ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 20
ชายฉกรรจ์กำลังจะเหนี่ยวไก วายุบุตรหักพวงมาลัยเบียดมอเตอร์ไซค์จนเสียหลัก เซไปตามแรงเบียดของรถ ก่อนจะเร่งความเร็วหนีมอเตอร์ไซค์
มอเตอร์ไซค์ตั้งหลักได้ รีบเร่งความเร็วจี้ตามติดๆไปทันที สิริมาตกใจกลัว
"พวกมันเป็นใคร! มันจะฆ่าเรา มันจะฆ่าเรา"
"เอาปืนมา"
¬สิริมาหวาดกลัว ยังตั้งสติไม่ได้
"เปิดลิ้นชัก หยิบปืนมา"
สิริมารีบเปิดลิ้นชักหน้ารถ
"ส่งปืนมา"
"คุณจะทำอะไร จะบ้าเหรอ ทำไมต้องไปแลกกับมัน"
เขาชำเลืองมองกระจกหลัง เห็นมอเตอร์ไซค์ยังตามมา
"จะส่งข้อความกลับไปให้มัน"
เขามองด้วยความแค้น เห็นถนนโล่ง ไม่มีรถ ตัดสินใจหักพวงมาลัย แล้วเหยียบเบรกทันที รถของเขาจอดขวางกลางถนน
"หริมา หมอบลง"
สิริมารีบหมอบลง เขารีบเปิดกระจก ชายฉกรรจ์เห็นรถจอดขวางก็ตกใจ รีบเหยียบเบรก จนรถหมุนคว้าง มือปืนตัดสินใจยิงไปที่วายุบุตรแบบสุ่มๆ เขาหมอบลงทัน ลูกปืนเฉี่ยวหน้ารถไป
เมื่อเขาโผล่ขึ้นมาอีกทีพร้อมปืนลั่นไก เปรี้ยง!
กระสุนเจาะหน้าอกคนขับมอเตอร์ไซค์ จนล้มคว่ำ มอเตอร์ไซค์ล้มครูดไปกับถนน ชายคนขับตายคาที่ ส่วนมือปืนหล่นจากรถ ปืนกระเด็นหลุดจากมือ ล้มลงบนถนน เจ็บ
วายุบุตรเปิดประตูออกไป วิ่งไปที่มือปืนที่นอนเจ็บอยู่ ถือปืนขึ้นเล็งจ่อเอาไว้
สิริมานั่งมองดูอย่างตกใจในรถ.... เขาบอกสิริมา
"แจ้งตำรวจเร็ว"
ขณะนั้นเองมือปืนหยิบปืนที่มีอีกกระบอกซึ่งเหน็บอยู่ในสายคาดในเสื้อ ขึ้นมาเหนี่ยวไกจะยิง แต่เขาหันกลับมาก่อน ลั่นไกยิงมือปืนเปรี้ยง…เจาะเข้าที่หน้าผาก ล้มลงขาดใจตายคาที่
เขาเจ็บใจที่มือปืนตาย หมดทางสืบว่าใครจ้างมา
"โธ่เว้ย!"
สิริมาลงมาจากรถ เข้ามาดูเขาด้วยความเป็นห่วง
"คุณเป็นอะไรมั้ย"
วายุบุตรส่ายหน้า สิริมาโผเข้าไปเขาเอาไว้
"ทำไมต้องทำกันขนาดนี้...ฉันกลัว"
วายุบุตรอึ้ง ค่อยๆกอดปลอบใจสิริมาเอาไว้ เขานึกแค้นใจคนสั่งการ
มุมหนึ่งในบ้านพีศทรรต ปินัทธายืนจ้องหน้าเขาที่ยืนอึ้งอยู่
"จะให้ฉันรอถึงพ.ศไหน ถึงจะตอบว่าเลิกแน่ใช่มั้ย"
"ประโยคเชยมาก"
"ใช่สิ! ฉันมันเชย ฉันมันตกยุค เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ ไม่มีวุฒิภาวะ ชอบตบตีใช้กำลัง"
"น้ำผึ้ง"
"อย่าเพิ่งห้าม! ตอบฉันมาจะเลิกแน่ใช่มั้ย"
"ผม..."
"อ้ำอึ้งอะไรอยู่อีก ตอบมาสิ เลิกแน่ใช่มั้ย! อ้อ! ที่อ้ำอึ้งเพราะลังเลไม่แน่ใจเหรอ จะบอกอะไรให้นะ อยากเลิก เลิกเลย!"
เขาอึ้ง เธอพร่ำต่อไป
"ถ้าคุณเห็นฉันไม่คู่ควร ไม่มีค่าพอที่จะรักษาเอาไว้ ไม่เป็นไร แต่จำคำฉันไว้ ดูฉันให้ดี ฉันจะทำให้คุณเสียดายฉัน ฉันจะทำให้คุณกลับมาสยบแทบเท้าฉันให้ได้"
"ก็เอา"
เธอกลายเป็นฝ่ายอึ้ง
"ถ้าคิดว่าเจ๋งจริงที่จะทำให้ผมสยบแทบเท้าคุณได้ เอาเลย"
"อย่าท้า ฉันเจ๋งแน่"
"ผมก็อยากเห็นน้ำผึ้ง ปินัทธาลุกขึ้นมาทำให้คนรักโดยไม่ลังเลสงสัย หรือไม่มั่นใจในตัวคุณเหมือนกัน ผมอยากเห็น ว่าคนที่เรียกร้องแต่จะเอาๆอย่างคุณ คุณจะทำยังไง"
"แล้วคอยดูให้ดี!"
เธอมองหน้าเขาอย่างถือดี ก่อนจะเดินออกไป พีศทรรตเครียดขึ้นสมอง
เธอเดินงุดๆออกจากบ้านไป เขาเดินตามมาดู น้ำผึ้งเดินงุดๆ ขาแทบขวิด ไม่เหลียวหลัง
"คอยดูฉันให้ดี คอยดู คอยดู คอยดู!" ปินัทธาตะโกน
พีศทรรตสะดุ้งกับลูกบ้า ลูกฮึดของเธอจนเผลอยิ้มออกมา กานดาเดินเข้ามาพูดข้างๆ
"แกยังให้โอกาสแม่นั่น"
"คุณแม่...ผมไม่ได้"
"ทำไมฉันจะไม่รู้จักนิสัยแก ปากกับใจไม่เคยตรงกัน แกยังไม่อยากเลิก แต่ก็อยากสั่งสอนดัดนิสัยแม่นั่น"
พีศทรรตอึ้ง
"ฉันก็อยากเห็นเหมือนกัน ว่ามันจะอดทนปีนข้ามภูเขา มาหาแกได้หรือเปล่า"
"ถ้าน้ำผึ้งทำได้ คุณแม่จะเปิดใจยอมรับน้ำผึ้งหรือเปล่าครับ"
"ไม่รู้ ค่อยว่ากันหน้างานอีกที"
กานดาเดินออกไป เขาอมยิ้ม รู้ดีว่า กานดาเองก็คอยลุ้น และมีโอกาสจะเปิดใจ
บริเวณริมถนน วายุบุตรยืนคุยกับสารวัตรชัยยะ สิริมายืนอยู่ข้างวายุบุตรแบบไม่ห่าง ดูยังตกใจกับเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เก็บศพขึ้นรถมูลนิธิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐานโดยรอบ บรรดาไทยมุงมุงดูกัน
"เป็นพวกซุ้มมือปืนที่มีหมายจับหลายคดี...ยิงปืนแม่นเหมือนกันนะคุณ ตายคาที่ทั้งสองศพ"
"ถึงไม่ได้สอบปากคำพวกมัน ก็เดาได้ไม่ยากว่าใครส่งพวกมันมา"
สิริมาอึ้ง นึกถึงและโกรธแค้นพิภพ
"ช่วงนี้คุณต้องระวังตัวไว้นะ...อีกอย่าง"
สารวัตรชัยยะชำเลืองมองสิริมา
"พูดได้ครับ"
"อย่าเพิ่งเคลื่อนไหว บอกคนของคุณด้วย มันกำลังไม่ไว้ใจคนใกล้ตัว อย่าเพิ่งทำให้มันไหวตัว เราต้องรอมันส่งคนล็อตใหญ่ก่อน จะได้จับมันคาหนังคาเขา"
"ครับ"
"ให้ข่าวเท่าที่จำเป็นนะ...แล้วติดต่อกัน"
"ครับ ขอบคุณครับสารวัตร"
สารวัตรเดินออกไป วายุบุตรหันมาพูดกับสิริมา
"เรากลับบ้านกันเถอะ"
"ค่ะ"
นักข่าวและช่างกล้อง ถือไมค์วิ่งมาจะสัมภาษณ์วายุบุตร
"คุณวายุบุตรคะ"
วายุบุตรประคองกอดสิริมาหันมาหานักข่าว
วันใหม่ เวลากลางวัน ที่บ้านณัฎฐาลินี ภัทรวลัยนั่งทำงานอยู่หน้าทีวี มองดูข่าวอ้าปากค้างอยู่ เจ้าบ้านเดินเข้ามา ไม่ได้มองทีวี แต่มองหน้าเพื่อนด้วยความแปลกใจ
"เป็นอะไร จะเปิดฟาร์มเลี้ยงแมลงวันหรือไง มันเข้าไปไข่ในปากแกแล้ว"
"ดูโน่น"
ภัทรวลัยชี้ให้เพื่อนดูข่าวในทีวี เธอหันมองในทีวีกำลังเป็นภาพข่าว วายุบุตรยืนกอดสิริมาอยู่ เธอเมินหน้าหนีนักข่าวซบไปกับอกของเขา เธออึ้ง...
"โชคดีครับที่รอดมาได้"
"พอจะรู้มั้ยคะว่าเป็นฝีมือใครที่บงการมือปืนให้มาลอบยิง"
"ไม่ทราบครับ คงต้องให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจครับ ขอตัวนะครับ"
เขาประคองสิริมาเดินหันหลังให้กล้องออกไป
ภัทรวลัยอ้าปากค้างเข้ามายืนข้างเพื่อน
"ถ้าไม่ใช่แฟนทำแทนกันไม่ได้นะ"
"ทำอะไร"
"ประคอง...ตระกองกอดแบบนั้นน่ะ"
เธออึ้ง
"หึงมะ"
"นี่! หึงแหงอะไร เค้าเพิ่งจะถูกมือปืนลอบยิง ใครจะมีอารมณ์มาหึง มีแต่เป็นห่วง เพราะเป็นเพื่อนกัน ต้องไปเยี่ยม เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีน้ำใจ ไม่ได้หึง"
เธอคว้ากุญแจรถ กระเป๋าถือออกไปเลย ด้วยความเป็นห่วงวายุบุตรและหึงด้วย แต่ปากแข็ง
"หรา"
เมธาวลัยคุยกับไทเกอร์
"ก็ใช่น่ะสิ!"
"ให้ผมเป็นคนฟันเนี่ยนะ!"
เมธาวลัย หยาดทิพย์ เจ๊ฟู อิ๋ว ดรณ์ ชาโนประชุมอยู่ด้วยกันครบ ต่างสะดุ้ง ดรณ์ ชาโนพร้อมใจกันกระเถิบเก้าอี้ออกห่างไทเกอร์
"ฟันใครคะบ.ก. ไอ้สองคนนั้นมันแสดงเจตจำนงค์แล้วว่า ขอตัว" เจ๊ฟูบอก
"เหลือแต่ชะนี… ถนัดเหรอคะ" อิ๋วถามไทเกอร์
"คิดว่าผมจะฟันอะไร"
"อยากฟันอะไรก็ฟันไปเถอะค่ะ แต่ขอให้ชัดเจน อย่าคลุมเครือ ทำให้ใครต้องเสียใจอีก" หยาดทิพย์ว่า
"ไปกันใหญ่ พอได้แล้ว ฉันหมายถึง...ให้ไทเกอร์ฟันธง ตัดสินใจทุกอย่างแทนฉันสำหรับปกหน้า"
"แล้วพี่เมเปิ้ลทำอะไร" ไทเกอร์ถาม
"รอฟันแกอีกที"
ทุกคนร้อง "เฮ้ย!"
"ไม่ดีหรอกค่ะ อิ๋วว่าคุณไทเกอร์ไม่ถนัด เสียของเปล่าๆค่ะ" อิ๋วบอก
"อิ๋ว! ฉันจะเป็นคนเช็คงานไทเกอร์อีกที ถ้ามันออกมาไม่ดี ฉันจะไล่มันออก"
ทุกคนร้อง "หา!"
"ไม่เคลียร์เหรอ ไล่ออกไง...ถือว่าไม่มีความสามารถในการเป็นผู้ช่วยของฉัน ฉันจะได้หาคนใหม่มาทำแทน...จบ!"
เธอลุกเดินออกไป ทุกคนสลายตัว เหลือไทเกอร์คว้างอยู่กลางห้องคนเดียวด้วยความเจ็บใจ
ไทเกอร์เจ็บใจเดินออกมาพูดกับตัวเองเบาๆ
"จะบีบฉันให้ออกจากที่นี่ทุกทางเลยใช่มั้ย อีป้าย้วย! ไม่มีทาง ฉันจะแย่งๆๆทุกอย่างของหล่อน"
ดรณ์ตามประกบติด โผล่หน้ามาถาม
"อะไรนะครับ"
"นี่! เดินให้ห่างๆฉันบ้างก็ได้ ไม่ต้องตามประกบติดทุกฝีก้าว"
"เป็นคำสั่งของบ.ก.ครับ"
"ถ้าบ.ก.สั่งให้ไปตาย ไปมั้ย"
"โกรธคือโง่ โมโหคือบ้านะครับ"
"ว่าฉันทั้งโง่และบ้าเหรอ"
"เปล่าครับ"
"ไปเลย จะไปไหนก็ไป ถ้าไม่อยากถูกกิน"
"ไม่อร่อยหรอกครับ สวัสดีครับ"
ดรณ์รีบออกไปทันที ไทเกอร์สะบัดหน้าอย่างเคืองในอารมณ์ เจอตรัยคุณเดินเข้ามาพอดี ทั้งคู่ต่างชะงักอึ้ง... ไทเกอร์ดีใจจนแน่นอก ตรัยคุณยิ้มให้ หล่อมาก
"เจอกันอีกแล้วนะครับ...ไม่เชื่อเลยนะถ้าคุณจะบอกว่า ตามหากันจนเจอ"
"เมเปิ้ลอยู่มั้ยครับ"
ไทเกอร์อึ้ง เซ็ง
"มาหาพี่เมเปิ้ล? จะให้บอกว่าใครมาพบไม่ทราบครับ"
"พี่ตรัยคุณ ว่าที่คู่หมั้นครับ"
ไทเกอร์แทบกรี๊ด
ทางเดินออฟฟิศ โตโต้เดินพลางกรี๊ดพลางด้วยความเจ็บใจ เมอร์ดี้ซึ่งเดินมาด้วยต้องอุดหู
"อ๊ายๆๆ"
ตมิสา เพทาย พนักงานที่กำลังทำงาน นั่งอยู่ที่โต๊ะตกใจกันหมด
"โอ๊ย! จะกรี๊ดเรียกแขกอะไรนักหนาเนี่ย" เมอร์ดี้ว่า
"กรี๊ดเรียกสติตัวเอง อ๊าย!"
"สติเจ๊มา แต่สติหนูกำลังจะแตก"
"เธอมีสติด้วยเหรอ หา!! รับงานถ่ายคลิปไวรัลทุเรศๆแบบนั้นได้ยังไง"
โตโต้หันหาเพทาย ด้วยเสียงและมาดแมนมาก
"ไอ้เพทาย"
เพทายตกใจ
"ครับ!"
"รับงานแบบนั้นได้ยังไง หา! ทำไมไม่สกรีนก่อน หา"
"ก็...บอสไม่เห็นว่าอะไร" เพทายบอก
"เพราะบอสไม่รู้น่ะสิ ว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่ไอ้คนที่รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังจะทำ อยากจะดังอย่างเดียว" โตโต้หันไปกรี๊ดใส่เมอร์ดี้ "เรียนคณะอะไร ตอบ!"
"นิเทศ" เมอร์ดี้บอก
"เรียนนิเทศ แต่ลืมจิตสำนึกของคนที่ทำงานสื่อสารมวลชน อ๊าย..."
เมอร์ดี้ผงะ แสบหู ตมิสายืนยิ้มสะใจ...มองเมอร์ดี้ด้วยสายตาเคียดแค้น เตรียมเอาคืน
พีศทรรตเข้ามาพอดี อยู่ในวิถีเสียงกรี๊ดของโตโต้
"โตโต้"
โตโต้ลืมตัว เสียงแข็งถาม
"อะไร! " ครั้นพอเห็นพีศทรรต ก็จ๋อย เปลี่ยนอารมณ์ทันที "คะ...บอส"
พีศทรรตมองหน้าทุกคน สงสัยและไม่พอใจ มันเรื่องอะไรกัน
อ่านต่อหน้า 2
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 20 (ต่อ)
หยาดทิพย์ อิ๋ว เจ๊ฟูยืนแอบฟังหูแนบประตูห้องทำงานบ.ก. ไทเกอร์ยืนอยู่วงนอก
กับชาโนและดรณ์
"ทำไมพวกเราไม่เคยรู้เลยล่ะว่าบ.ก.มีว่าที่คู่หมั้น" อิ๋วสงสัย
หยาดทิพย์ลืมตัว
"มีน่ะสิ แถมเป็นเกย์อีกต่างหาก"
ทุกคนมองหน้าหยาดทิพย์เป็นตาเดียว โดยเฉพาะไทเกอร์ เป็นข้อมูลที่อยากได้ยิน ยิ้มเลย
"นี่หนู...ลืมตัวบอกความลับไปเหรอ"
ทุกคนบอก "เออ!"
"ดรณ์! เธอไม่รู้เลยเหรอ" เจ๊ฟูถาม
"รู้แค่ว่า พี่เมเปิ้ลไม่ยอมถูกจับคลุมถุงชนเพราะสงสัยว่าเค้าเป็นเกย์ และพี่เมเปิ้ลเองก็มีแฟนอยู่แล้ว"
ชาโนบอก
"ทำไมโลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวันวะ ว่าป่ะ พี่ไทเกอร์"
ไทเกอร์ยิ้มเยาะ
"ไม่หรอก ทำให้มันง่ายมันก็ง่าย"
ทุกคนยังอยู่ในมุมเดิม แอบฟังอย่างอยากรู้อยากเห็นต่อไป
"ทำไมมันเงียบจังวะ" เจ๊ฟูบอก
"ก็เค้ารู้ไง ว่าเราคงแอบฟังอยู่" ชาโนบอก
"เลยใช้ภาษามือคุยกัน เราจะได้ไม่ได้ยิน" อิ๋วมโน
"หรือไม่ ก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย เพราะบ.ก.ไม่ชอบคุณตรัยคุณ"หยาดทิพย์ หลุดอีก
"เหรอ" ไทเกอร์
"ไปเหรอไกลๆค่ะ ยังไม่หายเจ็บ" หยาดทิพย์บอก
ไทเกอร์ผละออกมา หมั่นไส้บรรดาชะนี แต่แอบยิ้มกริ่ม ชาโนแอบตบไหล่หยาดทิพย์ให้กำลังใจ หยาดทิพย์ยิ้มตอบชาโน
ภายในห้อง เมธาวลัยนั่งมองหน้าตรัยคุณที่ยิ้มตอบ
"ชวนทานข้าว?"
"ใช่"
เธอไม่พูดอะไร ตรัยคุณก็ไม่พูดอะไร มองหน้ากัน ไม่มีใครยอมแพ้...ผละสายตาไปจาก ใครก่อนใคร
มุมหนึ่งรีสอร์ตเกาะตะวัน กฤษฎานั่งเหม่อมองทะเล คิดถึงเมเปิ้ล น้ำฟ้ากับโสนเดินเข้ามามองกฤษฎา
"แน่ใจเหรอ ว่าตากฤษไม่ได้คิดถึงยัยป้าคนนั้นแล้ว"
"กฤษบอกหนูอย่างนั้นค่ะ"
"แต่ก็ยอมให้พวกนั้นยกโขยงมาใช้สถานที่รีสอร์ตถ่ายแบบ"
"กฤษคงชอบเค้ามาก จนตัดใจไม่ลง แล้วใครจะเข้าไปแทนที่ได้อีกล่ะคะ ดูแล้ว...หนูคงไม่มีโอกาสเลย"
"ป้าอยู่ทั้งคน บอกแล้วไง...มันต้องมีโอกาส แล้วเราจะต้องสร้างมันขึ้นมาเอง"
"ทำยังไงดีล่ะคะ หนูกลัวกฤษจะเกลียดหนู"
"หนูต้องเป็นที่ดีที่สุดในสายตาของลูกชายป้าจ๊ะ กฤษจะต้องรักหนู เชื่อป้า และทำตามที่ป้าบอก"
"ค่ะคุณป้า"
น้ำฟ้ามองไปที่กฤษฎาอย่างมีความหวัง
แม่บ้านเดินนำณัฎฐาลินีเข้ามา วายุบุตรกำลังจะออกไปทำงาน เห็นเธอก็ดีใจ
"คุณลินี"
"คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย"
"ทำไมไม่โทร.มาก่อน ผมกำลังจะออกไปอยู่แล้ว ไม่กลัวเราจะคลาดกันหรือไง"
"รู้ว่าตอนนี้ คุณยังไม่ออกไปหรอก"
วายุบุตรยิ้มกรุ้มกริ่ม
"รู้ได้ไง"
"แค่รู้"
"รู้ขนาดนี้ ไม่ใช่คนธรรมดานะ"
"ไม่ใช่คนธรรมดายังไง"
"เป็นคนพิเศษไง"
เธอเขินแต่เก็บอาการ
"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ระวังตัวหน่อยก็ดี คุณน่ะศัตรูเยอะ ไปนะ"
เขาจับมือเธอดึงเข้ามา
"เดี๋ยวก่อนสิ…ใครบอกว่าผมไม่เป็นไรอะไร"
"เป็นอะไร ก็เห็นปกติดี ไม่มีตรงไหนบาดเจ็บ"
"ที่หัวใจ…มันยังตกใจอยู่ จับดูสิ เต้นแรงมาก"
"เน่าได้อีก ปล่อยเลย!"
"อยู่แบบนี้อีกสักพักไม่ได้เหรอ...รู้สึกดีชะมัดเลย เวลาที่คุณมาหา ถึงคุณจะไม่พูด ผมก็รู้ว่าคุณเป็นห่วงผม"
เขากอดเธอเอาไว้ เธอชักใจอ่อนแล้ว กำลังจะยกมือกอดตอบ แต่ต้องชะงัก เมื่อมองไปข้างหน้าเห็นสิริมาในชุดนอนสวมเสื้อคลุม เดินเข้ามา
"วายุ..." สิริมาชะงัก เมื่อเห็นวายุบุตรยืนกอดณัฎฐาลินี
เธอผลักเขาออกไปทันที วายุบุตรปวดหัวที่เห็นสิริมาในชุดสภาพที่ไม่เรียบร้อยนัก "นี่มันอะไร!" เธอถามโมโหหึง
"ผมอธิบายได้"
"ไม่ต้อง เพราะฉันไม่จำเป็นต้องเสียเวลาฟัง ซึ่งไม่รู้ฉันจะถามคุณไปทำไมตั้งแต่แรก"
เธอเดินออกไปทันที วายุบุตรเครียด
"วายุ ฉันขอโทษ ฉันรีบ กลัวคุณจะออกไปก่อน เลยไม่ได้"
" ผมเข้าใจ มีอะไรเดี๋ยวค่อยคุยกันนะ"
พนมนั่งรถมาจากมุมหนึ่ง ดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ เขาวิ่งตามเธอออกไปทันที สิริมามองตามหน้าเสีย ก่อนจะค่อยๆยิ้มพรายออกมา สีหน้านั้นทำให้พนมไม่ค่อยสบายใจนัก
วายุบุตรตามมาดักเคลียร์ที่มุมหนึ่งของบ้าน
"คุณต้องฟังผม"
"ทำไมต้องฟัง! ไม่ต้อง คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฉันเข้าใจ คุณจะทำอะไรกับใครที่ไหนเมื่อไหร่ยังไง มันก็เรื่องของคุณ ฉันไม่แคร์"
"ถ้าไม่แคร์จริงๆ แล้วทำไมต้องโกรธ"
เธออึ้ง สิริมาแอบฟังการสนทนาของทั้งคู่
"ผมกับสิริมา"
"รู้แล้วว่าคุณกับผู้หญิงคนนั้น ไม่เคยตัดกันได้ขาด จนต้องพากันมารื้อฟื้นความรักความหลังกันต่อถึงที่บ้าน ทำตัวเป็นพ่อปลาไหล ลื่นกะล่อนหลอกฉันให้เชื่อว่าจริงใจ ทุเรศไปนะ"
สิริมายิ้มสะใจ
"ผมกับสิริมาเราจบกันไปตั้งนานแล้ว"
"คุณจบแต่เค้าไม่จบ หรือไม่ ก็โกหกฉันอีกตามเคยว่าจบ! พอเถอะ คุณวายุบุตร ถ้าอยากจะให้ฉันเชื่อว่าคุณจริงใจ ไม่ได้หลอกฉัน มีอยู่ทางเดียว...อย่ามายุ่งกับฉันอีก"
เธอจะออกไป แต่เขารั้งแขนเอาไว้ เธอหันมาตบเปรี้ยงด้วยมืออีกข้าง จนวายุบุตรหน้าหัน สิริมาตกใจ เธอมองเขาด้วยสายตาปวดร้าว
"พอเถอะ! ฉันไม่อยากเจ็บ คุณก็จะได้ไม่ต้องเจ็บ คนอย่างฉันไม่เหมาะที่จะเป็นแฟนใครหรอก...อยู่ให้ห่างๆฉัน"
วายุบุตรอึ้ง เธอมองเขาอย่างผิดหวังและปวดร้าว เขาจำใจปล่อยเธอไป เธอเดินห่างออกไปอย่างช้าๆ พยายามจะไม่ร้องไห้ แต่ก็ฝืนทำนบน้ำตาไม่ไหว เขายืนนิ่งงัน เหมือนโลกแตกและพังทะลาย
ภายในห้องทำงาน พีศทรรตนั่งถอนใจอยู่กับตมิสาและเพทาย โตโต้ยืนเครียดอยู่ เมอร์ดี้นั่งไม่รู้ไม่ชี้ เขายื่นไอแพดเตรียมเปิดยูทูปให้เจ้านายดู
"เพิ่งเอาลงเมื่อเช้า ตามสัญญาที่เมอร์ดี้ทำกับลูกค้าค่ะ"
"ซึ่งมีการเลื่อนขึ้นมาให้เร็วกว่ากำหนดเดิม" เพทายบอก
โตโต้บอก
"ไม่อย่างนั้น นางไม่ถ่าย...นางเยอะ"
"เยอะแล้วโอ ป่ะล่ะ ยอดวิวเป็นแสนแล้วนะ แค่ไม่กี่ชั่วโมง"
"เหรอ...แล้วคนก็ด่าเท่าจำนวนที่เข้ามาวิว...ชื่นใจเหรอ เชิญบอสรับชมและรับฟังค่ะ"
จอไอแพด เป็นคลิปเมอร์ดี้กำลังเดินออกจากบ้านตัวเอง นักข่าวที่รออยู่หน้าบ้าน มารุมสัมภาษณ์ เธอเซ็งมาก
"น้องเมอร์ดี้คะ ที่น้องตัดสินใจไม่เอาเรื่อง..."
"นังปลวกน่ะเหรอ!"
พีศทรรต ตมิสาอึ้ง เขากดปุ่มหยุดชั่วคราว หันมาถาม
"ปลวก? หมายถึงใคร"
"ก็ป้าน้ำผึ้งไงคะบอส"ตมิสาว่า
"ทำไมต้องพาดพิงถึงคนอื่น"
"พาดพิงตรงไหนคะ ไม่ได้เอ่ยชื่อสักคำ"
"ดูต่อเลยค่ะบอส แล้วจะเข้าใจว่าปลวกน่ะ หมายถึงใครกันแน่"
เมอร์ดี้หันมองโตโต้อย่างไม่พอใจ โตโต้ถลึงตาใส่กลับ พีศทรรกดปุ่มเล่นคลิปต่อ
คลิปนั้น เมอร์ดี้ให้สัมภาษณ์ต่อ
"ปลวก? น้องเมอร์ดี้หมายถึง..." นักข่าวถาม
"ไม่ถามสักเรื่องจะได้มั้ย ทำตัวน่ารำคาญ อย่ายุ่งกับหนูได้ป่ะ เห็นป่ะว่าประสาทเสียอยู่ รอบตัวมีแต่พวกปลวกๆ ไม่สร้างสรรค์ ไม่เจริญ บ่อนทำลาย ไป ไปให้พ้นเลย ไป"
เมอร์ดี้ไล่นักข่าวเปิง พีศทรรตกดปิด หันมามองเมอร์ดี้กับโตโต้ อย่างไม่พอใจ
ทุกคนยังคงสอดรู้ที่หน้าประตูห้องทำงานเมธาวลัยต่อไป
ทันใดนั้นเมเปิ้ลก็เปิดประตูออกมา พร้อมตรัยคุณ ทุกคนตกใจ ไม่รู้จะแก้เก้อยังไง เพราะเตรียมตัวไม่ทัน ไทเกอร์รีบนำโยคะทันที
"ทุกคนยืนตัวตรง! กางขาออกกว้างกว่าไหล่เป็น 3 เท่า"
ทุกคนรับทำตามที่ไทเกอร์บอก เมธาวลัยและตรัยคุณยืนมองอย่างงงๆ
"นี่คือท่าเรือกลไฟ ท่าโยคะที่จะช่วยลดน้ำหนักได้ใน 9 วัน" ไทเกอร์ปรายตามองตรัยคุณจงใจบอกข้อมูล "ซึ่งผมไปเข้าคอร์ส ทุกวันศุกร์ที่ฟิตเนสแถวสีลม สนใจมั้ยครับ ทุกคน"
ทุกคนแก้เก้อ
"น่าสนใจ ฮ่ะๆๆๆ"
"งั้นก็ชวนกันไปเล่นที่สีลมวันศุกร์ ไม่ใช่วันนี้ ไปทำงาน!"
ทุกคนสลายตัว แต่ยังไม่วายมองๆมา เธอหันมองตรัยคุณ
"เลิกล้มความตั้งใจจะเข้ามาอยู่ในชีวิตหนูเถอะค่ะ ไม่สำเร็จหรอก แล้วก็ไม่ต้องมาอีก เพราะต่อไป หนูจะไม่รักษามารยาท เชิญ"
ตรัยคุณยิ้ม ไม่สะทกสะท้าน
"ยิ่งยาก ยิ่งอยากได้"
"จะอยากได้ไปทำไม ถ้าไม่ได้ใช้ประโยชน์"
"เอาไปประดับบารมี สร้างมูลค่าให้น่าเชื่อถือ พี่ได้ น้องเมเปิ้ลก็ได้ วินๆนะ"
"งานนี้ไม่มีคำว่าวินๆ มีแต่...พี่ไม่มีทางได้"
ตรัยคุณยิ้มท้าทายให้ ก่อนจะออกไป เธอเจ็บใจมาก อึดอัดจนอยากจะคลั่ง
"หยาด"
"คะ?"
"ไปเกาะตะวันเมื่อไหร่"
"อาทิตย์หน้าค่ะ"
"เลื่อนมาวันศุกร์นี้"
ทุกคนตกใจร้อง "หา!"
"ฉันอยากจะรีบไปจากที่นี่ให้พ้นๆ! อยากไปดูโลมาเบื่อเก้งกวาง"
ไทเกอร์สะดุ้งเป็นการส่วนตัว เธอเปิดประตูกลับเข้าห้องไปอย่างอารมณ์เสีย พนักงานหน้าซีด ทุกคนมองหน้ากันด้วยความเครียด ยกเว้นไทเกอร์หน้าบาน อารมณ์ดีเรื่องตรัยคุณ
อ่านต่อหน้า 3
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 20 (ต่อ)
ในห้องทำงานพีศทรรต พีศทรรตนั่งเคาะโต๊ะ ใช้ความคิด เมอร์ดี้นั่งเซ็ง โตโต้สรุปสิ่งที่คิด
"อินมายโอพีเนี่ยน ในความคิดเห็นของโต้นะคะบอส มันเป็นคลิปที่ใช้เพื่อโฆษณาได้ปลวกสมชื่อจริงๆ"
"ปลวก?"
โตโต้ยื่นมือถือตัวเองให้พีศทรรต
"นี่คือคลิปเฉลยที่น้องเมอร์ดี้ไปทำอะไรปลวกๆให้เป็นแสนๆด่าทำไม"
พีศทรรตกดดูคลิปในมือถือ
"อันนี้ขอมา ให้บอสดู ก่อนจะเอาลงท่อในอีกหนึ่งสัปดาห์"
ทุกคนรุมดูคลิปในมือถือ ยกเว้นเมอร์ดี้ที่ดูเบื่อหน่าย ในมือถือ เป็นภาพเมอร์ดี้กำลังวีนนักข่าว
"ปลวก ปลวก ปลวก"
เจ้าหน้าที่กำจัดปลวกวิ่งเข้ามา
"ไหนครับ ปลวก"
"ก็นี่ไง เป็นฝูงเลย ถูกด่าว่าปลวกอยู่เนี่ย"
"ในบ้านค่ะ ปลวกกำลังกินบ้านทั้งหลังแล้ว เมอร์ดี้ถึงด่ามันอยู่เนี่ย อารมณ์เสียเพราะปลวกค่ะ!"
นักข่าวอึ้ง เจ้าหน้าที่กำจัดปลวกบอก "เราช่วยคุณได้!"
แล้วกล้องซูมไปที่โลโก้หลังเสื้อของเจ้าหน้าที่ มีข้อความ “สุขสวัสดิ์ กำจัดปลวก” ตัวหนังสือหมายเลขโทรศัพท์ถูกปั๊มลงไปอีกทีตึง!!! โทร...080- 0005555
หน้าจอมือถือดับ
"โฆษณาบริษัทกำจัดปลวก!" ตมิสาว่า
"หรือเห็นเป็นบริษัทกำจัดชะนี"
"ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีหล่อนเรื่องสาระแนไปฟ้องบอสเลยนะ"
"จะมาคิดบัญชีหนูได้ไง ในเมื่อคนที่ทำผิดคือพี่ ไม่ใช่หนู!"
"หยุด! ทั้งสองคน เพทายทำไมไม่ห้ามน้องก่อนรับงาน" พีศทรรตบอก
"ก็...น้องอยากถ่าย ผมก็ไม่กล้าขัด"
"อยากดังอยากเป็นกระแส...แต่ไม่สร้างสรรค์ แถมยังพาดพิงถึงบุคคลที่สามถึงไม่ได้เอ่ยชื่อว่าใคร ก็รู้กันทั้งประเทศ มีแต่มุมลบกับตัวเอง มันไม่ใช่คลิปที่ตรงตาม หลัก7i ของการสื่อสารการตลาดด้วยคลิปไวรัลที่จะได้ผลดีด้วยประการทั้งปวง มีแค่ I เดียวคือ i-d-o-t อ่าน อ่านว่าอีเดียด แปลว่า ปัญญาอ่อนที่สุด โอ้ย!เหนื่อย แต่รู้สึกดี !" โตโต้บอก
ตมิสากับเพทายพร้อมกัน
"รู้สึกดีเหมือนกัน"
เมอร์ดี้ไม่พอใจทุกคน แต่ยังถือดี
"ไม่แคร์! ขอแค่มีคนพวกถึง ไม่ตกกระแส"
"แต่ผมแคร์" พีศทรรตบอก
เมอร์ดี้อึ้ง
"ผมพยายามสร้างคุณให้อยู่ในกระแสด้วยผลงานที่มีคุณภาพ และด้วยทัศนคติที่ดีให้เกียรติวิชาชีพไม่ใช่ทัศนคติที่เห็นวงการ เป็นเพียงบันไดไต่ไปสู่การมีชื่อเสียงแบบกลวงๆ"
ทุกคน "กระทืบไลค์บอส!"
เมอร์ดี้เห็นท่าจะแย่ แสร้งทำสลด...น้ำตาซึม โตโต้ ตมิสา เพทายจ้องเป็นตาเดียว จริงหรือหลอก ไม่แน่ใจ
"ร้องไห้ทำไม"
"แล้วทำไมบอสถึงได้ไม่เอาใจใส่เมอร์ดี้ให้มากกว่านี้ ขอแค่สักครึ่งที่ใส่ใจน้ำผึ้ง ปินัทธาก็ได้ เมอร์ดี้ยังใหม่ในวงการ ยังไม่รู้จักโลก ส่วนน้ำผึ้ง ปินัทธาอยู่ในวงการมามากกว่า แต่บอสกลับทิ้งเมอร์ดี้ให้พวกไก่กาอาราเร่ดูแล"
โตโต้ เพทายหันมามองหน้ากัน ฉุนสิ...
"มันเป็นความผิดของบอส"
พีศทรรตอึ้ง หมองลง เพราะที่เมอร์ดี้พูดก็มีส่วนถูก เธอร้องไห้จริงจัง หวังเรียกความสนใจจากพีศทรรต ตมิสา โตโต้ เพทายหมั่นไส้เมอร์ดี้มาก
วายุบุตรเข้ามานั่งในรถ เปิดเก๊ะหน้ารถเพื่อเช็คปืน แต่ปืนไม่อยู่ เขาตกใจและแปลกใจ
วายุบุตรเดินเข้ามา มองหาสิริมา พนมเข้ามา
"หาใคร วายุ"
"สิริมาครับป๊า"
"ป๊าเห็นออกไปได้สักพักแล้วล่ะ"
วายุบุตรนึกเป็นห่วง
"แล้วทำไมไม่บอกผม ออกไปคนเดียวได้ยังไง"
"ป๊าว่า...แกควรจะหันมามองสิริมาซะใหม่นะ วายุ"
เขาแปลกใจ
"ป๊าหมายความว่ายังไง"
"สิริมาปิดบังอะไรบางอย่างที่ทำให้ป๊าไม่สบายใจ และมันอาจจะทำลายชีวิตแก"
วายุบุตรอึ้ง...
"ถึงแม้ป๊าจะเอ็นดูสิริมา แต่...ป๊าต้องเป็นห่วงแกก่อน เวลาเปลี่ยน ใจคนก็อาจจะเปลี่ยนตาม อย่าไว้ใจใครร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ไตร่ตรอง"
เขาครุ่นคิดตามคำสอนของป๊า
ณัฎฐาลินีเดินซึมเศร้ามานั่งเครียดอยู่เพียงลำพัง ช้างกับมาร์กขับรถมาจอด ซุ่มดูเธออยู่ มาร์กหยิบมือถือกดหาพิภพ รายงานสถานการณ์
"คุณลินีออกจากบ้านไอ้วายุบุตร และไม่ได้กลับเข้าไปทำงานที่มูลนิธิ ผมเช็คไปทางนั้น ยืนยันว่าคุณลินีลาออกจากงานจริงครับ..เสี่ย"
พิภพคุยมือถืออารมณ์ดี
"ตามดูต่อไปให้แน่ใจว่า ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลังที่มาตีสนิทกับฉัน"
พิภพวางสาย ทันใดนั้น สิริมาก็เปิดประตูเข้ามา มองพิภพอย่างไม่พอใจ
"มาเร็วก่อนเวลานัดนะ สิริมา"
สิริมาเดินเข้ามา ปิดประตู ยืนอยู่ห่างๆ
"กลัวแล้วจะจะมาหาผมทำไม"
"อย่าทำอะไรวายุอีก"
"หึ...รักมันมาก จนต้องเสี่ยงมาอ้อนวอนขอชีวิตมันถึงที่นี่เลยเหรอ ไม่คิดว่าผมจะทำอะไรคุณอีกหรือไง"
"ฉันไม่ได้มาอ้อนวอน แต่ฉันมายื่นข้อเสนอ"
"ข้อเสนอ"
"คุณอยากได้นังลินีไม่ใช่เหรอ ฉันช่วยคุณได้"
"ช่วย"
"ตอนนี้มันทะเลาะแตกหักกับวายุ เพราะเข้าใจผิดเรื่องฉัน ฉันอาจจะนัดมันมาคุย ตอนนั้นคุณก็อาจจะ..."
พิภพตัดบท
"ไร้สาระน่าสิริมา ผมมีดีกว่าการใช้กำลังบังคับให้คุณลินีเป็นของผม"
"ใช้วิธีดีๆเป็นด้วยเหรอ"
"อย่าดูถูกกัน"
"ก็ดี...ถ้าคิดจะใช้วิธีเอาชนะใจผู้หญิงคนนั้น แต่บอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะมันไม่โง่หันมามองคนอย่างคุณหรอก"
"หึ"
"แสดงว่าคุณยังยืนยันที่จะหาทางกำจัดวายุ"
"อะไรกัน...ผมเหรอจะกำจัดมัน อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าเป็นฝีมือผม"
"ทำอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจดี ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับวายุอีก นังลินีจะไม่เข้าใกล้คุณ เพราะฉันนี่แหละ จะไปแฉคุณกับมัน"
"ต้องให้ฉันใช้ความรุนแรงกับเธอใช่มั้ย ถึงจะ…"
สิริมาเตรียมตัวอยู่แล้ว หยิบปืนในกระเป๋าตัวเองขึ้นมา พิภพชะงัก
"ฉันจะไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของแก ไม่ว่าจะเรื่องอะไร และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน แกคือคนแรกที่ตำรวจจะมาลากคอเข้าคุก ไม่เชื่อก็ลองดู"
สิริมาค่อยๆถอยออกไป และยังใช้ปืนขู่เพื่อป้องกันตัวเองอยู่ พิภพเจ็บใจ แต่ไม่เกรงกลัว
"หึ…แค่นี้ คิดว่าจะหยุดฉันได้เหรอ สิริมา…คิดผิดแล้ว"
เมอร์ดี้เดินเศร้าออกมา พีศทรรต โตโต้ ตมิสา เพทายตามมาด้วย
"ผมจะดูแลคุณให้ใกล้ชิดมากกว่านี้"
"เลี้ยงงูเห่าไว้ใกล้ตัว อันตรายนะคะบอส" ตมิสาบอก
เมอร์ดี้หันมอง ตมิสามองตอบอย่างท้าทาย
"และผมขอร้องนะ อยากให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน ไม่ใช่กัดกัน แทงข้างหลังกัน หรือทำร้ายกัน ถ้ายังอยู่ในบริษัทเดียวกัน"
"ฝันเถอะค่ะ" ตมิสาบอก
"พูดใหม่ซิ"
"หนูหมายความว่า เป็นบริษัทในฝันชัดๆเลยค่ะ ถ้าทำกันได้แบบที่บอสพูด"
"ขอให้ทำ! เพราะเราลงเรือลำเดียวกัน ต้องช่วยกันรักษาเรือ พายไปให้ถึงฝั่ง ได้ดีก็ได้กันทุกคน แต่ถ้าไม่...เรือแตกก็ลอยคอจมน้ำตายอยู่กลางน้ำกันหมด รับปากได้มั้ย ทุกคน"
ทุกคนเงียบ
"งั้นก็ปิดบริษัทมันไปเลย ต่างคนต่างไป"
ทุกคนบอก "ทำค่ะ ทำครับ!"
แต่เมอร์ดี้ ตมิสาและโตโต้ ทำมืออิ๊บอยู่ข้างหลังทั้งสามคน
"ดี...อ้อ...โต้ แจ้งน้ำผึ้งหรือยังเรื่องงานถ่ายปก It’s a Must ที่ต้องถ่ายคู่กับเมอร์ดี้"
¬เมอร์ดี้แอบเหยียดเยาะเมื่อได้ยินชื่อน้ำผึ้ง
"บอกไปแล้วค่ะ" โตโต้บอก
"แล้วน้ำผึ้งว่าไง"
ปินัทธาพุ่งเข้าข้ามโต๊ะมาตะคอกใส่เมธาวลัย
"ทำไมแกไม่บอกฉันตั้งแต่แรก ว่าจะให้ฉันถ่ายปกคู่มัน"
"ก็เพิ่งคิดได้ตอนหลัง"
"แล้วทำไมไม่โทร.หลังจากที่คิดได้"
"ก็ลืม"
"แกลืมความรู้สึกของเพื่อนแกได้ยังไง"
เธอบี้กลับ
"แล้วไง...ถ้ารู้ตั้งแต่แรก แกจะไม่รับงาน ยอมอดตาย ยอมปล่อยให้คอนโดถูกยึดเพราะขาดผ่อนมาหลายงวด ยอมจมอยู่ใต้ดินเพราะถูกยัยเด็กนั่นมันเหยียบย่ำไม่ต้องผุดต้องเกิด งั้นสิ"
"ไม่ยอม"
"แล้วมาโวยทำไม"
"ระบายอารมณ์!"
เธออึ้ง เซ็งเพื่อน ปินัทธาทรุดลงนั่ง
"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันคงไม่ยอม ตอนนี้ความรู้สึกลึกๆ มันก็ยังไม่ได้ยอม แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าบอกให้ยอม"
เธอปลอบ
"ฉันเคยอ่านหนังสือ คนที่ประสบความสำเร็จ จะปรับตัวไปหาโลกภายนอก แต่คนที่ล้มเหลวมักจะรอให้คนอื่นปรับไปหาตัวเอง"
"ใครเขียน"
"คัทโตะ"
"คัทโตะ ใคร"
"นักร้อง นักเขียน วัยรุ่นรู้จักดี"
"เดี๋ยวนี้วัยรุ่นนะแก"
"ก็แบบแหม...ความรักมักทำให้คนดูเด็กลงไปนิดนุง"
สองสาวหัวเราะให้กัน
"คิดถึงไอ้สองคนนั่นนะ ไม่ได้อัพเดตกันเลย"
"นั่นสิ" เมธาวลัยว่า
ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง สี่สาวชนแก้วเครื่องดื่มกัน
"เย้!"
ในบรรดาสี่สาว ณัฎฐาลินีดูซึมเศร้ากว่าใคร
"ทำไมเราไม่ไปร้านประจำของเราอ่ะ" ปินัทธาถาม
"ไปให้เจอผัวฉันน่ะสิ" ภัทรวลัยว่า
"ผัวแก ไม่ใช่ผัวฉันนี่" เมธาวลัยบอก
"แต่ผัวฉันกำลังมีปัญหากับเพื่อนแก"
ณัฎฐาลินีบอก
"ฉันว่าคนที่มีปัญหาหรือเพื่อนเรานะ ไม่ใช่ผัวมัน"
"ฉันงงมะ" ปินัทธาบอก
"งง ก็นั่งเฉยๆสวยๆไป" ภัทรวลัยบอก
"นั่งสวยๆน่ะได้ แต่นั่งเฉยๆ ไม่เป็น ตกลงแกยังไม่กลับไปดีกับพี่เป้อีกเหรอ" เมธาวลัยถาม
"ไม่! จนกว่าเค้าจะมาง้อ"
"ก็มัน" ณัฎฐาลินีพูดแค่นั้น
"พอ! เลิกคุยเรื่องผัวของฉัน มันไม่มีอะไรคืบหน้า คุยเรื่องความรักของพวกแกดีกว่า ยังไง อะไร ถึงไหนแล้ว ลินี"
"ความรักของฉันไม่ถึงไหน เพราะมันไม่เคยเริ่มต้น"
ทุกคนอึ้ง
"และตอนนี้ฉันก็ลาออกจากงาน เพราะเรื่องที่พวกแกก็รู้อยู่แล้ว ขอตั้งสติสักพักแล้วค่อยหางานใหม่ แต่ยังยืนยันนะว่าจะไม่ทิ้งเจตนารมณ์เดิมที่เคยมี"
ทุกคนเห็นใจ เธอยกแก้วดื่มเครื่องดื่ม เศร้าๆ กับเรื่องของตัวเอง
อ่านต่อหน้า 4
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 20 (ต่อ)
สิริมาเข้าในออฟฟิศ วายุบุตรรออยู่แล้ว
"คุณไปไหนมา"
สิริมาสะดุ้ง ตกใจ
"วายุ"
"ทำไมไม่รับโทรศัพท์ผม รู้มั้ยว่าผมเป็นห่วง"
เธอซาบซึ้ง
"ค่ะ..ขอโทษ พอดีแบตมือถือหมด ฉันเครียดเลยขับรถไปคนเดียวเรื่อยเปื่อย ไม่อยากฟุ้งซ่าน"
วายุบุตรพยายามสังเกตความผิดปกติ
"แต่คุณอาจเป็นอันตราย"
"ตอนนี้ มันไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก"
"คุณรู้ได้ยังไง"
"ช่วงนี้ มันเองก็คงระวังตัวไม่ทำอะไรให้ตำรวจหันมาจับตามองหรอก ว่ามั้ย"
"ทีหลัง อย่าขาดการติดต่อไปแบบนี้อีก"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วงฉัน"
สิริมามองวายุบุตรด้วยสายตาที่เทิดทูนเหลือเกิน เขาอึ้ง ยิ้มรับ แต่ลึกๆ เริ่มไม่ไว้ใจสิริมา แล้วเดินออกไป
อีกมุมหนึ่งออฟฟิศวายุบุตร เขาหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์โทร.ออก
" ป้อม...จัดคนติดตามสิริมา อย่าให้คลาดสายตา"
เขาวางสาย สีหน้าเคร่งเครียด
เมธาวลัยจับมือของณัฎฐาลินีเอาไว้
"ลินี...อยากให้พวกฉันช่วยอะไรก็บอกนะ"
"ช่วยเป็นเพื่อน มาเจอฉันเวลาที่ฉันต้องการเมาท์มอยแบบนี้ไง"
"เพื่อนแกมีความสามารถมากกว่าการเมาท์มอยนะ ลินี"
"หรา"
ท้งสามสาวบอก "ลินี!"
"ล้อเล่น เอ้า คิวคนอื่น...น้ำผึ้ง" ณัฎฐาลินีบอก
"คุณพีศขอเลิกกับฉัน"
ทุกคนบอก "รู้แล้ว"
"แต่ที่ทุกคนยังไม่รู้คือ ฉันไปประกาศที่บ้านเค้าว่า...ฉันจะทำให้เค้าเสียดายที่ทิ้งฉัน แล้วกลับมาซมซานสยบแทบเท้าฉันให้ได้"
"แล้วเค้าว่าไง" ภัทรวลัยถาม
"อ๊วกป่ะ" ณัฎฐาลินีถาม
"ไอ้บ้า!.ยิ่งกว่านั้น"
ทุกคนร้อง "เหย"
"เค้าท้าทายฉัน จะรอดูว่าฉันจะทำได้หรือเปล่า"
"จงเป็นคนที่เขาต้องการ ไม่ใช่คนที่ต้องการเขา" เมธาวลัยว่า
"เคัทโตะอีกหรือเปล่า"
"อืม"
"หน้าแดงทำไม" ณัฎฐาลินีถาม
"มันบอกว่าต้องกินเด็กให้ได้ จะได้พาพ่อแม่เด็กมาหาคุณย่าตามที่ท่านสั่งให้ได้จริงๆ เลยต้องอ่าน ต้องฟังอะไรที่รุ่นเดียวกับเด็ก มันน่ะ" ปินัทธาบอก
ทุกคน "ฮิ้ว!"
เสียงมือถือของเมธาวลัยดังขึ้น เธอรีบหยิบมาดู ทั้งตื่นเต้น และตกใจมาก
"กฤษฎาโทรมา กฤษฎาโทรมา กฤษฎาโทรมา"
ทุกคนบอก "ก็รับสิ"
เธอรีบรับสาย หุบยิ้มไม่ได้ เสียงแอ๊บมาก
"ฮัลโหล"
ทุกคนผงะ "เหย"
มุมหนึ่งรีสอร์ทเกาะตะวัน กฤษฎาคุยมือถือ แปลกใจกับเสียงของเมธาวลัย
"คุณเมเปิ้ลเป็นหวัดเหรอครับ เสียงแปลกๆ"
เธอเซ็ง แล้วพูดเสียงปกติเลย
"เปล่า สัญญาณไม่ดีมั้ง"
เพื่อนทุกคนบอกเบาๆให้เธอเปิด speaker phone แต่เธอบอก
"ไม่เปิด"
ทุกคนเรียกร้อง "เปิด"
"ไม่เปิด"
ปินัทธาดึงมือถือมาเปิด speaker phone ทันที ณัฎฐาลินีกับภัทรวลัยกันเมธาวลัยไว้
"ฮัลโหล...ฟังอยู่หรือเปล่าครับ คุณเมเปิ้ล"
เธอจำใจพูด
"ฟังอยู่"
"ทำอะไรอยู่ครับ"
เธอตื่นเต้น เหวอ ดีใจมาก ปิดไมค์มือถือ พูดกับเพื่อน
"ถามแบบนี้แปลว่าคิดถึงอ่ะแก๊! คัทโตะเขียนไว้"
"อีคัทโตะนี่ต้องไม่หล่อ ถ้าสำบัดสำนวนการใช้ภาษาขนาดนี้" ปินัทธาบอก
"ตอบสิๆ ว่า..คิดถึงเธออยู่" ณัฎฐาลินีบอก
ปินัทธากับภัทรวลัย "ฮิ้ว" เบาๆ
เธอตอบกฤษฎา
"ก็…กำลังทานข้าวกับเพื่อน"
เธอดื่มน้ำแก้เขิน
"งั้นผมไม่กวนดีกว่าครับ"
เธอสำลักน้ำเลย รีบพูด
"กวนได้! ไม่มีปัญหา"
"งั้นรบกวนเวลาไม่นานครับ จะแจ้งว่าผมจัดการเรื่องกองถ่ายของคุณไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ"
"ขอบคุณมาก...แล้ว เอ่อ"
"กฤษ"
ทุกคนอึ้ง
กฤษฎาหันไป เห็นน้ำฟ้ากับโสนยืนอยู่
"แค่นี้ก่อนนะครับคุณเมเปิ้ล สวัสดีครับ"
เสียงสายหลุด ตู๊ดๆๆ เธอนั่งจ้องมือถือนิ่ง ด้วยความเจ็บใจ
"นังมารคอหอย"
กฤษฎาเดินมาหาน้ำฟ้าและโสน
"ครับ"
"โทรหาใครน่ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว" น้ำฟ้าถาม
"คุณเมเปิ้ล แจ้งเรื่องเตรียมสถานที่ให้กองถ่ายเค้าไว้เรียบร้อยแล้ว"
"โทร.ไปยกเลิกซะ"
"อะไรนะครับแม่"
"แม่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาใช้สถานที่ออกสื่อเพื่อโปรโมต ไม่ต้องการ แค่นี้ลูกค้าก็มากพอแล้ว รับกันแทบไม่ไหว"
"แต่ผม..."
"คุณป้าคะ กฤษโทร.คอนเฟิร์มไปแล้วถ้าขืนโทร.ไปยกเลิก ทางเราจะเสียหายนะคะ"
"ก็ช่างมันสิ ให้เค้าไปหาที่ใหม่ ที่นี่ไม่ต้อนรับ"
โสนเดินออกไป กฤษฎากลุ้มใจ
"กฤษ...อย่าเครียดนะ เดี๋ยวเราช่วยพูดให้"
"ไม่เป็นไรหรอกน้ำฟ้า เราคุยเอง"
"กฤษพูดอะไรไป คุณป้าก็มีแต่จะดึงดัน ไม่ยอม เพราะอะไรรู้มั้ย คุณป้าคิดว่ากฤษยังชอบคุณเมเปิ้ล ถึงได้ยอมตกลงให้เค้ามาง่ายๆ"
" การที่เรายอมให้เค้ามา แปลว่า...เราไม่คิดอะไรกับเค้าแล้วต่างหาก ไม่อย่างนั้น เราก็จะไม่มีวันยอมเจอหน้าเค้าอีก"
"คุณป้ายังไม่แน่ใจน่ะสิ เราจะช่วยพูดให้ทุกอย่าง จะต้องเรียบร้อย โอเคมั้ย"
"ฝากด้วยนะฟ้า ขอบคุณมาก"
"จ๊ะ"
น้ำฟ้าเดินออกไป กฤษฎาหนักใจ
เมธาวลัยเดินฉุนมากับเพื่อนๆ
"มันต้องเข้ามาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มทุกที"
"หมูเค้าจะหามดันเอาคานมาสอด" ณัฎฐาลินีบอก
"อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างแท้ๆ" ปินัทธาว่า
"มันต้องรู้เรื่องที่ฉันจะไปถ่ายปกที่เกาะตะวัน"
"แล้วนังนั่นมันก็ต้องมีแผนคอยสกัดแกไม่ให้เข้าหาเด็ก" ปินัทธาบอก
"ฉันควรทำไงดี"
"พวกเราสี่คนไปตบมันเลย"
ทุกคนพร้อมใจกันถอยหลัง เหลือปินัทธาอยู่แถวหน้าคนเดียว
"อ้าว...ทิ้งกันเห็นๆ"
"นังนี่ชอบใช้กำลัง สมองน่ะมีมั้ย" ณัฎฐาลินีบอก
"เนี่ย ใช้สมองสุดแระ"
"โอ๊ย! กลุ้มอ่ะ รู้เขาไม่รู้เรา ศึกครั้งนี้ ฉันถอยหลังไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องได้ต้องโดน พวกแกเข้าใจป่ะ"
ทุกคนผงะ แล้วบอก
"โหดมาก"
"เออสิ"
"แต่ถูกจับแต่งงานโหดกว่า ฉันว่างงานพอดี ฉันกับวลัยจะไป ช่วยแกเอง สี่รุมหนึ่งให้มันรู้ไป ว่าจะแพ้ทางชะนีเด็ก" ณัฎฐาลินีบอก
ปินัทธากับภัทรวลัยบอก "จริง!"
"ขอบใจพวกแกมากนะ มีเพื่อนน้อย แต่ไม่ด้อยคุณภาพ ฉันโคตรมีบุญเลย"
"สู้มั้ยสู้!" ณัฎฐาลินีปลุกความฮึกเหิม
"ขอให้ได้ขอให้โดน!"
ทุกคน "เฮ้!"
คนผ่านไปผ่านมามองเป็นตาเดียว สี่สาวอึ้ง ก่อนจะหัวเราะ มีกำลังใจ พากันรีบเดินออกไป
อ่านต่อตอนที่ 21