สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 2
ด้านนอกบ้านอิริน่า สมุนทั้งหลายของมิคาอิลยังคงรีรอซุ่มอยู่เพื่อที่จะจับตัวอิริน่าไปให้ได้
“พวกมันคงตกใจกันจนช็อคที่เจอข้าวของพังพินาศ ไปบุกจับตัวมันไป ให้นายเลยดีไหม” ลูกน้องคนหนึ่งออกความเห็น
“มันมีไอ้หนุ่มสถานทูตนั่นมาด้วยน่ะสิ เรื่องราวมันจะบานปลาย รอให้ไอ้หมอนั่นมันกลับไปก่อนดีไหม ค่อยเข้าไปลุยจับนังสองแม่ลูก”
สองคนและคนอื่นๆพยักหน้ารับรู้กัน
เจตรินพาอิริน่า กับ พริมกลับมาที่บ้าน
“ที่ผมพาย้อนกลับมาอีกก็เพื่อหาเอกสาร”
“เอกสารอะไรคะ” พริมสงสัย
“เพียงคุณพริมมีเอกสารแสดงตัวตนของอิริน่าว่าเป็นลูกของผู้หญิงไทย อะไรอะไรมันจะง่ายขึ้นครับ”
อิริน่าดีใจมาก
“แปลว่า ฉันมีทางเลือกไม่ต้องแต่งงานกับนาย ฉันก็ไปเมืองไทยได้”
“ใช่”
“แล้วทำไม่บอกแต่แรก มาทำให้ฉันขวัญเสีย”
“ผมว่าอย่างเพิ่งพูดมาก รีบค้นหาเอกสารเร็วๆเข้า”
“ค่ะ ฉันจะหาว่ามันไปตกซุกซ่อนอยู่ที่ไหน” พริมหันมาบอก
“รีบหานะครับ คุณพริม อิริน่า ก่อนที่พวกมันจะย้อนกลับมาถล่มซ้ำ”
“มันเพิ่งไปคงไม่ย้อนกลับมาตอนนี้หรอกค่ะ”
“ฉันก็กำลังหาของเก่าของพ่อที่ยังไม่ทันได้ขาย เผื่อจะขายได้เงินมาช่วยแม่”
“ไม่ต้องอิริน่า คุณรีบพาอิริน่าไปก่อนเถิดค่ะถ้าเจอเอกสารฉันจะเอาตามไปให้เอง อย่าห่วงฉัน รีบไปนะอิริน่า”
“ไม่คะแม่ อิริน่าไม่ไปโดยไม่มีแม่เด็ดขาดค่ะ”
“ลำพังแม่คนเดียว มันไม่กล้ามาทำอะไรหรอก แต่ถ้ามีอิริน่าอยู่ด้วยมันทำแน่”
“คุณพริมพูดถูกครับ เอาแบบนี้ ผมจะโทรตามยูริให้คนส่งมาดูแลคุณและรับคุณไปหลังจากหาเอกสารพบที่นี่ แล้วให้อิริน่าไปกับผม”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เจตรินยกหูแล้วมองปรากฏว่ามือถือแบตหมด
“แบตหมด”
“ของฉัน ก็แบตหมด” อีริน่าหันมาบอก
“ผมจะออกไปหาที่โทรสาธารณะ แล้วจะรีบกลับมารอจนกว่ายูริจะพาคนมา”
เจตรินรีบร้อนออกไปกลัวเสียเวลา พริมมองตามอย่างรู้สึกดี
“เขาช่างดี มีน้ำใจเหลือเกิน นี่ไงแม่เจอกระดาษกับปากกาแล้ว แม่จะเขียนจดหมายให้อิริน่าเอาติดตัวไปหาคุณตา คุณยาย นะลูก”
“อิริน่ามีคุณตาคุณยายด้วยหรือคะแม่”
พริมพยักหน้าเศร้าๆ
เจตรินเดินมา หน้าที่พักอิริน่ารีบร้อนส่ายตาหาโทรสาธารณะ สมุนแอบมองหันมาพยักหน้ากัน
“ไอ้นักการทูตนั่นมันออกมาแล้ว รอให้มันไปให้พ้น แล้วบุกเข้าไปจับนังสองคนนั่น”
สมุนอีกคนพยักหน้ารับ เจตรินเดินหายไปด้านหนึ่ง หันมามองอย่างกังวล
พริมส่งจดหมายปิดผนึกเรียบร้อยให้อิริน่า
“อิริน่านี่คือจดหมายถึงคุณตาคุณยายที่กรุงเทพฯ อีกซองคือจดหมายแสดงตัวตนของอิริน่า เพื่อเอาไปใช้ทำพาสปอร์ต เงินที่แม่ได้จากการทำขนมขาย และเอาเครื่องประดับที่แม่ติดตัวมาจากเมืองไทยไปขายผสมกันใช้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินก็อยู่ในนี้”
“แล้วค่าตั๋วของแม่เล่าคะ”
“แม่จะทำงานกับมาดามที่สถานทูตฝรั่งเศสก่อน รวบรวมได้แล้ว แม่จะรีบตามลูกไป ไม่ต้องกังวลนะคนดีของแม่”
พูดไปแล้ว พริมเองที่กลับมีกังวล
ในอดีต...หลังจากที่จิรายุถูกปืนลั่นเสียชีวิต พริมหนีมาที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาพบเพื่อนสนิท เธอร้องไห้เล่าให้ฟัง โผเข้ากอดเพื่อนยังถือปืนอยู่
“ฉันเห็นข่าวแกออกทีวีกับวิทยุทั่วไปหมด แกกำลังโดนตามล่า ฐานเจตนาฆ่าจิรายุตาย แกฆ่าเขาจริงๆหรือ”
“โธ่จิรายุ...พริมขอโทษ พริมเสียใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่ปืนมันลั่นเพราะเราแย่งปืนกัน เขาจะขัดขวางไม่ให้ฉันออกมาหาเพื่อนๆ”
“ฉันเชื่อ แต่พวกนั่นไม่เชื่อ แกต้องหนี หนีไปให้ไกลให้ไวที่สุด หนีเร็ว”
“หนีไปไหน หนีไปไหนเล่า”
เสียงรถหวอดังใกล้มาทุกที มอเตอร์ไซด์ตำรวจพุ่งมา
“นั่นอยู่นั่นมีปืนด้วย” ตำรวจร้องบอก
“เร็ว หนี” เพื่อนเร่ง
“แล้วแก”
“ช่างเถิด”
“ไม่ได้...เขาจะหาว่าแกร่วมมือกับฉัน ถอยไปแล้วยกมือขึ้น”
“เฮ้ย…”
พริมยิงไปใกล้ๆเพื่อน เพื่อนสะดุ้ง
“หยุดนะ ทิ้งปืน”
พริมไม่ทิ้งกลับยกปืนขึ้น ตำรวจจึงยิงใส่ทันที พริมหันหน้าม้วนตัวหายลงแม่น้ำไป เพื่อนหวีดร้องอย่างตกใจ ตำรวจกรูกันมาหาเพื่อนพริมที่สั่นไปหมดร้องไห้โฮๆ พลางชะโงกมองหน้าพริมในน้ำ ตำรวจปลอบ
“โชคดีที่เรามาทันไม่อย่างนั้นเธอยิงคุณตายแน่ๆ”
“ไม่จริง ไม่จริง”
“ส่งคนลงไปตามหา แล้วจับตัวมาลงโทษให้ได้”
ในแม่น้ำ เลือดสีแดงฉานทั่วไปหมด บริเวณนั้น แต่ไม่มีวี่แววของพริม
พริมน้ำตาร่วงเผาะๆ พึมพำ
“จิรายุ นี่พริมฆ่าคุณจริงๆหรือนี่”
อิริน่าเข้ามากอดแม่
“แม่จ๋า พูดถึงเรื่องเก่าๆแม่ร้องไห้ทุกที อีริน่าจะไม่ถามแม่เรื่องพวกนี้อีกแล้วค่ะ”
พริมปาดน้ำตา
“ไม่มีอะไรหรอกลูก แม่แค่คิดถึงบ้าน คิดถึงเมืองไทย ไม่มีที่ไหนสุขใจเหมือนบ้านเราหรอกลูก ที่เมืองไทยลูกจะได้รับความรักความสุข ความอบอุ่นจากครอบครัวของคุณตาคุณยายนะลูก”
อิริน่าได้แต่สงสัยว่า แล้วแม่มาที่นี่ทำไม แต่เธอตัดสินใจไม่พูดอะไร ได้แต่รับจดหมายไว้
มิคาอิลพูดโทรกับสมุนยินดีปรีดามาก
“ดีมาก ไปเอามันมาทั้งสองคน อย่าให้พลาด พวกแกจะโดนมิใช่น้อยจำไว้”
มิคาอิลหัวเราะชอบอกชอบใจ จะได้ตัวอิริน่ากับพริมแล้ว
เจตรินคุยโทรศัพท์กับยูริ
“ยูรินี่ฉลาดที่สุด ตัดสินใจดีเยี่ยมที่มารับเอกสารของอีริน่า ตอนนี้ไปรอผมที่ที่พักของอิริน่านะ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
วางสายแล้ว เจตรินวิ่งกลับไปทันที
ยูริมาถึงหน้าที่พักอิริน่า เขาเคาะประตูเรียก สมุนมาถึงด้านหลังชะงัก
“เฮ้ย...ไอ้นี่ก็คนของสถานทูต มันมาทำไม หยุดก่อน อย่าเพิ่งเข้าไป”
ด้านใน สองแม่ลูกใจตกใจมาก
“พวกมัน”
“พวกมันมาแล้วค่ะแม่ อีริน่าจะสู้ตาย” อิริน่าตั้งท่าทันที
พริมหันไปฉวยไม้เบสบอลมาถือไว้
“แม่เอาด้วย”
สองแม่ลูกตั้งท่า สบตากัน
“ประตูไม่ได้ล็อค เข้ามาเลย”
ยูริเปิดพรวดเข้ามาทันที เจอเอาไม้เบสบอลของพริมที่เงื้อง่า เจอกับอิริน่าที่ฟันมือแบบคาราเต้ลงมา
“โอ๊ย อะไรกันนี่”
พริมค้าง อีริน่ายิ้มแห้งๆ
“คุณยูริ”
“ผมมารอคุณเจตรินครับ จะมาช่วยกันรับคุณพริมกับหนูอิริน่าไปอยู่ที่สถานทูตครับ”
“ขอโทษค่ะ คิดว่าพวกมาเฟีย”
มีเสียงเคาะมาอีกครั้ง
“คุณเจตรินมาแล้วเชิญครับ”
ทันใด ประตูเปิดออกมาเหมือนโดนถีบ สามคนตกใจ
“อะไรกันน่ะ”
ที่พรวดเข้ามา คือสมุนของมิคาอิล สามคนตะลึง
“เรามาจับตัวแกสองคนแม่ลูกไปหามิคาอิล นอกซะจากว่า แกยอมไปกับเราดีๆอิริน่า”
“ไปเป็นคุณนายของนายเรา แล้วแม่กับพ่อของแกจะกลายเป็นพ่อตาแม่ยายผู้ร่ำรวย”
สมุนพากันหัวเราะชอบใจ
“ไอ้บ้าอย่ามาพล่าม ฉันไม่ไปกลับแก แม่ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น” อีริน่าตวาด
“ถ้าอย่างนั้น แกสองแม่ลูกตายพร้อมกัน”
สมุนชักปืนมาขู่ อีริน่ากระโดดไปบังแม่ไว้
“ไหนว่ามิคาอิลอยากได้ฉันเป็นคุณนายแล้วทำไมพวกแกถึงกล้าจะฆ่าฉัน ไม่กลัวมิคาอิลฆ่าพวกเอาหรือ”
สมุนมองหน้ากัน
“จริงแฮะ พวกเราฉุดมันไปทั้งสองคน”
สมุนทำท่าจะเข้าไปฉุดสองแม่ลูก
“คุณยูริพาอิริน่าหนีไป ไม่ต้องห่วงฉัน”
“ไม่...อิริน่าไม่หนี อีริน่าจะสู้กับมัน แม่ต้องไปกับอิริน่าค่ะ”
เกิดการสู้กัน พริมพยายามให้ยูริเอาอิริน่าไป แต่ก็ไม่สามารถ เพราะอิริน่าไม่ยอม
เจตรินมาถึง ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากด้านใน
“แย่แล้ว...พวกมันย้อนกลับมา”
เจตรินพรวดเข้าไปทันที
ในห้อง...อิริน่ายังไม่ยอมไปพยายามจะช่วยพริม
“ไปอิริน่า หนี หนีไป”
“ อิริน่าไม่หนี อีริน่าจะเอาแม่ไปด้วย”
เจตรินพรวดมาในห้อง
“หยุดนะ”
พริมหันมามองอย่างดีใจ
“คุณเจตรินช่วยบังคับเอาอิริน่าไปกับคุณให้ได้ ทางนี้ไม่ต้องห่วง พวกมันไม่ทำอะไรฉันหรอก ได้โปรดทำตามที่คุณเคยสัญญากับฉันไว้”
เจตรินพยักหน้าปราดมาที่อีริน่า กระซิบสั่งยูริ
“ยูริลงไปเอารถมารอที่ใต้หน้าต่าง เดี๋ยวนี้”
ยูริงง
“ทำตามที่บอก”
ยูริพยักหน้ามึนๆแต่ก็หนีออกไปทันที โดยแกล้งร้องหรอก
“ไปก่อนนะ หนีเอาตัวรอดก่อนไม่ช่วยใครแล้ว”
สมุนไม่สนใจยูริหันมาจะจับตัวอิริน่าให้ได้ มีพริมคอยกันถือไม่เบสบอลตีกระหน่ำ พวกนั้นไม่กล้าทำรุนแรงกับสองแม่ลูก
“เร็วค่ะ พาอิริน่าไป”
เจตรินรวบตัวอีริน่า แล้วโยนออกไปทางหน้าต่างกระซิบสั่ง
“ใช่วิชายิมนาสติคนะ อย่างมากก็แค่ขาหัก”
“ไอ้บ้าๆ”
อิริน่าหล่นผัวะลงไป
“เฮ้ย จับไอ้ผู้ชายไว้” สมุนร้องบอก
เจตรินรีบโดดตามก่อนที่พวกสมุนจะมาจับตัวไว้ ส่วนพริมโยนไม้เบสบอลทิ้ง ยื่นมือไปพวกสมุนจับ
“พาฉันไปหามิคาอิลสิ ฉันต้องการพบสามีฉัน”
สมุนพูดไม่ออก วิ่งไปที่หน้าต่างมองออกไป
“บ้าเอ๊ย จับแม่มันไว้ แล้วตามไปจับนังลูกต่อ”
ทุกคนพากันกรูออกไปบ้าง ลากพริมไปด้วย พริมยอมไปแต่โดยดี ยิ้มด้วยดีใจที่อีริน่าปลอดภัยแล้ว
“อิริน่าของแม่ปลอดภัยแล้ว โชดคดีนะอิริน่าของแม่”
สมุนตบหน้าพริมโดยแรง พริมฟุบลงไปกองแต่ยังยิ้มเยาะหัวเราะใส่หน้า
ยูริเอารถมารอ อิริน่าที่ลอยละลิ่วลงมาจากชั้นสอง แล้วตีลังกาในกลับหลังสองรอบ ลงมายืนแต่แบบเซๆ ยูริผวามาประคอง แล้วกระชากขึ้นรถ
“โอ๊ย จะกลับไปหาแม่”
ทั้งสองยื้อยุดกันอยู่ เจตรินสปริงตัวลงมาอีกคน แล้วผวามาผลักอิริน่าใส่รถทันที โดดตามเข้าไปติดๆ
“ออกรถยูริ”
ยูริโดดมาที่คนขับกระชากรถออกไป
ตามถนนมุ่งไปสถานทูต...รถสองคันแล่นตามกัน เจตริน อิริน่า ยูริ อยู่ในรถคันหนึ่ง ที่พริมกับพวกสมุนสองคน อยู่ในรถอีกคัน
“พวกมันตามมาครับ” ยูริมองกระจกข้าง
เจตรินหันไปมองด้านหลัง
“ช่างมัน...ไม่กล้าตามเข้าไปในสถานทูตหรอก”
อิริน่าผงกหัวมา
“หยุดรถนะ ฉันจะไปช่วยแม่”
อิริน่าพยายามจะตะกายไปทุบไปบีบคอยูริ
“โอ๊ย! อย่าครับ รถมันจะชนกันตายครับ”
“อย่างอแงนะอิริน่า แม่เธอสั่งเอาไว้ยังไง อย่าทำให้แม่เธอผิดหวังสิ” เจตรินปราม
“เออ สักวันแม่นายโดนจับไปบ้าง ฉันจะพูดแบบนี้ให้นายฟังบ้าง เอาไหม จอดรถนะ”
เจตรินสุดจะทนความดื้อ กระชากอิริน่ามานั่งบนตั้งแล้วกอดไว้ เธอแก้มแนบแก้มกันไว้ อิริน่าตาเหลือก
“บอกว่าอย่าดื้อ ไม่เข้าใจหรือเด็กบ้า”
“เอาหน้าออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“ใครอยากเอาหน้าไปใกล้หน้าเธอ เด็กดื้อ แต่ฉันกำลังกำราบเธอให้เชื่อฟังฉันต่างหาก จะอยู่นิ่งๆหรือว่าจะบ้าต่อไป เด็กอะไรไม่เชื่อฟังคำสั่งพ่อแม่”
อิริน่านิ่งไปไม่กล้าโวยวายต่อ เจตรินยิ้มแบบชนะ
ในรถสมุน พริมแหวใส่พวกสมุน
“ได้ตัวฉันได้แล้ว ทำไมไม่รีบพาฉันไปหานายพวกแก”
“ฉันอยากรู้ว่าลูกสาวแกไปไหน จะได้กลับไปรายงานนายถูก อย่านึกนะว่าเข้าสถานทูต แล้วฉันไม่กล้า อย่าพูดมาก หรือว่าอยากโดนตบอีกครั้ง เอาหน้ายับเยินไปให้ผัวขี้ยาของแกดู แล้วสมเพชเวทนา นังโง่”
สมุนเงื้อมมือ พริมไม่หลบยิ้ม
“นายแก่ไม่มีวันได้ลูกสาวฉันไปครอบครองหรอก จำไว้”
สมุนตบหน้าพริมอีกครั้ง พริมฟุบลงไปอีก
ประตูสถานทูตเปิดออก รถของยูริพุ่งเข้าไป รถของพวกสมุนตามา แต่ประตูปิดกั้นลงมาก่อนได้เข้าในสถานทูต เจตรินจูงเชิงบังคับเอาไว้เหมือนเด็กๆ มียูริเดินตามยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เธอปลอดภัยแล้ว”
“แต่แม่ฉันไม่ปลอดภัย”
อิริน่าหันไปมองรอดผ่านประตูสถานทูตออกไป
“แม่พริม”
อิริน่าน้ำตาคลอ
ด้านนอกประตูสถานทูต รถของพวกสมุนจอดอยู่ พริมมองเข้าไปข้างใน น้ำตาคลอด้วยความยินดี
“อิริน่า”
ขณะเดียวกัน อิริน่าผวาที่ประตูสถานทูต
“แม่พริม”
เจตรินตามมาจับบ่าของอิริน่าไว้อย่างปลอบโยน ไม่ได้ห้าม
พริมมองลูกใจหายไม่น้อย
“อิริน่า”
สมุนคิดแกล้งให้อีริน่าประสาทเสียห่วงแม่ จึงลากพริมลงมาจากรถมาให้อิริน่าดู พริมขัดขืน
“แกอาลัยอาวรณ์ลูกแกมากนักใช่ไหม ลงไปเลย ลงไปให้มันเห็นว่ามัน ไม่ยอมมากับฉัน แล้วแม่มันมีสภาพยังไง”
“ไม่นะ อย่าเอาฉันลงไปให้อิริน่ากังวล”
“ดีสิ ฉันอยากให้มันกังวลแล้วเปลี่ยนใจออกมาหาแก”
สมุน 2 คนไม่ฟังลากกระชากพริมลงมาจนได้
“นังเด็กอกตัญญู แกทนดูแม่แกในสภาพนี้ได้ยังไง นังเด็กเห็นแก่ตัว”
“อย่าไปฟังมันอิริน่า รีบไปข้างในซะ คุณเจตรินขา ฝากอิริน่าด้วย”
พริมพยายามจะกลับไปในรถ แต่สมุนกลับตรึงไว้ กระชากหัวจนหน้าหงาย
อิริน่าพยายามจะหาทางออกจากสถานทูต
“แม่พริม แม่พริมจ๋า อิริน่าจะออกไปหาแม่”
พริมตะโกนบอก
“ถ้ารักแม่ต้องเชื่อแม่ เข้าไปข้างในนะลูก แล้วเจอกันลูกรัก คุณเจตรินคะ ได้โปรดพาอิริน่าเข้าไปเถิดค่ะ”
อิริน่าส่ายหน้า จึงโดนเจตรินอุ้มเข้าไป อิริน่าหันมามองแม่ ยื่นมือมาจนสุดเอื้อม
“แม่ๆ”
พริมยื่นมือตอบไปยิ้มทั้งน้ำตายกมือโบก
“ลาก่อน ดวงใจของแม่”
สมุนกระชากหัวพริมจนหน้าหงาย โยนใส่รถไปอีกครั้ง
ด้านในตัวตึกสถานทูต...ฤดีมองแปลกใจที่เห็นเจตรินอุ้มอิริน่าเข้ามา
“นั่นอุ้มคนง่อยมาหรือคะ คุณเจตริน”
“คนอันตรายครับคุณฤดี คนนี้แหละครับอิริน่า”
เจตรินโยนอิริน่าลงมาอิริน่าดีดตัวยืนหน้างอหงิก
“เราเพิ่งผจญภัยกันมาครับคุณฤดี” ยูริเล่า
“นี่คุณฤดีที่ฉันจะฝากให้เธอนอนด้วยอิริน่า”
อิริน่าตาเขียวใส่เจตริน แต่หันมายิ้มหวานไหว้ฤดี
“สวัสดีค่ะ คุณฤดี”
“ยินดีต้อนรับค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เจตรินหันมาบอกอิริน่า
“ผมฝากไว้กับคุณฤดี เธออยู่ในนี้ปลอดภัยที่สุด ช่วยดูแลเรื่องเสื้อผ้าให้ด้วยนะครับ ขอเอกสารด้วยอิริน่า”
อิริน่าคลำอกเสื้อ ตกใจส่ายหน้า
“หายไปแล้ว มันต้องตกตอนที่หนูโดนคนบ้าโยนลงมาจากตึกชั้นที่สองค่ะ คุณน้าฤดี”
“ตายจริง คนเลวที่ไหนใจร้ายมากโยนหนูลงมาได้ มันน่าส่งเข้าคุกจริงๆ”
ยูริสบตากับเจตริน ยูริหัวเราะ เจตรินหน้างอ
“หนูจะกลับไปเอามาให้คะ ให้หนูออกไปนะคะ”
“ไม่ได้ ขืนออกไปไม่ได้กลับมาแน่” เจตรินเสียงเขียว
“ทำไมต้องดุแกด้วยคะ แกน่าสงสารจะตายไป” ฤดีขัด
“น่าสงสารจนผมอยากจะตายน่ะไม่ว่า ทำไมไม่เก็บเอกสารให้ดีๆ ยุ่งแท้ๆ”
อิริน่าจะร้องไห้ ฤดีเข้าไปโอบปลอบ อิริน่ามองมาที่เจตรินสายตาประสงค์ร้าย ฤดีไม่เห็น
“ผมจะไปเอามาให้เอง หน้าตาเอกสารมันคือยังไง ครับ” ยูริถาม
“อยู่ในซองสีน้ำตาลสองซองค่ะ ในนั้นมีเงินค่าตั๋วเครื่องบินด้วย ถ้าไม่มี เงินแปลว่าอิริน่าไม่ต้องกลับเมืองไทยแล้วใช่ไหมคะ คุณน้าฤดี”
“ไม่เกี่ยว อย่าเอามาโยงเป็นเรื่องเดียวกัน สู่รู้” เจตรินแว๊ดใส่
“ต๊าย ดุร้ายเกินไปแล้วค่ะโอ๋ๆคนดีไม่ต้องกลัวนะ โถดูสิตัวสั่นแล้ว” ฤดีมองค้อยเจตริน
“เด็กเจ้าเล่ห์ แกล้งร้องไห้เพื่อใส่ร้ายกันทางอ้อม”
อิริน่าร้องไห้ความจริงห่วงแม่ ฤดีปลอบยกใหญ่
นิโคลัยถูกลูกน้องมิคาอิลล็อคตัว หน้าตานิโคลัยเยินเพราะถูกซ้อมมาก่อนหน้านี้ มิคาอิลใช้ปืนตบหน้านิโคลัย
“ถ้ายังปากแข็งไม่บอกว่าอิริน่ากับเมียไปสถานทูตไทยทำไม ฉันเอาแกตายแน่ นิโคลัย”
นิโคลัยเจ็บมาก พูดแทบไม่ออก อยากยาด้วย
“ไม่รู้จริงๆว่าลูกเมียไปทำอะไรที่ไหนไปทำไม ฉัน...ไม่โกหก ฉัน...ไม่รู้จริงๆ มิคาอิล”
มิคาอิลใช้ปืนตบอีก
“บอกมา แล้วฉันจะให้ยาแก ปล่อยแกกลับ”
“ฉัน...ไม่...รู้...”
มิคาอิลตบด้วยปืนอีก
“ให้รู้ไปว่าแกจะทนได้...จัดการ”
ลูกน้องเข้าซ้อมนิโคลัย มิคาอิลยืนมองดูอย่างสะใจ นิโคลัยโดนเข้าไปหลายมือหลายเท้า สู้ไม่ไหว ล้มแน่นิ่ง
ค่ำคืนนั้น...ภายในห้องนอน...ฤดีและอีริน่านอน ฤดีหลับสนิท อิริน่ายังไม่หลับ เพราะเป็นห่วงพ่อแม่ เธอลุกขึ้นอย่างแผ่วเบา เดินออกมาจากห้องอย่างเงียบเชียบ
“เราต้องทำดีกับนายเจตริน เพื่อที่เขาจะยอมพาเราออกไปจากที่นี่ ไปหาพ่อกับแม่ให้ได้ เราต้องหวานสุภาพกับเขา นายคนนี้แพ้คนพูดจาดีๆ”
อิริน่าปิดประตูอย่างเบามือ แต่ยังมีเสียงคลิก
ห้องนั่งเล่นในที่พักของพนักงานสถานทูต...เจตรินนอน อ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา โดยใช้ไฟฉายจิ๋วให้แสงสว่าง เขาละสายตาจากหนังสือมองไปทางเสียงประตู อีริน่ายืนนิ่งใจลอยที่ผนังกระจกใส มองออกไปภายนอก ไม่เปิดไฟ แสงสลัว นุ่มสวยมากจากแสงเมืองภายนอก เบื้องหน้าเป็นภาพมอสโกยามดึก สวย สักครู่เจตรินเข้ามา
“แปลกที่นอนไม่หลับหรือ”
อิริน่าตกใจ
“อุย มาเงียบจังเลยค่ะ ฉันทำคุณตกใจตื่นหรือเปล่าคะขอโทษนะคะ”
“ขอโทษ เป็นด้วยหรือ”
“ค่ะ ฉันสำนึกผิดมากๆค่ะที่ดื้อกับคุณค่ะ เอ้อคือ ฉันนอนไม่หลับ...เพราะคิดถึงพ่อกับแม่ค่ะ เลยทำให้คุณนอนไม่หลับไปด้วย”
“เปล่าครับ ผมเป็นคนนอนดึก”
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 2 (ต่อ)
อิริน่าหันไปมองวิวเบื้องหน้าต่อ สองคนยืนคู่กันในแสงสลัวที่สวย เจตรินสังเกต
“คุณกังวลเรื่องพ่อม่ามากสินะ”
“ค่ะ” เอ้อ ถ้าหากคุณยูริหาเอกสารไม่พบ ฉันจะกลับเมืองไทยไม่ได้ใช่ไหมคะ”
“ทำนองนั้น แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละถ้าแต่งงานกับผม เธอก็กลับไปในฐานะภรรยาของผม”
อิริน่ามองเจตรินหน้าเศร้าแต่สวยมาก เจตรินมองรู้สึกหวั่นไหวปั่นป่วนใจแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พยายามสะกดใจ
“ทำไมเราต้องทำอย่างนี้ด้วย ไม่มีวิธีอื่นหรือคะ วิธีที่ฉันไม่ต้องทำให้ คุณกับคู่หมั้นต้องผิดใจกันหรือถึงขนาดต้องแยกทางกัน”
เจตรินปลอบ
“คุณกับผมทราบเงื่อนไขอยู่แล้วว่า เราแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเพียงในนาม ผมกับอารดาก็ยังเป็นคู่หมั้นกันอยู่”
อิริน่าไม่แน่ใจ
“ได้เหรอคะ มีภรรยาแล้วยังมีคู่หมั้นได้เหรอคะ”
“ก็...”เจตรินอึกอัก
“เขาอาจจะเลิกหมั้นกับคุณ ครอบครัวคุณกับครอบครัวเขาคง เสียใจมาก ครอบครัวเขาคงจะโกรธคุณมากด้วย”
เจตรินหนักใจคิดไม่ตก นี่เป็นปัญหาใหญ่ของเขาเหมือนกัน
“กลับเมืองไทยแล้วผมจะอธิบายให้เขาเข้าใจครับ คุณไปนอนเถอะนะ”
อิริน่ายังนิ่งมองไปข้างนอก ยังกังวล เจตรินเปลี่ยนเรื่อง
“ผมมีวิธีให้นอนหลับสบายนะ...สนใจมั้ย”
อิริน่าหันมอง เจตรินยิ้มให้
ครัวในที่พัก...เจตริน รินน้ำร้อนจากกาต้มน้ำใส่แก้วซึ่งมีน้ำผึ้งอยู่ แก้วสองใบวางเคียงกัน แต่อีกใบชงเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจตรินวางกาน้ำบนที่รองสวยๆ แล้วหยิบช้อนในจานรองมาชง แล้ววางช้อน
คนในจานแล้วถือแก้วสองใบไป อีริน่านั่งรออยู่ใกล้ๆแถวนั้น เขายื่นแก้วให้
“น้ำผึ้งอุ่นๆช่วยคลายเครียด ช่วยให้หลับสบายครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
เจตรินยื่นแก้วไปรอชนแก้วกับอิริน่า อิริน่าชนแก้วกับเจตริน
“Cheers”
“Cheers”
เจตรินดื่มไปอึกใหญ่ อิริน่าจิบนิดหน่อย
“เอาไปดื่มต่อในห้องนอนได้มั้ยคะ”
“ได้ครับ ดื่มให้หมดล่ะ เหลือเดี๋ยวมดขึ้นแล้วแอบไปทำรังในเตียงผม”
“ไหนว่ามดไม่ตอมน้ำผึ้ง”
เจตรินมองหน้าอิริน่า มุมหน้านั้นสวยหวาน
“อะไรหวานมดตอมหมดละครับ นี่เป็นน้ำผึ้งไทยด้วยนะ มดรัสเซียอาจอยากลองของแปลก”
อิริน่าหัวเราะชอบใจเต็มที่ หน้าตาสดใสและสวยสุดๆ เจตรินมองอย่างเผลอใจ อิริน่ารู้สึกตัวว่าถูกมอง ค่อยๆหยุดหัวเราะ เขินๆ เจตรินรู้สึกตัวว่าเสียมารยาท มองไปทางอื่น เก้อๆ
“ฉันไปนอนนะคะ”
“ครับ” เจตรินยิ้มให้
อิริน่าเดินถือแก้วน้ำผึ้งมาที่น้าห้อง เจตรินถือแก้วของตัวเองเดินตามมา อิริน่าพูดกลบเขิน
“ไม่ต้องมาส่งก็ได้”
“ก็มาแล้วนี่”
เจตรินไปยืนด้านที่บานประตูจะบัง เปิดประตูห้องให้อย่างเบาที่สุด อิริน่าเงยสบตากับเจตริน เขินกันทั้งสองคน
“ขอบคุณค่ะ” เจตรินเสียงเบาเพราะลดเสียงด้วย เพราะใจป่วนแปลกๆด้วย
“ยินดีครับ หลับให้สบายนะ”
“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
“ราตรีสวัสดิ์ครับ”
อิริน่าเข้าห้อง เจตรินปิดประตูเบาสุดๆ แล้วยังยืนอยู่หน้าประตู มองบานประตูราวกับจะให้ทะลุเข้าไปข้างใน รู้สึกว่าใจเต้นแรงด้วยความสุข
ในห้องนอน อิริน่านั่งที่เตียงอยู่แล้ว มือยังถือแก้วน้ำผึ้ง ตาฝัน หน้าใสมีความสุข สักครู่รู้สึกตัว
“เป็นบ้าไปแล้วเรา”
อิริน่ายกแก้วน้ำผึ้งขึ้นมาดื่ม แล้วสำลักพรวด ไอแค่กๆ แก้วลื่นหลุดมือหล่นแตกเพล้ง อิริน่าไอไม่หยุด ฤดีตื่นเพราะเสียงแก้วแตกและเสียงไอ พลิกตัวหันมามอง
“เป็นอะไรอิริน่า”
“สำลักค่ะ” อิริน่าพูดเป็นห้วงผสมสำลัก แทบพูดไม่ออก
ฤดีลุกมาลูบหลังให้ อีริน่ามองแก้วที่แตก น้ำผึ้งนองพื้นแล้วขำ…เธอทั้งขำ ทั้งสำลัก ฤดีงงๆ
“สำลักจะแย่ แล้วยังขำอะไรอีกจ้ะ”
“ขำที่แม่ของอิริน่าเคยบ่นเวลาสำลัก ว่าใครแช่งค่ะ”
ฤดีขำด้วย
บ้านของมิคาอิล...สมุนจิกผมบนหัวของพริมจนหน้าหงายเงิบ มิคาอิลหัวเราะชอบใจมองหน้าพริม
“นังนี่สวยไม่เลว มันหน้าตาดีทั้งแม่ทั้งลูก เสียแต่โทรมซีดไปหน่อย”
“ปล่อยฉันไปเถิดมิคาอิลได้โปรดเถิด”
“ปล่อยได้ยังไง คนไทยตัวเล็กแถมหน้าตาไม่แก่เร็ว เอาไว้หลอกฝรั่งว่าอายุยี่สิบกว่าสบายๆ”
พริมตกใจ
“แกจะทำอะไรฉัน ไอ้แมงดาหากินตามชายกระโปรงผู้หญิง”
สมุนอีกคนรีบยกมือจะตบหน้า
“อย่าทำมัน ฉันเป็นคนชอบของสวยของงาม ไม่พยายามทำลายให้หายสวยหายงาม สวยแต่ปากเสียยังดีกว่าน่าเกลียดแล้วปากดี ยกให้มันไว้สักคน ในฐานะว่าที่ม่ายายของฉันว่ะ”
มิคาอิลยื่นหน้าไปหา พริมถ่มน้ำลายใส่หน้ามิคาอิล
“ลูกสาวของฉันไม่มีวันกลับมาตกนรกทั้งเป็นที่นี่กับพวกเดนนรกอย่างพวกแก”
“อิริน่าคนสวยจะกล้าหนีไปไหนถ้าได้เห็นพ่อกลายเป็นหมาติดยาถอนตัวไม่ขึ้น พออีนี่ไปหาสุดที่รัก สุดที่เลวของมันสิ แล้วมันจะยังปากกล้าอีกไหม เอาตัวมันไปหาผัวมัน”
สองคนกระชากพริมออกไป มิคาอิลหัวเราะตามไล่หลัง
เจตรินหน้าตาฝันๆ กำลังดื่มน้ำผึ้งแล้วสำลักพรวด น้ำผึ้งบางส่วนลงโซฟา เจตรินโดดโหยง
“ฮึ้ย ใครพูดถึงเนี่ย”
เจตรินไอแค่กๆ พลางมองโซฟา หยิบผ้าขนหนูแบบที่ใช้ซับเหงื่อมาเทน้ำจากเหยือกใส่ เช็ดโซฟา
“หมดกัน คืนนี้นอนคุยกับมดสนุกแน่ เฮ้อ”
ในห้องขัง นิโคลัยกำลังอยากยาอีกแล้ว เขาร้องถามเสียงแห้งแล้ง
“มิคาอิลอยู่ที่ไหน”
พริมถูกพามา พริมตกใจเห็นสภาพนิโคลัย สมุนเหวี่ยงพริมเข้าใส่นิโคลัย
“นิโคลัย”
“พริม มาที่นี่ทำไม” นิโคลัยตกใจมาก
“มาหานิโคลัยน่ะสิ มาบอกว่าอีริน่าปลอดภัยแล้ว” พริมบอกอย่างไม่รู้สึกหวาดกลัวใดๆ
“เมียแกมันโง่มาก มันยอมให้ไอ้คนแปลกหน้าพาลูกสาวแกไป แล้วเสียสละยอมโดนจับตัวเสียเอง” สมุนเยาะ
“เลวมาก นายแกมันไม่มีวันได้ตัวลูกสาวของฉันแน่ ขอบใจมากพริม ที่เสียสละเพื่อลูก” นิโคลัยสบายใจขึ้นที่ลูกสาวปลอดภัย
“แกอยู่ครองรักกันไปในห้องนี้เถิดนะ ฉันไปก่อน”
สองคนทำท่าจะออกแต่นิโคลัยเรียกไว้
“เดี๋ยวฉันเอ้อ ฉัน...”
“อยากได้ยา ไอ้บ้า แทนที่จะยากให้ลูกสาวปลอดภัยกลับอยากได้ยาดูผัวแกนะพริม ผัวที่รักกลายเป็นทาสยาเสพติด”
พริมดึงนิโคลัยไว้
“อย่าไปยุ่งกลับยานั่น”
นิโคลัยไม่สนใจสะบัดพริม เข้าไปกอดขาสมุนที่สะบัดจนเขาหงายผึ่งลงไป
“อย่าทำเขา”
สมุนไม่สนใจเตะซ้ำแล้วเดินออกไปปิดประตู เหลือเพียงพริมโอบกอดนิโคลัยร้องไห้ ส่วนนิโคลัยโหยหวยหายาเสพย์ติด
“พริม ขอยา ขอยา...”
พริมตบหน้าแรงๆไปมา
“คุณบ้าไปแล้ว นิโคลัย คุณบ้าไปแล้ว”
พริมเองก็ร้องไห้ นิโคลัยก็ซบหน้ากับฝ่ามือร้องไห้อยากยา
วันใหม่ ยูริมาบอกเจตริน กับอิริน่า บอกว่าหาเอกสารของอิริน่าไม่พบ
“หาเอกสารที่ว่าไม่พบหรือ แย่จริง”
“อาจพบ แต่คุณยูริไม่ทราบว่าใช่หรือเปล่า ให้ฉันไปหานะคะ ได้โปรด”
อิริน่าไหว้เจตริน ตรงอกระชดกระช้อยน่ารัก
“นี่เธอเปลี่ยนวิญญาณกับใครหรือเปล่า ทำไมกลายเป็นคนละคนในร่างเดิมไปซะงั้น”
อิริน่าร้องไห้คร่ำครวญ
“ก็แค่ไปค้นเอกสารด้วยกันจะเป็นไรไปคะ ถ้าคุณกลัวว่าจะมีอันตราย ทำไมคุณไม่เอาตำรวจตามเราไปด้วย”
“จริงแฮะ” เจตรินมองหน้ายูริ
“อิริน่าดีใจมากโผมกอดหอมแก้มยูริ
“แทงคิ้ว”
เจตรินส่ายหน้า
“ผมยังไม่ได้โอเคสักหน่อย อย่าเพิ่งดีใจจนออกนอกหน้า ขอพิจารณาให้ถ่องแท้ก่อนครับ”
อิริน่ายิ้มหวานประจบ
ใต้หน้าต่างห้องพัก...อิริน่า กับเจตริน ช่วยกันหาซองเอกสาร แต่ไม่พบสิ่งใด อิริน่าชำเลืองมองเจตรินแอบยิ้ม
“นายคนนี้หลงกลเราจนได้ ดีละ เราจะไปหาพ่อกับแม่ให้ได้ เป็นไงเป็นกัน”
“ว่ายังไงหาพบไหม ในห้องพักก็ไม่มีที่นี่ก็ไม่มี แปลว่าไม่มี”
“แปลว่าไอ้พวกนั้นมันเอาเอกสารของฉันไปน่ะสิ”
“เหลวไหล มันจะเอาไปทำไม”
“เอาไปเพื่อไม่ให้ฉันเอาไปใช้เดินทางไงล่ะ”
“มันรู้ที่ไหนว่าเธอจะเดินทาง”
“มันรู้สิ เรื่องแค่นี้เล็กๆ ใครก็เดาได้ว่าทำไมคุณถึงต้องพาฉันไปสถานทูต กราบนะคะไหนไหนเรามีตำรวจคุ้มกันแล้ว เข้าไปเอาเอกสารของฉันไม่เห็นจะเป็นอะไร”
“มันอันตราย”
“ถ้าอย่างนั้นฉันไปคนเดียว ไปก่อนนะ บ๊ายบาย”
อิริน่าชกตาเจตรินแล้ววิ่งพรวดหนีออกไปทันที เจตรินตกใจมาก
“เฮ้ย อย่านะอิน่า ยัยตัวแสบ”
เจตรินรีบตามไปทันทีพลางยกหูบอกตำรวจ
“ตำรวจครับ เกิดเหตุแล้ว”
อิริน่าวิ่งหนีเจตรินมาถึงหน้าที่พักของมิคาอิล มาถึงหน้าประตู ยามสองคนเข้ามาขวาง
“จะไปไหน”
“ไปหานายแกน่ะสิ”
อิริน่ากระโดดเตะถีบสองคนพร้อมกันจนเซถลา
“เฮ้ย...”
เจตรินวิ่งมาทันหอบแฮ่ก พลางร้องเรียก
“อิริน่า ออกมานะ”
“คุณนั่นแหละออกไปซะ ฉันจะเข้าไป”
“อย่า”
สองคนถลาเข้ามาได้มาขวาง เจตรินก็สู้เป็น อัดสองคนแตกกระเจิง ผวาไปกระชากแขนอีริน่าไว้
“อย่ามาลากฉันออกไป มาถึงที่นี่ฉันต้องได้พบพ่อกับแม่”
“ เป็นไงเป็นกัน มาถึงขั้นนี้แล้ว ไหนไหนก็ไหนไหนเรามีตำรวจคุ้มกันอยู่ด้านนอก”
“น่ารักมาก น่ารักที่สุด”
เจตรินโอบบ่าอิริน่าแล้วเดินเข้าไป อิริน่าปัด
“มากไป”
“ทำตัวให้เหมือนว่าเราสามัคคีกันหน่อยอิริน่า มาด้วยกันแท้ๆ”
อิริน่านิ่งไปปล่อยให้เจตรินโอบบ่า สมุนอีกคนวิ่งมา จากด้านในคนนี่เคยจับอิริน่า
“อิริน่า”
“ฉันมาหานายแก ไปบอกเลย”
สมุนวิ่งกลับ อิริน่ากับเจตรินเดินตามไป
มิคาอิลกำลังพูดมือถือกับลูกค้ายาเสพติด
“คุณเป็นลูกค้าเก่าก็จริง แต่คุณหายไปนาน กลับมาก็ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่...ถึงยังไงผมก็ต้องตรวจสอบคุณ คุณอาจเป็นสายตำรวจมาล่อซื้อผมก็ได้นี่...ยังไงก็ต้องทำตามกฎของผม หากผมไว้ใจคนง่ายๆ ผมคงไม่อยู่มาได้ถึงเดี๋ยวนี้”
มีเสียงเคาะประตู แล้วบอดี้การ์ดเปิดเข้ามา
“คุณอิริน่ามาครับเจ้านาย”
มิคาอิลยิ้มอย่างสมใจมาก รีบวางสาย
“ในที่สุดเธอก็ต้องซมซานมาหาฉัน อิริน่า”
หน้าตัวบ้านมิคาอิล อีริน่าคนเดียวยืนอยู่นอกประตู ครู่หนึ่ง มิคาอิลเดินหัวเราะยียวนชวนเหยียบออกมาหา
“ในที่สุดสาวน้อยของฉันก็มาหาฉัน สวัสดีที่รัก”
“ฉันมารับปาปากับแม่”
“ง่ายไปมั้ย เข้ามาสวีตกันให้ชุ่มฉ่ำใจก่อนสิ”
มิคาอิลฉวยข้อมืออิริน่า เจตรินที่ยืนหลบๆอยู่ ดึงมืออีริน่าออก
“กรุณาสุภาพกับสุภาพสตรีด้วย”
“แกเป็นใคร”
“ผมเป็นคนรักของอิริน่า”
อิริน่าสะดุดกึกนิดหนึ่ง เขินกับคำว่าคนรัก มิคาอิลจะกระชากคอเสื้อ เจตรินปัดมือมิคาอิลออกอย่างแรง มิคาอิลจะเล่นงานเจตรินอีก ทันใด หัวหน้าตำรวจเข้ามา ยื่นหมายค้น มิคาอิลผงะ
“หมายค้น”
มิคาอิลโกรธ กระชากหมายไปดู หัวหน้าตำรวจโบกมือ รถตู้คอนเทนเน่อร์สำหรับขนตำรวจ แล่นเร็วออกจากที่ซุ่มมาจอด ประตูหลังเปิด ตำรวจลง มิคาอิลโกรธจัด ฉีกหมายค้นปากระจาย มองเจตรินและอีริน่า แค้นอาฆาต เจตรินหน้าตาไม่กลัวมิคาอิล โอบไหล่อิริน่าแบบปกป้อง
“จะเล่นกับฉันใช่มั้ย...”
เสียงปืนจากในบริเวณบ้านลั่นขึ้นนัดหนึ่ง ทุกคนหาที่หลบกันชุลมุน จากนั้นเสียงปืน
สนั่นจากฝ่ายลูกน้องของมิคาอิล ที่หันมาสั่งลูกน้องที่อยู่ใกล้ๆ
“เอาสองผัวเมียนั่นไปขังไว้ เดี๋ยวนี้”
“ครับนาย”
บอดี้การ์ดของมิคาอิลรีบคุ้มกันพามิคาอิลหลบไป เจตรินโอบเอาตัวเองป้องกันอิริน่า พาวิ่งเข้าที่หลบ หัวหน้าตะโกนตะโกนสั่ง
“กระจายกันเข้าไป”
ตำรวจทำตามคำสั่ง ต้องหลบเพราะลูกน้องมิคาอิลยิงกระหน่ำ อิริน่าวิ่งพรวดเข้าในบริเวณบ้าน
“เฮ้ย...” เจตรินตกใจ คว้าไม่ทัน
“อย่า” หัวหน้าห้ามไม่ทันเช่นกัน
เจตรินรีบตามไป หัวหน้าตำรวจยิงคุ้มกัน อีริน่ากลิ้งตัวกับพื้น หลบกระสุน เจตรินกลิ้งตาม
อิริน่าถึงมีที่กำบัง พยายามหาทางเข้าตึก เจตรินมาด้วย
“บ้าบิ่นเกินไปแล้วนะคุณ”
“เป็นพ่อคุณ คุณจะบ้าบิ่นมั้ยล่ะ”
เจตรินเงียบ ช่วยมองหาทาง อีริน่าเห็นทางที่พอไปได้
“มาทางนี้”
สองคนไปด้วยกัน อีริน่าปีนหน้าต่างบานหนึ่ง เจตรินปีนอีกบาน เข้าในตึกได้ เสียงยิงกันยังดังตลอดเวลา
อิริน่านำเจตรินหลบเลาะไป เสียงยิงกันยังอยู่
“ท่าทางคุณรู้จักบ้านนี้ดี”
“ฉันเคยมาเป็นประจำ”
“สมัยคบกับมิคาอิลเหรอ”
อิริน่ายั๊วะปรี๊ด หยุดกึก หันไปจะเล่นงาน เจตรินยั้งไม่ทัน ชนโครมแต่ไว โอบอิริน่าไว้ได้ แนบชิดกันมาก สองคนมองหน้ากัน ใจเต้นโครมๆทั้งคู่ แต่ยังไม่ทันไร ลูกน้องมิคาอิลกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา ทั้งฝ่ายเจตริน ฝ่ายลูกน้องผงะ แล้วไม่ฟังเสียง สู้กันสุดฤทธิ์ ผลัดกันเหนือผลัดกันเพลี่ยงพล้ำ มีปืนโดนเตะโดนบิดมือหล่นบ้าง อิริน่าสู้ไปด้วยตะโกนเรียกพ่อไปด้วย
“ปาปา ปาปาอยู่ห้องไหนบอกลูกด้วย”
นิโคลัยถูกมัดอยู่ หน้ายังฟกช้ำมากมาย ทั้งดีใจทั้งห่วงอิริน่า ได้ยินเสียงปืนด้วย ตะโกน
“ปาปาอยู่ห้องนี้อิริน่า”
นิโคลัยพยายามจะยื่นขาไปเตะอะไรที่จะทำล้มหรือทำให้เสียงดังมากๆได้ แต่ยังไม่สำเร็จ
ตำรวจกับลูกน้องยิงกันอย่างต่อเนื่อง ลูกน้องยิงรถตำรวจระเบิดไป 2 คัน ไล่ๆกัน วิ่งหลบแรงระเบิดกันอลหม่านทั้งตำรวจทั้งลูกน้อง แล้วยิงรถอีกคันโดนถังน้ำมันแตก น้ำมันไหลไปสมทบของเดิมที่ระเบิด ไฟลุกท่วมแถวนั้นราวทะเลเพลิง
ด้านใน เจตรินอัดลูกน้องสลบไปคนหนึ่ง เหนื่อยแทบยืนไม่ติด ลูกน้องอีกคนกระโจนเข้ามา เขาฮึดสู้ นิโคลัยพยายามสุดขีดที่จะเตะของส่งสัญญาณให้เร็วที่สุด เสียงโครมดังสนั่น ทำให้อิริน่าสังหรณ์ว่าเป็นพ่อ
“...ปาปา”
อิริน่าวิ่งไปที่ห้อง ลูกน้องตาม เจตรินคว้าเก้าอี้มาใช้สู้และกันไปในตัว อิริน่าถึงห้อง เปิดประตู ประตูล็อค อิริน่ามองหาที่ว่างเหมาะๆ แล้ววิ่งไปตั้งหลัก แล้ววิ่งอย่างเร็วสุดแรงไปที่ประตู แล้วลอยตัวถีบประตูทั้งสองเท้า ประตูเปิดผาง
อิริน่าลอยตามแรงของตัวเองลงนอนกองโครม จุกเจ็บเคล็ดขัดยอก หน้าเหยเกแต่ไม่ร้อง นิโคลัยทั้งดีใจ ทั้งห่วง
“อิริน่า”
“แม่เล่าค่ะพ่อ”
“มันจับพ่อมาแยกขังต่างหากตอนเกิดเรื่อง”
“เราต้องตามหาแม่ให้พบ”
“ไหวไหมลูก”
“หนูยังไหวค่ะปาปา”
อิริน่าพยายามกัดฟันรีบลุกไปแก้มัดให้พ่อ ลูกน้องพรวดเข้ามาจะขัดขวาง เจตรินตามมาสู้กันไว้
“เร็วๆ อีกกลุ่มกำลังจะเข้ามา ผมจะเอาไม่อยู่แล้ว”
อิริน่าคว้าไม้ท่อนกำลังเหมาะโยนให้
“ต้องหาแม่ให้พบก่อน...เอ้า”
ไม้ลอย เจตรินรับอย่างสวยงาม แล้วใช้หวดลูกน้อง อิริน่ารีบแก้มัด
“คุณนี่ห้าวเกินมนุษย์นะ เร็วเลย ผมไม่ใช่พระเอกหนังบู๊นะครับ”
“แล้วมาบู๊ทำไม”
“อ้าว ก็เราอาจต้องแต่งงานกัน”
“อะไร ใครจะแต่งงาน”
เจตรินและอิริน่าชะงักกันไป เจตรินโดนอัดโครม ล้มแล้วยังสู้กันต่อ อิริน่าแก้เชือกสำเร็จ
“เสร็จแล้ว”
“รีบไป ผมจะหมดแรงอยู่แล้ว”
อิริน่าประคองพ่อออกไป เจตรินหวดไม้ไปมากันให้ ถอยตามไปด้วย
“โอย จากนี้ไปชีวิตผมจะสงบสุขมั้ยนี่”
“ช่วยไม่ได้ อยากมายุ่งกับฉันเอง”
“เอ้า ผิดอีก”
อิริน่าหิ้วปีกลากพ่อไป เจตรินหันไปเห็นปืน นิโคลัยช่วยเตะปืนให้เจตริน
“เอาไปใช้”
“ไม่เอา ผมไม่ใช่นักฆ่า ไม่ได้มาจากซุ้มมือปืน”
เจตรินหวดไม้ใส่ลูกน้องจนล้มสลบ แล้ววิ่งตามอิริน่าไป ลูกน้องอีกกลุ่มกรูเข้าตึก ยกปืนเล็ง ทั้งสามคนชะงัก นึกว่าเสร็จแน่แล้ว แต่โชคดีตำรวจเข้ามาช่วยยิงสกัด ทำให้ทั้งสามคนออกไปได้ ตำรวจช่วยหิ้วปีกนิโคลัย พูดวอว่ามีคนเจ็บ ขอให้ยิงสกัดให้พาคนเจ็บ เสียงปืนดังอีกสักครู่จึงค่อยๆสงบลงจนเงียบ
นิโคลัยนอนบนเตียงพยาบาลกำลังถูกเข็นไปที่รถพยาบาล ไฟฉุกเฉินแวบๆ อิริน่าเดินไปด้วย ห่างออกไปเจตรินและตำรวจที่บาดเจ็บ 6-7 คนกำลังให้พยาบาลทำแผลให้ ตำรวจคุมตัวลูกน้องของมิคาอิลซึ่งถูกสวมกุญแจมือทุกคนไปขึ้นรถ
“แม่หนูอยู่ไหนคะ”
“ตำรวจเขาพบแม่เธอแล้ว ผมให้เขาพาไปหาเอกสารที่ห้องพัก ไม่ต้องห่วง คุณพริมปลอดภัยแน่ถ้ามีตำรวจดูแล”
“โล่งอก” อิริน่าดีใจมาก
นิโคลัยถามเสียงเข้ม
“ปาปาอยากรู้เรื่องแต่งงาน”
“เขาพูดเพ้อเจ้อ”
บุรุษพยาบาลยกเตียงขึ้นรถ อีริน่าชิ่งไป
“อิริน่า....”
ประตูรถพยาบาลปิดปัง รถเปิดไซเรนแล่นไป
ที่พักของอิริน่า พริมเข้าไปค้นข้าวของ เธอหันมาบอกตำรวจ
“คอยสักครู่นะคะ”
“เชิญครับ”
พริมเข้าห้องไป
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 2 (ต่อ)
เจตรินกับอิริน่าอยู่หน้าห้องพักของนิโคลัยอย่างรอคอย ตำรวจ 2 นายเฝ้าหน้าห้อง พริมเดินมาหาอย่างรีบเร่ง พร้อมกระเป๋าใส่ของใบเล็กๆ อิริน่าดีใจ ถลาไปหาพริม เจตรินไหว้
“แม่จ๋า เอกสารของหนู หาเจอไหมจ้ะ”
“อะไรเอกสารของหนู”
“มันหายไปแล้วค่ะ”
“พวกมันเอาไปแน่ๆ”
พริมหน้าเสีย
มิคาอิลชูเอกสารของอิริน่า
“นี่ยังไงเอกสารของอิรินา ที่มันจะต้องเอาไปทำพาสปอร์ตแล้วหนีฉันไปเมืองไทย ทำลายมันซะ”
สมุนจดไฟใส่เอกสาร เอกสารในเมือไหม้หมด
ภายในห้องพักคนไข้พิเศษ พริมเล่าเรื่องแต่งงานให้นิโคลัยฟัง แล้วเล่าเรื่องที่ห้องอย่างเศร้าๆ
“ห้องพักเราโดนพัง พินาศหมดแล้ว”
นิโคลัยเจ็บใจ
“มิคาอิลแกกับฉันคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว”
แล้วนิโคลัยเกิดอาการอยากยาอย่างแรง
“นิโคลัย เป็นอะไรคะ”
“พริม...เอากล่องเก็บของมาให้ผมหรือเปล่า”
“เอามาค่ะ”
“เอา...มาให้ผม...เร็วพริม..เร็ว”
พริมลนลานหยิบถุงผ้ามาล้วงหยิบกล่องไม้ขนาดย่อมๆออกมา
“ค่ะๆ นี่ค่ะ”
นิโคลัยกระชากกล่องไปเปิด ในนั้นมีเข็มฉีดยาและยาเสพติด พริมตกใจผวาไปกระชากกล่อง
“ยาเสพติด ไม่นะนิโคลัย ฉันไม่ให้คุณเสพ”
นิโคลัยยื้อกล่องไว้แน่น ลืมตัวผลักพริมเซไป นิโคลัยตกใจที่ทำพริม
“ผมขอโทษพริม แต่ผมต้องใช้มัน ไม่อย่างนั้นผมจะตายก่อนได้ช่วยลูก”
พริมน้ำตาร่วงหมดแรง ลงนั่งร้องไห้ นิโคลัยจัดการกับยา สักครู่เห็นนิโคลัยท่าทางมีความสุขหลังได้ยา พริมได้แต่นั่งร้องไห้
วันต่อมา...ในสถานทูต เจตรินนังกุมขมับ ยูริหัวเราะชอบใจ
“บอกแล้วไงว่า บุพเพอาละวาด คุณเจตต้องเจอเนื้อคู่”
“ผมต้องแต่งงานกับเด็กนั่นจริงๆหรือ ยูริ คุณฤดี”
“ก็ถ้าคุณต้องการช่วยเด็กนั่นให้พ้นเงื่อมมือมาร ก็ต้องแต่ง”
“สองเด้งนะครับ คุณเจต ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องคู่หมั้น ที่คุณไม่พึงปรารถนาคนนั้น”
เจตรินนิ่งแต่สองคนมองหน้าพยักหน้าให้...อิริน่าเดินมาหยุดหน้าห้อง จะเข้าไป แล้วชะงักเมื่อเสียงเจตรินลอดออกมา
“ผมมิต้องรับภาระเลี้ยงดูเด็กร้ายกาจไม่น่าพึงปรารถนาไปจนตายหรือครับ คุณฤดี ยูริ”
“เขารังเกียจเรา เขาไม่ต้องการแต่งงานกับเรา ดีละ จะแกล้งซะให้เข็ด”
“และผมก็คิดว่าเด็กนั่นอาจไม่อยากแต่งงานกับผมเช่นกัน”
อิริน่ายิ้ม เดินพุ่งเข้าไปยิ้มหวาน
“แต่ฉันต้องการแต่งงานกับคุณค่ะ ที่รัก”
“อะไรนะ”
เจตรินอึ้ง ยูริกับฤดีมึน
หลายวันต่อมา ห้องหนึ่งของสถานฑูต ถูกดัดแปลงตกแต่งเป็นที่จัดงานเลี้ยงเล็กๆ บรรยากาศสดชื่นสะอาดตา มุมหนึ่งจัดเป็นที่ถ่ายภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาว ช่างภาพ ยูริ และเจ้าหน้าที่สถานทูตช่วยกันจัดเก้าอี้สำหรับถ่ายภาพ มุมหนึ่งเป็นโต๊ะบุฟเฟ่ต์เล็กๆ วางอาหาร ฤดีกำลังเตรียมเอกสารการจดทะเบียนสมรส
เจตรินแต่งชุดขาวหล่อสุดๆเดินไปเดินมา ระงับความตื่นเต้น อยากเห็นเจ้าสาวคอยลอบมองไป
ทางห้องนอนสักครู่ ช่างผมเดินยิ้มออกมา ปรบมือเรียกความสนใจ ทุกคนหยุดทำงานหันขวับมอง เจตรินตื่นเต้นแทบระงับไม่อยู่ แทบไม่หายใจ
“ทุกคนค้า...ขอเปิดตัวเจ้าสาว ณ บัดนาวค่า...”
ช่างแต่งหน้าเดินบังอิริน่า นำออกมา ทุกคนเห็นช่างหน้าแล้วกล่อยกันหมด
“ฮู้” ทุกคนพากันโห่
ฤดีหยอกช่างหน้า
“เจ้าสาวจากดาวดวงไหนเนี่ย คลินิกไม่รับศัลยกรรมเลยนะ มีดศัลยกรรมเสียคมหมด ต้องใช้มีดหมอบวกสวดกันผีอีกร้อยเที่ยว”
ช่างหน้ากรี๊ดรับมุก
“ว้าย พี่ฤดี ปากพี่หมอก็ไม่รับศัลย์เอาบ๊อกๆออกให้เหมือนกัน หลายตัวเกิน”
ทุกคนเว้นเจตรินโห่ชอบใจกัน
“ฮิ้ว”
แต่แล้วเสียงเงียบกริบราวปิดสวิตช์ เจตรินหันมอง ช่างหน้าหลีกทาง ภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือ สาวสวยหวานหยดในชุดเจ้าสาวเดรสสั้นสีขาว ค่อยๆเดินมา หน้าตาเอียงอาย สวยราวเทพธิดา แต่งหน้าโทนอ่อน แต่ออร่ากระจ่างจ้า ถือช่อดอกไม้สดขนาดย่อมๆ
เจตรินตะลึงราวถูกเวทมนตร์ ออริน่าเดินหาเจตริน คนอื่นๆอ้าปากค้างตะลึงความสวยของอิริน่า ทันใดนั้น มีเสียงกระจกแตก มีระเบิดควันลอยเข้ามา กลิ้งที่พื้นห้อง ควันตรึม เสียงหวีดว้ายของสาวๆ เสียงตกใจของผู้ชาย ตามด้วยเสียงไอค่อกแค่ก
เจตรินพุ่งไปหาอีริน่า แต่ไม่ทัน อิริน่าถูกลูกน้องของมิคาอิล ที่สวมหน้ากากป้องกันควัน กระชากตัวไปล็อคไว้ ลูกน้องเล็งปืนใส่เจตริน
อิริน่ากับเจตรินเริ่มสำลักควัน แต่ไม่ยอมเสียเวลา เจตรินล้มตัวลงนอนแล้วไถลตัวไปช่วยอิริน่า
พร้อมๆกับที่อิริน่ากระทืบเท้าลูกน้องอย่างแรง เอาช่อดอกไม้ฟาดเสยหน้ากาก อีกมือก็ปัดมือที่ถือปืน
เจตรินรีบเข้าชาร์จ สู้กันไปไอค่อกแค่กกันไป ชุลมุนท่ามกลางควัน
ยูริหอบผ้าขนหนูผืนขนาดกลางบ้าง เล็กบ้าง ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดจาน และผ้าต่างๆบรรดามีทั้งหมด รีบโยนลงในอ่างล้างจาน เปิดน้ำใส่แล้วให้ฤดีช่วยแจก เพื่อใช้ป้องกันควัน
เจตริน อิน่าสู้กับลูกน้อง โต๊ะอาหารบุ๊ฟเฟ่ต์ล้มโครมคราม อาหารหล่นหมด ฤดีวิ่งไปจะหยิบสมุดจดทะเบียนสมรส แต่ไม่ทัน แกงเผ็ดเทพรวดใส่สมุด ฤดีเหวอ ลูกน้องวิ่งมา ฤดีร้องว้าย วิ่งหนี ลูกน้องเหยียบน้ำแกงที่นองพื้นล้มโครม ฤดีวิ่งกลับมาหยิบถาดแกงสาดพรวดเข้าหน้า ติดหน้ากาก แต่เลอะทำให้มองไม่เห็น จากนั้นกระชากหน้ากาก เอาแกงที่เหลือเทใส่หน้า ลูกน้องแสบร้องลั่น ฤดีสะใจ หัวเราะให้ฝีมือตัวเอง
“ให้มันรู้จักแกงเผ็ดไทยแลนด์ซะมั่ง ชิ”
ยูริวิ่งหนีพรวดเข้ามา ฤดีหันขวับเอาถาดฟาดโครม ยูริโดนฟาดหน้าหงาย
“โอ๊ย คุณฤดีนี่ยูริคร้าบ”
“อ้าว โดนจริง เจ็บจริง”
ลูกน้องจริงเข้ามา ฤดียกถาด ลูกน้องชะงัก ฤดีฟาดพลาด จึงถูกสวนตบเข้าโครม หงายไปทับยูริล้มโครมไป
ด้วยกัน เจ็บจุกทั้งสองคน
“ว้าย ตบจริง เจ็บจริง ยูริ ดูซิ ฟันฉันหลุดหรือเปล่า”
ยูริไม่สน ลูกน้องกำลังจะไปรุมเล่นงานเจตรินกับอิริน่า ฤดีกับยูริช่วยกันรุม แต่ความที่ไม่ใช่นักบู๊ ต่างก็เก้ๆกังๆ โดนลูกน้องอัดซะ ฤดีกระโดดขี่หลัง ให้ยูริอัดลูกน้อง
“เร็ว ยูริ ซัดมันให้หมอบเลย”
ลูกน้องตัวใหญ่และแข็งแรง ฟาดแขนขา เซแซ่ดๆไป ข้าวของล้มครืน พาฤดีล้มด้วย ช่างหน้า ช่างผมยืนกรี๊ดวี้ดคู่ ดูน่าหมั่นไส้ในสายตาลูกน้อง ไอแค่กๆ ตาก็ลืมไม่ค่อยขึ้น
“นี่ ฉันไม่ใช่ยุงนะยะ จะรมควันกันให้ตายไปเลยหรือไง” ช่างผมโวยวาย
“ฉันก็ไม่ใช่ปลาแซมม่อนรมควันนะยะ” ช่างหน้าโวยบ้าง
“ถูก...อย่างหล่อนมันปลาแร่ดผสมปลาบู่ชนเขื่อนเห็นๆ”
ลูกน้องพรวดเข้ามา สองนางตกใจ กรี๊ดสนั่น
“ อ๊าย...”
ลูกน้องแสบแก้วหู ตบสองคน แบบตบทีเดียวได้สองหน้า หน้าหันพร้อมกัน สองคนเงียบกริบไปหลายวิ
เจ็บมาก แค้นมาก หันพยักหน้าให้กัน ถลกกระโปรงกระโดดถีบอกลูกน้อง แบบรวมเท้า ให้ช่างผมหรือไม่ก็ช่างหน้าคนหนึ่งใส่กางเกงขาสั้นสีแดงแปร๊ดไว้ข้างใน ลูกน้องล้มลงไปนอน สองนางถลกกระโปรงกระโจนถีบลูกน้อง
“อ๊าก”
ลูกน้องล้ม เจ็บ สองนางไฮไฟ้ท์กัน แล้วเรียงหน้ากระดานเต้นคู่กัน สักครู่เท้าลูกน้องเข้ามาเกี่ยวขาล้มโครมไปทั้งสองคนวี้ดว้ายใส่จริต แล้วคลานพรวดๆมาสู้ต่อ ช่างหน้าโดดคร่อมลูกน้อง ช่างผมจับเท้าลูกน้องไว้ ช่างหน้าชกโครม แบบจริตสาวสุดๆแต่แรงชาย แล้วเจ็บมือสุดๆ เพราะชกหน้ากาก
“ว้าย เจ็บอะไรจะขนาดนี้ ทำไมแกไม่ถอดหน้ากากให้ฉันชกดีๆ ฮะ”
ช่างหน้ากระชากหน้ากากออก เงื้อหน้ากากจะฟาดลูกน้อง แล้วชะงัก เมื่อเห็นว่าลูกน้องหล่อทีเดียว
“ว้าย...แก๊...สเปกฉันเลยอะ หล่อล่ำขย้ำใจสุดๆ ไว้ชีวิตมันซักคนได้มั้ยอะ”
ลูกน้องตบโครม ช่างหน้ากระเด็นออกไปจากตัว เลือดออกมุมปาก ช่างหน้าร้องแบบชอบ ไม่ใช่เจ็บ
“อู๊ย...ซาดิสม์ อีกต่างหาก หนูช้อบ ชอบคร่า....”
“นังบร้า โดนจนเลือดกบปาก แล้วยังจะบ้ากาม”
ช่างหน้าโดนสะบัดกระเด็น
“ว้าย...ไอ้ชั่ว...”
ลูกน้องสะบัดเท้าอย่างแรงถีบช่างผมกระเด็นกลิ้ง ช่างหน้าสวมหน้ากากให้ตัวเอง
เจตรินยังบู๊แหลก อัดลูกน้องลอยหวือกระแทกกระจกแตก ลอยหายออกไปจากตึก ฤดีกับเพื่อนๆช่วยกันจับลูกน้อง ยูริเอาผ้าที่ตกแต่งงานมาฉีกมัดมือมัดเท้าลูกน้อง มัดแบบมือไขว้หลังแล้วโยงมือกับเท้า ทางด้านฤดีวิ่งไปช่วยช่างหน้า ช่างผมที่กำลังวิ่งหนีไปรอบๆ ลูกน้องสองคนวิ่งไล่ ช่างหน้ายังสวมหน้ากาก วิ่งแบบหลอกล่อหลบซ้ายขวาไปมาบ้าง
“ฉันจะไปช่วยสองคนนั้น เดี๋ยวเสร็จแล้วรีบตามไปนะ” ฤดีร้องบอกยูริ
ขณะที่ ช่างหน้าวิ่งหนี ฤดีใช้กระทะแบบมีด้าม หวดเต็มเหนี่ยว ช่างหน้าวิ่งมา โดนกระทะฟาดหน้าเข้าไปเต็มๆ หงายเงิบ
“ว้าย ขอโทษค่า...ทำไมกลายเป็นคุณไปได้” ฤดีร้องลั่น
ช่างหน้าถอดหน้ากาก
“โอ๊ย ไอ้หน้ากากบ้า กันแก๊สแต่ไม่กันเจ็บอะ อู๊ย ยุบทั้งดั้ง ทั้งหน้าแล้วมั้งเนี่ย”
ลูกน้องเข้ามากระชากกระทะจากฤดี ฟาดเต็มเหนี่ยว แต่ฤดีล้มไปก่อนแล้วเพราะแรงกระชาก เลยไม่โดน ช่างผมวิ่งหนีลูกน้อง หน้ามารับกระทะเต็มๆ
“อ๊าย...หัวฉันหลุดรึเปล่าเนี่ย”
ทั้งช่างหน้าช่างผมแค้นสุดๆ ช่วยกันรุมลูกน้อง ฤดีมาช่วยด้วย ยูริกับเพื่อนๆ มาช่วยกันรุมสกรัม
ลูกน้องนอนคว่ำช่างผมนั่งทับ ช่างหน้ากรีดนิ้วถอดถุงเท้าลูกน้องออก ชูถุงเท้า บีบจมูก
“ไม่ซักมากี่ศตวรรษแล้วยะ เหม็นช้างสลบเลยเนี่ย”
ช่างผมตบบ้องหูลูกน้อง แล้วหยิบกระทะตีหัว
“เอาคืนไปเลย”
“อ๊าก” ลูกน้องร้องลั่น
ช่างหน้าจั๊กจี้เท้า ลูกน้องหัวเราะแทบขาดใจ ช่างผมรำคาญเอากระทะตีหัว ลูกน้องเจ็บ ร้องโอ๊ย แล้วหัวเราะเพราะจักจี้ สลับกันไป ช่างผมถอนผมลูกน้องมาเส้นหนึ่ง
“โอ๊ย นังบ้า” ลูกน้องร้องลั่น
“เอ้า...พูดไทยได้อีก เอ๊ะๆ แกดูนี่ซิ ผมหงอกหรือผมดี สีมันเหมือนกันอะ ดูไม่ออก ฉันไม่อยากทุบคนแก่”
ช่างผมชกโครม ช่างหน้าว่า...
“ดูไม่ออกก็ถอนมันทั้งหัวเลยละกัน”
สองนางไฮไฟ้ท์กัน แล้วช่างหน้าจี๋เท้าต่อ
“หยุดนะเว้ย” ลูกน้องทั้งเจ็บ ทั้งหน้าเบ้ทั้งหัวเราะสลับกัน
ประตูด้านหน้าเปิดออก อเล็กซ์และเด็กๆร่าเริงกรูกันเข้ามา แต่งตัวหล่อสวยกันทุกคน นิโคลัยกับพริมยิ้มแย้มตาม พริมสวยมาก แล้วทุกคนชะงักกึกกับภาพที่เห็น
“ว้าย” พริมร้องลั่น เพราะถูกจับ
นิโคลัยหันมอง พริมโดนลูกน้องชุดใหม่จับ นิโคลัยโจนเข้าใส่
“เด็กๆหลบไป”
นิโคลัยบู๊ต่อทันที เด็กวิ่งกันกระจาย แล้วทั้งช่วยทั้งหลบ ลูกน้องผ่านมาใกล้ก็ตีหน้าแข้งบ้าง ตีหลังบ้างเอาของปาใส่บ้าง
เจตรินและอิริน่า เห็นเหตุการณ์ด้านนิโคลัย อิริน่าตกใจแม่โดนจับ หันไปสั่ง
“คุณลุยทางนี้นะ ฉันไปช่วยปาปา”
“ได้เลย”
เจตรินร้องตอบ ยูริเข้ามาช่วยตามมีตามเกิด ชกลูกน้องได้บ้าง แต่โดนอัดซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ใจยังสู้
“ขอบคุณนะยูริ” เจตรินหันไปยิ้มให้
“ยินดีครับ”
ยูริโดนชกโครม ลงไปกอง
ช่างหน้าช่างผม แทบจะล้มครืนเมื่อเห็นลูกน้องมาอีกชุด ลิ้นห้อย แขนตก หลังโก่ง ขาโก่งเป็นท่าลิง
“ฉันเหนื่อยจะสิ้นชีวิตอยู่แล้ว”
“ฉันก็เหมือนกัน”
และแล้วสองนาง ยืดอกบึ้บพร้อมกัน
“แต่...”
“สู้โว้ย”
สองนางวิ่งเข้าช่วยนิโคลัยและอีริน่าสู้กับลูกน้อง เพื่อนๆอื่นๆก็ช่วยกันเท่าที่สามารถ
เด็กๆหลบอยู่ แต่ก็ช่วยตีหน้าแข้งลูกน้องบ้าง เอาอะไรปาใส่บ้าง อเล็กซ์เห็นมือถือหล่นอยู่ รีบวิ่งไปเอาแล้ววิ่งกลับมาเข้าที่ซ่อน กดเบอร์ฉุกเฉินของตำรวจรัสเซีย
“คุณตำรวจครับ...”
เสียงไซเรน เสียงฝีเท้าวิ่งดัง ลูกน้องที่ยังหนีได้รีบหนี แต่ไม่รอด ตำรวจกรูกันเข้ามา
“หยุด นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ”
เมื่อความสงบมาเยือน ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เละไม่มีดี คนอยู่ในสภาพเยินเละสุดๆดูไม่จืด เจ้าบ่าว เจ้าสาวเยินเละตุ้มเป๊ะ เช่นกัน ยูริปากเจ่อหน้าเขียวขอบตาข้างหนึ่งเขียว
“เป็นงานแต่งงานที่ตื่นเต้นที่สุดในโลก ผมจะตามกินเนสบุ๊กมาบันทึกไว้...อูย...”
ยูริเจ็บแผลมาก ฤดียกสมุดทะเบียนสมรสชู น้ำแกงไหลโจ๊กออกมาจากสมุด
“จดทะเบียนสมรสแถมแกงเชลล์ชวนชิมให้ด้วยค่า...”
ช่างสองนางนอนแผ่ที่พื้น หัวสวนกัน ยังเหนื่อยแสนเหนื่อยแต่ยังไม่วายช่วยกันพูดต่อ
“ชีวิตสมรสจะดีเด็ดเผ็ดร้อนเยี่ยงแกง...”
“ตา...หลอด...ปาย...”
ทุกคนหัวเราะกัน
“แต่งหน้าแต่งผมใหม่หมด แกมีแรงมั้ย” ช่างหน้าถาม
“แกล่ะ” ช้างผมย้อน
“ไม่มี” ทั้งคู่พูดออกมาพร้อมกัน
อเล็กซ์ยื่นหน้าเข้ามาก้มมอง สองนาง ยิ้มหล่อ
“สู้ๆครับ พี่สาวคนสวย”
สองนางมีแรงดัดจริตโดดเด้งทันที ช่างหน้าดึงแก้มอเล็กซ์
“ฮู้ย...คุณน้อง น่าร้าก...ป่ะ สู้ๆ”
“เสร็จงานนี้แล้วจะไปเล่นละครบู๊ วัดกับจาพนมตัวๆไปเลย” ช่างผมฮึด
“ที่เล่นจริงเจ็บจริงอยู่เนี่ย ไม่เข็ดใช่มั้ยนังนักบู๊”
สองนางเดินกะเผลกก้นบิดไปหาอิริน่าและเจตริน เด็กๆหัวเราะกันกลิ้ง นิโคลัย พริม และคนอื่นๆ
ขำไปด้วย ฤดี ยูริและเพื่อนๆไปช่วยกันเคลียร์ห้อง จัดโน่นนี่ตามหน้าที่กันไป เด็กๆไปช่วย
เจตรินกับอิริน่าในสภาพที่พอดูได้ขึ้น กราบเท้านิโคลัยและพริม หลังจากที่ทั้งคู่อวยพรเสร็จแล้ว ฤดี ช่างหน้า ช่างผมซับน้ำตาแห่งความสุข
“ฝากอิริน่าด้วยนะคะคุณเจตริน” พริมยินดี น้ำตาซึม
“อิริน่าคือดวงใจของเราสองคน” นิโคลัยบอกย้ำ
“ผมจะดูแลอิริน่าอย่างดีที่สุดครับ” เจตรินยืนยัน
“ขอบคุณมากคุณเจตริน”
ทันใดเสียงเป่าปากดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงป๊อบๆติดๆกัน แล้วสายรุ้งปลิวกระจายสวยงาม ทั้งสายรุ้งกระดาษแบบที่ดึงจากกรวย และสายรุ้งกระป๋อง และยังมีกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆที่ใช้โปรย กระจายไปทาวๆ จากฝีมือของเด็กๆ ทุกคนสนุกสนานกันมาก
เจตริน และอิริน่าวิ่งมาหยุดพัก ช่างผม ช่างหน้าตามมาด้วย
“สมรสบู๊วันนี้เป็นสัญญาณเลิศประเสริฐศรีว่าชีวิตคู่ของคุณ สองคนจะแซ่บเว่อไร้เทียมทานตลอดชีพแน่ๆ ช่างหน้าบอกทั้งคู่
“แต่ก็ขอให้ไม่เละตุ้มเป๊ะเป็นซากปรักหักพังแบบงานนี้นะ” ช่างผมออกความเห็น
“อ้าว...คุณพี่ครับ นี่อวยหรือแช่งครับ” เจตรินขำๆ
อีกมุมนิโคลัยยืนโอบไหล่พริม มองภาพนั้นอย่างมีความสุข พริมน้ำตาริน เอาผ้าเช็ดหน้าซับเบาๆ
นิโคลัยยิ้ม มองพริมอย่างมีความสุข
“ผมหวังว่าคุณเจตรินจะคุ้มครองลูกเราให้พ้นมือมิคาอิล”
“ฉันก็หวังอย่างนั้นค่ะ” พริมภาวนาให้เป็นเช่นนั้น
ลูกน้องหลายคนมีคนที่บู๊ในงานแต่งงาน กลับไปที่เซฟเฮ้าส์ มิคาอิลเจ็บใจ และเสียหน้ามากที่เล่นงานไม่สำเร็จ
“ต่อให้มันหนีไปดาวดวงอื่นฉันก็จะตาม ถ้าฉันเอาตัวอีริน่ามาไม่ได้ นิโคลัยกับเมียมันต้องตาย พวกแกไปตามหามันเจอมันเมื่อไหร่จับมันมาทั้งพ่อแม่ลูก แต่อย่ายุ่งกับไอ้ผู้ชายที่แต่งงานกับอิริน่า มันเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูต จะพาฉันเดือดร้อน”
วันใหม่ ภายในห้องพักใหม่ของพริม ในบ้านพักของมาดามแคทเธอรีน ภรรยาทูตฝรั่งเศสในมอสโคว์ พริมเขียนจดหมายถึงพ่อ แม่...
“กราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ที่เคารพรักสุดหัวใจของลูก...คุณพ่อคุณแม่...หนูฝากลูกด้วยนะคะ ช่วยปกป้องคุ้มครองหลานของคุณพ่อคุณแม่ด้วย... สักวันหนึ่ง...สักวันหนึ่ง...ลูกสาวนอกคอกของคุณพ่อคุณแม่คงมีโอกาสกลับไปกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ด้วยตนเอง”
พริมปาดน้ำตา เขียนจดหมายต่อ
ในห้องพัก เจตรินและอิริน่า อยู่ค่อนข้างห่างกัน ต่างคนต่างเก้อๆทำอะไรไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ไม่เคยอยู่
กับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะในฐานะสามีภรรยาในนาม อิริน่าจัดกระเป๋าเตรียมเดินทาง จัดให้เจตรินก่อน เธอพับเสื้อผ้าและจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบได้รับการสอนมาดี
อิริน่าจัดกระเป๋าเขินๆ พยายามไม่มองเจตริน รู้ว่าเขามองอยู่ เจตรินมองอิริน่า เขินนิดๆ แล้วค่อยๆหน้าตาชื่นชมเมื่อเห็นอิริน่าจัดกระเป๋าได้ดีมาก เขามองเธอ...
“คุณ...”
“คุณคะ...”
สองคนขำที่พูดพร้อมกัน หัวเราะให้กันเขินๆ
“เชิญครับ”
อิริน่าลังเลนิดๆ แล้วตัดสินใจบอก
“ฉันขอ...ฉันขอพาอเล็กซ์ไปกรุงเทพด้วยได้ไหมคะ”
อิริน่ามีทีท่าจะพูดต่อ มองเจตรินอย่างจะดูว่ามีทีท่าอย่างไร เจตรินรอฟังเพราะเห็นว่าอิริน่ายังพูดไม่จบ เขาไม่ได้คิดอะไรมาก ออกจะเห็นด้วย แต่อิริน่านึกว่าเจตรินอาจขัดข้องเรื่องค่าเดินทาง
“ฉันมีเงินเก็บพอค่าเครื่องบินค่ะ”
“เรื่องค่าเครื่องบินไม่เป็นไรหรอก ผมออกให้ได้ แต่พ่อแม่ของอเล็กซ์เขาจะยอมให้ลูกไปหรือครับ ลูกเขายังเด็ก”
“พ่อแม่ของอเล็กซ์ตายหมดแล้วค่ะ อุบัติเหตุรถไฟตกราง”
“โอ...เสียใจด้วยครับ”
“ขอบคุณค่ะ ญาติของแม่ที่เลี้ยงอเล็กซ์อยู่ก็ไม่ค่อยมีเงิน เมื่อไหร่เขาไม่สามารถเลี้ยงได้ อเล็กซ์จะต้องไปอยู่กับหน่วยงานประชาสงเคราะห์ค่ะ...ฉันสงสาร...”
“ผมเข้าใจครับ คุณจะให้ผมไปคุยกับญาติของอเล็กซ์ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคุยเอง”
“เด็กเดินทางออกนอกประเทศ คงต้องเดินเรื่องกันพอสมควร”
“อเล็กซ์มีส่วนเป็นคนไทยด้วยค่ะ พ่อเป็นคนไทย”
“ผมจะดูระเบียบของสถานทูตให้นะครับ”
อิริน่าไหว้ด้วยความขอบคุณจริงใจ
“ขอบคุณคุณมากค่ะ”
“ตอนนี้ผมเป็นสามีคุณนะครับ ผมต้องช่วยภรรยาสิ”
อิริน่าเขิน เจตรินก็เขิน
“ในนามเท่านั้นนะคะ แล้วคุณจะพูดอะไรกับฉันคะ”
“ลืมไปแล้วครับ”
อิริน่าหุบ หน้าตาชักจะเอาเรื่องขึ้นมา เจตรินทำตาหวานใส่ อิริน่าเขิน หันไปจัดกระเป๋าต่อ วางของผิดๆถูกๆ เจตรินอมยิ้มขำ
พริมจ่าหน้าซองจดหมายสีขาว เขียนตัวบรรจงว่า เรียนพลโทกันต์ และ คุณหญิงพรรณราย นิมิตภูวนาถ
พริมเอาซองจดหมายใส่ซองเอกสารสีน้ำตาลอีกที เอาเทปกาวผนึกปากซอง หน้าซองตั้งใจปล่อยว่าง ไม่เขียนอะไร มีเสียงเคาะประตูแล้วประตูเปิด อิริน่าเดินยิ้มเข้ามากอด หอมแก้มแม่
“จดหมายถึงคุณตาคุณยายเสร็จพอดีจ้ะ”
พริมส่งให้ อิริน่าหน้าเศร้าลง
“หนูอยากให้ปาปากับแม่ไปด้วยค่ะ เราเป็นครอบครัวกันนะคะ เราไม่เคยจากกันเลย”
“อิริน่าก็รู้ว่าแม่ยังไปไม่ได้ แม่รับปากกับมิคาอิลแล้วว่าจะหาเงินใช้หนี้ แม่ต้องรักษาคำพูด”
“มิคาอิลไม่เคยมีสัจจะ มันต้องหาเรื่องเราอีกจนได้”
“แต่ถ้าเราผิดคำพูด เขาจะยิ่งเล่นงานเราหนัก ใช้หนี้มิคาอิลหมดแล้วแม่กับปาปาจะตามไปจ้ะ”
อิริน่าหนักใจ กอดแม่เศร้าๆ แม่ลูกกอดกัน อิริน่าคลายกอด
“ไปถึงเมืองไทยแล้วหนูจะรีบหางานทำส่งเงินมาช่วยใช้หนี้ค่ะ”
พริมหอมแก้มลูก
“ขอบใจจ้ะ แต่อย่าลืม อย่าบอกคุณตาคุณยายเป็นอันขาด เรื่องความเดือดร้อนของเรา ท่านอายุมากแล้ว แม่ไม่อยากให้ท่านกังวล”
“ค่ะแม่”
พริมหยิบซองเงินให้
“นี่เงินของปาปากับแม่ ให้ลูกไว้ใช้ จะได้ไม่ต้องกวนเงินคุณเจตริน ถึงเมืองไทยแล้วลูกรีบไปหาคุณตาคุณยายเลย ไม่ควรอยู่ที่บ้านคุณเจตรินนะลูก ครอบครัวของคุณเจตรินจะรัง...” พริมจะเผลอพูดอะไรที่อิงถึงอดีตของตนกับครอบครัวเจต แต่ยั้งทัน “...จะไม่สะดวกใจ คุณตาคุณยายจะตอบแทนบุญคุณคุณเจตริน ลูกก็เหมือนกันนะจ๊ะ อย่าลืมบุญคุณครั้งนี้”
“หนูจะไม่ลืมเลยตลอดชีวิตค่ะ” อิริน่ายิ้มให้แม่
หลายวันต่อมา...พริมเลือกซื้อของอยู่ในซูเปอร์มาเก็ต เธอหยิบของใส่รถเข็น แล้วมีมือเข้ามากระชากรถเข็นไป พริมตกใจให้ไปมอง ลูกน้องของมิคาอิลผลักรถไปห่าง อีกคนจับแขนพริมแน่น อะไรบางอย่างที่อยู่ในถุงกระดาษสีน้ำตาลจี้อยู่ที่เอวพริม
“อย่าส่งเสียง ปืนจี้เอวแกอยู่...ไปกับเรา ไม่งั้นลูกแก...”
ลูกน้องแกล้งทิ้งไว้อย่างนั้น โกหกเขย่าขวัญพริม เพราะยังไม่ได้จับอีริน่า พริมตกใจมาก แต่ไม่เสียงดัง
“ฉันจะไปกับแก บอกมิคาอิลอย่าทำอะไรลูกฉัน”
ลูกน้องมิคาอิลสองคนดันตัวพริมเดินนำหน้า มันลอบสบตายิ้มให้กันอย่างขำๆว่าพริมหลอกง่าย
เหลือเกิน คนที่ถือปืนเอามือออกจากถุง ชูขึ้นมา ให้เห็นว่าแค่ทำมือรูปปืนแค่นั้นเอง พูดกันเบาๆ
“นังนี่โง่จริงๆ”
นิโคลัยเดินเลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆแห่งหนึ่ง ในตรอกมีวัยรุ่นสองคนตะคุ่มๆรออยู่...
“สวัสดีนิโคลัย”
“สวัสดี”
“นี่ยา” วัยรุ่นยื่นยาให้
นิโคลัยเปิดยาชิม ปรากฏว่าปลอม วัยรุ่นสองคนวิ่งหนี
“เฮ้ย นี่มันยาปลอมนี่”
นิโคลัยจะวิ่งตาม ลูกน้องมิคาอิลพรวดเข้ามาล็อกตัว นิโคลัยรู้ทันทีว่าโดนหลอกมาให้โดนจับ
“ไอ้เด็กเลว หลอกฉันมาให้มิคาอิล”
“โง่เองนี่หว่า เด็กยังหลอกได้”
นิโคลัยสะบัดจะให้หลุด แต่ยังไม่ทันจะสู้โดนตีหัวสลบไปก่อน
เจตริน อิริน่า และ อเล็กซ์ แต่งตัวชุดเดินทาง เดินลากกระเป๋าเล็กออกมาที่รถตู้เช่า อเล็กซ์ตื่นเต้นมากที่จะได้ไปต่างประเทศ คนขับรถกับ รปภ.ช่วยขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นรถตู้ อีริน่ามีกระเป๋าสะพายอีกใบ สะพายแบบเฉียงตัว ที่ช่องด้านหน้ากระเป๋ามีซองจดหมายถึงตา ยายเสียบอยู่ ห่างออกไปมีรถตู้จอดอยู่ใกล้คันหนึ่ง คนขับรถปิดท้ายรถ แล้วไปออกรถ เมื่อรถตู้ของกลุ่มเจตรินเคลื่อนออกไปสักครู่ รถตู้คันนั้นเคลื่อนตามไป
รถตู้ของลูกน้องมิคาอิลตามมาห่างๆ แต่คนในรถเจตรินไม่รู้
“ฉันขอแวะไปลาจัตุรัสแดง แหล่งทำมาหากินของฉันหน่อยได้ไหมคะ” อิริน่าหันมาบอกเจตริน
“ได้สิ เรายังมีเวลาพอ”
เจตรินสั่งคนขับรถให้ไปที่จัตุรัสแดง อเล็กซ์กังวล
“เดี๋ยวเจอพวกมิคาอิลหรอก เต็มจัตุรัสแดงเลย”
“อ้าว นายเล็ก แช่งกันเองแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ให้ไปเมืองไทยด้วยหรอก”
รถเบรกกะทันหัน ทุกคนหน้าคะมำ
“ไอ้บ้าเอ๊ย” คนขับรถโวยวาย
ทุกคนมองไปหน้ารถ รถตู้คันที่ขับตามจอดขวางหน้าในลักษณะปาด ลูกน้องมิคาอิลกรูกันลงจากรถมาที่รถของเจตริน ลูกน้องคนหนึ่งเอาปืนยิงประตู ล็อกอัตโนมัติพัง ลูกน้องเปิดประตู เอาปืนจี้คนขับรถให้ลงจากรถ
ลูกน้องอื่นๆกรู กันมาที่ประตูข้าง มีคนหนึ่งพูดมือถือกับมิคาอิลเสร็จพอดีว่าพบอิริน่าแล้ว
เจตรินกันอิริน่ากับอเล็กซ์ แต่ลูกน้องไม่มีทีท่าจะทำอะไร ยืนคุมประตูรถอยู่เฉยๆ มือถืออิริน่าดังเป็นเสียงบอกว่ามีสัญญาณภาพหรือวิดีโอเข้ามา อิริน่าเอามือถือมากดดูแล้วตกใจมาก
“แม่ ปาปา”
หน้าจอเป็นวิดีโอภาพแม่กับพ่อถูกมัดมือมัดเท้าไว้ด้วยกัน นั่งหันหลังชนกัน ปากทั้งสองคนมีผ้ามัดด้วย ได้แต่ส่งเสียงอื้ออ้า แต่เห็นจากอาการสั่นศีรษะว่าไม่ให้อิริน่าเป็นห่วง ไม่ต้องสนใจมิคาอิล ให้อิริน่ารีบไป แล้วหน้ามิคาอิลยิ้มน่าชังโผล่เข้ามาในหน้าจอมือถือ
“เห็นแล้วใช่มั้ยอิริน่าว่าใครอยู่กับฉัน เธอจะเลือกเห็นแก่ตัวหนีไปมีความสุขที่เมืองไทยแล้วปล่อยให้พ่อแม่ตายอยู่ที่นี่ หรือจะเป็นลูกกตัญญูอยู่ช่วยพ่อแม่...หือม์...สุดที่รักของฉัน”
มืคาอิลหัวเราะกวนสุดๆ อิริน่าน้ำตาร่วง
“ไอ้มิคาอิล ไอ้เลว”
“จะมาหาฉันดีๆ หรือว่าจะให้ฉันแล่เนื้อพ่อแม่เธอทีละชิ้นส่งไปให้เธอทำเนื้อแดดเดียวที่กรุงเทพ” มิคาอิลชูมีดคมกริบ
อิริน่าพรวดลงจากรถ เจตรินคว้าตัวไว้
“อย่า”
“ปล่อย ฉันจะไปหาแม่”
อิริน่าดิ้นแรงจะไป เจตรินยื้อไว้ กระเป๋าที่อิริน่าสะพายอยู่แกว่งแรง ซองจดหมายถึงตา-ยายหล่น
แล้วลื่นอย่างเร็วเข้าไปใต้ท้องรถ โดยใครไม่ได้สังเกต อิริน่าสะบัดหลุด ลงจากรถวิ่งจะไปที่รถของลูกน้องมิคาอิล เจตรินวิ่งตามไปฉุดไว้ทัน
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 2 (ต่อ)
ลูกน้องมิคาอิลเข้ากระชากอิริน่า พร้อมๆกับที่เสียงนกหวีดปรี๊ดสนั่น ลูกน้องมิคาอิลหันมอง แล้ววิ่งหนีไปที่รถตัวเอง เจตรินยังกอดอิริน่าที่ดิ้นพราดๆไว้แน่น
“ปล่อย”
ตำรวจ 3-4 คนวิ่งมาที่เจตรินกับอิริน่า นึกว่ากลุ่มเจตรินโดนปล้น แล้วเจตรินยื้อช่วยอิริน่าจากผู้ร้าย ตำรวจบางคนวิ่งแยกไปที่รถของลูกน้องมิคาอิลด้วย แต่ไม่ทัน รถออกไปก่อนอย่างเฉียดฉิว ตำรวจคนหนึ่งพูดวอให้ตาม
“บาดเจ็บหรือเปล่าครับ” ตำรวจอีกคนหันมาถาม
“ไม่ครับ”
“เชิญไปที่สถานีด้วยนะครับ”
เจตรินพาทุกอิริน่ากลับไปที่รถตู้ เมื่อรถตู้ของเจตรินแล่นออกไป เห็นซองจดหมายถึงตา ยายอยู่บนถนน สักครู่รถกวาดถนนแล่นเข้ามา แล่นทับซองจดหมาย เมื่อรถแล่นเลยไป ซองไม่มีแล้ว
หลังจากให้ปากคำเสร็จ ทุกคนออกมาจากอาคารสถานีตำรวจ อิริน่ายังร้องไห้ เจตรินโอบ
“ฉันไม่อยากไปกรุงเทพแล้ว ฉันอยากอยู่ตามหาปาปากับแม่”
“ให้ตำรวจจัดการเถอะนะ ผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณต้องการให้คุณปลอดภัย”
“แต่ฉันอยากอยู่ที่นี่”
“ผมจะไปส่งคุณที่กรุงเทพก่อน แล้วจะบินกลับมาทันที คุณไว้ใจผมให้ตามเรื่องคุณพ่อคุณแม่คุณ แทนคุณนะครับ”
อิริน่านิ่ง เจตรินดันตัวเบาๆให้ขึ้นรถ รถตำรวจที่จะคุ้มกันไปสนามบินเปิดไฟฉุกฉินเข้ามาจอดรออยู่ใกล้ๆ
“ไปครับ เดี๋ยวตกเครื่อง”
อิริน่าขึ้นรถ เจตรินให้อเล็กซ์ ขึ้น แล้วตัวเองขึ้นตาม รถตำรวจขับนำไป
รถตำรวจและรถตู้ของเจตรินจอดหน้าอาคารผู้โดยสารขาออก หน้าท่ากาศยานรัสเซีย กลุ่มเจตรินและตำรวจลงรถ ต่างฝ่ายเดินเข้าหากัน เจตริน อิริน่า และอเล็กซ์ขอบคุณตำรวจที่ช่วยเรื่องคนร้ายจนถึงคุ้มกันมาส่งที่ท่าอากาศยาน ส่วนเจตรินฝากให้ช่วยเรื่องพ่อแม่ของอิริน่า ก่อนแยกจากกัน
เมื่อขึ้นเครื่อง อิริน่านั่งติดช่องหน้าต่าง คู่กับเจตริน เธอมองเหม่อออกไปอย่างใจหายอาลัยอาวรณ์บ้านเกิดและคิดถึงห่วงใยพ่อแม่ แล้วน้ำตาร่วงเผาะๆ เจตรินยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธอรับไปซับน้ำตา แต่ก็ยังไหลอยู่ เขาจึงโอบไหล่อิริน่าอย่างสุภาพนิ่มนวล อิริน่าหันมาซบอิงเจตรินอย่างคนไร้ที่พึ่ง
“ฉันเป็นห่วงแม่กับปาปา ฉันไม่อยากไปเลย”
“ผมมั่นใจว่าคุณพ่อคุณแม่คุณจะปลอดภัย ผมสัญญา ผมจะกลับมาตามเรื่องให้ แล้วรับท่านไปหาคุณที่กรุงเทพ”
อิริน่าช้อนตามอง มุมนั้นเธอสวยมาก เจตรินมองอิริน่า ใจแทบละลายเพราะความสวย และความใกล้ชิดมากแบบหน้าแทบชนหน้า
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณพักนะครับ จะได้ผ่อนคลาย”
เจตรินโอบ อิริน่าอิง ค่อยๆหลับตาลง ขนตายังชุ่มน้ำตา เจตมองอิริน่า ตัวเองอยู่ในอาการใจเต้นโครมๆ พยายามรั้งใจสุดๆ อเล็กซ์แอบมองอมยิ้มแก่แดด เจตรินหันไปเห็น อเล็กซ์ยักคิ้วล้อ หัวเราะไม่มีเสียงชอบใจ หน้าตาทะเล้น
ภายในเครื่องบิน อิริน่าหลับสนิทอิงเจตรินที่โอบกอดเธอไว้ อเล็กซ์นั่งมอง ทั้งขำทั้งหน่าย เขาไม่หลับเพราะตื่นเต้น เสียงประกาศว่ากำลังจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
“ตื่นได้แล้วครับ ตื่นๆ ถึงกรุงเทพแล้วครับ” อเล็กซ์เรียกทั้งคู่
เจตรินกับอิริน่าตื่น หน้าแทบจะชนกัน แล้วต่างเขินกันไป
“อะไรเล็ก”
“ถึงกรุงเทพ...ถึงประเทศไทยแล้ว”
อิริน่าตื่นเต้น ลืมความทุกข์ชั่วคราว หันมองที่หน้าต่าง ภาพสนามบินสุวรรณภูมิพื้นล่างค่อยๆใกล้เข้ามา
“แผ่นดินเกิดของแม่...”
เจตรินยิ้มอบอุ่นให้อีริน่า อเล็กซ์ยื่นหน้ายิ้มแฉ่งเข้ามา
“แผ่นดินเกิดของปาปาของเล็กด้วย”
อิริน่าล็อกคออเล็กซ์ ไปกอดไว้ ลากไปดูวิวด้วยกัน เจตรินถอยไปนั่งเก้าอี้ของเล็กแทน มองสองคนอย่างเอ็นดู
ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ...อิริน่ากับอเล็กซ์ เดินดูไปทั่วๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ มือถือเจตรินดัง เขากดรับทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของอิทธิ หรืออิฐ เพื่อนสนิทของเขา
“นายอยู่ไหนอิฐ...ได้ เดี๋ยวเจอกัน”
เจตรินเดินนำทั้งสองคนไปหาอิทธิ เมื่อพบหน้าทั้งคู่กอดกัน เพราะไม่เจอกันนานมาก
“สบายดี”
“สบายมาก” เจตรินยิ้มรับ
อิฐเห็นอิริน่า ทึ่งในความสวย อิริน่าไหว้ อเล็กซ์ไหว้ตาม
“ อือม์...เชื่อว่าสบายมาก และเชื่อว่าเดี๋ยวอีกสักชั่วโมงหลังจากนี้นายจะไม่สบาย หากพาสาวสวยขนาดนี้เข้าบ้าน” อิฐแซว
“นี่อิริน่า...ภรรยาฉัน” เจตรินแนะนำอย่างเขินๆ
“หา” อิฐตกใจ เสียงดังลั่น
เจตรินลากเพื่อนไปเพราะคนแถวนั้นมอง ขำๆ ไป ไปก่อน เรื่องมันยาวเดี๋ยวเล่าให้ฟัง”
“เชื่อว่ายาว...ยาวมากแน่ๆ แค่นึกนี่นายก็น่าจะไม่รอดแล้วไหนจะคุณหญิงแม่ ไหนจะคุณอารดา...”
อิริน่าหน้าเสียนิดๆ เจตรินลากอิฐไปอย่างเร็ว
“หุบปากเว้ย ไป”
อิฐขับพาทั้งสามคนไปส่ง อิริน่ากับอเล็กซ์ อยู่เบาะหลัง ทั้งสองคนมองวิวสนามบินและรอบๆเพลิดเพลิน อิฐรู้เรื่องที่เจตรินกับอิริน่าต้องแต่งงานกันแล้ว เขาพูดเสียงไม่ดังนัก เกรงใจอิริน่า
“แล้วนายนึกว่าไอ้มาเฟียนั่นจะหยุดแค่ นายสองคนแต่งงานกันเนี่ยเหรอ”
“อย่างน้อยมาอยู่เมืองไทย ไอ้วายร้ายนั่นยังมีโอกาสน้อย แล้วฉันยังช่วยอิริน่าได้มากกว่าอยู่ที่โน่น”
“ก็อาจจะจริง แต่ฉันว่าที่น่ากลัวยิ่งกว่ามาเฟียก็คือ...” อิฐติดจะขำนิดๆ แต่ก็เกรงใจเพื่อน เพราะหมายถึงแม่ของเจตรินและอารดา “...คนที่นายก็รู้ว่าใคร”
เจตรินถอนใจเฮือก หนักใจมาก อิริน่าแทรกขึ้นมา
“ฉันจะไปหาคุณตาคุณยายเลยได้ไหมคะ”
เจตรินอึ้งไป ใจจริงก็อยากให้อิริน่าไปบ้านตา ยายเลย แต่ก็เกรงจะกลายเป็นใจจืด
“บ้านคุณตาคุณยายคุณอิริน่าอยู่ที่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”
อิริน่าจับกระเป๋าสะพาย แล้วใจหายวาบ ไม่มีซอง อิริน่าดูแล้วดูอีกก็ไม่มี
“จดหมายแม่หาย”
“เก็บไว้ในกระเป๋าใหญ่หรือเปล่า”
“ไปดูในกระเป๋าใหญ่ไหมครับ” อิฐชะลอรถเตรียมจอด
“ฉันเก็บไว้ในนี้แน่นอนค่ะ”
“หล่นที่มอสโก ละมั้งอิริน่า” อเล็กซ์ ออกความเห็น
อิริน่าและเจตรินฉุกคิดถึงตอนชุลมุน แต่ไม่แน่ใจ
รถจอดข้างถนน อิริน่ากับอเล็กซ์ ช่วยกันค้นกระเป๋าเสื้อผ้าของอิริน่า เจตรินกับอิฐยืนคุยกันห่างออกไป
“ให้เขาไปอยู่ที่บ้านฉันก่อนก็ได้ คุณหญิงแม่กับคุณอารดาน่ะ...ขอโทษนะ...นายก็รู้ว่าน้องเขาจะเจออะไร”
เจตรินเหลือบมองอิริน่า แวบขึ้นมาเมื่อนึกถึงฤทธิ์เดชของอีริน่า
“ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากให้เขารู้สึกว่าฉันพาเขามาทิ้งขว้าง ฉัน...เอ่อ...จดทะเบียนสมรสกับเขาด้วย”
“หา...” อิฐตกใจ “ตายๆ ตายแน่เจ้าเจต งานนี้นายโดนยิ่งกว่าพายุสลาตันร้อยลูกถล่มแน่...มีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกนะ”
“ขอบใจ”
อิริน่าหน้าจ๋อยมาหา เจตรินเดาออกถามอย่างอ่อนโยน
“ไม่เจอ”
“ค่ะ”
“ไปพักที่บ้านผมก่อน แล้วค่อยหาทาง”
อิริน่าหยิบมือถือออกมา
“ฉันจะโทรหามิคาอิล ขอพูดกับแม่”
เจตรินจับโทรศัพท์ เลยเท่ากับจับมืออีริน่าด้วย แล้วก็จับไว้อย่างนั้น
“อย่า ผมขอร้องนะครับ อย่าให้มิคาอิลได้ใจว่าอยู่เหนือเรา”
อิริน่าน้ำตาซึม เจตรินดึงมือมากุมปลอบอย่างอ่อนโยน อิฐมองอย่างรู้สึกว่าเพื่อนจะรักผู้หญิงคนนี้จริงๆ
“ฉันอยากคุยกับแม่ ฉันอยากรู้ว่าแม่กับปาปาปลอดภัยดีหรือเปล่า”
“ไปบ้านก่อนนะครับ แล้วช่วยกันคิดว่าเราจะทำยังไง ...นะครับ”
เจตรินพาอิริน่าไปที่รถ ทุกคนไม่มีใครสังเกตว่ามีรถคันหนึ่งจอดมองอยู่ เป็นรถของลูกน้องเขมชาติ คู่ค้าชาวไทยของมิคาอิล ที่ขอให้มาจับตัวอีริน่าให้
เมื่อทุกคนขึ้นรถ อิฐขับรถต่อ เขาสังเกตเห็นว่ารถคันหลังตามติดอย่างผิดสังเกต
“เจต ฉันว่ารถคันหลังมันตามเราว่ะ จี้มาตลอดตั้งแต่สุวรรณภูมิแล้ว”
เจตรินสังเกตนิ่งๆ
“อือม์ เห็นด้วย นายลองเช็คซิ”
“ได้เลย”
อิฐลองทดสอบขับรถวกไปวนมา จริงดังคาดว่ารถคันหลังสะกดรอยตาม
“อะไรเหรอคะ” อิริน่าสงสัย
คนร้ายในรถที่ขับตามมองอย่างสังเกต
“ท่าทางมันจะรู้ตัว ทิ้งระยะไว้หน่อย รอเข้าที่เปลี่ยวค่อยจัดการ” หัวหน้าสั่ง
ในรถอิฐ... อิริน่ามองหลังคา
“คุณอิฐช่วยเปิดซันรู้ฟให้อิริน่าหน่อยได้ไหมคะ”
เจตรินห่วงใย อิฐชอบใจที่อิริน่าห้าว
“โว่วๆ ห้าวได้ใจ”
“อย่าให้ท้ายเด็ก” เจตรินปราม อิฐขำๆ
“เจรจาให้คุณสามีอนุมัติก่อนนะคร้าบ ผมไม่อยากคอขาด”
“อย่าบ้าบิ่น อันตรายนะคุณ เกิดพวกนั้นไม่ได้ตามคุณ ไปท้าทายเขาแบบนั้นจะโดนยิงตายเอา
ง่ายๆนะ คนใจร้อนไร้เหตุผลมีเยอะ”
“สาธุ...เทศน์ได้จับใจ...” อิริน่ามองค้อน “แล้วคุณสองคนมีใครทำอะไรให้ผู้ร้ายตามมั้ยล่ะคะ”
“ไม่มีครับ” ทั้งคู่ตอบพร้อมกัน
“แต่ฉันมี และฉันแน่ใจว่าพวกที่ตามเราเป็นพวกมิคาอิล พวกมันต้องการตัวฉัน มันไม่ฆ่าฉันหรอกค่ะ ทำฉันเลือดออกหรือทำผิวฉันช้ำก็ไม่ได้ มันโดนมิคาอิลเอาตายแน่”
“ฟังเป็นมาเฟียจังนะครับคุณอิริน่า”
“ใช่เลยค่ะ เปิดหลังคาให้ฉันเถอะค่ะ”
อิฐมองเจตรินว่าจะเอายังไง เจตรินเมินไม่มองด้วย อิฐไม่กล้ากด อิริน่าพรวดกดเปิดเอง”
“เฮ้ย”
อิฐหลบจนรถปัด เจตรินจะทำอะไรก็ไม่ถนัด อิริน่ายันไว้
รถอิฐปัดไปมา คนร้ายที่ขับรถเบรก
“เฮ้ยๆ รถมันเป็นอะไร”
“ดี จะได้จัดการง่ายหน่อย”
เมื่อมองผ่านกระจกออกไป รถอิฐแล่นปกติ
ในรถอิฐ อิริน่าจะลุกโผล่หลังคารถ อเล็กเซย์ดึงไว้ แล้วเปิดถุงให้ดูบางอย่าง
“เอาอาวุธไปจัดการมันเลย”
“เฮ้ย”
อิริน่า เจตริน และอิฐร้องออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าในถุงมีลูกแก้วสวยมากมายเป็นพันลูก สวยๆทั้งนั้น แบบตั้งใจคัดมาสะสม
“อาวุธอะไร ตัวแค่นี้ก็ห้าวแล้วเหรอ” อิฐหันมาถาม
“ขับรถไป”
เจตรินสั่ง แล้วดูที่ถุง สงสัยว่าเป็นอะไร อิริน่ากำลูกแก้วขึ้นมา
“นี่ลูกแก้วของฉันนี่ ฉันสะสมไว้ตั้งแต่เด็กเลยนะ...นายจะให้ฉัน...”
อเล็กซ์สวน
“จะหวงไว้สะสมต่อแล้วให้พี่สองคนนี้โดนยิงหัวตายก็เอาคืนไปสิ”
“อูย” อิฐเสียวกะโหลกวาบ
อิริน่าเหล่อเล็กซ์
“เจ้าเล็ก เด็กผีร้าย ก็ได้ๆ เตรียมตัวดีดใส่มันละกัน”
“จะส่งเสริมให้เด็กใช้ความรุนแรงเหรอ”
“เรื่องมาก เด็กปากสมอเรือ เอามานี่ ฉันดีดเอง หลับตา อุดหู ลงไปมุดที่พื้นรถ จะได้ลดการรับรู้ความรุนแรง ปฏิบัติ”
“ปฏิบัติ” อเล็กซ์ ทำตามพร้อมพูด กึ่งจริงกึ่งเล่น
“คุณอิฐเตรียมขับให้เหมือนในหนังเลยนะคะ”
อิฐวิตก แต่ก็พยายามรับมุก
“รับปฏิบัติคร้าบ”
อิริน่าโผล่พรวดขึ้นที่ช่องซันรู้ฟ ตะโกนใส่ผู้ร้าย
“จะทำอะไร ฮะ ขับรถตามอย่างนี้คิดจะทำอะไร”
อิริน่าดีดลูกแก้วใส่กระจกรถคนร้าย ดีดแบบมือดีดอาชีพ กระจกยังไม่แตก รถคนร้ายเสียหลักนิดหน่อย เจตรินห่วงใยอิริน่า หันมาบ่นเพื่อน
“เสร็จงานนี้ฉันจะเช็กบิลแก”
“ให้มีชีวิตรอดไปได้ก่อนเถอะ” อิฐยิ้มแหยๆ ตั้งใจขับรถเต็มที่
คนร้ายในรถ เตรียมพร้อม จะดึงปืนออกมา หัวหน้าร้องลั่น
“เฮ้ย เก็บปืน นายสั่งไม่ให้นังนี่มีแผลสักเท่าแมวข่วน เดี๋ยวได้โดนนายสั่งยิงซะเองหรอก”
อิริน่าดีดลูกแก้วใส่แบบไม่หยุดมือและเร็วมาก ชำนาญมาก คนร้ายคนหนึ่งโผล่มา ทำท่าจะพูดอะไร อิริน่าดีดลูกแก้วใส่ปาก อีกคนคนโผล่มา อีริน่าดีดลูกแก้วใส่ไป 3-4 ลูก หัวโน อีกคนโผล่ อิริน่าดีดใส่แว่นตาแตก
คนร้ายสองคนจะโดดมาเกาะรถอิฐ
“คุณอิฐ เหยียบมิดเลยค่ะ”
“คร้าบผม อิฐทำตาม”
รถอิฐแล่นห่าง คนร้ายยังโดดเกาะไม่ได้ คนขับเร่งรถตาม เจตรินทนไม่ไหว โผล่ขึ้นมาช่วยดีดลูกแก้ว อเล็กซ์เชียร์สุดฤทธิ์
เจตรินดีดลูกแก้ว มุ่งใส่กระจกหน้ารถเป็นหลัก ในขณะที่อิริน่าดีดใส่คนร้ายจนโผล่หน้าไม่ได้ คนร้ายร้องโอ๊ยร้องเฮ้ยกันไป พูดกันประมาณ ไอ้สองคนนี่แชมป์ดีดลูกแก้วโอลิมปิกหรือไงวะ แม่นยังกับผีจับวาง
เจตรินดีดลูกแก้วใส่กระจกได้มุมเหมาะ กระจกหน้ารถร้าวเปรี๊ยะๆ จนแหลกทั้งแผง
“เล็ก เอากระเป๋าเสื้อผ้ามา”
อเล็กซ์รีบส่งกระเป๋าของตัวเองให้ เจตรินเอาเสื้อผ้าปาปิดหน้ากระจกรถผู้ร้ายมิด ปิดหน้าคนขับและคนนั่งข้างคนขับคนที่ยื่นหน้ามาด้วย
“ฮูย หมดเลย เสื้อผ้าผม” อเล็กซ์เซ๋ง
รถคนร้ายส่ายไปมา คนขับโผล่หน้ามองทาง เจออีริน่ากับเจตดีดลูกแก้วใส่เป็นพายุ โผล่ไม่ได้ รถแฉลบลงข้างทาง แบบเบาะๆไม่มีใครเป็นอะไร
“เจต อิริน่าลงมา ตำรวจมา” อิฐร้องบอก
เจตรินดึงอิริน่าผลุบลง อิฐเลี้ยวรถเข้าข้างทาง และเข้าทางแยกเล็กไปเลย
รถตำรวจเป็นรถนำ รถปิดท้ายขบวนรัฐมนตรี ขบวนแล่นผ่านเลยรถคนร้ายไป โดยไม่ได้สนใจ คนร้ายออกมาจัดการกับรถ บางคนวิ่งไปมองหารถอิฐ แต่ไม่เห็นแล้ว หัวหน้าเจ็บใจ
“ไม่น่าเชื่อ มันหลุดมือไปได้”
“นังผู้หญิงนั่นแสบไม่ธรรมดาจริงๆ”
“จะพูดทำไม ฮะ” หัวหน้ายัวะ
อิฐขับรถตะบึงวกวนไปมา กะไม่ให้ผู้ร้ายตามถูก แล้วในที่สุดจอดเพื่อพักเหนื่อย
“เฮ้ย รีบไป เดี๋ยวมันตามมาอีก” เจตรินกังวล
“ขอพักให้หายช็อกเดี๋ยว ฉันขับวนซะจนเวียนหัวเอง มันตามไม่ได้ง่ายๆหรอก”
เจตรินหันมองอีริน่าอย่างตำหนิ อิริน่าทำเมินไม่รู้ไม่ชี้ อเล็กซ์ขำๆ
“อย่านึกว่ามีฝีมือแล้วจะรอดทุกครั้งนะอีริน่า ความเชื่อมั่นในตัวเองเกินไปเป็นความประมาทที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง”
“ค่ะหลวงพี่ เอ๊ย คุณพี่ จะจำไว้ค่ะ”
อิฐขำ เจตรินเหล่
“จะไปได้หรือยัง”
“คร้าบ ไปแล้วคร้าบหลวงพี่ เอ๊ย คุณพี่”
เจตรินเขม่นอิฐ อิริน่าแอบขำแบบไม่มีเสียงกับอเล็กซ์
บ้านและที่ทำงานของเขมชาติอยู่พัทยา บริเวณกว้างขวางใหญ่โต เขมชาติหัวเราะลั่น ไม่มีทีท่าโกรธ เมื่อรู้เรื่องที่ลูกน้องโดนอิริน่าเล่นงาน ลูกน้องยืนสำรวม หวั่นๆว่านายจะเอายังไง เอื้อซึ่งเป้นทั้งเพื่อนและลูกน้องของเขมชาติยืนห่างออกไปด้านหลังของเขมชาติ
“พวกแกแพ้ผู้หญิงคนเดียวเพราะโดนลูกแก้วดีดใส่เนี่ยนะ...มันหนีไปได้ก็ช่างมัน”
ลูกน้องเหวอใส่กัน ประหลาดใจนายไม่เอาเรื่อง
“ฉันเป็นคู่ค้ากับไอ้มิคาอิล ไม่ใช่ขี้ข้าของมัน มันขอความช่วยเหลือฉันก็ช่วย แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะต้องสำเร็จ มันอยากสำเร็จมันก็ต้องมาทำเอง พวกแกไปทำงานได้แล้ว”
หัวหน้าลูกน้องไหว้
“ขอบคุณครับนาย”
เขมชาติเห็นภาพปริ๊นต์ของอิริน่าในกองเอกสารแถวๆปริ๊นเต้อร์
“เดี๋ยว”
ลูกน้องหยุดฟัง เขมชาติหยิบภาพอิริน่าส่งให้
“เอาไปด้วย เผื่อเจออีกก็เอาตัวมา นังนี่คงเป็นสินค้าตัวแสบที่มิคาอิลมันหมายหัวเป็นพิเศษแน่ๆ เราอาจเอาไว้ต่อรองกับมิคาอิลได้”
“ครับนาย”
ลูกน้องออกไปหมด เขมชาติหันมาสั่งเอื้อ
“เดี๋ยวนายปริ๊นต์รูปผู้หญิงคนนั้นเก็บไว้ด้วยนะเอื้อ เผื่อนายเจอ จะได้ช่วยไอ้พวกนั้นด้วย”
“ไม่ต้องหรอก สวยขนาดนั้น เห็นครั้งเดียวก็จำได้”
“ฮะๆ อย่าบอกนะว่าแกติดใจเข้าให้แล้ว ฉันไม่เคยเห็นแกชมผู้หญิงคนไหนสวยเลย จะว่าไปแล้วแกไม่เคยมองผู้หญิงด้วยซ้ำมั้ง”
“ฉันก็แค่พูดตามที่ตาเห็น”
เขมชาตินึกถึงมิคาอิลแล้วหน้าเข้มขึ้น
“จากนี้แกคงต้องทำงานหนักขึ้น เอื้อ มิคาอิลมันสยายปีกไม่เลือกถิ่นใครเป็นถิ่นใคร แต่ในบ้านเราฉันไม่
ยอมให้มันใหญ่กว่าฉันแน่”
เอื้อฟังอย่างสงบ
“นายเป็นเพื่อนฉัน ฉันเชื่อใจนายว่านายจะยืนข้างฉันตลอด”
เอื้อนิ่งสงบ ไม่มีทีท่าจะตอบ เขมชาติประเมินว่าเอื้อคิดอะไร
“ใช่มั้ยเอื้อ”
“เพื่อนกันย่อมไม่ทิ้งกัน”
เขมชาติมองเอื้ออย่างจะหยั่งใจ เอื้อไม่หลบตา ฉันจะเข้ากรุงเทพสักสองสามวัน นายอยู่คุมงานที่พัทยานี่ ติดตามเรื่องยากับผู้หญิงล็อตหน้าให้เรียบร้อยด้วย”
“ได้”
เอื้อเป็นลูกชายของนายอ่อนคนขับรถบ้านพลโทกันต์ คุณตาของอีริน่า เขาไม่อยากเป็นคนขับรถกินเงินเดือนน้อยนิดไปจนตาย และเพราะเป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกันกับเขมชาติ เห็นการค้ายาค้าผู้หญิงเงินดีเลยตกบันไดพลอยโจน แต่ใจก็ไม่ได้ชอบนัก ขัดแย้งในใจตลอดเวลา
รถอิฐแล่นเข้าจอดประตูหน้าคฤหาสน์ ซึ่งมีเนื้อที่มากมาย คนขับลงมาเปิดประตูรถให้อีริน่า อเล็กซ์เปิดกระโดดลงเอง รีบวิ่งมาดูบ้าน เหวอไปเพราะความโอ่อ่าอลังการ อิริน่าก็ตื่นเต้น ไม่นึกว่าเจตรินจะรวยขนาดนี้ แต่ก็สำรวมกิริยา เจตรินลงรถหันมาบอกอิฐ
“เดี๋ยวตามคนมาเปิดประตูใหญ่ให้”
“อือม์” อิฐพยักหน้ารับ แล้วกดมือถือโทรออก
อเล็กซ์เห็นบ้าน ตื่นเต้นสุดๆ
“โว่วๆ บ้านใหญ่มหัศจรรย์เลยอิริน่า”
“จุ๊ๆ เบาๆหน่อย”
เจตรินไขเปิดประตูเล็กให้เข้าไป
“เชิญครับ”
อเล็กซ์วิ่งปรู๊ดเข้าไปก่อน อีริน่าเดินเข้าไปอย่างสงบเสงี่ยม แต่ตาบ่งบอกความตื่นเต้น อิฐพูดโทรศัพท์กับเลขา
“คุณศิรินภาครับ ผมเข้าประชุมช้าหน่อยนะครับ เจออุบัติเหตุนิดหน่อย...ผมไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ
ครับ เดี๋ยวเจอกัน”
ในบริเวณบ้าน อเล็กซ์ดูโน่นนี่ เจตรินเดินไปมองหาคน เสียงแหวว คนใช้ ตกใจ แปลกใจ ไม่ได้รังเกียจเพราะอเล็กซ์หล่อ
“ว้าย เด็กที่ไหนเนี่ย เข้ามาได้ไง”
เจตรินรีบเดินมา แหวววิ่งมา เล็กวิ่งไปดูอะไรๆรอบๆบริเวณ แหววดีใจ ตื่นเต้นสุดๆ
“ว้าย คุณเจต คุณเจตกลับมาแล้ว”
แหวนไหว้เจตริน ศรีซึ่งเป็นแม่บ้านและ จิ๋วกับแจ๋วรีบมา ทุกคนดีใจ
“คุณเจต”
เจตรินยิ้มแย้ม
“เป็นไงครับทุกคน สบายดีนะครับ คิดถึงนะครับ”
“ค่ะ” ทุกคนตอบรับ
“พวกเราก็คิดถึงคุณเจตค่ะ”
“ช่วยเปิดประตูใหญ่ให้นายอิฐเอารถเข้ามาหน่อยครับ แล้วช่วยยกกระเป๋าด้วยนะครับ”
“ค่า” แหววไปเปิดประตู
บรรดาสาวใช้นึกอะไรได้พร้อมกัน ออกทางมีพิรุธ จิ๋มหันไปถามศรี
“ทำไงดีล่ะน้า ฟ้าจะถล่มมั้ยเนี่ย”
“นั่นสิ ถ้าเจอยุกยิกจุ๊กจิ๊กบนตึกละก็... ฮี่ย ดูไม่จืดแน่” แจ๋วหน้าแหย
ศรีมองปรามๆ
“เรื่องของเจ้านาย ไม่ต้องกระแดะเอามาเดือดร้อน”
อิฐขับรถมาจอดหน้าตึก เปิดรถให้หมู่มวลช่วยกันยกกระเป๋า
“สวัสดีครับทุกคน หนุ่มหล่อหนึ่งเดียวประจำบ้านกลับมาให้ชื่นใจกันแล้วสิครับ”
“หนุ่มหล่อสองคนตะหากคะ คุณอิฐด้วย พอคุณเจตไม่อยู่ก็หายเงียบไปเลย” ศรียิ้มให้
“ต่อไปนี้หนุ่มหล่อคนนี้จะกลับมาเป็นขวัญใจอาหารเย็นของป้าศรีอีกตามเดิมละครับ”
เจตรินเดินมาหา
“มาหว่านเสน่ห์อะไรใส่ป้าศรีอีก”
อิฐยิ้ม ยักคิ้วให้
“เรื่องของหนุ่มโสดเสน่ห์แรง หนุ่มไม่โสดไม่เกี่ยว...อิน่าล่ะ”
สี่สาวใช้ชักเอะใจ เริ่มเหวอ
“ใครไม่โสด” แจ๋วซุบซิบ
เสียงอีริน่าดังขึ้น
“อยู่นี่ค่ะ”
สี่สาวหันขวับมอง อิริน่ายิ้มสวยหน้าตาสดชื่น อิริน่าไหว้ สี่สาวรีบรับไหว้แทบไม่ทัน รู้สึกถูกชะตาผู้หญิงคนนี้ทันที
“หนูเป็น...ภรรยา...คุณเจตรินค่ะ”
“หา!” ทุกคนปากหวอค้าง
เจตรินแทบกุมขมับ อิฐขำ
“โอย เดี๋ยวรู้กันทั้งซอยภายในห้านาทีนี้แน่ “
เจตรินกระแอม สี่สาวใช้หันหาเจตริน สำรวม
“ชื่ออิริน่า นะครับ ผมฝากดูแลด้วย”
“ค่ะ” สี่คนเสียงเบา
อิริน่าช่วยยกกระเป๋า ศรีรีบบอก
“ไม่ต้องค่ะคุณน่า เออ...อะไรน่านะ...”
“อิริน่าค่ะ”
“อูย อีเออไม่อยากเรียก เรียกคุณน่ารักละกันค่ะ ไม่ต้องยกค่ะ ให้พวกสาวๆเขายกกัน เดี๋ยวพวกเราโดนคุณเจตว่าค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” อิริน่าปล่อยกระเป๋าให้
“อิริน่า เชิญในตึกก่อนครับ”
“เชิญค่ะ”
อิริน่าตามหมู่มวลเข้าคฤหาสน์
ภายในคฤหาสน์หรูโก้อลังการ บอกความร่ำรวยมหาศาลของเจ้าของ อิริน่าตื่นตาตื่นใจมาก อเล็กเซย์นั่งจุ๊ยรออยู่แล้ว
“ไม่นึกเลยว่าจะได้อยู่บ้านใหญ่ขนาดนี้” อเล็กซ์กระซิบกับอิริน่า
“นั่นสิ” อิริน่ากระซิบตอบ
สาวใช้ทยอยยกกระเป๋ามาวาง ยิ้มกร่อยๆ หน้าตากังวล เมื่อนึกถึงว่าอิริน่าจะเจออะไรบ้างที่บ้านนี้
เจตรินเดินมาส่งอิฐที่รถ
“ขอบใจมากอิฐ แล้วเจอกัน กินข้าวกัน”
“พาน้องนักบู๊คนสวยไปด้วยนะ”
เจตรินชี้หน้า อิฐหัวเราะ
“เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น อย่าทำตัวเป็น ส.ว. สูงวัยหัวงูนะเว้ย”
“ฉันว่าหัวงูน่ะไม่ใช่ฉันหรอก” เจตรินเหล่
“นกกาแถวๆนี้มากกว่า”
“ไอ้อิฐ รีบไปเลยไป”
“ฉันว่าดีเหมือนกัน คนเฉื่อยแฉะอย่างแก คู่กับนักบู๊ละ เป๊ะเลย”
เจตรินจะอัด อิฐหัวเราะ ไปขึ้นรถ
“เจอกัน เพื่อน”
อิฐออกรถ เจตรินเดินไปที่ตึก เจตเดินผ่านรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด หรู ราคาแพง เป็นรถของนิกกี้ คู่ขาของจิตรดารา
“รถยัยจิตรอีกหรือเปล่านี่ ฟุ่มฟือยจริงๆ”
กลุ่มสาวใช้กระวนกระวายร้อนๆหนาวผิดปกติ เจตรินเข้ามา
“เชิญครับอิริน่า เล็ก”
เจตรินเดินนำอิริน่ากับอเล็กซ์ ไปที่บันไดขึ้นชั้นบน อิริน่ากับเล็กมองไปทั่วๆอย่างตื่นตาตื่นใจ โชว์ความอลังการ สี่สาวใช้มองตาม หวาดวิตก
“ความวัวความควายความหายนะบังเกิดพร้อมกันเลย...โอย...”
“รอฟังสัญญาณก่อนดีมั้ยป้า แล้วค่อยเอาของขึ้นข้างบน”
ทุกคนดูจะเห็นด้วย มองตามกลุ่มเจตรินอย่างสยอง
เจตรินกำลังเดินอยู่แถวบันไดขั้นสุดท้าย อิริน่ากับอเล็กซ์ ตามหลัง เสียงประตูเปิด เสียงวี้ดว้ายแบบตัดจริตและมีจริตยั่วผู้ชายดังเต็มเสียงมา ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคักผสมกับเสียงหัวเราะของชายหนุ่ม เจตรินขึ้นถึงชั้นบนพอดี ชะงักกับเสียง มองไป แล้วตะลึง
จิตรดาราใช้มีผ้าปูที่นอนห่อตัว วิ่งยั่วยวนกวนเซ็กส์ นิกกี้วิ่งไล่จับ
“แน่จริงจับให้ได้สิ”
“จับได้ต้องให้รางวัลนะจ๊ะที่รัก”
จิตรดาราวิ่งมาทางเจตริน แล้วตกใจเบรกพรืด นิกกี้วิ่งชนแล้วรวบกอดไว้
“อ๊าย...พะ..พะ...พี่เจต”
นิกกี้ตกใจ ปล่อยมือ ก้าวออกมามอง นิกกี้นั้นเปลือยท่อนบน ท่อนล่างนุ่งกางเกงบ๊อกเซ่อร์ สภาพทั้งสองคนชัดว่าก่อนนี้ทำอะไรกันมา เจตรินโกรธมาก
“จิตรดารา ทำแบบนี้ได้ยังไง”
อิริน่าที่อยู่ด้านหลังเจตรินยื่นหน้ามามอง จิตรดาราเห็นผู้หญิงสวยมากับพี่ชาย ก็ไม่พอใจ
“อ๊าย แกเป็นใคร”
อเล็กซ์ เล็กโผล่มาอีกคน จิตรดารายิ่งกรี๊ดสนั่น ชี้หน้าทั้งคู่ จินตนาการว่าเป็นลูกเมียของพี่ชาย ก็ยิ่งโมโห กรี๊ดลั่น
“อ๊าย”
เจตรินแทบทนเสียงไม่ไหว แต่ยังนิ่ง ทรงอำนาจ อิริน่ากับอเล็กซ์ เอามือปิดสองหูแบบหูจะระเบิด
ภายในห้องนอนจิตรดารา...เจตรินมองหน้า จิตรดารากับ นิกกี้ ขรึมๆ จิตรดารายังห่อตัวด้วยผ้า นิกกี้นุ่งกางเกงเรียบร้อยแล้วกำลังสวมเสื้อติดกระดุมพลางเดินเร็วๆออกจากห้องพลาง
“ผมลาครับคุณพี่ชาย” นิกกี้ไหว้ลา
เจตรินไม่รับไหว้
“แล้วไม่ต้องมาอีก”
จิตรดารายังยัวะไม่หาย
“เรื่องอะไรพี่เจตมาจุ้นกับแฟนจิต”
“หัวใจเรียกร้องก็ต้องมาครับ” นิกกี้โต
เจตรินหันขวับมอง นิกกี้รีบเผ่น ยั่วทะเล้นๆ
“กลัวแล้วคร้าบ”
นิกกี้ผลุบไป ปิดประตู
“นังนั่นมันเป็นใครคะ”
“เรียกเขาดีๆ เขาเป็น...ภรรยาพี่”
จิตรดารากรี๊ดสนั่น
นิกกี้เดินมาพบอิริน่า ก็ยิ้มตาเยิ้มใส่
“สวัสดีครับสาวสวย ผม...นิกกี้นะครับ ขอรู้จักสาวสวยได้ไหมครับ”
อิริน่ายิ้มอ่อนๆสุภาพๆ อย่างไว้ตัว รู้ทันคนขี้หลี ไม่มีทีท่าจะตอบ อเล็กซ์ตอบทันที
“เดี๋ยวผมไปตามคุณผู้หญิงคนนั้นมาบอกให้ครับ”
นิกกี้เหล่มองอเล็กซ์ อย่างไม่ชอบหน้า แล้วหวานกับอิริน่า
“แล้วผมจะมาเจอคุณอีกนะคร้าบคุณคนสวย บ๊ายบายคร้าบ...ผมนิกกี้...จำชื่อผมได้นะคร้าบ...”
นิกกี้เดินไป อเล็กซ์ยื่นขาออกมาดักทาง นิกกี้สะดุดขาเล็ก ล้มโครม กลิ้งตกบันได
“ไอ้หย่ะ ซี้เลี่ยวอ่า...”
“เจอผมก่อนนะคร้าบ คุณนิกกี้”
อเล็กซ์หัวเราะชอบใจ อีริน่าขำๆ
“มากรุงเทพวันแรกก็ออกลายเลยนะนายเล็ก”
“แน่น้อน...อยากมาจีบแฟนเล็กทำไม”
“นี่ ฉันแต่งงานแล้วนะ”
“แต่งก็แต่งไปสิ เล็กไปว่าอะไรล่ะ บอกแล้วว่าเล็กรอได้”
อิริน่าจิ้มหน้าผากอเล็กซีน์หน้าหงาย
“เด็กติงต๊อง” สองคนขำกัน
นิกกี้ที่กลิ้งตกบันไดมาชั้นล่าง กลิ้งต่อไปสะดุดเท้าสองคู่ นิกกี้มองเท้าหน้าเหยเก
“ไอ้หย่ะ”
เจ้าของเท้าสองคู่คือคุณหญิงศรินทิพย์ และจีรณัทย์ที่มองงงๆ สาวใช้ 3 คนโผล่หน้าแอบมอง
“ไอ้หย่ะ ซี้แหงเลี้ยว อุ๊บส์ ไม่ใช่...โอ มายก้อด”
คุณหญิงศรินทิพย์ เสียงดังทรงอำนาจ เรียกชื่อเก่านิกกี้
“อะไรกันนี่นายจิว”
อิริน่าจำเสียงคุณหญิงศรินทิพย์ ได้ ก็สะดุ้ง ขณะที่อเล็กซ์มองอีริน่างงว่าสะดุ้งทำไม อเล็กซ์ไม่เคยเจอคุณหญิงศรินทิพย์ และนึกว่าการแต่งงานของอิริน่าเป็นการแต่งงานตามปกติ
“อุย คุณหญิง”
อิริน่าใจเสีย ที่จะเจอคุณหญิงศรินทิพย์ โดยเจตรินไม่อยู่ด้วย เธอโผล่หน้ามองลงไปข้างล่าง อเล็กซ์โผล่ด้วย
“ว่าไง นายจิว” คุณหญิงศรินทิพย์ถามย้ำ
นิกกี้ลุกนั่งคุกเข่าไหว้คุณหญิงศรินทิพย์ กับจีรณัทย์
“นิกกี้คร้าบ ผมชื่อนิกกี้ ชื่อจิวผมไม่ใช้แล้วคร้าบ สวัสดีคร้าบคุณหญิงแม่ พี่จีรณัทย์”
“ทำไมมาตกบันไดบ้านฉัน” คุณหญิงศรินทิพย์ร้อนวับขึ้นมาเมื่อนึกว่านิกกี้ขึ้นไปกับจิตรดารา “ขึ้นไปข้างบนทำไม ฮะ”
กลุ่มสาวใช้พากันลุ้น
“เอาแล้ว...กำลังจะมันส์...” แหววว่า
“และกำลังจะยุ่ง...” แจ๋วแย้ง
“และกำลังจะเละตุ้มเป๊ะ...” จิ๋วเสริม
ศรีเดินเข้ามาเ ขกหัวสาวใช้สามคนคนละป๊อก อูยโอยไปตามๆกัน แล้วพูดเบาๆ
“ชอบแจ๋แจ้นกันนัก อยากเละตุ้มเป๊ะไปด้วยใช่มั้ย”
“ไม่อยากค่า...แต่อยากดูฉากบู๊ค่า...”
ศรีเงื้อมะเหงกใส่แหวว
“เดี๊ยะๆ ยังอีก...ยังไม่ไปอีก”
หมู่มวลหัวเราะคิกคัก รีบไป คุณหญิงศรินทิพย์ยังมองนิกกี้คาดคั้น
“ตอบมาเดี๋ยวนี้ เธอถือสิทธิอะไรขึ้นไปข้างบน ฮะ”
นิกกี้อึกอัก มองไปข้างบน คุณหญิงศรินทิพย์ กับจีรณัทย์มองตาม อีริน่ากับอเล็กซ์ที่ยื่นหน้ามองผลุบกลับทันที
“ใครอยู่ข้างบน ยัยจิตรหรือเปล่า ลงมาเดี๋ยวนี้นะ
“เหมือนมีสองคนนะคะคุณแม่” จีรณัทย์แปลกใจ
คุณหญิงศรินทิพย์จะขึ้นไปเอาเรื่อง นิกกี้ฉวยโอกาสเผ่นหนีไปเลย เจตรินเดินยิ้มลงมา
“สวัสดีครับคุณแม่ พี่จี”
เจตรินลงถึงข้างล่าง คุณหญิงศรินทิพย์กอดจูบสองแก้มเจตรินอย่างรักและคิดถึงมาก แล้วเจตรินไปกอดหอมแก้มจีรณัทย์
“คิดถึงนะครับพี่จี”
“พี่ก็คิดถึงเจตมาก”
“ทำไมกลับมาไม่บอกแม่ จะได้ไปรับ” คุณหญิงศรินทิพย์แปลกใจ
“อยากให้คุณแม่ตื่นเต้นครับ”
เสียงจิตรดาราแว้ดสนั่น
“ลงไปซิยะ มายื่นซื่อบื้อเกะกะทางเดินเป็นเสนียดบ้านฉันอยู่อีก อยากโดนตบตกบันไดใช่มั้ย”
จีรณัทย์ระอา แบบยิ้มๆ เพราะชินนิสัยน้อง
“อาละวาดสาวใช้คนไหนอีกล่ะ”
จิตรดาราเดินกระแทกเท้าลงบันไดอย่างโกรธสุดๆ อิริน่ากับอเล็กซ์ค่อยๆโผล่ ค่อยๆลงบันไดมา คุณหญิงศรินทิพย์ผงะ จำอิริน่าได้ ปรี๊ดเลย
“ฮะ นังเด็กเวร นังเด็กหัวแดง แกบังอาจเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง”
จบตอนที่ 2