วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 21
ผีขุนศึก สู้กับหมอผีอีกา วิ่งเข้าใส่กัน
“ย๊าก”
ผีขุนศึกกระหน่ำฟันดาบเข้าใส่ หมอผีอีกาใช้กริชรับไปถอยไป ผีขุนศึกถีบ หมอผีอีกาเซถอยแล้วฮึดสู้ ใช้กริชฟัน ผีขุนศึกใช้ดาบรับไว้ ต้านแรงกันผีขุนศึก ตีศอกสั้น หมอผีอีกาหน้าหงายเซถอย เลือดออกจมูก ผีขุนศึกวิ่งเข้าหา ฟันดาบใส่ หมอผีอีกาหลบได้ ผีขุนศึกเตะตัดขาทันที หมอผีอีกาล้มนอนหงายหลัง ผีขุนศึกแทงซ้ำ หมอผีอีกากลิ้งหลบได้หวุดหวิด รีบลุกขึ้น ผีขุนศึกเงื้อดาบวิ่งเข้าใส่ หมอผีอีกา รีบหลับตาท่องคาถา ผีขุนศึกกุมขมับ เจ็บปวดทรุด
“โอ๊ย...มึงรู้ว่าสู้กูไม่ได้สินะ ถึงต้องใช้มนต์ทำร้ายกูแบบนี้”
หมอผีอีกา หยุดท่องคาถา ยิ้ม
“ปากดีไปเถอะมึง ถึงไงมึงก็ตายเหมือนกัน โอม”
หมอผีอีกาท่องคาถาต่อ ผีขุนศึก ล้มกลิ้งเจ็บปวด ร้องโอดโอย ผีงิ้วกุมขมับเจ็บ หันไปเห็นหมอผีอีกา ตกใจก่อนจะตะโกนบอก
“ขุนศึก ระวัง”
ผีขุนศึกนอนอยู่เงยหน้าตกใจ หมอผีอีกากระโดดคร่อมใช้กริชแทง ผีขุนศึกเอาดาบรับทัน ผีขุนศึก ถูกกริชจ่อที่อก
พวกสนิทแก้มัดกันเรียบร้อย ใช้ผ้าเช็ดหน้า พันห้ามเลือดที่มือให้สนธยา
“ไหวมั้ยคุณสน ทนหน่อยนะ” สนิทบอกอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร รีบออกไปช่วยพวกผีก่อน”
สนธยาจะไป อาสาดึงไว้
“เดี้ยงแบบนี้ จะออกไปเป็นภาระคุณผีเนี่ยนะ ไหวป่ะเนี่ย”
ชมพู่เห็นด้วย
“ใช่ คุณสน บอกตรงๆ หาวิธีช่วย โดยที่เขาไม่ซวยไปด้วยดีกว่า”
สนธยาคิดๆ
“งั้นหรั่ง ไปดูสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น”
หรั่งหน้าเหวอ
“นั่นไง ซวยคนแรกเลยกู เอางี้ หน้าต่างอยู่นั่น” หรั่งชี้ไป “ไปแอบดูกันหมดนี่แหละ ไป”
หรั่งนำ สนิทกับชมพู่ ประคองสนธยาไป
ผีขุนศึกนอนกับพื้น ยกดาบกันไว้ หมอผีอีกาคร่อมอยู่ ใช้กริชแทง
“ยอมแพ้ แล้วมาเป็นทาสรับใช้กูซะ” หมอผีอีกาท่องมนต์ใส่หน้าผีขุนศึก “โอม...ไสยะ กายะ ภู-ติ จงวิบัติ ขอวิญญาณผีอย่างมึงจงมอดไหม้ ขอดวงจิตและร่างมึงจงสลาย ขอให้มึงเจ็บปวดดังตกนรก ขอมึงจงตายทั้งเป็นต่อหน้ากู”
ผีขุนศึกร้องลั่น
“โอ๊ย”
ผีงิ้วได้ยินมนต์ล้มลง เจ็บไปด้วย หมอผีอีกากด กริชอาคมลง เกือบถึงตัว ผีขุนศึกเจ็บปวด แต่พยายามใช้ดาบขืนแรงไว้ ไม่ให้โดนกริชอาคม อีกมุมใกล้กัน ผีงิ้ว บาดเจ็บคุกเข่าคลาน
“สารเลว กูยอมให้มึงทำเพื่อนกูไม่ได้”
ที่พื้น มีหินแหลมก้อนใหญ่ตกอยู่ ผีงิ้ว ตะเกียกตะกาย เอื้อมไปคว้าหินมา...สนธยา สนิท ชมพู่ อาสา หรั่ง มองมานอกหน้าต่าง ดูเหตุการณ์ ตกใจ
“แย่แล้ว...”
สนธยาทนไม่ไหว จะวิ่งออกไปช่วย สนิทรีบห้าม
“คุณสน อย่า”
สนิท ชมพู่ อาสา คว้าตัวสนธยาไว้
“ปล่อยฉัน ฉันจะออกไปช่วยพวกเขา ปล่อย”
สนธยาพยายามดิ้น แต่พวกสนิทไม่ยอมปล่อย หรั่งที่ยังดูเหตุการณ์อยู่มองไปนอกหน้าต่าง ชี้ไป
“ซ...ซวยแล้ว ผีขุนศึก”
หมอผีอีกายิ้ม ใช้กริชอาคมจ่อแทง ใกล้ถึงตัวผีขุนศึกเต็มที่ ผีขุนศึกใช้ดาบกัน แต่อ่อนแรงลง
“ไม่มีใครช่วยมึงได้ ยอมแพ้ซะ แล้วมึงจะได้ไม่ต้องทรมาน โอม...”
ปลายกริชอาคมสัมผัสถึงหน้าอก ผีขุนศึก เกิดควันขึ้นจากร่างผีขุนศึกทันที
“อ๊าก”
“อีกนิดเดียว มึงก็จะกลายเป็นทาสรับใช้กู ฮ่าๆ”
“ไอ้หมอผี จัญไร”
ผีงิ้วปาหินมา หมอผีอีกาเงยหน้า ก้อนหินลอยมาโดนเต็มๆ หงายหลังล้มลงกับพื้น หมอผีอีกาเลือดอาบหน้า จะลุกขึ้น
“มึง”
ผีงิ้ว วิ่งมาเตะปลายคางซ้ำ หมอผีอีกาหน้าหงาย สนธยา สนิท ชมพู่ อาสา หรั่ง ดูเหตุการณ์อยู่ดีใจ พากันเฮ
“ผีงิ้วเจ๋งฝุดๆ ตื๊บมันเลยคุณผี” สนิทตะโกนเชียร์
หมอผีอีกาเซจะลุกขึ้น ผีงิ้วขึ้นคร่อมทันที ต่อยรัวที่หน้าไม่ยั้ง หมอผีอีกาหน้าหันตามแรงต่อย เลือดพุ่ง ผีงิ้วต่อยไปด่าไป
“อยากได้วิญญาณกูใช่มั้ย ท่องมนต์ใส่กูสิวะ แดกหมัดกูอยู่ท่องไม่ได้รึไง ท่องสิ ไอ้แสด ท่องมนต์สิ ท่องเซ่”
ผีขุนศึกพยายามลุกขึ้นเจ็บปวดมือคว้า พยายามจะบอกอะไรบางอย่างผีงิ้วคลั่ง สาวหมัดต่อยหมอผีอีกาแรง ไม่หยุด
“มึงมันไอ้หมอผีชั่ว จำไว้ กูไม่มีวันเป็นทาสมึง ลุกขึ้นมาสิ ลุกขึ้นมาสู้กับกู กูบอกให้ลุกขึ้นมา สู้สิ สู้กับกู สู้”
ทันใดนั้นมีเสียงดัง
“ซึบ”
ผีงิ้วสะดุ้งตาเบิกโพลง ผีขุนศึกตกใจ ตะโกนลั่น
“ผีงิ้ว”
ผีงิ้วลุกขึ้นเซถอย มีกริชอาคมปักที่อก สนธยา สนิท ชมพู่ อาสา หรั่ง ดูเหตุการณ์อยู่ช็อคตะโกนลั่น
“คุณผี”
สนธยาอึ้ง ช็อค
พิมพ์ดาว เดินกระเผลกเข้ามาที่บ้าน เห็นบ้านเงียบ มองไปรอบๆ เรียกคนในบ้าน
“ไปไหนกันหมด...นมจ๋า มาช่วยดาวหน่อยสิคะ”
โทนี่เดินออกมา ยิ้ม
“ให้พี่ช่วยดีกว่า น้องดาว”
พิมพ์ดาวตกใจ ตะโกน มองหา
“คุณแม่ ๆ”
“ลืมบอกไป พี่เข้าใจผิด คิดว่าร้านที่สมุยไฟไหม้ เลยรีบบอกคุณน้าให้ไปดู...ส่วนแม่บ้านก็ไปส่งคุณน้าที่สนามบิน...ที่นี่เลยเหลือเรา แค่สองคน”
“กลับไปได้แล้ว ดาวจะพักผ่อน”
พิมพ์ดาวรีบกระเผลกจะหนี โทนี่จับแขนไว้
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
พิมพ์ดาวดิ้น
“อย่านะ พี่โทนี่ อย่า...”
โทนี่ไม่สน อุ้มพิมพ์ดาวไปเลย
บนสถานีตำรวจ...โทรศัพท์มณฑลวางบนโต๊ะ กำลังเล่นคลิปที่โทนี่ยิงปืนใส่ เสียงโทนี่ดังออกมา
“ไอ้มณฑล กูจะฆ่ามึงให้ได้ กลับมา”
สารวัตรที่นั่งดูอยู่หน้าเครียด
“เสี่ยงไปนะหมวด กว่าจะรวบรวมหลักฐานจนพ้นผิดเรื่องยา คุณอาจตายได้นะ”
“ผมเอาตัวรอดได้ครับ...สารวัตรไม่ต้องห่วง ผมสัญญาจะไม่ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ต้องเดือดร้อนเด็ดขาด”
“งั้นก็ตามใจ”
โทรศัพท์มณฑลดัง หน้าจอขึ้นว่า บ้านพิมพ์ดาว มณฑลหยิบโทรศัพท์มารับ ยิ้ม
“ครับ คุณดาว”
โทนี่ใช้โทรศัพท์บ้านพิมพ์ดาวโทรหา มณฑล
“สวัสดีครับหมวด ได้ข่าวว่าชอบถ่ายคลิปใช่มั้ย รีบมาหน่อยนะ เดี๋ยวจะพลาดช็อตเด็ด”
พิมพ์ดาวอยู่ในอ้อมกอดโดนโทนี่ล็อคคอ ปิดปากอยู่ตะโกน เสียงอู้อี้
“ช่วยด้วย”
โทนี่วางสาย ยิ้มร้าย
มณฑลอึ้งถือโทรศัพท์คามือ รู้แล้วว่าพิมพ์ดาวกำลังเดือดร้อน
ผีงิ้วมีกริชอาคมปักคาอกเซถอย พวกสนิทและสนธยาวิ่งออกมาจากเรือนหอพอดี รีบเข้าไปประคองผีงิ้ว ผีขุนศึก เข้าไปดูอาการ
“ผีงิ้ว ย...อย่าเป็นไรนะ” สนธยาเป็นห่วง
ร่างผีงิ้วเริ่มจาง กลายเป็นแสงสีดำวูบวาบ ติดๆดับๆ
“มัน...มันกำลังจะเอาวิญญาณอั๊วไป”
หมอผีอีกาเลือดอาบหน้า เลือดกบปากเจ็บหนัก
“กริชอาคมฝังร่างมึงแล้ว มีกูคนเดียวที่ดึงออกมาได้ และเมื่อกริชอาคมกระชากวิญญาณมึงออกมา มึงก็ต้องตกเป็นทาสกู ฮ่าๆ”
“ไอ้สารเลว”
ผีขุนศึกจะเข้าไปลุย ผีงิ้วรีบห้าม
“อย่า...อย่าเสียเวลากับมัน มึงต้องช่วยกู”
ผีขุนศึกผงะ ตกใจ สนิทรีบขัด
“จะบ้ารึไง ผีขุนศึกล่ำขนาดนี้ ขืนให้ดึงกริชออกมา ปอดก็แหกตามมาพอดี”
ผีงิ้วยิ้ม
“มึงรู้ใช่มั้ยขุนศึก ว่าดาบมึงฆ่าผีได้...ใช้ดาบมึงฆ่ากูซะ”
สนธยาตกใจ ผีขุนศึก อึ้ง พูดไม่ออก
อ่านต่อหน้า 2
วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 21 (ต่อ)
พิมพ์ดาวกลัว ถอยหลังจนพิงกำแพง หมดทางหนี โทนี่ยิ้ม ก้าวเข้าหา
“อย่า...อย่ายุ่งกับฉัน...อย่า”
พิมพ์ดาวจะวิ่งหนี โทนี่จับแขนได้ เหวี่ยงไปที่เตียง พิมพ์ดาวถูกเหวี่ยงมานอนบนเตียง โทนี่ตามไปคร่อม จับแขนขึง โทนี่ยิ้ม
“อย่าโกรธพี่เลยนะคะ เพราะพี่รักดาว พี่ถึงต้องทำแบบนี้...แต่รับรองว่าน้องดาวจะไม่เสียใจ”
โทนี่ โน้มตัวลงซุกไซร้ พิมพ์ดาวร้องให้ช่วย ดิ้น ตะเกียกตะกาย
“ช่วยด้วย ปล่อยฉัน อย่า ไอ้โทนี่ หยุด เดี๋ยวนี้ หยุดสิ หยุด”
มือพิมพ์ดาว ควานหาของไปทั่ว จนเจอแจกันดอกไม้ ที่หัวเตียงพิมพ์ดาวหยิบแจกันฟาดเข้าที่หัวโทนี่เต็มแรง โทนี่กุมหัว ล้มกลิ้ง พิมพ์ดาวลุกขึ้น จะวิ่งเข้าห้องน้ำ ที่เปิดประตูอยู่ โทนี่เลือดอาบหัว ลุกขึ้นคว้าตัวพิมพ์ดาว จากด้านหลัง
“จะไปไหน”
พิมพ์ดาวหันมาทันที ใช้เล็บสองมือ จิกลูกตา โทนี่ร้องลั่น
“โอ๊ย”
พิมพ์ดาวผลักโทนี่ล้มลง วิ่งเข้าห้องน้ำ โทนี่วิ่งตามอีก แต่ไม่ทัน พิมพ์ดาวปิดประตูห้องน้ำหนีได้ ฉิวเฉียด เธอหลบในห้องน้ำ กลัวมาก เสียงโทนี่อยู่หน้าห้องน้ำ กระแทกประตู
“ออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก ออกมา...กูบอกให้ออกมา”
พิมพ์ดาวซุกตัวอยู่มุมนึงอุดหู กลัว
พวกสนธยาประคองผีงิ้ว ตกใจ ที่ผีงิ้วขอให้ผีขุนศึกฆ่าตัวเอง สนิทโวย สะอื้น ไม่ยอมรับ
“จะบ้ารึไงคุณผี จะให้เพื่อนฆ่าเพื่อน ใครจะไปทำได้วะ”
สนธยาคิดหาหนทาง
“ต้องมีทางอื่น เราต้องมีทางช่วยนายได้สิ”
ผีงิ้วส่ายหัว ยิ้ม
“อย่าพยายามเลยสนธยา นี่เป็นวิธีเดียว ที่กูจะไม่ต้องเป็นทาสไอ้หมอผีอีกา” ผีงิ้วมองผีขุนศึก “ฆ่ากูซะ”
ผีขุนศึกก้มหน้านิ่งหมดหวัง ไม่อยากทำ หมอผีอีกากังวลพยายามห้าม
“ไม่...มันไม่มีทางฆ่ามึง ถ้ามึงอยากรอด ก็มอบวิญญาณให้กูสิวะ”
ผีงิ้วยิ้มเยาะทั้งที่บาดเจ็บ
“มึงกลัวจะไม่ได้วิญญาณกูสินะ ไอ้หมอผีชั่ว” ผีงิ้วทำหน้าหลอน “งั้นกูจะให้มึงกลัวขึ้นไปอีก...ย๊าก”
ผีงิ้วจับกริชอาคมที่ปักที่อกแทงซ้ำลงไป ลึกกว่าเดิม พวกสนธยา ช็อค
“ผีงิ้ว”
ผีงิ้วยิ้มเลือดไหลออกปาก
“นี่เป็นคำยืนยัน ว่ามึงจะไม่มีวันได้วิญญาณกู...เร็ว ขุนศึก ฆ่ากู เดี๋ยวนี้”
หมอผีอีกาคลั่ง
“วิญญาณมึงต้องเป็นของกู เอาวิญญาณมึงมา”
หมอผีอีกาวิ่งเข้าหา จะดึงกริชอาคมจากร่างผีงิ้ว ผีขุนศึก ก้มหน้านิ่ง เงยหน้าขึ้น
“อโหสิ ให้กูด้วย”
ผีขุนศึกก้าวมาขวางผีงิ้ว แล้วตวัดดาบขึ้น ฟันหมอผีอีกาที่วิ่งมา เข้ากลางหน้าหมอผีอีกา ร้องโหยหวนเจ็บปวด เซถอย ล้มกลิ้ง คลานหนีไป
“อ๊าก”
ผีขุนศึกหมุนตัวหันหลัง ตวัดดาบเดียวกัน ลงฟันร่าง ผีงิ้วที่ยืนอยู่กับพวกสน ฉับผีงิ้ว ยิ้ม รอยดาบพาดผ่านลำตัว
“ขอบใจ...ขุนศึก”
ผีงิ้วหันมองสนธยา ค่อยๆเอื้อมมือหา
“ลาก่อน...เพื่อน...รัก...”
ผีงิ้วเอื้อมมือแตะสนธยา พร้อมกับร่างที่สลายไปพวกสนธยาพากัน ร้องไห้ ตะโกน ระบาย
“ไม่...”
มณฑลขับมอเตอร์ไซค์มาจอด รีบลงจากรถ วิ่งเข้าไปในบ้านพิมพ์ดาว โทนี่ ถีบประตูห้องน้ำซ้ำๆ จะพังประตูเข้าไป
“เปิดสิวะ เปิดให้กูเข้าไปเดี๋ยวนี้ เปิด กูบอกให้เปิด”
พิมพ์ดาวกลัว มองซ้ายขวา เห็นช่องลมระบายอากาศ ขนาดใหญ่พอที่จะลอดไปได้ โทนี่ หงุดหงิด หันไปมองรอบๆห้อง เห็นขาตั้งไม้สำหรับวางหมวกตั้งอยู่ โทนี่หันกลับไปที่ประตูห้องน้ำ เจรจากับพิมพ์ดาว หน้ายิ้ม
“น้องดาว พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะคะ”
โทนี่ใช้ขาตั้งไม้สำหรับแขวนหมวก กระแทกประตูเข้ามามองหาพิมพ์ดาว แต่ไม่เห็น ช่องลม ระบายอากาศ ถูกเปิดอ้าอยู่ โทนี่แค้นรีบวิ่งออกไป
พิมพ์ดาว วิ่งกระเผลก หนีมาจากหลังบ้าน มองไปข้างหลัง กลัวโทนี่ตามมา จนชนเข้ากับใครบางคน แล้วถูกกอดไว้ พิมพ์ดาวตกใจดิ้นๆ
“ปล่อย...ปล่อยฉัน...ปล่อย”
“ผมเอง คุณดาว”
พิมพ์เงยหน้ามอง เห็นมณฑลยืนอึ้งอยู่ เธอร้องไห้ รีบกอดเขาไว้ทันที
“หมวด”
มณฑลอึ้ง ค่อยๆกอดตอบลูบหัว พิมพ์ดาวร้องไห้อยู่ในอ้อมกอด
“ช่วยดาวด้วย พาดาวไปจากที่นี่ พาดาวไปที”
“ไม่เป็นไร ผมอยู่นี่แล้ว ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณเด็ดขาด”
โทนี่เดินออกมาจากบ้าน
“มึงนี่พระเอกจริงๆนะ ไอ้หมวด”
มณฑลหันไป เห็นโทนี่ถือปืนจ่ออยู่ก็อึ้ง
สนธยา สนิท ชมพู่ อาสา หรั่ง กรวดน้ำให้ผีงิ้ว อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ผีขุนศึกยืนดูอยู่พูดขึ้นเสียงเศร้า
“ขอวิญญาณมึงจงเป็นสุข อย่าได้เวียนว่าย อย่าได้ติดค้าง สิ่งที่มึงได้ต่อสู้และเสียสละ มันยิ่งใหญ่ดังเช่นสิ่งที่มึงรอคอยแล้ว พักผ่อนให้สบายเถอะเพื่อนเอ๊ย”
พวกสนิทสะอื้นไปกรวดน้ำไป สนิทพูดเลียนสำเนียงผีงิ้ว
“เป็นสุขเถอะนะคุณผี เสนียด จะไม่ลืมคุณผีเดียดขาด”
“ถั่วต้ม อยู่บนสวรรค์แล้ว คุ้มครองเราด้วยนะ” อาสาพูดบ้าง
หรั่งพูดต่อ
“อะไรที่เราทำเผียดไป อโหสิกรรมเราให้ด้วย เคี๊ยดถึง เราบ้างนะคุณผี”
ชมพู่พูดเป็นคนต่อไป
“บอกตรง คุณผีน่ะสวดยอดที่สวด เป็นสวดยอดในใจเราเสมอ เลิฟสวดๆเลยนะคุณผีนะ”
สนิทหันไปหาสนธยา
“แล้วจากนี้ไป จะทำไงต่อล่ะ คุณสน”
สนธยากรวดน้ำเสร็จคนสุดท้าย หน้าเศร้าลุกขึ้น
“ผีงิ้วยอมทิ้งภารกิจตัวเองเพื่อช่วยฉัน ฉันจะต้องทำภารกิจสุดท้าย คือปลดปล่อยขุนศึกให้สำเร็จ”
“เราจะไม่ทำให้การเสียสละของเพื่อน ต้องเสียเปล่า” ผีขุนศึกน้ำเสียงจริงจัง
เจนนี่เข้ามา ยังไม่รู้เรื่องผีงิ้ว แต่เศร้าจากสัญญาที่ให้กับพิมพ์ดาวไว้
“สน ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย...”
สนธยาหันไป
“ฉันก็มีเรื่องสำคัญ จะให้เธอช่วยเหมือนกัน”
เจนนี่ยิ้มเศร้า
“คงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะฉันจะมาลา”
สนธยาอึ้ง
สนธยาทะเลาะกับเจนนี่
“เกิดอะไรขึ้นเจนนี่ ทำไมอยู่ดีๆ ถึงจะไป ทำไมถึงไม่อยากช่วยฉัน”
“ฉันจำเป็น”
“นี่เธอไม่เข้าใจรึไง เราเพิ่งเสียผีงิ้วไป เราช่วยเขาไม่ได้ แต่เรายังมีผีขุนศึกเป็นภารกิจสุดท้าย เราต่างหากที่จำเป็นต้องช่วยกัน”
“เรา...เราไหน นี่มันเรือนหอนายกับคุณดาว แล้วฉันช่วยนายมามากพอแล้ว ฉันทำต่อไปไม่ได้แล้ว”
เจนนี่จะไปสนธยาดึงไว้
“แต่เราเป็นเพื่อนกันนะเจนนี่”
“ใช่ เราเป็นเพื่อนกัน...”
เจนนี่เดินออกไปเลย สนธยาอึ้ง
เจนนี่เดินก้มหน้าออกมา สนิท หรั่ง อาสา ชมพู่รออยู่
“อะไรวะ เจนนี่ คุณสนเสี่ยงกับเราแทบตาย ทำไมเอ็งถึงใจดำต้องทิ้งเขาตอนนี้ด้วยวะ” สนิทดึงเจนนี่ไว้
เจนนี่เงยหน้า ร้องไห้ น้ำตาไหล
“ฝากดูแลเขาดีๆด้วยนะน้า”
สนิทเห็นเจนนี่ร้องไห้ก็อึ้ง ปล่อยมือ เจนนี่เดินจากไป ปาดน้ำตาพวกสนิทมองตามงงๆ
อ่านต่อตอนที่ 22
วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 22
มณฑลเห็นโทนี่ถือปืน ยืนขวางบังพิมพ์ดาวไว้
“จะตาย แล้วยังจะแมนอีกนะคุณตำรวจ แต่เสียดาย ที่น้องดาวเขาไม่สนมึงสักนิด”
“เรื่องนี้คุณดาวไม่เกี่ยว ปล่อยคุณดาวไป แล้วแกมาเคลียร์กับฉัน”
“นี่มึงบ้ารึเปล่าวะ น้องดาวเขาเกี่ยวเต็มๆ ที่จริงกูกำลังคิดอยู่ว่า จะจัดการเขาก่อน หรือหลัง จากที่ฆ่ามึงดี”
“ไอ้โทนี่”
มณฑลโกรธขยับจะต่อย โทนี่ยิงขู่ ลงพื้น เฉียดมณฑลไปนิดเดียว
“ไง เหวออ่ะดิ คิดว่ากูไม่กล้าฆ่ามึงรึไง...เอางี้น้องดาวคะ น้องดาวมาหาพี่มะ จะได้ไม่โดนลูกหลง”
พิมพ์ดาวมองหน้ามณฑลอย่างเป็นห่วง โทนี่ตวาด
“กูบอกให้มานี่”
มณฑลพยักหน้า พิมพ์ดาวค่อยๆเดินไปหา โทนี่กระชากพิมพ์ดาวมาล็อคไว้
“ทีนี้ ก็ค่อยๆดูมันตายชัดๆ นะคะ”
มณฑลอึ้ง หวั่น โทนี่เล็งปืนแล้วยิงออกไป เปรี้ยง พิมพ์ดาวตกใจ
“หมวดมณฑล”
สนิท หรั่ง อาสา ชมพู่ ช่วยกันถอดเปลี่ยนยางรถตู้เสร็จ สนธยากับผีขุนศึกยืนดูอยู่ หรั่งปาดเหงื่อ
“พร้อมเดินทางแล้วครับ คุณสน”
สนธยาพยักหน้ารับ
“ให้พวกผมไปด้วยเถอะนะครับ นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ช่วยคุณผี...ไหนๆก็ช่วยกันมาขนาดนี้แล้ว” สนิทขอร้อง
“ขอบใจน้าหนิด แต่ฉันอยากให้พวกน้า อยู่ช่วยที่เรือนหอมากกว่า เผื่อหมอผีอีกาย้อนกลับมา เราจะได้รับมือทางนี้ได้”
“คุณสนไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะดูแลที่นี่ด้วยชีวิต” อาสาน้ำเสียงจริงจัง
“โอเค ตามสบาย งั้นกูไปกะคุณสน กะไอ้หรั่ง”
ชมพู่จะไป อาสาดึงไว้
“ทะลึ่งเลยมึง อยู่กะกูกะน้าที่นี่ดีแระ คิดว่าหมอผีอีกาย้อนกลับมา กูสองคนเอาอยู่รึไง”
ผีขุนศึกยิ้ม
“ขอบใจทุกคนมากนะ ที่ทำเพื่อผีอย่างพวกข้าขนาดนี้ ชาติหน้าถ้ามีโอกาส ข้าคงได้ตอบแทน”
“เอาชาตินี้ให้รอดเถอะคุณผี ลูกเมียรออยู่ รีบกลับบ้านไปหาเถอะ” อาสาบอก
ชมพู่สะอื้น
“โชคดีนะคุณผี ไปแล้วไปลับ ไม่ต้องกลับมา ไปอยู่กับลูกเมียให้เป็นสุขเถอะนะ”
“ฝากดูแล ไอ้สนกะคุณหรั่ง” สนิทฝากฝัง
ทุกคนโพล่งออกมาพร้อมกัน
“คุณสนกะไอ้หรั่ง”
“นั่นแหละ ตื้นตันเลยพูดผิด ดูแลกันให้ปลอดภัยด้วยนะคุณผีนะ”
ผีขุนศึกยิ้ม
“ไม่ต้องห่วง ขอให้พวกเอ็งโชคดี”
สนธยาตัดบท
“ไปขุนศึก หรั่ง ภารกิจสุดท้ายรออยู่ เราต้องทำให้สำเร็จ”
หรั่งกับผีขุนศึก พยักหน้า
รถตู้ขับออกมาจากรั้วเรือนหอ สนิท อาสา ชมพู่ วิ่งตามมาส่ง โบกผ้าเช็ดหน้า
“โชคดี เดินทางปลอดภัย ขอให้ผีคุ้มครองน้า”
รถตู้ขับออกไปที่ถนน มุมหนึ่ง เจนนี่ที่แอบอยู่ ก้าวออกมา เป็นห่วง มองตามรถตู้ไป
“โชคดีนะสน”
เจนนี่ มองตามรถตู้อย่างเศร้าหมอง
ในรถตู้สนธยานั่งนิ่ง หรั่งมองกระจกหลัง เห็นสนธยาไม่สบายใจ ลองชวนคุย
“ไม่มีเจนนี่มาด้วย มันก็เงียบเหมือนกันนะครับ”
สนธยาเงียบ ไม่ตอบ ผีเด็กปรากฏตัวข้างสนธยา
“พี่สน ทำไมพี่เจนนี่ไม่มา หนูคิดถึงพี่เจนนี่ เรียกเขามาสิ พี่ไม่คิดถึงเขารึไง เรียกเขามาสิคะ”
“เขาไม่อยากมากับเรา ต่อให้คิดถึงแค่ไหน เขาก็ไม่มาแล้วล่ะ”
ผีขุนศึกนั่งเบาะท้ายสุด ส่ายหัวเซ็งๆ เห็นใจ สนธยามองไปนอกหน้าต่าง จ๋อยๆ
พิมพ์ดาวตกใจที่มณฑลโดนโทนี่ยิง
“หมวด”
มณฑลนอนอยู่ ที่แขนเลือดไหลเอามือกุมแผล โทนี่ยิ้ม แกล้งตกใจ
“อุ๊ย โทษที ยิงไม่แม่นเท่าไหร่...อีกทีป่ะ ฮ่าๆ”
“จะฆ่าก็ฆ่าสิวะ”
“อย่ารีบตายสิหมวด เพราะกูอยากเห็นมึงทรมานอีก”
โทนี่เดินไปหามณฑลที่นอนเจ็บอยู่ เอาปืนจ่อยิ้ม
“อยู่เฉยๆ”
โทนี่เอาเท้าเขี่ยมือมณฑลที่กุมแผลอยู่ออก เหยียบแล้วขยี้แผล มณฑลกัดฟันเจ็บ ร้อง
“อ๊าก”
“เจ็บเหรอ ฮ่าๆ คราวนี้จะยิงตรงไหนดีนะ ขามึง หน้ามึงหรือว่า...”
โทนี่เล็งปืน ไปที่เป้ามณฑล หัวเราะลั่น พิมพ์ดาวมาข้างหลังโทนี่ ถือกระถางต้นไม้เล็กๆในมือ ยกขึ้นทุบหัวโทนี่ทันที
“โอ๊ย”
โทนี่ล้มกลิ้งกุมหัว พิมพ์ดาวดึงมณฑลลุกขึ้น ประคองกันหนีไป
พระสวดมนต์ให้พร เจนนี่กรวดน้ำอยู่ถังสังฆทาน วางตรงหน้า
“จัตตาโร ธรรมา วัททัณติ อายุวรรณโน สุขัง พะลัง”
เจนนี่กรวดน้ำเสร็จ ยกมือไหว้
“เรียบร้อยแล้วโยม หวังว่าคงสบายใจขึ้นนะ”
เจนนี่ยิ้มจ๋อยๆ
“ขอบคุณค่ะหลวงพี่”
เจนนี่ก้มกราบ 3 ครั้ง ลุกขึ้นลากลับ จะเดินออกจากศาลา เสียงหลวงพ่อดังขึ้น
“ไหนๆมาแล้ว อย่าเพิ่งรีบกลับสิโยม”
เจนนี่หันไปเห็น ยิ้มจ๋อยๆ หลวงพ่อยิ้มให้
“แล้วนี่ไอ้สนไม่มาด้วยรึ”
เจนนี่ส่ายหัว
รถตู้ขับบนทางหลวง ผีเด็กนั่งข้างหน้าต่าง เงยหน้ามองยิ้มๆ
“ถึงแล้ว นี่ไง อยุธยา”
ผีขุนศึกรีบมาข้างๆ มองซ้ายขวา ดีใจ
“ไหนรึ เมืองหลวงอโยธยา ทั้งวัดวัง เรือกสวนไร่นา เสาหลักเมืองอยู่ที่ใด มีสิ่งใดบอกเจ้ารึ”
ผีเด็กชี้ออกไป ผีขุนศึกเงยมองนอกรถ เห็นป้ายบนทางหลวง เขียนว่า ยินดีต้อนรับสู่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา สนธยาหันมาหาผีขุนศึก
“ดีใจด้วยนะ นายจะได้กลับบ้านแล้ว”
ผีขุนศึกทำหน้าหงุดหงิด ย้ายกลับไปนั่งที่เบาะด้านหลัง สนธยามองตามแปลกใจ ผีขุนศึกเครียด
มณฑลกับพิมพ์ดาวมาหาสารวัตร มณฑลมีผ้าพันแผลที่แขนเรียบร้อย
“แผลคุณเป็นไงบ้าง” สารวัตรถามอย่างเป็นห่วง
“ยังไหวครับ”
“ไม่ต้องห่วงนะ ผมออกหมายเรียกโทนี่มาสอบสวนแล้ว”
มณฑลหนักใจ
“ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ไอ้โทนี่ไม่ใช่แค่เลวอย่างเดียว มันฉลาดแล้วก็มีเส้นสาย เรามีแค่พยานบุคคล ยังไงมันก็หลุดแน่”
“แต่เขาจะฆ่าหมวดนะคะ เราปล่อยไปเฉยๆงั้นเหรอ” พิมพ์ดาวแย้ง
“ถ้าจะจัดการมัน เราต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา แต่ที่ผมห่วงคือ ในเมื่อคุณกับผมรอดมาได้ มันจะทำอะไรต่อไปมากกว่า”
พิมพ์ดาวอึ้งคิดหนัก มณฑกังวล
อ่านต่อหน้า 4
วิวาห์ป่าช้าแตก ตอนที่ 22 (ต่อ)
หรั่งขับรถตู้อยู่ หันมาถามลำบากใจ
“เอ่อ คุณสนครับ นี่เราขับวนอยุธยาจะถึงเชียงใหม่อยู่แล้ว ตกลงให้ไปส่งพี่ขุนศึกที่ไหนครับเนี่ย”
สนธยามองไปด้านหลังเป็นห่วงจะถาม ผีขุนศึกก้มหน้าเศร้า ชิงตอบ
“กูไม่รู้...”
สนธยาอึ้ง
“หมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่า งานงอกแล้วไง พี่เขาหลงทางไงคะ” ผีเด็กบอกเซ็งๆ
ผีขุนศึกไม่พอใจทันที
“นี่ไม่ใช่อโยธยาที่กูรู้จัก ทั้งบ้านเมือง ผู้คน...เมื่อก่อน แม้ศึกสงครามจะหนักหนาเพียงใด ก็ยังไม่เคยโกลาหล ถึงเพียงนี้”
ผีขุนศึกชี้ไปนอกรถ เป็นบรรยากาศเมือง ไฟแดงรถติด โรงงาน รถสิบล้อ ควันพิษ ห้างสรรพสินค้า ร้านเหล้าเรียงเป็นแถว เสียงบีบแตรรถ เสียงดังอึกทึก ผีขุนศึกเศร้า เสียใจ ระบายความรู้สึก
“ทุกครั้งที่กูไปรบ เป้าหมายก็เพื่อความสงบของบ้านเมืองและคนที่กูรัก แต่ตอนนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปสิ้น นี่หรือบ้านเมืองที่กูเฝ้ารักษา กูแลกด้วยชีวิต ไม่ใช่เพื่อให้มันมาวุ่นวายเยี่ยงนี้”
“แต่นายต้องเข้าใจสิ ว่าทุกอย่างต้องเปลี่ยนไปตามเวลา...” สนธยาพยายามอธิบาย
ผีขุนศึกสวนทันที
“ไม่...เวลาไม่เคยทำให้กูอยากเห็นหน้าลูกเมียน้อยลง แต่เพราะคนรุ่นหลังอย่างพวกมึงเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ถ้ากูหาทางกลับบ้านไม่ได้ ก็เพราะพวงมึงนั่นแหละ มึง ๆ”
ผีขุนศึกโกรธ กระทืบๆเท้าจนรถสั่น ส่ายไปมาทั้งคัน หรั่ง เริ่มขับรถส่ายไปมา มองข้างหน้า ตกใจ
“เฮ้ยๆ สิบล้อ”
สิบล้อบีบแตรดังลั่น สนธยาตกใจ
สนิท ชมพู่ อาสา ออกมาจากในเรือนหอ ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดออกมาเก็บ
“พวกคุณสนไปส่งคุณผี เป็นไงมั่ง ก็ไม่รู้เนอะ” ชมพู่พูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ห่วงตัวมึงเหอะ เกิดหมอผีอีกากลับมา เดี๋ยวก็ชิบหายกันพอดี” อาสายังหวาดๆ
ชมพู่โวยทันที
“นี่มึงโง่ป่ะเนี่ย เรือนหอไม่มีผีแล้ว ไอ้อีกาจะกลับมาทำมะเขืออะไรอีก”
“ใช่ คราวที่แล้ว มันโดนไปหนัก คงไม่มาเร็วๆนี้แน่” สนิทมองไปรอบๆ แอบกังวล “ขอให้ที่นี่ปลอดภัย ทุกคนก็จะได้อยู่อย่างสงบซะที”
ลูกน้องโทนี่แอบมองสนิท ชมพู่ อาสา เก็บของที่หน้าเรือนหอ แล้วหลบเข้ามาหลังแคมป์ โทรหาโทนี่
“เรียบร้อยครับนาย มีคนเฝ้าแค่สาม แต่ไอ้สนธยาไม่อยู่ ได้ยินว่า ที่นี่ปลอดภัยไม่มีผีแล้วด้วยครับ”
โทนี่มีผ้าพันแผลที่หัว คุยโทรศัพท์กับลูกน้อง
“ดี...เรียกคนของเรามาให้หมด แล้วรอกูที่นั่น”
โทนี่วางสาย หน้าแค้นจัด
“ถ้าเธอไม่ยอมให้ความสุขกับฉัน ก็อย่าหวังว่าเธอจะมีความสุขเลย พิมพ์ดาว”
หรั่งตกใจสุดขีด ขับรถส่ายไปมา สิบล้อบีบแตรลั่น หรั่งนับล้อ
“ส...สี่ หก แปด สิบ สิบล้อ...สิบล้อ”
หรั่งแหกปากหักพวงมาลัยหลบสุดตัว สนธยา ผีเด็ก ตัวเอียง กระแทกผนังรถตู้ ผีขุนศึก เซตามแรงหักหลบ แตรสิบล้อดังลากยาวจนค่อยๆเบาลง จนผ่านไป หรั่งกลับมาขับรถ หอบ เหวอ สนธยารีบชะโงกมาดูหรั่ง
“หรั่งเป็นไงมั่ง”
หรั่งพูดติดอ่าง
“ขรี้ๆ...ขรี้จะแตก เกิดอะไรเนี่ยคุณส๊น”
สนธยาหันไปดุ
“ขุนศึก เรามาช่วยนายนะ นี่จะฆ่ากันรึไง”
ผีขุนศึก รู้สึกผิด หรั่งหันไปโวย ขับไม่มองทาง
“ห๊ะ ฝีมือคุณผีเนี่ยนะ จะบ้ารึไงคุณผี เล่นแบบนี้เดี๋ยวก็ตายห่าน...”
ผีเด็กชี้ไป
“ระวัง”
หรั่งหันกลับไปมองทาง ตกใจ หน้าเหวอ เบรกสุดตัว
“จ๊าก”
รถตู้วิ่งลงข้างทางเบรคกะทันหัน เกือบชนต้นไม้ใหญ่ เก่าแก่ที่อยู่ข้างหน้า หรั่งกลัว ลงจากรถทันที โวยวาย
“ไม่ไหวแล้ว ทั้งสิบล้อจะเอาไปแดก ทั้งจะขับชนต้นไม้ หรั่งยังไม่อยากต๊าย”
สนธยารีบเปิดประตูรถลงมา ไม่พอใจ มองไปที่รถตู้ ด่าผีขุนศึก
“ฟังนะขุนศึก ถึงทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แต่เรายังเป็นเพื่อนกัน และฉันยังคอยช่วยนาย แต่ถ้านายไม่ช่วยกัน ภารกิจเราไม่มีทางสำเร็จแน่ ถ้านายอยากกลับบ้าน เราก็ต้องร่วมมือกันสิ”
ผีขุนศึกปรากฏตัว ให้ทุกคนเห็น ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ กำลังก้มมองพื้นดิน เศร้าๆหรั่งเห็นผีขุนศึก รีบสะกิดสนธยาอย่างกลัวๆ
“ใจเย็นนะคุณผี ปรากฏตัวมาแบบนี้ ไม่ได้มาตื๊บเราใช่มั้ย ใจเย็นๆนะ”
ผีขุนศึกหันมาพูดเสียงเศร้า
“กูเสียใจ ที่ทำพวกมึงต้องเดือดร้อน แต่ตอนนี้ กูก็รู้แล้ว ว่าเราจะเริ่มที่ไหน” ผีขุนศึกชี้ต้นไม้ “นี่ไง กูเคยตายที่นี่”
สนธยาอึ้ง
มุมหนึ่งในสถานีตำรวจ พิมพ์ดาวโทรหาเจนนี่อย่างกังวล
“เจนนี่ เธออยู่กับสนรึเปล่า สนไม่รับโทรศัพท์ สนเป็นไรรึเปล่า”
เจนนี่อยู่บริเวณลานวัดคุยโทรศัพท์ ตกใจ
“ฉันไม่ได้อยู่กับสน สนไปธุระ เกิดอะไรขึ้นคะคุณดาว”
“ฉันกลัวสนจะถูกทำร้าย ถ้าติดต่อสนได้ บอกให้สนระวังด้วย อย่าเพิ่งกลับไปที่เรือนหอเด็ดขาด แค่นี้ก่อนนะ”
พิมพ์ดาววางสาย...เจนนี่ลดโทรศัพท์ลง อึ้ง เป็นห่วง สนธยา หลวงพ่อนั่งอยู่ตรงข้ามถามขึ้น
“เป็นอะไรรึโยม”
“สน กำลังตกอยู่ในอันตรายค่ะหลวงพ่อ”
“เวรกรรม ไอ้สนพยายามทำดีแท้ๆ แต่ก็ยังมีอุปสรรคมาขัดขวาง”
“มีทางช่วยสนยังไงบ้างรึเปล่าคะหลวงพ่อ”
“เอางี้ ไหนๆ โยมตั้งใจมาทำบุญช่วยไอ้สนมันแล้ว อาตมาว่าคงต้องรบกวนโยมอีกหน่อยแล้วล่ะ”
เจนนี่คิดหนัก
พิมพ์ดาวกังวลเรื่องสนธยา
“ติดต่อสนไม่ได้ สนจะเป็นไงบ้าง แล้วนี่ดาวจะทำไงดี”
“ใจเย็นๆนะครับ ผมว่าคุณดาวรีบหาที่ปลอดภัย แล้วโทรบอกคุณแม่คุณว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนผมจะไปดูสนธยาที่เรือนหอให้เอง” มณฑลแนะ
“อย่านะคะหมวด หมวดเองก็ยังเจ็บอยู่ หากพวกโทนี่ไปที่นั่น...”
“ผมเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องห่วง ดูแลตัวเองดีๆนะครับ”
พิมพ์ดาวพยักหน้า
“ระวังตัวด้วยนะคะหมวด”
ผีขุนศึกยืนเศร้า มองต้นไม้ สนธยากับผีเด็ก มองเห็นใจ
“ที่ใต้ต้นไม้แห่งนี้ กูเคยสู้กับข้าศึก เพื่อรักษากรุงอโยธยาไว้แม้เวลาจะผ่านไป อย่างน้อยก็ยังมีที่นี่ให้เหลือเตือนใจอยู่”
สนธยามองไปรอบๆ อึ้ง
“หมายความว่า ที่นี่เคยเห็นสนามรบมาก่อนงั้นเหรอ”
สนธยาหันไปมอง ผีขุนศึก ยื่นมือไปจับต้นไม้ นึกถึงความหลัง
“ใช่ กูโดนฆ่าตายในสงคราม ที่ต้นไม้แห่งนี้”
ผีขุนศึกเล่าเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้น ก่อนตาย...
“ครั้งนั้นเมื่อข้าศึกบุกประชิดอโยธยา หน้าที่กูคือปกป้องบ้านเมือง กูจึงอาสาเป็นทัพหน้าไปรบกับพวกมัน”
ขุนศึก ชูดาบ โห่ร้อง พร้อมรบ...ทหารข้าศึก ถูกขุนศึก ถีบมาหลังกระแทกต้นไม้ ขุนศึกเงื้อดาบจะฟันซ้ำ แต่ถูกข้าศึกอีกคน ถีบจากด้านหลัง ขุนศึก เซ พลาดหันมา
“แต่เอาเข้าจริง เมื่ออยู่ในสงคราม กูจำต้องสู้จนสุดชีวิต เพราะกูรู้สึกกลัวตายยิ่งนัก”
ข้าศึกทั้งสอง เงื้อดาบฟันซ้ำ ขุนศึกใช้ดาบ รับไว้ แล้วผลักออก
“ความขลาดกลัวของกู หาเกิดจากการที่ข้าศึกจะเอาชีวิตกูไม่ แต่กูไม่อยากตาย เพราะรู้ว่ามีอีกสองชีวิตรอกูอยู่...ก่อนจากมา กูเพิ่งรู้ว่า เมียกูกำลังจะให้กำเนิดลูก”
อ่านต่อตอนที่ 23