มาดามดัน ตอนที่ 1
1 เดือนก่อนวันตัดสิน
ณ ช้อปปิ้งมอลล์แห่งหนึ่ง มัชฌิมา หรือที่ใครต่อใครในวงการบันเทิงรู้จักเธอดี ในชื่อ "เจ๊เมี่ยง" อยู่ในชุดสูทแดงแปร๊ด เท่ สวมแว่นกันแดดทรงเริด สะพายกระเป๋าแบรนด์เนม มีเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในสังกัดเดินตามหลัง
"เจ๊จองโต๊ะเอาไว้แล้ว เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว เจ๊จะพาไปไหว้ผู้ใหญ่ งานจะได้มีต่อเนื่อง"
มัชฌิมาบอกเด็กๆ แล้วเดินต่อไปได้แค่ไม่กี่ก้าว ก็ต้องชะงักหยุดที่หน้าร้านขายหนังสือข้างทาง เพราะเห็นพนักงานในร้านกำลังเอาพ็อกเก็ตบุ๊ก “เปลือยชีวิตมาดาม” ที่มีรูปมาดามพุชชี่เป็นปกถ่ายแบบเซ็กซี่ เปิดไหล่ขึ้นมาวางที่ชั้นโชว์ว่าเป็น หนังสือขายดีอันดับ 1
มัชฌิมาถึงกับลดแว่นลง
"นังพุชชี่! นี่หนังสือบ้าๆของแกขึ้นอันดับ 1 เลยเหรอ..บ้าที่สุด"
มัชฌิมาหมั่นเขี้ยวขบกรามแน่นเนื้อเต้นเจ็บใจไม่ทันไร ลูกค้าหญิงสาวในร้าน 2 คนที่เพิ่งซื้อหนังสือของมาดามพุชชี่ออกมาเจอมัชฌิมาก็หันมาซุบซิบนินทาชี้ชวนให้ดูตัวเป็นๆ
"ไม่น่าเชื่อเลยเนอะเธอ ว่าเจ๊เมี่ยงเป็นแม่เล้าของวงการ"
คำนินทานั้นได้ยินถึงหู มัชฌิมายิ่งปรี๊ดแตก อยากจะเข้าไปด่ากราดแต่ต้องรักษาภาพเลยได้แต่สะบัดหน้าแรงๆ เชอะ ! แล้วเดินออกไป คล้อยหลังมัชฌิมาที่เดินออกไปไม่นาน ดอกไม้ หรือ มาดามเฟเลอร์ ที่เจ้านายเธอ มาดามพุชชี่ เรียกเลขาฯ คนนี้ว่า "หนูดอก" แอบโผล่มามองตาม แล้วยิ้มชอบใจ
ในร้านอาหาร มัชฌิมาทั้งเหวี่ยงวีนระเบิดอารมณ์ใส่โทรศัพท์ไม่หยุด ส่วนมือก็เอาซ้อมจิ้มๆๆๆเนื้อสเต๊ก ตรงหน้าจนเนื้อแทบเละอย่างโกรธแค้น เด็กๆที่มาด้วยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
"อ๊าย... เมี่ยงปรี๊ดแตกแล้วค่ะคุณทนาย นังพุชชี่มันจงใจสะตอ ทำให้เมี่ยงเสียชื่อเสียง ทั้งๆที่เมี่ยงพามันเข้าวงการ ให้โอกาสมันจนได้เป็นมาดามพุชชี่ แต่มันกลับเนรคุณ อิจฉาริษยา อยากเขี่ยเมี่ยงให้ตกบัลลังก์ เลวชั่ว คุณทนายต้องหาทางจัดการกับมัน เอาให้มันล่มจมไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีก !"
ระหว่างที่มัชฌิมาปรี๊ดใส่โทรศัพท์ ดอกไม้แอบตามดูความเคลื่อนไหวของมัชฌิมาอยู่ในร้านด้วย ดอกไม้ได้ยินทุกคำพูด เลยเอาโทรศัพท์มากดโทร.ออกทันที
"มาดามคะ ปรี๊ดแตกอย่างที่มาดามคิดเอาไว้เป๊ะเลยค่ะ แถมยังคุยโวว่า จะเอาทนายมาเล่นงานมาดามด้วย ว่าไงนะคะ มาถึงลานจอดรถแล้ว ดีค่ะ จะได้มาหัวเราะเยาะใส่เจ๊เมี่ยงให้สะใจไปเลย"
แต่ดอกไม้ยังพูดไม่ทันจบ มัชฌิมาก็กระชากมือถือไปจากมือดื้อๆทำเอาดอกไม้เหวอในทันที
"นังหนูดอก ! นังขี้ข้าหน้าติ๋ม หนอย... คิดจะเรียกให้เจ้านายมาเยาะเย้ยชั้นเหรอ ชั้นจะบอกให้นะ ไม่มีใครเชื่อไอ้หนังสือลวงโลกของนังพุชชี่มันหรอก"
"อุ๊ยตายแล้วเจ๊ นี่ขนาดไม่มีคนเชื่อนะ ยังขึ้นอันดับ 1 หนังสือขายดีเลย โฮ๊ะๆๆ"
"หล่อน ! งั้นถ้าเรื่องนี้ถึงศาลเมื่อไหร่ล่ะก็ ทุกคนจะรู้ว่าชั้นน่ะบริสุทธิ์ ชั้นถูกนังพุชชี่มันแทงข้างหลัง"
"ว๊าย...คนบริสุทธิ์อย่างเจ้านายหนูคงแทงข้างหลังเจ๊ไม่ได้หรอก แต่พวกที่ชอบแทงข้างหลังเจ๊อ่ะน่าจะเป็น..."
ดอกไม้มองไปที่เด็กหนุ่มๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลังมัชฌิมาแล้วเอามือป้องปาก หัวเราะกวนตรีนสุดฤทธิ์
มัชฌิมาโกรธ เอามือบีบปากดอกไม้ จิกหน้าโหดแล้วผลักไปให้พวกเด็กหนุ่มๆล็อกตัวเอาไว้
"นังขี้ข้า ! เจ้านายหล่อนมาถึงแล้วใช่มั้ย ดี งั้นมันกับชั้นจะได้รู้กันว่า ใครคือผู้บริสุทธิ์"
พัฒศรี หรือ มาดามพุชชี่ เดินมาขึ้นรถที่ลานจอดรถ มัชฌิมาเดินตามมาโวยวายใส่
"หยุดเดี๋ยวนี้นะพุชชี่ หล่อนต้องเอาชื่อชั้นออกจากพ็อกเก็ตบุ๊กของหล่อน"
"ไม่" พัฒศรียืนยัน
"นี่หล่อน ! ได้ งั้นได้เจอกันในศาลแน่"
"เอาเลย ความจริงจะได้เปิดเผยซะที ชั้นรอเวลาเห็นเจ๊ถูกถีบให้ตกจากบัลลังก์จนขี้เกียจ จะรออีกแล้วเหมือนกัน"
"นังศิษย์คิดล้างครู แกมันนังอสรพิษ นังงูเห่าเลี้ยงไม่เชื่อง"
มัชฌิมาเข้าไปตบหน้าพุชชี่ทันที จนหน้าหัน นางเจ็บใจโกรธเอาเรื่องปรี่เข้าไปตอบโต้จิกหัวมาตบคืน ทั้งคู่ตบกันกระจายอย่างนัวเนียและแซ่บเวอร์
ท้องฟ้ามืดครึ้มเมฆฝนตั้งเค้าทะมึนแลดูบรรยากาศมาคุสุดๆ บ้านพัฒศรี เป็น บ้านเดี่ยวกว้างขวางตกแต่งอย่างสวยงามอยู่ในขั้นมีอันจะกิน พัฒศรี หรือที่ใครต่อใครในวงการบันเทิงรู้จักเธอในนาม "พุชชี่" เจ้าของฉายา "มาดามดัน" อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ยืนมองเมฆทะมึนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่กับเลขาส่วนตัวชื่อ "หนูดอก" ซึ่งมาจากชื่อไทย จริงๆว่า "ดอกไม้"
"เห็นมั้ยคะมาดาม ฟ้าฝนดูจะไม่เป็นใจ ไม่เข้าข้างมาดามแล้วนะคะ" ดอกไม้บอก
"ปากเสียนะหนูดอก...เดี๋ยวก็ตบปากฉีกเลย" พัฒศรีว่า
"อุ๊บส์...ขอโทษค่ะ แต่แหม...มาดามก็...เรียกชื่อหนูให้มันดูดีหน่อยไม่ได้เหรอคะ เดี๋ยว ใครมาได้ยินเข้าหนูอายนะ หนูดอก หนูดอกเนี่ย"
"ย่ะ มาดามเฟลอร์"
ดอกไม้หัวเราะคิกคักชอบใจ
"โอเครค่ะมาดาม งั้นนี่เลยหนูเตรียมของไว้สำหรับปัดเป่าความ ชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวงให้มาดามแล้ว"
ดอกไม้ยื่นตะไคร้กำใหญ่ให้ พัฒศรีเห็นแล้วอึ้ง
"ตะไคร้เนี่ยนะ"
"ตะไคร้เนี่ยแหละค่ะ เวิร์กสุดๆ มาค่ะ เรามาช่วยกันปักตะไคร้ไล่ฝน ไล่สิ่งอัปมงคลไป ให้พ้นๆชิ้วๆ"
พัฒศรีรับตะไคร้มาแล้วสีหน้ามุ่งมั่นพนมมือบนบานแล้วช่วยกันปักตะไคร้ลงที่สนามหญ้าหน้าบ้านทันที
ท้องฟ้าเมฆดำทะมึนเหมือนจะเคลื่อนตัวหนีสลายออกไป ทำเอาสองสาวหันมายิ้มตีมือไฮไฟว์ดีใจ
"เยส !"
ไม่ทันขาดคำ ทันใดนั้นเมฆดำก็ก่อตัวกลับมารวมกันมากขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังลั่น...เปรี้ยง !!
พัฒศรีกับดอกไม้สะดุ้งโหยงกระโดดกอดกัน ฝนห่าใหญ่ตกลงมาเต็มๆ เปียกปอนไปด้วยกันทั้งคู่
ทั้งคู่เนื้อตัวเปียกปอนวิ่งเข้ามาในบ้าน พัฒศรีโวยใส่ ดอกไม้ทันที
"หล่อนโกหกชั้นใช่มั้ย...หล่อนไม่ใช่สาวบริสุทธิ์"
ดอกไม้หน้าจ๋อยก้มหน้างุดๆไม่กล้าสบตา
"แหม...มาดามก็...หนูขอโทษ หนูลืมตัวไป แต่จะมาว่าหนูคนเดียวไม่ได้นะ"
ดอกไม้จิกหน้าหรี่ตามองพัฒศรีสุดฤทธิ์
"มาดามก็ปักตะไคร้กับ หนู ไอ้ที่ฝนมันตกลงมาห่าใหญ่ขนาดนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะมาดาม"
พัฒศรีรีบปฏิเสธทันที
"บ้า ! ชั้นบริสุทธิ์ย่ะ"
หน้าศาล เวลากลางวัน มัชฌิมา หรือ "เจ๊เมี่ยง" กะเทยสาวที่แต่งตัวจัดเต็มมาก หน้าผมเป๊ะ สูทที่ใส่ก็แบรนด์เนม สไตล์ย้อนยุค 60’s เท่ๆเก๋ๆ สวมแว่นดำเข้าชุดตอบคำถามนักข่าวเสียงหนักแน่น
"เจ๊ต่างหากล่ะคะที่บริสุทธิ์ เจ๊ถูกใส่ร้าย วันนี้เจ๊ถึงต้องมาขอพึ่งความยุติธรรม"
นักข่าวถาม
"แต่ทางมาดามพุชชี่ยืนยันว่า ที่เขียนเล่าไว้ในพ็อกเก็ตบุ๊กเป็นเรื่องจริงไม่มีสตอร์นะคะ"
นักข่าวชูพ็อกเก็ตบุ๊กชื่อ ‘เปลือยชีวิตมาดาม’ ที่มีรูปมาดามพุชชี่เป็นปกถ่ายแบบเซ็กซี่เปิดไหล่จัดเต็มมาก
มัชฌิมามองพ็อกเก็ตบุ๊กในมือนักข่าวแล้วก็นิ่งไป ตัวสั่นระริกๆเค้นอารมณ์ดราม่าสุดฤทธิ์
เด็กหนุ่มๆหล่อๆหน้าละอ่อน ซึ่งเด็กในสังกัดของมัชฌิมายืนเป็นแผงให้กำลังใจอยู่ข้างหลัง เข้ามาช่วยถอดแว่นดำออกให้ เห็นน้ำตานางร่วงพรูพลางสะอื้น
"คิดดูนะคะ ถ้าเจ๊เป็นแม่เล้าจริงอย่างที่ถูกใส่ร้าย เจ๊จะได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ เรียกหาเจ๊เมี่ยงเจิดมอบหมายหน้าที่หานักแสดงเก่งๆมาประดับวงการให้คนรักกันทั้งประเทศได้ยังไง...ฮือๆๆๆ...เจ๊เสียใจ เจ๊บริสุทธิ์"
มัชฌิมาบีบน้ำตาแล้วรีบหลบนักข่าวเข้าไปในศาล เด็กหนุ่มๆรีบตามหลังเข้าไป นักข่าวหันมารายงานกับกล้อง
"ท่านผู้ชมคะ...อีกไม่นานแล้วนะคะ คดีเมาท์แตกสนั่นวงการของนักปั้นมือทองที่ตอบโต้กันไปมาอย่างแสบสันต์และจี๊ดถึงใจก็จะจบลงด้วยคำตัดสินของศาล เรามาย้อนรอยดู กันนะว่ามหากาพย์ครั้งนี้เริ่มต้นยังไง ตามดูจากคลิปล้านวิวได้เลยค่ะ"
ประตูห้องพิจารณาถูกเปิดเข้ามา พื้นห้องราวกับเวทีแคทวอล์กในนิวยอร์ก พัฒศรีจัดเต็มชุดเสื้อผ้าสุดสวยหรู หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมเดินหน้ายิ้มเข้ามาพร้อมผ้าพันคอถอดลาย จากผ้าขาวม้าเด๊ะๆ ทุกคนในห้องที่มารอฟังการพิจารณาหันขวับมองอย่างอึ้งตะลึง ตึงๆ
ดอกไม้กระซิบบอก
"เห็นมั้ยคะมาดาม นี่ขนาดยังไม่พิจารณาคดีเลย ออร่าวิ้งๆของผู้ชนะ ถึงกับทำเอาตะลึงตึงๆกันไปทั้งห้อง"
"แต่ชั้นว่า ทุกคนจะตกใจกับผ้าพันคอลายกิ๊บเก๋ เล่นของของหล่อนมากกว่านะ"
มัชฌิมาเข้ามาแขวะทันที
"ต๊าย...ตายๆๆ มาผิดที่หรือเปล่ายะยัยพุชชี่ ที่นี่ศาลนะยะ ไม่ใช่ท้องทุ่งที่หล่อนจะโพกผ้าขาวม้ามาไถหว่าน"
"นังเจ๊เมี่ยง ! เชอะ...ปากดีไปเถอะ นังหน้าด้าน สมองน้องหมา ปัญญาน้องควาย"
"นังพัฒศรี...นี่แกหาว่าชั้นโง่เหมือนน้องควายเหรอ"
พัฒศรีอึ้งหน้าเสีย
"นังเจ๊เมี่ยง ! กล้าดียังไงมาเรียกชื่อจริงชั้นต่อหน้าประชาชีแบบนี้"
มัชฌิมาเชิดใส่
"โฮ๊ะๆๆ...ทำไมเหรอยะ ยัยพัฒศรี...พัฒศรี...พัฒศรี..พัฒศรี โฮ๊ะๆๆ"
พัฒศรีเจ็บใจอับอายที่ทุกคนในห้องพิจารณาคดีพากันหัวเราะคิกคักขำชื่อจริงของหล่อน เลยเหวี่ยงกระเป๋าถือแบรนด์เนมใส่มัชฌิมาทันที
"นี่แน๊ะ นังปากชักโครก"
"ว๊าย...นี่หล่อนกล้าเอาของปลอมเหวี่ยงใส่ชั้นเหรอยะ อี๊ย์..แหวะ น่าขยะแขยง ขนลุกขนพอง ผิวชั้นยิ่งแพ้ของปลอมอยู่ ถ้าผื่นขึ้นมาล่ะก็ ชั้นจะฟ้องหล่อนเพิ่มอีกคดี"
"นังบ้า...มาว่าของชั้นปลอมได้ยังไง ไม่เห็นโลโก้เหรอไง"
มัชฌิมาหรี่ตามองกระเป๋าแล้วหัวเราะเยาะน้ำเสียงเป็นต่อสุดฤทธิ์
"โฮ๊ะๆๆ ของจริง จริงเหรอยะ แต่ดูยังไงมันก็แพลตตินั่มชัดๆ"
พัฒศรียิ่งเจ็บใจที่ถูกดูถูกเลยเงื้อมือจะเข้าไปตบ มัชฌิมาก็เงื้อมือเตรียมจะลงมือใส่กัน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ศาล มาขัดจังหวะ
"พอกันได้แล้ว ถ้าคิดจะมาตีกันล่ะก็ ที่นี่มีห้องขัง"
ทั้งสองฝ่ายหน้าจ๋อยรีบลดมือลง แต่ยังจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
"คอยดูนะนังเจ๊เมี่ยง...วันนี้ชั้นจะยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้หล่อน"
"หล่อนต่างหากล่ะที่จะต้องร้องไห้ขี้มูกโป่ง นังงูเห่าเลี้ยงไม่เชื่อง"
สองคนจ้องหน้ากันเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใครจนแทบจะมีประกายไฟฟ้าออกมาช็อตใส่กันจากลูกตา
พัฒศรีเดินสวมแว่นดำอันโต ก้มหน้างุดๆออกมาพร้อมกับดอกไม้ ทั้งคู่พยายามก้มหน้าไม่ให้พวก นักข่าวเห็น แต่ก็ไม่พ้นสายตาอยู่ดี พวกนักข่าวทุกคนแห่เข้าไปรุมล้อมถ่ายภาพรัวชัตเตอร์ ไฟแฟลชวูบวาบ
"มาดามคะ...ผลการตัดสินออกมาแบบนี้ แสดงว่าทุกอย่างที่มาดามเขียนไว้ในพ็อกเก็ตบุ๊กก็เป็นเรื่องลวงโลก แหกตาประชาชนใช่มั้ยคะ"
หล่อนฟังแล้วโกรธ ถอดแว่นดำเหวี่ยงใส่ทันที
"ชั้นไม่ได้แหกตาประชาชน ชั้นไม่ใช่พวกลวงโลก ทุกอย่างที่ชั้นเขียนเป็นเรื่องจริง"
"ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วทำไมศาลถึงตัดสินให้มาดามแพ้ล่ะ"
พัฒศรีชะงัก หน้าเสียกำลังจะวีนปรี๊ดแตก แต่ดอกไม้รีบห้ามไว้ กระซิบบอก
"อย่าค่ะมาดาม โดนจ่ายค่าเสียหายไปตั้ง 8 ล้าน สักบาทก็ไม่เหลือ แล้วจะเอา ที่ไหนไปประกันตัว"
หล่อนชะงัก เจ็บใจทำอะไรไม่ได้ มัชฌิมาได้ทีเข้ามาซ้ำและเย้ยหยัน
"น้องๆคะ...เจ๊ว่าอย่าไปซ้ำเติมผู้แพ้เลยดีกว่า เจ๊รักสงบ เจ๊ชอบปรองดอง โฮ๊ะๆๆ"
พูดไป แต่นางก็เจิดเชิดฉายเข้าไปจิกหน้าใส่พัฒศรี
"ชั้นอภัยให้เธอได้นะ แต่ว่าชั้นก็อยากให้เธอยอมรับความจริงว่า นี่ไม่ใช่อาชีพที่เธอควรจะทำมาหากินอีกต่อไป ชั้นรักวงการนี้ เพราะฉะนั้นชั้นไม่อยากเห็นมันต้องแปดเปื้อน เพราะนิสัยตอแหล เห็นแก่ได้ของเธอ...พัฒศรี"
พัฒศรีขบกรามแน่นเจ็บใจ น้ำตาคลอ ระหว่างนั้นเสียงของหมอกี้ดังแทรกเข้ามา
"พี่เมี่ยงครับ"
ทุกคนหันไปเห็นหมอกี้นักแสดงหนุ่มหล่อถือช่อดอกไม้ช่อโตเดินเข้ามา ความหล่อของหมอกี้แทบจะเห็นเป็นประกายวิ้งๆออกมา
มัชฌิมาเสียงหวานหยดใส่นายแบบในสังกัด
"ตายแล้ว...คุณน้องหมอ"
"ผมมารอฟังข่าวอยู่ พอได้ยินว่า พี่ชนะคดีก็เลยอยากมาแสดงความยินดีกับพี่ครับ"
มัชฌิมาตบอก ทำน้ำตารื้น แอกติ้งควีนแสดงอารมณ์เว่อร์ทันที
"คุณน้องอ่ะ นี่...นี่...คุณน้องทำเอาเจ๊กลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้วนะเนี่ย"
นางบีบน้ำตาโอเว่อร์แอกสุดฤทธิ์ แอบชายหางตาเยาะเย้ยใส่พัฒศรีที่เห็นแล้วรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"น้องๆคะ เคราะห์หามยามร้ายของพี่ก็ได้ผ่านไปแล้ว พี่ก็อยากจะขอประกาศเรื่องดีๆ บ้าง ให้พี่ประกาศได้เลยใช่มั้ยคะ น้องหมอ"
"ได้ครับ"
มัชฌิมายิ้มหน้าบาน
"ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักหมอกี้ ดาวรุ่งพุ่งแรงชนิดดาวหางก็ฉุดไม่อยู่ใช่มั้ยคะ ตอนนี้คุณน้องหมอ พ่อเทพบุตรสุดหล่อของทุกคน ได้มอบความไว้วางใจให้พี่ เป็นผู้จัดการดูแลผลประโยชน์ให้แล้ว พี่สัญญานะคะว่า พี่จะใช้ความสามารถของพี่ ทั้งผลักทั้งดันให้น้องหมอเป็นซุป’ตาเบอร์หนึ่งให้ได้ค่ะ"
พวกนักข่าวพากันตื่นเต้นเข้ามารุมถ่ายรูปกันจ้าละหวั่น มัชฌิมากับหมอกี้ทำนิ้วประกบเป็นรูปหัวใจให้ถ่ายรูป
พัฒศรีกับดอกไม้ได้แต่ยืนดูตาปริบๆ แถมยังถูกนักข่าวที่เพิ่งมาใหม่เข้ามาเบียดจนเกือบจะล้ม ตอกย้ำความพ่ายแพ้และเจ็บใจสุดๆ
บนถนน ‘เจ้าม้าป่า’ รถเปิดประทุนรุ่นเก่าสไตล์อเมริกันเท่ๆ สีแดงเพลิงถูกพัฒศรีเหยียบคันเร่งซิ่ง สุดฤทธิ์ ปาดซ้าย ปาดขวา พร้อมกับเสียงร้องโวยวายตกใจกลัวของเลขาสาว
"ว้าย...เบาค่ะ ระวัง อ๊าย... อู้ย... เสียว ช้าลงหน่อยไม่ได้เหรอคะมาดาม" ดอกไม้บอก
หล่อนอยู่ในอาการสติขาดไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น เท้ากลับเหยียบคันเร่ง เร่งเครื่องให้เร็วขึ้นอีก
"มาดาม อย่าทำอย่างนี้เลย หนูกลัว ฉี่หนูจะราดอยู่แล้ว หยุดรถเถอะค่ะ"
พัฒศรีหน้านิ่งชายหางตามองดอกไม้ แล้วตัดสินใจแตะเบรกทันที...เอี๊ยด!! ที่ข้างทาง จนดอกไม้หน้าคะมำตามแรงเบรก
"อู้ย...เบรกซะหัวทิ่มเลย"
"ลงไป"
"จะให้หนูลงตรงนี้เหรอคะ"
"ก็ตรงนี้แหละ แกจะกลับบ้านไปสงกรานต์ไม่ใช่เหรอ รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวตั๋วเต็ม"
ดอกไม้นึกขึ้นได้
"ใช่ค่ะ...เกือบลืมเลย แล้วมาดามล่ะจะไปไหนเหรอคะ"
"ไปที่ชอบ ที่ชอบ"
"ว้าย...อย่านะคะมาดาม ถึงเราจะถูกยัดเยียดให้พ่ายแพ้ จนทำให้เราต้องหมดตัว แถมยังต้องเป็นหนี้อีกบานเบอะ แต่ชีวิตเราก็ยังมีค่าไว้ให้สู้ต่อได้นะคะ"
"ไม่ต้องมาเทศน์ชั้น ชั้นจะไปที่ที่ชั้นชอบ ไม่ได้บอกว่าจะไปตายสักหน่อย"
"อ้าว...ที่ไหนเหรอคะ"
"ไม่ใช่เรื่องของหล่อน ตอนนี้ชั้นอยากอยู่คนเดียว ลงไป"
"เอ่อ...แต่ว่า"
"หรืออยากให้ชั้นไล่หล่อนออก"
"ว้าย...ไม่เอาค่ะ หนูดอกไม่อยากตกงานตอนสงกรานต์ อายอีพ่ออีแม่ บ่อยากกลับไปขี่ควายไถนาที่บ้านนอก" ดอกไม้พูดด้วยสำเนียงอีสาน
"งั้นก็ลงไป"
ดอกไม้พยักหน้ารับหงึกๆ รีบเปิดประตูรถลงไปทันที พัฒศรีเข้าเกียร์แตะคันเร่ง เร่งเครื่องบรื้นๆแล้วพุ่งไปต่อ...
"มาดาม...มาดามคะ"
พัฒศรีลับตาไปพร้อมเจ้าม้าป่า ดอกไม้มองตามอย่างเป็นห่วงและสงสารเจ้านายสุดที่รัก ระหว่างนั้นโทรศัพท์หล่อนดังพอดี
"ฮัลโหล...นังเก๋งเหรอ เปลี่ยนเบอร์ก็ไม่บอกนะยะ มีอะไรว่ามา หา..ว่าไง นะ หล่อนอย่ามาสตอร์ชั้นนะไอ้ 180 - 30 - 36 ขั้นเทพ ไม่มีโมเนี่ย มันยังมีเหลืออยู่ใน ประเทศนี้อีกเหรอ แน่ใจนะหล่อน..งั้นถ่ายรูปมาให้ดูก่อน ชั้นถึงจะยอมเสียตังค์ย่ะ"
บรรยากาศในสนามฟุตบอลกำลังมีการแข่งฟุตบอลกันระหว่างนักศึกษา เน็กซ์ หนุ่มหล่อกองหน้าวิ่งออกปีกขวารอรับลูกบอลจากเพื่อนที่ส่งโยนยาวมาให้ เน็กซ์กระโดดตัวลอยเอาอก แตะพักบอลแล้วหยุดลูกลงพื้นอย่างเท่ค๊อดๆ
ที่ข้างสนาม แพรรตี หรือ แพตตี้ เชียร์ลีดเดอร์สาวหน้าสวยนุ่งกระโปรงสั้น กรีดร้องด้วยความดีใจ
"เท่อ่ะ น่ารักอ่ะ รักที่สุดเลยอ่ะ สู้เขานะเน็กซ์ แพตตี้เอาใจช่วย ได้ยินมั้ยเน็กซ์ สู้เขา !! เน็กซ์ สู้ๆ เน็กซ์สู้ๆ"
แพรรตีตะโกนสุดเสียงพร้อมเต้นเชียร์สุดฤทธิ์ เน็กซ์ที่อยู่ในสนามหันมายิ้มโบกมือให้อย่างเท่ เลยไม่ทัน ระวังฝ่ายตรงข้ามที่วิ่งกรูเข้ามาชาร์จแย่งลูก
"ว้าย...เน็กซ์ ระวัง"
เน็กซ์หันมาอีกที เจอฝ่ายตรงข้าม 2 คนเข้ามาชาร์จแย่งลูก
"เฮ้ย !"
โครม !! เน็กซ์โดนกระแทกตัวลอยแล้ว ฟุบแน่นิ่งไปบนพื้นสนามหญ้า ทุกคนรอบๆสนามพากันตกใจทั้งแพรรตี โค้ช เพื่อนในทีม และ นังเก๋ง ช่างภาพที่ทำงานให้ดอกไม้ที่กำลัง ถ่ายรูปเน็กซ์ทุกอิริยาบท
เน็กซ์ยังแน่นิ่งอยู่ที่สนาม ท่ามกลางสีหน้าลุ้นระทึกของทุกคนรอบสนาม
แพรรตีลุ้นพนมมือ
"เน็กซ์...อย่าเป็นอะไรนะ อย่าเป็นอะไรนะ"
กรรมการรีบเข้ามาดูและกำลังจะเนียกให้แพทย์สนามเข้ามา แต่เน็กซ์กลับยันตัวลุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างเท่ค๊อดๆ
เสียงเฮจากรอบๆสนามดังรับการลุกขึ้นมาเล่นได้อีกครั้งของเน็กซ์ โดยเฉพาะเสียงเชียร์ของแพรรตีที่ออกนอกหน้ามาก
"เน็กซ์...สู้ๆ อย่ายอมแพ้นะ เตะมัน ต่อยมัน กระทืบมัน ขยี้ๆๆอัดมันให้ตายไปเลย"
แพรรตีอกท่าออกทางเยอะมาก จนพวกเชียร์ลีดเดอร์และกองเชียร์พากันมองมาที่หล่อน แต่หล่อนหาได้แคร์ กลับสะบัดบ๊อบใส่แล้วก้าวออกไปโชว์สเต็ปเต้นเชียร์ลีดสุดฤทธิ์
นังเก๋งเป่าปากโล่งอกเพราะลุ้นไปกับเน็กซ์ ชีรีบยกกล้องติดเลนส์ซูมระยะไกลแล้วรัวชัตเตอร์ต่อไม่ยั้ง
สกอร์บอร์ดบอกแต้มว่า เสมอกันอยู่ 2 ต่อ 2 ประตูและเหลือเวลาอีกแค่ 2 นาที ในสนามเน็กซ์รับลูกจากเพื่อนร่วมทีม หยุดบอลด้วยท่าเท่ๆ ฝ่ายตรงข้ามที่เคยล้มเน็กซ์รีบวิ่งเข้ามา จะชาร์จเน็กซ์อีก แต่คราวนี้เน็กซ์ยิ้มมุมปากแบบร้ายนิดๆ ร้ายบริสุทธิ์
เน็กซ์เลี้ยงบอลหลบหลีกฝ่ายตรงข้ามไปทีละคน ลีลาพริ้วไหว หลบหลีกได้อย่างสวยงาม ทุกภาพทุกช๊อตล้วนถูก บันทึกเอาไว้โดยช่างภาพปริศนา
สกอร์บอกเวลาเหลืออีกแค่ 1 นาที
เน็กซ์เลี้ยงบอลหลบหลีกจนเกือบถึงหน้าประตูฝ่ายตรงข้าม แต่กลับถูกพวกมันบุกเข้ามาพยายามแย่งตัดบอล และสามารถแย่งเอาไปจากเท้าเน็กซ์ได้
เน็กซ์เสียบอลไปเลยหงุดหงิดเจ็บใจ กล้องของนังเก๋งบันทึกใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเน็กซ์ แต่ก็ยังดูหล่ออยู่ดี
เน็กซ์วิ่งไล่ตามบอลพยายามสุดฤทธิ์ที่จะแย่งบอลกลับคืน จนในที่สุดก็สามารถแย่งบอลคืนมาได้แล้วรีบเลี้ยง บอลกลับไปที่หน้าประตู
สกอร์บอกเวลาเหลืออีกแค่ 30 วินาที
โค้ชลุ้นอยู่ข้างสนามจนตัวโก่ง แพรรตีลุ้นจนตัวบิด เอาพู่เชียร์มาจิก ขยี้ทึ้งจนกระจุย เน็กซ์เลี้ยงบอลบุกไปที่หน้าประตูหลบหลีกกองหลัง 3-4 คนอย่างเทพมั่กๆ จนเหลือแค่ เน็กซ์และผู้รักษาประตูเท่านั้น เน็กซ์ง้างเท้าเตรียมชู้ตเต็มแรง
สกอร์บอร์ดเหลือเวลาอีกแค่ 10 วินาทีและนับถอยหลังอย่างรวดเร็ว
เน็กซ์ซัลโวซัดเต็มข้อเท้า ลูกบอลพุ่งโค้งเข้ากรอบสามเหลี่ยมขวาอย่างสวยงาม ลูกบอลตุงตาข่ายพร้อมกับเสียง เป่านกหวีดหมดเวลา
เสียงเฮลั่นของกองเชียร์ดังสนั่นสนาม แพรรตีกรีดร้องเสียงดังกว่าใครเพื่อน แทบจะลงไปชักดิ้นชักงอ
"แอร๊ย...นั่น นั่น แฟนชั้น แฟนชั้น สุดยอดอ่ะ"
แพรรตีมั่ว แต่เนื้อเต้นดีใจประกาศบอกทุกคน แต่ไม่มีใครสนใจ ต่างพากันวิ่งลงไปเฮดีใจกับนักฟุตบอลในสนาม
เน็กซ์ถูกเพื่อนๆในทีมจับยกตัวลอยฉลองชัยชนะอันสวยงาม ภาพทุกภาพของเน็กซ์ถูกบันทึกไว้ในกล้องของนังเก๋งเรียบร้อย ชียิ้มพอใจมั่กๆ
เจ้าม้าป่า รถของพัฒศรีจอดอยู่ที่หน้าทางเข้าสุสาน ส่วนหล่อนเดินเข้าไปด้านในของสุสานที่มีหลุมศพ เรียงรายดูสงบและบรรยากาศชวนเศร้าสร้อย
หล่อนเดินมาหยุดที่หน้าป้ายหลุมศพอันหนึ่ง ตัวอักษรที่เขียนบนป้ายเป็นชื่อของ ‘อารียา สุดสายธาร’ สู่สุขคติอันเป็นนิรันดร์ 2525 - 2550
พัฒศรีมองป้ายหลุมศพอย่างเจ็บปวด น้ำตาคลอเบ้าจนไหลออกมาเป็นทาง
"แอน...ชั้นทำไม่สำเร็จ เธออย่าโกรธชั้นนะแอน...ชั้นขอโทษ...ฮือๆๆ"
หล่อนทรุดลงนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นต่อหน้าหลุมศพ เป็นที่น่าเวทนาสงสารเป็นอย่างมาก
เหตุการณ์ในกองถ่ายแฟชั่น เมื่อ 6 ปีก่อน พัฒศรี และอารียา ต่างเป็นเพื่อนรักซึ่งทำงานเป็นฝ่ายเสื้อผ้าให้กับกองถ่ายแห่งหนึ่ง
ในตอนนั้น มาดามดัน พัฒศรี ลุคต่างจากปัจจุบันมาก เพราะหล่อนเชย ไม่แต่งตัว เป็นผู้หญิงบ้างาน ออกแนว ทอมหน่อยๆ ด้วยซ้ำ ส่วนอารียา เป็นสาวสวยหน้าตาน่ารัก ทั้งคู่ช่วยกันซ่อมเสื้อผ้าอยู่ในกองถ่าย
พัฒศรีซ่อมเสื้อผ้าไปก็มอง เจ้าหนูบี รถเต่ารุ่นใหม่เปิดประทุนคันสวย หรูดูดี ที่เอามาประกอบฉากกับ นางแบบ หล่อนสนใจอยากได้มากจนเผลอทำเข็มจิ้มนิ้วตัวเองร้อง...โอ๊ย
"มัวแต่มองรถคันนั้นอยู่ล่ะสิ ยัยพัด" อารียาบอก
"แหม...ก็มันสวยนี่ รถในฝันชั้นเลยนะแก นึกดูสิเวลาที่ขับไปตามถนนสวยๆเวลา พระอาทิตย์ตกดินโอ้ย... จิ้นแค่นี้ก็ฟินแล้ว"
"พอเหอะยัยพัด ไอ้ภาพฝันของแก ชั้นนึกตามไม่ออกหรอก ชั้นเห็นแต่ภาพแกซิ่งเวสป้า พระเจ้าเหาของแกอย่างเดียว"
พัฒศรีชะงักหน้างอหันไปมองรถเวสป้าเก่าๆ สีแปร๋นแล้วอมแก้มตุ่ยงอนเพื่อน
"แก !"
อารียาขำ
"ชั้นล้อแกเล่นน่า คอยดูนะ ถ้าชั้นได้เป็นดาราดังเมื่อไหร่ ชั้นจะซื้อรถนั่นให้แก เอาไว้ขับพาแกไปตามถนนสวยๆตอนพระอาทิตย์ตกดิน"
"รอให้แกเป็นดาราดังเนี่ยนะ...ชั้นขอซ่อมเสื้อผ้าพวกนี้เก็บตังค์ซื้อเองดีกว่า"
"ยัยบ้านี่...เบรกชั้นซะหัวทิ่มเลยนะ นี่แน๊ะๆ"
อารียาแกล้งเอาเข็มหมุดไล่จิ้มเพื่อนรัก จนพัฒศรีต้องรีบลุกหนี
สองสาววิ่งไล่กัน
"ไม่เอา...เจ็บนะนังแอน อย่าเล่นบ้าๆ ชั้นไม่ใช่หมอนปักเข็มนะ"
สองเพื่อนซี้วิ่งไล่เล่นกันสนุกสนาน ระหว่างนั้นมัชฌิมาพาเด็กในสังกัดมาเทสต์งานเดินเข้ามาพอดี อารียาไม่ทันระวังเลยชนโครมจนนางล้มก้นจ้ำเบ้า
"โอ๊ย ! ตาไปอยู่ที่ตาตุ่มเหรอไงยะหล่อน"
"ขอโทษค่ะ ขอโทษด้วยจริงๆค่ะเจ๊"
อารียารีบเข้าไปช่วยดึงนางให้ลุกขึ้น มัชฌิมาปัดมืออารียาแล้วมองหน้า ตอนแรกมีสีหน้าไม่พอใจ แต่พอได้เห็นหน้าของอารียาชัดๆ กลับรู้สึกถูกใจขึ้นมาจนมองไม่วางตา
ผู้ช่วยฯ เข้ามาพอดี
"เจ๊เมี่ยง...มัวทำอะไรอยู่ พาเด็กมาแคสด้วยรึเปล่า ผู้กำกับรออยู่"
"นัดไว้แล้วก็ต้องพามาสิยะ"
นางรีบพาเด็กสาวสวยเดินตามผู้ช่วยฯเข้าไปในกอง พัฒศรีเข้ามายืนประกบอารียามองตามมัชฌิมา
"แกรู้จักนังเจ๊ขี้วีนนั่นด้วยเหรอ" พัฒศรีถาม
"คนที่อยากเป็นดารารู้จักกันทั้งนั้นแหละแก...นั่นน่ะ เจ๊เมี่ยงเจิด นักปั้นมาแรงที่สุดตอนนี้ แล้วแกไม่เคยได้ยินสโลแกนของเจ๊แกเหรอ"
พัฒศรีส่ายหน้า
"ไม่อ่ะ...สโลแกนอะไร"
"อยู่กับเมี่ยงแล้วต้องเจิด ถ้าไม่เริ่ดก็เชิดใส่...เชอะ !"
แอนทำท่าสะบัดบ๊อบประกอบ พัฒศรีเห็นแล้วเบ้ปากไม่ชอบ
พัฒศรีเคาะประตูห้องพักทุบปังๆๆ
"แอน เปิดประตูให้ชั้นเดี๋ยวนี้นะ แอน"
พัฒศรีไม่ได้ยินเสียงตอบเลยรีบใช้กุญแจไขเข้าไปในห้อง แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นอารียากำปืนเอาไว้ในมือนั่งร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นเจ็บปวดรวดร้าว
"แอน อย่านะ ชั้นขอร้อง อย่าทำอย่างนี้เลย"
อารียาสะอื้น
"พัฒ..ชั้น..ชั้นทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้วฮือๆๆๆ ชั้นขอโทษนะแก"
"ไม่นะ แกอย่าทิ้งชั้นไปสิ ลืมไปแล้วเหรอว่า เราสัญญาว่าจะดูแลกัน"
"ฮือๆๆ ขอบใจนะแก แต่ชั้นทนอยู่กับความอับอายอีกไม่ได้แล้ว ชั้นรักแกนะเพื่อน ชั้นขอโทษ ฮือๆๆ"
อารียาน้ำตาไหลอาบแก้มแล้วยกปืนขึ้นมามองอย่างตัดสินใจ พัฒศรีร้องเสียงดังลั่น
"แอน!"
เสียงปืนดังลั่น...เปรี้ยง ! พัฒศรีที่ตกใจตะลึง ก่อนจะเห็นว่าเพื่อนรักได้ฟุบลงกับพื้นตายคาที่
พัฒศรีระเบิดเสียงร้องไห้จนแทบหัวใจสลาย
อ่านต่อหน้า 2
มาดามดัน ตอนที่ 1 (ต่อ)
พัฒศรีร้องไห้ออกมาจนหมดไส้ แล้วก็ปาดน้ำตากลั้นความเสียใจไว้
"ชั้นมันแย่จริงๆเลยนะแอน ทั้งๆที่เคยสัญญากันไว้แล้วว่าเราจะไม่ร้องไห้ จะไม่เอาน้ำตามาทำให้เพื่อนต้องเป็นห่วง"
พัฒศรีเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาแล้วสูดลมหายใจลึก หันมาตั้งมั่นต่อ
"วันนี้ชั้นอาจจะพ่ายแพ้ แต่ชั้นจะไม่ยอมแพ้ไปตลอด ชั้นจะเรียกร้องความยุติธรรมคืนมาให้แก แต่แกก็ต้องช่วยชั้นด้วยนะ หนี้สินของชั้นตอนนี้มันท่วมหัวไปหมดแล้ว แถม ชื่อเสียงชั้นก็ป่นปี้ ถ้าชั้นไม่ได้เพชรเม็ดงามมาช่วย ชั้นก็คงกระชากนังเจ๊เมี่ยงลงจากบัลลังก์ไม่ได้...แกต้องช่วยชั้นนะแอน"
ในบ้านพัฒศรี เวลากลางวันต่อเนื่องมา ดอกไม้เลื่อนเมาท์ไปที่ไฟล์ภาพที่โหลดมาจากคอมพิวเตอร์ และทันทีที่ภาพเท่ๆของเน็กซ์ที่ถูกถ่ายไว้ที่สนามฟุตบอลเด้งขึ้นมา นางถึงกับอึ้งตะลึงตึงๆๆ
"แม่เจ้า โอ้ว...ไม่ ไม่จริง นั่น นั่นไม่ใช่คน ... เทพ หล่อขั้นเทพเหนือเทพทั้งปวง"
ดอกไม้มัวแต่ตะลึงกับภาพถ่าย แต่จู่ๆคอมพิวเตอร์ก็ดับเดี้ยงทันที
"อ้าวเฮ้ย...คอมพ์เป็นอะไร...เวรกรรม มาพังอะไรตอนนี้เนี่ย"
ดอกไม้นึกขึ้นได้ รีบคว้าโทรศัพท์มากดโทรออก
"รับโทรศัพท์สิคะมาดาม...รับสิ"
เสียงโทรศัพท์ของพัฒศรีดังมาจากอีกห้อง ดอกไม้รีบเดินไปดูพบว่าโทรศัพท์ถูกลืมทิ้งไว้
"อ้าว...โธ่เอ้ย มาดามลืมโทรศัพท์ไว้ เอาไงดี...ช้าไม่ได้ด้วย ถ้านังเก๋งมันร้อนเงินขึ้นมา มีหวังโดนตะกวดตัวอื่นคาบลงน้ำไปกินแน่..เอาไงดีๆ"
เวลาต่อเนื่องมา ดอกไม้หิ้วกระเป๋าเดินทางอย่างรีบร้อนออกจากบ้านพร้อมกับหนีบโทรศัพท์คุยไปด้วย
"แกอย่าเพิ่งเอารูปให้ใครดูเด็ดขาดเข้าใจมั้ยนังเก๋ง ชั้นจะไปหาแกตอนนี้เลย ก็บินไปสิยะ ชั้นจองตั๋วกลับบ้านไปแล้วย่ะ...ห้ามให้ใครดูเด็ดขาด ไม่งั้นแกตายแน่" ดอกไม้สั่งกำชับ
ดอกไม้ขู่จริงจังแล้วตัดสายก่อนจะเดินออกจากบ้านพ้นไปทันที
พัฒศรีกลับเข้ามาในบ้านเวลากลางคืน เห็นบ้านเงียบเชียบ
"หนูดอก...หนูดอก โอเค เรียกชื่อนี้ไม่ออกมาใช่มั้ย มาดามเฟลอร์ยะ ยัยมาดาม เฟลอร์ !"
เรียกชื่อที่ถูกใจก็แล้วแต่ในบ้านก็ยังเงียบเชียบ จนพัฒศรีอดแปลกใจไม่ได้ เดินผ่านมาที่หน้าคอมพพิวเตอร์เห็นมีโน้ตข้อความเขียนทิ้งแปะอยู่ที่หน้าจอ หล่อนดึงขึ้นมาอ่าน
"มาดามคะ โชคเข้าข้างเราแล้วค่ะ นังเก๋งมันส่งรูป 180 - 30 - 36 ขั้นเทพ ไม่มีโม มาให้"
หล่อนตกใจ
"180 - 30 - 36 ขั้นเทพ ไม่มีโมเนี่ยนะ...สตรอแล้วยัยหนูดอก"
หล่อนอ่านข้อความต่อ
"อ๊ะๆๆ หนูดอกไม่ได้สตรอนะคะมาดาม อย่ามาหลอกด่าเสียให้ยาก"
หล่อนชะงักอีก "ยัยนี่"
"หนูคอนเฟิร์มเลยค่ะว่า เทพบุตรตัวจริง หล่ออย่างกับรูปปั้นเทพเจ้ากรีก ถ้ามาดามอยากเห็นตัวจริง ต้องรีบตามหนูมาที่บึงโขงหลง อย่าช้านะคะ มาดาม...รีบตามมาด่วน"
พัฒศรีนิ่งไปนิ่วหน้าครุ่นคิด
เช้าวันใหม่ ที่หน้าบ้านพัฒศรีหิ้วกระเป๋าเดินทาง สวมแว่นดำพันผ้าพันคอผืนสวย หูหนีบมือถือคุยไปด้วย
"ว่าไงนะ ! เครื่องบินเต็มหมดทุกไฟล์เลยเหรอ แล้วรถไฟล่ะ ... เต็มทุกขบวนด้วย งั้นรถทัวร์วีไอพีหรือหวานเย็นก็ได้ เอาแค่ไปส่งชั้นที่บึงโขงหลงได้ก็พอ หา..ไม่มี เลย โอ๊ย...ชั้นจะบ้าตาย"
หล่อนกดปิดสายแล้วหน้าหงุดหงิดสุดฤทธิ์
"ชั้นเกลียดสงกรานต์ ทำไมจะต้องแห่ออกไปต่างจังหวัดพร้อมกันวันนี้หมดเนี่ย"
หล่อนบ่นไปแล้วก็หิ้วกระเป๋าเดินทางมาวางที่เบาะหลังเจ้าหนูบี
"สงสัยแกต้องพาชั้นไปบึงโขงหลงแล้วล่ะ โอกาสที่ชั้นจะปลดหนี้สิน แล้วกลับมาทวงบัลลังก์คืนจากนังเจ๊เมี่ยง อยู่ที่บึงโขงหลงที่เดียวแล้ว"
หล่อนประจำที่นั่งคนขับท่าพร้อมสุดฤทธิ์ มือเสียบกุญแจสตาร์ทเครื่องอย่างมุ่งมั่น เสียงเครื่องรถดังกระหึ่มอย่างเท่ซะไม่มี แต่ทันใดนั้น...เครื่องก็ดัง...แคร๊กๆๆๆๆ หล่อนตกใจ
"ไม่นะ...แกอย่าทำกับชั้นแบบนี้นะ ไม่งั้นชั้นจับแกส่งเชียงกงแยกชิ้นส่วนแน่"
หล่อนรีบเอามือลูบคอนโซลรถพยายามโอ๋รถคู่ใจสุดฤทธิ์ เสียงเครื่องที่ดังเหมือนจะพังก็กลับมาดังเป็นปกติ หล่อนยิ้ม
"ดีมากหนูบี... มุ่งสู่บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ โลด"
พัฒศรีห้อตะบึงเจ้าหนูบีออกจากบ้านไปอย่างสวยงาม
ท่ามกลางงานวัดบึงโขงหลง ในเทศกาลสงกรานต์ มีการก่อกองทราย ทำบุญ สนุกสนานตามประสาชาวบ้าน ภายในศาลา ครูนิยมกับครูราศีเอาต้นผ้าป่าสามัคคีต้นน้อยๆ ไม่ใหญ่ไม่โตที่ร่วมกับชาวบ้านไม่เยอะมาถวาย ทุกคนต่างพูดในสำเนียงอีสาน
ราศรี ครูโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอวัย 45 ปีบอก
"นี่เป็นเงินจากพวกลูกศิษย์ที่เรียนจบไปแล้ว ช่วยกันรวบรวมมาทำบุญ ซื้อหลังคามุงโบสถ์หลังใหม่ค่ะหลวงพ่อ" ครูราศีบอก
หลวงพ่อบอก
"เกรงใจพวกโยมจริงๆ งานสอนก็ยุ่งพอแล้ว ยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทอดผ้าป่าอีก"
นิยม ครูใหญ่โรงเรียนประถมประจำอำเภอ วัยเดียวกับครูราศรีบอก
"เกรงใจทำไมล่ะครับหลวงพ่อ พวกเราลูกหลานบึงโขงหลงมีอะไรก็ต้องพึ่งพากัน เกิดที่นี่ โตที่นี่ สุดท้ายก็ต้องตายที่นี่ แล้วจะไม่ให้ตอบแทนแผ่นดินเกิดได้ยังไง"
เน็กซ์ หนุ่มลูกครึ่งไทย - ฝรั่งเศส วัย 23 ปี ใบหน้าคมคาย ล่ำ เท่สมาร์ท นักศึกษาปีที่ 4 กระซิบแม่
"แม่...ผมว่าให้พ่อลาออกจากตำแหน่งครูใหญ่แล้วไปลงเลือกตั้งดีกว่า ท่าจะรุ่งกว่าเยอะ"
นิยมเขกหัวเน็กซ์ทันที...โป๊ก!
"บักหมา...ถ้าข้าคิดจะเล่นการเมือง ป่านนี้ข้าเป็นนายกแล้วเว้ย"
"นายกสมาคมตลกเหรอพ่อ"
"เออ.." นิยมสะดุ้ง
"เว้ย...ไอ้ลูกหมา เดี๋ยวก็เตะให้ร้องเอ๋งเลย"
"เอาล่ะๆ เดี๋ยวพ่อหมาจะเตะลูกหมาตายซะก่อน เออ..ว่าแต่เอ็งเถอะบักหมาเรียนจบแล้ว เอ็งจะมาเป็นครูช่วยพ่อแม่เอ็งรึเปล่า"
คำถามของหลวงพ่อทำเอาทั้งครูราศี ครูนิยมและเน็กซ์พากันเงียบไป เพราะเป็นปมที่กำลังมีปัญหากันอยู่ในครอบครัว ครูนิยมกับเน็กซ์พูดพร้อมกันแต่ตอบกันคนละทาง
เน็กซ์/นิยม "เปล่าครับ / ช่วยครับ"
คู่พ่อลูกชะงักมองหน้ากัน นิยมดูไม่ค่อยพอใจคำตอบของลูกชายนัก บรรยากาศดูไม่ค่อยราบรื่น
ธีระ เสี่ยใหญ่เจ้าของการเกษตรขนาดใหญ่แห่งภาคอีสานพร้อม ลูกน้องและแพรรตีกับยุวดีพี่เลี้ยงของเธอพากันเข้ามาที่ศาลาเป็นการขัดจังหวะพอดี
"อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะครับ พี่น้องชาวบึงโขงหลงที่รักทุกคน...วันนี้วันดีขึ้นปีใหม่ของไทยเรา ได้ยินว่าทางวัดกำลังต้องการงบสำหรับบูรณะโบสถ์ใหม่ ผมก็เลย อยากมาร่วมทำบุญด้วย เอ้า...เอาผ้าป่าของเราเข้ามาเลยเด็กๆ"
ธีระสั่งลูกน้องเสร็จปุ๊บ ลูกน้องก็ทยอยยกกระถางผ้าป่าที่อลังการงานสร้างไปด้วยแบงค์พันและแบงค์ห้าร้อย จำนวนหลายกระถาง แต่ละกระถางก็ตกแต่งสวยงามเกินหน้าเกินตาของครูนิยมมาก
ธีระเห็นสีหน้าของนิยมที่ไม่พอใจแล้วก็ยิ้มชอบใจ มองกวนๆใส่แบบเกทับสุดฤทธิ์ เห็นว่าทั้งคู่ไม่ค่อยถูกกัน
ลูกน้องธีระเอากระถางผ้าป่าของนิยมหลบไปไกลๆ แล้วเอาของธีระที่ใหญ่เบิ้มกว่ามาวางแทน
นิยมพูดอย่างไม่พอใจ
"เฮ้ย..วันอื่นเอ็งไม่ว่างทำบุญเหรอไงวะ ถึงต้องมาทำวันเดียวกับข้า"
"อ้าว...เป็นถึงครูใหญ่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย แต่มาพูดจาสุนัขไม่รับประทานกับผู้ร่วมก่อการบุญได้ยังไงครูนิยม"
ธีระย้อนกวนๆใส่ นิยมชักสีหน้าท่าทางไม่พอใจจะเถียงแต่ถูกราศีดึงไว้
"ไม่เอาน่าพ่อ วันนี้วันบุญ ใจเย็นๆสิ"
แพรรตีห้ามพ่อตัวเองเหมือนกัน
"ป๋า..ไหนป๋าบอกจะไม่มีเรื่องกับครูใหญ่อีกไง"
หล่อนหยิกแขนพ่อซะ พูดต่อ
"นี่แน๊ะ ถ้าป๋าไม่ทำตามที่แพตตี้ขอล่ะก็...ได้เห็นดีกันแน่"
"โธ่...ก็มันกวนประสาทป๋าก่อนนี่"
"ไม่รู้ล่ะ รีบๆทำบุญให้เสร็จเร็วๆ แพตตี้เบื่อวัดจะแย่อยู่แล้ว"
หล่อนเดินสะบัดแล้วเข้าไปนั่งใกล้ๆกับเน็กซ์สบตาหวานๆ
"ดีจังได้ทำบุญขึ้นปีใหม่กับเน็กซ์ด้วย ชาติหน้าจะได้เกิดมาคู่กันอีก"
หล่อนฉีกยิ้มให้เน็กซ์ที่ยิ้มรับอย่างแกนๆตามมารยาท ธีระเห็นอาการที่ลูกสาวยิ้มให้เน็กซ์ก็ไม่พอใจหันสั่งยุวดี
"ชั้นสั่งให้แกคอยกันลูกสาวชั้นจากบักหมาไง แล้วแกมายืนบื้ออยู่ทำไม"
"แหม...คุณหนูลื่นยิ่งกว่าปลาไหล ไม่ใช่จับกันง่ายๆนะคะเสี่ย" ยุวดีบอก
"ถ้าแกจับไม่ได้ ชั้นจะถีบแกลงเรือส่งข้ามโขงกลับ ไปแล้วไม่ต้องมาอีก..ว่าไง"
"ชะอุ๋ย...ได้แล้วค่ะเสี่ย"
ยุวดีรีบแถเข้าไปเบียดกลางระหว่างเน็กซ์กับแพรรตี ตีหน้าโหดกันท่าสุดฤทธิ์จนแพรรตีชักสีหน้าไม่พอใจ
บริเวณลานวัด ชาวบ้านก่อกองทราย ขนทรายเข้าวัด ส่วนแพรรตีรีบดึงแขนพาเน็กซ์ออกมา
"รีบไปกันเถอะเน็กซ์ เดี๋ยวป๋ามาเห็น ชั้นขี้เกียจฟังป๋าบ่น"
"งั้นเธอก็ไม่ต้องไปกับชั้นหรอก เดี๋ยวชั้นจะมีปัญหากับป๋าเธออีก"
"แต่นี่มันสงกรานต์นะ จะให้ชั้นนั่งก่อกองทรายอยู่แต่ในวัดได้ยังไง อีกอย่างชั้นก็จัดเต็มมาแล้วด้วย"
ไม่ทันขาดคำ รถกระบะที่ขนแกงค์นักฟุตบอลเพื่อนเน็กซ์กับพวกเชียร์ลีดเดอร์เพื่อนแพรรตีขับเข้ามาจอด ทุกคนอยู่ในสภาพพร้อมไปลุยเล่นน้ำสงกรานต์สุดฤทธิ์ ระหว่างนั้นยุวดีที่ตามหาแพรรตีอยู่ เดินออกมาเห็นเข้า
"คุณหนู...คุณหนูคะ"
"ตัวสอดมาอีกแล้ว รีบไปกันเถอะเน็กซ์ เรื่องป๋าชั้นเคลียร์ได้ไม่มีปัญหา ป๋าไม่กล้าหือชั้นอยู่แล้ว"
แพรรตีกับเน็กซ์รีบไปสมทบกับเพื่อนๆบนหลังรถกระบะ
ยุวดีรีบวิ่งเข้ามา เจอพวกเด็กวัยรุ่นระดมฉีดน้ำจากปืนฉีดน้ำใส่เต็มหน้าจนล้มก้นจ้ำเบ้า รถกระบะพุ่ง ออกไป ยุวดีพยายามลุกแต่ก็ลื่นล้ม..ลื่นล้ม
"คุณหนู"
พุฒศรีขับเจ้าม้าป่ามาตามถนนเลนเดียวที่สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียวขจี เสียงหล่อนคุยโทรศัพท์กับดอกไม้ดังมาแต่ไกล
"ชั้นก็ขับตามที่แกบอกทางมาตลอดนั่นแหละ แต่แค่แวะหาปั๊มฉี่แป๊บนึง ออกมาอีกที ทำไมไม่เห็นเหมือนกับที่แกบอกเลยยะ"
พัฒศรีบ่นไปก็พยายามชะเง้อมองหาป้าย
"ป้าย...ป้ายอะไรของหล่อน ชั้นไม่เห็นมีป้ายบอกไปบึงโขงหลงสักป้าย"
สัญญาณมือถือเริ่มไม่ดี
"ฮัลโหล...ฮัลโหล นังหนูดอก ได้ยินชั้นรึเปล่า หา ว่าไงนะ เลี้ยวขวาเหรอ ฮัลโหล ฮัลโหล"
เสียงโทรศัพท์ขาดหายไปแล้ว หล่อนเริ่มเซ็งหนัก
"อะไรเนี่ย สัญญาณกากเหลือเกิน เลี้ยวขวาเหรอ เลี้ยวขวา"
พัฒศรีมองหาทางเลี้ยวขวาก่อนจะเห็นมีทางแยก เลยรีบหักเลี้ยวตามที่ได้ยินมาทันที แต่พอเลี้ยวเข้ามาแล้วก็ต้อง เบรกรถตัวโก่งหน้าเกือบทิ่ม
"ว๊าย !"
ทางตรงหน้าไม่มีถนนให้วิ่งต่อ เจอแต่ปรักควายที่มีควายตัวเขื่องนอนแช่โคลน เคี้ยวหญ้าอย่างอ้อยอิ่ง กระพริบตาปริบๆมองมา รอบๆรถก็มีแต่ควายที่เดินเข้ามาล้อมรถ
"นัง...นังหนูดอก นังบ้า !"
พัฒศรีร้องเสียงดัง ระหว่างนั้นควายเข้ามาล้อมรถหน้าหลัง เลียปากแพล่บๆ หล่อนยิ่งร้องตกใจ...แอร๊ย!
หล่อนถอยรถถอยหลังกลับสู่ถนนเส้นเดิมแล้วบ่นมาตามถนน
พัฒศรีขับรถบ่นมาตามถนนรอบเมือง เศษฟางเศษหญ้ายังเปรอะหัว จนต้องดึงทิ้งไปบ่นไป
"ยัยหนูดอก...ถ้าไอ้ 180-30-36 หล่อขั้นเทพไม่มีโมของหล่อน ไม่เข้าขั้นเทพเจ้า กรีกทิศอีสานอย่างที่โม้ล่ะก็ หล่อนได้อยู่ไถนาที่บ้านนอกนี่ตลอดชีวิตแน่"
หล่อนบ่นไปได้ครู่ก็ต้องเบรกรถเอี๊ยดอีกครั้ง ตรงหน้าเธอคือ กลุ่มวัยรุ่นที่จอดรถเล่นน้ำสงกรานต์ เล่นแป้งกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน
หล่อนอึ้ง
"ไม่นะ...หน้าชั้น รถชั้น ชั้นเกลียดวันสงกรานต์ !"
หล่อนไม่ยอมแพ้ ต้องผ่านถนนเส้นนี้ไปให้ได้จึงแตะคันเร่งขับต่อ มือก็บีบแตรไล่ไปตลอดทาง...ปื้นๆๆ แต่ก็ไม่วายโดนวัยรุ่นสองข้างทางเข้ามาทาปะแป้งใส่หน้าใหญ่
"ไม่เอา...อย่ามายุ่งกับชั้น ไป ไปให้พ้น"
หล่อนบ่นพลางบีบแตรไล่และขับรถช้าๆไปตามถนนที่มีวัยรุ่นเต็ม หน้าเธอเลอะแป้งจนเกือบขาววอกเละเทะ ระหว่างนั้นแกงค์ของแพรรตีกับพวกเพื่อนๆ สาววัยรุ่นถือปืนฉีดน้ำเข้ามาขวางหน้ารถ ไม่ให้หล่อนไปต่อแถมยังเล็งเตรียมจะฉีดน้ำใส่ หล่อนชี้หน้าขึ้นเสียงใส่ทันที
"อย่านะ หยุดเลย…ชั้นไม่เล่นสงกรานต์ ถ้าทำชั้นเปียกล่ะก็ โดนด่าสามวันไม่จบจริงๆ"
แพรรตียิ้มร้ายไม่สนใจ เปิดฉากฉีดน้ำพุ่งใส่หน้าพัฒศรีจนน้ำเข้าปาก ทุกคนหัวเราะกันสนุกสนาน
"ว้าย…นังลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไอ้เด็กบ้า !"
"อ้าวป้า…นี่มันวันสงกรานต์นะ ถ้าไม่อยากเปียกก็กลับไปนอนบ้านพักคนชราสิ"
หล่อนเหวอไปทันที
"นัง...นังเด็กบ้า ใครป้าแก…เดี๋ยวตบปากฉีกเลย"
"ก็เอาสิยัยป้า ตัวๆเลยก็ยังได้"
"ท้าเหรอ…ไม่รู้จักชั้นซะแล้ว"
พัฒศรีรีบลงจากรถจะเอาเรื่อง แต่เน็กซ์แหวกกลุ่มทุกคนเข้ามา ใบหน้าของเน็กซ์เขรอะไปด้วยแป้งหนาเตอะ จนจำแทบไม่ได้
"ไม่เอาน่าป้า ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วย"
"จะไปขอโทษทำไม ยัยป้ามหาภัยเนี่ย มันด่าถึงพ่อแพตตี้เลยนะ"
หล่อนยิ่งฉุน
"อ๊าย.ไอ้พวกเด็กนรก คำก็ป้า สองคำก็ป้า ชักทนไม่ไหวแล้ว"
หล่อนเหวี่ยงมือตบ…เพี๊ยะ ! แต่ไม่ได้โดนหน้าแพรรตีเพราะเน็กซ์เอาหน้าตัวเองมารับไว้แทน ทุกคนอึ้ง เน็กซ์หน้า นิ่งไม่ขยับ
"เกินไปแล้วยัยป้า แค่เล่นสงกรานต์แค่นี้ถึงกับต้องลงไม้ลงมือ ไม่รู้ซะแล้วว่าชั้นลูกใคร"
แพรรตีจะตบคืน แต่เน็กซ์ห้ามเสียงดัง
"ไม่ต้องหรอกแพตตี้ แค่ขอโทษคำเดียวทุกอย่างก็จบ"
"ให้ชั้นขอโทษเหรอ ฝันไปเถอะ ไม่เรียกตำรวจมาจับไปให้หมด ก็บุญเท่าไหร่แล้ว..ชิ"
พัฒศรีเชอะใส่แล้วจะกลับเข้าไปขับรถ แต่กลับถูกเน็กซ์เข้าไปแย่งดึงกุญแจรถออกมาซะก่อน หล่อนหันขวับจิกหน้า
"นี่แก !"
เน็กซ์ยักคิ้วควงกุญแจของรถอย่างยียวนและกวนประสาทพร้อมมีเรื่อง
บริเวณบ้านสวยงาม ของดอกไม้เป็นบ้านชาวไร่ฐานะปานกลาง นางกำลังนับแบงค์พันในมือ จนครบ 3000 บาทแล้วยื่นให้นังเก๋ง
"แค่นี้เองเหรอยะ นังดอก"
"เรียกชื่อชั้นสั้นๆห้วนๆแบบนั้น เดี๋ยวก็ไม่ให้เลยนี่"
"ก็ลองดูสิยะ หล่อขั้นเทพแบบนั้น ไม่ใช่มีแค่หล่อนกับมาดามหรอกนะที่ตาเป็นมันน่ะ"
"นังเก๋ง !! แหม..ได้ทีล่ะก็เอาใหญ่เลยนะแก ก็ได้ย่ะ ชั้นพิเศษให้อีก แต่แกต้องหุบปากให้เงียบ อย่าสะเออะปากแหลมล่ะ...เอาไป"
ดอกไม้เพิ่มให้อีกสองพัน เก๋งรับเงินมาแล้วยิ้มชอบใจ
"ก็แค่นี้แหละย่ะมาดามเฟลอร์ รับรองเงียบกริบแน่ แล้วถ้าเจอเด็ดๆอีก จะส่งมาให้อีก"
"ย่ะ...ไปได้แล้ว"
เก๋งเดินออกไป ดอกไม้มองตามยังเก๋ง แล้วดูเวลาจนชักสงสัย
"ป่านนี้ทำไมมาดามยังไม่มาอีกเนี่ย...คงไม่หลงทางข้ามโขงออกไปฝั่งโน้นนะ"
ดอกไม้ถอนใจชักเป็นห่วง
พัฒศรีชี้หน้าเอาเรื่องกับเน็กซ์และพยามแย่งกุญแจคืน แต่เน็กซ์ล่อหลอกไม่ให้
"ไอ้เด็กบ้า…เอากุญแจรถชั้นคืนมาเดี๋ยวนี้นะ บอกให้เอาคืนมา"
"ผมขอโทษแทนเพื่อนผมไปแล้ว ป้าก็ควรขอโทษด้วยเหมือนกัน แล้วผมจะคืนให้"
"ชั้นไม่มีวันขอโทษเด็กนรกอย่างแกหรอก..เอาคืนมา !"
"ถ้าผมมันเด็กนรก คุณมันก็ป้าปีศาจ เป็นผู้ใหญ่ถ้าทำนิสัยไม่ดี ขอโทษเด็กมันไม่เสียศักดิ์ศรีหรอก"
เน็กซ์พูดไปก็กำมือที่ถือกุญแจรถทำท่าเขวี้ยงไปไกลๆตรงกลุ่มที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์กัน หล่อนเหวอและอึ้งทันที
"กุญแจรถชั้น ไอ้...ไอ้เด็กนรก ไอ้บ้าเอ้ย"
พัฒศรีรีบวิ่งเข้าไปก้มๆเงยหาท่ามกลางพวกวัยรุ่นที่สาดน้ำกันโครมๆ
"สมน้ำหน้า..ไปเถอะเน็กซ์ ไปหาที่เล่นที่อื่นต่อเถอะ อยู่แถวนี้เซ็งยัยป้านั่นแล้ว"
"ไปก่อนเถอะแพตตี้ เดี๋ยวตามไป"
ก็ได้..เร็วๆนะ"
แพรรตีกับพรรคพวกพากันออกไป เน็กซ์หันไปมองที่หล่อนที่ก้มๆเงยหากุญแจรถ สภาพโดนกระหน่ำทั้งแป้ง ทั้งปืน ฉีดน้ำทุลักทุเล แถมด่ากราดทุกคนอีก
"อย่ามายุ่งกับชั้นนะ ไปให้พ้น กุญแจรถชั้นอยู่ไหน อยู่ไหนเนี่ย"
เน็กซ์ยิ้มชอบใจ
"ป้า..ป้า !! กุญแจรถป้ายังอยู่นี่"
เน็กซ์ชูมือขึ้นให้เห็นว่า กุญแจรถยังอยู่ในมือ ไม่ได้เขวี้ยงทิ้งไปจริงๆ หล่อนเจอแบบนี้เข้าก็จิกหน้าโกรธสุดฤทธิ์
"ไอ้เด็กนรก...แกหลอกชั้น !"
เน็กซ์ยิ้มเยาะชอบใจ โยนกุญแจรถคืนให้ไปตกลงที่เบาะก่อนจะเดินออกไป หล่อนรีบคว้ากุญแจกำแน่นจิกหน้า อาฆาตไล่หลัง
"หนอย...กล้าเล่นงานมาดามพุชชี่อย่างชั้น วันนี้แกได้เห็นนรกของจริงแน่ ชั้นไม่ปล่อย แกไปหรอก"
หล่อนรีบเข้าไปนั่งที่รถ เสียบกุญแจแล้วบิดเพื่อสตาร์ท แต่ทว่า เสียงเครื่องดังครืนๆ ก่อนจะดับสนิท
"เฮ้ย...อะไรอีกเนี่ย ไม่ ไม่นะเจ้าม้าป่า ไม่ใช่ตอนนี้ อย่าเกเรกับแม่สิลูก"
หล่อนพยายาม แต่สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งถือปืนฉีดน้ำเข้ามายืนข้างๆ ประตูรถแถมยังเรียกป้าอีก
"ป้า..ป้า..นี่แน๊ะ !"
หล่อนโดนเด็กเอาปืนฉีดน้ำเข้าหน้าเข้าปากก่อนที่เด็กจะรีบวิ่งเตลิดไป หล่อนเจ็บใจกรีดร้องเสียงดังลั่น
"อ๊าย!"
ในเวลากลางคืน ดอกไม้ชะเง้อคอมองรอเจ้านายจนร้อนใจไม่เป็นส่ำ
"ป่านนี้ยังมาไม่ถึงอีก ยังไงกันเนี่ยมาดาม"
ดอกไม้บ่นไป ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงรถเข้ามา เลยหันไปมองแล้วตกใจ
"มาดาม"
พัฒศรีนั่งหน้างอ ตาเขียวปั๊ด เซ็งเป็ดสุดฤทธิ์ หน้าตาหัวเหอเต็มไปด้วยแป้งเล่นสงกรานต์ นั่งรถอีแต๋นของชาวบ้านที่ลากเจ้าหนูบีมาตามถนนลูกรังเข้าสู่บ้านดอกไม้ นางรีบวิ่งออกมาดู
"โอ้ว..แม่..เจ้า ! หนูบอกให้มาดามรีบตามมา แล้วนี่อะไรคะเนี่ย แอบไปเล่นสงกรานต์มาซะงั้น"
พัฒศรีเจ็บใจเข้าไประดมหยิกเลขาฯทั้งตัวทันที หาที่ลงระบายแค้น
"นังบ้า นี่แน๊ะๆ ไว้ชั้นคิดบัญชีกับไอ้เด็กนรก นั่นได้เมื่อไหร่ แกเจอชั้นเป็นรายต่อไปแน่"
หล่อนหัวเสียหน้าเหวี่ยงเดินเข้าบ้านไปทันที ดอกไม้เจ็บระบมไปทั้งตัวและหน้างงๆ
"อะไรของมาดามเนี่ย..อู้ย"
พัฒศรีนั่งบ่นอยู่หน้ากระจกโบ๊ะสารพัดครีมบำรุงผิวหน้า แปะทั้งมะเขือเทศ แตงกวา อโวกวาโดสุดฤทธิ์
"ไอ้เด็กนรก ถ้าหน้าชั้นสิวเห่อ ฝ้าถามหาขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็ ฮึ่ม !"
ดอกไม้เดินเข้ามา
"มาดามคะ...มาดาม"
หล่อนหันหน้ามา ดอกไม้ตกใจร้องเสียงหลงเพราะหล่อนโบ๊ะหน้าหน้าเตอะเหลือแต่ลูกกะตา
"แอร๊ยๆๆ ผีบ้านผีเรือน ผีป่า ผีกระหัง ผีกระสือ อย่ามาหลอกมาหลอนลูกเลย อยากกิน อะไรลูกจะทำบุญไปให้"
"ยัยหนูดอก อย่ามาเยอะ เดี๋ยวแม่ก็จับกินตับซะเลยนี่"
หล่อนแกล้งทำตาถลนเลียปากแพล่บๆ จีบมือเป็นผีปอบหยิบ
"แหม...ก็มาดามเล่นโบ๊ะซะขนาดนี้ หนูเป็นพวกขวัญอ่อนกระเสาะกระแสะ ไม่ฉะ...บาย เกิดตกใจช็อกตายขึ้นมา มาดามจะขาดคนรู้ใจ ขาดเลขารู้งานนะคะ"
ดอกไม้ทำตัวออดอ้อนจับมือหล่อนมาจูบมาเลียสุดฤทธิ์
"พอ ! หยุดเลียชั้นได้แล้วยิ่งอารมณ์เสียอยู่"
"แหม...ช่างเด็กพวกนั้นมันเถอะค่ะ เทศกาลสงกรานต์ก็งี้แหละ"
"ไม่ต้องมาพูดดีเลย เพราะหล่อนนั่นแหละ ถ้าพรุ่งนี้ไม่พาชั้นไปเจอไอ้เทพเจ้ากรีกทิศอีสานอย่างที่หล่อนอวดอ้างให้ชั้นดั้นด้นมาล่ะก็...ชั้นจะกินตับหล่อน แฮ่ !"
พัฒศรีทำท่าจกเป็นผีปอบแล้วไล่งับไล่จก ดอกไม้ร้องตกใจวี้ดว้ายแล้วรีบวิ่งออกไปจากห้อง หล่อนหัวเราะชอบใจแล้วหันมานั่งบำรุงผิวต่อ อดคิดถึงเด็กนรกที่เจอวันนี้ไม่ได้ นึกแล้วมันอาฆาต
"คอยดูนะไอ้เด็กนรก ถ้าชั้นเจอแกอีกล่ะก็ มาดามพุชชี่คนนี้จะทำให้แกฝันร้าย ไปตลอดชีวิต !"
เวลากลางคืน เน็กซ์ขับกระบะมาส่งแพรรตีที่บ้าน หลังจากเล่นน้ำสงกรานต์เสร็จและค่อนข้างดึกแล้ว
หล่อนทำซึ้งเอาผ้าเช็ดหน้าช่วยเช็ดคราบแป้งบนหน้าให้เขา
"พรุ่งนี้เน็กซ์ซ้อมใช่ไหม เจอกันที่สนามนะ"
หล่อนส่งสายตาวิ้งๆให้เขาสุดฤทธิ์ แต่เสียงปืนก็ดังขัดจังหวะ..เปรี้ยง ! ธีระหน้าเหี้ยมจ้องเขม็งไปที่เขาอย่างเอาเรื่องพร้อมเอาปืนส่อง
"ไอ้บักหมา ลูกสาวข้าเลี้ยงมา มดไม่เคยให้ไต่ ไรไม่เคยให้ตอม แต่เอ็งกลับพาไปปู้ยี้ปู้ยำ เอ็งตาย"
แพรรตีรีบเข้าขวาง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะป๋า ไปกันใหญ่แล้ว แพตตี้แค่ไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเน็กซ์มา"
"ป๋าไม่เชื่อ แพตตี้อย่าไปหลงเชื่อไอ้หน้าหล่อๆของมันนะลูก พวกหน้าตาดีสันดานมันไม่ได้ดีอย่างหนังหน้ามันหรอก"
"ป๋าคะ...ป๋าอย่าเอาปมด้อยเรื่องหน้าตามาตัดสินคนอื่นสิ"
ธีระชะงัก
"นี่...นี่แพตตี้ว่าใคร"
ยุวดีพูดสอด
"ก็ว่าเสี่ยไงคะ ทั้งบึงโขงหลงเขาเมาท์กันทั้งนั้นแหละว่า หน้าอย่างเสี่ยโชคดีที่ได้บักสีดามาทำเมีย ไม่งั้นลูกสาวไม่ออกมาสวยเริ่ดแบบนี้หรอก"
ธีระจ้องเขม็งใส่ยุวดี ทำเอานางกลัวหัวหดรีบถอยไปหาที่หลบ เน็กซ์ไม่ยอมให้ถูกเข้าใจผิดเข้าไปยืนเผชิญหน้ากับธีระที่เอาปืนจ่อหน้า เขาไม่มีอาการสะดุ้งหรือหวาดกลัวแต่อย่างไร
"ผมไม่รู้ว่า ผมเคยไปทำอะไรให้เสี่ยไม่พอใจ แต่ผมไม่เคยล่วงเกินแพตตี้แม้แต่นิดเดียว ผมสนิทกับเธอเหมือนว่าเป็นน้องสาวคนหนึ่ง"
หล่อนอึ้ง หล่อนรีบควงแขนถามย้ำ
"แค่น้องสาวเองเหรอเน็กซ์"
ธีระรีบเข้าไปกระชากแขนดึงหล่อนออกมาจากเขา
"จะเป็นน้องสาวหรือเป็นอะไร ชั้นก็ให้แกยุ่งกับแพตตี้ไม่ได้ทั้งนั้น ชั้นขอเตือนแกไว้เลยนะ ไอ้บักหมา อย่าให้ชั้นเห็นแกยุ่งกับลูกสาวชั้นอีก ไม่งั้นล่ะก็"
ธีระยิงปืนขึ้นฟ้าเสียงดัง...เปรี้ยง ! ข่มขู่
"ป๋า !"
"เข้าบ้าน"
ธีระจับมือลูกสาวฉุดกระชากลากดึงพาเข้าบ้านไปด้วยกัน เขามองตาม แล้วอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมธีระถึงต้องแสดงความจงเกลียดจงชังเขามากมายขนาดนี้
แพรรตีหน้าปั้นปึ่งงอนเข้ามา
"ป๋าสั่งเด็ดขาดเลยนะแพตตี้ ห้ามเรายุ่งกับไอ้เน็กซ์อีก ถ้าแพตตี้ไม่ฟัง ป๋าจะ..."
"จะทำไมแพตตี้เหรอคะป๋า"
แพรรตีเชิดหน้ามองอย่างไม่กลัวคำขู่ ทำเอาพ่อถึงกับชะงักเพราะเคยโอ๋ตามใจลูกสาวมาตลอด
"ป๋า...ป๋าก็จะ"
หล่อนน้ำเสียงเชือดนิ่มๆ
"จะอะไรอีกเหรอ บอกมาสิคะป๋า แพตตี้จะได้เตรียมตัวถูกว่ารอบนี้ จะไม่พูด ไม่มองหน้าป๋ากี่วันดี ของเก่าแค่เดือนเดียวใช่มั้ยคะ"
พ่อเสียงอ่อนลงทันที
"แพตตี้..อย่าทำกับป๋าแบบนี้สิลูก"
"งั้นป๋าก็บอกเหตุผลมาสิ ว่าทำไมป๋าถึงไม่ชอบหน้าเน็กซ์เขาขนาดนั้นด้วย"
"ก็...ก็ มันเป็นลูกของไอ้ครูใหญ่ที่ป๋าไม่ชอบขี้หน้ามันไง"
"ผู้ใหญ่ไม่ชอบหน้ากันแล้วเกี่ยวอะไรกับเด็ก ถ้าป๋าห้ามไม่ให้แพตตี้มีเพื่อนดีๆ แพตตี้ก็ จะไปคบพวกนักเลง พวกกุ๊ยพวกอันธพาล หรือจะชวนพวกลูกน้องป๋าไปเที่ยวดีนะ"
"แพตตี้ !"
หล่อนสะบัดหน้าหันหลังให้แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์น่ารักๆที่แผนการขู่ป๋าวิธีนี้ได้ผลตลอดๆ ก่อนจะเดินไป
วันใหม่ เน็กซ์นั่งผูกเชือกรองเท้าอยู่หน้าบ้าน ราศีเดินมาคุยกับลูกชาย
"วันนี้มีซ้อมเหรอบักหมา"
"ครับแม่"
"แม่ถามจริงๆนะ เรื่องงานของเอ็งน่ะ..ตกลงยังไง"
เน็กซ์นิ่งไปครู่
"พ่อให้มาถามเหรอครับ"
"เปล่า...แม่อยากรู้เอง ตอนเล็กๆ เอ็งบอกอยากเป็นครูเหมือนพ่อแม่ แต่ว่าตอนนี้เอ็งว่า จะไม่เอาแล้ว"
"ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจอาชีพครูนะครับแม่ เพียงแต่ว่า ผม..."
สีหน้าเขาดูมีบางอย่างที่อยู่ในใจจนราศีสงสัยอยากรู้
"ทำไมเหรอบักหมา"
เขากำลังจะตอบ แต่ระหว่างนั้นครูนิยมกลับหน้าตึงโมโหสุดๆเข้ามา
"ไอ้บักหมา"
ราศีให้นิยมนั่งลงใจเย็นๆ
"ใจเย็นๆน่าพ่อ จะไปเอาอะไรกับคำพูดของคนแบบนั้น"
"เธอจะให้ชั้นทนฟังมันโพนทะนาว่าลูกชายเราไปล่อลวงลูกสาวมันเหรอ"
"บักหมามันก็บอกแล้วว่า มันไม่ได้ทำอะไรแพตตี้จริงๆ"
"พ่อก็อย่างนี้แหละครับ ฝากบอกเขาด้วยนะครับแม่ เวลาผมพูดอะไรพ่อไม่เคยเชื่อหรอก ฟังแต่คนอื่นตลอด"
นิยมฉุน
"เธอก็บอกมันด้วยนะ ถ้ามันเชื่อฟังชั้น ไม่ไปยุ่งกับลูกสาวไอ้ธีระ ชั้นก็ไม่ต้องมาอับอายลูกศิษย์ลูกหาแบบนี้หรอก"
"งั้นถามเขาให้หน่อยสิครับแม่ เหตุผลอะไรผมถึงคบเพื่อนไม่ได้"
"ฝากตอบมันด้วย เหตุผลเดียวคือเป็นลูกอย่าสร้างปัญหาให้พ่อแม่เดี๋ยวจะมีบาปติดตัว"
ราศีรำคาญ
"โอ๊ย..พอกันได้แล้ว อะไรๆก็มาลงที่ชั้นคนเดียว ถ้าชั้นตายไปขึ้นมาล่ะก็ช่วยผ่าครึ่งแล้วแยกเอาไปเผาให้ด้วย..รำคาญ !"
ราศีระเบิดอารมณ์เบรกสองพ่อลูกให้หยุดประชดประชันใส่กัน ทั้งคู่จึงหยุด แต่นิยมก็ยังลุกมาทิ้งท้ายใส่เน็กซ์
"ชั้นเป็นพ่อแก ป้อนข้าวป้อนน้ำ อดหลับอดนอนเลี้ยงแกมา ถ้าแกทำให้ชั้นสบายใจไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกชั้นว่าพ่ออีก"
นิยมเดินออกไป ทำเอาเน็กซ์รู้สึกอึดอัดไม่เคลียร์กับเหตุผลของพ่อ
"แม่...ทำไมพ่อถึงไม่มีเหตุผลเลย"
ราศีถอนใจแตะบ่าเน็กซ์ให้ไป
"เอ็งไปซ้อมฟุตบอลเถอะ แม่จะคุยกับพ่อเขาเอง"
นิยมยังอารมณ์เสีย นั่งถอนใจอยู่ในสวน ราศีตามมาจับบ่า
"ปล่อยๆบ้างเถอะพ่อ เด็กมันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ไปบังคับมันมาก ยิ่งจะไปทำให้มัน อยากขุดคุ้ยเรื่องของมันนะ ชั้นเตือนเท่านี้แหละ"
ราศีบอกสามีแล้วก็ปล่อยให้อยู่คิดไปคนเดียว
อ่านต่อหน้า 3
มาดามดัน ตอนที่ 1 (ต่อ)
ในบริเวณสวนของบ้านหรูหราราคาแพงของมัชฌิมา นางในชุดคลุมลายแบรนด์เนมเว่อร์ๆ สบายๆ เดินคุยมาตามทางเดินกับทนาย
"แหม...เมี่ยงดีใจจังเลยค่ะ ที่ภรรยาคุณทนายชอบของขวัญที่เมี่ยงส่งไปให้"
ภรรยาผมอยากได้กระเป๋ารุ่นนี้มานานแล้ว แต่ไม่เคยไปต่อคิวซื้อทันสักที"
"งั้นต่อไปบอกคุณพี่เลยนะคะ ว่าถ้าอยากได้รุ่นไหน สีไหน กริ๊งกร๊างมาหาเมี่ยง เดี๋ยวจัด ลัดคิวปรู๊ดปร๊าดทันใจให้เองค่ะ"
"ขอบคุณมากครับคุณเมี่ยง"
"อุ๊ยตาย ไม่ต้องขอบคุณเมี่ยงหรอกค่ะ เมี่ยงต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณทนายที่ช่วยให้ เมี่ยงพ้นจากการถูกสังคมนินทา"
ผมก็ทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่นั่นแหละครับ ที่คุณเมี่ยงชนะได้เพราะเขาไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า คุณเมี่ยงเป็นแม่เล้าจริงๆ"
"ค่ะ ก็เมี่ยงไม่ได้เป็นจริงๆนี่คะ แล้วมันจะเอาหลักฐานมาจากไหน มันก็เลยดีแต่พูด อ้างข้างๆคูๆ ก็สมควรแล้วที่ชีวิตตอนนี้ของมันต้องตกอับ หนีหน้าไปจากวงการ"
"ครับ งั้นวันนี้ผมไม่รบกวนคุณเมี่ยงแล้ว ผมลาล่ะครับ"
มัชฌิมารับไหว้แล้วโบกมือลาทนาย พร้อมสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ก่อนจะหันไปที่สระว่ายน้ำเห็นเด็กหนุ่มๆ หล่อๆในสังกัดกำลังว่ายน้ำ โชว์กล้ามมาดแมน ผิวขาวเนื้อแน่น ฟิตปั๋งกันทุกคน
นางเข้ามาดูเด็กหนุ่มในสังกัดอย่างชื่นชม ชื่นอกชื่นใจ
เด็กหนุ่มๆเสียงดังพร้อมเพรียง
"อรุณสวัสดิ์ครับเจ๊เมี่ยง"
นางยิ้มแก้มปริ
"ดีมากจ้ะเด็กๆของเจ๊ ถ้าอยากจะเกิด เจิดในวงการ ต้องรู้จักดูแลตัวเอง และเชื่อฟังคำสั่งของเจ๊เท่านั้น เข้าใจมั้ย"
เด็กหนุ่มเสียงดังพร้อมเพรียง
"เข้าใจครับเจ๊"
"เริ่ดจ้ะ เพราะถ้าคนไหนเจ๊เอามาดันจนสุดซอยแล้ว แต่ยังไม่เจิดไม่เริ่ด รู้ใช่มั้ยว่าจะต้องเจออะไร"
เด็กหนุ่มเสียงดังพร้อมเพรียง
"ถ้าไม่เจิดก็เชิดใส่ !"
"อ๊าย...ฟินเลยค่ะ งั้นเดี๋ยวฟิตแอนด์เฟิร์มกันเสร็จแล้ว ไปทานอาหารแต่งตัวหล่อจัดเต็ม ตอนบ่ายๆ เจ๊มีโปรแกรมตระเวณทำบุญแก้บน ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้เจ๊สั่งสอนนังพุชชี่ มันสำเร็จนะจ๊ะ"
เด็กหนุ่มๆตอบเสียงดังพร้อมเพรียงเหมือนหุ่นยนต์ถูกโปรแกรม เจ๊เมี่ยงหันมายิ้มแก้มตุ่ยแววตามีประกาย
"หึๆๆ หายไปจากวงการแบบนี้แหละ ดีที่สุดสำหรับหล่อนแล้ว..นังพุชชี่ !"
บริเวณสนามฟุตบอล เน็กซ์กำลังซ้อมยิงลูกโทษ เลี้ยงลูกมาหยุดที่จุดโทษแล้วชู้ตตุงตะข่ายสวยงาม โค้ชเป่า นกหวีดให้พักซ้อม
"วันนี้พอแค่นี้ ให้ทีมอื่นเค้าซ้อมบ้าง"
เขากับเพื่อนๆร่วมทีมซ้อมเดินมาที่ข้างสนาม แต่ละคนเหงื่อโทรมกาย เพื่อนคนหนึ่งเดินมาตบบ่าเขา
"วันนี้เวรเอ็งกับไอ้โอ่งเก็บลูกบอลนะเว้ยบักหมา"
"เฮ้ยไรวะ"
เขาทำหน้าเซ็ง เพราะอยากไปอาบน้ำล้างคราบเหงื่อเต็มทน แต่เมื่อเป็นหน้าที่ก็เลยต้องหน้าเซ็งๆไปหยิบถุงตาข่ายใส่ลูกฟุตบอลช่วยกันกับเพื่อนพากันเดินเข้าไปที่ทางออกใต้อัฒจรรย์
คล้อยหลังเขาเดินออกไปได้ครู่ พัฒศรีกับดอกไม้ก็พากันเข้ามา เลยไม่ทันได้เจอเน็กซ์ พัฒศรีสวมแว่นดำพยายามมองหาเป้าหมายที่เทพเจ้ากรีกทิศอีสานในกลุ่มนักฟุตบอลที่กำลังซ้อมต่อจากเน็กซ์
"ไหนล่ะ หล่อขั้นเทพของหล่อน ชั้นเห็นมีแต่บ้านๆ เบๆ"
หล่อนถาม แต่ไม่มีเสียงตอบจากดอกไม้ ดอกไม้ถึงกับถอดแว่นกันแดดจ้องตาถลนมองพวกเด็กหนุ่มๆนักฟุตบอลถอดเสื้อโชว์กล้าม เอาน้ำราดหัว ตัวเปียกๆ
ดอกไม้ระทึกใจอยู่โครมคราม
"มะ...มะ...มา...มาดามคะ ใจ ใจของหนู มัน มันระทวยจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว นี่มันสวรรค์น้อยๆของหนูเลยนะคะเนี่ย"
หล่อนทำหน้าเซ็งกับเลขา ฯ
"นี่หล่อน อย่าเยอะได้มั้ย นั่นน่ะรุ่นน้องรุ่นลูกเลยนะ อยากติดคุกเหรอไง"
"แหม...มาดามก็ เอาะๆกระดูกอ่อนๆเนี่ย ช่วยต่อชีวิตให้ป้าๆอย่างเราๆได้ดีเลยนะคะ"
"หล่อนน่ะสิป้า...อย่ามาเอาชั้นเข้าพวก"
"แหมๆๆ...ใครเอ่ย จะเลขสามอยู่แล้ว ยังเกาะคานแน่นหนึบ เขาเป็นใครน้อ"
"นังหนูดอก หนอย เล่นของสูง หล่อนตาย"
พัฒศรีจะเอาเรื่อง ดอกไม้ตกใจรีบวิ่งหนี แต่ไม่ทันระวัง เลยชนโครมใส่แพรรตีที่เดินเข้ามาพร้อมกับแก็งค์สาวเชียร์
"ว้าย...ตาบอดเหรอไงเนี่ย"
"ขอโทษค่ะน้อง พี่ไม่ทันระวัง"
"น้องเหรอ หน้าก็เห่ย สายตาก็แย่แบบนี้ ยังกล้ามาเรียกชั้นว่าน้องอีกเหรอ ยัยป้า"
ดอกไม้อึ้ง "ว้าย..แรงอ่ะ"
พัฒศรีเข้ามาดันให้ดอกไม้หลบไป
"น้องคะ พี่ว่าน้องจะแรงเกินไปแล้วนะ ที่บ้านมีปัญหา พ่อแม่เลิกกันเหรอไง"
แพรรตีอึ้งที่โดนสวนกลับ พัฒศรีถอดแว่นดำออกให้เห็นชัดๆว่าเป็นใคร ทั้งคู่พร้อมกับเพื่อนของแพรรตีเห็นกัน แล้วก็นึกขึ้นได้ สองคนหลุดพูดออกมาพร้อมกัน
"นี่แกเอง"
"ยัยป้าปีศาจ ! เป็นสัมภเวสีเหรอไงถึงไล่ไม่ไป ยังกล้ามาป้วนเปี้ยนแถวนี้อีก"
แพรรตีจ้องเขม็งเอาเรื่องกลับ พัฒศรีจ้องไม่วางตา ดอกไม้เสียวสันหลังวูบ
"อู้ย...นังเด็กนี่ช่างกล้านะเนี่ย หาเรื่องตายแท้ๆ"
ภายในห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา เน็กซ์กับเพื่อนเอาอุปกรณ์มาเก็บเสร็จเรียบร้อย ระหว่างจะเดินกลับไปอาบน้ำ เจอพวกวัยรุ่นหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่กำลังแตกตื่น ลือกันปากต่อปากไม่หยุดเหมือนไฟกำลังลามทุ่ง
วัยรุ่น 1 บอก"จริงเหรอแก มาดามพุชชี่เนี่ยนะ มาที่นี่"
วัยรุ่น 2บอก "จริงสิแก...ตัวเป็นๆเลย ไม่ผิดแน่นอน"
วัยรุ่น 3 ยอก "อ๊าย…ตื่นเต้นจังเลยแก โอกาสเป็นซุปตาร์มาถึงที่แล้ว ชั้นไปก่อนล่ะ"
วัยรุ่นรีบชิงวิ่งไปก่อน คนอื่นๆเลยเฮโลตามกันไป สวนกับเน็กซ์ที่มองตามอย่างงๆ หันไปถามเพื่อนนักฟุตบอล
"อะไรกันวะ"
"มาดามพุชชี่มาเหยียบที่นี่ มันก็ไม่แปลกหรอกเว้ย"
"มาดามพุชชี่ ? อะไรวะ รถโฆษณาขายแป้งเย็นเหรอ"
"เฮ้ย ! ไอ้เน็กซ์ นี่แกไม่รู้จักมาดามพุชชี่ เจ๊ดันนักปั้นซุป’ตาร์ชื่อดังจริงๆเหรอวะ"
"ถ้ารู้แล้วจะถามทำไม ชั้นเคยสนใจวงการบันเทิงที่ไหน"
เพื่อนนักฟุตบอลหัวเราะเน็กซ์ แล้วยื่นมือถือให้ดูคลิป
"เอ้าดูซะ...คลิปล้านวิวของมาดามพุชชี่"
เน็กซ์ดูคลิปที่เพื่อนเปิดให้ดูในมือถือเป็นคลิปตบกระจายกับเจ๊เมี่ยงแล้วนึกขึ้นได้ทันที
"เฮ้ย...นี่มัน !"
มุมหนึ่งของสนามฟุตบอลใต้อัฒจรรย์ แพรรตีเชิดหน้าตั้งมีแบ็คอัพเป็นแก็งค์สาวเชียร์ส่ายหัวดุกดิกเอา นิ้วจิ้มอกผลักพัฒศรีเบาๆอย่างเย้ยหยัน
"แถวนี้มันถิ่นชั้น รู้ตัวไว้ด้วยนะว่าป้าหาเรื่องใส่ตัวแล้ว"
พัฒศรียิ้มร้ายแล้วจับนิ้วแพรรตีมาบีบแรงๆจนอีกฝ่ายหน้าเหวอ
"ก็เอาสิ...ชั้นก็ไม่ไหวจะเคลียร์กับพวกฟันเหล็กเด็กแนวอย่างพวกหล่อนแล้วเหมือนกัน !"
หล่อนบีบจนนิ้วแพรรตีแทบหัก ร้องโวยวาย
"โอ๊ย...ชั้นเจ็บนะ นังป้าปีศาจ"
แพรรตีเงื้อมืออีกข้างจะตบ แต่ก็โดนหล่อนคว้าไว้หมับ แล้วบีบแรงจนมือแทบหัก
"ยังฤทธิ์เยอะอีกเหรอ..เดี๋ยวแม่ก็หักทั้งนิ้วทั้งแขนให้เดี้ยงเลย !"
หล่อนผลักแพรรตีจนเจ็บ ทั้งมือทั้งแขน เซไปทางกลุ่มแกงค์สาวเชียร์
"เป็นอะไรรึเปล่าแก" เพื่อนๆถาม
"เจ็บน่ะสิ อู้ย... พวกแกจะไม่ช่วยชั้นเลยเหรอไง"
แพรรตีผลักเพื่อนๆให้ออกลุยแทน แต่ทุกคนเบรกเอี๊ยด! เมื่อเจอทั้งพัฒศรีกับดอกไม้ที่ยืนหน้าตาเอาเรื่อง
"เข้ามาสิคะ...น้องๆ หนูๆ หน้าสวยๆ แต่แอ๊บหงิม สุดติ่งแบบนี้ ป้าชอบ...ป้าอยากตบ สั่งสอนเด็กเกรียนเรียงตัวมานานแล้ว"
แก็งค์สาวเชียร์เห็นทั้งสองเอาจริงก็เหวอรีบถอยไปยืนออกัน พัฒศรีกับดอกไม้หันมาตีมือไฮไฟว์ เยาะใส่
เพื่อนๆแพรรตีบอก
"แพตตี้ ชั้นว่าถอยเถอะ แกอย่าไปมีเรื่องกับเขาดีกว่า ชั้นเพิ่งนึกออกว่าโจทก์แกน่ะ...ใคร"
"ใคร...ทำไมชั้นต้องกลัวมันด้วย พ่อมันเป็นนายกเหรอไง"
"แก...ลูกนายกยังแหยงปากอีป้านี่เลย แกมัวแต่โมโห จนลืมไปเลยล่ะสิว่า หน้าแบบนั้นน่ะ มาดามพุชชี่ตัวเป็นๆเลย"
"มาดามพุชชี่"
แพรรตีนึกขึ้นได้แล้วอึ้ง พัฒศรีได้ที กอดอกเชิดหน้าคอตั้งแอคท่าเริ่ดสุดฤทธิ์
"ดีมากที่พวกได้สติรู้ตัวว่า เล่นกับใครอยู่ วันนี้จะยอมปล่อยให้วันนึง แต่ขอเตือนไว้นะ หน้าตาสวยใจก็ต้องสวยด้วย ไม่งั้นพวกหล่อนก็จะเป็นได้แค่ถ้วยถังกะละมังหม้อ !"
หล่อนสั่งสอนเจ็บๆแล้วเดินออกไป ดอกไม้เข้ามาเชิดหน้ามองหัวจรดเท้าแล้ว..ชิ!! ใส่แรงๆก่อนจะเดินตามไป
ทั้งคู่เดินมาตามทางเดินในสนามฟุตบอล
"มาดามพุชชี่ซะอย่าง...ดูสิคะ กลัวจนแทบจะฉี่เล็ดเลย"
"เยอะไปแล้วหล่อน ชั้นเป็นผู้จัดการดารา ทำมาหากินสุจริต ไม่ใช่มาเฟียวงการบันเทิง"
"ค่ะ อุดมการณ์การณ์ของมาดาม หนูท่องจำได้ขึ้นใจ ไม่เอาเปรียบ ไม่ย้อมแมว ไม่ดีจริง ไม่เสียเวลา"
"แล้วนี่ยังไงเนี่ย หล่อนรับปากชั้นแล้วนะว่า วันนี้ชั้นจะได้เจอขั้นเทพไม่มีโม"
"ใจเย็นๆสิคะมาดาม นังเก๋งมันเฟิร์มหนูแล้วว่า วันนี้เพชรเม็ดงามของเราจะต้องมาซ้อมฟุตบอลที่นี่แน่ๆ"
"แล้วอยู่ไหนล่ะ เวลาชั้นไม่มีให้เสียอีกแล้วนะ ถ้าชั้นหาว่าที่ซุปตาร์กลับไปแข่งกับเจ๊เมี่ยงไม่ได้ ชั้นต้องขายบ้าน ขายรถ ขายหล่อนใช้หนี้แน่"
"ค่ะหนูดอกเข้าใจ ตอนนี้เรายิ่งกว่าหมาจนตรอก..อุ๊ย !"
ดอกไม้พูดไปแล้วก็ชะงัก อึ้ง เมื่อมองผ่านพัฒศรีไปข้างหลัง
"เป็นอะไรของหล่อน...หน้าอย่างนี้อย่าบอกนะว่าหล่อขั้นเทพของชั้นมาข้างหลังชั้นแล้ว"
"เปล่าค่ะมาดาม..ไม่ใช่หล่อขั้นเทพ ดูเอาเองเถอะค่ะ"
พัฒศรีหันหลังไปแล้วก็ต้องอึ้งตะลึงตึงๆ เด็กวัยรุ่นแต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ด เอวลอย ขาสั้น โชว์ของสุดฤทธิ์ เดินดาหน้าเป็นแผงเข้ามาหาพุชชี่ สภาพแต่ละคนน่ากลัวมั่กๆ มีหมดทุกประเภท อ้วน เตี้ย ล่ำ ดำ พั้งค์ สก๊อยฯ อารมณ์เด็กอยากเป็นดาราสุดฤทธิ์
"งานเข้าชั้นแล้ว...หนูดอก"
ทั้งคู่ถูกกลุ่มเด็กวัยรุ่นจู่โจมรุมล้อมดันจนหลังติดกำแพง ทุกคนพยายามพรีเซนต์ตัวเอง ให้พุชชี่รู้จักสุดฤทธิ์เสียงดังเซ็งแซ่
วัยรุ่น 1บอก "มาดามคะ หนูยุง บิน ชุม หนูเป็นลูกครึ่งเกาหลีค่ะ"
วัยรุ่น 2 บอก "อย่าไปเชื่อค่ะมาดาม มันน่ะเกาเหลา พ่อมันขายเย็นตาโฟ แม่มันขายก๋วยจั๊บ หนูดี กว่าค่ะ หน้าหนูทำมาหมดแล้ว เหลือต่อขาให้สูงอย่างเดียวค่ะ"
วัยรุ่น 3 บอก "เตี้ยอย่างแกต่อยังไงก็ยังเตี้ยอยู่นั่นแหละ หนูดีกว่าค่ะมาดาม หนูเคยเล่นโฆษณาเป็น นางเอกมาก่อน"
วัยรุ่น 4 บอก "โฆษณายาฆ่าหญ้าน่ะสิแก...หนูดีกว่าค่ะมาดาม หนูอยากเป็นดารา"
ทุกคนรุมแข่งตะโกนเสียงดัง บ้างก็ร้องเพลงออกมาโชว์พลังเสียง จนพัฒศรีต้องหลบหลังดอกไม้ดันให้รับหน้าแทน
"แบบนี้ชั้นไม่เอาด้วยแล้วนะหนูดอก"
"ใจเย็นๆค่ะมาดาม ของดีมันไม่ได้หากันง่ายๆ"
"แต่ชั้นจะโดนรุมทึ้งตายก่อนนะสิ"
ระหว่างนั้นดอกไม้เหลือบไปเห็นเน็กซ์ที่เดินมาหยุดมองความวุ่นวาย เห็นแว้บเดียวนางก็จำได้
"มาดามคะ...มาแล้วค่ะ เทพเจ้ากรีกทิศอีสาน"
"ไหน"
พอดอกไม้จะชี้ให้พัฒศรีดู เขาก็เดินออกไป พุชชี่เลยไม่ทันเห็น
"ไปโน่นแล้วค่ะ"
"งั้นหล่อนรับมือทางนี้แล้วกัน ชั้นจะตามไปเอง"
หล่อนรีบคลานมุดแหวกวงล้อมของพวกวัยรุ่นคลั่งอยากเป็นดาราออกมาอย่างทุลักทุเล ปล่อยให้ดอกไม้รับศึก หนักคนเดียว
ในห้องพักนักกีฬา ทั้งห้องคราคร่ำไปด้วยเด็กหนุ่มๆ ถอดเสื้อโชว์กล้ามเต็ม นุ่งขาสั้น บ๊อกเซอร์เต็ม พรืด พัฒศรีเปิดประตูเข้ามาแล้วเบรกเอี๊ยดตัวโก่ง
"ว้าย!"
เด็กหนุ่มๆในห้องพากันตกใจ คว้าผ้าขนหนูมาปิดกันใหญ่
"ขอโทษค่ะน้องๆ คือพี่...พี่"
พัฒศรีพยายามถอยหลังแล้วไปชนกับเด็กหนุ่มหุ่นล่ำกล้ามโตตัวใหญ่บึ้ม เด็กหนุ่มถาม
"มาหาหญ้าอ่อนเคี้ยวเหรอครับพี่สาว"
พวกเด็กหนุ่มๆหัวเราะชอบใจ
หล่อนหน้าเสียไปทันที
"ทะลึ่ง ชั้นไม่เคี้ยวหญ้าอ่อนย่ะ"
หล่อนสะบัดหน้าเชอะแล้วรีบออกไปจากห้องทันที
หน้าห้องพักนักกีฬา หล่อนแอบมาหามุมหลบคอยสอดส่องเด็กหนุ่มๆที่ทยอยออกมาจากห้อง แต่ละคนดูหน้าแล้ว...เพลียจิต
"ไม่ใช่ ไม่ได้ ไม่โดน แล้วไหนล่ะที่ยัยหนูดอกบอกว่าหล่อขั้นเทพ มีแต่บ้านๆทั้งนั้น"
หล่อนแอบดูจนเด็กหนุ่มๆเดินออกมากันหมด
"ยัยหนูดอก หล่อนทำชั้นเสียเวลาจริงๆ"
หล่อนบ่นแล้วจะเดินกลับ แต่ระหว่างนั้นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาแล้วตะโกนเข้าไปในห้อง
"เฮ้ย...ไอ้เน็กซ์ อย่าให้รอนานนะเว้ย หล่อเทพอย่างแก ซกมกสุดๆ สาวยังกรี๊ดเลย"
เด็กหนุ่มย้ำกับเน็กซ์แล้วเดินออกมาจากห้อง หล่อนชะงักได้ยินว่า ยังเหลือหล่อๆอยู่ในนั้น เลยตัดสินใจ
เน็กซ์เปิดฝักบัวอาบน้ำถูสบู่ ฮัมเพลงไปสบายๆ หล่อนแอบเข้ามาได้ยินเสียงฮัมเพลง แสดงว่ายังเหลืออยู่คนนึง
"ชั้นลงทุนขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่หล่อขั้นเทพจริงๆล่ะก็...หล่อนตายแน่ นังหนูดอก"
พุชชี่บ่นไปก็แอบย่องไปรอหน้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นเน็กซ์อาบน้ำเสร็จพอดี ปิดฝักบัวเอาผ้าขนหนูมาปิดช่วงล่าง ผ้าเช็ดผมมาคลุมหัวเดินหัวเปียกๆออกมา หล่อนรีบหาที่หลบวุ่นวาย เพราะถ้าขืนเจอจังๆล่ะ ก็คงเป็นเรื่อง
เน็กซ์เดินมาที่ตู้ล็อกเกอร์ประจำตัว หล่อนแอบหลบอยู่ไม่ไกล ค่อยๆชะโงกหน้าออกมามอง แต่บานประตูล็อคเกอร์ยังบังใบหน้าของเขาอยู่ เลยเห็นแต่บอร์ดี้แต่ก็ทำให้ตะลึงไม่น้อย
"แม่เจ้า!! หุ่นดีมั่กๆ กล้ามไม่เว่อร์ ขาไม่โก่ง ผิวขาวเนียนอมชมพู สูงชะลูดแถมก้นก็ยัง..."
หล่อนจ้องเขม็งที่ก้นของเน็กซ์แล้วยิ้มพอใจมากๆๆ ดูแล้วเหมือนพวกโรคจิตนิดๆ เน็กซ์รู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองตัวเอง เลยหันไปมองทางกระจกบานใหญ่ที่ติดอยู่ที่ผนังเลยทำให้เห็น มาดามพุชชี่ที่กำลังมองมาที่เขา ท่าทางดูแล้วโรคจิตสุดๆ
"ยัยป้าปีศาจ นี่ตามมาแอบดูเราเหรอเนี่ย โรคจิต !"
เขาจิกหน้าแล้วยิ้มร้ายคิดแผนการสั่งสอน หล่อนไม่รู้ตัว ยังชะเง้อจนคอแทบจะเป็นยีราฟ เหลือแต่หน้าอย่างเดียวที่ยังไม่เห็นเพราะบานประตูล็อคเกอร์ยังบังอยู่
"หุ่นเป๊ะ แซ่บเว่อร์ สูงเกินมาตรฐานแล้ว ขอดูหน้าหน่อยเถอะคุณน้อง พลีส...พลีส"
เขาปิดตู้ล็อคเกอร์แล้วหันหลังให้ก่อนจะเดินออกไปทั้งยังนุ่งผ้าขนหนู
"อ้าว...จะไปไหนล่ะ ยังไม่ได้เห็นหน้าเลย"
พัฒศรีรีบเดินตามเน็กซ์ แต่อยู่ๆก็หายตัวไป มีแต่ตู้ล็อกเกอร์อยู่รอบตัว
"อ้าว...หายไปไหนแล้ว"
หล่อนพยายามมองหา เขาเดินเข้ามาพร้อมเสียงขึงขังไม่พอใจ
"หาผมอยู่เหรอ ป้าโรคจิต"
หล่อนชะงักในน้ำเสียงเพราะคุ้นเหลือเกิน
"เสียง...เสียงนี้มัน"
หล่อนหันไปเห็นเด็กหนุ่มคู่อริ นุ่งผ้าขนหนูโชว์กล้ามแมนๆ ผิวขาวๆ ใบหน้าที่ไร้คราบแป้งหนาเตอะจากวันสงกรานต์ มันช่าง...
"หล่อ...หล่อมาก หล่อเว่อร์ หล่อเป๊ะ หล่อโฮก แม่เจ้า ! นี่แกเองเหรอ ไอ้เด็กนรก"
"อ้าว...ไหงมาด่าผมแบบนี้ล่ะ ถ้าเกลียดขี้หน้าผม แล้วป้ามาแอบดูผมอาบน้ำทำไม"
"บ้า !! ชั้นไม่ใช่โรคจิตมาแอบดูเด็กอาบน้ำนะ ชั้นเป็นผู้จัดการดารา เป็นมาดามดัน มีหน้าที่ปั้นเด็กให้เป็นซุป’ตาร์ย่ะ ไม่รู้จักเหรอไง ใครๆก็เรียกชั้นว่า..."
"มาดามพุชชี่"
หล่อนยิ้มถูกใจ
"แสดงว่ารู้จักชั้นแล้วน่ะสิ งั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาแนะนำตัว จะได้เข้าเรื่องเลย"
"คนอะไรชื่อพุชชี่ พ่อแม่คงไม่รักถึงได้ตั้งชื่อแบบนี้ให้"
เขาส่ายหน้าไม่สนใจแล้วเดินเลี่ยงออกไป หล่อนรีบรั้ง
"เดี๋ยว...ชื่อพุชชี่มันเป็นชื่อที่ชั้นใช้ในวงการย่ะ ชื่อจริงๆชั้นก็มี"
"ป้าจะชื่ออะไรผมไม่สนหรอก แต่ถ้ายังมายืนโรคจิตมองผมเหมือนจะเคี้ยวเล่นอยู่อีก ล่ะก็ ผมเรียกยามมาลากป้าออกไปแน่"
"ไอ้...ไอ้เด็กนรก ชั้นไม่ได้โรคจิตอยากเคี้ยวเด็กย่ะ ชั้นจะมาชวนเธอไปเป็นดาราต่างหาก"
"ดาราเหรอ หึ กลับไปเหอะป้า อย่ามาเสียเวลาเลย"
พุชชี่ไม่ยอมรีบอ้อมไปดักขวางทางเน็กซ์ กางแขนกั้นไว้สุดฤทธิ์
"ไม่ ! ชั้นยอมทุ่มทุนสร้างขนาดนี้แล้ว จะไม่มีวันยอมปล่อยให้เทพเจ้ากรีกทิศอีสาน อย่างเธอต้องหลุดมือไปเด็ดขาด"
"พูดจาเพ้อเจ้อ เทพจงเทพเจ้าอะไร เยอะไปแล้วป้าเอ้ย ถ้าไม่ยอมไปให้พ้นหน้าจะหาว่า ผมไม่เตือนไม่ได้"
"เธอจะทำอะไรชั้น"
เขามองหล่อนแล้วยิ้มร้ายอย่างกวนๆ สภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเวลาทำหน้าหื่นเดินเข้าหาแล้วทำเอาหล่อนสยอง
"เมื่อกี้ป้าแอบดูผมแล้ว เดาว่าคงยังเห็นไม่หมด ถ้ายังไม่เลิกตื้อล่ะก็ ผมจะโชว์ของเด็ด สุดๆให้ป้าเห็นเต็มๆตาเลย"
เขาประชิดเข้าใกล้แล้วเอามือตบล็อกเกอร์เสียงดัง...ปัง !! หล่อนเหวอมองหน้าเขาแล้ว เลื่อนลงมาที่อกลงมาที่ท่อนล่างที่มีผ้าขนหนูปิดอยู่ หล่อนกลืนน้ำลายเอื๊อก
"ยะ...ยะ...อย่าล้อชั้นเล่นนะ"
"ใครๆก็ชอบบอกว่า นอกจากผมจะหล่อแล้วยังดูดีไปหมดทุกอย่าง แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า นิสัยจริงๆของผมน่ะเป็นยังไง...หึๆๆ ผมนี่แหละ ไอ้โรคจิต"
เน็กซ์ทำท่าจะปลดผ้าขนหนู หล่อนเหวอตกใจร้องเสียงหลง
"แอร๊ย"
หล่อนเอามือปิดตาแล้วรีบโกยอ้าวออกไปทันทีโดยไม่รอให้เขาถอดผ้าขนหนูออก เน็กซ์มองตามแล้วหัวเราะ ชอบใจที่ไล่พุชชี่ไปได้
พัฒศรีวิ่งเอามือปิดตาร้องโวยวายออกมา
"ไอ้โรคจิต วิปริต วิตถาร"
หล่อนเอาแต่ร้องจนไม่ได้มองทาง ชนโครมใส่ดอกไม้ที่มาตาม
"ว้าย...มาดาม อู้ย ก้นกบหนูจะร้าวมั้ยเนี่ย"
หล่อนหันกลับไปด่า
"ไอ้เด็กบ้า เด็กนรก ไอ้โรคจิต นี่ถ้าไม่หล่อเทพขนาดนี้ ชั้นไม่เอาไปปั้นแข่งกับณเดชณ์หรอก"
หล่อนหัวเสียโกรธจัดออกไป
"มาดามคะ เดี๋ยวสิคะ มาดาม รอด้วย"
ดอกไม้รีบตามนายจ้างไป ทั้งคู่ผ่านหน้าแพรรตีที่ตามเข้ามาดู แล้วมองตามไม่พอใจ
"อ๋อ...ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง ยัยมาดามพุชชี่ ชิ...โดนชั้นสกัดดาวรุ่งแน่"
เวลากลางคืน บ้านดอกไม้ พัฒศรีนั่งลงอย่างหัวเสีย
"ใจเย็นๆค่ะมาดาม เด็กหนุ่มนั่นคงตั้งใจจะแกล้งไม่ให้มาดามไปเซ้าซี้เขา"
"แกล้งแบบนี้เนี่ยนะ...โรคจิตชัดๆ"
"หนูว่าเขาไม่ใช่โรคจิตหรอกค่ะมาดาม ประวัติเขาชนะเลิศพอๆกับหน้าตาเขาเลย"
"หล่อนรู้ได้ยังไง ไหนบอกว่ายังไม่รู้ประวัติไง"
"แหม...หนูทิ้งบึงโขงหลงไปเป็นสาวกรุงทำงานตั้งหลายปี ก็ต้องเสียเวลาไปซอกไปแซก สาระแนถามคนโน้นคนนี้บ้างสิคะ"
"รู้อะไรก็รีบบอกมา"
"อ๊ะๆ..สนใจเลยทันที"
"นี่...ชั้นต้องรู้ให้ละเอียดเลย จะได้รู้ว่าควรจะต้องลงทุนหมดหน้าตักรึเปล่า"
"ได้ค่ะ พ่อหนุ่มหล่ออย่างกับรูปปั้นเทพเจ้ากรีกทิศอีสานใครๆก็เรียกเขาว่า...บักหมา"
"หา ! บักหมาเนี่ยนะ ชื่อจริงเหรอ"
"ไม่ใช่หรอกค่ะ...ชื่อเรียกเล่นๆของคนที่นี่ ชื่อจริงน่ะเขาชื่อว่า...เน็กซ์"
พัฒศรีค่อยโล่งอกที่ชื่อจริงๆแล้วโอเค
"เน็กซ์...ก็เพราะดี แล้วทำไมใครๆถึงเรียกว่าบักหมาล่ะ"
"มาจากหมาหลงค่ะ"
"หมาหลง"
"เด็กกำพร้าไงคะ พ่อหนุ่มสุดหล่อคนนี้ชีวิตสุดแสนจะอาภัพ ถูกเอามาทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน ของครูนิยมกับครูราศี ครูประจำโรงเรียนประถมที่บึงโขงหลงนี่แหละค่ะ"
เน็กซ์กลับเข้ามาในบ้านเห็นครูนิยมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะทำงาน นิยมมองลูกชายลอดแว่นตา แล้วทำเป็นไม่สนใจหันไปอ่านหนังสือต่อ ราศียกจานกับข้าวออกมาพอดี
"กลับมาพอดีเลย หิวแล้วล่ะสิ มา...มากินข้าวกัน"
"แล้วพ่อล่ะครับแม่"
"เอ็งเรียกสิ เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือทั้งวัน แม่พูดด้วยยังไม่ยอมพูดด้วยเลย"
เขานิ่งไปครู่แล้วลองเรียกดู
"พ่อ...กินข้าวครับ"
นิยมทำเฉยพลิกหน้ากระดาษอ่านหนังสือต่อหูทวนลมไม่สนใจ
"นี่คุณ...บักหมามันเรียกกินข้าว ได้ยินรึเปล่า"
นิยมก็ยังทำเฉยอ่านหนังสือไปเงียบๆหูทวนลมต่อ คราวนี้ราศีเลยฉุน
"แก่จะแง้มฝาโลงอยู่แล้วยังทำงอนเป็นเด็กๆ ไม่ต้องสนใจพ่อเอ็งแล้ว เอ็งกินให้หมดนี่เลยบักหมา อย่าให้เหลือแม้แต่จานเดียว"
"เดี๋ยวพ่อก็หิวตายหรอกแม่"
"ดี...ปล่อยให้หิวไปนั่นแหละ...หมั่นไส้ กิน"
ราศีหันตักข้าวให้เน็กซ์เต็มๆจาน เขารับจานข้าวมาแล้วหันไปมองพ่ออย่างเศร้าๆ
นาฬิกาบนผนังบอกเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว นิยมนั่งอ่านหนังสือไป เสียงท้องก็ร้องดัง...ครืน
"โอ้ย…ไม่น่าเลยเรา ยั่วประสาทใครไม่ยั่ว ดันยั่วโมโหเมีย ซวยเลย"
เสียงท้องร้องดังขึ้นอีก ระหว่างนั้นได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากในครัว ครูนิยมทำจมูกฟุดฟิด
"หอม...กลิ่นหมูทอดกระเทียมของโปรด ฮั่นแน่ ปากบอกปล่อยให้หิวตาย เอาเข้าจริงก็ กลัวผัวจะชิงตายก่อน รักจริงๆเลยเมียคนนี้เนี่ย"
นิยมรีบลุกไปทางห้องครัวทันที ในครัว เห็นจานข้าวเปล่ากับหมูทอดกระเทียมพริกไทยวางรอไว้อย่างดี
"น่ากินสุดๆ เดี๋ยวอิ่มแล้วจะตามไปหอมแก้มนะเมียจ๋า"
นิยมรีบนั่งโต๊ะตักข้าวตักหมูเข้าปากเคี้ยวอย่างอร่อย ระหว่างนั้นเน็กซ์ถือแก้วน้ำเข้ามาแล้ววางให้ตรงหน้า
"ไม่ต้องรีบกินนะพ่อ เดี๋ยวจะติดคอ"
นิยมชะงักมองลูกชายแล้วมองจานข้าว
"ผมไม่ทำพริกน้ำปลาให้นะ หมอเตือนให้พ่อลดกินเค็มๆลงบ้าง อ้อ..กินเสร็จแล้วก็อย่า รีบไปนอนล่ะ เดี๋ยวจะเป็นกรดไหลย้อน"
เขาบอกพ่อแล้วเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นิยมนิ่งไป มือยังกำช้อนไว้แน่น น้ำตาเริ่มเอ่อจนล้นเพราะซึ้งใจลูก เลยตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวทั้งน้ำตา
"ไอ้บักหมา...ไอ้ลูกรักของพ่อ พ่อจะไม่ปล่อยให้เอ็งห่างอกพ่อเด็ดขาด"
ครูนิยมตักข้าวกินไปร้องไห้ไปอย่างภาคภูมิใจลูกชาย
วันใหม่ พัฒศรีแต่งตัวเตรียมพร้อมเดินลงจากบันได แต่เกือบตกบันไดลงมาหน้าแหก
"แหกๆๆ"
ดอกไม้รีบเข้ามาช่วยพยุง
"ระวังหน่อยสิคะ มาดาม ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ใจเย็นๆ"
"ชั้นใจเย็นไม่ได้แล้วล่ะหนูดอก ทั้งหล่อเริ่ดเพอร์เฟค เรียนเก่ง กีฬาเลิศ กตัญญูรู้คุณ แถมชีวิตมีดราม่าสุดๆอีก คุณสมบัติแบบนี้ คนต้องรักกันทั้งประเทศ ว่าที่ซุป’ตาคนใหม่ของวงการแน่นอน..คอนเฟิร์ม !"
"ใช่ค่ะมาดาม ถ้าปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือคนอื่นล่ะก็ อับอายขายหน้าวงการเจ๊ดันแน่"
"เน็กซ์...เทพบุตรกรีกทิศอีสานอย่างเธอ จะต้องอยู่ในกำมือชั้นคนเดียวเท่านั้น !"
หล่อนเชิดหน้าคอตั้งเอาแว่นดำมาสวมแล้วเดินดิ่งมุ่งหน้าพร้อมความหวังเต็มเปี่ยม
"ลุยโลด" ดอกไม้บอก
ภายในบ้านมัชฌิมา ช่างภาพจากนิตยสารกำลังถ่ายภาพคู่หมอกี้กับฝันหวานๆประกอบการสัมภาษณ์ลงนิตยสารเล่ม หนึ่งโดยมีมัชฌิมายืนกำกับอยู่ใกล้ๆ
"เก็บภาพคู่ของน้องไปลงเยอะๆนะคะ นี่ถ้าไม่ใช่หนังสือของพี่ติ๋ม เจ๊คงแทรกคิวแน่นๆ ของน้องเขามาจัดให้สัมภาษณ์คู่แบบนี้ไม่ได้หรอก"
ช่างภาพถ่ายรูปต่อ มัชฌิมาดูแล้วรู้สึกไม่ถูกใจเลยขัดจังหวะ
"เดี๋ยวค่ะๆ เจ๊รู้สึกว่า ยังไม่ค่อยได้ฟิลลิ่งเท่าไหร่ ขอแป๊บนึงนะ เชิญพวกน้องไปพักทานของว่างกันก่อนนะ"
มัชฌิมารีบเบียดช่างภาพให้หลบไป แล้วเข้าไปลากทั้งคู่ออกมาซุบซิบเบาๆสั่งอีกมุมหนึ่ง
"น้องหมอกี้คะ น้องฝันหวานหวานคะ พวกน้องเป็นเบอร์หนึ่งที่เจ๊กำลังดันสุดลิ่มทิ่มประตูให้เป็นซุปตาร์คู่จิ้น แต่สายตาเมื่อกี้นี้มันอะไร คนข้างบ้านไม่เคยเจอหน้ากันเหรอ"
"ถามจริงนะครับเจ๊ จะดันให้ผมกับน้องฝันหวานหวานเป็นคู่จิ้นกันในจอหรือนอกจอ"
"แหมน้องหมอกี้คะ สวยอันดับหนึ่ง หล่ออันดับหนึ่ง นอกจากขยันไปทำบุญด้วยกันแล้ว เราก็ต้องทำให้ทั้งคนดู ทั้งแฟนคลับ อินทั้งในจอนอกจอสิคะ"
"แต่เจ๊คะ...คือว่าหนู"
มัชฌิมายกมือห้ามไม่ฟัง
"เจ๊ไม่ฟังค่ะ ในเมื่อเราตกลงกันแล้ว ก็ต้องทำให้คนทั้งประเทศจิ้นฟิน กัดหมอนให้ได้ ทำให้เจ๊ได้มั้ยคะ"
ฝันหวานหวานกับหมอกี้นิ่งไป มองหน้ากันแล้วพยักหน้ารับ มัชฌิมาเลยยิ้มได้ หยิกแก้มสองคนอย่างเอ็นดู แล้วเดินมาที่นักข่าว
"น้องพร้อมให้สัมภาษณ์ถ่ายรูปต่อแล้วค่ะ อ้อ...เจ๊ลืมไปอีกอย่าง หัวข้อสัมภาษณ์ที่ส่งมาให้เจ๊ดูน่ะ เจ๊ตรวจดูแล้วมีแก้ไขให้นิดหน่อย"
มัชฌิมาหันไปหยิบแฟ้ม บนโต๊ะให้นักข่าวแล้วบอก
"สัมภาษณ์ตามนี้เลยนะคะ"
มัชฌิมายิ้มกริ่ม แต่พอนักข่าวดูหัวข้อสัมภาษณ์แล้วก็ตกใจ
"นี่แก้ไขนิดหน่อยเหรอคะเจ๊ หนูว่ามีแต่บทสัมภาษณ์เจ๊นะคะ"
"ก็เจ๊เป็นผู้จัดการนี่คะ อยากรู้อะไรถามเจ๊ก็พอ จบมั้ยคะ"
นักข่าวทำหน้าเซ็งๆ ขณะที่มัชฌิมายิ้มเชิดๆเริ่ดๆ
บริเวณโซฟาตรงห้องโถง มัชฌิมานั่งให้สัมภาษณ์นักข่าว โดยมีฝันหวานหวานกับหมอกี้ให้ช่างภาพถ่ายภาพเป็นแบล็กกราวน์
"เรื่องงานของน้องหมอกี้ตอนนี้แน่นมากจริงๆค่ะ หนัง ละคร เพลง พรีเซนเตอร์ มีเข้ามา จนเจ๊ต้องเกรงใจผู้ใหญ่ยอมถูกต่อว่าที่ไม่ให้คิวน้อง"
"งั้นที่งานรุมเจ๊ขนาดนี้ เป็นไปได้มั้ยคะว่า สาเหตุเป็นเพราะมาดามพุชชี่แพ้คดีแล้วหนี หายหน้าไปจากวงการ เจ๊เลยไม่มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ" นักข่าวถาม
มัชฌิมาชะงัก
"คุณน้อง ! คำถามนี้พี่ไม่ได้เขียนให้คุณน้องถามนี่คะ"
"คือคำถามนี้พี่ติ๋มสั่งให้มาถามค่ะ ถ้าไม่มีคำตอบกลับไป หนังสือคงไม่ได้วางแผง"
มัชฌิมากัดฟันหัวเสีย แต่ไม่อยากวีนให้เสียหน้า
"หึ...คงไม่เกี่ยวหรอกค่ะ ทุกคนก็รู้ว่าดาราดังๆที่เดินเกลื่อนวงการ เกือบครึ่งก็มาจากฝีมือเจ๊ดันทั้งนั้น"
"แล้วเจ๊ไม่สงสัยเหรอคะ คู่ปรับที่มีปัญหากับเจ๊มาตลอดอย่างมาดามพุชชี่ เขาอาจจะไม่หายหน้าไปเฉยๆ อาจจะซุ่มไปหาเด็กใหม่มาปั้นแข่งกับหมอกี้ของเจ๊"
มัชฌิมาเริ่มจิกหน้ามองนักข่าวอย่างไม่พอใจ
"ชั่วโมงนี้จะมีใครหล่อกว่าหมอกี้อีกเหรอคะคุณน้อง ต่อให้มาดามพุชชี่ขึ้นสวรรค์ไปคว้าเอาเทวดามา ก็ไม่มีทางสู้เจ๊ได้หรอก"
"แล้วถ้า..."
"พอค่ะ ! วันนี้คิวของคุณน้องหมดแล้ว เจ๊ต้องพาน้องๆไปทำงานต่อ ฝากขอบคุณพี่ติ๋มด้วย ไว้งานประกาศรางวัลของพี่ติ๋ม เจ๊จะเอาน้องๆไปช่วยงาน"
มัชฌิมารีบลุกเดินไปสั่งให้ช่างภาพหยุดถ่ายรูปหมอกี้กับฝันหวานหวาน ทิ้งให้นักข่าวทำหน้าเซ็ง
อ่านต่อหน้า 4
มาดามดัน ตอนที่ 1 (ต่อ)
บริเวณโรงเรียนประถม เวลากลางวัน ครูนิยมกับครูราศีถึงกับผงะตกใจเมื่อเห็นคลิปล้านวิวตบกระจายของพัฒศรีกับเจ๊มัชฌิมา แพรรตีที่เป็นคนเอาคลิปให้ดู นั่งอมยิ้มชอบใจ
"ความแสบแซ่บเว่อร์ของผู้หญิงคนนี้ยังไม่หมดแค่นี้นะคะครู"
นางแบมือ ยุวดีเอาหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวันที่มีพาดหัวข่าวของพุชชี่ขึ้นหน้าหนึ่งเต็มหราจากข่าววันที่หน้าศาล นางยิ้มร้าย
"ครูคงไม่ค่อยรู้จักวงการบันเทิงว่าน่ากลัวขนาดไหน มาค่ะ แพตตี้จะอ่านให้ฟัง “มาดามดันลวงโลก ปั้นน้ำเป็นตัวใส่ร้ายคู่แข่ง ศาลตัดสินให้แพ้ชดใช้หนี้บาน ขาเมาท์วิจารณ์ ที่จริงเธอเองนั่นแหละที่เป็นแม่เล้า”
แพตตี้อ่านจบ ครูราศีกับครูนิยมก็มีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที
บริเวณหน้าบ้านเน็กซ์ เขากอดอกมองหน้าพัฒศรีอย่างระอา
"นี่ป้ายังกล้าตามผมมาถึงบ้านอีกเหรอ"
"คำก็ป้าสองคำก็ป้า ดูหน้าพี่ดีๆนะคะคุณน้อง หน้าพี่ยังเด้ง ตีนกาก็ยังไม่มี ดูยังไงก็ไม่ใช่ พี่สาวแม่คุณน้องหรอกค่ะ"
"ไม่ต้องมาทำพูดหวานกับผมหรอก ยังไงผมก็ไม่ต้อนรับ มาทางไหนไปทางนั้นเลย"
เน็กซ์ไล่อย่างไม่แยแสแล้วหันไปรดน้ำต้นไม้ต่อ หล่อนชักสีหน้าไม่พอใจหงุดหงิด หนูดอกต้องช่วยลูบ
"ร่มๆค่ะมาดาม ที่ผ่านมาเราเคยเจอแต่เด็กๆที่อยากเป็นดาราพูดคำเดียวหอบเสื้อผ้า ตามเราไปเลย คิดซะว่า เคสนี้ท้าทายความสามารถของมาดามก็แล้วกัน"
หล่อนกัดฟัน
"ท้าทายมาก นี่ถ้าชั้นไม่จนตรอกอยู่ล่ะก็ โดนด่าไม่เหลือแน่"
"มาดามก็เป็นซะอย่างนี้ไงคะ เขาคงยังเคืองที่มาดามไปมีเรื่องกับเขา ขอโทษสักหน่อย หนูว่าฉลุยลุยเลยแน่ค่ะ"
"ขอโทษเหรอ !"
หนูดอกพยักหน้าให้ขอโทษอย่างเดียวเท่านั้น หล่อนสีหน้าหนักใจแต่ก็เอาวะ !
หล่อนคอเชิดหน้าตั้งตามมาเจรจาต่อ มีหนูดอกลุ้นอยู่ใกล้ๆ
"คุณน้องขา...เอาอย่างนี้แล้วกันนะคะ ถ้ายังโกรธพี่เรื่องวันนั้นอยู่ พี่ก็ต้องขอโทษคุณน้องด้วย พี่ผิดจริงๆที่เหวี่ยงวีนใส่ คุณน้องยกโทษให้พี่ได้มั้ยคะ"
เขารดน้ำ ไม่หันหน้ามาคุย
"พี่พูดเบาไปเหรอคะ...จะให้พี่พูดดังๆชัดๆก็ได้ พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆค่ะ"
เขานิ่งไปแล้วถอนหายใจสีหน้าเหมือนคนพร้อมจะเข้าใจ หล่อนคิดว่ามีหวังหันไปทำนิ้วโอเคกับดอกไม้ แต่พอหันกลับมาก็เจอเขาหันหัวสายยางฉีดเข้าหน้าทันที น้ำเข้าตา เข้าจมูก เข้าปาก ทำเอาหล่อนสติแตก
"ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กนรก ชั้นอุตส่าห์ขอโทษแล้ว จะเอายังไงอีก"
"ผมไม่ติดใจเรื่องวันนั้นหรอกเพราะป้าน่ะแพ้ผมไปแล้ว แต่ไอ้ที่ป้ามาก้มหัวขอโทษผม เพื่อหวังผลประโยชน์ บอกตรงๆ...เปลือก ! ผมไม่ชอบ"
เขาเดินเข้าบ้านไป หล่อนหน้าตึงอึ้งโดนเด็กตอกหน้าใส่ หนูดอกเข้ามาพร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แล้วมองตามเขาอย่างชื่นชม
"สุโค่ย หนูยังไม่เคยเจอใคร ตรง แรง แมนมากๆแบบนี้เลยค่ะมาดาม"
หล่อนรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าที่โชกไปด้วยน้ำแล้วขยำ
"หึ...ได้ ชั้นก็ชอบเหมือนกัน แมนๆ ตรงไปตรงมาแบบนี้...หึ !"
หล่อนเดินดิ่งลุยต่อ
เขากำลังจะเปิดประตูเข้าบ้าน แต่หล่อนตามมาเอามือดันประตูเอาไว้เสียงดัง..ปัง !
"ถ้าน้องอยากพูดตรงไปตรงมากับพี่ก็ได้เลย ที่พี่จำเป็นต้องดั้นด้นมาชวนน้องไปเป็น ดารา ไม่ใช่เพราะน้องหล่อเริ่ดเพอร์เฟคอย่างเดียว แต่พี่กำลังจนตรอก และน้องก็เป็นความหวังเดียวของพี่ ก่อนที่ชีวิตพี่จะต้องย่อยยับ"
เขานิ่งมองแล้วจะอ้าปากพูดแต่ถูกหล่อนยกมือห้าม
"ยัง ! พี่ยังพูดไม่จบ พี่พูดไปแบบนั้นน้องอาจจะคิดว่าพี่เห็นแก่ตัว ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง แต่ไม่ใช่เลยค่ะ มันคือโอกาสที่พี่เอามาให้น้อง งานดีๆ เงินดีๆ เกียรติยศชื่อเสียง คนจะรักน้องกันทั้งประเทศ ครอบครัวของน้องจะสุขสบาย โอกาสแบบนี้ไม่ใช่ว่าใครจะมีกันได้ง่ายๆนะคะ หนึ่งในล้านยังน้อยไป"
"จบยัง"
"จบแล้ว"
"ที่พี่พูดมาทั้งหมด พี่ถามผมสักคำรึยังว่า ผมอยากเป็นดารารึเปล่า"
หล่อนชะงักเหมือนโดนชกแย๊บเข้าเบ้าตา หนูดอกรีบเข้ามาช่วยกล่อม
"แหม...คุณน้องขา เป็นนักฟุตบอลน่ะเงินดีสู้เป็นดาราไม่ได้หรอกนะคะ ยิ่งหล่อเริ่ดอย่างน้อง มาดามเฟลอร์อย่างพี่ขอฟันธง ทำงานไม่ถึงปี 6 หลัก 7 หลักอยู่ในมือน้องสบายๆ"
เขาฟังเรื่องเงินที่ดอกไม้พล่ามให้ฟังแล้วมีสีหน้าสนใจขึ้นมา หล่อนเห็นแววตาสนใจคู่นั้น เลยรีบขายของต่อ
"วันๆน้องคงเอาแต่เล่นฟุตบอลเลยไม่รู้ โชว์ตัวตามงานก็ได้เงิน กระดิกพลิกตัวไปทาง ไหนก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด น้องจะปลูกบ้านใหม่ให้พ่อแม่ จะซื้อรถซื้อเรือหรือจะไป เที่ยวเมืองนอกปีละหลายๆครั้งก็ยังได้ แต่เป็นนักฟุตบอลน่ะเหรอ..หึ..ก็คงได้ แต่หลาย ปีแน่"
เขาหันมามองอย่างสนใจโดยเฉพาะเรื่องไปเมืองนอก ทันใดนั้นเสียงเข้มๆดุๆของครูนิยมก็ดังแหวกเข้ามา
"ไสหัวออกไปจากบ้านชั้น บ้านนี้ไม่ต้อนรับพวกแก"
ราศีพยายามปราม
"ใจเย็นน่าพ่อ พูดกับเขาดีๆก็ได้"
"ตลบแตลงตอแหลเก่งอย่างมันเนี่ยนะ ไม่ต้องไปเกรงใจหรอก"
"อ้าวลุง อยู่ๆมาว่าหนูเสียๆหายไปได้ยังไง รู้จักหนูดีเหรอไงถึงมาว่าหนูตอแหลเก่ง" พัฒศรีบอก
"มาดามคะ...อย่าค่ะ นั่นน่ะ พ่อของเน็กซ์เขานะคะ"
หล่อนอึ้ง "หา !"
พุชชี่หน้าเสียกลืนน้ำลายเอื๊อก
บริเวณม้านั่งที่หน้าบ้าน ราศีตบบ่านิยมเบาๆให้เย็นๆค่อยๆคุยกัน พุชชี่กับหนูดอกรีบก้มไหว้งามๆ
"หนูต้องขอโทษคุณพ่อแล้วก็คุณแม่ด้วยจริงๆนะคะ และก็ต้องขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ หนูมาดามพุชชี่"
"ส่วนหนูมาดามเฟลอร์ค่ะ"
หล่อนชายหางตามองหนูดอก ประมาณว่าอย่าเจ๋อ แล้วหันมายิ้มหวานละมุนกับพ่อแม่เน็กซ์อีกครั้ง
"คุณพ่อคุณแม่คงเข้าใจหนูผิดตามที่หนังสือพิมพ์เขียนถึง หนูขออธิบายนะคะ ว่าหนูไม่ใช่พวกตอแหล ไม่ใช่แม่เล้าเหลือบไรวงการ หนูทำมาหากินสุจริต สนับสนุนให้เด็กได้ใช้ความสามารถสร้างสรรค์ความบันเทิงให้ผู้ชม ถ้าหนูโกหกก็ขอให้หนูโดนฟ้าผ่าตาย"
"ชั้นขอบใจเธอมากนะที่มาชื่นชมว่า ลูกชายชั้นมีดีและจะสนับสนุนเขา" ราศีบอก
"ค่ะคุณแม่ ลูกชายคุณแม่เหมือนช้างเผือกที่อยู่ในป่า จะปล่อยให้อยู่แต่ในป่าก็ไม่เหมาะ"
นิยมขัด
"นี่เธอหาว่าที่นี่เป็นบ้านนอกคอกนาไม่เหมาะกับลูกชายชั้นเหรอ"
หล่อนสะดุ้งโหยง
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะคุณพ่อ…หนูแค่เปรียบเปรยเฉยๆ"
"พอแล้วไม่ต้องมาเสียเวลาคุย ลูกชายชั้นมันไม่สนใจไอ้เรื่องแบบนี้หรอก กลับไปได้แล้ว"
"เดี๋ยวสิคะคุณพ่อ…คุณพ่อถามลูกชายก่อนดีมั้ยคะ เมื่อกี้คุยกันเขาสนใจแล้วนะคะ"
"อ้าวป้า...ผมยังไม่ได้พูดสักคำเลยนะ" เน็กซ์บอก
"แต่เมื่อกี้นี้ที่พี่พูดเรื่องรายได้ตอบแทน พี่เห็นแววตาน้องเป็นประกาย"
"พอ ! ไม่ต้องถามอะไรไอ้บักหมาทั้งนั้น ชีวิตมันชั้นเป็นคนเลือกให้มันเอง...ออกไป" นิยมบอก
"แต่ว่า..."
นิยมพูดขึงขัง
"จะออกไปดีๆหรือว่าจะให้ชั้นลากคอออกไป"
"มา...มาดามคะ หนูว่า เอาตัวรอดก่อนเถอะ ท่าทางคุณพ่อเอาจริง"
"หนึ่ง สอง... !"
"ไม่ต้องรอให้ถึงสามแล้วค่ะ หนูไปล่ะมาดาม"
หนูดอกรีบวิ่งหน้าตั้งออกไป พุชชี่หันไปมองเน็กซ์อย่างเสียดาย ก่อนจะยกมือไหว้พ่อแม่เขาแล้วรีบออกไป
ทั้งคู่หนีออกมาจากบ้าน หนูดอกตบอกใจหายสุดฤทธิ์
"เป็นคุณครูนึกว่าจะใจดี แต่ไหงดุอย่างกับ..."
"เจ็บใจชะมัดเลย เกือบจะได้เรื่องอยู่แล้วเชียว"
"ยังไงก็ไม่ได้เรื่องหรอกป้า อย่ามาเสียเวลาอยู่ที่นี่เลย"
หล่อนชะงักหันไป เห็นแพตตี้ยืนกอดอกรออยู่หน้าประตูรั้วบ้าน
"ยัยเด็กสก๊อย !"
แพตตี้สะดุ้ง
"บ้า..ยัยป้าปากเสีย ชั้นสาวเชียร์ลีดเดอร์ย่ะ ไม่ใช่สาวสก๊อย..คนละสปีชี่เลย"
"หึ...ฝีมือหล่อนใช่มั้ย"
แพตตี้เชิดหน้าเย้ยๆ
"เน็กซ์เป็นของชั้น ชั้นจะไม่ยอมให้ใครมาพรากเอาเขาไปจากชั้น"
แพตตี้ยิ้มเยาะใส่แล้วเดินออกไปกับแก็งค์สาวเชียร์ของพวกหล่อน พุชชี่มองตามเจ็บใจ
"หล่อน...ยัยเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม !"
เน็กซ์เดินตามพ่อเข้ามาถาม
"ที่พ่อพูดกับผู้หญิงคนนั้น คงไม่ใช่แค่ต้องการไล่เขาไปใช่มั้ยครับ"
"ชั้นพูดจริงทุกคำ"
"คุณ !"
"แต่ผมบอกพ่อแล้ว ถ้าผมเรียนจบ ผมจะเลือกทางของผมเอง"
"แต่ชั้นไม่ให้แกเลือก แกจะต้องอยู่ที่บึงโขงหลงกับชั้น เป็นครูสอนเด็กๆอยู่ที่นี่"
เน็กซ์อึ้งไป สีหน้าเจ็บปวดแล้วโพล่งออกมา
"แต่ใครก็ห้ามผมไม่ได้ แม้แต่พ่อ"
เขาหุนหันเดินขึ้นบ้าน นิยมโกรธ
"ไอ้บักหมา...เอ็งอย่ามาตะคอกใส่หน้าพ่อแบบนี้นะเว้ย ลงมา ไอ้บักหมา"
"ไม่เอาน่าพ่อ...พอได้แล้ว ถ้าจะทะเลาะกันอีก ชั้นจะหอบเสื้อผ้าหนีข้ามโขงไปแล้วไม่กลับมาเลย"
นิยมชะงัก "แม่ !"
ราศีกอดอกน้ำตาซึมเสียใจงอนสามีมากๆ นิยมเลยต้องเย็นลง ไม่ตามไปเอาเรื่องกับลูก
ภายในห้องนอน เน็กซ์นั่งอารมณ์เสียใจที่ถูกพ่อบังคับเรื่องอนาคต แต่นั่งเสียใจอยู่ครู่หนึ่งก็ลุกไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือ หยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือ “คู่มือเรียนภาษาฝรั่งเศส” เขามองหนังสือในมือแล้ว เงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจเต็มปอดก่อนจะพูดออกมาเป็นภาษาฝรั่งเศสที่แปลได้ว่า
"สวัสดีครับพ่อ ผมเป็นลูกพ่อมาจากเมืองไทย ผมอยากรู้จักพ่อ"
เน็กซ์พูดออกมาแล้วเหมือนได้ปลดปล่อย ก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่คิดว่าคงหมดหวัง
ในเวลาเดียวกัน พุชชี่นั่งหน้าเครียด อ่านหนังสือพิมพ์ข่าวบันเทิง พาดหัวข่าวเป็นรูปเจ๊เมี่ยงถ่ายคู่กับหมอกี้ นางแต่งตัวเริ่ดแอ็คท่านิ้วทำรูปหัวใจประกบกับหมอกี้สุดฤทธิ์ พร้อมพาดหัวตัวโต...
"หมอกี้ฟันค่าตัวโฆษณา 10 ล้าน งานหนัง งานละครจ่อคิวเพียบ เจ๊เมี่ยงการันตี ซุป’ตาร์คนใหม่ของวงการเจิดแล้ว"
หล่อนอ่านจบก็หงุดหงิดหัวเสียโยนหนังสือพิมพ์ทิ้ง หนูดอกตามเข้ามาแล้วสงสาร
"มาดามก็รู้อยู่ว่า ฝีมืออย่างเจ๊เมี่ยง ยังไงก็ต้องดันจนหมอกี้ได้เป็นซุป’ตาร์แน่ๆ"
"แล้วชั้นล่ะ...กำลังทำอะไรอยู่ เป็นได้แค่คนขี้แพ้ ต้องหนีมาโดนเด็กมันเยาะเย้ยเอาถึงบึงโขงหลงเนี่ย"
"นี่มาดามคิดจะยกธงแพ้แล้วเหรอคะ"
"แล้วหล่อนจะให้ชั้นทำยังไง ไหนจะพ่อของเน็กซ์ ไหนจะยัยเด็กสก๊อยนั่นอีก โดนรวมหัวกีดกันซะขนาดนี้ จะพาเน็กซ์ไปเป็นดาราได้ยังไง หมดกัน ชั้นแพ้เจ๊เมี่ยงแล้วเหรอเนี่ย"
หล่อนแทบจะถอดใจเดินไปนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ยาว หนูดอกมองเจ้านายอย่างสงสาร ระหว่างนั้นแม่ของหนูดอกเข้ามาตาม
"อีนาง..อีนางเอ้ย"
"อีหยังแม่"
"อบจ.เขาแวะมา เขาอยากคุยกับเจ้านายเอ็ง"
"ข้อยว่าตอนนี้เจ้านายข้อยคงไม่มีอารมณ์คุยอะไรกับใคร ข้อยไปคุยเอง"
ดอกไม้เดินออกไปกับแม่ ทิ้งให้หล่อนนั่งเซ็งคนเดียว
ในเวลาลางคืน เวลาเดียวกัน แพตตี้เอาสมุดวางบนศรีษะ จิกหน้า เท้าสะเอว เอาผ้าแพรมาห่มเป็นสไบ แล้วดีดนิ้วให้สัญญาณ
ยุวดีรับคำสั่งเปิดแผ่น CD เพลง นางฟ้าจำแลง ชุดสุนทราภรณ์ ซ้อมเดินประกวดเทพีสงกรานต์
ยุวดีร้องไปด้วย
"โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้ แลตลึง ได้เจอ ครั้งหนึ่ง เสน่ห์ซึ้ง ตรึงใจ"
แพตตี้เดินนวยนาดประกอบเพลง โบกมือฉีกยิ้มได้สวยน่ารัก ยุวดีปิดเพลงแล้วปรบมือชอบใจ
"แจ่ม แหล่ม อย่างกับนางฟ้าจำแลงลงมาจริงๆเลยค่ะคุณแพตตี้"
นางเชิดบอก
"อ๊ะ…แน่นอนอยู่แล้ว ชั้นตระเวนประกวดทั้งเวทีนางงาม เวทีร้องเพลงเต้นรำมา ตั้งแต่อายุ 14 แล้วมีมีสักเวทีมั้ยที่ชั้นพลาดไม่ได้ตำแหน่ง"
"ไม่มีค่ะ ชนะเลิศทุกเวที"
"จะบอกให้นะยุวดี ยัยมาดามพุชชี่นั่นพูดถูกอยู่อย่างนึง เน็กซ์น่ะหล่อขั้นเทพเหมือนรูปปั้นเทพเจ้ากรีกจริงๆ แต่มันก็มองข้ามความจริงไปอย่างนึง"
"มองข้ามเทพีอย่างคุณแพตตี้ไปใช่มั้ยคะ"
นางชายหางตาดุใส่..ฮึ่ม
"ยัยนั่นมันตาถั่วต่างหาก ความสวยของชั้นมันบอร์นทูบีคู่กับเน็กซ์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้นชั้นจะไม่ยอมให้มันแย่งเน็กซ์ไปจากชั้นเด็ดขาด"
"แล้วคุณแพตตี้ไม่เสียดายเหรอคะ ถ้าเน็กซ์เขาได้เป็นดาราดัง คุณแพตตี้ก็จะได้เป็น แฟนซุป’ตาร์นะคะ"
"ถ้าเน็กซ์ได้เป็นซุป’ตาร์ ผู้หญิงทั้งประเทศก็จะรุมเข้าหา แล้วเน็กซ์ก็จะลืมชั้น แล้วรายการทีวีก็จะมาพาชั้นไปออกรายการ ไปจ๊ะเอ๋ เซอร์ไพรส์ว่าเป็นอดีตแฟนเก่า แล้วชั้นก็ต้องไปนั่งร้องไห้อยู่หลังรายการ..ชั้นไม่เอาด้วยหรอก !"
นางพูดไปด้วยสีหน้าขึงขังจริงจังสุดฤทธิ์
พุชชี่มองหนูดอกอย่างแปลกใจ
"จะให้ชั้นไปเป็นกรรมการกิตติมศักดิ์ตัดสินเทพีสงกรานต์เหรอ"
"ค่ะ ปีนี้จะมีการจัดอย่างยิ่งใหญ่เป็นปีแรก เพื่อให้เทพีที่ชนะเลิศเป็นพรีเซนเตอร์ของอำเภอ ทางอบจ.ที่จัดการประกวดได้ยินว่ามาดามมาที่นี่ ก็เลยขอให้มาดามช่วยคัดให้"
"ชั้นฝากหล่อนไปขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนด้วยนะ แต่ชั้นไม่มีเวลาไปทำอะไรแบบนั้นหรอก ลำพังยัยแพตตี้กับครูนิยม ชั้นยังปวดตับอยู่เลย"
หล่อนเซ็งๆจะเดินออกไป แต่หนูดอกรีบตามไปอธิบายต่อ
"เดี๋ยวๆๆค่ะ...มาดามยังฟังหนูไม่จบ หนูน่ะตอบรับเขาไปแล้ว"
"อะไรนะหล่อน นี่เดี๋ยวนี้หล่อนตัดสินใจรับงานแทนชั้นแล้วเหรอ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะมาดาม หนูกำลังช่วยมาดามจัดการกับเสี้ยนหนามต่างหาก"
"หมายความยังไง"
"ก็เวทีประกวดปีนี้ ยัยแพตตี้ลงชื่อเข้าประกวดด้วยน่ะสิคะ"
"ยัยเด็กสก๊อยนั่นน่ะเหรอ"
หนูดอกยิ้มร้าย
"ค่ะ... ทีนี้มาดามพอจะนึกออกแล้วใช่มั้ยคะ ว่ามาดามจะสั่งสอนยัยแอพหงิม สุดติ่งนั่นยังไง"
พุชชี่ฟังดอกไม้แล้วแอบยิ้มพอใจ แววตาดูร้ายแบบนิ่มๆเชือดๆ
"งั้นชั้นตกลง ยัยเด็กนั่นจะได้รู้จักมาดามพุชชี่จริงๆซะที"
วันใหม่เสียงไก่ขันตั้งแต่ยังไม่เช้ามืด ครูนิยมที่อยู่ในชุดวอร์มกระชากผ้าห่มที่เน็กซ์นอนคลุมโปงหลับสบายแถมปลุกด้วยเสียงอันดังและขึงขัง
"ตื่นได้แล้วเว้ยไอ้บักหมา"
เน็กซ์สะดุ้งทันที
"เฮ้ย ! อะไรเนี่ยพ่อ นี่พ่อยังไม่เลิกหาเรื่องชั้นอีกเหรอเนี่ย"
นิยมเขกกบาลซะ..โป๊ก
"หาเรื่องเหรอ ไอ้เวร ! ข้าเป็นพ่อเอ็ง ข้ามีสิทธิ์สั่งเอ็งทุกอย่าง จะให้เดิน ให้นั่ง ให้นอน ข้าชี้นิ้วสั่งได้หมด"
"นั่นมันหมาแล้ว ไม่ใช่ลูกหรอก"
"ยังเถียงอีก"
นิยมจะเขกกบาลอีก ราศีรีบเข้ามาห้าม
"พอๆๆๆ แต่เช้ามืดก็แง่งๆๆจะกัดกันอีกแล้ว พ่อนะพ่อ มายุ่งอะไรกับมันแต่เช้าเนี่ย"
"ถึงเวลาที่ชั้นต้องจริงจังกับอนาคตมันแล้วน่ะสิแม่"
ครูนิยมพูดไปก็หันมามองเน็กซ์ด้วยสายตาจริงจังแกมบังคับ ส่วนเน็กซ์ได้แต่ถอนใจเซ็งสุดๆ
สนามฟุตบอลโรงเรียนประถมบึงโขงหลง ครูนิยมพาเน็กซ์มาแนะนำให้เด็กๆนักเรียนที่มาซ้อมฟุตบอลช่วงปิดเทอมรู้จัก
"พวกเราทุกคนคงรู้จักลูกชายครูกันแล้วใช่มั้ย"
พวกเด็กๆตอบรับพร้อมเพรียง “รู้จักครับ” แล้วกรูกันเข้าไปรุมเน็กซ์
ด.ช. 1บอก
"พี่เน็กซ์ครับสอนผมยิงลูกไซค์โค้งสวยๆ แบบพี่หน่อยได้มั้ยครับ"
ด.ช. 2 บอก
"สอนผมด้วยนะครับพี่"
เน็กซ์อยู่ท่ามกลางการรุมล้อมของเด็กๆที่เห็นเขาเป็นฮีโร่
"ใจเย็นๆ พี่เขารับปากครูแล้วว่า จะมาเป็นโค้ช ช่วยทำทีมฟุตบอลของโรงเรียนเรา และจะมาเป็นครูสอนพวกเราในเทอมหน้าด้วย ต่อไปโรงเรียนเราจะได้มีถ้วยรางวัลกับเขาซะที" นิยมบอก
พวกเด็กๆไชโยเสียงดัง เน็กซ์อึ้งหน้าเสีย ชะงัก มองพ่อ ไม่คิดว่าจะถูกจับพามามัดมือชกแบบนี้
"เห็นมั้ยบักหมา เอ็งเป็นขวัญใจพวกเด็กๆจนเขาอยากจะเก่งเหมือนเอ็ง เพราะฉะนั้น เอ็งต้องช่วยพ่อ การจะพัฒนาบึงโขงหลงให้เจริญรุ่งเรืองในทุกๆด้าน มันต้องเริ่มจาก การศึกษา พ่อฝากเอ็งด้วยนะ"
ครูนิยมตบบ่าเน็กซ์แล้วเดินออกไป ทิ้งให้เน็กซ์อยู่กับพวกเด็กๆ ที่เขาไม่สามารถปฏิเสธซึ่งหน้าได้เพราะกลัวว่า จะเป็นการทำลายความหวังของเด็ก
นิยมเดินออกมาจากสนาม เจอราศีที่ยืนมองอยู่นานและมีสีหน้าเป็นห่วง
"เฮ้อ...ชั้นไม่เห็นด้วยเลยนะพ่อ ทำแบบนี้เท่ากับมัดมือชกลูก" ราศีบอก
"ชั้นให้มันมาเป็นโค้ชฟุตบอลไม่ใช่ครูมวยนะแม่ ฮ่าๆๆๆ เป็นไงล่ะตึ่งโป๊ะเลย"
"ชั้นไม่ขำนะพ่อ !! ลูกน่ะเราเลี้ยงได้แต่ตัว พอโตแล้วมันก็ต้องมีชีวิตของมัน"
"ถ้าฟ้าลิขิตให้ไอ้บักหมามีชีวิตของมันเองจริงๆ มันคงไม่ถูกเอาวางทิ้งไว้ที่หน้าบ้านเรา หรอกแม่"
"พ่อก็ !"
"แม่ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ชีวิตมันถูกกำหนดให้มาอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นชั้นจะดูแลมัน จนกว่าชั้นหรือมันจะตายจากกัน"
ครูนิยมเดินออกไปอย่างดื้อรั้นไม่ฟัง ราศีถอนใจยาว มองลูกชายที่กำลังสอนฟุตบอลเด็กๆอย่างสงสาร
เวลากลางวัน บรรยากาศการเตรียมจัด “งานประกวดเทพีสงกรานต์บึงโขงหลง 2555” ทีมงานตกแต่งเวที แสงเสียงพร้อม ธีระยืนคุมทีมงานที่กำลังติดป้ายโฆษณาธุรกิจของตัวเองซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักของการจัดงานครั้งนี้
ป้ายโฆษณาเป็นรูปธีระสวมหมวกแบบคาวบอย ทำนิ้วชี้ไปข้างหน้าอย่างเท่ พร้อมคำโปรยที่ตัวเล็กกว่ารูปของธีระเยอะ “ ธีระการเกษตร ยินดีรับใช้พี่น้องบึงโขงหลงทุกครัวเรือน ”
"ติดให้มันสูงหน่อยสิวะ ชาวบ้านเขาจะได้เห็นไกลๆ สูงขึ้นอีก ขึ้นไปอีก"
ธีระจุกจิกจู้จี้อยู่ครู่หนึ่ง ลูกน้องก็เดินเข้ามากระซิบบางอย่าง ธีระสนใจฟัง
"กรรมการตัดสินการประกวดกิตติมศักด์เหรอ"
"ครับ ทางอำเภอเขาเพิ่งเชิญมา ตอนนี้มาถึงที่นี่แล้ว" ลูกน้องบอก
ธีระนิ่งไป เอามือลูบคางสีหน้าครุ่นคิด
พุชชี่กับหนูดอกเข้ามาดูการเตรียมงานประกวด
"ที่นี่เขาก็จัดงานใหญ่โตดูดีนะ หนูดอก" พุชชี่บอก
"ก็ตั้งแต่อำเภอบึงกาฬแยกตัวออกมาเป็นจังหวัด ทางจังหวัดก็เลยต้องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในแต่ละอำเภอให้เป็นที่รู้จัก เลยต้องมีการจัดงานกันให้ใหญ่โตค่ะ มาดาม"
"ตอนแรกชั้นก็ไม่รู้จักหรอกนะว่า อำเภอบึงโขงหลงเป็นยังไง แต่พอได้มาอยู่แล้ว ที่นี่ก็อเมซิ่งไทยแลนด์เหมือนกันนะ"
"ที่อเมซิ่งกว่าก็ตรงมีเทพบุตรสุดหล่อให้เราพาไปกอบกู้ชื่อเสียงใช่มั้ยคะ มาดาม"
พุชชี่หันมายิ้มชอบใจถูกต้อง ระหว่างนั้นธีระเข้ามาพร้อมลูกน้องพร้อมเสียงทักทาย
"สวัสดีครับ มาดามพุชชี่"
ธีระเข้ามาแสดงตัวฉีกยิ้มอย่างมีไมตรี ขอจับมือกับพุชชี่ ทำเอานางมองอย่างแปลกใจว่าใคร
หนูดอกกระซิบบอก
"นี่เสี่ยธีระค่ะ มาดาม เป็นเจ้าของธีระการเกษตร สปอนเซอร์หลักของงานนี้"
พุชชี่พูดเสียงเบา
"ที่บอกว่าเป็นพ่อของแพตตี้"
หนูดอกพยักหน้ารับว่าใช่ พุชชี่ยิ้มดูมีเลศนัยก่อนจะหันไป แต่ไม่จับมือด้วยเพียงยกมือไหว้งามๆ
"สวัสดีค่ะเสี่ย ได้ยินชื่อเสี่ยจากทีมงาน นึกว่าจะแก่กว่านี้ซะอีก ที่ไหนได้ หน้ายังตึง พุงไม่มี ราศีก็จับ หนุ่มๆ อายเลยนะคะเนี่ย"
ธีระยิ้มชอบใจมือไม้ไวเข้าไปโอบไหล่นางอย่างถึงเนื้อต้องตัวทำเอาพุชชี่เหวอ
"มาดามเองก็ยังสวยยังสาวอยู่เลย แถมระดับมาดามมาชมผมแบบนี้ ชักอยากจะพาไป ดูว่าผมเตะปี๊บได้ไกลขนาดไหนจริงๆ ฮ่าๆๆ"
พุชชี่รีบแกะมือของธีระแล้วทำเนียนยิ้มหวาน
"ขอบคุณที่ชวนค่ะ แต่คงต้องขอตัวนะคะเสี่ย คืนนี้ดิชั้นต้องทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินการประกวด"
"น่าเสียดายนะครับ แต่ไม่เป็นไร ในฐานะที่ผมเป็นสปอนเซอร์หลัก ถ้ามาดามต้องการ ควาสะดวกสบายอะไรก็บอกมาได้เลยนะครับ ลูกน้องผมยินดีจัดหนักให้เต็มที่เลย"
ธีระพูดพลางผายมือให้นางดูกลุ่มลูกน้องกล้ามโต ท่าทางนักเลงโต หน้าโหดเอาเรื่อง
"อ้อ...อีกเรื่องนึงที่สำคัญ คืนนี้แพตตี้ลูกสาวผมจะขึ้นประกวดเทพีด้วย หวังว่ามาดามคงจะให้ความอนุเคราะห์เธอเหมือนกับที่ลูกน้องผมจะคอยตามดูแลมาดามด้วยนะครับ"
ธีระพูดไปแล้ว หัวเราะเสียงดังกลบเกลื่อนคำพูดที่จงใจขู่กันซึ่งหน้า หนูดอกเห็นพวกลูกน้องของธีระแต่ละคน แล้วสยองปนแขยงขยับไปหลบหลังพุชชี่ที่ทำทียิ้มรับ
สักครู่ต่อมา พุชชี่ชักสีหน้าไม่พอใจเดินเลี่ยงออกมา
"ข่มขู่กรรมการกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้ มิน่าล่ะประกวดกี่เวที ลูกสาวตัวเองถึงได้ถ้วยตลอดๆ"
"แต่อิทธิพลของมันก็ใหญ่คับเป้งจริงๆนะคะ มาดาม ดูสิคะ ลูกน้องมันยังตามมาส่องเราอยู่เลย"
หนูดอกสะกิดให้พัฒศรีดูลูกน้องธีระที่เดินตามมายืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ
"ชิ...พวกนักเลงสวะ ถ้าคิดว่าแค่นี้จะทำให้ชั้นกลัวล่ะก็ ดูถูกมาดามพุชชี่เกินไปแล้ว ถ้าลองเอาตัวรอดจากวงการบันเทิงได้ล่ะก็ ออกสนามรบไหนก็ไม่ตายง่ายๆหรอก"
พุชชี่กอดอกหางตามองไปทางลูกน้องของธีระ
เจ๊เมี่ยงนั่งไขว่ห้างครุ่นคิดจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน เพราะคำพูดของนักข่าวที่มาสัมภาษณ์เมื่อวันก่อน ยังรบกวนจิตใจ
"แล้วเจ๊ไม่สงสัยเหรอคะ คู่ปรับที่มีปัญหากับเจ๊มาตลอดอย่างมาดามพุชชี่ เขาอาจจะไม่หายหน้าไปเฉยๆ อาจจะซุ่มไปหาเด็กใหม่มาปั้นแข่งกับหมอกี้ของเจ๊"
เจ๊เมี่ยงเริ่มจิกหน้ามองนักข่าวอย่างไม่พอใจ
"ชั่วโมงนี้จะมีใครหล่อกว่าหมอกี้อีกเหรอคะคุณน้อง ต่อให้มาดามพุชชี่ขึ้นสวรรค์ไปคว้าเอาเทวดามา ก็ไม่มีทางสู้เจ๊ได้หรอก"
เจ๊เมี่ยงชักเริ่มระแวงเพราะเห็นว่าข่าวคราวของพุชชี่หายไปนาน จึงหยิบโทรศัพท์มาโทร.ออก
"ย่ะ...ชั้นเองนังเจโล ไม่ได้จะมาถามหาเด็กใหม่ๆจากหล่อนหรอกย่ะ ไอ้ที่มีอยู่ตอนนี้ก็แน่นบ้านจะแตกอยู่แล้ว ชั้นมีเรื่องจะถามหล่อนแล้วก็ฝากถามกระจายไปถึงพรรคพวก แมวมองของหล่อนด้วย"
เจ๊เมี่ยงเปลี่ยนอิริยาบทลุกเดินไป คุยโทรศัพท์ไป
"ก็เรื่องนังพุชชี่นี่แหละ นังหมาบ้าอย่างมันหายหัวไปแบบนี้ ชั้นว่ามันผิดปกติไปหน่อย ถ้าหล่อนกับพวกได้ข่าวอะไรของมันมาเข้าหู รู้ใช่มั้ยว่าต้องกริ๊งกร๊างหาใคร ... ดีมาก"
เจ๊เมี่ยงวางสายไปได้สักครู่ ฝันหวานหวานก็เข้ามาข้างหลังไม่ทันได้ยิน
"เจ๊เมี่ยงคะ"
"อะไรเหรอคะคุณน้อง"
"ก็เราจะออกไปกินข้าวกับพี่หมอกี้ไงคะ"
"อ๋อ..นั่นสิ เจ๊ก็มัวคิดเรื่องงานจนลืม เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยจ๊ะ ไปกันจ้ะ"
เจ๊เมี่ยงลุกจากที่แล้วเข้าไปควงแขนฝันหวานหวานพาเดินออกไปด้วยกัน
แพตตี้ให้ยุวดีกางร่มกันแดดไม่ให้แดดโดนผิวเด็ดขาด
"ตามมาติดๆนะ ห้ามให้แดดโดนผิวชั้นเด็ดขาด ถ้าคืนนี้ชั้นขึ้นเวทีแล้วมีรอยดำรอยด่าง แม้แต่นิดเดียว ชั้นฟ้องป๋าแน่"
"ถ้ากลัวผิวเสีย แล้วคุณแพตตี้จะออกมาทำไมล่ะคะ อยู่บ้านเตรียมตัวประกวดดีกว่า"
"ไม่ได้ นี่เป็นคืนสำคัญของชั้น ชั้นต้องมาชวนให้เน็กซ์ไปเป็นกำลังใจด้วยตัวเอง"
แพตตี้รีบเดินเข้าไปที่ข้างสนามเห็นเน็กซ์กำลังฝึกสอนเด็กๆให้ชู้ตเต็มข้อ
"เน็กซ์...ยู้ฮู้ ทางนี้ แพตตี้อยู่ทางนี้จ้ะเน็กซ์"
เน็กซ์ไม่ได้ยินเพราะง่วนอยู่กับการสอนเด็ก แพตตี้เห็นโทรโข่งวางอยู่ที่ม้านั่งข้างสนามเลยคว้ามาตะโกนใส่
"เน็กซ์จ้ะ แพตตี้มีเรื่องจะคุยด้วย ออกมาคุยกันหน่อยสิ"
เสียงของแพตตี้ดังเข้ามาทำให้เน็กซ์หันไป ระหว่างนั้นเด็กนักเรียนง้างเท้าเตะลูกฟุตบอลเต็มข้อ..ตู้ม!!
ลูกบอลลอยโด่งข้ามมาแต่ไกล ยุวดีเห็นเข้าก็ตกใจรีบเตือน
"คุณแพตตี้คะ หลบค่ะ"
"หลบอะไร"
"ลูก...ลูก…ลูกฟุตบอลค่ะ"
แพตตี้หันไปแต่ไม่ทันแล้ว เพราะลูกฟุตบอลพุ่งเข้าหน้านางเต็มๆ…โครม ! นางหงายหลังตึงลงไปนอนกระตุก เห็นดาวระยิบๆ เน็กซ์รีบวิ่งเข้ามาดูทันที
"แพตตี้ แพตตี้"
แพตตี้ตาลอยกลอกไปมาก่อนจะหมดสติ..คร่อก !
ธีระถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นหน้าลูกสาวชัดๆ
"เย้ย ! ทำไมหน้าลูกถึงได้เป็นแบบนี้เนี่ย"
แพตตี้ใจไม่ดี
"ป๋าอ่ะ ป๋าอย่าพูดแบบนี้สิ แพตตี้ใจเสียหมดนะ เอากระจกมาให้ชั้นสิ ยุวดี"
ยุวดีหน้าเลิ่กลั่กไม่กล้า มองเสี่ยอย่างถามว่าเอายังไงดี
"เร็วสิ ! เอากระจกมาให้ชั้น"
ยุวดียอมยื่นกระจกให้ แพตตี้เอามาส่องหน้าตัวเองแล้วถึงกับตกใจ เพราะผลจากการโดนลูกบอลเข้าเต็มหน้า ทำให้เบ้าตาช้ำไปข้างเหมือนโดนชก
"ไม่จริง !"
แพตตี้กระชากคอยุวดีมาด่า
"ไหนตอนโดนลูกบอล บอกว่าแค่ช้ำนิดๆหน่อยๆไง"
ยุวดีบอก
"ตอนนั้นมันยังนิดเดียว แต่ตอนนี้มันไม่นิดแล้วนี่คะ คุณแพตตี้"
"ฮือๆๆ ป๋า แพตตี้ไม่ยอมนะ คืนนี้แพตตี้จะเสียตำแหน่งไม่ได้เด็ดขาด"
"ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณแพตตี้"
ยุวดีหันไปดึงช่างแต่งหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วบอก
"ช่างแต่งหน้าที่ตามมา แต่งหน้าให้คุณน่ะเป็นมือดีที่สุดในจังหวัดแล้ว รับรองว่าเขาจะโบ๊ะ จะโป๊ะให้สวยจนไร้ร่องรอยต่อทอเต็มผืนเลยค่ะ"
ช่างแต่งหน้าส่ายหน้าบอก
"ซะขนาดนี้ แป้งกี่ตลับจะโป๊ะมิดเนี่ย"
ธีระฉุน
"เฮ้ย ! พูดแบบนี้ได้ยังไง นี่ลูกสาวชั้น ถ้าแกยังอยากหากินอยู่ในถิ่นอีสานนี่ล่ะก็ แกต้องโบ๊ะให้ลูกชั้นสวยให้ได้ "
ธีระขู่เอาจริง ลูกน้องเข้ามาประกบช่างแต่งหน้าจนชีกลัว
"ก็...ก็ได้ค่ะเสี่ย หนูจะพยายามสุดฤทธิ์สุดเดชเลยค่ะ"
"ดีมาก แพตตี้ ไม่ต้องห่วงนะลูก กี่เวทีประกวดทั่วถิ่นอีสานแล้ว ที่ลูกกวาดมาได้หมด กับไอ้แค่เวทีบ้านเกิดตัวเองมันจะพลาดไปได้ยังไง"
ธีระโอบลูกสาวปลอบใจอย่างมั่นใจมาก
ในร้านอาหาร เจ๊เมี่ยงพาฝันหวานหวานกับหมอกี้มานั่งทานข้าวด้วยกัน แต่หัวเสียใส่ฝันหวานหวาน
"น้องฝันหวานหวานคะ เจ๊บอกกี่ครั้งแล้ว เวลาทานอาหารกับหมอกี้ต้องทำยังไง"
"เอ่อ หนูลืมค่ะเจ๊"
ฝันหวานหวานหันมาม้วนเส้นสปาเก็ตตี้แล้วป้อนปากหมอกี้โชว์หวานสวีตวี้ดวิ้วในที่สาธารณะ
"แค่นั้นก็ยังไม่พอนะคะ ที่สาธารณะแบบนี้ปาปาราสซี่เยอะแยะ ยิ่งหวานเลี่ยนยิ่งเป็นข่าว รับทราบปฏิบัติ"
ฝันหวานหวานพยักหน้ารับงั้นๆ แล้วเอามือช่วยป้ายปากหมอกี้ที่เลอะซอส
เจ๊เมี่ยงชำเลืองมองไปรอบๆ เห็นผู้คนทั้งในร้านนอกร้าน เอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปคู่หมอกี้กับฝันหวานหวานกันใหญ่ นางอมยิ้มชอบใจ ก่อนที่จะเหลือบมองออกไปนอกร้านแล้วเห็นนังเก๋ง แมวมองขาประจำของพุชชี่เดินถือถุงช้อปปิ้งพะรุงพะรังท่าทางลั้นลาผ่านหน้าร้านไป
"เอ๊ะ...นั่นมันนังเก๋งนี่"
เจ๊เมี่ยงหันมาจิกหน้าสงสัยครุ่นคิดอยู่ครู่
"เดี๋ยวเจ๊มานะคะคุณน้อง..ฝากดูแลน้องฝันหวานหวานด้วยนะคะหมอกี้ ดูแลให้เหมือน ดูแลหัวใจคนไข้เลยนะคะ"
หมอกี้พยักหน้ารับ ส่วนนางรีบเดินออกจากร้านไปทันที
อ่านต่อตอนที่ 2