ผู้จัดการรายวัน 360 - “ประยุทธ์” ยึดเวทีสัมมนางบฯปี 60 ร่ายยาวปัญหาชาติ รับปากจะสุภาพมากขึ้น วอนอย่ายึดติด ปชต.จนเกินไป โบ้ยสื่อทำหงุดหงิดรายวัน เซ็งถามแต่เรื่องเลือกตั้ง แย็บกองทัพขาดงบฯจนทหารน้อยใจ งัดมือถือเปิดเพลง "ดนดีไม่มีวันตาย" กล่อมคนทั้งงาน ติงแคมเปญ “ข่มขืนต้องประหาร” สุดโต่ง ก่อนส่ง “ไก่อู” แก้ต่างหวั่นกระทบใจครอบครัวผู้เสียหาย ปชป.ห่วง “บิ๊กตู่” ใช้อารมณ์จนคำพูดไม่ศักดิ์สิทธิ์ ด้าน "จตุพร" ไล่ส่งทำไม่ไหวก็ควรหยุด เตือนยิ่งเดินยิ่งทรมานประเทศ-ปชช.
วานนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องรอยัลจูบิลี่ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 โดยมีผู้บริหารหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องร่วมสัมมนา
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดสัมมนาตอนหนึ่งว่า วันนี้พยายามจะทำตัวเป็นคนดี สุภาพเรียบร้อยตามที่ทุกคนขอร้องมา แต่ความจริงแล้ววันนี้โมโหตั้งแต่ตื่น เพราะเห็นปัญหาหลายอย่าง จึงขอให้ทุกคนเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะถือว่าทุกคนเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า วันนี้ปัญหาประเทศมีหลายด้าน ทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ขอร้องว่าอย่าเอาทุกอย่างมาพันกับคำว่าประชาธิปไตย โลกวันนี้ส่วนใหญ่เป็นประชาธิปไตย ประเทศไทยก็หนีไม่พ้น แต่จะทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยของไทยเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ไม่ใช่ถามกันทั้งวันเมื่อไรจะเลือกตั้ง จะเป็นจะตายกัน เป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจตน ทำให้งานที่กำลังทำช้าลง เสียสมอง เสียความคิด เสียสติปัญญา แล้วประชาชนเกษตรกรเขาเดือดร้อน น้ำไม่มี ปลูกพืชไม่ได้ น้ำจะกินก็น้อยลง
ที่ผมหงุดหงิดมารายวันเป็นเพราะคำถามเดิมๆของสื่อ พูดแล้วพูดอีก อะไรที่มันจะขัดแย้งก็ขอลดลงหน่อย แต่ก็จะถามให้ขัดแย้งให้ได้ นี่คือปัญหาของประเทศเรา ซึ่งผมโทษใครไม่ได้ ต้องโทษพวกเราทุกคนที่ไม่ได้ปลูกฝังหลักการ และเหตุผล ปลูกฝังแต่เรื่องของประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพอย่างเดียว วันข้างหน้าไม่มีทางจะอยู่กันได้” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
** ติงคนไทยเคยชินกับความรุนแรง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ไม่อยากให้เราไปเปรียบเทียบกับรอบบ้านว่า ทำไมเขาทำได้อย่างนั้นอย่างนี้ ต้องเข้าใจว่าเขาไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอย่างเดียว และวันนี้แม้ประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ตนยังทำแบบประชาธิปไตยให้มากที่สุด แต่บางอย่างก็ยังใช้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะต้องเอากฎหมายแบบไหนมาใช้ อย่าเคยชินกับความรุนแรง ความขัดแย้งจนหาทางออกให้ประเทศและตัวเองไม่เจอ เพราะมัวแต่ชินอยู่กับความขัดแย้ง เที่ยวปลุกเร้าไปเรื่อยไม่มีกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญใดในโลกยุติความขัดแย้งได้ เพียงแต่จะทำได้มากน้อยเท่านั้น วันนี้เราต้องดูว่าเจ้าหน้าที่จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับประชาชน นั่นคือกฎหมายที่ดีที่สุดคือประชาชนไม่ทำความผิด ลดความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ การกล่าวอ้างต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น ถ้าทำผิดกฎหมายแล้วไม่ยอมรับก็โทษใครไม่ได้ ทำผิดกฎหมายแล้วหนีไปต่างประเทศไม่ได้ ต้องกลับมา อย่าไปเห็นด้วยกับสิ่งเหล่านี้ แค่กฎหมายยังไม่ยอมรับ ตนก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร
** บ่นกองทัพขาดงบประมาณ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า คนไทยเก่งเกือบทุกคน มีความคิดเป็นอิสระ เราต้องรวมพลังกันให้ได้ มากกว่าเก่งเพื่อสร้างความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือนักการเมือง ต้องรู้หน้าที่ตัวเองและรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน อย่างทหารที่เข้าทำงาน เจอปัญหา และต้องเข้าไปร่วมแก้ไขปัญหาด้วยทุกครั้ง ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง ภัยพิบัติ การประท้วงต่างๆ แต่ทำไปแล้วกลับถูกมองว่าไม่มีประโยชน์ กลายเป็นว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ บางครั้งจะของบประมาณมาปรับปรุงกองทัพก็ทำไม่ได้ เพราะติดว่าประชาชนยังยากจน ทหารบ่นน้อยใจไม่ได้ บางทีก็ต้องซ่อมรถถังเอง วันข้างหน้าอาจจะเหลือรถถังวิ่งเพียงคันเดียวก็ได้ ยืนยันว่าการมีรถถังหรือความพร้อมทางความมั่นคง ไม่ได้มีไว้เพื่อการทุจริต
“วันนี้เราต้องแก้ไขความผิดพลาด เดินหน้าประเทศในปัจจุบันเพื่อไปสร้างประวัติศาสตร์ ในอนาคตให้กับลูกหลาน วันหน้าเราก็จะมานั่งภูมิใจ ตายไปแล้วคนก็พูดถึง เคยฟังเพลงไหม "คนดีไม่มีวันตาย" ทำไปเถอะไม่มีตายหรอก มันต้องใช้เวลาแก้ไขอุปสรรคให้ได้” นายกฯ กล่าว
** เซ็งคนไม่ค่อยเชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ
ในส่วนของความคืบหน้าการลงทุนก่อสร้างรถไฟเส้นทางต่างๆนั้น นายกฯ กล่าวว่า เราต้องคิดว่าการลงทุนรถไฟนั้น ต้องประมาณการไว้ล่วงหน้าว่าถ้าทำเส้นทางตรงนี้แล้วข้างทางทำอะไรได้บ้าง คิดราคาไว้แล้วเมื่อเจรจาก็ชักตรงนี้ออกมาได้เลย เพราะเป็นเรื่องของการร่วมทุน แต่ไม่ใช่สัมปทาน เราไม่สามารถให้สัมปทานใครได้ เราไม่ทำ ฉะนั้นจึงได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุนให้ทันสมัย ไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง มันไปไม่ได้ ส่วนการคุยเจรจากับต่างประเทศนั้นต้องคุยให้จบว่าเรื่องอะไร ไม่ใช่ไปเสร็จแล้วกลับมาเช็คแฮนด์ ต้องสร้างความเข้าใจว่าอะไรที่มันเกิดไม่เกิด หรือที่จะต้องทำให้ได้ประโยชน์ในอนาคต ต้องอธิบายให้เชื่อมโยงแบบนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาหมด เริ่มต้นก็ถูกมองทุจริตต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันให้ได้ในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง วันนี้มันสร้างความขัดแย้งทุกเรื่อง ทุกคนจะบริหารจัดการกันเองหมดแล้วจะแก้ปัญหากันอย่างไร เช่น ปัญหาเรื่องพลังงานทดแทน ทุกคนอยากจะได้อยากจะลด แต่ลืมไปว่าต้นทุนการสร้างสิ่งเหล่านี้สูง ไม่เสถียร เป็นพลังงานหลักประเทศไม่ได้ เราต้องพึ่งน้ำมันหรืออะไรสักอย่างที่ต้นทุนถูกที่สุด
“เรื่องต่างๆต้องหาคนมาชี้แจง ถ้าเป็นรัฐบาลหรือกระทรวง มันไม่เคยเชื่อ เป็นเรื่องจริงก็ไม่เชื่อ แต่ถ้าใครก็ได้ที่ไม่ใช่ข้าราชการ และโกหกกลับเชื่อ ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้นต้องแก้ไข ประเทศต้องมีสติสัมปชัญญะ ซึ่งผมมีค่อนข้างน้อยลงเรื่อยๆ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
** ห้ามกั๊กงบฯจนล้น-งานไม่คืบยึดคืนคลัง
สำหรับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกส่วนราชการที่เสนอของบประมาณปี 60 ต้องไม่ของบประมาณเกินความจำเป็น และของบไปกองเอาไว้ เพราะที่ผ่านมามักเกิดปัญหาเรื่องการใช้งบประมาณมาตลอด โดยเฉพาะช่วงเวลาที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนออกมา แต่ส่วนราชการกลับไม่มีงบเพียงพอที่จะนำมาใช้ จนต้องแก้ปัญหาด้วยการของบกลางมาใช้ในโครงการเร่งด่วนอยู่เป็นประจำ ซึ่งทำให้เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น โดยต้องขอความร่วมมือทุกส่วนราชการกลับไปจัดลำดับความสำคัญของโครงการที่จะเสนอขอใช้งบประมาณต้องเป็นโครงการที่มีความเร่งด่วน มีความพร้อม และสอดคล้องกับแผนการจัดสรรงบประมาณแบบบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ หากโครงการใดที่เสนอมาแล้วไม่สามารถดำเนินโครงการได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก หน่วยงานนั้นต้องถูกยึดงบประมาณคืน เพื่อไปใช้ในโครงการอื่นที่มีความสำคัญแทน
“การของบประมาณมาในครั้งนี้ ต้องตรงตามความต้องการ และให้สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลด้วย อย่าของบของกระทรวงมาทำโครงการจนล้น พอถึงเวลาต้องทำตามนโยบายรัฐบาลกลับไม่มีงบมาทำ ต้องมาขอเงินงบกลางใช้ตลอด การทำงบประมาณครั้งนี้ไม่ใช่การทำงบที่เหมือนเซ็นเช็คเปล่า ใครจะใช้งบไปอะไรก็ได้ เพราะการใช้งบต้องใช้ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ สอดคล้องกับแผน 5 ปี สร้างภาระหนี้ให้น้อยที่สุด และรายรับ รายจ่ายต้องสมดุลกันด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
**ติงคนไทยสุดโต่งรณรงค์ข่มขืนต้องประหาร
พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการรณงค์ให้ประหารชีวิตกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าและข่มขืนในพื้นที่ จ.พัทลุง ว่า มีคนเสนอว่าคดีข่มขืนให้ประหารชีวิต คดีอะไรที่ร้ายแรงต้องประหารชีวิต นี่คือคนไทยที่มีแต่ความสุดโต่งเหมือนกับการตัดสินของเปาบุ้นจิ้น ประหารอย่างเดียวทำไม่ได้ เพราะกฎหมายมีขั้นตอน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมายมันอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายว่าทำได้หรือไม่ จิตสำนึกคนได้หรือไม่
** สั่งยึดรถ “เด็กแว้น-เมาขับ” จนพ้นอำนาจ
ในส่วนของการจัดระเบียบสังคมที่มีใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่จับกุม และยึดรถของผู้ที่กระทำผิด ทั้งการแข่งรถบนถนนสาธารณะ หรือเด็กแว้น และกรณีเมาแล้วขับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กรณีทำผิดแล้วยึดรถนั้น ยังทำตลอดต่อไป ใช้จนกว่าตนจะพ้นจากตำแหน่ง หรือจนกว่าจะมีการแก้ไข แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องยึดทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความเป็นธรรมยึดที่ผิดจริงๆ พวกที่ขับรถแล้วพาคนไปตายยึดไปเลย ยึดใบขับขี่ด้วย ทุกวันนี้ยิ่งออกกฎหมายมายิ่งมีความรุนแรง ไม่รู้จะออกกฎหมายอะไรมาอีก ไม่มีแล้ว เหลือกฎหมายอย่างเดียวคือ สั่งห้ามตาย ซึ่งทำไม่ได้ คนที่เดือดร้อนก็คือคนอย่างพวกเรา ต้องหาจิตสำนึกให้ได้
** ยันไม่เพิ่มโควตา-ขู่ดัดหลังยี่ปั๊วลอตเตอรี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ลงจากเวที ได้เดินไปทักทายกับผู้ร่วมสัมมนา ถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ของรัฐบาล ในส่วนของการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายลอตเตอรี่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้จะแก้อย่างไรแล้ว มีการขอเพิ่มยอด ตนก็ไม่เพิ่ม เพราะหากเพิ่มก็ยิ่งทำให้คนเข้าในกิจการค้าขายแบบนี้มากขึ้น เราต้องการจะลดลง แล้วเราโควตากลางไปขายรวม เพื่อให้คนที่ไม่พอ แต่ปรากฎว่าพอลดราคา ก็มีการแข่งขันกันใหญ่ สักวันจะดัดหลังเสียที
** โมโหคนไม่สนใจ “อินโฟฯ” ผลงานรัฐ
ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามหาโทรศัพท์ส่วนตัวจากทีมรักษาความปลอดภัย พร้อมเปิดแอพพรีเคชั่น และภาพอินโฟกราฟฟิกผลงานของรัฐบาล ยกโชว์ให้ผู้ร่วมสัมมนาได้ดู พร้อมกับกล่าวว่า "ท่านไม่ต้องมองว่าผมขี้โมโห ตอนเช้าตื่นออกจากบ้าน ทส.ก็โดนหมดแล้ว แต่ผมก็ต้องอดทน และพยายามจะเป็นคนดีบ้าง ผมถามว่าเปิดดูแอพพลิเคชั่นของผมหรือยัง ดูอินโฟกราฟฟิกหรือยัง ก็มีคนตอบว่าเห็นแล้ว พอถามกลับไป ก็ตอบกลับมาว่า ก็ไม่รู้ส่งมาทำไม รกโทรศัพท์ ตรงนี้ผมควรโมโหไหม เพราะที่ส่งไปเพื่อทำความเข้าใจ ให้คนรู้ว่า ทำอะไรกันอยู่ ไม่อย่างนั้นก็วนอยู่แต่เรื่องเดิมๆ"
** เปิดเพลง "ดนดีไม่มีวันตาย" กล่อมคนทั้งงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯได้เปิดเพลง "คนดีไม่มีวันตาย" จากโทรศัพท์ และเอาไมโครโฟนไปจ่อที่ลำโพงโทรศัพท์ พร้อมกับพูดว่า "ไปฟังกันนะ" ก่อนที่จะเดินออกจากห้องสัมมนา นายกฯก็ยังได้ยกมือขึ้น พร้อมกับตะโกนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "คนดีไม่มีวันตาย" ระหว่างที่เดินกลับไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯอารมณ์ดีหรือยัง หายโกรธหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยโบกมือให้กับผู้สื่อข่าว พร้อมเอามือปิดปาก เดินทางขึ้นรถทันที
** “ไก่อู” แก้ต่างปม “สุดโต่ง” ทันควัน
วันเดียวกัน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ นายกฯระบุว่ากรรณรงค์ให้ผู้กระทำผิดจากการข่มขืนได้รับโทษประหารชีวิตนั้นสุดโต่งว่า คำว่าสุดโต่งที่นายกฯ กล่าวนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าข้างผู้กระทำผิด แต่ต้องการให้สังคมร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบว่า แท้จริงแล้วต้นเหตุของปัญหาคืออะไร การใช้กฎหมายรุนแรงบังคับแต่เพียงอย่างเดียวจะแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ หากใช้กฎหมายหนักขึ้น แต่ไม่สามารถยุติปัญหาได้ก็ต้องพึงระวัง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไปศึกษาข้อมูล และหาทางออกในเรื่องดังกล่าว โดยนำกรณีศึกษาจากประเทศต่างๆ มาเปรียบเทียบด้วย เพื่อให้เกิดการยอมรับตามหลักสากล
“นายกฯเข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ และญาติพี่น้องของผู้เสียหาย และรู้สึกเจ็บปวด ไม่พอใจผู้กระทำผิดเช่นเดียวกับคนทั่วไป แต่นายกฯก็ต้องพิจารณาในภาพรวมอย่างรอบคอบและเป็นสากลด้วย ในมุมตรงกันข้าม หากใช้ยาแรงหรือบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรงที่สุด อาจยิ่งส่งเสริมให้ผู้กระทำผิดทำร้ายเหยื่อจนถึงแก่ชีวิต เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
**ปชป.เตือนนายกฯระวังใช้อารมณ์
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความเสียใจที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวในระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ทำผิดขอโทษได้ แต่อย่าทำอีก เพราะคำพูดจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ ในฐานะนักการเมืองที่ถูกฝึกมาให้อดทน สำรวม และมีวุฒิภาวะ เห็น พล.อ.ประยุทธ์แสดงอาการแบบนี้บ่อยๆ แล้วไม่สบายใจ โกรธได้แต่อย่าแสดงออกต่อหน้าสาธารณชน อย่าไปบ่นต่อหน้ากล้อง สงสารคนที่เขาอยู่ใกล้ที่มารอพบเพื่อนำเสนองาน และคนดูทีวีอยู่ที่บ้านว่านี่คือนายกฯของเขา
** “จตุพร” ได้ทีตะเพิด “ประยุทธ์”
ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกลออกอากาศผ่านทางยูทูปว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ฝาก พล.ต.สรรเสริญ ขอโทษสื่อมวลชนและประชาชนที่แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว และยังขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนไม่นำเสนอความเห็นจากฝ่ายตรงข้ามนั้น ตนเห็นว่าตั้งแต่ประเทศไทยมีนายกฯมา มี พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ให้สื่อเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายตรงข้าม โดยหมายถึงพวกตน แล้วจะทำให้นายกฯดีขึ้น พล.ต.สรรเสริญอธิบายแบบนี้ ยิ่งทำให้นายกรฯไม่ได้ดูดีขึ้นเลย เพราะเท่ากับบอกให้ประชาชนได้ปรับตัว เปลี่ยนความคิดเข้าหานายกฯ แต่สิ่งที่นายกฯทำนั้น เป็นมาตรฐานสร้างสรรค์แล้วหรือ
“หากคิดแต่ว่าตัวเองเป็นผู้เสียสละแล้วเป็นทุกข์อยู่คนเดียว ท่านต้องรู้อย่างหนึ่งว่า ท่านมาเอง ท่านอาสาเอง พวกผมไม่ได้เลือกให้ท่านมา ดังนั้นถ้าทำไม่ได้ ไม่ไหวก็หยุด เพราะยิ่งเดิน ยิ่งทรมานตัวเอง และเป็นการทรมานประเทศชาติและประชาชน” นายจตุพร กล่าว