“ยงยุทธ ทองกองทุน” ผู้บริหาร GTH และ “ย้ง ทรงยศ” ผกก.“ฮอร์โมนฯ” รับช็อกรู้ข่าว “ปันปัน” เสพยา เผยก่อนพ่อปันปันแถลงได้โทร.มาแจ้งแล้วว่าจะพูดความจริง รับอึ้งที่พ่อตัดสินใจแบบนี้ แต่ก็เห็นด้วย บอกพ่อให้ปันปันออกจากวงการไปก่อน เพื่อปรับปรุงตัว พร้อมแจงนางเอกสาวสารภาพเสพไอซ์เพราะอยากผอม อีกทั้งกำลังจะเล่น “ฮอร์โมนฯ” จึงอยากสวย วอนสังคมให้โอกาส ยันไม่ตัดฉากปันปันออกจากซีรีส์ แต่ถ้าสังคมอยากให้ตัดก็จะทำ
ออกมาแถลงข่าวแล้วเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ในส่วนของผู้บริหารค่าย GTH อย่าง “สิน ยงยุทธ ทองกองทุน” และ “ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์” ผู้กำกับซีรีส์ “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” กรณีมีภาพหลุด “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์” นางเอกซีรีส์เรื่องดังกล่าวทำท่ากำลังเสพยา ซึ่งในตอนแรกมีการชี้แจงจาก PunPun Udomsilp ซึ่งจัดทำโดยแฟนคลับของสาวปันปันว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพโปรโมตรายการการ “PLAY GANG Boys Meet Girls Special สัปดาห์ว้าวุ่น” ที่จะออกอากาศทาง Play GTH On Air www.myplaychannel.com/Onair จนกลายเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้
กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา “นายสุรศักดิ์ อุดมศิลป์” พ่อของปันปันได้ออกมาเปิดแถลงข่าวแทน และได้ยอมรับว่าหลังจากมีภาพฉาวดังกล่าวหลุดออกมาครอบครัวได้มีการเรียกลูกสาวมาสอบถาม ซึ่งปันปันยอมรับว่าตัวเองเคยเสพยาไอซ์จริงๆ 1 ครั้ง พร้อมบอกครอบครัวรวมถึงลูกสาวรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ที่ลูกทำไป เพราะยังเด็กอายุ 16 ทำให้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อนเอ่ยขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง
โดยในการแถลงข่าวของ “ยงยุทธ ทองกองทุน” ผู้บริหาร GTH และ “ย้ง ทรงยศ” ผกก.“ฮอร์โมนฯ” ได้ยอมรับว่ารู้สึกช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าปันปันจะเสพยาจริง พร้อมเผยว่าในช่วงเช้าก่อนที่พ่อของปันปันจะแถลง อีกฝ่ายได้โทร.มาชี้แจงด้วยตนเองว่ารูปที่ออกมาปันปันเสพยาจริงๆ ไม่ใช่ฉากในรายการ และบอกว่าจะออกมาพูดความจริง ซึ่งตนก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าพ่อจะยอมรับตรงๆ แบบนี้ แต่ก็ดีใจที่พ่อกล้ายอมรับกล้าพูดความจริง ทั้งนี้โดยส่วนตัวเองก็ได้สอบถามไปยังปันปันแล้ว ซึ่งนางเอกสาวสารภาพว่าที่เสพยาไอซ์ เพราะมีคนแนะนำว่าเสพแล้วผอมจึงลองเสพ 1 ครั้ง ยืนยันไม่ได้ติดยา เผยตอนนี้พ่อของปันปันได้สั่งให้ลูกสาวออกจากวงการไปก่อน เพื่อไปปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น
ยงยุทธ : “ก็ขอบคุณนะครับ แล้วก็ขอโทษด้วย จริงๆ วันนี้ก็ไม่นึกว่าจะมีคิวแบบนี้ประชุมกันยาวเลย แล้วก็พยายามตามข่าวกันไปเรื่อยๆ ว่าตั้งแต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาเราก็เพิ่งรู้พร้อมๆ กับทุกๆ คน ณ ตรงนี้ อาจจะรู้เร็วกว่าสัก 2 นาทีเท่านั้นเองก็ได้มีการพยายามพูดคุยสื่อสารตลอด เบื้องต้นก็เหมือนที่พ่อน้องปันปันออกมาแถลงก่อนหน้านี้ ซึ่งทางจีทีเอชเองรับทราบก็ตกใจแล้วก็รู้สึกช็อคนิดหน่อย แต่สักพักเราก็ดีใจ เรารู้สึกอย่างนึงคือครอบครัว คุณพ่อของน้องปันปันบอกว่าจะออกมาพูดทุกอย่างด้วยตัวเองด้วยตัวของเขาเอง แล้วก็บอกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง”
“ซึ่งในมุมของจีทีเอชเองไม่มีใครนึกหรอกครับ ตัวน้องเพิ่ง 16 เอง แล้วก็จากการทดลองไปครั้งเดียวของน้อง จนถึงทุกวันนี้ผมเองว่าน้องคงได้รับบทเรียนที่ยิ่งใหญ่มหาศาลกับชีวิตเขาแล้ว ผมว่าวินาทีนี้ไม่มีใครแฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น คือมันก็พูดยากจริงๆ ในฐานะที่ผมมีลูกสาวอยู่คนนึง คือเรื่องนี้ก็ทำให้พ่อทุกคนก็รู้สึกว่ามันน่าตี ในความเป็นจริง แต่ว่าจากการพูดคุยทั้งหมดแล้วนี่มันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กจริงๆ แล้วตัวคุณพ่อเองที่ได้คุยกันล่าสุด หลังจากที่คุยกับทุกท่านเมื่อตอนบ่ายก็บอกว่าทางครอบครัวของน้องปันปันจะให้น้องพักไปช่วงนึง เพื่อให้ได้กลับไปขบคิดในสิ่งที่ทำไปโดยไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และมันได้ส่งผลยิ่งใหญ่มากๆ กับสังคมแล้วก็แฟนๆ แล้วก็คนที่ติดตามผลงานน้องอยู่ ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจนะครับ ทางเราก็เห็นใจกับครอบครัวน้องมาก ในเบื้องต้นก็ถือว่ารับรู้ด้วยความตกใจ แต่สนับสนุนนะครับที่ครอบครัวของน้องปันปันตัดสินใจออกมาพูด”
“ในเบื้องต้นทางคุณพ่อน้องปันปันได้แสดงเจตนาออกมาแล้ว ว่าจะพักตัวน้องปันปันอยู่ในช่วงเวลานึง ให้น้องได้ทบทวนในสิ่งที่เกิดขึ้นในสิ่งที่เขาได้ทำมา ด้วยตอนนี้น้องก็รับรู้ในสิ่งที่เขาทำแล้วว่าสิ่งที่เขาทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในครั้งนั้น นาทีนี้สิ่งที่เขาได้รับรู้มันส่งผลกระทบยิ่งใหญ่ ในครั้งนี้ผมว่าสภาพจิตใจของน้องตอนนี้ค่อนข้างแย่มาก ผมว่านาทีนี้เห็นใจน้องเขามากกว่าคงให้กำลังใจ เพราะเชื่อว่าได้รับบทเรียนอันสำคัญมากๆ ของชีวิตของเด็ก 16 คนนึง ซึ่งทางย้งก็คุยกับคุณพ่อคุณแม่ของน้องตลอด”
ย้ง : “ตอนที่คุยน้องก็ร้องไห้ คือส่วนตัวผมรู้ข่าวเรื่องรูปเมื่อวาน แล้วที่ช่วงนี้ผมจะยุ่งมากเรื่องตัดต่อฮอร์โมนอยู่แล้วก็สัมภาษณ์สื่อต่างๆ เกี่ยวกับปรากฏการณ์ฮอร์โมน แต่ยังไม่เห็นภาพนะ เมื่อคืนมีแต่พี่ๆ พีอารบอกว่าเดี๋ยววันนี้น้องกับพ่อจะเล่าให้ฟังว่าภาพนั้นคืออะไรรอจนถึงวันนี้ จนกระทั่งเมื่อเช้าผมเป็นคนรู้เรื่องเองจากจีทีเอช ว่าคุณพ่อโทร.มาปรึกษาก่อนที่จะเดินมาตรงนี้ว่าย้งครับ พ่อตัดสินใจว่าจะออกมาพูดความจริงกับพี่ๆ สื่อ ผมก็ถามว่าความจริงคืออะไร แล้วคุณพ่อก็พูดกับสื่อระหว่างนั้น ผมก็แจ้งให้ทางผู้ใหญ่ทราบพร้อมๆ กับผม”
“น้องแค่ทดลองหนึ่งครั้ง ไม่ได้เสพติด เจตนาก็ซื่อๆ เลยครับ อยากสวย อยากผอม อยากหน้าใส มีคนมาบอกว่าไอ้นี่ซิทำให้ผอมอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วงนั้นก็จะถ่ายฮอร์โมน (หรือเพราะเราบอกเสื้อผ้าแน่นแล้วใส่ไม่สวยเลยกดดันน้อง?) ผมก็ไม่แน่ใจต้องไปถามน้อง ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงจี้ดมากจริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องเซนส์ซิทีฟ ผมรู้สึกว่าทุกคนรักปันปัน ทุกคนในจีทีเอชรักปันปันและก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น วันนี้ก็เสียใจ แต่เหตุการณ์ที่ยังรู้สึกดีก็คือว่าคุณพ่อออกมาเล่าความจริงก็เลยคิดว่าโอกาสนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ทำให้คนอยากจะให้โอกาสปันปันอีกครั้ง”
พร้อมโต้ กรณีทีมงานของ Play Channel ออกมาโพสต์แก้ข่าวว่าภาพหลุดดังกล่าวเป็นภาพการแสดงในรายการ จนถูกมองจงใจปกปิดข่าวว่าไม่จริง เป็นแค่ความเข้าใจผิดเท่านั้น
ย้ง : “เอาจากความเข้าใจของผมเอง สื่อทุกสื่อของจีทีเอชเรากำลังช่วยกันโปรโมตฮอร์โมนมาตลอด เวลาอันนึงคือช่องเพลย์ชาแนลจะโปรโมตฮอร์โมนตลอดเวลา หลายรูปแบบมาก และหนึ่งในนั้นคือการรณรงค์ในเรื่องปัญหาของวัยรุ่น ที่ผ่านมาก็พูดคุยเรื่องต่อยตีเรื่องความรักในวัยเรียน ซึ่งในวีคนี้ก็เป็นปัญหาเรื่องยาเสพติด เรื่องต่อยตี เรื่องครอบครัวต่างๆ นานา เรื่องเซ็กซ์ในวัยเรียน ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าน้องในเพลย์ชาแนลพิมพ์สเตตัสอธิบายในเฟซบุ๊ก ในส่วนตัวอย่างที่พี่บอกว่าผมก็คิดไม่ถึง ก็ตกใจว่าเอ๊ะมันคืออะไรยังไง ยังไม่มีจังหวะได้เห็นรูป จนกระทั่งมีคนมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเพราะเราก็เชื่อตามน้องที่ช่องเพลย์บอก เพราะว่าเรายังไม่เห็นรูป เอาตรงๆ นะครับ ผมก็ยังไม่เห็นคลิปที่ปรากฏในเพลย์ชาแนลเพราะอย่างที่บอก ว่าที่ผ่านมายุ่งมาก แล้ววันนี้ก็มีพี่ๆ สื่อโทร.หาผมเยอะมาก ก็ขอโทษครับที่ไม่ได้รับสายเพราะว่าเครียด แล้วก็ประชุมอยู่กับพี่ๆ เรื่องนี้ว่าจะเคลียเรื่องนี้ยังไง”
ยงยุทธ : “คือขออธิบายเรื่องหนึ่งของเพลย์ชาแนลว่าน้องฮอร์โมนจะยุ่งมาก จะทำสกู๊ปพิเศษต่างๆ เต็มไปหมดเลย แล้วก็เพลย์แก๊งค์ก็จะมีน้องๆ เป็นพิธีกรอยู่แล้ว ก็จะเห็นอยู่แล้วว่าทางจีทีเอชถ้าจะมีอะไรโปรโมตก็จะโปรโมทยาวตลอด แล้วจากกระแสฮอร์โมนที่พี่สื่อ หรือหลายคนมองเห็นประโยชน์ มันก็จะมีการครีเอทในเนื้อหาข้อมูลเยอะขึ้น ก็เข้าใจว่าเนื่องจากการโปรโมตมันเยอะมาก ก็เข้าใจว่าแอดมินเวลาที่เห็นกระแสข่าวมา คือเนื่องจากที่ช่องเพลย์เขาถ่ายทอดอยู่แล้ว ก็คงเข้าใจว่าคงเป็นสิ่งที่อยู่ในเทปที่โปรโมตในรายการใช่ไหม ซึ่งตอนหลังเราก็มาดู ก็เข้าใจเคลียร์กันแล้ว อย่างที่บอกครับว่าทุกสิ่งทุกอย่างเพิ่งวันนี้ที่เป็นภาพที่ชัดเจน”
ถ้าวันนี้คุณพ่อไม่ออกมายอมรับ เรื่องนี้ก็จะผ่านไปใช่ไหมเพราะทีมงานก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริง?
ยงยุทธ : “ใช่ สุดท้ายเมื่อวันที่เราได้เห็นรูปจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคลิปเลย ก็กลายเป็นว่าเป็นความเข้าใจผิดของทางทีมงาน เพราะเบื้องต้นเราเองก็ยังไม่ได้คิดอะไรเพราะเรารู้สึกว่ามันมีเคมเปญนี้อยู่ (ไม่มีเจตนาปกปิด?) คือไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม ผมว่านาทีนี้ก็เป็นตามที่คุณพ่อเขาพูด ผมว่าสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ในวันนี้ชิ้นงานส่วนใหญ่ที่เราปล่อยไปไม่เคยออกมาในทิศทางแบบนี้ เรามีอะไรก็พูดกันตรงๆ (ส่วนผลงานของน้องที่ยังออกอากาศอยู่จะมีการปรับอะไรไหม?) ตอนนี้เป็นสิ่งที่เรากำลังดูกันอยู่ แต่ความเป็นจริงแล้วในสัปดาห์นี้ไม่มี”
ย้ง : “คือน้องมีงานหลักๆ กับจีทีเอชก็คือฮอร์โมน ผมก็ปรึกษากับพี่ๆ อยู่ว่าทีนี้เราจะทำยังไง ในส่วนตัวยังอยากยืนยันความรู้สึกว่าในเมื่อน้องกับพ่ออกมาพูดความจริงแบบนี้ แล้วจริงๆ เจตนารมณ์ในซีรีส์ของฮอร์โมนหวังว่าน้องๆ พี่ๆ สื่อเห็นว่าเรามีเจตนาดีในการที่นำเสนอ สิ่งนี้คือผมในฐานะของคนทำงานก็อยากสื่อสารเนื้อหาของมันให้ครบถ้วนสมบูรณ์ จริงๆ หลังจากนี้ตัวละครปันปันก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมายอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันเป็นบทสรุปของปัญหาอะไรบางอย่าง ถ้าเอาคาแร็คเตอร์ของตัวปันปันออกไป มันจะทำให้บทบาทของน้องๆ คนอื่นๆ หลุดไปด้วย คือเป็นเรื่องที่ติดพันกันอยู่แต่ว่าอันนี้เป็นแค่ความคิดของผม ผมคงต้องหาบทสรุปกับทางผู้ใหญ่อีกที”
แต่เรื่อง “ปันปัน”ไม่เกี่ยวกับซีรีส์ “ฮอร์โมนฯ” นี่เป็นชีวิตเขา ต้องได้รับการลงโทษสิ?
ย้ง : “ถ่ายทำจบไปเรียบร้อยแล้วครับ”
เพราะที่ผ่านมาถ้าเป็นค่ายอื่นก็ต้องตัด ถ้าเป็นฟรีทีวีก็ออกอากาศไม่ได้?
ย้ง : “คือที่คุยกันภายในคิดว่างานต่อๆ ไปของน้องหยุดก่อนแน่นอน ในส่วนตัวของผมเอง ผมเชื่อว่าเราทำงานด้วยเจตนาที่ดีที่ผมตั้งใจมากและทุกๆ คนรับรู้ และวันที่ผมรู้สึกว่าน้องและพ่ออกมาพูดความจริง แล้วมาเล่าให้ฟังทุกอย่างก็รู้สึกว่าฮอร์โมนหรือน้องๆ คนอื่นไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเป็นไปได้ไหมถ้าเราจะนำเสนอในสิ่งที่ถูกต้องคือถ้าฮอร์โมนเป็นเรื่องที่หวือหวาวัยรุ่น แล้วไม่ได้เป็นประเด็นอะไรที่มันสำคัญ ผมอาจจะเห็นกับพวกพี่ๆ ว่าขอเอาออกก็ได้ คือไม่ได้เป็นประเด็นในการทำอะไรเลย ผมอยากให้รู้ว่าสิ่งที่ผมทำเป็นเจตนาดีอยู่ ยังอยากให้เราทำสิ่งนี้ต่อไป ยังยืนยันที่จะเล่าฮอร์โมนแบบเดิมอยู่ครับ ในความรู้สึกผมว่าถ้าพี่ๆ บอกย้งเอาออก ก็ต้องเอาออก ก็เอาออกได้ครับ คือผู้บริหารยังไม่ได้สรุปครับ คือเราต้องคุยกับทางช่องวันด้วยครับ”
ยงยุทธ : “ถ้าตัดปันปันออก ผลกระทบตอนนี้ไม่ใช่เรื่องเงิน ข้อที่หนึ่งเลยเสียดายโอกาสของตัวปันปันเอง สองเสียดายความสมบูรณ์ของเนื้อหา เพราะ 3-4 ตอนก็จะจบแล้ว ส่วนของปันปันเหลืออีกนิดเดียวในช่วงของสรุปความสัมพันธ์ ว่ายังโผล่ในส่วนสตอรี่ของตัวอื่นๆ อยู่บ้าง ซึ่งผมได้มีโอกาสดูล่วงหน้าไป 2 ตอน ผมว่าถ้าถูกตัดออกไปหน้าเสียดายมาก เพราะต่อไปเป็นช่วงที่เนื้อหาดีมากๆ”
ต่อคำถามที่ว่า งานที่พักต่อจากนี้ทำตามความต้องการของครอบครัว “ปันปัน” หรือนโยบายของบริษัท? บอสจีทีเอชก็ชมพ่อปันปันว่าเป็นสุภาพบุรุษมาก
ยงยุทธ : “คืออันนี้ต้องถือว่าคุณพ่อของน้องปันปันเป็นสุภาพบุรุษมาก แสดงความรับผิดชอบทางบริษัทตั้งแต่ต้นอย่างชัดเจนมาก คือการพูดออกมาเลยตั้งแต่ที่ตัดสินใจว่าจะออกมาพูดแบบนี้นะ แล้วเขาขอเบรกตัวน้องไว้ แต่มีอันนึงที่ฟังแล้วรู้สึกสะเทือนใจคือ เขาพักให้น้องมีเวลาคิด ได้มีเวลาตรึกตรอง ได้มีเวลาฟื้นฟูหัวใจ เพราะที่เหลือเพื่อให้ได้ลูกสาวคนเดิมของเขากลับคืนมา ซึ่งอันนี้ผมว่าถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสสำหรับครอบครับของน้องปันปันมาก”
“น้องไม่ได้เซ็นสัญญากับเราครับ เราทำงานด้วยความผูกพันมาตลอด ที่ผ่านมาน้องปันปันทำงาน ให้ความช่วยเหลือบริษัทจีทีเอชอย่างดีมาก ไม่เคยเกี่ยงเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เซ็นสัญญา เพราะที่ผ่านมาทุกคนก็เห็นว่าน้องปันปันไม่ได้มีปัญหาเรื่องของพฤติกรรม ว่ามีบทบาทในทางที่เสื่อมเสีย เหมือนที่บอก ตอนคุยแทบไม่เชื่อเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แล้วบวกกับว่าเด็กอายุ 16 คนนึง ครอบครัวเอาตัวเองออกมาเปิดเผย การที่ครอบครัวออกมายอมรับในเรื่องบางเรื่อง มันไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องของเด็กคนนั้นคนเดียว ต้องเจออะไรที่ต้องอธิบายอีกเยอะ ซึ่งก็ถือว่าโชคดีที่ออกมาถึงตรงนี้ปุ๊บพวกเราเข้าใจ หวังว่าคงจะให้โอกาส ให้อภัยน้อง ในวันเวลาที่มีความเหมาะสมในวันที่เขาเรียนรู้แล้ว ในวันที่เขาพร้อมจะกลับมามีส่วนในการที่รับผิดชอบตัวเองกับรับผิดชอบสังคมได้”
“โปรเจกต์ต่อไปของน้อง จริงๆ งานที่เป็นหนังยังไม่มีครับ แต่งานพรีเซ็นเตอร์ด้วยความที่ฮอร์โมนประสบความสำเร็จ มีทางลูกค้าพูดคุยทางโปรเจกต์แต่ยังไม่มีข้อสรุป แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้คงต้องหยุดน้องก่อน แล้วก็ดึงน้องออกจากการนำเสนอทั้งหมด ส่วนจะนานแค่ไหน แล้วแต่ทางครอบครัวสบายใจ แล้วครอบครัวเขาไปอยู่ด้วยกัน คงรู้ว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ที่น้องเข้าใจมากขึ้นคือผมว่าถ้าเราเป็นพ่อแม่ก็คงจะลงโทษน้อง ต้องเก็บกักไม่ให้ไปไหน ไม่ให้เจอเพื่อน ก็ต้องให้ครอบครัวพิจารณาเอง”
พร้อมเผยยินดีให้ความร่วมมือ หลัง ป.ป.ส.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) อยากเชิญ “ปันปัน” มาตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติด และเพื่อสอบถามถึงแหล่งที่ซื้อยาไอซ์ เพื่อขยายผลในการจับกุม
ยงยุทธ : “อันนี้คุยกับทางครอบครัวของน้องแล้วครับ อันนี้ยินดีให้ความร่วมมือทุกขั้นตอน แล้วก็ยืนยันได้ว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของน้อง น้องก็ยินดีให้ตรวจอย่างเต็มที่ครับ”
ส่วนมาตรการดูแลศิลปินในสังกัดต่อจากนี้ บอสจีทีเอชบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นแบบนี้แล้วทุกคนคงรู้แล้วว่าต้องทำตัวยังไง คงไม่ต้องพูด
ยงยุทธ : “ผมว่านาทีนี้ทางน้องๆ หรือในบริษัทแทบไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับ เรื่องนี้คงรู้ไปถึงครอบครัวจีทีเอชหมดทุกคนแล้วครับ แต่ว่าตลอดเวลาที่เกิดเรื่องทั้งหมด หลายๆ คนส่งทวิตเตอร์มาด้วยความเข้าใจ และกำลังใจสนับสนุนกันและกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งพิเศษมากกับบริษัทนี้ คือน้องเคยร่วมงานกับใครมา ทุกคนก็ยังถือว่าเป็นเพื่อนกันอยู่เพราะสิ่งนึงที่ทำให้เห็น เพราะเขาออกมายอมรับแบบยืดอก พร้อมด้วยบทลงโทษด้วยการพักตัวเองออกไปแล้ว”
การออกมายอมรับของคุณพ่อเป็นทางออกที่จีทีเอชวางไว้หรือไม่คาดฝัน?
ยงยุทธ : “คือมันเป็นการพูดคุย ณ ตรงนั้นเลย”
ไม่คุยก่อนเหรอเหมือนผลกระทบเสียมากกว่าดี?
ย้ง : “ถ้าถามผมนะ ความจริงผมไม่รู้ อย่างที่บอกว่าช่วงนั้นเรายุ่ง เหมือนรูปมันอธิบายว่ารูปมันร่วมงานกับจีทีเอชอยู่ ผมก็ยังไม่ได้หาจุดเชื่อมโยงอะไร เพราะมันเร็วมาก เหตุเกิดช่วงบ่ายๆ เย็นๆ จนถึงเช้าวันนี้ ที่นี้ในส่วนของทางออกอันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าเป็นผม ผมสารภาพเพราะผมรู้สึกว่าการโกหกไม่ได้ช่วยอะไร มีบทเรียนในอดีตเยอะแยะมากมายที่ผ่านมา ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเราควรจะพูดความจริง คือมันอาจะมีผลกับหน้าที่การงาน ฐานะของน้องในอนาคต แต่ถ้าน้องหรือคุณพ่อเลือกจะที่ไม่พูดความจริง มันก็จะไม่จบไม่สิ้นก็จะนอนไม่หลับตลอด เมื่อคุณพ่อบอกย้งมีเรื่องจะปรึกษา อย่ากจะบอกส่วนนึงตกใจและเครียดมาก พอวางสายเรากำลังจะโทร.หาผู้ใหญ่ เราก็รู้สึกว่าก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ มีจุดที่ลงเอยอะไรบางอย่างอยู่ ที่นี้ก็ฝากพี่ๆ สื่อมวลชนและคนในสังคมว่าที่ขอโทษและสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำไป เราจะให้โอกาสเขาอีกครั้งไหมก็เป็นเรื่องของสังคมแล้ว”
เผยปกติจีทีเอชไม่ได้มีนโยบายเกี่ยวกับเสพยาเสพติด
ยงยุทธ : “ไม่มีครับ ผมว่าที่ไหนก็ไม่มีตรงนั้นเพราะว่าทุกอย่างเราก็ทำงานดูแลกัน ผมว่าโอเคครับ เหมือนในซีรีส์ย้ง มีบางเรื่องที่เราไม่ได้ไปอยู่กับเขาตลอดเวลา มันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในประเด็นของเพื่อน ก็ถือว่าเป็นเคสที่ไม่น่าจะเกิด คือถ้ามีอะไรเราก็จะดูหาเหตุผลกับมันเป็นเรื่องๆ ไป”
ย้ง : “ถ้าเบื้องต้นนักแสดงคนอื่นๆ ผมเช็คแล้วครับ รายละเอียดก็ไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ที่นี้รูปมีเพื่อนน้องอีกคนเท่านั้น จบ 2 คน ส่วนตัวยังไม่รู้ดีเทลเรื่องคลิป หมายถึงว่าตอนี้รู้แค่ว่ามีภาพๆ นึงที่หลุดออกมา แค่ได้ข่าวจากพี่ๆ สื่อมวลชนว่าอาจมีรูปอื่นและมีคลิป”
บอสจีทีเอชปัดไม่รู้ว่า “ปันปัน” ไปรู้วิธีการเสพไอซ์มาจากไหน เพราะยังไม่ได้เจอตัว แต่ภาพที่หลุดออกมาเพราะปันปันถ่ายไว้
ยงยุทธ : “ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับน้อง การอยากคุยกับน้องแบบเจอตัว ผมรู้สึกว่าถ้าคุยเรื่องดีเทล ผมอยากเห็นหน้า คือถ้ามีผลจาก ป.ป.ส. คงต้องติดตามเอา ส่วนภาพก็เป็นภาพที่เขาถ่ายเล่นกัน แต่ว่าหลุดจากไหนไม่มีใครรู้เลย (ถ้าครอบครัวบอกขอสักปี 2 ปี จีทีเอชจะอ้าแขนรับไหม?) ผมว่าถ้าน้องมีความพร้อม พร้อมในตัวเองพร้อมที่จะมีความรับผิดชอบต่อคนอื่นได้ที่เราพูดคุยกันแล้วก็ยินดีเลย”
บอก “ปันปัน” คงไม่มีการแถลงข่าวเพราะยังเด็ก ให้เป้นหน้าที่ผู้ปกครองและบริษัทดีกว่า
ยงยุทธ : “ผมว่าโดยหลักการน้องยังเป็นผู้เยาว์อยู่ คือยังไงก็ขอให้เป็นหน้าที่ของทางผู้ปกครองและบริษัทจะบอกความคืบหน้าต่อๆ ไป”
จากกรณีที่ กสทช.เรียกให้เข้าไปชี้แจงเรื่องเนื้อหาซีรีส์ “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ หลังได้รับรายงานว่ามีเนื้อหาล่อแหลม มีการนำเสนอเนื้อหาที่ชวนให้ผู้รับชมคิดและจินตนาการในทางที่ไม่ดีนั้น “ย้ง” บอกยินดีให้ความร่วมมือ แต่ถ้าถึงขั้นจะขอดูเทปหรือแก้ไขเทปซีรีส์ตนคงต้องปรึกษาทีมกฎหมายของบริษัทก่อนเช่นกัน
ย้ง : “ก็เดี๋ยวประมาณวันที่ 5 สิงหาฯ ทางช่องจีเอ็มเอ็มวันจะเข้าไปชี้แจงเกี่ยวกับตัวเนื้อหาฮอร์โมนเดอะซีรีย์ให้กับทาง กสทช.รับรู้ เพราะเขาอยากให้ชี้แจงเนื้อหา เราก็รู้มาจากสื่อเพราะจดหมายมาจากทางแกรมมี่ ขั้นตอนนี้ก็มีปรึกษากับทางกฎหมายเหมือนกัน ก็วันที่เราไปน่าจะมีทีมกฎหมายของช่องวันไปด้วย จริงๆ เราบริสุทธ์ใจมากกว่า อยากให้ชี้แจงเราก็ยินดีที่จะชี้แจง อย่างที่ผมบอก ผมก็มั่นใจมาก ว่าตอนที่ผมทำฮอร์โมน ผมรู้ว่าผมจะเล่าเรื่องอะไรอยู่ กลัวว่าจะแรงไปแล้วสื่อสังคมจะรับได้หรือเปล่า แต่วันที่เรากลัว เราก็ต้องระวังมากขึ้นเพราะเราทำงานสื่อ และผมเชื่อว่าวันที่ผมทำบทเรื่องนี้จนจบผมคิดว่าผมมีคำตอบให้กับทุกๆ คำถาม ถ้า กสทช.เรียกไป ผมก็พร้อมเข้าไปชี้แจง คือเราไม่รู้ว่าผู้ใหญ่มองเจตนาเราแค่ไหนแต่เราเจตนาดีแน่ๆ แต่ตอนนี้ผ่านไป 9 ตอน เราก็เห็นว่าคนในสังคมเห็นเจตนาที่เราทำ ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะสนับสนุนเรา”
“คือตอนนี้ที่เราทราบให้ไปชี้แจงเรื่องเนื้อหา เพราะฉะนั้นเราก็จะเข้าไปพูดตรงนี้ แต่ที่ถามว่ามีการเรียกเทปล่วงหน้าไปตรวจก่อน ผมคงต้องขอปรึกษาฝ่ายกฎหมายละกันครับ คือเราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมาย แต่ก็ไม่เคยได้ยิน คือที่เรียกเราเพราะดูตอนที่ผ่านไปแล้วหรือเปล่า”
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |