สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 7
ใกล้กันนั้น แหววไปหลบสังเกตการณ์ แหววเดินย่องออกมาชะงักมองไป
“แย่แล้ว”
แหววโดดหลบ อารดาเข้ามาหน้าตาแบบมาหาเรื่อง สมรกับหวิน ตามเข้ามาเดินผ่านแหววไป
อีริน่านั่งกินข้าวเงียบๆในห้องที่ทำความสะอาด น้ำตาซึมเล็กๆ
“ใครไม่เข้าใจอีริน่า อีริน่าไม่เสียใจเท่ากับคุณเจตไม่เข้าใจอีริน่า”
อารดากับพวกปรี่มาถึงแกล้งเตะไม้ม็อบที่พิงอยู่ ด้ามไม้ม็อบไปตีหัวอีริน่า
“จะบ้าหรือดันมาวางอะไรเกะกะกีดขวางทางเดิน”
อีริน่าเจ็บ
“โอ๊ะ...ของมันวางแอบอยู่แต่คุณเดินเลี้ยวไปเตะมันเองเมาใบกระท่อมหรือคะ”
“นังบ้า แกนั่นแหละเมาความเลว เมาความโลภ อยากจะตบหน้าด้วยไม้ถูบ้าน”
อารดาสะใจ สมรกับหวิน สะใจสอพลอนาย
“ดีค่ะ”
แหววย่องมาด้านหลัง เอาถังน้ำใส่น้ำยาล้างพื้นลื่นมากๆแอบสาดเต็มน้ำนองเจิ่ง แล้วแหววก็รีบหลบไป อารดากำลังยกเท้าจะถีบ กลายเป็นลื่นถลา
“ว้าย”
สมรกับหวินตกใจมากจับไม่ทัน
“ว้าย...”
สมรกับหวินลื่นหกล้มไปกองอีกสองคน คุณหญิงศรินทิพย์เข้ามาพอดี
“ฉันมาดูผลงาน ต๊าย นั่นอะไรกันลงไปนอนฝึกโยคะกันที่พื้นห้องทำไมกันยะ”
“ระวังค่ะ คุณหญิง”
อีริน่าตกใจ รีบวิ่งจะไปช่วยจับไม่ให้ล้ม อีริน่าถึงตัวคุณหญิงศรินทิพย์ล้มลงไปกลิ้งที่พื้น
“ว๊าย”
อารดาใส่ไฟทันที
“มันแกล้งพวกเราค่ะ มันรอแกล้งคุณแม่ด้วย” อารดากระซิบ คุณหญิงศรินทิพย์ “ทำให้เหมือนมันทำร้ายเราค่ะ เจตมาแล้วค่ะ”
อีริน่าจะช่วยแต่คุณหญิงศรินทิพย์และอารดาปัดอย่างรังเกียจ อีริน่าเซๆไปเจตรินเข้ามาในจังหวะนั้นพอดี คุณหญิงศรินทิพย์รีบร้อง
“ว๊าย อีริน่าแกมาทำร้ายฉันทำไม โอ๊ย เจ็บนะ”
เจตรินโกรธ วิ่งไปที่กลุ่ม
“อีริน่า หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
สามสาวชะงัก อารดาหัวแล่นปร๊าดทำเป็นเอาตัวเองป้องกันคุณหญิงศรินทิพย์จากอีริน่า มือก็ปัดอีริน่าไปด้วย สบตาเชิงนัดแนะกับคุณหญิงศรินทิพย์ไปด้วย คุณหญิงศรินทิพย์รับมุกร้องไปเรื่อยแบบเจ็บที่โดนทำร้าย
“อย่านะอีริน่า อย่าทำร้ายคุณแม่ อย่า โอ๊ย...ร้องสิคะ คุณแม่ร้อง”
“ช่วยแม่ด้วย เจต ช่วยแม่ด้วย อีริน่ามันกลั่นแกล้งแม่ มันจะให้แม่เป็นอัมพาต”
เจตรินมาป้องกันแม่และอารดา ดันอีริน่าออกไป
“หยุดนะอีริน่า”
“คุณเจต” อีริน่าอึ้ง
เจตรินปัดอีริน่า
“ไปเลยนะอีริน่าไปให้พ้นจากแม่ผม”
อีริน่าเซแซดๆไปหน้าเสีย เสียใจ รู้ว่าตัวเองคงไม่มีทางแก้ตัว แหววเข้ามาพอดี หน้าตื่น เห็นชุลมุนกัน
“ตายละวาไปกันใหญ่ ไปกันยาว คุณเจตมาได้ไง มาอัดใส่คุณอีริน่าตาขุ่นตาเขียว”
อารดาลอบส่งสีหน้าสะใจใส่อีริน่า สมรกับหวิน หน้าแหลสุดๆ รีบถลามาช่วยประคอง ทั้งคุณหญิงศรินทิพย์ทั้งอารดาทำราวกับว่าโดนซ้อมหนัก
“คุณเจตคะ...ฟังรีน่าบ้าง...”
“ไม่ฟัง ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมไม่อยากฟัง”
“อีริน่าไม่ได้...”
“ไม่ต้องมาแก้ตัว ผมไม่อยากได้ยินเสียงคุณ ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
เจตรินประคองแม่ไป อารดาส่งหน้าเย้ยสะใจสุดๆให้อีริน่า
“สะใจ...”
สมรกับหวินเป็นลูกขุนพลอยพยักสะใจกันสุดๆ อีริน่าเสียใจมาก แหววผวามาจับมือปลอบใจ
“ไปอธิบายกันคะ แหววเป็นพยานได้”
“ไม่ต้อง คนอย่างเราไม่มีใครฟังไม่มีใครเชื่อคำพูด”
“แล้วทำไมคนอย่างเขาจึงทำขาวให้เป็นดำ ทำดำให้เป็นขาวได้ง่ายๆแบบนี้คะ”
“เพราะเราไร้ค่า แต่เขามีราคา พูดอะไรไปคุณเจตก็ไม่เชื่อ ตอนนี้เขาคงเกลียดฉันมาก”
อีริน่ามองไปทางกลุ่มเจตรินเสียใจ น้ำตาซึม แหววบีบมือปลอบอีริน่า
ในห้องของคุณหญิงศรินทิพย์...เจตรินคุยกับแม่โดยมีอารดาอยู่ด้วย ส่วนสมรกับหวิน นั่งอยู่ที่พื้นห้องห่างออกไป
“เขาจะไปจากที่นี่ แต่แม่นึกถึงเจตพยายามขอร้องจะให้อยู่ต่อ เขาไม่พอใจแม่ ดูเอาเถอะว่าเขาทำกับแม่ยังไง แม่แค่หวังดีแท้ๆ”
“ผมเสียใจ ผมขอโทษแทนเขาด้วยครับคุณแม่”
อารดาขัดขึ้น
“เจตจะต้องขอโทษแทนมัน...เอ๊ย...เขาทำไมคะ เจตไม่เกี่ยวสักหน่อย”
“เพราะเขาเป็นภรรยาผมครับดา”
อารดาหยุดไม่พอใจ สมรกับหวินพลอยไปกับนายด้วย เจตรินหันมาพูดกับแม่ต่อ
“ผมคงต้องคุยกับอีริน่าจริงจังแล้วครับ”
“ขอบใจนะเจตที่เห็นแม่ยังเป็นแม่อยู่ แต่อย่ารุนแรงนะ ลิ้นกับฟันมันกระทบกันเป็นธรรมดา”
หวินแทรกขึ้น
“ผัวเมียตีกันใครอย่าไปแหยมไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นหมา”
คุณหญิงศรินทิพย์ถลึงตาใส่
“นังหวิน เดี๋ยวแกจะกอนวิธเดอะดอก”
“คุณแม่กับดาไปหาหมอนะครับ ผมพาไป”
คุณหญิงศรินทิพย์รีบบอก
“วุ๊ยขอบใจ ไม่ต้องหรอกลูก”
“ผมอยากให้ไปครับ เผื่อมีกระดูกร้าว” เจตรินพูดเสียงแบบยังไงก็ต้องไป
คุณหญิงศรินทิพย์กับอารดาสบตากันแบบจำต้องไป
ในครัว...แหววถูกรุมล้อมซักถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ฉันว่าเราไปตบนังหมอนกับนังหวินก่อนดีกว่า” แหววบอกแค้นๆ
“นี่พวกแกจะสันติกันสักห้านาทีได้มั้ย” ศรีปราม
สามสาวพูดพร้อมกัน
“ไม่ได้”
สามสาวรู้ตัวว่าพูดอยู่กับใครรีบพูดพร้อมกัน
“เฮ้ย...ได้ค่ะ”
“ห้านาทีนะป้า” แจ๋วบอก
จิ๋มบุ้ยใบ้ให้แจ๋ว แหววมองศรี
“ดูหน้านางซะก่อน ดูหน้านางซะก่อน”
ศรีหน้าตาเอาเรื่อง สามสาวยิ้มแหยๆผสมทะเล้น
“แฮ่...แฮ่ะๆ”
“แล้วคุณอีริน่าอยู่ไหนหรือแหวว” ศรีถามอย่างเป็นห่วง
“สงสัยในห้อง คงเสียใจแอบไปร้องไห้ เพราะคุณเจตหูเบาราวกับอากาศ”
จิ๋มถอนใจ
“นี่แหละเขาเรียกว่าเข้าตำราแม่ผัวลูกสะใภ้”
สี่คนพยักหน้ากัน
เจตรินกับอารดาประคองคุณหญิงศรินทิพย์เข้าตึกไปนั่ง สมรกับหวินเข้ามาคอยเสนอหน้า เจตรินส่งถุงยาเล็กๆให้แม่
“คุณแม่อย่าลืมทายาตามที่หมอสั่งนะครับ”
“แหม หมอนี่ก็ ล้มนิดๆหน่อยๆก็ต้องทายา”
“ทำตามหมอนะครับผมเป็นห่วง...ดาด้วยนะครับ”
อารดายิ้มหวาน
“ค่ะเจต ขอบคุณค่ะ ที่เจตห่วงดา”
“หมอนว่าคุณดาต้องเจ็บมากๆเลยค่ะคุณเจต” สมรสอด
“เจ็บกระดองใจด้วยค่ะ” หวินเสริม
“นังบ้า หุบปาก” อารดากระซิบด่า
“ขอบใจเจตมาก อ้อ...ไม่ต้องไปดุว่าหรือทะเลาะกับอีริน่านะ แม่อภัยให้เขาหมดแล้ว”
“ผมกราบขอบพระคุณมากครับ ที่เมตตาอีริน่าครับ”
“จ้า...ลูกรักใครแม่ก็รักตามด้วย...” คุณหญิงศรินทิพย์จูบแก้มลูกชาย
เจตรินกอดแม่หลวมๆ หอมแก้มแม่แล้วไป คุณหญิงศรินทิพย์มองตามปลื้มลูกที่ห่วงใย พอเจตลับตัวไป อารดาเอ่ยชม
“คุณแม่สุดยอด เราสองคนรับส่งมุกกันดีเยี่ยม”
คุณหญิงศรินทิพย์หน้านิ่งลง
“ขอบใจมากนะจ้ะที่ช่วยออกความคิดให้แม่ แต่ถ้าวันไหนความแตก หนูดารับไปเลยนะจ้ะแม่ไม่เกี่ยว”
“ว๊าย คุณแม่”
อารดาลอบทำหน้าหมั่นไส้คุณหญิงศรินทิพย์
“ดาขอตัวนะคะ”
“จ้ะ”
อารดาออกไป คุณหญิงศรินทิพย์หน้าขรึมลง มองตาม พอออกมาได้อารดาก็แหวะเหม็นเบื่อ
“เมื่อไหร่จะตายซะทีอีแก่”
“ยัยแก่หนังเหนียวกินก๋วยเตี๋ยวหนังหมา ตายยากค่ะ” หวินสอด
สามคนแอบหัวเราะกัน
เจตรินเดินไปมาอยู่หน้าห้องน้ำนึกว่าอีริน่าอยู่ในนั้น แล้วรู้สึกนานเกินไป
“เราทำเกินไปไหมนี่ ไม่ยอมฟังอีริน่าพูดบ้างสักคำ อิฐมันพูดถูก อีริน่าอาจมีเหตุผลที่ทำเช่นนั้น เหตุผลอะไรนะ”
เจตรินเคาะประตูห้องน้ำเบาๆ
“อีริน่า”
เจตรินรอฟัง รู้สึกเงียบผิดปกติ ลองขยับลูกบิดประตูไม่ล็อค แต่ยังไม่เปิดเข้าไป
“อีริน่าอยู่ในห้องน้ำหรือ...อีริน่า...อีริน่าผมเข้าไปนะครับ”
เจตรินค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ไม่มีอีริน่า เขาชักเริ่มรู้สึกสังหรณ์ เจตรินออกมาจากห้องน้ำยืนอยู่กลางห้องนอนคิดว่าจะเอาไงดี แล้วเห็นกระดาษขาวพับไว้บนโต๊ะทำงานมีอะไรเล็กๆทับไว้ เขารีบหยิบมาคลี่ดูอ่านจดหมายของอีริน่า หน้าเครียดและใจหาย
“ขอโทษที่เขียนภาษาไทยไม่เก่งค่ะ ไม่ต้องตามหาว่าฉันไปไหน ขอบคุณที่เมตตาช่วยเหลือฉัน ฉันจะไปตามที่คุณไล่ให้ไปให้พ้น ลาก่อน ฉันจะไม่ลืมบุญคุณค่ะ...อีริน่า”
“อีริน่า...ไม่นะ อีริน่าไม่เด็ดขาด...ผมไม่ได้ตั้งใจ”
เจตรินวางจดหมายรีบไปที่ตู้เสื้อผ้าเปิดออกดู เสื้อผ้าของอีริน่าหายไปทั้งหมด เขารีบจะออกนอกห้อง ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูแล้วอารดาเปิดเข้ามาหวิดจะชนกัน
“อุ๊ย จะไปไหนคะ”
“ไปตามอีริน่า”
“อุ๊ย...คงแค่ออกไปเที่ยว เดี๋ยวก็มีคนมาส่งกลับ ทั้งคุณอิฐ ทั้งคุณกมลกันต์ทั้งนายนิกกี้ แล้วใครต่อใครอีกนับไม่ถ้วน อาสาสมัครเยอะแยะไปหมด”
เจตรินไม่สนใจคำพูดอารดา
“ผมไม่สน ผมจะไปตามหาอีริน่า ขอทางด้วยผมรีบ”
เจตรินดันอารดาไปข้างๆ แล้วพรวดออกจากห้องไป อารดายัวะ
“นึกว่าจะโกรธจนไม่เผาผีมันแล้ว ที่แท้ห่วงมันขนาดนี้หรือ บ้าจริง ผีโง่ตนไหนมาสิงนะ”
อารดามองไปที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งยังเปิดอยู่ ในนั้นมีแต่เสื้อผ้าของเจตริน อารดาเดินไปดูให้แน่ใจ
“ขนไปแล้ว...ไปลับอย่ากลับมาหลอนกันอีกนะ”
อารดาเตะตู้เสื้อผ้าอย่างแรง
เจตรินเดินไปพูดมือถือไป
“พี่จี...อีริน่าอยู่กับพี่หรือเปล่าครับ”
จีรณัทย์คุยโทรศัพท์มือถือในห้องพักโรงพยาบาล คุณหญิงพรรณรายสดชื่นขึ้นมากแล้ว นั่งดูแมกกาซีนอยู่ที่โซฟา จีรณัทย์รู้สึกได้จากน้ำเสียงของเจตรินว่าน่าจะเรื่องไม่ดี
“ไม่อยู่จ้ะ มีอะไรเหรอเจต”
คุณหญิงพรรณรายสะดุดใจ
“มีอะไรจ้ะหนูจี เรื่องหนูอีริน่าหรือเปล่า วันนี้ยังไม่เห็นมาเยี่ยมน้าเลย”
จีรณัทย์คุยกับเจตรินต่อ
“เดี๋ยวนะเจต” จีรณัทย์จำต้องโกหกคุณหญิงพรรณราย “ไม่ใช่ค่ะคุณน้า จีขอตัวสักครู่ค่ะ”
“เชิญจ้ะ”
จีรณัทย์ออกไปนอกห้อง
“ว่าไง มีอะไรจ้ะ”
“อีริน่าหายไปครับพี่ ขนเสื้อผ้าไปหมดเลย”
จีรณัทย์ตกใจ
“ตายจริง ถ้าถึงขนาดอีริน่าหนีไปนี่เรื่องใหญ่แล้วนะเจต เจตทำอะไรเขา”
เจตรินอึ้งมากรู้สึกผิด
“แล้วผมจะเล่าให้ฟัง ผมจะตามเขาให้เจอ พี่จีอย่าเพิ่งพูดอะไรกับคุณน้าคุณหญิงพรรณรายนะครับ”
“พี่ไม่พูดแน่นอน เจตปล่อยให้อีริน่าไปได้ยังไง เธอไม่มีใครที่รู้จักที่นี่สักคนนอกจากเจตท่านั้น”
เจตรินกดวางสาย อึ้งมาก
ศรี แจ๋ว จิ๋ม และแหววกำลังทานอาหารอยู่ในครัว เจตรินพรวดเข้ามา
“คุณอีริน่าไปแล้ว เก็บเสื้อผ้าไปหมด”
ทุกคนตกใจ
“อะไรนะคะ”
“คุณอีริน่าพูดอะไรกับแหววบ้าง”
แหววนิ่งสักครู่แบบเอาไงดี แล้วตัดสินใจโกหก
“ไม่ได้พูดค่ะ”
เจตรินจ้องหน้า แหววหน้าใสซื่อมอง เจตรินถอนใจเฮือก
“แหววไม่โกหกฉันนะ”
“ค่ะ”
แหววหวิดๆจะหลุดพูดความจริง หลบตามองจานข้าว
“ขอโทษมาขัดจังหวะ ทานต่อเถอะ”
เจตรินออกไป แหววโล่งใจ ศรีหันมาถาม
“แกไม่รู้จริงๆเหรอว่าคุณอีริน่าไปไหน”
“แต่ฉันรับปากคุณอีริน่าแล้วว่าจะไม่บอกใครว่าเธอบอกอะไรฉัน”
“บอกหน่อยน่า” จิ๋มคะยั้นคะยอ
แหววสั่นหัว
“นิดเดียวน่า” แจ๋วอ้อนวอน
แหววสั่นหัวแรงขึ้น จิ๋มออดอ้อน
“หน่อยเดียวน่า”
แหววสั่นหัวแรงขึ้นอีก สั่นแรงไปหน่อย กับข้าวที่ยังคาบอยู่หลุดจากปาก ทุกคนร้องลั่น
“ว้าย”
เจตรินเลี้ยวรถเร็วออกจากประตูบ้าน รถจิตรดาราสวนมา จิตรดาราตกใจรีบหักหลบ
“ว้าย พี่เจตจะรีบไปไหน เดี๋ยวรถก็ชนกันตายคาหน้าบ้านนี่หรอก”
รถเจตรินพุ่งราวจรวดไปลิบๆ จิตรดาราเลี้ยวเข้าบ้าน
อารดามาหาคุณหญิงศรินทิพย์ที่ห้องเล่าเรื่องอีริน่าหนี
“มันหนีไปแล้วเพราะแผนทีเด็ดของดาค่ะ สะใจมากๆ ช่วยกันดีใจสิคะ คุณแม่”
คุณหญิงศรินทิพย์ลึกๆห่วงนิดหน่อย
“มันจะมีปัญญาไปไหนได้ นอกจากบ้านยัยงพรรณราย ยัยนั่นมันหัวเราะเยาะแม่ตาย”
“ช่างมันเถอะค่ะคุณแม่ มันไม่อยู่เป็นเสี้ยนหนามชีวิตดา...เอ๊ย...ชีวิตเรา ก็พอแล้วค่ะ คุณแม่รีบให้ดาแต่งงานกับเจตเลยนะคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์อึ้งไปโดนจู่โจม คิดไม่ทันว่าจะเลี่ยงยังไง
“เอ้อ แม่ แม่ว่า...”
จิตรดาราเข้ามาพอดี
“ว่าอะไรคะคุณแม่ขา...พี่เจตเขารีบร้อนลนลานไปตามควายหายที่ไหนของเขาคะ ขับรถเร็วยิ่งกว่าไต้ฝุ่นอีก”
“ไปตามเมียเขาน่ะสิ”
อารดาหน้าหุบไปหน่อย จิตรดาราเห็นหน้าสองคนผิดปกติ
“อ้าว...มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
อารดายิ้มน้อยๆ คุณหญิงศรินทิพย์บอกไม่ถูกว่าจะยิ้มหรือจะเซ็งดี
อิฐขับรถไป คุยโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ
“ฉันขับเร็วสุดๆแล้ว เร็วกว่านี้ก็เหาะได้ละ สมน้ำหน้าเตือนแล้วไม่ฟังพังแล้วมาโวยวาย”
เจตรินพูดผ่านบลูทูธ
“ไม่ต้องด่า มีสองที่ที่อีริน่าจะไปคือบ้านพี่กมลกันต์กับกลับรัสเซีย แยกย้ายกันไปดักเธอ”
อิฐชะลอรถจอดพลางพูดพลาง
“ดักเจอเขาแล้วไง นายจัดเต็มเขาซะขนาดนั้น เขาคงยอมกลับหรอกนะ ไอ้บ้า ไอ้คนไม่มีความคิดเรื่องรักๆใคร่ๆ กลายเป็นปัญญาอ่อน สมองฝ่อ”
เจตรินหน้าเสีย
คุณหญิงศรินทิพย์ จิตรดารา อารดา คุยเรื่องอีริน่ากันเสร็จแล้ว อารดากำลังจะออกไป
“สบายใจไร้เสี้ยนหนามตำชีวิต ตำจิตใจ ไปลัลล้าดีกว่าค่ะ”
“เชิญเถิด” คุณหญิงศรินทิพย์พูดเรียบๆ
อารดาจะออกไป จิตรดาราไปอ้อนประจบคุณหญิงศรินทิพย์
“คุณแม่ขา...จิตมีผู้บริหารแทนที่พี่จีมาให้คุณแม่พิจารณาแล้วนะคะ”
รดาชะงักกึกเดาได้ว่าจิตรดาพูดถึงพงษ์ธร แต่ตำแหน่งผู้บริหารที่ว่างอยู่อารดาก็อยากได้ เธอแสร้งทำเป็นพูดเล่น
“หมายถึงพี่ใช่ไหมจ้ะ ขอบใจมาก ที่เห็นความสำคัญของพี่”
“หมายถึงคนที่พี่ดาแนะนำว่าล้ำเลิศไงคะ”
อารดาอุทานเบาๆ
“นังบ้า...เอ้อ...อ้าว จิตมองข้ามพี่ไปได้ไงจ้ะ ตำแหน่งเดิมของพี่จี คุณแม่จองให้พี่แล้วนะ”
“แต่คนนี้พี่ดาเชียร์เองนะคะ บอกเองว่าเก่ง”
คุณหญิงศรินทิพย์แปลกใจ
“นี่ทั้งดาทั้งจิตรู้จักเขาคนนี้เหรอจ้ะ”
ทั้งสองตอบพร้อมกัน
“ค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์แอบแกล้งอารดานิดๆ
“น่าสนใจ ถ้ามาจากยายจิตคงจะไม่เป็นโล้เป็นพายแต่กลายเป็นว่าหนูดาแนะนำ แม่ว่าแม่พอใจนะ ขอบใจมากหนูดา”
“เอ้อ...แต่ว่าน่าจะพิจารณาให้ถ่องแท้ก่อนนะคะ” อารดาเซ็ง
จิตรดาราอ้อน
“คุณแม่ขา ไม่เคยเชื่อใจจิตบ้างสักนิด”
อารดาหันหลังให้แม่ลูก หน้าบึ้งทันทีพึมพำ
“ซ่าไปก่อนเถอะยัยจิต อีกไม่นานแกจะเจ็บจะอายไปจนตาย”
เจตรินกับกมลกันต์ คุยกันที่หน้าบ้านหน้าตาเครียด
“อีริน่าไม่ได้มาที่นี่ ไม่ได้ติดต่อพี่ด้วย มีเรื่องอะไรกันหรือ”
“เรื่องยาวครับ ผมขอไปตามหาอีริน่าก่อนนะครับ กลัวเขาหลงทาง กลัวเขาโดนหลอก ผมมันงี่เง่าเอง ผมผิดทั้งหมด ที่ไม่มีความยับยั้งชั่งใจไม่คิดก่อนพูด”
“พี่จะช่วยตามหาอีริน่า”
“ขอบคุณครับ”
สองคนพยายามคิด
ในท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ รถแอร์พอร์ตลิ้งก์แล่นไปตามทาง อีริน่าอยู่ในหมู่ผู้โดยสาร เหม่อมองไปภายนอก เธอหน้าเศร้ามาก
“คุณเจตขาทำไมใจร้าย ถึงกับไล่อีริน่าได้ลงคอ ไหนสัญญากับแม่พริมว่าจะดูอีริน่า...ใจดำ”
กมลกันต์กับนายพลกันต์คุยกันอยู่ในบ้าน
“ไปรับคุณแม่กลับบ้านกันเลยนะ อย่าให้ใครพูดเรื่องอีริน่าให้เข้าหูซะก่อน” นายพลกันต์กำชับ
“ครับ”
สองคนพยักหน้ารับรู้กัน
อารดานั่งรออยู่ในร้านเครื่องดื่มของนศูนย์การค้า หน้าตาบูด สักครู่พงษ์ธรเข้ามานั่งด้วย
“เธอมาสาย”
พงษ์ธรยิ้มแหย่ๆ
“อย่าบ่นครับคุณป้า เดี๋ยวหน้าแก่เร็วนะ”
“ไม่ต้องมาพูดเล่น ฉันจองตำแหน่งของพี่จีอยู่ แล้วเธอปาดหน้าฉันทำไม”
พงษ์ธรยังยิ้มหล่อ แบบคนหน้าเนื้อใจเสือ
“ผมก็ต้องมีกินมีใช้นะครับดา มีแฟนจากครอบครัวเศรษฐีอย่างเดียวไม่พอหรอก”
“เห็นแก่ได้ เห็นน้ำเงินมากกว่าน้ำใจให้เพื่อนฝูง”
“ใครดีใครได้ มือใครยาวสาวได้สาวเอา จิตรเขาคิดเอง คนยืนพูดกับคนนอนพูดมันต่างกัน อีกหน่อยดาก็ได้นายเจตรินแล้วนี่ นั่นถุงเงินใหญ่ตัวจริงเลยนะ ดาจะเหวี่ยงใส่ผมทำไม”
อารดาฮึดฮัด รู้สึกเหมือนถูกเย้ยเยาะ ไม่รู้จะได้เจตรินมั้ย
“อย่ามากัดฉัน เธอไม่น่าเลวขนาดไม่รู้ว่าไม่ควรกัดมือคนให้อาหาร”
พงษ์ธรไม่ชอบใจแต่ยังยิ้ม รู้ว่าขณะนี้ตัวเองเป็นต่อ
“ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ นะครับดา”
“ปากเสีย”
“เอาเป็นว่าเราวินวินกันนะ ผมจะไม่เปิดโปงดา แล้วจะยังคงช่วยดากำจัดเสี้ยนหนามหัวใจของดา ตราบใดที่ดาไม่เปิดโปงผม”
“ไม่ต้องมาขู่ฉัน”
“ไม่ได้ขู่ครับ”
อารดาเจ็บใจพูดไม่ออกรู้ว่าพงษ์ธรทำเลวได้จริง แต่จำต้องเอาพงษ์ธรไว้ใช้ก่อน พงษ์ธรมองอารดายิ้มๆอย่างผู้ชนะ
“ดื่มน้ำสิ”
อารดาจี๊ดสุดๆที่ตกเป็นรอง
“ไม่...กลัวยานอนหลับแล้วจะโดนลักหลับ”
อารดากระแทกเท้าออกไป พงษ์ธรอมยิ้มมองตามอย่างผู้ชนะ อารดากัดฟันพึมพำอาฆาต
“นังจิต”
“ก็ไม่แน่นะ สักวันฉันหน้ามืด อาจจะลักหลับเธอก็ได้” พงษ์ธรพูดขำๆ
อีริน่าอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ กำลังซื้อมือถือเล็กๆราคาถูกๆกับซิมและเติมเงินใช้ชั่วคราว...เจตรินยืนรออยู่ที่จอดรถอย่างกระวนกระวาย สักครู่อิฐเข้ามา
“รีบไปกันเลย”
“ไหนโกรธเขานักหนาไง รีบจะไปต่อว่าเขาเหรอ”
“หุบปาก ก่อนปากจะเปื้อนสี”
เจตรินรีบเดินลิ่วไป อิฐหัวเราะชอบใจ
อีริน่าอยู่ที่เคาน์เตอร์ขายบัตรโดยสาร พนักงานยิ้มแย้มบอก
“วันนี้เครื่องเต็มทุกไฟล์เลยค่ะ”
อีริน่าผิดหวังมาก
“ของพรุ่งนี้ละคะ”
“พรุ่งนี้ก็เต็มค่ะ...” พนักงานดูหน้าจอ “แต่มีผู้โดยสารที่ยังไม่ยืนยันการเดินทางอยู่สองสามท่านค่ะ ขอชื่อคุณใส่เวตติ้ง ลิสไว้นะคะ เผื่อมีผู้โดยสารท่านใดยกเลิกการเดินทาง”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ขอพาสปอร์ตด้วยค่ะ”
อีริน่าหยิบพาสปอร์ตจะให้แล้วชะงัก นึกได้ว่าเจตรินอาจเช็คเจอ
“เอ้อ...ไม่ต้องละกันค่ะ ให้เบอร์มือถือไว้ หากมีที่นั่งคุณช่วยโทรบอกได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
อีริน่าดูซองใส่ซิมมือถือ จดใส่กระดาษส่งให้
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ยินดีค่ะ”
อีริน่าเก็บพาสปอร์ตพลางเดินพลาง เจตรินกับอิฐเดินเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสารขาออก อีริน่าเดินออกไปด้านหนึ่งต่างฝ่ายต่างไม่เห็นกัน เจตรินกับอิฐไปที่เคาน์เตอร์สอบถามรายชื่อผู้โดยสาร
กมลกันต์กับจีรณัทย์ประคองคุณหญิงพรรณรายเข้าบ้าน นายพลกันต์เดินตาม สาวใช้หิ้วสัมภาระตามหลังสุดแล้วแยกเอาไปเก็บ คุณหญิงพรรณรายนั่งลง
“ทำไมทุกคนดูเงียบๆ”
“บ้านเราก็เงียบๆกันแบบนี้มานานแล้วนะครับ”
“จริงสิ มันเงียบมาตั้งแต่พรรณวดีจากไป”
กมลกันต์ นายพลกันต์ จีรณัทย์สบตากัน
“นั่นไง สบตากันมีนัย มีอะไรจริงๆ บอกมานะ” คุณหญิงพรรณรายคาดคั้น
ทุกคนสบตากันอีก
มุมหนึ่งในสนามบิน ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน อีริน่ากดมือถือโทรออก...แหววอยู่ในบ้านมือถือดังขึ้น แหววหยิบมารับ
“ฮัลโหล ฉันเองแหวว”
แหววหรี่เสียงเบา เหลียวมองรอบตัวนิดหน่อย
“ได้...คุณอีริน่าอยู่ที่ไหน คุณเจตเป็นห่วงมากๆเลยค่ะ”
อีริน่าเศร้าลง
“ขอบใจที่แหววเป็นห่วง ฉันอยู่ในที่ที่ปลอดภัยดี”
“คุณอีริน่าอย่าโกรธคุณเจตเลยนะคะ”
“แต่เขาโกรธฉันเกลียดฉัน โทรมาบอกว่าอย่าห่วงเท่านั้นเองแหละ”
“เดี๋ยวคะ ตอนนี้คุณเจตออกตามหาคุณให้ควั่ก ทำราวกับว่าอยากจะลาโลก”
“เขาเสแสร้ง ถ้าเจอฉันเขาก็จะด่าอีกไล่อีก เขาตามหาเพื่อจะด่ากันเท่านั้นเอง”
อีริน่ากดตัดสาย หน้าเศร้าเหงา
เจตรินและอิฐอยู่ที่เคาน์เตอร์สอบถามรายชื่อผู้โดยสาร
“ไม่มีผู้โดยสารชื่อนี้เดินทางวันนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะชื่ออีริน่า นิคาลาเยฟน่าหรืออีริน่า ไอศูรย์ศรินทร์” พนักงานยืนยัน
เจตรินหน้าสลด
“โธ่”
“แปลว่าอีรินายังไม่ได้ไปมอสโคว์”
อีกมุมหนึ่งห่างจากเจตรินและอิฐ อีริน่านั่งซุกอยู่ในจุดที่ไม่ค่อยมีผู้คน กำลังทานแซนด์วิช เธอชะงัก เจตรินและอิฐเดินผ่านไปในระยะห่าง อีริน่าพึมพำ
“คุณเจต คุณอิฐ”
อีริน่ารีบหลบไปเข้าอีกซอกที่มีอะไรบังมากกว่าเดิมมองตามเจตรินและอิฐหน้าเศร้า...เจตรินหน้าขรึมเครียด
“มีใครมาเคาน์เตอร์เพื่อจองที่นั่งบ้างไหมครับ”
“เอ้อ มีค่ะ”
“ขอชื่อให้ผมได้ไหมครับ”
“เธอไม่ได้ให้ชื่อค่ะ ถึงเธอให้ก็บอกไม่ได้ค่ะ”
“เธอ...” อิฐชะงัก
“อีริน่า” เจตรินมั่นใจ
สองคนพูดพร้อมกัน
“ใช่แล้ว”
เจตรินรีบหันไปถามพนักงานต่อ
“แล้วจะติดต่อเธอยังไงครับถ้ามีที่นั่ง”
“เธอให้เบอร์มือเธอไว้ค่ะ”
“ขอให้ผมได้ไหมครับ”
“ความลับของผู้โดยสารเอามาเปิดเผย ดิฉันจะมีความผิดค่ะ”
“แต่ถ้าคุณสามารถทำให้ภรรยาที่กำลังจะหนีสามีไป ได้กลับมาทำความเข้าใจกัน คุณจะมีคุณมหันต์ ที่ทำให้ครอบครัวของผมไม่แตกแยกครับ เธอคนนี้ถ้าไปถึงรัสเซียเธอจะโดนมาเฟียดักทำร้าย นี่ยังไงครับผมเอาความลับของราชการมาเปิดเผยแล้ว ได้โปรด”
พนักงานมองเจตริน ครุ่นคิด
“ขอเบอร์มือถือของคุณให้ดิฉันดีกว่าค่ะ ถ้าภรรยาคุณได้ที่นั่ง ดิฉันจะบอกไปค่ะ”
เจตรินยกมือไหว้พนักงานซึ่งยกมือตอบแทบไม่ทัน
จีรณัทย์ คุณหญิงพรรณรายและนายพลกันต์นั่งอยู่ด้วยกันในบ้าน
“ยังไม่มีใครตอบแม่” คุณหญิงพรรณรายสีหน้ายังคาดคั้นจะเอาความจริง
กมลกันต์ถือจานใส่ขนมเข้ามา
“พวกเรายินดีที่คุณแม่กลับบ้านคร้าบ”
นายพลกันต์ยิ้มแย้มบอก
“นี่ไงล่ะ ความลับของพวกเราที่พวกเราต้องเงียบไว้ไงคุณ”
คุณหญิงพรรณรายค้อนสามี ยังไม่เชื่อนักแต่ทั้งสองคนเห็นชัดว่าปลื้ม
“ไม่ต้องมากลบเกลื่อนเลย ไม่เชื่อ”
“จริงๆค่ะคุณน้า” จีรณัทย์ช่วยยืนยัน
“ขนมเพื่อสุขภาพครับ”
“ขอบใจมากจ้ะลูกรัก”
คุณหญิงพรรณรายจูบแก้มกมลกันต์กับ จีรณัทย์ ขณะที่นายพลกันต์ต่างโล่งใจ
เจตรินกับอิฐยังอยู่ที่เคาน์เตอร์สอบถาม
“เครื่องไปมอสโกออกหมดทุกไฟล์แล้วค่ะ ไม่มีคุณอีริน่าแน่ค่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ ขอโทษด้วยที่รบกวน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีค่ะ”
เจตรินออกเดิน ยิ่งกังวล
“เขาไปอยู่ไหนนะ”
“ไปให้พ้นๆแกน่ะสิ”
ทั้งสองคนพากันกลับไป โดยไม่รู้ว่าอีริน่ากอดกระเป๋าหลับอยู่มุมลับตา
กมลกันต์กับจีรณัทย์เดินออกจากตึกไปที่รถ
“กมลกันต์จะทำไงต่อคะเรื่องอีริน่า”
“ผมยังหวังว่าอีริน่าจะติดต่อมาครับ แต่หากอีริน่าหายไปหลายวัน ผมคงต้องบอกคุณแม่ เพราะคุณแม่ต้องถามถึงอีริน่าแน่”
“อีริน่าอาจแค่หลบไปทำใจนะคะ”
“ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้นครับ แต่อีริน่าไม่มีใครอื่นที่รู้จักนอกจากพวกเรานะครับ”
จีรณัทย์อึ้งไป ห่วงอีริน่ามาก
“ขอให้อีริน่าติดต่อมาเร็วๆทีเถอะ”
สองคนไม่สบายใจ
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 7 (ต่อ)
ค่ำนั้น นายพลกันต์ประคองคุณหญิงพรรณรายนั่งในห้องนอน
“คุณกับลูกมีเรื่องปิดบังฉัน” คุณหญิงพรรณรายโพล่งขึ้นมา
นายพลกันต์ไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่หัวเราะแหะๆ
“คุณกับลูกไม่เคยโกหกฉัน ไม่บอกฉันวันนี้ก็ไม่ต้องบอกตลอดชีวิตเลยนะ”
“โธ่...คุณหญิง...”
นายพลกันต์จ๋อยมาก ไม่รู้จะเลี่ยงอย่างไรซึ่งในที่สุดก็บอก
เจตรินเดินขรึมเข้าบ้าน อารดาวิ่งถลาเข้ามากอดแขน
“เจตขา...”
เจตรินพยายามแกะมือ แต่อารดากอดเหนียวแน่น
“นั่งพักเหนื่อยก่อนสิคะเจต ดื่มอะไรเย็นไหมคะ ผ้าเย็นเช็ดหน้าซะหน่อยนะคะ”
อารดาพยายามลากไป เจตรินนิ่งขืนตัว
“ไม่เป็นไรครับดา ปล่อยผมเถอะครับ”
“น่า...นะคะเจต พักแป๊บนึงนะคะ”
ทันใดนั้นมีมือเข้ามากระชากมืออารดาออกจากเจตริน เจ้าของมือนั้นคือจิตรดาราที่แต่งตัวทันสมัยสมความร่ำรวยจะออกไปเที่ยวผับ เจตรินรีบไป จิตรดาราหันมาหาอารดาพูดจากัดแบบหวานๆ
“ผู้ชายเขาเหม็นเบื่อแล้วยังจะตื๊ออยู่ได้”
“ยัยจิตพูดจาระวังหน่อย” อารดาโกรธ
“พี่ดานั่นละค่ะทำอะไรระวังหน่อย นึกเหรอว่าคุณแม่ถือหางอยู่ ระวังจะโดนตัดหางปล่อยวัด”
“พูดว่าอะไรนะ”
อารดากระชากไว้ จิตรดาราสะบัดหลุด
“อย่าวางอำนาจกับจิตนะคะพี่ดา อย่าลืมว่าจิตเป็นเจ้าของบ้าน พี่ดาเป็นแค่ คน-อา-ศัย เป็นคนอาศัยที่เจ้าของบ้านเขาไม่ได้เชื้อเชิญซะด้วย”
อารดาโกรธมาก
“ยัยเด็กใจแตกปากเสีย อย่าซ่ากับฉันให้มากนัก ไม่งั้นเธอจะรู้ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิด”
“อุ๊ย กลัวจังเรย...ค่ะ ลองแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ดูเป็นตัวอย่างหน่อยสิคะ”
อารดาแค้น แต่ต้องสะกดใจสุดๆ
“พี่จะถือว่าไม่ได้ยินที่จิตพูดก็แล้วกัน”
“จิตก็จะถือว่าไม่ได้ยินพี่ดาพูดเหมือนกันค่ะ แฟร์ดีมั้ยคะ”
อารดาจ้องจิตรดาราอย่างโกรธ จิตรดารามองตอบท้าทาย ยั่วประสาท เสียงมือถือจิตรดาราดังขึ้น เธอกดรับเสียงหวาน
“กำลังจะออกแล้วค่ะ...ได้ค่ะ เดี๋ยวจิตแวะกดเอทีเอ็มโอนเงินให้ค่ะ หรือไม่จิตก็จ่ายด้วยบัตรเครดิตของจิตได้ค่ะ วงเงินเหลืออีกเยอะแยะ...ค่ะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ”
ระหว่างจิตรดาราพูด อารดาหน้าตาสะใจเพราะจิตรดาราเริ่มโดนพงษ์ธรไถเงิน
“ระวังนายพงษ์ธรสูบด้วยล่ะ อย่ารีบป่องเร็วนักนะจ๊ะ”
“เหมือนที่พี่ดาอยากรีบป่องกับพี่เจตใช่มั้ยคะ รับรองค่ะ จิตจะระวังให้มาก...ที่สุดเลยค่ะ...ระวังพี่เจตของจิตจากพี่ดาหรอกนะคะ”
จิตรดาราเดินไปหน้าตาร่าเริงมีความสุข อารดาโกรธจี๊ด
“นังจิตรดาราฉันจะรอเหยียบแกซ้ำ ตอนที่แกโดนนายพงษ์ธรสูบเงินจนหมดตัวแล้วเฉดหัวทิ้ง”
คอมเพล็กซ์หรูทันสมัยที่มีผับไฮโซกลางคืน...จิตรดาราเดินเข้ามาในล็อบบี้ ชะงักเพราะเห็นเมทินี จิตรดาราเข้าไปหา
“พี่เม...หวัดดีค่ะ...เที่ยวที่นี่ประจำเหมือนกันเหรอคะ”
“ก็บ่อยอยู่จ้ะ”
“ทำไมวันนี้ไม่มีพี่ดากับพี่ลิตาล่ะคะ”
“พี่มากับคุณเขมชาติจ้ะ”
จิตรดาราเดาได้จากท่าทางเมทินีว่าเป็นหนุ่มคนใหม่แน่
“เอ๊ะ หนุ่มคนใหม่ละสิคะ ทิ้งเพื่อนเลย”
“จิตล่ะจ้ะ มาคนเดียวได้ไง ทุกทีต้องเห็นนายนิกกี้ประกบแจ”
“นั่นเก่าแล้วค่ะพี่ เดี๋ยวคอยดูคนใหม่ของหนูละกัน”
มิคาอิล พงษ์ธร เขมชาติกำลังมองจิตรดาราและเมทินี มิคาอิลมองทั้งสองสาวอย่างพอใจ
“สินค้าเกรดเอทั้งสองคนเลย”
เขมชาติยิ้ม
“พวกผมเคยทำให้คุณผิดหวังที่ไหน”
“เด็กของผมนี่ขอผมใช้งานอีกระยะนะครับ” พงษ์ธรรีบขอ
มิคาอิลยิ้มรับ
“ได้ไม่นานนะ เพราะผมจะให้เป็นสินค้าส่งออกทั้งสองคน”
“ไป...อย่าให้สุภาพสตรีคอยนาน” เขมชาติชวน
มิคาอิล เขมชาติ พงษ์ธรเข้ามาหา เมทินีหันมาบอกจิตรดารา
“มาและ ตัวใหญ่ๆนั่นละคุณเขมชาติ”
“แล้วขาวหล่อนั่นละค่ะคุณพงษ์ธร คนใหม่ของจิต”
“โธ่เอ๊ย นึกว่าใคร ที่แท้ก็เพื่อนพี่เอง”
“จริงดิ...จิตก็ลืมนึกไปว่าพี่เมน่าจะรู้จักแล้ว คุณพงษ์สนิทกับพี่ดา”
มิคาอิล พงษ์ธร เขมชาติมาถึง พงษ์ธรยิ้มแย้มทักทาย
“สวัสดีสาวๆ รู้จักเพื่อนผมหน่อยนะ นี่คุณมิคาอิลนักธุรกิจใหญ่จากมอสโก...”
ทั้งกลุ่มทักทายกัน
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยามเช้า อีริน่าหลับสนิทอยู่ในซอก สักครู่เสียงมือถือดัง เธองัวเงียตื่นรับสาย
“สวัสดี” อีริน่าพูดภาษารัสเซีย
เสียงพนักงานดังมาเป็นภาษาไทย
“โทรจากสายการบินนะคะ คุณที่ให้เบอร์ไว้รอตั๋วใช่ไหมคะ”
อีริน่าดีใจมาก
“ใช่ค่ะใช่ อีริน่าค่ะ”
เจตรินกำลังทำงานอยู่ในห้องทำงานที่กระทรวง สักครู่มือถือดังขึ้น เขากดรับสายของอิฐที่โทรมาถาม
“ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงหรือยัง จะได้ไปแจ้งความคนหาย”
“ฉันไปเองได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมง”
อิฐกดตัดสาย เจตรินวางมือจากงาน หน้าตายังไม่แน่ใจว่าจะแจ้งความดีหรือไม่
“อีริน่า ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอเลย ผมคงเสียใจไปจนตาย”
เสียงมือถือของเจตรินดังขึ้นอีก เขาตะครุบมารับ
“ฮัลโหล ครับ ครับ”
เจตรินวางสายยิ้มดีใจมาก
“อีริน่า เธอจะหนีผมไปรัสเซียไม่ได้เด็ดขาด”
เจตรินพรวดพราดออกไปจากที่นั่นทันที
พงษ์ธรขับรถของจิตรดาราเข้ามาจอดข้างบ้าน
“รถผมถูกชน ต้องเข้าอู่”
“เอารถจิตไปใช้สิคะ”
พงษ์ธรจุ๊บแก้ม
“ขอบคุณครับที่รัก แหมผมเกรงใจจัง”
จิตรดาราเอาบัตรใบหนึ่งส่งให้
“นี่บัตรเติมน้ำมันที่ปั๊มประจำของบริษัทของจิตค่ะ”
“ขอบคุณครับท่านผู้บริหาร”
“ผู้บริหารน่ะคุณพงษ์ค่ะ จิตบอกคุณแม่แล้วค่ะ จิตจะนัดให้เจอกับคุณแม่นะคะ”
“ครับ ขอบคุณมากที่รัก”
จิตรดาราลงจากรถ พงษ์ธรมองตาม อมยิ้มเล่ห์ร้าย สมใจ
อารดายืนยิ้มร้ายที่สนามหน้าบ้านมองทางประตู เห็นตลอดว่าพงษ์ธรขับรถจิตรดาราออกไป จิตรดาราเดินเข้ามา
“สวีตกันข้ามวันข้ามคืนเลยเหรอจ้ะ”
“อีกไม่นานจะข้ามภพให้ดู นี่ตั้งใจมารอกัดกันหรือ แปลงกายเป็นคุณแม่ จิตตั้งแต่เมื่อไหร่”
คุณหญิงศรินทิพย์ออกจากตึก
“ยายจิต หายไปไหนมาทั้งคืน”
จิตรดาราเข้าไปอ้อนแม่
“จิตไปงานวันเกิดบ้านเพื่อนค่ะ เผลอดิ้นสนุกไปหน่อยเดียว สว่างเลย”
“เมื่อไหร่จะเลิกเที่ยวแล้วมาช่วยแม่ทำงานซะที”
“ก็จิตหาผู้บริหารคนใหม่ให้คุณแม่ได้แล้วไงคะ คุณแม่จะดูตัว...เอ๊ย...สัมภาษณ์เขาเมื่อไหร่ละคะ”
อารดายิ้มเหยียดเย้ย
“ก็รีบพาไปที่บริษัทสิ...นี่รถจิตไปไหน”
จิตรดาราโกหกหน้าตาเฉย
“เข้าอู่ค่ะ”
อารดาได้ทีกัดเลย
“อู่อะไรคะ รับรถกันตอนดึกดื่นเที่ยงคืน”
จิตรดาราอึกอัก อารดามองเย้ย คนขับรถเปิดประตูให้คุณหญิงศรินทิพย์ขึ้นรถแล้วขับออกไป จิตรดาราหันมาเอาเรื่องอารดา
“จะเล่นกับจิตใช่มั้ยพี่ดา”
อารดาหน้าตาเหยียดเย้ยความอ่อนโลกของจิตรดารา
“ช่างบริการถึงที่ขนาดนี้ต่อไปอาจได้เลื่อนเป็นผู้บริหารละสิ ระวังเถอะ”
“สำหรับจิต ต่อให้เป็นขอทานจิตก็ยกเป็นผู้บริหารได้ ถ้าจิตพอใจ แต่ถ้าไม่พอใจ...พี่ดาใส่ร้ายพี่จีมาแล้วแต่กับจิตลำบากค่ะ คนมีพ่อล้มละลายนี่ควรพิจารณาตัวเอง คุณแม่ถือตัวจะตายไป ลูกเพื่อนรักก็เถิด ทำคุณแม่อายขายหน้า เธอไม่เอาแน่”
อารดาแค้นแต่จำต้องเก็บ
“เรื่องนายพงษ์พี่เตือนเพราะหวังดีนะจ๊ะจิต เผื่อใจไว้บ้าง เทพบุตรอาจกลายร่างเป็นแมงดาปีกทองฝังเพชร”
“ไม่ต้องยุ่งกับชีวิตจิต คอยเตือนตัวเองดีกว่าว่าถ้าลงทุนหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ตื๊อผู้ชายถึงบ้าน แล้วเขาไม่ชายตาแล น่าจะรีบหาฤกษ์ขนข้าวของออกจากบ้านเขาซะ เจ้าของบ้านเขาจะได้ล้างซวยล้างเสนียดบ้านสักที”
อารดาโกรธปรี๊ด
“แก...นังจิต”
อารดาตบ จิตรดาราจะตบกลับ อารดาฉวยข้อมือบิด
“นังดา...โอ๊ย”
“ไม่รู้จักฉันดีก็อย่ากำแหงกับฉัน ที่ยอมให้ทุกวันนี้เพราะเห็นว่าเป็นน้องสาวเจต แต่อย่าให้ฉันปรอทแตก ทั้งครอบครัวเธอจะแหลกเพราะมือฉัน จำเอาไว้”
อารดายันจิตโครม ลงไปกองกับสนาม
“โอ๊ย...อีพี่ดา”
“อยากจะฟ้องแม่ฟ้องพี่ฟ้องแฟนก็เชิญนะ จะได้เปิดหน้ารบกันจริงจังซะทีทั้งๆที่ฉันไม่อยากรังแกเด็กนี่ละ”
อารดาหันเดินไป จิตรดารากระโจนเข้าเล่นงาน อารดาระวังอยู่แล้วใช้วิชาต่อสู้อัดจิตรดาราไปสองสามดอกจนจุก
“เห็นหรือยังคะคุณน้องว่าเขี้ยวเล็บพี่มีรอบตัว อย่าซ่ากับพี่อีก เพราะพี่จะทำอย่างที่บอกไว้ เล่นงานทั้งตระกูล คุณแม่ของน้องก็มีแผลให้คนเขาชำแหละได้อยู่นะ อยากลองของอยากให้แม่เดือดร้อนก็เอาเลย” อารดาขู่ไปอย่างนั้น
จิตรดาราแค้น
“นังมารร้าย”
“ใช่...เพิ่งรู้เหรอ แต่รู้ช้าก็ยังดีกว่ารู้เมื่อสายไปนะจ๊ะ”
อารดาออกไป จิตรดารายังจุกมาก หวั่นๆเรื่องแม่
“คุณแม่ คุณแม่ไปทำอะไรให้นังพี่ดามันขู่ได้”
อีริน่ายืนแปรงฟันล้างหน้า หวีผมอยู่ในห้องน้ำ น้ำตาคลอ
“คุณเจตขา อีริน่าจำใจต้องจากไป ทั้งที่หัวใจของอีริน่ากลับตกค้างอยู่ที่นี่ แม้รู้ว่าคุณผลักไส แต่ใจของอีริน่าก็ไม่อาจผละจากคุณได้ลาก่อน ลาแต่กาย หัวใจยังอยู่ที่คุณ”
อีริน่าน้ำตาร่วงเผาะ รีบหยิบทิชชูมาเช็ด แล้วสำรวจหน้าตาต่อ
คุณหญิงพรรณรายคุยกับนายพลกันต์อย่างจริงจัง
“ถึงหนูอีริน่าจะไม่กลับรัสเซียฉันก็จะไป ฉันยังมีความหวังอยู่เสมอว่าจะเจอพรรณวดีที่นั่น”
“ผมยินดี แต่คุณต้องพักให้หายดีก่อนนะ”
คุณหญิงพรรณรายนิ่ง หน้าตาดื้อๆ
“ก็ได้ แต่ถึงวันที่ฉันหายแล้ว คุณก็อย่าโยกโย้ทีเดียว”
เจตรินมานั่งซุ่มดักรออีริน่า กวาดตามองไปที่ผู้คนทยอยมาเช็คอินแต่ยังไม่มีอีริน่า
“ทำไมอีริน่ายังไม่มาเช็คอิน”
อีริน่าโทรศัพท์หาแม่พริมที่มุมหนึ่งใกล้ห้องน้ำ
“ฮัลโหล ขอพูดกับแม่พริมค่ะ”
“พริมไม่อยู่ ไปปารีสกับมาดาม ใครพูดคะ”
“อีริน่าลูกสาวแม่พริมค่ะ ช่วยบอกแม่ด้วยนะคะ ว่าอีริน่าโทรมาค่ะ”
“ค่ะ”
“ขอโทษ มาดามจะกลับมาวันไหนค่ะ”
“อีกสองวันค่ะ”
อีริน่าวางสายผิดหวัง
“แม่พริมไม่อยู่ แย่จริง แล้วเราจะไปที่ไหนถึงจะปลอดภัยจากคนพวกนั้นหรือว่าเลื่อนตั๋วไปอีก ให้ไปถึงมอสโคว์วันที่แม่พริมกลับมาจากปารีส”
อีริน่ารู้สึกไม่สบายใจ
เจตรินมาที่เคาน์เตอร์เช็คอิน
“คุณอีริน่าเธอได้ตั๋วแล้วค่ะ” พนักงานบอก
เจตรินดีใจ มีความหวัง
“อีริน่า”
เจตรินกำลังจะหันกลับมา พนักงานพูดขึ้น
“แต่...”
เจตรินไม่ฟัง รีบร้อนจะไปดักอีริน่าที่หน้าห้องผู้โดยสารขาออก อีริน่าเดินมาพอดี ชะงัก
“คุณเจต”
อีริน่าหลบแอบซ่อน ไม่ยอมให้เขาเห็น อีริน่าน้ำตานอง...เจตรินเดินจากไปหน้าเศร้ามาก
“อีริน่า ไม่รู้ตัวบ้างเหรอว่าผมรักเธอเต็มหัวใจ ผมฝากหัวใจของผมไปไว้กับเธอตั้งแต่วันแรกที่พบกันและรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงแล้ว”
เจตรินถอนใจ เดินห่างออกไป อีริน่ามองตามหลังน้ำตาไหลพราก
“ลาก่อนค่ะ อย่ากลับมาที่แอร์พอร์ทอีกนะคะ อีริน่าต้องนั่งหลับคาเก้าอี้แถวนี้ไปอีกสองวัน เพื่อรอให้แม่พริมกลับมาจากปารีสก่อน อีริน่าสาบานว่าจะไม่กลับมาเมืองไทยอีกแล้วค่ะ”
อีริน่ามองตามเจตรินจนลับสายตา
จิตรดาราเปิดตู้เย็นรีบรินน้ำส้มคั้นใส่แก้วเพราะอยากยา เธอมองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใคร แล้วรีบเอาหลอดจิ๋วๆใส่ยาเสพติดออกมาเหยาะยาใส่น้ำส้ม คนให้เข้ากัน กำลังจะยกน้ำส้มดื่ม มืออารดาเข้ามาฉกหลอดยาเสพติดไป จิตรดาราตกใจมากแทบลืมการอยากยา อารดามองอย่างผู้อยู่เหนือมาก รู้ว่าหลอดแบบนี้คือยาเสพติดชูหลอดยายั่ว
“อะไรเอ่ย”
จิตรดาราหวั่นไหวมาก ที่อารดารู้ความลับ
“เอาคืนมานะพี่ดา”
“บอกมาก่อนสิจ้ะคุณน้องสาว ว่านี่อะไร เอ...หรือจะใช้คำว่าสารภาพดีนะ”
จิตรดาราดื่มน้ำส้มพรวด
“จะเอายังไง”
“อย่าทำเสียงแข็งใส่พี่จ้ะ นี่คงไม่ใช่ยาแก้ปวดฟันมั้งจ้ะจิต”
“พูดอย่างนี้แสดงว่าพี่ดารู้แล้วนี่คะ พูดมาเลยดีกว่าว่าต้องการอะไร”
“จิตควรจะดีใจนะที่พี่รู้ความลับของจิต ไม่ใช่คุณแม่ ไม่ใช่เจต”
จิตรดารากลัว แต่แข็งไว้ก่อน
“ไม่ต้องมาขู่”
“พี่จะไม่ขู่นะจ๊ะ จะพูดกับจิตดีที่สุดเลย หนึ่ง...อย่าขวางพี่เรื่องเจต สอง...อย่าขวางพี่เรื่องงานที่พี่จะทำแทนพี่จี และ สาม...หยุดอวดดีกับพี่ หยุดข่มพี่อย่างเด็ดขาด”
“จะคิดดู...แต่พี่ดาระวังนอนๆอยู่จะเกิดอาการไม่หายใจเพราะถูกปาดคอก็แล้วกัน”
อารดาหัวเราะอย่างไม่กลัว
“จะรอจ้ะ...เรื่องงานจิตทำให้เนียนๆหน่อยก็ได้จ้ะ พานายพงษ์ไปพบคุณแม่ก่อน อย่างน้อยคุณแม่ก็ได้เห็นหน้าว่าที่ลูกเขย แล้วจิตค่อยทำให้นายพงษ์หลุดโผงานไป”
“แต่ถ้าคุณแม่รับคุณพงษ์ทำงาน ถือว่าจิตไม่เกี่ยวนะ”
“ถือว่าเกี่ยว เพราะจิตสามารถทำให้พงษ์ไม่ได้งานได้ จิตย้ำกับพี่อยู่ตลอดนี่ว่าจิตเป็นเจ้าของบริษัท”
จิตรดารานิ่ง เจ็บใจ อารดายิ้มอย่างผู้ชนะ โยนหลอดยาลงบนโต๊ะ จิตรดารารีบเก็บ
“เก็บซ่อนให้ดีๆล่ะ อย่าให้ความลับแตกกับคนอื่นอีก”
อารดาหัวเราะเย้ย แล้วไป จิตรดารามองตามอย่างอาฆาต
“แกจบศพไม่สวยแน่นังอารดา”
พงษ์ธรเดินอี๋อ๋อกับเชอร์รี่ในศูนย์การค้า เสียงมือถือดังขึ้น พงษ์ธรดูหน้าจอเห็นว่าจิตรดาราโทรมาก็กดรับ
“ครับ”
“จิตจะคุยเรื่องงานค่ะ”
“สักครู่นะครับ” พงษ์ธรเอามือปิดไม่ให้เสียงเข้ามือถือ “เชอร์รี่จ๋า...มีสาวโทรมาเรื่องงาน ผมขออนุญาตไปคุยหน่อยนะครับ”
เชอร์รี่ทำท่าขู่ๆน่ารักมากกว่าน่ากลัว
“สาวเหรอ”
“สาวเลขาของบริษัทน่ะจ้ะ เชอร์รี่เดินดูของไปก่อนนะครับ”
พงษ์ธรเดินห่างเชอร์รี่ไป
“ครับจิต คิดถึงจิตจังเลยครับ”
จิตรดาราต่อว่า
“คิดถึง แต่ให้จิตรอพูดตั้งนาน ทำอะไรอยู่เหรอคะ เสียงเหมือนคุณพงษ์เดินห้างอยู่เลย”
“จิตเก่งจัง ผมมาหาซื้อเสื้อสำหรับทำงาน”
จิตรดาราจ๋อยไป พงษ์ธรรู้ทันทีว่าไม่ได้งาน แต่ไม่เดือดร้อน ไม่อยากทำงานแบบนั่งในบริษัทนัก ที่อยากเข้าไปเผื่อมีโอกาสยักยอกเงิน จิตรดาราโกหก
“คุณแม่บอกว่าตำแหน่งงานของพี่จี คุณแม่จะให้พี่เจตดูแลแทนค่ะ”
“คุณแม่ทำถูกแล้วครับ งานตำแหน่งสำคัญต้องเก็บไว้ให้คนในครอบครัวก่อนละครับ”
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจ แล้วเมื่อไหร่เราเจอกันอีกคะ” จิตรดาราดีใจ
พงษ์ธรมองทางเชอร์รี่ที่หน้าหงิกแล้วเพราะรอนาน
“ไว้ผมโทรหาจิตนะครับ”
“จิตจะรอนะคะ แล้วคุณพงษ์อย่าลืมยาของจิตด้วยนะคะ จะหมดแล้วค่ะ”
“ได้ครับ จิตเตรียมเงินไว้ด้วยนะครับ”
“ค่ะ...จิตก็คิดถึงคุณมากค่ะ”
จิตรดารากดตัดสายอย่างมีความสุข...พงษ์ธรไปที่เชอร์รี่
“คุยงานอะไรนานจัง ยังกะจีบสาว”
พงษ์ธรโอบเอาใจ
“ผมจะปฏิเสธเขาครับ ลำบากใจมาก เลยต้องคุยนานหน่อย” เขาจุ๊บแก้มเธอเบาๆ “ขอโทษนะครับ”
เชอร์รี่หน้าสดชื่นขึ้นแต่ยังทำเป็นกระเง้ากระงอด พงษ์ธรอ้อนง้อ
ในห้องนอน เขมชาติถือถาดอาหารเดินไปที่โต๊ะอย่างเอาใจ เมทินีสวมเสื้อผ้าหลวมๆลุ่ยๆ ดูสวยเซ็กซี่ เขมชาติป้อนอาหารให้
“เอ้า...อ้ำ...”
เมทินียิ้ม เคี้ยวอาหารช้าๆ ตามองเขายั่วยวน เขมชาติชี้ๆทำนองอย่ายั่วนะ เดี๋ยวโดนอีก
“ยั่วกันแบบนี้ เดี๋ยวเลยไม่ต้องทานอาหารกันเลย”
เมทินียิ่งยิ้มยั่ว เขมชาติล็อคตัวมากอดไว้
“ไปเที่ยวเมืองนอกกันนะครับ” เขมชาติเริ่มอ่อย กะเอาสินค้าไปส่ง
เมทินีตื่นเต้น หันมองเขา
“ที่ไหนคะ”
“รัสเซีย”
“อูย อยากไปมาก...ค่ะ คนที่เคยไปบอกว่าสวยมาก”
เมทินียิ้มยั่วยวน หลงใหลเขมชาติ
ค่ำนั้น คุณหญิงศรินทิพย์กับอารดาอยู่ในห้องโถง เจตรินเดินเข้ามา
“กลับซะค่ำ”
“ผมไปแจ้งความคนหายครับ”
“อายเขาแย่นะลูก”
“ใช่ค่ะเจต” อารดาเสริม
“ผมห่วงเมียหายมากกว่าห่วงขายหน้า อีริน่าเป็นภรรยาผมครับ เขาหายไป ผมต้องใส่ใจถึงที่สุด”
อารดาลอบทำหน้าหมั่นไส้ คุณหญิงศรินทิพย์แย้ง
“แต่ถ้าเขาลงประกาศโฆษณาอะไรไปทั่วเมือง เราจะเอาหน้าไปไว้ไหน”
“ก็แล้วแต่ใครจะเอาไปไว้ไหนครับ แต่ผมต้องให้ได้เรื่องอีริน่าให้เร็วที่สุด”
เจตรินออกไป คุณหญิงศรินทิพย์ไม่สบอารมณ์ อารดาตามไป
“เจตคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์รู้จุดประสงค์ของอารดา เรียกไว้เพื่อจะช่วยลูกชาย อารดาขัดใจ แต่จำยอม
เจตรินกำลังพูดมือถือกำลังจะจบ คุณหญิงศรินทิพย์เข้ามา
“เจต”
“ขอบคุณครับ ผมรอรหัสยืนยันนะครับ”
เจตรินวางสาย
“ครับ คุณแม่”
“พูดกับเมีย...กับยัยนั่นเหรอ”
“เปล่าครับ...คุณแม่มีอะไรใช้ผมครับ”
“แม่จะมาให้สติเจต”
“ครับ”
“ยัยนั่นหนีไปไม่บอกกล่าว ขนาดแม่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านนี้เขายังไปไม่ลามาไม่ไหว้ เท่ากับเขาไม่อยากอยู่กับเจตแล้ว”
เจตรินชี้แจงสุภาพ
“อีริน่าไม่ได้บอกว่าไม่อยากอยู่กับผมครับ เราแค่ทะเลาะกันประสาสามีภรรยา เขาอาจต้องการอยู่เงียบๆเพื่อทำใจ”
“เข้าข้างกันเหลือเกินนะ” คุณหญิงศรินทิพย์โกรธ
“อีริน่าเป็นภรรยาผมนะครับคุณแม่”
“แล้วแม่ล่ะ เป็นคนนอกงั้นสิ ไม่ต้องเห็นหัวแม่แล้วงั้นสิ”
เจตรินเงียบ ไม่อยากให้บานปลาย คุณหญิงศรินทิพย์ยังไม่ยอมหยุด
“ผู้หญิงที่หนีสามีไปน่ะ มันยังน่าจะเอาไว้อีกงั้นเหรอเจต เขาทิ้งเราเรื่องอะไรเราจะต้องง้อ เราไม่ใช่กระจอกนี่ ผู้หญิงมีอีกทั้งโลก เจตยังหนุ่ม มีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมยิ่งกว่า ดีเลิศ เจตจะเลือกใครก็ได้”
“คุณแม่คงไม่ได้หมายความว่าให้ผมเลือกอารดาหรอกนะครับ คุณแม่ก็ทราบดีว่าผมไม่เลือกแน่นอน”
คุณหญิงศรินทิพย์อึ้งไป โกรธที่ถูกย้อน
“พูดกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูดกัน แล้วแกจะเสียใจที่พูดกับแม่อย่างนี้”
คุณหญิงศรินทิพย์ปึงๆไป เจตรินเหนื่อยใจกังวล
อารดาคุยโทรศัพท์มือถือกับพ่อ หน้าตาตื่นเต้นเพราะได้ข่าวดี
“หลักฐานอะไรคะคุณพ่อ”
“หลักฐานที่จะเอาผิดคุณหญิงคุณหญิงศรินทิพย์ได้ว่าร่วมฮั้วประมูล อยู่ในลังที่พ่อเก็บของในห้องใต้ดินนั่นละ”
“ค่ะ พ่อ”
“แต่ถ้าหาเจอ นอกจากจะใช้บีบให้นายเจตแต่งงานกับลูกแล้ว ยังบีบให้นายเจตกับคุณหญิงศรินทิพย์ช่วยให้พ่อหลุดคดีได้ด้วยซ้ำ”
อารดาขรึมเครียด
“ค่ะคุณพ่อ ดาจะทำให้สำเร็จค่ะ”
วันใหม่ อารดามาพบคุณหญิงศรินทิพย์ เธอมองอย่างมีนัยและสีหน้าแบบผู้อยู่เหนือ คุณหญิงรู้สึกสะดุดใจอยู่ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก
“ดาจะไปดูบ้านหน่อยค่ะคุณแม่ ปิดทิ้งไว้นานๆกลัวปลวกกินค่ะ วันนี้ดารู้สึกดียังไงไม่ทราบค่ะ รู้สึกจะมีเซอร์ไพร้ส์อะไรบางอย่างให้ตัวเอง”
“เรื่องนังหัวแดงนั่นหรือเปล่า”
“อาจจะด้วยค่ะ ดารู้สึกว่าดาอาจเอาเซอร์ไพร้ส์มาฝากคุณแม่กับเจตด้วยนะคะ”
“งั้นเหรอ ขอบใจล่วงหน้านะ”
“ค่ะ...”
คุณหญิงศรินทิพย์ออกไป อารดาไปอีกทางหน้าตาสะใจ
“จะเซอร์ไพร้ส์ให้จุกพูดไม่ออกเลยยัยคุณหญิง”
คุณหญิงศรินทิพย์หันกลับมามองอารดาครุ่นคิดสังหรณ์ในใจ
อารดาเข้าบ้านมา ทันใดนั้นมือถือดังขึ้น เธอดูหน้าจอ เป็นเมทินีโทรมา
“มีไรยัยเม”
เมทินีอยู่ที่บ้านเขมชาติพูดมือถืออย่างสุขล้นแบบคนมีความรักหวานเต็มหัวใจ
“ฉันกับคุณเขมชาติเคมีเข้ากันม้าก...มาก”
“ก็คบไปสิ มาบอกไรฉัน ฉันไม่ใช่แม่แกนะ”
“นี่หล่อน ไม่คิดจะแสดงความยินดีที่ฉันมีแฟนเหรอยะ เลือดจะไปลมจะมา หรือว่าประสาทกินที่ยังจับคุณเจตไม่ได้”
“หุบปากไปเลยยัยเม ฉันกำลังมีความสุขมากตะหาก”
“ดีใจด้วย แต่อย่าอิจฉาฉันนะ เพราะคุณเขมเขากำลังจะพาฉันไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่รัสเซียเร็วๆนี้ละ”
อารดานิ่งไปแวบหนึ่ง นึกถึงอีริน่า
“ต้องไปรัสเซียด้วยเหรอ”
“ทำไม...อ๋อ...บาดใจละสิ โดนนังเด็กหัวแดงแย่งคุณเจตไป คิดไรมาก เดี๋ยวแกก็แย่งคืนมาได้”
เขมชาติเข้ามา ถือเครื่องดื่มน่ากินมาทำสัญญาณว่าเป็นของเมทินี แล้ววางให้ ส่วนเขามีเครื่องดื่มสำหรับตัวเองด้วย คนละอย่างกับของเมทินี
“คุยกับใครครับ ผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าผู้ชายผมหึงนะครับ”
“ดาค่ะ”
“อ๋อ...เพื่อนพงษ์ธรนี่ครับ ค็อกเทลสูตรใหม่ ลูกน้องผมคิดสูตรอ่อนๆสำหรับผู้หญิงสาวสวยครับ”
เมทินีชนแก้วด้วย
“เชียรส์ค่ะ”
สองคนดื่มเครื่องดื่ม มองกันหวานซึ้ง
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 7 (ต่อ)
อารดาเปิดประตูลงมาในห้องใต้ดินแล้วแทบหงายเงิบ เมื่อเห็นลังเก็บของเป็นร้อยลังซ้อนเรียงอย่างเป็นระเบียบ
“โอ๊ย...คุณพ่อขา หากันเป็นเดือนจะเจอมั้ยคะเนี่ย”
เจตรินกับอิฐคุยกันในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
“ฉันว่าแกรักอีริน่า”
เจตรินราวโดนเข็มจิ้ม
“เฮ่ย อย่ามั่ว”
“แกรักเขาแน่นอน”
“ฉันแค่เป็นห่วง แล้วก็...รู้สึกผิดที่เอาใจใส่เขาน้อยไป อยากขอโทษเขาก็แค่นั้น”
“แกแน่ใจว่าอีริน่ากลับมอสโกแน่”
“คุณแม่ของอีริน่าอยู่ที่นั่น เขาเป็นห่วงแม่มาก”
“ถ้าเขาไม่ยอมกลับมากับแกล่ะ”
“ฉันจะพยายามให้ถึงที่สุด”
เสียงมือถือเจตรินดัง คุณหญิงศรินทิพย์โทรมา เจตรินกดรับ
“ครับคุณแม่”
คุณหญิงศรินทิพย์อยู่ในบ้านพูดมือถือหน้านิ่งขรึม
“เจต...หนูดาไปทำธุระที่บ้านเขา แม่ฝากเจตไปรับเขากลับบ้านเราหน่อยนะ เขาไม่ได้เอารถไป”
เจตรินสะดุดใจแปลกๆ
“ให้น้าเมฆไปรับก็ได้นี่ครับคุณแม่”
“แม่อยากให้เจตไปรับ แค่ไปรับน่ะ แม่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น พักนี้เราห่างเหินเขาเหมือนไม่มีน้ำใจกับเขา เขาตัวคนเดียวคิดๆไปก็น่าสงสาร ไปหน่อยนะเจตนะ”
เจตรินนิ่งรู้สึกแปลกๆ คุณหญิงศรินทิพย์กดตัดสายครุ่นคิดมีแผลในอดีตเรื่องทุจริตฮั้วประมูล แม้ไม่คิดว่าอารดาจะรู้เรื่อง แต่ก็ไม่วางใจว่าพ่ออารดาจะไม่หักหลัง เพราะอารดาพลาดการแต่งงานกับเจตริน เธอจึงระวังตัว
อารดายกกล่องที่หาเสร็จแล้วเก็บ แล้วยกกล่องใหม่ออกมา เสียงมือถือดังขึ้น เธอบ่นๆ
“ใครอีกล่ะ ฉันไม่อยากฟังแกรำพันรักอีกนะยัยเม”
อารดามองมือถือ ดีใจมากเมื่อเห็นเป็นเจตริน เธอรีบรับสาย
“เจต...”
อารดารู้เลยว่าคุณหญิงศรินทิพย์ให้มา แต่ยังหวานกับเขา อารดาเก็บกล่องเอกสารกลับเข้าที่
เจตรินกับอารดาอยู่ในร้านอาหารหรู...อารดามีความสุขมากตักอาหารให้ กลุ่มของคุณหญิงพรรณรายอยู่โต๊ะห่างออกไปเจตรินกับอารดาไม่เห็น คุณหญิงพรรณรายกำลังมองมาที่เจตรินกับอารดาอย่างไม่พอใจ
“ทุเรศนายเจตจริงๆ เมียหายไปไม่เท่าไหร่กลับไปควงแฟนเก่า”
นายพลกันต์ปราม
“เรื่องของเขาน่าคุณหญิง”
“เรื่องของฉันด้วยค่ะ อีริน่าเป็นหลานฉัน ทำร้ายหลานฉันขนาดนี้ได้ยังไง”
กมลกันต์แทรกขึ้น
“เจตอาจจำเป็นก็ได้ครับคุณแม่”
“จำเป็นต้องนอกใจภรรยาน่ะเหรอ ยิ่งพูดยิ่งเกลียดขี้หน้า แม่ไม่ยอมให้หนูอีริน่ากลับไปอยู่กับนายเจตอีกแล้ว”
“เขาเป็นสามีภรรยากันนะครับคุณแม่” กมลกันต์แย้ง
นายพลกันต์เห็นด้วย
“ใช่...แล้วเรายังไม่เจอหนูอีริน่าเลย อย่าคิดไปเองเลยนะคุณหญิง”
คุณหญิงพรรณรายฮึดฮัด
“แล้วคุณจะทราบค่ะว่าฉันคิดไม่ผิด”
คุณหญิงพรรณรายมองเจตรินกับอารดาอย่างหมั่นไส้...อารดาคะยั้นคะยอป้อนอาหารให้ เจตรินจำต้องกินอย่างอายคนรอบข้าง อารดาสุขสุดๆ
เมทินีหลับเป็นตายเพราะโดนวางยานอนหลับในเครื่องดื่ม เขมชาติยืนมองอย่างสมใจได้สินค้าใหม่ชั้นดี ลูกน้องเข้ามา เขมชาติบุ้ยใบ้อย่างรู้กัน ลูกน้องคนหนึ่งอุ้มเมทินีออกไป
“โทรบอกลูกค้าเกรดเอ บอกว่าเรามีสินค้าเกรดเอ ส่งรูปให้เขาดูด้วย”
ลูกน้องรับคำ
“ครับนาย”
เขมชาติคิดคำนวณ
“ฉันว่าคืนนี้เรารับสักสามคน เรียกราคาสูงสุด แล้วอย่าลืมถ่ายคลิปไว้ด้วย”
“ครับ”
เขมชาติสุขกับการจะได้เงิน
ค่ำนั้น เจตรินกับอารดาเข้าบ้านมา เจตรินหิ้วถุงแบรนด์เนมสองถุง มองถุงอย่างยังแปลกใจอยู่
“ยัยเมกำลังจะไประ...” อารดาจะพูดว่ารัสเซีย แต่นึกได้รีบเปลี่ยน “กำลังจะไปทัวร์ค่ะ...ดาเลยจะฝากเมซื้อจากเมืองนอก”
“จะไปไหนหรือครับ”
“รัส...เอ้อจำไม่ได้แล้วค่ะ”
เจตรินไม่ติดใจ
เจตรินเปิดประตูให้อารดา ส่งถุงให้
“ขอบคุณนะคะเจต ดามีความสุขมากเลยค่ะ”
เจตรินไม่ทันพูดอะไร อารดาจุ๊บแก้มเขาเลย เจตรินตกใจนิดหน่อย
“เอ้อ...”
“หลับฝันดีนะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
อารดาเข้าห้อง เจตรินกดล็อกปิดประตู หันมาแล้วตกใจนิดหน่อย เมื่อแหววโผล่หน้าดูอยู่แถวนั้น หน้าตาบ่งบอกว่าเห็นหมด
อารดาอาบน้ำเสร็จสวมชุดนอนสวย และชวนหวิว สมรกับหวินสอพลอ
“อู๊ย...”
“ชุดนอนใหม่ สวยเริ่ด แน่นอกจนต้องยกออก” หวินแซว
“สั้นเสมอหู” สมรเสริม
อารดาปลื้ม ไม่ได้ปลื้มคำชม ปลื้มที่เจตรินซื้อให้
“คุณเจตซื้อให้ วันนี้ฉันอ้อนอะไรได้หมด”
“คุณเจตกินยาเกินขนาด...หรือเปล่าคะ” สมรแปลกใจ
“นังหมอน แกอยากกินยาพิษใช่มั้ย” อารดาแว้ดใส่
หวินแอบหัวเราะ สมรเงื้อมือ หวินอุทานคำบ้าจี้ประจำตัว อารดารำคราญ
“โอ๊ย...นังนี่ก็...จะบ้าจี้ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยรึไง ร้องทีฉันปวดหัวนอนไม่หลับไปทั้งคืน”
“หวินขอโทษค่ะ” หวินหน้าจ๋อย
“คุณเจตกลับมาง้อคุณดาแล้วใช่ไหมคะ” สมรหันมาถาม
“แกคอยดูเอาเองสิ” อารดายิ้มฝัน
“ในที่สุดคุณเจตก็รู้ซึ้งว่าคุณดานี่ละของจริงของแท้” หวินยิ้มยินดีกับนาย
อารดาหน้าตามีความหวังมาก
“ถ้าเจตดีกับฉันอย่างนี้ไปตลอด บางทีฉันอาจจะไม่ต้องพิฆาตใครบางคนจนกระอักเลือด”
สองสาวสอดรู้พร้อมกัน
“ใครคะ”
อารดายิ้มออกทางเยาะๆ ไม่มีทีท่าจะบอก
“จุ้น”
คุณหญิงศรินทิพย์เซ็นเอกสารอยู่ในห้อง ศรีถือกาและถ้วยชุดชาจีนร้อนมา
“ขอบใจศรี เจตกลับมาหรือยัง”
“กลับมาแล้วค่ะ เห็นไปส่งคุณดาที่ห้องค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ชะงักกึก กลัวลูกเสียท่า แล้วพยายามทำใจให้สบาย
“อือม์”
คุณหญิงศรินทิพย์ทำงานต่อ ศรีไปทำที่นอนให้
อารดากดพิมพ์ไลน์หาเมทินี สมรกับหวินทำงานจุกจิกไป อารดากดไปบ่นไป
“นังเม มีแฟนเศรษฐีใช่มั้ย ฉันจะถล่มให้ซื้อของซะขนไม่ไหวเลยเชียว”
อารดากดส่งข้อความ
มือถือของเมทินีมีสัญญาณเสียงไลน์เข้า เขมชาติหยิบมากดอ่านไลน์ หน้าตาขำๆ
“รายการฝากซื้อของยาวเป็นหางว่าวเลยนะคุณอารดา”
เขมชาติพิมพ์ข้อความตอบ
“รับรองว่าได้ครบทุกรายการเลยจ้ะดาเพื่อนเลิ้ฟ”
เขมชาติกดส่งไลน์ แล้วโยนมือถือลงที่เดิม
“แต่ได้เมื่อไหร่ไม่รู้นะครับคุณดา...” เขมชาติคิดๆ “อือม์...ถ้าได้ยายอารดานี่มาขายอีกคนน่าจะทำเงินได้มหาศาลแฮะ เหนือกว่าเมทินีมาก”
เขมชาติยิ้มชั่วร้าย ยกหูโทร หามิคาอิล ไม่นานนักเขาก็ตอบกลับมา
“เรื่องพาสปอร์ตที่ไปขโมยมาซื้อตั๋วเครื่องบินนั่น จัดการเรียบร้อยแล้วนะ”
“ไอจะได้จัดการส่งสินค้ารายใหม่ ของดีมีคุณภาพไปให้ โอเค! ขอบใจมาก จะรีบส่งของไปให้ เอาไปไว้โรงแรมแถวแอร์พอร์ทเลยดีไหม ให้ยูลิ้มรสลิ้มลองก่อนส่งให้ไปมอสโคว์ แต่ยูต้องจ่ายไอแพงมากนะ”
เขมชาติยิ้มมีความสุข
“เป็นแมงดานี่มันสบายดีแท้ๆ ยิ่งปีกทองอย่างเราด้วย ยิ่งแฮปปี้มากๆ จากความโง่อยากคบผู้ชายไฮโซของผู้หญิงไม่มีความพอเพียง”
อีริน่ามานั่งหลบมุมอยู่ ในลอบบี้ของโรงแรมแอร์พอร์ท ถอนใจซึมเศร้าไม่หาย
“มาอาศัยที่นั่งหลบมุมสักพัก แล้วค่อยกลับไปนั่งในแอร์พอร์ทต่อ เพราะรปภ. ริ่มจับตามองว่าเราทำไมเดินไปเดินมาไม่เลิกราสักที เฮ้อ”
อารดาหน้าตากระหยิ่ม เคาะประตูห้องเจตรินเบาๆแล้วเปิดเข้าไป
“เจตขา...”
อารดาหน้าหุบทันใด รู้ทันทีว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง เธอผิดหวังจนโกรธ
“หายไปไหนอีกล่ะเจต ไปเป็นลูกแหง่นอนห้องแม่หรือไง”
อารดาโกรธกระฟัดกระเฟียดออกจากห้อง
ภายในห้องนอนเล็กๆว่างใกล้ๆนั้น เจตรินนอนหลับไปพึมพำเรียก
“อีริน่า...เธออยู่ไหนกันนะ”
ดึกคืนนั้น อีริน่านั่งอยู่แถวลอบบี้ มองมือถือที่หน้าจอเป็นภาพเจตริน คิดถึงเขามาก
“อีริน่าคิดถึงคุณเจตเหลือเกินค่ะ คิดถึงมาก...”
อีริน่ามองภาพเจตรินอีกครู่แล้วคว่ำมือถือลง แล้วก็เห็นเมทินีมากับเขมชาติ ที่ทางเมทินีแปลกๆ ดูมึนๆงง อีริน่าคิดว่าเมา
“ผู้หญิงคนนั้น”
อีริน่าเห็นเขมชาติประคองเมทินีมาทางที่นั่งราวกับว่าอยากจะจงใจหลบ อีริน่าตกใจมาก
“แย่แล้ว”
อีริน่าจวนตัวรีบหันหลังให้ทันที เขมชาติพาเมที่มึนๆมานั่งพิงพนักใกล้ๆแอบพูดเบาๆไม่ใส่ใจว่าเมทินีจะรับรู้
“นั่งรอมันตรงนี้แหละเม ผมจะไปเปิดห้อง”
เขมชาติก็เดินออกไป อีริน่าปรายตามอง
“เม!หรือ ชื่อนี้คุ้นมากๆ แปลกแฮะ”
อีริน่ามองไปเห็นเขมชาติหายไปแล้ว รีบชะโงกมามองหน้าเมทินีชัดๆแล้วจำได้
“เพื่อนคุณอารดา แล้วมาเมามามายที่นี่ทำไม มาเปิดห้องกับผู้ชายคนนั้นทำไม…”
อีริน่ามองไปอีก แล้วตกใจเอามือปิดปาก
“แย่แล้ว”
อีริน่ารีบแว่บหลบทันทีอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นมิคาอิลเดินเข้ามา มีเอื้อเดินตาม ตรงไปหาเขมชาติทักทายกันเขมชาติชี้มือมาที่เมทินี...อีริน่าใจคอหายวับแต่พยายามเดาเรื่องว่าเมทินีกำลังจะโดนขายให้มิคาอิลแน่นอน
“มิคาอิลมาเมืองไทยแล้ว แล้วปาปาเล่า”
อีริน่าไม่อาจเลิกสนใจมิคาอิล เมทินี และพวกได้อีกต่อ
“มันเคยบอกว่าจะส่งปาปามาเมืองไทย ถ้ามันส่งปาปามา แปลว่าตอนนี้ปาปาอยู่เมืองไทย ปาปาไม่ปลอดภัย แน่ๆ...ปาปา...อีริน่าต้องช่วยปาปาให้ได้”
อีริน่าแอบมองต่อไป
เจตรินเดินคุยกับแม่ในบ้าน
“แม่ขอบใจที่เจตฟังแม่บ้างเรื่องหนูดา”
“แต่บางครั้งผมขอตัดสินใจ ว่าจะทำหรือไม่ทำเรื่องที่คุณแม่ขอร้องนะครับ”
“จ้ะ...เจตรักษาเนื้อรักษาตัวจากหนูดาได้จ้ะ แต่หากจะไปไหนมาไหนกับเขาได้บ้างก็ไป”
“ครับ...แต่ผมต้องว่างด้วย”
เจตรินออกเบื่อๆ
เขมชาติมานั่งใกล้เมทินี มีมิคาอิลมานั่ง เอื้อยืนห่างออกไปมิคาอิลส่งเงินให้
“นี่เงินค่าตัวของแม่สาวสวยคนนี้ สวยมากๆ”
“ใช่สวยมาก...ลูกผู้ดีมีเงินด้วยนะครับ”
“สวยแต่ไม่เท่าอีริน่าหรอกนะ ว่ายังไง เมื่อไหร่จะตามหาเจอเสียที”
“ไม่พลาดแน่ครับ รับรอง...รีบพาคนนี้ไปทดสอบก่อนเลยมิคาอิล”
“ตกลง...อยากเจออีริน่าเร็วๆเสียที จะได้บอกให้มันรู้ว่าพ่อของมันตกอยู่ในอันตราย ฉันจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ขึ้นอยู่กับมันนั่นแหละ ว่าจะยอมช่วยพ่อมันไหม”
อีริน่าตกใจมากริน่า อุทานเบาๆ
“ปาปา”
เจตรินโทรหายูริที่รัสเซีย
“อีริน่าหนีผมกลับมอสโควแล้วจริงๆยูริ”
“หนี...แปลว่าอีริน่าไม่มีความสุข เกิดอะไรขึ้น”
“เอาเป็นว่ายูริช่วยตามหาอีริน่าที่มอสโควให้พบ ตามเงียบๆนะ อย่าให้เธอรู้ตัวแล้วโทรบอกผมทันที”
“ทะเลาะกันหรือ”
“แค่นี้นะ...ผมเกรงว่าอาจมีใครมาแอบฟังผมพูด ต่อไปเราจะคุยกันทางไลน์”
“โอเค”
เจตรินวางสาย
คุณหญิงศรินทิพย์แอบฟังเผลอหัวเราะ แล้วรีบเอามือปิดปาก
“นังกุ๊ยโสเภณีข้างถนนนั่นมันกลับบ้านไปแล้ว ฮ่าๆ...อุ๊บ”
คุณหญิงศรินทิพย์มองซ้ายมองขวาแล้วสะดุดหกล้ม
“โอ๊ย”
อารดา แอบฟังเช่นกันเผลอดีใจกระโดดปรบมือ
“เราทำสำเร็จแล้ว...ว๊าย!”
สมรกับหวินโผล่มาแอบดูด้วย ชนอารดาที่กำลังกระโดดล้มลง สองคนร้องลั่น
“วายหว่ายไหวไหว้ว๊าย วาย”
เจตรินหงุดหงิดมาก ทุบกำแพงโครม เสียงเข้ม
“จิ้งจกตุ๊กแก แมงเม้าท์ทั้งหลายที่มาแอบดู แอบฟัง เพราะสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผัวเมียเขาทะเลาะกัน ไม่รู้หรือว่าลิ้นกับฟันมันก็ต้องกระทบกันวันยังค่ำ แต่มันก็ปรองดองรักใคร่กันดี ยิ่งทะเลาะกันมันยิ่งกลมเกลียว ใครที่คิดจะมาแยกลิ้นแยกฟันออกจากกัน ขอโทษ ซอรี่ บ๊าย ฟังให้ดีๆพรุ่งนี้จะไปเกาะเคาน์เตอร์แต่เช้า ตีตั๋วเฟิร์สคลาสไปมอสโคว...รำคาญ”
เจตรินชำเลืองซ้าย ชำเลืองขวาตามเสียงโอ๊ย และเสียงว๊าย ไม่รู้ว่ามีคุณหญิงศรินทิพย์อยู่ด้วย แล้วเดินออกไปแบบรำคาญมาก พอเจตรินพ้นไป คุณหญิงศรินทิพย์ก็พรวดออกมา พร้อมกันกับที่อารดาพรวดตามออกมามีหวินกับสนมรตามมาด้วย ทั้งสองฝ่ายมาเผชิญหน้ากัน
“ต๊าย นี่ตาเจตรำคาญแม่หรือ ดีละที่นังกุ๊ยมันไปพ้นบ้านเราสักที จะได้เลิกพึ่งบริการของหนูดาผู้น่าเอือมระอาได้ละ”
อารดาพรวดมาถึงเช่นกันทำท่าเหนือกว่า
“เห็นจะไม่ง่ายอย่างที่คุณแม่บ่นดังๆ ออกมาหรอกนะคะ”
“เพราะ”
“เพราะนี่ค่ะ”
อารดาชูซองเอกสารที่ไปค้นมาจากห้องใต้ดินบ้านตัวเอง คุณหญิงศรินทิพย์มองสงสัย
“นี่คืออะไรไม่ทราบ”
“นี่คือข้อแลกเปลี่ยนค่ะ คุณแม่ใช้บริการดา ส่งดาไปเป็นภรรยาของลูกชายคุณแม่ให้ไวที่สุด แล้วด่าก็จะเผาเอกสารประพฤติมิชอบในการประมูลงานยักษ์ระดับประเทศของคุณแม่ทันทีค่ะ”
อารดาหยิบเอกสารออกมาจากซอง หวินกับสมรพากันมากางเอกสารให้ดู คุณหญิงศรินทิพย์ตกใจ
“ไปเอามาจากไหน”
“เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของคุณแม่ หรือก็คือแม่ของหนูไงคะ ท่านเก็บเอาไว้ให้คุณพ่อไว้แบลคเมล์คุณแม่ ถ้าคุณแม่ผิดสัญญาไม่ยอมให้หนูแต่งงานกับเจต”
“นังอรดี อีเพื่อนทรยศงูเห่า”
“คุณแม่ดางูเห่า แต่คุณแม่งูเขียว แถมหางไม่ไหม้ซะด้วย”
คุณหญิงศรินทิพย์สั่นไปหมดทำท่าจะเป็นลม หวินกับสมรพากันไปประคอง คุณหญิงศรินทิพย์เอาศอกถองทั้งสองคนจนเซ
“ว๊าย”
“ไปให้พ้นนังขี้ข้างูเห่า”
อารดาหัวเราะเบาๆ เก็บเอกสาร
อีริน่าแอบซ่อนอยู่ ใจหนึ่งอยากหนีไปจากมิคาอิล แต่ใจหนึ่งรู้สึกด้วยมนุษยธรรม ว่าเมทินีต้องโดนกระทำยำยีแน่
“ป่านนี้แม่พริมคงกำลังมาจากปารีส หรือไม่ก็ถึงมอสโควแล้ว เราควรรีบกลับไปหาแม่พริม”
อีริน่าลุกแล้วชะงัก
“ถ้าปาปาอยู่ที่เมืองไทย ปาปาต้องตกอยู่ในอันตราย”
อีริน่าหันกลับ รีรอทำอะไรไม่ถูก
“เราซื้อตั๋วแล้ว จะทิ้งตั๋วหรือ แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน”
อีริน่าเห็นมิคาอิลเดินมายิ้มย่อง ถูมือ
มิคาอิลเดินมากับเสี่ยท่าทางมีเงินสามคน
“ผู้หญิงคนนั้นเธอเป็นสาวสังคมชั้นสูง เป็นลูกผู้ดี เธอไม่ใช่ผู้หญิงพื้นๆทั่วไป ราคาของเธอย่อมแตกต่างกับหญิงทั่วไป และที่สำคัญผมกำลังจะส่งเธอไปมอสโคววันพรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ อยากให้รีบตัดสินใจ และยอมรับราคาที่ผมเสนอให้”
เสี่ยสามคนมองหน้ากัน
“ตกลง”
“ผมจะเปิดห้องให้พวกคุณ นี่คือบริการที่ดีของผม แล้วจะส่งตัวเธอไปให้เชยชมถึงที่ห้อง”
มิคาอิลเดินไปที่เคาน์เตอร์...อีริน่าตกใจมาก สงสารเมทินี
“โธ่ คุณผู้หญิงคนนั้นช่างน่าสงสาร ถ้าเรามีพี่น้อง หรือญาติ หรือเพื่อนโดนอย่างนี้ เราคงเสียใจ และยอมไม่ได้”
อีริน่าตัดสินใจ
เจตรินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วที่แอร์พอร์ท
“ผมต้องการตั๋วไปมอสโควพรุ่งนี้เช้าครับ”
“ใบสุดท้ายเพิ่งมีคนที่อยู่ในลิสต์ที่รอตั้งแต่เมื่อวานมาซื้อไปแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น มะรืนก็ได้ครับ เอ้อ...แต่ถ้าผมจะรอเผื่อมีใครจะยกเลิก”
“ยกเลิกหรือคะ...คงไม่มีหรอกค่ะ เพราะมันกะทันหันมากนะคะ”
เสียงโทรศัพท์ตรงเคาร์เตอร์ดังขึ้น พนักงานรับสาย
“ฮัลโหล จะขอเลื่อนตั๋วไปมอสโควพรุ่งนี้เช้าหรือคะ”
เจตรินยิ้มดีใจ พนักงานสบตา เจตรินพยักหน้าให้พึมพำ
“เธอหนีผมไม่พ้นหรอก”
“ขอโทษนะคะ ขอโค้ดนัมเบอร์ของตั๋วด้วยค่ะ...อะไรนะคะ...ไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหนคะ...ชื่อของคุณหรือคะ...แหมถ้าได้โค้ดนัมเบอร์จะสะดวกที่สุดค่ะ...อะไรนะคะเกิดมาไม่เคยซื้อตั๋วเครื่องบิน”
ตลอดเวลาเจตรินฟังด้วยความสนใจ เพราะกะจะได้ตั๋วจากรายนี้
“ค่ะ...ขอชื่อก็ได้ค่ะสะกดตามพาสปอร์ตนะคะ ไอ เอส โอ โอ เอ็น เอส เอ อาร์ ไอ เอ็น...ไอ ศูรย์…”
เจตรินตะลึงแล้วต่อนามสกุลโดยอัตโนมัติ
“ไอศูรย์ศรินทร์...อิรีน่า”
พนักงานมองหน้าเจตรินแปลกใจ เจตรินลืมตัวดึงโทรศัพท์จากพนักงานมาพูด
“อีริน่า อีริน่า นี่ผมเอง เจต คุณอยู่ไหน”
พนักงานตกใจไปด้วย
“คุณ”
อีริน่าตกใจ ตะลึง รีบตัดสายมือถือทันที
“คุณเจตไปทำอะไรในที่ขายตั๋ว...บ้าจริง”
อีริน่าถอนใจแล้วมองไปทางชายสามคน
พนักงานนำกุญแจห้องมาให้เสี่ยทั้งสามคน
“ห้องสวีทของเราเหลืออยู่หนึ่งห้องพอดีครับ พักได้สามท่านนี่ครับกุญแจ”
หนึ่งในสามคนรับกุญแจ
“กระเป๋าเดินทางเล่าครับ” พนักงานถาม
สามคนมองหน้ากัน พนักงานเข้าใจว่ามานอนรอไปขึ้นเครื่องตอนเช้า เสี่ยคนหนึ่งพูดขึ้น
“ฝากไว้ที่แอร์พอร์ทแล้ว มีปัญหาหรือเปล่า”
“ไม่มีครับ ไม่มี”
สามคนเดินออกไปพร้อมกุญแจ
อีริน่าดีใจที่ได้ยินเสียงเจตริน
“คุณเจตขา อีริน่าอยากเจอคุณ แต่อีริน่าตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่พบคุณอีกต่อไป เรารักกันไม่ได้ เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันก็แค่จอมปลอม ไม่มีวันเป็นจริงไปได้”
อีริน่าปาดน้ำตาแล้วตัดสินใจแอบย่องตามสามคนไป
เจตรินยิ้มย่องบอกพนักงาน
“ผมก็ขอยกเลิกการซื้อตัวเหมือนกันครับ”
“อ้าว”
“ขอโทษด้วยครับ คือผมกับภรรยาเข้าใจผิดกันนิดหน่อยเรื่องการเดินทางแต่ตอนนี้เราเข้าใจกันแล้ว เราไม่เดินทางแล้วครับ ขอบคุณมากครับ”
เจตรินรีบเดินออกไปเพราะคิดว่าจะไปหาอีริน่า
“ยินดีด้วยค่ะ”
เจตรินชะงักกึกหันไปถามพนักงาน
“เอ้อ...ทราบไหมครับว่าเธอโทรมาจากที่ไหน”
“อ้าว คุณเป็นสามียังไม่ทราบ แล้วดิฉันเป็นคนอื่นจะทราบไหมคะ”
“จริงของคุณครับ ขอโทษครับ”
เจตรินผิดหวังหันกลับพนักงานมองตาม
“ดิฉันว่าเธออาจอยู่แถวนี้ก็ได้ค่ะ”
เจตรินมีกำลังใจหันมายกมือไหว้พนักงาน
“ขอบคุณมากครับที่กรุณา”
เจตรินเดินพรวดออกไป
เสี่ยทั้งสามถือคีย์การ์ดห้องพักเดินมายังลิฟท์ อีริน่าแอบตามมาด้านหลังห่างพอสมควร เสี่ยคนหนึ่งกดลิฟท์ ลิฟท์ลงมาและเปิด เสี่ยสามคนเข้าไปในลิฟต์แล้วหันมาเจออีริน่าที่ใส่หมวกหลุบๆทำตัวแบบผู้ชายแบบที่เคยทำที่มอสโคว ยืนอยู่หน้าลิฟต์
“ไอ้หนุ่มจะขึ้นข้างบนหรือเปล่า”
อีริน่าส่ายหน้า ลิฟต์ปิด อีริน่ายืนมองดูว่าลิฟต์ไปหยุดชั้นไหนและไปหยุดที่ฉัน16 อีริน่ายิ้ม
“ชั้นที่ 16 ดีละ”
อีริน่ารีบกดลิฟต์ให้ลงมารับ
มิคาอิลกับเขมชาติ เดินมาด้วยกันยิ้มย่อง
“นี่พาสปอร์ตของผู้หญิงคนนั้น พรุ่งนี้เช้ามืดหลังจากเสร็จภารกิจที่นี่เอาตัวไปขึ้นเครื่องบินทันที ไม่ต้องไปแวะดูข้าวของใดๆทั้งสิ้น กะเวลาให้พอกับเครื่องออก จะมีคนของผมไปรอรับที่หน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน”
“โอเค เชิญคุณมิคาอิลไปสนุกสนานกับความงามของหญิงผู้ดีคนนั้นได้เลยครับ”
“โอเค ขอบใจมาก หามาอีกเยอะๆ”
“รับรองหาแน่ๆ ยังมีอีกหลายนางที่รักสนุก ไม่สนใจว่าจะทุกข์เพียงใด เช่น อารดา ลลิตา จิตรดารา”
“อย่าลืมคนนี้ เด็ดขาด”
มิคาอิลเปิดไอโฟนให้ดูรูปอีริน่า เขมชาติมอง
“แน่นอนครับ ไม่ลืมครับ ผมมีภาพเธออยู่ในไอโฟนเรียบร้อยแล้วและส่งต่อไปยังลูกน้องทั้งหมดแล้ว โชคดีครับ ผมจะไปดื่มรอที่ลอบบี้”
เขมชาติเดินหันหลังกลับ มิคาอิลยืนยิ้มร้าย
อีริน่ารอลิฟต์สักครู่ลิฟต์ลงมาถึงประตูลิฟต์เปิดออก อีริน่าก้าวเข้าไปทันที มีเสียงบอกให้รอ
“รอด้วย”
อีริน่าสะดุ้ง จำเสียงได้
“เสียงนั่น”
อีริน่าทำไม่ได้ยิน แต่มิคาอิลก็ถลามาถึงกดลิฟต์เอาไว้เข้าไปในลิฟต์ทัน อีริน่าตกใจมากรีบยืนเอียง
มิคาอิลแปะคีย์การ์ด แล้วกดเลขชั้น
“ชั้นไหนไม่ทราบ”
อีริน่ารำพึงในใจ
“แย่แล้ว ต้องใช้คีย์การ์ดกดขึ้น”
มิคาอิลบ่นกับตัวเอง
“สงสัยว่าฟังเราพูดไทยไม่เข้าใจ ไอ้หนุ่มนี่โง่ มันเลยไม่เข้าใจ ช่างหัวมัน”
อีริน่าพูดขึ้น
“เอ้อ ชั้นเดียวกันครับ”
“อ้อ มาคนเดียวหรือไอ้หนุ่ม”
“ครับ”
“เหงาไหม อยากได้ผู้หญิงนอนด้วยสักคนไหม”
“เอ้อ...เท่าไหร่”
“ห้าหมื่น”
อีริน่าตกใจ
“ห้าหมื่น”
มิคาอิลหัวเราะขำ
“สงสัยว่ายังไม่เคยนอนกับผู้หญิงแน่ๆ ทำตกใจไปได้ ได้ยินว่าผู้หญิงสมัยนี้มีสองแบบ รวยแต่รักสนุก กับจนแต่อยากเป็นผู้ดีปลอมๆ ว่าไง โอเคไหม”
“เอ้อ...ขอคิดดูก่อน”
มิคาอิลหัวเราะเบาๆ ขำๆ เอามือมาตบบ่าอีริน่าเล่นๆ อีริน่าตระหนกหวาดหวั่น รำพึงในใจ
“เราหาเรื่องใส่ตัวเพื่อมนุษยธรรมแท้ๆ เอาวะเป็นไงเป็นกัน”
“ตกลงไหม”
อีริน่าพยักหน้า
“ตกลง”
มิคาอิลยิ้ม
“เข้าไปรอในห้องกับอีกสามคนนั่นนะ”
อีริน่า ใจหายใจคว่ำ
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 7 (ต่อ)
เจตรินพยายามครุ่นคิดว่า อีริน่าจะอยู่ที่ไหน
“อีริน่าอยู่ที่ไหนกันนะ อีริน่าไม่คุ้นถนนหนทาง ไม่น่าจะไปในที่ที่ไม่รู้จัก ก่อนหน้านี้อีริน่าน่าจะอยู่ที่แอร์พอร์ท แต่ต่อนี้ถ้าอีริน่าคิดจะไปที่ไหน สักแห่ง เธอจะไปไหน อืม...บ้านคุณป้าหญิง หรือคอนโดพี่จี...”
เจตรินยกหูโทรหากมลกันต์
กมลกันต์รับโทรศัพท์จากเจตรินดีใจมาก
“พี่ดีใจที่อีริน่าเปลี่ยนใจไม่กลับมอสโคว์ แต่พี่ไม่สบายใจที่อีริน่าไม่ติดต่อมาหาพี่บ้าง ถ้าโชคดีเธอติดต่อมา พี่จะแอบส่งข่าวเจตทันที”
พอวางสายจากกมลกันต์ เจตรินต่อสายใหม่อีกครั้งหาจีรณัทย์
“พี่จีอย่าลืมนะครับ ถ้าอีริน่าติดต่อมาหา พี่รีบบอกผม แต่อย่าบอกเธอว่าบอกผม...ขอบคุณมากครับ”
เจตรินตัดสาย แล้วนั่งครุ่นคิด
“ทำไมเราไม่ถามเบอร์มือถือของอีริน่าจากพนักงานสายการบินคนนั้นโง่จริง”
เจตรินคิดออกยิ้มรีบลุกจะไปถามเบอร์
เมทินีดิ้นรนสุดเหวี่ยงตกใจกลัวมิคาอิลแต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอ
“แกเป็นใคร”
“เป็นเจ้าของแกไงเล่า คนสวย”
“ไม่จริง แกทำอะไรคุณเขม คุณเขมของฉันหายไปไหน”
“หน้าโง่มาก ไอ้คุณเขมของเธอนั่นแหละมันขายเธอให้ฉัน”
“ไม่จริง ฉันกับเขาจะไปเที่ยวมอสโควด้วยกัน”
“ฉันนี่แหละจะเป็นคนส่งเธอไปเที่ยวมอสโคว แต่หลังจากที่เราสองคน...”
มิคาอิลหัวเราะ เมทินีหน้าตื่นตกใจ
“ไม่นะ ไม่ อย่าทำร้ายฉัน ปล่อยฉันไปนะ ไหว้ละ”
มิคาอิลไม่สนใจปล้ำต่อ เมทินีกัดมิคาอิล แล้วจะวิ่งหนี มิคาอิลกระชากหัวมาโดยแรง แล้วเหวี่ยงลงไปบนกลางที่นอน เมทินีกรีดร้อง มิคาอิลเอามือชกปากจนเธอหมดฤทธิ์ไป
เสี่ยทั้งสามนั่งดื่มกันอย่างอารมณ์ดี ชำเลืองมองอีริน่าที่นั่งซุกแอบหน้าไว้ ใจคอไม่สบาย สามคนเริ่มครึ้มๆซุบซิบเรื่องอีริน่า
“ไอ้ไก่อ่อนตัวนั่น มันคิดยังไง ถึงจะมาร่วมสนุกกับพวกเรา ไปอำมันเล่นแก้เบื่อตอนรอดีกว่าไหม”
สองคนนึกสนุกด้วย
“โอเค”
เสี่ยคนหนึ่งกระดิกนิ้วเรียกอีริน่า
“ไอ้ไก่อ่อน ทีแรกทำนิ่งๆ ที่แท้ก็อยากกินของอร่อย ถามหน่อยมีปัญญาหาเงินที่ไหนมาจ่ายแพงๆ”
อีริน่าเฉยไม่พูดจา ลุกขึ้นจะเดินหนีออกไปนอกห้อง
“เฮ้ย...พูดด้วยทำไมไม่ได้ยิน อวดดีเกินไปไหมไอ้หนู”
“ผมจะไปข้างนอก”
“ไม่ได้ ต้องมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน หรือว่าอยากเจ็บตัว”
อีริน่าชะงักกับคำท้าทาย
“อยาก”
สามคนมองหน้ากัน
“เฮ้ย...มันท้าทาย...จัดให้”
สามคนปรี่มาหาอีริน่า คนหนึ่งมากระชากแขน คนสองมาตบหัว อีกคนมาเตะที่หน้าแข็งหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่ อีริน่าแสดงฝีมือชกหน้าคนที่มาตบหัว ถีบคนที่มาเตะหน้าแข็ง และคาราเต้คนที่มากระชากแขน สามคนร้องลั่น“เฮ้ย”
“จัดตอบให้”
อีริน่าไม่ยั้งเล่นงานสามคนจนล้มลุกคุลกคลาน คนหนึ่งชักปืนออกมาเจออีริน่าเตะปืนกระเด็น พอจะคลานไปเก็บเจออีริน่าเตะจนหน้าหงาย
เจตมาที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว กำลังวิงวอนพนักงานควักบัตรประชาชนมาให้พนักงานมอง
“เธอคนนั้นเป็นภรรยาผมจริงๆนะครับ นี่ครับพาสปอร์ตของผม นามสกุลเดียวกัน”
“คุณอายุสามสิบกว่า แต่ภรรยาอายุสิบแปด...แหม ห่างกันมากนะคะ”
“ครับ ห่างกันมากถึงห่วงกันมากครับ เธอยังเด็กมาก ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผมจึงเป็นเสมือนผู้ปกครองเธอด้วย”
“น่าสงสารมากนะคะ เธอยังเด็กยังอ่อนโลกและอ่อนแอ”
เจตรินยิ้มแห้งๆกับคำว่าอ่อนแอ
อีริน่าลากเสี่ยสามคนมากองไว้ในห้องน้ำ เสี่ยสามคนตาปูดบวมโดนมัดมือปากมัดมือกลิ้งกันไปมาอยู่สามคนทับถมกัน สามคนมองอีริน่าจ๋อยมาก อีริน่าปัดมือทั้งสองไปมา ดีดหูพวกเสี่ย บิดจมูก
“จำไว้ว่า อย่าประมาทสตรีเพศแม่ว่าอ่อนแอ ไม่สามารถต่อสู่กับผู้ชายอกสามศอกผุๆ บ้าตัณหาอย่างพวกแกได้ ถ้าพวกแกออกไปจากที่นี่ได้อย่าได้แม้แต่คิดจะเห็นเพศแม่เป็นของเล่นของพวกแกอีกต่อไป”
อีริน่าเอาปากกามาเขียนที่หน้าผากสามคนว่า NO ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงเคาะห้อง สามคนตาโต อีริน่ายิ้ม
“เหยื่อของพวกแกมาแล้ว แต่ช่วยไม่ได้นะ ที่พวกแกกลับกลายมาเป็นเหยื่อขอฉันซะก่อน”
อีริน่าตบหน้าสามคนแล้วหันกลับเดินออกไป ก่อนออกกดล๊อคประตูห้องน้ำไว้
เจตรินยิ้มกดมือถือเมมเบอร์ของอีริน่าไว้
“ของคุณมากครับสำหรับความร่วมมือ เพราะถ้าเธอหายไปจนถึงพรุ่งนี้เช้า ผมคงต้องไปแจ้งความคนหาย”
“ยินดีค่ะ”
เจตรินยกมือไหว้ พนักงานรีบยกตอบแทบไม่ทัน
อีริน่าแอบมองจากช่องตาแมวในห้องพักเห็นมิคาอิลโอบประคองเมทินีมา เมหน้าตาอิดโรยเพราะโดนซ้อมมาแล้วไม่มีเรี่ยวแรง อีริน่าสงสาร
“โธ่...น่าเสียใจที่ช่วยคุณให้รอดพ้นจากมิคาอิลคนชั่วไม่ได้ แต่อย่างน้อย อีริน่าก็สามารถช่วยคุณจากไอ้สามคนนี่ได้ และอีริน่าจะไม่ยอมให้พวกมันส่งคุณไปรัสเซียเด็ดขาด”
เสียงมือถือของอีริน่าดังขึ้น เธอมองไปเห็นเบอร์แปลกใจ
“ใครโทรมา ไม่มีใครรู้เบอร์ของเรา นอกจากแหวว กับสายการบินหรือว่าแหวว”
เสียงมิคาอิลดังขึ้น
“เปิดประตูเร็วๆเข้า ประเดี๋ยวใครก็มาเห็นนังบ้านี่หน้าตายับเยินไปหมดจนได้หรอก”
อีริน่าก้มลงมองเบอร์อีกครั้งตัดสินใจรับ
“ฮัลโหล แหววหรือ”
เจตรินดัดเสียง
“กิ๊กของแหววต่างหาก แหววให้โทรมาถามว่าคุณอีริน่าพัก ที่ไหนครับ”
มิคาอิลก็เริ่มทุบประตูหงุดหงิด
“เฮ้ย เปิดประตู”
“บอกแหววว่าฉันปลอดภัยพักอยู่ที่โรงแรมแถวแอร์พอร์ท ไม่ไปมอสโควแล้ว แต่ตอนนี้กำลังวุ่นวาย วางหูไปก่อน ฉันมีเรื่องสะสางกับไอ้คนทำร้ายพ่อฉัน แค่นี้นะ”
อีริน่าตัดสาย เอามือจับปุ่มล๊อคให้เปิดโดยแรง แล้วหลบหลังประตู มิคาอิลกระชากเมทินีเข้ามาโดยแรง แล้วหันมาหาว่าใครเปิดประตูให้
“เสี่ย ไอ้หนุ่ม ใครเปิดประตูน่ะ”
มิคาอิลส่ายตาหาแปลกใจ แต่ก็ลากเมทินีไปกองไว้บนโซฟา เมทินีนอนระทดระทวยเจ็บปวดน้ำตาไหลรินพึมพำ
“ไอ้เขม ไอ้ชาติชั่ว มึงหักหลังกู มึงหลอกลวงกู นังดามึงตัวดีมึงต้องร่วมมือกับมันทำลายกู อีเพื่อนทรยศ”
มิคาอิลยังคงส่ายตาหาว่าใครอยู่ที่ไหนทำไมเงียบเชียบไปหมด
เจตรินดีใจมาก เพราะอย่างน้อยก็รู้แล้วว่าอีริน่าอยู่โรงแรมแถวแอร์พอร์ท
“โรงแรมแถวแอร์พอร์ทมีกี่แห่งกันนะ ไลน์ไปถามดีกว่า”
เจตรินกดไลน์ไปถามว่าโรงแรมไหน
อีริน่าแอบมองมิคาอิลกับเมทินีอยู่
“ไอ้คนชั่วชอบรังแกแต่ผู้หญิงกับคนไม่มีทางสู้”
“หายไปไหนกันหมด เสี่ย หนุ่ม” มิคาอิลเรียก
เมทินีเห็นมิคาอิลกำลังหาคนอื่นๆอยู่ พยายามยันตัวลุกไปที่ประตู อีริน่าเห็นเมทินีย่องไปที่ประตู ลุ้นให้ออกไปให้สำเร็จพึมพำเบาๆ
“รีบไป เร็วเข้าสิ ไปก่อนที่มันจะหันกลับมา”
ขณะเดียวกันนั้นมือถือสั่นมีการส่งข้อความมาถาม อีริน่าหยิบมือถือมามองดู
“โรงแรมอะไร ทำไมนายกิ๊กของแหววช่างอยากรู้มากนักนะ...เอ๊ะทำไมนายกิ๊กของแหววเขียนภาษาอังกฤษเป็น บ้าแล้ว” อีริน่านิ่งคิด อุทานออกมา “...คุณเจต”
อีริน่าปิดมือถือทันที
เจตรินมาด้อมๆมองแถวถนนในแอร์พอร์ทที่เชื่อมไปที่โรงแรมกำลังเก้ๆกังๆ มองว่าจะไปโรงแรมไหนดี และเซ็งที่อีริน่าตัดสาย
“อีริน่ารู้แล้วว่าเราไม่ใช่กิ๊กของแหวว เราพลาดเองที่เขียนภาษอังกฤษ อีริน่าเลยจับได้ ยิ่งถ้าอีริน่ารู้ว่าเป็นเราเธอจะยิ่งหนี บ้าจริง ทำไมเราโง่นักนะ แต่ขอเพียงให้รู้ว่าอีริน่าอยู่โรงแรมไหนเท่านั้นเอง จะไม่ให้พลาดทีเดียว หรือจะเสี่ยงไปที่โรงแรมนั่นก่อน ดีกว่าจะยืนงงเฉยๆ...เอ๊ะ”
เจตริน เห็นเขมชาติขับรถออกมาจากโรงแรมหนึ่ง เจตรินแปลกใจ
“เขมชาติเขามาทำอะไรที่นี่ ได้ยินจากดาว่าเขาจะพาคุณเมไปมอสโควแล้วทำไมมาที่นี่ตอนนี้ ลักษณะเหมือนว่ามาจากโรงแรมนั่น”
เจตรินเห็นเขมชาติแอบรถเข้าข้างทาง ทักทายกับชายต่างชาติคนหนึ่ง แล้วรับขึ้นรถมา เจตรินเริ่มปะติดประต่อเรื่องราว
“คนรัสเซียแน่นอน”
เจตรินครุ่นคิดนิดหนึ่ง แล้วตัดสินใจหักรถไปทางโรงแรมที่เขมชาติเพิ่งจากมา
อีริน่าครุ่นคิด
“ต้องเกิดเหตุวุ่นวายแน่ แต่ถ้าเรามีคุณเจตมาช่วย คุณเมทินีคงรอดปลอดภัยแต่เราไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนใจร้ายอย่างเขา”
ทันใดนั้นเสียงเมทินีร้องดังขึ้น
“โอ๊ย…”
อีริน่าหันไปมองตกใจมาก เห็นมิคาอิลกำลังกระชากเมทินีเหวี่ยงลงไปกับพื้น
“นังบ้าคิดจะหนีหรือ บังอาจ ดีละ ฉันจะไม่ให้แกหนีฉันไปได้อีกแล้ว”
มิคาอิลลากเมทินีมาวางบนโซฟา แล้วมัดมือ มัดปาก...มิคาอิลจะเอายาฉีดใส่ให้เมทินีที่นอนน้ำตาไหลพราก
“นี่คือยาวิเศษที่มอบอำนาจให้ฉันชี้เป็นชี้ตายแก...นังโง่”
เมทินีพยายามส่งเสียส่ายหน้า มิคาอิลหัวเราะชอบใจ อีริน่า หน้าตื่น
“แย่แล้ว”
อีริน่ากดเบอร์ห้อง และชื่อโรงแรมทันทีส่งกลับไปให้เจตริน...มิคาอิลกำลังจะกดเข็มยาลงบนแขนของเมทินี แต่แล้วก็โดนอีริน่ากระโดนถีบมาจากเบื้องหลัง
“เฮ้ย”
“หยุดนะ”
เข็มฉีดยากระเด็นไปทางหนี่ง มิคาอิลหงายไปทางหนึ่ง อีริน่าโดดมาที่เมทินี พลางแก้มัดที่มือและเท้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ทำได้แค่ที่เท้า อีริน่าพึมพำ
“จะรีบวิ่งหนีไปลงลิฟต์ให้เร็วที่สุด เพื่อไปขอความช่วยเหลือข้างล่าง คุณเจตกำลังมา”
เมทินีไม่ทันได้คิดอะไรได้ มิคาอิลลุกพรวดมากระชากหัวอีริน่าแต่ทำได้แค่ดึงหมวกออกมา
“ตายซะเถิดไอ้หนุ่มแกเป็นใครกันแน่ มาสาระแนเรื่องของฉัน”
หมวกหล่นจากหัวอีริน่า ผมสยายลงมา เมทินีตะลึง
“อีริน่า”
มิคาอิลอึ้ง
“อิรีน่า”
เจตรินจอดรถแล้วยกมือถือมามอง
“โรงแรมนี่จริงๆ อีริน่ายอมบอกเราแล้ว อีริน่าไม่โกรธเราแล้ว”
เจตรินพรวดออกไปจากที่นั่นโดยเร็ว
มิคาอิลหายตกใจกลายเป็นดีใจมาก เมทินีก็ตื่นเต้นแปลกใจมากพึมพำเบาๆ
“อีริน่าทำไมเธอถึงยอมมาช่วยฉัน”
“อย่ามัวแต่ตะลึงค่ะ รีบหนีไป หนีไปหาคุณเจต เขากำลังมา ไปสิ ไป”
มิคาอิลชักปืนออกมา
“หยุดนะอิรีน่า” มิคาอิลกระชากเมทินีมาเป็นตัวประกัน “ถ้าแกไม่หยุดฉันจะฆ่านั่งนี่แล้วจะสั่งฆ่าพ่อแก”
“แกไม่กล้ายิงฉันหรอก ที่นี่ไทยแลนด์ แกอย่ามาทำใหญ่ แกจะโดนรวบตัว แล้วถูกจับไปขังคุก”
“ถ้าไม่ให้มีเสียง ฉันบีบคอนั่งนี่ก็ได้ แกต้องการให้มันตายไหมจะจัดให้ ถ้าไม่ต้องการแกอยู่นิ่งๆ แล้วไปกับฉัน ทิ้งนังนี่ไว้ที่นี่ ฉันจะเรียกคนของฉันมารับมันไปขึ้นเครื่องบินไปขายตัวที่โน้น”
“แกมันคนเลว”
อีริน่าครุ่นคิดในใจ
“เราส่งไลน์ไปให้คุณเจตแล้ว เขาต้องกำลังมา และช่วยคุณเมคนนี้ทัน”
“ว่ายังไง แกจะไปกับฉันดีๆไหม ไปหาพ่อแก หรือว่า...”
อีริน่านิ่ง มิคาอิลมารวบตัวอีริน่าแล้วหัวเราะ
“มีปืนอยู่ในกระเป๋าฉัน ถ้าแกโวยวายขัดขืน ฉันจะโทรไปบอกให้คนของฉันฆ่าพ่อแกทันที”
“อย่าพูดมาก รีบพาฉันไปหาพ่อ”
มิคาอิลหัวเราะดีใจ ดึงอีริน่าออกไปจากห้อง
เจตรินพรวดเข้ามาที่ลอบบี้เดินตรงไปที่ลิฟต์ทันที รอลิฟต์เห็นลิฟต์ลงมาจากชั้นที่ 16
“ลิฟต์ลงมาจากชั้นที่ 16 อีริน่าอยู่ที่นั่นแน่ๆ”
เจตรินหลบแอบทันที เลขลิฟต์ลงมาเรื่อยๆจนถึงที่เจตรินแอบมอง ประตูลิฟต์เปิดออก มิคาอิลพาอีริน่าลงมาเจตรินตกใจมาก ลืมตัวร้องเรียก
“อีริน่า”
“คุณเจต” อีริน่าตกใจเช่นกัน
จบตอนที่ 7