นางร้ายสายลับ ตอนที่ 13
ทุกคนนั่งรวมตัวกันอยู่ในรถตู้ท่าทางเคร่งเครียด ปรีติพยายามเช็คสัญญาณบนจอ
“จับสัญญาณได้แล้วครับ”
นฤเบศเงยหน้ามามองที่จอทันที
“ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“กำลังหาพิกัดครับ”
จ่ายมสงสัย
“แล้วทำไมอยู่ดีๆ ถึงจับสัญญาณได้ ไหนเมื่อกี้หมวดบอกว่า สัญญาณดับไปไม่ใช่เหรอ”
“ผมคิดว่า เครื่องส่งสัญญาณของสายลับเนปจูนอาจจะขัดข้องเพราะโดนกระแทก ไม่งั้นก็สายลับเนปจูนอาจจะเป็นคนปิดและเปิดมันใหม่อีกครั้ง แต่ตอนนี้เราจับได้แค่สัญญาณ GPS ครับ ภาพและเสียงจากกล้องยังคงไม่มีสัญญาณเหมือนเดิม”
ทุกคนหน้าเครียด จ้องพิกัดบนหน้าจอที่กำลังประมวลผลแคบลงเรื่อยๆ ปรีติชะงักเมื่อบนจอระบุพิกัดที่แน่นอนได้ ปรีติหันมองสารวัตรนฤเบศ
“สายลับเนปจูนอยู่ที่ คอนโดพลูโต ครับ”
นฤเบศหน้าเครียด เป็นห่วงสุรีกานต์ แต่ก็พยายามรวบรวมสมาธิแล้วสั่งการ
“ฉันจะไปช่วยสายลับเนปจูน ส่วนพวกนายรีบไปสืบมาว่าโกดังที่มงคลมันพูดถึงคือที่ไหน พยายามหาเบาะแสให้ได้มากที่สุด เราจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
ประเสริฐหันมาถาม
“สารวัตรจะไปคนเดียวหรือครับ”
“ให้ผมไปเป็น...”
อัศวินจะเสนอตัว นฤเบศขัดขึ้น
“ไม่ต้อง ฉันไปคนเดียวสะดวกกว่า พวกนายรีบจัดการตามที่ฉันสั่ง”
“งั้นสารวัตรเอารถผมไปดีกว่าครับ รับรองไปไวเหมือนเหาะ”
อัศวินโยนกุญแจช็อปเปอร์ให้ นฤเบศรับแล้วยิ้มบางๆ
“ขอบคุณ”
สุรีกานต์ถูกริชาร์ดตบหน้าอย่างแรงจนล้มลงบนเตียง เลือดซิบที่มุมปาก เธอลุกขึ้นสะบัดหัวให้หายมึน เอามือกุมแก้มแล้วจ้องเขม็งไปที่ริชาร์ดที่ยืนยิ้มเยาะอยู่อย่างแค้นๆ
“เป็นนักแสดงชื่อดังแล้วยังรับจ๊อบเป็นสายลับช่วยราชการอีก เก่งขนาดนี้ ฉันควรจะให้รางวัลเธอยังไงดีนะ”
“ฉันทำเพื่อช่วยประเทศชาติ ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน สิ่งเดียวที่ฉันหวังและต้องทำให้สำเร็จคือทำยังไงก็ได้ให้แกไปนอนในคุกให้เร็วที่สุด”
“ปากดีนักนะ หึ ฉันอยากจะรู้นักว่าจะปากดีอย่างนี้ไปได้อีกสักแค่ไหน”
ริชาร์ดยิ้มเหี้ยมแล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อ สุรีกานต์หน้าซีด มองอย่างหวั่นๆ ริชาร์ดถอดเสื้อ เธอก็ถอยกรูดไปทางหัวเตียง แต่เขากระชากข้อเท้าแล้วคร่อมไว้
“ไม่ต้องหนี คราวนี้เธอไม่รอดแน่”
“ปล่อยฉัน ไอ้บ้า ไอ้ชั่ว”
ริชาร์ดเริ่มปลุกปล้ำแต่ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ริชาร์ดชะงักอารมณ์เสียทันที
“มีอะไร”
เสียงบอดี้การ์ดดังเข้ามา
“พ่อเลี้ยงกำธรมาขอพบท่านครับ”
สุรีกานต์หูผึ่ง อาศัยจังหวะที่ริชาร์ดหันหน้าไปทางประตู แอบสอดมือเข้าไปในบราหยิบเครื่องดักฟังจิ๋วแล้วกำไว้แน่น สุรีกานต์มองหาจังหวะจะติดไปบนตัวริชาร์ด พอเขาลุกไปจะหยิบเสื้อเชิ้ตที่ถอดไว้ปลายเตียงมาใส่ เธอก็ได้จังหวะทำเนียนเป็นผลักเขาให้ไปพ้นตัวแต่แอบแปะเครื่องดักฟังจิ๋วไปที่เข็มขัดด้านหลัง ริชาร์ดหันขวับมามอง สุรีกานต์สะดุ้งเฮือก
“อย่าคิดที่จะหนีล่ะ เธอก็รู้ว่าหนีไม่พ้น นอกจากจะโดดระเบียงนั่นออกไป แต่บอกไว้ก่อนนะ นี่มันชั้น 37 ศพเธอคงไม่สวยแน่ถ้าคิดโดดลงไป” ริชาร์ดหัวเราะสะใจ
สุรีกานต์ไม่ได้พูดอะไร ริชาร์ดกระตุกยิ้มเหี้ยมแล้วเดินออกจากห้องไป สุรีกานต์ยิ้ม รีบแตะปุ่มเปิดรับสัญญาณเครื่องดักฟังจากสร้อย แล้วเอามือแตะหูฟังสายลับรอฟังเสียง
ริชาร์ดเดินมานั่งที่โซฟา พ่อเลี้ยงกำธร นั่งรออยู่ก่อน ริชาร์ดถามเสียงหงุดหงิด
“มีอะไรด่วนหรือไง”
พ่อเลี้ยงกำธรเห็นเสื้อผ้ายับเยินไม่เรียบร้อยของริชาร์ด ก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ขอโทษที่มาขัดจังหวะ เห็นพวกลูกน้องคุณบอกว่า จับตัวนังดารานั่นได้แล้วเหรอครับ”
“ใช่ แล้วนี่พ่อเลี้ยงมีธุระอะไรสำคัญเหรอเปล่า”
“ตอนนี้สินค้าของเราก็อยู่ในโกดังเรียบร้อยแล้ว เลยอยากจะมาปรึกษาเรื่องที่เราจะกระจายสินค้าออกไปทั่วประเทศ”
“พ่อเลี้ยงมีแผนดีๆ จะนำเสนออย่างนั้นเหรอ”
“พอดีผมคุยกับสารวัตรมังกรเรื่องนี้ แล้วเขายินดีจะเข้ามาช่วยดูเรื่องการขนส่งให้กับเรา รับรองว่าได้คนอย่างสารวัตรมังกรมาช่วย การขนส่งสินค้าครั้งนี้จะไม่มีปัญหากวนใจเลยล่ะครับ”
“ดี งั้นพ่อเลี้ยงก็ดำเนินการเรื่องนี้ต่อได้เลย”
“แล้วนี่คุณจะทำยังไงกับนังดารานั่นต่อครับ ผมว่าจัดการฆ่าปิดปากมันไปเลยดีมั้ย”
ริชาร์ดส่ายหัวยิ้มร้าย
“ของดีๆแบบนี้ ฆ่าทิ้งไปก็เสียดายแย่สิพ่อเลี้ยง เก็บไว้ล่อพวกตำรวจก่อนดีกว่า แต่ถ้าฤทธิ์เยอะนัก ผมอาจจะขายต่อไปชายแดนก็ได้”
“งั้นผมกลับล่ะครับ ไม่อยากรบกวนเวลาความสุขของคุณ”
“เดี๋ยวผมให้ลูกน้องไปส่ง”
สุรีกานต์แอบหลบอยู่ที่มุมหนึ่งได้ยินที่ริชาร์ดพูดก็เริ่มหน้าซีด มือที่กำไม้กอล์ฟแน่นเริ่มสั่น พอได้ยินเสียงประตูปิดเหมือนพ่อเลี้ยงกำธรจะกลับไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นานประตูห้องนอนก็ถูกเปิดเข้ามา สุรีกานต์กัดปากด้วยความกลัว ริชาร์ดเดินเข้ามา เห็นสุรีกานต์ไม่อยู่บนเตียงก็ตกใจเล็กน้อย แล้วยิ้มกริ่มออกมา
“ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่นซ่อนแอบหรอกนะ นับ 1-3 ถ้าไม่ออกมา รู้ใช่มั้ยว่าถ้าฉันหาเจอเอง แล้วเธอจะโดนอะไรบ้าง”
สุรีกานต์ตัวสั่น เหงื่อแตกพลั่ก
“1... 2...”
ริชาร์ดนับไปก็กวาดตามองรอบห้องไปด้วย สุรีกานต์กำไม้กอล์ฟแน่น
“3”
สุรีกานต์กระโจนออกมาที่ซ่อน วิ่งตรงเข้าหา ริชาร์ดชะงักหันกลับมาตามเสียง สุรีกานต์ตวัดไม้กอล์ฟใส่หน้า จนริชาร์ดที่ไม่ทันตั้งตัวทรุดลง เลือดออกที่หัว
“อย่าอยู่เลยแก”
สุรีกานต์ฟาดที่หัวซ้ำอีกรอบ จนริชาร์ดสลบไปทันที เธอใช้เท้าเขี่ยริชาร์ดแล้วถอนหายใจโล่งอก
“ขอให้เลือดคั่งในสมองตายไปเลย”
สุรีกานต์วางไม้กอล์ฟ เดินไปที่ประตู แอบเปิดแง้มนิดๆ แล้วมอง เห็นบอดี้การ์ดริชาร์ดเฝ้าอยู่ด้านนอก สุรีกานต์ปิดประตูแล้วฮึดฮัดขัดใจ ครุ่นคิดหาทางหนี
สารวัตรนฤเบศขับช็อปเปอร์หน้าตาเคร่งเครียด ก่อนจะบิดเร่งความเร็ว ช็อปเปอร์ทะยานไปด้วยความเร็วสูง
สุรีกานต์โผล่หน้าออกมาจากประตูอีกครั้ง เห็นบอดี้การ์ริชาร์ดยืนเฝ้าอยู่ห่างออกไป
“เอาวะ เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน”
สุรีกานต์อาศัยจังหวะที่บอดี้การ์ด 2 คนหันไปทางอื่น รีบเปิดประตูแล้วปิดเบาๆ ก้มตัวคลานกับพื้น อาศัยหลบตามเฟอร์นิเจอร์ จนไปถึงหน้าประตูห้องได้สำเร็จ เธอกลั้นใจบิดลูกบิด เสียงที่ดังขึ้นทำให้บอดี้การ์ดริชาร์ดรู้ตัว
“เฮ้ย ทำอะไรวะ”
สุรีกานต์เห็นบอดี้การ์ดทั้งสองคนกำลังพุ่งมาหา เลยรีบเปิดประตูพรวดออกไปข้างนอกทันที
สุรีกานต์ชะงักเมื่อเจอกับอีกสองบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่หน้าห้อง บอดี้การ์ดหันมาเห็นสุรีกานต์ก็วิ่งเข้ามาจะจับ แต่สุรีกานต์ก็บู๊แหลก จนวิ่งหลุดออกมาได้ สุรีกานต์หันไปมองเห็นบอดี้การ์ดคนหนึ่งในห้องออกมาสมทบ เธอตาเหลือกรีบวิ่งไปกดลิฟท์ส่วนตัวทันที พอลิฟท์เปิดออก เธอรีบเข้าไปกดปิดทันที รอดจากสามบอดี้การ์ดได้อย่างฉิวเฉียด
สุรีกานต์วิ่งออกมาจากคอนโด มองซ้ายขวา ชะงักเมื่อเห็นบอดี้การ์ดชุดดำของริชาร์ดอีกสองคนที่เพิ่งวางหูจากโทรศัพท์แล้ววิ่งตรงมา
“โอ๊ย ทำไมเยอะอย่างนี้เนี่ย”
สุรีกานต์รีบวิ่งหนีสุดชีวิต บอดี้การ์ดสองคนวิ่งไล่ตามมาติดๆ...นฤเบศขี่ช็อปเปอร์ ใส่หมวกกันน็อกมิดชิดมาถึงพอดี จอดเอี๊ยดหยุดรับ สุรีกานต์ไม่รู้ว่าเป็นว่าเป็นใครแต่ตัดสินใจขึ้นซ้อนทันที นฤเบศบิดคันเร่งแล้วรถก็พุ่งออกไป บอดี้การ์ดริชาร์ดวิ่งตามไม่ทันได้แต่ฮึดฮัดเจ็บใจ...สุรีกานต์เกาะเอวนฤเบศแน่น ขับมาไกลจนน่าจะปลอดภัย เธอก็กระตุกเสื้อหนังของเขาตะโกนฝ่าลม
“พ้นแล้ว จอดได้แล้ว”
นฤเบศไม่จอด สุรีกานต์เริ่มหน้าซีดกลัวถูกพาไปทำมิดีมิร้าย
“นี่...จอดเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้จอด จอด”
“หุบปากแล้วนั่งนิ่งๆ เดี๋ยวตกรถ”
สุรีกานต์เบิกตากว้างจำเสียงได้ว่าเป็นนฤเบศ แล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ
นฤเบศหน้าตาบึ้งตึง เดินนำสุรีกานต์ที่เดินจ๋องๆ ตามเข้ามาในบ้าน เขาหันกลับมามองหน้าตวาดลั่น
“ทำไมถึงชอบสร้างปัญหาอยู่เรื่อย ชอบขัดคำสั่ง นอกแผน อวดเก่ง แล้วเป็นไงล่ะ ตัวเองเดือดร้อนไม่พอ ยังทำให้คนอื่นต้องมาลำบากไปด้วย”
สุรีกานต์เสียงเครือ
“ฉันขอโทษ ขอโทษที่ขัดคำสั่ง ขอโทษที่อวดเก่ง ขอโทษที่ทำให้ทุกคนในทีมต้องเดือดร้อนและลำบากเพราะฉัน ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
นฤเบศเห็นสุรีกานต์ท่าทางจะร้องไห้ก็หันหน้าหนี กลัวตัวเองใจอ่อน
“แต่ว่าฉันมีเรื่อง...”
“พอ...ผมขอสั่งพักงานคุณไม่มีกำหนด”
สุรีกานต์เบิกตากว้าง
“หมายความว่า...”
“คุณอยู่เฉยๆ เก็บตัวอยู่ที่นี่ จนกว่าจะมีคำลั่งจากผม”
“นี่คุณ แบบนี้มันเท่ากับให้ฉันอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยน่ะสิ”
“นี่คือบทลงโทษสำหรับคนชอบทำอะไรตามใจตัวเองอย่างคุณ แล้วผมเตือนไว้ก่อนนะ ถ้าคิดขัดคำสั่งผมอีก ผมไม่รับประกันว่าจะไม่ใจร้าย”
นฤเบศจ้องหน้าขู่แล้วเดินปั้นปึ่งขึ้นข้างบนไป สุรีกานต์นั่งหน้าจ๋อย เสียใจ
เช้าวันใหม่...พลอยนิลนอนขี้เซาอยู่บนเตียง เนธานถืออาหารเช้าที่เพิ่งทำเสร็จมาให้อย่างเอาอกเอาใจ เนธานยิ้มแย้ม เข้าไปอี๋อ๋อ
“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ เดี๋ยวอาหารเย็นหมดแล้วไม่อร่อยนะ”
พลอยนิลลืมตาขึ้นมอง แล้วกอดเนธานออดอ้อน
“ไม่หิว ไม่ตื่น ไม่ลุกไปไหนทั้งนั้น”
เนธานหัวเราะ ก่อนจะจูบหน้าผากพลอยนิลนิดนึง
“เอ่อ นิล เดี๋ยวนี้นิลได้ติดต่อหาโซ่บ้างมั้ย”
พลอยนิลชะงักกึก
“ถามถึงมันทำไม”
“อย่าเพิ่งโมโหสิ ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรกับเขา ที่ผมถามก็แค่คิดว่าเราดีกันแล้ว นิลก็น่าจะเป็นเพื่อนกับโซ่ได้เหมือนเดิม”
“ตอนนี้นิลยังไม่อยากเป็นเพื่อนมัน นิลไม่ไว้ใจ ทั้งมันทั้งธานนั่นแหละ”
“โธ่ นิล ทีเมื่อก่อนเราสามคนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ นอนค้างห้องเดียวกันก็เคยมาแล้ว คุณไม่เห็นมาระแวงอะไรแบบนี้เลย”
“ก็เพราะนิลไม่ระแวงไงล่ะ มันถึงเกิดเรื่อง แล้วอย่าให้นิลรู้นะว่ามีอีก ไม่ว่าจะหนีไปกกกันที่ไหน นิลก็ตามได้ทั้งนั้น กุญแจห้องธานหรือห้องมันนิลก็มี”
เนธานตาลุกวาว ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนมาคลอเคลียพลอยนิลต่อ
“บอกแล้วไงว่าผมกับโซ่ไม่มีอะไรกัน นิลเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้วน่า”
“ให้มันจริงล่ะกัน บอกไว้ก่อนนะ สำหรับธานไม่มีโอกาสอีกครั้งแล้ว”
เนธานจูบแก้มพลอยนิลอย่างเอาใจ แอบลอบยิ้ม แววตาครุ่นคิดถึงสิ่งที่หวัง
นฤเบศนั่งอยู่ที่โต๊ะประชุมกับทีมเดอะซัน เขาทำท่าจะเริ่มประชุม จ่ายมถามขึ้น
“อ้าว แล้วคุณสุรีกานต์ล่ะครับสารวัตร”
“ถูกพักงานไม่มีกำหนด”
อัศวินแปลกใจ
“เพราะเรื่องที่คุณสุรีกานต์หายไปเมื่อคืนเหรอครับ”
“ใช่ เลิกถามแล้วก็เริ่มประชุมได้แล้ว”
ปรีติพยายามแย้ง
“แต่ว่า...”
นฤเบศสวนทันที
“ผมบอกให้เริ่มประชุมไง”
ทุกคนเงียบกริบ นฤเบศสูดหายใจเข้าเรียกสมาธิ
“เอาล่ะ เรื่องโกดังที่ผมให้ไปสืบ ได้เรื่องมั้ย”
จ่ายมส่ายหน้า
“ยังเลยครับ”
ประเสริฐเสริม
“ในงานเลี้ยงเมื่อคืนก็ไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมครับ”
“แต่ผมมีครับ” ปรีติพูขึ้น
ทุกคนหันขวับไปมองปรีติ นฤเบศรีบถาม
“คุณได้ข้อมูลอะไรมา”
“คลิปเสียงของริชาร์ดกับพ่อเลี้ยงกำธร คุยกันในคอนโดริชาร์ดเมื่อคืน ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจากสายลับเนปจูนครับ”
ทุกคนอึ้งไป เหลือบไปมองนฤเบศที่อึ้งๆ ท่าทางครุ่นคิด
สุรีกานต์กำหมัดดีใจรื่นเริงสุดๆ
“เยสๆ ในที่สุดฉันก็ได้กลับไปเป็นสายลับเนปจูนแล้ว”
นฤเบศเก็บของ เตรียมตัวจะไปพบท่านรอง พร้อมกับเหล่มองสุรีกานต์ด้วยสายตาเอือมๆ
“จริงๆคุณควรจะดีใจที่ผมพักงานคุณมากกว่านะ เพราะคุณจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงๆ อีกอย่างคุณก็ไม่ได้อยากทำงานนี้ตั้งแต่ต้นแล้วด้วย”
สุรีกานต์ลอยหน้าลอยตา
“ก็ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันภูมิใจที่ได้ทำงานนี้ จบป่ะ” เธอเหล่ๆเขาอยากรู้อยากเห็น “ฉันไปพบท่านรองกับคุณด้วยไม่ได้เหรอ”
“นี่คุณ ผมไม่ได้ไปเที่ยวนะ คุณลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าอยู่นะ ยิ่งเพิ่งไปทำมันเจ็บหนักมาด้วย มันไม่เอาคุณไว้แน่”
นฤเบศเดินกำลังจะออกจากห้อง หันมากำชับ
“ผมจะรีบไปรีบกลับ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดนะ”
สุรีกานต์พยักหน้ารับเซ็งๆ นฤเบศเดินออกไป สุรีกานต์เดินหยิบนู่นคว้านี่มาเปิดดูเล่นแก้เบื่อไปเรื่อย ก่อนจะชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นลูกอล์ฟของชำร่วยที่ได้รับมาจากงานบนเรือ สุรีกานต์เดินไปหยิบขึ้นมาถือดูแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ ตอนที่อยู่บนเรือเธอหยิบลูกกอล์ฟทั้งสองลูกขึ้นมาดู บนลูกกอล์ฟสกรีนลายชื่อบริษัท R.G. Group ไว้สวยงาม เธอเอามือจับพลิกไปพลิกมาเล่นๆ ก็รู้สึกเหมือนมีรอยสลักนูนๆบนลูกกอล์ฟของเธอ จึงยกขึ้นมาดู เลข Lot Number บนลูกกอล์ฟของเธอมีรหัส 015422 แต่ของนฤเบศไม่มี...เมื่อนึกได้อย่างนั้น สุรีกานต์พลิกดูลูกกอล์ฟของนฤเบศในมืออีกครั้ง มันไม่มีรหัสอะไร เธอพึมพำ
“ทำไมถึงต่างกัน”
สุรีกานต์ครุ่นคิดสงสัย ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก เสียงโทรศัพท์ของนฤเบศดัง อยู่บนโต๊ะทำงาน สุรีกานต์หันไปมองตามเสียงแล้ววางสายอย่างหงุดหงิด
“ทำไมต้องมาลืมโทรศัพท์ตอนนี้ด้วยเนี่ย”
สุรีกานต์จ้องลูกกอล์ฟในมือนิ่ง ตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะวางลูกกอล์ฟไว้ที่เดิม แล้วเดินออกจากห้องไป
สุรีกานต์ปลอมตัว แต่งตัวทะมัดทะแมง สวมหมวกสวมแว่นค่อยๆ เปิดประตูรั้วบ้านนฤเบศออกมา ก่อนจะมองซ้ายมองขวากลัวคนจำได้ เธอพึมพำ
“ฉันขอโทษนะคุณ ฉันไม่ได้อยากผิดสัญญา แต่ฉันต้องพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้”
สุรีกานต์เห็นรถแท็กซี่มาก็รีบโบกแล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่ง รถแท็กซี่เคลื่อนออกไป
เนธานเดินมาตามทางเดินคอนโดสุรีกานต์ มองซ้ายขวาอย่างระวัง...ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในคอนโดพลอยนิล เธอกำลังกินอาหารที่เขาทำให้อยู่บนเตียง เนธานเดินออกมานอกห้องมาที่ตู้มุมหนึ่งเปิดลิ้นชักออกมีกล่องใบหนึ่งอยู่ในนั้น เขาเปิดกล่องออกมาหยิบคีย์การ์ดสำรองของคอนโดสุรีกานต์ออกมาจนได้
เนธานเดินมาถึงหน้าห้องสุรีกานต์ ก็แกล้งกดกริ่ง ทำทีเป็นยืนรออยู่ครู่ พอแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ เขาก็มองซ้ายขวาหน้าหลังอีกครั้งก่อนจะรูดคีย์การ์ดไปที่ประตู พอเปิดได้สำเร็จก็ยิ้มรีบเปิดประตูเข้าไป
ค่ำนั้น กวินกับแพรไหมมานั่งกินเค้ก ดื่มกาแฟด้วยกันหลังออกจากโรงหนัง
“ขอบคุณคุณกวินนะคะที่ชวนไหมมาดูหนัง หนังสนุกมากเลยค่ะ แต่กว่าพระเอกจะรู้ใจตัวเองว่ารักนางเอกเข้าแล้วก็ลุ้นกันหายใจแทบไม่ออกเลย”
“กว่านางเอกจะรู้ใจตัวเองว่ารักพระเอก ก็เสียเวลาไปตามรักตามชื่นชมคนอื่นอยู่ได้ตั้งนานเหมือนกัน”
“แต่สุดท้าย ทั้งสองคนก็ตามหาหัวใจตัวเองพบจนได้นะคะ”
“แบบนี้เรียกว่าแฮปปี้เอนดิ้งครับ”
“ความรักแบบนี้น่าอิจฉานะคะเนี่ย”
“ไม่ต้องอิจฉาหรอกครับ ผมว่าคุณไหมก็ต้องมีความรักแบบนี้ได้แน่ๆ”
“ขอให้คุณวินก็มีเหมือนกันนะคะ”
ทั้งคู่ยิ้มให้กำลังใจกันและกัน
ลิฟท์คอนโดเปิดออก สุรีกานต์ในชุดปลอมตัวเดินออกมาแล้วเดินไปตามทางเดินก่อนมาหยุดหน้าประตูห้อง แล้วหยิบคีย์การ์ดขึ้นมา...สุรีกานต์ผลักประตูเข้ามาก่อนปิดหันกลับมาชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีมีดจ่ออยู่ที่เอว เธอตกใจ
“อย่าขยับ ไม่งั้นเธอตายแน่”
“เนธาน”
สุรีกานต์หน้าซีดพยายามหาทางรอดจากเนธาน
สุรีกานต์ถูกมัดมือไพล่หลัง นั่งอยู่บนโซฟา ท่ามกลางสภาพห้องที่ถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย เนธานเดินรื้อค้นข้าวของตามตู้โต๊ะต่างๆ อย่างบ้าคลั่ง สุรีกานต์พยายามบิดมือจนเชือกหลวม พอสำเร็จก็นั่งรอจังหวะ พอเห็นเนธานกำลังหันหลังรื้อข้าวของ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าถือมาได้ จะกดโทรออกแต่เนธานหันกลับมาก่อน สุรีกานต์รีบซ่อนไว้ข้างหลัง เนธานเดินตรงเข้ามาหน้าตาถมึงทึงโกธรสุดๆ
“จะบอกได้หรือยังว่าเธอเก็บเมมโมรี่การ์ด ที่เธอไปขโมยจากบ้านอุษณะไว้ที่ไหน”
สุรีกานต์กวนๆ
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่รู้เรื่อง แล้วเมมโมรี่การ์ดของอุษณะมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย มันมีอะไรในนั้น ที่ทำให้นายต้องเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดบุกรุกคอนโดฉันเลยเหรอ บอกฉันหน่อยสิ เผื่อฉันจะนึกออกว่าไปขโมยมาตอนไหน”
เนธานพุ่งเข้ามาจะทำร้าย
“กวนประสาทนักใช่มั้ย”
สุรีกานต์ตกใจป้องกันตัวด้วยการต่อยหน้าเนธานทันที เธอหน้าซีดเมื่อเห็นเนธานท่าทางโกรธจัด สุรีกานต์รีบลุกจะวิ่งหนี มือก็พยายามจะกดโทรศัพท์ แต่เนธานตามมาทันแล้วกระชากผมจนสุรีกานต์ทำโทรศัพท์หล่นกระเด็นไปไกล เนธานตบหน้าสุรีกานต์จนล้ม โทรศัพท์ของสุรีกานต์กำลังโทรออกหากวิน เพราะก่อนจะถูกตบ มือของสุรีกานต์ก็ได้กดโทรออกไปโดยตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโทรหาใคร
กวินกับแพรไหมเดินมาด้วยกัน มือถือกวินดังขึ้น เห็นเป็นเบอร์สุรีกานต์ กวินก็ดีใจมากที่เธอติดต่อมา รีบกดสายรับทันที
“คุณโซ่...คุณอยู่ไหนครับ”
เสียงสุรีกานต์ดังมา
“ก็บอกแล้วไงว่าในคอนโดฉันไม่มีอะไรที่แกต้องการทั้งนั้น”
กวินตกใจมากได้ยินเสียงสุรีกานต์ แพรไหมมองท่าทางกวินอย่างสงสัย
“คุณโซ่ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า คุณโซ่”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะคุณวิน”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่คุณโซ่กำลังตกอยู่ในอันตราย ผมไปนะครับ”
พูดเสร็จกวินก็รีบวิ่งไป แพรไหมมองตามอย่างเป็นห่วง
สุรีกานต์ไม่ยอมแพ้ สู้กับเนธาน จนสภาพสะบักสะบอมทั้งคู่ เนธานโกรธจัด เข้าไปบีบคอ สุรีกานต์พยายามดิ้น เนธานยิ้มเหี้ยมแต่ก็ชะงักเมื่อเสียงออดดังขึ้น สุรีกานต์อาศัยจังหวะเนธานเผลอ ยกเท้าจะกระแทกเป้า แต่เนธานก็รู้และหลบทันแต่ก็เสียหลักไปจนทำให้สุรีกานต์ต่อยท้องได้อีก เนธานทรุดไป สุรีกานต์รีบวิ่งไปที่ประตู แต่เนธานก็คว้าแขนไว้ได้ทัน สุรีกานต์ตะโกน
“โอ๊ย...ช่วยด้วยยยค่ะ”
เนธานพยายามอุดปาก ทั้งสองยื้อยุดกันจนได้ยินเสียงประตูเปิดพร้อมเสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งเข้ามา สุรีกานต์ดีใจ
“สารวัตร”
กวินวิ่งหน้าตื่นเข้ามา ด้านหลังเป็นพนักงานสาวของคอนโดถือคีย์การ์ดในมือ
“คุณวิน”
เนธานชะงัก สุรีกานต์สะบัดเนธานจนหลุดแล้ววิ่งเข้าหากวิน เนธานเห็นท่าไม่ดีจะหนี แต่กวินก็ฉวยคว้าแขนไว้ได้ทัน เนธานเลยหันไปชกกวิน ทั้งสองคนตะลุมบอนกัน สุรีกานต์จะเข้าไปช่วยกวินแต่ก็ถูกเนธานเหวี่ยงไปชนกำแพงจนมึน พนักงานสาวรีบเข้ามาช่วยพยุง เนธานอาศัยจังหวะกวินเสียเปรียบแล้ววิ่งหนีไป กวินจะตามแต่สุรีกานต์เรียกไว้
“คุณวินไม่ต้องตามหรอกค่ะ”
กวินชะงัก หันมาดูสุรีกานต์แล้วรีบเข้ามาช่วยพยุงอย่างเป็นห่วง
“คุณโซ่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมเห็นคุณโทรมา แล้วก็ได้ยินเสียงคุณถูกทำร้ายเลยรีบมา โชคดีผมอยู่ที่ห้างตรงข้ามคอนโดคุณ ไม่งั้นคงมาช่วยคุณไม่ทันแล้ว”
กวินมองรอบๆห้องที่ถูกรื้อกระจุยกระจาย
“ผมว่าคุณโซ่พักอยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้วล่ะครับ เนธานอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายคุณอีกเมื่อไหร่ก็ได้”
สุรีกานต์คิดตามไม่ใช่แค่เนธาน แต่ยังมีริชาร์ดอีกด้วย
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้ผมพาคุณโซ่ไปพักในที่ปลอดภัยนะครับ รับรองว่าไม่มีใครตามหาคุณโซ่เจอแน่…ไว้ใจผมนะครับคุณโซ่”
สุรีกานต์ครุ่นคิดอะไรบางอย่างแล้วก็ตัดสินใจ
“ก็ได้ค่ะ งั้นคุณวินรอโซ่เก็บของแป๊บนึงนะคะ”
กวินยิ้มดีใจ
“ครับ”
สุรีกานต์เก็บของลงกระเป๋า ก่อนจะนึกได้รีบเปิดดูตามลิ้นชักต่างๆ
“อยู่ไหนนะ ไอ้บ้าเนธานรื้อซะข้าวของฉันเละเทะหมด”
สุรีกานต์ไล่เปิดลิ้นชักตู้โต๊ะ ก้มลงมองหาตามพื้นห้อง ก่อนจะยิ้มดีใจเมื่อเห็นลูกกอล์ฟของชำร่วยกลิ้งอยู่บนพื้น เธอหยิบลูกกอล์ฟมาถือไว้อย่างครุ่นคิด
กวินเปิดประตูเข้ามาในบ้านพักส่วนตัว ที่สนามกอล์ฟ สุรีกานต์สังเกตรอบบ้านด้วยความสนใจ กวินวางกระเป๋าใบเล็กของเธอลงบนโซฟา
“ที่นี่เป็นบ้านพักส่วนตัวของผมเองครับ คุณโซ่อยู่ที่นี่ได้เท่าที่อยากอยู่ ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็โทรบอกผมได้ตลอดเวลา”
“ปกติคุณวินอยู่ที่นี่เหรอคะ”
“เปล่าหรอกครับ ผมจะพักที่นี่เฉพาะวันที่อยู่เคลียร์งานจนดึกกลับบ้านไม่ไหว”
สุรีกานต์พยักหน้ารับรู้
“ผมไม่กวนแล้วดีกว่า คุณโซ่จะได้พักผ่อน แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณวินดีกับโซ่มาก”
“ผมเต็มใจครับ”
กวินยิ้มให้แล้วเดินออกไป สุรีกานต์รอจนได้ยินเสียงรถแล่นออกไป
“ฉันมั่นใจว่าคุณเป็นคนดี แล้วฉันก็จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเองว่าคุณเป็นคนดี” เธอกวาดตามองของรอบๆ “ขอโทษด้วยนะคะคุณวิน”
สุรีกานต์เริ่มรื้อบ้านกวินทุกซอกทุกมุมพร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บไว้ เธอรื้อค้นเอกสารที่โต๊ะทำงาน ค้นจนเหนื่อยก็ไม่พบอะไรผิดสังเกต สุรีกานต์เดินอ่อนแรงไปทิ้งตัวลงบนโซฟา
“เฮ้อ มาเสียเที่ยวแน่ๆ เลยเรา”
สายตาสุรีกานต์ไปสะดุดกับลูกกอล์ฟของชำร่วยที่วางเป็นของประดับอยู่บนชั้น สุรีกานต์เดินไปหยิบมา พลิกดูอย่างสนใจ นึกขึ้นได้รีบเดินไปเปิดกระเป๋าตัวเอง หยิบลูกกอล์ฟที่เอามาจากคอนโดขึ้นมาเทียบกัน
“ของคุณวินก็ไม่มีตัวเลขเหมือนของสารวัตร…หมายความว่ายังไงกันแน่”
สุรีกานต์มองลูกกอล์ฟทั้ง 2 ลูกเทียบกันอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจเก็บลูกกอล์ฟทั้งสองลูกยัดใส่กระเป๋า แล้วเขียนโน้ตทิ้งไว้บนโต๊ะว่า
“มีธุระด่วน ขอบคุณสำหรับที่พักค่ะ…โซ่”
แล้วสุรีกานต์ก็คว้ากระเป๋าย่องออกจากบ้านไป
สุรีกานต์ค่อยๆเปิดประตูเบาๆแล้ว ย่องกลับเข้าบ้านมา ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงนฤเบศดังขึ้น
“ไปไหนมา”
สุรีกานต์สะดุ้งเฮือก หันควับมองนฤเบศที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่
“เอ่อ ฉันไปเอาของที่คอนโดมา จริงๆ กะไปแป๊บเดียวนะ แต่มันเกิด Accident นิดหน่อย เลยกลับมาช้าไปนิด”
นฤเบศโมโหมาก
“คุณดารา ที่ผมเตือนคุณไป คุณไม่ฟังเลยใช่มั้ย คุณก็รู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน แล้วยังจะกล้าออกไปข้างนอกคนเดียวอีก”
สุรีกานต์หลับตาปี๋ หดคอ เสียงอ่อย
“ฉันขอโทษ”
นฤเบศโมโหจัด ยิ่งเห็นสภาพโทรมๆ ของสุรีกานต์ก็ยิ่งโมโห
“ขอโทษๆ แล้วก็ทำซ้ำอีก สัญญาที่คุณให้ไว้มันเป็นแค่ลมปากใช่มั้ย นี่ผมจะเชื่อใจคุณไม่ได้เลยใช่มั้ย ทำไมต้องทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายอยู่เรื่อย” เขาหลุดปากออกมา “รู้มั้ยผมเป็นห่วง”
นฤเบศชะงัก สุรีกานต์มองตรงมาตาแป๋ว นฤเบศอึกอัก สุรีกานต์ถามจากใจ
“คุณเป็นห่วงฉัน”
นฤเบศอึกอัก
“เอ่อ ก็ๆ...ก็เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันเนี่ย ผมก็ห่วงสิ”
สุรีกานต์ทำหน้าเพลีย หลังจากหวังว่าจะฟังความรู้สึกจากใจนฤเบศ
“ฉันก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไง ฉันขอโทษที่ขัดคำสั่ง เพราะถ้าฉันบอกคุณ คุณก็ไม่ให้ฉันไปอยู่ดี แล้วฉันอยากจะบอกว่าที่ฉันทำทั้งหมดนี่ก็เพื่อคุณ เพื่อทีมของเรา”
นฤเบศกับสุรีกานต์สบตากันนิ่ง
“ฉันเสี่ยงอันตราย ตกอยู่ในเหตุการณ์บ้าๆ นับไม่ถ้วน ถึงส่วนนึงมันจะเป็นเพราะนิสัยของฉัน แต่ฉันก็ทำไปเพื่อทุกคน แทนที่กลับมาจะถามดีๆ ฉันก็จะได้บอกเหตุผลดีๆ แต่นี่กลับเอาแต่ด่าๆ รู้งี้ฉันไม่เสี่ยงตายออกไปเอาหรอก แถมโดนไอ้บ้าเนธานทำร้ายอีก”
สุรีกานต์น้อยใจทำท่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยรีบเดินหนี แต่นฤเบศปรี่มาคว้าแขนไว้พูดเสียงอ่อนลง
“เดี๋ยว อยู่คุยกันให้รู้เรื่องก่อน ตกลงคุณออกไปเอาอะไรมา แล้วไปเจอเนธานได้ยังไง”
สุรีกานต์ตวัดตามอง
“สายไปแล้ว ฉันไม่บอกแล้ว...ปล่อย”
นฤเบศยื้อไว้
“ไม่เอาน่า อย่างอนสิ”
สุรีกานต์ตวาดแว๊ด
“ใครงอน...ฉันโมโหต่างหาก ปล่อยฉันนะ”
สุรีกานต์พยายามจะเดินหนีแต่นฤเบศก็รั้งไว้ สองคนยื้อยุดกันจน สุรีกานต์เสียหลักล้มก้นกระแทก กระเป๋าหล่นจากมือ ของตกกระจายเต็มพื้นในนั้นมีกางเกงในด้วย นฤเบศหลุดขำออกมา สุรีกานต์มองตาขวาง ทั้งโมโหทั้งอาย เหลือบไปเห็นลูกกอล์ฟที่มีตัวเลขก็หยิบมาปาใส่เต็มแรง
“ไอ้ตำรวจบ้า”
นฤเบศตาโต
“เฮ้ย”
นฤเบศเอี้ยวตัวหลบทัน ลูกกอล์ฟกระทบผนังจนแตกกระจาย
“โห เล่นแรงไปนะคุณ หัวแตกได้เลยนะเนี่ย”
“ก็กะเอาให้แตกน่ะ…”
สุรีกานต์ชะงักยังพูดไม่จบ เหลือบไปเห็นยาเสพติดที่อยู่ในลูกกอล์ฟกระจายเต็มพื้น นฤเบศเห็นเธอชะงักก็หันไปมองตาม สุรีกานต์เดินไปดูยาเสพติดใกล้ๆ มีนฤเบศเดินตามมา
“นี่มัน...”
นฤเบศมองสบตากับสุรีกานต์อย่างตะลึง
อ่านต่อหน้าที่ 2
นางร้ายสายลับ ตอนที่ 13 (ต่อ)
นฤเบศ สุรีกานต์ และทีมเดอะซันนั่งประชุมกัน บนโต๊ะมีโน้ตบุ๊คที่เปิดภาพหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่สุรีกานต์แอบถ่ายมาจากบ้านพักของกวิน ตรงหน้านฤเบศมีลูกกอล์ฟของชำร่วยวางอยู่สามลูก หนึ่งในนั้นมีลูกกอล์ฟยัดยาเสพติดที่สุรีกานต์ปาจนแตกวางอยู่ด้วย
“พวกมันแอบซุกซ่อนยา CN1 มาในลูกกอล์ฟ โดยที่เราไม่เคยสงสัยมาก่อน ต้องขอบคุณสายลับเนปจูนที่ช่วยไขปริศนาครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นเพราะความบังเอิญ บวกกับความโชคดีที่เรามีสายลับที่ชอบทำเกินหน้าที่ก็ตาม”
สุรีกานต์มองค้อน อัศวินคิดตาม
“แสดงว่าพวกมันใช้วิธีนี้ตบตาเรา ส่งยาให้กับเอเย่นต์มาหลายรายแล้วสิครับ ทั้งที่ภารกิจสนามกอล์ฟครั้งก่อน กับภารกิจบนเรือสำราญด้วย”
“ใช่ ลูกกอล์ฟลูกนี้สายลับของเราบังเอิญสลับกับลูกค้าอีกรายบนเรือ บนลูกกอล์ฟมีตัวเลขสกรีนเอาไว้ แต่อีกสองลูกไม่มี นั่นคือจุดสังเกตที่บอกว่าลูกไหนคือลูกกอล์ฟยัดยาเสพติด CN1 เอาไว้” นฤเบศอธิบาย
จ่ายมเสริม
“ทำสัญลักษณ์ไว้แบบนี้ แสดงว่าพวกมันคงตั้งใจส่งให้เฉพาะคนที่เป็นเครือข่ายของมันเท่านั้น”
“ถ้าอย่างนั้น ทำไมลูกกอล์ฟของคุณกวินถึงไม่มีเลขรหัสล่ะ” สุรีกานต์ถามอย่างสงสัย
“มันอาจจะเกิดการผิดพลาด เหมือนที่คุณบังเอิญได้ลูกกอล์ฟลูกนี้มาก็ได้”
“งั้นหลักฐานที่เรามีตอนนี้ก็ยืนยันไม่ได้ว่าคุณวินคือผู้ต้องสงสัย” สุริกานต์แย้ง
“ลูกกอล์ฟลูกนี้ มันอาจจะไม่ใช่หลักฐานที่จะชี้ความผิดของนายกวินก็จริง แต่คุณดูนี่ ตัวเลขบนลูกกอล์ฟ ตรงกับตัวเลขรหัสสินค้าในเอกสารการซื้อขาย ของสนามกอล์ฟเดอะเคซิตี้ เรื่องนี้มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกจริงมั้ย”
นฤเบศชี้ให้ดูหลักฐานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ สุรีกานต์อึ้งไปอย่างยอมจำนน ปรีติคิดๆ
“เลขรหัสบนลูกกอล์ฟตรงกับเลขรหัสสินค้าในเอกสารการซื้อขาย”
“บางทียา CN1 ที่เราตามหาอาจจะซ่อนอยู่ในลูกกอล์ฟที่โกดังของนายกวินก็ได้นะครับ” ประเสริฐออกความเห็น
จ่ายมครุ่นคิด
“งั้นงานเลี้ยงบริษัทที่จัดขึ้น ก็เพื่อดึงความสนใจเราให้อยู่ในงานแล้วฉวยโอกาสขนของเข้าโกดัง โดยไม่ผิดสังเกตน่ะสิครับ”
นฤเบศหน้าเครียด
“ผมถึงต้องการหลักฐานโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้เข้าไปตรวจค้นโกดังสนามกอล์ฟของนายกวินยังไงล่ะ”
นฤเบศกำชับทีมเดอะซันแววตามุ่งมั่น สุรีกานต์หน้าเจื่อนไปเมื่อคิดว่ากวินร่วมมือกับริชาร์ดจริงๆ
นฤเบศเดินออกมาที่ห้องรับแขก สุรีกานต์เดินตามออกมาหน้าจ๋อยๆ
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณวินจะอยู่ร่วมในขบวนการนี้ด้วย เขาเป็นคนดีจนฉันนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้ยังไง”
นฤเบศประชด
“เสียใจด้วยนะ ที่ทำลายความฝันของคุณ”
สุรีกานต์หน้าหงิก
“ประชดเหรอ”
“ทำไมผมต้องประชดด้วย คุณจะคิดยังไงกับคุณกวินแสนดีของคุณ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย”
“นั่นสินะ ถ้าคุณกำลังหึงฉันอยู่ก็ว่าไปอย่าง”
นฤเบศถึงกับสะอึก ไปต่อไม่เป็น สุรีกานต์แอบยิ้มขำ
“พูดแทงใจดำแล้วทำเป็นอึ้ง”
“ใครบอก ผมกำลังทึ่งต่างหากที่คุณกล้าคิดได้ขนาดนั้น ฟังแล้วขนลุก ไปดีกว่า ผมต้องรีบไปพบท่านรอง” นฤเบศรีบเดินออกไปชะงักหันกลับมา “อ้อ แล้วห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ผมขี้เกียจตามหาคุณมันเหนื่อย เข้าใจมั้ย”
นฤเบศเดินออกไป สุรีกานต์ล้อเลียนทำบ่นแบบไม่มีเสียง
“มันเหนื่อยเข้าใจมั้ย”
กวินขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านพักส่วนตัว ลงจากรถอย่างอารมณ์ดี กวินถือถุงอาหาร ผลักประตูเข้าไปในบ้าน มองหาสุรีกานต์พร้อมเรียกหา
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณโซ่” กวินมองหา แต่ก็ไม่เห็น “คุณโซ่ครับ”
กวินเอาถุงอาหารไปวางไว้บนโต๊ะ พลางมองหาสุรีกานต์ต่อ
“หรือว่ายังไม่ตื่น” เขาดูนาฬิกาข้อมือ “แต่นี่ก็จะเที่ยงแล้วนะ”
กวินเดินหาทั่วบ้าน จนไปถึงห้องนอนก็ไม่เจอ เจอแต่โน้ตที่เธอทิ้งไว้ เขารีบหยิบมาอ่าน
‘มีธุระด่วน ขอบคุณสำหรับที่พักค่ะ… โซ่’
กวินหน้าเจื่อนไป
มงคลตรวจดูความเรียบร้อยของสินค้าในโกดัง โทรหาริชาร์ดหน้าตาเคร่งเครียด
“ผมตรวจสอบแล้ว สินค้าของเราไม่ครบตามจำนวน”
ริชาร์ดที่นั่งอยู่ที่โซฟาในคอนโดที่ศีรษะมีผ้าพันแผลปิดอยู่ ถึงกับลุกพรวดด้วยความโมโห
“ว่าไงนะ...เป็นไปได้ยังไง ไหนคุณรับปากว่างานนี้จะไม่มีปัญหาไง”
มงคลหงุดหงิด
“อย่าเพิ่งโทษกันน่าคุณ ตอนนี้คนที่ผมสงสัยมากที่สุดก็คือพ่อเลี้ยงกำธร มันอาจจะแอบยักยอกสินค้าไปก่อนที่จะขนมาถึงโกดัง คุณคิดว่าไง”
“คนขี้ขลาดอย่างไอ้พ่อเลี้ยงนั่นน่ะเหรอ จะกล้าทำ”
“ก็ไม่แน่หรอก ถ้ามีคนร่วมมือกับมันด้วย”
“คุณหมายถึงไอ้สารวัตรมังกรน่ะเหรอ”
ริชาร์ดวางสาย กำมือแน่นด้วยความแค้น
“ใครที่กล้าหักหลังคนอย่างฉัน มันจะต้องตายทุกคน”
ริชาร์ดโกรธแค้นมากกดโทรศัพท์
“มีงานให้ทำ เก็บกวาดไอ้พวกทรยศอย่าให้มันเหลือซาก”
ริชาร์ดหน้าเหี้ยมเกรียม
มังกรกับพ่อเลี้ยงกำธรนั่งคุยกัน
“แน่ใจเหรอ ว่าแผนของเราจะสำเร็จ ถ้าเกิดไอ้ริชาร์ดมันรู้ขึ้นมา คนอย่างมันไม่ปล่อยพวกเราแน่”
“อย่าห่วงไปเลยพ่อเลี้ยง ถึงวันกระจายสินค้าเมื่อไหร่ ผมจะนำทีมตำรวจชุดใหญ่ เข้าไปตรวจค้นโกดังสนามกอล์ฟ จากนั้นก็จับกุมตัวไอ้ริชาร์ดกับพวกพร้อมของกลางทั้งหมดเอาไว้ แค่นี้มันก็ไม่มีวันหลุดรอดมาเล่นงานพวกเราได้อีกต่อไป”
“แล้วไอ้พวกตำรวจพวกนั้นล่ะ ผมเชื่อว่ามันจะต้องตามมาแน่ คุณจะจัดการกับพวกมันยังไง”
“ก็ฉวยโอกาสตอนชุลมุน จัดการปิดปากมันซะ แค่นี้ก็เรียบร้อย ผลงานของพวกมันก็จะกลายมาเป็นผลงานของผมแทน ส่วนพ่อเลี้ยงก็ทำสินค้าปลอมขึ้นมาเท่าจำนวนจริง เพื่อสวมรอยเป็นสินค้าของกลางที่เรายึดมาได้ พอถึงวันแถลงข่าวผมก็จะจัดการเผาทำลายของกลางปลอมทั้งหมดต่อหน้าสื่อมวลชน ส่วนสินค้าของจริง เราก็เอาไปส่งขายต่อ รอรับกำไรเห็นๆ”
พ่อเลี้ยงกำธรยิ้มชื่นชม
“คุณนี่ร้ายกาจจริงๆ เลยนะสารวัตร ไม่เสียแรงที่ผมตัดสินใจร่วมมือกับคุณ”
พ่อเลี้ยงกำธรและมังกรยิ้มร้ายกันอย่างพึงพอใจกับแผนการ
นฤเบศในชุดพรางตัวสวมหมวกและแว่นกันแดด ยืนคุยกับท่านรองมานพ
“ตอนนี้เราใกล้จะรวบตัวพลูโตได้แล้วครับ แต่ผมขอเวลาอีกนิด เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ยังไงผมจะไปประชุมกับหน่วยกำลังเสริม เพื่อขอความช่วยเหลืออีกแรงรับรองว่าอีกไม่นาน เราจะปิดคดีนี้ได้แน่นอนครับท่าน”
“ดีมาก ผมไว้ใจคนไม่ผิดจริงๆ ยังไงผมอยากให้คุณระวังตัวด้วยนะ เพราะผู้ต้องหารายนี้ มันมีเครือข่ายเยอะพอตัว ถ้าคิดจะรวบ ต้องวางแผนรวบมันให้ได้ทั้งแก็งค์”
“เรื่องนั้นผมทราบดีครับ ผมถึงต้องนัดท่านมาคุยที่นี่ เพราะไม่อยากให้ข่าวรั่วไหล”
“คุณพูดแบบนี้แสดงว่าเรื่องที่คุณเคยรายงานผมว่าในองค์กรเราเกลือเป็นหนอน คุณรู้ตัวคนคนนั้นแล้วใช่มั้ย”
นฤเบศนิ่งเงียบ ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
“เรื่องนี้ผมขอเวลาพิสูจน์ให้แน่ใจ และมีหลักฐานที่สามารถมัดตัวได้แน่นหนากว่านี้ แล้วผมจะรีบรายงานท่านทราบทันทีครับ”
รองมานพหน้าเคร่งเครียดกับข่าวที่ได้รู้ นฤเบศก็มีท่าทีเคร่งเครียดไม่แพ้กัน
แพรไหมกับองุ่นกำลังจัดเรียงขนมอยู่ที่เคาน์เตอร์ มังกรเดินเข้ามาในร้านพร้อมดอกไม้ช่อโตยิ้มหวานยื่นช่อดอกไม้ให้แพรไหม
“สวัสดีครับน้องไหม”
แพรไหมฝืนยิ้ม
“สวัสดีค่ะสารวัตร”
“ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ อย่างน้องไหมครับ”
แพรไหมจำใจรับ
“ขอบคุณนะคะ ไหมขอตัวก่อนนะคะ” แพรไหมหันไปคุยกับองุ่น “องุ่น ดูแลลูกค้าด้วยนะ”
องุ่นยิ้มรับคำสั่ง แพรไหมหันหลังจะเดินหนี มังกรรีบคว้าแขนไว้ทันที
“เดี๋ยวสิครับ น้องไหม”
แพรไหมรีบสลัดแขนทันที ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของมังกรดังขึ้นขัดจังหวะ เขาจำต้องปล่อยแขนแพรไหม หยิบมือถือขึ้นมาดูเห็นเป็นเบอร์พ่อเลี้ยงกำธรก็ชะงัก
“ถ้าน้องไหมงานยุ่ง งั้นพี่ไม่กวนแล้วก็ได้ เอาไว้วันหลังพี่จะแวะมาใหม่นะ”
มังกรรีบร้อนเดินออกไป แพรไหมถอนใจอย่างโล่งอก แพรไหมเดินเอาช่อดอกไม้ของมังกรไปวางที่เคาน์เตอร์ บังเอิญแหวนมังกรใส่มาในก้านดอกไม้หล่นลงในมือของแพรไหมพอดี องุ่นเห็นแหวน
“อุ้ย นั่นแหวนนี่คะ”
แพรไหมมองแหวนอย่างอึ้งๆ
“เดี๋ยวฉันมานะ”
แพรไหมรีบตามมังกรออกไป องุ่นเดินตามออกมาชะเง้อมองแพรไหมที่หน้าร้านอย่างเป็นห่วง...กวินกำลังเดินมาพอดี เห็นแพรไหมถือช่อดอกไม้รีบร้อนออกจากร้านไปก็แปลกใจ กวินเดินเข้ามาหาองุ่น
“มีอะไรรึเปล่าองุ่น เมื่อกี้ผมเห็นคุณแพรไหมรีบร้อนเหมือนตามใครออกไป”
“ใครก็ไม่รู้ค่ะ เห็นคุณไหมเรียกสารวัตรๆ แต่ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ค่ะ”
กวินนิ่วหน้า รู้สึกเป็นห่วงแพรไหมขึ้นมาทันที
มังกรเดินมาที่รถ กดรับสายจากพ่อเลี้ยงกำธร
“อะไรนะพ่อเลี้ยง ไอ้ริชาร์ด มันจะเลื่อนงานใหญ่ไปเป็นปลายเดือนเหรอ อย่างนี้แผนกำจัดไอ้นฤเบศก็ต้องเลื่อนออกไปด้วยน่ะสิ”
แพรไหมเดินตามมาได้ยินตกใจรีบหลบหลังเสา มังกรผิดสังเกตหันไปมอง เห็นช่อดอกไม้ที่แพรไหมถือโผล่ออกมา รู้ว่าแพรไหมได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูดแน่ๆ
“แค่นี้ก่อนนะพ่อเลี้ยง”
แพรไหมไม่กล้าขยับ มังกรเดินมาดักหน้าเอาไว้ แพรไหมตกใจมาก
“ว่าไงครับน้องไหม ทนคิดถึงพี่ไม่ไหวถึงกับต้องตามพี่ออกมาเลยเหรอ”
“ไหมแค่จะเอาแหวนมาคืน”
แพรไหมส่งแหวนและช่อดอกไม้คือมังกร แล้วรีบจะเดินหนี แต่โดนมังกรกระชากข้อมือไว้อย่างแรงเสียก่อน
“พี่ว่าเราไปหาที่เงียบๆ คุยกันหน่อยดีกว่า เพราะเราคงมีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่”
มังกรทิ้งช่อดอกไม้ไว้ที่พื้น กระชากแขนแพรไหมจะลากพาไปที่รถ แพรไหมตกใจมาก
“จะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ”
มังกรยิ้มเยือกเย็น เอาปืนจี้เอวของเธอ แพรไหมกลัวมาก
“ขึ้นรถ…อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
แพรไหมจำต้องขึ้นรถไปกับมังกร กวินกึงเดินกึ่งวิ่งมาอย่างร้อนใจ เห็นตอนแพรไหมขึ้นรถไปกับมังกรพอดี และยังเห็นช่อดอกไม้ที่ตกอยู่ ก็เริ่มเอะใจว่าจะเกิดเหตุร้ายรีบหยิบมือถือของตนออกมา แล้วถ่ายรูปรถของมังกรเก็บไว้ ก่อนจะรีบขึ้นรถแล้วขับตามออกไป
มังกรขับรถมาด้วยความเร็วสูง เบื้องหลังกวินขับตามมาห่างๆ เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติมากขึ้น กวินเร่งเครื่องตาม รีบกดโทรศัพท์หาแพรไหม...มังกรยังคงเอาปืนจี้ไว้ แพรไหมนั่งนิ่งไม่กล้าขยับ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อดังขึ้น
“ส่งโทรศัพท์มา”
แพรไหมส่งโทรศัพท์ มังกรกดปิดแล้วโยนไปเบาะหลัง แพรไหมหน้าซีด...กวินยิ่งเครียดเมื่อโทรศัพท์โดนตัดสายทิ้ง โทรอีกรอบก็พบว่าสัญญาณหายไป กวินเป็นเป็นห่วงแพรไหมมาก พยายามขับตามรถมังกรไป
มังกรลากแพรไหมเข้ามาในบ้าน ผลักลงบนเตียง แพรไหมจะวิ่งหนีออกไป แต่มังกรก็รวบตัวเอาไว้
“แกจับฉันมาทำไม ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“ขืนพี่ปล่อยน้องไหมไป ความลับของพี่ก็ถูกเปิดเผยหมดน่ะสิ”
แพรไหมถูกผลักลงไปบนเตียง รีบกระเถิบตัวหนีอย่างหวาดกลัว มังกรยิ้มร้ายเดินเข้าหา
“อย่าเข้ามานะ แกจะทำอะไร ออกไปนะ ออกไป”
แพรไหมทั้งตบทั้งข่วนมังกร
“เลิกเล่นตัวซะทีเถอะน่า จะรังเกียจพี่มังกรไปถึงไหนกัน พี่รักน้องไหมนะ”
แพรไหมกระเถิบหนี
“แต่ฉันไม่ได้รักแก ทำยังไงก็ไม่มีวันรัก”
มังกรโกรธมาก
“เพราะคนที่เธอรักคือไอ้นฤเบศใช่มั้ย...ไอ้นฤเบศมันได้ทุกอย่างที่ฉันอยากได้ ทั้งความไว้วางใจจากพ่อเธอ แล้วก็หัวใจของเธอ เพราะฉะนั้นทางไหนที่จะทำให้คนอย่างมันพินาศได้ ฉันก็จะทำ”
“เพราะอย่างนี้นี่เอง แกถึงคิดจะทำร้ายพี่เบศ”
“ยอมรับแล้วเหรอ ว่าเธอแอบฟังฉันคุยโทรศัพท์”
“ฉันจะแฉความเลวของแกให้ทุกคนรู้ แล้วคุณพ่อฉันไม่ปล่อยแกลอยนวลแน่”
“กว่าจะถึงตอนนั้น เธอก็คงเป็นเมียฉันไปแล้ว แล้วพ่อเธอก็คงไม่กล้าขึ้นมาทำอะไรลูกเขยอย่างฉันหรอกจริงมั้ย อ้อ อีกอย่างฉันก็อยากจะพิสูจน์ความรักของไอ้นฤเบศมันด้วยเหมือนกันว่ามันจะใจกว้าง ยอมรับของเหลือเดินจากฉันหรือเปล่า”
มังกรหยิบมือถือขึ้นมากดปุ่มบันทึกวีดีโอ ยิ้มร้าย แพรไหมมองอย่างเกลียดชัง
“แก ไอ้เลว”
แพรไหมร้องไห้โฮออกมา มังกรปรี่เข้าไปปล้ำกอดแพรไหมอย่างหื่นกระหาย
กวินขับรถเข้ามาในซอย มองหารถของมังกร แต่ก็ไม่เห็น เลยยิ่งร้อนใจหนัก ขณะนั้นเอง เขาก็เหลือบเห็นแม่ค้าขายส้มตำ กำลังตำส้มตำ โดยมีลูกค้ายืนรออยู่เต็มไปหมด กวินรีบลงจากรถ แล้วเข้าไปหาพวกชาวบ้านทันที
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า...”
วัยรุ่นคนหนึ่งจำกวินได้
“ว๊าย ดารา พี่กวินที่เป็นดาราใหม่ใช่มั้ยคะ หนูจำได้”
ทั้งแม่ค้า ทั้งชาวบ้านแห่กันมารุมกรี๊ดกวิน หยิบมือถือมาถ่ายรูปคู่กับกวินทันที กวินกำลังร้อนใจเรื่องแพรไหม
“เดี๋ยวครับๆ ผมขอถามอะไรหน่อย”
กวินหยิบมือถือขึ้นมากดดูรูปรถของมังกรที่ตนถ่ายไว้
“ไม่ทราบว่าเคยเห็นรถคันนี้บ้างรึเปล่าครับ”
ชาวบ้านออดอ้อน
“ไม่รู้ จำไม่ได้ ขอถ่ายรูปไปลงไอจีกับลายเซ็นก่อนได้ป่ะคะ เผื่อจะนึกออก”
พวกชาวบ้านกรี๊ดกันใหญ่ แย่งกันถ่ายรูป กวินร้อนใจมากนึกขึ้นได้ หยิบแบงค์พันออกมาจำนวนหนึ่งแล้วเซ็นลายเซ็นลงบนแบงค์ใบหนึ่ง
“ถ้าใครตอบได้ ว่ารถคันนี้อยู่ที่ไหน ก็เอาลายเซ็นพร้อมแบงค์ไปเลยครับ”
พวกชาวบ้านกระตือรือร้นมาดูรูปกันยกใหญ่ อยากได้เงิน แม่ค้านึกขึ้นได้
“เอ๊ะ รถคันนี้” แม่ค้าชี้มือไป “ตรงโน้นเลยค่ะ เพิ่งเห็นเลี้ยวเข้าไปเมื่อกี๊นี้เอง บ้านหลังที่สาม ซ้ายมือน่ะค่ะ”
กวินดีใจมาก ยัดเงินใส่มือแม่ค้าทั้งปึกไปเลย
“ขอบคุณครับ”
กวินรีบตามไป ในขณะที่พวกชาวบ้านกรี๊ดดีใจกันยกใหญ่ที่ได้เงิน
แพรไหมร้องกรี๊ดเสียงดัง พยายามผลักไสสุดชีวิตทั้งข่วนทั้งตีมังกรแบบไม่ยั้งมือ มังกรโมโหตบหน้าไปทีหนึ่ง จนเธอถึงกับหน้าหัน สิ้นฤทธิ์ มังกรยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพอใจ ค่อยๆ โน้มตัวลงไปจะจูบ จังหวะนั้นกวินก็ถีบประตูเข้ามา พอดี รีบเข้ามาลากมังกรออกไปจากตัวแพรไหม ก่อนจะชกหน้ามังกรเข้าไปเต็มๆหมัด กวินจะเข้าไปซ้ำ แต่มังกรตั้งตัวได้ เตะสวนกวินกลับเข้าไป มังกรเก่งกว่าเยอะ สู้กันได้สักพัก กวินก็โดนอยู่ฝ่ายเดียว จนเลือดเปรอะไปทั้งหน้า จุกลุกไม่ขึ้น แพรไหมทั้งกลัวทั้งห่วงกวิน
“คุณวิน”
มังกรซัดจนกวินสลบคาหมัด ก่อนจะชักปืนออกมา กะยิงให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่ทันใดนั้น บอดี้การ์ดริชาร์ด 2 คนสวมหมวกไอ้โม่งคลุมหน้าที่ริชาร์ดส่งมาเก็บมังกรก็โผล่มาพอดี บอดี้การ์ดยิงปืนใส่ มังกรหลบได้ทัน ยิงตอบโต้บอดี้การ์ดริชาร์ด สงสัยว่าเป็นพวกไหนกันแน่ และพอเห็นท่าว่าจะสู้ไม่ไหวจึงวิ่งหนีออกมาจากบ้าน บอดี้การ์ดริชาร์ดวิ่งตาม แพรไหมรีบเข้าไปดูอาการกวินทันที
“คุณวินๆ อย่าเป็นอะไรนะคะคุณวิน”
กวินสลบเหมือด เลือดเปรอะไปทั้งหน้า
มังกรหนีการไล่ล่าของบอดี้การ์ดริชาร์ด 2 คนที่วิ่งไล่บี้ตามมา เขาชักปืนยิงสกัด แต่บอดี้การ์ดริชาร์ดก็ยังตามไม่ลดละ มังกรวิ่งไปจี้รถคันหนึ่งที่ขับมาจอดพอดี ผลักเจ้าของรถไปให้พ้นทาง แล้วขับหนีออกไปทันที
แพรไหมกำลังรออย่างกระวนกระวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เป็นห่วงว่ากวินจะเป็นอะไรมาก ครู่หนึ่ง พยาบาลก็เปิดประตูออกมา แพรไหมร้อนใจ รีบเข้าไปหาพยาบาล
“คุณวินเป็นยังไงบ้างคะคุณพยาบาล”
“ทำแผลเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่คุณหมออยากตรวจอย่างละเอียดอีกที คืนนี้คงต้อง ขอให้อยู่โรงพยาบาลก่อนนะคะ”
“ได้ค่ะ”
พยาบาลเดินเลี่ยงไป แพรไหมเห็นพยาบาลไปแล้ว เลยเดินเข้าห้องฉุกเฉินไป พอเข้าไปก็เห็นกวินนอนสลบอยู่บนเตียง ใบหน้า เนื้อตัว ทำแผลเรียบร้อย แพรไหมเข้าไปจับมือเขาไว้อย่างเป็นห่วง
“คุณต้องมาเจ็บตัวเพราะไหมแท้ๆเลย อย่าเป็นอะไรนะคะคุณวิน”
ทันใดนั้น มือของกวินที่ถูกแพรไหมกุมอยู่ ก็บีบมือตอบ เธอตกใจเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นยิ้มบางๆ มองแพรไหมด้วยสายตาลึกซึ้ง
“คุณไหมเป็นห่วงผมอย่างงี้ แล้วผมจะกล้าเป็นอะไรได้ยังไงล่ะครับ”
แพรไหมยิ้มด้วยความดีใจ ที่กวินปลอดภัย ทั้งคู่ต่างมองกันด้วยความสุขใจ ที่รู้ว่ามีอีกคนห่วงใยตน
สุรีกานต์นั่งรอนฤเบศอยู่ที่โซฟา พอเห็นเขาเดินเข้ามาก็ลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น
“เป็นไง ท่านรองว่ายังไงบ้าง”
“ท่านรองอนุมัติให้เรียกกำลังเสริมจากหน่วยงานต่างๆ มาร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่”
“ในที่สุด คนชั่วอย่างริชาร์ดก็จะถูกจับเสียที ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับคุณด้วยนะ คุณสารวัตร”
“ผมก็ยินดีกับคุณด้วย ต่อไปนี้ภารกิจสายลับคุณจบแล้ว คุณเป็นไท”
สุรีกานต์อึ้งไปไม่คิดว่าจะถูกปลดกันง่ายๆอย่างนี้
“อะ...อะไรนะ”
“คุณก็ได้ยินชัดแล้วนี่ คุณพ้นจากภารกิจนี้แล้ว ตอนนี้คุณอยู่เฉยๆจนกว่าเราจะจับตัวริชาร์ดได้ จากนั้นคุณก็เป็นอิสระกลับไปใช้ชีวิตดาราของคุณต่อไป เคลียร์มั้ย”
สุรีกานต์เสียใจระบายออกมา นฤเบศเองก็เสียใจไม่น้อยที่ต้องทำแบบนี้
“คุณพูดง่ายไปมั้ยเนี่ย จู่ๆคุณอยากให้ฉันเป็นสายลับคุณก็มาบังคับข่มขู่ฉันต่างๆนานาให้ฉันเป็น คุณเคยถามฉันบ้างมั้ยว่าฉันอยากเป็นมั้ย พอฉันยอมมาทำงานให้คุณ วันหนึ่งหมดผลประโยชน์คุณก็มาทิ้งขว้างฉันดื้อๆอย่างนี้เหรอ ถามจริงๆชีวิตคุณ คุณเคยแคร์อะไรบ้างมั้ยเนี่ย”
“ก็คุณเคยขอให้ผมคืนชีวิตปกติให้คุณ ผมก็คืนให้แล้วไง คุณจะมาอะไรกับผมอีก”
สุรีกานต์น้อยใจจนโมโห เขาทำเหมือนตนไม่มีความหมาย
“คุณน่ะเหรอ จะคืนชีวิตปกติให้ฉัน คุณทำไม่ได้หรอก เพราะชีวิตฉันมันผิดปกติตั้งแต่วันแรกที่เจอคุณแล้ว และก็ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมด้วย”
นฤเบศยักไหล่กวนๆ
“โอ.เค. ผมขอโทษที่ทำให้ชีวิตคุณวุ่นวาย พอใจรึยังล่ะ ถ้าพอใจ ก็กลับไปนอนได้แล้วไป ผมจับริชาร์ดได้เมื่อไหร่ คุณกับผมก็จบกัน ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่ต้องเสี่ยงตาย เพราะความอวดดีของคุณอีก”
ขาดคำสุรีกานต์ก็ตบหน้าเขาทันที ต่างฝ่ายต่างยืนนิ่งอยู่ครู่นึง นฤเบศยิ้มกวนๆ
“ผมจะไม่จับคุณฐานทำร้ายเจ้าพนักงาน ถือเป็นโบนัสที่คุณปฎิบัติภารกิจใกล้สำเร็จก็แล้วกัน”
สุรีกานต์น้ำตาค่อยๆไหลลงอาบแก้มเสียใจน้อยใจสุดๆ นฤเบศอึ้งไปทันทีที่เห็นน้ำตาของเธอ
“ฉันรู้...ว่าที่คุณพูดเพราะห่วงฉัน คุณไม่อยากให้ฉันไปเสี่ยง ก็เลยยั่วให้ฉันโกรธ ฉันจะได้ไม่ตามคุณไป แต่คุณรู้อะไรมั้ย...ฉันเสียใจ”
สุรีกานต์หันหลังจะเดินหนีแต่นฤเบศรีบดึงเธอกลับเข้ามากอดทันที เขากอดเธอแน่น ราวกับกลัวว่าสุรีกานต์จะหนีตนไป นฤเบศรู้สึกผิดสุดๆ
“ผมขอโทษคุณดารา ผมจะไม่ทำอีก แล้วคุณรู้อะไรมั้ย ไม่ใช่ชีวิตคุณคนเดียวที่เปลี่ยนไป ชีวิตผมก็เปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันแรกที่เจอคุณด้วย แล้วมันก็คงไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว”
สุรีกานต์ยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะกอดนฤเบศตอบ ด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน
มังกรเดินเข้ามาท่าทางรีบร้อน พอเห็นหน้าพ่อเลี้ยงกำธรก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
“คุณต้องช่วยผมนะพ่อเลี้ยง ไม่รู้ไอ้พวกไหนมันส่งคนไปตามเก็บผมถึงบ้าน”
พ่อเลี้ยงกำธรยืนนิ่งไม่พูดอะไร มังกรเริ่มผิดสังเกต ริชาร์ดกับมงคลพร้อมบอดี้การ์ดที่ตามมาเก็บมังกรเดินออกมา ริชาร์ดได้วางกำลังควบคุมทุกคนในบ้านพ่อเลี้ยงกำธรเอาไว้หมดแล้ว มังกรหน้าซีด
มังกร และพ่อเลี้ยงกำธร ถูกบอดี้การ์ดริชาร์ดคุมตัวเอาไว้อย่างแน่นหนา ริชาร์ดกับมงคลยืนมองยิ้มเหี้ยม มังกรแววตาแค้นมาก ริชาร์ดจ้องหน้า
“ถ้ายังไม่อยากตาย ก็บอกมาว่าเอาสินค้าที่ยักยอกไป ไปซ่อนไว้ที่ไหน”
มังกรปฏิเสธเสียงแข็ง
“สินค้าอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
ริชาร์ดพยักหน้าให้บอดี้การ์ดจัดการซ้อมทั้งสองคน พ่อเลี้ยงกำธรโดนซ้อม ทั้งเจ็บทั้งกลัว
“โธ่ อย่าทำอะไรผมเลย ผมไม่ได้เอาของคุณไปจริงๆ”
“ถ้าพวกแกยังไม่ยอมพูด พวกแกก็จะถูกทรมานไปเรื่อยๆ เอาให้สมน้ำสมเนื้อกับที่กล้าทรยศ”
บอดี้การ์ดริชาร์ดซ้อมทั้งสองคนอีก พ่อเลี้ยงกำธรเริ่มทนไม่ไหวคลานไปเกาะแทบเท้าริชาร์ด
“ที่ผมพูดคือความจริงทุกอย่าง คุณลืมไปแล้วเหรอ ว่าเรื่องนี้นอกจากผม ยังมีไอ้มงคลที่จัดการเรื่องนี้ด้วย คุณกำลังโดนไอ้มงคลมันหลอกแล้วริชาร์ด”
ริชาร์ดหันมอง มงคลหน้าเหรอหรา
“เฮ้ย อย่าเที่ยวโบ้ยความคิดให้คนอื่นเลยน่าพ่อเลี้ยง” มงคลมองริชาร์ด “ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะริชาร์ด”
“ไอ้มงคล มันนั่นแหละที่หักหลังคุณ คุณต้องเชื่อผมนะ”
ริชาร์ดดูท่าทางลังเล แต่ก็ดูจะเชื่อใจมงคลมากกว่า มงคลรีบบอก
“ผมว่าถามไปก็เสียเวลาเปล่า จัดการพวกมันเลยดีกว่า ไหนๆ คุณก็ตั้งใจจะกำจัดไอ้พวกรู้มากเกินไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ ส่วนเรื่องสินค้าที่หายไป ยังไงมันคงเอาติดตัวไปลงนรกด้วยไม่ได้หรอก”
พ่อเลี้ยงกำธรและมังกรชะงัก มองริชาร์ดอย่างแค้นสุดๆ มังกรพูดขึ้นเสียงแข็ง
“ต่อให้ฆ่าพวกกูตาย พวกมึงก็ไม่มีทางได้ของคืนหรอก เพราะคนที่เอาไปมันไม่ใช่พวกกู”
ริชาร์ดมองทั้งสองฝ่ายอย่างครุ่นคิด แต่สุดท้ายก็พยักหน้าให้บอดี้การ์ดจัดการเอาพ่อเลี้ยงกำธรและมังกรไปฆ่าปิดปาก มงคลยิ้มสะใจ มังกรกับพ่อเลี้ยงกำธรช็อคสุดๆ มังกรฉวยโอกาสตอนบอดี้การ์ดริชาร์ดเผลอ แย่งปืนมา และยิงกราดไปทั่ว ริชาร์ด และมงคลรีบหลบวิถีกระสุน พ่อเลี้ยงกำธร ได้โอกาส หาทางหนีเหมือนกัน แต่ก็หนีไปไม่รอดถูกริชาร์ดยิงตาย ส่วนมังกรฉวยโอกาสชุลมุน หนีตายออกมาได้ บอดี้การ์ดริชาร์ด รีบผลุนผลันตามออกไปริชาร์ดมองตามแววตากร้าวด้วยความแค้น
นฤเบศขับรถมากับจ่ายม
“สายรายงานมาว่า มีคนเห็นสารวัตรมังกรแถวๆ นี้ครับ”
“นี่มันทางไปบ้านพ่อเลี้ยงกำธรนี่”
“ครับ สงสัยว่าสารวัตรมังกรอาจจะหนีมากบดานที่นี่”
มังกรกำลังหนีการไล่ล่าจากบอดี้การ์ดริชาร์ด บอดี้การ์ดริชาร์ดยิงสกัด แต่เขาก็หลบได้ตลอด นฤเบศกับจ่ายมขับรถผ่านมาใกล้ๆพอดี ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดก็ชะงัก เลี้ยวรถไปทางเสียงปืนทันที
มังกรหนีตายมาถึงสะพานข้ามน้ำก็หมดทางหนี จึงถูกบอดี้การ์ดริชาร์ดยิงจนตกสะพานไปในแม่น้ำ เขาพยายามตะเกียกตะกายหนีตายขึ้นมา จนโผล่พรวดขึ้นมาบนผิวน้ำ บอดี้การ์ดริชาร์ดเห็นก็ยิงใส่อีก มังกรพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล จนปีนขึ้นมาบนตลิ่งได้ ก็โดนบอดี้การ์ดริชาร์ดยิงซ้ำจนทรุดลงไปนอนแน่นิ่ง บอดี้การ์ดริชาร์ดคิดว่ามังกรตายแล้วก็รีบหนีไปทันที ครู่หนึ่งรถของนฤเบศก็แล่นมาถึง นฤเบศและจ่ายมรีบลงไปดูที่สะพานเห็นชายคนหนึ่งฟุบอยู่ก็รีบวิ่งลงไปดู...นฤเบศนฤเบศยกร่างชายคนนั้นก็พบว่าเป็นมังกร แต่ยังไม่ตาย นฤเบศและจ่ายมหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันทียังไงมังกรก็เป็นเพื่อนร่วมงาน
“จ่า ตามรถพยาบาลเร็ว”
จ่ายมรีบไปกดมือถือ ตามรถพยาบาลทันที มังกรค่อยๆลืมตาขึ้น ลมหายใจรวยริน มองหน้านฤเบศนิ่ง
“ทำใจดีๆไว้ รถพยาบาลกำลังมา”
มังกรพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงเบามาก นฤเบศเลยต้องก้มหน้าไปฟังใกล้ๆ มังกรเสียงอ่อนแรง ใกล้ตาย
“ไอ้ริชาร์ดจะขนยาออกจากโกดังสนามกอล์ฟเดอะเคซิตี้ รหัส K02F3 คืนนี้…”
นฤเบศกับมังกรมองสบตากันนิ่ง มังกรกลับใจได้ในวาระสุดท้ายยิ้มให้นฤเบศก่อนค่อยๆ หมดลมหายใจไป
นฤเบศคุยกับสุรีกานต์อย่างเคร่งเครียดในห้องทำงาน
“พวกมันหักหลังกันเอง ริชาร์ดส่งคนไปฆ่าปิดปากพ่อเลี้ยงกำธรกับสารวัตรมังกร”
“โหดเหี้ยมที่สุด ตอนมีผลประโยชน์ก็เป็นพวกกัน พอหมดผลประโยชน์ก็ฆ่าทิ้งซะงั้น”
“ก็นี่มันโลกของอาชญากรนะคุณไม่ใช่โลกในละคร พวกนี้มันทำได้ทุกอย่างแหละเพื่อกำจัดคนที่ขวางผลประโยชน์มัน”
นฤเบศเดินไปเปิดลิ้นชัก หยิบปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม สุรีกานต์สงสัย
“แล้วนี่คุณจะไปไหนอีก”
“ผมมีภารกิจสุดท้ายที่ต้องรีบไปจัดการ”
“ภารกิจสุดท้ายเหรอ ให้ฉันไปช่วยคุณด้วยคนนะ รับรองว่าคราวนี้ฉันจะไม่สร้างปัญหาให้คุณเด็ดขาด”
นฤเบศมองหน้า
“อย่าลืมสิ ตอนนี้ภารกิจสายลับของคุณจบแล้ว ยังไงผมก็ไม่ให้คุณตามไปด้วยหรอก”
สุรีกานต์ไม่ยอม
“พูดง่ายๆ แบบนี้ได้ไง ฉันเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับทุกคนมาขนาดนี้ ยังไงฉันก็จะไปด้วย ฉันจะไปด้วย คุณได้ยินมั้ย”
สุรีกานต์โวยวาย นฤเบศเลยหยิบกุญแจมือมาสับข้อมือของเธอแล้วลากพาไปนั่งอยู่มุมหนึ่งแล้วล็อกกุญแจไว้กับเสา สุรีกานต์ตกใจ
“เฮ้ย...คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลย ฉันไม่ใช่คนร้ายของคุณนะ คุณจะมาใส่กุญแจมือฉันได้ไง”
“สงบสติอารมณ์แล้วตั้งใจฟังผมให้ดีๆ ภารกิจครั้งนี้มันสำคัญมาก และมันก็อันตรายเกินกว่าที่คุณจะคาดคิด เพราะฉะนั้น รอฟังข่าวอยู่ที่นี่แหละ ถือว่าผมขอร้อง”
“แต่ฉัน…”
นฤเบศจริงจัง
“ผมไม่มีวันยอมให้คุณไปเสี่ยงชีวิตเด็ดขาด…เพราะผมเป็นห่วงคุณมาก แล้วผมก็…”
นฤเบศเกือบหลุดปากชะงักไว้ทัน สุรีกานต์คาดคั้น
“ก็อะไร…พูดออกมาสิ”
“ชอบคุณมาก ผมถึงไม่อยากให้คุณเสี่ยงครั้งนี้”
สุรีกานต์อึ้ง พูดไม่ออก ทั้งคู่สบตากัน เหมือนมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันแล้ว นฤเบศรีบปรับสีหน้า
“ผมต้องรีบไปแล้วล่ะ”
นฤเบศลุกไปที่โต๊ะทำงาน เอาลูกกุญแจมือใส่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานที่อยู่ห่างออกไปจากเสาระยะที่เอื้อมมือไม่ถึง สุรีกานต์จับตามองอยู่ตลอด
“เดี๋ยว คุณสารวัตร คุณจะล่ามฉันไว้อย่างนี้จริงๆ เหรอ” เธอส่งสายตาอ้อนวอน
“ใช่ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเสร็จสิ้นภารกิจนี้เมื่อไหร่ ผมจะกลับมาคืนอิสรภาพให้คุณเอง ผมสัญญา”
“คุณสัญญาแล้ว ว่าต้องกลับมา อย่าลืมนะ”
สุรีกานต์มองสบตาเขาสายตาเป็นห่วงมาก นฤเบศรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงของเธอก็พยักหน้ายิ้มรับแล้วเดินออกไป...นฤเบศเดินลับไปแล้ว สุรีกานต์ก้มลงมองกุญแจมือที่ล่ามไว้อย่างขัดใจ ก่อนจะหันไปมองลิ้นชักที่เก็บลูกกุญแจไว้อย่างครุ่นคิด
บนอาคารสูงใกล้ๆ โกดัง หน่วยแม่นปืนซุ่มมองภาพผ่านกล้องจับพิกัด เห็นริชาร์ดกับพวกที่กำลังพากันเดินเข้าไปในโกดัง...หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กำลังโรยตัวลงมาจากยอดตึกรอบทิศ ตำรวจในเครื่องแบบประมาณ 30 นาย กระจายกำลังล้อมตึกโกดังไว้ทั่วทุกทิศทุกทาง นฤเบศนำทีมเดอะซันพร้อมตำรวจในเครื่องแบบ 4-5 นายเดินมาหยุดยืนหน้าตึกโกดังแล้วมองเข้าไปในนั้นด้วยสายตามุ่งมั่น
ในโกดังมีลังสินค้าจัดวางอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยขนาบข้างสองทางเดิน ริชาร์ดกับมงคลเดินคุยกันมา สำรวจตรวจดูสินค้า มงคลบอกอย่างภาคภูมิใจ
“ไม่มีใครสงสัยเลยสักนิด ว่าเราซ่อนยามาในสินค้า”
ชาร์ดยิ้มพอใจ
“ในเมื่อเรามีทางตรงให้ใช้สบายๆ แล้วจะเสียเวลาไปเดินอ้อมอยู่ทำไม”
“ผมเตรียมแผนงานที่จะขยายสินค้าของเราออกไปทั้ง 4 ภาค ของประเทศเรียบร้อยแล้ว ไม่เกินเดือนนี้ รับรองว่ายอดออเดอร์จะต้องพุ่งฉิวแบบทะลุเพดานอย่างแน่นอน”
“การเลือกลงทุนกับคนที่มีทัศนคติและอุดมการณ์ที่กว้างไกลอย่างอย่างคุณไม่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ”
“สำหรับการลงทุนที่คุ้มค่า ผมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว”
“นี่ ถ้าไม่เกิดเรื่องสินค้าที่หายไป ผมคงจะสบายใจมากกว่านี้”
มงคลชะงัก ริชาร์ดพูดต่อ
“ตั้งแต่ไอ้พ่อเลี้ยงกับไอ้สารวัตรนั่นตายไป ผมให้ลูกน้องค้นหาสินค้าของเราจน
แทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ยังหาไม่เจอ จนผมอดคิดไม่ได้ว่า บางทีอาจจะมีใครอีกคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และช่วยหนุนหลังไอ้สองคนนั่นอยู่ก็ได้”
ริชาร์ดมองสบตามงคลนิ่ง มงคลเสียวสันหลัง แต่ทำใจสู้ แกล้งทำเป็นไม่สบอารมณ์
“คุณพูดอย่างนี้ เหมือนไม่ไว้ใจผม”
“ไม่เอาน่า ผมก็แค่สันนิษฐานน่ะ จริงๆ แล้ว ไอ้ของแค่นั้นมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากนักหรอก เพียงแต่ผมเจ็บใจ ที่ยังหาของไม่เจอก็เท่านั้น ผมเชื่อว่ามิตรแท้อย่างคุณ ไม่มีทางหักหลังผมหรอก เพราะคุณรู้อยู่แล้ว ว่าโทษของคนที่ทรยศผมมันเป็นยังไง”
ริชาร์ดยิ้มร้ายอยู่ในใจ มงคลแอบถอนหายใจโล่งอก
นฤเบศนำกำลังเข้ามา หันไปส่งสัญญาณให้กองกำลังตำรวจที่ตามหลังมากระจายกำลังกันไปคนละมุม เหลือแต่ทีมเดอะซัน
“กระจายกำลัง เตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง จู่โจม ตามแผน”
ทีมเดอะซันรับคำแข็งขัน
“รับทราบ”
นฤเบศมองไปยังห้องเก็บสินค้า แววตามุ่งมั่น
ค่ำนั้น...โซนเก็บสินค้าโกดังสินค้าสนามกอล์ฟกวิน คนงานกำลังขนลังสินค้าออกไปขึ้นรถ บนชั้นสองของโกดัง ริชาร์ดกับมงคลยืนมองการทำงานที่แข็งขันของบรรดาลูกน้องด้วยความพอใจ มงคลหันมาหาริชาร์ด
“แล้วเรื่องที่เราตกลงกันไว้ล่ะ หวังว่าคุณคงยังไม่ลืมนะ”
ริชาร์ดหันไปรับกระเป๋าเงินสีดำมาจากบอดี้การ์ด ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“หลังจากที่ขนย้ายสินค้าทั้งหมดของเราออกไปจากโกดังหมดแล้ว ส่วนแบ่งก้อนแรก ในกระเป๋าใบนี้ ก็จะตกเป็นของคุณทันที ตามสัญญา”
มงคลมองกระเป๋าอย่างละโมบ แต่แล้ว จู่ๆ เสียงปืนก็ดังอึกกะทึกมาจากทุกทิศทุกทาง ริชาร์ดกับมงคล หันมองหน้ากันอย่างตกใจ บอดี้การ์ดริชาร์ด ลูกน้องมงคลชักปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม นฤเบศ นำทีมเดอะซัน พร้อมกำลังตำรวจ บุกเข้ามาแล้วกระจายกำลังไปทั่วบริเวณ ลูกน้องตกใจ
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับนาย ตำรวจแห่กันมาเต็มไปหมดเลยครับ”
ริชาร์ดหน้าตื่น
“พวกตำรวจมันรู้ได้ยังไง”
“ผมว่าตอนนี้เรารีบหนีกันก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”
บอดี้การ์ดรีบคุ้มกันริชาร์ดหลบหนีออกไป มงคลหันไปเห็นตำรวจที่กำลังตรงปรี่มาที่ตน ก็รีบหันไปมองกระเป๋าเงินในมือริชาร์ด แล้วเข้าไปกระชากแย่งมาทันที
“เงินนี่ต้องเป็นของฉัน”
มงคลแย่งกระเป๋าเงินได้แล้ว รีบวิ่งหนีหลบกระสุนไปอีกทางทันที ริชาร์ดเจ็บใจ แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นยิ้มร้ายมองตามหลังมงคลไป ก่อนจะวิ่งรีบหนีไปอีกทาง จ่ายมและอัศวิน วิ่งตามมงคลไป ประเสริฐกับปรีติ รับมือกับหัวหน้าบอดี้การ์ดริชาร์ด ส่วนนฤเบศรีบวิ่งตามริชาร์ดไปทันที
สุรีกานต์พยายามทั้งเอื้อมแขน เอื้อมขาไปที่โต๊ะทำงานตัวนั้นอยู่นาน แต่ก็เอื้อมไม่ถึง เธอยังไม่ละความพยายามง่ายๆ กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก็เหลือบไปเห็นไม้พลองวางอยู่มุมหนึ่ง และไม่ไกลกันนักนักมีห่วงลักษณะเหมือนขอเกี่ยววางอยู่ เธอปิ๊งไอเดียหยิบตะขอแล้วเอื้อมมือไปสุดแขนคว้าไม้พลองมาได้ก่อนจะเอาเชือกที่วางอยู่แถวนั้นมัดขอเกี่ยวกับไม้พลองเข้าด้วยกันแล้วเอาไม้พลองที่ติดกับขอเกี่ยว เกี่ยวลิ้นชักจนหล่นลงมา ของกระจายตกลงที่พื้นรวมทั้งลูกกุญแจมือด้วย แต่ยังตกห่างออกไป สุรีกานต์รวบรวมความพยายามครั้งสุดท้ายพยายามเขี่ยลูกกุญแจมาได้สำเร็จก็ยิ้มอย่างดีใจ
ริชาร์ดวิ่งหนีโดยมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกัน นฤเบศวิ่งตาม ยิงบอดี้การ์ดริชาร์ดล้มระเนระนาดไปทีละคน ริชาร์ด ใช้ปืนพกส่วนตัวยิงตอบโต้กลับมา นฤเบศสาดกระสุนใส่บอดี้การ์ดริชาร์ดที่ยังคงยิงโต้ตอบกลับมา กระทั่งบอดี้การ์ดเหลือ 2 คนสุดท้ายแล้ว แต่ก็ยังคงคุ้มกันริชาร์ดวิ่งหนีต่อไป นฤเบศ ยิงบอดี้การ์ด ทีละคนจนล้มลงไปหมด ริชาร์ดตกใจเมื่อเหลือตัวคนเดียว รัวปืนใส่ แต่นฤเบศกระโดดหลบทัน ริชาร์ดรัวปืนจนกระสุนหมด นฤเบศยิ้มอย่างมีชัย ลุกเดินไปจ่อยืนใส่ริชาร์ด แต่บอดี้การ์ดริชาร์ดที่นอนบาดเจ็บอยู่ ยังไม่ตาย คว้าข้อเท้าของเขาเอาไว้ ทำให้เขาเสียหลัก ริชาร์ดได้จังหวะรีบวิ่งหลบหายเข้าไปในซอกมืดทันที นฤเบศสลัดข้อเท้าออกจากมือลูกน้องริชาร์ดแล้วเตะซ้ำจนเห็นว่าลูกน้องริชาร์ดไม่สามารถลุกมาทำอะไรได้แล้วจึงรีบวิ่งตามริชาร์ดเข้าไปในทางที่เขาหายไป
อีกมุมหนึ่งของโกดัง มงคลวิ่งถือกระเป๋าเงินออกมา โดยมีอัศวินกับจ่ายมตามไล่บี้ จ่ายมตะโกนสั่ง
“หยุดนะ แกหนีไม่รอดแล้ว หยุดเดี๋ยวนี้”
จ่ายมวิ่งตามมาจนเหนื่อยหอบ อัศวินที่วิ่งตามหลังมา วิ่งแซงหน้าตามมงคลไปก่อน จ่ายมมองตาม
“โห่ เห็นว่าหนุ่มกว่าใช่มั้ยผู้กอง”
จ่ายมรีบออกวิ่งตาม...มงคลวิ่งหลบกระสุนจากอัศวินที่ยิงกราดมาไม่ยั้ง เขาได้จังหวะยิงตอบโต้กลับไปบ้าง อัศวินรีบหลบ จ่ายมวิ่งมาถึง ยิงสวนไป กระสุนเฉี่ยวแขนมงคลจนเลือดไหลแต่ก็ยังวิ่งหนีต่อไป มงคลยิงกราดไม่ยั้ง จ่ายมและอัศวินรีบหลบเข้าที่กำบัง มงคลฉวยโอกาสวิ่งหนีไป จ่ายมกับอัศวินจะตามแต่ก็ต้องปะทะกับบอดี้การ์ดของริชาร์ดเสียก่อน มงคลหนีมาหลบมุมอยู่มุมหนึ่งแล้วเปิดกระเป๋าเงินออกดูแบบสะใจ แต่พบว่าเป็นแบ็งค์ปลอมทั้งหมด และเจอกระดาษเขียนข้อความจากริชาร์ดเอาไว้ว่า
“ของขวัญสำหรับคนทรยศ”
“โธ่เว้ย...ไอ้ริชาร์ด มึงหักหลังกู”
มงคลระเบิดอารมณ์อย่างบ้าคลั่ง แต่แล้วก็ชะงักเมื่อได้ยินเหมือนเสียงนาฬิกานับถอยหลัง มงคลคุ้ยแบ็งค์ปลอมออกจากกระเป๋า ก็เห็นระเบิดเวลาซุกซ่อนอยู่ใต้กระเป๋าด้วย มงคลช็อคมาก ก่อนระเบิดจะระเบิดตูมเสียงดังสนั่น
นฤเบศที่กำลังไล่ล่าริชาร์ดอยู่เกือบจะถึงตัวแล้วชะงักเมื่อได้ยินเสียงระเบิด ริชาร์ดมองรีโมทกดระเบิดในมือแล้วยิ้มอย่างสะใจ ฉวยโอกาสที่เกิดความชุลมุนคว้าปืนที่หล่นอยู่แถวนั้นยิงสวนใส่หลายนัด นฤเบศรีบหลบเข้าที่กำลังได้อย่างหวุดหวิด ริชาร์ดรีบวิ่งหนีต่อ นฤเบศรีบตามริชาร์ดต่อด้วยความเจ็บใจ
มงคลนอนฟุบอยู่ที่พื้น ไม่เป็นอะไรมากเพราะหลบระเบิดได้ทัน แต่สะบักสะบอมไม่น้อยเขาลุกขึ้นพยายามหนีต่อ มงคลวิ่งหนีตายลงบันไดมาเจอปรีติที่ยืนดักรออยู่ พร้อมยกปืนจ่อไปตรงหน้าผากของมงคลพอดี
“ทิ้งปืน แล้วมอบตัวซะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา”
มงคลยกมือยอมแพ้ จังหวะที่กำลังค่อยๆ วางปืนลงที่พื้น มงคลใช้ความเร็วแอบหยิบปืนพกที่เหน็บไว้ที่ข้อเท้า แล้วยกปืนขึ้นชี้หน้าปรีติ แต่กลับมีปืนปริศนาอีกกระบอกมาจ่ออยู่ตรงที่หลังของมงคลจากด้านหลัง คนที่ยกปืนจ่อหัวมงคลอยู่ด้านหลังคือประเสริฐนั่นเอง
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แต่ผมคงจะลั่นไกแน่ ถ้าคุณยังไม่ยอมวางปืนลง”
มงคลจำต้องโยนปืนกระบอกที่สองทิ้งไป อัศวินกับจ่ายมวิ่งมาถึงพอดี จ่ายมรีบล็อกตัวไว้ มงคลดิ้นรน
“ปล่อยกู...กูบอกให้ปล่อย”
อัศวินยิ้มหยัน
“นี่แหละ คือจุดจบของคนโลภมากอย่างพวกแกล่ะ”
จ่ายมสะใจ
“ได้ติดคุกตลอดชีวิต สาสมกับความผิดแน่”
อัศวินพยักหน้าให้ตำรวจ 2 นายที่ตามมาพอดีพาตัวไป มงคลดิ้นและตะโกนลั่นไปตลอดทาง ปรีตินึกได้
“แล้วสารวัตรล่ะ”
ประเสริฐคิดตาม
“ริชาร์ดด้วย”
เสียงปืนดังลั่นมาจากทั่วทุกทิศทาง ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะรีบวิ่งไปทางเสียงปืนทันที
สุรีกานต์วิ่งหลบๆ มาถึงที่ประตูหลังโกดัง มีสมุนนอนตายสองสามคน เธอหยุดหยิบปืนที่หล่นอยู่แถวนั้นขึ้นมาสองกระบอก กระบอกหนึ่งเหน็บซ่อนไว้ที่หลังอีกกระบอกถือไว้
“ฉันขอโทษนะคุณสารวัตร ฉันยอมอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้คุณตกอยู่ในอันตรายไม่ได้จริงๆ”
เสียงปืนดังลั่นออกมาจากในโกดังเหมือนมีสงคราม สุรีกานต์ทั้งกลัว ทั้งตกใจ อยากกรี๊ด แต่ก็ทำไม่ได้
นฤเบศวิ่งเข้ามาพลางมองไปรอบๆ ตัวอย่างระวัง รอบๆ บริเวณเต็มไปด้วยลังสินค้าขนาดใหญ่ที่ถูกรื้อออกมาวางระเกะระกะ ลูกกอล์ฟที่อยู่ข้างในลังเททะลักออกมากระจัดกระจายทั่วทั้งห้องแต่ก็ไม่เห็นวี่แววของริชาร์ด นฤเบศกำลังจะหันหลังกลับจู่ๆ ก็มีปืนของริชาร์ดจ่อมาจากทางด้านหลัง นฤเบศชะงัก ริชาร์ดปรากฏตัวออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างสะใจ
“เกมส์โอเว่อร์แล้วสารวัตร”
ริชาร์ดเหนี่ยวไกจะยิง แต่จู่ๆ ก็โดนยิงมือจนปืนกระเด็นหล่นไปไกล สุรีกานต์เป็นคนยิงมาจากมุมหนึ่ง นฤเบศทั้งแปลกใจและดีใจที่เห็นสุรีกานต์ ริชาร์ดอึ้งตะลึง
“นังสุรีกานต์”
ริชาร์ดมองสุรีกานต์ด้วยความแค้น แต่สุรีกานต์แววตามุ่งมั่นไม่สะทกสะท้าน
“คนที่เกมส์โอเว่อร์ คือแกต่างหาก”
นฤเบศเล็งปืนไปทางริชาร์ด
“ยอมรับความจริง แล้วมอบตัวซะ”
ริชาร์ดยืนเครียด คิดหาทางหนี จู่ๆ แววตาก็ฉายความดีใจเมื่อเห็นหัวหน้าบอดี้การ์ดวิ่งออกมาจากมุมหนึ่ง หัวหน้าบอดี้การ์ดเล็งปืนไปที่สุรีกานต์ นฤเบศเห็นพอดีเหมือนกัน จึงกระโดดเข้าบังตัวสุรีกานต์ไว้แล้วผลักเธอให้หมอบลง พร้อมกับยิงสวนไปหนึ่งนัด โดนหัวหน้าบอดี้การ์ดล้มลงขาดใจตายพอดี ส่วนเขาโดนกระสุนเฉี่ยวแขนล้มลงไปบนพื้นเหมือนกัน สุรีกานต์ตกใจ
“คุณสารวัตร”
อ่านต่อหน้าที่ 3
นางร้ายสายลับ ตอนที่ 13 (ต่อ)
ริชาร์ดฉวยจังหวะชุลมุนเข้าไปรวบตัวสุรีกานต์ทันทีพร้อมจ่อปืน สุรีกานต์ตกใจ ดิ้นๆ
“เฮ้ย...ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
ริชาร์ดยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ใครบอกว่าเกมส์จบแล้ว มันเพิ่งเริ่มต้นต่างหากล่ะ” ริชาร์ดหัวเราะ
ทีมเดอะซันมาถึงที่เกิดเหตุ หยุดยืนอยู่ด้านหลังนฤเบศ มองไปที่สุรีกานต์ด้วยความตกใจ จ่ายมชะงัก
“คุณโซ่ สารวัตร”
นฤเบศพยายามตั้งสติ
“ปล่อยผู้หญิงไป แล้วเรามาคุยกัน”
ริชาร์ดแสยะยิ้ม
“ง่ายไปมั้ย ฉันไม่โง่ทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นหรอกน่า”
หน่วยแม่นปืนจับโฟกัสริชาร์ด เตรียมรอคำสั่งปฏิบัติการ แต่ก็ทำได้อย่างลำบากเพราะมีสุรีกานต์บังอยู่ ริชาร์ดยิ้มเจ้าเล่ห์
“ว่าไงจ๊ะที่รัก คุณมาช่วยผมงั้นสิ”
ริชาร์ดทำท่าจะจุ๊บเป็นรางวัลให้ สุรีกานต์เบี่ยงหลบด้วยความขยะแขยง นฤเบศตาลุกวาว ริชาร์ดเหลือบเห็น แสยะยิ้มออกมา
“ผมรู้แล้วล่ะ ว่าเราจะเล่นเกมส์นี้ต่อไปยังไงดี มันถึงจะสนุกสุดเหวี่ยงกว่านี้”
“ไม่ต้องมาลีลา แกจะเอาไงก็ว่ามา”
“คืนอิสรภาพมาให้ฉัน แล้วฉันจะคืนชีวิตผู้หญิงคนนี้ให้ทันที”
สุรีกานต์พยายามดิ้นขลุกขลัก แต่ริชาร์ดกลับยิ่งรัดแน่นเข้าไปอีก
“คุณ...ไม่ต้องไปเชื่อนะ คนเจ้าเล่ห์อย่างมันไม่มีทางทำตามคำพูดหรอก” สุรีกานต์ดิ้นขัดขืน
“ปากดีจริงนะ หรือว่าอยากให้ฉันจูบโชว์ต่อหน้าทุกคน ถึงจะยอมหุบปากซะที”
ริชาร์ดทำท่าจะจูบจริง นฤเบศตะโกนขึ้น
“หยุด ฉันยอมแล้ว บอกเงื่อนไขมาว่าแกต้องการอะไร”
ริชาร์ดยิ้มอย่างเป็นต่อ
“รถกันกระสุน กับเครื่องบินส่วนตัว”
กวินนอนพักฟื้นอยู่ในห้องพักผู้ป่วย แพรไหมนั่งอยู่ใกล้ๆ
“แน่ใจนะคะว่าไม่ให้ไหมโทรบอกคุณแม่คุณ”
“หมอก็บอกแล้วนี่ครับไม่มีอะไรน่าห่วง พรุ่งนี้ผมก็กลับบ้านเดินปร๋อได้แล้ว”
“ขอบคุณ คุณวินอีกครั้งนะคะที่ดูแลไหมอย่างดี รับรองว่าไหมจะหาโอกาสตอบแทนน้ำใจของคุณวินแน่นอนค่ะ”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ลืมไปแล้วหรือไงว่าเราเป็นเพื่อนกัน”
แพรไหมมองกวินอย่างซาบซึ้ง ความรู้สึกบางอย่างเริ่มเข้ามาแทนที่ เสียงมือถือก็ดังขึ้นกวินหยิบมือถือมารับ
“ครับคุณนัฐชา” กวินตกใจมาก “ห๊ะ อะไรนะครับ”
ริชาร์ดล็อกตัวสุรีกานต์ไว้เป็นตัวประกัน นฤเบศยืนมือเปล่า
“เช็คดูใหม่อีกทีซิ ว่าอีกกี่นาทีรถกันกระสุนที่ฉันขอ จะมาถึงที่นี่”
นฤเบศมองสบตาสุรีกานต์ ยกมือถือแนบหู
“โอเค อีก 5 นาทีใช่มั้ย”
ริชาร์ดยิ้มเจ้าเล่ห์
“เธอเก่งมากสุรีกานต์ ทำให้ฉันหลงใหลจนเกือบเสียงานใหญ่ เสน่ห์ของเธอใช้ได้ดีเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่เธออาจจะไม่มีโอกาสได้อยู่ใช้มันอีกต่อไปแล้ว ถ้ามีตำรวจแถวนี้ผิดคำพูด” ริชาร์ดขู่
นฤเบศหันไปส่งซิกทางสายตากับสุรีกานต์ เธอได้โอกาสกระทืบฝ่าเท้าลงไปบนเท้าริชาร์ด จนริชาร์ดสะดุ้งโหยงด้วยความเจ็บ เสียหลักตัวเซ สุรีกานต์ดิ้นจนหลุด แล้ววิ่งไปหานฤเบศ แต่ริชาร์ดตั้งหลักได้พอดี รีบเข้าไปกระชากตัวเธอกลับไปได้ทัน
“โอ๊ย”
สุรีกานต์ดิ้นจนทำให้ริชาร์ดทำปืนหลุดมือ กระเด็นไป นฤเบศได้จังหวะจะเข้าไปจะหยิบปืน ริชาร์ดผลักสุรีกานต์ออกไป รีบตรงเข้าไปซัดหมัดใส่ นฤเบศกับริชาร์ดแลกหมัดกันนัวเนีย สุรีกานต์ยืนมองตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก ทีมเดอะซันและตำรวจกำลังเสริมจะยิงริชาร์ดแต่ไม่ได้จังหวะ เพราะเกรงจะโดนสุรีกานต์และนฤเบศ
นฤเบศเป็นฝ่ายได้เปรียบชัดริชาร์ดจนสะบักสะบอมล้มลงไป ตรงนั้นมีปืนของริชาร์ดวางอยู่พอดี นฤเบศมองตามอย่างตกใจ ริชาร์ดหยิบปืนยิ้มอย่างเป็นต่อ เล็งปืนมาที่นฤเบศ
“สุดท้ายแกก็ต้องมาตายด้วยน้ำมือของฉัน”
สุรีกานต์แอบคว้าปืนอีกกระบอก ที่เหน็บไว้ที่หลังเล็งไปที่ริชาร์ด
“ถ้าแกยิงเขา ฉันก็จะยิงแกทันที”
“แกนี่มันตัวซวยของฉันจริงๆ เพราะแกคนเดียวงานของฉันถึงต้องพัง”
“เพราะแกมันชั่วเองต่างหาก ไม่ใช่เพราะฉัน ทิ้งปืน” สุรีกานต์ตวาด
“ไม่...ให้มันรู้ไปสิว่าเธอจะทนดูไอ้สารวัตรนี่มันตายได้” ริชาร์ดจะเหนี่ยวไก
“อย่ามาท้าฉันนะ” สุรีกานต์เล็งปืนสั่นๆ “ฉัน…ฉันยิงแกแน่”
ริชาร์ดแสยะยิ้ม
“ฉันว่าเรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า แลกกันคนละนัด จนกว่ารถจะมาถึง ขอฉันเริ่มก่อนก็แล้วกัน”
ริชาร์ดหัวเราะหึๆ แล้ว ยิงเฉียดขานฤเบศจนเขาเซล้มลง สุรีกานต์มองอย่างตกใจ
“คุณ”
สุรีกานต์เหนี่ยวไกยิงริชาร์ดทันที แต่ปืนกลับไม่มีลูกกระสุนออกมา เธอตกใจจนแทบช็อก ริชาร์ดถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เดินไปกระทืบนฤเบศจนล้มลงนอนกับพื้น ริชาร์ดส่ายหน้ามองอย่างเวทนา
“เกมส์โอเวอร์ เสียใจด้วยนะสารวัตร เกมส์นี้อาจจะฉีกทุกกฎเกณฑ์ไปหน่อย ที่ตำรวจต้องตาย ไม่ใช่ผู้ร้าย”
ทีมเดอะซันตกใจมากจะถลาเข้ามา แต่ริชาร์ดไวกว่าลากตัวสุรีกานต์ขึ้นมา และเอาปืนจ่อไว้
“อย่าเข้ามานะเว้ย”
รถกันกระสุนที่ริชาร์ดขอมาถึงพอดี ริชาร์ดยิ้มอย่างย่ามใจ เอาปืนจี้สุรีกานต์เดินไปขึ้นรถ
“แล้วก็อย่าตามมาเด็ดขาด ไม่งั้น นังนี่ตาย”
นฤเบศ พยายามฝืนลุกขึ้นยืนมองตามอย่างเป็นห่วง สุรีกานต์มองอย่างเป็นห่วงไม่แพ้กัน แต่ก็โดนริชาร์ดบังคับให้ขึ้นรถไป ริชาร์ดขึ้นรถแล้วแล่นออกไป นฤเบศกัดฟันโกธรแค้นที่ริชาร์ดเอาตัวสุรีกานต์ไป แต่เขาทำอะไรไม่ได้
รถของริชาร์ดแล่นมาที่ถนนด้านหน้า สนามกอล์ฟกวินด้วยความเร็วสูง สุรีกานต์ถูกเทปกาวมัดนั่งนิ่ง มือก็พยายามเอาเล็บจิกเทปกาวให้ฉีกขาด
“แก ไอ้เลว ฉันไม่ปล่อยให้แกหนีรอดไปได้หรอก”
“จะทำอะไรฉันเหรอนังสายลับ รอฉันขึ้นเครื่องก่อนเถอะ แกก็จะหมดโอกาสพูดไปอีกเลยชั่วชีวิต”
สุรีกานต์เอาเล็บจิกเทปค่อยๆแกะจนขาด แล้วดึงพวงมาลัยรถกะให้เสียหลัก ริชาร์ดร้องเสียงหลง พยายามประคองพวงมาลัยและผลักสุรีกานต์ให้พ้นทาง แต่สุรีกานต์ก็ไม่ยอมปล่อยมือ จู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งมาขวางทางไว้ ริชาร์ดตกใจหักหลบเหยียบเบรกตัวโก่ง สุรีกานต์ร้องกรี๊ด ริชาร์ดหัวกระแทกพวงมาลัยอย่างแรง หัวแตกเลือดไหล ค่อยๆ ได้สติขึ้นมา ก็ต้องช็อค เมื่อเห็นนฤเบศ ปรีติ ประเสริฐ และตำรวจเล็งปืนรายล้อมไว้ทุกจุด ริชาร์ดยกมือขึ้นเหนือหัวอย่างยอมจำนน ก่อนจะกดรีโมทระเบิดในมือ เบื้องหลังริชาร์ดที่เป็นที่ตั้งของโกดังระเบิดกึกก้องเป็นควันพวยพุ่งขึ้นมา ริชาร์ดแสยะยิ้ม
“ถึงแม้ฉันจะผิด แต่พวกแกก็ไม่มีหลักฐานมาเอาผิดฉันได้เพราะหลักฐานถูกทำลายหมดแล้ว”
“แต่อย่างน้อยแกก็ติดคุกตลอดชีวิต แค่นี้ก็เหมือนตกนรกแล้วล่ะ”
ประเสริฐกับปรีติเข้าไปล็อคกุญแจมือริชาร์ดไว้แล้วคุมตัวไปทันที นฤเบศรีบพุ่งเข้าไปหาสุรีกานต์ที่สลบอยู่ในรถ เห็นเธอไม่ได้สติก็ใจเสีย รีบประคองพาร่างของเธอออกมาจากรถ
“โซ่ คุณได้ยินผมมั้ย”
สุรีกานต์ยังนอนนิ่งไม่ได้สติ
“คุณอย่าเป็นอะไรไปนะ โซ่”
รถกวินแล่นเข้ามาจอดบริเวณที่ตั้งโกดัง กวินลงจากรถ มองดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ บุรุษพยาบาลเข็นร่างคนเจ็บมากมาย ออกจากโกดัง ลำเลียงมาขึ้นรถพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ คุมตัวคนร้ายซึ่งก็คือบอดี้การ์ดริชาร์ดกับลูกน้องมงคลทยอยออกมาขึ้นรถตำรวจ ที่จอดรอรับอยู่ จ่ายมและอัศวินคุมตัวมงคล มือใส่กุญแจมือ ขึ้นรถตำรวจ กวินหันไปมองอย่างตกใจใบหน้ามีแต่เครื่องหมายคำถาม มงคลหันมาสบตากวินด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนขึ้นรถไป นฤเบศขับรถเข้ามาจอด กวินมองนฤเบศด้วยความแปลกใจที่ท่าทีเขาดูเปลี่ยนไป
“คุณเบ็ตตี้”
“ผมสารวัตรนฤเบศ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด เราสงสัยว่าลูกกอล์ฟในโกดังสินค้าของคุณมีการยัดไส้ยาเสพติดร้ายแรง CN1 เอาไว้ข้างใน เพื่อนำเข้ามาแพร่กระจายในประเทศไทย เพราะฉะนั้น ตำรวจต้องขอยึดของกลางที่เหลือทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบ และขอเชิญคุณไปสอบสวน ว่ามีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดของริชาร์ดหรือเปล่า เชิญครับ”
กวินยืนช็อค ไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ได้ยินจะเป็นความจริง
พลอยนิลเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิด กดมือถือโทรหาเนธานยิกๆ โทรติด แต่เนธานไม่รับสาย
“โอ๊ย...ทำไมถึงไม่ยอมรับสายซะทีนะธาน”
เธอตั้งท่าจะปามือถือทิ้ง พี่บีรีบแย่งมือถือไป
“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะน้องนิล”
“แล้วพี่บีจะให้นิลทำไงคะ จู่ๆ ธานก็หายตัวไป ติดต่อไม่ได้ นิลจะบ้าตายอยู่แล้วนะ”
“จนป่านนี้แล้วน้องนิลยังไม่รู้อีกเหรอคะว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไง เขาไม่เคยจริงใจกับน้องนิลเลยนะคะ เขาทำทุกอย่างก็เพราะ…”
“หยุดนะพี่บี นิลไม่อยากฟัง ถึงธานจะเป็นยังไง นิลก็รักเขา นิลรักเขาได้ยินมั้ยคะ คอยดูนะ ยังไงนิลก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าตอนนี้ธานอยู่ที่ไหน กับใคร”
ในห้องนอนบ้านอุษณะ...อุษณะนั่งพิงหัวเตียง มองโทรศัพท์มือถือของเนธานซึ่งโชว์สาย miss call 50 สายจากพลอยนิลที่ถืออยู่ในมือ อุษณะยิ้มเยาะสะใจ
“นังหน้าโง่เอ้ย”
อุษณะวางโทรศัพท์มือถือกลับลงบนโต๊ะ เนธานเดินออกมาจากห้องแต่งตัวกำลังติดกระดุมเสื้อ
“ตั้งแต่หนีจากคอนโดโซ่มาอยู่ที่นี่ นายยังไม่ได้ติดต่อกับพลอยนิลเลยสิ”
“จู่ๆ ทำไมถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา”
“เมื่อกี้ยัยนั่นโทรมาน่ะ สงสัยว่าคงจะคิดถึงนายจนใกล้ลงแดงตายแล้วมั้ง”
“นี่คุณเช็คมือถือผมเหรอ”
เนธานรีบเดินไปหยิบมือถือตัวเองไปตรวจดู อุษณะจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่างทันที
“มือถือนายมีความลับอะไรซ่อนอยู่เหรอ ฉันถึงแตะไม่ได้”
“ไม่มี ผมแค่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของใช้ส่วนตัวก็เท่านั้นเอง”
อุษณะยิ้มกริ่ม รู้ทันว่าเนธานโกหก
สุรีกานต์มีแผลบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา วุ้นกรอบกับพายไก่ รีบเข้าไปหาที่เตียงด้วยความดีใจ
“เป็นไงมั่งเจ๊ เจ็บตรงไหนรึเปล่า” พายไก่ถามอย่างเป็นห่วง
สุรีกานต์แปลกใจ งงๆ
“พวกแกสองคนมาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย”
“มีคนส่งไลน์ไปบอกให้เราสองคนมาดูแลเจ๊ที่นี่” วุ้นกรอบบอก
สุรีกานต์สงสัย
“ใคร...สารวัตร เอ้ย เบ็ตตี้ใช่มั้ย”
วุ้นกรอบส่ายหน้า
“ไม่รู้เหมือนกันเจ๊ เห็นข้อความปุ๊บ พวกเราก็รีบมานี่แหละ”
สุรีกานต์หน้าเสียนึกห่วงนฤเบศ
“แล้วพวกแกได้ข่าวเบ็ตตี้บ้างมั้ย รู้มั้ยว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน เป็นยังไงบ้าง”
วุ้นกรอบกับพายไก่ส่ายหน้าพร้อมกัน พายไก่แปลกใจ
“ทำไมเหรอเจ๊ เกิดอะไรขึ้นกับเบ็ตตี้เหรอ”
สุรีกานต์ร้อนใจมาก แต่ก็ไม่รู้จะตอบวุ้นกรอบกับพายไก่ยังไงดี
นฤเบศนั่งประชุมงานกับทีมเดอะซันอยู่ในห้องทำงานที่สำนักงานตำรวจ
“เสร็จจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด เราจะมาประชุมกันอีกครั้ง คืนนี้พอแค่นี้ก่อน เลิกประชุมได้”
ทุกคนทยอยเดินออกจากโต๊ะประชุม นฤเบศหันไปถามจ่ายม
“คุณโซ่ เป็นยังไงบ้างจ่า”
“สายของเรารายงานว่าอาการบาดเจ็บของคุณโซ่ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ตอนนี้เธอกลับไปพักต่อที่คอนโดแล้วครับ เอ่อ แล้วนี่ สารวัตรจะไปเยี่ยมคุณโซ่มั้ยครับ”
“เขามีเพื่อนอยู่ดูแลอยู่แล้ว คงไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก นี่ก็ดึกมากแล้วจ่ายมกลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
“แต่เห็นว่าเพื่อนสองคนจากกองละครที่สารวัตรให้ผมส่งข้อความไปบอกเรื่องคุณโซ่ ไม่ได้กลับไปกับคุณโซ่นะครับสารวัตร”
นฤเบศเริ่มรู้สึกเป็นห่วงสุรีกานต์ขึ้นมา
“เอาเถอะ เอาตามนี้แหละ”
“แต่สารวัตรครับ…”
นฤเบศจ้องหน้าจ่ายม
“นี่คือคำสั่ง …”
นฤเบศเดินออกไปจากห้องประชุม จ่ายมบ่นๆ
“สารวัตรนะสารวัตร ทำไมถึงใจร้ายใจดำกับคุณโซ่ของจ่ายมแบบนี้นะ”
อัศวินพูดขึ้น
“แต่ผมว่า คืนนี้ยังไงสารวัตรก็ต้องแวะไปหาคุณโซ่อยู่ดี เชื่อดิ”
ปรีติขัดขึ้น
“มันก็ไม่แน่หรอกผู้กอง สารวัตรเราขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชาแค่ไหน ใครๆ ก็รู้”
จ่ายมพยักหน้า
“ใช่ เห็นด้วยกับหมวดเต็มๆ เลย …เสียแรงที่ผมอุตส่าห์ยอมหลีกทางให้จีบคุณโซ่ แต่สารวัตรกลับใช้โอกาสที่ได้ไปไม่คุ้มเลยสักนิด”
ปรีติอึ้งๆ
“เอ่อ มันใช่เหรอจ่า”
อัศวินนึกสนุก
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมว่าเรามาพนันกันดีมั้ย ว่าคืนนี้สารวัตรจะไปหาคุณโซ่ที่คอนโดรึเปล่า”
ปรีติเล่นด้วย
“ดีๆ ผมเอาด้วย…ผมว่าไม่ไป”
จ่ายมคิดๆ
“ผมก็ว่าไม่ไป”
ประเสริฐขัดขึ้น
“ผมว่าการพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ เราเป็นตำรวจ ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเลยครับ”
จ่ายม อัศวิน ปรีติ ถึงกับหันไปมองประเสริฐอย่างหมดสนุกโดยพร้อมเพรียงกัน
สุรีกานต์นั่งเท้าคางอยู่ในห้องที่คอนโด มองกระถางต้นแอบรักที่วางอยู่ตรงระเบียงคอนโดหน้าเศร้า
“ป่านนี้เจ้านายแกจะเป็นยังไงบ้างนะ โทรหาก็ไม่มีใครรับสายสักคน อย่าบอกนะว่าเขา …”
สุรีกานต์เหมือนจะร้องไห้ เพราะคิดว่านฤเบศอาจตายไปแล้ว เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เธอลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูคิดว่าเป็นวุ้นกรอบกับพายไก่แวะมา
“ยัยสองคู่ซี้แน่เลย”
สุรีกานต์เปิดประตูแล้วเห็นนฤเบศยืนอยู่ตรงหน้า เธอทั้งตกใจและดีใจก่อนกระโดดกอดเขาอย่างลืมตัว
“ฉันคิดว่าคุณเป็นอะไรไปแล้วซะอีก”
นฤเบศหน้าเหวอๆ ยืนตัวแข็ง ทำอะไรไม่ถูก เพราะถูกสุรีกานต์กอดไว้จนแน่น นฤเบศเขินๆ
“เคลียร์งานเสร็จผมก็รีบมานี่แหละ แล้วนี่คุณไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย”
สุรีกานต์พยักหน้า ดีใจจนน้ำตาไหล เริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังกอดเขาอยู่ ก็ค่อยๆผละออกมา ทั้งสองต่างมองหน้ากันแบบเขินๆ สุรีกานต์รีบเอามือปาดน้ำตาที่มันไหลออกมาเองก่อนจะรีบหันหน้าหนีกันไปคนละทาง
นฤเบศกับสุรีกานต์นั่งคุยกันที่โซฟารับแขก ยังเขินๆ ไม่กล้าสบตากันแบบตรงๆ
“สรุปเรื่องคดี ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”
“ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณด้วยนะ ที่มีส่วนช่วยให้เราปิดคดีนี้ได้เร็วขึ้น”
“ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไรที่คนอย่าง โซ่ สุรีกานต์ ทำไม่ได้…ว่าแต่แล้วเรื่องคุณกวินล่ะ ตกลงว่าเขา…”
“ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการสอบสวน ผมยังตอบอะไรคุณตอนนี้ไม่ได้หรอก เสียใจด้วยนะที่ ความรักของคุณอาจจะไม่สมหวังตามที่ตั้งใจเอาไว้”
สุรีกานต์งงๆ
“ความรักของฉัน ความรักอะไร”
“ก็ความรักของคุณ กับพระเอกของคุณไง”
สุรีกานต์รู้สึกน้อยใจ ทำไมเขาถึงไม่รู้ใจเธอเสียที อารมณ์ทิฐิเลยพูดประชดออกไปไม่ทันคิด
“แล้วเรื่องคุณกับน้องไหมของคุณล่ะ เสร็จงานแล้ว คงมีเวลาให้กันมากขึ้นสินะ”
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้น” นฤเบศประชด
“ดี …งั้นรอฉันเดี๋ยวนะ”
นฤเบศมองอย่างงงๆ ว่าเธอจะทำอะไร สุรีกานต์เดินไปหยิบกระถางต้นแอบรักที่วางอยู่นอกระเบียงกลับมายื่นให้เขา
“นี่มัน …”
“ฉันแอบเอามันมาจากบ้านคุณเองแหละ แต่ตอนนี้ ช่วยเอามันกลับไปด้วยแล้วกัน ฉันไม่ชอบไอ้ต้นแอบร้งแอบรักอะไรนี่อีกแล้ว”
สุรีกานต์ยัดกระถางต้นแอบรักใส่มือนฤเบศ เดินหนีเข้าห้องนอน หันหลังพิงประตู หน้าเศร้า นฤเบศก้มหน้ามองกระถางต้นแอบรักที่อยู่ในมือ รู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
วันใหม่...กองทัพนักข่าวมารอทำข่าวหน้าสำนักงานตำรวจกันอย่างเนืองแน่น ริชาร์ดเดินออกมาจากอาคาร อัศวิน ปรีติ ประเสริฐพร้อมกำลังตำรวจคุมตัวเดินออกอกมาอย่างแน่นหนา นักข่าวพยายามยื่นไมโครโฟนสัมภาษณ์ริชาร์ด แต่เขากลับมีสีหน้าเรียบและไม่ยอมตอบคำถามใดๆ ทีมตำรวจคุมตัวริชาร์ดไปขึ้นรถเรือนจำที่จอดรออยู่ กลุ่มนักข่าววิ่งตามถ่ายภาพรถเรือนจำแล่นออกไป นฤเบศกับจ่ายมยืนมองเหตุการณ์อยู่ตรงระเบียงชั้นสอง จ่ายมเปรยออกมา
“ในที่สุด เราก็รวบตัวคนชั่วเข้าคุกได้สำเร็จนะครับสารวัตร”
“แล้วการสอบสวนนายมงคลล่ะ คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว”
“ตอนนี้นายมงคลยังถูกฝากขังไว้ที่นี่ เพื่อรอการสอบสวนเพิ่มเติมอีกทีครับ”
นฤเบศพยักหน้ารับรู้
“แล้วคุณกวินล่ะ”
“ผลการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด รวมถึงการสอบปากคำตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้า สรุปว่าคุณกวินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดของริชาร์ดครับ”
นฤเบศพยักหน้าครุ่นคิดอย่างอย่างยอมแพ้ สุรีกานต์คงหมดอุปสรรคความรักของเธอเสียที
ตำรวจสองนายเดินคุมกวินมาตามทางเดิน กอบแก้วนั่งรอลูกอยู่ที่เก้าอี้ใกล้มุมทางเดิน เห็นกวินแล้วก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ
“วิน เป็นยังไงบ้างลูก”
“คุณแม่ไม่ต้องกลัวนะครับ กฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับคนบริสุทธิ์แน่นอน”
“โธ่ วิน ทำไมต้องมาเกิดเรื่องร้ายๆ แบบนี้กับลูกของแม่ด้วยนะ เพราะไอ้คนเนรคุณคนนั้นคนเดียวเลย ที่ทำให้วินต้องมีมลทินไปด้วยแบบนี้”
กวินครุ่นคิดบางอย่าง
“เดี๋ยวคุณแม่รอผมอยู่ตรงนี้ก่อนได้มั้ยครับ”
“วินจะไปไหนอีกล่ะลูก เรากลับบ้านกันดีกว่า ลูกควรพักผ่อนได้แล้วนะ”
“ผมอยากคุยกับคนๆ หนึ่งก่อนครับ”
กวินยืนคุยกับมงคลที่หน้าห้องขัง กวินมองอย่างผิดหวัง
“ทำไมคุณอาต้องทำแบบนี้ด้วยครับ”
“ฉันต้องทำงานหนักเพื่อกฤษดาอภินันท์มาทั้งชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างมันควรจะเป็นของฉันก็ถูกแล้วนี่ ไม่ใช่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างแก”
“ขอบคุณนะครับที่ยอมพูดความจริงกับผมเสียที สำหรับสิ่งที่คุณอาทำกับผมและครอบครัวในวันนี้ แม้มันจะหนักหนาเกินไปที่จะอภัยให้กันได้ ง่ายๆ แต่ผมสัญญาครับ ว่าจะอภัยให้คุณอา และจะลืมมันไปให้หมด…โชคดีนะครับ”
กวินเดินจากไป มงคลมองตามหลัง แววตาเริ่มสำนึกในความผิดพลาดของตัวเอง
แก้วดารากำลังดูข่าวริชาร์ดกับกวิน จากหนังสือพิมพ์อย่างช็อกๆ เกี๊ยวกุ้งถอนใจ
“งานนี้คุณวินเกือบไปแล้วนะเนี่ย แต่เห็นว่าก่อนเข้าคุก พ่อค้ายาคนนี้กำลังควงดาราสาวคนหนึ่งอยู่ด้วยนะคะ งานนี้ถ้ารู้ตัวขึ้นมาว่าเป็นใคร มีหวังเสียชื่อเพราะต้องกลายเป็นผู้หญิงของพ่อค้ายาแน่ๆ เลยค่ะ” เกี้ยวกุ้งหัวเราะชอบใจ
แก้วดาราหน้าเสีย
“ตอนนี้แก้วอยากอยู่คนเดียว พี่เกี๊ยวกลับไปก่อนได้มั้ยคะ”
“เอ่อ ทำไมจู่ๆ ไล่พี่แบบนี้ล่ะ”
แก้วดาราตวาดแว๊ด
“บอกให้ไป ก็ไปสิ”
เกี๊ยวกุ้งรีบบออกไปอย่างงงๆ แก้วดาราหน้าซีด ไม่รู้จะทำยังไงดี จู่ๆ นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบหยิบมือถือขึ้นมากดดูรูปที่แอบถ่ายสุรีกานต์กับริชาร์ดเอาไว้
“คนที่จะต้องเป็นผู้หญิงของพ่อค้ายาเสพติดคือแก ไม่ใช่ฉัน นังสุรีกานต์”
กวินเข้ามาในล็อบบี้คอนโดสุรีกานต์ แปลกใจมากเมื่อเห็นนักข่าวเต็มไปหมด
“นักข่าวมาทำไมกันเยอะแยะ”
หน้าจอโทรทัศน์เป็นภาพเคลื่อนไหวตอนริชาร์ดเดินออกมาขึ้นรถเรือนจำ มีรูปสุรีกานต์กับริชาร์ดที่ถูกแก้วดาราแอบถ่ายขึ้นมาประกอบการรายงาน
“กรณีภาพหลุดสุดฉาวของดารานางร้ายเจ้าบทบาท โซ่ สุรีกานต์ ที่ดูสนิทสนมกันเกินธรรมดา กับมิสเตอร์ริชาร์ด นักค้ายาเสพติดชนิดใหม่ผู้อื้อฉาว ประเด็นนี้ถือว่าสร้างความสนใจให้กับคนไทยทั้งประเทศเป็นอย่างมาก และตอนนี้โซ่สุรีกานต์ ก็ถูกขนานนามว่าเป็นผู้หญิงของพ่อค้ายารายใหญ่ไปแล้ว”
สุรีกานต์กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งดูข่าวหน้าช็อก ทำอะไรไม่ถูก เสียงมือถือดังขึ้น สุรีกานต์รีบหยิบขึ้นมากดรับสาย
“คุณวิน”
ลิฟต์เปิดออก สุรีกานต์แต่งกายทะมัดทะแมง ใส่หมวก สวมแว่นตาดำเดินออกมาอย่างระวังตัว ผ่านกลุ่มนักข่าวที่มารอทำข่าว สุรีกานต์ รีบเดินหนีเร็วๆ จนเผลอไปชนกับคนที่เดินสวนทางมาทำให้หมวกกับแว่นตาหลุด สุรีกานต์หน้าเหวอ กลุ่มนักข่าวหันมาเห็นพอดี รีบตะโกนบอกกันดังลั่นว่า โซ่อยู่นี่ๆ สุรีกานต์รีบวิ่งหนีนักข่าวที่พากันวิ่งตามมา กวินโผล่เข้ามาคว้ามือสุรีกานต์พาวิ่งหนีไปด้วยกัน
“ทางนี้ครับคุณโซ่”
นักข่าวรีบถ่ายภาพทั้งคู่เอาไว้ กวินกับสุรีกานต์รีบพาสุรีกานต์หนีนักข่าววิ่งขึ้นรถที่กวินจอดแอบไว้ ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ท่านรองมานพอ่านรายงานแล้วเงยหน้าขึ้นมา
“ผมไม่ผิดหวังจริงๆ ที่มอบหมายงานสำคัญให้สารวัตรกับทีมดูแล เยี่ยมมาก”
“ขอบคุณครับท่านรอง”
ท่านรองมานพยื่นซองจดหมายราชการให้
“ส่วนนี่...ตัดสินใจยังไงก็บอกผมนะสารวัตร อนาคตและโอกาสอยู่ในมือคุณแล้ว”
นฤเบศมองซองจดหมายราชการที่ได้รับมาอย่างงงๆ
นฤเบศเปิดประตูเดินออกมา เจอแพรไหมที่เดินมาหยุดตรงหน้าพอดี
“น้องไหม”
“ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยคะพี่เบศ”
แพรไหมกับนฤเบศยืนคุยกันที่มุมหนึ่งในสำนักงานตำรวจ
“เรื่องคดี ไหมดีใจด้วยนะคะ พี่เบศของไหมเก่งมาก”
นฤเบศยิ้มรับ
“ขอบใจนะ ความจริงแล้วความสำเร็จที่ได้มา มันไม่ใช่ของพี่คนเดียวหรอกนะ แต่เพราะพี่มีทีมเวิร์คที่ดีด้วยต่างหาก”
“โดยเฉพาะสายลับสาวคนเก่งของพี่เบศใช่มั้ยคะ”
นฤเบศงงที่แพรไหมรู้เรื่องสุรีกานต์
“ไหมรู้เรื่องจากคุณพ่อหมดแล้วละค่ะ” แพรไหมยิ้ม “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ ไหมไม่เป็นไรหรอก … ก่อนหน้านี้ ไหมเคยเลือกที่จะรักพี่เบศ โดยไม่สนใจว่าพี่เบศจะคิดยังไง แต่ตอนนี้ไหมรู้แล้วว่าไหมยังรักพี่เบศเหมือนเดิมได้ แต่ไหมควรรัก และควรห่วงใยพี่เบศในฐานะพี่ชายที่แสนดีของไหมเท่านั้น เหมือนอย่างที่พี่เบศก็รักและเอ็นดูไหมในฐานะน้องสาวคนหนึ่งมาตลอด ไหมอยากมาบอกพี่เบศแค่นี้แหละค่ะ”
“ขอบคุณมากนะไหม จำไว้นะไหมเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่เสมอ”
นฤเบศกับแพรไหมยิ้มให้กันอย่างจริงใจ
จ่ายม อัศวิน ประเสริฐ ยืนมุงดูอะไรบางอย่างหน้าคอมพิวเตอร์ของปรีติ นฤเบศเดินอารมณ์ปลอดโปร่งเรื่องแพรไหมเข้ามา จ่ายมหันไปเห็น รีบเข้าไปหาอย่างร้อนใจ
“สารวัตรเห็นข่าวคุณโซ่รึยังครับ”
นฤเบศรีบไปดูหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของปรีติ เห็นข่าวภาพหลุดของสุรีกานต์กับริชาร์ดก็ตกใจ
“มีภาพแบบนี้หลุดออกมาได้ยังไง”
ปรีติหันมาบอก
“ยังไม่รู้เหมือนกันครับว่าเป็นฝีมือของใคร”
นฤเบศหุนหันจะออกไปหาสุรีกานต์ ประเสริฐรีบถาม
“สารวัตรจะไปหาคุณโซ่ใช่มั้ยครับ”
“ใช่”
“แต่คุณโซ่หลบออกจากคอนโดไปพร้อมคุณกวินแล้วครับ”
นฤเบศหน้านิ่ง รู้สึกทั้งหึงทั้งเป็นห่วงสุรีกานต์
รถกวินขับมาจอดที่ปากทางเข้าบ้านสุรีกานต์
“ขอบคุณ คุณวินมากนะคะที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ สำหรับคุณโซ่ ผมเต็มใจเสมอ ส่วนเรื่องที่ผมบอกคุณโซ่ไป คุณโซ่ก็ลืมมันไปได้เลยนะครับ ขอโทษถ้ามันอาจจะทำให้คุณโซ่ไม่สบายใจ”
“คุณวินไม่ต้องขอโทษโซ่หรอกค่ะ โซ่รู้ว่าคุณวินรู้สึกยังไง โซ่ต้องขอบคุณคุณวินเสียอีกที่มีความรู้สึกดีๆ ให้โซ่ โซ่จะเก็บมันไว้ตลอดไปค่ะ”
สุรีกานต์กับกวินยิ้มให้กันอย่างจริงใจ
“เข้าบ้านเถอะครับ ทุกคนคงดีใจมากที่เห็นคุณโซ่กลับบ้าน”
สายทิพย์นั่งใจคอไม่ดีอยู่ที่โซฟา คะนึงนิจนั่งกุมมือคอยให้กำลังใจ
“ใจเย็นๆ นะคะคุณแม่ นิจเชื่อว่าทุกอย่างไม่เลวร้ายเหมือนในข่าวหรอกค่ะ”
กสิณปลอบ
“คนอย่างยัยโซ่ ยังไงก็ต้องกลับมาบ้าน แม่อย่ากังวลไปเลย”
“แต่แม่เป็นห่วงลูกนี่พ่อ” สายทิพย์หันไปทางดิ่งที่กำลังกดโทรศัพท์อยู่ “ว่ายังไงดิ่ง ติดต่อน้องได้รึยัง”
ดิ่งได้ยินเสียงสัญญาณกดรับสายแล้ว
“นี่แกอยู่ไหน ตอนนี้ทุกคนที่บ้านเป็นห่วงแกมากเลยนะ ห๊ะ อยู่หน้าบ้านแล้ว”
ทุกคนหันมองไปที่ประตูบ้าน เสียงออดหน้าประตูดังขึ้น ซันดีใจ
“เย้...อาโซ่มาแล้ว อาโซ่มาแล้ว”
ซันรีบวิ่งไปเปิดประตูบ้าน ทุกคนรีบเดินไปดูที่ประตูบ้าน ซันเปิดประตู สุรีกานต์ฉีกยิ้มให้ทุกคนอย่างดีใจพูดเสียงเครือ
“โซ่กลับมาแล้วค่ะ”
“ยินดีต้อนรับลูกสาวของพ่อกลับบ้าน”
สุรีกานต์โผเข้าไปกอดพ่อ ทุกคนน้ำตาซึม
สุรีกานต์นั่งคุยกับครอบครัวที่ห้องรับแขก
“เรื่องทั้งหมด ก็เป็นอย่างที่โซ่เล่าให้ทุกคนฟังนี่แหละ โซ่ไม่ได้เป็นอะไรกับริชาร์ด ไม่มีส่วนรู้เห็นกับคดียาเสพติดนั่น ที่โซ่ต้องไปเกี่ยวข้องก็เพราะเรื่องงานเท่านั้น แต่โซ่ยังบอกรายละเอียดทั้งหมดตอนนี้ไม่ได้จริงๆ”
กสิณปลอบ
“เอาเถอะ พ่อเข้าใจ ยังไงพ่อก็เชื่อว่าลูกของพ่อเป็นคนดีไม่มีทางทำอย่างนั้นเด็ดขาด”
“แม่ก็เหมือนกัน แม่เลี้ยงโซ่มา แม่รู้ดีว่าลูกของแม่เป็นคนยังไง โซ่ไม่มีทางไปทำเรื่องผิดๆ แบบนั้นแน่นอน”
ดิ่งยิ้มให้กำลังใจน้องสาว
“ฉันรู้ว่าแกยังไหว เรื่องแค่นี้แกไม่เป็นไรหรอก จริงมั้ยน้องรัก”
คะนึงนิจปลอบอีกคน
“แล้วเรื่องร้ายๆ จะผ่านไปนะโซ่ ไม่ต้องคิดมากนะ”
สุรีกานต์มองทุกคนอย่างตื้นตันใจ น้ำตาซึม ซันเข้ามาจับมือ
“อาโซ่ไม่ต้องร้องไห้นะฮะ”
“จ้ะอาไม่ร้องแล้ว” สุรีกานต์เช็ดน้ำตา
“ทำไมคุณอาองค์รักษ์ของอาโซ่ ถึงไม่มาดูแลอาโซ่ล่ะฮะ” ซันถามขึ้น
สุรีกานต์สะกิดใจกับคำถามของซัน ทำให้นึกน้อยใจนฤเบศขึ้นมา สายทิพย์จับสังเกตได้ว่าสุรีกานต์ยังมีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ
ค่ำนั้น สุรีกานต์นั่งซึมอยู่บนเตียงยังนอนไม่หลับ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอลุกขึ้นไปเปิดประตูให้แม่เข้ามา
“ยังไม่นอนอีกเหรอลูก”
“โซ่นอนไม่หลับน่ะค่ะ”
สายทิพย์กับสุรีกานต์เดินไปนั่งข้างกันบนเตียงนอน
“นอกจากเรื่องข่าว แล้วโซ่ยังมีเรื่องอื่นในใจอีกใช่มั้ย”
สุรีกานต์ชะงัก
“แม่ดูออกด้วยเหรอคะ”
“โซ่เป็นลูกแม่นะ”
สุรีกานต์เงียบไป ก่อนพูด
“ถ้าเรารักใครสักคน เราจะรู้ได้ยังไงเหรอคะแม่”
สุรีกานต์นอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง เสียงสายทิพย์ดังขึ้นในหัว
“ความรักก็เหมือนกับการเลือกรองเท้านั่นแหละลูก บางคู่สวยมาก เห็นแล้วอยากใส่ชะมัด แต่พอได้ใส่มันจริงๆ กลับคับ แถมมันยังกัดซะจนเท้าระบม”
จบตอนที่ 13