xs
xsm
sm
md
lg

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11-2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

โถงบ้านมาซาโกะ...แพรวดาวค่อย ๆ ลืมตา รู้สึกตัวตื่นขึ้นอย่างสะลึมสะลือ หลังจากที่มาซาโกะกับมิโยะโกะช่วยกันปฐมพยาบาล มิโยะโกะถามอย่างเป็นห่วง
“เซโกะเป็นยังไงบ้าง”
แพรวดาวงุนงง พยายามยันตัวเองลุกขึ้นนั่งจนมิโยะโกะต้องช่วยประคอง ทาโร่มองอย่างห่วงใย
“ผมจะพาโอคุซังไปตรวจที่โรงพยาบาล”
“ฉันไม่เป็นไร”
“แต่ช่วงนี้โอคุซังหน้ามืดเป็นลมบ่อยมากนะครับ”
“แค่หน้ามืด นอนพักก็หายแล้ว”
แพรวดาวยืนยัน ไม่ยอมไปโรงพยาบาล ทุกคนอ่อนใจ ในความดื้อดึงของเธอ

สวนบ้านโอะนิซึกะ...ริวเล่าเรื่องแพรวดาวให้ทาเคชิฟังด้วยความไม่สบายใจ
“ทาโร่ให้คนมาบอกว่าโอคุซังอาการดีขึ้นแล้ว แต่ไม่ยอมไปหาหมอ”
ริวพูดพลางนึกขึ้นได้ จึงแหย่ทาเคชิ
“ไม่รู้ว่าดื้อเหมือนใคร”
ทาเคชิทำหูทวนลม มองเมินไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ ยังโกรธและน้อยใจที่แพรวดาวไม่ยอมแต่งงานด้วย
“สถานการณ์ของบ้านเราไม่ค่อยดี โอคุซังคงเครียดและสับสน ถึงได้ปฏิเสธการแต่งงาน...แกควรไปง้อเธอกลับบ้าน”
“ไม่มีประโยชน์”
“ถ้าแกรักโอคุซัง แกก็ต้องหาวิธีรั้งเธอไว้ด้วยหัวใจ”
“พูดเหมือนเข้าใจความรัก”
“ไม่เข้าใจ แต่เชื่อว่าความรักและความผูกพันที่แกกับโอคุซังมีต่อกัน จะทำให้โอคุซังยอมเปลี่ยนใจใช้ชีวิตอยู่กับแกที่นี่ แกต้องพยายาม...”
ทาเคชิลุกพรวด เดินหนีไปอย่างไม่สนใจฟังอีก ริวถอนใจมองตามอย่างเอือมระอา

ทาเคชิเดินมายังระเบียงทางเดินริมสวน กวาดสายตามองสวนสวยโดยรอบ หวังทำให้ตัวเองสบายใจ ทาเคชิเห็นภาพตัวเองประคองกอดแพรวดาวเดินเล่นด้วยกันในสวน ยิ้มแย้ม มีความสุข ทาเคชิผงะเล็กน้อย หันกลับไปมองอีกที ภาพในความคิดก็หายไปแล้ว

ทาเคชิเดินผ่านมุมทานข้าว มองโต๊ะอาหารอย่างเหงา ๆเห็นภาพตัวเองกับแพรวดาวนั่งทานข้าวด้วยกัน แพรวดาวคีบอาหารให้อย่างเอาใจ ทาเคชิพยายามสะบัดภาพความคิดออกไป แล้วรีบเดินหนีจากมุมที่มองเห็นแต่แพรวดาว
ทาเคชิเดินเข้ามาในห้อง รีบเลื่อนปิดประตูหนีภาพข้างนอกที่มองเห็นแต่แพรวดาว
“ทาเคชิ...”
ทาเคชิหันไปเห็นแพรวดาว ตะลึง เมื่อเธอยิ้มหวานปรี่เข้ามากอดเขาด้วยท่าทางคิดถึง เขาอ้าแขนรับกอดนั้น จู่ ๆ ร่างแพรวดาวก็หายวับไป
“เซโกะ”
ทาเคชิหันมองหาทั่วห้อง
“เซโกะ”
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบรับ ภาพที่เห็นเป็นเพียงจิตใต้สำนึกของเขาเท่านั้นพลันสายตาทาเคชิสะดุดมองเห็นดาวกระดาษดวงหนึ่งตกอยู่ที่พื้น จึงก้มลงเก็บดาวกระดาษดวงนั้นขึ้นมามอง เขานึกถึงตอนที่เดินเข้ามาในห้องที่ตกแต่งด้วยดาวกระดาษ และต่อกลอนคู่กับแพรวดาว
“คุณไม่ต้องเอาชนะใคร เพราะคุณคือผู้ชายคนเดียวในหัวใจฉันค่ะอะนะตะ”
ทาเคชิเศร้า ทรุดตัวนั่งลงอย่างคนหมดแรง ชอกช้ำใจมาก

ค่ำนั้น โคจิอยู่ในสวนมองไปยังห้องนอนทาเคชิด้วยความเป็นห่วง
“อารมณ์ของโซเรียวตอนนี้ อาจมีผลกระทบต่อแผนที่เราเตรียมเล่นงานมิซาว่ากับซะโต้”
ริวหนักใจ
“ทาเคชิแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ แต่ต้องให้เวลาเขาทบทวนอะไรด้วยตัวเอง”
โคจิพยักหน้ารับรู้ ริวนึกขึ้นได้
“มีข่าวของมิซาว่ากับซะโต้บ้างไหม”
“ช่วงนี้ชินอิจิเงียบไป อาจยังไม่มีความคืบหน้า หรือยังไม่มีโอกาสส่งข่าว”
“คลื่นใต้น้ำ น่ากลัวกว่าลมพายุที่เห็นชัดเจนบนท้องฟ้า...มิซาว่ากำลังคิดทำอะไรกันแน่”
ริวหวั่นใจ ที่ไม่รู้ความเคลื่อนไหวของศัตรู

โถงบ้านมิซาว่า...ริกิถามความคืบหน้าจากเคนอิจิด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เตรียมแผนจัดการโอะนิซึกะให้สมกับความชั่วของมันหรือยัง”
“ผู้หญิงกับยารอบใหม่ จะเดินทางมาอาทิตย์หน้า”
เคนอิจิพูดพลางนึกเจ็บใจ
“คราวที่แล้ว...ของ ๆ ผมถูกตำรวจยึดไปหมด ขาดทุนย่อยยับ รอบนี้ว่าที่พ่อตาคงไม่ใจดำหักส่วนแบ่งเยอะเกินไป”

“ฉันไม่ต้องการอะไร นอกจากชีวิตโอะนิซึกะโซเรียว”

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

ริกิเสียงดังด้วยความโกรธแค้น แฝงความรำคาญที่เคนอิจิเรียกเขาว่าว่าที่พ่อตา เคนอิจิกระหยิ่มยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นว่าริกิไม่สนใจอะไรนอกจากการแก้แค้น
“ไม่ต้องห่วง...งานนี้ผมทุ่มสุดตัวเพื่อแก้แค้นแทนแน่ ไอ้ทาเคชิจะต้องตายแบบไม่เหลือซาก”
“แกจะทำอะไรทาเคชิไม่ได้นะ”
ไอโกะปราดเข้ามา ต่อว่าเคนอิจิกับริกิ
“พ่อปล่อยให้ไอ้เคนอิจิมาเหยียบในบ้านเราทำไม...มันรังแกหนู พ่อต้องจัดการมัน”
เคนอิจิยิ้มยั่ว
“ใจเย็นจ้ะเมียจ๋า คนท้องคนไส้หงุดหงิดมากไม่ดีนะจ๊ะ”
“ฉันไม่ใช่เมียแก...ไอ้ชั่ว”
“แล้วที่ป่อง ๆ ในท้อง ฝีมือใครจ้ะทูนหัว”
“อ๊าย...ไอ้บ้า ไอ้เลว...ฉันจะฆ่าแก”
ไอโกะปราดเข้าไปทุบตีเคนอิจิ จิกข่วนด้วยความโมโห เคนอิจิได้แต่ปัดป้อง ขำ ๆ ยิ่งยั่วอารมณ์ให้ไอโกะเดือดพล่าน ริกิพยายามเข้าไปห้าม ดึงตัวไอโกะออกมา
“พอแล้วไอโกะ...หยุด”
“ไม่...หนูจะฆ่ามัน หนูเกลียดมัน...เกลียด”
“พ่อบอกให้หยุด”
ริกิตวาดใส่จนไอโกะชะงัก มองริกิอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“พ่อตวาดหนู พ่อเข้าข้างไอ้คนชั่ว...พ่อจะร่วมมือกับมันฆ่าทาเคชิ”
ริกิเสียงแข็ง
“มันฆ่าซาโตชิ เลือดต้องล้างด้วยเลือด”
“หนูไม่ยอมให้พ่อฆ่าทาเคชิ ไม่มีทาง อ๊าย...”
ไอโกะกรีดร้อง อาละวาด จนจูโร่ต้องเข้ามาช่วยริกิจับตัวไอโกะไว้
“เอาไปขังไว้ที่ห้อง”
“ปล่อยนะ ฉันจะไปหาทาเคชิ ปล่อย” ไอโกะดิ้น
ริกิกับจูโร่ช่วยกันลากตัวไอโกะออกไป เคนอิจิยิ้มพอใจมองตาม เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้

ไอโกะถูกผลักเข้ามาในห้อง และปิดประตูห้องขังไว้
“อ๊าย...ปล่อยฉันออกไปนะ เปิดประตู”
ไอโกะทุบประตูโครม ๆ ร้องไห้และกรีดร้องสลับกัน

“ฉันจะออกไปหาทาเคชิ ฉันจะไปช่วยทาเคชิ...เปิดเดี๋ยวนี้”

ริกิยืนอยู่หน้าห้อง สีหน้าเคร่งเครียด ดุดัน
“ฉันจะไม่ปล่อย จนกว่าแกจะมีสติมากกว่านี้”
“ทาเคชิไม่ได้ฆ่าพี่ซาโตชิ...ไอ้เคนอิจิโกหก พ่อต้องไม่เชื่อมัน”
“แกนั่นแหละที่หลงไอ้ทาเคชิจนตาบอด...มันฆ่าซาโตชิ มันฆ่าแกทั้งเป็น ไอ้ทาเคชิกับฉันจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้”
เสียงไอโกะยังคงร่ำร้อง ทุบประตูอยู่ข้างใน
“หนูไม่ยอมให้พ่อทำอะไรทาเคชิ หนูรักเขา...หนูรักทาเคชิ”
ริกิเจ็บแค้นจนทนฟังไม่ได้ จึงเดินสะบัดจากไป ปล่อยให้จูโร่ยืนเฝ้าไอโกะอยู่หน้าห้อง

ไอโกะเริ่มทุบประตูอย่างหมดแรง
“อย่าทำอะไรทาเคชินะพ่อ อย่าทำร้ายเขา...ได้โปรด”
ไอโกะร้องไห้ตัวโยน จนค่อย ๆ ทรุดตัวลง พร่ำอ้อนวอนขอร้องริกิทั้งน้ำตา ไม่อยากให้ทาเคชิถูกทำร้าย

ในห้องทำงานโอะซะมุวันใหม่...โอะซะมุปรึกษาทาเคชิกับริวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กังวล
“สายของผมรายงานว่า มิซาว่ากับซะโต้ร่วมมือกันประกาศสงครามกับโอะนิซึกะแล้ว”
ทาเคชิหน้าเครียด
“เรากำลังเตรียมแผนรับมือ”
“ทั้งที่รู้ว่าเป็นการจัดฉาก ล่อให้เข้าไปติดกับงั้นเหรอ” โอซามุถามไม่เข้าใจ
ริวหน้าตามุ่งมั่น
“ต่อให้เป็นแผนลวง เราก็จะบุกเข้าไปกำจัดอันธพาลชั่วให้สิ้นซาก ถือเป็นการต่อสู้เพื่อชี้ชะตาเมืองนี้”
โอะซะมุมองทาเคชิกับริวด้วยสายตาชื่นชม
“กล้าหาญ...สมเป็นสายเลือดซามุไร สายเลือดนักรบของจักรพรรดิ ถ้าท่านอิจิโร่รับรู้ คงภูมิใจในตัวคุณสองคนมาก”

ทาเคชิชะงักงันนิดหนึ่ง เมื่อนึกถึงอิจิโร่ ภาพในอดีตเด่นชัดขึ้นในความคิด

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

โรงซ้อมเคนโด้ บ้านโอะนิซึกะในอดีต...ทาเคชิทิ้งดาบไม้ลงกับพื้นอย่างหมดความอดทน
“พอกันที ผมไม่อยากต่อสู้กับใครอีกแล้ว”
“มันเป็นหน้าที่ที่แกต้องทำ”
“พ่อมีพี่ไดสุเกะสืบทอดหน้าที่ของตระกูลแล้ว ผมจะไปเรียนต่อที่อื่น ไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ”
อิจิโร่ตวาดเสียงดัง
“ไอ้ลูกไม่รักดี”
ทาเคชิเดินหนีไปอย่างไม่สนใจ อิจิโร่เดือดดาล โกรธมาก

สวนหลังบ้านในอดีต...ทาเคชินั่งเหม่อมองไปยังสวนเบื้องหน้า อย่างต้องการสงบสติอารมณ์ตามลำพัง ฮิเดโกะเห็นทาเคชินั่งเงียบคนเดียว จึงเดินมานั่งลงข้าง ๆ ทาเคชิเอ่ยขึ้นราวกับรู้จุดประสงค์
“ถ้าเป็นเรื่องพ่อ...ผมไม่อยากฟัง”
“สิ่งที่ลูกต้องทำ มันอยู่ในสายเลือด...ไม่ว่าจะหนีไปอยู่ที่ไหน ลูกก็คือสายเลือดโอะนิซึกะ...สายเลือดนักรบของจักรพรรดิ”
ทาเคชิหันมองฮิเดโกะ แววตาเต็มไปด้วยความสับสน ไม่เข้าใจ
“แม่แอบร้องไห้ทุกครั้ง เวลาพ่อพาคนออกไปจัดการอันธพาลนอกบ้าน แม่ทนชีวิตที่มีแต่ความตายไม่สิ้นสุดนี้ได้ยังไง”
“ทุกคนเกิดมาพร้อมหน้าที่ แม่แค่ทำหน้าที่ของตัวเอง”
ทาเคชิอึ้ง เมื่อน้ำเสียงหวานของฮิเดโกะแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ

ห้องทำงานโอะซะมุปัจจุบัน...ทาเคชิพยายามสลัดความคิดในอดีต หันกลับมาสนใจการสนทนาของริวกับโอะซะมุ
“ถ้าโอะนิซึกะโค่นมิซาว่ากับซะโต้ลงได้ จะเหมือนตัดแขนขานักการเมืองชั่วบางคนที่คอยหนุนหลังอันธพาลพวกนี้อยู่”
“ท่านโอะซะมุพูดเหมือนรู้ว่ามีนักการเมืองหนุนหลังคนชั่วพวกนี้อยู่” ทาเคชิแปลกใจ
“เรากำลังตามสืบ แต่หลักฐานที่มียังเอาผิดกับพวกมันไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือต้องริดรอนกิ่งก้านสาขาพวกมัน”
“ท่านโอะซะมุต้องการล้างไพ่ ล้มล้างระบบอันธพาลครองเมือง”
โอะซะมุยิ้มในหน้า เมื่อริวคาดเดาความคิดเขาได้ถูกต้อง
“ผมอยากให้กฎหมายยังคงความศักดิ์สิทธิ์ อยากให้ความสงบสุขกลับคืนมาสู่เมืองนี้”
“โลกมีคนแค่สองจำพวก คือคนดีกับกับเลว ต่อให้จัดการมิซาว่ากับซะโต้ได้ก็ต้องมีกลุ่มใหม่เกิดขึ้นมาอีกไม่สิ้นสุด” ริวบอกอย่างหนักใจ
“คนดีไม่มีวันตาย...คนชั่วเกิดใหม่แค่ไหน ก็ต้องมีคนดีมาจัดการ”

ริวกับโอะซะมุยังคงสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างเคร่งเครียด ทาเคชิเริ่มรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิตที่ต้องวนเวียนต่อสู้และห้ำหั่นกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แวบหนึ่ง เขาก็นึกถึงคำพูดของแพรวดาวขึ้นมา ตอนที่เธอปฏิเสธการแต่งงาน ตัดใจถอดแหวน และถอดสร้อยจี้หยกของเขาออก เพื่อคืนให้

“ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดา อยากแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองรัก...พร้อมจะแก่เฒ่าไปด้วยกัน ฉันไม่อยากอยู่ท่ามกลางคมหอกคมดาบไปตลอดชีวิต แล้วถ้าเรามีลูก ลูกของเราต้องสืบทอดภาระความแค้นไปอีกไม่มีที่สิ้นสุดงั้นเหรอคะ ฉันไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นค่ะ...ทาเคชิ”
ทาเคชินิ่ง อึ้ง ภาพและน้ำเสียงของแพรวดาวแว่วอยู่ในความคิด จนไม่มีสมาธิจะสนใจเรื่องการสู้รบกับใคร ริวแอบมองทาเคชิ อยู่เงียบ ๆ

ทาเคชินั่งเงียบ มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ริวนั่งอยู่ข้าง ๆ ตรงเบาะด้านหลัง ส่วนคัตสึ เซกิ ขับรถและนั่งอยู่ด้านหน้า ริวลังเล ก่อนตัดสินใจพูดกับทาเคชิ
“ลุงอิจิโร่เคยสอนว่าระหว่างทำสงคราม ใจนักรบต้องนิ่ง...สงบ เพราะทุกๆ นาทีอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต”
ทาเคชิชำเลืองมอง ราวกับอยากรู้ว่าริวจะพูดอะไรอีก
“ลืมไปแล้วหรือว่าแกก็เคยต้องการชีวิตอิสระ ไม่อยากอยู่ในวังวนของการต่อสู้...เหมือนกับที่โอคุซังรู้สึกตอนนี้”
“แต่สุดท้าย...ฉันก็ต้องยอมรับหน้าที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“หน้าที่กับหัวใจมันคนละเรื่องกันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่มีหัวใจก็ไม่เจ็บ”
“ถ้าความรักคือจุดอ่อนของนักรบ แกต้องเปลี่ยนความรักให้เป็นพลังที่เข้มแข็ง”

ทาเคชินิ่ง คิดตาม

รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 11 (ต่อ)

ร้านผลไม้ของมาซาโกะ...แพรวดาวโค้งตัวให้ลูกค้าอย่างนอบน้อม ขณะยื่นถุงใส่ผลไม้ให้ลูกค้ารับไป
“ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะ”
ลูกค้ายิ้มให้แล้วเดินออกจากร้าน สวนกับทาโร่ที่กำลังยกลังใส่ผลไม้หลายลัง เข้ามาวาง บริเวณหน้าร้านชั่วคราว แพรวดาวหันไปเห็น จึงเข้าไปช่วยยกลังผลไม้ทันที
“โอคุซังไม่ต้องทำครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
ทาโร่วางลังสุดท้ายลง ปรี่เข้าไปยื้อแย่งแพรวดาวยกลังผลไม้อีกด้านหนึ่ง
“ช่วยกันทำ จะได้เสร็จเร็วขึ้น”
“แต่โอคุซังยังไม่ค่อยแข็งแรง”
“ฉันสบายดี ว๊าย...”
ขณะที่ทาโร่กับแพรวดาวยื้อแย่งยกลังผลไม้ จู่ ๆ มือแพรวดาวก็ลื่น ทำให้ลังผลไม้จะหลุดจากมือ ทาโร่รีบยื่นมือทั้งสองข้าง ประคองมือแพรวดาวไว้อีกที อย่างรวดเร็ว ทาโร่กับแพรวดาวต่างคนต่างชะงักมองหน้ากัน อึ้ง ๆ ทาเคชิก้าวเข้ามาพอดี แพรวดาวหันขวับไปเห็น ตะลึง ไม่คาดคิด
“ทาเคชิ”
“โซเรียว...”
ทาโร่ตกใจที่เห็นทาเคชิ จึงรีบคว้าลังผลไม้มาจากมือแพรวดาว ก้มศีรษะทำความเคารพทาเคชิ แล้วยกลังผลไม้เลี่ยงออกไปหลังร้าน ทาเคชิมองตามทาโร่อย่างรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนหันมาสนใจแพรวดาวที่ยืนนิ่งมองเขาอยู่ แพรวดาวกับทาเคชิทำตัวไม่ถูก เมื่อได้เจอกันอีกครั้ง
ทาโร่วางลังผลไม้ลงอย่างไม่สบายใจ รู้สึกผิดที่ใกล้ชิดแพรวดาวต่อหน้าทาเคชิ มาซาโกะจัดของอยู่บริเวณนั้น จึงถามขึ้น
“ป้าเห็นรถบ้านโอะนิซึกะจอดอยู่หน้าร้าน สงสัยจะมารับหนูเซโกะกลับบ้าน”
“ครับ”

ทาโร่ตอบสั้น ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจเรื่องเขากับแพรวดาวไม่หาย

บริเวณสวนหลังบ้านมาซาโกะ...ทาเคชิกับแพรวดาวต่างคนต่างเงียบ ไม่รู้จะเริ่มพูดอะไร จนทาเคชิตัดสินเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
“ทาโร่บอกว่าคุณไม่ค่อยสบาย...ผมเป็นห่วง”
“ฉันขอโทษ...”
แพรวดาวน้ำเสียงสั่นเครือ เงยหน้ามองทาเคชิราวกับพร้อมเผชิญความจริงทุกอย่าง
“ฉันปฏิเสธการแต่งงานกับคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รักคุณ”
ทาเคชินิ่งฟัง พยายามข่มความรู้สึกที่ยังเจ็บปวดนั้นไว้
“หลายเดือนที่เข้ามาอยู่ในบ้านโอะนิซึกะ...ฉันเห็นชีวิตที่มีแต่การเข่นฆ่าล้างแค้นไม่สิ้นสุด ถ้าฉันแต่งงานและมีลูกกับคุณ หัวอกของคนเป็นภรรยาและแม่อย่างฉันจะเป็นอย่างไร ถ้าลูกกับสามีถูกฆ่าตาย จนต้องเป็นม่ายอยู่ตัวคนเดียว”
แพรวดาวระบายความในใจปนเสียงสะอื้น ทาเคชิตอบเสียงแหบแห้ง
“คุณจะได้รับเกียรติสูงสุด และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญ”
“แต่ฉันเห็นแก่ตัว ฉันอยากมีชีวิตที่เงียบสงบ...อยู่กับสามีและลูกไปจนแก่เฒ่า ฉันยอมเป็นคนขี้ขลาด ดีกว่ากอดเกียรติยศและความกล้าหาญแต่ต้องอยู่ด้วยความเดียวดายไปตลอดชีวิต”
แพรวดาวปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย ทาเคชิขบกรามแน่น รู้สึกผิดที่ทำให้หญิงอันเป็นที่รักต้องเสียน้ำตา
“ขอโทษ...ผมทำให้คุณเสียน้ำตาอีกแล้ว”
“ถ้าจะผิด...ก็ผิดที่เราไม่คู่ควรกันแต่แรก”
“ความรักไม่มีถูกผิดหรือความคู่ควร...แค่เรารักกัน คนสำคัญที่สุดก็คือเรา”
ทาเคชิเชยคางแพรวดาวขึ้น ใช้นิ้วบรรจงเช็ดน้ำตาของเธอด้วยความรัก ทะนุถนอม
“หลังจากโอะนิซึกะจัดการมิซาว่ากับซะโต้สำเร็จ ผมจะวางมือจากที่นี่ ผมจะไปอยู่กับคุณที่เมืองไทย ผมอยากทำไร่องุ่น...มีชีวิตสงบสุขอยู่กับคนที่ผมรัก”
“จริงเหรอคะทาเคชิ”
แพรวดาวมองทาเคชิอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่คิดว่าเขาจะตัดสินใจอย่างนี้ ทาเคชิตอบด้วยแววตาที่มุ่งมั่น จริงจัง อย่างตัดสินใจแล้ว
“ผมคิดถึงคุณ...กลับบ้านเราเถอะนะ”
แพรวดาวครุ่นคิด ก่อนขอร้องทาเคชิ
“ฉันยังไม่พร้อม...ขอเวลาฉันตัดสินใจหน่อยได้ไหมคะ”

ทาเคชินิ่ง ตัดสินใจ
 
อ่านต่อตอนที่ 11-3  
กำลังโหลดความคิดเห็น