สาปสาง ตอนที่ 17
แพรวนั่งรอกรณ์ เธออารมณ์ดีจนต้องโทรศัพท์บอกไท
"ไท...แกเตรียมตัวฉลองความสำเร็จของฉันได้แล้วนะ เผลอๆแกอาจจะต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ฉันกับคุณกรณ์ด้วย เพราะฉันหาที่เหมาะจะสร้างโรงละครใหม่ได้แล้ว"
ไทคุยกับโทรศัพท์กับแพรว
"หมายความว่า แผนการที่เธอดึงกรณ์ให้เลิกยุ่งกับที่ดินที่ฝังศพช่อใกล้จะสำเร็จแล้วใช่ไหม....เฮ้อ ทุกอย่างจะได้จบเสียที"
ไทวางโทรศัพท์อย่างโล่งใจ แต่ก็รู้สึกผิดอยู่บ้าง
"ช่อเอื้อง...”
ไทเปิดลิ้นชักที่มีกล่องของต่างๆวางเต็ม ไทหยิบรูปช่อเอื้องที่อยู่ก้นลิ้นชักออกมา
"ขอโทษนะช่อเอื้อง ถึงฉันจะไม่ได้ตัวเธอ แต่เธอก็ไม่ได้คุณกรณ์เหมือนกัน...ชาติหน้าฉันจะรักเธอ ถนอมเธอให้มากกว่านี้นะช่อเอื้อง"
ไทเก็บรูปช่อเอื้องไว้ที่ลึกสุดลิ้นชักเหมือนเดิม ไทปิดลิ้นชัก
ช่อเอื้องกรีดร้องด้วยสีหน้าเจ็บแค้น
"ไอ้คนทรยศ ไอ้คนชั่วชาติ มึงพรากชีวิตกู มึงพรากกูจากคนรัก กูจะจองเวร!!”
ช่อเอื้องหาทางออกจากมนต์มืดไม่ได้
"ปล่อยกูออกไป ปล่อยกู....กูจะให้พวกมึงชดใช้"
แพรวเห็นกรณ์เดินออกจากลิฟท์ แพรวรีบเข้าไปหา
"คุณกรณ์คะ แพรวรอตั้งนานแน่ะ" แพรว
แพรวจับแขนกรณ์อย่างสนิทสนม
"งานยุ่งน่ะครับ คุณแพรวนัดผมมา มีอะไรหรือเปล่า" กรณ์ถาม
"แหม ถ้าไม่มีธุระแพรวจะนัดคุณบ้างไม่ได้หรือคะ"
กรณ์ยังไม่สนิทใจกับแพรวเท่าไหร่ เขาพยายามเปลี่ยนประเด็นให้เป็นงานเป็นการ
"ผมว่าเราไปคุยกันทางโน้นดีกว่าครับ"
แพรวโชว์รูปในโทรศัพท์ซึ่งเป็นรูปบ้านหลังใหญ่ให้กรณ์ดู แพรวทำเป็นโน้มตัวไปใกล้กรณ์
"ดูสิคะ แพรวหาที่ที่เหมาะจะทำโรงละครได้แล้วค่ะ เป็นบ้านหลังใหญ่ น่าอยู่เชียวค่ะ มีสตูดิโออยู่ภายในบริเวณด้วย"
กรณ์ก้มหน้าดูภาพ
"แพรวพาคุณกรณ์ไปดูบ้านหลังนี้ด้วยกันดีกว่า เห็นบ้านจริงอาจจะถูกใจเหมือนแพรวก็ได้....ไปดูบ่ายนี้ดีไหมคะ"
"เห็นจะไม่ได้หรอกครับ ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาว่างเลย งานดูแลโครงการโรงแรมมีปัญหานิดหน่อย"
แพรวแอบดีใจที่โครงการบนที่ดินจะไม่สำเร็จจึงแกล้งหลอกถามกรณ์
"โรงแรมที่จะสร้างบนที่ดินโรงละครดาราลัยเก่าหรือคะ....โธ่ หมายความว่าจะสร้างโรงแรมไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ"
"ก็ไม่เชิงครับ ซินแสที่ไปดูฮวงจุ้ยให้ แกบอกว่าที่ดินมีพลังมืดฝังอยู่ ทำให้ที่มีจุดบอด ถ้าไม่แก้ไขก็จะทำอะไรต่อไม่ได้เลย"
"มีเรื่องแบบนี้จริงๆเหรอคะ แพรวเพิ่งเคยได้ยินนะคะเนี่ย"
"ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันครับ แต่ตอนที่ไปดูที่ ทั้งคุณพริ้วเลขาคุณณราก็ถูกโจรปล้นแล้วก็ทำร้าย ซินแสเฟยก็เจอเหตุการณ์แปลกๆเล่นงาน"
แพรวแกล้งตกใจ "น่ากลัวจังเลยค่ะคุณกรณ์ขา แพรวเป็นห่วงคุณกรณ์จัง ไม่อยากให้เจอเรื่องแบบนี้อีก"
"ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นความโชคร้ายหรืออะไรกันแน่ รู้แต่ว่ามันแปลกๆยังไงพิกล"
"คุณกรณ์อยากทราบไหมคะ ว่ามันคืออะไร"
"คุณแพรวเคยเจอเรื่องแบบนี้หรือครับ"
"แพรวตอบเองไม่ได้หรอกค่ะ แต่มีคนรู้คำตอบดีกว่าแพรว"
"ใครครับ" กรณ์ถาม
กรณ์สนใจและอยากรู้ว่าจะมีคนอธิบายเรื่องได้จริงหรือ แพรวแอบยิ้มเพราะเข้าทาง
อ่านต่อหน้า 2
สาปสาง ตอนที่ 17 (ต่อ)
อีการ้องระงม เสียงหัวเราะพ่อปู่ดังกังวาน พ่อปู่ลืมตาขึ้น
"อีเลือดชั่ว มึงนี่มันร้ายกาจจริงๆ"
พ่อปู่ยิ้มอย่างรู้ทันแพรว
อีกาบินพรึ่บพรั่บหน้าตำหนักพ่อปู่ รถแพรวแล่นมาจอดที่หน้าตำหนัก กรณ์และแพรวลงจากรถ กรณ์มองไปรอบๆ แล้วก็รู้สึกว่าบรรยากาศพิกล
"ถึงแล้วค่ะ ที่นี่แหละที่มีคนที่จะให้คำตอบคุณได้"
"ผมว่าบรรยากาศดูแปลกๆนะครับ"
"คุณเพิ่งเคยมา เลยรู้สึกไม่ชินมั้งคะ"
"แปลว่าคุณแพรวรู้จักที่นี่ดี"
"ฉันไม่อยากบอกคุณเลย แต่ไหนๆก็พาคุณมาถึงนี่แล้ว...”
แพรวซ่อนสายตาโกหก กรณ์ยิ่งอยากรู้
"มีอะไรหรือครับ คนที่คุณพาผมมาพบเป็นใครหรือ คุณรู้จักได้ยังไง"
"ช่อเอื้องน่ะค่ะ เวลาช่อมีปัญหาหรือร้อนใจจะมาขอคำปรึกษาจากท่าน ช่อนับถือท่านมาก แล้วช่อก็เคยพาฉันมาที่ครั้งนึง"
"คนที่ช่อนับถือเหรอ ?”
กรณ์มองเข้าไปในตำหนักแล้วก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นว่าคนข้างในเป็นใคร
แพรวเดินนำกรณ์เข้าไปข้างในที่มืดทึบ
กรณ์พูดพึมพำเบาๆ "ทำไมมันมืดอย่างนี้"
ทันใดนั้นหน้าต่างก็เปิดไล่กันทีละบานๆ
เสียงพ่อปู่ดังขึ้น "สว่างพอหรือยัง"
กรณ์ตกใจจึงหันไปมองก็เห็นพ่อปู่นั่งอยู่หน้าแท่นพิธี
"เปิดหน้าต่างสิลูก" พ่อปู่ว่า
"ลูก ?” กรณ์ทวนคำ
กรณ์มองหาลูก พ่อปู่หัวเราะหึๆ แล้วชี้มือไปที่หน้าต่างทีละบานๆ มีสายลมพัดผ่านหน้ากรณ์ พุ่งไปทางหน้าต่าง
"ลมอะไรน่ะ !" กรณ์ตกใจแล้วหันไปมองหน้าต่าง
หน้าต่างอีกฝั่งหนึ่งเปิดออกทีละบานตามจังหวะที่พ่อปู่ชี้มือ
"เป็นไปได้หรือเนี่ย"
"เห็นกับตา คุณยังไม่เชื่ออีกหรือคะ" แพรวถาม
"มึงกังขาตัวกู มึงสงสัยว่ากูเป็นใคร มึงไม่รู้จักกู แต่กูรู้จักมึง....มึง ! ลูกหลานคนละคร แต่มึง ทิ้งละคร ทิ้งครู"
กรณ์ตะลึงจนหันไปมองแพรว แพรวตีหน้างง
"พ่อปู่รู้ได้ยังไงคะ คุณกรณ์ไม่ได้ทิ้งคณะละครเสียหน่อย" แพรวถาม
"มึงมาด้วยเรื่องนี้ ใจมึงร้อนรุ่มอยากรู้ว่ามีอะไรบนที่ดินอาถรรพ์"
"แล้วคุณรู้หรือว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น" กรณ์ถาม
"บังอาจ ! ไอ้คนหัวสมัย มึงดูถูกกู....กูรู้ กูเห็น กูสัมผัสได้"
พ่อปู่หลับตาลงแล้วขมุบขมิบปากว่าคาถา ร่างของเขาสั่นเทิ้มขึ้นเรื่อยๆ
"ที่ดินอาถรรพ์ ทำให้มึงพบแต่ความวิบัติ"
"อาถรรพ์ ? หมายความว่ายังไง"
"ที่ดินต้องคำสาป ที่ดินเคยมีครู แต่มึงทิ้งครู"
"ครู ? หมายถึงใคร"
"ครูละครหรือเปล่าคะ ก็ที่นั่นเคยเป็นโรงละคร" แพรวสงสัย
"กูเห็นไฟบรรลัย กูเห็นไฟแค้น มึงปล่อยให้ครูถูกเผา ผีครูจึงไม่คุ้มครองมึงอีก ผีครูมันแค้น มันสาปแช่งให้ที่ต้องอาถรรพ์ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น"
"จะเป็นไปได้ยังไง ไฟไหม้ครั้งนั้นน่าจะเป็นเพราะมีคนวางเพลิงไล่ที่ ส่วนที่ทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่มีคนไปทำหรือเปล่า"
พ่อปู่ลืมตาโพลงแล้วตวาดดัง อีกาบินพึ่บพั่บในบ้านเฉี่ยวหัวกรณ์ไปมา
"มึงไม่เชื่อก็ช่างหัวมึง !”
"คุณกรณ์คะ พ่อปู่ท่านจะโกหกคุณไปทำอะไรคะ"
"มึงเคยมีรักที่นั่น แต่เป็นรักหลอก อีผู้หญิงจอมปลอมคนนั้นมันหลอกมึง แล้วมันก็หนีไป!”
กรณ์ตกตะลึง แพรวแกล้งทำสีหน้าตกใจมาก
แพรวแอบยิ้มอย่างสะใจ
"กูบอกแล้ว ที่ดินต้องอาถรรพ์ ถ้าไม่อยากมีเรื่องชิบหาย อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับที่ผืนนั้น"
"ไม่มีทางแก้หรือคะ"
"ไม่มี กูบอกได้คำเดียว ถ้ายุ่งกับที่ผืนนั้น จะมีแต่คำว่า พินาศ"
พ่อปู่กำชับเสียงดัง กรณ์อึ้งไป
อ่านต่อหน้า 3
สาปสาง ตอนที่ 17 (ต่อ)
กรณ์กับแพรวกำลังจะขึ้นรถ
"ทีนี้คุณกรณ์คงหายข้องใจแล้วนะคะว่าทำไมถึงเกิดเรื่องประหลาดเวลาคุณไปที่ดินโรงละครเก่านั่น"
"เรื่องแบบนี้ ก็ฟังหูไว้หูก็ดีครับ เพราะผมเองก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้เหมือนกัน"
แพรวลอบยิ้มเมื่อสังเกตดูท่าทางว่ากรณ์จะเชื่อคำพูดพ่อปู่
"แต่ถ้าพ่อปู่จะหยั่งรู้เรื่องในอดีตขนาดนั้น บางทีท่านอาจจะรู้เรื่องอื่นด้วย"
"เรื่องอะไรหรือคะ"
"ช่อเอื้อง"
กรณ์เดินปิดประตูรถกลับเข้าไปในตำหนักพ่อปู่ แพรวตกใจมากจึงรีบตามไป
พ่อปู่ลอบยิ้มแสยะเหมือนรู้อยู่ก่อนว่ากรณ์จะมาถามอะไร
"พ่อปู่ครับ ผมอยากรู้เรื่องช่อเอื้อง"
แพรวเดินเข้ามาด้วยความตกใจ เธอมองหน้าพ่อปู่ พ่อปู่ชำเลืองมองแพรวเป็นทำนองว่าไม่ต้องตกใจ
"ผู้หญิงมากราคะ มึงยังจะให้ความสำคัญกับมันอีกรึ"
"พ่อปู่ ! ช่อเอื้องไม่ใช่คนแบบนั้น" กรณ์ค้าน
"หึ มันไม่มีใจให้มึงแล้ว มึงจะถามหามันทำไม"
"ผมอยากรู้ว่าช่อเอื้องเป็นยังไงบ้าง ช่อเอื้องไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยผมก็จะช่วยเหลือได้บ้าง ในฐานะ...เพื่อนเก่า"
"มึงกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำบุญมาด้วยกัน พยายามให้ตายมึงก็ไม่สมหวัง เพราะมึงไม่ได้เกิดมาเป็นเนื้อคู่ เนื้อคู่มึงเป็นคนอื่น ไม่ใช่ผู้หญิงชื่อช่อเอื้อง"
กรณ์เศร้าลง แพรวลอบมองสบตาพ่อปู่ด้วยความสะใจ
ณราเดินเข้ามาหาพริ้วที่มุมเลขา ในใจของเธอดีใจที่พริ้วกลับมาทำงานแต่ก็พยายามขรึมเพราะไม่รู้จะวางตัวยังไง
"คุณกลับมาทำงานแล้ว"
"ค่ะ งานคืองาน ฉันรับผิดชอบหน้าที่ บอสมีอะไรให้ฉันรับใช้ค่ะ"
ณราอึ้งไปที่พริ้วพูดจาเป็นทางการขึ้น
"เอ่อ....ถ้าคุณกรณ์กลับมา เชิญมาพบผมด้วย"
"ค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะ"
พริ้วก้มหน้าทำงานต่อไป ณราจำต้องเดินกลับห้อง
พริ้วต่อสายโทรศัพท์ "คุณกรณ์หรือคะ....บอสรอพบที่ห้องนะคะ"
พริ้ววางโทรศัพท์แล้วแอบชำเลืองมองณราแว่บหนึ่งพลางนึกถึงคำพูดซินแส
"ป๊าบอกว่าคุณณราเป็นเนื้อคู่เรา ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้"
เวลาผ่านไป กรณ์เข้ามาพบณรา ทั้งสองคุยกันที่ห้อง
"เรื่องที่ดินผืนนั้น คืบหน้ายังไงบ้าง" ณราถาม
"รอให้ซินแสเฟยหายดี แล้วผมจะพาซินแสไปดูที่อีกครั้งครับ เผื่อว่าจะปรับเปลี่ยนแก้ไขทำอะไรให้ถูกต้องตามฤกษ์ยามดี" กรณ์บอก
"ผมว่าไม่ต้องแล้วล่ะ เอาฤกษ์สะดวกดีกว่า"
"คุณณราไม่ติดขัดอะไรหรือครับ"
กรณ์ถามดักไว้ แต่ณราเป็นคนหัวสมัยใหม่จึงคิดในเชิงธุรกิจ
"ที่ตรงนั้นอยู่ไม่ไกลจากเมือง มีศูนย์การค้าอยู่ใกล้ๆ เหมาะจะทำเป็นโรงแรม ยังไงก็ต้องสร้างให้ได้ ผมว่าเรารีบดำเนินการเรื่องก่อสร้างเลยดีกว่า"
"ได้ครับ ถ้าคุณณราอนุมัติ ผมจะเริ่มโปรเจ็คท์ทันที"
ณราพยักหน้าด้วยความมั่นใจ
อ่านต่อหน้า 4
สาปสาง ตอนที่ 17 (ต่อ)
เฟยตกใจมาก
"อะไรนะอาพริ้ว ลื้อว่า คุณณราจะสร้างโรงแรมแล้วเหรอ ไอ้หยา ไม่ได้นะ ไม่ได้"
"ไม่ได้อะไรล่ะป๊า คุณณราเค้าตัดสินใจแล้ว" พริ้วบอก
"ลื้อต้องไปห้ามเขา อย่าให้สร้าง"
"ฉันเป็นแค่เลขาฯ จะไปห้ามเจ้านายได้ยังไงล่ะป๊า"
"ถ้าไม่ยับยั้งไว้ แล้วดึงดันสร้าง คราวนี้ได้ชิบหายกันหมด"
"จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณณราหรือเปล่าป๊า"
พริ้วเป็นห่วงณรา เฟยถอนหายใจด้วยความหนักใจ
แพรวคุยชื่นชมพ่อปู่
"เรื่องช่อเอื้องถึงจะไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ แต่พ่อปู่ก็เล่นซะสมบทบาทเชียวนะจ๊ะ”
"อีเลือดชั่ว กูไม่ได้เล่น กูรู้ ใจมึงมันคิดคด หักหลังเพื่อน" พ่อปู่ว่า
"ฉันไม่นับอีช่อเป็นเพื่อน ดีแล้วที่มันไม่ได้เป็นคู่กับคุณกรณ์"
"ผู้ชายคนนั้นเป็นคู่กับอีผีนั่น ไม่ใช่มึง"
"ไม่จริง ถึงจริง อีช่อก็ตายไปแล้ว มันไม่ได้ครอบครองคุณกรณ์ แต่ฉันต้องได้"
"ลำพังมารยามึงคนเดียวทำให้ผู้ชายคนนั้นมาเป็นคู่กับมึงไม่ได้หรอก แต่ถ้าเพิ่มพลังจากกูล่ะก็....”
"พ่อปู่ช่วยได้เหรอจ๊ะ"
"ไม่มีอะไรที่กูทำไม่ได้"
แพรวตาลุกวาวเพราะคิดแต่จะครอบครองกรณ์โดยไม่คำนึงถึงวิถีทางทั้งสิ้น
"พ่อปู่จะช่วยให้ฉันสมรักกับคุณกรณ์ได้ยังไง"
"กูมีวิธีก็แล้วกัน ฮ่ะๆ"
พ่อปู่หัวเราะสะใจ เขาเห็นความริษยาอยากได้ในแววตาของแพรวแล้วก็รู้สึกสมใจที่แพรวจะถูกวางตัวเป็นผู้รับวิชาดำต่อไป
พริ้วนอนไม่หลับกระสับกระส่ายจนต้องลุกขึ้นมานั่ง
"จะทำยังไงดี คุณณรา...ทำไมต้องมาอยากสร้างโรงแรมตรงที่ดินนั้นด้วย ขนาดฉันกับป๊ายังเจอดี แล้วคุณณราล่ะ โอ๊ย ฉันจะทำยังไงเนี่ย"
พริ้วห่วงณรา เธอคิดหนักพลางมองโทรศัพท์
ณราพยายามโน้มน้าวฤดีที่มีสีหน้าไม่พอใจและไม่เห็นด้วย
"แม่ไม่ให้สร้าง ไม่ให้ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะให้ซินแสไปดูฮวงจุ้ยที่ให้เรียบร้อยก่อน" ฤดีว่า
"แม่ครับ ไม่ต้องให้ซินแสไปแล้ว ผมนี่แหละ ดูแล้ว ผมว่าที่ดินผืนนั้นเหมาะจะทำโรงแรมมาก" ณราบอก
"ผู้ใหญ่เตือนเขายังต้องฟัง แกจะไม่ฟังแม่ได้ยังไง"
"ก็แม่จะให้ผมฟังซินแสด้วย"
"ก็ใช่น่ะสิ มีผู้รู้มาชี้แนะดีกว่าทำไปงูๆปลาๆ ถ้าที่ผืนนั้นฮวงจุ้ยไม่ดี ทำไปก็ไม่รุ่ง มันต้องแก้ไขให้ดีก่อน"
"แม่ครับ ที่ดินผืนนั้นทำเลดี ยังไงก็รุ่ง แล้วผมก็เริ่มโครงการก่อสร้างแล้วด้วย"
"เอ๊ะ แม่บอกไม่ให้ทำ ต้องดูที่ก่อน เข้าใจมั้ย"
โทรศัพท์ณราดังขึ้น ณราเห็นเป็นพริ้วก็ดีใจจึงรีบตัดบทกับแม่
"ผมขี้เกียจจะเถียงกับแม่ เพราะยังไงผมก็จะสร้างโรงแรมให้ได้"
"ตาณรา !”
ณราเดินออกไปโดยไม่เถียงกับฤดีต่อ เขารับโทรศัพท์
"ว่าไงครับ คุณเลขาฯ"
พริ้วโทรศัพท์คุยกับณราอย่างเป็นงานเป็นการมาก
"คืนนี้คุณไปที่ที่ดินผืนนั้นกับฉันได้ไหมคะบอส"
ณรางง
"อะไรกัน จะไปทำไม นี่ก็ดึกแล้ว"
พริ้วยืนยันกับณรา
"ในเมื่อคุณจะสร้างโรงแรมให้ได้ ฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่บนที่ดินผืนนั้น"
ณราไม่เข้าใจที่พริ้วยังยืนยัน
"เหลวไหลน่าพริ้ว"
พริ้วพูดด้วยเสียงหนักแน่น จริงจัง
"คุณก็ทราบว่าเกิดเหตุการณ์แปลกๆกับฉัน กับป๊าของฉัน ที่ดินผืนนั้นต้องมีอะไร ป๊าให้ฉันเตือนคุณ เพื่อจะได้หาทางแก้ไข เรื่องร้ายๆจะได้ไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าคุณไม่ฟัง ไม่สน ไม่เชื่อ ฉันไปคนเดียวก็ได้ค่ะ"
ณราอ่อนใจแต่คิดว่าก็ดีจะได้ทำให้เรื่องจบ ถ้าพริ้วหายข้องใจงานจะได้คืบหน้า
"เดี๋ยวก่อนคุณพริ้ว....ผมไปกับคุณก็ได้"
แพรวคุยโทรศัพท์กับไทด้วยสีหน้าสบายใจ
"ไท....ฉันพาคุณกรณ์ไปพบพ่อปู่มาแล้วนะ"
อ่านต่อตอนที่ 18