อย่าลืมฉัน ตอนที่ 11
“มีคนสนใจเอาลายผ้าที่เกนออกแบบไปทำเฟอร์นิเจอร์จริงๆเหรอคะ?”
เกนหลงถามด้วยความตื่นเต้นดีใจ เมื่อได้รับทราบข่าวดีจากเขมชาติ โดยมีสุริยงร่วม
รับฟังอยู่ด้วย
“จริงสิครับ พรุ่งนี้เขาขอนัดให้คุณเกนไปพรีเซ้นต์คอนเซ็ปท์ คุณเกนสะดวกนะครับ”
“สะดวกสิคะ เกนจะยกเลิกทุกสิ่งเพื่องานนี้ เขมขอบคุณนะคะ เกนไม่คิดเลยว่าจะมีคนเห็น
คุณค่าของงานที่เกนทำ”
เกนหลงดวงตาเป็นประกาย พลางเอื้อมมือไปกุมมือเขมชาติ ในขณะที่ฝ่ายหลัง ใช้มืออีกข้าง
กุมทับอีกที
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากคุณ ผมเห็นคุณค่าเสมอ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณที่คุณเห็นคุณค่า
ของผม ไม่เหมือนคนอื่นที่ไม่เคยมองเห็น”
เขมชาติจงใจแขวะ ทำเอาสุริยงสะอึก พลางเชิดหน้านิดๆ
เกนหลงจับแก้มเขมชาติเป็นเชิงปลอบใจ
“โถๆ อย่าน้อยใจไปเลยนะคะเจ้านาย ถึงไม่มีใครเห็น แต่มีเกนคนนึงที่เห็น พอมั้ยคะ?”
เขมชาติ จับมือที่อยู่ที่แก้ม ยิ้มรับ “เกินพอแล้วครับ”
สุริยงยืนมองสองคนหัวเราะให้กัน จนเกนหลงรู้สึกหันมา
“ขอโทษค่ะ เกนดีใจจนลืมไปเลยว่าคุณสุยืนอยู่ด้วย”
เขมชาติจงใจโอบเอวเกนหลง เหมือนจะอวดความหวาน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ สุริยงเขาเคยมีสามีแล้ว ลูกก็มีแล้ว เรื่องแบบนี้เขาเข้าใจดี”
“ก็จริง เกนว่า ตอนคุณสุอยู่กับพี่เอื้อ อาจจะสวีทกว่านี้ก็ได้ ใช่มั้ยคะ?”
เขมชาติหน้าตูมทันที ในขณะที่สุริยงเพียงแค่ยิ้มๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง อย่างสุภาพ
“เรื่องนัดกับบริษัทเฟอร์นิเจอร์ในวันพรุ่งนี้ ดิฉันคอนเฟิร์มได้เลยนะคะ”
เขมชาติพยักหน้า เกนหลงยิ้มรับแล้วพูดต่อ
“เขมคะ เย็นนี้ขอกลับเร็วหน่อยนะคะ มีนัดกับพี่เอื้อเทสต์เมล็ดพันธุ์กาแฟที่จะใช้ในโรงแรม”
เขมชาติยังไม่ทันตอบ เกนหลงก็หันมาทางสุริยง “คุณสุไปด้วยกันมั้ยคะ ?”
“ผมไปเอง” เขมชาติเสนอตัว “ ผมเคยบอกแล้วไง ไม่อยากให้คุณอยู่กับผู้ชายอื่นสองต่อสอง
ให้สุริยงอยู่เฝ้าบริษัทไปเถอะ เดี๋ยวผมไปเอง”
เขมชาติยิ้มอ้อน เกนหลงยิ้มรับพยักหน้า
“โอเคค่ะ งั้นเกนไปเก็บของก่อนนะคะ”
เขมชาติพยักหน้า สุริยงเปิดประตูให้เกนหลง เกนหลงยิ้มๆ แล้วก็เดินออกไป สุริยงกำลังจะเดิน
ตามไป หากเขมชาติจับมือไว้ก่อน สุริยงตกใจรีบหันไปมอง กลัวเกนหลงจะเห็น เขมชาติรีบปิดประตูทันที
จากนั้นก็หันมาพูดกับสุริยงในระยะประชิดเหมือนจะกระซิบ
“อย่าเพิ่งไปผมมีเรื่องจะคุยด้วย”
สุริยงบิดมือออก และถอยห่างออกมาเล็กน้อย ใจเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว ในใจรู้สึกเหมือนกำลัง
ทำผิดบางอย่าง ในขณะที่เกนหลง ที่กำลังเก็บของในห้องไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ
สุริยงหยิบสมุดขึ้นมา เตรียมจะจด
“ผู้อำนวยการมีอะไร บอกมาได้เลยค่ะ”
เขมชาติเอื้อมมือมาปิดสมุด
“เรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องงาน”
สุริยงเงยหน้า พยายามทำนิ่ง ทั้งที่ในใจแอบสั่น
“วันนี้เลิกงานแล้ว อย่าเพิ่งกลับบ้านนะ รอผมก่อน ผมมีเซอร์ไพรส์”
“เซอร์ไพรส์อะไรคะ?”
“อยากรู้ก็ต้องรอ”
สุริยงหน้าเชิด “แต่ดิฉันไม่อยากรอ”
“ไม่รอ ก็ไม่ได้รู้นะ น่า นะ รอแป๊บเดียว ผมไปกับคุณเกนแค่ไม่นานหรอก จะได้รู้ไงว่าเซอร์
ไพรส์อะไร นะนะนะ”
เขมชาติใช้น้ำเสียงออดอ้อน
“แต่ ถ้าคุณไม่สนใจ ไม่เห็นค่า ก็ไม่เป็นไร”
สุริยงตัดสินใจ “รอก็ได้ค่ะ”
“น่ารักที่สุดเลย”
เขมชาติยิ้มสดใส สุริยงหลุดขำอย่างลืมตัว ทันใดนั้นเองประตูก็เปิดผัวะเข้ามา ทั้งสองคนสะดุ้ง
รีบหุบยิ้ม เขมชาติทำเป็นสั่งงาน
“เรื่องประชุมวันพรุ่งนี้ อย่าลืมคอนเฟิร์มทางโน้นด้วยนะ”
“ค่ะ”
เกนหลงโผล่หน้าเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ไปครับ”
เขมชาติรีบเดินมาโอบเอวเกนหลง และเดินไปด้วยกัน สุริยงมองตาม ลับหลังเกนหลง เขมชาติ
หันมายิ้มให้สุริยง พร้อมขยิบตาให้ สุริยงยิ้มรับนิดๆ แล้วมองเขมชาติเดินไปกับเกนหลง พร้อมกับถอนใจเบาๆ
ในขณะที่เอื้อกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงาน น้ำเสียงเข้ม
“ทนายธีระศักดิ์ไปเมืองนอกจริงๆเหรอ?”
“จริงค่ะ ไปตามคำสั่งของท่านประธานค่ะ”
“กลับมาเมื่อไหร่ ให้รีบติดต่อผมด้วย”
เอื้อวางสายไป คิดหนัก เลขาเคาะประตูก่อนจะเปิดเดินเข้ามา
“คุณเอื้อคะ เย็นนี้มีนัดเทสต์เมล็ดกาแฟกับคุณเกนหลงนะคะ”
เอื้อชะงัก “ ลืมไปเลย”
บนโต๊ะทำงานวิบูลย์เต็มไปด้วยบรรดาของเล่นเกลื่อนเต็มโต๊ะ วิบูลย์ปาดเหงื่อ ในขณะที่สมคิด
เดินเข้ามาพร้อมกับถือแฟ้มงานติดมือมาด้วย
“ออเดอร์ผ้าจากญี่ปุ่นมาแล้วนะ ฝากคุณเช็คของด้วย”
สมคิดวางแฟ้มไว้บนโต๊ะ พร้อมกับมองถุงของเล่นที่วางอยู่ “นี่อะไร ?”
“ของเล่น”
สมคิด หยิบขึ้นมาดู “โห คุณซื้อมาทำไมตั้งเยอะแยะ”
“คุณเขมหน่ะสิ สั่งให้ไปซื้อมาให้ลูกคุณสุ”
สมคิด ตาโต “ซื้อมาให้ลูกคุณสุ? คุณเขมบอกหรือเปล่าว่าทำไมต้องซื้อให้”
“เห็นบอกว่า คุณเกนสั่งมาอีกที”
สมคิดชะงัก ขมวดคิ้ว วิบูลย์พูดต่อ
“เรื่องเช็คของเดี๋ยวผมดูให้ ขอเคลียร์งานแป๊บ เย็นนี้ต้องแวะเอาของไปให้ลูกคุณสุที่บ้าน คุณเขม
กำชับว่าไม่ให้คุณสุรู้ คุณสมคิดก็เหยียบไว้เลยนะครับ”
สมคิดพยักหน้ารับ วิบูลย์ยิ้มโล่ง แล้วก็รีบหันมาทำงาน สมคิดมองดูของเล่นในถุงเริ่ม
สงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ
เกนหลงยืนดูบาริสต้าชงกาแฟลาเต้อาร์ตอย่างคล่องแคล่วและสวยงาม ด้วยความสนใจ
เขมชาติยืนข้างๆ ในขณะที่ตัวแทนของบริษัทเมล็ดกาแฟ รีบอธิบายให้เกนหลงฟัง
“คุณคิวเป็นแชมป์ลาเต้อาร์ตระดับโลก ทางบริษัทเราส่งมาชงให้คุณเกนหลงเป็นกรณีพิเศษเลย
ครับ”
เกนหลงชิมกาแฟ อย่างช้าๆ เขมชาติมองด้วยความชื่นชม
“นุ่ม แล้วก็หอมมากค่ะ เขมคะ ลองมั้ย ?”
ยังไม่ทันที่เขมชาติจะชิม เสียงโทรศัพท์มือถือเขมชาติก็ดังขึ้น เขมชาติหันมาดูชื่อ “วิบูลย์”
“ได้ครับ แต่ผมขอตัวไปคุยกับวิบูลย์แป๊บนึง”
เกนหลงพยักหน้ารับ เขมชาติเดินออกไปคุยข้างนอก ตัวแทนถามเกนหลง
“ไม่ทราบว่า คุณเขมชาติจะรับกาแฟอะไรดีครับ ?”
เกนหลงคิดแล้วก็ยิ้ม
ส่วนเขมชาติ ก็แยกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ที่ล็อบบี้
“ว่าไง เรียบร้อยมั้ย?”
“ เรียบร้อยครับ ผมกำลังจะออกจากออฟฟิศ ถ้ารถไม่ติดไม่ถึงชั่วโมงก็น่าจะถึงบ้านคุณสุ”
“แล้วสุริยงรู้หรือเปล่า ?”
วิบูลย์ตอบมาทาง โทรศัพท์ “ไม่รู้ครับ”
เขมชาติยิ้มพอใจ “ดีมาก”
ในจังหวะเดียวกัน เอื้อก็เดินเข้ามาในโรงแรม เขมชาติเหลือบไปเห็น จึงรีบพูดตัดบทกับวิบูลย์
“แค่นี้ก่อนนะ นี่! แล้วอย่าลืมบอกเด็กๆว่าพี่เขม เจ้านาย แม่หนูเล็กเป็นคนส่งของมาให้”
วิบูลย์ รับคำ ก่อนที่จะวางสาย ในใจอดสงสัยไม่ได้
“คุณเขมรู้ได้ยังไงว่าที่บ้านเรียกคุณสุ ว่าหนูเล็ก”
ส่วนเขมชาติวางสายไปแล้วก็รีบหันหลังเดินเข้าไปในห้องเทสต์กาแฟด้วยความร้อนใจ
ในขณะที่เอื้อเดินเข้ามา เห็นกาแฟดำ มะนาวฝาน วางอยู่บนโต๊ะ ก็ถามด้วยความสงสัย
“กาแฟแก้วนี้ของเกนเหรอ?”
เกนหลงหันมาเห็นเอื้อก็ยิ้มสดใส
“อ้าวพี่เอื้อ สวัสดีค่ะ”
เอื้อยิ้มรับ “พี่เพิ่งรู้ว่าเกนชอบดื่มกาแฟเหมือนหนูเล็ก”
เกนหลงมองหน้าเอื้อ เหมือนมีคำถามอยู่ในแววตา
“ก็ นี่ กาแฟดำกับมะนาวฝาน หนูเล็กเขาก็ชอบแบบนี้”
“แต่ แก้วนี้ไม่ใช่ของเกนค่ะ ของเขม”
เอื้อชะงักนิดๆ ในขณะที่เขมชาติ ที่เดินเข้ามาพอดี ก็ชะงักเหมือนกัน
“สวัสดีครับคุณเอื้อ”
“สวัสดีครับ”
เขมชาติ ยิ้ม ทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เกนหลงคุยกับเอื้อ แล้วยกกาแฟมาดื่มหน้าตาเฉย
“อืม อร่อยดีนะครับ แต่ก็ยังสู้ฝีมือคุณเกนไม่ได้”
“พูดแบบนี้ เดี๋ยวก็ลาออกไปเป็นบาริสต้าแทนเลขาซะเลย”
“ไม่ได้นะ เป็นเลขาผม ห้ามลาออกตลอดชีวิต”
เอื้อมองเขมชาติทำท่าหวานกับเกนหลง พลางพยายามจับสังเกตตลอดเวลา
“มีเลขาแบบคุณเกน ใครจะยอมให้ลาออก จริงมั้ยครับคุณเอื้อ?”
“จริงครับ” เอื้อยิ้มรับ แล้วโยนระเบิดโครมใหญ่ “ผมเพิ่งทราบว่าคุณเขมชอบดื่มกาแฟแบบ
เดียวกับหนูเล็ก”
“เออใช่ ตอนคุณสุสอนไม่เห็นบอกเลย เขมรู้มั้ยคะ ?”
เขมชาติ แสร้งตีหน้าเฉย “ผมก็เพิ่งรู้ บังเอิญจริงๆ “
เขมชาติตอบยิ้มๆ พยายามปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติ เอื้อมองแล้วยิ่งสงสัย
สุริยงดูนาฬิกา 6 โมงเย็น เริ่มรู้สึกร้อนใจ พลางชะเง้อมองว่าเมื่อไหร่เขมชาติจะกลับ
“วันนี้เลิกงานแล้ว อย่าเพิ่งกลับบ้านนะ รอผมก่อน ผมมีเซอร์ไพรส์”
ทันใดนั้นก็ มีเสียงข้อความเข้ามา สุริยงหยิบมาอ่าน
“ไม่ต้องรอแล้ว คงจะกลับไปเซอร์ไพรส์ไม่ทัน กลับบ้านได้เลย”
สุริยงหน้าตาผิดหวังนิดๆ พยายามไม่รู้สึกกับมันมาก
เขมชาติดื่มกาแฟจนหมดถ้วย ในขณะที่เกนหลง ก็กรอกเอกสารรายชื่อเมล็ดพันธุ์กาแฟเสร็จ
พอดี
“สรุปเอาตามนี้นะคะ จะได้ให้ทางบริษัทจัดเครื่องให้เลย ในส่วนของร้านกาแฟถ้าสร้างเสร็จแล้ว
จะได้เปิดขายระหว่างที่ก่อสร้างตัวโรงแรม”
เอื้อรับคำ “ครับ”
“หนุ่มๆนั่งคุยกับไปนะคะ เดี๋ยวเกนมา”
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 11 (ต่อ)
เกนหลงเดินผละออกไป ทิ้งให้เขมชาติกับเอื้อนั่งเผชิญหน้ากัน เขมชาติรู้สึกอึดอัด ตามประสา
วัวสันหลังหวะ
เอื้อเปิดฉากสนทนา
“ขอบคุณที่คุณเขมพยายามช่วยหนูเล็กเรื่องมรดกแล้วนะครับ”
เขมชาติชะงัก ตั้งท่าจะปฎิเสธ หากเอื้อรีบพูดต่อ
“หนูเล็กเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว”
“ คือ ”
“ผมรู้ว่าคุณเขมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่อัม ผมเข้าใจ มันอาจจะไม่ง่ายที่จะยอมรับ เพื่อความ
สบายใจ ต่อจากนี้ไปผมขอเป็นคนดูแลเรื่องนี้เอง เรื่องในครอบครัว ขอให้คนในครอบครัวจัดการกันเองจะดีกว่า”
เอื้อพูดแบบสุภาพ หากก็ทำเอาเขมชาติถึงกับสะอึก หากยังไม่ทันที่บทสนทนาจะดำเนินต่อ
เกนหลงก็เดินกลับมาพอดี
“เรียบร้อยแล้วค่ะ หิวมั้ยคะ? เกนให้คนจัดอาหารไว้แล้ว”
เอื้อรีบตัดบท
“พี่กลับเลยดีกว่าครับ เชิญคุณเขม กับเกนตามสบาย” พลางหันมาพูดกับเขมชาติ “ขอบคุณอีก
ครั้งนะครับ”
เอื้อยิ้มแล้วก็เดินออกไป เขมชาตินั่งอึ้ง เกนหลงหันมาถามงงๆ
“พี่เอื้อขอบคุณเรื่องอะไรเหรอคะ?”
เขมชาติอึกอักตอบไม่ถูก
ทางด้านสุริยง ก็เดินเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน
“กลับมาแล้วค่ะ”
นภา ที่กำลังง่วนอยู่กับกองของเล่นตรงหน้า พร้อมกับไก่กับไข่ อาทิตย์ และชื่น รีบหันกลับมา
หาลูกสาว
“อ้าว หนูเล็กมาพอดีเลย มานี่ๆ มาดูนี่ ของเล่นที่หนูเล็กกำลังหาซื้อให้ไก่ไข่ เจ้านายหนูเล็กเพิ่ง
ให้คุณวิบูลย์เอามาให้เมื่อกี๊นี้เอง”
สุริยงเลิกคิ้ว “เจ้านาย ?”
อาทิตย์ รีบตอบ“ใช่ ชื่ออะไรนะ ?”
ไก่ ไข่หันมาตอบพร้อมกัน “พี่เขม”
สุริยงชะงักกึก เขมชาติ?
“ใช่ๆ คุณเขม”
ชื่นเสริมขึ้นมาทันที “เจ้านายของคุณหนูเล็กเนี่ย สุดยอดเลยค่ะ ใจดีจริงๆ”
สุริยงยิ้มรับนิดๆ ทั้งดีใจ ระคนแปลกใจ พลางเดินมาหาไก่กับไข่
“ไก่ ไข่ ชอบมั้ยครับ”
“ชอบครับ”
“ไก่ชอบอันนี้”
“ไข่ชอบอันนี้”
คู่แฝดเล่นของเล่นที่อยู่ในมืออย่างสนุกสนาน อาทิตย์ นภา ชื่น ก็พลอยเล่นสนุกสนาไปด้วย
เสียงหัวเราะดังอบอวลไปทั้งบ้าน สุริยงมองแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข
สัญญาณข้อความเข้าที่โทรศัพท์มือถือของเขมชาติ
“เซอร์ไพรส์จริงๆด้วย ขอบคุณมากค่ะ”
เขมชาติอ่านแล้วก็ยิ้ม พอใจ เกนหลงเงยหน้ามาเห็นพอดี
“ยิ้มอะไรคะ?”
“ยิ้ม เพราะมีความสุข มีความสุขที่มีคุณมานั่งทานอาหารด้วย อร่อยกว่าทานคนเดียวเยอะ
เลย”
“อร่อยก็ทานเยอะๆนะคะ”
เขมชาติยิ้มรับ พลางชูแก้วขึ้น เกนหลงหยิบแก้วแล้วชนเบาๆ ก่อนดื่ม เขมชาติดื่มไวน์เหมือน
ฉลองให้กับความสำเร็จ รอยยิ้มร้ายๆ แววตาสะใจ ผุดพรายอยู่บนใบหน้า
วนิตาใส่แว่นดำ แต่งตัวเปรี้ยว เดินเข้ามาที่หน้าบริษัทของเขมชาติ หน้าตา และท่าทาง พร้อม
จะหาเรื่องเต็มที่ เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเขมชาติ เจอวิบูลย์ยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะะทำงานของสุริยง ก็รีบถามถึงเจ้าของ
ห้อง ด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ หากวิบูลย์กลับตอบหน้านิ่งๆ กวนๆ
“คุณเขมไม่อยู่ครับ”
วนิตาถามสวนกลับไปทันที “ไปไหน?”
“เรื่องของเจ้านาย ผมบอกคนซี้ซั้วไม่ได้ครับ”
“ซี้ซั้วอะไร ฉันเป็นคนสนิทของเขม เคยเข้าออกที่นี่เกือบทุกวัน เพราะฉะนั้น บอกมา เขม
ไปไหน ? ไปกับใคร ?”
“เป็นคนสนิทไม่ใช่เหรอครับ ถ้าสนิทก็น่าจะมีเบอร์ส่วนตัว ลองโทร.ไปถามดูมั้ยครับ คนสนิทกัน
คุณเขมต้องรับสาย ถ้าไม่รับก็แปลว่า ไม่อยากคบ”
วนิตาเสียงเขียวขึ้นมาทันที
“พูดจาไม่ห่วงอนาคตแบบนี้ ระวังให้ดี ฉันจะบอกให้เขมไล่ออก บอกมาเขมไปไหน ?
วิบูลย์ แกล้งทำเลิ่กๆลั่กๆ เหมือนกลัว
“ คุ..คุณเขม ไป ไป ไม่บอก “
วนิตาแทบกรี๊ด “ไอ้ ไอ้ ปีนเกลียว ไอ้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไอ้ลามปาม”
วิบูลย์ส่ายหน้าไม่สนใจ แล้วก็กดโทรศัพท์ไปที่ป้อมยาม
“รปภ. มีผู้หญิงวิกลจริตมายืนด่าผมที่หน้าห้องคุณเขม มาเอาตัวออกไปหน่อย”
“อ๊าย ไอ้บ้า” วนิตาร้องโวยวาย พลางรีบพุ่งมากดโทรศัพท์ทิ้ง “นี่แกกล้าเรียกรปภ.มาจับฉัน
เหรอ”
“ก็เห็นๆอยู่ว่ากล้า ยังจะมาถามอีก เอาไง จะกลับไปเองดีๆ แบบเชิดๆเริ่ดๆ ไม่เสียฟอร์ม หรือจะ
รอรปภ.มาลากออกไปให้เสียลุค”
“ไอ้ ไอ้ เลขาหน้าห้อง ทำงานระดับล่างแล้วยังจะมาทำจองหอง จำไว้เลยนะ ถ้าฉันเจอเขม
เมื่อไหร่ แกเตรียมโดนไล่ออกได้เลย”
พูดจบวนิตาก็คว้ากระเป๋า แล้วก็สะบัดหน้าเดินออกไปเลย วิบูลย์มองตามแล้วก็ส่ายหน้าด้วย
ความระอา
วนิตาเดินกระฟัดกระเฟียดออกมาที่ทางเดินด้วยความหงุดหงิด ค้างคาใจ
“เขมไปไหนของเขานะ นังเลขานั่นก็ไม่อยู่ ต้องไปด้วยกันแน่ๆ”
วนิตายืนนิ่ง อย่างใช้ความคิด พลันสายตาเหลือบไปเห็นปุ่มกดส่งสัญญาณไฟไหม้ของตึก
ในขณะที่วิบูลย์ที่กำลังนั่งเช็คเมลล์อยู่ที่โต๊ะสุริยง ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ก็ดังขึ้น
วิบูลย์ตกใจร้องเสียงหลง พนักงานข้างนอกโผล่หน้ามาดูกันจ้าหล่ะหวั่น
วิบูลย์รีบวิ่งออกไปดู คล้อยหลังวิบูลย์ วนิตาก็โผล่เข้ามาแล้วก็รีบวิ่งมารื้อๆ หาสมุดนัด เมื่อเจอ
ก็รีบเปิดดูตารางงานทันที
“นี่เป็นภาพตัวอย่างลายเส้นที่เกนออกแบบค่ะ ส่วนนี่เป็นไอเดียที่เกนลอนำเสนอในการที่จะนำ
ผ้ามาใช้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นแรกคือเก้าอี้ค่ะ”
เกนหลงนำเสนองานอย่างคล่องแคล่ว เป็นการใช้ลายผ้าของเธอมาออกแบบเป็นเฟอร์นิเจอร์
ภาพถูกเขียนด้วยลายเส้นที่ดูจริงจังขึ้น เจ้าของบริษัทเฟอร์นิเจอร์ ดูด้วยความสนใจ เขมชาตินั่งมองเกนหลงด้วย
ความชื่นชม สุริยงนั่งห่างออกไป มองเขมชาติที่กำลังมองเกนหลงอยู่แล้วก็ดีใจ แม้ลึกๆ จะแอบเศร้า
เกนหลงพูดต่อ
“แล้วนี่ก็เป็นหัวเตียง และ กรอบกระจกค่ะ”
เขมชาติชูนิ้วให้เกนหลงด้วยความชื่นชม สุริยงเห็นพอดียิ้มนิดๆ หน้าชื่นอกหมอง
เจ้าของบริษัทฯ พยักหน้า “ตัวหัวเตียงนี่น่าสนใจมากนะครับ”
“เกนลองทำเอาไว้ให้เลือก 4 แบบนะคะ ตายจริงสงสัยจะติดอยู่ในรถค่ะ”
“ดิฉันไปหยิบให้เองค่ะ” สุริยงเสนอตัว เขมชาติพยักหน้าส่งกุญแจรถให้สุริยง
“ขอบคุณค่ะคุณสุ”
สุริยงเดินอกมาที่ลานจอดรถ ก็เจอเข้ากับวนิตา ที่กำลังรีบเดินไปหาเขมชาติพอดี
“นี่ยัยเลขา เขมอยู่ไหน”
สุริยง มองหน้าวนิตาอย่างงงๆ “ คะ? เอ้อ คุณ”
วนิตา เชิดใส่
“ฉัน วานิต้า ฉันต้องการพบเขม เขมอยู่ที่ไหน”
สุริยง ตกใจ “เอ้อ ท่านผู้อำนวยการติดธุระอยู่ค่ะ”
“ธุระบ้าบออะไรฉันไม่สน”
วนิตาทำท่าจะเดินต่อไป สุริยงรีบมาขวางหน้า ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ขอโทษด้วยค่ะ ดิฉันต้องทำตามหน้าที่ ท่านสั่งไว้ว่าไม่ต้องการให้คุณเข้าพบ”
วนิตาโวยวายเสียงดัง
“ไม่จริง แกโกหก เขมไม่มีวันจะทำแบบนั้นกับฉัน”
“มีค่ะ วันนี้หล่ะค่ะ ตอนนี้ผู้อำนวยการมีประชุมสำคัญ ถ้าคุณต้องการพบ จะต้องโทร.มานัด
ล่วงหน้า และคุณจะได้พบก็ต่อเมื่อผู้อำนวยการอนุมัติ ถ้าไม่ได้นัดไว้ ดิฉันให้พบไม่ได้ค่ะ”
สุริยงยืนยันหนักแน่น วนิตาแทบกรี๊ด
“เมื่อก่อนฉันไม่เคยต้องนัดบ้า นัดบออะไรเลย ฉันจะมาหาเขมเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เคยมีเลขา
หน้าไหนมาขัดขวาง”
“แต่ตอนนี้ไม่ใช่เมื่อก่อน และดิฉันก็ไม่ใช่เลขาคนก่อน”
วนิตาสวนกลับ “ใช่สิยะ เพราะเลขาคนก่อนไม่ได้คิดจะจับเขม แต่เธอคิด นังแม่หม้ายลูก
ติด คิดจะรวยทางลัด เคยจับคนแก่คราวพ่อแต่งงานได้ง่ายๆ ก็เลยคิดจะจับเจ้านายอีกหล่ะสิ จะ
บอกให้นะ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก หลบไป”
พูดจบวนิตาก็ผลักสุริยงให้หลบ สุริยงไม่ยอมแพ้
“ไม่ได้นะคะ คุณเข้าไปไม่ได้ค่ะ”
“ถอยไป นังเลขาหวงก้าง ถอยไป”
เสียงทะเลาะของสุริยงกับวนิตาเริ่มดังขึ้น ลูกค้ารองข้างเริ่มหันมามองอย่างสนใจ สุริยง
พยายามดักหน้าดักหลัง ขวางทาง
ในขณะที่เกนหลงกำลังเจรจากับลูกค้า เขมชาติกลับไม่ค่อยมีสมาธิ เพราะใจคอยพะวงที่สุริยง
หายไปนาน
เกนหลง หันมาพูดกับเขมชาติ “คุณเขมมีตรงไหนอยากเพิ่มเติมอีกมั้ยคะ”
เขมชาติสะดุ้งนิดๆ
“ไม่มีครับ คุณเกนหลงอธิบายได้ครบถ้วนแล้ว”
เขมชาติขยับตัว พลางปรายตามองข้างนอกอีกครั้ง ก่อนจะหันมาทางลูกค้า
“ขอโทษนะครับ ผมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่”
ส่วนสุริยงกับวนิตา ยังคงยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่ที่ริมสระน้ำ
“แกจะขวางฉันทำไมหะ ขวางยังไงฉันก็ได้เจอเขมอยู่ดี หลบไปสิ ฉันจะไปหาเขม”
“ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่ได้ ฉันทำตามหน้าที่ คุณกลับไปเถอะค่ะ ทำแบบนี้มีแต่เสียกับเสีย
ผู้ชายเขาไม่อยากเจอ คุณยังจะมาหาเขาทำไมคะ”
คำพูดตรงๆ ของสุริยง แต่จี้ใจดำวนิตาอย่างแรง
“ใครบอกแกว่าเขมไม่อยากเจอฉัน แกโกหก สร้างเรื่อง ฉันไม่เชื่อแก ฉันจะไปถามเขม ปล่อย
ฉัน”
ว่าแล้ววนิตา ก็เหวี่ยงสุริยงออกไปสุดแรงด้วยความโกรธ จนสุริยงเสียหลัก พลัดตกลงไปในบ่อ
น้ำ พนักงานโรงแรมที่เห็นเหตุการณ์ รีบพูดขึ้นด้วยความตกใจ
“ใครก็ได้ลงไปดูหน่อยเร็ว มีลูกค้าตกน้ำ”
ในขณะที่สุริยงพยายามจะยันตัวลุกขึ้นจากน้ำ แต่ลื่นล้มขาพลิกลงไปนั่งอีกรอบ วนิตาเท้าเอว
หัวเราะอย่างสะใจ
“สมน้ำหน้า นังเลขาหวงก้าง เป็นไงหล่ะ ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว”
สุริยงยันตัวเดินกระเผลกๆ มองไปรอบๆ เห็นคนมุงดู ทั้งเจ็บทั้งอาย
“นี่ ไม่ต้องมาทำเป็นสำออยหน้าบางไปหน่อยเลย ผู้หญิงที่จ้องจะจับทั้งพ่อ ทั้งลูกอย่างเธอ ไม่มี
วันจะเข้าใจคำว่ายางอาย”
สิ้นเสียงของวนิตา เสียงเขมชาติก็ดังขึ้น
”กลับไปได้แล้ว”
วนิตา หันมาเห็นเขมชาติเดินเข้ามาหน้าเคร่งเครียด “เขม”
“ผมบอกให้กลับไป และต่อจากนี้ไป อย่ามายุ่งกับคนของผมอีก “
เขมชาติหน้าเข้ม จนวนิตาอึ้ง
อีกด้านหนึ่ง พนักงานโรงแรม รีบเข้ามาบอกกับเกนหลง ด้วยท่าทางร้อนรน
“ขอโทษครับ คุณผู้หญิงที่มากับคุณ เมื่อครู่เธอลื่นตกลงไปในสระน้ำน่ะครับ”
เกนหลงตกใจ
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 11 (ต่อ)
วนิตาโวยวายกลับ เสียงดัง
“คุณหมายความว่ายังไงคะเขม คนของคุณ คือมันเหรอคะ?”
เขมชาติช่วยสุริยงขึ้นจากสระ แต่สุริยงยังเจ็บข้อเท้า จึงใช้มือยันไว้ที่ขอบสระยืนตั้งหลัก
“ใช่ ทุกคนในบริษัทผม ถือเป็นคนของผม กลับไปซะ”
“ไม่กลับ จนกว่าเราจะคุยกันให้รู้เรื่อง”
ทันใดนั้นเสียงเกนหลงก็ดังขึ้น
“ถ้าไม่กลับ ฉันว่าคุณคงได้ไปคุยกับตำรวจแทนคุณเขมชาติแน่ค่ะ”
วนิตาหันขวับทันที “เกนหลง นี่เธอขู่ฉันเหรอ”
เกนหลง ยิ้มเหยียดๆ
“คนอย่างฉันไม่ขู่ใครหรอกค่ะ มันเสียเวลา สู้ลงมือทำจริงๆเลยดีกว่า”
สุริยง เขมชาติยังยืนอยู่ข้างๆสระ มองเกนหลงปะทะฝีปากกับวนิตาอย่างคาดไม่ถึง สุริยงขยับจะ
เดินก็เจ็บเท้าแปลบขึ้นมา เขมชาติหันมามองด้วยความเป็นห่วง เกนหลงหันมาทางเขมชาติ
“เขมคะ พาคุณสุไปนั่งพักเถอะค่ะ ทางนี้เกนจัดการเอง”
เขมชาติพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมาประคองสุริยงเดินไป
“เขมคะ” วนิตายังไม่ยอมรามือ ตั้งท่าจะพุ่งข้าไปหาเขมชาติ เกนหลงขยับขวาง
“จะกลับหรือไม่กลับ?”
“ ไม่กลับ เธอไม่มีสิทธิ์มาขวางฉัน”
“ฉันมีสิทธิ์เต็มที่ ในเมื่อคนที่คุณกำลังจะพุ่งไปหาตอนนี้ เขากำลังคบกับฉัน”
วนิตาแสยะยิ้ม
“แค่แฟนทำมาเป็นอ้างสิทธิ์ ถึงเธอจะเป็นเมียเขม ฉันก็ไม่สน ฉันรู้จักกับเขมมาก่อนเธอ รู้ดีว่าเขาเป็นยังไง อีกไม่นานเขาก็เบื่อเธอ แล้วเธอก็จะถูกทิ้ง”
เกนหลง ยิ้มเหยียดๆ แล้วพูดสวน “เหมือนคุณตอนนี้น่ะเหรอคะ”
“แก” วนิตาเงื้อมมือ จะพุ่งมาตบเกนหลง
“หยุด ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาแสดงกิริยาต่ำๆ แบบนี้ เก็บไปใช้ในที่ๆ คุณคุ้นเคยเถอะค่ะ และฉันก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้คุณทำอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆ กลับไปซะ ก่อนที่ฉันจะเรียกรปภ.”
วนิตาเห็นเกนหลงทำท่าเอาจริงก็ชักฝ่อ เหลือบมองไปรอบๆ เห็นรปภ.ยืนดูสถานการณ์อยู่ไม่ไกล
“ทำตัวเป็นฮีโร่ ระวังเถอะจะถูกมันแว้งกัดเข้าสักวัน ไม่รู้หรือไงว่านังนั่นมันมารยาสาไถขนาดไหน ยังไปโง่ช่วยมันอีก แล้วเธอจะต้องเสียใจ”
พูดจบวนิตาก็สะบัดหน้า หันหลังเดินหันกลับไป แต่เกนหลงเรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยว เมื่อก่อนเธอจะเป็นอะไรกับเขมฉันไม่สน แต่ตอนนี้ฉันกับเขม เราคบกัน เธอควรจะรู้
บทบาทของตัวเอง และวางตัวได้อย่างถูกต้อง อย่ามายุ่งกับเขมอีก”
“เธอจำสิ่งที่พูดกับฉันไว้ให้ดี สักวันถ้าเธอโดนเขมทิ้งเหมือนกับที่เขาทำกับฉัน ขอให้เธอ
เจ็บมากกว่าฉัน ร้อยเท่า”
วนิตาสาปแช่งอย่างแค้นใจ ก่อนจะสะบัดหน้าใส่ แล้วก็เดินจ้ำอ้าวไปทันที เกนหลงมองตาม
พลางนิ่งคิด และมั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน
เขมชาติประคองสุริยง ที่เนื้อตัวเปียกปอนมานั่งที่มุมหนึ่งในสวน พลางมองด้วยความสงสาร
แล้วก็ถอดสูทคลุมให้
“ขอบคุณค่ะ”
“ขาเป็นยังไงบ้าง ?” เขมชาติถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ ผู้อำนวยการกลับไปดูคุณเกนเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไร ไม่เห็นเหรอ คุณเกนเขาดูแลตัวเองได้...แต่คุณ”
สุริยง รีบสวนทันที “ฉันก็ดูแลตัวเองได้ค่ะ”
“อย่าอวดเก่งได้มั้ย ? ทำไมต้องทำเป็นเก่งไปซะทุกเรื่อง ตลอดเวลา อ่อนแอบ้างก็ได้
เราไม่ใช่คนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกัน คิดเหรอว่าผมจะไม่รู้ว่าตัวจริงของคุณ เป็นยังไง”
สุริยง นิ่ง ไม่โต้เถียง ในใจอ่อนยวบ
ทางด้านวนิตา ที่เดินออกมาจากโรงแรม ลัดเลาะมาในสวน แล้วก็มาสะดุดกับสุริยงที่นั่งอยู่
กับ เขมชาติ วนิตาหน้าเหรอหรา รีบหลบวูบ พลางแอบดูอย่างระมัดระวัง
เขมชาติลุกขึ้นและนั่งคุกเข่าลงหน้าสุริยง สุริยงตกใจ
“คุณจะทำอะไร?”
“ขาเป็นยังไงบ้าง” เขมชาติยื่นมือมาจะจับ สุริยงตกใจ รีบดึงขาหลบ
“ไม่ต้องค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เจ็บมาก”
เขมชาติส่ายหน้าแล้วก็ไม่สน จับข้อเท้าไว้แน่น สุริยงตกใจ
“เขมคะ”
สุริยงเผลอเรียกชื่อเขมชาติออกมาอย่างลืมตัว เขมชาติชะงัก ค่อยๆ เงยหน้ามองสุริยง แล้วก็ยิ้ม
อบอุ่น
สุริยงยิ้มเก้อๆ “เอ่อ ขอโทษค่ะ ผู้อำนวยการ”
“ไม่เป็นไร คุณอยากให้ผมเป็นอะไร ก็เรียกอย่างนั้น”
เขมชาติฃยิ้มแล้วก็ก้มหน้านวดเท้าให้อย่างอ่อนโยน จนสุริยงสัมผัสได้ถึงความห่วงใย หัวใจของ
เธอที่เต้นระรัว
ในขณะที่วนิตายืนอึ้ง
“มือถือ ถ่ายรูป ถ่ายคลิป”
วนิตาลนลานรีบล้วงหาในกระเป๋า ยิ่งลน ยิ่งหาไม่เจอ เขมชาตินวดข้อเท้าให้สุริยง ทันใดนั้นเสียง
เกนหลงก็ดังขึ้น
“คุณสุเป็นยังไงบ้างคะ”
เขมชาติปล่อยมือ และลุกพรวดขึ้นโอยอัตโนมัติ สุริยงก็ดึงเท้ากลับนั่งตัวตรงอย่างระวังตัว วนิตา
หันไปเห็นพอดี
เขมชาติ รีบพูดตัดบท “ผมฝากคุณเกนดูด้วยนะคัรบ ผมขอไปเคลียร์ที่ห้องประชุมก่อน ถ้าไม่มี
อะไรแล้ว เราจะได้กลับบริษัทกันเลย”
“ค่ะ”
เขมชาติรีบเดินไป เหมือนไม่แคร์สุริยงมากนัก เกนหลงรีบมานั่งข้างๆ สุริยง แล้วถามด้วยความ
เป็นห่วง
“ขาเป็นยังไงบ้างคะ? เจ็บมากหรือเปล่า เดี๋ยวเกนจะเรียกรถมารอรับที่ด้านหน้า คุณสุเดิน
ไหวมั้ยคะ ? “
สุริยงพยักหน้า เกนหลงค่อยๆ พยุงสุริยงลุกขึ้น และประคองเดินไปด้วยความเป็นห่วง สุริยง
ลอบมองเกนหลงด้วยความลำบากใจ
วนิตาแสยะยิ้มอย่างสะใจ ที่เกนหลงกำลังโดนเขมชาติแทงข้างหลัง
แล้วเหตุการณ์ทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดให้อรทัยฟังอย่างละเอียด
“สมน้ำหน้านังเกนหลงมันจริงๆ เชอะ ไม่ได้รู้เลยว่าโดนแทงข้างหลัง ไม่ใช่แทงธรรมดา
แบบนี้เขาเรียกว่า แทงระยะประชิดมิดด้าม”
อรทัยยิ้มเหยียดๆ อย่างดูถูก
“นอกสถานที่ยังถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนี้ ถ้าอยู่กันสองต่อสองในที่ลับตา คงไม่นวดแค่ขา”
“เมียหางแถวของพ่อเธอ ร้ายจริงๆ รู้จักกันแป๊บเดียว มันทำให้เขมก้มลงไปนวดขาให้มันได้ ฉัน
รู้จักมาตั้งนาน แค่ขมับฉัน ยังไม่เคยมาจับเลย”
วนิตาโวยด้วยความแค้น อรทัยหันขวับมา
“นิต้า เธอน่ะไม่ได้เรื่องจริงๆ”
“อ้าว อะไร แค่เขมไม่นวดขมับฉันเนี่ยนะ”
“ไม่ใช่ ทำไมไม่เอามือถือถ่ายรูป ถ่ายคลิปอะไรมาก็ได้ ฉันจะได้เอาไปให้พี่เอื้อดู จะได้ตาสว่าง
ขึ้นมาบ้าง”
วนิตา ถอนหายใจ
“แหม ชีวิตจริงมันไม่เหมือนละครนะยะ จะได้ล้วงกระเป๋าไปก็เจอมือถือ เอามาถ่ายกันง่ายๆ
กว่าฉันจะหาเจอ หายไปกันหมดแล้ว แต่ฉันว่าถึงไม่มีรูป แค่ไปเล่าปากเปล่า พี่ๆ เธอก็คงเชื่ออยู่แล้ว”
“พี่อัมน่ะใช่ แต่พี่เอื้อ..ไม่ใช่ ขนาดครั้งที่แล้วมีรูปให้เห็นชัดๆ ยังไม่เชื่อเลย นี่ไปพูดเฉยๆ
หลักฐานอะไรก็ไม่มี ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด”
อรทัยส่ายหน้าอย่างผิดหวัง แต่อรทัยคาดผิดถนัด เมื่อเอื้อตอบนิ่งๆ หลังจากที่ได้รับฟังเรื่องราว
จากปากของน้องสาว
“พี่เชื่อ”
อรทัยตาวาว “จริงเหรอคะ?”
“จริง ถ้าพี่เป็นเขมชาติ มีพนักงานโดนทำร้ายต่อหน้า พี่ก็ต้องดูแลเขาอย่างดีเหมือนกัน พี่ไม่เห็น
ว่ามันจะแปลกตรงไหน”
อรทัย ชักสีหน้า
“ถึงกับคุกเข่าลงไปนวดเท้าเนี่ยนะคะ ไม่แปลก?”
เอื้อชะงัก อรทัยรีบพูดต่อ
“อรว่าแปลกมาก โดยเฉพาะผู้ชายที่ถือตัว และมีแฟนแล้ว”
เอื้อนิ่ง ทั้งที่ในใจหวั่นไหว
“ถึงพี่เอื้อจะแสดงว่าไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในใจพี่เอื้อรู้ดี ระหว่างเขม ชาติกับสุริยง มัน
มีอะไรมากกว่าเจ้านาย กับเลขา พี่เอื้อจะแกล้งทำตาบอดมองไม่เห็นก็ได้ แต่พี่อัม กับ อรทำไม่ได้”
เอื้อหันหน้าหนี อรทัยเดินมาตรงหน้าเอื้อ เพื่อเผชิญหน้าและย้ำชัดๆ ด้วยความเป็นห่วงพี่ชาย
“อรไม่ยอมให้มันมาหาผลประโยชน์จากความรักของพี่เอื้อ ผู้หญิงอย่างนังสุริยงมันจะไม่ได้
อะไรเลยจากครอบครัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือเงิน”
พูดจบ อรทัยก็เดินออกไปจากห้องด้วยความโกรธ และไม่ได้ดั่งใจ ในขณะที่เอื้อยืนอยู่ที่เดิม แววตาหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด
อย่าลืมฉัน ตอนที่ 11 (ต่อ)
เช้าวันต่อมาที่บ้านรัตนชาติ อัมพิกาโยนซองรูปลงตรงหน้าทนายภานุ และออกคำสั่งนิ่งๆ แต่ วางอำนาจเต็มที่
“ฉันอยากรู้ว่า รูปพวกนี้ จะทำให้นังสุริยงมันหลุดจากการเป็นผู้ดูแลมรดกของไอ้เด็ก
สองคนนั้นได้หรือเปล่า”
ทนายภานุหยิบมาดู เป็นรูปแอบถ่ายสุริยงนั่งตักเขมชาติ ทนายภานุคิดหนัก
“แต่ปกติทนายธีระศักดิ์จะเป็นคนดูแลเรื่องพินัยกรรมของเจ้าสัวอยู่นี่ครับ”
“ใช่ แต่ฉันส่งเขาไปดูงานต่างประเทศ ระหว่างนี้ก็ทำงานแทนเขาไปก่อน ส่วนเรื่องรูปเนี่ย ถ้ามัน
มีผลทางกฎหมาย ฉันต้องการให้ถอดชื่อมันออกโดยเร็วที่สุด และฉันจะเป็นคนดูแลมรดกของเด็กสอง
คนนั้นเอง”
อัมพิกาประกาศ กร้าว
ทางด้านสุริยง ที่ยังคงเดินกระเผลกๆ ทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาห้องรับแขกภายในบ้านของตัวเอง
ทันใดนั้นเสียงชื่นก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“คุณหนูเล็กคะ คุณเอื้อมาเยี่ยมค่ะ”
สุริยงขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจและหันไปถาม
“คุณเอื้อรู้ได้ไงคะ?”
สุริยงหันมาเจอเอื้อยืนอยู่กับเกนหลง ก็ตกใจ
“คุณเกน”
“พอดีผมมีธุระโทร.หาเกน ก็เลยรู้ว่าหนูเล็กลางาน”
เกนหลงพูดต่อ
“เกนก็เลยชวนพี่เอื้อมาเยี่ยม เกนให้สปาที่โรงแรมจัดชุดนวดประคบ แล้วก็น้ำมันสมุนไพรนวด
คลายเส้นมาให้ค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“เอ้อ แล้วนี่หนุ่มน้อยสองคนอยู่ที่ไหนคะเนีย”
ในขณะที่ไก่กับไข่ กำลังช่วยนภา กับอาทิตย์วางแพฝอยทองใส่กล่อง เสียงสุริยงดังขึ้น
“ไก่ ไข่ ดูสิใครมา?”
คู่แฝด หันไปตามเสียง เห็นสุริยงเดินกระเผลกมา มีชื่นคอยประคอง เอื้อกับเกนหลงเดินประกบ
“ พี่เอื้อ พี่เกน”
คู่แฝดร้องอย่างดีใจ พลางรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างคุ้นเคย
“สวัสดีครับ”
เกนหลงยิ้มอย่างเอ็นดู “สวัสดีครับ” พลางหอมแก้มไก่ไข่ฟอดใหญ่
สุริยงหันไปแนะนำกับพ่อแม่
“พ่อคะ แม่คะ นี่คุณเกนหลง แฟนของท่านผู้อำนวยการ เจ้านายหนูเล็กค่ะ คุณเกนคะคุณพ่อ
คุณแม่ค่ะ”
เกนหลงยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ ขนมน่าทานมากๆเลยค่ะ ฝอยทองนี่ของโปรดเกนเลยนะคะ”
นภายิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ดีเลยค่ะ งั้นลองชิมฝีมือป้าสิคะว่าถูกปากหรือเปล่า”
เกนหลงลองชิมแล้วก็รีบบอก
“อร่อยมาก ไม่คาว หวานกำลังดี สงสัยเกนต้องเหมาแล้วหล่ะค่ะ”
สุริยงยิ้มๆ แล้วก็ขยับนั่งลงที่เก้าอี้ที่วางอยู่ไม่ไกล เกนหลงเดินเข้าไปดูนภาโรยเส้นฝอยทองด้วย
ความสนใจ
“ยากมั้ยคะคุณป้า”
นภารีบตอบ “ไม่ยากเลยค่ะ แค่ปรับระดับความสูงต่ำตอนโรยเส้นให้ได้ขนาดเส้นที่เราชอบ
อย่างของป้าชอบเส้นเล็กๆ ก็จะยกสูงหน่อย คุณอยากลองมั้ยคะ”
“ลองได้เหรอคะ?”
นภาส่งอุปกรณ์โรยเส้นฝอยทองให้เกนหลงแทนคำตอบ
“เอาหล่ะ ลองดู ไก่ ไข่ ขอกำลังใจให้พี่เกนหน่อยค่ะ”
ไก่ ไข่ ส่งเสียงเชียร์ดังลั่น “พี่เกนสู้ ๆ”
เกนหลงทำขนมอย่างตั้งใจ โดยมีไก่ไข่ คอยช่วยอย่างสนิทสนม นภากับอาทิตย์มอง เกนหลงอย่างเอ็นดู
“คุณเกนไปเยี่ยมสุริยงที่บ้าน”
เขมชาติย้อนถามอย่างแปลกใจ วิบูลย์รับคำ
“ครับ คุณสุเท้าแพลงมาทำงานไม่ได้ คุณเกนเธอก็เลยขอตัวไปเยี่ยม”
เขมชาติคิด ในใจเป็นห่วงสุริยง แต่อีกใจก็หวงเกนหลง
“แล้วคุณเกนไปกับใคร ไปคนเดียวหรือเปล่า?”
ในขณะที่เกนหลงเทเส้นฝอยทอง ออกจากภาชนะอย่างสวยงาม นภา อาทิตย์ สุริยง ไก่ ไข่ ชื่น
เอื้อ ปรบมือเกรียวกราว
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ กำลังใจเหนียวแน่นมาก เกนรู้สึกเหมือนกำลังแข่งหยอดฝอยทอง
ระดับโลกเลยค่ะ”
สุริยงหัวเราะขำๆ เอื้อหันมาเห็นพอดี เกนหลงหันมาถามนภา
“พอใช้ได้มั้ยคะคุณป้า ผ่านเข้ารอบมั้ยคะ ?”
“ผ่านยิ่งกว่าผ่านอีกค่ะ เอาไปจับแพเลยนะคะ”
“ค่ะ” เกนหลงรับคำ พลางหันมาทางสุริยง
“สนุกมากเลยค่ะคุณสุ เกนฝันอยากทำแบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณนะคะที่ทำให้ฝันเป็นจริง “
สุริยงยิ้มรับ พลันโทรศัพท์มือถือของเกนหลงที่วางอยู่ข้างๆ สุริยงก็ดังขึ้น
“คุณเกนคะ โทรศัพท์ค่ะ”
“ฝากคุณสุรับไว้แทนเกนหน่อยนะคะ กำลังติดพันเลยค่ะ”
สุริยงรับคำ “ค่ะ”
สุริยงหยิบโทรศัพท์ของเกนหลงขึ้นมา ที่หน้าจอขึ้นชื่อเขมชาติ สุริยงชะงัก เอื้อหันไปเห็นพอดี
พลางพยายามจับสังเกต สุริยงมองโทรศัพท์นิ่งคิด ก่อนจะตัดสินใจรับ ทำเสียงปกติ
“สวัสดีค่ะผู้อำนวยการ คุณเกนหลงไม่สะดวกรับสาย เธอให้ดิฉันรับแทนค่ะ”
เขมชาติชะงัก “วดี”
“ดิฉันจะเรียนคุณเกนหลงว่าผู้อำนวยการโทร.มานะคะ”
เขมชาติรีบบอก
“ไม่เป็นไร! ผมอยากคุยกับคุณก่อน ขาคุณเป็นยังไงบ้าง? ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า ?”
สุริยง ปรายตามองเอื้อ ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำท่าเหมือนไม่สนใจ สุริยงพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
“ก็ ดีขึ้น ไม่เจ็บแล้วค่ะ”
สีหน้าเอื้อเริ่มอึดอัด สุริยงรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ผู้อำนวยการจะโทร.มาใหม่ หรือให้คุณเกนหลงโทร.กลับดีคะ?”
เขมชาติตัดพ้อ ออดอ้อน
“ผมอุตส่าห์เป็นห่วง อยากรู้ว่าอาการเป็นยังไง ทำไมต้องรีบส่งผมไปให้คนอื่นด้วย แล้วนี่ไปหา
หมอหรือยัง ? มีใครพาไปหรือเปล่า ?”
สุริยงอึกอักๆ ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะเอื้อนั่งใกล้มาก เอื้อรู้สึกได้ว่าสุริยงวางตัวไม่ถูก และพอ
เดาออกว่าปลายสายพยายามชวนคุย เอื้อเริ่มไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ
“เอ่อ ยังไม่ได้ไปค่ะ แต่จริงๆก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก คิดว่าคงไม่ต้องไป”
เขมชาติย่ามใจ ยิ้มเจ้าเล่ห์
“ถ้ายังดื้อ ผมจะพาไปเองนะ”
สุริยงอึกๆอักๆ ในขณะที่เอื้อมองเกนหลงที่กำลังหยอดเส้นฝอยทอง แล้วก็แกล้งเอียงหน้ามา
ทางสุริยงพร้อมกับตั้งใจพูดเสียงดัง
“เกน เหลือไว้ให้พี่บ้าง พี่ขอทำด้วย!”
เขมชาติชะงักกึก หุบยิ้มทันที ตรงข้ามกับเอื้อ ที่ยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะลุกไปหาเกนหลงที่หันมาส่ง
เสียงด้วยความตื่นเต้น
“เชิญเลยค่ะ แต่มันไม่ใช่ง่ายๆนะ ขอบอกไว้ก่อน”
เขมชาติรีบถาม “นั่นเสียงใคร? ผมถามว่าใคร?”
“คุณเอื้อค่ะ”
เขมชาติชะงักกึก
ในขณะที่เอื้อเดินไปหาเกนหลง พับแขนเสื้อพร้อมลุย
“เดี๋ยวก็รู้”
นภา อาทิตย์ ชื่น ตื่นเต้นกันใหญ่เพราะเอื้อไม่เคยทำเลย ไก่กับไข่ส่งเสียงเชียร์ ดังลั่น
“พี่เอื้อสู้ๆ”
เสียงความสนุกสนานดังไปทั้งครัว ไก่กับไข่ ส่งเสียง พร้อมกระโดด โลดเต้น ไปมา
เขมชาติกัดกรามแน่น ได้ยินเสียงความสนุกสนานดังออกมาจากโทรศัพท์
“บอกคุณเกนไม่ต้องโทร.กลับ เดี๋ยวผมไปรับเอง”
เขมชาติพูดจบ ก็รีบวางสาย แล้วหันไปคว้ากุญแจรถทันที
“เขมจะมารับทำไมก็ไม่รู้ เกนมากับพี่เอื้อ กลับกับพี่เอื้อก็ได้”
เกนหลงบ่นเบาๆ เอื้อ แกล้งพูดทีเล่นทีจริง
“เขาก็คงหึงมั้ง ไม่อยากให้แฟนอยู่กับคนอื่นสองต่อสอง”
เอื้อยิ้มกวนๆ แอบสะใจที่แผนการสำเร็จ สุริยงยืนอยู่ตรงข้ามเกนหลง เห็นรอยยิ้มของเอื้อ
ก็มองดุๆ อย่างรู้ทัน เอื้อทำเป็นยักไหล่ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ผมว่า หนูเล็กเข้าไปนั่งพักในบ้านดีกว่า ยืนแบบนี้ เดี๋ยวขาก็ไม่หายเจ็บกันพอดี ไปครับ ผมพยุง
เข้าบ้าน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวให้ชื่นพยุงไปก็ได้”
ชื่นรีบบอก “ชื่นไม่ว่างค่ะ ต้องรีบเอาฝอยทองใส่กล่องให้คุณเกน ฝากคุณเอื้อด้วยนะคะ”
สุริยงแอบค้อนนิดๆ เอื้อยิ้ม เข้าล็อค แล้วก็ตั้งแขนขึ้นให้สุริยงจับ แล้วก็พาเดินเข้าบ้านไป
เกนหลงมองเอื้อกับสุริยงแล้วก็ยิ้ม แววตาชื่นชม
เอื้อค่อยๆ ประคองสุริยงมานั่งที่โซฟา
“ขอบคุณค่ะ”
เอื้อนั่งลงตรงหน้า จะจับเท้ามาดู “ผมขอดูหน่อย”
สุริยง รีบดึงขาหลบ
“อย่าเลยค่ะ ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ”
เอื้อชะงัก แล้วเงยหน้ามอง
“หรือว่าผมไม่ใช่เขมชาติ คุณถึงไม่ยอมให้ผมดูแล”
สุริยงสะอึก ก่อนจะรีบหันไปทางประตู กลัวเกนหลงจะได้ยิน เอื้อเห็นก็รู้ทัน
“ไม่ต้องห่วง เกนหลงยังไม่รู้เรื่องนี้”
สุริยงหันขวับกลับมา “เรื่องอะไรคะ?”
"เรื่องระหว่างคุณกับเขมชาติ"
สุริยงใจเต้นรัว แต่พยายามทำนิ่ง ไม่แสดงพิรุธออกมา
จบตอนที่ 11