เรือนกาหลง ตอนที่ 15
ภายในกระท่อม...เสียงตอกไม้ดังขึ้น โขงได้ยินเสียงก็ดีดตัวลุกขึ้นมา จอกดีดตัวลุกขึ้นมา ดำดีดตัวลุกขึ้นมา ทั้งสามมองหน้ากัน ตะโกนบอกจัน
“น้าจันหยุดตอกได้แล้ว”
จันถือดาบเข้ามาโวยวาย
“ข้ายืนถือดาบกันท่าผี ไม่ได้ตอกไม้”
ทุกคนแปลกใจ และแล้วเสียงตอกไม้ดังขึ้นอีก
ผีกาหลงกำลังตอกไม้ ซ่อมเรือน...ตอกไม่หยุด...โขง จัน จอก ดำ ได้ยินเสียงตอกไม้ดังมาก
“กาหลงมันเล่นงานอีกแล้ว” จอกพูดขึ้น
จันหวาดๆ
“ไอ้ขาวแหละตัวดี มันเอาฝาโลงไปให้กาหลงสร้างเรือน”
ดำถอนใจ
“นั่นประไร...เรือนนั่นถึงได้เฮี้ยนหนัก”
“น้าจันเป็นเมียสัปเหร่อต้องรับผิดรับชอบ ไปคุยต่อรองให้ผีหยุดตอกเรือน” จอกบอก
เสียงตอกไม้ยังดังต่อเนื่อง
“อยู่นี่คงไม่ปลอดภัยเสียแล้ว หนีกลับไปหลบที่วัดเถอะ” โขงแนะ
จอกเห็นด้วย
“ได้...ข้าจะพาไปทางลัด”
ทุกคนรีบออกไปจากกระท่อม เพราะกลัวผีกาหลงมาเล่นงาน
ผีกาหลงตอกไม้ซ่อมเรือนอย่างต่อเนื่อง อบเชยนอนไม่หลับเพราะเสียงตอกไม้ดังมาก
“นังผีบ้า หยุดได้แล้ว”
อบเชยเดินปึงปังออกจากห้องนอนมาเจอช่วงที่ยืนอยู่
“พ่อจะปล่อยให้ผีบ้ามันอาละวาดอยู่อย่างนี้ไม่ได้ ฉันจะตายอยู่แล้ว”
“ยังไม่ถึงเวลาที่ข้าจะออกโรง”
อบเชยแปลกใจ
“ปล่อยให้มันเล่นงานชาวบ้านให้หนัก พอพวกมันทนไม่ได้ ก็มาก้มหน้ากราบตีนให้ข้าช่วย แปรพักตร์มาฝักใฝ่ข้า”
ช่วงหัวเราะอย่างสะใจ อบเชยยิ้มเย้ยรอวันที่จะจัดการผีกาหลง
จอกพายเรืออยู่หัวเรือ มีจันและดำนั่งกลาง ส่วนโขงอยู่ท้ายเรือ...
“เดินไปมันไกลโข พายเรือไม่กี่คุ้งก็ถึงวัด” จอกบอก
จันเสียงสั่น
“แล้วเอ็งไม่คิดสักนิดเหรอวะ ว่ามันผ่านคุ้งไหน”
จอกนึกได้ หันขวับไปที่เรือนกาหลง ทุกคนตกใจ
“เรือนกาหลง”
ผีกาหลงกำลังตอกเรือนหันไปมองทุกคนหน้าตาไม่พอใจหยุดตอกเรือน จอกกลัว
“พวกฉันไม่ได้มากวนใจ แต่มาช่วย”
ฉับพลัน ผีกาหลงโผล่มาท่าน้ำ ใกล้เรือมากขึ้น ทุกคนสะดุ้ง
“เฮ่ย”
โขงหันมาถาม
“เอาไงดี”
ดำบอกพวกโขง
“เอาตัวรอดสิวะ” ดำลุกขึ้นบอกกาหลง “แม่กาหลงจ๋า...พวกฉันมาดี จะมาช่วยลงแรงตอกไม้ซ่อมเรือน”
ทุกคนส่ายหน้าตกใจไม่เอาด้วย จอกรีบบอก
“ฉันมีงานต้องทำ ไอ้ดำมันว่าง ฉันส่งไอ้ดำไปช่วยจ้ะ”
ขาดคำจอกก็ถีบดำตกน้ำไปทันที จันตะโกนบอกโขง
“ไอ้โขงพายไปเร็ว”
ผีกาหลงยืนมอง ทุกคนตื่นกลัว จันกลัวมากเร่งโขง
“เร่งพายสิวะ”
โขงพยายามพายแต่เรือไม่ไป
“พายไม่ไป”
จันหันไปมองจอก...จอกไม่พาย แต่เอาเท้าราน้ำเพราะกลัวกาหลงมากเอาขาห้อยไปอีกด้านหนึ่งของเรือ จันด่า
“มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ”
“ก็ฉันกลัวผีจับขา ก็เลยเอาขาลงน้ำ”
มือดำดึงขา จอกตกน้ำไปทันที
“ช่วยด้วย”
จอกและดำว่ายน้ำอยู่บริเวณเรือ จันหันไปมองโขงที่ท้ายเรือ
“ไอ้โขง ไม่มีตัวถ่วงแล้ว พายไปเร็ว”
โขงมองไปที่หัวเรือ ผีกาหลงนั่งอยู่ โขงกระโดดน้ำลงไปทันที จันยังไม่เห็นกาหลง
“เอ้า...เอ็งไปแล้วใครจะพายล่ะวะ”
จันพูดจบ เห็นเรือเคลื่อนไป จันยิ้มดีใจ
“ขอบใจนะจ๊ะที่มีน้ำใจ”
จันมองไปตรงหน้า เห็นผีกาหลงพายเรือก็ตกใจช๊อค
“ลูกมีอะไรก็ไปทำเถอะจ้ะ แม่พายเองได้”
ผีกาหลงมาโผล่นั่งชิดกับจันแล้วยื่นไม้พายให้ จันตกใจช๊อคหนักรับพายจากกาหลงแล้วเปลี่ยนใจ ส่งคืนให้
“แม่ไม่ไปล่ะ”
จันกระโดดลงน้ำทันที ทุกคนพยายามว่ายน้ำจะหนีไปที่ท่าน้ำ
โข่งขึ้นมายืนบนท่าน้ำเรือนกาหลง จอก จันและดำยังว่ายอยู่เพราะว่ายื้อกันเอง
“ไอ้โขง ข้าจะจมแล้ว” จันร้องลั่น
โขงหันไปมองลูกมะพร้าวที่ผูกไว้พ่วงกันสองลูก โยนให้ จันรับมะพร้าวมาเกาะเหมือนเป็นห่วงชูชีพ จอกตะโกนบอก
“ข้าขอด้วย”
โขงโยนมะพร้าวให้ จอกรับมาเกาะอย่างดีใจ ดำอยากได้บ้าง
“ข้าขอด้วย”
โขงจะหยิบมะพร้าวโยนให้แต่แล้ว...ไม่มี ผีกาหลงโยนมะพร้าวบนเรือให้ ดำรับมะพร้าวจากผีกาหลงแล้วเกาะ
“ผีมีน้ำใจ ขอบใจจ้ะ”
จอกและจันว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้แล้วตะโกนบอกดำ
“ไอ้ดำ มะพร้าวเอ็ง”
ดำมองมะพร้าว เห็นเป็นกะโหลกคู่
“กะโหลกผี”
ดำร้องลั่นทิ้งกะโหลกแล้วว่ายน้ำอย่างรวดเร็วจะขึ้นเรือ ไปเจอผีกาหลง ก็หันกลับ ว่ายน้ำหนีมาที่ฝั่ง...ทุกคนมารวมตัวที่ท่าน้ำ หันไปมองผีกาหลงที่เรืออย่างหวาดกลัว
“หนีเถอะ” จันชวน
“มันอยู่ในน้ำ เราก็ต้องขึ้นบก ตามข้ามา”
ขาดคำจอกคว้ามือทุกคนวิ่งหนีออกไป ผีกาหลงมองทุกคน
จอก โขง จัน ดำ วิ่งมาบนเรือนกาหลงหลบเข้าไปในห้องแล้วดำก็ปิดประตูห้องเข้าไปรวมกับทุกคน จอกโล่งใจ
“พวกเรารอดแล้ว”
จันมองๆอย่างสงสัย
“แล้วนี่เราหนีมาเรือนใคร”
จอกหันหน้าไปมองดำ ทุกคนมองไปที่ดำเห็นว่าผีกาหลงยืนอยู่ข้างดำ ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน
“เรือนกาหลง”
ทุกคนค่อยๆเดินย่องออกไปทีละคน ดำออกมาคนสุดท้ายยกมือไหว้
“ข้าไม่กวนล่ะ ข้าปิดประตูให้นะ”
ดำปิดประตูแล้วจะวิ่งออกไป ดำและทุกคนที่อยู่บนชานเรือนรีบวิ่งออกไปด้วยความกลัว
“ช่วยด้วย”
ผีกาหลงมองทุกคนที่วิ่งหนีไปก็กลายเป็นผีหน้าตาน่ากลัว
“เอาผัวข้าคืนมา”
โขง จอก จัน ดำ กำลังจะวิ่งไปโบสถ์ ทุกคนวิ่งหนีด้วยความกลัว ผีกาหลงอยู่ด้านหลัง ทุกคนรีบวิ่งหนีไปแต่แล้ว จอกล้มลง
“ช่วยด้วย”
ทุกคนจะวิ่งไป ดำหันไปมองไม่เห็นผีกาหลงก็ดีใจรีบวิ่งกลับไปดึงมือจอก
“ลุกขึ้นมาเร็ว”
ดำจูงมือจอกลุกขึ้น วิ่งตามทุกคนไป โขงและจันร้องบอกดำ
“หยุด อย่าเข้ามา...ไม่งั้นข้าเอาเอ็งตาย”
“พวกเอ็งมันเห็นแก่ตัว ไอ้จอกล้มไม่ช่วย แล้วยังมาหน้ามาไล่” ดำต่อว่า
โขงกลัวกาหลง
“ก็มันไม่ใช่...”
ดำหันไป เจอผีกาหลง ค่อยๆเอามือกาหลงออก
“ไม่ได้รังเกียจนะ แต่เอ็งมีผัวแล้ว มันไม่เหมาะที่เราจับมือกัน”
ดำจะไป แต่ผีกาหลงจับมือไว้ ดำหวาดกลัว ทันใดนั้นเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมา
“นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ...”
เพชรสวดมนต์เข้ามาบอกทุกคน
“ช่วยกันสวดมนต์”
ทุกคนพนมมือ
“นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ...”
จันหันไปไม่เห็นผีกาหลงแล้ว
“ผีหายไปแล้ว”
จอกวิ่งเข้ามาที่มุมหนึ่ง
“พวกเอ็งทิ้งข้า...”
โขงตื่นกลัว
“รีบเข้าโบสถ์”
ทุกคนรีบวิ่งไป...
ทุกคนวิ่งหนีมาถึงบริเวณหน้าโบสถ์ ดีใจจะเข้าไปในโบสถ์ เพชรวิ่งนำหน้า ห่างจากทุกคน
“ตามมาเร็ว”
แต่แล้วมีฝนตกลงมา จันแปลกใจ
“หมดฤดูแล้ว ฝนตกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย”
ทั้งหมดเงยหน้ามองสูง ทุกคนยืนอยู่ใต้หว่างขาผีกาหลงน้ำจากตัวกาหลงหยดใส่ ทุกคนตกใจ
“กาหลง”
ทั้งหมดวิ่งหนีไปรวมตัวกับเพชร ผีกาหลงจ้องมองทุกคนด้วยความไม่พอใจ
“เอาผัวข้าคืนมา”
ไม้ออกมาจากโบสถ์ ยืนมองเห็นกาหลงก็ตกใจ
“กาหลง”
ผีกาหลงเห็นไม้ ก็ไม่อยากทำให้เขากลัว ผีกาหลงกลายเป็นร่างปกติ
“พี่ไม้ กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะจ้ะ”
“กาหลง พี่รู้เต็มหัวอกว่ากาหลงรัก พี่ก็รักกาหลงจนล้นนักแล้ว แต่เราฝืนธรรมชาติไม่ได้ กาหลงหยุดเถอะ พี่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ กาหลงจะได้รับผลบุญ ไปผุดไปเกิดในภพชาติใหม่ กาหลงไม่ต้องทนทรมานอย่างนี้”
“พี่ไม้ไม่รักกาหลงแล้ว...”
กาหลงทรุดตัวร้องไห้เสียใจ ทุกคนมองกาหลงสงสารและกลัว ใครคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วเดินตรงไปหากาหลง เป็นกาเหว่านั่นเอง กาเหว่ายืนมองกาหลง
“พี่กาหลง”
กาหลงเงยหน้ามองกาเหว่า แปลกใจที่น้องชายมาหา
“พี่ไม้...พี่จะใจดำแท้ทิ้งเมียพี่อย่างนี้ได้ยังไง”
กาเหว่ามอง ไม้มองกาเหว่า พูดไม่ออก ไม่อยากบอกกาเหว่าเรื่องกาหลงเป็นผี
“กาเหว่า...เอ็งมาหาพี่...”
“พี่ใจร้าย พวกพี่ไม่คิดช่วยเหลือพี่สาวฉัน” กาเหว่าเข้าไปประคองกาหลง “พี่กาหลง..ลุกขึ้นเถอะ”
กาหลงแปลกใจที่กาเหว่ามาดูแล กาเหว่าประคองพากาหลงขึ้นมา ไม้มองกาเหว่า พูดไม่ออก ทุกคนอึดอัดใจ
“ฉันจะพาพี่กลับเรือน”
กาเหว่าพากาหลงจะเดินออกไป ไม้ทนไม่ไหวตัดสินใจตะโกนบอกกาเหว่า
“กาเหว่า...พี่กาหลงตายแล้ว”
กาเหว่าซึ่งกำลังจะเดินออกไป นิ่ง กาหลงมองกาเหว่าอยากรู้ว่าน้องชายจะทำอย่างไร กาเหว่าหันมาบอกกาหลง
“เดินระวังนะจ๊ะพี่”
กาเหว่าประคองพากาหลงเดินออกไป ไม้และทุกคนแปลกใจมาก ที่กาเหว่าไม่ตกใจ ไม้ตัดสินใจวิ่งเข้ามาขวางทางกาเหว่า
“กาเหว่าไม่ได้ยินที่พี่พูดรึไง พี่สาวเอ็งตายแล้ว”
ทุกคนเข้าไปบอกกาเหว่า
“พี่กาหลงเป็นผี”
กาเหว่าร้องไห้หันไปบอกทุกคน
“ใช่ว่าฉันไม่รู้เสียเมื่อไร”
กาหลงอึ้ง ไม้และทุกคนตกใจมากที่กาเหว่าพูดอย่างนั้น
“ฉันรู้แต่กาลโน่นแล้ว”
กาหลงแปลกใจ...
ก่อนหน้านี้...เมื่อแม่กลอยบอกไม้เรื่องกาหลงเป็นผี กาเหว่าเดินถือถ้วยข้าวต้ม จะเข้าไปในห้องได้ยินที่แม่กลอยบอกไม้ว่ากาหลงเป็นผี ทำให้กาเหว่าคิเดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านๆมา ...เหตุการณ์ที่กาเหว่าบอกให้กาหลงกลับเรือนไปดูแลไม้ ... กาหลงเดินลงบันไดจากเรือนไปมีหยดน้ำ หยดลงตามรอยทาง กาเหว่าเดินออกมาที่มุมหนึ่งเห็นกาหลงเดินเป็นผีออกไป กาเหว่าร้องไห้สงสารกาหลง
กาหลงอึ้งตกใจ ไม่เคยคิดว่ากาเหว่าจะรู้มาก่อน
“ฉันก็เคยคิดเอะใจ ว่ามันขวางพิลึกที่พี่กาหลงจะคลายผ้าได้แต่ฉันก็ทำลืมเสีย ไม่ปักใจให้เป็นอย่างที่คิด...จนวันที่โจรขึ้นเรือน...”
กาเหว่าพูดถึงเหตุกาณ์ที่ลูกน้องขุนหวาดบุกมาจะฆ่า...กาเหว่าหันไปมองเห็นภาพผีกาหลงกำลังฆ่าโจร
“ฉันมั่นใจนักแล้ว ว่ามันไม่ใช่ฝัน มันเป็นจริงหนักขึ้นไปอีก...พี่กาหลง ฉันคิดสงสารพี่เหลือเกิน”
ไม้พยายามห้าม
“กาเหว่า แต่พี่กาหลง...”
กาเหว่าสวนขึ้น
“พอการเถอะ พวกพี่ไม่คิดสงสารพี่กาหลงบ้างรึ พี่กาหลงบากบั่นทุกอย่างเพื่อแม่แลน้อง และดูแลทุกคนไม่เคยกระเทือน แต่ทุกคนทำการอะไรอยู่ ทุกคนกำลังคิดไสหัวพี่กาหลง คิดพรากพี่กาหลงจากสิ่งที่รัก”
กาหลงร้องไห้
“กาเหว่า เอ็งไม่กลัวพี่รึ”
“ฉันรู้ว่าพี่รักฉัน พี่ไม่เคยคิดร้ายกับคนที่พี่รัก พี่กาหลง ถึงแม้ใครไม่รักพี่ ฉันเป็นน้องพี่ ฉันยังรักพี่เสมอ”
กาเหว่าเข้าสวมกอด กาหลงยิ่งสะเทือนใจมาก ร้องไห้โฮ ชบาเดินเข้ามาเห็นภาพกาหลงกอดกาเหว่าก็ตกใจ
“กาเหว่า”
กาเหว่าหันไปมองชบา
“พี่ชบา มาช่วยพาพี่กาหลงกลับเรือนที”
ชบาเดินเข้ามาหากาเหว่าเหมือนจะทำตามที่น้องบอกแต่แล้วดึงตัวกาเหว่าให้ห่างกาหลง
“ออกมาเดี๋ยวนี้” ชบากลัวกาหลง
กาหลงเสียใจที่ชบาเหมือนจะกลัวเธอ
“ชบา”
“กาเหว่า เอ็งสิ้นสติไปนักแล้ว พี่กาหลงตายไปเป็นผี ไม่ใช่คน”
“ถึงเป็นผี พี่กาหลงก็เป็นพี่สาวฉัน”
ชบาต่อว่า
“หยุดพร่ำถึงอดีต พี่กาหลงตายแล้ว คนตายอยู่ต่อไปไม่ได้”
เพชรไม่พอใจ
“ชบา ทำไมเอ็งถึงหักหาญน้ำใจพี่กาหลง”
“ฉันพูดแต่ความจริง พี่กาหลงตายไปแล้วก็ยืนไปตามกรรม อย่ามาสร้างความให้คนอื่นขวัญผวา ไปสิ...ไปเกิดใหม่ซะ”
ชบาตะโกนต่อว่า กาหลงลุกขึ้น เสียใจและผิดหวังชบา กรีดร้องลั่น ไม้หันไปอีกครั้ง กาหลงกลายร่างเป็นผี ทุกคนตกใจผงะถอยหลัง ผีกาหลงเดินตรงมาหาไม้ ร้องคร่ำครวญ
“พี่ไม้ ทุกคนรังเกียจฉัน”
ทุกคนกลัว เดินถอยห่างไป
“ทุกคนไม่รักฉันแล้ว พี่ไม้ก็ไม่รักฉัน พี่ไม่รักเมียแล้ว”
“พี่ยังรักกาหลง แต่เราจะอยู่กันได้ยังไงกาหลงเป็นอย่างนี้”
ผีกาหลงมองร่างตัวเอง
“ฉันเป็นอะไรไปล่ะ ฉันก็ยังเป็นกาหลงคนเดิม ฉันยังเป็นเมีย เมียที่รักพี่ไม่เสื่อมคลาย” กาหลงน้อยใจ “พี่รังเกียจฉัน ความรักที่ฉันให้พี่ หมดไปจากใจพี่แล้ว”
“รักพี่มีให้กาหลงไม่เคยถดถอย กลับเพิ่มพูนทวีที่กาหลงต้องเป็นอย่างนี้ พี่จะทำทุกอย่างให้กาหลงคลายทุกข์ หมดบ่วง”
“พี่ก็มาหาฉัน กลับเรือนไปกลับกาหลงสิจ๊ะ”
ผีกาหลงอ้อนวอน ไม้ยืนมองตัดสินใจ แต่แล้วเพชรและโขงก็ลากตัวไม้เข้าไปในโบสถ์แล้วปิดประตูทันที ผีกาหลงไม่พอใจ แผดเสียงร้องกรี๊ดลั่น
“เอาผัวข้าคืนมา”
ทุกคนหนีเข้ามาในโบสถ์ เจอกับหลวงพ่อ ไม้เข้าไปกราบ
“หลวงพ่อ ฉันควรทำการอย่างไรดี”
“สวดมนต์ แผ่เมตตา...มีเพียงความเมตตาเท่านั้น ที่จะช่วยผ่อนคลายความโกรธแค้นลงได้”
ทุกคนนั่งลงแล้วเริ่มสวดมนต์ เพื่อแผ่เมตตาให้กาหลง...ผีกาหลงจะเดินเข้าไปได้ยินเสียงสวดมนต์ ก็ยืนร้องไห้ ที่ไม่อาจเข้าไปหาไม้ได้
แม่กลอยนอนหลับอยู่แล้วได้ยินเสียงร้องไห้สะอื้น แม่กลอยค่อยๆลืมตาแปลกใจว่าเสียงใคร แม่กลอยค่อยๆหันไปมองด้านข้าง กาหลงนอนร้องไห้อยู่ข้างๆ แม่กลอยสงสารลูกสาวจับจิต ค่อยๆขยับมือเพื่อไปโอบกอดปลอบใจ กาหลงนอนอยู่ข้างแม่ยิ่งร้องไห้ที่แม่ปลอบใจ
“แม่จ๋า...ไม่มีใครรักฉันแล้ว ทุกคนทิ้งฉัน แต่ฉันจะไม่ทิ้งแม่ ฉันจะอยู่กับแม่” กาหลงบอกความในใจกับแม่
แม่กลอยสงสารกาหลง คิดจะทำอะไรบางอย่างไม่อยากให้กาหลงมีบ่วง
เช้าวันใหม่...จัน จอก ดำก้าวออกมานอกโบสถ์พร้อมกัน
“ไปรึยัง” จันถาม
จอกไม่เห็นกาหลง
“ไปแล้ว”
ดำสะดุ้ง
“กลับมาอีกแล้ว”
ทุกคนสะดุ้งตกใจหันไปที่มุมหนึ่ง หลวงพ่อและหลวงพี่กบเดินถือบาตรเข้ามา
“หลวงพ่อกับอาตมาเอง” หลวงพี่กบบอก
จันยังหวาดๆ
“ออกรับบิณฑบาตไม่กลัวรึเจ้าคะ”
หลวงพี่กบนิ่งอึ้ง หลวงพ่อมองทุกคน
“คิดดีตรองดีแล้วจะกลัวเคราะห์อะไร แล้วข้อสำคัญมากกว่าอื่น...การบิณฑบาตรเป็นกิจของสงฆ์พึงกระทำ ไม่ควรละเว้นหน้าที่ของเรา”
หลวงพ่อเดินแยกไป หลวงพี่กบอึ้งแล้วหันไปบอกจอกกับดำ
“วันนี้ท่าจะมีคนทำบุญเสียมาก โยมจอก กับ โยมดำไปช่วยถือของด้วยแล้วกัน”
จอกกับดำอึ้งตกใจ
“ห๊า แต่พวกฉัน...” จอกจะหาข้ออ้างไม่ไป
หลวงพี่กบสวนขึ้น
“การช่วยพระถือของเป็นกิจที่เด็กวัดพึงกระทำ เราไม่ควรละเว้นหน้าที่ของเรา”
จอกกับดำจำยอม
“จ้ะ”
หลวงพี่กบเดินไป จอกและดำรีบเดินตามไม่ห่างจากชายผ้าเหลือง จันมองตาม
“ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยแล้วกัน”
จันหันไปมองในโบสถ์ เห็นไม้นั่งอยู่หน้าพระประธาน โดยมีโขงและเพชรนั่งเฝ้าอยู่ ไม้นั่งมองพระประธานคิดบางอย่างในใจ
หลวงพ่อและหลวงพี่กบกำลังจะเดินผ่านบริเวณต้นไทรงาม...จอกและดำกลัวผี
“ไม่น่าผ่านมาแถวนี้สิเออ มันชวนขนหัวลุกพิลึก” จอกบ่น
หลวงพ่อเดินผ่านไป หลวงพี่กบเห็นจอกและดำหยุดอยู่ห่างก็รีบหันไปเรียก หลวงพี่กบกลัวแต่เก็บอาการ
“โยมเร่งสักนิด จะได้ถึงไว”
จอกกับดำถามพร้อมกัน
“หลวงพี่จะเร่งไปไหน”
“ก็ไปรับบาตรไง”
หลวงพี่กบจะเดินออกไปแต่แล้ว ชาวบ้านกระโดดลงมาจากกิ่งไม้ มาขวางหน้า หลวงพี่กบสะดุ้งเก็บอาการ แต่จอกและดำตกใจเข้าไปสวมกอดหลวงพี่กบ
“อุบ๊ะ ฉันกลัวแล้ว ยอมแล้วจ้า” จอกตื่นกลัว
“ข้าเอง” ชาวบ้านพูดขึ้น
หลวงพี่กบถอนใจ
“ทำไมต้องมากระโดดดักทางให้ตกใจ”
“เขาวานให้ฉันขึ้นมาดูลาดเลาให้โล่งใจว่าไม่มี...” ชาวบ้านไม่กล้าพูด
จอก รู้ทันว่าหมายถึงกาหลง...
“คนที่รู้ๆว่าเป็นใคร”
“นั่นแล่ะ ชาวบ้านจะได้มาใส่บาตร” ชาวบ้านเป่าปาก
นวลพร้อมชาวบ้าน ต่างถือถาดใส่อาหารเข้ามา
“หลวงพ่อมาแล้ว นิมนต์เจ้าค่ะ”
นวลและชาวบ้านต่างเข้ามาเพื่อจะทำบุญ...
“เจริญพรเถอะโยม ร่วมจิตร่วมใจกันดี วันนี้เป็นวันดีอะไรถึงได้มากันพร้อมหน้าพร้อมตา” หลวงพ่อถามอย่างสงสัย
“พวกเรามาร่วมทำบุญให้...”
นวลจะพูดชื่อกาหลง จอกกับดำกระแอมดักคอเพราะกลัว
“คนที่รู้ๆว่าเป็นใครเจ้าค่ะ” นวลตอบเลี่ยงๆ
พวกชาวบ้านต่างเตรียมตัวเข้ามานั่งเพื่อจะใส่บาตร
ผีกาหลงนั่งเศร้าอยู่ที่เรือน มองสภาพร่างกายตัวเองก็เศร้าใจเพราะรู้ดีว่าบุญเริ่มหมด ถึงกลายสภาพเป็นผี
ชาวบ้านใส่บาตรหลวงพ่อและหลวงพี่กบ นวลเข้ามาใส่บาตรต่อจากคนอื่นๆ
“คนที่รู้ๆว่าเป็นใคร ชอบปลาย่าง” นวลหยิบห่อพริกกะเกลือ “คนที่รู้ๆว่าเป็นใครชอบ พริกกะเกลือ” นวลหยิบกล้วยใส่ในบาตร “ไอ้ไม้ชอบกล้วย”
“นังนวลไอ้ไม้มันยังไม่ตาย” จอกขัดขึ้น
“เอ็งไม่รู้อะไรเสียแล้ว ข้าทำบุญให้ไอ้ไม้ คนที่รู้ๆว่าเป็นใครก็พลอยสุขใจ มันรักผัวยิ่งกว่าอะไร”
“มันก็จริงของเอ็ง” จอกเห็นด้วย
“จะทำบุญให้คนเป็นหรือคนตายก็ทำได้ ได้บุญเหมือนกัน ขอให้ทำด้วยของที่ดีและเจตนาดี” หลวงพ่อสอน
นวลและชาวบ้านรับคำสอน
“เจ้าค่ะ”
ชาวบ้านทุกคนพนมมือรับพรจากหลวงพ่อ
เรือนกาหลง ตอนที่ 15 (ต่อ)
ไม้กราบไหว้พระประธานอย่างจริงจัง เพชรและโขงมองไม้ด้วยความแปลกใจ ไม้กราบพระเสร็จ แล้วลุกขึ้นจะเดินออกไปจากโบสถ์
“พี่ไม้จะไปไหน” เพชรถามอย่างสงสัย
“ข้าจะกลับเรือน”
“พอการนะพี่ ฉันขอขวางไม่ให้พี่ไปเด็ดขาด” โขงห้ามไว้
“อย่ามาใกล้มือ ข้าหาใช่นักโทษของพวกเอ็ง ใครขวางถือว่าลบหน้ากัน”
ไม้เดินออกไป โขงห่วงไม้จะเข้าไปขวางแต่เพชรดึงไว้
“ปล่อยไปเถอะ ถึงเอาโซ่มาล่าม ก็ห้ามใจพี่ไม้ไม่ได้หรอก”
โขงจำยอมรับ เพชรเดินออกไป โขงแปลกใจ
“แล้วเอ็งจะไปไหน”
“ไปสะสางเรื่องคาใจ”
เพชรเดินออกไป โขงแปลกใจว่าเพชรจะไปทำอะไร
หลวงพ่อกำลังจะเดินไปยังเรือนกาหลง หลวงพี่กบนิ่งอึ้งรีบถาม
“หลวงพ่อจะไปไหนขอรับ”
“บิณฑบาตไปตามเส้นทาง”
“เราวกกลับไปทางท้ายทุ่งท่าจะดี เรือนนี้ไม่มีคนอยู่”
จอกกับดำมองไปที่เรือนกาหลงก็หน้าตื่น จอกรีบขัด
“ใช่จ้ะ เรือนนั้นร้างแล้ว”
“จะเดินย้อนให้เสียเวลาทำไมกัน เดินตรงลัดทุ่งก็ถึงวัด”
หลวงพ่อเดินนำไป หลวงพี่กบจำต้องเดินตามหลวงพ่อไป จอกและดำรีบตามไป ทุกคนเดินเรียงแถวผ่านหน้าเรือนกาหลง จอกและดำมองไปยังเรือน ในใจกลัวๆเดินก้มหน้า เพื่อให้เดินผ่านเรือนไปให้เร็วที่สุด ทุกคนจะเดินผ่านไปแล้ว ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“นิมนต์เจ้าค่ะ”
จอกและดำสะดุ้งตกใจ
“นั่นไง...เอาอีกแล้ว” ดำเสียงสั่น
หลวงพ่อหันไปตามเสียงเรียก
“เจริญพรโยมพุดจีบ”
หลวงพี่กบ จอกและดำแปลกใจ หันกลับไปมอง เห็นพุดจีบถือถาดอาหารเพื่อจะใส่บาตร จอกและดำค่อยโล่งใจ แล้วหันไปมองบนเรือนอย่างสบายใจ แต่แล้วทั้งสองตกใจตาโต เมื่อพบว่า ผีกาหลงอยู่บนเรือนยืนมองที่มุมหนึ่ง จอกและดำมองหน้ากัน ไม่กล้าพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น
พุดจีบถวายอาหารใส่บาตร หลวงพ่อและหลวงพี่รับบาตรแล้วสวดให้พร จอกและดำมองไปที่เรือน ผีกาหลงค่อยๆนั่งลงแล้วพนมมือรับพรอยู่บนเรือน สภาพร่างกายค่อยกลายจากหน้าผีเป็นหน้าซีด ไม่น่ากลัวมาก
ระหว่างที่พระสวดให้พร พุดจีบหันไปมองที่เรือน รู้สึกดีที่ได้ทำบุญให้กาหลงที่ยิ้มสุขใจที่พุดจีบมาช่วยแผ่บุญให้เธอ จอกและดำไม่กล้าสบตา จอกหันไปบอกหลวงพ่อกับหลวงพี่กบ
“เสร็จแล้ว กลับวัดเถอะจ้ะ”
หลวงพ่อและหลวงพี่กบจะกลับไปแต่แล้วเจอไม้เดินตรงเข้ามา พุดจีบแปลกใจ
“พี่ไม้”
กาหลงรู้สึกดีใจที่ไม้มา...
ชบากำลังเดินตรงไปทางเรือนช่วงเพชรเข้ามาขวาง ชบายังไม่พอใจเดินเลี่ยง เพชรตามไป
“ชบา กลับมาคุยกับข้า”
เพชรวิ่งไล่ตามชบา
พุดจีบเข้ามาถามไม้...
“พี่ไม้มาทำอะไรจ๊ะ”
“พี่มาหากาหลง”
จอกและดำตกใจ ดำสะกิดให้หลวงพี่กบไปห้าม
“หลวงพี่ช่วยปรามทีเถอะ”
“มันไม่ควรหรอก เรื่องของผัวเมีย หาใช่กิจของสงฆ์”
พุดจีบมองไป แปลกใจว่าไม้มาทำอะไร ไม้เดินขึ้นบันได้ไปถึงบนเรือน
“กาหลง”
กาหลงซึ่งนั่งอยู่มุมลึกในเรือน ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาหา
“พี่ไม้...พี่ไม้กลับมาหาฉันแล้ว”
กาหลงจะก้าวไปหา ไม้พูดขึ้น
“พี่มาขอลาบวช”
กาหลงผิดหวังและเสียใจ
“พี่ไม้”
ไม้นั่งลงกับพื้น
“หากมีที่พี่เคยล่วงเกินจนลืมตัว ทั้งทางกาย วาจาและใจ ขอให้เอ็งอโหสิพี่ อย่าให้มีเวรกรรมต่อกันและกันเลยพี่จะบวช อุทิศบุญส่วนกุศลให้กาหลง กาหลงให้พี่บวชเถอะนะ”
ไม้วิงวอนเพื่อขออนุญาต กาหลงน้ำตาไหลเสียใจที่ไม้จะไปบวช เท่ากับเขากำลังจะทิ้งเธอ พุดจีบมองลุ้นว่ากาหลงจะทำอย่างไร หลวงพ่อกับหลวงพี่กบ จอกและดำมองลุ้น
“กาหลง...ให้พี่...”
กาหลงเสียใจและไม่พอใจ
“ไม่ได้ พี่คิดจะทิ้งฉันไม่ได้”
ไม้ตกใจ
“กาหลง”
“พี่ไม้ ต้องกลับมาอยู่กับฉัน”
กาหลงเข้าไปสวมกอด พุดจีบตกใจที่กาหลงไม่ยอมปล่อยไม้ จอกและดำตกใจ จอกรีบบอกหลวงพ่อ
“หลวงพ่อช่วยพี่ไม้ด้วย”
หลวงพ่อบอกกาหลง
“กาหลง ยอมอโหสิกันเสียทีเถิด โยมจงรู้ผิดในข้อที่ว่า การยื้อยุดให้เป็นดังเดิมนั้นมันฝืนวิสัย”
“ไม่จริงเจ้าค่ะ ชะตายังไม่ตก ความรักของกาหลงยังคงเดิม พี่ไม้ก็ยังรักมั่นกาหลงดังเดิม”
กาหลงกอดไว้แน่น ไม้อยู่ในอ้อมกอดร้องไห้สงสารกาหลง
“ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามธรรมชาติ ธรรมะคือธรรมชาติ เมื่อคิดแล้วจะเห็นว่าสัตว์โลกเป็นไปตามครรลองวิถี ผ่านมา ผ่านไป เกิดมา ดับไป” หลวงพ่อเทศนา
กาหลงและไม้ฟังคำเทศนาของหลวงพ่อ
“หากโยมเห็นตามและยอมรับกฎในธรรมชาติ โยมก็จะเข้าใจถึงแก่นธรรมและพบสุขที่แท้จริง”
กาหลงฟังคำเทศน์ ปล่อยมือที่โอบกอดไม้ พูดกับหลวงพ่อ
“หากฉันเข้าใจในแก่นธรรม แล้วต้องเสียพี่ไม้ไปคามือ ฉันขอตกเป็นคนโง่อยู่เช่นนี้ชั่วกัลป์”
กาหลงพูดจบก็กลับไปโอบกอดไม้ไว้ไม่ยอมให้ใครแย่งชิงไป ไม้ร้องไห้สะเทือนใจที่กาหลงยอมทนทุกข์เพื่อเขา พุดจีบขอร้อง
“กาหลง ปล่อยพี่ไม้เถอะ อย่าได้ขวางทางธรรม พี่ไม้ยอมบวชเพื่อกาหลง พี่ไม้ทำไปเพราะรักกาหลง”
กาหลงไม่ฟัง
“รักฉันก็ต้องอยู่กับฉัน มื้อนี้พี่ไม้ได้กลับเรือน ฉันไม่ยอมให้ใครพรากพี่ไม้ไปจากฉันอีก”
กาหลงกอดรัดไม้ไว้ไม่ยอมให้ห่าง ไม้ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของกาหลง หลวงพ่อเอ่ยขึ้น
“อาตมาขอบิณฑบาต”
ไม้หวังว่ากาหลงจะคลายมือออกไป แต่กาหลงกอดรัดไม้ไว้แน่น
“ฉันขอเถอะ ออกไปจากเรือนฉันเสีย”
หลวงพ่อตัดสินใจ สวดมนต์แผ่เมตตาให้ กาหลงรู้สึกร้อนรุ่มกาย ผงะถอยออกไปจากตัวไม้ กาหลงกลายเป็นผี จอกกับดำตกใจ จอกตะโกนเรียก
“พี่ไม้ ลงมา”
ไม้ได้สติเห็นกาหลงกลายเป็นผีก็ตกใจ
“กาหลง”
“พี่ไม้อย่าทิ้งกาหลงไป” ผีกาหลงเอื้อมมือจะจับ
“พี่จะบวชให้กาหลง กาหลงจะได้พบหนทางสว่าง”
ไม้ตัดสินใจ ลงจากเรือนทันที เพราะตั้งใจจะบวช ผีกาหลงจะตามไป แต่ด้วยอานุภาพของหลวงพ่อที่สวดมนต์ ทำให้กาหลงลงจากเรือนไม่ได้ จอกและดำพาไม้ออกไป พุดจีบ หลวงพี่กบและหลวงพ่อตามออกไป ผีกาหลงตะโกนลั่น
“เอาผัวข้าคืนมา”
ผีกาหลงกลายเป็นผีที่น่ากลัว
ชบากำลังจะเดินไปที่เรือนช่วง เพชรตามเข้ามา
“เอ็งมันใจแคบ ใจดำ คิดทำร้ายพี่สาวตัวเอง”
“หยุดว่าร้ายข้าเดี๋ยวนี้”
“ข้าจะพูด ข้ามันสำคัญผิด คิดว่าเอ็งจิตใจดีมีเมตตาแต่ท้ายสุดก็ได้แจ้งใจ ว่าเอ็งมันใจหยาบ คิดทำลายชีวิตพี่สาว”
“แล้วจะปล่อยให้พี่กาหลงแสนสบาย ไม่คิดถึงคนหลังอย่างชาวบ้านอย่างนั้นหรือ”
“มันยังมีหนทางอื่นที่จะช่วยพี่กาหลงได้ ใช่ว่าจะปราบให้สิ้น”
“ไม่...ฉันไม่ทนรอให้พี่กาหลงปลงใจอีกแล้ว นับวันพี่กาหลงจะ
โหดร้ายรังควานไม่เลิก ฉันจะให้ผู้ใหญ่ช่วงหาหมอผีมาปราบ”
เพชรไม่พอใจ
“ชบา เอ็งก็รู้ว่าผู้ใหญ่ใช่คนดี เอ็งยังจะไปฝักใฝ่ขอความช่วยเหลือคนชั่วพรรค์นั้น”
“เข้าตาจนจะให้ฉันทำไงได้”
ชบาระบายความในใจที่ไม่รู้จะทำอย่างไร จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่ช่วย เพชรผิดหวังมาก
“ข้านึกผิดหวังกับเอ็ง เอ็งคิดคบค้าคนชั่วให้ทำลายคนที่เอ็งรัก เอ็งมันไม่มีหัวใจ ต่อไปอย่าเอาหน้ามาพบกันอีกเลย”
เพชรประกาศตัดสัมพันธ์ ชบาเสียใจ แล้วเพชรก็เดินทิ้งไป ชบาหยุดมองตาม ร้องไห้เสียใจที่ทำให้เพชรผิดหวัง ชบาเครียด ไม่รู้จะทำอย่างไร เธอมองไปยังเรือนช่วงคิดตัดสินใจแล้วเลือกจะเดินไปยังเรือนช่วง
ทุกคนหนีมาที่วัด จันและนวลรู้เรื่องก็ตกใจ
“ไม้ อย่าคิดบวชเลยลูก หาไม่กาหลงเอาถึงตาย” จันห้ามอย่างหวาดหวั่น
โขงขัดขึ้น
“พี่ไม้บวช พี่กาหลงจะพลอยได้บุญ ได้ผุดได้เกิดนะน้า”
จันเปลี่ยนใจ
“งั้นบวชเลยลูก แม่ยินยอมพร้อมใจให้ลูกบวช”
“แล้วจะบวชกันวันไหน” นวลถาม
“หลวงพ่อหาฤกษ์ที่ประเหมาะเคราะห์ดี จะตกเดือนน้ำหลากหรือน้ำนองก็ว่ากันไป” จันบอก
นวลขัดขึ้น
“ไม่ต้องหาฤกษ์แล้ว ขืนชักช้า พวกเราได้ตายก่อนแห่นาคเข้าโบสถ์”
พุดจีบกังวลใจหันไปถามไม้...
“พี่ไม้ จะเอายังไงจ๊ะ”
ไม้หันไปบอกหลวงพ่อ
“หลวงพ่อ ผมขอบวชเสียวันนี้”
ทุกคนดีใจที่ไม้ตัดสินใจบวช หลวงพ่อมองไม้
“โยมไปฝึกท่องขานนาคกับอาตมา ส่วนพวกโยมก็ไปเตรียมเครื่องอัฏฐบริขาร แล้วก็เตรียมของมาปลงผมนาค”
จอกรับคำ
“จ้ะหลวงพ่อ”
หลวงพ่อเดินนำไม้ไปที่โบสถ์ ผีกาหลงเคลื่อนเข้ามาที่มุมหนึ่ง ไม่พอใจที่ไม้จะบวช คิดขัดขวางการบวช
จอกและดำเดินไปที่บริเวณบึงบัว
“ทำไมต้องใช้ใบบัวมารองผมนาคด้วย” ดำถามอย่างไม่เข้าใจ
“ว่าตามโบราณ ใช้ใบบัวมารองรับผมนาค แล้วลอยถวายพระแม่คงคาหรือฝังไว้ใต้ต้นโพธิ์ จะทำให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุขแท้” โขงอธิบาย
ดำพยักหน้าเข้าใจ
“อ๋อ ความเป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าก็อยากอยู่เย็นเป็นสุขแท้ ข้าจะลงว่ายไปตัดใบบัวกับมือ”
ดำถือมีดเดินตรงไปยืนอึ้ง ตกใจ
“เฮ้ย”
ใบบัวทั้งบึงเป็นสีเหลืองเหมือนใบไหม้ ใบแห้ง จอกแปลกใจ
“ใบบัวไหม้เหลืองหมดเลย”
“ใบเหลืองยังไงก็เป็นใบบัว ข้าไปตัดมาให้”
ดำจะลงไป โขงห้ามไว้
“ไม่ได้ ต้องใช้ใบสดเท่านั้น ชะรอยว่าใครกันมาขวางทางบุญ”
โขงพูดจบผีกาหลงก็เคลื่อนเข้ามาจ้องมอง ดำ จอก โขงตกใจ เพราะรู้ว่าผีกาหลงขวาง ทั้งสามรีบวิ่งหนีไปทันที ผีกาหลงคิดจะขวางทุกหนทางในการบวช ชาวบ้านสามคนอยู่ที่มุมหนึ่ง เห็นกาหลงหลอกพวกจอกก็คิดหาทางช่วย
ชบาเดินมาถึงเรือนช่วง คิดตัดสินอีกครั้ง แล้วเปลี่ยนใจจะไม่ขอความช่วยเหลือจะเดินออกไป กลุ่มชาวบ้านแห่มาที่เรือนช่วง
“พ่อผู้ใหญ่ พ่อผู้ใหญ่”
ชบายืนมองว่าชาวบ้านมาทำอะไร ช่วงเดินออกมาตะโกนถาม
“พวกเอ็งเอ็ดตะโรอะไรกัน”
“พวกฉันทนมาหลายระลอกแล้ว นังกาหลงมันออกอาละวาดหนักข้อ เมื่อกี๊มันไปเพิ่งลงมือเล่นพวกไอ้โขงเสียเฉยๆ”
“ฉันกลัวว่าสักวันมันก็ต้องมาหักคอพวกฉัน”
“แล้วเอ็งจะให้ข้าขัดยังไง ในเมื่อพวกเอ็งเห็นดีเห็นงามให้กาหลงมันอยู่รับสบายต่อ”
“พวกฉันขอโทษเถิดที่พลั้ง พ่อผู้ใหญ่ให้อภัยเถอะฉันไหว้ล่ะ ช่วยพวกฉันด้วย”
ชาวบ้านยกมือไหว้ขอร้องผู้ใหญ่ช่วง ชบาได้ยินเรื่องนี้ก็กังวลใจ
โขง จอกและดำวิ่งมาบริเวณวัด จอกรายงานหลวงพี่กบ
“หลวงพี่ ใบบัวไหม้เหลืองทั้งบึงใช้ไม่ได้เลย”
“งั้นก็ไปหาผ้าขาวบริสุทธิ์มา พอจะใช้แทนกันได้”
“จ้ะ”
จอกและโขงจะวิ่งออกไป ดำไม่ไปด้วย จอกหันมาเรียก
“ไอ้ดำไปช่วยกันสิวะ”
“ข้ากลัว”
หลวงพี่กบมองหน้าดำ
“เอ็งกลัวอะไร”
“เจ้ากรรมนายเวรพี่ไม้”
หลวงพี่กบมองไปที่มุมหนึ่งเห็นผีกาหลงยืนอยู่ หลวงพี่กบรักษาอาการแล้วบอกทั้งสอง
“เร่งไปเอาผ้ามา ข้าจะไปดูว่าโยมจัน โยมนวลได้น้ำมารึยัง”
หลวงพี่กบพูดจบก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง โขง จอกและดำรีบวิ่งไป ผีกาหลงยืนมองไม่พอใจ
ชบาย่องเข้าไปฟังการคุยกันของช่วงกับสิงมุมหนึ่งของเรือน
“พ่อผู้ใหญ่จะให้ฉันไปทำอะไร” สิงถาม
“เอ็งไปเร่งตามไอ้อาจารย์สักมันกลับมา...ถึงคราวที่ต้องใช้งานมันแล้ว”
“จะให้ฉันเรียกพี่โชติกลับมาด้วยหรือไม่”
“ไม่ต้อง ให้มันหลบซ่อนตัวไปก่อน”
สิงพยักหน้ารับแล้วแยกไป ช่วงยิ้มเย้ยสะใจที่จะได้จัดการกับผีกาหลง
“นังกาหลง มื้อนี้เอ็งไม่รอดแน่”
ชบากังวลใจเป็นห่วงกาหลงรีบวิ่งออกไป
จันบอกกับนวล ขณะที่เดินอยู่ในบริเวณวัด
“น้ำฝนบริสุทธิ์ ใช้ล้างผมนาคหลังโกนหัวได้บุญนัก เอ็งตักไปสองขัน”
นวลใช้ขันตักน้ำในตุ่ม แล้วยื่นให้จันหนึ่งขันแล้วก็ตักอีกขัน
“ไปเถอะ จะได้โกนหัวทำพิธีให้เสร็จโดยไว”
จันและนวลถือขันน้ำเพื่อจะไปที่โบสถ์ ผีกาหลงยืนมองที่มุมหนึ่ง ไม่พอใจ นวลถือขันน้ำ แล้วตกใจบอกจัน
“นังจัน”
จันสะดุ้งตกใจ
“อะไรวะ เรียกซะตกอกตกใจ”
“น้ำหาย”
“มันจะหายไปไหน ก็น้ำ...”
จันพูดไม่ทันจบก้มมองขันตัวเอง ก็ไม่เห็นน้ำ จันตกใจ
“ห๊า”
ผีกาหลงยิ้มพอใจ นวลหันขวับไปดูแต่ไม่เห็นกาหลง นวลทำใจดีสู้
“ไปตักใหม่แล้วกัน”
นวลและจันจะใช้ขันล้วงตักน้ำในตุ่มแต่กลับตกใจ
“ไม่มีน้ำ มันหายไปได้ยังไง”
ผีกาหลงเคลื่อนเข้ามาที่มุมหนึ่ง จันและนวลตกใจรีบวิ่งหนีออกไป ผีกาหลงมองไม่พอใจ คิดขวางต่อไป
จอกและดำถือผ้าขาววิ่งเข้ามาบอกโขง
“พวกข้าได้ผ้าขาวมาแล้ว”
โขงดีใจ
“ผ้าขาวบริสุทธิ์ใช้รองเส้นผมนาค จะได้ปลงผมเสียที”
โขงจะรับผ้าขาว ทันใดนั้น ผ้าขาวผืนนั้นก็ไฟไหม้พรึ่บ ทุกคนตกใจ
“เฮ้ย”
“เอาอีกแล้ว” ดำกลัว
ทุกคนหันไปมองไม่เห็นใคร แต่รู้ว่าโดนผีกาหลงเล่นงาน ผีกาหลงยืนยิ้มเย้ยที่มุมหนึ่ง จันและนวลวิ่งเข้ามา จันบอกหลวงพี่กบ
“ฉันพยายามตักน้ำมาให้ แต่น้ำก็แห้งหาย”
จอกกังวลใจ
“ผ้าขาวรองผมก็ไม่มี น้ำราดหัวก็ไม่มา โกนหัวนาคก็ไม่ได้”
ดำเสริม
“อย่างนั้นพี่ไม้ก็บวชไม่ได้”
หลวงพี่กบเดินออกมาจากโบสถ์หาทางออกช่วยไม้
“ใช้ผ้าเหลืองรองรับเส้นผมแทน”
“แล้วจะเอาอะไรล้างผมนาคล่ะเจ้าคะ” พุดจีบถามขึ้น
หลวงพี่กบคิดๆ
“น้ำมนต์”
ไม้ถือขันน้ำมนต์เข้ามา นวลดีใจ
“ของพร้อม นาคพร้อม เริ่งทำพิธีเถอะหลวงพี่”
“พวกโยมเตรียมการให้พร้อม อาตมาจะไปตามหลวงพ่อมาทำพิธีปลงผม”
หลวงพี่กบเดินไปตามหลวงพ่อที่โบสถ์ ทุกคนยกมือไหว้ดีใจที่จะได้ทำการบวช
“อนุโมทนาสาธุ ขออย่าได้มีมารผจญอีกเลย”
จันซาบซึ้งใจ
“ข้าล่ะตื้นตันใจ จะได้ร่วมปลงผมลูกชาย ไอ้ไม้ได้บวชเสียที”
ผีกาหลงเคลื่อนเข้ามาไม่พอใจ
“ฉันไม่ยอมให้บวช”
“กาหลง”
ทุกคนตกใจที่ผีกาหลงเข้ามาเล่นงาน
ชบาวิ่งมายืนหน้าเรือนกาหลง แล้วตัดสินใจขึ้นไปบนเรือน แต่เพชรมาขวางไว้
“เอ็งมาทำอะไร รึคิดจะมาเผาพี่กาหลงถึงเรือน”
“ไม่ใช่ เอ็งฟังข้าก่อน...”
“ข้าไม่ฟังความอะไรทั้งสิ้น ข้ารู้ว่าเอ็งไม่เลิกรา ข้าถึงมาคอยกันท่า”
“เอ็งฟังข้าให้จบความ...”
เพชรสวนขึ้น
“ข้าไม่ฟัง”
ชบาตบหน้าเพชรหลายครั้ง
“เอ็งมีอะไรว่ามา...” เพชรพูดเสียงอ่อย
“ผู้ใหญ่ช่วงกำลังพาหมอผีมาปราบพี่กาหลง”
“เฮ้ย ก็บรรลัยสิเออ”
“พี่กาหลงอยู่ไหน”
“ไม่รู้”
ชบาเป็นห่วงกาหลงรีบวิ่งลงจากเรือน เพชรวิ่งตามไป
ผีกาหลงตะโกนบอกทุกคน
“เอาพี่ไม้คืนมา”
ทุกคนตกใจกลัว พุดจีบเข้าไปขอร้อง
“กาหลงพอเถอะ พี่ไม้กำลังทำในสิ่งที่ชอบที่ควร กาหลงควรร่วมอนุโมทนาบุญ”
“พี่ไม้จะบวชไม่ได้ พี่ไม้ต้องอยู่กับฉัน”
ไม้เดินไปบอกกาหลง
“กาหลง เอ็งอย่าขวางทางบุญเลย”
ผีกาหลงน้อยใจและเสียใจ
“พี่ไม้ไม่รักฉันแล้ว”
ไม้บอกความใน
“อย่าได้นึกระแวงไม่สบายใจเลย เพราะพี่รักเอ็ง พี่ถึงยอมเสียสละเพื่อกาหลง อานิสงค์ครั้งนี้ พี่ขออุทิศให้กาหลงแต่เพียงผู้เดียว ซ้ำแล้วกาหลงจะได้ไปสู่สุคติ ไม่ต้องตกนรกทนเวรอีกต่อไป พี่ทำลงไปเพราะรักกาหลง”
ผีกาหลงช้ำใจ
“ไม่จริง พี่ไม่ได้รักฉัน พี่กำลังเสียกไสไล่ส่งฉัน”
ไม้และพุดจีบแปลกใจว่ากาหลงคิดอะไร ที่ร้องไห้ออกมา
“มื้อก่อน พวกหมอผีมันเล่นงาน แม้เจ็บปวดแสนสาหัส ฉันก็ฝืนทนเพื่อจะอยู่กับพี่”
ผีกาหลงจ้องมองไปยังไม้ด้วยความน้อยใจ
“แต่เมื่อนี้ พี่กลับมาหนีบวช เท่ากับหนีห่างไม่ให้ฉันอยู่ใกล้มือ พี่ผลักไสให้ฉันไปเกิดใหม่ คนรักกันแล้วใยถึงทำเช่นนี้ พี่ไม้ไม่รักฉัน พี่ไม่มีใจให้เมียอีกแล้ว”
ผีกาหลงร้องไห้เสียใจที่ไม้จะบวช ไม้เศร้าเสียใจพูดไม่ออก พุดจีบฟังความก็สงสารกาหลง...ทุกคนน้ำตาซึม จันร้องไห้เข้ามาหว่านล้อม
“กาหลง ฟังแม่นะลูก ไม้มันทำไปเพราะใจบริสุทธิ์ นี่คือรักแท้ ไม้รักเอ็งเหนือสิ่งอื่นใด จงน้อมรับเจตนานี้ด้วยใจเป็นธรรม”
“แม่อย่ายุ่งเรื่องของฉัน”
ทุกคนตกใจที่ผีกาหลงต่อว่าจัน
“แม่กำลังพรากเมียพรากผัว แม่กำลังทำบาป”
จันสะเทือนใจที่ถูกกาหลงต่อว่า ร้องไห้แล้วหว่านล้อมต่อ
“ลูกตั้งสติให้มั่น แล้วย้อนดูตามจริงว่าสิ่งที่ลูกทำ มันกำลังพาลูกเดินหน้าสู่หนทางมืดมน ขอให้ไม้บวชเถอะ เมื่อแม่ตายไป ให้แม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ ตัวลูกเองได้รับผลบุญยิ่งใหญ่นัก”
นวลเข้ามาเสริม
“กาหลงขวางทางบุญอย่างนี้ บาปจะยิ่งหนัก”
“พวกน้าและทุกคนนั่นแหละตกรับบาป หากยอมให้หลวงพ่อบวชให้พี่ไม้”
ทุกคนแปลกใจว่าผีกาหลงจะต่อว่าอะไร พุดจีบสงสัย
“กาหลงหมายถึงสิ่งใด”
“พระวินัยกำหนดไว้ให้รู้ ว่าชายใดจะออกบวช ต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่และเมียอันเป็นที่รัก ฉันเป็นเมียพี่ไม้ ฉันไม่เห็นชอบให้พี่ไม้ออกบวช หลวงพ่อก็บวชให้ไม่ได้”
ไม้และพุดจีบตกใจที่กาหลงเอากฎพระวินัยข้อนี้มาอ้าง นวลอึ้งๆเข้าใจ
“มันก็จริงอย่างที่กาหลงมันว่า หากหลวงพ่อบวชให้ก็ผิดพระวินัย”
ไม้กังวลใจในเรื่องนี้ขึ้นมาทันที จันยืนยันทั้งน้ำตา
“แต่ยังไงก็ต้องบวช เป็นทางเดียวที่จะปล่อยวิญญาณกาหลงได้”
“แล้วอีกอย่าง คำที่ว่าเอ่ยว่าเมีย เขาหมายถึงเมียที่เป็นคน ไม่ใช่เมียผี” จอกแทรกขึ้น
ดำเสริม
“มันก็จริงอย่างได้จอกว่า เมียผีไม่เหลือสิทธิ์ใดคาน”
ผีกาหลงไม่พอใจโกรธมากที่ทุกคนมาเถียงแทน
“หากคิดว่าฉันเป็นผี ฉันก็จะเล่นงานให้ตายเป็นผี ไม่ต้องอยู่ดีกันอีกเลย”
เรือนกาหลง ตอนที่ 15 (ต่อ)
ผีกาหลงจ้องมองด้วยความโกรธ แผดเสียงร้องดังกังวาน ลมพัดมาแรงมาก ทุกคนตกใจกลัว ท้องฟ้ากลางวัน เปลี่ยนเป็นมืดคล้ำทันที ทุกคนตกใจมากที่ท้องฟ้าแปรปรวนเปลี่ยนเป็นมืด พุดจีบรีบบอก
“หนีเข้าโบสถ์เร็ว”
ชบาเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืนก็ตกใจ
“เกิดอาเพศเสียแล้ว”
“รึจะเป็นฤทธิ์เดชพี่กาหลง” เพชรกังวล
“รีบไปบอกพี่กาหลงเถอะ”
ชบารีบวิ่งออกไปจากเรือน เพชรรีบวิ่งตามไป
ทุกคนจะวิ่งเข้าไปในโบสถ์ แต่แล้วพวกจันก็หยุดทุกคนมองตามสายตาจัน ผีกาหลงร่างใหญ่ยืนขวางที่หน้าโบสถ์ ทุกคนตกใจกลัว
“ตายละเหวย”
หลวงพ่อและหลวงพี่กบอยู่ในโบสถ์มองเห็นกาหลงเล่นงานก็สวดมนต์แผ่กุศลให้ ผีกาหลงยังโกรธทุกคน ยื่นมือมาทุกคนกลัว จอกหน้าตื่น
“ไม่อยู่แล้ว”
พวกจอกตัดสินใจวิ่งหนีออกไปทันที พุดจีบร้องห้าม
“อย่าออกไปจากวัด”
จัน นวล จอก ดำและโขงกลัวตายวิ่งหนีออกไป ผีกาหลงมองไปยังไม้และพุดจีบ
“พี่ไม้”
ไม้อึ้งยืนมองกาหลง ทำอะไรไม่ได้ หลวงพ่อและหลวงพี่กบสวดมนต์อยู่ในโบสถ์ ผีกาหลงไม่สามารถทนอยู่ได้มองไปทางที่พวกจอกวิ่งหนีไป แล้วหายไป ไม้ตะโกนเรียก
“กาหลง กลับมา อย่าทำร้ายใครอีก”
ไม้ตัดสินใจวิ่งออกไป เพื่อตามไปห้ามกาหลง พุดจีบตกใจ
“พี่ไม้ กลับมาก่อน”
หลวงพ่อเดินเข้ามาบอกพุดจีบ
“โยมเร่งไปตามไม้กลับมา อาตมาจะทำพิธีบวชให้เร็วที่สุด”
“เจ้าค่ะ”
พุดจีบวิ่งตามไม้ไป หลวงพ่อและหลวงพี่กบยืนมองด้วยความกังวลใจ
จอก จัน นวลและดำวิ่งหนีมาบริเวณต้นไทรงาม แต่แล้วโขงก็ดึงตัวทุกคนไว้
“เดี๋ยวก่อน จะหนีไปไหน”
นวลตื่นกลัวสุดๆ
“ไปไหนก็ได้ ไปให้ไกลผี”
จอกมองรอบๆ
“หนีผีแล้วมาที่ผีดุเนี่ยนะ”
ทุกคนมองไปเจอต้นไทรก็สะดุ้งตกใจ ทันใดนั้น ผีกาหลงก็เคลื่อนเข้ามา ทุกคนตกใจ
“กาหลง”
“พวกเอ็งพรากผัวข้าไป พวกเอ็งต้องตาย”
นวลรีบตะโกนบอก
“กาหลง พี่ไม่คิดขวาง พี่แค่ห่วงใย”
ผีกาหลงหันไปที่ดำ
“ฉันไม่เคยเห็นชอบที่พี่ไม้จะบวชแม้แต่น้อย” ดำรีบแก้ตัว
ผีกาหลงหันไปที่จอก
“ข้าก็ไม่เห็นชอบ”
จันกับดำด่า
“โกหก”
“พวกเอ็งนั่นแหละตัวดี ที่บอกว่ากาหลงไม่ใช่เมียคน เป็นเมียผี” นวลโวย
ผีกาหลงจ้องมองไปยังจอกที่สุดทน ประกาศท้าทายกาหลง
“ก็มันจริงนี่หว่า เอาสิวะ จะฆ่าจะแกงก็เอากัน ข้าหนีจนเหนื่อย ข้าไม่ไปไหนอีกแล้ว อยากหักคอก็เข้ามา”
ผีกาหลงจ้องมองไม่พอใจ ลมพัดบริเวณนั้นแรงมากทุกคนตกใจกลัว
ไม้วิ่งมาหน้าวัด มองหาทุกคนและกาหลง
“กาหลง”
พุดจีบวิ่งตามเข้ามาคว้าตัวไว้
“พี่ไม้หยุดเถอะ”
“พุดจีบปล่อยพี่ พี่จะไปห้ามกาหลง พี่ไม่อยากให้กาหลงก่อบาป”
“กาหลงลงมือได้แค่ขู่ให้กลัว พี่กลับวัดเถอะ มันเป็นช่วงดีที่จะปลงผมแล้วเข้าบวช ไม่มีกาหลงมาขวางบังบุญ”
ไม้คิดตามที่พุดจีบบอก แล้วพยักหน้ายอมทำตามคำแนะนำของพุดจีบ
ลมพัดแรงจนทุกคนตกใจกลัว โขงรีบบอก
“เกาะจับกันไว้มั่น”
ทุกคนพยายามจะเกาะกันไว้ ผีกาหลงมองดุ ทุกคนตกใจกลัว จอกกลัวตาย
“อยู่ไปไม่รอด หนีเร็ว”
จอกพูดไม่ทันจบ โขง จัน นวลและดำวิ่งนำไปแล้ว
“รอด้วย”
จอกจะวิ่งตามทุกคนไป ผีกาหลงเพ่งไป จอกจะวิ่งตามทุกคนไปแต่เหมือนหยุดนิ่ง จันตะโกนเรียก
“ไอ้จอก...วิ่งตามมาสิวะ”
“วิ่งไม่ไป ข้าโดนดึง”
“ไปช่วยมันเร็ว” โขงบอก
ทุกคนวิ่งไปเพื่อจะดึงตัวจอกที่พยายามจะเกาะ ผีกาหลงเพ่งมองด้วยความโกรธ ทุกคนช่วยกันรั้งตัว จอกต้านแรงดึงของกาหลงไม่ไหวมือหลุดจากทุกคน
“ช่วยด้วย”
จอกถูกแรงดึงดูด หลุดจากคนรั้งพุ่งเข้าไป กาหลงบีบคอ
“ไอ้จอก” ทุกคนตกใจ
ชบาและเพชรวิ่งเข้ามา ชบาตะโกนห้าม
“พี่กาหลงพอเถอะ อย่าทำบาป”
ผีกาหลงหันไปมองชบาและเพชรแต่ไม่สนใจ ยังคงบีบคอจอก ชบาพยายามห้าม
“พี่กาหลงฉันบอกให้ปล่อย”
“เอ็งสาปส่งให้ข้าตายไป ข้ามันชั่ว ข้าก็ขอชั่วให้ถึงที่สุดหากเอ็งเกลียดข้าก็ไปให้หมอผีมาปราบกำราบข้าเสียอย่างใจเอ็ง”
ชบาระบายความในใจ
“ฉันไม่คิดจะทำร้ายพี่ มันไม่เป็นอย่างอื่นไปได้ ที่ฉันทำเพราะฉันรักพี่ ฉันห่วงพี่”
“เอ็งรักพี่แต่เอ็งคิดกำจัดพี่”
ผีกาหลงไม่พอใจ ผลักร่างจอกร่วงลงพื้น พวกโขงและเพชรอยากเข้าไปช่วยแต่ยังไม่กล้าเข้าไปช่วยจอก
“พี่ฟังฉันนะ ฉันไม่อยากให้พี่ตกที่ทรมาน ยิ่งพี่อยู่นานเท่าใด พี่ก็ต้องเจ็บปวดหนักเท่านั้น แล้วพี่เคยคิดบ้างไหม คนข้างหลังจะเป็นยังไง”
ผีกาหลงอึ้ง
“คนข้างหลังข้างกาย ต่างทุกข์ใจหนักสาหัส เพราะรักและห่วงพี่ แล้วพี่จะฝืนอยู่ทำไมกัน พี่คือเชื้อไฟ หากดับเสียที่พี่ทุกอย่างก็จบลง”
ผีกาหลงอึ้งคิดถึงคำขอของชบา
ไม้และพุดจีบเข้ามาหาหลวงพ่อ
“โยมเห็นแล้ว เมื่อใดที่กาหลงโมหะโทสะ เกินใจควบคุมก็เผาพลาญทำร้ายอยู่ร่ำไป”
“พี่ไม้บวชเถอะจ้ะ ดวงวิญญาณกาหลงจะได้สงบลง”
พุดจีบมองลุ้นว่าไม้จะตัดสินใจอย่างไร หลวงพี่กบถือมีด เข้ามา ทุกคนมองไปยังไม้ที่กำลังคิดตัดสินใจ
ผีกาหลงค่อยคลายมือจากลง จอกรีบคลานออกไปหาพวกโขง ผีกาหลงเดินตรงไปหาชบา
“ชบา แล้วเรื่องร้ายนี้เอ็งจะให้พี่ทำอย่างไร เอ็งเคยมีความรักไหม”
ผีกาหลงย้อนถาม ชบาอึ้งตอบไม่ถูก ผีกาหลงระบายความในใจ
“ความรักที่เอ็งให้ได้หมดใจ ความรักที่เอ็งให้ได้แม้แต่ชีวิต”
ผีกาหลงย้อนถาม ชบาตอบไม่ได้
“พี่กาหลง ถึงฉันจะอ่อนในเรื่องรัก แต่ฉันก็เข้าใจและยอมรับในความจริง ไม่ว่ารักนั้นจะสุขหรือทุกข์ ฉันก็ต้องยอมรับมัน พี่ถอนใจเสียเถอะ ให้พี่ไม้บวช มันดีทั้งตัวพี่เองและทุกคน”
ผีกาหลงคิดตัดสินใจ ทุกคนรอลุ้นว่ากาหลงจะตัดสินใจอย่างไร และแล้วเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ลมพัดกระโชกแรง ทุกคนตกใจมาก ผีกาหลงมองไปรอบๆ แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น โขงแปลกใจ
“พี่กาหลงไม่ได้ออกฤทธิ์ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
เพชรนึกได้
“ผู้ใหญ่ช่วงเรียกหมอผีมาจัดการพี่กาหลง”
ผีกาหลงรับได้ถึงพลังของหมอผีที่เรียก ผีกาหลงกรี๊ดลั่น ทุกคนตกใจแล้วเงยหน้าไปมอง ไม่เห็นผีกาหลงแล้ว ชบาตะลึง
“พี่กาหลง”
ทุกคนตกใจที่กาหลงถูกหมอผีเรียกตัวไป
มุมหนึ่งที่ชายป่า...อาจารย์สักบริกรรมคาถาแล้วเป่ามนต์ใส่ ผีกาหลงปรากฎตัว
“เอ็งรอดตายได้ นึกว่าจะสำนึก ในเมื่อไม่หลาบจำ ข้าจะไม่รามือ”
“คราวที่แล้ว เอ็งเล่นงานข้าปางตาย วันนี้อย่าหวังว่าข้าจะยอมเอ็ง” อาจาย์สักเครียดแค้น
ผีกาหลงจะเข้ามา อาจารย์สักเป่ามนต์ใส่ ผีกาหลงชะงัก อาจารย์สักบริกรรมคาถาแล้วหยิบเทียนกำมือ แล้วสะบัดเปลวไฟใส่ ดวงไฟสี่ห้าลูกพุ่งเข้าหากาหลง ผีกาหลงตกอยู่ในลูกไฟที่พุ่งเข้าใส่ ผีกาหลงเจ็บปวดทรมาน
ไม้ถอดเสื้อเตรียมพร้อมจะทำพิธีปลงผม พุดจีบถือพานห่อผ้าเหลือง เพื่อรองรับเส้นผม ไม้นั่งลงเพื่อให้หลวงพ่อปลงผม
ผีกาหลงโดนดวงไฟพุ่งเข้าเล่นงาน อาจารย์สักบริกรรมคาถา ช่วงมองด้วยความพอใจ ผีกาหลงมองดวงไฟที่วนอยู่รอบตัวอย่างโกรธจัด ใช้มือจับดวงไฟดวงหนึ่งแล้วปาใส่ปรำพิธี อาจารย์สักบริกรรมคาถาตอบโต้ ทำให้มีดวงไฟพุ่งชนกันเองแล้วหายไป ผีกาหลงเพ่งมองไปด้วยความโกรธแค้น ลมพายุพัดแรง อาจารย์สักนั่งนิ่ง ช่วงเริ่มกลัวและมองไม่เห็นกาหลง
“อาจารย์มันหายไปแล้ว”
ผีกาหลงยืนสูงอยู่หน้าปรำพิธี ช่วงตกใจ
“อาจารย์”
อาจารย์สักมองผีกาหลงอย่างไม่กลัว บริกรรมคาถาใช้มีดอาคมแล้วเดินตรงไปแทงที่เท้า ผีกาหลงร้องกรี๊ดดังลั่น...
หลวงพี่กบบอกหลวงพ่อ
“เร่งโกนหัวเถอะหลวงพ่อ”
หลวงพ่อถือมีดจะตัดผมไม้ เสียงผีกาหลงกรี๊ดดังเข้ามา ไม้ตกใจเป็นห่วง
“กาหลง”
ไม้และพุดจีบตกใจ แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ตัดใจปล่อยวางเสียให้สิ้น”
หลวงพ่อให้สติกับไม้ หลวงพ่อถือมีดจะเข้าไปตัดผม ไม้ร้องไห้ด้วยความสงสารกาหลง
ผีกาหลงกลายร่างเป็นร่างขนาดปกติ อาจารย์สักยิ้มเหี้ยม
“ข้าเสียเวลาเล่นกับเอ็งมานานมากแล้ว นังกาหลง”
ผีกาหลงมองอาจารย์สัก กังวลใจว่าเขาจะทำอย่างไร อาจารย์สักหยิบตะปูสี่ตัวไว้ในมือ
“ผีชั่วช้าอย่างเอ็ง ต้องโดนตะปูโลงผี”
อาจารย์บริกรรมคาถา นำตะปูทั้งสี่ตัวเทลงใส่หม้อดินแล้วเป่ามนต์ ทันใดนั้นก็มีไฟลุกพรึ่บในหม้อแล้วตะปูก็พุ่งเข้าไปใส่ร่าง ผีกาหลงร้องกรี๊ดลั่น ตะปูทั้งสี่ตัวปักร่างและตัวหนึ่งปักที่หน้าผาก อาจารย์สักหยิบฆ้อนอาคมแล้วบริกรรมคาถา ทำท่าตอกตะปู ผีกาหลงร้องด้วยความเจ็บปวด อาจารย์สักใช้ฆ้อนตอกตะปู บริกรรมคาถาตอกไม่หยุดมือ ผีกาหลงทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวดทรมานมาก
หลวงพ่อจะเข้ามาตัดผม ไม้ได้ยินเสียงร้องไห้ของกาหลงก็ตกใจ ลุกขึ้น พุดจีบรีบเตือน
“พี่ไม้ พี่ตั้งสติให้มั่น อย่าไปไหวไปกับความหนักความเบา ต่อสู้กับใจตัวเองให้ได้เพื่อกาหลง”
“พี่ทนนิ่งเฉย ปล่อยให้กาหลงต้องเจ็บปวดไม่ได้อีกแล้ว”
หลวงพ่อเตือนสติ
“แต่การบวชจะเป็นหนทางเดียว ที่จะทำให้กาหลงพบกับความสุขที่แท้จริง”
“ฉันทำสงบอยู่ในร่มกาสาพัสตร์ไม่ได้ หากวิญญาณกาหลงต้องทรมาน” ไม้ยกมือไหว้หลวงพ่อ “ฉันขอโทษด้วย”
ไม้หยิบเสื้อแล้ววิ่งออกไปเพื่อไปช่วยกาหลง พุดจีบตกใจ
“พี่ไม้”
หลวงพ่อถอนใจ
“ไม่มีอะไรรั้งใจที่เต็มไปด้วยกิเลสได้หรอก”
พุดจีบเข้าใจความหมายของหลวงพ่อ พุดจีบเป็นห่วงไม้ รีบตามไป
ผีกาหลงโดนตะปูตอกเข้าร่างกาย ร้องด้วยความเจ็บปวด อาจารย์สักยังคงบริกรรมคาถาตอกตะปูด้วยฆ้อนอาคม ช่วงและสิงมองด้วยความสะใจ พวกเพชรเข้ามาที่มุมหนึ่ง เห็นกาหลงโดนเล่นงานหนัก
“พี่กาหลง” เพชรตกใจ
ผีกาหลงอ่อนแรงทรุดตัวลง
“ปล่อยข้าไป...ปล่อยข้า”
อาจารย์สักหยุดตอก
“ถึงข้าไม่เจอศพ หาช่องทำลายดวงวิญญาณเอ็งไม่ได้ ข้าก็จับเอ็งใส่หม้อถ่วงน้ำ ไม่ได้ออกมาหลอกหลอนอีก”
ผีกาหลงกลัวอาจารย์สักเล่นงาน อาจารย์สักลุกขึ้นบริกรรมคาถา หยิบสร้อยประคำออกมาแล้วปาใส่กาหลง สายประคำเข้ามาคล้องตัว ผีกาหลงร้องด้วยความเจ็บปวด พวกเพชรตกใจ
ไม้กับพุดจีบวิ่งมาถึง เห็นกาหลงโดนสายประคำรัดตัวร้องเจ็บปวด ไม้รีบวิ่งเข้าไปกระชากสร้อยประคำที่คล้องตัวเชือกสร้อยประคำขาด ลูกประคำกระเด็นหลุดร่างผีกาหลงทรุดตัวลงที่พื้น
“พี่ไม้...ช่วยกาหลงด้วย”
ไม้จะเข้าไปจับตัวกาหลงเพื่อช่วยเหลือ อาจารย์สักบริกรรมคาถา วิญญาณลอยออกไปจากตรงหน้าไม้ ลอยไปลงในหม้อ อาจารย์สักใช้ผ้ายันต์ปิดหม้อแล้วเอาสายสิญจน์มัดปิดหม้อ ไม้ตกใจ
“กาหลง”
“นังกาหลง เอ็งไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกแล้ว” อาจารย์สักหัวเราะชอบใจ
ไม้พุ่งออกไปตะโกนหน้าปรำพิธี
“หยุดเดี๋ยวนี้ ปล่อยกาหลงออกมา ปล่อยเมียข้า”
ช่วงตะโกนด่า
“ไอ้ไม้ เอ็งเสียสติไปแล้ว นังกาหลงมันเป็นผี ชาวบ้านเขาเดือดร้อน ข้าก็ต้องให้หมอผีมาปราบ”
“ข้าไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเมียข้า”
ไม้จะเข้าไปแย่งหม้อ สิงเข้ามากันไว้ ไม้ต่อสู้ สิงเสียท่ากระเด็นออกไป ช่วงบอกอาจารย์สัก
“เอาหม้อผีไปจัดการได้แล้ว”
อาจารย์สักจะหยิบหม้อผีออกไป ไม้เข้าไปแย่งชิง อาจารย์สักชักมีดจะเล่นงาน ไม้ต่อสู้แล้วบิดข้อมือ มีดแทงเข้าที่อาจารย์สัก ไม้แย่งชิงหม้อผีไว้ได้ อาจารย์สักทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวด
“พวกเอ็งเอาเมียข้าไปไม่ได้”
ไม้ยกหม้อผีจะทุ่มลง อาจารย์สักร้องห้ามเสียงหลง
“เอ็งอย่า...”
ไม้ตัดสินใจทุ่มหม้อผีลงพื้นหม้อผีแตก ดวงวิญญาณกาหลงหลุดออกมาทรุดตัวที่พื้น
“กาหลง”
“พี่ไม้...”
ช่วงหันไปสั่งสิง
“เอ็งไปจัดการมัน”
สิงจะเข้าไปแต่แล้วพวกเพชร โขงเข้ามากันท่าไว้ เพชรชี้หน้า
“ใครเข้ามาเป็นต้องตาย”
ช่วงโกรธมาก
“พวกเอ็งมันเพี้ยนกันไปหมด คอยดูเถอะ พวกเอ็งต้องตายเพราะผี”
ช่วงจำต้องล่าถอยไป สิงเข้าไปประคองอาจารย์สักที่บาดเจ็บออกไป ทุกคนหันไปมองไม้ และกาหลง
“พี่ไม้...ช่วยเมียด้วย”
ไม้ตัดสินใจวิ่งเข้าไปโอบกอดกาหลง ทั้งสองกอดกัน ไม้สงสารกาหลงมาก
“พี่ไม้...” พุดจีบอึ้ง
ไม้ประคองผีกาหลงลุกขึ้น ทุกคนเป็นห่วงไม้จะเข้าไปห้าม
“ไม้...ออกมาเถอะลูก” จันเรียก
“พอกันที อย่าได้มาขวางทางรักฉัน กาหลงเป็นเมียฉัน ฉันก็ต้องดูแล กาหลงพี่จะพากลับเรือนของเรา”
กาหลงดีใจน้ำตานอง ไม้เข้าไปอุ้มกาหลงเพื่อกลับไปยังเรือน พุดจีบและทุกคนมองอย่าง สะเทือนใจที่ไม้เลือกจะกลับไปใช้ชีวิตกับกาหลง
โขงจะนำทุกคนไปเรือนกาหลง
“เร่งไปเรือนกาหลงเถอะ หาทางไปช่วยพี่ไม้กัน”
พุดจีบรีบห้ามไว้
“พอการเถอะ พี่ไม้ปลงใจแล้ว ชีวิตเป็นของเขา...เขาต้องเลือกเอง”
“คุณพุดจีบจะพลอยพอใจให้พ่อไม้อยู่กินกับผีกาหลงไม่ได้นะเจ้าคะ มันผิดวิปริต” นวลแย้ง
“ใครกันเป็นคนกำหนดว่าผีอยู่กับคนไม่ได้” พุดจีบน้ำเสียงจริงจัง
ทุกคนมองหน้ากัน ต่างเถียงไม่ออก...พุดจีบจึงพูดต่อ
“ฉันเข้าใจดีว่าทุกคนรักและห่วงพี่ไม้ แต่ตอนนี้พอเถอะจะเป็นไรก็เป็นไป ไว้มีหนทางออกที่ดีเมื่อหน้า ค่อยมาคิดช่วยพี่ไม้กันใหม่”
ทุกคนยอมรับความคิดเห็นของพุดจีบ
ไม้อุ้มกาหลงมายืนมองหน้าเรือน
“พี่พากาหลงกลับมาแล้ว กลับมาเรือนรักของเรา”
กาหลงยิ้มตอบ ไม้อุ้มเดินตรงไปยังเรือน
ไม้หยิบผ้าเช็ดน้ำ แล้วเช็ดตัวให้กาหลงซึ่งบอบช้ำและเจ็บปวดจากฤทธิ์อาคม เขาดูแลเธอด้วยความรัก กาหลงมองสามีที่ปรนนิบัติต่อเธออย่างตื้นตันใจ
“กาหลงเจ็บตรงไหน พี่จะทายาให้”
กาหลงจับมือเขาไว้
“พี่ไม้...พี่ไม่นึกระแวงฉัน ไม่รังเกียจฉันเหรอจ๊ะ”
“กาหลงเป็นเมียพี่ พี่จะรังเกียจเมียพี่ได้อย่างไร ในวันที่พี่รู้ความ หัวอกพี่ระทึกนัก ทั้งโกรธและเกลียดตัวเองที่ปล่อยให้กาหลงต้องเคราะห์ถูกพวกชั่วทำร้าย พี่ไม่อาจปกป้องเมียพี่ได้ กาหลงต้องตกระกำอย่างนี้เพราะพี่ มันเป็นความผิดของพี่ ในคืนวันนั้น...”
ไม้นึกถึงเหตุการณ์ที่เขานั่งไหว้พระ อธิษฐานต่อหน้าองค์พระ
“พี่ทำได้เพียงภาวนา ขอให้ผลบุญในอดีตชาติและกาลนี้ที่พี่ได้ทำไว้ ส่งผลให้กาหลงดำรงอยู่ได้อย่างเป็นสุข”
กาหลงฟังเรื่องจากไม้ ก็น้ำตาซึม...
“กาหลงทนเจ็บทนปวดเพื่อพี่ พี่ก็ต้องอยู่เพื่อกาหลง นับแต่นี้ไป...ไม่ว่าความข้างหน้าจะหนักเบาแค่ไหน พี่ก็จะทน พี่จะสู้ ไม่ยอมให้ใครพรากเราจากกันได้อีก”
กาหลงฟังความในใจของไม้ ก็เข้าสวมกอด ทั้งสองโอบกอดกัน ร้องไห้ที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันตามประสาผัวเมีย
เช้าวันใหม่...สิงเดินถือถาดใส่ยาออกมาจากห้อง มั่นเข้าไปถาม
“อาจารย์สักตายรึยัง”
“ยัง”
“นังกาหลงมันร้ายกาจนักแล้ว อาจารย์สักเก่งกาจที่สุดกว่าใคร ที่ไหนในแถบนี้ ยังตะกุยตัวหนีแทบไม่รอด”
“ถ้าไอ้ไม้ไม่มาขวาง นังผีกาหลงโดนจับถ่วงน้ำไปแล้ว”
มั่นหวาดกลัว
“ไอ้สิง...ข้าจะหนีไปเสียให้ไกล ข้ามีเอี่ยวจับนังกาหลงถ่วงน้ำหนี้แค้นท่าจะสาหัส มันต้องคอยหักคอข้าตายเหมือนไอ้ขาบ ข้าไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครปกป้องข้าได้อีกแล้ว”
มั่นจะเดินออกไป แต่อึ้งตกใจ
“พี่โชติ”
โชติเดินตรงเข้ามา
“หากคิดจะหนีลงเรือนไป ก็ไปแต่วิญญาณ”
มั่นตกใจ
“ฉันจำใส่หัวไว้แล้วจ้ะ ฉันจะอยู่รับใช้พี่”
“อาจารย์สักเล่นงานมันได้หรือไม่” โชติถามสิง
สิงและมั่นอ้ำอึ้ง เพราะไม่กล้าตอบ โชติคงไม่พอใจที่รู้ว่ากาหลงยังมีชีวิตรอด
อาจารย์สักนอนเพราะเจ็บบาดแผล โดยที่ช่วงยืนมองอยู่ โชติเดินเข้ามา
“ฉันกลับมาแล้วจ้ะพ่อ”
ช่วงไม่พอใจ
“ข้ายังไม่สั่งให้เอ็งกลับมา ออกไปซะ”
“ฉันจะกลับมาช่วยพ่อ”
ช่วงแปลกใจ
“ไอ้ไม้มันรู้เรื่องที่พ่อฆ่าพ่อแม่มัน”
โชตินึกถึงเหตุการณ์ที่ขุนหวาดบอกไม้ว่าช่วงเป็นคนฆ่าพ่อแม่ไม้
“ไอ้เพชรก็เป็นตำรวจแฝงตัวมา รอวันจับได้คาหนังคาเขา พ่อจะปล่อยให้มันเป็นหอกข้างแคร่อยู่ตำตาเหรอ”
ช่วงแสยะยิ้ม
“ถึงมันรู้ความจริง...มันก็ยากจะทำอะไรได้ คนอย่างข้าไม่เสียเชิงให้มันลบหน้าเล่นหรอก แล้วอีกอย่าง พวกชาวบ้านก็เริ่มแตกฝ่ายมาหาข้า”
“พ่อระวังตัวดูหน้าดูหลังให้ดีเถอะ ฉันกลับมาครั้งนี้เพื่อช่วยพ่อกำจัดเสี้ยนหนามที่ขวางทาง แล้วช่วยกำจัดผีกาหลงอีกแรง”
“เอ็งจะทำยังไง” ช่วงถามอย่างสงสัย
ไม้พายเรืออยู่ในบึงบัว กาหลงแปลกใจ
“พี่ไม้พาฉันมาทำอะไร”
“นานโขแล้ว ที่พี่ไม่ได้พายเรือพากาหลงมาเก็บบัว”
กาหลงมองดอกบัวด้วยความสุขใจ เหมือนได้กลับมาใช้ชีวิตคู่อีกครั้ง
“กาหลงจะได้เอาบัวไปพับกลีบให้พี่ไว้ชื่นชม”
กาหลงยิ้มตอบ แล้วเอื้อมมือไปเก็บดอกบัว ไม้คอยพายเรือให้กาหลงเก็บดอกบัวในบึง ทั้งสองยิ้มแย้มให้กัน เหมือนในอดีต
กาหลงเดินขึ้นฝั่ง แปลกใจที่ไม้หายไป
“พี่ไม้...พี่ไม้จ๊ะ”
ไม้โผล่มาด้านหลังกาหลง แล้วเข้ามาโอบกอดด้านหลังหอมแก้ม
“พี่ไม้หายไปไหนมา ทิ้งฉันให้ชะเง้อหา”
“พี่ไปเก็บดอกบัวสายมาให้กาหลง”
ไม้เอาดอกบัวมาทัดหูให้ กาหลงยิ้มชอบใจ
“กาหลงชอบมั้ยจ๊ะ”
“ชอบจ้ะ”
“ไม่ขอบใจพี่สักคำเลยรึ”
“ขอบใจจ้ะพี่”
“คำขอบใจของเอ็ง มันมีค่าน้อยเกินไป”
กาหลงแปลกใจ
“แล้วพี่หมายใจสิ่งใด”
“ความรู้สึกแทนใจกาหลง”
ไม้มอง กาหลงยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้ม ไม้ยื่นแก้มอีกข้างให้กาหลงหอมแก้ม แล้วเขาก็ยื่นหน้ามาจะหอมแก้ม กาหลงกันไว้
“เอ๊ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรให้พี่สักหน่อย พี่ไม่ต้องขอบใจฉัน”
“กาหลงเกิดมาเป็นเมียที่แสนดี ถือเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดในชีวิตพี่แล้ว”
ไม้เข้าระดมหอมแก้ม กาหลงวิ่งหนีไป...
เรือนกาหลง ตอนที่ 15 (ต่อ)
ไม้ขี่ควาย พากาหลงนั่งเที่ยว เพชร โขง จัน ซุ่มมองอยู่ ...จันมองแล้วร้องไห้
“น้าจันร้องทำไม สงสารพี่ไม้เหรอ” เพชรถามอย่างสงสัย
จันส่ายหัว
“ข้าล่ะซาบซึ้ง เห็นคนรักกัน ภพภูมิก็ไม่อาจขวางกั้นเห็นแล้วมันตื้นตันใจ เกินจะกั้นบ่อน้ำตาได้”
“ฉันว่าชาวบ้านเห็นความรักของพี่ไม้กับพี่กาหลง คงจะเลิกชี้หน้าคาดตา ไม่ขัดขวางอีก” เพชรมั่นใจ
จันยิ้มตอบเพชร แต่แล้วโขงวิ่งเข้ามาบอก
“ผิดเสียเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อกี้ฉันเห็นพวกชาวบ้าน ถือจอบถือเสียมไปท้ายทุ่ง”
พวกเพชรตกใจที่รู้ว่าชาวบ้านจะไปทำอะไร
ไม้ขี่ควายพากาหลงผ่านเข้ามาที่มุมหนึ่งของทุ่งนา พวกชาวบ้านถือจอบ เสียม มีดพร้าเข้ามา ไม้และกาหลงตกใจ
ช่วงกับโชติคุยกันอยู่บนเรือน โชติบอกแผนการให้ช่วงรู้
“เอ็งมีแผนกำจัดนังกาหลงยังไง เอ็งลองว่ามา”
“ในเมื่อชาวบ้านมันกลัวผีกาหลง ฉันก็จะใช้ชาวบ้านกำจัดมัน”
“พวกชาวบ้านปอดแหกตาขาว กลัวผีเล่นงาน มันจะกล้าเผชิญหน้าได้ยังไง”
“คนเรามันกลัวอดตายมากกว่ากลัวตาย ยิ่งมันกลัวผีมากเท่าไหร่ มันก็ไม่กล้าออกไปทำกินเท่านั้น ฉันจะให้ไอ้สิงเอาเงินไปปั่นหัวล่อ ใครกำจัดผีกาหลงได้ ฉันจะเอาเงินฟาดหัวให้สมแก่ความทุกข์ยากของพวกมัน”
ช่วงรู้แผนการของโชติก็ยิ้มพอใจ
ไม้ลงจากหลังควาย ดูแลกาหลง เข้าไปถามชาวบ้าน
“พี่ป้าน้าอามีอะไรกันจ๊ะ”
ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้น
“ส่งเมียเอ็งมาให้พวกข้า พวกข้าต้องเอาไปเผา”
กาหลงตกใจ ไม้รีบบอก
“ฉันทำอย่างนั้นไม่ลง เมียฉัน ฉันก็รักของฉัน”
ชาวบ้านอีกคนสวนขึ้น
“แต่กาหลงเป็นผี สัญชาติผีมันมีแต่หลอกหลอนและหักคอ”
“เชื่อใจฉันเถอะ ฉันไม่ทำร้ายใคร” กาหลงรีบบอก
“พวกฉันไม่เชื่อ เอ็งฆ่ามากี่ศพแล้ว”
กาหลงอึ้ง
“ทั้งไอ้ปอง หมอผี ลูกน้องขุนหวาดที่ตายหน้าเรือนแม่เอ็ง”
ไม้ไม่พอใจ
“คิดกันไปร้อยพัน ไม่มีใครรู้เห็นการตายของพวกมันจะมาใส่ความเมียฉันมันไม่ถูก”
“งั้นเอ็งก็ถามเมียเอ็งสิ ว่าพวกมันตายเพราะน้ำมือใคร”
ไม้หันไปหากาหลง เธอยอมรับสิ่งที่ทำไป
“ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนทำ”
ไม้อึ้ง ชาวบ้านยิ้มหยัน
“นั่นไง...เมียเอ็งยอมรับเต็มปากเต็มคำ”
“ฉันพลั้งไปเพื่อช่วยแม่ช่วยน้อง พวกมันมาระรานจะฆ่าแม่ ขืนใจน้องฉัน”
“เอาสิวะ ไอ้พวกโจรนั่นตายยังพอเข้าใจยอมรับได้ แต่ไอ้ขาบหายไป...เอ็งฆ่ามันใช่ไหม เอ็งจะเอาเรื่องบาดหมางมาล้างแค้นไม่ได้”
ชาวบ้านอีกคนเสริม
“หากไอ้ขาบทำชั่วทำผิดกับเอ็ง ก็ให้มันรับโทษทัณฑ์ตามกฎบ้านกฎเมือง เอ็งไม่มีสิทธิ์ไปฆ่ามัน”
ชาวบ้านมองหน้ากาหลง
“ว่าไง...เอ็งฆ่ามันตายเพราะโกรธเกลียดมันใช่มั้ย”
กาหลงอึกอัก
“ฉัน...”
ไม้คาดคั้น
“ว่าไงกาหลง”
กาหลงไม่อยากให้ไม้รู้สึกแย่
“ฉันไม่ได้ทำจ้ะ”
พวกชาวบ้านโวย
“พวกข้าไม่เชื่อ เอ็งต้องฆ่ามันตาย”
พวกชาวบ้านไม่พอใจกาหลง ไม้รีบปราม
“เมียฉันบอกไม่ได้ทำ ก็ขอให้พอการเถอะ”
ชาวบ้านไม่พอใจ
“พวกข้าจะอยู่นิ่งเฉยได้ยังไง ในเมื่อมีผีอยู่ในหมู่บ้าน เอ็งทำให้พวกข้าขวัญผวา ไม่ได้หลับไม่ได้นอน”
“ฉันให้สัญญาจ้ะ...ฉันจะไม่ก่อกวน สร้างความลำบากเจ็บใจให้ พี่ป้าน้าอาอีก” กาหลงยืนยัน
“กาหลงให้สัญญาก็ขอให้ทุกคนอุ่นใจ ฉันกลับเรือนล่ะ”
ไม้จะพากาหลงออกไป แต่พวกชาวบ้านกันท่าไว้
“เอ็งกลับไปได้คนเดียว แต่เมียผีของเอ็งต้องให้พวกข้าเผา”
ไม้ไม่พอใจจะพากาหลงออกไป แต่ชาวบ้านเข้ามาจะฟันกาหลง ไม้รีบพาเธอหลบ...
“หากพูดไม่ฟังกัน ฉันไม่เกรงใจล่ะ”
ไม้ให้กาหลงออกห่าง แล้วเข้าไปต่อสู้ปกป้องเมียรัก กาหลงมองไม้ต่อสู้กับชาวบ้านอย่างเป็นห่วง
“พี่ไม้ ระวัง”
กาหลงไม่พอใจ เริ่มโกรธ จะกลายเป็นผี แต่พยายามควบคุมตัวเอง ไม้ต่อสู้กับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านเข้ามารุม เล่นงาน จนเขาเสียท่า กาหลงเห็นก็เป็นห่วงกลายร่างเป็นผี
“หยุดทุบตีผัวข้า”
พวกชาวบ้านเห็นผีกาหลงก็ตกใจ วงแตก พุดจีบ...เพชร โขงและจันวิ่งเข้ามาเห็นก็ตกใจ ผีกาหลงเคลื่อนเข้าหาพวกชาวบ้าน ไม้ร้องห้าม
“กาหลง อย่า...”
กาหลงเพ่งมองไปยังพวกชาวบ้าน ไม้มองลุ้นว่ากาหลงจะยอมเชื่อฟังหรือไม่ กาหลงร่างปกติ หันกลับไปหาไม้ทรุดตัวร้องไห้
“พี่ไม้...ฉันขอโทษ”
ไม้เข้าไปกอดปลอบใจ
พวกชาวบ้านหนีออกมามุมหนึ่งที่ชายป่า
“สู้กันซึ่งๆหน้าก็มีแต่เสียที”
“งั้นก็บุกเผาเรือนให้สิ้น ให้มันหมดหนทางอยู่”
พุดจีบเข้ามา...
“ฉันขอร้องอย่ารังควานกาหลงอีกเลย”
“พวกเอ็งก็เห็นว่ามันจะฆ่าพวกเรา” ชาวบ้านคนหนึ่งโวย
เพชรเข้ามา
“พวกน้าไปหาเรื่องพี่กาหลงก่อน ฉันถามจริงเถอะ พี่กาหลงไปสร้างเรื่องใดให้เคืองใจ”
“หรือว่าใครไหว้วานจ้างให้พวกพี่ป้าแห่ไปทำร้ายพี่กาหลง” โขงเสริม
พวกชาวบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จันจ้องคาดคั้น
“ยอมรับมาเสียโดยดี พวกเอ็งโดนสินบนใคร หากใครโกหกขอให้มันตกนรกเจ็ดร้อยชาติ”
ชาวบ้านตกใจไม่กล้าโกหก
“พวกข้ารับเงินพ่อโชติ”
จันพยักหน้าเข้าใจ
“นั่นปะไร จังไรแท้ ไปตามคออ่อนรับจ้างคนชั่วมาเผาคนเผาผี พวกเอ็งมันเห็นแก่ได้ คอยดูเถอะ รับเงินบาปมาเผาคนเผาผี ตายไปก็โดนไฟนรกเผาชั่วกัปล์ชั่วกัลป์”
“ถึงข้าจะรับเงินพ่อโชติ ข้าก็ใช่ว่าเป็นขี้ข้าทำตามสั่ง”
“พวกข้าทำไปเพื่อความอยู่รอดของพวกเรา เพื่อความสงบสุขของชาวบ้าน”
“หมองูตายด้วยงูฉันใด ไอ้ไม้ก็ต้องตายด้วยผีเช่นนั้น พวกข้าก็หวังดีกับไอ้ไม้”
ชาวบ้านระบายความในใจถึงเจตนาที่แท้จริง พวกจันค่อยคลายโกรธลง พุดจีบพูดขึ้น
“พวกฉันก็รักและหวังดีกับพี่ไม้ไม่ต่างจากพี่ป้าน้าอา อย่าให้สิ้นนับถือกันเลย ฉันขอให้ลามือเถอะ”
ชาวบ้านคนหนึ่งขัดขึ้น
“เอ็งก็แปลกคน กาหลงเป็นผีเอ็งยังดื้อดึงให้ผีอยู่กับคน”
“ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน อย่าไปคิดยุ่งเลย เขารักกันอยู่ด้วยกันก็ไม่ได้ทำให้ใครเคราะห์หนักขึ้นไปสักนิด มีแต่เราต่างหากที่เข้าไปวุ่นวาย”
ชาวบ้านคิดตามที่พุดจีบสอน
“หากเราใจเร็วเอาความคิดของเราเป็นที่ตั้ง เมื่อเห็นชอบเห็นงามว่าสิ่งใดดีสิ่งใดไม่ดี ก็พาลจะพาพวกพ้องให้เห็นตามกันไป โดยไม่คิดตื้นลึกหนาบาง นั่นก็เท่ากับเราโง่ใจหายขาดสติ ซ้ำยังไปทำวุ่นวายก้าวล่วงชีวิตคนอื่นอีก คิดให้ถ้วนถี่ และปล่อยวางซะ...ชีวิตของใคร ชีวิตคนนั้นเป็นผู้กำหนด อย่าเอากฎหมู่ทำตัวเหนือกฎหมาย”
“แล้วหากมันเป็นผีออกอาละวาดฆ่าพวกเราขึ้นมาล่ะ” ชาวบ้านอีกคนถามขึ้น
“ใครหว่านเมล็ดพืชใด ย่อมได้ผลพืชนั้นเสมอ หากกาหลงทำดีก็ว่าด้วยดี แต่เมื่อใดที่กาหลงทำกรรมชั่ว กาหลงนั่นแหละ จะเป็นผู้รับกรรม”
“ชาวบ้านมองหน้ากัน แล้วคิดตัดสินใจ
“มื้อนี้ข้าจะลองเชื่อดูสักครั้ง แต่หากผีกาหลงทำให้พวกข้าเดือดร้อนเมื่อใด พวกข้าคงนิ่งเฉยไม่ได้”
ชาวบ้านพยักหน้าเห็นด้วยแล้วพากันเดินกลับ จันโล่งใจแต่ยังเป็นทุกข์
“เราจะต้านไว้ได้นานแค่ไหน”
“พี่กาหลงจะใช้ชีวิตคู่อยู่ได้จริงเหรอ” เพชรหนักใจ
ทุกคนกังวลใจ พุดจีบเองก็กังวลใจในเรื่องนี้
ไม้พากาหลงกลับมาที่หน้าเรือน
“พี่ไม่อยากให้กาหลง ทำอย่างนั้นอีก พี่ไม่อยากให้ใครมาตราหน้าเมียพี่”
“จ้ะพี่...ฉันจะตั้งสติ ควบคุมใจให้มั่น”
กาหลงรับคำจะเดินออกไปและแล้วดอกบัวที่ทัดหูร่วงลงพื้น ไม้มองไปไม่เห็นกาหลงเพราะร่างของเธอหายไป เขาตกใจก้มเก็บดอกบัวขึ้นมาแล้วเงยหน้ามองเห็นกาหลงยืนอยู่ที่หัวบันไดแล้ว
“พี่ไม้ขึ้นเรือนมาสิจ๊ะ”
“จ้ะ” ไม้อึ้ง
กาหลงเดินเข้าเรือนไป ไม้มองดอกบัวในมือ กังวลใจ รู้ดีว่าพลังของกาหลงน้อยลง
สิงและมั่นเข้ามาที่เรือนช่วง สิงตรงมาบอกโชติ
“พวกชาวบ้านมันถอยกันหมดแล้ว”
“พวกมันกลัวผีกาหลงฆ่า แล้วก็คุณพุดจีบขอร้องไว้” มั่นเสริม
โชติไม่พอใจ
“พุดจีบอีกแล้วเหรอ สักวันเอ็งต้องได้รับผลที่ลนไปหาเคราะห์และขวางข้าไปเสียทุกเรื่อง”
ช่วงเดินเข้ามาต่อว่าโชติ
“แผนเอ็งมันล่มไม่เป็นท่า อยู่ไปก็มีแต่ข้อเสียต่างๆนานากลับไปซ่อนหน้าในป่าซะ”
“ฉันก็แค่ให้ชาวบ้านทำให้ไอ้ไม้มันหวั่นใจ ฉันยังมีแผนใหญ่ที่จะทำให้ไอ้ไม้มันกลัวผี”
“ถ้ามันกลัวผี มันคงไม่กล้ากลับไปอยู่กินกันบนเรือน”
“ต่อให้มันรักเมียมันปานจะกลืนกิน เมียมันก็เป็นผีวันยังค่ำ ฉันจะทำให้มันกลัวเมียมัน”
โชติหันไปสั่งสิงและมั่น
“พวกเอ็งไปจัดการตามคำข้าสั่ง”
สิงและมั่นแปลกใจว่าโชติจะให้ทำอย่างไร มั่นหวั่นๆเพราะกลัวผี
ค่ำนั้น ไม้นอนหลับอยู่บนเรือนได้ยินเสียงผิดปกติก็ลืมตาด้วยความแปลกใจ...พวกสิงวิ่งเข้ามาหน้าเรือนเพื่อมาทำอะไรบางอย่าง...ไม้ดีดตัวขึ้นมา สงสัยว่ามีอะไรที่หน้าเรือน เสียงหมาหอนดังขึ้น ไม้เดินออกจากเรือน มายืนที่ชานเรือน มองไปตรงหน้าแล้วอึ้งตกใจ โลงศพที่ขาบตาย ตั้งอยู่ที่ท่าน้ำ
ไม้เดินตรงไปที่โลงศพแปลกใจว่าเป็นโลงศพของใคร กาหลงเดินออกจากเรือนมองไปที่ไม้ เธอเศร้าใจที่ไม้จะรู้ความจริง ขณะที่ไม้ตัดสินใจ เปิดโลงศพผลักฝาโลงออกมองเห็นศพขาบนอนตายอยู่ข้างใน เขาตกใจผงะออก กาหลงยืนมองที่ชานเรือนน้ำตาไหล เสียใจที่เขารู้ความจริงว่าเธอเป็นคนฆ่า ไม้หันกลับไปที่เรือนมองกาหลง
“กาหลง...”
กาหลงยืนมองไม้ แล้วเดินตรงลงจากเรือนมายืนอยู่ตรงหน้าไม้
“กาหลงฆ่าไอ้ขาบ”
กาหลงพยักหน้ายอมรับความจริง
“มันมาก่อกวนฉัน แล้วมันก็จับฉันถ่วงน้ำ...”
กาหลงอยู่ห่าง เพราะกลัวไม้จะกลัวเธอ แต่เขากลับเดินเข้าหา กาหลงแปลกใจและดีใจที่เขาเข้ามาหาเธอ
“กาหลง...พี่ขอได้ไหม ขอให้กาหลงคิดถึงคนข้างหลัง หยุดความแค้นเสียทั้งหมด พี่ไม่อยากให้กาหลงก่อเวรสร้างกรรมอีก บาปจะติดตัวกาหลงไม่รู้จักสิ้น”
“ฉันสัญญาจ้ะ ฉันจะไม่ฆ่าใครอีก...”
ไม้โอบกอดกาหลง ดีใจที่กาหลงยอมหยุดการทำร้ายคนอื่น กาหลงสุขใจที่ไม้ไม่รังเกียจเธอ
เช้าวันใหม่...ช่วงเดินออกมาจากเรือน มองศพของขาบถูกห่อเสื่ออยู่มุมหนึ่งก็ตกใจ
“ไอ้ขาบ ใครเอาศพมันมาไว้นี่”
ไม้เดินเข้ามาบอกช่วง
“ฉันเอง...”
“เอ็งเอาศพมาจากไหน”
“มันอยู่ที่หน้าเรือนฉัน”
โชติอยู่ที่มุมหนึ่งไม่พอใจที่ไม้มาโวยวายที่เรือน
“เมียเอ็งฆ่าไอ้ขาบ เอ็งต้องร่วมรับผิด” ช่วงโวยวาย
“อย่าว่าแต่ฉันเลย หากผู้ใหญ่จะหาคนร่วมรับผิด ผู้ใหญ่ก็คงต้องร่วมรับผิดกับลูกชาย เพราะลูกชายผู้ใหญ่สั่งให้พวกมันฆ่าเมียฉัน”
ช่วงพูดไม่ออก
“มันตายก็ถือว่าเป็นกรรม เมียข้าอยู่สุขสบายอย่าริมาใกล้มืออีก ฉันไม่รู้ว่าลูกชายผู้ใหญ่ทำหน้าชื่นหนีไปซ่อนตัวหดหัวอยู่ไหน แต่ขอให้ผู้ใหญ่รู้ใส่ใจเถอะ คนทำผิดไม่มีใครหนีกรรมพ้น”
ไม้ชี้ไปที่โลงศพที่วางอยู่มุมหนึ่ง
“ส่วนโลงนั่น ฉันเอามาไว้ให้ เพราะคิดว่าอีกไม่นาน มันคงได้ใช้ใส่ศพ”
ไม้พูดจาขู่ช่วง แล้วเดินกลับไป โชติเห็นว่าไม้ออกไป ก็เดินเข้ามาหาพ่อ
“ไหนเอ็งบอกว่ามันจะหวาดกลัวเมีย แต่มันกลับปกป้องเมียแล้วมาลบหน้าข้าถึงนี่”
โชติแสยะยิ้ม
“ปล่อยให้มันลำพองใจ หากเมียมันผิดสัญญา มันก็ไม่อาจสู้หน้าใครได้”
ช่วงแปลกใจว่าโชติมีแผนการยังไง
เพชรบอกพุดจีบ
“พี่คงรู้ข่าวเรื่องศพไอ้ขาบแล้ว”
พุดจีบพยักหน้า
“ผลแห่งกรรมเห็นผลทันตาเสมอ”
“ขาบมันเป็นหนึ่งในตัวการฆ่าพี่กาหลง แต่ตัวการใหญ่มันยังลอยนวล”
“นั่นสิ พี่โชติ หนีหน้าไปนาน”
“ฉันพอจะได้ความว่ามันกลับมาแล้ว แต่จะบุกไปเรือนมันก็ป่วยการ ผู้ใหญ่คงขวาง แหวกทางให้มันหนีไปจนได้”
“แล้วเอ็งจะทำอย่างไร ถึงจะจับมาลงโทษ”
“ยังมีไอ้มั่น ฉันคงต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์”
พุดจีบแปลกใจว่าเพชรจะใช้วิธีใดในการจับโชติมารับผิด
ค่ำคืนนั้น กาหลงนั่งอยู่ที่ชาน ไม้ถือถาดใส่อาหารเดินเข้ามา
“พี่ไม้ให้ฉันช่วยเถอะ”
“กาหลงไม่ต้องช่วย กาหลงมีหน้าที่ช่วยกินฝีมือพี่”
ไม้เอาอาหารวางไว้ แล้วให้กาหลงชิม
“กาหลงกินสิจ๊ะ พี่ทำสุดฝีมือเลยนะ”
กาหลงตักแกงขึ้นมากินแล้วยิ้ม
“อร่อยจ้ะ”
“จริงเหรอ ไหนลองชิมสิ”
ไม้ตักขึ้นมากิน แล้วก็อึ้ง จำต้องกลืนลงไป
“กาหลงกินไปได้ยังไง มันเค็มเหลือกำลัง”
“พี่ไม้ทำอะไร ก็อร่อยทั้งนั้นแหละจ้ะ”
“เมียพี่ปากหวานเสียจริง งั้นกินปลาย่าง พี่จะป้อนให้”
ไม้บิปลาย่างแล้วป้อนกาหลง
“กินอีกคำนะจ๊ะ”
ไม้ก้มหน้าบิปลาย่างแล้วหันหน้าจะป้อน แต่เขาไม่เห็นตัวกาหลง จึงอึ้งไป กาหลงนั่งอยู่ตรงหน้า แปลกใจที่ไม้นิ่งไป
“ฉันหิวแล้วนะจ๊ะพี่”
ไม้มองตรงหน้าไม่เห็นกาหลงได้ยินแต่เสียง จึงสุ่มยื่นมือไปซึ่งไม่ตรงกับปากของเธอ กาหลงรู้ว่าเขาไม่เห็นตัวเธอ จึงเข้ามาจับมือเขาป้อนให้ตรงปาก
“พี่ไม่เห็นฉันเหรอจ๊ะ”
ไม้โกหก
“ใครบอก...กาหลงนั่งอยู่ตรงหน้าพี่ พี่จะไม่เห็นได้อย่างไร อีกคำนะจ๊ะ”
ไม้บิปลาย่าง แล้วยื่นมือป้อนไป
“กินสิจ๊ะ”
กาหลงยืนอยู่ ไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้า ไม้ก็ไม่เห็น กาหลงรู้สึกเศร้าใจนั่งลงมากินข้าวในมือของเขาน้ำตาไหล เริ่มกังวลใจที่เขาไม่เห็นตัวเธอ
“กินอีกนะจ๊ะ”
“ฉันอิ่มแล้วจ้ะ ฉันไปเอาน้ำให้พี่”
กาหลงลุกออกไป ไม้ยิ้มรับโดยที่ไม่เห็นว่ากาหลงเดินไปทางไหน เขาหันไปมองไม่เห็นร่างกาหลงรู้สึกได้เพียงพื้นไม้ที่ยวบเพราะมีคนเดิน ไม้สะเทือนใจที่ไม่อาจเห็นตัวของเมียรัก
ไม้นอนหนุนตัก กาหลงนั่งพัดวีร้องเพลงเห่กล่อม เขาค่อยๆเคลิ้มหลับไป กาหลงนั่งร้องเพลงเห็นว่าเขาหลับแล้วก็จับนอนหนุนหมอน เธอล้มตัวลงนอนข้างๆ ไม้ลืมตาขึ้นแล้วนอนคิด รู้สึกว่าการใช้ชีวิตคู่ลำบาก ขณะเดียวกันนั้นเขาได้ยินเสียงสะอื้นก็แปลกใจ รู้ว่ากาหลงเป็นทุกข์ ไม้หันหน้ามาเจอกับกาหลงหน้าเป็นผีก็สะดุ้งเล็กน้อยแล้วโอบกอดเธอไว้แน่น กาหลงรู้สึกดีแล้วหันไปมองมุมหนึ่ง เงาสะท้อนในกระจกเห็นว่าเธอเป็นหน้าผี กาหลงยิ่งเศร้าใจที่ตัวเองต้องมีสภาพอย่างนี้
เช้าวันใหม่...เรือนช่วงมุมหนึ่ง มั่นบอกกับสิง
“ไอ้สิง เอ็งหนีไปกับข้าเถอะ ข้ากลัวจะตายเหมือนอย่างไอ้ขาบ”
“หากเอ็งหนีเท่ากับเอ็งทรยศ พี่โชติเอาเอ็งถึงตาย”
สิงพูดขู่ มั่นก็หวาดกลัว โชติเดินเข้ามาหามั่น
“ไอ้มั่น เอ็งไปเรือนกาหลง”
มั่นตกใจ
“พี่โชติ” มั่นก้มลงไหว้ขอร้อง “ฉันขอล่ะจ้ะพี่ ให้ฉันไปทำอะไร ไปไกลแค่ไหนก็ได้ แต่อย่าให้ฉันไปเรือนผีนั่นเลย มันต้องฆ่าฉันที่ฉันจับมันถ่วงน้ำ”
“ข้ารู้ว่าเอ็งไม่อยากตายอย่างไอ้ขาบ ข้าถึงมาบอกให้เอ็งไปกราบขอขมา ให้มันอโหสิกรรมให้เอ็ง”
“มันจะยอมให้อโหสิกับฉันเหรอ ฉันทำมันไว้มาก”
“ข้าเตรียมเงินให้มันไว้โข เป็นการไถ่โทษไถ่บาป มันย่อมอยากได้เงินให้ผัวให้แม่และน้องอยู่สุขสบาย แล้วมันเองก็อยากละเลิกบาป มันไม่ฆ่าเอ็งหรอก”
มั่นคิดตัดสินใจ โชติโชติมองยิ้มมีเลิศนัยบางอย่าง
พุดจีบแปลกใจที่เพชรชวนเธอออกมา
“น้องชายจะพาพี่ไปไหน”
“ฉันหวังใจจะคุยกับไอ้มั่น ให้มันโอนอ่อนยอมเป็นพยานเล่าความจริงทุกข้อเพื่อจับไอ้โชติ”
“มันจะยอมขายนายมันอย่างนั้นหรือ”
“ฉันถึงวานให้พี่ช่วย พี่พุดจีบมีวาทศิลป์ที่ดี น่าจะช่วยหว่านล้อมมันได้ พี่ช่วยฉันนะจ๊ะ”
“หากน้องชายเห็นว่าพี่มีสิ่งดีที่ช่วยเหลือได้ พี่ก็ยินดี”
พุดจีบตัดสินใจจะช่วย เพชรดีใจที่จะได้มั่นมาเป็นพยานในการจับตัวโชติ
ไม้ถือเคียวจะออกไปเกี่ยวข้าว กำลังจะเดินตามไป กาหลงเข้ามาถาม
“พี่ไม้จะไปไหนแต่เช้าจ๊ะ”
“พี่จะไปเกี่ยวข้าว ข้าวชูรวงเหลืองทองเต็มท้องนาแล้ว”
“จริงสิ ฉันไม่ได้ไปนาเสียนาน เก็บข้าวมื้อนี้พอจะขายปันเงินให้ แม่ได้เก็บไว้ใช้ พี่รอฉันนะจ๊ะ”
“กาหลงไม่ลงแรงหรอก กาหลงไม่ค่อยสู้สบาย”
“เราสัญญากันไว้ ว่าหน้าเกี่ยว เราจะช่วยกันลงเคียวลงแรง”
ไม้เป็นห่วงกาหลง
“พี่อยากให้กาหลงพัก กาหลงไม่เป็นเหมือนเก่า”
กาหลงอึ้งรู้ดีว่าไม้หมายถึงอะไร
“กาหลงหุงหาทำแกงให้พี่กินเสียดีกว่า แล้วพี่จะรีบกลับมา”
กาหลงค่อยคลายอุ่นใจที่มีส่วนช่วยเขา ยิ้มรับ ทั้งสองยิ้มให้กัน กาหลงแปลกใจมองตรงไป...ไม้มองตาม
“ไอ้มั่น”
มั่นเดินถือพานและถุงเงินกล้าๆกลัวๆ เดินมาที่หน้าเรือน ไม้ไม่พอใจ ถือเคียวเดินตรงไปหามั่นทันที
“เอ็งจะมาระรานอะไรเมียข้าอีก”
“ฉันมาดี ฉันมาขอขมาแม่กาหลงจ้ะ”
ไม้แปลกใจ กาหลงยืนอยู่บนเรือนแปลกใจเหมือนกันที่มั่นจะมาขอโทษ...
สิงเดินเข้าไปบอกโชติที่มุมหนึ่งของเรือน
“ไอ้มั่นมันไปเรือนกาหลงแล้วจ้ะพี่”
“มื้อนี้แหละ ไอ้ไม้จะได้กลัวและเกลียดเมียตัวเอง”
“พี่ทำอะไร ไหนพี่บอกว่าให้ไอ้มั่นมันไปขมากาหลง”
“เอ็งคิดเหรอว่าข้าจะยอมก้มหัว ให้ลูกน้องไปขอขมามัน”
“เพราะฉันรู้จักพี่ ฉันถึงได้ถาม พี่คิดทำสิ่งใด”
โชติยิ้มหัวเราะ แล้วเดินตรงเข้าไปในเรือน เพื่อไปหาอาจารย์สัก สิงแปลกใจ
ไม้ยืนมองมั่น ไม่ไว้ใจ
“คนชั่วอย่างเอ็งรึจะคิดกลับใจ”
“เชื่อฉันเถอะจ้ะ ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ฉันทำชั่วทำบาปไว้มาก ฉันเห็นไอ้ปองตาย ไอ้ขาบตาย...”
ไม้สวนขึ้น
“เอ็งเห็นว่าจวนตัวก็เลยกลัวตาย มาเร่งขอขมา คนอย่างเอ็งมันน่าตายไปซะ ตกนรกไม่ต้องผุดต้องเกิด”
ไม้เงื้อเคียวขู่มั่น
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ให้อภัยฉันด้วยเถอะจ้ะ”
มั่นร้องขอ ไม้เอามือถือเคียวลง
“หากเป็นเมื่อก่อนข้าจะไม่ยอมให้อภัยเอ็งทีเดียว ข้าจะจองเวรจองกรรมเอ็งให้สิ้นปราณเดี๋ยวนี้ แต่ตอนนี้ ข้าไม่อยากเอาความให้เป็นบาป อ้ายเรื่องรายนี้ข้าถือว่าให้ทาน ให้อภัยเป็นผลบุญให้เมียข้า”
มั่นดีใจ
“แต่หากเอ็งจะหมดเวรหมดกรรมได้ ก็ขึ้นอยู่กับเมียข้าจะใจอ่อนยอมความให้เอ็งหรือไม่”
มั่นยังกลัวมองไปยังกาหลง...
“แม่กาหลง ให้อภัยฉันได้ไหมจ๊ะ”
กาหลงมองไปยังมั่น ยังโกรธที่มั่นเคยทำร้ายและคิดร้ายมาโดยตลอด ไม้มองไปยังกาหลงส่งความรู้สึกที่ดีหวังให้เธอให้อภัยเพื่อสั่งสมบุญ
“เอ็งคิดยังไงถึงมายอมกราบขอขมาข้า”
“ฉันไม่อยากตาย”
กาหลงยิ้มเย้ย
“คนที่กลัวตายมันไม่ใช่คนดี”
มั่นอึ้ง
“คนที่คิดดีทำดี จะไม่มีวันกลัวตาย เพราะเขารำลึกเสมอว่าเป็นที่รักของทุกคน ไม่มีศัตรูคิดร้าย”
มั่นฟังความกาหลงแล้วคิดตาม...
“แต่หากแม้ต้องตายด้วยเหตุใดก็ตาม คนทำดีย่อมสุขใจไม่มีเป็นอื่นไปได้ เพราะได้ทำความดีสะสมไว้แล้ว แต่พวกจังไรที่มันก่อเวรทำบาป ใจคอมันจะกลัวทุกลมหายใจ มันจะหวาดหวั่นว่าวันใดจะถูกฆ่า เพราะมันได้สร้างเจ้ากรรรมนายเวรไว้ ทั้งที่มีตัวตนและไม่เห็นตัวตน”
มั่นกลัวตาย ร้องไห้ออกมา
“ฉันเข้าใจคำของแม่กาหลงแล้วจ้ะ ฉันรู้สึกถึงความกลัวที่เกิด ฉันยังไม่อยากตาย ขอแม่เชื่อปากฉันให้ฉันมีวาสนากลับตัวกลับใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเถอะจ้ะ”
มั่นร้องไห้ขอร้อง กาหลงมองไปยังมั่น ไม้ยืนมอง ลุ้นว่ากาหลงจะทำอย่างไร
“ข้าให้อภัยเอ็ง”
มั่นยิ้มดีใจที่กาหลงยอมอโหสิกรรมให้เลิกจองเวรมั่น ปล่อยชีวิตนี้ให้อยู่ต่อไป
จบตอนที่ 15