ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 1
ยามเช้ามืด ท่ามกลางบรรยากาศท้องฟ้าที่ยังสลัวราง แลเห็นควันล่องลอยเอื่อยเรื่อยราวสายหมอก ณ เมืองริมแม่น้ำคงคา ที่ได้ชื่อว่า เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งการชำระบาปของชาวฮินดู ที่แห่งนี้...มีการเผาศพ ตามขนบประเพณี และตามความเชื่อของชาวฮินดู มาแต่โบราณจวบจนถึงปัจจุบัน
ในเปลวไฟที่ลู่ตามแรงลมและควันไฟที่คุกรุ่นอยู่นั้น เผยให้เห็นพระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ยืนมองการเผาศพ อยู่ไกลๆ ด้วยอาการสงบ
ภิกษุรูปนั้นคือ พระวันเฉลิม ที่ยืนปลงสังเวชอยู่ พระวันเฉลิมค่อยๆเดินลงบันได มุ่งหน้าสู่ฝั่งน้ำ เห็นศพที่ถูกเผาแล้ว ถูกลอยลงสู่แม่น้ำ ถัดไปคือชาวฮินดู ที่ลงอาบน้ำ, สวดมนต์ขอพรเทพเจ้าและแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ด้วยวิธีแตกต่างกันไป
พระวันเฉลิม ยืนมองสายน้ำเบื้องหน้าสักครู่ แล้วรำพึงกับตัวเองว่า
"อันความทุกข์ยากที่ได้ผจญมา และคิดว่าตัวของเรานั้นน่าสังเวชหนักหนาแท้ที่จริงมันเป็นเพียงฝุ่นละอองธุลีในอากาศ เมื่อเทียบกับความทุกข์ทั้งมวล ในโลกยากไร้ใบนี้"
พระวันเฉลิม เห็นประทีปจากการบูชาสวดมนต์ ถูกลอยลงสู่สายน้ำ ความสว่างของประทีปดวงนั้น เผยให้เห็นแม่น้ำคงคาอันยิ่งใหญ่ และพระอาทิตย์ดวงกลมโตสีแดงไกลๆ ที่โผล่พ้นจากขอบฟ้า พร้อมๆ กับเรื่องราวมากมายแต่หนหลัง ที่นำพา หลวงพี่รูปงาม มายืนอยู่ ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธในยามเช้าในวันนี้
ตอนเช้าตรู่ สายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอื่อยๆ ขณะที่ สันต์ หนุ่มหล่อรูปร่างสันทัด ข้าราชการทหารเรือยศพันจ่าเอก เร่งซักผ้าอยู่ที่บันไดท่าน้ำ ชาวบ้านพายเรือเข้ามาที่หน้าแพ พลางร้องบอก
"แม่ปั้น เอาหมูเนื้อแดงให้สองขีดจ้า"
สันต์ตะโกนต่อช่วงบอก ปั้น ผู้เป็นมารดา
"แม่ครับเอาหมูเนื้อแดงให้น้าพร สองขีดครับ"
สิน พ่อของสันต์ ผู้เป็นช่างไม้ฝีมือดีกำลังสาละวน ช่วยขายผักอยู่บนเรือนแพ
"รอเดี๋ยวนะยายพร"
สินรับเงินมาจากลูกค้าใส่กระป๋องชักที่ห้อยลงมาจากขื่อข้างบน ปั้น แม่ของสันต์ กำลังห่อหมูใส่ใบตอง มัดด้วยเชือกกล้วยเดินออกมาส่งหมูให้ลูกค้าที่เรือ
"สันต์เอ๊ย สายแล้วนะลูก เดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ทันกันพอดี"
"เสร็จเดี๋ยวนี้แล้วละครับแม่" สันต์ร้องบอก
"ทิ้งไว้นั่นแหละ เดี๋ยวพ่อตากให้เอง" สินบอก
"งั้นผมไปแต่งตัวนะครับพ่อ"
สันต์รีบเดินกลับเข้าขึ้นฝั่งไปยังตัวบ้าน
ชาวบ้านบอก
"แหม...ลูกชายบ้านนี้ ใครได้ไปเป็นเขยก็สบายไปทั้งชาตินะแม่ปั้น สอนลูกยังไงจ๊ะถึงได้ดียังงี้"
ปั้นยิ้มภูมิใจในตัวลูกชาย
"เขาดีด้วยตัวเขาเอง เราเป็นพ่อแม่ ก็แค่ชี้ทางผิดทางถูกให้เขาเท่านั้นแหละ" สินบอก
"หาลูกสะใภ้มาช่วยกันซักคนได้แล้วพ่อสิน"
สินขำๆ บอก
"ก็กำลังมองๆ หาอยู่เหมือนกันละจ้ะ"
"จะไปหาให้เขาได้ยังไง คู่ชีวิตเขา เขาก็ต้องหาของเขาเอง เราก็ได้แต่ช่วยดูๆเท่านั้นแหละ" ปั้นบอก
เช้าวันเดียวกัน ที่บริเวณใกล้ท่าเรือข้ามฟาก เพิงขายขนมยายแลตั้งอยู่ตรงนี้ ลังถึงขนาดใหญ่ สำหรับนึ่งขนมถ้วย ถูกเปิดฝาออก ไอน้ำตลบและฟุ้งกระจายหายไปอย่างรวดเร็ว
ลำยอง สาวสวยระดับนางงาม ชะเง้อชะแง้ เหมือนรอคอยใครสักคนอยู่... ลำยง น้องสาวคนรองของลำยอง ยกชั้นลังถึงลงจากเตา เพื่อนึ่งขนมชุดใหม่
"เอ้า...พี่ลำยอง ช่วยเอาขนมถ้วยออกมาหน่อยสิฉันจะได้เอาซึ้งไปใช้" ลำยงบอก
"มีมือ เอ็งก็ทำเองสิวะ นังลำยง"
"อ้าว ไม่มาช่วยกัน แล้วแหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ ทำไมเนี่ย"
"เรื่องของข้า"
ยายแลหอบใบตองที่จะต้องฉีกและกลัดเป็นกระทงใส่ขนมเข้ามา
"งั้นก็ไปนั่งที่อื่น เกะกะคนจะขายของ" ลำยงบอก
"แม่ ดูนังลำยงมันสิมันไล่ฉัน"
"ไม่ได้ไล่ จะนั่งก็นั่งแต่ช่วยกันทำงานหน่อย ไม่เห็นเรอะ ไอ้ที่ต้องทำ มันล้นมือขนาดไหน"
"เลิกกัดกันซะที"แลบอก
"ฉันก็ไม่อยากจะกัดด้วยหรอกแม่ แต่คนเรามันต้องรู้จักหน้าที่ตัวเองมั่ง กินก็กินด้วยกัน ถึงเวลาทำมาหากินมันก็ต้องช่วยกันมั่งสิ"
"ลำยองมันเป็นพี่เองนะโว้ย" แลบอก
"เป็นพี่แล้วไง"
"น้องก็ต้องทำให้พี่น่ะสิวะ ใช่ไหมแม่"
ลำยงฉุนกึกแต่ต้องระงับอารมณ์ เพราะลูกค้าเข้ามาพอดี
"เอาขนมถ้วยเยอะป่าวจ้ะ" แลถาม
"จ้ะๆเพิ่งสุกใหม่ๆเลย รอเดี๋ยวนะจ้ะ" ลำยงบอก
ลำยองไม่อินังขังขอบ ชะเง้อคอยใครบางคนต่อ
"ไม่ใช่เขาไปแล้วเหรอแม่" ลำยองถาม
"ยังก็ข้าคอยดูอยู่ ถ้าไปแล้วข้าก็เห็นสิวะ"
ลำยงต้องหยิบขนมถ้วยขึ้นมาควักใส่กระทงใบตองเอง ในขณะที่ลำยองไม่คิดแม้แต่จะขยับช่วย
ขณะเดียวกัน สันต์รีบออกมาจากห้อง ในชุดข้าราชการทหารเรือยศพันจ่าเอก ปั้นยังติดพันขายกับข้าวของสดให้ลูกค้า สันต์นั่งลงสวมรองเท้าที่มันวับเนี้ยบกริบเพราะใส่ใจดูแลอย่างดี
"พ่อครับ แม่ครับ ผมไปทำงานนะครับ ตอนเย็น ผมจะรีบกลับมาเก็บผ้าเอง"
"ไม่ต้อง รีบร้อนกลับมา ก็ได้สันต์เอ้ย วันนี้วันศุกร์นี่ลูก ไปเที่ยวสังสรรค์เปิดหูเปิดตากับเพื่อนฝูงบ้างก็ได้" สินบอก
"เสียดายเงินครับพ่อ ผมกลับมาช่วยทำงานที่บ้านดีกว่า"
"เงินทองเราก็ไม่ได้ขัดสนอะไรนักหนารู้จักหาความสุขใส่ตัวซะบ้างเถอะลูกเอ้ย แม่เขาเปรยๆอยู่ว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นหน้าว่าที่ลูกสะใภ้"
สันต์เขินพองามตามประสาลูกผู้ชาย
"จะคบกับผู้หญิงที่ไหนแม่ก็ไม่ว่า แต่ดูให้มันดีๆนะลูก ไอ้ประเภทสวยฉาบฉวยวันๆไม่ทำอะไรดีแต่แต่งตัวกินกับนอนอย่างลูกสาวยายแลขายขนมถ้วยนั่นน่ะไม่เอานะลูก ไม่ต้องมองให้เสียสายตาเลย"
ลูกค้าเข้ามาขัดจังหวะพอดี
"แม่ปั้น...เอาไข่เป็ดให้ซักสิบฟองจ้ะ"
ปั้นรีบแยกไปขายของ
"ไปเหอะลูก...สายแล้ว" สินบอก
"ครับพ่อ"
สันต์เดินออก สินไม่ปล่อยให้ตัวเองว่างจัดผักบนแผง
ลำยงกำลังควักขนมถ้วยใส่กระทงใบตองขายลูกค้า สันต์รีบเดินมาเพื่อลงเรือขามฟาก ลำยองเด้งพรวดขึ้นทันทีเมื่อเห็นสันต์
"มาแล้วแม่ มาแล้ว"
"เออๆๆ เอ็งก็ยิ้มหวานๆเข้าไว้"
สันต์เดินเข้ามาใกล้
"พี่สันต์ ไปทำงานแต่เช้าเลยนะจ๊ะ"
สันต์ได้แต่ยิ้มตอบ ไม่ได้คิดอะไร แลกระทุ้งลำยองให้รุกต่อ
"แวะชิมขนมถ้วยก่อนสิจ๊ะพี่สันต์ วันนี้ขนมถ้วยลำยองว๊านหวาน มั๊นมัน เพิ่งสุกร้อนๆเลย"
ลำยงเข้าใจได้ทันทีว่า ที่ลำยองแหกขี้ตาตื่นมาแต่เช้าเพื่ออะไร
"พี่ต้องรีบไปแล้วละลำยอง วันนี้สายมากแล้ว เดี๋ยวไม่ทันเรือ"
"เรือตั้งเยอะแยะ ไปสายนิดหน่อยหน่อยจะเป็นไรไป พ่อสันต์" แลว่า
"เอาไว้วันหลังเถอะนะลำยอง พี่รีบจริงๆ"
สันต์จะไป ลำยองคว้ากระทงขนมถ้วยจากมือลำยงที่กำลังจะส่งให้ลูกค้าไป ลำยงได้แต่อ้าปากค้าง
"อะไรวะ"
"งั้นพี่สันต์เอาไปกินบนเรือนะจ๊ะ"
ลำยงต้องบอกลูกค้าให้รอ เพราะต้องควักขนมใส่กระทงใหม่ สันต์อึดอัดที่ถูกยัดเยียด หักคอ ฝืนยิ้มล้วงหากระเป๋าตังค์
"เดี๋ยวพี่หาตังค์ก่อนนะ"
"ไม่ต้องจ๊ะ ไม่ต้อง ลำยองให้พี่..ฟรีฟรี"
"ไม่ดีหรอกมั้งลำยอง ของซื้อของขาย"
"เอาไปเหอะพ่อสันต์ เราคนกันเองเห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน ลำยองมันก็อยากให้ชิมด้วย"
สันต์จำใจรับกระทงขนมมา ลำยองส่งยิ้มทางสายตาให้
"ขอบใจนะลำยอง"
สันต์ไม่กล้าสบตาลำยอง รีบเดินออกไป
ยายแลรีบชนลูกสาว แล้วบุ้ยใบ้ให้รีบตามไป ลำยองรีบตามสันต์ออกไป ยายแลมองลุ้น
มือของสันต์ข้างหนึ่งประคองขนมถ้วย รีบเดินมายังไม่ทันถึงโต๊ะเก็บเงิน เรือข้ามฟากเคลื่อนออกจากท่าไปพอดี ลำยองเดินตามเข้ามา
"พี่สันต์จ๋าพี่สันต์"
"มีอะไรลำยอง"
"เย็นนี้พี่สันต์ว่างรึเปล่าจ๊ะ ลำยองอยากชวน พี่สันต์ไปดูหนังด้วยกัน"
สันต์ชะงักอึ้ง ประหม่าเพราะไม่เคยมีสาวมาชวนแบบนี้
"พี่...พี่...ยังไม่รู้เลย เลิกงานแล้วพี่ต้องรีบกลับมาช่วยแม่ขายของ"
"แหม...ลำยองอุตส่าห์ชวน หนังเรื่องนี้เขาว่าสนุ๊กสนุก นางเอกก็ซ๊วยสวย พระเอกก้อล้อหล่อลำยองอยากดู แต่ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนลำยองเลย พี่สันต์ใจดำไปเป็นเพื่อนลำยองหน่อยก็ไม่ได้"
สันต์ยังตกประหม่าบอก
"เอาไว้...เอาไว้วันอื่นเถอะนะ"
"วันอื่นก็พอดีหนังออก อดดูกันพอดี ไม่รู้ละ...เย็นนี้ลำยองจะแต่งตัวออกมาคอย พี่สันต์จะใจร้ายปล่อยให้ลำยองคอยเก้อก็ให้มันรู้ไป"
ลำยองทำแง่งอนอย่างน่าเอ็นดู แล้วเดินหนีออกมา
"เดี๋ยวสิ...ลำยอง"
คนเก็บตังค์ถาม
"เอ้าจะไปไม่ไป"
"ไปครับไป"
สันต์ต้องรีบควักตังค์ออกมาจ่ายค่าเรือ เพราะมีคนมาต่อคิวยาว เขาจ่ายเงินแล้วเดินลงไปรอเรือบนโป๊ะ มองขนมถ้วยในมือจากน้ำใจจากลำยอง แล้วมองกลับขึ้นมาบนฝั่ง..ใจเต้นตามประสาหนุ่มที่ไม่เคยมีสาวมาเปิดตัวสร้างสัมพันธ์แบบนี้
ลำยองเดินกลับมาที่เพิง
"เป็นยังไงบ้างละลำยอง" แลถาม
"เย็นนี้ก็รู้เองแหละแม่"
"เอ็งต้องจับไอ้สันต์ให้อยู่มือนา ไม่งั้นคนอื่นคาบไปกิน ข้าไม้รู้ด้วย ไอ้นี่อนาคตมันไกล วันนี้เป็นแค่จ่า แต่แม่ว่าวันข้างหน้ามันต้องได้เป็นนายร้อยนายพันกะเขาแน่ๆ เอ็งจะได้เป็นคุณนายสบายไปทั้งชาติ"
"ฉันรู้น่า" ลำยองหาวนอนยาวเหยียด
"ที่ลงทุนแต่งตัวสวยออกมาแต่เช้านี่ ที่แท้ก็มาจับผู้ชาย แล้วพี่คิดเหรอว่าผู้ชายอย่างพี่สันต์เขาจะโง่ยอมให้พี่จับน่ะ" "อีลำยง"
"จะทำอะไรก็หัดส่องกระจกดูเงาตัวเองให้ดีก่อนเหอะพี่ลำยอง ชาวบ้านชาวช่องเขาจะได้ไม่หัวเราะเยาะเอาทีหลัง"
"แม่ ฟังอีลำยงมันสิ"
"หุบปากไปเลยนังลำยง ลำยองมันพี่เอ็งนะ" แลว่า
"แทนที่จะช่วยกันทำมาหากิน ไม่มีละ"
"นังลำยองมันเกิดมามีบุญโว้ย มันมีรูปเป็นทรัพย์ ไม่เหมือนเอ็ง"
"แก่แล้วมันก็เหี่ยวเหมือนกันทั้งนั้นแหละ"
"เอ๊...นังนี่พูดไม่รู้ฟัง" แลว่า
"ฉันกลับไปนอนต่อดีกว่า ง่วงจะตายอยู่แล้ว"
"เออๆๆกลับไปนอนซะ เย็นนี้เอ็งจะได้สวยๆ"
ลำยองเดินหาวนอนลากรองเท้าแตะออกไป
ลำยงบอก
"ใจคอจะช่วยกลัดกระทงหน่อยก็ไม่ได้"
"เอ็งจะบ่นอะไรนักหนาวะนังลำยง เองนี่มันขี้อิจฉา อิจฉาแม้แต่พี่สาวตัวเอง"
"ฉันไม่ได้อิจฉาใครทั้งนั้นแหละแม่ แต่แม่น่าจะรู้ว่า ไอ้ที่คิดทำอยู่เนี่ย มันถูกมันควรรึเปล่า"
"เกิดมาขี้เหร่อย่างเองเนี่ย ชาตินี้ก็หาผัวกะเขาไม่ได้หรอก ต้องขายขนมถ้วยไปจนตายแหละวะ"
ลำยงขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้ จะเถียงตอบก็เปล่าประโยชน์
สินขายของให้ลูกค้าอยู่ ยายแลเข้ามาสำรวจ มองรอบๆอย่างไม่ใช่จะหาซื้ออะไร จังหวะนั้น ลูกค้าออกไปพอดี
"อ้าว...ซื้ออะไร ยัยแล" สินถาม
"เอาน้ำปลามาขวดนึง"
"เอาขวดมาเปลี่ยนรึเปล่าล่ะ"
"ดูสิ...ลืมซะสนิทเลย ว่าจะหยิบมาแล้วเชียว"
"วันหลังค่อยเอามาคืนก็ได้...รอเดี๋ยวนะ"
สินหันไปเพื่อหยิบน้ำปลาจากลังไม้ ยายแลฉวยโอกาสคว้าไข่เป็ดได้ฟองนึงรีบยัดใส่กระเป๋าเสื้อคอกระเช้าชั้นใน โดยหารู้ไม่ว่า ปั้นเปิดประตูออกมาจากห้องและเห็นเข้าพอดี สินได้น้ำปลา เดินออกมาหาผ้าเช็ดขวดให้และส่งขวดน้ำปลาให้
"บาทนึงจ้ะ"
แลกำลังจะหยิบเงินให้
"บาทกะสลึง" ปั้นบอก
"อะไร...ขึ้นราคาอีกแล้ว วันก่อนยังบาทนึงอยู่เลย ขายของยังงี้ คนซื้อก็ตายกันพอดี นึกจะขึ้นราคาก็ขึ้น คิดว่ามีร้านตัวเองร้านเดียวรึไงยะ"
สินอ้าปากค้างเพราะยายแลรัวเป็นชุด
"น้ำปลาน่ะบาทเดียว นี่ไม่คิดค่าขวดด้วยก็บุญเท่าไรแล้ว แต่อีกสลึงน่ะแกก็หยิบไปแล้วไงยัยแล อย่านึกว่าฉันไม่เห็นนะ"
"อะไร...หยิบอะไร นี่แกหาว่าฉันขโมยของแกเรอะยัยปั้น มาเลยตาสินแกมาค้นตัวฉันเลยก็ได้ หนอย...มากล่าวหากันพล่อยๆ คนอย่างอีแลไม่เคยลักขโมยใครโว้ย...มาสิมา มาค้น ตาสินมา"
"ฉันค้นเอง" ปั้นบอก
"ไม่เอาน่า แม่ปั้นช่างเหอะ อย่ามีเรื่องมีราวกันเลย"
แลรีบสวนกลับ โวยวายให้ดังเข้าไว้
"ขายของยังงี้ถึงได้รวยเอาๆ ที่หลังจะไม่มาซื้อแล้วไอ้ร้านเฮงซวยเนี่ย...เอาไปบาทนึง"
แลรีบตัดบท วางเงินหนึ่งบาทให้ แล้วรีบออกไปทันที
"เออ...ทีหลังอย่ามาให้เห็นหน้าอีกก็แล้วกัน" ปั้นบอก
"ไม่เอาน่า...แม่ปั้น ไปมีเรื่องกับคนพรรค์นี้ทำไม"
"ก็เห็นกับตาว่ามันแอบหยิบไข่เป็ดใส่กระเป๋าไป"
"ช่างหัวมันเหอะแม่ปั้น คิดซะว่าทำทานให้คนยากคนจน สลึงเดียวช่างมันเหอะ"
"ทั้งบ้าน...ขี้ขโมยเหมือนกันหมด ฉันละเกลียดไอ้คนก๊กนี้จริงๆ"
ปั้นยังหงุดหงิดคาใจ เดินออกไปจัดของต่อ
ยายแลถือขวดน้ำปลากลับเข้ามาในบ้าน
" ไอ้พวกหน้าโง่...เสียงดังเข้าหน่อยก็กลัวกันหัวหด ไม่รู้จักอีแลเสียแล้ว"
แลควักไข่เป็ดออกมาจากกระเป๋าเสื้อชั้นใน กระหยิ่มภูมิใจแล้วเก็บใส่กระเป๋า
"จะต้ม จะทอดดีวะ ทอดดีกว่า"
แลหันไปยกกาน้ำที่ตั้งเตาไฟมอดๆไว้ ตาปอเมาค้าง เพิ่งตื่นเดินเซเข้ามา
"หิวโว้ย...มีอะไรกินมั่งวะ ยัยแล"
"ตื่นมาก็หาของกิน สายโด่งป่านนี้แล้วฝรั่ง สับปะรดยังไม่ได้ปอกชักลูกแล้วมันจะไปทันกินอะไรวะ ตาปอ"
"ปวดหัวโว้ย ได้ถอนซักกั๊กคงจะดี เอาตังค์มาหน่อยยัยแล"
"ไม่มี"
"ขายของเมื่อวานได้ตังค์ร่วมร้อย ไม่มีได้ไงวะ"
"บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิวะ เอาไปซื้อของต่อทุนหมดแล้ว"
ปอตรงเข้ามาจะค้นตัวแล ดึงยื้อกันไปมา
"ข้าไม่เชื่อ"
แลหันไปคว้าสากกะเบือจะตีหัวปอ มืออีกข้างก็กันไข่ในกระเป๋าเสื้อไว้
"ในกระเป๋านั่นไง ผัวทั้งคน ใช้งานยังกะทาสปล่อยอดๆอยากๆได้ยังไงวะ ยัยแล"
"เอ๊ะไอ้นี่พูดไม่รู้เรื่อง"
แลตีหัวปอด้วยสากกะเบือ ปอหงายผึ่ง แลชะงัก แต่ไม่ได้ห่วงผัว มืออีกข้างล้วงไข่เป็ดที่แตกคากระเป๋าออกมา แล: "ไอ้ปอ ไข่ข้าแตกหมดเลย ไอ้...ไอ้ผัวเฮงซวย ไอ้ผัวล้างผลาญ"
ปอได้แต่นั่งมึนคลำหัวตัวเองป้อยๆ ลำยองหน้าหงิกเหมือนถูกกระชากออกมาจากที่นอนเข้ามา
"โอ้ย...มันอะไรกันนักหนา หนวกหูจังเลย คนจะหลับจะนอนเห็นใจกันมั่งไหมเนี่ย"
"นังลำยอง เอาเงินมาให้พ่อสองบาท" ปอบอก
แลเข้าทุบตีปอ
"นี่แน่ะสองบาท ขายของได้ก็แอบเม้มไปซื้อเหล้ากินหมด ยังจะมีหน้ามาขออีก"
สองผัวมียทะเลาะกันสียงดัง ไม่มีใครยอมใคร
"โอ้ย...ย หนวกหู เมื่อไหร่จะสบายกะเขาซะที"
ตอนเย็นวันเดียวกัน สันต์แต่งตัวสุภาพ รีบกินข้าวคำสุดท้ายพร้อมออกไปข้างนอกแล้ว
"เติมข้าวอีกไหมล่ะลูก" ปั้นถาม
"ไม่แล้วครับแม่ ผมอิ่มแล้ว"
"กินซะให้อิ่มๆ จะได้ไม่หิวข้างนอก ข้าวของเดี๋ยวนี้แพงยังกะอะไรดี ก๋วยเตี๋ยวชามนึง ก็เกือบจะสองบาทแล้วละมัง" ปั้นบอก
"โธ่ แม่ปั้นก็...ลูกมันจะออกไปเที่ยวทั้งทีก็ไปดักคอมันอยู่ได้" สินพูดพลางหัวเราะ
"นัดเพื่อนไว้กี่คนล่ะลูก"
สันต์เลี่ยงไปอย่างอายๆเขินๆ
"ก็...ยังไม่รู้เลยครับแม่"
ปั้นเดาเอาได้ว่า น่าจะมีผู้หญิงด้วย
"ผู้หญิงสมัยนี้ใจกล้าขึ้นทุกที กล้าจนน่ากลัว ยังไงก็ดูให้ดีนะลูกนะ"
"ครับแม่"
"ขยับหลายรอบแล้ว จะไปก็ไปเหอะลูก จานชาม เดี๋ยวพ่อล้างเอง"
"ครับพ่อ ...ผมคงกลับไม่ดึกหรอกครับ"
"พ่อจะรอเปิดประตูให้เองตะโกนเรียกละกัน"
"ครับพ่อ"
สันต์ขยับไปใส่รองเท้าแล้วออกไป
"แม่ปั้นก็..ไปเข้มงวดกับมันมาก ลูกมันถึงไม่มีแฟนกะเขาซะที" สินบอก
"ที่ต้องเข้มงวดก็เพราะห่วงมันน่ะแหละได้เมียดีก็เป็นศรีแก่ตัวมันเอง"
"ลูกมันรู้น่าแม่ปั้น...การศึกษามันก็ไม่ใช่น้อยๆ เราเองก็สั่งสอนอบรมไม่ได้ขาดตกบกพร่อง ลูกมันต้องคิดเองได้น่า อย่ากังวลไปนักเลย"
สันต์เดินมาถึงเพิงขายขนม มองหาไปรอบๆก็ไม่เห็นลำยอง เขาดูนาฬิกา...ไม่แน่ใจว่า ตัวเองมาช้าเกินไปรึเปล่า
"พี่สันต์"
สันต์หันไปมองแล้วต้องตะลึง ลำยองเดินยิ้มเข้ามาหา แต่งตัวสวยกว่าทุกวัน เขาใจเต้น
"ลำยองนึกว่าพี่สันต์จะไม่มาซะแล้ว"
"พี่...พี่ ก็นึกว่าลำยองจะไม่มาแล้วเหมือนกัน"
ลำยองหัวเราะน่ารัก
"พี่สันต์คิดว่าลำยองจะใจร้ายหลอกพี่ได้ลงคอเหรอจ๊ะ"
"เปล่าๆๆ พี่ไม่ได้คิดยังงั้น"
"ไม่ได้คิดยังงั้น แล้วคิดยังไงจ๊ะ"
สันต์ตกประหม่า ไม่เคยถูกผู้หญิงไล่ต้อน มือไม้ไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหน
"กินข้าวมารึยัง"
"ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ใครเขากินข้าวมาก่อนกันล่ะจ๊ะพี่สันต์ ตกลงเราดูโรงไหนกันดี"
"พี่...แล้วแต่ลำยองก็แล้วกัน"
"ดีจัง...อะไรก็แล้วแต่ลำยอง พี่สันต์น่ารักที่สุดเลย"
สันต์เขินจนไม่กล้าสบตาลำยอง
สันต์ก้าวจากโป๊ะลงเรือไปก่อน
"พี่สันต์ รอลำยองด้วย ลำยองกลัว โป๊ะมันโยกเยก"
"ไม่เป็นไรหรอก ลำยองก็ก้าวมาสิ"
ลำยองยื่นมือออกมา
"พี่สันต์ต้องช่วยจับลำยองไว้นะ"
สันต์ต้องยื่นมือออกไปรับ จับมือลำยอง เธอใส่จริตหวาดเสียวร้องวี๊ด ว๊าย แล้วก้าวเซลงเรือโถมตัวเองเข้าชนปะทะเขา
สันต์รับลำยองไว้จนกลายเป็นโอบ เนื้อสาวแนบเนื้อหนุ่มกระแสไฟฟ้าแล่นพล่าน เขาค่อยๆผละออกอย่างแนบเนียน ทั้งที่ใจเต้นแรง
"ลงเรือทีไร ลำยองกลัวทุกทีเลยพี่สันต์ กลัวตกน้ำป๋อมแป๋ม"
ลำยองหัวเราะน่ารัก สันต์รู้สึกตัวลอยอย่างบอกไม่ถูก
เรือค่อยๆแล่นออกจากท่าไป
มุมหนึ่ง ฝั่งกรุงเทพฯ ผู้คนแต่งตัวสวยหล่อสัญจรไปมายามค่ำ ลำยองเดินอยู่กับสันต์
"หนังสนุ๊กสนุกนะจ๊ะพี่สันต์ ลำยองอยากดูอีกรอบนึงจังเลย นางเอกซ๊วยสวย พระเอกก็หล่อ หล่อเหมือนพี่สันต์เลย"
สันต์ยิ้ม รู้สึกสบายๆ เป็นกันเองขึ้นกับลำยอง
"ลำยองร้องไห้ตั้งสองครั้งแน่ะ สงสารนางเอก พี่สันต์แอบเห็นรึเปล่าก็ไม่รู้ ลำยองอายจังเลย"
"เดี๋ยวเรือหมด...เรากลับกันดีกว่านะลำยอง"
"แหม...เพิ่งจะสามทุ่มกว่าเอง ยังไม่ดึกซะหน่อย"
"พรุ่งนี้พี่ต้องไปซื้อของให้แม่ ตั้งแต่ตีสาม"
"แต่ตอนนี้ ลำยองหิ้วหิว ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย เราไปหาข้าวต้มอร่อยๆกินกัน ก่อนนะจ๊ะพี่สันต์..นะจ๊ะ"
สันต์ยากที่จะปฏิเสธ
ร้านข้าวต้มโต้รุ่งพลุกพล่านด้วยผู้คนและเด็กเสิร์ฟ ลำยองนั่งกินข้าวต้มกับสันต์
"พี่สันต์ออกมาดูหนังบ่อยไหมจ๊ะ"
"ไม่หรอก นานๆ ถึงจะได้ออกมาที"
"แล้วเวลามาดูหนัง พี่สันต์มากับใครจ๊ะ"
"ก็มาคนเดียวบ้าง มากับเพื่อนบ้าง"
"เพื่อนผู้หญิง หรือผู้ชายจ๊ะ"
"พี่...พี่ไม่มีเพื่อนผู้หญิงหรอกลำยอง"
"ลำยองจะเชื่อพี่สันต์ดีไหมน้า"
สันต์เขินจนพูดไม่ออก
"พี่สันต์ทายซิว่าปีนี้ลำยองอายุเท่าไหร่แล้ว"
"พี่ทายไม่ถูกหรอก อย่าให้พี่ทายเลย"
"แม่น่ะถามลำยองทุกวันว่า เมื่อไหร่จะมีแฟนซะที ความจริงก็มีคนมาจีบลำยองหลายคนเหมือนกันนะจ๊ะ แต่ลำยองไม่สนหรอก พี่สันต์รู้ไหมว่าทำไม"
สันต์ส่ายหน้า
"ก็ลำยองอยากเป็นแฟนพี่สันต์คนเดียวนี่จ๊ะ"
สันต์สำลักข้าวต้มทันที ลำยองหัวเราะ เขาควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋า แต่ช้าเกินไป เธอยื่นผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปากให้เขา
"ไม่เป็นไรหรอกลำยอง"
"พี่สันต์อยู่เฉยๆเหอะลำยองเช็ดให้"
เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบตาลำยอง เธอประสานสายตาตอบ อย่างไม่สะทกสะท้าน
เรือข้ามฟากเที่ยวสุดท้าย เคลื่อนเข้ามาที่โป๊ะ ผู้คนรอเรือบางตา สันต์กับลำยองยืนคอยเรืออยู่มุมหนึ่งบนโป๊ะ
"โชคดีนะที่เรามาทันเรือเที่ยวสุดท้าย ไปลำยอง"
ลำยองไม่ยอมขยับ
"แต่ลำยองยังไม่อยากกลับบ้านเลย"
"ไปเถอะดึกแล้ว เดี๋ยวไม่มีเรือ"
ลำยองดึงแขนสันต์ไว้
"ไม่มีก็ช่างมันสิจ๊ะ ลำยองมีพี่สันต์ลำยองไม่กลัวอะไรทั้งนั้น"
"เดี๋ยวพ่อกับแม่ลำยองจะเป็นห่วงเอาเปล่าๆ"
"พี่สันต์รังเกียจลำยองเหรอจ๊ะ"
"เปล่า..เปล่า พี่จะรังเกียจลำยองไปทำไม"
"ไม่รังเกียจก็พาลำยองไปเที่ยวต่อสิจ๊ะ"
สันต์ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
"พี่ไม่รู้ ลำยอง...อยากไปไหนล่ะ"
"พี่สันต์อยากพาลำยองไปไหน ลำยองก็ไปทั้งนั้นแหละจ๊ะ"
ลำยองขยับเข้าชิดเบียดสันต์
เด็กประจำโป๊ะถาม
"ไปรึเปล่าคุณ...เรือจะออกแล้ว"
ลำยองนิ่ง สันต์ลังเลจนพูดไม่ออก แค่พาลำยองลงเรือกลับบ้านทุกอย่างก็จบ แต่โอกาสดีๆอย่างนี้จะหาได้อีกเมื่อไร่
เรือค่อยๆแล่นออกจากโป๊ะ
บนเรือที่แล่นห่างออกมา ทิ้งสันต์กับลำยองที่ยืนเบียดกันอยู่บนโป๊ะ
สินนั่งอ่านหนังสือธรรมะ หาวง่วงนอน แล้วหันไปดูนาฬิกา เพราะแน่ใจว่าดึกมากแล้ว ปั้นออกมาจากห้องจะเข้าห้องน้ำ
"สันต์มันยังไม่กลับมาอีกเหรอพี่"
"รอเปิดประตูให้มันอยู่เนี้ยะ"
"นี่มันจะสองยามอยู่แล้วนา"
"มันก็คงคุยสนุกกับเพื่อนๆอยู่แหละ แม่ปั้นไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวมันก็มา"
"พี่น่ะแหละ จะมานั่งถ่างตารอมันไหวเหรอ"
"ไหว...ฉันก็อ่านหนังสือไปเพลินๆนี่ไง"
ปั้นพยักหน้าแล้วเดินออกไปทางห้องน้ำ
ดึกสงัดแล้ว สันต์เดินมาส่งลำยองหน้าบ้าน ลำยองเกาะแขนสันต์เหมือนอิ่มปิติสุขล้นทรวง
"คืนนี้ลำยองมีความสุขที่สุดเลยจ๊ะพี่สันต์ พี่สันต์รักลำยองไหม"
สันต์มีความสุขจนล้นพอกันได้แต่พยักหน้า
"รักลำยองพี่ต้องไม่ทิ้งลำยองนะจ๊ะ"
"พี่จะทิ้งลำยองได้ยังไง"
ลำยองกอดสันต์
"ลำยองเข้าบ้านเถอะ ดึกมากแล้ว"
ลำยองจูบแก้มสันต์ ก่อนจะวิ่งไปที่ประตูบ้าน สันต์เดินออกมาชื่นมื่น เกิดมาไม่เคยมีความสุขปานขึ้นสวรรค์อย่างนี้เลย
สินเดินมาเปิดประตู เพราะสันต์เคาะเรียก
"พ่อครับ...พ่อ"
"เออๆ มาแล้ว"
สันต์เข้ามา
"พ่อเลยต้องลำบากเพราะผมต้องมาคอยเปิดประตูให้"
"พ่อยังไม่ง่วงหรอก เป็นไงล่ะสนุกไหม"
"ก็...ครับ"
"ไปอาบน้ำอาบท่าซะไป แล้วพรุ่งนี้ตีสามจะลุกไหวไหมล่ะ"
"ไหวครับไหว"
"พ่อเข้านอนก่อนนะ"
"ครับพ่อ"
สินเดินแยกเข้าห้อง สันต์ที่ค่อยๆถอดรองเท้า สีหน้ายิ้มมีความสุข คืนนี้เขาได้ใช้ความเป็นชายอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
เช้าวันใหม่ ปาน น้องคนสุดท้องของลำยอง นำกลุ่มเด็กๆ รุ่นเดียวกัน เล่นทอยกองเอาเงินกันจริงๆอยู่แถวหน้าบ้านปั้น ปั้นหิ้วถังน้ำออกมารดน้ำต้นไม้พอดี
"มึงจ่ายกูมาซะดีๆ ไม่งั้นกูชกแน่" ปานบอก
"อะไรกัน ตัวเท่านี้ริอ่านเล่นการพนันกันแล้ว ลูกเต้าเหล่าใครกันเนี่ยะ"
"ลูกพ่อปอ แม่แล"
"ไอ้ป่องนี่เอง พ่อแม่ไม่เคยสั่งสอนรึไงว่าการพนันมันเป็นสิ่งไม่ดี"
"ไม่ได้สอน แม่ก็เล่นไพ่บ่อยๆ"
"แล้วโรงเรียนไม่ไปกันรึไง มาสุมเล่นกันอยู่เนี่ยะ"
"ขี้เกียจไป...แม่บอกว่าจะเรียนไปทำไมอยู่บ้านช่วยกันขายของดีกว่า"ป่อง น้องลำยองอีกคนบอก
"เจริญละ"
สินตามออกมา
"ไปเลยนะ กลับบ้านกลับช่องไปได้แล้ว ถ้าขืนยังเล่นเอาเงินกันอีกจะเรียกตำรวจมาจับให้หมดเลย"
เด็กๆวิ่งแตกกระเจิงกันไป
"ไอ้เด็กพวกนี้ มันน่าตีนัก"
"เด็กมันจะไปรู้อะไรแม่ปั้น คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เคยอบรมสั่งสอน แถมยังทำตัวเป็นตัวอย่างไม่ดีให้เด็กมันเห็นอีกด้วย เด็กมันก็เอาเป็นเยี่ยงเป็นอย่าง น่ะซิ"
"นึกไม่ออก...มันจะโตเป็นผู้ใหญ่อีแบบไหนกัน"
อ่านต่อหน้า 2
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 1 (ต่อ)
เย็นนั้น ที่เพิงขายขนมยายแล ลำยงกำลังเก็บข้าวของอุปกรณ์เตรียมกลับบ้าน
"ขนมถ้วยจ้า ขนมถ้วย"
มีแต่คนเดินผ่านไปมา ไม่มีใครซื้อ
"โอ๊ย...เหลือบานเบอะ มันอะไรกันนักหนาโว้ย"
ลำยองนั่งตะไบเล็บตัวเองอยู่ใกล้ๆ
"ขายไม่หมดก็เอาไว้แจกเด็กๆ มันก็ได้แม่" ลำยงบอก
"ทุนหายกำไรหดโว้ย"
สันต์เดินมาจากท่าเรือจะกลับบ้าน แลเห็นสันต์เข้าพอดีก็รีบสะกิดลำยอง
" นังลำยอง นังลำยอง"
"อะไรแม่"
สันต์เดินยิ้มผ่านมา ลำยองเห็นพอดี
"พี่สันต์...วันนี้ขนมขายไม่ดีเลย พี่สันต์ช่วยเหมาหน่อยสิจ๊ะ"
แลยิ้มย่อง ลำยงไม่แปลกใจความใจกล้าของพี่สาว ออกจะระอาด้วยซ้ำ
ลูกค้าซื้อกับข้าวรอบเย็นที่แพท่าน้ำของแม่ปั้นกันอย่างคึกคัก ปั้นกับสินช่วยกั ขายของ มือเป็นระวิง สันต์กลับเข้ามา หอบกระทงขนมถ้วยเต็มไม้เต็มมือ
"ผมกลับมาแล้วครับแม่"
"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะลูก จะได้ออกมาช่วยกันขายของหน่อย แล้วนั่นหอบอะไรมาเยอะแยะ" ปั้นว่า
"ขนมถ้วยครับ"
"ขนมต้ม บ้านเราก็มีตั้งเยอะ จะซื้อมาทำไม"
"ผมช่วยเหมาลำยองเขามาน่ะครับแม่"
สันต์เดินเข้าห้องไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ปั้นมองตามอย่างแปลกใจตะหงิดๆ
"แม่ปั้น...ทอนเงินให้หน่อย"
ปั้นเดินไปรับเงินลูกค้า ชักกระป๋องเงินลงมาทอนเงินลูกค้า เมื่อลูกค้าออกไปแล้ว
"เป็นอะไรแม่ปั้น"
"ฉันว่ามันชักจะยังไงๆ แล้วล่ะพี่สิน"
"อะไร...แม่ปั้นพูดเรื่องอะไร"
"ก็ลูกชายเรากับลำยองน่ะสิ"
เวลากลางคืน สันต์ขัดรองเท้าคัดชูของตัวเองจนมันวับอย่างตั้งอกตั้งใจ จนเสร็จ แล้ววางรองเท้าไว้ที่มุมหนึ่ง
ปั้นกับสินนั่งอยู่ด้วยกัน
"พ่อครับ แม่ครับ พรุ่งนี้ผมอาจจะกลับค่ำหน่อยนะครับ"
"จะไปเที่ยวกับเพื่อนเหรอ" สินถาม
"ครับ...นัดเอวไว้แล้วครับ"
"วันหลังก็พามาให้พ่อแม่รู้จักเห็นหน้าค่าตาหน่อยสิสันต์เอ้ย"
สันต์ยิ้มอาย
"ครับพ่อ"
"จะคบกับใคร แม่ก็ไม่ว่า เพราะแม่แน่ใจว่า ลูกต้องเข้าตามตรอกออกทางประตูถูกต้อง ไม่ได้ไปลักกินขโมยกินลูกสาวบ้านไหน แต่แม่ขออย่างเดียว ถ้าคิดจะจริงจังกับใครก็ดูให้ดีๆ ได้เมียดีก็เป็นศรีแก่ตัวไอ้ประเภทเลอะเทอะ หยิบโหย่ง วันๆไม่ยอมทำอะไรอย่างนังลำยอง ลูกสาวยายแลหนะ อย่าได้คว้ามาทำเมียเชียว จะเสียใจไปทั้งชาติ"
สันต์อึ้งหน้าชาวูบๆได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน
เช้าวันใหม่ที่บ้านยายแล มะพร้าวแก่ในมือถูกอีโต้เฉาะเปิดเป็นสองซีก น้ำมะพร้าวแตกกระจาย
ยายแลเฉาะมะพร้าวลูกแล้วลูกเล่า แล้วโยนใส่กระบุง ลำยงนั่งคร่อมกระต่ายขูดมะพร้าวมือเป็นระวิง ลำดวน น้องสาวคนถัดไปต่อจากลำยง นั่งแทะจาวมะพร้าวอยู่ใกล้ๆ
"มัวกินอยู่นั่นแหละ ไปขนของใส่รถเข็นโน่น นังลำดวน สายแล้ว ป่านนี้ยังไม่ได้ตั้งไฟเลย"
ลำยองหน้าตายุ่งเหยิงเพิ่งลุกออกมาจากที่นอน ถือแปรงสีฟันขันน้ำออกมาจะแปรงฟัน ลำยองแทบจะเดินก้าวข้ามกาละมังมะพร้าวที่ขูดไว้แล้ว
"เอ้าๆ ของกินของซื้อของขายตั้งอยู่ทนโท่เนี่ยะ เดินข้ามได้ไงวะ"
"เรื่องของข้า ที่อื่นมีตั้งเยอะทำไมไม่ไปขูด เสือกมาขูดขวางทางข้า"
ลำยองบ้วนน้ำ เริ่มแปรงฟัน
"อีลำยง เอ็งนี่หาเรื่องแต่เช้า" แลบอก
"โอ้ย...ฉันเองก็ไม่อยากจะมีเรื่องกับลูกสาวคนโปรดแม่นักหรอก"
ลำยองชะงักเพราะเกิดคลื่นไส้อาเจียนอย่างแรง
"เออ...งั้นก็หุบปากไปเลย นังลำดวนเข็นรถไปร้าน นั่งเซ่ออยู่นั่นละ"
แลตะโกนเข้าบ้านเรียกผัว
"ไอ้ปอตื่นได้แล้ว สับปะรดยังไม่ได้ปอกซักหัว จะทันกินคนอื่นเขาไหมเนี่ยะ"
จู่ๆ ลำยองก็อ้วกแตกเสียงดังแบบไม่เกรงใจใคร แถมไม่มีหลบด้วย ลำยงกระเจิงลุกพรวดหนีและยังมีสำนึกพอ อุตส่าห์คว้ากาละมังมะพร้าวขูดแล้ววิ่งออกมาด้วย
"โอ้โห...ใจคอ จะหันไปทางอื่นหน่อยก็ไม่ได้"
"เอ็งเป็นอะไรแต่เช้าวะ นังลำยอง" แลถาม
"ไม่รู้...มึนหัวตั้งแต่ตื่นแล้ว"
ลำยองอ้วกเสียงดังอีกชุด แลรีบเข้ามาลูบหลังลำยอง
"เอ็งไปกินอะไรมาวะ"
ลำยองพูดไม่ออก ได้แต่โบกมือปฏิเสธ
"เอ็งอย่ามาไม่สบายเอาตอนนี้นะโว้ย เงินทองยิ่งไม่ค่อยจะมีอยู่ ค่ามดค่าหมอค่ายาไม่ใช่บาทสองบาท"
แล้วยายแลก็ชะงัก นึกบางอย่างได้
" เฮ้ย...นังลำยอง หรือว่า....หรือว่าเอ็งท้อง"
ลำยองชะงัก หัวแทบทิ่ม ไม่เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน
ในเวลาต่อมา ที่เพิงขายขนมยายแล สันต์ยิ้มเจื่อนแล้วซีดสนิท เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยายแล
"แน่แล้วเหรอลำยอง" สันต์ถาม
ลำยองได้แต่ก้มหน้าร้องให้อยู่ข้างแม่
"พ่อสันต์พูดยังงี้ได้ยังไง มันเหมือนดูถูกกันชัดๆ ก็นังลำยองมันออกไปเที่ยวกับพ่อสันต์มาตั้งกี่ครั้งแล้วล่ะ" แลว่า
"ห้า...ทำไมข้าไม่เคยรู่เลยวะ ว่าเอ็งได้เสียกัน" ปอบอก
"เอ็งหุบปากไปตาปอ ถ้าลำยองมันไม่ท้องก็จะไม่รับผิดชอบรึไง พ่อสันต์"
ยายแลพูดเสียงดัง ผู้คนที่ผ่านไปมามองกันเข้ามา เพราะยังไงคนทะเลาะกันก็เป็นเรื่องสนุก
"เปล่าครับเปล่า ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น"
ลำยงเห็นใจสันต์ ได้แต่มองอย่างเวทนา..ซวยจริงๆ ลำดวนสาระแนเกาะติดสถานการณ์
ลำยงขายของต่อไป
"ขนมถ้วยจ้า ขนมถ้วย"
"แล้วจะเอายังไง จะปล่อยลูกสาวฉันท้องโตไปเรื่อยๆ ไม่รับผิดชอบไม่ได้นะ ฉันก็อายชาวบ้านเขาเป็นเหมือนกัน เป็นถึงชายชาติทหารถ้าคิดจะมาเจาะกินไข่แดงลูกสาวฉันฟรีๆ อีแลจะฟ้องให้ถึงกองทัพเลย ไม่เชื่อก็คอยดู"
"ผมต้องรีบไปทำงานก่อน กลับมาเย็นนี้ค่อยคุยกันได้ไหมครับ"
"ถ้าคิดจะเบี้ยว แม่จะประจานให้ทั่วบางเชียว"
สันต์อื้ออึง หน้าชา ขยับเดินออกมา
ลำยองร้องไห้ฟูมฟาย ขยับตาม เข้ามาเกาะแขน บีบน้ำตา
"พี่สันต์...อย่าทิ้งลำยองนะจ๊ะ ลำยองกลัว"
"ไม่ต้องกลัวหรอกลำยอง พี่ไม่ทิ้งลำยองหรอก เย็นนี้ค่อยคุยกัน...นะ"
สันต์จำใจผละออกมา ลำยองปั้นเรื่องร้องไห้ดังๆ สันต์อื้ออึงจนแทบจะเดินไม่เห็นทางข้างหน้า
สินอยู่ที่แพขายของท่าน้ำ รู้เรื่องเข้าก็ตะลึงปนช็อก
"แกว่าอะไรนะยายแล ลูกสาวแกไปท้องกับใคร"
"หัดแคะขี้หูซะมั่งสิ จะได้ไม่ต้องพูดหลายครั้ง นังลำยองมันท้องกับไอ้สันต์ลูกชายแก"
ลำยองเหมือนได้คิว ทำเสียงพะอืดพะอมเหมือนจะอ้วก
"อ้วกแตกอ้วกแตนขนาดนี้ เด็กมันก็คงเป็นตัวแล้ว" แลบอก
"นี่ไปหาหมอ ให้หมอเขาตรวจดู แน่รึยัง" สินถาม
"ยังไม่ได้ไปนี่หว่ายายแล" ปอบอก
แลฟาดผัวที่ปากดี
"ไม่ต้องรอให้หมอบอก ยังไงมันก็ท้อง เอ็งว่าไปนังลำยอง"
"ประจำเดือนฉันไม่มาตั้งหลายเดือนแล้ว กี่เดือนแล้วก็ไม่รู้ ไม่เคยนับ"
สินพูดไม่ออก
"แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง ว่าลูกสาวแกได้กับลูกชายฉันคนเดียว" ปั้นว่า
ยายแลโกรธจี๊ด ขึ้นเสียง
"นังปั้น"
"เอ็งได้กะใครอีกเหรอวะนังลำยอง" ปอถาม
"จะบ้าเหรอพ่อ ฉันมีพี่สันคนเดียวจริงๆ ให้สาบานต่อหน้าพระก็ได้ ให้ตายโหงตายห่าสิเอ้า"
แลถึงขั้นถกผ้าถุงชี้หน้า
"พูดยังงี้มันดูถูกกันเกินไปแล้วโว้ย จะไม่ยอมรับผิดชอบก็บอกมาเหอะ คุย...ทำเป็นธรรมะธัมโม ใส่บาตรพระทุกวัน พวกเองไม่มีทางได้ขึ้นสวรรค์กันหรอก ลงนรกชัดๆ ถ้าพวกเอ็งไม่ยอมรับนังลำยองมันเป็นสะใภ้"
"สะใภ้แบบนี้ ถึงต้องลงนรก ข้าก็ไม่เอา" ปั้นบอก
"แม่ปั้นๆ ใจเย็นๆ"
ลำยองบีบน้ำตาปล่อยโฮดังขึ้นไปอีก
"ไอ้ลูกชายตัวดีเอ็งมันเสียชาติเกิดมาเป็นทหาร"
"ค่อยๆ พูดกันดีๆก็ได้ยายแล" สินบอก
"ไม่ดีด้วยแล้วโว้ย ...อีกสามวันถ้าพวกเองไม่ยกขันหมากไปสู่ขอตบแต่งนังลำยองมันให้ถูกต้องตามประเพณี อีแลนี่แหละจะประจานไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันทั้งโคตรเชียวละมึง ไปนังลำยอง"
แลฉุดกระชากลำยอง ปอลูบคลำขวดเหล้าโรงบนชั้นใกล้ๆน้ำลายสอ
"ไอ้ปอ"
ปอสะดุ้ง จำใจตามเมียและลูกสาวออกไป
"เอ็งไม่ต้องบีบน้ำตาตอนนี้ นังลำยองโง่นัก...ให้มันหลอกกินไข่แดงเอาฟรีๆ"
ปั้นกำมือแน่น ตัวเย็นไปหมด ใจเต้นแรงหน้าซีด สินได้แต่ถอนใจ หนักอก ปั้นเซเป็นลมเกือบจะล้มตึงลงไป สินคว้าตัวไว้ได้ทัน
"แม่ปั้นๆ"
พ่อ แม่ ลูกเดินกลับมาที่เพิงขายขนม
ยายแลบอก
"ไอ้คนโคตรนี้มันหน้าบาง ยังไงมันก็ต้องมา เอ็งเชื่อข้าสิ"
"แล้วถ้าเกิดเขาไม่มาล่ะแม่"
"เรามีปากจะไปกลัวอะไรวะ ขืนไม่มาก็โพทะนาประจานมันเข้าไป ตาปอมาช่วยกันคิดซิ จะเรียกสินสอดมันเป็นอะไรมั่ง"
"เหล้าฝรั่งซักห้าขวด"
ยายแลฟาดเข้าให้
"นี่แน่ะเหล้าฝรั่ง"
"ก็เกิดมาข้ายังไม่เคยกินเลยนี่หว่า รสชาติมันเป็นยังไงก็ไม่รู้"
ลำดวนบอก
"เผลอแว๊บๆ พี่ลำยองจะได้ผัวแล้ว ดีจังเลย โรงเรียนก็ไม่ต้องไป อยู่บ้านให้ผัวเลี้ยง สบายใจเฉิบ"
"เอ็งอย่ามาทำแก่แดดแถวนี้ ไปไกลๆเลย" ลำยงบอก
"เราเรียกทองซักสิบบาท ดีไหมแม่" ลำยองบอก
"สิบบาทเรียกมันทำไม นังปั้นมันรวยมีทองเป็นหีบๆ เรียกมันซักยี่สิบบาทไปเลย"
"น่าสงสารจัง" ลำยงบอก
"เอ็งสงสารพี่เองก็มาช่วยกันคิด จะเรียกอะไรมันอีกดี เอาให้ตั้งตัวได้หน่อย"
"ฉันไม่ได้สงสารพี่ลำยอง ฉันสงสารพี่สันต์กับพ่อแม่เขาต่างหาก ซวยจริงๆ เลยได้ลูกสะใภ้เข้าบ้านทั้งที หาให้ได้ดีกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้"
"อีลำยง" ลำยองตวาดเสียงดัง
ลำยงเดินเลี่ยงออกไปอย่างสาแก่ใจ
"อีนี่มัน ผ่าเหล่าผ่ากอ อย่าไปสนใจมัน มันอิจฉาเอ็งเฉยๆ"
ชาวบ้านผ่านมาพอดี ยายแลได้โอกาสปล่อยข่าวทันที
"ยัยฟัก...แกรู้เรื่องลูกชายยายปั้นมันทำผู้หญิงท้องรึยัง"
"ตาสันต์หนะเหรอ ทำผู้หญิงท้อง" ฟักถาม
"ก็เออน่ะสิ มันเจาะไข่แดงเขาแล้ว ทำท่าจะไม่ยอมรับผิดชอบด้วยนา"
"ไม่น่าเป็นไปได้นะ พ่อสันต์เขาดูเป็นคนดีออก อีผู้หญิงคนนั้นมันให้ท่าจะจับเขาทำผัวหวังสบายรึเปล่า"
"ไม่หรอก ผู้หญิงเขาดี๊ดี เป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว"
"ลูกสาวใครล่ะยายแล"
"จะลูกสาวใคร ก็นังลำยองลูกสาวฉันหนะสิ ดูเอาเถอะ ท้องโย้แล้วเห็นไหม"
ลำยองตีหน้าเศร้าซับน้ำตา ยายแลประจานตัวเองอย่างเมามัน ยายฟักได้แต่พะอืดพะอม
สันต์กลับเข้าบ้านมาตอนเย็น พอรู้เลาๆ แล้วว่า เกิดอะไรไปบ้าง ในแพเงียบเหงา สันต์เห็นพ่อนั่งกอดเข่านั่งเศร้าใจอยู่ที่บันไดท่าน้ำ
แม้จะเห็นแต่ด้านหลังก็จริง แต่รู้สึกได้เลยว่า สินแบกความทุกข์ใจไว้เพียงใด สันต์ค่อยๆ เดินเข้ามาหา
"พ่อครับ"
สินหันกลับมาฝืนยิ้ม พยายามทำเป็นปกติที่สุด
"กลับมาแล้วเหรอลูก หิวไหม ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะก่อนไป เดี๋ยวค่อยคุยกัน"
สันต์ใจแป้ว
"แม่ละครับ พ่อ"
สินไม่ตอบได้แต่มองไปที่ห้อง แล้วตบไหล่ลูกแทนคำพูดทั้งหมดในหัวใจ
สันต์เปิดประตูเข้ามาในห้องเรือนแพเห็นนอนตะแคง ลืมตาอยู่บนเสื่อกลางห้อง สันต์ค่อยๆ เดินเข้ามาหา ทรุดตัวลงนั่งข้างปั้น
"แม่ครับ"
ปั้นหลับตาลง ผิดหวังอย่างที่สุด
"พ่อบอกว่า แม่เป็นลม"
สินตามเข้ามาเงียบ ๆ
"แม่โกรธผมมากใช่ไหมครับ"
ปั้นน้ำตาไหล
"จะทำอะไร ทำไมไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจให้ดี ลูกหนอลูก"
"ผมขอโทษครับแม่ ผมพยายามแล้ว แต่ผมสู้ใจตัวเองไม่ได้"
"ผู้หญิงดีๆ มีตั้งเยอะ ทำไมต้องเป็นลูกสาวยายแลมันด้วย"
"แม่ปั้น...ไหนๆ มันก็เลยเถิดกันมาถึงขั้นนี้แล้ว เราคงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ทำใจชะเถอะนะ ลูกเรามันก็คงรักลูกสาวเขาจริงๆ หนะแหละ อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไปนักเลย"
ปั้นปาดน้ำตาแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง
"ยังไงเด็กในท้องมันก็ได้ชื่อว่าเป็นหลานของเรานะแม่ปั้น...แม่ปั้นควรจะดีใจแล้วก็ภูมิใจที่อย่างน้อย ลูกเรามันก็สมชายชาติทหาร มันพร้อมจะรับผิดชอบสิ่งที่มันได้ทำลงไป"
สันต์ก้มลงกราบแทบตักแม่ ปั้นได้แต่ลูบหัวลูก ให้อภัย น้ำตาไหลพราก
วันใหม่ เวลากลางวัน ที่บ้านยายแล ห่อสินสอด ทองหมั้นถูกวางลงตรงหน้ายายแลกับตาปอ
"ไม่มีเหล้าฝรั่งติดมาซักขวดเลยเหรอวะ"
สินกับปั้นมองหน้ากัน อเนจอนาถใจ
"นี่มันสินสอดทองหมั้นโว้ย...ตาปอ เอ็งอยากเหล้าเดี๋ยวค่อยขอพ่อลูกเขยเขาทีหลังก็ได้ .ลำยอง เอ๊ย...เข้ามาใกล้ๆแม่จะเปิดห่อละนะ" แลว่า
ปอดึงพานไปจะแกะห่อผ้าออกดู แลฟาดแขนปอแล้วแย่งห่อผ้ากลับมา
"ข้าเป็นแม่มัน ข้าต้องเป็นคนเปิดโว้ย นี่มันค่าน้ำนมที่ข้าเลี้ยงมันมา"
แลเปิดห่อผ้า
ในห่อผ้าประกอบด้วยเงินสินสอดสองพันบาท สร้อยทองคำห้าบาท
"แค่เนี้ยะเหรอวะ"
"จะเอาอะไรนักหนาอีก เงินนั่นก็ตั้งสองพัน ทองอีก"
"ทองจริงทองปลอมก็ไม่รู้ เอ็งกัดดูซิตาปอ"
"ถ้าแค่นี้ไม่พอใจก็ไม่ต้องแต่ง" ปั้นบอก
"งานเลี้ยงโต๊ะจีนก็ไม่มี ทำงุบงิบๆ เหมือนไม่เต็มใจทำ ยังงี้ มันไม่ไว้หน้ากันนี่ ยัยปั้น"
"ก็แล้วแต่จะคิด จะไม่ยกลูกสาวแกให้ฉันก็ไม่ว่าอะไร"
แลฉุนจี๊ด
"แม่...รับๆ มาก่อนเหอะ อย่าเพิ่งโลภมากนักเลย"
แลกระฟัดกระเฟียด ห่อเก็บของหมั้น แล้วยัดใส่พุงใต้ชายเสื้อ
"พรุ่งนี้ค่อยไปทำบุญเลี้ยงพระที่วัด วันนี้ผูกข้อไม้ข้อมือ พอเป็นพิธีไปก่อน" สินว่า
"ลำยองเอ๊ย เอ็งเข้าไปกราบพ่อผัวแม่ผัวซะลูกเอ๊ย เขาจะได้เมตตาเอ็งมากๆ"
"จ้ะแม่"
ลำยองคลานตูดโด่งเข้ามากราบปั้นกับสิน สามครั้งแบบกราบพระ
"กราบคนน่ะ กราบทีเดียว แล้วก็ไม่ต้องแบมือ กราบสามทียังงี้น่ะ กราบพระ" สินบอก
"เหรอจ๊ะ .ลำยองไม่รู้"
ลำยองหัวเราะใสๆ
"เรื่องมาก...มันก็เหมือนๆกันน่ะแหละ" แลบอก
สินกับปั้นชักระอาใจ ป่องเดินอ้อมมาสะกิดสันต์
"เป็นพี่เขยน้องเมียกันแล้ว ขอตังค์หน่อยสิพี่สันต์"
สันต์ตั้งรับไม่ถูก วันข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง
ลำยง,ลำดวน อยู่โยงขายขนมที่เพิง ปั้นกับสินเดินมาจากบ้านยายแลจะกลับบ้าน สันต์ตามหลังพ่อแม่
ลำดวนสะกิดลำยง
"พี่สันต์"
สันต์เดินเข้ามาหาลำยง ส่วนปั้นกับสินเดินกลับบ้าน
"เสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอพี่"
"ทำแค่พอเป็นพิธีเท่านั้นเอง" สันต์บอก
"พี่นี่โชคร้ายจริงจริ๊งที่ดันมาได้พี่สาวฉัน แต่เอาเถอะนะ ได้อยู่กับคนดีๆอย่างพี่ ลุงสิน ป้าปั้น พี่ลำยองมันคงจะรู้จักปรับปรุงตัวเองบ้างละน่า แล้วนี่มันจะย้ายไปอยู่กับพี่เมื่อไหร่"
"ก็คงวันนี้แหละ พี่ต้องไปจัดห้องหับก่อน เดี๋ยวจะกลับมาช่วยขนของ"
"ดีใจจัง งั้นฉันจองที่นอนพี่ลำยอง พี่ลำยงห้ามแย่งฉันนะ" ลำดวนบอก
"เออ...ไม่มีใครเขาอยากจะแย่งเอ็งหรอก"
"พี่ไปนะ ลำยง"
"ทนๆ มันหน่อยก็แล้วกันนะพี่สันต์ ฉันว่าฉันรู้จักสันดานมันดี ยังไงก็นึกถึงลูกเอาไว้ให้มากๆ"
"ขอบใจนะลำยง"
สันต์เดินจากไป
"ฉันจะหาผัวให้ได้หล่อกว่าพี่สันต์อีกคอยดูสิ" ลำดวนบอก
"น้อยๆ หน่อย นังลำดวนหนังสือหนังหาน่ะเรียนให้จบเกณฑ์ที่หลวงเขาบังคับให้ได้ซะก่อนเหอะ โง่เป็นควายหนะไม่มีใครเขาอยากเอาไปทำเมียหรอก"
ลำยงด่าเช็ด
ที่บ้านยายแลยามนั้น ยายแลออกอาการปลื้มปริ่มกับลำยอง
"เอ็งน่ะสบายแล้วก็อย่าลืมแม่ ลืมน้องนะโว้ย"
ลำยองกำลังเก็บเสื้อผ้า รวบรวมข้าวของเตรียมย้ายไปอยู่กับสันต์
"เออน่า...ฉันไม่ลืมหรอก"
"พวกข้าอยู่ที่อดๆ อยากๆ รู้จักส่งส่วยกลับมาบ้าง นังปั้นน่ะมันรวย ซื้อผักซื้อหมู ซื้อไก่มาขายที มันซื้อเป็นเข่งๆเอ็งก็ยักมันมาทางนี้มั่ง จะได้ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ"
"แต่ท่าทางแม่ผัวฉันจะดูเอาเรื่องเหมือนกันนะแม่ ไอ้ตัวพ่อน่ะไม่เท่าไหร่ มีปากแต่ไม่ค่อยพูด สงสัยน้ำลายจะบูด" ลำยองหัวเราะขำ
"เอ็งจะไปกลัวมันทำไม นังปั้นน่ะ มันด่ามาเราก็ด่ากลับ มันไม่กล้าหือกับเองหรอก เชื่อแม่เหอะ เพราะยังไงหลานมันก็อยู่ในท้องเองจริงไหมล่ะ"
"จ้ะแม่"
"อีกหน่อยเอ็งได้เป็นคุณนายนายทหารเรือแล้วเอ็งหมั่นซื้อทองหยองมาให้แม่ใส่อวดอีพวกแถวนี้ด้วยนะโว้ย"
"จ้ะแม่ให้ถึงวันนั้นจริงๆซะก่อนเหอะ"
"เอ็งมันเกิดมาทั้งสวย ทั้งมีบุญ โหงวเฮ้งยังงี้จะสบายไปทั้งชาติ ลำยองเอ๊ย"
แลเอ็นดูลูกสาวเป็นนักหนา
ที่แพขายของริมน้ำ สินกับปั้น ช่วยกันขายของตามปกติ ชาวบ้านบอก
"เสียดายนะแม่ปั้น ได้กะใครไม่ได้ มาได้ลูกสาวยัยแล ปากจัดทั้งแม่ทั้งลูก"
ปั้นข่มคำพูดไว้ ไม่อยากกลายเป็นสาวไส้ให้กากิน
"มันเป็นเรื่องบุญทำกรรมแต่ง เขาก็คงเคยได้ทำบุญร่วมกันมาน่ะแหละ"
ปั้นถอนใจ...คิดในใจว่า ทำบุญหรือทำกรรมก็ไม่รู้
สันต์หอบห่อผ้าลำยองพะรุงพะรังเข้ามา ลำยองกับแลเดินสบาย ตัวเปล่าตามเข้ามา
"พ่อครับ แม่ครับ ลำยองมาแล้วครับ"
ปั้นเมินหน้าหนียังทำใจลำบาก
"ขนข้าวของไปจัดซะให้เรียบร้อยไปลูก" สินบอก
สันต์เปิดประตูห้องนอนตัวเอง
"ทำไมมันแคบยังกะแมวดิ้นตาย ยังงี้ล่ะ ทำไมไม่อยู่ห้องนั้น"
แลว่าพลางถือวิสาสะเปิดประตูห้องปั้นกับสิน
"ห้องนั้นของพ่อกับแม่ครับ"
"ก็ย้ายสลับกันซะสิ แคบๆ ยังงี้จะอยู่เข้าไปได้ยังไง คนท้องคนไส้ อีกหน่อยคลอดลูกจะยิ่งลำบากนะ พ่อสันต์"
ปั้นหมั่นไส้เหลืออด
"อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็กลับไปอยู่ที่เดิม"
ปั้นเดินเลี่ยงออกไป ลูกค้าขยับออก
"แม่ปั้นพูดยังงี้นี่ ไม่รักหลานเอาซะเลยนะ"
"อยู่ไปก่อนเถอะ มันฉุกละหุก เอาไว้ค่อยขยับขยายทีหลัง" สินบอก
"พูดยังงี้ค่อยเข้าหูน่าฟังขึ้นมาหน่อย"
แลเข้าห้องตามลำยองไป
เรือนแพยามค่ำ สันต์กำลังติดเครื่องหมายยศใส่เครื่องแบบ ที่จะใส่ไปทำงานพรุ่งนี้ ลำยองเข้ามากอดด้านหลังออดอ้อนออเซาะ
"พี่สันต์จ๋า"
"ลำยองอยากลองหัดติดเครื่องหมายใช่ไหม...มา...พี่จะสอนให้ วันหลังจะได้ติดให้พี่เป็น ป้ายชื่ออยู่ตรงนี้นะ"
"เยอะแยะจะตายใครจะไปจำได้ ขอตังค์หน่อยสิจ๊ะพี่สันต์"
"ลำยองจะเอาไปทำอะไร"
"ก็พรุ่งนี้พี่สันต์ไปทำงานลำยองอยู่บ้านจะได้เอาไว้ซื้อขนมกินไงจ๊ะ"
"ขนมอะไร บ้านเราก็มีเยอะแยะ อยากกินอะไรก็ขอแม่กับพ่อเอาก็ได้"
"ไม่เห็นมีอะไรน่ากินเลย ลำยองอยากกินของดองเปรี้ยวๆมากกว่า"
"ของหมักของดองมันไม่มีประโยชน์หรอกนะ"
"แต่ลูกอยากกินนี่จ๊ะ ลำยองแพ้ท้องอยู่นะ พี่สันต์"
"เอาๆๆ"
สันต์จำใจหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าตังค์ส่งให้
"พี่ต้องออกไปทำงานแต่เช้า ลำยองตื่นแล้วก็ออกไปช่วยพ่อกับแม่ขายของนะ งานบ้านอะไรทำได้ก็ทำ"
"อะไรอยู่ตรงไหนลำยองจะไปรู้ได้ยังไง ลำยองขายไม่เป็นหรอก"
"ก็ค่อยๆ ดูไป เดี๋ยวก็จำได้เองหนะแหละ ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิดหรอก ทุกคนต้องฝึกต้องฝนกันทั้งนั้น"
"จ้ะ"
ลำยองยัดเงินใส่อกเสื้อตามความเคยชิน
อ่านต่อหน้า 3
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 1 (ต่อ)
เช้าวันใหม่ ปั้นกับสินช่วยกันขายของมือเป็นระวิง ลูกค้ามากมาย ลำยองเพิ่งตื่นนอน เปิดประตูออกมาจากห้อง หาวนอน สินหันมาเห็น
"เอ้า...ลำยองตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตาซะ จะได้มาช่วยกันขายของ"
"พี่สันต์ไปแล้วเหรอ"
"ไปตั้งชาตินึงแล้ว...เป็นเมียยังไงตื่นนอนทีหลังผัว มาช่วยคิดเงินลูกค้าเจ้านี้ก่อนซิ" ปั้นบอก
ลำยองเดินเข้ามารับกระดาษจดรายการของและตัวเลขจำนวนเงินจากปั้น ปั้นหันไปขายของให้ลูกค้าคนอื่นต่อ
ลำยองนิ่งงันอยู่นาน คิดเลขไม่ถูก
ลูกค้าบอก
"เอ้า เร็วๆลุกผัวฉันรออยู่"
ลำยองมั่วบอกลูกค้า
" ร้อยห้าสิบ"
ลูกค้าโวยวาย
"อะไร...ของหยิบมือจะร้อยห้าสิบได้ยังไง แม่ปั้นมาดูหน่อยเถอะ"
ปั้นกลับมาดึงกระดาษจากมือลำยอง
"สามสิบหกบาทจ้ะ"
"จะเป็นลม คิดเข้าไปได้ยังไงร้อยห้าสิบ ลูกสะใภ้แม่ปั้นเหรอเนี่ย"
ลูกค้าจ่ายเงินให้ปั้นแล้วออกไป
"บวกเลขแค่นี้ก็บวกไม่เป็น แล้วจะไปทำอะไรกิน"
"ทีหลังก็ทำเองสิ มาใช้ทำไม"
ลำยองเดินหน้ามึนตึงออกไป ปั้นฉุนกึกที่ถูกสวน
"มันท้องมันไส้ อย่าไปอะไรกับมันนักเลยแม่ปั้น" สินบอก
ในเวลาต่อมา ลำยองได้เอาไก่ครึ่งตัวที่ถูกห่อกระดาษมาโยนลงบนโต๊ะ ยายแลเปิดห่อกระดาษออกดู
"อะไรวะได้มาแค่ครึ่งตัวเอง"
" ได้มาก็บุญแล้วแม่ อีแก่นั้นมันนั่งเฝ้าไม่ยอมห่าง ฉันต้องรอให้มันหลับ ถึงได้ขโมยมา"
" แล้วไม่ได้เงินติดมือมามั่งเหรอวะ"
"ได้ไก่ก็จะเอาเงินอีก อย่าโลภมากนักเลยแม่ เอาไว้เผื่อๆวันหลังมั่ง"
" มันเอาเอ็งไปเป็นสะใภ้ จิกหัวใช้ยังกะเป็นขี้ข้า เอ็งต้องรู้จักถอนทุนคืนให้มันคุ้มซิว่ะ"
" เจ็บใจตรงที่มันด่าฉันว่าโง่เหมือนควายมากกว่า"
" ห้า...อีปั้นมันกล้าด่าเอ็งขนาดนี้เชียวเรอะ เดี๋ยวข้าจะไปด่าคืนให้เอง อีนี่ไม่รู้ฤทธิ์อีแลซะแล้ว"
"แม่อยู่เฉยๆเหอะ ฉันลุยเองได้ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครจะต้องเป็นฝ่ายทนใคร"
เวลาเย็นปั้นเอาของมาส่งให้ลูกค้าที่เรือ สินนั่งซักเสื้อเครื่องแบบทหารให้สันต์ใกล้บันไดท่าน้ำ สันต์เพิ่งกลับมาถึงบ้าน
"กลับมาแล้วครับ...ลำยองอยู่ในห้องเหรอครับแม่"
"กลับมาถึงก็ถามหาเมียก่อนเลย มันไม่ได้อยู่ในห้องหรอก...โน่นกลับไปบ้านมันตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แม่ตื่นมาก็ไม่เห็นมันแล้ว"
"ผมบอกเอาไว้แล้วว่า ให้ช่วยงานที่นี่แล้วนั่นอะไรครับพ่อ"
"ก็เสื้อผ้าเครื่องแบบแกน่ะสิ เมียแกมาโยนสุมไว้ตรงประตู ขืนไม่ซักจะเอาที่ไหนใส่กัน" สินบอก
สันต์มึน
"เดี๋ยวผมซักเองครับพ่อ"
"แม่ไม่ได้มีอคติอะไร แต่แกควรจะดูแลเมียแกให้ดีกว่านี้ สั่งสอนได้ก็สั่งสอนไป รักจะอยู่ด้วยกันมันก็ต้องรู้จักทำหน้าที่ของตัวเองไม่ให้ขาดตกบกพร่องด้วย"
ปั้นเดินออกไป สันต์รีบเข้าไปช่วยสินซักผ้า
ในเวลาต่อมา สันต์เดินมาจากบ้านเพื่อจะไปตามลำยอง ในขณะที่เธอเพิ่งจะเดินออกมาจากเพิงขายขนมพอดี
"ลำยอง...ไปไหนมา"
"ลำยองก็กลับไปบ้านลำยองน่ะสิจ๊ะพี่สันต์ ที่โน่นน่ะไม่ใช่บ้านลำยอง มันบ้านพ่อแม่พี่"
"มันก็บ้านของเราหนะแหละ"
"แต่พ่อกับแม่พี่ทำเหมือนไม่อยากให้ลำยองอยู่ด้วย"
"คิดมากไปได้...เราเป็นเด็กยังไงก็ต้องเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่นะ"
"ลำยองก็ทำแล้วไง"
"ทำแล้ว...แล้วทำไมพ่อพี่ถึงต้องมานั่งซักผ้าเอง"
"ก็ทีแรกลำยองจะซักอยู่แล้ว แต่ลำยองเวียนหัวมันเหมือนจะเป็นลม พอลำยองนั่งงอๆ ลำยองก็ปวดท้อง ลำยองกำลังแพ้ท้องนี่จ๊ะ พี่สันต์ ที่ร้านก็มีแต่กลิ่นอะไรก็ไม่รู้ ลำยองเหม็น ลำยองจะอ้วก"
"เอาละงั้นก็ช่วยเท่าที่จะช่วยได้ละกันไป...กลับบ้านกันเถอะ"
สันต์ตัดบท แล้วพาลำยองกลับบ้าน
เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน จนท้องลำยองโตขึ้นเรื่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งช่วงตอนกลางวัน ที่เรือนแพแม่ปั้น สินขายของให้ลูกค้า รับเงินมาเก็บใส่กระป๋องชัก
ลำยองนั่งมองกระป๋องเงิน ที่ถูกชักขึ้นชักชักลงอย่างอดจินตนาการไม่ได้ว่า ในนั้นต้องมีเงินไม่น้อยไปกว่าเจ็ดหมื่นห้าพันล้าน
"บ่ายๆ อย่างนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าหรอก แม่เขาจะไปเอนหลัง ลูกค้าจะเยอะ อีกทีก็บ่ายจัดๆ เขามาซื้อกับข้าวรอบเย็น จะกวาดบ้านถูบ้าน ก็ต้องทำตอนนี้แหละ"
ลำยองพยักหน้าหงึกงักไปอย่างนั้น ไม่เข้าใจว่า สินหมายความว่ายังไง สินเดินไปหยิบไม้กวาดมาส่งให้
"กวาดซะ เดี๋ยวจะได้ถู"
ลำยองจำใจรับไม้กวาดมา สินเดินไปเตรียมผ้าขี้ริ้ว เธอกวาดบ้านไม่เป็น สะบัดปลายไม้กวาดกระเจิง สินหันกลับมาถึงกับอึ้ง
"ลำยอง เวลากวาดบ้านน่ะ อย่าสะบัดปลายไม้กวาดยังงั้นสิ ฝุ่นมันก็ฟุ้งหมด"
ลำยองรำคาญ ทำทีเป็นคลื่นไส้ ทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งไปอ้วกเสียงดัง สินส่ายหน้า
"ไม่ไหวก็ไปนอนซะไป"
สินหยิบไม้กวาดมากวาดบ้านเอง ลำยองเห็นสินหันหลังให้ ก็ทำทีเป็นจะเดินเข้าห้องแต่กลับรีบเปิดผ้าคลุมเขียงหมู,หยิบเนื้อหมูชิ้นเขื่อง ใส่ถุงกระดาษ แล้วรีบออกไป ปั้นเปิดประตูออกมาจากห้องจะเดินมาล้างหน้า หลังจากเอนหลังหลับไปงีบหนึ่ง ปั้นชะงัก เมื่อเห็นผ้าคลุมเขียงหมูเปิดเผยออยู่ จึงเปิดผ้าดู
"พี่สิน...พี่ขายหมูชิ้นใหญ่ไปเหรอ"
สินหันกลับมา
" เปล่า ยังไม่มีใครมาซื้อเลย"
"แล้วหมูมันหายไปไหนล่ะ ก่อนฉันเข้าไปเอนหลัง มันยังอยู่บนเขียงนี่เลย แล้วนี่แม่ลูกสะใภ้ไปไหน"
"มันอาเจียนโอ้กอ้าก ฉันก็เลยไล่ให้ไปนอน"
ปั้นเดินไปเปิดประตูห้องสันต์ แล้วก็หันกลับมา ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆก็เข้าใจได้ทันที
"คนประเภทไหนน่ะ พี่สิน ที่จนตายมันก็คงสั่งสอนกันไม่ได้"
ปั้นเดินออกไป
เมื่อยายแลเห็นหมูในถุงที่ลำยองขโมยมาได้ ก็หัวเราะชอบใจ
"นี่มันร่วมสามโลได้มั้งวะ นังลำยอง"
"ไม้รู้...พอมันเผลอฉันก็คว้าหมับเลย"
"เอ็งนี่มันเก่ง สมกับเป็นลูกสาวแม่แท้ๆ น้องนุ่งพลอยสบาย อิ่มปากอิ่มท้องก็เพราะเอ็งลำยองเอ๊ย แล้วนี่มันยังบังคับขู่เข็ญให้เอ็งทำงานเป็นขี้ข้ามันอยู่อีกรึเปล่าวะ"
"ฉันก็ทำอ้วกหลอกแพ้ท้อง อ้างลูกได้ทุกครั้งน่ะแหละแม่ ท่าทางมันจะเห่อหลานเหมือนกัน"
"เออ เอ็งนี่ฉลาดเหมือนแม่ไม่มีผิด ไม่ต้องไปทำให้มัน เรื่องอะไร เมียโว้ยไม่ใช่ทาส นี่ขนาดยังอยู่ในท้องยังเห่อขนาดนี้ เอ็งคลอดมันออกมามันจะยิ่งเห่อขนาดไหนวะ โกยๆมาเยอะๆ นะโว้ยลำยอง"
"เออน่า...แม่ไม่ต้องห่วงหรอก"
"เอ็งท้องโตขนาดนี้แล้ว ไอ้สันต์มันกลับบ้านดึกบ่อยๆไหมล่ะ"
"ก็มีบ้างเหมือนกัน...บางทีก็กลับเอาเกือบสว่างก็เคย...แม่ถามทำไม"
ยายแลตบเข่าฉาด
"ว่าแล้วไหมล่ะ เอ็งไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ ข้าเห็นมานักต่อหนักแล้ว อีตอนท้องโตนี่แหละอันตรายที่สุด ผัวเองมันแอบไปมีใครแหงเลยนังลำยอง"
ลำยองตาค้าง
ในเวลากลางคืน สินตรวจความเรียบร้อยของทุกอย่าง ก่อนเข้านอน ลำยองนั่งหน้าหงิกปักหลักอยู่มุมหนึ่ง
"เดี๋ยวมันกลับมา มันก็เคาะประตูเรียกเองหนะแหละ ดึกแล้ว... เอ็งเข้าไปนอนซะเถอะ ทรมานตัวเองเปล่าๆ พ่อจะคอยเปิดประตูให้มันเอง"
"ฉันจะคอย...เป็นตายยังไง วันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง"
"ก็สันต์มันบอกแล้วว่า มันต้องไปงานเลี้ยงบ้านเจ้านายมัน เอ็งจะคิดมากไปทำไม"
"เรื่องของผัวเมียเขา ไม่ต้องมายุ่ง"
สินอึ้ง
เสียงเคาะประตู
"พ่อครับ...พ่อ"
ลำยองลุกพรวดขึ้นยืน
"นั่นไง มันกลับมาแล้ว"
สินเดินไปเปิดประตู สันต์เข้ามา
"เกือบไม่ทันเรือข้ามฟากแน่ครับพ่อ"
สินไม่พูดอะไร สันต์หันมาเห็นลำยองยืนหน้าบูดอยู่
"อ้าวลำยอง ...ทำไมยังไม่นอนล่ะ"
"ใครจะหลับเข้าไปลง ผัวตะลอนๆอยู่นอกบ้าน"
สินบอกสันต์
"คุยกันซะให้รู้เรื่อง แต่มันดึกแล้ว เกรงอกเกรงใจชาวบ้านเขามั่ง"
สินเดินแยกไปเข้าห้องตัวเอง
"พี่อาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว"
ลำยองกระชาก
"อาบทำไม อาบมาเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ"
สินมุดมุ้งเข้ามาในห้องนอน ขยับหมอน เตรียมตัวจะสวดมนต์ ยินเสียงผัวเมียที่ด้านนอกทะเลาะกันดังขึ้นทุกที
"อย่านึกว่าลำยองโง่นะ ไปนอนกับอีตัวที่ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้"
"พูดไม่รู้เรื่อง บอกว่าไปทำงานๆฟังกันบ้างสิ"
สินพยายามจะไม่สนใจได้แต่ประนมมือค้างไว้ ปั้นขยับตัวตื่น เพราะเสียงทะเลาะกันดังขึ้นทุกที
"แม่ปั้น ไม่ต้องไปสนใจหรอก นอนซะเถอะ"
ปั้นขยับขึ้นนั่ง
"คิดซะว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาผัวเมีย"
"มันเวรกรรมอะไรนักหนา"
เสียงลำยองขัดใจร้องกรี๊ดดัง
สันต์พยายามข่มใจอดทนไม่ตอบโต้ใดๆ
"ไอ้คนเฮงซวย...ไอ้ (เหี้ย) สารเลว"
ลำยองค่อยๆอ่อนแรง เพราะเหนื่อย ลงนั่งร้องไห้ฮือฮือ สันต์เข้ามาจับตัว เธอสะบัดออก
"พี่จะกล้ามีคนอื่นได้ยังไงลำยอง ออกจากบ้านไปทำงานแต่ละวันพี่เป็นห่วงลำยอง ห่วงลูกนะ ถ้าลำยองโกธรพี่เรื่องนี้ พี่ขอโทษก็ได้ พี่จะไม่กลับดึกอีกแล้ว"
"ถ้าบริสุทธิ์จริง ทีหลังต้องให้ลำยองไปด้วยสิ ลำยองอยู่แต่บ้าน เบื่อจะตาย ไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวันกะเขาเลย"
"ได้ๆๆ คราวหลังพี่จะพาลำยองไปด้วยนะ"
"ไม่มีใครสงสารลำยองเลย แค่อยากจะกินเป็ดพะโล้ ก็ไม่มีวาสนา...พ่อกับแม่พี่บอกว่าจะกินทำไม มันแพง พี่สันต์คิดดูสิลูกเราต้องอดๆ อยากๆ ขนาดไหน"
ลำยองเค้นนำตา
"ลำยองอยากกินเป็ดพะโล้เหรอ...งั้นเอาตังค์นี่เก็บไว้ซื้อนะ อยากกินอะไรก็ซื้อเอาเถอะแต่เลือกกินที่มันมีประโยชน์กับลูกนะ"
สันต์ยื่นเงินให้ลำยอง ลำยองคว้าหมับ
"วันนี้ลูกดิ้นบ่อยไหม"
ลำยองพยักหน้า สันต์หอมแก้มลำยอง ทุกอย่างเหมือนจบลงได้อย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
วันใหม่ เวลากลางวัน ลำยงอยู่โยงขายขนมถ้วย ตามเคย เธอแคะขนมเพิ่มแถมให้ลูกค้า
"แถมให้สองถ้วยนะจ๊ะ"
ลำยงรับเงินมาจากลูกค้า
"ขอบใจจ้ะ"
ลำยงหันไปวางเงินใส่กระจาด แลหยิบเงินไปเก็บใส่ชายพกตัวเองทันที ลำยองล้อมวงกินส้มตำกับลำดวน แล อย่างเอร็ดอร่อย
"ลำดวน รีบมาช่วยกันปอกมะพร้าวไว้" ลำยงบอก
"ไว้ปอกพรุ่งนี้ก็ได้"
"พรุ่งนี้...พรุ่งนี้ทุกที แล้วก็ตาลีตาเหลือก"
"เอ็งนี่มันขี้บ่นจริงโว้ย นังลำยง น้องมันกินอยู่ไม่เห็นรึไง"
"กินเข้าไป เผ็ดๆ..นั่นหนะ ท้องไส้พังกันพอดี นึกถึงลูกในท้องบ้างไหม พี่ลำยอง" ลำยงเตือนพี่สาว
"เรื่องของข้า"
"มันไม่ได้กินมันก็อิจฉาเอ็งตามเคย" ยายแลว่า
ลำยองหัวเราะแล้วชะงักกึก
"เป็นอะไรพี่ลำยอง" ลำดวนถาม
"ปวดท้องหวะ"
"เป็นไงล่ะ พูดไม่ทันขาดคำ กินเข้าไปได้ปลาร้าดิบเป็นตัวๆ"
"โอย...อูย"
"เอ็งไปขอเข้าห้องส้วมบ้านอีจุ๋มไป"
"ฉันไม่ได้ปวดท้องส้วมแม่"
"อ้าว...แล้วปวดยังไงวะ"
"ไม่รู้...บอกไม่ถูก โวย...อูย"
"กินเผ็ดๆ ลูกมันถีบเอารำเปล่า พี่ลำยอง" ลำดวนหัวเราะ
"อีบ้า ยังมาล้อข้าเล่นอีก ข้าปวดจริงๆนะโว้ย"
"เออ...ทนๆหน่อย เดี๋ยวก็หาย"
"แม่...หรือพี่ลำยองมันจะคลอด"
แลชะงัก มือที่คีบส้มตำเตรียมจะยัดเข้าปาก ทิ้งมือไปทันที
"โอ้ย..."
ที่เรือนแพ สินกับปั้นช่วยกันขายของอุตลุด ลำยงวิ่งมาในแพ
"ลุงสิน ป้าปั้น"
"ซื้ออะไรวะลำยง" ปั้นถาม
"พี่สันต์กลับมารึยัง"
"ยัง...ทำไม..มีอะไร" สินถาม
"พี่ลำยอง มันเจ็บท้อง มันจะคลอดลูกแล้ว"
ปั้นได้ยินก็ตกใจ แต่ในความตกใจ ก็มีความยินดีปนอยู่ด้วย ถึงแม้จะเกลียดขี้หน้านังลูกสะใภ้ก็ตาม
เรือข้ามฟาก เข้าเทียบโป๊ะพอดี สันต์ขึ้นจากเรือปะปนมากับผู้โดยสารคนอื่นๆ ลำดวนวิ่งเข้ามาตรงบริเวณโต๊ะเก็บเงินพลางชะเง้อมองหา
ลำดวนตะโกนสุดเสียงเรียก
"พี่สันต์ พี่สันต์"
สันต์ได้ยินเสียงเรียกก็มองหาผ่านผู้คน
ลำดวนไอๆๆ เนื่องจากแผดเสียงตะโกน
"พี่ลำยองมันเจ็บท้อง..จะคลอดแล้ว"
สันต์ติดตีนผีทันที วิ่งแซงแทบชนผู้คนที่กำลังทยอยขึ้นจากโป๊ะ
สันต์วิ่งหน้าเริ่ดนำลำดวน เข้ามาจากทางท่าเรือตรงไปยังเพิงขายขนม ลำยองนั่งร้องโอดโอย มียายแลประคองหลังให้ ฝ่ายลำยงวิ่งนำปั้นกับสิน มาจากทางเรือแพ ทุกคนมาถึงกันพอดีเหมือนกัน
"ลำยอง ลำยอง พี่มาแล้ว" สันต์บอก
"โอ้ย..."
สินบอก
"รีบพาไปโรงหมอเถอะสันต์เอ๊ย"
"ครับพ่อ...ลำยองอดทนหน่อยนะ"
สันต์อุ้มลำยองแล้วพาวิ่งออกมา ลำยงอุตสาห์มีน้ำใจวิ่งนำทางข้างหน้า ขอทางผู้คน
"ขอทางหน่อยจ้า ขอทางหน่อยคนจะคลอดลูก"
"อดทนหน่อยนะลำยอง"
สันต์วิ่งอุ้มลำยองออกไป ยายแลดีใจไม่น้อยไปกว่าปั้นกับสิน ลืมตัวจับมือปั้นกระโดดโลดเต้นไปมา โดยไม่ได้มองหน้าปั้น
"นังลำยองมันจะคลอดแล้ว ข้าจะได้อุ้มหลานแล้วจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายวะ"
"จะหญิงจะชายก็ได้ทั้งนั้นแหละ ยัยแล"
แลชะงัก หันมาเห็นเป็นปั้นก็สะบัดมือทิ้ง วางหน้าปั้นบึ่งทันที
"ปัดธ่อ ข้านึกว่านังลำดวน ชิ"
"ได้ผู้ชายก็ดี มันจะได้หล่อเหมือนพ่อมันนะ แม่ปั้น" สินบอก
"ผู้หญิงดีกว่าโว้ย มันจะได้สวยเหมือนแม่มัน" แลบอก
ที่โรงพยาบาล มีผู้หญิงรอคลอดอีกจำนวนไม่น้อย ลำยองนอนบนเตียงรอเวลาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ อาการเจ็บท้องพอประมาณแต่แหกปากร้องเกินจริงตามนิสัยระงับที่ดับอารมณ์ไม่เป็น
"เจ็บจะตายอยู่แล้ว เอามันออกมาที จะให้หลุดออกมาตรงนี้เลยรึไง แอร๊ย"
คนไข้อื่นๆอยู่ในความสงบ เจ็บแต่พองาม พยาบาลเข้ามาพาคนไข้คนอื่นเข้าห้องคลอด
"กูเจ็บจะตายอยู่แล้ว ช่วยคนอื่นทำไม เดี๋ยวกูด่าเลยนะมึง"
"คุณใจเย็นๆนะค่ะ ของคุณยังออกไม่ได้หรอก ปากมดลูกยังไม่เปิดพอ ทนหน่อยนะคะ"
พยาบาลพาคนไข้อื่นออกไป
"อีหมอบ้าจะแกล้งกูให้ตายรึไงโอ้ย...เจ็บ"
สันต์นั่งคอยอย่างกระวนกระวายใจอยู่ที่ลียงหน้าแผนกสูติฯ จนไม่สามารถนั่งนิ่งอยู่ได้... สันต์ ลุกขึ้นเดินพล่านไปมาให้พอดับความร้อนใจได้บ้าง
ท้องฟ้ามืด..ปรากฎพลุสว่างไสวขึ้นเต็มท้องฟ้า สันต์ ชะงัก มองพลุที่เฉลิมฉลองวันสำคัญใจคอสงบลงจนขนลุกซู่ช่า
เขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้นยกมือขึ้นประนมท่วมหัวด้วยใจปิติ
"ขอจง..ทรงพระเจริญ"
สันต์ปลาบปลื้มใจอยู่นาน...จนอิ่ม พยาบาลเดินเข้ามาหา
"คุณสันต์คะ ภรรยาคุณคลอดแล้วคะ"
สันต์ดีใจจนพูดไม่ออก
"ปลอดภัยดีทั้งแม่ทั้งลูกค่ะ บุตรเป็นชายนะคะวาสนาดีจริงๆ วันนี้วันมหามงคลซะด้วย"
"ขอบคุณครับ...ขอบคุณมากครับ"
สันต์ได้แต่พร่ำขอบคุณไม่หยุดปิติจนน้ำตาซึม
ในห้องพักฟื้นรวมของแม่และเด็ก พยาบาลดูแลคนไข้แม่และเด็กตามเตียงต่างๆ สันต์ค่อยๆ เดินเข้ามาอย่างตื่นเต้นมองหาเตียง ลำยองนอนหมดสิ้นฤทธิ์ให้นมครั้งแรกกับลูกอยู่
สันต์ขยับเข้ามาข้างเตียง
"ลำยอง..เป็นยังไงบ้าง"
ลำยองค่อยๆลืมตาขึ้น
"เจ็บเหมือนจะตาย ไม่เอาอีกแล้ว เข็ดแล้ว"
สันต์ยิ้ม ลำยองค่อยๆหลับตาลง เขาเอื้อมมือไปจับเท้าแดงๆคู่เล็กนิดเดียวของลูก แค่ได้สัมผัส น้ำตาแห่งความรักก็ไหลลงอาบแก้ม
"ลูกพ่อ...พ่อตั้งชื่อให้ลูกว่า วันเฉลิม นะลูกนะ"
ด้วยพรทั้งหมด อยู่ในชื่อที่เปล่งเสียงออกมาครบถ้วนสมบูรณ์ ทารกยังคงหลับคาอกแม่ เนื้อตัวยังแดงจัด
อ่านต่อหน้า 4
ทองเนื้อเก้า ตอนที่ 1 (ต่อ)
ที่เรือนแพแม่ปั้น ตอนกลางวัน คนขายผ้าอยู่ในเรือ ตัดผ้าสาลูออกจากพับ 5 เมตร ชาวบ้านพายเรือมาซื้อของพอดี เลยถามปั้น
"ซื้อผ้าตัดเสื้อเหรอจ๊ะแม่ปั้น"
"เปล่า จะทำผ้าอ้อมไว้ให้คลาน"
"คลอดแล้วเรอะ ได้ผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ"
"ผู้ชายจ๊ะ ผู้ชาย คลอดวันดี วันมหามงคลซะด้วยนะ"
สินนั่งเย็บขอบผ้าอ้อมจากผ้าถุงเก่าของปั้น
"แหมดีจริง แล้วนั่นเย็บอะไรอยู่ละพ่อสิน"
"ผ้าอ้อมหลานน่ะแหละ เอาผ้านุ่งเก่า ๆ แม่ปั้นเขามาฉีก ได้ตั้งห้าหกผืน" สินบอก
"แหม ลงทุนเย็บเองกะมือ เลยนะ"
สินยิ้ม ปั้นเอาผ้าสกลที่เพิ่งซื้อมาวางรวมกองที่จะทำผ้าอ้อม
"เห่อที่ได้คลานหรือว่าเห่อที่ได้เป็นปู่ก็ไม่รู้"
"แม่ปั้นก็ได้เป็นย่าเหมือนกันละน่า" สินบอก
ทุกคนกำลังชื่นมื่นที่ได้ชื่นชมกับหลานคนแรก
บ้านยายแล เวลาเย็น ลำยงโยนมะพร้าวแห้งที่เพิ่งซื้อมาไปกองรวมไว้ทางหนึ่ง
"แล้วนี่จะเตรียมอะไรไว้รับขวัญหลานล่ะแม่"
"โอ๊ย ปู่กับย่ามันรอย ก็ให้มันรับขวัญกันไปสิโว๊ย ตาปอ หมดไหมวันนี้"
ปอเข็นรถขายผลไม้ดองกลับมาถึงพอดี ผลไม้ยังเหลืออยู่พอสมควร
"หมดกะผีอะไรล่ะ เหลือมาบานเบอะ"
"แกเข็นไปถึงไหน บอกแล้วว่าไม่ต้องเข้าซอยเล็ก คนมันน้อย ทนร้อนเอาหน่อย"
"หลานคนแรก แถมเป็นผู้ชายด้วย ลุงสิน ป้าปั้นคงเห่อน่าดู" ลำยงบอก
ยายแลคุยโว
"นังลำยองมันวาสนาดีโว้ย เกิดมาสวยก็สบายยังงี้ ผัวรักผัวหลง เดี๋ยวพอมดลูกเข้าอู่ก็มีต่อได้เลย หัวปีท้ายปี ตาปอแกจะไปไหน เอาเงินมาก่อน"
ปอควักเงินใส่มือยายแล
"ทวงจริงโว้ย"
"ต๊าย คนหรือแม่หมูกันแน่ ตั้งหน้าตั้งตาผลิตลูกอย่างเดียว" ลำดวนบอก
"เอ็งไม่รู้อะไร มีลูกไว้เยอะ ๆ ไอ้สันต์มันจะได้ไม่หนีไปไหนโว้ย ตาปอ ทำไมเงินได้แค่นี้ อมอีกแล้วใช่ไหม"
"อมที่ไหนเล่า"
"แกอมเม้มเอาไว้ จะไปซื้อเหล้ากินน่ะสิ เอาออกมาซะดี ๆ ไม่งั้นเย็นนี้ไม่ต้องกินข้าว"
ยายแลฟาดปอ จนปอต้องหยิบเงินที่เหน็บซ่อนไว้กับขอบกางเกงมาส่งให้ยายแล
"วัน ๆ ไม่ช่วย เขาทำมาหากิน ต่อให้มีลูกเป็นโขยง ซักวันพี่สันต์เขาก็ต้องเบื่อ" ลำยงบอก
"นังลำยองมันสวยโว้ย ผัวมันไม่มีทางเบื่อมันหรอก"
"ผู้หญิงมีลูกแล้ว ยังไงมันก็ต้องหย่อนต้องยานไม่ใช่เหรอแม่ แล้วมีหลายคนมันมิกลายเป็นแร้งทึ้งเรอะ" ลำดวนว่า
"ใครบอกเอ็ง"
"ไม่มีใครบอกหรอก ฉันก็ดูแม่นี่ไง"
"อีบ้า"
ยายแลไล่ฟาดลำดวน
"หิวเหล้าโว้ย" ปอโวยวาย
หลายวันต่อมา เวลากลางวัน ปั้นค่อย ๆ รับทารกที่หลับสนิทในห่อผ้าจากอ้อมแขนสันต์ขึ้นอุ้มอย่างระมัดระวัง
"หลานย่า...หลานย่าดูซิหลับปุ๋ยเลย"
"จมูกเหมือนพ่อไม่มีผิดเลยนะแม่ปั้น" สินบอก
"นั่นสิ แต่ปากเหมือนใครกันหว่า"
"ลูกฉันก็ต้องเหมือนฉันสิ" ลำยองบอก
ปั้น สินชะงักกึก น้ำเสียงลำยอง ทำบรรยากาศเสียนิดหน่อย
"ผมพาลำยองเข้าห้องก่อนนะครับพ่อ
"เออ ไปเถอะ พักผ่อนซะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะดูหลานให้เอง"
สันต์ประคองพาลำยองเข้าห้องไป ปั้นกับสินเห่อหลานมิใช่น้อย
ภายในห้อง ลำยองนอนบนฟูก สันต์จัดโน่นนี่ให้เข้าที่
"น้ำกินพี่วางไว้ให้ตรงนี้นะ เผื่อลำยองหิวน้ำจะได้หยิบง่าย ๆ"
ปู่กับย่าอุ้มหลานตามเข้ามา
"วันนี้แม่แกงเลียง เอาไว้ให้ด้วย" ปั้นบอก
ปั้นส่งหลานให้สันต์
"ฉันอยากกิน แกงคั่วหน่อไม้ดองมากกว่า"
ปั้นชะงัก
"ของหมักของดอง อย่างเพิ่งไปกินมันเลย"
"ลำยองดูนี่สิ พ่อกับแม่เย็บผ้าอ้อมเอาไว้ให้วันเฉลิมด้วย"
สันต์หยิบตะกร้าผ้าอ้อมขึ้นมาอวดเมีย ลำยองหน้าหงิกหยิบผ้าอ้อมที่เย็บจากผ้านุ่งเก่าขึ้นมาดู แล้วโยนไปในตะกร้า
"อะไรเนี่ย ลูกฉันไม่ใช่ลูกกุลีนะ ลูกนายทหารเรือ เกิดก็วันดีมงคล ฉันไม่ให้ลูกฉันใช้ผ้านุ่งเก่า ๆ หรอก ซวยตาย หมดสง่าราศีกันพอดี"
ปั้นกับสินสีหน้าเจื่อน ผิดหวังจนพูดไม่ออก
"ยากจนนักหนารึไง ถึงต้องให้ลูกใช้ผ้าพรรค์ยังงี้ ไม่เอาหรอก"
สันต์รู้ว่าพ่อ แม่ เสียใจ แต่ก็ต้องประนีประนอม
"มันก็แค่ผ้าอ้อม ใช้ ๆ ไปก่อนเถอะลำยอง ไม่ใช่ว่าผ้านุ่งเก่าทุกผืนเมื่อไร ผ้าใหม่ก็มี นี่ไง"
สันต์หยิบผ้าอ้อมที่เย็บจากผ้าสาลูใหม่จับมาให้ลำยองดู
"พอกันน่ะแหละ ไอ้ผ้าสาลูนี่มันบางยังกะอะไรดี ยังกะผ้ากรอง ซักทีเดียวก็ขาดคามือ"
สันต์ได้แต่ตาปริบ ๆ
ปั้นเหลืออดแต่ก็ข่มใจ
"ลูกเอ็งน่ะมันก็หลานข้า เราก็เลี้ยงเด็กกันมายังงี้ เอาเถอะรังเกียจผ้านุ่งเก่า ๆ ของย่า ของแม่ก็ไม่เป็นไร"
ปั้นแยกผ้าอ้อมที่เย็บด้วยผ้านุ่งเก่าออกมาจากกอง
"ผ้าสาลูใหม่นี่ยังไงก็ต้องซื้อต้องหา ถ้ายังใช้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว หลานท่านขุนเจ้าของที่แถวนี้ ข้าก็เห็นเขาใช้ผ้าสาลูทำผ้าอ้อมเหมือนกัน"
ปั้นถือผ้าอ้อมผ้านุ่งเก่าติดมือเดินออกไปด้วย ลำยองปั้นหน้าไม่แยแส สันต์วางลูกลงข้าง ๆลำยอง
"พ่อออกไปช่วยแม่เขาขายของก่อนนะ"
สินลุกตามเมียออกไป
"ลำยองจะเอาอะไรก็เรียกพี่นะ"
สันต์จะขยับออกมา
ลำยองอ้อน
"พี่สันต์ ลำยองหิวน้ำ"
สันต์จำต้องกุลีกุจอกลับมารินน้ำจากขวดใส่แก้วให้ลำยอง ทั้งที่ขวดน้ำก็ใกล้ลำยองแค่เอื้อม
สินขายของให้ลูกค้าอยู่มุมหนึ่ง สันต์เดินออกมาจากห้องเห็นปั้นสีหน้าเครียด จัดข้าวของอยู่อีกมุม สันต์เดินเข้ามาหา
"แม่ครับ...ถ้าลำยองทำไรไม่ดีลงไป ผมขอโทษแทนลำยองด้วยนะครับ"
"ช่างมันเถอะ แม่ไม่อยากจะคิดว่าเพราะ คนเราการศึกษามันต่ำถึงเป็นอย่างนี้ แต่เป็นผัวเมียกันก็อบรมสั่งสอนกันบ้างก็ดี ให้มันรู้จักนึกถึงจิตใจคนอื่นเขาบ้าง"
"ครับแม่"
ขณะนั้นเองที่ยายแลถือห่อยาดองเข้ามา พูดเสียงดัง
"ลำยองเอ๊ย ลำยอง แม่มาแล้วมาโว้ย"
ปั้นกับสันต์หันไปมอง
"ยัยปั้น หลานข้าอยู่ไหน ยังไม่ได้เห็นหน้าเลย"
"อยู่ในห้องนั่นน่ะครับ" สันต์บอก
"นี่พ่อสันต์ คนแรกก็ได้ลูกชายแล้ว รีบทำคนที่สองเลยนะพ่อคู๊ณ จะได้ทันใช้" ยายแลยิ้มย่อง
"คนเดียวน่ะเลี้ยงให้ได้ดีซะก่อน เถอะ" ปั้นบอก
"เอ๊ะ แม่ปั้นนี่ ท่าทางจะรังเกียจรังงอนหลานนะ"
"ฉันไม่ได้รังเกียจหลาน เลี้ยงคนให้มันโตน่ะเลี้ยงยังไงก็ได้ แต่เลี้ยงให้มันเป็นคนดีมีคุณภาพน่ะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย สักแต่ว่าทำให้มันเกิดมา แล้วก็เลี้ยงทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ อย่าให้มันเกิดมาดีกว่า บาปเปล่า ๆ"
ปั้นเลี่ยงออกไปทำงานต่อ ยายแลสะบัดหน้าพรืด แล้วเดินเข้าห้องลำยองไป ส่วนสันต์หนักใจอยู่คนเดียว
ภายในห้องนอนสันต์ ทารกนอนหลับอยู่ข้างลำยอง
"ท่าทางจะเลี้ยงง่ายนี่หว่า" ยายแลบอก
"กินนมจุจะตายไปแม่"
"นี่ๆๆ"
ยายแลคว้าห่อยามายื่นให้ลำยอง
"อะไร"
"ยาจีนของซินแสที่บ้านในสวนโน่นไง ข้าอุตส่าห์บุกสวนไปหาแกเชียวนะโว้ย แกว่าให้ดองกับเหล้ากิน ลูกสะใภ้แกงี้อ้วนอวบขาว มีน้ำมีนวล ก็เพราะกินยาดองเปล่งปลั่งตำรับของแกนี่แหละ เอ็งเอาไว้กินนะ ผัวจะได้รักจะได้หลง"
"แหม แม่ก็ท้องบวมตุ่ยยังงี้จะมารักมาหลงยังไงล่ะ"
"เออน่า แล้วแม่จะหาหมอมาประคบหม้อเกลือให้ หน้าท้องจะได้ลด มดลูกเข้าอู่เร็ว ๆ ทำแล้วนะ ไม่มีพุงยื่นหรอก ท้องงี้แบนราบเชียวละ ไม่ลายด้วย แต่ค่าแรงแพงหน่อยนะ เอ็งให้ผัวเอ็งเป็นคนจ่ายละกัน"
"แล้วห่อนี๊มันเท่าไหร่กัน"
"ห้าสิบบาท"
"อู้ฮู แพง"
"แพงอะไรกันล่ะ เอ็งบอกผัวเอ็งร้อยนึงไปเลยกำไรห้าสิบ ค่าเดินข้าโว้ย"
เวลาผ่านหลายวัน ในเวลากลางคืน ที่เรือนแพกลางคืน สินกำลังสวดมนต์ก่อนนอน สันต์เข้ามาในห้องพ่อแม่ ปั้นบีบนวดขาตัวเองแก้เมื่อยหลังจากที่ยืนและเดินมาทั้งวัน
"ไอ้วันมันเป็นยังไงล่ะลูก เงียบเลย" ปั้นถาม
"กินนม แล้วก็หลับไปเลยครับแม่"
สินสวดมนต์เสร็จ กราบพระแล้วหันมา
"มันหลับเพราะเมายาดองเหล้าที่แม่มันกินเข้าไปรึเปล่า"
สันต์อ้อมแอ้มบอก
"คงไม่หรอกครับพ่อ"
"ไม่รู้มันจะกินเข้าไปทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์" ปั้นว่า
"ไอ้เราจะพูดมากไปก็หน้างอใส่เปล่า ๆ" สินบอก
"เขาเชื่อว่ามันดีก็ช่างเขาเถอะครับพ่อ พ่อครับ แม่ครับ เดือนนี้ผมไม่มีเงินให้ค่าช่วยทำบุญนะครับ"
สินกับปั้นมองหน้ากัน
"ผมหมดเกลี้ยงเลย ค่ายาดอง ค่าหมอมาประคบยา ค่าเข้ากระโจมอยู่ไฟ ไหนจะค่าโรงพยาบาล ค่าเสื้อผ้าลูกอีก"
"ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้เอ็งมีค่าใช้จ่ายก็ไม่ใช่น้อย ไม่ใช่ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน ไหนจะลูก ไหนจะเมีย ที่เคยให้แม่ไว้ทำบุญ กินขนมอะไรนั่น แม่ยกให้หลานก็แล้วกัน ไม่ต้องมาให้แม่อีกหรอก แม่ก็มีกินมีใช้ ค้าขายได้กำไรมากกว่าเงินเดือนเอ็งเป็นไหน ๆ" ปั้นบอก
"ที่เอ็งให้มาทุกเดือน ๆ ก็ยังอยู่ครบทุกบาททุกสตางค์ แม่เขาไม่เคยใช้หรอก เขาตั้งใจว่าจะเก็บเอาไว้บวชเอ็ง แต่ก็คงไม่ได้บวชแล้วละ" สินบอก
"ลูกเมียยั้วเยี้ยจะไปบวชยังไง"
สันต์หน้าละอายอย่างละอายใจ
"เอ็งไม่พอใช้พอจ่ายก็บอกแม่ละกัน อย่าให้มันต้องลำบากนัก เลี้ยงลูกให้ได้ดี ๆ เท่านั้นแม่ก็ชื่นใจแล้ว"
สันต์ยิ้มซึ้งใจ
ลำยองอยู่ในห้อง ตักยาดองเหล้าในโหลแก้วที่มีฝาปิด ขึ้นมากินหน้าตาชื่นมื่นราวกับมันมีรสชาติอันแสนวิเศษ สันต์เปิดประตูห้องเข้ามา
"ลูกร้องทำไมน่ะ ลำยอง"
"ไม่รู้เหมือนกัน"
"แล้วทำไมไม่รีบมาดูลูก"
"ก็ลำยองกำลังกินยาอยู่ พี่ไม่เห็นรึไง"
สันต์อุ้มลูกขึ้นมา
"โอ๋ ๆๆ ฉี่รดผ้าอ้อมนี่เอง ลำยองเอาผ้าอ้อมมาเปลี่ยนให้ลูกมา"
"พี่ก็เปลี่ยนให้มันเองสิ ลำยองจะนอน เวียนหัว"
ลำยองล้มตัวลงนอน สันต์จำใจหยิบผ้าอ้อมมาเปลี่ยนให้ลูกเอง
"พี่ว่าลำยองออกไปเดินเหินข้างนอกบ้างก็ดีนะ"
"คนคลอดใหม่ ๆ เขาไม่ให้ออกไปโดนแดดโดนลมหรอก"
"นี่มันก็เกินเดือนมาตั้งนานแล้วนี่ ไม่เป็นไรแล้วละมัง หยิบจับช่วยงานบ้านก็ยังดี ผ้าอ้อมลูกกองพะเนินยังไม่ได้ซักเลยนะ"
"บ่น เป็นคนแก่อยู่ได้ นี่แม่พี่ให้มาพูดใช่ไหม เหมือนกันไม่มีผิดเลย"
"พี่พูดของพี่เอง ว่าจะพูดตั้งนานแล้วด้วย เรื่องแบบนี้มันน่าจะคิดเองเป็นนะ ไม่น่าจะต้องให้บอกให้กล่าว"
"เออ...อีลำยองมันคนสันหลังยาว มันใจดำ แล้วเอามันทำเมียทำไมล่ะ"
ลำยองบีบน้ำตาทำเสียงเครือ
"เอาละ ๆ เวียนหัวก็นอนซะ ผ้าอ้อมนี่พี่เอาออกไปซักเอง"
สันต์อุ้มลูกมือหนึ่ง อีกมือหิ้วตะกร้าผ้าอ้อมที่ใช้แล้วออกไปจากห้อง ลำยองเลิกเล่นละครบีบน้ำตาได้ทันทีทันใจ ความสุขของเธอ คือ การได้นอน ครึ้มใจนิด ๆ ด้วยฤทธิ์ยาดอง
เพิงขายขนมยายแลในยามเช้าตรู่ ลำยงเร่งโหมไฟ ตั้งหม้อลังถึงเตรียมนึ่งขนม สันต์รีบมาลงเรือ เพราะต้องเข้าโรงเรียนนายเรือที่สมุทรปราการ
"ลำยง"
"อ้าว พี่สันต์ นี่จะไปแต่เช้ายังงี้เลยเหรอ"
"วันนี้พี่ต้องเข้าโรงเรียน กว่าจะได้กลับมาก็เย็นวันศุกร์โน่น"
"เหนื่อยหน่อยละนะ พ่อลูกอ่อน"
"ว่าง ๆ ลำยงช่วยไปดูหลานให้พี่หน่อยได้ไหม"
"อ้าว... มันยังไงกันละ แล้วแม่มันไม่เลี้ยงลูกรึไง ถึงต้องใช้ฉันไปดู"
"วันๆ เอาแต่นอน คุยกันดีๆก็กลายเป็นชวนทะเลาะ พ่อแม่พี่งานค้าขายเขาก็ล้นมืออยู่แล้ว ไม่มีเวลามาช่วยหรอก"
"เวรกรรม ฉันเองก็คงจะว่างน่าดูเลยนะ แต่เอาเหอะ แล้วจะไปช่วย ๆดูให้"
"ขอบใจนะ ลำยง"
"ไม่ต้องมาบอกขอบใจหรอก ไอ้วันมันก็หลานฉันเหมือนกัน พี่รีบไปเหอะเดี๋ยวสาย"
สันต์รีบเดินออกไป
“เป็นโสดอยู่ดีๆ ไม่ชอบ หาห่วงมาผูกคอแท้ๆ"
ภายในห้องสันต์ที่เรือนแพแม่ปั้น ลำยองยังนอนอืดบนที่นอน บนพื้นเกลื่อนไปด้วยผ้าอ้อมที่ใช้แล้ว เปื้อนขี้เปื้อนเยี่ยว กองสุ่ม ๆกันอยู่ ลำยงเดินเข้ามาในห้อง เห็นสภาพแล้วต้องถอนใจ ยกมือท้าวสะเอว
"ไอ้โห ไม่จืดตาเลย"
ลำยองงัวเงีย ลืมตาขึ้น
"มาทำไมวะ อีลำยง"
"ผัวพี่น่ะแหละให้ฉันมาดูสภาพพี่หน่อย อยู่เข้าไปได้ยังไงเนี่ย เหม็นขี้เหม็นเยี่ยวจะตาย สุมไว้กี่วันแล้วเนี่ย"
ลำยงไล่เดินเก็บผ้าอ้อมใส่ตะกร้า
"ก็ไม่มีใครทำให้นี่หว่า ยัยปั้นก็ขายของ ข้านะ หมอประคบเขาห้ามออกไปตากแดดตากลม น้ำเย็นยังอาบไม่ได้เลยโว้ย ต้องอาบน้ำร้อน"
"ขี้หมูขี้หมาก็เอาไปกองไว้ที่กะไดท่าน้ำก็ยังดี นี่อะไร หมกไว้ในห้องนอน ท่าน้ำยังโผล่ออกไปไม่ได้มันเกินไปละ คนอื่นเขาคลอดลูก สิบวัน เขาก็ลุกขึ้นมาทำงานกันโครม ๆ ไม่เห็นเป็นไร นี่อะไรก็ไม่แตะซักอย่าง"
"เอ็งไม่เต็มใจจะทำก็ไม่ต้องทำสิโว้ย"
"ที่มาช่วยเนี่ยก็เพราะเห็นแก่ไอ้วันมันหรอก ระวังเหอะ ตัวขึ้นขนอย่างนี้ ซักวันถ้าพี่สันต์เขาเอือมระอาจนทนไม่ไหว หาว่าอีลำยงมันไม่เตือน"
"อีบ้า มาแช่งข้า พี่สันต์เขาไม่ทิ้งเมียสวย ๆอย่างข้าหรอกโว้ย"
"สวยแต่ข้างนอก ข้างในเน่าเหม็นฉึ่ง ใครเอาก็โง่แล้ว"
ลำยองเหวี้ยงของเข้าใส่ แต่ลำยงเผ่นแน่บออกไปซะก่อนแล้ว
"อีบ้า มาด่ากู เดี๋ยวเถอะมึง"
ในเวลาต่อมา ลำยงบิดผ้าอ้อมขึ้นตากบนราว ชาวบ้านซื้อของเสร็จก็ทยอยกันออกไป
"ขอบใจนะลำยง เอ็งก็งานยุ่งอยู่แล้วยังต้องมาเป็นธุระให้อีก" สินบอก
"ฉันก็คงช่วยเท่าที่จะช่วยได้น่ะแหละลุงสิน ถือซะว่าทำเพื่อหลาน แม่มันต้องหัดคิดเองให้เป็นเหมือนกัน ไม่มีใครเขาจะมารับใช้มันได้ตลอดไปหรอก ป้าปั้นก็ทน ๆมันหน่อยละกัน คิดซะว่าบัวยังมีหลายเหล่าเลย นับประสาอะไรกับคน เขาจะเลือกเป็นอย่างไหนก็แล้วแต่เขาละกัน ป้า"
"เอ็งนี่พูดคำพระเป็นกะเขาเหมือนกันนี่"
"ก็ฟังๆ เขามาแหละลุงสิน ไม่ได้คิดเองหรอก"
ลำยงกลั้วหัวเราะ บรรยากาศไม่ตึงเครียดเกินไปนัก
เวลาเย็น ลำยองบรรจงตักเหล้ายาดองในโหลขึ้นมา ราวกับกลัวมันจะหกไปแม้แต่หยดเดียว เข้ามาในห้อง สันต์เข้ามามอง เห็นเมียละเลียดยาดองประหนึ่งเป็นน้ำอำมฤต กินแล้วชื่นจิต
"เมื่อไหร่จะเลิกกินซะที ไอ้ยาดองอะไรเนี่ย"
"แหม พี่ หมอเขากำชับมาว่ายังไงก็ต้องกินให้ครบชุด ไม่งั้นมันจะไม่ได้ผล"
"ออกไปช่วยกวาดบ้านหน่อยไป กับข้าวก็ยังไม่ได้ทำ"
"แล้วแม่พี่ไปไหนล่ะ"
"ลูกค้าเยอะ แม่กับพ่อเขาต้องขายของ นอนเฉยๆ ก็ออกไปช่วยกันหน่อย ลำยองหยิบจับอะไรได้ก็น่าจะช่วยกัน"
ลำยองแว๊ดใส่
"ฉันเป็นเมียพี่นะ ไม่ใช่ขี้ข้า"
สันต์ฉุนขึ้นมาเหมือนกัน
"อ้าว แล้วพ่อแม่ฉันล่ะ ไม่ใช่ขี้ข้าทำครัวให้เธอกินเหมือนกันนะลำยอง"
"ก็ฉันลูกอ่อน เมื่อก่อนตอนฉันยังไม่มาอยู่ ทำไมทำเองได้หมดล่ะ พอฉันมาอยู่ละก็เกี่ยงกันทีเดียว เห็นฉันเป็นอะไร"
สันต์พยายามสงบอารมณ์
"พ่อแม่แกแก่แล้ว อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกันสิ"
"ปีก่อนละทำได้ มาปีนี้ได้ลูกสะใภ้เข้าบ้านเกิดทำไม่ได้มาเชียว ข่มเหงจิตใจกันชัด ๆ แบบนี้จะอยู่บ้านเดียวกันไปทำไม พี่ก็มีเงินเดือนกิน เราแยกไปอยู่ต่างหากไม่ดีกว่าเหรอ เงินเดือนพี่เหลือจะพอ ไม่ให้เงินแม่แกแล้วด้วย"
"พูดอะไรยังงั้น ละอายใจบ้าง สามปากสามท้องมาอยู่กับพ่อแม่แก อะไร ๆก็ไม่ต้องออกเงินช่วย แถมแกยังต้องควักกระเป๋าซื้อโน่นนี่ให้หลานอีก"
"มันจะซักที่ตังค์กันเชียว พี่มัวคิดยังงี้ เมื่อไรจะเป็นอิสระซะที ถ้าบ้านหลวงไม่มี เราก็ไปหาเช่าอยู่กันก็ได้นี่นา"
"ไปไม่รอดหรอก เงินเดือนพี่ก็แค่นี้ อีกอย่างพี่เป็นลูกชายคนเดียวจะทิ้งพ่อแม่ให้อยู่กันลำพังได้ยังไง แค่คิดก็อกตัญญูเกินไปแล้ว"
"แบบนี้ก็เป็นลูกแหง่ไปจนตายแหละ ไม่รู้จักโต"
"ถ้าการอยู่ช่วยพ่อแม่คือเป็นลูกแหง่ละก็ ฉันยินดีจะเป็นลูกแหง่ การที่ลูกจะมีความกตัญญู ใครหน้าไหนมันจะกล่าวหาว่าไม่รู้จักโตก็ช่างหัวมัน ฉันยินดี"
สันต์เดินหัวเสียเดินออกไป ลำยองหมั่นไส้ผัวสะบัดหน้าพรืด
ยามเย็น สินขายของให้ลูกค้า ปั้นทำกับข้าวมื้อเย็นอยู่ สันต์อุ้มลูกอยู่อีกมุมหนึ่ง ทุกคนมีงานต้องทำไม่มีใครอยู่ว่าง ลำยองออกมาจากห้อง จะเดินออกไปข้างนอก สินหันมาเห็นพอดี
"ลำยองเอ๊ย หยิบพริกแห้งมาชั่งหน่อย"
"มีมือก็หยิบเองสิ"
สินอึ้ง สันต์เรียกปราม
"ลำยอง"
"ฉันไม่ว่าง"
"แล้วจะออกไปไหน เดี๋ยวก็กินข้าวเย็นแล้ว"
"จะต้องสนใจทำไม ฉันมันไม่เคยช่วยเหลืองานการบ้านนี้นี่"
ลำยองเดินดุ่มออกไปไม่แยแส
สันต์ขุ่นใจ อุ้มลูกเดินมาหยิบถุงพริกแห้งมาส่งให้สิน แล้วอุ้มลูกเดินมาสงบอารมณ์ ปั้นรามือจากกับข้าวที่ทำอยู่ เดินเข้ามาหาลูกชาย
"ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะ"
"นับวันผมยิ่งรู้เช่นเห็นชาติผู้หญิงคนนี้ครับแม่ ผมเสียใจ ไม่น่าหลงผิด เอามันมาเป็นเมียเลย"
สินเดินเข้ามาหาเมื่อลูกค้าไปกันหมดแล้ว
"ช่างมันเหอะ ไอ้ที่แล้วก็ให้มันแล้วไป ลำยองมันก็เป็นแม่คนแล้ว อายุมากขึ้นมันก็คงจะดีขึ้นเอง อะไรที่พอจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้ ก็ปล่อยๆ มันไป เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้วลูกเอ๊ย"
สันต์เครียดหนัก
ฟากยายแลสวดลูกสาวยกใหญ่ ในเวลาต่อมา
"เอ็งมันใจร้อนเกินไป นังลำยอง บางอย่างก็ยอม ๆมันไปบ้างเหอะวะ มันให้ช่วยขายของ เอ็งก็หยิบ ๆ ส่ง ๆ ไปเหอะ มันจะได้ตายใจ วันหลังเอ็งจะได้หยิบหมูหยิบไก่ส่งมาทางนี้ได้อีกไง พักหลังนี่ไม่มีส่วยส่งมาเลยนะเอ็ง ไอ้พวกนี้มันอดอยากปากแห้งหัวโตกันหมดแล้ว"
"ยัยปั้นมันหวงสมบัติมันยังกะอะไรดี ขนาดงีบกลางวัน มันยังแทบจะนอนบนแผงผักมันเลย"
"ก็นี่ไง มันไม่ไว้ใจเอ็ง ถ้าเอ็งทำให้มันเชื่อใจซะหน่อย เงินทองจะได้หยิบมาได้"
"ฉันก็เลยต้องกลายเป็นขี้ข้ามัน เสียศักดิ์ศรีจริง ๆเลย"
"ศักดิ์ศรีเอ็งเก็บไปก่อนเลย หัดอดเปรี้ยวไว้กินหวานมั่ง ดูตัวเองซิ เป็นเมียนายทหารทั้งที คอแขนล่อนจ้อน ไม่มีทองใส่กะเขาซักเส้น เอ็งอายชาวบ้านเขาไหมเนี่ย"
ลำยองรู้สึกอัปยศอดสูตัวเอง
ในเวลากลางคืน สันต์ขยับตัวลงนอน ลูกหลับอยู่อีกทาง ลำยองเบียดตัวเข้ามากอดพลางลูบไล้
"ไม่เอาน่าลำยอง พรุ่งนี้พี่ต้องตื่นแต่เช้า"
"พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะจ๊ะ"
"ยังไงพี่ก็ต้องไปจ่ายของที่ตลาดให้แม่แต่เช้ามืด นอนเถอะ เดี๋ยวก็ต้องตื่นมาให้นมลูกอยู่ดี"
"พี่เคยบอกลำยองว่า ญาติ ๆกับเจ้านายพี่ เขาให้เงินทำขวัญตอนไอ้วันมันเกิดใช่ไหมจ๊ะ"
"อือ... พี่เอาไปซื้อเป็นทองหมดแล้ว เก็บเป็นทองจะได้ไม่ไปไหน"
ลำยองเข้าทาง ยิ้มละไม
"ดีจัง พี่สันต์นี่รอบค๊อบ รอบคอบ ซื้อทองได้กี่บาทจ๊ะ"
"ก็หลายบาทอยู่ เก็บไว้ให้ไอ้วันมันตอนโต เผื่อฉุกเฉินขาดเหลือยังหยิบฉวยได้ อย่างค่าเล่าเรียน หรือเวลาเจ็บไข้"
"แล้วเก็บไว้ไหนล่ะจ๊ะพี่"
"อยู่ที่แม่"
"แหม...น่าจะให้ลำยองเป็นคนเก็บ ลำยองเป็นแม่นะจ๊ะ ของของลูกไม่ให้แม่เก็บ ดันเอาไปให้ย่าเก็บ แล้วยังงี้จะเรียกว่า ให้หลานได้ยังไง"
"แม่เขาเก็บน่ะดีแล้ว แม่มีกำปั้น ลำยองเก็บแล้วจะเอาไว้ไหน"
"ลำยองก็เอาไว้กับตัวไงจ๊ะ ทองตั้งหลายบาท ลำยองจะได้มีเขียว ๆ เหลือง ๆ ติดตัวมั่ง นี่มันแสนจะล่อนจ้อน พี่สันต์ไม่อายชาวบ้านเขามั่งเลยเหรอจ๊ะ"
"ทำไม่ต้องอายใคร ความดีมันอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่ทองที่ใส่"
"แปลว่า ไม่ให้ลำยอง"
"เลิกคุยเรื่องนี้เถอะ นอนได้แล้ว"
สันต์พลิกตัวหนี หันหลังให้ลำยองที่ทำกระซิกร้องไห้ เหมือนเจ็บปวดจากก้นบึ้งของหัวใจ สันต์ถอนใจแล้วข่มใจ ข่มตา ทำไม่สนใจ
ลำยองสำแดงบทโศกได้ไม่ถึงอึดใจก็ต้องเลิก เพราะท่าทางผัวจะไม่สนใจแน่แล้ว เธอขุ่นมัว ขัดใจหันหลังให้สันต์เหมือนกัน
หนึ่งปีผ่านไป เวลาเช้า ที่เพิง ลำยงขายขนมให้ชาวบ้าน สันต์ในชุดเครื่องแบบ อุ้มวันเฉลิม มีลำยองเดินตามมาด้วย
"มาส่งพ่อเอ็งเรอะไอ้วัน...มา มาหาน้าเดี๋ยวน้าป้อนขนมถ้วย หย่อย ๆ"
ลำยงเข้าไปรับวันเฉลิมจากสันต์มาอุ้มไว้
"พ่อไปนะลูกนะ อีกตั้งหลายวันกว่าจะได้เจอกัน"
"ใจคอจะไม่ทิ้งเงินไว้ให้ซื้อขนมให้ลูกกินบ้างเลยรึไง พี่สันต์"
"ขนมที่บ้านก็มีตั้งเยอะแยะ จะซื้ออะไรอีก"
"มีแต่ขนมคนแก่ พ่อแม่พี่ซื้ออะไรให้หลานกินก็ไม่รู้ ไอ้วันมันชอบที่ไหน"
สันต์จำใจหยิบเงินออกมาจากกระเป๋ายี่สิบบาท ยายแลชะเง้อยื่นคอยาว
"ยี่สิบเอง จะซื้ออะไรได้ กับลูกกับเต้าขี้เหนียวไม่เข้าเรื่อง"
สันต์ตัดใจหยิบแบงค์ร้อยออกมา
"ใช้ประหยัด ๆ หน่อยก็แล้วกัน"
ลำยองดึงเงินไปเหน็บใส่สะเอว
"พ่อไปนะลูกนะ"
สันต์เดินไปเพื่อลงเรือ
"นังลำยอง...นังหนิงมันข้ามไปเรียนเสริมสวยฝั่งโน้นจนจบแล้วนา ตอนนี้มันเปิดร้านของมันแล้ว คนไปอุดหนุนมันให้คั่กเหมือนกัน" ยายแลบอก
"ฝีมือดีเร้อ"
"ใช้ได้เชียวละ จะทำผมแบบดาราคนไหนมันก็ทำได้หมด เหมือนเปี๊ยบเลยละ เอ็งจะไปลองดูไหมล่ะ ผัวให้เงินมาตั้งร้อย"
"พี่สันต์เขาให้ไว้ซื้อขนมให้ไอ้วันมันกิน" ลำยงบอก
"อีนี่ สาระแน ทำผมทำเล็บมันจะกี่บาทกัน"
"ฝากดูไอ้วันมันด้วย ไปแม่"
ลำยองเดินออกไปกับยายแล
"อ้าว ทิ้งลูกง่าย ๆ กันยังงี๊เลยเหรอวะ เวรกรรมของเอ็งจริงจริ๊ง ไอ้วันเอ๊ย"
ในร้านเสริมสวยของชุมชน หนิงกำลังยีหัวกบาลลูกค้าจนฟู เตรียมจัดทรงผม ขณะที่ลำยองนั่งอบผมที่ดัดน้ำยาเอาไว้แล้ว ฝ่ายยายแลนั่งใกล้ ๆ ให้เด็กขัดเล็บตีน
"ดวงเอ็งนี่มันเป็นยังไงหว่า ทำไมมันถึงได้ติดขัดไปซะทุกเรื่อง"
"ดวงไม่ดี ก็เพราะต้องเจอแต่คนเลว ๆ ไงล่ะแม่"
"ข้าเคยดูหมอ ดวงเอ็ง เจ้าก็ว่าดวงดี จะได้ผัวดี แล้วไหงถึงต้องมาอึดอัดยังงี้ ข้าเองก็เหมือนกัน พ่อปู่เขาว่าจะมีโชคลาภใหญ่ นี่ก็รอ ๆอยู่ ไม่เห็นจะถูกใต้ดินกะเขาซักกะที งวดที่แล้วได้เลขเด็ดมา ก็ดันลืมกลับหน้ากลับหลัง เลยถูกกินเรียบ"
"พ่อปู่ อะไรที่ไหนแม่"
"อ้าว เอ็งไม่รู้เรอะ หลังวัดน่ะ ตอนนี้มีร่างทรงพ่อปู่มาปลูกอาศัยร่มอยู่ ใคร ๆเขาก็ไปกราบกัน ท่านดูหมอแม๊นแม่น บอกเลขเด็ดก็ไม่เคยผิด น้ำมนต์ท่านก็ศักดิ์สิทธิ์ รักษาคนเจ็บคนไข้หายเป็นปลิดทิ้ง วันก่อนข้ายังไปดูท่านรักษาคนถูกผีเข้า ท่านเสกน้ำมนตร์เสร็จ สาดใส่ขันเดียว สั่นนั่น ๆ ร้องโหยหวนแล้วก็ล้มตึงไปเลย พอฟื้นขึ้นมาก็กลับมาเป็นคนเดิม ท่านว่ามันเป็นผีจอมปลวก"
"ต๊าย...ขนลุกเลยนะแม่"
"ข้ากำลังคิดอยู่ว่าใกล้วันหวยออก จะไปหาท่านอีกซักครั้ง เผื่อจะได้เลขเด็ดอีก"
"ทำไมต้องรอใกล้วันหวยออกล่ะ ไปวันนี้เลยไม่ได้รึไง"
ที่สำนักทรงพ่อปู่ผู้คนแน่นขนัด มีคนป่วยถูกเหยียบด้วยฝ่าเท้าอาบน้ำมัน จนสะบักสะบอม พ่อปู่เล่นบทโหด พ่นน้ำมนตร์ใส่คนป่วยซ้ำ
"พรุ่งนี้หาย"
ญาติคนป่วยกราบแทบเท้าพ่อปู่ ยายแลพาลำยอง เข้ามาพอดี
"คนนี้เหรอแม่ พ่อปู่น่ะ"
"เออ...กราบท่านซะ"
ลำยองกราบพ่อปู่
พ่อปู่หันมาเห็น
"ว่ายังไงล่ะ"
"ฉันพาลูกสาวมากราบพ่อปู่จ้ะ อยากจะให้พ่อปู่ช่วยดูโชคชะตาให้มันด้วย"
ลำยองพนมมือราวกับอยู่ต่อหน้าพระ
"นี่ลูกสาวเรอะ แหมสง่าราศีดีจริง ๆ สวยซะด้วย อายุเท่าไรแล้วล่ะ ยี่สิบได้แล้วมั้ง"
"อุ๊ย ยังไม่ถึงเพคะ เพิ่งจะย่างสิบเก้าเท่านั้นเอง"
"ข้าทายไม่เคยผิดหรอก สาว ๆ ยังไงก็อยากจะรู้เรื่องเนื้อคู่ใช่ไหมล่ะ"
"เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่าท่านทำนายแม๊นแม่น"
"อยากจะรู้ละสิว่าเมื่อไรจะได้แต่งงาน"
ลำยองสบตายายแลอย่างทึ่งในความแม่น
"ไหนบอกวันเดือนปีเกิดมาซิ"
"แม่...ฉันเกิดวันอังคาร หรือวันศุกร์นะ"
"วันอาทิตย์โว๊ย"
"เกิดวันอาทิตย์ ปีกุลเพคะ เดือนสามนะแม่นะ"
พ่อปู่สวนทันที
"อุแม่ ดวงชะตามาหาเสน่ห์ชัด ๆ มีคนรุมรักนับไม่ถ้วน จะได้คู่ดีมีวาสนา รุ่งเรืองในราชการ ลูกก็จะดีเป็นคนมีความรู้สูง เทวีจากฟ้าแท้ ๆ เราน่ะ จะต้องได้พบพานเทพบุตร จะได้แต่งงานเร็ว ๆ นี้แหละ"
"แต่หนูมีผัวแล้วเพคะ พ่อปู่"
"อ้าว...เรอะ"
"ลูกก็โตจนจะได้ขวบแล้วด้วยจ้ะ" ยายแลว่า
พ่อปู่เสียฟอร์มแต่ไถไปจนได้
"อ้าว... แต่ดวงชะตานางฟ้ามาเกิดแบบนี้จะต้องได้พบเทพบุตรนี่นา ไหงเป็นยังงี้ไปได้"
ยายแลกระซิบอกลูกสาว
"ท่านว่าเอ็งเป็นนางฟ้า กลับชาติมาเกิดว่ะ ข้าขนลุกไปหมดเลยลำยองเอ๊ย"
"อ้อ... เห็นแล้ว เห็นแล้ว"
"เห็นอะไรเพคะ พ่อปู่" ลำยองถามด้วยความกระตือรือร้น
"บุญมีแต่กรรมมาบังเอาไว้"
ลำยองหูผึ่ง ตั้งอกตั้งใจฟังด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยม
พอสองแม่ลูกกลับมาที่เพิงขายขนม ถูกลำยงถาม
"ลูกผัวก็มีเป็นตัว เป็นตนแล้ว ยังจะได้เจอเทพบุตรที่ไหนอีกล่ะ"
"พ่อปู่ท่านว่า ต้องให้ใกล้ๆ เบญจเพสโน่น โว้ย ถึงจะได้เจอ"
"ท่านบอกให้ทำบุญให้มากๆ ทำให้ถูกวิธีด้วย จะยิ่งทำให้เจอเทพบุตรเร็วขึ้น"
ยายแลคุยเขื่องถูกลำดวนซักไซ้
"แล้วทำบุญยังไง ถึงจะถูกวิธี ล่ะแม่"
"ก็...ก็ ตักบาตรพระสามองค์ทุกวันพระ ต้องหาอาหารคาว หวาน เซ่นผีบ้านผีเรือนทุกเช้า สี่ถ้วย แล้วยังไงอีกวะ ลำยองข้าก็จำไม่ค่อยได้"
"ต้องถวายของศาลพระภูมิ ต้องเซ่นที่หัวนอนทางทิศตะวันออก ผีเรือนจะได้คุ้มครองกรรมจะได้หมดไป" ลำยองบอก
"วันหลังพาฉันไปมั่งสิแม่ ฉันจะได้ให้ท่านดูดวงให้บ้าง"
"เออ ๆๆ นังลำยองเอ็งกลับไปต้องรีบทำอย่างที่ท่านบอกเลยนะโว๊ย เทพบุตรจะได้ปรากฏองค์ซะที"
"เฮอะ...ลูกโตจนจะวิ่งได้อยู่แล้ว ยังหวังจะได้เจอเทพบุตรที่ไหนอีกวะ แม่นี่ก็เชื่ออะไรงมงายไม่เข้าเรื่อง" ลำยงพูดขัด
"เอ็งนี่มันปากเสีย พ่อปู่ท่านอาจจะหมายความว่าผัวมัน อาจจะได้ดีกลายเป็นเทพบุตรก็ได้นี่หว่า"
"พี่สันต์เขาอาจจะได้เป็นถึงนายพล ก็ได้นะแม่นะ" ลำยองบอก
"ใช่.. ดวงเอ็งน่ะสนับสนุนผัวให้เจริญรุ่งเรือง" ยายแลว่า
"โอ๊ย..จะบ้าตาย นางฟ้ามาเกิด นางฟ้าอะไรวะ สวยแต่ตัว แต่วิมานเหม็นฉึ่ง"
ลำยงเผ่นออกไปก่อนถูกตบฟันร่วง
"อีลำยง เดี๋ยวเถอะมึง" ลำยองด่าตามหลังไป
หลายวันต่อมา สันต์เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนนายเรือ เข้ามาในห้องนอน เห็นลำยองนอนแผ่หลา หลับเขลงอยู่กับพื้นห้อง วันเฉลิมหลับอยู่ข้างๆ สันต์ถอดเสื้อเครื่องแบบออก เหลือเสื้อคอกลมขาวตัวใน สันต์ชะงัก เพราะเห็นโหลยาดองที่ตั้งไว้ข้างที่นอน ฝาถูกวางไว้ข้างๆ โหล ในโหลมีแต่เหล้าไม่มียาดองเหลือแล้ว สันต์แตะเหล้าในโหลขึ้นชิม แล้วต้องส่ายหน้า
ลำยองพลิกตัวตื่นลืมตาและเห็นสันต์
"พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่"
"นานแล้ว จนกินข้าวอิ่มไปแล้ว ยังกินยาดองอยู่อีกเหรอ ลูกตั้งขวบกว่าแล้ว"
"กินนาน ๆ สิดี บำรุงร่างกาย เขาว่ากินตลอดไปได้ ยิ่งดีใหญ่ เลือดลมเดินสะดวก ร่างกายจะแข็งแรง"
"ก็นี่มันแทบจะไม่มีรสยาดองอยู่แล้ว เหล้าแท้ ๆ เลย"
"ก็เงินหมด ไม่มีซื้อยามาใส่ก็เลย เอาเหล้าขวดใหม่ใส่ลงไปในยาเก่า มันก็เลยจางไปหน่อย รอเงินงวดใหม่"
ลำยองกระพือผ้านุ่ง มาเหน็บใหม่
"เลิกกินซะไม่ดีกว่าเหรอ คนอื่นเขาไม่เห็นต้องกินกันเลย เดี๋ยวก็ติดเหล้ากันพอดี ลูกก็โตแล้ว"
"ไม่ได้หรอก ขืนไม่กินโทรมแย่เลย แหม แต่นี้ทำเป็นตืดไปได้"
วันเฉลิมตื่น ร้องไห้จ้า เพราะเสียงดังของลำยอง
"ร้องหา สวรรค์วิมานอะไร รำคาญอะไรนิดก็ตื่น อะไรหน่อยก็ตื่น"
สันต์เข้าไปอุ้มวันเฉลิมขึ้นมา
"วิกนึงถึงจะกลับมาที กลับมาก็หาเรื่องว่าได้ว่าเอา นี่คงไปหลงอีพวกทหารเรือสาว ๆละสิ กลับมาก็หาเรื่องทุกที อะไร ๆก็ไม่ถูกใจทั้นนั้นแหละ"
"พอทีเถอะ อย่าบ้าให้มันมากนักเลย"
"กินยาดองก็ว่า เสริมสวยก็ว่า"
"เป็นอีขี้เมา แล้วมันดีตรงไหน ไอ้เรื่องเสริมสวยอีก ห้องหับเหม็นอับ มุ้งหมอนหนอนจะขึ้นอยู่แล้ว เคยซักบ้างไหม ให้ลูกมันนอนเข้าไปได้"
"มาถึงก็หาแต่เรื่อง นี่ยัยแม่คงเสี้ยมสอนมาละสิ พูดอะไรเหมือนกันไม่มีผิด ยุยงกันดีนัก เลิกกัน จะได้หาลูกสะใภ้ใหม่รวย ๆ ละสิ แก่แล้วไม่อยู่ส่วนแก่ ไม่กลัวบาปกลัวกรรม ไม่กลัวตกนรกมั่งรึไง คนจะทำบุญก็คอยขัดคอยขวางทุเรศ"
"ไปกันใหญ่แล้วนะ มันเรื่องอะไรลามปามไปถึงแม่ฉัน"
ลำยองเดือดดาลจนสั่น สันต์พยายามระงับอารมณ์
"ไปหาปู่ดีกว่าลูกไป อย่ามาอยู่ใกล้ฟังแม่หมาบ้านี่เลย พาลใหญ่แล้ว ไม่รู้จักสัมมาคารวะ ไร้การอบรม"
ลำยองกรีดร้องปานจะขาดใจ สันต์อุ้มลูกออกไปทันที
สันต์อุ้มวันเฉลิมออกมา สินกับปั้นยืนมองอยู่ เพราะเสียงทะเลาะกันดังลั่นห้อง
"มันอะไรกันลูก อาทิตย์นึงกลับมาทีแทนที่จะคุยกันดีๆ ให้หายคิดถึงกลายเป็นทะเลาะกันไปซะได้" สินถาม
"ผมเองก็ไม่อยากจะทำ ยังงี้ หรอกครับพ่อ"
"เป็นผัวเมียกัน มีอะไรก็ค่อย ๆ พูดค่อยๆ จากันเถอะลูกเอ๊ย สงสารไอ้วันมัน" ปั้นบอก
"ครับแม่....ผมฝากหลานด้วย เสื้อผ้ากองพะเนินในห้อง ยังไม่ได้ซักเลย"
สันต์ส่งวันเฉลิมให้สินรับไปอุ้ม แล้วกลับเข้าไปในห้อง
"หิวไหม ไอ้วัน"
"เย็นนี้กินหมูปิ้งนะ ลูกนะ เดี๋ยวย่าปิ้งให้กิน"
สันต์กลับเข้ามาในห้อง โกยเสื้อผ้าวางทิ้งเกลื่อนกระจายไม่เป็นที่เป็นทางใส่ตะกร้าจะเอาออกไปซักลำยองทำประชด ตักเหล้าจากโหลยาดองขึ้นมากิน สันต์อุตส่าห์ทำเป็นไม่เห็นแล้วเชียว
"เมื่อไหร่จะหมดเวรหมดกรรม กับไอ้คนบ้านนี้ซะที"
สันต์ยกตะกร้าผ้า จะออกไปจากห้องอยู่แล้ว
"แก่แล้วไม่อยู่ส่วนแก่ ตาย ๆกันไปซะที"
สันต์ชะงักกึก ฉุนจนเกินระงับใจ
"ฉันบอกแล้วว่า อย่าลามปามถึงพ่อแม่ฉัน"
"พ่อแม่พรรค์ยังงี้ ชอบยุแยงให้ผัวเมียเขาแตกกัน มันต้องแช่งให้ตายวันละสามหน"
"ถ้าก้าวร้าว พ่อแม่ฉันอีกคำเดียวจะได้เห็นดีกัน"
"กูไม่กลัวหรอกโว้ย หนอยจะตักบาตรพระก็บ่น จะไหว้ผีบ้านผีเรือนก็ว่า มหาสิน ถุย หมาสินละไม่ว่า"
สันต์หมดความอดทนทิ้งตะกร้าผ้า แล้วตบหน้าลำยองเต็มแรงฝ่ามือ เธอสะดุ้งเฮือก ไม่คาดคิดว่าจะได้โบนัสก้อนใหญ่ขนาดนี้ เขาอึ้งไปเหมือนกัน ที่ทำรุนแรงขนาดนี้ มันเหมือนวินาทีนั้น เขาไม่ได้เป็นตัวเองเลย
"แอร๊ย..."
ลำยองผลุนพลัน เตะถีบตะกร้าผ้ากระจุย ก่อนจะออกไปจากห้องทันที
"ลำยอง ลำยอง"
สันต์ตามออกมา อยากจะขอโทษมันเหมือนกัน
ลำยองร้องไห้ ปึงปังออกมา แล้วตรงเข้ากระชากตัววันเฉลิมที่สินอุ้มอยู่อย่างแรง
"เอาลูกข้ามานี่"
"เบา ๆสิวะลำยอง ไอ้วันมันเจ็บนะโว้ย" สินบอก
"ช่างหัวมันสิ"
วันเฉลิมร้องไห้จ้าเพราะตกใจ เธออุ้มลูกเดินปัง ๆ ออกไปทันที
"ลำยอง" สันต์ตะโกนเรียก
"มันอะไรกันนักหนา แม่บอกแล้วว่า..." ปั้นว่า
"ผมไม่ดีเองครับแม่ มันเหลืออดจริง ๆ ก็เลยตบเปรี้ยงเข้าให้"
"อะไร ถึงขนาดต้องลงไม้ลงมือกันเชียวเรอะ"
"ใครเขาจะว่าได้ว่า เราไม่เป็นชายชาติทหาร รังแกผู้หญิง มันเสียที่ตัวเราเองนะลูกเอ๊ย" สินบอก
"พ่อกับแม่ก็คงได้ยินกันแล้ว ปากมันยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น"
"ก็ต้องทำใจ กำพืดคนมันเป็นยังงั้น" สินบอก
"เอ็งไปลงไม้ลงมือกะเขายังงี้ เอ็งคงไม่ใช่เทพบุตรที่เขาคอยแน่ สันต์เอ๊ย"
"เทพบุตรอะไรครับแม่" สันต์ฉงน
พ่อแม่สันต์ได้แต่มองหน้ากัน
อ่านต่อตอนที่ 2