สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 15
พงษ์ธรพยายามคิดหาลู่ทางหาเงิน แล้วอยากได้เงินจากจิตรดาราอีก
“ทำไมวะ ทำอะไรนังอีริน่าไม่ได้สักที เงินทองก็ร่อยหรอลงไปทุกทีใช้หนี้ไอ้แก๊งนั้นไป มันก็มีแก๊งใหม่มาทวงหนี้ต่อ แถมเสี่ยงโดนตำรวจจับ”
เสียงเคาะประตูห้อง พงษ์ธรไปแอบมองที่ช่องตาแมว
“เฮ้ย มาอีกแก๊งแล้ว”
แก๊งทวงหนี้หน้าตาโหดมากยืนหน้าประตู เคาะอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เปิดประตู ป๋าให้มาเอาเงินสามแสนบาทค่าเช่ารถ”
“ถ้าไม่เปิดจะพังประตูเข้าไป”
“ลุย”
สมุนทั้งสามตั้งท่าลุย...พงษ์ธรตกใจ ทำท่าจะถอยหนีไปที่ระเบียงหาทางปีน ประตูห้องโดนถีบออก สามคนชี้ยกปืนจ้อง
“อย่าหนีนะ”
พงษ์ธรหยุด สามคนปราดมาฉุดกระชากชกต่อย
“พวกแกจะเอาอะไร”
“หูตึงหรือ ป๋าให้มาทวงหนี้ อย่าแกล้งโง่ เอาเงินมา”
“ไม่เบี้ยวหรอก แต่ตอนนี้ยังไม่มี”
“แต่แกมีใช้หนี้ บางคนไปวันก่อน”
“ก็มันหมดแล้วนี่นา”
“ไม่ใช่เรื่องของป๋า มันอยู่ที่ว่าแกก็ต้องไปหาเงินมาจ่ายค่าเช่ารถของป๋า อยากหน้าใหญ่ใจโต โชว์สาวแล้วไง”
“ฝากบอกป๋า ขอเวลาฉันบ้าง”
“ป๋าฝากมาบอกแกว่าให้เวลา เจ็ดวัน”
พงษ์ธรตาเหลือก
“โห...”
“แต่วันนี้ป๋าฝากมาเก็บดอกเบี้ยจ่ายล่าช้า”
สมุนทั้งสามคนรุมชกพงษ์ธร จนหมอบ
นายพลกันต์ กับคุณหญิงพรรณรายออกมารับอีริน่า นิกกี้ตามมาส่ง
“กลับมาไวจริงๆหลาน”
นายพลกันต์มองแล้วดูท่าทางรู้ว่าอีริน่ามีปัญหากลับมา
“เข้าบ้านกันก่อน เอ้อ...ทำไมเจตไม่มาส่งหนู”
“เขาไม่สบายค่ะ” อีริน่าเลี่ยงที่จะพูด
“พอดีผมผ่านไปครับ ก็เลยอาสามาส่งให้ครับ อีริน่าครับ ผมกลับก่อน” นิกกี้ไหว้ลา
“ขอบคุณมากนิกกี้ คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดค่ะ”
นิกกี้ยิ้ม อีริน่าเดินเข้าบ้านไปกับนายพลกันต์ และคุณหญิง ทั้งคู่สบตากันอย่างรู้ว่าหลานสาวมีเรื่องมาแน่ๆ
จีรณัทย์คุยโทรศัพท์กับอีริน่า ขณะที่นั่งมาในรุกับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ โดยนายเมฆเป็นคนขับรถ
“เป็นความจริงหรืออีริน่า โธ่...”
จีรณัทย์ตัดสายหันมาบอกคุณหญิงที่พยักหน้ารับรู้แล้ว
“สมัยแม่ทิ้งลูกผู้หญิงไว้บ้านคนเดียวกลัวจะโดนข่มขืน แต่สมัยนี้ ผู้หญิงมันข่มขืนผู้ชายกันแล้วหรือนี่ โธ่ตาเจตของแม่” คุณหญิงกุมขมับ
“อีริน่าบอกว่าระหว่างทางมาที่บ้านโดนลอบยิงสองครั้ง ตั้งแต่ออกจากบ้านโน้น มาโดนอีกครั้งที่หน้าบ้านเราค่ะ เลยมาช้าเกินไป”
“เวรกรรมมันตามทันแม่เข้าให้แล้ว เพราะเมื่อก่อนดวงตาแม่เห็นแต่กรรม มามองเห็นธรรมเอาตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว โธ่เวรกรรม”
“ทำไมมันไม่มาตกมาใส่แม่ แต่กลับตกไปใส่ลูกถึงสองคน”
จีรณัทย์โอบแม่
“คุณแม่ขา แก้ปัญหานะคะ มันเป็นไปแล้วค่ะ”
คุณหญิงซบจีรณัทย์ร้องไห้เหมือนเด็กๆ
อารดาโวยวายใส่เจตริน เรื่องต้องแต่งงานกับเธอให้ได้
“ดาเสียหายไปแล้ว พี่เจตต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับดา”
“ผมแต่งงานแล้ว”
“ก็ต้องหย่าคะ มาแต่งงานกับดา”
“อีริน่าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วทำไมผมต้องหย่ากับเขา”
“แต่พี่เจตทำผิดกับดา ถ้าไม่รับผิดชอบ ดาจะฟ้องพี่เจตที่กระทรวงค่ะ”
เจตรินอึ้ง จีรณัทยกับคุณหญิงศรินทร์ทิพย์เข้ามา คุณหญิงเข้ามาตบหน้าเจตรินอย่างโมโห
“งามหน้าแท้ๆเจตริน ลูกชายคุณหญิงศรินทร์ทิพย์มีเมียแล้ว ไปข่มขืนผู้หญิงที่ไม่ใช่เมีย”
“แต่ต่อไปนี้ดาคือเมียค่ะ ส่วนคนอื่นดาไม่ทราบ” อารดาโต้
จีรณัทย์ด่าทันที
“หน้าด้านแท้ๆ น้องชายฉันไม่ทำอย่างนั้นแน่ แต่เธอนี่แหละทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากลกับเขา”
“คุณแม่ขา ผมสองสีจนจะเหลือสีเดียวแล้ว อย่าอคติ อย่าอยุติธรรมเหมือนกันที่ผ่านมานะคะ”
“นี่หล่อนกำลังขอความช่วยเหลือหรือด่าฉัน”
“ออกคำสั่งต่างหาก คนอย่าอารดาไม่มีวันยอมแพ้ ดากำลังล้างแค้นแทนพ่อ” อารดาเชิด
“คุณแม่ครับ ผมไม่ได้ทำ ไม่ได้คิดจะทำผมมั่นใจว่ามีการจัดฉากให้ผมต้องทำ” เจตรินบอกอย่างไม่สบายใจ
“ไม่จริงค่ะ จัดแบบไหน ทำไมพี่เจตเข้าไปข่มขืนดาถึงในห้องนอนได้คะ” อารดาเถียง
“พี่เชื่อเจต อารดาเธอมันร้อยเล่ห์ ล้านเหลี่ยม” จีรณัทย์บอกทันที
“ผมมั่นใจว่าผมโดนวางยา น้ำธัญพืชนั่น เธอใส่อะไรลงไปในนั้นแน่แน่ ผมจะเอาไปพิสูจน์”
จีรณัทย์เห็นด้วย
“ใช่เราจะเอาไปพิสูจน์”
อารดาหน้าซีดไป คุณหญิงจ้องหน้า
“แก้วนั่นอยู่ไหน”
“มันไม่สำคัญหรอกค่ะว่ามันอยู่ที่ไหน แต่สิ่งที่พี่เจตทำลงไปแล้ว คือข่มขืนดาค่ะ ดาจะไม่บอกซ้ำๆนะคะ ว่าถ้าไม่จัดการรับผิดชอบ ดาเอาเรื่องให้แดงโร่ไปทั้งประเทศ”
ทุกคนเงียบไป อารดาพูดจบเดินหายไปจากที่นั่น
อีริน่านั่งร้องให้ เงียบๆ
“คุณเจต ทำไม ทำไมทำอย่างนี้กับอีริน่า อีริน่าโง่เองที่ไปหลงรักคุณเจต จนหมดใจ”
อีริน่านึกถึงภาพเจตรินกับอารดาที่กำลังนัวเนียฉุดคร่ากัน อีริน่าป้ายน้ำตา
เจตรินนั่งทอดถอนใจบนเตียง
“อีริน่าที่รัก ผมรักคุณหมดใจ ถ้าไม่รักผมไม่ยอมแต่งงานกับคุณง่ายๆแน่ผมขอโทษ ผมทำอะไรโง่ๆ ผมประมาทเดินไปจนหลงกลคนเลว ผู้หญิงคนนั้นช่างน่ารังเกียจแท้ๆ”
อารดามาแอบอยู่ในห้องก่อนหน้านั้นแล้ว แอบมองยิ้มเยาะ
“เห็นดาน่ารังเกียจ เห็นนังอีริน่าน่าเทิดทูน แล้วพี่เจตจะรู้สึกว่าพี่เจตต้องเทิดทูนดา เพราะดาจะมีอำนาจเหนือทุกคนที่นี่”
อารดาแอบมองต่อไป
คุณหญิงพรรณรายพยายามสอบถามอีริน่าที่เอาแต่นั่งซึมเงียบ
“เกิดอะไรขึ้น หลาน”
“ไม่มีค่ะ ไม่มีอะไรค่ะคุณยาย”
“หนูไปพบเห็นอะไรที่ไม่สบายใจมาใช่ไหม”
“เอ้อ...”
“หนูควรจะบอกเจตว่าหนูท้อง”
“ไม่มีประโยชน์ที่จะบอกเขาค่ะ อีริน่าตัดสินใจแล้ว อีริน่าจะหย่ากับเขาให้เร็วที่สุด”
“อีริน่าทำไมตัดสินใจอย่างนี้ แล้วลูกของหนู” คุณหญิงตกใจ
“อีริน่าสามารถเป็นซิงเกิ้ลมัมได้ค่ะ ลูกอีริน่าไม่มีพ่อก็อยู่กันเองได้ค่ะ”
“แล้วใครเขาจะยอมให้อีริน่าเก็บลูกไว้คนเดียว”
“เขาอาจจะหาลูกใหม่ๆจากใครที่ไหนก็ได้ค่ะคุณยาย”
“อีริน่าทำไมพูดจาอย่างนั้น เจตไม่ใช่คนมักมาก”
“เวลาผ่านไปหัวใจของเขาคงเปลี่ยนตามค่ะ”
“คนดีของยาย ดึกมากแล้วอีริน่าพักผ่อนเพื่อสุขภาพของตัวเองและลูกในท้องนะหลาน”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณยาย”
คุณหญิงโอบกอดปลอบโยน อีริน่าน้ำตาซึม
เจตรินถอนใจนอนพิงพนักเตียงหนักใจนอนไม่หลับ
“อีริน่า ผมขอโทษ ผมเสียใจ ที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา”
อารดาออกจากที่ซ่อนย่องมาโถมตัวนอน และโอบกอดเจตรินไว้จนเขาสะดุ้ง
“แต่ดาดีใจที่สุดในชีวิต ตั้งแต่เกิดมาค่ะ”
“อารดา เข้ามาได้ยังไง”
“ดาจะเข้ามานอนกับพี่เจตค่ะ”
“ไม่นะ อย่ามานอนกับผม”
“เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ทำไมเราจะนอนด้วยกันไม่ได้คะ”
“ไม่ได้ เพราะผมไม่เคยต้องการนอนกับดา ออกไปนะ ออกไปจากห้องผมนะ” เจตรินไล่อย่างไม่ใยดี
“ไม่คะ หัวเด็ดตีนขาด ดาไม่ออกค่ะ ดาจะนอนที่นี่นอนในห้องนี้กับพี่เจต”
อารดากอดแน่นเข้าไปอีก เจตรินออกแรงผลักโดยแรง อารดากลิ้งตกลงไปข้างเตียง
“ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีวัน”
“ว๊าย ดาเจ็บมากนะคะ”
“ผมต่างหากที่เจ็บมากกว่าดา เชิญดานอนที่นี่ไปเถิด ผมจะนอนที่อื่น”
เจตรินรีบออกไป อารดาคว้าเท้า เจตรินก้มลงไปแกะแล้วรีบออกจากห้องไปอย่างเร็ว อารดาวิ่งตามออกมา
เจตรินวิ่งหนีมาจากในห้อง อารดาวิ่งตามมา
“อย่าหนีดานะคะ”
จีรณัทย์มาขวางเอาไว้
“จะหน้าด้านไปถึงไหนอารดา”
“หลีกไปนะ นี่มันเรื่องของผัวเมียอย่ามาวุ่นวาย”
“คนอยากได้ผัวของคนอื่น เธอมันแมวขโมย ขโมยผัวคนอื่น ฉันในฐานะพี่สาวของผู้ชายคนนั้น ฉันมีสิทธ์ปกป้องช่วยเหลือเขา อย่าตามเขาไปนะอารดา”
“ฉันจะตามหลีกไป”
อารดาผลัก จีรณัทย์ผลักตอบ
“อย่ามาล่วงเกินกันนะอารดา”
“ก็หลีกไปสิ”
อารดาเหวี่ยงจีรณัทย์จะให้ล้ม จีรณัทย์กระชากบ้าง อารดาเงื้อมือจะตบ จีรณัทย์ไว้กว่าตบโดยแรง
“แกนังจีรณัทย์ แกเองก็อยากมีผัวจนตัวสั่น แต่โดนแม่กักกันเอาไว้ น้องสาวแกก็สำส่อนคบผู้ชายไม่เลือกหน้าแถมโดนปอกลอก”
“แล้วเธอล่ะ อยากปอกลอกน้องชายฉัน อยากได้เขาเป็นผัวจนต้องใช้สารพัดเล่ห์กล ฟังนะ ได้ไปแต่ตัว หัวใจเขาให้คนอื่นไปแล้ว เธอก็เหมือนตกนรก รีบโดดลงมาจากต้นงิ้วนั่นไวๆเข้าก่อนที่หนามมันจะทิ่มแทงเธอเจ็บปวดไปทั้งตัว”
“อีสาวทึนทึก”
อารดาโถมมาใส่ แหววกับศรีผวามากันจีรณัทย์
“นายข้าใครตะแตะ”
สองคนทำท่าจะเล่นงาน อารดาชะงักไป
เจตรินเข้ามาอยู่ในห้องของจิตรดารส่ายหน้ากลุ้มใจ อารดาทุบประตูห้องเรียก
“เปิดประตูรับดานะคะ เปิดประตู เรามาพูดกันดีๆนะคะ”
“ผมไม่พูดดีๆกับคนที่เลวๆอย่างดาอีกแล้ว”
“อ๊าย”
เจตรินยืนนิ่งฟังสงบ
เช้าวันใหม่...พงษ์ธรไม่อาจข่มตานอนหลับได้
“จะหาเงินที่ไหนไปให้ไอ้ป๋าโหดนั่น มันเอาเราตายแน่ หาที่ไหนกันนะ...อารดา...ไม่ได้ อารดามีเงินจำกัด...จิตรดารา” พงษ์ธรยิ้มออกทันที
จิตรดาราอยู่ในห้องพักไข้รับสายจากพงษ์ธร
“พงษ์ธร...แกไอ้แมงดา”
“เรียกผัวว่าแมงดาได้ยังไง”
“ไอ้หน้าด้านโทรมาหาฉันทำไม”
“ผมโทรมาขอโทษ”
“ไม่รับ ฉันไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากแก ฉันมันโง่เอง ปัญญาอ่อนเอง”
“ผมนี่แหละที่เลวเอง ผมสำนึกผิดผมห่วงจิตกับลูกในท้องของเรา”
“เพ้อเจ้อ”
“ผมต้องการแต่งงานกับจิตนะ หรือว่าจิตอยากให้คนรู้ว่าท้องแล้วพ่อของลูกอยู่ที่ไหน”
จิตรดาราใจอ่อนมานิดหนึ่ง
“พ่อของลูกฉันมันคือแมงดา ไม่มีพ่อยังดีกว่ามีพ่อเป็นแมงดา”
“โธ่จิตฟังผมบ้าง มาพบผมนะจิตยังรักผมอยู่ผมรู้ นะที่รักมาพบกัน เพื่อคุยกันเรื่องแต่งงานของเรา ผมจะกลับเนื้อกลับตัว”
จิตรดารนิ่งคิด
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์อยู่ในห้องนั่งเล่น ไม่สบายใจมากเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัว
“นี่บ้านเรามันเกิดเรื่องแย่ๆซ้ำๆกันไม่หยุดไม่หย่อน เมื่อวานก็เรื่องยัยจิต”
เจตรินแปลกใจ
“น้องจิตเป็นอะไรครับ ไหนคุณแม่ว่าไปสวดมนต์ข้ามคืนทำไมคุณแม่กับพี่จีกลับมา แล้วน้องจิตทำไมไม่กลับมา”
คุณหญิงกับจีรณัทย์สบตากันพูดไม่ออก
“พูดความจริงกับเจตเถิดค่ะคุณแม่ ยังไงก็ปิดไม่มิดหรอกค่ะ”
“มีอะไรเกิดขึ้นกับน้องจิตครับ” เจตรินคาดคั้น
“น้องจิตอยู่โรงพยาบาล”
“น้องจิตเป็นอะไรครับ”
“แท้งลูก” คุณหญิงตัดสินใจบอก
“น้องจิตท้องกับใคร” เจตรินตกใจมาก
“พี่ว่าไม่แคล้วเป็นนายพงษ์คนนั้น”
“แม่ไม่ไว้ใจผู้ชายคนนั้น แต่มันทำลูกจิตเสียหายไปแล้ว”
“คุณแม่คิดว่าน้องจิตสมควรแต่งงานกับนายพงษ์คนนั้น”
“ถ้าน้องพอใจ แม่คิดว่า...”
“ครับ เอ้อ...ผมจะไปเยี่ยมน้องจิต”
จีรณัทย์ขัดขึ้น
“น้องจิตกลับบ้านได้แล้ว พี่ไปรับเอง เจตนั่นแหละรีบไปทำงานแล้วแวะไปหาอีริน่าพูดจากันให้เข้าใจดีกว่า”
“ครับ”
อารดาเดินยิ้มไม่ยี่หระเข้ามา
“ตกลงกันแล้วหรือคะว่าจะจัดงานแต่งงานให้ดากับพี่เจตะวันไหน”
“ไม่มีการแต่งงานใดๆทั้งสิ้น ผมขอตัวไปทำงานก่อน”
เจตรินลุกขึ้น เดินออกไปทันที จีรณัทย์ลุกบ้าง
“จีก็จะไปเหมือนกันค่ะ”
“แม่ไปด้วย”
“นี่แปลว่า พร้อมใจกันหนีดาหรือคะ ขอบอกหนีไม่พ้นหรอกค่ะ พี่เจตออกไป ดาก็จะออกไปบ้าง ไปหานักข่าวไปหาเจ้านายพี่เจต พร้อมด้วยไอ้นี่”
ทุกคนชะงัก อารดาชูเครื่องบันทึกเสียงที่บันทึกเสียงเจตรินไว้และเปิดให้ฟัง จีรณัทย์จ้องอารดาอย่างเกลียดชัง
“อารดาทำไมเธอช่างชั่วร้ายเลวทรามได้ขนาดนี้”
“ใครผิดสัญญาก่อน หมั้นดาแล้วไม่ยอมแต่งงานไปคว้าอีบ้าทีไหนมาแต่ง ดาผิดหรือคะ”
“แม่เธอบังคับแกมขอร้อง ฉันเห็นแก่คนตาย แต่มันคือเพื่อนทรยศแม่เธอกับเธอมันก็เลวพอกัน” คุณหญิงโกรธมาก
“ค่ะ ถ้าไม่เลวคงเอาชนะคนที่นี่ไม่ได้ อย่าคิดวาจะมาขโมยเสียงนี่เหมือนเอกสารครั้งก่อนนั้น เพาะมันไม่ได้มีชุดเดียว ฉันจะส่งไปที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้”
“อย่านะอารดา” คุณหญิงหน้าตื่น
“ให้เวลาเจ็ดวัน ตัดสินใจว่าจะรับผิดชอบกันยังไง”
อารดาเดินมาโอบกอดเจตริน ก่อนเดินจากไป สามคนพูดไม่ออก
จิตรดาราตัดสินใจ โทรกลับหาพงษ์ธร
“ตกลงค่ะ จิตจะไปพบคุณ”
จิตรดาราวางสาย
พงษ์ธรโอบกอดเก๋ หญิงสาวคนใหม่ที้เขาหลอกมาได้
“โล่งอกไปที”
“ผู้หญิงโทรมาหรือคะ”
“ผู้หญิงไม่ดีน่ะ โทรมาขอเงินอย่าไปสนใจเลยเก๋”
พงษ์ธรยิ้ม
คุณหญิงพรรณรายบอกให้อีริน่ารู้ว่าเจตรินมาหา แต่เธอพยายามเลี่ยง
“คุณยายขา อีริน่าไม่พบเขาได้ไหมคะ”
“ได้น่ะ แต่ทำไมอีริน่าต้องหลีกเลี่ยงที่จะพบเขา แทนที่จะพบเพื่อพูดจากับเขาให้ เข้าใจกัน”
“อีริน่าไม่ต้องการปรับความเข้าใจกับเขาค่ะ มันสายเกินกว่าที่เราจะเข้าใจกันแล้วค่ะ”
ขณะที่อีริน่ากำลังพูด เจตรินฉวยโอกาสเดินเข้ามาหาทันที
“อีริน่า”
อีริน่าจะหนีก็ไม่ทัน
“เชิญจ้ะเจต ป้าขอตัว ยายขอตัวก่อนนะอีริน่า”
คุณหญิงเดินออกไปจากที่นั่น เจตรินเดินไปจับมืออีริน่ามากุมไว้ อีริน่าสะบัดออกไป
“อีริน่ากรุณาฟังผมบ้าง ผมไม่ได้มาแก้ตัว แต่ผมจะมาอธิบายให้อีริน่าเข้าใจ”
“อีริน่าเข้าใจค่ะ ภาพมันยืนยัน ทุกสิ่งมันบ่งบอกว่ามันคือความจริงไม่ใช่การจัดฉาก”
“ผมถูกอารดาวางยา”
“ก่อนที่จะถูกวางยา ทำไมไม่ระวังตัว”
“คนจ้องฉวยโอกาสกับคนโดนฉวยโอกาสบางครั้ง มันก็พลาด เพราะเผลอไผลได้”
“แต่เรื่องที่มันเผลอไผลนี่มันไม่ใช่เรื่องเผลอกินยาแล้วหลับไป แต่เผลอไผลไปข่มขืนใครเขา มันเกินกว่าที่จะเข้าใจว่าโดนวางยา”
“เครื่องดื่มแก้วนั้น ผมดื่มยังไม่หมด มันมีติดก้นแก้วอยู่บ้าง แต่มันหายไป ผมอยากจะเอาไปพิสูจน์ว่าอารดาใส่อะไรลงไปในแก้วนั้น”
“พิสูจน์แล้วจะเอาไปทำอะไรได้ไม่ทราบ เหมือนละเมอไปฆ่าคนตาย แล้วจะแก้ตัวว่าไม่ได้ทำมันไม่ได้หรอกค่ะ อีริน่าว่าเรามาหย่าขาดจากกันเพื่อให้เราสองคนหมดพันธะต่อกันเถิดตามที่ตกลงกันเถิดค่ะ”
เจตรินตกใจ
“ไม่นะอีริน่า ผมจะไม่ยอมหย่าขาดกับอีริน่าเด็ดขาด ถ้าอีริน่าท้องเล่า”
“แล้วถ้าอารดาท้องเล่าคะ คุณเจตจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเธอท้องมันไม่ใจดำเกินไปหรือค่ะ มันไม่เป็นสุภาพบุรุษนะคะ”
“อีริน่า โธ่ ผมจะทำยังไงดี”
“ทำได้อย่างเดียวค่ะ หย่ากับอีริน่า”
อีริน่าพูดไปน้ำตาคลอไป เจตรินนิ่งเถียงไม่ออกได้แต่ส่ายหน้า
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ด่าแหววกับศรีอย่างโมโห
“แกสองคนมันแก่กะโหลกกะลา พึ่งพาอาศัยไม่ได้ คุณจีสั่งแล้วสั่งอีกให้ดูแลคุณเจต แต่ดันไปนอนหลับคาประตูซะงั้น”
“เราสองคนโดนวางยาเหมือนกันนี่คะ” แหววเสียงอ่อย
“สงสัยว่าจะแอบใส่มาในอาหารที่คุณเจตทานแล้วเราเอาลงมาทานต่อค่ะ” ศรีเสริม
คุณหญิงถอนใจ
“สรุปว่าโดนวางยากันทั่วหน้า สักวันฉันคงโดนบ้าง นี่ฉันได้ยินคุณเจตบอกเรื่องไอ้แก้วเครื่องดื่มนั่น แกสองคนเห็นบ้างไหม หรือว่าเอาไปล้างแล้ว”
“ไม่ได้ล้างหรอกค่ะ มันอยู่ในห้องนั่งเล่นนี่แหละคะ” แหววบอก
“หรือว่า นังหมอนกับนังหวินมันจะเห็นคะ” ศรีครุ่นคิด
“ไปเรียกมันมา”
“มันหายตัวไปแล้วค่ะ” แหววรีบบอก
“มันหายตัวไปได้ยังไง ใช่แล้ว นังสองคนนั่นต้องรู้เห็นเป็นใจ แต่ตอนนี้มันคงหนีไปแล้ว บ้าจริง แกสองคนพยายามหาหน่อยนะ เผื่อจะเจอไอ้แก้วบ้านั่น” คุณหญิงสงสัย
“ค่ะ”
อารดาแอบดูอยู่พึมพำเบาๆ
“ฉันต้องหาให้พบก่อนที่พวกแกจะพบให้ได้ ใครกันนะที่เอาไปซ่อน”
อารดาพยายามนึก
“นังอีริน่า”
เจตรินมาพบอิฐเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง อิฐส่ายหน้าหนักใจแทน
“อยากจะสมน้ำหน้าแกว่ะ แต่ก็ไม่อยากจะซ้ำเติมแก เสียใจด้วย ถ้าแกยอมเสียชื่อเสียงให้ยัยอารดาประจาน แต่ถ้าแกยอมถึงเพียงนั้นสังคมจะประณาม แถมอีริน่าก็ไม่หันกลับมาหาแก แกจะทำยังไง หงายเงิบหมด”
“ฉันกำลังจะเป็นบ้าแล้วนะอิฐ”
“ฉันเองก็กำลังจะบ้าไปกับแก แต่ถ้าแกได้แก้วเครื่องดื่มนั้นมาพิสูจน์ แม้ว่าอาจไม่ช่วยอะไรได้มาก แต่ก็ช่วยชัดเจนว่าแกโดนวางยา และเป็นไอ้โง่”
“ฉันยอมรับว่าฉันโง่ แต่แกต้องช่วยฉันนะอิฐ”
“ฉันจะพยายามแต่ไม่รับรองว่าจะสำเร็จไหม”
เจตรินพยักหน้า
อารดาพยายามค้นหาแก้วเครื่องดื่มนั้นให้พบ
“มันหายไปไหนนะ”
แหวว เดินมามองแปลกใจ
“หาอะไรไม่ทราบ”
“แกเอาแก้วเครื่องดื่มของคุณเจตไปเก็บไว้ที่ไหน”
“ใครวางยาเธอไว้ ทำไมจะต้องเที่ยวมาถามว่าใครเขาเอาไปเก็บไว้ที่ไหน”
“เอ๊ะ แกอย่ามากวนโทสะฉันนะ แกก็รู้ว่าฉันกับคุณเจตไม่ใช่แค่คู่หมั้นกันเหมือนที่ผ่านมา แต่ว่าฉันเป็นคุณผู้หญิงที่นี่แล้ว บอกมานะว่าเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์เดินมาอีกคน
“มีอะไรกัน”
“มีการค้นหาหลักฐานการวางยาคุณเจต เพื่อจะเอาไปทำลายค่ะ” แหววหันไปบอก
“คุณแม่คะ ดาต้องการจะเจรจาสงบศึกกับคุณแม่ค่ะ”
“ทุกวันนี้คนอื่นเข้าสงบกันมาตลอด แต่เธอนั่นแหละที่ไม่ยอมสงบ ก่อศึกตลอดเวลา”
“คุณแม่จะตกลงหรือจะด่าดาคะ”
“แหววแกไปได้”
แหววออกไป
“ฟังนะคะ คุณแม่”
อารดาเริ่มพูด คุณหญิงนั่งฟัง
จีรณัทย์พยายามอ้อนวอนอีริน่าให้เข้าใจเจตริน
“อีริน่าพี่ขอร้องกลับบ้านเรานะ”
“กลับไปดูคุณเจตกำลังข่มขืนคนอื่นหรือคะ อีริน่ากำลังขอหย่ากับเขาค่ะ”
“อีริน่าโธ่ เจตเขาโดนวางยานะ”
“แต่ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว ความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้วค่ะ”
“เอาละ พี่จะไม่เคี่ยวเข็ญอีริน่ามาก แค่อยากจะถามว่าอีริน่ารักพี่บ้างไหม”
“รักสิคะ ทั้งรักและเคารพพี่จี พี่จีดีกับอีริน่ามาตลอด”
“ถ้าอย่างนั้นช่วยพี่สักครั้งได้ไหม”
“ค่ะ”
“เจตเขาบอกว่าแก้วเครื่องดื่มที่เขากินเข้าไปจะมีตัวยาอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาเป็นบ้าไป เขาหาแก้วนั้นอยู่ มันหายไปแล้ว และไม่มีใครเห็น แม้แต่อารดาก็ยังพยายามหาเพื่อทำลายหลักฐาน”
“อีริน่าไม่ได้ต้องการช่วยคุณเจต แต่อีริน่าต้องการทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ”
“บอกมาอีริน่าว่ามันอยู่ที่ไหน”
“ค่ะ มันอยู่ที่...”
แหววเดินมาที่ตู้ใบที่อีริน่าเอาแก้วมาซ่อน แล้วรีบหยิบออมมาโดยเร็ว ซ่อนเอาไว้ด้านหลังมือ อารดาเดินมามองแหวว
“แหวว แกซ่อนอะไรไว้ข้างหลังน่ะ”
“เปล่านะคะ”
“แกซ่อนไว้ บอกให้เอามานี่”
“ไม่มีค่ะ”
อารดาเดินรี่มาหา แหววถอย อารดากำลังจะมาถึงได้ยินเสียงเจตรินเอะอะมาจากด้านนอก
“บอกว่าไม่ได้เมา ไม่เมา จะเอาอะไรกันนักกันหนา”
อารดาชะงัก
“พี่เจต”
“เสียงเมาได้ที่มาเลยค่ะ ไม่ไปดูแลเธอหรือคะ” แหววรีบบอก
อารดารีบไป แหววถอนใจโล่งอกรีบเอาแก้วมาแนบอกจับไว้ด้วยสองมือ แล้วออกไป
อิฐประคองเจตรินเข้ามา เจตรินโวยวายหาอีริน่า
“อีริน่า อีริน่ามารับสามีด้วยที่รัก ผมกลับมาแล้ว”
“ไอ้บ้า เมาเป็นหมา น่าถีบให้ตกรถระหว่างทาง เฮ้ย ไอ้เจต หยุดนะแกอย่าอาละวาด เดี๋ยวชกปากแตก”
อารดาปราดมาถึง
“พี่เจตขาดามาแล้วค่ะ มามะไปกับดา พี่อิฐ นายเมฆ ถอยไปให้พ้น ฉันจัดการเอง”
เจตรินเมามาย
“เสียงใคร คล้ายๆเสียงนางมารร้ายจากนรก ไล่มันไป ไสหัวมันไป”
“ต๊าย...พี่เจตเมามากพูดจาเพ้อเจ้อ” อารดาหน้าตื่น
อิฐแทรกขึ้น
“การเมาบางทีคนเมาเขาก็พูดมาจากส่วนลึกของหัวใจนะครับ ใช่ว่าจะเพ้อเจ้อเท่านั้น”
“เข้าข้างกันดีนัก พี่อิฐก็แค่เพื่อน ดาคือภรรยา อย่ามาก้าวก่ายเรื่องของสามีภรรยา นี่พวกขี้ข้าบ้านนี้มันหายหัวไปไหนกันหมด ออกมาช่วยฉันพาคุณเจตไปห้องทีสิ พี่อิฐคะหมดหน้าที่เพื่อนแล้ว ขอบคุณมาก ดาไม่ส่งแขกนะคะ เชิญ" อารดาโกรธ
อิฐจำใจปล่อยเจตริหันกลับ แหววกับศรีวิ่งมา แหววเลี้ยวมาหาอิฐรีบส่งแก้วให้
“รับไปไวไวค่ะ อย่าให้ใครเห็น”
อิฐรับโดยไม่ถาม อารดาหันมาแว๊ดใส่
“นังแหววแกแวะไปคุยอะไรกับคุณอิฐ ไม่ได้ยินฉันเรียกหรือ”
“ได้ยินจากหูซ้ายทะลุออกไปหูขวาแล้วค่ะ”
แหววรีบไปช่วยกันประคองเจตริน อิฐหันหลังให้พวกนั้นหยิบแก้วมามอง
“อ้อ ใช่แล้ว แก้วน้ำเครื่องดื่มต้นเหตุนี่เอง อย่างน้อยก็ช่วยให้เห็นว่าไอ้เจตไม่มีเจตนา แต่โดนวางยา”
อิฐถือแก้วออกไป
ทั้งหมดพาเจตรินมานอนบนเตียง อารดายิ้มสมหวังอีกแล้ว แต่พวกเมฆ แหวว ศรียังไม่ยอมออกไปยืนรีรอสบตากัน
“ออกไปสิ จะมายืนทำตัวเป็นโดนงูเมดุซาสาปอยู่ทำไม ไปให้พ้นทุกคน” อารดาไล่
“เอ้อ เราจะช่วยเช็ดตัวให้คุณเจตค่ะ” แหววบอก
“นี่แกคิดว่าแกเป็นเมียน้อยคุณเจตหรือ นังแหวว” อารดาถลึงตาใส่
อารดาเอาอะไรในห้องหยิบได้ขว้างใส่สามคนวิ่งหนีกันออกไปจนหมด อารดาเดินไปล๊อคห้อง แล้วกลับมานอนกอดเจตริน หยิบผ้ามาห่ม
ในห้องนั่งเล่น...จีรณัทย์ประคองจิตรดาราเข้ามามีนายเมฆถือของตามหลัง วางของแล้วเดินออกไป
“ทำไมคุณแม่ไม่ไปรับจิตคะ หรือว่ายังโกรธที่จิตทำเรื่องงามหน้า”
“คุณแม่ท่านเครียดมาก พี่เลยส่งท่านไปยุโรปกับเพื่อนแล้ว เช่าเครื่องบินเหมาลำไปกินไปเที่ยวกัน ทางนี้พี่จะจัดการปัญหาเอง”
“จิตยอมรับว่าจิตผิดมาก จิตจะพยายามแก้ปัญหาของตัวเองให้ได้ค่ะ”
“แก้ปัญหาด้วยการทำยังไงจ้ะ พี่เองก็เหลืออดแล้วนะน้องจิต”
“บางที จิตจะแต่งงานกับคุณพงษ์”
“แต่งงานกับแมงดาเนี่ยนะ นี่มันยังสูบไปไม่พออีกหรือ”
“เขาสำนึกผิดแล้วค่ะ เขาโทรมาขอโทษจิต เขาขอจิตแต่งงาน”
“พี่ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างนั้นจะสำนึกผิดในเวลาอันรวดเร็ว หรือว่าเงินเขาหมดกันแน่”
“โธ่พี่จี ให้โอกาสเขาบ้างสิคะ”
“มันชีวิตของน้องจิต ถ้าน้องจิตคิดว่ารักแมงดานั่นมาก แล้วมันสำนึกผิดจริงก็ตามใจน้องจิต แต่ว่าพี่ต้องบอกคุณแม่ก่อนว่าท่านต้องการยังไง”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่จี มีพี่ดีเหมือนมีแม่ พี่จีดีราวกับแม่ของจิตคนหนึ่งนะคะ”
จีรณัทย์ยกมือปัดๆโบกๆให้ออกไป จิตรดาราพ้นไปจีรณัทย์นั่งกุมขมับ
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 15 (ต่อ)
แหววกับศรียืนซุบซิบหน้าห้องเจตริน
“ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย หน้าสิบล้อทับสิบทียังไม่มีรอยปริแตก” แหววน้ำเสียงเกลียดชัง
“ใช้อะไรทาหน้านะ อยากรู้จัก” ศรีประชด
“ใช้ครีมปกป้องความดีไม่ให้กร่ำกราย เพิ่มพูนความเลวสลายยางอายน่ะ ป้าอยากได้บ้างไหมจะไปขอแบ่งจากคุณอารดาเธอมาให้”
“นังบ้า แกสิเอาไปใช้ เอายังไงดีล่ะจะนั่งเฝ้าหรือจะไปให้พ้นจากตรงนี้”
จิตรดาราเดินมาหยุดมองสองคนแล้วมองไปที่ประตูห้อง
“มายืนเกะกะทำอะไรหน้าห้องพี่เจต”
สองคน ชี้ไปในห้อง
“คือ...เอ้อ...”
“อารดาอยู่ในนั้น”
“ค่ะ” สองคนพยักหน้า
“ไปเรียกนานเมฆให้เอาขวานมา”
“อะไรนะคะ” สองคนชะงัก
“ฉันสั่งว่าไปบอกให้นายเมฆเอาขวานมาให้ฉัน”
“เอ้อ…” สองคนอึกอัก
“จะบอกว่าไม่ดีใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นรอที่นี่นะ เดี๋ยวฉันมา”
สองคนงง
จิตรดาราถือปืนในมือ
“ว๊าย…คุณจิตขา”
“หลีกไป”
“จะฆ่าคุณอารดาหรือคะ”
“มันเสี่ยงนะคะ ปืนจะโดนคุณเจตนะคะ”
“อย่ายุ่ง ไปยืนมองเฉยๆ เอามืออุดหูด้วย”
สองคนทำตาม จิตรดารยกปืนจ่อไปที่กุญแจประตู
อารดานอนกอดเจตรินที่เมาไม่ได้สติเอาไว้ เธอกำลังเคลิบเคลิ้มมีความสุข
“พี่เจตขา”
“อีริน่าจ๋า”
เสียงปืนดังขึ้นที่ประตูห้อง
“ปัง ปัง ปัง”
อารดาสะดุ้งเฮือก
“ว๊าย ใครมายิงฉัน”
ประตูห้องเปิดออก จิตรดาราเดินเข้ามา มีแหววกับศรีเดินตามมาประกบ
“ฉันเอง ลงมาจากเตียงพี่ชายฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะยิงให้เธอเสียโฉม ที่นี่บ้านฉัน เธอคือนังคนบุกรุก ลงมา”
อารดารีบลงมา
“อย่านึกว่าแกจะเก่งกว่าฉันตลอดไปได้นะนังจิตรดารา”
“แกก็อย่านึกว่า จะสามารถบงการบ้านฉันตลอดไปได้นะนังอารดา”
นายเมฆกับจีรณัทย์วิ่งเข้ามาตกใจมาก
“อะไรกันน่ะน้องจิต ต๊าย…นั่นน้องจิตเอาปืนมายิงอะไร”
“ยิงประตูห้องให้มันสะเทือน เผื่อทำให้ความเลวร้ายของใครบางคนมันกระเด็นหลุดออกมาบ้างค่ะ มีนางหมาขีเรื้อนมันชอบแอบมาซุกหัวนอนบนเตียงพี่เจต เอาเชื้อชั่วมาแปดเปื้อน”
“พวกแกทุกคนจำไว้ เรื่องนี้จบไม่สวยสำหรับพวกแกแน่ พรุ่งนี้เรื่องแดงลงหน้าหนึ่งแน่”
อารดาสะบัดหน้าผลักแหววกับศรีเดินออกไป นายเมฆหันมาบอก
“เอ้อผมจะไปตามช่างซ่อมประตูครับ”
จีรณัทย์ขัดขึ้น
“ไม่ต้อง นายเมฆขนเสื้อผ้ามานอนหน้าเตียงคุณเจตทุกคืน”
“ส่วนกลางวัน แหววกับศรีผลัดเวรกันเฝ้าเอาไว้ให้ดี มีหมารอดเข้ามารีบบอก ฉันจะไปเอาปืนมายิงมัน”
เจตรินงัวเงียลุกมานั่ง
“อะไรกันน่ะ ใครจุดประทัดแถวนี้”
จีรณัทย์เดินไปตบหน้าเจตริน เอาขวดน้ำหัวเตียงราดหัวเจตริน
“ปัญหายังแก้ไม่ได้ทำร้ายตัวเองให้โดนคนพาลมันย่ำยีซ้ำสองหรือยังไง”
“พี่จี น้องจิต”
สองคนพยักหน้าแบบโกรธๆ
อารดาอยู่ในห้องโกรธมาก
“อยากจะฆ่าพวกมันนัก”
อารดาก็เริ่มวิงเวียนทำท่าจะอาเจียน
“แหวะ”
อารดาวิ่งไปเข้าห้องน้ำ
แหววกับศรี เดินผ่านห้องอารดาให้ยินเสียงอาเจียนรอดออกมา มองหน้ากัน
“เสียงนั่น”
“เสียงอาการคนแพ้ท้อง” ศรีโพล่งออกมา
แหววตะลึง
“อย่าบอกนะว่ายัยนั่นมันนอนกับคุณเจตะวันเดียวท้อง”
“เอาละสิ หายนะมาเยือนกันแบบจัดเต็มซะแล้ว”
“ท้องกับใครก็ไม่รู้ แล้วเอามายัดใส่นายเรา”
“เงียบไว้ก่อน พูดไปสองไพเบี้ย จับสังเกตต่อไปว่านางท้องกับใครกันแน่”
สองคนเดินไปจากที่นั่น
อารดาอาเจียนจนหอบ น้ำหูน้ำตาไหล ภาพที่โดนทั้งเขมชาติและพงษ์ธรข่มขืนแว่บเข้ามา อารดาคำรามออกมา
“ไอ้พงษ์ ไอ้เขม แกต้องตาย นังอีริน่าแกคือสาเหตุ แกก็ต้องตาย”
อารดาน้ำตาไหลพรากแค้นใจมาก
สามคนพี่น้องมาปรึกษากัน เจตรินรับยารางจืดจากจีรณัทย์มากิน
“นี่รางจืดอัดเม็ดกินเข้าไปมันจะได้ไปฆ่าแอลกอฮอล์ในตัวเธอ”
“พี่จีผมขอโทษ น้องจิตพี่ขอบใจมาก พี่จะไม่เมาอีกแล้ว”
“จิตเองก็มีเรื่องต้องขอโทษพี่เจตที่จิตทำให้เสื่อมเสีย แต่จิตก็หาทางแก้ปัญหาแล้วค่ะ”
“แก้ปัญหา ยังไง อย่าบอกนะว่าไปเอาเด็กออก พี่ไม่ยอม”
“นายพงษ์คนนั้นเขาขอน้องจิตแต่งงาน”
“ค่ะ”
อารดาเดินเข้ามานั่งไม่แคร์ใครไม่เกรงกลัว
“ฟังนะทั้งสามคนพี่น้อง แล้วจะเอาอะไรต่อรองก็ตามแต่ คุณหญิงแม่ของพวกคุณมีส่วนร่วมสารพัดในการพยายามฆ่าอีริน่า รวมทั้งนังเด็กนรก จิตรดารานี่ด้วย”
เจตรินกับจีรณํทย์นิ่ง จิตรดาราชี้หน้าอารดากลับ
“เพราะแกหลอกแม่ฉัน หลอกฉัน”
“แก่จะตาย ฉลาดกันจะตาย ถ้าไม่เต็มใจไม่อยากจะทำจะยอมให้ฉันหลอกหรือ”
“ดาต้องการอะไร” เจตรินถามเสียงเข้ม
“ต้องการบอกให้รู้ว่านอกจากจะส่งเทปไปประจานให้ทั่ว ยังจะกระจายข่าวเรื่องแม่ผัวมหาภัย คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ ไอศูรย์ศรินทร์ สั่งฆ่าลูกสะใภ้ตัวเอง”
สามคนนิ่งสนิท จีรณัทย์จ้องหน้า
“เธอจะให้พวกเราทำยังไง”
“ไม่ต้องทำ ยกเว้นพี่เจต ไปหย่ากับนังอีริน่าให้เร็วที่สุด แล้วรีบมาจดทะเบียนกับดา”
สามคนนิ่งไป อารดาจ้องหน้าสามคนแบบเอาเป็นเอาตาย ขณะเดียวกันนั้นมือถืออารดาดังขึ้น เธอมองไปสะอึกนิดหนึ่ง
“ไอ้เขม”
อารดาลุกออกไป สามคนพี่น้องมองหน้ากัน เจตรินโอบพี่กับน้องสาวเอาไว้ สองคนร้องไห้กับบ่าของเจตริน
“เราจะแก้ปัญหาให้ได้ และถ้าสุดท้ายพี่คงต้องทำเพื่อรักษาชื่อเสียงของ คุณแม่พี่ก็จะทำ”
เขมชาติโทรมาไถเงินอารดา
“อารดาผมเดือดร้อนอยากได้เงินอีก”
“เท่าไหร่”
“ห้าหมื่น”
“ตกลง”
“ขอบใจมาก ขอบใจจริงๆ”
“แต่ว่าฉันอยากให้นายตอบแทนฉันบ้าง แล้วนายจะได้เงินมากกว่านี้”
“ตกลง นัดมาเลยว่าเราจะพบกันที่ไหน”
อารดายิ้มมีแผนร้าย
ในห้องแลบ...อิฐส่งแก้วเครื่องดื่มของเจตรินให้เพื่อนดู
“ช่วยตรวจดูสิว่าในน้ำนี่มีสารอะไรเจือปนอยู่บ้าง”
“ตกลง”
“เร็วที่สุด ด่วนที่สุดนะ”
“โอเค”
“ขอบใจ”
อิฐพยักหน้าพอใจ
เจตรินนั่งครุ่นคิดหาทางออกให้ครอบครัว
“อีริน่า พระคุณแม่ยิ่งใหญ่นัก ผมจะยอมให้แม่ผมโดนประณามหยามเหยียดไม่ได้”
อารดาเดินผ่านมาหยุดมอง ยิ้มเย้ย เดินมากอดหอมแก้มเจตริน
“ทำหน้าทำตาให้มันดีๆหน่อยสิคะ ปัญหามันแก้อยากสะที่ไหน ถ้าดาใช้นามสกุลไอศูรย์ศรินทร์ ดาก็ต้องรักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลนี้อย่างสุดชีวิต แต่ถ้าไม่เกี่ยวข้องด้วย ทำไมดาต้องปกป้อง ดาจะออกไปข้างนอกนะคะ ขอกุญแจรถด้วยค่ะ เจตรินหยิบส่งให้
“ทำไมไม่บอกดาสักคำคะว่าที่รักขับรถดีๆ”
“อย่าบีบคั้นกันนักเลยอารดา อยากจะไปไหนก็ไป อยากจะเอารถผมไม่ชนให้มันพังไปทั้งคันก็เชิญตามสบาย”
“โอเคค่ะ ดาจะเอารถคันนั้นไปชนให้พัง”
อารดาสะบัดกุญแจรถแล้วออกไป เจตรินกุมขมับเจ็บปวด
“เราจะบอกอีริน่าว่ายังไง โธ่อีริน่า”
จีรณัทย์มาหาอีริน่าพยายามอธิบายให้เข้าใจในตัวเขา
“พี่ไม่ได้มาเพื่อขอให้ยกโทษให้เจต แต่พี่มาเพื่อขอให้อีริน่าเข้าใจในตัวเจต ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเขาไม่ได้จงใจให้เกิด เขาเสียใจมาก เมื่อวานก็เมาจนไม่เป็นผู้เป็นคน”
“อีริน่าเข้าใจดีค่ะ อีริน่าถึงได้บอกว่าหย่ากันดีที่สุดค่ะ”
“พี่ละอายแก่ใจมาก อารดาขู่ว่าจะประจานคุณแม่เรื่องเอ้อ…”
“ค่ะ อีริน่าฟังอยู่ค่ะ”
“เอ้อ...คุณแม่สมคบกับอารดาปองร้ายอีริน่าตลอดมา”
อีริน่าหน้าเสียน้ำตาคลอ
“อีริน่าทราบค่ะ”
“แปลว่ารู้ทั้งรู้ แต่อีริน่าก็ยังเฉย”
“แม่พริมสอนว่าอะไรที่พูดแล้วไม่เกิดผลดีกับใคร และเป็นผลร้ายไม่ควรพูดค่ะ”
“อีริน่าช่างแสนดีมีน้ำใจ สมกับที่เจตเขารักอีริน่าที่สุด”
“ไม่จริงค่ะ”
“อีริน่าอย่าหลอกตัวเองว่าไม่รู้ว่าเขารักอีริน่ามากแค่ไหน พี่อยากจะถาม อีริน่าสักคำว่ายังรักเจตอย่างที่เขารักอีริน่าอยู่ไหม”
อีริน่าอึกอัก
“ถ้าอีริน่าเวทนาเขาบ้างสักนิดยอมให้เขามาพบ ยอมพูดจากับเขา ให้เขาพอมีรอยยิ้มบนความทุกข์สักนิดได้ไหม ให้เขามาพบอีริน่าบ้างนะ”
“เอ้อ...”
จีรณัทย์สบตาอีริน่า จีรณัทย์น้ำตาไหล อีริน่าน้ำตาไหลเช่นกัน สองคนโผมากอดกันร้องไห้
เจตรินวางสายจากจีรณัทย์พอมีรอยยิ้มออกมาบ้าง เขาลุกขึ้น จิตรดาราเดินออกมา
“น้องจิตจะออกไปไหน”
“ไปเอ้อ...คุยเรื่องการแต่งงานของจิตค่ะ”
“ขอให้โชคดีนะน้องจิต พี่เอาใจช่วย”
“พี่เจตจะไปไหนคะ”
“อีริน่ายอมให้พี่ไปพบแล้ว”
“ดีใจด้วยค่ะ ขอให้พี่เจตโชคดี”
เสียงโทรเข้ามา เจตรินกดรับ
“ฮัลโหล...ไอ้อิฐ...อะไรนะ ยาคึก”
ห้องแลบ...อิฐยิ้มยื่นมือให้เพื่อนจับ
“ขอบใจมาก ไอ้ยาคึกนี้แหละจะฟอกให้คนที่ถูกโดนใส่ร้ายได้รับความเป็นธรรม”
“ยินดีด้วย”
สองคนจับมือกัน
อารดานัดพบกับเขมชาติ เพื่อปรึกษาเรื่องที่เธอท้อง
“ฉันท้อง”
“กับไอ้พงษ์ แน่ๆ”
“ไม่แกก็ไอ้พงษ์ ไอ้แมงดาสารเลว”
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันรับผิดชอบเธอ”
“หน้าแมงดาอย่างแกน่ะหรือ ฉันไม่ยอมให้มารับผิดชอบลูกของฉันหรอก”
“นี่นี่เธอ...แปลว่าเธอจะให้…”
“ใช่ พ่อของลูกฉันคือพี่เจต ไม่ใช่พวกหมาสวะอย่างพวกแก”
“นี่ฉันรู้ความลับของเธออีกหนึ่งเรื่องแล้วละสินะดา”
“แต่ฉันรู้ความลับแกมากกว่า แกฆ่าคนตาย แกค้ายา แกค้าผู้หญิง แต่ถ้าแกอยากได้เงินอีกละก็อยู่ในความสงบ รอรับผลประโยชน์ที่จะมีมาเรื่อยๆ ในฐานะที่แกน่าจะเป็นพ่อตัวจริงของลูกในท้องของฉัน ดังนั้นเราจะร่วมมือกัน”
“พูดน่ารักมาก จะร่วมมือกันแบบไหน”
“ไอ้พงษ์มันไม่เคยซื่อสัตย์กับใคร มันคิดหักหลังทุกคนแม้แต่กับแก มันมีเงินจากจิตรดารามากมาย แต่มันไม่ยอมให้แกยืมทั้งที่แกเคยช่วยมันมาก่อน”
“จริง...แล้วยังไง”
“อย่าไปเชื่อมันนัก”
“แล้วยังไงต่อ”
“ถ้าฉันจะจ้างฆ่าใครสักคน จะคิดเท่าไหร่”
“ห้าแสน”
“ล้านนึงเอาไปเลย”
“อารดา บอกมาสิว่าจะให้ฆ่าใคร”
“เศษมนุษย์ อย่าไปสนเลยว่ามันเป็นใคร สนใจเงินที่แกจะได้ดีกว่า ตกลงไหม”
“ขอคิดดูก่อน”
“ได้...ไม่เร่งรัด แต่ตัดสินใจไวได้เงินเร็ว”
เขมชาติคิดหนัก
จิตรดารามาพบพงษ์ธร...เก๋อิงแอบกับพงษ์ธร มีเสียงเคาะห้อง
“ใครที่ไหนมาเคาะประตู ก่อความรำคาญเก๋จะออกไปด่ามัน”
เก๋พรวดออกไป พงษ์ธรที่แรกไม่ทันคิด แล้วคิดได้
“เฮ้ย จิตรดาราแน่ๆเดี๋ยวเก๋”
แต่เก๋เปิดประตูออกมาแล้ว จิตรดารายืนจังก้าอยู่หน้าประตู สองสาวมองหน้ากัน
“แกเป็นใคร”
“แกเล่าเป็นใคร หน้าตาบ่งบอกว่าเป็นเศษขยะมากๆ”
“ต๊ายนังปากเสีย ขอตบปากหน่อยเถิด”
เก๋ตั้งท่าจะตบ จิตรดาราตบก่อน สองคนตบตีกัน พงษ์ธรห้ามไม่ไหว
“เฮ้ย…อย่ากัดกัน หยุด...หยุดก่อน”
สองคนไม่หยุด พงษ์ธรส่ายหน้า
“นังบ้าอย่ามาแย่งผัวฉัน”
“พูดไม่อายปาก ผู้ชายคนนั้นกำลังจะแต่งงานกับฉัน”
“โกหก”
“แกนั่นแหละหน้าไม่อาย”
“เอาละห้ามไม่ฟัง เชิญตบกันให้สบาย ตบกันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง”
พงษ์ธรยืนมอง สองคนตบตีกัน
เจตรินมาหาอีริน่า ทั้งสองนั่งมองหน้ากัน
“อีริน่า”
“คุณเจต”
“ผมเสียใจ”
“อีริน่าก็เสียใจ”
“ผม ผม...ลำบากใจที่สุดในชีวิต”
“พี่จีบอกอีริน่าแล้วค่ะ เรื่องยาที่เขาใส่ให้คุณเจตดื่ม มันเป็นโชคร้ายของเราสองคนค่ะ”
“ขอบใจที่อีริน่าเข้าใจ แต่ถึงยังไงผมก็ถือว่าผมผิดเอง ผมโง่ ผมไม่ระวัง จนลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ผมกำลังแก้ปัญหา”
“การแก้ปัญหาที่ถูกต้องที่สุดคือเราต้องหย่ากันค่ะ เพื่อลดแรงกดดันให้เบาบางลงค่ะ”
“ผมไม่อยากทำอย่างนี้เลย”
“ถ้าเป็นอีริน่า อีริน่าจะทำค่ะ ลูกมีหน้าที่ปกป้องและตอบแทนพระคุณแม่”
“อีริน่าไม่โกรธแม่ผม”
อีริน่าส่ายหน้า แล้วโผเข้ากอด เจตรินกอดตอบ
“เคยโกรธค่ะ แต่ตอนนี้ไม่โกรธแล้ว ท่านเองก็เลิกรังเกียจอีริน่าแล้วเหมือนกัน ชีวิตคนเราไม่ควรอยู่กับความโกรธ และความเกลียดชัง มันจะนำพาความเลวร้ายมาให้ตัวเรา และคนรอบข้างค่ะ”
“อีริน่าอายุแค่นี้ แต่อีริน่าช่างมีความคิดที่ประเสริฐมาก”
“แม่พริมสอนอีริน่ามาค่ะ แม่พริมของอีริน่าประเสริฐมาก กลับไปบอกคุณอารดาเถอะค่ะว่าเรากำลังจะหย่ากัน”
“โธ่อีริน่า”
“ค่ะ...ไม่เป็นไรนะคะที่รัก”
“ที่รัก...อีริน่าเรียกผมว่าที่รักแล้ว”
“ก็เรารักกันนี่ค่ะ ทำไมเราถึงจะไม่เอ่ยปากเรียกกันว่าที่รัก เวลาดีๆของเราเหลือน้อยมากแล้ว เราสองคนสมควรใช้ให้คุ้มค่าค่ะ”
“ที่รัก ผมรักอีริน่าสุดหัวใจ”
“อีริน่าก็รักคุณเจตสุดหัวใจค่ะ”
สองคนสบตากันส่งความรักให้กันทางสายตาแล้วกอดกัน
เก๋กับจิตรดาราตบตีกันจนหมดแรง นั่งหอบทั้งคู่ พงษ์ธรเท้าสะเอวมองสะใจสองคน
“ไม่ไหวแล้วคุณพงษ์ช่วยตบ แล้วถีบนังมือที่สามนั่นออกไปจากห้องของเราสิคะ”
จิตรดาราลุกขึ้นมา ตบแล้วถีบเก๋โดยแรง
“นี่ไงจัดให้นังโง่ ใครกันแน่ที่เป็นส่วนเกิน”
“ไม่จริง ใช่ไหมคะคุณพงษ์”
“เสียใจด้วยนะเก๋ ที่มันจริง”
“ไม่ยอม”
พงษ์ธรจับเก๋โยนออกไป
“ไม่ยอมก็ต้องยอม อยากแส่หาเรื่องเองไปให้พ้น”
เก๋ร้องไห้โฮๆ จิตรดาราเดินมาปิดประตูใส่หน้าแล้วล๊อค พงษ์ธรยกนิ้วให้
“ทำไมทำอย่างนี้ ไม่ไว้หน้ากันเลยใช่ไหมคะนัดจิตมา แต่เอานังบ้านั่นมานอนรอหยามกันชัดๆ ทำไม”
“เพราะผมคือแมงดาไงละ จะแต่งงานกับแมงดาไม่ใช่หรือก็ต้องทนได้สิ เด็กในท้องของจิตก็ลูกแมงดาตัวนี้ กลับไปบอกแม่ของจิตนะว่าเอามาให้ผมหนึ่งล้านก่อนแต่ง และอีกหนึ่งล้านวันแต่ง ไม่อย่างนั้นลูกของจิตจะไม่มีพ่อ...โอเค”
“จิตจะกลับไปบอกคุณแม่”
“เชื่อฟังดีมาก อย่างนี้สิสมเป็นเมียแมงดาปีกทอง”
พงษ์ธรบีบแก้มอย่างแรง จิตรดารปัด
“อย่ามาขู่เข็ญกันนะ”
จิตรดาลุก พงษ์ธรดึงไว้
“จะไปไหนวันนี้ยังไม่ได้ส่งส่วยให้ผมนะ จะไปง่ายๆได้ยังไง”
“จิตบอกแล้วว่าตอนนี้ไม่มีเงิน ของติดตัวจิตพงษ์ก็เอาไปหมดแล้ว”
พงษ์ธรผลักจิตรดาราล้มลงไปชี้หน้า
“อยากให้ลูกมีพ่อรีบไปเอามาหนึ่งล้านหรือว่าอยากเจ็บตัว”
จิตรดาราลนลานถอยจนออกนอกห้องเปิดประตูอ้าไว้
“ออกมาตบสิ ออกมาไอ้แมงดา อยากได้สองล้านมากใช่ไหม จะบอกให้ นะว่าทีแรกก็จะไม่บอกให้แกรู้หรอก แต่มาเห็นสันดานเดิมไม่อาจเปลี่ยนได้ของแก ฉันไม่ยอมให้แม่ฉันจ่ายสองล้านให้แกแน่ แกรู้เอาไว้ ด้วยว่าฉันแท้งลูกไปแล้ว”
จิตรดาราถีบประตูปิดใส่หน้า พงษ์ธรยืนตะลึง
“จิตรดารา อย่าอวดดีนะ”
พงษ์ธรตามออกไป แล้วชะงักเห็นนิกกี้ยืนอยู่กับเชอรี่ และจิตรดารา ในมือของเชอรี่ถือปืนอยู่
“เชอรี่ ไอ้นิกกี้ จิต นี่มันอะไรกัน”
“นี่มันคือการจะมาแก้แค้นแกยังไงเล่าไอ้แมงดา”
“เสียใจด้วยนะ นี่คือจุดจบของแมงดา” นิกกี้ยิ้มหยัน
จิตรดาราด่า
“แกยังอยากได้สองล้านจากฉันอีกไหมไอ้คนชั่ว”
เชอรี่สายตาเจ็บแค้น
“แกชั่วนัก แกทำร้ายผู้หญิงมามากแล้ว จิตรดารา นิกกี้ ขอบใจมากที่พามาหาที่อยู่ของไอ้แมงดานี่ ไปเถิด เชอรี่จะจัดการมันเอง”
นิกกี้กับจิตรดาราพยักหน้ากันแล้วกลับไป พงษ์ธรหวาดๆ
“เชอรี่จะทำอะไรน่ะ”
“กลับเข้าไปในห้อง”
พงษ์ธรงง เชอรี่พยักหน้า
“ไปสิ”
พงษ์ธรถอยไปที่ห้อง
พงษ์ธรถอยมาถึงหน้าห้องที่เปิดประตูอยู่ เชอรี่เดินตามมา
“เข้าไปยืนในห้อง”
“เชอรี่ไม่นะ”
เชอรี่แสยะยิ้มเหี้ยม
“นี่เป็นปืนเก็บเสียง”
พงษ์ธรหน้าตื่น
“อย่า”
เชอรียิงแล้วปิดประตู เสียงพงษ์ธรร้องลั่น
“โอ๊ย”
“จิตรดาราเรียกรถพยาบาลให้แล้ว แต่ถ้าแกอยากแจ้งความก็ตามใจ ถ้าไม่กลัวว่ามันจะลามไปถึงคดีเก่าของแก ต่อไปนี้ทำร้ายผู้หญิงไม่ได้ไปทั้งชาติสะใจไหม”
เชอรี่ปิดประตูห้อง พงษ์ธรร้องโหยหวน เชอรี่เดินกลับออกไปจากห้อง พงษ์ธรนอนกุมเป้าร้องโอดโอย
นิกกี้ เชอรี่ จิตรดารา อยู่ด้านล่าง มองขึ้นไปข้างบนแล้วหันมายิ้มให้กัน
“ขอบใจมากนิกกี้ที่วางแผนให้”
“ขอบใจมากจิตรดารา นิกกี้”
“เสียงรถพยาบาลมาแล้ว รีบไปจากที่นี่เถิดคุณผู้หญิงทั้งสอง”
สามคนเดินไป เสียงรถพยาบาลดังใกล้มาทุกที
อารดากลับมาบ้านเจอเจตรินนั่งสงบมาก หน้านิ่งรออยู่
“อารดานั่งสิ เรามีเรื่องจะคุยกัน”
“มีอะไรจะคุยกันดาแล้วหรือคะ ดาเองก็มีเรื่องจะคุยกับพี่เจตเหมือนกันค่ะ”
อารดานั่งกระหยิ่มเป็นต่อ
“ว่าเรื่องของคุณมาก่อน”
“ดาขอค่าปิดปากเรื่องคุณแม่สามล้านค่ะ เงินแค่นี้ไม่ทำให้ครอบครัวพี่เจตสะเทือนแน่ค่ะ ว่ายังไงคะ”
“ตกลง”
“ขอบคุณมากค่ะ พี่เจตน่ารักที่สุด”
อารดาผวาจะมากอด เจตรินลุกถอย อารดารู้สึกเสียหน้ามาก
“อย่ามาแตะต้องตัวผม”
“พี่เจตรังเกียจมากหรือคะ”
“จะคิดยังไงก็ได้ ฟังเรื่องที่ผมจะบอกเถอะนะ ผมกับอีริน่าตกลงจะหย่ากัน”
อารดาดีใจมาก
“จริงหรือคะ”
“ผมไม่เคยพูดโกหก”
“ขอบคุณมากค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณแม่กลับมาเราแต่งงานกันเลยนะคะ”
“อีริน่าขอเวลาหนึ่งเดือน”
อารดากุมท้องโดยไม่ตั้งใจ
“หนึ่งเดือน นานเกินไป”
“ผมทำตามที่ขอทุกอย่าง ถ้ายังไม่พอใจก็ไปขออีริน่าเธอเอง แล้วเรื่องเครื่องดื่มที่เอามาให้ผมดื่มน่ะ เราเอาไปพิสูจน์มาแล้ว คุณใส่ยาเลวทรามนั่นเพื่อทำให้ผมข่มขืนคุณ”
“แล้วยังไงคะ มันช่วยไม่ได้แล้วค่ะ”
“มันช่วยไม่ได้ แต่มันอาจช่วยกระตุ้นสำนึกของคุณให้รู้สึกได้ ว่าอะไรที่ทำไม่ดีกับคนอื่นไว้ ในที่สุดมันจะถูกเปิดเผย”
“ขู่ดาหรือคะ”
“ไม่ได้ขู่ คุณทำอะไรไว้บ้าง ระวังความจริงมันจะทยอยเปิดเผยออกมา”
“อีริน่ามันใส่ร้ายอะไรดามาหรือคะ”
“อีริน่าสูงส่งดีงามเกินกว่าจะเอาเรื่องไม่ดีของคนอื่นมาเปิดเผย เธอไม่เอ่ยถึงคุณให้แปดเปื้อนปากเธอหรอกอารดา”
“บูชากันเหลือเกินนะคะ” อารดาเจ็บจี๊ด
“ใช่ ผมบูชาน้ำใจของเธอที่ยอมหย่ากับผม เพื่อให้ผมมาแต่งงานกับคุณ”
“ดาคงได้แต่งงานกับหุ่นยนตร์”
“คุณได้ใช้นามสกุลไอศูรย์ศรินทร์ คุณได้ชื่อว่าเป็นภรรยาผม แต่คุณจะไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวผม เงินสามล้านจะให้พี่จีจัดการให้”
เจตรินหันกลับ อารดาผวาจะไปคว้าเขา แต่มือถือเธอดังขึ้นขัดเสียก่อน
พงษ์ธรนอนบนเตียงในโรงพยาบาล ผ่าตัดไปแล้วพูดโทรศัพท์กับอารดา
“ดา ผมโดนนังจิตรดาราพานังเชอรี่มายิงผม รีบเอาเงินมาให้ผมด้วย ผมเพิ่งผ่าตัดด่วน ต้องจ่ายเงินโรงพยาบาลหลายแสน”
อารดาสะใจสมน้ำหน้าพงษ์ธรหัวเราะ
“สะใจมากไอ้พงษ์เอ๊ย แกมันเริ่มโดนเข้าให้แล้ว และแกจะต้องโดนต่อไปและต้องโดนมากขึ้นไปเรื่อยๆ ขอบใจมากจิตรดาราที่แบ่งเบาภาระการแก้แค้นไอ้แมงดาสารเลวนั่น”
จีรณัทย์เดินมาหาส่งเช็คให้สามล้าน
“นี่เช็คเงินสดสามล้านเชิญไปเบิกได้ทันที แล้วจะเอาไปหว่านให้ใครที่ไหน ที่มันรีดไถเธอก็ตามสบาย”
“พูดอย่างนี้แปลว่าอะไร”
“จะแปลว่าอะไรก็ได้อย่างที่เธออยากให้เป็น”
จิตรดาราเดินร้องเพลงเข้ามา เห็นสองคนชะงักยิ้ม
“พี่จีขา กำลังแจกทานอยู่หรือคะ”
“ไปไหนมาน้องจิต อารมณ์ดีมาทีเดียว”
จิตรดารามองอารดาแล้วยิ้ม
“ไปแก้แค้นแทนอารดามามั้งคะ เฮ้อ สนุก อารมณ์ดีมากๆ ในรอบหลายเดือน”
“ไปคุยเรื่องแต่งงานมาเรียบร้อยดีหรือน้องจิต”
“ค่ะ เรียบร้อย ค่ะ จิตติดสินใจแล้วว่าไม่จำเป็นต้องแต่งงานหรอกค่ะ ไหนไหน จิตก็เสียลูกไปแล้ว ทำไมต้องไปอยากแต่งงานกับขยะสวะสังคมอย่างนั้น พี่เจตอยู่ไหนคะ ไปหาพี่เจตกันเถิดค่ะ”
จิตรดาราดึงจีรณัทย์ไปจากอารดาหน้าตาเฉย อารดามองตามเสียงมือถือดังอีก เธอรับแล้วตะคอกใส่ลงไป
“รู้แล้วว่าหิวเงิน เดี๋ยวจะจัดการให้ ไม่ต้องมาเร่งฉัน”
อารดาปิดมือถือแล้วเดินออกไป
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 15 (ต่อ)
เขมชาติอยู่ในห้องพักกำลังสั่งการให้คนไปจัดการอีริน่า
“โอเค ไปดักหาโอกาสจัดการมัน อย่าให้พลาด ไม่ต้องรีบร้อน”
เขมชาติวางสาย มีเสียงเคาะห้อง
“ใคร”
ไม่มีคำตอบ มีแต่เสียงเคาะตอบ
“ถามว่าใคร”
ไม่ตอบอีก เขมชาติโกรธ มากเดินไปทีประตูกระชากเปิดออก เขมชาติตะลึงเมื่อ เมทินียืนกลางประตู
“เม...”
“ฉันกลับมาแล้ว”
เขมชาติกระชากเข้ามาในห้องโดยแรง เมทินีปลิวเข้ามาในห้องตามแรงกระชาก
“ซมซานกลับมาละสิ”
“ใช่ เมสำนึกผิดแล้ว เมมาขอโทษที่หนีไปตอนนั้น”
“ฉันต้องลงโทษเธอให้สาสม”
เมทินียื่นหน้าไป
“เอาสิ ตบเลย เตะเลย ถีบเลย”
เขมชาติชะงักขณะที่เขากำลังงง เมทินีตวัดขวดน้ำกรดใส่หน้าเขาทันที
“โอ๊ย อะไรกันนี่”
“นี่คือการขอโทษของฉัน ไอ้แมงดา สารเลว หน้าแกเสียโฉมแล้ว แกไม่มีปัญญาไปหลอกไปทารุณทำร้ายใครได้อีก ไอ้ไฮโซจอมปลอม”
เขมชาติลงดิ้นพราดๆกุมหน้าไว้ เมทินีเตะแล้วเดินกลับออกไปจากห้อง
“โอ๊ย ปวด โอ๊ยเจ็บๆ”
อารดายืนหัวเราะพงษ์ธรที่ผ่าตัดเสร็จแล้วหงุดหงิดมาก
“ฮะฮะฮะ แมงดาปีกทอง ของรักเสียหาย แมงดาปีกทองพิการไปแล้ว”
“อย่ามาหัวเราะเยาะกันนะ อารดา”
“ก็ฉันขำเธอนีน่า มันนาขำไหม ปลาตายน้ำตื้น ฉันมันโง่มาตั้งนานน่าจะทำอย่างที่เชอรี่ทำกับเธอก่อนหน้านี้”
“เอาเงินมาแล้วรีบไปไปให้พ้น”
“ได้สิ”
อารดาเอาเงินฟาดไปบนหัวพงษ์ธร
“เฮ้ย ทำไมเอาเงินมาฟาดหัวกันแบบนี้”
“เพราะว่าแกได้เงินจากการข่มขู่ฉัน ฉันก็ต้องฟาดหัวแกด้วยเงิน นี่จะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ฉันจะให้แก จำไว้ ผู้หญิงน่ะเขามีไว้ให้เป็นแม่ของลูกแกไม่ได้มีไว้ให้แกทารุณข่มขู่รังแก”
“แต่ผู้หญิงเลวๆอย่างเธอมันน่าโดนรังแก จำไว้เหมือนกัน มันจะไม่ใช่เงินก้อนสุดท้ายที่ฉันจะต้องได้จากแก นังตัวร้ายไม่อย่างนั้นนายเจตรินรู้แน่ว่าแกท้องกับฉันแล้วเอาไปโบ้ยให้มันรับผิดชอบ”
อารดาหันมาตบหน้าพงษ์ธรโดยแรง แล้วเดินออก พงษ์ธรฮึดฮัดแต่ทำอะไรไม่ได้ ติดสายน้ำเกลือและเจ็บอยู่...อารดาหันมาคำรามใส่
“ทุกคนเขาเริ่มลุกขึ้นสู้ไม่อยู่เฉยให้แกกำหนดชะตากรรมของเขาง่ายๆหรอก ไอ้กุ๊ย”
อารดาดินออกไป
“อย่าท้านะนังบ้า”
พงษ์ธรทำท่าจะลุกแล้วฟุบลงไปเพราะเจ็บ
เจตริน จีรณัทย์ จิตรดารา คุยกันเรื่องปัญหา เจตรินหม่นหมองเรื่องต้องหย่ากับอีริน่า
“อีริน่าเธอดีมากดีจนผมละอายใจ ผมทำร้ายคนที่ผมรัก ผมช่างเลวสิ้นดี”
“จิตก็เพิ่งทำร้ายคนที่จิตเคยหลง โดยมีคนที่จิตเคยรักคอยให้กำลังใจ”
จีรณัทย์ถอนใจ
“พี่เองก็เคยเจ็บปวดเพราะไม่อาจสมหวังในความรักได้”
“ตอนนี้พี่จีสมหวังแล้ว ผมยินดีด้วย”
จิตรดารายิ้ม
“จิตก็ยินดีด้วย จิตจะไม่สร้างความทุกข์เพิ่มให้ตัวเอง ให้คุณแม่ ให้พี่ๆด้วย จิตดูแลตัวเองเป็นแล้ว จากบทเรียนที่ผ่านมา จิตรู้แล้วว่าใครจริงใจ ใครปลอมแปลง”
จีรณัทย์มองน้องสาว
“พี่หวังว่านิกกี้จะอภัยให้จิต”
“เขาไม่โกรธจิต ยังดีกับจิตเสมอ แต่จิตไม่อาจเอื้อมไปขอให้เขาอภัยจนต้องเสียสละมาใช้ชีวิตคู่กับจิต แต่เราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ”
“พี่ดีใจด้วย” เจตรินดีใจไปกับน้อง
เจตรินดึงน้องมาโอบกอด
“จิตตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าจะไปเรียนต่อ แล้วกลับมาทำงานให้ครอบครัวเรา”
“น้องจิต”
จีรณัทย์กอดอีกคน
“จิตจะไม่ยอมผิดซ้ำอีกต่อไปค่ะ”
จิตรดาราน้ำตาไหล
เช้าวันใหม่...เอื้อขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงหน้าบ้าน จะเข้ามาทำงาน ปรายตามองไปแถวหน้าบ้านสองฝั่งถนนเห็นชายสองคนเดินไปมาทำท่าเหมือนคนเดินผ่าน
“พวกมันไม่ยอมเลิกราจริงๆ”
นายพลกันต์ คุณหญิงพรรณราย ยินดีกับข่าวจากจีรณัทย์ ที่กมลกันต์เล่า
“คุณน้าศรินทร์ บอกจีให้ผมบอกให้คุณพ่อคุณแม่ไปสู่ขอจี”
“โฮ้โฮ นี่ข่าวใหญ่ข่าวดี ประจำวันประจำปีเลยนะ” นายพลกันต์ตื่นเต้น
“แม่ดีใจมาก ดีใจที่สุด จีเป็นกุลสตรีเหมือนแม่ไม่มีผิด”
“อ้าว คุณหญิง” นายพลกันต์ชะงัก
“ก็หรือไม่จริงคะ” คุณหญิงค้อน
“ท่านให้เตรียมหาฤกษ์แต่งงานกันได้แล้ว ท่านว่าให้เป็นฤกษ์สะดวกครับท่านกลับมาจากยุโรป เตรียมการได้เลย”
นายพลกันต์ถอนใจ
“เฮ้อ...ข่าวดีมันมักมากับข่าวร้าย ยัยหลานอีริน่าก็ต้องหย่ากับเจตอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า”
“สงสารหลานใจจะขาด” คุณหญิงหน้าเศร้า
เอื้อเข้ามาไหว้สามคน
“ผมมีข่าวไม่ค่อยจะดีครับ”
“ว่ามา...”
“ผมเห็นคนมีพิรุณเดินไปมาที่หน้าบ้านสองคนครับ”
สามคน หน้าตื่น
“หา...”
เอื้อไม่สบายใจ
“ผมเกรงว่ามันจะมาดักทำร้ายคุณอีริน่าครับ กรุณาบอกคุณอีริน่าอย่าออกไปหน้าบ้านนะครับ ถ้าจะออกนั่งรถออกไปครับ ผมจะคุ้มกันเองครับ”
“ฉันจะบอกคุณอีริน่า ขอบใจนายเอื้อมาก” คุณหญิงรับคำ
เอื้อไหว้สามคนแล้วเดินออกไป
สาวใช้นิ่มกำลังเก็บที่นอนให้อีริน่า คุณหญิงพรรณรายเดินมาตามหาอีริน่า
“นิ่ม คุณอีริน่า เล่า”
“เธอบอกว่าจะออกไปใส่บาตรให้คุณพ่อคุณแม่ค่ะ”
“ไปที่ไหน...ตายแล้ว” คุณหญิงหน้าตื่น
“บอกว่าจะออกไปใส่ที่ร้านใกล้ๆบ้านนี่แหละค่ะ มีพระมาทุกวัน”
“โอ๊ย ไม่ได้การแล้ว”
คุณหญิงวิ่งออกไปจากห้อง
หน้าร้านขายอาหาร...อีริน่าใส่บาตรเสร็จแล้ว กำลังจะเดินออกมา
“อีริน่ากลับก่อนนะคะคุณป้า อีริน่าจะมาใส่บาตรบ่อยๆค่ะ”
เจ้าของร้านยิ้มแย้ม
“น่ารักจริงๆ ไม่ถือตัวเลยคุณหนู ขอให้เจริญๆนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
อีริน่าเดินออกไป สมุนเขมชาติทำที่มาซื้อของ โทรหาสมุนอีกคน
“เหยื่อกำลังเดินมา รอจัดการให้ดี”
สมุนมองตามอีริน่า
กมลกันต์กับทุกคนในบ้าน กำลังวุ่นวายเรื่องอีริน่า
“กมล เอื้อ กับฉัน ต้องรีบออกไปหน้าบ้าน ไปตามหาคุณอีริน่า คุณหญิงกับนิ่มไม่ต้องออกไป” นายพลกันต์สั่ง
“ครับ ไปนายเอื้อ” กมลกันต์รับคำ
“ระวังตัวนะคะ” คุณหญิงกังวลใจ
อีริน่าเดินมาใกล้จะถึงบ้านนายพลกันต์ สมุนเขมชาติแอบตามมาติดๆ คนหนึ่งปลอมตัวเป็นบุรุษไปรษณีย์ขี่มอเตอร์ไซค์ กำลังจะขับผ่านอีริน่าไปยังบ้านนายพลกันต์ เจตรินขับรถมาจากอีกทางมองเหตุการณ์อยู่
“นั่นอีริน่า ทำไมมาเดินข้างถนน”
บุรุษไปรษณีย์ปลอม จอดข้างอีริน่า
“น้องครับ บ้านพลเอกกันต์หลังไหนครับ”
“นั่นค่ะ”
นายพลกันต์ กมลกันต์ และเอื้อ พรวดออกมาจากในบ้าน ส่ายตามองแล้วตกใจ
“อีริน่า ระวัง”
กมลกันต์กับเอื้อพุ่งออกไปทันที อีริน่าได้ยินเสียงของกมลกันต์บอกให้ระวัง สมุนเขมชาติอีกคนที่ขับมอเตอร์ไซค์ตามมาอีกคัน ยิงใส่อีริน่าทันที อีริน่ากระโดดหลบ
นายพลกันต์ กมลกันต์ และเอื้อ ยิงเข้าใส่สมุนเขมชาติ เจตรินพุ่งเข้าชนบุรุษไปรษณีย์ปลอมที่กำลังจะยิงอีริน่าซ้ำจนกระเด็นไปทางหนึ่ง ทุกคนตกใจต่างหันมามองอีริน่า
“อีริน่า”
เจตรินวิ่งลงมาจากรถ เอื้อคอยระวังถือปืนกราดยิงใส่ไปที่คนร้าย บุรุษไปรษณีย์ปลอมตะกายขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนที่วกมารับแล้วพุ่งหนีไป อีริน่าฟุบอยู่
“ที่รัก โธ่อีริน่าอย่าเป็นอะไรนะ” เจตรินมาประคอง
“ยังไม่เป็นค่ะ มันยิงเฉียดไปค่ะ อีริน่าไม่ตายหรอกค่ะ”
“รีบไปหาหมอเร็วอีริน่า” นายพลกันต์ร้อนใจ
“อีริน่าไม่เป็นอะไรมากค่ะ ไม่ต้องหาหมอ”
“ต้องไป ไปหาหมอดีที่สุด”
เจตรินอุ้มอีริน่าทันที
คุณหญิงพรรณรายเป็นลม สาวใช้ประคองไว้ทัน
“อีริน่าของยาย โอย ฉันจะเป็นลม”
นายพลกันต์ กมลกันต์ เอื้อ กลับเข้ามา
“นายเอื้อไปเอารถมา คุณหญิงอีริน่าไม่ได้โดนยิง แค่ถากไปเท่านั้น” นายพลกันต์หันไปสั่ง
“จริงหรือ” คุณหญิงดีใจ
กมลกันต์พยักหน้า
“ครับ เจตพาอีริน่าไปโรงพยาบาลทำแผลครับ”
“รีบไปกันเถอะคุณหญิง ขวัญเอ๊ยขวัญมา ไม่เป็นลมนะ”
นายพลกันต์ไปประคอง คุณหญิงเลิกเป็นลมแก้เก้อทุบสามี
“นี่ๆ อย่ามาประเจิดประเจ้ออายเด็กมัน”
นายพลกันต์เลยแกล้งหอมอีกฟอด คุณหญิงหยิกซ้ำ
จีรณัทย์ตกใจมาก เมื่อรู้ข่าวอีริน่า
“น้องจิต อีริน่าโดนลอบยิงอีกแล้ว”
“อะไรนะคะ มันไปแอบยิงที่ไหนคะ” จิตรดาราหน้าตื่น
“มันดักยิงหน้าบ้านเลยแหละ มันอุกอาจมาก”
อารดาเดินเข้ามาได้ยินแว่วๆ หยุดฟังสองคน
“มันตายแล้วแน่ๆ สมน้ำหน้า หมดคนสอดรู้สอดเห็นกันสักที”
จิตรดาราปรายตามองไปที่อารดา
“จิตว่า จิตพอรู้นะคะว่าใครเป็นตัวการวางแผนดักยิงอีริน่า”
“อีริน่าถูกยิงหรือคะ อาการสาหัสหรือตายคะ” อารดารีบถาม
จิตรดาราเบ้หน้า
“ฟังน้ำเสียงที่ถามอยากให้อีริน่าเขาตายเหลือเกินนะ นี่หวังดีหรือประสงค์ร้ายกันแน่”
“ฉันก็แค่ได้ยินพวกเธอพูดกัน ก็แค่ถามไถ่ทำไมต้องหงุดหงิด”
จีรณัทย์พูดกับจิตรดารา
“โชคดีมากที่เจตไปช่วยเอาไว้ทัน”
“พี่เจต” อารดาผิดหวัง
“คุณลุงและคนในบ้านไหวตัวออกมาตามหาอีริน่า เจตไปหาอีริน่าพอดีเลยขับรถชนไอ้คนยิงบาดเจ็บ” จีรณัทย์เล่า
“มันโดนจับได้ไหมคะ” อารดาตกใจ
“ถลกก้นหนีไปทันน่ะสิ เพราะทุกคนมัวแต่หันไปห่วงอีริน่า โดยเฉพาะพี่เจต คงใจแทบขาดตอนเห็นพวกหมานรกนั่นมันยิงใส่อีริน่า” จิตรดาราแกล้งเล่าอย่างตื่นเต้น
จีรณัทย์กับจิตรดาราปรายตามองอารดา
“เฮ้อ...” อารดาถอนใจโล่งอก
“เฮ้อ โล่งอกที่คนร้ายหนีไปได้ ขอให้มันโดนเก็บเพราะทำงานพลาด มันจะหนีพ้นคนสั่งการไหมน้อ มันไม่เอาไว้หรอกใครที่รู้ความลับพวกมัน” จิตรดาราเปรยออกมา
“ขอให้เวรกรรมตามทันมันทันที” จีรณัทย์แช่ง
อารดาเดินหนีไปทันที ด้วยความตื่นตระหนก เธอรำพึงในใจ
“ไอ้เขมแกทำงานพลาด”
จิตรดาราและจีรณัทย์มองตาม จิตรดารายกมือพนมท่วมหัว
“มีคนแถวนี้สมรู้ร่วมคิด ขอให้เวรกรรมตามทันมันทุกคนด้วยเถิด”
“ไม่นานหรอกน้องจิต”
อารดาชะงักฟัง แล้วตัดสินใจเดินต่อ
สมุนสองคนหนีไปพบเขมชาติเพื่อจะหนี เขมชาติพันหน้าเอาไว้เพราะโดนน้ำกรดจากเมทินี
“พวกแกทำงานพลาด”
“เราขอเงินค่าจ้าง เราต้องหนี”
“โอเค พวกแกจะได้เงินค่าจ้าง”
สองคนยืนยิ้ม
“ขอบคุณครับ”
เขมชาติชักปืนออกมา
“แกตาย”
“เฮ้ย...”
“นี่ไงค่าจ้างของแกสองคน”
เขมชาติชักปืนออกมายิงใส่สองคนทันทีทะลุกอก ฟุบลงไปกองกับพื้น เขมชาติหันกลับเดินออกไป สองคนนอนจมกองเลือด
อารดามาพบเขมชาติ ตกใจเห็นหน้าของเขาพันไว้เต็มหน้า
“เขมนั่นแกเป็นคนดีๆไม่ชอบ ชอบปลอมตัวเป็นมัมมี่”
“นังเมเพื่อนเธอมันเลวมากอารดา”
“เมมันหายไปนานแล้ว มันเกี่ยวอะไรกับการปลอมตัวของแก”
“มันกลับมาหลอกฉันให้ตายใจ”
“แกก็เลยตายใจ แล้วยังไงต่อจะเอามันไปขายอีกครั้ง”
“บ้าน่ะสิ งานค้ามนุษย์มันพังไปแล้วตั้งแต่ไอ้มิคาอิลตาย”
“งั้นก็พูดมาสิ แกปลอมตัวเป็นมัมมี่ทำไม”
“ไม่ได้ปลอมตัว แต่นังเมมันเอาน้ำกรดมาสาดหน้าฉัน”
“อะไรนะ โอยขำกลิ้ง”
อารดาระเบิดหัวเราะลั่น สะใจมาก
“อย่ามาหัวเราะเยาะกันนะ”
“มันเกิดอะไรขึ้น คนหนึ่งโดนน้ำกรดสาดหน้า อีกคนโดนยิงเป้ากระจุย”
“อะไรนะ นี่นี่ไอ้พงษ์มันโดน...”
“เชอรี่ไปล้างแค้นมัน ส่วนแกเมมาล้างแค้น ทีนี้รูปหล่อทั้งสองจะทำมาหากินอะไร นี่นัดกันพิการหรือ”
“อย่าพูดมาก เอาเงินมาจ่ายค่ารักษาตัวฉัน”
“ทำงานพลาดยังมาทวงเงินอีกหรือ”
“ทำงานพลาด แต่ฉันเก็บงานเรียบร้อย เก็บไอ้สองคนที่ไปจัดการนังอีริน่าไปนรกเรียบร้อย”
“โอเค ฉันจะช่วยแกค่ารักษาพยาบาล แต่อย่าลืมว่างานเก็บกวาดของเรายังไม่จบ”
“รู้แล้วน่า รอให้แข็งแรงก่อนแล้วมาลงมือต่อ”
อารดายิ้มๆควักเงินออกมาจากกระเป๋าส่งให้เขมชาติ
“แกให้ข้อคิดฉันดีมาก เรื่องเก็บงานให้หมดจดไร้หลักฐาน”
ในห้องตรวจ หมอกำลังทำแผลให้อีริน่ามีพยาบาลช่วย เจตรินเดินเข้ามา
“เป็นยังไงบ้านครับคุณหมอ”
“ไม่มีปัญหาครับ แผลไม่ใหญ่ แต่ที่น่ายินดีมากกว่านี้คือภรรยาของคุณเจตกำลัง...”
หมอยังพูดไม่จบ อีริน่าตกใจมากรีบแทรก
“กำลังใจอีริน่าดีมากๆค่ะ”
“เออใช่ครับกำลังใจดีมาก และน่าจะต้องดีมากขึ้นอีกเพราะว่าคุณอีริน่ากำลัง…”
“อีริน่ากำลังจะกลับบ้านได้ค่ะ”
หมอกับพยาบาลมองหน้ากัน
“อ้อ...คุณเจตทราบแล้วหรือว่าภรรยาคุณทะ...”
หมอจะพูดว่าท้อง อีริน่าแทรกอีก
“แหมคุณเจตทราบเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ ใช่ไหมคะคุณเจต”
เจตรินงงๆแต่ก็พยักหน้า
“ครับ...ผมทราบ”
หมอยื่นมือมาจับเจตริน
“ยินดีด้วยครับ ดูแลคุณอีริน่าด้วยนะครับ”
“ครับ”
เจตรินยังมึน อีริน่ายิ้ม
อีริน่าทำแผลเรียบร้อยแล้ว ทุกคนห้อมล้อมอีริน่าอยู่ โดยเฉพาะเจตรินกับคุณหญิงพรรณราย
“อีริน่าขอบคุณมากค่ะคุณเจต คุณตา คุณน้า ที่มาช่วยอีริน่าไว้ทัน”
“อีริน่าไม่ควรออกมาจากบ้านตามลำพัง” เจตรินปรามๆ
“ยายไม่ให้หนูออกไปนอกบ้านอีกแล้วนะหลาน”
นายพลกันต์หันมาหาเจตริน
“เจตมีพวกเป็นตำรวจสืบในทางลับ ดูสิว่ามีใครสมรู้ร่วมคิดกันบ้าง ตาว่าเกลือเป็นหนอนแน่ๆ”
“เอ้อ ครับ...” เจตรินชะงัก
จิตรดาราแทรกขึ้น
“มันไม่ใช่เกลือค่ะ แต่มันเป็นหนอนที่ดันทุรัง หน้าด้านทนอยู่ในหมู่ พวกเรานี่แหละค่ะ”
“จีคิดว่าพวกมันอาจจะแตกคอกันเอง เพราะทำงานพลาดซ้ำๆ”
“ผลประโยชน์มันไม่ลงตัว ก็ลงเอยไม่สวย”กมลกันต์เสริม
“พาอีริน่ากลับบ้านกันเถิด ยายไม่สบายใจ ยายไม่เหลือใครแล้วนอกจากอีริน่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหลาน ยานตายแน่ๆ มีที่ไหนที่อีริน่าจะปลอดภัยที่สุด ยายจะพาไป” คุณหญิงตัดบท
นายพลกันต์ขัดขึ้น
“คุณหญิงเว่อร์ไปเปล่า บ้านเราก็แน่นหนา”
จีรณัทย์เห็นด้วยกับนายพลกันต์
“การที่อีริน่าอยู่กับคุณลุงคุณป้าถือว่าปลอดภัยที่สุดแล้วค่ะ”
“ค่ะ เพราะหนอนมันเกาะอยู่ที่บ้านจิต อีริน่าอยู่กับคุณป้าคุณลุงดีที่สุดค่ะ”
จีรณัทย์กระซิบเจตริน
“ไปส่งอีริน่าที่บ้านโน้นนะเจต เวลาของเจตกับอีริน่าเหลือน้อยมากแล้วใช้มันให้คุ้มค่า”
“ครับ”
ทั้งหมดพากันเดินออกไปเพื่อพาอีริน่ากลับบ้าน
อารดาอาเจียนอย่างหนัก พลางบ่น
“เด็กบ้าทำไมต้องรีบมาเกิดตอนนี้ ทำไมไม่รออีกสามสี่อาทิตย์ให้มันดูแนบเนียน...แหวะเหม็น”
แหววกับศรียิ้มให้กันเดินเข้ามา อารดาบ่นอุบ
“แหวะ...เหม็นอะไรน่ะ”
แหววยิ้มแย้มบอก
“หอมฉุยเลยค่ะ แกงจืด เต้าหู้หมูสับ”
“ผัดฉ่าปลากะพงมาแล้วค่า” ศรียกอาหารมา
“โอ๊ย...เอาไปให้พ้น” อารดาโวยวาย
แหววกับศรีสบตากันยิ้มแหยๆต่อ
“อร่อยนะคะ” แหววบอก
“น่ากินมากๆค่ะ” ศรีเสริม
“อีบ้า เอาไปให้พ้น ฉันไม่อยากกิน” อารดาตวาด
“สองทุ่มแล้วนะคะ” แหววแย้ง
“แหวะออกมาตั้งแยะ ท้องจะว่างมากนะคะ จะเป็นลมเป็นแล้งนะคะ” ศรีเสริม
“เดี๋ยวฉันจะตบพวกแกให้เป็นลม อย่ามาแส่ไปให้พ้น ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าพวกแก”
แหววกับศรียิ่งยื่นอาหารไปตรงหน้า อารดาปัดอาหารทิ้ง แล้ววิ่งหนีไปโดยเร็ว วิ่งไปแหวะไป
“ไม่เอา ไม่เอานะ”
“แพ้ท้องแน่นอน” แหววมั่นใจ
“ท้องกับใคร” ศรีสงสัย
“ใครที่ไม่ใช่คุณเจตแน่นอน”
“เราจะบอกใครดีนังแหวว”
“จุดธูปบอกพ่อแม่ป้าที่ตายไปแล้วมั้ง เงียบไว้ก่อน ขืนปากบอนจะเสียหาย รอจังหวะก่อน”
สองคนมองตามไปฉันบน ยังมีเสียงโอ๊กอ๊ากดังลอดออกมา
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 15 (ต่อ)
เจตรินห่วงใยอีริน่ามาก
“ผมจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องอย่างนี้กับอีริน่าอีกเด็ดขาดที่รัก”
“มันจะเกิดขึ้นค่ะ ถ้าเรายังเป็นสามีภรรยากัน รีบไปจดทะเบียนหย่า อาจช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นนะคะ”
“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่อีริน่าโดนดักทำร้ายสักหน่อย”
อีริน่าน้อยใจที่เจตรินไม่ยอมเชื่อ
“ค่ะ มันไม่เกี่ยวกันก็ได้ค่ะ อีริน่าเพ้อเจ้อเอาเอง”
“โธ่อีริน่าทำไมต้องโกรธ ผมน้อยใจนะที่อีริน่าบอกว่าจะหย่ากับผม”
“อีริน่าแค่อยากยุติเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น”
“ทำไมอีริน่าไม่ท้องนะ ผมอยากให้อีริน่าท้อง”
“เอ้อ ไม่ท้องก็ดีแล้วนี่คะ แต่เรื่องที่เกิดมันไม่เกี่ยวกับเรื่องท้องสักหน่อย”
“เกี่ยวสิ ถ้าอีริน่าท้อง หัวเด็ดตีนขาดผมจะไม่ยอมหย่าแน่”
“แม้ว่าจะต้องทำเพื่อปกป้องคุณแม่ของคุณเจตหรือคะ”
เจตรินอึ้ง
“โธ่ ทำไมโชคชะตาถึงกลั่นแกล้งทำร้ายเราอย่างนี้อีริน่า”
“เราไม่ควรพบกันเลย”
“การพบกันของเรามันเท่ากับเป็นการเริ่มต้นของการจากกัน”
“ทำใจเถิดนะคะ”
“ทำใจไม่ได้หรอก แต่ทำได้อย่างเดียวคือต้องจำใจ อีริน่าที่รักผมไม่อยากได้ยินคำว่าจากกันเลย”
“ทำยังไงได้คะ เราสองคนถูกกำหนดมาให้เป็นอย่างนี้ค่ะ”
“แต่ผมยังไม่เชื่อนะ ผมเชื่อในความดีงาม และความรักของเราที่มั่นคงในที่สุดเราจะสมหวัง”
อีริน่าเริ่มอยากจะอาเจียน อีริน่ารีบลุกเอามือปิดปาก
“กลับไปเถิดค่ะ อีริน่าอยากพักผ่อน”
“อีริน่า ทำไม ทำไมอีริน่าถึงอยากไล่ผมไปจากอีริน่า”
อีริน่าส่ายหน้าแล้วรีบวิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา
“กลับไป...กลับไปค่ะ”
“อีริน่าผมทำอะไรผิด อีริน่าไม่พอใจอะไรผม บอกผมสิ”
อีริน่าไม่หยุดหันมามอง เจตรินไม่เข้าใจเสียใจ
อีริน่ามาแอบอาเจียนในห้อง พยายามทำเสียงให้เงียบ เธอร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ
“อีริน่าจะไม่ยอมให้คุณลำบากใจในการตัดสินใจหย่ากับอีริน่า ถ้าคุณรู้ว่า เรากำลังมีลูกด้วยกัน...คุณเจตขา อีริน่าขอยอมเป็นฝ่ายถอย”
ในห้องนั่งเล่น...เจตรินยังไม่หายงงที่อีริน่าวิ่งหนีเอาดื้อๆ นั่งซึม
“อีริน่าไล่ผม คุณไม่ได้รักผมหรือ”
นายพลกันต์กับคุณหญิงเดินออกมาจากด้านใน
“อ้าวอีริน่าหายไปไหนแล้ว” พรรณรายถามอย่างสงสัย
“อีริน่าไม่ต้องการพบผม จู่ๆเธอก็วิ่งหนีผมไปเฉยๆ แถมไล่ให้ผมกลับ”
คุณหญิงรู้ว่าอีริน่ากลัวเจตรินรู้ว่าท้อง
“ไม่มีอะไรหรอกเจต อีริน่าไม่ค่อยสบายน่ะ”
“ครับผมเข้าใจว่าอีริน่าเพิ่งโดนลอบยิงมา ผมถึงอยากอยู่ดูแลเธอ”
“อีริน่าอาจจะยังตกใจอยู่” นายพลกันต์รีบบอก
เจตรินส่ายหน้า
“อีริน่าเป็นลูกสายลับ เธอถูกฝึกมาให้ป้องกันตัว และต่อสู้ในทุกสถานการณ์ อีริน่าไม่ตกใจแน่ครับ ตอนที่โดนยิงระยะเผาขนอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่อีริน่า เป็นผมตายแล้วครับ”
คุณหญิงตัดบท
“เอาเถิดป้าจะไปคุยกับอีริน่าให้ แต่เชื่อป้าเถิด อีริน่ารักเจตมาก รักเกินกว่าจะทำให้เจตลำบากใจ”
“ด้วยการรีบผลักไสให้ผมไปหาคนที่ผมไม่ต้องการ ทั้งที่เราตกลงกันว่าจะให้เวลากันและกันหนึ่งเดือน”
“เดี๋ยวป้าเขาไปคุยให้ ป้ากับอีริน่าเขามีเรื่องเร้นลับคุยกันเสมอ” นายพลกันต์ปลอบ
“นี่คุณ” คุณหญิงค้อน
“ขอบคุณมาก ครับฝากบอกด้วยว่าผมกลับก่อน ผมขอตัวครับคุณลุงคุณป้า”
เจตรินไหว้ลาสองคนแล้วเดินออกไป นายพลกันต์มองตามเห็นใจ
“สงสารนายเจตเขานะคุณหญิง”
“ค่ะ แต่ก็น่าหมั่นไส้ โตเป็นวัวเป็นควายดันปล่อยให้ผู้หญิงหลอกได้”
“นี่ถ้าอีริน่าท้องนายเจตจะทำยังไง แล้วถ้าอารดานั่นท้องนายเจตจะทำยังไง”
“เอ๊ะ คุณกันต์ มาจินตนาการอะไรแย่อย่างนั้น ฉันไม่อยากฟัง”
“อ้าวว่าได้หรือ ของพรรค์นี้”
“ไม่เอาละ ไปดูหลานดีกว่า”
คุณหญิงเดินหนีไปอีกคน นายพลกันต์มองสงสัย
“ยายหลานสองคนนี่ดูแปลกๆ ซุบซิบอะไรกันดูมีความลับมากมาย”
นายพลกันต์ยิ้มขำเอ็นดูทั้งคุณหญิง และอีริน่า
อารดาเดินหงุดหงิดเขมชาติที่ทำงานพลาด เข้ามาในบ้าน
“ไอ้บ้าเขมดันทำพลาด ต้องให้ไอ้พงษ์จัดการอีกครั้ง...ว๊าย”
จิตรดาราพรวดมาดักหน้า ถือปืนมาด้วยเล็งใส่อารดา
“ตกใจนึกว่าใครมาดักยิงหรือ พิ้วๆ”
“นี่ อย่ามาเล่นบ้าๆนะ”
“ใครว่าเล่นบ้าๆ ถ้าอยากเล่นจริงๆจะว่ายังไง ประตูห้องแข็งแรงฉันก็ยิงมาแล้ว เนื้ออ่อนๆอย่างเธอฉันถากๆก็ทะลุไปด้านหลังแล้ว”
“ต้องการอะไร”
“แค่อยากจะมาเตือนสติ ว่าอย่ามาทำตัวเป็นหนอนในเกลือบ้านฉัน”
“อย่าหาว่าฉันเป็นหนอนในบ้านหลังนี้ ฉันนี่แหละ คุณอารดา ไอศูรย์ศรินทร์ คุณผู้หญิงของบ้านนี้”
จิตรดาราทำท่าอ้วก
“แหวะ”
อารดาเห็นจิตรดาราร้องแหวะ เกิดคลื่นไส้ขึ้นมา
“แหวะ อุ๊บ” อารดาเอามือปิดปาก
“เป็นอะไรน่ะ แพ้เสียงแหวะหรือ แหวะๆ”
อารดาเอามืออุดปากแล้ววิ่งหนีไป จิตรดารามองตามสงสัย
“หรือมันจะท้อง แต่มันเพิ่งนอนกับพี่เจตไม่ถึงเดือน มันท้องได้ยังไง”
แหววกับศรีแอบมอง
“ท้องซะละ” แหววพูดลอยๆ
“ใครเอ่ยพ่อน้องหนู” ศรีเสริม
สองคนทำท่าอ้วก
“แหวะ”
จิตรดาราเดินมาเล็งปืนใส่สองคน
“แหวะทำไม อยากท้องหรือไง หรือว่าท้องไปแล้ว”
“เปล่าค่ะ แค่เลียนแบบดาราค่ะ” แหววรีบบอก
“คุณจิตมีอะไรให้ป้าศรีรับใช้คะ”
“ใช้ให้ไปคอยสอดส่องว่าอารดามันเป็นบ้าอะไร ได้ยินเสียงแหวะมันดันวิ่งหนี”
“ได้ค่ะ”
สองคนเดินหัวเราะคิกคักออกไป จิตรดารานึกถึงเหตุการณ์ที่อารดากลับมากับเขมชาติ และพงษ์ธรตัวล่อนจ้อน
“คืนนั้นมันดูแปลกๆ อีริน่ากลับมาตามลำพัง แต่นังอารดากลับมากับไอ้สองแมงดาสารเลว สภาพแทบล้อนจ้อน อีริน่าต้องรู้อะไรดีๆแน่ แต่ทำไมไม่พูด”
จิตรดาราคิดแปลกใจ
จีรณัทย์คุยกับจิตรดาราอยู่ในห้อง
“เพราะอีริน่าคงไม่อยากให้พาดพิงมาถึงแม่เรา ถ้าพูดถ้าบอกออกมาอารดาคงมันปาอุจาระใส่แม่เราเต็มๆแน่”
“คุณแม่เหม็นหึ่งเลย จิตเองก็เคยทำแย่ๆกับอีริน่า เคยทำกับเขาสารพัด แต่เขาไม่เคยปริปากมาย้อนด่ากลับ หลังจากที่เขากลายเป็นหลานนายพล หลานคุณหญิง”
“อีริน่าจิตใจดีงามมาก เสียดายจริงๆที่เขาต้องหย่ากับเจต” จรณัทย์หนักใจ
“เราจะช่วยอีริน่ากับพี่เจตให้สมหวังกันได้บ้างไหมคะพี่จี”
“พี่กำลังพยายามคิดหาทาง แต่มันมืดมนไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์”
“จิตคิดว่าจิตเห็นแว๊บๆแล้วนะคะ”
“เห็นยังไงหรือ”
จิตรดารากระซิบจีรณัทย์ตกใจ
“จริงนะคะ”
“ฮ้า แต่เราก็ต้องพิสูจน์ ให้ได้ก่อน”
จิตรดาราพยักหน้า
วันใหม่...อารดาครุ่นคิดเรื่องทำร้ายอีริน่าอีกครั้ง
“อีริน่า ตราบใดที่แก่ยังมีลมหายใจ แม้จะยอมหย่ากับพี่เจตแล้วก็ตามแต่สิ่งที่มันรู้เห็น มันยังเป็นหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจ และชีวิตของเรา”
เสียงเจตรินดังขึ้น
“อารดาเปิดประตู”
“พี่เจต...พี่เจตมาหาเรา”
อารดาดีใจปราดไปที่ประตู รีบเปิด เจตรินยืนหน้าเครียดตรงหน้า อารดาผวาจะไปดึง
“พี่เจตมาหาดา ดาดีใจมาก เข้ามาในห้องนะคะ”
เจตรินถอยหนีมาด้านหลัง
“ออกมาคุยกันข้างนอกเถิด อารดามันไม่เหมาะ”
“แหม...ทำไมคะ เราเป็นอะไรกันแล้ว ทำไมจะคุยกันในห้องไม่ได้”
“ผมขอพลาดครั้งเดียว จะไม่มีพลาดซ้ำสอง”
“พี่เจต” อารดาอึ้ง
ในห้องนั่งเล่น...เจตรินถามอารดาตรงไปตรงมา
“ทำไมไม่หยุดคุกคามเข่นฆ่าราวีอีริน่า”
“พี่เจตพูดอะไร ดาไม่เข้าใจค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นช่วยกรุณาเข้าใจด้วยว่าพี่ และหลายคนสงสัยว่าไอ้คนที่มาตามเล่นงานอีริน่าอยู่ตอนนี้น่าจะเป็นคนที่อีริน่าไปรู้ความลับของพวกมันมา”
“ใครหรือคะ”
“ใครที่น่าจะอยู่ในเหตุการณ์ คืนที่อารดาพาอีริน่าไปเที่ยวผับนั่นแหละ”
“หรือคะ ดากับอีริน่าแยกทางกันที่หน้าผับจากนั้นดาก็ไม่รู้อะไรมากไปกว่านั้น”
“ขอบใจที่ดาไม่รู้ ดีใจที่ดาไม่ใช่คนเลวทรามต่ำช้า อย่างที่ผมกลัว ขอบคุณที่รับฟังผม”
เจตรินลุก อารดามาจับมือ เจตรินแกะมือเธอออก
“พี่เจตขาอย่าเย็นชากับดาอย่างนี้สิคะ ดารู้สึกเหมือโดนตบหน้า โดนเหยียดหยามไร้ศักดิ์ศรี ทำไมคะ”
“ถามตัวเองดีกว่าอารดา”
เจตรินเดินหนีไป อารดาน้ำตาไหล เจ็บอายแค้นใจไปลงที่อีริน่าอีก
“นังอีริน่า เพราะแก เพราะแกจริงๆ เพราะแกแท้ๆ”
อีริน่าไหว้ จิตรดารากับ จีรณัทย์
“ขอบคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมอีริน่า”
“เรามีเรื่องอยากถามอีริน่า” จิตรดาราพูดเสียงเครียด
“ค่ะ”
“คืนวันนั้นวันที่เราไปเที่ยวผับ เกิดเรื่องร้ายแรงกับทุกคน แต่ฉันรอดมาได้เพราะนิกกี้มาช่วยไว้ทัน ถามจริงๆอีริน่าเมาหรือเปล่า”
“เอ้อ...” อีริน่าชะงัก
จีรณัทย์มองหน้า
“พี่ทายว่าอีริน่าแกล้งเมา”
“เอ้อ ค่ะ อีริน่าแอบเทเครื่องดื่มทิ้งค่ะ มีคนเตือนเอาไว้คะ”
จิตรดาราถามต่อ
“อีริน่าเห็นฉันไปกับใคร ไอ้เขมใช่ไหม”
“เอ้อ...อีริน่ามัวแต่แกล้งเมา ไม่ทันเห็นค่ะ”
“อีริน่าไปรถใคร” จีรณัทย์ถาม
“เอ้อ รถคุณพงษ์ค่ะ”
“อารดา ไปด้วยใช่ไหม” จิตรดาราถามทันที
“ค่ะ”
"แล้วแยกกันตอนไหน” จีรณัทย์คาดคั้น
“เอ้อ...อีริน่าแอบลงมาจากรถตอนที่เขาจอด”
จิตรดาราคิดๆ
“แปลว่าที่อารดาพยายามบอกว่าต่างคนต่างหนี แต่เขาโดนจับไม่จริง”
“อีริน่าไม่ชอบพูดในสิ่งที่ทำให้คนอื่นดูไม่ดี ถ้าไม่โดนบีบคั้นค่ะ อีริน่า ขอหยุดเรื่องนี้ แค่นี้นะคะ”
สองพี่น้องมองหน้ากัน พยักหน้า จีรณัทย์ยิ้ม
“แค่นี้พี่ก็พอจะประมวลได้บ้างแล้ว พี่ไม่รบกวนอีริน่ากันแล้ว”
อีริน่ายกมือไหว้จีรณัทย์
อารดามาที่ห้องพงษ์ธรที่รักษาตัวหายดี อารดาอาเจียนอย่างหนัก
“โอยเด็กบ้าทำฉันแพ้ท้องไม่เลือกที่เลือกโอกาส จะบ้าตาย ท้องคนมีตั้งเยอะทำไมต้องอยากมาเข้าท้องฉัน แหวะ”
“ไปอาเจียนให้ใครเห็นบ้างแล้วหรือเปล่า” พงษ์ธรกังวล
“พยายามปกปิดเต็มที่แล้ว”
“รอจังหวะลากยาวไปให้พอดีกับที่จะทำให้ไอ้หน้าโง่บ้านนั้น มันเข้าใจว่าท้องกับไอ้เจต ค่อยออกตัวเต็มๆ”
“ขอบใจที่แนะนำ ฉันรู้น่าว่าจะทำยังไง”
“วันนี้เอาเงินมาให้กันหรือเปล่า”
“แกมันบ้า หน้าเงิน เริ่มทำงานได้แล้ว”
“ทำอะไร”
“จัดการนังอีริน่า”
“มันยากมากขึ้นทุกที”
“แต่ถ้าไม่ทำเราก็ต้องโดนมันเปิดเผยความลับ วันนั้นมันจัดฉากเราทั้งหมด มันกำลังทำสงครามจิตวิทยากับพวกเรา”
“ทำไมมันไม่พูดนะ...ไหนว่ามันยอมหย่าให้เธอจดทะเบียนกับนายเจตแล้ว ทำไมเธอไม่ทำเฉยๆ แล้วเงียบซะ”
“แต่ถ้าให้มันตายไปก่อนมันจะทำให้เราสบายใจได้มากขึ้น”
“เธอเรียนรู้เรื่องการทำความเลวได้รวดเร็ว ก้าวหน้าถึงขั้นเห็นการฆ่าคนตายเพื่อความสบายใจแล้วหรือนี่” พงษ์ธรปรบมือให้
“อย่าเพ้อเจ้อ ฉันต้องการจัดการนังอีริน่า”
“ล้านบาท ขนหน้าแข้งเธอไม่ร่วงแล้วตอนนี้ แต่ต้องรอโอกาสดีๆ ไม่ใช่บุ่มบ่าม มันจะเป็นฆ่าตัวตายเอง”
อารดาพยักหน้ารับรู้
จีรณัทย์แจ้งข่าวกับน้องสองคน
“คุณแม่ขออยู่ต่อที่บ้านเราในลอนดอนสักพัก”
“คุณแม่สนุกใหญ่ คงเป็นเพราะไม่อยากมารับรู้เรื่องบ้าๆ” จิตรดาราค้อน
เจตรินหน้าเครียด
“ผมกำลังจะเข้าสู่หลักประหารแล้วครับพี่จี กำลังจะครบหนึ่งเดือนตามที่ ผมกับอีริน่าตกลงกันไว้ ผมจะต้องจดทะเบียนหย่ากับอีริน่าแล้ว”
ทันใดนั้น มีเสียงอาเจียนดังนำมาก่อน สามคนมองหน้ากัน จีรณัทย์เปรยๆ
“เสียงอาเจียน”
“ของอารดา” จิตรดาราสวน
“นี่...นี่...” เจตรินชะงัก
อารดาปรากฏตัวมาหาสามคน อาเจียนโชว์โอเวอร์เต็มๆ
“ดาท้องค่ะ”
สามคนตกใจ
“ท้อง”
“โธ่…ดาไม่อยากท้องนะคะ ดาไม่ได้จะเอาลูกมาต่อรองพี่เจตนะคะ แหวะ”
จิตรดาราเบ้หน้า
“แหวะ แล้วมาบอกทำไม แล้วทำไมต้องมาอาเจียนให้ได้ยินจนหูแทบแตก”
“เด็กในท้องนั่นหลานน้องจิตหลานพี่จี ลูกของพี่เจตนะคะ พี่เจตไม่ดีใจหรือคะ ที่เราจะมีลูกด้วยกัน”
“ฉันคงดีใจถ้านั่นใช่ลูกพี่เจตจริงๆ” จิตรดารามองหยัน
“เอ๊ะ...นี่หาว่าฉันโกหก” อารดาฉุน
จิตรดารามองเยาะ
“ท้องน่ะคงใช่ แต่เด็กนะสิใช่แน่หรือ”
“ถ้าไม่มั่นใจดาไปเอาเด็กออกนะคะพี่เจต ตอนนี้ก็แค่เลือดก้อนเล็กๆ”
อารดาหันออกไป เจตรินพูดขึ้น
“เดี๋ยวก่อนอารดา”
จิตรดาราแทรก
“พี่เจตกำลังตกเป็นเหยื่อนะคะ”
จีรณัทย์มองหน้าอารดา
“พี่ว่าเด็กคลอดออกมาเราค่อยพิสูจน์หาดีเอ็นเอก็ได้ ถ้าอารดายอมให้พิสูจน์”
“ครับ” เจตรินจ๋อยๆ
อารดาจ้องหน้า
“อีกสองวันครบหนึ่งเดือนแล้ว พี่เจตสมควรรีบไปหย่าขาดจากอีริน่า”
เจตรินหน้าเศร้า
“ผมทราบ”
“ไปหย่าวันไหนดาจะไปจดทะเบียนวันนั้น สมัยนี้เขาจดทะเบียนก่อนฉลองแต่งงาน”
สามคนพี่น้องพูดไม่ออก อารดายิ้มเป็นต่อ
อีริน่าวงปฏิทินวันที่ครบหนึ่งเดือน
“กำลังจะครบกำหนดแล้วค่ะคุณยาย”
“อีริน่าจะยอมหย่าจริงๆหรือหลาน” คุณหญิงพรรณรายหนักใจ
“คะ”
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น สาวใช้รับสาย แล้วมาส่งให้อีริน่า
“จากบ้านคุณเจตค่ะ”
อีริน่ารับสาย
“ฮัลโหล อีริน่าพูดค่ะ”
อารดาพูดโทรศัพท์กับอีริน่า
“ฉันมีข่าวดีมาบอกจ้ะอีริน่า ฉันท้องกับพี่เจตแล้ว อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้ อีกสองวันรีบไปจดทะเบียนหย่า หวังว่าคงไม่หน้าด้านพรากลูกพรากพ่อเขานะจ้ะ บอกให้เธอรู้แค่นี้แหละจ้ะ แล้วพบกันวันที่เธอไปหย่า เพราะว่าวันนั้นฉันจะไปจดทะเบียนสมรสจ้ะ บ๊ายบาย ซียู จ้ะ”
อารดาวางสายยิ้มพอใจ อีริน่ามือสั่นโทรศัพท์ตกจากมือคุณหญิงตกใจ
“อีริน่าหลานเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”
“เอ้อ...”
“ใครโทรมาหาหลาน”
“อารดาค่ะ”
“ยังมีหน้าโทรมาอีกหรือ”
“เขาโทรบอกว่า...เอ้อ...”
“ว่าอะไร”
“เขาท้องค่ะ”
“ท้อง” คุณหญิงตะลึง
“ค่ะ”
“โธ่อีริน่า แล้วแบบนี้เจตเขาจะหย่ากลับมาคืนดีกับอีริน่าได้ยังไง”
“อีริน่าไม่ต้องการให้เขากลับมาหาอีริน่าอีกแล้ว อีริน่าขอกลับมอสโควค่ะ”
“จะทิ้งยายหรือ”
“อีริน่าขอไปสงบจิตใจค่ะ ให้อีริน่าไปเถิดค่ะ ไปไม่นานหรอกค่ะ ถ้าอีริน่าสงบใจดีแล้ว อีริน่าจะกลับมาค่ะ”
“แล้วลูก...”
“อีริน่าจะกลับไปคลอดลูกที่นั่นค่ะไม่ต้องการให้คุณเจต และทุกคนรู้เรื่อง”
อีริน่าโผมากอดยายร้องไห้ คุณหญิงร้องไห้ไปด้วย
พงษ์ธรรับเงินจากอารดา ดีใจมาก
“วันไหน”
“พรุ่งนี้”
“โอเค”
“อย่าให้พลาดอย่าโง่ซ้ำซ้อน นี่คือโอกาสครั้งสุดท้าย จากนั้นไม่มีแล้ว”
“โอเค เตรียมอีกห้าแสนไว้ได้เลย”
“แน่นอน”
อารดาลุก พงษ์ธรดึงมากอดหอมแก้ม อารดาตบฉาด
“ตอนนี้แกคือลูกจ้างของฉันไอ้แมงดา อย่ามาสะเออะ ทำงานของแกให้ดี”
อารดาเดินออกไป พงษ์ธรมองเงินเอามาจูบ
เจตรินกุมมืออีริน่า เธอสบตาเขาหม่นหมองมาก
“ที่รัก หัวใจผมกำลังสลาย”
“ค่ะ” อีริน่ารำพึงในใจ “ หัวใจอีริน่าสลายไปก่อนหน้านี้แล้วค่ะ”
“ผมขอบใจที่วันนี้อีริน่ายอมให้ผมพบ แม้ว่าจะเป็นการพบเพื่อสั่งลาก็ตาม”
“ค่ะ”
“อีริน่าพูดอะไรออกมาสักคำ พูดกับผมสิที่รัก”
“อีริน่าอยากจะพูดอะไรมากมาย แต่มันติดอยู่ที่ริมฝีปาก” อีริน่าสะอื้นร้องไห้
“อีริน่า ผมพูดอะไรผิดไปอีกแล้ว ผมทำให้อีริน่าร้องไห้ ผมขอโทษ”
อีริน่าโผเข้ากอดเจตรินร้องไห้
“อีริน่ารักคุณเจตค่ะที่รัก”
“อีริน่ายอมเรียกผมว่าที่รักอีกแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ”
“เพราะว่าอีริน่าอยากจากกันด้วยดีค่ะ”
“ขอบคุณมาก ผมจะไม่มีวันเลิกรักอีริน่า”
“อีริน่าก็ไม่มีวันเลิกรักคุณเจตค่ะ”
สองคนกอดกันนิ่งเงียบ ซาบซึ้งกันและกัน
จบตอนที่ 15