สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 16 อวสาน
อารดามาพบพงษ์ธร วางแผนร่วมกัน
“แกแกล้งยิงมาทางฉันบ้าง เพื่อความแนบเนียนของแผน โอเคไหม”
“ฉลาดที่สุด อารดาคนนี้ ชักไม่อยากจะยกให้ไอ้นายเจตแล้วสิ อยากจะเก็บไว้เป็นแม่ของลูกฉันจริงๆ”
“แกไม่มีปัญญาเลี้ยงฉันหรอก นามสกุลของแกก็จอมปลอมเปลี่ยนใหม่ ไม่ใช่ของเก่าเง่าผู้ดีดั้งเดิมเหมือนของพี่เจต แกอยู่แบบนี้ คอยให้ฉันหาเงินส่งให้แกใช้ดีที่สุด” อารดาหลอกล่อให้ตายใจ
“โอเค แม่คนฉลาดเลือกผัวได้”
“แน่ละสิ ใครจะเหมือนแกไม่มีสิทธิ์เลือกเมียได้ แม้กระทั่งเหลือแกเป็นผู้ชายคนเดียวในโลกก็ไม่มีผู้หญิงเอา กลับชาติย้อนไปเกิดใหม่เป็นขันฑีซะไป๊”
พงษ์ธรหัวเราะ
“พรุ่งนี้ นังอีริน่าหย่าเสร็จ เธอจดทะเบียนเสร็จ นังอีริน่ามันตายแน่ เฮ้อ ฉันเคยอยากได้มันจนตัวสั่น วันแรกที่พบหน้า แต่มาตอนนี้ ฉันอยากเห็นมันตายตัวสั่น”
“โอเค ขอบใจ ขอให้งานของแกสำเร็จลุล่วงด้วยดี ยิงมาทางฉันแต่ห้ามยิงพลาดมาใส่ฉัน”
“แน่นอน ตอนนี้เธอมันตัวเงินตัวทองของฉัน เอ ไอ้เขมมันรีดไถเธอบ้างไหมดา”
“เปล่า ฉันไม่เคยพบเขมตั้งแต่วันที่มันมาต่อยกับแก ฉันไม่ต้องการจะพบมัน อยากจะฆ่ามัน ระหว่างมันกับแก ฉันเลือกแก เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนแต่มันไม่ใช่”
“ขอบใจ ฉันดีใจนะที่เธอเห็นฉันดีกว่ามัน”
“แน่นอน ยังไงฉันก็โกรธแกไม่ลง โอเค ตามนั้นนะ อีกห้าแสน จะตามมาทันที่ที่แกทำงานเสร็จ”
อารดาทำยิ้มยินดีให้พงษ์ธร จับมือกันแล้วเดินออกไป
อิฐส่ายหน้าไม่พอใจเมื่อได้รับรู้เรื่องราวจากเจตริน
“นี่มันร้ายแรงถึงขนาดแกกับอีริน่าต้องไปจดทะเบียนหย่ากันพรุ่งนี้แล้ว เวรกรรมแท้ๆ”
“เวรกรรมที่อีริน่าไม่ได้ก่อ เวรกรรมจากความโง่ของฉัน”
“ทีหลังหัดระแวงไว้บ้าง”
“เอาน่าอย่ามาด่ากันฉันพลาดไปแล้ว จะไปหรือไม่ไปเป็นพยานให้ฉันพรุ่งนี้”
“คนที่เขตถมไป เขาช่วยเซ็นให้ได้ ทำไมต้องเป็นฉัน”
“ไปเถอะน่า ไปเป็นกำลังใจให้ฉัน”
“ฉันไม่อยากต้องทนเห็นหน้าแกกับอีริน่า ตอนเซ็นใบหย่ากันเลย”
“แล้วฉันล่ะ...ต้องทนแยกทางกับอีริน่า ไม่ได้อยู่กับอีริน่าตลอดไป”
“คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันหรอก ฉันสังหรณ์ว่า แกกับอีริน่าอาจไม่ต้องพรากจากกันนาน”
“ขอบใจขอให้เป็นอย่างที่แกเพ้อเจ้อเถอะ”
เจตรินหม่นหมองมาก
นิกกี้ ตื่นเต้นมาก
“อีริน่าเรียกนิกกี้มาบอกว่าอีริน่าจะหย่ากับพี่เจต แล้วให้นิกกี้เสียบแทนดีใจจุงเบย”
“มากไปนิกกี้ อีริน่าเรียกมาให้ไปเซ็นเป็นพยานการหย่าขาดจากคุณเจต เท่านั้น”
“หงายเงิบไปเลยเรา แต่ก็เอาเถอะถือว่าได้รับเกียรติอันสูงส่ง นิกกี้จะรอวันที่อีริน่าใจอ่อน แม้จะต้องอ่อนใจตายไปก็ตามที”
“อย่ามารออีริน่าเลยนิกกี้ อีริน่าจะกลับมอสโควแล้ว”
“อะไรนะ” นิกกี้ตะโกน
“อย่าเอ็ดไปสิ นี่คือความลับของอีริน่า รู้กันเฉพาะบางคนที่ไว้ใจได้”
“โอเค้ ได้รับเกียรติอีกละ”
“นิกกี้ อีริน่ามีอะไรแนะนำ”
“เต็มใจและยินดีทำตามคำแนะนำ”
“นิกกี้ไม่รักคุณจิตรดาราหรือ”
“เคยรัก รักปักใจ รักหัวปักหัวปำ หลงใหลได้ปลื้ม”
“ทำไมไม่กลับไปคืนดีกับคุณจิตรดารา”
“จิตรดาราทิ้งผม โผไปหานายพงษ์ธร”
“แต่นิกกี้ก็โผมาหาอีริน่าตั้งแต่วันแรกที่อีริน่าเหยียบเมืองไทย ทำไมถึงมองเห็นแต่ความผิดของคุณจิตรดารา นิกกี้เริ่มก่อนนะ”
“จริงแฮะ”
“นิกกี้กับคุณจิตรดาราเหมาะสมกันมาก กลับไปคิดให้ดีนะนิกกี้ พรุ่งนี้เจอกันที่เขต ขอบใจมากที่ยอมเซ็นชื่อเป็นพยานให้อีริน่า”
อีริน่าลุก นิกกี้พยักหน้าเริ่มครุ่นคิด
อารดามาหลอกล่อเขมชาติต่อ
“นังจิตรดารามันรู้นะว่าเขมเป็นคนเอาตัวมันไปคืนนั้น”
“ใครบอกมัน ในเมื่อมันเมาเป็นหมา”
“ก็คนที่ช่วยมันน่ะสิ”
“ใครที่ช่วยมัน”
“ไอ้นิกกี้แน่แนอน อยากได้เงินไหมเอาเป็นกอบเป็นกำ ไปทำหน้าที่เกาหลีกลับมา หล่อเป๊ะเหมือนเดิม”
“ฮ้า ทำยังไง”
“ลักพาตัวนังจิตรดารา”
“เฮ้ย มันจะง่ายๆเลยหรือ”
“มันน่าจะง่ายๆ เพราะว่านังนี่มันซ่ามันนึกว่าแน่ ไปไหนมาไหนไม่เคยระวังตัว”
“ถ้าไอ้นิกกี้มันมาช่วยอีก”
“ก็เก็บมันสิ ว่าไง ไปใช้หัวแม่เท้าตรองดู แล้วบอกฉันว่าตกลงไหมถ้าแกตกลง ฉันจะประสานงานเปิดทางสะดวกให้แก”
เขมชาติคิดหนัก อารดาดึงไปที่กระจก
“ทำอะไร”
“มองหน้าแกในกระจก แล้วนึกถึงหน้าสุดหล่อของแกก่อนโดนน้ำกรด”
เขมชาติมองแล้วคิด
“อยากจะฆ่าอีนังเมเพื่อนเธอนัก”
“ฆ่านังเมไม่ได้เงิน แต่จับตัวนังจิตรดาราได้เงิน อะไรสำคัญกว่าแกอย่าโง่”
เขมชาติคิดๆ พยักหน้า
นิกกี้โทรนัดจิตรดารามาที่ผับ จิตรดาราขับรถออกจากบ้านโดยไม่รู้ว่าเขมชาติกับลูกน้องตามมา
“นิกกี้มีอะไรกับจิต” จิตรดาราถามอย่างแปลกใจ
“ต้องมีอะไรถึงจะให้พบไม่มีอะไรไม่ให้พบหรือ”
“อย่าโยกโย้น่า มีอะไรรีบพูดมา”
นิกกี้ลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าจิตรดารา
“เรามาคืนดีกันเถอะ”
“ไอ้บ้า เราไม่ได้โกรธกันนะ”
“ที่บอกว่าให้คืนดีหมายความว่า คืนความสัมพันธ์เก่าๆให้มันดีเหมือนเดิม”
จิตรดารา ตกตะลึง
“นิกกี้พูดแมวๆ อย่ามาล้อกันเล่น เดี๋ยวโดนตบหรอก”
“นี่ไง จิตรดาราตัวจริงเสียงจริง ต้องแบบนี้” นิกกี้หัวเราะ
“ต้องการอะไรกันแน่ไอ้บ้า”
“ต้องการคืนดีกับจิตรดารา เราจะกลับมาเหมือนเดิม เที่ยวให้สนุก กินให้สนานดิ้นกันทุกคืน”
“ไม่ ฉันจะไปเรียนต่อ จะกลับมาช่วยคุณแม่กับพี่ทำงาน ฉันไม่ใช่จิตรดาราคนเดิม”
“นี่นิกกี้ไมได้ฟังผิดนะ”
“ไม่ผิดหรอก ฉันเปลี่ยนไปแล้ว”
“แล้วเรื่องที่นิกกี้นั่งคุกเข่าตรงหน้านี่ จิตรดาราจะว่ายังไง”
“วันก่อนฉันขอเธอคืนดี แต่เธอโนเค แล้ววันนี้เปลี่ยนทำไม”
“เราสองคนเหมาะสมกัน เหมือนปลากับน้ำ ฟ้ากับดาวทำไมเราไม่ใช้ชีวิตอยู่คู่กันตลอดไป”
จิตรดารามองนิกกี้
“อะไรทำให้นิกกี้เปลี่ยนกลับมาคิดแบบนี้”
“เอ้อ นางฟ้ามาเข้าฝันน่ะ นางฟ้าแสนสวยนิสัยดี”
จิตรดารามองนิกกี้ ทั้งสองจ้องตากันแล้วจิตรดาราก็โผมากอดนิกกี้
“ขอบคุณ ขอบคุณมากนิกกี้ที่ไม่รังเกียจจิต ที่ไปมีคนอื่น”
“นิกกี้เองก็แอบมีคนอื่นมากกว่าด้วยซ้ำ จิตมีหนึ่ง นิกกี้มีสิบ จริยธรรมทางคู่ครองของนิกกี้เคยเสื่อมทราม แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”
เขมชาติที่นั่งโต๊ะใกล้ๆ ฟังแล้วรำคาญ
“ปัญญาอ่อนทั้งสองคน ดีละจะจับตัวมันทั้งสองคน จะได้ค่าไถ่เพิ่ม ไอ้นิกกี้ก็ลูกเศรษฐี นี่นา”
เขมชาตินั่งมองสองคนหยอกล้อ จิตรดาราตบหน้านิกกี้
“น่ารัก”
นิกกี้หยิกแก้มจิตรดารา
“น่าเอ็นดู”
โต๊ะข้างๆมีแก้วตกลงไปกระจายเต็มพื้น สองคนสะดุ้ง หันไปเห็น เขมชาติใส่แว่นดำหน้าเละ
“ว๊าย คนหน้าผี”
“แย่กว่าผีหน้าคน ไปกันเถอะ กลัวผีหลอก จิตไปฟื้นความหลังกัน”
สองคนพากันเดินออกไป เขมชาติมองตาม กัดฟันกรอดๆ
จีรณัทย์เดินหาจิตรดาราแต่ไม่พบ จึงมาถามแหวว
“แหวว คุณจิตอยู่ไหน”
“เห็นขับรถออกไปข้างนอกค่ะ หน้าตาสดชื่นยังกับพบรักครั้งใหม่ค่ะ”
“บอกหรือเปล่าว่าจะไปไหน”
“ไม่ได้บอกค่ะ แต่แหววประเมินเอาเองว่า น่าจะไปหาคุณนิกกี้ค่ะ”
“จริงหรือ”
“ก็เห็นพูดโทรกันนะคะ วางปุ๊บยิ้มปั๊บออกไปทันทีค่ะ”
จีรณัทย์ยิ้มนึกยินดีไปด้วย อารดาแอบมองสองคนคุยกัน
“ออกไปทันที แต่กว่าจะได้กลับมา หน้าตาพวกแกคงซีดเซียวเพราะต้องจ่ายสิบห้าล้าน นังจีรนัท” อารดายิ้มสะใจ
จิตรดารากับนิกกี้ เดินเกี่ยวก้อยชอปปิ้ง ซื้อโน่นนี่นั่น จิตรดาราเอาเสื้อไปทาบกับตัวนิกกี้
“เสื้อตัวนี้ใส่แล้วหล่อ เหมาะกันนิกกี้มาก”
นิกกี้เอาชุดสวยทาบกับจิตรดารา
“ชุดนี้สวย เหมาะกับจิตที่สุด”
สองคนหัวเราะให้กันแอบจุ๊บแก้มกัน เขมชาติแอบมอง
“ปัญญาอ่อนทั้งคู่”
นิกกี้หันมาเหมือนรู้สึกว่าโดนแอบมอง
“เอ๊ะ”
“เป็นอะไร”
“เหมือนโดนผีแอบมอง”
“บ้า ผีน่ะมันอยู่ที่ร้านเมื่อกี้ คนอะไรอัปลักษณ์เห็นแล้วอยากจะอ๊วก”
เขมชาติยิ่งแค้นหนัก
อีริน่านั่งน้ำตาไหลพราก หยิบมือถือที่มือถือมีรูปเจตรินมามอง อ่านข้อความที่เขาส่งมาให้หลายข้อความแล้วยกโทรศัพท์มาจูบ
“สุดท้ายความรักของเราก็เหลือแค่รูปถ่ายในมือถือ กับข้อความที่อีริน่าได้รับเท่านั้น”
เจตรินนั่งอยู่ริมสระน้ำในบ้านถอนใจไปมา เขานึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เคยอยู่ร่วมกับอีริน่า วันแรกที่พบกัน วันแต่งงาน
“อีริน่า ที่รัก ชาตินี้ผมจะไม่มีวันรักใครได้อีกนอกจากอีริน่าคนเดียวเท่านั้น”
เจตรินถอนใจต่อ
ในห้องอาหารร์...จีรณัทย์นั่งมองอาหารมองเก้าอี้ข้างๆ เซ็งๆ แล้วมองหน้าศรีกับแหวว
“นี่แปลว่าฉันต้องนั่งกินข้าวคนเดียวหรือ”
“คุณเจตนั่งตาละห้อยเอาแต่มองสระน้ำ เผื่อว่าจะเห็นเงาในน้ำเป็นหน้าคุณอีริน่ามังคะ” ศรีบอก
“อ้อ แล้วคุณจิตก็ยังไม่กลับ แล้วก็ไม่โทรมาบอก” จีรณัทย์บ่นๆ
แหววแทรกขึ้น
“บอกค่ะ บอกว่า กินข้าวแล้ว กำลังจะไปดิ้นค่ะ”
“อ้าว ไหนว่าเลิกแล้ว”
“เลิกแล้วเจ็ดวันค่ะ แหมแต่เธอไปกับคุณนิกกี้ซี้เก่า จะห่วงไปทำไมกันคะ สมัยก่อนไปกันทีเธอกลับเอาเช้า บ๋อยบ่อย”
จีรณัทย์หันมามองหน้า แหววเงียบไป
“แล้วคุณอารดา”
“แหวะ” สองคนส่งเสียงพร้องกัน
“อะไรนะ”
“คือว่า คุณอารดาเธอเหม็นทุกอย่างในโลกนี้ เธอเห็นแล้วเธอแหวะค่ะ”
“อะไรกันนี่”
จีรณัทย์เดินออกไป ศรีจิ้มหน้าแหวว
“แกพูดจนคุณจีกินข้าวไม่ลง”
“เธอกินข้าวไม่ลงเพราะไม่อยากกินคนเดียว แห้งเหี่ยวหัวโตต่างหาก”
สองคนคิกคักกันไป
เจตรินนั่งมองสระน้ำ เห็นเงาของจีรณัทย์ปรากฏขึ้น
“อีริน่า”
“พี่เอง”
เจตรินหันไปมอง
“พี่จี มาตามผม”
“ไปกินข้าวเถอะ”
“น้องจิตกลับมาหรือยังครับ”
“เห็นโทรมาบอกแหววว่าจะไปดิ้น”
“อ้าว”
“ได้ยินว่ากลับไปคืนดีกับนิกกี้แล้ว”
“อ้อ ความจริงเทียบระหว่างนิกกี้ กับ พงษ์ นิกกี้จริงใจกว่าไม่ปลิ้นปล้อน เราก็แค่เตือนให้น้องอย่าทำอะไรเกินเลยมากเกินไปนะครับ”
“จ้ะ น้องจิต คงมีบทเรียนที่ดีมามากพอแล้ว เอ้อ...พี่มีเรื่องแปลกใจสงสัย”
“อะไรครับ”
จีรณัทย์จูงแขนเจตริน พยักหน้าให้ออกไปกินข้าว
จีรณัทย์กับเจตรินนั่งลงกัน แหววกับศรีสอดรู้เต็มที่ จีรณัทย์หันไปไล่
“แหวว ป้าศรี ออกไปก่อน”
“เอ้อ แล้วใครจะคอยรินน้ำ เติมอาหารคะ” แหววแย้ง
“อาหารเต็มโต๊ะกินสิบคนยังไม่หมดจะเติมทำไม ออกไปเถอะ ถ้ามีอะไรจะเรียก”
“ไม่เชิญคุณดามาทานด้วยหรือคะ เผื่อว่าเธอจะหิว” ศรีถาม
“เอ๊ะ เมื่อกี้แหววเพิ่งบอกว่าเขาเหม็นอาหารทั้งโลก”
แหววยิ้มแห้งๆถอยออกไปกับศรี สองพี่น้องหันมาพูดกันต่อ
“ว่ามาครับพี่จี”
“แหวว กับป้าศรีพูดจาประมาณว่า อารดาแพ้ท้อง อารดาท้องจริงๆด้วย”
เจตรินตะลึง
“แพ้ท้อง ไม่นะ ไม่ใช่ผมแน่”
อารดาก้าวเข้ามา ยิ้มเย้ย
“แล้วจะให้ดาไปท้องกับใคร ในเมื่อคนที่ข่มขืนดาคือพี่เจต”
“เพิ่งจะผ่านไปเดือนเดียวเท่านั้นแล้วก็...”
“ครั้งเดียวก็เกินพอที่จะท้องได้ เดือนเดียวก็เกินพอที่จะบอกได้ว่าใครคือคนที่ทำให้ดาท้อง ทำไมไม่ยินดีกับดาล่ะคะว่าเราจะมีลูกด้วยกัน สุภาพบุรุษสุดวิเศษอย่างพี่เจตน่าจะอยากมีลูกนะคะ ทำไมทำหน้าเหมือนอยากให้ดาไปเอาเด็กออก”
เจตรินตกใจ ไม่ได้คิดแบบนั้น
“อย่าทำอย่างนั้น”
“ขอบคุณมากค่ะ ดาขอกินข้าวด้วยนะคะ”
อารดาลงนั่งกินแล้วก็อาเจียน
“แหวะ”
จีรณัทย์เบือนหน้าหนี เจตรินลุกขึ้น อารดาปรายตามอง แล้วลุกขึ้นมาเอาสองมือรัวทุบที่ท้องของตัวเองอย่างแรง
“เด็กบ้า พ่อแกเขาไม่อยากให้มาเกิด ก็ดันมาเกิด ไป ไปให้พ้นท้องฉัน”
เจตรินกับจีรณัทย์ตกใจ
“อารดา”
“หยุดนะ”
“ไม่หยุด”
อารดายังทุบท้อง จีรณัทย์เข้าไปดึง เจตรินเข้าไปฉุด อารดาร้องไห้โฮๆ
ในผับ...นิกกี้กับจิตรดารา เต้นรำ สนุกสนาน
“จิตได้รับบทเรียนที่ดีมากพอแล้ว วันนี้จิตจะเอาแต่พอสมควร ไม่ซ่าจนถึงเช้าอย่างที่เคยแล้ว”
“โอเค้ ถ้าอย่างนั้นเราจะหยุดซ่าส์กันกี่โมงดี”
“เที่ยงคืน เป๋ง กลับบ้าน บ้านใครบ้านมัน”
“ไม่ด้าย นิกกี้จะขับรถตามไปส่งจิตดึงบ้าน รอให้จิตขับรถหายไปในบ้าน นิกกี้ถึงจะกลับ”
จิตรดารายิ้มหวาน
“น่ารัก”
“น่าเอ็นดู”
เขมชาติแอบมอง
“อยากจะอาเจียน”
นิกกี้หันไปมอง เขมชาติหันไปอีกทาง
“เอ๊ะ”
“เป็นอะไรนิกกี้”
“เหมือนว่าผีมันตามมาหลอกถึงผับ”
“ผีมันอยากดิ้นน่ะสิ เพ้อเจ้อน่า”
จิตรดาราดึงนิกกี้ให้หันกลับมาดิ้นกันต่อ
มุมหนึ่งในบ้านศรินทร์...อารดารับโทรศัพท์จากเขมชาติ
“ดีมาก จัดการมันให้ได้ แล้วจะเอารางวัลไปให้นอกเหนือจากที่แกไปเรียกค่าไถ่มัน”
อารดาวางสาย แล้วยิ้ม
“แซะมัน กัดกร่อนมัน ทีละตัวสองตัว ทีละเล็กทีละน้อย”
แหววเข้ามาถาม
“คุณดาแพ้ท้อง อยากจะกัดจะกินอะไรหรือคะ”
“สะเออะ ถ้าฉันแพ้ท้องอยากกินแกแกจะให้กินไหม ไปให้พ้น”
อารดาหาอะไรขว้างใส่ แหวว วิ่งถอยหนี
เขมชาติหลบมุมแถวมุมหน้าผับ เก็บมือถือ สมุนเดินมาบอก
“มันออกมากันแล้วครับ ลูกพี่”
“ดีมาก ฉันจะออกไปจัดการนังผู้หญิง แกไปจัดการไอ้ผู้ชาย”
เขมชาติกับสมุนเดินย่องออกไป
เจตรินนั่งกุมขมับ จีรณัทย์เดินมาโอบน้องปลอบโยน
“พี่เข้าใจเจต แต่มันช่างบังเอิญเหลือเกิน บังเอิญจนพูดไม่ออก จะโต้แย้งอารดาก็ไม่เต็มปาก”
“ถ้าผมจะว่าเขาหลอกลวง มันก็ดูว่าผมเลวร้ายมาก แต่ผมสงสัยว่าเขาแกล้งท้องหรือว่าท้องจริงกันแน่ ไม่อยากจะคิดว่าไปท้องกับใครมาแล้วมาโทษผม”
“พี่ขอให้เขาแกล้งท้อง แม้ว่าพี่อยากมีหลาน แต่พี่ก็ไม่สบายใจกับหลานคนนี้จริงๆ”
เสียงมือถือของจีรณัทย์ดังขึ้น เธอมองแล้วดีใจ
“น้องจิตโทรมา...ฮัลโหลน้องจิตอยู่ที่ไหน”
จิตรดาราพูดโทรศัพท์กับจีรณัทย์อยู่ที่จอดรถหน้าผับ
“จิตกำลังจะกลับบ้านแล้วค่ะ จิตแค่มาฉลองลมพัดหวนของจิตกับนิกกี้ค่ะ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันค่ะ รักนะคะ บอกพี่เจตด้วยว่าจิตเป็นเด็กดีแล้วค่ะ”
จิตรดาราตัดสาย หันมาบอกนิกกี้
“ขับรถตามกันไปนะนิกกี้”
“โอเค้”
สองคนเดินไปยังรถตัวเอง เขมชาติแอบตาม
จีรณัทย์และเจตรินเบาใจเรื่องจิตรดารา
“พี่เบาใจเรื่องน้องจิตไปได้สักที”
“เบาใจเรื่องน้องจิตเบาใจเรื่องพี่จี แต่กลับมาหนักใจเรื่องผมคนเดียว”
“พี่ยังมั่นใจว่า คนดีอย่างเจต คงไม่พบแต่สิ่งเลวร้าย มันมาแล้วมันก็ผ่านไป”
“แต่เวลานี้ดวงใจของผมกำลังหลุดลอยไปจากอกนะครับ อีริน่ากำลังจะหลุดลอยไปจากผม พรุ่งนี้แล้ว พรุ่งนี้ทุกอย่างจะจบสิ้น”
เจตรินหม่นมองมาก จีรณัทย์จับมือเจตรินมาบีบให้กำลังใจ
นิกกี้พาจิตรดารามาขึ้นรถแล้วโบกมือให้กัน
“บ๊ายบายเจอกันหน้าประตูบ้านจิตนะ”
“บ๊ายบาย เจอกันหน้าประตูบ้าน แล้วค่อยกู๊ดไนท์คิส”
จิตรดาราค้อน
“ไอ้บ้า ทะเล้นดีนัก”
จิตรดาราขับรถออกไป นิกกี้เดินมาที่รถตัวเองกดรีโมท ยังไม่ทันเปิดประตูขึ้น สมุนมาด้านหลังเอาปืนมาจี้
“เปิดประตูรถ แล้วไปเขยิบไปนั่งด้านโน้น ฉันจะขับให้แกเอง”
“เฮ้ย อะไรกันนี่”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากว่า แกโดนลักพาตัว ไปเรียกค่าไถ่จากเตี่ยของแก”
“บ้า”
นิกกี้ขยับ สมุนกระแทกปืนใส่
“ถ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่ไปกู๊ดไนท์คิสแฟนแก ก็ไปกับฉันเงียบๆ”
“เฮ้ย ถ้าอย่างนั้น จิตรดารา”
“ถ้าจะไปกับลูกพี่ฉันแล้วล่ะ งานนี้มีฮันนีมูนด้วยว่ะ เสียใจด้วยนะ ไอ้ตาตี่”
นิกกี้จำใจเปิดประตูรถ
จิตรดาราขับรถอารมณ์ดีมาก
“พอกันทีชีวิตที่มีแมงดาขี่หลัง เฮ้อ ชีวิตช่างงดงาม”
ทันใดนั้นมีหน้าผีของเขมชาติโผล่มาที่กระจกหลัง
“ไม่งดงามแล้วมั้งคนสวย”
จิตรดาราตกใจสุดขีด
“อ๊าย...แก ไอ้ผีที่ร้านอาหาร”
“ถูกต้อง”
“แกตามเรามาตลอด”
“แน่นอน แต่เวลานี้แฟนของคนสวยไม่ได้ตามมาแล้วนะ”
จิตรดารามองไปด้านหลังไม่มีรถของนิกกี้ตามมา มีแต่รถคนอื่น
“แกทำอะไรนิกกี้”
“คิดแนป รู้จักไหม คนสวย”
จิตรดาราหน้าตื่น
“แกลักพาตัวเขา”
“และลักพาตัวคนสวยด้วย”
จิตรดาราร้องลั่น
“อ๊าย...”
“สิบห้าล้าน สองคนสามสิบล้าน”
“อ๊าย”
“แถมให้ผีข่มขืนด้วยสำหรับคนสวย”
“อ๊าย”
เขมชาติหัวเราะชอบใจ
อารดาแอบหัวเราะหลังจากพูดสายกับเขมชาติ
“ครั้งที่แล้วแกพลาด ครั้งนี้แกลุยตามสบาย ดีมาก จะรอดูว่าคนบ้านนี้มันจะว่ายังไงกับเงิน15ล้าน”
อารดาตัดสาย จีรณัทย์กับเจตรินเดินมาบ่นไปด้วย
“น้องจิตกำลังจะกลับบ้าน นี่นานเป็นสองชั่วโมง ยังไม่กลับมา”
เจตรินเป็นห่วง
“หรือว่ามีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น เพราะต่อหานิกกี้ก็ไม่รับสาย”
สองพี่น้องร้อนรนกลุ้มใจ อารดาแอบมองแอบฟังแล้วสะใจ
“สะใจจริงๆ”
จิตรดาราโวยวายถูกเขมชาติควบคุม เธอรู้สึกแปลกใจ แต่ก็จำเขมชาติไม่ได้
“แกเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันคุ้นเสียงแกมาก เพียงแต่หน้าตาแกที่ไม่ใช่...”
“ใช่หรือไม่ใช่ อย่าไปสนใจเลยคนสวย นี่โทรศัพท์ของคนสวย โทรกลับไปหาพี่สาวพี่ชาย บอกให้เอาเงินมาแลกตัวแก 15 ล้าน”
“แกรู้จักพวกฉันแน่ๆ”
“ใครบ้างไม่รู้จักพวกไอศูรย์ศรินทร์ ผู้ดีที่มีเงินมากมาย ถ้าภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง เงินไม่มาจิตดาราคนสวย จะโดนฆ่าและข่มขืน”
“ไอ้บ้า สารเลว”
เขมชาติยื่นมือถือไปถึงปากจิตรดารา
“ต่อโทรศัพท์เดี๋ยวนี้”
จิตรดารากัดมือ
“ไม่”
เขมชาติตบหน้า
“โอ๊ย”
“อย่ามาโยกโย้ จะข่มขืนซะตอนนี้ดีไหมนี่”
“อย่านะ”
“ก็รีบบอกพี่แกสิ”
“ก็ได้ แต่ฉันไม่รู้หรอกว่า พี่สาว พี่ชายฉัน เขาจะว่ายังไงแกอย่าเพิ่งฝันหวาน”
“ปากดีเสมอต้นเสมอปลายจริงนะ จิตรดารา ช่างน่าปราบพยศแท้ๆ”
เขมชาติจับแก้ม จิตรดาราปัด
“แกคงอยากได้เงินสิบห้าล้านมากกว่าตัวฉันเพราะหน้าตาแกมันหิวเงินเต็มที่ถ้าแกขู่มาก ฉันจะยอมตายดีกว่ายอมให้เงินแก 15 ล้าน จิตรดาราคนนี้ชอบเอาชนะ ไม่ชอบให้มาข่มขู่”
เขมชาติชะงักไปนิดหนึ่ง รู้นิสัยว่าเธอแสบ ยกมือถือขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
จีรณัทย์กับเจตรินใจจดใจจ่อรอจิตรดารา
“บ้าจริงน้องจิตไม่รับสาย”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจีรณัทย์มองเบอร์
“น้องจิตโทรมาแล้ว”
สองคนดีใจรีบรับสาย
“น้องจิต”
เสียงจิตร้องไห้มาตามสาย จีรณัทย์ตกใจ
“น้องจิตเกิดอะไรขึ้น”
“น้องจิต รีบบอกพี่สิ” เจตรินเป็นห่วงมาก
สองคนรอฟัง อารดาแอบมองสะใจ
“สำเร็จ นังจิตดารา ฉันแก้แค้นแกสำเร็จแล้ว ได้เงินปุ๊บ ยิงแกทิ้งปั๊บ”
จิตรดารายังคงร้องไห้ เสียงเจตรินกับจีรณัทย์ยังคงเรียกน้อง
“น้องจิต น้องจิต”
เขมชาติกระชากมือถือไปจากจิตรดารา
“แกสองคนฟังนะ น้องสาวแกโดนฉันจับตัวมาเรียกค่าไถ่ สิบห้าล้านแกเอาเงินมาแลกตัวน้องสาวภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่อย่างนั้น รายการฆ่าข่มขืนมีแน่ ห้ามบอกตำรวจ เวลาและสถานที่นัดหมาย จะบอกอีกที”
จิตรดารากรี๊ดลั่น เขมชาติเอามือถือไปจ่อที่ปากของเธอ
จีรณัทย์ร้องไห้โฮลั่น
“น้องจิต โธ่น้องจิต”
เจตรินปลอบพี่ ขณะที่ตัวเองก็เครียด
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่จีทำให้นิ่งเข้าไว้ ยังไงเราก็จ่ายเงินให้มันไปสิบห้าล้านมันก็จบ”
“พี่กลัวมันจะหักหลังฆ่าข่มขืนน้องจิต”
อารดา ยิ้มสะใจรำพึงในใจ
“ฉลาดรอบคอบเหมือนเคยนะจีรนัทย์ แกก็อีกคนสมควรโดน ขอให้ผ่านการจดทะเบียนไปก่อนเถอะ”
จีรณัทย์สงบแล้ว เจตรินกระซิบเบาๆ
“เอาเงินในเซฟไปให้มัน”
“มันยังไม่โทรกลับมาบอกที่นัดหมายนะ”
เจตรินหันมองไปรอบๆ อารดาแอบหลบแว่บ เจตรินขมวดคิ้ว เห็นอะไร แว่บๆ
“เราจะไม่พูดเสียงดังให้ใครได้ยิน ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น ไปเปิดเซฟเตรียมเงิน แล้วผมจะส่งข้อความไปหาไอ้อิฐให้จับสัญญาณว่ามันโทรมาจากไหน จะถ่วงให้มันพูดกับเรานานๆ”
“จ้ะ”
สองคนพี่น้องพากันเดินหายไป อารดามองตาม
“พี่เจตซุบซิบอะไรกับจีนะ”
อิฐอ่านข้อความ
“ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกอีก แล้วพรุ่งนี้จะไปจดทะเบียนหย่ากันไหวหรือนี่”
อิฐปวดหัวแทน
จิตรดาราร้องไห้กระซิกๆ
“ร้องไห้ไปทำไมกับเงินแค่นี้ พี่แกแม่แกไม่สะเทือนหรอก”
เสียงโทรดังขึ้นเขมชาติรับสาย
“พี่แกโทรกลับมา เห็นไหมว่ามันร้อนใจมาก” เขมชาติพูดโทรศัพท์ “ฮัลโหลน้องสาวพวกแกร้องไห้เหมือนกำลังจะตาย”
“โฮๆ พี่จี พี่เจตขา จิตเกลียดไอ้หน้าผี”
เขมชาติหันไปตบปากจิตรดารา
เจตรินพูดกับเขมชาติ แกล้งกวน
“แสดงว่าแกเป็นคนหน้าผี ฮะๆ”
“ไอ้บ้า แกโทรมาจะว่าอะไรรีบพูดมาอย่าอู้”
“ก็ได้ อย่าทำร้ายน้องสาวฉัน เมื่อกี้แกตบตีเธอ”
“วะ บอกว่ามีอะไรให้รีบพูดมาสิวะ”
“อยากให้แกรับปากว่าน้องฉันจะปลอดภัยที่สุด แกอยากได้เงินเร็วๆฉันรู้นะ”
จีรณัทย์มองปลื้มเจตรินมาก อารดาแอบมอง แปลกใจที่เจตรินดูไม่ตกใจเลย
“เออสิวะ แต่นี่มันดึกแล้ว ฉันเลยให้เวลาแกยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“คนอย่างพวกเราไอศูรย์ศรินทร์ไม่ต้องรอถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอก”
“อะไรนะ”
“สิบห้าล้านพร้อมแล้ว บอกที่นัดหมายมา ฉันต้องการเอาเงินไปให้แกตอนนี้”
“อะไรนะ”
อารดา ตื่นเต้น
“อะไรกันนี่”
อิฐอยู่กับเพื่อนตำรวจที่กองปราบ มองหน้ากล่องจับสัญญาณหาที่อยู่ของเขมชาติ
“จับได้แล้วว่าพวกมันอยู่ที่ไหน” เพื่อนบอก
“เยี่ยม”
อิฐจับมือเพื่อน
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
นิกกี้โดนมัดนั่งเก้าอี้อยู่ มีสมุนสองคนมองอยู่
“พวกแกต้องการเงินใช่ไหม เท่าไหร่บอกมาสิ”
“นายบอกว่า รอให้นายจัดการแฟนแกสำเร็จก่อน แล้วจะมาจัดการแก”
“แล้วทำไมแกต้องรอนายแก ทำไมแกไม่เอาเงินจากเตี่ยฉันตอนนี้ แล้วเอาไปเลย แล้วบอกนายแกว่า แกทำงานพลาดฉันดันหนีไปได้”
สมุนสองคนมองหน้ากันเริ่มอยากได้เงินแต่กลัวเขมชาติ
“เราทำตามคำสั่งนายเท่านั้น”
“นายแกให้ค่าจ้างงานนี้เท่าไหร่ อย่างมากก็ไม่เกินคนละหมื่นบาท”
สองคนมองหน้ากันกระซิบ
“คนละห้าพันเอง”
นิกกี้พูดขึ้นเสียงดัง
“แต่ฉันให้แกคนละแสนบาท”
“หา” สองคนตกใจ
“หานานแค่ไหนที่แกจะได้แสนบาท กี่เดือนหรือ แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น คนละแสนบาทถึงมือแกแน่”
สองคนมองหน้ากัน
“ฉันจะโทรหาเตี่ย เตี่ยจะส่งไอ้ส้มตำกับไอ้สำรวจ เอาเงินมาให้พวกแกทันที เอางี้ ให้แกคนละแสนห้า ไม่เอาก็ตามใจแก”
สองคนหน้าตื่น
“ฮ้า...”
นิกกี้ยิ้ม
เขมชาติมัดมือผูกตาจิตรดารา เขมชาติหัวเราะ
“พี่แกรักแกมากนะจิตรดารา อย่างแกนี่มันน่าเอาเป็นเมียซะจริงๆ จะได้ไปเป็นเขยไอศูรย์ศรินทร์ บ้านแกคงมีเงินให้ผลาญสนุกไปเลย เอหรือว่าแกเคยโดนใครผลาญมาแล้ว”
“อย่าพูดมาก อยากได้เงินก็รีบไปเอาเร็วๆเข้า ฉันเบื่อหน้าผีๆของแกเต็มที่แล้ว”
เขมชาติ เอาเชือกหมามาจูงจิตรดาราเหมือนจูงหมา
“ไป อย่าพูดมาก”
คฤหาสน์ ของนิกกี้...เตี่ยส่งเงินในซองให้ส้มตำและสำรวจคนละซอง
“ในซองนี่มีซองละแสนห้า พวกลื้อสองคนเอาไปให้พวกมัน ให้ไวเดี่ยวนี้แล้วรีบเอาตัวอาตี๋ของอั๊วกลับคืนมา”
ส้มตำรับซองเงิน
“เจ้าสัว ไม่เสียดายสามแสนนี่หรือครับ”
“เสียดายชีวิตอาตี๋มากกว่า ถามทำไมวะ”
“เผื่อว่าเจ้าสัวอยากได้เงินคืน เราจัดให้ได้” สำรวจแทรกขึ้น
ส้มตำมองเตี่ย
“ได้เงินคืน ให้เราเท่าไหร่”
“เอาไปเลย ค่าปากหม้อคนละห้าหมื่น”
“เขาเรียกค่าปากถุง ไม่ใช่ปากหม้อ” สำรวจรีบแก้
“หวาน” สองคนมองหน้ากัน
เตี่ยหน้าตาดุเสียงเข้ม
“แต่ถ้าลูกอั๊วมีอันตราย ลื้อสองคน ตาย”
สองคนสะดุ้ง
อิฐและเพื่อนตำรวจกองปราบ ซุ่มอยู่ใกล้ๆนั่นนัดหมาย มอบตัวจิตดารา
“ตกลงว่าเราจะซุ่มดูจนกว่ามันได้เงิน แล้วส่งน้องจิตกลับคืนมา เราถึงตามไปจับมันพร้อมของกลาง ใช่ไหม”
“ถูกต้อง อีกหน่วยจะดักแถวที่พักมัน ที่สัญญาณจับได้ เผื่อมันกลับไปที่พัก”
“โอเค นั่น มีความเคลื่อนไหวแล้ว”
สองคนมองไป
เจตรินเดินถือถุงลักษณะถุงขยะ ตรงมาที่ถังขยะยกถุงโชว์ เขมชาติใส่แว่นดำ พาจิตรดาราที่ถูกผูกตามายืนห่างออกไป
“เงินอยู่นี่”
“พี่เจต”
จิตรดาราจะวิ่งไป เขมชาติกระชากจูงกลับ
“ขอนับก่อน”
“สิบห้าล้านนี่นับกันนานมากนะ จะรอให้ตำรวจสายตรวจผ่านมาหรือไง”
พูดจบเจตรินเทเงินลงไปกองที่พื้น เขมชาติตกใจ
“เฮ้ย...”
“ให้น้องจิตมานับก็ได้”
“ดี จิตดาราเดินไปนับสิครบสิบห้าไหม อย่าตุกติกปืนของลูกน้องฉันจ้องอยู่ ปืนฉันด้วยอีกกระบอก”
เขมชาติเปิดผ้าผูกตาจิตรดารา
“ว่ายังไงคะพี่เจต”
“โอเค น้องจิตมานับเงิน”
เขมชาติปล่อยเชือกจิตรดารา ยาวขึ้นแต่มือเขายังจับเชือกไว้ จิตรดาราเดินมาหาเจตริน แล้วนั่งนับเงิน มีเจตรินยืนค้ำอยู่
อารดาแอบอยู่มุมหนึ่งถือปืนจ้องจิตรดาราอยู่
“นังจิตดารา รอให้ไอ้เขมจับเงินก่อนเถอะ ฉันจะยิงหัวแกให้กระจุย นังมารปากเสีย แต่ทำไมพี่เจตต้องไปยืนใกล้มันด้วย แถมมาบังทางปืนอีก บ้าจริง”
อารดาเล็งปืนไปมาอย่างหงุดหงิด
จิตรดารานับเงินแล้วเงยหน้ามาบอกเขมชาติ
“ครบสิบห้าปึก แต่ถ้าแกจะให้นับย่อยแต่ละปึก ก็เตรียมใจรอตำรวจมาพาไปขังซะ”
“หุบปาก เอาใส่ถุง แล้วเอากลับมานี่”
จิตรดารามองหน้าพี่ชาย เจตรินพยักหน้าให้น้อง จิตรดาราเอาเงินใส่ถุงเดินกลับไปที่เขมชาติที่ดึงเชือกแบบกระชาก จนจิตรดาราเซ เจตรินพูดขึ้น
“เอาเงินใส่ถุงแล้วแกปล่อยเชือกน้องฉัน ฉันจะโยนไปให้แก หรือไม่แกก็มารับเอง”
“ตกลง แกโยนเงิน ฉันปล่อยน้องแก”
“นับหนึ่งถึงสาม”
อิฐแอบมองกับกองปราบ
“ถึงช่วงสำคัญแล้ว เราทำไงผู้กอง”
“ไปดักมันทางโน้น ทางที่มันเดินมา”
“โอเค”
สองคนหันย่องไปทางที่คิดว่าเขมชาติจะเดินกลับออกไป
เจตรินตะโกน
“แกก็อย่าตุกติก พอครบสามแกรีบปล่อยน้องฉัน”
เขมชาติรับคำ
“โอเค”
เจตรินนับ
“หนึ่ง สอง...”
จิตรดาราตั้งท่า
อารดาที่แอบอยู่ตั้งท่า บ่นคนเดียว
“อย่าปล่อยนะไอ้เขม อย่าปล่อยเด็ดขาด กระตุกมันไว้”
เจตรินนับสาม
“สาม”
เจตรินโยนเงินทันที ถุงเงินลอยไป เขมชาติยิ้ม ปล่อยจิตรดาราวิ่งไปมาหาเจตรินมีเสียงปืนดังขึ้น ทุกคนตกใจ เขมชาติหมอบ ไม่รับถุงเงิน เจตรินตะโกน
“น้องจิตหมอบ”
เจตรินกระโดดมาหาน้องกดให้หมอบ แล้วชักปืนออกมา ถุงเงินกลับโดนปืนลึกลับที่ยิงมา เงินแตกกระจาย ตกไปคนละทิศละทาง
“เงินฉัน”
เขมชาติตะครุบเงินได้ปึกเดียว แต่กระสุนลึกลับยังยิงมา อารดานั่นเองคือจะยิงใส่จิตรดารา เจตรินยิงโต้ตอบทันที
“ก้มไว้น้องจิตมันจะยิงเรา ค่อยๆคลานไปหาที่กำบังหลังถังขยะ”
เขมชาตินั้นตะครุบเงินได้ปึกเดียวก็รีบถอยแต่ไม่ได้ถอยไปทางที่มาแต่ไปทางที่สมุนแอบยิงคุ้มกันให้
“มีกับดักแล้วแก ไอ้เจตหักหลังกู”
สมุนยิงคุ้มกันให้เขมชาติ
อารดาหงุดหงิดมาก
“บ้าเอ๊ย ไอ้เขม แกทำให้ฉันพลาดจัดการนังจิตดาราไม่สำเร็จ แถมไม่รู้ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน ขืนอยู่ต่อไปอาจมีเซอร์ไพรส์แน่”
อารดารีบถอยหลบไปทันที
สำรวจกับส้มตำ แต่งตัวเป็นกะเทย มาทำลับๆล่อๆ ร้องเพลงอ่อยเต้นไปด้วย
“มันมายัง” ส้มตำกระซิบถาม
สำรวจถามกลับ
“เห็นคุณตี๋ยัง”
สมุนพาตัวนิกกี้เดินมาข้างตู้โทรศัพท์พลางมองตามคนที่นิกกี้ชี้ไป
“นั่นไงผู้หญิงสองคน คนใช้บ้านฉัน”
สมุนมองไป
“โอเค”
“ฉันจะกวักมือเรียกคนใช้นะ”
นิกกี้กวักมือเรียก สองคนแต่งเป็นกระเทยเดินนวยนาดถือเงินปึกละแสนห้าคนละปึกร่อนชูมา สมุนสองคนตาโต
“เงิน”
“ปึกละแสนห้า”
ส้มตำดัดเสียง
“เงินร้อนๆมาแล้วจ้า”
สำรวจดัดเสียงพูดต่อ
“ส่งนายเรามาได้เลยจ้า”
สองคนเข้าประชิดสมุน ยื่นเงินให้ นิกกี้โบกมือ
“บ้ายบายไปหาที่ใช้เงินนะ”
นิกกี้มายืนกับส้มตำและสำรวจทั้งคู่ชักปืนมาอย่างรวดเร็ว สมุนตกใจ
“เฮ้ย”
ส้มตำเล็งปืนใส่
“ส่งเงินคืนมานะไอ้หัวขโมย”
สำรวจข่มขู่
“หรือว่าแกอยากตาย”
“พวกแกอย่าใจร้าย ให้มันไปคนละหมื่นตามที่นายมันจะให้แล้วไสหัวมันไปซะ” นิกกี้ปราม
สองคนนับเงินแล้วส่งเงินคืน นิกกี้รับมาแล้วให้คนละหมื่น สองคนหันหลังกลับ สองกะเทย ถีบซ้ำหน้าคะมำ
“โอ๊ย”
ส้มตำกับสำรวจรุมกระทืบซ้ำ นิกกี้ยืนหัวเราะ
เมื่อมาถึงบ้าน จิตรดาราวิ่งมาหาจีรณัทย์โผกอดกัน
“น้องจิต”
“พี่จี”
เจตรินตามเข้ามา
“ได้เงินคืนมา 14 ล้าน”
“ทำทานหมาข้างถนนไปล้านนึงค่ะ” จิตรดาราแค้นๆ
“พวกไหนกันนะ” จีรณัทย์สงสัย
“พวกที่รู้จักเราแน่ๆค่ะ เสียงมันก็คุ้นหูค่ะ แต่หน้าตามันเป็นผี”
“พี่เห็นแล้ว หน้าตามันเหมือนไปโดนอะไรมา แต่ช่างมันเถอะ น้องจิตปลอดภัยกลับมาก็โอเคแล้ว”
“แต่นิกกี้ล่ะค่ะ นิกกี้ จะโดนอย่างจิตหรือเปล่า”
อารดาแอบเข้ามาในบ้านเช่นกันชะงัก จีรณัทย์หันไปเห็น
“อารดาไปไหนมาน่ะ”
“ก็ไปหาที่ฉลองสละโสดมาไงคะ”
“ขอให้มันจริงเถอะว่าไปหาที่สละโสดมาไม่ใช่ไปหาที่แกว่งเท้าหาเสี้ยนมา”จิตรดารายอกย้อน
“ฉันอยากทำใจให้สงบ ไม่อยากทำตัวเป็นอันธพาล เธอจะว่าอะไรจะทำอะไรก็เรื่องของเธอ พี่เจตค่ะ เจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ”
อารดาตวัดสายตาไปที่จีรณัทย์กับจิตรดาราแบบหมั่นไส้มาก
โปรดติดตามต่อ เร็วๆนี้
แหวว เปิดประตูรับนิกกี้ เห็นมากับกะเทยสองคนก็ตกใจ
“ว๊าย คุณนิกกี้พาเอ้อ...”
“บอร์ดี้การ์ดสาวจ้ะ คุณจิตกลับบ้านหรือยัง”
“เพิ่งกลับมานี่แหละค่ะ”
“โล่งอก เอ้อ...ผม มีเรื่องตื่นเต้นจะบอกคุณจิต”
“เชิญค่ะ เชิญคุณบอร์ดี้การ์ดสาวด้วยค่ะ”
นิกกี้นำกะเทยสองคนตามแหววเข้าไปในบ้าน
อารดาอยู่ในห้องนอน โทรไปด่าเขมชาติอย่างหัวเสีย
“แกทำงานพลาดมากนะเขม”
“เธอนั่นแหละที่สุ่มสี่สุ่มห้า รีบร้อนด่วนยิงจิตรดารา ใช่ไหม”
“เอ้อ...” อารดาชะงักไปก่อนจะแก้ตัว “เปล่านะ คนอื่นที่พี่เจตนัดมาช่วยมั้ง ฉันไม่เกี่ยว”
“มันดันยิงไปใส่ถุงเงิน ฉันเลยได้มาแค่ล้านเดียว”
“เอาเถอะน่า ได้มาตั้งล้านก็ยังดี แล้วฉันจะหางานใหม่จ่ายดีๆให้ทำแค่นี้นะ”
อารดาวางสายหงุดหงิด
“เราไม่น่ายิงนังจิตดาราพลาดเลย บ้าจริง”
จิตรดารา เจตริน จีรณัทย์ เดินมาหานิกกี้ กะเทยสองคนยืนประกบห่างออกมา ทุกคนฟังนิกกี้เล่าแล้วตื่นเต้นไปด้วย
“นิกกี้ก็โดนเรียกค่าไถ่ 15 ล้าน” จีรณัทย์ตกใจมาก
“ครับ ไอ้หน้าผีที่ร้านอาหารนั่นแน่ๆ มันตามเราสองคนมาตลอด”
“ไอ้หน้าผีนี่แหละที่จับตัวจิตไปเรียกค่าไถ่ 15 ล้าน” จิตรดาราเสริม
“ผมห่วงจิตรดาราจะแย่ คิดว่าไม่แคล้วโดนเหมือนผม ดีใจมากครับที่พี่เจตพาจิตรดาราปลอดภัยกลับมา”
“นิกกี้ฉลาดมากที่สามารถซ้อนกล ไอ้สมุนของมันสองคนนั่นได้” เจตรินชม
จีรณัทย์มองนิกกิ้อย่างเป็นห่วง
“ต่อไปนี้ต้องระวังตัวกันมากๆ ขอบใจมาก ที่ห่วงน้องจิต”
“ครับ ผมจะดูแลจิตให้ดีที่สุดให้ดีเหมือนดูแลแม่ตัวเองเลยครับ”
จิตรดาราค้อน
“เว่อร์เสมอต้นเสมอปลาย”
นิกกี้ยิ้ม จิตรดารายิ้มตอบ
จิตรดาราเดินมาส่งนิกกี้หน้าตึก
“พอผมโดนจับตัวไปผมใจหายวับ นึกห่วงจิตขึ้นมาใจจะขาด” นิกกี้โอบไว้
“จิตก็เหมือนกัน ห่วงนิกกี้ใจแทบขาด อยู่ไม่ไหวแล้ว รีบไปเรียนต่อดีกว่า”
“ไปด้วยนะตัวเอง”
“กำลังจะชวนตัวเองอยู่พอดี ขอบใจมากที่ห่วง แล้วเจอกันนะตัวเอง”
“ขอบใจเหมือนกันตัวเอง กู๊ดไนท์ รักนะตัวเอง”
“รักเหมือนกัน กู๊ดไนท์ นะตัวเอง”
สองคนหันมาสบตากันเอามือแตะปากตัวเอง แล้วไปแตะปากอีกคนพูดพร้อมกัน
“รักนะตัวเอง จุ๊บๆ”
สองคนคิกคักกัน...อารดาแอบมองสองคนยืนน้ำตาซึมน้อยใจตัวเอง
“แม้แต่นังเด็กนรกมันก็ยังไขว่คว้าหาความรักคืนมาให้ตัวเองจนได้ แย่งพี่เจตมาจากนังอีริน่าสำเร็จ คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่จริงหรือ พี่เจตไม่มีวันรักเรา พี่เจตประกาศแล้วว่าเราจะได้แค่นามสกุล ไม่ได้แม้ตัว ทำไม ทำไม ชีวิตมันช่างโหดร้ายมากนัก”
อารดาน้ำตาไหลพราก หันกลับไปเจอเอาจีรณัทย์มายืนมองยิ้มๆ
“ร้องไห้ดีใจหรือว่าเสียใจที่จะได้ใช้นามสกุลเดียวกับพวกเรา ถ้าเป็นฉันได้นามสกุลไม่สำคัญเท่ากับได้หัวใจหรอกนะ อ้อ...แล้วก็รู้นะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้เธอน่าจะเกี่ยวข้อง อย่ามาทำอย่างนี้กับพวกฉันอีก ฉันเห็นวี่แววเวรกรรมมันกำลังตามมาถล่มเธอยับเยินเร็วๆนี้แน่อารดา ยังไม่รู้ตัวหรือแกล้งกลบเกลื่อนว่า ตอนนี้ไฟนรกมันกำลังสุมอกเธออยู่ หยุดซะตอนนี้ยังทัน”
จีรณัทย์หันกลับเดินจากไป อารดาพูดให้ได้ยินเลย ไม่แคร์ใครอีกแล้ว
“เสียใจด้วยจีรณัทย์ไฟนรกมันสุมอกฉันจนผลักไม่ออก นอกจากฉันจะได้ทำลายศัตรูให้หมดไปทีละคนทีละคน ฉันมาไกลเกินกว่าจะหันกลับ ฉันหันกลับแล้วจะมีใครหันกลับมารักฉันสักคนไหม ทุกคนใจร้ายกับฉันเอง”
อารดาน้ำตาไหลพรากสองแก้ม
วันใหม่...อีริน่ายืนแต่งตัวใส่ชุดหน้ากระจก เศร้ามาก
“เราไม่เคยทำร้ายใคร แต่ทำไมเราถึงโดนทำร้ายตลอดเวลา คุณเจตขาอีริน่าจะเก็บคุณเจตไว้ในหัวใจตลอดเวลาค่ะ”
เสียงเคาะห้องดังขึ้น
“อีริน่าแต่งตัวเสร็จหรือยังลูก ยายเข้าไปได้ไหม”
อีริน่ารีบป้ายน้ำตาที่ไหลลงมา
“เชิญค่ะ คุณยาย”
คุณหญิงพรรณรายเดินมาแล้วชะงัก
“อีริน่าทำไมหนูใส่ชุดดำ”
“อีริน่าไว้ทุกข์ให้กับความสุขของตัวเองค่ะคุณยาย”
แล้วอีริน่าก็ร้องไห้โฮ คุณหญิงกอดอีริน่าไว้น้ำตาไหลไปด้วย
อารดาอยู่ในห้องนอนโทรไปกำชับพงษ์ธร
“ห้ามพลาดโอกาสสุดท้ายของแกแล้วนะไอ้พงษ์”
“พูดเป็นลาง เหมือนฉันจะมีเหตุร้าย สุดท้ายบ้าอะไรกัน”
“เอ้อไม่มีอะไร...พูดให้แกตื่นตัว แล้วระวังตัวด้วย พวกมันโชคดีมาตลอดยาวนานเกินไป ถ้าแกทำวันนี้พลาด วันต่อไปแกหมดโอกาสแน่ เพราะมันระวังตัวกันมาก”
“อ้อ นึกว่าเธอแช่งฉันว่าวันนี้ทำพลาดฉันตาย”
“บ้า เราเป็นเพื่อนกันนะ โอเค ตามนั้นนะ”
สองคนต่างวางสาย
เจตรินหน้าหม่นหมองขรึมมาก เดินลงมากับจีรณัทย์ และจิตรดารา
“ระวังตัวด้วยนะเจต” จีรณัทย์เป็นห่วง
“ครับพี่จี พี่จีกับน้องจิตไม่ต้องไป ผมให้อิฐมันไปด้วยแล้ว”
“จิตอยากไปดูหน้าคนหน้าด้านค่ะ”
“เรามีปัญหากันมามากพอแล้ว พยายามอย่าให้มันเกิดขึ้นอีกเลยน้องจิต” เจตรินเตือนน้อง
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เดินนำหน้า แหวว ศรีตามหลังลากกระเป๋ามา จิตรดารากับจีรณัทย์ร้องออกมาพร้อมกัน
“คุณแม่”
“แต่แม่จะไปด้วย แม่ไม่กลัวปัญหาอะไรทั้งนั้น แม่อยากพบอีริน่า”
สามคนมองหน้ากัน
“คุณแม่อย่าไปเลยครับ ผมว่ามันไม่สะดวก คุณแม่เพิ่งกลับมาจะเหนื่อยนะครับ”
“แม่อยากไป อย่าขัดใจแม่สิ แม่ต้องการไปหาอีริน่า แม่อยากดูหน้าคนอยากแย่งผัวเขาตัวสั่น”
อารดาเดินลงมาแต่งตัวสวย แต่งหน้าสวยยิ้มระรื่น ทำไม่รู้เรื่องกับใครทั้งนั้น
“ดาพร้อมแล้วค่ะพี่เจต”
ทุกคนทำหน้าเบื่อ อารดาทำเป็นเพิ่งเห็นคุณหญิง
“อ้าวคุณแม่ กลับมาแล้วหรือคะ”
“ย่ะ ฉันรีบกลับมาเป็นพยาน ยืนยันความเลวของใครบางคน ของที่ได้มา โดยที่เจ้าตัวเขาไม่เต็มใจ ได้มาด้วยการบังคับขืนใจ เขาเรียกว่าปล้นย่ะ”
จิตรดาราเสริม
“ปล้นกันหน้าด้านๆ เสพติดความเลวนี่ร้ายแรงกว่าเสพยาเสพติดนะคะ”
อารดาสวน
“บางคนก็เคยเสพติดความเลวกันทั้งหัวหงอกหัวดำ พอถึงเวลาก็หนีเอาตัวรอด นี่หน้าทำด้วยอะไรกัน”
จิตรดาราผวาไปทันที ประชิดอารดา เจตรินดึงไว้ จีรณัทย์บอกน้อง
“หมากัดอย่ากัดตอบ”
อารดาหันขวับมาที่จีรณัทย์ คุณหญิงหันไปหาลูก
“ลูกจี ลูกจิต ไปกินข้าวซะ แม่กินยากันหมาบ้ามาจากลอนดอนแล้ว ไปกันเถอะลูกเจต ไปสิจ้ะอารดาว่าที่ศรีสะใภ้ตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ หวังว่าคงยินดีรับการบอยคอตจากทุกคนที่นี่ด้วยความเต็มใจนะจ้ะ”
“ดาเจอหมาหมู่รุมกัดมาจนชินแล้วค่ะ จะไปหรือยังคะพี่เจต แล้วดาก็มีแผ่นดิสศักดิ์สิทธิ์นี่” อารดาชูให้ดู “ถ้าใครได้เปิดดูรับรองบ้านไอศูรย์ศรินทร์อายเขาไปสามโลกค่ะว่ามีแม่ผัว กับน้องสะใภ้ ร่วมมือกันฆ่าลูกสะใภ้ พี่สะใภ้ตัวเอง มีลูกชายเป็นผู้ดีที่เผลอข่มขืนผู้หญิง”
ทุกคนอึ้งไป อารดาหัวเราะออกแนวบ้าๆ แหววกับศรีทำหน้าสยอง อารดาหัวเราะจนแหวะ
“แหวะ”
“นี่...” คุณหญิงชะงักมอง
“ค่ะ หลานคุณแม่ อยู่ในท้องดา”
“กาฝากน่ะสิ” จิตรดาราสวน
“พอที จบ ไปเถอะอีริน่ารอแล้ว” เจตรินตัดบท
อารดา ศรินทร์ทิพย์ เจตรินเดินออกไป จิตรดาราตะโกนไล่หลัง
“ระวังหมานรกลอบกัดนะคะ”
จิตรดาราก็เดินกรายมาผ่านหน้า อารดาถลึงตาตอบ จีรณัทย์ดึงจิตรดาราออกไป
เอื้อจอดรถในที่ทำการเขต ลงมาเปิดประตู นายพลกันต์ คุณหญิงพรรณราย และอีริน่าพากันลงมา
“เอื้อเห็นอะไรผิดสังเกต รีบส่งข้อความไปบอกนะ” นายพลกันต์สั่ง
“ครับท่าน”
“ไปอีริน่า เข้มแข็งไว้หลาน” คุณหญิงปลอบใจ
“นี่แหละชีวิต แต่เราไม่ทุกข์ตลอดไปหรอกลูก ทุกข์ถึงที่สุดแล้วมันก็จบแล้วสุขก็จะเริ่มต้นมาหาเราอีกครั้ง ตามั่นใจ”
นายพลกันต์บอก แล้วมองไปรอบๆหาว่ามีอะไรผิดสังเกตบ้าง
เจตรินทร์ คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ อารดา และอิฐ มาถึงหน้าห้องจดทะเบียนหย่า
“ห้องนี้ครับ คุณแม่ เชิญครับ” อิฐเปิดประตู
เจตรินหันมาบอก
“ไปครับคุณแม่ เชิญอารดา”
อารดาหันมายิ้มยั่ว คุณหญิงพึมพำ
“อยากเอาน้ำกรดหยอดตามันนัก”
ทั้งหมดพากันเข้าไปในห้อง
ในห้องจดทะเบียนหย่า...ทั้งสองฝ่ายเดินมาคนละทางมาพบกัน อีริน่ากับเจตรินชะงักงันที่พบหน้ากันมองหน้ากันส่งสายตาเศร้าให้กัน อารดาเดินมาขวางระหว่างสองคน
“โต๊ะอยู่โน้นทางค่ะพี่เจต”
อีริน่าไหว้คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับอิฐ เจตรินกับอิฐหันไปไหว้นายพลกันต์กับคุณหญิงพรรณราย ส่วนอารดาเชิดปรายตายิ้มเยาะอีริน่าที่ไม่มองมาทางอารดา
“สวัสดีจ้ะ อีริน่า”
อีริน่าทำไม่ได้ยิน อารดาเก้อไป คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ด่าเบาๆ
“ชนะแล้วไม่ต้องเย้ยหยันคนแพ้”
เจตรินหันไปบอกเจ้าหน้าที่
“คือผมกับภรรยา จะมาขอจดทะเบียนหย่าครับ”
อารดาแทรกทันที
“และดิฉันจะมาจดทะเบียนสมรสกับคุณเจตริน ที่กำลังจะหย่าค่ะ”
“เว่อร์” คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เบ้หน้า
คุณหญิงพรรณรายยิ้มให้ คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ยิ้มตอบ
“นั่งด้วยกันสิพรรณราย คุณกันต์” คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ชวน
สองผัวเมียมองหน้ากัน แล้วนายพลกันต์ก็พยักหน้า
“ขอบคุณมากครับ”
คุณหญิงพรรณรายยิ้มแย้ม
“ขอบใจมากจ้ะศรินทร์ เราสองคนมาเป็นพยานให้หลาน”
“ฉันก็มาเป็นพยานให้ลูกชาย”
อีริน่าเซ็นใบหย่ามีพยานสองฝ่ายเซ็นให้ เจ้าหน้าตรวจสอบแล้วบอก
“เรียบร้อยค่ะ”
อารดาเดินมาดึงแขนเจตรินแบบไม่สนใจใครทั้งนั้น
“โต๊ะนั้นค่ะ พี่เจต”
“ดูมันทำ” คุณหญิงศรินทร์ทิพย์หมั่นไส้
คุณหญิงพรรณรายหันมาบอก
“ศรินทร์จ้ะ เราขอพาหลานสาวกลับก่อนนะจ้ะ”
“ผมขอตัวก่อน เอ้อ...แล้วเรื่องกมลกับหนูจีนั่นผมคิดว่าเราน่าจะได้พบปะคุยกันสักครั้ง”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ยิ้มจริงใจ
“ด้วยความเต็มใจค่ะ”
อารดาหันกลับมา
“ใจคอคุณแม่จะไม่ไปเซ็นเป็นพยานให้ดาหรือคะ”
“นักการภารโรงเต็มเขต ก็ขอเขาให้มาเซ็นสิ ฉันจะนั่งรอลูกชายเงียบๆข้างนอก”
อารดาหันไปหาอิฐ
“แล้วพี่อิฐล่ะคะ”
“พี่ก็จะอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่”
“แม่ว่าอิฐพาแม่กลับบ้านก่อนดีกว่า แม่ได้กลิ่นเน่าๆอะไรลอยมาแม่อยากจะอาเจียน”
ทุกคนหันผละไป อารดายืนไม่พอใจทั้งเศร้าทั้งแค้น
“เดี๋ยวเถอะนังอีริน่า แกได้ไปอยู่กับพ่อแม่แกแน่”
อารดากดส่งข้อความไปหาพงษ์ธร
พงษ์ธรกับสมุนหลบอยู่ในรถ อ่านข้อความ
“มันออกมาแล้ว ผิดแผนหน่อยมันกลับก่อน แต่ก็จัดการได้”
พงษ์ธรสั่งสมุน
“พวกแกเอามอเตอร์ไซด์ไปซุ่มทางโน้น สวนฉันจะขยับตามไปห่างๆรอซ้ำ”
“ครับลูกพี่”
ทั้งหมดเตรียมตัว
บริเวณบันไดข้างเขต นายพลกันต์โทรสั่งเอื้อ
“นายเอื้อฉันลงมาแล้ว มารับที่บันไดข้างเขต”
สามคนยืนรอ อิฐกับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ตามออกมาอีกสองคน
“คุณแม่รอตรงนี้ ผมจะไปเอารถมารับ”
“ได้จ้ะ”
คุณหญิงพรรณรายเรียก
“ศรินทร์มารอกับเราสิ ให้อิฐมารับเธอก่อน แล้วเราค่อยไปทีหลัง”
“ขอบใจมากจ้ะ เห็นทีว่าเราสองคนคงต้องนัดกันทานอาหารเพื่อฟื้นความหลังกันสักที”
“ไม่มีปัญหาจ้ะ”
ทันใดนั้น มอเตอร์ไซค์ค่อยๆขับมาเหมือนจะส่งคนลงตรงนั้น นายพลกันต์กับอีริน่ายืนห่างจากคุณหญิงศรินทร์และคุณหญิงพรรณรายที่กำลังประสานรอยร้าว รถเอื้อมาพอดี นายพลกันต์หันไปหาอีริน่า
“อีริน่ารอคุณยายตรงนี้นะ ตาจะไปบอกเอื้อให้หาที่จอดรถแอบๆ เราจะรอส่งคุณศรินทร์ก่อน”
“ค่ะ”
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
นายพลกันต์เดินออกมา มอเตอร์ไซค์ขับแว๊บเข้าใส่อีริน่าทันทีแล้วยิง อีริน่าที่ยืนอยู่แพ้ท้องอย่างหนักคลื่นไส้เวียนหัวมาก
“แหวะ”
อีริน่าเวียนหัวกุมหัวม้วนตัวล้มลง พร้อมกับเสียงปืน กันต์หันขวับ
“อีริน่า”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ กับคุณหญิงพรรณรายตกใจ
“อีริน่า”
นายพลกันต์ชักปืนทันที เอื้อกระโดดลงมาจากรถ มอเตอร์ไซค์พุ่งหนี กันต์ยิง มอเตอร์ไซค์เซถลา นายพลกันต์ยิ่งโดนคนซ้อนที่ยิงอีริน่า พงษ์ธรที่ตามมาตกใจมาก
“เฮ้ย”
พงษ์ธรรีบขับรถมาบังมอเตอร์ไซค์ไม่ให้ยิงซ้ำมอเตอร์ไซค์ได้ พอรถพงษ์ธรผ่านไป มอเตอร์ไซค์ก็หายไปจากสายตาแล้ว ทุกคนวิ่งไปหาอีริน่า
“อีริน่า”
ในห้องจดทะเบียนสมรส...อารดากำลังเซ็น เจตรินเซ็นเสร็จแล้ว เสียงปืนดังหลายนัดทำให้ทุกคนตกใจ
“เสียงปืน อีริน่า”
เจตรินลุกทันที แต่อารดานิ่งเฉยเซ็นต่อ
“ผมขอตัวก่อน”
“ยังไม่เสร็จนะคะพี่เจต”
“ผมเซ็นแล้ว ดาก็จัดการต่อเองเถอะ”
ไม่รอคำตอบเจตรินวิ่งออกไปทันที อารดามองตามแค้นใจมาก
“หวังว่าวันนี้มันคงตายสักที”
เจ้าหน้าที่บางคนวิ่งเข้ามา อารดาเผลอตัว
“ผู้หญิงนั่นตายไหมคะ”
“โห เห็นด้วยหรือครับว่าผู้หญิงถูกยิง”
“เอ้อ...ไม่ใช่ค่ะ ถามไปเรื่อยเปื่อย เพราะกำลัง เอ้อ...เซ็นชื่อใจลอยค่ะเอ้อ แล้วเป็นยังไงคะ”
“ไม่ทราบครับว่าตายหรือเป็น แต่ยิงเผาขนมาก ผู้หญิงฟุบลงไปกอง คนแก่ที่มาด้วย ฮีโร่มากครับ ชักปืนมายิงมอเตอร์ไซด์โดนไอ้คนที่ยิงนั่นแหละครับ”
“ตายจริง แล้วโดนจับได้ไหมคะ”
“รอดไปครับ มีรถมาตัดหน้าบังสายตาคนแก่นั่น”
อารดาถอนใจโล่งอก
อีริน่าอยู่ในห้องคนป่วยของโรงพยาบาลหลับสนิท มีทุกคนล้อมรอบ หมอพยาบาลครบ
“โชคดีมากนะครับที่ล้ม เพราะเธอเวียนศีรษะ กระสุนจึงข้ามไป และล้มไม่แรงมากทำให้เธอไม่ต้องสูญเสียครั้งสำคัญ”
เจตริน คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ อิฐอึ้ง
“สูญเสีย”
“ครับ...คุณอีริน่าเธอท้องสองเดือนแล้วครับ”
ทุกคนตะลึงงัน ยกเว้นนายพลกันต์กับคุณหญิงพรรณราย
“อีริน่า”
เจตรินเหมือนอยากจะร้องไห้ผวาไปหาอีริน่ากอดเอาไว้ เอาหน้าซบลงกับหน้าอีริน่า
“ที่รัก ที่รักทำไมไม่ยอมบอกสักคำก่อนหน้านี้ ที่รัก โธ่...”
ทุกคนได้แต่มองพูดไม่ออก
สมุนสองคนมาพบพงษ์ธร สมุนที่โดนนายพลกันต์ยิงบาดเจ็บอาการไม่ดี
“ไอ้โง่เอ๊ย ยิงเผาขนขนาดนั้นดันยิงพลาด”
“ผมไม่ได้ยิงพลาด แต่อีนังนั่นมันดันล้มลงไปก่อนที่กระสุนจะพุ่งไปถึงมันแค่เสี้ยววินาที”
“มันดวงดีจนเหลือเชื่อ”
“ผมจะยิงซ้ำ แต่ไอ้แก่ที่อยู่กับมันดันพกปืนมาด้วย แถมยิงแม่นมากขนาดผมไม่ใช่เป้านิ่ง ผมเจ็บมาก ผมอยากหาหมอ”
พงษ์ธรตวาด
“แกจะได้หาหมอ เอาไอ้จ่อยขึ้นรถสิไอ้วิทย์”
สมุนชื่อวิทย์เอาสมุนชื่อจ่อยใส่รถ
“ไอ้วิทย์แกหลบไปเลย ไปไกลๆ ไปห่างๆ”
พงษ์ธรส่งเงินให้วิทย์รับเงินแล้วรีบไป พงษ์รีบออกรถ จ่อยครวญคราง
“โอย...ผมเจ็บ ผมเจ็บจริงๆนะ”
“เออ...แกกำลังหายเจ็บ”
พงษ์ธรยิงจ่อยทันที จ่อยตาเหลือกค้างตายสนิท
“นังอีริน่าเอ๊ย ทำไมแกตายยากตายเย็นนักนะ นังบ้า”
เสียงมือถือดังขึ้น พงษ์ธรรับสาย
“ฮัลโหลดา”
อารดาโทรต่อว่าพงษ์ธร
“ไอ้พงษ์ ไอ้โง่ แกเอามือปืนสวะมายิงนังอีริน่า แถมโดนไอ้แก่นั่นยิงเอา...อะไรนะนังนั้นมันล้มไปก่อน อย่ามาแก้ตัว แกหลบไปไกลๆเลยนะ อะไรอีก ค่าจ้างหรือ” อารดายิ้มร้ายๆ “ได้สิแต่ไม่ใช่ตอนนี้รอไปก่อน”
อารดาตัดสายหงุดหงิดมาก
“นังอีริน่าแกจะหัวแข็งไปถึงไหนทำยังไงก็ไม่ตาย จะอยู่เป็นเสี้ยนหนามฉันให้ได้ใช่ไหม และถ้าวันไหนแกเกิดเปิดปากเรื่องคืนนั้นที่พัทยา...โอ๊ย”
อารดาปวดหัวมาก กุมขมับ
จิตรดารกับจีรณัทย์อยู่ในบ้านได้รับข่าวเรื่องอีริน่าโดนลอบยิงและอีริน่าท้อง
“อีริน่าท้องสองเดือน แล้วนี่พี่เจตจะแก้ปัญหายังไงกันคะ”
“อีริน่าไม่ยอมปริปากบอกใครว่าท้อง แปลว่าอีริน่าไม่ยากให้เจตลำบากใจ”
“อีริน่ารู้ดีว่าถ้าพี่เจตรู้ พี่เจตจะไม่หย่าและไม่จดทะเบียนกับนังมารอารดานั่นแน่ๆค่ะ”
สองพี่น้องนั่งเป็นทุกข์เป็นร้อน นิกกี้เดินเข้ามา
“ปัญหามีไว้แก้ ปัญหาไม่ได้มีไว้ละเลย เราต้องแก้ปัญหาให้ได้”
“แก้ยังไงตัวเอง นังมารร้ายอารดามันจดทะเบียนกับพี่เจตไปแล้ว”
จีรณัทย์หน้าเข้ม
“จดได้ก็หย่าได้ แต่อาจต้องใช้เวลา”
“ถ้าราสามารถพิสูจน์ความผิดของอารดาได้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบฆ่าอีริน่า” นิกกี้เสริม
“ทั้งที่รู้แต่ยังเอาผิดมันไม่ได้ จะบ้าตาย” จิตรดาราหงุดหงิด
“ฆาตกรมันมักเผลอทิ้งหลักฐานสำคัญเอาไว้เสมอ เพียงแต่ว่าเรายังหาไม่เจอ” จีรณัทย์หน้าเครียด
“เราต้องเจอค่ะ เพราะคืนนั้นอีริน่าไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด”
“อาจเป็นเพราะอีริน่าไม่อยากพูดออกมาให้คุณแม่ของเราเสียหายเพราะท่านร่วมมือด้วย”
จีรณัทย์ถอนใจ จิตรดาราหน้าสลด
“จิตก็ด้วยค่ะ รู้เห็นเป็นใจจนจิตเกือบโดนซะเอง ถ้านิกกี้ไม่มาช่วยชีวิต จิตเสียศูนย์แน่”
จิตรดาราสบตานิกกี้อย่างขอบคุณ และซึ้งใจ
เจตรินนั่งมองหน้าอีริน่าตลอดเวลา ลูบผมไปมาแล้วก็ก้มลงไปจูบ เดี๋ยวก้มลงไปกอดน้ำตาซึมตลอดเวลา
“อีริน่าผมขอโทษ อีริน่าผมเสียใจ ผมจะแก้ปัญหาให้ได้อีริน่า”
อีริน่าค่อยๆขยับตัว ตื่นทีละน้อยเห็นหน้าเจตรินกำลังมองมาน้ำตาซึม
“คุณเจต”
“ทำไม ทำไมที่รักไม่บอกผมเรื่องลูกของเรา”
“คุณเจตทราบแล้ว”
“ตอบผมสิอีริน่า ใจคออีริน่าจะพรากลูกไปจากผม อีริน่าใจร้ายกับผมได้ลงคอ”
อีริน่าเอาแต่ร้องไห้
“ตอบผมสิอีริน่า ตอบผมสักคำ”
“อีริน่ากับคุณหย่าขาดจากกันแล้ว เราไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว สิ่งที่ผ่านไปแล้วเรียกกลับคืนไม่ได้ค่ะ”
“แต่ลูกของเราคืออนาคตที่กำลังจะมาถึง ผมจะปล่อยให้ลูกของผมผ่านไปไม่ได้”
“ลูกของคุณยังไงก็คือลูกของคุณ เพียงแต่เขาจะอยู่กับอีริน่า ส่วนคุณก็มีลูกของคุณกับอารดาก็พอเพียงแล้ว กลับไปนะคะ กลับไปหาภรรยาของคุณ กลับไปดูแลลูกในท้องของเธอ”
“อีริน่าอย่าไล่ผมสิ”
เจตรินสบตา อีริน่าเบือนหน้าหนี อารดายืนแอบฟังหน้าห้องพึมพำเบาๆ
“นอกจากไม่ตาย แกยังท้องสองเดือน ลูกของแกต้องเป็นสุดที่รักของพี่เจตมากกว่าลูกของฉัน ไม่มีวัน ไม่มีวัน”
อารดายืนหน้าห้องน้ำตาไหล เอาสองมือตัวเองข่วนกันไปมาจนเลือดซิบๆ
ในห้อง เจตรินพยายามจะจับหน้าอีริน่าให้หันมา แต่เธอฝืนไว้
“กลับไปสิคะ”
“ไม่กลับจนกว่าอีริน่าจะยอมรับปากว่าจะไม่ทิ้งผมไปไหนเราจะพบกัน อีกได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ”
ไม่มีเสียงเคาะห้อง แต่ประตูห้องเปิดออกมา อารดาก้าวเข้ามามองภาพสองคน มองเจตรินประคับประคองอีริน่า อารดาเจ็บปวดมากกับภาพนั้นทั้งรักทั้งแค้น ทั้งเจ็บใจที่อีริน่าไม่ตาย อีริน่าเห็นอารดาก่อน
“คุณอารดา”
“ได้ยินว่าโดนลอบยิง ดีใจด้วยนะที่ไม่ตาย อ้อแล้วก็ขอบใจมากที่เธอไม่ยอมรับปากพี่เจตว่าจะพบพี่เจตอีก เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเธอ ทำตัวเป็นชู้กับสามีคนอื่น”
“พอทีอารดา ใครกันแน่ที่อยากเป็นชู้สามีคนอื่น และกระทำจนสำเร็จ” เจตรินไม่พอใจ
“พอได้แล้วคุณเจต” อีริน่าปราม
อารดาเบ้หน้า
“ขอบใจที่ทำตัวเป็นแม่พระ เพื่อทำให้ฉันกลายเป็นนางมาร”
“ฉันทำในสิ่งที่ถูกต้อง” อีริน่าสวน
“ฉันมาตามสามีของฉันกลับบ้าน”
“เชิญตามสบาย ฉันกำลังไล่สามีคุณกลับบ้าน”
“อีริน่า แล้วเรื่องลูกของเรา” เจตรินอึ้ง
“มันจบแล้วค่ะ”
อารดามองหน้าเจตริน
“ใช่มันจบแล้วค่ะพี่เจต อย่าทำให้ดาเสียหน้าอับอายไปมากกว่านี้ เพิ่งจดทะเบียนกันไม่ถึงนาที สามีเผ่นหนีไปหาคนอื่น นึกถึงชื่อเสียงของคุณแม่พี่ไว้บ้าง วงศ์ตระกูลของพี่ก็เหมือนกันมันจะย่อยยับเพราะมือดา ดังนั้นอย่าบิดพลิ้วค่ะ กลับบ้าน”
เจตรินนิ่งหันมามองอีริน่าที่หันหน้าหนี มองอารดาที่จ้องมาเอาเรื่อง อารดาเดินไปหาอีริน่าหยิบแผ่นดิสยื่นให้ดูตรงหน้า
“นี่ไงหลักฐานที่พี่เจตข่มขื่นฉัน อยากขโมยคืนอีกไหม เชิญตามสบายเอาไปเลย เอาไปนอนฟังก่อนนอนหรือจะเอาไปเปิดเป็นนิทานก่อนนอนให้ลูกเธอฟังทุกคืนก็ได้นะ”
อีริน่าพรวดมากระชากแล้วหักแผ่นดิส ตบหน้าอารดาที่ยื่นหน้ามาหัวเราะเยาะ
“บอกให้พาสามีเธอกลับบ้าน”
“นังสารเลวแกเป็นชู้กับผัวฉัน ยังกล้ามาตบหน้า ฉันจะเรียกพยาบาลมาดูหน้านังคนแย่งผัวคนอื่น”
อารดาเอือมมือไปจะกดปุ่มจะเรียกพยาบาลมาฟัง เจตรินปราดมาฉุดไว้
“หยุดนะ ผมจะกลับบ้านกับดาแล้ว”
อารดาหัวเราะเป็นต่อ แล้วไม่ทันที่เจตรินจะคิด อารดาตบหน้าอีริน่า เจตรินกระชากอารดาทำท่าจะตบ
“หยุดนะคุณเจต ไปให้พ้นไปให้พ้นทั้งสองคน ไป...ไป...ไป” อีริน่าตวาด
อารดาหัวเราะเยาะ เจตรินลดมือแล้วกระชากอารดาเดินออกไปจากห้อง
“อีริน่าผมขอโทษ อีริน่าผมเสียใจ”
“คนที่เสียใจมากที่สุดคือดาต่างหากค่ะ”
อีริน่าร้องไห้สะอื้นเบาๆ ไม่มองตามสองคน แต่หันไปทางอื่น
เจตรินกับอารดาเดินออกมาที่ ลอบบี้โรงพยาบาลหน้าตาไม่สบอารมณ์ด้วยกันทั้งคู่
“อารดาเธอจะร้ายกาจไปถึงไหน”
“แล้วพี่เจตละคะ จะหมางเมินไม่ใยดีกับดาไปถึงไหนคะ”
“ตลอดกาล”
อารดาตบหน้าเจตรินโดยแรง ผู้คนแถวนั้นพากันตกใจ
“คนใจดำ ฟังนะภายในสองอาทิตย์ เราจะจัดงานฉลองแต่งงานของเราถ้ายังไม่ยอม ก็ทำใจไว้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
เจตรินเดินหนี อารดาขยับจะเดินตาม เสียงมือถือดังขึ้น
“ฮัลโหล...ไอ้พงษ์แกจะโทรหาฉันวันละสามเวลาทำไม”
“ฉันต้องการเงินด่วนอารดา”
“ฉันบอกแล้วว่าจะให้ก็ต้องให้ แกอย่างกเกินไปหน่อยเลย”
“ฉันจะหนี ขืนอยู่ต่อไปฉันอาจโชคร้าย เพราะฉันฆ่าคนตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหรือจะให้ฉันบุกไปประจานว่าเธอคือตัวการทั้งหมด”
อารดาตกใจ
“แกอย่ามาขู่ฉัน ฟังนะขอเวลาสองสามวัน แกจะเอาเท่าไหร่ฉันจะหาให้”
“ชอบให้ขู่ถึงจะหงอ ให้เวลาแกสามวัน ถ้านานกว่านั้นฉันตามไปซ้อมแกถึงไอศูรย์ศรินทร์แน่ ได้ดีแล้วอย่าทำเป็นวัวลืมตีน”
อารดาเผลอตะโกน คนมองอีกรอบ
“ไอ้สารเลว”
นายพลกันต์ คุณหญิงพรรณรายมาบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ พร้อมกมลกันต์ตามคำเชิญ
“ยินดีต้อนรับจ้ะพรรณราย คุณกันต์”
“บ้านนี้ยังสวยเหมือนเดิม” นายพลกันต์ยิ้มแย้ม
“ทุกอย่างยังงดงาม ต้นไม่ใหญ่โตขึ้น” คุณหญิงพรรณรายชื่นชม
“เอ้อ...คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมว่าเริ่มได้เลยครับ” กมลกันต์ขัดขึ้น
“เอ๊ะ กมลนี่ อย่ามาทำใจร้อน อายุมากแล้วนะ” จีรณัทย์ดุเบาๆ
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ยิ้มแย้ม
“มีเมียดุน่ะดีกว่ามีเมียหงอนะ เมียดุแปลว่าเมียเก่ง เมียฉลาด จำไว้นะกมล”
“อ้าว” นายพลกันต์ชะงัก
คุณหญิงพรรณรายยิ้มชอบใจ
“จริงของศรินทร์เขา เอาละมาเริ่มกันเลย พูดกันตรงๆง่ายๆ”
นายพลกันต์ยิ้มแย้มบอก
“เรามาสู่ขอหนูจีรณัทย์ให้นายกมล”
“จะเรียกสินสอดเท่าไหร่”คุณหญิงพรรณรายถาม
“แล้วแต่เธอจะจัดการ” คุณหญิงศรินทร์ทิพย์บอกทันที
นายพลกันต์ยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นยกมรดกครึ่งหนึ่งของเราสองคนให้หนูจีรณัทย์ อีกครึ่งหนึ่งจะเก็บไว้ให้อีริน่ากับลูก”
“อ้าวแล้วผมจะได้อะไรครับ” กมลกันต์เหวอ
“ก็ไปขอปันกับหนูจีขาเองสิ ฮ่าๆ” นายพลกันต์พูดขำๆ
ทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุข
นิกกี้กับจิตรดาราติดตามอารดา โดยปลอมตัวเป็นคนขายลอตเตอรี่ นิกกี้ทำตาบอด จิตรดาราทำเป็นเมียขาเป๋จูงมือนิกกี้ อารดากำลังเดินตรงมานิกกี้กระซิบจิตรดารา
“นางมารร้ายสามโลกมานั่นแล้ว”
จิตรดาราลืมตัวจะปราดไปตบ
“ขอตบสักที”
นิกกี้ดึงจิตรดาราไว้
“อย่าเอางานย่อยมาทำลายงานใหญ่”
สองคนยื้อยุดกันจนไปชนอารดาที่กำลังเดินหน้างอมา
“ไอ้บ้าไม่ดูตาม้าตาเรือ เอาเสื้อผ้าเน่าๆของแกมาเลอะเทอะเสื้อผ้าสวยๆของฉัน ไปให้พ้น”
นิกกี้ทำเสียงสุพรรณ
“คือฉันตาบอด น่ะคุณยาย”
อารดาด่า
“ไอ้บ้า อย่ามาเรียกฉันคุณยายนะ โง่”
“ค่ะคุณป้า ผัวฉันเขาเข้าใจผิดจ้ะ ฉันขอโทษแทนเข้าด้วย”
นิกกี้ทิ่มลอตเตอรี่ใส่หน้าอารดา
“ลอตเตอรี่ไหมครับคุณน้องสาว”
“เอ๊ะ อย่ามาลามปาม แกมาเป็นลูกชายแม่ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“บางที่ฉันอาจเป็นลูกชายของพ่อคุณนายก็ได้นะครับ คนเราผัวไปแอบมีเมียหลวง เมียแอบไปมีผัวน้อย โฮ้ย ไม่ไหวจะมึน”
“ไปให้พ้น นี่นางเป๋ดึงผัวตาบอดของแกไปให้ห่างฉัน”
อารดาเอากระเป๋าผลักนิกกี้ แล้วเดินห่างไป พออารดาพ้นไปสองคนหันมาหัวเราะให้กัน
“ตามต่อไป”
สองคนหันมาจูบปากกันแบบแตะๆ
เจตมาหยุดหน้าห้องพักไข้ของอีริน่ายืนคอตก มองป้ายห้ามเยี่ยม ยกเว้นญาติสนิท
“อีริน่า โธ่ ทำไม ทำไม”
พยาบาลเดินมาจะเข้าไปดูอีริน่า เจตรินจะตามเข้าไป
“ขอโทษด้วยค่ะ คนไข้สั่งห้ามไม่ให้คุณเข้ามาค่ะ”
“แต่ผมเป็น...”
“นี่เป็นความต้องการของคนไข้นะคะ อย่าทำให้พยาบาลลำบากใจสิคะ”
เจตรินถอยออกไปได้แต่ยืนมองห่างๆ พยาบาลเข้าไป
จีรณัทย์ลองชุดแต่งงานอยู่ในร้านชุดแต่งงาน กมลกันต์ยืนมองยิ้มๆ
“ชุดนี้ว่าไงคะ กมล”
“สวยจนตะลึง นึกว่านางฟ้ามายืนตรงหน้า”
“เหลวไหลน่า ว่าไงคะ”
“โอเค จีสวยใส่อะไรก็สวยไปหมด แล้วจะไปหาฤกษ์กันตอนไหน”
“พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า ฤกษ์ดีคือฤกษ์สะดวกค่ะ อย่ายึดติดค่ะ”
“โอเค จีว่ายังไงผมก็ว่ายังงั้น”
“ดีมากค่ะ จะแบ่งเงินให้ใช้วันละสามสิบบาท รักษาทุกโรคค่ะ”
“แหมดุจัง ยังไม่ทันไร”
สองคนยิ้มเบิกบานมีความสุข
อารดามาพบเขมชาติเรื่องจ้างวานเล่นงานพงษ์ธร
“จัดการมันก่อนที่ฉันจะฉลองงานแต่งนะเขม มันขู่ว่ามันจะส่งบัตรสนเท่ห์ไปประจานเราสองคน ว่าเคยเล่นงานนังอีริน่า”
เขมชาติโกรธ
“ไอ้นี่มันแมงดาสวะ ไม่มีระดับ ไว้ใจไม่ได้ ตกลงเตรียมเงินค่าจ้างให้พร้อม ฉันก็จะหนีเหมือนกัน”
“ฉันจะจ่ายค่าจ้างให้มันตามที่มันขอ แกก็สามารถริบส่วนที่มันได้ไปจากฉันอีกต่อ หลังจากที่แกจัดการมันสำเร็จแล้ว โอเคไหม”
“เยี่ยมมาก กู๊ดไอเดียร์ แล้วเรื่องนังจิตรดารา”
“หนีหลบไปสักพักก่อน นังจิตรดารากับไอ้นิกกี้เอาไว้ทีหลัง เพราะมันสองคนไม่สำคัญเท่าไอ้พงษ์แล้ว”
เขมชาติพยักหน้ารับ...นิกกี้กับจิตรดาราแอบมอง จิตรดาราตื่นเต้นกับไอ้หน้าผี
“ไอ้หน้าผีมันรู้จักกับอารดา”
“นี่ไงเราเจอต้นตอแล้ว ตามต่อไป”
“ได้เรื่องแน่ๆ ทีนี้แหละนังอารดาตัวแสบ นังเจ้าแม่มารนรกแก่ตกนรกแน่ๆ”
“หลบ...มันออกมาแล้ว”
สองคนหลบ อารดาเดินมาขึ้นรถขับออกไป จิตรดาราครุ่นคิด
“ไอ้หน้าผีมันเป็นใครกันแน่ มันต้องเป็นใครสักคนที่เรารู้จัก”
“แล้วมันไปทำศัลยกรรมหน้าผี เพื่อมาเป็นนักฆ่า”
“บ้า ใครมันจะยอมขนาดนั้น แล้วนี้ไอ้เขม กับไอ้พงษ์มันหายไปไหนกันนะ”
“นั่นสิ...มีใครที่ซี้ปึก หรือเคยเป็นกิ๊กมันมาก่อนไหม”
จิตรดารานึกได้
“พี่เม กับเชอรี่”
“เยส” นิกกี้ดีใจ
สองคนมองหน้ากันประมือ
“บิงโก”
เจตรินมาดักรออีริน่า
“อีริน่าออกมาแล้ว”
นายพลกันต์ กับคุณหญิงพรรณราย เข็นรถให้อีริน่าเพื่อพากลับบ้าน
“ขอบพระคุณคุณตามากค่ะ ถ้าวันนั้นคุณตาไม่ยิงสวนมัน อีริน่ากับลูกในท้องตายแน่ค่ะ เพราะมันต้องยิงซ้ำอีก คุณตาเก่งที่สุดค่ะ”
“ตานี่แหละ ลุยมาแล้วสารพัดสงคราม ชนะหมดยกเว้นสงครามในครัวเรือน ตาแพ้คุณยายราบคาบ พ่ายแพ้ความสวย”
“เหลวไหล อายหลานบ้างสิ” คุณหญิงตีเข้าให้
สองคนมองเห็นอีริน่ามองไปด้านหนึ่ง เจตรินยืนมองอยู่ ตาละห้อย นายพลกันต์แปลกใจ
“เจตมายืนทำอะไร ทำไมถึงไม่เข้ามา เจตมารอรับอีริน่าเหมือนกันละสิ”
เจตรินรีรออึกอักมองหน้าอีริน่า ที่เมินไปทางอื่น
“งั้นไปที่บ้านป้าด้วยกันนะเจต”
“เอ้อ...”
อีริน่าขัดขึ้น
“ไม่ต้องไปหรอกค่ะ กลับไปเตรียมจัดงานฉลองแต่งงาน แล้วไปหาที่ฮันนีมูนให้เรียบร้อยดีกว่าค่ะ”
คุณหญิงกับนายพลกันต์มองตากัน
“อ้าว”
“ไม่เป็นไรครับคุณลุง คุณป้า ผมแค่มารับทราบว่าอีริน่ากลับบ้านปลอดภัยแล้ว ก็พอแล้วครับ”
“เห็นแล้วว่าปลอดภัยแล้วก็กลับไปสิคะ คุณตาคุณยายขารีบไปกันเถิดค่ะ อีริน่าไม่อยากอยู่ตรงนี้”
ขาดคำอารดาเดินมาประกบข้างเจตรินทันที
“ฉันกับพี่เจตก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้ ไปกันเถิดค่ะพี่เจต ไหนบอกว่าจะพาดาไปหาออร์แกไนเซอร์ จัดงานฉลองของเราไงคะ”
นายพลกันต์กับคุณหญิง พาอีริน่าแยกไป เจตรินหันมามองอารดา
“ผมไม่เคยบอกว่าจะพาไป แต่ดาอยากจะไปก็ไป อยากทำอะไรก็ทำผมไม่ไปด้วย”
เจตรินเดินหนี อารดามาดึงแขน เจตรินปัดมือออกแล้วเดินหนี
“ทำกันเกินไปแล้ว ราวกับว่าเราคือขยะเน่า เสร็จงานจัดการไอ้พงษ์ไอ้เขมเมื่อไหร่ ไม่เอาไว้แล้วผู้ชายคนนี้ สิ้นรักก็สิ้นสุดกันที”
จิตรดารกับนิกกี้มาพบเชอรี่ที่นัดไว้
“อย่างพงษ์ก็อย่างที่นิกกี้กับจิตรดาราเห็นวันก่อน เป้ามันกระจุยไปแล้ว” เชอรี่บอก
จิตรดาราสงสัย
“ค่ารักษาตัวมันคงแพงไม่น้อย มันเอาเงินที่ไหนมารักษา มันมีหนี้สินมากมาย”
“ต้องมีคนจ่ายเงินให้มัน หรือไม่ก็มันมีที่รีดไถใหม่ๆ”
สองคนมองหน้ากัน
“อารดา”
เจตรินยืนหน้าบ้านนายพลกันต์หน้าเศร้า เอื้อขับรถแล่นมาจอดหน้าประตูรอเข้าบ้านในรถอีริน่ามองเห็นเจตรินยืนตาละห้อย อีริน่าน้ำตาซึม
“ตาเจตมายืนมองอยู่หน้าบ้าน โธ่เอ๊ยช่างน่าสงสาร” คุณหญิงเห็นใจ
นายพลกันต์เป็นห่วง
“ยืนไปยืนมาไอ้พวกบ้านั่นตามส่องเข้าสักโป้ง คงดูไม่จืด”
คุณหญิงหันมาดุ
“เอ๊ะ...คุณนี่พูดจาเป็นลางร้าย”
“เอ๊า...ก็หน้าบ้านเรานี่มันเกิดเหตุร้ายเกือบจะรายวันแล้วนะคุณหญิง”
“ก็จริงของคุณนะ เฮ้ย...ตามเวรตามกรรมเถิดนะเจตนะ ป้าช่วยอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว”
เอื้อเห็นอะไรบางอย่าง
“เอ๊ะนั่นมอเตอร์ไซด์แปลกหน้าครับท่าน”
“เฮ้ย” นายพลกันต์ตกใจ
“ตายจริง” คุณหญิงหน้าตื่น
อีริน่าเป็นห่วงเจตริน
“นายเอื้อรีบเปิดประตูให้คุณเจตขึ้นรถมาเร็วๆเข้า”
เอื้อวิ่งลงไปบอกเจตริน ชี้มาทางอีริน่าที่เมินไปทางอื่น เจตรินเดินมาขึ้นรถ
“ขอบคุณมากครับ”
นายพลกันต์กับคุณหญิงแอบยิ้มให้กัน ส่วนอีริน่าหันไปสั่งเอื้อ
“นายเอื้อรีบเข้าบ้านสิ”
เอื้อรีบขับรถเข้าบ้าน
จิตรดารา กับนิกกี้ นัดพบเมทินีเพื่อหาข้อมูล
“มาถึงขนาดนี้แล้ว พี่จะยอมเปิดเผยความลับทั้งหมดของพี่กับไอ้เขมสารเลว” เมทินีบอกแค้นๆ
“ขอบคุณมากค่ะ” จิตรดารายิ้มดีใจ
เมทินีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“พี่ยังจำภาพตอนที่มันโดนน้ำกรดสาดหน้าติดตาติดใจ หน้าดีๆของมัน กลายเป็นหน้าผี”
สองคนโพล่งออกมาพร้อมกัน
“หน้าผี”
“ใช่ แต่หลังจากนั้นผีไม่เคยเห็นหน้ามันหรอก แต่มั่นใจว่าสาดขนาดนั้นหน้ามันต้องเหมือนหน้าผีแน่นอน”
“ขอบคุณมากค่ะพี่เม”
“แค่นั้นมันยังน้อยไป แต่พี่ก็ทำได้แค่นี้เอง”
สองคนพยักหน้ากัน
ในร้านชุดแต่งงาน...อารดาหน้าอมทุกข์ กำลังลองชุดตามลำพัง เจ้าของร้านแปลกใจ
“สวยเหลือเกินค่ะคุณอารดา เอ้อ...เจ้าบ่าวไม่มาช่วยติชมชุดหรือคะ”
“เขาติดธุระสำคัญมากค่ะ” อารดาหงุดหงิด
“เอ้อ...นามสกุลเดียวกันกับ คุณจีรณัทย์เลยนะคะ”
“ค่ะ”
“เธอเพิ่งมาลองชุดที่นี่ไปเมื่อช่วงเช้า”
“อ้อ...หรือคะ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เอาแล้วชุดบ้านี่แล้ว”
อารดากระชากเสื้อชุดนั้นโดยแรง
“ว๊าย” เจ้าของร้านตกใจ
เจตรินนั่งในห้องนั่งเล่น นายพลกันต์บอกอย่างเป็นห่วง
“ลุงเห็นใจเจตนะ เข้าใจเจตด้วย แต่มันกฎระเบียบของชีวิต เจตจดทะเบียนกับอีกคนแล้ว ก็ต้องทำใจ เราไม่อาจได้อะไรหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเมีย”
“ครับ ขอบคุณมากที่กรุณาให้ผมได้เข้ามาในบ้าน แม้ว่าอีริน่าจะไม่ยอมใจอ่อนมาคุยกับผม”
“รอให้อีริน่าคลอดลูกก่อน อีริน่าก็จะโตขึ้นอีก แล้วเราค่อยมาตะล่อมให้อีริน่าเข้าใจว่าเด็กต้องการพ่อ นั่นอาจทำให้เจตได้มาพบลูกในบางครั้ง”
“บางครั้งหรือครับ โธ่...ผมต้องการอุ้มชูดูแลลูกของผมเต็มที่ ไม่ใช่มาเจอแป๊บๆแล้วจบ”
“เจตมีลูกของอารดาให้อุ้มชูเต็มที่แล้ว ลุงบอกแล้วเอาสองอย่างไม่ได้แต่สามารถจัดสรรได้ เจตต้องทำใจให้ได้ ลุงจะเป็นกำลังใจให้ ใครจะรู้ว่าวันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น เจตอาจได้กลับมาใช้ชีวิตคู่อยู่กับอีริน่าไปจนตายก็ได้”
“ผมไม่กล้าหวังหรอกครับ ขอบพระคุณมากครับ”
เจตรินไหว้ลา นายพลกันต์ตบบ่าปลอบใจ
อีริน่าแอบนั่งร้องไห้เงียบๆในห้องเอามือลูบท้อง
“คุณเจตขา เรารักกันไม่ได้แล้วชาตินี้”
เสียงรถสตาร์ทรถของเจตริน และค่อยๆแล่นออกไป อีริน่าผวาตามเสียงรถไปที่หน้าต่างเห็นรถของเจตรินขับ แล่นออกไปจากบ้าน
วันใหม่...จิตรดาราลองชุดแต่งงานนิกกี้ยิ้มมอง และจับหมุนไปมา
“สวยป่ะตัวเอง”
“สวยจนตะลึงเลยแหละ”
อารดาเดินนวยนาดเข้ามา เจอสองคนชะงัก จิตรดาราหันไปทัก
“อ้าวอารดา มาทำอะไรไม่ทราบ ทำไมคนเดียว”
“แกอย่ามายุ่งมาวุ่นวายกับเรื่องของฉันจิตรดารา”
“ในฐานที่เธอมาใช้นามสกุลของพวกฉัน ฉันก็ต้องคอยสอดส่องสนใจว่าเธอจะไปทำอะไรให้ไอศูรย์ศรินทร์ของฉันเสียหายหรือเปล่า”
“ส่องกระจกชะโงกดูเงาหัวของตัวเองบ้างเถิด ว่าระดับความเลวมันประมาณไหน”
นิกกี้ไม่พอใจ
“เฮ้ย...มากไปแล้ว อย่ามาว่าจิตรดารานะ ใช้หัวแม่เท้าตรองวัดของตัวเองก่อนดีไหม”
จิตรดาราเบ้หน้าเหยียดหยาม
“โฮ้ย...ขนาดเลวได้โล่ห์ยังพ่ายแพ้จนหมดประตู แพ้ไม่รู้จักแพ้ คนอะไรแพ้แต่จะเอารางวัล ได้รางวัลไปแล้ว สามีหุ่นยนต์เขาไม่มาช่วยดูลองชุดแต่งงานด้วย เฮ้ย...น่าสงสาร เจ้าของร้านขา ที่นี่มีผู้ชายให้เช่าเป็นตัวแทนสามีดูภรรยาลองชุดไหมคะ”
อารดาโกรธมาก
“นังจิตรดารา”
“ว่ายังไงนังอารดา สามีไม่แยแส แค่ชายตาแลยังไม่ยอมทำ โฮ้ยขำ จะจัดงานฉลองแต่งงาน ขำจะอ๊วก แหวะ”
อารดาผวามาที่จิตรดาราแบบคลั่ง
“ฉันจะฆ่าแก”
“ก็มาสิมาฆ่า ไม่ง่ายเหมือนที่เคยทำมาแล้วหรอกนะขอบอก นับถอยหลังกับชัยชนะที่ไม่ยังยืนของตัวเองได้เลย นิกกี้ไปกันเถอะ เราลองชุดกันเสร็จแล้ว อยู่นานไปหายนะจะมาเยือน”
จิตรดาราดึงนิกกี้ออกไป เจ้าของร้านยืนตะลึงกับการด่าทอของสองคน
“เอ้อ...จะลองชุดแบบไหนคะ”
“ไม่ลงไม่ลองแล้ว ร้านไหนที่มีอีพวกนั้นมันมาลองมาซื้อ ฉันไม่ต้องการ”
อารดาสะบัดหน้าเดินออกไปจากร้าน
จีรณัทย์ จิตรดารา เจตรินคุยกัน
“พี่จะรอให้เจตฉลองงานแต่งของเจตก่อน แล้วพี่ค่อยจัดตามหลัง”
“จิตก็จะรอคิวต่อจากพี่จีค่ะ เอ้อ...จิตเจออารดาที่ร้านชุดแต่งงานน่าสมเพชมันต้องไปคนเดียว”
“พี่ยังทำใจไม่ได้ เรื่องอีริน่าท้อง” เจตรินบอกเศร้าๆ
อารดาเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นซองการ์ดเชิญมาให้เจตรินดู
“นี่คือการ์ดเชิญมางานฉลองของเราค่ะ เราจะเริ่มไปแจกการ์ดกันพรุ่งนี้นะคะ”
“ผมไม่ว่าง ดาไปแจกคนเดียวเถอะ”
“พี่เจตจะทรมานดาไปถึงไหนคะ”
“ใครกันแน่ที่ทรมานใคร เธออยากทำอะไรก็เชิญ ทำให้เต็มที่เชิญแขกมาสักล้านคน”
“พี่เจตคะ ดาจะจัดงานที่บ้านหลังนี้นะคะ”
“ตามใจเถอะนะ ดาจะจัดที่นี่ผมก็ไม่ขัดข้อง”
เสียงมือถือของอารดาดังขึ้น เธอมองเบอร์ที่โชว์แล้วนิ่งไป จิตรดารากับจีรณัทย์มองหน้ากัน
“พฤติกรรมน่าสงสัยค่ะพี่จี” จิตรดารากระซิบ
“ออร์แกไนเซอร์โทรมาปรึกษาหรืออารดา ไปกันเถอะพวกเรา อารดาต้องการความสงบในการปรึกษาการจัดงาน”
จีรณัทย์กับจิตรดาราดึงแขนเจตรินออกไปจากที่นั่น อารดามองตามคับแค้นใจมากตะคอกลงไปในมือถือ
“โทรมาไม่รู้จักเวล่ำเวลา โทรมาทำบ้าอะไร”
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
พงษ์ธรโมโห
“อย่ามาทำขึ้นเสียงใส่ฉันนะ ฉันอยู่ใกล้หน้าบ้านไอศูรย์ศรินทร์พร้อมจะลุยไปประจานเธอเมื่อไรก็ได้ ฉันรอเงินมาหลายวันแล้วนะว่ายังไง บอกมาเดี๋ยวนี้เลย”
พงษ์ธรหงุดหงิดไม่แพ้กัน อารดาตวาดกลับไป
“อย่ามาข่มขู่กันนะ พรุ่งนี้ฉันจะไปพบแก พร้อมสิ่งที่แกต้องการแล้วหยุดโทรมาได้แล้ว”
อารดามองซ้ายมองขวาเห็นจิตรดาราแอบมองอยู่
“บ้าเอ๊ย ทำไมอะไรอะไรมันสุมรุมเราขนาดนี้ คอยดูเถอะ”
จิตรดาราเดินเข้ามา
“ก็ผลักมันออกไปให้หมดสิ เรื่องง่ายๆแค่นี้ก็คิดไม่ได้ เชอะ ถามจริงใครโทรมาหรือ”
“ไม่ต้องมาสาระแน”
อารดาเดินสะบัดออกไป จิตรดาราเดินไปที่ใต้เก้าอี้ ล้วงเอาเครื่องอัดเสียงเล็กๆออกมา
“หนามยอกเอาหนามบ่ง แล้วที่มันพูดด้วยคือใคร ทำไมกล้าข่มขู่มัน”
จิตรดาราเก็บเครื่องอัดไว้
วันใหม่...อารดาส่งซองเงินให้เขมชาติ
“ขอบใจมาก เท่าไหร่น่ะ ตามที่ขอไปหรือเปล่า”
“ห้าแสน แล้วที่เหลือไปเก็บเอาจากไอ้พงษ์อีกห้าแสน”
“แล้วอีกห้าแสน”
“หลังจากที่แกทำงานเสร็จ”
“โอเค เจอกันที่ไหน”
อารดาบอกสถานที่ เขมชาติพยักหน้า
พงษ์ธรมาจอดรถในที่นัดหมาย แล้วลงมาจากรถ เขมชาติโผล่มา
“ฉันเอง จะบ้าหรือ”
“เอาสิวะจะมาไถเงินกันใช่ไหม” พงษ์ธร จะชาร์ตเข้าใส่
“เปล่า ฉันแค่ผ่านมา ถามตรงๆ ทำไมเราต้องมากัดกันเองด้วยวะ”
“นั่นสิ ในเมื่อเรามีศัตรูร่วมกัน”
“แต่ทำไมแกต้องตกใจมากมายที่เห็นฉัน”
“เอ้อ ฉันนึกว่าอีนังอารดามันทรยศเพื่อน ส่งคนมาลอบยิงกัน”
“นัดกับอารดาหรือ”
“ใช่ เขมแกช่วยหน่อยสิ คุ้มกันฉัน ฉันไม่ไว้ใจนังอารดา”
“ตกลง ไม่มีปัญหา ใกล้ถึงเวลานัดหรือยัง” เขมชาติยิ้ม
“เกือบแล้ว”
“ถ้าอารดามาเห็นฉันอยู่กับแก จะระแวง ฉันว่าฉันหลบไปซุ่มดูนะ”
พงษ์ธรพยักหน้า
“ดีว่ะ”
เขมชาติเดินยิ้ม หลบไปในใจนับเงินไปด้วย
“ห้าแสน...ห้าแสน”
พงษ์ธรมองตามยิ้มเบาใจ
อารดามาจอดรถหลบมุมแอบมองไปเห็นพงษ์ธรเดินไปมาจุดที่นัดหมาย อารดายิ้มร้ายมาก หยิบปืนมาจากในรถ เปิดกระโปรงแล้วยัดปืนใส่ซองปืนที่พกพาติดต้นขา เขมขาติเดินมาหา
“อารดา มันมาแล้ว”
อารดาพยักหน้า
“โอเค แกหลบแถวนี้ แล้วค่อยจัดการตามที่ตกลงไว้”
“โอเค”
อารดาเดินออกไป เขมชาติเดินหลบแอบ
พงษ์ธรยืนอยู่หลบมุมรออารดา ส่ายตาระแวงไม่น้อย อารดาเดินยิ้มเข้ามา
“อารดาจะบ้าหรือ ทำไมถึงต้องนัดมาในที่ที่มันดูเงียบเชียบแบบนี้”
“แกนั่นแหละจะบ้า ถ้าฉันนัดแกในที่ชุมชนมากมาย แกนั่นแหละจะเจอดี ไหนว่าจะต้องหนี”
“เธอมันร้ายรอบทิศ ร้ายร้อยแปดสิบองศา เอากระเป๋ามาดูสิ”
พงษ์ธรกระชากแขนอารดา ดึงกระเป๋ามาเทออกค้นหาไม่เจออะไร
”แกมันบ้า ชอบใช้ความรุนแรง”
พงษ์ธรตะคอก
“เงินอยู่ที่ไหน”
“ในรถ ใครจะกล้าถือมา กลัวโดนปล้นก่อน”
“รถอยู่ไหน”
“ตรงนั้น ตามมาสิ เอาเงินแล้วรีบๆไป จะได้กวดน้ำคว่ำขันกันทุกชาติไป”
อารดาหันเดิน พงษ์ธรเดินตามไป
อารดาเดินนำมาถึงรถ
“เฮ้ยทำไมจอดรถหลบแบบนี้”
“อ้าว จะให้จอดกลางถนนได้ยังไง”
อารดากดรีโมทรถ แล้วเปิดประตูเดินไปหยิบเงินทั้งซองออกมา พงษ์ธรกระโดดมาคว้ากระชากแกะออกมามองพยักหน้า
“โอเค ขอบใจมากคนสวย ถ้าขาดแคลนเมื่อไหร่ จะติดต่อกลับมาอีก”
“ตามสบาย”
พงษ์ธรเดินมาจับแก้มอารดา หยิกเล่น อารดาสะบัดหน้า เขมชาติเดินมาขวางหน้าพงษ์ธร
“อ้าวไอ้เขม ขอบใจมากที่มาคอยคุมกันฉัน”
“แน่ใจหรือ”
“เฮ้ย พูดอะไรอีบ้า”
“อารดาพูดจริง แกแน่ใจหรือ”
“ไอ้เขม แกอย่าบ้านะ”
“เออฉันบ้า”
เขมชาติยิงพงษ์ธรทันที
“เฮ้ย”
พงษ์ธรล้มลงไปกอง ตาเหลือลานไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ อารดาเดินไปเหยียบยอดอกพงษ์ธร
“ชดใช้ความเลวของแกแม้ไม่สาสมก็ยังดีกว่ามีแกในโลกนี้ เขมนั่นเงินของมัน รีบเก็บไปเลย”
เขมชาติก้มลงหยิบเงิน อารดาเปิดกระโปรง ชักปืนออกมา
“ไอ้เขม”
เขมชาติเงยหน้า กำเงินในซองของพงษ์ธรอยู่
“อารดาทำไม”
“แกก็หมาอีกตัวที่เคยกัดฉัน ทำลายฉันเอาแกไว้ ก็โง่ตายสิ”
อารดายิงทันที เขมชาติหงายท้องลงไปกองทับพงษ์ธร อารดาเดินมาหยิบซองเงิน แล้วเหยียบเขมชาติซ้ำแบบเดียวกับที่ทำกับพงษ์ธร
วันรุ่งขึ้น...จิตรดาราอ่านหนังสือพิมพ์แล้วหันมาบอก
“ไอ้พงษ์ธร ไอ้หน้าผีมันถูกยิงตายทั้งคู่ พี่จี พี่เจตมาดูสิคะ”
สองคนมาดู และมาอ่าน
“ตามข่าวบอกว่า ไอ้หน้าผีคือนายเขมชาติ”
“ใครฆ่าพวกมัน”
อารดาเดินกรายมา ยิ้มหวานให้เจตริน
“ดูข่าวอะไรคะพี่เจต”
อารดาทำชะโงกมอง จิตรดาราสะกิดจีรณัทย์ให้มองทีท่าอารดา
“สองคนนี่มันฆ่ากันตายมั้ง”
“ใช่แน่ๆ” อารดาได้ที
เจตรินมองหน้า
“ทำไมแน่ใจว่าใช่”
“ก็ไอ้สองคนนี่มันเลวมาก มันคงขัดผลประโยชน์กันเลยฆ่ากันตายเอง”
จิตรดาราแดกดัน
“สาธุ ช่างรู้แจ้งแทงตลอด”
“พี่เจตคะ ใครจะฆ่ากันตาย หรือโดนใครฆ่าตาย พรุ่งนี้เราจะฉลองแต่งงานกัน อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ”
จิตรดาราสะกิดจีรณัทย์ซ้ำกระซิบกระซาบ
วันแต่งงาน...บ้านตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้ จีรณัทย์ เจตริน จิตรดารา ลงมาอยู่ที่สนาม แหววกับศรีมาดูความเรียบร้อย
“พี่อิฐมาแล้วค่ะพี่จี”
อิฐเดินเข้ามาบอกจิตรดารากับจีรณัทย์
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวเรียบร้อยครับ น้องจิต พี่จี เอ้อ...ไอ้เจตมันรู้ไหม”
จีรณัทย์กับจิตรดาราตอบพร้อมกัน
“ไม่รู้คะ”
“ไม่อยากให้ตกใจค่ะ” จีรณัทย์บอก
“คุณแม่ล่ะ น้องจิต พี่จี”
"คุณแม่ขอตัวไม่ร่วมงานนี้ค่ะ”
“อารดาล่ะครับ”
แหววกับศรีปราดมาหา
“เดี๋ยวมาค่ะ”
อิฐพยักหน้าสบตาสองคน
อารดายืนกลางบันไดแต่งตัวสวยมาก ยิ้มภูมิใจในตัวเองกวาดตามองไปรอบบ้าน
“พี่เจตไม่สนใจใยดีก็ช่าง เราก็หาความสุขจากเงินทองของที่นี่ได้สบายๆ”
อารดาเดินนวยนาดลงบันได
จิตรดาราสะกิดจีรณัทย์ เมื่อเห็นอารดาเดินมา
“มาแล้วค่ะ”
“เจต เจ้าสาวของเจตมาแล้ว”
อิฐสบตา จีรณัทย์กับจิตรดาราอีกพยักหน้าให้ อารดาปราดมาหาเจตริน มาคล้องแขน
“ไปรับแขกกับดานะคะพี่เจต”
อารดาลากแขนเจตรินไปที่ด้านหน้างาน ประตูบ้านเปิดออก เอื้อมากับตำรวจจำนวนหนึ่ง อารดาผงะ
“ตำรวจ”
“ตำรวจมาทำไม” เจตรินแปลกใจ
ผู้กองเดินมาหาเจตรินกับอารดา
“ผมขอโทษที่ต้องระงับการแต่งงานครั้งนี้ไว้ก่อนครับ”
“บ้าแล้ว” อารดาโวย
“มีอะไรหรือครับ” เจตรินไม่เข้าใจ
“เราพบบัตรประชาชนของคุณอารดาตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุครับ”
อารดาตกใจมาก เธอนึกถึงตอนที่พงษ์ธรเทกระเป๋ารื้อกระเป๋าของเธอ อารดาตระหนกสุดขีด ผลักเจตรินเซไป แล้ววิ่งไปที่รถ
“อารดา” เจตรินงงๆ
ผู้กองหันมาบอก
“เธอฆ่านายพงษ์ธร กับนายเขมชาติ”
“นั่น เธอกำลังหนี รีบตามเลยครับ” อิฐชี้ไป
“จับมัน ให้ได้ค่ะ” จิตรดารารีบบอก
ตำรวจยกปืนวิ่งตามกันวุ่นวาย ทุกคนวิ่งตามกันไป
อารดาขับรถพุ่งออกไปจากประตูบ้าน ทุกคนวิ่งตาม พอรถพ้นประตูบ้านไป ได้ยินเสียงโครมดังมาก
ทุกคนตกใจ พากันวิ่งออกไปดูทันที...รถอารดาชนที่กำแพง อารดานอนหงายจมกองเลือด กระเด็นออกมาจากนอกรถ เธอลืมตานอนครวญ ทุกคนกรูไป อารดากวาดตามองทุกคน เจตรินเข้าไปหาอารดา
“อย่าแตะต้องอารดา เรียกรถพยาบาลเร็วไอ้อิฐ จี แหวว ศรี ไปหาผ้าหาสำลีมาซับแผลคุณอารดา”
จิตรดาราพึมพำ
“เวรกรรมตามทัน เวรกรรมดักรอหน้าบ้าน น่าสงสารแท้ๆ”
นิกกี้เข้ามาถาม
“พาไปโรงพยาบาลเลยไหมครับ”
“ไม่ได้หรอก กระดูดอาจจะหักเพิ่มขึ้น” เจตรินขัดขึ้น
อารดาพูดขึ้น
“ดาขอพูดกับเจต พูดความจริงครั้งแรก”
“ใครอยากฟังความจริงของเธอ” จิตรดาราสวน
“ให้เขาพูดน้องจิต” จีรภัทย์ปรามน้อง
เจตรินมองอารดา
“พูดมาเถอะอารดา”
“ความจริงตลอดเวลาที่ดาพูดกับพี่เจต คือดารักพี่เจต”
จิตรดาราขัดอีก
“รักแบบไหนไม่ทราบ รักแล้วทำลายล้าง”
“ให้โอกาสเธอพูดจิต...เธอกำลังจะตาย” นิกกี้ปรามๆ
จิตรดาราจึงเงียบไป
“ดารู้ตัวว่าผิดตลอดมา แต่ดาถอยไม่ได้ ดาต้องการเอาชนะอีริน่า ฝากขอโทษเขาด้วย”
“ผมจะบอกเธอ”
“ดาวางแผนทุกอย่าง เรื่องที่เกิดกับทุกคน ผลสุดท้ายไอ้พงษ์ ไอ้เขมมันกลับหักหลังดา”
จิตรดาราโพล่งออกมา
“มันข่มขืนเธอคืนนั้น”
“แต่เธอกับอีริน่ารอด ฉันขอโทษ”
“ไม่รับ” จิตรดาราเชิดหน้า
“น้องจิต อภัยให้เขาเถิด” จีรณัทย์บอก
“ก็ได้”
“ขอบใจ พี่เจตขาในที่สุดดาก็ต้องตัดสินใจฆ่ามันสองคน แต่ดาก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้ พี่เจตขา ยกโทษให้ดานะคะ”
“ผมยกโทษให้อารดา”
“ขอบคุณ ขอบคุณ มากค่ะ ดาลาก่อน”
อารดาตาค้าง เจตรินเอามือปิดตาอารดาให้หลับ ทุกคนนิ่งเงียบ
เอื้อ กับสาวใช้ ลากกระเป๋าเดินทางของอีริน่ากับคุณหญิงพรรณรายและกมลกันต์มาขึ้นรถ มีนายพลกันต์ตามมาส่ง
“หนูยังเปลี่ยนใจทันนะอีริน่า”
“อีริน่าไม่เปลี่ยนใจค่ะคุณตา”
“ถ้าอย่างนั้นเดินทางโดยปลอดภัยนะหลาน ฝากดูแลคุณยายด้วย”
“ค่ะ” อีริน่ายิ้มให้
“คุณพ่อไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลทั้งอีริน่า และคุณแม่ให้ดีที่สุดครับ” กมลกันต์รับปาก
อีริน่ากราบที่อกนายพลกันต์
“ขอบพระคุณมากค่ะคุณตา อีริน่ามีเรื่องจะขอร้อง”
“ตายินดีตามที่หลานบอก”
“อย่าบอกใครว่าอีริน่าไปไหนค่ะ”
“ตกลง”
นายพลกันต์ไม่เห็นด้วย แต่ก็รับปาก
เจตรินสีหน้าเบิกบาน ขณะที่จีรณัทย์โล่งใจ
“ในที่สุด ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี”
“รีบโทรหาอีริน่าเลยค่ะพี่เจต” จิตรดาราแนะ
“คนทำชั่วได้รับผลกรรมของการกระทำของตัวเองไปแล้ว”
ขาดคำนิกกี้ส่งมือถือให้ เจตรินรับมากดโทรออก
“ฮัลโหล ผมเจตครับคุณลุงครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะพูดกับคุณลุงครับ”
ทุกคนฟังเจตรินพูด
นายพลกันต์รับสาย ด้วยความตื่นเต้น และยินดี
“ลุงดีใจด้วยที่เจตหมดปัญหาเรื่องอารดา และพ่อของลูกในท้องของอารดา ลุงขอให้พวกเราอโหสิให้อารดาเถิดนะ อะไรนะจะขอพูดกับอิรีน่า เอ้อ ลุงเสียใจด้วยนะเจต อีริน่าไปแล้ว ไปไหนไม่รู้ ลุงไม่รู้จริงๆ”
นายพลกันต์วางสายแล้วยิ้ม
“แค่นี้คิดไม่ออกว่าเมียไปไหน ก็ไม่ต้องมีเมียแล้ว”
เจตรินนั่งซึมมีสามคนรุมให้กำลังใจ
“อีริน่าไปแล้ว”
จีรณัทย์ปลอบ
“แต่ไม่เกินความสามารถที่เจตจะตามไปหาหรอก”
“อีริน่ามีที่ไปไม่มากหรอกครับ”
“นั่นสิคะ จิตทายว่าเธอไปรัสเซียค่ะ”
เจตรินกระปรี้กระเปร่า ทุกคนยิ้มแย้ม
รัสเซีย...บริเวณลานกว้าง ผู้คนขวักไขว่ มีคนขายของมากมาย อีริน่าน้ำตาซึม แต่ก็ยังยิ้มทั้งน้ำตา กวาดตามองไปรอบๆ เธอนึกย้อนอดีตความหลังที่สมัยก่อนไปเมืองไทย เธอเคยมาขายของที่นี่โดนไล่บ้าง โดนด่าบ้าง ขายได้บ้าง
อีริน่ายิ้มทั้งน้ำตา ปาดน้ำตาแล้วเดินตรงไปหาใครบางคน อีริน่ายิ้มเอาหมวกหลุบหน้ามาหยุดด้านหลังใครคนหนึ่งพูดเสียงแจ่มใสมาก
“เหรียญกล้าหาญปลอมนั่นมันราคาเท่าไหร่ไม่ทราบ”
อีริน่าเอามือแตะที่บ่า คนขายตัวจิ๋วกำลังยืนหันหลังปดมือโดยอัตโนมัติ หันขวับมาทันทีแบบไม่พอใจมาก
“อยากมีเรื่องใช่ไหม”
“อยากมาก”
อเล็กซ์เงยหน้ามอง
“ได้เลย อยากจะได้ค่าคุ้มครองแทนพวกไอ้มิคาอิลก็ต้องมาสู้กันหน่อย”
“ตกลง”
อีริน่าย่อตัวลงไปเท่าตัวอเล็กซ์ แล้วสั่ง
“จะมีเรื่องกันทั้งทีไม่เปิดดูหน้าคู่ต่อสู้สักนิดหรือ...อเล็กซ์”
อเล็กซ์มึนที่รู้จักชื่อ
“เฮ้ย”
อเล็กซ์เปิดหมวกที่ปิดหน้าอีริน่าออก ถึงกับตะลึง สองคนมองหน้ากัน อีริน่ายิ้ม
“คิดถึงจังเลย”
“อีริน่าที่รัก”
สองคนโผเข้ากอดกัน อีริน่าอุ้มอเล็กซ์ขึ้นมาหมุนไปรอบๆอย่างมีความสุขทั้งสองคน
สองคนนั่งกินอาหารกันที่ร้านเล็กๆ อเล็กซ์นั่งพิงไหล่อีริน่าอย่างมีความสุข
“ถ้าอเล็กซ์โตทันฉัน เราจะแต่งงานกันดีไหมที่รัก” อีริน่าล้อเล่น
“อย่าล้อเล่นกับความรักนะที่รัก ขอเพียงอีริน่ารักตอบเท่านั้น การแต่งงานมันเกิดแน่ แต่ไม่เชื่อหรอกว่ากลับมาหาอเล็กซ์”
“จริงๆ นะ”
“โกหก หนีใครมาแน่ๆดูสิ...น้ำตาจะหยดไปด้วย”
“อีริน่าหนีคุณเจตมา”
อีริน่าร้องไห้ อเล็กซ์ดึงอีริน่ามาโอบลูบหลังลูบไหล่
“โอ๋ๆ คนดี ที่รัก บอกมาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น ฟังแล้วจะไม่บอกใคร”
อเล็กซ์พูดโทรศัพท์อยู่ในตู้สาธารณะกับยูริ
“ยูริฟังให้ดีนะว่า ถ้าคุณเจตไม่รีบตามมาเอาความรักของเขาคืนไป ไอจะตัดหน้าแต่งงานกับอีริน่าทันที โอเค้”
แล้วอเล็กซ์ก็ตัดสายไปทันที วางมาดทำท่าหนุ่มมากๆ
“รักแท้ต้องเสียสละ ต้องเห็นแก่ความสุขของคนที่ตนรัก”
แล้วอเล็กซ์ก็กลายเป็นร้องไห้ร้องห่มเสียเอง
“อกหักแล้วสินะเรา ฮือๆ”
ลานหน้าพระราชวังเคลมลินวันใหม่...ทั้งสองเดินปะปนในหมู่ผู้คน อเล็กซ์พยายามมองไปรอบๆล่อกแล่กเหมือนหาอะไรบางอย่าง ส่วนอีริน่าเศร้าหมอง แต่ก็ยังสังเกตเห็นว่าอเล็กซ์แปลกๆ อเล็กซ์หันมาสบตาอีริน่ายิ้มมีนัย
“ยิ้มอะไร”
“มีความสุข แฮปปี้มากๆ”
“เรื่องอะไร”
“เดี๋ยวก็รู้ อยู่ตรงนี้เดี๋ยวนะที่รัก เดี๋ยวมา”
อเล็กซ์ไม่รออีริน่าตอบ วิ่งไปทันที อีริน่ามองตาม
“บ้าไปแล้ว”
ใกล้ๆกันนั้น...เจตรินยืนส่ายหน้ามองมีกมลกันต์ยืนข้างๆ
“พี่กมลต้องช่วยผมนะครับ”
“เจตช่วยตัวเองไปเถอะ เพราะเจตทำร้ายอีริน่าเอง อย่ามาร้องให้ใครช่วยซะให้ยาก”
อเล็กซ์วิ่งมาหา เจตรินยื่นมือไปโอบอุ้มอเล็กซ์ไว้
“คุณเจต”
“อเล็กซ์”
อเล็กซ์ชกหน้าเจตรินเต็มแรง กมลกันต์ตกใจ
“เฮ้ย…อะไรกันน่ะ”
เจตรินงงๆ
“ชกกันทำไม”
“เพราะทำให้ที่รักของอเล็กซ์เสียใจ”
“โอ้โฮ” กมลกันต์อึ้ง
อเล็กซ์ยังชกรัวไปมาที่หน้าของเจตรินไม่เลิก
“ฟังกันก่อน ฟังก่อน อเล็กซ์ พลีส ฟังนะ”
อเล็กซ์ฟังแล้วพยักหน้าหงึกๆ กมลกันต์ยิ้ม ยกนิ้วให้อเล็กซ์
“อเล็กซ์ดีที่หนึ่ง สุดยอดมาก”
เจตรินยิ้ม
“เข้าใจแล้วนะ ขอโทษมากๆ และเสียใจมากๆ จะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว”
“โอเค แล้วไงต่อ”
เจตรินมองอเล็กซ์
“แล้วอเล็กซ์กับ อังเคิลกมลก็ไปเตรียมจัดงานฉลองสิ ตกลงไหม”
อเล็กซ์ยิ้ม ไฮไฟท์กับเจตริน พยักหน้า
“ขอบใจมาก อเล็กซ์” เจตรินรีบเดินแยกไป
หน้ามหาวิหาร ผู้คนคลาคล่ำไปหมด ในนั้นมีอีริน่ายืนชะเง้อกังวลบ่นหาอเล็กซ์
“จะบ้าตาย หายไปไหนนานแท้ๆเด็กคนนี้”
ทันใดนั้น มีมือมาโอบกอดอีริน่าจากด้านหลัง อย่างแน่นมาก ตั้งใจจะไม่ให้หลุดมือ
“ที่รัก”
อีริน่าสะดุ้งไม่เชื่อหูตัวเอง
“ไม่จริง ไม่ใช่ ไม่มีวัน ไม่มีแน่ๆ”
“หันมาดูสิ แล้วจะรู้ว่ามีแน่ มีจริง และใช่จริง”
อีริน่ายืนนิ่งเหมือนโดนสาปอุทานเบามากแบบครางๆ
“คุณเจต”
อีริน่าเผลอยิ้ม แต่ไม่หัน เจตรินดึงอีริน่าให้หันมาหา
“ที่รัก ผมหัวใจสลาย ตั้งแต่อีริน่าหนีผมมา”
“ไปให้พ้น อย่ามาแตะต้องตัวฉัน เราขาดกันแล้ว กลับไปหาภรรยาคุณสิ”
“เธอตายแล้ว”
“โกหก” อีริน่าไม่เชื่อ
“อารดารับกรรมที่ก่อขึ้น ตำรวจจับได้ ทุกคนจับได้ว่าเธอร้ายกาจแค่ไหน เธอหนีความผิดขับรถชนกำแพงตาย”
“คุณเลยตามมาหาอีริน่า”
“ผมต้องตามมาแน่นอน ผมไม่แต่งงานกับเขาแน่ ผมเพียงแต่ไม่รู้ว่าอีริน่าไปไหน ต้องขอบใจอเล็กซ์”
“เด็กคนนี้ หลอกกันนี่นา”
เจตรินก้มลงไปจูบอีริน่า
“ผู้ใหญ่คนนี้ไม่มีวันหลอกอีริน่า คุณแม่ผมท่านฝากขอโทษอีริน่าด้วย คุณแม่ของอีริน่าก็นั่งร้องไห้รออีริน่า คุณยายคุณตาก็ทำท่าจะไม่สบาย คุณน้าของอีริน่าก็...”
เจตรินนิ่งไป อีริน่าถาม
“ก็อะไรคะ”
อีริน่ามองไปเห็นกมลกันต์ยืนข้างอเล็กซ์ยกมือโบกให้
“ครอบครัวของอีริน่าส่งตัวแทนมาในงานแต่งงานของเราสองคน”
กมลกันต์กับอเล็กซ์ชูชุดแต่งงานที่อีริน่าเคยใส่ตอนที่แต่งงานกับเจตรินครั้งแรก อีริน่ายิ้มอายๆแต่มีงอน
“มัดมือชกกันแท้ๆ”
พูดไม่ทันจบ เจตรินก็จูบอีก
อีริน่ากับเจตรินใส่สุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวจูงมือกันวิ่งฝ่าฝูงคนมายืนตรงที่สวยที่สุด มีกมลกันต์กับอเล็กซ์จูงมือกันตามหลัง สองคนร่าเริงมีความสุข แล้วหยุดหันหน้าเข้าหากัน เอาหัวชนกัน หน้าผากชนกัน หน้าชนหน้า
“ตอนที่อีริน่าหายไป ผมสวดมนต์ให้ฝันถึงอีริน่าทุกคืน”
“แล้วฝันไหมคะ”
“ฝันสิ พออีกคืนผมก็สวดมนต์อีกว่า ถ้าผมฝันแล้วขออย่าให้ผมตื่นจากฝัน”
“ทำไมคะ”
“เพราะผมกลัวว่าถ้าผมตื่นผมจะไม่ได้เจออีริน่าอีก”
“แล้วตื่นทำไมคะ”
“เพราะผมรู้ว่า ถ้าผมตื่น แล้วออกตามหาอีริน่า ผมจะได้พบตัวจริงของอีริน่า และผมจะได้เห็นอีริน่าตราบจนลมหายใจสุดท้ายของผม”
“ที่รัก เราจะได้เห็นลมหายใจสุดท้ายของกันและกันค่ะ”
ทั้งสองคนจูบกันอย่างมีความสุข
จบบริบูรณ์