ธิดาพญายม ตอนที่ 17 อวสาน
ณัชชานำทุกคนผ่านประตูคุกเข้าไป ทันใดนั้นทั้งหมดมาโผล่บนขบวนรถไฟเก่าขบวนหนึ่ง ทั้งหมดมองหน้ากันอย่างคาดไม่ถึง ต่างมองออกไปยังนอกหน้าต่าง
“เราอยู่ที่สุสานรถไฟนี่เอง”
“ไม่น่าเชื่อกุญแจสำคัญ กลับมาอยู่ในซากกองขยะรถไฟ”
“ถึงไม่มีใครหาเจอไงล่ะ”
“พี่ณัชชา”
ทั้งหมดหันมาทางปิงปอง ตรงหน้าที่เป็นปลายสุดของขบวนเหมือนมีแสงสว่าง
“ทุกคนตามมา”
ณัชชาออกนำหน้าไป
ณัชชานำทุกคนเดินมาตามขบวนรถไฟจนสุดทางก็พบว่าเป็นแสงปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ต้องผ่านกี่ประตูกันแน่”
“อย่าประมาท”
ณัชชาก้าวนำไปอีก ทั้งหมดผ่านประตูแสงเข้าไป แต่แล้วทั้งหมดก็คาดไม่ถึงเมื่อพบว่าออกมายังเมืองโบราณ
ซากปรักหักพังแห่งหนึ่ง ต่างมองหน้ากันอย่างคาดไม่ถึง ณัชชาพาทุกคนเดินไปยังลานเมืองโบราณ
ณัชชานำทั้งหมดเข้าไปตรงลาน ปรากฏว่า ตรงกลางลานมีพานตั้งอยู่บนโต๊ะเหมือนโต๊ะหมู่บูชา มีเสาปักอยู่สี่ต้นมีเชือกสีทองขึงระหว่างเสาเหมือนกั้นไว้ไม่ให้ใครเข้าไปได้ บนพานเป็นเหมือนแท่งแก้วขนาดหนึ่งคืบแท่งหนึ่งเป็นแท่งแก้วสีน้ำเงินเจียรนัยหลายเหลี่ยม ทั้งหมดก้าวเข้าไปดูใกล้ๆ
“นี่เหรอกุญแจ ไม่เห็นเหมือนลูกกุญแจเลย”
“ทายาทควรเป็นคนหยิบกุญแจออกมา”
“พี่ไกรยุทธ์”
ไกรยุทธ์เดินเข้าไปตรงแสงสีทองที่กั้นเป็นเชือกอยู่ระหว่างเสา แต่พอก้าวเข้าไปก็มีแสงสว่างดังวูฟร่างของไกรยุทธ์กระเด็นตูมออกมา ทันใดนั้นท้องฟ้ากลายเป็นมืดครึ้ม สายฟ้าวิ่งแล่น วูบวาบ ทุกคนคาดไม่ถึง นาฬิกาพรวดเข้าไปประคองไกรยุทธ์
“ผมไม่เป็นไรครับ”
ไกรยุทธ์ยืนขึ้นมา ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บหรือบาดแผล
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่ณัชชา”
“พี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“ลองดูแผนที่ดูมั๊ยคะเผื่อจะมีปริศนาบอก”
ปิงปองกางแผนที่ออก ทุกคนมองอย่างตื่นเต้นเห็นรูปแท่งกุญแจอยู่ในดอกบัวสีขาวที่มีก้านโผล่ออกมาจากก้อนเมฆสีขาว
“โห...แปลว่าอะไรครับนี่”
ทั้งหมดเพ่งมองรูปในแผนที่ แล้วมองมายังสถานที่จริง
“มีกุญแจอยู่ในพานแทนที่จะเป็นดอกบัวสีขาว”
“ดอกบัวบานในก้อนเมฆสีขาว”
“หรือว่าเราต้องเข้าไปพร้อมกันสี่คนครับ”
“ไม่มีเครื่องหมายที่แสดงถึงทายาททั้งสี่ในเวลาเดียวกัน”
“ดอกบัวหมายถึงผู้หญิง หรือว่าต้องเป็นผู้หญิงถึงจะเข้าได้”
“งั้นให้นาฬิกาลองดูนะคะ”
ณัชชานิ่งอึดใจแล้วพยักหน้า
“ระวังตัว”
นาฬิกาก้าวเข้าไปยังกลุ่มโต๊ะหมู่บูชา ใกล้เข้าไปถึงแสงสีทองที่ขึงขวางอยู่ นาฬิกาก้าวผ่านเข้าไป ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างขึ้นดังวูฟ ร่างของนาฬิกากระเด็นออกมาที่พื้น ทุกคนคาดไม่ถึง
ที่หน้าประตูคุก เทพอัคราเดินมายังอาคิน สายตากราดไปที่ปาระนังและราเชนที่จ้องจับตามองมา
“ทันทีที่ได้กุญแจนิลกาลสั่งเก้าภูตสังหารกำจัดทุกคน”
“รับคำสั่งท่านพ่อ”
เทพอัครายิ้มมองไปยังปาระนังกับราเชนที่จับตามองมาตาไม่กระพริบ
ปาระนังกับราเชนจับตาดูเทพอัครากับอาคิน
“เทพอัคราต้องมีแผนไม่ดี”
“ทันทีที่เทพอัคราได้กุญแจ รีบพาทายาทออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
ปาระนังพยักหน้า สายตาจ้องเทพอัคราและทุกคนสายตาเคร่งเครียด
หน้าลานที่ตั้งพานกุญแจ ณัชชาเดินไปเดินมาหันไปมองที่ตั้งกุญแจ พลางหยุดคิดอึดใจ ปิงปองยังถือแผนที่อยู่ ทุกคนต่างสุมหัวมองแผนที่และมองที่พานตั้งกุญแจสลับกันไปมา
ณัชชาจ้องที่พานกุญแจนิ่ง ถอนหายใจ
“ยังไงต้องหาทางเอากุญแจมาให้ได้ พี่จะลองใช้พลังผ่านเข้าไป” ทายาททุกคนต่างพยักหน้ารับ “ทุกคนถอยไปก่อน เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
ทายาททุกคนต่างถอยห่างออกไป ณัชชาก้าวเข้าไปยังโต๊ะตั้งพาน หยุดจ้องแสงสีทองที่ขวางอยู่ อึดใจผ่านไป
ณัชชาตัดสินใจก้าวผ่านเข้าไป เกิดเป็นแสงจ้าขวางไว้ ณัชชายกมือสองข้างขึ้นต้านพลังแสงอึดใจก็ต้องก้าวถอยออกมา ณัชชาจ้องอย่างคาดไม่ถึง
หน้าประตูคุกนิลกาล เทพอัคราเดินไปมา ในที่สุดก็หันมาทางปาระนังและราเชน
“องค์หญิงณัชชา ช้าเกินไปแล้ว ท่านสองคน คนหนึ่งคนใดน่าจะเข้าไปดู”
“กุญแจนิลกาลมีปริศนาซับซ้อน ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ”
“ใครจะรู้ องค์หญิงและทายาทอาจหลงทางอยู่ในขณะนี้ก็ได้”
“ถ้ายังงั้นพวกท่านต้องเข้าไปเอามาให้เรามิฉะนั้นเราจะกำจัดผู้กองเดี๋ยวนี้”
“ท่านไม่กล้าหรอก ผู้กองถูกท่านกำจัดเมื่อไหร่ กุญแจก็จะไม่มีวันถึงมือท่านเด็ดขาด”
เทพอัคราสายตาคลั่งแค้น ทำอะไรไม่ได้ ราเชน ปาระนัง ต่างยิ้มเยาะ
ทั้งหมดต่างจ้องที่แผนที่ อย่างครุ่นคิด
“เราตีความหมายผิด ถ้าดอกบัวหมายถึงผู้หญิงนาฬิกาก็ต้องผ่านเข้าไปได้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อน ก้อนเมฆ”
“ก้อนเมฆทำไมครับ”
“ผมก็ว่าเหมือนก้อนเมฆทั่วไป”
“เราไม่ได้ตีความหมายของก้อนเมฆ”
ทั้งหมดต่างมองหน้ากัน
“พี่ณัชชาน่าจะรู้ความหมายของก้อนเมฆนะคะ” ปิงปองบอก
“อืม...เมฆหมายถึง สูงส่ง บริสุทธิ์ สะอาด อะไร ประมาณนี้แหละ”
“ดอกบัว หมายถึง ผู้หญิง ก้อนเมฆหมายถึงสะอาดบริสุทธิ์”
“ผู้หญิงสะอาดบริสุทธิ์”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
“หมายความว่ายังไงกันแน่ครับ”
“ผู้หญิงที่ไม่เคยทำบาป ในที่นี้หมายถึง คร่าชีวิตใคร”
ทุกคนหันมาทางปิงปอง
“ในที่นี้ก็มีแค่บีมกับปิงปองสองคนเท่านั้น”
“เพราะแบบนี้เอง อาจารย์ถึงไม่ยอมสอนวิชาให้บีมกับปิงปองสังหารใคร”
ทุกคนมองที่ปิงปองเป็นตาเดียว
ปิงปองค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้โต๊ะที่ตั้งพานใส่กุญแจ ณัชชา ไกรยุทธ์ บีม นาฬิกา จับตาดูอย่างตื่นเต้น ปิงปองก้าวเข้าไปจนถึงแสงสีทองที่ขึงขวางอยู่ ปิงปองหันมามองทุกคน ทุกคนต่างพยักหน้าให้เอาใจช่วย ปิงปองพยักหน้ารับ แล้วหันกลับมาจ้องพานที่ใส่กุญแจ อึดใจก็หลับตาก้าวเท้าผ่านแสงสีทองเข้าไปด้านใน
“เยส”
ปิงปองลืมตาขึ้นพบว่าตัวเองก้าวเข้ามาด้านในเรียบร้อย ยืนอยู่ตรงหน้าพานกุญแจในระยะแค่เอื้อม ทุกคนต่างมองอย่างตื่นเต้น ปิงปองยกมือขึ้นพนมแล้วหยิบกุญแจขึ้นมา พลันท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับกลายเป็นสว่างเหมือนเดิม
ธิดาพญายม ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)
ปาระนัง ราเชน ยืนระวังตรงหน้าประตูคุก ตรงข้ามคือเทพอัครา อาคิน เอกภพและภูตสังหารทั้ง 8 ทันใดนั้นแสงสว่างจ้ามาจากประตูคุก ร่างของณัชชากับทายาททั้งสี่ปรากฏตรงหน้าประตู ทันใดนั้นประตูแสงกลายเป็นประตูเหล็กบานใหญ่สีดำเหมือนเดิม
“เทพอัครา เราได้กุญแจมาแล้ว” ณัชชายกมือขึ้นสูง แท่งแก้วเจียรนัยสีน้ำเงินปรากฏอยู่ในมือ ส่งรังสีวูบวาบออกไป เทพอัคครากับอาคินจ้องมองอย่างตื่นเต้น “เรียกภูตสังหารออกจากร่างของผู้กองได้แล้ว”
“ได้ องค์หญิงอย่าลืมว่า ถ้าองค์หญิงโกหกพลังเทพก็จะสูญสิ้นเช่นกัน”
“เราคือเทพธิดาไม่ใช่เทพชั่ว เราพูดแล้วไม่เคยคืนคำทันทีที่ผู้กองรู้ตัว เราจะส่งกุญแจไปให้ท่าน นอกจากท่านจะเกรงว่าท่านไม่สามารถรับได้”
“ย่อมได้”
เทพอัคราพยักหน้าให้อาคิน
“ท่านพ่อ ข้าเกรงว่าองค์หญิงจะมีอุบาย”
“ถ้าองค์หญิงคืนคำ ก็จะสูญสิ้นพลังเทพ เมื่อนั้นเราก็ชิงกุญแจมาได้อย่างง่ายดาย”
“แล้วถ้าองค์หญิงคิดชิงกุญแจ”
“ทันทีที่กุญแจหลุดออกจากมือองค์หญิงยากที่จะมีใครเร็วพอที่จะแย่งชิงไปได้”
อาคินยิ้มด้วยความย่ามใจ ค่อยๆ ยกมือสองข้างขึ้นยกฝ่ามือเข้าหาร่างของเอกภพ อึดใจก็เห็นควันสีดำออกจากร่างของเอกภพมารวมตัวกันกลายเป็นภูตสังหารปรากฏขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง
“องค์หญิง ท่านคงพอใจแล้วกระมัง”
“ท่านคงไม่รังเกียจ ถ้าเราจะขอทดสอบดูก่อน”
“เชิญ”
“ผู้กอง รับ”
ณัชชาสะบัดมีดสั้นออกไปยังร่างของเอกภพ เอกภพยกมือขึ้นรับไว้อย่างรวดเร็ว พลันมีดสั้นกลายเป็นดาบพิชิตมาร เปล่งรังสีออกมา เอกภพหันมาทางณัชชา
“องค์หญิง”
“สวัสดีผู้กอง”
เอกภพกราดสายตามองทุกคน สุดท้ายหันมาจ้องอาคินกับเทพอัครา ดาบในมือเตรียมพร้อม
“ผู้กองควรจะดีใจ ที่องค์หญิงเอากุญแจคุกนิลกาลแลกกับชีวิตของผู้กอง”
“องค์หญิง ทำเช่นนั้นไม่ได้”
“เราไม่สามารถคืนคำ”
เอกภพขบกรามแน่น กระชับดาบพิชิตมารในมือ
“กุญแจ”
“กุญแจออกจากมือเราไปสู่ท่าน ถือว่าเราทำตามคำพูด ถ้าท่านรับไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องของท่านเราไม่รับผิดชอบ”
อาคินหัวเราะเยาะ
“ท่านอย่าได้ห่วงเรื่องนั้นแม้ว่าพวกท่านทั้งหมด จะพยายามแย่งคืนก็อย่าหวังว่าจะทำได้”
“ผู้กอง ทันทีที่กุญแจออกจากมือเรา ขอให้ท่านระวังตัวด้วย”
“องค์หญิงอย่าได้กังวล”
“พร้อม”
ทุกคนต่างจ้องอย่างตื่นเต้น กุญแจคุกนิลกาลถูกปล่อยออกไป ลอยขึ้นไปบนฟ้า ไปยังร่างของอาคิน
เอกภพขยับตัวพุ่งขึ้นไป แต่แล้วทันใดนั้นเทพอัคราสะบัดมือเข้าใส่ร่างของเอกภพถูกร่างของเอกภพกระเด็น
มาตรงหน้าของณัชชากับทุกคน ณัชชาพรวดเข้าไปประคองเอกภพ
“ผู้กอง”
“ผม...ไม่เป็นไรครับ...”
“พวกเราทุกคนระวังตัว”
ทุกคนต่างสะบัดอาวุธเตรียมพร้อม ต่างมองกุญแจที่กำลังลอยลงมายังมือของอาคิน แต่แล้วทันใดนั้นมีละอองสีชมพูวิ่งผ่านมาอย่างรวดเร็วหอบเอากุญแจจากมือของอาคินไปได้อย่างหวุดหวิด ละอองสีชมพูค่อยๆ กลายร่างเป็นนาชะบินฉวัดเฉวียน
“เย้ พี่นาชะ”
“บังอาจ”
เทพอัคราขยับตัวยกมือขึ้นจะปล่อยพลังใส่นาชะ
“ท่านราเชน”
ราเชนสะบัดมือปล่อยลูกธนูไฟออกไปแตกกระจายนับสิบดอกพุ่งเข้าหาเทพอัครากับอาคิน เทพอัครากับอาคิน ต้องหันมาสะบัดมือปล่อยพลังใส่ลูกธนูไฟกระจายหายไปจนหมดร่างของนาชะว่อนลงมาตรงหน้าของณัชชา ประจันหน้ากับเทพอัคราและอาคิน
“องค์หญิงคิดกลับคำให้กามเทพนาชะแย่งชิงกุญแจ”
“เราแย่งชิงกุญแจเพราะภูตสังหารของท่านลอบทำร้ายเราเป็นเรื่องแค้นระหว่างเรากับท่าน หาได้เกี่ยวข้องกับองค์หญิงไม่”
“กฎสวรรค์วางไว้ห้ามทั้งสามโลกทำร้ายกามเทพ เทพอาคินขาดจรรยาบรรณ สมควรรับโทษ”
“เชอะ โลกทั้งสี่จะถูกเราย่ำให้ราบเป็นหน้ากลองอยู่แล้วทำไมต้องสนใจกฎสวรรค์ไร้สาระทั้งหลาย”
“นาชะ” นาชะส่งกุญแจคุกนิลกาลให้ณัชชา ณัชชารับไว้แล้วชูตรงหน้า “ความหวังที่ท่านจะย่ำโลกทั้งสี่ จบที่นี่เวลานี้ เดี๋ยวนี้ ท่านราเชน ทำลายกุญแจ”
ณัชชาสะบัดมือปล่อยกุญแจนิลกาลไปที่ราเชน ราเชนคว้าจับไว้ได้อย่างแม่นยำ ทันใดนั้นมือของราเชนก็มีไฟลุกพรึบขึ้นมาแท่งกุญแจนิลกาลถูกไฟลุกท่วมอยู่ในมือของราเชน
“อย่าคิด”
อาคินสะบัดมือข้างหนึ่งปล่อยพลังมาที่ราเชน ร่างของราเชนกระเด็นไปกลิ้งที่พื้น กุญแจนิลกาลหลุดออกจากมือกลิ้งไปกับพื้น อาคินสะบัดมืออีกข้างหนึ่งมีพลังดูดกุญแจนิลกาลที่ไฟลุกอยู่ลอยไปเข้าสู่มือของอาคินก่อนที่ใครจะคาดคิด
อาคินคว้าแท่งกุญแจไว้อย่างรวดเร็ว ไฟที่ลุกแท่งกุญแจดับวูบลง อาคินหัวเราะก้อง เทพอัครายิ้มอย่างพอใจในขณะที่ณัชชาและทุกคนจ้องอย่างคาดไม่ถึง อาคินหัวเราะก้องชูแท่งกุญแจในมือขึ้นให้ทุกคนดู เป็นการเยาะเย้ย
“ในที่สุดลูกกุญแจก็อยู่ในมือของข้า”
ทันใดนั้นแท่งกุญแจติดไฟลุกพรึบขึ้นมาท่วมมือของอาคิน อาคินมองอย่างคาดไม่ถึง ณัชชาและทุกคนจ้องมองอย่างตื่นเต้น อาคินจ้องมองมือที่ไฟลุกท่วมเหมือนคนขาดสติ ไม่ยอมปล่อยกุญแจนิลกาล ทันใดนั้นเกิดระเบิดตูม แขนของอาคินหายไปหนึ่งข้าง แท่งกุญแจพุ่งมาปักตรึงอยู่ตรงหน้าของณัชชากับทุกคน ณัชชาสะบัดมือไปที่กุญแจกุญแจปลิวเข้ามาอยู่ในมือของณัชชา
“เทพชั่วอย่างท่านไม่มีทางได้กุญแจไว้ครอบครอง”
อาคินจ้องมาด้วยความแค้น ทุกคนจ้องมองอย่างตื่นเต้น แต่แล้วแขนของอาคินก็ค่อยๆ กลับคืนมาจนสมบูรณ์
อาคินหัวเราะก้อง เทพอัคราเดินเข้ามายืนข้างๆ อาคิน
“ทำไมพี่ณัชชาไม่เอากุญแจหนีไปก่อนละพี่นาชะ” ปิงปองถามอย่างแปลกใจ
“องค์หญิงหนีไปได้ แต่ทายาทคงหนีไม่พ้น มีทางเดียวคือต้องแตกหักกันวันนี้”
“แตกหักกันวันนี้”
“ใช่ ไม่เทพอาคินกับเทพอัคราก็เป็นองค์หญิงกับพวกเราทุกคน เทพอาคินกับเทพอัคราไม่ปล่อยให้ใครรอดไปได้เด็ดขาด”
“ยังไงกุญแจก็ต้องเป็นของเรา พวกท่านไม่มีทางต้านเราได้”
ณัชชายกกุญแจขึ้น กุญแจค่อยละลายหายไปในมือของณัชชา
“ตอนนี้กุญแจอยู่ในตัวเรา อยากได้ก็เข้ามา”
“ชิงกุญแจ”
ทันใดนั้นภูตสังหารทั้งเก้าดีดตัวล้อมทุกคน
“บีม ปิงปอง พรางตัวหลบไป” เอกภพบอก
“นาชะคอยดู บีมกับปิงปอง” บีมกับปิงปองค่อยๆ จางหายไป นาชะหายตาม “ไกรยุทธ์ นาฬิกา รีบถอยไป”
“นาฬิกาจะอยู่กับทุกคน”
“ผมด้วย”
ณัชชากราดสายตามองทุกคน ปาระนัง ราเชน ไกรยุทธ์ นาฬิกา ต่างมีสีหน้ามุ่งมั่น
“องค์หญิง ดาบพิชิตมาร”
เอกภพสะบัดมือออกไปมีดสั้นเข้าหามือณัชชา ณัชชารับไว้ได้ สะบัดมือกลายเป็นดาบพิชิตมารส่งรังสีจ้า
“งั้นพวกเราลุย”
ณัชชาพูดจบก็พุ่งเข้าหาเก้าภูตสังหารฟาดฟันพวกมันกระจายออกไป แล้วพุ่งเข้าหาอาคินกับเทพอัครา
เอกภพพุ่งตามติด ปืนในมือสองข้างสาดกระสุนออกไปเข้าใส่ภูตสังหาร กระดอนกระเด้งออกไป พร้อมโดดตบด้วยปืน ภูตสังหารกระเด็นออกไป แต่พวกมันกลับเข้ามาใหม่
ปาระนังกับราเชน ต่างพุ่งออกไปพร้อมกันเข้าหาภูตสังหารด้านหนึ่ง ไกรยุทธ์กับนาฬิกามองหน้ากัน แล้วพุ่งออกไปพร้อมกัน เข้าหาภูตสังหารต่างฟาดฟันขวานออกไปต่อสู้อย่างตื่นเต้น
บีมกับปิงปองร่างเป็นวุ้นปรากฏ ร่างของนะชะปรากฏอยู่ใกล้ๆ ห่างออกไปจากการต่อสู้
“พวกภูตสังหารมีโล่ห์บังหัวใจ ไม่มีวันตาย” บีมบอก
“พี่ณัชชากับทุกคนไม่มีทางต้านได้เลย”
“ใจเย็นๆ ไว้ ความดีต้องชนะความชั่ว”
ทั้งหมดมองไปเห็นภูตสังหารเข้ารุมล้อมณัชชากับทุกคน ต่างมีสีหน้ากังวล
ณัชชาบุกใช้ดาบพิชิตมารฟันต่อสู้กับอาคิน เทพอัครายืนจ้องมองอยู่ด้านข้างสีหน้ายิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อเห็นเก้าภูตสังหารบุกคืบหน้าได้เปรียบทุกคน
บีม ปิงปอง นาชะ ต่างยืนมองลุ้น สีหน้าไม่ดี ณัชชาถูกอาคินโต้กลับ ถูกอาคินตบไปสองสามครั้ง แต่ณัชชาตั้งหลักได้ ตบกลับมาสองสามครั้งเช่นกัน ราเชนถูกภูตสังหารตบกระเด็นไป ปาระนังพรวดเข้ามาฟันสกัดภูตสังหารออกไปได้ ราเชนดีดตัวขึ้นมาใหม่ต้านภูตสังหารออกไปได้
นาฬิกากับไกรยุทธ์บุกรุมฟันภูตสังหารตัวหนึ่ง แต่แล้วนาฬิกาพลาดถูกภูตสังหารตบกระเด็นออกไป ไกรยุทธ์
เข้าขวาง นาฬิกาลุกขึ้นมาได้ พุ่งเข้าไปใหม่รุมล้อมภูตสังหารหนึ่งตัว
เอกภพยิงปืนกราด ทั้งเตะทั้งต่อยบุกลุยภูตสังหารสองตัว แต่แล้วถูกภูตสังหารตัวหนึ่งตบโครมกระเด็นไปที่พื้น
ภูตสังหารตามติด หมายซ้ำแต่ถูกพลังเข้ามากระแทกกระเด็นออกไป เอกภพตั้งตัวได้หันมามองเป็นบีมกับปิงปอง
ปล่อยพลังมือออกมาช่วยไว้ทัน
“เก่งมาก”
เอกภพพุ่งออกไป นาชะเข้ามายืนเคียงข้างบีมกับปิงปอง ทั้งหมดกราดสายตาดูการต่อสู้อย่างตื่นเต้น
“แย่แล้ว”
ธิดาพญายม ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)
ทั้งหมดมองไปเห็นภูตสังหารตัวหนึ่งบุกคว้าคอของปาระนังไว้ได้ ปาระนังเอาดาบฟันฟาดภูตสังหารไม่สะเทือน ปาระนังดิ้น นาชะแวบหายไป ปาระนังดิ้นไปมา ทันใดนั้นนาชะโผล่มาตรงหน้าของภูตสังหาร นาชะสะบัดมือสาดละอองสีชมพูออกไป ภูตสังหารหยุดนิ่งไม่ขยับแต่มือยังคว้าคอของปาระนังไว้แน่น เทพอัคราหันมาเห็นภูตสังหารถูกละอองสีชมพูของนาชะ จึงสะบัดมือปล่อยพลังออกไป ละอองสีชมพูของนาชะกระจายหายไปจนหมด ทันใดนั้นภูตสังหารรู้สึกตัวคว้าคอของนาชะไว้ได้ กลายเป็นภูตสังหารคว้าคอของปาระนังกับคอของนาชะไว้คนละข้างยกสูงขึ้น นาชะและปาระนังพยายามดิ้นให้หลุด
“พี่นาชะ”
ปาระนังกับนาชะอยู่ในสถานการณ์คับขัน บีมกับปิงปองหันไปมองณัชชาก็กำลังติดพันอยู่กับอาคิน ราเชน นาฬิกา ไกรยุทธ์ ถูกภูตสังหารรุมล้อมอยู่ ส่วนเอกภพถูกภูตสังหารสามตัวล้อมอยู่ บีมกับปิงปองปรากฏตัว แล้วส่งพลังฝ่ามือออกไปยังภูตสังหารที่คว้าคอของนาชะและปาระนังอยู่ แต่แล้วร่างของเทพอัคราเข้ามาขวางและปล่อยฝ่ามือกระแทกพลังของบีมกับปิงปองออกไป ตูม... บีมกับปิงปองกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นสลบไปเทพอัครายิ้มอย่างพอใจนาชะกับปาระนังต่างพยายามดิ้นจนเฮือกสุดท้าย ภูตสังหารทุ่มนาชะกับปาระนังโครมกระเด็นไปทรุดที่พื้น
ภูตสังหารตามติด ยกมือสองข้างขึ้นพร้อมจะปล่อยพลังกระแทกสังหาร ทันใดนั้นนาชะหันกลับมาสะบัดมือ ลูกศรสีชมพูพุ่งไปที่โล่ห์ตรงหน้าอกของภูตสังหาร เป็นจังหวะเดียวกันกับปาระนังกัดฟันสะบัดดาบปลายแหลมพุ่งไปที่โล่ห์พอดี ลูกศรสีชมพูกับดาบปลายแหลมพุ่งเข้าหาโล่ห์ที่หน้าอกภูตสังหารพร้อมกัน ทันใดนั้นเกิดประกายแสง ดาบกับลูกศรสามารถผ่านทะลุโล่ห์ของภูตสังหารเข้าไปได้ ภูตสังหารคำรามลั่นแล้วกลายเป็นควันดำสลายตัวไป ดาบของปาระนังตกมาปักทีพื้นดังตึบ..
นาชะกับปาระนังคาดไม่ถึง ต่างจับคอของตนหายใจเร็ว เทพอัคราคาดไม่ถึงว่าภูตสังหารจะเป็นไป ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงกับยืนตะลึงไป ร่างของเอกภพกระเด็นกลิ้งลงมากับพื้น กลิ้งตัวสาดกระสุนออกไป แต่ภูตสังหารก้าวเข้ามาตบเปรี้ยงเอกภพกลิ้งไปกับพื้นอีก ร่างของนาฬิกากระเด็นกลิ้งไปกับพื้น ตามด้วยร่างของไกรยุทธ์กลิ้งลงมาใกล้ๆ กัน ต่างเหนื่อย ภูตสังหารคำรามก้อง ราเชนกระเด็นกลิ้งมาใกล้ปาระนังกับนาชะที่นั่งหอบหายใจอยู่
“ท่านราเชนต้องใช้อาวุธฉาบด้วยละอองแห่งความรักถึงจะฝ่าโล่ป้องกันหัวใจของภูตสังหารได้” นาชะบอกราเชนดีดตัวขึ้นมาแล้วประคองนาชะขึ้นมา
“รบกวนท่านนาชะด้วย”
ราเชนสะบัดมือลูกธนูอยู่ในมือ นาชะสะบัดละอองสีชมพูออกไปคลุมลูกธนูของราเชน ราเชนสีหน้าเคร่งเครียด
นาฬิกากับไกรยุทธ์ช่วยกันสกัดภูตสังหารสี่ตัวที่รุมอยู่ แต่ในที่สุดก็ถูกภูตสังหารตบกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นทั้งคู่ ภูตสังหารทั้งสี่เดินเข้าหา ร่างของนาฬิกากับไกรยุทธ์ที่ยังทรุดอยู่กับพื้น แต่แล้วทันใดนั้นลูกธนูของราเชนวิ่งเข้าหาภูตสังหารทั้งสี่ ปักผ่านโล่ห์เข้าไปจนมิดทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ภูตสังหารคำรามก้องแล้วกลายเป็นควันดำสลายไป เทพอัคราตื่นจากภวังค์ สีหน้าไม่ดี กราดสายตามองเห็นภูตสังหารเหลืออีกสี่ตัวที่กำลังล้อมเอกภพอยู่ เอกภพ ทั้งยิงพลางถอยพลางแต่ก็ถูกตบกระเด็นออกมากลิ้งอยู่ที่พื้นอีกครั้ง เอกภพขยับตัวถ่มเลือดออกมา แล้วตวัดปืนสองกระบอกขึ้นส่องภูตสังหารสี่ตัวที่เดินเข้าหา แต่แล้วทันใดนั้นร่างของนาชะแวบเข้ามาปรากฏข้างๆ
“เดี๋ยวค่ะผู้กอง ต้องใช้ละอองแห่งความรักชุบอาวุธของผู้กองก่อน”
นาชะสะบัดมือละออกสีชมพูครอบคลุมปืนของเอกภพ เอกภพตวัดปืนขึ้นส่อง
“ภูตสังหารถอยออกมา”
ร่างของภูตสังหารทั้งสี่หยุดแล้วแวบถอยมายืนข้างหลังเทพอัครา
“บีม ปิงปอง” นาฬิกาพรวดไปที่ร่างของบีมกับปิงปอง นาชะตามไปติดๆ ต่างประคองบีมกับปิงปองขึ้นมา “เป็นไงบ้าง”
“พอไหวครับ”
“ปิงปอง”
“ไหวค่ะ”
อาคินตวัดดาบรับดาบของณัชชาแล้ว ดีดตัวถอยออกมายืนข้างๆ เทพอัครา
“เกิดอะไรขึ้นท่านพ่อ”
“ภูตสังหารถูกทำลาย” อาคินกราดสายตามองเห็นภูตสังหารเหลือแค่สี่ตัวยืนอยู่ อาคินคาดไม่ถึง “พวกมันใช้ละอองความรักของกามเทพนาชะผสานกับอาวุธ ทำลายโล่ป้องหัวใจของภูตสังหาร”
“เป็นไปไม่ได้ โล่ป้องหัวใจของภูตสังหารไม่มีอาวุธใดทำลายได้”
“แต่ตอนนี้มีแล้ว” ณัชชาก้าวเข้ามาสีหน้าเคร่งเครียด “คาดไม่ถึง คำกล่าวที่ว่าความรักสามารถชนะทุกสิ่งถึงกับเป็นจริงขึ้นมาได้”
อาคินกับเทพอัคราจ้องหน้าณัชชาและทุกคนนิ่ง อาคินหัวเราะออกมา
“ถึงไม่มีภูตสังหาร พวกท่านก็ไม่พ้นจากมือเรา”
“ท่านแน่ใจ”
“มอบกุญแจมา”
อาคินพูดจบก็พุ่งเข้าใส่ณัชชา ดาบสีดำในมือฟาดฟันเข้าใส่ณัชชาอย่างดุเดือด ต่างต่อสู้กัน
“หัวใจของเทพอาคินอยู่ที่ภูตสังหาร รีบกำจัดภูตสังหารให้หมด” ปาระนังบอก
“ภูตสังหารกำจัดศัตรู” เทพอัคราสั่ง
ทั้งหมดบุกเข้าหาภูตสังหารทั้งสี่ต่างเข้าต่อสู้กัน ติดพัน อย่างดุเดือด
“หัวใจของเทพอาคินอยู่ที่ตัวไหนกันแน่”
“มีทางเดียวที่จะรู้คือจัดการพวกมันให้หมดทุกตัว”
“เร็วครับ ก่อนที่พี่ณัชชาจะแย่ซะก่อน”
ทั้งหมดต่างยืนมองลุ้นอย่างตื่นเต้น
ณัชชาต่อสู้กับอาคินอย่างตื่นเต้น ปาระนังช่วยไกรยุทธ์จัดการกับภูตสังหารตัวหนึ่งสลายตัวไป
“เยส”
ทั้งหมดมองไปที่อาคิน แต่อาคินยังต่อสู้กับณัชชาอยู่
“ไม่ใช่ตัวนี้”
เอกภพยิงสาดใส่ภูตสังหารตัวหนึ่ง ระเบิดเป็นควันดำหายไป
“ไม่ใช่ตัวนี้”
ราเชนกำจัดสังหารอีกตัวหนึ่ง เป็นควันดำสลายไป
“ไม่ใช่ตัวนี้”
“เหลือแค่ตัวเดียว เร็วเข้าพี่ณัชชากำลังแย่”
ณัชชาถูกอาคินบุกกระหน่ำอย่างโกรธแค้น ปาระนัง ราเชน เอกภพ ไกรยุทธ์ เข้ารุมต่อสู้กับภูตสังหารตัวสุดท้าย
“หัวใจของเทพอาคินต้องอยู่ที่ตัวนี้”
“รีบจัดการมัน”
ทั้งหมดบุกเข้ารุมภูตสังหารอย่างติดพัน ภูตสังหารตบราเชนกระเด็นออกไป ที่เหลือพยายามแทงใส่หัวใจของภูตสังหาร อาคินบุกฟันณัชชา ณัชชาตั้งรับถอยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“หยุด”
ทุกคนหยุดการต่อสู้ เอกภพตวัดปืนส่องที่ภูตสังหารตัวสุดท้ายที่ยืนอยู่ อาคินกับณัชชาต่างหยุดจ้องกัน
“เทพอาคิน ท่านขยับตัวเมื่อไหร่ หัวใจของท่านระเบิดเป็นเสี่ยงแน่”
อาคินหันมาจ้องเอกภพ ยิ้มเยือกเย็น
“องค์หญิงส่งกุญแจมา”
“ร่างของเราสลายไปเมื่อไหร่ท่านได้กุญแจเมื่อนั้น”
“ได้”
อาคินขยับดาบเข้าฟันณัชชา ณัชชาสะบัดดาบรับ แต่ถูกพลังกระแทกดาบหลุดมือไป เอกภพเหนี่ยวไกเปรี้ยง กระสุนพุ่งเข้าสู่หัวใจของภูตสังหารทะลุออกไป ร่างของภูตสังหารสลายตัวหายไป แต่อาคินยังคงยืนอยู่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ณัชชาคาดไม่ถึง
“แต่หัวใจของท่าน”
“ไม่ได้อยู่ที่ภูตสังหาร เสียใจด้วยองค์หญิง”
อาคินสะบัดดาบพุ่งเข้าใส่ณัชชาอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ดาบพุ่งเข้าหาณัชชาอย่างรวดเร็ว แต่แล้วร่างของเอกภพพุ่งเข้ามาขวางไว้พอดี ดาบปักเข้าที่อกด้านขวาของเอกภพอย่างจังเห็นดาบโผล่ออกทางด้านหลัง
ทุกคนตะลึงอย่างคาดไม่ถึง
“พี่เอก”
เอกภพทรุดตรงหน้าของณัชชา
“ผู้กอง” ณัชชาพรวดขึ้นมาสะบัดมือดาบพิชิตมารพุ่งเข้าสู่มือ “เทพอาคิน เราจะแลกชีวิตกับท่าน”
ทันใดนั้นร่างของอาคินสะท้าน อาคินกุมที่หัวใจของตนร้องครวญคราง ยื่นมือมาทางเทพอัครา
“ท่าน...พ่อ...” เทพอัคราจ้องอาคินคาดไม่ถึง “ท่าน...พ่อ...” ทันใดนั้นเทพอัครากราดมองทุกคนแล้วแวบหายไป “ท่านพ่อ...”
ร่างของอาคินค่อยๆ สลายตัว
“ที่แท้เทพอาคินซ่อนหัวใจไว้ในร่างของผู้กอง”
ทุกคนต่างจ้องมองอย่างตื่นเต้น คาดไม่ถึง ร่างของอาคินกลายเป็นฝุ่นหายไป ทุกคนคาดไม่ถึง ณัชชาปราดเข้าประคองเอกภพ ทุกคนปราดเข้ามาล้อมใกล้ๆ ทันใดนั้นดาบของอาคินก็ค่อยๆ สลายตัวหายไป
“ผู้กอง”
“องค์...หญิง ปลอด...ภัย”
“ฉันไม่เป็นไร ผู้กองช่วยฉันไว้”
“เทพ...อา...คิน”
“เทพอาคินดับสิ้นไปแล้ว พวกเราชนะ”
เอกภพฝืนยิ้มแล้วคอพับหมดความรู้สึก
พระอาทิตย์ขึ้น ท้องฟ้าสดใส ทุกคนยืนอยู่บนหน้าผาสูง ราเชน ปาระนัง ก้าวออกมาที่บีมกับปิงปอง
“บีมกับปิงปองเป็นเด็กกล้าหาญ พี่จะไม่ลืมเธอสองคน”
บีมกับปิงปองก้าวเข้ามากอดปาระนัง
“บีมดูแลปิงปองให้ดีนะ”
“ครับผม”
“พี่ราเชนดูแลพี่ปาระนังให้ดีด้วย”
ราเชนยิ้มเอามือยีผมปิงปอง บีมกับปิงปองถอยออกมา ปาระนังกับราเชนเดินต่อไปที่ไกรยุทธ์และนาฬิกา
“เธอสองคนรักษาตัวด้วย”
“อย่าทะเลาะกันล่ะ”
นาฬิกาเข้ามากอดปาระนังแล้วถอยออก
“ลาก่อนค่ะ พี่ปาระนังพี่ราเชน”
ราเชนส่งมีดให้ไกรยุทธ์
“พี่ให้”
“ขอบคุณครับ”
ราเชนยิ้มให้ ปาระนังกับราเชนเดินต่อไปที่เอกภพ
“ว่างๆ ก็ไปเยี่ยมเราบ้างนะครับ”
“ท่านธิดาสมุทรคงพอไหว แต่ท่านราเชน คงไม่ดีกว่า ผมไม่ค่อยชอบกระทะทองแดงเท่าไหร่ครับ”
ทุกคนยิ้ม ปาระนังกับราเชนเดินผ่านแถวไป แล้วหันกลับมาทางณัชชากับนาชะ
“ลาก่อนเพคะองค์หญิง ลาก่อนกามเทพนาชะ”
“ขอบคุณท่านธิดากับท่านราเชน”
“เราต้องได้พบกันอีก ที่ไหนมีรักที่นั่นมีนาชะ”
ปาระนังกับราเชนยิ้มแล้วร่างก็ค่อยๆ จางหายไป
นาชะเดินมายังทายาททุกคน ปิงปองกับนาฬิกาเข้าไปกอดนาชะ
“อย่าลืมมาเยี่ยมกันมั่งนะครับ พี่นาชะ”
“ลาก่อนครับพี่นาชะ”
“เราต้องได้พบกันอีกจำไว้ที่ไหนมีความรัก ที่นั่นมีนาชะ”
ธิดาพญายม ตอนที่ 17 อวสาน (ต่อ)
นาชะค่อยจางหายไปเหลือแต่ละอองสีชมพู ณัชชาเดินเข้ามาหาทุกคนเอาแขนโอบนาฬิกาและปิงปองไว้คนละข้าง
“พี่ภูมิใจในตัวของพวกเราทุกคนที่เสียสละ เสี่ยงชีวิตเพื่อรักษาความสงบของโลกทั้งสี่ ไกรยุทธ์เธอปกป้องทุกคนได้อย่างกล้าหาญ”
“ขอบคุณครับ”
“เราจะได้พบกันอีกหรือเปล่าคะ”
“เราพบกันได้เสมอในความฝัน”
“ผมจะฝันถึงพี่ณัชชาทุกคืนเลย”
“ปิงปองด้วย”
ณัชชายิ้ม นาฬิกากับปิงปองถอยตัวออกไปยืนกับไกรยุทธ์และปิงปอง ณัชชาขยับตัวมาตรงหน้าเอกภพต่างสบตากัน
“คุณล่ะ จะฝันถึงฉันมั๊ย”
เอกภพฝืนยิ้ม ณัชชาขยับเข้ามาซบที่อกของเอกภพ เอกภพกอดณัชชาไว้ในวงแขน ทุกคนมองอย่างเศร้าใจ ทันใดนั้นมีแสงสาดลงมาจากท้องฟ้าทางด้านหลังของเอกภพกับณัชชา ทุกคนจ้องมองอย่างตื่นเต้น ณัชชาออกจากอ้อมแขนของเอกภพ เตรียมพร้อม
“อย่าบอกนะ ว่าเทพอัครากลับมาอีก”
ทุกคนจ้องแสงที่สาดลงอย่างตื่นเต้น ทันใดนั้นปรากฏร่างของชายแต่งสูทสีขาวหน้าตาดีดูสง่า 4 คนปรากฏ
ทายาทต่างมองหน้ากันอย่างสงสัย ณัชชายิ้มออกมา
“ยินดีที่ได้พบท่านองค์รักษ์ทั้งสี่”
พวกทายาทต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความตื่นเต้น ชายสี่คนต่างจ้องมาที่ทายาททั้งสี่ สีหน้ายิ้มแย้มภาคภูมิใจ
“บีม มาหาพ่อซิลูก”
บีมยิ้มแล้วก้าวเข้าไปยืนตรงหน้ายิ้มยกมือไหว้ ชาย 1. พยักหน้ารับ
“ท่านพ่อวางแผนได้เยี่ยมยอดจริงๆ พวกเราลำบากสุดๆ”
ทุกคนต่างยิ้มขำบีม ชาย 1. เอามือลูบหัวบีมด้วยความรัก บีมมองทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข
“ปิงปอง ลูกโตแล้วสวยมาก”
ปิงปองยิ้มวิ่งเข้าไปหาชาย 2 แล้วกอด ทั้งสองอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันอึดใจก็ถอยออก
“คุณพ่อ เอ๊ย...ท่านพ่อจะกลับมาอยู่กับปิงปองหรือเปล่าคะ”
“พวกเราทุกคน อยู่กับลูกๆ ตลอดเวลาพ่อรู้ว่าลูกๆ ของพวกเราทุกคนต้องลำบากแต่เป็นหน้าที่ ที่พวกเราจะต้องกำจัดความชั่วไปจากโลกทั้งสี่”
“ปิงปองเข้าใจค่ะ”
ปิงปองซบอกชาย 2 อึดใจแล้วถอยออก ต่างยิ้มให้กัน
ณัชชาและทุกคนต่างยิ้มชื่นใจ
“ไกรยุทธ์ พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก”ไกรยุทธ์ยิ้มแล้วเดินเข้าไปใกล้ยกมือไหว้ ชาย 3. ยิ้ม ไกรยุทธ์เข้าไปโอบกอดแล้วถอยออก “พ่อเสียใจที่ทำให้ลูกต้อง...”
“ผมยินดีและภูมิใจมากครับ”
ทั้งสองต่างยิ้มให้กัน
ทุกคนต่างยิ้มมองกันอย่างมีความสุข
ทันใดนั้น นาฬิกาวิ่งพรวดไปหาชาย 4. แล้วกอดไว้ ชาย 4. ยิ้ม
“ท่านต้องเป็นท่านพ่อของหนูแน่ๆ” ทุกคนต่างยิ้ม
“นาฬิกาสวยแล้วก็เก่งอย่างที่แม่ของลูกบอกไว้ไม่ผิด”
นาฬิกายิ้ม แล้วหันมาทางเอกภพ
“พี่เอก มาดี้”
ทุกคนต่างยิ้มชอบใจ เอกภพยิ้มแล้วเดินเข้ามา นาฬิกาเอื้อมมือมาดึงเอกภพให้เข้ามาใกล้อีก ชาย 4 เอื้อมมาโอบไหล่เอกภพ ตบเบาๆ
“ลูกเป็นพี่ชายที่ดีที่สุด”
“หวังว่าท่านพ่อและเพื่อนๆ คงไม่ได้ซ่อนกุญแจอย่างอื่นไว้อีกนะครับ”
ทั้งสามคนต่างยิ้มให้กัน ทุกคนต่างพลอยยิ้มขำไปด้วย
“ทายาทของท่านองค์รักษ์ทั้งสี่ล้วนกล้าหาญสมเกียรติ”
ณัชชาบอก ชายทั้งสี่ต่างยิ้ม แสงค่อยๆ ปรากฏ ชายทั้งสี่ ค่อยๆ จางหายไปในที่สุด
“เย้ พ่อเราเจ๋ง”
ทุกคนต่างยิ้มให้กันอย่างดีใจ ต่างเข้ามารวมกลุ่มกัน ปิงปองเข้าใกล้บีม ไกรยุทธ์เข้าใกล้นาฬิกา เอกภพเดินมาหาณัชชา ทุกคนมองอย่างมีความสุข
ณัชชาอยู่ในอ้อมแขนของเอกภพอีกครั้งทั้งสองต่างมองกันซึ้งสบตา ณัชชาดึงใบหน้าของเอกภพเข้ามาใกล้แล้วหอมแก้ม เอกภพยิ้มเศร้าๆ
“ถ้าคุณไม่ฝันถึงฉันทุกคืนละก็เจอดีแน่”
เอกภพฝืนยิ้มพยักหน้า ทั้งสองต่างสบตากันลึกซึ้ง ร่างของณัชชาก็มีแสงปรากฏ แล้วค่อยๆ สลายหายไปจากอ้อมอกของเอกภพ เอกภพถอนหายใจ ทายาททั้งสี่มองเอกภพด้วยความเห็นใจปิงปองอดไม่ได้เอามือป้ายตา
เอกภพแหงนหน้ามองท้องฟ้าเหม่อลอย ทุกคนต่างมองหน้ากัน รู้สึกเศร้าใจ
ดินแดนนิลกาล ร่างของเทพอัคราถูกโซ่สีดำมัดแขนทั้งสองข้างติดอยู่กับเสาสีดำ เทพอัครามีสีหน้าเคร่งเครียดแค้นใจ
ส่วนบนสวรรค์ นาชะกระพือปีกร่อนลงมาหาณัชชาซึ่งขณะนี้อยู่ใส่ชุดสีขาวสวย ณัชชาเดินไปเดินมาร้อนใจพอเห็นนาชะจึงรีบเดินมาหา
“ศาลกามเทพตัดสินว่ายังไง”
“กำลังลงคะแนนเสียงอยู่”
“ท่านเทพพิทักษ์ว่ายังไงบ้าง”
“คิดว่าแอบปลื้มที่เก่งเหมือนท่าน”
“ท่านแม่ล่ะ”
“ยังโมโหที่หนีลงไปตามล่าเทพอาคิน”
“อาจารย์ปู่ล่ะ”
“อาจารย์ปู่บอกว่าสะใจมาก”
“แล้วเรื่อง ผู้กอง” ณัชชาส่ายหน้า
“ท่านพ่อกับท่านแม่ยังไม่ยอมพูดอะไร”
“เฮ้อ จบกัน ไอ้กฎห้ามโลกทั้งสี่รักกันเนี่ย นาชะว่าล้าสมัยแล้ว”
เวลาผ่านไป พนักงานเอาน้ำมะพร้าวมาเสิร์ฟที่โต๊ะของ บีม ปิงปอง ไกรยุทธ์ นาฬิกา ที่นั่งอยู่ริมหาดพัทยา
“นึกไม่ถึงว่าเทพอาคินมีแผนซับซ้อนเอาหัวใจตัวเองซ่อนไว้ที่ตัวพี่เอก”
“ใช่ หลอกให้ทุกคนคิดว่าอยู่ที่ภูตสังหารร้ายมาก”
“อยู่ที่พี่เอก ปลอดภัยไม่มีใครรู้ ฆ่ายังไงก็ไม่ตาย”
“ที่ไหนได้ใช้ดาบตัวเอง แทงหัวใจตัวเอง”
“กรรมตามสนองทันตา”
“เฮ้อ...คิดถึงองค์หญิง คิดถึงพี่ปาระนัง พี่ราเชน”
“ใช่ คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว”
“ยังดีที่เจอกันได้ในความฝัน”
“น่าสงสารพี่เอก กฎสวรรค์ห้ามนางฟ้ารักกับมนุษย์ อกหักไปเลย”
ทุกคนต่างมองหน้ากันซึมเศร้าไปด้วย
“ถ้าพูดกันจริงๆ แล้วพวกเราก็มีเชื้อเทพ”
“ใช่ สวรรค์น่าจะเห็นใจพี่เอกมั่ง”
ทันใดนั้นมีละอองสีชมพูโรยลงมายังร่างของคนทั้งสี่ ร่างของนาชะปรากฏ
“สวรรค์น่ะเห็นใจอยู่แล้ว”
“พี่นาชะ”
ทุกคนต่างเฮกันด้วยความดีใจ
กองบังคับการกรมตำรวจ เจนศักดิ์เดินเร็วๆ มาตามทางเดินมาถึงหน้าห้องประชุม เจ้าหน้าที่สองคน ยืนอยู่ทำความเคารพ เจนศักดิ์รีบแล้วเข้าไปในห้อง
เจนศักดิ์เข้ามาในห้องประชุมแล้วตวัดมือทำความเคารพ ผ.บ.สิทธิชัยกับเอกภพต่างยกมือรับความเคารพ
“พวกที่ตกเป็นทาสของเทพอาคินถูกเราควบคุมตัวไว้หมดแล้วครับผม”
“ดีมาก”
เสียงเคาะประตู เจ้าหน้าที่เข้ามาทำความเคารพแล้วรายงาน
“มีรายงานค้ายาบ้ารายใหญ่ครับ”
“มาคุณเจนศักดิ์ คุณกับผม”
“เอ้อ...พร้อมกันสองจุดเลยครับ”
“เอาเป็นว่าแยกกันไปคนละจุดก็แล้วกัน”
เอกภพกับเจนศักดิ์ต่างยิ้มให้กัน
รถของเอกภพแล่นเข้ามาจอดที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง พร้อมกับรถมีเจ้าหน้าที่ห้าคน ร่างของเอกภพออกมาจากรถ
ปืนในมือตวัดขึ้น กราดสายตาไปรอบๆ โบกมือให้เจ้าหน้าที่ห้าคนกระจายกำลังหายไปในตึก เอกภพหยุดกราดสายตา
ทันใดนั้นกระสุนสาดลงมาจากบนตึกราวกับห่าฝน เอกภพพุ่งตัวหลบที่ข้างรถได้ทันท่วงที เอกภพโผล่ออกมากราดปืนไปด้านบน
“มอบตัวซะดีๆ”
คนร้ายโผล่มาจากหลังคาตึกกราดยิงเป็นชุด เปรี้ยงๆๆๆ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เอกภพยิงโต้ตอบไปเปรี้ยงๆ เสียงคนร้ายร้องร่วงลงมาจากบนตึก
“ฝีมือยังใช้ได้”
เอกภพหันกลับไปก็พบร่างของณัชชายืนอยู่ ณัชชาส่งยิ้มหวานมาให้ เอกภพพรวดเข้ามาหาไม่สนใจกระสุนปืนที่ระดมยิงมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เอกภพหยุดตรงหน้าณัชชา กระสุนปลิวเข้ามาแต่ถูกรอบๆ เข้าไม่ถึงทั้งสอง
คนร้ายกราดยิงไม่หยุด
“องค์หญิงมาได้ยังไงครับ”
“ก็คุณปราบคนร้ายไม่หมดซะที ฉันถึงต้องมานี่ไง”
“คือ องค์หญิง”
“ท่านแม่บอกว่าคุณยอมสละชีวิตช่วยฉัน ท่านพ่อเลยอนุญาตให้ฉันมาดูใจ”
เอกภพดีใจเข้ามากอดณัชชาไว้ในอ้อมอก ท่ามกลางกระสุนปืนที่บินว่อนมา ทั้งสองต่างสบตากันหวานซึ้ง เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไม่หยุด ทันใดนั้นทั้งสองคนต่างหันมาทางคนร้ายพร้อมตวัดปืนขึ้นมาส่องตรงมาข้างหน้า
วันเวลาผ่านไป ในวันรับปริญญาของปิงปองกับบีม ไกรยุทธ์ นาฬิกา ณัชชา เอกภพมาร่วมแสดงความยินกับทั้งคู่ ทันใดนั้นร่างของปาระนังกับราเชนก็ปรากฏร่วมแสดงความยินดีด้วย ทุกคนต่างดีใจ ทักทายกัน
ขณะที่ปิงปองกับบีมในชุดรับปริญญากำลังถ่ายรูปคู่กัน แต่แล้วจู่ๆ ก็มีละอองสีชมพูโปรยลงมาจากข้างบนทั้งสองเงยขึ้นมองแล้วพูดออกมาพร้อมกัน
“พี่นาชะ”
นาชะตัวเล็กบินเข้ามาตรงหน้าสองคน แล้วแวบหายไป
ณัชชา เอกภพ นาชะ ไกรยุทธ์ นาฬิกา บีม ปิงปอง ปาระนัง ราเชน ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน ทุกคนต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มดีใจที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
จบบริบูรณ์