xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวนอกนา ตอนที่ 23 - 24

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข้าวนอกนา ตอนที่ 23

กุหลาบเดินเข้าไปในร้านกาแฟหรู เมื่อเห็นเขมวรรณซึ่งสวมแว่นกันแดด นั่งรออยู่ก็ตรงเข้าไปหา

“คุณใช่ไหมแม่เลี้ยงของเดือน”
เขมวรรณสะอึกไม่พอใจกับคำว่าแม่เลี้ยง
“ถึงแม้เดือนจะไม่ใช่เลือดจากอกของฉัน แต่ฉันก็รักแกยิ่งกว่าแม่แท้ๆ อย่าใช้คำว่าแม่เลี้ยงกับฉัน”
“โอ๊ย...ไม่ต้องมาลำเลิกบุญคุณความรักอะไรร้อก ความจริงมันก็คือความจริง อยู่วันยังค่ำ ในเมื่อมันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฉัน”
“ที่จริงเธอเซ็นสัญญายกลูกให้ครอบครัวเราแล้ว ไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องอะไรอีก”
“นึกถึงหัวอกแม่อย่างฉันบ้างสิคุณ ฉันอยากจะเจอลูกของฉันบ้าง อย่าใจร้ายไปหน่อยเลย”
“ฉันไม่อยากให้เด็กมีปมด้อย เลิกมาวุ่นวายกับชีวิตยัยเดือนซะที ถึงยังไงแกก็ไม่กลับมาหาเธอหรอก ยัยเดือนมีฉันเป็นแม่เพียงคนเดียว”
“ฉันก็อยากจะลองดูเหมือนกัน ว่านังเดือนจะคิดอย่างคุณหรือเปล่า”
“ฉันคุยกับเดือนแล้ว เดือนไม่อยากมาเจอเธอ เขาอยากจะลืมเรื่องในอดีตให้หมด”
“คนเราถ้ามันยังจำความได้ ก็ไม่มีวันลืมหรอก นอกจากจะแกล้งลืมเท่านั้นเอง”
“เธอก็แกล้งลืมลูกตัวเองไปสิบกว่าปีไม่ใช่เหรอ”
กุหลาบเหยียดปากใส่ เขมวรรณหยิบซองสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋า ยื่นให้
“ฉันไม่อยากจะต่อความยาวอะไรมาก เธออยากได้ไอ้นี่ใช่ไหม”
กุหลาบรับมาเปิดดู ตาลุกวาว จะเอื้อมมือเข้าไปล้วงเงินออกมา เขมวรรณตะปบไว้ไม่ให้หยิบ
​“ทั้งหมดสามแสน พอใจหรือยัง”
“ไม่น้อยไปหน่อยเหรอ”
เขมวรรณเสียงเข้มที่สุดในชีวิต ด้วยความต้องการปกป้องลูก
“เงินก้อนนี้เป็นก้อนสุดท้ายที่เธอจะได้แล้ว ฉันจะให้เธอเซ็นสัญญาอีกฉบับต่อไปอย่ามายุ่งเกี่ยวกับยัยเดือนอีก ไม่อย่างนั้นถ้าเรื่องถึงศาล เธอจะไม่ได้อะไรเลย”
เขมวรรณหยิบกระดาษสัญญาให้กุหลาบ กุหลาบยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
“ฉันจะไปเมืองนอกแล้ว เงินก้อนนี้จะเอาไปตั้งตัวก็แล้วกัน”
กุหลาบเซ็นชื่อในสัญญา เขมวรรณยื่นซองเงินให้ กุหลาบหยิบเงินออกมานับอย่างพอใจ เขมวรรณมองกุหลาบด้วยความรังเกียจ

เขมวรรณนั่งลงบนโซฟาอย่างรู้สึกโล่งใจ ไพเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟให้
“ขอบใจจ้ะ คุณหนูอยู่หรือเปล่าจ๊ะ”
“อยู่ข้างบนค่ะ”
“แล้วคุณผู้ชายล่ะ”
“คุณผู้ชายยังไม่กลับค่ะ”
“พรุ่งนี้ไพช่วยฉันจัดกระเป๋าหน่อยนะ ฉันจะไปนั่งสมาธิที่วัดสักสองวัน”
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง”
ไพออกไป เขมวรรณมองขึ้นไปบนห้องเดือนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อยากจะบอกข่าวดีนี้แก่ลูก

เขมวรรณเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“เดือนลูกแม่”
เขมวรรณเข้าไปกอดเดือนอย่างแสนรัก เหมือนได้ของรักกลับคืนมา
“คุณแม่ขา”
เดือนกอดเขมวรรณกลับด้วยความเคยชิน
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะลูก”
“อะไรเรียบร้อยคะ”
“ก็เรื่องทุกอย่างไงละจ๊ะ ต่อไปนี้จะไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของลูกอีกแล้ว สบายใจได้จ้ะ”เดือนฟังอย่างเข้าใจ
“คุณแม่ทำยังไงคะ”
“ทำยังไงก็ไม่ต้องสนใจหรอกจ้ะ สนใจแค่ว่าแม่จะไม่ยอมให้ใครมาเอาตัวหนูไปจากแม่อีกแล้ว”
เขมวรรณกอดเดือนไว้พลางลูบหลังลูบไหล่ เดือนยิ้มออกมาแต่ยังไม่สบายใจนัก

​จ้อยมองออยที่อยู่ตรงหน้าพลางเบ้ปาก
“หน้าเยินอย่างนี้จะมาร้องเพลงได้ยังไงนังออย”
ออยร้องโอดโอย หน้าตาบวมช้ำยับเยิน อ้าปากพูดได้เล็กน้อย
“ออยร้องได้ค่ะ มืดๆ แขกไม่สังเกตเห็นหรอก”
“ทำไมจะไม่เห็น แกนึกว่าแขกตาบอกตาถั่วหรือไง แกกลับไปรักษาตัวก่อนเถอะ”
“ออยไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ แค่มีแผลนิดๆ หน่อยๆ เอง”
“จะอ้าปากพูดยังไม่เป็นภาษาเลยเนี่ยนะไม่เป็นอะไรมาก แกไปแก้ปัญหาเรื่องแฟนๆ ของแกให้เรียบร้อยดีกว่า ไม่งั้นโดนซ้อมมาอีกฉันก็แย่”
“รับรองไม่มีแล้วค่ะคุณจ้อย”
“ไม่มีก็ดี แต่ช่วงนี้ยังไม่ต้องมาร้องเพลง พักไปเลยสองอาทิตย์”
“คุณจ้อย...”
“ไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน”
ออยจำใจออกไป จ้อยมองตามพลางส่ายหน้าอย่างกลัดกลุ้ม

ออยนั่งร้องไห้โอดครวญในห้องแต่งตัว
“ฮือๆ ซวยชมัดเลย จู่ๆ คืนนั้นคุณธัชก็ไปที่ห้องได้ไงไม่รู้ ปกติเขาต้องโทรถามฉันก่อน”
แอ๋มมองเพื่อนอย่างเห็นใจ
“คงคิดถึงแกมากมั้ง”
“สงสัยว่าจะมีใครคาบข่าวไปบอก”
“แกว่าใครวะ”
ออยเหลือบมอง เห็นซูซี่เข้ามาพอดี แสร้งทำท่าตกใจ
“ว้าย...ผีหรือคนวะเนี่ย อ๋อ...อีหน้าเน่า หน้าเละนี่เอง ฮ่าๆ”
“แกอีหน้า...”
ออยลุกขึ้น จะด่าซูซี่ แต่แล้วก็เจ็บแผล
“โอ๊ย...”
“ระวังๆ ออย อย่าไปยุ่งกับมัน” แนทเตือน
ออยชี้หน้าซูซี่
“มึงระวังตัวให้ดีเถอะ ให้กูหายดีก่อน กูเอาคืนแน่”
“รีบๆ มาเอาคืนนะ ไม่อยากเก็บไว้นาน กลัวเน่าเหมือนหน้าแกซะก่อน ฮ่าๆๆ”
ซูซี่หัวเราะออกไปอย่างสะใจ ออยอ้าปากจะด่าอีก แต่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บใจและเจ็บแผล

ดำกลับมาบ้าน เห็นกุหลาบกำลังเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางก็มองอย่างแปลกใจ
​“แม่ทำอะไร”
“ก็ไปจากที่นี่น่ะสิ”
“แม่จะไปไหน ไม่อยู่กับหนูแล้วเหรอ”
“จะอยู่ทำไม ห้องแคบยังกับรังปลวก”
“ไว้หนูมีเงินหนูจะหาห้องกว้างๆ ใหญ่ๆ กว่านี้ อีกไม่นานนะแม่”
“ฉันรอไม่ไหวหรอก”
“แล้วแม่จะไปอยู่ที่ไหน”
“ฉันจะไปเยอรมัน”
“อะไรนะ แม่จะไปเยอรมัน ทำไมไม่เห็นบอกหนูเลย”
“ฉันตัดสินใจกะทันหัน มีฝรั่งที่เคยมาจีบส่งตั๋วเครื่องบินมา เขาขอให้แม่ไปแต่งงานกับเขาที่นั่น”
“แล้วแม่จะกลับมาหาหนูอีกหรือเปล่า”
ดำเข้าไปกอด กุหลาบผลักออกอย่างรำคาญ
“อย่ามากอดฉันน่ะ รำคาญ”
“แม่... ทำไมแม่พูดอย่างนี้ แม่ไม่รักหนูเหรอ”
“มาถามอะไรตอนนี้เล่า ขนลุกว่ะ”
ดำดึงกุหลาบไว้
“แม่อย่าไปเลย อยู่กับหนูเถอะ หนูจะหาเงินมาเลี้ยงแม่เอง”
“โอ๊ย...อย่าเลย ลำพังเงินเดือนนักร้องกลางคืนอย่างแกจะสักเท่าไรกัน ฉันไปอยู่กับผัวฝรั่งสบายกว่านี้เยอะ ปล่อยฉัน ฉันต้องรีบไป”
กุหลาบสะบัดแขนออกจากดำ แล้วปิดประตูใส่หน้า ดำได้แต่ยืนมองประตูอย่างใจหาย
“แม่...แม่จ๋า”
ดำตัดสินใจวิ่งตามออกไป

กุหลาบหิ้วกระเป๋าเดินไปที่หน้าลิฟท์ ดำวิ่งตามมา
“แม่จ๋า แม่ส่งข่าวมาหาหนูบ้างนะ”
“เออๆ ไว้จะติดต่อแกกลับมา”
“แม่มีที่อยู่หนูแล้วหรือยัง”
“ฉันจำได้น่า”
ดำโผเข้ากอดกุหลาบอีกครั้ง กุหลาบค่อยๆ เอามือขึ้นกอดตอบ แล้วตบบ่าดำเบาๆ
“แกดูแลตัวเองดีๆ ก็แล้วกัน”

ลิฟท์เปิดออก กุหลาบเข้าลิฟท์ไปอย่างไม่มีเยื่อใยนัก ลิฟท์ปิดลง ดำยืนมองลิฟท์ น้ำตาไหลอย่างหัวใจจะสลาย รู้ว่าแม่จากไปคราวนี้อาจจะไม่ได้พบกันอีก

ดำเข้ามาในห้องอย่างเลื่อนลอย ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ รู้สึกเคว้งคว้าง ไม่เหลือใครอีกแล้ว

“หนูรู้ว่าแม่หลอกหนู แม่หลอกหนูอีกแล้ว”
ดำนึกอะไรได้ ลุกขึ้นเปิดกระเป๋าหยิบยาที่อู๊ดให้มากิน แล้วดื่มน้ำตาม ดำหลับตา ครู่ใหญ่ๆ ความรู้สึกดำเริ่มล่องลอย ดำยิ้มอารมณ์ดี หน้าของกุหลาบยิ้มๆ ลอยมา แทรกด้วยหน้าของสมพันธุ์
“แม่ไม่กลับมาหาหนูก็ไม่เป็นไร พี่พันไม่กลับมาหาฉันก็ไม่เป็นไร ฉันมีความสุขแล้ว”
หน้าของจอร์จลอยมา พร้อมคำต่อว่า
‘ฉันผิดหวังในตัวเธอมากดำ’
“ผิดหวังก็ผิดหวังไปสิ หนูอยู่คนเดียวก็มีความสุขได้”
ดำหัวเราะร่ากับตัวเอง

ไพหิ้วกระเป๋าออกมา เขมวรรณกับเดือนประคองกอดกันมา
“แม่จะตามคุณยายไปนั่งสมาธิซะหน่อย พรุ่งนี้เย็นถึงจะกลับ คุณพ่อก็ไปสัมมนา ต่างจังหวัด หนูอยู่คนเดียวได้นะ”
“ได้ค่ะคุณแม่”
“งั้นแม่ไปก่อนนะจ๊ะ”
เขมวรรณหอมเดือนแล้วกอดเดือนไว้หลวมๆ ก่อนจะออกไป เดือนมองตาม พอเขมวรรณออกไปแล้ว เดือนก็ทรุดตัวลงนั่งเศร้าๆ เสียงมือถือดังขึ้น เดือนดูหน้าจอก็ชะงัก เมื่อเห็นชื่อของไวภพโชว์ขึ้นมา เดือนชั่งใจว่าจะรับดีหรือไม่ ในที่สุดก็ตัดสินใจปล่อยไว้ไม่รับ
ไวภพวางสายลงอย่างท้อใจเล็กน้อย แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเป็นไลน์ไปหา
“ผมขอโทษครับเดือน”
ไวภพกดไลน์ไปอย่างตั้งใจมาก เสียงไลน์ในมือถือของเดือนดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู
“ผมขอโทษครับเดือน ผมผิดไปแล้ว ผมทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ”
เดือนตัดสินใจกดไลน์กลับไป
“เดือนยังไม่สบายใจค่ะ ภาพวันนั้นยังติดตาอยู่ เราห่างกันสักพักเถอะนะคะ”
ไวภพอ่านไลน์แล้วเศร้ามาก ถึงกับห่อเหี่ยวไป
“โธ่...เดือน คุณจะไม่ให้อภัยผมเชียวเหรอ”
“ทำอะไรน่ะไว”
ไวภพหันไป เห็นวนิดาเดินเข้ามา
“ลูกยังติดต่อเด็กที่ชื่อเดือนคนนั้นอยู่อีกเหรอ”
ไวพนิ่งไม่ตอบ วนิดาชักโมโห
“ผู้หญิงดีๆ มีเยอะแยะ ทำไมจำเพาะต้องมาวนเวียนอยู่กับเด็กสลัมคนนี้ด้วย”
“เดือนเป็นคนดีครับ เราอย่าเอาชาติกำเนิดมาเป็นตัวตัดสินใครดีกว่า”
“ทำไมจะตัดสินไม่ได้ สายเลือดกรรมพันธุ์มันมีผลกับจิตใจและพฤติกรรมแน่ๆ ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่คัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ดีๆ มาผสมกันหรอก”
“แต่คนกับสัตว์ต่างกันนะครับแม่ เดือนถูกอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี เรียนหนังสือก็เก่ง ความประพฤติไม่เคยด่างพร้อย”
“แม่ไม่เชื่อหรอก มันอาจจะสร้างภาพก็ได้ แม่รู้สึกว่าบ้านนั้นมีอะไรแปลกๆ ทั้งพ่อแม่ลูก แม่ขอให้แกเลิกคบเด็กคนนี้ดีกว่านะไว เดี๋ยวแม่จะแนะนำผู้หญิงดีๆ เหมาะสมกับแกให้”
“ผมไม่อยากได้คนอื่น ผมรักเดือนครับแม่”
“โอ๊ย...อย่าเอาความรักมาอ้าง ความรักของหนุ่มสาวมันแค่ชั่ววูบ ถึงยังไงแม่ก็ไม่ยอมรับเด็กคนนี้เป็นสะใภ้แน่”
วนิดาทิ้งท้ายอย่างเฉียบขาดแล้วเดินออกไป ไวภพมองตามกลัดกลุ้ม

​ใจหวานกดกริ่งเรียกดำ แต่ไม่มีเสียงตอบ
“หายไปไหนของมันนะ”
ใจหวานกดมือถือโทรหาดำอีก แต่ดำไม่รับสาย ใจหวานเป็นห่วง
“โทรไปก็ไม่รับสายอีก”ดำเดินยิ้มอย่างอารมณ์ดีมาหาอู๊ดที่บ้าน เธอเคาะประตูเรียก
“อู๊ดๆ อยู่หรือเปล่าวะ”
ใครคนหนึ่งเปิดประตูออกมา ดำมองอึ้งๆ ไป ฤทัยยิ้มเท่ให้หน้ามีแววขบขันนิดๆ เมื่อมองดำทั่วทั้งตัว
“อู๊ดอยู่หรือเปล่า”
“ไม่อยู่หรอก คุณมาหามันทำไม”
“ไม่เป็นไร วันหลังมาใหม่”
ดำจะหันหลังกลับ แต่ฤทัยทักเสียก่อน
“คุณชื่อดำใช่ไหม”
ดำอึ้งๆ หันมองฤทัยอย่างรู้สึกถูกชะตา เพราะรู้สึกว่าเขาคล้ายกับสมพันธุ์

ฤทัยพาดำเข้ามาในบ้าน
“ไอ้อู๊ดมันเคยเล่าให้ผมฟัง ว่ามีเพื่อนเป็นนักร้องดัง ชื่อมิสดอลลี่ แล้วผมก็เคยเห็นคุณในทีวีด้วย”
ดำเขินๆ
“จำฉันได้ด้วยเหรอ”
“จำได้สิ คุณน่ะไม่เหมือนคนอื่น ร้องเพลงก็ดีกว่าใคร ผมยังเชียร์คุณเลยเสียดายที่ตกรอบซะก่อน”
ดำขมขื่น
“ร้องดียังไงก็สู้พวกสวยๆ รวยๆ ไม่ได้หรอก”
“คุณเป็นลูกนิโกรใช่ไหมดำ”
“ใช่ แต่ฉันไม่ชอบให้ใครพูด ไม่ชอบให้ใครถาม ถ้าเลือกเกิดได้ฉันคงไม่ดันมาเข้าท้องมาเกิดเป็นลูกมัน”
“อะไรๆที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเรา ต้นเหตุเพราะเรามันเกิดมาโดยไม่มีคนเขาต้องการทั้งนั้นแหละ จริงไหมดำ”
“ฉันไม่รู้ว่าแม่ของเธอเป็นยังไง แต่แม่ฉัน ฉันรู้ว่าเขาชอบเงิน เขาทำอะไรก็ได้ที่ได้เงินมากๆ”
“ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อกับแม่เลย”
“แล้วใครเลี้ยงเธอมา”
ฤทัยกัดฟันกรอด เจ็บปวดเคียดแค้น
“มีคนไปรับผมมาจากสถานเด็กกำพร้า”
ดำเห็นใจ
“เธอก็เป็นลูกครึ่งเหมือนกันใช่ไหม”
“คงใช่ แม่ผมคงพลาดไปมีลูกกับไอ้หัวทองสักคน แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยงเลยทิ้งผมไว้...” ฤทัยถอนใจ “พูดถึงเรื่องนี้แล้วเครียด เมื่อกี้คุณบอกว่าอู๊ดเคยแนะนำของดีให้ คุณอยากได้อีกเหรอ”
ดำพยักหน้า
“ฉันอยากได้อีก กินแล้วสบายใจดี”
ฤทัยหันไปหยิบอะไรบางอย่าง แล้วยื่นให้ดำดู
“ไอ้นี่ใช่ไหม”
“ใช่ๆ”
ดำจะคว้ามา แต่ฤทัยชักมือกลับ
“ถ้าลองแล้วติดใจ ชวนเพื่อนมาซื้อด้วย ผมมีเปอร์เซ็นต์ให้อีกนะรับรองคุณจะรวยยิ่งกว่าเป็นนักร้องซะอีก”
ดำมองซองยาด้วยความอยากได้มาก แต่อีกใจก็ไม่อยากทำผิด

จอร์จอยู่ในคลินิกกำลังตรวจดูแผลของไวภพ
“แผลคุณโอเคแล้วนะ หมั่นล้างแผลบ่อยๆ แล้วกินยาฆ่าเชื้อที่ผมให้ไปจนครบแผลจะหายไวขึ้น”
“ขอบคุณครับ”
ไวภพหน้าตาห่อเหี่ยว จอร์จมองสังเกต
“ท่าทางอาการทางใจคุณจะหนักกว่าทางกายนะเนี่ย”
ไวภพแปลกใจที่จอร์จดูออก
“มีอะไรเล่าได้นะ เผื่อหมอจะช่วยได้บ้าง”
“ผมทำผิดกับแฟนผมครับ”
“ทำผิดยังไง”
“ผมเข้าใจเขาผิด ก็เลย...ทำร้ายจิตใจเขา หาว่าเขามีคนอื่น”
“ถึงขั้นทะเลาะกันเหรอ”
“ครับ เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบของผมแท้ๆ”
“งั้นคุณก็ควรจะไปขอโทษเขา”
“ผมขอโทษเขาแล้ว แต่เขาขอห่างจากผมสักพัก”
“คุณต้องมีความพยายามหน่อยซี่ ง้อเขามากๆ เดี๋ยวก็ใจอ่อนเอง”
“ผมไม่กล้ากลับไปสู้หน้าเขาอีก พ่อเขายิ่งไม่ชอบผมอยู่ด้วย”
จอร์จตบบ่าไวภพอย่างให้กำลังใจ
“อย่าเพิ่งท้อนะ ถ้าพ่อเขาไม่ชอบคุณ คุณก็ยิ่งต้องแสดงตัวว่าจริงใจกับลูกสาวเขา”

ไวภพครุ่นคิดตัดสินใจ ยิ้มออกมาอย่างตัดสินใจ

ข้าวนอกนา ตอนที่ 23 (ต่อ)

เย็นนั้น อู๊ดตบบ่าฤทัยอย่างชอบใจ
“ฮ่าๆๆ ไอ้ทัยกับไอ้ดำเจอกันแป๊บเดียว สนิทกันซะแล้ว”
ฤทัยกับดำสบตากันพลางหัวเราะ
“เราหัวอกเดียวกันนี่หว่า”
“ทัยยังโชคดีที่มีพ่อแม่เลี้ยงมาจนโต แต่ฉันสิไม่มีเลย”
“ถึงมีก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ พอเขามีลูกของตัวเองก็ถีบหัวลูกเลี้ยงลงนรกตัดขาดง่ายๆ ยิ่งกว่าหมาบ้านเขาซะอีก ผมเลยหนีออกมาอยู่กับไอ้อู๊ดที่นี่”
“คนอะไรวะใจดำฉิบหาย”
“เราถึงต้องรวยไงดำ ถ้ารวยแล้วใครๆ ก็สนใจ ทำอะไรผิดก็ไม่มีใครว่าเอาเงินฟาดหัวทุกอย่างก็จบ”
ดำแววตามุ่งมั่น
“ฉันรวยเมื่อไรจะไปฉีดผิวให้ขาวทั้งตัว ดูซิจะมีใครหน้าไหนมาดูถูกฉันรังเกียจฉันอีกไหม”
อู๊ดมองหน้า
“มึงก็มาช่วยพวกเราขายของสิดำ มึงต้องรวยกว่าตอนเป็นนักร้องแน่”
ดำแย้ง
“แต่กูไม่อยากทำเรื่องผิดกฎหมาย”
อู๊ดเซ็งๆ
“แล้วเมื่อไรมึงจะรวย กูจะบอกให้นะ เราไม่ได้ไปฆ่าหรือทำร้ายใคร แต่เราทำให้เขามีความสุขต่างหาก มึงกินแล้วมึงก็มีความสุขนี่ใช่ไหม”
ดำนิ่งไป ฤทัยเห็นดำเริ่มคล้อยตามก็ช่วยเสริม
“พวกเราก็ไม่ได้จะยึดอาชีพนี้ไปตลอดหรอกนะดำ พอมีเงินสักก้อนแล้วเราก็เลิก เอาเงินไปตั้งตัว มันเป็นแค่ทางลัดทางนึงเท่านั้นเอง”
ดำลุกขึ้น
“ขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน ฉันกลับก่อนละ”
ฤทัยกำชับ
“อย่าลืมที่ผมกับอู๊ดแนะนำนะดำ”
ดำพยักหน้า แล้วเดินออกไป ฤทัยกับอู๊ดหันมามองหน้ากันพลางยิ้มกริ่ม

ไวภพมาชะเง้อที่หน้าบ้านเขมวรรณแล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทร...เดือนอยู่ในห้องนอนเสียงมือถือดังขึ้นเธอเข้ามาหยิบมือถือขึ้นดูเห็นหน้าจอขึ้นชื่อ “ไวภพ” เดือนกดปฏิเสธสายเรียกเข้า
ไวภพถึงกับเครียด ตัดสินใจส่งไลน์ไป...เสียงไลน์ดังขึ้นที่มือถือเดือน เธอกดเปิดดู
“ผมรออยู่หน้าบ้านแล้ว ออกไปคุยกันที่สวนนะครับ”
เดือนส่งกลับไป
“ตอนนี้เดือนไม่อยากเจอคุณ กลับไปเถอะค่ะ”
“ผมขอโทษ เดือนยกโทษให้ผมนะครับ ออกมาคุยกันหน่อย”
เดือนครุ่นคิดตัดสินใจ...ไวภพรอเดือนตอบกลับมา แต่แล้วเสียงแตรรถดังขึ้น เขาหันไปเจอดนัยธรลงมาจากรถ ท่าทางเมาๆ ไวภพยกมือไหว้ แต่ดนัยธรไม่รับไหว้ กลับจ้องหน้าถมึงทึง
“มาทำไมอีก”
“ผมมาหาเดือนครับ”
“มาหากลางค่ำกลางคืนแบบนี้ มันหมายความว่ายังไง”
“ผมไม่มีเจตนาอย่างที่คุณพ่อคิดนะครับ ผมแค่อยากคุยกับเดือน”
“ฉันไม่เชื่อ แกกลับไปซะ แล้วไม่ต้องมายุ่งกับลูกสาวฉันอีก”
“คุณพ่อครับ ผมขออนุญาตคุยกับเดือนแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้นครับ”
“ไม่ต้อง บอกว่าไปให้พ้นไงล่ะ ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจ”
ไวภพกำมือแน่น ขึ้นรถไป ดนัยธรมองตามพลางยิ้มหยัน

เดือนเดินออกมา ชะเง้อมองหาไวภพที่หน้าบ้าน แต่กลับเจอดนัยธรเดินเข้ามาด้วยท่าทางค่อนข้างเมา เดือนผงะ แต่รีบเก็บอาการ
“นึกว่าใคร คุณพ่อนี่เอง...ทำไมกลับเร็วจังคะ เห็นคุณแม่บอกว่ากลับพรุ่งนี้”
ดนัยธรมองเดือนตาขวางๆ เพราะคิดว่าเดือนรอไวภพ
“ตกใจที่ฉันกลับเร็วเหรอ นัดใครไว้ใช่ไหม”
“เปล่าค่ะ เดือนเพียงแต่แปลกใจ เดี๋ยวเดือนบอกพี่ไพเอาน้ำเย็นๆ มาให้นะคะ”
เดือนจะหันกลับไป ดนัยธรมองเห็นแหวนที่มือก็เข้าไปคว้ามือไว้
“เดี๋ยวก่อน นั่นแหวนอะไร”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพื่อนให้เดือนมาใส่เล่นๆ เดือนถอดไม่ออก ก็เลยต้องใส่ไปก่อน”
“เดี๋ยวนี้โกหกเก่งนะเรา”
“เปล่าค่ะ เดือนไม่ได้โกหก”
พูดจบเดือนก็เดินหนี ดนัยธรตามไป
“ทำไมทำท่ารังเกียจฉันนัก”
เดือนไม่ตอบ แต่หลบสายตา ยิ่งทำให้ดนัยธรรู้สึกว่าเธอรังเกียจ เขาโกรธมาก
“ทีกับไอ้ไวภพทำไมไม่เดินหนีแบบนี้บ้าง”
เดือนตกใจ นึกไม่ถึงว่าดนัยธรจะพูดแบบนี้ เธออึ้งไป ยิ่งทำให้ดนัยธรโกรธ เขาเข้าไปจับตัวเธอเขย่าด้วยความโมโห
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกกับไอ้หมอนั่นแอบคบกันอยู่” เขาดึงมือเธอขึ้นมาดู “มันเป็นคนให้แหวนวงนี้ใช่ไหม”
เดือนดึงมือออก แต่ดนัยธรไม่ยอมปล่อย
“ใช่ค่ะ เดือนจะถอดคืนเขาแต่ยังถอดไม่ออก เดือนเลิกคบกับเขาแล้วนะคะ”
“ฉันไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อหนูก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะค่ะ หนูจะเป็นยังไงก็เรื่องของหนู ชีวิตหนู หนูไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่นี่คะ”
ดนัยธรตบหน้าเดือนฉาดด้วยความโกรธ
“ไม่ใช่ลูกงั้นเหรอ”
เดือนร้องไห้วิ่งหนีขึ้นห้องไป ดนัยธรมองมือตัวเองอย่างเสียใจ ไพแอบดูอยู่ เอามือปิดปากตัวเองไม่ให้ร้องออกมา

เดือนวิ่งมาถึงหน้าห้อง ดนัยธรตามมา

“เดือน...”
เดือนจะปิดประตู ดนัยธรผลักเข้าไป แล้วเข้าไปกอดอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษ พ่อขอโทษ พ่อรักเดือนมากนะรู้ไหม”
เดือนรู้สึกขนลุกกับคำพูดของเขา ยิ่งถอยห่าง
“ค่ะๆ แต่เดือนอยากอยู่คนเดียว”
“เดือนยังโกรธพ่ออยู่อีกเหรอ อย่าโกรธเลยนะเดือน”
ดนัยธรโผเข้ากอดไว้แน่น เดือนหน้าตื่น
“คุณพ่อ”
ด้วยสัญชาตญาณดิบบวกความเมา ทำให้ดนัยธรอดใจไม่ไหวที่จะแสดงความใคร่ออกมา เขากอดและลูบไล้ตัวเธอ เดือนตกใจ
“ปล่อยเดือนค่ะ ปล่อย...”
เดือนพยายามขัดขืน แต่ดนัยธรกอดล้มลงไปบนเตียง เดือนดิ้นรน
“ปล่อยนะ”
ดนัยธรพยายามกอดจูบ เดือนปัดป้อง อ้าปากจะกรีดร้อง แต่เขาปิดปากเธอไว้ เดือนดิ้นพราด ตั้งสติผลักเขาออกจากตัวเต็มแรง แล้ววิ่งออกไป ดนัยธรอึ้งไป มองตามด้วยตัวสั่นเทา เริ่มรู้สึกตัว

เดือนวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ร้องไห้ไปด้วยอย่างเสียใจและหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ เปิดประตูออกจากบ้าน ไพคิดว่าขโมยจึงรีบออกมาดู
“ใครน่ะ...อ้าวคุณเดือน จะไปไหนคะ คุณเดือน”
ไพมองตามอย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ดนัยธรวิ่งตามลงมา
“เดือนไปไหนแล้ว”
“ปะ...ไปข้างนอกแล้วค่ะ”
ดนัยธรรีบวิ่งตามไป
“เดือน...”
ไพมองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ดนัยธรตามเดือนออกมาถนนหน้าบ้าน
“เดือน...เดือน...”
เขามองหาไปรอบๆ แต่ไม่เจอ จึงวิ่งออกไปอีกทาง...เดือนออกมาจากหลังเสามองตามอย่างหวาดกลัว
น้ำตาไหลอาบแก้ม

23.4 ดนัยธรกลับเข้ามาในบ้านหน้าเครียดจัด หงุดหงิดงุ่นง่าน ไพเข้ามาถาม
“เจอคุณหนูไหมคะ”
“ไม่เจอ มันคงจะหนีไปอยู่กับผู้ชาย เห็นมารอหน้าบ้าน”
“โทรบอกคุณผู้หญิงดีไหมคะ”
“ไม่ต้อง เขาไปวิปัสสนา ไม่รับสายใครทั้งนั้น”
“งั้นจะทำยังไงดี ไพว่าแจ้งความเลยดีกว่านะคะ”
ดนัยธรตกใจ กลัวเดือดร้อนถึงตัวเอง
“ไม่ต้องๆ จะไปทำอะไรก็ไปทำซะ เดี๋ยวฉัน คิดก่อนว่าจะทำยังไง”
ไพจำใจออกไปอย่างงงๆ ดนัยธรกุมขมับเครียด

ค่ำนั้น เดือนเดินเข้ามาในผับพลางมองหาดำ หนุ่มๆ หลายคนเห็นเธอก็มองอย่างสนใจ เดือนเดินตัวเกร็งเพราะไม่คุ้นกับบรรยากาศผับ บ๋อยเข้ามาถาม
“กี่ที่ครับ”
“เอ่อ...คือฉันไม่ได้มาเที่ยว ฉันมาหาดำ”
ซูซี่ที่เดินผ่านมาชะงัก มองเดือนอย่างสงสัย บ๋อยบอกกับเดือน
“ดำเขาไม่ได้ร้องเพลงที่นี่แล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
เดือนผิดหวัง จะเดินออกไป ซูซี่เรียกไว้
“เดี๋ยวก่อน”
เดือนหันกลับไป ซูซี่มองหน้าอย่างสงสัย
“คุณเป็นอะไรกับดำเหรอ”

เดือนกับซูซี่มาคุยกันในมุมลับตา ซูซี่มองเดือนหัวจรดเท้าอย่างไม่พอใจ ท่าทางเริดๆ เชิดๆ
“ที่แท้คุณนี่เอง พี่สาวที่ดำมันพูดถึง ทำไมไม่ยอมรับซะทีว่ามันเป็นน้อง”
“ตอนนั้นฉันยังไม่พร้อม”
“แล้วตอนนี้คุณพร้อมหรือยัง”
เดือนน้ำตาคลอ
“ฉันก็ยังไม่พร้อมหรอก แต่ฉันอยากเจอแม่แท้ๆ คุณช่วยบอกฉันหน่อยเถอะว่าดำอยู่ที่ไหน”
“ดำมันอาจจะไม่อยากเจอคุณแล้วก็ได้ กลับไปซะเถอะ”
ซูซี่จะเดินออกไป เดือนจับแขนไว้อย่างวิงวอน
“ฉันขอร้องนะคะ ช่วยบอกหน่อยว่าตอนนี้ดำอยู่ที่ไหน นะคะ”
ซูซี่มองหน้าเดือนอย่างเริ่มใจอ่อน
ดำเปิดประตูเข้ามาที่ล็อบบี้พาร์ตเมนท์ เธอตะลึงเมื่อเห็นใครบางคน
“พี่เดือน”
เดือนลุกขึ้นอย่างดีใจ
“ดำ...”
ดำฃักสีหน้าใส่ แล้วเดินไปจะขึ้นลิฟท์ เดือนรีบตามไป
“เดี๋ยวก่อนสิดำ”
ดำไม่ฟังเสียง เดือนตามไปขวางไว้”
“ดำ...อย่าเพิ่งไป พี่ตั้งใจมาหาเธอนะ”
ดำมองหน้าเดือนอย่างเจ็บปวด
“ทุกทีเธอเป็นฝ่ายหนีฉัน ไม่ยอมรับว่าฉันเป็นน้อง แล้วจะมาหาฉันทำไม”

“พี่อยากเจอแม่”

ข้าวนอกนา ตอนที่ 24

ดำกลืนก้อนบางอย่างลงไปในลำคออย่างเจ็บปวดกว่าเดิม

“มาหาแม่อะไรตอนนี้ แม่ไม่อยู่แล้ว”
“แม่ไปไหนเหรอดำ”
“ไม่รู้”
ดำทำท่าจะเดินหนีอีก เดือนดึงดำไว้
“ช่วยบอกพี่ทีเถอะ ว่าแม่ไปไหน พี่จะไปหาแม่”
“แม่ไปเมืองนอกแล้ว ไปมีผัวฝรั่ง ต่อไปอาจจะมีน้องหน้าตาเหมือนเราออกมาอีกหลายคนก็ได้”
เดือนตะลึงอึ้งไป
“งั้นคืนนี้พี่ขออยู่กับเธอที่นี่ได้ไหม”
ดำมองหน้าเดือนอย่างนึกไม่ถึง
“ลูกคุณหนูอย่างพี่เดือนอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก”
“พี่อยู่ได้นะดำ พี่ไม่มีที่ไปแล้ว”
“ไม่มีที่ไปนี่เองเหรอ โดนบ้านนั้นถีบหัวส่งออกมาล่ะสิ แต่ขอโทษนะ ถึงฉันจะ​ดำแต่ห้องฉันไม่ต้อนรับคนใจดำ”
ดำเข้าลิฟท์ไป เดือนได้แต่มองตามน้ำตาร่วง
“ดำ...ฟังพี่ก่อน ดำ...”

ดำเข้ามาในห้องปิดประตู รู้สึกเสียใจแต่ก็ต้องทำ
“ฮึ...ตลอดเวลาที่ผ่านมา แกไม่เคยยอมรับฉัน แล้ววันนี้จะให้ฉันยอมรับแกเหรอ ไม่มีทางหรอกนังเดือน”
ดำเปิดกระเป๋า หยิบยามาใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตามอย่างกระหาย ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟา

สาย วันรุ่งขึ้น ไวภพอุทานออกมาอย่างแปลกใจกับสิ่งที่วนิดาบอก
“ใครนะครับ ใครมาหาผม”
“อธิบดีดนัยธร เขามาตามหาลูกสาวที่นี่”
ไวภพมองหน้าแม่อย่างไม่อยากเชื่อ...ไวภพเดินเข้ามาในห้องรับแขก ดนัยธรหันมา ไวภพไม่อยากไหว้ แต่วนิดาสะกิดให้ยกมือไหว้ เขาจำใจยกมือไหว้ ดนัยธรเปิดฉากถามทันที
“เธอเอาลูกสาวฉันไปไว้ไหน”
“ผมไม่รู้ครับ เดือนไม่ได้อยู่ที่นี่”
“โกหก เมื่อวานแกยังไปดักรอยัยเดือนหน้าบ้าน แล้วสักพักมันก็หนีออกจากบ้านไป”
“เดือนหนีออกจากบ้านเพราะคุณหรือเปล่า”
ดนัยกระชากคอเสื้อไวภพขึ้นมา
“แกอย่ามาย้อน คืนลูกสาวฉันมาซะ”
“นี่คุณ...อย่าทำอะไรลูกฉันนะ”
ไวภพกระชากคอเสื้อดนัยธรกลับ
“คุณนั่นแหละทำอะไรเดือน”
วนิดาตกใจ
“ว้าย...ตาไว อย่าลูก”
“เดือนไม่หนีออกจากบ้านหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะมัน”
ดนัยธรสะบัด
“ปล่อยฉันนะไอ้เด็กเมื่อวานซืน ไม่งั้นฉันให้ทนายฟ้องแกแน่”
ไวภพกัดฟันกรอด
“ฉันไม่กลัวหรอกโว้ย”
ไวภพเงื้อหมัดจะชกแต่วนิดาดึงไว้
“อย่ามีเรื่องกันเลยไว ถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ใหญ่นะ”
“แต่เป็นผู้ใหญ่ที่ทำตัวไม่น่าเคารพ”
ดนัยธรโมโห
“แกไอ้เด็กเมื่อวานซืน ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
วนิดาโกรธ
“เกินไปแล้วนะคุณ อย่ามาลามปามถึงฉัน”
“ก็หัดสั่งสอนลูกให้รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่บ้าง”
“ไวปล่อยเถอะลูก แม่ขอร้อง ยังไงเขาก็มีศักดิ์เป็นพ่อของเพื่อนแกนะ”
ไวภพยอมปล่อย ดนัยธรจับคอเสื้อตัวเองให้เข้าที่ แล้วชี้หน้าไวภพ
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกเอาเดือนไปซ่อนไว้ที่ไหน ฉันจะแจ้งความจับแกเข้าคุก เอาให้หมดอนาคตไปเลย”
ไวภพสวน
“คุณนั่นแหละที่จะหมดอนาคต ถ้าทุกคนรู้ความจริง ว่าเดือนหนีออกจากบ้านเพราะอะไร”
ดนัยธรมองไวภพอย่างเจ็บใจ ก่อนจะเดินออกไป ไวภพมองตามอย่างหงุดหงิด

ดำหลับคาโซฟาทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น
“ใครวะ มาแต่เช้า”
ดำงัวเงียจะนอนต่อ แต่เสียงกริ่งยังดังต่อเนื่อง
“อะไรวะ”
เธอหงุดหงิด ลุกขึ้นไปกระชากประตูเปิดออก สีหน้างุนงงนิดๆ
“พี่หวานนี่เอง มีอะไร”
“เมื่อวานแกหายไปไหนมาทั้งวันน่ะดำ นึกว่าเป็นอะไรไปซะแล้ว”
“หนูไปหางานทำมา ไม่ต้องห่วงหนูหรอก หนูยังไม่ตาย”
“แล้วแม่แกล่ะ”
ดำเศร้า
“แม่...ทิ้งหนูไปอยู่กับผัวฝรั่งที่เมืองนอกแล้ว”
ดำพยายามกลั้นน้ำตาที่จะเอ่อขึ้นมาอีก ใจหวานมองอย่างสงสารเห็นใจ
“แกไปอาบน้ำอาบท่าก่อน เดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน”
“หนูไม่ไป หนูจะนอน”
“นี่จะบ่ายโมงแล้วนะ กินก่อนแล้วค่อยกลับมานอนก็ได้”
“ไม่อ่ะ หนูง่วงมาก พี่หวานไปเถอะ”
พูดจบดำก็ปิดประตูใส่หน้า ใจหวานมองเซ็งๆ

“อะไรของมันว่ะ"

ดำกลับมาทิ้งตัวบนโซฟา เสียงมือถือดำดังขึ้น เธอเอาหมอนปิดหู แต่เสียงมือถือดังไม่เลิก

“โธ่เว้ย...”
เธอจะปิดมือถือ แต่พลันสายตาเหลือบไปเห็นว่าใครโทรมาก็รีบรับสาย
“ฮัลโหล ฤทัยเหรอ”
“ผมเอง ดำทำอะไรอยู่ วันนี้ว่างมาเจอกันหรือเปล่า...”
ดำยิ้มออกทันที

ดำแต่งตัวเสร็จแล้ว ลงมาข้างล่าง จะเดินออกไป แต่แล้วก็ต้องตกใจ
“พี่เดือน”
เดือนนั่งพิงโซฟา แต่ยังไม่หลับ สภาพโทรมมาก ยิ้มดีใจที่เห็นดำ
“ดำ...”
ดำเดินเข้ามาหา
“ทำไมไม่กลับบ้าน มานั่งอยู่ที่นี่ทำไม”
“พี่บอกแล้วว่าไม่มีที่ไป” เดือนดึงแขนดำไว้ “ให้พี่อยู่ด้วยเถอะนะดำ”
“พี่มาอยู่อย่างฉันไม่ได้หรอก ชีวิตของฉันกับพี่เดือนมันคนละอย่างกัน พี่เดือนลอยอยู่บนฟ้า แต่ฉันมันอยู่ในนรก”
“พี่เดือดร้อนมาก พี่ไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ”
“ทำไม โดนเขาไล่ออกมาหรือไง”
เดือนน้ำตาคลอ ส่ายหน้า พูดไม่ออก
“ไม่ใช่ พี่หนีออกมาเอง”
“หนีออกมาทำไม”
“พี่ยังเล่าไม่ได้”
ดำมองด้วยความรำคาญในความเป็นลูกคุณหนูของเดือน
“งั้นกลับไปอยู่บ้านตัวเองซะเถอะ เดี๋ยวพ่อแม่จะมาเอาเรื่องกับฉัน ฉันช่วยอะไรพี่ไม่ได้หรอก”
“ดำ...”
“บอกว่าให้กลับไปไงล่ะ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง”
ดำสะบัดออกอย่างแรง เดือนเซไปแล้วล้มลง หัวฟาดกับขอบโต๊ะ
“โอ๊ย...”
ดำตกใจ รีบเข้าไปประคอง
“พี่เดือน... ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ พี่เป็นยังไงบ้าง”
หน้าผากเดือนมีเลือดไหล แผลไม่ใหญ่มาก เดือนมองหน้าดำอย่างวิงวอน

ดำพาเดือนเข้ามาในห้องพัก ทายาที่หน้าผากให้ เดือนสะดุ้ง
“อุ๊ย...”
“อย่าสำออยนักเลย แค่นี้ไม่เจ็บหรอก”
ดำปิดพลาสเตอร์ให้กระแทกแรงๆ อย่างหมั่นไส้ เดือนซี้ดปาก ดำมองอย่างสงสารแว่บหนึ่ง
“เสร็จแล้ว ถ้าปวดแผลก็กินยาแก้ปวดที่ฉันให้ไว้นะ เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก”
“ดำจะไปไหน”
“จะไปไหนก็เรื่องของฉัน พี่อยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาคุย”
“ให้พี่ไปด้วยนะ พี่ไม่อยากอยู่ที่ห้องคนเดียว”
“ทำไมล่ะ อ๋อ...เคยอยู่แต่บ้านใหญ่โตยังกะวัง คงอยู่ห้องแคบๆ ไม่ได้ล่ะสิ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“ไม่ใช่แล้วอะไรล่ะ แล้วทำไมที่ผ่านมาไม่เคยยอมรับว่าฉันเป็นน้องเลย แต่พอเดือดร้อนถึงได้กลับมาหา ฉันไมใช่สถานสงเคราะห์นะโว้ย”
ดำต่อว่าเดือนอย่างเจ็บแสบ แต่ตัวเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน เดือนกัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
“พี่ขอโทษ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าพี่หยิ่งยโสหรือลืมน้องลืมอดีต แต่พี่ก็...ไม่อยากหวนกลับไปนึกถึงมันอีก ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องผูกพันกับอดีตนัก ถ้าอดีตนั่นเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะจดจำเอาไว้ พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าพี่รังเกียจ”
ดำแค่นหัวเราะ นัยน์ตามีแววขื่นขม
“วาสนาของคนเรามันต่างกัน ทั้งๆที่มีแม่เดียวกันแท้ๆ รู้ไหม ฉันลำบากยากเย็นยังไง ฉันเหมือนอยู่ในนรก ระหว่างที่พี่เดือนมีชีวิตสูงส่งเหมือนลอยอยู่บนสวรรค์”
“ดำไม่รู้หรอกว่า...พี่เองก็กำลังมีปัญหาเรื่อง...เรื่องที่พี่ไม่ใช่ ลูกแท้ๆ ของพ่อแม่ มันทำให้ชีวิตของพี่เปลี่ยนไปจากเดิมหมด”
“มีเรื่องอะไรอ่ะพี่เดือน พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเริ่มรังเกียจเอาแล้วละสิ ใช่ไหม”
เดือนพูดไม่ออก พยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงไป นัยน์ตาดำมีแววสะใจนิดเดียวแฝงอยู่ แต่เห็นอกเห็นใจและพลอยเจ็บแค้นแทนไปด้วย เดือนได้แต่กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
“ใช่ไหมล่ะ โดนเขาด่าเอาใช่ไหม”
“เปล่า...” เดือนกะพริบตาถี่ๆ ให้น้ำตาแห้ง “เรื่องของพี่ ดำไม่เข้าใจหรอก รู้ไว้​อย่างเดียวก็พอ ที่ดำคิดว่าพี่สุขสบายทุกอย่างน่ะ ไม่จริง”
“ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ก็คงเรื่องแฟน พอเขารู้กำพืดแท้ๆ ของเราเขาก็ทิ้งเลยใช่ไหมล่ะ”
“เปล่า...เรื่องของพี่มันซับซ้อน พี่เพิ่งจะได้คิดว่า ให้พี่เป็นอย่างดำซะแต่แรกยังจะดีกว่าต้องมาพบกับปัญหาต่างๆ ตอนนี้”
“เชอะ...ถ้าเป็นอย่างเราจะทนไหวหรือเปล่าว่างั้นเถอะ พี่เดือนสบายมาตั้งสิบกว่าปี อีดำกระเสือกกระสนแทบตาย ทำงานจนมือด้านแล้วด้านอีก เห็นไหม”
ดำแบมือให้ดู เดือนจับมือดำไว้อย่างสงสารน้อง ดำซึ้ง แต่ก็ดึงออกมา
“พี่ขอโทษนะที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย”
“มาพูดตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์” ดำดูนาฬิกา “ฉันต้องรีบไปละ นัดเพื่อนไว้”
ดำลุกขึ้น เดือนเข้าไปเกาะแขนดำ
“ดำไปไหนพี่ไปด้วยนะ ถ้าไปทำงาน พี่นั่งรอก็ได้”
“แน่ใจนะ ว่าพี่จะไปกับฉัน”

เดือนพยักหน้า ดำมองหน้าเดือนอย่างสะใจนิดๆ อยากรู้ว่าเหมือนกันว่าเดือนไปด้วยแล้วจะรู้สึกอย่างไร


อ่านต่อเวลา 09.00 นฺ

ข้าวนอกนา ตอนที่ 24 (ต่อ)
ใจหวานมาหาจอร์จในคลินิกเล่าเรื่องดำให้เขาฟัง จอร์จอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“ดำน่ะเหรอแปลกไป”
“ใช่ค่ะหมอ อาการน่าเป็นห่วง หมกตัวอยู่แต่ในห้อง เรียกไปกินข้าวก็ไม่ไป แถมยังไล่หวานออกมาซะอีก”
“เขาไม่ได้อยู่กับแม่แล้วเหรอ”
ใจหวานส่ายหน้า
“แม่ทิ้งมันไปอีกแล้ว มันคงจะคิดมาก หมอช่วยไปดูมันหน่อยเถอะค่ะ”
จอร์จเป็นห่วงดำขึ้นมา
“โอเค เดี๋ยวตรวจคนไข้เสร็จแล้ว เราไปหาดำกัน”
ใจหวานพยักหน้า จอร์จหนักใจ

ไวภพแต่งตัวจะออกจากบ้าน วนิดาเข้ามาถาม
“แกจะออกไปไหนน่ะไว”
“ไปตามหาเดือนครับ”
“นี่ยังไม่เข็ดอีกเหรอ โดนทางนั้นมาทวงลูกสาวถึงที่ ถ้าเป็นสมัยโบราณแกก็โดนข้อหาฉุดลูกสาวเขามา”
“ผมนิ่งดูดายไม่ได้หรอกครับแม่ ผมเป็นห่วงเดือน เขาต้องมีปัญหากับพ่อแน่ๆถึงได้หนีออกจากบ้าน”
“เขาอาจจะไปอยู่บ้านเพื่อนก็ได้”
ไวภพส่ายหน้า
“ผมโทรแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องเดือนสักคน ผมจะลองขับรถวนหาดู”
ไวภพรีบออกไป วนิดามองตามขัดใจนัก

ดำกับเดือนเดินมาตามทางที่สองข้างทางเป็นน้ำครำ ดำก้าวฉับๆ อย่างมั่นใจ เดือนเดินตามหลังก้าวแบบลังเล มองไปรอบๆ อย่างรู้สึกคุ้น แต่มีความหวาดกลัวแบบใหม่ ดำซึ่งเดินนำหน้ารู้สึกว่าเดือนเดินช้าผิดปกติ จึงหันมามอง
“เป็นไงพี่เดือน จำได้หรือเปล่าว่าที่นี่ที่ไหน”
เดือนมองไปรอบๆ ความทรงจำเริ่มกลับมา
“นี่มัน...แถวบ้านป้าหมอน ดำมาทำอะไรที่นี่”
“ก็มาหาเพื่อนเก่าน่ะสิ ถ้าพี่เดือนอยากกลับก็กลับไปก่อนได้นะ”
เดือนเข้าไปเกาะแขนดำ
“พี่จะไปกับดำ ดำไปไหนพี่ไปด้วย”
“อย่ามาเกาะฉันอย่างนี้ซี่ เดี๋ยวเขาคิดว่าฉันเป็นทอม”
ดำสะบัดตัวออกจากเดือน แล้วเดินนำหน้า เดือนรีบตามไป

ไวภพขับรถออกมาพลางมองหาเดือน
“คุณอยู่ไหนนะเดือน ผมเป็นห่วงเดือนมากรู้ไหม”
ไวภพมองหา เห็นด้านหลังใครบางคนก็ดีใจ ชะลอรถ
“เอ๋ครับ เอ๋”
เอ๋หันมา
“อ้าว...ไวภพ มาชมรมเหรอ”
“เปล่าครับ ผมมาตามหาเดือน เอ๋เจอเดือนบ้างหรือเปล่า”
“ไม่เจอเลย ติดต่อเดือนไม่ได้มาหลายวันแล้วด้วย ไม่รู้หายไปไหน”
“ขอบคุณครับ”
ไวภพขับรถต่อไป แต่เพราะมัวแต่มองข้างทาง พอหันไปอีกที เห็นรถคันหนึ่งวิ่งมาตัดหน้า
“เฮ้ย”
ไวภพหักหลบและเบรกรถกะทันหัน ทำให้แผลเดิมเจ็บขึ้นมา
“โอ๊ย...”
ไวภพหยุดรถ เปิดแผลออก เห็นเลือดไหลออกมาจากผ้าพันแผลอย่างเจ็บปวดมาก

ดำเคาะประตูบ้านอู๊ด เสียฤทัยดัออกมา
“ใครน่ะ”
“ฉันเอง ดำ...”
ฤทัยเปิดประตูออก มองดำอย่างดีใจ
“มาแล้วเหรอ” ฤทัยมองเห็นเดือน ตะลึงในความสวย “แล้วนี่...”
“พี่สาวฉันเอง ชื่อเดือน”
เดือนยิ้มให้ ฤทัยยิ้มตอบ ตาเป็นประกาย แต่แล้วก็มองสลับกับดำ พลางหัวเราะ
“พี่สาวแท้ๆ เหรอ”
ดำเคืองนิดๆ
“ใช่ แต่คนละพ่อ”
“อ๋อ...จำได้แล้ว คนที่เธอออกรายการตามหาน่ะเอง” เขาเปิดประตูให้กว้างขึ้น “เข้ามาสิ”

ดำกับเดือนเข้าไปในบ้าน เดือนมองไปรอบๆ อย่างหวาดๆ

ฤทัยพาดำกับเดือนเข้ามาในบ้าน เจออู๊ดที่นั่งมั่วสุมอยู่กับวัยรุ่นชายและหญิงอีก 5-6 คนคน เดือนชะงักเมื่อเห็นอู๊ดและสภาพในบ้าน

“ดำมาแล้วเหรอ” อู๊ดเห็นเดือนที่ตามมา “เดือน...นั่นเดือนใช่ไหม”
เดือนมองอู๊ด พยายามทบทวนความจำแต่จำไม่ได้ ดำจึงบอก
“ไอ้อู๊ดไงพี่เดือน”
เดือนยังจำไม่ค่อยได้
“อู๊ดเหรอ...”
“เดือนคงจำผมไม่ได้ แต่ผมจำเดือนได้แม่นเลย โตขึ้นสวยกว่าเดิมอีก”
เดือนฝืนยิ้ม อู๊ดมองเดือนอย่างหลงใหล ดำมองรู้ทัน
“พอแล้วอู๊ด มองจนตาจะทะลุเบ้าแล้ว”
“ที่อู๊ดชวนดำมานี่ ก็เพราะอยากให้รู้จักกับแก๊งของเรา” ฤทัย​แนะนำ “นั่นอ๊อฟ แดง เพลิน อ๋อม ตุ้ย”
ทุกคนโบกมือให้ ดำโบกมือตอบ เดือนรู้สึกหวาดกลัว ดำดึงเดือนไปนั่ง
“กูมีของใหม่มาให้ลองด้วย มันชิลๆ ฝันหวานกว่าเก่า รับรองจะติดใจ”
อู๊ดหยิบยาเม็ดอะไรบางอย่างยื่นให้ดำกับเดือน ดำรับมา แต่กันเดือนไว้
“พี่เดือนไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนี้หรอก”
“ลองดูครั้งเดียวไม่ติดหรอก รับรอง”
“อย่าเลย เขาเป็นลูกคุณหนู อย่าดึงเขาลงมาด้วยเลย” ดำหันไปบอกเดือน “พี่เดือนกลับไปที่ห้องก่อนดีกว่า”
เดือนเป็นห่วงดำ
“ไม่ ถ้าดำไม่กลับพี่ก็ไม่กลับ”
ดำทำท่ารำคาญ
“จะมาเกาะฉันเป็นปลิงทำไมเนี่ย ชักรำคาญแล้วนะ”
“พี่เป็นห่วงดำ เราอย่าอยู่ที่นี่นานเลย”
“อย่ายุ่งน่า” ดำหันไปหาอู๊ด “ไหนขอลองของใหม่ซิ”
ดำหยิบยาที่อู๊ดให้ใส่ปาก อู๊ดยิ้ม
“เฮ้ย...มึงแน่ว่ะดำ”
ดำหัวเราะกับอู๊ดและฤทัยอย่างสนุกสนาน เดือนนั่งตัวเกร็งมองดำและทุกคน ฤทัยแอบมองเดือนอย่างคิดจะทำอะไรบางอย่าง

ใจหวานช่วยจอร์จเตรียมเก็บเครื่องมือ
“เดี๋ยวเรารอซูซี่แป๊บนะคะ มันบอกว่าจะมาที่นี่ ไปหาดำด้วยกัน”
“ก็ดีสิ”
ใจหวานช่วยจอร์จเก็บของ แต่แล้วไวภพเปิดประตูเข้ามา
“ปิดแล้วค่ะ” ใจหวานมองหน้าไวภพ จำได้ “อ้าว...คุณไวภพ”
“รู้จักกันด้วยเหรอ”
“เคยเห็นคุณไวภพที่ผับบ่อยๆ ค่ะ”
“ครับ ผมก็จำคุณใจหวานได้ ขอโทษนะครับ แผลผมอักเสบ เลยมาขอให้ช่วยทำแผลใหม่”
จอร์จพยักหน้า
“ได้ครับ”
ใจหวานบอกไวภพ
“นั่งก่อนค่ะ”
จอร์จเตรียมอุปกรณ์มาทำแผลให้ ถามไปด้วย
“ไปโดนอะไรมาครับ”

ฤทัยยื่นแก้วน้ำเย็นให้เดือน
“ถ้าไม่ทานอะไรก็ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนนะครับ”
เดือนมองน้ำอย่างหวาดระแวง
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมกับอู๊ดเป็นเพื่อนดำ”
เดือนรับน้ำมา
“ขอบคุณค่ะ”
ดำมองฤทัยกับเดือนอย่างหมั่นไส้ แต่นัยน์ตาก็เริ่มล่องลอยเพราะฤทธิ์ยา
“พี่เดือนจำตอนเด็กๆ ได้ไหม ฉันยังจำได้ว่าพี่เดือนไม่ค่อยจะถูกป้าหมอนตีแต่ฉันโดนบ๊อยบ่อย”
“พอจะจำได้”
อู๊ดหันมาหาดำ
“ก็มึงอ่ะดุยังกับหมาบ้า ชอบหาเรื่องเดือน ขี้อิจฉาก็เท่านั้น...ตอนป้าหมอนยกเดือนให้คนอื่น ใครๆ แถวนี้ก็ถามถึง พ่อแม่ใหม่เป็นยังไงบ้างล่ะ เขาดีกับเดือนมากเลยใช่ไหม”
“ส่วนใหญ่ก็ดีจ้ะ แต่พักหลังมีไม่เข้าใจกันบ้าง”
ดำเบ้หน้า
“มันก็อย่างนี้ทั้งนั้นแหละ เอาไปเลี้ยง ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีเขาก็ด่าถึงพ่อถึงแม่หาว่าเชื้อสายมันระยำ หน้าตาขี้เหร่อย่างเรา เขาก็เอาไปเลี้ยงเป็นคนใช้ หน้าตาดีๆ เขาก็เอาไปเลี้ยงอย่างตุ๊กตา สนองความพอใจของเขา” อู๊ดถอนใจ

“เรื่องของไอ้เพลินมันก็ทรหดเหมือนกัน แม่ของมันแต่งงานใหม่สามครั้งไอ้เพลินโดนพ่อเลี้ยงขย้ำทั้งสามครั้ง พอบอกแม่แม่มันกลับด่าใส่อีก มันเลยต้องหนีออกมา”

โปรดติดตาม ข้าวนอกนา ตอนที่ 25
กำลังโหลดความคิดเห็น