ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 14 อวสาน
ดาริกานั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง พลางหยิบรูปในลิ้นชักออกมา เป็นรูปของจันทรกานต์ ที่ใส่กรอบไว้อย่างดี พลันเสียงมือถือก็ดังขึ้น ดาริกามองเบอร์แล้วนิ่งงันไป ก่อนรับสาย
“ดาวพูดค่ะ”
ปลายสายคือดำรง ที่ยืนคุยอยู่ต่อหน้าศักดิ์สิทธิ์
“นังดาว เรื่องจริงเหรอวะที่แกเลิกกับไอ้จันทร์มันแล้ว”
“พ่อรู้จากไหน”
“ก็จากไอ้จันทร์น่ะซี” ดำรงตอบหน้าตาเฉย
ดาริกาได้ทีจึงต่อว่าดำรงเรื่องที่ไปรีดไถเงินจากจันทรกานต์ แต่กลับถูกดำรงด่ากลับว่าโง่ “สมควรแล้วที่แม่คุณจันทร์เขาเรียกพ่อว่าโจร ฟังนะ จากนี้พ่อห้ามไปยุ่งกับพวกเขาหรือมายุ่งกับชีวิตหนูอีก วันนี้หนูจะกลับไปบอกแม่กับตา เล่าเรื่องพ่อทั้งหมด พ่อไม่มีสิทธิ์แม้แต่เหยียบไปบ้านแม่อีกแล้ว เท่านี้”
พูดจบ ดาริกาก็ตัดสายทันที ดำรงเห็นท่าทีของศักดิ์สิทธิ์ ก็วางแผนจะหนี อ้างว่าจะไปเอาเงินจากดาริกามาให้ ศักดิ์สิทธิ์ตกลง แต่ไม่วายพูดขู่
“แต่ถ้าหนี อย่าลืม ข้าตามล้างบางบ้านเมียเอ็งแน่”
ดำรงพยักหน้ารับคำ พวกสุดหล่อรีบขอตามไปด้วย ศักดิ์สิทธิ์มองทั้งหมดอย่างชั่งใจ
ดาราราย ที่หน้าเครียด ตาช้ำเพราะร้องไห้มาหลายยก กำลังนั่งปรับทุกข์กับแพ็ท ที่ปั้นหน้าว่าห่วงใยจันทรกานต์เหลือเกิน
“อะไรที่แพ็ทช่วยได้ ให้คุณน้าบอกนะคะ แพ็ทจะช่วยทุกอย่าง”
คุณชายจันทรเดินเข้ามา ตามหลังมาด้วย รปภ.สองนาย
“ช่วยให้หายนะเพิ่มขึ้นใช่ไหม”
แพ็ทและดารารายลุกขึ้นทันที
“คุณชาย ทำไมพูดแบบนี้ ให้เกียรติหนูแพ็ทหน่อยนะคะ”
คุณชายจันทรยิ้มหยัน “คนอย่างหนูแพ็ท ไม่สมควรจะได้รับเกียรติใดๆ”
แพ็ทหน้าตึง แล้วรีบเปลี่ยนเป็นตีหน้าเศร้าสะอื้นออกมา
“ไม่เข้าใจค่ะ คุณน้า ทำไมว่าแพ็ทแบบนี้”
“เมื่อวานเธอแวะไปงานแต่งคุณวรางค์ พักเดียวงานวิวาห์เขาก็ล่ม เธอไปทำอะไรเข้าล่ะ”
แพ็ทรีบปฏิเสธ “แพ็ทไม่รู้เรื่อง เขาไม่ได้เชิญแพ็ท แพ็ทไม่ได้ไป มีคนใส่ร้ายแพ็ท”
คุณชายจันทรจ้องหน้าแพ็ทอย่างรังเกียจ
“ภาพข่าวในโซเชียล ลงภาพกล้องวงจรปิดของโรงแรม เห็นหน้าเธอชัดเจน เธอไปยุแยงอะไรฉันไม่รู้ แต่คลิปที่คุณวรางค์กล่าวหานายอาร์ตี้กลางงานมันยืนยันว่า เธอรู้เห็นแน่ๆ น่าจะสรุปได้ว่า เป็นเรื่องแย่งสามีชาวบ้านอย่างที่เธอเคยทำอยู่บ่อยๆ”
แพ็ทร้องไห้โฮ แล้วรีบโผเข้ากอดดารารายทันที
“คุณชาย หยุดนะ คุณทำเกินกว่าเหตุแล้ว”
แต่คุณชายจันทรหยุดไม่อยู่แล้ว
“ถ้าคุณโดนแม่นี่หลอกเข้าอีกคน ผมถือว่าผมปกป้องครอบครัวผม ไม่เกินกว่าเหตุแน่ รปภ.ลากแม่นี่ออกไป”
รปภ. สองนายรีบปราดเข้ามารวบตัว ลากแพ็ทออกจากห้องไป คุณชายจันทร ดาราราย รีบตามออกมา
รปภ.ปล่อยร่างของแพ็ทที่หน้าห้อง พร้อมประกาศิตของคุณชายจันทร
“ต่อไปนี้ห้ามยุ่งกับคุณดาวและลูกชายฉัน ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ อย่ากลับมาอีก”
แพ็ทจ้องหน้าคุณชายจันทรอย่างจงชัง
“ไม่ยุ่งแน่ แต่ระวังนะคะอาจจะมีภาพฉาวของคุณจันทร์ออกมาแฉให้ว่อนเน็ทก็ได้ ลองไปถาม
คุณจันทร์ดูนะคะ ว่าเมื่อคืนเขาทำอะไรกับแพ็ทไว้บ้าง อ้อ เมื่อคืนเขาไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะน้าดาว เขาอยู่บนเตียงของแพ็ทนั่นแหละ เรามีความสุขกันมากเลยค่ะ”
ดารารายตะลึงงัน
“คุณจันทร์กับเธอ...”.
แพ็ทลอยหน้าลอยตา “ค่ะ เรามีอะไรกันแล้ว”
“ฉันไม่เชื่อ”
“แหม มีหลักฐานนะคะ แพ็ทถ่ายคลิปไว้แล้ว อยากดูไหมละคะว่าลีลา...”
ดารารายรีบโบกมือห้าม “หยุด ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไม่อยากฟัง”
คุณชายจันทรสั่งการ “รปภ. ลากยายนี่ออกไป”
“อย่ามาแตะตัวฉันนะ ฉันไปอยู่แล้ว ลานะคะ คุณชาย น้าดาว อ้อ ไม่ไหว้นะคะ เพราะเลิกนับถือแล้วค่ะ”
แพ็ทยิ้มหวานแล้วเดินสะบัดหน้าออกไปทันที ดารารายยืนทรงตัวไม่อยู่ คุณชายจันทรต้องรีบประคองพากลับเข้าห้อง
“นี่ใช่ไหม ตัวตนที่แท้จริงของยายแพ็ทที่คุณชายเตือนฉัน”
ดารารายมองหน้าคุณชายจันทรอย่างสำนึกผิด
“เชื่อผมหรือยังล่ะ แม่คนนี้ร้ายเหมือนงูพิษ ผมยอมให้เธอมาหลอกลวงคุณกับคุณจันทร์ไม่ได้อีกแล้ว ถึงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแบบนี้”
ดารารายน้ำตาคลอ
“หมายความว่าที่ผ่านมาทั้งหมด แม่นี่สร้างเรื่องขึ้นอย่างนั้นเหรอคะ”
“ใช่ครับ ทุกเรื่อง เธอยุแยงใส่ความใครต่อใคร แม้แต่เรื่องดาริกา”
ดารารายรีบท้วง
“แต่เรื่องดาริกามันมีมูลความจริงนะคะ โดยเฉพาะเรื่องพ่อเธอมารีดไถคุณจันทร์”
“บางเรื่องเป็นเรื่องจริง แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่คุณกับยัยแพ็ทสร้างขึ้นกล่าวหาดาริกา เพื่อสนับสนุนความเชื่อของคุณเองที่ว่าดาริกาเป็นคนไม่ดี เป็นคนอีกระดับชั้นที่ไม่คู่ควรกับลูกชายเรา”
“คุณชายกำลังบอกว่าฉันมองแม่คนนี้ด้วยอคติส่วนตัวงั้นเหรอ”
คุณชายจันทรหยักหน้า “ทำนองนั้น”
ดารารายแย้งว่าเธอไม่ใช่คนดูถูกคน หรือมีอคติจนประเมินดาริกาผิดพลาดไปขนาดนี้ แต่คุณชายจันทรกลับบอกว่าอคติที่เกิดขึ้น เป็นเพราะดารารายรัก หวงแหน และปกป้องจันทรกานต์จนมองข้ามความจริงหลายอย่าง จนทำให้จันทรกานต์ต้องหนีกระเจิงไป
ดารารายย้อนกลับว่าคุณชายจันทรต่างหากที่เป็นคนผลักไสจันทรกานต์ไป
วิวิทธิ์ที่มาสืบข่าวของพวกสุดหล่อ ที่ตลาดน้ำ กับปุ๊และเป้า ยืนคุยมือถืออยู่ ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“อะไรนะครับคุณจันทร์ นายดำรงพ่อคุณดาว น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยเหรอครับ”
ปลายสายคือจันทรกานต์ ที่นั่งคุยอยู่ที่ห้องรับแขกบ้านวรรณรัตน์ อิงฟ้ายืนฟังอยู่ข้าง ๆ
“ใช่ ตอนที่นายดำรงโทรมา ผมได้ยินเสียง ข้าวตอก ดอกไม้ ข้าวตู ร้องไห้ เสียงเรียกชื่อเด็กๆ ชัดเจนมาก”
“ถ้าอย่างนั้นนายดำรงต้องสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าสุดหล่อแน่ ๆ เลยครับ”
ขณะเดียวกันดำรง กับแก๊งของสุดหล่อ ก็เดินเข้ามาในตลาด แต่พวกปุ๊ที่นั่งกินกาแฟอยู่ มัวแต่คุยจีบแม่ค้าเลยไม่ทันเห็น
ดำรงหันมาบอกแก๊งของสุดหล่อ
“ข้าจะกลับไปบ้านก่อน แกทำธุระให้เสร็จ แล้วเรากลับมาเจอกันที่นี่”
พวกสุดหล่อย้ำกับดำรงว่าห้ามหนีเด็ดขาด เพราะไม่งั้นศักดิ์สิทธิ์เอาตายแน่
ปุ๊เหลือบมาเห็นพอดี รีบวิ่งมาที่วิวิทธิ์ทันที
“คุณวิวิทธิ์ครับ นั่น เจ้าสุดหล่อครับ”
วิวิทธิ์หันไปมอง แล้วรีบบอกจันทรกานต์ ที่อยู่ทางปลายสาย
ดำรงแยกกับสุดหล่อไปคนละทาง วิวิทธิ์รีบบอกให้พวกเป้าตามสุดหล่อไป
ดาริกากอดแม่ไว้ แล้วก็ร้องไห้กันทั้งคู่ ตาทศหน้าเศร้า
“โธ่ ลูกแม่ แกยอมเสียสละตัวเองขนาดนี้เลยหรือ ยอมกลายเป็นคนเลวในสายตาของเขา”
ดาริกาสะอึกสะอื้น “หนูต้องทำค่ะแม่ ไม่งั้นคุณจันทร์คงไม่ยอมเลิกรากับหนูแน่ ๆ”
“เพราะไอ้ดำคนเดียว อยากจะฆ่ามันนัก” ตาทศพูดอย่างแค้นใจ
“ก็ดีแล้วละตา ที่หนูไม่ต้องไปเป็นสะใภ้ทัศนัย เพราะคุณแม่เขาไม่เคยยอมรับในตัวหนูเลย แต่งกันไปก็มีปัญหาเปล่าๆ”
ดาริกาพยายามพูดปลอบใจตัวเอง กุสุมาย้อนถาม
“แล้วความรักล่ะลูก ความรักที่แกมีให้คุณจันทร์”
“มันต้องจบค่ะ หนูก็ถือเสียว่ามันคือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในชีวิตหนู”
กุสุมาร้องไห้ ด้วยความสงสารลูก ทันใดนั้นดำรงก็โผล่หน้าขึ้นมาจากบันได ตาทศออกปากไล่ทันที แต่ดำรงอ้างว่ามีเรื่องต้องคุยกับดาริกา ตาทศตวาดกลับว่าดำรงทำลายชีวิตดาริกามากพอแล้ว
ดำรงปฏิเสธหน้าด้านๆ
“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น มันทำตัวมันเอง อยู่ดี ๆ ก็ไปบอกเลิกกับไอ้คุณจันทร์”
กุสุมาทนไม่ไหว พูดตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า
“ที่แกพูดนี่แกไม่รู้เลยใช่ไหมว่าลูกมันทำไปเพราะอะไร มันอายพวกทัศนัยที่มีพ่อเป็นโจรอย่างแก มันยอมเลิกกับคนที่มันรัก เพราะมันต้องรับผิดชอบในสิ่งที่แกก่อเอาไว้ ไอ้ดำ”
ดำรงได้ยินก็ถึงกับอึ้ง
“พ่อต้องการอะไรจากหนูอีก” ดาริกาน้ำตาคลอ
ดำรงออกปากขอยืมเงิน แต่ทั้งตาทศ กับกุสุมาด่ากลับ พลางช่วยกันไล่ลงจากบ้าน ตาทศฟาดไม้กวาดเข้ากลางหลัง ดำรงร้องลั่น ล้มไปกับพื้น
“โน่น มึงแหกตาดูซะ เงินหกแสนที่เขียนไว้นั่น เงินที่นังดาวมันสะสมไว้เพื่อซื้อบ้านนี้จากวัด ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะมึงคนเดียว”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” ดำรงย้อนถาม
กุสุมาตอบสวนทันควัน
“มันเอาเงินไปใช้หนี้ทุกบาททุกสตางค์ที่แกไปรีดมาจากคุณจันทร์น่ะซิ”
ดำรงอึ้ง ดาริกาเช็ดน้ำตา ตาทศไล่ซ้ำ ดำรงรีบรับคำ แต่ไม่วายบอกว่าถ้าไม่มีเงินกลับไป อาจจะโดนซ้อมจนพิการ หรือไม่ก็กลายเป็นศพไมมีญาติฝังอยู่ในป่า
“เดี๋ยวพ่อ ฉันจะช่วยพ่อ พ่อต้องการเงินเท่าไหร่บอกมา”
ดำรงยิ้มออก “จริงนะลูก”
“แต่พ่อต้องสัญญาว่าจะไม่มารบกวนพวกเราอีก”
ดำรงรับคำ กุสุมากับตาทศรีบห้าม แต่ดาริกายังยืนยัน
“ไม่เป็นไรหรอกแฉันถือว่าฉันให้ เพราะความเป็นพ่อ พ่อที่แค่ให้กำเนิดฉันมาเท่านั้น”
ดำรงไม่กล้าสบตาดาริกา กุสุมาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ ตาทศทรุดนั่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ดารารายเดินใจลอยผ่านมาที่ตลาดคนเดินที่ยังจัดต่อเนื่อง สีหน้าสับสนจากเหตุการณ์เมื่อครู่
เสียงพูดคุยของพ่อค้าแม่ค้าทำให้ดารารายหยุดฟัง พ่อค้า-แม่ค้าส่วนหนึ่งพูดชื่นชมจันทรกานต์ที่ให้โอกาสพื้นที่ขายของโดยไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน ส่วนเฮียเขียวรีบบอกว่าต้องขอบคุณดาริกาด้วย ที่แนะนำให้พ่อค้า-แม่ค้าจากตลาดน้ำมาขายของที่นี่
ดารารายยิ่งฟัง ยิ่งรู้สึกสับสน ครั้นเดินแยกมาอีกหน่อย ก็เห็นแพ็ทยืนยิ้มอยู่
“ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ ว่าโดนไล่แล้วทำไมยังไม่ไป หนูยังไปไหนไม่ได้เพราะภารกิจยังไม่เสร็จค่ะน้าดาว”
“ภารกิจอะไร”
“คลิปคุณจันทร์ที่หนูถ่ายไว้ไง”
ดารารายถึงกับอึ้งทันที
จากนั้นทั้งคู่ก็เข้ามานั่งในร้านกาแฟ ดารารายดูคลิปแล้วก็เย็นวาบไปทั้งตัว ส่วนแพ็ทนั่งยิ้มอยู่ตรงข้าม
“นี่ละค่ะที่แพ็ทถ่ายเก็บไว้ มีอย่างที่เห็นหมดจดกว่านี้อีก แต่ไม่อยากให้น้าดาวดู กลัวจะสะเทือนใจ แล้วตอนที่คลิปแพร่ไปในเน็ต ไม่เห็นหน้าแพ็ทหรอกนะคะ แพ็ทเซ็นเซ่อร์หน้าตัวเองไว้แล้ว”
ดารารายตากร้าวขึ้นมาทันที
“ก็ลองดู เธอเผยแพร่คลิปนี่ ฉันเอาเรื่องเธอแน่ ความผิดพวกแพร่คลิปน่ะ ติดคุกห้าปี เป็นอย่างน้อยเชียวนะ”
แพ็ทเชิดหน้าอย่างไม่กลัวเกรง
“รู้ค่ แพ็ทว่าแพ็ทหาวิธีเผยแพร่โดยที่เอาผิดกับแพ็ทไม่ได้อยู่แล้ว คอยดูผลงานนะคะ”
แพ็ทจะลุกไป ดารารายลุกตาม
“เธอต้องการอะไร”
“แค่ความสะใจเล็กๆ ค่ะ สนุกดีออก ที่ชะตาชีวิตใครบางคนอยู่ในกำมือของเรา”
แพ็ทหัวเราะเบาๆ ก่อนจากไป ดารารายทรุดนั่ง ใจสั่น มือสั่น เหมือนจะเป็นลม
ดำรงนั่งรออยู่ในร้านกาแฟที่ตลาดน้ำตามลำพัง ครู่เดียวดาริกาเข้ามาในร้าน พร้อมซองเงินในกระเป๋าสามแสนบาท ดำรงรับซองเงินมาเปิดดู พลางบอกว่ารอให้พ้นช่วงเดือนนี้ จะเอาเงินมาคืน แต่ดาริการีบบอกว่าไม่ต้องคืน ขอเพียงแต่ให้ทำตามที่สัญญา
ดำรงรับคำ แล้วลุกไปทันที ดาริกามองตามแล้วฟุบลงกับโต๊ะ ทันใดนั้น
“พี่ดาว”
ดาริกาเงยหน้ามอง เห็นอิงฟ้ายืนหน้าเครียดอยู่
“น้องฟ้า มาทำอะไรที่นี่คะ”
“มาตามคุณพ่อพี่ดาวค่ะ” อิงฟ้าพูดอย่างร้อนใจ
ดำรงรีบเดินอย่างรวดเร็ว แล้วแต่ต้องชะงักไปเมื่อเห็นแก๊งของสุดหล่อสวนมาพอดี เมื่อรู้ว่าดำรงจะหนีไปกบดานชายแดน พวกสุดหล่อก็รั้งไว้
“เฮ้ย ไม่ได้นะ ลุงหนีพวกพวกผมก็ซวยเดะ”
“ไม่ใช่เรื่องของข้าแล้ว ข้าไม่ยอมติดคุกเพราะคดีเรียกค่าไถ่หรอกว่ะ”
ดำรงสะบัดหนี สุดหล่อวิ่งตาม แต่วิ่งไปได้หน่อยเดียวก็เบรคตัวโก่ง เพราะจันทรกานต์ ก้าวออกมายืนขวางไว้ พร้อมด้วยปิ๋มกับเป้า
ดำรงรีบวิ่งกลับไปอีกทาง สุดหล่อวิ่งตามไปด้วย แต่แล้วก็ต้องเบรคอีกเช่นกัน เพราะเจอวิวิทธิ์กับปุ๊ยืนดักหน้าอยู่
จันทรกานต์ เป้า และปิ๋มเดินตามมาสมทบ ดาริกาและอิงฟ้าวิ่งตามมาจากร้าน ดาริกาน ที่รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ถึงกับชะงักไปเมื่อเห็นจันทรกานต์
“เราคงต้องคุยกันยาวครับคุณพ่อ เรื่องเรียกค่าไถ่เด็ก”
ดำรงกับสุดหล่อหน้าเจื่อน อิงฟ้ามองหน้าทั้งสองอย่างชิงชัง
จากนั้นทั้งหมดก็โดนพวกจันทรกานต์สอบสวนขนานใหญ่ พวกสุดหล่อโยนความผิดว่าถูกโจรใหญ่อย่างศักดิ์สิทธิ์บังคับ อิงฟ้าทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาตบหน้าสุดหล่อฉาดใหญ่
“อย่ามาอ้างว่าเป็นคนดี ถึงไม่เรียกค่าไถ่ นายก็จะลักเด็กไปขายอยู่แล้วนี่ มันเลวยิ่งกว่าโจรเรียกค่าไถ่เสียอีก ลองนึกบ้างว่าถ้าลูกเล็ก ๆ ของพวกนาย ถูกจับไปทรมาน ไปกักขังไว้ พวกนายจะรู้สึกยังไง ถ้าไม่รู้สึกอะไร พวกนายก็ไม่มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่แล้วล่ะ”
อิงฟ้าร้องไห้อย่างสุดกลั้น จนวิวิทธิ์ต้องโอบกอดไว้ ดำรงรีบบอก
“คุณฟ้า เด็กๆ ไม่ได้ถูกทรมานหรอกครับ พวกเราดูแลอย่างดี”
“ฉันไม่เชื่อจนกว่าจะได้พบลูก ๆ”
ดาริกามองพ่อตัวเอง ด้วยความรู้สึกละอายใจแทน แล้วเดินแยกออกไปเงียบ ๆ จันทรกานต์มองตาม ก่อนจะหันกลัลบมาบอกให้ดำรงพาทุกคนไปที่เซฟเฮาส์ เพื่อช่วยเด็กๆ
อ่านต่อหน้า 2
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 14 อวสาน (ต่อ)
ดาริกาออกมาสงบสติอารมณ์ที่ริมน้ำ แต่พอจันทรกานต์ตามออกมา ดาริกาก็รีบเช็ดน้ำตา
จนหมดแล้วทำหน้าเย่อหยิ่งแบบนางร้าย
“หวังว่าคงไม่จับพ่อฉันเข้าคุกนะคะ”
“อาจจะก็ได้ ถ้าพ่อคุณไม่ช่วยผม”
ดาริกาแกล้งพูดทับถมเรื่องจันทรกานต์เมาเละเทะเสียงานเสียการ แล้วก็ลาออก จันทรกานต์รีบบอกว่าเขาถูกพ่อไล่ออก ดาริกายิ้มหยันว่าทั้งที่ทั้งโดนหลอก โดนสวมเขา ก็ยังตัดใจจากเธอไม่ได้
“ลงว่ารักแล้ว มันตัดใจไม่ได้ง่ายๆ หรอก”
“แล้วก็ยอมทิ้งงาน ทำให้คุณชายพ่อ คุณแม่ ผิดหวังในตัวคุณอยู่อย่างนี้ คุณนี่นอกจากใจเสาะแล้ว ยังงี่เง่าอีกต่างหาก”
จันทรกานต์อมยิ้ม “ที่พูดนี่ เป็นห่วงผมใช่ไหม”
ดาริกาแกล้งเชิดหน้า
“เปล่า ฉันเกลียดคุณ จะมาห่วงคุณทำไม แล้วคุณก็ควรเกลียดฉันและตัดใจจากฉันได้แล้ว”
ดาริกาจะแยกกลับไปที่ร้าน แต่กลับถูกจันทรกานต์คว้าตัวไว้
“ดาริกา ละครของคุณน่ะ จบฉากได้แล้วละ บทนางร้ายของคุณ เลิกเล่นได้แล้ว เพราะผมเองก็เลิกเล่นบทพระเอกช้ำรักแล้วเหมือนกัน”
ดาริกามองหน้าจันทรกานต์อย่างงุนงง “ฉัน ฉันไม่เข้าใจ”
จันทรกานต์ยิ้มจนตาเยิ้ม พร้อมๆ กับที่วิวิทธิ์และอิงฟ้าเข้ามาสมทบ
“เราตกลงตามแผนแล้วครับคุณจันทร์ เราจะไปที่เซฟเฮาส์กันคืนนี้เลย”
“ดี น้องฟ้า รออยู่ที่บ้านนะ แล้วพี่จะส่งข่าว”
แต่อิงฟ้าไม่ยอม จะขอไปด้วย ดาริกาก็ไม่ยอมเหมือนกัน พลางหันมาคาดคั้นจันทรกานต์
“ห้ามปฏิเสธ อีกอย่างฉันต้องการคำเฉลยปริศนาที่คุณพูดมาเมื่อกี้ทั้งหมด”
“ปริศนาอะไรคะ”
“ละครฉากใหญ่ค่ะน้องฟ้า ไปค่ะ คุณวิวิทธิ์ เราเตรียมตัวเดินทางกันเถอะค่ะ”
ดาริกาพาอิงฟ้าและวิวิทธิ์ออกไป จันทรกานต์มองตามดาริกา พลางอมยิ้มน้อย ๆ
จันทรกานต์ ปุ๊ เป้า ปิ๋ม และทหารพรานจ่าสามารถเพื่อนของปุ๊ซุ่มอยู่ในราวป่า กำลังส่องกล้องดูเซฟเฮาส์ในไร่ ส่วนดาริกา วิวิทธิ์ อิงฟ้า รวมกลุ่มกันส่องกล้องดูอยู่ในเต๊นท์
“ท่านครับ ถ้านายดำรงกับพรรคพวกทำตามที่เราสั่ง ก็น่าจะบุกเข้าไปช่วยเด็กได้ไม่ยาก”
จ่าสามารถหันมาบอกจันทรกานต์
“นายดำรงจะติดต่อเรามาหลังยาออกฤทธิ์แล้ว น่าจะสักชั่วโมงหลังอาหารเที่ยง”
ปุ๊ไม่ค่อยสบายใจ ที่ดาริกากับอิงฟ้ามาด้วย เพราะเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย แต่จันทรกานต์บอกว่ากำชับแล้วว่าให้อยู่แต่ในเต๊นท์
ดำรงกำลังต้มกล้วยบวชชีบนเตา ส่วนแก๊งสุดหล่อ ช่วยเปลี่ยนชุดให้เด็กทั้งสาม จังหวะนั้นดำรงก็ตักกล้วยใส่ถ้วยเล็กสามถ้วย แล้วครอบฝาชีไว้ จากนั้นก็เทยานอนหลับใส่ลงในหม้อนับสิบเม็ด แก๊งสุดหล่อหันมามองหน้าอย่างรู้กัน มีตี๋คนเดียวที่ไม่รู้เรื่อง
“นายศักดิ์สิทธิ์กลับมาแล้วครับ”
ปิ๋มที่ซุ่มดูอยู่ รีบรายงาน จันทรกานต์รีบกลับไปที่หน้าเต๊นท์ แล้วส่องกล้องทันที วิวิทธิ์รีบตามมาสมทบด้วย ดาริกาอยู่กับอิงฟ้า ส่องกล้องดูด้วยความร้อนใจอยู่ในเต๊นท์
ศักดิ์สิทธิ์ลงจากรถพร้อมสมุน แล้วเดินเข้าบ้านไป
เมื่อเข้ามาในห้อง ศักดิ์สิทธิ์ก็รีบออกคำสั่งให้ทุกคนมาประชุมเรื่องการนัดหมายส่งเงิน สุดหล่ออาสาจะพาเด็กๆเข้านอน แต่ข้าวตูงอแงว่าจะกินกล้วยบวชชีก่อน แต่ปรากฏว่ากล้วยชวชชี 3 ถ้วยที่ดำรงกันไว้ในฝาชีครอบ ถูกตี๋ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกินจนเกลี้ยง
ดำรง หล่อ เน แอล มองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าตักจากในหม้อให้เด็กๆ เพราะใส่ยานอนหลับอย่างรุนแรงลงไป ถ้าเด็กกินอาจถึงตายได้
แต่ตี๋ขันอาสาเป็นคนตักให้ 3 ถ้วย พลางยื่นให้เด็กๆ สุดหล่อแกล้งทำเป็นหงุดหงิดที่เด็กๆ ร้องเสียงดัง แล้วปัดชามทั้งสามชามกระเด็นไปกับพื้น เด็กยิ่งตกใจแหกปากร้องลั่นยิ่งกว่าเดิม
ศักดิ์สิทธิ์ตวาดลั่น “เอาเด็กไปห้องนอน”
แก๊งสุดหล่อ จับเด็กทั้งสามไว้ แต่ข้าวตอก ข้าวตู ดิ้นหลุด แล้ววิ่งหนีออกจากห้อง
“เฮ้ย จับเด็กไว้”
ทั้งหมดวิ่งตามออกจากห้องทันที
ข้าวตอก ข้าวตู วิ่งออกมานอกบ้าน แก๊งสุดหล่อ และสมุนของศักดิ์สิทธิ์ เข้ามารุมจับเด็ก พลัน
มือถือที่ไว้กดระเบิดของสมุนนายหนึ่งตกที่พื้น ตรงหน้าข้าวตอกพอดี ข้าวตอกรีบเก็บใส่กระเป๋า
จันทรกานต์ กับพวกผู้ชายยืนคุยกันอยู่ด้านหนึ่ง ขณะที่ดาริกากับอิงฟ้าส่องกล้องมองอยู่ลำพังแค่สองคน เห็นข้าวตู ข้าวตอก โดนแบกขึ้นบ่ากลับเข้าบ้านก็ตกใจ
“บอกคุณจันทร์ก่อนดีกว่าค่ะ”
อิงฟ้าคิดอะไรขึ้นได้ “ อย่าเพิ่งบอกค่ะพี่ดาว”
ดาริกามองอิงฟ้าอย่างสงสัย
ข้าวตอก ข้าวตูถูกพากลับเข้ามา กลุ่มสมุนศักดิ์สิทธิ์หัวเราะกันลั่น ดำรงและแก๊งสุดหล่อพลอยหัวเราะออกมาด้วย
ดำรงกับแก๊งสุดหล่อกลัวเด็กโดนทำร้ายรีบออกตัวว่าจะพาไปนอน แต่ศักดิ์สิทธิ์กลับสั่งให้ยกหม้อกล้วยบวชชีมา แล้วเททั้งหม้อลงกับพื้น ดำรงกับแก๊งสุดหล่อ อ้าปากค้าง
“นี่แหละบทลงโทษ ถ้าหนีอีกเอ็งจะไม่ได้กินอะไรเลย จับตัวมันไปที่ห้องนอน”
กลุ่มสมุนศักดิ์สิทธิ์รีบจับเด็กทั้งสามแบกเข้าไปในห้องนอน ดำรงกับแก๊งสุดหล่อ มองหน้ากันตาปริบๆ ศักดิ์สิทธิ์สั่งดำรงให้ไปทำอาหารมาให้กิน ดำรงรีบพยักหน้ากับแก๊งสุดหล่อ แล้วพากันไปหลังบ้านทันที
ดำรงแอบคุยมือถือกับจันทรกานต์ ส่วนแก๊งสุดหล่อ กำลังช่วยกันอุ่นข้าวในหม้อใบใหญ่ และอุ่นกับข้าวอีกหม้อหนึ่ง
“หมดกัน คุณจันทร์แผนล้ม ยานอนหลับในกล้วยบวชชี ถูกมันเททิ้งหมด”
“มันสงสัยอะไรรึเปล่า” จันทรกานต์ถามอย่างร้อนใจ
“ไม่ครับ เอาไงดี ยาผมใส่ไปจนหมด ไม่เหลืออีกแล้ว”
“ต้องหาวิธีอื่น”
“แค่นี้ก่อนนะ พวกมันออกมา”
ดำรงรีบวางสาย
อิงฟ้าดึง ดาริกาแยกออกมา
“ฟ้าไม่รอแล้วค่ะ ฟ้าจะเข้าไปช่วยเด็ก ๆ”
ดาริการีบห้าม แต่อิงฟ้าไม่ยอมฟัง
“ต้องได้ค่ะ หลังบ้านนั่นค่อนข้างเปลี่ยว ตรงกับห้องที่เด็กอยู่พอดี ถ้าเราแอบเข้าไปทางนั้น น่าจะช่วยเด็กออกมาได้”
ดาริกาเกรงว่าถ้าเข้าไปอาจจะเป็นฝ่ายถูกจับเสียเอง แต่อิงฟ้ายืนยันว่าจะไป พลางกำชับไม่ให้ดาริกาบอกใคร
จักรพัฒน์ถึงกับหน้าเครียด เมื่อได้ฟังดารารายเล่าเรื่องคลิป
“ผมว่ายายแพ็ทไม่กล้าแพร่คลิปหรอกครับคุณอา แค่ขู่เท่านั้นเอง”
ดารารายถอนหายใจ
“แต่อาก็ไม่สบายใจอยู่ดี คุณจันทร์นะคุณจันทร์ เสียรู้ผู้หญิงทุกคนตั้งแต่ยายดาริกา จนมาถึง ยัยแพ็ท”
“คุณอาอย่าลืมนะครับ คุณอาเป็นคนแนะนำยายแพ็ทมาให้คุณจันทร์เอง”
ดารารายยอมรับ แต่อ้างว่าตอนนั้นไม่มีทางเลือก เพราะไม่อยากให้จันทรกานต์ถลำลึกไปกับ
ดาริกา เพราะเกรงจะโดนหลอก แถมยังโดนพ่อปล้นจนหมดตัว แต่จักรพัฒน์ยืนยันว่าดาริการักจันทรกานต์จริงๆ
“ตาจักร เธอพูดอะไร ยัยดาริกาสารภาพกับอาเองว่านอกใจคุณจันทร์ แอบมาเฟลิตกับเธอ นี่ยังไม่นับเรื่องที่แม่นี่ใช้เสน่ห์ล่อลวงคุณจันทร์ให้จ้างหล่อนเข้ามาเป็นเลขาฯ”
จักรพัฒน์ตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้ดารารายฟัง โดยเฉพาะเรื่องเหตุผลคุณที่จันทรกานต์จ้างดาริกาเข้ามาเป็นเลขาฯ เพื่อเป็นกันชนผู้หญิงอีกคนที่พยายามจับ ถึงขั้นมอมยาหวังจะเคลมจันทรกานต์ ที่คอนโด
“ผู้หญิงอีกคนใคร ?”
“คนรักของผมเองครับ พิชญา”
ดารารายเข้ามาในห้องคุณชายจันทร ด้วยสีหน้าอึดอัด งุนงงสงสัยไปหมด เสียงเล่าเรื่องของ
จักรพัฒน์ยังดังก้องอยู่ในหู
“พิชญารักคุณจันทร์มาตั้งแต่สมัยเรียน ถึงขั้นตามไปเรียนต่อที่อเมริกาแต่ คุณจันทร์ไม่ได้รักเธอ เธอถึงมาแต่งกับผมเพื่อประชดคุณจันทร์”
จักรพัฒน์เล่าเหตุการณ์ในคืนที่จันทรกานต์ถูกมอมยา จนถึงเหตุผลที่ทำให้พิชญาเข้ามาทำงานที่แกรนด์เพื่อหวังใกล้ชิดกับจันทรกานต์
“พอชาย่ารุกคุณจันทร์มากเข้า เขาเลยให้ดาริกาแสดงตัวเป็นเมียเก็บของเขาเสียเลย”
“แล้วดาริกาก็ยอมทำ”
“เธอปกป้องคุณจันทร์ทุกอย่างเพราะความมีน้ำใจของเธอ ไม่เท่านั้นเธอยังช่วยปกป้องคนข้างเคียงอย่างวิวิทธิ์และน้องอิงฟ้าด้วย ทั้งสองคนรักกัน แต่เมื่อคุณอาบังคับคุณจันทร์หมั้นกับอิงฟ้า มันเลยกลายเป็นรักต้องห้าม ดาริกาเป็นคนช่วยให้รักของทั้งสองกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ น้ำใจของดาริกาน่านับถือที่สุด คุณจันทร์คงตระหนักเรื่องนี้ดีเขาถึงรักเธออย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ”
แต่ดารารายยังไม่ปักใจเชื่อ
“ไม่จริง อาไม่เชื่อ ตาจักร เธอลืมแล้วเหรอ ยัยดาริกาหว่านเสน่ห์เธอ หลอกคุณจันทร์ เธอรู้อยู่เต็มอก”
จักรพัฒน์ส่ายหน้า
“อาดาวครับ อาเข้าใจผิดหมดแล้ว นั่นเป็นอีกเรื่องของความมีน้ำใจของดาริกาต่างหากล่ะครับ”
จากนั้นก็เล่าเรื่องที่ดาริกาตั้งใจลองใจพิชญาว่ายังรักเขาอยู่หรือเปล่า เลยแกล้งเอาแหวนไปใส่เพื่อให้พิชญาหึง
“แล้วชาย่าก็หึงจริงๆ ผมถึงได้เชื่อว่าชาย่ายังรักผมอยู่ เราถึงกลับมาคืนดีกันได้”
“ไม่เชื่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทำไมยัยดาริกาไม่บอกความจริงอา แถมยังเล่นละครตามที่อาสั่ง ให้คุณจันทร์เกลียดเธอ แล้วไล่เธอออกไปจากแกรนด์”
“เธอคิดว่าเธอและครอบครัวต้อยต่ำเกินกว่าจะมาเป็นสะใภ้ทัศนัย ยิ่งคุณพ่อเธอมารีดไถคุณจันทร์เข้าอีก เธอถึงยอมตัดใจจากคุณจันทร์ไงครับ”
ดารารายยิ่งอึ้ง
“ตาจักร เธอกำลังบอกว่าอาว่าแม่นี่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคุณจันทร์งั้นเหรอ”
“ใช่ครับ เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อคุณจันทร์”
ดารารายยังครุ่นคิดเรื่องที่จักรพัฒน์เล่า จนคุณชายจันทรเข้ามาในห้อง
“ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น เป็นอะไรรึเปล่า”
ดารารายส่ายหน้า
“เปล่าค่ะ กำลังสับสนกับเรื่องยัยดาริกาที่นายจักรเล่าให้ฟังเมื่อกี้”
“เรื่องอะไรบ้างล่ะครับ”
ดารารายพูดด้วยน้ำเสียงหยามหยัน
“จากนางมาร ยัยดาริกากลายเป็นนางฟ้าแสนดี จิตใจงามเต็มไปด้วยการเสียสละ”
“จากน้ำเสียง คุณไม่เชื่อเลยล่ะสิ”
“ฉันไม่เชื่ออยู่แล้ว ทุกอย่างมันค้านกับสิ่งที่ฉันรับรู้ ที่ฉันเข้าใจมาตลอด ทำไมตาจักรถึงได้งมงายขนาดนี้”
“คนเรางมงายกันได้ครับถ้าจิตใจเต็มไปด้วยความอคติ”
พลันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เลขาฯ คุณชายจันทรเข้ามาในห้อง พลางยื่นซองสีน้ำตาลให้ ดาราราย แล้วออกไป ดารารายอ่านจ่าหน้า
“จากยัยดาริกาค่ะ”
ดารารายเปิดซองออกทันที พบว่าคือเช็คเงินสดหกแสนบาท สั่งจ่ายชื่อเธอเอง ดารารายส่งเช็คให้สามี คุณชายจันทรรับมาดู แล้วก็นิ่งงันไป ดารารายเห็นกระดาษชิ้นเล็กสอดอยู่ ก็รีบหยิบขึ้นมาอ่าน
“หนูใช้หนี้ที่พ่อหนูยืมไปทั้งหมดค่ะ ขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ดาริกา”
ดารารายเงยหน้าขึ้นมองสามี คุณชายจันทรรับโน้ตมาอ่าน แล้วได้แต่สลดใจกับชะตากรรมของ
ดาริกา
ดารารายถึงกับทรุดลงนั่ง พูดอะไรไม่ออก ครุ่นคิดสับสนกับเรื่องทั้งหมด
สามี-ภรรยาอยู่กันคนละมุมห้อง ทั้งห้องมีแต่ความเงียบงัน
ในที่สุดดาริกากับอิงฟ้า ก็ลอบเข้าไปในเซฟเฮ้าส์จนได้ ปิ๋มที่กำลังส่องกล้องดูความเคลื่อนไหว เห็นสองสาวผลุบโผล่อยู่หลังบ้าน ก็รีบตามจันทรกานต์กับวิวิทธิ์มาดู จากนั้นทั้งหมดก็ตัดสินใจบุกเข้าไป เพื่อช่วย 2 สาว และเด็กๆ ทันที
ศักดิ์สิทธิ์และสมุนกำลังนั่งนอนเอกเขนก หลังจากซัดอาหารมาจนพุงกาง ดำรงกับแก๊งสุดหล่อ นั่งอยู่ตรงข้ามกำลังประชุมเรื่องวางแผนส่งคืนเด็ก
ข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้ นั่งซึมอยู่บนเตียง ทันใดนั้นประตูก็ค่อยๆ แง้มเปิดเข้ามา อิงฟ้ากับดาริกาเข้ามาในห้อง ทั้งคู่ใส่หมวกปิดหน้า แต่เด็กๆ กลับจำได้ รีบโผเข้ามากอดอิงฟ้า
“แม่”
ข้าวตู ข้าวตอก ดอกไม้ ร้องไห้ อิงฟ้าเลยพลอยร้องไห้ตามไปด้วย
พวกศักดิ์สิทธิ์ได้ยินเสียงเด็กๆ ก็หันขวับมาไปทางห้องด้านในทันที
อิงฟ้ากับดาริการีบบอกให้เด็กๆ เงียบเสียง
“ต้องรีบหนีแล้วค่ะ เด็กๆ เงียบๆ นะคะ ตามพี่มา”
ดาริกาแง้มประตูแล้วนำทางไป
ดาริกานำทาง ตามด้วยเด็กทั้งสาม ปิดท้ายด้วยอิงฟ้า ทั้งหมดคลานไปกับพื้น พลางซุกตัวกับหลบในซอก จนสมุนหน้าเหี้ยมนายหนึ่งเดินผ่านไป
ดาริกามองข้ามโถงไป เห็นจันทรกานต์ วิวิทธิ์ ปุ๊ เป้าหลบอยู่อีกซอกหนึ่งของทางเดิน จันทรกานต์ทำสัญญาณให้สองสาวพาเด็กวิ่งมารวมกลุ่ม ปุ๊กับเป้านำทั้งหมดออกไปอีกทาง
ทั้งกลุ่มมาถึงประตูทางออก แต่ประตูถูกล็อก ปุ๊กับเป้าใช้เครื่องมือไขรูกุญแจจนเปิดออกได้ แต่กลับเจอพวกสมุนยืนจังก้ารออยู่แล้ว พร้อมกับถีบร่างปุ๊กับเป้ากระเด็นล้มไปที่พื้น ดาริกากับอิงฟ้าหวีดร้อง พวกสมุนจ่อปืนมาทั้งกลุ่ม พร้อมกับเข้าปลดอาวุธ
ศักดิ์สิทธิ์เดินมาจากเบื้องหลัง พร้อมสมุนที่เหลือ ทุกคนมีอาวุธครบมือ
“แหม พระเอกจริงๆ ตามมาช่วยเด็กถึงในบ้านข้า นี่คงเป็นยายครูอิงฟ้า ผู้ปกครองเด็กๆ นี่เจ้าพระเอกหน้าบ้าน และนี่คงเป็นหม่อมหลวงจันทรกานต์ ทัศนัย แหม....เซฟเอาส์ของผมยินดีต้อนรับครับ”
ศักดิ์สิทธิ์หัวเราะร่า
อ่านต่อหน้า 3
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 14 อวสาน (ต่อ)
จันทรกานต์ ดาริกา และคนอื่นๆ ถูกจับนั่งรวมกันอยู่กลางโถง ดำรงกับแก๊งสุดหล่อ นั่งหน้าซีดอยู่อีกมุม สมุนสามนายกำลังมัดมือถือของทุกคนรวมกับสะเก็ดระเบิด
ศักดิ์สิทธิ์หันขวับมาทางดำรงทันที
“ไอ้ดำรง ไอ้หล่อ พวกแกร่วมมือกับมันใช่ไหม พาพวกมันมาที่นี่”
ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “คือ ผมโดนบังคับน่ะ”
“มันน่าฆ่าเสียให้หมด”
จันทรกานต์พยายามทำใจเย็น
“อย่าทำอะไรเกินกว่าเหตุเลย เพราะทางเราแจ้งกับหน่วยเฉพาะกิจไว้แล้ว อีกไม่ถึงชั่วโมงกองกำลังคงมาถึง นายมอบตัวเสียดีกว่า โทษหนักจะกลายเป็นเบา”
ศักดิ์สิทธิ์เดินปราดเข้ามา แล้วหัวเราะร่า
“นึกว่าคนอย่างข้าจะกลัวเหรอวะ จะบอกอะไรให้ ข้าจะลากพวกเอ็งทั้งหมดนี่แหละ ไปกบดานอยู่ตะเข็บชายแดน แล้วเรียกค่าไถ่พวกเอ็งเป็นรายตัวไปเลย ตอนนี้มูลค่าน่าจะถึงห้าร้อยล้าน เพราะมีทายาทห้างแกรนด์อยู่ใน กำมือข้าด้วย ฮ่ะฮ่ะ”
“นึกเหรอว่าจะหนีพ้น หน่วยเฉพาะกิจตามแกไปถึงชายแดนแน่” วิวิทธิ์ขู่
“ข้าว่ายากว่ะ เพราะเมื่อไหร่ที่กองกำลังของเอ็งมาถึง แค่เหยียบตีนเข้ามาในบ้าน มันก็จะกลายเป็นเมรุเผาของพวกมันทันที”
พูดพลางก็หันไปสั่งลูกน้องเอากล่องใส่ระเบิดมือถือหลายสิบอันมาให้ดู
“ระเบิดพวกนี้ แค่กดจุดระเบิด บ้านนี้ก็บึ้ม เข้าใจป่ะ เฮ้ย พวกเอ็งเอามือถือไปฝังรอบบ้านเลย ส่วนเอ็ง ไอ้ดำ ไอ้หล่อ กับสมุนของเอ็ง พวกเอ็งต้องชำระโทษ ไม่ต้องตามไปกับข้า เอ็งต้องอยู่ในบ้านหลังบ้านนี้ ไหม้เป็นซากไปพร้อมๆ กับบ้าน จับพวกมันมัดไว้”
พวกสมุนเข้าจับดำรงและแก๊งสุดหล่อมัดไว้ ส่วนสมุนอีกส่วนก็แบกลังมือถือออกมาฝังด้านนอกตัวบ้านทางด้านปิ๋มกับจ่าสามารถก็รอคอยพวกจันทรกานต์อยู่ที่เต๊นท์อย่างกระวนกระวาย
สมุนคนหนึ่งตบกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต เพื่อหาตัวจุดระเบิด แต่หาไม่เจอ ทุกคนเดาว่าอาจจะหล่นตอนวิ่งไล่จับเด็กๆ ทั้งสามกลับเข้าบ้าน เพื่อไปถาม
จังหวะนั้นเอง ข้าวตอกก็กำลังใช้มือถือเครื่องนั้น จะกดเบอร์โทร.หาครูตุ้ย พวกสมุนรีบวิ่งเข้ามาห้าม แต่ไม่ทัน พอข้าวตอกกดเบอร์ปุ๊บ ระเบิดก็ตูมขึ้นมาทันที ไฟลุกท่วม
ปิ๋มและจ่าสามารถ มองจากกลางป่า ถึงกับสะดุ้งเฮือก
แรงระเบิด ทำเอาไฟลุกท่วมฝาบ้านด้านหนึ่ง ควันคลุ้งไปทั้งห้อง ร่างของทุกคนกองระเนระนาด ปุ๊กับเป้า หลุดจากเชือกที่มัด พลางรีบตรงไปเข้าแก้มัดจันทรกานต์และวิวิทธิ์ ก่อนจะเข้าช่วยอิงฟ้าและดาริกา ส่วนดำรง
และแก๊งสุดหล่อล้มไปกองรวมกัน แต่ละคนบาดเจ็บกันคนละเล็กน้อย
จันทรกานต์ ปุ๊ และเป้า รีบตรงเข้าถึงตัวพวกสมุน จะทำการปลดอาวุธ พวกมันขัดขืน แต่สุดท้ายก็โดนจันทรกานต์ฮุกหมัดเข้าเต็มหน้า
เป้าคลานไปทางแก๊งสุดหล่อ และช่วยแก้มัด แก๊งสุดหล่อผนึกกำลังกันเข้าช่วยกลุ่มจันทรกานต์จัดการกับพวกสมุน
อิงฟ้ารีบหลบออกจากห้องไปตามเด็กๆ ส่วนดาริกาวิ่งมาหาดำรงที่บาดเจ็บที่ศีรษะ แล้วรีบแก้มัดให้พ่อ
“พ่อ เป็นยังไงบ้าง เลือดออกนี่”
“ไม่เป็นไรลูก เอ๊ะ ไอ้ศักดิ์สิทธิ์มันไปไหนแล้ว อย่าให้มันหนีไปได้นะ”
“พ่ออยู่นี่นะ “
ดาริการีบวิ่งไปทางเดียวกับอิงฟ้า
ในห้องนอนเด็กเต็มไปด้วยควัน วิวิทธิ์พยายามรื้อที่นอนตามหาเด็กทั้งสาม ก่อนจะพบว่าทุกคนหลบอยู่ใต้ที่นอน มอมแมมด้วยฝุ่นควัน วิวิทธิ์กอดเด็กไว้แน่นด้วยความดีใจ อิงฟ้าตามเข้ามา แล้วก็รีบวิ่งเข้ากอดเด็กๆ ร้องไห้โฮด้วยความดีใจ
ทั้งหมดกอดกันกลม
พอดาริกาวิ่งออกมานอกบ้าน ก็ไม่เห็นร่างของศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่เมื่อวิ่งไปอีกด้านของบ้าน จึงเห็นศักดิ์สิทธิ์ที่หลบอยู่ บนร่างกายเต็มไปด้วยเศษไม้ และเขม่า มีเลือดที่หัวไหล่และที่เท้า
ศักดิ์สิทธิ์ปราดเข้ามาทั้งที่ขากระเผลก กระชากร่างดาริกาไว้ แล้วใช้ปืนจ่อ ก่อนจะลากดาริกาออกไปที่ไร่ จันทรกานต์รีบวิ่งตามไปจนทัน
“ปล่อย ดาริกา”
ศักดิ์สิทธิ์แสยะยิ้ม “ไม่ แกนั่นแหละต้องปล่อยข้าไป แล้วข้าจะไว้ชีวิตมัน”
“แกหนีไม่ได้ไกลหรอก แกบาดเจ็บ”
“ข้าหนีได้แน่ ๆ เพราะนังนี่คือตัวประกันของข้า ข้าจะไปที่ลำธารโน่น แล้วข้าจะปล่อยตัวมัน”
จันทรกานต์มองจ้องมันอย่างไม่เชื่อคำพูด
“ไม่มีสัจจะในหมู่โจรไม่ใช่เหรอ แกไม่มีวันปล่อยดาริกาหรอก จนกว่าแกจะหนีพ้นจากไร่นี่”
“อย่าให้ข้าต้องทำให้นังนี่เจ็บนะโว้ย”
มันพูดพร้อมขย้ำคอของดาริกาไว้แน่น จันทรกานต์เริ่มลังเล
ปุ๊กับเป้าช่วยอุ้มเด็ก ๆ พาออกจากห้องไปก่อน ส่วนวิวิทธิ์ประคองร่างของอิงฟ้าลุกขึ้น อิงฟ้ายิ้มทั้งน้ำตา แล้วก็ขยับจะออกจากห้อง ทันใดนั้นร่างสมุนที่นอนแน่นิ่งอยู่ใต้ที่นอน ก็ขยับตัว พร้อมกับเล็งปืนมาที่อิงฟ้า วิวิทธิ์เหลือบไปเห็น ก็รีบกระโดดเข้ากันร่างอิงฟ้าทันที
เสียงปืนดังปัง อิงฟ้ากรีดร้องลั่น ร่างของวิวิทธิ์ล้มไปตามแรงกระแทก กลิ้งไปกับพื้น อิงฟ้าล้มตามไปด้วย ปุ๊กับเป้า รีบวิ่งกลับเข้ามา เตะปืนในมือของสมุนกระเด็น แล้วเตะปลายคางซ้ำ จนมันแน่นิ่งไป
ศักดิ์สิทธิ์หันไปมองตามเสียงปืน ดาริการีบฉวยจังหวะเสยปืนของมันยกขึ้น และกระแทกส้นเท้าเข้ากับขา จนมันร้องลั่นเสียหลัก จันทรกานต์รีบปราดเข้ามาซัดจนมันหงายหลังแผ่ไม่เป็นท่า แล้วก็แน่นิ่งไปในที่สุด จ่าสามารถและปิ๋มวิ่งเข้ามาช่วยจับร่างมันใส่กุญแจมือทันที
จันทรกานต์และดาริกายิ้มออกมาได้ พร้อมกับเสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ ดังมาจากในบ้าน ทั้งสองวิ่งไปที่บ้านทันที
ปุ๊กับเป้าพาวิวิทธิ์ ที่มีเลือดเต็มหัวไหล่วางนอนที่แคร่หน้าบ้าน อิงฟ้ากับเด็กๆ ร้องไห้โฮ
วิวิทธิ์หายใจหอบ
“คุณต้องไม่เป็นไรนะ คุณวิวิทธิ์”
“เด็กๆ ปลอดภัยแล้ว ผมดีใจ คุณฟ้า”
วิวิทธิ์พูดแค่นั้นก็แน่นิ่งไป อิงฟ้าร้องไห้ลั่น ปุ๊จับชีพจร แล้วพบว่าเต้นอ่อนมาก จันทรกานต์กับดาริกาวิ่งมา ปุ๊รีบหันมาบอก
“ต้องรีบส่งโรงพยาบาลแล้วครับ เสียเลือดมาก”
ปุ๊กับเป้าช่วยกันพยาบาลห้ามเลือด ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมของอิงฟ้าและเด็ก ๆ
คุณชายจันทรยืนเหม่ออยู่ในห้องทำงานจันทรกานต์ พลันดาราราย ก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณพี่อรชรเพิ่งโทรมาบอกเดี๋ยวนี้ค่ะ นี่มันเรื่องใหญ่มากนะคะ เด็ก ๆ ถูกจับไปเรียกค่าไถ่”
“ผมเองก็เพิ่งทราบ คุณจันทร์โทรมาบอกเมื่อคืน แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้วนะ ยกเว้นวิวิทธิ์ถูกยิงบาดเจ็บ”
ดารารายตกใจ “ตายจริง”
“พ้นขีดอันตรายแล้วครับ ตอนนี้ถูกส่งมาโรงพยาบาลที่กรุงเทพ”
“คุณชายคะ มันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้คุณจันทร์ไม่บอกอะไรฉันเลย ฉันเป็นคนรู้เรื่องคนสุดท้ายทุกครั้ง
ทุกเรื่องด้วย”
ดารารายพูดอย่างน้อยใจ
“คุณดาว ถ้าคุณยังเห็นขัดแย้ง ไม่ฟังเหตุผล ใช้อำนาจบังคับอยู่แบบนี้ คุณจันทร์ก็ยอมให้คุณรู้ทุกเรื่องไม่ได้หรอก”
ดารารายเบือนหน้าไป แล้วร้องไห้ออกมา คุณชายจันทรมองอย่างเห็นใจ พลางเดินเข้ามาจับไหล่ภรรยา
“แล้วก็ยังร่วมมือกับคุณโกหกฉันด้วย”
“ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่อยากจะโกหกหรอกนะ แต่เมื่อลูกขอร้องให้ช่วย ผมก็จำเป็นต้องทำ”
“อย่างเรื่องปลอมอสุจิใช่ไหม”
คุณชายจันทรพยักหน้ายอมรับ
“ร้ายกาจ หลอกฉันกันเป็นทีม คุณก็ยอมทำตาม ไม่รู้หรอกหรือว่านั่นคือแผนของยัยดาริกาบังคับให้คุณจันทร์ทำ”
คุณชายจันทรส่ายหน้า “ใครบอก แผนของลูกชายเราทั้งหมดต่างหาก”
ดารารายเช็ดน้ำตา มองหน้าสามีเขม็ง
ที่โรงแรมหรูในขุนเขา ดาริกายืนเหม่ออยู่ระเบียงสวย เห็นขุนเขาชอุ่มอยู่เบื้องหน้า จันทรกานต์เดินมาหา
“วิวิทธิ์กับอิงฟ้า เดินทางกลับกรุงเทพแล้วครับ คุณพร้อมจะกลับแล้วรึยัง”
ดาริกาหันขวับมาเผชิญหน้ากับจันทรกานต์ทันที
“ยังจนกว่าคุณจะเฉลยเสียก่อน เรื่องละครนางร้ายของฉัน กับพระเอกช้ำรักของคุณ”
จันทรกานต์ยิ้มขำ
“เฮ้อ ดาริกา คุณน่ะแอคติ้งพอผ่านนะ แต่ยังไงก็ไม่เนียน ก็ที่เล่นบทนอกใจผมไง ทำเป็นไปรักพี่จักร แถมยังแกล้งทำเป็นโทร.หาคุณพ่อ ให้รีดไถผม ผมรู้ทั้งหมดละว่าคุณแกล้งทำ คุณเล่นตามบทบาทที่คุณแม่สั่งมา”
ดาริกาอึ้งไปชั่วครู่ “คุณรู้แม้แต่ฉันเล่นตามใบสั่งคุณแม่คุณ คุณรู้ได้ยังไง”
“ดาริกา คนเกลียดกันน่ะ เขาไม่เก็บของที่ระลึกของกันไว้หรอก สร้อยนี่ไงครับ”
จันทรกานต์จับสร้อยของดาริกาที่สวมอยู่ที่คอ ดาริกาถึงกับอึ้ง
“ก็แค่สร้อย ฉันอยากเก็บไว้ก็ได้นี่”
“สร้อยไม่มีราคาอะไร ถ้าคุณละโมภจริง คงโยนทิ้งไปแล้วลjะครับ”
“เหตุผลเท่านี้น่ะเหรอ ที่คุณรู้ว่าฉันเล่นตามใบสั่งแม่คุณ” ดาริกาทำเป็นย้อนถามกลบเกลื่อน
“ไม่ใช่เท่านี้ครับ ผมรู้มาตั้งแต่ตอนที่เราไปที่ตลาดน้ำแล้ว”
จันทรกานต์ย้อนนึกถึงตอนที่เขาแอบเห็นดารารายกับแพ็ทแอบมาซุ่มดูที่ตลาดน้ำ
“คุณจันทร์รู้ว่าฉันตามไป”
ดารารายหันมาถามย้ำกับคุณชายจันทร
“ครับ เขารู้ แล้วก็รู้ด้วยว่าคุณตามไปถ่ายคลิปพ่อของดาริกามารีดไถเขา ลูกเราไม่โง่หรอกนะครับคุณดาว”
ดารารายถึงกับพูดไม่ออก
ดาริกาอึ้งไปไม่แพ้ดาราราย
“ผมก็รู้น่ะซีครับ ว่าแม่ต้องใช้เรื่องนี้มาเล่นงานคุณแน่ๆ ยิ่งยัยแพ็ทมาเสี้ยมขนาดนั้น วันที่คุณพ่อคุณมารีดไถผมที่ตลาดนัดคนเดิน ผมเองก็รู้นะ”
ดารารายส่ายหน้า
“คุณจันทร์รู้ทุกอย่าง ? แต่ก็มีเรื่องนึงล่ะที่เขาไม่มีทางรู้ ที่ยายดาริกาสวมเขาให้เขาไง วันที่ฉันเรียกเขามาดูคลิปยัยดาริกาเอาแหวนพิชญาไปใส่น่ะ เขายังหน้าซีดแล้วซีดอีก “
จันทรกานต์พยักหน้ายอมรับ
“ยอมรับครับว่าตอนที่เห็นคุณสวมแหวนพี่จักร ทำเอาผมหึงหน้ามืดไปเหมือนกัน ยิ่งได้ยินคุณคุยโทรศัพท์ฉอเลาะกับพี่จักร ผมทั้งหึง ทั้งโมโห ผมก็เลยรีบไปถามความจริงจากพี่จักร”
จันทรกานต์ย้อนนึกถึงตอนที่จักรพัฒน์เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“เมื่อผมรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว แม่ก็เสนอให้ผมไปแอบดูคุณเล่นละครเป็นหญิงสองใจตามใบสั่งคุณแม่ ผมก็เลยต้องเล่นละครซ้อนแผนอีกที”
ดาริกาตะลึง “คุณเล่นละครซ้อนแผน หลอกฉัน หลอกคุณแม่”
“ใช่ครับ บทบาทพระเอกช้ำรักก็เริ่มนับแต่นั้น”
“ ลูกเล่นละครหลอกฉันที่ร้านอาหาร เป็นพระเอกช้ำรัก ลูกเก่งกาจขนาดนั้นเชียวเหรอคะ”
ดารารายแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“โอย เจ้าเล่ห์เจ้ากลสารพัด จนผมเองก็นึกไม่ถึง บทบาทช้ำรักของเขาก็เล่นต่อเนื่องมาถึงฉากที่ไล่ดาริกาออกวันนั้นด้วยนะ ตอนนั้นผมเองก็เชื่อสนิทว่าคุณจันทร์แตกหักดาริกาแล้ว แต่มารู้ความจริงเมื่อคุณจันทร์ขอคุยกับผมส่วนตัว”
คุณชายจันทรย้อนนึกถึงตอนที่อยู่ตามลำพังกับลูกชายในห้องทำงาน จันทรกานต์น้ำตาซึม
“เธอหลอกผม”
“หลอกอะไร เล่ามาทั้งหมด”
จันทร์กานต์ถอนหายใจ เช็ดน้ำตา เปลี่ยนสีหน้าทันที
“เธอหลอกทำเป็นว่าเธอรักพี่จักร ไม่ได้รักผมครับ”
“แล้วเธอทำไปทำไม” คุณชายจันทรถามกลับ
“เธอทำตามที่คุณแม่สั่งน่ะครับ ผมทราบความจริงจากพี่จักรหมดแล้ว อีกอย่างดาริกาเล่นไม่เนียนหรอกครับ จับพิรุธได้หลายอย่าง”
“เมื่อรู้ความจริง ทำไมถึงไล่เธอออก”
“ผมเล่นไปตามเกมส์ครับ และนับจากนี้ผมต้องขอให้คุณพ่อเล่นบทบาทตามผมไปด้วย”
“บทบาทอะไร” คุณชายจันทรรีบถาม “คราวที่แล้วพ่อก็รับบทเป็นคุณพ่ออสุจิอ่อนแอไปแล้ว”
“คราวนี้ บทคุณชายพ่อผู้ผิดหวังในตัวลูกน่ะครับ”
ดารารายโวยวายขึ้นมาทันที
“คุณร่วมเล่นละครกับลูกด้วย”
“ก็ลูกขอร้องนี่ครับ”
ดารารายอึ้ง “หมายความว่าที่คุณดุด่าลูกที่ลูกเมา คุณประนามลูกในที่ประชุมต่อหน้าบอร์ด
นั่นคือละครหลอกทุกคน แล้วตอนที่คุณตบหน้าลูก นั่นก็ละครเหรอคะ”
คุณชายจันทรกลั้นยิ้ม “โอย นั่นละ ฉากยากที่สุดเลย”
พลางเล่าถึงเบื้องหลังฉากตบหน้าจันทรกานต์กลางห้องประชุมให้ดารารายฟัง
“เชิญคุณพ่อคนเก่งบริหารห้างของพ่อต่อไปตามลำพังก็แล้วกัน ขอให้มันอยู่คู่กับพ่อ แก่ไปตามอายุขัยของพ่อ จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตของพ่อเลยนะครับ”
จันทรกานต์ยิ้มสะใจ พลางยื่นหน้ามา คุณชายจันทรยืนอึ้ง ไม่กล้าตบ จันทรกานต์พยายามหลิ่วตา จนกระทั่งแกล้งหัวเราะหยันๆ ออกมา คุณชายจันทรจึงกลั้นใจตบหน้าจันทรกานต์ ต่อหน้าดารารายและทุกคน
คุณชายจันทรสงสารลูก แต่ต้องรีบทำเป็นโกรธตัวสั่น พลางรีบหยิบยาหม่องมาป้ายตา จนตาแดง น้ำตารื้นออกมา
อ่านต่อหน้า 4
ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 14 อวสาน (ต่อ)
ดารารายนิ่งงัน ก่อนจะสะอื้นเบาๆ คุณชายจันทรเองก็สีหน้าเจื่อนๆ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“ใจร้าย ใจร้ายทั้งพ่อทั้งลูกเลย ทำไมต้องหลอกกันถึงขนาดนี้ ฉันเป็นเมีย เป็นแม่นะ ฉันไม่ใช่หมูตุ๋น”
คุณชายจันทรรีบออกปากชขอโทษ พลางอธิบายว่าจันทรกานต์ทำไปเพื่อแก้เกม เพราะเขาตั้งใจจะกำจัดอุปสรรคให้สิ้นซากไปทั้งหมด ทั้งแพ็ท เพชร และยุพา
“นั่นก็คือรวมฉันด้วยใช่ไหม” ดารายอดถามไมได้
“ก็คงใช่ เพราะคุณก็คืออุปสรรคอีกหนึ่งอย่างของเขา”
“ไม่รู้ละ ฉันไม่ยกโทษให้ ทั้งคุณทั้งลูก เรียกคุณจันทร์มาคุยเดี๋ยวนี้ ฉันต้องการได้ยินจากปากของเขาเองทุกเรื่อง”
คุณชายจันทรยิ้มกว้าง
“ได้ครับ คุณจันทร์คงพร้อมแล้วละที่จะอธิบายทุกอย่างที่เขาทำไป ลองฟังเหตุผลของเขาดูนะครับ”
ดารารายยังสะอื้น คุณชายจันทรเข้ามากอดไว้
ดาริกาเอง ก็ถึงกับน้ำตาซึม
“ใจร้าย รู้ตัวไหมว่าใจร้าย หลอกให้ฉันกลายเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ตั้งนาน คนอะไร อ้อ แล้ววันนั้นที่ฉันแวะไปดูห้องพี่ตาล แล้วคุณผ่านมา ก็เล่นละครหลอกฉันด้วยสิ”
จันทรกานต์พยักหน้า “ครับผม ผมเห็นคุณตอนเดินผ่านหน้าห้องอยู่แล้วล่ะ ยิ่งเห็นคุณร้องไห้วันนั้น อยากจะเข้าไปบอกความจริงใจจะขาด”
ดาริกา ทำหน้างอนๆ “ไม่ต้องเลย คนใจร้าย”
“ถ้าจะว่าใจร้าย คุณนั่นแหละใจร้ายกว่าผม คิดยังไงจะทิ้งผม”
“ก็พ่อฉันทำกับคุณขนาดนั้น แล้วคุณแม่คุณก็ ก็ยิ่งเกลียดฉันขึ้นทุกวัน ฉันไม่เห็นทางออกว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง”
จันทรกานต์อมยิ้ม “เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงต้องวางแผน “ละครฉากใหญ่” ขึ้น” คอยดูละกันว่ามันจะช่วยได้หรือไม่ได้”
ทันใดนั้นมือถือจันทรกานต์ ก็ดังขึ้น
“ครับแม่ ได้ครับ จะกลับเดี๋ยวนี้ละครับ”
จันทรกานต์วางสาย แล้วหันมาบอกดาริกา
“คุณแม่เรียกผมกลับไปพบท่านด่วน ผมจะเคลียร์ทุกอย่างกับท่านเอง”
จันทรกานต์นั่งอยู่ตรงหน้าดาราราย ที่นั่งหน้าเครียด คุณชายจันทรนั่งอยู่ด้วย
“ทำไมลูกกับแม่เหมือนแม่ไม่มีหัวจิตหัวใจแบบนี้”
ดารารายร้องไห้ จันทรกานต์เข้าไปกอดแม่ไว้
“ไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจแม่เลยสักนิด แต่ที่ต้องเล่นละครหลอก เพราะอยากให้แม่รู้ว่าเมื่อถูกบังคับมากเข้า ผมเองก็มีสิทธิ์เตลิดไปได้เหมือนกัน ผมเองก็เจ็บนะครับแม่เมื่อถูกกีดกันความรักแบบนี้”
“แม่ทำเพราะแม่รักลูกนะ”
จันทรกานต์คลายกอด แล้วมองหน้าแม่
“แม่รักผม แต่แม่ไม่ยอมปล่อยวางผมเสียที แม่ยังคิดว่าผมคือลูกชายตัวเล็กๆ ของแม่ ที่ต้องคอยประคบประหงมอยู่ตลอด ไม่ใช่นะครับ ผมโตแล้วและฉลาดพอที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวผมเอง อย่างเช่นดาริกา”
“แล้วทำไมแม่ถึงเห็นแต่ด้านร้ายของผู้หญิงคนนี้” ดารารายยังข้องใจไม่หาย
“คุณพ่อครับ ช่วยหน่อย”
คุณชายจันทรยิ้มให้ดาราราย
“อย่างที่เตือนคุณทุกครั้ง อคติไงครับ คุณตั้งความหวังไว้สูงเหลือเกินว่าคู่ครองของลูกต้องทัดเทียมกันทุกด้าน ดาริกาคือสิ่งตรงข้ามกับที่คุณคาดหวังไว้ คุณเลยปฏิเสธเธอทุกเรื่อง”
“ผู้หญิงคนนี้มีดีขนาดนี้เชียวหรือ”
“ผมบอกไม่ได้หรอกนะครับ ผมรู้แต่ว่า นับจากแม่ ก็มีดาริกาที่เสียสละทุกอย่างให้ผม รักผมด้วยใจ
รักผมอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ แม่ไม่เห็นหรือครับ เธอยอมเลิกกับผมเพื่อปกป้องผมนะครับ”
จันทรกานต์พูดไปก็น้ำตารื้น ดารารายร้องไห้ตาม
“ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก ดาริกายังให้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตกับผม ผมเติบโตขึ้นมากในปีที่ผ่านมา เข้าใจแล้วว่า ผมจะเป็นผู้บริหารแกรนด์ได้อย่างไร ดาริกาเป็นส่วนนึงของการค้นพบตัวเองของผม แม่ครับ นี่ไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีเหตุผลนึงที่ผมรักดาริกาเหลือเกิน”
“อะไรลูก”
“เธอเหมือนแม่มากไงครับ”
ดารารายร้องไห้ออกมา พลางดึงลูกชายมากอดไว้ “เข้าใจแล้วจ๊ะ แม่ขอโทษ”
จันทรกานต์ร้องไห้ กอดแม่ไว้แน่น คุณชายจันพรพลอยน้ำตาไหล ตื้นตันไปด้วย
วิวิทธิ์ ที่หน้าตายังอิดโรย แขนพันเฝือกไว้ ยังคงนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล โดยมีดาริกาและอิงฟ้าคอยปรนนิบัติไม่ห่าง
ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น คุณหญิงอรชรเข้ามาพร้อมป้าแมว ที่ถือตะกร้าของเยี่ยมเข้ามาด้วย ดาริการีบลุกทันที
วิวิทธิ์หน้าเจื่อน “สวัสดีครับคุณแม่”
“สวัสดี นายหมาวัด เธออนุญาตให้ยายฟ้าบุกป่าฝ่าดงไปช่วยเด็กกับเธอด้วยเหรอ”
อิงฟ้ารีบแก้แทนว่าเธอไปเอง ไม่มีใครอนุญาตทั้งนั้น
“ก็เลยเกือบไปตาย เฮ้อ...”
“แม่คะ แม่อย่าว่าคุณวิวิทธิ์อีกเลยนะคะ”
คุณหญิงอรชรหันมามองหน้าลูกสาวด้วยความเอ็นดู
“ยายหนู ฉันยังไม่ได้ว่านายหมาวัดเลยสักคำกำลังจะบอกว่าก็ดีที่พาแกไปในดงโจรแบบนั้น ถ้านายหมาวัดไม่พาแกไปดงโจร ก็คงไม่ได้พิสูจน์ว่าเขารักแกยิ่งกว่าชีวิตของเขาเอง”
วิวิทธิ์ อิงฟ้า ดาริกา หันมามองหน้ากัน
“เธอช่วยชีวิตลูกสาวฉันไว้ ไม่เห็นแก่ชีวิตตัวเองเลย ฉันมาเพื่อขอบใจเธอจ๊ะ พร้อมของขวัญ”
ป้าแมวยื่นตระกร้าของเยี่ยมให้ ทุกคนยิ้มออกมาได้ โดยเฉพาะวิวิทธิ์
“คุณหญิงพูดจริง ๆ นะครับ”
คุณหญิงอรชรยิ้มอย่างใจดี
“ไม่พูดเล่นอยู่แล้ว และของขวัญวันนี้ก็ไม่ใช่แค่กระเช้าเยี่ยมไข้ แต่คือแม่อิงฟ้า ฉันยกให้เป็นภรรยาเธอด้วย”
พูดพลางก็ดึงอิงฟ้า ที่น้ำตารื้น ดาริกายิ้มทั้งน้ำตา
“ฉันไม่ขัดขวางความรักของเธอแล้ว บ้านวรรณรัตน์ยินดีต้อนรับเธอมาเป็นเขยจ๊ะ พ่อวิวิทธิ์”
“แม่ รักแม่ที่สุดเลย”
อิงฟ้าหอมแก้มมารดา แล้วโผเข้าไปกอดวิวิทธิ์ ที่ยิ้มหน้าบาน ป้าแมวรีบพูดต่อทันที
“ไม่เท่านั้นนะคะ ข้าวตอก ดอกไม้ ข้าวตู ก็เป็นหลานของคุณหญิงและอิชั้นด้วยค่ะ”
วิวิทธิ์ยกมือไหว้คุณหญิงอรชร แล้วกลับมาสวมกอดอิงฟ้าแน่น
ดาริกาเดินเลี่ยงออกจากห้อง เห็นจักรพัฒน์ยืนอยู่กับพิชญาและจันทรกานต์ จึงรีบหลบไปอีกทาง
จักรพัฒน์เห็นเข้ารีบตามมา พิชญาตามมาขอโทษดาริกาด้วย พร้อมกับบอกให้ดาริกากลับไปทำงานที่แกรนด์
จันทรกานต์เดินมาอยู่ห่าง ๆ พิชญาหันมายิ้มให้ แล้วเดินแยกไปกับพร้อมกับจักรพัฒน์
จันทรกานต์เดินมาหาดาริกา
“อิจฉาจัง ใครต่อใคร ได้รักคืนมากันหมด ยกเว้นผม ยังโกรธผมอยู่อีกเหรอ”
ดาริกาส่ายหน้า แววตาเศร้า
“เปล่า ไม่โกรธ แต่ไม่สานต่อ ความรักของเรามันเป็นไปไม่ได้ค่ะ คุณแม่คุณคงไม่ได้คิดแบบเดียว
กับคุณหญิงอรชร”
“งั้นทำให้คุณแม่ผมเชื่อในตัวคุณอีกครั้งได้ไหม ช่วยจัดการยัยแพ็ทให้ผมหน่อย”
“อย่าให้ฉันยุ่งอีกเลยนะคะ ฉันเหนื่อย”
จันทรกานต์งัดไม้เด็ดมาอ้าง
“แต่งานนี้คุณจะช่วยคุณวรางค์กับอาร์ตี้ด้วยนะ”
แพ็ทและเพชรนอนซบกันอยู่บนเตียง หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความสุขมาด้วยกันหมาดๆ แล้วทั้งคู่ก็คบคิดกันวางแผนบ่อนทำลายห้างแกรนด์ให้ย่อยยับ
วรางค์นั่งเหงาอยู่ลำพังที่รีสอร์ทริมทะเล ทันใดนั้นก็มีเสียงสัญญาณเตือนว่ามีข้อความเข้าที่มือถือ วรางค์กดรับ ก่อนจะเห็นคลิปบทสนทนาทั้งหมดระหว่างอาร์ตี้กับแพ็ท ที่ปิดท้ายด้วยอาร์ตี้เดินออกจากห้อง โดยไม่ไยดีแพ็ท
สีหน้าของวรางค์ ที่เหงาหงอยเมื่อครู่ สว่างไสวขึ้นมาทันที จากนั้นก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
แพ็ทในชุดนอน ออกมาส่งเพชรที่หน้าประตู แล้วก็เดินกลับเข้าห้อง พลางเรียกให้นางออกมา พร้อมกับกล้องตามเคย
“เฮ้อ เป็นคนเดียวที่ไม่หนีพี่แพ็ท แสดงว่าต้องเป็นคนชั่วของแท้”
แพ็ทเปิดดูในกล้องแล้วก็โวยวาย
“เอ๊ะ ยายนางแกถ่ายตอนที่ฉันคุยเรื่องโกงห้างแกรนด์ไปทำไม”
“ก็ถ่ายไว้หมดละค่ะ เพราะว่านางไม่ได้ถ่ายให้พี่แพ็ทดูคนเดียว แต่เผื่อให้คนอื่นๆ ดูด้วย”
แพ็ทตกใจ “แกพูดอะไรของแก”
ดาริกาออกมาจากห้องเล็ก ถือมือถือด้วย
“สวัสดีค่ะคุณแพ็ท แหม ตาเป็นกุ้งยิงเลยค่ะงานนี้ คลิปอัพโหลดในเครื่องฉันแล้ว”
แพ็ทหันขวับมาทางนาง “แกหักหลังฉันนะนังนาง นังดาริกา เอาคืนมานะ”
แพ็ทเข้ามาแย่งมือถือ แต่กลับโดนดาริกาตบ จนล้มไปบนเตียง
“อย่าแย่งเลยค่ะ เพราะตอนนี้คลิปไปถึงคุณจันทร์และครอบครัวแล้ว”
แพ็ทผงะ “หา นี่ไอ้คุณจันทร์มันจ้างแกมาเหรอ”
“ไม่ต้องจ้างค่ะ พวกเราร่วมมือกันแก้แค้นที่คุณทำไว้กับพวกเรา ตอนนี้พี่วรางค์ได้คลิปความจริงของพี่ตี้กับคุณไปแล้วด้วย”
“ได้ยังไง พวกแกเอาไปได้ยังไง นังนาง แกขโมยเหรอ”
นางยิ้มหยัน
“ค่ะ ขโมยวันที่คุณจันทร์มานอนที่นี่นั่นแหละ วันนั้นคุณจันทร์ได้คลิปลับของพี่ไปหมดเลย”
“วันนั้นมันเมานี่ เอ๊ะ หรือว่ามันแกล้งเมา”
ดาริกายิ้มขำ
“ถูกต้องค่ะ หลังจากคุณจันทร์ทราบเรื่องวิวาห์ล่มของพี่วรางค์ เขารู้ทันทีว่าเป็นฝีมือคุณ ก็เลยหาทางมาที่ห้องคุณให้ได้”
“พี่ชายแกล้งหลับน่ะค่ะ คืนนั้นเขาก็มาปลุกนาง เราช่วยกันค้นคลิปจากไฟล์ของพี่แพ็ท ทั้งจากกล้อง จากคอม จากมือถือ หมดเลย”
นางช่วยอธิบาย “ตอนนี้คลิปทั้งหมดของพี่แพ็ทอยู่ในครอบครองของพี่ชายหมดแล้วค่ะ”
แพ็ทโกรธจนตัวสั่น
“นังนาง แกทรยศฉันแบบนี้ อย่านึกนะว่าฉันจะช่วยพ่อแกต่อ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะตอนนี้พี่ชายจันทร์ใจดี จะช่วยเหลือพ่อนางเอง ไม่ต้องพึ่งคนใจโฉดอย่างพี่อีกแล้ว”
ดาริกายิ้มเยาะ ก่อนจะพูดตอกใส่หน้าทิ้งท้าย
“จำไว้นะคะคุณแพ็ท ถ้ายังคิดจะเอาคลิปไปข่มขู่ใครต่อใคร คลิปของคุณเอง กับใครบ้างนะ “
“นี่ญี่ปุ่นค่ะ นี่แขก นี่นิโกรค่ะ ยี้ วิตถารทั้งนั้นเลยค่ะ”
“คลิปพวกนี้ได้ฉายโชว์บนยอดตึกแกรนด์แน่ ๆ”
“ออกไป ออกไปจากบ้านฉัน”
ดาริกาและนางยิ้มร่าเริงออกไปด้วยกัน แพ็ทนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง
บรรยากาศในออฟฟิศของวรางค์เศร้าซึม ดาริกากับนางนั่งอยู่ด้วยกัน อาร์ตี้เดินเข้ามาพร้อมกับป๊อบ ที่พอเห็นนาง ก็รีบแยกไปอีกมุม
พลันเสียงวรางค์บ่นเป็นภาษาอิสาน ก็ดังมาจากห้องทำงาน อาร์ตี้ลุกพรวดทันที แล้วรีบวิ่งเข้าไป ป๊อบรีบตามไปด้วย
เมื่อเข้ามาในห้อง ก็เห็นวรางค์กำลังจัดโต๊ะอยู่ อาร์ตี้โผเข้ามากอดวรางค์ไว้แน่น แล้วสะอื้น
“อย่าทิ้งผมไปอีกนะ เข้าใจผมแล้วใช่ไหม”
วรางค์พยักหน้า น้ำตาคลอ “เข้าใจแล้ว”
นางถอนใจ เดินแยกออกมา เก็บกระเป๋าจะกลับ ดาริกาดึงป๊อบมากระซิบบางอย่าง ป๊อบรีบตามนางมาที่โถงบันได พลางจับมือไว้ แล้วก็พูดขอบคุณที่นางช่วยให้วรางค์กลับคืนมา นางสะอื้นด้วยความดีใจ
จากนั้นทุกคนก็ได้รับข่าวดีว่าจันทรกานต์ กลับมาเป็นเอ็มดีเหมือนเดิม และเรียกไปวรางค์เข้าไปเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ทำงานให้สองปีเหมือนเดิม ทั้งหมดเฮลั่นพร้อมกัน
เพชรกับยุพา นั่งอยู่ต่อหน้าจันทรกานต์ในห้องทำงาน คุณชายจันทร กับดาราราย ก็นั่งอยู่ด้วย ทั้งหมดกำลังดูคลิป ตอนที่เพชรนอนคุยกับแพ็ท พร้อมช่วยกันวางแผนเรื่องการโกงแกรนด์
เพชรโวยวายเสียงดัง
“คุณชายครับ ทำอย่างนี้กับผมไม่ได้นะ ผมเป็นคนเก่าคนแก่ของแกรนด์ รับใช้แกรนด์มาทั้งชีวิต จะไล่ผมออกไม่ได้”
คุณชายจ้องหน้าเพชรอย่างเอาเรื่อง
“แต่จากคลิปที่เห็นนี่ คุณกับคุณยุพาโกงบริษัทเรามาตลอดการทำงาน ทั้งชีวิตของคุณเลยนะ”
เพชรกับยุพาพยายามแก้ตัว จันทรกานต์รีบตัดบท
“ไม่มีอะไรต้องแก้ตัวแล้วครับ ห้างแกรนด์ไม่ต้อนรับคนโกง เชิญครับ”
เพชรมองหน้าทุกคน แล้วชี้หน้ารายตัว
“จำไว้ ผมจะล้างแค้นทั้งตระกูล”
คุณชายจันทรยิ้มอย่างใจเย็น
“ยินดีครับ ทำเกินกว่าเหตุเมื่อไหร่ คลิปฉาวคุณออนไลน์ไปทั่วแน่”
เพชรฮึดฮัดแล้วเดินออกไป ยุพาร้องไห้ตามไป พร้อมกับก่นด่าเพชรไปด้วย
คุณชายจันทรหันมายิ้มชื่นชมจันทรกานต์ พลางบอกว่าถึงเวลาแล้วที่จะได้บริหารแกรนด์เต็มตัว
จันทรกานต์ยิ้มดีใจ สวมกอดพ่อและแม่แน่น
“แม่ครับ สอบผ่านเรื่องงานแล้ว แต่เรื่องรักยังสอบไม่ผ่านเลย”
“นี่ยังไม่คืนดีกันอีกเหรอ”
จันทรกานต์หน้าเศร้า “ยังครับ เธอติดอยู่เรื่องเดียว เรื่องแม่นั่นแหละครับ”
ดารารายพยักหน้ารับ
“งั้นแม่ก็ต้องไปทำความรู้จักเธอให้ใกล้ชิดสักหน่อย ดีไหม”
ดารารายกอดจันทรกานต์ไว้ แล้วหันมายิ้มกับคุณชายจันทร
ดาริกานั่งซึมอยู่ตรงหน้ากระดานดำ มองตัวเลขหกแสนที่ถูกขีดฆ่า แล้วก็ทอดถอนใจ ก่อนที่จะเอาแปรงมาลบตัวเลขออกทั้งหมด กุสุมา ที่แต่งตัวสวยเป็นพิเศษ ออกมาเห็นพอดี
“ลบทำไมล่ะลูก”
“ก็เงินมันหมดเกลี้ยงไปแล้วนี่แม่ เอ๊ะ ทำไมวันนี้แม่สวยจัง จะไปไหนเหรอ หรือไปทำบุญที่วัด”
“ก็ว่าจะไปอยู่นะ”
ดาริกาพยักหน้า
“นั่นซี เห็นว่าวันนี้มีเศรษฐีจากกรุงเทพมาทำบุญที่วัดเราด้วย สงสัยจะบนหลวงพ่อไว้”
“เราเองก็แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วแวะไปที่วัดให้แม่หน่อยเอาเงินทำบุญไปให้คุณตา”
“ได้ค่ะ”
ดาริกาแยกกลับเข้าห้อง กุสุมามองตาม แล้วยิ้มละไม
ตาทศเดินนำมาจากตัววัด ตามด้วยคุณชายจันทรและดารารายในชุดหรูเรียบ ภูมิฐาน ดารารายมองสถูปบรรจุอัฐิที่เรียงรายอยู่ แต่กลับไม่รู้สึกถึงความน่ากลัวใด ๆ
“โธ่ ฉันก็วาดภาพเสียน่ากลัว นึกถึงโรงทึม โลงผุ ๆ กับซากศพ เน่า ๆ เอาเข้าจริงบรรยากาศร่มรื่นดีออกนะคะ”
คุณชายจันทรพยักหน้าเห็นด้วย
ทั้งสามเดินมาถึงลานกว้างหน้าบ้าน คุณชายจันทรและดาราราย ยิ้มออกมาทันที เมื่อสัมผัสกับความร่มรื่น และความงามของบ้านไทยเก่า ที่ยังแข็งแรงและสะอาดสะอ้าน
ดารารายเดินเลยไปริมฝั่งน้ำ เข้าใจแล้วว่าลูกชายหลงเสน่ห์อะไรที่นี่
“เชิญบนบ้านดีกว่าครับ แม่กุสุมาเขารออยู่แล้ว อ้าว ลงมาพอดี”
กุสุมารีบลงมาจากบ้าน ตรงมาไหว้ คุณชายและดาราราย
ดารารายมองกุสุมาอย่างพินิจ และนึกชื่นชมในบุคคลิก ที่ดูจะถ่ายทอดความงามสง่าไปที่
ลูกสาวไม่น้อย
ดาริกาเพิ่งกลับมาจากวัด เดินมาถึงบ้าน พลางมองรองเท้าของคุณชายจันทรและดาราราย ที่ถอดวางอยู่ด้วยความสงสัย แล้วก็ค่อยๆ ก้าวขึ้นเรือน เห็นคุณชายจันทรและดาราราย กำลังนั่งคุยกับแม่และตาทศอย่างป็นทางการ ดาริกานั่งลงที่บันไดแอบฟังอยู่ ได้ยินเสียงคุณชายจันทรชัดเจน
“ผมจะมาขอดาริกาจากคุณกุสุมาและคุณตาทศแล้ว คุณดาวก็มีเรื่องอยากจะเรียนเพิ่มเติมด้วย”
ดารารายยิ้มเก้อๆ
“ฉันมาขอขมาทั้งคุณแม่และคุณตา ในสิ่งที่ฉันได้ทำผิดพลาดไปกับดาริกาค่ะ ฉันอคติในตัวลูกสาว คุณอย่างไม่น่าให้อภัย ฉันทำร้ายจิตใจเธอสารพัด เพียงเพราะอคติแค่ว่าเธอเป็นหลานสาวสัปเหร่อ ยากจนเกินกว่าจะมาเป็นคู่ครองของลูกชายฉันได้”
ดาริกแอบฟังอยู่ ถึงกับน้ำตาซึม
“ฉันมองข้ามเนื้อแท้ของดาริกาไป เนื้อแท้ของความเป็นคนดี มีเมตตา ซื่อสัตย์และสำคัญที่สุด รักแท้ที่เธอมีให้กับคุณจันทร์ รักที่เธอยอมเสียสละทุกอย่างให้กับลูกชายฉัน แม้เธอจะเจ็บปวดแค่ไหน”
ดารารายเช็ดน้ำตา เช่นเดียวกับกุสุมาที่น้ำตาไหลพราก
“ฉันมาเพื่อขอโทษคุณและคุณพ่อค่ะ ให้อภัยฉันนะคะ”
ดารารายยกมือไหว้ตาทศ และกุสุมา
“ไม่เป็นไรค่ะ เราไม่ถือโทษอยู่แล้ว”
“แค่คุณเข้าใจยายดาว มันก็แทนคำขอโทษทั้งหมดแล้วละครับ”
ดารารายเช็ดน้ำตา ทั้งหมดยิ้มออกมาได้ คุณชายจันทรได้จังหวะรีบพูดต่อทันที
“เมื่อให้อภัยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมจะขอหลานสาวคุณพ่อละนะครับ ขอไปเป็นเจ้าสาวคุณจันทร์ลูกชายผม”
ดาริกาจะย่องกลับลงไป แต่บังเอิญเสียงไม้ลั่น ทุกคนหันมามอง
“ดาว แอบฟังอยู่ทำไม มานี่ซิลูก”
ดาริกาก้มหน้างุด พยายามเช็ดน้ำตา แล้วเดินมานั่งพับเพียบตรงหน้า ตาทศรีบบอก
“ดาว กราบคุณชายกับคุณดารารายเสีย ขอขมาลาโทษท่านเสียด้วย”
“หนูเคยล่วงเกินท่านทั้งกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม ยกโทษให้หนูด้วยค่ะ”
ดาริกาก้มกราบทั้งสอง ดารารายลูบศีรษะเบาๆ ดาริกาลุกขึ้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
ดารารายช่วยเช็ดน้ำตาให้
“ยกโทษให้ฉันด้วยเช่นกันนะ”
“ค่ะ คุณท่าน”
ดารารายส่ายหน้า “ไม่ซิ เรียกแม่ดีกว่านะ”
“ค่ะ คุณแม่”
ดารารายดึง ดาริกามากอดไว้
“ถ้าอย่างนั้น ถึงเวลาแล้วที่เดือนและดาวจะมาบรรจบคู่กันเสียทีนะครับ”
คุณชายจันทรพูดยิ้มๆ กุสุมารีบพูดต่อ
“ค่ะ คงเป็นคืนที่สวยที่สุดเลยนะคะ”
ดาริกายิ้มออกมาในอ้อมกอดของดาราราย
ดาริกาเดินออกมาที่ระเบียงคอนโด เห็นจันทรกานต์ที่แต่งหล่อนั่งรออยู่แล้ว พร้อมด้วยดอกไม้ ที่ประดับประดาไว้เต็มพื้นที่ ดูงดงาม ข้างๆ มีโต๊ะเล็กจัดเครื่องดื่มไว้สำหรับสองคน
ดาริกามองไปที่บอร์ดกระดานดำ ที่ขนมาจากบ้านเขียนว่า “บ้านเป็นของเราแล้วลูก” ด้วยลายมือของกุสุมา
“คุณซื้อบ้านให้ฉันเหรอ ถ้าซื้อให้ฉันไม่รับนะคะ”
จันทรกานต์รีบส่ายหน้า
“เปล่าซื้อครับ แต่ผมเอาเงินที่คุณคืนให้แม่ ไปคืนแม่กุสุมาทั้งหมด คุณพ่อดำรงก็คืนเงินสามแสนมาให้คุณด้วย น้ำพักน้ำแรงของคุณจริงๆ”
“ไม่มีหลอกอะไรอีกนะคะ” ดาริกาไม่วายย้ำ
“ไม่กล้าแล้วครับ ละครจบฉากแล้ว ตอนนี้ความจริงล้วน ๆ เชิญครับ”
ดาริกาลงนั่ง “ทำไมต้องมานั่งดริงค์กันตรงนี้คะ”
“ผมต้องการพยานครับ”
ดาริกาหน้าเหรอ “พยานไหน ก็มีเราแค่สองคน”
“ใครบอก ดูโน่น”
ดาริกามองไปบนฟ้า เห็นพระจันทร์เต็มดวง และดาวอมยิ้มอยู่คู่กัน
“พยานรักของเรา บอกสิ ว่าจะรักผม คุณอยู่กับผม เราจะคู่กันไปตลอด”
ดาริกายิ้มเขิน “ค่ะ รักคุณ จะอยู่คู่กับคุณตลอด”
“พูดอย่างที่เคยพูดดีกว่านะ”
ดาริกาพยักหน้า “ค่ะ ทูนหัวของบ่าว บ่าวจะรักคุณ อยู่คู่กับคุณตลอดไปค่ะ"
ทั้งสองหัวเราะให้กัน ท่ามกลางแสงเดือน และดวงดาว ที่กระพริบวิบวับ ราวกับมาร่วมเป็นสักขีพยาน ของความรักต่างชนชั้น ระหว่าง “หม่อมหลวงจันทรกานต์” กับ “ดาริกา” หลานสาวสัปเหร่อ
จบบริบูรณ์...