ดงดอกงิ้ว ตอนที่ 19
พรกำลังจะพยุงจะพาสู่ขวัญเข้าไปพักที่ห้อง
“เดินดีๆ นะคะคุณขวัญ”
แต่จู่ๆสู่ขวัญก็รู้สึกเหมือนจะอาเจียน พรรีบช่วยลูบหลังให้
“ไหวไหมคะ อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวพี่พาไปพัก”
สู่ขวัญพยายามฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไร ขวัญโอเค.”
“โอเคอะไรคะ ดูสภาพคุณสิ คุณน่าจะไปหาหมอนะคะ”
“ไม่ค่ะ ไม่ไป”
พรส่ายหัวในความดื้อรั้นของสู่ขวัญ พลางรีบพาสู่ขวัญมานั่งพักตรงโซฟา สู่ขวัญนอนหมดแรง ในจังหวะเดียวกับที่ภาวดีกับทรงยศเดินเข้ามาจะมาคุยเรื่องศึกรบพอดี
“หนูขวัญ กลับมาแล้วเหรอ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”
พรจะเดินออกไปหายาให้สู่ขวัญ รีบกันทั้งคู่ให้ออกไป
“พวกคุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ คุณขวัญไม่สบาย”
“หนูขวัญไม่สบายเหรอ ไหนดูซิ”
-ภาวดีกับทรงยศเดินไปดูสู่ขวัญ ทำท่าเป็นห่วงมาก
“ซมเลยนะเนี่ย ทำไงดีคุณ”
ทรงยศเปรยกับภรรยา ภาวดีรีบหันมาทางพร “เดี๋ยวฉันดูแลหนูขวัญเอง”
พรได้ยินก็ไม่พอใจ
“คุณไม่ต้องยุ่งดีกว่าค่ะ ฉันดูแลคุณขวัญเองได้”
“เอ๊ะ ก็ฉันบอกว่าจะดูเองไง ฉันเป็นแม่ยายเขานะ”
“นั่นแหละยิ่งไม่น่าไว้ใจใหญ่ ตอนนี้คุณขวัญทะเลาะกับลูกคุณ คุณจะทำอะไรบ้างก็ไม่รู้”
ทรงยศ ได้ยินพรพูดก็ของขึ้น
“อ้าว เฮ้ย ทำไมพูดจาไม่ให้เกียรติกันงี้ล่ะแม่พร พวกฉันไม่ใช่โจรนะ”
“จะโดนเฉดหัวออกจากบ้านนี้แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอคะ”
ภาวดี หันมาเขม็งตาใส่พร “เธอนั่นแหละยุ่งอะไร กลับไปเรือนคนใช้ของเธอได้แล้ว ไป”
ทรงยศทำท่าจะเข้ามาลากพรออกไป พรสะบัดตัวหนี
“ออกไปก่อนแม่พร”
“ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าคุณขวัญเป็นอะไรไป พวกคุณเจอดีแน่”
ภาวดีไม่สนใจ พรก้าวฉับๆ ออกไป ในขณะที่สู่ขวัญนอนหมดแรง พูดอะไรไม่ออก
จากนั้นภาวดีกับทรงยศช่วยกันพาสู่ขวัญ ขึ้นมามาพักที่ห้องนอน
“เดี๋ยวแม่เอายาให้กิน รอก่อนนะหนูขวัญ”
ภาวดีจะออกไปเอายา สู่ขวัญเรียกไว้
“ไม่ต้องค่ะ”
“จะไม่กินได้ยังไง อาการหนักซะขนาดนี้” ทรงยศทำเสียงดุ
“ยังไงก็ต้องกิน” ภารดีพยักหน้า พลางหันมาพูดกับสามี “คุณเฝ้าไว้นะ”
สู่ขวัญนอนซม หมดแรง ภาวดีเดินไปที่ประตู แต่จู่ๆ ชโยดมก็เปิดประตูเข้ามา
“ว้าย”
“พี่ขวัญไม่สบายเหรอครับ”
“ใช่จ้ะ”
สู่ขวัญเห็นชโยดมเข้ามา ก็ยิ้มดีใจ
“โย โยเหรอ”
ชโยดมยกมือไหว้ภาวดีกับทรงยศ ทั้งสองรับไหว้
“ผมจะดูอาการพี่สาวผมเอง คุณลุงคุณป้าไปพักผ่อนกันเถอะครับ”
ภาวดีกับทรงยศหันมามองหน้ากัน “เอางั้นเหรอ”
“ผมเป็นหมอนะครับ”
“ก็ได้ ฝากหน่อยแล้วกัน” พลางหันมาทางสามี “คุณ กลับ”
ภาวดียังหงุดหงิด เลยหันมาบ่นใส่ทรงยศ เมื่อทั้งคู่เดินกลับมาที่บ้านของตน
“พอน้องชายมาล่ะยอมง้ายง่าย ทีเราจะเอายาให้กินทำจะเป็นจะตาย”
“คนป่วยก็งี่เง่าบ้างน่าคุณ”
“ป่วยเป่ยอะไรไม่เกี่ยวหรอก ไม่เห็นเหรอ ว่าหนูขวัญเขาไม่ไว้ใจเรา จะทำอะไรให้ก็บ่ายเบี่ยงท่าเดียว”
ทรงยศ ถอนหายใจ
“เฮ้อ ไอ้รบก็ไม่มาเหยียบบ้านเลย นี่ไม่รู้ไปทำเรื่องอะไรอีกรึเปล่า หนูขวัญถึงโกรธไม่เลิกเนี่ย ทำอะไรไม่รู้จักคิด แม่ดารานั่นก็ท้อง แถมยังเรื่องมีเด็กพริตตี้ที่โรงแรมนั่นอีก เฮ้อ”
“โอ๊ย ฉันล่ะปวดหัว แล้วเราจะเป็นไงเนี่ยคุณ”
ภาวดีห่วงเรื่องของตัวเองมากกว่า
“ไม่รู้ แค่หนูขวัญเขาให้ที่ซุกหัวนอนทุกวันนี้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่”
“ยิ่งพูดยิ่งกลุ้ม เพราะไอ้ลูกชายตัวดีของคุณนั่นแหละ ตารบนะตารบมีของดีไม่รู้จักรักษาไว้ ดั๊นไปชอบมั่วของต่ำๆ”
ภาวดีเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างหงุดหงิด ทรงยศส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายเต็มทน
ชโยดมห่มผ้าให้พี่สาวอย่างแผ่วเบา สู่ขวัญหันมาถามชโยดม
“โยรู้ได้ยังไงว่าพี่ไม่สบาย”
ชโยดมตอบยิ้มๆ
“ผมมีญาณพิเศษ”
“บ้า”
ชโยดมหัวเราะ
“ผมล้อเล่น พี่มีนาโทรบอกตั้งแต่อยู่ร้านแล้ว อีกอย่างมีญาณจริงๆ ผมคงไม่มาเป็นหมอรักษาคนหรอก ผมคงเป็นหมอดูไปแล้ว”
สู่ขวัญ มองน้องชายค้อนๆ
“พี่ไม่สบายยังจะมาล้อเล่นอีก”
“ผมไม่อยากให้พี่ขวัญเครียด คนเราถ้าจิตใจสบาย ก็หายป่วยไวนะครับ”
“พี่ไม่อยากหาย อยากป่วยๆ แล้วก็ตา…”
สู่ขวัญยังพูดไม่ทันจบ ชโยดมก็รีบพูดปราม
“พี่ขวัญ”
พลางจับมือสู่ขวัญไว้
“ห้ามพูดแบบนี้อีกนะ เราเหลือแค่สองคนแล้ว พี่ขวัญต้องดูแลตัวเอง อย่างน้อยเพื่อผมก็ยังดี”
สู่ขวัญพยักหน้า ชโยดมมองพี่สาวอย่างเป็นห่วง
ไอวี่ช่วยศึกรบเก็บของจนเสร็จ ศึกรบยืนมองห้องเศร้าๆ ไอวี่เข้าไปกอดศึกรบ พลางพูดจาอ้อนๆ
“ไม่เป็นไรนะคะ คุณรบ”
“อืม”
ศึกรบแกะมือไอวี่ออก จะไปยกของเตรียมออกไป ไอวี่แอบหงุดหงิด แต่ยังไม่เลิกเซ้าซี้
“ถ้าออกไปจากที่นี่แล้ว คุณรบจะไปอยู่ที่ไหนคะ”
“ก็คงไปเช่าคอนโดอยู่สักพัก เดี๋ยวให้สาธรช่วยหาให้”
“แล้วคืนนี้ล่ะคะ”
“คงหาโรงแรมนอนไปก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที”
ไอวี่อ้าปากจะถามอะไรต่ออีก แต่บังเอิญแสงดาวเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน
อ่านต่อหน้า 2
ดงดอกงิ้ว ตอนที่ 19 (ต่อ)
ไอวี่อ้าปากจะถามอะไรต่ออีก แต่บังเอิญแสงดาวเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน
“ไอวี่ มาทำอะไรที่นี่”
ไอวี่ เชิดหน้า“ก็มาช่วยคุณรบเก็บข้าวของไงคะ คุณเลขา”
“ถ้าช่วยเก็บเสร็จแล้ว ก็กลับไปทำงานได้แล้ว”
ไอวี่ทำเป็นแสร้งยิ้มให้แสงดาว
“สงสัยคุณเลขาจะไล่ผิดคนแล้วมั้งคะ ฉันเป็นพนักงานที่นี่”
“แล้วยังไง” แสงดาวฟังอย่างไม่เข้าใจ
“ตามหลักการแล้ว คนที่คุณเลขาควรไล่ออกไป คือคนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่นี่แล้ว ว่าแต่กล้าไล่ไหมล่ะ”
แสงดาวมองไปที่ศึกรบด้วยความลำบากใจ
“ไอวี่ ออกไปก่อนได้ไหม ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณดาว”
“ค่ะ”
ไอวี่ทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ยอมเดินออกไปโดยดี แสงดาวยิ้มเยาะ พลางหันไปยิ้มให้ศึกรบ แต่เจอสีหน้าจริงจัง ก็ถึงกับพูดไม่ออก
“คุณดาว”
ศึกรบเสียงเครียด
“คะ?”
“คุณใช่ไหม ที่เป็นคนบอกเรื่องคุณปองให้ขวัญรู้”
แสงดาวตกใจ “ดาว ดาวไม่ได้”
“อย่ามาโกหกผม” ศึกรบตวาดกลับ
“ดาวเปล่านะคะ ดาวไม่รู้เรื่อง”¬
“ผมถามว่า มันจริงไหม ผมต้องการคำตอบจากปากคุณ”
แสงดาวอึกอัก “ดาว”
“ว่ายังไงคุณดาว”
แสงดาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ดาวบอกไม่ได้ค่ะ”
ศึกรบ ได้ฟังก็ยิ่งโมโห
“ทำไมจะบอกไม่ได้ ผมเป็นเจ้านายคุณโดยตรง ทำไมถึงเอาเรื่องของผมไปบอกขวัญ”
“ดาวเปล่า”
แสงดาวส่ายหัว ศึกรบพยายามพูดอย่างใจเย็น
“ได้ งั้นคุณดูนี่”
ศึกรบหยิบโทรศัพท์มาเปิดภาพที่แสงดาวกำลังแอบถ่ายรูปที่ร้านของปองฤทัยให้ดู แสงดาวเห็นรูป ก็ถึงกับมือสั่น แล้วก็ร้องไห้ออกมา
“ดาวขอโทษค่ะ ดาวไม่ได้ตั้งใจ ดาวจำเป็นต้องทำ”
“จำเป็นอะไรนักหนา เพราะอะไรบอกมา”
“พักหลังนี่คุณขวัญสั่งให้ดาวคอยตามคุณค่ะ ดาวไม่ได้อยากทำเลย ดาว”
“คุณแอบรายงานเรื่องผมให้ขวัญรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่ ตั้งแต่มีเรื่องระรินท้องน่ะค่ะ”
ศึกรบ ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
“ผมก็แค่อยากรู้ความจริง ผมไม่เคยคิดเลย ว่าคนที่ใกล้ชิดผมที่สุด จะทำกับผมแบบนี้”
พูดพลางหันเดินออกไป แสงดาวรีบตามไปกอดไว้
“คุณรบ ดาวจำเป็นต้องทำ ทั้งที่ไม่อยากทำ”.
แสงดาวร้องไห้อย่างหนัก ศึกรบมองอย่างสงสาร
“คุณรบอย่าโกรธดาวนะคะ ให้อภัยดาวนะคะ ดาวจะไม่ทำอะไรให้คุณรบต้องไม่สบายใจอีกแล้ว อย่าโกรธ อย่าเกลียดดาวเลยนะคะ”
ศึกรบพยักหน้า
“ก็ได้ ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ”
ศึกรบแอบยิ้มแบบร้ายๆ ที่จัดการกับแสงดาวได้ พลางใช้หลังมือเช็ดน้ำตาให้
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว”
“ค่ะ คุณเป็นทุกอย่างของดาว ดาวไม่มีวัน คิดทำร้ายคุณหรอกค่ะ”
ศึกรบยิ้ม แสงดาวยิ้มดีใจที่ศึกรบหายโกรธ แล้วศึกรบก็ก้มลงจูบ แสงดาวหลับตาลงพริ้ม แล้วลืมตาขึ้นมองศึกรบอย่างมีความสุข ศึกรบยิ้มพอใจ
แต่จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือศึกรบก็ดังขึ้น ศึกรบผละออกจากแสงดาว รีบรับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยที่ระเบียง แสงดาวมองตาม ทั้งเจ็บใจทั้งเสียดาย
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ”
แสงดาวฮึดฮัดที่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่ต้องการ
ภาวดีโทรหาศึกรบ เสียงร้อนใจ
“ตารบ แกอยู่ไหน?”
“ผมอยู่ที่ทำงาน แม่มีอะไรครับ”
“เมียแกไม่สบาย แกรีบกลับมาดูแลเดี๋ยวนี้ นี่มันโอกาสทำคะแนนของแกเลย รู้ไหม”
“ทำไมผมต้องไป”
ภาวดี หงุดหงิด
“เอ๊ะ ทำไมพูดแบบนี้”
“ทำไมผมต้องดูแลเขา ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยสนใจความรู้สึกผม”
“พูดจาน้อยใจเป็นเด็กๆ ไปได้ ชักจะทำตัวไร้สาระใหญ่แล้วนะ”
ภาวดีดุลูกชาย ทรงยศรีบแย่งโทรศัพท์มาคุยต่อ
“มานี่ ผมพูดกับมันเองไอ้รบ แกกลับมาบ้านเดี๋ยวนี้เลย”
“โธ่ พ่อ พ่อไม่เคยโดนเขาไล่เหมือนหมูเหมือนหมา พ่อจะเข้าใจอะไรผม”
“ฉันเข้าใจ แต่ฉันว่าแกควรจะกลับ”
“ถ้าผมไป ก็ต้องโดนไล่ออกมาอีก ผมก็มีศักดิ์ศรีนะครับ จะให้ผมง้อคนที่เขาไม่เห็นหัวผมทำไม แค่นี้นะครับ”
ศึกรบตัดสายหนีไปเลย ทรงยศขัดใจ
“ลูกชายตัวดีของคุณ มันจะมาไหม”
ทรงยศส่ายหน้า ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ภาวดีบบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
“โอ๊ย ฉันจะบ้าตาย”
ชโยดมตรวจอาการสู่ขวัญแล้วก็หยิบยามาให้
“ผมจะให้กินยาแก้อาเจียนกับอาการวิงเวียนศีรษะไปก่อนนะครับ แต่ผมอยากให้พี่ขวัญไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกที”
สู่ขวัญพยักหน้า แล้วก็พูดออกมาอย่างเหนื่อยใจ
“ขอบใจมากโย แต่ตอนนี้พี่ไม่อยากไปไหนเลย”
“ไม่งอแงสิครับ ผมอยากให้ไปนะ เพราะผมไม่แน่ใจว่าเป็นการอ่อนเพลียจากการทำงานหนัก แล้วก็ความเครียดอย่างเดียวรึเปล่า”
สู่ขวัญฝืนยิ้ม “จ้ะ”
“ดีครับ จะได้หายไวๆ สัญญาแล้วนะ”
“ค่ะคุณหมอ”
ชโยดมหัวเราะ ดีใจที่สู่ขวัญยอมฟัง
หลังจากวางสาย ศึกรบกลับมาคุยกับแสงดาวต่อ
“คุณรบจะไปเช่าโรงแรมพักจริงๆเหรอคะ”
ศึกรบไม่ตอบ แต่กลับย้อนถาม
“แล้วผมมีทางอื่นด้วยงั้นเหรอ?”
ศึกรบเก็บของต่อ แสงดาวเห็นศึกรบไม่สนใจ ก็เข้าไปช่วยเก็บของ และพยายามยื้อต่อ
“ถ้าคุณรบไม่รังเกียจ บ้านดาวยังมีห้องว่างนะคะ ดาวอยู่คนเดียว ไม่มีคนอื่น”
ศึกรบชะงัก แสงดาวมองลุ้นๆ
“ผมไม่อยากรบกวนน่ะ ไม่เป็นไร ขอบคุณมาก”
แสงดาวแอบทำหน้าผิดหวัง
“งั้นดาวกลับก่อนแล้วกันนะคะ”
ศึกรบพยักหน้า แสงดาวยิ่งขัดใจ
อ่านต่อหน้า 3
ดงดอกงิ้ว ตอนที่ 19 (ต่อ)
แสงดาวออกจากห้องของศึกรบมา ท่าทางหงุดหงิด
“ได้อะไรติดตัวมาบ้างไหมคะคุณเลขา”
แสงดาวหันขวับไป เห็นไอวี่ยืมยิ้มเยาะตัวเอง ก็ยิ่งเจ็บใจ แต่พยายามไม่แสดงออก
“ฉันคุยกับเขาเรื่องงาน”
“อ๋อเหรอ”
“อย่ามาทำเป็นสู่รู้หน่อยเลย”
ไอวี่ ยิ้มสะใจ
“พูดแบบนี้งั้นแสดงว่าที่ฉันคิดก็ถูกน่ะสิคะ”
“แกหมายถึงอะไร คิดอะไรเลวๆ ของแกอีกล่ะ”
“แหม อุตส่าห์หาโอกาสเข้ามาประเคนให้ถึงที่ขนาดนี้แล้ว ทำไมออกมาหน้าบูดขนาดนี้ล่ะ นี่แสดงว่า สิ่งที่คุณเลขาหวังไว้ คงอด”
ไอวี่พูดพลางจงใจหัวเราะยั่วโทสะ
“แก นังไอวี่ อย่าสาระแน ให้มันมากนักนะ”
“ต้องสาระแนสิคะ เพราะว่าปกติ ถ้าเป็นวี่กับคุณรบล่ะก็”
“ทำไม”
ไอวี่เดินเข้ามากระซิบแสงดาว
“เขาต้องใช้เวลานานกว่านี้ ไม่เร็วขนาดนี้หรอกค่ะ”
ไอวี่พูดจบก็เดินหัวเราะเยาะออกไป แสงดาวโกรธจนตัวสั่น
ชโยดมเก็บล่วมยาเตรียมตัวจะกลับ สู่ขวัญลุกขึ้นมา พลางเปิดประเด็นกับน้องชาย
“โย พี่อยากถามอะไรหน่อย”
“ครับ?”
“ที่โยมบอกว่า โยรักเจ้าของร้านดอกไม้คนนั้น โยพูดจริงรึเปล่า”
ชโยดมเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจตอบสู่ขวัญเสียงหนักแน่น
“จริงครับ”
สู่ขวัญ ถอนหายใจเบาๆ
“เขาไม่น่ารู้จักกับรบเลย”
“ผมไม่อยากโทษโชคชะตา หรืออะไรที่ทำให้ทุกคนต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว สิ่งที่ผมทำได้ ก็คือผมต้องปกป้องคุณปองให้ถึงที่สุด”
“เขาโชคดีที่เจอผู้ชายอย่างโย”
ชโยดมหน้าเศร้า “แต่เขาก็ซื่อเกินกว่าจะทันเกมของผู้ชายที่ชื่อศึกรบ”
สู่ขวัญจับมือให้กำลังใจน้องชาย
“พี่เชื่อ ว่าโยจะดูแลคนที่ตัวเองรักได้”
“ผมจะพยายามให้ดีที่สุดครับพี่ขวัญ”
สองพี่น้องหันมามองมองหน้า อย่างเข้าใจในความรู้สึกกันและกัน
ศึกรบเดินออกลากกระเป๋าออกมาจากห้องพัก ไอวี่เห็นรีบเข้าไปจับแขนไว้ พลางพูดเสียงอ้อน
“คุณรบ จะไปอยู่ที่ไหนคะ ให้วี่ไปด้วยนะ”
“ไอวี่จะตามไปทำไม”
“วี่รู้ว่าคุณรบกำลังลำบาก ให้วี่ได้ช่วยดูแลคุณรบบ้างนะคะ”
ไอวี่ทำตาอ้อนวอน ศึกรบใจอ่อน พยักหน้า ก่อนจะเดินนำออกไป ไอวี่ดีใจ รีบเดินตามไป ในขณะที่
แสงดาวแอบดูอยู่อีกมุมหนึ่ง
“อีพริตตี้ตัวแสบ อีเด็กเมื่อวานซืน”
ศึกรบกับไอวี่มานั่งกินเหล้าที่ผับ ศึกรบเมามาย เพ้อหาแต่สู่ขวัญ ไอวี่ ที่นั่งชงเหล้าอยู่ข้างๆ เริ่มหงุดหงิด
“ขวัญ ทำไมทำกับผมแบบนี้ ทำไม”
ไอวี่ยื่นแก้วเหล้าให้พลางลูบหลัง แล้วพูดปลอบใจ
“ไม่เป็นไรนะคะ เขาไม่สนใจก็ไม่เห็นต้องแคร์ สนุกกันดีกว่า เนาะๆ”
ศึกรบรับแก้วเหล้าไปกระดกรวดเดียวหมด แล้วฟุบลงกับโต๊ะ ไอวี่ยิ่งเซ็งหนัก
“เพ้อหาแต่เมียตัวเองอยู่นั่น ยัยป้านั่นดีอะไรนักฮะ ฉันนั่งหัวโด่อยู่นี่ เคยสนใจไหม”
แสงดาวโผล่ออกมาจากมุมหนึ่ง มองมาที่ศึกรบและไอวี่ ด้วยแววตาร้าย เหมือนมีแผนบางอย่าง
“ขอโทษนะครับ รถคุณใช่ทะเบียน…รึเปล่าครับ”
รปภ. เดินเข้ามาถามศึกรบที่นอนฟุบหมอสติอยู่ที่โต๊ะ ไอวี่เขย่าๆตัวศึกรบเรียกให้ลุกขึ้นมา
“คุณรบคะ คุณรบ ตื่นก่อนค่ะ”
“มีอะไร” ศึกรบลุกขึ้นมาถามด้วยเสียงอ้อแอ้
“รถคุณจอดขวางรถคันอื่นอยู่ครับ รบกวนช่วยไปขยับออกให้หน่อยได้ไหมครับ”
“อือๆ ได้ เดี๋ยวไป”
รปภ.เดินออกไป ศึกรบจะลุกขึ้น แต่ไอวี่รั้งไว้
“คุณรบเมามากแล้วนะคะ จะขับรถได้เหรอ”
“ได้ ฉันยังไม่เมาเท่าไหร่เลย”
ไอวี่ มองค้อน
“ไม่เมาอะไรละค่ะ นั่งลงเถอะ เดี๋ยววี่จัดการเอง”
“เธอขับรถเป็นรึไง”
“เป็นสิคะ เป็นพริตตี้ รถแค่นี้ทำไมจะขับไม่เป็น เอากุญแจมา พี่รบนั่งพักเถอะค่ะ”
ศึกรบพยักหน้า นั่งลงแล้วก็ควักกุญแจยื่นให้ไอวี่
“อยู่นี่ก่อนนะคะ นอนไปเลยก็ได้ แต่อย่าลุกไปไหนนะ”
ศึกรบพยักหน้าอย่างว่าง่าย
ไอวี่ออกมาที่ลานจอดรถ จัดการขยับรถให้ศึกรบเรียบร้อยอย่างร้อนรน พอขยับรถเสร็จไอวี่ก็ลงมา มองเข้าไปในผับ
“คุณรบเป็นยังไงบ้างเนี่ย”
ไอวี่รีบกลับเข้าไปในผับทันที พลางรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ
ไอวี่กลับเข้ามาในผับ แต่ปรากฏว่าศึกรบหายตัวไปแล้ว
“คุณรบคะ หายไปไหนนะ”
ไอวี่รีบวิ่งออกมาที่หน้าผับ เห็นแสงดาวพาศึกรบเข้าที่นั่งในรถ แล้วรีบมาขึ้นรถสตาร์ทเครื่องออกไป
“นังแสงดาว”
ไอวี่รีบวิ่ง จะไปที่รถ แสงดาวขับรถปาดหน้าไป ไอวี่รีบหลบ เกือบจะโดนรถแสงดาวชน
“อ๊าย อีบ้า อีเลขาเจ้าเล่ห์ อีจอมวางแผน แก อ๊าย”
อ่านต่อหน้า 4
ดงดอกงิ้ว ตอนที่ 19 (ต่อ)
แสงดาวขับรถศึกรบออกมา พลางมองศึกรบที่หลับอยู่อย่างพอใจ สักพักศึกรบก็งัวเงียตื่นขึ้นมา และมองไปรอบๆ
“ทำไมผมมาอยู่ในรถล่ะ” พลางมองไปทางแสงดาว “คุณดาว? ทำไม”
“ดาวมารับคุณรบกลับค่ะ”
“งั้นเหรอ”
ศึกรบยังมึนๆ อยู่
“เดี๋ยวดาวพาคุณรบไปพักเองนะคะ คุณรบนอนไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวถึงแล้วดาวปลุก”
ศึกรบพยักหน้าแล้วก็หลับไปเพราะเมามาก แสงดาวขับรถต่อไป แต่จู่ๆเสียงมือถือศึกรบก็ดังขึ้น
แสงดาวเหลือบมองโทรศัพท์สีหน้าเฉยเมย
“โทรให้ตายก็ไม่มีคนรับหรอกนังพริตตี้”
ไอวี่หงุดหงิดมากที่ศึกรบไม่รับโทรศัพท์ เลยเปลี่ยนเป็นกดข้อความส่งไปแทน
“คุณรบคะ อยู่ที่ไหน”
รออยู่พักใหญ่ เมื่อก็ไม่มีการตอบกลับ ไอวี่เลยกดส่งไปอีก
“อยู่กับคุณแสงดาวรึเปล่า ตอบวี่ด้วยค่ะ”
ไม่ทีการตบกลับอีก ไอวี่ส่งซ้ำ
“อย่าไปกับเขานะคะ มันจะหลอกคุณรบ อย่าไปหลงกลเด็ดขาดนะคะ ถ้าคุณรบเห็นข้อความแล้วตอบวี่เถอะค่ะ ถ้าไม่ตอบวี่ก็จะส่งข้อความไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ”
ไอวี่เริ่มทนไม่ได้เลยเลิกส่งข้อความ แล้วเปลี่ยนเป็นกดโทรศัพท์แทน
แสงดาวขับรถมาที่บ้าน พลางประคองศึกรบเข้ามานอนในห้องตัวเอง ศึกรบนอนไม่ได้สติ แสงดาวยืนยิ้มกริ่ม
“สงสัยจะร้อน เดี๋ยวดาวช่วยนะคะ จะได้สบายตัว”
แสงดาวจัดการปลดเสื้อผ้าของศึกรบออกทีละชิ้นๆ พลางมองไปที่มือศึกรบ เห็นกำโทรศัพท์อยู่ เลยพยายามง้างมือดึงออกมา
“ขอดาวเถอะนะคะ”
แสงดาวเห็นข้อความของไอวี่ ที่ส่งเข้ามาเป็นสิบ
“ดิ้นใหญ่เลยนะ ยังไงแกก็ตามฉันไม่ทันหรอก”
แสงดาวจัดการกดปุ่มลบข้อความทั้งหมดทิ้ง พลางปิดเครื่อง แล้วเอาไปวางไว้ไกลๆ ก่อนที่จะหัวเราะดังๆ ด้วยความสะใจ
ไอวี่ร้อนใจจนทนไม่ได้ รีบโทรหาเปรี้ยว ที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่กับสาธร
“ไอวี่โทรมาค่ะ”
สาธรพยักเพยิดเป็นเชิงให้เปรี้ยวรับสาย
“ว่าไงแก”
ไอวี่พูดกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“แกอยู่กับคุณสาธรรึเปล่า”
“อยู่ ทำไมเหรอ”
“ถามคุณธรที ว่ารู้จักบ้านยัยเลขาที่ชื่อแสงดาวไหม”
“บ้านเลขาชื่อแสงดาว ? แกจะรู้ไปทำไม”
“ก็ยัยเลขาจอมมารยานั่น มันพาพี่รบไปแล้วน่ะสิ”
“ว่าไงนะ” เปรี้ยวตกใจ
“ช่วยฉันหน่อย ป่านนี้ยัยนั่นมันพาเขาไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ นะแกนะ”
“ฉันออกมาคุยกับแกตรงหน้าร้าน เดี๋ยวฉันถามเขาแล้วโทรกลับนะ”
“ได้ รีบ ด่วนเลยนะ”
เปรี้ยววางสายไป ไอวี่ยิ้มอย่างมีความหวัง
ในขณะที่สาธรโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
“ ไม่ได้ ยังไงก็บอกไม่ได้”
เปรี้ยวมองหน้าสาธรอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมบอกไม่ได้ละค่ะ แค่บ้านเลขา”
“ไอ้รบน่ะชนักปักหลังจนพรุนไปหมดแล้ว ขืนมีเรื่องหายไปกับยัยเลขาอีก คราวนี้คงไม่หย่า แต่คงโดนฆ่าเลยแน่ๆ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“จริงสิ ผมไม่ได้จะปกป้องเพื่อนหรอกนะ”
เปรี้ยวมองค้อนสาธรงอนๆ
“ แน่ใจเหรอคะ ไม่ใช่ว่าคุณรบก็ทำแบบนี้กับคุณด้วยนะ ช่วยกันปิดความผิดแล้วก็ซ่อนคนนั้นคนนี้ไว้”
“โธ่ ทำไมมองผมในแง่ร้ายอย่างนั้นล่ะ ผมยอมรับว่าตัวเองก็ไม่ใช่ผู้ชายดีเท่าไหร่ แต่ก็พอมีดีอยู่บ้างนะ”
“ยังไงคะ”
สาธรยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เอางี้ น้องเปรี้ยวอยากได้อะไรดี แลกกับการไม่บอกที่อยู่คุณเลขาของไอ้รบ ลองเสนอมาซิ”
เปรี้ยวได้ยินข้อเสนอ ก็ยิ้มแป้น
“ก็ต้องสมน้ำสมเนื้อหน่อยล่ะค่ะ จะเป็นแหวนเพชรซักวง หรือว่าแบงค์เทาๆในกระเป๋าคุณซักปึกก็ไม่ว่ากันนะ”
สาธรหัวเราะ “เธอนี่มันตรงดีจริงๆ”
“ว่าไงคะ ตกลงรึเปล่า จะได้โทรตอนนี้เลย”
“โอเคที่สุดเลยจ้ะ”
เปรี้ยวหัวเราะ อย่างอารมณ์ดี พลางรีบหยิบโทรศัพท์มาโทร. หาไอวี่ แกล้งทำเสียงเศร้า เหมือนรู้สึกผิด “วี่ ฉันเสียใจว่ะแก คุณธรเขาไม่รู้”
สาธรยิ้มอย่างพอใจ
แสงดาวอาบน้ำเสร็จ ก็สวมเสื้อคลุมออกมายืนหน้าตู้เสื้อผ้า ก่อนที่จะเลือกชุดที่เซ็กซี่ที่สุดที่เตรียมไว้สำหรับศึกรบมาดู พลางมองชุด แล้วยิ้มอย่างพอใจ
“คุณรู้ไหมว่าฉันรอวันนี้มานานแค่ไหน”
แสงดาวหิ้วชุดเซ็กซี่ไปเปลี่ยน ก่อนจะออกมาที่หน้ากระจก หยิบน้ำหอบกลิ่นที่ศึกรบชอบออกมาฉีด สะบัดผมทำหน้ายั่วยวน
ในขณะที่เปรี้ยวรู้สึกไม่สบายใจที่หลอกเพื่อน สาธรมองอย่างเข้าใจ
“ทำใจเถอะเปรี้ยว คุณก็น่าจะรู้ ว่าไอ้รบมันมีผู้หญิงหลายคนก็จริง แต่มันไม่เคยจริงจังกับใคร นอกจากเมียตัวเอง”
“นังไอวี่มันก็อดหวังไม่ได้นี่คะ”
“ยังไงไอ้รบมันคงไม่ยอมเลิกกับเมียง่ายๆ หรอก เพราะถ้าไม่มีสมบัติเมีย มันก็แค่อดีตลูกเศรษฐีที่เคยล้มละลายเท่านั้นเอง”
เปรี้ยวนิ่งฟังอย่างไม่สบายใจแทนเพื่อน
ไอวี่ ที่ผิดหวังจากเปรี้ยว ก็ตัดสินใจพุ่งมาที่บ้านสู่ขวัญ พลางกดกริ่งหน้าบ้านรัวๆ พรเดินออกมา เห็นไอวี่ก็จำได้ เลยรีบเดินออกไปไล่
“มาที่นี่ทำไม ไม่เห็นรึไงว่ามันดึกแล้ว”
“ฉันรู้ว่ามันดึกแล้ว แต่ฉันมีเรื่องด่วนจริงๆ จะบอกพวกคุณ”
“ถ้าอยากได้เงินก็ไปขอคนที่เขาเคยให้เธอโน่น พวกฉันไม่มีอะไรจะให้” พรตอกกลับ
“ฉันไม่ได้มาเรื่องนั้น”
“งั้นก็กลับไปสิ จะมาอยู่ให้รกหน้าบ้านคนอื่นทำไม”
“ก่อนจะด่าหัดฟังบ้างได้ไหม รู้ไหมว่าตอนนี้ยัยเลขาแสงดาวมันกำลังจะเคลมคุณรบแล้ว”
“แล้วมาบอกฉันทำไม”
ไอวี่ร้อนใจ “คุณก็ไปบอกภรรยาเขาสิ ว่าให้รีบจัดการ”
“ถ้าจะจัดการ ฉันคงจัดการตั้งแต่ยัยดาวโป๊นั่นไปแล้ว รวมถึงเธอด้วย ไปไหนก็ไป คุณขวัญเขาไม่อยากไปยุ่งเรื่องมากผัวหลายเมียของคนบางคนอีกแล้ว”
“ทำไมพูดแบบนี้เนี่ย นี่ฉันหวังดีนะ”
“หวังดีก็ช่วยกรุณากลับ ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจ”
“โอ๊ย อะไรกัน”
ไอวี่หงุดหงิด พรหยิบโทรศัพท์ออกมาจะโทรหาตำรวจ ไอวี่ตกใจ
“เออๆ ไปก็ได้”
แสงดาวเดินออกมาหาศึกรบที่ยังนอนสลึมสลืออยู่ พลางเข้าไปคลอเคลียใกล้ๆ ศึกรบเมาอยู่เผลอเคลิ้มตามไปด้วย
“ขวัญ คุณให้อภัยผมแล้วเหรอ”
แสงดาวชะงัก บ่นพึมพำอย่างขัดใจ
“ขวัญเขวิญอะไร ยังจะเพ้ออยู่อีก”
“ขวัญ อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมรักคุณ”
ศึกรบลูบไล้แสงดาวเพราะนึกว่าเป็นสู่ขวัญ แสงดาวถอนใจ
“เอาวะ” พลางดัดเสียงเป็นสู่ขวัญ “ขวัญก็รักคุณค่ะรบขา”
“ขวัญ”
จากนั้นแสงดาว ก็ผลักศึกรบลงไปบนเตียง พลางยิ้มอย่างพอใจ
สู่ขวัญนอนอยู่บนเตียง พลางดิ้นไปดิ้นมา พร้อมตะโกนเพ้อๆ
“ไม่ ฉันบอกให้หยุดไง หยุด พอได้แล้ว”
สู่ขวัญสะดุ้งตื่นขึ้นมา เหงื่อท่วม หอบไม่หยุด
“ฝันเหรอ”
สู่ขวัญยกมือกุมขมับ รู้สึกอ่อนเพลียมาก แล้วจู่ๆก็รู้สึกพะอืดพะอม
“อุ๊บ”
สู่ขวัญรีบวิ่งไปห้องน้ำ อาเจียนออกมาจนแทบหมดแรง
อ่านต่อตอนที่ 20