xs
xsm
sm
md
lg

ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3

ภายในร้านอาหารฝรั่ง ห่านกับคุณชายนั่งกันดูเมนูอยู่ที่ริมหน้าต่างซึ่งมองเห็นความงามของกรุงเทพยามค่ำ

“คุณฮันนี่ทานอะไรดีครับ ร้านนี้เค้าอร่อยทุกเมนู”
“คุณชายมีอะไรแนะนำฮันนี่มั้ยคะ”
คุณชายยิ้ม หันไปทางพนักงาน
“ของคุณผู้หญิงขอเป็น Buffalo Mozzarella and tomato salad with Serrano ham and rocket leaves”ห่านเหวอ “ส่วนของผมขอเป็น Red wine risotto with duck liver...คุณฮันนี่ดื่มไวน์มั้ยครับ” คุณชายหันมาถามห่าน
“ไวน์ โอ้...ดื่มสิคะ ฮันนี่ดื่มเป็นประจำ”
“มงกราส์ ปี 2001 นะครับ ไม่แพง แต่รสชาติดีมากเลย”
“เอ่อ...ค่ะๆ อะไรก็ได้ค่ะ ฮันนี่ได้หมด”
คุณชายหันไปสั่ง พนักงานเดินออกไป คุณชายหันมายิ้มให้ห่าน
“ของดีบางทีก็ไม่จำเป็นต้องราคาแพง คุณฮันนี่ว่าจริงมั้ยคะ” ห่านสะดุ้ง
“จริงค่ะ ถูกต้องที่สุด”
“สวยจังเลยนะครับ”
ห่านหันไปมองวิว
“ค่ะ วิวสวยมาก”
“ผมหมายถึงผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าผมต่างหากล่ะครับ”
ห่านหน้าแดงซ่าน ถึงกับไปไม่ถูก

ดาหลาเดินมาหยุดตรงหน้าร้านอาหารฝรั่ง แววตามาดร้ายสุดๆ
พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟตรงหน้าห่าน
“เชิญเลยครับ ผมอยากให้คุณชิม”
“ได้ค่ะ”
ห่านตักทาน คุณชายมอง
“รสชาติดีอย่างที่ผมบอกมั้ย”
“ค่ะ รสชาติดีมาก ฮันนี่ไม่เคยทานมาก่อน” ห่านชะงัก “เออ...ฮันนี่หมายถึง ไม่เคยทานร้านนี้มาก่อนน่ะค่ะ”
“ร้านนี้เค้าใช้นมควายมาทำชีสน่ะครับ” ห่านสำลักทันทีกับคำว่า “นมควาย” คุณชายตกใจรีบเอากระดาษให้ ห่านรับมาเช็ดปาก “คุณฮันนี่เป็นไงบ้างครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ห่านไม่กล้าทานต่อ “เออ คุณชายคะ ฮันนี่มีเรื่องสำคัญอยากบอกคุณชายค่ะ”
คุณชายมองหน้าห่าน ห่านดูตื่นเต้นมากที่ต้องสารภาพบาปว่าเธอโกหกเค้า
อีกด้าน ดาหลามองหาคุณชายไปรอบร้านก็เห็นคุณชายนั่งอยู่ คุณชายหันหน้ามาทางเธอและห่านนั่งหันหลัง ดาหลาจำแผ่นหลังของห่านได้ทันที เพราะเป็นแผ่นหลังเดียวกับผู้หญิงในหนังสือพิมพ์ ดาหลาหรี่ตาร้ายกาจ
“จะได้รู้กันซักทีว่าแกเป็นใคร”
ห่านยังไม่กล้าที่จะพูดออกมา
“คุณฮันนี่มีอะไรก็พูดมาเถอะครับ”
“คือ...ฮันนี่ ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน”
ยังไม่ทันที่ห่านจะพูดต่อ พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟตรงหน้าคุณชาย แล้วก็เดินออกไป
“ถ้าคุณฮันนี่ยังไม่พร้อมที่จะพูด เราทานอาหารกันให้เสร็จก่อนก็ได้นะครับ”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ”
ห่านจะทานต่อ แต่ก็ชะงักไม่กล้ากินชีสนมควาย เลยจิ้มผักข้างๆ ขึ้นมาทาน คุณชายมองห่านแล้วก็ยิ้ม ตักข้าวในจานตัวเองขึ้นมา
“Risotto หน่อยมั้ยครับ”
ห่านเหวอเพราะตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินชื่อข้าวพันธุ์นี้
“คะ”
“ข้าวอิตาเลี่ยนผัดกับไวน์แดง รสชาติดีทีเดียว ชิมหน่อยนะครับ”
คุณชายยื่นช้อนไปตรงหน้าห่าน ห่านแทบสิ้นสติไปตรงนั้น
“พระเจ้า คุณชายผู้สูงศักดิ์กำลังจะป้อนข้าวสาวห้างอย่างฉัน” ห่านคิดในใจก่อนจะพูดออกมาว่า “ฮันนี่ทานเองก็ได้ค่ะคุณชาย”
คุณชายยิ้มปลื้มว่าฮันนี่ไว้ตัว ไม่เหมือนดาหลา
ห่านรับช้อนจากมือคุณชายแล้วทานข้าวสายพันธุ์ใหม่ พลันเสียงดาหลาก็ดังขึ้น
“สวัสดีค่ะคุณชาย”
ห่านผงะที่ได้ยินทักทายคุณชายจากข้างหลัง ดาหลายืนด้านหลังห่าน ห่านไม่กล้าหันไป คุณชายเห็นดาหลาก็ตกใจ
“คุณดาหลา”
ห่านหน้าเสีย
“บังเอิญจังเลย ไม่นึกว่าจะได้มาเจอคุณชายที่นี่” คุณชายลุกขึ้นยืน
“คุณดาหลามาที่นี่ได้ไงครับ”
“ดาหลานัดเพื่อนไว้ที่ร้านนี้น่ะค่ะ” ดาหลาหันไปมองห่าน “นี่เหรอคะ คุณเฮนรี่ที่คุณชายบอก ตอนฟังชื่อนึกว่าผู้ชาย”
ห่านชะงัก คุณชายกลืนน้ำลาย คุณชายหันมาทางห่าน
“คุณฮันนี่ นี่คุณดาหลา คุณดาหลา นี่คุณฮันนี่ครับ”
ห่านนิ่งไปสองวินาที คิดตัดสินใจ
“เอาวะเป็นไงเป็นกัน เค้าคงจำเราไม่ได้หรอก” ห่านลุกขึ้นยืน หันหน้าไปทางดาหลาแล้วก็ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร โดยไม่รู้ว่ามีข้าวติดที่ริมฝีปาก ทันทีที่ดาหลาเห็นหน้าห่านก็ชะงักไปนิดนึง ห่านหน้าซีดสุดๆ “ทำไมมองหน้าเราแบบนี้ หรือว่าเค้าจะจำเราได้” ห่านคิดในใจ ดาหลาแค่นยิ้มออกมา
“คุณฮันนี่ท่าทางจะหิวมากนะคะ”
ห่านนิ่วหน้า คุณชายเห็นข้าวติดปากห่าน
“ขอโทษนะครับคุณฮันนี่”
คุณชายหยิบข้าวออกจากปากห่านด้วยความสุภาพ ทำให้ดาหลาไม่พอใจอย่างแรง ส่วนห่านได้แต่อึ้ง
“ขอบคุณมากค่ะ” ห่านหันไปทางดาหลาอย่างโล่งใจ มั่นใจว่าดาหลาคงจำเธอไม่ได้แน่ๆ ห่านยื่นมือออกไปตรงหน้าดาหลา “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณดาหลา”
ดาหลายื่นมือออกไปจับห่าน
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณฮันนี่”
ดาหลากับห่านจับมือกันแน่น ตาจ้องตากัน แล้วดาหลากับห่านก็ปล่อยมือออกจากกัน ดาหลานึกอะไรออก ทำเป็นว่ามีสายเข้า ดาหลาหยิบมือถือออกมากดรับ
“ฮัลโหล...ว่าไงนะ ไม่ว่างมาทานข้าวกับฉัน แต่นี่ฉันอยู่ร้านอาหารแล้วนะ ติดธุระด่วน โอเคจ๊ะโอเค ไม่ว่ากัน ไว้นัดกันใหม่คราวหน้า”
ดาหลาวางสาย หันมาทางคุณชายกับห่าน
“แย่จังค่ะ เพื่อนเบี้ยวนัดซะแล้ว สงสัยต้องทานข้าวคนเดียว” คุณชายเงียบ ห่านเงียบ ดาหลาทำเป็นถอนหายใจเศร้าสุดๆ “ขอทานข้าวด้วยคนนะคะ”
คุณชายมองห่านอึ้ง ห่านก็อึ้ง ดาหลาหน้ามีชัย

พนักงานรินไวน์ให้ห่าน ดาหลา และคุณชาย ดาหลาจ้องหน้าห่านไม่วางตา จนห่านอึดอัด
“ฉันอยู่ในแวดวงไฮโซมานาน ไม่ยักเคยเจอคุณฮันนี่เลยนะคะ”
“ฉันเพิ่งกลับมาจากอเมริกาน่ะค่ะ เลยไม่ค่อยได้ไปที่ไหน เพราะฉันเป็นคนชอบอยู่บ้าน”
“อ๋อ”
พลันเสียงมือถือคุณชายดังขึ้น คุณชายหยิบขึ้นมา คุณชายกดรับสาย
“ครับคุณแม่ ในนี้สัญญาณไม่ค่อยดี คุณแม่รอซักครู่นะครับ” คุณชายหันไปทางห่านกับดาหลา “ผมขอตัวก่อนนะครับ”
ห่านกับดาหลายิ้ม คุณชายเดินออกไป เท่านั้นแหละสองสาวก็เปิดศึกใส่กันทันที
“นี่หล่อนไม่รู้เหรอว่าคุณชายเป็นของใคร”
“ไม่รู้ เพราะไม่เห็นคุณชายมีป้ายแขวนเอาไว้”
“งั้นก็รู้ไว้ซะว่าคุณชายเป็นของฉัน อย่ามาทำตัววุ่นวายให้ท่า ไม่งั้นหล่อนได้เห็นฤทธิ์ของฉันแน่ว่าน่ากลัวแค่ไหน”
“แค่เห็นหน้า ฉันก็รู้แล้วค่ะว่าคุณดาหลาน่ากลัวมาก”
“แกกล้ามาต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ”
“แก เลยเหรอ” ห่าคิดในใจแล้วพูดออกมา “มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องไม่กล้าด้วยคะคุณ “แบหลา” ดาหลาผงะ “เอ๊ย คุณดาหลา” ดาหลาโมโหมาก มือจิกเก้าอี้แน่น ใต้โต๊ะดาหลาเอารองเท้าส้นสูงแตะเข้าที่หน้าแข้งของห่านอย่างแรง ห่านสะดุ้งเจ็บมาก “โอ๊ย”
เสียงดังทำให้คนทั้งร้านหันมามอง ห่านผงะ ดาหลายิ้มเยาะ ห่านสุดทน ใช้รองเท้าส้นสูงเตะเข้าที่หน้าแข้งดาหลากลับอย่างแรง ดาหลาร้องจ๊าก
“อ๊าย”
คนทั้งร้านหันมามอง ดาหลารีบแสร้งยิ้มนางงามทันที แล้วก็หันไปขวับไปจ้องหน้าห่านเอาเรื่อง
“แกมันร้ายกว่าที่ฉันคิดเอาไว้นะนังฮันนี่”
“สมองน้อยก็คิดน้อยงี้แหละค่ะ” ห่านตาวาว “รู้ไว้ซะด้วย ไอ้ที่คุณคิดไว้ยังไม่ได้เศษเสี้ยวขี้เล็บของความร้ายที่ฉันมีเลยค่ะ คุณนางงาม”
ดาหลาเลือดขึ้นหน้าเตรียมจะคว้าแก้วไวน์สาดหน้าห่าน ห่านก็คว้าแก้วไวน์จะสาดสู้ ทันใดนั้นคุณชายกลับมา
“ขอโทษนะครับที่ทำให้รอนาน”
คุณชายชะงักเมื่อเห็นท่าทางของสองสาว สองสาวสตรอเบอรี่พร้อมกันทันที ชนไวน์กันกริ้ง
“เพื่อมิตรภาพของเรา... เชียรส์”
ห่านทำหวาน ตาวาว กระแทกเสียง
“เชียร์” ฟังแล้วคล้ายๆ จะด่า ดาหลาสะดุ้ง
“จ้า”
“จ้า”
“คุณดาหลากับคุณฮันนี่จะรับของหวานมั้ยครับ”
“ไม่ค่ะ” สองสาวบอกพร้อมกัน
ห่านกับดาหลาหันขวับมามองหน้าพร้อมกัน
“ดึกแล้ว ฮันนี่ขอตัวกลับนะคะ เดี๋ยวคุณหญิงแม่จะเป็นห่วง”
ดาหลาแสยะหมั่นไส้
“จริงสิ ท่านจะโกรธผมมั้ยครับ”
“ไม่หรอกค่ะ คุณชายอย่ากังวลเลยค่ะ”
คุณชายหันไปเรียกพนักงาน ดาหลามองห่านไม่ชอบขี้หน้ามากๆ

ห่าน คุณชาย ดาหลาเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยกัน
“รถคุณฮันนี่อยู่ไหนครับ?”
“ฮันนี่โทรตามแล้วค่ะ กำลังมา”
“ผมอยู่รอเป็นเพื่อนนะครับ”
ห่านลนลานรีบพูด
“ไม่ต้องค่ะ คนรถของฮันนี่ เอารถออกไปเติมน้ำมัน คงอีกนานกว่าจะมาถึง”
“ผมไม่อยากให้คุณฮันนี่รอคนเดียว มันอันตราย”
ห่านหน้าถอดสีจนดาหลาแปลกใจ
“ถ้าอย่างนั้นดาหลารอเป็นเพื่อนด้วยอีกคนนะคะ”
ห่านผงะ กลืนน้ำลายเอื๊อก ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดี
“งั้น ฮันนี่ขอไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
ห่านรีบเดินเข้าไปในร้านอาหารอีกครั้ง ดาหลามองตามห่านรู้สึกสงสัย

ห่านรีบเข้าห้องน้ำ แล้วล็อกประตู หน้าแย่มาก
“ซวยแล้วห่าน ทำไงดีเนี่ย”
ห่านคิดๆๆ แล้วก็นึกออก

บื้ออยู่ที่บ้านเช่า กำลังคุยโทรศัพท์กับห่าน
“ว่าไงนะ” โย่งที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากถ้วยถึงกับสำลักเพราะเสียงที่ดังของบื้อ “แล้วไมฉันต้องช่วยเธอด้วย”
ห่านแอบคุยโทรศัพท์อยู่ในส้วม
“ถ้านายช่วยฉัน ฉันจะยอมเป็นทาสรับใช้นายเพิ่มอีกสามวัน” บื้อไม่สนใจ
“สามวัน”
ห่านไม่พอใจ แต่จำต้องทน
“ห้าวัน”
“เฮ้อ...แค่นั้น
“หนึ่งอาทิตย์ หนึ่งอาทิตย์ ขาดตัว ไม่เพิ่มแล้วนะ” ห่านรีบบอก บื้อวางสายสีหน้ากระหยิ่มได้ใจมาก โย่งแปลกใจ
“มีไรวะ”
“ยืมสูทแกหน่อยดิ”

โย่งมองบื้อสงสัยว่าจะเอาไปทำอะไร

ห่านยืนอยู่กับคุณชายและดาหลา สีหน้าร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด ดาหลาแปลกใจมากขึ้น
“ทำไมคนรถคุณฮันนี่เอารถไปเติมน้ำมันช้าจังคะ ถ้าเป็นฉัน ฉันไล่ออกไปแล้ว”
“คนรถของฉันโทรมาบอกว่ารถติดน่ะค่ะ เห็นว่ามีอุบัติเหตุ รถสิบล้อประสานกับงากับรถพ่วง”
ระหว่างนั้นมีลูกค้ากำลังจะเดินเข้าร้าน กำลังพูดคุยกัน
“โชคดีนะที่วันนี้รถไม่ติดเลยมาถึงเร็ว”
ลูกค้าเข้าไปในร้าน ห่านหน้าซีด ดาหลาหันไปมองห่านแบบจับผิด
“เค้าคงจะมาคนล่ะทางกับคนรถของฉันน่ะค่ะ ถ้ายังไงคุณชายกับคุณดาหลาจะกลับกันก่อนก็ได้นะคะ ฮันนี่เกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมอยู่ได้” คุณชายหันไปทางดาหลา “คุณดาหลาจะกลับไปก่อนก็ได้นะครับ”
“ไม่ล่ะค่ะ ดาหลาไม่รีบ”
ดาหลาหันไปมองห่าน ห่านหันไปทางอื่น กังวลใจมากๆ
“จะถึงเหรอยังเนี่ย” ห่านพึมพำกับตัวเอง
ไม่นานมีรถหรูแล่นมาจอดตรงหน้าห่าน คุณชายและดาหลา ห่านชะงัก ประหลาดใจมาก ไม่นานบื้อในชุดสูท มัดผม ใส่หมวกแบบพวกคนขับรถฝรั่ง เดินออกมา บื้อขยับหมวกให้ปิดหน้าเพื่อไม่ให้คุณชายเห็นหน้า
ทันทีที่ห่านเห็นบื้อก็งงมากๆ บื้อก้มหน้าก้มตารีบมาเปิดประตูทางด้านหลังให้ห่าน
“รถคุณฮันนี่มาแล้ว” คุณชายบอก ห่านรีบตั้งสติ
“ฮันนี่กลับนะคะ ขอบคุณคุณชายกับคุณดาหลาที่ยืนรอเป็นเพื่อน”
“แล้วผมจะโทรหานะครับ”
ดาหลาหันขวับไปมองคุณชายไม่พอใจ ห่านจึงแกล้งเย้ยดาหลาซะเลย
“ค่ะ ฮันนี่จะรออย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะค่ะ”
ดาหลามองห่านไม่พอใจมาก ห่านขึ้นรถ บื้อรีบปิดประตูแล้วขึ้นรถขับออกไปทันที ดาหลาหันไปจะพูดกับคุณชาย
“ผมกลับนะครับ”
คุณชายเดินออกไปอย่างไม่แคร์ ดาหลาแทบกรี๊ด

ภายในรถ บื้อถอดหมวกออกวางข้างตัว ห่านยื่นหน้ามาข้างๆ
“นายเอารถคันนี้มาจากไหน อย่าบอกนะว่าขโมยเค้ามา”
“ปาก มันน่าช่วยมั้ยเนี่ย” ห่านยิ้มแหย
“ขอโทษๆ แล้วตกลงนี่รถใคร”
“ฉันซี้กับเฮียเจ้าของร้านจักรยาน เค้าเลยให้ฉันยืมรถเค้า”
“อ๋อ”
ห่านพูดจบก็นั่งเอนหลังพิงเบาะด้วยความสบายใจ บื้อขยับกระจกด้านหน้ามองหน้าห่าน บื้อตกใจเบรกรถเอี๊ยด ห่านหัวทิ่มร้องจ๊าก
“เฮ๊ยๆ อย่าพิงเดี๋ยวเลอะหมด”
บื้อรีบลงจากรถ เปิดประตูเอามือผลักหัวห่านอย่างแรง
“อูย มือหรือเท้าวะ ยังกะถีบ”
“นี่ ฉันอุตส่าห์มาช่วย ไม่คิดจะขอบใจซักคำเหรอไง”
ห่านวางมาดคุณนาย
“ไปขับรถไปนายบื้อ คนขับรถอย่างนายไม่ต้องพูดมาก”
บื้อฟึดฟัดเดินมาขึ้นรถ มองห่านผ่านทางกระจกด้วยความอึ้ง
“เธอนี่มัน”
“ชู่ว์...ฉันต้องการความสงบ”
บื้อมองห่าน เห็นห่านเปิดกระจก เอามือออกไปรับลมด้านนอก สีหน้ามีความสุขมาก ตะโกนลั่น
“มีความสุขจังเว๊ยยย” บื้อหน้าเจ้าเล่ห์ แกล้งเบรกอย่างแรง ห่านหน้าแทบคะมำ “อ๊าย นายบื้อ”
โกหกตัวเองรึเปล่า หลอกลวงเค้าขนาดนี้จะมีความสุขไปได้นานแค่ไหน”
“หุบปาก ขับรถไป”
บื้อส่ายหน้าเซ็ง ออกรถอย่างแรง ทำให้ห่านหงายหลัง
“อ๊าย” รถแล่นออกไป มีเสียงห่านดังออกมา “ขับรถประสาอะไร นายขับรถเป็นรึเปล่าห๊ะ กลับไปขี่จักรยานดีกว่ามั๊ย”
รถเบรกกระตุกไปตลอดทาง พร้อมกับเสียงห่านร้องเป็นระยะๆ

ทางด้านดาหลาเมื่อกลับถึงบ้าน ดาหลาเหวี่ยงกระเป๋าลงบนโซฟาด้วยความโมโห ดารัณพุ่งตัวโดดเข้ามาอุ้มกระเป๋ายังกะGoal รับลูกฟุตบอล
“เบาสิคะลูก ใบนี้สองแสนเลยนะคะ ใครทำให้ลูกแม่โมโหบอกมาสิคะ”
“ดาหลาเจอนังผู้หญิงหลังขาวๆ ที่เต้นรำกับคุณชายแล้วค่ะ” ดารัณผงะตาโต
“มันเป็นใครคะ”
“มันชื่อว่าฮันนี่ กระแดะตั้งชื่อซะหวาน แต่หน้าตาสวนทางกับชื่อสุดๆ แล้วดูท่าทางคุณชายก็จะหลงมันมากด้วย ดาหลาไม่ยอมอ่ะ” ดาหลาจะร้องกรี๊ด ดารัณรีบห้าม
“หยุดค่ะ ห้ามกรี๊ดเด็ดขาด ความที่ลูกชอบใช้อารมณ์และไม่ใช้สมอง คุณชายถึงได้ไม่สนใจลูกยังไงล่ะคะ”
“ทำไมคุณแม่มาว่าดาหลาแบบนี้ล่ะคะ”
“อุ้ย แม่ขอโทษค่ะ ว่าแต่ยัยฮันนงฮันนี่มันเป็นใคร ทำไมคุณชายถึงได้ไปชอบมัน”
“ดาหลาไม่รู้”
“เอ้า...ลูกต้องรู้ให้ได้นะคะว่ามันเป็นใคร จะสู้กับนังนั่น เราต้องรู้จุดอ่อนของมัน ไม่งั้นเราก็จะสู้มันไม่ได้”
“จะว่าไปนังนี่ก็มีอะไรแปลกๆ เหมือนกันนะคะคุณแม่ มันดูล่อกแล่ก มีพิรุธ เหมือนมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้”
“ถ้าอย่างนั้นเราต้องล้วงแคะแกะแงะหามันให้เจอ และที่สำคัญลูกคนสวยของแม่ ต้องเฟคให้มากกว่านี้” ดารัณจับหน้าดาหลาให้หันมา “ลูกต้องทำตัวเป็นสาวน้อยผู้แสนดี แล้วก็หาจังหวะเหมาะๆ ใส่ไฟยัยนั่นให้มันเป็นตัวร้าย เท่านี้ลูกก็จะได้พระเอกอย่างคุณชายมาครอบครอง”
ดาหลาคิดตามที่แม่พูดแล้วก็เห็นด้วย

ห่านเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมานั่งที่โซฟา พร้อมกับเอาผ้าขนหนูเช็ดๆๆไปที่ผม เสียงเคาประตูดังขึ้น ห่านเดินไปเปิดประตูเห็นบื้อยืนอยู่ ห่านตกใจรีบเอาผ้าขนหนูมาคลุมตัวไว้เพราะใส่ชุดนอน
“มาทำไมอีกห๊ะ”
บื้อยื่นกระดาษให้ ห่านรับมามองแบบงงๆ ห่านดูกระดาษที่บื้อส่งให้เห็นเป็นตารางการทำงานบ้านของห่าน แบ่งเป็นสองช่อง ช่องวันเดือนปีกับช่องที่ให้ห่านเซ็นชื่อ ห่านเงยหน้ามองบื้อ
“เวอร์ไปป่ะ ฉันไม่เบี้ยวนายหรอกน่า เอาคืนไป” ห่านยื่นกระดาษตรงหน้าบื้อ บื้อปัดมือห่านออก
“ฉันไม่ไว้ใจ”
“ใช่สิ คนที่ไม่น่าไว้ใจอย่างนาย มันก็ต้องไม่กล้าไว้ใจคนอื่น”
“ใช่ โดยเฉพาะ เธอ”
ห่านไม่พอใจ กำลังจะด่า บื้อหยิบมือถือออกมาท่าจะกดโทรออก
“โทรหาคุณพรเพ็ญดีกว่า”

ห่านรีบปิดปากไม่กล้า บื้อยิ้มเยาะ แล้วถอยหลังหนึ่งก้าว ชี้หน้าย้ำ บื้อหันหลังเดินออกไป ห่านโมโหสุดๆ มองกระดาษในมือด้วยความหงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ได้

วันต่อมาที่บ้านคุณหนูจ๋า น้อยหันมาทางคุณหนูจ๋าด้วยความแปลกใจ
“คุณหนูจะเอาผลไม้ไปให้ใครคะ”
“คนที่อยู่บ้านเช่าน่ะป้าน้อย เมื่อวานหนูจ๋าเกือบจะขับรถชนเค้า” น้อยนิ่วหน้า
“บ้านไหนเหรอคะคุณหนู”
คุณหนูจ๋ามองหน้าน้อยไม่ตอบ

บ้านเช่าลุงจ๊อด ลุงจ๊อดกำลังซ่อมวิทยุ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ไอ้โจ๊ก ไปเปิดประตูสิ”
โจ๊กเดินออกไปเปิดประตู แล้วก็ชะงักที่เห็นคุณหนูจ๋ายืนอยู่ โจ๊กถึงกับยิ้มออกมา แล้วก็หุบยิ้มแทบไม่ทัน เมื่อน้อยโผล่ออกมาจากข้างประตู โจ๊กช็อกมาก ค่อยๆ ถอยเข้าไปในบ้าน
“ลุงจ๊อด”
“อะไร”
“ลุง”
“เรียกอยู่ได้ มีอะไรก็พูดมาสิวะ”
“ไอ้จ๊อด”
ลุงจ๊อดผงะหันไปขวับไปเห็นน้อยยืนอยู่กับคุณหนูจ๋า
“แม่น้อย”

น้อยดึงหูลุงจ๊อดลากออกมาที่หน้าบ้าน
“อ๊าก!”
โจ๊กรีบเดินตามออกมา คุณหนูจ๋าสีหน้าไม่ดี
“พอได้แล้วจ๊ะป้า”
“พอได้ไงคะคุณหนู ป้าต้องจัดการไอ้พวกที่หลอกเอาเงินคุณหนู”
น้อยดึงหูลุงจ๊อดเต็มแรง ลุงจ๊อดร้องลั่น
“โอ๊ย”
“เค้าไม่ได้หลอกเงินหนูจ๋า หนูจ๋าเต็มใจให้เค้าเอง”
“แค่เกือบชน แต่ไม่ได้ชน เรียกค่าทำขวัญตั้งห้าพัน คุณหนูจ๋าอย่าไปใจดีกับไอ้พวกนี้ ไม่งั้นมันจะได้ใจ เอาเงินคุณหนูข้าคืนมา”
“ไม่คืน”
“ไม่คืนใช่มั้ย”
น้อยเข้ามาจะล้วงกระเป๋ากางเกงลุงจ๊อด ลุงจ๊อดไม่ยอม โจ๊กกับคุณหนูจ๋าเห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้ามาห้าม
“ปล่อยเค้าไปเถอะป้า”
น้อยไม่ยอม เผลอสะบัดแขน ทำให้คุณหนูจ๋าเสียการทรงตัวจะล้ม แต่บื้อเข้ามาคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน คุณหนูจ๋าชะงักหันไปเห็นบื้อก็ผงะไปนิดนึง
“เป็นไรมั้ยน้อง”
“เออ...มะ...ไม่เป็นค่ะ”
บื้อประคองคุณหนูจ๋าให้ยืน หันไปเห็นน้อยล้วงเงินจากกระเป๋าลุงจ๊อดสำเร็จ ลุงจ๊อดหน้าแย่มาก
“รู้จักฉันน้อยไปซะแล้วไอ้จ๊อด คุณหนูขา กลับบ้านกันค่ะ”
น้อยจับแขนคุณหนูจ๋าพาเดินออกไป คุณหนูจ๋าหันมามองบื้อนิดนึง แล้วก็เดินออกไปกับน้อย โจ๊กแอบมองตามตาละห้อย

ลุงจ๊อดมีสีหน้าเจ็บใจที่สุด บื้อกับโจ๊กอยู่ด้วย
“จุดใต้ตำตอแท้ๆ คุณหนูคนนั้นดันเป็นลูกคุณนายเจ้าของบ้านเช่า”
“ผมก็บอกลุงแต่แรกแล้วว่าอย่าไปหลอกเอาเงินเค้า”
“ข้าไม่ได้หลอกเค้านะเว๊ย ก็แค่เรียกค่าทำขวัญนิดหน่อย แล้วทีนี้จะเอาอะไรกิน”
บื้อเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดแล้วก็หยิบเงินออกมาให้ลุงจ๊อด ลุงจ๊อดกับโจ๊กผงะ
“ฉันให้”
“ให้ง่ายๆ งี้เลยเหรอวะ”
“เพื่อนบ้านกัน เอาไปเถอะลุง”
โจ๊กกับลุงจ๊อดยิ้มออกมา ลุงจ๊อดซึ้งใจสุดๆ หยิบเงินมาเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะตบบ่าบื้อ
“ขอบใจไอ้บื้อ เห็นหน้าบื้อๆ ไม่นึกว่าจะมีน้ำใจ ขอให้เจริญๆ นะพ่อ”
“ขอบคุณครับพี่”
บื้อยิ้ม ลุงจ๊อดกับโจ๊กดีใจ

ห้างBKK Plaza ห่านยังไม่ได้ใส่ชุดพนักงาน นั่งทานอาหารเช้าอยู่กับเจ๊มะพร้าวและแหม่ม
“สรุปแกยังไม่มีโอกาสบอกความจริงให้คุณคุณชายรู้ว่าแกเป็นใคร” ห่านพนักหน้า
“ก็ยัยนางงามแอ๊บแบ๊วดันโผล่มาน่ะสิเจ๊”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณดาหลาจะเป็นคนไม่จริงใจแบบนี้ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ”
“งานนี้ยังนับว่าแกโชคดีที่ได้น้องบื้อสุดเซอร์ของเจ๊ช่วย”
“เค้าไม่ได้เต็มใจช่วยห่านหรอกเจ๊” ด้านหลังเห็นบื้อเดินเข้ามา ห่านไม่รู้ตัว เม้าท์บื้อไม่หยุด “ที่ช่วย เพราะห่านบอกว่าจะทำงานบ้านให้เพิ่มต่างหาก คนอย่างนายนั่น มันใจคอโหดเหี้ยม เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เห็นแก่ความสบายของตัวเอง” เจ๊มะพร้าวกับแหม่มเห็นบื้อเดินมาพยายามจะห้ามไม่ให้ห่านพูด แต่ห่านไม่ฟัง กำลังอินมากๆ กินข้าวไปคำหนึ่งก็ด่าบื้อไปหนึ่งประโยค “ไม่มีน้ำใจ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ชอบเอาเปรียบ”
“เออ...ห่าน เจ๊ว่าพอเหอะ” ห่านยังพูดไม่จบ
“ความเลวของไอ้หมอนี่ ยังมีอีกเพียบ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะมันกุมความลับของห่านเอาไว้ล่ะก้อ จ้างให้ห่านก็ไม่มีวันยอมมันเด็ดขาด” บื้อยืนมองห่านแบบไม่พอใจ โย่งกลืนน้ำลายเอื๊อก ห่านเห็นเจ๊มะพร้าวกับแหม่มเงียบไม่ร่วมวงเม้าท์ด้วยก็แปลกใจ “เป็นอะไรกัน ข้าวติดคอหรือไง”
เจ๊มะพร้าวกับแหม่มบุ๊ยใบ้ไปข้างหลัง ห่านหันไปเห็นบื้อก็สำลักข้าวในปากไม่หยุด
“นั่น เวรกรรมทันตาเห็น นินทาคนอื่นดีนัก”
ห่านดื่มน้ำอึกๆๆแล้วก็หันไปมองเจ๊มะพร้าวกับแหม่มด้วยความเคือง
“ทำไมไม่บอก”
“บอกแล้ว แต่แกไม่ฟัง”
ห่านทำหน้าไม่ถูก เลยต้องทำไม่สนใจ หันไปทางบื้อ
“ฉันพูดความจริง ไม่ได้นินทา ไปทำงานดีกว่า ไม่อยากเสียเวลากับคนแถวนี้”
ห่านเชิดใส่บื้อแล้วเดินออกไป บื้อได้แต่ส่ายหัวด้วยความเอือมระอา

“แสบจริงๆ ยัยคอห่าน”

ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3 (ต่อ)

ดาหลาใส่แว่นดำเดินเชิด พร้อมถือแก้วกาแฟร้านชื่อดังมาตามทาง พนักงานแถวนั้นเห็นดาหลาก็หันไปมองตามกันเป็นแถว รวมถึงห่าน แอปเปิ้ล ปีโป้ที่กำลังจัดรองเท้า
ระหว่างนั้นแม่บ้านเข็นรถใส่อุปกรณ์ทำความสะอาดมาตามทาง ไม่ทันเห็นดาหลาเลยชนเข้าเต็มๆ ทำให้แก้วกาแฟหกใส่เสื้อผ้าดาหลา ดาหลาตกใจ แม่บ้านแทบช็อกรีบเข้ามาหา ห่านและพนักงานแถวนั้นมองด้วยความตกใจตามไปด้วย
“ขอโทษค่ะคุณ”
หน้าตาแม่บ้านรู้สึกผิดมาก ดาหลาถอดแว่นดำด้วยความโมโห
“รู้มั้ยว่าเสื้อตัวนี้ราคามากกว่าเงินเดือนของแกอีก”
แม่บ้านสะดุ้ง หน้าเสีย รีบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงออกมา
“เดี๋ยวดิฉันเช็ดให้ค่ะ”
แม่บ้านเอาผ้าเช็ดเสื้อให้ดาหลา ดาหลาปัดมือออกอย่างแรง
“ไม่ต้อง อย่าเอาผ้าขี้ริ้วมาโดนเสื้อฉัน”
“นี่ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วนะคะ นี่เป็นผ้าเช็ดหน้าของดิฉันค่ะ”
“มันก็สกปรกพอๆ กับผ้าขี้ริ้วนั่นแหละ” ห่านได้ยินไม่พอใจมาก ถึงกับทนไม่ได้อีกต่อไป “ฉันจะฟ้องคุณชาย ให้ไล่แกออก โทษฐานที่ซุ่มซ่าม ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ”
แม่บ้านแทบร้องไห้ด้วยความกลัว ห่านจ้ำเดินเข้ามา
“แค่ทำกาแฟหกใส่คุณ ถึงกับต้องไล่ออกเลยเหรอคะ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ”
ดาหลาหันขวับไปมองห่านแล้วก็ชะงัก หรี่ตามอง ห่านที่พอเห็นสายตาดาหลามองก็ชักใจเสีย
“ทำไมหน้าคุ้นๆ”
“มองแบบนี้ หรือว่าจะจำเราได้ ซวยแล้ว” ห่านคิดในใจหน้าซีด ดาหลาตาโต ตะลึง ร้องลั่น
“ที่แท้ก็แกนั่นเอง”
ห่านตกใจมาก ดาหลาขยับมาตรงหน้า ห่านกลืนน้ำลายเอื๊อก แอปเปิ้ลกับปีโป้รีบสะกิดกันแล้ววิ่งตัวปลิวออกไป

พรเพ็ญกับคุณชายเดินมาด้วยกันตามทาง
“อีกไม่กี่วัน จะถึงวันครบรอบ 50 ปีของทางห้าง ผมอยากจะเลี้ยงพนักงานทุกคน ตอบแทนที่พวกเค้าทำงานหนัก คุณพรเพ็ญว่าดีมั้ยครับ”
“คุณคุณชายช่างเป็นคนที่มีน้ำใจเหลือเกินค่ะ”
ยังไม่ทันที่พรเพ็ญจะพูดต่อ แอปเปิ้ลกับปีโป้ก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะคุณผู้จัดการขา”
พรเพ็ญกับคุณชายหันไปมองด้วยความสงสัย

ดาหลายังจ้องหน้าห่านตาไม่กระพริบ ห่านเหงื่อแตกซิก
“เธอ” ห่านสะดุ้ง ลุ้นสุดขีด “เพื่อนยัยป้าปากร้าแผนกเครื่องสำอางที่ด่าฉัน” ห่านโล่งอก
“ใช่ค่ะ ฉันเอง” ดาหลามองไม่พอใจ “ป้าขอโทษคุณไปแล้ว อย่าใจแคบนักเลยค่ะ ตอนออกทีวีคุณก็ดูเป็นคนดีนะคะ แต่ทำไมตัวจริงถึงได้แตกต่างกันยังกะฟ้ากับเหว”
ดาหลากำมือแน่น
“แกมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน”
ห่านขยับมาประจันหน้ากับดาหลา สีหน้าไม่กลัวเกรง
“สิทธิ์ที่ฉันก็เป็นคนเหมือนกับคุณ”
พนักงาน ผู้คนเริ่มตีวงเข้ามาลุ้นมวยคู่เอก ดาหลาเบ้หน้า มองห่านอย่างดูถูก
“คนจนๆ อย่างแก อย่าเสมอตัวเทียบเท่าฉัน ยัยกระจอก”
“จะคนรวย หรือคนจน มันก็คนเหมือนกัน พวกที่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นต่างหาก ที่ไม่ใช่คน ยัยกระจอก ยิ่งกว่า” ห่านพูดใส่หน้าดาหลา
แม่บ้านกับพนักงานพากันฮือฮาสะใจกับคำพูดของห่านที่ตอกดาหลากลับ ดาหลาถึงกับอึ้ง ไปไม่ถูก หันไปมองรอบๆ เห็นพวกพนักงานฮือฮา ขำเยาะถูกใจก็ยิ่งโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ดาหลาเงื้อมือจะตบห่าน ห่านรับไว้ ดาหลาจะเอาอีกมือตบ ห่านก็รับไว้ได้อีก สองคนจ้องหน้ากัน ดาหลาออกแรงดัน ห่านต้านไว้เต็มที่
กองเชียร์เริ่มเชียร์เสียงดัง โย่งกับบื้อเดินมา ชะงัก
“อะไรวะน่ะ”
“จะถามทำเบื๊อกอะไร รีบเข้าไปดูสิวะ” โย่งส่ายหน้า
“ม่ายอ่ะ ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน”
“ไอ้บ้า เอ็งเป็น รปภ.นะโว้ย”
“เออ...จริงด้วย” โย่งนึกได้แหกปากตะโกน “หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้”
โย่งหยิบนกหวีดมาเป่าปี๊ดๆๆ แล้ววิ่งออกไป บื้อส่ายหน้าเซ็งเพื่อน แล้วเดินตามออกไป
ขณะนั้นห่านกับดาหลากำลังออกแรงดัน แรงต้านกันสุดฤทธิ์ท่ามกลางกองเชียร์ที่เชียร์ยังกะเชียร์ซูโม่ ทันใดนั้น โย่งเป่านกหวีดปรี๊ดๆ แหวกวงล้อมเข้ามา มองตกใจ
“หยุด บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้” โย่งเป่านกหวีด
ห่านชะงักหันไปมอง ดาหลาฉวยโอกาสผลักห่านกระเด็น บื้อแหวกผู้คนเข้ามาพอดี ห่านกระเด็นมาใส่บื้อเต็มๆ ล้มคว่ำกันไปทั้งคู่
“เฮ้ย”
ห่านคว่ำคร่อมบื้ออยู่ พอเห็นเป็นบื้อก็ร้องลั่น
“ไอ้ซื่อบื้อ เจอกันทีไร ชั้นซวยทุกทีเล๊ย”
“เฮ้ย ชั้นสิ ซวย ยัยคอห่าน”
“หึ้ย” ห่านโมโห ดาหลาหัวเราะลั่น
“ไง นังกระจอก ริอ่านมาสู้กับคนอย่างคุณดาหลา สมน้ำหน้า”
ห่านสะบัดหน้าหันขวับกลับไปมองดาหลาทันที ห่านตาวาวอย่างแค้น กัดฟันกรอด
“ไม่รู้จักนังห่านซะแล้ว ฮึ่ม”
ห่านผละขึ้นจากการคร่อมบื้อ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจะรีบกลับไปลุยกับดาหลา จนไม่ทันระวังเลยเหยียบ ‘เป้าบื้อ’ เข้าเต็มๆ ประมาณนึกว่าเหยียบพื้น แล้วพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย!” บื้อร้องลั่น กุมเป้านอนร้องบิดไปมาอยู่กับพื้น “โอ๊ย...ยัย...ยัย...แม่มด”
โย่งรีบเข้าประคองเพื่อน
“เจ็บมากมั้ยวะเพื่อน”
บื้อทั้งเจ็บทั้งเคือง
“ลองดูมั้ยล่ะ ไอ้โย่ง”

“แฮ่”

ห่านพุ่งเข้าหาดาหลา
“เล่นทีเผลอ ลอบกัดนี่หว่า” ดาหลาตาโต
“ต๊าย นี่แกว่าชั้นเป็นหมาเรอะ”
“ฉลาดเหมือนกันนี่ มองแต่หน้าก็นึกว่าโง่”
“ปากดีๆ ไม่ชอบ อยากปากแตกนักใช่มั้ย มา คุณดาหลาจะจัดให้”
ดาหลาเงื้อมือจะตบห่านเต็มที่ แต่มีมือใครคนหนึ่งคว้ามือดาหลาไว้ ดาหลาหันขวับไปเห็นว่าเจ้าของมือนั้นคือคุณชาย ดาหลาชะงัก ห่านหันไปมองคุณชาย
บื้อชะงัก มองห่าน คุณชายลุ้นๆ มีพรเพ็ญ แอปเปิ้ลและปีโป้ ยืนอยู่ด้วย พรเพ็ญหันไปทางพนักงาน
“แยกย้ายกลับไปทำงานได้แล้ว” พนักงานยังอยู่ที่เดิม พรเพ็ญยกโทรโข่งขึ้นประกาศลั่น “เลิกชุมนุม สลายตัว ทุกคนกลับไปทำงาน เดี๋ยวนี้”
พนักงานรีบแยกย้ายกลับไปเข้าแผนกตัวเอง ดาหลาหันไปอ้อนคุณชาย
“คุณชายช่วยดาหลาด้วยค่ะ”
ห่านเบ้หน้าหมั่นไส้ คุณชายหันไปมองห่าน ห่านรีบก้มหน้าทันที
“เข้าไปคุยกับผมในห้อง” คุณชายบอกเสียงเฉียบขาด ห่านอึ้ง
คุณชายหันหลังเดินออกไป ดาหลาหันไปเชิดใส่ห่านอย่างมั่นใจว่าห่านโดนไล่ออกแน่ก่อนจะเดินตามคุณชายออกไป พรเพ็ญมองห่านอย่างแอบเป็นห่วง แต่ก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ แล้วก็เดินออกไป แอปเปิ้ลเข้ามาเยาะห่าน
“ถ้าไงฉันช่วยเก็บของไปพลางๆ ก่อนเอามั้ย ตอนโดนไล่ออก จะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับมาเก็บ”
แอปเปิ้ลกับปีโป้หัวเราะคิกคัก ห่านได้แต่ค้อน แล้วก็เดินออกไปกับแม่บ้านผ่านบื้อที่มองอยู่ ห่านพาลสะบัดหน้าเดินออกไป บื้อมองตามถอนใจเฮือก

ห้องทำงานคุณชาย ดาหลายืนข้างคุณชาย ตรงหน้ามีห่าน แม่บ้านและพรเพ็ญยืนอยู่
“เท่าที่ผมฟังเรื่องราวทั้งหมด...”
ดาหลาพูดต่อทันที
“พวกแกผิด ไล่มันออกเลยค่ะคุณชาย”
ห่านอึ้ง คุณชายมองห่านนิ่ง ดาหลายิ้มเยาะ
“เรื่องนี้ไม่มีใครผิดทั้งนั้น” ดาหลาที่ยิ้มๆ อยู่ หุบยิ้มแทบไม่ทัน พรเพ็ญลอบทำหน้าโล่งใจ ห่านกับแม่บ้านยิ้ม
“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ แล้วอีกอย่างป้าเค้าก็ขอโทษคุณแล้ว”
“แต่นังนี่มันด่าดาหลานะคะ”
คุณชายพูดกับห่านและแม่บ้าน
“กลับไปทำงานของพวกคุณได้แล้ว”
ห่านกับแม่บ้านยกมือไหว้คุณชาย
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ขอบคุณค่ะคุณคุณชาย”
ห่านมองคุณชายด้วยความประทับใจหนักยิ่งขึ้นไปอีก แล้วก็เดินออกไปกับแม่บ้าน ดาหลาโมโหมาก หันไปมองคุณชายกำลังจะอ้าปากพูด แต่คุณชายพูดขัดขึ้นก่อน
“ผมขอตัวทำงานกับคุณพรเพ็ญต่อนะครับ คุณพรเพ็ญมีอะไรจะรายงานผมใช่มั้ยครับ?”
พรเพ็ญแทบจะรับมุกไม่ทัน
“เอ่อ...ค่ะ พรเพ็ญมีรายงานการทำโปรโมชั่นทุกภาคส่วนมาเรียนเสนอค่ะ”
“ดีครับ เชิญครับ...”
พรเพ็ญส่งสายตามองจ้องดาหลาเป็นการไล่อย่างสุภาพ ดาหลาพูดไม่ออก จำต้องเดินออกไปด้วยความหัวเสีย คุณชายได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พรเพ็ญโล่งอก ลอบมองคุณชายอย่างยิ้มๆ
“ทำไมคุณคุณชายถึงไม่เอาเรื่องพนักงาน 2 คนนั้นล่ะคะ”
“ก็เพราะผมควรจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่เหรอครับ”
พรเพ็ญยิ้ม รีบตอบ
“ใช่ค่ะ ถูกต้องที่สุดค่ะ”
คุณชายยิ้ม พรเพ็ญปลื้ม

ห่านเดินกลับมาที่แผนกรองเท้า ปีโป้เห็น รีบสะกิดแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลหันมา ห่านเดินผ่านหน้า
“โชคดีนะจ๊ะห่าน ขอให้หางานได้ไวไว”
“อิอิ”
ห่านหยุดเดินหันมา
“เสียใจด้วยนะที่ทำให้พวกเธอต้องผิดหวัง”
ห่านยิ้ม แล้วเดินต่อ แอปเปิ้ลกับปีโป้หุบยิ้ม มองหน้ากัน แล้วก็เดินเข้าไปใกล้ห่าน
“แกไม่โดนไล่ออก”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องโดนไล่ออก” แอปเปิ้ลกับปีโป้เหวอ “ฉันว่าเธอควรตั้งใจทำงานเหมือนเวลาที่ตั้งใจจับผิดคนอื่นจะดีกว่านะ”
ห่านพูดจบก็เดินไปจัดรองเท้า แอปเปิ้ลอ้าปากค้าง
“มันว่าแกน่ะ” ปีโป้บอกแอปเปิ้ล
“ว่าแกด้วยแหละนังปีโป้”
แอปเปิ้ลมองห่านด้วยความโมโหมาก

ห่านเดินออกมาจากห้องน้ำ บื้อก็เดินออกมาเหมือนกัน บื้อเห็นห่านก็นึกเจ็บเป้า ปรี่ไปหาจะด่าซะหน่อย ระหว่างนั้นห่านยังไม่เห็นบื้อ แต่แล้วจู่ๆ ป้าแม่บ้านปรี่ไปถึงตัวห่านก่อน ป้าแม่บ้านกอดห่าน บื้อชะงักมอง
“แม่หนู ขอบใจมากนะ ถ้าเมื่อกี๊ไม่ได้แม่หนูช่วยไว้ ป้าคงโดนไล่ออกไปแล้ว หลานๆ ป้ามันจะเอาอะไรกินกัน”
ป้าแม่บ้านสะอื้น บื้ออึ้ง
“ไม่เป็นไรจ้ะป้า เรามันคนเหมือนกัน ชั้นทนเห็นคนดูถูกคนอื่นไม่ได้”
ป้าแม่บ้านยื่นขนมถุงเล็กๆ ให้ห่าน
“ป้าทำไว้ขายตอนกลางคืนหลังเลิกงาน ป้าให้หนูนะ” ห่านซึ้ง บื้อมองอึ้ง
“ไม่ต้องหรอกจ้ะป้า เก็บไว้ขายเถอะ จะได้มีเงินไปให้หลานเยอะๆ”
“ป้าให้ อร่อยนะจ๊ะ ฝีมือคนจน”
“ขอบใจจ้ะป้า” ห่านอมยิ้ม
“ป้าไปทำงานก่อนนะ ขอให้หนูเจริญๆ นะแม่คุณ”

ห่านยิ้มให้ แม่บ้านเดินผ่านบื้อไป ห่านเดินตามมา บื้อหลบแว๊บมองห่านเดินผ่านไป ไอ้ที่กะจะด่า หายไปสิ้น ได้แต่มองตามห่านไปด้วยความรู้สึกดีๆ

แอปเปิ้ลกับปีโป้ยืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ ปีโป้กำลังทาปากที่แดงอยู่แล้วให้แดงมากขึ้นไปอีก
“นังห่านมันทำบุญด้วยอะไร ทั้งๆ ที่มันมีเรื่องกับคุณดาหลา แต่ทำไมคุณชายถึงไม่ไล่มันออก” แอปเปิ้ลหันไปก็สะดุ้งเฮือก เพราะปากสีแดงแจ๊ดของปีโป้ “ตะลึงในความงามขนาดนั้นเลยเหรอ อิอิ”
“ฉันอยากจะบ้าตาย” แอปเปิ้ลพึมพำแล้วผลักหน้าปีโป้หงาย “จะแดงไปไหนยะ นังปีโป้”
ระหว่างนั้นมีคนออกมาจากห้องน้ำ แอปเปิ้ลกับปีโป้ชะงักหันไปมอง ก็เห็นดาหลาเดินออกมา
“คุณดาหลา”
“ฉันว่าเราควรร่วมมือกัน ทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดยัยแว่นให้ออกไปจากที่นี่”
ดาหลาบอก แอปเปิ้ลกับปีโป้ยิ้มด้วยความยินดีทันที

ที่แผนกชุดชั้นในชาย บื้อเอาถุงของพร้อมเงินทอนมาให้สุรเดช
“ขอบคุณครับ”
สุรเดชเอามือรับถุงกับเงินทองพร้อมกับจับมือบื้อ บื้อรีบดึงมือออกทันที สุรเดชเอามือตัวเองขึ้นมาดมสีหน้าเคลิบเคลิ้ม บื้อหน้าแหย
“น้องบื้อจ๋า พี่สุเพิ่งซื้อคอนโดใหม่” สุรเดชเอามือถือออกมาแล้วกดโชว์รูปให้บื้อดู “สวยมั้ย”
“สวยครับ”
สุรเดชยิ้ม แล้วหยิบคีย์การ์ดยื่นมาตรงหน้าบื้อ
“คีย์การ์ดห้องพี่สุ พี่สุให้น้องบื้อเก็บไว้”
“หะ...ให้...ให้ผมทำไมครับ”
“คอนโดนี้ พี่ซื้อเก็บไว้เฉยๆ คงไม่ค่อยได้มาอยู่ ถ้าวันไหนน้องบื้อไม่มีอะไรทำ จะมานอนเล่นที่คอนโดพี่ก็ได้นะ คอนโดพี่มีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สบายสุดๆ เลยล่ะ”
“ผมขอบคุณพี่สุมากครับ แต่ผมว่าอย่าเลย” บื้อหยิบคีย์การ์ดออกมาคืน สุรเดชจับมือบื้อ
“เก็บไว้เถอะจ๊ะน้องบื้อ พี่อยากให้ อย่าทำให้พี่เสียน้ำใจเลยนะ พี่กลับล่ะ”
สุรเดชส่งจูบให้บื้อแล้วก็เดินออกไป บื้อมองคีย์การ์ดในมือแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋ากางเกง แล้วก็ชะงัก
“มือถือ”
บื้อนิ่งคิด

หน้าบ้านเช่าบื้อ โจ๊กกำลังโทรศัพท์คุยกับบื้อ พลางเอากุญแจบ้านที่ซ่อนอยู่ใต้กระถางต้นไม้หน้าบ้านออกมา
“เจอกุญแจบ้านแล้วเฮีย” โจ๊กไขประตูบ้าน เปิดเข้าไป เห็นมือถือบื้อวางอยู่บนโต๊ะ “มือถือเฮียอยู่บนโต๊ะ เดี๋ยวผมเอาไปให้ครับ” โจ๊กวางสาย
โจ๊กเดินมาตามทาง ด้านหลังรถคุณหนูจ๋าแล่นมาแล้วแล่นแซงหน้าโจ๊กขึ้นไป คุณหนูจ๋าหันไปเห็นโจ๊กก็จำได้
“พี่ต้อม จอดรถก่อนค่ะ” คุณหนูจ๋าบอกคนขับรถ
โจ๊กเดินมาตามทาง รถคุณหนูจ๋าจอด คุณหนูจ๋าเปิดประตูลงมา โจ๊กผงะ แต่พอนึกถึงตอนที่เจอคุณหนูจ๋าครั้งแรก โจ๊กยิ้มออกมาทันที
“จะไปไหน” คุณหนูจ๋าถาม โจ๊กประหม่าทันที
“ใครเหรอครับ”
“จะใครอีกล่ะ ตรงนี้มีแค่เธอกับเรา”
โจ๊กขำเขินๆ จับหัวตัวเอง
“อ๋อ...จริงด้วย ผมกำลังจะเอามือถือไปให้เฮีย เอ่อ...พี่บื้อน่ะครับ”
“พี่บื้อ”
“พี่ผู้ชายที่หัวฟูๆ ไงครับ”
คุณหนูจ๋านึกย้อนกลับไปตอนเห็นบื้อครั้งแรก
“พี่คนนั้นชื่อบื้อ”
“ครับ”
“ชื่อน่ารักจัง เออ...ว่าแต่เธอจะไปแถวไหนล่ะ”
“ห้างฯ BKK Plaza ครับ”
คุณหนูจ๋าคิดนิดนึง แล้วยิ้มแฉ่ง
“เรากำลังจะไปที่นั่นพอดี ไปด้วยกันสิ”
โจ๊กถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจสุดๆ

มุมหนึ่งของห้างสรรพสินค้าBKK Plaza โจ๊กเอามือถือให้บื้อ บื้อรับมา
“ขอบใจมากโจ๊ก”
บื้อหันไปทางคุณหนูจ๋า ประมาณว่ามันมาด้วยกันได้ไงวะ โจ๊กจึงรับแนะนำ
“นี่คุณหนูจ๋าครับพี่บื้อ”
“จำได้ แต่ว่า...”
“สวัสดีอย่างเป็นทางการค่ะพี่บื้อ”
“สวัสดีครับ” บื้อหันไปทางโจ๊ก “พี่พักเที่ยงพอดี ไปลองกันหน่อยมั๊ย”
โจ๊กยิ้มรับทันที
“ไปดิพี่”
“จะไปไหนกันเหรอคะ”
“คือว่า...”
“ขอหนูจ๋าไปด้วยคนนะคะ” สองหนุ่มอึ้ง คุณหนูจ๋ายิ้มแฉ่ง

ที่แผนกขายเครื่องดนตรี พนักงานยื่นกีตาร์โปร่งแสนสวยให้บื้อกับโจ๊ก บื้อกับโจ๊กรับมาถือไว้ด้วยความระมัดระวัง
“เล่นได้เต็มที่เลยนะน้อง แต่ระวัง ตัวนี้ 50000 ส่วนตัวนี้ 120000”
โจ๊กกับบื้อตะลึงสุดๆ
“เป็นบุญของไอ้บื้อแท้ๆ”
“คุณหนูจ๋านั่งดูได้เลยนะครับ”
“ค่ะ”
โจ๊กลากบื้อไปกระซิบ
“ช่วยหน่อยดิเฮีย”
โจ๊กมองส่งซิกไปที่คุณหนูจ๋า บื้อเกทยิ้ม ส่ายหน้าขำๆ
“ไอ้โจ๊ก”
“น่านะเฮียนะ”
“จัดไป”

บื้อกับโจ๊กเริ่มเล่นกีตาร์ด้วยกัน คุณหนูจ๋านั่งที่เก้าอี้ มองบื้อแววตาเป็นประกายยิ่งประทับใจมากขึ้นไปอีก เสียงกีตาร์ของบื้อกับโจ๊กเรียกให้ลูกค้าเข้ามามุงดู บื้อกับโจ๊กมีความสุขมาก

บื้อ โจ๊ก คุณหนูจ๋าเดินมาด้วยกัน
“พี่บื้อกับโจ๊กเก่งมากเลยค่ะ” คุณหนูจ๋าชม โจ๊กแอบปลื้ม
“เราไม่เก่งหรอก เล่นตามน้ำน่ะ ต้องพี่บื้อนี่สิ ขั้นเทพสุดๆ”
“ไม่ถึงขนาดนั้น”
คุณหนูจ๋าพยักหน้าหงึกๆ
“พี่บื้อรับสอนกีตาร์ให้หนูจ๋าได้มั้ยคะ หนูจ๋าอยากเรียน” โจ๊กกับบื้อหันไปมองคุณหนูจ๋า “พี่บื้อคิดก่อนก็ได้ค่ะ แล้วค่อยโทรมาบอกหนูจ๋า ขอมือถือพี่บื้อหน่อยสิคะ” บื้อเอามือถือให้คุณหนูจ๋า คุณหนูจ๋าเอามือถือบื้อมากดเบอร์ตัวเองให้แล้วส่งคืน “หนูจ๋ากลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ ไปนะโจ๊ก”
โจ๊กโบกมือให้ คุณหนูจ๋าเดินออกไป โจ๊กรีบหันมาทางบื้อ
“ขอเบอร์คุณหนูจ๋าหน่อยดิพี่”
“ฮั่นแน่” บื้อรู้ทัน “ไม่ให้เว๊ย ลูกผู้ชาย อยากได้ต้องได้จากเจ้าตัว มันถึงจะเจ๋งจริง... โอเคมั้ยไอ้น้อง”
บื้อตบบ่าโจ๊กแล้วก็เดินออกไป โจ๊กถอนหายใจสีหน้าผิดหวัง

ที่แผนกรองเท้า ห่านกำลังลองรองเท้าให้ลูกค้า ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ลักษณะเท้าของคุณลูกค้าเป็นแบบแบนเรียบ คุณลูกค้าควรเลือกรองเท้าที่มีลวดลายบริเวณด้านหน้าค่อนข้างกว้าง เพื่อช่วยบดบังส่วนที่เป็นจุดอ่อน ส่วนรองเท้าแบบเปลือยอย่างคู่นี้ ไม่ค่อยเหมาะสมค่ะ เพราะเวลาใส่รองเท้า จะดูหลวมๆ”
“เธอแนะนำดีมาก ฉันเอาแบบนี้สองคู่ สองลาย”
“ได้ค่ะ ถ้าคุณลูกค้ามีปัญหาหรือมีข้อสงสัยอะไรที่เกี่ยวกับรองเท้า ถามดิฉันได้เลยนะคะ”
ลูกค้าพยักหน้ารับ ระหว่างนั้นแอปเปิ้ลกับปีโป้เดินมาหาห่าน ห่านหันไป
“ฉันดูแลลูกค้าท่านนี้ต่อให้เอง”
“ทำไม”
“มีคนต้องการให้เธอไปบริการน่ะสิ”
ห่านนิ่วหน้ามองแอปเปิ้ลกับปีโป้ด้วยความสงสัย และหวาดระแวง

ห่านเดินมา เห็นดาหลายืนหันหลังก็รู้ทันทีว่าใคร ห่านถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ดาหลาหันหน้ากลับมาพร้อมกับกอดอก
“ฉันอยากซื้อรองเท้า”
“สนใจรองเท้าแบบไหนคะ”
“ไม่รู้ เลือกมาให้ฉันลองหลายๆ คู่”
ดาหลานั่งลง ห่านหันไปเลือกรองเท้าให้ดาหลา ดาหลายื่นเท้าไปตรงหน้าห่าน มองห่านสายตาเหยียด ห่านจำต้องย่อตัวลง ถอดรองเท้าให้ดาหลา แล้วเอารองเท้าคู่ใหม่สวมเท้าให้ ดาหลาสีหน้าพอใจ ลุกขึ้นยืน
“ส้นเตี้ยเกินไป มีสูงกว่านี้มั้ย”
ห่านพยายามอดทน
“ซักครู่ค่ะ”
ห่านลุกขึ้น ไปหยิบคู่ใหม่ ดาหลานั่งลง ยื่นเท้าไปตรงหน้าห่านอีกครั้ง ห่านจำใจเปลี่ยนรองเท้าให้ดาหลา ดาหลาลุกขึ้นยืน
“ส้นสูงเกินไป มีเตี้ยกว่านี้มั้ย”
ห่านรู้ทันทีว่าดาหลาแกล้ง ก็เลยสูดหายใจเข้าเต็มปอด เพื่อสะกดอารมณ์โกรธ”
“ซักครู่ค่ะ”
ห่านหันไปเลือกรองเท้า หยิบมาใส่ให้ดาหลา ดาหลามองๆ
“ไม่ชอบอ่ะ ฉันอยากได้รองเท้าส้นเข็ม”
“ซักครู่นะคะ”
ห่านลุกเดินไปหยิบรองเท้าส้นเข็ม ระหว่างนั้นแอปเปิ้ลกับปีโป้เดินเข้ามา สองคนหันไปมองดาหลา สามคนทำหน้าสะใจ ห่านกลับมาพร้อมรองเท้าส้นเข็มและใส่ให้ดาหลา ดาหลามองห่านดูถูกมาก ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ฉันชอบคู่นี้”
ห่านมองดาหลาอย่างหมั่นไส้
“คุณดาหลาทราบมั้ยคะ ว่ารองเท้าบอกนิสัยเราได้” ดาหลา แอปเปิ้ล ปีโป้นิ่วหน้า “อย่างคุณดาหลาชอบส้นเข็ม แสดงว่าคุณเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง” ดาหลา แอปเปิ้ล ปีโป้ชะงัก “ตอนเด็กคงถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจมาก ก็เลยทำให้มีนิสัยเสีย เอ๊ย...ดิฉันหมายถึงก็เลยมีนิสัยแบบนี้”
ดาหลามองห่านโมโหสุดๆ
“ฉันไม่ได้ชอบส้นเข็ม” ดาหลานั่งลง ถอดรองเท้าแล้วโยนไปตรงหน้าห่าน “เอาคู่ใหม่มาให้ฉันลอง”
ดาหลามองห่านไม่พอใจ ห่านต้องอดกลั้นสุดๆ
รองเท้าหลายสิบคู่วางเกลื่อนเต็มพื้น ดาหลายืนมองรองเท้าตรงหน้ากระจก ห่านหน้าเซ็ง แล้วท้องก็ร้อง เพราะเริ่มหิว ห่านจับท้องตัวเอง ดาหลาเหล่มองห่านเพราะได้ยินเสียงท้องห่านร้องดัง ดาหลาหันมา ทำเป็นดูนาฬิกาข้อมือ
“ตายจริง เลยเที่ยงมาเยอะแล้วนี่เนอะ ไปทานข้าวดีกว่า หิวแล้ว แอปเปิ้ล ปีโป้ ไปทานข้าวเป็นเพื่อนฉันนะ”
“ได้ค่ะ”
ห่านชะงัก
“แล้วคุณจะรับรองเท้าคู่ไหนคะ”
“ฉันไม่ชอบซักคู่”
ห่านอึ้ง ดาหลายิ้มเยาะ แล้วเดินออกไป แอปเปิ้ลกับปีโป้หันไปมองห่านเยาะเย้ย
“สมน้ำหน้า อยากมีเรื่องกับใครไม่มี ดันไปมีเรื่องกับคุณดาหลา”
“นี่เป็นแผนของพวกแกใช่มั้ย”
“มาฉลาดเอาตอนนี้ สายไปหน่อยป่ะ ฮ่าๆๆ”
“คุณดาหลาเค้าสูงส่ง สง่างาม แกไม่มีทางเทียบเค้าติดหรอก และฉันจะบอกอะไรให้นะน้ำหน้าอย่างแกก็เป็นได้แค่พนักงานขายรองเท้าที่ต้องนั่งดมขี้เล็บไปชั่วชีวิต”
“ทำไม? อาชีพพนักงานขายรองเท้ามันแย่ตรงไหน มันเป็นอาชีพที่สุจริต ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วอีกอย่าง แกสองคนก็ไม่ต่างจากฉัน”
“แต่ฉันจะไม่มีวันทำอาชีพนี้ไปจนตาย ฉันต้องได้ดีกว่าแก คอยดูแล้วกันนังห่าน”

แอปเปิ้ลเตะรองเท้าบนพื้นกระจาย มีปีโป้ช่วยเตะด้วยอีกคน แล้วทั้งคู่ก็จ้ำเดินออกไป ห่านโมโหมาก

ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3 (ต่อ)

เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง เจ๊มะพร้าวกำลังตั้งอกตั้งใจลุ้นเขียนขอบปากให้ลูกค้าอยู่ จู่ๆ แหม่มวิ่งพรวดเข้ามาเสียงดัง
“แย่แล้ว เจ๊ แย่แล้ว”
เจ๊มะพร้าวสะดุ้งเฮือก มือแถออกเขียนขอบปากเลยไปเกือบถึงใบหูลูกค้า
“ว๊าย ตาเถรปากฉีก” เจ๊มะพร้าว เห็นหน้าลูกค้าก็ตกใจ “ตายแล้ว” เจ๊มะพร้าวรีบหยิบกระจกหลบ “แต่งยังไม่เสร็จ อย่าเพิ่งดูกระจกนะคะ อดใจรอนิ้ดส์นึง รับรองเสร็จแล้วสวยแซบ” จากนั้นเจ๊มะพร้าวก็หันไปแว๊ดแหม่ม “นังแหม่ม จะเสียงดังไปไหน ญาติแกเจ็บรึไงยะ” เจ๊มะพร้าวตั้งใจจรดดินสอจะเขียนปากลูกค้าต่อ “ต่อนะคะ”
แหม่มเขย่าแขนเจ๊มะพร้าว
“เจ็บสิเจ๊ เจ็บแน่”
มือเจ๊มะพร้าวลากดินสอยึกยักไปตามแรงเขย่าของแหม่ม ปากลูกค้าเละมาก
“อร้ายย นังแหม่ม” เจ๊มะพร้าวตวาดถามแหม่มแล้วรีบพูดกับลูกค้า “สวยค่ะสวย”
“เจ๊”
แหม่มตะโกนลั่น เจ๊มะพร้าวสะดุ้ง ทำดินสอทิ่มปากลูกค้าร้องจ๊าก
“ว้าย ตาเถรปากฉีกจริงๆ ล่ะทีนี้” เจ๊มะพร้าววางดินสอ ท้าวเอว ปรี๊ดลั่น “นังแหม่ม ญาติแกคนไหนเจ็บห๊า”
“ไอ้ห่านน่ะสิ”
“ห๊า นังห่าน นังห่านเป็นอะไร ใครทำนังห่าน”
“ไม่รู้ ไปเร็ว”
แหม่มคว้ามือเจ๊มะพร้าววิ่งออกไปเลย ลูกค้ากุมปากน่าเวทนา
“อูย...ชั้นก็เจ็บโว๊ย”

ห่านกำลังเก็บรองเท้าบนพื้นหน้าดำหน้าแดง ทั้งหิวทั้งโกรธ ท้องร้องดังไม่หยุด ห่านจับท้องตัวเอง
“โอ๊ย” ห่านหน้าแย่มาก แล้วก็หันไปเห็นบื้อยืนมอง ห่านผงะ “มองอะไร”
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย” ห่านหน้าหงิก ก้มลงเก็บรองเท้า บื้อเข้ามาช่วย ห่านหันขวับ “จะแกล้งอะไรฉันอีก”
“มองฉันในแง่ดีบ้างได้มั้ย” ห่านนิ่ง บื้อช่วยห่านเก็บรองเท้า “ให้วางไว้ตรงไหน”
“วางไว้บนชั้นก่อน เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
บื้อช่วยเก็บรองเท้าวางบนชั้น ห่านมองบื้อสายตาอ่อนลง บื้อกับห่านช่วยกันเก็บรองเท้า แล้วก็บังเอิญดันมาจับรองเท้าคู่เดียวกัน ทำให้มือจับกัน ห่านกับบื้อผงะ รีบปล่อยมือออกจากกัน แล้วเจ๊มะพร้าวกับแหม่มก็เดินมาพอดี
“นี่มันเกิดสงครามอะไรขึ้นเนี่ย”
ห่านกับบื้อหันไปมองเจ๊มะพร้าวกับแหม่ม
รองเท้าถูกจัดเข้าชั้นเสร็จเรียบร้อย ห่านหันมาทางบื้อ เจ๊มะพร้าวและแหม่ม
“ขอบคุณทุกคนมาก”
“เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกันเหอะ หิวจนไส้จะขาดแล้ว”
“น้องบื้อไปกินข้าวด้วยกันมั้ยจ๊ะ”
“ขอบคุณครับ ผมเพิ่งไปพักมา ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
บื้อหันไปมองห่านแล้วก็เดินออกไป เจ๊มะพร้าวกับแหม่มหันมาทางห่าน
“เล่าให้เจ๊กับนังแหม่มฟังเดี๋ยวนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ห่านได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

ห้องอาหารพนักงาน ห่าน เจ๊มะพร้าว แหม่มกินกันไปเม้าท์กันไป
“ยัยนางงามนี่มันร้ายกาจจริงๆ นิสัยไม่ดีอย่างแรง”
“แต่งานนี้คนที่สมควรโดนด่าที่สุดคือนังแอ๊บกับนังปลากะโห้นะเจ๊ เพราะพวกมันสองคนเป็นคนวางแผน”
“ลำพังแค่นังสองตัวนี้ ก็วุ่นวายมากพอแล้ว ยังจะมียัยนางงามมาทำให้ปวดหัวอีก”
“เค้าคงไม่พอใจที่เมื่อเช้าห่านไปว่าเค้ามั้ง” ห่านถอนใจ “ช่างเหอะเจ๊ ห่านไม่อยากมีเรื่อง กลัวโดนไล่ออก งานยิ่งหายากๆ อยู่”
“แต่แกจะปล่อยให้นังสองตัวนั่นลอยนวลไปแบบนี้ไม่ได้ มันต้องเอาคืน”
“แล้วจะเอาคืนไง”
เจ๊มะพร้าวคิด
“วันนี้แกเลิกงานเย็นใช่มะ” ห่านพยักหน้า
“อือ เจ๊ถามทำไม”
เจ๊มะพร้าวหน้าตาเจ้าเล่ห์ ห่านกับแหม่มมองเจ๊มะพร้าวด้วยความสงสัย
ห่านกับแหม่มมองเจ๊มะพร้าวด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าเจ๊มะพร้าวคิดจะทำอะไร
“เจ๊จะให้ฉันแปลงร่างเป็นคุณฮันนี่มาที่ห้าง” เจ๊มะพร้าวพยักหน้า “แล้วถ้าเกิดมีคนจำฉันได้ล่ะ”
“งามไส้เลยนะเจ๊”
“ขนาดยัยนางงามยังจำแกไม่ได้ ก็แสดงว่ามันต้องไม่มีใครจำแกได้จริงๆ” ห่านนิ่ง ลังเล “เชื่อเจ๊สิ ยัยแว่นขายรองเท้ากับสาวไฮโซฮันนี่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันอย่างเด็ดขาด”
ห่านกับแหม่มมองหน้ากันสีหน้าลังเล ครุ่นคิด

เย็นวันนั้นห่านแปลงโฉมเป็นฮันนี่ ใส่รองเท้าส้นสูงสีทองคู่เดิม เดินมาที่หน้าห้างBKK Plaza ห่านลอบมองโย่งด้วยความตื่นเต้นกลัวโย่งจำได้ โย่งหันไปเห็นห่านก็ตะลึงในความสวย โย่งมองห่านตาค้าง ทำเอาห่านใจคอไม่ดี
“ทำไมจ้องเราขนาดนี้ หรือว่าจำได้”
ห่านพึมพำกับตัวเอง ขณะเดินมาหน้าประตู โย่งรีบเปิดประตูให้ห่านและทำความเคารพทันที
“สวัสดีครับพ้ม” โย่งจำห่านไม่ได้ ห่านมองโย่ง โย่งยืดอก ทำความเคารพ “เชิญครับคุณผู้หญิง”
ห่านโล่ง ที่โย่งจำไม่ได้ ก็ยิ้มสบายใจ
“ขอบใจ”
“ไม่เป็นไรครับพ้ม”
ห่านเดินเข้าไปสีหน้ามีความสุขและมั่นใจมากขึ้น ทันทีที่เข้ามา ห่านก็เอามือถืออกมากดโทรออก
“สวัสดีค่ะคุณชาย ทายสิคะว่าตอนนี้ฮันนี่อยู่ที่ไหน”
ห่านยิ้มมีความสุข

คุณชายเดินอยู่กับห่าน แต่ยิ้มไม่หุบ จนห่านแปลกใจ
“คุณชายยิ้มอะไรคะ ฮันนี่เห็นคุณชายยิ้มมาตลอดทาง”
“ผมดีใจน่ะสิครับที่คุณฮันนี่ให้เกียรติมาที่ห้างฯของผม”
“คุณชายต่างหากล่ะคะที่ให้เกียรติพาฮันนี่เดินห้างฯ”
“ว่าแต่คุณฮันนี่ต้องการจะชมสินค้าอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ”

ห่านยิ้ม คุณชายมอง

คุณชายพาห่านมาที่แผนกรองเท้าสตรี
“เพื่อนผมอยากซื้อรองเท้า คุณสองคนช่วยแนะนำที”
คุณชายบอก แอปเปิ้ลกับปีโป้หันมาทันที
“ได้ค่ะ สวัสดีค่ะ”
แอปเปิ้ลกับปีโป้ตะลึงจ้องห่านกับคุณชาย ห่านแอบลุ้นเหมือนกันว่าจะจำเธอได้มั้ย แต่แอปเปิ้ลกับปีโป้จำไม่ได้ ทั้งคู่รีบฉีกยิ้มกว้างพร้อมยกมือไหว้คุณชาย
“สวัสดีค่ะคุณคุณชาย”
ห่านโล่งใจ และเก๊กท่าทำเชิดใส่ ไม่มองแอปเปิ้ลกับปีโป้ ทำเอาสองคนหน้าแตกเพล้ง ห่านหันไปทางคุณชาย
“คุณชายคะ ฮันนี่คอแห้งจังเลยค่ะ”
“คุณฮันนี่อยากดื่มน้ำอะไร”
“คุณชายเลือกให้ฮันนี่ก็แล้วกันค่ะ”
แอปเปิ้ลรีบนำเสนอ
“ให้ปีโป้ไปซื้อให้ก็ได้ค่ะ”
ปีโป้จะโวย เพราะอยากเกาะสถานการณ์
“แต่...”
“ปีโป้”
“ไม่ต้องหรอกครับ คุณ 2 คนควรอยู่ดูแลลูกค้าจะดีกว่า...เดี๋ยวผมมานะครับ” คุณชายบอกห่าน ห่านตาหวานใส่
“ค่ะคุณชาย”
คุณชายยิ้มรับแล้วก็เดินออกไป แอปเปิ้ลกับปีโป้มองห่านแบบไม่ถูกชะตา ห่านเดินดูรองเท้า แอปเปิ้ลกับปีโป้คอยเดินตาม
“สนใจคู่ไหน บอกแอปเปิ้ลได้เลยนะคะ”
“บอกปีโป้ด้วยก็ได้ค่ะ”
“ฉันอยากลอง” ห่านชี้ไปทุกทิศทุกทาง “คู่นี้ คู่นั้น คู่โน้น แล้วก็นี่ นี่ นี่ นี่ และนี่ด้วย”
แอปเปิ้ลกับปีโป้เหวอ แต่ต้องยิ้ม
“ได้ค่ะ กรุณารอซักครู่นะคะ”
แอปเปิ้ลกับปีโป้เดินไปหยิบรองเท้า ห่านกอดอกสะใจแล้วนั่งลง
รองเท้าเกลื่อนเต็มพื้น แอปเปิ้ลกับปีโป้ช่วยกันใส่รองเท้าให้ห่าน
“คู่นี้ถูกใจมั้ยคะ”
“ไม่ชอบซักคู่”
แอปเปิ้ลกับปีโป้เหรอหรา
“ลองมาเป็นสิบๆ คู่ ไม่ชอบซักคู่เลยเหรอคะ”
“ไม่ชอบ มันทั้ง...” ห่านหันไปมองปีโป้ “ไม่สวย และ...” ห่านหันไปมองแอปเปิ้ล “ ไร้รสนิยม” แอปเปิ้ลกับปีโป้สะดุ้ง เหมือนถูกด่า “ รองเท้าฉันอยู่ไหน”
แอปเปิ้ลหันไปหยิบรองเท้าสีทอง แล้วก็ชะงักไปนิดนึง รู้สึกคุ้นๆ
“เอามาให้ฉันสิ”
“ค่ะ ค่ะ”
แอปเปิ้ลเอารองเท้ามาวางตรงหน้าห่าน
“คุณฮันนี่ซื้อรองเท้าคู่นี้ที่ไหนคะ มันดูคุ๊นคุ้น”
ห่านหน้าถอดสี ระหว่างนั้นคุณชายเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำ
“น้ำได้แล้วครับ”
ห่านได้ทีรีบลุกเดินไปหาคุณชาย พร้อมกับรับแก้วน้ำมาถือ
“เราไปกันเถอะค่ะคุณชาย”
“ได้รองเท้าแล้วเหรอครับ”
“ยังค่ะ” ห่านพูดใส่หน้า แอปเปิ้ลกับปีโป้ “ไม่ถูกใจฮันนี่เลยซักคู่อ่ะค่ะ”
ห่านจับแขนคุณชายพาเดินออกไปทันที แอปเปิ้ลมองตามสีหน้าไม่พอใจ
“ท่าทางเชิดหยิ่งที่สุด แหวะ...นังฮันนี่”
“ใช่ แถมยังลองรองเท้าตั้งเยอะ แล้วก็ไม่เอา อุบาทว์”
แอปเปิ้ลหงุดหงิด โมโห

ห่านกับคุณชายเดินมาตามทาง
“ผมต้องขอโทษนะครับที่ไม่มีสินค้าถูกใจคุณฮันนี่”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรไม่ได้ครับ งั้นเอาอย่างนี้ เพื่อเป็นการชดใช้ที่ทำให้คุณฮันนี่ไม่ได้ของ คุณฮันนี่อยากได้อะไร บอกผมมาเลยครับ”
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอกค่ะคุณชาย”
“ไม่ได้ครับ กรุณาบอกผมมาเถอะครับ ว่าคุณฮันนี่ต้องการอะไร”
ห่านหยุดเดินนิ่งไป แล้วก็หันไปเห็นแผนกเสื้อผ้าเด็ก ห่านมองๆ แล้วก็ยิ้ม ก่อนจะหันไปทางคุณชาย
“ฮันนี่รู้แล้วว่าอยากได้อะไร”
ห่านมองไปที่แผนกเสื้อผ้าเด็ก คุณชายหันไปมองตามด้วยความแปลกใจมาก

คุณชายถือถุงให้ห่าน สองคนเดินมาด้วยกัน ระหว่างนั้นบื้อเดินสวนมาเห็นห่านกับคุณชายก็ชะงัก
“ยัยคอห่าน กล้ามากนะเนี่ย”
บื้อมองเห็นคุณชายถือถุงแล้วก็หันไปมองห่านแบบรู้สึกไม่ดี แล้วคุณชายก็หันมาเห็นบื้อพอดี
“บื้อ”
ห่านชะงัก หันขวับไปเห็นบื้อยืนอยู่ ห่านตกใจจนหน้าถอดสี รีบหลบสายตาบื้อทันที
“สวัสดีครับคุณคุณชาย”
“เลิกงานแล้วเหรอ”
“ครับ”
บื้อหันไปมองห่าน ห่านไม่กล้าสบตา คุณชายนึกขึ้นได้
“คุณฮันนี่ครับ” ห่านหันมา
“คะ”
“นี่บื้อครับ” ห่านไม่กล้าหันไปมองบื้อตรงๆ คุณชายพูดกับบื้อ “คุณฮันนี่ เพื่อนผม”
บื้อนึกหมั่นไส้ห่านเลยแกล้ง
“สวัสดีครับคุณฮันนี่” ห่านสะดุ้ง “เอ...หน้าตาคุ้นๆ นะครับ เหมือนเราเคยเจอกันมาก่อน”
ห่านหันไปมองบื้อ รู้ว่าบื้อแกล้ง
“เหรอคะ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก”
“อ๋อ เพิ่งมาจากบ้านนอก” ห่านสะดุ้ง “เอ๊ย เมืองนอก ขอโทษครับ ผมสับสนนิดหน่อย”
ห่านกัดฟันมองบื้อ แล้วก็รีบตัดบท
“คุณชายคะ นี่ก็มืดแล้ว ฮันนี่ต้องกลับบ้านแล้วล่ะค่ะ”
“ถ้างั้นผมเดินไปส่งครับ”

ห่านค้อนบื้อ แล้วก็เดินออกไปกับคุณชาย บื้อได้แต่ส่ายหัว

อ่านต่อเวลา 17ใ00น.

คุณชายเดินมากับห่าน
“ขอบคุณคุณชายมากนะคะสำหรับวันนี้ ฮันนี่มีความสุขม๊ากมากค่ะ”
“ผมก็มีความสุขครับ รถคุณห่านอยู่ไหนครับ”
“ฮันนี่ไม่ได้เอารถมาค่ะ”
“อ้าว...ถ้าอย่างนั้น ให้ผมไปส่งที่บ้านนะครับ” ห่านอึ้ง
“เออ คุณชายไม่ต้องไปส่งฮันนี่หรอกค่ะ ฮันนี่นั่งแท็กซี่กลับเอง”
“ไม่ได้ครับ คุณฮันนี่เป็นผู้หญิง นั่งแท็กซี่กลับคนเดียว มันอันตราย ให้ผมไปส่งเถอะนะครับ” ห่านจะอ้าปาก “อย่าปฏิเสธผมเลยนะครับคุณฮันนี่”
ห่านกลืนน้ำลายเอื๊อก
“ถ้าอย่างนั้นฮันนี่ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
ห่านรีบเดินออกไป

บื้อเดินอยู่ริมถนนกำลังคุยโทรศัพท์กับห่าน
“นี่เธอจะบ้าเหรอ? พอเลยพอ คราวที่แล้วเอารถ คราวนี้เอาบ้าน เห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย”
ห่านหน้าแย่มาก
“ได้โปรดช่วยฉันอีกครั้งเถอะนะ ฉันขอร้อง”
“ถามจริงเหอะ การที่ต้องโกหกคนอื่นว่าตัวเราไม่ใช่ตัวเรา มันมีความสุขตรงไหน” ห่านอึ้ง “ถ้าเราอยากให้ใครซักคนรักเรา เราก็ต้องเป็นตัวของเราเอง แล้วถ้าวันหนึ่งคุณคุณชายรู้ว่าเธอไม่ใช่เจ้าหญิงเหมือนที่สร้างภาพไว้ เค้าจะรับได้รึเปล่า”
“แต่ในชีวิตลูกผู้หญิง การได้รักใครซักคนมันก็เหมือนการลงวิ่งแข่ง ในเมื่อคู่แข่งมีรองเท้าผ้าใบคู่ล่ะหลายหมื่น ในขณะที่ฉันไม่มีรองเท้าจะใส่ แต่เมื่อเห็นรองเท้าผ้าใบของใครก็ไม่รู้วางไว้ ฉันก็ต้องหยิบรองเท้าคู่นั้นมาใส่เพื่อให้สมน้ำสมเนื้อกับคู่แข่ง ถ้าฉันชนะ ผลตอบแทนที่ได้คือช่วงเวลาดีดีช่วงหนึ่งในชีวิต แม้สุดท้ายจะถูกจับได้ว่าแอบขโมยรองเท้าคนอื่นมาใส่ ฉันก็ยอม”
บื้อฟังห่านพูดแล้วก็ได้แต่ทอดถอนหายใจ ก่อนจะหยิบคีย์การ์ดห้องคอนโดที่สุรเดชให้ออกมาดู

ห่านอยู่ในรถคุณชายนั่งกุมมือ สีหน้าวิตกกังวลใจมากๆ ขณะที่คุณชายกำลังขับรถ คุณชายหันมามองห่าน
“คุณฮันนี่ครับ” ห่านไม่ได้ยิน เพราะมัวแต่คิดว่าจะทำยังไง คุณชายยื่นมือไปแตะแขนห่าน “คุณฮันนี่”
ห่านสะดุ้งหันมา
“คะ”
“บ้านคุณฮันนี่ไปทางไหนครับ”
ห่านมองซ้าย มองขวาอย่างลังเลอยู่เหมือนกันเผลอพึมพำออกมา
“เออ...ทางไหนหว่า”
“ว่าไงนะครับ” ห่านสะดุ้ง
“อ๋อ เอ่อ...ตรงไปค่ะ ตรงไปเลยค่ะ”
คุณชายทำตามที่ห่านบอก ห่านหันไปมองทางหน้าต่าง สีหน้ากังวลใจมาก

คอนโดหรู ใจกลางเมือง ห่านเดินเข้ามากับคุณชายที่ถือถุงให้ห่าน ห่านอึ้ง ตะลึงกับความใหญ่โตของคอนโดจนเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่มิด
“คอนโดคุณฮันนี่ น่าอยู่นะครับ” ห่านหันมายิ้ม
“ค่ะ”
“ผมคิดว่าคุณฮันนี่อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านซะอีก ไม่นึกว่าจะมาอยู่คอนโดคนเดียวแบบนี้”
ห่านสะดุ้ง อึกอัก
“เอ่อ...คือ ค่ะ กว่าจะขอคุณพ่อคุณแม่ได้ก็แทบแย่ แต่ฮันนี่อยากฝึกตัวเองอ่ะค่ะ เป็นคุณหนูมาตลอดชีวิต น่าเบื่อจะตาย ฮันนี่อยากใช้ชีวิตธรรมดาๆ บ้างอ่ะค่ะ”
“ก็จริงนะครับ”
ห่านหันไปมองที่เคาน์เตอร์ แล้วก็นึกถึงคำพูดของบื้อ เสียงบื้อดังขึ้น
“ฉันจะฝากกุญแจไว้ที่เคาน์เตอร์ข้างล่างคอนโด”
“คุณชายรอซักครู่นะคะ”
ห่านเดินไปที่เคาน์เตอร์
“มารับคีย์การ์ดห้อง 1801 ค่ะ”
พนักงานเอาคีย์การ์ดให้ห่าน ห่านรับมาแล้วก็หันมายิ้มให้คุณชาย ห่านกับคุณชายเดินไปตรงหน้าลิฟต์
บื้อออกมาที่ซ่อนแถวนั้น มองตามห่านสีหน้ากังวลใจและเป็นห่วง

ประตูลิฟต์เปิดออก ห่านกับคุณชายเดินออกมา ห่านยืนนิ่ง อึ้ง หันไปมองสองข้าง
“ห้องอยู่ทางไหน ซ้ายรึขวาวะเนี่ย”
เสียงห่านดังในใจ คุณชายมองห่านแปลกใจ
“คุณฮันนี่เป็นอะไรไปครับ”
“เออ คือ ฮันนี่ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ก็เลยยังไม่ค่อยคุ้นน่ะค่ะ”
ห่านตัดสินใจ เอาวะ...เลี้ยวไปซักทาง คุณชายเดินตาม ห่านมองเลขที่ห้อง แล้วก็เจอห้อง 1801 ทันที ห่านโล่งใจสุดๆ
“ห้องนี้ค่ะ ห้องนี้”
คุณชายยิ้ม ห่านเอาคีย์การ์ดออกมาแต่ใช้ไม่เป็น ห่านอึ้ง
“ทำไงอ่ะ” ห่านพยายามเอาคีย์การ์ดแตะๆ ไปที่ประตู แต่ประตูไม่เปิด คุณชายชะโงกหน้ามาดู ห่านรีบหันไปแก้ตัว “ไม่รู้คีย์การ์ดเป็นอะไร สงสัยจะเสีย”
“ขอผมลองนะครับ”
ห่านส่งคีย์การ์ดให้คุณชาย คุณชายรับคีย์การ์ดมาแล้วก็รูดปื้ดเดียวเปิดประตูสำเร็จ คุณชายหันไป ห่านยิ้มแหย
“อย่างที่ฮันนี่บอกไงคะว่าฮันนี่เพิ่งมาอยู่ไม่กี่วัน ฮันนี่ก็เลยไม่คุ้น” ห่านหัวเราะกลบเกลื่อน “โฮะๆ”

ห่านรีบเปิดประตู แล้วเดินเข้าไป พลางพ่นลมหายใจออกมา

ห่านเปิดประตูพาคุณชายเข้ามาในห้อง ทันทีที่เข้ามา ห้องทั้งห้องก็เปิดไฟสว่างทันที ห่านสะดุ้ง ตกใจ รีบขยับมาใกล้คุณชาย
“ดีจังเลยครับ มีระบบไฟอัตโนมัติด้วย”
คุณชายบอก ห่านถึงกับเหวอ
“เออ ใช่ค่ะใช่ คือคุณแม่ของฮันนี่ท่านเป็นห่วงความปลอดภัยของฮันนี่น่ะค่ะ ก็เลยตั้งระบบพวกนี้เอาไว้”
คุณชายพยักหน้า เดินเข้าไปวางถุงไว้บนโซฟา ห่านหายใจไม่ทั่วท้องก่อนจะตามคุณชายเข้าไป คุณชายมองไปรอบห้อง สีหน้าอึ้ง เพราะห้องตกแต่งเอาไว้เกย์มาก และที่สำคัญมีรูปวาดผู้ชายกอดกันติดบนกำแพงห้อง ห่านถึงกับผงะ คุณชายมองรูปวาดนั้น แล้วก็รู้สึกแปลกๆ ห่านรีบแก้ตัว
“รูปนี้เพื่อนคุณแม่ให้มาน่ะค่ะ เค้าเป็นศิลปินต่างประเทศ คุณชายเข้าใจใช่มั้ยคะว่าพวกศิลปินมักจะมีอารมณ์แปลกๆ”
“ครับ”
คุณชายยิ้มแล้วหันไปมองทางอื่น ห่านอยากจะบ้าตาย
“ตาบื้อนะตาบื้อ เอาห้องใครมาให้ชั้นเนี่ย”
ห่านพึมพำพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างหนัก

สุรเดชเดินมาตามทาง บื้อเพิ่งเดินออกมาจากคอนโดเห็นสุรเดชเข้ามาก็ตกใจ รีบหาที่หลบ มองตามสุรเดชที่เดินเข้าไปในคอนโดแล้ว บื้อหน้าเสีย
“ซวยแล้วยัยคอห่าน”
บื้อรีบเอามือถือออกมากดโทรออก

คุณชายกับห่านนั่งลง สองคนเก้อๆ เขินๆ ไม่รู้จะคุยอะไรกัน ระหว่างนั้นเสียงมือถือห่านดังขึ้น ห่านหยิบออกมาเห็นชื่อบื้อก็ชะงัก คุณชายมองๆ
“เออ...เบอร์ใครก็ไม่รู้น่ะค่ะ สงสัยจะโทรผิด”
ห่านกดปิดเครื่องไปเลย
บื้อผงะ เอามือถือออกมาดู
“ยัยบ้าเอ๊ย ตัดสายทิ้งทำไมเนี่ย จะตายอยู่แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีก”
บื้อคิดๆๆ ทำไงดีวะ แล้วก็ตัดสินใจ

สุรเดชยืนรอลิฟต์ ไม่นานลิฟต์เปิด สุรเดชกำลังจะเข้าไป แต่บื้อวิ่งเข้ามาพอดี
“พี่สุครับ”
สุรเดชหันไปเห็นบื้อก็ดีใจลัลล้า รีบเดินมาหา
“น้องบื้อ” สุรเดชจับมือบื้อ “พี่ดีใจที่สุดเลยที่น้องบื้อมาที่นี่ คิดถึงพี่สุละเซ่”
“เออ...พี่สุ ออกไปหาอะไรกินกันมั้ยครับ ผมหิว”
“หืมม์ มาถึงนี่แล้ว จะออกไปกินข้างนอกทำไม พี่มีของกินเยอะเลยบนห้อง”
“มันจะลำบากพี่น่ะสิครับ”
“ไม่ลำบากเลยจ๊ะ พี่ชอบทำอาหารอยู่แล้ว”
“แต่ผมไม่อยากให้พี่เหนื่อย”
สุรเดชหยิกแก้มบื้อสองข้าง
“น่ารักจริงๆ กลัวพี่เหนื่อย ถึงพี่เหนื่อย พี่ก็มีความสุข เพราะได้ทำอะไรๆ ให้น้องบื้อสุดที่รักของพี่” บื้อพูดไม่ออก ทำหน้าไม่ถูก สุรเดชจับมือบื้อมาควงแขนตัวเอง “ขึ้นห้องกันเถอะจ๊ะ”
บื้อกลืนน้ำลายเอื๊อก สุรเดชพาบื้อเดินไปกดลิฟต์อีกครั้ง บื้อหน้าเสีย วิตกสุดๆ

ที่ห้องสุรเดช ห่านกับคุณชายยังคงนั่งกันนิ่งเงียบ แล้วคุณชายก็ตัดสินใจ
“คุณฮันนี่ครับ”
“คะ”
“ผมขอถ่ายรูปคู่กับคุณฮันนี่จะได้มั้ยครับ” ห่านยิ้มเขิน
“ได้สิคะ”
คุณชายดีใจ ลุกมานั่งติดกับฮันนี่ แล้วก็เอามือถือตัวเองออกมา ยื่นออกไปตรงหน้า
“คุณฮันนี่ขยับเข้ามาอีกนิดนะครับ เดี๋ยวจะตกเฟรม”
ห่านขยับเข้ามาจนติดกับคุณชาย คุณชายกับห่านหันมาหน้าใกล้กัน ก็มองกันเคลิ้มๆ แล้วทั้งคู่ก็รีบหันไปทางอื่นด้วยความเขินมากๆ คุณชายกับห่านมองกล้อง คุณชายกดถ่ายแชะ

สุรเดชเดินนำบื้อมาที่หน้าห้อง เอาคีย์การ์ดออกมากำลังจะเปิด บื้อเหงื่อตก “ทำไงดี” แล้วบื้อก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“โอ๊ย”
บื้อร้องเสียงดังลั่น สุรเดชชะงัก หันขวับมาทางบื้อ สีหน้าตกใจ สุรเดชยืนหันหลังให้ประตูห้อง
“น้องบื้อเป็นอะไรจ๊ะ”
“ผมปวดท้องน่ะครับ ปวดมากเลย”
“ตายแล้ว เร็วๆๆ รีบเข้าไปเอายาในห้องนะจ๊ะ”
บื้อตกใจตาเหลือก
“เดี๋ยวครับ พี่”
ไม่ทันแล้ว สุรเดชใช้คีย์การ์ดเปิดห้อง บื้อหน้าตื่น “ซวยแล้ว” คิดว่าเจอห่านแน่ แล้วก็รีบตามเข้าไป

บื้อตามสุรเดชเข้ามา เห็นสุรเดชเดินเข้าไปในห้อง บื้อชะงักที่ไม่มีห่านกับคุณชาย
“เฮ้ย หายไปไหนวะ”
บื้อแปลกใจ พลันเหลือบไปเห็นห่านกับคุณชายยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง บื้อตกใจมากๆ เสียงสุรเดชดังขึ้น
“น้องบื้อจ๊ะ” บื้อรีบพุ่งไปปิดผ้าม่านตรงทางออกระเบียงห้องทันที แล้วหันไป เห็นสุรเดชเดินมาพร้อมกับยา
“ยาได้แล้วจ๊ะ”
“พี่สุครับ” บื้อแอ็กชั่นปวดท้องอย่างแรง “ผมขอไปนั่งพักตรงโน้นนะครับ”
“ได้จ๊ะ”
สุรเดชประคองบื้อพาเดินออกไป บื้อเหลือบไปมองที่ระเบียงสีหน้าหวาดระแวงมาก แล้วก็หันมาเห็นถุงกระดาษบนเก้าอี้ บื้อตกใจ สุรเดชยังไม่ทันสังเกตเห็น บื้อรีบเอาหมอนทับปิดถุงกระดาษเอาไว้

ที่ระเบียงห้อง คุณชายกับห่านยืนมองวิวด้วยกัน
“คิดถึงตอนที่เราเต้นรำด้วยกันนะครับ”
“ค่ะ”
คุณชายมองห่านแววตามีความหมาย
“ถ้าผมจะขอคุณฮันนี่เต้นรำตรงนี้อีกซักครั้ง จะได้มั้ยครับ”
ห่านเขินมาก หันไปแล้วก็ชะงักที่เห็นผ้าม่านถูกปิด ห่านอึ้ง คุณชายแปลกใจกับสีหน้าของห่านเลยหันไปมองตาม แล้วก็ชะงักไปด้วยอีกคน
“ตอนที่เราออกมา เราไม่ได้ปิดม่านไม่ใช่เหรอคะ”
“อืมม์ ผมไม่ทันสังเกตนะครับ”

ห่านอึ้ง แปลกใจมากๆ

ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนที่ 3 (ต่อ)

บื้อจำต้องกินยาแล้วก็ดื่มน้ำอักๆๆ จนหมดแก้ว พลางเหล่มองไปที่ระเบียงด้วยความระแวง

“พี่ไปเอาน้ำมาให้อีกนะ”
“ครับ”
สุรเดชลุกเดินออกไป ไม่นานห่านเปิดประตูตรงระเบียงแหวกม่านโผล่หน้าเข้ามา ทันทีที่เห็นบื้อ ห่านตกใจมาก บื้อทำท่าปาดคอ ห่านงงๆ แล้วก็เห็นสุรเดชออกมาจากในครัว ห่านตาเหลือก รีบผลุบออกไป บื้อหันไปเห็นสุรเดช ก็รีบทำหน้าให้เป็นปกติ
“น้ำได้แล้วจ๊ะ”

ห่านรีบถอยออกมาจนเกือบคุณชาย คุณชายแปลกใจ
“คุณฮันนี่เป็นอะไรครับ”
“เออ คือ...อยู่ดีๆ ก็รู้สึกหน้ามืดน่ะค่ะ” คุณชายตกใจ
“ถ้างั้นเข้าไปนั่งข้างในก่อนเถอะครับ”
ห่านรีบตะปบตัวคุณชายไว้แน่น
“อย่านะ”
คุณชายมีสีหน้างงมาก ห่านรีบแอ็กชั่นเวียนหัวจะเป็นลม “ในห้องมันอุดอู้ สูดอากาศตรงนี้รู้สึกดีมากกว่า คุณชายอยู่เป็นเพื่อนฮันนี่ก่อนนะคะ”
“ครับ”
ห่านเดินมานั่ง คุณชายตามมานั่งข้างๆ ห่านหน้าแย่สุดๆ

บื้อดื่มน้ำจนหมดแก้วแล้วก็หันไปทางสุรเดช
“ขอน้ำอีกแก้วได้มั้ยครับ”
“ได้จ๊ะ”
สุรเดชลุกเดินออกไป บื้อรีบเอามือถืออกมากดโทรออก
เสียงมือถือห่านดัง ห่านตกใจ รีบหยิบออกมาเห็นชื่อบื้อ
“คุณหญิงแม่โทรมาค่ะ”
คุณชายยิ้มๆ ห่านรีบกดรับสาย
“ค่ะคุณหญิงแม่”
บื้อหันไปมองที่ห้องครัวกลัวสุรเดชออกมา
“ฉันจะกันพี่สุไว้ให้ เธอรีบหาทางพาตัวเธอและคุณชายออกไปจากที่นี่”
ห่านทำหน้าตกใจเว่อร์
“คุณหญิงแม่ไม่สบาย?” คุณชายตกใจ “ฮันนี่จะกลับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
“รออีกสามสิบวินาที” สุรเดชออกมา “พี่สุออกมาแล้ว”

บื้อรีบวางสาย แล้วเดินไปหาสุรเดช
“พี่สุครับ ผมรู้สึกเวียนหัว”
“อ้าว”
“ขอเข้าไปนอนในห้องจะได้มั้ยครับ” สุรเดชดีใจมาก
“ได้สิได้ มามะ มานอนกัน เอ๊ย...มานอนพักก่อน”
สุรเดชวางแก้วน้ำ แล้วพาบื้อเข้าไปในห้อง ห่านเปิดประตูตรงระเบียง โผล่หน้าเข้ามามอง ไม่เห็นใครก็โล่งใจ รีบเดินออกมา คุณชายตามออกมาติด
“รีบไปกันเถอะค่ะคุณชาย”
ห่านกับคุณชายรีบเดินออกไปทันที

ห่านกับคุณชายเดินออกมาจากคอนโด
“ผมไปส่งนะครับ”
“ไม่ต้องค่ะ” โชคดีมีแท็กซี่มาส่งคนพอดี แท็กซี่จอด คนลงจากรถ ห่านรีบโดดขึ้นแท็กซี่ “ฮันนี่ไปก่อนนะคะ”
ห่านรีบขึ้นรถ เร่งให้แท็กซี่ขับออกไป โดยคุณชายห้ามไม่ทัน
“คุณฮันนี่ เดี๋ยวครับ...เดี๋ยว”
คุณชายมองตามอย่างเป็นห่วง

เสียงเมสเสจมือถือบื้อดังขึ้น บื้อที่นอนอยู่ หยิบมือถือมากดเปิดอ่าน เสียงห่านดังออกมา
“ฉันกับคุณชายออกมาแล้ว”
บื้อโล่งอก รีบลุกขึ้นจากเตียง สุรเดชเดินเข้ามาในชุดเสื้อคลุมแบบเกอิชาญี่ปุ่น บื้อตกใจมาก สุรเดชชูน้ำมันนวดขึ้นมา
“พี่เอาน้ำมันมานวดให้ บื้อจะได้รู้สึกดีขึ้น” สุรเดชพุ่งมานั่งข้างๆ “ถอดเสื้อเลยนะจ๊ะ”
บื้อตกใจสุดขีด รีบเด้งตัวลุกขึ้นยืนอัตโนมัติ
“ผมหายแล้ว ขอบคุณพี่สุมากนะครับ ลาล่ะครับ”
บื้อรีบวิ่งออกไปทันที สุรเดชเหวอ
“เดี๋ยวสิน้องบื้อ น้องบื้อ ทำไมหายเร็วงี้อ่ะ เฮ้อ...”
สุรเดชถึงกับเซ็ง

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ป้ายโรงเรียน Glion คุณชายคุยกับนีรนุชผ่านทางเฟซไทม์ เอารูปที่ถ่ายคู่กับห่านไปโชว์ตรงหน้าจอไอแพดที่วางบนโต๊ะ
“สวยมั้ย”
“โห...ตาถึงเหมือนกันนะเนี่ย นึกว่าดีแต่ตาถั่ว”
“ปาก” นีรนุชอมยิ้ม
“ว่าแต่คุณฮันนี่เค้ารับแกเป็นแฟนแล้วเหรอ” คุณชายหน้าสลด
“ยัง ฉันยังไม่กล้าสารภาพกับเค้าเลย”
“มัวแต่แอ๊บ เดี๋ยวก็โดนใครคาบไปหรอก”
“ไม่ทันไร แช่งกันซะแล้ว”
“ไม่ได้แช่ง ฉันพูดจริง” คุณชายเริ่มกังวล
“แล้วฉันจะทำยังไงดี”
“ถามฉันแล้วฉันจะรู้มั้ยเนี่ย”
“อ้าว ก็นึกว่าแกจะรู้ เฮ๊ย! อยู่นู่นไม่มีใครมาจีบเหรอ”
“บ้า”
“บ้า นี่แปลว่ามีหรือไม่มี”
“ไม่มี” นีรนุชอ้อมแอ้ม
“ห๊า” นีรนุชรีบตัดบท
“ไม่รู้ๆๆ งานนี้แกต้องช่วยเหลือตัวเองแล้วล่ะ ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของโชคชะตาล้วนๆ ไปล่ะ”
นีรนุชกดตัดสาย คุณชายร้องเรียก

“นุช ไอ้นุช ” แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความกลุ้ม

ห่านเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้าน ชะเง้อมองไปที่บ้านบื้อ
“ป่านนี้ยังไม่กลับมาอีก”
ห่านกลุ้ม ไม่นานก็เห็นบื้อเดินเข้ามาพร้อมกับถือถุงกระดาษมาด้วย ห่านรีบมาเกาะริมรั้ว
“บื้อ” บื้อหยุดเดินหันมา “นาย เออ นายโดน...”
บื้อรู้ว่าห่านหมายถึงอะไร
“ฉันยังไม่มีอะไรเสียหาย อย่าคิดบ้าๆ” บื้อเดินมาที่ริมรั้ว ก่อนจะยื่นถุงให้ห่าน “ของเธอ”
ห่านเห็นถุง นึกขึ้นได้
“ลืมไปเลย” ห่านเอาถุงมาจากมือบื้อ “นายนี่ก็ โออยู่นะ” บื้อมองงงๆ “ใช้ด้าย พอจะมีน้ำจิตน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น”
“ฉันจะช่วยเธอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ฉันไม่อยากกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับเธอ”
“นายพูดหยั่งกับฉันไปทำอะไรไม่ดีมาอย่างนั้นแหละ”
“ไอ้ที่หลอกให้คุณชายซื้อของให้ เค้าเรียกว่าดีเหรอ?” ห่านชะงัก “ทำแบบนี้มันไม่ต่างจากพวกสิบแปดมงกุฎ”
“ฉันไม่ได้เป็นสิบแปดมงกุฎ” ห่านฉุน
“ผู้ร้ายที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ร้าย”
“ฉันไม่ได้เป็นผู้ร้าย แล้วของพวกนี้ฉันก็ไม่ได้ซื้อให้ตัวเอง”
“เห็นอยู่ ยังจะปฏิเสธ”
“ถ้านายไม่เชื่อ พรุ่งนี้ไปกับฉัน”
บื้อมองห่านอย่างสงสัย

เช้าวันรุ่งขึ้นที่บ้านเด็กกำพร้าทอตะวัน ห่านถือถุงเดินนำบื้อเข้ามา บื้อมองไปรอบๆ ด้วยความงง ห่านหยุดเดินหันไป
“รีบตามมาสิ”
ห่านหันไปเดินต่อ บื้อตามห่านไปติดๆ
ห่านพาบื้อเข้ามาในห้องรับบริจาค ห่านกอดครูสมพรแน่น บื้อมองภาพห่านกับครูสมพรด้วยความอึ้ง ไม่นานห่านก็ผละออกมา
“คิดถึงแม่ครูที่สุดเลยค่ะ ขอโทษนะคะที่ห่านไม่ค่อยได้มา”
“ไม่เป็นไร แม่ครูเข้าใจว่าลูกต้องทำงาน”
ห่านเอาถุงเสื้อขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“นี่เป็นเสื้อผ้าค่ะแม่ครู ห่านเอามาให้เด็กๆ”
ครูสมพรเปิดถุง พอเห็นเสื้อผ้าก็ผงะ เงยหน้ามองห่าน
“เสื้อผ้าดีดีทั้งนั้น ลูกไม่น่าต้องเสียเงินเสียทองซื้อ”
“ห่านไม่ได้ซื้อเองค่ะ มีคนใจบุญซื้อให้”
“ถ้าอย่างนั้น ฝากไปขอบคุณเค้าด้วยนะ”
“ค่ะ”
บื้อมองห่านอึ้ง และรู้สึกผิดที่เข้าใจห่านผิดไป

ห่านกับบื้อเดินมาที่สนามเด็กเล่นด้วยกัน
“แม่ครูสมพร เป็นคนเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เกิด ท่านเป็นเหมือนแม่แท้ๆ ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใคร ไม่รู้ว่าเกิดที่ไหน รู้แต่ว่าฉันโตที่นี่” ห่านเดินมานั่งชิงช้า บื้อตามมานั่งชิงช้าตัวข้างๆ “ชีวิตฉันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฉันต้องดิ้นรนเอาชีวิตให้รอดไปวันๆ ฉันไม่เคยมีเสื้อผ้าใหม่ใส่ ต้องรอให้คนมาบริจาค เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ก็ทนๆ กันไป ของเล่นเก่าๆ ที่คนอื่นโยนทิ้ง กลายเป็นของเล่นที่มีค่ามากที่สุดสำหรับเด็กที่นี่” ห่านนิ่ง เศร้า บื้อมองอย่างเห็นใจ “ใครไม่เจอเรื่องราวแบบนี้ ไม่มีทางเข้าใจ” ห่านหยุดแกว่งชิงช้า หันมาทางบื้อ หน้าเศร้า “นายอาจจะมองว่าสิ่งที่ฉันทำอยู่มันผิด แต่สำหรับฉัน การที่ได้เป็นอย่างที่ฝัน เป็นซินเดอเรลล่าที่ได้ใส่รองเท้าแก้วแค่ช่วงสั้นๆ ก็ทำให้ฉันรู้สึกมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป”
คำพูดของห่าน ทำเอาบื้อสงสารห่านขึ้นมาทันที ระหว่างนั้นบื้อกับห่านได้ยินเสียงเด็กตีกัน บื้อกับห่านหันไปมองด้วยความตกใจ

เด็กสองกลุ่มกำลังตีกัน ห่านกับบื้อเห็นตกใจ รีบเข้าไปห้าม
“หยุดนะหยุด พี่บอกให้หยุด” ห่านร้องห้าม
“พี่เป็นใคร เกี่ยวอะไรด้วย”
“พี่ก็เป็นลูกแม่ครูสมพรคนหนึ่ง คราวนี้เกี่ยวได้เหรอยัง”
เด็กเงียบ จ๋อย
“ทะเลาะกันเรื่องอะไร”
“พวกนี้มาแย่งของเล่นเรา”
“บ้านนี้ไม่มีคำว่าของเล่นของใคร ของเล่นเป็นของทุกคน ฟังพี่ให้ดีนะ ถึงแม้เราจะเป็นเด็กกำพร้า เราก็ต้องทำตัวให้มีคุณค่า อย่าให้ใครเค้าตราหน้าเราได้ ว่าเป็นเพราะเราไม่มีพ่อมีแม่ เราถึงเป็นได้แค่นี้ เข้าใจที่พี่พูดรึเปล่า”
“เข้าใจครับ / เข้าใจค่ะ”
เด็กๆ ตอบรับพร้อมกัน ห่านถอนหายใจ บื้อคิดนิดนึง
“พี่ว่าเราอย่าเล่นของเล่นกันเลย ไปหาอะไรที่หนุกๆ ทำดีกว่า”
ห่านกับเด็กๆ มองบื้อด้วยความสงสัย

บื้อเล่นกีตาร์ร้องเพลง เด็กๆ ออกมาเต้นกันอย่างสนุกสนาน บื้อยิ้มไปร้องเพลงไป ห่านเองก็ยิ้มมีความสุข เด็กเข้ามาดึงห่านออกมาเต้นด้วยกัน บื้อกับห่านมองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม ห่านหมุนไปรอบๆ บื้อลุกขึ้นมาเต้นด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข
ห่านกับบื้อไหว้ครูสมพร ครูสมพรรับไหว้
“ห่านกลับนะคะครู”
“ถ้าว่างก็มาอีกนะ”
“ผมมาอีกแน่นอนครับ”
ครูสมพรยิ้มให้อย่างใจดี บื้อกับห่านหันมายิ้มให้กัน

ห่านกับบื้อเดินมาตามทางด้วยกัน
“ขอโทษที่เข้าใจเธอผิด”
“ไม่เป็นไร เพราะว่าตอนนี้นายเข้าใจถูกแล้ว”
ห่านยิ้มๆ บื้อยิ้มตาม รถเมล์แล่นผ่านไปจอดที่ป้าย บื้อเห็น
“รถเมล์มาแล้ว รีบไปเร็ว”

บื้อคว้ามือห่านแล้วพาวิ่งไปขึ้นรถเมล์

อ่านต่อเวลา 17.00น.

ผู้โดยสารเบียดกันบนรถเมล์ บื้อกับห่านโดนเบียด ห่านหน้าแย่มาก มีชายตัวใหญ่คนหนึ่งดันห่าน ห่านกำลังจะล้ม บื้อรีบกอดห่านเอาไว้ แล้วเอาตัวไปแทรกระหว่างห่านกับชายตัวใหญ่ บื้อโดนเบียดจนตัวติดกับห่าน สองคนทำหน้าไม่ถูก เพราะตัวแนบชิดกันมาก
ทันใดนั้นรถเมล์เบรก คนทยอยลงจากรถ ทำให้บื้อเสียหลักเซจมูกไปแตะโดนแก้มห่านเข้าเต็มๆ ห่านกับบื้อชะงัก แล้วห่านก็โมโห หันไปผลักบื้อเต็มแรง
“ไอ้คนฉวยโอกาส”
บื้อหงายหลังชนเข้ากับชายตัวใหญ่เต็มๆ บื้อหันไปเจอชายตัวใหญ่มองไม่พอใจ บื้อหน้าเสีย ชายตัวใหญ่โกรธจนหน้าแดง
“มึงเหยียบตาปลากูทำไม”
บื้อตกใจ ก้มมองเห็นเท้าเหยียบเท้าชายตัวใหญ่ บื้อเงยหน้ายังไม่ทันพูดก็เจอหมัดชายตัวใหญ่ต่อยเข้าจมูกเต็มๆ ห่านกับทุกคนบนรถตกใจ บื้อหน้าหัน เลือดกำเดาไหลกระฉูด

ห้างBKK Plaza ดาหลามองแอปเปิ้ลกับปีโป้สีหน้าไม่พอใจ
“เมื่อวานนังฮันนี่มาที่นี่”
“ใช่ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นทำท่าทำทางสนิทสนมกับคุณคุณชายม้าก”
“คุณคุณชายเทคแคร์ตลอดตลอดเลยนะคะ”
“แอปเปิ้ลเห็นแล้วก็อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ คุณดาหลาต้องทำอะไรซักอย่างแล้วนะคะ ไม่อย่างนั้นโดนนังนั่นแย่งคุณคุณชายไปแน่ค่ะ”
ดาหลาฟังแล้วก็โมโหหึงขึ้นมาทันที

ดาหลาคุยกับดารัณผ่านทางเฟซไทม์เห็นดารัณนั่งอบไอน้ำอยู่
“คุณแม่ต้องช่วยดาหลานะคะ ไม่อย่างนั้นดาหลาได้เสียคุณชายไปให้นังฮันนี่แน่ๆ”
“อย่าเสียงดังสิคะลูก อย่าลืมว่าเราเป็นผู้ดี”
“นี่ไม่ใช่เวลามาตำหนิดาหลานะคะคุณแม่ คุณแม่ช่วยดาหลาคิดหน่อยสิ ดาหลาคิดไม่ออก หัวสมองจะแตกแล้วเนี่ย”
“โอเคค่ะโอเค เอางี้ ถ้าคุณแม่คิดออก แล้วจะโทรบอกนะคะ”
“ก็ได้ค่ะ” ดาหลาวางสาย สีหน้าเคียดแค้นมาก “นังฮันนี่ เห็นทีแกกับฉันจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว”
ดาหลากัดฟันกรอด

ห่านเอาพลาสเตอร์ปิดที่ดั้งจมูกให้บื้อ มีกระดาษทิชชู่อุดที่รูจมูกบื้อสองข้าง ห่านหน้าแหยมาก
“หายเจ็บยัง”
“ยัง” บื้อมีสีหน้าเจ็บปวด แล้วก็ดึงทิชชู่ออกมาจากจมูก “เจอเธอทีไร ซวยทุกที”
“ก็นายอยากมา...หอ(ม) ทำแบบนั้นกับฉันทำไม”
“ทำหยั่งกับฉันอยากตายล่ะ ถ้าเลือกได้ก็ไม่ได้อยากอยู่ใกล้เธอด้วยซ้ำ”
บื้อลุกขึ้นจะเดินออกไป ห่านหมั่นไส้ เลยยื่นเท้าออกไปกะจะให้บื้อสะดุด แต่บื้อกลับเหยียบเท้าห่านเต็มๆ ห่านร้องลั่น
“โอ๊ย”
บื้อยิ้มสะใจ เอาเท้าออก ห่านลุกขึ้นยืน
“ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว”
ห่านฉุนกึก เงื้อมือจะตีบื้อ แต่บื้อจับแขนห่านได้ทันแล้วดึงเข้ามาใกล้ หน้าห่านเกือบจะกระแทกกับหน้าบื้อ บื้อตกใจ ห่านชะงัก เสียงแอปเปิ้ลกับปีโป้ดังขึ้น
“อ๊าย!”
บื้อกับห่านหันขวับไปเห็นแอปเปิ้ลกับปีโป้ ก็รีบผละออกจากกันทันที แอปเปิ้ลกับปีโป้เดินมาแทรกกลางระหว่างบื้อกับห่าน
“นังห่าน แกกล้ามากที่มายุ่งกับบื้อของฉัน”
แอปเปิ้ลกับปีโป้ควงบื้อคนล่ะข้าง บื้อตกใจ รีบดึงแขนออกจากสองสาวทันที
“เฮ้ย ฉันเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่”
“บื้ออ่ะ ทำไมพูดกับแอ๊ปแบบนี้”
“นั่นสิ บื้อนอกใจปีโป้” แอปเปิ้ลหันไป ปีโป้รีบกลับคำ “บื้อนอกใจแอปเปิ้ลเหรอ”
บื้องง แอปเปิ้ลเข้ามาทุบตีบื้อ
“คนหลายใจ”
ปีโป้เข้ามาช่วยด้วยอีกคน
“คนเจ้าชู้”
บื้อจับแขนแอปเปิ้ลกับปีโป้
“หยุด” สองสาวชะงัก “ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับพวกเธอ”
“ถึงจะไม่ได้เป็น แต่บื้อก็น่าจะรู้ว่าแอ๊ปชอบบื้อมานานแล้ว”
“ใช่”
“บื้อน่าจะรักษาน้ำใจแอ๊ปบ้าง”
“ถูก”
“หรือไม่ ก็ควรจะหาคนอื่นที่ดีกว่าแอ๊ป ไม่ใช่ยัยคอห่าน”
“จริง”
“ทำไม ฉันมันเป็นยังไง”
“เธอมันก็ไม่มีอะไรเทียบฉันติดซักนิดน่ะสิ”
“สวยก็ไม่สวย แถมยังไร้รสนิยม”
“ไม่เจียมตัว ไม่รู้จักเงาหัวตัวเอง เออ...จริงสิ ขนาดพ่อแม่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร โถ..น่าฉงฉาน”
ห่านกำมือแน่น พูดไม่ออก แอปเปิ้ลกับปีโป้หัวเราะสะใจ บื้อสงสารห่านมองแอปเปิ้ลกับปีโป้ไม่พอใจ
“รู้ไว้อย่างเดียวก็พอ” บื้อบอกเสียงดังแล้วเดินมายืนข้างห่าน บื้อโอบห่านเข้ามา ห่านผงะ แอปเปิ้ลกับปีโป้เหวอและงง “ว่าห่านเป็นแฟนฉัน”
ห่านช็อก แอปเปิ้ลกับปีโป้อ้าปากค้าง
“ไม่จริง”
ห่านจะอ้าปากพูด แต่บื้อพูดออกมาก่อน
“จริง” บื้อหันมาทางห่านแล้วยิ้มหวาน “ไปกันเถอะจ๊ะที่รัก”
ห่านพูดไม่ออก บื้อรีบพาห่านเดินออกไป แอปเปิ้ลแหกปากดังลั่น
“อ๊าย!”
“ใจเย็นจ๊ะเพื่อนแอ๊ป”
แอปเปิ้ลไม่หยุด
“อ๊าย...อ๊าย...อ๊าย”
ปีโป้ยกมือปิดหูแทบไม่ทัน จีจี้ได้ยินทุกอย่างถึงกับตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้นดีใจ

ห่านเอามือบื้อออกจากไหล่แล้วหันขวับไปด้วยความโมโห
“ปล่อยได้แล้ว นี่นายจะบ้าเหรอ นายพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง ใครรู้เข้า ฉันเสียหายยับเยิน”
“โห...แม่คุณ ทีฉันยังช่วยเธอตั้งหลายครั้ง เธอก็ต้องช่วยฉันบ้างสิ ขืนไม่เล่นมุกนี้มีหวังยัยแอปเปิ้ลปล้ำฉันตรงนั้นแน่”
“แหม...พ่อมหาเสน่ห์ นี่ฉันช่วยนายได้ แต่ไม่ใช่วิธีนี้ ก่อนอื่นนะนายต้องไปบอกยัยสองคนนั่นว่าฉันไม่ใช่แฟน แล้วนายก็ไปหาใครซักคนมาเป็นแฟนหลอกๆ กับนายแทนฉัน”
บื้อเดินมาตรงหน้าห่าน
“ถ้าเรื่องแค่นี้ช่วยกันไม่ได้ ฉันก็จะไม่ช่วยเธออีกต่อไป”
ห่านอึ้ง อยากจะบ้า
“ไอ้บื้อ”
บื้อยิ้มพร้อมยักคิ้วแล้วก็เดินผิวปากอารมณ์ดีออกไป ห่านกลุ้มใจสุดๆ

อีกด้านหนึ่งที่แผนกเครื่องสำอาง พวกพนักงานมองจีจี้ตาโตด้วยความตะลึง
“จริงเหรอนังจี้ อย่ามาเต้าข่าวเองนะยะ”
“จริงแท้แน่นอน ฉันได้ยินมากับหู เห็นมากับตา”
เจ๊มะพร้าวเดินมาเห็นก็ท้าวเอว
“รวมตัวกันสวดศพส่งวิญญาณนังช้างน้ำนี่กันอยู่เหรอยะ”
จีจี้กับพนักงานหันไปเห็นเจ๊มะพร้าว ก็แยกย้ายกันออกไป เหลือแต่จีจี้คนเดียว หันไปคว้ามาสคาร่ามาปัดขนตา
“มาถึงก็แช่งกันเลยนะเจ๊”
“เห็นแกขึ้นอืดขนาดนี้ ก็นึกว่าตายมาสามวันแล้วน่ะสิ” จีจี้เบ้หน้า
“เอาเวลาที่มาว่าฉัน ไปสั่งสอนน้องของเจ๊จะดีกว่ามั๊ง” เจ๊มะพร้าวชะงัก
“มีอะไรเกิดขึ้นกับห่าน”
จีจี้ยิ้มเยาะ เจ๊มะพร้าวมองสงสัย

เจ๊มะพร้าวกับแหม่มดึงห่านเข้ามาในห้องเก็บสินค้า พูดกันเสียงเบา แต่อารมณ์มากันแบบเต็มที่
“แกกับน้องบื้อคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วความสัมพันธ์ระดับไหน”
“ก.จับมือ ข.หอมแก้ม ค.จูบ ง. ฟีเจอริ่งกันแล้ว”
“โอ๊ย ไปกันใหญ่แล้ว ฉันกับนายนั่นไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แน่ใจ อย่าโกหกเจ๊”
“ไม่ได้โกหก ว่าแต่ไปได้ยินอะไรกันมาเนี่ย”
“ก็นังจี้น่ะสิ มันบอกว่ามันได้ยินกับหู เห็นกับตาว่าแก 2 คนน่ะ...”
“บ้าแล้วเจ๊ แหม...มันน่าจับนังจี้มาตบให้ผอม”
“เอ้า แล้วตกลงมันยังไงห๊ะเพื่อน”
“ก็นายนั่นดันปากปีจอบอกยัยแอ๊ปว่าฉันเป็นแฟนมัน เพื่อที่ยัยแอ๊ปจะได้เลิกตอแยกับมันซะทีไงล่ะ”
“ที่แท้เค้าก็เห็นแกเป็นไม้กันหมา”
“ก็เออสิ มันเลวมั้ยล่ะน้องบื้อของเจ๊น่ะ เฮ้ย ว่าแต่ลองถ้านังจี้รู้ ป่านนี้ก็ต้องรู้กันทั้งห้างฯแล้วสิเจ๊”
“ถูกต้อง”
ห่านเครียด กังวล และเซ็ง

คืนนั้นเมื่อกลับถึงบ้านเช่า เสียงกระแอมดังขึ้น ห่านหยุดเดินหันไปเห็นบื้อเกาะรั้วข้างบ้านยืนอยู่
“ลืมไรไปป่ะ”
“อะไร”
บื้อชี้ที่นาฬิกาข้อมือ
“สี่ทุ่ม เลยเวลาอาหารเย็น รีบไปทำอาหารมาให้ฉันกินด่วน”
บื้อพูดจบก็หันหลังเดินออกไป ห่านกำมือแน่นด้วยความโมโห แต่ทำอะไรไม่ได้

ห่านกระแทกชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรงหน้าบื้อกับโย่ง สองคนสะดุ้ง บื้อเอาแต่จ้องชามบะหมี่ ห่านยืนกอดอก
“กินซักทีสิ อยากกินนักไม่ใช่เหรอ”
“ฉันหมายถึงข้าว ไม่ใช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป”
“ก็กับข้าวในบ้านนายมันมีอยู่แค่นี้”
“ก็ไปเอาในบ้านเธอมาสิ”
“มันจะมากเกินไปแล้ว”
บื้อกำมือยื่นไปตรงหน้าห่าน
“ในนี้มีอะไร”
“มุกไหนอีกล่ะ” ห่านไม่เข้าใจ
“ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันกำอะไรอยู่” บื้อพูดไม่ออกเสียง “ความ-ลับ”
ห่านอึ้ง โย่งไม่เข้าใจ
“คุยเรื่องอะไรกันวะเนี่ย”
บื้อกับห่านหันไปทางโย่งพร้อมกัน
“ไม่เกี่ยวกับนาย”
โย่งชะงัก ห่านหัวเสียมาก พลันเสียงมือถือดังขึ้น ห่านหยิบออกมากดรับสาย
“ว่าไงแหม่ม” ห่านชะงัก ตกใจ “ร้องไห้ทำไม” บื้อกับโย่งตกใจไปด้วย โดยเฉพาะโย่ง “เฮ้ย ใจเย็น ฉันฟังไม่รู้เรื่อง ค่อยๆ พูด” ห่านฟังแล้วตกใจอีกครั้ง “แกถูกไล่ออกจากอพาร์ทเม้นท์ ฉันจะรีบไปหาแกเดี๋ยวนี้”
ห่านวางสายจะรีบออกไป บื้อเรียกเอาไว้
“เดี๋ยว” ห่านหันขวับ
“นายไม่ได้ยินเหรอว่าเพื่อนฉันเดือดร้อน จะใจดำไปถึงไหน? เห็นแก่กินอยู่ได้ ไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยทำอาหารให้นายกินก็แล้วกัน โอเคป่ะ”
“ฉันแค่จะบอกเธอว่า ดึกแบบนี้ หารถยาก”

ห่านมองบื้อ อึ้ง

จบตอนที่ 3

อ่านต่อตอนที่ 4 พรุ่งนี้ เวลา 17.00น.
กำลังโหลดความคิดเห็น