รักต้องอุ้ม ตอนที่ 11
พิธานมองทีมงานที่กำลังเตรียมกล้องและไฟ แพทเป็นตากล้อง กีรติเป็นผู้ช่วย ทั้งสองกำลังเตรียมการถ่ายอยู่แถวมุมเครื่องบินและเทสต์กล้อง ลันตาเดินเข้ามาตรงหน้าพิธาน
ลันตาโมโหมาก "ทำไมคุณถึงเปลี่ยนนางแบบโดยไม่บอกฉัน"
พิธานยิ้มชิลๆ มาก "พี่อยากให้ทุกอย่างในดรีมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน พี่พยายามช่วยหนังสือของเรา"
"แบบนี้มันเรียกว่าก้าวก่ายค่ะ" ลันตาว่า
พิธานไม่ยี่หระ "มันเป็นความเหมาะสม ถ้าเราใช้ Guest เป็นนักบินแล้วใช้นางแบบอาชีพมันก็จะดูมาคนละทาง นักบินก็ต้องคู่กับแอร์โฮสเตส จริงไหม ลันต้องเรียนรู้ในการมองภาพรวมที่สมบูรณ์แบบ แต่ที่ลันดูไม่พอใจไม่ใช่เพราะพี่เปลี่ยนตัวนางแบบ แต่เป็นเพราะนางแบบคือคุณมะนาว ใช่ไหม?”
"คุณพูดเหมือนฉันกับมะนาวไม่ถูกกัน" ลันตาว่า
"ลันคงไม่รู้ตัวว่าสีหน้าของลันมันแสดงออกชัดแค่ไหนตอนที่เห็นคุณมะนาวพี่เลยสงสัยว่าลันกับคุณมะนาวจะมีปัญหาส่วนตัว ถ้ามันเป็นปัญหาจนทำงานส่วนรวมไม่ได้ พี่ก็จะเปลี่ยนตัวนางแบบ" พิธานบอก
"คุณรู้ดี..ว่ามันเป็นไปไม่ได้?....เพราะคุณคำนวณแล้วว่าเรามีเวลาที่น้อยมากสำหรับการทำงาน"
พิธานยิ้มพอใจ "งั้นตอนนี้คงถึงเวลาทำงาน ไม่ใช่เอาชนะคะคาน Dream รอการทำงานของลันอยู่"
ลันตาโมโหแล้วก็จะไปทำงาน
พิธานพูดขึ้นมา “Only an open heart will catch a dream.(คนที่ยอมเปิดใจเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริง)”
ลันตาชะงักแล้วหันกลับมามองด้วยสายตากร้าว "ฉันไม่ใช่คนใจแคบที่จะทำลายความฝันด้วยมือของฉัน"
“Great!....ผมชอบนะที่คุณเป็นProfessional”
"จำไว้นะคะ" ลันตายิ้มแต่เชือดด้วยความโกรธ "ครั้งนี้ครั้งเดียวที่ฉันจะยอม ...You can do anything but not everything!(คุณสามารถทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง!)”
พิธานยิ้มกวนตีน "ก็คอยดูกันไป Time to work….o.k?”
ลันตาเจ็บใจมากแต่ก็ต้องเดินออกไป พิธานยิ้มมองตามด้วยความพอใจที่ปั่นหัวลันตาได้
ลันตาเข้ามาเห็นมิ้งค์ที่ช่วยแต่งตัวให้กับสิปาดันซึ่งแต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วในชุดนักบิน มิ้งค์พยายามรูปซิปให้แต่ติดเล็กน้อย มิ้งค์เห็นลันตาแล้วก็ยิ่งสั่น
"เร่งแล้วใช่ไหมคะ อีกนิดเดียวค่ะพี่ลัน ซิปมันติด"
"ใจเย็น ๆยิ่งรีบมันยิ่งติด" สิปาดันว่า
มิ้งค์ยิ่งลนลาน ลันตาเห็นอาการมิ้งค์ก็เดินเข้าไปหา
"มาพี่ช่วย...”
ลันตาช่วยจับขยับซิปแล้วรูดขึ้นมาจนสุด ลันตาสบตากับสิปาดันที่มองมา ต่างคนต่างชะงักไป
มิ้งค์เห็นอาการลันตาก็กระแอม "สุดแล้วพี่"
"หะ?” ลันตางง
"ซิปน่ะรูปสุดแล้วค่ะพี่"
ลันตารู้สึกตัวก็ปล่อยมือจากซิปแล้วถอยห่างมามองสำรวจ
"พี่สิปาในเครื่องแบบ แบบไหนก็หล่อ" มิ้งค์พูดกับลันตา "เนอะพี่"
สิปาดันมองหน้าลันตา
ลันตาปลื้มนิด ๆ เขินหน่อยๆ "อืม...”
"แบบนี้ต้องถ่าย"
มิ้งค์เอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปสิปาดัน
"มิ้งค์ อย่าอัพไอจีนะ"
"ทราบแล้วค่ะ ลับสุดยอดก่อนหนังสือวางแผง มิ้งค์ถ่ายเก็บไว้ก่อนน่ะพี่ เอาไว้อวดหม่าม๊ากับเตี่ย งานแรกของมิ้งค์"
กิ๊กพามะนาวที่แต่งหน้าเสร็จแล้วเข้ามา
"หล่อมากเลยค่ะสิปา" มะนาวชม
สิปาดันยิ้มรับ มะนาวมองไปทางลันตา ลันตารู้ว่ามะนาวจงใจมองอย่างกวนประสาท
"กิ๊ก อีกนานไหม" ลันตาถาม
"นางแบบแต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วค่ะ เหลือแค่เปลี่ยนเสื้อ" กิ๊กบอก
"ถ้างั้นมิ้งค์พาพี่สิปาไปถ่ายเดี่ยวก่อน จะได้ไม่เสียเวลา" ลันตาบอก
มิ้งค์รับคำ "ครับผม"
มิ้งค์พาสิปาดันเดินออกไป
"รอแป๊บนะคะ เดี๋ยวกิ๊กไปหยิบชุดมาให้ค่ะ"
กิ๊กเดินออกไปทำให้เหลือแค่มะนาวกับลันตา
"ฉันจะอธิบายคอนเซ็ปท์ในการถ่ายแบบวันนี้" ลันตาพูด
มะนาวไม่ฟังแต่สวนอย่างตั้งใจจั่วประเด็นทันที "กลัวใช่ไหมที่เห็นฉัน"
ลันตาชะงักไปเล็กน้อย เธอมองหน้ามะนาวที่ยิ้มยียวนมาก แต่ลันตาก็ยังพยายามตั้งสมาธิเพื่องาน
"ธีมของหนังสือ...”
"เธอกับฉันมันคนละระดับกันก็สมควรที่เธอจะหดหัว" มะนาวว่า
ลันตาสุดทน "เทียบจากอะไรล่ะ ถ้าเป็นความหน้าหนาในการวิ่งไล่ตามผู้ชาย ฉันก็คงต้องกลัวเธอจริง ๆ ฉันไม่รู้ว่าเธอไปตีซี้คุณพิธานหรืออ้อนวอนเขายังไงถึงได้มาถ่ายแบบครั้งนี้ แต่บอกเลยว่าฉันเห็นความพยายามของเธอแล้วฉันรู้สึกอย่างเดียวคือ สมเพช"
"มั่นใจมากสินะว่าจูงจมูกสิปาได้" มะนาวว่า
มิ้งค์วิ่งกลับเข้ามาจะมาเอาแว่นกันแดดแต่ก็ชะงักที่เห็นลันตากำลังเชือดเฉือนกับมะนาว
"ฉันไม่เคยต้องทำแบบนั้น เพราะสิปาไม่เคยไปไหน" ลันตาบอก
มะนาวเก็บอารมณ์และสวนอย่างใจเย็น "ก็เพราะเธอเป็นเพื่อนไง เขาถึงยังอยู่ คงคิดสินะว่าความรักของเธอมันบริสุทธิ์สวยงาม โลกสวย! สิปาน่ะเป็นเสือเขาทนได้ไม่นานหรอกนะ ถ้าเห็นเหยื่ออย่างฉัน นั่งมั่นใจอยู่บนหิ้งไปเถอะ เพราะคนที่นอนข้างเขาจะเป็นฉัน!”
ลันตาอึ้งแต่ยังไม่ทันจะเถียง กิ๊กก็เดินเข้ามาพร้อมกับชุด
"เปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะคุณมะนาว"
กิ๊กชะงักที่เห็นลันตากับมะนาวยืนจ้องหน้ากันภายใต้บรรยากาศที่มาคุมาก
มิ้งค์เห็นว่ากิ๊กเข้ามาก็รีบกลบเกลื่อน "พี่กิ๊กขอแว่นกันแดดให้พี่สิปาด้วยค่ะ วางอยู่ตรงกล่องโน้นน่ะค่ะ"
กิ๊กได้สติก็หยิบแว่นส่งให้มิ้งค์
"พี่ลัน พี่แพทเรียกให้ไปดูที่หน้าเซ็ทด่วน ๆ เลยพี่"
"กิ๊ก เปลี่ยนเสื้อผ้านางแบบให้เร็วที่สุด เราช้าไปมากแล้ว" ลันตาสั่ง
กิ๊กรับคำ "ค่ะ"
ลันตาเดินออกไป มิ้งค์รีบเดินตาม มะนาวมองตามอย่างสะใจ กิ๊กมองท่าทีของมะนาวอย่างสนใจ
สิปาดันถ่ายแบบเดี่ยว ๆ หลายโพสแบบสุดเท่ราวกับพระเอกหนัง Top Gun แพทถ่ายภาพและสั่งการ พิธานยืนคุมอยู่ตรงจุดที่กีรติคอยควบคุมคอมพิวเตอร์เช็คภาพที่ถ่ายในแต่ละมุม ลันตากับมิ้งค์เดินเข้ามา
"มิ้งค์เห็นภาพพี่กับคุณมะนาวพุ่งเข้าตบ ตีศอก เตะก้านคอ..” มิ้งค์พูด
"เยอะไปละ" ลันตาว่า
"ก็มันจริงนี่พี่ สายตาปะทะกันเปรี๊ยะ ๆ ๆ ขนาดพี่กิ๊กยังมองออกเลย"
"แย่ละ ไม่เก็บอารมณ์...ไม่สมกับเป็นมืออาชีพ" ลันตาบอก
"แล้วคุณมะนาวเขาประกาศขนาดนั้น พี่จะยอมแพ้หรือเปล่า"
"พี่จะไม่ยอมเสียคนที่ดีที่สุดในชีวิตพี่ไป"
มิ้งค์ดีใจ "แสดงว่าพี่....”
"วันนี้หลังเลิกงาน"
"โหย....ตื่นเต้น ๆ ๆ"
ทันใดนั้นรัชนีกับสุวิภาก็เดินเข้ามา ลันตากับมิ้งค์สวัสดีทั้งคู่
"ได้ไปกี่เซ็ทแล้ว" รัชนีถาม
"ตอนนี้เก็บเซ็ทที่เป็นภาพเดี่ยวของสิปาอยู่ค่ะ ใกล้จะเสร็จแล้ว ก็จะเหลือแต่เซ็ทภาพคู่ค่ะ" ลันตาบอก
เสียงแพทดังมาจากหน้าเซ็ท
"โอเค! เปลี่ยนชุด!”
มิ้งค์วิ่งเข้าไปจัดการเอาเสื้อผ้าให้สิปาดันเปลี่ยนโดยไม่ต้องเดินไปเปลี่ยนที่มุมแต่งตัว โดยสลับแจ็คเก็ตกับแอสเซสเซอรี่
ลันตาพารัชนีกับสุวิภาไปตรงมุมของกีรติที่พิธานยืนอยู่
"เป็นยังไงบ้างคะคุณพิธาน" สุวิภาถาม
"ดีครับ ผมคิดว่าตอนภาพคู่จะดีกว่านี้" พิธานพูดกับลันตา "จริงไหมครับ”
ลันตารู้ว่าโดนกวนประสาท "ค่ะ"
สุวิภาพูดกับกีรติ "ขอพี่ดูที่ภาพถ่ายไปแล้วหน่อย"
กีรติจัดการเปิดไฟล์ภาพสิปาดันให้กับรัชนีและสุวิภาดู รัชนีกับสุวิภามีสีหน้าพอใจ
รัชนีพูดกับลันตา "ดีนะพี่ชอบ"
ลันตายิ้มแล้วหันไปเจอแพทที่มองมา ลันตายกนิ้วให้ แพทยกนิ้วว่าโอเค กิ๊กเดินนำมะนาวเข้ามา
"นางแบบพร้อมแล้วค่ะ" กิ๊กบอก
มะนาวเดินสวยเข้ามาในชุดที่ดูเซ็กซี่มาก ทุกคนอึ้ง
"เอ๊ะ วันที่ฟิตติ้งไม่มีชุดนี้นี่ครับ คุณลัน" กีรติว่า
ลันตาอึ้งมาก "พี่เพชร!”
"ผมเป็นคนสั่งเอง" พิธานพูดขึ้น
ลันตาหันขวับไปมองหน้าพิธาน
"เพิ่มความน่าสนใจให้กับหนังสือ คุณสุวิภากับคุณรัชนีก็คงเห็นด้วย" พิธานบอก
สุวิภาเอาใจหุ้นส่วน "ค่ะ"
พิธานมองลันตา ลันตาโกรธมากแต่ก็ยังพยายามจะนิ่งที่สุด
"นอกจากเป็นเจ้าของเงินทุน ยังมีความสามารถไปซะทุกอย่าง คุณพิธานนี่น่าทึ่งจริงๆ เคยคิดจะลงมาทำงานเองไหมคะ จะได้ทำตามใจอย่างที่คุณเห็นคนเดียวว่าสมควร" ลันตาพูดเสียงเรียบๆ แต่แทงหัวใจ "ไม่ต้องสนใจทีม"
รัชนีกับสุวิภามองลันตาอึ้ง ๆ ทั้งสองไม่ทันพูดอะไร ลันตาก็หันไปหาแพทที่ยืนอึ้งๆ
"แพท....จัดการเลย"
แพทได้ยินลันตาสั่งก็ได้สติ
"นางแบบทางนี้เลยค่ะ สิปาโพสตรงนี้ นางแบบขยับเข้าใกล้มือวางตรงอกนะ"
มะนาวจัดการโพสอย่างไม่ขัดเขิน เธอวางมือบนอกสิปาดันโดยเอาตัวแนบชิด
มิ้งค์ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศโดยเก็บภาพสิปาดันกับมะนาว บางรูปก็เซลฟี่ตัวเองโดยมีสิปาดันกับมะนาวเป็นแบคกราวน์
มะนาวพูดกับสิปาดันเบาๆ "เมื่อก่อนนาวไม่เคยบอกคุณเรื่องคุณป้า เพราะนาวไม่อยากให้คุณรังเกียจนาวที่มีคุณป้าที่ร้ายกาจ นาวเหนื่อยค่ะ อยากมีคุณอยู่ข้าง ๆ เป็นกำลังใจให้นาว"
มะนาวแอบลูบที่อกสิปาดันเบาๆ สิปาดันชะงักเหลือบมองมะนาวแวบหนึ่ง
"นาว....”
"ถึงคุณจะมีคนอื่นในหัวใจแต่นาวก็ยังรักคุณ รักมาตลอด"
สิปาดันโดนลูบมากๆ ก็รู้สึกอึดอัดใจ สิปาดันยกมือมาจับมือมะนาวไว้
"ดีค่ะ...นางแบบมองตานายแบบนะคะ" แพทกดชัตเตอร์ "ดีค่ะ"
ลันตาเห็นภาพสิปาดันจับมือมะนาวก็รู้สึกหึงหวงและไม่พอใจมาก
ลันตามองไปทางมะนาว มะนาวมองตอบพร้อมยิ้มร้าย ลันตาทนไม่ไหวจึงจะเดินไปที่หน้าเซ็ท จนชนกับตะกร้าแก้วน้ำจนล้มหกกระจาย ทีมงานที่อยู่ใกล้ๆ ร้องด้วยความตกใจ ทุกคนหันไปมองลันตาเป็นจุดเดียว
"ขอโทษค่ะ ลันซุ่มซ่ามไปหน่อย"
สวัสดิการเข้ามาเก็บ ลันตาเดินเข้ามาตรงหน้าเซ็ท มะนาวยิ้มอย่างสะใจ
ลันตาพูดกับแพท "ทำงานต่อได้เลย"
"เอ่อ..นางแบบช่วยหันหลังนะคะ นายแบบโอบจากด้านหลังเบาๆ ละมุน นายแบบวางคางบนไหล่นางแบบนะเบี่ยงหน้าไปทางนางแบบหน่อย"
สิปาดันโอบมะนาวแล้ววางคางบนไหล่มะนาวเบาๆ
"นางแบบหันไปหานายแบบนิด ๆ นะคะสี่สิบห้าองศา ยิ้มสวยๆ"
มะนาวหันตามที่แพทสั่งจนจมูกเฉียดแก้มสิปาดัน ลันตาที่มองมากำมือแน่น มะนาวเลยขยับแล้วทำให้ปากชนแก้มสิปาดัน
ลันตาลืมตัว "หยุด!”
ทุกคนชะงักแล้วหันมองลันตา
"มีอะไรวะลัน...” แพทถาม
ลันตารู้สึกตัวว่าทุกคนมองมา "ฉันว่าเปลี่ยนชุดเถอะ"
"แต่ชุดนี้ยังได้ไม่กี่ภาพเองนะ" แพทบอก
ลันตาบอกแพท "จะได้ถ่ายให้เซ็ทคู่มันหมดไว ๆ" ลันตาเห็นแพทมองหน้าก็กลบเกลื่อน "จะได้เผื่อเวลาถ่ายชุดภาพปกของสิปาด้วย"
"อืม...งั้นก็..เปลี่ยนชุด" แพทบอก
กิ๊กเดินเข้าไปหามะนาว มิ้งค์ขยับเข้ามาหาลันตา
"ใจเย็นๆ นะพี่ มิ้งค์เข้าใจพี่นะ" มิ้งค์บอก
"อืม..แล้วนี่ข้าวกลางวันของทีมมาหรือยัง" ลันตาถาม
"ตาเคราใกล้ถึงแล้วค่ะ เดี๋ยวพาพี่สิปาไปเปลี่ยนชุดแล้วมิ้งค์จะเดินไปรับเขา"
"อืม..." ลันตาเครียดกับภาวะแบบนี้เหลือเกิน
มิ้งค์ไปรับสิปาแล้วพาไปเปลี่ยนชุด มะนาวที่ตามกิ๊กเดินผ่านพิธาน พิธานกับมะนาวสบตากันแล้วยิ้มอย่างพอใจ
ถุงข้าวกล่องโฟมดูดีซึ่งเป็นแบบที่มีช่องแบ่งข้าวกับกับข้าวอยู่ในมือของพอลกับมิ้งค์ที่ช่วยกันถือเข้ามาตรงที่วางเต็นท์สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า มิ้งค์ถือถุงข้าวแต่ก้นถุงเรี่ยพื้นดินเหลือเกิน
"นี่คุณ ให้ถือไม่ใช่ลาก เดี๋ยวถุงก็ขาด" พอลว่า
"ถือยังไงก็เหมือนลากอยู่ดี เพราะฉันเตี้ย! พอใจหรือยัง" มิ้งค์สวน
"อืม...ฟินละ...แล้วตอนนี้คุณลันไม่ฟิวส์ขาดไปแล้วเหรอ"
"ขาดแล้วขาดอีก แฟนเก่าพี่สิปาชีแรงมาก จัดเขี่ย ซบ จุ๊บต่อหน้าพี่ลันจนแบบพี่ลันไม่โดดถีบ เท้าขยี้หน้าก็ถือว่าเก่งมากแล้วคุณ อยากให้เสร็จงานไว ๆ พี่ลันจะได้สารภาพกับพี่สิปาสักที"
"เขาตกลงใจแล้วเหรอ"
"พี่ลันบอกว่าไม่อยากเสียคนที่ดีที่สุดในชีวิตไป ฉันฟังแล้วฮิ้วมากอ่ะ"
"ก็จริงนะ มันอาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตก็ได้ที่เราจะเจอคนที่เราคิดว่าใช่ ถ้าเป็นคุณล่ะ"
"กระโดดขี่คอเลยถ้าดีเลิศขนาดนั้นน่ะ แต่ต้องดีจริงๆ นะ"
"คอยดูก็แล้วกัน รับรองว่าดีทั้งนอกทั้งใน"
มิ้งค์ชะงักมองหน้าพอล พอลยิ้มกวน ๆ
มิ้งค์เปลี่ยนเรื่อง "อยากดูไว ๆแล้วล่ะ"
"เฮ้ย...ตรงนี้เลยเหรอคุณ"
"อะไร"
"ถ้าจะดูข้างในผมต้องแก้ผ้าน่ะสิ ตรงนี้เลยเหรอ"
"ฉันหมายถึงอยากดูพี่ลันสารภาพไว ๆ อยากรู้ว่าพี่สิปาจะโอเคไหม ไม่ได้อยากดูคุณ"
"แต่ขาวมากนะ พูดเลย"
มิ้งค์ว่า "ไอ้บ้า!”
มิ้งค์เขินเลยเดินไปเลย
มะนาวที่เปลี่ยนชุดอยู่ในเต็นท์เปิดเต็นท์ออกมาด้วยสีหน้าร้ายกาจมาก
นวลนอนงีบพร้อมตาหนูที่หลับอยู่บนที่นอนเด็กซึ่งวางซ้อนบนเตียงสิปาดันอีกที ตาหนูร้อง นวลสะดุ้งตื่น
"โอ๋ ๆ ตาหนู เป็นอะไรคะลูก"
นวลจับที่ก้นตาหนู
"ตายแล้ว...เปียกหมดเลย เดี๋ยวย่าเปลี่ยนให้นะ"
นวลจัดการพาตาหนูออกไปด้านนอก นวลเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้วเอาตาหนูไปวางในเตียงเด็ก
"เดี๋ยวย่ามานะคะ"
นวลเดินมาที่เตียงแล้วดึงผ้าปูเตียงของเดิมออก
ผ้าผืนใหม่ถูกกางออก นวลพยายามจะสอดเก็บผ้าที่ขอบและมุมเตียง จังหวะที่ยกเตียงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสอดมือเข้าไปใต้เตียง นวลก็ชะงักที่มือไปสัมผัสกับขอบสมุด นวลหยิบออกมาก็เห็นว่าเป็นสมุดป็อบอัพของสิปาดัน นวลมองแล้วเปิดสมุดแล้วก็อึ้งมาก
"ตาสิปา....”
เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น นวลเดินออกไปเปิดประตูก็เห็นอินทนนท์ยืนหน้าตาเอาเรื่องอยู่
"ตานนท์ แกมาทำไมเนี่ย"
"หนูสงสัยว่าแม่กับไอ้พวกแสบต้องปิดอะไรผมแน่ ผมก็เลยเช็คเบอร์โทรเข้าออกมือถือของแม่ ถึงเจอว่าคืนก่อนที่แม่จะเข้ากรุงเทพฯ ป้าเอื้องคำโทรมา...แบบนี้ใช่ไหมแม่ถึงเข้ากรุงเทพฯ"
"นนท์...ฟังก่อนนะ แม่มีเรื่องสำคัญ"
"ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับแม่โกหกหนูเพราะป้าเอื้องคำ คราวนี้จะเอาอะไรอีก"
"คือ...”
อินทนนท์ตกใจไปก่อน "อย่าบอกนะว่าแม่ไปยกอะไรให้กับป้าเอื้องคำอีกแล้ว เสียไปเท่าไหร่น่ะแม่"
"ตานนท์!”
นวลเอาสมุดป็อบอัพตีเข้ากลางหน้าผากอินทนนท์ดังปึ้ก!
"โอ้ย! แม่ตีหนูทำไมเนี่ย"
"ก็จะฟังได้หรือยัง พูดมากอยู่นั่นล่ะ"
"ฟังก็ได้"
นวลยื่นสมุดป็อบอัพให้อินทนนท์ อินทนนท์รับมาแล้วมองนวลก่อนจะเปิดดู อินทนนท์อึ้งมาก
อินทนนท์ทั้งอึ้งทั้งดีใจ "แม่....”
นวลยิ้ม อินทนนท์ก็ยิ้ม นวลยกมือขึ้น อินทนนท์ตีมือนวลแล้วยิ้มมีความหวัง
ภาพสิปาดันที่จะทำเป็นปกอยู่ในเฟรมดูเท่มาก แพทกดชัตเตอร์ มะนาว มิ้งค์ กิ๊ก เพชร ทีมงานอีกส่วนยืนดูอยู่อีกมุม มะนาวมองสิปาดันด้วยสายตาชื่นชมและอยากครอบครอง ภาพที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ตรงจุดที่กีรตินั่งดูอยู่ ลันตาหันไปหารัชนี สุวิภา และพิธาน ทุกคนมีสีหน้าโอเค
"โอเค...." ลันตาพูดกับทีมงาน "เลิกงานค่ะ"
ทุกคนปรบมือ
"ข้าวกล่องทางด้านโน้นนะคะ" มิ้งค์วิ่งเข้าไปหาสิปาดัน "เปลี่ยนเสื้อทางนี้ค่ะพี่"
มิ้งค์จะพาสิปาดันไปเปลี่ยนเสื้อซึ่งเป็นจังหวะที่เดินผ่านลันตา
"รอแป๊บนะ เดี๋ยวกินข้าวกัน" สิปาดันบอก
ลันตายิ้ม "อืม..”
พิธานกับมะนาวต่างก็จับตามองลันตากับสิปาดันด้วยสายตามีแผน
มิ้งค์มาช่วยสวัสดิการแจกข้าว พอลที่ช่วยดูก็เข้ามาช่วยแจกด้วย มิ้งค์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปพอลแจกข้าว มิ้งค์ได้รูปทีมงานรับข้าวแล้วก็กดอัพไอจี พอพอลจะหยิบข้าวกล่อง มิ้งค์ก็ดึงไปแล้วเปิดกล่อง ถ่ายรูปข้าวในกล่องที่พอลจัดไว้สวยงามแล้วก็หยิบขวดน้ำมาจัดเป็นพร็อพประกอบ
"นี่คุณ! ทีมงานเขารอรับข้าวอยู่ จะถ่ายรูปอีกนานไหม" พอลว่า
"ขอโทษค่ะ" มิ้งค์หยิบข้าวส่งให้ทีมงานแล้วก็รีบอัพรูปและพิมพ์สเตตัส
พอลโมโหจึงดึงโทรศัพท์มาจากมิ้งค์
"เอาคืนมา ขอพิมพ์อีกนิดเดียว" มิ้งค์บอก
"ชอบพรีเซ้นต์ชีวิตมากหรือไงถึงต้องรายงานสด อัพรูปตลอดเวลา" พอลว่า
"ฉันแค่อยากแชร์"
"ให้มันรู้เวลาบ้างสิ ชีวิตติดโชว์หรือไง" พอลหยิบมาดูแล้วก็อึ้งไป "สุดยอดข้าวกล่องจาก Ti amo" พอลมองมิ้งค์
มิ้งค์น้อยใจ "ฉันอยากช่วยโปรโมท....”
"ผม....ขอโทษที่ไม่รู้...แต่ตอนนี้มันเป็นเวลางานของคุณ ก่อนนึกถึงผม นึกถึงตัวเองก่อนจะน่ารักกว่า" พอลดึงจมูกมิ้งค์ "เข้าใจไหม ....”
"โอ้ยๆ เข้าใจแล้ว"
"เอาไปเก็บในกระเป๋า ห้ามจับโทรศัพท์จนกว่าจะกินข้าวเสร็จ" พอลบอก
"ตาเคราเผด็จการ"
"ไม่เชื่อผมขนข้าวกลับนะ"
"โอเค!”
มิ้งค์เอาโทรศัพท์ไปเก็บในกระเป๋าที่วางอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่แจกข้าว มือใครบางคนเข้ามาหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นไป
สิปาดันที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นแบบสบายๆ แล้ว เดินเข้ามาเห็นลันตายังคุยกับรัชนี สุวิภา พิธานอยู่มุมหนึ่งที่ไกลพอสมควร สิปาดันหามุมยืนรอบริเวณที่เพชร กิ๊ก และทีมงานคนอื่น ๆ กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่แบบเป็นกลุ่มบ้าง เดี่ยวบ้าง
มะนาวเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องข้าวสองกล่อง เธอยื่นกล่องหนึ่งให้สิปาดัน
"กินข้าวด้วยกันนะคะ"
สิปาดันอึกอัก "นาวทานก่อนเถอะครับ" สิปาดันมองไปทางลันตาที่ยังคุยอยู่ "ผมต้อง...รอกินพร้อมลัน"
สิปาดันหันมามองก็ชะงักที่เห็นมะนาวน้ำตาร่วง
"นาว...ร้องไห้ทำไม" สิปาดันถาม
มะนาวไม่ตอบแต่เริ่มสะอื้นจนทีมงานที่อยู่รอบๆ เริ่มมองมาที่มะนาวกับสิปาดัน
"นาว...”
มะนาวยิ่งร้องหนัก สิปาดันเริ่มทำหน้าไม่ถูก สิปาดันเอากล่องข้าวจากมะนาวมาวางไว้แล้วตัดสินใจพามะนาวออกไป
"เอ่อ...นาวมาทางนี้ก่อนนะ"
สิปาดันรีบพามะนาวเดินออกไป ทีมงานมองตาม ลันตาที่คุยงานเสร็จเดินเข้ามามองหาสิปาดัน
"พี่เพชร เห็นสิปาไหมคะ"
"เห็นไปกับมะนาวทางโน้นน่ะ" เพชรตอบ
ลันตารีบเดินตามไป พิธานขยับเข้ามามองตามลันตาไป
สิปาดันพามะนาวเข้ามาบริเวณที่ลับตาคน
"นาว คุณมีเรื่องอะไรบอกผมได้นะ"
มะนาวโผเข้ากอดสิปาดัน "นาวอึดอัดค่ะ คุณป้ากดดันนาวทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องของคุณ"
"เรื่องของผม...เรื่องอะไร?”
"คุณป้าอยากจะให้นาวจับคุณ ที่บ้านของเรากำลังลำบาก เราต้องใช้เงินมาก แต่นาวไม่อยากทำ...นาวอึดอัดที่ต้องโดนบังคับ เบื่อที่ต้องทำแต่เรื่องน่าอายแบบนี้"
"ถ้านาวไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ"
"แต่นาวไม่อยากเนรคุณ อกตัญญูกับคนที่เลี้ยงนาวมา นาวแค่อยากให้คุณเข้าใจ ไม่รังเกียจที่นาวเป็นหลานคุณป้า คุณคือคนเดียวที่นาวแคร์..ถึงแม้ว่าคุณจะรักลันตาไม่ใช่นาว แต่นาวก็จะรอคุณเพราะ....”
มะนาวเห็นลันตากำลังเดินเข้ามา มะนาวจึงดึงสิปาดันมาจูบทันที สิปาดันอึ้งกับสิ่งที่มะนาวทำ แต่ก็ไม่ได้ผลักออก ลันตาเดินเข้ามาก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็น มะนาวดันสิปาดันออกเบาๆ
"นาวรักคุณ" มะนาวพูดเบาๆ "นาวจะ..." แล้วมะนาวก็พูดดังขึ้นจนลันตาได้ยิน "อดทนรอนะคะสิปา"
"นาว....คุณก็รู้ว่าผมมีลันอยู่ ผม..." สิปาดันอยากจะเคลียร์ว่าเลิกรักลันตาไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากพูดตรงจนทำร้ายจิตใจมะนาว
มะนาวรีบแทรกทันที "เรื่องของลันตา คุณคงอึดอัดมากที่ต้องทนอยู่ในสภาพนี้ นาวเห็นใจ คุณสบายใจได้เลยว่านาวเข้าใจคุณเสมอ"
ลันตาโกรธมาก
มะนาวแกล้งทำเป็นเพิ่งเห็นว่าลันตาเข้ามา
มะนาวทำเสียงตกใจมาก "ลัน"
สิปาดันตกใจจึงหันกลับมาแล้วก็อึ้งที่เห็นลันตามองด้วยความโกรธ "ลัน...”
ลันตาเดินหนี
"ลัน....ไอ้ลัน!”
สิปาดันรีบตามไป มะนาวมองตามพร้อมกับยิ้มสะใจ
แพทกับกีรติที่เก็บของเรียบร้อยกำลังรอลันตา มิ้งค์ก็กำลังรอคืนกระเป๋าส่วนตัวให้สิปาดัน โดยมีพอลรอเป็นเพื่อน
"ไอ้ลันมันหายหัวไปไหนเนี่ย" แพทว่า
มิ้งค์พูดกับพอล "เดี๋ยวรอคืนกุญแจรถ กระเป๋าตังค์ให้พี่สิปาก่อนนะคุณ"
ลันตาพยายามกลั้นความเจ็บปวดเดินกลับมาตรงมุมที่ทีมงานเริ่มทยอยกลับ สิปาดันตามเข้ามาดึงแขนลันตาไว้ "ลัน!”
ลันตาหันกลับมาตบหน้าสิปาดันเพี๊ยะ! ทุกคนตกตะลึง
สิปาดันงง "แกตบฉันทำไม? นี่แกโกรธฉันเรื่องอะไร"
มะนาวเข้ามาแทรกทันที
"ฉันรู้ว่าเธอหวงเพื่อน แต่ชีวิตใครชีวิตมัน" มะนาวจงใจเดินเข้าหาลันตายั่วโมโหมาก "ทำแบบนี้สิปาเขาอึดอัด" มะนาวพูดเบาๆ กับลันตา "หน้าไม่อาย"
ลันตาปรี๊ดจึงผลักมะนาว "มันเรื่องของฉันกับสิปา เธอไม่เกี่ยว"
มะนาวล้มไปกับพื้น "โอ้ย!”
"แกทำเกินไปแล้วลัน" สิปาดันว่า
"ก็คงไม่เท่ากับที่แกระงับความอยากตัวเองไม่ได้ แม้แต่ที่ทำงานฉันก็ไม่เว้น!” ลันตาเสียงดัง
สิปาดันโกรธ "ไอ้ลัน!”
ลันตากับสิปาดันจ้องหน้ากันแบบเลือดขึ้นหน้าทั้งคู่
มิ้งค์พูดกับแพท "พี่แพท...แยกด่วนเลยพี่"
แพทกำลังจะเข้าไปแต่ช้ากว่าพิธานที่ก้าวเข้าถึงตัวลันตาก่อน พิธานทำตัวสุภาพบุรุษมาก
"สิปา...ถึงลันจะเป็นแค่เพื่อน แต่นายควรจะให้เกียรติลันมากกว่านี้”
"เก็บบทสุภาพบุรุษของพี่ไว้ใช้กับพวกหน้าโง่เถอะ" สิปาดันว่า
พิธานขยับเข้าไปให้สิปาดันได้ยิน "ฉันถึงใช้กับแกไง"
สิปาดันกระชากคอเสื้อพิธาน ทุกคนตกใจ
"หยุดนะ!” ลันตาเสียงดัง
ลันตาผลักอกสิปาดันแล้วเอาตัวขวางพิธานไว้
"ที่นี่ที่ทำงานฉัน อย่ามาเป็นหมาบ้าที่นี่"
สิปาดันอึ้ง ยิ่งเห็นสายตาคนอื่นๆ ที่มองมา สิปาดันก็รู้ว่าเดินหน้าต่อก็มีแต่เสียหาย
"แล้วเรื่องที่แกจะคุยกับฉัน...” สิปาดันถาม
"ไม่มี...ระหว่างเราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว" ลันตาบอก
"อย่างี่เง่านะลัน"
ลันตาเห็นสายตายิ้มเยาะของมะนาว "ฉันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับแก"
ลันตาสะบัดหน้าเดินออกไป สิปาดันจะตามแต่ได้ยินเสียง โครม! ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง ทุกคนเห็นขาไฟล้มลงทับมะนาวอยู่
สิปาดันตกใจ "มะนาว!”
สิปาดันกับกีรติรีบเข้าไปดูมะนาว
"อะไรกันนักกันหนาเนี่ย" แพทงง
"มิ้งค์ไปดูพี่ลันก่อนนะพี่"
พิธานมองเหตุการณ์อย่างพอใจ
ลันตาวิ่งผลุนผลันออกมาที่ถนนแล้วเรียกแท็กซี่ที่วิ่งผ่านมาแล้วขึ้นรถไปทันที มิ้งค์ที่วิ่งตามออกมาเห็น
"พี่ลัน จะไปไหนพี่ พี่ลัน!” มิ้งค์เรียก
รถแท็กซี่ออกรถไปแล้ว รถของพิธานวิ่งตามรถแท็กซี่ที่ลันตาขึ้นไป
"เฮ้ย...” มิ้งค์จะหยิบโทรศัพท์ แต่ก็ตะปบหาตามตัวแล้วก็ไม่เจอ
มิ้งค์นึกขึ้นได้ "เก็บมือถือในกระเป๋านี่...”
มิ้งค์รีบวิ่งกลับเข้าไปด้านใน
ติ๊ดตี่เดินตามธัญญาเรศมาอย่างรอรับคำสั่ง
"ติ๊ดตี่จัดการกระจายภาพ พีอาร์ให้มันด้วยนะ" ธัญญาเรศสั่งงาน
"ได๋ค่า...คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด...มันเลิศจริงๆ ค่ะ" ติ๊ดตี่ว่า
"งานนี้เราไม่ได้เชือดแค่นังมิ้งค์คนเดียวแน่"
ธัญญาเรศเห็นอนุชิตกำลังเดินไปอีกทางหนึ่ง
"ติ๊ดตี่...พี่ลืมบทสัมภาษณ์ไว้บนโต๊ะที่ห้อง ไปเอามาให้พี่ที"
"พี่ญ่าตรวจแล้วก็ส่งคืนคอลัมนิสต์ไปแล้วนี่คะ"
ธัญญาเรศหันขวับมาด้วยสายตาดุมาก "พี่สั่งให้ไปเอามา"
ติ๊ดตี่พูดต่อทันที "อย่าถามมาก โอเคค่ะ"
ติ๊ดตี่รีบเอาตัวรอดเผ่นไปทันที ธัญญาเรศเดินตามอนุชิตไป
อรขจีหัวเสียจึงปัดถุงช็อปปิ้งบนโต๊ะจนหล่นกระจายเต็มพื้น
"ถึงคุณจะถามกี่ครั้ง ฉันก็ไม่ยอมหย่า..." อรขจีฟัง "ลูกเป็นของฉัน ฉันไม่มีวันยกให้คุณ”
อนุชิตคุยโทรศัพท์กับอรขจี "คุณไม่มีปัญญาเลี้ยงน้องเปาได้แน่ ยกลูกให้ผม ผมจะเลี้ยงน้องเปาเองไม่ว่ายังไงผมก็จะหย่ากับคุณ"
จู่ ๆ มือของธัญญาเรศก็ดึงโทรศัพท์ไปจากอนุชิต
"ฉันกับผัวคุณจะเลี้ยงน้องเปาเอง ไม่ต้องห่วงหรอกนะ"
อรขจีอึ้ง
"แก..." อรขจีจำเสียงได้ "ธัญญาเรศ"
"เก่งนะที่ยังจำเสียงฉันได้" ธัญญาเรศบอก
"แกหมายความยังไง แกกับผัวฉัน"
"เราก็เมียเหมือนกันไง นังหน้าโง่" ธัญญาเรศว่า
อรขจีตะลึง "แก...แก" อรขจีกรีดร้องอย่างโกรธแค้น
ธัญญาเรศกดวางสายด้วยสีหน้าสะใจ
"เรียบร้อยแล้วนะคะ"
"เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเรื่องของฉัน" อนุชิตว่า
"ฉันมีสิทธิ์...เทียบกับที่ฉันสูญเสียเพื่อคุณ ที่ฉันทำมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ฉันแค่ทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น ดูสิว่าอรขจีจะทนสามีสำส่อนอย่างคุณได้นานแค่ไหน"
อนุชิตมองท่าทีธัญญาเรศอย่างอึ้งๆ แต่แค่ชั่วขณะก็เปลี่ยนเป็นยิ้มพอใจ "ก็ดีทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น ผมกับลันจะได้มีความสุขกันสักที"
อนุชิตเดินออกไป ธัญญาเรศเดินตาม
ธัญญาเรศตามมาเอาเรื่อง
ธัญญาเรศโมโห "ยังคิดว่าลันมันจะมองคุณอยู่อีกเหรอ ระหว่างซีอีโอกับผู้จัดการกระจอกงอกง่อยอย่างคุณ มันเลือกได้ไม่ยากหรอกนะ"
"อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ลันเกือบเป็นของผมมาแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ต้องมีครั้งที่สอง"
อนุชิตเดินออกไป ธัญญาเรศมองตามด้วยความแค้นมาก
แท็กซี่ที่ลันตานั่งแล่นเข้ามาจอด ลันตาลงมาจากแท็กซี่แล้วเดินเข้าไปด้านใน พิธานขยับตามเข้ามามองอย่างหมายมาด
ธัญญาเรศกับติ๊ดตี่สะพายกระเป๋าถือของเตรียมกลับบ้าน จังหวะที่ทั้งคู่จะลงไปข้างล่างก็ต้องชะงักที่เห็นลันตากำลังเดินเข้าไปที่ห้องทำงานตัวเอง
"ทำไมพี่ลันหน้าเหี่ยวแห้งขนาดนั้น อย่างกับมีเรื่อง" ติ๊ดตี่ว่า
ธัญญาเรศเอากระเป๋าอุดปากติ๊ดตี่ให้เงียบแล้วส่งซิกให้มองข้างล่างก็เห็นพิธานตามเข้ามาแล้วเดินไปที่ห้องทำงานของลันตา
"โว้ว!....ตามกันมาตอนออฟฟิศไม่มีคนแบบนี้ อย่าบอกนะคะว่านัดมากินกันในออฟฟิศ วุ้ย....คันไม่เลือกที่เจง ๆ"
ธัญญาเรศได้ยินก็หันมามองติ๊ดตี่อย่างปิ๊งไอเดีย
ติ๊ดตี่เห็นสายตาของธัญญาเรศ "อุตตะ!" ติ๊ดตี่ยิ้มรู้กันว่าต้องส่งเสริม
ลันตานั่งร้องไห้อยู่ที่โต๊ะทำงานเงียบ ๆ โดยหันหลังให้กับประตู
ภาพตอนที่สิปาดันที่จูบกับมะนาว ภาพตอนที่สิปาดันปกป้องมะนาวแวบกลับมา
ลันตานั่งร้องไห้ ใครสักคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ ลันตาเงยหน้ามองตกใจที่เห็นว่าเป็นพิธาน
"คุณมาที่นี่ได้ยังไง"
"พี่เป็นห่วง ก็เลยตามลันมา เสียใจเรื่องสิปาใช่ไหม"
"เปล่าค่ะ"
"แล้วร้องไห้เรื่องอะไร บอกพี่ได้ไหม?”
"เรื่องงานน่ะค่ะ ฉันเหนื่อยที่ต้องรับมือกับการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของคุณ"
"ลัน...พี่"
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันควรจะต้องทำงานตามโจทย์ให้ได้ ฉันดีขึ้นแล้วค่ะ กลับก่อนนะคะ"
ลันตาหยิบกระเป๋าจะเดินออกแต่พอจะเปิดประตูกลับเปิดไม่ออก ลันตาแปลกใจ
"ติดอะไรเนี่ย"
ประตูถูกล็อคไว้จากด้านนอก ลันตาพยายามจะเปิดแต่ดันเท่าไหร่ก็ไม่ออก พิธานตามเข้ามา
"เป็นอะไร"
"ประตูมันเปิดไม่ออกค่ะ"
พิธานพยายามจะเปิด "เมื่อกี้มันยังปกตินะ"
พิธานทั้งผลักทั้งดึงจริงจังแต่ก็เปิดไม่ออก
"บ้าเอ๊ย! เป็นอะไรเนี่ย" ลันตาโมโห
ลันตาหยิบมือถือจากกระเป๋ามาดู "แบตหมด"
พิธานขยับมือถือจากกระเป๋ากางเกงด้านหน้าไปเสียบไว้ที่กระเป๋าหลัง
ลันตาหันมาหาพิธาน "คุณพิธานคะ..ขอยืมโทรศัพท์ของคุณหน่อยค่ะ ฉันจะเรียกคนมาช่วย"
พิธานโกหกหน้าตาเฉย "พี่ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถน่ะ"
"ทำไงล่ะทีนี้"
ลันตาเริ่มร้อนรนและเครียด พิธานยิ้มว่านี่คือโอกาส
สิปาดันจอดรถแล้วลงมาเปิดประตูพามะนาวลงจากรถ ที่หน้าผากมะนาวมีผ้าก๊อซปิดแผลตรงส่วนขมับอยู่
"ยังปวดหัวอยู่ไหมนาว"
"นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยดูแลนาว นาวขอโทษนะคะที่ทำให้สิปากับลันมีเรื่องกัน"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเคลียร์ได้"
มือถือสิปาดันดัง มะนาวมองอย่างอยากรู้ สิปาดันกดรับ
สิปาดันอึ้ง "ลันยังไม่ถึงคอนโดเหรอครับ แต่ลันแยกกับผมตั้งแต่เย็นนี่มันก็ดึกแล้ว" สิปาดันชักไม่สบายใจ "ผมจะลองถามแพทดูครับ" สิปาดันพูดกับมะนาว "นาว...ผมส่งแค่นี้นะ"
"ค่ะ"
สิปาดันลามะนาวแล้วขึ้นรถทันที มะนาวมองตามอย่างพอใจ
สิปาดันพยายามโทรหาลันตาแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ
สิปาดันชักหงุดหงิด "อยู่ไหนนะลัน"
อ่านต่อหน้าที่ 2
รักต้องอุ้ม ตอนที่ 11 (ต่อ)
แพทวางตะเกียบทันทีที่ได้ยินเสียงไลน์ดังถี่ๆ
"โอ้ย!!" แพทหยิบมาอ่าน
กีรติ พอล และมิ้งค์ที่นั่งกินร่วมโต๊ะอยู่มองแพทที่อ่านไลน์
"ไอ้ลันมันหายไปไหนเนี่ย ปิดเครื่องแบบนี้จะติดต่อยังไง" แพทบ่น
เสียงไลน์ยังดังต่อเนื่อง
"ไอ้สิปาก็ตามยิกๆ วันนี้มันเกิดเรื่องอะไรกัน ใครรู้บ้าง"
"ที่รู้ ๆ คุณพิธานตามพี่ลันไปติด ๆ พวกแฟนเก่านี่ร้ายจริงๆ ทั้งชายทั้งหญิงเลย" มิ้งค์พูด
พอลดึงแก้มมิ้งค์ให้หยุดพูด "นี่...”
"โอ้ย! มันเจ็บนะ" มิ้งค์ชะงักที่เห็นแพทจ้องหน้าเลยรู้ตัว
แพทมองอย่างคาดคั้น "มิ้งค์รู้เรื่องใช่ไหม"
มิ้งค์อึกอักเพราะลำบากใจ
"รู้แต่พูดไม่ได้ค่ะ ถ้าพี่ลันไม่อนุญาต" มิ้งค์บอก
"มิ้งค์!”
มิ้งค์ทำเป็นตกใจ "มิ้งค์ต้องเอาเสื้อไปเก็บที่ออฟฟิศ" มิ้งค์หันไปหาพอล "รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะดึก ไปเร็ว ขอบคุณนะคะที่เลี้ยงน้อง" มิ้งค์ลากพอลไปทันที
"ยังไงล่ะคุณ" กีรติถาม
"ก็ตามสิคุณ คืนนี้ไม่เคลียร์นอนไม่หลับแน่"
กีรติมองตามมิ้งค์ไปอย่างคิดว่ารู้ว่าเป็นเรื่องรักของสิปาดันกับลันตา
สิปาดันจอดรถริมถนนอย่างเครียดๆ เขาคุยโทรศัพท์มือถือ
"ผมไม่เข้าใจว่าวันนี้ลันมันเป็นอะไร งี่เง่าสุด ๆ เลยครับย่า"
นวลกับอินทนนท์คุยโทรศัพท์แบบเปิดสปีคเกอร์โฟน
"แล้ววันนี้สิปากับหนูลันทะเลาะกันเรื่องอะไรล่ะลูก"
นวลพยายามถามว่าวันนี้ทะเลาะกันเรื่องอะไร
"เรื่องอะไรผมยังไม่รู้เลยครับย่า...วันนี้...จะมีแค่ลันเห็นผมกับมะนาวจูบกัน" สิปาดันบอก
นวลกับอินทนนท์ตกใจ
"แล้วลันก็ตบผม ด่าผมแล้วก็หายตัว ปิดเครื่องใครก็ตามไม่เจอครับย่า"
"หนูลันอาจจะไปหาที่เงียบๆ เดี๋ยวก็กลับมาหรือเปล่าสิปา" นวลบอก
"แต่มิ้งค์เห็นว่าพิธานตามไปด้วยนะครับย่า"
"แฟนเก่าหนูลันน่ะเหรอ" อินทนนท์ถาม
"ผมไม่ไว้ใจมันเลยครับพ่อ กลัวมันจะทำอะไรลัน"
นวลคิดหนัก "ปกติหนูลันเวลามีเรื่องถ้าไม่อยู่กับเพื่อน...แล้วจะไปไหนที่ไหนได้อีก"
"กลับบ้านครับ...”
"ก็เป็นไปได้"
"งั้นผมจะไปบ้านย่ามาลัย" สิปาดันบอก
"เฮ้ย ๆ ๆ ไอ้หมา พ่อไม่อยากให้ตระกูลพ่อสูญพันธุ์ ห้ามไป" อินทนนท์บอก
สิปาดันวางสายไปแล้ว
นวลมองอินทนนท์ "เอายังไงดี มาลัยยิ่งเกลียดเจ้าสิปาอยู่"
อินทนนท์คิดหนัก
ลันตาพยายามจะดันหน้าต่างออกไปให้กว้างโดยกะจะปีนออก แต่หน้าต่างไม่ได้ออกแบบให้เปิดกว้างพอ ลันตายังไม่ละความพยายาม พิธานเข้ามายืนซ้อนทางด้านหลังโดยพยายามจะช่วยดัน พิธานพูดเบาๆ ข้างหู
"พี่ช่วยนะ"
ลันตาตกใจทำให้มือที่ดันอยู่พลาดไปโดนกลอนที่อยู่ขอบหน้าต่าง
ลันตาร้องเบาๆ "โอ้ย!”
"พี่ขอโทษ เจ็บมากไหม ขอพี่ดูหน่อย"
ลันตายังไม่ทันขยับ พิธานก็จับมือลันตามาดูแผล ลันตาหันซ้ายกลับมาเจอเสี้ยวหน้าของพิธานในระยะหล่อ พิธานสบตากับลันตา ลันตาอึ้งที่อยู่ในตำแหน่งที่ดูจะรอดยากเหลือเกิน
ภาพในอดีตย้อนกลับมา เป็นตอนพิธานกับลันตาสมัยมัธยม พิธานต้อนลันตาที่ถอยเข้ามาจนติดกับต้นไม้ใหญ่แล้วค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ขยับจะจูบลันตา
สิปาดันขับรถด้วยความเร็ว
"อยู่บ้านย่านะลัน...ต้องอยู่นะ"
สิปาดันเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วด้วยความร้อนใจ
เหตุการณ์ปัจจุบัน พิธานจะจูบลันตาโดยเกือบจะถึงตัวแต่ลันตาได้สติก็ขยับตัวออก พิธานไม่ยอมปล่อยโอกาสตามติดกักลันตาไว้ในอ้อมแขน
ภาพในอดีตที่พิธานจะจูบแต่ลันตาตัดสินใจตีเข่าใส่
เหตุการณ์ปัจจุบัน ลันตาเห็นว่าจวนตัวแน่ก็จะตีเข่าแต่โดนจับขาไว้จนลันตาทรงตัวไม่ได้เสียหลักหงายลงไปที่เก้าอี้
"พี่ขอโทษ" พิธานตามลงไปที่โซฟากึ่งนั่งคร่อม
ลันตาอึ้งเพราะตั้งตัวไม่ทัน
"ลันสวยขึ้นมากนะ" พิธานใช้นิ้วไล้แก้ม ไล้ริมฝีปากเบาๆ เพื่อสร้างบรรยากาศเต็มที่ "สวยมากกว่าตอนที่เป็นแฟนกัน"
"มันจบไปแล้วค่ะ ลันไม่ใช่แฟนคุณ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณอีกแล้ว"
พิธานจี๊ดที่ลันตาพูดโดนต่อมอยากเอาชนะของเขา "เพราะลันชอบไอ้สิปาใช่ไหม"
ลันตาอึ้งที่พิธานรู้ ลันตาพยายามจะลุกทันที แต่พิธานไม่ยอมปล่อย
"ตอบพี่มาก่อน ว่าลันชอบไอ้สิปาใช่ไหม"
"มันเป็นเรื่องส่วนตัว ลันไม่ตอบนะคะ"
"งั้นพี่ก็ไม่ปล่อย จนกว่าลันจะตอบ"
ลันตามองหน้าพิธานที่ดูแข็งกร้าวบ่งบอกว่าไม่ยอมปล่อยง่ายๆ แน่ แต่ลันตาก็ไม่ยอมให้บังคับเหมือนกัน
ห้องรับแขกบ้านมาลัยปิดไฟมืด เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังและถี่มาก
เสียงสิปาดันเรียก "ลัน....ลัน!”
ไฟในห้องรับแขกเปิด มาลัยกับอังเดินมา
"เสียงใครมาเคาะประตูน่ะยัยอัง"
"ได้ยินเรียกชื่อยัยลันค่ะคุณพี่" อังส่องมองออกไปด้านนอก "สิปาค่ะคุณพี่"
"เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลย" มาลัยบอก
อังรีบไปเปิดประตู สิปาดันยืนอยู่อย่างร้อนใจ
"แกเข้ามาถึงตัวบ้านได้ยังไง" มาลัยหันมาหาอัง "ยัยอัง!”
"อังล็อคประตูรั้วแล้วนะคะคุณพี่"
มาลัยหันมาเอาเรื่อง "แกปีนรั้วเข้ามาบ้านฉันเหรอ ไอ้เด็กไม่มีมารยาท"
"ผมขอโทษที่ผมมารบกวน ผมจะมาหาลัน ลันอยู่ไหมครับ"
"ฉันสั่งแกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับหลานฉันอีก" มาลัยว่า
"บอกผมเถอะครับย่า ว่าลันอยู่ที่นี่"
"ออกไปเดี๋ยวนี้! ไป" มาลัยไล่
"กลับไปสิ ดื้อด้านจริง" อังว่า
"คุณย่า คุณป้า ผมขอร้อง"
"ยัยอัง ไล่มันออกไป!” มาลัยสั่ง
อังละล้าละลังแล้วตัดสินใจคว้าไม้กวาดหวดไล่สิปาดัน
"ออกไปจากบ้านเดี๋ยวนี้ไป" อังไล่
"ป้าอังครับ ลันอยู่ที่นี่ใช่ไหม" สิปาดันถาม
"บอกให้ออกไป ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง"
มาลัยหยิบรีโมทกดเปิดประตู อังหวดไล่จนก้าวพลาดจากบันไดหงายลงกระแทกพื้น
"โอ้ย!” อังร้อง
"ยัยอัง!” มาลัยตกใจ
มาลัยกับสิปาดันตกใจแล้วเข้าไปดู
"ผมขอโทษ เจ็บมากไหมครับป้า" สิปาดันบอก
"ไม่ต้องมานับญาติกับฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้ไป" อังไล่
มาลัยคว้าไม้กวาดมาแทน "ออกไป!”
"ผมมีเรื่องสำคัญจริงๆ นะครับ"
มาลัยไม่ฟัง เธอเหวี่ยงไม้กวาดด้วยความโกรธจนลืมแก่เลยทีเดียว มาลัยไล่ต้อนจนสิปาดันถอยออกไปที่หน้าประตูรั้ว
รถของพอลแล่นเข้ามาจอดหน้าออฟฟิศ มิ้งค์กับพอลกำลังจะลงจากรถ มิ้งค์เห็นรถของธัญญาเรศ ที่ติ๊ดตี่นั่งอยู่ข้างที่นั่งคนขับวิ่งผ่านหน้าออกไป
"พี่ญ่ากับติ๊ดตี่...ทำไมกลับดึกนัก" มิ้งค์สงสัย
"ก็ทำงานล่วงเวลาไง" พอลบอก
"พี่ญ่าน่ะเป๊ะจะตาย เลิกงานไม่เคยอยู่ล่วงเวลาจนดึกแบบนี้สักที"
มิ้งค์กับพอลขนของจะเดินไปที่ออฟฟิศ
กีรติกับแพทเดินมาจากอีกทางโดยขนอุปกรณ์เข้ามาเหมือนกัน
"มิ้งค์!”
"พี่แพท"
"เก็บของเสร็จรอพี่ก่อนนะ ถ้ากลับก่อนตาย" แพทว่า
มิ้งค์มองพอล
"ปากหาเรื่องเอง ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ"
มิ้งค์สุดเซ็ง เธอเห็นรถของพิธานที่จอดอยู่
"พี่แพท! รถคุณพิธานนี่" มิ้งค์ว่า
"มิ้งค์บอกว่าคุณพิธานตามคุณลันไปใช่ไหม ถ้างั้น...” กีรติสงสัย
แพทคิดแล้วรีบวิ่งเข้าไป มิ้งค์กับสองหนุ่มรีบวิ่งตาม
สิปาดันโดนไล่ตีออกมาที่หน้าบ้าน
"คุณย่าฟังผมก่อนนะครับ"
รถแท็กซี่แล่นเข้ามาจอด อินทนนท์กับนวลลงมาจากแท็กซี่ มาลัยกับอังชะงักที่เห็น
"ไล่ตีกันแบบนี้มันไม่เกินไปเหรอครับคุณป้า ไอ้สิปานี่มันเป็นผู้สืบพันธุ์...สืบตระกูลผมนะครับ" อินทนนท์ว่า
"พวกแกมาทำไมทั้งตระกูลให้แผ่นดินบ้านฉันมันต่ำลง" มาลัยว่า
"คุณป้าคงเป็นคอละคร ด่าซะน้ำเน่าเชียว" อินทนนท์สวน
มาลัยโกรธ "ไอ้นนท์!”
นวลตีอินทนนท์ "อย่าทำให้เสียเรื่องน่ะ มาลัย...ฉันมาหาหนูลัน หนูลันอยู่ที่บ้านใช่ไหมจ๊ะ"
มาลัยชะงักเพราะชักจะสงสัย "ทำไม ยัยลันมันไปไหน ทำไมพวกเธอต้องมาตามหากันด้วย"
พวกสิปาดันอึ้งไปเพราะไม่รู้จะบอกว่ายังไงดี
มาลัยยิ่งคาดคั้น "ฉันถามว่าทำไม ตอบมา"
ลันตาถึงอยู่ในตำแหน่งที่เป็นรองแต่ก็ยังไม่ยอม
"ไม่จำเป็นที่ลันต้องตอบ ลุกเดี๋ยวนี้นะ!”
พิธานยิ่งก้มลงมาใกล้ "พี่ไม่รีบ เรามีเวลาด้วยกันทั้งคืน"
ลันตาพยายามจะฮึดสู้แรงเพื่อเอาตัวเองให้ลุกให้ได้ แต่แรงผู้ชายกับผู้หญิงผิดกัน
พิธานรู้ว่าเป็นต่อจึงเริ่มขู่ให้กลัว "ตอบสิคะเด็กดี"
ลันตารู้ว่าสู้ไม่ได้ก็เริ่มกลัว
แพท มิ้งค์ กีรติ และพอลมาถึงหน้าห้องก็เห็นหน้าห้องที่โดนของขวางไว้จนเปิดออกมาไม่ได้
"ไอ้ลัน...แกอยู่ในห้องหรือเปล่า ลัน!” แพทเรียก
ลันตาที่อยู่ในห้องดีใจมาก
"ไอ้แพท ช่วยเปิดประตูที ฉันอยู่ในนี้! ปล่อยสิคุณ เพื่อนฉันมาแล้ว" ลันตาตะโกนออกไป
"ก็ตอบพี่มาก่อน" พิธานยิ่งใกล้เข้าไปอีก
"ไอ้แพท เร็ว ๆ เข้า"
สี่คนด้านนอกเริ่มร้อนรนว่าเกิดอะไรขึ้น กีรติกับพอลช่วยกันเอาส่วนที่ยันประตูไว้ออก แพทโทรหาสิปาดัน
มาลัยเสียงดังอย่างคาดคั้นมาก
"ว่าไงนวล พวกเธอตามหาหลานฉันทำไม"
นวลอึกอัก "เอ่อ....”
จังหวะนั้นเสียงมือถือของสิปาดันก็ดังขึ้น สิปาดันรีบกดรับ
"เจอตัวแล้วใช่ไหม" สิปาดันมีสีหน้าร้อนรน "ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้"
สิปาดันรีบไปขึ้นรถ
อินทนนท์เร่ง "ไปเร็วแม่!”
อินทนนท์จับมือนวลพาขึ้นรถชิ่งจากมาลัยทันที
สิปาดันออกรถเร็วมาก แท็กซี่ลงมาจากรถเหวอๆ
"คุณ ยังไม่ได้จ่ายค่าโดยสาร คุณ"
มาลัยมองตามไปด้วยความสงสัยมาก
พอลกับกีรติเอาของหน้าห้องออกจนหมดและกำลังจะเปิดประตูเข้าไป พิธานได้ยินเสียงก๊อกแก๊กก็รีบพุ่งไปกดล็อคประตูทันที กีรติพยายามจะเปิดเข้าไป
"เปิดเร็วสิพี่กบ" มิ้งค์เร่ง
"มันโดนล็อคจากข้างใน" กีรติบอก
แพทตะโกน "ไอ้ลันเปิดประตู"
ลันตามองพิธานที่ขวางประตูไว้อย่างเอาเรื่อง
"คิดจะทำอะไร" ลันตาถาม
"ตอบพี่มา ว่าลันชอบไอ้สิปาใช่ไหม"
"ถอยไปคุณพิธาน"
พิธานไม่ถอยแต่ยืนยิ้มกวนตีน
"ตอบก่อนสิคะเด็กดี"
ลันตาปรี๊ดแตก "ถ้าฉันไม่อยากตอบ ใครก็บังคับฉันไม่ได้"
ลันตาเลือดขึ้นหน้าแล้วพุ่งเข้าไป เธอพยายามจะเข้าไปเปิดล็อคประตูให้ได้แต่พิธานไม่ยอมจึงยื้อแย่ง เขาจับลันตาเหวี่ยงลงกับพื้น พิธานล้มทับลันตาแล้วใช้มือกับขากดขาลันตากับมือไว้ไม่ให้ขยับ
"คุณบ้าไปแล้วหรือไง! ปล่อยฉัน!”
"แค่ลันทำตามที่พี่บอก ตอบพี่มาแล้วพี่จะปล่อย"
ลันตามองกร้าวไม่ยอมตอบ พิธานเริ่มสนุกและบ้าเลือด
พอลกับกีรติพยายามจะเปิด แพทร้อนใจ
"ไอ้มิ้งค์เอ๊ย ไปหากุญแจถึงไหนเนี่ย"
สิปาดันรีบเดินเข้ามา "ลันล่ะ!”
"ติดอยู่ในห้อง" แพทบอก
สิปาดันตะโกน "ลัน! ได้ยินฉันไหม ลัน"
ลันตาได้ยินเสียงสิปาดันก็ขานรับอย่างลืมตัว
"สิปา ช่วยฉันด้วย" ลันตาพยายามสู้พิธานเต็มที่ เธอดิ้นเต็มแรง "ปล่อยฉัน!”
สิปาดันได้ยินเสียงลันตาก็ขึ้นทันที เขาพุ่งเข้ากระแทกประตูปัง ๆ ๆ จนประตูพัง ก่อนที่มิ้งค์จะเอากุญแจวิ่งมาถึง สิปาดันเข้ามาในห้องเห็นสภาพที่พิธานทับลันตาอยู่ก็พุ่งเข้าไปกระชากตัวพิธานขึ้นมา
"ไอ้เลว!”
สิปาดันชกพิธาน พิธานสวน แล้วก็เกิดการชกต่อยกันนัวเนีย
พอลตะโกน "เฮ้ย!”
พอลกับกีรติต้องพยายามช่วยกันแยกพิธานกับสิปาดัน ลันตามองอย่างตกใจ แพทกับมิ้งค์เข้ามาดูลันตา นวลกับอินทนนท์ที่เดินตามมาก็ตกใจ แพทกับมิ้งค์พาลันตาออกมานอกห้อง
"มันเกิดอะไรขึ้น" แพทถาม
"พี่พิธานเขาบ้าไปแล้ว" ลันตาบอก
ลันตายังไม่ทันเริ่มเล่า มิ้งค์ก็เห็นด้านหน้ามีแท็กซี่มาจอด มาลัยกับอังลงจากรถ
มิ้งค์ตกใจ "ตายแล้ว!”
ลันตากับแพทก็ตกใจ
"อะไรมิ้งค์ อยู่ ๆ ก็ร้อง" ลันตาว่า
"ย่าพี่มา" มิ้งค์บอก
ลันตากับแพทหันไปมองเห็นมาลัยกับอังก็ตกใจมาก
"ซวยแล้ว!!!” แพทว่า
พอลกับกีรติที่ต้องเข้าแยกสิปาดันกับพิธานต้องใช้พลังอย่างมากจนสะบักสะบอมกันหมด แต่ทั้งคู่ยังดูกระเหี้ยนกระหือรือกันมาก
อินทนนท์เตือน "พอได้แล้วสิปา"
"ถ้าลันมีรอยแม้แต่นิดเดียว ฉันจะฆ่าแก" สิปาดันว่า
พิธานไม่ตอบแต่ยิ้มกวนตีน สิปาดันโกรธมากแล้วจะพุ่งเข้าไปอีก มิ้งค์วิ่งเข้ามา
"ย่ามาลัยมาที่นี่แล้วค่ะ"
ทุกคนตกใจ
"ป้ามาลัยตามพวกเรามาแน่ๆ" อินทนนท์บอก
"ลันล่ะมิ้งค์" สิปาดันถาม
"หลบไปแล้ว เอาไงดีพี่ ถ้าย่ารู้ว่าพี่ลันอยู่กรุงเทพฯแย่แน่" มิ้งค์บอก
"พี่จะจัดการเอง" สิปาดันว่า
พิธานงงว่าเกิดอะไรขึ้น
"งั้นย่ากับพ่อจะไปรับหน้ามาลัยไว้ก่อน" นวลบอก
นวลกับอินทนนท์รีบเดินออกไป
สิปาดันจะไปแต่ก็ยังไม่วายหันมาอาฆาตพิธาน "เรื่องคราวนี้ฉันต้องคิดบัญชีกับแกแน่"
"ฉันใกล้จะชินกับเสียงเห่าของแกแล้วล่ะ"
สิปาดันอยากจะพุ่งแต่แพทไวกว่าจึงเข้ามาดันสิปาดันไว้
"เรื่องไอ้ลันสำคัญกว่านะเว้ย!” แพทบอก
สิปาดันคิดแล้วหันมาหากีรติ
"ไอ้กบ แกต้องช่วยฉันแล้ว" สิปาดันบอก
กีรติงงว่ากูเนี่ยนะ
มาลัยกับอังเดินเข้ามา นวลกับอินทนนท์ลงมาขวางไว้
"มาลัย...เธอมาทำอะไรที่นี่จ๊ะ" นวลถาม
"มาหาหลานฉัน" มาลัยตอบ
"หนูลันอยู่เชียงใหม่จะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" นวลบอก
"แล้วพวกพี่ไปหายัยลันที่บ้านทำไม อย่ามาตีหน้าซื่อ หลานลันไม่ได้อยู่เชียงใหม่ แต่อยู่ที่นี่ใช่ไหม" อังถาม
"หลานลันไม่ได้อยู่ที่นี่จริง ๆ"
"แล้วพวกเธอไปหายัยลันที่บ้านทำไม ตอบมาสิ" มาลัยคาดคั้น
อินทนนท์กับนวลอ้ำอึ้งไปเล็กๆ เพราะจวนตัวจัดเลยคิดไม่ทัน
"ปล่อยฉันไอ้สิปา ถ้าไม่เจอคุณลัน ฉันยอมตาย" เสียงกีรติโวยวาย
ทุกคนหันไปตามเสียงมองเห็นกีรติที่มีท่าทางคลั่ง สิปาดันคอยดึงไว้ ในที่สุดสิปาดันก็ลากคอกีรติมา
“ ไอ้บ้าเอ๊ย มานี่เลยมา" สิปาดันบอก
สิปาดันลากตัวกีรติออกมา
"เจอตัวสักที" สิปาดันหันมาหาอินทนนท์กับนวล "ไม่ต้องหาตัวไอ้ลันแล้วครับย่า เจอไอ้กบแล้ว"
"นายคนนี้เป็นใครเกี่ยวอะไรกับหลานฉัน" มาลัยว่า
กีรติหันมาหามาลัยทันที "คุณย่าคุณลันเหรอครับ ผมกีรติเป็นแฟนคุณลันครับ"
มาลัยกับอังตกใจ
ลันตาที่แอบดูอยู่ตกใจไม่แพ้กัน
"นี่ยัยลันไปมีแฟนเมื่อไหร่ทำไมฉันไม่รู้" มาลัยว่า
"ใจเย็นๆ ครับ ไอ้นี่มันเป็นแฟนคลับลันตาตั้งแต่สมัยเรียน มันชอบลันมาก หลัง ๆมันบังคับให้ผมพาไปหาไอ้ลัน มันขู่ว่าถ้าหาลันไม่เจอมันจะทำร้ายตัวเอง อยู่ ๆมันก็หายตัวไป ผมเลยอยากตามไอ้ลันมาช่วยเพื่อน"
"คราวที่แล้ว ป้าก็บอกแล้วนี่ว่าลันอยู่เชียงใหม่" อังว่า
"แต่ตอนนี้ผมติดต่อลันไม่ได้ ถึงต้องไปถามคุณย่ากับป้าอังไงครับ แต่ไม่ต้องหาแล้วครับ ผมเจอแล้ว ขอโทษนะครับที่ไปรบกวน" สิปาดันพูดกับกีรติ "ไป กลับ"
"กลับเถอะแม่ วุ่นวายมาทั้งคืนแล้ว" อินทนนท์บอก
มาลัยเสียงดัง "เดี๋ยว"
ทุกคนชะงักเพราะกลัวไม่รอด
มาลัยประกาศกร้าว "พวกแกจำเอาไว้ว่าห้ามมายุ่งกับหลานฉัน ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่"
สิปาดันพูดยียวน "ทำไมครับ คุณย่าจะจับผมขึงแล้วเอาแส้ฟาด ๆ ๆ" สิปาดันมีท่าประกอบ "อย่าครับ คุณย่า อย่า ๆ"
สิปาดันกวนตีนสุดขีด
มาลัยโกรธ "ไอ้สิปา!”
นวลหยิกสิปาดัน "พอได้แล้ว ฉันกลับก่อนนะมาลัย พาตากบไปส่งบ้านเถอะเร็ว"
นวลรีบลากสิปาดันออกไป กีรติเดินตาม อินทนนท์ตาม
มาลัยรู้สึกทะแม่งๆ แล้วหันมาหามิ้งค์กับแพทที่ยังยืนอยู่ ทั้งสองสะดุ้งคิดในใจว่าซวยแล้วที่โดนทิ้งไว้
"แล้วเราสองคนมาทำอะไรที่นี่" มาลัยถาม
แพทจำต้องยอมรับ "ที่นี่เป็นออฟฟิศใหม่ค่ะ"
"ออฟฟิศใหม่งั้นยัยลันก็ต้องทำงานที่นี่ด้วยใช่ไหม" อังถาม
มิ้งค์ลืมตัว "ใช่ค่ะ"
แพทกระแทกสีข้างมิ้งค์ดังปึ้ก
"เฮ้ย!”
มิ้งค์นึกได้ "แต่ก็ต้องรอให้งานที่เชียงใหม่เรียบร้อยก่อนค่ะ"
มาลัยมองอย่างจับสังเกตแล้วจะถาม
มิ้งค์ตัดบท "เอ่อ..ตอนนี้ดึกแล้ว เดี๋ยวมิ้งค์ไปส่งนะคะ"
ทุกคนหันไปมองมิ้งค์
"มิ้งค์มีรถตั้งแต่เมื่อไหร่" มาลัยถาม
"ไม่ใช่รถมิ้งค์ค่ะ" มิ้งค์หันมาหาพอล "นี่คุณ"
พอลรู้หน้าที่ "เดี๋ยวผมไปส่งเองครับ เชิญครับคุณย่า"
มิ้งค์กับพอลช่วยกันต้อนมาลัยกับอังออกไป แพทโล่งใจจนแทบหมดแรง ลันตารีบวิ่งลงมาหาแพท ทั้งสองคนกอดกันอย่างโล่งใจ
"นึกว่าจะตายซะแล้ว แล้วนี่ย่ามาที่นี่ได้ยังไง" ลันตาถาม
"ก็ไอ้สิปาน่ะสิ" แพทว่า
ลันตามองว่าสิปาดันทำไม พิธานยืนฟังอยู่มุมหนึ่งอย่างเก็บข้อมูล
สิปาดันขับรถเข้ามาจอดอีกหน สิปาดัน กีรติ ย่านวล และอินทนนท์ลงมาจากรถ
อินทนนท์ระแวง "แกแน่ใจเหรอว่าปลอดภัยแล้ว ไอ้หมา"
สิปาดันหยิบโทรศัพท์มาอ่านไลน์จากมิ้งค์
"มิ้งค์ไลน์มาว่าพาย่ามาลัยกับป้าอังกลับบ้านไปแล้ว ปลอดภัยแน่นอนครับ"
แพทกับลันตาเดินออกมา
"ขอบคุณมากนะคะที่คุณกบอุตส่าห์รับเป็นหนังหน้าไฟให้ กีรติว่าไม่มีปัญหาครับ ถ้าเป็นเรื่องของคุณลันผมยินดีเป็นหนังหน้าไฟให้...ตลอดชีวิตครับ" กีรติเริ่มแผนตัวเองด้วยการบีบสิปาดันให้ยอมรับความจริงเรื่องรักลันตา
ทุกคนอึ้งกันหมดที่กีรติออกนอกหน้า
"มันก็ดีเหมือนกันนะครับคุณย่าจะได้จำหน้าผมแม่นๆ" กีรติว่า
ทุกคนเงียบ
แพทเสียงดังขึ้นมา "ดึกแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ ไอ้ลัน แกรีบกลับไปเลย เผื่อคุณย่าวกกลับมาอีกเจอแกล่ะทีนี้ ฮารอบวงแน่"
แพทผลักลันตาไปทางสิปาดันก่อนจะหันไปลากมือของกีรติ
"กลับเลยคุณ กลับ ๆ ๆ"
ลันตากับสิปาดันมองหน้ากัน
"จะกลับบ้านได้หรือยัง หรือจะอยู่รอพี่พิธาน" สิปาดันบอก
ลันตาฟังแล้วอารมณ์ขึ้นจึงจะเปิดฉากเอาเรื่อง
นวลรีบตัดบท "ตาหนูหลับอยู่บนรถ จะทำอะไรคิดถึงเด็กด้วยนะ"
"กลับบ้านเถอะ ลุงเหนื่อย ไป" อินทนนท์บอก
ลันตาต้องยอมขึ้นรถ
อินทนนท์หันมาหาสิปาดัน "เงียบปากแกแล้วโลกจะสงบสุขขึ้นเยอะ เข้าใจไหม"
"แต่...”
"หรืออยากวิ่งตามหากันทั้งคืน" อินทนนท์บอก
"รู้แล้วครับพ่อ" สิปาดันรับ
อินทนนท์เดินไปขึ้นรถ สิปาดันขึ้นประจำที่นั่งคนขับ
มาลัยกับอังเดินมาที่หน้าบ้าน พอลกับมิ้งค์เดินตามมาส่ง
"ดึกแล้ว มิ้งค์กลับก่อนนะคะคุณย่า ป้าอัง สวัสดีค่ะ" มิ้งค์ลา
"สวัสดีครับ" พอลพูด
"มิ้งค์...” มาลัยเรียก
มิ้งค์สะดุ้งตกใจว่าแย่แล้วแต่ก็ยังใจดีสู้เสือ "คะคุณย่า"
"มิ้งค์รู้ใช่ไหมลูก ว่าย่าก็รักมิ้งค์เหมือนหลานย่าแท้ๆ" มาลัยบอก
"มิ้งค์ก็นับถือคุณย่ากับป้าอังเหมือนญาติผู้ใหญ่ของมิ้งค์ค่ะ"
"ย่าเข้าใจว่ามิ้งค์เป็นน้องเล็กสุดในกลุ่ม จะพูดจะบอกอะไรก็คงลำบาก แต่มิ้งค์เข้าใจใช่ไหมว่าย่ารักและเป็นห่วงพี่ลันเขามาก" มาลัยว่า
พอลมองแบบรู้ว่ามิ้งค์แย่แน่
"ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ลันเขา ย่าคงจะเสียใจที่ดูแลเขาได้ไม่ดี" มาลัยบอก
"คุณย่าคะ พี่ลันเขา...”
พอลต้องรีบกระแอม
มิ้งค์ได้สติ "เขาคงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ พี่เขาเก่ง"
"มิ้งค์ไม่ได้ปิดบังอะไรย่าใช่ไหมลูก"
มิ้งค์อึกอักว่าซวยแล้วและไม่อยากโกหก
"มิ้งค์เขาซื่อ ๆ ไม่กล้าโกหกใครหรอกครับ" พอลว่า
มาลัยมองพอลอย่างพินิจ "ดูคุณจะรู้จักยัยมิ้งค์ดีนะ" มาลัยหันมาถามมิ้งค์ "แฟนเราเหรอ"
มิ้งค์ยังไม่ทันปฏิเสธ
พอลแทรก "ครับ"
มิ้งค์มองพอลเหวอ ๆ โดยไม่คิดว่าพอลจะยอมรับหน้าตาเฉยแบบนี้
"เราเพิ่งจะเรียนจบ งานก็เพิ่งเริ่มริจะมีแฟนแล้วเหรอ" มาลัยว่า
มิ้งค์หน้าเสีย อังสงสารจึงพูดช่วยเต็มที่
"แต่ยังดีนะคะมีแฟนคนแรกตอนเรียนจบแล้ว ไม่หมกมุ่นตั้งแต่เรียน ถือว่าโตแล้วนะคะคุณพี่"
มาลัยมองดุอังที่ช่วยเหลือเกิน "ก็ทำให้มันดีก็แล้วกัน พ่อแม่จะได้ภูมิใจ"
มิ้งค์ยกมือไหว้ขอบคุณ "ค่ะคุณย่า"
"กลับไปเถอะดึกแล้ว" มาลัยบอก
อังย้ำ "ส่งบ้านนะพ่อหนุ่ม"
"ผู้ชายดี ๆ เขาอดทนรอจนถึงเวลาอันควรได้" มาลัยหันมาหาพอล "จริงไหม"
"ครับ...ผมรอได้...เพราะมันคุ้มที่จะรอ" พอลบอก
ผู้ใหญ่มองยิ้มๆ อย่างพอใจ มิ้งค์เขิน พอลกับมิ้งค์เดินออกไป
อังหันมาหามาลัย "คุณพี่ว่ามันแปลก ๆ ไหมคะ"
"ฉันรู้ว่ายัยลันต้องอยู่ที่นั่น แต่ในเมื่อดูจะมีคนช่วยปกปิดกันมากเหลือเกินแสดงว่าต้องมีเรื่องใหญ่ซ่อนอยู่ ฉันจะรอ อีกไม่นาน..." มาลัยคิดว่าจะต้องได้รู้แน่ ๆ จึงมีสายตาเชื่อมั่นมาก
อังมองมาลัยอย่างชื่นชมในความฉลาดของพี่สาว
นวลเอาตาหนูลงนอนบนเตียงเด็ก แล้วนวลก็หันมาเจอกับอินทนนท์ที่เดินเข้าห้องมา
"ยังไม่ขึ้นมาอีกเหรอ" นวลถาม
"คงเคลียร์กันยาวล่ะแม่ แม่จ๋า...ถ้าหนูลันโกรธเรื่องไอ้สิปามันไปกินปากแม่หนูมะนาวจริงๆ หนูว่าไอ้หมาเรามีสิทธิ์ลุ้นนะแม่" อินทนนท์ว่า
นวลมองว่าหมายความว่ายังไง
"ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆ มันต้องแซวสิแม่ ไม่ใช่โกรธ ถ้าโกรธแสดงว่า.....”
นวลคิดตามแล้วยิ้ม "เออ..ถูกของแก"
ทั้งสองคนยิ้มกันอย่างมีความหวังมากๆ ที่จะได้ลันตามาเป็นสะใภ้
สิปาดันเดินมาด้วยสีหน้าเครียดมาก
"แกไปอยู่ที่นั่นกับไอ้พิธานได้ยังไง"
"มันจะเพราะอะไร สำคัญกับแกด้วยเหรอ" ลันตาถามกลับ
"แกก็เห็นแล้วมันไว้ใจไม่ได้! เรื่องแค่นี้แกยังดูไม่ออกอีกเหรอ"
"ฉันรู้จักพี่พิธานดีมากกว่าแก ฉันรู้ว่าจะรับมือเขายังไง แกต่างหากที่ดูคนไม่เป็น หรือว่าความจริงแกแกล้งโง่ ไม่รู้ว่ามะนาวเข้าหาแกทำไม"
"มะนาวน่าสงสาร ทั้งเรื่องป้าเอื้องคำ เรื่องฉัน" สิปาดันหมายถึงเรื่องที่หลงรักแกจนทำร้ายเขา "ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจเขา"
"แกจะกลับไปคบกับเขาใช่ไหม" ลันตาถาม
"ฉันแค่...”
"ก็ต้องใช่สินะ ฉันไม่น่าถามโง่ๆ ไม่งั้นแกคงไม่หน้ามืดคิดจะกินไม่เลือกสถานที่อย่างวันนี้ ฉันมองแกดีเกินไป สุดท้ายแกก็แค่ผู้ชายมักง่าย"
สิปาดันอารมณ์ขึ้นทันที "ต้องดีขนาดไหนถึงจะพอในสายตาแก ดีอย่างไอ้พิธานที่ตามไปกินแกในห้องทำงานงั้นสิ มันเป็นคนเลือกหรือว่าแกเลือกล่ะ"
"ไอ้สิปา!”
ลันตาตบดังเพี้ยะเข้าให้
"ปากสกปรก!”
สิปาดันได้สติว่าพูดแรงไป "ไอ้ลัน...ฉัน"
"นี่ใช่ไหม..ที่แกคิดว่าฉันเป็น ขอบใจที่บอกให้รู้ว่าแกเห็นฉันเป็นผู้หญิงแบบไหน ก็ไม่เลวนะ เริ่มต้นกับพี่พิธาน ผู้ชายดีๆ ที่ดันให้งานฉันก้าวหน้าได้ ฉันควรจะจับไว้กินสินะ"
"ไอ้ลัน...อย่าประชด"
"ฉันจะทำจริงๆ" ลันตาเสียงกร้าว "ฉันจะรีบเคลียร์เรื่องตาหนูให้เร็วที่สุด แล้วทุกอย่างที่มันวุ่นวายจะได้จบ! ไม่ต้องมายุ่งกันอีก"
ลันตาออกไปโดยทิ้งสิปาดันมองตามด้วยความเจ็บปวด
นวลกับอินทนนท์รอจนลันตาเดินเข้ามา
"หนูลัน...”
"ลันปวดหัวน่ะค่ะ ขอเข้าไปพักก่อนนะคะ"
ลันตาเดินเข้าห้องนอนเพื่อเก็บตัว นวลกับอินทนนท์มองหน้ากัน
"ท่าจะจบกันมาไม่สวยนะแม่"
สิปาดันตามเข้ามาในห้อง
"สิปา...” อินทนนท์เรียก
"ผมเหนื่อย พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะพ่อ" สิปาดันบอก
สิปาดันเข้าห้องตัวเองไปอีกคน
"งั้นก็ให้สงบสติทั้งคู่ก่อนแล้วเช้าค่อยว่ากันอีกที" นวลว่า
อินทนนท์ได้แต่ทำหน้าเซ็ง ๆ
สิปาดันและลันตาต่างก็อยู่ในมุมของตัวเอง ทั้งสองต่างก็เสียใจที่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะเริ่มต้นที่จะมีคนรักเป็นคนอื่น
สิปาดันออกมาจากห้องนอนเจอย่านวลกับอินทนนท์ที่รออยู่ด้วยท่าทีรอการซักฟอกมาก ๆ สิปาดันจะหันกลับเข้าห้องแต่อินทนนท์เข้ามาลากคอเสื้อไว้
"จะไปไหน มานี่"
ลันตาออกมาจากห้องอีกคน เธอเห็นเหตุการณ์แล้วจะถอยหลังเหมือนกัน
"มานั่งที่โต๊ะนี่ ห้ามหลบ ทั้งคู่" อินทนนท์เสียงแข็ง
สิปาดันกับลันตาไม่มีใครกล้าขัด ทั้งสองต่างนั่งโดยไม่ยอมมองหน้ากัน อินทนนท์ยืนหัวโต๊ะจะจัดการสอบสวน จู่ๆ เสียงกริ่งก็ดังรัว อินทนนท์หงุดหงิดเล็กน้อยที่โดนขัดแต่ก็เดินไปเปิดประตู แพทพุ่งเข้ามาในห้อง
"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณย่า" แพทหันมาหาลันตา "ไอ้ลันเกิดเรื่องใหญ่แล้วแก"
ทุกคนมองว่าแพทมีเรื่องอะไร
แพทหยิบโทรศัพท์มาเปิดไอจีให้ลันตาดู
"ให้ฉันดูไอจีทำ...ไม..." ลันตาตกใจ "เฮ้ย! นี่มิ้งค์อยู่ไหน"
สิปาดัน นวล และอินทนนท์มองอย่างเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น
มิ้งค์เข้ามาที่ออฟฟิศสาย พอเจอเพชรมิ้งค์ก็ทักทาย
"สวัสดีค่ะพี่เพชร พี่ๆ สวัสดีค่ะ"
ทุกสายตาดูจะมองทางมิ้งค์อย่างไม่พอใจจนมิ้งค์รู้สึกได้
"มีอะไรกันหรือเปล่าคะ ทำไมดูมาคุกันจัง"
สุวิภาเข้ามาพร้อมกับกิ๊ก
"ลันตาอยู่ไหน" สุวิภาถาม
"พี่ลันกำลังเข้ามาค่ะ"
สุวิภามองหน้ามิ้งค์ "เราใช่ไหมที่ใช้ไอจีชื่อมุ้งมิ้งค์"
"ค่ะ มีอะไรเหรอคะ"
สุวิภาโกรธ "บริษัทต้องเสียหายเพราะเธอยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่ามีอะไร"
มิ้งค์งง ธัญญาเรศกับติ๊ดตี่เข้ามาช่วยเสริม
"เด็กวุฒิภาวะต่ำน่ะค่ะ คิดไม่เป็นว่าอะไรควรไม่ควร ชอบพรีเซ้นต์ไม่รู้จักเวร่ำเวลา"
"เดี๋ยวนะคะ นี่มันเรื่องอะไร มิ้งค์ไม่เข้าใจ"
"พี่รู้ว่ามิ้งค์ชอบถ่ายรูป แต่น่าจะคิดสักนิดก่อนจะทำนะ" กิ๊กเอาโทรศัพท์ของตัวเองให้มิ้งค์
มิ้งค์เปิดดูแล้วก็อึ้งที่เห็นว่าในไอจีมิ้งค์เป็นภาพงานถ่ายแฟชั่นสิปาดัน เป็นรูปเด็ด ๆ ภาพหน้าปกที่เลือกไว้ลงเต็มแบบไม่มีเหลือ
มิ้งค์ตกใจ "เฮ้ย!”
มิ้งค์เห็นสายตาทุกคนมองมาอย่างตำหนิก็ทำอะไรไม่ถูก
"มิ้งค์ไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ มิ้งค์ไม่ได้อัพรูปหรือเช็คไอจีเลยด้วยซ้ำ"
"แล้วใครจะอัพรูปให้น้องได้ล่ะคะ มันก็ต้องเป็นเครื่องของน้องแน่นอน" ติ๊ดตี่บอก
"ถ้าจะมึนว่าไม่ใช่ฝีมือตัวเอง ก็ขอดูแกลอรี่ในโทรศัพท์สิคะว่ามีรูปที่เหมือนกับที่อัพในไอจีหรือเปล่า" ธัญญาเรศเสนอ
"เอาโทรศัพท์มาสิมิ้งค์" กิ๊กบอก
มิ้งค์จำต้องส่งโทรศัพท์ให้ กิ๊กรับมาเปิดให้สุวิภาดู
"เหมือนทุกรูปเลยค่ะ" กิ๊กบอก
"แต่มิ้งค์ไม่ได้ทำจริง ๆ นะคะ มิ้งค์"
สุวิภาโกรธ "ฉันไล่เธอออก"
มิ้งค์ตะลึง ธัญญาเรศ กิ๊ก และติ๊ดตี่มองอย่างสะใจ
อ่านต่อหน้าที่ 3
รักต้องอุ้ม ตอนที่ 11 (ต่อ)
ลันตากับแพทเดินเข้ามาที่หน้าออฟฟิศ มิ้งค์นั่งร้องไห้
“มิ้งค์!” ลันตาเรียก
“พี่ลัน มิ้งค์ไม่ได้อัพรูปนะพี่ มิ้งค์ไม่ได้ทำจริงๆ”
“ใจเย็นๆ นะ พี่เชื่อมิ้งค์”
ตำรวจเดินเข้ามา
“พี่ลัน ตำรวจมา!” มิ้งค์บอก
รัชนีเดินออกมาเห็นลันตา
“มาแล้วเหรอ” รัชนีพูดกับตำรวจ “เชิญข้างในค่ะ”
ตำรวจเข้าไปข้างใน รัชนีจะตาม
“พี่นีคะ ความผิดยังไม่ได้พิสูจน์ก็แจ้งตำรวจจับกันเลย มันไม่รุนแรงไปเหรอคะพี่นี” ลันตาถาม
“เธอก็รู้ว่าแต่ละคนรอโอกาสนี้อยู่..” รัชนีบอก
“เราไม่ควรจะประนีประนอมแล้วใช่ไหมคะ” ลันตาถาม
“จัดการตามที่เห็นว่าเหมาะสมเถอะ”
รัชนีมองลันตาที่ดูแข็งกร้าวบ่งบอกท่าทีว่าปกป้องลูกน้องสุดชีวิต
สิปาดันเดินออกมาจากห้องโดยแต่งตัวพร้อมจะออกจากบ้าน แต่ก็ชะงักที่เห็นอินทนนท์ยืนรอ ส่วนนวลก็กล่อมตาหนูที่นอนอยู่บนเตียง
“วันนี้ไม่มีบินเหรอ” อินทนนท์ถาม
“ผมยังได้หยุดอีกวันเพราะงานถ่ายแบบของหนังสือลันครับ” สิปาดันบอก
“แล้วนี่แต่งตัวจะออกไปไหน” นวลถาม
“ไปหาหนูลัน” อินทนนท์พูด
“หรือหลบหน้าย่ากับพ่อ” นวลเสริม
สิปาดันเจอคำถามแทงใจดำก็อ้ำอึ้ง
สิปาดันยิ้มประหนึ่งว่าอารมณ์ดีเพราะไม่มีชนักติดหลัง “ผมว่าจะไปหาเมมเบอร์สาวๆ น่ะครับ”
“ทะเลาะกับหนูลันขนาดนี้ แกยังมีอารมณ์ไปเจ๊าะแจ๊ะคนอื่นอีกเหรอ”
“เพื่อนกับเมมเบอร์ผมแยกกันได้ครับ” สิปาดันบอก
“ไม่กลัวหนูลันรู้เหรอ” นวลถาม
สิปาดันทำหน้าซื่อตาใสมาก “ทำไมผมต้องกลัวด้วย ย่ากับพ่อถามแปลก”
“เพราะแกชอบหนูลันไง”
สิปาดันอึ้ง
“ผู้หญิงอย่างไอ้ลัน ถ้าผมชอบก็บ้า...”
สิปาดันชะงักที่เห็นว่าในมืออินทนนท์มีหนังสือป๊อบอัพของตนเองอยู่ก็ตะลึง
“ของแกใช่ไหม” อินทนนท์ถาม
สิปาดันอึกอัก “เอ่อ..”
“อึกอัก ๆ งั้นคงไม่ใช่ของสิปาแล้วล่ะเจ้านนท์ สงสัยจะของหนูลัน เดี๋ยวแม่เอาไปคืนให้หนูลันเอง” นวลบอก
“อย่านะครับคุณย่า” สิปาดันเบรค
อินทนนท์กับย่านวลมองแล้วยิ้มกดดัน สิปาดันรู้ตัวว่าปิดต่อไปไม่ได้แล้ว
ประตูห้องลันตาเปิด สภาพในห้องข้าวของกระจัดกระจาย หลังจากที่พิธานกับสิปาดันต่อยกันตำรวจกับอธิปกำลังฟังแม่บ้านให้การ
“พอมาถึงตอนเช้าก็เห็นห้องคุณลันเปิดอยู่ สภาพในห้องก็เป็นแบบนี้แล้วค่ะ”
“แล้วได้แตะต้อง เคลื่อนย้ายอะไรหรือเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ”
ลันตา แพท และมิ้งค์อึ้งๆ รัชนีมองอย่างกังวล
“ไม่คิดว่าเพิ่งย้ายเข้ามาก็ได้เรื่องซะแล้ว ผมว่าเราคงต้องจ้างรปภ.” อธิปบอก
รัชนีหันมาหาลันตา “ของในห้องมีอะไรหายไปบ้างไหม”
“พี่นีคะ...”
ลันตากำลังจะบอกว่าไม่ใช่ แต่อนุชิตเดินเข้ามา
อนุชิตแทรก “ลัน! เรื่องคุณกับพิธานมันไม่จริงใช่ไหม คุณกับมันไม่ได้มีอะไรกัน”
“คุณนุ นี่คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ”
“ตอบผมมาสิว่าคุณไม่ได้มีอะไรกับมัน”
“ตานุ! แกพูดอะไรของแก”
เสียงสุวิภาดังขึ้น “มีเรื่องอะไรกัน ทำไมตำรวจถึงมาที่นี่”
สุวิภาเข้ามาสีหน้าไม่พอใจมาก
“ห้องของลันตาโดนงัดค่ะ” รัชนีบอก
“แล้วมีอะไรหายไปบ้าง” สุวิภาถาม
ธัญญาเรศเข้ามา
“ไม่มีอะไรหายหรอกค่ะคุณสุ พี่นีคิดว่าเป็นฝีมือโจรน่ะค่ะ ทั้งที่ความจริงมันเป็นฝีมือคนในออฟฟิศเรา”
ทุกคนหันไปมอง
“เธอหมายความว่ายังไง” รัชนีถาม
“พี่นีถามแบบนี้คงยังไม่เห็นคลิป” ธัญญาเรศว่า
ติ๊ดตี่เอาแท็ปเล็ตมาเปิดให้รัชนีดูซึ่งเป็นภาพของลันตาที่เดินเข้าไปในห้อง แล้วพิธานตามเข้าไป
รัชนีหันมาหาลันตา ลันตากับแพทตกใจที่เห็น
“คลิปนี้มันถูกส่งเข้าเมล์ออฟฟิศทุกฝ่ายทุกแผนก แต่ไม่รู้เหตุการณ์ต่อจากนั้นจะรุนแรง แซ่บซี้ดขนาดไหน สภาพห้องถึงได้....” ติ๊ดตี่ว่า
ลันตาส่งสายตาแข็งกร้าว “หุบปาก!”
ติ๊ดตี่สะดุ้ง
สุวิภาพูดกับอธิป “คุณอธิปช่วยดูแลให้คุณตำรวจกลับไปก่อน” สุวิภาพูดกับลันตา “ส่วนเธอเตรียมคำอธิบายสำหรับทุกเรื่องให้ฉันด้วย”
ลันตาเซ็ง
อินทนนท์หัวเสีย
“แค่นี้น่ะเหรอ คำอธิบายของแกที่ไม่ยอมบอกพ่อกับย่าว่าแอบรักหนูลันมาตลอด”
“ก็...ถ้าพ่อกับย่ารู้ว่าผมคิดอะไร พ่อกับย่าคงจะเชียร์ผมจนลันสงสัยแน่” สิปาดันว่า
“สิปาไม่เคยคิดจะบอกหนูลันเลยใช่ไหม” นวลถาม
“ผมกลัวทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม..แค่คิดว่าจะไม่มีลันอยู่ในสายตาของผมอีก ผม....” สิปาดันจะพูดว่าคงรับไม่ไหว
“หนูลันอาจจะชอบแกก็ได้ไม่เสี่ยงก็ไม่รู้” อินทนนท์บอก
“ถึงลันจะชอบผม แต่...” สิปาดันนิ่งไปนิดก่อนตัดสินใจพูด “พ่อก็รู้ว่าย่ามาลัยเกลียดบ้านเรา”
อินทนนท์กับย่านวลอึ้งไปเพราะเป็นเรื่องจริง
“แล้วแกจะยอมแพ้ง่ายๆ หรือไง?” อินทนนท์ถาม
“ผมไม่เห็นทางชนะเลย...” สิปาดันบอก
“ถ้ายืนยันว่าอยู่แบบนี้ได้ พ่อจะเชื่อ แต่ถ้าวันหนึ่งมีผู้ชายมาคว้าหนูลันไป แกจะทำยังไง?”
สิปาดันพูดไม่ออก
พิธานยืนยันหนักแน่น
“ผมอยากเริ่มต้นใหม่กับลันตา”
วันที่กำลังดูเรื่องการจัดร้านหันมาหาพิธานอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ผมอยากรู้ว่าลันตาไม่ได้เป็นแฟนกับสิปาดันแล้วทำไมถึงย้ายมาอยู่ด้วยกัน” พิธานบอก
วันเตือน “ถ้าแค่คิดจะเอาชนะลบปมตัวเอง อย่าทำเลย”
พิธานรู้สึกแทงใจดำและน้อยใจวัน “พี่เคยคิดจะช่วยผมบ้างไหม”
วันเหนื่อยกับความดื้อ “พีท ถ้าแกกับน้องลันรักกัน พี่จะเชียร์ แต่นี่มันไม่ใช่”
พิธานชะงัก “พี่พูดแบบนี้ พี่รู้ใช่ไหมว่าลันตากับสิปาดันตอนนี้....”
วันตัดบท “เรื่องเขาสองคนพี่ไม่รู้ แต่พี่รู้นิสัยแก แกไม่ใช่คนหมุนโลก แกสั่งทุกคนบนโลกนี้ไม่ได้ ยอมรับความจริง”
พิธานเสียงแข็ง “ผมจะทำให้พี่ดูว่าที่พี่พูดมันผิด”
พิธานเดินออกไป วันมองตามด้วยอาการหนักใจ
กีรติเข้ามาที่ออฟฟิศก็เจอกับอธิปที่มาส่งตำรวจ
“เป็นยังไงบ้างครับพี่” กีรติถาม
“กบหมายถึงเรื่องไหนล่ะ ไอจีภาพปกที่หลุดไป หรือคุณลันกับบอส แต่ไม่ว่าจะเรื่องไหนคุณสุวิภาก็สอบอยู่ในห้องเย็นโน่น พี่จะไปดูหน่อยว่าทางโน้นจะเคลียร์ยังไง จะไปไหม?” อธิปถาม
“เดี๋ยวผมตามไปครับ”
อธิปเดินออกไป กีรติหยิบมือถือกดส่งข้อความทางไลน์
“ไอ้สิปา...เป็นเรื่องแล้วว่ะ”
เสียงไลน์ข้อความเข้าดังขึ้น สิปาดันหยิบโทรศัพท์มาเปิดอ่านด้วยสีหน้าเครียด อินทนนท์มองอย่างหมั่นไส้
“ไอ้หล่อ ไอ้พระเอก ไอ้อยู่ห่าง ๆอย่างห่วง ๆ แล้วเมื่อคืนอาละวาดเป็นหมาบ้าทำไม นี่เหรอทนได้” อินทนนท์ว่า
สิปาดันตอบไม่ได้ก็หาทางเลี่ยง
“....เอาเป็นว่าผมขอร้องนะครับ อย่าให้ลันรู้เรื่องสมุดนี่เด็ดขาด”
สิปาดันหยิบสมุดจะเดินออกไป
“สิปาจะไปไหนลูก” นวลถาม
“กบมันโทรมาว่าลันมีเรื่องที่ออฟฟิศ ผมจะไปดูว่าช่วยอะไรได้บ้าง” สิปาดันจะเดินไป
อินทนนท์เป็นห่วง “เดินด้วยความหวังบนทางที่ไม่มีหวัง แล้วจะได้อะไรล่ะสิปา”
สิปาดันหันกลับมายิ้มเศร้าๆ “ก็....ได้รักไงครับพ่อ”
สิปาดันเดินออกไป อินทนนท์กับนวลอึ้งและเครียด
“เป็นเพราะแม่ใช่ไหม ทำให้สิปาได้แค่รัก” นวลถาม
ทั้งสองคนเครียด
ธัญญาเรศมองทางมิ้งค์อย่างหมายมาดมาก
“ค่าเสียหายของบริษัท ค่าถ่ายแฟชั่นที่ต้องถ่ายใหม่ อย่างต่ำ ๆ ก็ห้าแสนบาท ที่มืออัพไอจีต้องชดใช้”
มิ้งค์ตกใจ
“มิ้งค์ไม่จำเป็นต้องชดใช้อะไรทั้งนั้น” ลันตาพูด
ทุกคนหันไปมอง
“บริษัทเสียหายขนาดนี้เธอยังคิดจะปกป้องคนผิดอีกเหรอ เห็นแก่พวกพ้องไม่เห็นแก่ส่วนรวม มีคนทำงานคิดอย่างเธอสักสิบคน บริษัทคงเจริญลงทุกวัน” ธัญญาเรศว่า
ลันตามองธัญญาเรศอย่างยียวน
“แล้วถ้าเป็นเธอ เธอจะทำยังไง” ลันตาถาม
“ถ้าไร้ประสิทธิภาพก็ควรจะลาออกเพื่อรับผิดชอบ คนที่มีคุณวุฒิควรจะคิดเองได้”
ลันตายิ้ม “นี่สินะเป้าหมายของเธอ”
ธัญญาเรศชะงัก
“แต่ก็จริงนะคะ เป็นถึงระดับหัวหน้าก็ควรจะมีความรับผิดชอบในการกระทำของลูกน้อง ถ้ามิ้งค์ผิดจริงฉันก็ควรจะลาออก”
แพทตกใจ “เฮ้ย!”
ทุกคนอึ้ง
นวลลุกพรวดด้วยลูกฮึด
“แม่ยอมไม่ได้!”
อินทนนท์งงว่านวลเป็นอะไร
“แม่ยอมให้มาลัยเข้าใจแม่ผิด โดนตราหน้าเป็นคนโกง แต่แม่จะไม่ยอมให้สิปาต้องผิดหวัง ถ้าที่เราคิดเป็นความจริง แม่จะทำทุกอย่างให้หลานแม่สองคนได้รัก ได้แต่งงานกัน แกจะช่วยแม่ไหม ตานนท์”
“มันแน่นอนอยู่แล้วครับแม่ แต่แม่มีแผนแล้วเหรอจ๊ะว่าจะทำยังไง”
นวลส่ายหน้า
“แกก็ช่วยแม่คิดสิเร็วเข้า”
อินทนนท์เหวอเพราะเอาใจไม่ถูกเลยทีเดียว
รัชนีไม่ยอม “แต่Dream กำลังจะวางแผง ลันจะทิ้งงานไปครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ญ่าจะช่วยดูแลต่อให้เอง” ธัญญาเรศบอก
แพทกับมิ้งค์หันมองหน้าธัญญาเรศอึ้งๆ แต่ลันตากลับยิ้มพอใจ
“ใจเย็นๆ สิคะ ฉันยังไม่ได้ลาออกนะ” ลันตาบอก
ธัญญาเรศสวน “คิดจะยื้อ?”
“ฉันออกแน่ แต่ถ้าจะออกหลักฐานต้องแน่นค่ะ”
ลันตาเปิดประตู ทุกคนงงที่เห็นพอลก้าวเข้ามา
สุวิภางง “คุณ...”
“ลันเชิญมาเองค่ะ คุณพอลจะช่วยเคลียร์ทุกเรื่อง”
“แพท พี่ว่าเรื่องนี้ต้องเคลียร์ให้พร้อมหน้าทุกคน ช่วยตามคุณพิธานให้พี่ทีนะ” รัชนีบอก
“มิ้งค์ โทรตามติ๊ดตี่มาทีนะ” ลันตาสั่ง
มิ้งค์รับคำ “ค่ะ”
แพทเดินออกไปทันที ธัญญาเรศมองหน้าพอลกับลันตาอย่างระแวง
กีรติคุยมือถือมาตามทางเดิน
“ถึงไหนแล้ววะ”
แพทเดินเข้ามา
“แกรีบมานะ” กีรติวางสาย “แพท คุณลันเป็นไงบ้าง”
พิธานเข้ามาในจังหวะที่ได้ยินพอดี
แพทพูด “ตอนนี้ฉันก็มึนเหมือนกัน ฝีมือไอ้ญ่าทั้งเรื่องไอจีกับขังไอ้ลันเมื่อคืนน่ะใช่แน่ แต่ยังสรุปไม่ได้เพราะพี่นีรอคุณพิธานมาฟังด้วยกันทีเดียว”
“ไอ้สิปากำลังมา มันจะมาช่วยเคลียร์เรื่องเมื่อคืน” กีรติบอก
“แล้วจะตอบคำถามว่ามันพังประตูเพราะอะไรล่ะ ถ้ามันจบที่ไอ้ลันอยู่กับพี่พิธานในห้อง ฉันว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่”
“แพท..” พิธานเรียก
แพทกับกีรติชะงัก
พิธานพูดกับกีรติ “ผมขอคุยกับแพทส่วนตัวได้ไหม”
“ครับ..”
กีรติอึ้ง ๆ แล้วก็ออกไป แพทมองพิธานว่าต้องการอะไร
ติ๊ดตี่ที่กำลังจะไปห้องประชุมชะงักที่เห็นพิธานกับแพทยืนคุยกัน ติ๊ดตี่สอดรู้สอดเห็นทันที
“พี่อยากรู้เรื่องสิปาดันกับลันตา” พิธานบอก
“ทำไมเหรอคะ” แพทถาม
“ทำไมลันตาถึงมาอยู่คอนโดสิปาดันได้ทั้งที่ไม่ได้เป็นแฟน ไม่ได้แต่งงานกัน”
“เป็นเรื่องส่วนตัวของลันค่ะ แพทคงตอบแทนไม่ได้”
พิธานจะถามต่อ
แพทแทรกทันที “ตอนนี้ลันกำลังเดือดร้อน คุณก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุความเดือดร้อนของลันเหมือนกัน คิดจะแก้ไขบ้างไหมคะ”
“ได้สิ พี่จะช่วยลันเอง”
แพทมองว่าจะช่วยยังไง พิธานไม่ตอบแต่เดินออกไป ติ๊ดตี่แอบมองด้วยความสนใจ
พิธานเดินเข้ามา ติ๊ดตี่เข้ามาหลังสุด
“ทุกคนมาพร้อมแล้ว” สุวิภาพูดกับพอล “คุณมีอะไรก็ว่ามา”
“ผมเลือกใช้เครื่องมือแฉด้วยเทรนด์สุดฮิตของทศวรรษนี้” พอลบอก
พอลเปิดคลิปเข้ากับจอทีวี ทุกคนมองที่ภาพบนจอ ภาพในคลิปเป็นภาพของกิ๊กที่กำลังขโมยมือถือของมิ้งค์ไปจัดการกด ๆ พอลยกโทรศัพท์ขึ้นมาในเฟรมให้เห็นว่าตอนที่กิ๊กกำลังกดอัพรูปเป็นเวลาบ่ายสอง แล้วหันไปถ่ายภาพของมิ้งค์ที่กำลังแจกข้าวอยู่เป็นการยืนยัน
พอลยิ้ม “ชัดเจนนะครับ ว่าคนอัพไอจีน่ะใคร”
กิ๊กตกใจมาก
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” สุวิภาถาม
“กิ๊ก...” ลันตาอึ้ง
ทุกคนหันมองกิ๊ก กิ๊กหันไปทางธัญญาเรศ ทุกคนมองตาม ธัญญาเรศอึ้งที่ตัวเองกลายเป็นเป้าสายตา
“วางแผนซับซ้อนจริง...ฉันรู้ว่าเธอตั้งใจยัดเยียดกิ๊กมาทำงานทีมฉัน...และฉันก็ตั้งใจเล่นตามเกมเธอ” ลันตาว่า
“จัดฉาก..คิดจะใส่ร้ายฉันใช่ไหม” ธัญญาเรศว่า
“ก่อนถ่ายแบบสองอาทิตย์ผมสังเกตว่ามีคนมาฟอลโล่มิ้งค์ สาม สี่คนที่ไม่อัพรูปโปรไฟล์ แล้วก็มีหนึ่งคนในนั้นที่ฟอลโล่มิ้งค์คนเดียว แต่ด้วยความเคยชินก็เลยลิ้งค์ไอจีกับเฟสบุ๊คของตัวเอง ไม่น่าเลยนะคุณติ๊ดตี่” พอลบอก
ติ๊ดตี่ตกใจ “ตายแล้วพี่ญ่า น้องพลาด” ติ๊ดตี่นึกได้ว่าออกรับไปเอง “อุ๊บ!”
ทุกคนอึ้ง
กีรติรอคอยอย่างกระวนกระวายพลางโทรตามจี้สิปาดัน
“ฉันได้ยินคุณพิธานบอกแพทว่าจะทำอะไรสักอย่าง แกมาเร็วหน่อยได้ไหมวะสิปา” กีรติบอก
ลันตายังต้อนกิ๊กกับธัญญาเรศแบบแทบจะปฏิเสธไม่ได้
“กิ๊กจงใจมาตีซี้มิ้งค์ แล้วขอช่วยฝ่ายคอสตูม ฉันก็เลยขอให้คุณพอลช่วย”
“คุณกิ๊กคอยวนเวียนอยู่แถวกระเป๋ามิ้งค์ตลอดเวลา ผมก็เลยอำนวยความสะดวก” พอลบอก
มิ้งค์แทรก “ที่คุณให้ฉันเอามือถือไปเก็บในกระเป๋าเพราะอย่างนี้เองเหรอ”
พอลยิ้ม
“ไม่จริง ถ้าเธอรู้ดีขนาดนี้เธอคงไม่ปล่อยให้ภาพแฟชั่นมันหลุดไปไกลขนาดนี้”
“ฉันอยากให้เธอคายเป้าหมายของเธอออกมา”
“งั้นก็ชัดว่าถ้าลันตาลาออก เธอก็จะเสียบควบทำสองเล่ม ออกตัวแรงตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนี่” แพทว่า
“ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะกล้ายอมให้บริษัทเสียหายเพื่อจับผิดฉัน” ธัญญาเรศบอก
“เชื่อเถอะ เพราะพี่เป็นคนอนุญาตให้ลันตาทำแบบนี้เอง” รัชนีพูด
ทุกคนอึ้ง
รัชนีพูดกับธัญญาเรศ “ลืมแล้วเหรอว่าใครเป็นคนอนุมัติให้ลันรับกิ๊กเข้ามาทำงานในดรีม”
ธัญญาเรศเอาตัวรอดทันที “กิ๊ก...เธอร่วมมือกับลันตาใส่ร้ายพี่ทำไม”
ทุกคนหันมองกิ๊ก กิ๊กไม่ตอบแต่กดโทรศัพท์เปิดเสียงที่อัดไว้ในเวลาที่คุยผ่านโทรศัพท์
เสียงธัญญาเรศดังขึ้น “พวกมันเชื่อเธอไหม”
ตามมาด้วยเสียงกิ๊ก “เชื่อค่ะ ยิ่งมิ้งค์น่ะเชื่อสนิท”
เสียงธัญญาเรศ“ดี นังมิ้งค์มันจะต้องหมดอนาคต โทษฐานที่มาลามปามฉัน”
ทุกคนฮือฮา
“ขนาดเพื่อนรัก พี่ยังหักหลังได้แล้วลูกน้องอย่างกิ๊กก็คงไม่ต่างกัน” กิ๊กว่า
ธัญญาเรศอึ้งที่โดนแฉแบบนันสต็อป
“เรื่องไอจีของมิ้งค์ลันมีบทสรุปทั้งหมดอย่างที่ทุกคนได้เห็นค่ะ ที่เหลือลันคงต้องขอให้ทางผู้ใหญ่ทุกท่านตัดสินเรื่องนี้ตามความเหมาะสม” ลันตาบอก
ทุกคนหันไปมองที่รัชนี สุวิภา และพิธาน สุวิภาอึ้ง ธัญญาเรศหันมองทางสุวิภาอย่างวิงวอน สุวิภามองตอบด้วยสายตาโกรธมาก
นวลจะออกไปจากห้อง อินทนนท์ตามมายื้อไว้สุดแรง
“หนูไม่ให้ไป!”
“แม่จะไปคุยกับพี่เอื้องคำให้รู้เรื่อง แม่จะไปเอาที่ดินมรดกที่มาลัยเสียไป คืนให้มาลัย ขอโทษมาลัย ทำยังไงก็ได้ให้มาลัยอภัยให้แม่ ให้สิปากับหนูลันรักกันได้” นวลบอก
“แม่จ๋า ถ้าแม่ไป ป้าเอื้องคำขูดรีดเราหมดตัวแน่แม่”
“เท่าไหร่แม่ก็ยอม แลกกับสิปามีความสุข แม่จะทำ แกอย่ามาห้าม”
“ถ้าเราหมดตัวแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเป็นสินสอดหนูลันล่ะแม่ สมัยนี้รักกันแล้วมีแต่ตัวเครียดตาย ไม่มีเงินก็ไม่มีหลาน แม่อยากแก่ตายโดยไม่เห็นหลานหรือไง”
นวลชะงัก “เออ..จริง แล้วจะให้แม่ทำยังไง แกช่วยแม่คิดสิ” นวลตีไหล่อินทนนท์แล้วเร่งสุดฤทธิ์ “คิด ๆ ๆ”
“แม่ นี่แม่ใจร้อน หรือวัยทองเนี่ย”
“เจ้านนท์!”
“แม่ฟังนะ หนูแค่จะบอกว่าเรื่องที่ดิน หนูกำลังหาทางติดต่อกับผู้ใหญ่ที่ถือครองโฉนดอยู่ แต่ถ้าแม่ไปทำให้ไก่แก่อย่างป้าเอื้องคำตื่น เดี๋ยวทุกอย่างมันจะยาก”
นวลมองอินทนนท์อย่างไม่ไว้ใจ
“มองอย่างนี้ ดูถูกลูกชายแม่มาก ไอ้หมามันหลานแม่ มันก็ลูกหนูเหมือนกันนะ หนูพูดเลยว่า สะใภ้ของเราต้องเป็นหนูลันคนเดียวเท่านั้น”
“จัดการให้เร็วที่สุดนะ” นวลบอก
“จ้ะแม่ ไปดูตาหนูเถอะแม่ เชื่อหนูว่าหนูจะจัดการเรื่องนี้ให้แม่เอง”
นวลยอมกลับเข้าไปในห้อง อินทนนท์ถอนใจด้วยความโล่งอก
ทุกคนมองธัญญาเรศว่าจะว่ายังไง
รัชนีพูด “ธัญญาเรศก็เป็นถึงหัวหน้ามีวัยวุฒิคุณวุฒินี่นะ เธอคิดว่าจะรับผิดชอบกับความเสียหายครั้งนี้ยังไงล่ะ”
ธัญญาเรศอ้ำอึ้ง
แพทพูด “แบบที่เธอเสนอเมื่อกี้ดีไหม รับผิดชอบในการกระทำของลูกน้องกับของตัวเอง ด้วยการ...”
ติ๊ดตี่พูดเสียงดังแทรกขึ้นมาอย่างตกใจ “ลาออก ! น่ะเหรอคะ...”
ธัญญาเรศหันขวับไปมองติ๊ดตี่ ติ๊ดตี่สะดุ้ง
สุวิภาแทรกขึ้นมา “เอาเป็นว่าฉันกับคุณพิธานจะตัดสินใจเรื่องนี้เอง”
“แล้วเรื่องที่มิ้งค์ถูกให้ออก”
“ในเมื่อไม่ผิด ก็ทำงานได้เหมือนเดิม”สุวิภาบอก
“ถ้างั้นก็จบการประชุม” รัชนีสรุป
“ยังจบไม่ได้” สุวิภาบอก “เรื่องคลิปเธอกับคุณพิธาน เธอจะว่ายังไง”
เสียงโทรศัพท์ของลันตาดัง แพทตกใจก็หยิบมาดูเห็นว่าเป็นมาลัยโทรมา แพทตกใจมาก ลันตามองว่ามีอะไร
แพทลุกมา “ย่ามาลัยโทรมา”
พิธานมองอาการลันตากับแพทด้วยความสนใจ
“เอาไงดี” ลันตาถาม
“เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง แกตั้งสติดีๆ” แพทบอก
“ฝากด้วยนะ”
แพทพูดกับรัชนีและสุวิภา “ขออนุญาตนะคะ”
แพทเดินออกไป ลันตาเครียด
แพทเดินออกมาโดยเสียงมือถือยังดังไม่หยุด
“ค่า คุณย่า จะรับแล้วค่า”
แพทกำลังจะกดรับแล้วก็นึกขึ้นได้
“ถ้าเรารับ แปลว่าเราอยู่กับไอ้ลัน ความก็แตกสิวะ” แพทร้อนรน “เอาไงดี” แพทตัดสินใจแล้วก็กดปิดเสียงก่อนจะยกโทรศัพท์ไหว้ “ขอโทษนะคะคุณย่า หนูรับสายไม่ได้จริงๆ”
ที่หน้าจอยังมีสายเรียกเข้าไม่หยุด แพทเครียด
มาลัยมองโทรศัพท์อย่างหัวเสีย
“นี่จงใจไม่รับสายย่าใช่ไหมยัยลัน” มาลัยจะกดโทรซ้ำอีกที
ทันใดนั้นก็มีเสียงโครมดังมาจากด้านหลัง
เสียงอังร้อง “โอ้ย!”
มาลัยตกใจแล้วเดินไปดูก็เห็นอังนั่งทรุดอยู่กับพื้นส่วนจานที่ใส่ผลไม้กระจายอยู่ที่พื้น
“หล่อนเป็นอะไร...แล้วทำไมผลไม้มันกระจายแบบนั้น”
“น้องซุ่มซ่ามเองค่ะ” อังจะลุกแต่ก็เจ็บสะโพกมาก “อูย...”
อังยังพยายามจะลุกแต่ก็เจ็บ
“โอ้ย! น้องลุกไม่ไหวค่ะคุณพี่ เจ็บมาก” อังยังพยายามแต่ก็ทรุดลงมาด้วยความเจ็บ
มาลัยมองอาการอังด้วยความกังวล
แพทมองดูจนสายหลุดไปแล้วก็โล่งใจ แพทจะเดินเข้าห้อง แต่กีรติพาสิปาดันเข้ามาก่อน
“แพทลันล่ะ” สิปาดันถาม
“กำลังเริ่มสอบสวนเรื่องเมื่อคืนอยู่” แพทบอก
สิปาดันจะเดิน เข้าไป
“เฮ้ย! ไอ้สิปา จะทำอะไร” แพทถาม
“ฉันจะเข้าไปช่วยลัน” สิปาดันตอบ
“ให้สิปามันเข้าไปจะได้ช่วยเบี่ยงความสนใจจากคุณพิธานไง” กีรติว่า
“มันจะเวิร์คเหรอเหรอแก...” แพทสงสัย
ทั้งสามคนชะงักที่ได้ยินเสียงสุวิภาดังจากในห้องประชุม
“ต้องรบกวนขอคำอธิบายจากคุณพิธานด้วยนะคะ คลิปมันแพร่ไปทั้งออฟฟิศแล้ว ฉันไม่อยากให้คนทำงานมีเรื่องเม้าท์ไปเรื่อยจนทำให้งานเสีย ว่ายังไงล่ะลันตา เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น”
สิปาดันพุ่งไปเปิดประตูห้องประชุมทันที แพทกับกีรติต้องรีบตาม
สิปาดันเข้ามาในห้อง ทุกคนงงกับการปรากฏตัวของสิปาดัน
สุวิภาหันมาทางลันตา “นี่ก็เธอเชิญมาใช่ไหม”
“เปล่าค่ะ” ลันตางงว่าสิปาดันมาทำไม
พิธานเห็นสิปาดันก็คิดใช้โอกาสนี้ทันที
พิธานพูดแทรก “ทุกคนคงจะรู้แล้วว่า ผมเป็นแฟนเก่าของลันตา และภาพนี้เกิดขึ้นเพราะตอนนี้ผมกับลันตากำลังจะเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง”
อนุชิตลุกขึ้นทันที ทุกคนหันไปมองก็เห็นอนุชิตหน้าเครียดแสดงอาการไม่ยอม ลันตาหันมองพิธานด้วยสายตาไม่พอใจ
พิธานพูดกับลันตาเบา ๆ “พี่กำลังช่วยกู้ชื่อเสียงให้กับลัน ไม่ต้องกังวลพี่จะรับผิดชอบลันเอง”
“ที่คุณพิธานพูดเป็นความจริงหรือเปล่า” สุวิภาถาม
ทุกคนในห้องมองอย่างรอคำตอบ ลันตามองสิปาดันที่มองมา
ภาพเหตุการณ์ตอนที่ลันตาพูดกับสิปาดันในอดีตย้อนกลับมา
ลันตาพูด “นี่ใช่ไหม..ที่แกคิดว่าฉันเป็น ขอบใจที่บอกให้รู้ว่าแกเห็นฉันเป็นผู้หญิงแบบไหน ก็ไม่เลวนะ เริ่มต้นกับพี่พิธาน ผู้ชายดีๆ ที่ดันให้งานฉันก้าวหน้าได้ ฉันควรจะจับไว้กินสินะ”
ลันตาคิดถึงตอนนั้นแล้วหันไปมองพิธาน
สิปาดันหน้าเสียเพราะกังวลว่าลันตาจะตอบรับพิธาน พิธานยิ้มอย่างอ่อนโยน ลันตายิ้มตัดสินใจ
“เป็นความจริงค่ะ เรื่องแฟนเก่า....”
สิปาดันอึ้งไปชั่วขณะ
“ขอบคุณนะคะที่คิดจะช่วยกู้ชื่อเสียงให้ลัน แต่ลันเกลียดการถูกมัดมือชกและไม่ชอบเลยตามเลยในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง” ลันตาว่า
พิธานอึ้งว่าลันตาหมายความว่ายังไง
“ลันขอเคลียร์ความเข้าใจกับทุกคนตรงนี้เลยว่าลันไม่มีอภิสิทธิ์หรือความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครทั้งนั้น ไม่ว่าคุณพิธานหรือคุณอนุชิต ส่วนเรื่องห้องที่โดนงัด...”
มิ้งค์พูดต่อ “พี่ลันโดนกลั่นแกล้งค่ะ มีคนจงใจขังพี่ลันกับคุณพิธานไว้ในห้อง” มิ้งค์มองไปทางติ๊ดตี่กับธัญญาเรศ
ติ๊ดตี่ร้อนตัว “ฉันไม่ได้ทำนะ”
“ฉันจะแจ้งความว่าเธอหมิ่นประมาทฉัน” ธัญญาเรศว่า
กีรติพูดแทรกทันที “ถ้างั้นผมจะให้เพื่อนช่วยค้นหาต้นทางที่ปล่อยรูปมาดีไหมครับ ว่ามันมาจากที่ไหน จะได้จับแบบคาหนังคาเขา เพื่อนผมเก่งพอ ๆ กับ ICT นะครับ”
“ก็ดีนะคะ ลันจะได้แจ้งจับแบบดิ้นไม่หลุด” ลันตาบอก
ติ๊ดตี่พูดกับธัญญาเรศแบบกลัว ๆ “พี่ญ่า....”
ธัญญาเรศตวัดสายตาดุให้ติ๊ดตี่เงียบ ทุกคนหันมองทางธัญญาเรศอย่างเข้าใจได้เลยว่าเป็นฝีมือใคร ลันตายิ้มอย่างพอใจ
อ่านต่อหน้าที่ 4
รักต้องอุ้ม ตอนที่ 11 (ต่อ)
พอลกับมิ้งค์ออกมาจากห้อง พิธานเดินตามออกมา สิปาดัน ลันตา กีรติ และแพทเดินตามออกมาไม่ห่างนักแล้วก็ชะงักที่ได้ยินพิธานเล่นงานพอล
“ทำตัวเป็นฮีโร่ นี่เป็นวิธียกระดับภาพลักษณ์ของแกใช่ไหมพอล”
พอลชะงักมองหน้าพิธาน
“มันไม่ใช่การยกระดับภาพลักษณ์ แต่มันเป็นการยกระดับจิตใจด้วยการทำความดี พี่พีทคงจะไม่ค่อยเข้าใจเพราะไม่ค่อยทำ...” พอลว่า
มิ้งค์ที่อยู่ระหว่างทั้งคู่อึ้งๆ พิธานหน้าตึงมาก บรรยากาศยิ่งตึงเครียดที่คู่แค้นเยอะเหลือเกิน แพทเห็นท่าไม่ดีสะกิดลันตาให้ช่วย
ลันตาพูดแทรก “ขอบคุณคุณพอลมากนะคะที่มาช่วยลันวันนี้ มิ้งค์จ๊ะ...”
มิ้งค์รู้หน้าที่ “คุณพอลต้องกลับไปดูร้านใช่ไหม งั้นก็ไปเถอะ...เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง” มิ้งค์รีบดึงพอลให้ออกไป
พิธานหันมาหาลันตา “ลัน!”
“ขอบคุณนะคะที่พยายามช่วยลัน แต่ลันคงรับได้แค่น้ำใจ” ลันตาว่า
แพทเห็นพิธานดูจะไม่หยุดง่ายๆ จึงรีบแทรกทันที
“ลัน! ฉันกับคุณกบโหลดรูปเมื่อวานลงคอมฯหมดแล้ว แกลองไปเช็คดูไหม ไปเถอะ” แพทจะดึงลันตาไป
“สิปา...แกไปรอที่บ้านก่อนนะ เดี๋ยวฉันเสร็จงานแล้วจะรีบตามไป” ลันตาบอก
“อืม...”
แพทกับกีรติแยกลันตาออกไปจนเหลือแค่พิธานกับสิปาดัน สิปาดันยิ้มกวนตีนให้กับพิธาน
“เหนื่อยหน่อยนะที่ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วย”
สิปาดันออกไป พิธานแค้นมากแต่ก็ไม่ยอมแพ้
มิ้งค์เดินมาส่งพอลบริเวณที่จอดรถ
“สบายใจหรือยัง”
มิ้งค์ทุบพอลทันที “ชอบใช่ไหมที่เห็นฉันโชว์โง่”
“อ้าว...คุณ...ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น ที่ไม่บอกเพราะกลัวคุณทำพิรุธแล้วจะทำแผนแตก”
“นั่นไง คุณกับพี่ลันคิดว่าฉันไม่ได้เรื่อง คุณรู้ไหมเมื่อเช้าฉันกลัวแทบแย่ กลัวจะโดนไล่ออก กลัวเตี่ยผิดหวัง”
“ก็ไม่โดนไล่ออกแล้วไง ผมขอโทษ...ผมขอโทษ ก็คิดแต่ว่าจะช่วยคุณ” พอลว่า
มิ้งค์ชะงัก “จะบอกว่าคุณทำเพื่อฉันเหรอ”
“ขนาดนี้ยังไม่รู้อีกเหรอ”
“รู้...” มิ้งค์ปลื้ม “....ขอบคุณนะ”
“อะไรนะ”
“ขอบคุณ ๆ ๆ ได้ยินชัดไหม”
พอลยิ้ม “มากกว่าขอบคุณได้ไหม”
มิ้งค์ชะงัก พอลยื่นแก้มให้ มิ้งค์มองอย่างเขินๆ แล้วก็ตัดสินใจดีดหูพอลดังเปรี๊ยะ
พอลร้อง “โอ้ย!”
“ทำดีหวังผลแบบนี้เหรอ”
พอลรู้สึกเก้อ ๆ “นิดนึง....แต่ไม่ได้ไม่เป็นไร ผมรอได้”
“ขับรถดีๆ นะ”
พอลเหมือนจะไปแต่หันกลับมา “ผมชอบนะ ที่คุณให้เกียรติตัวเอง ไม่ง่าย ๆ”
“ขอบคุณค่ะ ซุปเปอร์เคราฮีโร่”
พอลยิ้ม มิ้งค์กับพอลบ๊ายบายกัน พอลเดินหัวชนต้นไม้เล็กน้อย มิ้งค์ขำ พอลยิ้มเขินๆ อย่างมีความสุข
ธัญญาเรศออกมาจากห้องของรัชนีด้วยสีหน้าเครียด ธัญญาเรศชะงักที่เห็นอนุชิตยืนรออยู่ด้วยสีหน้าสะใจมาก
“นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะโง่! ขนาดนี้ ขุดหลุมฝังตัวเอง ครั้งนี้อย่าหวังว่าฉันจะช่วยเธอได้ ทำความผิดซึ่งหน้าขนาดนั้น ผู้จัดการกระจอกงอกง่อยอย่างฉันทำได้แค่...สมเพชเท่านั้นเอง” อนุชิตว่า
อนุชิตยิ้มอย่างสะใจแล้วเดินออกไป ธัญญาเรศแค้น ติ๊ดตี่รีบเข้ามาหาด้วยท่าทางร้อนใจมาก
“เป็นยังไงบ้างคะพี่ญ่า เราจะโดนเด้งๆ ๆ ๆยกทีมไหมคะ พี่นียิ่งฮึ่ม ๆ กับพี่ญ่าหลายทีแล้ว”
“ต้องรอคุณสุกับคุณพิธานตัดสิน” ธัญญาเรศบอก
“งานนี้คุณสุวิภายังจะช่วยพี่ญ่าอยู่เหรอคะ เมื่อกี้ในห้องท่านก็สะบัดบ๊อบใส่อยู่หยก ๆ”
ธัญญาเรศมีสีหน้าลังเลเพราะไม่แน่ใจ
“โอ้ย ตาย ๆ ๆ ติ๊ดตี่ตกงานไม่ได้นะคะพี่ พี่นี คุณสุไม่ช่วยก็เหลือแค่คนเดียว แต่คุณพิธานก็เลิฟพี่ลันซะขนาด ก่อนเข้าห้องประชุมยังพยายามจะไปล้วงเรื่องจากพี่แพท”
“เรื่องอะไร แกได้ยินไหม?” ธัญญาเรศถาม
ติ๊ดตี่คันปากอยากเล่ามาก ธัญญาเรศอยากรู้ว่าจะมีอะไรมาช่วยได้บ้าง
ย่านวลเข็นรถเข็นของตาหนู โดยมีอินทนน์เดินคุยมือถืออยู่ไม่ห่าง
“ช่วยเช็ควันเวลาที่ท่านเดินทางกลับให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ” อินทนนท์วางสาย
“เป็นยังไง” นวลถาม
“คุณหญิงยังอยู่ที่อเมริกาจ้ะแม่ แต่เห็นว่าจะมีแผนกลับเมืองไทยภายในปีนี้ ไปอยู่นานมาก หนูตามมาตั้งหลายปี ทางโทรศัพท์ก็ไม่ยอมคุย ถือตัวเหลือเกิน”
“เอาน่า เพื่อลูกหลาน” นวลบอก
เสียงสิปาดันดังขึ้น “พ่อ ย่า!”
นวลกับอินทนนท์หันไปเห็นสิปาดันมีหน้าตายิ้มแย้มพร้อมกับหอบถุงอาหารมาเต็มสองมือ
“สิปา ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”
“ซื้อของมาเยอะยังไม่เท่าดูหน้ามันสิแม่ เบิกบานเกินเหตุ มีเรื่องอะไรดีๆ มาใช่ไหม”
สิปาดันยิ้มรับ
“เพราะหนูลันใช่ไหม” นวลถาม
“เล่ามาเลย!” อินทนนท์บอก
“ก็แค่ลันประกาศว่าไม่ได้คบกับพิธานอย่างที่ผมกลัว..” สิปาดันบอก
“แกก็เลยโล่งใจ”
สิปาดันยิ้มรับเขินๆ
“เดี๋ยวผมขึ้นไปเตรียมอาหารก่อนนะครับ พ่อกับย่ารีบตามขึ้นไปนะครับ”
สิปาดันเดินออกไปด้วยท่าทางอารมณ์ดีมาก
“เห็นรอยยิ้มสิปาไหมตานนท์ ยิ้มที่มีความสุขแบบนั้นไม่ว่าจะยากแค่ไหน แม่ก็จะสู้” นวลบอก
“ครับแม่...ใครมาขวางผมจะตีให้มันหลังหักทุกตัว”
ทั้งสองคนมองตามสิปาดันไปด้วยความมุ่งมั่น
พิธานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยสีหน้าหงุดหงิด ภาพตอนที่สิปาดันยิ้มกวนตีนให้เขาย้อนกลับมา
“เหนื่อยหน่อยนะที่ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วย”
พิธานกำมือแน่นด้วยความแค้น เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“เข้ามา!”
พิธานหันกลับมาก็แปลกใจที่เห็นว่าเป็นธัญญาเรศ
“คุณคงไม่ได้มีธุระกับผมเรื่องขาเก้าอี้หัก ๆ ของคุณใช่ไหม”
“ก็คงมีแค่คุณคนเดียวที่จะดามเก้าอี้ให้ฉันได้”
“ผมไม่นิยมเรื่องชู้สาวในออฟฟิศนะ ยกเว้นลันตา”
“แล้วถ้าฉันสามารถตอบคุณได้ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ระหว่างสิปาดันกับลันตา”
พิธานสนใจขึ้นมาทันที “การดามเก้าอี้สักตัว มันก็คงไม่ยาก”
ธัญญาเรศยิ้มอย่างเป็นต่อ
ลันตาเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เห็นบนโต๊ะจัดอาหารเอาไว้อย่างสวยงาม สิปาดันยกแกงจืดออกจากไมโครเวฟแล้วมาวางที่โต๊ะ
“ทำไมมาช้าล่ะ” สิปาดันถาม
“ก็ช่วยเลือกรูปกับแพทอยู่น่ะสิ ยังดีที่มิ้งค์ไม่ได้ถ่ายไว้ทุกรูป ยังมีรูปพิเศษ ที่ฉันเล็งไว้เป็นปกอยู่”ลันตามองหา “แล้วตาหนู คุณย่า คุณลุงล่ะ”
“นอนแล้ว” สิปาดันบอก
“ทุ่มนึงเนี่ยนะ นอนแล้วเหรอ” ลันตางง
“อืม...ย่าเอาตาหนูไปนอนด้วย คนแก่เริ่มติดเด็ก”
ลันตาบิดตัวด้วยความปวดเมื่อย “โอย...ขอบใจนะสิปา ที่แกอุตส่าห์ไปช่วยฉันวันนี้”
“ฉันขอโทษเรื่องเมื่อคืนนะลัน ที่ฉันพูดไม่ดีกับแก เรื่องพี่พิธาน”
“ฉันก็ปากไม่ดีก่อนด้วย” ลันตายื่นมือให้จับ “ถือว่าเจ๊ากัน โอ.เค?”
สิปาดันยิ้มจับมือลันตา
“แล้วแกไม่ได้คิดจะคบกับพี่พิธานเหรอ” สิปาดันถาม
“เปล่า... ฉันไม่ได้รักมั่นเหมือนแกนี่ เจอกี่ครั้งก็สปาร์ค” ลันตาว่า
“ฉันไม่เคยคิดจะกลับไปหามะนาว”
“แต่ฉันเห็นแก...”
“ขอให้แกเชื่อว่าสำหรับฉันมะนาวเป็นแค่เพื่อน แกจะเชื่อฉันได้ไหม”
ลันตามอง ๆ อย่างใช้ความคิด “ถ้าแกอยากให้เชื่อแบบนั้น ฉันจะเชื่อ”
“ต้องแบบนี้ถึงจะสมกับเป็นลันตาของฉัน”
ทั้งสิปาดันกับลันตาต่างก็ชะงักกันไปเล็กๆ สิปาดันได้สติก่อนจึงกลบเกลื่อนด้วยการเทน้ำส้มใส่แก้วมาวางตรงหน้าลันตา
“ฉันแช่เย็นไว้ ดื่มสิจะได้สดชื่น”
ลันตาหยิบมาดื่ม สิปาดันลูบหัวลันตาแบบเนียนๆ
“เหนื่อยไหม” สิปาดันถาม
“เมื่อกี้เหนื่อย แต่...” ลันตายิ้ม “ตอนนี้ไม่แล้ว”
สิปาดันยิ้ม ลันตายิ้มตอบ
นวลกับอินทนนท์เห็นประตูห้องเปิดแง้มก็แอบดูสิปาดันกับลันตาแล้วก็ยิ้มๆ นวลยกมือ อินทนนท์แตะมือแม่เบาๆ ต่างคนต่างยิ้ม
“ปล่อยให้เด็ก ๆ เขาอยู่กัน พอได้แล้ว”
อินทนนท์ยังเคลิ้ม นวลต้องตีหน้าผากให้พอได้แล้ว อินทนนท์ถอยให้นวลปิดประตู สิปาดันตักข้าวให้ลันตา ทั้งสองคนกินข้าวกันในบรรยากาศอบอุ่น
มาลัยประคองอังให้นั่งลงที่เก้าอี้
อังโอดครวญ “อูย.....”
“ดีนะที่กระดูกไม่ได้หักร้าว หล่อนนี่ก็เหลือเกิน เจ็บก็ไม่พูด ถ้ามันลุกลามเป็นอัมพาตจะทำยังไง” มาลัยว่า
“ก็น้องคิดว่ามันแค่นิด ๆ หน่อยๆ รู้งี้ไปหาหมอตั้งแต่เมื่อคืนคงไม่เจ็บขนาดนี้”
“ไอ้นิด ๆ หน่อย ๆเนี่ย ลุกลามเป็นเรื่องใหญ่มานักต่อนักแล้ว คนแก่อย่างเราชอบคิดว่าเจ็บแค่นี้ไม่เป็นไร ไม่รักษากลัวเปลืองเงินเล็ก ๆน้อยๆ สุดท้ายกลายเป็นเจ็บหนัก ทีนี้ก็เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย กลายเป็นภาระลูกหลานของจริง แล้วก็มานั่งบ่นรู้งี้ไม่อย่างนั้น รู้งี้ไม่อย่างนี้ แต่มันย้อนกลับไปแก้อะไรไม่ได้แล้ว”
“ขอโทษค่ะคุณพี่”
“พักตามที่หมอบอก”
“แล้วงานบ้านล่ะคะ”
“ก็จ้างเด็กมาทำงานชั่วคราวจนกว่าหล่อนจะหาย”
“แต่..”
“ฉันเพิ่งสอนหล่อนไปเมื่อกี้นี้”
“ค่ะคุณพี่”
เสียงกริ่งหน้าบ้านดัง อังจะลุก
มาลัยรีบบอก “ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง”
มาลัยเดินไป
ประตูรั้วหน้าบ้านเปิดออก มาลัยเดินมาที่หน้าประตูรั้วก็เห็นว่าเป็นพิธานยืนอยู่พร้อมกระเช้าผลไม้
มาลัยมองด้วยความรู้สึกคุ้นหน้าพิธาน
พิธานยกมือไหว้ “สวัสดีครับ”
“คุณ....”
พิธานวางกระเช้าผลไม้ลงบนโต๊ะแล้วยกมือไหว้อังด้วยท่าทางสุภาพมาก
“ผมพิธานครับ เป็นรุ่นพี่ของลันสองปี”
อังคิด “พิธาน....” แล้วอังก็จำได้ “พิธานที่เคยเป็นแฟนยัยพิมตอนมัธยมไงคะคุณพี่ ที่ยัยลันมากรี๊ดกร๊าดอยู่พักนึง”
มาลัยนึกได้ “อ๋อ...”
“หายไปนานเลยนะ จำแทบไม่ได้”
“ผมไปเรียนต่อน่ะครับ แล้วก็ทำงานอยู่ที่โน่นเพิ่งกลับมาทำธุรกิจที่นี่”
“นี่จะมาเยี่ยมยัยลันล่ะสิ เขาไม่อยู่หรอก” มาลัยบอก
“ผมเจอกับลันตาแล้วครับ บริษัทของลันกับผมร่วมหุ้นกัน ตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าของลันครับ”
“ไปเจอกันที่เชียงใหม่เหรอจ๊ะ” อังถามต่อ
“ที่กรุงเทพฯนี่ล่ะครับ เมื่อเช้าก็ยังเจอกันที่ออฟฟิศเลยครับ”
มาลัยกับอังอึ้งกับคำพูดของพิธาน
“ถ้าลันอยู่กรุงเทพฯ แล้วคุณมาที่นี่ทำไม” มาลัยถาม
“ผมอยากมาแนะนำตัวกับคุณย่า คุณป้าน่ะครับ เจอกับลันคราวนี้ ผม...”
“ชอบหลานฉันล่ะสิ เลยจะมาขออนุญาต” อังพูดดัก
“ครับ” พิธานรับ
“ว่าแต่ยัยลัน เริ่มทำงานกับคุณนานหรือยัง แล้วหลานฉันทำงานเป็นยังไงบ้าง...” มาลัยถาม
พิธานรู้ว่ามาลัยกำลังหลอกถามเรื่องของลันตา พิธานยิ้มพร้อมเล่าด้วยท่าทางที่ดูจริงใจมาก
มาลัยกับอังยิ่งฟังก็ยิ่งเครียดอย่างเห็นชัดว่าฝืนยิ้มรับในบางที
ลันตาในชุดนอนนั่งดูรูปถ่ายแบบของสิปาดันในคอมพิวเตอร์ สิปาดันที่อาบน้ำเสร็จแล้วมายืนด้านหลังลันตา
“หล่อเนอะ” สิปาดันบอก
“อืม....” ลันตารับ
สิปาดันแปลกใจ “ทำไมยอมรับง่ายนักวะ”
“ก็ฉันเป็นคนเลือกแกมา ถ้าแกไม่ดี แสดงว่าสายตาฉันมันก็ห่วยน่ะสิ”
“ฉันดี...ตรงไหนวะ”
“อืม...ดีตรงไหนเหรอ...แกดีตรงที่...แกทนไม้ทนมือ เชื่อง บอกให้ทำอะไรก็ทำ”
“นั่นมันหมา!”
ลันตาขำ “แกอดทน ใจเย็นกับฉัน แล้วเราก็คบกันมานาน เขาว่าคนที่เหมือนกันมักจะถูกดึงดูดเข้าหากัน...ฉันเป็นคนดี เพื่อน ๆ รอบตัวฉันก็ต้องดีด้วย..ถูกไหม?”
“อืม..ฟัง ๆ ดูเหมือนแกไม่ได้ชมฉันนะ แกชมตัวเองอยู่” สิปาดันว่า
“ใครจะมองแกยังไงฉันไม่รู้” ลันตาตบไหล่ “แต่ในสายตาฉันแกเป็นคนดี...เชื่อคำพูดฉันก็พอ”
“ฉันก็ไม่สนสายตาใครเลย ถ้าแกบอกว่าดี” สิปาดันยิ้ม “ฉันก็จะเชื่อแก”
สองคนมองตานิ่งกันไปชั่วขณะแล้วทั้งคู่ก็เงียบ ไม่มีคำพูดนอกจากสายตาที่มองกันและกัน เสียงมือถือลันตาดังขึ้น ทั้งคู่เหมือนได้สติ ลันตาหยิบโทรศัพท์มาดูก็ตกใจที่เห็นว่าเป็นมาลัย
“ย่าโทรมา” ลันตามองสิปาดันแบบทำไงดี
“หายใจลึก ๆ แล้วค่อยรับ” สิปาดันบอก
ลันตาทำตามแล้วตัดสินใจกดรับ
“สวัสดีค่ะคุณย่า” ลันตาตกใจ “ป้าอังเป็นอะไรนะคะ ลันจะรีบกลับให้เร็วที่สุดเลยค่ะ”
ลันตาจะวิ่งไป แต่สิปาดันดึงมือไว้
“ป้าอังเป็นอะไร แล้วแกจะไปไหน”
“ป้าอังไม่สบาย ฉันต้องรีบกลับบ้าน”
“ตอนนี้แกต้องอยู่เชียงใหม่ จำได้ไหม”
ลันตาร้อนรน “ฉันเป็นห่วงป้าอัง”
สิปาดันจับมือลันตา “ใจเย็นๆ เราต้องรอเวลา”
ลันตาร้อนรนมาก สิปาดันต้องจับมือเพื่อคอยปลอบให้ใจเย็นๆ
เช้าวันใหม่ นวลอุ้มตาหนูออกมาจากห้องนอน อินทนนท์เดินออกมาจากห้องก็เห็นสิปาดันที่กำลังชงกาแฟ
“ทำไมตื่นเช้านัก”อินทนนท์ถาม
“ยังไม่ได้นอนเลยพ่อ” สิปาดันบอก
“มีอะไรหรือเปล่าสิปา” นวลถาม
สิปาดันยังไม่ทันตอบ ลันตาที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็วิ่งออกมาจากห้องนอน
“เดี๋ยวฉันขับรถไปส่ง” สิปาดันบอก
“ไม่ต้องหรอก แกมีบินคืนนี้นี่” ลันตาว่า
“วันนี้พ่อกับย่าจะกลับเชียงใหม่ตอนบ่ายนะ” อินทนนท์บอก
“งั้นหนูจะรีบกลับก่อนสิบโมงนะคะ”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าลูก” นวลถาม
“ป้าอังไม่สบายค่ะ ไปก่อนนะตาหนู” ลันตาหอมตาหนู “ลันไปก่อนนะคะ”
“มีอะไรโทรมานะ”
ลันตาพยักหน้ารับแล้วรีบออกไป
“แม่อังป่วยเป็นอะไรเหรอสิปา”
สิปามีสีหน้าเครียดๆ เพราะเป็นห่วงลันตา
พิธานจอดรถแอบไว้มุมหนึ่งในบ้านย่ามาลัย เขามองไปทางหน้าบ้านก็เห็นมาลัยกับอังใส่บาตรจนเสร็จ มาลัยมองไปทางรถของพิธาน มาลัยกับอังเก็บโถข้าวและถาดกลับเข้ามาในบ้าน
“คุณพี่คิดว่ายัยลันจะมาเหรอคะ” อังถาม
“ต้องมาสิ” มาลัยบอก
เสียงออดดังขึ้น มาลัยยิ้ม
เสียงลันตาดังตามมา “คุณย่าคะ คุณย่า”
“หล่อนขึ้นไปเตรียมตัวได้แล้ว จำไว้ว่าอย่าทำให้ยัยลันสงสัย ไม่งั้นหล่อนได้เจ็บหนักจริงๆ แน่”
“ค่ะคุณพี่”
อังเดินขึ้นไปโดยยังมีอาการเจ็บสะโพกทำให้เดินไม่ค่อยถนัด มาลัยหันไปมองทางประตูรั้วแล้วยิ้มร้าย
อังนั่งอยู่ที่โซฟาในบ้าน ลันตาเดินตรงเข้ามาหาคุณป้าด้วยความห่วงใย
“ป้าเป็นยังไงบ้างคะ เจ็บมากไหม”
“มันปวดมาก เดินไม่ค่อยไหว ป้านี่มันแย่จริงๆ คุณพี่ต้องลำบากคอยทำงานบ้านเอง”
“ลันขอโทษนะคะที่ไม่ได้อยู่ดูแลป้ากับคุณย่า”
“ไม่เป็นไรหรอกน่ะ แกทำงานไม่ใช่เหรอ ย่ากับป้าอยู่กันเองได้” มาลัยบอก
ลันตารู้สึกผิด “แต่ลันเป็นห่วง...”
“ก็รีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วกลับมาอยู่บ้านสิ”
“ลันสัญญานะคะ ลันจะรีบเคลียร์ทุกอย่างแล้วกลับมาอยู่บ้านให้เร็วที่สุด”
ลันตามองนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นเวลาเก้าโมงแล้ว
“วันนี้ลันต้องรีบกลับไปทำงานน่ะค่ะ แล้วลันจะโทรมาบ่อย ๆนะคะ”
“เดินทางดีๆ ล่ะ ถ้าเหนื่อยนักก็ไม่ต้องมาเข้าใจไหม” มาลัยบอก
“ค่ะย่า” ลันตากอดย่ามาลัยกับป้าอัง “ลันรักคุณย่ากับป้าที่สุดในโลก ลันไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ คุณย่า คุณป้า”
พูดจบลันตาก็รีบออกไป
อังหันมองมาลัย มาลัยมองเพื่อบอกว่าถึงเวลาแล้ว
ลันตาออกมาที่หน้าบ้าน รถแท็กซี่วิ่งผ่านมา ลันตาโบกเรียกแล้วรีบขึ้นแท็กซี่ไป ทันทีที่รถแท็กซีไป มาลัยกับอังก็ก้าวตามออกมาจากบ้าน รถของพิธานแล่นมาจอดเทียบ มาลัยกับอังขึ้นรถ พิธานออกรถตามไปทันที
สิปาดันคุยโทรศัพท์มือถือ
“ป้าอังเป็นยังไงบ้าง อ๋อ...โอเค ไม่ต้องรีบก็ได้ มาถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”
สิปาดันวางสายแล้วก็หันมาหานวลกับอินทนนท์
“ป้าอังปวดสะโพกน่ะครับ คงเพราะวันนั้นที่ไล่ตีผมจนล้มน่ะครับ” สิปาดันบอก
“ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก” นวลโล่งอก
“งั้นพ่อกับย่าไปก่อนนะ”
นวลส่งตาหนูให้สิปาดัน สิปาดันรับตาหนูมาอุ้มไว้
“ลันใกล้จะถึงแล้วครับ ไม่ต้องห่วงครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
“จีบได้ก็จีบเลย เข้าใจไหม ลูกพ่อห้ามป็อด” อินทนนท์เชียร์
“อุปสรรคมากแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว ย่ากับพ่อช่วยหลานสุดตัว เข้าใจไหมลูก ย่ารักสิปานะลูก”
สิปาดันกอดย่านวล “ผมก็รักย่าครับ”
“รักย่าต้องได้หนูลันมาเป็นสะใภ้ย่าเข้าใจไหม”
สิปาดันมีสีหน้าลำบากใจ
“ไปเถอะแม่ เชื่อฝีมือไอ้สิปาเถอะ เก่งเหมือนพ่อมันแน่นอน” อินทนนท์บอก
อินทนนท์กับนวลเดินออกไป สิปาดันมองตามทั้งคู่ไปด้วยอาการหนักใจ
สิปาดันหันมาหาตาหนู “สู้ดีไหม ดีเหรอ จริงเหรอ” สิปาดันพูดเอง เออเอง
สิปาดันคิดหนักกับโจทย์ใหม่ในครั้งนี้
อินทนนท์กับนวลขึ้นแท็กซี่ที่ด้านหน้าตึก รถแท็กซี่ของลันตามาจอดที่หน้าตึกโดยจอดต่อหลังรถแท็กซี่ที่อินทนนท์ขึ้น นวลหันมองเห็นลันตาที่วิ่งเข้าไปในตึก
“หนูลันกลับมาพอดี”
อินทนนท์หันมองตามแล้วก็ตกใจมากที่เห็นรถพิธานแล่นมาจอดต่อรถแท็กซี่ของลันตา มาลัยกับพิธานลงจากรถแล้วพากันเข้าตึก อังเดินโขยกเขยกตามเข้าไป
“ป้ามาลัยมาแม่” อินทนนท์บอก
นวลตกใจ “ว่าไงนะ”
อินทนนท์ลงจากรถทันที นวลรีบลงตาม
“ทำยังไงดีล่ะตานนท์” นวลถาม
“โทรศัพท์สิ โทร...” อินทนนท์พยายามกดโทรออก
“รับสิ รับ”
มือถือสิปาดันดัง สิปาดันที่ชงนมเสร็จจะไปรับ แต่จังหวะเดินมือพลาดไปโดนขวดนมจนนมหกลงพื้น
“โธ่เอ๊ย!”
ลันตาเปิดประตูเข้ามา “กลับมาแล้ว”
“อุ้มตาหนูไว้ที ฉันจะเช็ดพื้น”
ลันตารับตาหนูไว้ สิปาดันลืมเรื่องโทรศัพท์ไปเสียสนิท
อินทนนท์หัวเสียที่สิปาดันไม่รับโทรศัพท์
“โธ่เอ๊ย! รีบไปกันไว้เถอะแม่”
อินทนนท์รีบพานวลกลับเข้าไปในตึก
พิธาน มาลัย และอังรอลิฟท์
อินทนนท์กับนวลเข้ามาก็เห็นว่าทั้งสามคนก้าวเข้าลิฟท์ไปแล้ว
“ไม่ทันแล้ว ตานนท์”
อินทนนท์รีบกดลิฟท์อีกตัวอย่างร้อนใจ
พอลกำลังจะเดินเลี้ยวไปที่ลิฟท์โดยกำลังจะเอาขยะไปทิ้ง เขาชะงักที่เห็นพิธาน มาลัย กับอังออกมาจากลิฟท์
“ย่าคุณลันนี่หว่า”
พอลรีบวิ่งกลับมาที่หน้าห้องสิปาดันแล้วกดกริ่ง
สิปาดันยังเช็ดนมที่หกเลอะ ลันตาที่อุ้มตาหนูได้ยินเสียงกริ่ง
“เดี๋ยวฉันไปเปิดเอง”
ลันตาอุ้มตาหนูจะเดินไปเปิดประตู พอลที่ยืนรออยู่หน้าห้องลุ้นมาก
เสียงพิธานดังขึ้น “ทางโน้นครับ”
พอลหันไปเห็นทั้งมาลัยกับอังเดินเลี้ยวมา พอลต้องตัดสินใจหลบเข้าห้องตัวเอง ลันตาอุ้มตาหนู เปิดประตูออกมาเห็นมาลัยกับอังก็ตกใจสุดขีด
“ยัยลัน!”
“คุณย่า ป้าอัง!”
ลันตาตกใจถอยเข้าไปในห้อง สิปาดันที่เก็บเสร็จเรียบร้อยหันกลับมา
“มีอะไรเหรอลัน”
สิปาดันตกใจที่เห็นมาลัยกับอังก้าวเข้ามาในห้อง
“ไอ้สิปา! ยัยลัน แกมาทำอะไรที่นี่ นี่เหรอเชียงใหม่ที่แกบอกย่า”
พอลค่อย ๆโผล่หน้ามาดูจากหน้าห้อง
อินทนนนท์กับนวลรีบตามเข้ามา
“คุณย่าฟังลันอธิบายก่อนนะคะ”
“ไอ้นนท์ นวล นี่มันหมายความว่ายังไง แกกับไอ้สิปามาทำอะไรที่นี่ แล้วเด็กนั่นมาจากไหน ลูกใคร”
สิปาดันกับลันตาอึกอักเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง อินทนนท์หัวไวกว่าใครเพื่อนรีบพูด
“เด็กคนนี้คือตาหนูครับคุณป้า เป็นลูกของลันตากับสิปา”
ทุกคนตะลึงกับคำพูดของอินทนนท์
อ่านต่อตอนที่ 12