น่ารัก ตอนที่ 16
ชองปอลกลับถึงวังฮวาซาเหนือ ตอนเย็น ก็รีบเข้าเฝ้าบิดาทันที แต่พอได้ฟังเรื่องโลลิต้าก็หันขวับมามองท่านหลุยส์ผู้เป็นบิดาอย่างไม่เชื่อหู
“ท่านพ่อตรัสว่าอะไรนะพะย่ะค่ะ”
“พ่อก็กำลังบอกชองปอลยังไงว่า ลูกโดนพวกฮวาซาใต้หลอก ตอนนี้โลลิต้าไม่ได้ประทับอยู่ที่นั่น”
ชองปอลยังไม่เชื่อ “จะเป็นไปได้ยังไง ก็ทุกคน รวมทั้งท่านอา บอกชองปอลว่าน้องหญิงประชวรอยู่”
ท่านหลุยส์ย้ำ “มีข่าวลือรายงานว่า เจ้าหญิงโลลิต้าเสด็จออกจากวังไปอย่างเงียบๆ เมื่อวาน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเสด็จไปที่ไหน”
สีหน้าชองปอลค่อยๆ เปลี่ยนเป็นโกรธกริ้ว แล้วลุกพรวดขึ้น ผลุนผลัน จะออกไป
“ชองปอล ลูกจะไปไหน”
“ฮวาซาใต้พะย่ะค่ะ ชองปอลจะต้องไปถามท่านอาว่าทรงโกหกชองปอลเพื่ออะไร”
“อย่าเลยลูก จำไว้ว่าถ้าหากศัตรูของเราเค้าอยากเห็นเราโง่ ก็จงทำเป็นคนโง่เข้าไว้ให้เค้าสบายใจ แล้วค่อยตระหลบหลัง แล้วหัวเราะเยาะใส่พวกมันอย่างเต็มเสียง”
“ได้พะย่ะค่ะ ชองปอลจะต้องหาทางสืบให้ได้ว่าที่ท่านพ่อทรงพูดมานั้นเป็นความจริงรึเปล่า แล้วหลังจากนั้น ชองปอลถึงจะแก้แค้นคนที่เห็นชองปอลเป็นคนโง่ให้สาแก่ใจ”
นัยน์ตาชองปอลวาววับ แลดูน่ากลัว
เย็นวันเดียวกัน มาเรีย นางกำนัลรับใช้ เดินย่องมาจากด้านล่างโถงวังฮวาซาใต้ มองซ้ายมองขวา แล้วย่องขึ้นชั้นบนเมื่อไม่มีคน
มาเรียย่องมาจนถึงชั้น 2 หน้าห้องนอนองค์หญิงโลลิต้า เหลียวมองรอบตัวก่อนทำท่าจะเปิดประตู แต่แล้วประตูห้องเปิดผางออกมาซะก่อน เป็นเซลีนนางกำนัลรับใช้อีกคนเดินออกมาพร้อมอุปกรณ์ทำความสะอาด ทั้งคู่ชะงัก สบตากัน
“มาเรีย เธอขึ้นมาทำอะไรตรงนี้”
“คือ...เอ่อ...”
เซลีนจดสายตามองตาเข้ม “ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่ชีฟองสั่งให้เธอมีหน้าที่ดูแลอาหารในห้องเครื่อง ไม่ใช่เพ่นพ่านมาถึงชั้นบนแบบนี้”
มาเรียอึกอักคิดคำแก้ตัว “คือ...คือ...ชั้นเป็นห่วงองค์หญิงน่ะพี่เซลีน”
“เป็นห่วง...เรื่องอะไร”
“มีข่าวลือไปทั่วว่า องค์หญิงเสด็จออกจากวังไปลี้ภัยที่อื่น เพราะเหตุร้ายที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ระยะหลังมานี้”
เซลีนจ้องตา “ใครลือ...บอกมาซิ”
มาเรียอึกอักอีก “เค้าก็ลือกันทั่วแหละจ้ะ ชั้นเลยเป็นห่วง มันเป็นความจริงใช่มั้ย”
“มันเป็นเรื่องส่วนพระองค์ ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ลงไปข้างล่างได้แล้ว”
เซลีนจะเดินลงบันได มาเรียเดินตามไปดึงไว้
“เดี๋ยวจ้ะ ชั้นสัญญาว่าจะไม่พูดต่อ ขอให้ชั้นรู้เถอะว่า องค์หญิงเสด็จไปประทับที่ไหน ปลอดภัยรึเปล่า เท่านั้นเอง”
“เอาเป็นว่า ท่านทรงปลอดภัยแน่ๆ มีคนดูแลมากมาย เธอไม่ต้องห่วงหรอก ลงไปกับเถอะ”
เซลีนเดินลงไป มาเรียตาเป็นประกาย
มาเรียรีบวิ่งเข้ามาในมุมลับตานอกวัง ทหารฮวาซาเหนือที่รออยู่โผล่พรวดออกมา
“ว้าย”
“เงียบๆ ผมเอง”
มาเรียโล่งอก “ชั้นได้เรื่องมาแล้วจ้ะ องค์หญิงโลลิต้าไม่ได้อยู่ในวังแน่นอน แต่จะเสด็จไปที่ไหนชั้นยังไม่รู้ แล้วจะรีบสืบมาให้จ้ะ”
ทหารฮวาซาเหนือยิ้มอย่างพอใจ “ดีมาก ขอบใจมากจ้ะน้องมาเรีย”
ทหารก้มลงหอมแก้มฟอดหนึ่ง มาเรียดีดดิ้นเขินอาย ทหารหยิบเงินส่งให้ถุงหนึ่ง มาเรียรับมาเขินๆ
“ขอบใจมากจ้ะพี่ ชั้นไปก่อนนะ”
มาเรียวิ่งกลับวังไป ทหารมองตามยิ้มพอใจ
ไม่นานต่อมาทหารสายลับฉวาซาเหนือนำข่าวมาแจ้ง ท่านหลุยส์เดินคุยกับชองปอลลงมาตามทางในวัง
“แล้วท่านพ่อทรงทราบเหรอพะย่ะค่ะว่าตอนนี้น้องหญิงอยู่ที่ไหน”
“การสืบหาไม่ใช่เรื่องยาก เพราะหลานโลลิต้าหายตัวไปช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่พวกทีมงานชาวไทยกลับประเทศไทย”
ชองปอลตกใจ “นี่ท่านพ่อกำลังจะบอกว่าน้องหญิงอยู่ที่เมืองไทยเหรอพะย่ะค่ะ”
“พ่อเองก็ไม่แน่ใจ...แต่ถ้าหลานโลลิต้าอยู่ที่นั่นจริงๆ พ่อก็หวังว่ามันจะไม่เกี่ยวกับงานสารคดีของฮวาซาใต้ชิ้นนั้น”
ตอนกลางคืนวันเดียวกัน แนวหน้า โลลิต้า ชีฟอง ปิแอร์ พากันมาอยู่ที่บ้านของ ไก่ ช่างซ่อมคอมพ์ มือของไก่กำลังเอาฮาร์ดดิสก์มาตรวจดู พลิกซ้าย พลิกขวา ดูอย่างละเอียด “นี่มันรอยกระสุนนี่ แกไปถ่ายสารคดีหรือไปทำสงครามมาวะไอ้แนว” ไก่ถาม
แนวหน้าปัดๆ ไม่อยากลงรายละเอียด “เออน่ะ มันสำคัญแค่ว่าพี่ไก่พอจะซ่อมได้รึเปล่า”
ไก่มองทุกสายตาที่มองเขม็งมายังตน แววตาเต็มไปด้วยความหวัง
“ไม่รู้ว่ะ ต้องแกะดูก่อนว่ากระสุนมันไปโดนจานอ่านหรือเปล่า” แนวหน้าเนื้อเต้น “งั้นแกะดูเลยพี่” “ตรงนี้ไม่มีแกะ มีแต่ไก่ดูได้ป่ะ” ไก่หัวเราะชอบใจ ประสาคนอารมณ์ดี
ทุกคนทำหน้าเซ็ง จนไก่เจื่อนไปเอง
“ล้อเล่นน่า อ่ะๆๆ เดี๋ยวไก่แกะให้ดูก็ได้ แหม แกล้งเล่นนิดๆ หน่อยๆ ทำเป็นหน้าตึง”
ช่างคอมพ์ขี้เล่นพูดขำๆ แล้วหยิบไข่ควงมาขันน็อตออก ท่ามกลางการลุ้นของทุกคน ไก่เปิดฝากล่องฮาร์ดดิสก์ออกมา พบว่ากระสุนปืนเฉียดจานอ่านของฮาร์ดดิสก์ไปนิดเดียว
แนวหน้า โลลิต้า ชีฟอง ปิแอร์ สุมหัวดูไก่ทำงานอยู่
“เป็นไงบ้างพี่ไก่” แนวหน้าถามลุ้นสุดขีด
“โชคดี…กระสุนเฉียดจานอ่านไปนิดเดียวเอง”
โลลิต้าโล่งอก “งั้นแสดงว่าสารคดีที่อยู่ในนี้ก็ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
“ยังตอบไม่ได้ทั้งหมดหรอกน้อง…เพราะบางทีแรงกระแทกจากกระสุนปืนอาจจะทำให้ข้อมูลที่ถ่ายมามีปัญหาได้ พี่ต้องลอง โหลดข้อมูลลงเครื่องก่อน”
ไก่แกะจานอ่านออกมา โลลิต้า กับแนวหน้ายังหนักใจ เพราะกลัวว่าจะข้อมูลจะถูกทำลายไป
ด้านนายกำลังคุยโทรศัพท์กับแนวหน้าอยู่ในร้านไอติมใกล้บ้าน “ฮาร์ดดิสยังใช้ได้งั้นเหรอ เยส! แสดงว่าโชคยังเข้าข้างเรา เอาล่ะไอ้แนว งั้นแกจัดการเรื่องทางนั้นให้เรียบร้อย เรื่องคิวห้องตัดต่อไม่ต้องห่วง ชั้นกับจี้จะเคลียร์ไว้ให้เอง”
นายวางมือถือโล่งอก ดีใจสุดๆ สักครู่หนึ่งบริกรถือถุงใส่ไอติมมายื่นให้นาย “ไอติมข้าวเหนียวมะม่วงได้แล้วค่ะ” “ขอบคุณครับ” นายรับมามองถุงขนมยิ้มๆ ครึ้มอกครึ้มใจคล้ายมีแผนบางประการ
ขณะเดียวกัน เอ คนตัดต่อ กำลังนั่งตัดงานอยู่ที่หน้าคอมพ์ในห้อง มีอุปกรณ์ตัดต่อสุดไฮเทคเพียบ ครู่หนึ่งได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เห็นที่หน้าจอว่า จีจี้
เอทำหน้าเซ็งโครตๆ กดตัดสายแล้วหันไปทำงานต่อทันที จีจี้ในสภาพเข้าเฝือกแขน เปิดประตูผัวะเข้ามา แว้ดใส่เสียงเขียว “พี่เอ! ตัดสายจี้อีกแล้วนะ” “โอ้โห บอกว่าช่วงนี้งานเยอะห้องไม่ว่างเลย ยังจะตามมาตื้อถึงที่เลยเหรอ” เอเซ็ง จีจี้เปิดฉากอ้อน “นะ...นะ...น้าพี่เอ ขอแซงคิวหน่อยน้า นึกว่าเห็นแก่คนพิการแขนเดาะอย่างหนู
เถอะ”
“มันไม่ได้จริงๆ อีกอย่างแกจองคิวไว้เดือนหน้าไม่ใช่เหรอ ก็รอไปก่อนแล้วกัน”
เอกดหยุดงานแล้วลุกเดินหนีจีจี้ออกจากห้องไปทันที จีจี้หรือจะยอม เดินตาม “เดี๋ยวสิพี่เอ”
เอเดินหนีมาชงกาแฟที่ครัว จีจี้แย่งถ้วยกาแฟเอมาจะชงให้ “จี้ชงให้ กาแฟ 2 น้ำตาล 2 ครีม 2 เหมือนเดิมนะคะ”
เอมองจีจี้เซ็งๆ แล้วแย่งแก้วกาแฟคืนมา “ไม่ต้องมาเอาใจ” เอมองเฝือกที่แขนจีจี้ “แล้วไปทำอะไรมาเนี่ย แขนถึงเป็นแบบนี้” จีจี้โยกโย้ “ถ้าพี่เอยอมแทรกคิวให้จี้…เดี๋ยวจี้จะเล่าให้ฟัง” เอบอกโดยไม่ต้องคิด “งั้นไม่อยากฟังแล้ว” “โห…พี่เอ…นะ ไม่สงสารจี้เหรอ สารคดีมันเร่งจริงๆ นะๆๆ สารคดี 2 ชั่วโมง พี่เอตัด 2 วันก็เสร็จแล้ว”
“2 วันกับผีน่ะสิ สารคดีของไอ้แนว ตัดโคตรยาก อาทิตย์นึงไม่รู้จะเสร็จรึเปล่า” เอหงุดหงิด “แล้วพี่ไม่สงสารจี้เหรอ จี้ต้องตระเวนหาห้องตัดทั้งๆ ที่แขนเป็นแบบนี้นะ”
“ก็ให้ไอ้นายมันไปสิ แล้วนี่มันไม่ได้มาด้วยเหรอ” “มา…แต่นายนายไปซื้อของอยู่” เอเลิกคิ้ว งงๆ “ซื้ออะไร”
ขาดคำนายเดินยิ้มเผล่เข้ามาพร้อมกับถือถุงอะไรบางอย่าง พูดพร้อมชูถุงใส่ของ
“ไอติมข้าวเหนียวมะม่วงของโปรดพี่ไงพี่เอ แล้วนี่ก็ข้าวมันไก่ประตูน้ำ น้ำลูกตาลหวานเย็นชื่นใจ ฝอยทองแปดริ้ว ผัดไทประตูผี แล้วก็...”
เอมองหน้านายกับจีจี้ รู้ทันทีว่าสองคนรวมหัวกันติดสินบน
“พอ ๆๆ แกสองคนนี่มัน...”
“น่ารักใช่มั้ยล่ะ ที่รู้ใจทุกอย่างว่าพี่เอชอบกินอะไร”
นายกับจีจี้ยิ้มหวาน ประกบ สอพลอ เอาใจสุดขีด เอคว้าถุงอาหารเซ็งๆ
“ชั้นให้ครั้งนี้ครั้งเดียวนะเว้ย”
จีจี้ร้องกรี๊ด กระโดดกอดกันกับนายด้วยความดีใจ
มันเป็นเวลาประมาณตี 1 แนวหน้ายังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในบ้านไก่ ที่หน้าจอขึ้นเหมือนว่าข้อมูลกำลังถ่ายข้อมูลจาก ฮาร์ดดิสก์ลงคอมพิวเตอร์อยู่ แนวหน้าหาวหวอดๆ ด้วยความง่วง
กาแฟถูกยื่นมาตรงหน้า แนวหน้าหันไปมอง พบว่าไก่เป็นคนยื่นให้ “แก้ง่วง” “ขอบคุณพี่”
“จริงๆ ฉันว่าแกกลับไปรอบ้านก็ได้นะไอ้แนว นี่มันตี 1 แล้ว นั่งจ้องอยู่แบบนี้ข้อมูลมันก็ไม่ลงเครื่องเร็วขึ้นหรอก”
“ไม่เป็นไรพี่…ผมอยู่เป็นเพื่อนพี่ดีกว่า” “อย่าเลย สงสารแฟนแกด้วย”
แนวหน้างงๆ “ใครแฟนผมพี่”
“ก็น้องผู้หญิงที่น่ารักๆ นอนคอพับอยู่ที่โซฟาด้านนอกนั่นไง”
แนวหน้าคิดออกว่าไก่ต้องหมายถึงโลลิต้าแน่ๆ “เฮ้ย! เค้าไม่ใช่แฟนผมพี่”
ไก่ไม่เชื่อ “โหย! ไม่ใช่แฟนอะไร ตามมานอนเฝ้าขนาดนี้ หรือแกจะบอกว่าเพื่อนน้องเค้าที่ตัวใหญ่ๆ ดำๆ นั่นเป็นแฟนแก”
แนวหน้าเซ็ง “โว๊ะ ไปกันใหญ่ ไม่มีใครเป็นแฟนผมทั้งนั้นแหละ เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันเฉยๆ”
ไก่มองหน้าแนวหน้าแล้วทำหน้าไม่เชื่อ “โอ้โห ตอบเป็นดาราเลยเว้ยน้องเรา” พลางหัวเราะชอบใจ “งั้นพี่กับเมียก็คงเป็นรูมเมทกันแล้วละถ้างั้น”
แนวหน้าเซ็งหนัก ลุกเดินหนีออกจากห้องไปในทันที
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 16 (ต่อ)
มันเป็นเวลาประมาณตี 1 แนวหน้ายังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในบ้านไก่ ที่หน้าจอขึ้นเหมือนว่าข้อมูลกำลังถ่ายข้อมูลจาก ฮาร์ดดิสก์ลงคอมพิวเตอร์อยู่ แนวหน้าอ้าปากหาวหวอดๆ ด้วยความง่วง
กาแฟถูกยื่นมาตรงหน้า แนวหน้าหันไปมอง พบว่าไก่เป็นคนยื่นให้ “แก้ง่วง” “ขอบคุณพี่”
“จริงๆ ฉันว่าแกกลับไปรอบ้านก็ได้นะไอ้แนว นี่มันตี 1 แล้ว นั่งจ้องอยู่แบบนี้ข้อมูลมันก็ไม่ลงเครื่องเร็วขึ้นหรอก”
“ไม่เป็นไรพี่…ผมอยู่เป็นเพื่อนพี่ดีกว่า” “อย่าเลย สงสารแฟนแกด้วย”
แนวหน้างงๆ “ใครแฟนผมพี่”
“ก็น้องผู้หญิงที่น่ารักๆ นอนคอพับอยู่ที่โซฟาด้านนอกนั่นไง”
แนวหน้าคิดออกว่าไก่ต้องหมายถึงโลลิต้าแน่ๆ “เฮ้ย! เค้าไม่ใช่แฟนผมพี่”
ไก่ไม่เชื่อ “โหย! ไม่ใช่แฟนอะไร ตามมานอนเฝ้าขนาดนี้ หรือแกจะบอกว่าเพื่อนน้องเค้าที่ตัวใหญ่ๆ ดำๆ นั่นเป็นแฟนแก”
แนวหน้าเซ็ง “โว๊ะ ไปกันใหญ่ ไม่มีใครเป็นแฟนผมทั้งนั้นแหละ เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันเฉยๆ”
ไก่มองหน้าแนวหน้าแล้วทำหน้าไม่เชื่อ “โอ้โห ตอบเป็นดาราเลยเว้ยน้องเรา” พลางหัวเราะชอบใจ “งั้นพี่กับเมียก็คงเป็นรูมเมทกันแล้วละถ้างั้น”
แนวหน้าเซ็งหนัก ลุกเดินหนีออกจากห้องทันที
แนวหน้าเดินเข้ามาในห้องรับแขกมองโลลิต้าที่นอนหลับขดตัวอยู่ที่โซฟา ส่วนชีฟองนั่งฟุบหลับอยู่ที่พื้นข้างๆ กัน
แนวหน้าเดินเข้าไปหา นั่งลงข้างๆ โลลิต้า แล้วทำท่าจะเอื้อมมือไปปลุก “องค์หญิง…”
แนวหน้าเอื้อมมือไปจะจับตัวองค์หญิงเพื่อปลุก แต่ชะงักค้าง ไม่กล้าแตะตัว สุดท้ายคุกเข่าลงนั่งที่พื้น พร้อมกับจ้องดูโลลิต้าที่หลับพริ้ม ยิ้มสุขใจที่ได้อยู่กับองค์หญิง ในที่สุดแนวหน้าเรียกปลุกเบาๆ
“องค์หญิง ตื่นเถอะพะย่ะค่ะ กลับไปก่อนก็ได้”
โลลิต้าพลิกตัวหนี พึมพำงึมงำ “ขออีก 5 นาทีนะคะพี่ฟอง”
แนวหน้ายิ้มเอ็นดู “ท่าทางจะง่วงจริงแฮะ”
แนวหน้าจะเดินกลับไปดูงานแล้วชะงักนึกได้ ค่อยๆ ถอดเสื้อแจ็คเก็ตตัวเองห่มให้องค์หญิงอย่างเบามือ แล้วมองจ้องโลลิต้าที่นอนหลับสนิท เขายิ้มกว้างสุขใจอีกรอบ ก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานเหมือนเดิม
กรุงเทพฯ ยามสาย ที่งานอีเว้นท์งานหนึ่ง ฟินยืนคุยกับคุณติ๋มอยู่แถวๆ นั้น ทีมงานเตรียมงานวุ่นกันอยู่ เจ๊หน้าแป้นจ๊ะจ๋าเม้าท์มอยอยู่กับลูกค้า
“ขอบคุณมากนะคะคุณติ๋ม ที่อุตส่าห์ไว้ใจจ้างไผทมาเปิดตัวสินค้า” “ไว้จงไว้ใจอะไรกันจ๊ะ พี่ชอบน้องไผทจะตายไป เอ่อ...แต่เรื่องที่เค้าว่าน้องไผท ชอบเบี้ยวงาน คงไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมคะ” คุณติ๋มถาม
“ข่าวเม้าท์ทั้งนั้นล่ะค่ะคุณติ๋ม...ไผทตัวจริงวินัยดี เป๊ะเว่อร์ ดูสิ วันนี้มาก่อนเวลานัดตั้งเกือบชั่วโมง เห็นมั้ยคะ”
“นั่นสิ คนเรานี่ชอบเม้าท์กันผิดๆ จริงๆ”
ทันใดนั้นเห็นช่างแต่งหน้าชื่อปูเป้วิ่งกระหืดกระหอบมาหา
“แย่แล้วค่ะคุณติ๋ม พี่ฟิน”
ฟินแปลกใจว่ามีเรี่องอะไร
เจ๊ฟินพุ่งเข้ามาในห้องน้ำชายแล้วไล่เปิดประตูห้องน้ำทุกห้อง
“ไม่มี นี่ก็ไม่มี...แอร๊ย” ฟินหันมาถามปูเป้ “เธอแน่ใจนะปูเป้ว่าไผทไม่ได้ไปที่อื่น”
“แน่ใจค่ะ ก็พอซ้อมเสร็จก็มาแต่งหน้าแต่งตัว แล้วน้องไผทก็ขอปูเป้มาเข้าห้องน้ำ ปูเป้รอในห้องแต่งตัวตั้งนาน แต่น้องไผทก็ไม่กลับมา พอปูเป้มาเช็คดู...ก็อย่างที่พี่ฟินเห็นล่ะค่ะ เนี่ยไปพร้อมชุดที่ปูเป้เช่ามาด้วยนะคะ” ปูเป้โอดครวญ
คุณติ๋มที่อยู่ด้วยเหวี่ยงใส่ “งานกำลังจะเริ่มแล้ว ยังไงคะคุณฟิน”
ฟินหน้าเจื่อนไม่รู้จะทำยังไงดี
ฟินกดมือยิกๆ โทร.หาไผท แต่ไผทไม่รับสาย “ไม่รับอีกแล้ว!” เจ๊ฟินแทบเต้น บ่นบ้าด้วยความโกรธ “เธอจะทำกับพี่อย่างนี้ไม่ได้นะไผท!”
มือถือไผทสั่นครืดๆๆๆ หน้าจอมีชื่อฟิน 35 มิสคอลล์ ขิงอยู่ในร้านมองเหวอๆ สักครู่ไผทเดินออกมาจากห้องแต่งตัว แต่งเสร็จแล้วเขาเอาชุดสูทขาวดูหรูหราของปูเป้ ออกมาด้วย “ขอบใจมากนะขิงที่ให้ผมยืมชุดเปลี่ยน” “หนีพี่ฟินมาแบบนี้ไม่ดีเลยนะไผท” ขิงรับชุดสูทขาวจากไผทเอามาพับใส่ถุงให้
“ไม่เป็นไรหรอกขิง กว่างานจะเริ่มอีก 2 ชั่วโมง ผมกลับไปทันอยู่แล้ว ขิงโทร.หาพี่แนวให้หน่อยสิ ผมโทร.ไปตั้งหลายครั้ง แต่เค้าไม่รับโทรศัพท์ผมเลย ผมอยากรู้ว่าองค์หญิงอยู่ที่ไหน”
ขิงชะงักที่ไผทเอาแต่คิดถึงโลลิต้า “นะขิง โทร.ให้หน่อยนะ ถ้าช้า เดี๋ยวผมกลับไปทำงานไม่ทันนะ..นะ ผมไหว้ละ”
ไผทมองขิงส่งสายตาอ้อน ขิงถอนหายใจหนักหน่วง ท่าทางลำบากใจมาก
สายวันเดียวกัน ขณะที่แนวหน้าเดินออกมาจากบ้าน หน้าตาง่วงจัดด้วยเพิ่งตื่น พูดโทรศัพท์ไปด้วย “พี่กำลังจะออกจากบ้านไปบ้านพี่ไก่นะ พี่ไก่กำลังพยายามซ่อมฮาร์ดดิสก์อยู่ ขิงอยากมาดูเหรอ เอาสิ.. เดี๋ยวพี่ส่งแผนที่บ้านพี่ไก่ไปให้นะ รอแป๊บจ้ะ”
เสียงไลน์ดังขึ้น ขิงกดดู เห็นที่อยู่ของบ้านไก่ช่างคอมพ์ จึงส่งให้ไผท
“นี่ไง แผนที่บ้านพี่ไก่ ตามไปถามพี่แนวเอาเองเถอะ”
ไผทรีบเอาโทรศัพท์ขิงมาส่งข้อมูล กำลังพิมพ์ที่อยู่ลงในกูเกิ้ลแม็พเพื่อนำทาง
“ขอบใจมากนะขิง ผมไปก่อนนะ”
ไผทจับมือขิงบีบขอบคุณ ก่อนวิ่งจากออกร้านไป ขิงมองตามหน้าเศร้า
แนวหน้าวางสาย เดินออกมาจะขึ้นรถ แล้วต้องชะงักเมื่อพบว่าที่ข้างรถ โลลิต้า ชีฟอง และปิแอร์ ยืนสลอนรออยู่
“เฮ้ย! องค์หญิงมาทำอะไรแต่เช้าพะย่ะค่ะ”
“พวกเราก็จะไปร้านช่างซ่อมฮาร์ดดิสก์กับคุณน่ะสิ” องค์หญิงว่า
“เมื่อคืนที่เราอุตส่าห์มาค้างที่บ้านของคุณ ก็เพื่อให้ตื่นทันไปกับคุณนี่แหละค่ะ” ชีฟองบอก
“อย่าลืมสิครับ ว่าผมจะต้องคุ้มกันคุณกับฮาร์ดดิสก์ อันนี้อย่างใกล้ชิด” ปิแอร์เสริมปิดท้าย แนวหน้ามองทุกคนอย่างหนักใจ เพราะไม่ค่อยเห็นด้วย
ขณะที่ขิงกำลังดูแลลูกค้าอยู่ในร้านเสื้อ เจ๊ฟินเดินหน้าบึ้งเข้ามาหา ท่าทางหงุดหงิดสุดขีด ขิงทิ้งลูกค้าให้ลูกน้องดู แล้วเดินมาหาฟิน
“ไผทมาที่นี่หรือเปล่าขิง” ฟินถามเสียงชุ่น ” เอ่อ..ไม่ได้มาค่ะ”
ฟินจ้องตา จับสังเกต “ขิงไม่ได้หลอกพี่ใช่ไหม”
ขิงอึกอักไม่พูดอะไร ฟินไม่เชื่อเดินไปที่ห้องลองเสื้อ เปิดม่านออกทันที ปรากฏว่าในนั้นไม่มีไผท “ขิงบอกพี่ฟินแล้วว่าไผทไม่ได้อยู่ที่นี่”.
ฟินกำลังหันออกไป แต่ชะงัก เมื่อเห็นถุงใส่เสื้อสูทไผทวางอยู่ ฟินหยิบชุดสูทขึ้นมา
“นี่มันชุดของไผทที่ต้องใส่ในงานไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะพี่ฟิน เมื่อกี้พี่ป้อง ณวัฒน์ เค้ามาลองชุดจะไปงานน่ะค่ะ แล้วขิงยังไม่ทันได้เก็บ พี่จุ้ยคะ มาเก็บชุดหน่อยค่ะ”
จุ้ยลูกน้องขิงรีบวิ่งมาเก็บชุดไผทไป
ฟินมีท่าทีอ่อนลง “ไผทเค้าหายไปจากงานอีเว้นท์น่ะจ้ะ ถ้าเค้าติดต่อมา ขิงรีบบอกพี่ด่วนเลยนะจ๊ะ พี่ไม่อยากให้เค้าโดนแอนตี้เหมือนคราวที่แล้วน่ะจ้ะ
ฟินเดินออกไปเลย ขิงถอนใจเป็นห่วงไผท
ฟากแนวหน้านั่งอยู่หน้าคอมพ์กับไก่ ท่าทางยุ่งกันอยู่ โลลิต้ารู้สึกหิว แต่เกรงใจไม่กล้าบอก เลยค่อยๆ ลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง
โลลิต้าเดินลูบท้องตัวเองออกมาตรงมุมนั่งเล่น
ชีฟองเห็นเข้า “องค์หญิงหิวหรือยังเพคะ นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว”
“หิวสิพี่ชีฟอง เราไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้วนะ
“นั่นสิคะ เมื่อเช้าก็รีบๆ เลยไม่ได้หาอะไรให้องค์หญิงเสวย เอางี้ เดี๋ยวชีฟองไปบอกให้คุณแนวพาเราไปหาอะไรทานหน่อยดีกว่า”
โลลิต้าห้าม “อย่าไปรบกวนคุณแนวหน้าเลยค่ะ ท่าทางเค้ากำลังยุ่งๆ อยู่”
ปิแอร์บอก “งั้นเดี๋ยวกระหม่อมพาคุณชีฟองไปซื้อเองก็ได้พะย่ะค่ะ” ชีฟองหมั่นไส้ “แกไปถูกเหรอ เดี๋ยวก็หลงแบบครั้งที่แล้วอีก” ปิแอร์คุยโต “โถ่ ไม่หลงหรอกครับ ตลาดอยู่ตรงนี้เอง... เรามาที่นี่เป็นวันที่ 2 แล้วเมื่อคืน
ผมก็ออกไปสำรวจมา แผนที่ทุกอย่างอยู่ในหัวผมหมดแล้วครับ” ทหารคนซื่อชี้ที่กบาลตัวเอง
โลลิต้าตัดสินใจ “งั้นเราออกไปซื้อกันเองดีมั้ยคะ หญิงไปด้วย” ชีฟองท้วง “จะดีเหรอคะ บอกคุณแนวหน่อยมั้ย” “ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ ก็ปิแอร์บอกว่า ตลาดอยู่แค่นี้เอง เรารีบไปแล้วก็รีบกลับ คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ นะคะ พี่ชีฟอง หญิงหิว”
ชีฟองทำหน้าอึดอัดใจ
ไม่นานต่อมา โลลิต้า ชีฟอง และปิแอร์ อยู่ที่ตลาดนัด มีร้านรวงของขายหลายอย่าง ปิแอร์กับชีฟองตื่นตาตื่นใจ
“โอ้โห ตลาดเมืองไทยนี่ ของขายเยอะดีจริงๆ น่ากินทั้งนั้นเลย” ชีฟองดี๊ด๊า
“เดี๋ยวเราซื้ออาหารเผื่อคุณไก่กับคุณแนวด้วยเลยแล้วกันนะคะพี่ฟอง”
โลลิต้า ชีฟอง และปิแอร์เดินไปซื้ออาหาร พอเดินผ่านร้านเครื่องประดับองค์หญิงก็ชะงักหยุดดูอย่างสนใจ ชีฟองไม่อยากขัด “องค์หญิงทอดเนตรของที่ร้านนี้ก่อนก็ได้นะเพคะ เดี๋ยวชีฟองไปซื้อของกินตรงนั้น” ชีฟองชี้ไปที่ร้านมุมหนึ่ง ไม่ไกลนัก “แล้วจะรีบกลับมาหา....แล้วอย่าไปไหนนะเพคะ”
โลลิต้ายิ้มรับ “ค่ะ พี่ฟอง”
ชีฟองกำชับปิแอร์ “ปิแอร์ เดี๋ยวชั้นมานะ ดูแลองค์หญิงให้ดีนะ”
ปิแอร์เผลอตะเบ๊ะ “ครับโผ๊ม”
ชีฟองเดินไป ปิแอร์เฝ้าอยู่ที่หน้าร้าน โลลิต้าเดินเข้าไปดูในร้านเครื่องประดับ อย่างเพลิดเพลิน
มีสาวสวยคนหนึ่งเดินผ่านมา ปิแอร์มองตามไปด้วยความสนใจ และมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูจากด้านหลังคล้ายโลลิต้ามาก เดินออกมาจากร้านเครื่องประดับ ปิแอร์ที่เหลียวมองสาวสวย หันกลับมาอีกที เห็นด้านหลังผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปไวๆ จึงคิดว่าเป็นโลลิต้า
“อ้าว...องค์หญิงรอด้วยพะย่ะค่ะ เกือบไปแล้วสิเรา องค์หญิง”
ปิแอร์รีบเดินจ้ำตามผู้หญิงคนนั้นไปทันที
ฝ่ายโลลิต้าดูของในร้านเสร็จ เดินออกมาที่หน้าร้านแต่ไม่เจอใคร มองซ้ายมองขวาหาปิแอร์ “ปิแอร์หายไปไหนเนี่ย”
โลลิต้าผวา รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจะกดโทร.หาชีฟอง แต่แนวหน้าโทร.เข้ามาหาพอดี โลลิต้ากดรับ “ค่ะ คุณแนว”
แนวหน้ายืนอยู่มุมหนึ่งในบ้านไก่ พูดสายท่าทีร้อนใจ “องค์หญิง อยู่ไหนพะย่ะค่ะ”
โลลิต้ายังอยู่ที่หน้าร้านเครื่องประดับ “หญิงออกมาซื้อข้าวกลางวันกับพี่ฟอง แล้วก็ปิแอร์ที่ตลาดนัดแถวๆบ้านคุณไก่ค่ะ”
จังหวะนี้ที่มุมหนึ่ง ถัดจากร้านเครื่องประดับไปหน่อย มีคนร้าย 2 คน ยืนมองจ้องโลลิต้าที่ถือกระเป๋าโดยไม่ระวังตาเป็นมัน ทั้งสองหันมามองหน้ากัน “องค์หญิงจะเสด็จออกไป ทำไมไม่บอกกระหม่อมพะย่ะค่ะ” แนวหน้าต่อว่า “ก็หญิงเห็นว่าคุณแนวกับคุณไก่กำลังยุ่งกันอยู่น่ะค่ะ ก็เลยไม่อยากรบกวน” “กระหม่อมยุ่งแค่ไหน องค์หญิงก็ต้องบอกนะพะย่ะค่ะ...แล้วตอนนี้องค์หญิงอยู่ตรงไหนของตลาด เดี๋ยวกระหม่อมจะออกไปรับ”
“หญิงอยู่ที่...”
โลลิต้าเหลียวมองป้านชื่อร้านเพื่อจะบอกแนวหน้าว่าอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นเอง คนร้าย 1 วิ่งเข้ามาแล้วกระชากกระเป๋าถือจากมือของโลลิต้าอย่างรุนแรง
แนวหน้าได้ยินเสียงกรี๊ดของโลลิต้าผ่านมือถือ “แอร๊ยย แกทำอะไรน่ะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” แนวหน้าตาปลิ้น ตกใจสุดขีดที่ได้ยินโลลิต้ากรี๊ด “องค์หญิง องค์หญิง เกิดอะไรขึ้นพะย่ะค่ะ”
เสียงจากมือถือเงียบไป แนวหน้าหน้าซีด กลัวว่าโลลิต้าจะได้รับอันตราย
ส่วนโลลิต้าวิ่งตามโจรไปอย่างเอาเรื่องโดยไม่คิดชีวิต
อ่านต่อหน้า 2
น่ารัก ตอนที่ 16 (ต่อ)
คนร้าย 1 ที่วิ่งราวกระเป๋าถือโลลิต้าวิ่งหนีไปตามทางเดิน โลลิต้าวิ่งตามไม่ลดละ ตะโกนร้องให้คนช่วย
“หยุดนะ ชั้นบอกให้หยุด ช่วยด้วยค่ะ”
คนร้าย 2 สตาร์ทมอเตอร์ไซค์มารอรับที่มุมถนน คนร้าย 1 วิ่งตรงไปกระโดดขึ้นซ้อน
โลลิต้าวิ่งไปทันก่อนที่รถมอเตอร์ไซค์ของคนร้าย จะขับออกไป แล้วกระชากกระเป๋าคืน คนร้าย 1 เสียหลักล้มลง โลลิต้าวิ่งไปคว้ากระเป๋าคืน
คนร้าย 2 เห็นท่าไม่ดี ลงจากมอเตอร์ไซค์ แล้วคว้ากระเป๋าจากมือโลลิต้า รอบๆ ข้าง ผู้คนเริ่มชี้ชวนกันดูเหตุการณ์ที่เหมือนคนทะเลาะกัน
“เฮ้ย ปล่อยนะ”
โลลิต้าพยายามจะคว้ากระเป๋าคืนมา คนร้าน 2 สลัด จนโลลิต้าล้มกลิ้งลงไป ก่อนจะกอดกระเป๋าแล้ววิ่งกลับขึ้นมอเตอร์ไซค์ ทันใดนั้นเอง เห็นขาของผู้ชายคนหนึ่งยันร่าง คนร้าย 2 กระเด็นไปเต็มแรง
โลลิต้าหันไปมอง พบว่าคนที่ช่วยคือ ไผท ก็ดีใจ ส่วนไผทเพิ่งเห็นว่าคนที่ตนช่วยคือโลลิต้า
“คุณไผท”
สีหน้าของไทยมุงต่างแตกตื่น
คนร้าย 1 ลุกขึ้นมาต่อสู้กับไผท ไผทต่อยกับทั้ง 2 วายร้าย ท่ามกลางความตื่นเต้นของไทยมุง ไทยมุง 1 ชี้ “นั่นไผทนี่”
ไทยมุง 2 บอก “ถ่ายคลิปเลย ถ่ายๆ”
ผู้คนยกมือถือถ่ายรูป ถ่ายคลิปของไผทกับโลลิต้า ไผทต่อยจน คนร้าย 2 คน สู้ไม่ไหว
โลลิต้าร้องขึ้น “ตำรวจ ตำรวจมา”
2 โจรตกใจ รีบวิ่งหนีไป ไผทหันมาหาโลลิต้าอย่างเป็นห่วง หยิบกระเป๋าส่งให้
“องค์หญิง เป็นอะไรรึเปล่าพะย่ะค่ะ”
“หญิงไม่เป็นอะไรค่ะ คุณไผทล่ะ” ไผทเหลียวมองรอบตัว ต้องตกใจที่คนรุมถ่ายรูปถ่ายคลิปกันใหญ่
“ผมว่าเรารีบไปกันเถอะครับองค์หญิง”
ไผทรีบพาโลลิต้าออกจากตรงนั้นไปทันที
ด้านแนวหน้าร้อนรนใจอยู่หน้าบ้านไก่ กดมือถือหาโลลิต้าแต่ไม่ติด ยิ่งกังวลมาก
“พี่ไก่ ผมรออยู่ที่นี่ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวผมมานะพี่” แนวหน้ากำลังจะออกจากบ้านไก่ไปตาม มือถือแนวหน้าดังขึ้น เห็นชื่อไผทโทร.เข้ามา แนวหน้าหงุดหงิด “มีอะไรไผท รีบๆ คุยนะ ชั้นรีบ” ไผทอยู่ข้างทางหน้าตลาด คุยมือถือกับแนวหน้า “ผมแค่จะบอกว่าตอนนี้องค์หญิงอยู่กับผมแล้ว” แนวหน้าชะงัก อึ้งไปคาดไม่ถึง
ทุกคนถึงบ้านไก่แล้ว โดยไผทกับองค์หญิงมาถึงก่อน ชีฟองกับปิแอร์ก้มหัวต่อหน้าโลลิต้า แนวหน้า ไผท ชีฟองเอาหมอนตีปิแอร์อย่างโมโห
“ชั้นบอกให้แกเฝ้าองค์หญิงไว้ทำไมไม่เฝ้าหา! ฆ่าทิ้งซะเลยดีมั้ย” ชีฟองเงื้อหมอนจะฟาดอีก
แนวหน้าบอก “ใจเย็นๆ คุณชีฟอง”
ปิแอร์จ๋อยสุดขีด “ผมขอโทษนะครับ ก็ผมคิดว่าคนที่เดินออกจากร้านไปเป็นองค์หญิง คนแต่งตัวแบบนี้มันดูเหมือนกันไปหมดเลย”
โลลิต้าขัดขึ้น “อย่าไปว่าปิแอร์เค้าเลยพี่ฟอง หญิงไม่ได้เป็นอะไรมาก โชคดีที่คุณไผทมาช่วยไว้ทัน” องค์หญิงหันมาทางแนวหน้า “ขอโทษคุณแนวอีกทีนะคะที่ไม่ได้บอก ว่าจะออกไปข้างนอก”
“พะย่ะค่ะ ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว แต่ต่อไปถ้าจะไปไหน องค์หญิงต้องบอกนะพะย่ะค่ะ ต่อให้เห็นว่ากระหม่อมยุ่งแค่ไหนก็ต้องบอก ที่นี่มันอันตรายรอบตัว ไม่ได้สวยร่มเย็นเหมือนฮวาซา”
ชีฟองบ่น “อุตส่าห์พาองค์หญิงหนีจากอันตรายที่ฮวาซา เกือบจะต้องมาพบอันตรายในกรุงเทพฯ แทนซะแล้ว”
“ผมต้องขอโทษแทนคนไทยทุกคน ถ้าทำได้ ผมไม่อยากให้อันตรายอะไรเกิดขึ้นกับองค์หญิงเลยจริงๆ”
“ว่าแต่ตอนที่แกช่วยองค์หญิง มีคนจำแกได้หรือเปล่าวะไผท”
ไผทยิ้มแหยๆ เพราะจำได้ว่าตอนนั้นมีคนถ่ายรูปไว้ด้วย รีบเปลี่ยนเรื่อง
“ผมขอตัวก่อนนะ ผมต้องรีบกลับไปทำงาน
ทางด้านเจ๊ฟินออกอาการกระสับกระส่าย ดูนาฬิกา โทร.หาคนขับรถที่ให้ไปดูที่คอนโดไผทอยู่
“ยามที่คอนโดก็บอกว่าไม่ได้กลับเข้าไปเหรอ ขอบใจมากน้ากล้วย” ฟินวางสายอย่างหงุดหงิด “ไปไหนเนี่ยไผท ชั้นอยากตายจริงๆ”
ผู้ช่วยวิ่งถือ IPad เข้ามาหน้าตื่น “พี่ฟินคะพี่ฟิน”
ฟินเหวี่ยงใส่ “อะไรอีกล่ะหนู” “หนูรู้แล้วค่ะ ว่าไผทอยู่ที่ไหน”
ผู้ช่วยพูดพร้อมกับยื่น IPad ให้ฟินดู ฟินกดดูงงๆ
ที่หน้าจอ IPad เห็นคลิปที่ไผทช่วยโลลิต้าถูกอัพขึ้นเฟสบุ๊ค “คลิปเด็ด” และถูกแชร์อย่างรวดเร็ว มีคนกด like เป็นหมื่น
คลิปเหตุการณ์ที่ไผทสู้กับผู้ร้ายที่ขโมยกระเป๋าโลลิต้า จบลงที่ไผทดึงแขนโลลิต้าวิ่งออก โลลิต้าหันไปมองเห็นว่าคนที่ช่วยเธอคือ ไผท เผยให้เห็นใบหน้าหน้าโลลิต้าอย่างชัดเจน
ลูกค้า 2 คน ในร้านขิงกำลังดูคลิปนั้นอยู่พร้อมเม้าท์กันสนุกปาก
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครอ่ะ กิ๊กใหม่ของไผทเหรอ” ลูกค้า 1 ถามเพื่อน
ลูกค้า 2 ว่า “ไม่เห็นต้องตาม สนิทสนมจับมือถือแขนกันขนาดนี้ กิ๊กชัวร์”
“ไผทนี่เจ้าชู้จริงๆ นะ ว่ามั้ย”
ขิงที่กำลังพับชุดอยู่ได้ยินคำว่ากิ๊กใหม่ไผทก็ชะงัก เดินมาดูที่ IPad ของลูกค้าทันที
“ไหนเหรอคะกิ๊กใหม่ไผท”
ลูกค้ายื่น IPad ภาพที่กดค้างใบหน้าโลลิต้าให้ขิงดู ขิงชะงัก เห็นใบหน้าองค์หญิงชัดเจน
ข่าวแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ภาพในจอทีวีเป็นรายการเม้าท์ข่าวบันเทิง สองสาวเล่าเรื่อง
พิธีกร ดอย เม้าท์ออกรส “อุ๊ย...แมนมากๆ เลยนะคะน้องไผทของเรา ต่อสู้เก่งยังกับเจ็ทลี” พิธีกรคู่หู แหม่ม เสริม “มิน่าล่ะ ที่หายหน้าหายตาไปหลายเดือน เพราะแอบไปซุ่มมีรักใหม่กับสาวปริศนาคนนี้แน่ๆ”
“ว่าแต่สาวปริศนาคนนี้เป็นใครเนี่ย...รู้มั้ย” ดอยถาม หูตาแพรวพราว “ยังไม่รู้ค่ะ แต่ถ้าได้ความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า เธอคนนี้เป็นใคร เรา 2 สาวจะคาบเอาเรื่องนี้มาบอกท่านผู้ชมทันทีค่ะ!”
บ่ายวันเดียวกันนั้น นายกดปิดทีวีหลังดูรายการสองสาวเล่าเรื่องจบลง นายยืนอยู่กับจีจี้ หน้าตาดูซีเรียสมากทั้งคู่
“ท่านธูลอุตส่าห์ตั้งใจส่งองค์หญิงมาเงียบๆ แต่ดันมาเป็นข่าวกับไผทแบบนี้ แล้วถ้าคนรู้ว่าองค์หญิงเป็นใครเราต้องซวยแน่เลยนาย”
นายแอบกังวลเหมือนกัน “ใจเย็นๆ ก่อน คนคงไม่รู้หรอกมั้งว่าองค์หญิงเป็นใคร
แว่นวิ่งหน้าตื่นเข้ามา พร้อมกับถือโน้ตบุ๊คตัวเองมาด้วย “พี่นาย พี่จี้! นักสืบออนไลน์กำลังสืบกันใหญ่เลยว่าองค์หญิงโลลิต้าเป็นใคร” นายตกใจ “เฮ้ย จริงดิ”
แว่นวางโน้ตบุ๊คลงที่โต๊ะพร้อมกับเปิดเว็บให้นายกะจีจี้ดู
ที่หน้าจอคอมพ์ เป็นเว็บพันทิปห้องเฉลิมไทย ตั้งกระทู้แนะนำว่า “สาวปริศนาคนใหม่ของไผทเป็นใคร”
แว่นคลิกเข้าไปดู แล้วไล่อ่านความเห็นอย่างรวดเร็ว เห็นความเห็นเขียนว่า
“นางเอกใหม่ม้างงง” / “วอนผู้จัดเอาไปเล่นละครด้วยกันที ติ่งไผทอยากเห็น” / “น่ารักกว่าลูกปูอีกเนอะ” / “เหมือนคนใน IG พี่ฟินเลย”
มีรูปจากใน IG ฟิน ตอนถ่ายที่ไร่ชาฮวาซาใต้ ถูกนำมาเทียบกับรูปในคลิปที่เห็นหน้าชัดๆ
“ใช่คนเดียวกันมั้ยเพื่อนๆ” / “คล้ายอยู่นะ” / “แต่บางมุมก็ดูไม่ใช่”
นายกับจีจี้มองรูปที่คนเอามาแปะเปรียบเทียบอย่างอึ้งๆ
“นี่พี่ฟินเคยลงรูปองค์หญิงในไอจีด้วยเหรอเนี่ย” จีจี้เครียด
“นักสืบพวกนี้ สืบกันเร็วมากจริงๆ” นายหนักใจ
“แบบนี้ไม่เกินชั่วโมงรู้แน่ๆว่า องค์หญิงเป็นใคร” จีจี้หันมามองนาย “แล้วเราจะทำยังไงกันดีคะเนี่ย”“ไอ้แนวมันปล่อยให้องค์หญิงเจอเรื่องแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย”
นายหยิบมือถือขึ้นมากดโทร.หาแนวหน้าทันที
ที่มุมหนึ่งของบ้านไก่ มือถือแนวหน้าดังขึ้น หน้าจอเห็นชื่อว่า “นาย” โทร.เข้ามา แนวหน้าตกใจ
“โทร.มาด่าแหงเลย” แนวหน้ากดรับสาย “ฮัลโหลว่าไงเฮีย”
“ไอ้แนว แกเห็นข่าวแล้วใช่มั้ย”
แนวหน้ารับจ๋อยๆ “ครับ”
“แล้วแกปล่อยให้องค์หญิงออกไปคนเดียวแบบนั้นได้ยังไง ถ้าข่าวหลุดไปว่าองค์หญิงเป็นใคร แกจะรับผิดชอบไหวมั้ย แกก็รู้นี่ว่าเรื่องที่องค์หญิงมาที่นี่เป็นความลับที่สุดของเรา” นายของขึ้น
“ขอโทษเฮีย ผมพลาดเอง เรื่องบ้าๆ แบบนี้”
นายถอนใจ ชักเห็นใจแนวหน้า “เอางี้เดี๋ยวชั้นจะรีบโทร.ไปบอกท่านนายพลราอูลให้รีบหาทางแก้ปัญหาก่อน”
ตกตอนเย็น เจ๊ฟินกำลังเดินออกมาหน้าออฟฟิศ คุยโทรศัพท์กับไผทท่าทางซีเรียสสุดๆ
“ถึงคอนโดแล้วใช่ไหมไผท รออยู่ที่นั่นเลย พี่กำลังจะตามไปคิดบัญชีกับเรา แล้วห้ามหนีออกไปไหนอีกเด็ดขาดเลยนะ”
ฟินกดวางสายแล้วกำลังเปิดประตูออกจากออฟฟิศ ก็เจอกองทัพนักข่าวออกันอยู่เต็ม
“พี่ฟินขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ”
ฟินชะงัก ไม่คิดว่านักข่าวบันเทิงไทยจะไวได้โล่ขนาดนี้
อ่านต่อหน้า 4
ค่ำนั้น ภาพข่าวในจอทีวี เห็นเป็นเจ๊ฟินกำลังโดนนักข่าวบันเทิงรุมสัมภาษณ์อยู่ เสียงดังเซ็งแซ่
“ตกลงผู้หญิงปริศนาที่อยู่ในคลิปคือเจ้าหญิงโลลิต้าแห่งฮวาซาใต้ใช่มั้ยคะ” / “เห็นจากใน IG ของพี่ฟินที่เคยถ่าย น่าจะเป็นคนเดียวกัน” / “หมายความว่าตอนนี้ไผทกับองค์หญิงมีความสัมพันธ์พิเศษกันใช่มั้ยคะ”
ฟินอึกอัก “เอ่อ...คือ...จะให้พี่ตอบคำถามไหนคะ รัวมาซะเป็นปืนกลเลย”
“ตอนนี้ไผทกับองค์หญิงมีความสัมพันธ์พิเศษกันใช่มั้ยคะ” นักข่าว 1 ถาม
“ไม่หรอกค่ะ แค่เพื่อนร่วมงานกันเฉยๆ”
นักข่าว 2 ซัก “แล้วทำไมถึงไปไหนมาไหนกันสองต่อสองละคะ”
“องค์หญิงท่านเสด็จไปตลาดกับพระพี่เลี้ยงแล้วก็ทหารติดตามด้วย...แต่พอดีเกิดพลัดหลงกันนิดหน่อยค่ะ” ฟินตอบ
นักข่าว 3 “แล้วที่ไผทหนีงานอีเว้นท์อีก เพราะไปเที่ยวกับองค์หญิงหรือเปล่าคะ”
“ไม่ได้หนีนะคะ หลังจากช่วยองค์หญิงอย่างที่ทุกคนเห็นในคลิป ไผทเค้ากลับมาทำงานตามปกติ...ไม่ได้หนีงานอย่างที่เป็นข่าวเลยค่ะ” เจ๊ฟินแจง
ท่านธูลกับราอูลกำลังดูข่าวสัมภาษณ์ฟินอยู่ ทั้งคู่ออกอาการอึ้งๆ กันไป ต่างก็เป็นกังวลเห็นได้ชัด
“ถ้าทางฮวาซาเหนือรู้ว่า องค์หญิงโลลิต้าเสด็จไปเมืองไทยแล้วล่ะก็...” ราอูลปรารภ
“เรื่องราวมันต้องวุ่นวายมากขึ้นอย่างที่เรานึกไม่ถึงแน่ๆ”
ทั้งคู่ถอนใจยาว
ขณะเดียวกันนั้น ที่ห้องทำงานชองปอล ในวังฮวาซาเหนือ ชองปอลดูไอแพดอยู่ เห็นเป็นภาพของโลลิต้าและไผทจากคลิป ชองปอลมองภาพนั้นอย่างไม่พอใจ
“นี่น้องหญิงหนีไปอยู่เมืองไทยกับมันงั้นเหรอ”
ชองปอลกำไอแพดแน่น มือเกร็งสั่นด้วยความโกรธ
คืนเดียวกัน โลลิต้ายืนคุยโทรศัพท์หน้าตาเครียดอยู่ที่มุมหนึ่งในบ้านไก่ แนวหน้า ชีฟอง มองอย่างเป็นห่วง ปิแอร์ก็อยู่ด้วย
“เพคะ แล้วหญิงจะระวังตัวให้มากกว่านี้ด้วยเพคะท่านพ่อ ขอบพระทัยเพคะ”
พอองค์หญิงวางสาย แนวหน้าถามขึ้น “ท่านธูลมีรับสั่งว่ายังไงบ้างพะย่ะค่ะ” “ท่านพ่อบอกว่า ตอนนี้รัฐบาลไทยรู้ข่าวว่าหญิงมาที่นี่ เลยจะส่งคณะมาอารักขาพร้อมกับรถนำขบวนตลอดเส้นทางค่ะ”
แนวหน้าอึ้ง “รถนำขบวนเลยเหรอพะย่ะค่ะ”
“แต่ท่านพ่อขอไว้ว่าไม่อยากให้เป็นจุดสนใจมากกว่านี้ เดี๋ยวคนร้ายจะรู้ว่าหญิงอยู่ที่นี่ ท่านพ่อก็เลยจะให้ท่านนายพลราอูลมาอารักขาหญิงที่นี่แทน พรุ่งนี้ก็น่าจะมาถึงค่ะ”
“ท่านนายพลมาเองเลยเหรอพะย่ะค่ะ” ปิแอร์ถาม
ไก่เดินเข้ามาหาพวกแนวหน้าในจังหวะนี้
“ไอ้แนว Transfer เกือบเสร็จแล้ว”
ทุกคนตื่นเต้น
บนจอคอมพ์ตอนนี้ เห็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์ Render ขึ้นมาเป็น 90% แล้ว แนวหน้า โลลิต้า ชีฟอง ปิแอร์ จ้องหน้าจออยู่กับไก่
แนวหน้าแปลกใจ “ทำไมได้แค่ 90 % เองล่ะพี่ ...ข้อมูลอีก 10 % ไปไหน”
ไก่ยิงมุก “ไปเที่ยวหัวหิน ยังไม่กลับ”
“โอ๊ย...เอาดีๆ ดิพี่ไก่ ...อีก 10 % นี่ยังไงเนี่ย” “แกจะใจร้อนอะไรขนาดนั้นวะ ตอนนี้มันกู้ได้แค่นี้ แกก็เอา 90% ที่มีอยู่ไปตัดก่อนสิ เดี๋ยวที่เหลือฉันกู้เสร็จแล้วจะรีบส่งข่าวบอก แกจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอ จนมีเรื่องมีราวอะไรกันอีก”
“นี่ตกลงสารคดีจะส่งไปตัดต่อได้แล้วใช่มั้ยคะ” โลลิต้าตื่นเต้น
“พะย่ะ เอ้ย ครับ...เดี๋ยวผมจะเข้าไปตัดพรุ่งนี้”
“งั้นพรุ่งนี้หญิงไปด้วยนะคะ”
แนวหน้าดึงโลลิต้ามาคุยกันสองคน “เอ่อ องค์หญิงอย่าไปเลยพะย่ะค่ะ มันจะยิ่งวุ่นวายไปอีก กลับไปประทับรอที่โรงแรมจะดีกว่า”
“ให้หญิงไปเถอะค่ะ...หญิงสัญญาว่าหญิงจะไม่ออกไปไหนโดยไม่บอกคุณอีก นะคะ...ขอให้หญิงได้อยู่กับสารคดีของประเทศฮวาซาใต้ทุกขั้นทุกตอนเถอะนะคะ นะคะ”
โลลิต้ามองแนวหน้าด้วยสายตาอ้อนวอน แนวหน้าดูจะลำบากใจมาก
ตอนเช้าวันใหม่ นายกำลังคุยมือถืออยู่กับแนวหน้า
“โอเคถึงห้องตัดแล้วใช่มั้ย ดูแลองค์หญิงดีๆ ด้วยล่ะ แล้วชั้นจะตามไป อะไรนะ ลืมกระเป๋า แกนี่มันแย่จริงๆ เลย”
จีจี้เดินเข้ามาหา “นาย...ท่านนายพลราอูลโทร.มาบอกว่ามาถึงกรุงเทพฯแล้ว แต่จะไปเจอองค์หญิงที่ห้องตัดเลย ไม่แวะมาที่นี่”
นายคุยโทรศัพท์ติดพันอยู่ “งั้นเดี๋ยวชั้นจะเอาไปให้แกที่ห้องตัด ทั้งกระเป๋าเลยใช่มั้ย ได้ๆ งั้นเดี๋ยวเจอกัน”
นายวางสายหันมาทางจีจี้
“ไอ้แนวมันโทร.มาบอกว่า มันลืมกระเป๋าคอมพ์ไว้ทั้งใบ ลืมหมดทุกอย่าง ไอ้บ้านี่มันเลอะเลือนขึ้นทุกทีแล้ว”
ทันใดนั้นเอง ได้ยินเสียงหวอดังเข้ามาหน้าบ้าน พร้อมแสงไฟไซเรนจากรถนำขบวน
“นั่นเสียงอะไรน่ะ”
ทั้งสองคนทำหน้าตกใจ แล้วเดินไปดูที่หน้าบ้าน
มีรถมอเตอร์ไซค์นำขบวนขับเข้ามา 2 คัน พร้อมกับรถส่วนตัวอีกคันหนึ่ง นาย และ จีจี้ ชะงัก หันไปมองเห็นที่หน้าบ้าน รถนำขบวนและรถสีดำติดฟิล์มหนาทึบขับมาจอดหน้าบ้าน รถคันหลังมีธงชาติติดอยู่โดยยังมองไม่ออกว่าเป็นธงของประเทศไหน
“รถใครมา”
“นั่นสิ...มีธงติดที่หน้ารถด้วย” จีจี้คิดๆ “หรือจะเป็นท่านราอูล”
“ก็คุณเพิ่งบอกเองไม่ใช่เหรอว่าท่านจะไปเจอไอ้แนวที่ห้องตัดเลย”
นาย กะ จีจี้เขม้นมองด้วยความสงสัยว่าเป็นรถใครกัน
ฟากราอูลกำลังโค้งคำนับโลลิต้าอยู่ในห้องตัดต่อ ที่ด้านหลังมีนายทหารฮวาซาใต้อีก 4 คน อารักขาเข้ม “ถวายบังคมพะย่ะค่ะองค์หญิงโลลิต้า”
“หญิงต้องขอโทษนะคะที่ทำให้ต้องยุ่งยากกันไปหมด”
“กระหม่อมยินดีพะย่ะค่ะ เพื่อถวายความปลอดภัยให้องค์หญิง กระหม่อมยินดีสละได้แม้แต่ชีวิตพะย่ะค่ะ”
ปิแอร์ทำหน้าซาบซึ้งใจ
ขบวนรถจอดสนิทหน้าโฮมออฟฟิศ นายกับจีจี้มองลุ้น สุดท้ายเห็นทหารฮวาซาเหนือเดินไปเปิดประตูรถให้ ก่อนจะเห็นรองเท้าของใครคนหนึ่งก้าวลงจากรถ เมื่อไล่สายตามองขึ้นไปพบว่าเป็นองค์ชายชองปอลนั่นเอง
นายกับจีจี้มองหน้ากัน อึกอักทั้งคู่
อ่านต่อตอนที่ 17