xs
xsm
sm
md
lg

ช็อก! แม่ค้าขายถั่วต้มที่ชุมพรถูกหมายเรียกเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ไม่ยื่นงบการเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชุมพร - ช็อกป้าวัย 58 ปี แขนพิการอาชีพหาบถั่วต้มขาย ถูกตำรวจกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจจ่อออกหมายจับ ในฐานะเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ ฐานไม่ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หอบเอกสารร้องผู้สื่อข่าวช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ระบุที่ผ่านมาไม่เคยทำธุรกิจ แม้แต่หนังสือยังอ่านไม่ออกจะเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างไร

วันนี้ (17 มิ.ย.) นางปรีดา เจริญสุข อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ต.แหลมทราย อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมญาติ ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวในพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีได้รับหมายเรียก จากกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาคาร 2 ชั้น 9 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ในเวลา 10.00-15.00 น. วันที่ 24 พ.ค.56 ที่ผ่านมา ในหมายเรียกยังระบุว่า ถ้าไม่ไปพบก็จะออกหมายจับ เพื่อจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 66 ต่อไป

ซึ่งในหมายเรียกระบุชื่อคือ น.ส.ปรีดา เจริญสุข เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว มีหน้าที่ต้องทำบัญชี และกรรมการผู้จัดการ ไม่ได้ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2545 มาตรา 11 วรรค 1 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และในฐานะกรรมการผู้จัดการมีโทษปรับอีกไม่เกิน 50,000 บาท

โดยนางปรีดา กล่าวว่า หลังจากได้รับหมายนัดดังกล่าวก็รู้สึกตกใจมาก ซึ่งตัวเองอ่านหนังสือไม่ออก และได้ให้ญาติอ่านให้ฟัง เมื่อรู้ว่าเป็นหมายเรียก และถ้าไม่ไปตามหมายเรียกก็จะต้องถูกออกหมายจับตนถึงกับเป็นลมทันที เพราะตนเป็นเพียงแม่ค้าหาบถั่วต้มเร่ขายอยู่ในตลาดหลังสวน มีรายได้เพียงวันละร้อยกว่าบาท พอได้ประทังชีวิตไปวันๆ มือก็พิการใช้งานได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น บ้านก็ไม่มีอยู่ต้องอาศัยอยู่กับญาติ จะไปเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างไร อีกทั้งในชีวิตนี้ไม่เคยไปกรุงเทพมหานครแม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยให้บัตรประชาชนกับใครไปใช้ทำอะไรที่ไหนอีกด้วย แต่จู่ๆ ก็กลายมาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทใหญ่โตในกรุงเทพมหานคร ซึ่งทุกวันนี้ตนก็ไม่เคยมีเงินเก็บฝากไว้ในธนาคารแม้แต่บาทเดียว ทำให้ทุกข์ทรมานใจอย่างมากเมื่อทราบว่าจะถูกออกหมายจับ บางวันคิดมากถึงกับเป็นลม ญาติๆ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล สุขภาพแย่ลง กินไม่ได้นอนไม่หลับหมดเรี่ยวหมดแรง จนต้องหยุดหาบถั่วต้มไปขายในตลาดหลังสวนต้องขาดรายได้มาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

นางปรีดา กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านแนะนำว่าให้ไปร้องเรียนต่อผู้สื่อ เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะมิฉะนั้นตนจะต้องถูกออกหมายจับไปติดคุกอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นตนอาจต้องตรอมใจตาย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายมาตรวจสอบช่วยเหลือตนด้วย

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น