ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 5
วันต่อมาห่านเอาชุดสวยออกมาทาบกับตัวเองที่หน้ากระจก สีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะเอาใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่เตรียมไว้ หันไปหยิบคอนแทคเลนส์ใส่กระเป๋า แล้วก็นึกขึ้นได้ หันไปมองรองเท้าที่คุณชายให้ที่วางบนตู้เสื้อผ้า
ห่านลากเก้าอี้ ปีนขึ้นไปหยิบมันลงมา แล้วก็ยิ้มมีความสุข
โรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่จัดงาน พนักงานห้างที่เดินข้ามาต่างแต่งตัวกันเต็มที่ เพราะนานๆ จะมีงานกินฟรีแบบนี้ทั้งที ทุกคนกำลังทยอยเข้ามาในงาน เห็นป้ายบนเวทีเขียนว่า “งานฉลองครบรอบ 50 ปีห้างสรรพสินค้า BKK Plaza”
บื้อ ห่าน โย่ง แหม่ม เจ๊มะพร้าวเดินเข้ามาในงานด้วยกัน แล้วก็หันไปเห็นพรเพ็ญแต่งชุดราตรีเดินมา ทำเอาทั้งห้าคนตาโตด้วยความตะลึง
“ว้าวๆ วันนี้คุณผู้จัดการแจ่มมากเลยค่ะ”
“ยอกันรึเปล่าสมรศรี”
“ไม่ได้ยอนะคะ ถ้าไม่เชื่อถามทุกคนได้เลยค่ะ”
ห่าน บื้อ โย่ง แหม่มพยักหน้า พรเพ็ญยิ้มปลื้ม
“ตาถึงกันจริงๆ พวกเธอ อ้อ พวกที่ต้องขึ้นแสดง ให้มาสแตนบายด้านหลังเวทีตอนสองทุ่มนะ”
“ค่ะ/ครับ”
พรเพ็ญเดินออกไป ห่านกระซิบกับเจ๊มะพร้าวและแหม่ม
“เจ๊..แหม่ม ฉันต้องไปแล้ว สองทุ่มเจอกันที่หลังเวที”
เจ๊มะพร้าวกับแหม่มพยักหน้า ห่านรีบเดินออกไป บื้อมองตามสงสัย
“จะรีบไปไหนของเค้า”
คุณชาย ดาหลา คุณหญิงรื่นฤดี ชนะศึก ดารัณ เดินมาด้วยกัน ดาหลาพยายามเดินข้างคุณชาย ในขณะที่คุณชายพยายามรักษาระยะห่าง ดาหลาแอบไม่พอใจ แต่แสดงออกมากไม่ได้ ขณะที่ทั้งหมดกำลังจะถึงห้องจัดงาน คุณชายก็หันไปทางคุณหญิงรื่นฤดี
“ผมขอตัวไปห้องน้ำ แล้วจะตามไปนะครับ”
“จ๊ะ”
คุณหญิงรื่นฤดี ดาหลา ดารัณ ชนะศึกเดินเข้าไปงาน คุณชายดูเวลาแล้วก็รีบเดินออกไปทันที
ห่านซึ่งตอนนี้แปลงโฉมเป็นฮันนี่แล้วเดินเข้ามาที่ล็อบบี้ของโรงแรมอย่างอย่างหรู สวยงาม ก่อนจะรีบล่กๆ ยกกระเป๋าผ้าใบใหญ่ให้พนักงาน
“ฝากไว้หน่อยนะคะ ประมาณเกือบๆ สองทุ่ม ฉันจะมาเอา”
“ได้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” ห่านยิ้มแล้วก็หันหลังจะเดิน เห็นคุณชายยืนรออยู่ ห่านรีบเดินเข้าไปหา “มารอฮันนี่นานเหรอยังคะ”
คุณชายหันมาเห็นห่านก็ยิ้มกว้าง
“ไม่นานครับ คืนนี้คุณฮันนี่สวยมาก” ห่านเขิน คุณชายยื่นแขนให้ห่านควง “เชิญครับ”
ห่านมองแขนคุณชาย มองคุณชายแล้วก็ยิ้มให้ ก่อนจะควงแขนคุณชาย สองคนเดินไปด้วยกัน
ภายในห้องจัดงานขณะนั้นนักข่าวกำลังสัมภาษณ์คุณหญิงรื่นฤดี ชนะศึก มีดาหลากับดารัณยืนอยู่ด้วย
“เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีทองของคุณหญิงรื่นฤดีเลยนะคะ เพราะนอกจากธุรกิจจะเจริญก้าวหน้า ก็ยังมีข่าวดีของคุณคุณชายอีก”
คุณหญิงรื่นฤดีหันไปยิ้มให้ดาหลากับดารัณ ชนะศึกทำหน้าเอือม คุณหญิงรื่นฤดีจับมือดาหลาและหันมาทางนักข่าว
“ไม่ทราบว่าคุณคุณชายกับคุณดาหลาจะแต่งงานกันเมื่อไหร่คะ” นักข่าวถาม ดาหลาทำเอียงอาย
“อุ๊ย ยังหรอกค่ะ ดาหลากับคุณชายเพิ่งเริ่มต้นคบกันได้ไม่นาน เรื่องแต่งงานยังอีกยาวไกลค่ะ”
“แต่ก็อย่านานนักนะคะลูก เพราะแม่อยากอุ้มหลานแล้ว” คุณหญิงรื่นฤดีบอก ดาหลาทำเป็นขินมาก
“คุณแม่อ่ะ”
“แม่ก็คิดเหมือนคุณหญิงนะลูก อยากอุ้มหลาน”
ทั้งหมดหัวเราะครื้นเครง ชนะศึกได้แต่ถอนหายใจ แล้วก็หันไปเห็นคุณชายควงเข้ามาในงานกับห่าน ชนะศึกแทบสำลัก
“เวรแล้วไง”
คุณชายกับห่านควงกันเข้ามา ทำเอาสายทุกคู่หันไปจับจ้องคุณชายกับห่านเป็นตาเดียว
เจ๊มะพร้าว แหม่ม บื้อ โย่งที่นั่งทานอาหารโต๊ะเดียวกัน เจ๊มะพร้าวเห็นห่านกับคุณชายก็รีบสะกิดแหม่ม แหม่มหันไปมองตามก็ยิ้มออกมา บื้อเห็นแหม่มกับเจ๊มะพร้าวมองไปข้างหลังก็หันไปมองตามแล้วก็ผงะที่เห็นห่าน โย่งหันไปมองตามอีกคน
“ผู้หญิงคนนี้”
“แกรู้จักเหรอ”
“ฉันเคยเห็นเค้ามาที่ห้างฯ แฟนคุณชายเหรอ”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง”
บื้อหันไปมองห่านสีหน้าเป็นห่วง รู้สึกใจคอไม่ดี ห่านหันมาสบตากับเจ๊มะพร้าวและแหม่ม สองเพื่อนซี้ยิ้มให้ห่าน ห่านยิ้มตอบ แล้วก็หันมาทางบื้อ บื้อมองห่านนิ่งๆ ห่านยักคิ้วให้บื้อ แล้วก็หันไปทางคุณชาย
แอปเปิ้ล ปีโป้ ที่อยู่ตรงมุมหนึ่ง หันไปมองตามคุณชายและห่าน
“คุณชายพายัยฮันนี่มาด้วย แล้วคุณดาหลาล่ะ”
แอปเปิ้ลกับปีโป้มองหน้ากัน แล้วแอปเปิ้ลก็ยิ้มมุมปาก
“ท่าทางงานนี้จะสนุกแล้วล่ะ”
นักข่าวที่ยังคุยกับคุณหญิงรื่นฤดี ดาหลา ดารัณ และชนะศึก เริ่มได้ยินเสียงฮือฮาของผู้คน นักข่าวหันไปเห็นคุณชายกับห่านก็จ้องกันเขม็ง
“คุณชายมากับใคร”
นักข่าวปรี่ไปรุมถ่ายรูป 2 คนนั้นทันที คุณหญิงรื่นฤดี ดาหลา ดารัณแปลกใจ หันไปมองก็ชะงักไปตามๆ กัน ชนะศึกถึงกับยกมือกุมขมับ
ดาหลาเห็นห่านก็หัวเสียขึ้นมาทันที กระซิบกับดารัณ
“นี่แหละค่ะนังฮันนี่ ที่ดาหลาเคยเล่าให้แม่ฟัง”
ดารัณตกใจ คุณหญิงรื่นฤดีไม่พอใจอย่างแรง คุณชายพาห่านมาหาคุณหญิงรื่นฤดีกับชนะศึก นักข่าวแห่ตามมาเป็นฝูง ถ่ายรูปกันระวิง
“คุณฮันนี่ครับ นี่คุณพ่อคุณแม่ของผมครับ” คุณชายแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” ห่านยกมือไหว้สวยงาม
“คุณพ่อคุณแม่ นี่คุณฮันนี่ คนพิเศษของผมครับ”
ห่านอึ้งที่คุณชายใช้คำนี้กับเธอ คุณหญิงรื่นฤดี ดาหลา ดารัณช็อก นักข่าวฮือลั่นรีบถ่ายรูปรุมสัมภาษณ์คุณชายกับห่านทันที ชนะศึกลอบยิ้มสะใจ
“แล้วคุณดาหลาไม่ใช่คนพิเศษของคุณชายเหรอคะ”
ดาหลา ดารัณ คุณหญิงรื่นฤดี ชนะศึกมองคุณชาย ดาหลาลุ้นมาก ห่านเองก็ลุ้น
“ผมกับคุณดาหลา เราเป็นแค่เพื่อนกันครับ”
ดาหลากำมือแน่น โกรธมาก กำลังจะแว๊ด ดารัณต้องจับแขนดาหลาให้สงบ คุณหญิงรื่นฤดีทำหน้าไม่ถูก พูดไม่ออก คุณชายหันไปยิ้มให้ห่าน ห่านปลื้มมาก ชนะศึกเห็นท่าไม่ดีรีบตัดบท
“ผมว่าเรายืนกันมานานแล้ว ไปนั่งกันดีกว่า ไปนั่งด้วยกันนะหนูฮันนี่”
“ค่ะ”
คุณหญิงรื่นฤดีหันไปมองชนะศึกไม่พอใจ ชนะศึกทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินไปหาคุณชาย
“ไปลูกพ่อ”
ชนะศึก คุณชาย ห่านเดินไปด้วยกัน นักข่าวตามไปถ่ายรูปคุณชายกับห่านสุดฤทธิ์ เหลือดาหลา ดารัณ และคุณหญิงรื่นฤดี
“นี่มันอะไรกันคะคุณรื่น”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกับคุณนั่นแหละค่ะว่ามันอะไรกัน?” คุณหญิงรื่นฤดีหันไปทางดาหลา “หนูดาหลาอย่าเพิ่งโมโหชายนะลูก รอหลังจากจบงานนี้ แม่จะถามชายเอง ใจเย็นๆ นะลูกนะ”
ดาหลาพยายามอดกลั้น
“ค่ะ”
จู่ๆ มีนักข่าว 2-3 คนปรี่มาถามดาหลา
“ไหนว่าจะแต่งงานกับคุณชายไงคะ? แล้วนี่ตกลงมันยังไง”
“เอิ่ม มันคงจะเป็นเรื่องราวอะไรที่เข้าใจผิดกันนิดหน่อยอ่ะค่ะ”
“ใช่ค่ะ ดิฉันคิดว่าจะต้องมีอะไรเข้าใจผิดพลาด ถ้ายังไงเราจะแถลงข่าววันหลังนะคะ” คุณหญิงรื่นฤดีช่วยตอบดาหลาจิกตามองห่านด้วยความโกรธแค้น
ห่าน คุณชาย ดาหลา ดารัณ คุณหญิงรื่นฤดี ชนะศึก พรเพ็ญนั่งด้วยกัน คุณชายกำลังแนะนำห่านให้รู้จักกับพรเพ็ญ
“นี่คุณพรเพ็ญเป็นผู้จัดการของห้างฯBKK Plaza ครับ”
ห่านไม่ค่อยกล้ามองหน้าพรเพ็ญมาก ยกมือไหว้และก้มหัว
“สวัสดีค่ะคุณผู้จัดการ”
ห่านชะงักที่ตัวเองเรียก “คุณผู้จัดการ” เพราะความเคยชิน พรเพ็ญเองก็แปลกใจ
“สวัสดีค่ะคุณฮันนี่ คุณฮันนี่รู้มั้ยคะว่าคุณเรียกพรเพ็ญเหมือนเวลาที่พวกพนักงานเรียกเลยล่ะค่ะ”
ห่านทำเป็นแปลกใจมาก
“เหรอคะ บังเอิญจัง”
ห่านคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพราะตื่นเต้น มือเลยสั่นพั่บๆ พรเพ็ญจ้องหน้าห่านแล้วนิ่วหน้า
“จะว่าไปคุณฮันนี่นี่ก็หน้าตาคุ้นๆ นะคะ”
ห่านที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลักออกมา ดาหลา ดารัณ คุณหญิงรื่นฤดีเบ้หน้ารังเกียจ คุณชายรีบเอากระดาษให้ห่าน ห่านรับกระดาษมาเช็ดปาก
“ขอโทษค่ะ ฮันนี่ว่าเราคงไม่เคยเจอกันหรอกค่ะ เพราะฮันนี่อยู่เมืองนอกตลอด เพิ่งกลับมาเมืองไทยไม่นาน”
พรเพ็ญพยักหน้ารับ
“อยู่เมืองนอกน่ะเมืองไหน” คุณหญิงรื่นฤดีเริ่มถาม
“อเมริกาค่ะ”
“ไปทำอะไรที่นั่น”
“เรียนหนังสือค่ะ”
“เรียนอย่างเดียว”
“ค่ะ คุณพ่อคุณแม่อยากให้ฮันนี่ทำอะไรเป็นอย่างๆ ไม่อยากให้ทำพร้อมกันน่ะค่ะ”
“แล้วพ่อแม่คุณชื่ออะไร ขอโทษนะที่ต้องถาม เพราะถ้าอยู่ในสังคมเดียวกัน ฉันน่าจะรู้จัก
ห่านกลืนน้ำลายเอื๊อก คิด หันไปเห็นดอกกุหลาบที่ใส่แจกันวางอยู่กลางโต๊ะ
“แม่ของฮันนี่ชื่อคุณหญิงกุหลาบค่ะ ส่วนคุณพ่อ ท่านเป็นนักธุรกิจ ชื่อ...” ห่านนึก หันไปเห็นชื่อห้างฯ BKK Plaza บนเวที “ชื่อเคเคค่ะ”
“คุณหญิงกุหลาบ กับคุณเคเค”
“ค่ะ”
“ชื่อไม่คุ้นเลย คุณดารัณเคยได้ยินมั้ย”
“ไม่เคยได้ยินเลยค่ะ”
ห่านเงียบ ชนะศึกเห็นสีหน้าห่านเลยช่วย
“แต่ผมรู้สึกคุ้นๆ นะคุณ”
“เหรอคะ” คุณหญิงรื่นฤดีไม่ค่อยเชื่อ “แล้วนามสกุลอะไร”
ห่านอึ้ง ทุกคนรอฟัง พลันเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือห่านดังขึ้น ห่านชะงัก เปิดกระเป๋า หยิบมือถือมาแอบดู เห็นเวลาใกล้สองทุ่ม ห่านหันไปทางคุณชาย
“ฮันนี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
“ฉันไปด้วยคนนะคะ”
ห่านหันขวับไปมองดาหลา ดาหลายิ้มให้อย่างเยือกเย็น ทำเอาห่านพูดไม่ออก ห่านกับดาหลาลุกเดินออกไป
ด้วยกัน คุณชายมองตามสีหน้าไม่สบายใจ
ห่านกับดาหลาเดินมาด้วยกัน ห่านเหล่มองดาหลาสีหน้าไม่พอใจ
“จะมาด้วยทำไมวะเนี่ย” ห่านอึดอัดมาก แล้วดาหลาก็หยุดเดิน ห่านชะงักหยุดเดิน หันไปมอง “เปลี่ยนใจไม่เข้าห้องน้ำแล้วเหรอคะ”
“ความจริงฉันไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำ”
“อ้าว...แล้วมาด้วยทำไมวะ” ห่านพึมพำเสียงเบาแล้วหันไปทางดาหลาหน้ายิ้ม “ถ้างั้นฉันไปนะคะ” ห่านจะรีบไป
“ยังไปไม่ได้” ห่านหยุดกึกหน้าเซ็งมาก “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
ห่านมองดาหลาสงสัย
หลังเวทีเจ๊มะพร้าวดูเวลาเห็นว่าอีกสิบนาทีสองทุ่ม ห่านยังไม่มา หันไปทางบื้อ แหม่ม โย่งสีหน้ากังวลใจมาก
“ป่านนี้ห่านยังไม่มาเลย”
“ผมไปดูให้เองครับ”
บื้อบอกรีบเดินออกไป ผ่านหลังแอปเปิ้ล ปีโป้ จีจี้ที่กำลังซ้อมเต้นกันอยู่ แอปเปิ้ลหันไปมองตามบื้อสงสัย
ดาหลายืนกอดอก มองห่านหน้าเอาเรื่อง
“เลิกยุ่งกับคุณชายของฉันซะ”
ห่านหรี่ตามองดาหลาไม่พอใจ”
“คุณชายเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ตั้งแต่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ และเวลานี้”
“คุณนี่ขี้ตู่จัง เห็นๆ อยู่ว่าคุณชายไม่ได้สนใจคุณ คุณไม่ได้ยินที่คุณชายพูดกับนักข่าวเหรอคะว่าฉันเป็น”คนพิเศษ”ของคุณชาย คุณก็เป็นได้แค่เพื่อน ย้ำอีกครั้งนะคะ “เพื่อน” ฟังอีกครั้งมั้ยคะ “เพื่อน”
“นี่หยุดนะ ปากดีนัก ฉันอยากรู้ว่าเลือดปากเธอมันจะเป็นสีอะไร”
ดาหลาเงื้อมือจะตบ ห่านจับแขนดาหลาหมับ
“ก็คงสีแดงเหมือนคนอื่นแหละค่ะ แต่ของคุณ ฉันไม่รู้ ไม่แน่อาจจะเป็นสีดำเหมือนจิตใจที่สกปรกของคุณ”
ดาหลาสุดทน ใช้อีกมือตบหน้าห่านเพี๊ยะ ห่านถึงกับเซถลาล้มไปบนพื้น หน้ามึนสุดๆ ดาหลาสะใจมาก ตามเข้ามาจับห่านให้หันมาแล้วขึ้นคร่อม บื้อเดินมาเห็นก็ตกใจจะเข้าไป แต่เห็นคุณชายเดินมา บื้อรีบหลบ แล้วแอบมอง ด้านหลังบื้อเห็นแอปเปิ้ลที่แอบตามมาก็รีบหลบเหมือนกัน
ดาหลาตบหน้าห่านอีกข้าง ห่านหน้าหัน ตั้งรับไม่ทัน ดาหลากำลังจะตบอีก แต่คุณชายวิ่งออกมา
“คุณดาหลา หยุดนะครับ”
ดาหลาตกใจมาก ที่ได้ยินเสียงคุณชาย รีบลุกขึ้นยืน ห่านมึนสุดๆ คุณชายรีบเข้ามาประคองห่าน ดาหลาหน้าเสีย คุณชายหันไปมองดาหลาด้วยความโกรธมาก
“คุณฮันนี่เป็นไงครับ”
“ฮันนี่ไม่เป็นไรค่ะ” ห่านทำดราม่าบีบน้ำตา
“ฮันนี่ขอโทษนะคะ ขอโทษที่ไม่รู้ว่าคุณชายเป็นของคุณดาหลา”
ดาหลาอึ้งที่ห่านบอกคุณชายไปแบบนั้น คุณชายเองก็อึ้งไปเช่นกัน
“อะไรนะครับ ใครเป็นเจ้าของใคร ผมงงไปหมดแล้ว”
“ก็คุณดาหลามาบอกฮันนี่ว่าเธอเป็นเจ้าของคุณชาย แล้วก็ห้ามไม่ให้ฮันนี่มายุ่ง แถมยังไล่ฮันนี่กลับด้วย บอกว่าถ้าไม่กลับ เธอจะตบจนกว่าฮันนี่จะกลับค่ะ”
ดาหลาปรี๊ดขึ้นมาทันที
“ตอแหล ประโยคหลังฉันไม่ได้พูด”
“แสดงว่าประโยคแรก คุณพูดจริงใช่มั้ย”
ดาหลาเหวอที่หลุดปาก
“เออ...คุณชายคะ ดาหลาอธิบายได้นะคะ”
“ผมไม่ใช่ของของใครทั้งนั้น” คุณชายบอกน้ำเสียงเฉียบขาด “ไปกันเถอะครับคุณฮันนี่”
คุณชายประคองพาห่านเดินออกไป ห่านหันไปลอบมองดาหลาเย้ยๆ ดาหลาแทบกรี๊ด แต่ไม่กล้า ได้แต่กระทืบเท้าอยู่กับที่ แล้วก็เดินออกไป บื้อเดินออกมามองตามห่าน
“สร้างเรื่องเก่งจริงๆ ยัยคอห่าน”
บื้อถอนหายใจ แล้วเดินไปตามทางที่ห่านกับคุณชายเดินไป โดยมีแอปเปิ้ลตามอยู่ห่างๆ
ห่านหันไปทางคุณชาย
“คุณชายกลับเข้าไปในงานเถอะนะคะ เดี๋ยวฮันนี่ตามไป”
“ว่าแต่คุณฮันนี่โอเคนะครับ”
“โอเคค่ะ”
คุณชายพยักหน้า แล้วก็เดินออกไป ห่านอยากจะบ้าตาย พอคุณชายเดินพ้นสายตาไป บื้อก็เดินออกมาจากที่ซ่อน ห่านเห็นก็ดีใจมาก
“นายบื้อ ดีใจจังที่นายมา”
“ฉันเห็นทุกอย่าง หน้าเป็นรอยแดงเลยนะ”
“เดี๋ยวทาแป้งก็ไม่เห็นแล้ว นายช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”
แอปเปิ้ลมองบื้อกับห่านคุยกันก็แปลกใจมาก แต่ไม่ได้ยินเสียง
“บื้อรู้จักกับคุณฮันนี่ด้วยเหรอ”
ไม่นานแอปเปิ้ลก็เห็นบื้อเดินออกไป ห่านเข้าไปในห้องน้ำ แอปเปิ้ลเดินออกมาสีหน้าอยากรู้มากๆ
บื้อเดินมาที่ล็อบบี้รับกระเป๋าผ้าของห่านมาจากพนักงาน
“ขอบคุณครับ”
บื้อรีบเดินออกไป
หลังเวที พรเพ็ญยืนอยู่ตรงหน้าปีโป้กับจีจี้
“พวกเธอจะขึ้นโชว์ต่อจากชุดที่แสดงอยู่ เตรียมตัวได้เลย ถ้าไม่พร้อม เชิญออกจากการแข่งขัน”
ปีโป้กับจีจี้หน้าเสีย พรเพ็ญเดินออกไป
“เพื่อนแอ๊ปหายไปไหนก็ไม่รู้ โทรตามสิ”
จีจี้เอามือถือมาโทรตาม แต่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังแถวนี้ ปีโป้กับจีจี้มองหาเห็นมือถือแอปเปิ้ลวางอยู่ ปีโป้หยิบขึ้นมา
“ไม่ได้เอามือถือไป”
ปีโป้กับจีจี้มองหน้ากันด้วยความกังวลใจ อีกมุมเจ๊มะพร้าว โย่ง แหม่มกำลังเครียด
“ทำไมบื้อหายไปเลยอ่ะเจ๊”
“นั่นสิ ทั้งห่าน ทั้งบื้อหายไปพร้อมกันสองคนแบบนี้จะทำไงดีล่ะ”
โย่ง แหม่ม เจ๊มะพร้าวหน้าแย่
ภายในห้องน้ำหญิง ห่านกำลังถอดคอนแทคเลนส์ออกมาเก็บ แต่ยังไม่ทันหยิบแว่นออกมาใส่ แอปเปิ้ลเปิดประตูเข้ามา ห่านเงยหน้ามองทางกระจก แต่เห็นไม่ชัด
“สวัสดีค่ะคุณฮันนี่” ห่านชะงัก เสียงนี้คุ้นสุดๆ ห่านค่อยๆ หันไป แอปเปิ้ลเดินมาตรงหน้า ทำให้ห่านเห็นชัดขึ้นว่าเป็นใคร “จำฉันได้มั๊ยคะ ฉันแอปเปิ้ล พนักงานแผนกรองเท้าห้างฯBKK Plaza”
“อ๋อ ค่ะ”
“เมื่อกี๊ ฉันเห็นคุณคุยกับบื้อ” ห่านหน้าถอดสี “คุณรู้จักกันด้วยเหรอคะ” ห่านทำนิ่ง
“บื้อ ใครเหรอคะ”
“ก็ผู้ชายหัวฟูที่คุณฮันนี่คุยด้วยที่หน้าห้องน้ำ”
ห่านทำเป็นนึกออก
“อ๋อ คนนั้นชื่อบื้อเหรอคะ ฉันไม่รู้หรอกค่ะ เค้ามาถามทาง ฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ”
ห่านรีบเดินแต่เห็นทางไม่ชัดเลยไม่รู้อันไหนประตูอันไหนกำแพง ห่านชนกำแพงโครม! แอปเปิ้ลตกใจ
“คุณฮันนี่” ห่านไม่หันมา แล้วก็รีบหันไปเปิดประตู เดินออกไปทันที แอปเปิ้ลงงมาก
“ท่าทางแปลกๆ นะเนี่ย”
ห่านรีบออกมา บื้อมาถึงพอดี ห่านคว้ามือบื้อ
“รีบไปเร็วเข้า ยัยแอ๊ปอยู่ในห้องน้ำ”
บื้อกับห่านรีบเดินออกไปจากตรงนั้น แอปเปิ้ลเดินออกมาจากห้องน้ำ หันไปเห็นห่านกับบื้อแว๊บๆ กำลังวิ่งไป แอปเปิ้ลตาโต
“ไหนบอกว่าไม่รู้จักกันไง”
แอปเปิ้ลรีบตามไป ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
แอปเปิ้ลเดินมาตามทาง มองหาบื้อกับห่าน
“หายไปไหนแล้ว”
แอปเปิ้ลเดินหา บื้อกับห่านหลบอยู่ในซอกหลืบแถวนั้น สองคนหันหน้าชนกัน ห่านหันไปมองตามแอปเปิ้ล ดูให้แน่ว่าไปหรือยัง บื้อเองก็มองตาม จนหน้าตัวเองใกล้กับห่าน บื้อหันไปมองห่านหน้าเคลิ้ม ห่านหันมาหน้าเกือบชนกับหน้าบื้อ ห่านตกใจ
บื้ออึ้ง หัวใจเต้นโครมคราม ห่านรีบผลักบื้อออกห่าง
“ยืนซะชิดเลยนะ”
“ไม่ได้อยากชิด รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว เดี๋ยวจะขึ้นแสดงไม่ทัน”
ห่านรีบจ้ำเดินออกไป บื้อพ่นลมหายใจออกมา พลางเอามือจับหัวใจตัวเอง แล้วก็รีบเดินตามห่านไปทันที
พรเพ็ญยืนตรงหน้าปีโป้กับจีจี้สีหน้าเอาเรื่อง
“พวกเธอถูกตัดสิทธิ์ในการประกวดครั้งนี้”
“ขอเวลาพวกเราอีกหนึ่งนาทีนะคะ”
“ไม่ได้ ทีมต่อไปเตรียมตัว” เจ๊มะพร้าว แหม่ม โย่งมองหน้ากัน พรเพ็ญสงสัย “อย่าบอกนะว่าพวกเธอก็ไม่พร้อม”
“เออ...”
ยังไม่ทันตอบ ห่านกับบื้อก็เดินเข้ามา
“พวกเราพร้อมค่ะ”
เจ๊มะพร้าว แหม่ม โย่งมองห่านกับบื้อก็ยิ้มด้วยความดีใจ ปีโป้กับจีจี้จ๋อยสนิท
สปอร์ตไลท์ฉายไปฉายมาบนเวที ไม่นานโย่งในชุดรปภ.เดินเป่านกหวีดปี๊ดปี้ปี๊ดออกมายืนตรงกลางเวที สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่โย่งว่าจะทำอะไร มีแต่คุณชายที่กังวลใจ คอยหันไปมองว่าเมื่อไหร่ฮันนี่จะกลับมา
เสียงเพลงดังขึ้น โย่งถอดหมวก กระชากเสื้อออก จนเหลือแต่เสื้อกล้ามสีขาวด้านใน สาวๆ พากันกรี๊ด พรเพ็ญจ้องตาถลน ปีโป้กับจีจี้เองก็ตาโตเป็นไข่ห่าน โย่งยืนหันหลัง ส่ายก้นไปมา สาวๆ กรี๊ดสนั่น
คุณหญิงรื่นฤดี ดารัณ ชนะศึกยิ้มชอบใจ ดาหลาไม่มีความสุขเอาแต่มองคุณชาย โย่งหันหน้ากลับมาด้านหน้า แล้วกระชากกางเกงออกเหลือแต่บ๊อกเซอร์ลายจุดสีชมพูพื้นขาว โย่งโยนกางเกงออกไป กางเกงหล่นไปคลุมหัวพรเพ็ญ พรเพ็ญผงะ รีบดึงกางเกงออกมา
ทันใดนั้นเสียงเพลง “สายตายาว” ดังขึ้น บื้อเดินมาตรงกลางเวทีแล้วเล่นกีตาร์เพลง สาวกรี๊ดสนั่นอีกหน ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่มออกมาร้องและเต้น
“รู้ไว้มีคนแอบชอบเธอ แทบไม่มีใครรู้ ไม่เคยบอก ท่าทีที่ไม่แสดงออกก็รู้ว่าเราไกลกัน ต่างมีวิชั่นส์กันเลยได้แต่คิดอยู่ในใจ ก็ได้แค่ห่วงๆ รักเธออยู่ห่างๆ ช่วยอะไรได้บ้างก็ช่วยไป ทำด้วยใจให้รู้ไว้”
“เธอทำให้ฉันต้องกลายเป็นคนที่สายตายาว เพราะว่าฉันได้แต่มองเธออยู่แต่ไกลๆ ได้ห่วงใยได้ดูแลเธออยู่แค่ปลายๆ ไม่เป็นไร ได้แค่นี้...”
บื้อมองห่านตลอดเวลา ราวกับว่าจะสื่อเพลงนี้ไปให้ห่าน แอปเปิ้ลรีบวิ่งเข้ามาหาปีโป้กับจีจี้
“ทำไมยัยคอห่านขึ้นแสดงแล้วล่ะ”
“เพราะเธอนั่นแหละ ทำให้พวกเราถูกตัดสิทธิ์”
“ห๊ะ แบบนี้ก็เท่ากับว่าเราต้องรับใช้ยัยคอห่านน่ะสิ”
แอปเปิ้ลโมโหสุดๆ
บนเวที บื้อเล่นกีตาร์ ห่าน โย่ง เจ๊มะพร้าว แหม่มร้อง เต้นไม่หยุด บื้อหันไปมองห่านแล้วก็ยิ้มอย่างรู้สึกดี
เวลาผ่านไป พรเพ็ญยืนอยู่บนเวที มีห่าน บื้อ เจ๊มะพร้าว โย่ง แหม่มยืนอยู่กับทีมอื่นๆ
“ผลการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ ทีมที่ได้เงินรางวัล 50,000 บาทก็คือ...ทีมของสมรศรี หฤทัย อรนภา บัญชาและยิ่งยง” ห่าน บื้อ โย่ง แหม่ม เจ๊มะพร้าว เฮดังลั่น ทุกคนปรบมือ สามสาวกอดกันแน่น “ขอเชิญคุณคุณชายขึ้นมาให้รางวัลค่ะ”
คุณชายเดินขึ้นบนเวที ห่าน บื้อ โย่ง แหม่ม เจ๊มะพร้าวเดินออกมา ห่านมีอาการลุ้นๆ พิรุธ แต่คนที่ออกมารับคือเจ๊มะพร้าว เจ๊มะพร้าวยกมือไหว้คุณชาย คุณชายรับไหว้แล้วยื่นซองเงินให้ เจ๊มะพร้าวดีใจสุดๆ พอรับเงินมาก็หันไปเฮกับทุกคนต่อ
ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่ม เดินมาหาแอปเปิ้ล ปีโป้และจีจี้ แอปเปิ้ล ปีโป้ และจีจี้หน้าเสีย
“ชนะแค่วันนี้ อย่านึกว่าจะชนะตลอดไป เอ้า! จะใช้อะไรพวกฉันก็เชิญใช้ๆ มาสิ”
“พวกเธอไม่ต้องรับใช้อะไรพวกฉันทั้งนั้น” แอปเปิ้ล ปีโป้ จีจี้ชะงัก “ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นพวกชอบซ้ำเติมใครเหมือนคนบางคนแถวนี้” ห่านจ้องหน้าแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลชะงักรู้ว่าห่านหมายถึงเธอ ห่านหันไปทางเจ๊มะพร้าวกับแหม่ม “ไปฉลองกันดีกว่า”
ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่มเดินออกไป
“ทำแบบนี้คิดว่าฉันจะซึ้งงั้นเหรอยัยคอห่าน”
แอปเปิ้ลหน้าตาร้ายกาจ
ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่มออกมาเจอบื้อกับโย่งรออยู่
“เราไปฉลองที่ไหนดี”
ยังไม่ทันมีใครตอบ เสียงมือถือห่านดังขึ้น ห่านหยิบออกมาพอเห็นชื่อก็ตกใจ หันไปทางเจ๊มะพร้าวกับแหม่ม
“คุณชาย ฉันลืมไปเลย”
ห่านรีบกดรับโทรศัพท์แล้วเดินเลี่ยงออกไปคุย บื้อมองตาม
“ขอโทษทีค่ะคุณชาย คือฮันนี่รู้สึกไม่ค่อยสบาย ก็เลยกลับบ้านมาแล้วน่ะค่ะ ฮันนี่เห็นคุณชายยุ่งก็เลยไม่ได้โทรบอก ฮันนี่ไม่ได้โกรธคุณชายค่ะ ไว้คราวหน้าเราค่อยไปทานข้าวกันนะคะ” ห่านวางสาย แล้วก็เดินกลับมาหาเจ๊มะพร้าว แหม่ม บื้อและโย่ง “ไปฉลองกันดีกว่าพวกเรา”
“ที่ไหนดีล่ะ” ห่านยิ้ม
ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 5 (ต่อ)
ทุกคนมาฉลองกันที่บ้านเช่าบื้อ ห่านยกหม้อต้มมาม่าใบใหญ่ แหม่มถือส้อมออกมา
“อาหารมาแล้ว”
ทุกคนหันไปมอง ห่านวางหม้อกลางโต๊ะ เห็นมาม่าใส่ไส้กรอก แหม่มวางส้อมบนโต๊ะ
“บะหมี่เนี่ยนะ”
“บะหมี่เนี่ยแหละ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งดูถูก หน้าตาอาจจะดูเป็นบะหมี่ธรรมดา”
“แต่รสชาติอร่อยขั้นเทพ ...ขอบอก” แหม่มยกนิ้วโป้ง
“ไหนชิมสิ”
โจ๊กเอาส้อมจกบะหมี่ขึ้นมากินแล้วก็ตาโต
“อร่อยจริงๆ ด้วย”
“เห็นป่ะ บอกแล้ว”
“ถ้างั้นรออะไรอยู่ ลงมือเลยสิ”
“เนียนตลอดเลยนะลุง”
“ไม่เนียนก็ไม่ใช่ไอ้จ๊อดสิวะ ฮ่าๆๆ”
ทุกคนหัวเราะ แล้วก็เฮกันเข้ามารุมตักบะหมี่ในหม้อกินพร้อมกันอย่างเอร็ดอร่อย บื้อกับห่านดูดเส้นบะหมี่
แต่ดั๊นกินบะหมี่เส้นเดียวกัน ห่านกับบื้อชะงัก เจ๊มะพร้าว แหม่ม โย่ง ลุงจ๊อด โจ๊กหันไปมอง
“ระวังจะจูบกันนะจ๊ะ” เจ๊มะพร้าวแซว
“ฮิ้ว”
ทุกคนขาดรับ ห่านรีบกัดเส้นบะหมี่ขาด
“บ้าสิเจ๊”
ห่านหันไปกินต่อ บื้อมองห่านยิ้มๆ
เสียงเพลงดังขึ้น บื้อ โย่งร้องเพลงของลิฟต์ออยพร้อมกับเต้น มีห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่ม ลุงจ๊อด โจ๊กร่วมด้วยช่วยเต้นกันอย่างสนุกสนาน ห่านเต้นบ้าๆ บอๆ กับเจ๊มะพร้าวและแหม่ม บื้อมองห่านแล้วก็ยิ้มไม่หุบ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ลัลล้า มีความสุข
กลางดึกคืนนั้นบื้อนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา พลางคิดถึงตอนที่หน้าใกล้กับห่าน บื้อลุกขึ้นนั่ง นิ่วหน้าสงสัยตัวเอง
“เป็นอะไรไปวะ นึกถึงแต่ภาพนั้นอยู่ได้”
บื้อไม่เข้าใจ เอาผ้าคลุมโปง
เช้าวันต่อมาคุณชายเดินผ่านโต๊ะอาหารที่คุณหญิงรื่นฤดีกับชนะศึกนั่งอยู่
“อย่าเพิ่งไป” คุณหญิงรื่นฤดีบอกเสียงแข็ง คุณชายหันมาทางคุณหญิงรื่นฤดี ชนะศึกสีหน้าเป็นห่วงคุณชาย คุณหญิงรื่นฤดีลุกเดินมายืนตรงหน้า “อย่าคิดว่าเมื่อคืนที่แม่ไม่ได้พูดอะไร จะหมายความว่าแม่จะปล่อยเรื่องลูกกับผู้หญิงคนนั้น”
“เธอชื่อคุณฮันนี่ครับแม่”
“แม่รู้ แต่ไม่อยากเรียก”
คุณชายยืนนิ่ง ชนะศึกเห็นท่าไม่ดีรีบเดินมาหาคุณหญิงรื่นฤดี
“ผมว่าคุณอย่าเพิ่งคุยกับลูกเลย ให้ลูกไปทำงานก่อน เดี๋ยวจะไปสาย”
“สายนิดสายหน่อยจะเป็นอะไรไป” ชนะศึกพูดไม่ออก “แม่จะพูดกับลูกแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นซะ เพราะผู้หญิงคนเดียวที่แม่จะยอมรับเป็นลูกสะใภ้คือหนูดาหลา”
“ผมเข้าใจแม่ครับ” คุณหญิงรื่นฤดีพอใจนึกว่าคุณชายเชื่อ “แต่... ผมชอบคุณฮันนี่” คุณหญิงรื่นฤดีแทบสะอึก ชนะศึกแอบกำหมัดสะใจ “และผมจะไม่มีวันเลิกยุ่งกับคุณฮันนี่ ผมขอตัวไปทำงานนะครับ”
คุณชายเดินออกไป คุณหญิงรื่นฤดีอึ้งมาก หันมาทางชนะศึก ชนะศึกรีบเปลี่ยนท่าทีทำสีหน้าเห็นใจ
“ตั้งแต่ลูกเกิดมา ลูกไม่เคยขัดใจฉันเลย เป็นเพราะนังผู้หญิงคนนั้น โอย....ฉันจะเป็นลม”
ชนะศึกรีบประคองคุณหญิงรื่นฤดี
“ใจเย็นๆ คุณ มานั่งก่อน”
ชนะศึกพาคุณหญิงรื่นฤดีไปนั่ง คุณหญิงรื่นฤดีหน้าแย่มาก
ที่ห้างสรรพสินค้าBKK Plaza คุณชายอยู่ที่ห้องทำงานกำลังดูรูปคู่ของเค้ากับห่านหน้าเครียด เป็นกังวล พลันเสียงมือถือดังขึ้นเป็นนีรนุชที่โทรเข้ามา คุณชายดีใจมาก รีบกดรับสายทันที
“เธอโทรมาได้จังหวะพอดี” นีรนุชนิ่วหน้า
“มีเรื่องอะไรเหรอชาย”
คุณชายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นีรนุชฟัง แล้วลุกเดินมายืนริมหน้าต่าง หน้าตาเครียดมาก
“แกว่าฉันอกตัญญูรึเปล่าที่ขัดใจแม่”
นีรนุชเดินอยู่ มีนักเรียนเดินผ่านทักทายนีรนุช
“เฮ้อ! มันก็พูดยากนะ เรื่องแบบนี้”
“ก็ใช่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่เชื่อฟังแม่ เฮ้อ...กลุ้มจังเลยอ่ะนุช ฉันอยากเจอแกจังเลยว่ะ”
“อยากเจอ ก็มาดิ”
“ฉันไม่รู้ว่าจะไปได้มั้ย”
“ยังไงแกก็ต้องมา เพราะฉันมีเรื่องงานจะคุยกับแก”
คุณชายตั้งใจฟัง
“อยากจะจัดอีเว้นท์โปรโมทสถาบันธุรกิจและการโรงแรมที่เมืองไทย”
“ใช่ ฉันก็เลยคิดถึงห้างฯ BKK Plaza ของแกขึ้นมา ที่นี่เหมาะสมที่จะเป็นสถานที่จัดงาน เพราะอยู่ใจกลางเมือง ทาร์เก็ตของห้างฯแกก็เป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน”
“แกก็เลยจะจัดเป็นเทศกาลเที่ยวสวิสฯ”
“ใช่ ให้คนเค้าได้เห็นของดีของสวิสฯ ทั้งอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และที่สำคัญก็คือ สถาบันธุรกิจและการโรงแรมที่เราเรียนจบกันมา ฉันมีตั๋วให้แกสามใบ แกจะชวนคุณฮันนี่ หรือใครอีกคนมากับแกด้วยก็ได้” คุณชายฟังแล้วก็สนใจขึ้นมาทันที “สวิสเป็นเมืองโรแมนติก ถ้าแกสารภาพรักคุณฮันนี่ที่นี่ ฉันรับรองเลยว่าเค้าไม่มีทางปฏิเสธแกแน่”
คุณชายครุ่นคิดแล้วก็ยิ้มออกมา สีหน้ามีความหวัง
ห่านกำลังคุยโทรศัพท์กับคุณชาย
“คุณชายจะชวนฮันนี่ไปสิงห์บุรีเหรอคะ” คุณชายอมยิ้ม
“ไม่ใช่สิงห์บุรีครับ ผมจะชวนคุณฮันนี่ไปประเทศสวิสเซอร์แลนด์น่ะครับ” ห่านอึ้งมาก
“สวิสเซอร์แลนด์”
“ผมต้องไปทำงาน เลยอยากหาเพื่อนไปด้วย ถ้าคุณฮันนี่ไม่รังเกียจไปด้วยกันนะครับ”
“ไม่รังเกียจเลยค่ะ อุ๊บส์” ห่านตาเหลือก ดีใจเกินเหตุ แอ๊บใหม่อีกที “เออ ฮันนี่ยังให้คำตอบคุณชายตอนนี้ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องกลับไปขออนุญาตคุณหญิงแม่ก่อน”
“ได้ครับ แต่ผมอยากให้คุณฮันนี่ไปด้วยจริงๆ”
“ทราบค่ะ ฮันนี่จะพยายามหว่านล้อมคุณหญิงแม่เต็มที่ งั้นแค่นี้นะคะ”
ห่านวางสาย ปิดปากกรี๊ดอย่างมีความสุข
เจ๊มะพร้าวกำลังทาแก้มให้อาซ้อที่นั่งหลับ หันไปมองห่านตกใจ มีแหม่มกำลังยืนกดมือถืออยู่ข้างๆ
“สวิสเซอร์แลนด์ บ้าแล้ว แกไม่ไปก็บ้าแล้ว” เจ๊มะพร้าวปัดแก้มอาซ้ออย่างแรงๆ “ตอบตกลงคุณชายไปเลย โอกาสดีดีไม่ได้มีมาบ่อยๆ นะไอ้ห่าน”
“นี่ๆ ในเน็ตบอกว่าช่วงนี้สวิสหนาวมาก ติดลบ”
“โฮ แล้วฉันจะหนาวตายมั้ยอ่ะเจ๊”
“หนาวสิดี จะได้อ้อนให้คุณชายกอด อิอิ”
“เออจริงด้วย”
“บ้า” ห่านยิ้มอาย
“ไม่ต้องทำเขิน ฉันรู้ว่าแกอยาก”
“รู้ทันเรื่อยเลย แต่ฉันไม่มีเสื้อหนาว”
“นี่แกไม่รู้เหรอว่าแกเพื่อนใคร ฉันรู้แหล่ง ของดี ราคาถูก เดี๋ยวพาไปเอง”
ห่านยิ้มดีใจ เจ๊มะพร้าวหันไปเห็นก็ตกใจเพราะทาแก้มให้อาซ้อจนแดงเป็นก้นลิง ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่มสะดุ้งพร้อมกัน อาซ้อลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี
“เสร็จแล้วเหรอ”
“ค่ะซ้อ”
“สวยมั้ย”
“สวยสุดๆ เลยค่ะ”
“ขออัวะดูกระจกหน่อย” แหม่มส่งกระจกให้อาซ้อ อาซ้อเห็นหน้าก็ตกใจ “ไอ้หยา ทำไมแดงเป็นกวนอูอย่างนี้”
“นี่เทรนด์ใหม่มาแรงปี 2013 เลยนะคะ เค้าเรียกว่าการแต่งหน้าแบบ Red tone รับรองซ้อเดินไปทางไหน คนมองกันเป็นตาเดียว” แหม่มบอก
“จริงเหรอ ถ้างั้นก็ขอบใจ ขอบใจ”
เจ๊มะพร้าว ห่าน แหม่มยิ้มแหย อาซ้อลุกเดินออกไป คนหันมามองเป็นตาเดียว อาซ้อเข้าใจว่าตัวเองสวย หันมายกมือโอเคให้เจ๊มะพร้าว ห่านและแหม่ม สามสาวยกมือโอเคให้อาซ้อพลางยิ้มแฉ่ง
ดาหลามองแอปเปิ้ล กับปีโป้สีหน้าประหลาดใจ
“ว่าไงนะ เธอเห็นยัยฮันนี่คุยกับพนักงานแผนกชุดชั้นในชาย”
“ใช่ค่ะ”
“แอปเปิ้ลคิดว่าเค้าต้องรู้จักกันแน่ๆ”
“แน่ๆ”
“เป็นไปได้ยังไง? ไฮโซอย่างนังนั่นมันจะไปรู้จักกับพนักงานขายชุดชั้นในชายได้ยังไง” ดาหลาส่ายหน้าช้าๆ “มันไม่ธรรมดาซะแล้ว”
ดาหลา แอปเปิ้ล ปีโป้ไปหาบื้อที่แผนกชุดชั้นในชาย บื้อหันมาเห็นสามสาวถึงกับตกใจ
“เฮ๊ย อะไรกันเนี่ย”
สามสาวกำลังล้อมวงรุมบื้อราวกับหมาจิ้งจอก 3 ตัวจะสกรัมลูกกวางน้อยๆ
“เธอรู้จักยัยฮันนี่รึเปล่า บอกมา”
บื้อชะงักนิดนึงก่อนจะเป็นปกติ
“ฮันนี่ไหนครับ”
“อย่าเลยบื้อ ฮันนี่ที่คุณชายควงมางานฉลองห้าง 50 ปีไงล่ะ แอปเปิ้ลเห็นนะว่าบื้อคุยกับเค้า เท่านั้นยังไม่พอ แอปเปิ้ลเห็นบื้อเดินไปกับเค้าอีกด้วยนะ ว่าไง”
“ว่าไง”
“ว่าไง”
บื้อกำลังจนแต้ม สามสาวรุมจ้องลุ้นๆ
“ฉันถามว่า ว่าไง?”
“เอ่อ....”
“พวกเธอมาทำอะไรกันตรงนี้”
เสียงพรเพ็ญตวาด ทุกคนสะดุ้ง หันไปเห็นเป็นคุณพรเพ็ญ
“คุณผู้จัดการ”
“ทำไมไม่ไปขายรองเท้า” พรเพ็ญแว๊ดใส่แอปเปิ้ลกับปีโป้ แต่พอเห็นดาหลาก็ตกใจ “ว้าย! คุณดาหลา”
“ใช่ ฉันเอง ฉันชวนแอปเปิ้ลกับปีโป้มาช่วยเลือกชุดชั้นใน มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
“ชุดชั้นในผู้ชายเนี่ยนะคะ”
“เอ่อ...ใช่ ชั้นอยากจะซื้อไปเซอร์ไพรส์คุณชาย มีอะไรมั้ย”
“สำหรับคุณดาหลาน่ะคงไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่สำหรับอรนภากับจินตนา น่ะมีแน่ เพราะขณะนี้เป็นเวลางาน แต่กลับทิ้งงานมาทำในสิ่งที่ไม่ใช่งาน อันนี้ถือเป็นความผิดค่ะ”
“คุณผู้จัดการ”
“มากไปแล้วนะคุณพรเพ็ญ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นใคร”
แอปเปิ้ลกับปีโป้ ยิ้มสะใจ
“พรเพ็ญไม่ลืมหรอกค่ะ พรเพ็ญเป็นคนความจำแม่นมาก โดยเฉพาะกฎระเบียบของบีเคเคพลาซ่าที่ท่านประธานกำหนดไว้ให้พนักงานทุกคนต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด และถ้าใครไม่ปฎิบัติตาม พรเพ็ญก็จะต้องรายงานด่วนค่ะ”
ดาหลา แอปเปิ้ล ปีโป้ สะดุ้ง
“แย่แล้ว”
“คุณผู้จัดการ”
ขณะนี้กรุ๊ปทัวร์ลูกค้าต่างชาติกำลังกระจายเข้ามาใช้บริการห้างของเราในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะแผนกรองเท้าสตรีมีลูกค้าเยอะมาก ฉันคิดว่าเธอทั้ง 2 คนควรจะรีบไปสนธิกำลังช่วยกันดูแลลูกค้าโดยด่วน”
“รับทราบค่ะ คุณผู้จัดการ”
แอปเปิ้ลกับปีโป้รีบเผ่นตัวปลิวไป ทิ้งดาหลาไว้
“ส่วนคุณดาหลา ถ้าความจำพรเพ็ญไม่ผิดพลาด คุณดาหลาเข้ามาปฎิบัติงานในตำแหน่งประชาสัมพันธ์ ฉะนั้น น่าจะไปช่วยประชาสัมพันธ์ห้างของเราให้กับลูกค้าต่างชาติกรุ๊ปนี้ก็จะเป็นการดีมากนะคะ”
“เอ่อ...ฉันรู้ย่ะ ไม่ต้องมาสั่ง”
ดาหลาสะบัดพรื่ดไปทันที พรเพ็ญถอนใจเฮือก ก่อนจะหันมาทางบื้อ
“เราก็เหมือนกัน เตรียมแผนรับลูกค้าให้ดี ลูกค้ากรุ๊ปนี้กำลังซื้อสูงมาก ทำยอดให้พุ่งล่ะ”
“รับทราบครับ คุณผู้จัดการ”
ทันใดนั้น ลูกค้าทัวร์กลุ่มนึงก็กรูกันมาทันที
“นั่นไง มาแล้ว” พรเพ็ญยิ้มหวาน “Welcome Welcome” ลูกค้ากรูกันมาเลือกดูสินค้า “ดูแลลูกค้าให้ดีนะ”
พรเพ็ญหันไปสั่งบื้อ
“รับทราบครับ คุณผู้จัดการ”
บื้อรีบไปดูแลลูกค้าที่มะรุมมะตุ้มดูสินค้า พรเพ็ญยิ้มชื่นใจ
ที่แผนกรองเท้าสตรี ห่านกำลังชุลมุนในการดูแลลูกค้าทัวร์ที่รุมซื้อ รุมลองรองเท้าอยู่อย่างเนืองแน่น ขณะที่แอปเปิ้ลและปีโป้ดูขี้เกียจ เอาเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
ห่านลองให้ลูกค้าไปก็หันมาพูดไป
“แอปเปิ้ล ปีโป้ช่วยไปหยิบไซส์ 38 กับ 38 ครึ่งในสต็อกให้หน่อย”
“แกเป็นใคร ไม่ใช่แม่ อย่ามาสั่ง”
“ใช่ อย่ามาสั่ง”
“เฮ๊ย ลูกค้าเยอะขนาดนี้ ช่วยๆ กันหน่อยไม่ได้รึไง”
“เรื่องไรยะ ช่วยแก แล้วแกได้ยอดอยู่คนเดียว ฝันไปเถอะ ฉันไม่ได้โง่”
“ใช่ ไม่โง่”
อีกมุมนึง พรเพ็ญเดินมากับคุณชายก็หยุดมองโดยที่สามสาวไม่เห็น คำพูดของแอปเปิ้ลกับปีโป้ทำให้ห่านของขึ้น
“นี่ นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองนะ ลูกค้าต่างชาติเค้ามาซะขนาดนี้ เราควรจะทำให้พวกเค้าประทับใจในบริการของห้างเราก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”
คุณชายกับพรเพ็ญ แอบทึ่ง
“อร้าย! พูดจาน่าเบื่อเหมือนยัยคุณผู้จัดการไม่มีผิด” พรเพ็ญสะดุ้ง หน้ายักษ์ “นี่แกนึกว่าแกเป็นยัยคุณผู้จัดการเหรอยะ เจียมกะลาหัวไว้ด้วยว่าแกมันก็แค่พนักงานขายรองเท้า แล้วก็อย่ามาหัวหมอ เรียกชั้นไปช่วย แต่แกกะจะกินเปอร์เซ็นต์คนเดียวใช่มั้ยนังห่าน”
“หุบปากเลย ไม่ช่วยก็หุบปาก ฉันไปเอาเองก็ได้”
ห่านหันไปพยายามสื่อสารภาษาจีนแบบงูๆ ปลาๆ ว่าให้ลูกค้ารอก่อนแป๊บนึง เดี๋ยวมา ลูกค้าโอเค. แล้วรีบวิ่งตื๋อไปสะดุดหน้าทิ่มล้มลงตรงหน้าคุณชายกับพรเพ็ญพอดีเด๊ะ
“ว้าย” ทันใดนั้น คุณชายคว้าตัวห่านไว้ในอ้อมกอดได้ทันพอดี ห่านถึงกับตะลึง
“คุณชาย”
แอปเปิ้ลกับปีโป้ตะลึงเหมือนกัน
“คุณชาย นังห่าน”
“หฤทัยทำไมเธอซุ่มซ่ามแบบนี้” พรเพ็ญตำหนิ
“อย่าดุเค้าเลยครับ เค้ารีบทำงานให้เราต่างหาก” ห่านยังอึ้งอยู่ในอ้อมแขนคุณชาย “เป็นไง โอเคมั้ย”
“เอ่อ...เอ่อ...โอ...โอเคมากค่ะ”
“โอเคแล้วก็รีบไปทำงานสิ”
ห่านสะดุ้ง รีบผละออกจากอ้อมแขนคุณชาย
“เอ่อ...ค่ะ...ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
ห่านมองหน้าคุณชายอย่างปลื้มแล้ววิ่งออกไป
“พรเพ็ญต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณคุณชาย”
“ผมต้องชมพนักงานคนเมื่อกี๊ต่างหาก ตั้งใจทำงานมากเลย” พรเพ็ญยิ้มดีใจ
“ขอบพระคุณแทนหฤทัยนะคะ” พรเพ็ญตวัดสายตาพิฆาตไปที่แอปเปิ้ลกับปีโป้ที่ยืนเกาะติดสถานการณ์อยู่ทันที “อรนภา จินตนา”
สองสาวสะดุ้งโหยง รีบแอ๊บขายของง่วน บริการลูกค้า สร้างภาพสุดฤทธิ์ พรเพ็ญมองอย่างรู้ทัน คุณชายมองตามห่านไป
บื้อและเพื่อนพนักงานกำลังเคลียร์จัดเก็บสินค้าที่กรุ๊ปทัวร์เพิ่งลงผ่านไปให้เข้าที่เข้าทาง
“โห ขายดีอย่างนี้ทุกวันก็ดีสิ เฮ้อ เมื่อไหร่จะรวยกะเค้าซะทีวะ แบบถูกหวยรางวัลที่ 1 รึไม่ก็มีคนทำเงินหล่นมาตรงหน้าซักล้าน 2 ล้านเนอะ ไอ้บื้อเนอะ”
“เออ ฝันไปก่อน”
พนักงานยกของเดินออกไป เหลือบื้อจัดของ พับเก็บอะไรไปซักพักก็เจอกระเป๋าใบนึง เป็นกระเป๋าหนีบแบบพวกป๋าๆ ชอบหนีบ
“เฮ้ย” บื้อมองกระเป๋า มองซ้าย-ขวา “ของใครวะ”
บื้อไม่เห็นมีใครอยู่แถวนั้น ตัดสินใจหยิบกระเป๋าขึ้นมา เอาหูแนบฟังเสียงกลัวจะเป็นระเบิด ไม่ได้ยินเสียงก็ตัดสินใจจะเปิดซิปดู
“ไอ้บื้อ” โย่งเรียกเสียงดัง บื้อสะดุ้งโหยง
“เฮ๊ย ไอ้โย่ง ไอ้บ้าโย่ง ตกใจหมด”
“ตกใจ โหย...ขวัญเอ๋ยขวัญมาลูกพ่อ”
“พ่อเอ็งอ่ะดิ” โย่งเห็นกระเป๋า
“เฮ้ย! อะไรวะน่ะ”
“กระเป๋าใครไม่รู้ ลืมทิ้งไว้ตรงนี้”
โย่งตกใจ หมอบเลย
“ระเบิด”
บื้อตกใจปล่อยกระเป๋าลงพื้นแล้วหมอบตามโย่ง สองคนหลับตาปี๋ แต่ลืมตามาเห็นกระเป๋ายังนิ่งอยู่ตรงหน้า
“ไอ้บ้า ไอ้โย่ง ระเบิดที่ไหน”
“อ้าว สัญชาตญาณ รปภ.เว๊ย ต้องระแวงไว้ก่อน ว่าแต่ในนั้นมันมีอะไรวะ”
บื้อหยิบกระเป๋ามา ค่อยๆ เปิดดู ทั้งคู่ตกใจตาโต เพราะในกระเป๋ามีเงินไทยเป็นฟ่อน อัดแน่นอยู่เต็มกระเป๋า
“เฮ้ย”
ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างตะลึง
ดาหลาหน้าตาเอาเรื่องพรวดเข้ามาที่ห้องทำงานคุณชาย
จริงรึเปล่าคะคุณชาย ดาหลาได้รับรายงานว่ามีพนักงานขายรองเท้าคนนึงอ่อยเหยื่อให้ท่าคุณชาย ตกลงมันเรื่องจริงรึเปล่าคะ”
“คุณพูดเรื่องอะไรครับ คุณดาหลา”
ดาหลาหันไปแว๊ดพรเพ็ญ
“เป็นผู้จัดการประสาอะไรคะ ปล่อยให้พนักงานไม่เจียมตัว มักใหญ่ใฝ่สูงแบบนี้”
“เอ่อ...”
“คุณดาหลา ขอโทษคุณพรเพ็ญเดี๋ยวนี้”
“ห๊า อะไรนะ คุณชายจะให้ดาหลาขอโทษคุณผู้จัดการ”
“คุณคุณชายคะ”
“ใช่ ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าของ BKK Plaza ผมขอสั่งให้คุณดาหลาขอโทษคุณพรเพ็ญเดี๋ยวนี้”
“คุณคุณชาย”
“ไม่! ไม่ๆๆ ดาหลาจะไปฟ้องคุณหญิงแม่ ฮือๆๆ”
ดาหลาวิ่งร้องไห้ออกไป สวนกับตุ๊กติ๊กที่หน้าประตู ดาหลาสะบัดใส่
“มีอะไรครับ คุณตุ๊กติ๊ก”
“มีพนักงานมารอพบคุณผู้จัดการด่วนค่ะ”
“งั้นพรเพ็ญขอตัวนะคะ”
“ไม่เป็นไร พาเข้ามาคุยในนี้ เพราะเดี๋ยวผมมีธุระกับคุณพรเพ็ญต่อ”
“จะดีเหรอคะ”
“ตามนี้ครับ”
พรเพ็ญยิ้มแหยๆ
เงินฟ่อนใหญ่ในกระเป๋าวางอยู่บนโต๊ะทำงานคุณชาย คุณชาย พรเพ็ญมองอึ้งๆ แล้วมองไปที่บื้อกับโย่ง ที่ยืนอยู่ตรงข้าม
“ทำไมคุณถึงเอามาให้คุณผู้จัดการ ทำไมไม่เก็บไว้เอง คุณบื้อ”
“ก็ มันไม่ใช่ของผม”
คุณชายทึ่ง หันมองพรเพ็ญที่แอบปลื้ม
“คุณเป็นคนดีมากคุณบื้อ คุณโย่งด้วย ผมขอชื่นชมจากใจจริง”
“ขอบคุณครับ / ขอบคุณครับพ้ม”
คุณชาย พรเพ็ญยิ้ม โย่งยิ้มแฉ่ง บื้อยิ้มน้อยๆ แต่พองาม
คืนนั้นเมื่อกลับถึงบ้านเช่า ลุงจ๊อดโวยลั่นเมื่อรู้เรื่อง
“นี่เอ็งโง่รึเอ็งบ้ากันแน่วะ ไอ้บื้อ เงินเป็นฟ่อนหล่นมากองตรงหน้าแท้ๆ เสือกโง่ไม่เก็บไว้” ลุงจ๊อดดิ้นเร่าๆ อย่างขัดใจ “โธ่ๆๆ ไอ้ไง่ๆๆ ไอ้บื้อสมชื่อจริงๆ” ห่านเอาข้าวไข่เจียวมาวางตรงหน้าทุกคน แอบมองบื้อ “หน้าจะเป็นไข่เจียวอยู่แล้ว นี่ถ้าเอ็งเก็บเงินนั่นไว้นะไอ้บื้อ ป่านนี้ได้กินเป็ดปักกิ่ง หูฉลามกันพุงแตกแล้ว โธ่ๆๆ”
“จะเก็บได้ไงลุง” บื้อคว้าข้าวมาตักกิน “มันไม่ใช่เงินของเราซักกะหน่อย”
“เออ พ่อพระ พ่อพระเอก โง่อย่างนี้ ชาตินี้ก็เชิญกินข้าวไข่เจียวให้อร่อยไปทั้งชาติเถอะพ่อ”
บื้อตักใส่ปากเคี้ยว
“อืมม์ ก็อร่อยดี”
ห่านลอบมอง ทึ่ง
“โอย กูอยากจะบ้า”
“เฮียเค้าทำถูกแล้วนะลุง ขืนขโมยของคนอื่นเค้า ชาติหน้าก็คงต้องเกิดมากินข้าวไข่เจียวงี้อีกแหละ” โจ๊กบอก
“ถุย!ชาติหน้ากูไม่คิดล่ะ เอาชาตินี้ก่อน พรุ่งนี้กูจะกินอะไร ไข่เจียวอีกงี้”
“น่า ลุง พรุ่งนี้ไข่ต้มก็ได้” โย่งบอก ลุงจ๊อดถีบโครม
“เอ็งก็ด้วยเลยไอ้โย่ง แทนที่จะห้ามกลับเห็นดีเห็นงามกับไอ้บื้อ”
“บื้อกับโย่งเค้าทำถูกแล้วนะลุงจ๊อด” ห่านบอก บื้อหันมองห่าน
“อ้าว รักกันตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ”
“บ้า ใครว่ารัก ฝันไปเถอะ”
“ใครฝัน เธอสิฝัน” บื้อสวน ห่านท้าวเอว
“นี่ ฉันอุตส่าห์จะชมว่านายทำถูกแล้วยังจะมากวน”
“โห ขอบใจ ซึ้งมาก”
“ด่าต่อเลยลุงจ๊อด”
“ไม่เอาน่าห่าน ฉันว่านะ คนทำดีต้องได้ดีซักวันล่ะน่า” แหม่มบอก
“ถูกต้องที่สุด แหม่มพูดถูกที่สุด”
แหม่มค้อนโย่ง โย่งยิ้มให้
“เออ ข้าจะคอยดู พ่อพระเอก”
ห่านแหวะใส่บื้อ บื้อส่ายหน้าเซ็ง
วันต่อมาขณะที่บื้อกำลังจัดสต็อกสินค้า ทันใดนั้นคุณพรเพ็ญวิ่งกระหืดกระหอบมาพร้อมถือโทรโข่งประกาศชื่อบื้อไปด้วย
“นายบื้อ นายบื้อ”
บื้อหันไปดูอย่างแปลกใจ พรเพ็ญมาถึงตัวบื้อพอดี แทบทรุด หอบแฮ่ก บื้อรับพรเพ็ญเอาไว้
“คุณผู้จัดการ เกิดอะไรขึ้นครับ”
“แฮ่กๆ” พรเพ็ญพยายามพูด แต่หอบแฮ่กๆ หมดแรง พูดไม่ออก “คือ แฮ่กๆ”
เพื่อนพนักงานเริ่มตีวงเข้ามามอง
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
พรเพ็ญยังหอบแฮ่ก บื้อมองงงๆ
ลูกค้าคนจีนเช็คแฮนด์บื้ออย่างแรง ทุกคนยืนเรียงหน้ากระดานมีสื่อเป็นสักขีพยานยืนรุมเต็มไปหมด
“มิสเตอร์โหย่ว รู้สึกปลาบปลื้มในความซื่อสัตย์ของพนักงานห้างสรรพสินค้า BKK Plaza เป็นอย่างมากที่เก็บเงินสดจำนวน 1 ล้านบาทแล้วนำคืนให้เขา” ล่ามบอก ทุกคนในห้องปรบมือเกรียวกราว นักข่าวถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ
“และขอชื่นชมผู้บริหาร BKK Plaza ที่อบรมพนักงานให้เป็นคนดีมีคุณธรรม”
ทุกคนปรบมือเกรียวกราว มิสเตอร์โหย่วเช็คแฮนด์กับคุณชาย มีคุณพรเพ็ญยิ้มปลื้มดมยาดมฟืดๆ อยู่ข้างๆ นักข่าวถ่ายรูป ดาหลารีบเบียดพรเพ็ญกระเด็นแล้วประกบข้างคุณชายแทนแล้วยิ้มแฉ่งโบกมือเช่นนางงามให้สื่อ
“ในฐานะประชาสัมพันธ์กิติมศักดิ์ของ BKK Plaza ดาหลาขอน้อมรับคำชื่นชมนี้ไว้และขอฝาก BKK Plaza ไว้ในอ้อมใจของทุกท่านด้วยค่ะ”
อ่านต่อเวลา 17.00น.
ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 5 (ต่อ)
ทุกคนปรบมือเกรียวกราว คุณชายกับพรเพ็ญเซ็งๆ มิสเตอร์โหย่วกระซิบล่าม
“ครับๆ มิสเตอร์โหย่วบอกว่ามีความยินดีจะสานสัมพันธ์อันดีกับทาง BKK Plaza ท่านมีกิจการมากมายในเมืองจีน หากมีธุรกิจใดที่จะเอื้อประโยชน์ต่อกันได้ มิสเตอร์โหย่วยินดีอย่างยิ่งครับ” ทุกคนปรบมือเกรียวกราว คุณชายกับพรเพ็ญอึ้ง เหนือความคาดหมาย มิสเตอร์โหย่วกระซิบล่าม “แต่ก่อนอื่นใด มิสเตอร์โหย่วอยากตอบแทนผู้ทำความดีด้วยการมอบสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่คุณบื้อ พนักงานผู้ซื่อสัตย์เป็นจำนวนหนึ่งแสนบาท”
บื้ออึ้ง เสียงปรบมือเกรียวกราวอื้ออึง
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ ผมไม่...”
มิสเตอร์โหย่วรีบเอาซองยัดใส่มือบื้อ ปากก็พูดภาษาจีนว่า “ขอบใจๆ” ทุกคนปรบมือยินดี นักข่าวถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ
คุณชายกับพรเพ็ญปลื้มแทน ดาหลาฉีกยิ้มสุดๆ
“ยิ้มหน่อยครับคุณบื้อ ยิ้ม”
นักข่าวบอกบื้อยิ้มขณะรับซองจากมิสเตอร์โหย่ว
เรื่องของบื้อกลายเป็นข่าวบนหน้า 1 นสพ. ไทยรัฐ, เดลินิวส์, ข่าวสด, คมชัดลึก บื้อถูกนักข่าวทีวีรุมสัมภาษณ์ไมค์รวมรายการเจาะข่าว, เจาะประเด็น, ข่าวเช้า, ช่อง7 บื้อชี้จุดที่เจอกระเป๋า ที่มุมหนึ่งคุณชายกับพรเพ็ญ ยืนมองภูมิใจ
“คุณพรเพ็ญครับ พรุ่งนี้เช้าหลังจากที่พนักงานออกกำลังกายกันเสร็จแล้ว ผมมีเรื่องสำคัญจะประกาศ”
“เรื่องสำคัญ”
คุณชายพยักหน้านิดๆ ยิ้มน้อยๆ มองไปที่บื้อ
คืนนั้นห่านซึ่งเป็นฮันนี่นั่งลง คุณชายจับเก้าอี้ให้ แล้วมานั่งลงตรงข้าม สีหน้ายิ้มแย้ม
“ดีใจอะไรคะ วันนี้ดูหน้าตาคุณชายมีความสุขม้ากมาก”
“มีความสุขสิครับ ดีใจที่คุณฮันนี่ตกลงจะไปสวิสกับผม”
“อ๋อ...ค่ะ” ห่านเขิน
“เอ่อ คุณฮันนี่ครับ”
“คะ”
“คุณฮันนี่จะขัดข้องมั้ยครับถ้าผมจะขอพาใครไปด้วยอีกคน”
ห่านอึ้ง หน้าเสีย นึกว่าจะพาผู้หญิงหรือดาหลาไปด้วย
“ใคร ใครคะ เอ่อ...แบบว่า ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”
“ผู้ชายครับ”
ห่านโล่งอก รีบพูดเลย
“ผู้ชาย สบายมากค่ะ เอ๊ย! ไม่ใช่ค่ะ หมายถึง สบายๆ ค่ะ เชิญคุณชายตามสบาย ฮันนี่เป็นคนสบายๆ กันเอง ไม่เรื่องมากอยู่แล้วค่ะ...ชิว”
“ขอบคุณมากครับ คนที่ผมจะพาไปด้วยเค้าเป็นคนดีมาก รับรองว่าคุณฮันนี่จะต้องชอบเค้ามากเลยครับ”
“แน่นอนค่ะ แฮปปี้ค่ะ”
“แฮปปี้ครับ”
สองคนชนแก้วกริ๊ง หน้าตาแฮปปี้
ที่บ้านเช่าบื้อ ลุงจ๊อดโอบกอดบื้ออย่างรักใคร่
“นั่นไง คนทำดีย่อมได้ดี ฟ้ามีตาต้องเห็น เชื่อลุงรึยัง”
“พูดตอนไหนวะ” โย่งถามโจ๊ก
“ก็พูดเมื่อกี๊ไง”
“ไอ้เวร” ลุงจ๊อดต่อว่าแล้วกลับไปหวานกับบื้อต่อ “โห...ทำความดีนี่มันเห็นผลกันในชาตินี้ วันนี้ เดี๋ยวนี้เลยจริงๆ แหม..เดือนนี้ลุงก็พึ่งค่าเช่าบ้านเอ็งได้อีกแล้วสินะบื้อหลานรัก”
บื้อยิ้มๆ ทุกคนส่ายหน้าขำๆ ระอาลุงจ๊อด
“ยัยห่านไปไหนเนี่ย หิวไส้จะขาดแล้ว”
ห่านโผล่หน้ามา
“อยู่นี่” ห่านชูกล่องอาหาร “มีของดีมาฝากด้วย”
“อะไรอ่ะเจ๊”
“เป็ด จากร้านอาหารหรูห้าดาว”
“ห๊า” ลุงจ๊อดถลามาคว้าไว้สูดดม “ได้กลิ่นก็รู้แล้ว แหม...วันนี้มันวันดีอะไร ทั้งหลานบื้อ และหลานห่าน มีแต่เรื่องราวดีๆ มาฝากลุงจ๊อดทั้งนั้น”
“ไปเอามาจากไหน เป็ดห้าดาว” บื้อมองห่านอย่างรู้ทัน
“เอาน่า...กินเหลือก็อุตส่าห์ห่อมาฝาก” ห่านบ่น บื้อรีบพรวดมาล็อกคอห่านไปพูดอีกมุมนึง
“ลืมบอกไป ระวังตัวหน่อยนะ วันก่อนคุณดาหลามาลุยฉันเพราะยัยแอปเปิ้ลไปฟ้องว่าเห็นเธอ คือฮันนี่น่ะ คุยกับฉันในงานฉลองห้าง”
“ห๊า”
“ใจเย็น ยังไม่มีอะไร”
“ถ้างั้น ระวังเลยนะ ต่อไปนี้เวลาที่ฉันเป็นฮันนี่ นายห้ามเจอกับฉันเด็ดขาด ขอเชิญไปอยู่ให้ไกลๆ คนละซีกโลกได้ก็จะดีมาก ไม่งั้นความแตกแน่”
“เชอะ ยังกะอยากอยู่ด้วยตายล่ะ คุณฮันนี่ รับรองชาตินี้อย่าหวังว่าจะได้เจอกันเลย”
“เออ ดี”
สองคนเบ้หน้า เชิดๆ ใส่กัน
ห่านกำลังล้างจาน หน้าหงิกมาก ถูๆๆ จานอย่าง ‘ รมณ์เสีย ปากก็บ่นไป
“ทุเรศ กินเสร็จก็สะบัดตูด ไม่คิดจะช่วยกันล้างจานมั่งรึไง? อุตส่าห์หอบเป็ดมาให้กิน แล้วยังต้องมาล้างจานอีก หึ้ย! คอยดูนะ ซักวัน ถ้าฉันได้ไปจากที่นี่ ถ้าฉันได้แต่งงานกับคุณชาย ฉันจะไม่มีวันหวนกลับมาอีกเลย ว้าย” ห่านสะดุ้งสุดตัวร้องกรี๊ดลั่นเพราะบื้อกระแทกจานชามอีกล็อตใหญ่ลงข้างๆ ห่าน โดยที่ห่านไม่รู้ตัวมาก่อน ห่านจึงโวยลั่น
“บ้า มาเมื่อไหร่ไม่ให้สุ้มให้เสียง แล้วนี่อะไรยะ”
“ก็จานไง”
“รู้” ห่านลากเสียงยาวประชด “แต่ยังไงยะ จะมาให้ฉันล้างอีกงี้ พอมั้ย ฉันล้างตั้งเยอะแล้วนะยะ กินเองก็ล้างเองสิยะ” ห่านมองจานที่มีกระดูกเป็ดเลอะเทะมากๆ “แหวะ ดูสิ กินกัน...อึ๋ยย์...ทุเรศ”
“ล้างไป ไม่ต้องบ่น”
“ต๊าย นี่นายนึกว่านายเป็นใครยะถึงมาออกคำสั่ง อ๋อ...ได้ลง นสพ. ออกทีวี.แค่นี้นึกว่าดังตาย นึกว่าเป็นซุป’ตาร์ รึไงยะ คุณบื้อ”
“นี่” บื้อจะเถียงแต่ไม่ทัน
“โห แกล้งทำดีสร้างภาพ อยากดังก็บอกมาเหอะ”
“ใครกันแน่ที่สร้างภาพ” ห่านชะงัก บื้อพูดนิ่ง พูดจริง มองตาห่าน “ฉันไม่เคยแกล้งทำอะไรทั้งนั้น แต่ถึงจะแกล้งขึ้นมาจริงๆ อย่างที่เธอว่า ฉันก็ยังแกล้งทำความดีไม่ได้ “โกหกสร้างภาพ” เหมือนอย่างที่เธอกำลังทำอยู่”
ห่านอึ้งเลย ราวกับเจอหมัดฮุคเข้าปลายทาง สองคนจ้องหน้ากัน ห่านมีจุก อึ้ง เผลอน้ำตาคลอนิดๆ
“แรงไปรึเปล่า”
“มันเรื่องจริง”
ห่านพยายามกลืนน้ำตา ดื้อรั้น อยากเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้
“ไม่ต้องจริงมากก็ได้! จะจริงอะไรกันนักกันหนาห๊ะคนเรา จริงแล้วไง สบายใจนักใช่มั้ย”
“โกหกแล้วสบายใจรึเปล่าล่ะ” ห่านชะงัก “เหนื่อยมั้ย กลัวมั้ย ว่าเค้าจะจับได้ หรือไม่ก็ความลับจะแตกขึ้นมาซักวัน”
“ไม่มีวันนั้นแน่นอน” ห่านปราดเข้าเผชิญหน้าชิดบื้อ จ้องเขม็ง ลดเสียงเบาแต่เสียงขู่เข้มมาก “ถ้านายไม่ปากโป้งซักคน ความลับของฉันไม่มีวันแตกแน่”
บื้อแอบหวิวที่ห่านเข้ามาชิดใกล้ขนาดนี้ ก่อนจะรู้สึกตัว ถอนใจเฮือก
“ความลับไม่มีในโลกหรอกนะ”
“ไม่รู้ ฉันไม่รู้ ไม่สนอะไรทั้งนั้น ณ จุดๆ นี้ฉันรู้แต่ว่า อีกไม่กี่วันนี้ฉันก็จะได้ไปสวิสเซอร์แลนด์กับคุณชายของฉันแล้ว”
“สวิสเซอร์แลนด์”
“ใช่ สวิสเซอร์แลนด์” หน้าตาห่านฝันมาก “ดินแดนแห่งความโรแมนติก หิมะขาวๆ ภูเขาสูงๆ หึ้ย...โรแมนติกที่สุด”
“นี่...เธอจะไปสวิสเซอร์แลนด์กับคุณชาย 2 ต่อ 2”
“ใช่ 2 ต่อ 2” ห่านนึกได้ แต่ฟอร์ม “ไม่สิ คุณชายอาจจะมีคนติดตามไปอีกคนนึง แต่เป็นผู้ชายย่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอน อาจจะเป็นคนใช้อะไรอย่างเงี้ย”
“แน่ใจเหรอ มันจะไปกันใหญ่แล้วนะ” บื้อแอบห่วง
“อิจฉาล่ะเซ่ คนอย่างนาย ชาตินี้คงไม่มีวันได้จับหิมะหรอก ฮิฮิ แหม...จะเก็บใส่ขวดมาฝากรึก็คงจะละลายซะก่อน เสียใจด้วยนะ”
“ห่าน ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะ”
“ฉันก็ไม่เคยเล่น ฉันเอาจริง”
“เป็นไปไม่ได้” บื้อส่ายหน้า
“ได้ ในโลกนี้มันมีอะไรตั้งเยอะแยะที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปได้ คอยดูละกัน ฉันนี่ล่ะจะทำให้นายดู”
ห่านสีหน้าจริงจัง บื้อมองตอบอย่างแอบห่วง ไม่เชื่อ
เช้าวันรุ่งขึ้นพรเพ็ญกำลังนำเต้น มีบื้อ ห่าน แหม่ม เจ๊มะพร้าว โย่ง แอปเปิ้ล ปีโป้ จีจี้ และพนักงานกำลังเต้นอย่างพร้อมเพรียง ไม่นานเพลงจบ ทุกคนหยุดเต้นพร้อมปรบมือให้ตัวเอง
“ทุกคนอย่าเพิ่งไป วันนี้คุณคุณชายมีเรื่องสำคัญที่จะประกาศให้ทุกคนได้ทราบทั่วถึงกัน” ทุกคนนิ่วหน้าสงสัย “ขอเชิญคุณคุณชายค่ะ”
คุณชายเดินออกมายืนตรงหน้าทุกคน ทุกคนมองไปที่คุณชายเป็นตาเดียวด้วยความสงสัย
“ทุกคนคงจะเห็นข่าวว่ามีพนักงานของเราคนหนึ่ง ได้สร้างชื่อเสียงให้กับห้างฯ บีเคเคพลาซ่าของเรา” บื้อชะงัก ทุกคนหันไปมองบื้อ “คนๆ นั้นก็คือ คุณบัญชา”
พรเพ็ญยกโทรโข่งประกาศ
“ขอเชิญ นายบัญชาค่า”
“เฮ้ย ไอ้บื้อ เอ็งชื่อบัญชา” โย่งบอก
“รู้แล้ว”
“รู้แล้วยืนบื้ออยู่ทำไมวะ ออกไปสิวะ”
บื้องงๆ คุณชายผายมือมาข้างตัว บื้อยังงงอยู่ บื้อเดินออกไปยืนข้างคุณชาย คุณชายยิ้มให้บื้อ แล้วหันมาทางทุกคน
“พื่อเป็นการตอบแทนความดีของคุณ ผมมีรางวัลพิเศษที่จะให้”
บื้อนิ่วหน้า ห่านสงสัยว่าอะไร
“ผมได้มาแล้ว ผมว่าไม่ต้อง”
“ต้องสิครับ คนทำดี ต้องได้ดี และรางวัลพิเศษที่ผมจะให้คุณก็คือ ผมจะพาคุณไปดูงานกับผม ที่สวิสเซอร์แลนด์”
บื้อตกใจมาก ทุกคนฮือฮา เจ๊มะพร้าว แหม่ม ห่านอึ้ง เจ๊มะพร้าวกับแหม่มหันมามองหน้าห่าน ห่านกลืนน้ำลายเอื๊อก แล้วก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานตอนที่คุยกับคุณชาย
“คุณฮันนี่จะขัดข้องมั้ยครับถ้าผมจะขอพาใครไปด้วยอีกคน”
ห่านอึ้ง หน้าเสีย นึกว่าจะพาผู้หญิงหรือดาหลาไปด้วย
“ใคร ใครคะ เอ่อ...แบบว่า ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”
“ผู้ชายครับ”
ห่านโล่งอก เลยรีบพูด
“ผู้ชาย สบายมากค่ะ เอ๊ย! ไม่ใช่ค่ะ หมายถึง สบายๆ ค่ะ เชิญคุณชายตามสบาย ฮันนี่เป็นคนสบายๆ กันเอง ไม่เรื่องมากอยู่แล้วค่ะ...ชิว”
“ขอบคุณมากครับ คนที่ผมจะพาไปด้วยเค้าเป็นคนดีมาก รับรองว่าคุณฮันนี่จะต้องชอบเค้ามากเลยครับ”
ห่านมองบื้อ สีหน้าแย่สุดๆ แย่มากๆ พรเพ็ญปรบมือขึ้นมาเป็นคนแรก
“ปรบมือสิคะทุกคน ปรบมือแสดงความยินดีกับนายบัญชา พนักงานดีเด่นของเรา”
ทุกคนค่อยๆ ปรบมือตามพรเพ็ญ คุณชายตบบ่าบื้อที่ยังอึ้งและงง สีหน้าแบบนึกไม่ถึง ทุกคนเดินเข้าไปแสดงความยินดีกับบื้อ ส่วนห่านยืนนิ่งหน้าเครียด
เจ๊มะพร้าวกับแหม่มเดินมากับห่าน
“แสดงว่าแกต้องไปสวิสฯกับน้องบื้อของเจ๊น่ะสิ”
“ก็ดีนะห่าน แกจะได้มีเพื่อน”
ห่านแว๊ดขึ้นมาทันที
“ดีบ้าอะไร ฉันไม่อยากมีเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนอย่างนายซื่อบื้อ”
ยิ่งคิดห่านก็ยิ่งกังวลใจมากขึ้น
บื้อกำลังล้างหน้าอยู่ในห้องน้ำ บื้อถูๆๆ อย่างแรง ก่อนจะเงยหน้ามองตัวเองในกระจก หน้าตาเฉยเมย ก่อนจะยิ้มดีใจ
“สวิสเซอร์แลนด์ เยส”
บื้อดีใจมากเดินตรงไปที่โถฉี่ แล้วก็ยืนฉี่ พลางยิ้มมีความสุข แต่ทันใดนั้นห่านเปิดประตูพรวดเข้ามา บื้อหันไปเห็นห่านก็ตกใจมาก รีบใส่กางเกงแทบไม่ทัน ก่อนจะหันไปมองห่านเต็มตัว
“นี่ห้องน้ำผู้ชายนะเจ๊ สงสัยต้องไปตัดแว่นใหม่แล้วมั๊ง”
“ฉันไม่ได้เข้าห้องผิด”
บื้อนิ่วหน้า ห่านหันไปล็อกประตู บื้อตกใจ ค่อยๆ ถอย
“เธอจะทำอะไร”
ห่านเดินเข้าหา สีหน้าเอาเรื่องมาก บื้อถอยไปจนติดกำแพง ห่านหยุดตรงหน้าบื้อ
“นายห้ามไปสวิสเซอร์แลนด์กับคุณชาย”
“ทำไม ทำไมฉันจะไปไม่ได้”
“นายลืมข้อตกลงของเราแล้วเหรอ เวลาที่ฉันเป็นฮันนี่ นายห้ามมาอยู่ใกล้ฉันเด็ดขาด ขืนเราไปด้วยกัน ความลับแตกแน่” ห่านลนลานมากขึ้น “แล้วถ้าเกิดคุณชายรู้ความจริง ความฝันฉันก็ต้องพัง ชีวิตฉันก็ต้องพังเพราะทั้งยัยนางงาม ยัยแอ๊บ ยัยปลากะโห้อีก ทุกคนจะต้องรุมประณามฉัน แล้วฉันก็จะไม่มีที่ให้ยืนอยู่บนโลกใบนี้”
“ก็ไหนเมื่อคืนเธอเพิ่งบอกว่าเธอไม่กลัวความลับแตก”
“ก็...ก็ฉันไม่รู้นี่ว่า นายจะได้ไปสวิสด้วยอ่ะ”
“ฉันไปแล้วมันไปเกี่ยวอะไรด้วย”
“ก็ถ้านายเปิดเผยความลับ...”
“แล้วทำไมฉันต้องเปิดเผย”
“นี่ไง นายบื้อ” ห่านเข้าไปกอดบื้อ “พ่อเทพบุตรบื้อ แสนดี มีคุณธรรมที่สุด นายจะไม่พูด ไม่แฉความลับของฉันให้คุณชายรู้ใช่มั้ย” บื้ออึ้งอยู่ที่โดนกอดแน่น “ใช่มั้ย”
“ใช่ เอ๊ย! ไม่..ไม่รู้”
“นั่น เมื่อกี้พูดมาแล้ว พูดแล้วเอาคืนมะรืนนี้ตาย”
“เฮ้ย” ห่านกอดแน่น
“ขอบใจมากนะพ่อเทพบุตรบื้อ เออ...นอกจากจะไม่แฉฉันแล้ว ช่วยอะไรฉันอีกอย่างนะ ได้มั้ย” ห่านทำตาปริบๆ อ้อน
“อะไร”
“ไม่ไปสวิสกับคุณชาย”
“อะไรนะ”
อย่าไปสวิสกับคุณชายเด็ดขาด บอกไปเลยว่านายป่วย หรือญาติป่วยกะทันหัน อะไรก็ได้”
“เธอนี่มันใจร้ายจริงๆ” บื้อต่อว่าแล้วเดินอกไป ห่านงง ตะโกนตาม
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน กลับมาก่อน อะไรว้า”
ผู้ชายหลายคนพรวดเข้ามาแบบปวดฉี่สุดๆ เห็นห่านยืนอยู่ก็จ้องห่านเหมือนตัวประหลาด ห่านรีบวิ่งออกไป
ดาหลายกมือไหว้ลูกค้า ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ขอให้สนุกกับการช็อปปิ้งนะคะ” ลูกค้าพยักหน้ารับและเดินออกไป ดาหลาหุบยิ้มทันที “ยิ้มจนเมื่อยหน้าไปหมดแล้วเนี่ย”
ดาหลาขยับปากไปมา หันไปก็เจอแอปเปิ้ลกับปีโป้เดินมาหา
“ขอแสดงความดีใจด้วยนะคะคุณดาหลา”
“ขอบใจ” ดาหลาชะงัก นึกขึ้นได้ “เดี๋ยวก่อน เธอแสดงความดีใจกับฉันเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่คุณดาหลาจะได้ไปสวิสฯกับคุณคุณชายยังไงล่ะคะ”
ดาหลาเหวอ แอปเปิ้ลพูดต่อ
“แบบนี้ก็ถือว่าเป็นการฮันนีมูนล่วงหน้า จริงมั๊ยปีโป้”
“จริงที่สุดเลยจ๊ะ”
“ถ้าจะให้โหวตว่าใครเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกตอนนี้ บอกได้เลยว่าคนๆ นั้นก็คือ...”
“คุณดาหลา”
แอปเปิ้ลกับปีโป้ปรบมือ ดาหลาทำเป็นยิ้ม ทั้งๆ ที่พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ลอบหันไปทำหน้างงแล้วพึมพำกับตัวเอง
“สวิสฯ อะไร ยังไง เมื่อไหร่”
ดาหลาครุ่นคิดอย่างหนัก
คุณชายกำลังทำงาน พลันเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญครับ”
ดาหลาเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถุงแซนวิช คุณชายเงยหน้ามอง
“ดาหลาเห็นคุณชายไม่ได้ไปทานข้าว ก็เลยเอาแซนวิชมาให้ค่ะ”
ดาหลาวางถุงบนโต๊ะ คุณชายมองดาหลาหน้านิ่งๆ
“ขอบคุณครับ ผมมีข้าวกล่องแล้ว”
ดาหลาเหลือบมองข้าวกล่องโฟมวางเตรียมอยู่บนโต๊ะ ดาหลาหน้าแตกเพล้ง
“ต๊าย เป็นถึงประธาน BKK แต่ทานข้าวกล่อง ไม่สมศักดิ์ศรีเลยนะคะ”
“ศักดิ์ศรีคนเราไม่ได้วัดกันที่ข้าวกล่องรึว่าแซนวิชหรอกครับ”
“คุณชายอ่ะ” ดาหลาแอบค้อน
“คุณดาหลามีธุระอะไรเหรอครับ” คุณชายเข้าประเด็น
“เอ่อ... ดาหลาได้ข่าวมาว่าคุณชายจะไปสวิสเหรอคะ”
คุณชายชะงัก เงยหน้าขึ้นมา
“ข่าวไวจังเลยนะครับ”
“ไม่ทราบว่าคุณชายไปกับใครเหรอคะ”
คุณชายยังไม่ทันตอบ เสียงเคาะประตูดังขึ้น คุณชายมองไปเห็นตุ๊กติ๊กยืนอยู่ที่ประตู
“เอกสารด่วนค่ะคุณคุณชาย”
“เอาเข้ามาเลย ผมขอตัวทำงานก่อนนะครับ”
ดาหลาเซ็ง ถอนใจเฮือก
คืนนั้นที่บ้านเช่าบื้อ อาหารมากมายวางเต็มโต๊ะ โย่ง ลุงจ๊อด โจ๊ก ยืนมองด้วยความตะลึง มีบื้อคนเดียวที่มองห่านไม่ไว้ใจ แหม่มยืนข้างห่าน
“เธอทำอาหารทั้งหมดนี่ เพื่อฉลองให้บื้อ”
ห่านยิ้มหวาน เสียงหวาน
“ใช่จ๊ะ”
“ฉลองเรื่องอะไรกันวะ”
“บื้อได้ไปเที่ยวประเทศสวิสเซอร์แลนด์ฟรีน่ะสิลุง”
“ห๊ะ ประเทศสวิส โอ้ว้าววว”
“นี่แหละค่ะลุง ผลแห่งการทำดีได้ดี” ห่านจับไหล่บื้อ
บื้อเหล่ห่านงงๆ ที่อยู่ๆ ห่านก็มาชมเค้า ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เพิ่งมีปากเสียงกันมา ลุงจ๊อดได้ทีรีบเข้ามากอดบื้อเอาใจ
“ข้าล่ะดีใจจริงจริ๊งงงงที่มีหลานอย่างเอ็ง ว่าแต่เอ็งอยากได้เพื่อนร่วมทริปมั้ยวะ”
“เนียนอีกแล้วนะลุง” ลุงจ๊อดค้อน “ดีใจด้วยนะเฮีย”
บื้อยิ้มๆ โย่งจับท้องตัวเอง
“ฉันว่าเราคุยกันไปกินกันไปดีกว่ามั้ย คือ...หิวแล้วอ่ะ”
ท้องโย่งร้องออกมา ทุกคนอมยิ้ม แล้วก็ลงมือกินกันอย่างเอร็ดอร่อย มีบื้อคนเดียวที่หรี่ตามองห่านด้วยความสงสัยมากๆ ว่าห่านจะมาไม้ไหน
อีกด้านหนึ่งที่บ้านคุณชาย คุณชาย ดาหลา คุณหญิงรื่นฤดี ดารัณ ชนะศึก กำลังนั่งทานอาหารด้วยกัน คุณหญิงรื่นฤดีเอาใจดาหลา ตักอาหารให้
“ทานเยอะๆ นะจ๊ะหนูดาหลา”
“ขอบพระคุณมากค่ะคุณแม่”
คุณชายเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินไม่หยุด คุณหญิงรื่นฤดีหันไปมอง
“ตาชาย”
“คุณชายเงยหน้าขึ้นมา”
“ดูแลน้องด้วยสิจ๊ะลูก เอาแต่ทานอยู่นั่นแหละ”
“ผมหิวน่ะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ ดาหลาดูแลตัวเองได้”
“ถ้าใครได้หนูดาหลาไปเป็นสะใภ้ คงจะเป็นคนที่โชคดีมาก” ดาหลากับดารัณยิ้ม คุณหญิงรื่นฤดีเหล่คุณชาย
“ไม่รู้ว่าแม่จะมีวาสนาได้หนูมาเป็นสะใภ้รึเปล่า”
คุณชายถึงกับสำลัก ชนะศึกรีบตบหลังลูกชาย
“เขินจนสำลักเลยเหรอเจ้าชาย”
คุณชายพูดไม่ออก ดาหลาครุ่นคิดนิดนึง แล้วก็พูด
“นี่คุณแม่กับคุณพ่อไปสวิสกับคุณชายด้วยรึเปล่าคะ”
คุณชายชะงักมองดาหลา คุณหญิงรื่นฤดีกับชนะศึกหันไปมองคุณชายแปลกใจ
“แกจะไปสวิสเหรอ”
“ครับ”
“ทำไมถึงไม่บอกแม่”
“ผมก็ว่าจะบอกคุณแม่วันนี้แหละครับ แต่เห็นว่าคุณแม่มีแขก”
“หนูดาหลากับคุณดารัณเป็นแขกที่ไหน คนกันเองทั้งนั้น”
ดาหลากับดารัณยิ้มหวาน
“แล้วแกจะไปทำอะไรที่สวิส”
“น้องนุชอยากเปิดตลาดการท่องเที่ยว และสถาบันธุรกิจและการโรงแรงที่ผมกับน้องนุชจบมา ผมเห็นว่าโปรเจคนี้น่าสนใจและจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของห้างเรา ก็เลยอยากไปคุยเรื่องงานนี้ด้วยตัวเอง”
“ก็ดีสิลูก ถ้างั้นพาหนูดาหลาไปด้วย” ดาหลากับดารัณหันมาลอบยิ้มให้กัน “แม่ว่าหนูดาหลาคงช่วยลูกได้เยอะเลยล่ะ”
ชนะศึกเห็นความลำบากใจของลูก
“ยังไม่ทันถามหนูดาหลาเลยนะคุณ บางทีหนูดาหลาอาจจะไม่สะดวกใจไปก็ได้”
“ไม่เลยค่ะ ลูกสาวดิฉันไปได้ค่ะ” ดารัณรีบพูด
“ใช่ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องงาน ดาหลาเต็มที่อยู่แล้ว”
ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 5 (ต่อ)
ดาหลายิ้มดีใจคิดว่าจะได้ไป แต่...
“ไม่ต้องรบกวนคุณดาหลาหรอกครับ” ดาหลากับดารัณหุบยิ้ม “ผมมีคนไปด้วย เป็นพนักงานที่ห้างฯ คราวนี้ผมไปทำงาน และต้องไปหลายเมือง การเดินทางค่อนข้างลำบาก ผมเกรงใจคุณดาหลาครับ”
ดาหลาพูดไม่ออก ได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา ชนะศึกมองคุณชายลอบยิ้มสบายใจ
“มันก็จริง ไปทำงานไม่สนุก สู้ไปเที่ยวไม่ได้ ถ้างั้นไว้คราวหน้านะจ๊ะหนูดาหลา แม่กับพ่อจะได้ไปช็อปปิ้งให้สนุกเลยนะจ๊ะ”
“ค่ะ”
ดาหลาทำเป็นยิ้มทั้งๆ ที่ไม่พอใจอย่างแรง
ห่านยกจานเข้ามาในครัว บื้อตามเข้ามา
“มีไรจะคุยกับฉันเหรอ”
“เมื่อตอนกลางวัน เธอยังแง่งๆ ใส่ฉันอยู่เลย แล้วมาตอนนี้ ทำดีกับฉันทำไม”
“แหม...รู้ทัน เอ๊ย! รู้ใจเค้าตลอดเลยอ่ะ”
“ไม่ตลก” ห่านหุบยิ้มแทบไม่ทัน “บอกความจริงมา เธอต้องการอะไร”
“ฉันก็แค่อยากปรองดอง” บื้อมองห่านอย่างไม่ไว้ใจ “ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว ไหนๆ เราก็ต้องไปด้วยกัน เพราะฉะนั้น เราก็ไม่ควรจะมีปัญหากัน ควรจะดีๆ กันไว้ ไม่ใช่เหรอ” ห่านยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าบื้อ “ดีกันนะ” บื้อมองห่านนิ่ง ห่านจับมือขึ้นมา แล้วเกี่ยวก้อยบื้อ “ถือว่าเราดีกันแล้วนะ”
บื้อเหวอ ดึงมือออก
“อย่ามามั่ว ฉันยังไม่ได้พูดซักคำ”
“เป็นผู้ชาย อย่าเยอะสิ นายออกไปได้แล้ว ฉันจะล้างจาน”
ห่านหันไปล้างจาน บื้อมองห่าน ส่ายหัวแล้วก็เดินออกไป ห่านพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ห่าน แหม่ม นั่งคุยกันอยู่
“แกแน่ใจเหรอวะห่าน ว่าทุกอย่างมันจะราบรื่น”
“ชัวร์สิ ทุ่มทุนจัดปาร์ตี้ปรองดองซะขนาดนี้ อีตาบื้อนั่นมันคงเห็นแก่กินบ้างล่ะน่ะ”
บื้อเดินมาชะงักกึก แอบฟัง
“ไอ้บ้า บื้อเค้าดูไม่ใช่คนอย่างนั้น ถ้าอีตาโย่งล่ะไม่แน่” โย่งเดินมาชะงักกึก จะโวย บื้อดึงไว้ให้เงียบ แล้วรีบผลักให้โย่งออกไปก่อนกลัวรู้ความลับห่าน โย่งจำใจออกไป “ว่าแต่แกเหอะ อย่าไปเผลอหลุดอะไรให้คุณชายเค้าจับได้ล่ะ ไม่งั้นมีหวังพัง...เละ”
“ไม่มีทาง เป็นตายยังไงฉันก็ไม่มีทางยอมให้ความฝันของฉันพังแน่ๆ”
“น่ากลัวอยู่นะแก สวิสเซอร์แลนด์ เกิดมายังไม่เคยรู้จัก อย่าว่าแต่สวิสเซอร์แลนด์เลย เคยขึ้นเครื่องบินมั้ยแกน่ะ”
“เออว่ะ...เอาน่ะ มันก็คงคล้ายๆ รถเมล์แหละ”
“แหม คล้ายมาก”
บื้อแอบส่ายหัว อมยิ้ม
“นี่แกอย่ามาทำให้ฉันสาแกรี่สยองขวัญก่อนสิวะมาจนถึงจุดๆ นี้แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องสู้ขาดใจแล้วเว๊ย”
“เออๆๆ เอาใจช่วย ว่าแต่ ด่านแรกก่อนเลยมั้ย”
“ด่านแรก อะไรวะ”
“แกจะหาเหตุผลอะไรไปลางานคุณผู้จัดการตั้ง 7 วัน”
“เออว่ะ...ไงดีวะ”
บื้อถอนใจเฮือก เหนื่อยแทน
สองวันต่อมา ห่านมาหาพรเพ็ญที่ห้องทำงานเพื่อขอลาหยุด พรเพ็ญหรี่ตามองห่านด้วยความสงสัย ห่านกลืนน้ำลายเอื๊อก ไม่ค่อยกล้าสบตาพรเพ็ญ
“เธอจะลาไปไหน ตั้งหนึ่งอาทิตย์”
“ห่านต้องกลับไปช่วยที่บ้านเกี่ยวข้าวค่ะ”
“บ้านเธอทำนาด้วยเหรอหฤทัย”
“ใช่ค่ะ”
“แต่สองปีที่ผ่านมา ไม่เห็นเธอเคยลาเลยนี่”
“เออ... คือ ปีนี้ที่บ้านห่านเพิ่งทำนาปีแรก ห่านก็เลยต้องกลับไปช่วย คุณผู้จัดการจะไม่ให้เงินเดือนห่านก็ได้นะคะช่วงที่ห่านลา ห่านเกรงใจเพราะลาหลายวัน”
“บริษัทไม่ได้มีกฎแบบนั้น ถ้าเธอกลับไปช่วยงานที่บ้านจริง ฉันก็อนุญาต แต่ไม่ใช่ว่าโกหก แล้วไปทำอะไรอย่างอื่นนะแม่หฤทัย” พรเพ็ญจ้องหน้าห่าน
“ไม่ได้ไปทำอะไรอย่างอื่นค่ะ กลับไปทำนาจริงๆ”
ห่านยิ้มแฉ่ง แต่ด้านหลังห่านเอานิ้วมาไขว้กัน
ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่มยืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ ตีมือกันด้วยความดีใจ
“คุณผู้จัดการอนุญาตให้แกลางาน โดยที่ไม่ได้นึกสงสัยอะไรเลย เก่งจริงๆ ลูกสาวเจ๊”
ห่านพยักหน้า เจ๊มิพร้าวกับแหม่มยิ้ม
“ดีใจด้วยนะแก เออ...ว่าแต่ฉันเคยดูในละคร สวิสเซอร์แลนด์มันหนาวมากนะแก มีหิมะเต็มเลย แกจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่ล่ะห่าน”
“เออว่ะ จริงด้วย”
“หึ้ย นังเด็กพวกนี้ มีแฟชั่นกูรูอยู่ใกล้ตัวยังไม่ได้กลิ่น เอ๊ย ยังไม่รู้อีก”
“เจ๊” ห่านกับแหม่มยิ้มแฉ่ง
“เจ๊จัดให้”
สองสาวร้องเย้ โดดกอดเจ๊มะพร้าวแน่น
เจ๊มะพร้าวกับแหม่มพาห่านไปซื้อเสื้อกันหนาว ห่านลองชุดเสื้อหนาวออกมาจากห้องรองเสื้อ เจ๊มะพร้าวกับแหม่มส่ายหัว ห่านเข้าไปเปลี่ยนอีกสองสามชุด แหม่มกับเจ๊มะพร้าวพยักหน้า
แหม่ม เจ๊มะพร้าวใส่เสื้อหนาวออกมาโพสท่า ห่านเข้าไปยืนโพสท่าด้วยกันด้วยความสนุกสนานมากๆ
ร้านรองเท้า ห่านกำลังลองรองเท้าบู๊ธ สีหน้าแฮปปี้มากๆ ห่านลุกขึ้นเดินเหมือนอยู่บนก้อนเมฆ แววตาชวนฝัน สีหน้าบ่งบอกถึงความฟินอย่างที่สุด
ร้านขาย Acessories ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่ม ใส่ที่ปิดหู เก๋ๆ น่ารักๆ ออกมา แล้วแหม่มก็ยื่นมือถือไปตรงหน้าเพื่อถ่ายรูป ห่านลองผ้าพันคอ ใส่หมวก ใส่ที่ปิดหู ใส่แว่นดำ จัดเต็มแล้วก็โพสท่า โดยมีแหม่มถ่ายรูป
คืนนั้นเมื่อกลับถึงบ้านเช่าห่านกับแหม่มโยนของทุกอย่างลงบนโต๊ะ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรง สองสาวหันมามองหน้า ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
“ฉันไม่เคยช็อปปิ้งเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย”
“ช็อปที่ไหนล่ะ ยืมเว๊ย ยืมเค้ามา”
“โหย...เจ๊มะพร้าวเจ๋งเนาะ มีเพื่อนขายเสื้อผ้าแบบนี้ด้วย หรูว่ะ”
“แกก็ระวังหน่อยล่ะ ใส่ของเค้าอย่าให้พัง เสร็จแล้วต้องเอามาคืนให้เรียบร้อย”
“เออน่า...ไม่ต้องห่วง ฉันมีความสุขจริงๆ ล่ะแหม่ม มีความสุขมาก...มากซะจนกลัวว่ามันจะจากฉันไปเร็ว”
“ห่าน แกอย่าเพิ่งคิดถึงอนาคตเลยนะ คิดถึงปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ถ้าถึงวันที่ทุกอย่างมันจบลง แกจะได้มีความทรงจำดีดีเอาไว้ให้คิดถึงไง”
ห่านพยักหน้า แหม่มจับมือห่านให้กำลังใจ สองคนยิ้มให้กัน
“แกนี่มันเพื่อนเลิฟฉันจริงๆ เข้าใจฉันทุกอย่าง ให้กำลังใจฉันทุกเรื่อง ไม่เหมือน...”
“เหมือนใครวะ”
“ใครบางคน เจ้าประคู้ณ ขอให้มันมีอันเป็นไป ขอให้ไข้จับหัวโกร๋น ปวดท้อง ท้องเสียจู๊ดๆ รึไม่ก็ขอให้มันตกเครื่องไปเมืองนอกไม่ได้ทีเถิ้ด” ห่านพนมมือท่วมหัว เป่าเพี้ยง
อีกด้านหนึ่ง บื้อนอนตกเตียงโครม โย่งทะลึ่งพรวด
“เฮ้ย เป็นไรวะไอ้บื้อ”
“ไม่รู้ว่ะ หลับอยู่ดีๆ ก็ตกเตียง”
“ไรวะ ปกติก็ไม่เคยนอนดิ้น”
“เออว่ะ ยังกะโดนถีบ”
“ฉันเปล่านะเว๊ย”
“รู้แล้ว”
“ตื้นเต้นละป่าว จะได้ไปเที่ยวเมืองนอก”
“ไอ้บ้า”
“ฮ่าๆๆ ตื่นเต้นจนนอนตกเตียง ฮ่าๆๆ”
บื้อถีบโย่งร่วงตุ้บลงไปกองเลย
“นี่แน่ะ ไอ้โย่ง”
“โอ๊ย ไอ้เวร พูดจี้ใจแค่นี้ โหย” โย่งกุมก้นป้อยๆ “ยังกะช้างถีบ”
“นอนๆๆ”
“ตื่นเต้นก็บอกดิ๊”
บื้อหันไปเหล่ โย่งรีบโดดขึ้นเตียงนอนเงียบ บื้อตาวาววิบวับ พรุ่งนี้จะได้ไปเมืองนอก
หลายวันต่อมา รถหรูแล่นมาจอดหน้าโรงแรมในเจนีวา bell boy เดินมาเปิดประตูทางด้านหลัง คุณชายก้าวลงมาเป็นคนแรก ก่อนจะหันไปยื่นมือที่รถ มือห่านจับมือคุณชาย ห่านออกมาจากในรถ มองโรงแรมแววตาเป็นประกาย สีหน้าเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
ด้านหลังห่านเห็นบื้อยืนอยู่ข้างประตูตรงที่นั่งข้างคนขับ มองไปที่โรงแรม ก่อนจะหันไปมองห่าน
“เข้าไปข้างในกันครับ”
“ค่ะ”
ห่านจะเดิน แต่สะดุดนิดนึง ทำให้จะล้ม คุณชายรีบประคองกอดรับห่านเอาไว้ได้ทัน คุณชายสีหน้าเป็นห่วงห่านมาก
“คุณฮันนี่เจ็บตรงไหนมั๊ยครับ”
“ไม่เลยค่ะ โชคดีที่คุณชายรับฮันนี่เอาไว้ได้ทัน”
คุณชายประคองห่านให้ยืน บื้อมองห่านเบ้หน้าหมั่นไส้
“เชิญครับ”
คุณชายยื่นแขนให้ห่านควง ห่านควงคุณชาย แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในโรงแรม ห่านตื่นตาตื่นใจตื่นเต้นมาก แต่พยายามระงับอารมณ์ไม่ให้แสดงออกมา บื้อได้แต่ถอนหายใจแล้วก็เดินตามเข้าไป
คุณชายกำลังเช็คแฮนด์กับเจ้าของโรงแรมอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม ห่านยืนอยู่ข้างคุณชาย มีบื้อยืนจ๋องๆ อยู่ข้างหลัง
“นี่คือคุณ ...เป็นเจ้าของโรงแรม Beau rivage palace และ เป็นเพื่อนสนิทกับคุณพ่อของผมครับ” คุณชายแนะนำกับห่านและบื้อ ห่านยิ้มรับ คุณชายหันไปทางเจ้าของพูดภาษาอังกฤษ “My friends Honey and Bue”
เจ้าของโรงแรมยื่นมือออกไป แต่ห่านกลับยกมือไหว้ด้วยความลืมตัว ห่านผงะ เจ้าของโรงแรมชะงัก
“โอ้...ซอรี่นะซอรี่”
บื้อส่ายหัวเอือมๆ เจ้าของโรงแรมยกมือไหว้ ห่านยื่นมือออกไปเช็คแฮนด์ ทำเอาชะงักกันไปอีกรอบ ก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะออกมา เจ้าของโรงแรมเลยดึงห่านเข้ามากอดแทน ห่านตกใจ
“Nice to meet you”
ห่านงง “พูดอะไรวะ” ก็เลยผละออกมาแล้วยิ้มอย่างเดียว
“เยส...เยส...”
เจ้าของโรงแรมนิ่วหน้า บื้อถึงกับทนไม่ไหวขำคิกออกมา ห่านได้ยินหันไปค้อนบื้อ เจ้าของโรงแรมหันมาทักบื้อ
“Nice to meet you” เจ้าของโรงแรมยื่นมือให้ ห่านเตรียมฮา
บื้อมองห่านอย่างรู้นะว่าคิดอะไรอยู่ ก่อนจะหันไปเช็คแฮนด์แล้วตอบออกมาว่า
“Nice to meet you too” บื้อแอบพูดกระแทกใส่หน้าห่าน “Sir”
ห่านเหวอ ที่บื้อพูดภาษาอังกฤษได้ บื้อเชิดๆ เริ่ดๆ ใส่ คุณชายกับเจ้าของโรงแรมก็คุยกัน ห่านกระซิบถามบื้อ
“นายพูดภาษาอังกฤษได้ไง”
“ก็ได้สิ ได้ดีกว่าเธอละกัน”
ห่านชะงัก บื้อยิ้มอย่างเหนือกว่าพร้อมยักคิ้ว คุณชายหันมา
“คุณฮันนี่ บื้อ” ห่านกับบื้อรีบหันไป “เราไปดูห้องพักกันเลยนะครับ”
“ค่ะ” ห่านฉีกยิ้ม หันไปทางเจ้าของโรงแรม “Thank you so much very much right now”
“You’re welcome”
ห่านหันไปยิ้มยืดยักคิ้วใส่บื้อ “เห็นมะ ฉันก็พูดได้” แล้วห่านก็เดินเชิดออกไปกับคุณชายและเจ้าของโรงแรม บื้อดูปลงๆ กับห่าน แล้วก็เดินตามไป
คุณชาย ห่าน บื้อ Bell boy ยืนอยู่ด้วยกัน
“Bell boy จะพาคุณบื้อไปที่ห้อง ส่วนคุณฮันนี่ ผมจะพาไปเอง”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
คุณชายเดินไปกดลิฟต์ที่อยู่ข้างๆ ไม่นานลิฟต์เปิด คุณชายผายมือให้ห่านเข้าไปก่อน แล้วคุณชายก็เดินเข้าไป
พนักงานผายมือให้บื้อ บื้อเดินขึ้นบันไดไปกับพนักงาน บื้อมองตามห่านไป
คุณชายเปิดประตู เดินนำห่านเข้ามาในห้องสูท พลางพูดไปด้วย
“โรงแรม Beau rivage palace สร้างขึ้นในปีค.ศ.1865 โดยครอบครัว Mayer”
ระหว่างที่คุณชายเล่าประวัติโรงแรม ห่านไม่ได้ฟังเลย เพราะมัวแต่ตะลึงในความโอ่อ่าและหรูหราของห้อง ห่านเดินแยกไปอีกทาง เพื่อชมห้อง โดยที่คุณชายไม่รู้ว่าห่านเปิดประตูเดินออกไปที่ระเบียงแล้ว คุณชายเลยยังพูดไปเรื่อย
“โรงแรมนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 และเป็นโรงแรมแห่งเดียวที่ยังคงสภาพเดิมมาจนถึงปัจจุบัน” คุณชายหันไปไม่เห็นห่าน ก็ตกใจ “คุณฮันนี่” คุณชายเดินหา แล้วก็เห็นห่านออกไปยืนที่ระเบียงชมวิวนอกห้อง สีหน้ามีความสุขมาก คุณชายเดินมาหยุดข้างหลังห่าน “นั่นคือยอดเขามองบลังค์” ห่านหันมา “เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์และของยุโรปตะวันตก”
ห่านหันไปมองภูเขาอีกครั้ง
“สวยมากเลยนะคะ” ห่านกอดอกเพราะลมหนาวพัดมา
“เข้าข้างในดีกว่าครับ ข้างนอกอากาศหนาวมาก เดี๋ยวจะไม่สบาย” ห่านพยักหน้า และเข้ามาข้างใน คุณชายปิดประตูและหันมา “ห้องโอเคมั๊ยครับ”
“สุดยอ...” พูดไม่จบ “สุดยอด” ก็ชะงัก นึกได้ว่าไม่ควรแสดงความชอบมาก “อืมม์...ถึงจะเล็กกว่าห้องนอนบ้านฮันนี่ไปซักนิดนึง แต่ก็โอเคค่ะ ฮันนี่อยู่ได้ สบายมาก”
“ถ้าอย่างนั้นอีกครึ่งชั่วโมง เราเจอกันที่ล็อบบี้นะครับ ผมจะพาคุณฮันนี่ไปเดินเล่น”
“ค่ะ”
คุณชายยิ้ม แล้วก็หันหลังเดินออกไป ทันทีที่คุณชายออกไปจากห้อง ห่านก็เก็บความตื่นเต้นเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป กรี๊ดลั่นห้อง
“อ๊ายยย นี่เราไม่ได้ฝันไปใช่มั๊ย” ห่านหยิกแก้มตัวเอง “อุ๊ยยย เจ็บ ไม่ได้ฝัน นังห่านเอ๊ย ทำไมแกถึงได้มีบุญแบบนี้ นี่มันสวิสเซอร์แลนด์เชียวนะเว๊ย อ๊ายยย” ห่านกระทืบเท้าด้วยความดีใจมากๆ แล้วก็กระโดดขึ้นเตียง “วู้ วู้ วู้ มีความสุขจังเลยเว๊ย วู้ วู้”
ห่านลุกขึ้นกระโดดไปกระโดดมาบนเตียง
คุณชายเดินอยู่ไม่ไกล ได้ยินเสียงห่านกรี๊ดก็รีบวิ่งกลับมาที่หน้าห้องห่าน ทันใดนั้นมีเสียงกรี๊ดห่านดังออกมา คุณชายตกใจมาก
“คุณฮันนี่”
คุณชายเห็นประตูปิดไม่สนิท คุณชายรีบเปิดประตูเข้าไปทันที สีหน้าเป็นห่วงห่านมาก
ห่านยังคงเด้งตัวไปมาบนเตียงอย่างมีความสุข ทันใดนั้นคุณชายพุ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนก
“คุณฮันนี่ครับ”
ห่านที่กระโดดอยู่บนเตียง หันไปเห็นคุณชายกลับเข้ามาก็สะดุ้งโหยง เป็นจังหวะที่กระโดดอยู่พอดี เลยทำให้เสียหลักตกเตียงโครม ขาชี้ฟ้า
“ว้าย”
คุณชายอึ้ง รีบพุ่งเข้ามาดูห่าน
“คุณฮันนี่”
ห่านเจ็บก้นกบ หน้าเหยเก
“อุ๊ย”
คุณชายรีบประคองห่านให้ลุกขึ้นยืน
“เป็นไงบ้างครับ”
“มะ...ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ”
“ผมได้ยินเสียงคุณฮันนี่กรี๊ด ก็เลยรีบเข้ามาดู คุณฮันนี่เป็นอะไรรึเปล่า” ห่านหน้าถอดสี
“ไม่เป็นไรค่ะ เสียงที่คุณชายได้ยินคือเสียงมือถือของฮันนี่เองค่ะ”
“มือถือ ว่าแต่คุณฮันนี่ขึ้นไปกระโดดบนเตียงทำไมครับ”
“ออ คือ อ่า” ห่านอึกอักคิดคำแก้ตัว “ฮันนี่เป็นคนมีปัญหาเรื่องที่นอนน่ะค่ะ ก็เลยต้องทดสอบนิดหน่อยว่านิ่มเกินไปรึเปล่า ไม่อย่างนั้นฮันนี่จะปวดหลัง”
“อ๋อ แล้วเตียงนิ่มไปรึเปล่าครับ”
“ไม่เลยค่ะ” ห่านรีบเปลี่ยนเรื่อง “เอ่อ...เดี๋ยวเราจะไปเที่ยวทะเลสาปกันใช่มั้ยคะ”
“ใช่ครับ อากาศข้างนอกหนาวมาก คุณฮันนี่เตรียมแจ็คเก็ตไว้หน่อยนะครับ”
“งั้นฮันนี่ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึง ขอบคุณคุณชายมากนะคะ”
“อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ”
คุณชายเดินออกไป ห่านหันไปมองรอบๆ อีกครั้ง หมุนตัวติ้วจะกรี๊ดออกมาแล้วก็นึกขึ้นได้ รีบปิดปากแล้วก็กรี๊ดออกมาเบาๆ
“ชั้นไม่ได้ฝัน นังห่าน แกไม่ได้ฝัน”
ห่านเดินเยื้องย่างเข้ามาที่ล็อบบี้ของโรงแรม ห่านนั่งลงเปิดตลับแป้งเช็คหน้าอีกครั้ง ขณะที่นั่งรอคุณชาย ไม่นานก็มีคนมายืนใกล้ๆ ห่านนึกว่าคุณชาย รีบปิดตลับแป้ง เก็บใส่กระเป๋า แล้วลุกขึ้นหันไปยิ้มหวานมาก
“คุณชาย” แต่ปรากฏว่ากลายเป็นบื้อแทน บื้อยิ้มกวนตรีนใส่ห่าน ห่านหุบยิ้มทันที “มายืนเกะกะทำไมตรงนี้ บังวิวหมด”
“ก็คุณชายบอกให้มาเจอที่นี่ จะพาไปเดินเล่นริมทะเลสาบ”
“คุณชายชวนนายด้วยเหรอ”
บื้อยักคิ้ว ยังไม่ทันที่ห่านจะได้โต้ตอบ คุณชายก็เดินมา
“ไปกันเลยนะครับ”
“ค่ะ”
คุณชายเดินนำออกไปก่อน ห่านค้อนบื้อ แล้วก็สะบัดพรืด ตามคุณชายออกไป บื้อแบะปาก แล้วก็เดินตามออกไป
คุณชายพาบื้อกับห่านเดินไปรอบๆทะเลสาปเจนีวาเห็นเป็ด เห็นหงส์ที่กำลังว่ายน้ำ คุณชายชี้ไปตามทาง พลางอธิบายไปด้วย ห่านดี๊ด๊ามาก มองวิวทีนึงแล้วก็มองหน้าคุณชายด้วยสายตาที่เคลิบเคลิ้มสลับกันไปมา บื้อสังเกตเห็นสีหน้าห่านก็นึกหมั่นไส้
คุณชายขอให้บื้อถ่ายรูปคู่ให้ บื้อแกล้งถ่ายห่านครึ่งหน้า ห่านค้อนเคือง บื้อขำ
คุณชายอาสาถ่ายรูปให้บื้อ บื้อปฎิเสธ คุณชายคะยั้นคะยอ ห่านแหวะใส่
คุณชาย ห่าน บื้อเดินกันอยู่ริมทะเลสาปเจนีวา โดยที่บื้อเดินตามหลังคุณชายกับห่าน คุณชายชี้ไปที่น้ำพุกลางทะเลสาป
“นี่คือน้ำพุเจ็ทโด้ สัญลักษณ์สำคัญประจำทะเลสาปเจนีวา มีความสูง 390 ฟุต ถ้าใครมาเจนีวา แล้วไม่ได้มาดูน้ำพุนี้ แสดงว่ามาไม่ถึงเจนีวา” ห่านยิ้ม คุณชายยิ้มตอบ บื้อเห็นท่าทางห่านแล้วก็หมั่นไส้ “แล้วอีกอย่าง ทะเลสาปเจนีวา ยังเป็นสถานที่สุดแสนจะโรแมนติกประจำเมืองนี้เลยนะครับ”
“นี่ถ้าได้มากับคนรัก สองต่อสอง โดยไม่มีคนอื่น” ห่านจงใจพูดแขวะบื้อ “คงจะโรแมนติก ม๊ากกกเลยนะคะ”
บื้อรู้ว่าห่านจงใจพูดให้เค้าได้ยิน แต่ก็ไม่อยากตอบโต้อะไร ระหว่างนั้นเสียงมือถือคุณชายดังขึ้น คุณชายหยิบออกมากดรับสาย
“ฮัลโหล” คุณชายฟัง แล้วพูดไปยิ้มไป “อยู่เจนีวาแล้ว” ห่านหันไปมองท่าทางคุณชายที่คุยโทรศัพท์สีหน้ามีความสุขก็สงสัย บื้อมองห่าน สลับกับมองคุณชาย “เสียงไม่ค่อยชัดเลย แป๊บนึงนะ” คุณชายหันไปทางห่าน ห่านรีบทำหน้าปกติ “ขอตัวซักครู่นะครับ”
“ค่ะ”
คุณชายเดินออกไปคุยโทรศัพท์สีหน้ายังยิ้มไม่หุบ ห่านมองตามใจไม่ดี บื้อมองห่านรู้ทัน ห่านพยายามชะเง้อคอยาวมองตามคุณชาย แต่คุณชายเดินเลี้ยวไป ห่านหงุดหงิด..อยากรู้ บื้อเดินมายืนข้างๆ
“แฟนโทรมาชัวร์”
ห่านไม่พอใจ หันขวับไปเจอหน้าบื้อระยะใกล้ บื้อชะงัก มองหน้าห่านใกล้ แต่ห่านไม่รู้สึกอะไร
“คุณชายยังไม่มีแฟนย่ะ”
“รู้ได้ไง เค้าเคยบอกเธอเหรอ” ห่านคิด “ไม่เคยบอก” ชักใจไม่ดี บื้อมองห่านแล้วก็ยิ้ม “ไง ไม่เคยบอก ใช่ป่ะ”
ห่านพูดไม่ออก เดินหนี บื้อเดินตาม
ห่านเดินมาตรงด้านหน้า Flower clock บื้อเดินตามมาติดๆ
“ผู้ชายเพอร์เฟคอย่างคุณชาย ทั้งหล่อทั้งรวย มีเหรอจะเหลือ”
ห่านหยุดตรงหน้า Flower clock หันขวับมาทางบื้อ
“ไอ้บ้าบื้อ เงียบไปเลย ยังไงฉันก็เชื่อว่าคุณชายยังไม่มีแฟน นายไม่ต้องมาพูดให้ฉันหวั่นไหวหน่อยเลย”
ห่านหันหลังกลับแล้วเดินออกไป บื้อเดินตาม
ห่านเดินเข้ามาตรงบริเวณ English garden สีหน้ากังวลใจในสิ่งที่บื้อพูด พอหันไปก็เห็นบื้อเดินตามมา
“ตามฉันมาทำไม”
“ไม่ได้ตามซักหน่อย”
ห่านหันไปทางอื่น แล้วก็เริ่มหนาวมากขึ้น ห่านยกมือขึ้นมากอดอก
“เมื่อไหร่คุณชายจะกลับมาเนี่ย”
ห่านปากคอสั่น เอามือขึ้นมาเป่า บื้อเหล่มอง แล้วก็ถอดเสื้อตัวเอง เดินมาจะคลุมให้ห่าน แต่ยังไม่ทันคลุม ห่านรู้ตัว สะดุ้ง ตกใจ รีบหันไป
“นายจะทำไร”
“ก็เห็นว่าหนาว”
“ไม่ต้อง ไม่หนาว” แต่เสียงสั่น
“เธอนี่มันจอมหลอกลวงจริงๆ หลอกว่าไม่ใช่ตัวเอง หลอกว่าตัวเองไม่หนาว แล้วยังจะหลอกอะไรอีกเนี่ย”
“ไอ้ซื่อบื้อ” บื้อยื่นเสื้อออกไป
“จะเอามั๊ย” ห่านเงียบ “ตาม-ใจ”
บื้อจะใส่เสื้อ ห่านรีบคว้าเสื้อบื้อมาใส่ทันที บื้อมองห่านยิ้มๆ ห่านรู้สึกดีขึ้น ค่อยยังชั่ว
คุณชายเดินกลับมาที่ริมทะเลสาป ไม่เห็นห่านกับบื้อก็แปลกใจ คุณชายหันไปมองหารอบๆ แต่ก็ไม่เห็น
ห่านรู้สึกอุ่นขึ้น หันไปเห็นน้ำพุที่ยังไม่ได้เปิดก็นึกชอบ หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าสะพายหันไปทางบื้อ
“ถ่ายรูปให้หน่อย”
“โห...รุ่นไหนเนี่ย”
ห่านเงื้อมือจะตีหัวบื้อ
“ให้ถ่าย ไม่ได้ให้ถาม”
บื้อรับกล้องมาจากห่าน ห่านไปยืนโพสตรงหน้าน้ำพุ บื้อถ่ายรูปทันทีโดยที่ห่านไม่ทันตั้งตัว
“เสร็จแล้ว”
“บ้าเหรอ ฉันยังไม่ทันโพสเลย ไหนดูสิ” ห่านเอามือถือมาดูเห็นตัวเองอ้าปากหวอก็ไม่พอใจ “ถ่ายใหม่”
“ธรรมชาติดีออก”
“ไม่เห็นจะดีตรงไหน นับด้วยสิ”
ห่านส่งกล้องคืนให้บื้อ บื้อรับมา ห่านแอคท่าคิกขุ บื้อส่ายหัว
“หนึ่ง ส่อง ส่าม”
บื้อกดถ่ายแชะ น้ำพุเปิดพอดี ห่านตกใจ
“ว้าย” ห่านเซจะล้ม บื้อพุ่งเข้าไปรับห่านเอาไว้ในอ้อมกอดได้ทัน หน้าห่านอยู่ใกล้บื้อไม่ถึงคืบ บื้อถึงกับหวั่นไหว แต่ห่านไร้ความรู้สึกใดใด “เฮ้อ...เกือบไปแล้ว”
ห่านถอนใจ แล้วก็นึกได้ว่าบื้อยังกอดเธออยู่ ห่านหันไปตีหัวบื้อ บื้อร้องลั่น
“โอ๊ย ตีหัวฉันทำไม”
“ปล่อยฉันสิ”
“คิดว่าฉันอยากกอดเธอนักเหรอ”
บื้อกระชากห่านเข้ามาใกล้ ห่านชะงัก จ้องหน้าบื้อที่ใกล้มากๆ คุณชายเดินเข้ามาพอดี
“อยู่ที่นี่กันเอง”
ทั้งห่านทั้งบื้อสะดุ้ง
“ปล่อย” ห่านบอกเสียงดัง บื้อรีบปล่อยห่านโครม ห่านร่วงกองกับพื้น “โอ๊ย”
คุณชายตกใจมาก รีบพุ่งไปประคอง
“คุณฮันนี่ เป็นอะไรมากมั้ยครับ”
“อีตาบ้า ปล่อยฉันทำไม” ห่านโวยบื้อ
“อ้าว ก็เมื่อกี๊คุณบอกให้ปล่อย”
“โอย” ห่านพูดไม่ออก
“ไหวมั้ยครับ ผมตั้งใจว่าจะพาไปเดินเที่ยวเมืองเก่า แต่ถ้าไม่ไหว เรากลับโรงแรมกันเลยดีกว่า”
“ไหวค่ะไหว ฮันนี่ ไหวค่ะ”
ห่านรีบบอก บื้ออมยิ้ม ห่านถลึงตาใส่ คุณชายยื่นแขนให้เกาะ
“ให้ผมช่วยนะครับ”
ห่านมองคุณชาย ยิ้ม ค่อยๆ ควงแขน
“ขอบคุณค่ะ” บื้อวูบนิดๆ ห่านหันมาเหล่ ค้อนบื้อ ก่อนจะหันไปบอกคุณชาย “ไปกันเถอะค่ะ”
คุณชายพาเดินออก บื้อมองตามวูบๆ ก่อนจะเดินตามไป
คุณชายกับห่านเดินด้วยกัน คุณชายพูดไปตลอดทางแนะนำเมือง มีบื้อเดินตาม มองห่านกับคุณชายหน้าเซ็ง
คุณชายออกมาจากร้านกาแฟพร้อมถือแก้วสามใบ ส่งให้บื้อกับห่านแล้วก็เดินกันต่อไป ห่านมีความสุขมากๆ ผิดกับบื้อที่รู้สึกขัดหูขัดตาเวลาเห็นห่านใกล้ชิดกับคุณชาย โดยที่ไม่รู้สาเหตุ
จบตอนที่ 5
อ่านต่อตอนที่ 6 พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.