ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 5
กำธร วีด้าและผู้บริหารคนอื่นๆนั่งกันอย่างพร้อมเพรียงในที่ประชุมของบริษัท กำธรกล่าวเปิดประชุมอย่างเป็นกันเอง
"สวัสดีครับทุกท่าน ต้องขอโทษที่ต้องเรียกประชุมด่วนอย่างนี้ ผมกลับมาจากสิงคโปร์คราวนี้ เพื่อจะแจ้งเรื่องสำคัญให้ทุกท่านทราบว่า ผมจะขอแต่งตั้งคุณวีรดาหลานสาวเพียงคนเดียวของผม ให้เป็นประธานกรรมการแทนผม อย่างเป็นทางการ"
วีด้ามีสีหน้าตกใจเพราะไม่ได้ตั้งตัว "คุณอา..”
กำธรพูดต่อ "ผมเชื่อว่าคุณวีรดามีศักยภาพพอที่จะบริหารงาน logisticได้ดีตามแนวทางของคนรุ่นใหม่ ขอให้ทุกท่านช่วยสนับสนุน เธอด้วยนะครับ" กำธรยิ้มให้วีด้า "และเธอคงอยากขึ้นกล่าวอะไรซักเล็กน้อย"
วีด้ามีสีหน้ามั่นใจขึ้นเป็นผู้นำมากขึ้น
"ดิฉันต้องขอขอบคุณอา ที่ไว้วางใจให้ดิฉันได้ทำหน้าที่นี้ และขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน ดิฉันจะตั้งใจทำงาน และสัญญาว่าจะทำให้บริษัทขนส่ง และท่าเทียบเรือน้ำลึกของเราก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในเอเชียให้ได้ค่ะ"
ผู้เข้าประชุมทุกคนปรบมือให้ วีด้าพูดต่อ
"ดิฉันจะขอเปิดการประชุมต่อเลยนะคะ" วีด้าเปิดแท็บเล็ตและเอกสารเพื่อดูประกอบ "จากการศึกษาข้อมูลเก่าๆทั้งหมด ดิฉันอยากจะเสนอนโยบายเพิ่มเติม เพื่อดึงดูดให้เรือขนส่ง เข้ามาใช้บริการจอดเทียบท่ามากขึ้น เรามีแผนพัฒนาท่าเทียบเรือให้ มีความสะดวกในการขนส่ง และกระจายสินค้า เพื่อเชื่อมต่อกับท่าเรือน้ำลึกทวาย"
ผู้เข้าร่วมประชุมพยักหน้าให้กันแบบเห็นด้วย โปรเจคเตอร์ขึ้นภาพ โกดังสินค้า รถขนส่ง กำธรยิ้มชื่นชม วีด้าชี้และอธิบาย ผู้ร่วมประชุมยิ้มตาม วีด้ายิ้มตอบ
“ใครมีอะไรอยากซักถามมั้ยคะ” วีด้าถาม
วีด้าและกำธรเดินเข้ามาในห้องทำงานของกำธร กำธรพูดชื่นชมวีด้าไปด้วย
“ไม่เสียเที่ยวเลยที่อากลับมาคราวนี้ก็ได้ยินข่าวดีจากหลาน แถมยังทำให้อาภูมิใจในความขยัน และความตั้งใจของหลานอีกด้วย”
วีด้าเดินไปนั่งที่โซฟา
“ก็วีด้ารับปากคุณอาแล้ว ก็ต้องทำตามสิคะ แต่..ตำแหน่งที่คุณอาแต่งตั้งให้ วีด้าว่ามันสูงเกินไปนะคะ”
“มันถึงเวลาแล้วล่ะลูก เพราะตอนนี้บริษัทเรา ที่ไปลงทุนที่สิงคโปร์ เป็นช่วงขยายงาน อาตั้งใจไว้แล้วว่าบริษัททางนี้ จะให้วีด้าเป็นคนดูแล เพราะอาคงทำไม่ไหว”
“หมายความว่า คุณอา ...”
“ใช่ อาอาจจะต้องอยู่ที่สิงคโปร์เป็นส่วนใหญ่ อาคิดไว้พักนึงแล้วล่ะและอาก็ดีใจนะที่หนูพร้อมแล้ว ที่จะมาช่วยงานอา”
วีด้ายิ้มรับ
สินีเคาะห้องธัญกร ยศสรัลที่กลับจากทำงานหยุดมอง สินีหันมาทัก
“สรัลกลับมาแล้วเหรอลูก”
ยศสรัลยิ้มรับแล้วพูดครับแม่ ธัญกรเปิดประตูออกแล้วงัวเงียยืนพึงประตูก่อนจะยิ้มให้แม่
“คนสวยครับ ขอตังค์ใช้หน่อยสิ”
“เล็ก ดูสิพี่ทำงานกลับบ้าน แต่นี่แกพึ่งจะตื่นเหรอ”
“อ๊ะ ๆ ระวังหน้าย่นนะ” ธัญกรแซว
สินีตีแขนลูกชาย
“คุณแม่นี่แพ้ทางนายเล็กจริงๆ เล็กพี่ว่าแกเตรียมตัวนะ ไว้พี่จะฝากงานให้” ยศสรัลบอก
ธัญกรตกใจ “งานอะไรพี่รัล ผมยังไม่เอานะ แม่ดูสิ มีแต่คนบีบบังคับผม”
“ก็ดูเราทำตัวเข้าสิ พี่เค้าจะไม่ห่วงได้ยังไง แม่ก็เหนื่อยใจกับเราจริงๆ ถ้าพ่อแกเห็นสภาพแบบนี้นะ พ่อแกเอาตายเลย”
ธัญกรได้ยินคำว่าพ่อก็งอนและโมโห เขาปิดประตูใส่หน้าแม่เหมือนไม่สนใจ สินีจ๋อยแล้วเข้าไปเคาะเรียก “เอ๊า ดูสิ เล็ก ๆ ๆ”
ยศสรัลส่ายหัวแล้วเดินไป
วีด้านั่งเท้าคางอยู่ที่ขอบโต๊ะพร้อมทำหน้ามู่ทู่ เธอมองกำธรที่กำลังเก็บเอกสารและข้าวของลงกระเป๋าเดินทาง กำธรหันมามองก็ยิ้มขำ
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” กำธรถาม
วีด้าบ่น “คุณอาเพิ่งกลับมา ก็จะไปอีกแล้ว”
“ก็ชีวิตอามันมีแต่งานนี่ แต่ไม่ใช่อาไม่รักหนูนะ” กำธรนั่งข้างๆ แล้วลูบหัววีด้า “หนูถือเป็นลูกสาวของอา และอารักหนูเหมือนสายเลือดแท้ๆ แต่อามันก็เป็นคนบ้างาน หวังว่าหนูจะเข้าใจ”
วีด้ายิ้ม “หนูเข้าใจค่ะ เพราะหนูว่า หนูก็ถอดนิสัยบ้างานจากคุณอามาแล้วล่ะค่ะ”
กำธรหัวเราะ “เท่าที่อาเห็น อาก็คิดแบบนั้นแหละ” กำธรขยี้หัววีด้า
แล้วสองอาหลานก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข
วีด้านั่งพิมพ์คอมพิวเตอร์อย่างเอาจริงเอาจัง สักพักเธอก็ขมวดคิ้วเพราะคิดไม่ออก แล้วเธอก็กดอินเตอร์คอมหาเลขา
“วีด้าขอเอกสารบริษัท ที่มาใช้ท่าเรือของ เราย้อนหลัง 1 ปีด้วยค่ะ”
“ค่ะ” เลขารับคำ
วีด้าทำงานต่อ ครู่หนึ่งเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น โอ๋หอบแฟ้มเอกสารหอบใหญ่เข้ามา
“ไหวมั้ยคะ” วีด้ารีบลุกขึ้นไปช่วยโอ๋ “มาค่ะ วีด้าช่วย”
วีด้าช่วยรับเอกสารบางส่วนไปวางที่โต๊ะพร้อมกับโอ๋
“ขอบคุณมากนะคะ” วีด้าบอก
“โอ๋ต้องขอบคุณคุณวีด้ามากกว่าที่ช่วย ถ้าคุณวีด้าต้องการอะไรอีกก็บอกได้เลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
โอ๋เดินออกไป วีด้ามองกองเอกสารแล้วเป่าลมออกจากปากประมาณว่างานหนักแน่ๆ แล้วสูดลมหายใจตั้งสติก่อนจะฮึดสู้ แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ เธฮหยิบแฟ้มมาเปิดอ่านเพื่อเริ่มศึกษางานอย่างตั้งใจ
วีด้าอ่านงานไป เขียนบันทึกไป นาฬิกาแขวผนังบอกเวลาเที่ยง วีด้าก็ยังคงพิมพ์งานที่หน้าคอมพ์ กองเอกสารถูกเปิดกางไว้เต็มโต๊ะ
เวลาผ่านไป ที่โต๊ะมีถ้วยกาแฟที่ดื่มแล้ววางอยู่ วีด้ายังคงทำงาน ไม่หยุด เธอมองนาฬิกาข้องมือ แล้วลุกเดินก่อนจะหยุดยืนกอดอกใช้ความคิดแล้วหยิบกระเป๋าเดินออกไป
วีด้าเดินเข้ามาในสปอร์ตคลับ พนักงานที่ฟร้อนท์ยิ้มทักทายวีด้า
“สวัสดีค่ะคุณวีด้า”
สวัสดีค่ะ” แล้ววีด้าก็เดินไปทางห้องแต่งตัวหญิง
คล้อยหลังวีด้าเล็กน้อย ยศสรัลก็เดินถือกระเป๋ากีฬาเข้ามามองตามหลังวีด้าอย่างคุ้นตาแต่ก็ไม่แน่ใจ
ยศสรัลเดินเข้าไปถามพนักงาน “ผู้หญิงที่เพิ่งเดินไปเมื่อกี๊ ใครเหรอครับ”
“อ๋อ คุณวีด้าค่ะ” พนักงานตอบ
“วีด้า..”
“สวยนะคะ”
“เค้ามาเป็นสมาชิกใหม่เหรอครับ”
“ใช่ค่ะ เธอมาเป็นmember เมื่ออาทิตย์ก่อน”
ยศสรัลทำหน้าเข้มเพราะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
วีด้าเดินออกมาจาก้องล็อกเกอร์เข้าไปเก็บกระเป๋า เธอเดินผ่านธัญกรที่เพิ่งออกมาจากห้องล็อกเกอร์ชาย ธัญกรเห็นวีด้าก็มีสีหน้าตื่นเต้น
“คนสวยที่มางานคุณพ่อวันนั้นนี่!” ธัญกรรำพึงกับตัวเอง
ธัญกรกำลังจะก้าวขาตามวีด้าไป แต่ยศสรัลเดินเข้ามาเรียกไว้
“นายเล็ก” ยศสรัลเรียก
ธัญกรชะงักแล้วหันไปตอบพี่ชายแบบรีบๆ “เดี๋ยวนะพี่” ธัญกรพุ่งเข้าไปหาวีด้าทันที “คุณครับ”
วีด้าหันมาเห็นธัญกรที่ดูตื่นเต้น
“คุณวีด้าใช่มั้ยครับ” ธัญกรถาม
วีด้าตอบเรียบๆ เพราะไม่ค่อยอยากคุย “ค่ะ”
“เราเคยเจอกันที่งานวันเกิดคุณพ่อ ไม่รู้ว่าคุณจะจำได้หรือเปล่า”
“มีอะไรเหรอคะ”
ธัญกรทำหน้าเศร้า “ว้า..จำผมไม่ได้แน่ๆเลย คุณคงไม่เห็นผม”
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 5 (ต่อ)
วีด้าเหลือบไปเห็นยศสรัลที่เดินเข้ามาใกล้ธัญกรก็มองวีด้าแบบไม่พอใจ วีด้าหมั่นไส้ที่ยศสรัลมองแบบนั้นเลยแกล้งยิ้มแย้มคุยกับธัญกรดีทันที
“วีด้าล้อเล่นน่ะค่ะ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะคะ วันนั้นคุณใส่สูทสีน้ำตาล...”
ธัญกรตื่นเต้นดีใจจนอ้าปากค้าง
“..ใช่มั้ยคะ” วีด้าหว่านเสน่ห์ใส่ทันที “คุณธัญกร”
ธัญกรตื่นเต้นสุดๆ “คุณรู้ชื่อผมด้วย”
“คุณธัญกรมาเล่นกีฬาที่นี่ประจำใช่มั้ยคะ วีด้าเห็นคุณบ่อยๆ”
“คุณวีด้านี่ทำให้ผมทั้งอึ้ง ทั้งทึ่ง ทั้ง..ใจเต้นเลยล่ะครับ”
ยศสรัลที่ได้ยินก็ทนไม่ได้เพราะรู้สึกว่าวีด้าไม่ธรรมดา
วีด้าถามธัญกรต่อ “แล้วคุณคัชพลไม่มาด้วยเหรอคะ” วีด้าทำเป็นชะเง้อมองผ่านยศสรัล
ยศสรัลทนไม่ไหว “เสียใจด้วยนะ พี่ใหญ่ไม่ได้มาวันนี้” ยศสรัลแกล้งพูดกับธัญกร “อย่าดีใจไปให้มากเลยเล็ก พี่ว่าผู้หญิงเก่งๆอย่างคุณวีด้า เค้าไม่ได้จำได้แค่เล็กคนเดียวหรอก”
วีด้ามองอย่างไม่พอใจ ยศสรัลมองอย่างไม่แคร์
“แต่สำหรับบางคน ชั้นก็เลือกที่จะไม่จำ”
ยศสรัลไม่พอใจ ธัญกรงงจึงมองซ้ายทีขวาที
“คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญมั้งครับ ที่คุณมาเป็นสมาชิกที่นี่”
ทั้งสองมองหน้ากันอีกรอบ
ยศสรัลดึงแขนธัญกร “ไปเถอะเล็ก”
ธัญกรถูกยศสรัลลากไปแบบไม่เต็มใจ ทิ้งให้วีด้ายืนอยู่คนเดียว วีด้ามองยศสรัลด้วยความเจ็บใจ
ยศสรัลเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ธัญกรรอและคุยไปด้วย
“ทำไมพี่รัลพูดจากับคุณวีด้าไม่ดีเลยล่ะ ไม่ค่อยให้เกียรติเค้าเลย”
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เล็กอยู่ห่างๆไว้ดีกว่า”
“ผมว่าไม่เห็นมีอะไรเลย สวยออก พี่ใหญ่ยังชอบเลย จริงจังด้วย”
ยศสรัลอึ้งแล้วเศร้าไป ธัญกรมองพี่ชายอย่างสังเกต
ธัญกรจ้อง “พี่รัลเป็นไรเนี่ย นี่อย่าบอกนะ ว่าพี่ก็ชอบคุณวีด้า”
ยศสรัลหงุดหงิดนิดหน่อย “หว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายแบบนี้น่ะเหรอผู้หญิงที่พี่ชอบน่ะ เขาไม่มีนิสัยแบบนี้หรอก”
“พี่พูดถึงใคร พี่มณหรือเปล่า”
ยศสรัลรู้สึกตัว “ช่างมันเถอะ หัวแกนี่มีแต่เรื่องผู้หญิง” ยศสรัลผลักหัวน้องเดินไป
ธัญกรมองตามงงๆ “อ้าว หัวผมคิดเรื่องผู้หญิงของพี่นะ อะไรของเค้าเนี่ย”
วีด้าวิ่งอยู่ ยศสรัลเดินเข้ามาเห็นก็หงุดหงิดจะเดินออกแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เขาเข้าไปวิ่งใกล้ๆ วีด้าเหลือบมองแล้วทำไม่สน ยศสรัลทำไม่สนแต่แอบมอง วีด้าหยุดวิ่ง ยศสรัลหยุดตาม
“คอยมองชั้นทำไม” วีด้าถาม
“คุณคิดไปเองรึเปล่า” ยศสรัลท้วง
“ไม่มีเครื่องอื่นจะวิ่งรึไง ถึงต้องมาวิ่งใกล้ๆชั้น”
“อย่าหลงตัวเองสิครับ นี่เครื่องประจำผมนึกว่าคุณจงใจมาวิ่งรอผมซะอีก”
วีด้าแค้นจึงอ้าปากจะด่า แต่ก็คิดไม่ทัน
ยศสรัลพูดต่อ “ไหนๆพี่ใหญ่ก็ไม่มา คุยกับผมแก้ขัดไปก่อนก็ได้นะ”
“อีตาบ้า”
วีด้าแค้นมากจึงเดินออกไปทันที ยศสรัลหัวเราะแล้วมองตามอย่างสบายใจ
วีด้าขว้างชุดกีฬาลงตะกร้าด้วยอารมณ์โกรธ เธอทิ้งตัวลงนั่งที่เตียงพลางนึกถึงคำพูดที่โดนยศสรัลเยาะเย้ย
“เสียใจด้วยนะ พี่ใหญ่ไม่ได้มาวันนี้” ยศสรัลแกล้งพูดกับธัญกร “อย่าดีใจไปให้มากเลยเล็ก พี่ว่าผู้หญิงเก่งๆอย่างคุณวีด้า ไม่ได้จำได้แค่เล็กคนเดียวหรอก”
วีด้ามองยศสรัลอย่างไม่พอใจ ยศสรัลประสานสายตาตอบอย่างไม่แคร์
เใื่อนึกถึงเหตุกาณณ์นั้น วีด้าก็ทำหน้าบึ้งก่อนจะหงายหลังลงนอนบนเตียงอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วนึกไปถึงในอดีตตอนที่ยศสรัลใจดีกับเธอ
“โดนเพื่อนแกล้งอีกแล้ว” ยศสรัลว่า
แพรทำหน้างอนเพื่อน
“ทำไมสองคนนี้ชอบแกล้งแพรนักนะ” แพรไม่พอใจ
“เค้าคงคิดเหมือนพี่มั๊ง”
“ยังไงคะ”
“ก็เวลาแพรงอน มันน่ารักดีไง”
แพรหันมาทำหน้างอนยศสรัล
“หน้าแบบนี้แหล่ะ”
แพรงอนแล้วก็เขิน
“แต่ยังไง พี่ก็ชอบ แพรตอนหัวเราะ ร่าเริงมากกว่า” ยศสรัลบอก
แพรเริ่มยิ้ม
เมื่อนึกถึงเหตุกาณณ์ในอดีต วีด้าก็รู้สึกเจ็บใจ ในหัวของเธอมีแต่ยศสรัล แม้เธอจะพยายามสะบัดหัวให้หยุดคิดก็ตาม
ภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา เป็นเหตุการณ์ที่ต่อจากที่วีด้าคิด
แพรหุบยิ้ม
“พี่ไม่ค่อยเห็นแพรยิ้มเลย” ยศสรัลว่า
“แพรไม่ชอบยิ้มหรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“เมื่อยแก้ม”
ยศสรัลหัวเราะก๊าก “แบบนี้ก็มีด้วย”
แพรหัวเราะตาหยี ยศสรัลยิ้มออกมาแล้วก็นึกถึงวีด้าด้วยความสงสัย
“ทำไมถึงคล้ายกันมากอย่างนี้นะ”
วีด้าคิดอะไรบางอย่าง แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์มาดูตารางคิวคัชพล
“พรุ่งนี้ นัดคุยกับลูกค้าเหรอ”
วีด้ายิ้มร้าย แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอดูหน้าจอแล้วรับสาย
วีด้าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ว่าไงคะดนัย”
“วีด้า คุณเป็นยังไงบ้าง เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะพักนี้” ดนัยตัดพ้อ
“วีด้าก็เพิ่งจะเริ่มทำงาน เลยต้องศึกษางานให้มากหน่อย” วีด้าบอก
“อย่าทำงานหนักมากนักนะ พักผ่อนบ้าง”
วีด้ายิ้ม “ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมพาไปทานข้าวมั้ย”
วีด้าอึกอักเพราะสงสารดนัย “เอ่อ..วีด้าไม่สะดวกน่ะ ติดนัดลูกค้าไปแล้ว”
ดนัยทำหน้าเศร้า “ไม่เป็นไร วันหน้าก็ได้ งั้นวีด้าก็พักผ่อนนะ”
ดนัยถอนใจ วีด้าก็หน้าเศร้าเช่นกัน
คัชพลเดินเข้ามามองยศสรัล
“คิดถึงใครอยู่เหรอ” คัชพลถาม
ยศสรัลหันมา “พี่ใหญ่”
“อย่าบอกว่าคิดถึงมณฑิตานะ พี่ไม่เชื่อหรอก”
ยศสรัลคิดถึงวีด้าก่อนตัดสินใจพูด “วันนี้ผมเจอคุณวีด้าที่สปอร์ตคลับ”
คัชพลดีใจ “คุณวีด้าไปสปอร์ตคลับวันนี้เหรอ” คัชพลคิดแล้วก็ยิ้ม “แต่ไม่ยอมรับนัดเรา”
ยศสรัลงงวีด้า
“หมายความว่ายังไงครับ”
“พี่ขอนัดเค้า แต่เค้าบอกงานยุ่ง” คัชพลยิ้มชอบใจ “ร้ายจริงๆ”
“ร้ายก็อย่าไปยุ่งกับเค้าสิครับ” ยศสรัลบอก
“ได้ไงล่ะ....เป็นแบบนี้แหล่ะที่พี่ชอบ”
คัชพลคิดแล้วตาก็เป็นประกาย เขากดโทรศัพท์หาวีด้าทันที ยศสรัลรู้สึกอึดอัดใจ
วีด้ามองโทรศัพท์แล้วจะกดรับแต่ก็เปลี่ยนใจ
“พรุ่งนี้เราก็จะได้เจอกันแล้ว” วีด้าวางโทรศัพท์แล้วเดินออกไป
ที่โทรศัพท์ขึ้นชื่อคัชพล และสายยังเรียกเข้าอยู่
คัชพลรอสายวีด้า โดยมียศสรัลอยู่ใกล้ๆ ครู่หนึ่งคัชพลก็วางสาย
“โทรไม่ติดเหรอครับ” ยศสรัลถาม
“ติด แต่เค้าไม่รับ” คัชพลบอก
ยศสรัลถอนใจเพราะสบายใจ คัชพลคิดๆ แล้วก็ยิ้มออกมา
“พี่เป็นฝ่ายถูกตามมาตลอด คราวนี้พี่คงต้องเป็นฝ่ายตามบ้าง”
พูดจยคัชพลก็ยิ้มสบายใจก่อนจะเดินออกไป ยศสรัลมีสีหน้าหนักใจขึ้นมาอีก
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 5 (ต่อ)
วีด้าแต่งตัวสวยเป็นพิเศษเดินดูแฟ้มอยู่ในห้อง
“คุณโอ๋คะ วีด้าขอดูคอนแทรคลูกค้า ของอาทิตย์ที่แล้วด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ วันนี้คุณวีด้าสวยเป็นพิเศษนะคะ” โอ๋ชม
“วีด้ามีนัดกับคนพิเศษน่ะค่ะ”
เลขายิ้มแล้วพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินออกไป วีด้ายิ้มตอบแล้วคิด
ดนัยนั่งคนเดียวทำงานอยู่คนเดียวในห้อง แล้วเขาก็คิดถึงวีด้า ดนัยถอนใจ รูปดนัยกับแพรวางอยู่บนโต๊ะทำงาน
คัชพลคุยกับชายนักธุรกิจคนหนึ่งอยู่ในร้านโดยนั่งอยู่ริมหน้าต่าง
“ผมอยากให้คุณมาเข้าร่วมด้วย” คัชพลยื่นเอกสารให้ “นี่เป็นรายละเอียด และผลตอบแทนที่คุณจะได้รับ..”
นักธุรกิจรับซองเอกสารมาเปิดอ่าน วีด้าเดินเข้ามามองหาคัชพล เธอเห็นคัชพลนั่งหันหลังคุยงานอยู่มุมหนึ่ง บริกรเดินมาต้อนรับพอดี
“เชิญด้านในเลยครับ” บริกรพาวีด้าไปนั่ง
“ขอนั่งโซนโน้นได้มั้ยคะ” วีด้าพยักเพยิดไปทางคัชพล
“ได้ครับ”
วีด้าเดินผ่านโต๊ะคัชพล คัชพลเห็นก็ดีใจจึงรีบลุกขึ้นทัก
“คุณวีด้า!”
วีด้าหันมาโดยทำเป็นเพิ่งเห็น “อ้าวคุณคัชพล บังเอิญจังเลยนะคะ”
“ผมชอบความบังเอิญแบบนี้จัง..คุณวีด้ามาคนเดียวเหรอครับ”
“วีด้านัดเพื่อนไว้น่ะค่ะ วีด้าไม่กวนแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” วีด้าเดินไป
คัชพลยิ้มแล้วมองตามจนวีด้าไปที่โต๊ะ วีด้าจงใจนั่งฝั่งตรงข้ามคัชพลโดยทำเป็นไม่มองคัชพล ที่ยังยืนมองอยู่ นักธุรกิจเหลียวหลังมองตามแล้วหันมาชมกับคัชพล
“สวยนะครับ”
คัชพลหัวเราะแล้วนั่งลง
“ครับ” คัชพลหันตามวีด้า
“แล้วในส่วนนี้คุณคัชพล คิดว่าไงครับ” นักธุรกิจถาม
คัชพลหันกลับมาสนใจคุยต่อ
“ในส่วนนี้นะครับ.........”
เวลาผ่านไป วีด้าทำเป็นวางโทรศัพท์ แล้วเธฮก็เรียกบริกรมาเก็บเงินก่อนจะส่งบัตรให้ คัชพลเห็นวีด้าก็ทำท่าจะกลับก็แต่แล้วรีบบอกลูกค้า
“ผมว่ารายละเอียดปลีกย่อย ค่อยคุยกันคราวหน้านะครับ
ลูกค้างง “เอาอย่างงั้นเหรอครับ ก็ได้ครับ
คัชพลลุก ลูกค้าลุกตาม คัชพลเดินไปส่งลูกค้า
วีด้ากำลังเดินมาทางโต๊ะคัชพล คัชพลหันตัวกลับมาเจอก็ถาม
“จะกลับแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ เพื่อนติดงานด่วน” วีด้าทำหน้าเศร้า “วีด้าเลยรอเก้อเลย”
“งั้นเชิญร่วมโต๊ะกับผมก่อนนะ ไหนๆเราก็เจอกันแล้ว”คัชพลบอก
วีด้าทำเป็นลังเล
คัชพลอ้อน “อย่าปฏิเสธผมเลยนะ”
วีด้ายิ้ม “ก็ได้ค่ะ”
คัชพลขยับเก้าอี้ให้นั่ง
“คุณวีด้าจะทานอะไรดีครับ” คัชพลถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ วีด้าทานแล้ว”
คัชพลยิ้ม
เวลาผ่านไป คัชพลเลื่อนเครื่องดื่มให้วีด้า
“คุณกำธรเป็นญาติกับคุณวีด้าเหรอครับ” คัชพลถาม
วีด้ามองหน้าคัชพลอย่างระแวง
“ผมดูจากนามบัตรที่คุณเคยให้ไว้ เห็นว่าคุณนามสกุลเดียวกับคุณกำธร” ตัชพลบอก
“อ๋อ..ค่ะ คุณรู้จักคุณอาด้วยเหรอคะ”
“ผมว่านักธุรกิจในเมืองไทย ส่วนใหญ่น่าจะรู้จักคุณกำธร เพราะคุณกำธรถือเป็นนักธุรกิจตัวอย่าง แต่ค่อนข้างเก็บตัวไม่ค่อยออกสังคม”
“คุณอาเป็นคนชอบทำงานค่ะ ชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกับงาน”
คัชพลมองหน้าแล้วทำตาหวานใส่ “คงเหมือนกับคุณ”
“เหมือนยังไงคะ”
“ก็คุณไม่เคยรับนัดผม แล้วก็ติดงานตลอด หรือไม่..คุณอาจจะเป็นคนที่ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ”
“เท่าที่วีด้าเห็นคุณ คุณมีผู้หญิงรอบตัวมากมาย และวีด้าก็ไม่ใช่ผู้หญิงแนวนั้น”
คัชพลหัวเราะ “ผมถึงมองคุณแตกต่างจากคนอื่น” คัชพลยื่นหน้ามาใกล้ๆ “แต่ถ้าคุณจะใช้เวลาศึกษาผม คุณก็จะได้รู้จักผมจริงๆ”
วีด้าขำ “ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
วีด้ายิ้มแล้วทำตาพราว คัชพลมองตอบ ทั้งคู่ประสานสายตากันวิบวับ
วีด้ากับคัชพลเดินมาที่ลานจอดรถพอถึงรถวีด้า วีด้าก็กดรีโมทกุญแจรถ คัชพลเดินไปเปิดประตูให้
วีด้ายิ้ม “ขอบคุณค่ะ” วีด้าจะขึ้นรถ
“เดี๋ยวครับ”
วีด้าหันมามองด้วยสีหน้าสงสัยก่อนจะยิ้มๆ
คัชพลเดินเข้าไปกระซิบ “ขับรถดีๆนะครับ” คัชพลโน้มตัวจะหอมวีด้า
วีด้าเบี่ยงออกโดยใช้มือแตะอกคัชพลไว้เป็นการห้าม
“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ” วีด้าขึ้นรถ ปล้วปิดประตูก่อนจะออกรถไป คัชพลมองตามแล้วยิ้ม
คัชพลเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี ทุกคนยกเว้นธัญกรอยู่ในบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอใหญ่ เพื่อนแม่โทรมาบอกว่าเจอเราทานข้าวอยู่กับสาวสวยหน้าใหม่ แต่ทำไมกลับเร็วได้ล่ะ แม่แปลกใจเลยนะเนี่ย” สินีว่า
“ต้องให้เกียรติเค้าหน่อยครับ เพราะคนนี้ ผมค่อนข้างจริงจัง” คัชพลบอก
บัญชา สินี และยศสรัลมองคัชพลพร้อมกัน
“จริงจัง กับใคร นางแบบพวกที่แกควงอยู่น่ะเหรอ” บัญชาถาม
“ว้าย ไม่เอานะตาใหญ่ แม่ไม่รับเป็นลูกสะใภ้เด็ดขาด”
“ใหญ่ แกจะคบใครควงใครพ่อไม่ว่า แต่ถ้าแกจะจริงจังหาเมีย แกต้องดูด้วย ว่าเค้าเหมาะสมรึเปล่า” บัญชาสอน
“แม่ไม่น่าปล่อยให้ใหญ่ ควงผู้หญิงไปเรื่อยเลย ติดกับจนได้ ตกลงแม่นั่นเป็นใครมาจากไหน”
คัชพลหัวเราะ
“คุณแม่ให้พี่ใหญ่เล่าก่อนดีกว่ามั้ยครับ”
“นั่นสิครับ ยิงมาเป็นชุดอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง”
สินีค้อนใส่
“ผม..ไปทานข้าวกับคุณวีด้ามาครับ”
ยศสรัลอึ้ง
“คุณพ่อคุณแม่จำคุณวีด้าได้มั้ยครับ เคยมางานคุณพ่อไงครับ เค้าเป็นลูกสาวคุณกำธรน่ะครับ”
บัญชาคิดแล้วก็สนใจ “คุณกำธร เจ้าของท่าเรือสินค้าหลายๆแห่งน่ะเหรอ”
สินีทำตาโต “จริงเหรอลูก! แม่รู้ประวัติเค้ามาว่า ภรรยากับลูกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุนี่”
“คุณวีด้าก็เลยกลายมาเป็นลูกบุญธรรมครับ” คัชพลบอก
“ผู้ชายคนนี้ เก่งมาก พ่อยอมรับ สร้างตัวมาจากได้ไม่มีอะไรเลย จนกิจการใหญ่โต ขยายไปเมืองนอก”
“เค้าเลยให้คุณวีด้ารับผิดชอบดูแลบริษัทที่เมืองไทยครับ” คัชพลเล่าต่อ
บัญชามองหน้าลูกชายแล้วยิ้ม “แกนี่ตาแหลมจริงๆ”
“แล้วเมื่อไหร่จะพามาให้พ่อ กับแม่รู้จักอย่างเป็นทางการล่ะ” สินีถาม
“คุณแม่ครับ พี่ใหญ่เพิ่งจะรู้จักเค้า ไม่เร็วไปเหรอครับ” ยศสรัลบอก
“เร็วเริวอะไรกัน สมัยนี้มัวแต่ดู เดี๋ยวก็เจอคู่แข่งตัดหน้าไปหรอก”
“แต่เรายังไม่รู้จักเค้าดีพอนะครับ” ยศสรัลว่า
บัญชาพูด “แกจะกลัวอะไรสรัล เค้ารวยไม่ต่างกับเราหรอก อาจจะมากกว่าซะด้วยซ้ำ ตามสบายเลยใหญ่ ถ้าแกได้เค้าเป็นคู่ มันคงจะเอื้อเรื่องธุรกิจเราในอนาคตด้วย”
สินีรีบเดินไปประกบคัชพล “ไหน มีอะไรอีก เล่ามาให้ฟังหน่อย แม่อยากรู้”
คัชพลหัวเราะชอบใจ
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 5 (ต่อ)
ตกกลางคืน ดนัยอยากโทรหาวีด้า เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดแต่แล้วก็เปลี่ยนใจเพราะรู้สึกเศร้านิดหน่อย
“คุณทำอะไรอยู่นะวีด้า” ดนัยพูดกับตัวเอง
พ่อของดนัยเดินเข้ามาสังเกตลูกชาย
“เป็นอะไรไปลูก หมู่นี้ดูซึมๆไปนะ ทะเลาะอะไรกับหนูวีด้ารึเปล่า”
“เปล่าหรอกครับคุณพ่อ”
พ่อมองลูกแบบไม่เชื่อ “แน่ใจเหรอ”
ดนัยถอนใจ “ผมไม่รู้ว่า ผมทำอะไรผิดรึเปล่า เค้าทำตัวห่างเหินออกไป”
พ่อมองดนัยด้วยความเป็นห่วง
“ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ”
พ่อมองตามไปด้วยความรู้สึกสงสารลูกชาย
โอ๋ถือช่อดอกไม้เดินเข้ามาในห้องทำงานวีด้า วีด้านั่งทำงานอยู่ วีด้าเงยหน้ามอง โอ๋ยื่นช่อดอกไม้ให้
“มีคนส่งดอกไม้มาให้ คุณวีด้าค่ะ”
วีด้ายิ้มแล้วลุกขึ้นยืนรับ “ขอบคุณค่ะ”
โอ๋ส่งดอกไม้ให้แล้วก็เดินออกไป
วีด้ามองดอกไม้ เธออ่านข้อความในการ์ด “ดอกไม้สำหรับการเริ่มต้นรู้จักกันของเรา คัชพล”
วีด้ายิ้มแล้ววางดอกไม้ลงบนโต๊ะก่อนจะหันไปที่โต๊ะทำงานก็เห็นภาพคู่วีด้ากับดนัยหัวเราะกันร่าเริง วีด้ามองนิ่งและเศร้า เธอตัดใจทำงานต่อแต่รู้สึกไม่มีสมาธิ วีด้ามองไปที่รูปดนัยอีกครั้งแล้วคว้ามาเก็บลงลิ้นชัก วีด้ากลั้นใจเปิดแฟ้มทำงานต่ออย่างเคร่งเครียด
คัชพลนั่งทำงานอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญครับ”
ยศสรัลเปิดประตูเดินเข้ามา
“พี่ใหญ่เรียกผมเหรอครับ” ยศสรัลถาม
“ใช่ บ่ายนี้พี่จะฝากนายประชุมแทนพี่หน่อย”
“ธุระด่วนเหรอครับ ผมเห็นพี่เป็นคนนัดประชุมเองไม่ใช่เหรอ”
แอนนาเข้ามายืนหน้าประตู คัชพลกับยศสรัลหันไปมอง ภาสุรีหน้าตื่นเข้ามาอึกๆอักๆ พูดไม่ถูก คัชพลรีบตัดบทพูดกับยศสรัล “ใช่ พี่มีนัด... กับคุณวีด้า”
ยศสรัลและนางแบบอึ้งพร้อมกัน นางแบบเดินเข้ามาสองก้าวด้วยหน้าตาไม่พอใจ คัชพลเห็นแอนนาก็ออกอาการหงุดหงิดเช่นกัน
“วีด้าไหน มันเป็นใคร” แอนนาเข้าไปยื้อแขนคัชพล “คุณใหญ่ห้ามไปกับใครทั้งนั้น”
“คุณคิดว่าจะสั่งผมได้เหรอ”คัชพลถาม
แอนนาอ้าปากจะพูดต่อแต่คัชพลดึงแขนออก แล้วรีบตัดบทพูดกับภาสุรีก่อน
“ดอกไม้ที่ผมให้ส่งไปให้คุณวีด้า เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ”
ภาสุรีชำเลืองมองแอนนา “เรียบร้อยแล้วค่ะ”
แอนนากรี๊ดขึ้นมาทันที “อ๊าย...แอนถามว่ามันเป็นใคร พูดถึงมันอยู่นั่นแหล่ะ”
คัชพลไม่ตอบคำถาม แอนนาพุ่งเข้าไปหาคัชพลโดยชนกระแทกยศสรัลจนเขาเซ
“ทำไมไม่ตอบล่ะคะ” แอนนาคาดคั้น
ยศสรัลทำสีหน้าเหนื่อยใจ และอึดอัด
“ผมขอตัวนะครับ”
ภาสุรีเลิกลั่กเพราะทำอะไรไม่ถูก เลยจะชิ่งออกไปด้วย
“ภาก็ขอตัวก่อนนะคะ” ภาสุรีทำตัวลีบๆ เดินออกไป
คัชพลเรียกไว้ “คุณภาอยู่ก่อน”
ภาสุรีหน้าละห้อยเพราะไม่อยากอยู่
“นังวีด้ามันเป็นใคร มันมาอ่อยคุณตั้งแต่เมื่อไหร่” แอนนาถาม
คัชพลสวนกลับ “พูดจาให้มันสุภาพ ให้เกียรติคนอื่นหน่อย”
“แล้วทีคุณทำกับแอนนาล่ะ” แอนนาจะทุบคัชพล
คัชพล สั่งเสียงเข้ม “หยุด!”
แอนนาอึ้ง หยุด และเหวอเพราะไม่ทันได้ทุบคัชพล
“ผมเบื่อที่สุด คือผู้หญิงที่ชอบแสดงความเป็นเจ้าของ โดยที่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญ” คัชพลว่า
แอนนาโกรธมากจึงจะโวยวาย แต่คัชพลขู่ต่อ
“เอางี้ จะเลิกกันแบบได้รถสปอร์ตคันที่ขับอยู่ หรือจะเลิกแบบคืนรถให้ผมเลือกมา”
แอนนาโกรธจนอ้าปากค้างแต่พูดไม่ออก แล้วเธอก็สะบัดหน้าเดินออกไป ภาสุรียืนคอตก คัชพลแค่นหัวเราะ
คัชพลและวีด้าเดินเข้ามาในสนามยิงปืนด้วยกัน คนอื่นยิงปืนอยู่ตามช่องยิง
คัชพลมองไปทั่วๆแล้วคุยกับวีด้า “นี่เป็นเดทที่แปลกแหวกแนวมาก ปกติผมเห็นผู้หญิงชอบที่จะไปช็อปปิ้ง ฟังเพลง แต่คุณกลับอยากมาสนามยิงปืน”
“แล้วทำไมวีด้าต้องเหมือนคนอื่นละคะ” วีด้าย้อนถาม
“คุณชอบยิงปืนเหรอครับ”
“เผื่อเอาไว้ป้องกันตัวไงคะ แต่วีด้าเพิ่งเริ่มหัดน่ะค่ะ ยังยิงไม่เก่ง”
“ถ้าอยากได้ครูฝึก ผมเป็นให้ได้นะครับ ผมพอจะสอนคุณได้”
วีด้ามองยิ้ม “งั้นก็โอเคค่ะ”
คัชพลยิ้มตอบก่อนจะพาเดินไปที่สรรพาวุธ
คัชพลบรรจุกระสุนในแม็กกาซีน เขาอธิบายวิธีจับปืนให้วีด้าฟัง
“วีธีจับปืนมีหลายแบบจะจับเอาแบบนิ้วชี้มือซ้ายไปพาดบริเวณ หน้าโกร่งไกหรือจะจับแบบมือซ้ายประคองมือขวาอย่างนี้ก็ได้”คัชพลพูดไปด้วยทำให้ดูไปด้วย “คุณวีด้าลองดูนะครับ”
วีด้าแกล้งจับปืนไม่ถนัด คัชพลยิ้มแล้วอ้อมมากอดวีด้าโดยใช้มือประคองมือวีด้าที่จับปืนอยู่
“ผมช่วยนะครับ”
วีด้าเหลียวมองนิดหนึ่งแต่ไม่ว่าอะไร
คัชพลสอนต่อ “แขนตรง เล็งเป้าให้นิ่ง จนจุดตัดด้านบนเป็นเส้นตรง อย่าให้” คัชพลกระซิบใกล้ๆ “ศูนย์ส่ายออกนอกจุดเล็งนะครับ แล้วยิง”
คัชพลไม่อยากถอยห่าง แต่ก็ตัดใจถอยออก
วีด้ายิ้มแล้วพูดเบาๆ “คราวนี้ขอวีด้าลองยิงเลยนะคะ”
“ครับ” คัชพลหลุดจากภวังค์เลยปล่อยมือ
วีด้าหันกลับไปยิงต่อแบบเข้าเป้าบ้าง ไม่เข้าเป้าบ้าง วีด้าหันกลับมายิ้มทำให้หน้าเกือบชนกับคัชพล คัชพลยิ้ม
คัชพลใส่ที่ปิดหูแล้วยิงแบบมือเดียว มืออีกข้างไขว้หลัง รัวจนหมดแม็ค วีด้าหันมามองคัชพลยิ้ม แล้วปรบมือให้ก่อนยื่นหน้าเข้าไปคุยใกล้ๆ คัชพลมองวีด้าที่มองตาหวานให้ คัชพลยิ้มอย่างหลงใหลในตัววีด้า
คัชพลประคองเอววีด้าเดินออกจากสนามยิงปืน ทั้งสองก้มและกระซิบคุยกันแบบหัวร่อต่อกระซิกกัน
ยศสรัลที่นั่งประชุมอยู่
“ส่วนเรื่องที่บริษัททัวร์เล็กๆหลายแห่ง ขอร้องให้เราลดคอมมิชั่นในแพ็คเกจลงเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงโลว์ซีซั่น ผมไม่อยากให้เราตอบปฏิเสธ เราควรจะดูแลลูกค้าทุกคน ทั้งรายเล็กรายใหญ่ไม่ใช่รอให้บริษัทเล็กๆเติบโตขึ้น แล้วค่อยมาทำดีกับเค้า”
“แต่คุณคัชพลเคยสั่งไว้ ว่าไม่ต้องสนใจลูกค้ารายเล็กถ้าขอส่วนลด ให้ตอบปฏิเสธไปได้เลย” ลูกน้องคนหนึ่งถาม
ยศสรัลนิ่งคิด
“คุณคัชพลเค้าเปลี่ยนใจเหรอครับ”
“ยังหรอกครับ แต่มีอะไรผมจะรับผิดชอบเอง”
ลูกน้องทุกคนยิ้มออก
“คุณสรัลคิดตรงกับพวกเราเลยนะครับ เพียงแต่เราไม่กล้าขัดคุณคัชพล”
ยศสรัลพยักหน้าเข้าใจ
คนส่งเอกสารฟอกเงินเดินเข้ามา บัญชาเดินไปปิดประตูห้องรับจดหมายมาเปิดดู พนักงานบริษัทเดินเข้ามาพูด
“แฟ้มรายงานจากห้องประชุมมาแล้วครับ”
“ใครให้เข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้า ออกไป!” บัญชาโกรธ
พนักงานตกใจกลัวจึงรีบเดินออกไป
“ทำไมยอดคราวนี้มันน้อยนัก” บัญชาถาม
“รายใหม่ยังไม่ไว้ใจเรา กลัวจะถูกจับครับ” คนสนิทบัญชารายงาน
“ชั้นเคยพลาดถูกจับรึไง เงินล็อตนี้มา ชั้นจะไปเจรจาเอง นายไปได้แล้ว”
“ครับท่าน”
บัญชาดูกระดาษในมืออีกครั้งแล้วเดินไปใส่เครื่องทำลายเอกสารทันที แล้วเขาก็กลับมานั่งเปิดแฟ้มที่เพิ่งส่งมา
คัชพลวางแฟ้มรายงานลงบนโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย
“นายบ้าหรือเปล่า รู้ไหมว่าแค่ห้าเปอร์เซ็นต์รวมๆแล้วทั้งปีเราหายไปกี่สิบกี่ร้อยล้านบาท”
“มันก็แค่ช่วงฝน ที่นักท่องเที่ยวมาน้อยนี่ครับไม่ใช่ทั้งปี” ยศสรัลว่า
“นั่นแหละ แต่ถ้าเราลดให้อีกหน่อยพวกนี้มันก็จะยิ่งได้ใจ ถึงยังไงมันก็ต้องง้อเรา”
“ก็เพราะทุกคนต้องง้อเราน่ะสิครับ เรายิ่งต้องรักษาฐานเอเจนซี่ไว้ให้ได้มากและนานที่สุด เพราะจากรายงานของทุกบริษัทที่ยื่นเรื่องเข้ามา เกินครึ่งเป็นบริษัทที่เติบโตแบบก้าวกระโดด แล้วเราจะมองข้ามเขาไปเหรอครับ”
ระหว่างนั้นบัญชาก็เดินถือแฟ้มรีพอร์ตแล้ววางแฟ้มลง
“พ่อเห็นรายงานการขอลดคอมมิชชั่นแล้ว ฝีมือเราเหรอใหญ่”
“เอ่อ...คุณพ่อครับ คือเรื่องนี้”
“พ่อเข้าใจ เราทำถูกแล้ว ต่อไปบริษัทพวกนี้แหละจะช่วยเราได้ในอนาคต” บัญชายิ้ม
“ใช่ครับ อนาคตฐานลูกค้าเราต้องขยายแน่ครับ” คัชพลสวมรอยทันที
“ทำดีมาก” บัญชาตบไหล่คัชพล “สรัล” บัญชาพูดกับยศสรัล “เป็นผู้ช่วยพี่ใหญ่ต้องศึกษาวิสัยทัศน์ของพี่เขาด้วย เรื่องธุรกิจพี่ใหญ่เขามองขาดกว่าเรา”
“ครับคุณพ่อ” ยศสรัลยิ้มรับ
คัชพลยิ้มรับหน้าเจื่อนๆแล้วมองยศสรัล ยศสรัลยิ้มและพยักหน้าให้
ยศสรัลที่กลับจากที่ทำงานเข้าบ้านมาเห็นมณฑิตานั่งคอยอยู่ มณฑิตาเห็นยศสรัลก็ลุกขึ้นดีใจ
“...สรัล”
ยศสรัลยิ้มและทำเจื่อนๆ เพราะทำหน้าไม่ถูก
“มณมารอสรัลน่ะค่ะ” มณฑิตาบอก
“มณมีธุระอะไรเหรอครับ” ยศสรัลถาม
มณฑิตากระเง้ากระงอด “ทำไมต้องมีธุระด้วยล่ะคะ มณก็แค่อยากให้สรัลพามณไปช็อปปิ้ง นะคะๆ”
“ขอเป็นวันหลังนะครับ วันนี้ผมประชุมมาทั้งวันแล้ว อยากพัก” ยศสรัลบอก
สินีเดินเข้ามาพร้อมกับส่งเสียง
“ก็เพราะประชุมมาทั้งวันน่ะสิ หนูมณเลยอยากให้เราไปเที่ยวผ่อนคลายบ้าง”
“คุณแม่ครับ...”
“ไม่เอาน่า หนูมณเค้ามารอตั้งนาน จะทำให้เค้าเสียน้ำใจเหรอไปช็อปปิ้งไปทานข้าว ชั่วโมงสองชั่วโมงจะเป็นไรไป”
ยศสรัลพูดไม่ออกแต่จำต้องยอมทำตาม
“ถ้างั้นผมขอไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะครับ”
ยศสรัลเดินขึ้นบ้านไปอย่างเซ็งๆ มณฑิตายิ้มดีใจ สินีกับมณฑิตาคุยกันเรื่องยศสรัลต่อ
“ถ้าวันไหนตาสรัลดื้ออีกบอกแม่นะ แม่จะจัดการให้” สินีบอก
“ขอบคุณค่ะ”
มณฑิตายิ้มกว้างด้วยสีหน้ามั่นใจสุดๆ
เช้าวันใหม่ เสียงเคาะห้องดังขึ้น วีด้านั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ
“เชิญค่ะ”
โอ๋เปิดประตูเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้
“ดอกไม้จากคุณคัชพลค่ะ มาแต่เช้าเลย”
“ขอบคุณค่ะ” วีด้ารับดอกไม้มา
โอ๋เดินออกไป วีด้าดูดอกไม้แล้วหมุนเก้าอี้หันกลับก่อนจะทิ้งดอกไม้ลงถังขยะ จากนั้นหันมาทำงานต่อ
อ่านต่อตอนที่ 6