหยาดมันปั้นน้ำเป็นตัว มาหลอกเจ้าสัวเจ้าค่ะ"
เจ้าสัวฟังนิ่งเลือดขึ้นหน้ากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
"อะไรกันเนี่ย ทุกคนพูดความจริงกับข้ามาเดี๋ยวนี้"
"อิฉันพูดจริงเจ้าคะ อิฉันมิได้ปดท่านเจ้าสัวนะเจ้าคะ มันสองคนต้องการทรัพย์สมบัติของท่าน"บุหงาลนลาน
"ท่านเจ้าสัวจำไม่ได้รึเจ้าคะ อิฉันคลอดลูกมาเป็นชายตายตั้งแต่แรกเกิด เจ้าสัวลืมแล้วรึเจ้าคะ หาใช่ลูกหญิงไม่ ... ใช่ไหมนังเจียม"
"เจ้าค่ะ ลูกชายที่ฝังอยู่ชายป่ายังไงล่ะเจ้าคะ"
เสียของยายตาดลอยเข้ามา
"ไม่จริง"

ทุกคนหันไปมอง เอื้อยพายายตาดเข้ามา
 
อ่านต่อหน้า 4

ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 21 (ต่อ)

ยายตาดจ้องหน้าบุหงาเขม็ง บุหงาตกใจแทบช็อก เจียมเองก็เช่นเดียวกัน

"นังบุหงาคลอดลูกเป็นหญิงข้าเป็นคนทำคลอดกับมือ แต่มันกลับรังเกียจที่ลูกเป็นหญิงและสั่งให้นังเจียมเอาเด็กไปทิ้งพร้อมกับปิดปากข้า" ตาดเปิดแผลที่หน้าหันไปทางเจียมกับบุหงา "ข้าเจ็บเพราะแผลนี่เท่าไหร่แกสองคนจะต้องเจ็บมากกว่าเป็นทวีคูณ"
ความจริงถูกเปิดเผย พวงแก้ว เอื้อยหน้านิ่ง สะใจ ทุกคนตะลึง
"อย่าไปเชื่อมันนะเจ้าคะ"
"จริงตามที่ยายตาดพูดเจ้าคะ เด็กที่อีเจียมเอามาทิ้งไว้กับข้านั่นก็คือฟ้าหยาดเจ้าค่ะ"
พวงแก้วรีบเข้ามาเสริม
"เห็นที น่าจะเป็นความจริงตามที่นังตาดพูดนะเจ้าคะท่านเจ้าสัว เพราะเท่าที่อิฉันจำได้ เราไม่เคยเห็นศพลูกชายแม่บุหงาเลย แล้วนั่นก็เป็นเรื่องแคลงใจพวกเราตั้งแต่ครั้งนั้นมาเลยนะเจ้าคะ"
บุหงาดิ้นไม่หลุด ร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียงเพราะรับไม่ได้
"อ๊าย...! ไม่ พวกแกทำร้ายฉัน ไม่ !"
แสนชี้หน้าบุหงาด้วนความโกรธจัด
"หยุด !นังบุหงา แกกล้าโกหกข้ามาเกือบ20ปี แกทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้เยี่ยงไร ไป ! ไสหัวออกไปจากใต้หล้าเดี๋ยวนี้ ข้าไม่อยากเห็นหน้า ไป ออกไป ไอ้อ่ำจับตัวนังนี่ออกไป"
"ไม่นะเจ้าคะ" บุหงาเข้าไปเกาะขา เจ้าสัวสะบัดออก "คุณพี่ ช่วยน้องด้วยเจ้าค่ะคุณพี่" พวงแก้วมองเหยียดหันหน้าหนี
แสนตะโกนสุดเสียง
"ลากคอมันออกไป ทั้งนาย ทั้งบ่าวอย่าให้เข้ามาเหยียบใต้หล้าอีกเป็นอันขาด ออกไป"
อ่ำ กับบ่าวชาย เข้ามาดึงบุหงาออก สายฝนห้ามยื้อไว้ บ่าวไพร่ชายคนอื่นลากตัวเจียมออกไป เสียงเอะอะชุลมุลวุ่นวาย
"คุณแม่ อย่าทำอะไรคุณแม่นะ คุณพ่อใจร้ายผลักไสไล่ส่งคุณแม่ ลูกไม่ขออยู่ที่นี่ ลูกจะไปกับคุณแม่"
"ไม่ได้ ถ้าแกออกไป แกกับฉัน..."
แสนพูดไม่จบ ทรุด !!! มั่นเข้าไปช่วยประคอง พวงแก้วหันไปสั่งเอื้อย ชื่น
"จับตัวสายฝนไว้ อย่าให้ออกไปได้หล่ะ"
พวงแก้ว กล้า หาญ บุษบาบรรณรีบพาแสนเข้าไปในห้อง ฟ้าหยาดมองตามเป็นห่วง

ผ่านเวลา ทุกคนนั่งรอดูอาการของเจ้าสัวอยู่หน้าห้อง
เว่ยชิงหันมาซักฟ้าหยาด
"ลื้อ รู้มานานแค่ไหนแล้วเรื่องลื้อเป็นลูกสาวของท่านเจ้าสัว"
"รู้ตั้งแต่วันแรกที่มาเหยียบที่ใต้หล้าแห่งนี้แล้วหล่ะ"
"ไอ๊หยา !! แล้วทำไมลื้อไม่พูดออกมา"
"ฉันก็แค่อยากลองใจท่านเจ้าสัว อยากรู้ว่าการมีลูกสาวมันน่ารังเกียจตรงไหน แล้วทำไมถึงรักแต่ลูกชาย"
พวงแก้วเหน็บฟ้าหยาด
"ทำให้พ่อตัวเองล้มเจ็บ แม่ตัวเองโดนไล่ออกจากบ้าน ยังมีหน้ามาอยู่ตรงนี้อีกเหรอ"
ฟ้าหยาดย้อน
"คุณเองก็ช่วยทำร้ายเจ้าสัวไปในคราวเดียวกันไม่ใช่เหรอเจ้าคะ ความเจ็บปวดของผู้หญิง จะเป็นเมีย เป็นแม่ หรือเป็นลูก มันน่ากลัวอย่างนี้สินะเจ้าคะ "
พวงแก้วสะเทือน แต่เยือกเย็น มั่นออกมาจากห้องเจ้าสัว
"เจ้าสัวฟื้นแล้ว เรียกหาลูกขอรับ"
กล้ากับหาญมองหน้ากันจะลุกขึ้นเข้าไป
"มิได้ขอรับ ท่านเจ้าสัวเรียกหาลูกสาว... คุณฟ้าหยาดขอรับ"
ฟ้าหยาดนึกไม่ถึงว่า เจ้าสัวจะเรียกตัวเองว่าลูก

แสนนอนอยู่ที่เตียง หลับตามีน้ำตาซึมๆที่ปลายตา ฟ้าหยาดนั่งลงที่พื้นใกล้ๆเตียงที่แสนนอน
"เจ้าสัวมีอะไรให้อิฉันรับใช้รึเจ้าคะ"
"ทำไมเจ้าไม่บอกข้าเสียตั้งแต่แรก จนทุกอย่างมันเกือบจะสายเกินไป"
"แต่ก็ยังไม่สายมิใช่รึเจ้าคะ ชะตาฟ้าลิขิตมาอย่างไรเสีย เราก็ฝืนดวงไม่ได้มิใช่รึเจ้าคะ"
ฟ้าหยาดพูดเหน็บแสน
"ก็คงอย่างงั้น เหมือนเจ้าที่เป็นสายเลือดของข้า ฟ้าหยาด...พ่อ พ่ออาจย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ แต่พ่อขอชดใช้ด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ของพ่อ พ่อจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีความสุขในใต้หล้าแห่งนี้"
"ความสุขของฟ้าหยาดมิใช่การที่ได้อยู่ใต้หล้าแห่งนี้ หากแต่สุขที่จะได้ถูกยอมรับกับตัวตนที่ถูกปกปิดมานานเจ้าคะ ฟ้าหยาดดีใจที่ท่านเจ้าสัวยอมรับฟ้าหยาดเป็นลูกของท่านเจ้าคะ"
แสนพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง
"หากสิ่งไหนที่พ่อทำลงไปแล้วทำให้ใจของลูกเป็นทุกข์เจ้าจงยกโทษให้กับพ่อด้วยเถิด พ่อขอโทษนะลูก"
ฟ้าหยาดน้ำตาไหลก้มลงกราบแทบเท้า
"ลูกกราบขอโทษในสิ่งที่ลูกทำไปด้วยนะเจ้าคะ"
แสนเอามือลูบหัวฟ้าหยาดด้วยความเอ็นดู
"ฟ้าหยาดลูกพ่อ"
ฟ้าหยาดยิ้มรับ ทั้งสองคนน้ำตาไหลด้วยความปราบปลื้มในใจ

วันใหม่ สายฝนนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในมุมหนึ่ง กล้าเดินผ่านมา สงสาร เข้าปลอบ
"ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะ"
สายฝนตาขวาง
"จะให้ฉันอยู่กับใครได้อีก ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว หากจะมาเยาะเย้ยล่ะก็ ออกไปเลยนะ ไป"
กล้ามองสายฝนระอาใจ
"หากน้องคิดว่าไม่เหลือใคร น้องก็จะไม่เหลือใครเลยจริงๆ"
"อ๊าย....ออกไป ไอ้บ้า ออกไป"

กล้าออกไป สายฝนร้องไห้เป็นบ้าอยู่คนเดียว

เจียมเดินโซซัดโซเซมาตามตลาด โดนชาวบ้านรุมประณาม สาปแช่ง เจียมหนี มองหาเจ้านาย

"คุณบุหงา คุณบุหงาจะไม่ทิ้งอีเจียมใช่ไหมเจ้าคะ คุณบุหงา"
เจียมเดินเข้าไปในตรอกร้าง มองหาเจ้านาย แต่ไม่มีวี่แวว
"คุณบุหงาอย่าทิ้งอีเจียมนะเจ้าคะ"
เจียมไม่เจอ จะเดินออกหันออก เจอตาดในระยะประชิด
"อ๊าก"
เจียมตกใจผงะล้มลงด้วยความกลัว
"มึงกลัวกูรึอีเจียม"
เจียมกลัวลนลานถอยหนี ตาดยกมีดขึ้นมาชู
"อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันไหว้ล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่รู้เรื่อง"
ตาดหัวเราะ
"ปล่อยมึงงั้นเหรอ ฮ่าๆ ทีมึงยังไม่ปล่อยกูเลย คนอย่างมึงต้องตายเท่านั้น"
ตาดจะจ้วงมีดแทง เจียมสู้
"อย่านะอีตาด"
แย่งมีดกันไปมา ตาดเกือบจะพลาดท่า ตาดคว้าหินได้ฟาดไปที่หน้าเจียมเจียมล้มคว่ำเงยหน้ามาเลือดอาบหน้า ตาดคว้ามีดได้กระซวกแทงเจียม
"อ๊าก"
"มึงเคยฆ่ากูแบบนี้ แต่กูจะไม่ปล่อยให้มึงรอดไปได้เหมือนกูเด็ดขาด อีเจียม"
ตาดกระซวกแทงอีกครั้งและอีกครั้ง
เจียมตาค้างร่างรูดลงกองกับพื้น ตาค้าง ชักกระตุก ตาดจ้องมองเครียดแค้น
แล้วคว้าหินก้อนเดิมฟาดไปที่หน้าเจียมอีกครั้ง ฟึ่บ !
เจียมขาดใจตายใบหน้าเละจมกองเลือด ตาดทิ้งก้อนหินลงพื้น ถ่มน้ำลายซ้ำเดินออกไป

ฝ่ายบุหงานั้นเดินแอบๆหลบๆ มาตามตรอกเล็กๆ สภาพของบุหงาในตอนนี้ไม่มีราศี ไม่รู้พึ่งใคร เมื่อโรงน้ำชาแห่งหนึ่ง จึงตัดสินใจเดินเข้าไป
"โรงน้ำชายังไม่เปิด ลื้อมาหาใคร"
บุหงายิ้มหวานให้
"คือ ฉันจะมาของานทำน่ะ"
เจ้าของร้านมองบุหงาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วส่ายหน้า หัวเราะเยาะ
"นางโลมที่นี่มีแต่สาวแรกแย้มทั้งนั้น พวกแย้มฝาโลงที่นี่ไม่รับหรอก แก่หนังเหี่ยวปูนนี้แล้ว ไปเข้าวัดเข้าวาเถอะ อย่ามาเป็นนางโลมเลย"
"ฉันไม่ได้มาเป็นนางโลม ฉันแค่มาของานทำ ขอแค่พักอาศัยเท่านั้น จำฉันไม่ได้รึ"
เจ้าของร้านจ้องหน้าบุหงาชัดๆ
"อ๋อ...นึกว่าใคร นังช็อกการีที่ได้ดีแล้วลืมคุณคนนั่นเอง เรื่องฉาวโฉ่ของลื้อเค้าลือไปทั้งพระนครแล้ว ไม่มีที่ไหนเค้าต้อนรับหรอก ไป๋ ออกไปไป เกะกะร้าน ไป"
เจ้าของร้านไล่บุหงาเหมือนหมูหมา บุหงาเจ็บใจ

บุหงาเดินออกไป โจรมองหาเหยื่อ เห็นบุหงามีสร้อยที่คอก็ตรงเข้ากระชาก
"อ๊าย..! ช่วยด้วย ช่วยด้วย โจรขโมยสร้อยฉันช่วยด้วย"
บุหงาร้องเรียกและวิ่งตามโจรไป แต่ไม่มีวี่แววว่าใครจะช่วย
"ไอ้บ้า หมดกันฉันไม่เหลืออะไรแล้ว"
บุหงาทรุดลงนั่งกับพื้น ช้ำใจกับชะตากรรม
"ทำไมฉันต้องมาตกต่ำเยี่ยงนี้ ทำไม"
สีหน้าบุหงาเครียดจัดนึกถึงหน้ายายตาด
"อีตาด !"
บุหงาเครียดแค้นสุดกำลัง ถามชาวบ้านแถวนั้น ชาวบ้านชี้ออกไปทางป่าบอกทางไปกระท่อมตาด

ตาดกลับเข้ามาในกระท่อม ตกใจเจอบุหงานั่งอยู่
"อีบุหงา"
"มึงทำให้ชีวิตกูตกต่ำ อย่าอยู่เลยมึง"
บุหงาจะฟาด ตาดเข้ามายื้อไม้ต่อสู้กัน บุหงาคว้าไม้ฟืนฟาดเข้าที่หน้าตาดอย่างแรง จนล้มฟุบลงตรงเตาไฟ บุหงาเข้ามาใกล้จะซ้ำ
ตาดคว้าฟืนที่ติดไฟแดงๆหันมาตวัดใส่โดนหน้าบุหงาไปซีกนึง
"อ๊าย"
บุหงาปิดหน้าปิดตาเพราะความร้อนของฟืนที่โดนหน้า บุหงาจับที่หน้ามีเนื้อยุ่ยติดนิ้วมา แค้นจัด
"อีตาดมึงทำกู มึงตาย"
"กูร้อนมึงก็ร้อนและเจ็บปวดยิ่งกว่ากู"
บุหงาคว้าเอาฟืนที่มีไฟร้อนๆทิ่มไปที่กลางลำตัวตาด ตาดดิ้นพราดๆเพราะความร้อน ควันแห่งความร้อนพวยพุ่งออกมาจากช่องท้องยาดตาด
เลือดทะลักจากปาก จมูกยายตาด ตาค้างเบิกโพลง บุหงากดขยี้ฟืนนั้นด้วยแรงแค้น ตาดสิ้นใจ
บุหงาหมดแรงปล่อยมือทรุดลงนั่งกับพื้นราวกับคนเสียสติ ใบหน้าของบุหงามีแผลที่เกิดจากความร้อนของฟืน
ตาดนอนตายอย่างอนาถกลางกระท่อม บุหงานั่งนิ่งงันราวกับคนเสียสติจ้องมองดูศพตาด

ฟ้าหยาดเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้เจ้าสัว กล้าเข้ามาแอบมองดูอาการเจ้าสัวอยู่มุมห้อง ยังไม่กล้าจะโผล่เข้าไป กลัวแสนจะโมโหอีก
ฟ้าหยาดลุกเดินไปหากล้า
"เข้ามาสิเจ้าคะ...พี่กล้า"
กล้าอึ้งๆเขินๆ ฟ้าหยาดยิ้มให้
"อิฉันขอเรียกคุณกล้าว่า พี่ นะเจ้าคะ"
กล้าพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ฟ้าหยาดจับมือกล้า พวงแก้วกับเอื้อยผ่านมาเห็นหยุดมองดู
"เข้าไปหาคุณพ่อด้วยกันนะเจ้าคะ"
"แต่ว่า คุณพ่อจะไม่พอใจเอานะ"
"หากพี่กล้าพอใจที่จะทำอะไรให้ท่านมากกว่าแอบมองอยู่เยี่ยงนี้ พี่กล้าก็ควรจะทำให้ คุณพ่อนะเจ้าคะ"
ฟ้าหยาดดึงมือกล้าเข้าไปในห้อง
ภายในห้องกล้าเข้ามาช่วยฟ้าหยาดพยุงเจ้าสัว สองคนช่วยกันเช็ดตัวให้เจ้าสัว เจ้าสัวมองกล้าด้วยสายตาที่อ่อนโยนลง กล้ายิ้มดีใจ ฟ้าหยาดมองสองคนยิ้ม

เสียงอ้วกของบุษบาบรรณดังมาหน้าห้องหาญ ดาวผ่านมาได้ยินเอะใจลองแง้มๆประตูเปิดเข้าไป
"ไม่สบายรึเจ้าคะ เสียงโอ้กอ้ากดังไปทั่วเรื่อนเชียว"
บุษบาบรรณนิ่งไม่อยากตอบ
"อุ๊ยตาย ไม่สบายถึงเพียงนี้แต่กลับไม่มีบ่าวไพร่มาดูแล แต่เอ๊ะคุณหาญก็ไม่ดูดำดูดีรึ เจ้าคะ โถๆๆๆ ช่างหน้าสงสารจริงๆ"
บุษบาบรรณไม่สนใจที่ดาวพูดจะลุกไปหยิบน้ำ ดาวเห็นแย่งมาเทให้
"ประเดี๋ยวอิฉันรินน้ำให้นะเจ้าคะ"
ดาวรินน้ำแล้วยื่นให้ บุษบาบรรณปัดแก้วน้ำทิ้ง
"ฉันไม่ต้องการ"
"แหม...อิฉันทำให้เพราะหวังดีนะเจ้าคะ เห็นไม่มีใครคอยดูแล"
"เก็บความหวังดีของหล่อนไว้เถอะ"
ก็ตามใจ คุณหาญก็ช่างกระไรเมียป่วยทั้งคนมัวแต่ไปสนใจทาส มันน่าน้อยใจนัก"
บุษบาบรรณข่มอารมณ์กัดฟันพูด
"ออกไป"
ดาวยิ้มเยาะมองสมเพชบุษบาบรรณก่อนออกไป

ชื่นเดินถือข้าวมายังโรงเก็บของที่ขังเดือนอยู่ ชื่นมาเรียกเดือนตรงช่องไม้
"เดือน เดือนแม่เอาข้าวมาให้ลูก"
เดือนไม่โผล่มา ชื่นเรียกอีก
"เดือน...เดือน"
ชื่นแปลกใจชะโงกมองเห็นเดือนฟุบอยู่ที่พื้นท่าทางจับไข้หนาวสั่น ชื่นตกใจ พยายามจะเข้าไปหาทางเข้า แต่ประตูถูกคล้องประแจไว้
"ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที นังเดือนมันแย่แล้ว"
หาญมุ่งหน้ามาที่โรงไม้ ได้ยินรีบปรี่เข้าไปทันที ชื่นหันมาเห็นหาญ
"คุณหาญช่วยนังเดือนด้วยเจ้าค่ะ มันจับไข้"
หาญรีบชะโงกดูเห็นภาพเดือนหนาวสั่นไปทั้งตัว หาญหาไม้หรือจอบฟันประแจจนหลุด ถีบประตูเข้าไป
"แม่เดือน"
ตัวเดือนร้อนจี๋ เไม่รู้สึกตัว หาญช่วยอุ้มออกมา
"แม่เดือนๆๆ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะเราจะพาเจ้าไปหาหมอ"
บุษบาบรรณตั้งใจเดินมาหาเดือน เห็นภาพที่หาญอุ้มเดือนผ่านหน้าไป หาญพร่ำเรียกแต่ชื่อเดือนๆๆ

บุษบาบรรณยืนนิ่งงันน้ำตารินทรุดลงนั่งหมดแรงที่จะยืน
 
อ่านต่อตอนที่ 22
กำลังโหลดความคิดเห็น