มาดามดัน ตอนที่ 4
พุชชี่ผลักอกเน็กซ์จนเซด้วยความโกรธ
"ชั้นไม่ว่าเธอหรอกที่จะมองวงการนี้ว่า มันฉาบฉวยสวยหรูแต่เปลือกยังไง แต่อยากให้เธอเข้าใจว่านี่คือวงการบันเทิง เป้าหมายของคนทำงานทุกคนก็คือการสร้างความสุข ทำให้ผู้ชมได้เต็มอิ่ม มีรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ เห็นน้ำตาของความซาบซึ้ง เมื่อรางวัลที่เราได้กลับมาคือเสียงปรบมือ นั่นคือค่าตอบแทนที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว"
เน็กซ์นิ่งไป
"ผมไม่ได้อยากจะดูถูกอาชีพที่ป้าทำ แต่ผม ผมแค่ แค่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ไอ้ที่เคยเห็นๆมาก็คิดว่ามันง่าย แต่เอาเข้าจริงแล้ว..."
"มันยากมากเลยใช่มั้ย"
เน็กซ์พยักหน้ารับ
"ผมเป็นแต่เตะบอลนะป้า แล้วๆอยู่ๆจะให้ผมเป็นในสิ่งที่ผมไม่เคยเป็น"
เน็กซ์นิ่งไป พุชชี่ค่อยๆเข้าไปใกล้ๆแล้วจับมือเน็กซ์มากุม
"เธอเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่า ทำไมชั้นถึงต้องยอมเสียเวลาพาเธอไปเรียน"
"ถึงพาผมไป ผมก็ทำไม่ได้อยู่ดี"
"มันไม่ยากหรอกเน็กซ์ ครูดาวบอกชั้นว่าที่เธอไม่ให้ความร่วมมือเพราะเธอไม่ยอมเปิดใจ"
"เปิดใจอะไรล่ะป้า ผมไม่มีเรื่องที่นึกแล้วจะทำให้ผมร้องไห้ หรือหัวเราะได้อย่างที่เขาทำกันได้หรอก"
"มีสิ เน็กซ์ แค่เธอไว้ใจชั้น แล้วปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามที่เธอเคยเป็น"
หล่อนพยายามใช้ความจริงใจบีบมือเน็กซ์และปลอบโยนจนเธอใกล้ชิดเขาแบบที่สบตากันไปมาระยะใกล้ๆได้
หน้าเวทีคิวเดินแบบต่อมาเป็นของแก้วใสกับตั้มที่ออกมาวาดลวดลายฝีมือเก๋ากว่าจัดการข่มเด็กใน สังกัดของเจ๊เมี่ยงได้อย่างสวยงามและเรียกเสียงปรบมือพร้อมกับแสงแฟลชระรัวได้มากกว่า หนูดอกชายหางตามองไปที่เจ๊เมี่ยงที่เจ็บใจเพราะเด็กตัวเองแพ้รัศมีแก้วใสกับตั้ม
"เด๊ะๆ ไปป่ะเจ๊ แบบนี้เขาเรียกเจนเวทีของจริง พาเด็กของเจ๊ไปหัดใหม่ซะเถอะไป ชิ้วๆ"
"เชอะ...ก็แค่พวกอยู่มานานแต่ไปไม่ถึงดวงดาว เอาทีเด็ดของแกมาเลยดีกว่า อย่าดีแต่ไปซุกหัวหลบซุ่มฝึกวิชาอยู่ในตุ่มเลย หึๆๆ"
นางหัวเราะข่ม หนูดอกหน้าเสียเริ่มชะเง้อมองหาพัฒศรีกับเน็กซ์
"หายไปไหนของเขาเนี่ย ไปทำอะไรกันอยู่ โธ่เอ้ย..."
เน็กซ์กับพุชชี่สบตากันอย่างเข้าอกเข้าใจ
"เราทุกคนมีเรื่องที่เก็บอยู่ในใจกันทั้งนั้น แต่ที่ไม่ยอมเปิดมันออกมาเพราะเรากลัวที่จะให้คนอื่นรู้ความลับของเรา ถ้าชั้นบอกเรื่องของชั้นให้เธอรู้ เธอก็คงจะไว้ใจชั้นขึ้นมาบ้าง นะเน็กซ์"
ทั้งคู่สบตากันไปมาอย่างไว้เนื้อเชื่อใจจนหล่อนเริ่มพูด
"ชั้นชอบพี่ติณ แต่ชั้นคบกับเขาไม่ได้ เพราะเขาดีเกินไปสำหรับผู้หญิงที่ชั้นเป็นอยู่ตอนนี้"
หล่อนพูดไปก็น้ำตาคลอ เน็กซ์อึ้งไปเพราะไม่เคยเห็นหล่อนมีน้ำตาแบบนี้ เน็กช์เผลอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาให้
"ชั้นบอกเธอแล้ว ทีนี้ก็ตาเธอบ้างแล้วล่ะ พูดกับชั้นสิเน็กซ์ ให้ชั้นเข้าถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ"
เน็กซ์นิ่งไปครู่ มองตาหล่อนแล้วอยู่ๆน้ำตาก็เริ่มคลอ เอ่อและร้องไห้ต่อมา
"ผม...ผม ผมคิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ ผมไม่อยากทำให้เขาเสียใจ ผมทิ้งเขามาเพื่อจะตามหาคนที่ไม่เคยเลี้ยงดูผม ผมทำผิดกับพวกเขา แต่ผมก็กลับไปไม่ได้ ฮือๆๆ"
เน็กซ์ปล่อยโฮออกมาอย่างหมดเปลือก หล่อนเลยต้องดึงเน็กซ์มาโอบกอดเอาไว้และลูบหลังปลอบใจ
"โธ่เอ้ยเด็กน้อย เรื่องแค่นี้เอง ก็ชั้นรับปากเธอแล้วไงว่าชั้นจะช่วยเธอ แค่เธอตั้งใจทำอย่างที่ชั้นบอก ไม่ถึงปีเธอก็จะได้พบหน้าพ่อที่แท้จริงของเธอ"
เน็กซ์กอดหล่อนแล้วร้องไห้ไม่หยุด หล่อนจับหน้าที่น้ำตานองหน้าขึ้นมามองอย่างเอ็นดู
"มา...ชั้นจะปลอบใจให้ เผื่อบางทีเธออาจจะรู้สึกหายคิดถึงบ้านบ้าง"
หล่อนค่อยๆจูบเบาๆที่หน้าผากเน็กซ์ จูบนั้นเพื่อปลอบใจ แต่เน็กซ์กลับชะงักขนลุกซู่ แล้วสบตาหล่อนนิ่งนาน เน็กซ์ใจเต้นตึกตัก ก่อนจะห้ามใจตัวเองไม่ได้ ยื่นปากไปจูบหล่อนที่ริมฝีปาก จุ๊บ พุชชี่อึ้ง!
การเดินแบบงานเปิดตัวกาแฟกระป๋อง Savanna ดำเนินต่ออย่างเข้มข้น บนเวทีทุกคนออกมาเดินโชว์ตัวอีกรอบ แก้วใสกับตั้มออกมาเดินแบบประกบกับพวกเด็กในสังกัดของเจ๊เมี่ยงที่ยกแผงประกบข้างและหลัง เหมือนแก้วใสกับตั้มต้องอยู่ท่ามกลางสิงสาราสัตว์ที่น่ากลัว
เด็กหนุ่มคนหนึ่งในสังกัดมองมาที่ข้างเวที เจ๊เมี่ยงพยักหน้ารับ กลุ่มพวกเด็กก็เล่นสกปรกพากันเดินเบียดตั้มกับแก้วใสจนเกือบจะตกเวทีอย่างเนียนๆ ดีที่ตั้มคว้าตัวแก้วใสเอาไว้แล้ว The Show must go on พาแก้วใสเดินกลับเข้ามาด้านในหลังเวที
หนูดอกวิ่งออกไปหาแก้วใสกับตั้มที่ห้องแต่งตัว เจ๊เมี่ยงกับลอร่าสะใจ
แก้วใสหัวเสียเข้ามาที่ห้องแต่งตัวพร้อมตั้ม หนูดอกวิ่งตามเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง
"เป็นอะไรรึเปล่า แก้วใส"
"ตาบอดเหรอไง ยังจะมาถามอีก เกือบตกเวทีจะขายหน้าอยู่แล้ว ไอ้พวกบ้าเอ้ย"
หนูดอกบอก
"หึ...ถ้านังเจ๊เมี่ยงไม่สั่งให้เล่นสกปรกกับพวกเรา ไอ้อ่อนพวกนั้นมีเหรอจะกล้า"
"งั้นเดี๋ยวรอบต่อไป แก้วใสจะเอาคืนพวกมันเอง"
พุชชี่เดินเข้ามา
"ไม่ต้องหรอกแก้วใส เด็กของมาดามพุชชี่ไม่ใช่อันธพาล ต้องใช้ฝีมือเท่านั้น"
หนูดอกถาม
"มาดาม นี่มาดามหายไปไหนกันมาคะเนี่ย หนูดอกโดนนังเจ๊เมี่ยงมันทั้งงับ ทั้งแขวะ ทั้งจิกจนจะเหี่ยวหมดแล้ว"
"โทษทีนะหนูดอก พอดีว่าชั้น…"
พุชชี่นิ่งไป หันไปมองที่ประตู เน็กซ์เดินตามเข้ามา หล่อนจิกหน้ามองเน็กซ์อย่างถมึงถึง ส่วนเน็กซ์ก้มหน้าจ๋อยๆ แถวหน้าผากโหนกแก้ม 2 ข้างมีรอยแดงอ่อนๆเป็นเส้นโค้งนิดหน่อย มันคือรอยขอบยางที่ดันส้วม
แก้วใสตกใจ
"เน็กซ์ เกิดอะไรขึ้น ทำไมหน้าตาเป็นอย่างนี้ล่ะ หรือว่ามาดามทำอะไรเธอ"
เน็กซ์ไม่กล้าพูดอะไรต่อ หล่อนยังยังจ้องหน้าเขม็งอย่างเอาเรื่องสุดๆ
เมื่อสักครู่ เน็กซ์จูบปากหล่อนอยู่แล้วเอามือขึ้นมาลูบไหล่ จังหวะนั้นเอง หล่อนเริ่มรู้สึกตัวจากภวังค์ลืมตาโพล่ง ผลักเน็กซ์ออกจากตัวทันที
"นี่...นี่เธอทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย"
เน็กซ์ตกใจไม่รู้ตัว
"คือ...ผม ผม"
"เธอคิดอะไรกับชั้นอยู่ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เด็กบ้า"
"เปล่า...ผมไม่ได้คิดอะไร ก็ใครให้ป้าเข้ามาใกล้ๆผม ผู้ชายที่ไหนมันจะทนได้"
"หา ! นี่หาว่าชั้นให้ท่าแกเหรอ"
"แล้วไม่ใช่เหรอ ตั้งแต่เดินแบบให้ดูที่สระน้ำแล้ว ล่อเสือล่อตะเข้ ยั่วทั้งแก่ทั้งเด็ก"
หล่อนเหวอชะงัก นึกถึงภาพที่ตัวเองเดินแบบเซ็กส์ซี่ให้ดูแล้วปรี๊ดแตก
"อ๊าย...ไอ้เด็กบ้า ชั้นเดินแบบให้ดูเป็นตัวอย่างไม่ได้ให้ท่าแก"
หล่อนฉุนปรี๊ดขึ้น หันรีหันขวางเจอไม้ดูดส้วมใกล้มือก็คว้าขึ้นมาแล้วเข้าไปไล่ตีไล่ทุบ จนเน็กซ์ร้องลั่น
"เด็กบ้า ทะลึ่ง ลามก จะบอกให้นะ ชั้นไม่ใช่สาวทึนทึกบ้าเซ็กส์อย่างที่พวกหนังสือโป๊มันชอบยั่วให้พวกหนุ่มๆกลัดมันอย่างแกเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะ"
"แล้วจะไปรู้มั้ย ก็เห็นเข้าเกณฑ์สาวขึ้นคานไฟแรงสูงทุกข้อ"
"หา! สาวขึ้นคานไฟแรงสูง ไอ้ ไอ้เด็กบ้า แก อย่าอยู่เลย"
หล่อนโกรธจัดสุดๆ ปรี่เข้าไปใช้ที่ดูดส้วมกระแทกเข้าแสกกลางหน้าเน็กซ์ทันที
เน็กซ์ผงะหงายหลังเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
"ว่าไงเน็กซ์ ไปโดนอะไรมา"
"ผมซุ่มซ่ามล้มหน้าไปกระแทกโถส้วม"
ตั้มขำเพราะคิดว่าเน็กซ์ตื่นเต้นจริงๆ
"หน้ากระแทกโถส้วม"
"คือผมมัวแต่ตื่นเต้นก็เลยไม่ทันมองพื้นน่ะครับ"
"แล้วตอนนี้หายตื่นเต้นรึยังล่ะ"
พุชชี่ยังจิกหน้ามองเน็กซ์
"ไม่หายก็ต้องหายแล้วล่ะ เพราะถ้าเธอไม่พร้อมสำหรับงานนี้ ความฝันของเธอ อาชีพของชั้น และปากท้องของทุกคนก็ต้องจบกันคราวนี้แน่"
เน็กซ์นิ่งมองหล่อนอย่างครุ่นคิด แก้วใสเข้ามาควงแขนเน็กซ์อย่างออดอ้อนเอาใจ
"ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะเน็กซ์ มีชั้นอยู่ด้วย เธอต้องได้แจ้งเกิดแน่นอน"
"หนูดอก รีบพาเน็กซ์ไปแต่งหน้ากลบริ้วรอยให้เกลี้ยง"
"ค่ะ มาดาม"
"รีบไปเปลี่ยนชุดสิ แก้วใส"
แก้วใสออกไป หนูดอกกับตั้มพาเน็กซ์ออกไป พุชชี่ดูหนักใจแต่ก็ต้องฝากความหวังครั้งนี้ไว้ที่เน็กซ์คนเดียว
บรรยากาศบนเวที ดนตรีเปลี่ยนท่วงทำนองเป็นเร้าใจมากขึ้น แสงไฟสาดระรัว สปอตไลท์จับเน็กซ์ที่เปิดตัวออกมาอย่างพญาเสือที่ทั้งดุดันและสง่างามคู่กับแก้วใสที่เป็นแม่เสือสาวสุดเซ็กซี่
ด้านล่างเวที แขกในงานทุกคนต่างพากันยืนอึ้งตกใจกับภาพของเด็กหนุ่มหล่อที่กระชากหัวใจของทุกคนให้หยุดนิ่งได้ แสงแฟลชจากนักข่าวยิงใส่เน็กซ์กันระรัว พร้อมกับเสียงอื้ออึ้งถามกันอย่างเซ็งแซ่ว่า เด็กหนุ่มนั่นใคร เน็กซ์ยืนนิ่งกล้าๆกลัวๆ อยู่บนเวทีเมื่อได้จังหวะที่ต้องโชว์ พุชชี่ยืนลุ้นอยู่ข้างๆเวทีโดยมีตั้มกับหนูดอกลุ้นอยู่ข้างๆ
"เร็วสิเน็กซ์ เธอต้องทำให้ได้สิ"
เจ๊เมี่ยงกับลอร่าที่ยืนดูอยู่
"ก็หล่อจริงไรจริงอยู่หรอกค่ะเจ๊ แต่ดูสิคะ ก็แค่หล่อรูปปั้น ยืนทื่อเป็นหินเลย"
เจ๊เมี่ยงจ้องไปที่พุชชี่
"เด็กแกทำได้ดีสุดก็แค่นี้เท่านั้นแหละ นังพุชชี่ หึๆๆ"
เน็กซ์ยืนใจเต้นตุ๊บๆ แก้วใสที่ยืนโพสต์อยู่ใกล้ๆพยายามกระซิบเตือน
"เน็กซ์...เน็กซ์"
เน็กซ์มองแก้วใสอย่างตื่นเต้นก่อนจะหันไปมองพุชชี่ ทั้งคู่สบสายตากันอย่างให้กำลังใจ หล่อนพยักหน้ารับให้ เน็กซ์เห็นหล่อนแล้วมีความมั่นใจขึ้นมา เลยฮึดสูดลมหายใจก้าวเท้าเดินออกไปอย่างเท่ !
เสียงดนตรีเร้าใจพร้อมแสงไฟจับที่เน็กซ์เต็มๆ เน็กซ์มาดหล่อเท่จนเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆในงานดังสนั่น หนูดอกกับตั้มถึงกับดีใจจนลิงโลด
"มาดามคะ...ได้ยินมั้ยคะ เสียงกรี๊ดๆๆจนห้องแทบแตกแน๊ะ"
หล่อนยิ้มรับอย่างดีใจ
"ในที่สุดเขาก็ทำได้"
"ไม่ใช่แค่ทำได้เฉยๆนะพุชชี่ แต่ทำได้ดีจนน่าตกใจเลย ถามจริงๆเถอะ เธอไปติวเข้มหลักสูตรเร่งรัดยังไงเน็กซ์ถึงทำได้ขนาดนั้น" ตั้มว่า
พุชชี่นิ่งไปแล้วคิดถึงรอยจูบของเน็กซ์
ตั้มถามอีก
"ทำยังไง บอกหน่อยสิ"
"เอ่อ...เด็กมันดื้อน่ะตั้ม เหมือนกระท้อนนั่นแหละ ถ้าไม่ลงมือทุบหนักๆก็ไม่อร่อยหรอก"
หล่อนบอกตั้มกับหนูดอก ตั้มพยักหน้ายิ้มๆดูบนเวทีต่อ แต่หล่อนเผลอเอามือแตะริมฝีปากตัวเอง ใจเต้นตึกตัก ก่อนจะหันไปมองเน็กซ์ที่ยิ้มให้คนดู จนเรียกเสียงกรี๊ดสนั่น
เจ๊เมี่ยงหน้าปั้นปึ่ง หงุดหงิด และลอร่าเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามา หมอกี้ที่กำลังให้ทีมงานตรวจดูความพร้อมของชุดฟินเนอเร่ที่เริ่ดหรูอลังการก่อนจะออกไปเฉิดฉายบนเวที
"ยังไม่เสร็จกันอีกเหรอคะคุณน้อง แฟนคลับข้างนอกเขากำลังชักดิ้นชักงอรอให้ซุป’ตาร์ ของเขาออกไปอยู่นะคะ"
ทีมงานบอก
"ของหมอกี้เรียบร้อยพร้อมแล้วค่ะเจ๊ เหลือก็แต่น้องฝันหวานๆค่ะที่ยังไม่พร้อม"
"ทำไมยังไม่พร้อมอีกล่ะคะ มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกเจ๊"
ทีมงานไม่ทันจะบอกอะไร ทุกคนก็ได้ยินเสียงอาเจียนดังออกมาจากในห้องน้ำหญิง สักพักฝันหวานๆก็เดินออกมาในสภาพยังไม่หายพะอืดพะอมคลื่นเหียนอาเจียน มีทิชชู่ปิดปากมาด้วย
"ตายแล้ว...นี่น้องฝันหวานๆเป็นอะไรไปคะเนี่ย"
"ขอโทษด้วยค่ะเจ๊ สงสัยว่าตับหวานเมื่อวานจะทำให้ท้องไส้หนูปั่นป่วน"
"โธ่เอ้ย น้องฝันหวานๆขา เจ๊บอกแล้วไงคะ ของแสลงน่ะอย่าไปยุ่ง"
"หนูขอโทษค่ะเจ๊...ก็พี่ปีใหม่เขารู้ว่าหนูอยากลอง เขาก็เลยพาหนูไปกิน"
เจ๊เมี่ยงชะงักหน้าเหวอ รีบเข้าไปประกบดึงตัวออกมาให้ห่างทีมงานแล้วกระซิบกระซาบ
"ชู่วว์...พี่บอกแล้วไงคะคุณน้อง เรื่องคุณน้องกับคุณปีใหม่อย่าได้หลุดออกมาจากปากให้ใครได้ยิน ตอนนี้คุณน้องต้องเป็นคู่จิ้นกับหมอกี้เท่านั้น ห้ามมีข่าวกับคนอื่นเด็ดขาด"
"แต่ว่า..."
"ไม่ตงไม่แต่อะไรทั้งนั้นค่ะ อยากเจิดในวงการนี้ต้องเชื่อพี่คนเดียว"
ฝันหวานๆหน้าจ๋อย
"ค่ะ เจ๊เมี่ยง"
"ดีมากค่ะ อ้อ... คุณน้องน่ะแพ้ตับ เพราะฉะนั้นทั้งตับหวานแล้วก็สารพัดตับเนี่ย ต้องเลิกเลยนะคะ..ห้ามแตะต้องอีกเด็ดขาด... นังลอร่า"
"ขา เจ๊"
"จัดการหายามาให้น้องฝันหวานๆด่วน อีกเดี๋ยวคู่ซุป'ตาร์ของชั้นจะต้องไปเจิด ไปเริ่ดบนเวที ขยี้เด็กนังพุชชี่ให้เป็นผุยผง"
"ได้เลยค่ะ เจ๊"
พุชชี่หันมาจิกหน้าร้ายอย่างเอาเรื่อง
ประตูห้องเปิด ทุกคนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน สีหน้าทุกคนดีใจ
"เจ๋งมากเลยว่ะ ไอ้น้อง โห...ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเวทีแรก ฝีมืออย่างกับมืออาชีพเลย" ตั้มบอก
"ก็สั่นเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับพี่ตั้ม แต่เพราะนึกถึงคำสอนของมาดามเลยเอาตัวรอดมาได้น่ะพี่"
เน็กซ์พูดไปก็มองไปที่พุชชี่แล้วยิ้มให้ แต่หล่อนยังจิกหน้าเอาเรื่องไม่หายโกรธที่เน็กซ์บังอาจจูบเธอ
"ก็ลองไม่ดีขึ้นสิ กลับบ้านไปจะเอาให้หนักกว่าเดิม"
"โห...โหดไปป่ะเนี่ยป้า เสพติดความรุนแรงแบบนี้ ระวังเป็นโรคจิตนะ"
"ไอ้เด็กบ้า"
หนูดอกเปิดประตูเข้ามา
"มาดามคะ มาดาม"
"อะไรหนูดอก"
"ข่าวดี ข่าวด่วนค่ะมาดาม เมื่อกี้นี้พี่ก้องสั่งมาค่ะ แกบอกว่า ลูกค้าชอบเน็กซ์กับแก้วใสมากก็เลยอยากให้ขึ้นเวทีประกบกับหมอกี้กับฝันหวานๆรอบฟินาเล่นี่เลยค่ะ"
พุชชี่ดีใจมาก
"เน็กซ์ เห็นมั้ย ชั้นบอกแล้วว่าเธอต้องทำได้ เธอเห็นมั้ย"
"จะดีเหรอพุชชี่ สองคนนั่นเขาซุปตาร์เบอร์หนึ่งของประเทศ ขืนปล่อยให้เน็กซ์ขึ้นไปประกบด้วย มีหวังถูกเชือดคาเวที"
แก้วใสหน้าเริ่ดเชิดควงแขนเน็กซ์
"เชอะ...ไม่เห็นจะกลัวเลย นาทีนี้ออร่าเว่อร์ๆของชั้นกับเน็กซ์จะดับรัศมีของซุปตาร์คู่นั้นเอง"
แก้วใสควงแขนเน็กซ์แล้วยิ้มร้ายมั่นใจมาก
บนเวทีอีกครั้ง มีการโชว์การแสดงควงกระบองไฟสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชม นักแสดงพ่นไฟเสร็จเรียก เสียงปรบมือพอสมควรก่อนที่แสงไฟจะสาดส่องพร้อมดนตรีประกอบเร้าใจอีกครั้ง แสงไฟจับที่เน็กซ์กับแก้วใสที่เดินออกมาเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมเกรียวกราว
พุชชี่ยืนดูอยู่กับหนูดอกและตั้มด้วยสีหน้าดีใจ เจ๊เมี่ยงอยู่คนละฝั่งกันและมองหน้าพุชชี่อย่างหงุดหงิด
ลอร่าเสนอหน้า
"ดูนังพุชชี่มันสิคะเจ๊...มันเยาะเย้ยเจ๊ มันด่าเจ๊ในใจ หาว่าเจ๊ไม่ได้ขี้เล็บเท้ามันหรอก"
เจ๊เมี่ยงดีดหูลอร่าทันที
"นี่แน๊ะ...นังบ้า เว่อร์ไปแล้วย่ะ มองหน้ามันแค่นั้นก็อ่านใจมันออกเลย"
"อู้ย...แหม ก็ลอร่าเป็นสายสืบอยู่กับมันมาตั้งนาน ลอร่ารู้ค่ะว่ามันอยากด่าเจ๊ใจจะขาด"
เจ๊เมี่ยงเบ้ปาก
"ชิ ! อย่าเพิ่งได้ใจไป เดี๋ยวซุปตาร์ชั้นออกมาแกก็จะได้รู้เอง นังพุชชี่"
เจ๊เมี่ยงมองไปที่พุชชี่แล้วทำนิ้วปาดคอแสดงท่าทางเชือดนิ่มๆให้เห็น
บนเวที เน็กซ์กับแก้วใสเดินกลับมาโพสต์อยู่กับที่ จากนั้นหมอกี้กับฝันหวานๆก็เปิดตัวออกมาพร้อมกับแสงสีเสียงจัดเต็มอลังการงานสร้างสุดๆ ในชุดฟินาเล่
เสียงปรบมือ เสียงกรี๊ด และเสียงร้องห่มร้องไห้น้ำตาเล็ดอย่างบ้าคลั่งของบรรดาแฟนคลับที่แห่กันไปรุมล้อมหน้าเวที จนการ์ดของงานต้องเข้ามาช่วยกันเอาไว้อย่างสุดฤทธิ์ เน็กซ์กับแก้วใสที่ยืนอยู่ร่วมเวที กลายเป็นไม้ประดับไม่มีใครให้ความสนใจไปจริงๆ
เจ๊เมี่ยงกับลอร่า ยิ้มเยาะเย้ยพุชชี่
"เอาไงดีคะ มาดาม เด็กเรากลายเป็นพร๊อพบนเวทีแล้ว ให้หนูเรียกลงมาเลยมั้ยคะ จะได้ไม่ต้องขายหน้านังเจ๊เมี่ยงมัน"
"ทำอย่างนั้นจะยิ่งขายหน้าเจ๊เมี่ยงมากกว่าเดิมนะ หนูดอก" ตั้มบอก
"ใช่...เท่ากับชั้นยอมแพ้ ว่าเด็กใหม่ของชั้นไร้ออร่า ไม่มีทางเทียบรัศมีเด็กมันได้"
พุชชี่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กัดฟันกรอดๆอย่างเจ็บใจ
บนเวทีหมอกี้กับฝันหวานๆยังเดินโชว์หน้าเวทีเรียกเสียงกรี๊ดสนั่นไม่หยุด แก้วใสที่โพสต์คู่กับเน็กซ์จิกหน้าเจ็บใจ
"ชิ ! คิดว่าพวกแกจะเป็นซุปตาร์ได้คนเดียวเหรอ รู้จักแก้วใสมั่งเหอะ"
แก้วใสควงแขนเน็กซ์หมับแล้วจิกหน้าร้าย เน็กซ์แปลกใจสงสัย
"จะทำอะไรน่ะครับ คุณแก้วใส"
"ทำตามที่ชั้นบอกเถอะเน็กซ์ รับรองว่าเราสองคนจะดังขึ้นหน้าหนึ่งทุกฉบับแน่นอน"
แก้วใสพูดจบก็ลากเน็กซ์ออกมายืนที่จุดเด่นของเวทีกระชากเสื้อของเน็กซ์ออกจนเสื้อขาดดัง..แคว่ก !! โชว์กล้ามอกเนียนขาวแน่นของเน็กซ์เต็มๆ ส่วนตัวเองก็จัดการกับเสื้อที่ใส่อยู่เปิดออกกว้างๆให้เห็นร่องอกชัดๆ จากนั้นแก้วใสก็พาเน็กซ์เดินตรงดิ่งออก มาที่หน้าเวทีประกบคู่ใกล้ๆกับหมอกี้กับฝันหวานๆ
ท่ามกลางสายตาทุกคนที่พากันแปลกใจกับเซอร์ไพรซ์ที่ไม่มีใครรู้ แก้วใสเต้นยั่วยวนไปรอบๆตัวเน็กซ์ตามจังหวะ ดนตรีเมามันส์และยั่วสุดๆเพื่อดึงสายตาทุกคู่ให้หันมามอง แล้วทันใดนั้นแก้วใสก็โน้มคอดึงหน้าเน็กซ์เข้ามา ประชิดก่อนจะจูบปากอย่างจังๆ บดขยี้ชนิดติดเรตทันที
โอ้วแม่เจ้า...โห...ฮือฮา...เสียงร้องตกใจดังลั่นไปทั้งงานของผู้ชมกับเซอร์ไพรซ์ที่ไม่มีใครคาดคิด แสงแฟลชจากกล้องทุกตัวในงานหันมารัวใส่เน็กซ์กับแก้วใสไม่หยุด
พุชชี่ หนูดอก และตั้มพากันตกใจเหวออย่างไม่คาดคิด ฝ่ายเจ๊เมี่ยงกับลอร่ามองอย่างแค้น
บ้านเสี่ยธีระวันใหม่ เสียงโครมครามไม่พอใจของแพตตี้ดังลั่นออกมาจากตัวบ้าน ในห้องนอน
ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนห้อง มีเศษแจกันแตกอยู่แล้วด้วย นางไล่ตะเพิดยุวดีที่เอาอาหารเข้ามาให้
"บอกว่าไม่หิวไง เอาออกไป"
"แต่คุณแพตตี้จะไม่กินอะไรเลยไม่ได้นะคะ"
"ถ้าห่วงจริงๆ ก็หาทางช่วยพาชั้นออกไปสิ ชั้นไม่ชอบถูกขังไว้แบบนี้"
"ถ้าช่วยได้ยุวดีก็ช่วยไปแล้วค่ะ แต่นี่ เสี่ยให้ลูกน้องเฝ้าหน้าห้องแทบจะตลอด 24 ชั่วโมงเลย งานนี้เสี่ยเอาจริงมากเลยนะคะ"
"งั้นก็ไม่ต้องมาให้ชั้นเห็นหน้า ออกไปให้พ้น !"
แพตตี้หัวเสียหันไปคว้าหมอนมาปาใส่ ระหว่างนั้นเสี่ยธีระเข้ามา
"จะเลิกเอะอะโวยวายได้รึยัง แพตตี้ รู้มั้ยว่าป๋าแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะเสียงของเรานี่แหละ"
"รู้สิคะป๋า แล้วยังรู้ด้วยว่า ถ้าป๋าไม่ได้นอนติดต่อกันหลายๆวัน ความดันป๋าก็จะขึ้น ไมเกรนก็จะถามหา ความเครียดก็จะลงกระเพาะ สุดท้ายป๋าก็ต้องเข้าโรงพยาบาล"
ธีระเหวอ
"นี่...แกตั้งใจจะดื้อกับป๋า ด้วยการส่งป๋าไปโรงพยาบาลเลยเนี่ยนะ คิดได้ไงวะเนี่ย"
"ก็ป๋าอยากมาขังแพตตี้ไว้แบบนี้ทำไมล่ะ นี่มันยุคเฟสบุ๊กแล้วนะคะ ไม่มีใครมาขังลูกไว้แบบนี้หรอก"
แพตตี้ขู่เสร็จก็ถอยไปนั่งที่เตียง แล้วแผดเสียงร้องอ๊ายสลับเสียงกรี๊ดดังๆให้ลั่นบ้าน ธีระสะดุ้งโหยงแสบแก้วหูจนตัวสั่นพั่บๆ วิ่งออกจากห้องนอนลูกสาว
ยุวดีวิ่งตามปิดประตูห้อง
เสี่ยธีระรีบวิ่งเตลิดออกมาจากห้องพร้อมเอามืออุดหู ที่หน้าห้องมีลูกน้องเฝ้าอยู่ 2 คน
"คุณแพตตี้ร้องเก่งมาตั้งแต่เล็กๆแล้ว งานนี้ถ้าเสี่ยไม่ยอมตามใจล่ะก็ มีหวังหูดับกันทั้งบ้านแน่ๆค่ะ"
"ชั้นยอมตามใจแพตตี้ทุกเรื่อง ยกเว้นก็แต่เรื่องไอ้บักหมาอย่างเดียว ยังไงชั้นก็ให้แพตตี้รักกับมันไม่ได้เด็ดขาด"
"ทำไมล่ะคะเสี่ย ถ้าเสี่ยมีเหตุผลสำคัญ เสี่ยก็น่าจะบอกคุณแพตตี้ให้เข้าใจ"
ธีระไม่ยอมพูดอะไรหันมาจิกหน้าจริงจังเพราะเรื่องนี้เป็นความลับที่ให้ใครรู้ไม่ได้ ระหว่างนั้นลูกน้องคนหนึ่งถือหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวัน 1 ฉบับเข้ามา
"เสี่ยครับ ผมเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ขายอยู่ที่ตลาด เลยซื้อมาให้เสี่ยดู"
ธีระรับหนังสือพิมพ์หัวบันเทิงจากลูกน้องมาเห็นภาพนางแบบนุ่งบีกินี่
"เออเว้ย..นางแบบคนนี้แจ่มเลยว่ะ ขายาวสเปคแบบนี้แหละ โดน ฮ่าๆๆ"
"ไม่ใช่ครับเสี่ย ไม่ได้ให้ดูรูปนางแบบนุ่งบีกินี ข่าวข้างล่างต่างหากครับ"
"ข่าวอะไรวะ"
ธีระเลื่อนสายตาลงมาข้างล่างแล้วชะงักไป ภาพข่าวเป็นรูปเน็กซ์กำลังจูบบดขยี้ปากกับแก้วใสพร้อมพาดหัวข่าวข้างๆ “เปิดตัวฮือฮาหล่อหน้าใหม่ลิ้นสว่าน เบียดออร่าซุป’ตาร์แห่งปี” ธีระอ่านพาดหัวข่าวแล้วชะงักไป มองหน้ายุวดีที่ตกใจกับภาพข่าวเหมือนกัน
หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน แก้วตาถูกโยนลงตรงหน้าลูกสาว สีหน้าแก้วตาจริงจังเหมือนดุ ส่วนแก้วใสไม่สนใจหยิบขึ้นมาดูชัดๆแล้วหัวเราะชอบใจ
"คิๆๆๆ ลิ้นสว่านเลยเหรอเนี่ย แหม...ช่างเขียนซะจริง คนที่สว่านน่ะ ชั้นย่ะ"
"แก้วใส"
แก้วใสเชิดหน้าถาม
"ทำไมคะคุณแม่ ถ้าคิดจะว่าแก้วใสเรื่องนี้ล่ะก็...อย่ามาเสียเวลาเลย"
"ใครว่าชั้นจะว่าแก ถูกใจแม่มากๆต่างหากล่ะลูกเอ้ย"
แก้วตาเป็นปลื้ม ยิ้มชอบใจ หยิกแก้มลูกสาวหยอกเอินอย่างพอใจสุดๆ
"แหมๆๆ ดูสิ แค่ชั่วข้ามคืน ชื่อแกก็ขึ้นมาเบียดซุปตาร์เบอร์หนึ่งแล้ว ถามจริงๆเถอะ ไปคิดไม้เด็ดแบบนี้มาได้ไง นังพุชชี่มันวางแผนให้เหรอ"
"โอ๊ย ! จะไปหวังให้มาดามวางแผนดันแก้วแบบนั้นน่ะเหรอ ฝันกลางวันไปเถอะค่ะแม่ งานนี้มันสมองแก้วล้วนๆ ตั้งแต่แก้วเห็นเน็กซ์แล้ว เซ้นส์มันบอกว่าเน็กซ์จะต้องเป็นซุปตาร์คนต่อไปแน่นอน ถ้าแก้วไม่รีบคว้าโอกาสเปิดตัวประกบเขาล่ะก็...มีหวังได้ตกรถด่วนขบวนซุปตาร์แน่"
"ตอนเด็กให้กินแต่นมวัวก็กลัวจะโง่ แต่ไม่เลย…แกนี่มันฉลาดสุดๆ ลูกสาวแม่"
พุชชี่เดินเข้ามาที่โถงบ้าน
"ฉลาดแต่เรื่องโง่ๆน่ะสิ"
สองแม่ลูกหันขวับมาเห็นพุชชี่ยืนกอดอกหน้าตาถมึงถึงเอาเรื่อง แก้วใสไม่สนใจเชิดหน้าลุกเดินไป
"ไปเถอะค่ะคุณแม่ วันนี้คิวแก้วแน่นเอี๊ยดทั้งวัน รีบเอาเวลาไปทำมาหากินเลี้ยงดูคนที่นี่ดีกว่า"
แก้วใสสะบัดบ๊อบเดินเริ่ดๆออกไปกับแก้วตาที่หันมาใช้หางตาชิใส่ พุชชี่จิกหน้ามองตามอย่างเข็ดเขี้ยว แล้วเดินเร็วๆตามออกไป
แก้วตากำลังจะพาแก้วใสออกไปนอกบ้าน แต่พุชชี่รีบตามออกมา
"ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น จนกว่าชั้นจะสั่ง"
"นี่มาดาม ถ้าคิดจะหาเรื่องว่าลูกสาวชั้นล่ะก็ สรรหาคำพูดมาขอบคุณจะดีกว่า เพราะถ้าไม่ใช่แก้วใสแล้วล่ะก็ กว่าเด็กปั้นใหม่ของมาดามจะได้ขึ้นหน้าหนึ่งเบียดซุปตาร์ให้ตกข่าวแบบนี้ ต้องใช้เวลาหลายปีแน่"
"ถ้าชั้นจะดันเด็กด้วยวิธีแบบนี้ ชั้นคงไม่ได้เป็นมาดามพุชชี่อยู่แบบนี้หรอก"
แก้วตาหัวเราะเยาะ
"โห๊ะๆๆ มาดามขา หนี้สินท่วมกบาลจะมิดหัวอยู่แล้วยังมาทำเป็นมีอุดมการณ์ ถ้าเน็กซ์ไม่เปรี้ยงปร้างขึ้นมาในเร็ววันนี้ล่ะก็... อายุมาดามก็ขนาดนี้แล้วคงไม่มีเสี่ยรวยๆที่ไหนอยากได้ไปทำเมียหรอก"
พุชชี่เจ็บใจขบกรามจิกมือจ้องหน้าแก้วตาที่ดูถูกเธอ ทำเอาแก้วตาตกใจ ผงะถอย จนชิดรถตัวเองอย่างเหวอๆกลัวหล่อนเล่นงาน
"นี่...อย่านะมาดาม ถ้าจะลงไม้ลงมือกับชั้นล่ะก็...เป็นข่าวแน่"
หล่อนไม่สนใจขยับเข้าใกล้จนหน้าแทบชิดแก้วตา ระหว่างนั้นเน็กซ์เดินออกมาเห็นแต่ไกลจากอีกมุมหนึ่ง และรัศมีความห่างพอที่จะได้ยินคำสนทนาที่หล่อนพูด
"ต่อให้ชั้นต้องหมดเนื้อหมดตัว ไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี ชั้นก็จะปั้นเน็กซ์ให้มีคนรักเขาทั้งประเทศให้ได้ เขาต้องเป็นตัวอย่างที่ดีกับเยาวชน เป็นซุปตาร์ที่ใครๆก็ใกล้ชิดได้ ไม่ใช่พวกตีสองหน้าลิ้นสองแฉก เป็นได้แค่เหลือบไรวงการ"
เน็กซ์ได้ยินทุกคำพูดของหล่อนที่ตั้งอกตั้งใจอย่างจริงจังและเต็มไปด้วยศักดิ์ศรีของนักปั้น ทำให้อดทึ่งเธอไม่ได้
แก้วใสฉีกยิ้มแล้วปรบมือให้
"ชอบค่ะ..แก้วใสชอบความตั้งใจของมาดามมากๆ และเห็นด้วย ว่าเราควรช่วยกันดันเน็กซ์ให้เป็นซุปตาร์ของประชาชน เอาเป็นว่าแก้วใสยอมขอโทษที่ทำให้มาดามเดือดร้อน"
แก้วใสเข้าไปยกมือไหว้งามๆที่หน้าอกพุชชี่แล้วตีหน้าใสซื่อสุดฤทธิ์
"มาดามยกโทษให้แก้วใสด้วยนะคะ"
"นี่...ลูกสาวชั้นยอมขอโทษแล้ว เป็นผู้ใหญ่ก็อย่าทำให้เด็กมันเสียกำลังใจสิ"
หล่อนนิ่งมองหน้าแก้วใสอยู่ครู่หนึ่ง
"เธอทั้งสวยและฉลาดนะแก้วใส ถ้าเลือกเดินทางที่ถูกด้วยการฟังชั้น เธอจะอยู่ในวงการนี้ได้นานมากกว่าที่เธอคิด"
หล่อนบอกแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านปล่อยให้แก้วใสกับแก้วตามองตามอย่างหมั่นไส้
"เชอะ...ฟังแกเหรอ ลูกชั้นอยู่กับแกมาตั้งหลายปียังเป็นได้แค่ตุ๊กตาบาร์บี้ของวงการ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณแม่ ข่าวของแก้วใสกับเน็กซ์ดังพ่วงออกไปด้วยกันแล้ว ถ้ามาดามยังต้องดันเน็กซ์ต่อ เขาก็ต้องพ่วงแก้วใสไปด้วยแน่นอน"
สองแม่ลูกหันมายิ้มชอบใจกับแผนการที่ได้ผลของแก้วใส
ภายในห้องทำงาน มือถือทั้ง 4 เครื่องของหนูดอกและพุชชี่หน้าจอสว่าง เพราะมีเสียงโทรเข้า
"โอ้ย...ไม่ไหวแล้วนะ ขี้เกียจรับโทรศัพท์แล้ว" หนูดอกบอก
พุชชี่เดินเข้ามา
"ขี้เกียจรับตอนนี้ก็ตัดสายไปก่อน แล้วเดี๋ยวชั้นจะไล่โทรไปหาทุกคนเอง"
"จะดีเหรอคะ มาดาม"
"ไม่เป็นไรหรอก ชั้นสงสารหล่อน เดี๋ยวเล้นเลือดในสมองจะแตกซะก่อน"
หล่อนพูดไปก็หยิบโทรศัพท์มาปิดเครื่องไปทีละเครื่องจนหมด ดอกไม้ช่วยปิดด้วย ระหว่างนั้นเน็กซ์เข้ามารู้ว่ามือถือดังวุ่นวาย
"แค่ช่วงข้ามคืนผมก็ดังเปรี้ยงจนมีแต่คนอยากเรียกผมไปทำงานแบบนี้ มันไม่ดีตรงไหนเหรอ ป้า"
"ถ้าจะปั้นเด็กให้ดังแบบฉาวๆแบบนี้เนี่ย ชั้นไม่จำเป็นต้องลำบากไปลากเธอมาหรอก เด็กที่อยากดังแบบนี้มีให้เกลื่อนไปหมด"
"แต่ก็ดังแค่ประเดี๋ยวประด๋าว ดังแล้วก็ดับ กลายเป็นดาวเทียมที่หมดอายุใช้งาน เป็นขยะอยู่บนท้องฟ้า" หนูดอกบอก
เน็กส์มองพุชชี่อย่างสนใจอยากรู้และยิ้มมุมปากอย่างท้าทาย
"งั้นงานนี้ป้าจะหาทางแก้ไขยังไง ถึงจะทำให้คนรักผมทั้งประเทศ ทำให้ผมเป็นตัวอย่างที่ดีกับเยาวชน"
หล่อนชะงัก
"นี่ นี่แอบฟังชั้นเหรอ"
"แอบฟังที่ไหน เขาเรียกเดินผ่านมาแล้วได้ยิน"
เน็กซ์ทำท่านิ้วคนเดิน หล่อนเขกหัวเน็กซ์ทันที
"นี่แน๊ะ ไม่ต้องมาหัวหมอกับชั้นเลย ถ้ารู้ว่าชั้นต้องลำบากลำบนเพื่อปั้นเธอให้ดังล่ะก็ ช่วยหันไปตั้งใจพัฒนาตัวเองให้พร้อมสำหรับทำงานจะดีกว่า"
"โธ่ป้า...ไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า ผมโทร.ไปหาครูดาวมาแล้ว ผมจะกลับไปเรียนแอกติ้ง จะได้ไม่ต้องตัวสั่นเวลาออกไปทำงานอีก ป้าจะได้ไม่ต้องมาติวเข้มผมแบบพิเศษด้วย"
หนูดอกสงสัย
"ติวเข้มแบบพิเศษ ติวยังไงคะ มาดาม"
พุชชี่สะดุ้งโหยงเด้งพรวด
"ไม่มีอะไรหรอกหนูดอก ไอ้เด็กบ้านี่มันก็พูดเพ้อเจ้อ มานี่เลย"
หล่อนรีบเข้าไปดึงติ่งหูเน็กซ์แล้วรีบลากตัวออกไปด้วยกันทางห้องครัว
หนูดอกบ่นอย่างงงๆ “ติวเข้มแบบพิเศษ?”
อ่านต่อหน้า 2
มาดามดัน ตอนที่ 4 (ต่อ)
พุชชี่ลากเน็กซ์เข้ามาในห้องครัวแล้วผลักจนเซ หล่อนพูดเบาๆเน้นๆไม่ให้ใครได้ยิน
"ไอ้เด็กบ้า ทำตัวให้มันเป็นสุภาพบุรุษน่ะ ทำไม่เป็นเหรอไง"
"สุภาพบุรุษ"
"ยังต้องให้สอนอีกเหรอ สุภาพบุรุษเขาต้องไม่กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้ง"
"อ๋อ...แต่ผมไม่ได้พูดอะไรที่ส่อความหมายว่า ป้ากับผมมีอะไรเกินเลยกันเลยนี่ ผมก็พูดถูกทุกอย่างว่าป้าติวเข้มผมแบบพิเศษ ยกเว้นแต่ว่า..."
เน็กซ์หรี่ตายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดต่อ
"ป้ายังติดใจ KISSผมอยู่ เลยคิดถึงแต่เรื่องพรรค์นั้น"
หล่อนเหวอ แล้วหันไปคว้ามีดทำครัวมาขู่
"ไอ้เด็กบ้า ไอ้ลามก ถ้าแกพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกล่ะก็ ชั้นจะแอบเข้าไปในห้องนอนแกตอนหลับแล้วเฉือนของแกแล้วเอามาสับๆๆ"
หล่อนสับมีดลงที่แตงกวาแบบลูกยาวบนเขียงอย่างดุดันจนแตงกวาเละตุ้มเปะ เน็กซ์เห็นเข้าก็เหวอ
"โอเคๆๆ ผมจะปิดปากเรื่องนั้นให้สนิท จะลืมให้ได้ว่าเราเคย..."
เน็กซ์หยุดชะงักมองริมฝีปากสวยๆของหล่อน ใจเต้นตึกๆเพราะลืมไม่ลง
"ลืมว่าเคยอะไรไอ้เด็กบ้า"
เน็กซ์สะดุ้งโหยงตื่นจากภวังค์
"ก็ลืมว่าเคย..."
หล่อนเอามีดชี้หน้า เน็กซ์เลยทำมือรูดซิบปากส่ง แต่เสียงอู้อี้ยืนยันว่าจะไม่พูดจนหล่อนพอใจ
"ดีมาก ต่อไปนี้ขอให้เข้าใจอะไรง่ายๆแบบนี้มันทุกๆเรื่อง แล้วฝันของเธอก็จะเป็นจริง"
พุชชี่วางมีดแล้วจะเดินออกไปแต่นึกขึ้นได้
"อ้อ...เงินค่าจ้างงานแรกของเธอชั้นโอนเข้าบัญชีให้แล้วนะ ว่างก็ไปเช็คดู"
หล่อนเดินออกไป เน็กซ์มองตามยิ้มๆ
ภายในห้าง หน้าตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง เน็กซ์กดดูเงินในบัญชี แล้วตกใจแทบผงะ รีบหันไปเรียกอาร์ทที่มาซื้อของรอ
"พี่อาร์ท"
"อะไรเหรอเน็กซ์"
เน็กซ์ชี้ที่ยอดบัญชีบนหน้าจอ
"มาดามเขาโอนเงินค่าจ้างเดินแบบให้ผมมาผิดรึเปล่า"
อาร์ทดูตัวเลขแล้วยิ้ม
"ไม่ผิดหรอก หักเปอร์เซ็นต์ของมาดามไปแล้วก็เท่านี้แหละ"
"จริงสิพี่"
"ทำไม น้อยไปเหรอ"
"ใครว่าน้อย มันเยอะจนผมตกใจต่างหาก แค่ไปเดินไปเดินมาแค่นั้นเนี่ยนะ มิน่าถึงมี แต่คนอยากมาเป็นดารา" เน็กซ์พูดไปพร้อมกับกดเอาบัตร ATM คืนกลับมา เลิกทำรายการ
อาร์ทยิ้มรับแล้วอดขำเน็กซ์ไม่ได้
"แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะทำได้แบบเน็กซ์ ถ้าคิดเป็นตัวเงิน ค่าตอบแทนมันก็มากอยู่ แต่พี่อยากให้เน็กซ์คิดอย่างที่มาดามเคยเตือนพี่มาตลอดมากกว่า"
"เตือนว่าอะไรเหรอครับ"
"ความสุขของผู้ชมคือค่าตอบแทนที่มีค่ามากที่สุด เพราะมันจะทำให้เรารักงานที่ทำ จนทำให้เราไม่รู้สึกว่าต้องทำงานแลกเงิน"
เน็กซ์พยักหน้าเข้าใจ อาร์ทตบบ่า
"ว่าแต่วางแผนจะเอาเงินก้อนแรกนี่ไปทำอะไร ปรึกษาพี่ได้นะ ไอ้น้องชาย"
เน็กซ์หันไปมองตู้เอทีเอ็มแล้วนิ่งคิดและยิ้มอย่างมีความสุข
"ผมอยากใช้เงินที่ผมหาได้ทำให้คนที่ผมรักมีความสุขครับ พี่อาร์ท"
"ใครหรือเน็กซ์"
บ้านครูนิยมเวลากลางคืน ครูราศีพูดโทรศัพท์กับเน็กซ์ ทั้งคู่ใช้โทรศัพท์บ้านคุยกัน ของเน็กซ์ใช้แบบ Hand Free
"เงินตั้งมากตั้งมาย แม่ว่าเอ็งเก็บเอาไว้เป็นทุนทำตามที่เอ็งฝันเอาไว้เถอะบักหมา ไม่ต้องโอนมาให้แม่หรอก"
ภายในบ้านมาดามพุชชี่ เน็กซ์มีสมุดโน๊ต-ปากกาเตรียมจดเบอร์บัญชีของแม่ราศีอยู่ข้างๆตัว
"แต่อยู่ที่นี่ผมไม่จำเป็นต้องใช้เงินสักบาทเลยนะครับแม่ ทุกอย่างมาดามเขาเป็นคนจัดการซื้อหามาให้ผมหมด"
"แต่ความฝันของเอ็งมันต้องใช้เงินอีกเยอะเลยนะ ถ้าเอ็งแบ่งมาให้แม่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่เอ็งจะทำสำเร็จสักที"
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกแม่ เท่าที่ผมรู้มารายได้ของคนที่ดังระดับซูเปอร์สตาร์ แค่ทำงานไม่กี่ปีก็ทำได้แล้ว"
"บักหมาเอ้ย ถ้าไอ้การเป็นซูเปอร์สตาร์มันเป็นกันง่ายๆ ก็คงมีกันให้เกลื่อนแล้วสิ"
"ครับแม่ ผมรู้ว่ามันยากแต่ผมก็จะพยายาม เพราะผมอยากทำความฝันให้เป็นจริงแล้ว จะได้กลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านเหมือนเดิม"
เน็กซ์พูดไปก็น้ำตาคลอเบ้าอย่างคิดถึงพ่อ-แม่โดยไม่รู้ตัว พุชชี่ยืนมองอยู่จากข้างหลัง ได้ยินแล้วอดยิ้มมุมปากชื่นชมเน็กซ์ไม่ได้
"งั้นก็ตามใจเอ็งแล้วกันนะบักหมา เดี๋ยวแม่จะให้เบอร์บัญชีแม่กับเอ็งนะ"
เสียงครูนิยมที่เพิ่งกลับจากธุระนอกบ้านดังเข้ามา
"แม่ แม่ อยู่ไหนเนี่ย"
ครูราศีตกใจ หน้าเสีย
"แค่นี้ก่อนนะบักหมา เดี๋ยวแม่โทร.กลับ"
ราศีรีบวางสายทันทีเดินออกไปหาครูนิยม
ราศีรีบเดินเข้ามาเจอนิยมที่ถือหนังสือพิมพ์บันเทิงตามหลังมา ราศีรีบกลบเกลื่อน
"ตะโกนซะลั่นบ้าน ใครเป็นอะไรเหรอพ่อ"
นิยมหน้าตาเอาเรื่องสุดๆ
"ก็จะใครซะอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้ลูกชายตัวดีของแม่น่ะ"
นิยมฉุนจัด โยนหนังสือพิมพ์บันเทิงที่มีข่าวเน็กซ์ลิ้นสว่านกับแก้วใสให้ดู ครูราศีหยิบขึ้นมาแล้วผงะตกใจ
"หึ...เป็นไงล่ะ งามหน้ามั้ย ชั้นกำลังไปเยี่ยมลูกศิษย์ กำลังจะอบรมให้รู้จักรักนวลสงวนตัว แต่ดู ดูที่ไอ้บักหมามันทำ แล้วแบบนี้ใครมันจะมาฟังคำสั่งสอนของชั้น"
"ใจเย็นๆ ก่อนนะพ่อ แม่ว่าข่าวมันต้องไม่เป็นความจริง"
"ไม่จริงอะไรล่ะ เห็นรูปดูดปากกันหราแบบนี้"
"แต่ชั้นเพิ่งคุยกับลูก ถ้ามันทำเรื่องไม่ดีมันก็ต้องบอกชั้นแล้วสิ"
นิยมชะงัก
"ว่าไงนะ แม่เพิ่งคุยกับมันเหรอ"
ราศีหน้าเสียที่หลุดปาก
"เอ่อ...พ่อ คือว่า..."
นิยมสีหน้าดุไม่พอใจ
"แม่คุยอะไรกับมัน บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้"
ราศีสีหน้าอึกอักเป็นกังวล ไม่กล้าพูด แต่ก็เจอสามีจ้องหน้าดุดันเอาเรื่องใส่ ราศีคงต้องเล่าความจริงให้ฟัง
เน็กซ์กำลังเดินไปเดินมารอโทรศัพท์กลับมาจากแม่ พุชชี่ทำทีเป็นเดินเข้ามา
"ทำเรื่องดีๆ เป็นเด็กน่ารักก็เป็นกับเขาเหมือนกันนะ"
เน็กซ์ชะงัก
"นี่ป้าแอบฟังผมเหรอ"
"แอบฟังที่ไหน เขาเรียกเดินผ่านมาแล้วได้ยินย่ะ"
พุชชี่ทำท่านิ้วเดินเหมือนเน็กซ์ที่เคยทำให้ดู
"โห...ล้อเลียนอีกด้วย แก่แล้วก็แบบนี้แหละ ไล่ไม่ทันเลยต้องสอยมุขเด็กมาใช้"
หล่อนปรี๊ด
"ไอ้เด็กบ้า ชั้นอายุมากกว่าแกแค่ไม่กี่ปี ว่าชั้นอยู่นั่นแหละ ระวังเหอะวันไหนได้แฟนแก่ขึ้นมา ชั้นจะสมน้ำหน้าเวลาเห็นแกต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้แฟน"
"โห...แรงอ่ะ สำหรับผมความรักไม่จำกัดอายุหรอกป้า ถ้าผมรักซะอย่างต่อให้ต้องเข็นรถเข็นให้ ผมก็จะรัก"
หล่อนหัวเราะเยาะ
"โห๊ะๆๆ เด็กน้อยเอ้ย วัยแบบนี้ก็อย่างนี้แหละ ความรักคือความฝัน ไว้เจอชีวิตจริงเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็รู้เอง"
เน็กซ์นิ่งไป สีหน้าจริงจังแล้วชี้หน้าท้าทาย
"พูดอะไรไว้ จำคำท้าไว้ให้ดีก็แล้วกัน"
หล่อนชะงักแปลกใจกับท่าทีที่อยู่ๆท่าทีของเน็กซ์ก็จริงจังขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะถามอะไร เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดัง เน็กซ์รีบหันไปหยิบโทรศัพท์แบบไร้สายพร้อมสมุดโน๊ต ปากกาเดินออกไปเพราะคิดว่าแม่โทรกลับมาบอกเบอร์บัญชี หล่อนมองตาม
เน็กซ์เดินออกมาที่ระเบียงเอาโทรศัพท์มากดรับสายเตรียมจดเบอร์บัญชีลงสมุด
"เบอร์บัญชีแม่เบอร์อะไรครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมโอนเงินไปให้เลย"
ครูนิยมเป็นคนโทร.หา สีหน้าดุดันเอาเรื่อง
"เก็บเงินสกปรกของแกไว้เถอะไอ้บักหมา ชั้นไม่อยากได้เงินของแก"
เน็กซ์อึ้ง
"พ่อ !"
"ชั้นบอกแล้วว่า ถ้าปล่อยให้แกไปกับนังนั่น มันจะทำให้แกเสียคน แล้วเป็นไง ไม่ถึงเดือนแกก็ทำให้ชั้นต้องเอาปี๊บเดินคลุมหัวแล้ว"
"ไม่ใช่นะครับพ่อ ถ้าเพราะข่าวที่พ่อเห็นนั่น ผมอธิบายได้"
"ชั้นไม่ฟัง ! เพราะทุกคำพูดที่แกพูดออกมาตอนนี้ มันก็คงมาจากคำสั่งสอนของนังมาดามนั่น ต่อไปนี้ แกไม่ต้องโทรมาอีกแล้วนะ ไอ้บักหมา"
"พ่อครับ ฟังผมก่อน มาดามเขาไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย"
"แกไม่ต้องมาแก้ตัวแทนมัน ถ้าแกสนุกกับโลกมายาของแกก็เชิญสนุกไป แต่ข้าไม่สนุกด้วยเว้ย ไอ้ลูกเนรคุณ"
นิยมวางสายไปอย่างหัวเสีย ครูราศียืนน้ำตาคลอมองอย่างเสียใจ นิยมมองเมียตัวเองอย่างเสียไม่ได้
เน็กซ์นั่งลงที่ม้านั่ง มือยังกำโทรศัพท์อย่างเสียใจ พุชชี่ได้ยินและพอเข้าใจเลยเข้ามาปลอบ
"เอาโทรศัพท์มา เดี๋ยวชั้นจะโทร.ไปอธิบายให้พ่อเธอฟังเอง"
"พ่อผมเกลียดป้ายิ่งกว่าอะไร ถ้าป้าโทร.ไปแล้วเจอเขาด่า ป้าคงเผลอด่าเขาจนต้องหามเขาส่งโรงพยาบาลแน่"
"นั่นสิ ชั้นว่าชั้นคงคุมสติไม่อยู่แน่"
"ป้า !"
"แหม...ชั้นก็ล้อเล่นน่า เธอก็รู้ว่าพ่อเธอเป็นคนยังไง เธอก็รู้ว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไร สักวัน พ่อเธอก็ต้องเข้าใจ"
"แต่ป้าเป็นคนบอกพี่อาร์ทว่า ความสุขของคนดูคือค่าตอบแทนที่มีค่าที่สุด วันนี้ผมอยาก เอาค่าตอบแทนของผมกลับไปทำให้พ่อแม่ผมมีความสุขบ้าง แล้วทำไม ทำไมผมกลับทำไม่ได้" เน็กซ์พูดแล้วน้ำตาคลอ พุชชี่สงสารเข้าไปใช้มือลูบหัวเน็กซ์เบาๆอย่างเอ็นดู จับหน้าเขามามองอย่างปลอบใจ
"ทุกอย่างมันต้องใช้เวลานะเน็กซ์ ชั้นผ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะแล้ว เธอต้องรู้จักอดทนรอ แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง"
ทั้งคู่สบตากันไปมาอย่างเข้าอกใจ ใบหน้าของหล่อนห่างจากหน้าเน็กซ์ไม่เท่าไหร่ จนทำให้ทั้งคู่อดหัวใจ เต้นตึกตักไม่ได้ตามประสาชายหญิงที่อยู่ใกล้กัน แล้วหล่อนตั้งสติได้ก่อนจึงแยกตัวออกมา
"ผมไปนอนนะครับ"
เน็กซ์รีบลุกเดินออกไปก่อนจะหยุดแล้วหันมาบอกหล่อน
"อ้อ...ขอบคุณที่ปลอบใจผมนะครับป้า ยังไงเงินค่าจ้างผมก็คงไม่ได้เอาไปใช้อะไรแล้ว งั้นผมขอช่วยสมทบทุนให้ป้าเอาไปใช้หนี้ก็แล้วกัน"
เน็กซ์โบกมือให้ แล้วรีบเดินเข้าบ้าน หล่อนชะงักมองตาม ไม่คิดว่าเน็กซ์จะมีน้ำใจที่ดีกับเธอถึงขนาดนี้
วันใหม่ในช่วงปิดเทอม ราศีคุยโทรศัพท์มือถือกับพุชชี่ แล้วมองครูนิยมที่ยืนเครียดเหม่ออยู่นอกอาคาร
"เรื่องมันเป็นอย่างงี้เองเหรอคะ มาดาม"
พุชชี่โทร.จากร้านกาแฟ ในส่วน PLAZA แห่งหนึ่งในห้างฯ
"ค่ะคุณแม่ เป็นความผิดของพุชชี่เองที่ทำให้เน็กซ์ต้องเสียหายทั้งๆที่รับปากคุณแม่ไว้"
"ใช่ค่ะ...ความผิดของมาดามเต็มๆ"
พัฒศรีหน้าเสียจ๋อยไป
"มันก็สมควรแล้วที่สามีชั้นจะเกลียดขี้หน้าคุณ เพราะวงการที่พวกคุณอยู่มันน่ากลัวเกินไปสำหรับคนที่ชั้นฟูมฟักเขามาอย่างดี"
"พุชชี่ไม่เถียงค่ะคุณแม่ ว่าวงการนี้มันมีด้านมืดจริงๆ แต่อย่างหนึ่งที่ขอเถียงก็คือ พุชชี่จะไม่มีวันยอมให้ส่วนไม่ดีของวงการนี้เปลี่ยนแปลงเน็กซ์ไปในทางไม่ดีเด็ดขาด และขอให้คุณแม่มั่นใจด้วยว่า ลูกชายคุณแม่เป็นคนดีจริงๆค่ะ เขาจะต้องเป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีแต่คนรักเขาแน่นอน"
ครูราศีนิ่งมองไปที่ครูนิยม
"คุณต้องรักลูกชายชั้นนะคะ มาดามพุชชี่"
หล่อนชะงัก
"รัก...เอ่อ"
"ใช่ค่ะ...รักเขาเหมือนลูกคุณเอง คุณถึงจะดูแลเขาได้ดีโดยที่ชั้นไม่ต้องห่วงเขาอีก"
"คุณแม่ขา พุชชี่ไม่ได้แก่ขนาดเป็นแม่เขานะคะ แค่ห่างกันไม่กี่ปีเอง"
"ขอโทษค่ะ คนเป็นแม่มักคิดว่าลูกตัวเองเด็กเสมอ"
"คุณแม่คะ พุชชี่รับปากว่าจะรักเน็กซ์เหมือนน้องชาย ส่วนเรื่องเงินที่เขาอยากส่งให้คุณแม่ทุกเดือน พุชชี่จะเป็นธุระให้ แต่เรื่องนี้ต้องเป็นความลับของเรานะคะ"
พุชชี่บอกไปแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นคุณจุ๋ง ผู้จัดละครชื่อดังกับป้าแต๋วผู้กำกับละครชื่อดัง พากันมาที่ร้านอาหารหรู โดยมีผู้จัดการยกมือไหว้ให้การต้อนรับเชิญเข้าไปในร้าน
"เอ่อ...คุณแม่ขา แค่นี้ก่อนนะคะ พุชชี่มีเรื่องด่วนต้องวางสายก่อน สวัสดีค่ะคุณแม่"
พุชชี่รีบตัดสายไปแล้วมองตาม ทั้งคู่กำลังทักทายกับผู้จัดการร้าน หล่อนจิกหน้ายิ้มมีแผนการ
"นึกว่าจะไม่มากันซะแล้ว"
หล่อนรีบลุกไปทางร้านอาหาร
ติณณภพเพิ่งคุยสายกับหนูดอกเสร็จ
"ขอบใจมากนะ หนูดอก"
ติณณภพวางสาย จะออกไปนอกบ้าน เจอตุลยาที่แต่งชุดแอร์โฮสเตสกำลังจะไปทำงาน
"จะออกไปหาพี่พัฒอีกแล้วเหรอคะ พี่ติณ"
"เพื่อนพี่ให้ตั๋วละครเวทีมา พี่ไปดูคนเดียวคงแปลกๆ"
"แล้วทำไมไม่ชวนตุลล่ะ"
"ก็เรามีบินวันนี้ไม่ใช่เหรอ"
"แต่ถ้าพี่ติณบอกก่อน ตุลจะได้ขอเปลี่ยนไฟลท์กับเพื่อน"
"นี่...ถามจริงๆเถอะ ปกติเราน่ะสนใจดูละครเวทีด้วยเหรอ สมัยที่พี่กับพัฒทำละครที่มหาลัย ชวนไปดูด้วยทีไร เห็นนั่งหลับตลอด"
"ก็นั่นมันละครนักศึกษา จะสนุกสู้มืออาชีพได้ไง"
"ยังไงก็ไม่ทันแล้วล่ะตุล เอาไว้คราวหน้า พี่จะชวนตุลก่อน โอเคมั้ย"
ตุลยาทำงอน
"หึ... ค่ะ ตุลรู้อยู่แล้วว่า ตุลต้องมาทีหลังพี่พัฒเขาเสมอ ก็เป็นแค่น้องสาวนี่เนอะ"
ติณณภพเข้าไปขยี้หัวเอ็นดู
"เรานี่... พี่จะไปรักคนอื่นมากกว่าน้องสาวตัวเองได้ยังไง ไม่เอาแล้ว พี่ไปดีกว่า"
ติณณภพดึงแก้มน้องสาวมาฉีกยิ้มอย่างหยอกเอินก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน ตุลยามองตามจิกหน้าไม่พอใจอยู่สักครู่ ก่อนตัดสินใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทร.ออก
ตุลยาเสียงเข้ม
"อยู่ไหน ชั้นไม่สนใจว่างานเธอจะยุ่งมากแค่ไหน ชั้นมีเวลาชั่วโมงนึงก่อนที่ชั้นจะต้องบิน ไปรอชั้นที่เดิม... เดี๋ยวนี้"
ตุลยาตัดสาย หน้าเข้มแบบเด็กเอาแต่ใจตัวเองแบบไม่รู้ตัว
โต๊ะมุมหนึ่งในร้าน คุณจุ๋งกับป้าแต๋วกำลังสั่งอาหารจากเมนู พุชชี่เดินเข้ามาในร้านแกล้งทำเป็นเลียบๆเคียงๆเดินผ่าน แบบบังเอิ้ญ...บังเอิญให้เขาเห็นเธอสุดฤทธิ์
"แค่นี้ก่อนจ้ะ"
คุณจุ๋งส่งเมนูคืนเด็ก แล้วเห็นพุชชี่
"อ้าว...นั่นพุชชี่นี่...พุชชี่"
"อุ๋ย...พี่จุ๋ง ป้าแต๋ว สวัสดีค่ะ แหม บังเอิญจังเลย พุชชี่ไม่นึกว่าจะได้มาเจอพวกพี่ที่นี่"
"แล้วนี่มาทานข้าวคนเดียวเหรอจ๊ะหล่อน" ป้าแต๋วถาม
"ค่ะ ป้าแต๋ว วันนี้วันหยุดพักผ่อนของพุชชี่น่ะค่ะ ต้องหลบมาอยู่คนเดียวบ้าง ไม่งั้นหัวจะระเบิด ก็เรื่องเด็กปั้นใหม่ที่โดนข่าวรุมอยู่นี่แหละค่ะ...เฮ้อ" หล่อนพูดพลางฉีกยิ้ม
คุณจุ๋งหันไปมองหน้ากับป้าแต๋วอย่างสนใจ
"งั้นมานั่งด้วยกันสิ จะได้เมาท์มอยกัน พี่กับป้าแต๋วกำลังคุยเรื่องเด็กใหม่ของเธออยู่พอดี"
"จะดีเหรอคะ เผื่อพวกพี่อยากจะคุยงานกัน"
ป้าแต๋วบอก
"แหมหล่อน พวกชั้นเปิดให้มานั่งเมาท์ด้วยกันขนาดนี้แล้ว แสดงว่าอยากเมาท์จะแย่ แล้วย่ะ...นั่งๆๆ"
"แหมป้าแต๋วก็...งั้นพุชชี่ขออนุญาตเกะกะนะคะ"
หล่อนรีบขยับก้นลงไปนั่งแหมะทันที สมกับที่มานั่งดักรอและเป็นไปตามแผนเป๊ะ
ภายในร้านกระเป๋าแบรนด์เนมในห้าง เจ๊เมี่ยงกำลังพิจารณากระเป๋าแบรนด์เนมใบหนึ่งอย่างสนใจ
"เอาใบนี้ค่ะน้อง"
พนักงานบอก
"เอ่อ...ถ้าเป็นรุ่นนี้ของหมดแล้วค่ะ ต้องสั่งจองไว้อย่างเดียว"
"อะไรกัน แล้วกว่าจะได้น่ะเมื่อไหร่"
พนักงานยิ้มแหะ
"คิวตอนนี้ค่อนข้างยาวค่ะ น่าจะสักสามเดือน"
"หา...สามเดือน โอ๊ย ถึงตอนนั้นเวลาชั้นหิ้วไปไหนมาไหนก็มีคนหิ้วเหมือนชั้นเดินชนกันให้ควั่กแล้วสิ เอางี้ชั้นมีพิเศษให้...ถ้าลัดคิวให้ชั้นแบบพรุ่งนี้ได้เลย"
"ถ้าคุณลูกค้าอยากได้เร็ว ก็คงต้องบินไปซื้อที่เมืองนอกแล้วล่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ"
พนักงานรีบดึงกระเป๋าจากมือนางมาวางคืนที่ชั้นวางอย่างไม่สนใจ เจ๊เมี่ยงเจอแบบนี้ก็หน้าตึงคันปากยิบๆ อยากจะด่า แต่ระหว่างนั้นลอร่ารีบวิ่งถลาเข้ามาจากนอกร้าน
"เจ๊ ! เจ๊ขา เจ๊ขาเจ๊ เป๊ะค่ะ เป๊ะเว่อร์จริงๆค่ะ"
เจ๊เมี่ยงสนใจทันที
"เจอหล่อเป๊ะเว่อร์กว่าเด็กใหม่นังพุชชี่แล้วเหรอ"
"เปล่าค่ะเจ๊ หล่อเป๊ะเว่อร์แบบนั้น เจ๊คงต้องส่งลอร่าไปหาบนสวรรค์ชั้นวิมานแล้วล่ะค่ะ"
"งั้นอะไรของหล่อนยะที่เป๊ะเว่อร์"
"ก็ที่เจ๊เดาเอาไว้ไงคะว่า แผนดันเด็กขั้นต่อไปของมาดามพุชชี่คืออะไร เมื่อกี้ลอร่าไปเห็นมากับตาเลยค่ะ"
นางตกใจร้อง "หา !"
นางรีบตามลอร่าออกมาจากร้านกระเป๋าแบรนด์เนม
"ทางนี้เลยค่ะเจ๊ ตามลอร่ามาเลยค่ะ"
นางรีบวิ่งตะแล๊ดแต๊ดตามลอร่าไป หลังไปไม่นานติณณภพก็เดินมาหยุดที่ร้านดอกไม้ใกล้ๆ แล้วเลือกดูดอกไม้สดสวยงาม
เขาตามคนขายเข้าไปในร้านด้วยรอยยิ้ม
ภายในร้านอาหารหรูในห้างฯ พุชชี่ยังนั่งคุยอยู่คุณจุ๋งและป้าแต๋ว บนโต๊ะมีอาหารกินเล่น 2-3 อย่าง พร้อมเครื่องดื่มของทั้ง 3 คน
"ถามจริงๆนะยะหล่อน เด็กใหม่หล่อนคนนี้เนี่ย ไปขุดมาจากไหน"
"บึงโขงหลง จังหวังบึงกาฬค่ะป้าแต๋ว เหมือนช้างเผือกอยู่ในป่าลึกที่ต้องบุกป่าฝ่าดงไป พาออกมายังไงยังงั้นเลยค่ะ"
"ก็สมราคาคุยนะหล่อน แค่เห็นจากในข่าว หน่วยก้านก็ดี ท่าทางก็ไม่เลว"
"แหม...พุชชี่ภูมิใจจังเลย นี่ถ้าน้องเขารู้ว่าผู้กำกับละครมือหนึ่งของวงการชื่นชมน้องเขาแบบนี้ น้องเขาต้องดีใจแน่ เพราะว่าเขามีความตั้งใจเต็ม100 อยากทำงานจริงๆค่ะ"
คุณจุ๋งบอก
"แต่เธอก็เปิดตัวเด็กเธอแรงไปหน่อยนะพุชชี่ ออกสตาร์ทมาก็ฉาวซะแล้ว ภาพลักษณ์แบบนี้ทำให้คนดูรักยากนะ จะหาบทดีๆให้เล่นใครจะเชื่อ"
หล่อนตีหน้าเศร้า
"มันเป็นเรื่องผิดพลาดที่พุชชี่ไม่ตั้งใจจะให้เกิดจริงๆค่ะพี่จุ๋ง ความจริงแล้ว ก็คือ..."
ยังไม่ทันได้อธิบาย เจ๊เมี่ยงก็เดินเข้ามาทันที
"ความจริงก็คือทุกอย่างเป็นแผนการดันเด็กและแย่งซีนของพุชชี่ค่ะ"
"อ้าว..เจ๊เมี่ยง"
คุณจุ๋งทักทาย เจ๊เมี่ยงยกมือไหว้
"สวัสดีค่ะพี่จุ๋ง สวัสดีค่ะป้าแต๋ว เมี่ยงต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาขัดจังหวะ แต่เมี่ยงทนไม่ได้ค่ะที่จะปล่อยให้นังพุชชี่หลอกเอาสินค้าเกรดต่ำๆ มาขายพวกพี่ๆ ที่เมี่ยงเคารพรัก"
"เจ๊เมี่ยง ! พูดให้ดีๆนะ สินค้าเกรดต่ำอะไร"
"ก็เด็กใหม่หล่อนไง ตัวลูกอยากเป็นดาราจนตัวสั่น พอตัวแม่สั่งให้ทำเรื่องคาวๆบนเวที ก็เด้งหน้าเด้งหลัง ทำได้อย่างหน้าไม่อาย แบบนี้น่ะเหรอคะพี่จุ๋ง ที่เราจะปล่อยให้มาเดินลอยหน้าลอยตาในวงการของเรา...เสื่อม !"
พุชชี่ปรี๊ดตบโต๊ะเสียงดัง ลุกขึ้นยืนประจันหน้า
"มันจะเกินไปแล้วนะเจ๊ เน็กซ์ไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วชั้นก็ไม่เคยใช้วิธีสกปรกเพื่อดันเด็ก ไม่เหมือนเจ๊หรอก...แม่เล้า"
เจ๊เมี่ยงปรี๊ดขึ้นเหมือนกัน
"อ๊าย...อ๊าย...อ๊าย นี่แกยังไม่เลิกกล่าวหาชั้นอีกเหรอนังพุชชี่ ข้อหาหมิ่นประมาทคราวที่แล้วยังทำให้แกหมดตัวไม่พอใช่มั้ย"
ลอร่ารีบสะกิดเจ๊เมี่ยง
"เจ๊ขา เจ๊ เจ๊"
"อะไร ! ไม่เห็นเหรอว่าชั้นกำลังปรี๊ด"
"เห็นค่ะ แต่เจ๊มัวแต่ด่ากันไฟแล่บ คุณจุ๋งกับป้าแต๋ว ไปโน่นแล้วค่ะ"
คู่ปรับทั้ง 2 นางหันขวับไปเห็นคุณจุ๋งกับป๋าแต๋วเดินลิ่วๆออกไปนอกร้าน พุชชี่จะไปแต่เจ๊เมี่ยงดึงไว้จะไปก่อน ทั้งคู่ดึงกันไปดึงกันมาสักพักถึงจะเดินออกจากร้านอาหารได้
พุชชี่กับเจ๊เมี่ยงและลอร่ารีบตามออกมาที่ด้านนอกบริเวณลานน้ำพุ แต่ไม่ทัน คุณจุ๋งกับป้าแต๋วที่ไปไกลแล้ว พุชชี่โกรธ
"เจ๊ ! ชั้นเหลืออดกับเจ๊เต็มทนแล้ว"
พุชชี่ผลักอกเจ๊เมี่ยงเซไปชนลอร่าจนเกือบล้ม แต่ทรงตัวเอาไว้ได้ ส่วนลอร่าล้มก้นจ้ำเบ้าไปแล้ว
"นังพุชชี่ ชั้นก็หมดความอดทนกับหล่อนแล้วเหมือนกัน ในเมื่อหล่อนอยากเล่นสกปรก แย่งซีนเด็กชั้นบนเวที ชั้นก็ต้องเอาคืนหล่อนให้สาสม"
เจ๊เมี่ยงปรี่เข้าไปผลักฉุดกระชากลากถู แล้วออกแรงดึงพุชชี่เต็มแรงจนล้มหงายหลังลงไปที่บ่อน้ำพุ...ตูม !!
หล่อนเอามือทั้ง 2 ข้างยันพื้นบ่อไว้ แต่ก้นจ้ำบ้ำเปียกโชกไปทั้งตัวเหมือนลูกหมาตกน้ำ เจ๊เมี่ยงกับลอร่าหัวเราะร่วนชอบใจ ชาวบ้านที่เดินอยู่ในห้างเริ่มสนใจหันมามุงดู
"เจ๊ ! เล่นแรงกันถึงขนาดนี้เลย มันจะมากไปแล้วนะ"
ติณณภพถือช่อดอกไม้เดินเข้ามา เห็นคนมุงอยู่ก็สงสัยรีบเร่งฝีเท้าเข้ามาดู
"นังงูเห่าอย่างหล่อน ตีงูมันต้องตีให้หลังหัก จะได้ไม่ย้อนกลับมาแว้งกัดทีหลัง"
"จะให้ชั้นพูดกี่ร้อยกี่พันครั้ง ชั้นก็จะพูดเหมือนเดิมว่า ชั้นไม่ได้สั่งให้เน็กซ์ทำแบบนั้น"
"แกเรียนรู้ทุกอย่างจากชั้นไป ไอ้วิธีการแย่งซีนแบบนี้ชั้นก็เคยสอนแก"
เจ๊เมี่ยงเข้าไปจิกหัวพุชชี่ แล้วพูดต่อ
"ตอนนี้แกเข้าตาจนหาทางสู้ชั้นไม่ได้ แกเลยต้องงัดวิธีนั้นมาใช้กับชั้น นังเนรคุณ"
เจ๊เมี่ยงจิกผมแล้วจ้องหน้าพุชชี่อย่างเอาเรื่องสุดๆ ทันใดนั้น ติณณภพที่ถือช่อดอกไม้ก็เข้ามาห้าม "ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้"
เจ๊เมี่ยงชะงักหันไปเห็นติณณภพสีหน้าเอาเรื่องจ้องเขม็ง
"พี่ติณ"
"ผมบอกให้คุณปล่อยเธอ"
นางยังยืนงงไม่ทันตั้งตัว ติณณภพก็ปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อ แล้วง้างหมัด
"คุณเมี่ยงผมรู้ว่าคุณไม่ใช่สุภาพสตรีจริงๆ เพราะฉะนั้นผู้ชายต่อยหน้าผู้ชายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก"
นางตกใจ
"ว๊าย ! อย่านะคะกัปตัน เมี่ยงปล่อยแล้วค่ะ ปล่อยแล้ว ปล่อยแล้ว"
นางรีบปล่อยมือจากพุชชี่แล้วถอยไปหลบข้างๆลอร่า
"ไงล่ะเจ๊...บอกให้เฉาะลอกออกให้หมดก็ไม่เชื่อ"
"นังลอร่า ! นังบ้า"
นางพูดแล้วหันไปเชอะใส่พุชชี่
"ฝากไว้ก่อนเถอะนังพุชชี่ หล่อนแพ้ชั้นไป แล้วก็ต้องแพ้วันยังค่ำ อย่าหวังว่าจะมีวันชนะชั้นเลย..เชอะ"
นางรีบเดินออกไปลอร่าตาม พุชชี่เปียกโชกชุ่มไปทั้งตัว ติณณภพเลยรีบถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองสวมคลุมทับให้หล่อนอย่างเป็นห่วงเป็นใย
"เจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า"
"พี่ติณ"
พัฒศรีสบตาติณณภพที่มองเธอด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยแล้วได้แต่นิ่งอึ้งไป
บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้า เจ๊เมี่ยงเดินหงุดหงิดหัวเสีย มีลอร่าตามมาติดๆ
"ใจเย็นๆค่ะเจ๊ ถึงจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนังพุชชี่ไว้ แต่อย่างน้อยเจ๊ก็ได้เบรกมัน ไม่ให้ดันเด็กให้ได้งานจากพี่จุ๋ง ถือว่าวันนี้ก็โอแล้ว"
"แค่นี้ยังไม่พอหรอก หนทางการเป็นดาราของไอ้เด็กคนนั้น มันต้องยากเย็นแสนเข็ญ มากกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่าพันเท่า เพราะชั้นจะไม่ยอมให้มันมาแย่งตำแหน่งซุปตาร์ไปจากเด็กชั้นเด็ดขาด"
"ค่ะเจ๊ เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน ว่าแต่ว่า สุภาพบุรุษหนุ่มเท่ค๊อดๆ ที่เจ๊เรียกเขาว่ากัปตัน นั่นน่ะ ใครเหรอคะเจ๊ ลอร่าว่าเขาหล่อมาก หล่ออย่างกับพระเอกละครเลย"
"หึ...นั่นน่ะกัปตันติณณภพ เขาเป็นรักครั้งแรกของนังพุชชี่"
นางพูดแล้วจิกหน้าหมั่นไส้พุชชี่
อ่านต่อหน้า 3
มาดามดัน ตอนที่ 4 (ต่อ)
ตุลยานั่งรออยู่ที่ระเบียงร้านกาแฟแห่งหนึ่ง รออยู่นานพอสมควรจนเริ่มหงุดหงิด
"ตาบ้าเอ้ย บอกให้รีบมา รีบมา ไม่ได้ว่างมานั่งรอทั้งวันนะ"
ตุลยายกกาแฟขึ้นดื่ม ระหว่างนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์คันสวยบิดเข้ามาจอดที่หน้าร้าน ชายหนุ่มคนนั้นรีบลงจากมอเตอร์ไซค์เข้ามาหาตุลยาทั้งๆที่ยังไม่ได้ถอดหมวกกันน็อก
อินทัชบอก
"ขอโทษด้วยนะตุล นี่ผมรีบมาเร็วที่สุดแล้ว"
ตุลยาชายหางตามองอย่างหัวเสีย
"ถ้าเวลาชั้นเรียกนายแล้วมาเร็วได้แค่นี้ล่ะก็...ต่อไปไม่ต้องมาหาชั้นแล้ว เสียเวลา"
ตุลยาจะเดินออกไป อินทัชรีบถอดหมวกกันน็อกออก ทำให้เห็นใบหน้าชัดๆว่าอินทัช เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่มาดค่อนข้างเซอร์
อินทัชรีบตามไปขวาง
"เดี๋ยวสิตุล ผมขอโทษ คราวหน้าผมจะไม่ปล่อยให้ตุลต้องนั่งรอแบบนี้อีกแล้ว นะครับ นะครับ นะครับ"
"ก็ได้...คราวนี้ชั้นจะยกโทษให้ เพราะว่าชั้นมีเรื่องที่ต้องพึ่งนาย"
อินทัชมองตุลยาอย่างสงสัยอยากรู้
ภายในร้าน อินทัชวางแก้วกาแฟลง
"อะไรนะ เนี่ยอยากให้ผมเกาะติดแล้วคอยส่งข่าวของมาดามพุชชี่ให้คุณ"
"ใช่...ไม่ใช่งานหนักหนาแล้วก็ยากเย็นอะไรไม่ใช่เหรอ เพราะนายก็เป็นช่างภาพบันเทิงให้หนังสือพิมพ์อยู่แล้วนี่"
"มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรหรอกตุล แต่ผมสงสัยว่าคุณอยากรู้เรื่องของมาดามพุชชี่ทำไม หรือว่า คุณจะเลิกเป็นแอร์แล้วอยากเป็นดารา"
ตุลยาเบ้ปาก
"นี่..ชั้นไม่เคยพิศมัยวงการนี้หรอกนะ สมบัติของแม่กับพ่อเลี้ยงชั้นใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ไอ้ที่ยอมไปเป็นแอร์ก็เพราะอยากทำงานใกล้ๆกับพี่ติณก็แค่นั้น"
อินทัชทำหน้าเซ็งๆเบื่อๆ
"ผมรู้... คุณติดพี่ชายคุณเอามากๆ"
"รู้ก็ดี ที่อยากให้นายช่วยก็เพราะชั้นหมดความอดทน ไม่อยากเห็นพี่ติณไปหลงรักแล้ว ก็เสียเวลากับผู้หญิงแบบนั้นอีก"
"พี่ติณเขาโตแล้วนะตุล ทำแบบนี้ไม่ดีหรอก"
"ดีไม่ดีสำหรับพี่ติณ ชั้นเป็นคนตัดสินเท่านั้น ไม่ใช่นาย ! ถ้านายไม่ยอมช่วย ชั้นจะไป ขอให้คนอื่นช่วยก็ได้"
"ช่วยสิตุล...มีเรื่องไหนบ้างที่คุณขอร้องผมแล้วผมปฏิเสธบ้าง เพียงแต่ว่า ที่ผ่านๆมาคุณขอร้องให้ผมทำโน่นทำนี่ให้มาตลอด ผมก็เลยอยากรู้ว่า ถ้าครั้งนี้ผมช่วยแล้ว คุณจะ..."
"อะไร ช่วยเพื่อนแค่นี้ ต้องมีค่าจ้างด้วยเหรอ"
"ผมไม่ได้หมายถึงค่าจ้าง"
ตุลยายกข้อมือขึ้นมาดูเวลาแล้วตกใจ
"งั้นก็ไม่ต้องถามอะไรเซ้าซี้... ตายแล้ว !! นายมีเวลาแค่ 20 นาทีต้องไปส่งชั้นที่สนามบินให้ทัน ไปเร็ว"
อินทัชหน้าเซ็ง
"คร้าบ...นางฟ้า"
อินทัชรับปากไปแล้วถอนหายใจยาวกับพฤติกรรมเบ๊รับใช้ส่วนตัวของตุลยา ห้ามหือ ห้ามเถียง เพราะรักเธอเต็มสี่ห้องหัวใจไปแล้ว
เน็กซ์กำลังเสียใจน้ำตาเริ่มจะคลอเบ้า สีหน้าดูน่าสงสารสุดๆ กับการเค้นอารมณ์การแสดงขั้นเทพที่เน็กซ์กำลังถูกบิ้วด์จากการฝึกของครูดาว ที่สตูดิโอห้องเรียน ในโรงเรียนการแสดง
"การแสดงจะต้องถูกถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกของเราก่อน ถ้าเราไม่เจ็บปวด เราก็ไม่เสียใจ และถ้าไม่เสียใจ น้ำตาเทียมก็ไม่ช่วยทำให้คนดูรู้สึกไปกับเราได้หรอก"
เน็กซ์ฟังครูดาวและพยายามบิ้วด์ตัวเองสุดฤทธิ์ ส่วนหนูดอกยืนลุ้นจนตัวเกร็งและเริ่มจะอินไปกับเน็กซ์ทีละนิดๆ จนเริ่มกัดผ้าเช็ดหน้า มือจิกเล็บ
"ความรู้สึกของเราจะต้องไม่ถูกปิดกั้น ต้องเปิดใจยอมรับทุกอย่าง แม้แต่ความเจ็บปวดที่เราไม่อยากนึกถึงมัน เราก็ต้องจำมันให้ได้ เพราะมันคือบทเรียนที่จะทำให้เราเข้าถึงทุกอารมณ์และทุกบทบาท"
จากนั้นเน็กซ์ก็เริ่มน้ำตาไหลอาบแก้มจน ณ เวลานี้อารมณ์ของเน็กซ์ได้บรรลุถึงจุดสุดยอดของการแสดงแล้ว เขาร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกจริงๆ ร้องจนตัวโยน ร้องจนแม้แต่หนูดอกก็เริ่มร้องไห้ฟูมฟายตาม
หนูดอกน้ำตาไหลพรากๆ
"บราโว่...คอนเกรตูเลชั่น ฮือๆๆ เทพสุดๆแล้วค่ะ คุณน้องขา ฮือๆๆ"
เน็กซ์เสียงยังสั่น
"ผม...ผม... ผมทำได้แล้วใช่มั้ยครับครู"
"จ้ะเน็กซ์...ครูไม่คิดเลยว่า นี่คือการแสดงของคนที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าวงการ สมแล้วที่เป็น มาดามพุชชี่ ผู้หญิงคนนี้มองใครไม่เคยผิดจริงๆ"
เน็กซ์รู้สึกดีใจที่ได้รับคำชม แต่จังหวะนั้นกลับถูกทำลายด้วยเสียงสั่งขี้มูกดัง...พรื้ด ! ของหนูดอก
ทั้งคู่หันมามองเป็นตาเดียวกันทันที หนูดอกยิ้มแหะๆ
"ขอโทษด้วยค่ะ คือ หนูดอกอินอ่ะค่ะ อินเว่อร์ด้วย ฮือๆๆ"
หนูดอกพาเน็กซ์เดินออกมาข้างนอกเพื่อเตรียมจะกลับ
"สุดยอดเลยค่ะคุณน้อง ปกติครูดาวไม่เคยชมเด็กใหม่คนไหนเลย เพิ่งจะได้ยินกับหูตัวเองนี่แหละ"
"ที่ผมทำได้ก็เพราะมาดามช่วยแนะด้วยแหละครับ พี่หนูดอก"
"แหม...นี่ถ้ามาดามมาเห็นว่าคุณน้องบรรลุขั้นเทพได้แบบนี้ล่ะก็ มาดามต้องดีใจสุดๆแน่"
"แล้วมาดามเขาไปไหนล่ะครับ พี่หนูดอก"
หนูดอกอมยิ้มบอก
"วันนี้ มาดามมีเดทค่ะ"
"เดท กับคนที่มาที่บ้านคืนนั้นน่ะเหรอครับ"
"คุณน้องเจอกัปตันเขาแล้วเหรอคะ"
เน็กซ์พยักหน้ารับ ไม่พูดอะไร แต่สีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ออกอาหารหงุดหงิดนิดๆไม่รู้ตัวนักและเปลี่ยนเรื่องคุยกับหนูดอก
"แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรอีกบ้างครับ"
"กลับบ้านค่ะ"
ภายในบ้านติณณภพ พัฒศรีสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขา ทับขาสั้นที่สวมอยู่จนเห็นเรียวขาสวยงาม
หล่อนเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผมที่ยังเปียกหมาดๆ ระหว่างนั้นติณณภพเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้าของหล่อน
"เสื้อผ้าที่เปียกของน้องพี่เอาไปซักอบแห้งแล้วก็รีดมาให้เรียบร้อยแล้วนะ"
"โธ่...พี่ติณ เดี๋ยวน้องไปจัดการเองก็ได้ค่ะ"
"พี่เห็นว่าน้องบ่นว่าเจ็บข้อมืออยู่ไม่ใช่เหรอ"
"ค่ะ สงสัยจะตอนถูกผลักล้ม ข้อมือเลยเคล็ด"
"งั้นเดี๋ยวพี่ช่วยดูให้นะ"
หล่อนจะปฏิเสธแต่ไม่ทัน เพราะติณณภพเข้ามาช่วยจับมือเธอมาดูอย่างเป็นห่วง
"ไม่ต้องหรอกค่ะ...โอ๊ย!"
"เห็นมั้ย...อยู่เฉยๆนะ เดี๋ยวพี่ประคบเย็นให้ก่อนจะได้ช่วยลดไม่ให้ฟกช้ำ รอเดี๋ยวนะ"
ติณณภพ เดินออกไป
สักครู่ต่อมา ติณณภพเอาผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบข้อมือดูแลให้อย่างดี จนพัฒศรีรู้สึกปลาบปลื้มเขามาก
"แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ พี่ติณ"
"ทำไมล่ะ ทำอย่างกับพี่ไม่เคยทำแบบนี้ให้น้องพัฒมาก่อน จำตอนเรียนได้มั้ย น้องพัฒเป็นพวกไฮเปอร์บวกซุ่มซ่าม ถ้าไม่หัวโขกเสาก็ต้องเตะประตูตกท่อเป็นประจำ"
"จำได้สิคะ ทุกวันนี้แผลก็ยังเต็มหัวเต็มขาอยู่เลย"
"แล้วก็ต้องเป็นพี่ทุกครั้งที่ช่วยทำแผลให้ เพราะฉะนั้นอยู่นิ่งๆแล้วให้พี่ทำหน้าที่ที่พี่เคย ทำเป็นประจำไปดีกว่านะ..คนดี"
ติณณภพยิ้มและมองหล่อนด้วยแววตาสดใส รอยยิ้มนั้นทำให้หล่อนหัวใจพองโต ยิ่งเมื่อเขาใช้มือนวดเบาๆ เคล้า คลอ คลึง พัฒศรีก็ยิ่งลืมตัวเคลิ้มมีความสุข กัดริมฝีปาก มือจิกหมอนข้าง หลับตาพริ้มสยิวกิ้วกิ้ว
หนูดอกกำลังยุ่งอยู่กับกองเอกสารที่โต๊ะทำงาน ระหว่างนั้นเน็กซ์เข้ามา
"ตกลงวันนี้ผมไม่ต้องไปเรียนอะไรอีกแล้วเหรอ พี่หนูดอก"
"ก็ค่ะไงคะคุณน้องขา พี่ว่าพี่บอกคุณน้องไปแล้วนี่คะ"
"แต่ให้ผมอยู่แต่ในบ้านแบบนี้ ผมเซ็ง"
"มาดามสั่งไว้ค่ะ เสร็จจากเรียนแอกติ้งแล้ว ให้คุณน้องอยู่แต่บ้านพักผ่อน"
"ป้าเขาสั่งให้ผมอยู่บ้าน แต่ตัวเองกลับไปเดทกับแฟนเนี่ยนะ"
"อ้าว...ก็วันนี้วันหยุดมาดามนี่คะ"
เน็กซ์หัวเสีย
"ไหนบอกว่า งานของมาดามดันไม่มีวันหยุดไง"
เน็กซ์หงุดหงิดอารมณ์ไม่ดีเดินออกไป หนูดอกมองตามอย่างงงๆ
"อะไรวะเด็กสมัยนี้ อารมณ์พุ่งพล่านตามไม่ทันจริง วุ้ย"
เน็กซ์ออกมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเอาลูกบอลออกมาด้วย คิดว่าจะฆ่าเวลาเซ็งๆด้วยการเดาะลูกบอลเล่น แต่เดาะไปได้แค่ไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกไม่สนุกเลยหยุด ระหว่างนั้นเองเสียงแก้วใสก็แทรกขึ้น
"หยุดทำไมล่ะเน็กซ์"
"เซ็งครับ"
แก้วใสอมยิ้มชอบใจ
"อารมณ์นี้แก้วใสเข้าใจเน็กซ์เลย เพราะเคยเป็นมาก่อน"
แก้วใสพูดไปก็ขยับเข้ามาใกล้ตัวชิดมือไม้เกาะไหล่อย่างสนิทสนม
"วัยอย่างเรามันวัยรักสนุก ชอบอิสระ จะให้ทำตัวเป็นตุ๊กตาอยู่แต่ในตู้โชว์ตลอดเวลาได้ไง ใช่มั้ยจ๊ะเน็กซ์"
"แล้วเวลาที่คุณอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกเซ็งๆ คุณทำยังไง"
"เราก็ต้องไปปลดปล่อยตามประสาวัยเราสิ"
ทั้งคู่สบตากัน แววตาของแก้วใสดูเจ้าเล่ห์
หนูดอกหนีบหูโทรศัพท์เดินคุยออกมาที่ระเบียง
"ชั้นมืออาชีพนะยะนังเก๋ง ดูปุ๊บเดียวชั้นก็รู้แล้วย่ะว่า เด็กที่แกส่งรูปมาให้ดูน่ะ หนังหน้าเทียม ส่วนหน้าสดน่ะลอยอังคารไปแล้วย่ะ พอเลย...ไม่ต้องส่งมาให้ดูแล้ว"
หนูดอกบ่นใส่โทรศัพท์ไปยังไม่ทันวางสายก็ได้ยินเสียงเครื่องรถของแก้วใสถูกสตาร์ท พอหันขวับไปก็เห็นเน็กซ์กำลังเร่งเครื่องเสียงดังแล้วขับรถของแก้วใสออกไป โดยมีแก้วใสนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถหันมายิ้มยั่วกวนตรีนใส่หนูดอก
"คุณน้อง คุณน้องเน็กซ์ จะไปไหนกันคะ อย่านะคะ นั่นไง งานเข้าหนูดอกแล้ว"
พัฒศรีหลับตาพริ้มจิกหมอนเคลิ้มลืมตัวกับสัมผัสนุ่มนวลเอาใจใส่ในการนวดข้อมือ
"ถ้าพี่ทำให้น้องเจ็บก็บอกนะ พี่จะได้เบามือ"
"ไม่ค่ะพี่ติณ น้องกำลังรู้สึกดีเลย...อ้า อู้ว ... โอ้ว"
"ดีจังที่น้องพัฒชอบ"
จากนั้นติณณภพก็ค่อยๆบรรจงจูบที่หลังมือเธอเบาๆและพรมจูบไล่ขึ้นมาตามแขน ข้อศอก ไปถึงหัวไหล่ที่เปลือย เปล่า ทำเอาพัฒศรีสั่นสะเทิ้มไปทั้งตัว อ้า...
"อ้า...โอ้ว...พี่ พี่ติณจะทำอะไรน้องคะ"
"พี่รักน้องนะ น้องพัฒ"
หล่อนหน้าแดงผ่าวๆ
"พี่ติณ...น้อง น้องรู้ค่ะ น้อง..."
ติณณภพขยับขึ้นมานั่งคู่กับหล่อนบนโซฟาจนตัวเบียดกัน ใบหน้าเข้าใกล้กันเหมือนมีแรงดึงดูดจากความใคร่ สายตาสบประสาน หล่อนใจเต้นตึกตัก ตูมตาม โครมคราม
"พี่ติณดีกับน้องแบบนี้ น้องไม่รู้จะตอบแทนอะไรให้พี่ได้นอกจาก..."
หล่อนลูบใบหน้าติณณภพอย่างแผ่วเบาแล้วยื่นริมฝีปากพร้อมจะจูบเต็มที่ ริมฝีปากใกล้เข้าไป..ใกล้เข้าไป
มือถือพัฒศรีไฟสว่างพร้อมเสียงดังโทร.เข้า
ติณณภพหยิบมือถือขึ้นมาแล้วมองไปหล่อนซึ่งยังหลับตาพริ้ม ทำปากเหมือนจะจูบวิมานในอากาศและไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ตัวเอง
"น้องพัฒ น้องพัฒ น้องพัฒ"
หล่อนลืมตาตื่น ชะงัก เหวอ ลืมตาโพล่ง
"คะ พี่ติณ"
"โทรศัพท์น้องดัง"
"หา...โทรศัพท์เหรอคะ"
ติณณภพพยักหน้ารับ หล่อนมองที่ข้อมือตัวเองเห็นว่า ติณณภพช่วยเอาผ้าก๊อชสีน้ำตาลมาช่วยพันไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ไอ้ที่คิดอยู่เมื่อกี้คือจิ้นแบบเสียวๆของเธอเอง
"อ๋อ...ค่ะ ใช่โทรศัพท์ โทรศัพท์ของน้องเอง"
หล่อนอายหน้าแดงแล้วรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายจากหนูดอก
"มีอะไรยะหล่อน หา ! เน็กซ์น่ะเหรอหนีเที่ยวออกไปกับแก้วใส แล้วหล่อนมัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รู้จักห้าม โธ่เอ้ย...ชั้นจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ"
หล่อนรีบวางสายแล้วหันมาที่ติณณภพ
"พี่ติณคะ เอ่อ...คือ"
"พี่ได้ยินแล้ว ก็แค่เด็กวัยรุ่นอยากเที่ยวตามประสาเขา ปล่อยเขาไปเถอะ"
"มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิคะ พี่ติณ ตอนนี้เน็กซ์มีค่ากับน้องมากที่สุด ถ้าเขามีข่าวเสียหายขึ้นมา น้องพังแน่"
"แต่พี่ว่าเขาโตแล้วนะ ถ้าเขาไม่รู้จักคิดเอง ไม่อยากมีอนาคตที่ดี น้องก็ไม่ควรเอาเวลาของน้อง ไปเสียกับเด็กเกเร"
"เน็กซ์ไม่ใช่เด็กเกเรค่ะ เขาเป็นเด็กดี ถ้าพี่ติณได้รู้จักเขาลึกซึ้งอย่างน้อง พี่จะอยากเอาใจช่วยเขา น้องขอตัวก่อน เรื่องละครเวทีน้องติดเอาไว้ก่อนนะคะ"
หล่อนรีบออกไป ติณณภพมองตามด้วยสีหน้าสงสัยในคำพูดของพัฒศรี
"รู้จักอย่างลึกซึ้ง"
รถเจ้าม้าป่าวิ่งเข้าไปจอดที่หน้าตึกอย่างเร็ว พุชชี่คว้ากระเป๋าเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์เสีย หน้าเหวี่ยงใส่หนูดอก วีนแตกสุดฤทธิ์
"ชั้นอุตส่าห์ไว้ใจให้หล่อนดูแลเขา แต่นี่หล่อน...หล่อน..."
หล่อนไม่รู้จะด่ายังไง
"หนูขอโทษค่ะมาดาม หนูมัวแต่ยุ่งเรื่องงาน เผลอแป๊บเดียว ยัยแก้วใสก็มาฉกเน็กซ์ไปต่อหน้าต่อตา หนูสมควรตาย จับหนูไปประหารเจ็ดชั่วโคตรเลยก็ได้ค่ะ"
"จัดการหล่อนไปแล้วมันจะช่วยอะไรได้"
"แล้วจะเอายังไงดีล่ะคะ หนูพยายามโทร.หาแก้วใส แล้วแต่ยัยนั่นก็ไม่ยอมรับสายเลย"
"โธ่เอ้ย...ยัยนั่นพาเน็กซ์ไปไหนนะ"
หล่อนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอพ หนูดอกชะโงกมาดูอย่างสงสัย
"มาดามเปิดอินสตาแกรมทำไมคะ มันจะช่วยให้เราตามหาพวกนั้นเจอเหรอ"
"ต้องลองดูเพราะยัยแก้วใสจะกินก็โพสต์ จะนอนก็โพสต์ เข้าห้องน้ำยังโพสต์เลย"
พุชชี่เปิดดูอินสตาแกรมอยู่ครู่หนึ่งก็ต้องตกใจ เพราะมีภาพที่แก้วใสโพสต์ขึ้นจริงๆ เป็นภาพทั้งคู่หน้าใกล้ชิดกันแล้ว ยิ้มให้กล้อง พร้อมข้อความ พุชชี่และหนูดอกโพล่งพร้อมกัน “ชวนเน็กซ์มาเล่นเสียว”
ทั้งคู่หน้าเหวอ พุชชี่ฉุน
ภายในห้องนอน แพตตี้นอนซบหน้าเศร้าๆ อยู่ที่เตียงดูน่าสงสาร ระหว่างนั้นธีระเข้ามาพร้อมกับยุวดีที่ยกถาดอาหารเข้ามาให้ด้วย ธีระมองลูกสาวแล้วหันไปมองที่หนังสือพิมพ์บันเทิงที่มีภาพแก้วใสจูบปากเน็กซ์
"จะเก็บไว้ดูให้เสียใจทำไมอีกล่ะลูก ไอ้ผู้ชายเลวๆแบบนี้ยิ่งเห็นหน้ามันก็ยิ่งของขึ้น"
ธีระรีบเข้าไปหยิบหนังสือพิมพ์มาจะขยำ แพตตี้รีบลุกขึ้นห้าม
"อย่านะคะ ป๋า"
"ป๋าอุตส่าห์เอาหลักฐานมาให้ลูกเห็นจะๆแบบนี้แล้ว ลูกยังตัดใจจากมันไม่ได้อีกเหรอ"
แพตตี้นิ่งมองภาพเน็กซ์บดปากกับแก้วใสอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจ
"เอาไปเผาทิ้งเลยค่ะป๋า แพตตี้เกลียดเขา"
ธีระดีใจ
"ดีมากลูก มันต้องอย่างนี้สิ เราต้องสวยเลือกได้ ไม่ใช่ปล่อยให้มันมาดูถูกเราแบบนี้ ต่อไปนี้นะ ถ้าเห็นมันกลับมาเหยียบบึงโขงหลงเมื่อไหร่ ป๋าจะให้ลูกน้องไปลากมันไปซ้อม"
"ดีค่ะป๋า เอาให้เดินไม่ได้เลยนะคะ แพตตี้เกลียดเขา เกลียดๆๆ"
"ใช่ ให้มันพิการไปเลย .ฮ่าๆๆ เอาล่ะถ้าลูกทำใจได้แล้ว ก็กินข้าวกินปลาซะหน่อยนะ ป๋าสั่งให้ยุวดีทำของโปรดลูกมาให้"
แพตตี้ยิ้มรับอย่างว่าง่าย ทำให้ธีระสบายใจ แล้วพยักหน้าบอกให้ยุวดีดูแลลูกสาวก่อนจะออกไป แพตตี้รอจนกระทั่งป๋าออกไป แล้วจึงรีบเข้าไปที่ยุวดี
"เอาของที่ชั้นสั่งมาด้วยรึเปล่า"
"เอามาค่ะ"
ยุวดียกถาดอาหารมาวางตรงหน้า แพตตี้เปิดผ้าคลุม ยกจานกับข้าวออกที่วางทับของสิ่งหนึ่งไว้ มันคือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แพรรตีรีบเอาไปวางที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเปิดเครื่องทันที
"มัวยืนบื้ออะไรอยู่ ไปล็อกห้องอย่าให้ป๋าเข้ามา หึ...ชั้นต้องหาความจริงให้ได้ เพราะชั้นไม่เชื่อข่าวในหนังสือพิมพ์ ยัยแก้วใสอะไรนั่นจะมาแย่งเน็กซ์ไปจากชั้นไม่ได้ !"
แพตตี้ตั้งหน้าตั้งตาเช็กคอมพ์
พุชชี่เอาแต่มองมือถือรอดูว่าแก้วใสจะอัพรูปอะไรขึ้นอินสตาแกรมอีก ระหว่างนั้นหนูดอกรีบเอาไอแพดเข้ามารายงานข่าวด่วน
"มาดามขา เป็นเรื่องแล้วค่ะ พวกนักข่าวที่ฟอลโล่ไอจีแก้วใส เอารูปแก้วใสชวนเน็กซ์ ไปเล่นเสียวขึ้นข่าวเด็ดในเน็ตแล้ว"
หนูดอกจะให้ดูข่าวในเน็ตจากไอแพด แต่หล่อนไม่สนใจ
"ชั้นรู้แล้ว พวกนั้นเขาทำงานไวจะตาย แก้วใสรู้เรื่องนี้ดีเลยตั้งใจยั่วให้เป็นข่าว"
"แบบนี้ก็แย่สิคะ หมดกัน พัง พังไม่เหลือแล้ว"
พุชชี่กัดฟันหัวเสียได้ครู่ เสียงเตือนว่าภาพในอินสตาแกรมก็ถูกอัพขึ้นมาอีก
"แก้วใสอัพรูปขึ้นมาใหม่แล้ว"
หล่อนรีบกดเข้าไปดูรูปในแอพ แล้วทั้งคู่ก็ต้องอึ้งไปอีกครั้ง
ทั้งคู่โพล่งพร้อมกัน
"ภาพหลุด ! เน็กซ์เสียวสุดยอด"
เน็กซ์บิดเจ็ตสกีโฉบไปมาอยู่ที่บึง
ฝีมือขับเจ็ตสกีของเน็กซ์แม้จะเพิ่งหัดแต่ก็เป็นเร็วปาดซ้ายที ขวาทีจนน้ำแตกกระจายอย่างเท่ค๊อดๆ ส่วนแก้วใสตะโกนยืนเชียร์และถ่ายรูปด้วยมือถืออยู่ข้างบึง
"เท่สุดๆเลยเน็กซ์ เอาอีก เอาอีก"
เน็กซ์จอดแช่อยู่กลางบึงก่อนขับเจ็ทสกีเข้ามาจอด เปิดหมวกโชว์หน้า วัยรุ่นอีกคนที่ขี่เจ็ตสกีเข้ามาเทียบข้าง ทั้งคู่พร้อมที่จะแข่งความเร็ว
แก้วใสบอก
"ทีนี้เอาแบบเสียวสุดๆ"
เน็กซ์พยักหน้าทำมือโอเคแล้วปิดหมวก บิดคันเร่งแล้วพุ่งทะยานไป เสียงเชียร์จากรอบๆบึงดังสนั่น แก้วใสตะโกนเชียร์ลั่น
"ชนะให้ได้นะเน็กซ์ แก้วใสมีรางวัลใหญ่ให้"
เน็กซ์บิดเจ็ตสกีเร่งเครื่องแซงคู่แข่งเข้าโค้ง น้ำสาดกระจายสวยงามก่อนจะพุ่งเข้าเส้นชัย แก้วใสไชโยดังลั่น
เน็กซ์ขึ้นมาบนฝั่ง แก้วใสรีบวิ่งเข้าไปกระโดดกอดคอเน็กซ์อย่างดีใจทันที
"ไชโย เน็กซ์เก่งที่สุดเลย นี่จ้ะรางวัลสำหรับเดอะวินเนอร์"
แก้วใสยื่นหน้าจุ๊บแก้มเน็กซ์พร้อมกับใช้มือถือกดถ่ายรูปเอาไว้ทันทีโดยที่เน็กซ์ไม่ทันตั้งตัว ทันในนั้นเสียงแหวกอากาศก็พุชชี่ก็ดังเข้ามา
"แก้วใส ถอยออกมาห่างๆเน็กซ์เดี๋ยวนี้เลยนะ"
แก้วใสรู้ตัวอยู่แล้วว่า พุชชี่ต้องตามมาเลยยิ้มเยาะเกาะแขนเน็กซ์จงใจยั่วโมโห
"อ้าวมาดาม นี่ตามเราเจอได้ยังไงคะเนี่ย"
หนูดอกสวนแทนทันที
"อย่ามาตีหน้าใสซื่อหน่อยเลย คิดว่ามาดามตามไม่ทันหล่อนเหรอ"
"ทันอะไรเหรอคะ พี่หนูดอก"
พุชชี่ไม่สนใจท่าทางซื่ออย่างร้ายเดียงสาของแก้วใส ปรี่เข้าไปจับทั้งคู่แยกออกจากกัน
"เธอสองคนทำผิดกฎของบ้านมาดามพุชชี่ กลับไปให้ชั้นลงโทษพวกเธอเดี๋ยวนี้"
เน็กซ์ไม่สนใจแกะมือพุชชี่แล้วปัดทิ้ง
"ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ก็แค่มาหาเรื่องสนุกแก้เซ็งที่ต้องถูกป้าขังเอาไว้แต่ในบ้าน"
เน็กซ์ขึ้นเสียงใส่แล้วเดินกลับไปที่เจ็ตสกี บิดคันเร่งเครื่องพุ่งออกไปเล่นที่กลางสระต่อ
"เน็กซ์...เน็กซ์ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ชั้นสั่งให้กลับมา"
แก้วใสหัวเราะคิก
"เป็นไงคะมาดาม โดนเด็กถอนขนหงอกเข้าให้ ถึงกับไปไม่เป็นเลยเหรอ"
"แก้วใส ! อย่าให้ชั้นเหลืออดกับหล่อนมากไปกว่านี้อีกนะ"
"ทำไมเหรอคะ มาดามจะฉีกสัญญาแก้วใสทิ้งงั้นเหรอ คิดให้ดีนะคะมาดาม แก้วใสเพิ่งจะช่วยทำให้มีคนอยากรู้จักเน็กซ์มากขึ้น ไม่เชื่อก็ดูยอดกดไลค์กับเม้นต์ที่รูปเน็กส์สิ"
แก้วใสยื่นมือถือตัวเองให้หล่อนดู แต่หล่อนไม่สนใจ หนูดอกเลยเอามาดูเอง แล้วก็ตกใจ
"มาดามคะ แป๊บเดียวเป็นหมื่นไลค์เลยค่ะ แถมแต่ละเม้นต์ก็มีแต่ชมเน็กซ์ว่าหล่อ อยากเห็นเน็กซ์เล่นหนังเล่นละครทั้งนั้น"
"เห็นมั้ยคะ แก้วใสไม่ใช่ศัตรูของมาดาม แต่เราเป็นพวกเดียวกัน เป้าหมายของเราคือ ต้องทำให้เน็กซ์เป็นซุปตาร์ และให้แก้วใสเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่ของวงการคู่กับเน็กซ์"
หล่อนกัดฟันมองแก้วใสด้วยสายตาที่ประมาทเด็กสาวหน้าใสคนนี้ไม่ได้เลย
"หน้าที่ปั้นเด็กเป็นหน้าที่ของชั้นไม่ใช่เธอ หนูดอก...พาแก้วใสกลับไป เดี๋ยวนี้"
หนูดอกรับคำแล้วเข้าไปล็อกแขน ฉุดกระชากลากแก้วใสออกไป หล่อนกัดฟันหัวเสียหันไปมองเน็กซ์ที่กำลังปาดซ้ายปาดขวาเล่นเจ็ตสกีอยู่ที่กลางบึง
หล่อนเข้ามาตะโกนเรียกเน็กซ์อยู่ที่ริมบึงอย่างสุดเสียง
"เน็กซ์....ชั้นสั่งให้เธอกลับเข้ามาเดี๋ยวนี้ เน็กซ์ ! กลับมาเดี๋ยวนี้ ได้ยินมั้ย"
เน็กซ์ไม่สนใจยังบิดเจ็ตสกีวนไปวนมาอยู่ในบึง
"ไอ้เด็กบ้า อย่ามาลองดีกับชั้นนะ ถ้าชั้นโกรธขึ้นมาจริงๆ แกตายแน่ ชั้นพูดจริงนะ คนอย่างมาดามพุชชี่ถ้าโกรธใครแล้วล่ะก็...ชั้นไม่เผาผีจริงๆด้วย"
หล่อนโวยวายเสียงดังไม่หยุด ก่อนที่เน็กซ์จะขับเจ็ตสกีเข้ามาจอดใกล้ๆท่า ห่างกันอยู่ 3-4 เมตร
"ตะโกนเป็นคนบ้าอยู่แบบนี้ ไม่อายชาวบ้านเขาเหรอไงป้า อ้อ...หรือว่าด้านจนชิน"
หล่อนปรี๊ด
"ไอ้...ไอ้เด็กบ้า ! ชั้นเตือนแล้วนะว่าอย่ายั่วโมโหชั้น"
"ก็ยั่วอยู่นี่แหละ แต่ป้าอยู่บนนั้นจะทำอะไรผมได้"
"คิดว่าชั้นสั่งสอนแกไม่ได้เหรอ หึ ไอ้เด็กบ้าเอ้ย"
หล่อนหันรีหันขวางก่อนจะก้มลงเก็บก้อนหินจากพื้นขึ้นมาหลายก้อนแล้วปาใส่
"นี่แน๊ะ...กลับเข้ามาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ฟังคำสั่งชั้นล่ะก็...ชั้นจะปาให้กบาลแยกเลย นี่แน๊ะ"
ก้อนหินนั้นปาโดนลำตัว 1 ก้อน
"โอ๊ย ! เจ็บนะป้า"
"ก็แกอยากดื้อกับชั้นทำไม คิดจะยั่วโมโหชั้นมันก็ต้องโดนให้หนัก..นี่แน๊ะๆๆ"
หล่อนปาหินใส่อีก เน็กซ์ทนรำคาญไม่ไหวเลยบิดคันเร่งเจ็ตสกีแล้วปาดท้ายสาดน้ำใส่หล่อนทันที...โครม !
น้ำสาดเข้าหน้าเข้าปากหล่อนไปเต็มๆ เน็กซ์หันมาหัวเราะชอบใจ
"ทีป้ายังไปเดทมีความสุขคนเดียวได้ ป้าก็ต้องรอให้ผมหายสนุกก่อนผมถึงจะยอมกลับ"
เน็กซ์บิดคันเร่งเจ็ตสกีออกไปกลางบึงเล่นต่อโดยไม่สนใจหล่อนที่ตัวเปียกโชก หล่อนกำมือกัดฟันแค้น ก่อนจะหันไปเห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นสองสามคนที่เพิ่งเล่นเพ้นต์บอลเสร็จ พวกนั้นถือปืนเพ้นต์บอลมาด้วย
หล่อนหรี่ตาคิดอะไรได้บางอย่าง
เน็กซ์ขับเจ็ตสกีจนพอใจแล้วก็ขับมาจอดเทียบท่าแล้วขึ้นมาบนฝั่ง เน็กซ์มองหาว่า หล่อนหายไปไหนแล้ว หล่อนถือปืนเพ้นต์บอลในมือและยืนหลบอยู่หลังเสาฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายเอาเรื่อง พอได้จังหวะที่เน็กซ์เผลอก็ กระโจนออกจากเสาแล้วยิงปืนเพ้นต์บอลใส่เน็กซ์ทันที ปุปุปุ เน็กซ์สะดุ้งร้องเจ็บ
"อู้ย...โอ้ย ...ป้า ทำอะไรเนี่ย เจ็บนะ"
"ก็บอกแล้วไงว่าอย่ายั่วโมโหชั้น ขอโทษชั้นแล้วตามชั้นกลับไป เดี๋ยวนี้"
"เล่นอาวุธเลยเหรอ ข่มขู่กันแบบนี้ ผมไม่กลับไปด้วยหรอก"
พูดไม่ทันขาดคำ หล่อนก็ยิงเพ้นต์บอลใส่อีก..ปุปุปุ
"จะกลับไม่กลับ"
"ไม่กลับ"
หล่อนจะยิงใส่อีก เน็กซ์เลยรีบวิ่งหลบ พุชชี่ไล่ยิงตาม จนเน็กซ์ไปหลบที่หลังเสา
"แน่จริงก็อย่าหลบสิ"
"พอได้แล้วน่าป้า อายุไม่ใช่น้อยๆแล้ว เล่นแบบนี้ระวังไขข้อเสื่อม แล้วจะหาว่าไม่เตือน"
"ว่าชั้นแก่อีกแล้วเหรอไอ้เด็กนรก แกตาย"
หล่อนวิ่งไปยังที่ซ่อนของเน็กซ์ ครั้นจะยิงใส่อีก แต่กระสุนขัดยิงไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ เน็กซ์เห็นโอกาสดีเลยรีบกระโจนออกมายื้อแย่งปืนจากมือ
"เรื่องอะไรจะยอมเป็นเป้าให้ป้าอยู่คนเดียว เอามานี่"
"ไม่ให้"
สองคนยื้อแย่งปืนกันไปมาอยู่ครู่หนึ่ง หล่อนก็ร้อง...โอ๊ย ! เพราะข้อมือที่ติณณภพช่วยพันผ้าให้เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก
"ไม่ต้องมาใช้แผนนี้เลย ผมเรียนแอกติ้งมาแล้ว"
หล่อนเจ็บจริง น้ำตาคลอผลักเน็กซ์ออกไปให้ห่างจากตัว
"ไปเลยไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กเกเร ถ้าเห็นว่าการยั่วโมโหชั้นเป็นเรื่องสนุกก็เอาเลย ชั้นยอมแพ้ แล้วก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำเลย ชั้นจะเลิกจู้จี้เลิกตามตื้อแก พอใจมั้ย"
หล่อนน้ำตาคลอเบ้าอย่างเสียใจและจะเดินออกไป เน็กซ์รู้สึกผิดเป็นอย่างมากเลยรีบเข้าไปขวาง
"หลบไปเลย อย่ามายุ่งกับชั้น อยากสนุกก็ไปหาอย่างอื่นทำ "
"หยุดโวยวายซะทีเถอะป้า ผมขอโทษ"
หล่อนชะงักที่เน็กซ์ยอมรับผิดเป็นฝ่ายขอโทษและยังจับมือหล่อนดูข้อมือที่พันผ้าเอาไว้อย่างนุ่มนวล
อ่านต่อหน้า 4
มาดามดัน ตอนที่ 4 (ต่อ)
แพตตี้คลิกดูภาพในอินเตอร์เน็ต
ยุวดีชะโงกดูด้วย แต่ดูกี่เวปๆก็มีแต่ภาพข่าวเน็กซ์จูบปากกับแก้วใส กับข่าวที่เน็กซ์ถ่ายคู่อินสตาแกรมกับแก้วใสสดๆร้อนๆเต็มไปหมด
"ไม่จริง ไม่จริง บ้า บ้า บ้าๆๆๆที่สุด"
"เฮ้อ...ดูกี่เวปกี่เวปในเน็ตนี่ก็พูดถึงแต่บักหมากับแก้วใสเหมือนกันหมดเลยนะคะ เดี๋ยว ดูดปาก เดี๋ยวชวนกันไปเล่นเสียว สงสัยว่าข่าวคงจริงไม่มั่วนิ่มแล้วล่ะคุณแพตตี้"
"ไม่จริง ! ชั้นไม่เชื่อ เน็กซ์จะต้องไม่นอกใจชั้น"
"ไปว่าเขานอกใจจะถูกเหรอคะ ก็ตั้งแต่เห็นเรียนหนังสือด้วยกันมา เขาไม่เคยบอกรักคุณแพตตี้เลยนี่คะ"
แพตตี้ชะงักหัวเกือบทิ่ม
"ยุวดี ! อยากทำงานอยู่ที่นี่หรือจะไปเก็บขี้วัวในไร่ เลือกมา"
"แหม...ก็ต้องดูแลคุณแพตตี้สิคะ"
ยุวดีว่าแล้วก็ตบปากตัวเอง
"นี่แน๊ะต่อไปจะไม่ปากเสียอีกแล้ว"
"หึ...ชั้นจะบอกให้นะ เน็กซ์อาจจะไม่เคยบอกรักชั้น แต่ทุกคนในบึงโขงหลงก็รู้กันดีว่า ชั้นกับเขาคือคู่ที่เหมาะสมลงตัวที่สุด มากกว่ายัยแก้วใสอะไรนั่นอีก"
"แต่เขาตามมาดามพุชชี่เข้าวงการไปแบบนี้แล้ว คุณแพตตี้จะดึงเขากลับมาได้ยังไงคะ"
นางหันมานิ่วหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะลุกไปส่องกระจกมองตัวเอง พลิกซ้าย พลิกขวา หมุนตัวไปรอบๆ รวบผมขึ้นมาเปิดคอทำปากเซ็กซี่
"แกว่าชั้นสวยพอจะไปเป็นดารากับเขาบ้างได้มั้ย ยุวดี"
"แหม...ถามอย่างนี้ได้ยังไงคะคุณแพตตี้ อย่างคุณน่ะสวยกว่ายัยแก้วใสแล้วก็ดาราอีกหลายๆคนเลยนะคะ"
"แกพูดจริงนะ...ไม่ได้พูดเพื่ออวยชั้น"
"จริงสิคะคุณแพตตี้ ยุวดีกล้าเอาหัวเป็นประกันเลย อย่างคุณน่ะเป็นซุปตาร์ได้สบาย"
นางมองตัวเองที่โพสต์ท่าบิดเอวแอ่นอกแล้วยิ้มชอบใจ
"งั้นชั้นจะไปเป็นดารา เพราะชั้นคือซุปตาร์ ที่คู่ควรกับเน็กซ์ได้คนเดียวเท่านั้น"
นางสลัดผม ยิ้มให้ตัวเองกับความคิดดีๆที่คิดอย่างมั่นใจ
เวลากลางคืน รถเจ้าม้าป่าและรถแก้วใสจอดอยู่ พุชชี่ถอดผ้าพันข้อมือออกแล้วนั่งจับข้อมือที่ยังรู้สึกเจ็บๆอยู่ ระหว่างนั้นเน็กซ์เข้ามาในบ้าน
"ให้ผมช่วยนวดให้มั้ยป้า"
หล่อนชายหางตามอง
"ถ้าคิดว่าขอโทษคำเดียวแล้วชั้นจะยกโทษให้เธอล่ะก็ อย่าหวัง กฎบ้านนี้ เขียนเอาไว้เพราะต้องการให้ทุกคนทำตามระเบียบเดียวกัน ไม่ใช่เขียนให้อ่านกันเล่นๆ"
"แต่ผมไม่ชอบอุดอู้อยู่ที่นี่ ทีป้ายังออกเที่ยวกับแฟนได้ ผมก็อยากออกไปเที่ยวสนุกมั่ง"
"นี่อิจฉาชั้นเหรอ"
"ก็ใครล่ะที่บอกว่าต้องดูแลผม 24 ชั่วโมง"
หล่อนหรี่ตามองแล้วหัวเราะสมเพช
"โธ่เอ้ย เด็กน้อย ขี้อิจฉาไม่เข้าเรื่อง แบบนี้เขาเรียกโตแต่ตัว ส่วนสมองน่ะโดนดอง"
เน็กซ์ฉุน
"เลิกว่าผมเป็นเด็กซะทีได้มั้ย"
"ก็ไอ้ที่เธอทำแบบนี้ไม่เรียกว่าเด็กแล้วเรียกว่าอะไร ทีเธอยังเรียกชั้นว่าป้าๆ ทั้งๆที่ชั้นอย่างมากสุดก็แค่พี่สาวเธอเท่านั้น"
"ก็ป้าขี้บ่น จุกจิก จู้จี้ แถมยังขึ้นคานอีก"
หล่อนเหวอ
"ไอ้เด็กนรก"
หล่อนพูดพร้อมเอามือข้างที่เจ็บทุบต้นแขนเน็กซ์ แต่เจ็บแปล๊บที่ข้อมือเลยร้อง...โอ๊ย ! เน็กซ์ตกใจเป็นห่วงรีบเข้าไปช่วยดูให้
"เจ็บอีกแล้วเหรอป้า"
หล่อนใช้สองนิ้วจิ้มลูกกะตาเน็กซ์ทันที เน็กซ์ร้องจ๊ากรีบปล่อยมือ หล่อนหัวเราะชอบใจ
"เป็นไงล่ะ...สมน้ำหน้า แค่นี้ก็ดูไม่ออกว่าชั้นมารยาใส่ โธ่เอ้ยเด็กน้อย นี่แหละมาดามพุชชี่ เธอไม่มีวันตามชั้นทันหรอก"
" ยัยป้าปีศาจ"
"หึ...ความผิดของเธอครั้งนี้ ชั้นจะเว้นโทษเอาไว้ก่อน แต่ต่อไปนี้ชั้นจะจัดแต่เมนูปลาให้เธอกิน จะได้ฉลาดทันผู้หญิง ไม่โดนเขาลากไปไหนมาไหนง่ายๆ"
หล่อนสั่งสอนแล้วเดินออกไป แต่หยุดนิ่งเพราะนึกได้
"อ้อ... เรื่องนี้ก็สำคัญมากๆ อยากให้จำใส่กะโหลกเอาไว้ด้วย ชั้นไม่ได้เขียนกฎขึ้นมาเพื่อทำให้ทุกคนต้องอยู่แล้วอึดอัด แต่ชั้นต้องฝึกพวกเธอให้รู้จักคำว่าวินัย เพราะมันคือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของนักแสดง"
หล่อนสอนแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ได้เล่นงานสั่งสอนเน็กซ์ให้แสบตา
หล่อนเข้ามานั่งที่ห้องทำงานแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หนูดอกที่กำลังนั่งพิมพ์เอกสารหน้าคอมพิวเตอร์อยู่หันมาเห็น
"ข้อมือหายเจ็บแล้วเหรอคะ มาดาม"
"อือ...ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ"
"ดีค่ะ งั้นหนูจะได้โทร.บอกกัปตันว่า มาดามหายเจ็บแล้ว"
"เขาโทร.มาเหรอ"
"แหมๆๆ รีบถามเลยนะคะ ใช่ค่ะ เมื่อกี้นี้เอง"
"แล้วทำไมไม่เรียกชั้นให้มารับสาย"
"ก็หนูเห็นมาดามกำลังอบรมบ่มนิสัยเน็กซ์อยู่ เลยไม่อยากขัดจังหวะ แต่ถ้ามาดามโทร.ไปตอนนี้เขาก็น่าจะยังรออยู่นะคะ"
หนูดอกยื่นโทรศัพท์ให้ หล่อนมองโทรศัพท์ในมือหนูดอกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปฏิเสธ
"ไม่ล่ะ...ดึกแล้ว ชั้นไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของเขา"
หนูดอกสงสัย
"หนูถามจริงๆค่ะ มาดาม กัปตันเขาก็ดีกับมาดามม๊ากมาก แล้วท่าทางมาดาม ก็ชอบเขาม๊ากมากเหมือนกัน แล้วทำไมมาดามถึงชอบทำเย็นชากับเขาบ่อยๆ ระวังนะคะ เล่นตัวกับผู้ชายดีๆแบบนี้ม๊ากมาก หลุดมือไปล่ะก็ ชาตินี้ขุดหาที่ไหนก็ไม่เจอ"
"หนูดอก...ชั้นว่าหล่อนจะเจ๊าะแจ๊ะเรื่องของชั้นมากไปแล้วนะยะ คดีแก้วใสวันนี้ คอหล่อนยังพาดอยู่บนเขียงอยู่นะ"
หนูดอกสะดุ้ง
"แหม...หนูแค่เป็นห่วงมาดามนะคะ ทำงานสายตัวแทบขาด ต้องคอยดูแลคนอื่น เจอเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ก็น่าจะได้รางวัลชีวิตเป็นคนดีๆมาคอยดูแลมาดามบ้าง"
หล่อนเสียงแข็ง
"พอได้แล้ว ! ถ้าชั้นเป็นได้แค่คนอ่อนแอต้องรอให้คนอื่นมาดูแล แล้วชั้นจะเป็นมาดามพุชชี่คอยดูแลคนอื่นได้ยังไง ออกไปได้แล้ว"
หนูดอกแปลกใจที่อยู่ๆ หล่อนก็โกรธขึ้นมา
"เอ่อ...มาดาม"
"ชั้นบอกให้ออกไปได้แล้วไง"
"ค่ะๆๆ"
หนูดอกรีบออกไปก่อนที่จะโดนลูกหลงมากกว่านี้ หล่อนมองตามแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบภาพของตัวเองสมัยเป็นพัฒศรีกับอารียาเพื่อนรักขึ้นมาดู น้ำตาของหล่อนคลอๆเมื่อนึกถึงอดีต
"ชั้นต้องเข้มแข็ง มาดามพุชชี่จะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด"
หล่อนนึกย้อนหลังไปประมาณ 6 ปีที่แล้ว
พัฒศรีเป็นผู้ช่วยของเจ๊เมี่ยงนั่งดูภาพถ่ายที่ติณณภพส่งมาทางจดหมายถึงเธอจากประเทศฝรั่งเศส จ่าหน้าถึง พัฒศรี ซองใบใหญ่ใส่รูปหลายใบพร้อมจดหมายลายมือของเขา
ภาพวิวสวยๆจากทั่วบริเวณชาร์โต้ที่ฝรั่งเศส แต่ละรูปสวยงามจนพัฒศรีอดทึ่งไม่ได้ และรูปสุดท้ายที่เธอดูคือรูปเขาที่ยืนอยู่หน้าชาร์โต้
ระหว่างนั้นเจ๊เมี่ยงแหลมหน้าชะโงกเข้ามาดูก่อนจะฉวยภาพทั้งหมดจากมือพัฒศรีไปดูเอง นางเห็นหน้ากัปตันติณณภพครั้งแรก
"ต๊าย...ตาย นี่น่ะเหรอยะ กัปตัณติณที่แอนเล่าให้เจ๊ฟัง หล่อเว่อร์นะเนี่ย... โอ้แม่เจ้า อย่าบอกนะว่า ชาร์โต้หรูๆเนี่ยของเขา" เจ๊เมี่ยงพูดพลางตกใจเว่อร์
"ไม่ใช่หรอกค่ะเจ๊ ของพ่อเลี้ยงเขาต่างหาก แม่พี่ติณเขาไปแต่งงานใหม่กับฝรั่งเจ้าของไร่ไวน์ที่ฝรั่งเศส"
"แหม...มรดกพ่อเลี้ยง งั้นก็แสดงว่าอีกไม่นานก็ต้องตกเป็นของเขานั่นแหละ"
นางดูรูปกัปตันติณณภพแล้วยิ่งชอบ ก่อนจะหันมามองหล่อนหัวจรดเท้าอย่างหยามเหยียด
"สารรูปร่างอย่างหล่อนนี่ ถ้าลีลาไม่แซ่บเว่อร์คงเอาหล่อครบเครื่องแบบนี้ไม่อยู่แน่"
หล่อนเหวอ
"เจ๊ ! หนูกับเขายังไม่ได้คบกันถึงขนาดนั้นนะ"
"แหมๆๆ ไม่ต้องมาขึ้นเสียงปรี๊ดกับเจ๊นะยะ ก็แค่อยากรู้ว่าหมามองเครื่องบินคบกันไปถึงไหนแล้ว เผื่อหล่อนมีปัญหาอะไรเจ๊จะได้เป็นที่ปรึกษาให้ได้"
"หนูพึ่งตัวหนูเองได้ค่ะเจ๊"
"ย่ะ..เก่งย่ะ งั้นหล่อนเอาเบอร์เขามาให้เจ๊เดี๋ยวนี้"
"จะเอาไปทำไมคะเจ๊"
"อ๊ะ...หล่อครบเครื่องขนาดนี้ เจ๊ก็ต้องเอามาทำปั๋ว...เอ้ย !! เอามาดันเข้าวงการสิยะ"
หล่อนรีบดึงรูปกลับ
"เสียใจด้วยค่ะเจ๊ พี่ติณเขาไม่ชอบวงการนี้ เขารักงานนักบินเขามากค่ะ"
"หนอยแน๊ะหล่อน อย่ามากั๊กเจ๊หน่อยเลย"
"หนูไม่ได้กั๊กนะคะเจ๊ เขาอยากให้หนูไปไหว้แม่เขาที่โน่น"
"อ้าว...แล้วงานเจ๊ล่ะ"
"หนูก็กำลังจะขอลาพักร้อนกับเจ๊อยู่นี่ไงคะ"
เจ๊เมี่ยงตบอกตกใจ
"แหมหล่อน เมืองนอกนะยะไม่ใช่ไปนอกเมือง งานชั้นเยอะแยะ หัวฟูจะบ้าตายอยู่แล้ว ละครที่แอนเล่นก็ใกล้จะออนแอร์ หล่อนยังจะไปลั้ลลากับผู้ชายอีก"
"แต่ว่า..."
"ไม่ต้องมาแต่...ชั้นไม่ให้หล่อนลา แต่ถ้าอยากจะลาหล่อนก็ต้องยื่นใบลาออกอย่างเดียว"
"อ้าว...เจ๊"
"ไม่ต้องมาอ้าวด้วย ชั้นไม่ได้อ้อนวอนขอหล่อนมาทำงานให้นะ หล่อนต่างหากที่ขอทำงานนี้เอง ไปเลย หอบเสื้อผ้าไปอยู่กับผู้ชายเลย แอนมันจะได้รู้ว่าหล่อนไม่ได้ห่วงมันอย่างที่หล่อนอ้าง ห่วงผู้ชายต่างหาก..ชิ"
นางเดินออกไปทิ้งหล่อนนิ่งมองภาพถ่ายของเขาที่หน้าชาร์โต้อย่างเสียดาย
ผ่านเวลามาเป็นเดือน ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายของการเตรียมถ่ายทำ music video ที่ต้องใช้เด็กหนุ่มๆสาวๆหล่อสวยมาเข้าฉากถ่ายทำมากมาย มี 2 ทีมคือ ทีมเจ๊เมี่ยงกับทีมนังโจ้ พัฒศรีเดินตามเจ๊เมี่ยงมาซุบซิบเตรียมแผนการที่มุมหนึ่ง
"ชั้นต้องย้ำหล่อนให้ขึ้นใจนะ ว่างานนี้สำคัญมาก เด็กที่เข้าฉากMVไม่ใช่แค่เด็กชั้น แต่ต้องไปป๊ะกับเด็กของนังโจ้มันด้วย"
"ค่ะเจ๊ เด็กของเจ๊เมี่ยงต้องเจิดที่สุด"
"ถูกต้อง ถ้าไม่เริ่ดก็เชิดใส่ ! เพราะฉะนั้นวิชากำลังภายในที่ชั้นติวเข้มหล่อนไป ท่องขึ้นใจได้แล้วใช่มั้ย"
"ได้ค่ะเจ๊ แต่ว่า...จะดีเหรอคะ ดูมันเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้"
นางหยิกและตีแขนไม่ยั้งทันที
"ว๊าย ! นี่แน๊ะนังพัฒศรี นี่แน๊ะๆ วงการนี้มันต้องเอาทุกทาง ไม่ได้ด้วยเล่ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่งั้นจะได้เจิดเหรอ"
พัฒศรีเจ็บแขนระบม ระหว่างนั้นติณณภพเข้ามาเรียก
"น้องพัฒ"
พัฒศรีกับเจ๊เมี่ยงหันไปเห็นติณณภพที่มาหาเธอทั้งๆที่เขายังอยู่ในชุดของนักบิน
"นี่พี่ติณมาทำอะไรที่นี่คะ"
"พี่มีเรื่องสำคัญต้องคุยกับน้อง เรื่องที่ชวนให้ไปฝรั่งเศสกับพี่"
"เอ่อ...พี่ติณคะ คือเรื่องนั้น"
เจ๊เมี่ยงรีบเข้ามาสอด และหันไปตาขวางใส่พัฒศรี
"ขอขัดจังหวะแป๊บนึงก่อนนะคะ คุณกัปตัน ชั้นบอกหล่อนไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าไปไม่ได้ นึกว่าหล่อนจะบอกเขาแล้วซะอีก"
"น้องพัฒ พี่รีบมาเพราะมีเวลาไม่มาก ขอเวลาพี่ครู่เดียว"
เจ๊เมี่ยงจิกหน้ามองพัฒศรีว่าไม่ให้เวลา เพราะมีงานต้องไปทำแถมกระซิบย้ำอีก
"งานชั้นรอไม่ได้แล้วนะยะหล่อน"
"พี่ติณคะ รอน้องทำงานเสร็จก่อนนะคะ นะคะพี่ติณ รอน้องก่อน"
พัฒศรีโดนเจ๊เมี่ยงลากตัวออกไป ติณณภพมองตามด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นักเพราะเรื่องหนักใจบางอย่าง
กัปตันแหงนมองดูนาฬิกาที่ผนังห้องของสตูดิโอ นาฬิกาบอกเวลา 3 ทุ่มเศษๆ
นาฬิกาบอกเวลาตี 3 ได้เวลาเลิกกกอง พัฒศรีรีบเดินเข้ามามองหาติณณภพแต่ไม่เจอตัว พอดีทีมงานเข้ามาบอก
"พี่คะ กัปตันนักบินที่เขารออยู่ตรงนี้ เขาฝากโน้ตนี่ให้ค่ะ"
พัฒศรีขอบคุณแล้วรับกระดาษโน้ตมาอ่าน
"แม่พี่เสียแล้ว พี่ต้องรีบกลับไปฝรั่งเศสคืนนี้ทันที คงจะไม่ได้กลับมาอีกพักใหญ่ เสร็จงานแล้วโทร.หาพี่นะ พี่อยากให้น้องไปร่วมงานศพแม่พี่ด้วย"
พัฒศรีตกใจ "พี่ติณ"
เจ๊เมี่ยงดึงโน๊ตไปอ่าน
"โธ่เอ้ย...นึกว่าเรื่องใหญ่โตอะไร ก็แค่แม่เสีย"
พัฒศรีหันขวับทันที
"เจ๊ ! เจ๊พูดแบบนี้ได้ไง เจ๊อิจฉาหนูใช่มั้ย เจ๊ถึงพยายามกีดกัน"
เจ๊เมี่ยงหน้าเหวอ
"หา ! ชั้นเนี่ยนะอิจฉา กีดกัน แรงนะยะหล่อน"
"แล้วใช่มั้ยล่ะเจ๊ พี่ติณเขาทั้งหล่อ ทั้งรวย หน้าที่การงานก็ดี เพอร์เฟคขนาดนี้ชาตินี้เจ๊ก็หาไม่ได้ เจ๊เลยหมั่นไส้ที่หนูคบกับเขา"
นางปรี๊ดแตก
"อ๊าย...อ๊าย...อ๊าย...นังพัฒศรี นี่หล่อนกล้าดูถูกเจ๊เมี่ยงเจิดเหรอ นังบ้า เดี๋ยวแม่ตบเลือดกบปากเลย"
นางเงื้อมือจะตบสั่งสอน แต่หล่อนฮึดยกมือขึ้นรับหมับแล้วจ้องเขม็ง
"หนูยอมเจ๊มามากแล้ว ถ้าเจ๊ตบหนู รอยมือบนหน้าหนูจะทำให้แอนเลิกทำงานกับเจ๊แน่"
นางชะงักแล้วรีบแกะมือพัฒศรีอย่างหัวเสีย
"นังบ้า กร้าวร้าว เชอะ ชั้นไม่เคยอิจฉาหล่อน ถึงกัปตันเขาจะหล่อเว่อร์จนชั้นอยากเข้าวินด้วย แต่ก็งั้นๆแหละ สดกว่า เอ๊าะกว่ารอ ต่อคิวเข้าหาชั้นยาวเหยียด"
นางพูดไม่ทันขาดคำเสียงเครื่องมอเตอร์ไซค์สี่สูบคันเท่ก็ดังแทรกเข้ามา เจ๊เมี่ยงหันไปโบกมือให้ ‘แดน’ "เห็นมั้ยยะ...หญ้าอ่อนยังไงก็เคี้ยวกรุบกริบอร่อยกว่าอยู่แล้ว เชอะ"
นางจะเดินไปหาเด็กหนุ่มแต่นึกออกเลยหันขวับมาเชิดหน้าสั่งสอนหล่อนอีก
"อ้อ...ชั้นเตือนในฐานะลูกน้องนะ กลับไปส่องกระจกดูตัวเองซะบ้าง เริ่ดเรอเพอร์เฟคแบบกัปตัน สักวันเขาก็ต้องเจอคนที่เริ่ดๆพอกัน ถ้าหล่อนไม่ทำใจไว้แต่เนิ่นๆ รับรองน้ำตาได้ เช็ดหัวเข่าแน่ .ชิ !! ถ้าไม่เริ่ดก็เชิดใส่"
หล่อนชะงักกับคำเตือนของเจ๊เมี่ยง ก่อนจะมองตามเจ๊เมี่ยงที่ขึ้นไปซ้อนท้ายเด็กหนุ่มแล้วหายไปด้วยกัน
วันใหม่ที่บ้านเจ๊เมี่ยง พัฒศรีเดินไปเดินมาด้วยสีหน้าครุ่นคิดตัดสินใจอย่างลำบากใจ ระหว่างนั้นอารียาแอบย่อง เข้ามาข้างหลังแล้วเอามือปิดตาพัฒศรี
"แอน...นี่แกเล่นอะไร"
"ชั้นมีเซอร์ไพรส์ให้แกน่ะสิ"
"อะไร"
"บอกแล้วจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้ไง แกต้องตามชั้นออกไปดูข้างนอก แล้วแกจะรู้เอง"
"แต่ชั้นมีเรื่องสำคัญอยากปรึกษาแก"
"เอาไว้ก่อนน่า ชั้นอยากให้แกดูเซอร์ไพรส์ชั้น หลับตาก่อน"
อารียารีบจูงมือพาพัฒศรีที่หลับตาออกไปด้วยกันนอกบ้าน
ที่หน้าบ้าน เซอร์ไพรส์ด้วยรถเปิดประทุนคันสวย รถเจ้าม้าป่า
"ลืมตาได้แล้ว แต๊แน๊ !! เป็นไงแก รถที่แกบ่นว่าอยากได้ไง"
หล่อนอึ้ง
"แอน ! นี่แก แกไปเอามาได้ไง"
"ก็ซื้อมาสิแก ชั้นเคยบอกแกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าชั้นดังขึ้นมาเมื่อไหร่ ชั้นจะซื้อเจ้าม้าป่า คันนี้ให้แก"
"ชั้นนึกว่าแกพูดเล่น คงแพงน่าดูเลยแล้วไปซื้อมาจากใครล่ะ"
"มันก็หาซื้อยากจริงๆนั่นแหละแก แต่โชคดีที่เจ้แอ๋มเขาช่วย ไม่งั้นชั้นคงซื้อไม่ได้หรอก"
แอ๋มก้าวเข้ามา
"แหม..น้องแอนก็ชมเจ๊เกินไป คนกันเองมีอะไรก็ช่วยๆกันค่ะ"
พัฒศรีชะงักหันไปมองแอ๋มกะเทยควายร่างใหญ่ ที่ดูแมนเกินกว่าจะเป็นแต๋ว พัฒศรีไม่เคยเจอเลยทำหน้าสงสัย
"ชั้นลืมแนะนำให้แกรู้จักเจ๊เค้า นี่เจ๊แอ๋ม เขาเป็นเพื่อนสนิทกับเจ๊เมี่ยง เป็นเลขากองประกวดที่เจ๊เมี่ยงให้ช่วยดูแลชั้นตอนประกวดมิสสมายแลนด์ไง"
"แกไม่เคยเล่าให้ชั้นฟัง"
"อ้าวเหรอ...ชั้นคงยุ่งจนลืมเล่ามั้ง"
"นี่น่ะเหรอคะพัฒศรีเพื่อนสนิทของน้องแอน"
"แหม..คบเพื่อนไม่เหมือนกันเลยนะคะ คนละสปีชีส์เลย"
เจ๊แอ๋มมองหล่อนมองหัวจรดเท้า หล่อนชะงักมองหน้าไม่พอใจ
"แหม...เจ๊ล้อเล่น อย่ามองหน้าเหมือนจะกินเจ๊แบบนี้สิ แอนเขามาเล่าให้ฟังว่าอยากได้รถคันนี้ พอดีเจ้านายเจ๊เขาเป็นนักเล่นรถ เขาก็เลยอาสาเป็นธุระหาให้"
"แอนต้องฝากเจ้ไปขอบคุณคุณจัตวามากเลยนะคะ"
"ฝากเจ๊ไปคำขอบคุณไม่ดีหรอกค่ะ ท่านเป็นผู้ใหญ่ ไว้น้องแอนว่างจากงานแล้วแวะไปทานข้าวกับท่านจะดีกว่า"
"ได้ค่ะเจ๊"
หล่อนไม่ค่อยไว้ใจดึงแขนเพื่อนมาคุยใกล้ๆ
"แอน ชั้นบอกแกแล้วไง แกจะคบใคร แกต้องบอกชั้น"
"ไม่มีอะไรหรอกน่าแก เจ๊แอ๋มเขาเป็นเพื่อนสนิทกับเจ๊เมี่ยงนะ"
พูดไม่ทันขาดคำระหว่างนั้นรถแท๊กซี่ขับเข้ามาจอด เจ๊เมี่ยงลงจากรถด้วยใบหน้าที่ฟกช้ำ ตาเขียว มุมปากยังมีเลือดซิบๆ ดูแล้วผ่านสภาพมีเรื่องอย่างหนักมาแน่ๆ
"ว๊าย...อกอีแป้น คุณพระคุณเจ้า นังเมี่ยง !! นี่หล่อนไปทำอะไรมา ทำไมหน้าหล่อนถึงได้เละเป็นปลาดุกชนเขื่อนมาแบบนี้เนี่ย"
"หุบปากแกไปเลยนังแอ๋ม อู้ยส์ เจ็บอ่ะ ฮือๆๆ"
เจ๊เมี่ยงระบมหน้าและเจ็บใจปนเสียใจก่อนจะรีบหลบลี้หนีหน้าเข้าไปในบ้าน แอ๋มมองตามแล้วสังหรณ์ ใจไม่ดี
"เจ๊ว่านังเมี่ยงมันต้องไปมีเรื่องมาแน่ๆ เจ๊ไปดูมันก่อนนะ"
แอ๋มรีบเดินตามเจ๊เมี่ยงเข้าไปในบ้าน พัฒศรีมองตามรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี แอนเข้ามาแตะแขน
"เจ๊แอ๋มเขารู้จักคนใหญ่คนโต เดี๋ยวก็คงช่วยจัดการเคลียร์ปัญหาให้เจ๊เมี่ยงได้ ว่าแต่แกเถอะเห็นเมื่อกี้บอกมีเรื่องจะคุยกับชั้น เรื่องอะไรเหรอ"
"เรื่อง....เรื่องพี่ติณ"
อารียาสีหน้าตกใจเมื่อเพื่อนรักมาปรึกษาเรื่องติณณภพ
"นี่แกจะบ้าเหรอยัยพัฒ ! แกยอมปล่อยให้พี่ติณไปโดยไม่ดูดำดูดีอะไรเลยเนี่ยนะ"
"ใครบอก ชั้นสงสารเขาจะตาย นอนไม่หลับกินไม่ลงมาหลายวันแล้วนะแก"
"เหรอ เป็นห่วงเขา ทรมานตัวเอง แต่ไม่คิดจะตามไปปลอบใจเขาเนี่ยนะ"
"ชั้นจะไปได้ไง ฝรั่งเศสนะแก ไม่ใช่รังสิต"
"แกอย่าเอาระยะทางมาอ้าง ชั้นรู้ว่าต่อให้พี่ติณไปตกระกำลำบากอยู่ถึงขั้วโลก แกก็ต้องดั้นด้นไปหาเขาจนได้ แต่ที่แกไม่ไปเพราะแกกำลังมีห่วงอยู่ที่นี่"
หล่อนชะงักเพราะที่อารียาพูดขึ้นมานั้นมันตรงจุด
"ก็ชั้นทิ้งแกไปไม่ได้นี่ ยิ่งเห็นแกต้องอยู่ร่วมกับพวกเสือสิงห์กระทิงแรดพวกนี้แล้ว ชั้นยิ่งทิ้งแกไปไม่ได้ใหญ่"
"แล้วให้ชั้นมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย เป็นดาราดัง ในขณะที่เพื่อนรักชั้นต้องกลายเป็นคนอมทุกข์เนี่ยนะ งั้นชั้นขอแลกแกกับความฝันของชั้นดีกว่า"
อารียาจะเดินออกไปหาเจ๊เมี่ยง แต่พัฒศรีรีบรั้งไว้
"แกจะทำอะไรของแก"
"ชั้นก็จะไปบอกเลิกสัญญาเจ๊เมี่ยง ไม่ต้องเป็นมันแล้วดารงดาราเนี่ย"
"จะบ้าเหรอแอน อีกนิดเดียวแกก็จะดังอยู่แล้ว ถ้าแกเลิกตอนนี้ ไอ้ที่ชั้นเหนื่อยดูแลแกมาแทบตายก็สูญเปล่าน่ะสิ"
"งั้นแกก็ต้องมีชีวิตของแกเองบ้าง จะมาคอยดูแลชั้นตลอดชีวิตไม่ได้อีกแล้ว"
"แอน"
อารียาน้ำตาคลอมองเพื่อนแล้วใช้สองมือประคองแก้มพัฒศรี
"เราโตมาด้วยกัน นิสัยแกชอบดูแลคนอื่นจนชิน ชั้นอยากเห็นคนดีๆมาดูแลแกบ้างนะ"
หล่อนมองเพื่อนไปก็น้ำตาคลอ
"เรื่องเจ๊เมี่ยง..ชั้นจะจัดการให้เอง"
เจ๊เมี่ยงนั่งเจ็บหน้าที่ระบม มีแอ๋มช่วยเอายาแดงป้าย แต่ยังมีอารมณ์หงุดหงิดหันมาต่อว่าพัฒศรี
"ไม่ได้...หล่อนไม่เห็นเหรอว่า ชั้นไปมีเรื่องจนหน้ายับมา แล้วยังมาขอลาไปลั้ลลาฝรั่งเศสอีก"
"แต่แอนเป็นคนบอกให้พัฒเขามาขอลาพักกับเจ๊เองค่ะ"
"น้องแอนขา งานเจ๊ยุ่งจนหัวฟู สภาพเจ๊ตอนนี้ต้องมีคนช่วยนะคะ"
"แต่เพื่อนแอนไม่ใช่ทาสค่ะ เขาทำงานหนักมาตลอด ถ้าเจ๊ไม่ให้เขาลา แอนนี่แหละที่จะเป็นปัญหาให้เจ๊มากกว่าเดิม"
"ต๊าย...นี่ขู่เจ๊เหรอเนี่ย"
นางผุดลุกด้วยความโมโห แต่ยังระบมทั้งหน้าทั้งตัวเลยร้อง...ซี้ด...เจ็บ
"นี่นังเมี่ยง ชั้นว่าหล่อนเลิกปรี๊ดเลิกจี๊ดกับเด็กมันซะทีเถอะ เรื่องตัวเองน่ะจะเอาไม่รอด อยู่แล้ว"
นางชะงักไปเพราะที่แอ๋มเตือนมาก็จริงอยู่ แอ๋มฉุดนางให้นั่งลงแล้วช่วยเอายาแดงป้ายแผลที่หน้า พลางซุบซิบไม่อยากให้ใครได้ยิน
"ก็อย่างที่คุยกันไปเมื่อตะกี้นั่นแหละ เรื่องของแก เจ้านายชั้นเคลียร์ให้ได้ อยู่ที่แกนั่นแหละจะโอรึเปล่า"
นางนิ่งมองหน้าแอ๋มแล้วคิดอย่างหนักใจ
อารียาถามย้ำ
"ว่าไงคะเจ๊ เพื่อนแอนต้องรีบบินไปนะคะ"
นางตัดสินใจอย่างหัวเสีย
"จะไปไหนก็ไป บ้าผู้ชาย ร่านนักก็ไสหัวไปเลย"
นางตวาดใส่พัฒศรีแล้วเชิดหน้าไม่มองแม้แต่หางตา หล่อนไม่พอใจที่ถูกนางร้ายใส่แบบนั้น แต่อารียาจับมือเพื่อนเอาไว้ให้ใจเย็นแล้วพยักหน้า
อารียาจูงมือพาพัฒศรีออกมาอีกมุมหนึ่งของบ้านอย่างดีใจ
"แกรีบไปหาพี่ติณนะ ไปให้เขารู้ว่าแกน่ะรักเขา ให้เขารู้ว่าแกไม่ใช่ผู้หญิงแกร่งอะไรเลย แกก็แค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งที่อยากจะมีผู้ชายดีๆมาดูไปตลอดชีวิต"
"แต่ชั้นก็ยังห่วงแกอยู่ดีนะแอน"
"โอ้ย...ไม่ต้องห่วงทางนี้แล้วแก อีกนิดเดียวชั้นก็จะได้เป็นดาราดังแล้ว ถ้าชั้นยังดูแลตัวเองไม่ได้ แล้วชั้นจะเป็นตัวอย่างที่ดีกับคนอื่นได้ไง จริงมั้ย"
หล่อนยิ้มรับแล้วพยักหน้าก่อนที่เพื่อนรักจะโผเข้ากอดกัน น้ำตาซึมตื้นตันกันสุดฤทธิ์
"สัญญานะว่าจะดูแลตัวเองดีๆ ฮือๆๆ"
"แกก็เหมือนกัน อย่าปล่อยให้พี่ติณหลุดมือ ชั้นอยากแต่งชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยๆ ไปงาน แต่งงานที่ปราสาทอย่างในเทพนิยาย"
"ไอ้บ้า เพ้อเจ้อ แต่ก็นะ ชั้นก็อยากเป็นเจ้าหญิงแต่งงานในปราสาทเหมือนกัน"
เพื่อนรักทั้งสองหัวเราะกันคิกคักมีความสุข ระหว่างนั้นแอ๋มเดินออกมายืนมองทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย พัฒศรีเห็นแอ๋มเข้ามายืนมองก็รู้สึกไม่ค่อยดี แต่แอ๋มกลบเกลื่อนความลับบางอย่างด้วยการฉีกยิ้ม และโบกมือให้อย่างเป็นมิตร จนหล่อนคิดว่าไม่มีอะไร
เวลาต่อมา พัฒศรีออกมายืนที่ริมถนน มองซ้ายมองขวา ความรู้สึกแรกที่ได้มายืนกลางปารีสคือตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจกับมหานครเมืองใหญ่ ที่มีหอไอเฟลอยู่ทางด้านหลัง
"เยส ! ในที่สุดชั้นก็มาถึงปารีสจนได้"
หล่อนกำมือทำท่าเยสด้วยความดีใจก่อนจะหยิบภาพถ่ายของติณณภพที่ถ่ายจากชาร์โต้ ขึ้นมาแล้วยิ้ม
"รอน้องก่อนนะคะพี่ติณ น้องกำลังจะไปปลอบใจพี่ถึงชาร์โต้แล้วค่ะ"
หล่อนทำสีหน้ามั่นใจสุดฤทธิ์ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางออกไปทางขวา
หล่อนลากกระเป๋ากลับมาจากทางขวาแล้วเกาหัวแกรกๆเพราะเดินไปผิดทาง ก่อนจะเดินเลือก เดินไปทางซ้ายแทน แล้วหล่อนก็เดินลากกระเป๋ากลับมาจากทางซ้ายแล้วขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย เพราะยังเดินไปผิดทาง คราวนี้เลยตัดสินใจเดินหน้า
"คราวนี้ไปถูกแน่"
หล่อนเดินลากกระเป๋าหอบแฮ่กๆกลับมาที่เดิม เหงื่อแตกเต็มหน้าแถมแขนก็เริ่มล้าเพราะกระเป๋าหนักๆ หล่อนรีบหยิบแผนที่ออกมากางเพื่อจะดูทางที่ถูกต้อง แต่แผนที่ที่เอามาด้วยเป็นแผนที่ขนาดใหญ่เลยต้องเอามาคลี่กางวางลงบนพื้น ก้มหน้าก้มตาดู พลิกซ้าย หมุนขวา เอียงหน้า เอียงหลัง ตะแคงดูทุกมุมก็ยังงง
"แผนที่อะไรของมันเนี่ย งงแล้วนะ"
หล่อนเริ่มหัวเสียหงุดหงิดตัวเอง ระหว่างนั้นมีเสียงคนไทยผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกเข้ามา
"มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะน้อง"
พัฒศรีดีใจ
"คนไทยเหรอคะ"
"จ้ะ..กำลังหลงทางเหรอคะ"
"ค่ะพี่..คือหนูเพิ่งมาครั้งแรก หนูจะไปหาเพื่อนที่ลัวร์ แต่หลงทางไม่รู้ต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีไหน รถไฟฟ้าใต้ดินที่นี่มันเยอะแยะไปหมด ทำเอาหนูมึนตึ้บไปหมดแล้วค่ะ"
"งั้นเอาแผนที่มาพี่บอกทางให้"
"ขอบคุณค่ะพี่"
หล่อนยื่นแผนที่ให้ดู คนไทยใจดีชี้บอกทางให้ตามแผนที่จนหล่อนเข้าใจ ส่วนผู้หญิงไทยอีกคนยืนประกบชิดพัฒศรีด้านที่มีกระเป๋าสะพายเพื่อกรีด
"อ๋อ..ทางนี้นี่เอง ขอบคุณมากค่ะพี่"
"ไม่เป็นไรจ้ะ คนไทยด้วยกันเจอกันต่างบ้านต่างเมืองก็ต้องช่วยเหลือกัน โชคดีในการเดินทาง...ฝรั่งเศสยินดีต้อนรับจ้ะ"
"ขอบคุณมากค่ะพี่"
หล่อนยกมือไหว้แล้วลากกระเป๋าเดินทางไป
อ่านต่อตอนที่ 5